“ตองไปขึ้นศาลอุทธรณท ี่กรุงเทพ ไปทกี ห็ ลายบาท แลวก็ตองหยดุ งาน
นวด ขาดรายไดไปอกี 1 วนั รายไดจากการนวดเดือนละ 10,000 กวาบาท ไดมา
กต็ อ งจา ยไป ชว งทตี่ อ งหยดุ บอ ยๆ รายไดก จ็ ะเหลอื แคเ ดอื นละ 8,000 บาท บางที
เราหมุนเงินมาใชจายไมทัน ก็ตองไปกูเงินเจาหนี้นอกระบบมา ดอกเบี้ยรอยละ
10 ตอเดือน ตอนนี้ปาเปนกําลังหลักของครอบครัว นองสาวเองบางเดือนเขาก็
ยังชักหนา ไมถ งึ หลงั สว นลูกชายกร็ บั จางรายวนั ”
ขณะนคี้ ดขี องปา ลมยั อยูระหวางการรอคาํ ตัดสนิ ของศาลฎีกา ซงึ่ จะใช
เวลาตอเนือ่ งไปอกี 2-3 ป ถงึ แมจ ะชวยตอ ลมหายใจของครอบครัวปาลมัย ไมให
ถูกขับไลออกจากที่ดินของตัวเองภายใน 2-3 ปนี้ได แตคําตอบสุดทายจากคํา
ตดั สนิ ของศาลฎกี า อาจจะไมไดเปน ไปตามทคี่ รอบครัวของปา ลมัยคาดหวัง
“หนช้ี าวนา เดิมพันการสญู เสียที่ดิน” 49
หนีเ้ กษตรกร เดิมพันการสญู เสยี ท่ีดนิ
การถูกยึดท่ีดินขายทอดตลาดของปาลมัย ทั้งท่ีมีการประสานงาน
ขอความชว ยเหลอื จากกองทนุ ฟน ฟแู ละพฒั นาเกษตรกร ในการซอื้ หนจ้ี าก ธ.ก.ส.
มาไวท่ีกองทุนฟนฟูฯ และมีการประสานงานกับ ธ.ก.ส.สํานักงานใหญ เพื่อให
เจรจาขอซื้อท่ีดินคืนจากผูที่ซ้ือท่ีดินไป แตทั้งหมดน้ีกลับประสบความลมเหลว
ทาํ ใหครอบครวั ของปา ลมยั อาจตอ งสูญเสยี ท่ดี ินไปในท่สี ุด
เง่ือนไขสําคัญประการหน่ึง อาจเปนเพราะท่ีดินของปาลมัยเปน
ที่ตองการของนายหนาคาที่ดิน และคนที่กวานซื้อที่ดินในระดับจังหวัด
การกวานซื้อและการสะสมที่ดินที่เกิดขึ้นจึงเปนแรงกดดันสําคัญ ท่ีทําให
เกษตรกรที่มีภาระหน้ีสนิ สูญเสยี ท่ดี นิ ไดง า ยขึ้นในสถานการณปจ จุบนั
การท่ีภาครัฐปลอยใหเกษตรกรเขาสูระบบสินเชื่อเพ่ือนําเงินมาลงทุน
การผลติ โดยมีทด่ี นิ เปน เดิมพัน ทา มกลางสภาวะราคาผลผลติ ท่ไี มแนนอน และ
กลไกตลาดที่ยังไมเปนธรรม ทําใหเกษตรกรจํานวนมากประสบปญหาขาดทุน
มภี าระหน้สี นิ และสูญเสียท่ดี นิ ไมตางจากครอบครัวของปาลมัย
ถา หนว ยงานภาครัฐและสถาบนั การเงิน ยงั ไมกําหนดนโยบายทชี่ ดั เจน
เพ่ือชวยเหลือเกษตรกรใหสามารถรักษาที่ทํากินไวได อนาคตของเกษตรกรไทย
คงไมพ นตองสญู เสียท่ที ํากินใหก บั สถาบันการเงนิ อกี จาํ นวนมหาศาล
“หนช้ี าวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ที่ดนิ ”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 51
โชคชะตากลน่ั แกลง หรือ
เพราะที่ดินถกู หมายปอง:
จุไรรัตน แกว ไกรสร
สุมาลี พะสิม
“หน้ชี าวนา เดมิ พันการสญู เสียทดี่ นิ ”
“ตอนนที้ ด่ี ินของตัวเองสักตารางนว้ิ เดียวยังไมม ี ถูกยึดหมด บานยงั ตอ ง
มาอาศยั เขาอยู รายไดท ม่ี ี กม็ าจากเงนิ สวสั ดกิ ารคนแก แคค นละ 700 บาท เทา นนั้ ”
จุไรรตั น แกว ไกรสร ชาวนาจังหวดั ฉะเชิงเทรา วัย 76 ป ผทู ค่ี รง้ั หน่งึ ในอดีต
เคยมีที่ดินถึง 252 ไร แตตองสูญเสียท่ีดินจากการขายทอดตลาดดวยราคาเพียง
11.4 ลานบาท ทั้งท่ีพยายามจะรักษาท่ีดินไวอยางเต็มท่ี ดวยการหยิบยืมเงินคนรูจัก
ถึง 8 ลานบาท เพ่ือไปชะลอการขายทอดตลาด แตธนาคารเจาของเงินกูกลับไมยอม
เพราะทดี่ นิ แปลงสวยของปา มคี นหมายปองไวแ ลว ทดี่ นิ แปลงใหญท ร่ี นุ พอ แมส ะสมมา
จงึ หลดุ มอื ไปในรุน ของปาอยางนาเสียดาย
ทด่ี นิ รุนพอแมส ะสมมา
ทีด่ ิน 252 ไร ของปาจุไรรัตน เปน มรดกทไ่ี ดรบั มาตั้งแตรุนพอแม ซง่ึ แตเ ดิม
อยูจังหวัดปราจีนบุรี กอนจะยายภูมิลําเนามาอยูอําเภอบางคลา จังหวัดฉะเชิงเทรา
ครอบครัวปา จไุ รรตั น มีที่ดนิ 3 แปลง แปลงแรกเนือ้ ที่ 3 ไร แปลงทส่ี องเนื้อท่ี 189 ไร
และแปลงทส่ี ามเนอื้ ท่ี 60 ไร
“ตั้งแตปายังไมเกิด พอเลาใหฟงวา แตกอนคนไมคอยไปเสียภาษีที่ดิน
เพราะสถานที่ราชการอยูไกล เดินทางลําบาก ตอ งขม่ี าเปนวันๆ พอไมไ ปเสียภาษี
“หนช้ี าวนา เดมิ พนั การสูญเสียที่ดิน” 53
หลายปติดๆ กัน ก็มีการขายบาง ยายไปหาท่ีทํากินที่อื่นบาง ตอนน้ันพออยูท่ี
พนมสารคาม และไดบอกกับเจาพนักงานท่ีดินท่ีแปดร้ิว กับที่ปราจีนบุรีไววา
ถา มกี ารขายทด่ี นิ ทีไ่ หนใหบอกดวย หลังจากน้ันพอ กซ็ ื้อทดี่ นิ เกบ็ สะสมไวเ รือ่ ยๆ”
คร้ันมที ่ดี ินมากขนาดนก้ี ใ็ ชว าจะทํากนิ เองไดห มด ครอบครัวของปาจุไรรตั น
จึงทาํ นาเอง 100 ไร และแบง ใหค นอน่ื เชา อีก 152 ไร เปนอยางนี้จนกระท่งั ปา จไุ รรตั น
เติบโตและมีครอบครัว
ชว งท่พี อของปาจไุ รรตั นล งทนุ ทาํ นา ในปท่ีไมถกู นํ้าทว มก็โชคดไี ป แตบ างป
ที่มีนํ้าทวมนานก็แยหนอย ทําใหปาจุไรรัตนมองวาอนาคตนาจะขยับขยายไปทําโรงสี
ขาวเปน ธรุ กจิ เสริมใหก บั ครอบครัว
จากชาวนา..หนั มาทําธุรกิจโรงสี
ชว งป พ.ศ. 2530 ปาจไุ รรัตนตดั สนิ ใจทาํ โรงสีขา วในท่ีดินแปลง 3 ไร ซึง่ ตง้ั
อยทู ตี่ ลาดหวั ไทร โดยนําท่ีดนิ แปลง 189 ไร และแปลง 3 ไร ไปจาํ นองเพอ่ื คํ้าประกัน
เงินกจู ํานวน 1 ลานบาทจากธนาคารเอกชนแหง หนง่ึ อัตราดอกเบ้ยี รอยละ 15 บาท
ตอ ป
“ครอบครัวเรามีที่ดินมากก็จริง แตเราไมมีเงินลงทุนทําโรงสีขาว ก็ตอง
ไปกูเงนิ จากธนาคาร ตอนนั้นราคาทีด่ นิ ถกู มาก ราวไรล ะ 8,000 – 9,000 บาท ถึงตอง
ใชท ี่ดนิ คอ นขางมากในการค้าํ ประกันเงนิ กู”
ถึงแมจะหันหนามาทําธุรกิจโรงสีขาวแลว แตปาจุไรรัตนก็ยังทํานาและให
คนเชาท่ีนาเหมือนเคย เพียงแตมีธุรกจิ โรงสีขา วเขามาเพิม่ ดวยเงนิ ลงทนุ เพยี ง 1 ลาน
บาท ลําพังสรางอาคาร เครื่องจักร คาจางคนงาน ก็แทบจะไมเหลือ การทําลานปูน
ดา นหนาของโรงสี ปาจไุ รรตั นจึงตองยมื ที่ดินของพ่สี าวไปจาํ นองเพ่ิม
“หน้ีชาวนา เดิมพนั การสญู เสยี ที่ดนิ ”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 55
ปา จไุ รรตั นบ อกวา ทาํ โรงสี ตอ งมเี งนิ ทนุ หมนุ เวยี นไวส ว นหนงึ่ เพราะแตก อ น
โรงสีตองจายเงินสดใหกับชาวนาท่ีเอาขาวมาขาย ภายใน 7 วัน ไมวาโรงสีเล็กหรือ
โรงสใี หญ ตอ งจา ยเงินสดเพอ่ื รกั ษาเครดิตของตวั เองท้ังน้ัน
ราวป พ.ศ. 2532 เกดิ นาํ้ ทวมใหญ โรงสขี องปาจไุ รรัตนเ ก็บขาวเปลือกไวใน
โกดังกวา 1000 ตนั น้ําทว มสงู ราว 1 ศอก ทว มอยนู านถึง 2 อาทิตย จึงลดลง
“เราตองยอมขายขาวสวนท่ีแชนํ้าออกไป ก็ขาดทุนไปเยอะ หลังจากนั้น
พอป พ.ศ. 2533 เกิดนํ้าทวมอีกคร้ัง ทาํ ใหเราหมดทุนเลย เพราะกอ นหนาน้ี ก็นําเงนิ
ที่มีอยูไปซื้อขาวเปลือกมาเก็บไว กะวาถาขายขาวในล็อตที่เก็บไวได ก็จะหลุดจากหนี้
ธนาคาร”
“เราพยายามทาํ ทกุ อยา งเพอื่ แขง กบั นาํ้ ตอนนาํ้ มาเรากส็ ขี า วจนนาทสี ดุ ทา ย
จนเครื่องจกั รทาํ งานไมได สีขาวได 400 กวา กระสอบ สง ไปเก็บไวโ กดงั ท่ีกรงุ เทพ แต
กรงุ เทพฯ กน็ ํา้ ทว มอีก เลยไมร ูจะเอาไปไวทไี่ หน ถอื วา ลม ลุกคลกุ คลานมาก ท้งั ทาํ นา
เอง ทําโรงสขี าว และใหเ ชานา ก็ยังมเี งนิ ไมพอท่จี ะเอามาหมนุ ทําโรงส”ี
ต้งั แตป พ.ศ.2530 – พ.ศ.2535 รวมระยะเวลา 5 ป ทป่ี า จุไรรัตนท าํ โรงสี
ทยอยสง ดอกเบยี้ ใหธ นาคารเดอื นละ 30,000-40,000 บาท แตย อดหนกี้ ลบั ไมไ ดล ดลง
เลย ธรุ กจิ โรงสขี าดทุน ทําใหยอดหน้เี พม่ิ ขึน้ จากหน่ึงลา นบาท เปนสี่ลานบาท
“พอเขามาทําโรงสี ทําใหเรารูวาความเสี่ยงท่ีตองเจอ คือราคาขาวที่ไม
แนน อนผนั ผวนตลอด ทส่ี าํ คญั คอื คณุ ภาพของขา วเปลอื กทรี่ บั ซอ้ื จากชาวนา ชาวนา
บานเราปลูกขาวมักเนนปริมาณขาวท่ีได มากกวาคุณภาพของขาว เรารับซื้อขาว
ราคาตง้ั แต 2,000 – 4,000 บาท เราเองอยากไดข าวที่มีคณุ ภาพ เพราะรานขาย
ขาวสารจะระบุสเปคขาวมา เชน ขา ว 5 เปอรเ ซน็ ต ตองเปนขา วท่มี เี มล็ดยาว แต
ขาวท่ีรับซ้ือมาจากชาวนา พอสีเปนขาวสารแลว ไมไดมาตรฐานตามท่ีรานขาย
ขาวสารเขาตอ งการ ทําใหเราขาดทุนจากการซอื้ ขา วและขายขาวน่ลี ะ”
“หนช้ี าวนา เดมิ พันการสูญเสียท่ดี นิ ”
ด้ินรนอกี ครั้ง..ดว ยการทําบอกุง
เมอ่ื เหน็ วา ธรุ กจิ โรงสี มวี แ่ี วววา จะไปไมร อดหลงั ทมุ เทมาหลายป ปา จไุ รรตั น
จึงมองหาลูทางอืน่ เพ่ือทจ่ี ะปลดหน้ีธนาคาร ท่ีนับวนั ดอกเบ้ียจะยิง่ เติบโต
ในขณะนน้ั นอกจากจะขาดทนุ จากการรบั ซอ้ื และขายขา วจากธรุ กจิ โรงสแี ลว
แรงงานรบั จา งในโรงสกี ห็ ายากมากขน้ึ คนงานหนั ไปรบั จา งหวา นปนู ในบอ กงุ กนั มากกวา
เพราะขณะน้ันธุรกจิ บอกุงกําลงั เร่มิ บมู ในฉะเชงิ เทรา
ชวงป พ.ศ. 2535 ปาจุไรรัตนไดรับการทาบทามจากเพ่ือน ชวนกันลงทุน
ทําบอกุงเพราะปาจุไรรัตนมีที่ดินมาก โดยเพ่ือนผูรวมทุนจะออกทุนใหต้ังแตคาลูกกุง
อาหารกุง คา ใชจ า ยอื่นๆ โดยใหป าจไุ รรัตนออกเฉพาะทด่ี นิ และเตรียมบอ กงุ ใหพ รอม
ป พ.ศ. 2536 ปา จไุ รรตั นจ งึ ตดั สนิ ใจกเู งนิ จากธนาคารเอกชนแหง เดมิ เพมิ่ อกี
1 ลา นบาท โดยนาํ ท่ดี นิ แปลง 60 ไร เขา จํานองกับธนาคาร และหันมาทาํ ธรุ กิจบอ กงุ
เพยี งอยา งเดยี ว โดยเลกิ ทาํ ธรุ กจิ โรงสี เลกิ ทาํ นา และเลกิ ใหเ ชา ทน่ี าทงั้ หมด ในชว งแรก
ปา จไุ รรัตนขดุ บอกงุ ทัง้ หมด 27 บอ ในพืน้ ท่ี 189 ไร
“พอเรม่ิ ลงมอื ขดุ บอ ซอื้ อปุ กรณเ ลย้ี งกงุ เสรจ็ ในชว งป พ.ศ. 2537 นาํ้ กท็ ว ม
ใหญอ ีกกวา 1 เดือน พอนํา้ ลดก็เดนิ หนา ทําบอกงุ ตอ ก็พอมรี ายไดบ า ง แตห ลงั จากนนั้
คนทม่ี าชวนปา ทาํ บอ กงุ กข็ อแยกตวั ออกไปทาํ บอ กงุ ทส่ี พุ รรณบรุ แี ทน เพราะมคี นรว ม
ทุนเยอะกวา เราก็เลยตองลยุ ตอ คนเดยี ว”
การลงทนุ ครงั้ นถ้ี อื วา เปน การลงทนุ ครงั้ ใหญข องปา จไุ รรตั น ซง่ึ ตอ งเปลย่ี นแปลง
สภาพพนื้ ทน่ี าทง้ั หมด คดิ โดยเฉลย่ี ตน ทนุ การทาํ บอ กงุ ทงั้ หมด ประมาณ 120,000 บาท
ตอ 1 บอ (คา เตรยี มบอ คา อาหาร คา นาํ้ มนั คา ลกู กงุ คา จา งคนงาน) ใชร ะยะเวลาดแู ล
3 เดือนครึง่ จึงจะขายได ซ่ึงหากกุง สมบรู ณด จี ะไดบอ ละ 2 – 3 ตนั เฉลย่ี กิโลกรัมละ
200 บาท เปนเงนิ ประมาณ 400,000 - 600,000 บาท
“หน้ีชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ีดิน” 57
“หน้ชี าวนา เดมิ พนั การสญู เสียท่ดี นิ ”
äÁ‹à¢ŒÒã¨Ç‹Ò·íÒäÁ¸¹Ò¤Òö֧äÁ‹ÂÍÁ
ãË»Œ ‡ÒªíÒÃÐ˹éÕ à¾×èÍÃÑ¡ÉÒ·´èÕ Ô¹äÇŒ
ถึงแมมองตัวเลขแลวจะไดมากก็จริง แตปาจุไรรัตนบอกวาตองกันเงินไว
สาํ หรับลงทนุ เลี้ยงกุงอกี ทั้งคาอาหารกุง คา ยากงุ เงินท่ขี ายกุงไดจึงไมพอสาํ หรับจาย
เงินตนคืนใหกับธนาคาร ปาจุไรรัตนจึงทยอยจายดอกเบ้ียตอไป เดือนละประมาณ
30,000 – 40,000 บาท
ราว ป พ.ศ. 2540 เกิดโรคหัวเหลืองระบาดในกุง ซึ่งบอกุงของปาจุไรรัตน
ก็หนีไมพนปญหานี้เชนกัน หลังจากลมลุกคลุกคลานจนไมสามารถหาเงินไปชําระหนี้
ทเี่ พิม่ ข้นึ เรอื่ ยๆ ในท่สี ดุ ป พ.ศ. 2541 ธนาคารกย็ น่ื เร่ืองฟอ งปาจุไรรัตน ใหชาํ ระคนื
ท้ังเงินตน ดอกเบี้ยและคา ปรับ รวมเปน เงนิ 10.4 ลา นบาท
“ตอนน้ันเจาหนาท่ีของศาล และเจาหนาท่ีธนาคาร นําหมายศาลมาสงให
ทบ่ี า น เขาจะปดหมายศาลที่บานเรา เราก็เซน็ รับหมายศาลไว”
ป พ.ศ. 2543 ปา จุไรรัตนพ ยายามดน้ิ รนเพ่อื ท่ีจะรักษาท่ดี ินของตัวเองไว
ใหได โดยหยิบยืมเงินคนรูจัก มาขอชําระหน้ีกับธนาคารกอนจํานวน 8 ลานบาท
โดยที่ไมตองการเอาโฉนดออกมาจากธนาคาร จนกวาจะผอนชําระหน้ีสวนท่ีเหลือ
อีก 2 ลา นกวาบาทจนหมด แตผจู ดั การธนาคารกลบั ไมยอม
ปาจุไรรัตนบอกวา “ไมเขาใจวาทําไมธนาคารถึงไมยอมใหปาชําระหนี้ เพื่อ
รกั ษาทดี่ นิ ไว ทงั้ ทเ่ี งนิ ทยี่ น่ื ชาํ ระเกนิ 25 เปอรเ ซน็ ต ของยอดหนแ้ี ลว คงมคี นหมายปอง
ท่ีดนิ ของปา ไวแลว อยางแนนอน”
“หนีช้ าวนา เดมิ พันการสญู เสยี ท่ดี นิ ” 59
ศาลตัดสนิ ใหยึดทดี่ นิ 252 ไร ขายทอดตลาด
หลงั จากปา จไุ รรตั นไ ปขน้ึ ศาล 2 ครงั้ โดยไมม กี ารเจรจาไกลเ กลยี่ ศาลพพิ ากษา
ใหย ดึ ท่ดี นิ ทงั้ 3 แปลงของปา จไุ รรัตน รวมพน้ื ท่ี 252 ไร เพ่อื ขายทอดตลาดและนําเงนิ
ไปชาํ ระหน้ีใหก ับธนาคาร
สํานักงานบังคับคดีจังหวัดฉะเชิงเทราไดดําเนินเรื่องยึดที่ดินของปาจุไรรัตน
และประกาศขายทอดตลาด 3 คร้ัง โดยปาจุไรรัตนไดเขาไปประมูลเพ่ือซื้อที่ดินของ
ตัวเองดวยเชน กนั เสนอราคาเดียวกับทีเ่ ปนหนธี้ นาคารอยู
“ผูจัดการธนาคารบอกวาที่ดินผืนน้ีเปนที่ดินไฮไลท ใครๆ ก็อยากได
แปลงใหญ 252 ไร ราคาเพยี ง 10.4 ลา นบาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ
การเกษตร ยังอยากได ใหเราเขาไปพบและขอซ้ือในราคาที่สํานักงานบังคับคดี
ประกาศขาย แตป าไมยอมขาย ถา จะซื้อ ตองซอ้ื ในราคาทปี่ า กําหนดคอื 26 ลา น
บาท”
“เราเองกพ็ ยายามจะหาคนมาซอ้ื ทด่ี นิ เราไวก อ น แตห าไมไ ด ราคาประเมนิ
ท่ีดนิ ตอนนัน้ สงู ถึงไรละ 200,000 บาท เพราะดานหนาตดิ ถนน ดานหลังตดิ นาํ้ ”
ปาจไุ รรัตนบอกวา เคยขอใหท างธนาคาร ซ้ือท่ดี นิ ของตวั เองไวกอน เพือ่ เปด
โอกาสใหต วั เองไดซ อื้ ทด่ี นิ คนื ในภายหลงั แตไ ดร บั การปฏเิ สธจากธนาคาร เพราะธนาคาร
ไมม ีนโยบายชวยเหลอื เกษตรกรในรปู แบบที่ปาจุไรรตั นเ สนอ
เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2545 ในการประกาศขายครงั้ ที่ 3 ทด่ี นิ ของปา จไุ รรตั น
ถกู ขายทอดตลาดทงั้ หมดในราคา 11.4 ลา นบาท
ปาจุไรรัตนตั้งขอสังเกตวา ธนาคารอาจมีการติดตอคนมาซ้ือที่ดินของปา
เพราะทุกครั้งท่ีมกี ารประกาศขาย ธนาคารจะสง ตวั แทนเขา มาดทู กุ คร้งั
“หนี้ชาวนา เดิมพนั การสูญเสียท่ีดนิ ”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 61
“หน้ชี าวนา เดมิ พนั การสญู เสียท่ดี นิ ”
“ธนาคารไมยอมใหปาชําระหนี้คืน ถึงแมจะมีเงินมาวางถึง 8 ลานบาท
ทาํ ใหป า อดคดิ ไมไ ดว า ธนาคารมผี ลประโยชนจ ากการนาํ ทด่ี นิ ของปา ขายทอดตลาด
หรอื เปลา ซงึ่ ทจี่ รงิ แลว การหาคนมาซอื้ ทรพั ยข องลกู หนท้ี ขี่ ายทอดตลาดนนั้ ธนาคาร
ไมสามารถทําได”
“ที่ดินของปาถูกขายทอดตลาดในราคาเพียง 11.4 ลานบาท ซึ่งตํ่ามาก
ถาเขาขายในราคาที่สงู กวานี้ เชน ขายซกั 14 ลา นบาท ปา กจ็ ะไดเงนิ คนื 2 ลาน
บาท แตน ่ีเขาไมยอมขายสูงกวาน้ี หลังจากนนั้ ปา กไ็ ดยนิ วามคี นนาํ ทดี่ นิ ของปา ไป
ขายตอ อกี ทอดหนงึ่ ซงึ่ ตรงนป้ี า ไมร วู า เขาขายกนั เทา ไร แลว ผจู ดั การธนาคารจะได
รับสว นแบง จากการขายท่ีดินตรงนีห้ รอื เปลา เราก็ไมร”ู
หวังพ่ึงกองทนุ ฟน ฟแู ละพัฒนาเกษตรกร
ปลายป พ.ศ. 2546 ปา จไุ รรตั นไ ดข น้ึ ทะเบยี นหนก้ี บั กองทนุ ฟน ฟแู ละพฒั นา
เกษตรกร หลังจากที่พยายามมาหลายครั้ง แตดวยท่ีผานมาโควตาการซื้อหน้ีของกอง
ทุนฟน ฟฯู เต็ม ปาจุไรรตั นจึงไมสามารถข้นึ ทะเบียนหน้ีได
แตนัน่ กช็ าไปเสยี แลว เพราะเม่อื ปา จไุ รรัตนข ึ้นทะเบยี นขอใหกองทุนฟนฟฯู
รับซ้ือหนี้ได ที่ดินของปาจุไรรัตนไดถูกประกาศขายไปแลว และกลายเปนทรัพยสิน
รอการขาย หรอื NPA ซงึ่ กองทนุ ฟน ฟูฯไมส ามารถรบั ซ้อื ได (ในขณะนนั้ กองทุนฟน ฟฯู
สามารถรบั ซ้อื ไดเ ฉพาะหนเ้ี สีย หรอื NPL เทานัน้ ตอมาในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ จงึ
มีการปรับแกระเบียบใหกองทุนฟนฟูฯ สามารถซ้ือหน้ีประเภททรัพยสินรอการขาย
หรอื NPA ไดด วยเชนกัน)
“หน้ีชาวนา เดมิ พนั การสูญเสยี ที่ดนิ ” 63
“หน้ชี าวนา เดมิ พนั การสญู เสียท่ดี นิ ”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 65
àÃÒ¡áç ¡‹¢¹Ò´¹éÕáÅŒÇ
äÁ¡‹ ÅÇÑ áŌǡѺ¡ÒÃ໚¹¤¹ÅÁŒ ÅÐÅÒÂ
ถกู ฟอ งซํ้าอีกครั้ง..เปนคนลมละลาย
หลงั จากถกู ยดึ ทด่ี นิ ขายทอดตลาดเพอื่ ใชห นธ้ี นาคารไปแลว ปา จไุ รรตั นแ ละ
ครอบครวั ไดย า ยไปเชาบา นของเพื่อน โดยขายอุปกรณก ารทาํ บอกุงทุกอยา ง รวบรวม
ทุนไดร าว 500,000 บาท เพอ่ื ท่ีจะเปน เงินทุนกอ นสุดทาย สาํ หรบั สงลกู สองคนเรียน
มหาวิทยาลยั และเปนทุนสาํ หรับการใชชีวิตท่ีเหลอื ตอไป
หาปถัดมาหลังจากการขายทอดตลาด ใน ป พ.ศ. 2550 ธนาคารเอกชน
แหงเดิมไดติดตอ ปา จุไรรัตนอ กี ครัง้ และยน่ื ฟอ งเพอื่ ใหชาํ ระหนี้ทยี่ ังเหลอื อยู
“ครั้งนั้นเราคิดวามันจบแลว เพราะยอดหนี้รวมท้ังหมด 10.4 ลานบาท
ขายทด่ี ินได 11.4 ลานบาท ราคาทด่ี ินกห็ กั ลางหน้สี นิ ไดท ้ังหมด แตทางธนาคาร
กลับบอกวายังมียอดหนี้เหลืออยู ใหชําระเพิ่มเติม เพราะสวนตางท่ีขายที่ดินได
น้ัน นําไปชําระคาธรรมเนียมใหกับการบังคับคดี ทําใหยอดหนี้บางสวนของปายัง
เหลอื อยู” ผลปรากฏวา มเี งนิ ตน และดอกเบ้ียเหลอื อยรู วมกนั 1 ลานบาท ปาจุไรรัตน
จึงถกู ฟอ งซ้ําอกี ครง้ั
“ปาจะหาเงินที่ไหนมาใหเขา ทําไมธนาคารไมขายใหพอกับยอดหน้ีและ
ดอกเบ้ียในคราวนั้น ทั้งท่ีสามารถทําได หลังจากปาไปขึ้นศาล 2 คร้ัง สุดทายศาล
กพ็ ิพากษาใหปา เปน คนลม ละลาย เพราะไมม เี งินไปชาํ ระหน้ใี หเขา”
“หน้ชี าวนา เดิมพันการสูญเสยี ท่ดี นิ ”
กอ นทศ่ี าลจะตดั สนิ คดคี รงั้ นนั้ ปา จไุ รรตั นเ คยเขา ไปขอคาํ ปรกึ ษาจากกองทนุ
ฟน ฟแู ละพฒั นาเกษตรกร วา ควรจะทาํ อยา งไรดี ซง่ึ ไดร บั คาํ แนะนาํ วา ถา ปา ขน้ึ ทะเบยี น
หนอี้ กี รอบจํานวน 1 ลานบาท ถงึ แมก องทุนฟน ฟูฯ จะชว ยซ้อื หนี้กอนน้ีใหปา ซึ่งปา
ตอ งมาผอ นคนื กับกองทนุ ฟน ฟฯู อีกที แตอยางไรเสียปาก็ไมไ ดทด่ี นิ คืนอยูดี
สุดทายปาจุไรรัตนจึงตัดสินใจยอมใหศาลตัดสินเปนบุคคลลมละลาย ดีกวา
จะตองหาเงินไปใชหนี้ใหธนาคารอีก 1 ลานบาท ซ่ึงสถานะบุคคลลมละลายจะมีอายุ
3 ป
“เราก็แกข นาดนแี้ ลว ไมก ลัวแลวกับการเปน คนลมละลาย”
“หน้ีชาวนา เดมิ พนั การสูญเสยี ท่ดี ิน” 67
หนทางรกั ษาทดี่ นิ ..ของเกษตรกร
การประกาศขายทอดตลาดทด่ี นิ ของเกษตรกร ปา จไุ รรตั นม ขี อเสนอวา ควร
มีกลไกรัฐเขามาทําหนาที่รับซ้ือที่ดินของเกษตรกรไวกอน เพ่ือเปดโอกาสใหเกษตรกร
ไดซื้อที่ดินคืน และไมตองสูญเสียที่ดินจากการขายทอดตลาดของสํานักงานบังคับคดี
อยางท่ีเปนอยปู จจบุ ัน
“หากเปนไปไดอยากใหธนาคารท่ีปลอยสินเช่ือกับเกษตรกร มีนโยบาย
เพ่ิมเตมิ ในการชว ยเหลอื เกษตรกร เพอื่ ใหส ามารถรักษาท่ีดนิ ของตนเองไวไ ด หาก
ตอ ง มกี ารขายทอดตลาดทดี่ นิ ของเกษตรกร ธนาคารควรมนี โยบายรบั ซอื้ ทดี่ นิ ของ
เกษตรกรไวกอน แลวใหกองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกรเขามารับซ้ือหน้ี
จากธนาคารอีกทอดหน่ึง วิธีน้ีจะทําใหเกษตรกรไมตองสูญเสียท่ีดินใหกับคนท่ีมา
ประมูลซ้ือ และทําใหท่ีดินของเกษตรกรไมตกไปอยูในมือของนายหนาคาที่ดิน
หรอื นกั เกง็ กําไรทด่ี นิ ทจี่ องจะซือ้ ที่ดินของเกษตรกรอยปู จ จุบัน”
ปจ จบุ นั ปา จไุ รรตั นว ยั 76 ป กบั สามคี ชู วี ติ วยั 77 ป ไมไ ดป ระกอบอาชพี อะไร
แลว ไดย า ยมาอาศยั อยบู า นญาตทิ ฉ่ี ะเชงิ เทรา ชว ยดแู ลบา นใหญ าติ อยกู นั 2 คน ตายาย
มีเงินเลี้ยงชีพจากกองทุนสวัสดิการคนชรา คนละ 700 บาท และเงินเลี้ยงดูจากลูก
ท้งั สองคนท่ีมีอยูเทา นั้น
“หนช้ี าวนา เดมิ พันการสูญเสียที่ดิน”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 69
สวนทสี่ อง
วถิ ชี าวนากับการสูญเสยี ท่ดี นิ
“หนชี้ าวนา เดิมพนั การสูญเสียท่ดี ิน”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 71
หนี้สนิ ชาวนากับการสูญเสียที่ดิน
กรณีศกึ ษาชาวนาอําเภอสามโก
จงั หวัดอางทอง
อารวี รรณ คูสันเทยี ะ
“หน้ชี าวนา เดมิ พันการสญู เสยี ท่ดี ิน”
บทนํา
บทความชน้ิ นเี้ ปน สว นหนง่ึ ของรายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณเ รอ่ื งภาวะหนส้ี นิ กบั
การสญู เสยี ทดี่ นิ ของเกษตรกร กรณศี กึ ษากลมุ เกษตรกรสามคั คกี า วหนา อาํ เภอสามโก
จงั หวดั อา งทอง โดยงานวจิ ยั มเี ปา หมายหลกั เพอ่ื รวบรวมขอ มลู ปญ หาหนสี้ นิ ทเ่ี ชอ่ื มโยง
กบั การสญู เสยี ทดี่ นิ ของเกษตรกร และเผยแพรส ถานการณก ารสญู เสยี ทดี่ นิ ของเกษตรกร
สูสาธารณะ
กลุมเกษตรกรสามัคคีกาวหนา อําเภอสามโก จังหวัดอางทอง เปนองคกร
สมาชกิ ของสภาเครอื ขา ยองคก รเกษตรกรแหง ประเทศไทย (สค.ปท.) ปจ จบุ นั มสี มาชกิ
จาํ นวน 220 ราย งานศกึ ษาชน้ิ นี้เกบ็ ขอมูลกรณตี วั อยางจากสมาชกิ จาํ นวน 83 ราย
จังหวดั อางทองตงั้ อยูในพ้ืนท่ีราบลมุ ภาคกลาง เปนเมอื งอขู า วอนู าํ้ ที่มีความ
สําคัญตอ เศรษฐกิจของประเทศมาเปนเวลาชานาน ผลติ ผลดานการเกษตรโดยเฉพาะ
ขาวเปนพืชเศรษฐกิจหลักที่ทํารายไดเปนอันดับหน่ึง แมนํ้าเจาพระยาเปนแมนํ้าสาย
หลกั ทใ่ี หค วามอดุ มสมบรู ณ ไหลผา นพนื้ ทรี่ าบลมุ ภาคกลาง เรมิ่ ตน จากจงั หวดั นครสวรรค
ผา นจงั หวดั อา งทองลงไปถงึ จงั หวดั สมทุ รปราการ ประชาชนสว นมากตามพน้ื ทรี่ าบลมุ
ภาคกลางจงึ ประกอบอาชพี ทาํ นา กลา วไดว า ภมู ปิ ระเทศเปน ตวั กาํ หนดอาชพี ประเพณี
และวถิ วี ัฒนธรรม
“หน้ชี าวนา เดิมพนั การสูญเสยี ที่ดนิ ” 73
จากขอมลู สํารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมครัวเรือนเกษตรกร ป พ.ศ.2554
พบวา จงั หวัดอา งทอง มีครวั เรอื นเกษตรกรประมาณ 24,572 ครัวเรือน สมาชกิ ครัว
เรอื นเฉลี่ย 4 คน เปน ประชากรวยั แรงงานอายุ 15-64 ป รอ ยละ 74.4 และประชากร
วัยสูงอายุ ที่มีอายุมากกวา 65 ป รอยละ 25.6 มเี นอื้ ทถี่ ือครองการเกษตรเฉลย่ี 10.96
ไรต อครัวเรือน โดยรอยละ 90.5 เปน ทีด่ ินทาํ นา
à¡ÉμáÃÃÍŒ ÂÅÐ 86 ¾Ö§è ¾Ò
¡Òë×éÍ¢ŒÒÇÊÒèҡÀÒ¹͡
ÁÒºÃÔâÀ¤ã¹ÃдѺÁÒ¡¶§Ö »Ò¹¡ÅÒ§
ขอ มลู การขน้ึ ทะเบยี นหนสี้ นิ ของเกษตรกรกบั กองทนุ ฟน ฟแู ละพฒั นาเกษตรกร
(กฟก.) สาขาจงั หวดั อางทอง พบวา ตัง้ แตป พ.ศ.2549 ถงึ เดอื นสงิ หาคม พ.ศ.2557 มี
กลมุ องคกรเกษตรกรสมคั รเปน สมาชกิ จํานวนท้ังสน้ิ 22 องคก ร จากจํานวนเกษตรกร
ที่ขึ้นทะเบียนหนส้ี นิ ทั้งสิ้น 4,779 ราย1 มีเกษตรกรท่ีไดรบั การชาํ ระหน้แี ละโอนหนี้สนิ
มาอยูกองทุนฟนฟูฯ จํานวน 620 ราย (สํานักงานกองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร
สาขาจงั หวดั อา งทอง, สงิ หาคม 2557) คดิ เปน สดั สว นรอ ยละ 13 ซงึ่ สงู กวา สดั สว นการ
ชําระหน้ีแทนเกษตรกรของ กฟก.ระดับประเทศ ปจจุบันกองทุนฟนฟูและพัฒนา
เกษตรกรสาขาจงั หวดั อา งทอง มกี ารชาํ ระหนแ้ี ทนเกษตรกรรวมทง้ั สน้ิ 137,245,487
บาท มีหลกั ทรพั ยท ดี่ ินคาํ้ ประกนั ที่โอนมาอยกู บั กองทุนฟน ฟูฯ รวม 1,774 ไร จาก
เกษตรกร 321 ราย
1 ขอมูลจากการสัมภาษณคุณสาธิต แสงพลาย หัวหนาสํานักงานกองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร
สาขาจงั หวดั อา งทอง วันท่ี 25 กรกฎาคม พ.ศ.2557
“หน้ีชาวนา เดมิ พนั การสญู เสียทด่ี นิ ”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 75
เศรษฐกิจชาวนาอา งทอง
ผลสํารวจขอมูลจากเกษตรกร 83 ราย พบวามีเกษตรกรจํานวน 70 ราย
หรอื รอ ยละ 84 ท่ีประกอบอาชีพ เกษตรกรสว นใหญรอยละ 31 มอี าชีพหลักคือการ
ทาํ นา อนั ดบั สองรอยละ 24 คอื รับจางนอกภาคเกษตร ไดแก งานกอ สราง ขบั แท็กซ่ี
ขบั รถตู ขบั รถรบั สง นกั เรยี น ขบั รถทวั รร บั สง คนงานโรงงาน รบั จา งรอ ยพวงมาลยั อนั ดบั
สามรอ ยละ 12 ทาํ เกษตรอยา งอนื่ เชน ปลกู ผกั ทาํ สวนมะมว ง และเลย้ี งหมู
เกษตรกรสว นใหญใ นชมุ ชน รอ ยละ 24 มรี ายไดเ ฉลย่ี ตอ ป 50,001-100,000
บาท รอยละ 18 มีรายไดเฉล่ีย 10,001-50,000 บาทตอป และรอยละ 17 มีรายได
เฉลย่ี 150,001-200,000 บาทตอ ป แหลง ทมี่ าของรายไดพ บวา เกษตรกรสว นใหญม ี
รายไดมาจากภาคเกษตรรอยละ 56 รายไดน อกภาคเกษตรรอ ยละ 44 รายไดข อง
เกษตรกรทง้ั จากการทาํ นา ทาํ การเกษตรอน่ื รบั จา งและรายไดน อกภาคเกษตร พบ
วา มีรายไดเ ฉลี่ย 284,237 บาทตอป ตอครอบครวั
แหลงที่มาของรายไดเ กษตรกร
รับจาง 24.7% ลกู หลาน
สง ให 15.1%
เงนิ สงเคราะห
จากรัฐ 4.0%
ภาคเกษตร 56.2%
“หนช้ี าวนา เดิมพันการสูญเสียท่ดี นิ ”
หากแยกพิจารณาเฉพาะเกษตรกรท่ีทํานาเปนอาชีพหลัก จํานวน 27 ราย
พบวาเกษตรกรทท่ี าํ นาเฉพาะในทีด่ นิ ตนเองซง่ึ มอี ยูเฉล่ียไมถ งึ 10 ไร จะมรี ายไดเฉลี่ย
156,371.43 บาทตอ ป สว นเกษตรกรทเี่ ชา ทน่ี าเพมิ่ จะมรี ายไดเ ฉลย่ี 272,571.43 บาท
(กรณียังไมไ ดคํานวณรายไดส ุทธิเมอ่ื หกั ตนทุนการผลิต)
รายจา ยในครอบครวั ของเกษตรกร2พบวา เกษตรกรมรี ายจา ยเฉลย่ี 7,346.25
บาทตอเดอื น โดยเกษตรกรรอยละ 39.8 มรี ายจา ยตัง้ แต 5,001-10,000 บาทตอ
เดอื น รองลงมาเกษตรกรรอ ยละ 37.3 มีรายจายนอ ยกวา 5,000 บาทตอเดือน และ
อนั ดบั สามเกษตรกรรอ ยละ 9.6 มรี ายจา ย 10,001-15,000 บาทตอ เดอื น โดยครอบครวั
ท่ีมีรายจา ยในครอบครัวสูงสุด คอื 25,000 บาทตอเดอื น ครอบครวั ท่ีมรี ายจา ยตา่ํ สุด
คือ 2,000 บาทตอเดือน
เกษตรกรมีรายจายคาอาหารเฉลีย่ ตอ เดือน 4,229.53 บาท ครอบครัวทมี่ ี
รายจายคาอาหารสูงสุด คือ 12,000 บาทตอเดือน ตํ่าสุด คือ 900 บาทตอเดือน
คิดเปน รายจายคาอาหารเฉล่ยี รวม 50,754.43 บาทตอปต อ ครอบครัว
เมอ่ื มองภาพรวม เกษตรกรมรี ายจา ยในครอบครวั 7,346.25 บาทตอ เดอื น
ในขณะทรี่ ายจา ยดา นอาหารสงู ถงึ 4,229.53 บาทตอ เดอื น คดิ เปน สดั สว นมากกวา
คร่ึง คือรอยละ 57.5 ของรายจายท้ังหมดในครอบครัว โดยเกษตรกรรอยละ
86 พึ่งพาการซ้ือขาวสารจากภายนอกมาบริโภคในระดับมากถึงปานกลาง มีเพียง
รอ ยละ 1.2 เทาน้นั ท่ไี มไดซ้อื ขาวสารบริโภค
2 หมายรวมถึงคาใชจา ยทกุ ดานในครอบครัว ไดแ ก คาอาหาร คา เลาเรียนลูก คานํ้า-คา ไฟ คา รักษา
พยาบาล คา อุปโภคและบรโิ ภค คาภาษีสังคม ประกันชีวติ เปนตน
“หนชี้ าวนา เดมิ พนั การสูญเสียที่ดนิ ” 77
หากพจิ ารณาเปรยี บเทยี บคา ใชจ า ยแตล ะประเภท พบวา สดั สว นคา ใชจ า ย
ดานอาหารคิดเปนสัดสวนสูงสุดคือรอยละ 41 อับดับสองเปนคาเลาเรียนลูก รอย
ละ 17 และอันดบั สามเปนคาประกันชีวิตและประกันสงั คม รอ ยละ 13
สดั สวนรายจา ยของเกษตรกร
คาภาษสี ังคม คาประกันชีวิต
10% 13%
คา อุปโภคและ คาอาหาร
บริโภค 4% 41%
คา น้ํา คาไฟ คาเลาเรียนลูก
7% 17%
คา รกั ษาพยาบาล
8%
“หน้ชี าวนา เดมิ พันการสญู เสยี ทีด่ ิน”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 79
¤‹Ò㪨Œ Ò‹ ¢ͧà¡ÉμáÃ
Í¹Ñ ´ºÑ ˹§Öè ¤Í× ¤‹ÒÍÒËÒà ÃÍŒ ÂÅÐ 41
Í¹Ñ ´ÑºÊͧ¤×ͤ‹ÒàÅ‹ÒàÃÕ¹š٠ÃÍŒ ÂÅÐ 17
เมอ่ื สรปุ ภาพรวมพบวา เกษตรกร มรี ายไดจ ากภาคเกษตรจาํ นวน 159,776.74
บาทตอป รายไดน อกภาคเกษตร 124,460.31 บาทตอป คิดเปน รายไดรวม 284,237
บาทตอ ป รายจา ยภาคเกษตร 119,648.74 บาทตอ ป รายจา ยอน่ื ในครอบครวั 103,937
บาทตอป คิดเปนรายจายรวม 223,585.75 บาทตอป สรุปไดวาเกษตรกรมีรายได
มากกวารายจา ย 60,651 บาทตอปตอครอบครัว
การสบื สานอาชพี ชาวนา
อาชีพหลักในรุนพอแมของเกษตรกร สวนใหญรอยละ 89 ประกอบอาชีพ
ทํานาเปนหลัก รองลงมารอยละ 3.7 มีสัดสวนเทากันระหวางทําเกษตรอยางอื่นและ
รบั จางนอกภาคเกษตร อันดบั สาม รอ ยละ 1.2 มีสดั สว นเทากนั ระหวางอาชีพรับจาง
ทาํ นา รับจา งภาคเกษตรอ่นื และคาขาย
ท้ังนี้มีแนวโนมการปรับเปล่ียนอาชีพของเกษตรกรมากกวาคร่ึง โดย
ครอบครวั ทใี่ นรนุ พอ แมม อี าชพี หลกั ในการทาํ นาจาํ นวน 72 ราย ปจ จบุ นั มเี กษตรกร
ที่ยังคงสืบสานอาชีพทํานาอยูจํานวน 28 ราย หรือรอยละ 39 และเปล่ียนไปทํา
อาชพี อนื่ รอ ยละ 61 สาเหตหุ ลกั ทเี่ กษตรกรปรบั เปลย่ี นอาชพี อนั ดบั หนงึ่ คอื สขุ ภาพ
ไมเ ออ้ื อาํ นวย อนั ดับสองคอื รายไดไมเพยี งพอ และอันดับสามคอื มีภาระหนสี้ นิ
“หนช้ี าวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ที่ดิน”
การถือครองทีด่ ินของชาวนา
การสํารวจขอมลู การใชป ระโยชนทีด่ นิ ของเกษตรกรจาํ นวน 83 ราย พบวา
เกษตรกรสวนใหญ จาํ นวน 74 ราย หรอื รอ ยละ 89 มีท่ีดนิ เปน ของตนเอง ( สวนใหญ
เปน ทด่ี นิ เพ่ืออยูอาศัย ไมใ ชท่ดี นิ เพื่อการเกษตร) มีเกษตรกร 9 ราย หรือรอ ยละ 11 ท่ี
ไมม ที ดี่ นิ เปน ของตนเอง (ไมม แี มแ ตท อี่ ยอู าศยั ) แตเ มอื่ พจิ ารณาจากขนาดการถอื ครอง
ท่ีดนิ สว นใหญม ที ด่ี ินถอื ครองอยูนอ ย คอื มีไมเ กิน 5 ไร เทา นั้น
“หนช้ี าวนา เดมิ พันการสญู เสียที่ดิน” 81
ขนาดการถือครองทดี่ นิ ของครัวเรือนเกษตรกร ป พ.ศ. 2556
ขนาดการถอื ครองท่ีดิน(ไร) จํานวน(ราย) สดั สว น(รอยละ)
ไมเ กิน 5 ไร 38 51.4
< 5-10 ไร 12 16.2
< 10-15 ไร 11 14.9
< 15-20 ไร 5 6.8
< 20-25 ไร 2 2.7
< 25-30 ไร 3 4.0
< 31-35 ไร 1 1.3
มากกวา 40 ไร 2 2.7
รวม 74 100
จากขอ มลู พบวา สดั สว นเกษตรกรทม่ี ที ดี่ นิ ไมเ กนิ 5 ไร มมี ากทส่ี ดุ คอื รอ ยละ
51.4 รองลงมามที ด่ี นิ ระหวา ง 5-10 ไร รอ ยละ 16.2
เมื่อคํานวณจากคาเฉล่ียเกษตรกรมีท่ีดินถือครองครอบครัวละ 7 ไร โดย
รายที่มีท่ีดินนอยสุดคือ 25 ตารางวา และมากสุดคือ 84 ไร ท่ีดินเกือบทั้งหมดคือ
รอ ยละ 95 มเี อกสารสทิ ธป์ิ ระเภทโฉนด
“หน้ชี าวนา เดิมพันการสญู เสียที่ดิน”
จากเกษตรกร 38 รายที่ทําการเกษตรอยูในปจจุบัน พบวามีเกษตรกร
12 ราย หรอื รอยละ 30 เชาทด่ี ินทาํ กิน โดยเชาเฉล่ีย 11 ไร ตอราย จํานวนพนื้ ท่ี
เชานอยที่สุดคือ 100 ตารางวา และเชามากที่สุดคือ 22 ไร สําหรับวัตถุประสงค
การเชา รอ ยละ 75 เชา เพอื่ ทาํ นา และรอ ยละ 25 เชา เพอ่ื ทาํ การเกษตรอน่ื และปลกู ผกั
สําหรับการเชาที่ดินสวนใหญเปนการเชาจากนายทุนตางพื้นที่ รองลงมา
เปน การเชา จากนายทนุ ในพน้ื ที่ เชา จากญาตพิ นี่ อ ง เพอื่ นบา น และเชา ทด่ี นิ วดั ในสว น
ของระยะเวลาการเชา เฉลี่ยเชามากกวา 12 ป เชามาแลวตํ่าสุด 3 ป และเชาสูงสุด
20 ป โดยมคี าเชาเฉลยี่ 1,637 บาท ตอ ไรตอ ป
การสญู เสียที่ดนิ ของชาวนาในอดตี
ประวัติการสญู เสียที่ดนิ ของเกษตรกร พบวามีเกษตรกรจํานวน 10 ราย เคย
สูญเสียท่ีดินในอดีต โดยสวนใหญเปนพื้นท่ีทํานา โดยการสูญเสียที่ดินเร่ิมข้ึนในป
พ.ศ. 2508 มีเกษตรกรจํานวน 1 ราย สูญเสียทดี่ นิ ป พ.ศ. 2526 มเี กษตรกรสญู เสีย
ทด่ี ิน 2 ราย ป พ.ศ. 2536 จํานวน 1 ราย ป พ.ศ.2546-2547 จํานวน 4 ราย ป พ.ศ.
2554 จํานวน 2 ราย โดยเฉลยี่ ขนาดท่ีดนิ ท่ีสญู เสียคอื 8 ไร รายท่ตี ํ่าสุด 2 ไร รายท่ี
สูงสดุ 20 ไร
สาเหตุหลักของการสูญเสียที่ดินคือปญหาหนี้สิน โดยเกษตรกรนําที่ดินไป
จํานองกับเจาหนี้นอกระบบท้ังในจังหวัดอางทองและจังหวัดอ่ืน เพื่อนําเงินมาลงทุน
ทํานาและทําการเกษตรอยา งอ่นื
“หนีช้ าวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ทด่ี นิ ” 83
“หน้ชี าวนา เดมิ พนั การสญู เสียท่ดี นิ ”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 85
เมอ่ื ไมส ามารถนาํ เงนิ ไปชาํ ระหนไ้ี ดต ามกาํ หนด เกษตรกรรอ ยละ 50 ตดั สนิ
ใจขายทน่ี าเพ่ือนาํ เงนิ มาปลดหน้ี อกี รอ ยละ 30 ถกู เจา หน้นี อกระบบยึดที่นาเพอื่ ใช
หน้แี ทน อกี รอยละ 10 ขายทน่ี าเนอ่ื งจากไมมที างเขา ออก และรอยละ 10 ขายทีน่ า
เพือ่ นาํ เงนิ มาใชจ ายในครอบครวั
ปลูกขาวเพ่ือขาย ตนทนุ การทํานาสูง
ในจํานวนเกษตรกร 38 ราย ท่ียังทําอาชีพเกษตรอยู แบงออกเปนทํานา
27 ราย เลีย้ งหมู 2 ราย ทาํ สวน 3 ราย ปลกู ผกั 5 ราย และทํานาและปลกู ผกั 1 ราย
นอกจากนเ้ี กษตรกรทที่ าํ นา 27 ราย พบวา สว นใหญ 20 ราย ทาํ นาบนทดี่ นิ ของตนเอง
มเี กษตรกรเพยี ง 7 ราย ทตี่ อ งเชา ทดี่ นิ โดยชาวนา 4 ราย ไมม ดี นิ ทาํ กนิ เปน ของตนเอง
และ ชาวนา 3 ราย เชาที่นาเพิม่ เพราะมที ีด่ นิ ทํากินไมเ พียงพอ
รูปแบบการทํานาโดยสวนใหญเปนการทํานาปรัง 2 ครั้งตอป ขนาดพ้ืนที่
การทํานาเฉล่ีย 15 ไร สวนการจัดการผลผลิตขาวท่ีได สวนใหญคือรอยละ 57 ขาย
ผลผลิตขาวท่ีไดทั้งหมด ไมเก็บไวบริโภคเอง มีชาวนารอยละ 43 เก็บผลผลิตขาว
บางสวนไวบริโภคเอง
“หนชี้ าวนา เดมิ พันการสูญเสยี ทดี่ ิน”
ตนทนุ การทาํ นาเฉลย่ี ตอ ไร ฤดกู ารผลิต 2556/2557
ลาํ ดบั ที่ ตนทนุ /ปจ จัยการผลติ ตนทุนเฉลี่ย สดั สวน
ตอไร (รอยละ)
1 คา เชาท่ีดิน
2 คา ปุย 978 5.7
3 คา ยากาํ จดั ศัตรพู ืช 1,157 27.1
4 คา จา งฉดี พนยา 9.3
5 คาไถดะ(ครงั้ แรก) 356 3.1
6 คา ไถพรวน(ครัง้ ท่ี 2) 487 5.7
7 คา เมลด็ พันธุ 148 7.3
8 คา จา งหวานหรือคาจา งปลูก 347 17.6
9 คา จา งใสป ยุ 54 1.3
10 คาจางตดั ขาวดดี 125 1.7
11 คา จา งรถเก่ยี วขาว 92 3.7
12 คา ขนผลผลิตไปขาย 409 14.2
69 3.2
รวมตนทนุ การทาํ นาเฉลย่ี 66 100.0
4,288
“หนี้ชาวนา เดิมพนั การสญู เสียทดี่ นิ ” 87
“หน้ชี าวนา เดมิ พนั การสญู เสียท่ดี นิ ”
สัดสวนของตนทุนการผลิตท่ีมากที่สุดคือ คาปุยไรละ 989.67 บาท คิด
เปนรอยละ 27 รองลงมา คอื คาเมลด็ พนั ธุ รอ ยละ 17.6 และ คาจา งรถเกีย่ วขา ว
รอ ยละ 14.2
จํานวนผลผลิตขาวที่ไดคือ 813 กิโลกรัมตอไร เกษตรกรขายขาวไดเฉลี่ย
11 บาทตอกิโลกรัม ทั้งนี้ชาวนาจํานวน 17 ราย หรือรอยละ 63 ขายขาวใหกับ
โครงการรบั จาํ นาํ ขา วของรฐั บาล โดยมรี ายไดเ ฉลย่ี 8,751 บาทตอ ไร หรอื 128,558.50
บาทตอ 1 รอบการผลิต
จากขอมูลการลงทุนและการประกอบอาชีพขางตน จะเห็นไดวาชาวนา
แบกรับตนทุนการผลิตจากการทํานาเฉลี่ย 4,288 บาทตอไร ซ่ึงหากเปรียบเทียบกับ
ตนทุนเฉล่ียการทํานาปรังภาคกลาง ป พ.ศ. 2554 ซึ่งมีตนทุนเฉล่ีย 5,217.91 บาท
ตอไร (สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร) ดังนั้นชาวนากลุมน้ีมีตนทุนการทํานาตํ่ากวา
คาเฉลี่ยของชาวนาภาคกลาง ท่ีเปนเชนน้ี เน่ืองมาจากชาวนากลุมตัวอยางสวนใหญ
รอยละ 74 ทาํ นาบนทีด่ ินของตนเอง จึงไมตอ งแบกรับคา เชา นาซึ่งเปน สดั สวนตนทุน
ท่สี งู เอาไว
การซื้อหนจ้ี ากกองทนุ ฟน ฟู
ผลการสํารวจภาวะหนี้สินของเกษตรกร 83 ราย พบวามีเกษตรกรจํานวน
75 รายทเ่ี ขาสูก ระบวนการซ้ือหนขี้ องกองทนุ ฟน ฟฯู แลว โดยเกษตรกรทไ่ี ดร บั การซอ้ื
หนี้แลวมีจํานวน 48 ราย คิดเปนรอยละ 64 สวนท่ียังไมไดรับสิทธิการซ้ือหนี้มี
22 ราย คดิ เปน รอยละ 29 ไดร ับสทิ ธิแลว แตย งั ไมไดซ้อื หนี้ จาํ นวน 3 ราย และไดร ับ
การซ้ือหนบ้ี างสว นแลว จํานวน 2 ราย
“หนีช้ าวนา เดมิ พนั การสญู เสียทดี่ ิน” 89
นอกจากน้ีมีเกษตรกรอีก 8 ราย ท่ีแกไขปญหาหนี้สินดวยกลไกอื่นท่ีไมใช
กองทุนฟนฟูฯ คือเกษตรกร 4 ราย ไดรับการปรับโครงสรางหน้ีจาก ธ.ก.ส. ตามมติ
คณะรัฐมนตรี วันท่ี 7 เมษายน พ.ศ.2552 เกษตรกร 2 ราย ไดรับการปลดหนี้จาก
ธ.ก.ส. และเกษตรกร 1 ราย ไดร บั การปรับโครงสรางหนี้จากสหกรณการเกษตร และ
เกษตรกรอกี 1 ราย ลกู หลานชวยกนั ปลดหนีใ้ ห
สถานะการซอื้ หนี้ของกองทนุ ฟนฟู (ธันวาคม พ.ศ.2556)
ไดรบั สทิ ธิ แตย ังไมได ไดรบั การซอื้ หนี้
ซื้อหนี้ 4% เพยี งบางสว น 2.7%
ยังไมไ ดรบั สิทธิ
การซอื้ หน้ี 29.3%
ไดรับการซือ้ หนี้แลว
ทง้ั หมด 64 %
“หนี้ชาวนา เดิมพนั การสูญเสยี ที่ดิน”
ภาระหนสี้ ินชาวนา
เหตผุ ลการกยู มื เงนิ ของชาวนา สว นใหญจ ะนาํ มาใชเ พอื่ ซอื้ อปุ กรณแ ละลงทนุ
การเกษตร รองลงมาคอื เพือ่ นําเงนิ มาชําระหน้ีเกา นาํ มาใชจ า ยในชวี ิตประจาํ วัน และ
สดุ ทา ยคือนํามาจายคา เลาเรยี นลกู
เหตุผลการกูย ืมเงินของชาวนา สดั สว น (รอ ยละ)
เหตุผลการกูยืมเงิน 27.9
0.6
1. ซื้ออุปกรณ/ ลงทนุ การเกษตร 7.6
2. เชา ทดี่ นิ 11.0
3. ซอื้ ทีด่ ิน 20.9
4. ใชใ นการดาํ รงชวี ติ ประจําวัน 13.4
5. ใชหน้ีสินเกา 11.6
6. คาเลาเรยี นบตุ ร 4.1
7. สรา งบา นหรอื ซอ มแซมบา น 2.9
8.คารักษาพยาบาล
9. อ่ืน ๆ 100.00
“หนชี้ าวนา เดมิ พันการสญู เสียทดี่ นิ ” 91
สถานะการกูเงินของชาวนา
สถาบันการเงนิ จาํ นวน สัดสวน เงินกู เงนิ กู จาํ นวน
สัญญา (รอ ยละ) เฉลีย่ ตอ รวมทง้ั หมด ป
เงินกู สญั ญา ที่กู
(บาท) (บาท) เฉลย่ี
1.ธ.ก.ส. 23 11.3 345,695.65 7,950,999.95 12.95
2.สหกรณก ารเกษตร 62
3. กองทุนหมูบาน 47 30.5 239,016.24 14,819,006.88 13.79
4.ธนาคารพาณชิ ย 6
5. กองทนุ ฟน ฟูฯ 50 23.2 27,340.43 1,285,000.21 5.5
6.สหกรณเ ครดิตยูเน่ยี น 1
8.นายทุนนอกระบบ 5 3.0 1,308,333.33 7,849,999.98 9
9. ญาติ/เพื่อนบาน 6
10. รา นคา ปุยยา 3 24.6 146,595.65 7,329,782.50 2.97
0.5 75,000 75,000.00 20
2.5 175,500 877,500.00 6.33
3.0 86,666.67 520,000.02 3.33
1.5 141,666.67 425,000.01 5
รวม 203 100.0 495,569.75 41,132,289.55 8.76
“หน้ีชาวนา เดมิ พนั การสูญเสียทดี่ นิ ”
หลักทรพั ยค้าํ ประกัน หนคี้ างชาํ ระ หนคี้ างชําระ สถานะหนป้ี จ จบุ ัน(สัญญา)
กลุม/ ที่ดนิ ทด่ี นิ เฉลีย่ ตอ ทั้งหมด ถกู ฟอ ง/ ปกติ รับชําระ
บคุ คล (ราย) (ไร) สัญญา (บาท) ผิดนัด แทน /ปรับ
(สญั ญา) (บาท)
โครงสรา ง
9 14 166 359,676.61 8,272,562 2 13 6
10,052,284 3 26 34
15 7 35 162,133.61 1,389,920 0 47 0
10,982,400 41 1
47 0 0 29,572.77 8,380,862 00 50
01 0
0 5 44 1,830,400 35,000 11 2
303,750 06 0
22 36 301 167,617.24 312,000 03 0
425,000
10 0 35,000
23 3 60,750
42 8 52,000
5 0 0 141,666.67
105 67 557 483,780.50 40,153,778 10 98 93
ที่มา : สรปุ ประมวลจากแบบสํารวจรายครัวเรือน โครงการวจิ ัยภาวะหนีส้ นิ และการสญู เสียทดี่ ินของ
เกษตรกรฯ กลุมปฏบิ ัตงิ านทองถนิ่ ไรพ รมแดน, ธันวาคม 2556
“หนชี้ าวนา เดมิ พนั การสญู เสียทีด่ ิน” 93
เกษตรกรกยู มื เงนิ จาก 9 แหลง สถาบนั การเงนิ ไดแ ก ธ.ก.ส. สหกรณก ารเกษตร
กองทุนหมูบาน ธนาคารพาณิชย กองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร สหกรณเครดิต
ยเู น่ียน เจาหน้ีนอกระบบ ญาต/ิ เพื่อนบา น และรา นคา ปุยยา โดยมีเกษตรกรรอยละ
45 กูยืมเงินจาก 3 แหลง สถาบนั การเงนิ ในเวลาเดยี วกนั
สถาบันการเงินท่ีเกษตรกรพ่ึงพาเงินทุนมากที่สุดอันดับหนึ่ง คือสหกรณ
การเกษตร คดิ เปน สดั สว น รอ ยละ 31 จาํ นวนเงนิ ทก่ี ทู งั้ หมด 14,819,006 บาท เฉลยี่
ประมาณ 239,016 บาทตอสญั ญาเงนิ กู
สวนหน้ีสินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณการเกษตร มีเกษตรกร
กเู งนิ จาก ธ.ก.ส. จาํ นวน 23 สัญญา หรอื รอ ยละ 11.3 เงนิ กูเฉลย่ี 345,695 บาทตอ
สัญญา เงินกูร วมท้ังหมด 7,950,999 บาท จะเหน็ วาเงนิ กูต อสัญญาที่เกษตรกรกจู าก
ธ.ก.ส. จะสูงกวาสหกรณก ารเกษตร ดังนั้นจึงตองใชหลกั ทรพั ยท่ดี นิ คํ้าประกนั ทง้ั หมด
รวม 166 ไร จาก 14 สญั ญาเงินกู
โดยภาพรวมพบวา เกษตรกรมหี นส้ี นิ เฉลยี่ 495,569.75 บาท มกี ารกเู งนิ
ทเี่ ปน เงนิ ตน รวมทง้ั สนิ้ 41,132,289 บาท มยี อดหนสี้ นิ คา งชาํ ระรวมทง้ั สนิ้ 40,153,778
บาท สถานะหนี้ของเกษตรกร 98 สัญญาเงนิ กู อยใู นสถานะปกติ มีเพียง 10 สญั ญา ท่ี
มสี ถานะผดิ นดั ชาํ ระ ถกู ฟอ งขายทอดตลาดและลม ละลาย และมจี าํ นวนทดี่ นิ ตดิ จาํ นอง
ไวก บั สถาบันการเงินตางๆ รวมกนั ทง้ั หมด 557 ไร
“หนีช้ าวนา เดิมพันการสญู เสยี ท่ดี นิ ”
บทสรปุ หนี้สนิ ชาวนา กับการสญู เสียที่ดิน
กลมุ ชาวนาจังหวดั อา งทอง เปนชาวนาสงู อายุ อายเุ ฉลยี่ 59 ป สว นใหญย ัง
พงึ่ พารายไดจ ากภาคเกษตรเปนหลกั โดยมีรายไดภาคเกษตรมากกวารายไดนอกภาค
เกษตร สัดสว นรอยละ 56 ตอ รอยละ 44 ครวั เรอื นชาวนาสวนใหญเ ปน ชาวนาขนาด
เล็ก มีตน ทุนการผลติ ตํา่ กวา คาเฉล่ยี ของชาวนาทั่วไปในภาคกลาง
ชาวนาสว นใหญม พี น้ื ทที าํ กนิ ไมเ กนิ 10 ไร มสี ดั สว นผไู มม ที ด่ี นิ ทาํ กนิ รอ ยละ
51 มีเกษตรกรเชาทด่ี ินรอ ยละ 24 มชี าวนารอ ยละ 60 ทเ่ี ลกิ ทาํ นา เนอ่ื งจากปญหามี
รายไดไมเพยี งพอและมีภาระหนสี้ ิน
“หนีช้ าวนา เดมิ พนั การสูญเสียทด่ี ิน” 95
ชาวนาและเกษตรกรมรี ายไดส ทุ ธหิ ลงั หกั คา ใชจ า ยเปน จาํ นวนเงนิ คอ นขา งตา่ํ
มีสัดสวนผูมีรายไดไมถึง 100,000 บาทตอป รอยละ 42 ทําใหรายไดไมเพียงพอตอ
คา ใชจ า ยและความอยรู อดของครอบครวั แมว า มชี าวนาบางสว นรอ ยละ 47 เกบ็ ผลผลติ
ขาวและพืชผักไวบ ริโภคในครัวเรอื น แตสัดสวนรายจา ยของครอบครัวยงั คงสงู อยู
สดั สว นคา ใชจา ยอนั ดับหน่ึง คือคาอาหารรอยละ 41 อนั ดับสองคา เลา เรยี น
ลูก รอ ยละ 17 และอนั ดบั สามคา ประกันชวี ิต รอ ยละ 13 รายจายเฉล่ียของครอบครัว
ชาวนาอยทู ป่ี ระมาณ 103,907 บาทตอป
หากชาวนาภาคกลางจะสามารถดาํ รงชพี โดยพงึ่ รายไดจ ากการทาํ นาเปน หลกั
ชาวนาตองมีขนาดการถือครองท่ีดินท่ีเพียงพอเพ่ือใหคุมกับคาใชจายในการครองชีพ
จากผลการศกึ ษาพบวา ขนาดถอื ครองทน่ี ามคี วามสมั พนั ธต อ ตน ทนุ การผลติ และรายได
โดยขนาดทนี่ าทเ่ี หมาะสมควรเปน ตงั้ แต 11-20 ไร ขน้ึ ไป ทง้ั นร้ี าคาขา วทเี่ กษตรกรขาย
ไดตองไมต่ํากวาตันละ 10,000 บาท และตองไมแบกรับตนทุนคาเชานา ซึ่งจะทําให
ชาวนามรี ายไดส ทุ ธหิ ลังหกั ตนทนุ การผลติ 16,000 บาทตอ เดือน หรอื 193,000 บาท
ตอ ป
มีเกษตรกรที่สูญเสียท่ีดินในรุนปจจุบันจํานวน 10 ราย โดยเกษตรกร
รอยละ 50 ตัดสนิ ใจขายทีดนิ เพ่อื นํามาปลดเปลอ้ื งหนสี้ นิ และเกษตรกรอกี รอยละ 30
สูญเสียท่ีดินเพราะถูกยึดจากนายทุนเงินกูนอกระบบ ในขณะท่ีมีเกษตรกรรอยละ 12
มคี วามเส่ียงสูงในการสญู เสยี ที่ดิน เน่ืองจากมสี ถานะหนี้ท่ีผิดนัดชาํ ระ ถูกฟองรองเปน
คดีความ และถูกประกาศขายท่ีดนิ ทอดตลาดอยใู นปจจุบนั
“หนีช้ าวนา เดมิ พนั การสญู เสียท่ีดิน”
“หนี้ชาวนา เดมิ พนั การสญู เสยี ท่ดี นิ ” 97
วิถชี าวนากับการสญู เสยี ที่ดิน
กรณศี กึ ษาชาวนาอาํ เภอสรรคบุรี
จังหวดั ชยั นาท
เมธี สงิ หสถู ํ้า
“หนชี้ าวนา เดมิ พนั การสูญเสียที่ดิน”