ก า ร เ พ า ะ เ ล้ี ย ง ป ล า นิ ล
TILAPIA CULTURE
กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Department of Fisheries. Ministry of Agriculture and Cooperatives
คณะประมง มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์
Faculty of Fisheries. Kasetsart University
คณะผูจ้ ดั ทา
นายนวิ ตั ิ สธุ ีมีชยั กลุ
อดตี อธบิ ดีกรมประมง ประธานคณะผู้จดั ทา
นายเฉลมิ ชยั สุวรรณรกั ษ์
อธิบดกี รมประมง ทปี่ รึกษา
ผศ.ดร. สรุ ยิ ัน ธัญกิจจานกุ ิจ
คณบดคี ณะประมง มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ทปี่ รกึ ษา
นายวิศณพุ ร รัตนตรยั วงศ์
ผูเ้ ชยี่ วชาญดา้ นพันธุกรรมสตั วน์ ้า ผรู้ ว่ มจดั ทา
นายฌัฐพงศ์ วรรณพัฒน์
ผ้เู ชย่ี วชาญด้านการเพาะเล้ยี งสัตว์น้าจดื ผูร้ ่วมจดั ทา
นายคงภพ อาพลศกั ดิ์
ผู้อานวยการศูนยว์ ิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสตั วน์ ้าปทุมธานี ผู้รว่ มจัดทา
นายสมนกึ คงทรตั น์
ผ้อู านวยการศูนยว์ ิจัยและพัฒนาพันธกุ รรมสัตวน์ ้าอตุ รดติ ถ์ ผู้รว่ มจดั ทา
นางสาวณาตยา ศรีจันทึก
หวั หนา้ กลมุ่ เศรษฐกิจการประมง ผูร้ ่วมจดั ทา
นางสาวเกวลนิ หนูฤทธิ์
เศรษฐกรชานาญการพิเศษ ผู้รว่ มจัดทา
นายสมบตั ิ สริ พิ ันธว์ ราภรณ์
รองกรรมการผู้จดั การอาวโุ ส บมจ. เจริญโภคภณั ฑอ์ าหาร ผ้รู ว่ มจดั ทา
รศ. ดร. นนทวทิ ย์ อารียช์ น
อาจารยค์ ณะประมง มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ผรู้ ่วมจดั ทา
ผศ. ดร. ประพันธศ์ กั ดิ์ ศรีษะภมู ิ
อาจารย์คณะประมง มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ผูร้ ่วมจัดทา
รศ. ดร. ศศมิ นสั อณุ จกั ร
อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ้รู ่วมจดั ทา
ผศ. ดร. มินตรา ศลี อุดม
อาจารยค์ ณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ผู้ร่วมจดั ทา
ดร. จฑุ ารตั น์ กิตติวานชิ
นกั วิชาการประมงชานาญการพิเศษ บรรณาธิการ
นางสาวกนกวรรณ รัตนวรรณ
นสิ ติ คณะประมง ผอู้ อกแบบปกและรปู เล่ม
ก า ร เ พ า ะ เ ล้ี ย ง ป ล า นิ ล
TILAPIA CULTURE
คำนำ
ปลานิลเป็นปลาที่นาเข้ามาโดยสมเด็จพระจักรพรรดิ
พ ร ะ เ จ้า ห ล ว ง อ า กิฮิโ ต แ ห่ง ป ร ะ เ ท ศ ญี่ปุ น่ เ มื่อ ค รั้ง ดา ร ง
พระอิสริยยศมกุฎราชกุมารในขณะนั้น ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย
ปลาน้าจืดในตระกูลทิลาเปีย แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จานวน 50 ตัว
นั บ เ ป็ น จุ ด เ ริ่ ม ต้ น ข อ ง ก า ร เ ลี้ ย ง ป ล า นิ ล ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ตั้ ง แ ต่ ปี
พ.ศ. 2508 ปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย มีความอดทน และ
สามารถอยู่ในน้าน้อย แต่ปลานิลเป็นปลาที่มีจานวนไข่ต่อแม่
ไม่มากและใช้วิธีการเล้ียงตัวอ่อนด้วยการอมไข่ ปลานิลมีการ
เจริญเติบโตได้ดี สามารถกินอาหารได้ทั้งพืชและสัตว์ มีการ
แพร่กร ะจ าย ในห ลา ยพื้นที่แล ะมีก าร เลี้ยง ในห ลา ยป ระ เท ศ
มี ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร เ ลี้ ย ง เ พื่ อ เ ป็ น อ า ห า ร โ ป ร ตี น จ า ก เ นื้ อ สั ต ว์
รา ค า ถูก มีก าร พัฒ น าส า ย พันธุ์ทั้ง ใน แ ง่ก าร เ จ ริญเ ติบ โ ต
เป็นปลาเนื้อขาว รสชาติดี นอกจากนี้ การเลี้ยงก็เลี้ยงง่าย
แต่มีการเจริญพันธ์ุในเพศเมียสูง ทาให้การเติบโตช้ากว่าเพศผู้
จึงทา ใ ห้เ กิด ก า ร พัฒนา ก า ร เ ลี้ย ง แ บบแ ปล งเ พ ศ ร่ว มด้ว ย
เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น ในปัจจุบัน กรมประมงได้พัฒนาสาย
พันธุ์จิตรลดา ซึ่งมีสายเลือดมาจากบ่อเลี้ยงในพระราชวัง
สวนจิตรลดาเดิม และใช้วิธีคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์มากว่า 20 ปี
จึ ง ทา ใ ห้ ป ล า นิ ล ส า ย พั น ธุ์ จิ ต ร ล ด า เ ป็ น ที่ นิ ย ม ข อ ง เ ก ษ ต ร ก ร ใ น
การนาไปเล้ียงในเชิงการค้า
ก า ร เ พ า ะ เ ล้ี ย ง ป ล า นิ ล TILAPIA CULTURE
ตา ร า ก า ร เ พ า ะ เ ลี้ ย ง ป ล า นิ ล ฉ บั บ นี้ ค ง จ ะ เ ป็ น ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ
ผู้สนใจและนิสิตนักศึกษา โดยเฉพาะการจัดทาเป็น E-book
เพื่อให้สะดวกในการค้นคว้ามากยิ่งขึ้น ขอขอบคุณอาจารย์
จากคณะประมง และเจ้าหน้าที่กรมประมงทุกท่านที่ช่วยจัดทา
ตาราเล่มน้ี
นิวัติ สุธีมีชัยกุล
ประธานคณะผู้จัดทา
ก า ร เ พ า ะ เ ล้ี ย ง ป ล า นิ ล TILAPIA CULTURE
TABLE OF
CONTENTS
1 ชี ว วิ ท ย า
Unit 1
3 7 ก า ร เ พ า ะ พั น ธ์ุ แ ล ะ ก า ร เ ล้ี ย ง
Unit 2
95 การตลาด
Unit 3
1 1 3 เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม
Unit 4
สารบัญ
TABLE OF CONTENTS บทท่ี 1 ชีววิทยา 1
ตอนท่ี 1 ความเป็นมา 3
เรื่องที่ 1 ประวัติปลานิลในประเทศไทย 4
เรื่องที่ 2 ชีววิทยาของปลานิล 8
13
ตอนที่ 2 การพัฒนาสายพันธุ์ 14
เร่ืองท่ี 1 ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 1 15
เร่ืองท่ี 2 ปลานิลสายพันธ์ุจิตรลดา 2 16
เร่ืองที่ 3 ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 3 17
เรื่องท่ี 4 ปลานิลสายพันธ์ุจิตรลดา 4 17
เรื่องท่ี 5 ปลานิลแดง 19
เร่ืองท่ี 6 ปลาทับทิม 21
22
ตอนที่ 3 การปรับปรุงพันธ์ุ
เรื่องที่ 1 การปรับปรุงพันธ์ุโดยวิธีการ 29
คัดเลือก (Selective Breeding) 33
เรื่องที่ 2 การปรับปรุงพันธ์ุโดยวิธีอื่น ๆ
37
เอกสารอ้างอิง
39
บทท่ี 2 การเพาะพันธ์ุและการเล้ียง 40
42
ตอนที่ 1 การเพาะพันธ์ุปลานิล 45
เร่ืองที่ 1 รูปแบบการเพาะพันธุ์ 46
เรื่องที่ 2 ระบบฟกั ไข่ปลานิล 47
เรื่องท่ี 3 การผลิตปลานิลเพศผู้ล้วน 49
ตอนที่ 2 การอนุบาลลูกปลา 50
เร่ืองท่ี 1 รูปแบบการอนุบาล 51
เร่ืองที่ 2 การเตรียมอาหารและการให้อาหาร 51
ในแต่ละช่วงวัย 52
ตอนที่ 3 การเล้ียงปลานิล
เรื่องที่ 1 การคัดเลือกลูกพันธ์ุ
เรื่องท่ี 2 การลาเลียงและการขนส่งลูกพันธ์ุ
เร่ืองท่ี 3 รูปแบบการเล้ียง
สารบัญ
TABLE OF CONTENTS
57
ตอนที่ 4 อาหารและการให้อาหาร 58
เร่ืองท่ี 1 การเล้ียงโดยใช้อาหารสาเร็จรูป 60
เรื่องที่ 2 การสร้างอาหารธรรมชาติ 61
เร่ืองท่ี 3 อาหารสมทบอื่น ๆ 62
63
ตอนท่ี 5 โรคและการป้องกันรักษา 69
เรื่องที่ 1 โรคท่ีมีสาเหตุมาจากปรสิตภายนอก 86
เร่ืองท่ี 2 โรคที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย
เรื่องท่ี 3 โรคไวรัสที่เกิดจากเช้ือ Tilapia lake virus 92
(TiLV) (Tilapia lake virus disease)
95
เอกสารอ้างอิง
97
บทท่ี 3 การตลาด 100
101
ตอนที่ 1 ผลผลิตปลานิล 106
ตอนที่ 2 การค้าขายและการตลาดปลานิล 112
เร่ืองที่ 1 สถานการณ์ราคา
เร่ืองท่ี 2 สถานการณ์การค้าของประเทศไทย
แหล่งท่ีมาของข้อมูล
บทท่ี 4 เทคโนโลยีและนวัตกรรม 113
ตอนท่ี 1 วัคซีนปลานิล 115
เรื่องที่ 1 บทนา 116
เร่ืองท่ี 2 การใช้วัคซีนในปลา 117
เร่ืองท่ี 3 ความก้าวหน้าของวัคซีนปลานิลในปจั จุบัน 123
เรื่องที่ 4 ประเภทของวัคซีน 125
เร่ืองท่ี 5 เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการพัฒนาวัคซีนปลานิล 131
136
เอกสารอ้างอิง 140
ตอนท่ี 2 ประโยชน์ของโปรไบโอติกในการเล้ียงปลานิล 141
141
เร่ืองที่ 1 บทนา 142
เรื่องที่ 2 นิยามของโปรไบโอติก 144
เร่ืองที่ 3 คุณสมบัติของโปรไบโอติกท่ีดี 146
เร่ืองท่ี 4 ชนิดของโปรไบโอติกและการใช้ในปลานิล 148
เร่ืองท่ี 5 การแยกโปรไบโอติกจากสัตว์น้า 151
เร่ืองท่ี 6 งานวิจัยโปรไบโอติกกับปลานิล
เอกสารอ้างอิง
สารบัญภาพ
ภาพท่ี 1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๙ 4
ทรงปล่อยปลานิลลงเลี้ยง
5
ภาพท่ี 2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๙
ทรงพระราชทานปลานิลให้กรมประมง 6
6
ภาพท่ี 3 ปลานิลสายพันธ์ุจิตรลดา 9
ภาพที่ 4 ปลานิลแดง
ภาพท่ี 5 ความแตกต่างของอวัยวะเพศ ปลานิลเพศผู้ (บน) 10
11
ปลานิลเพศเมีย (ล่าง) 16
ภาพท่ี 6 ปลานิลเพศเมียอมไข่ไว้ในปาก 16
ภาพท่ี 7 ระยะการพัฒนาของไข่ปลานิลเป็นตัวอ่อน 18
ภาพท่ี 8 แผนภูมิแสดงการพัฒนาปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 3 40
ภาพท่ี 9 ปลานิลจิตรลดา 3 41
ภาพที่ 10 ปลานิลแดงปทุมธานี 1 41
ภาพท่ี 11 การเพาะพันธุ์ปลานิลในบ่อดิน 41
ภาพท่ี 12 การเพาะพันธ์ุในกระชัง 43
ภาพท่ี 13 การเพาะพันธุ์ปลานิลในบ่อซีเมนต์ 44
ภาพท่ี 14 การรวบรวมไข่ปลานิล 47
ภาพท่ี 15 แผนภาพแสดงระบบเพาะฟกั ไข่ปลานิล
ภาพที่ 16 ภาพแสดงกรวยฟกั ไข่และถาดฟกั ตัวอ่อนปลานิล 49
ภาพท่ี 17 การอนุบาลลูกปลานิลแปลงเพศในกระชัง
52
ที่แขวนลอยในบ่อดิน 53
ภาพที่ 18 การเตรียมอาหารผสมฮอร์โมน 17 alpha 54
54
methyltestosterone (17 α – MT) 56
ภาพท่ี 19 การเล้ียงปลานิลในกระชังในแม่น้า
ภาพท่ี 20 การเลี้ยงปลานิลในกระชังในบ่อดิน 59
ภาพท่ี 21 การเลี้ยงปลานิลในบ่อดิน 59
ภาพที่ 22 การเลี้ยงปลานิลในบ่อกลมระบบไบโอฟล๊อค
ภาพที่ 23 การเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในกระชังร่วมกับกุ้งขาว
และกุ้งก้ามกราม ที่ฟาร์มพยุง จังหวัดราชบุรี
ภาพที่ 24 เครื่องให้อาหารอัตโนมัติในการเล้ียงปลานิล
ภาพที่ 25 การประยุกต์การให้อาหารแบบง่ายของชมรม
ผู้เพาะเล้ียงสัตว์น้าบางหัก อาเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
สารบัญภาพ
ภาพที่ 26 การทาฟางหมักเพ่ือสร้างอาหารธรรมชาติในบ่อปลา 60
ภาพท่ี 27 อาหารผสมท่ีผลิตเองด้วยเคร่ืองทาอาหาร 61
ภาพท่ี 28 ปรสิตภายนอกในกลุ่มโปรโตซัวชนิด Trichodin (เห็บระฆัง) 64
(A1 และ A2) หรือ Epistylis (B1 และ B2) ที่เป็นสาเหตุหลัก 65
ของการเกิดโรคท่ีเกิดจากปรสิตภายนอกในปลานิล
ภาพที่ 29 อาการของปลานิลวัยอ่อนท่ีติดเช้ือปรสิตภายนอก โปรโตซัว 67
ชนิด Trichodina (เห็บระฆัง) (A) หรือ Epistylis (B) ที่เป็น 69
สาเหตุหลักของการเกิดโรคที่เกิดจากปรสิตภายนอกในปลานิล 70
ภาพท่ี 30 ปลิงใสในสกุล Gyrodactylus (A) และ Dactylogyrus (B) 71
ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคที่เกิดจากปรสิตภายนอกในปลานิล 71
ภาพที่ 31 ลักษณะสัณฐานของเซลล์แบคทีเรีย Flavobacterium 71
columnare ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคตัวด่างในปลานิล 74
ภาพท่ี 32 ลักษณะภายนอกของปลาที่เกิดโรคตัวด่างในปลานิล 74
ภาพท่ี 33 ลักษณะภายนอกของปลาที่เกิดโรคตัวด่างที่รุนแรงในปลานิล 75
ภาพที่ 34 ลักษณะภายนอกของปลาที่เกิดโรคตัวด่างในปลานิลที่เร่ิมฟ้ ืนตัว 76
ภายหลังจากการติดเช้ือ 79
ภาพที่ 35 ลักษณะภายในของปลาท่ีเกิดโรคตัวด่างในปลานิล 79
ภาพที่ 36 รูปแบบของการให้เกลือเพื่อการปอ้ งกันโรคในปลานิลในบ่อดิน
ภาพท่ี 37 รูปแบบของการให้เกลือเพ่ือการปอ้ งกันโรคในปลานิล ในการ 80
เลี้ยงปลาในกระชัง
ภาพที่ 38 ลักษณะสัณฐานของเซลล์แบคทีเรียในสกุล Aeromonas
ทเ่ี ป็นสาเหตุของการเกิดโรคทอ้ งบวมน้าหรอื ตกเลอื ดตามลาตัวในปลานิล
ภาพที่ 39 ลักษณะปลานิลท่ีเป็นโรคท้องบวมน้าและตกเลือดตามที่เกิดจาก
เชื้อในสกุล Aeromonas ในปลานิล
ภาพท่ี 40 ลักษณะสัณฐานของเซลล์แบคทีเรีย Streptococcus
agalactiae ทเี่ ป็นสาเหตุของการเกิดโรคสเตรปโตคอคโคซีสในปลานิล
ภาพท่ี 41 ความสามารถในการทาให้เม็ดเลือดแดงแตกอย่างสมบูรณ์
(ẞ-haemolysis) ของแบคทีเรีย Streptococcus agalactiae
ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคสเตรปโตคอคโคซีสในปลานิล
ภาพที่ 42 ลักษณะภายนอกของปลานิลที่เป็นโรคสเตรปโตคอคโคซีส
ซึ่งเกิดจากเช้ือ S. agalactiae ในปลานิล
สารบัญภาพ
ภาพท่ี 43 ลักษณะภายนอกของปลานิลที่เป็นโรคสเตรปโตคอคโคซีสชนิด 80
รุนแรง (เฉียบพลัน) ซ่ึงเกิดจากเช้ือ S. agalactiae ในปลานิล 80
81
ภาพที่ 44 ลักษณะภายนอกที่เรียกว่า “อาการตาโปน” ของปลานิลท่ีเป็น 81
โรคสเตรปโตคอคโคซีส ซ่ึงเกิดจากเชื้อ S. agalactiae ในปลานิล 84
88
ภาพที่ 45 ลักษณะภายนอกของการเกดิ ตุ่มฝีของปลานลิ ที่เป็นโรคสเตรปโตคอคโคซีส 89
ชนิดเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากเชื้อ S. agalactiae ในปลานิล 90
ภาพท่ี 46 ลักษณะภายในของปลานิลที่เป็นโรคสเตรปโตคอคโคซีส 102
ซ่ึงเกิดจากเชื้อ S. agalactiae ในปลานิล 103
105
ภาพท่ี 47 ลักษณะภายนอกและภายในในของปลานลิ ที่เป็นโรคฟรานซสี เซลโลซีส 106
ซึ่งเกิดจากเช้ือ Franciscella tularensis ในปลานิล 107
108
ภาพที่ 48 ลักษณะภายนอกและภายในของปลานิลที่เป็นโรคติดเชื้อไวรัส 109
Tilapia lake virus (TiLV) ในปลานิล
ภาพที่ 49 การตายของปลานลิ ในกระชัง การติดเชื้อไวรัส Tilapia lake virus
(TiLV) ในปลานิลที่เล้ียงในกระชัง
ภาพที่ 50 ลักษณะทางพยาธิสภาพของการรวมตัวกันของเซลล์ตับ
(Syncytial cell formation) (บริเวณในดอกจันทร์) อันเป็นผล
มาจากการอักเสบที่รุนแรงในตับ (Syncytial hepatitis) ในปลานิล
ท่ีเป็นโรคตดิ เช้อื ไวรสั Tilapia lake virus (TiLV) ทีม่ า: Bacharach
et al. (2016)
ภาพท่ี 51 ราคาจาหน่ายปลานิลในระดับต่าง ๆ ปี 2554 – 2563
ภาพที่ 52 ราคาปลานิลทเ่ี กษตรกรขายได้หน้าฟาร์ม ภาคกลาง ปี 2561 – 2563
ภาพที่ 53 ราคาปลานิลขายส่ง ณ ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี รายไตรมาส
ปี 2561 – 2563
ภาพท่ี 54 ราคาปลานิลขายปลีก ตลาดกรุงเทพมหานคร รายไตรมาส
ปี 2561 – 2563
ภาพท่ี 55 การส่งออกปลานิลและผลติ ภัณฑ์ของประเทศไทย ปี 2554 – 2563
ภาพท่ี 56 ปรมิ าณการสง่ ออกปลานิลและผลิตภณั ฑ์ แยกตามประเภทผลิตภัณฑ์
ปี 2554 - 2563
ภาพท่ี 57 ปริมาณการสง่ ออกปลานลิ และผลิตภณั ฑ์ แยกตามตลาดส่งออก
ทส่ี าคญั ปี 2554 - 2563
สารบัญภาพ
ภาพที่ 58 รูปแบบการให้วัคซีนในปลา สามารถมีได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ 119
คือ วัคซีนทางการฉีด (Injection) วัคซีนทางการแช่ (immersion)
และวัคซีนทางการกิน (oral administration)
ภาพที่ 59 แสดงการฉีดวัคซนี เขา้ ช่องท้อง (IP) (ซ้าย) และเข้ากล้ามเนอ้ื (IM) 120
ของปลานิล (วงกลมแสดงตาแหน่งท่ีฉีดวัคซีน)
ภาพที่ 60 แสดงการฉีดวัคซีนให้ปลานิลลงเล้ียงในกระชัง เพื่อการป้องกัน 122
โรคสเตรปโตคอคโคซิส
ภาพที่ 61 โครงสร้างของวัคซีนชนิด chimeric recombinant protein 132
vaccine ท่ีใช้โครงสร้าง flavodoxin ในการเป็นโครงสร้างหลัก
และสามารถนาอิพิโทปเข้าแทนที่ในบริเวณ antigen (1 – 6) ได้
เ พ่ื อ ใ ห้ โ ป ร ตี น น้ี ส า ม า ร ถ นา เ ส น อ ช้ิ น ส่ ว น อิ พิ โ ท ป อ อ ก สู่ ภ า ย น อ ก ไ ด้
(Pumchan et al., 2020)
ภาพที่ 62 ลักษณะเซลล์ของบาซิลลัสท่ีติดสีย้อมแกรมบวก เป็นแท่งยาว 143
ภาพท่ี 63 แสดงคุณสมบัติการเข้าสปอร์ของบาซิลลัส (spored cell) 143
เปรียบเทียบกับเซลล์ปกติ (vegetative cell)
ภาพที่ 64 การดารงชีวิตอยู่ในทางเดินอาหารของสัตว์น้าเป็นคุณสมบัติ 143
สาคัญของโปรไบโอติกท่ีดี
ภาพท่ี 65 การทดสอบคุณสมบัติการยับย้ังเชื้อก่อโรคในสัตว์น้าของ 144
โปรไบติกกลุ่มบาซิลลัส (เช้ือในแนวตั้ง คือ เชื้อก่อโรคในสัตว์น้า;
เชื้อในแนวนอน คือ โปรไบโอติกที่ใช้ทดสอบ)
สารบัญตาราง
ตารางที่ 1 เนื้อที่เลี้ยง ปริมาณ และมูลค่าปลานิลจากการเพาะเล้ียง 99
ปี 2554 - 2563*
101
ตารางท่ี 2 ราคาจาหน่ายปลานิลในระดับต่าง ๆ ปี 2554 - 2563 103
ตารางที่ 3 ราคาปลานิลท่ีเกษตรกรขายได้หน้าฟาร์ม ภาคกลาง
104
ปี 2561 – 2563 105
ตารางท่ี 4 ราคาขายส่ง ณ ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ปี 2561 – 2563 107
ตารางท่ี 5 ราคาขายปลีก ตลาดกรุงเทพมหานคร ปี 2561 – 2563
ตารางที่ 6 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปลานิลและผลิตภัณฑ์ของ 108
ประเทศไทย ปี 2554 – 2563 109
ตารางท่ี 7 ปริมาณการส่งออกปลานิลและผลิตภัณฑ์ แยกตามประเภท
110
ผลิตภัณฑ์ ปี 2554 - 2563
ตารางที่ 8 ปริมาณการส่งออกปลานิลและผลิตภัณฑ์ แยกตามตลาด 111
ส่งออกท่ีสาคัญ ปี 2554 - 2563 111
ตารางที่ 9 ปริมาณและมูลค่าการนาเข้าปลานิลและผลิตภัณฑ์ของ
135
ประเทศไทย ปี 2554 –2563
ตารางที่ 10 ปริมาณการนาเข้าปลานิลและผลิตภัณฑ์ แยกตามประเภท 148
ผลิตภัณฑ์ ปี 2554 –2563
ตารางที่ 11 ปริมาณการนาเข้าปลานิลและผลิตภัณฑ์ แยกตามตลาดนาเข้า
ที่สาคัญ ปี 2554 –2563
ตารางท่ี 12 การเปรียบเทียบคุณสมบัติ และข้อจากัดของวัคซีนปลา
ท้ังสามชนิด (Su et al., 2021)
ตารางท่ี 13 ผลงานวิจัยการใช้โปรไบโอติกในปลานิล
บ ท ท่ี 1
Unit 1
ชีววิทยา
ก า ร เ พ า ะ เ ลี้ ย ง ป ล า นิ ล -1- ภาพโดย : www.technologychaoban.com
TILAPIA CULTURE
น า ย วิ ศ ณุ พ ร รั ต น ต รั ย ว ง ศ์
วุฒิ ปร.ด. (เพาะเล้ียงสัตว์น้า)
ตาแหน่ง ผู้เช่ียวชาญด้านพันธุกรรมสัตว์น้า
หน่วยท่ีเขียน บทท่ี 1 ตอนท่ี 1-2
น า ย ค ง ภ พ อา พ ล ศั ก ด์ิ
วุฒิ วท.ม. (วิทยาศาสตร์การประมง)
ตาแหน่ง ผู้อานวยการศูนย์วิจัยและพัฒนา
พั น ธุ ก ร ร ม สั ต ว์ น้า ป ทุ ม ธ า นี
หน่วยท่ีเขียน บทท่ี 1 ตอนท่ี 3
น า ย ส ม บั ติ สิ ริ พั น ธ์ ว ร า ภ ร ณ์
วุฒิ M.Sc. (Aquaculture)
ตาแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส
บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร
หน่วยท่ีเขียน บทท่ี 1 ตอนท่ี 1 เร่ืองท่ี 1 (1.3 ปลาทับทิม)
ตอนท่ี 2 เร่ืองท่ี 6 (ปลาทับทิม)
ก า ร เ พ า ะ เ ลี้ ย ง ป ล า นิ ล -2- TILAPIA CULTURE
ตอนที่
1
ความเป็ นมา
เร่อื งที่ 1
ประวัติปลานิล
ในประเทศไทย
ภาพที่ 1 พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั รัชกาลท่ี ๙ ทรงปลอ่ ยปลานลิ ลงเลี้ยง
1.1 ปลานิล
เม่ือวันท่ี 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโต
แห่งประเทศญี่ปุน่ เม่ือคร้ังดารงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารในขณะนั้น ได้น้อมเกล้าฯ
ถวายปลาน้าจืดในตระกูลทิลาเปี ย จานวน 50 ตัว แด่พระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในระยะแรกทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้นาปลาดังกล่าวไปเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ บริเวณพระตาหนักสวนจิตรลดา
พระราชวังดุสิต จากนั้นได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายปลาลงเลี้ยงในบ่อดิน
และต่อมาในเวลาประมาณ 5 เดือนเศษ ปรากฏว่าในบ่อท่ีเล้ียงมีลูกปลาเกิดข้ึน
เป็นจานวนมาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช
บรมนาถบพิ ตรจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดบ่อดินเพ่ิ มขึ้นเป็ น 6 บ่อ
เม่ือวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2508 ได้ทรงปล่อยปลาลงเล้ียงในบ่อเหล่านั้นด้วย
พระองค์เอง (ภาพท่ี 1) และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่กรมประมง
ทาการตรวจสอบการเจริญเติบโตของปลาทุกเดือน ซ่ึงผลการตรวจสอบพบว่า
ปลาชนิดนี้เจริญเติบโตได้รวดเร็วมาก มีขนาดเฉล่ียถึง 178.8 กรัม ในระยะเวลา
6 เดือน
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า -4- ต อ น ท่ี 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
ในวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2509 ภาพท่ี 2 พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลที่ ๙
พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ช น ก า ธิ เ บ ศ ร ทรงพระราชทานปลานิลใหก้ รมประมง
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ
บพิ ตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นประจาทุกเดือน จนถึงเดือนตุลาคม
พระราชทานลูกปลาดังกล่าว ขนาด พ.ศ. 2512 รวมเป็นพันธป์ุ ลาทัง้ ส้ิน 92,269
ความยาว 3 – 5 เซนติเมตร จานวน ตวั แม้กระนั้นก็ดี จานวนพันธ์ุปลานิลท่ี
10,000 ตัว จ า ก บ่ อ ดิ นใ นบริ เวณ ผ ลิ ต ไ ด้ ยั ง ไ ม่ เ พี ย ง พ อ ต่ อ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร
พระตาหนักสวนจิตรลดาแก่กรมประมง ของพสกนิกรท่ีต้องการนาพันธุ์ปลาน้ีไป
(ภาพท่ี 2) เพ่ื อนาไปขยายพั นธ์ุ เพาะเล้ียง โดยเฉพาะท่ีแผนกทดลองและ
ณ แผนกทดลองและเพาะเล้ียงในบริเวณ เพาะเลี้ยงในบริเวณเกษตรกลางบางเขน
เกษตรกลางบางเขน จังหวัดพระนคร ไ ด้ มี ร า ษ ฎ ร ม า ติ ด ต่ อ ข อ รั บ พั น ธ์ุ ป ล า นิ ล
และสถานีประมงต่าง ๆ 15 แห่ง เดอื นละไม่นอ้ ยกวา่ 100,000 ตวั ความ
ทั่วราชอาณาจักร เพื่ อให้ดาเนินการ ทราบถึงใต้ฝา่ ละอองธุลีพระบาท จึงได้
เพาะเล้ียงขยายพั นธ์ุพร้อมกัน และได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขดุ บ่อขนาด
พระราชทานชือ่ ปลาชนิดนี้ว่า “ปลานิล” ใหญ่ในสวนจิตรลดาเพิ่มขึ้นอกี 1 บอ่ เพื่อ
ช่วยเร่งผลิตพันธ์ุปลานิลให้เพียงพอแก่
เ มื่ อ ป ล า นิ ล แ พ ร่ ข ย า ย พั น ธ์ุ อ อ ก ไ ป ความตอ้ งการของพสกนกิ รของพระองค์
ได้มากเพี ยงพอแล้ว กรมประมงจึงได้ ต่อไป
แจกจ่ายพั นธ์ุปลานิลให้แก่ราษฎรเพ่ื อ
นาไปเพาะเล้ียงตามความต้องการ และ ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 ได้ทาการ
กรมประมงได้กาหนดให้วันที่ 17 สิงหาคม ปรับปรุงบ่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่จานวน
พ.ศ. 2510 ซึ่งเป็ นวันท่ีครบกาหนด ลดลงเหลือเพียง 7 บ่อ และได้ใช้ในการ
ระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน นับแต่วันท่ี ผลิตพันธุ์ปลานิล ซ่ึงนับว่าเป็นปลานิลสาย
ก ร ม ป ร ะ ม ง ไ ด้ รั บ พ ร ะ ร า ช ท า น ป ล า นิ ล ม า พันธุ์หน่ึงซึ่งเป็นท่ียอมรับกันทั่วโลกในนาม
เป็ นวันแจก “ ปลานิลพร ะราชทาน ” วา่ “ปลานลิ สายพันธุ์จิตรลดา” (ภาพที่ 3)
ให้แก่ราษฎร โดยในระหว่างวันท่ี 17
สิงหาคม พ.ศ. 2510 ถึงเดือนกันยายน
พ.ศ. 2513 รวมระยะเวลาประมาณ 3 ปี
กรมประมงได้แจกจ่ายพั นธุ์ปลานิลไป
เป็นจานวนรวมท้ังสิ้น 5,093,900 ตวั
อนึ่ง หลังจากที่ได้พระราชทาน
ป ล า นิ ล ใ ห้ แ ก่ ก ร ม ป ร ะ ม ง เ พื่ อ นา ไ ป เ พ า ะ
ขยายพั นธุ์แล้ว ยังได้ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้กรมประมงนาพันธุ์ปลา
นิ ล ที่ ท ร ง เ พ า ะ ไ ว้ ไ ป แ จ ก จ่ า ย แ ก่ ร า ษ ฎ ร
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า -5- ต อ น ท่ี 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
ภาพที่ 3 ปลานิลสายพันธ์จุ ติ รลดา ณ มหาวิทยาลัยสเตอร์ริง สหราช
อาณาจักร และมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์
1.2 ปลานิลสีแดง สาธารณรัฐฟิลิปปิ นส์ จากการศึกษา
สายพันธุ์โดยการวิเคราะห์ในระดับโปรตีน
น อ ก จ า ก ป ล า นิล ส า ย พัน ธุ์ทั่ว ไ ป ท่ีควบคุมด้วยยีนบางช นิด สรุปได้ว่า
แล้ว ยังมีปลาที่มีลักษณะคล้ายปลานิล ป ล า นิ ล แ ด ง เ ป็ น ลู ก ผ ส ม ร ะ ห ว่ า ง ป ล า นิ ล
แต่มีสีแดง ซึ่งปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยง กับปลาหมอเทศ ซ่ึงมีความถี่ของยีน
แพร่หลายไปทั่วประเทศ ต้นกาเนิดปลา ท่ีศึกษาในครั้งน้ันเป็ นของปลานิล
นิล แ ด ง ข อ ง ไ ท ย นั้น ไ ด้มีก า ร พ บ ค รั้ง 78 เปอร์เซน็ ต์ ปลาหมอเทศ 22 เปอรเ์ ซน็ ต์
แรกในราวปี พ.ศ. 2511 ณ จังหวัด และมีลักษณะของโครโมโซ ใกล้เคียง
อุบลราช ธานี โดยนักวิชาการประมง กบั ปลาหมอเทศและปลานิล ซึง่ สอดคลอ้ ง
ข อ ง ส ถ า นี ป ร ะ ม ง จั ง ห วั ด อุ บ ล ร า ช ธ า นี กับ ลักษณะภายนอกของปลานิลแดงท่ี
แ ละเกษ ตรกรในจังห วัดน้ันได้พบ ปรากฏว่าคล้ายคลึงกับปลานิลและปลา
ปลานิลแดงปะปนอยู่ในบ่อเล้ียงปลานิล หมอเทศ คือ มีปากเฉียงข้ึนคล้ายปลา
จึ ง ไ ด้ ทา ก า ร คั ด เ ลื อ ก ป ล า นิ ล ที่ มี สี แ ด ง หมอเทศและลักษณะลาตัวคล้ายปลานิล
ทั้ง ตัว แ ย ก เ พ า ะ เ ลี้ย ง ไ ว้ต่า ง ห า ก จ า ก ซงึ่ สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็
ปลานิลพันธุ์ปกติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี
กลุ่มวิจัยการเพาะเล้ียงสัตว์น้า สถาบัน ได้ทรงพระราช ทานช่ือปลาชนิดนี้ว่า
ประมงน้าจืดแห่งชาติ ได้นาลูกปลานิล “ปลานิลสีแดง” แต่มักจะเรียกกันว่า
สีแดงขนาด 2 – 3 เซนติเมตร จานวน “ปลานิลแดง” (ภาพท่ี 4)
1,000 ตัว จากสถานีประมงจังหวัด
อุ บ ล ร า ช ธ า นี ม า เ ลี้ ย ง ไ ว้ เ พื่ อ ทา ก า ร คั ด ภาพที่ 4 ปลานลิ แดง
พั น ธ์ุ แ ล ะ ศึ ก ษ า วิ จั ย ด้ า น พั น ธุ ก ร ร ม
กรมประมงได้สง่ ตัวอย่างปลานลิ แดงนี้
ไปตรวจ สอบพั นธ์ุ ภายใต้โครงการ
“พันธุกรรมปลา” ในปี 2527
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า -6- ต อ น ที่ 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
1.3 ปลาทับทิม อัตราการวางไข่ ความดกของไข่ สีของ
ในปี 2532 พระบาทสมเด็จพระ ลาตัว อัตราการรอดตาย และอัตราการ
บรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช แลกเนื้อ แต่อย่างไรก็ตาม จากผลการ
มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทาน ทดสอบสายพันธ์ุ พบว่าบางสายพันธ์ุมีบาง
แนวพระราชดารแิ ก่ นายธนนิ ท์ เจยี รวนนท์ ลักษณะทีด่ กี วา่ สายพันธอ์ุ น่ื
ประธานกรรมการและประธานบริหาร ปี 2534-2540 ทางบริษัทฯ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้พัฒนาปรับปรุง จึงไดท้ าการปรบั ปรงุ พันธ์ุ เพื่อให้ไดพ้ ันธุ์แท้
สายพันธุ์ปลานิล ช่วงปี 2532 - 2533 ของแต่ละสายพันธุ์ และสามารถสังเกตพบ
บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์ ลักษณะเด่น และลักษณะด้อยของแต่ละ
ในเวลานั้น ไดเ้ รมิ่ เข้ามาลงทนุ และดาเนนิ การ สายพันธ์ุได้อย่างดี จึงทาการทดลองผสม
เกี่ยวกับธุรกิจฟาร์มเพาะเล้ียงสัตว์น้าจืด ข้ามสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์เพื่อศึกษา
โดยเร่ิมดาเนินการกิจการฟาร์มปรับปรุง ลักษณะเด่นของลูกผสม จนได้ลูกผสม
พันธ์ุและเพาะพันธ์ุลูกพันธุ์ปลานิลท่ีจังหวัด จาก 3 สายพันธ์ุที่ให้ผลการเล้ียงเป็นไป
สุพรรณบุรี ช่วงเวลาเดียวกัน เกษตรกร ต า ม ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ต ล า ด ม า ก
ไทยได้มีการนาปลานิลแดงจากกรมประมง ที่สุดกล่าวคือ เ จ ริญ เ ติบ โ ต เ ร็ว สีแดง
มาทดลองเลี้ยงกันบ้างแล้ว เนื่องจาก สวย กระน้อยกว่าปลานิลแดงสายพันธุ์
ป ล า นิล แ ด ง มีลา ตัว สีช ม พู อ อ ก แ ด ง พ้ื น เ มือ ง อัต ร า ร อ ด ต า ย สูง อัต ร า
รู ปร่ า งสมส่ ว น ดู ค ล้ า ย ก ะ พ ง แ ด ง ซึ่ง แลกเน้ือต่า ทนระดับความเค็มของน้า
ทาง บ ม จ . เจริญโภคภัณฑ์อาหารก็ได้ ไ ด ้ด ีก ว ่า ป ล า น ิล แ ด ง ส า ย พ ัน ธุ ์อื ่น
ให้ความสนใจ จึงได้นาพันธุ์ปลานิลแดง หลังจากทดสอบสายพันธุ์ดังกล่าวจน
จากกรมประมง มาศึกษาและทดลองเลี้ยง แ น ่ใ จ ว ่า เ ป ็น ส า ย พ ัน ธุ ์ที ่เ ห ม า ะ ส ม
ประกอบกับช่วงเวลาน้ันทางประเทศไทย ส า ม า ร ถ ส ่ง เ ส ร ิม ก า ร เ ลี ้ย ง ใ น เ ช ิง
ได้มีการนาเข้าปลานิลและปลานิลแดงจาก พาณิชย์ได้ จึงนาความกราบบังคมทูล
ตา่ งประเทศเขา้ มาบ้างแลว้ ทาง บมจ. เจรญิ พ ร ะ ก ร ุณ า จ า ก พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด ็จ พ ร ะ
โภคภัณฑ์อาหาร จึงได้ทาการรวบรวมและ เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ขอพระราชทาน
ทดสอบสายพันธุป์ ลานลิ และปลานิลแดงท่ีมี ชื่อปลาชนิดใหม่นี้ ในวันท่ี 30 ธันวาคม
อยู่ในประเทศไทยในเวลานั้น รวมถึงมีการ 2540 โดยผ่านทาง ฯพณฯ พลอากาศ
นาเข้าจากต่างประเทศเพ่ิมเติมบางส่วน เอก สิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี และเมื่อ
จากการทดสอบสายพันธ์ุปลานิลแดง วันที่ 22 มกราคม 2541 พระบาทสมเด็จ
ต่าง ๆ ในเวลานั้น พบว่าปลานิลแดงจาก พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณา
ทุกสายพันธ์ุมีค่าความแปรปรวนในรุ่นลูกท่ี โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานนามวา่ “ปลาทับทมิ ”
สูงมาก ทงั้ ในลักษณะอตั ราการเจริญเติบโต
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า -7- ต อ น ที่ 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
เร่อื งที่ 2
ชีววทิ ยาของปลานิล
ปลานลิ มชี ื่อวทิ ยาศาสตรว์ า่ Oreochromis niloticus (Linn.) ภาพโดย kasethub
- มีริมฝีปากบนและล่างเสมอกัน
- บริเวณ แก้ม มีเกล็ด 4 แถว
- ล า ต ัว ม ีส ีเ ข ีย ว ป น น้ า ต า ล
ตรงกลางเกล็ดมีสีเข้ม ที่กระดูก
แ ก้ม มีจุด สีเ ข้ม อ ยู่ห นึ่ง จุด แ ล ะ มี
ลายพาดขวาง 9 - 10 แถบ
ครีบหลัง ครีบก้นแล ะครีบห างมี
จุด ข า ว แ ล ะ เ ส ้น สีดา ตัด ข ว า ง
- ครีบหลังมีอันเดียวประกอบด้วย
ก้านครีบแข็ง 15 - 18 อัน และ
ก้านครีบอ่อน 12 - 14 อัน
- ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 อัน
และก้านครีบอ่อน 12 - 14 อัน
- เ ก ล็ด บ น แ ถ บ เ ส้น ข้า ง ลา ตัว มี
เกล็ด 33 เกล็ด ทา งด้านข้างมี
เกล็ดตามแนวเฉียงจากตอนต้น
ข อ ง ค รีบ ห ลัง ล ง ม า ถึง เ ส้น ข้า ง
ลาตัว 5 เกล็ด และจากเส้นข้าง
ลาตัวลงมาถึงแนวส่วนหน้าของ
ครีบก้น 13 เกล็ด
ป ล า นิ ล มี นิ สั ย ช อ บ อ ยู่ ร ว ม กั น เ ป็ น ฝู ง
มีค ว า ม อ ด ท น แ ล ะ ป รับ ตัว เ ข้า กับ
สภาพแวดล้อมได้ดี
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า -8- ต อ น ที่ 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
ภาพที่ 5 ความแตกต่างของอวยั วะเพศ เพศของปลานิล
ปลานลิ เพศผู้ (บน) ปลานิลเพศเมยี (ล่าง)
ต า ม ป ก ติรูป ร่า ง ภ า ย น อ ก
ข อ ง ป ล า นิ ล เ พ ศ ผู ้ แ ล ะ เ พ ศ เ มี ย จ ะ มี
ลักษณะคล้ายคลึงกันมาก แต่จะ
สัง เ ก ต ลัก ษ ณ ะ เ พ ศ ไ ด้โ ด ย ก า ร ดู
อ วัย ว ะ เ พ ศ ที่บ ริเ ว ณ ใ ก ล้กับ ช่อ ง
ทวาร ปลานิลเพศผู้จะมีอวัยวะเพศ
ล ัก ษ ณ ะ เ ร ีย ว ย า ว ยื ่น อ อ ก ม า
สา ห รับ เ พ ศ เ มีย มีลัก ษ ณ ะ ข อ ง
อ วัย ว ะ เ พ ศ เ ป็ น รูค่อ น ข้า ง ใ ห ญ่แ ล ะ
ก ล ม ข น า ด ป ล า ที่จ ะ แ ย ก เ พ ศ ไ ด้
ชัด เ จ นต้อ ง เป็น ป ล าที่มีค ว า ม ย า ว
ตั ้ง แ ต ่ 1 0 เ ซ น ต ิเ ม ต ร ขึ ้น ไ ป
ส า ห ร ับ ป ล า ที ่ม ีข น า ด โ ต เ ต ็ม ท่ี
ส า ม า ร ถ สั ง เ ก ต เ พ ศ ไ ด้ ด้ ว ย ก า ร ดู สี
ที่ลา ตัว โด ยสีบริเว ณใ ต้ค าง แล ะ
ลา ตัว ข อ ง ป ล า เ พ ศ ผู้จ ะ มีสีเ ข้ม ก ว่า
ปลาเพศเมีย เมื่อถึงช่วงผสมพันธ์ุ
สีจะย่ิงเข้มย่ิงขึ้น (ภาพท่ี 5)
ปลานิลสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดปี โดยใช้ระยะเวลา 2 - 3 เดือนต่อครั้ง แต่ถ้า
ได้รับอาหารเพียงพอและเหมาะสม ในระยะเวลา 1 ปี จะผสมพันธุ์ได้ 5 - 6 ครั้ง
ข น า ด อ า ยุ แ ล ะ ช่ ว ง ก า ร สื บ พั น ธุ์ ข อ ง ป ล า แ ต่ ล ะ ตั ว จ ะ แ ต ก ต่ า ง กั น ไ ป ต า ม ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม
และสภาพทางสรีรวิทยาของปลาเอง โดยพบว่าปลานิลจะเริ่มมีพัฒนาการของไข่และ
น้าเชื้อเม่ือมีความยาวประมาณ 6.5 เซนติเมตร
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า -9- ต อ น ที่ 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
ผ ส ม พั น ธ์ุว า ง ไ ข่ ป ล า เ พ ศ เ มี ย จ ะ ว า ง ไ ข่ ค ร้ั ง ล ะ
10 - 15 ฟอง ปริมาณไข่ที่วางรวมกัน
ในช่วงผสมพันธุ์วางไข่ ปลานิลเพศผู้ แต่ละคร้ังมีประมาณ 50 - 600 ฟอง
จะแยกออกจากฝูงไปสร้างรัง โดยเลือก ทั้ง นี้ขึ้น อ ยู่กับ ข น า ด ข อ ง แ ม่ป ล า เ มื่อ
บริเวณเชิงลาดหรือก้นบ่อท่ีมีระดับน้าลึก ป ล า เ พ ศ เ มี ย ว า ง ไ ข่ แ ต่ ล ะ ค รั้ ง ป ล า เ พ ศ ผู้
ระหวา่ ง 0.5 - 1.0 เมตร วิธีการสร้างรัง จ ะ เ ข้ า ไ ป ป ล่ อ ย น้า เ ชื้ อ ท่ี มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ ส้ น
น้ัน ปลาจะปกั หัวลงโดยตัวของมันจะอยู่ใน ข้ น เ ห นี ย ว บ ริ เ ว ณ พื้ น รั ง ใ ก ล้ กั บ ก อ ง ไ ข่
ระดับตั้งฉากกับพื้นดิน แล้วใช้ปากพร้อม จ า ก นั้น ป ล า เ พ ศ เ ม ีย จ ะ เ ข้า ไ ป เ ก็บ ไ ข่
กั บ เ ค ล่ื อ น ไ ห ว ล า ตั ว เ ข่ี ย ดิ น ต ะ ก อ น อ อ ก พร้อมกับน้าเ ชื้อไว้ในปาก (ภาพที่ 6 )
จากน้ันจะอมดินตะกอนและงับเศษส่ิงของ ทา เ ช่ น นี้ จ น ก ว่ า ก า ร ผ ส ม พั น ธุ์ แ ล้ ว เ ส ร็ จ
ต่าง ๆ ออกไปท้ิงนอกรัง ทาเช่นน้ีจนกว่า โดยใช้เวลา 1 - 2 ชั่วโมง ปลาเพศเมีย
จ ะ ไ ด้ รั ง ท่ี มี ลั ก ษ ณ ะ ค่ อ น ข้ า ง ก ล ม จ ะ ว่า ย อ อ ก จ า ก รัง ส่ว น ป ล า เ พ ศ ผู้จ ะ
เ ส้ น ผ่ า ศู น ย์ ก ล า ง ป ร ะ ม า ณ 20 - 35 ค อ ย ห า โ อ ก า ส เ ค ล้า เ ค ลีย กับ ป ล า เ พ ศ
เ ซ น ติ เ ม ต ร ลึ ก ป ร ะ ม า ณ 3 – 6 เมียตัวอื่นต่อไป ส่วนแม่ปลาจะฟกั ไข่ใน
เ ซ น ติ เ ม ต ร ความกว้างและความลึก ป า ก โ ด ย ก า ร ข ยั บ ป า ก ใ ห้ น้า ไ ห ล เ ข้ า อ อ ก
ข อ ง รั ง ที่ ใ ช้ ว า ง ไ ข่ ขึ้ น อ ยู่ กั บ ข น า ด ข อ ง ในช่องปากอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้ไข่ที่อม
พ่อ ป ล า ห ลัง จ า ก ส ร้า ง รัง เ ส ร็จ ไ ว ้ไ ด ้ร ับ น้ า ที ่ส ะ อ า ด ทั ้ง ย ัง เ ป็น ก า ร
เรียบร้อยแล้ว ปลาเพศผู้จะไล่ปลาตัว ป้องกันศัตรูที่จะมากินไข่ด้วย
อื ่น ๆ ใ ห ้อ อ ก ไ ป น อ ก ร ัศ ม ีข อ ง ร ัง
ประมาณ 2-3 เมตร ขณะเดียวกันพ่อ ภาพท่ี 6 ปลานลิ เพศเมยี อมไข่ไว้ในปาก
ป ล า ที่ ส ร้ า ง รั ง จ ะ แ ผ่ ค รี บ ห ลั ง แ ล ะ
อ้า ป า ก ก ว้า ง ใ น ข ณ ะ ที่มีป ล า เ พ ศ เ มีย
ว่ายน้าเข้ามาใกล้ๆ รัง เมื่อเลือกปลา
เพศเมียได้ถูกใจแล้ว จะแสดงอาการ
จับคู่กัน โดยใช้หางดีดและกัดกันเบาๆ
ก า ร เ ค ล้ า เ ค ลี ย ดั ง ก ล่ า ว ใ ช้ เ ว ล า ไ ม่ น า น
นัก ปลาเพศผู้จะใช้บริเวณหน้าผากดุน
ที ่ใ ต ้ท ้อ ง ป ล า เ พ ศ เ ม ีย เ พื ่อ เ ป็น ก า ร
ก ร ะ ตุ้ น เ ร่ ง เ ร้ า ป ล า เ พ ศ เ มี ย ใ ห้ ว า ง ไ ข่
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 10 - ต อ น ที่ 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
ไข่ปลานิลเป็นประเภทไข่จม มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.8 - 2.0 มิลลิเมตร
ถุงไข่แดงขนาดใหญ่ ไข่จะฟกั เป็นตัวภายในเวลา 4 วัน ในน้าที่มีอุณหภูมิ 27 - 28
องศาเซลเซียส ไข่จะพัฒนาเป็นลูกปลาวัยอ่อนที่ถุงอาหารยังไม่ยุบ ภายใน 8 วัน
ลูกปลานิลวัยอ่อนจะเกาะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม โดยว่ายวนเวียนอยู่บริเวณหัวของแม่
ปลา และเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในช่องปากเมื่อมีภัย เมื่อมีอายุครบ 13 - 14 วัน นับ
จากวันที่แม่ปลาวางไข่ ลูกปลานิลจะเริ่มกินอาหารจาพวกพืชและไรน้าขนาดเล็ก
หลังจากมีอายุ 3 สัปดาห์ขึ้นไป ลูกปลาจะกระจายแตกฝูงไปหากินเลี้ยงตัวเองได้
โดยลาพัง การพัฒนาของไข่ปลานิลเป็นตัวอ่อนแบ่งเป็น 5 ระยะ (ภาพท่ี 7) ดังน้ี
( ร ะ ย ะ ที่ 1 ) ไ ม่ มี ต า ( u n e y e d ) ร ะ ย ะ น้ี ไ ข่ ยั ง ค ง
เ ป็ น สี เ ห ลื อ ง อ่ อ น ต ล อ ด ทั้ ง ฟ อ ง
ยั ง ไ ม่ มี พั ฒ น า ก า ร ใ ด ๆ ใ ห้ เ ห็ น
( ร ะ ย ะ ท่ี 2 ) มี ต า ( e y e d ) ไ ข่ ยั ง ค ง มี สี เ ห ลื อ ง
มี จุ ด ดา ร อ บ ๆ ไ ข่
( ร ะ ย ะ ท่ี 3 ) ก่ อ น ฟัก เ ป็ น ตั ว ( p r e – h a t c h )
เ ป็ น ร ะ ย ะ ท่ี ไ ข่ เ ป ล่ี ย น เ ป็ น สี น้า ต า ล
มี ก า ร พั ฒ น า จ น สั ง เ ก ต เ ห็ น ส่ ว น ต า
แ ล ะ ห า ง ชั ด เ จ น
( ร ะ ย ะ ท่ี 4 ) ฟกั เป็นตวั อ่อน (hatch fry หรอื yolk sac fry)
เ ป็ น ร ะ ย ะ ท่ี ลู ก ป ล า ฟัก อ อ ก เ ป็ น ตั ว
แ ต่ ยั ง มี ถุ ง ไ ข่ แ ด ง ติ ด อ ยู่
( ร ะ ย ะ ท่ี 5 ) ตั ว อ่ อ น ท่ี ว่ า ย น้า ( s w i m – u p f r y )
เ ป็ น ร ะ ย ะ ที่ ถุ ง ไ ข่ แ ด ง ข อ ง ลู ก ป ล า ยุ บ
แ ล ะ ลู ก ป ล า ส า ม า ร ถ ว่ า ย น้า ไ ด้
ภาพที่ 7 ระยะการพัฒนาของไข่ปลานิลเป็นตวั ออ่ น
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 11 - ต อ น ที่ 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 12 - ต อ น ท่ี 1 ค ว า ม เ ป็ น ม า
ตอนที่
2
การพั ฒนาสายพั นธ์ุ
เร่อื งที่ 1
ปลานิลสายพันธุ์
จิตรลดา 1
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ได้ทรงตระหนักถึงความสาคัญในด้านการอนุรักษ์และการ
ปรับปรุงพันธุ์ปลานิล จึงทรงมีพระราชดาริให้พยายามรักษาพันธุ์แท้เอาไว้
เพราะสังเกตเห็นว่าปลานิลตามท้องตลาดกลายพันธุ์ไป มีขนาดเล็กลงและ
โตช้า พระราชดาริเหล่านี้ทางกรมประมงได้น้อมรับมาดาเนินการปรับปรุงพันธุ์
ป ล า นิ ล โ ด ย ใ ช้ ป ล า พ่ อ แ ม่ พั น ธุ์ จ า ก ส ว น จิ ต ร ล ด า เ ป็ น ห ลั ก
ใ น ก า ร ค ว บ คุม พัน ธุก ร ร ม ไ ด้ดา เ นิน ก า ร คัด พัน ธุ์ป ล า นิล จิต ร ล ด า
แบบคัดเลือกภายในครอบครัว 5 ชั่วอายุ ซึ่งกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรม
สัตว์น้า กรมประมงปรับปรุงพันธุ์ได้เมื่อ พ.ศ. 2536 ต่อจากนั้นได้ดาเนินการ
ทดสอบพันธุ์ ณ ศูนย์พัฒนาประมงน้าจืด และฟาร์มเกษตรกร ในจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา เชียงราย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบุรี อุดรธานี และ
ขอนแก่น ซ่ึงกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้าพิจารณาให้เป็นพันธุ์แนะนา
ภายใต้ชื่อว่า “ปลานิลจิตรลดา 1” โดยมีลักษณะที่ดีคือให้ผลผลิตสูงกว่าปลา
นิลสายพันธุ์ปกติ 22 เปอร์เซ็นต์ และอัตรารอดสูงกว่าปลานิลสายพันธุ์ปกติ
10 เปอร์เซ็นต์
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 14 - ต อ น ท่ี 2 ก า ร พั ฒ น า ส า ย พั น ธ์ุ
เร่อื งที่ 2
ปลานิลสายพันธ์ุ
จิตรลดา 2
ก ร ม ป ร ะ ม ง ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ค ว า ม สา คั ญ ข อ ง ป ล า นิ ล ต่ อ ธุ ร กิ จ ก า ร เ พ า ะ เ ลี้ ย ง
สัตว์น้าของประเทศไทย จึงได้ให้การสนับสนุนงานวิจัยในด้านการพัฒนาการ
เพาะเลี้ยง และการปรับปรุงพันธุ์มาอย่างต่อเนื่อง จนได้สายพันธุ์ปลานิลหนึ่ง
สายพันธุ์ คือ “ปลานิลจิตรลดา 2” เป็นปลานิลที่พัฒนาพันธุ์มาจากปลานิล
สา ยพันธุ์อียิปต์ ภา ยใ ต้ก า รร่ว มงานร ะห ว่า งกร มปร ะมงโด ย กอ งวิจัยแ ล ะ
พัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้า มหาวิทยาลัยเวลส์ (University of Wales) สหราช
อาณาจักร และ มหาวิทยาลัยเซนทรัล ลูซอน สเตท (Central Luzon State
University) สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยการจัดการพันธุกรรมในพ่อพันธุ์ให้มี
โครโมโซมเพศเป็น “YY” ท่ีเรียกว่า “YY–male” หรือ “ซูเปอร์เมล (supermale)”
ซึ่งเมื่อนาพ่อพันธุ์ดังกล่าวไปผสมพันธุ์กับแม่พันธุ์ปกติ จะได้ลูกปลานิลเพศผู้ท่ี
มีโครโมโซมเพศเป็น “XY” ท่ีเรียกว่า “Genetically Male Tilapia (GMT)” ตาม
วิธีการของ Mair และคณะ (1992) และ นวลมณีและพุ ทธรัตน์ (2538)
ซึ่ ง ก ร ม ป ร ะ ม ง โ ด ย ก อ ง วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า พั น ธุ ก ร ร ม สั ต ว์ น้า ไ ด้ ก ร ะ จ า ย พั น ธุ์ ไ ป สู่
ภาครัฐและเอกชนต้ังแต่ปี พ.ศ. 2540
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 15 - ต อ น ที่ 2 ก า ร พั ฒ น า ส า ย พั น ธุ์
เร่อื งท่ี 3
ปลานิลสายพันธ์ุ
จิตรลดา 3
ก ร ม ป ร ะ ม ง โ ด ย ก อ ง วิจัย แ ล ะ
พัฒนาพันธุกรรมสัตว์ได้นาปลานิล GIFT
(Genetic Improvement of Farmed
Tilapia) ซึ่งได้รับการปรับปรุงพันธุ์โดย
หนว่ ยงาน ICLARM (International Center
for Living Aquatic Resources
Management) ณ สาธารณรัฐฟลิ ิปปินส์
ภาพท่ี 8 แผนภูมแิ สดงการพัฒนาปลานิลสายพันธ์ุ ได้ดาเนินการพัฒนาพันธุ์ปลานิลให้มีความ
จิตรลดา 3 หลากหลายทางพันธุกรรม โดยใช้ประชากร
ปลานิลพื้นฐานจากประเทศต่าง ๆ คือ อียิปต์ กานา เซเนกัล เคนยา สิงคโปร์ ไทย
อิสราเอล และไต้หวัน ระหว่างปี 1988 – 1997 ปรับปรุงพันธุ์โดยใช้วิธี combine
selection (Eknath and Acosta, 1998) จนถึงรุ่นที่ 5 ปรากฏผลว่าปลาคัด
พันธ์ุเติบโตดีกว่าปลาทั่วไปถึง 75% (ภาพที่ 8)
กรมประมง โดยกองวิจัยและพัฒนา
พันธุกรรมสัตว์น้า ได้นาปลานิล GIFT ชั่วอายุ
ที่ 5, 7 แ ล ะ 9 เ ข้า ม า ท ด ส อ บ ลัก ษ ณ ะ ใ น
ประเทศไทยระหว่างช่วงปี พ.ศ.2537–2539
และปรับปรุงลักษณะการเจริญเติบโตด้วย
วิธีก า ร คัด เ ลือ ก แ บบห มู่ จา นว น 3 ชั่ว อ า ยุ
จ น ไ ด้ป ล า ที่มีลัก ษ ณ ะ ป ร ะ จา พัน ธุ์คือ หัว เ ล็ก
เ นื้อ ม า ก แ ล ะ โ ต เ ร็ว แ ล ะ ไ ด้ตั้ง ชื่อ พัน ธุ์ว่า
“ ป ล า นิล จิต ร ล ด า 3 ” ( ภา พที่ 9 ) แ ล ะ ไ ด้
ก ร ะ จ า ย พัน ธุ์ไ ป สู่ภ า ค รัฐ แ ล ะ เ อ ก ช น ตั้ง แ ต่ปี ภาพที่ 9 ปลานิลจติ รลดา 3
พ.ศ. 2541 และได้มีการปรับปรุงพันธุ์อย่าง ต อ น ท่ี 2 ก า ร พั ฒ น า ส า ย พั น ธ์ุ
ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 16 -
เร่อื งท่ี 4
ปลานิลสายพันธ์ุ
จิตรลดา 4
กรมประมง โดยกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้าได้รับพันธุ์ปลานิลสายพันธุ์
GIFT รุ่นท่ี 9 จาก World Fish Center ประเทศมาเลเซีย และดาเนินการคัดเลือก
แบบดูลักษณะตัวเองด้านการเจริญเติบโตจานวน 2 รุ่น โดยการประเมินจากค่าการ
ผสมพันธุ์ (estimated breeding value, EBV) ด้านน้าหนัก ได้พันธุ์ปลานิลที่มี
อัตราการเจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตสูง ปลามีลักษณะ หัวเล็ก สันหนา เนื้อมาก และ
ตั้งชื่อพันธุ์ว่า “ปลานิลจิตรลดา 4”
เร่อื งท่ี 5
ปลานิลแดง
กรมประมง โดยกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้าได้ดาเนินการ
พัฒนาสายพันธ์ุจนได้ปลานิลแดงพันธ์ุปรับปรุง 3 สายพันธ์ุ ดังนี้
ปลานิลแดง “เร้ด 1” เป็นพันธุ์ปลานิลแดงที่ปรับปรุงพันธุ์โดยใช้วิธี
คัดเลือกแบบหมู่ ด้านการเจริญเติบโต โดยปรับปรุงพันธุ์จากปลานิลแดง
สายพันธ์ุไทย (NIFI) ได้พันธ์ุปลานิลที่มีอัตราการเจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตสูง
ปลานิลแดง “เร้ด 2” เป็นพันธุ์ปลานิลแดงที่ปรับปรุงพันธุ์โดยใช้วิธี
คัดเลือกแบบภายในครอบครัว ด้านการเจริญเติบโต โดยปรับปรุงพันธุ์จาก
ปลานิลแดงสายพันธุ์อุตรดิตถ์ และพันธุ์ปลานิลแดงในพื้นที่ใกล้เคียง ได้พันธุ์
ปลานิลที่มีอัตราการเจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตสูง ปลามีลักษณะหัวเล็ก ลาตัว
กว้าง สีสด มีจุดดาน้อย
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 17 - ต อ น ที่ 2 ก า ร พั ฒ น า ส า ย พั น ธุ์
ปลานิลแดง “ปทุมธานี 1” เป็นพันธุ์ปลานิลแดงที่ปรับปรุงพันธุ์โดยใช้
วิธีคัดเลือกแบบดูลักษณะตัวเองด้านการเจริญเติบโตจานวน 2 รุ่น โดยเริ่ม
จา ก ก า ร ส ร้า ง ป ร ะช า ก ร รุ่น พ่อ แ ม่ที่ม าจ า ก ป ล า นิล แ ด ง 4 สา ย พันธุ์ ( ไ ทย
ไต้หวัน สเตอร์ริง และมาเลเซีย) ผสมข้ามแบบพบกันหมด คัดเลือกโดยการ
ประเมินจากค่าการผสมพันธุ์ ได้พันธุ์ปลาที่มีอัตราการเจริญเติบโตดีในน้าเค็ม
25 - 30 ส่วนในพันส่วน ปลามีลักษณะหัวเล็ก ลาตัวกว้าง มีสีชมพู อมส้ม
(ภาพท่ี 10)
ภาพท่ี 10 ปลานลิ แดงปทมุ ธานี 1
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 18 - ต อ น ท่ี 2 ก า ร พั ฒ น า ส า ย พั น ธุ์
เร่อื งที่ 6
ปลาทับทิม
บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ในระหว่างปี 2540 - 2547 ได้เริ่ม
ปรับปรุงพันธุ์ปลาทับทิมในลักษณะพันธุกรรม ด้านการเจริญเติบโต และอัตรา
การรอดตาย โดยใช้วิธีคัดเลือกแบบหมู่ ซึ่งการคัดเลือกด้วยวิธีดังกล่าวคาดว่า
จะให้ผลตอบสนองต่อการคัดเลือกสาหรับการเจริญเติบโตในรุ่นลูก เท่ากับร้อยละ
5 ต่อปี โดยเป้าหมายของการปรับปรุงพันธุ์ก็เพื่อให้ปลามีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว
(ADG) มากกว่า 5 กรัมต่อวัน อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ (FCR) น้อยกว่า
หรือเท่ากับ 1.5 ให้ผลผลิตต่อรอบสูง (High yield) มากกว่า เ ดิมร้อ ย ล ะ 30
อี ก ทั้ ง ยั ง ต้ อ ง ก า ร ใ ห้ อั ต ร า ก า ร ร อ ด ต า ย ม า ก ก ว่ า ร้ อ ย ล ะ 80 ต่อมาในช่วง ปี
2548 - 2552 ได้ทาการปรับปรุงพันธุ์ปลาทับทิมโดยนาความรู้ด้านพันธุศาสตร์
เชิงปริมาณ (Quantitative genetics) มาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ โดยอาศัย
วิธีการทานายค่าเชิงเส้นตรงอย่างไร้อคติท่ีดีที่สุด (Best Linear Unbiased
Prediction; BLUP) เพื่ อคัดเลือกจากพั นธ์ุประวัติ (Pedigree Selection)
อี ก ทั้ ง ค ว า ม แ ป ร ป ร ว น ที่ ไ ด้ จ า ก ป ร ะ ช า ก ร ส า ม า ร ถ นา ม า คา น ว ณ ค่ า ป ร ะ ม า ณ
ค่าพารามิเตอร์ทางพั นธุกรรม เช่น ค่าอัตราพั นธุกรรม (Heritability) ของ
ลักษณะทางพันธุกรรม (genetic trait) ด้านการเจริญเติบโต เท่ากับ 0.3 เป็นต้น
สา ห รับ รูป แ บ บ ก า ร ป รับ ป รุง พัน ธุ์
การเจริญเติบโตในปลาทับทิม เริ่ม
จากประชากรพื้นฐาน 5 สายพันธุ์
ผ่ า น ก า ร จั บ คู่ ผ ส ม พั น ธ์ุ ภ า ย ใ น
สายพันธุ์ (Line breeding) โดย
พ ิจ า ร ณ า ค ่า อ ัต ร า เ ล ือ ด ช ิด
(Inbreeding coefficient) ใน
ระหว่างคู่ผสม (ผู้และเมีย) ไม่เกิน
0.02 ต่อรุ่น
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 19 - ต อ น ท่ี 2 ก า ร พั ฒ น า ส า ย พั น ธ์ุ
ในช่วงที่ระหว่างปี 2552 - 2555 ได้นาความรู้ทางพันธุศาสตร์
เชิงปริมาณ (Quantitative genetics) มาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ปลา
ทับทิม โดยอาศัยวิธีการจัดสมการแบบผสม (Mixed model) ร่วมกับ
แบบจาลองพันธุกรรมสัตว์ภายในประชากรผ่านโปรแกรม ASREML
ผลลัพธ์ คือ ได้ค่าประมาณความสามารถทางพันธุกรรม (EBV) เพื่อใช้
สาหรับการคัดเลือกเพื่อปรับปรุงพันธุ์สัตว์ต่อไป ทั้งนี้รูปแบบการปรับปรุง
พันธ์ุสัตว์มีรายดังเอียดดังต่อไปนี้ ข้อมูลพันธ์ุประวัติ (Pedigree) และ
ข้อมูลลักษณะปรากฏ (Phenotypic value) ของสัตว์รายตัวถูกนามา
สร้างความสัมพันธ์ผ่านแบบจาลองทางพันธุกรรม เพื่อทานายค่าประมาณ
ความสามารถทางพันธุกรรมในด้านการเจริญเติบโตต่อวัน (EBV_ADG),
ด้านอัตราการรอดตาย (EBV_SR%) ของสัตว์รายตัวสาหรับการคัดเลือกพ่อแม่
พันธ์ุสัตว์ด้วยวิธี within family selection สัตว์ท่ีผ่านการคัดเลือก
จะถูกพิ จารณาจับคู่ผสมพั นธุ์จากค่าอัตราเลือดชิดท่ีไม่เกิน 0.04 ต่อคู่
ผ ส ม พ ัน ธุ ์ ทั ้ง นี ้ เ ป ้า ห ม า ย ข อ ง ก า ร ผ ส ม ภ า ย ใ น ส า ย พ ัน ธุ ์ ( Line
breeding) จ ะต้อ งมีอย่างน้อย 12 - 15 ครอบ ครัว ต่อ ชุด (Batch)
และภายใน 1 รุ่น มีรวมทั้งสิ้นจานวน 250 ครอบครัวต่อรุ่นต่อปี
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 20 - ต อ น ที่ 2 ก า ร พั ฒ น า ส า ย พั น ธ์ุ
ตอนท่ี
3
การปรับปรุงพั นธ์ุ
เร่อื งที่ 1
การปรับปรุ งพันธ์ุโดยวธิ ีการคัดเลือก
(Selective breeding)
ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง พั น ธุ์ ป ล า ซึ่ ง จ ะ เ ป็ น ผ ล สา เ ร็ จ ไ ด้ โ ด ย เ ริ่ ม ต้ น
นิลและปลานิลแดงโดยวิธีการคัดเลือก ค ัด เ ล ือ ก ป ร ะ ช า ก ร ที ่ม ีล ัก ษ ณ ะ ต า ม
(selection) รูปแบบตา่ ง ๆ ได้ดาเนนิ การ เป้าหมายโดยใช้โปรแกรมการคัดเลือก
มากว่า 30 ปี ซึ่งหลังจากการปรับปรุง พั น ธุ์ ที่ จา เ พ า ะ แ ล ะ คั ด เ ลื อ ก ป ล า แ ต่ ล ะ ตั ว
พั น ธุ์ ป ล า นิ ล แ ล ะ ป ล า นิ ล แ ด ง ดั ง ก ล่ า ว น้ี ภายในประชากรให้ได้รับการปรับปรุง
จ ะ ไ ด ้อ ัต ร า ก า ร เ จ ร ิญ เ ต ิบ โ ต ที ่ด ีขึ ้น ต่อ ไ ป ดัง นั้น ใ น ก า ร คัด เ ลือ ก ป ล า นิล
ประมาณ 10 - 40 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และปลานิลแดงไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ที่จะ
ให้ลูกที่ดีนั้น ต้องพิจารณาข้อมูลของ
ก า ร ค ัด เ ล ือ ก ( selection) ลั ก ษ ณ ะ ที่ เ ป็ น เ ป ้า ห ม า ย ใ น ก า ร คั ด เ ลื อ ก
หมายถึง การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์เพื่อ โ ด ย ข้อ มูล ข อ ง ลัก ษ ณ ะ เ ห ล่า นี้จ ะ เ ป็น
จะยกระดับค่าเฉลี่ยของประชากรในรุ่น ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ รั บ โ ด ย ต ร ง จ า ก ตั ว ป ล า เ อ ง
ต่อ ไ ป ( อุทัย รัต น์, 2 5 3 8 ) ซึ่ง ก า ร หรือข้อมูลจากบรรพบุรุษ ข้อมูลจาก
คั ด เ ลื อ ก เ ป็ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ที่ ทา ใ ห้ ป ล า ตั ว ลูกปลา และข้อมูลจากญาติพี่น้องของ
ใ ด ต ัว ห นึ ่ง ม ีโ อ ก า ส ผ ส ม พ ัน ธุ ์แ ล ะ ปลาตัวนั้น
ขย า ย พัน ธุ์ม า ก ก ว่าป ล า ตัว อื่น มีก า ร
ถ่ า ย ท อ ด พั น ธุ ก ร ร ม ข อ ง ป ล า ตั ว นั้ น ไ ป สู่
รุ่นลูกหลานต่อไป
วิธกี ารคัดเลือกพันธป์ุ ลานิลและปลานลิ แดงทไ่ี ดม้ กี ารศึกษาวิจัยในปจั จบุ นั มี 5 วิธี ดังนี้
1) การคัดเลือกโดยดูลักษณะตัวเอง หรือการคัดเลือกแบบหมู่ (individual
selection หรือ mass selection)
2) การคัดเลือกโดยดูลักษณะครอบครัว (family selection)
3) การคัดเลือกโดยดูลักษณะภายในครอบครัว (within family selection)
4) Combined selection
5) การคัดเลือกโดยอ้างอิงค่าประมาณความสามารถทางพันธุกรรม (estimated
breeding values, EBVs)
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 22 - ต อ น ท่ี 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ
ซึ่ ง จ ะ ใ ช้ วิ ธี ก า ร ใ ด เ ป็ น วิ ธี ใ น ก า ร คั ด เ ลื อ ก ที่ เ ห ม า ะ ส ม นั้ น ขึ้ น อ ยู่ กั บ ป ัจ จั ย ห ล า ย
อย่าง ได้แก่ อัตราการสืบพันธุ์ของปลา อัตราพันธุกรรม ลักษณะที่สาคัญทาง
เศรษฐกิจ ลักษณะที่แสดงในเพศเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะปรากฏและ
พันธุกรรม และต้นทุนในการคัดเลือก เป็นต้น (นวลมณี, 2553)
1) การคัดเลือกโดยดูลักษณะตัวเอง ข้อ ดีข อ ง ก า ร คัด เ ลือ ก โ ด ย ดูลัก ษ ณ ะ
ห รือ ก า ร คัด เ ลือ ก แ บ บ ห มู่ ( individual ตัว เ อ ง ห รือ ก า ร คัด เ ลือ ก แ บ บ ห มู่ คือ
selection หรือ mass selection) เป็นวิธีการคัดเลือกที่ง่าย เนื่องจากเป็น
ก า ร พิ จ า ร ณ า ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ป ล า ที่ ต้ อ ง ก า ร
เ ป็น วิธีก า ร คัด เ ลือ ก พ่อ แ ม่พัน ธุ์โ ด ย คัดเลือกโดยตรง ไม่จาเป็นต้องค้นหา
พิจารณาจากลักษณะปรากฏ ของปลาตัวน้นั ๆ ข้อมูลจากแหล่งอื่นมาประกอบ
เพียงอย่างเดียว ซึ่งการพิจารณาลักษณะ
ปรากฏดังกล่าว อาจจะพิจารณาเพียง
ล ัก ษ ณ ะ เ ด ีย ว ห ร ือ ห ล า ย ล ัก ษ ณ ะ ก ็ไ ด้ ข้อจากัดของการคัดเลือกโดยดูลักษณะ
ลั ก ษ ณ ะ ป ร า ก ฏ ข อ ง ป ล า ท่ี นา ม า พิ จ า ร ณ า ใ น ตัวเอง หรือการคัดเลือกแบบหมู่ คือ
การคัดเลือกโดยวิธีนี้ ได้แก่ ขนาดลาตัว 1) ลักษณะที่จากัดโดยเพศ เช่น การให้
รูปร่าง ลกั ษณะการเจริญเติบโต ประสทิ ธิภาพ ไข่ และความสามารถในการเป็นแม่ ซึ่ง
การเปล่ียนอาหาร เป็นต้น เ ป็ น ลั ก ษ ณ ะ ที่ แ ส ด ง อ อ ก ใ น เ พ ศ เ มี ย เ พ ศ
ก า ร คัด เ ลือ ก โ ด ย ดูลัก ษ ณ ะ ตัว เ อ ง เ ดีย ว ดัง นั้น ใ น ก า ร คัด เ ลือ ก พ่อ พัน ธ์ุ
ห รือ ก า ร คัด เ ลือ ก แ บ บ ห มู่ จ ะ ทา โ ด ย ก า ร สา ห รั บ ลั ก ษ ณ ะ ดั ง ก ล่ า ว จ ะ ไ ม่ ส า ม า ร ถ ใ ช้
เปรียบเทียบลักษณะปรากฏที่ต้องการของ วิธีนี้ได้ จะต้องใช้การคัดเลือกวิธีการอื่น
ปลาที่ต้องการคัดเลือกกับค่าเฉลี่ยลักษณะ แทน
นั้น ข อ ง ป ล า ใ น ป ร ะ ช า ก ร ถ้า ลัก ษ ณ ะ ที่ 2) ลักษณะที่แสดงออกเมื่อถึงวัยเจริญ
ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ป ล า ดั ง ก ล่ า ว สู ง ก ว่ า ค่ า เ ฉ ลี่ ย พันธุ์ (maturity) เช่น การให้ผลผลิต
ของปลาในประชากร ก็จะคัดเลือกปลาตัว ไข่ และความสามารถในการเป็นแม่ จะใช้
นั ้น ไ ว ้เ ป็น พ่อ แ ม ่พัน ธุ ์ต ่อ ไ ป แ ต ่ใ น ก า ร ข้ อ มู ล ใ น ก า ร คั ด เ ลื อ ก ก็ ต่ อ เ มื่ อ ป ล า ตั ว นั้ น
เปรียบเทียบนี้ต้องอยู่ใต้สภาวะแวดล้อมที่มี ถึงวัยเจริญพันธุ์แล้ว ดังนั้นถ้ามีความ
การควบคุม ปลาต้องมีอายุเท่ากันหรือ จา เ ป็ น ต้ อ ง คั ด เ ลื อ ก ป ล า ดั ง ก ล่ า ว ก่ อ น ถึ ง
ใกล้เคียงกัน และทาในช่วงเวลาเดียวกัน วัย เ จ ริญ พัน ธุ์ ต้อ ง พิจ า ร ณ า ลัก ษ ณ ะ
ท่ีสาคัญต้องมีการบันทึกข้อมูลที่แม่นยา อื ่น ๆ ใ น ก า ร ค ัด เ ล ือ ก แ ท น ล ัก ษ ณ ะ
ดังกล่าว
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 23 - ต อ น ที่ 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ
3) ในกรณีลักษณะที่ต้องการคัดเลือกมีค่าอัตราพันธุกรรมต่า การพิจารณาลักษณะ
ดังกล่าวในการคัดเลือกปลาแต่ละตัวน้ัน จะเป็ นค่าที่ใช้บ่งชี้คุณค่าการผสมพั นธุ์
ที่ไม่ดีนัก เนื่องจากลักษณะดังกล่าวมีความผันแปรที่เกิดจากปัจจัยของสิ่งแวดล้อม
มาก จึงควรใช้การคัดเลือกวิธีอ่ืนแทน
4) ลักษณะที่ต้องการที่สามารถวัดได้หลังจากการฆ่าปลาเท่านั้น เช่น เปอร์เซ็นต์
ซาก จะต้องใช้การเลือกวิธีการอ่ืนแทน
อ ย ่า ง ไ ร ก ็ต า ม ก า ร พิจ า ร ณ า ปลานลิ จิตรลดา 3 มกี ารเจริญเตบิ โตเร็วขน้ึ
ลักษณะปรากฏของปลาแต่ละตัวนี้ เป็น ปลานิลจิตรลดา 3 กลุ่มคัดเลือกรุ่นท่ี 3
วิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุด และเป็นวิธีท่ี มีอัตราการเจริญเติบโตสูงกว่าปลานิล
พิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนใช้วิธีอื่นๆ จ ิต ร ล ด า 3 ก ลุ ่ม ค ว บ ค ุม รุ ่น ที ่ 3
ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลอื่นมาประกอบการ ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ค่าการเพ่ิมขึ้น
พิจา รณ าคัดเ ลือ ก ก าร พิจ าร ณา จา ก ทางพันธุกรรม (genetic gain) ของ
ลักษณะปรากฏของปลาจะเป็นวิธีเดียว น้าหนักปลานิลจิตรลดา 3 อายุ 180 วนั
ที่จะใช้ประโยชน์ได้ มีค่าประมาณ 10.1 เปอร์เซ็นต์ต่อช่ัวอายุ
Basiao and Doyle (2001) นวลมณี และคณะ (2552ก) ได้
ได้คัดเลือกปลานิลโดยวิธีการคัดเลือก คัดพันธุ์ปลานิลสายพันธุ์ GIFT โดยดู
แบบหมู่ ของอัตราการเจริญเติบโต ลักษณะตัวเอง (individual selection)
เป็นเวลา 1 ชั่วอายุ พบว่าปลานิลมีการ จากการเจริญเติบโตโดยประเมินค่าการ
ต อ บ ส น อ ง ต่อ ก า ร คัด เ ลือ ก ป ร ะ ม า ณ ผสมพันธุ์ (estimated breeding value,
3 เปอร์เซ็นต์ EBV) ขอ งน้าห นัก ปล าอ ายุ 1 80 วัน
บุญช่วย แล ะคณ ะ ( 25 46 ) ได้ เป็นระยะเวลา 2 ชั่วอายุ ผลจากการ
คัด เ ลือ ก ป ล า นิล โ ด ย วิธีก า ร คัด เ ลือ ก คัดเลือกพบว่าปลานิลสายพันธุ์ GIFT
แ บ บ ห มู่ ข อ ง อ ัต ร า ก า ร เ จ ร ิญ เ ติบ โ ต ก ลุ่ ม คั ด เ ลื อ ก รุ่ น ท่ี 1 แ ล ะ รุ่ น ท่ี 2
เป็นเวลา 1 ชั่วอายุ พบว่าในสายท่ีผ่าน มีค ว า ม ย า ว แ ล ะ น้า ห นัก ม า ก ก ว่า ก ลุ่ม
การคัดเลือกโตกว่าปลานิลในสายควบคุม ควบคุมในรุ่นเดียวกันอย่างมีนัยสาคัญ
ประมาณ 7.9 - 8 เปอร์เซน็ ต์ ทางสถิติ (p<0.05) ค่าอัตราพันธุกรรม
น ว ล ม ณี ( 2 5 5 0 ) ไ ด้คัด เ ลือ ก ประจักษ์ของความยาวและน้าหนักปลา
ปลานิลจิตรลดา3 โดยวิธีการคัดเลือก นิลอายุ 180 วัน มีค่าเท่ากับ 0.32
แ บ บ ห มู ่ จ า ก ก า ร เ จ ร ิญ เ ต ิบ โ ต เ ป็น และ 0.35 ตามลาดับ ค่าการเพิ่มขึ้น
ระยะเวลา 3 ช่ัวอายุ มีผลทาให้ ท า ง พั น ธุ ก ร ร ม ข อ ง ค ว า ม ย า ว ป ล า
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 24 - ต อ น ที่ 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ
อายุ 180 วัน รุ่นที่ 1 แ ล ะรุ่น ที่ 2 อยู่ อายุ 180 วัน ในน้าความเค็มระดับ
ในชว่ ง 4.33 - 4.87 เปอร์เซ็นต์ต่อช่ัวอายุ 25 - 30 ส่วนในพัน จานวน 2 ช่ัวอายุ
ส่ ว น ค่ า ก า ร เ พิ่ ม ข้ึ น ท า ง พั น ธุ ก ร ร ม (นวลมณี และคณะ, 2550; Pongthana
ของน้าหนักปลาอายุ 180 วัน รุ่นที่ 1 et al., 2009) ซ่งึ เม่อื คัดเลอื กปลานิลแดง
และรุ่นที่ 2 อยู่ในช่วง 9.17 - 10.10 ให้ทนทานต่อความเค็มไปได้ 2 รุ่น ได้
เปอร์เซ็นต์ต่อชั่วอายุ ค่าการเพิ่มขึ้นทางพันธุกรรม ของน้าหนัก
ก ฤ ษ ณุพัน ธ์ แ ล ะ ส ง่า ( 2 5 5 0 ) ที่อ า ยุ 1 8 0 วัน อ ยู่ใ น ช่ว ง ร ะ ห ว่า ง
ไ ด้คัด เ ลือ ก ป ล า นิล แ ด ง ส า ย พัน ธุ์ไ ท ย 8.48 - 13.92 เปอร์เซ็นต์ และพบว่า
โด ยวิธีก าร คัดเ ลือ กแ บบห มู่ จา กก า ร ปลานิลแดงท่ีผ่านการคัดเลือกด้วยวิธีดู
เจริญเติบโตเป็นระยะเวลา 2 ชั่วอายุ ลักษณะตัวเอง โดยประเมินจากคุณค่า
มีผ ล ทา ใ ห้ป ล า นิล แ ด ง ส า ย พัน ธุ์ไ ท ย มี การผสมพั นธุ์ของน้าหนักปลาเมื่ออายุ
ก า ร เ จ ริญ เ ติบ โ ต เ ร็ว ขึ้น โ ด ย ป ล า นิล 180 วนั จานวน 2 ร่นุ มกี ารตอบสนอง
แดงสายพันธุ์ไทยที่ผ่านการคัดเลือกรุ่น ต่อ ก า ร คัด เ ลือ ก ใ น น้า ค ว า ม เ ค็ม ร ะ ดับ
ที่ 2 มีค ว า ม ย า ว แ ล ะ น้า ห นัก ม า ก ก ว่า 25 - 30 สว่ นในพัน ระยะเวลา 120 วนั
ป ล า นิล แ ด ง ส า ย พัน ธุ์ไ ท ย ที่ไ ม่ไ ด้ผ่า น โ ด ย ม ีน้ า ห น ัก ค ว า ม ย า ว ข อ ง ล า ต ัว
ก า ร คัด เ ลือ ก ห รือ ก ลุ่ม ค ว บ คุม รุ่น ที่ 2 ค ว า ม ลึก ข อ ง ลา ต ัว ค ว า ม ห น า ข อ ง
เ ฉ ลี ่ย 1 . 5 9 เ ป อ ร ์เ ซ ็น ต ์ แ ล ะ 7. 9 ลา ตัว อัต รา ก า ร รอ ดต า ย อัต รา ก า ร
เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เจริญเติบโตจาเพาะ เปอร์เซ็นต์เนื้อแล่
ปลานิลแดงทนเค็มปรับปรุงพันธุ์ และผลผลิต สูงกว่าการเลี้ยงปลานิล
มาจากปลานิลแดง 4 สายพันธุ์ ได้แก่ แ ด ง ส า ย พัน ธุ ์ไ ท ย ป ร ะ ม า ณ 6 6 . 4 ,
ปลานิลแดงสายพันธุ์ไทย ปลานิลแดง 17.3, 23.6, 16.8, 94.9, 15.5, 3.7
ส า ย พัน ธุ ์ไ ต ้ห ว ัน ป ล า น ิล แ ด ง ส า ย แ ล ะ 2 3 3 . 0 เ ป อ ร์เ ซ็น ต์ ต า ม ลา ดับ
พันธุ์สเตอริง และปลานิลแดงสายพันธ์ุ (นวลมณี และคณะ, 2552ข)
ม า เ ล เ ซ ีย ซึ ่ง น า ม า ผ ส ม ข ้า ม จ น ไ ด้
ลูกผสม 16 กลุ่ม จากนั้นนาพันธุ์ผสม
ดัง ก ล่า ว ม า คัด เ ลือ ก โ ด ย ดูลัก ษ ณ ะ
ตัวเอง (individual selection) เพื่อ
เพ่ิมอัตราการเจริญเติบโต โดยประเมิน
จ า ก ค ่า ก า ร ผ ส ม พัน ธุ ์ ( estimated
breeding value, EBV) ของน้าหนักปลา
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 25 - ภาพโดย ปริญญา ผดงุ ถน่ิ จาก posttoday
ต อ น ท่ี 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ
2) การคัดเลือกโดยดูลักษณะ ใ น ทุก ค ร อ บ ค รัว นิย ม ใ ช้คัด เ ลือ ก
ครอบครัว (family selection) เป็น ลัก ษ ณ ะ ป ร า ก ฏ ที่มีค ว า ม ผัน แ ป ร ข อ ง
ว ิธ ีก า ร ค ัด เ ล ือ ก โ ด ย พ ิจ า ร ณ า จ า ก สิ่ง แ ว ด ล้อ ม ร ะ ห ว่า ง ค ร อ บ ค รัว ม า ก
ค่าเฉลี่ยของลักษณะปรากฏ ของปลา จา เ ป็ น ต้อ ง เ ลี้ย ง ป ล า แ ต่ล ะ ค ร อ บ ค รัว
แ ต ่ล ะ ค ร อ บ ค ร ัว น ิย ม ใ ช ้ค ัด เ ล ือ ก แยกกัน
ลัก ษ ณ ะ ป ร า ก ฏ ที่มีค่า อัต ร า พั น ธุก ร ร ม สุภัท ร า ( 2 5 3 5 ) ได้คัดเลือ ก
ต่า (heritability, h²) มีความผันแปร ป ล า น ิล โ ด ย ว ิธ ีด ูล ัก ษ ณ ะ ภ า ย ใ น
ของสิ่งแวดล้อมระหว่างครอบครัวน้อย ครอบครัว (within family selection)
แ ล ะ ป ล า ม ีข น า ด ค ร อ บ ค ร ัว ใ ห ญ่ ของการเจริญเติบโต จานวน 3 อายุ
จา เ ป็น ต้อ ง เ ลี้ย ง ป ล า แ ต่ล ะ ค ร อ บ ค รัว พ บ ว่ า ป ล า นิ ล ก ลุ่ ม คั ด เ ลื อ ก มี ข น า ด
แยกกัน โตกว่าปลาในกลมุ่ ควบคุม 21 เปอร์เซน็ ต์
Horstegen-Schwark and โดยน้าหนัก
Langholz (1998) ได้คัดเลือกปลา Uriawan (1988) ได้คัดเลือก
นิลโดยวิธีดูลักษณะครอบครัว (family ป ล า น ิล โ ด ย ว ิธ ีด ูล ัก ษ ณ ะ ภ า ย ใ น
selection) ของอายเุ ม่ือเข้าวัยเจริญพันธุ์ ครอบครัว (within family selection)
เป็นเวลา 2 ชั่วอายุ พบว่าปลานิลกลุ่ม ของอายุเมื่อเข้าวัยเจ ริญพั นธุ์ พบว่า
คัด เ ลือ ก เ พ ศ เ มีย มีวัย เ จ ริญ พัน ธุ์ช้า ในช่ัวอายุที่ 1 ปลาคัดพันธุ์เจริญพันธ์ุ
กว่าเดิมประมาณ 29 เปอร์เซ็นต์ และ เร็วกว่าเดิม 11 - 14 วัน แต่ในชั่วอายุ
ปลานิลกลุ่มคัดเลือกเพศผู้มีค่า GSI ต่า ที่ 2 ผลของการคัดพั นธุ์ไม่ชัดเจน
กว่าเดิมประมาณ 39 เปอร์เซ็นต์ B ol iv er et a l . ( 1 9 9 4 ) ไ ด้
3) การคัดเลือกโดยดูลักษณะ คัด เ ลือ ก ป ล า นิล โ ด ย วิธีดูลัก ษ ณ ะ
ภายในครอบครัว (within family ภายในครอบครัว ( within family
selection) เป็นวิธีการคัดเลือกพันธ์ุ selection) ของการอัตราเจริญเติบโต
โ ด ย พ ิจ า ร ณ า จ า ก ล ัก ษ ณ ะ ป ร า ก ฏ เ ป็ น เ ว ล า 8 ชั่ว อ า ยุ พ บ ว่า เ กิด ผ ล
(phynotype) ของเพศผู้และเพศเมีย ต อ บ ส น อ ง ต่อ ก า ร คัด เ ลือ ก ป ร ะ ม า ณ
3 เปอร์เซ็นต์ต่อช่ัวอายุ
บ ท ท่ี 1 ชี ว วิ ท ย า - 26 - ต อ น ที่ 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธุ์
Boliver and Newkirk (2002) ส ม นึก แ ล ะ ค ณ ะ ( 2 5 6 4 ) ไ ด้
ไ ด ้ค ัด เ ล ือ ก ป ล า น ิล โ ด ย ว ิธ ีดู ป ร ับ ป ร ุง พ ั น ธุ ์ป ล า น ิล จ ิต ร ล ด า 3
ลัก ษ ณ ะ ภ า ยใ น ค รอ บ ค รัว ( within ด้ว ย วิธีก า ร คัด เ ลือ ก แ บ บ ดูลัก ษ ณ ะ
family selection) ของน้าหนัก เป็น ภา ย ใ นค ร อ บค รัว ( with in fa mily
เ ว ล า 1 2 ชั ่ว อ า ย ุ พ บ ว ่า เ ก ิด ผ ล selection) โ ด ย ใ ช้ลัก ษ ณ ะ สัด ส่ว น
ต อ บ ส น อ ง ต่อ ก า ร คัด เ ลือ ก ป ร ะ ม า ณ เ ป็ นเ ก ณ ฑ์ พ บ ว่า ป ล า นิล จิต ร ล ด า 3
12.4 เปอร์เซ็นต์ต่อชั่วอายุ ที่ผ่า น ก า ร คัด เ ลือ ก ไ ป ไ ด้ 2 รุ่น มี
ศรีจรรยา และคณะ (2555) ได้ ก า ร เ จ ริญ เ ติบ โ ต ดีขึ้น ค่า เ ฉ ลี่ย ข อ ง
ดา เ นิน ก า ร คัด เ ลือ ก ป ล า นิล แ ด ง ส า ย ค ว า ม ย า ว ทั้ง ห ม ด น้า ห นัก ตัว ค ว า ม
พันธุ์อุตรดิตถ์ด้วยวิธีการคัดเลือกโดย ก ว ้า ง ล า ต ัว ค ว า ม ล ึก ล า ต ัว แ ล ะ
ดูลักษณะภายในครอบครัวจานวน 20 อัต ร า ส่ว น ค ว า ม ลึก ลา ตัว เ ทีย บ กับ
ค ร อ บ ค รัว เ มื่อ คัด เ ลือ ก ไ ป ไ ด้ 2 รุ่น ค ว า ม ย า ว ทั้ง ห ม ด มีค่า เ พิ่ ม สูง ขึ้น
พ บ ว ่า ป ร ะ ช า ก ร ป ล า น ิล แ ด ง ก ลุ ่ม ก ว่า ป ล า นิล ก ลุ่ม ป ร ะ ช า ก ร ค ว บ คุม มี
คัดเลือกมีความยาวและน้าหนักมากกว่า ค ่า เ ฉ ลี ่ย ข อ ง ค ว า ม ย า ว ทั ้ง ห ม ด
ป ร ะ ช า ก ร ก ลุ ่ม ค ว บ ค ุม 5 . 6 0 แ ล ะ เ พิ ่ ม ขึ ้น เ ท ีย บ ก ับ ก ลุ ่ม ป ร ะ ช า ก ร
14.68 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ คว บคุม เท่ากับ 2 .2 8 แ ล ะ 2 .6 4
ศรีจรรยา และคณะ (อยู่ระหว่าง เ ป อ ร์เ ซ็น ต์ ต า ม ลา ดับ มีน้า ห นัก ตัว
กา ร ตีพิมพ์) การคัดพันธุ์ปลานิลแดง ม า ก ก ว ่า ก ลุ ่ม ป ร ะ ช า ก ร ค ว บ ค ุม
สายพันธุ์อุตรดิตถ์ด้วยวิธีการคัดเลือก เ ท่า กับ 8 . 1 3 แ ล ะ 9 . 73 เ ป อ ร์เ ซ็น ต์
โ ด ย ด ูล ัก ษ ณ ะ ภ า ย ใ น ค ร อ บ ค ร ัว เ ช ่น เ ด ีย ว ก ับ ค ่า เ ฉ ลี ่ย ข อ ง ก า ร
(within family selection) จานวน เจริญเติบโตที่พบว่าปลานิลจิตรลดา 3
4 0 ค ร อ บ ค ร ัว ฟุ ล - ส ิบ แ ล ะ 2 0 ก ลุ ่ม ป ร ะ ช า ก ร ค ัด เ ล ือ ก ม ีก า ร
ครอบครัวฮาล์ฟ-สิบ โดยใช้ประชากร เ จ ริญ เ ติบ โ ต ที่เ พิ่ ม ขึ้น เ มื่อ เ ทีย บ กับ
ป ล า นิล แ ด ง ส า ย พัน ธุ์อุต ร ดิต ถ์ที่ผ่า น ก ลุ ่ม ป ร ะ ช า ก ร ค ว บ ค ุม โ ด ย ม ีค ่า
ก า ร คัด เ ลือ ก แ ล้ว 2 รุ่น ( ศ รีจ ร ร ย า เพ่ิ มข้ึนในเพศผู้มากกว่าเพศเมีย แล ะ
และคณะ, 2555) เป็นประชากรเริ่มต้น อัต ร า พั น ธุก ร ร ม ที่คา น ว ณ ไ ด้จ า ก
เมื่อ คัด พัน ธุ์ต่อ ไ ป ไ ด้ 3 รุ่น ( รุ่น G₅) ค่า เ ฉ ลี่ย ข อ ง ก า ร เ จ ริญ เ ติบ โ ต โ ด ย
พบว่าประชากรที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ค ว า ม ย า ว แ ล ะ น้ า ห น ัก ข อ ง ก า ร
ม ีค ว า ม ย า ว แ ล ะ น้ า ห น ัก ม า ก ก ว ่า คัด เ ลือ ก ทั้ง 2 รุ่น มีค่า อ ยู่ใ น ช่ว ง
ป ร ะ ช า ก ร ก ลุ่ม ค ว บ คุม 1 0 . 2 9 แ ล ะ 0.340 - 0.755
42.35 เปอร์เซ็นต์ตามลาดับ
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 27 - ต อ น ที่ 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธุ์
4) Combined selection เป็น ด ัง นั ้น ก า ร ค ัด เ ล ือ ก อ ้า ง อ ิง ต า ม ค ่า
วิธีก า ร คัด เ ลือ ก โ ด ย พิจ า ร ณ า จ า ก EBVs จะให้ผลความแม่นยาในการคัด
คา่ เฉลยี่ ของลักษณะปรากฏ (phenotype) พันธุ์สูงกว่าวิธีการแบบการพิจารณ า
ข อ ง ป ล า แ ต ่ล ะ ต ัว แ ล ะ ค ่า เ ฉ ลี ่ย ข อ ง ข้อ มูล ข อ ง ต น เ อ ง เ พีย ง อ ย ่า ง เ ดีย ว
ลักษณะปรากฏของปลาแตล่ ะครอบครัว เน่ืองจากค่าท่ีใช้คัดเลือกน้ันเป็นอิทธิพล
Eknath and Acosta (1998) ทางพันธุกรรมที่ปราศจากอิทธิพลจาก
ได้คัดเลือกปลานิลสายพันธุ์ GIFT โดย ปัจจัยกาหนดแล้ว เป็นวิธีการคัดเลือก
วิธี combined selection ของการ ที่ป ร ะ เ มิน ผ ล ไ ด้อ ย่า ง ถูก ต้อ ง แ ม่น ยา
อัตราเจริญเติบโต เป็นเวลา 5 ชั่วอายุ ที่สุด จาเป็นต้องติดเครื่องหมายปลา
พ บ ว่า ป ล า นิล ก ลุ่ม คัด เ ลือ ก มีค่า ก า ร ทุกตัวและบันทึกข้อมูลทั้งพ่อแม่และปลา
เ พิ ่ม ขึ ้น ท า ง พ ัน ธ ุก ร ร ม ( genetic ทุกตัว
gain) ประมาณ 12 - 17 เปอร์เซ็นต์ Gall and Bakar (2002) ได้
ต่อชั่วอายุ คัด เ ลือ ก พัน ธุ์ป ล า นิล โ ด ย วิธี BLUP
5) ก า ร ค ัด เ ล ือ ก โ ด ย อ ้า ง อ ิง selection ของน้าหนักปลาอายุ 98
ค ่า ป ร ะ ม า ณ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ท า ง วัน เ ป็น เ ว ล า 3 ชั่ว อ า ยุ พ บ ว่า ป ล า
พั นธุกรรม (e s t i m a t e d breeding ก ลุ ่ม ค ัด เ ล ือ ก ม ีค ่า ก า ร เ พิ ่ม ขึ ้น ท า ง
values, EBVs) เป็นการคัดเลือกโดย พันธุกรรม (genetic gain) ระหว่าง
พิจารณาจากค่า EBVs ของลักษณะที่ 2.42 - 2.61 กรัมต่อชั่วอายุ และปลา
ต้องการคัดเลือกของปลาที่มีค่าสูงตาม ที ่ผ ่า น ค ัด เ ล ือ ก ม ีก า ร เ จ ร ิญ เ ต ิบ โ ต
เกณฑ์ที่กาหนด การประมาณค่า EBVs เพ่ิมข้ึน
น้ันจะใช้ mixed model equation Ponzoni et al. (2005) ได้
(MME) เน่ืองจากค่า EBVs ที่ได้น้ัน คัดเลือกปลานิลสายพันธ์ุ GIFT โดยวิธี
จ ะ มี คุ ณ ส ม บั ติ ต า ม best linear BLUP selection ของอัตราการเจริญ
unbiased prediction (BLUP) โดย MME เติบโต เป็นเวลา 5 ชั่วอายุ พบว่าปลา
เป็นสมการท่ีมีการใช้ข้อมูลของสัตว์น้า ที ่ผ ่า น ค ัด เ ล ือ ก ม ีก า ร เ จ ร ิญ เ ต ิบ โ ต
ทุกตัวที่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม เพ่ิมขึ้น
แ ล ะ มี ก า ร ข จั ด ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง
อันเ นื่อ งมา จ า กปัจ จัย กาห นด ( fixed
effects) ในการประมาณค่า EBVs
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 28 - ต อ น ท่ี 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ
เร่อื งที่ 2
การปรั บปรุ งพันธุ์
โดยวธิ ีอ่ืน ๆ 2.2 กา รจัดกา รค ว บคุมเ พศ
2 . 1 ก า ร ผ ส ม ข้ า ม ช นิ ด (Sex manipulation)
(Inter-specific hybridization/ เ นื่อ ง จ า ก ป ล า นิล แ ล ะ ป ล า นิล
cross breeding)
แ ด ง เ พ ศ ผู้เ จ ริญ เ ติบ โ ต เ ร็ว ก ว่า แ ล ะ มี
ก า รผสมข้ามชนิดของปลากลุ่ม ข น า ด ใ ห ญ่ก ว่า เ พ ศ เ มีย จึง เ ป็ น เ ห ตุ
ป ล า นิล เ ป็ น วิธีก า ร ห นึ่ง ที่นิย ม ใ ช้เ พื่ อ ใ ห้มีก า ร แ ป ล ง เ พ ศ ป ล า ใ ห้เ ป็ น เ พ ศ ผู้
ร ว ม ลัก ษ ณ ะ ที่ดีข อ ง ป ล า นิล ต่า ง ช นิด เ พื่ อ ใ ช้ใ น ก า ร เ พ า ะ เ ลี้ย ง เ ชิง ก า ร ค้า
เ ข้า ด้ว ย กัน ห รือ เ ป็ น ก า ร ส ร้า ง ป ล า ก า ร เ พ า ะ เ ลี้ย ง ป ล า นิล แ ล ะ ป ล า นิล
เ พ ศ เ ดี ย ว แ ด ง เ พ ศ ผู ้จ ะ ช ่ว ย ใ ห ้ไ ด ้ผ ล ผ ล ิต
เ พิ่ ม ขึ้น ไ ม่เ กิด ก า ร ผ ส ม พั น ธุ์ว า ง ไ ข่
ก ารผสมข้ามช นิดระห ว่างปล า ใ น บ ่อ เ ลี ้ย ง แ ล ะ ไ ด ้ป ล า ข น า ด
น ิล แ ล ะ ป ล า ห ม อ เ ท ศ ซึ ่ง ไ ด ้ป ล า ใ ก ล้เ คีย ง กัน เ มื่อ เ ก็บ เ กี่ย ว แ ต่ป ล า
ลูก ผ ส ม ที่ส า ม า ร ถ เ จ ริญ เ ติบ โ ต ใ น แ ป ล ง เ พ ศ ด้ว ย ฮ อ ร์โ ม น อ า จ ไ ม่เ ป็ น ที่
น้าเค็ม 15 - 32 ส่วนในพั นได้ดีกว่า ย อ ม รับ ข อ ง ผู้บ ริโ ภ ค ใ น บ า ง ป ร ะ เ ท ศ
ปลานิล (Villegas, 1990; เจษฎา, 2540) การผลิตปลาที่เป็นเพศผู้ท่ีมีโครโมโซมแบบ
XY (genetically male tilapia
ก ารผสมข้ามช นิดระห ว่างปล า หรือ XY-male) จึง เ ป็ น วิธีก า ร ห นึ่ง
Bl ue til a pia เ พ ศ ผู้ แ ล ะ ป ล า นิล ที่จ ะ ห ลีก เ ลี่ย ง ก า ร ใ ช้ฮ อ ร์โ ม น ใ น ก า ร
เ พ ศ เ มีย ซึ่ง ไ ด้ลูก ป ล า ลูก ผ ส ม ที่เ ป็ น แ ป ล ง เ พ ศ ป ล า วิธีก า ร ที่เ ห ม า ะ ส ม
เพศผู้ประมาณ 50-100 เปอร์เซ็นต์ ที ่ส ุด ใ น ก า ร ผ ล ิต ป ล า เ พ ศ ผู ้ซึ ่ง มี
(Pruginin et al., 1975) โครโมโซมแบบ XY (XY-male) ใน
เชิงธุรกิจ คือ ก า ร ผ สมพั นธุ์ร ะห ว่า ง
ก ารผสมข้ามช นิดระห ว่างปล า พ่ อ พั น ธุ์ที่มีโ ค ร โ ม โ ซ ม แ บ บ YY ห รือ
Bl ue til a pia เ พ ศ ผู้ แ ล ะ ป ล า นิล เรีย ก ว่า ซูเ ป อ ร์เ ม ล ( YY-male)
G I F T เ พ ศ เ มีย ซึ่งไ ด้ปล า ลูก ผ สม ที่ แ ล ะ แ ม่พั น ธุ์ที่มีโ ค ร โ ม โ ซ ม ป ก ติแ บ บ
เป็นเพศผปู้ ระมาณ 93.0 ± 4.2 เปอรเ์ ซน็ ต์
(นวลมณี และคณะ, 2552ค)
XX (XX-female)
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 29 - ต อ น ที่ 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ
Mair et al. (1992) ได้ทดลอง 2.3 กา รจัดการชุดโครโมโซม
พัฒนาปลานิล “Egypt” ที่มีโครโมโซม (Chromosome-set manipulation)
แบบ YY (YY-male) จ า ก ก า รใช้ กา รจัดก ารชุดของโค รโมโซม
ฮ อร์โมนแป ลงเพศ แ ล ะทดลองผลิต เ ป็ น วิธีก า ร ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยีชีว ภ า พ
ป ล า นิล เ พ ศ ผู้ซึ่ง มีโ ค ร โ ม โ ซ ม แ บ บ ( biotechnology) ว ิธ ีก า ร ห นึ ่ง ที่
XY (XY -male) จ า ก ก า ร ผ สมพั นธ์ุ นา ม า ใ ช้ใ น ก า ร ป รับ ป รุง พั น ธุ์ใ น ป ล า
ระหว่างพ่ อพั นธุ์ปลานิล ที่มีโ ค ร โ ม โ ซ ม นิล แ ล ะ ป ล า นิล แ ด ง โ ด ย ก า ร จัด ก า ร
แ บบ YY (YY -male) แ ล ะแ ม่พั นธุ์ แ บ่ง ไ ด้เ ป็ น 2 ลัก ษ ณ ะ คือ ก า ร
ป ล า นิล ที่มีโ ค ร โ ม โ ซ ม ป ก ติแ บ บ XX เ ห นี ่ย ว น า ใ ห ้เ ก ิด ก า ร เ พิ ่ ม ช ุด ข อ ง
(XX-female) โ ค ร โ ม โ ซ ม ( polyploidization)
นวลมณี และ พุ ทธรัตน์ (2538) แ ล ะ ก า ร เ ห นี ่ย ว น า ไ จ โ น จ ีน ีซ ิส
ไ ด้ท ด ล อ ง เ พ า ะ พั น ธุ์ป ล า นิล ส า ย พั น ธ์ุ (gynogenesis) และแอนโดรจีนีซิส
จิตรลดา 2 ซ่ึงเป็นเพศผู้ที่มีโครโมโซม (androgenesis)
แบบ XY (genetically male tilapia 2 .3.1 ก า ร เหน่ียวนา ใ ห้เ กิด ก า ร
ห รือ XY-male) จ า ก ก า ร ผ ส ม พั น ธ์ุ เพ่ิมชุดของโครโมโซม (polyploidization)
ร ะ ห ว่า ง พ่ อ พั น ธุ์ป ล า นิล ซู เ ป อ ร์ เ ม ล วิธีก า ร เ ห นี่ย ว นา ใ ห้เ กิด ก า ร
( supermale ห รือ YY-male) กับ เ พิ่ ม ข อ ง ชุด โ ค ร โ ม โ ซ ม ใ น ป ล า นิล แ ล ะ
แ ม่พั น ธุ์ป ล า นิล ป ก ติ แ ล ะ ไ ด้ท ด ล อ ง ปลานิลแดงมีการทดลองปฏิบัติใ น 2
เลี้ยงปลานิลดังกล่าวเปรียบเทียบกับ วิธี คือ วิธีก า ร ใ ช้ค ว า ม ดัน แ ล ะ ก า ร
ป ล า นิล แ บ บ ร ว ม เ พ ศ ใ น บ่อ ดิน เ ป็ น ใ ช้อุณ ห ภูมิ ผ ล ข อ ง ก า ร เ ห นี่ย ว นา ใ ห้
ร ะ ย ะ เ ว ล า 8 เ ดือ น พ บ ว่า ก า ร เ ลี้ย ง เ กิด ก า ร เ พิ่ ม ชุด ข อ ง โ ค ร โ ม โ ซ ม มีผ ล
ป ล า นิล เ พ ศ ผู้ดัง ก ล่า ว ใ ห้ผ ล ผ ลิต ต่อ ทา ใ ห้ป ล า เ จ ริญ เ ติบ โ ต เ ร็ว ก ว่า ป ก ติ
ไร่สูงกว่า 28.25 เปอร์เซ็นต์ และได้ ปลาท่ีมีโครโมโซม 3 ชุด (ทริพพลอยด์)
ป ล า ที่มีข น า ด ใ ก ล้เ คีย ง กัน เ กือ บ ทั้ง จ ะ เ ป็ น ห ม ัน ซึ ่ง จ ะ เ ป็ น ผ ล ด ีใ น ก า ร
บ่อ โ ด ย 9 2 . 3 เ ป อ ร์เ ซ็น ต์มีค ว า ม ค ว บ คุม ป ร ะ ช า ก ร แ ล ะ ล ด กิจ ก ร ร ม ที่
ยาวเฉล่ีย 25.08 ± 1.26 เซนติเมตร เก่ียวข้องกับการสืบพั นธ์ุลง
น้าหนักเฉลี่ย 316 ± 51.34 กรัม และ
เปอร์เซ็นต์เน้ือแล่เฉล่ีย 38.31 ± 2.84
เปอร์เซน็ ต์
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 30 - ต อ น ที่ 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธุ์
H u s s a i n e t a l . ( 1 9 9 1 ) ไ ด้ เน่ืองจากปลานิลที่มีโครโมโซม 4 ชดุ
ศึก ษ า วิจัย เ พื่ อ เ ห นี ่ย ว น า ใ ห ้ป ล า มี ตายหมด (Myer, 1986; Don and
โ ค ร โ มโ ซ ม 3 ชุด โ ด ย ก า ร แ ช่ไ ข่ปล า Avtalion, 1988; Mair, 1988; El-
นิล ห ลัง จ า ก ผ ส ม 7 น า ที ใ น น้า เ ย็น Gamal et al., 1999)
อุณ ห ภูมิ 9 องศ า เซล เซีย ส นา น 2 . 3 . 2 ก า ร เ ห นี่ย ว นา ไ จ โ น จีนี
3 0 น า ท ี ใ ห ้ผ ล ไ ด ้ป ล า น ิล ที ่มี ซิส ( g y n o g e n e s i s ) แ ล ะ แ อ น โ ด ร
โ ค ร โ ม โ ซ ม 3 ชุด 1 0 0 เ ป อ ร์เ ซ็น ต์ จีนี ซิส ( a n d r o g e n e s i s )
ทดล องแ ช่ไข่ปล านิล ห ลังจ าก ผสม 5 ก า ร เ ห นี ่ย ว น า ไ จ โ น จ ีน ีซ ิส
น า ที ใ น น้า ร้อ น อุณ ห ภูมิ 4 1 อ ง ศ า ( gynogenesis) เ ป็ น ก า ร เ ห นี่ย ว นา
เ ซ ล เ ซีย ส น า น 3 . 5 น า ที ใ ห้ผ ล ไ ด้ ใ ห้ป ล า นิล แ ล ะ ป ล า นิล แ ด ง ไ ด้รับ ส า ร
ป ล า นิล ที่มีโ ค ร โ ม โ ซ ม 3 ชุด ทั้ง ห ม ด พั น ธุก ร ร ม จ า ก ไ ข่เ ท่า นั้น โ ด ย ที่ส า ร
( 1 0 0 เ ป อ ร์เ ซ็น ต์ ) แ ล ะ ท ด ล อ ง ช็อ ค พั น ธุก ร ร ม ข อ ง น้า เ ชื้อ ถูก ทา ล า ย ด้ว ย
ไ ข ่ป ล า น ิล ห ล ัง จ า ก ผ ส ม 9 น า ที ร ัง ส ี ม ีผ ล ทา ใ ห ้ป ล า มีโ ค ร โ ม โ ซ ม
ด ้ว ย ค ว า ม ด ัน น้ า ( hydrostatic เหมือนแม่
pressure shock) ระดับ 8,000 Hussain et al. (1993)
psi นา น 9 น า ที ผ ล ที่ไ ด้คือ ป ล า นิล ป ร ะ ส บ ผ ล สา เ ร็จ ใ น ก า ร เ ห นี่ย ว นา ไ จ
ที่มีโครโมโซม 3 ชุด ทั้งหมดเช่นกัน โนจีนีซิสในปลานิล โด ย ก า ร นา น้า เ ชื้อ
B r a m i c k e t a l . ( 1 9 9 6 ) ไปฉ าย รังสีอัล ตราไว โอเล ต 300 -
ไ ด ้ศ ึก ษ า ว ิจ ัย พ บ ว ่า ป ล า น ิล ที ่มี 310 ไมโครวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร
โค รโมโซม 3 ชุด เ จริญ เติบโตเ ร็ว ร ะ ย ะ เ ว ล า 2 น า ที ภ า ย ห ลัง ผ ส ม
ก ว่า แ ล ะ ใ ห้ผ ล ผ ล ผ ลิต สูง ก ว่า ปล า นิล น้า เ ชื้อ กับ ไ ข่น า น 2 7 . 5 น า ที นา ไ ข่ท่ี
ปกติประมาณ 56 - 123 เปอร์เซ็นต์ ผ สม แ ล้ว ไ ปแ ช่ใ น น้า ร้อ นอุณ ห ภูมิ 4 1
ไ ด ้ม ีก า ร ศ ึก ษ า ว ิจ ัย เ พื ่ อ อ ง ศ า เ ซ ล เ ซีย ส น า น 3 . 5 น า ที ซึ่ง
เ ห นี่ย ว นา ใ ห้ป ล า ใ น ก ลุ่ม ป ล า นิล มี ไ ด้ผ ล เ ป็ น ป ล า นิล ไ จ โ น จีนี ซิส เ พ ศ เ มีย
โ ค ร โ ม โ ซ ม 4 ชุด ( tetraploid) XX-female
โ ด ย ใ ช้ อุ ณ ห ภูมิ สา ร เ ค มี แ ล ะก า ร Myer et al. (1995) ประสบ
ช็อคด้วยความดัน (pressure shock) ผลสาเร็จในการเหน่ยี วนาไจโนจนี ีซิสในปลา
แต่ยังไม่ประสบผลสาเร็จเท่าท่ีควร นิล โ ด ย ก า ร นา น้ า เ ชื้อ ไ ป ฉ า ย รัง สี
อัลตราไวโอเลต 300 - 310 ไมโครวตั ต์
ต่อตารางเซนติเมตร ระยะเวลา 2 นาที
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 31 - ต อ น ท่ี 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธุ์
ภ า ย ห ลัง ผ ส ม น้า เ ชื้อ กับ ไ ข่น า น 2 5 -
27.5 นาที นาไข่ที่ผสมแล้วไปแช่ใน
น้าร้อนอุณหภูมิ 42.5 องศาเซลเซียส
น า น 3 - 4 น า ที ซึ่ง ไ ด้ผ ล เ ป็ น ป ล า
นิลไจโนจีนี ซิสเพศเมีย XX -female
ส่ ว น ก า ร เ ห นี่ ย ว นา แ อ น โ ด ร จี นี ซิ ส
(androgenesis) เป็นการเหนี่ยวนาให้
ป ล า นิล แ ล ะ ป ล า นิล แ ด ง ไ ด้รับ ส า ร
พันธุกรรมจากน้าเชื้อเท่านั้น โดยที่สาร
พันธุก ร ร มข อ ง ไ ข่ถูก ทา ล า ย ด้ว ย รัง สี
มี ผ ล ทา ใ ห้ ป ล า มี โ ค ร โ ม โ ซ ม เ ห มื อ น พ่ อ
Myer et al. (1995) ได้
ท ด ล อ ง เ ห นี่ ย ว นา แ อ น โ ด ร จี นี ซิ ส ใ น ป ล า
นิล โดยการนาไข่ปลานิลไปฉายรังสี UV
ความเข้ม 450 - 720 J/m² ก่อนนาไป
ผส ม กับ น้าเ ชื้อ ป ก ติ แ ล ะ แ ช่ไ ข่ป ล า นิล
หลังผสม 25 - 27.5 นาที ในน้าร้อน
อุณหภูมิ 42.5 องศาเซลเซยี ส นาน 4 นาที
ใ ห้ ผ ล ไ ด้ ป ล า นิ ล ที่ เ ป็ น แ อ น โ ด ร จี นี ซิ ส
บ ท ที่ 1 ชี ว วิ ท ย า - 32 - ต อ น ท่ี 3 ก า ร ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ
เอกสารอ้างอิง
กฤษณุพันธ์ โกเมนไปรรนิ ทร์ และ สงา่ ลีสง่า. 2550. การปรบั ปรงุ พันธุป์ ลานลิ แดงสายพันธ์ุ
ไทยโดยการคัดเลือกหมู่. เอกสารวิชาการฉบับที่ 8/2550. สถาบันวิจัยและพัฒนา
พันธุกรรมสัตว์น้า, กรมประมง. 27 หน้า.
เจษฎา ธนกิจการ. 2540. การปรับปรุงความทนทานต่อความเค็มในปลานิล
(Oreochromis niloticus) โดย วิธีการผสมข้ามชนิดกับปลาหมอเทศ
(Oreochromis mossambicus). วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์ มหาบัณฑิต
(เพาะเลี้ยงสตั ว์น้า). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรงุ เทพมหานครฯ. 88 หน้า.
นวลมณี พงศ์ธนา. 2550. การคัดพันธ์ุปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 3. รายงานการประชุม
วิชาการประมงประจาปี 2550, กรมประมงและศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเซีย
ตะวันออกเฉียงใต้. หนา้ 273-282.
นวลมณี พงศธ์ นา. 2553. ปจั จัยการเพาะเล้ยี งปลานิลและปลานลิ แดงใหป้ ระสบผลสาเร็จ.
เอกสารเผยแพร่ฉบับท่ี 2/2553. ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธ์ุสัตว์น้าปทุมธานี.
สถาบันวจิ ัยและพัฒนาพันธุกรรมสตั ว์น้า. กรมประมง. 43 หน้า.
นวลมณี พงศ์ธนา และ พุทธรตั น์ เบ้าประเสรฐิ กุล. 2538. การทดลองเพาะเล้ียงปลานิลเพศผู้
GMT. เอกสารวิชาการฉบบั ท่ี 7. สถาบันวจิ ัยและพัฒนาพันธกุ รรมสตั วน์ ้า, กรมประมง.
9 หนา้ .
นวลมณี พงศธ์ นา, นนทป์ วิธ ออกแดง, มลั ลกิ า ทองสง่า และ ประจกั ษ์ บัวเนยี ม. 2552ก.
การคัดพันธ์ุปลานิล สายพันธุ์ GIFT. การประชุมวิชาการประมง ประจาปี 2552,
กรมประมงและศนู ย์พัฒนาการประมง แห่งเอเซยี ตะวันออกเฉียงใต.้ หนา้ 147-158.
นวลมณี พงศธ์ นา, นนท์ปวิธ ออกแดง, มลั ลกิ า ทองสงา่ และ ประจักษ์ บัวเนยี ม. 2552ข.
การคดั พันธุ์ปลานลิ แดงใหท้ นทานต่อความเคม็ . วารสารการประมง. 62 (5): 412-
420.
นวลมณี พงศ์ธนา, มัลลิกา ทองสง่า และ ประจักษ์ บัวเนียม. 2552ค. การทดลองเล้ียง
ปลานิลลูกผสม (Blue tilapia x นิลสายพันธุ์ GIFT). วารสารการประมง. 62 (1):
34-37.
บุญช่วย เชาวน์ทวี, สุภัทรา อุไรวรรณ์ และ มะลิ ลาน้าเท่ียง. 2546. การคัดเลือกและ
ปรับปรงุ พันธปุ์ ลานลิ เพื่อเพิ่มอัตราการเจรญิ เตบิ โต. เอกสารวิชาการฉบับท่ี 2/2546.
สถาบันวิจยั และพัฒนาพันธกุ รรมสตั วน้า, กรมประมง. 36 หนา้ .
- 33 -
ศรีจรรยา สุขมโนมนต์, วิศณุพร รัตนตรัยวงศ์, สภุ ัทรา อไุ รวรรณ์, สภุ าพร จนั ทร์
อินทร์ และ ทองอยู่ อุดเลศิ . 2555. การปรบั ปรุงลกั ษณะการเจรญิ เติบโตปลานลิ
แดงสายพันธ์อุ ตุ รดิตถ์. วารสารวจิ ัยเทคโนโลยกี ารประมง 6 (2): 1-11.
สภุ ทั รา อไุ รวรรณ์ และ มะลิวัลย์ มีวรรณ. 2535. การคดั พันธุ์ปลานิลเพื่อเพิ่มอตั ราการ
เจริญเติบโตโดยวิธีดูลักษณะภายในครอบครัว. เอกสารวิชาการฉบับท่ี 4.
สถาบนั วจิ ัยและพัฒนาพันธุกรรมสตั วน์ ้า, กรมประมง. 17 หน้า.
สมนกึ คงทรัตน์, ศรจี รรยา สุขมโนมนต์, กมลพรรณ ไชยทอง, วศิ ณุพร รัตนตรยั วงศ์,
โกศล ขาแสง และ ทองอยู่ อุดเลศิ . 2564. การปรับปรุงพันธุ์ปลานิลจิตรลดา 3
ด้วยวิธีการคัดเลือกแบบภายในครอบครัวโดยใช้ลักษณะสัดส่วนเป็นเกณฑ์ .
เอกสารวิชาการฉบับที่ 4/2564. กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้า,
กรมประมง. 18 หน้า.
อุทัยรัตน์ ณ นคร. 2538. การเพาะขยายพันธุ์ปลา. ภาควิชาเพาะเล้ียงสัตว์น้า.
คณะประมง มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. 231 หน้า.
Basiao, Z. U. and R. W. Doyle. 2001. Test of size-specific mass
selection for Nile tilapia, Oreochromis niloticus L., cage farming
in the Philippines. Aquaculture Research. 30(5): 373-378.
Boliver, R. B. and G. F. Newkirk. 2002. Response to within family
selection for body weight in Nile tilapia (Oreochormis niloticus)
using a single-trait animal model. Aquaculture. 204: 371-181.
Boliver, R. B., Z. P. Bartolome and G. F. Newkirk. 1994. Response to
within-family selection for growth in Nile tilapia (Oreochromis
niloticus L.). In: Chou LM, Munro AD, Lam T, Chen TW, Cheong
LKK, Ding JK, Hooi KK, Khoo HW, Phang VPE, Shim KF and Tan
CH (eds.). The Third Asian Fisheries Forum. Asian Fisheries
Society, Manila, Philippines. pp. 548- 551.
Brämick, U., B. Puckhaber, H. J. Langholz and G. HÖrstgen-Schwark.
1996. Testing of triploid tilapia (Oreochromis niloticus) under
tropical pond conditions. In: Doyle, R.W., C.M. Herbinger, M. Ball
and G.A.E. Gall (Eds.). Genetics in Aquaculture V. Elsevier
Science, Amsterdam, Netherlands. pp. 343-353.
- 34 -
Don, J. and R. R. Avtalion. 1988. Comparative study on the induction
of triploidy in tilapias using cold and heat shock techniques. J
Fish Biol. 32: 665-672.
Eknath, A. E. and B. O. Acosta. 1998. Genetic improvement of farmed
tilapia project final report (1988-1997). ICLARM, Manila,
Philippines. 75 pp.
El-Gamal, A. R. A., K. B. Davis, J. A. Jenkins and E. L. Torrans. 1999.
Induction of triploidy and tetraploidy in Nile tilapia Oreochromis
niloticus L. J World Aqua Soc. 30 (2): 269-275.
Gall, G. A. E. and Y. Ba ka r. 2002 . Application of mixed -model
techniques to fish breed improvement: analysis of breeding-
value selectiom to increase 98-day body weight in tilapia.
Aquaculture. 212: 93-113.
HÖrstegen-Schwark, G. and H. J. Langholz. 1998. Prospects of
selecting for late maturity in tilapia (Oreochromis niloticus): III.
A selection experiment under laboratory conditions. Aquaculture.
167: 123-133.
Hussain, M.G., A. Chatterji, B.J. McAndrew and R. Johnstone. 1991.
Triploidy induction in Nile tilapia, Oreochromis niloticus L. Using
pressure, heat and cold shock. Theor. Appl. Genet. 81-62.
Hussain, M. G., D. J. Penman, B. J. McAndrew and R. Johnstone. 1993.
Suppression of first cleavage in the Nile tilapia, Oreochromis
niloticus L. – a comparison of the relative effectiveness of
pressure and heat shocks. Aquaculture. 111: 263-270.
Mair, G. C. 1988. Studies on sex determining mechanisms in
Oreochromis species. Ph.D. thesis. University of Wales. 326 pp.
Mair, G. C., J. B. Capili, J. A. Beardmore and D. O. F. Skibinski. 1992.
The YY male technology for production of monosex male tilapia,
Oreochromis niloticus (L.). Proceeding of the International
Workshop on Genetics in Aquaculture and Fisheries Management,
Stirling, Scotland. pp. 93-95.
Myers, J. M. 1986. Tetraploid induction in Oreochromis spp. Aquaculture.
57: 281-287.
- 35 -
Myers, J. M., D. J. Penman, Y. Basavaraju, S. F. Powell, P. Baoprasertkul,
K. J. Rana, N. Bromage, and B. J. McAndrew. 1995. Induction of
diploid androgenetic and mitotic gynogenetic Nile tilapia
(Oreochromis niloticus L.). Theor. Appl. Genet. 90 :205-210.
Pongthana, N., N. H. Nguyen and R. W. Ponzoni. 2009. Comparative
performance of four red tilapia strains and their crosses in fresh
and saline water environments. In preparation.
Ponzoni, R. W., A. Hamzah, T. Saadiah and N. Kamaruzzaman. 2005.
Genetic parameters and response to selection for live weight in
the GIFT strain of Nile Tilapia (Oreochromis niloticus).
Aquaculture. 247 :203-210.
Pruginin, Y., S. Rothbard, G. Wohlfarth, A. Halevy, R. Moav and G.
Hulata. 1975. All-male broods of Tilapia nilotica and T. aurea
hybrids. Aquaculture. 6: 11–21.
Uraiwan, S. 1988. Direct and indirect response to selection for age at
first maturation of Oreochromis niloticus. In: Pullin, R.S., T.
Bhukaswan, K. Tonguthai and J. L. Maclean (eds.). The Second
International Symposium on Tilapia in Aquaculture. ICLARM
Conference Proceedings. Department of Fisheries, Thailand, and
International Center for Living Aquatic Resources Management,
Bangkok, Thailand and Manila, Philippines. pp. 295-300.
Vilegas, C. T. 1990. growth and survival of Oreochromis niloticus,
Oreochromis mossambicus and their F1 hybrids in various
salinities, pp. 507-510. In Hirano, R. and I. Hanyu (eds.)
The Second Asian Fisheries Forum, Asian Fisheries Society,
Manila, Philippines. 991 pp.
- 36 -
บ ท ที่ 2
Unit 2
ก า ร เ พ า ะ พั น ธุ์
และการเล้ียง
ก า ร เ พ า ะ เ ล้ี ย ง ป ล า นิ ล - 37 - ภาพโดย : www.technologychaoban.com
TILAPIA CULTURE