๑
บทที่ ๑
สว่ นนำ
ควำมหมำย
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นปา่ ไมอ้ ุทิศ ๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา
ข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) เป็นแผน หรือแนวทาง หรอื ขอ้ กาหนดของการ
จัดการศึกษาของโรงเรียนป่าไมอ้ ุทิศ ๔ ท่ีจะใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานท่ีกาหนด มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และ
ประกอบอาชีพ โดยมุ่งหวังใหม้ ีความสมบูรณท์ ั้งดา้ นร่างกาย จิตใจ และสตปิ ัญญา อีกท้ังมคี วามรูแ้ ละทักษะที่
จาเป็นสาหรับการดารงชีวิต และมีคุณภาพได้มาตรฐานสากลเพ่ือการแข่งขันในยุคปัจจุบัน ดังน้ันหลักสูตร
สถานศกึ ษาโรงเรียนป่าไมอ้ ทุ ิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ.๒๕๖๐) จงึ ประกอบดว้ ยสาระสาคัญของหลักสูตรแกนกลาง สาระความร้ทู ่เี กี่ยวข้องกบั ชุมชน
ท้องถ่ิน และสาระสาคัญท่ีสถานศึกษาพัฒนาเพิ่มเติม โดยจัดเป็นสาระการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐานตาม
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด และสาระการเรยี นรู้รายวชิ าเพิ่มเติม จดั กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นเปน็ รายปี
ในระดับประถมศึกษา เป็นรายภาคในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมปลาย และกาหนดคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ของสถานศึกษา ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของหลักสูตรแกนการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)
ควำมสำคญั
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มีความสาคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีกาหนดไว้เป็นแนวทางให้ผู้บริหาร
สถานศึกษา ครู อาจารย์ ตลอดจนผเู้ ก่ียวข้องกับการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา ในการจัดมวลประสบการณ์
ให้แก่ผู้เรียนได้พัฒนาให้บรรลุถึงคุณภาพตามมาตรฐานในการพัฒนาเยาวชนของชาติ นอกเหนือจากการใช้
เป็นแนวทาง หรือข้อกาหนดในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้บรรลุตามจุดหมายของการจัดการศึกษา
แล้ว หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ท่ีพัฒนาข้ึนยังเป็นหลักสูตรที่มีจุดมุ่งหมายให้
ครอบครัว ชมุ ชน องคก์ รในท้องถนิ่ ท้งั ภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมจดั การศึกษาของสถานศึกษา โดยมีแนวทาง
สาคัญท่สี ถานศึกษากาหนดไว้ในหลักสตู รสถานศกึ ษา ดงั น้ี
๑. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อทุ ิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) มุ่งพฒั นาให้ผู้เรียนเกิดความสนุกสนาน และ
๒
ความเพลิดเพลินในการเรียนรู้เปรียบเสมอื นเปน็ วธิ สี รา้ งกาลังใจ และเร้าให้เกดิ ความก้าวหนา้ แก่ผู้เรียนให้มาก
ท่ีสุด มีความรู้สูงสุด ผู้เรียนทุกคนมีความเข้มแข็ง ความสนใจ มีประสบการณ์ และความมั่นใจ เรียนและ
ทางานอย่างเป็นอิสระและร่วมใจกัน มีทักษะในการอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น รู้ข้อมูลสารสนเทศ และ
เทคโนโลยีสือ่ สาร สง่ เสริมจติ ใจท่ีอยากรอู้ ยากเห็น และมกี ระบวนการคดิ อย่างมเี หตุผล
๒. หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษา
ขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ส่งเสริมการพัฒนาด้านจติ วิญญาณ จริยธรรม
สังคม และวัฒนธรรม พัฒนาหลกั การในการจาแนกระหว่างถูกและผิด เข้าใจและศรทั ธาในความเชื่อของตน
ความเช่ือและวฒั นธรรมท่ีแตกต่างกนั พัฒนาหลักคณุ ธรรมและความอสิ ระของผเู้ รียน และชว่ ยให้เป็นพลเมือง
ท่ีมีความรับผิดชอบ สามารถช่วยพัฒนาสงั คมให้เป็นธรรมขึ้น มีความเสมอภาค พัฒนาความตระหนัก เข้าใจ
และยอมรับสภาพแวดลอ้ มที่ตนดารงชวี ิตอยู่ ยึดมัน่ ในข้อตกลงรว่ มกันต่อการพัฒนาที่ยง่ั ยืนท้งั ในระดับส่วนตน
ระดบั ท้องถ่ิน ระดับชาติ และระดบั โลก สร้างให้ผูเ้ รียนมีความพร้อมในการเป็นผบู้ ริโภคท่ีตัดสนิ ใจแบบมขี ้อมูล
เปน็ อิสระ และมีความรบั ผดิ ชอบ
ลักษณะของหลักสูตรสถำนศกึ ษำโรงเรยี นป่ำไมอ้ ทุ ศิ ๔ พุทธศักรำช ๒๕๖๑
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) เป็นหลักสูตรท่ีสถานศึกษาได้พัฒนาขึ้นเพื่อ
พัฒนาผู้เรียนในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยยึดองค์ประกอบ
หลักสาคัญ ๓ ส่วนคือ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)
สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ และสาระสาคัญท่สี ถานศึกษาพัฒนาเพิม่ เติม เป็นกรอบในการจัดทารายละเอียดเพ่อื ให้
เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐานที่กาหนด เหมาะสมกับสภาพชุมชน ท้องถ่ินและจุดเน้นของ
สถานศึกษา โดยหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ท่ีพัฒนาข้ึนมีลักษณะของ
หลกั สูตร ดังนี้
๑. เป็นหลักสูตรเฉพาะของสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ สาหรับจัดการศึกษาในหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จัดระดับการศึกษาเป็น ๓ ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ ๑ – ๖) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓) และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
(ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ – ๖)
๒. มีความเป็นเอกภาพ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตาม
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) เป็นหลักสูตรของ
สถานศึกษาสาหรับใหค้ รูผู้สอนนาไปจัดการเรียนร้ไู ดอ้ ย่างหลากหลาย โดยกาหนดให้
๒.๑ มีสาระการเรียนรู้ที่สถานศึกษาใช้เป็นหลักเพ่ือสร้างพ้ืนฐานการคิด การเรียนรู้ และ
การแกป้ ัญหา ประกอบด้วย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๒.๒ มีสาระการเรียนรู้ท่ีเสริมสร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพการคิด และ การทางาน
ประกอบดว้ ย สขุ ศึกษาและพลศึกษา ศลิ ปะ การงานอาชพี และเทคโนโลยี และภาษาอังกฤษ
๓
๒.๓ มีสาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม โดยจัดทาเป็นรายวิชาเพ่ิมเติมตามความเหมาะสมและ
สอดคล้องกบั โครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ ความต้องการของผู้เรยี น และบรบิ ทของสถานศึกษา
๒.๔ มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนท้ังด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์
และสังคม เสรมิ สร้างการเรียนร้นู อกจากสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม และการพฒั นาตนตามศกั ยภาพ
๒.๕ มีการกาหนดมาตรฐานของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับตา่ ง ๆ เพื่อเป็น
เป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา จัดทารายละเอียดสาระการเรียนรู้และจัด
กระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกบั สภาพในชมุ ชน สงั คม และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น
๓. มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสาคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน หลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนปา่ ไมอ้ ุทศิ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) เป็นหลักสูตรท่ีมีมาตรฐานเป็นตัวกาหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของ
ผู้เรยี น เพื่อเป็นแนวทางในการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา โดยมีการกาหนดมาตรฐานไว้ดังนี้
๓.๑ มาตรฐานหลกั สูตรเปน็ มาตรฐานด้านผู้เรียน หรือผลผลติ ของหลักสูตรสถานศกึ ษา อนั
เกิดจากการได้รับการอบรมสั่งสอนตามโครงสร้างของหลักสูตรทั้งหมดใช้เปน็ แนวทางในการตรวจสอบคุณภาพ
โดยรวมของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรในทุกระดบั และสถานศึกษาต้องใช้สาหรับการประเมินตนเองเพื่อ
จัดทารายงานประจาปีตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษา นอกจากน้ียังเป็นแนวทางในการกาหนด
แนวปฏิบัติในการสง่ เสริม กากบั ตดิ ตาม ดูแล และปรับปรุงคณุ ภาพ เพอื่ ให้ได้ตามมาตรฐานท่กี าหนด
๓.๒ มีตัวชี้วัดชั้นปีเป็นเป้าหมายระบุสิ่งที่นักเรยี นพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมท้ังคุณลักษณะของ
ผู้เรียนในแต่ละระดับช้ัน ซ่ึงสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจง และมีความเป็นรูปธรรม
นาไปใช้ในการกาหนดเนื้อหา จัดทาหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สาคัญสาหรับ
การวัดประเมินผลเพ่ือตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน ตรวจสอบพัฒนาการผู้เรียน ความรู้ ทักษะ กระบวนการ
คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ และเป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จาก
การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศัย
๓.๓ มีความเป็นสากล ความเป็นสากลของหลักสูตรสถานศึกษา คือมุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้
ความสามารถในเร่ืองเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจัดการส่ิงแวดล้อม ภูมิปัญญาท้องถ่ินมี
คุณลักษณะท่ีจาเป็นในการอยู่ในสังคมได้แก่ ความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเสียสละ
การเอือ้ เฟ้ือ โดยอยบู่ นพื้นฐานของความพอดรี ะหว่างการเปน็ ผู้นาและผตู้ าม การทางานเปน็ ทีมและการทางาน
ตามลาพังการแข่งขัน การรู้จักพอ และการร่วมมือกันเพื่อสังคม วิทยาการสมัยใหม่ และภูมิปัญญาท้องถ่ิน
การรบั วัฒนธรรมต่างประเทศ และการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทย การฝึกฝนทกั ษะเฉพาะทาง และการบูรณาการ
ในลกั ษณะท่ีเปน็ องค์รวม
๔. มคี วามยืดหยุ่น หลากหลาย หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นป่าไม้อทุ ิศ ๔ เป็นหลกั สูตร ทสี่ ถานศึกษา
จัดทารายละเอียดต่างๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสร้างหลักท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) เป็นขอบข่ายในการจัดทา จึงทาให้หลักสูตรของ
๔
สถานศกึ ษามคี วามยืดหยุ่น หลากหลาย สอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหา และความต้องการของท้องถิน่ โดยเฉพาะ
อยา่ งย่งิ มีความเหมาะสมกับตวั ผ้เู รียน
๕. การวัดและประเมินผลเน้นหลักการพ้ืนฐานสองประการคือการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน และ
เพื่อตัดสินผลการเรียน โดยผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐาน
การเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสาคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผเู้ รียนเป็นเปา้ หมายหลกั ในการวัดและ
ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ในทกุ ระดบั ไมว่ ่าจะเปน็ ระดับช้ันเรียน ระดบั สถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา และ
ระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และใช้ผลการประเมิน
เปน็ ข้อมลู และสารสนเทศทีแ่ สดงพัฒนาการ ความกา้ วหนา้ และความสาเรจ็ ทางการเรียนของผ้เู รียน ตลอดจน
ข้อมูลทเี่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ การส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นเกดิ การพัฒนา และเรยี นรู้อย่างเตม็ ตามศักยภาพ
วิสยั ทัศน์
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) มุ่งพฒั นาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกาลังของชาตใิ ห้
เป็นมนษุ ยท์ ่มี คี วามสมดลุ ทง้ั ด้านร่างกาย ความรู้ คณุ ธรรม มจี ติ สานกึ ในความเปน็ พลเมอื งไทย และเป็นพลโลก
ยึดม่ันในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน
รวมท้ัง เจตคติ ท่ีจาเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็น
สาคัญบนพน้ื ฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรยี นร้แู ละพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศกั ยภาพ
หลกั กำร
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มีหลักการที่สาคัญตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) มหี ลักการทสี่ าคัญ ดงั น้ี
๑. เป็นหลกั สูตรการศกึ ษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจดุ หมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น
เป้าหมายสาหรับพฒั นาเด็กและเยาวชนให้มคี วามรู้ ทกั ษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย
ควบคู่กับความเป็นสากล
๒. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี
คณุ ภาพ
๓. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอานาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้
สอดคลอ้ งกับสภาพและความต้องการของทอ้ งถ่ิน
๔. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาทม่ี ีโครงสรา้ งยืดหย่นุ ท้ังดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลา และการจดั การเรยี นรู้
๕. เปน็ หลักสตู รการศึกษาท่เี นน้ ผู้เรยี นเป็นสาคัญ
๕
๖. เป็นหลักสูตรการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์
จดุ หมำย
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นป่าไมอ้ ุทศิ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา
ข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) ม่งุ พัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ คนดี มีปัญญา มีความสุข
มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจดุ หมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เม่ือจบการศึกษา
ตามหลักสูตร ดงั น้ี
๑. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมท่พี ึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวนิ ัยและปฏิบตั ิตนตาม
หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนบั ถอื ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๒. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคดิ การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมที กั ษะชวี ติ
๓. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตทดี่ ี มีสขุ นิสัย และรักการออกกาลังกาย
๔. มีความรกั ชาติ มีจิตสานกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชวี ิตและการปกครอง
ตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ
๕. มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
มีจิตสาธารณะทม่ี ุ่งทาประโยชน์และสร้างสง่ิ ท่ดี ีงามในสังคม และอยูร่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสขุ
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มุ่งเน้นพัฒนา
ผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานท่ีกาหนด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ดังนี้
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ
ดังนี้
๑. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใชภ้ าษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ
๖
ประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัด และ
ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลอื กรบั หรือไม่รับข้อมลู ข่าวสารดว้ ยหลักเหตุผล และความถกู ต้อง ตลอดจน
การเลอื กใชว้ ธิ กี ารสอื่ สาร ท่ีมปี ระสิทธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสงั คม
๒. ควำมสำมำรถในกำรคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสกู่ ารสร้างองค์ความรหู้ รอื สารสนเทศ
เพื่อการตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
๓. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
ท่เี ผชิญไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลกั เหตุผล คณุ ธรรมและขอ้ มลู สารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพันธ์
และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและ
แก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีเกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและ
สง่ิ แวดล้อม
๔. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
เหมาะสม การปรับตัวใหท้ นั กบั การเปลยี่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จักหลกี เลยี่ งพฤตกิ รรม
ไมพ่ ึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อน่ื
๕. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และ
มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน
การแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มุ่งพัฒนาผเู้ รยี นให้มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อน่ื ในสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั นี้
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซือ่ สตั ย์สจุ รติ
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มีจติ สาธารณะ
๗
บทที่ ๒
โครงสรำ้ งหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ
โครงสร้ำงหลกั สูตรสถำนศึกษำโรงเรียนป่ำไม้อทุ ิศ ๔
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) ได้กาหนดโครงสรา้ งของหลักสูตรสถานศึกษา
เพอ่ื ใหผ้ ู้สอน และผูท้ เี่ ก่ียวข้องในการจัดการเรยี นร้ตู ามหลักสูตรของสถานศกึ ษามแี นวปฏิบตั ิ ดังน้ี
๑. ระดบั การศกึ ษา กาหนดหลักสตู รเป็น ๓ ระดับ ตามโครงสรา้ งของหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) และตามภารกิจหลักของการจัดการเรียน
การสอนในระดับประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้นและมัธยมศกึ ษาตอนปลายของสถานศึกษา ดังนี้
๑.๑ ระดับประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑–๖) การศึกษาระดับน้ีเป็นช่วงแรกของ
การศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคานวณ ทักษะการคิดพ้ืนฐาน
การติดต่อส่ือสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพ้ืนฐานความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่าง
สมบูรณ์และสมดุลทั้งในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเน้นจัดการเรียนรู้
แบบบรู ณาการ
๑.๒ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑–๓) เป็นช่วงสุดท้ายของการศึกษา
ภาคบังคับ มุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนไดส้ ารวจความถนัดและความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการพฒั นาบุคลิกภาพส่วนตน
มีทักษะในการคิดวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และคิดแก้ปัญหา มีทักษะในการดาเนินชีวิต มีทักษะการใช้
เทคโนโลยีเพ่ือเป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้ มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความสมดุลทั้งด้านความรู้ ความคิด
ความดงี าม และมคี วามภูมใิ จในความเปน็ ไทย ตลอดจนใชเ้ ปน็ พน้ื ฐานในการประกอบอาชพี หรือการศกึ ษาต่อ
๑.๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔–๖) เน้นการเพิ่มพูนความรู้และ
ทักษะเฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผเู้ รียนแตล่ ะคนทงั้ ด้านวชิ าการ และ
วิชาชีพ มีทักษะในการใช้วทิ ยาการ และเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนการคิดข้ันสูง สามารถนาความรู้ไปประยุกต์
ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาตน และประเทศตามบทบาทของตน
สามารถเป็นผนู้ า และผู้ให้บรกิ ารชุมชนในด้านต่างๆ
๒. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ในหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ พุทธศักราช
๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ได้
กาหนดไว้ในหลักสูตร ประกอบด้วยองค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะหรือค่านิยม
คุณธรรม จริยธรรมของผเู้ รียน ๘ กลุ่ม คอื
๘
๒.๑ ภาษาไทย
๒.๒ คณติ ศาสตร์
๒.๓ วทิ ยาศาสตร์
๒.๔ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๒.๕ สขุ ศึกษาและพลศึกษา
๒.๖ ศลิ ปะ
๒.๗ การงานอาชพี และเทคโนโลยี
๒.๘ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
๓. กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนา
อย่างรอบด้านเพ่ือความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ท้ังร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มี
ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มีระเบียบวนิ ัย ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพื่อสงั คม สามารถจัดการ
ตนเองได้ และอยรู่ ่วมกบั ผู้อนื่ อย่างมคี วามสุข แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ ดังนี้
๓.๑ กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์
สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรียน และอาชีพ
สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากน้ียังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ท้ังยังเปน็ กิจกรรมที่ชว่ ยเหลือ
และใหค้ าปรึกษาแก่ผู้ปกครองในการมสี ่วนร่วมพฒั นาผู้เรยี น
๓.๒ กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นาผู้ตามท่ีดี
ความรับผิดชอบ การทางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือ
แบ่งปันกัน เอื้ออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของ
ผู้เรยี น ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทกุ ขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและ
ปรับปรงุ การทางาน เน้นการทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน
บรบิ ทของสถานศกึ ษาและท้องถิน่ กิจกรรมนกั เรียนในหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นป่าไมอ้ ทุ ิศ ๔ พุทธศักราช
๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)
ประกอบดว้ ย
๓.๒.๑ กิจกรรมลกู เสือ - เนตรนารี
๓.๒.๒ กิจกรรมชุมนุม
๓.๓ กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ เปน็ กิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผูเ้ รียนบาเพ็ญตน
ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถึงความ
รับผดิ ชอบ ความดงี าม ความเสยี สละตอ่ สงั คม มีจิตสาธารณะ
๔. เวลาเรียน หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนป่าไมอ้ ุทศิ ๔ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ได้กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน
ข้ันตา่ สาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม และกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ซ่งึ ผู้สอนสามารถเพม่ิ เตมิ ได้ตามความพร้อม
และจุดเน้นของสถานศึกษา โดยสามารถปรับใหเ้ หมาะสมตามบริบทของสถานศกึ ษาและสภาพของผเู้ รยี น ดังน้ี
๙
๑. ระดับช้ันประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑–๖) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียน
วนั ละ ไมเ่ กนิ ๖ ช่ัวโมง
๒. ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑–๓) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียน
วนั ละไมเ่ กิน ๗ คาบ คิดน้าหนักของรายวิชาท่ีเรียนเป็นหน่วยกิต ใชเ้ กณฑ์ ๔๐ ชั่วโมงต่อภาคเรยี นมีค่านา้ หนักวิชา
เท่ากับ ๑ หน่วยกิต (นก.)
๓. ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย (ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔–๖) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียน
วนั ละไมเ่ กนิ ๗ คาบ คิดน้าหนักของรายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ ๔๐ ช่ัวโมงต่อภาคเรยี นมีค่านา้ หนักวิชา
เท่ากบั ๑ หน่วยกิต (นก.)
๑๐
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนป่ำไม้อทุ ิศ ๔ พุทธศักรำช ๒๕๖๑
ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาตอนตน้ (วชิ าเลือกวทิ ยาศาสตร์ )
สาระการเรยี นรู้ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
พ้ืนฐาน ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 ภารเรียนที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 ภารเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2
1. ภาษาไทย 1.๕ 1.๐ 1.๕ 1.๐ 1.๕ 1.๐
2. คณติ ศาสตร์ 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5
3. วิท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ
เทคโนโลยี ๒.๐ ๒.5 ๒.๐ ๒.5 ๒.๐ ๒.5
4. สงั คมศกึ ษา ศาสนาฯ
5. สุขศึกษาและพลศึกษา 2.0 2.0 2.0 2.0 2.0 2.0
6. ศลิ ปะ 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
7. การงานอาชีพ 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
8. ภาษาตา่ งประเทศ 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
1.๐ 1.๐ 1.๐ 1.๐ 1.๐ 1.๐
สาระการเรียนรู้
เพม่ิ เติม ๐.๕ ๑.๐ ๐.๕ ๑.๐ ๐.๕ ๑.๐
1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
ภาษาไทย ๑.๕ ๑.0 ๑.๕ ๑.0 ๑.๕ ๑.0
คณติ ศาสตร์ 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5
วิทยาศาสตร์ ๑.5 ๑.5 ๑.5 ๑.5 ๑.5 ๑.5
สังคม ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก.
ภาษาตา่ งประเทศ ๖๔๐ ช.ม. 6๔0 ช.ม. ๖๔๐ ช.ม. 6๔0 ช.ม. ๖๔๐ ช.ม. 6๔0 ช.ม.
รวม 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม.
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม.
*กจิ กรรมแนะแนว 1๕ ช.ม. 15 ช.ม. 1๕ ช.ม. 15 ช.ม. 1๕ ช.ม. 15 ช.ม.
*กจิ กรรมนักเรียน
ลูกเสือ/เนตรนารี ๕ ช.ม. 5 ช.ม. ๕ ช.ม. 5 ช.ม. ๕ ช.ม. 5 ช.ม.
ชุมนุม
60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม.
*กิจกรรมเพ่ือสังคมและ ๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม.
สาธารณะประโยชน์ ๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม.
1,๔๐๐ ช.ม. 1,๔๐๐ ช.ม.
รวม 1,๔๐๐ ช.ม.
รวมช่ัวโมง/ภาคเรยี น
รวมชวั่ โมง/ปกี ารศกึ ษา
หมายเหตุ ปีการศกึ ษา 2561
- สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ในช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 , 4 และมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 , 4
๑๑
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนปำ่ ไม้อุทิศ ๔ พุทธศักรำช ๒๕๖๑
ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (วิชาเลอื กคหกรรม )
สาระการเรยี นรู้ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3
พ้นื ฐาน ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 ภารเรยี นที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ภารเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2
1. ภาษาไทย 1.๕ 1.๐ 1.๕ 1.๐ 1.๕ 1.๐
2. คณติ ศาสตร์ 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5
3. วิท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ
เทคโนโลยี ๒.๐ ๒.5 ๒.๐ ๒.5 ๒.๐ ๒.5
4. สังคมศกึ ษา ศาสนาฯ 2.0 2.0 2.0 2.0 2.0 2.0
5. สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
6. ศลิ ปะ 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
7. การงานอาชีพ 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
8. ภาษาต่างประเทศ 1.๐ 1.๐ 1.๐ 1.๐ 1.๐ 1.๐
สาระการเรยี นรู้ ๐.๕ ๑.๐ ๐.๕ ๑.๐ ๐.๕ ๑.๐
เพม่ิ เตมิ 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0 1.0
๐.๕ - ๐.๕ - ๐.๕ -
ภาษาไทย 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5
คณิตศาสตร์ ๑.๐ ๑.๐ ๑.๐ ๑.๐ ๑.๐ ๑.๐
วทิ ยาศาสตร์ ๑.5 ๑.5 ๑.5 ๑.5 ๑.5 ๑.5
สังคม ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก. ๑๖ นก.
การงาน ๖๔๐ ช.ม. 6๔0 ช.ม. ๖๔๐ ช.ม. 6๔0 ช.ม. ๖๔๐ ช.ม. 6๔0 ช.ม.
ภาษาตา่ งประเทศ
20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม.
รวม
20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม. 20 ช.ม.
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน 1๕ ช.ม. 15 ช.ม. 1๕ ช.ม. 15 ช.ม. 1๕ ช.ม. 15 ช.ม.
*กิจกรรมแนะแนว
*กิจกรรมนักเรียน ๕ ช.ม. 5 ช.ม. ๕ ช.ม. 5 ช.ม. ๕ ช.ม. 5 ช.ม.
ลกู เสอื /เนตรนารี
ชุมนุม 60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม. 60 ช.ม.
๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม.
*กิจกรรมเพ่ือสังคมและ ๗๐๐ ช.ม. ๗๐๐ ช.ม.
สาธารณะประโยชน์ 1,๔๐๐ ช.ม. 1,๔๐๐ ช.ม.
1,๔๐๐ ช.ม.
รวม
รวมชว่ั โมง/ภาคเรยี น
รวมชว่ั โมง/ปกี ารศึกษา
หมายเหตุ ปีการศกึ ษา 2561
- สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ใช้ในช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 , 4 และมัธยมศึกษาปีท่ี 1 , 4
๑๒
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรียนป่าไมอ้ ุทิศ 4 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 หอ้ ง 1-2
รหัสวิชา รายวชิ า หน่วยกติ ชั่วโมง/ ช่วั โมง/ภาค
สัปดาห์
รายวชิ าพน้ื ฐาน 1.๕ ๖0
ท 21101 ภาษาไทย 1 1.5 ๓ 60
ค 21101 คณติ ศาสตร์ 1 1.5 3 60
ว 21101 วิทยาศาสตร์ 1 ๐.๕ 3 ๒๐
ว 2110๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ 1.5 ๑ 60
ส 21101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 1 0.5 3 20
ส 21102 ประวัติศาสตร์ 1 0.5 1 20
พ 21101 สขุ ศกึ ษา 1 0.5 1 20
พ 21102 พลศึกษา 1 0.5 1 20
ศ 21101 ทศั นศลิ ป์ 1 0.5 1 20
ศ 21102 ดนตรี – นาฏศิลป์ 1 1.0 1 40
ง 21101 การงานอาชีพ 1 1.๐ 2 ๔0
อ 21101 ภาษาองั กฤษ 1 11 ๒ 440
รวม 2๒
๐.๕ ๒0
รายวิชาเพ่มิ เตมิ 1.0 ๑ 40
ท 21201 ภาษาไทยเพ่ิมเตมิ 1 1.0 2 40
ค 21201 คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ 1 ๐.๕ 2 ๒0
ว 21201 วิทยาศาสตรเ์ พมิ่ เติม 1 0.5 ๑ 20
ว 2120๒ การออกแบบและเทคโนโลยีเพิ่มเตมิ ๑ ๑.๐ 1 ๔0
ส 21201 หนา้ ท่ีพลเมอื ง 1 0.5 ๒ 20
อ 21201 ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม 1 5 1 ๒๐๐
จ ๒๑๒๐๑ ภาษาจนี 1 ๑๐
รวม ๐.๕ 20
- 1
กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๐.๕ 20
ก 21901 *กจิ กรรมแนะแนว 1 1๕
*กจิ กรรมนกั เรยี น ๐.๕ ๕
ก 2190๒ ลูกเสอื - เนตรนารสี ามญั รนุ่ ใหญ่ 1 60
ก 2190๓ ชุมนมุ ส่งเสรมิ วชิ าการ ๑.๕ ๗๐๐
1๖.5 3
ก 2190๔ *กจิ รรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ 3๕
รวม
รวมท้งั ภาคเรียน
๑๓
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรยี นปา่ ไมอ้ ทุ ิศ 4 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 ห้อง 3-4
รหัสวิชา รายวชิ า หน่วยกิต ชวั่ โมง/ ชัว่ โมง/ภาค
สัปดาห์
รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย 1 1.๕ ๖๐
ท 21101 คณิตศาสตร์ 1 1.5 ๓ ๖๐
ค 21101 วิทยาศาสตร์ 1 1.5 ๓ ๖๐
ว 21101 การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ ๐.๕ ๓ ๒๐
ว 2110๒ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 1 ๑
ส 21101 ประวตั ศิ าสตร์ 1 1.5 60
ส 21102 สุขศกึ ษา 1 0.5 3 20
พ 21101 พลศึกษา 1 0.5 1 20
พ 21102 ทัศนศลิ ป์ 1 0.5 1 20
ศ 21101 ดนตรี – นาฏศลิ ป์ 1 0.5 1 20
ศ 21102 การงานอาชีพ 1 0.5 1 20
ง 21101 ภาษาองั กฤษ 1 1.0 1 40
อ 21101 1.๐ 2 ๔0
รวม 11 ๒ 440
รายวิชาเพิม่ เตมิ 2๒
ท 21201 ภาษาไทยเพ่ิมเติม 1 ๐.๕ ๒๐
ค 21201 คณิตศาสตรเ์ พมิ่ เติม 1 1.0 ๑ 40
ว 2120๒ การออกแบบและเทคโนโลยเี พมิ่ เติม ๑ ๐.๕ 2 ๒0
ส 21201 หน้าทพ่ี ลเมอื ง 1 0.5 ๑ 20
ง ๒๑๒๐๑ คหกรรม ๑ 1.0 1 40
อ 21201 ภาษาองั กฤษเพ่ิมเตมิ 1 1.0 2 40
จ ๒๑๒๐๑ ภาษาจนี 1 0.5 2 20
5 1 ๒๐๐
รวม ๑๐
๐.๕ 20
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น - 1
ก 21901 *กิจกรรมแนะแนว ๐.๕ 20
*กจิ กรรมนกั เรียน 1 1๕
ก 2190๒ ลกู เสอื - เนตรนารีสามญั รุ่นใหญ่ ๐.๕ ๕
ก 2190๓ ชมุ นุมส่งเสรมิ วชิ าการ 1 60
๑.๕ ๗๐๐
ก 2190๔ *กจิ รรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์ 1๖.5 3
3๕
รวม
รวมทง้ั ภาคเรียน
๑๔
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรียนป่าไม้อุทศิ 4 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 2 หอ้ ง 1-2
รหสั วิชา รายวิชา หน่วยกติ ชั่วโมง/สปั ดาห์ ช่วั โมง/ภาค
รายวชิ าพนื้ ฐาน
ท 21102 ภาษาไทย 2 1.๐ ๒ ๔0
1.5 3 60
ค 21102 คณติ ศาสตร์ 2
1.5 3 60
ว 2110๓ วทิ ยาศาสตร์ 2
๑.๐ ๒ ๔๐
ว 2110๔ วทิ ยาการคานวณ ๑
1.5 3 60
ส 21103 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 2 0.5 1 20
ส 21104 ประวตั ศิ าสตร์ 2 0.5 1 20
พ 21103 สุขศึกษา 2 0.5 1 20
พ 21104 พลศึกษา 2 0.5 1 20
0.5 1 20
ศ 21103 ทศั นศลิ ป์ 2 1.0 2 40
1.๐ ๒ ๔0
ศ 21104 ดนตรี-นาฏศลิ ป์ ๒ 11 2๒ 440
ง 21102 การงานพื้นฐานอาชพี 2
อ 21102 ภาษาอังกฤษ 2
รวม
รายวชิ าเพมิ่ เติม
ท 2120๒ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๒ ๑.๐ ๒ ๔0
1.0 2 40
ค 2120๒ คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ ๒ 1.0 2 40
0.5 1 20
ว 2120๓ วิทยาศาสตร์เพม่ิ เติม ๒ 1.0 2 40
0.5 1 20
ส 2120๒ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๒ 5 ๑๐ ๒๐๐
อ 2120๒ ภาษาองั กฤษเพิม่ เตมิ ๒
จ ๒๑๒๐๒ ภาษาจนี ๒
รวม
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน
ก 21901 *กิจกรรมแนะแนว ๐.๕ 1 20
-
*กิจกรรมนักเรยี น ๐.๕ 1 20
1๕
ก 2190๒ ลกู เสือ - เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ ๐.๕ 1 ๕
60
ก 2190๓ ชมุ นมุ ส่งเสริมวิชาการ ๑.๕ 3 ๗๐๐
1๖.5 3๕
ก 2190๔ *กจิ รรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมท้ังภาคเรยี น
๑๕
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรียนป่าไม้อทุ ิศ 4 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 ห้อง ๓-๔
รหัสวชิ า รายวิชา หน่วยกิต ชว่ั โมง/สัปดาห์ ช่ัวโมง/ภาค
รายวิชาพืน้ ฐาน
ท 21102 ภาษาไทย 2 1.๐ ๒ ๔0
ค 21102 คณติ ศาสตร์ 2 1.5 3 60
ว 2110๓ วิทยาศาสตร์ 2 1.5 3 60
๑.๐ ๒ ๔๐
ว 2110๔ วทิ ยาการคานวณ ๑ 1.5 3 60
ส 21103 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2 0.5 1 20
ส 21104 ประวัตศิ าสตร์ 2 0.5 1 20
0.5 1 20
พ 21103 สุขศกึ ษา 2 0.5 1 20
0.5 1 20
พ 21104 พลศึกษา 2 1.0 2 40
1.๐ ๒ ๔0
ศ 21103 ทัศนศิลป์ 2 11 2๒ 440
ศ 21104 ดนตรี-นาฏศลิ ป์ ๒ ๑.๐ ๒ ๔0
ง 21102 การงานพ้นื ฐานอาชีพ 2 1.0 2 40
อ 21102 ภาษาองั กฤษ 2 0.5 1 20
รวม 1.0 2 40
1.0 2 40
รายวชิ าเพม่ิ เติม 0.5 1 20
5 ๑๐ ๒๐๐
ท 2120๒ ภาษาไทยเพมิ่ เติม ๒
๐.๕ 1 20
ค 2120๒ คณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ ๒ -
๐.๕ 1 20
ส 2120๒ หน้าท่พี ลเมือง ๒ 1๕
ง ๒๑๒๐๒ คหกรรม ๒ ๐.๕ 1 ๕
อ 2120๒ ภาษาอังกฤษเพม่ิ เติม ๒ 60
จ ๒๑๒๐๒ ภาษาจีน ๒ ๑.๕ 3 ๗๐๐
1๖.5 3๕
รวม
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
ก 21901 *กิจกรรมแนะแนว
*กจิ กรรมนกั เรียน
ก 2190๒ ลกู เสอื - เนตรนารสี ามัญร่นุ ใหญ่
ก 2190๓ ชมุ นมุ สง่ เสริมวิชาการ
ก 2190๔ *กจิ รรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมทั้งภาคเรียน
๑๖
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรียนป่าไมอ้ ุทิศ 4 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 หอ้ ง1-2
รหสั วิชา รายวชิ า หนว่ ยกติ ช่ัวโมง/สัปดาห์ ช่วั โมง/ภาค
รายวิชาพนื้ ฐาน
ท 2๒101 ภาษาไทย ๓ 1.๕ ๓ ๖0
1.5 3 60
ค 2๒101 คณิตศาสตร์ ๓ 1.5 3 60
๐.๕ ๑ ๒๐
ว 2๒101 วิทยาศาสตร์ ๓ 1.5 3 60
0.5 1 20
ว 2๒10๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๒ 0.5 1 20
0.5 1 20
ส 2๒101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓ 0.5 1 20
0.5 1 20
ส 2๒102 ประวตั ศิ าสตร์ ๓
พ 2๒101 สขุ ศึกษา ๓ 1.0 2 40
1.๐ ๒ ๔0
พ 2๒102 พลศึกษา ๓ 11 2๒ 440
ศ 2๒101 ทศั นศลิ ป์ 1
๐,๕ ๑ ๒0
ศ 2๒102 ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ๓ 1.0 2 40
1.0 2 40
ง 2๒101 การงานอาชีพ ๓ ๐,๕ ๑ ๒0
อ 2๒101 ภาษาอังกฤษ ๓ 0.5 1 20
1.0 2 40
รวม 0.5 1 20
รายวชิ าเพม่ิ เตมิ 5 10 200
ท 22201 ภาษาไทยเพ่มิ เตมิ 3
๐.๕ 1 20
ค 22201 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม 3 -
๐.๕ 1 20
ว 22201 วิทยาศาสตรเ์ พ่มิ เตมิ 3 1๕
ว 2220๒ การออกแบบและเทคโนโลยีเพ่ิมเตมิ ๒ ๐.๕ 1 ๕
ส 22201 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 3 60
อ 2๒๒01 ภาษาอังกฤษเพ่มิ เตมิ ๓ ๑.๕ 3 ๗๐๐
จ 22201 ภาษาจนี 3 1๖.5 3๕
รวม
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
ก 2๒901 *กิจกรรมแนะแนว
*กจิ กรรมนักเรยี น
ก 2๒90๒ ลูกเสอื - เนตรนารีสามัญร่นุ ใหญ่
ก 2๒90๓ ชมุ นุมส่งเสริมวิชาการ
ก 2๒90๔ *กจิ รรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมท้ังภาคเรียน
๑๗
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรยี นปา่ ไมอ้ ุทศิ 4 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ห้อง 3-4
รหัสวชิ า รายวิชา หนว่ ยกิต ชว่ั โมง/สัปดาห์ ชัว่ โมง/ภาค
รายวิชาพ้ืนฐาน
ท 2๒101 ภาษาไทย ๓ 1.๕ ๓ ๖0
ค 2๒101 คณิตศาสตร์ ๓ 1.5 3 60
ว 2๒101 วทิ ยาศาสตร์ ๓ 1.5 3 60
ว 2๒10๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๒ ๐.๕ ๑ ๒๐
ส 2๒101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓ 1.5 3 60
ส 2๒102 ประวตั ิศาสตร์ ๓ 0.5 1 20
พ 2๒101 สุขศกึ ษา ๓ 0.5 1 20
พ 2๒102 พลศึกษา ๓ 0.5 1 20
ศ 2๒101 ทัศนศิลป์ 1 0.5 1 20
ศ 2๒102 ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ๓ 0.5 1 20
ง 2๒101 การงานอาชพี ๓ 1.0 2 40
อ 2๒101 ภาษาองั กฤษ ๓ 1.๐ ๒ ๔0
รวม
11 2๒ 440
รายวชิ าเพม่ิ เติม
ท 22201 ภาษาไทยเพิ่มเติม 3 0.5 1 20
ค 22201 คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3
1.0 2 40
ว 2๒๒0๒ การออกแบบและเทคโนโลยเี พม่ิ เตมิ ๒ 0.5 1 20
ส 22201 หนา้ ที่พลเมอื ง 3
ง 22201 คหกรรม 3 0.5 1 20
อ 2๒๒01 ภาษาองั กฤษเพิ่มเติม ๓
จ 22201 ภาษาจีน 3 1.0 2 40
รวม 1.0 2 40
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
ก 2๒901 *กจิ กรรมแนะแนว 0.5 1 20
*กจิ กรรมนกั เรียน 5 10 200
ก 2๒90๒ ลูกเสอื - เนตรนารีสามัญรนุ่ ใหญ่
ก 2๒90๓ ชุมนุมส่งเสริมวชิ าการ ๐.๕ 1 20
ก 2๒90๔ *กจิ รรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ -
๐.๕ 1 20
รวม 1๕
รวมทั้งภาคเรยี น ๐.๕ 1 ๕
60
๑.๕ 3 ๗๐๐
1๖.5 3๕
๑๘
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรยี นป่าไมอ้ ุทศิ 4 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ห้อง 1-2
รหัสวชิ า รายวชิ า หนว่ ยกติ ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ช่ัวโมง/ภาค
รายวชิ าพ้ืนฐาน
ท 2๒10๒ ภาษาไทย ๔ 1.๐ ๒ ๔0
ค 2๒10๒ คณิตศาสตร์ ๔ 1.5 3 60
ว 2๒10๓ วิทยาศาสตร์ ๔
1.5 3 60
ว 2๒10๔ วทิ ยาการคานวณ ๒ ๑.๐ ๒ ๔๐
ส 2๒10๓ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔ 1.5 3 60
ส 2๒10๔ ประวัตศิ าสตร์ ๔
พ 2๒10๓ สขุ ศกึ ษา ๔ 0.5 1 20
พ 2๒10๔ พลศึกษา ๔
ศ 2๒10๓ ทศั นศิลป์ ๔ 0.5 1 20
0.5 1 20
0.5 1 20
ศ 2๒10๔ ดนตรี – นาฏศิลป์ ๔ 0.5 1 20
ง 2๒10๒ การงานอาชพี ๔
อ 2๒10๒ ภาษาอังกฤษ ๔ 1.0 2 40
1.๐ ๒ ๔0
รวม 11 2๒ 440
รายวิชาเพิม่ เตมิ
ท 2220๒ ภาษาไทยเพ่มิ เติม ๔ 1.0 2 40
ค 2220๒ คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ ๔ 1.0 2 40
1.0 2 40
ว 2220๓ วทิ ยาศาสตร์เพม่ิ เตมิ ๔ 0.5 1 20
1.0 2 40
ส 2220๒ หน้าท่ีพลเมอื ง ๔ 0.5 1 20
5 10 200
อ 2๒๒0๒ ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ ๔
๐.๕ 1 20
จ 2220๒ ภาษาจีน ๔ -
รวม ๐.๕ 1 20
1๕
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๐.๕ 1 ๕
ก 2๒901 *กิจกรรมแนะแนว 60
๑.๕ 3 ๗๐๐
*กจิ กรรมนักเรยี น 1๖.5 3๕
ก 2๒90๒ ลกู เสอื - เนตรนารีสามญั รนุ่ ใหญ่
ก 2๒90๓ ชมุ นมุ ส่งเสรมิ วิชาการ
ก 2๒90๔ *กิจรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมทั้งภาคเรียน
๑๙
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรียนป่าไมอ้ ทุ ศิ 4 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ห้อง 3-4
รหสั วชิ า รายวชิ า หนว่ ยกติ ช่วั โมง/สปั ดาห์ ชั่วโมง/ภาค
รายวิชาพ้นื ฐาน
ท 2๒10๒ ภาษาไทย ๔ 1.๐ ๒ ๔0
ค 2๒10๒ คณิตศาสตร์ ๔ 1.5 3 60
1.5 3 60
ว 2๒10๓ วิทยาศาสตร์ ๔ ๑.๐ ๒ ๔๐
ว 2๒10๔ วทิ ยาการคานวณ ๒
ส 2๒10๓ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔ 1.5 3 60
ส 2๒10๔ ประวัตศิ าสตร์ ๔ 0.5 1 20
พ 2๒10๓ สขุ ศึกษา ๔ 0.5 1 20
พ 2๒10๔ พลศกึ ษา ๔ 0.5 1 20
ศ 2๒10๓ ทัศนศลิ ป์ ๔ 0.5 1 20
ศ 2๒10๔ ดนตรี – นาฏศิลป์ ๔ 0.5 1 20
ง 2๒10๒ การงานอาชีพ ๔
อ 2๒10๒ ภาษาองั กฤษ ๔ 1.0 2 40
รวม 1.๐ ๒ ๔0
รายวิชาเพมิ่ เติม
11 2๒ 440
ท 22202 ภาษาไทยเพ่ิมเติม 4 1.0 2 40
ค 22202 คณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เติม 4 1.0 2 40
ส 2220๒ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๔ 0.5 1 20
ง 2220๒ คหกรรม ๔ 1.0 2 40
อ 2๒๒0๒ ภาษาอังกฤษเพิม่ เตมิ ๔ 1.0 2 40
0.5 1 20
จ 2220๒ ภาษาจีน ๔ 5 10 200
รวม
๐.๕ 1 20
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน -
๐.๕ 1 20
ก 2๒901 *กจิ กรรมแนะแนว 1๕
*กจิ กรรมนักเรยี น ๐.๕ 1 ๕
60
ก 2๒90๒ ลูกเสอื - เนตรนารีสามัญรุน่ ใหญ่ ๑.๕ 3 ๗๐๐
1๖.5 3๕
ก 2๒90๓ ชุมนมุ สง่ เสริมวิชาการ
ก 2๒90๔
*กจิ รรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมทั้งภาคเรียน
๒๐
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรยี นปา่ ไม้อุทิศ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 หอ้ ง1-2
รหัสวชิ า รายวชิ า หน่วยกิต ช่วั โมง/สัปดาห์ ชัว่ โมง/ภาค
รายวิชาพ้นื ฐาน
ท 23101 ภาษาไทย ๕ 1.๕ ๓ ๖0
ค 23101 คณติ ศาสตร์ ๕ 1.5 3 60
ว 23101 วิทยาศาสตร์ ๕ 1.5 3 60
ว 2310๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๓ ๐.๕ ๑ ๒๐
ส 23101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๕ 1.5 3 60
0.5 1 20
ส 23102 ประวัตศิ าสตร์ ๕ 0.5 1 20
พ 23101 สุขศกึ ษา ๕
พ 23102 พลศึกษา ๕ 0.5 1 20
ศ 23101 ทศั นศลิ ป์ ๕ 0.5 1 20
ศ 23102 ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ๕ 0.5 1 20
ง 23101 การงานอาชพี ๕ 1.0 2 40
อ 23101 ภาษาอังกฤษ ๕ 1.๐ ๒ ๔0
รวม 11 2๒ 440
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ
ท 23201 ภาษาไทยเพ่มิ เติม 5 1.0 2 40
ค 23201 คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ 5 1.0 2 40
ว 23201 วิทยาศาสตร์เพิ่มเตมิ 5 1.0 2 40
ว 23๒0๒ การออกแบบและเทคโนโลยเี พิ่มเตมิ ๓ ๐.๕ ๑ ๒๐
ส 2๓20๒ หน้าที่พลเมอื ง ๕ 0.5 1 20
อ 2๓๒0๒ ภาษาอังกฤษเพ่มิ เตมิ ๕ 1.0 2 40
จ 2๓20๒ ภาษาจนี ๕ 0.5 1 20
รวม 5 10 200
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น
ก 2๓901 *กจิ กรรมแนะแนว ๐.๕ 1 20
-
*กิจกรรมนกั เรยี น ๐.๕ 1 20
1๕
ก 2๓90๒ ลกู เสอื - เนตรนารสี ามัญร่นุ ใหญ่ ๐.๕ 1 ๕
60
ก 2๓90๓ ชุมนมุ ส่งเสรมิ วชิ าการ ๑.๕ 3
ก 2๓90๔ *กิจรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมทง้ั ภาคเรยี น 16.๕ 35 700
๒๑
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรียนป่าไม้อุทิศ 4 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 หอ้ ง 3-4
รหัสวิชา รายวชิ า หน่วยกติ ช่ัวโมง/สัปดาห์ ชว่ั โมง/ภาค
รายวิชาพื้นฐาน 1.๕ ๓ ๖0
ท 23101 ภาษาไทย ๕ 1.5 3 60
ค 23101 คณติ ศาสตร์ ๕ 1.5 3 60
ว 23101 วิทยาศาสตร์ ๕ ๐.๕ ๑ ๒๐
ว 2310๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๓
ส 23101 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๕ 1.5 3 60
ส 23102 ประวตั ศิ าสตร์ ๕ 0.5 1 20
พ 23101 สขุ ศึกษา ๕ 0.5 1 20
พ 23102 พลศกึ ษา ๕ 0.5 1 20
ศ 23101 ทัศนศิลป์ ๕ 0.5 1 20
0.5 1 20
ศ 23102 ดนตรี – นาฏศิลป์ ๕ 1.0 2 40
ง 23101 การงานอาชพี ๕
อ 23101 ภาษาองั กฤษ ๕ 1.๐ ๒ ๔0
รวม
11 2๒ 440
รายวิชาเพ่ิมเติม
ท 23201 ภาษาไทยเพมิ่ เตมิ 5 1.0 2 40
1.0 2 40
ค 23201 คณติ ศาสตร์เพิ่มเติม 5 ๐.๕ ๑ ๒๐
ว 23๒0๒ การออกแบบและเทคโนโลยีเพ่ิมเติม ๓
ส 2๓20๑ หนา้ ท่ีพลเมือง ๕ 0.5 1 20
1.0 2 40
ง 2๓20๑ คหกรรม ๕
อ 2๓๒0๑ ภาษาอังกฤษเพิม่ เตมิ ๕ 1.0 2 40
จ 2๓20๑ ภาษาจนี ๕ 0.5 1 20
รวม 5 10 200
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
๐.๕ 1 20
ก 2๓901 *กจิ กรรมแนะแนว -
๐.๕ 1 20
*กจิ กรรมนักเรยี น 1๕
ก 2๓90๒ ลูกเสอื - เนตรนารสี ามัญรุ่นใหญ่ ๐.๕ 1 ๕
60
ก 2๓90๓ ชุมนุมส่งเสรมิ วิชาการ ๑.๕ 3 700
16.๕ 35
ก 2๓90๔ *กจิ รรมเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมทั้งภาคเรยี น
๒๒
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรยี นป่าไมอ้ ทุ ิศ 4 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 หอ้ ง 1-2
รหัสวชิ า รายวิชา หน่วยกติ ชั่วโมง/สัปดาห์ ช่ัวโมง/ภาค
รายวิชาพื้นฐาน
ท 23102 ภาษาไทย ๖ 1.๐ ๒ ๔0
ค 23102 คณติ ศาสตร์ ๖ 1.5 3 60
ว 2310๓ วทิ ยาศาสตร์ ๖ 1.5 3 60
ว 2310๔ วทิ ยาการคานวณ ๓ ๑.๐ ๒ ๔๐
ส 23103 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ 1.5 3 60
ส 23104 ประวตั ศิ าสตร์ ๖ 0.5 1 20
พ 23103 สุขศึกษา ๖ 0.5 1 20
พ 23104 พลศกึ ษา ๖ 0.5 1 20
ศ 23103 ทศั นศลิ ป์ ๖ 0.5 1 20
ศ 23104 ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ๖
0.5 1 20
ง 23102 การงานอาชพี ๖ 1.0 2 40
อ 23102 ภาษาองั กฤษ ๖
1.๐ ๒ ๔0
รวม
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ 11 22 440
ท 23202 ภาษาไทยเพ่ิมเติม 6 1.0 2 40
ค 23202 คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 6 1.0 2 40
ว 2320๓ วทิ ยาศาสตร์เพ่ิมเติม 6 1.0 2 40
ส 2๓20๒ หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๖ 0.5 1 20
อ 2๓๒0๒ ภาษาอังกฤษเพ่มิ เติม ๖
1.0 2 40
จ 2๓20๒ ภาษาจนี ๖ 0.5 1 20
รวม
5 10 200
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๐.๕ 1 20
ก 2๓901 *กิจกรรมแนะแนว -
๐.๕ 1 20
*กิจกรรมนกั เรยี น 1๕
ก 2๓90๒ ลูกเสือ - เนตรนารีสามัญร่นุ ใหญ่ ๐.๕ 1 ๕
60
ก 2๓90๓ ชมุ นมุ ส่งเสรมิ วิชาการ ๑.๕ 3 700
ก 2๓90๔ 16.๕ 35
*กิจรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมทั้งภาคเรยี น
๒๓
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
โรงเรยี นปา่ ไม้อทุ ิศ 4 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 ห้อง 3-4
รหสั วิชา รายวชิ า หนว่ ยกติ ช่วั โมง/สัปดาห์ ชวั่ โมง/ภาค
รายวิชาพน้ื ฐาน
ท 23102 ภาษาไทย ๖ 1.๐ ๒ ๔0
ค 23102 คณิตศาสตร์ ๖ 1.5 3 60
ว 2310๓ วทิ ยาศาสตร์ ๖ 1.5 3 60
ว 2310๔ วิทยาการคานวณ ๓ ๑.๐ ๒ ๔๐
ส 23103 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ 1.5 3 60
ส 23104 ประวตั ศิ าสตร์ ๖ 0.5 1 20
พ 23103 สุขศึกษา ๖ 0.5 1 20
พ 23104 พลศึกษา ๖ 0.5 1 20
ศ 23103 ทศั นศลิ ป์ ๖ 0.5 1 20
0.5 1 20
ศ 23104 ดนตรี – นาฏศิลป์ ๖ 1.0 2 40
ง 23102 การงานอาชพี ๖
อ 23102 ภาษาองั กฤษ ๖ 1.๐ ๒ ๔0
รวม
11 22 440
รายวิชาเพิม่ เติม
ท 23202 ภาษาไทยเพิ่มเติม 6 1.0 2 40
1.0 2 40
ค 23202 คณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ 6 0.5 1 20
1.0 2 40
ส 2๓20๒ หน้าท่ีพลเมือง ๖ 1.0 2 40
0.5 1 20
ง 2๓20๒ คหกรรม ๖ 5 10 200
อ 2๓๒0๒ ภาษาองั กฤษเพ่ิมเตมิ ๖ ๐.๕ 1 20
จ 2๓20๒ ภาษาจีน ๖ -
๐.๕ 1 20
รวม 1๕
๐.๕ 1 ๕
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 60
๑.๕ 3 700
ก 2๓901 *กิจกรรมแนะแนว 16.๕ 35
*กจิ กรรมนกั เรียน
ก 2๓90๒ ลูกเสือ - เนตรนารีสามญั รุน่ ใหญ่
ก 2๓90๓ ชมุ นมุ สง่ เสรมิ วิชาการ
ก 2๓90๔ *กิจรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณะประโยชน์
รวม
รวมทัง้ ภาคเรียน
๒๔
รายวชิ าเพมิ่ เติมในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นป่าไมอ้ ุทศิ ๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
ภาคเรียนท่ี ๑ ห้อง ๑-๒
ท 21201 ภาษาไทยเพม่ิ เติม 1 จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชว่ั โมง )
ค 21201 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเตมิ 1 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ว 21201
ว 2120๒ วทิ ยาศาสตรเ์ พมิ่ เติม 1 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชั่วโมง )
ส 21201 การออกแบบและเทคโนโลยีเพิ่มเติม ๑ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชว่ั โมง )
อ 21201
จ ๒๑๒๐๑ หน้าท่ีพลเมอื ง 1 จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชั่วโมง )
ภาษาอังกฤษเพิม่ เติม 1 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ชั่วโมง )
ท 21201 ภาษาจนี 1 จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ( ๒0 ชั่วโมง )
ค 21201
ว 2120๒ ภาคเรียนท่ี ๑ หอ้ ง ๓-๔
ส 21201
ง ๒๑๒๐๑ ภาษาไทยเพ่มิ เติม 1 จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชัว่ โมง )
อ 21201 คณิตศาสตร์เพม่ิ เติม 1 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชั่วโมง )
จ ๒๑๒๐๑
การออกแบบและเทคโนโลยเี พิ่มเตมิ ๑ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ( ๒0 ชว่ั โมง )
หน้าทีพ่ ลเมอื ง 1 จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชว่ั โมง )
คหกรรม ๑ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ช่วั โมง )
ภาษาองั กฤษเพิ่มเติม 1 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ภาษาจีน 1 จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชวั่ โมง )
๒๕
รายวิชาเพม่ิ เตมิ ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นปา่ ไมอ้ ุทศิ ๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑
ภาคเรยี นท่ี ๒ ห้อง ๑-๒
ท 2120๒ ภาษาไทยเพมิ่ เติม ๒ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชว่ั โมง )
ค 2120๒ คณิตศาสตรเ์ พิม่ เตมิ ๒ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชั่วโมง )
ว 2120๓ วิทยาศาสตรเ์ พ่ิมเติม ๒ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ช่ัวโมง )
ส 2120๒ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๒ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ( ๒0 ช่ัวโมง )
อ 2120๒ ภาษาอังกฤษเพิม่ เติม ๒ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชว่ั โมง )
จ ๒๑๒๐๒ ภาษาจีน ๒ จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ช่วั โมง )
ภาคเรยี นท่ี ๒ ห้อง ๓-๔
ท 2120๒ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๒ จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชั่วโมง )
ค 2120๒ คณิตศาสตรเ์ พ่มิ เตมิ ๒ จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ง 2120๒ คหกรรม ๒ จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชั่วโมง )
ส 2120๒ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๒ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ( ๒0 ชั่วโมง )
อ 2120๒ ภาษาองั กฤษเพ่ิมเติม ๒ จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
จ ๒๑๒๐๒ ภาษาจนี ๒ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชั่วโมง )
๒๖
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นป่าไมอ้ ุทศิ ๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒
ภาคเรียนที่ ๑ หอ้ ง ๑-๒
ท 22201 ภาษาไทยเพิ่มเติม 3 จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชว่ั โมง )
ค 22201 คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม 3 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ว 22201
ว 2220๒ วิทยาศาสตรเ์ พิ่มเตมิ 3 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชั่วโมง )
ส 22201 การออกแบบและเทคโนโลยีเพ่ิมเตมิ ๒ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชว่ั โมง )
อ 2๒๒01
จ 22201 หน้าท่ีพลเมอื ง 3 จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชั่วโมง )
ภาษาองั กฤษเพิ่มเติม ๓ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ชั่วโมง )
ท 22201 ภาษาจีน 3 จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ( ๒0 ชั่วโมง )
ค 22201
ว 2220๒ ภาคเรียนที่ ๑ ห้อง ๓-๔
ส 22201
ง 22201 ภาษาไทยเพม่ิ เติม 3 จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชัว่ โมง )
อ 2๒๒01 คณิตศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ 3 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชั่วโมง )
จ 22201
การออกแบบและเทคโนโลยเี พิ่มเติม ๒ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ( ๒0 ชว่ั โมง )
หน้าทพี่ ลเมอื ง 3 จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชว่ั โมง )
คหกรรม ๓ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ช่วั โมง )
ภาษาอังกฤษเพม่ิ เตมิ ๓ จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ภาษาจีน 3 จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชวั่ โมง )
๒๗
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นปา่ ไมอ้ ทุ ศิ ๔ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒
ภาคเรยี นท่ี ๒ ห้อง ๑-๒
ท 2220๒ ภาษาไทยเพม่ิ เตมิ ๔ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ชว่ั โมง )
ค 2220๒ คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เติม ๔ จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชั่วโมง )
ว 2220๓ วทิ ยาศาสตร์เพ่มิ เติม ๔ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชัว่ โมง )
ส 2220๒ หนา้ ที่พลเมอื ง ๔ จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชวั่ โมง )
อ 2๒๒0๒ ภาษาองั กฤษเพ่มิ เติม ๔ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ช่ัวโมง )
จ 2220๒ ภาษาจีน ๔ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชัว่ โมง )
ภาคเรียนที่ ๒ ห้อง ๓-๔
ท 2220๒ ภาษาไทยเพิม่ เติม ๔ จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ค 2220๒ คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ ๔ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชั่วโมง )
ส 2220๒ หน้าที่พลเมอื ง ๔ จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชั่วโมง )
ง 2220๒ คหกรรม ๔ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ชั่วโมง )
อ 2๒๒0๒ ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ๔ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ช่ัวโมง )
จ 2220๒ ภาษาจีน ๔ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ( ๒0 ชว่ั โมง )
๒๘
รายวิชาเพมิ่ เติมในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นป่าไมอ้ ทุ ศิ ๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓
ภาคเรียนที่ ๑ ห้อง ๑-๒
ท 23201 ภาษาไทยเพมิ่ เตมิ 5 จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชว่ั โมง )
ค 23201 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม 5 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ว 23201
ว 23๒0๒ วิทยาศาสตรเ์ พิม่ เติม 5 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ส 2๓20๒ การออกแบบและเทคโนโลยเี พิ่มเติม ๓ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชัว่ โมง )
อ 2๓๒0๒
จ 2๓20๒ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๕ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชั่วโมง )
ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ๕ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ชั่วโมง )
ท 23201 ภาษาจนี ๕ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ช่วั โมง )
ค 23201
ว 23๒0๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ห้อง ๓-๔
ส 2๓20๒
ง 2๓20๒ ภาษาไทยเพ่ิมเตมิ 5 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชัว่ โมง )
อ 2๓๒0๒ คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ 5 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 ชั่วโมง )
จ 2๓20๒
การออกแบบและเทคโนโลยเี พม่ิ เติม ๓ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ( ๒0 ช่ัวโมง )
หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๕ จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชวั่ โมง )
คหกรรม ๕ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ช่วั โมง )
ภาษาอังกฤษเพม่ิ เตมิ ๕ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชว่ั โมง )
ภาษาจนี ๕ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชวั่ โมง )
๒๙
รายวิชาเพมิ่ เตมิ ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นป่าไมอ้ ุทศิ ๔ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓
ภาคเรียนที่ ๒ หอ้ ง ๑-๒
ท 23202 ภาษาไทยเพิ่มเตมิ 6 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ค 23202 คณิตศาสตรเ์ พม่ิ เติม 6 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชั่วโมง )
ว 2320๓
ส 2๓20๒ วิทยาศาสตร์เพ่ิมเติม 6 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
อ 2๓๒0๒ หน้าทพ่ี ลเมือง ๖ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ( ๒0 ชั่วโมง )
จ 2๓20๒
ภาษาอังกฤษเพิม่ เติม ๖ จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชว่ั โมง )
ท 23202 ภาษาจีน ๖ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ( ๒0 ชว่ั โมง )
ค 23202
ส 2๓20๒ ภาคเรียนที่ ๒ ห้อง ๓-๔
ง 2๓20๒
อ 2๓๒0๒ ภาษาไทยเพมิ่ เติม 6 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 ชั่วโมง )
จ 2๓20๒ คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ 6 จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ช่ัวโมง )
หนา้ ท่พี ลเมือง ๖ จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชว่ั โมง )
คหกรรม ๖ จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 ชั่วโมง )
ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ ๖ จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 ชั่วโมง )
ภาษาจนี ๖ จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ( ๒0 ชวั่ โมง
๓๐
บทท่ี ๓
สาระการเรยี นรู้
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔
สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ ซ่ึงกาหนดให้ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจาเป็นต้องเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น
๘ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและ
เสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อส่ือสารเพื่อสร้างความเข้าใจ
และความสมั พันธท์ ี่ดีตอ่ กัน ทาให้สามารถประกอบกจิ ธุระ การงานและดารงชวี ิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตย
ได้อย่างสันติสุข และเป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ
เพ่ือพัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความม่ันคง
ทางเศรษฐกิจ นอกจากน้ียังเป็นส่อื แสดงภูมิปญั ญาของบรรพบุรุษด้านวฒั นธรรม ประเพณี และสุนทรียภาพ
เป็นสมบตั ิล้าคา่ ควรแก่การเรียนรู้ อนุรกั ษ์ และสบื สานใหค้ งอยคู่ ู่ชาติไทยตลอดไป
ภาษาไทยเป็นทักษะท่ีต้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การเรียนรู้อย่าง
มีประสทิ ธภิ าพ และเพอ่ื นาไปใช้ในชวี ิตจรงิ
การอ่าน การอา่ นออกเสยี งคา ประโยค การอา่ นบทรอ้ ยแก้ว คาประพนั ธ์ชนิดต่าง ๆ การอา่ นในใจ
เพอื่ สร้างความเขา้ ใจ และการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะหค์ วามร้จู ากสิ่งทอ่ี ่าน เพ่อื นาไป ปรบั ใช้ในชีวิตประจาวัน
การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนส่ือสาร โดยใชถ้ อ้ ยคาและรปู แบบต่างๆ ของการเขียน
ซึ่งรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขียนตามจินตนาการ วิเคราะห์วิจารณ์ และ
เขียนเชิงสร้างสรรค์
การฟงั การดู และการพูด การฟงั และดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สกึ
พูดลาดบั เรือ่ งราวต่างๆ อย่างเปน็ เหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ท้ังเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และ
การพูดเพอ่ื โน้มนา้ วใจ
หลกั การใชภ้ าษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถกู ต้องเหมาะสมกบั
โอกาสและบคุ คล การแตง่ บทประพันธ์ประเภทต่างๆ และอทิ ธพิ ลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
วรรณคดแี ละวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดแี ละวรรณกรรมเพอ่ื ศึกษาขอ้ มลู แนวความคดิ คุณคา่ ของ
งานประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทาความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพ้ืนบ้านท่ี
เป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราวของ
สังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้เกิดความซาบซ้ึงและภูมิใจ ในบรรพบุรุษท่ีได้สั่งสมสืบทอดมา
จนถงึ ปจั จุบัน
๓๑
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคิดเพ่อื นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ
ชวี ิตและมีนสิ ยั รกั การอ่าน
สาระที่ ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ
เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ
สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกใน
โอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นามาประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ จริง
๓๒
โครงสรา้ งรายวิชา
รายวชิ าตามโครงสรา้ งหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นป่าไมอ้ ุทิศ ๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑
กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
รายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน
ระดบั ชั้น รหสั ชือ่ รายวชิ า เวลาเรียนรายภาค
ชั้น ม. ๑
ชั้น ม. ๒ ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ (๑.๕ หน่วยกิต)
ชั้น ม. ๓ ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ (๑.๐ หน่วยกิต)
ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ (๑.๕ หนว่ ยกติ )
ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ ๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ (๑.๐ หนว่ ยกติ )
ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ (๑.๕ หน่วยกติ )
ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ (๑.๐ หน่วยกติ )
รายวิชาภาษาไทยเพ่ิมเติม
ระดับชัน้ รหัส ชือ่ รายวชิ า เวลาเรียนรายภาค
ชั้น ม. ๑
ชัน้ ม. ๒ ท ๒๑๒๐๑ ภาษาไทยเพิม่ เตมิ ๑ ๑ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ (๐.๕ หนว่ ยกิต)
ชั้น ม. ๓ ท ๒๑๒๐๒ ภาษาไทยเพ่ิมเติม ๒ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ (๑.๐ หนว่ ยกิต)
ท ๒๒๒๐๑ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๓ ๑ ชว่ั โมง/สัปดาห์ (๐.๕ หน่วยกติ )
ท ๒๒๒๐๒ ภาษาไทยเพม่ิ เตมิ ๔ ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ (๑.๐ หนว่ ยกิต)
ท ๒๓๒๐๑ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๕ ๑ ชวั่ โมง/สัปดาห์ (๐.๕ หนว่ ยกติ )
ท ๒๓๒๐๒ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๖ ๒ ชวั่ โมง/สปั ดาห์ (๑.๐ หน่วยกติ )
๓๓
รายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน
ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑
คาอธบิ ายรายวชิ า
ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง/ ๑.๕ หนว่ ยกิต
ฝึกการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆได้อย่างถูกต้อง ไพเราะ และ
เหมาะสมกับเร่ืองที่อ่าน จับใจความสาคัญจากเรื่องที่อ่าน บอกเหตุผล ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น อธิบาย
คาเปรียบเทียบ คาที่มีหลายความหมาย คายากในบริบทต่าง ๆ จากการอ่าน ฝึกคัดลายมือตัวบรรจง
ครึ่งบรรทัดตามแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนสื่อสาร เช่น แนะนาตนเอง สถานท่ี หรือเขียนบน
สือ่ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เขียนบรรยายประสบการณ์ เขียน เรยี งความ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ใช้ถ้อยคา
สานวนภาษาถูกต้อง เหมาะสม ฝึกพูดสรุปใจความสาคัญ พูดแสดงความคดิ เห็นอย่างสร้างสรรค์ เล่าเร่ืองย่อ
จากเรอื่ งที่ฟังและดู ศึกษาเรื่องเสียงในภาษาไทย การสร้างคา และสานวน สุภาษิตไทย ฝกึ คิดวิเคราะหเ์ น้ือหา
และคณุ คา่ ของวรรณคดี วรรณกรรม และบทร้อยกรองท่ีมีเน้ือหาเก่ียวกับท้องถิ่นสมุทรปราการ ตามหลักการ
พิจารณาวรรณคดี และวรรณกรรมเบ้ืองต้น ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อย
กรองทมี่ คี ณุ ค่าตามความสนใจ สามารถนาไปใช้อา้ งอิงได้
โดยใช้กระบวนการเรียนร้แู บบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการ
เรียนรูข้ องตนเอง กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการเรยี นภาษา กระบวนการเรยี นความรู้
ความเข้าใจ เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด มีความสามารถใน
การสื่อสาร ในการคิด ในการใช้ทกั ษะชวี ิต ในการใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่เรยี นรู้ มวี ินัย ม่งุ ม่ันในการทางาน
รักความเป็นไทย รกั ทอ้ งถ่ินบ้านเกดิ มจี ิตสาธารณะ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม
ตวั ช้ีวัด
ท 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ท 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ท 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
ท 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/6
ท 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
รวมท้งั หมด 18 ตัวช้วี ัด
๓๔
รายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน
ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑
คาอธบิ ายรายวิชา
ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ ๑.๐ หน่วยกติ
ฝึกอ่านและปฏิบัติตามเอกสารคู่มืออ่านวิเคราะห์งานเขียนประเภทชักจูงโน้มน้าวใจเชิงสร้างสรรค์
วิเคราะห์ความรู้ คุณค่า และข้อคิดท่ีได้จากวรรณคดี วรรณกรรม นาความรู้ ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน
มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน มีมารยาทในการอ่าน ฝึก เขียนย่อความ การเขียนแสดงความคิดเห็น
จดหมายส่วนตัว และจดหมายกิจธุระและรายงาน มีมารยาทในการเขียน ฝึกพูดรายงานเร่ืองหรือประเด็น
ที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา มีมารยาทในการดู การพูด ศึกษาเรื่องภาษาพูด และ
ภาษาเขียน การแต่งกาพย์ยานี 11 ท่องจาบทอาขยานทมี่ คี ณุ คา่ น่าจดจา
โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการ
เรียนรู้ของตนเอง กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการกลุม่ กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการเรียนความรู้
ความเขา้ ใจ เพื่อให้เกดิ ความรู้ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด มคี วามสามารถใน
การส่ือสาร ในการคิด ในการใช้ทกั ษะชวี ิต ในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ผูใ้ ฝเ่ รียนรู้ มีวนิ ยั มุ่งม่ันในการทางาน
รกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
ตัวชี้วดั
ท 1.1 ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท 2.1 ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท 3.1 ม.1/5, ม.1/6
ท 4.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ท 5.1 ม.1/4, ม.1/5
รวมท้งั หมด 17 ตวั ชี้วัด
๓๕
รายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน
ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒
คาอธบิ ายรายวิชา
ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง/ ๑.๕ หน่วยกติ
ฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง อ่านจับใจความสาคัญ สรุปความ
และอธิบายรายละเอียดจากเร่ืองท่ีอ่าน อภิปรายแสดงความคิดเห็น และข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเร่ืองท่ีอ่าน
ระบุข้อสังเกตการชวนเชื่อ การโน้มน้าวหรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อ่านบทความหรือคาประพันธ์
อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือแนวคดิ ที่ได้จากการอ่านเพอ่ื นาไปใช้แก้ปญั หาในชีวิต ฝกึ คดั ลายมือ
ตวั บรรจงครึ่งบรรทดั เขยี นบรรยายและพรรณนา เขยี นเรียงความ ฝกึ พูดสรปุ ใจความสาคัญของเรือ่ งท่ฟี ัง
และดู พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ศึกษาการสร้างคาในภาษาไทย แต่งบทร้อยกรอง ใช้
คาราชาศัพท์ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านในระดับท่ียากข้ึน วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี
วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ
วรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้ และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาบทอาขยานตาม
ทีก่ าหนด และบทรอ้ ยกรอง ท่มี คี ณุ ค่าตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการ
ปฏบิ ัติ กระบวนการเรียนร้ขู องตนเอง กระบวนการกลุม่ กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการเรยี นรูค้ วาม
เข้าใจ เพ่ือให้เกิดความรู้ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การพูด และการดู มีความสามารถ
ในการสื่อสาร ในการคิดการใช้ทักษะชีวิต ในการใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งม่ันในการทางาน
รักความเปน็ ไทย มคี ุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม
ตวั ชว้ี ดั
ท 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/4, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8
ท 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/8
ท 3.1 ม.2/1, ม.2/4, ม.2/6
ท 4.1 ม.2/1, ม.2/3, ม.2/4
ท 5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
รวมท้งั หมด 21 ตวั ช้วี ัด
๓๖
รายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน
ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
คาอธบิ ายรายวิชา
ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ ๑.๐ หนว่ ยกติ
ฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง จับใจความสาคัญ สรุปความ และอธิบาย
รายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน เขียนผังความคิดเพ่ือแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน วิเคราะห์และ
จาแนกข้อเท็จจริง ขอ้ มูลสนบั สนุนและข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน อ่านหนังสือบทความหรือคาประพันธ์
อย่างหลากหลาย และประเมินคณุ ค่าหรือแนวคดิ ท่ีได้จาก การอ่านเพื่อนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ ฝึกคดั ลายมือ
ตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนย่อความ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เขียนจดหมายกิจธุระ ฝึกวิเคราะห์
ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากส่ือต่าง ๆ วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่ฟัง และดูอย่าง
มีเหตผุ ลเพ่อื นาข้อคดิ มาประยุกต์ใชใ้ นการดาเนินชวี ิต พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นทีศ่ ึกษาค้นควา้ จากการฟัง
การดแู ละการสนทนา ศกึ ษาการสร้างคาในภาษาไทย วเิ คราะหโ์ ครงสร้างประโยคสามัญ ประโยคความรวม
และประโยคความซ้อน แต่งบทร้อยกรอง รวบรวมและอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน
ภาษาไทย สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดับที่ยากข้ึน วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี
วรรณกรรมท้องถ่ินที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
สรุปความรู้ และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและ
บทรอ้ ยกรองทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการ
ปฏิบัติ กระบวนการเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการเรียนรู้
ความเข้าใจ เพ่ือให้เกดิ ความรู้ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟงั การพูด และการดู มีความสามารถ
ในการสื่อสาร ในการคิดการใช้ทักษะชีวิต ในการใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน
รักความเปน็ ไทย มีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม
ตวั ชวี้ ดั
ท 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 , ม2/5, ม.2/7, ม.2/8
ท 2.1 ม.2/1, ม.2/4, ม.2/5 , ม.2/6, ม.2/7
ท 3.1 ม.2/2, ม.2/3, ม.2/5
ท 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/5
ท 5.1 ม.2/1, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
รวมท้ังหมด 22 ตัวชี้วดั
๓๗
รายวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน
ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓
คาอธิบายรายวิชา
ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ ๑.๕ หนว่ ยกติ
ฝึกการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ได้ถูกต้องและเหมาะสมกับ
เรื่องท่ีอ่าน อ่านเรื่องจากวรรณคดีในบทเรียน ข่าวและเหตุการณ์สาคัญ บทความ บันเทิงคดี สารคดี
สารคดีเชิงประวัติ ตานาน งานเขียนเชงิ สร้างสรรค์ เรื่องราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
และกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ๆ แล้วระบุจับใจความสาคัญและรายละเอียดของข้อมูลท่ีใช้สนับสนุนการอ่าน
เขียนกรอบแนวคดิ ผังความคิด บันทึก ย่อความ รายงานวิเคราะห์วิจารณ์ และประเมินเร่ืองที่อ่านโดยใช้
กลวิธกี ารเปรียบเทียบ ตีความ และประเมินค่าแนวคดิ ที่ได้จากการเขียน เพื่อนาไปใชใ้ นการแก้ปัญหาในชีวิต
ฝึกการเขียนชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติโดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็นและทัศนคติในเร่ืองต่าง ๆ การเขียน
ย่อความจากนิทาน ประวัติ ตานาน สารคดีทางวิชาการ พระราชดารัส พระบรมราโชวาท จดหมายราชการ
การเขียนจดหมายกิจธุระเชิญวิทยากร ขอความอนุเคราะห์หรือขอบคุณ การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า
และการเขยี นรายงานโครงงาน การคัดลายมือตัวบรรจงครงึ่ บรรทัดตามรูปแบบการเขยี นอักษรไทย ฝกึ การฟัง
และการดู การพูดแสดงความคิดเห็นและประเมินเร่ือง การพูดวิเคราะห์ วิจารณ์จากเร่ืองท่ีฟังและดู
เพื่อนาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต การพูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นค ว้าเกี่ยวกับ
ภูมิปัญญาท้องถิ่นสมุทรปราการ ศึกษาเกี่ยวกับการจาแนกและการใช้คาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย
การวเิ คราะห์โครงสรา้ งประโยคซบั ซ้อน การแตง่ บทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพ อ่านวรรณคดี วรรณกรรม
และวรรณกรรมท้องถิ่นเกี่ยวกับศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคาสอน เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
บันเทิงคดี แล้ววเิ คราะห์วิถไี ทยและคุณคา่ ของวรรณคดีของวรรณคดี วรรณกรรม สรุปเน้ือหา ความรู้ ขอ้ คิด
จากการอ่านเพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตลอดจนท่องจาและบอกคุณค่าของบทอาขยานตามที่กาหนด
และบทร้อยกรองทีม่ ีคุณค่าตามความสนใจ และนาไปใชอ้ า้ งองิ
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการ
ปฏบิ ตั ิ กระบวนการกลุม่ กระบวนการเรยี นภาษา กระบวนการเรยี นรู้ของตนเอง เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ มีมารยาท
ในการอ่าน การเขียน การฟัง การพูด มีความสามารถใน การส่ือสาร การคิด การใช้ทักษะชีวิต
การใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทย มีคุณธรรม จริยธรรม และ
คา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
ตัวช้ีวดั
ท 1.1 ม.3/1, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/9, ม.3/10
ท 2.1 ม.3/1, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/9 , ม.3/10
ท 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/6
ท 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/6
ท 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม. 3/4
รวมทง้ั หมด 23 ตัวชว้ี ัด
๓๘
รายวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน
ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
คาอธบิ ายรายวิชา
ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ ๑.๐ หน่วยกิต
ฝึกการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ได้ถูกต้องและเหมาะสมกับ
เร่ืองท่ีอ่าน อ่านเรื่องจากวรรณคดีในบทเรียน ข่าวและเหตุการณ์สาคัญ บทความ สารคดี สารคดีเชิง
ประวัติ ตานาน งานเขียนเชิงสร้างสรรค์ เร่ืองราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ
กลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ น่ื และระบุความแตกต่างของคาท่มี คี วามหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ประเมิน
ความถูกต้องของข้อมูลท่ีใช้สนับสนุนในเรอ่ื งท่ีอา่ น วจิ ารณค์ วามสมเหตุสมผล การลาดบั ความ เป็นไปไดข้ อง
เร่อื ง และวเิ คราะห์เพื่อแสดงความคดิ เห็นโตแ้ ยง้ ฝึกการเขยี นข้อความตามสถานการณ์และโอกาสต่าง ๆ โดย
ใช้ถ้อยคาได้ถูกต้องตามระดับภาษา การเขียนอธิบาย ช้ีแจง แสดงความคิดเห็น และโต้แย้งอย่างมีเหตุผล
การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้ง การกรอกแบบสมัครงานพร้อม
เขียนบรรยายเกย่ี วกับความรู้และทกั ษะที่เหมาะสมกบั งาน ฝึกการฟัง การดู การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ตรง
ตามวัตถุประสงค์ การพูดโน้มน้าวโดยนาเสนอหลกั ฐานตามลาดับเน้ือหาอยา่ งมีเหตผุ ลน่าเชื่อถือศึกษาเกี่ยวกับ
การวิเคราะห์ระดับภาษา การใช้คาทับศัพท์ ศัพท์บัญญัติ และคาศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ การแต่งบท
ร้อยกรองประเภทโคลงส่ีสุภาพเกี่ยวกับท้องถ่ินสมุทรปราการ อ่านวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรม
ท้องถิ่นเกี่ยวกับศาสนา ประเพณี พธิ ีกรรม สุภาษิตคาสอน เหตุการณ์ ในประวัติศาสตร์ บันเทงิ คดี
แล้ววิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าของวรรณคดี วรรณกรรม สรุปเน้ือหา ความรู้ ข้อคิด จากเรื่องท่ีอ่านเพ่ือ
นาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจริง ตลอดจนทอ่ งจาและบอกคณุ ค่าของบทอาขยานตาม ที่กาหนด และบทรอ้ ยกรอง
ที่มีคุณคา่ ตามความสนใจและนาไปใช้อา้ งองิ
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการ
ปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการเรียนรู้ของตนเอง เพ่ือให้เกิดความรู้
มีมารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู การพูด มีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การใช้ทกั ษะชวี ิต
การใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทย มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม
ทเ่ี หมาะสม
ตวั ช้วี ดั
ท 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/6, ม.3/ , ม.3/8, ม.3/10
ท 2.1 ม.3/2, ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/10
ท 3.1 ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ท 4.1 ม.3/3, ม.34, ม.3/5, ม.3/6
ท 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4
รวมท้ังหมด 22 ตวั ชี้วัด
๓๙
รายวชิ าภาษาไทยเพิ่มเติม
ท ๒๑๒๐๑ ภาษาไทยเพ่มิ เตมิ ๑ (ความรู้เก่ยี วกบั ภาษาไทย) ก ลุ่ ม ส า ระ ก า รเรีย น รู้ภ า ษ า ไท ย
เวลา ๒๐ ช่วั โมง/ ๐.๕ หน่วยกติ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑
คาอธิบายรายวิชา
ศึกษาความเปน็ มาของภาษาไทยและอกั ษรไทย ภาษาไทยในถิ่นต่าง ๆ โดยสังเขป การศึกษาถ้อยคา
สานวนท่ีบุคคลต่างฐานะ อาชีพ เพศ และวัย ใช้ในโอกาสต่าง ๆ กัน ลักษณะควรสังเกตบางประการของ
ภาษาไทย เชน่ การมวี รรณยกุ ต์ การแยกความหมายของคา การใช้ตาแหนง่ ของคาแสดงความสมั พันธข์ องคา
ในประโยค การแสดงความสัมพันธ์ของประโยคโดยวิธีใช้คาซ้า ใช้คาสรรพนาม และการใช้คาเช่ือม ศึกษา
ประวัตกิ ารใชพ้ จนานกุ รมไทย และประวัตกิ ารสอนหนังสอื ไทย
ผลการเรียนรู้
1. บอกความเป็นมาของภาษาไทยและอกั ษรไทยได้
2. สามารถจาแนกระบบเสียงในภาษาไทยได้
3. วเิ คราะหอ์ งค์ประกอบของคาในภาษาไทยได้
4. บอกความหมายของประโยคอาศัยบริบทที่บอก เพศ พจน์ กาล และบอกความสัมพันธ์กับคาอื่น
ในประโยคพรอ้ มกบั ชบี้ อกบริบทท่ีทาให้ตีความหมายของประโยคได้
5. สามารถใชภ้ าษาไทยในแง่ตา่ ง ๆ ตามประเภทและความสาคญั ของบุคคลในสังคม
6. บอกภาษาถิ่นทใี่ ช้ในภาคต่าง ๆ ได้
7. อธบิ ายถงึ ปจั จัยทีน่ าไปส่กู ารเปลีย่ นแปลงทางภาษาได้
8. ใช้พจนานกุ รมไดถ้ ูกต้อง
9. บอกความเป็นมาของอักษรไทยตัง้ แต่เร่มิ ประดิษฐถ์ ึงปัจจุบันได้
10.สามารถบอกไดว้ า่ ตวั อักษรที่ยกมานนั้ เป็นตวั อกั ษรในสมยั ใด
11.บอกประวตั ิการเขยี นหนงั สือไทยและการพมิ พไ์ ด้
12.อธบิ ายวิวฒั นาการของหนังสอื เรยี นภาษาไทยตั้งแต่สมยั โบราณจนถึงปัจจุบนั ได้
รวม ๑๒ ผลการเรยี นรู้
๔๐
รายวชิ าภาษาไทยเพิ่มเติม
ท ๒๑๒๐๒ ภาษาไทยเพิม่ เตมิ ๒ (ลักษณะควรสงั เกตบางประการของภาษาไทย)
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ ๑.๐ หนว่ ยกติ
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาลักษณะของภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต วิธีการสังเกตความแตกต่างท่ีเด่นชัดระหวา่ ง
ภาษาไทยกับภาษาอื่น ได้แก่ ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษาเขมร และภาษาอังกฤษ ความหมายของ
วิภัตติ อุปสรรค ปัจจัยที่ใช้ในภาษาไทย การวิเคราะห์คาสมาส และวิธีการสนธิในภาษาไทย คาแผลง
ชนิดต่าง ๆ การวิเคราะห์กลุ่มคาและประโยคชนิดต่าง ๆ การเพ่ิมคาด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่นการแผลงคา
การประสมคา ฯลฯ การเพ่มิ พยางค์ การใช้คาราชาศพั ท์ และการใชถ้ อ้ ยคาตามแบบแผน
ผลการเรียนรู้
1. บอกความหมาย ทม่ี าของภาษาและประวตั ิความเปน็ มาของภาษาไทยได้
2. บอกลักษณะเสียง ลักษณะคาและลกั ษณะประโยคในภาษาไทยได้
3. บอกลักษณะของภาษาตา่ งประเทศทนี่ ามาใช้ในภาษาไทยได้
4. บอกลกั ษณะความแตกตา่ งของภาษาบาลแี ละสันสกฤตได้
5. บอกลกั ษณะของคาสมาส สนธิ และคาแผลงได้
6. สามารถใชภ้ าษาได้ถูกต้อง เหมาะสมกบั บุคคล และกาลเทศะ
7. สามารถใชค้ าราชาศพั ท์ได้ถูกต้อง
8. บอกวธิ กี ารตา่ ง ๆ ในการเพมิ่ คาในภาษาไทยได้
9. บอกลกั ษณะของประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ ได้
10.วิเคราะหป์ ระโยคทีม่ ขี อ้ บกพรอ่ งได้
11.สามารถใช้คาเชอ่ื มในประโยคต่าง ๆ ได้
รวม ๑๑ ผลการเรียนรู้
๔๑
รายวชิ าภาษาไทยเพิม่ เติม
ท ๒๒๒๐๑ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๓ (การพูด) กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
เวลา ๒๐ ช่วั โมง/ ๐.๕ หน่วยกติ
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑
คาอธิบายรายวิชา
ความสาคัญของการพูดและปัจจัยที่ช่วยให้การพูดส่ือสารสัมฤทธิ์ผล รูปแบบของการพูดประเภท
ต่าง ๆ หลักการวิเคราะห์ผฟู้ ัง วิธตี ้ังประเด็น วธิ ีจดั ลาดบั ความคิด วธิ ีใช้สานวนให้แจ่มชัด นา่ ฟัง มนี ้าหนัก
เหมาะแกก่ าลเทศะและบคุ คล ใหม้ ีประสทิ ธิผลในการสอื่ สาร มีจรรยามารยาทและคุณธรรมในการพูด
ฝึกฝนสนทนา เพื่อสร้างมนุษย์สัมพันธ์ ฝึกการสัมภาษณ์ ในฐานะผู้สัมภาษณ์และผู้ให้สัมภาษณ์
ฝึกการพูดต่อท่ีประชุม เพื่อส่ือสารความรู้ ทัศนะ และข้อเสนอแนะไปยังกลุ่มผู้ฟังตามหัวข้อผู้พูดเลือกเอง
หรือตามท่ีได้รับมอบหมาย พูดจากท่ีเตรียมมาโดยไม่ต้องท่อง ใช้เวลาพูด ๔- ๕ นาที ฝึกพูดโดยไม่เตรียม
มาก่อนเป็นครั้งคราว ฝึกการอภิปรายในกลุ่ม และการอภิปรายในท่ีประชุม ท้ังในฐานะผู้ร่วมอภิปรายและ
ผู้นาอภิปราย โดยเลือกหัวขอ้ ทน่ี ักเรยี นสนใจ มีมารยาทและความรบั ผดิ ชอบต่อการพูดในทุกโอกาส
ผลการเรยี นรู้
1. บอกความหมายและความสาคัญของการพดู ได้
2. เลอื กใชค้ าพูดได้เหมาะสมแกก่ าลเทศะและบุคคล
3. ใช้ถ้อยคาและสานวนโวหารไดถ้ กู ต้องและเปน็ ทเี่ ขา้ ใจ
4. สนทนาเพอ่ื สร้างมนุษยสัมพันธก์ บั เพอ่ื นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
5. พดู โนม้ นา้ วใหผ้ ฟู้ ังคล้อยตามความคดิ เหน็ ของตนได้
6. พูดต่อหนา้ ชมุ ชนดว้ ยความเช่ือม่นั ในตนเองและตามหลักเกณฑท์ ่ถี ูกต้อง
7. ตดิ ตอ่ ธรุ กจิ การงานกับบคุ คลต่าง ๆ จนบรรลจุ ดุ ประสงคท์ ีต่ นเองต้องการ
8. แสดงท่าทางประกอบการพดู ไดถ้ ูกต้องตามวิธีการท่ดี ี
9. สมั ภาษณ์บคุ คลต่าง ๆ และใหส้ ัมภาษณ์ไดถ้ ูกตอ้ งตามวธิ ีการ
10.เตรียมหัวขอ้ โครงเร่อื งเพือ่ การพดู เปน็ อย่างดี
11.วเิ คราะหผ์ ้ฟู ังไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
12.ดาเนนิ การอภิปรายและเปน็ ผู้รว่ มอภิปรายไดต้ ามบทบาท
รวม ๑๒ ผลการเรียนรู้
๔๒
รายวชิ าภาษาไทยเพม่ิ เตมิ
ท ๒๒๒๐๒ ภาษาไทยเพ่มิ เติม ๔ (การอ่าน) กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ ๑.๐ หน่วยกติ
คาอธิบายรายวิชา
การอ่านออกเสียงคาตามอักขรวิธไี ทย อ่านออกเสียงร้อยแกว้ ร้อยกรอง อา่ นเพื่อจับใจความสาคัญ
อา่ นเพอื่ ตีความ อ่านเพ่อื สรุปความ อา่ นวรรณกรรมต่าง ๆ ทั้งบทความ สารคดี นทิ าน นิยาย งานประพันธ์
ต่าง ๆ ทั้งบันเทิงคดีและสารคดี เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาไทยนอกเหนือจากภาษาไทยพื้นฐาน เพื่อให้
ผเู้ รียนฝึกฝนทักษะทางภาษาได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ ใชภ้ าษาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
ผลการเรียนรู้
1. บอกความสาคัญและจดุ ประสงค์การอ่านได้
2. บอกประเภทหนงั สือและการเลือกอ่านหนังสือที่มีคุณค่าได้
3. อ่านออกเสียงคาตามอักขรวธิ ีไทยได้ถูกตอ้ ง
4. อ่านออกเสยี งร้อยแก้วรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ งคลอ่ งแคล่วไพเราะ
5. อ่านออกเสียง ร ล คาควบกล้าได้ถกู ตอ้ งตามอกั ขรวิธี
6. อ่านเพอื่ จับใจความสาคญั ได้
7. อา่ นแล้วตคี วามจากเรอ่ื งทอ่ี ่านได้
8. อา่ นแล้วสรปุ ความสาคญั ของเรอ่ื งได้
9. อ่านบทความ สารคดีได้ถูกต้อง
10.อ่านบันเทิงคดี วเิ คราะหว์ ิจารณเ์ รือ่ งทีอ่ า่ นไดอ้ ย่างมเี หตุผล
11.บอกมารยาทในการอ่านได้
รวม ๑๑ ผลการเรยี นรู้
๔๓
รายวิชาภาษาไทยเพม่ิ เติม
ท ๒๓๒๐๑ ภาษาไทยเพิ่มเตมิ ๕ (การเขยี น) กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
เวลา ๒๐ ชว่ั โมง/ ๐.๕ หนว่ ยกิต
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑
คาอธิบายรายวิชา
การเขียนสรุปความขยายความ การเขียนบันทึกประจาวนั การเขียนเรียงความ การเขียนบทความ
เขียนอวยพร เขียนนิทาน เขียนรายงาน เขียนกลอนเปล่า เขียนบทรอ้ ยกรอง และการรูจ้ ักใชร้ ูปแบบของ
การเขียน การเลือกเน้ือหาท่ีจะเขียน การใช้ถ้อยคาภาษาได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคลที่อ่านจะทาให้
งานเขียนมปี ระสิทธภิ าพ และเห็นความงามของวรรณกรรมประเภทงานเขยี น
ผลการเรียนรู้
1. การเขยี นสรปุ ความและขยายความ
2. การเขยี นบนั ทึกประจาวัน
3. การเขียนเรยี งความ
4. การเขียนบทความ
5. การเขียนคาอวยพร
6. การเขยี นนทิ าน
7. การเขียนคาขวัญ
8. การเขียนกลอนเปลา่
9. การเขียนรายงาน
10.การแตง่ คาประพันธ์ กลอน และกาพยย์ านี 11
รวม ๑๐ ผลการเรียนรู้
๔๔
รายวชิ าภาษาไทยเพ่มิ เตมิ
ท ๒๓๒๐๒ ภาษาไทยเพมิ่ เติม ๖ (การเขียน ๒) กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ ๑.๐ หน่วยกิต
คาอธิบายรายวิชา
ศึกษาการเขียนเพื่อการส่ือสาร การเขียนย่อความตามความมุ่งหมายต่างๆ การเขียนรายงาน
การจดบันทกึ การเขียนจดหมายส่วนตัว จดหมายธุรกิจ การเขียนประกาศ เขยี นเรยี งความสั้น ๆ ทั้งนตี้ ้อง
คานึงถึงการลาดับความให้ผู้อ่านไดร้ ับสารโดยสะดวก ในการเขียนทุกอย่าง ให้รู้จกั เลือกใช้โวหารที่สมควรแก่
เน้ือเรอ่ื งและโอกาส เช่นการพรรณนา การบรรยาย การอธบิ าย และการยกตวั อยา่ ง
ผลการเรียนรู้
1. สะกดคายากได้อยา่ งน้อย 3 ใน 4
2. จดั กลมุ่ คาทีม่ คี วามหมายเหมือนกันไม่นอ้ ยกว่า 10 กลุ่ม
3. กาหนดความหมายแฝง หรือความหมายนยั ประหวดั แล้วนามาแตง่ ประโยคได้ถูกต้องเหมาะสม
4. บอกความหมายของสานวน สภุ าษติ คาพังเพย และนามาแตง่ ประโยคไดถ้ กู ต้อง
5. บอกลักษณะของโวหารในการเขยี นทง้ั 5 ประเภทได้
6. เขียนขอ้ ความสนั้ ๆ โดยใชโ้ วหารประเภทใดประเภทหนึง่ ทก่ี าหนดให้
7. บอกองคป์ ระกอบและลกั ษณะของเรียงความทีด่ แี ละเขียนจากเรือ่ งทกี่ าหนดใหไ้ ด้
8. จบั ใจความสาคัญจากเร่ืองที่กาหนดใหแ้ ลว้ เขียนย่อความได้
9. เขยี นบนั ทึกส่วนตวั ได้
10.เขยี นบันทกึ การประชมุ ได้
11.เขียนจดหมายสว่ นตัวได้
12.เขยี นจดหมายเพือ่ กจิ ธุระหรอื จดหมายธรุ กจิ ตา่ ง ๆ ได้
13.เขียนประกาศหรือแจง้ ความทวั่ ไปได้
14.เขียนขอ้ ความโฆษณาจากสถานการณท์ กี่ าหนดให้ได้
รวม ๑๔ ผลการเรียนรู้
๔๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
คณิตศาสตร์มีบทบาทสาคัญย่ิงต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทาให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์
คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ
ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์อ่ืน ๆ
คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิต ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
อยา่ งมีความสขุ
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตรเ์ ปิดโอกาสให้เยาวชนทุกคนได้เรียนรู้คณิตศาสตรอ์ ย่างต่อเนอ่ื ง ตาม
ศักยภาพ โดยกาหนดสาระหลักท่ีจาเป็นสาหรับผู้เรียนทุกคน จัดเป็น ๔ สาระ ได้แก่ จานวนและพีชคณิต
การวดั และเรขาคณิต สถิติและความน่าจะเปน็ และแคลคลู สั
จานวนและพีชคณิต เรียนรู้เก่ียวกับระบบจานวนจริง สมบัติเก่ียวกับจานวนจริง อัตราส่วน ร้อยละ
การประมาณค่า การแก้ปัญหาเก่ียวกับจานวน การใช้จานวนในชีวิตจริง แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน เซต
ตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหุนาม สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน
เมทรกิ ซ์ จานวนเชิงซ้อน ลาดบั และอนุกรม และการนาความรู้เกี่ยวกับจานวนและพชี คณิตไปใชใ้ นสถานการณ์
ตา่ ง ๆ
การวดั และเรขาคณิต เรยี นร้เู ก่ยี วกับความยาว ระยะทาง นา้ หนกั พน้ื ท่ี ปริมาตรและความจุ เงนิ และ
เวลา หน่วยวัดระบบต่างๆ การคาดคะเนเกี่ยวกับการวัด อัตราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิตและสมบัติของ
รปู เรขาคณิต การนึกภาพ แบบจาลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณิตในเรื่อง
การเล่ือนขนาน การสะท้อน การหมุน เรขาคณิตวิเคราะห์ เวกเตอร์ในสามมิติ การนาความรู้เกี่ยวกับการวัด
และเรขาคณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
สถิติและความน่าจะเป็น เรียนรู้เกี่ยวกับการต้ังคาถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมข้อมูล การคานวณ
ค่าสถิติ การนาเสนอและแปรผลสาหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลักการนับเบื้องต้น
ความน่าจะเป็น การแจกแจงของตัวแปรสุ่ม การใช้ความรู้เก่ียวกับสถิติและความน่าจะเป็นในการอธิบาย
เหตุการณต์ ่าง ๆ และช่วยในการตดั สนิ ใจ
แคลคูลัส เรียนรู้เกย่ี วกบั ลิมิตและความต่อเน่ืองของฟังก์ชนั อนุพันธ์ของฟงั ก์ชนั พชี คณิต ปริพนั ธ์ของ
ฟังกช์ ันพชี คณิต และการนาความรู้เก่ียวกบั แคลคูลัสไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๑ จานวนและพีชคณิต
มาตรฐานท่ี ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน
ผลท่ีเกดิ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
มาตรฐานท่ี ค ๑.๒ เข้าใจและวิเคราะห์แบบรปู ความสัมพันธ์ ฟงั ก์ชนั ลาดบั และอนกุ รม และนาไปใช้
มาตรฐานที่ ค ๑.๓ ใชน้ ิพจน์ สมการ อสมการ และเมทรกิ ซ์ อธิบายความสมั พนั ธห์ รอื ชว่ ยแก้ปัญหาท่ี
กาหนดให้
หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๑.๓ สาหรบั ผ้เู รียนในระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖
๔๖
สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณติ
มาตรฐานท่ี ค ๒.๑ เขา้ ใจพนื้ ฐานเกยี่ วกบั การวดั วัดและคาดคะเนของส่งิ ที่ต้องการวัด และนาไปใช้
มาตรฐานที่ ค ๒.๒ เข้าใจและวเิ คราะห์รูปเรขาคณติ สมบตั ขิ องรปู เรขาคณิต ความสมั พันธ์ระหว่าง
รปู เรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนาไปใช้
มาตรฐานที่ ค ๒.๓ เขา้ ใจเรขาคณิตวิเคราะหแ์ ละนาไปใช้
มาตรฐานท่ี ค ๒.๔ เขา้ ใจเวกเตอร์ การดาเนินการของเวกเตอร์ และนาไปใช้
หมายเหตุ : ๑. มาตรฐาน ค ๒.๑ และ ค ๒.๒ สาหรบั ผู้เรยี นในระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ถงึ
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓
๒. มาตรฐาน ค ๒.๓ และ ค ๒.๔ สาหรับผู้เรยี นในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖
ทเ่ี นน้ วทิ ยาศาสตร์
สาระที่ ๓ สถิติและความน่าจะเป็น
มาตรฐานที่ ค ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรูท้ างสถิตใิ นการแกป้ ัญหา
มาตรฐานที่ ค ๓.๒ เข้าใจหลักการนบั เบอื้ งตน้ ความน่าจะเปน็ และนาไปใช้
หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๓.๒ สาหรบั ผู้เรียนในระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑-๖
สาระที่ ๔ แคลคูลัส
มาตรฐาน ค ๔.๑ เข้าใจลมิ ติ และความต่อเนื่องของฟังก์ชัน อนพุ นั ธ์ของฟงั กช์ ัน และปรพิ ันธข์ องฟังก์ชนั
และนาไปใช้
หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๔.๑ สาหรบั ผู้เรยี นในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔-๖ ทเ่ี นน้ วทิ ยาศาสตร์
หมายเหตุ ๑. การจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ทที่ าใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรู้อยา่ งมีคุณภาพนน้ั
จะต้องใหม้ ีความสมดุลระหว่างสาระด้านความรู้ ทกั ษะและกระบวนการ ควบคู่ไปกับคุณธรรม จรยิ ธรรม และ
ค่านิยมที่พงึ ประสงค์ ไดแ้ ก่ การทางานอย่างมีระบบ มีระเบยี บ มีความรอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มี
วิจารณญาณมีความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง พรอ้ มทง้ั ตระหนกั ในคณุ คา่ และมเี จตคตทิ ี่ดตี ่อคณิตศาสตร์
๒. ในการวัดและประเมินผลด้านทักษะและกระบวนการ สามารถประเมินในระหว่าง
การเรยี นการสอน หรอื ประเมนิ ไปพรอ้ มกบั การประเมินดา้ นความรู้
๔๗
โครงสร้างรายวชิ า
รายวชิ าตามโครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนป่าไมอ้ ทุ ศิ ๔ พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
กลมุ่ สาระการเรยี นคณิตศาสตร์
รายวิชาคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน
ระดับชัน้ รหสั ชอื่ รายวิชา เวลาเรยี นรายภาค
ชั้น ม. ๑
ชนั้ ม. ๒ ค ๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ (๑.๕ หนว่ ยกิต)
ช้นั ม. ๓ ค ๒๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๒ ๓ ช่วั โมง/สปั ดาห์ (๑.๕ หน่วยกติ )
ค ๒๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ (๑.๕ หน่วยกติ )
ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ ๓ ชว่ั โมง/สัปดาห์ (๑.๕ หน่วยกิต)
ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๓ ช่วั โมง/สัปดาห์ (๑.๕ หน่วยกิต)
ค ๒๓๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๖ ๓ ช่ัวโมง/สัปดาห์ (๑.๕ หนว่ ยกิต)
รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพ่มิ เตมิ
ระดบั ชั้น รหสั ชอื่ รายวิชา เวลาเรียนรายภาค
ช้ัน ม. ๑
ชน้ั ม. ๒ ค ๒๑๒๐๑ คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ ๑ ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์ (๑ หน่วยกติ )
ชั้น ม. ๓ ค ๒๑๒๐๒ คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม ๒ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ (๑ หน่วยกติ )
ค ๒๒๒๐๑ คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ ๓ ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์ (๑ หน่วยกติ )
ค ๒๒๒๐๒ คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ ๔ ๒ ชวั่ โมง/สัปดาห์ (๑ หนว่ ยกติ )
ค ๒๓๒๐๑ คณติ ศาสตร์เพม่ิ เติม ๕ ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์ (๑ หน่วยกิต)
ค ๒๓๒๐๒ คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเติม ๖ ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์ (๑ หน่วยกิต)
๔๘
รายวิชาคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน
ค ๒๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑
คาอธบิ ายรายวชิ า ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง/ ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเร่ืองการเปรียบเทียบจานวนเต็ม เลขยกกาลังที่มีเลขช้ีกาลังเป็นจานวนเต็ม
การเขียนแสดงจานวนให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ การบวก การลบ การคูณ การหารจานวนเต็ม
การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณการหารจานวนเต็ม การตรวจสอบคาตอบ
ความสมเหตุสมผลท่เี กิดจากการบวก การลบ การคูณ การหารของจานวนเตม็ ความสมั พันธข์ องการบวกกับ
การลบ การคูณกับการหารจานวนเต็ม ความหมายและการหาผลลัพธ์ท่ีเกิดจากการคูณ และการหารเลข
ยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็ม การหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนับ สมบัตขิ องจานวนเต็ม และ
การนาไปใช้ในการแก้โจทย์ปัญหา พ้ืนฐานทางเรขาคณิตเก่ียวกับการสร้างมุม การแบ่งส่วนของเส้นตรง
การสร้างรูปทางเรขาคณิตสองมิติ และสมบัติทางเรขาคณิต ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับความน่าจะเป็น
ของเหตุการณ์
โดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือโจทย์ปัญหาท่ีส่งเสริมการพัฒ นาทักษะกระบวนการ
ทางคณิตศาสตร์ในการคิดคานวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การส่ือสาร การส่ือ
ความหมาย และการนาเสนอ
เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีระเบียบวินัยมุ่งมั่นในการทางาน
อย่างมีระบบ ประหยดั ซ่ือสัตย์ มวี ิจารณญาณ รู้จกั นาความรู้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดารงชีวติ ได้อย่างพอเพียง
รวมทั้งมีเจตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์
ตัวชีว้ ดั
ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2
ค 1.2 ม.1/1, ม.1/3 , ม.1/4
ค 1.4 ม.1/1
ค 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ค 5.2 ม.1/1
ค 6.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
รวม 16 ตวั ชว้ี ดั
๔๙
รายวชิ าคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน
ค ๒๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑
คาอธบิ ายรายวิชา ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง/ ๑.๕ หน่วยกิต
ศกึ ษาความรู้เกี่ยวกบั เร่อื งการเปรียบเทียบเศษส่วนและทศนิยม การบวก การลบ การคูณ การหาร
เศษส่วนและทศนิยม การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับเศษส่วนและทศนิยม การตรวจคาตอบ ความสมเหตุสมผล
ทเี่ กดิ จากการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วนและทศนิยม ความสมั พันธ์ของการบวกกับการลบ การคูณ
กับการหารของเศษส่วนและทศนิยม การประมาณค่าและการนาไปใช้ รูปเรขาคณิตสามมิติ การมองภาพ
เรขาคณิตด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน การสร้างรูปเรขาคณิตสามมิติจากรูปลูกบาศก์ สมการตัวแปรเดียว
ดกี รีหนึ่ง การแกส้ มการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียวและการแก้โจทย์ปญั หา กราฟเส้นตรงในระบบพกิ ัดฉาก
โดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือโจทย์ปัญหาที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการ
ทางคณิตศาสตร์ในการคดิ คานวณ การให้เหตุผล การวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหา การสอื่ สาร การส่ือความหมาย
และการนาเสนอ
เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีระเบียบวินัยมุ่งมั่นในการทางาน
อย่างมีระบบ ประหยัด ซ่ือสัตย์ มีวิจารณญาณ รู้จักนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดารงชีวิตได้อย่างพอเพียง
รวมทั้งมีเจตคตทิ ่ีดีตอ่ คณติ ศาสตร์
ตวั ช้วี ัด
ค 1.1 ม.1/1
ค 1.2 ม.1/2, ม.1/3
ค 1.3 ม.1/1
ค 3.1 ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ค 4.1 ม.1/1
ค 4.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ค 6.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ค 6.1 ม.1/4, ม. 1/5, ม.1/6
รวม 19 ตัวชี้วัด