หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 92
เปรยี บเทยี บการทนความรอ นของจลุ นิ ทรยี ช นดิ ตา ง ๆ
จุลินทรียแตล ะชนดิ ไมว า จะเปน แบคทเี รยี ยีสต และเชอ้ื รา จะมคี วาม
สามารถในการตานทานความรอ นไดไมเ หมือนกัน แมแ ตจ ะเปน เชอ้ื จลุ นิ ทรยี ป ระเภท
เดียวกันก็มีความตา นทานความรอ นทไ่ี มเ ทา กนั เชน กนั บางชนดิ ทนความรอ นไดด ี
บางชนิดก็ไมท นความรอ น อยา งไรกต็ ามเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ท เ่ี ปน Vegetative cells จะทน
ความรอนไดไมดีเทา กับเช้อื จลุ ินทรยี ทสี่ รางสปอรไ ด การศกึ ษาการทนความรอ นของ
จุลนิ ทรียชนิดตางๆจึงมีความสําคญั เพอ่ื ใหไ ดข อ มลู ทส่ี ามารถนําไปประยกุ ตใ ชใ น
การฆาเชอ้ื จลุ ินทรยี ใ นอาหารได เพื่อใหคุณภาพผลิตภัณฑที่ดี
จุลนิ ทรยี
•Saccharomyces cerevisiae
•Aspergillus niger
•Mycobaterium sp.
•Staphyloccoccus aureus
•Bacillus stearothermophilus
อุปกรณ
•Glucose yeast extract broth (GYB) หลอดละ 5 มิลลิลิตร
•Glucose yeast extract agar (GYA) ขวดละ 100 มิลลิลิตร
•จานเพาะเชอ้ื
•Phosphate buffer
•Mixer
•ปเ ปตขนาด 1 มลิ ลิลิตร
•อางน้ําปรบั อณุ หภมู ใิ หค งท่ี
•หมอนึ่งอัดความดันไอ
การทดลองและรายงานผล
1. การเตรยี มเชอ้ื
1.1 เตรยี ม Suspension ของเชื้อราดวย Phosphate buffer
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 93
1.2 เขยา Suspension จากขอ 1.1 และเชื้ออื่นๆ ซึ่งเจรญิ เติบโตในอาหาร
เหลวดวย Mixer
1.3 ใชป เ ปตดดู เชอ้ื จากขอ 1.2 ลงในหลอด หลอดละ 0.1 มลิ ลิลิตร เชื้อละ 7
หลอด ยกเวน B. sterarothermophilus ซง่ึ ใชเ พยี ง 5 หลอด
2. การใหค วามรอ น
2.1 นําหลอดเชื้อจากขอ 1.3 ยกเวน B. sterarothermophilus เชื้อละ 6 หลอด
แชในอางนํ้ารอนซึ่งควบคุมอุณหภูมิใหคงที่ที่ 65 องศาเซลเซยี ส โดยใหร ะดบั น้ําใน
อางนํ้ารอนซึ่งควบคุมอุณหภูมิใหคงที่ที่ 63 องศาเซลเซยี ส โดยใหร ะดบั น้ําในอา งอยู
เหนือระดับน้าํ ในหลอด เรม่ิ จบั เวลาเมอ่ื อุณหภมู คิ วบคมุ ซง่ึ มี Thermometer เสียบ
อยู ขึ้นถึงระดับอณุ หภมู ิที่กําหนด ทุกชวงเวลาดังนี้ 5, 10, 15, 20 นาทตี ามลําดบั
หลอด นําหลอดออกจากอางนาํ้ รอนเชื้อละหลอดแลวแชในนํ้าเยน็ ทนั ที
2.2 สาํ หรบั B.sterarothermophilus นําเขาหมอนึ่งอัดความดันไอใหความรอนที่
อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซยี ส (ความดัน 15 ปอนดต อ ตารางนว้ิ ) เปน ระยะเวลาดงั น้ี
5, 10, 15, 20 นาทตี ามลําดบั หลอดซง่ึ นําออกจากหมอนึ่งทุกชวงเวลาใหแชใน
น้ําเยน็ ทันที
3. การตรวจการมีชีวิตรอดของเชื้อหลังจากใหความรอน
3.1 เท GYA ลงในจานเพาะเชอ้ื 6 จาน
3.2 ใชลูปเขี่ยเชื้อจากแตละหลอด (ขอ 2.1 และ 2.2) รวมทั้งหลอดควบคุมที่
ไมไดใหความรอน Streak บนอาหารจานละเชอ้ื แบง ชอ งตามระยะเวลาทใ่ี ห
ความรอนโดยรอบ Streak แตละรอบหางกันพอประมาณ
3.3 เชอ้ื ในจานเพาะเชอ้ื (ขอ 3.2) และในหลอดคุมทุกหลอดยกเวน
B. sterarothermophilus ที่อุณหภูมิหอง สวน B. sterarothermophilus บม ท่ี 55
องศาเซลเซียส
3.4!ตรวจการเจริญเติบโตของเชื้อที่ 2, 5 และ 7 วัน บันทกึ ผลเปรยี บเทยี บการ
เจริญเติบโตมากนอย โดยใชเ ครอ่ื งหมาย + สาํ หรบั หลอดและรอย Streak ทม่ี กี าร
เจริญเติบโตมากที่สุดของแตละเชื้อ 3+, 2+, 1+ และ 1- สาํ หรับหลอดและรอย
Streak ที่เจริญเตบิ โตนอยลงมาตามลําดบั จนไมม กี ารเจรญิ เตบิ โต
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 94
ตาราง 8 เปรยี บเทยี บการทนความรอ นของจลุ นิ ทรยี ต า งๆ
จุลนิ ทรยี อุณหภูมิ เวลา
(นาที)
(องศาเซลเซยี ส)
10-15
ยีสต 10-15
Vegetative cell 50-58 5-10
Ascospore 60-70 5-10
มียกเวน บางชนดิ 10
2-3
เชอ้ื รา 4-5
18.8
Vegetative cell 60-70 18
สปอรทั่วไป 60-70 15
30
ยกเวนสปอรและ Scleratia ของรา
15
บางชนดิ ทนความรอ นไดส งู มาก 6-10
15-20
แบคทเี รยี 5-15
5-10
แบคทเี รยี ทไ่ี มส รา งสปอร : 300-330
780
Vegetative cell ทั่วไป 80 520
Neisseria gonorhveae 50 >1030
Salmonella typhosa 60 >1030
Staphylococcus aureus 60
E.coli 57
Streptococcus thermophilus 70-75
Lactobacillus bulgaricus 71
สปอรข องแบคทเี รยี : เวลาในการฆา เชอ้ื
ท่ี 100
Bacillus anthracis องศาเซลเซียส
Bacillus cereus
Bacillus subtilis
Clostridium tetani
Clostridium perfringens
Clostridium botulinum (Type A,B)
Putrefactive anaerobes P.A.3679
Clostridium calidotolerance
Bacillus stearothermophilus
Clostridium saccharolyticus var
Xerzones
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 95
การใชแ สงอลุ ตราไวโอเลตทําลายจลุ นิ ทรยี
แสงอุลตราไวโอเลท เปน แหลง พลงั งานทส่ี ามารถทําลายเชอ้ื จลุ ินทรยี ไ ด
การประยุกตใชแสงอุลตราไวโอเลทในการฆาเชื้อจุลินทรียนับวามีบทบาททสี่ ําคัญใน
ปจจุบัน โดยอาจจะนํามาใชโ ดยตรงกบั การฆา เชอ้ื ในอาหาร สว นมากจะเปน การฆา
เชื้อเครื่องมือ และอาจจะใชในการฆาเชื้อในสภาพสิ่งแวดลอมตางๆของหองเก็บ
วัตถุดิบ สายการผลติ ในโรงงาน รวมทั้งในหองเก็บผลิตภัณฑ
จุลนิ ทรยี
•Saccharomyces cerevisiae
•Asperqillus niger
•Staphylococcus aureus
•Bacillus subtilis
•Myobacterium sp.
•Bacillus sterarothermophilus
อุปกรณ
•PCA ขวดละ 70 มลิ ลิลิตร
•ปเ ปตขนาด 1 มลิ ลิลิตร
•จานเพาะเชอ้ื
•แทงแกวงอ
•แอลกอฮอล
•ปากคบี
•ถุงพลาสติก
•ตตู ิดแสดงอุลตราไวโอเลต
•ขนมปง
การทดลองและรายงานผล
1. การเตรยี มเชอ้ื
1.1 เทอาหารใสจ านเพาะเชอ้ื
1.2 ทาํ Suspension ของเชอ้ื รา
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 96
1.3 ใชปเปตดูด Suspension จากขอ 1.2 และจลุ นิ ทรียอนั ซง่ึ เจรญิ เตบิ โต
ในอาหารเหลวลงบนจานเพาะเชอ้ื (ขอ 1.1) จานละ 0.2 มิลลิลิตร เชื้อละ 5 จาน ใช
แทงแกวงอจุมแอลกอฮอลลนไฟรอจนหมดเปลว เกลย่ี เชอ้ื ใหก ระจายไปทว่ั ๆ ผิวหนา
อาหาร
2. การใหแ สงอลุ ตราไวโอเลต (Ultraviolet; UV)
2.1 เรียงจานเพาะเชอ้ื (ขอ 1.3) ในตูติดแสง UV เชื้อละ 4 จาน ใหร ะยะ
หางจากหลอดแสงเทา ๆ กัน
2.2 เปด ฝาจานนน้ั ปด ครอ มระหวา งจาน 2 จาน เพื่อใหซีกหนึ่งของแตละจาน
ไดรับแสง สว นอกี ซกี หนง่ึ ฝาจานจะบงั แสงไว
2.3 นําจานออกจากตคู รง้ั ละจานตามระยะเวลาการใหแ สงดงั น้ี 15, 30, 45
และ 60 นาที นําไปบม ทอ่ี ณุ หภมู หิ อ ง 2 วัน
2.4 ตรวจการเจริญเตบิ โตของเชอ้ื เปรยี บเทยี บการเจรญิ เตบิ โตระหวา ง
เช้ือสวนทไ่ี ดร บั แสง และสวนที่ถูกบงั คับดว ยฝาจาน บนั ทกึ ผลการทดลองโดยใช
เคร่ืองหมาย 4+ สาํ หรบั เชอ้ื ทไ่ี มไ ดร บั แสงในแตล ะจาน 3+, 2+, 1+ และ 1– สําหรบั
การเจริญเติบโตนอ ยลงมาตามลําดบั จนไมม กี ารเจรญิ เตบิ โต
3. การใชแสง UV ทําลายเชอ้ื ในขนมปง
3.1 ใชปากคีบจุมแอลกอฮอล ลนไฟ รอจนหมดเปลว คบี ชน้ิ ขนมปง วางใน
จานเพาะเชื้อ 8 ครง้ั
3.2 เรยี งจานในตซู ง่ึ แสง UV เชน เดยี วกบั ขอ 2.1
3.3 นําจานออกจากตคู รง้ั ละ 2 จาน ตามระยะเวลาเดยี วกบั ขอ 2.1
3.4 ใชป ากคบี จบั แผน ขนมปง ประกบดา นทไ่ี ดร บั แสงเขา ดว ยกนั แลวใส
ถุงพลาสติก รดั ดว ยยาง
3.5 บม ขนมปง ทอ่ี ณุ หภมู หิ อ ง 5 วัน
3.6 ตรวจการเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี บ นชน้ิ ขนมปง ทง้ั ดา นทไ่ี ดร บั แสงและดา นท่ี
ไมไ ดร บั แสง
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 97
การหาความชน้ื และประมาณคา Aw ของอาหาร
คา Aw ของอาหารเปนปจ จยั ที่สาํ คญั ปจ จยั หนง่ึ ซง่ึ จะทําใหอ าหารเกดิ การ
เนาเสียโดยจุลินทรียตางชนิดกัน อนั เปน ผลใหเ กดิ การเนา เสยี ในลกั ษณะทแ่ี ตกตาง
กัน ดังนั้นในการผลิตผลิตภัณฑอาหารแหงหรืออาหารกึ่งแหง จึงจําเปนตองลดคา
Aw ของอาหารลง ถึงระดับตาํ่ กวา Minimal Aw ของจลุ นิ ทรียท่ีคาดวา จะมบี ทบาท
ในอาหารประเภทนน้ั ๆ วิธีหาคา Aw นั้นมีหลายวิธีดวยกัน ตลอดจนมีเคร่อื งมอื
Electronic equipment ซึ่งหาคาไดคอนขางละเอียด
ในการศกึ ษานจ้ี ะเปน เพยี งวธิ กี ารประมาณคา ของอาหารอยา งครา ว ๆ เทา นน้ั
โดยใชหลกั การวา ดว ยสารละลายอม่ิ ตวั ของสารใดๆกต็ ามจะมอี นั ดนั ไอคงท่ี เมอ่ื
บรรยากาศเหนือสารละลายมีความดันไอสูงกวาความดันไอจากสารละลายน้ัน
สารละลายจะดดู ความชน้ื จากบรรยากาศจนถงึ สภาวะสมดลุ (Equilibrium) ดังนน้ั
เม่ือนําแผนกระดาษกรองซึ่งชุบสารละลายอิ่มตัวของสารตาง ๆ และใหแหง นํามา
วางไวในภาชนะปด ทม่ี อี าหารทจ่ี ะทดสอบวางอยู ถา อาหารมคี า Aw สูงกวา
สารละลายอิ่มตัวนั้น กระดาษชบุ สารละลายจะดดู ความชน้ื จากอากาศทําใหอ าหาร
เปยกชื้น ถาอาหารมคี า Aw ตํ่ากวาสารละลายอม่ิ ตวั ทท่ี ดสอบ แผน กระดาษชบุ
สารละลายยังคงแหงอยูตามเดิม ดงั นน้ั จากการเปลย่ี นชนดิ ของสารละลายหลายๆ
ชนิด จะทําใหสามารถประมาณคา Aw โดยประมาณเทา กบั ของสารใด
ตัวอยา งอาหาร
•น้ําผง้ึ
•แยมผลไม
•ขนมปง
•ไสกรอก
อุปกรณ
•จานเพาะเชื้อ
•กระดาษกรอง Whatman เบอร 1
•สารละลายอม่ิ ตวั (แสดงไวท า ยบท)
•เทปกาว
•กรรไกร
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 98
การทดลองและรายงานผล
1. การประมาณคา Aw
1.1 ตัดกระดาษกรองขนาด 10x1 เซนตเิ มตร ตดั กระดาษกาวยาวประมาณ
3 เซนติเมตร เขยี นหมายเลขบนเทปใหต รงกบั หมายเลขของสารละลายทจ่ี ะใช และ
ใชมือจับปลายดา นทเ่ี ปน เทปกาว จมุ กระดาษกรองลงในสารละลายอม่ิ ตวั จนชมุ
ระวังอยาใหส ารละลายถูกสวนใดสวนหนึ่งของรางกาย นําไปผง่ึ ใหแ หง โดยใหด า นท่ี
เปนเทปกาวติดกับราวไว
1.2 ตัดกระดาษกรองทช่ี บุ สารละลายและทําใหแ หง และยาวชน้ิ ละประมาณ
2.5 เซนติเมตร (จบั กระดาษชบุ สารละลายทกุ ครง้ั ดว ยปากคบี )
1.3 หงายฝาจานเพาะเชอ้ื ขน้ึ พบั เทปกาวประกอบกนั เปน สองหนา กดดา น
หน่ึงใหต ดิ กบั ฝาจาน นํากระดาษชุบสารละลาย (ขอ 1.2) มาแตะใหต ดิ กบั เทปกาวน้ี
โดยใหมีสวนยน่ื ออกมาจากเทปกาวประมาณ 2 เซนตเิ มตร ใชก ระดาษชบุ สารละลาย
ประมาณ 3 ช้ินตอ จาน เขยี นหมายเลขสารละลายบนฝาจาน
1.4 นําอาหารทต่ี อ งการจะทดสอบใสจ านเพาะเชอ้ื ระวงั ไมใ หอ าหารมโี อกาส
แตะกับกระดาษชบุ นํ้ายาเมอ่ื เปด ฝาจานแลว
1.5 ปด ฝาจานแลว ใชเ ทปกาวพนั โดยรอบเพอ่ื ปอ งกนั ความชน้ื จากภายนอก
เก็บจานไวท อ่ี ณุ หภมู หิ อ ง 2 วัน
หมายเหตุ เลือกใชสารละลายอ่ิมตัวทม่ี คี า Aw ใกลเคียงกับคา Aw โดยประมาณของ
อาหาร ดงั น้ี
อาหาร คา Aw
ไสกรอก 0.94-0.99
ขนมปง 0.92-0.98
แยมผลไม 0.80-0.90
น้ําผึ้ง 0.70-0.85
1.6 สังเกตความชื้นของกระดาษกรอง วาอาหารแตล ะชนดิ ทําให
กระดาษกรองซง่ึ ชบุ สารอะไรเปย กชน้ื ไดบ า ง และสารอะไรซง่ึ ยงั คงแหง อยู บนั ทกึ คา
Aw ของอาหารโดยเปรยี บกบั Aw ของสารละลาย
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 99
2. การหาความชน้ื ของอาหาร
2.1 ชง่ั Beaker ขนาด100 มิลลิลิตร ใหท ราบน้าํ หนกั ตกั อาหารใส Beaker
ช่ังใหไดนํ้าหนกั อาหาร 10 กรัมนําไปอบท่ี 110 องศาเซลเซียส เปนเวลา 12 ชว่ั โมง
ทิ้งใหเ ยน็ ใน Desiccator ช่ังหาน้าํ หนกั แหง คํานวณหาความชน้ื ของอาหารคดิ เปน
รอ ยละ
ตาราง 9 คา AW ของสารละลายอม่ิ ตวั ของสารตา ง ๆ ทอ่ี ณุ หภมู ติ า ง ๆ
สาร คา Aw อุณหภูมิ
Na2HPO4.12H2O 0.990 20
Pb(NO3)2 0.985 20
K2Cr2O7 0.980 25
Na2SO4.10H2O 0.975 20
NaBrO3 0.955 20
KNO3 0.950 20
KNO2 0.924 25
ZnSO4.7H2O 0.905 20
Na2CO3.10H2O 0.870 25
KCl 0.842 25
KBr 0.807 25
NH4Cl 0.793 25
NaCl 0.752 25
NaNO3 0.737 25
SrCl2.6H2O 0.708 25
NaNO2 0.660 20
NaBr.2H2O 0.577 25
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 100
ตาราง 10 เปรยี บเทยี บระหวา ง Aw และความเขม ขน ของน้ําเกลอื
Aw ความเขม ขน ของน้ําเกลอื
Molar รอ ยละ (w/v)
0.995 0.15 0.9
0.99 0.30 1.7
0.98 0.61 3.5
0.96 1.20 7.0
0.94 1.77 10.0
0.92 2.31 13.0
0.90 2.83 16.0
0.88 3.33 19.0
0.86 3.81 22.0
ตาราง 11 Aw ของนา้ํ บรสิ ทุ ธท์ิ อ่ี ณุ หภมู ติ า งๆกนั
Aw อุณหภมู ิ(องศาเซลเซยี ส)
1.00 0
0.953 5
0.907 -10
0.864 -15
0.823 -20
ตาราง 12 คา Aw ต่ําสุดสําหรบั จลุ นิ ทรยี ต า งๆ Aw ต่ําสดุ
จุลนิ ทรยี 0.91
0.88
Normal bacteria 0.80
Normal yeasts 0.75
Normal molds 0.65
Halophilic bacteria 0.65
Xerophilic molds
Osmophilic yeasts
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 101
การยบั ยง้ั การเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี ด ว ยการลด Aw ของอาหาร
การใชเทคนิคการลดปริมาณอิสระหรือนํ้าทเ่ี ปน ประโยชนต อ การเจรญิ เตบิ โต
ของเช้ือจุลินทรียในผลติ ภณั ฑน บั วา มคี วามสําคญั มาก เนอ่ื งจากปจ จยั น้าํ อสิ ระทม่ี อี ยู
ในอาหารเปนปจ จัยบง ชี้ถงึ ความคงตวั และการเนา เสยี ของผลิตภณั ฑ นอกจากจะเปน
ปจจัยที่ทําใหเกดิ การเปลย่ี นแปลงทางจลุ ินทรยี ใ นอาหารแลว ยังมีผลตอการ
เปลี่ยนแปลงคุณภาพทางดา นเคมแี ละกายภาพอกี ดว ย อยา งไรกต็ ามการไดข อ มลู
ของการเจริญเติบโตของเชือ้ จุลินทรยี ที่คา น้ําอสิ ระตา งๆ จะเปน แนวทางในการใช
ประยุกตเพื่อการผลิตผลิตภัณฑอาหารไดอยางดี เชน เดยี วกบั การประยกุ ตใ ชค วาม
เปนกรดเปน ดา งในการผลติ ผลติ ภณั ฑอ าหาร แตอ าจจะแตกตา งกนั ในรายละเอยี ด
ของผลิตภัณฑน้นั ๆ
จุลนิ ทรยี
•Sacharomyces cerivisiae
•Saccharomyces rouxii
•Pichia sp.
•Aspergillus niger
•Aspergillus glaucus
•Pseudomonas fluorescens
•Staptylococcus aureus
อุปกรณ
•GYB (Glucose Yeast extract agar) เติมเกลือระดับตางๆ คือ
รอยละ 0.9, 8.5, 10.0, 16.0, 22.0 ระดบั 7 หลอด
การทดลองและรายงานผล
1. เตรยี ม Suspension ของสปอรเ ชอ้ื รา
2. ใชสูปแตะ Suspension สปอรข องเช้อื รา และจลุ นิ ทรียช นดิ อน่ื ๆ ซง่ึ
เจรญิ ในอาหารเหลว Inoculate ใน GYB ที่เติมเกลือระดับตาง ๆ กัน
3. บม ทอ่ี ณุ หภมู หิ อ ง
4. ตรวจผลการเจรญิ เตบิ โตตามระยะเวลาดงั น้ี 2 และ 5 วัน ตามลําดบั
บันทึกผลเปรียบเทยี บการเจรญิ เตบิ โตมากนอ ย โดยใชเ ครอ่ื งหมาย 4+ สําหรบั
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 102
หลอดที่เจริญเติบโตหรือเกิดสปอรมากที่สุด 3+, 2+ และ 1- สาํ หรบั หลอดทม่ี กี าร
เจรญิ เติบโตและการเกิดสปอรนอ ยลงตามลาํ ดบั
5. คาํ นวนคา AW ของอาหารที่เติมเกลือแตละระดับ
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 103
ประสทิ ธภิ าพของสารกนั เสยี ( Preservatives) ในอาหารทม่ี ี
ความเปน กรดตา งๆ กัน
สารกนั เสยี (Preservatives) เปนสารเจอื ปนทใ่ี ชใ นอุตสาหกรรมอาหารกนั
อยางมาก ท้ังน้ีดวยเหตผุ ลทต่ี อ งการลดการเปลย่ี นแปลงตา งๆในอาหารเชน การ
เปล่ียนแปลงทางเคมี กายภาพ และทางจลุ นิ ทรีย เพื่อใหอาหารและผลิตภัณฑอาหาร
สามารถเก็บรักษาไวไ ดนาน อกี ทง้ั มสี ภาพทส่ี ามารถบรโิ ภคได แตอยางไรก็ตามควร
ใชในปริมาณท่ีกฎหมายอาหารระบใุ หใ ชไ ด ซง่ึ มอี ยหู ลายชนดิ เชน กรดอนิ ทรยี ต า งๆ
กรดเบนโซอิคและเกลือเบนโซเอท กรดโพรปโอนิคและเกลือโพรปโอเนท กรด
ซอรบิคและเกลือซอรเบท สารประกอบประเภทพาราเบน รวมทง้ั สารประกอบ
บางอยางตามธรรมชาติเปนตน การใชส ารกนั เสยี ในแงป อ งกนั การเปลย่ี นแปลงจาก
เชื้อจุลินทรียจําเปนที่ตองทราบวาสารกันเสียใดมีประสิทธิภาพตอเชื้อจุลินทรียชนิด
ใด เพ่ือใชเปน ขอ มลู ประกอบการนําสารกนั เสยี ไปใชใ หถ กู ประเภท และใชรว มกบั
ปจจัยอื่นๆที่มีผลรวมกับสารกันเสีนน้ันๆในการยับย้ังและปองกันการเจริญเติบโต
ของเช้ือจลุ ินทรยี เชน ความเปน กรดเปน ดา ง (pH) เปน ตน
จุลนิ ทรยี
•Saccharomyces cerevisiae
•Aspergillus niger
•Lactobacillus sp
อุปกรณ
•GYB เตมิ Sodium benzoate รอ ยละ 0.1 pH 3.0, 4.0, 5.0
ระดบั pH ละ 3 หลอด
•GYB เติม Potassium sorbate รอ ยละ 0.1 pH 3.0, 4.0, 5.0 และ
6.0 ระดบั pH ละ 3 หลอด
•GYB เติม Potassium metabisulfite 100 ppm pH 3.0, 4.0, 5.0
และ 6.0 ระดบั pH ละ 3 หลอด
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 104
การทดลองและรายงานผล
1. เตรยี ม Suspension ของ A. niger
2. ใชลูกเขี่ย Suspension ของ A. niger เชื้อยีสตและแบคทีเรียซึ่ง
เจริญเติบโตในอาหารเหลว เชื้อละ 1 ลูป Inoculate ในอาหารซง่ึ เตมิ สารกนั เสยี
ท้ังสามชนดิ ทกุ ระดบั
3. บม ทอ่ี ณุ หภมู หิ อ ง
4. ตรวจผลทร่ี ะยะเวลา 2 และ 5 วัน
5. บนั ทกึ ผลเปรยี บเทยี บการเจรญิ เตบิ โตโดยใชเ ครอ่ื งหมาย 4+, 3+, 2+,
1+ และ 1- สําหรับหลอดที่เจริญเติบโตที่สุด และนอ ยลงมาตามลาํ ดบั จนถงึ ไมม กี าร
เจริญเตบิ โต
ตาราง 13 การประยกุ ตใ ช Propionate และปริมาณการใชใ นอเมรกิ า
ผลติ ภณั ฑ ปริมาณการใช
ตอ 100 กรมั ของแปง หรอื เนย
White bread, rolls etc. 0.16-0.31
Dark breads 0.19-0.375
Cakes 0.44
Pasteurized process Up to 0.3 % maximum
Cheese and cheese foods
And cold pack cheese food
ตาราง 14 การประยกุ ตใ ช Sodium benzoate และปริมาณการใชใ นอเมรกิ า
ผลติ ภัณฑ ปรมิ าณการใช( รอ ยละ)
Carbonate beverages 0.03--0.05
Fruit drinks 0.05--0.1
Beverage syrups 0.1
Cider 0.05--0.1
Margarine 0.1
Fruit pie fillings 0.1
Prepared salads 0.1
Jam and Jellies 0.1
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 105
ตาราง 15 การประยกุ ตใ ช Sorbate และปริมาณการใชใ นอเมรกิ า
ผลิตภัณฑ ปริมาณการใช (รอ ยละ)
Cheese and cheese products 0.2-0.3
Fruit drinks 0.025-0.075
Beverage syrups 0.1
Cider 0.05-0.1
Wine 0.03-0.04
Cakes and icing 0.05-0.1
Pie fillings 0.05-0.1
Margarine (unsalted) 0.1
Prepared salads 0.05-0.1
Dried fruits 0.02-0.05
Dog food patties 0.3
Dried sausage Casings are treated with
2.5 % potassium sorbate solution
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 106
การวิเคราะหนํ้า
น้ําเปนสวนประกอบที่สําคัญเก่ียวขอ งในอุตสาหกรรมการทําหรอื ผลิตอาหาร
มาก น้ํามีอยูในอาหารทกุ ชนิด มากหรอื นอ ยแตกตา งกนั ไปตามประเภทของอาหาร
น้ันๆและจากน้ําที่ใชในการลางอาหารหรือทําความสะอาดเครื่องมือผลิตอาหารตางๆ
ดังนั้นนํ้าที่ใชในอุตสาหกรรมอาหารตางๆจึงควรปราศจากพวกจุลินทรียที่เปนตัวการ
ท่ีทําใหเกิดโรค และจลุ นิ ทรียท่ีเปนสาเหตทุ ําใหอ าหารนน้ั ๆเนา เสยี ได วธิ ีการตรวจ
หาจุลินทรียในนํ้าจึงเปน วธิ หี นง่ึ ทใ่ี ชต รวจหาความเหมาะสมของน้ําทจ่ี ะใชใ น โรงงาน
อาหาร ซ่ึงอาจเปน สาเหตทุ ําใหเ กดิ โรคหรอื อาหารทผ่ี ลติ ขน้ึ มานน้ั เนา เสยี ไดง า ยหรอื
รวดเรว็
การสมุ ตวั อยา ง ตัวอยางของนํ้าทจ่ี ะนํามาทดสอบนน้ั ควรเก็บในขวด
ปากกวา งทม่ี ี Ground glass sloppers ปดเรียบรอ ยและผา นการฆา เชอ้ื มาแลว
ถาหากวานํ้าที่นํามาทดลองเปน นา้ํ ที่ผสมคลอรีนอยูดวย ในขวดตัวอยาง น้าํ ควรจะมี
0.1 มิลลิลิตรของสารละลาย Sterile sodium thiosulphate รอยละ 2 ตอตัวอยางนํ้า
100 มลิ ลิลิตร
การเตรียมตัวอยาง กอนท่ีจะใชน้ําตวั อยางทําการทดลอง ควรเขยา ขวด
เก็บนํ้าตัวอยางเสียกอน และเตรยี มการเจอื จาง 1:10 และ 1:100 และกอ นนํา
สารละลายเจือจางแลวทั้งสองไปใชควรเขยากอนใชดวย
การตรวจสอบ Coliform bacteria
1.! Presumptive test
1.1!Inoculation น้ําตัวอยางอยางละ 1 มิลลิลิตร ลงในหลอดทดลองที่มี
Lactose broth พรอ มทง้ั Durham tube อยูดวย
1.2!ทําการบม เพาะเชื้อของหลอดทดลองทั้งหมดที่อุณหภูมิ 35+0.5
องศาเซลเซยี ส นาน 24 ชว่ั โมง หลงั จากนก้ี ต็ รวจดกู า ซ ถา หากมี
กาซเกิดขึ้นในหลอดดักกาซแสดงวาเปน Positive (+)
Presumption test สําหรับหลอดท่ีไมม กี า ซเกดิ ขน้ึ กน็ ําไปบม เพาะ
เชื้อตออีก 24 ชว่ั โมง ตรวจดูผลเชนเดียวกัน หลอดไหนที่ไมเกิด
กาซภายใน 48 ชว่ั โมง ถือวาเปน Negative (-)
2.! Confirmed test
การทดสอบจะใชอาหารเลี้ยงเชื้อชนิด Brilliant green lactose bile
broth, Endo agar หรอื Eosin methylene blue agar (EMB agar)
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 107
ทําตอ จาก Presumption test จากหลอดทม่ี กี ารหมกั เกดิ ขน้ึ ทง้ั ท่ี 24
และ 48 ชว่ั โมง
2.1!Streak บนอาหารพวก EMB agar plate ดวย Inoculum ท่ีไดจ าก
หลอด Positive presumption test
2.2!นํา Plate เหลานไ้ี ปบม เพาะเชอ้ื ทอ่ี ณุ หภมู ิ 35+0.5 องศาเซลเซียส
นาน 24 ชว่ั โมง และตรวจดูลักษณะของโคโลนีของพวก Coliform
bacteria ถาหากมกี แ็ สดงวา Confirmed test เปน Positive (+)
3.! Completed test
เปนการทําตอ จาก Confirmed test โดยทําการทดลองดงั น้ี
3.1!เลือกเอาโคโลนีที่แสดงลักษณะของ Coliform bacteria
3.2!เขี่ยเอาโคโลนีนั้นลงใน Lactose broth fermentation tube และ
ลงใน Nutrient agar slant
3.3!ทําการบมเพาะเชื้อของหลอดเหลานี้ที่อุณหภูมิ 35+0.5 องศา
เซลเซียส นาน 24-48 ชว่ั โมง
3.4!ตรวจดูหลอดทดลองที่ใหกาซออกมา เตรยี ม Gram stained
smears จาก Nutrient agar slants ใหตรงกับหลอดที่ทําใหเ กดิ กา ซ
ถาเปน Coliform bacteria มีลักษณะเปน Nonspore forming, Rod
shaped bacteria และ Gram negative
4. รายงานผลการตรวจหา Coliform bacteria
การรายงานผลแสดงในรปู Most Probable Number (MPN) ในนํ้า
ปฏิกิริยาของแบคทีเรียในนํ้าตอ Litmus milk
Inoculate litmus milk tube ดวย 0.1 มิลลิลิตรของนํ้าตัวอยาง และนําไปบม
เพาะเช้ือที่อุณหภูมิ 30-32 องศาเซลเซียส นาน 2-5 วัน รายงานผลการเปลย่ี นแปลง
ในนม ถามีการเปลย่ี นแปลงใหต รวจดผู ลการเปลย่ี นแปลงโดยนํามา Smear และยอม
สแี กรม
Plate count ของนํ้า
Inoculate จานเพาะเชื้อดวยตัวอยางที่เจือจางเปน 1:10 และ 1:100 และเท
Plate count agar ลงไปในจานเพาะเชื้อ ทาํ การบม เพาะเชอ้ื สว นหนง่ึ ท่ี 30-32 องศา
เซลเซียส นาน 2 วัน อกี สว นหนง่ึ นําไปบม เพาะเชอ้ื ท่ี 7 องศาเซลเซยี ส นาน 10 วัน
นับจํานวนโคโลนี และรายงานผล รวมทง้ั ลกั ษณะของโคโลนที เ่ี กดิ ขน้ึ บนจานเพาะ
เชื้อดวย
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 108
การวเิ คราะหเ ครอ่ื งดม่ื บรรจขุ วด
เน่ืองจากเคร่ืองด่ืมตางๆไดเขามามีอิทธิพลตอการบริโภคของประชาชน
มากขึ้น การตรวจหาจุลินทรยี ใ นอาหารประเภทน้ีจึงเพิ่มความสาํ คญั ขน้ึ เปน ลาํ ดบั
การผลิตเคร่ืองดมื่ ตางชนดิ กันกม็ ีความแตกตางกนั มาก แตล ะชนดิ มสี ว นประกอบ
และกล่ินแตกตางกันไปข้ึนอยูกับวัตถุดิบท่ีนํามาใชในการผลิตและกระบวนการผลิต
สวนมากจะประกอบดวยนํ้า น้าํ ตาล และกรดตางๆ อาหารเครอ่ื งดม่ื เหลา น้ี
ตองปราศจากจุลินทรียที่ทาํ ใหเ กดิ โรคกบั ผบู รโิ ภคโดยเดด็ ขาด เนื่องจากเครื่องดื่ม
เหลานไ้ี มม กี าร Sterilization กอนสงออกจาํ หนา ย ฉะนน้ั การตรวจหาจลุ นิ ทรยี ใ น
สวนประกอบแตละชนดิ จงึ มคี วามสําคญั ทาํ ใหท ราบถงึ จดุ ทอ่ี าจทําใหเ ครอ่ื งดม่ื นน้ั ๆ
มีเช้ือโรคแพรป ะปนหรอื เกดิ การเนา เสยี ได
วิธีการตรวจสอบ
1.! น้ํา ทําการตรวจหาจลุ นิ ทรียเชนเดยี วกบั ทก่ี ลา วในเรอ่ื งการวเิ คราะหน ้ํา
2.! น้ําตาล น้ําตาลท่ีใชใ นการผลติ เครอ่ื งดืม่ ควรปราศจากจลุ นิ ทรียท เ่ี ปน
ตัวทําใหเนาเสีย การตรวจอาจทําไดโ ดย
2.1 ตัวอยา ง นําเอาตัวอยา งน้ําตาล 0.5 ปอนด ใสลงในขวดปากกวางที่
ผานการฆาเชื้อแลว โดยใชชอนหรือถวยที่ฆาเชื้อเรียบรอยตักใสใน
ขวดพรอ มกบั ปด ใหส นทิ
1.2!วิธีวิเคราะหทางจุลินทรีย ชง่ั น้าํ ตาล 100 กรมั ใสใ นภาชนะทผ่ี า น
การฆาเชื้อมาแลว เตมิ น้ําทผ่ี า นการฆา เชอ้ื มาแลว เชน กนั จํานวน
102.5 มิลลิลติ ร (แตละ 2.1 มิลลิลิตรของนํ้าเชอ่ื มทไ่ี ดจ ะมนี ้ําตาลอยู
1.25 กรัม) ดูดเอา 2.1 มิลลิลิตรของนํ้าเชอ่ื มใสล งในจานเพาะเชอ้ื
2 จาน เติม Total plate count agar สําหรับนับจํานวนจลุ นิ ทรยี
ท้ังหมด และอีก 4 จานใหเ ทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Mycological agar ซง่ึ
ทําใหมีความเปนกรดแลว หรอื Malt agar สําหรับยีสตและเชื้อรา
นําไปบมเพาะเชื้อที่ 30-32 องศาเซลเซียส นาน 3 วันและ 3-5 วัน
ตามลําดบั
3.! น้ําเชอ่ื ม ทําเชนเดียวกับนํ้าตาล
4.! กลิ่นและสารใหสีตางๆ พวกสารท่ีทําใหเกิดกลิ่น รส ความเปน กรด
หรือสี ควรจะปราศจากเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ท ท่ี ําใหเ กดิ การเนา เสยี ได
4.1!ตัวอยาง ถา เปน น้ําใหน ํามา 50 มิลลิลิตร แตถาเปนของแหงควร
ทําใหเปนสารละลาย (Stock solution) ท่ีมีความเขม ขน รอ ยละ 1
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 109
4.2!การวเิ คราะหจ ุลินทรีย พวกที่เปน Liquid flavoring หรอื Coloring
ตองทําการเจอื จางเปน 1:10 กอนทจ่ี ะเทอาหารเลย้ี งเชอ้ื ดูดเอา
1 มิลลิลิตร และ 0.1 มลิ ลลิ ติ รของตวั อยา งมาใสใ นจานเพาะเชอ้ื
อยางละ 2 จาน เทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Total plate count agar ลงไป
และอีกอยางละ 2 จาน เทดว ยอาหารเลย้ี งเชอ้ื Mycological agar ท่ี
ไดทําใหม คี วามเปน กรดแลว หรอื Malt agar นําไปบมเพาะเชื้อที่
30-32 องศาเซลเซียส นาน 3 และ 3-5 วัน ตามลําดบั รายงาน
ปรมิ าณของ Mesophilic colonies ตอมิลลิลิตรของสารละลาย
เร่ิมตน หรอื ตอกรัมของวัสดุแหงที่ใชเปนตัวอยาง
5.! ขวดบรรจุท่ีผา นการลา งทําความสะอาดแลว ในขวดบรรจเุ ครอ่ื งดม่ื
กอนท่ีจะบรรจุควรปราศจากเชื้อจุลินทรียท่ีมําใหเกิดโรคและจุลินทรียที่
ทําใหอาหารเนาเสีย
5.1!ตัวอยาง นําเอาขวดทจ่ี ะบรรจเุ ครอ่ื งดม่ื มา 5 ขวด ภายหลงั ทผ่ี า น
การลา งเรยี บรอ ยแลว ปดจุกดวย Sterile stopper เกบ็ ที่ 4 องศา
เซลเซียส และตรวจผลภายในเวลาไมเกิน 4 ชว่ั โมง ถา หากวา ไมไ ด
ตรวจผลในทนั ที
5.2!การวิเคราะหจุลนิ ทรยี
5.2.1! ถาหากเปน ขวดใสไมม สี ี ใหเทอาหารเล้ียงเชอ้ื Total plate
count agar 10 มลิ ลิลิตร ลงไปในขวด และหมนุ ขวดไป
รอบๆ เมื่อเย็นลงแลว นําไปบม เพาะเชอ้ื ท่ี 32 องศา
เซลเซียส และนบั จํานวนโคโลนี ภายหลงั 3-5 วัน
5.2.2! ถาหากตองการตรวจอยา งละเอียด อาจทาํ ไดโ ดยเตมิ น้าํ ท่ี
ผานการฆาเชื้อมาแลวจํานวน 10 มลิ ลิลิตร ลงไปในขวด
พรอมท้ังทรายทผ่ี า นการฆา เชอ้ื แลว เชน กนั เขยา ใหท ว่ั
ท้ังขวด ดูดเอาน้ําในขวดใสใ นจานเพาะเชอ้ื 2 จาน
เทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Total plate count agar ลงไป และ
อีก 2 จาน เทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Malt agar ลงไป นําไปบม
เพาะเช้ือที่ 32 องศาเซลเซยี สนาน 3 และ 3-5 วันตามลําดบั
รายงานผลการตรวจ
5.2.3! ถาหากขวดนั้นมีสี มองขา งในเหน็ ไมช ดั เจน ควรจะทําตาม
วิธีที่ 2 ขา งตน
6.! ฝาจบี สวนทางดานในของฝาปด หรือกระปอง ท่ีมโี อกาสสมั ผสั กับ
เคร่ืองด่ืมควรจะปราศจากจลุ นิ ทรยี ท จ่ี ะมผี ลตอ เครอ่ื งดม่ื
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 110
6.1!ตัวอยาง นําฝามาจํานวน 10 ฝาจากกลอ งทย่ี งั ไมไ ดเ ปด นํามาเกบ็
ใน Sterile jar โดย Sterile tongs พยายามไมหยบิ ใหแตะสวนดาน
ในของฝาปด
6.2!วิเคราะหจุลินทรีย นําฝาปด มาเผาดว ยเปลวไฟทางดา นนอก จงึ จะ
ไมใหส ว นดา นในของฝาถกู กบั เปลวไฟ อาจจะใชแอลกอฮอลรอยละ
70 เช็ดเอาก็ได วางฝาปด ลงในจานเพาะเชอ้ื และเทอาหารเลย้ี งเชอ้ื
Total plate count agar และ Malt agar นําไปบมเพาะเชื้อที่ 30-32
องศาเซลเซยี ส นาน 3 วัน และ 3-5 วันตามลําดบั รายงานผลการ
ตรวจสอบของแตละโคโลนีตอฝาปด 1 ฝา
อีกวิธีหนึ่งอาจจะทําไดโดยใสฝาปด ลงไปในน้ําทผ่ี า นการฆา
เชื้อแลว 20 มลิ ลิลิตร จาํ นวน 5 ฝา ในน้ํานน้ั มที รายทผ่ี า นการ
ฆาเชื้อแลวเชนกัน เขยา แรงๆ นําสว นเปน น้าํ 4 มลิ ลิลิตร ใสลงใน
จานเพาะเชื้อ 2 จาน และเทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Total plate count
agar ลงไป และอีก 2 จานเตมิ Malt agar ลงไป นําไปบม เพาะเชอ้ื
ท่ี 30-32 องศาเซลเซยี ส นาน 3 และ 3-5 วันตามลําดบั
7.! ผลิตภัณฑเครื่องดื่มสุดทาย
7.1!ตัวอยาง นําเอาตวั อยา งมา 2 ขวด หรอื 2 กระปอ ง โดยใชวิธีการ
สมุ ตวั อยา ง
7.2!การวิเคราะหจลุ ินทรยี เปดฝาขวดหรือกระปองแลวเผาปากขวด
หรือกระปองดวยเปลวไฟ ถาหากเปน กระปอ งควรลา งดว ยน้ํากอน
แลวนําไปเช็ดดวยแอลกอฮอล และเผาดวยเปลวไฟ เปดดวย
Sterile opener ใชปเปต 10 มิลลิลิตรดูดเอาสารละลายออกมาใสใน
จานเพาะเชื้อ 2 จาน เทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Total plate count agar
และอีก 2 จานเทดว ย Malt agar โดยทําจานละ 1 มิลลิลิตร และ
0.1 มิลลิลิตร นําไปบม เพาะเชอ้ื ท่ี 30-32 องศาเซลเซียส นาน
3 และ 3-5 วัน ตามลําดบั รายงานผลการทดลองเปน จลุ ินทรยี เ ฉลย่ี
ที่มีในเครื่องดื่ม
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 111
การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี ใ นผลติ ภณั ฑป ระเภทคารโ บไฮเดรต
อาหารจําพวกคารโบไฮเดรตไดถูกนํามาใชในการผลิตผลิตภัณฑอาหาร
ตางๆหลายชนิด เชนพวกนํ้าตาล ซง่ึ อาจถกู แพรเ ชอ้ื ปะปนโดยพวกแบคทเี รยี ยีสต
และเชื้อรา ซง่ึ แหลง คารโ บไฮเดรตเปน แหลง พลงั งานทด่ี ขี องเชอ้ื จลุ นิ ทรีย การ
วิเคราะหปริมาณจุลินทรียในอาหารประเภทคารโบไฮเดรตกอน ทาํ ใหท ราบถึงสภาพ
ของอาหารนั้นๆ ชว ยในการทําใหผ ลติ ภณั ฑอ าหารทม่ี คี ารโ บไฮเดรตอยดู ว ยมี
คุณภาพดีขึ้น ในการวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี จ ะเปน ดชั นบี ง ชถ้ี งึ การแพรป ะปนในอาหาร
คารโบไฮเดรต ทอ่ี าจทําใหเ กดิ ปญ หาในผลติ ภณั ฑอ าหารทใ่ี ชค ารโ บไฮเดรตเปน
สวนประกอบได
การตรวจหาจุลินทรียในนาํ้ ตาล
ตัวอยา งอาหาร
•น้ําตาลทรายขาว
•น้ําตาลสีราํ
•น้ําตาลทรายแดง
•น้ําตาลปบ
อุปกรณ
•ฟลาสคขนาด 250 มลิ ลิลิตร หรอื ขวดมขี ดี บอกระดบั ปรมิ าตร 100
มิลลิลิตร ขวดบรรจุ Diluent
•จานเพาะเชื้อ
•Brewer' thiogbycollate broth
•Sulfite agar
•วุนรอ ยละ 3 ขวดละ 25 มิลลิลิตร
•Bromcresol purple agar (BCP) ขวดละ 100 มิลลิลิตร
•Glucose yeast extract agar (GY) ขวดละ 100 มลิ ลิลิตร
•Oxytetracycline รอ ยละ 0.1
•อางน้ําอนุ ควบคมุ อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซยี ส
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 112
การทดลองและรายงานผล
1. การทําใหน า้ํ ตาลเจอื จาง
เตรยี มตัวอยา งน้าํ ตาลใหเ จอื จางในระดบั 1:5 โดยชง่ั น้ําตาล 20 กรมั ใสใน
ขวดหรือฟลาสคซึ่งมีขีดบอกระดับ 100 มิลลิลิตร เท Diluent ลงไปใหถึงระดับ
ดังกลาว เขยา ใหน ้ําตาลละลายเปนเน้ือเดียวกัน
2. ตรวจนบั จํานวน Mesophile
2.1 ตรวจนับจํานวนจลุ นิ ทรยี ท ง้ั หมด (Total count) และ
จุลินทรยี ท ส่ี รา งกรด
2.1.1 ตรวจนับดวยวิธี Shake plate โดยใชต วั อยา งเจอื จาง 1:5
จานละ 2 มิลลิลิตร 5 จาน ใช BCP agar เปน อาหารเลย้ี งเชอ้ื บม ทอ่ี ณุ หภมู หิ อ ง
2 - 5 วัน
2.1.2 รายงานเปนจํานวนจลุ นิ ทรยี ท ง้ั หมดตอ อาหาร 10 กรมั โดย
นับจํานวนจุลนิ ทรยี ท ง้ั หมดรวมทง้ั 5 จาน แลวคูณดวย 5
2.1.3 นับเฉพาะจํานวนจลุ ินทรยี ท ส่ี รา งกรด ซ่ึงจะสงั เกตไดจ าก
การเกดิ บรเิ วณสเี หลอื งรอบโคโลนี รายงานผลเปนจํานวนจลุ นิ ทรียตอ น้าํ ตาล
10 กรมั เชนเดียวกัน
2.2 ตรวจนบั จํานวนเชอ้ื ยสี ตแ ละเชอ้ื รา
2.2.1 หลอม GY agar ตง้ั ทง้ิ ไวจ นเยน็ ลงถงึ ระดบั ประมาณ 60
องศาเซลเซยี ส เติม Oxytetracycline glucose yeast extract agar เปน อาหาร
เพาะเชอ้ื บม เชือ้ ทอ่ี ุณหภมู หิ อ ง 2 - 5 วัน
3.ตรวจนบั สปอรข อง Thermophile
3.1 การเตรียมตัวอยางอาหาร นําตวั อยา งน้ําตาลเจอื จาง 1:5 ซง่ึ ตรวจนบั
จํานวน Mesophile แลว มาแชใ นหมอ น้ําตมเดือดตลอดเวลาเปนเวลา 6 นาที เพื่อ
ทําลายเซล
3.2 ตรวจนบั จํานวนสปอรข องแบคทเี รยี Flat sour วิธีเดียวกับขอ 2 โดย
ใช BCP agar เปนอาหารเพาะเชอ้ื บม เชอ้ื ท่ี 55 องศาเซลเซียส นาน 2 - 5 วัน
นับจํานวนโคโลนแี บคทเี รยี Flat sour ซง่ึ จะมลี กั ษณะโคโลนเี ลก็ ๆ ขนาดเสน
ผาศูนยกลางประมาณ 2 - 5 มิลลิลิตร กลางโคโลนมี สี นี ้ําตาลเขม รอบๆ โคโลนี
บริเวณสีเหลือง ซ่ึงเกดิ จากการสรา งกรด รายงานผลเปน จํานวนตอ น้าํ ตาล 10 กรมั
เชนเดียวกัน
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 113
3.3 ตรวจสปอรของ Thermophilic anaerobe (T.A.) ทไ่ี มส รา ง H2S
3.3.1 ตม Brewer's thioglycolate broth ทง้ั 6 หลอด เพื่อไลอากาศที่
ละลายอยใู นอาหารออกใหห มด ทง้ิ ไวใ หเ ยน็ ลงประมาณ 50 องศาเซลเซยี ส
3.3.2 ใชปเปตดูดตัวอยางนํ้าตาลจากขอ 3.1 ครั้งละ 10 มิลลิลิตร
สองครง้ั แบงใสหลอดอาหารซึ่งตมไลอากาศแลว (ขอ 3.3.1) หลอดละประมาณ
3.3 มลิ ลิลิตร
3.3.3 คอยๆ เทวุนรอยละ 3 ทบั หนา ใหห นาประมาณ 2 เซนตเิ มตร
3.3.4 บม ทอ่ี ณุ หภมู ิ 55 องศาเซลเซยี ส นาน 2 - 5 วัน
3.3.5 ตรวจการเจรญิ เตบิ โตของแบคทเี รยี กลมุ น้ี ซง่ึ เมอ่ื มกี าร
เจริญเติบโตจะสรา งกาซ CO2 และ H2 ดันวุนที่ทับหนาใหแยกตัวออกจากผิวหนา
อาหาร รายงานผลเปนจํานวนหลอดทม่ี กี ารเจรญิ เตบิ โต
3.3.6 เตรียมสไลด ยอ มสแี กรม สังเกตการตดิ สแี ละรูปรางของเชื้อ
3.4 ตรวจนบั สปอรข อง Thermophilic anaerobe ทไ่ี มส รา ง H2S ซง่ึ
แบคทีเรียกลมุ นก้ี อ ใหเ กดิ การเนา เสยี โดยสรา งกา ซ H2S ในอาหาร(Sulfide spoilage
microorganism)
3.4.1 ตม Sulfite agar เพื่อไลอากาศออกใหหมด
3.4.2 ใชป เปตดูดตัวอยางจากขอ 3.1 ครั้งละ 10 มิลลิลิตร สองครั้ง แบงใส
หลอดอาหารประมาณหลอดละเทา ๆ กัน เขยาหลอดโดยระวังไมใหเกิดฟองอากาศ
3.4.3 เทวุนรอยละ 3 ทบั หนา ใหห นาประมาณ 2 เซนตเิ มตร
3.4.4 บม ท่ี 55 องศาเซลเซยี ส นาน 2 - 5 วัน
3.4.5 นบั จํานวนโคโลนขี องแบคทเี รยี กลมุ น้ี ซง่ึ จะมโี คโลนสี ีดาํ เนื่องดวย
กาซท่ีเช้ือสรา งขน้ึ ทําปฏกิ ริ ยิ า Ferric acetate ในอาหารเลย้ี งเชอ้ื รายงานผลเปน
จํานวนตอนํ้าตาล 10 กรมั โดยรวมจํานวนโคโลนใี นหลอดอาหารทง้ั 6 หลอดแลว
คูณดวย 2.5
การตรวจหาจุลินทรียในแปง
1.! การตรวจหาจุลินทรียประเภท Mesophiles
ช่ังแปง มา 11 กรมั ใสลงใน Sterile water blank 99 มลิ ลิลิตร พรอม
ดวยทรายท่ีผา นการฆา เชอ้ื มาแลว เขยา 2 นาที ปลอยใหตกตะกอน เตรยี มทําการ
วิเคราะห
1.1! จุลนิ ทรียท้ังหมด ใชส ารละลายทเ่ี จอื จางแลว 1 มิลลิลิตร และ
เทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Dextrose tryptone bromcresol purple agar
ทําการบมเพาะเชื้อท่ี 30-32 องศาเซลเซียส นาน 2-3 วัน นบั
จํานวนจุลนิ ทรยี ท ง้ั หมดรวมทง้ั Acid และ Nonacid colonies
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 114
1.2! จุลินทรยี ท ไ่ี มต อ งการอาหารทง้ั หมด (Total anaerobes) ใช
สารละลายที่ทาํ การเจอื จางมาแลว 1 มลิ ลิลิตร เติมลงใน Freshly
melted plate count agar ท่ีทําใหเย็น 45 องศาเซลเซียส ภายหลงั
แข็งตัวแลว ใหปดทับดวย Nutrient agar สูง 0.5 นว้ิ นําไปบม
เพาะเชื้อท่ี 30-32 องศาเซลเซยี ส นาน 2-3 วัน รายงานจํานวน
จุลินทรยี ท ไ่ี มต องการอากาศ
2.! การตรวจหาจุลินทรียประเภท Thermophiles
2.1! Flat sour spores นําสารละลายทเ่ี จอื จางมาแลว 20 มลิ ลิลิตร ใส
ลงใน 100 มิลลิลิตรของ Melted dextrose tryptone bromcresol
purple agar นําไปตมและเขยา ใหร อ นในนา้ํ เดอื ด 3 นาที นําไปอบ
ไอนํ้า 30 นาที และเทในจานเพาะเชอ้ื จํานวน 5 จาน นําไปบม
เพาะเช้ือท่ี 55 องศาเซลเซียส นาน 72 ชว่ั โมง นบั จํานวนโคโลนที ่ี
ปรากฏ
1.2! จุลินทรยี ป ระเภท Gas forming thermophiles anaerobic spores
ท่ีไมส รา ง H2S นําสารละลาย 20 มลิ ลิลิตร แบงใสในหลอดทดลอง
6 หลอดที่มี Thioglycolate broth อยูดวย เขยา และนําไปตม ใน
น้ําเดือด 3 นาที อบดวยไอนาํ้ 30 นาที ทาํ ใหเ ยน็ ปด ทบั อาหาร
เลี้ยงเชื้อดวย Nutrient agar ทําใหร อ น 55 องศาเซลเซียส และ
นําไปบมเพาะเชื้อที่ 55 องศาเซลเซียส นาน 72 ชว่ั โมง รายงาน
Positive และ Negative tubes
2.3! จุลินทรยี ป ระเภท Thermophiles anaerobic spores ท่ีสรา ง H2S
นําสารละลายที่เจือจางมาแลว 20 มลิ ลิลิตร ใสในหลอดทดลอง 6
หลอด ทม่ี ี Melted sulphite agar อยูดวย ตม ในน้าํ เดอื ด 3 นาที
อบไอน้ํา 30 นาที ปลอยใหอาหารเลี้ยงเชื้อแข็งตัว ทาํ ใหร อ น 55
องศาเซลเซยี ส และนําไปบม เพาะเชอ้ื ท่ี 55 องศาเซลเซยี ส นาน
72 ช่ัวโมง นบั จํานวนของโคโลนสี ดี ําทง้ั 6 หลอด รายงานการ
วิเคราะหตอ 10 กรัมของแปงตัวอยาง
มาตรฐานสําหรบั แปง และน้าํ ตาล
1.! จํานวน Total thermophilic spore count ใชตัวอยาง 5 ตัวอยาง แตละ
ตัวอยา งจะมีสปอรไ ดไ มเ กนิ 150 สปอรตอ 10 กรมั และจํานวนเฉลี่ย
ของตัวอยา งทง้ั หมดจะมจี ํานวนสปอรไ ดไ มเ กนิ 125 สปอรตอ 10 กรมั
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 115
2.! Flat sour spores ใชตัวอยาง 5 ตัวอยาง แตล ะตวั อยา งจะมจี ํานวน
สปอรไดไมเกิน 75 สปอรตอ 10 กรมั และจํานวนเฉลี่ยของตัวอยาง
ทั้งหมดจะมีสปอรไดไ มเกิน 50 สปอรตอ 10 กรมั
3.! Thermophilic anaerobes spores ใชตัวอยาง 5 ตัวอยา ง จะมีสปอร
ชนิดนไ้ี ดไ มเ กนิ 3 ตัวอยาง (รอ ยละ 60) และในแตละตัวอยา งจาก
จํานวนหลอดทดลอง 6 หลอดจะมีสปอรไ ดเ พยี ง 4 หลอด (รอ ยละ 65)
เทา นน้ั
4.! Sulfide spoilage spores ใชตัวอยาง 5 ตัวอยาง จะมีสปอรช นดิ นไ้ี ด
ไมเกิน 2 ตัวอยา ง (รอ ยละ 40) และในแตละตัวอยางจํานวนสปอรตอง
ไมเ กนิ 5 โคโลนีตอ 10 กรมั
มาตรฐานสําหรบั นํ้าตาลทรายละเอยี ด
1.! มีจํานวนจุลินทรียเจริญเติบโตไดดีที่อุณหภูมิ 25-37 องศาเซลเซียส ได
ไมเกิน 200 โคโลนีตอ 10 กรมั
2.! มีจํานวนยีสตไดไมเกิน 10 โคโลนีตอ 10 กรมั
3.! มีเชอ้ื ราไดไ มเ กนิ 10 โคโลนีตอ 10 กรมั
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 116
การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี ใ นไขแ ละผลติ ภณั ฑจ ากไข
ไขเปนอาหารและใชเ ปน สว นประกอบของอาหารหลายๆชนดิ โอกาสของไข
ท่ีจะสกปรกและชนดิ ของแบคทเี รยี ทพ่ี บในไขม มี าก วธิ กี ารตรวจวเิ คราะหห าเชอ้ื
จุลินทรียในไขจ งึ เปน ทน่ี า สนใจมาก ไขเมื่อออกจากแมไ กในตอนแรกๆจะสะอาดมาก
ถาหากทิ้งไวในที่ที่สกปรกและชื้น หรือในระหวางการขนสงออกสูตลาด หรือกระบวน
การผลิตผลิตภัณฑจากไขนั้นไมถูกสุขอนามัยเพียงพอ อาจเปน หนทางใหเ ชอ้ื
จุลินทรยี ห ลายชนดิ เจรญิ เติบโตได
การเตรียมตัวอยาง
เลือกเอาไขทม่ี อี ายแุ ตกตา งกนั มาทําการวิเคราะห ขณะทร่ี อการวเิ คราะห
ควรเก็บไขในที่มีอุณหภูมิตาํ่ กวา 50 องศาฟาเรนไฮต ลางไขแตละฟองดวยนํ้าอุนให
สะอาด และจุมลงในแอลกอฮอลรอยละ 70 นาน 10 นาที นําออกจากแอลกอฮอล
ปลอยใหแหงและลนกับไฟกอนวางไขดานที่มี Air cell ลงแลว เจาะไขด า นตรงขา มให
มีรูเสนผาศนู ยก ลาง 0.5 นว้ิ ลนไฟสว นทเ่ี จาะรู วางดา นทเ่ี จาะรลู งบน Triangle ท่ี
วางบน Tripod ใตไขว างขวดปากกวา งทผ่ี า นการฆา เชอ้ื แลว ใชไฟลนสวนที่เปน Air
cell หลังจากนั้นก็ใชถุงมือที่ฆาเชื้อแลวจับไขไว เจาะดา น Air cell ใหเ ปน รดู ว ย
Flamed forceps เขยาเน้ือของไขท ไ่ี ดจ นกระทง่ั ไดเ นอ้ื ไขอ ยา งสมา่ํ เสมอ อาจตีดวย
ชอนที่ฆาเชื้อแลว
การวิเคราะหจุลนิ ทรยี
ช่ังไข 11 กรมั ใสลงใน 99 มลิ ลิลิตรของ Saline dilution blank พรอมดวย
Glass beads (เพื่อตีไขใหแตก) เขยา 25 ครง้ั เตรยี มการเจอื จางตอๆไป
1.! การวิเคราะหหาจุลินทรียทั้งหมด ปเ ปต 1 มลิ ลิลิตร ของ Dilution
1:10 ทํา 2 ซ้ํา ใสใ นจานเพาะเชอ้ื และเทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Total plate
count agar อาจทาํ Dilution 10-2 ,10-3 และ 10-4 ตองพยายามเท
อาหารเลี้ยงเชื้อลงไปอยางรวดเร็ว เพราะไขอ าจยดึ เกาะตดิ จานเพาะเชอ้ื
ได ทําใหไดโคโลนีอยูตรงสวนที่เกาะติดแหงมากกวาสวนอื่นๆในอาหาร
เลี้ยงเชื้อ นําไปบม เพาะเชอ้ื ท่ี 30-32 องศาเซลเซยี ส นาน 3 วัน รายงาน
ผลการวิเคราะหจากคาเฉลี่ย 2 จานเพาะเชอ้ื ตอ จํานวนกรมั ของไข
2.! การวิเคราะหเชื้อยีสตและรา ปเปตทกุ ๆความเจอื จางลงบนจาน
เพาะเชื้ออยางละ 2 จาน และเทอาหารเลี้ยงเชื้อดวย Malt agar นําไป
บมเพาะเชื้อที่ 30-32 องศาเซลเซียส นาน 3 วัน อาจจะดจู านเพาะเชอ้ื
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 117
ทุกๆวันก็ได ถา หากสามารถนบั ไดก น็ บั จํานวนโคโลนไี ปกอ นได
รายงานการวิเคราะหออกมาตอจํานวนกรมั ของไข
3.! การวิเคราะหหา Salmonella ช่ังตัวอยา งมา 20 กรมั ใสใ น Selenite
broth ท่ีผา นการ Steam มาแลว 80 มิลลิลิตร เขยา ใหเ ขา กนั ทว่ั นําไป
บมเพาะเช้ือท่ี 35 องศาเซลเซยี ส นาน 16-24 ชว่ั โมง หลงั จากนน้ั นํามา
Streak ลงบน Salmonella-Shigella agar (SS agar) ทิ้งใหผิวหนาแหง
แลวนําไปบม เพาะเชอ้ื ท่ี 35 องศาเซลเซยี ส นาน 24 ชว่ั โมง ตรวจดู
โคโลนีที่แสดงคุณลักษณะของเชื้อ Salmonella รายงานผลการวเิ คราะห
มาตรฐานสําหรบั ไขแ ละผลติ ภณั ฑไ ข
1. เนื้อไขสด (Liquid egg) ท่ีอบเพาะเชอ้ื ท่ี 22 องศาเซลเซยี สมจี ลุ ินทรยี ไ ด
ไมเ กิน 5,000,000 โคโลนีตอกรัม
2. ไขผ งมจี ลุ นิ ทรียช นดิ ตา งๆไดไ มเ กนิ
Lot (โคโลนีตอกรัม) Sample unit (โคโลนีตอกรัม)
จุลนิ ทรียท กุ ชนดิ 50,000 75,000
โคลิฟอรม 50 100
เชื้อราและยีสต 20 50
3. ไขแชแ ขง็ มจี ลุ นิ ทรียชนดิ ตา งๆไดไ มเ กนิ
Lot (โคโลนีตอกรัม) Sample unit (โคโลนีตอกรัม)
จุลินทรียท กุ ชนดิ 10,000 15,000
โคลิฟอรม 50 100
เชื้อราและยีสต 50 75
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 118
การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี ใ นอาหารหมกั ดอง
อาหารท่ีทําจาการหมกั โดยพวกจลุ ินทรียมีอยหู ลายชนดิ ดว ยกนั ในวิธีการ
วิเคราะหหาจุลินทรียในอาหารหมักดองในท่ีนี้ไมไดหมายความถึงอาหารหมักดอง
แลวนําไปทําแหงอยางเชนพวกชา กาแฟ หรอื เปน อาหารหมกั ดองจําพวกเครื่องดื่ม
แตจะใชก บั อาหารทใ่ี ชห มกั ดองจรงิ ๆเทา นน้ั เชนผักกาดดอง Sauerkraut และ
ผลิตภณั ฑเ นอ้ื หมกั เชน แหนม ไสกรอกเปรีย้ ว และม่ัม เปนตน
การเตรียมตัวอยาง
ในอาหารจําพวกของดองเหลานี้มักจะใชนํ้าที่ดองเปนตัวอยางในการตรวจ
หาจุลินทรยี ท ง้ั หมดทม่ี อี ยู
การวิเคราะหจลุ ินทรีย
1.! จุลนิ ทรียทง้ั หมด ชงั่ ตัวอยาง 11 กรมั ใสใน Sterile water blank 99
มิลลิลติ ร เตรยี มการเจอื จางเปน 1:10 ทําDilution ละ 2 จาน เทอาหาร
เลี้ยงเชื้อ Total plate count agar นําไปบมเพาะเชื้อที่ 32 องศา
เซลเซียส นาน 1 วัน รายงานผลการวเิ คราะหต อ น้ําดอง 1 มิลลิลิตร
2.! เช้ือยีสตและรา ทาํ การถายสารละลายทม่ี กี ารเจอื จางทเ่ี หมาะสมลงใน
จานเพาะเชื้อ ทาํ Dilution ละ 2 จาน และเทอาหารเลย้ี งเชอ้ื Malt agar
นําไปบมเพาะเชื้อที่ 30-32 องศาเซลเซียส นาน 5 วัน ควรเริ่มนับตั้งแต
วันที่ 3 เปนตน ไป รายงานผลการวเิ คราะหเ ปน จํานวนยสี ตแ ละราตอ
กรัมของตัวอยาง
3.! จุลินทรียที่สามารถผลิตกรดได ดูดเอาสารละลายเจอื จางแตละ Dilution
ใสลงในจานเพาะเชอ้ื อยา งละ 2 จาน เทอาหารเลย้ี งเชอ้ื ATP agar หรอื
ใช Total plate count agar ทม่ี ี Bromcresol purple เปน ดชั นบี ง ช้ี หรอื
ใช Liver infusion sorbic acid agar นําบมเพาะเชื้อที่ 30-32 องศา
เซลเซียส นาน 72 ชว่ั โมง นบั จํานวนโคโลนีท่ีแสดงปฏกิ ริ ยิ าเปน กรด
รายงานผลการวเิ คราะหข อง Acid formers ตอกรมั ของตัวอยาง
อาจจะทําการทดสอบไดอีกอยา งหนึ่ง โดยการเตมิ สารละลาย
ไฮโดรเจนเปอรออกไซดรอยละ 3-5 และสังเกตโดยการใช Hand lens
หรอื Wide field binocular โคโลนีไหนทไ่ี มไ ดท ําใหเ กดิ กา ซแสดงวา
เปน Catalase-negative รายงานผลการวเิ คราะหเ ปน Lactic acid
forming bacteria สําหรับโคโลนีที่ยอมสีใหแกรมบวก ไมส รา งสปอร มี
รูปรา งเปน แทง และกลม
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 119
การตรวจโดยตรงดวยกลองจุลทรรศน
ใชปเปตดดู เอาน้ําดองออกมา 0.01 มลิ ลิลิตร Spread ใหท ั่วท้งั พื้นท่ี 1
ตารางเซนตเิ มตรบนสไลด หลังทิ้งใหแหงแลว Fixed อีกครั้งหนึ่งดวยเปลวไฟ และ
ยอมสีแกรม ตรวจดูดวยกลองจุลทรรศน และนับจํานวนของจลุ นิ ทรียแ ตล ะชนดิ
1 cm 0.01 มิลลิลิตรตัวอยาง
1 cm
หา Microscopic factor = MF = จํานวน Field ใน 1 ตารางเซนตเิ มตร
= 100 mm2
MF = พ้ืนท่ี 1 ตารางเซนตเิ มตร
π !"#"(พื้นที่วงกลม) π !"#""""""( r ของเลนซ = mm)
สไลดม าตรฐาน 100 ขดี =0.01 mm ใน 1 Field มี 18 ขดี (d)
ดังนน้ั 100 ขดี = 0.01 มิลลิเมตร
ถา 18 ขดี = 0.01 x 18/100 = 0.0018 มลิ ลิเมตร (d)
ดงั นน้ั r = 0.0009 มิลลิเมตร
MF = 100 mm2 = 39,281,705
[22/7] [0.0009]2 mm2
a
bc
a + b + c = n โคโลนีตอ Field
3
สมมตุ ิ a = 69 เซล b = 72 เซล และ c = 59 เซล
คาเฉลี่ย = 69 + 72 + 59 /3 = 66.67 เซล
เมอ่ื MFxn = จํานวนจุลินทรียในพื้นที่ 1 ตารางเซนตเิ มตร (0.01 มลิ ลิลิตร)
MFxnx100 = จํานวนจุลินทรียใ นตัวอยา ง 1 มลิ ลิลิตร(1 กรมั )
ดังนั้น จํานวนจลุ นิ ทรียในพน้ื ท่ี 1ตารางเซนตเิ มตร = [39,281,705][ 66.67][100]
= 261,891,120,568 เซลตอกรัม
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 120
การศกึ ษาเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ร ะหวา งการหมกั กะหล่ําปลี
กะหลํ่าปลีดองเปนผลิตภัณฑหมักประเภทหนึ่งที่ยกตัวอยางเปนตัวแทนของ
ผักดองโดยเช้ือจุลินทรียท เ่ี ขา ไปมบี ทบาทในการใชน า้ํ ตาลทเ่ี ปน แหลง คารบ อนทม่ี อี ยู
ในวัตถุดิบเพอ่ื ใหจ ลุ นิ ทรยี ไ ดเ ปลย่ี นเปน กรดอนิ ทรยี ในสภาพสิ่งแวดลอมที่ไดถูก
ควบคุมของเกลอื เพอื่ มิใหจลุ นิ ทรยี อื่นๆท่ีไมตองการเจริญเติบโตไดค งไวแ ตจุลินทรยี
ที่สามารถผลิตกรดอินทรียที่สามารถเจริญเติบโตในสภาพที่มีเกลืออยูได ทาํ ใหค วาม
เปนกรดทง้ั หมดของระบบเพม่ิ ขน้ึ หรือคาpH ลดลงและทําใหผลิตภัณฑกะหลํ่าปลี
ดองมีความคงตวั ดงั นน้ั การศกึ ษาบทบาทของจลุ นิ ทรียท่ีมผี ลตอ การหมกั จงึ เปน
สิ่งที่ตองศึกษา
วตั ถดุ บิ •กะหล่ําปลี
อุปกรณ •เกลือแกง
•ขวดโหลปากกวาง
•ถุงพลาสติกขนาดเสนผาศูนยกลางใหญกวาปากขวดเล็กนอย
•ภาชนะสําหรับคลุกกะหลํ่าปลี
•มดี เขยี ง
•เครื่องชั่ง
•MRS agar หรอื อาหารน้ํามะพรา ว (Coconut Juice agar) ขวดละ
100 มลิ ลิลิตร
•MRS agar หรอื Coconut Juice ager (CJ agar) เติม
Bromcresol purple รอยละ 0.004, Sodium azide รอ ยละ 0.02
ขวดละ 100 มลิ ลิลิตร
•Diluent ขวดละ 9 มิลลิลิตร
•ปเ ปตขนาด 1 มลิ ลิลิตร
•Standard sodium hydroxide 0.5 N
•Phenolpthaline
•จานเพาะเชื้อ
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 121
การทดลองและรายงานผล
1. การเตรยี มกะหล่ําปลแี ละการหมกั
1.1 ตัดสวนที่เสียทิ้ง ลางกะหลํ่าปลที ง้ั หวั ผา เปน สองซกี สลัดใหแหง
ตัดแกนกลางออก ซง่ึ กะหลํ่าปลใี หท ราบน้าํ หนกั ทแ่ี นน อน แลวหั่นตามขวางใหชิ้น
กวางประมาณ 0.5 เซนตเิ มตร
1.2 ชั่งเกลือแกงใหไดรอยละ 2.5 ของน้ําหนกั กะหล่าํ ปลี
1.3 เคลาชิ้นกะหลํ่าปลแี ละเกลอื จนกะหลา่ํ ปลีออนตัวและมนี ้ําซึมออก
มา
1.4 บรรจกุ ะหลํ่าที่เคลาเกลือแลวลงโหลแกว อัดใหแนน ใชถุงพลาสติก
บรรจุนํ้าวางทับเพื่อกดใหชิ้นกะหลาํ่ อยใู ตร ะดบั น้ําทซ่ี มึ ออกมาจากการคลกุ เคลา เก็บ
โหลกะหลาํ่ หมักไวที่อุณหภูมิหอง 1 โหล และทอ่ี ณุ หภมู ิ 20 องศาเซลเซียส 1 โหล
2. การศกึ ษาจลุ นิ ทรียในระหวา งการหมกั
2.1 ตรวจนบั จํานวนจลุ นิ ทรยี ท ง้ั หมด
2.1.1 เตรยี มน้ําหมกั กะหล่าํ ปลี ใหเ จอื จางตามระยะเวลาของ
การหมกั ดงั น้ี
ระยะการหมกั ระดบั ความเจอื จาง
10-3, 10-4, 10-5
กอนอัดลงขวด 10-4, 10-6, 10-5
1 วัน 10-4, 10-5, 10-7
10-4, 10-5, 10-6
2, 3, 4, 5, 6, 7 วัน 10-3,10-4, 10-5
14 วัน
4 สปั ดาห
2.1.2 ตรวจนบั แบคทีเรียท้งั หมดดว ยวธิ ี Shake plate โดยใช MRS
agar หรือน้ํามะพรา ว (CJ agar) ตามระดบั ความเจอื จาง ทก่ี ําหนดในขอ 2.1.1
โดยนํา 2 จานในแตละระดับความเจือจางบมที่อุณหภูมิหอง รายงานจํานวนจลุ นิ ทรยี
โดยแยกเปน แบคทเี รยี ยีสตและเชื้อรา
2.1.3 ตรวจนบั แบคทเี รยี ทส่ี รา งกรด
ตรวจนับดวยวิธี Shake plate ใชร ะดบั ความเจอื จางเดยี วกบั
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 122
การตรวจนบั จลุ นิ ทรียท ง้ั หมด แตใช MRS หรอื CJ agar เติม Bromcresol purple
รอยละ 0.004 และ Sodium azide รอยละ 0.02 ตามระดบั ความเจอื จางทก่ี ําหนดใน
ขอ 2.1.1 บม เช้อื ท่ีอุณหภมู หิ อ ง 2 วัน นับเฉพาะโคโลนีซึ่งมีบริเวณสีเหลืองลอมรอบ
ซ่ึงเกิดจากแบคทเี รยี นน้ั สรา งกรด และเนื่องดวยในอาหารเพาะเชอ้ื ประกอบดวย
Sodium azide ซ่ึงยับย้ังการเจรญิ ของจลุ ินทรียซ ง่ึ มเี อนไซม Oxidase จงึ อนมุ าณวา
แบคทีเรียที่มีบริเวณสีเหลืองรอบโคโลนีเปนแลคติคแบคทีเรีย
2.2! ศึกษาลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยาของน้ําหมกั กระหล่ําปลี
ทุก ๆ ชวงเวลาตามที่กําหนดไว ขอ 2.1.1 เตรียมสไลดของนํ้าหมกั ยอมสี
แบบแกรม ตรวจดวยกลองจุลทรรศน สงั เกตรปู รา งและความหนาแนน ของเชอ้ื ตอ
พื้นที่หนากลอง วาดรปู แสดงอตั ราสว นของจลุ นิ ทรียในทุกชว งเวลาทน่ี ํามาศกึ ษา
2.3 การศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงทางเคมี
2.3.1 วัด pH ของน้ํากะหลํ่าปลี โดยวัดทุก ๆ ชว งเวลาทศ่ี กึ ษาจลุ นิ ทรยี
2.3.2 ศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงปรมิ าณกรดทง้ั หมด ใชป เปตดดู น้ํา
กะหล่ําปลี 9 มลิ ลิลิตร ใสฟลาสค เตมิ น้ํากลั่น 25 มิลลิลิตร ตมใหเดือดเพื่อไลกาซ
คารบอนไดออกไซด เติม Phenolphthaline 2-3 หยด แลวไตเตรทดวย 0.5 N
Standard sodium hydroxide solution ใหได End point สีชมพูออน ๆ คาํ นวณ
รอยละของกรดโดยคิดเปนกรดแลคติค
รอ ยละของกรด = มลิ ลิลิตรของ NaOH x Normlity ของ NaOH
2.3! ศึกษาคุณสมบัติทางประสาทสัมผัส (Organoleptic) ของ
กะหลํ่าปลหี มกั
สังเกตคุณสมบัติตอไปนี้ กลิ่น รส และความกรอบ
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 123
การศกึ ษาเชือ้ จลุ ินทรยี และการเปลยี่ นแปลงระหวางการหมัก
ผลติ ภณั ฑแ หนม
แหนมเปนผลิตภัณฑเนื้อหมัก โดยเปน การหมกั ดว ยเชอ้ื แบคทเี รยี ประเภท
แลคติคแบคทีเรีย ที่ใชแหลงคารบอนที่มีในสูตรการผลิตเพื่อเปลี่ยนเปนกรดแลคติค
มีผลทําใหผลิตภณั ฑม คี วามเปน กรดทง้ั หมดเพม่ิ ขน้ึ หรอื ทําใหค า pH ลดลง ทาํ ให
ผลิตภัณฑมีความคงตัว อยา งไรกต็ ามเทคนคิ การผลติ แหนมเปน การใชป จ จยั หลายๆ
อยางในการควบคุมการผลิตใหไดผลิตภัณฑที่ปลอดภัยและมีความคงตัวมากขึ้น เชน
ในผลิตภัณฑจะประกอบดวยเกลือแกง เพื่อชวยลดคา Aw ลง และใชเกลือไนเตรท
ไนไตรทเพ่ือชว ยยบั ยง้ั การเจรญิ เตบิ โตของเชอ้ื จลุ นิ ทรียบางอยา ง นอกจากจะชว ยใน
เร่ืองสีชมพแู ดงทป่ี รากฏดขี น้ึ และการที่ผลิตโดยใหผลิตภัณฑอยูในลักษณะที่มี
อากาศนอยก็เปนอีกปจจัยหน่ึงที่ที่จํากัดการเจริญเติบโตของจุลินทรียท่ีตองการ
อากาศในการเจรญิ ทาํ ใหจ ลุ ินทรียดังกลา วไมส ามารถเจรญิ เตบิ โตได แตเ ปน การ
สรางบรรยากาศใหจ ลุ นิ ทรียท่ีสามารถผลติ กรดได และเจรญิ ในทท่ี ม่ี อี ากาศนอ ยไดด ี
สามารถผลิตกรดอนิ ทรยี ไ ดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ และการทร่ี ะบบมคี วามเปน กรด
เพ่ิมข้ึนก็จะเปน การชว ยใหผลิตภัณฑม ีความคงตวั มากขน้ึ
นอกจากน้ีไดมีการนําเอาเทคโนโลยีเชื้อบริสุทธ์ิเร่ิมตนผสมมาใชในการผลิต
ผลิตภัณฑแ หนม เพื่อใหไดผลิตภัณฑที่คุณภาพมากขึ้น ทั้งในแงลักษณะเนื้อสัมผัส
ท่ีมีความแนนเนื้อมากข้ึน มสี ที ป่ี รากฏดขี น้ึ รวมทง้ั ทําใหผ ลิตภณั ฑมีความปลอดภยั
สูงขึ้น มีอายุการเกบ็ รกั ษาทย่ี าวนานมากขน้ึ กวา ปกตทิ ค่ี วรจะเปน
1.! วิธีหมกั แหนม
สวนผสมและวธิ กี ารผลติ
หมูเนื้อแดง 1 กิโลกรัม
หนงั หมตู ม สกุ 300 กรมั
กระเทยี ม 30 กรมั
ขา วเหนยี วนง่ึ 70 กรมั
โปแตสเซยี มไนเตรท 0.2 กรมั
พรกิ ไทย 0.5 กรมั
เกลือ (รอ ยละ) 3-4
พรกิ ขห้ี นู แลวแตความเหมาะสม
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 124
นําหมูสดเนื้อแดงซึ่งคัดเลือกเอาสวนที่เปนมันออกหมดแลว มาสับหรอื บด
ใหละเอยี ด ใชผ า ขาวทแ่ี หง และสะอาดซบั บนเนอ้ื หมหู ลาย ๆ ครง้ั เพอ่ื ใหป ระมาณ
ความชื้นในหมูลดนอยลง เติมเกลือและโปแตสเซียมไนเตรทซึ่งบดละเอียดลงในเนื้อ
หมูเคลาใหเขากัน นําพรกิ ไทย กระเทยี ม ขาวเหนียวนึ่งที่บดละเอียดแลวเขาดวย
กันอีกครง้ั หน่งึ นําหนงั หมู (ตมเดือดประมาณ 10-15 นาท)ี ใสห นงั หมลู งนวดตอ
จนสวนผสมทงั้ หมดเขากันดแี ละมลี กั ษณะเหนยี ว บรรจใุ นถงุ พลาสตกิ ประมาณ
30-40 กรมั เติมพริกขี้หนูหอละ 1-2 เมด็ หอดวยใบตอง 2-3 ชน้ั ผูกหอใหแนน
จนภายในหอมีอากาศนอยที่สุด เกบ็ ไวร ะยะ 4-5 วัน
2. ศึกษาการเปลย่ี นแปลงระหวา งการหมกั
ตรวจการเปลย่ี นแปลงทกุ ๆ วนั จนครบ 5 วัน ซง่ึ เปน ระยะทร่ี บั ประทานได
2.1! ตรวจจลุ นิ ทรียด ว ยกลอ งจลุ ทรรศน
เตรียมสไลด ยอมสแี บบแกรม สังเกตจํานวนและรปู รา งของแบคทเี รยี ใน
แตล ะระยะของการหมกั วาดรปู แสดงอตั ราสว นของแบคทเี รยี รปู รา งตา ง ๆ
2.2 ตรวจนบั จํานวนจลุ นิ ทรียท ง้ั หมด (Total viable count) และ
จํานวนแลคตคิ แบคทเี รยี
โดยทํา Serial dilution ดงั น้ี
กอ นบรรจหุ อ ใช Dilution 10-4, 10-5, 10-6
หมกั 1 วัน ใช Dilution 10-6, 10-7, 10-8
หมกั 2 วัน ใช Dilution 10-6, 10-7, 10-8
หมกั 3 วัน ใช Dilution 10-6, 10-7, 10-8
หมกั 5 วัน ใช Dilution 10-6, 10-7, 10-8
แตละ Dilution ทาํ 4 plates โดยใชอาหารนาํ้ มะพรา ว หรอื MRS medium
เติม Sodium azide รอ ยละ 0.01 เปน อาหารเลย้ี งเชอ้ื ตรวจนับจํานวนจลุ ินทรียโ ดย
แยกเปนจํานวนยีสต รา แบคทเี รยี สาํ หรบั แบคทเี รยี แยกเปน จํานวนแลคตคิ
แบคทเี รยี ซึ่งสังเกตไดจากรอบ ๆ โคโลนจี ะมี Zone สีเหลืองใส
2.3 ไตเตรทหารอ ยละของกรด
โดยชง่ั แหนม 3 กรมั บดในเครื่องปนใหละเอียด เตมิ น้าํ กลั่น 50 มลิ ลิลิตร
กรองดวยกระดาษกรองตมไล CO2 ไตเตรทดวย Standard NaOH solution 0.1 N
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 125
คํานวณเปน รอ ยละของกรดแลคตคิ
Lactic acid = ml of NaOH x normality of NaOH x 0.09 x 100
ml of sample
2.4วัดความเปน กรดเปน ดา ง( pH )
โดยช่ังแหนมหนกั 5 กรมั บดในเครอ่ื งปน ใหล ะเอยี ดเตมิ น้ํากลั่น 5 มิลลิลิตร
และวดั ความเปน กรดเปน ดา งดว ยเครอ่ื งวดั pH meter
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 126
การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรียใ นน้ํานม
น้ํานมเปนอาหารท่ีอดุ มสมบรู ณไ ปดว ยสารอาหารตางๆมากมาย เชน โปรตนี
เกลือแรและวิตามินตางๆ มปี ระโยชนต อรา งกาย ชว ยเสรมิ สรา งใหร า งกายแขง็ แรง
จุลนิ ทรียก็เปนส่ิงมชี วี ติ ประเภทหนง่ึ ทต่ี อ งการสารอาหารตา งๆ เพื่อการเจริญเติบโต
ในการสรา งเซล ดังน้ันจึงมีโอกาสความเปน ไปไดอ ยา งมากทอ่ี าหารนมอาจจะ
ปนเปอ นจากจลุ นิ ทรียได การควบคุมคุณภาพนาํ้ นมจงึ เปน สง่ิ ทม่ี คี วามสําคญั ยง่ิ เพื่อ
เปนการประกนั ความปลอดภยั จากเชอ้ื จลุ ินทรีย โดยเฉพาะจลุ นิ ทรียท่ีทําใหเกิดโทษ
การวเิ คราะหจ ลุ ินทรียท้ังในน้ํานมดิบ และน้ํานมทผ่ี า นกระบวนการมาแลว จงึ เปน
สิ่งที่หลีกเลี่ยงไมได
ตัวอยา งอาหาร
•นมพาสเจอรไ รสไมปรุงแตง รส
•นมพาสเจอรไรสปรงุ แตงรส
•นมดิบ
•ยาคลู ท
อุปกรณ
•จานเพาะเชื้อ
•หลอดทดสอบปราศจากเชอ้ื พรอ มจกุ ยาง
•ปเปตขนาด 10 มลิ ลิลิตร และ 0.01 มิลลิลิตร
•ขวดบรรจุ Diluent ปรมิ าตร 9 มลิ ลิลิตร
•Brillient Green Lactose Bile Broth (BGLB) เขม ขน สองเทา
•Brilliant Green Lactose bile Broth
•Violet red bile agar ขวดละ 80 มลิ ลิลิตร
•Standard plate count agar (SPCA) ขวดละ 100 มลิ ลิลิตร
•Resazurin solution
•Methylene blue thiocyanate solution
•Newman - Lampert stain
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 127
ทดลองและรายงานผล
1. การตรวจนบั จํานวนแบคทเี รยี ทง้ั หมด
1.1 ตรวจนบั โดยวิธี Shake plate โดยใชร ะดบั ความเจอื จาง 10-4,
10-5, 10-6 สําหรับการตรวจนับนมดิบ และ 10-2, 10-3, 10-4 สําหรับนมพาสเจอรไ รส
โดยตรวจนับระดับความเจือจางสองซํ้า ใชเ ปน อาหารเพาะเชอ้ื
1.2 บม เชอ้ื ทอ่ี ณุ หภมู ิ 32 องศาเซลเซียส เปนเวลา 48 ชว่ั โมง ตรวจนับ
จํานวนแบคทีเรียทั้งหมด
2. ตรวจนบั จํานวน Psychrophile ในน้าํ นมพาสเจอรไ รส
2.1 ตรวจนับ Psychrophile จากตวั อยา งนมทไ่ี มไ ดเ จอื จางปรมิ าตร 1
มิลลิลิตร ตอ จานเพาะเชอ้ื และตวั อยา งทเ่ี จอื จาง 1:10 เทา โดยตรวจนบั ระดบั ความ
เจือจางละสองซ้ํา
2.2 บม เชอ้ื ทอ่ี ณุ หภมู ิ 8 องศาเซลเซยี ส เปนเวลา 7 วัน นบั จํานวน
Psychrophile
3. วิเคราะหป รมิ าณ Coliform และ E.coli
3.1 หาคา MPN ของ Coliform โดยใช BGLB broth แบบ 5 หลอด ใช
ตัวอยางนมที่ไมไดทาํ ใหเ จอื จาง 10, 1 และ 0.1 มลิ ลิลิตร ตามลําดบั
3.2 นบั จํานวน Coliform ในตัวอยางนม 1 มิลลิลิตร และ 0.1 มิลลิลิตร
โดยใชว ธิ ี Violet red bile agar
3.3 ตรวจวิเคราะหผลจากขอ 3.1 และ 3.2 เพอ่ื ยนื ยนั วา เปน E. coli
นมสดจากแหลงผลิตแตละแหลงสําหรับใชใ นการพาสเจอรไ รสจ ะมแี บคทเี รยี
ไดไ มเกิน 100,000 โคโลนีตอ มิลลิลิตร แตถาจากแหลงผลิตหลายแหลงจะมีไดไมเกิน
300,000 โคโลนีตอมิลิลิตร สวนนมพาสเจอรไรสและผลิตภัณฑนมเกรดเอ จะมี
จุลินทรียไ ดไ มเ กนิ 20,000 โคโลนตี อมิลลิลิตร และจะมโี คลฟิ อรม ไดไ มเ กนิ 10
โคโลนีตอมิลลิลิตร สว นผลติ ภณั ฑน มทใ่ี ชจ ลุ นิ ทรยี ช นดิ ตา งๆในกระบวนการผลติ
และผา นการพาสเจอรไ รสเกรดเอ จะมโี คลิฟอรม ไดไ มเ กนิ 10 โคโลนตี อมิลลิลิตร
สวนนมผงเกรดเอมจี ลุ ินทรียไดไ มเ กนิ 30,000 โคโลนีตอกรัม และโคลิฟอรมมีได
ไมเกนิ 90 โคโลนีตอกรัม
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 128
การเกดิ เงาโลหะบน EMB agar
การเกดิ เงาโลหะบน EMB agar เปนคณุ สมบตั ขิ อ หนง่ึ ซง่ึ ใชใ นขน้ั ตอนการ
วินิจฉัย E. coli ผูวิเคราะหก ารทําความเขา ใจวา มี E. coli หลายสายพนั ธดุ ว ยกนั ท่ี
ไมใหป ฏกิ ริ ยิ าน้ี และมจี ลุ นิ ทรียอ่ืนๆ อกี หลายชนดิ ทอ่ี าจมลี กั ษณะโคโลนเี ปน เงา
โลหะบนอาหาร EMB โดยเฉพาะอยา งยง่ิ ในกรณที ใ่ี นสตู รอาหารมนี า้ํ ตาลอน่ื
นอกเหนือจากแลคโตส เนอ่ื งดว ยปฏกิ ริ ยิ าดงั กลา วเกดิ จากการทจ่ี ลุ นิ ทรยี เ ฟอรเ มนต
น้ําตาลไดกรดในปริมาณท่ีมากพอท่ีจะทําใหความเปนกรดดางของอาหารลดลงถึง
ระดับ pH ตํ่ากวา 4.5
จุลนิ ทรยี
•Enterobacter aerogenes
• E. coli
อุปกรณ
•จานเพาะเชื้อ
•Levine' s EMB agar ขวดละ 50 มลิ ลิลิตร
•แผนกระดาษกรองขนาดเสน ผา ศนู ยก ลางประมาณ 5 มิลลิเมตร
•กรดแลคติคเขมขนรอ ยละ 8, 4 และ 2
•กรด HCl เขม ขน 2, 1 และ 0.1 N
การทดลองและรายงานผล
1. เท EMB agar ใสจ านเพาะเชอ้ื 3 จาน
2. เขย่ี เชอ้ื E. coli และ Enterobacter aerogenes ลงบน EMB agar ให
แยกเปน โคโลนีเดยี่ ว ๆ จานละเชอ้ื
3. ใชปากคีบจุมแอลกอฮอลลนไฟ คบี แผน กระดาษกรองวางบน EMB agar
ใหระยะหา งกนั พอประมาณ
4. หยดกรดความเขม ขน ตา ง ๆ ลงบนแผนกระดาษ แผน ละความเขม ขน
5.อานผลเมื่อหยดกรดลงไปแลว 2 ชว่ั โมง และเมื่อบมไวที่ 37 องศา
เซลเซียส เปนเวลา 48 ชว่ั โมง เปรยี บเทยี บกนั โคโลนขี อง E. coli และ
Enterobacter ทบ่ี ม ไว 48 ชว่ั โมง
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 129
การตรวจนบั วเิ คราะห Staphylococcus ในอาหาร
การตรวจพบเชอ้ื Staphylococcus ปริมาณมากในอาหารนับวา เปน การ
แสดงถึงการไมป ลอดภยั ตอ บรโิ ภคของอาหารนน้ั เนื่องดวย Staphylococcus บาง
สายพันธุสามารถเจริญและผลิตเอนเทอไรทอกซนิ ในอาหารทําใหผ บู รโิ ภคเกดิ
อาการอาหารเปน พษิ ได นอกจากนน้ั การตรวจพบ Staphylococcus ในอาหารที่
ผานกรรมวิธีการผลิต ยงั เปน ดชั นแี สดงถงึ การปนเปอ นภายหลงั การผลติ ซง่ึ
สวนใหญแหลงที่มาของเชื้อคือผูสัมผัสอาหาร ซง่ึ จลุ ินทรียอาจมาจากในชอ งจมกู
ปาก หรือผิวหนัง
จุลนิ ทรยี
•Staphyloccccus aureus
•อาหารสําเรจ็ ประเภท ยํา หรอื ลาบ
•เอแคร
•เคร่ืองปรงุ บะหมส่ี ําเรจ็ รปู
อุปกรณ
•ถุงพลาสติกสวมคอขวดบรรจุ Trypticase Soy (TS) broth 40
มิลลิลิตร
•ขวดบรรจุ TS broth 50 มลิ ลิลิตร
•ขวดบรรจุ Diluent 225 มิลลิลิตร
•ขวดบรรจุ Diluent 9 มลิ ลิลิตร
•Baird parker (BP) agar
•Manitol salt agar เติมไขแดง
•Brain heart infusion broth
•น้ําเดอื ด
•น้ําเกลือรอ ยละ 0.8
•หลอดขนาด 10 x 75 มลิ ลิลิตร
•อางน้ําอุน
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 130
การทดลองและรายงานผล
1. การตรวจวเิ คราะหโ ดยไมน บั จํานวน
1.1 ชง่ั เครอ่ื งปรงุ บะหม่ี 5 กรมั ใสในถุงพลาสติกบรรจุ TS broth 20
มิลลลิ ติ ร เขยา ขวด บม ท่ี 25 องศาเซลเซียส เปนเวลา 2 ชว่ั โมง
1.2 เติม TS broth ซึ่งมเี กลือแกงรอยละ 20 ปรมิ าตร 20 มิลลิลิตร ลงในขอ
1.1 บม ท่ี 35 องศาเซลเซียส เปนเวลา 24 ถึง 48 ชว่ั โมง
1.3 ใชลูป Streak เชอ้ื จากขอ 1.2 และ S.aureus ลงบน BP agar MSEY
agar เพื่อใหไดโคโลนีเดี่ยว ๆ บม ท่ี 35 องศาเซลเซยี ส เปนเวลา 48 ชว่ั โมง
1.4 สังเกตการเจริญของ Staphylococcus ซง่ึ เมอ่ื อยบู น BP agar โคโลนมี ี
สีดําเปนมนั มขี อบขาวมกี ารตกตะกอนรอบๆ โคโลนี บน MSEY agar โคโลนมี ี
สีเหลือง
2. การตรวจวเิ คราะหเ พอ่ื นบั จํานวน
2.1 ชง่ั ตวั อยา งลายหรอื เอแคร 25 กรมั ทาํ ใหอ าหารเจอื จางระดบั 1:10
ดว ยเครื่องตีปนไฟฟา หรอื Stomacher
2.2 ทาํ ใหต ัวอยา งเจอื จางคงเปน 10-2 ,10-3 และ 10-4
2.3 ตรวจนับจํานวนดวยวิธี Spread plate โดยใช BD agar และ MSEY
agar
3. การทดสอบเอนไซม Coagulase
3.1 ใชลูปเข่ยี เชื้อจากโคโลนใี นขอ 1.4 และ 2.2 และเชื้อ S.aureus ลงใน
BHI broth โคโลนีและหอลด บม ท่ี 35 องศาเซลเซยี ส เปนเวลา 24 ชว่ั โมง
3.2 เจอื จางนา้ํ เลือดดวยนํ้าเกลอื รอ ยละ 0.85 โดยใชอัตราสวน 1:2
(น้ําเดือดตอนํา้ เกลือ)
3.3 ใชป เปตดูดน้ําเดอื ด (ขอ 3.2) ใสห ลอดขนาดประมาณ 10 X 75
มิลลิเมตร หลอดละ 0.5 มลิ ลิเมตร
3.4 ใชป เปตดดู เชอ้ื จากขอ 3.1 ปรมิ าตร 0.2 มลิ ลิลิตร ลงในหลอดน้ําเดอื ด
3.5 เตรยี มหลอดควบคมุ โดยใช BHI broth 0.2 มิลลิลิตรแทนเชื้อ
3.6 บม หลอดจากขอ 3.4 และ 3.5 ในอางนํ้าอุน ซง่ึ ควบคมุ อณุ หภมู ทิ ่ี 37
องศาเซลเซียส
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 131
3.7 ตรวจผลการแข็งตัวของนํ้าเลอื ดทกุ ๆ ชว่ั โมงจนครบ 4 ชว่ั โมง บมหลอด
ที่ใหผลลบตอไปอีก 24 ชว่ั โมง การแข็งตัวของนํ้าเลือดจะมลี กั ษณะตา งๆ กนั ตาม
ปริมาณเอนไซมท เ่ี ชอ้ื สรา งขน้ึ ดงั น้ี
- = ไมท ําใหเลือดแข็ง
+ = จํานวนเครอ่ื งหมายแสดงถงึ การแขง็ ของเลอื ดมากขน้ึ ตามลําดบั
3.8 รายงานผล
3.8.1 สําหรบั เครอ่ื งปรงุ บะหมร่ี ายงานวา ตรวจพบเชอ้ื Staphylococcus
ท้ังหมด(จากโคโลนีบนอาหารแขง็ ) และ S. aureus หรือไม (จากผลการตรวจ
Coagulase)
3.8.2 สําหรบั ลาบ และ เอแคร นบั จํานวน Staphylococcus ทง้ั หมด
และรายงานผลการตรวจเอนไซม Coagulase
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 132
การตรวจวเิ คราะห Salmonella ในอาหาร
การตรวจวเิ คราะห Salmonella ในอาหารนน้ั มวี ธิ กี ารและขน้ั ตอนการ
วิเคราะห ตลอดจนการทใ่ี ชเ ลย้ี งเชอ้ื แตกตา งจากการตรวจวเิ คราะหเ ชอ้ื นใ้ี นอจุ จาระ
ผูปวยอยูบาง ทง้ั นข้ี น้ึ กบั ชนดิ และลกั ษณะของอาหารในการตรวจวเิ คราะห อาหาร
ซึ่งผานกรรมวิธีการผลิตซึ่งมีผลทําใหเ ชอ้ื มคี วามแขง็ แรงนอ ยลง หรอื บาดเจ็บ
(Injury) เชน อาหารแหง อาหารแชแข็ง อาหารทผ่ี า นการฉายรงั สหี รอื ความรอ น
อาหารหมกั ดอง ไมค วรเรม่ิ ดว ยการใช Selective medium เลยทนั ที เนอ่ื งจากสาร
บางชนิดในอาหารประเภทน้ีในอาหารเพาะเชื้อที่ปราศจากสารยับยั้งการเจริญเติบโต
เสียกอน
สาํ หรบั อณุ หภมู ทิ ใ่ี ชบ ม เชอ้ื ในระยะ Pre-enrichment น้ันไมค วรใชอ ณุ หภมู ิ
สูงกวา 37 องศาเซลเซยี ส การใชอณุ หภูมิสงู ระดบั 42-43 องศาเซลเซยี ส จะมี
ประโยชนเ ฉพาะการ Enrich เชอ้ื จากตวั อยา งอาหารสดหรอื เชอ้ื ซง่ึ ผา นการ
Pre-enrich มาแลว เทา นน้ั
จุลนิ ทรยี
•Salmonella spp.
ตัวอยา งอาหาร
•ปลาปน
•ไขผง
•แหนม
•เครื่องในไก
อุปกรณ
•ถุงพลาสติกสวมคอขวดบรรจุ Buffered peptone water 225
มิลลิลิตร และบรรจุ Selenite cystine broth 225 มิลลิลิตร
•หลอดบรรจุ Selenite cystine broth 10 มลิ ลิลิตร และ บรรจุ
10 แ ห น ม
ον"ε"(λ"(λ7& α60∃∋Α%!"ne water 225แหนม
""("(7&
หลกั การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 133
•Lysine decarboxylase broth
•ONPG broth
•NA slant
•น้ําเกลือรอยละ 0.85 ปราศจากเชอ้ื
•Polyvalent "O" antiserum
•Polyvalent "N" antiserum
•Vi antiserum
•จานเพาะเชื้อ
•ปเ ปตขนาด 1 มลิ ลิลิตร
•สไลด
การทดลองและรายงานผล
1. การ Pre-enrich (ปลาปน ไขผ ง และแหนม)
ชั่งตัวอยางอาหาร 25 กรมั ใสใ นถงุ พลาสตกิ ซง่ึ บรรจุ Buffered peptone
water ใชมือบีบถุงใหอาหารแตกละลาย สําหรับอาหารทเ่ี ปน กรดจดั ควรปรบั ให
อยูร ะหวา ง 6.8-7.0 ดวย สารละลาย NaOH 1 N บม เชอ้ื ท่ี 37 องศาเซลเซยี ส 24
ชว่ั โมง
2. การ Enrich ใน Selection medium
2.1 สําหรบั ปลาปน ไขผง และอาหารสตั ว เมื่อเชื้อปรับตัวใน Buffered
peptone water แลว ถายเชอ้ื ปรมิ าตร 1 มิลลิลิตรจากขอ 1 ใสล งในอาหารเพาะเชอ้ื
สองชนดิ นี้คอื Selenite cystine broth ปรมิ าตร 10 มลิ ลิลิตร และ Tetrathionate
broth ปรมิ าตร 10 มลิ ลิลิตร บม ทอ่ี ณุ หภมู ิ 37 องศาเซลเซยี ส 24 ชว่ั โมง
2.2 สําหรบั อาหารสด เชน เครื่องในไก ชั่งตัวอยางอาหาร 25 กรมั ใสใ น
ถุงพลาสตกิ บรรจอุ าหาร Selenite cystine broth ปรมิ าตร 225 มิลลิลิตร และ
Tetrathionate broth ปรมิ าตรเทา กนั อยางละถุง ใชมือบีบถุงใหตัวอยางอาหารแตก
บมท่ี 37 องศาเซลเซยี ส เปนเวลา 24 ชว่ั โมง
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 134
3. การแยกเชอ้ื บนอาหารแขง็
3.1 ใชลูปแตะเชื้อจากขอ 2.1 และ 2.2 Streak ใหไดโคโลนีเดี่ยวๆ บน
SS agar บม ท่ี 37 องศาเซลเซียส 40 ชว่ั โมง
3.2 สังเกตโคโลนีของ Salmonella ซง่ึ โคโลนจี ะไมม สี ี โคโลนีใสหรือทึบ
บางสายพนั ธอุ าจมสี เี ขา กลางโคโลนี
4. การทดสอบปฏกิ ริ ยิ าทางชวี เคมบี างประการ
เขี่ยเชื้อจากโคโลนีลักษณะดังกลาวในขอ 3.2 ลงในอาหารเพาะเชื้อตอไป
น้ี บม ท่ี 37 องศาเซลเซยี ส 24 ชว่ั โมง
TSI agar (Slant และ Butt) เชอื้ Salmonella จะไมสรา ง Urease
อาหารจะไมเ ปลย่ี นสี
Lysine decarboxylase broth Salmonella จะสรา ง Lysine
decarboxlase ทาํ ใหอ าหารเปลย่ี นเปน สมี ว ง
ONPG broth เชอ้ื Salmonella ไมส รา งเอนไซน D-galactosidase
อาหารจะยงั คงไมม สี ตี ามเดมิ
5. การทดสอบแอนทเิ จน
5.1 ถายเชื้อลงบน NA slant บม ท่ี 27 องศาเซลเซยี ส 24 ชว่ั โมง ทํา
Suspension ดว ยน้ําเกลอื ปกตปิ ริมาตร 1 มิลลิลิตร
5.2 หยด Suspension ลงบนสไลด 3 หยด หางกันพอสมควร
5.3 หยด Polyvalent "O" Antiserum ลงใน Suspension หยดแรก
Polyvalent "N" Antiserum ลงในหยดที่สอง
5.4 เอยี งสไลดไ ปมา สังเกตการตกตะกอน (Agglutination) การ
ตกตะกอนในหยดซง่ึ มี Antiserum โดยทใ่ี นหยดทส่ี ามซง่ึ ไมม ี Antiserum อยู ไมม ี
ตะกอนเกิดขึ้น แสดงวาเกิดผลบวก ในกรณีที่เกิดตะกอน Suspension หยดทไ่ี มไ ด
เติม Antiserum แสดงวาเกิด Autoagglutination การทดสอบนจ้ี ะไมไ ดแ สง
5.5 ในกรณที เ่ี กดิ ปฏกิ ริ ยิ าเฉพาะกบั "H" Antiserum หยด "Vi"
Antigen ลงใน Suspension หยดทส่ี าม หรือทดสอบกับ "O" Antiserum ใหม
หลังจากตม Suspension ประมาณ 1 นาที
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 135
หมายเหตุ
การทดสอบตั้งแตขอ 3-5 ใหเปรยี บเทยี บผลการทดสอบเชื้อคมุ (Salmonella
spp.)
6.! การสรปุ และรายงานผล
6.1 เชอ้ื ซง่ึ ใหผ ลการทดสอบทางชวี เคมซี ง่ึ แสดงวา เปน Salmonella และ
ตกตะกอนแยกกับ Antiserum ถือวาเปน Salmonella
6.2 เชอ้ื ซง่ึ ใหผ ลการทดสอบทางชวี เคมเี พยี งบางการทดสอบ แตไ ม
ตกตะกอน กับ Antiserum ถือวาไมใช Salmonella
6.3 รายงานผลวา ตรวจพบ Salmonella หรือไมใ นตวั อยา งอาหาร 25 กรมั
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 136
การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรยี ป ระเภท Food poisoning bacteria
การวเิ คราะหจ ลุ นิ ทรียท่ีทําใหเกิดโรคเปนสิ่งที่จาํ เปน อยา งมาก เพราะเปน
ดัชนใี นการบง ช้ึถึงความปลอดภยั ของผบู รโิ ภค และความไดม าตรฐานของผลติ ภณั ฑ
จากเทคโนโลยีที่ทําการผลติ อาหารนน้ั ๆ
1.! ตรวจเชอ้ื Staphylococcus aureus ในอาหาร
1)! เท Plate โดยใช Baird – Parker ‘s media และ Mannitol salt agar ทง้ิ
คางคืนไวเพื่อใหผิวหนาแหง
2) เตรยี มการเจอื จางตวั อยา ง 1/10 โดยซง่ึ อาหาร 50 กรัม ปน ดว ยเครอ่ื งปน
ไฟฟา (Blender) ประมาณ 1นาที โดยเตมิ น้ํา 450 มิลลิลิตร จากความเจอื จาง
1/10 ใหเตรยี มความเจอื จาง 1/1,000
3)! ใชป เปตดูดความเจอื จาง 1/10 หยดบนผวิ หนา อาหารทเ่ี ตรยี มไวใ นขอ 1
จานละ 0.1 มลิ ลิลิตร 2 จาน และความเจอื จาง 1/1,000 จานละ 0.1 มลิ ลิลิตร
2 จาน และจานละ 1 มิลลิลิตร 2 จานใชแ ทง แกว ทง่ี อเปน รปู L จมุ
แอลกอฮอลลนไฟรอใหเย็นสักครู เกล่ียอาหารใหก ระจายไปทว่ั จาน
4) ทําการบม เพาะเชอ้ื ท่ี 37 องศาเซลเซียส เปนเวลา 48 ชว่ั โมง ตรวจและนับ
จํานวนโคโลนีของ Staphylacoccus aureus ซ่ึงจะสงั เกตไดด งั น้ี
บน Baird – Parker’s medium โคโลนีจะมีสีดําเปน มนั มขี อบขาว
เล็กๆ รอบ ๆโคโลนจี ะมี Clear zone
บน Mannitol salt agar โคโลนีมีสีเหลือง รอบๆโคโลนจี ะมสี เี หลือง
เชน กนั
5) ทดสอบเพื่อใหแนใจวาโคโลนีที่สังเกตเหลานั้นเปน Staphylococcus aureus
จริงโดยตรวจ
ก. Subculture เชื้อลงใน Brain heart infusion broth นําไปบม เพาะเชอ้ื
ไว 48 ชว่ั โมง
ข. ทาํ ให Blood plasma เจอื จางลง โดยใช Plasma 1 สวน ตอนํ้าเกลือ
รอยละ 0.85 จาํ นวน 2 สวน (ใช Rabbit plasma หรอื Human plasma
ก็ได)
ค. ใชป เ ปตดดู เช้อื จากขอ ก. ลงในหลอดเล็กๆ 0.1 มิลลิลิตร และดูด
Plasma 0.3 มิลลิลิตร ลงในหลอดนั้น แชใน Water bath ท่ี 37 องศา
เซลเซียส เปนเวลา4 ช่ัวโมง เชอ้ื ทส่ี รา งเอนไซม Coagulase (Coagulase
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 137
positive) จะสามารถ Clot blood plasma ใหแข็งตัว ซ่ึงอาจจะมลี กั ษณะ
ตางๆ กัน สําหรบั เชอ้ื ทใ่ี ห Coagulase มากนอ ยไมเ ทา กนั ดงั นค้ี อื
-+ ++ +++ ++++
ภาพ 19 การเกดิ การแขง็ ตวั ของ Blood plasma
สาํ หรับหลอดที่ใหผลเปน Negative ใหบมเพาะเชื้อตอไปเปน 24 ชว่ั โมง
อีกครั้งหนึ่ง
การตรวจ Coagulase น้ี อาจทาํ ดวยวิธีสไลดได คือหยดเชื้อลงบนสไลด
1 หยด หยด Plasma ลงบนเชอ้ื เอยี งสไลดไ ปมา ถาเชื้อเปน Coagulase positive
จะมีตะกอนเกิดขึ้นเห็นไดชัด
2.! ตรวจเชอ้ื Clostridium perfringens ในอาหาร
2.1 เท Plate ดวย Shahidi - Perfringens medium ทิ้งคางคืนไวเพื่อให
ผิวหนาแหง
2.2 ใชป เปตดูดอาหารทเ่ี จอื จาง 1/10 (จากขอ 1(2)) หยดบนผวิ หนา ของ
อาหารเลย้ี งเชอ้ื จานละ 0.1 มิลลิลิตร ใชแทงแกวรูป L จุมแอลกอฮอลลนไฟ หยด
อาหารใหแผไปจนทว่ั จาน แลวเติมอาหารเลี้ยงเชื้อที่ไมไดเติมไขแดงทับหนา
2.3 นําไปบมเพาะเชื้อ โดยไมต องกลบั จานใน Anaerobic jar นาน 24
ชั่วโมงตรวจดูโคโลนีของ Cl. perfringens ซ่ึงจะมีสีดําขนาดประมาณ 2-3 มลิ ลิเมตร
รอบๆโคโลนมี ี Precipitation zone สีขาวๆ
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 138
3.! การตรวจหาเชื้อ Vibrio parahaemolyticus ในอาหาร
3.1!Enrich อาหารทะเลทจ่ี ะตรวจ เชน ปู กุง และหอย เปนตน ใน Broth ซง่ึ
ประกอบดว ย
Peptone รอ ยละ 1
Yeast extract รอ ยละ 3
NaCl รอ ยละ 2
Polymyxin 250 µg/ml
การใสต วั อยา งอาหารใน Broth นําไปบม เพาะเชอ้ื ไว 2 - 3 วัน
3.2 Loop แตะ Broth ท่ี Enrich ไวจ ากขอ (1) Streak บน TCBS agar
นําไปบมเพาะเชื้อที่อุณหภูมิหอง
3.3! ตรวจโคโลนีของ Vibrio parahaemolyticus ซ่ึงจะมลี ักษณะกลม
ของเรยี บ นูน มสี เี ขยี ว ตรงกลางโคโลนีมีสีเขม กวา รอบนอก ขนาดประมาณ
2 - 3 มิลลิเมตร
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 139
ตาราง 16 ความแตกตา งของ V.parahaemolyticus จากจลุ นิ ทรียอ น่ื ๆ
จุลินทรีย Colonial TSI Lysine Voges Growth
appearance Slant/butt Decarbo Proskauer in 8 %
on TCBS xylase NaCl
V.parahaemolyticus Large,dark Alk/Acid + - +
green centre
V.cholorae Acid/Acid + d* or + -
Medium
V.alginolyticus yellow Acid/Acid + + +
V.anguillarum Large yellow Acid/Acid - + -
Other marine vibrios No growth d + +
Aeromonas Large green d/d - d -
Small yellow Acid/Acid
Pseudomonas sp Or no growth (gas d) - - -
Small, Alk/Alk
Plesimonas ale green + - -
Protieus sp. or colourless Alk/Acid (mirabilis)
No growth (d)/(gas d)
*d = variable. Small, yellow (d)
black or green
4.! การตรวจเชอ้ื Salmonella sp. ในอาหาร
4.1! Enrich ตวั อยา งอาหารทจ่ี ะตรวจ เชน ตับไก Swab จากเปลือกไข
ใน Selenite cystine broth นําไปบม เพาะเชอ้ื ไว 2 - 3 วัน
4.2! ใช Loop แตะ Broth จากขอ (1) Streak บน Brillient green sulfa
agar
4.3! ตรวจดูโคโลนีของ Salmonella sp. ซง่ึ อาจจะไมม สี ี หรือสีชมพู
รอบๆ โคโลนมี สี ชี มพหู รอื แดง
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 140
สูตรอาหารเลย้ี งเชอ้ื
1. Baird – Parker ‘ s Medium
Tryptone 10 กรมั
Meat extract 5 กรมั
Yeast extract 1 กรมั
Lithium chloride 5 กรมั
Agar 20 กรมั
Distilled water 1 ลิตร
ตมใหวุนละลาย ปรบั pH ใหได 6.8 แบงใสขวดๆละ 90 มลิ ลิลิตร Autoclave
ท่ี 121 องศาเซลเซยี ส 15 นาที หลงั จาก Autoclave แลว ทง้ิ ใหเ ยน็ ลงประมาณ 50
องศาเซลเซียส เติมสารละลายตอ ไปน้ีซึ่งไดกรองผานเครอื่ งกรองแบคทีเรียแลว
Glycine รอยละ 20 จํานวน 5 มิลลิลิตร Egg yolk emulsion 5 มลิ ลิลิตร เมื่อผสม
แลวตองใชทันที
การเตรียม Egg yolk emulsion
ลางไขใหสะอาด แชใน Mercuric Chloride รอ ยละ 0.1 ตอยไขใหและแยก
ไขขาวออกไปใหหมด เทไขแดงลงในกระบอกตวงที่นึ่งฆาเชื้อแลว เตมิ น้ําเกลือ
รอยละ 0.85 ท่ีน่ึงฆาเชอ้ื แลวลงไปใหเ ทากบั ปริมาตรของไขแ ดง ใชปเปตคนใหเขา
เปนเนื้อเดียวกัน
2. SEP agar
Tryptose 15 กรมั
Yeast extract 5 กรมั
Ferric amononium citrate 1 กรมั
Sodium metabisulfite (Na2S2O5) 1 กรมั
Polymysin B sulfate 30,000 units
Kanamycin sulfate 0.01 กรัม
Agar 20 กรมั
Distilled water 900 มิลลิลิตร
ปรบั pH 7.6 Autoclave 121 องศาเซลเซยี ส เปนเวลา 10 นาที ทิ้งใหเย็น
ประมาณ 50 องศาเซลเซยี ส เติมEgg yolk emulsion 100 มิลลิลิตร ผสมแลวใชทันที
หลกั การวเิ คราะหจ ุลนิ ทรยี รองศาสตราจารย ดร. ไพโรจน วริ ิยจารี 141
3. TCBS agar
Yeast extract 5 กรมั
Ferric citrate 1 กรมั
Peptone 10 กรมั
Bromthymol blue 0.04 กรมั
Sodium citrate 10 กรมั
Thymol blue 0.04 กรมั
Sodium thiosulfate 10 กรมั
Agar 15 กรมั
Oxgall 5 กรมั
Distilled water 1 ลิตร
Sodium cholate 3 กรมั
Saccharose 20 กรมั
Sodium chloride 10 กรมั
4. Selenite cystine broth
Tryptone 5 กรมั
Lactose 4 กรมั
NaHPO4 20 กรมั
Sodium acid selenite 4 กรมั
L-cystine solytion 1 มิลลิลิตร