The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้
“รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต”
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bangplamaschool, 2022-07-09 22:51:19

แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

แผนการจัดการเรียนรู้
“รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต”
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

แผนการจดั การเรียนรู

“รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การปอ งกนั การทุจรติ ”
ระดับช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๒

สาํ นักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง ชาติ
รว มกับ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๖๑

แผนการจดั การเรยี นรู้

“รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกนั การทุจริต”
ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒

ส�ำ นกั งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ
ร่วมกับ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศักราช ๒๕๖๑

แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพมิ่ เติม การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒

พมิ พ์ครัง้ ที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๒
จ�ำนวนพิมพ์ ๓๑,๖๐๒ เลม่

ผ้จู ัดพมิ พ์ สำ� นักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ
ร่วมกบั สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน

พมิ พท์ ่ ี ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ� กัด สาขา ๔
๑๔๕ , ๑๔๗ ถ.เลย่ี งเมอื งนนทบุรี ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ๑๑๐๐๐
โทร. ๐ ๒๕๒๕ ๔๘๐๗-๙ , ๐ ๒๕๒๕ ๔๘๕๓-๔ โทรสาร ๐ ๒๕๒๕ ๔๘๕๕
E-mail : [email protected] www.co-opthai.com





สารบญั

หน้า
โครงสรา้ งรายวิชา ๑
หน่วยที่ ๑ การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ๓
หน่วยท่ี ๒ ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ๕๘
หน่วยท่ี ๓ STRONG : จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจรติ ๘๑
หน่วยที่ ๔ พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ สงั คม ๑๑๖
ภาคผนวก ๑๖๗
l คำ�สง่ั คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ ๖๔๖/๒๕๖๐ เรอื่ ง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจดั ทำ� ๑๖๘
หลักสตู รหรอื ชดุ การเรยี นรู้และสอ่ื ประกอบการเรียนรู้ ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ
l รายชอื่ คณะทำ�งานจัดทำ�หลกั สตู รหรอื ชุดการเรียนรู้และส่อื ประกอบการเรียนร ู้ ๑๗๒
ด้านการป้องกนั การทจุ รติ กล่มุ การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
l รายช่ือคณะบรรณาธกิ ารกิจหลกั สตู รหรอื ชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรยี นรู ้ ๑๗๖
ด้านการป้องกันการทุจรติ กลุ่มการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน
l รายชอ่ื คณะผู้ประสานงานการจดั ทำ�หลักสูตรหรือชดุ การเรยี นรู้และส่อื ประกอบการเรยี นรู้ ๑๗๘
ด้านการปอ้ งกนั การทุจรติ กลุม่ การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน สำ�นกั งาน ป.ป.ช.



โครงสร้างรายวชิ า ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๒

ลำ�ดบั หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง จ�ำ นวน
ชว่ั โมง

๑. การคิดแยกแยะระหวา่ ง ๑. การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน ๑๖
ผลประโยชน์ส่วนตนและผล และผลประโยชนส์ ่วนรวม
ประโยชนส์ ่วนรวม ๑.๑ การคิดแยกแยะของใช้ส่วนตนภายในโรงเรียนและ

ของใช้สว่ นรวมภายในโรงเรยี น
๑.๒ การใชส้ ถานที่ส่วนรวมในโรงเรียนเพ่ือประโยชน์ส่วน
ตนและประโยชน์สว่ นรวม
๒. การเปรียบเทียบผลประโยชนส์ ่วนตนและประโยชน์
ส่วนรวมในโรงเรียน
๓. ระบบคดิ ฐานสอง
๓.๑ พฤติกรรมระบบคิดฐานสอง ในระดบั โรงเรยี น
๓.๒ การประยกุ ต์ใช้ระบบคดิ ฐานสอง ในระดบั โรงเรยี น
๔. พฤติกรรมระบบคดิ ฐานสิบในระดบั โรงเรียน
๕. ผลของพฤตกิ รรมระบบคดิ ฐานสบิ ทส่ี ง่ ผลในระดบั โรงเรยี น

๒. ความละอายและความไม่ทนตอ่ ๑. ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริตเกี่ยวกับ ๖
การทจุ รติ ๑.๑ การทำ�การบา้ น
๑.๒ การทำ�เวร
๑.๓ การสอบ
๑.๔ กิจกรรมนกั เรียน (การปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีในโรงเรยี น)
๒. กจิ กรรมทปี่ ฏบิ ัตใิ นโรงเรียนและส่งผลให้เกดิ ความละอาย
และความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต
๓. ผลดขี องการปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูล้ ะอายและไม่ทนตอ่ การทุจรติ
๔. ผลเสยี ของการปฏบิ ัติตนไมเ่ ป็นผู้ละอายและไมท่ นต่อ
การทจุ ริต
๕. แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ ผมู้ คี วามละอายและไม่ทนต่อ
การทจุ รติ (ระดับโรงเรยี น)

ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ 1

ล�ำ ดับ หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง จ�ำ นวน
๓. STRONG : จติ พอเพยี ง ช่ัวโมง
๑. การใช้นํ้า ๘
ต้านทจุ รติ ๒. การใช้ไฟฟ้า
๓. ขยะ
๔. พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบ ๔. การเลือกตงั้ ประธานนกั เรียน
ต่อสงั คม ๕. การรับประทานอาหาร
๑. ความหมายของสิทธแิ ละหน้าทีข่ องพลเมือง ๑๐
๒. ยกตัวอยา่ งสทิ ธิและหนา้ ทข่ี องพลเมอื ง
๓. การจำ�แนกสิทธแิ ละหนา้ ทีใ่ นโรงเรยี น
๔. สทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องตนเองในโรงเรยี น
๔.๑ สทิ ธทิ ไ่ี ดร้ บั ในโรงเรยี น (หนงั สอื , อาหาร/นม, อปุ กรณ์
ฯลฯ)
๔.๒ หนา้ ท่ีทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ใิ นโรงเรยี น
๕. ความเปน็ พลเมืองในโรงเรียน
๕.๑ การปฏบิ ตั ิตนตามกฎ ระเบยี บ กตกิ าของโรงเรยี น
๕.๒ การต่อต้านการทุจรติ ในโรงเรยี น
รวม ๔๐

2 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกนั การทุจริต”

หนว่ ยที่ ๑

การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม

แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี ๑ ช่ือหนว่ ย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน เวลา ๒ ช่ัวโมง
และผลประโยชนส์ ว่ นรวมในโรงเรยี น

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มีความร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
๑.๒ สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของผลประโยชนส์ ่วนตนได้
๒.๒ นักเรียนสามารถบอกความหมายของผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๒.๓ นักเรียนสามารถแยกแยะผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
๑) ผลประโยชนส์ ว่ นตน หมายถงึ การคำ� นงึ ถึงตัวเอง ความตอ้ งการสว่ นบคุ คล
๒) ผลประโยชนส์ ว่ นรวม หมายถงึ การค�ำนงึ ถึงบคุ คลอน่ื มากกวา่ ตนเอง
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ )
๑) ความสามารถในการสือ่ สาร ฟัง พดู เขียน
๒) ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ สรุป
๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑) รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒) ความซ่อื สัตย์สจุ รติ
๔. กิจกรรมการเรียนรู้
๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้
ชวั่ โมงที่ ๑
๑) ครใู หน้ กั เรยี นอาสาสมคั รออกมาเลา่ ประสบการณเ์ กย่ี วกบั การมสี ว่ นรว่ มในการทำ� คณุ ประโยชน์
กบั กจิ กรรมของโรงเรยี นทนี่ กั เรยี นเคยปฏบิ ตั แิ ลว้ ใหเ้ พอ่ื นๆ แสดงความคดิ เหน็ วา่ การกระทำ� ดงั กลา่ วมปี ระโยชน์
ต่อตวั นกั เรียนและโรงเรยี นหรือไม่ อยา่ งไร

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ 3

๒) ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละเทา่ ๆ กัน
๓) ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรเู้ กีย่ วกบั ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
๔) ครูให้นักเรียนแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมโดยให้นักเรียนจัดกลุ่ม
รูปภาพกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมมากลุ่มละ ๓-๕ ภาพ แล้วร่วมกันสนทนาและ
สรปุ ผลดงั น้ี
๔.๑ จากภาพเป็นการทำ� กิจกรรมท่เี ปน็ ผลประโยชน์สว่ นตน
๔.๒ จากภาพเปน็ การทำ� กิจกรรมท่ีเปน็ ผลประโยชน์สว่ นรวม
๔.๓ นักเรยี นคดิ วา่ กิจกรรมเหล่านม้ี คี วามสำ� คญั อย่างไร
๔.๔ ถ้าทุกคนค�ำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตนในการท�ำส่ิงต่างๆ
นักเรียนคิดวา่ จะเกดิ ผลดีอย่างไรบา้ ง
๕) ให้สมาชิกในกลุม่ รว่ มกันสรปุ เกย่ี วกบั ประโยชนส์ ่วนตนและประโยชนส์ ่วนรวม
๖) ครูให้ความรู้เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมเพ่ือเป็นการเพิ่มพูน
ความรอู้ ีกคร้งั หน่งึ
ชัว่ โมงที่ ๒
๗) ให้ตัวแทนนักเรียนออกมาน�ำเสนอผลงานผังความคิดโดยแยกผลประโยชน์ส่วนตนและผล
ประโยชน์สว่ นรวมในโรงเรยี นหนา้ ชั้นเรยี น
๘) น�ำผลงานผังความคิดติดบอร์ดประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ให้เพื่อนนักเรียนช้ันเรียนอื่นๆ ได้
ศึกษาตอ่ ไป
๔.๒ สือ่ การเรียนรู/้ แหล่งเรียนรู้
๑) ใบความรู้ เรือ่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
๒) ภาพกจิ กรรมผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
๓) กระดาษ
๔) สี กระดาษ กาว
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมนิ
๑) ตรวจผลงานการท�ำผงั ความคดิ เรื่อง ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
๒) ประเมนิ ผลการทำ� งานกลุม่
๕.๒ เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน
๑) แบบประเมินผลงานการท�ำผังความคิด เรื่อง ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
๒) แบบประเมินผลการท�ำงานกลุ่ม
๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป
4 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพมิ่ เตมิ การป้องกนั การทจุ ริต”

๖. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
ลงช่อื ........................................ครูผสู้ อน
(.......................................)
๗. ภาคผนวก
๗.๑ ใบความรู้
๗.๒ ภาพนักเรยี นทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั ในโรงเรยี น
๗.๓ แบบประเมนิ ผลงานผงั ความคดิ
๗.๔ แบบประเมินการท�ำงานกลุ่ม
๗.๕ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ 5

ใบความรู้
เรื่อง ผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม

ผลประโยชน์สว่ นตน หมายถงึ การค�ำนงึ ถงึ ตัวเอง ความตอ้ งการส่วนบุคคล
ผลประโยชนส์ ว่ นรวม หมายถึง การค�ำนงึ ถึงบคุ คลอน่ื มากกว่าตนเอง
การกระท�ำเพื่อประโยชน์ส่วนตน เช่น
การจอดรถบนทางเท้า การขายของบนทางเทา้ การทงิ้ ขยะโดยไมแ่ ยกขยะ
การปลกู พชื ในท่สี าธารณะ
การกระท�ำเพ่อื ประโยชน์สว่ นรวม เช่น
การปลกู ต้นไม้ในสวนสาธารณะ ชว่ ยเกบ็ ขยะทพ่ี บเห็นในบริเวณโรงเรยี น
การดแู ลรักษาศาสนสถานในชมุ ชน

6 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

ภาพนักเรยี นท�ำกจิ กรรมรว่ มกันในโรงเรยี น

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ 7

แบบประเมนิ ผลงานผงั ความคดิ

เรื่อง ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม

เลขที่ ช่ือ - สกุล คะแนนที่ได้ สรปุ ผล
ผ่าน ไมผ่ า่ น









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕

สรุป

ลงชื่อ.........................................ผู้ตรวจ
(........................................)
เกณฑก์ ารประเมนิ
นกั เรยี นไดค้ ะแนนร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ถือว่า ผา่ น

8 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การปอ้ งกันการทจุ รติ ”

แบบประเมินผลการท�ำงานกล่มุ

เรอื่ ง .................................................................................

รายการประเมิน

ที่ ชื่อกลมุ่ ความ การแสดง การรบั ฟงั การรว่ ม การ รวม
ร่วมมือ ความ ผอู้ นื่ ปรบั ปรงุ น�ำเสนอ คะแนน
คดิ เห็น ผลงาน ผลงาน

๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๑๐ คะแนน

ลงชื่อ.........................................ผตู้ รวจ
(........................................)
เกณฑ์การประเมิน
นกั เรียนได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๒ 9

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ค�ำช้แี จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วใส่เคร่ืองหมาย 
ลงในช่องทีต่ รงกับระดับคะแนน

คณุ ลักษณะอันพงึ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
ประสงคด์ ้าน ๓๒๑

รักชาติ ศาสน์ ๑. ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
กษตั ริย์
๒. เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามัคคี ปรองดองและเป็นประโยชน์
ตอ่ โรงเรยี น

๓. เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา

๔. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กยี่ วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ตามทโ่ี รงเรยี น
จดั ขนึ้

ซื่อสตั ย์ สุจริต ๑. ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง

๒. ปฏิบัตใิ นส่ิงทีถ่ ูกตอ้ ง

ลงชอ่ื ............................................ผ้ปู ระเมิน
(...........................................)

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม�่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติชัดเจนและบ่อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครัง้

10 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การป้องกันการทจุ รติ ”

แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี ๑ ชอ่ื หน่วย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒ เร่ือง การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน เวลา ๒ ชั่วโมง
และผลประโยชนส์ ว่ นรวมในโรงเรยี น

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของของใช้สว่ นตนภายในโรงเรยี นได้
๒.๒ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของของใชส้ ว่ นรวมภายในโรงเรียนได้
๒.๓ นกั เรยี นสามารถแยกแยะของใช้สว่ นตนและของใช้ส่วนรวมที่ใช้ในโรงเรยี นได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
๑) ของใชส้ ว่ นตนภายในโรงเรยี น หมายถึง สิ่งของท่ีใชเ้ ฉพาะบุคคลท่อี ยู่ในบริเวณโรงเรียน เชน่
แกว้ นํา้ กระเป๋านกั เรยี น รองเท้า เปน็ ต้น
๒) ของใชส้ ่วนรวมภายในโรงเรยี น หมายถึง สิง่ ของทีใ่ ช้ร่วมกันภายในโรงเรียน เช่น โตะ๊ อาหาร
เครอื่ งเล่นสนาม อุปกรณก์ ฬี า
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด)
๑) ความสามารถในการสือ่ สาร อา่ น ฟงั พดู เขยี น
๒) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สรุป
๓.๓ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ความซื่อสัตยส์ จุ ริต
๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ขนั้ ตอนการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี ๑
๑) นักเรียนชมวีดิทัศน์นิทาน เรื่อง “ของเล่นของใช้” แล้วให้นักเรียนฝึกต้ังค�ำถาม คนละ
๑ คำ� ถาม
๒) นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เพ่ือหาคำ� ตอบจากนิทานโดยมีครคู อยให้ค�ำปรกึ ษา
๓) ครูอธบิ ายความหมายของของใช้สว่ นตนและของใชส้ ่วนรวมภายในโรงเรยี น
๔) นักเรียนอ่านออกเสียงจากใบความรู้เกี่ยวกับของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวม โดยครูอ่าน
ให้นกั เรียนฟังและนกั เรยี นอา่ นตามทีละประโยค
๕) นักเรียนยกตัวอย่างของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมที่พบเห็นได้ในชีวิตประจ�ำวันภายใน
โรงเรียน

ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ 11

๖) นักเรียนแยกแยะของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมที่ใช้ภายในโรงเรียน โดยการท�ำ
ใบกิจกรรมที่ ๑ ระบายสีภาพของใช้ที่เป็นของใช้ส่วนตนด้วยสีแดง และระบายสีภาพของใช้ที่เป็นของใช้
สว่ นรวมดว้ ยสีเขียว
๗) ครูสรุปองค์ความรูเ้ ก่ยี วกับของใชส้ ่วนตนและของใช้ส่วนรวม ใหก้ บั นกั เรียนอกี คร้ัง
ชัว่ โมงที่ ๒
๘) นักเรียนออกมาน�ำเสนอผลการท�ำใบกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง ของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวม
หน้าชนั้ เรียน
๙) จัดท�ำข้อตกลงการใช้งานของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมภายในโรงเรียน พร้อมปฏิบัติ
ตามข้อตกลง เช่น ไมห่ ยิบของใช้ภายในโรงเรียนมาใช้เพือ่ ประโยชนส์ ่วนตน เม่อื ใชง้ านของใชน้ ั้นแล้ว ควรเก็บไว้
ท่เี ดมิ เป็นตน้
๔.๒ สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้
๑) นิทาน เรอ่ื ง ของเลน่ ของใช้
๒) ใบความรู้ เรอ่ื ง ของใชส้ ว่ นตนและของใช้ส่วนรวมภายในโรงเรยี น
๓) ใบกิจกรรมท่ี ๑ เร่ือง ของใชส้ ่วนตนและของใชส้ ่วนรวม
๕. การประเมินผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมิน
๑) ตรวจใบงาน
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน
๕.๒ เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ
๑) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน
๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น
๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ
นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป
๖. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................ครผู ู้สอน
(.......................................)
๗. ภาคผนวก
๗.๑ ใบความรู้
๗.๒ ใบงาน
๗.๓ แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
๗.๔ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น
๗.๕ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

12 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่มิ เตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”

ใบความรู้
เรอื่ ง ของใชส้ ่วนตนและของใชส้ ่วนรวม

ของใช้สว่ นตน หมายถงึ ของใชส้ ว่ นตวั มมี ากมายหลายชนิด เช่น แปรงสฟี ัน
ยาสีฟนั แก้วน้ํา กางเกง ฯลฯ
ของใช้ส่วนรวม หมายถงึ สิง่ ของใดๆ ทส่ี ามารถนำ� มาเพื่อใช้สร้างประโยชน์
ร่วมกันในชวี ิตประจ�ำวนั
ของใชส้ ่วนรวมมมี ากมายหลายชนิด เชน่ ชน้ั วางรองเทา้ พัดลมในหอ้ งเรยี น
ไม้กวาด ไมถ้ ูพนื้

ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ 13

ใบงานท่ี ๑
เรอ่ื ง ของใช้สว่ นตนและของใช้ส่วนรวม

ค�ำช้แี จง ให้นักเรียนระบายสีภาพของใช้ท่ีเป็นของส่วนตัวด้วยสีแดง และระบายสีภาพของที่ใช้ส่วนรวม
ด้วยสเี ขยี ว

14 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขที่ ชื่อ - สกลุ คะแนนทีไ่ ด้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน

สรุป

ลงชอ่ื .........................................ผู้ตรวจ
(........................................)

เกณฑก์ ารประเมนิ
นกั เรียนได้คะแนนรอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถอื ว่า ผ่าน (ไดค้ ะแนน ๘ คะแนนข้ึนไป)

ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ 15

แบบสงั เกตพฤติกรรมตามขอ้ ตกลงในโรงเรยี น

ชอื่ - สกลุ ........................................................ชัน้ ...................ภาคเรยี นที่...........ปีการศึกษา...................

ค�ำชี้แจง ให้ใสเ่ คร่อื งหมาย  ลงในชอ่ งวา่ งที่ตรงกบั พฤตกิ รรมท่ีเกดิ ขนึ้ จริง

ระดับการปฏบิ ัติ(คะแนน)

ที่ ข้อตกลง ปฏบิ ัติ ไม่ปฏิบตั ิ
(๑ คะแนน) (๐ คะแนน)
๑.
๒.
๓.
๔.
๕.

รวมคะแนน

ลงชือ่ .........................................ผตู้ รวจ
(.........................................)

เกณฑ์การประเมนิ

ช่องคะแนน ผลการประเมิน
๓ - ๕ คะแนน ผา่ น
๐ - ๒ คะแนน ไมผ่ ่าน

16 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เติม การป้องกนั การทจุ ริต”

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ค�ำชแ้ี จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วใส่เคร่ืองหมาย 
ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะอนั พึง รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
ประสงค์ดา้ น ๓๒๑

ซอ่ื สตั ย์ สุจริต ๑. ให้ขอ้ มูลทถี่ ูกต้อง และเป็นจริง

๒. ปฏบิ ตั ิในส่ิงที่ถกู ต้อง



ลงช่อื ............................................ผปู้ ระเมิน
(...........................................)

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและสมำ่� เสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครัง้

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒ 17

แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี ๑ ช่ือหน่วย การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง การคิดแยกแยะการใชส้ ถานที่ส่วนรวมในโรงเรียน เวลา ๒ ชว่ั โมง
เพือ่ ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๒.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของสถานทีส่ ่วนตนในโรงเรียนได้
๒.๒ นักเรียนสามารถบอกความหมายของสถานที่ส่วนรวมในโรงเรียนได้
๒.๓ นกั เรยี นสามารถแยกแยะการใช้สถานทส่ี ่วนรวมในโรงเรียนเพอื่ ประโยชน์สว่ นตนและสว่ นรวมได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
๑) สถานทสี่ ่วนตนในโรงเรียน หมายถึง สถานทท่ี ่ีใชเ้ ฉพาะบุคคลท่ีอยู่ในโรงเรยี น เช่น โต๊ะ เกา้ อ้ี
๒) สถานท่ีส่วนรวมในโรงเรียน หมายถึง สถานท่ีท่ีใช้ร่วมกันท่ีอยู่ในโรงเรียน เช่น ห้องสมุด
หอ้ งคอมพิวเตอร์ สนามกฬี า สนามเด็กเลน่ โรงอาหาร
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กดิ )
๑) ความสามารถในการส่ือสาร อ่าน ฟงั พูด เขยี น
๒) ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ จดั กล่มุ สรุป
๓.๓ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑) ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
๒) มีวนิ ัย
๔. กิจกรรมการเรียนรู้
๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้
ชั่วโมงที่ ๑
๑) ครูต้ังค�ำถามให้นักเรียนตอบปริศนาค�ำทายเกี่ยวกับสถานที่ส่วนตนและสถานท่ีส่วนรวม
ภายในชุมชน ดงั น้ี
๑.๑ อะไรเอย่ มีประตหู น้าตา่ ง ใชพ้ กั อาศยั มีไว้เพอ่ื หลบแดดหลบฝน
๑.๒ อะไรเอ่ย มีลานกวา้ งๆ มีชิงชา้ มีเครื่องเล่น เดก็ ๆ ชอบไป
๒) ครูน�ำภาพที่เป็นสถานท่ีส่วนตนและสถานท่ีส่วนรวมภายในชุมชนมาให้นักเรียนดู จากน้ัน
ครตู ั้งประเด็นค�ำถาม เช่น
๒.๑ นักเรียนทราบหรอื ไมว่ า่ สถานท่ีน้ีเรยี กวา่ อะไร

18 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพิม่ เติม การปอ้ งกันการทุจริต”

๒.๒ นักเรียนเคยไปสถานทแ่ี ห่งน้หี รอื ไม่
๒.๓ นักเรยี นคิดว่าสถานท่เี หลา่ น้ีมไี ว้เพือ่ อะไร
๓) แบ่งนักเรียนเป็นกลุม่ ๆ ละ ๕-๖ คน
๔) ครูให้นักเรียนค้นหาสถานท่ีส่วนตนและสถานที่ส่วนรวมภายในชุมชนโดยให้นักเรียนค้นคว้า
ข้อมูลจากอินเทอร์เนต็ ในห้องคอมพวิ เตอรข์ องโรงเรยี นและพมิ พภ์ าพออกมา
๕) ครูให้นักเรียนแยกแยะภาพท่ีเป็นสถานที่ส่วนตนและภาพที่เป็นสถานที่ส่วนรวมภายใน
ชุมชน ตัดภาพแลว้ ติดลงในกระดาษ ทำ� เป็นหนังสือเลม่ เล็กและตกแตง่ ให้สวยงาม
๖) ใหส้ มาชกิ ในกล่มุ รว่ มกนั สรุปความหมายของสถานทส่ี ว่ นตนและสถานทส่ี ว่ นรวมในชุมชน
๗) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เกีย่ วกบั สถานทสี่ ว่ นตนและสถานที่ส่วนรวมในชุมชน
ช่ัวโมงท่ี ๒
๑) นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนออกมานำ� เสนอผลการท�ำหนังสอื เล่มเลก็ เรอื่ ง สถานท่สี ่วนตน
และสถานทสี่ ่วนรวมในชุมชน
๒) นักเรียนน�ำผลงานไปจัดแสดงในห้องสมุดโรงเรียน เพ่ือเผยแพร่และแนะน�ำสถานที่ส่วนตน
และสถานที่สว่ นรวมในชมุ ชนใหก้ ับนักเรยี นคนอื่นๆ
๔.๒ สอ่ื การเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้
๑) ภาพสถานทสี่ ว่ นตนและสถานที่สว่ นรวมในชมุ ชน
๒) คอมพิวเตอร์
๓) ภาพสถานท่ีตา่ งๆ จากอนิ เทอร์เน็ต
๔) กระดาษ
๕) สไี ม้
๕. การประเมินผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมนิ
๑) ประเมินผลการทำ� หนังสอื เล่มเลก็
๒) ประเมินผลการทำ� งานกลมุ่
๕.๒ เครอื่ งมือท่ใี ชใ้ นการประเมิน
๑) แบบประเมนิ ผลการทำ� หนังสือเล่มเล็ก
๒) แบบประเมนิ ผลการท�ำงานกล่มุ
๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน
๑) นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป
๒) นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป

ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ 19

๖. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................ครูผ้สู อน
(.......................................)
๗. ภาคผนวก
๗.๑ ปริศนาค�ำทาย
๗.๒ แบบประเมินผลการท�ำหนงั สอื เล่มเล็ก
๗.๓ แบบประเมินผลการท�ำงานกลุม่
๗.๔ แบบประเมินผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

20 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริต”

ปรศิ นาค�ำทายเกย่ี วกับสถานท่ี

อะไรเอย่ ? มีประตูหนา้ ต่าง ใช้นัง่ อ่านเขียน เรียนสนกุ ทกุ วนั

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ 21

อะไรเอ่ย? มีลานกวา้ ง มีชิงชา้ มีเครอื่ งเล่น เด็กๆ ชอบเล่น
แหลง่ ที่มา
https://www.google.co.th/search?rlz=1C1CHBF_thTH735TH735&tbm=isch&sa=1&ei=q64d
WvilGIfavATe6YiQDA&q=ภาพสนามเดก็ เลน่ &oq=ภาพสนามเดก็ เลน่ &gs_l=psy-ab.3...316070.332
22 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิม่ เตมิ การป้องกันการทจุ รติ ”

แบบตรวจให้คะแนนหนงั สอื เลม่ เล็ก

รายการประเมนิ

ท่ี ชือ่ - สกลุ เนือ้ หาสาระ ภาพ ความคิด รูปเลม่ รวมคะแนน
ประกอบ สรา้ งสรรค์ สวยงาม

๓ คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๑๐ คะแนน

ลงชือ่ .........................................ผตู้ รวจ
(........................................)
เกณฑก์ ารตัดสิน
นักเรยี นได้ ๘ คะแนนขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน

ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ 23

แบบประเมนิ ผลการท�ำงานกลุม่

รายการประเมนิ

ท่ี ช่อื กลุ่ม ความ การแสดง ความ การรบั ฟัง การรว่ ม รวม
ร่วมมือ ความ ตัง้ ใจ ผอู้ ืน่ ปรบั ปรุง คะแนน
คดิ เห็น ผลงาน

๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๑๐ คะแนน

ลงชอ่ื .........................................ผู้ตรวจ
(........................................)
เกณฑก์ ารประเมนิ
นักเรียนได้คะแนนรอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือว่า ผ่าน

24 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกันการทจุ ริต”

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ค�ำช้ีแจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วใส่เครื่องหมาย 
ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

คณุ ลักษณะอนั พงึ รายการประเมิน ระดับคะแนน
ประสงคด์ า้ น ๓๒๑

ซื่อสตั ย์ สุจรติ ๑. ใหข้ ้อมลู ทถี่ กู ต้อง และเปน็ จริง

๒. ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงท่ถี กู ตอ้ ง

มวี ินยั ๑. ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั
มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจ�ำวนั

ลงชือ่ ............................................ผ้ปู ระเมิน
(...........................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม�ำ่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครงั้ ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตบิ างครัง้

ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ 25

แผนการจดั การเรียนรู้
หน่วยที่ ๑ ช่อื หนว่ ย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง พฤติกรรมระบบคิดฐาน ๒ ในระดับโรงเรยี น เวลา ๒ ชว่ั โมง

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
๑.๒ สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวมได้
๒. จุดประสงค์การเรียนรู้
นกั เรยี นสามารถบอกพฤติกรรมตัวอย่างทเี่ ป็นระบบคิดฐาน ๒ ในระดับโรงเรียนได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
“ระบบคดิ ฐาน ๒ (Digital)” คอื ระบบคิดทีส่ ามารถแยกเรื่องประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
ส่วนรวมออกจากกันได้อย่างชัดเจนไม่น�ำมารวมกัน สิ่งไหนถูก ส่ิงไหนผิด สิ่งไหนท�ำได้ สิ่งไหนท�ำไม่ได้
ผลประโยชน์ส่วนรวมย่อมส�ำคญั กวา่ ผลประโยชนส์ ่วนตน ควรยดึ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมเปน็ หลัก
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ )
๑) ความสามารถในการส่อื สาร อ่าน ฟงั พูด เขียน
๒) ความสามารถในการคิด จัดกลุม่ สรปุ
๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์/คา่ นยิ ม
มงุ่ มัน่ ในการทำ� งาน
๔. กิจกรรมการเรียนรู้
๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้
ชว่ั โมงท่ี ๑
๑) ครนู ำ� ป้ายข้อความพฤตกิ รรมตัวอย่าง เรือ่ ง ระบบคดิ ฐาน ๒ ตดิ บนกระดาน
๒) ครูและนกั เรียนอ่านขอ้ ความพฤติกรรมตวั อยา่ ง เรอ่ื ง ระบบคิดฐาน ๒ พรอ้ มกนั จากนน้ั ครู
อธิบายพฤติกรรมดังกล่าวแตล่ ะข้อให้นักเรียนเข้าใจ พร้อมทั้งถามคำ� ถามนักเรียนดังต่อไปน้ี
๒.๑ เหตกุ ารณด์ งั กลา่ วเป็นเหตกุ ารณท์ ี่ดีหรือไม่
๒.๒ พฤติกรรมดังกลา่ วนกั เรียนเคยปฏบิ ัตหิ รอื ไม่
๒.๓ ถา้ มคี นเอาเปรียบนักเรียน นักเรยี นจะรูส้ ึกอย่างไร
๓) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ เพ่ือร่วมกันแยกตัวอย่างพฤติกรรมระบบคิดฐาน ๒ และเขียนลง
ในใบงาน เรอื่ ง การแยกแยะระบบพฤตกิ รรมคิดฐาน ๒
ชัว่ โมงที่ ๒
๔) แต่ละกลุม่ สง่ ตวั แทนนำ� เสนอผลงานจากใบงาน โดยอภิปรายรว่ มกันและสรุปหน้าชน้ั เรยี น
๕) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้พฤติกรรมของระบบคิดฐาน ๒ จากการน�ำเสนอผลงาน
ของนักเรียน

26 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพิ่มเติม การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

๖) ครูสะท้อนความคดิ จากการนำ� เสนอของนักเรียนวา่ พฤตกิ รรมหรือการกระทำ� ใดทเ่ี รา
๗) ให้นักเรียนน�ำป้ายข้อความที่ครูเตรียมไว้ ของตัวอย่างพฤติกรรมของระบบคิดฐาน ๒
มาออกแบบท�ำปา้ ยรณรงค์ในกระดาษบรู๊ฟ
๔.๒ สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
๑) กระดาษบรู๊ฟ
๒) ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง การแยกแยะพฤตกิ รรมระบบคิดฐาน ๒
๓) กระดาษสี/ปากกาเมจิก/สไี ม้/กาว
๔) ป้ายนิเทศ
๕) ป้ายขอ้ ความ ตัวอยา่ ง พฤตกิ รรมของระบบคิดฐาน ๒
๕. การประเมินผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมิน
๑) ตรวจใบงาน
๒) สงั เกตพฤติกรรมนักเรียน
๕.๒ เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ
๑) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน
๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น
๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน
นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
๖. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................ครูผูส้ อน
(.......................................)
๗. ภาคผนวก
๗.๑ ใบงาน
๗.๒ แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน
๗.๓ แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน
๗.๔ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ 27

ใบงาน
เร่อื ง การคิดแยกแยะพฤตกิ รรม ระบบคิดฐาน ๒ ในระดับโรงเรยี น

ค�ำชี้แจง ให้นกั เรยี นอ่านและเลอื กใสข่ ้อความในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง (๑๐ คะแนน)

ตัวอย่างของระบบคดิ ฐาน ๒ เช่น - ใชจ้ กั รยานของตัวเองไปซ้อื ขนมทสี่ หกรณ์โรงเรียน
- ไมใ่ ชร้ ถโรงเรียนไปซ้อื ของท่ตี ลาด - ใช้โทรศพั ทส์ าธารณะโทรหาแม่ใหม้ ารบั ที่โรงเรียน
- ไมใ่ ชโ้ ทรศัพท์โรงเรยี นโทรธุระสว่ นตัว - เอาหนงั สอื กลับมาอ่านทีบ่ า้ นโดยขออนุญาตก่อน
- ไมน่ �ำโทรศพั ท์มาชาร์จทีท่ ำ� งาน - เขา้ แถวรอรบั อาหารกลางวนั
- ไม่น�ำไม้กวาดของโรงเรยี นไปใชท้ ่บี ้าน

ตัวอย่างพฤตกิ รรมของระบบคดิ ฐาน ๒ ไม่ใชพ่ ฤติกรรมของระบบคดิ ฐาน ๒

.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................

คะแนน
......................

ชอ่ื ชั้น เลขท่ี
เกณฑ์การประเมิน
นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ถอื ว่า ผ่าน (ตอบถกู ๘ ข้อ)

28 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพิ่มเตมิ การป้องกันการทุจรติ ”

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน

ชอื่ นกั เรียน................................................................ชน้ั ..............ภาคเรยี นท่ี...........ปีการศกึ ษา..............

ค�ำชีแ้ จง การบนั ทึกใหใ้ ส่เครื่องหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั พฤติกรรมท่เี กิดขึ้นจริง

ที่ พฤติกรรม เปน็ ประจ�ำ ระดบั การปฏบิ ัติ ไมท่ �ำเลย/
(๓) บางคร้งั น้อยครัง้ ไม่ชัดเจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหน้าท่กี ารงาน
๒ ตงั้ ใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ัตหิ น้าท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย
๓ ทำ� งานดว้ ยความเพยี รพยายาม
๔ รู้จักแกป้ ัญหาในการทำ� งานเม่อื มีอุปสรรค
๕ อดทนเพื่อใหง้ านสำ� เร็จตามเปา้ หมาย
๖ ปรับปรุงและพฒั นาการทำ� งานให้ดขี น้ึ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ผูป้ ระเมิน คร ู พ่อแม่/ผปู้ กครอง ตนเอง เพื่อน

ลงช่ือ............................................ผูป้ ระเมิน
(..........................................)

เกณฑ์การประเมนิ

ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสิน

ดีเย่ียม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕ - ๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง
ตำ่� กวา่ ๒ คะแนน

ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๑ - ๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง
ต่�ำกวา่ ๐ คะแนน

พอใช้ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖ - ๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง
ตำ่� กว่า ๐ คะแนน

ปรับปรงุ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐ - ๕ คะแนน

ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ 29

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขที่ ชอื่ - สกลุ คะแนนทไ่ี ด้ สรปุ ผล
สรุป (๑๐ ค�ำแนน) ผา่ น ไมผ่ ่าน









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕



ลงชือ่ .........................................ผู้ตรวจ
(........................................)

เกณฑก์ ารประเมิน
นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือว่า ผ่าน (ตอบถกู ๘ ข้อ)

30 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพิ่มเตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

ค�ำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วใส่เครื่องหมาย 
ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะอันพงึ รายการประเมิน ระดับคะแนน
ประสงค์ดา้ น ๓๒๑

มงุ่ มนั่ ๑. มคี วามตั้งใจและพยายามในการท�ำงานทไ่ี ด้รับ
ในการท�ำงาน มอบหมาย

๒. มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ให้งานสำ� เร็จ



ลงช่ือ............................................ผู้ประเมิน
(...........................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนและสม�่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบางคร้งั

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ 31

แผนการจดั การเรยี นรู้
หน่วยท่ี ๑ ชอ่ื หน่วย การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เร่ือง การประยุกตใ์ ชร้ ะบบคดิ ฐาน ๒ ในระดบั โรงเรยี น เวลา ๒ ชวั่ โมง

๑. ผลการเรียนรู้
มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
นกั เรยี นสามารถนำ� ระบบคิดฐาน ๒ ไปประยกุ ตใ์ ช้ในระดับโรงเรียนได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
ตวั อยา่ ง เหตกุ ารณ์ท่เี กิดขึ้นในชีวิตประจำ� วัน ของระบบคิดฐาน ๒ เช่น
๑) ไม่ใชร้ ถโรงเรยี นไปซื้อของท่ตี ลาด
๒) ไม่ใชโ้ ทรศพั ท์โรงเรยี นโทรธุระส่วนตวั
๓) ไมน่ ำ� โทรศัพทม์ าชาร์จทีท่ �ำงาน
๔) ไมน่ �ำไมก้ วาดของโรงเรียนไปใช้ท่บี า้ น
๕) ทงิ้ ขยะลงในถงั ขยะ
๖) ไม่หยิบของเลน่ ในห้องเรียนกลับไปเลน่ ที่บ้าน
๗) ไมน่ ำ� สง่ิ ของเพ่อื นมาเปน็ ของตนเอง
๘) เลน่ ของเล่นแลว้ ต้องเก็บเข้าที่
๙) ชอบท�ำของใช้สว่ นรวมพังเสียหาย
๑๐) ชอบขีดเขียนตามฝาผนังในห้องเรียน
๑๑) เข้าหอ้ งนํ้าเสรจ็ แล้วไมร่ าดนาํ้ ทกุ คร้งั
๑๒) แทรกแถวเพอ่ื รบั อาหารหรือนม
๑๓) ถอดรองเทา้ แลว้ ไม่เรียงรองเท้าให้เป็นระเบยี บ
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ )
๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร อา่ น ฟัง พูด เขียน
๒) ความสามารถในการคดิ จดั กลุ่ม สรปุ
๓) ความสามรถในการใชท้ ักษะชีวิต
๓.๓ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คา่ นิยม
มุ่งมน่ั ในการทำ� งาน

32 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพม่ิ เตมิ การป้องกันการทจุ ริต”

๔. กจิ กรรมการเรียนรู้
๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้
ช่วั โมงที่ ๑
๑) ครใู หน้ ักเรียนดูวีดิทัศน์ เร่ือง หยิบ
๒) ครอู ธบิ ายเนอื้ เร่อื งในคลิปดังกลา่ วเพือ่ ความเขา้ ใจของนกั เรยี นยิ่งข้นึ
๓) ครตู ง้ั คำ� ถามกบั นกั เรียน ดังต่อไปน้ี
๓.๑ เร่อื งท่ีนักเรยี นดเู กิดขน้ึ ทีไ่ หน และมีตวั ละครใดบ้าง
๓.๒ นักเรียนชอบตวั ละครตัวไหน เพราะอะไร
๓.๓ นักเรยี นอยากเป็นเหมือนตัวละคร (นกั เรียนในคลปิ ) นั้นไหม เพราะอะไร
๔) แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มพร้อมแจกใบความรู้ เร่ือง ตัวอย่างระบบคิดฐาน ๒ ให้นักเรียน
อา่ นพร้อมใหร้ ่วมกนั ระดมความคดิ ว่านักเรยี นสามารถน�ำพฤตกิ รรมระบบคิดฐาน ๒ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นโรงเรียน
ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
๕) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ วิธกี ารน�ำระบบคิดฐาน ๒ ไปประยุกต์ใช้ในโรงเรียน
ชว่ั โมงท่ี ๒
๖) ครูแจกใบงาน เรื่อง “ระบบคิดฐาน ๒” ให้นักเรียนทุกคนท�ำพร้อมทั้งร่วมกันแสดง
ความคิดเหน็
๗) ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ตวั อยา่ งของระบบคดิ ฐาน ๒ จากการนำ� เสนอว่าสิง่ ใดควรหรอื ไม่
ควรปฏบิ ตั ิ และมีผลกระทบกบั คนรอบข้างอยา่ งไรบ้าง
๘) ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนา โดยน�ำสถานการณท์ ่เี กิดขึน้ ในโรงเรยี นของระบบคิดฐาน ๒
๙) ใหน้ กั เรยี นเขยี นสง่ิ ท่จี ะปฏบิ ัติลงในใบงาน เร่อื ง ระบบคดิ ฐาน ๒ หลังจากการเรียนการสอน
คนละ ๓ ขอ้ แลว้ ตดิ ทปี่ า้ ยนิเทศหน้าห้องเรยี น
๔.๒ สือ่ การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรียนรู้
๑) แบบส�ำรวจเรอ่ื ง ระบบคดิ ฐาน ๒
๒) วีดโี อ เร่ือง หยบิ
๓) ปา้ ยนิเทศ
๔) ใบความรู้ เรือ่ ง ตวั อยา่ งระบบคดิ ฐาน ๒
๕) ใบงาน เร่ือง ระบบคิดฐาน ๒
๕. การประเมินการเรยี นรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ
๑) ตรวจใบงาน
๒) การสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน

ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ 33

๕.๒ เครือ่ งมือทใี่ ชใ้ นการประเมิน
๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น
๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน
นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น
๖. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงช่ือ........................................ครผู ้สู อน
(.......................................)
๗. ภาคผนวก
๗.๑ ใบความรู้
๗.๒ แบบสำ� รวจ
๗.๓ ใบงาน
๗.๔ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน
๗.๕ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

34 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิม่ เตมิ การป้องกันการทจุ ริต”

ใบความรู้
เรื่อง ตัวอย่างระบบคิดฐาน ๒

นกั เรียนอยา่ ทำ� ไม่รบั ของขวญั จาก
นะครับ ผ้มู าติดตอ่ ราชการ

เพราะไม่นา่ รกั เลย ไม่ใช้รถหลวง
ในเรอื่ งส่วนตัว

เอาโทรศพั ทห์ ลวงมาโทร ไมใ่ ชโ้ ทรศพั ท์หลวง
ตดิ ตอ่ ธุระส่วนตัว โทรธรุ ะสว่ นตัว

ใช้นา้ํ ประปาหลวง ไม่น�ำอปุ กรณไ์ ฟฟา้
มาล้างรถสว่ นตัว ส่วนตัวมาชาร์จท่ีท�ำงาน

ไมน่ �ำวัสดุ
ครุภณั ฑห์ ลวง
ไปใช้ที่บ้าน

ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๒ 35

แบบส�ำรวจ
เรอื่ ง ระบบคิดฐาน ๒

ค�ำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนใสเ่ ครอ่ื งหมาย  ในขอ้ ท่นี กั เรยี นเคยพบเจอหรอื เคยมปี ระสบการณ์มาแลว้

ข้อ รายการพฤตกิ รรม การปฏบิ ตั ิ
เคย ไม่เคย
๑ น�ำไม้กวาดของโรงเรยี นไปใชท้ ีบ่ ้าน
๒ หยบิ ของเลน่ ในหอ้ งเรยี นกลับไปเลน่ ท่บี ้านโดยไมไ่ ด้รับอนุญาตจากครู
๓ น�ำสง่ิ ของเพ่ือนมาเปน็ ของตนเอง
๔ ชอบท�ำลายของใชส้ ่วนรวมใหพ้ งั เสยี หาย
๕ ชอบขีดเขยี นตามฝาผนังในหอ้ งเรียน
๖ น�ำเก้าอีข้ องโรงเรียนไปใชใ้ นงานแตง่ ของญาติ
๗ ไมน่ ำ� โทรศัพท์สว่ นตัวมาชาร์จแบตเตอรีท่ โ่ี รงเรียน
๘ ไมเ่ อากรรไกรของโรงเรียนให้แมย่ มื
๙ แทรกแซงแถวเพอื่ รอรับอาหาร
๑๐ นำ� รถโรงเรยี นไปตลาดเพอ่ื ซื้อของใหต้ วั เอง

รวมคะแนน
สรุป

ช่อื กลมุ่ ท ี่ ชั้น เลขท่ี

36 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพม่ิ เติม การป้องกนั การทจุ ริต”

ใบงาน
เรอื่ งระบบคดิ ฐาน ๒

ค�ำชแี้ จง ให้นักเรยี นเขียนตวั อยา่ งของระบบ คดิ ฐาน ๒ จ�ำนวน ๕ ข้อ ท่ีนกั เรยี นจะปฏิบัติ (๑๐ คะแนน)

ต่อไปนี้ หนูจะ.................
.........................................
..........................................

ต่อไปน้ี หนูจะ................. ต่อไปน้ี หนูจะ.................
......................................... .........................................
.......................................... ..........................................

ต่อไปนี้ หนูจะ................. ต่อไปนี้ หนูจะ.................
......................................... .........................................
.......................................... ..........................................

คะแนน
......................
ช่ือ ชั้น เลขที่

เกณฑก์ ารประเมิน
นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน (ตอบถกู ๔ ขอ้ ๆ ละ ๒ คะแนน)

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ 37

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น

ชือ่ นกั เรยี น................................................................ชัน้ ..............ภาคเรยี นท.ี่ ..........ปีการศึกษา..............

ค�ำชแี้ จง ใส่เครื่องหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั พฤตกิ รรมท่เี กดิ ขึน้ จรงิ

ที่ พฤติกรรม เปน็ ประจ�ำ ระดับการปฏิบตั ิ ไมท่ �ำเลย/
(๓) บางครง้ั นอ้ ยคร้ัง ไม่ชัดเจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มคี วามรับผิดชอบในหนา้ ท่กี ารงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัตหิ น้าที่ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
๓ ท�ำงานด้วยความเพียรพยายาม
๔ ร้จู กั แกป้ ัญหาในการท�ำงานเมอ่ื มีอปุ สรรค
๕ อดทนเพอ่ื ให้งานสำ� เรจ็ ตามเป้าหมาย
๖ ปรบั ปรุงและพฒั นาการทำ� งานใหด้ ขี ้ึนด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดบั คุณภาพ

ผ้ปู ระเมิน ครู พอ่ แม่/ผปู้ กครอง ตนเอง เพือ่ น

ลงชือ่ ............................................ผปู้ ระเมิน
(..........................................)

เกณฑ์การประเมิน

ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ

ดีเย่ยี ม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕ - ๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดขอ้ หน่ึงตำ่� กว่า
๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑ - ๑๔ คะแนน และไม่มผี ลการประเมิน ขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ ตำ�่ กว่า
๐ คะแนน

พอใช้ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖ - ๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึงต�่ำกว่า
๐ คะแนน

ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐ - ๕ คะแนน

38 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เติม การป้องกนั การทจุ รติ ”

แบบตรวจให้คะแนนใบงาน

เลขที่ ชื่อ - สกลุ คะแนนท่ีได้ สรุปผล
สรปุ (๑๐ ค�ำแนน) ผา่ น ไมผ่ ่าน

๒ ลงชื่อ.........................................ผ้ตู รวจ
๓ (........................................)






๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕





เกณฑ์การประเมนิ
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ถือว่า ผ่าน (ตอบถกู ๔ ขอ้ ๆ ละ ๒ คะแนน)

ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ 39

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

ค�ำชแ้ี จง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วใส่เครื่องหมาย 
ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดับคะแนน

คุณลักษณะอนั พึง รายการประเมิน ระดับคะแนน
ประสงค์ด้าน ๓๒๑

ม่งุ มน่ั ๑. มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทำ� งานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
ในการท�ำงาน ๒. มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสำ� เรจ็



ลงชอ่ื ............................................ผปู้ ระเมนิ
(...........................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัตชิ ดั เจนและสมำ�่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตบิ างคร้งั

40 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เติม การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยที่ ๑ ชอื่ หน่วย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๖ เรอื่ ง พฤติกรรมระบบคิดฐาน ๑๐ ในระดบั โรงเรยี น เวลา ๒ ชว่ั โมง

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๑.๒ สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
นกั เรียนสามารถบอกพฤติกรรมทเี่ ปน็ ระบบคิดฐาน ๑๐ ในระดบั โรงเรียนได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
ระบบคดิ ฐาน ๑๐ เปน็ ระบบการคดิ วเิ คราะหข์ อ้ มลู เปรยี บเทยี บกบั การปฏบิ ตั งิ าน เชน่ ใชร้ ถโรงเรยี น
ไปซื้อของท่ีตลาด ใช้โทรศัพท์โรงเรียนโทรธุระส่วนตัว มาโรงเรียนสายเพ่ือหลีกเล่ียงการท�ำเวร น�ำโทรศัพท์
มาชาร์จที่ท�ำงาน เอาหนังสือกลับมาอ่านท่ีบ้านโดยไม่ขออนุญาตก่อน น�ำไม้กวาดของโรงเรียนไปใช้ที่บ้าน
หรอื เข้าแทรกแถวรอรับอาหารกลางวนั
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ )
๑) ความสามารถในการส่ือสาร อ่าน ฟงั พูด เขียน
๒) ความสามารถในการคดิ จดั กลุ่ม สรุป
๓.๓ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์/คา่ นิยม
มุ่งม่ันในการทำ� งาน
๔. กิจกรรมการเรียนรู้
๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้
ชว่ั โมงท่ี ๑
๑) ครูติดบัตรตวั อยา่ งพฤตกิ รรม เรื่อง ระบบคิดฐาน ๑๐ บนกระดาน
๒) ครอู า่ นตวั อยา่ งพฤตกิ รรม เรอ่ื ง ระบบคดิ ฐาน ๑๐ บนกระดาน และอธบิ ายพฤตกิ รรมดงั กลา่ ว
แต่ละขอ้ ให้นักเรยี นเขา้ ใจ จากนนั้ ครูใช้ค�ำถามต่อนกั เรยี น ดงั ต่อไปนี้
๒.๑ เหตกุ ารณด์ ังกลา่ วเปน็ เหตุการณ์ทด่ี หี รอื ไม่
๒.๒ พฤตกิ รรมดงั กล่าวนกั เรยี นเคยปฏบิ ัตหิ รอื ไม่ขอ้ ใดบ้าง
๒.๓ ถา้ มีคนเอาเปรียบนกั เรียน นกั เรียนจะรู้สึกอยา่ งไร
๓) ครูให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม จากนั้นแจกใบงานให้นักเรียนร่วมกันแยกตัวอย่างพฤติกรรม
จากใบงาน เรือ่ ง แยกแยะพฤติกรรมระบบคดิ ฐาน ๑๐

ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ 41

ชัว่ โมงที่ ๒
๔) แต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนน�ำเสนอผลงาน อภปิ รายรว่ มกนั และสรุปหนา้ ช้ันเรียน

๕) ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ พฤตกิ รรมระบบคดิ ฐาน ๑๐ ในโรงเรยี นวา่ มอี ะไรบา้ ง ครสู มุ่ นกั เรยี น

ออกมาพดู ถึงพฤติกรรมทรี่ ะบบคิดฐาน ๑๐ ในโรงเรียน

๖) ครูสะท้อนความคดิ จากการนำ� เสนอของนกั เรียนว่าการกระทำ� ใดท่ีเราควรปฏิบตั ิ

๗) ใหน้ กั เรยี นนำ� ปา้ ยขอ้ ความทค่ี รเู ตรยี มไว้ ของตวั อยา่ งพฤตกิ รรมระบบคดิ ฐาน ๑๐ มาออกแบบ

ท�ำปา้ ยรณรงคใ์ นกระดาษบรูฟ๊
๔.๒ สอ่ื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้
๑) กระดาษบรฟู๊

๒) ใบงานท่ี ๑ เร่ือง การแยกแยะพฤตกิ รรมระบบคดิ ฐาน ๑๐

๓) กระดาษส/ี ปากกาเมจิก/สีไม้/กาว

๔) ป้ายนิเทศ

๕) ปา้ ยข้อความ ตัวอย่าง พฤติกรรมของระบบคดิ ฐาน ๑๐
๕. การประเมนิ การเรยี นรู้
๕.๑ วิธีการประเมนิ
๑) ตรวจใบงาน

๒) การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น
๕.๓ เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการประเมนิ
๑) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น
๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถอื ว่า ผ่าน
๖. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
.......................................................................................................................................................

.......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ........................................ครูผู้สอน
(.......................................)
๗. ภาคผนวก
๗.๑ ใบงาน
๗.๒ แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น
๗.๓ แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน
๗.๔ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

42 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพม่ิ เติม การป้องกนั การทุจรติ ”

ใบงาน
เรื่อง การแยกแยะพฤตกิ รรม ระบบคดิ ฐาน ๑๐

ค�ำชแ้ี จง ให้นักเรยี นอ่านและเลอื กใสข่ อ้ ความในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ต้อง (๑๐ คะแนน)

ตวั อยา่ งของระบบคดิ ฐาน ๑๐ เชน่ - ใหเ้ พือ่ นท�ำการบา้ นใหโ้ ดยมขี นมเป็นข้อแลกเปล่ียน
- ใชร้ ถโรงเรยี นไปซื้อของท่ตี ลาด - ไมม่ าโรงเรียนสายเพ่อื หลีกเลีย่ งการทำ� เวร
- ใช้โทรศัพท์โรงเรียนโทรธุระสว่ นตวั - เอาหนงั สอื กลับมาอ่านท่บี า้ นโดยไม่ขออนญุ าตก่อน
- ไมน่ �ำโทรศพั ทม์ าชารจ์ ทที่ ำ� งาน - เขา้ แถวรอรับอาหารกลางวนั
- นำ� ไมก้ วาดของโรงเรียนไปใชท้ ่บี ้าน

ตัวอยา่ งพฤตกิ รรมของระบบคิดฐาน ๑๐ ไมใ่ ชพ่ ฤตกิ รรมของระบบคดิ ฐาน ๑๐

.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................

คะแนน
......................

ชื่อ ชนั้ เลขท ี่
เกณฑ์การประเมนิ
นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป ถอื ว่า ผ่าน (ตอบถูก ๔ ขอ้ ๆ ละ ๒ คะแนน)

ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ 43


Click to View FlipBook Version