145
ใบกจิ กรรมที่ 12
เรื่อง ลักษณะของเสียง
คำช้ีแจง ให้นกั เรียนเขียนแหล่งกำเนดิ เสียงที่ทำใหเ้ กิดเสยี งดงั และเสียงค่อย อยา่ งละ 5 เสยี ง พรอ้ มบอก
ความรสู้ ึกเม่ือไดย้ นิ เสยี งนัน้
ตน้ กำเนดิ เสียง ลักษณะของเสียง ความรูส้ กึ เม่ือไดย้ นิ
ดงั ค่อย
146
ใบกิจกรรมท่ี 13
เรอื่ ง แหลง่ กำเนิดมลพษิ และแนวทางป้องกัน
คำชี้แจง ให้นักเรยี นเขยี นแหลง่ กำเนดิ มลพิษทางเสยี งท่ี พร้อมบอกแนวทางป้องกัน
ต้นกำเนิดเสียง ลักษณะของเสียง ผลกระทบจากเสียง แนวทางปอ้ งกัน
ดงั ปาน ค่อย
กลาง
147
ใบกจิ กรรมที่ 14
เรอ่ื ง ลกั ษณะและความสำคญั ของดาวเคราะหใ์ นระบบสุรยิ ะ
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ข้อมูล เร่ือง ลักษณะและความสำคญั ของดาวเคราะห์ในระบบสุรยิ ะ แลว้ ตอบ
คำถาม พร้อมวาดภาพประกอบดาวเคราะห์ในระบบสุริยะใหถ้ ูกต้อง พร้อมระบายสีให้สวยงาม
1. ดาวเคราะห์ มีความหมายว่าอย่างไร
2. ศูนยก์ ลางของระบบสุรยิ ะ คืออะไร
3. ดาราจักรทางช้างเผือกหรือดาราจกั รที่มีระบบสุรยิ ะประกอบด้วยดาวเคราะห์กี่ดวง ไดแ้ ก่อะไรบ้าง
4. ดาวเคราะห์ดวงใดใกลด้ วงอาทติ ย์มากกวา่ โลก
5. ดาวเคราะหท์ ี่มองจากโลกจะเหน็ ไดด้ ้วยตาเปลา่ มีกดี่ วง มดี าวเคราะหด์ วงใดบ้าง
ใหว้ าดภาพประกอบของระบบสรุ ยิ ะให้ถกู ต้อง และระบายสีให้สวยงาม
148
ใบกิจกรรมท่ี 15
เรอื่ ง ความแตกตา่ งของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นจำแนกความแตกตา่ งของดาวเคราะห์และดาวฤกษล์ งในตารางเปรียบเทยี บใหถ้ ูกตอ้ ง
ตารางเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์
ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์
149
ใบกจิ กรรมท่ี 16
เรื่อง ปรากฏการณ์การข้ึนและการตกของกลุ่มดาวฤกษ์
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนศกึ ษาภาพเส้นทางการข้นึ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์ และตอบคำถามให้ถกู ต้อง
ประเทศไทยมเี สน้ ทางการข้นึ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์เป็นอย่างไร ให้อธบิ ายพอสังเขป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
150
ใบกจิ กรรมที่ 17
เร่ือง ศพั ท์ดาราศาสตรน์ า่ รู้
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นหาคำศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องกบั ทรงกลมท้องฟา้ ลงในตารางให้ถูกต้อง
ตารางคำศัพทน์ ่ารูเ้ ก่ียวกบั ทรงกลมท้องฟา้
คำศัพท์ ความหมาย
151
ใบกจิ กรรมที่ 18
เรื่อง วธิ กี ารใช้งานแผนทีด่ าว
คำชี้แจง ให้นกั เรียนเขยี นอธบิ ายวธิ ีการใช้งานแผนทด่ี าวตามความเข้าใจของนักเรียน แต่ถกู ต้องและชัดเจน
วิธีการใช้งานแผนท่ดี าว
152
ใบกิจกรรมที่ 19
เร่อื ง การหาคา่ มุมเงย
คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนเขียนภาพตัวอย่าง การหาค่ามมุ เงยได้โดยการใชน้ วิ้ มืดประมาณคา่ มุม โดยเร่มิ ต้นท่ี 0
องศา และค่ามมุ เงยเทา่ กบั 90 องศา พร้อมวาดภาพประกอบ และระบายสใี ห้สวยงาม
วาดภาพประกอบให้สวยงาม
ภาคผนวก ข
ใบงานหนว่ ยท่ี 5-7
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
ภาคผนวก ค
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรยี น
172
แบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรียน
เร่ือง แรงลพั ธ์
คำช้แี จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดียว
1. แรง คือ อะไร
ก. กาํ ลังหรืออาํ นาจทม่ี ีผลทําให้วตั ถุเกดิ การหยดุ น่ิง เปลี่ยนทศิ ทาง
ข. กาํ ลังหรอื อาํ นาจทม่ี ีผลทาํ ใหว้ ัตถเุ กิดการเปลี่ยนทิศทาง เปล่ยี นรูปร่าง
ค. ความสามารถที่กระทำต่อวัตถุแลว้ ทำให้วัตถเุ กดิ การเคลอื่ นที่ เปล่ยี นทิศทาง และเปล่ียนแปลงรปู ร่าง
ง. ผลรวมของแรง 2 แรงขึน้ ไปทกี่ ระทำต่อวตั ถุที่อยนู่ ่ิงใหเ้ คลอื่ นทไ่ี ปตามทิศทางของแรงลัพธน์ น้ั
2. ค่าแรงลพั ธม์ ีหนว่ ยเปน็ อะไร
ก. นวิ ตัน
ข. กรัม
ค. เวกเตอร์
ง. ปาสคาล
3. การออกแรงแบบใดทำใหเ้ กิดแรงลพั ธม์ ากทสี่ ดุ
ก. เดก็ 2 คน ชว่ ยกนั เขน็ รถยนต์
ข. เด็ก 3 คน ชว่ ยกนั เข็นรถยนต์
ค. เด็ก 4 คน ช่วยกนั เขน็ รถยนต์
ง. เดก็ 5 คน ชว่ ยกันเข็นรถยนต์
4. ต้มั ขอใหเ้ พ่ือน 4 คน ช่วยดนั ตเู้ สอ้ื ผ้าออกหา่ งประตู
จะเกิดแรงลพั ธ์ก่แี รง
ก. 1 แรง
ข. 2 แรง
ค. 3 แรง
ง. 4 แรง
5. ถา้ มกี ารกระทำต่อวตั ถใุ นทิศทางตรงข้ามโดยคา่ ของแรงเท่ากันจะเกดิ ผลอย่างไร
ก. วัตถุเคลอ่ื นที่ไปทางซา้ ย
ข. วตั ถุเคล่อื นที่ไปทางขวา
ค. วัตถไุ ม่เคลอื่ นที่
ง. วัตถเุ คลอื่ นทีไ่ ปทกุ ทิศทาง
เฉลย 2. ก. 3. ง. 4. ก. 5. ค.
1. ค.
173
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น / หลังเรียน
เรื่อง แรงเสยี ดทาน
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องทีส่ ุดเพยี งข้อเดียว
1. แรงตา้ นการเคลื่อนที่ของวตั ถุระหวา่ งผวิ สัมผสั ของวัตถุ 2 ชิ้น เรยี กวา่ อะไร
ก. แรงโนม้ ถว่ ง
ข. แรงเสยี ดทาน
ค. แรงเคล่ือนที่
ง. แรงดงึ ดูด
2. ถ้าผวิ สมั ผสั ของวตั ถุท้ัง 2 ชนดิ ไม่เรียบ แรงเสยี ดทานจะทำให้วตั ถุเคลอ่ื นทีอ่ ย่างไร
ก. เคลื่อนที่ไดน้ อ้ ย
ข. เคลอื่ นท่ีไดม้ าก
ค. เคล่ือนทีม่ ากแล้วกห็ ยดุ
ง. เคลอ่ื นท่มี ากบ้าง นอ้ ยบ้าง
3. ถ้าวัตถุเคลื่อนทีไ่ ด้น้อย จะเกิดแรงเสยี ดทานมาก แสดงวา่ ผวิ สัมผสั ของวตั ถเุ ป็นอย่างไร
ก. เรียบ
ข. ไม่เรยี บ
ค. มขี นาดเลก็
ง. มขี นาดใหญ่
4. แรงเสียดทานมีทิศทางการเคล่ือนท่อี ย่างไร
ก. ทศิ ตะวันออกกบั การเคล่ือนที่ของวัตถุ
ข. ทิศทางตะวนั ตกกบั การเคลือ่ นที่ของวัตถุ
ค. ทศิ ทางเดียวกนั กับการเคลื่อนท่ขี องวตั ถุ
ง. ทศิ ทางตรงกนั ข้ามกบั การเคลื่อนท่ีของวตั ถุ
5. เม่ือเราอยู๋ในน้ำจะเกดิ แรงเสียดทานระหว่างตวั เรากับนำ้ ทำใหเ้ กิดผลอย่างไร
ก. ออกแรงน้อยลง
ข. ออกแรงเพ่ิมข้ึน
ค. จบั สงิ่ ของในน้ำไม่ได้
ง. อยูน่ ิง่ ๆ เคล่ือนที่ไม่ได้
เฉลย 2. ก. 3. ข. 4. ง. 5. ง.
1. ข.
แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน 174
เรื่อง การลดและเพ่ิมแรงเสียดทาน 5. ข.
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องที่สดุ เพยี งขอ้ เดียว
1. ข้อใดเปน็ การเพิม่ แรงเสยี ดทาน
ก. การออกแบบรถให้มีรปู รา่ งเพรียว
ข. การใชล้ กู ปืนในเครือ่ งจักร
ค. การใช้น้ำมัน้ หล่อลน่ื
ง. การใชย้ างรถที่มลี วดลาย
2. การผลกั โต๊ะ ตรงกับแรงข้อใด
ก. แรงผลกั แรงไมส่ ัมผัส
ข. แรงผลัก แรงสมั ผสั
ค. แรงดึง แรงสมั ผัส
ง. แรงดงึ แรงไม่สมั ผัส
3. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกย่ี วกบั แรงเสยี ดทาน
ก. เกดิ ขึ้นมื่อวัตถุหนึ่งพยายามเคลือ่ นท่ี
ข. เกดิ ข้นึ ระหวา่ งผิวสมั ผัสของวัตถุ
ค. มีทศิ ทางตรงกนั ข้ากบั ทิศทางการเคลอ่ื นท่ี
ง. แรงที่เกิดขนึ้ ระหว่างท่ีวตั ถุหยดุ นิ่ง
4. การตีสควอชเกิดแรงใด
ก. แรงสมั ผสั
ข. แรงไมส่ มั ผสั
ค. แรงลพั ธ์
ง. แรงโนม้ ถว่ ง
5. แรงท่ีกระทำต่อวตั ถแุ ยกได้กี่ประเภท
ก. 1 ประเภท
ข. 2 ประเภท
ค. 3 ประเภท
ง. 4 ประเภท
เฉลย 3. ค. 4. ค.
1. ง. 2. ข.
แบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรียน 175
เรอื่ ง ข้อดีและข้อเสียของแรงเสียดทาน 5. ข.
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องทีส่ ดุ เพียงข้อเดียว
1. เหตใุ ดยางรถยนต์จงึ มีลวดลายและผวิ ขรขุ ระ
ก. เพม่ิ แรงเสียดทาน
ข. ลดแรงเสียดทาน
ค. ให้ความสวยงาม
ง. สะดวกสบายเวลาเปลย่ี นยาง
2. เมื่อรถยนต์แลน่ ไปข้างหนา้ แรงเสียดทานของถนนจะมีทิศทางใด
ก. ทศิ ตรงขา้ มกบั รถแล่น
ข. ทศิ ทางเดียวกับรถแล่น
ค. ทศิ ทางไม่แนน่ อน
ง. พนื้ ถนนมีแรงเสยี ดทานทุกทศิ ทาง
3. สาเหตทุ ี่ทำใหเ้ ครื่องกลมปี ระสทิ ธกิ ารทำงานภาพต่ำ คืออะไร
ก. แรงดึงน้อย
ข. แรงเสยี ดทานมาก
ค. แรงพยายามนอ้ ย
ง. แรงกดนอ้ ย
4. แรงทตี่ ้านการเคลอื่ นทีข่ องวตั ถุเรียกวา่ อะไร
ก. แรงสมั ผัส
ข. แรงไมส่ ัมผัส
ค. สมั ประสทิ ธิ์
ง. แรงเสียดทาน
5. การเพ่ิมแรงเสียดทานของล้อรถยนต์ทำให้ล้อยึดเกาะถนนไดด้ ี ควรทำอยา่ งไร
ก. เพิ่มดอกยาง
ข. ทำลวดลายของยางรถยนต์
ค. หยอดนำ้ มันที่ล้อรถยนต์
ง. ใช้นำ้ มันราดบนลอ้ รถยนต์
เฉลย 2. ข. 3. ข. 4. ง.
1. ข.
แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลังเรยี น 176
เรื่อง การเกิดเสียง ง. ซอ
ง. เสียงแตรรถยนต์
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ต้องท่สี ดุ เพียงข้อเดียว
ง. อาศยั แรง
1. เครอื่ งดนตรีในข้อใดทำใหเ้ กิดเสียงโดยส่ันเปน็ จังหวะ
ก. ฉาบ ข. องั กะลุง ค. กลอง
2. เสียงในข้อใดไมใ่ ช่เสยี งทม่ี าจากแหลง่ ธรรมชาติ
ก. หมาเหา่ ข. ไก่ขัน ค. ฟ้าผา่
3.การดีด สี ตี เป่า เปน็ แหล่งเสยี งประเภทใด
ก. แหล่งกำเนิดเสียงที่มนษุ ยส์ ร้างขน้ึ
ข. แหลง่ กำเนดิ เสยี งตามธรรมชาติ
ค. แหลง่ กำเนดิ เสยี งท่ีเทคโนโลยสี รา้ งข้ึน
ง. แหลง่ กำเนดิ เสยี งดนตรี
4.เสียงเคลอ่ื นท่ีได้อยา่ งไร
ก. อาศยั ความเรว็ ข. อาศยั ตัวกลาง ค. อาศยั ตวั เร่ง
5. ขอ้ ใดคือเครื่องรับเสยี งของมนษุ ย์
ก. หู
ข. ตา
ค. ปาก
ง. ผวิ สัมผสั
เฉลย
1. ข. 2. ง. 3. ก. 4. ก. 5. ก.
177
แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรยี น
เร่ือง การเกิดเสยี ง (2)
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพยี งข้อเดียว
1. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง
ก. แหล่งกำเนดิ เสยี งท่สี น่ั ดว้ ยความถีต่ ่ำ ทำให้เกิดเสยี งสงู
ข. แหล่งกำเนดิ เสยี งทีส่ ัน่ ด้วยความถสี่ ูง ทำให้เกิดเสียงสงู
ค. แหลง่ กำเนดิ เสียงทมี่ มี วลมาก ทำใหเ้ กดิ เสยี งสูง
ง. แหล่งกำเนดิ เสียงท่ีมีมวลน้อย ทำใหเ้ กิดเสียงต่ำ
2. เสียงเดินผา่ นตวั กลาง ตัวกลางคือข้อใด
ก. อากาศ ข. ลม ค. โทรศัพท์ ง. แสง
ง. สายน้ำ
3. ข้อใดไมใ่ ช่องค์ประกอบของการไดย้ นิ เสียง ง. อาศยั แรง
ก. แหลง่ กำเนิดเสียง ข. ตวั กลาง ค. เคร่อื งรบั เสยี ง
4. เสยี งเคลอื่ นท่ีได้อย่างไร
ก. อาศัยความเรว็ ข. อาศยั ตัวกลาง ค. อาศยั ตัวเร่ง
5. ถ้าเราขึน้ ไปเล่นกตี าร์ในอวกาศ จะได้ยินเสียงกีตารห์ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
ก. ไดย้ นิ เพราะมแี หลง่ กำเนิดเสียง
ข. ไดย้ ิน เพราะเล่นกีตารด์ ้วยตนเอง
ค. ไม่ไดย้ ิน เพราะไมม่ ีตัวกลาง
ง. ไม่ไดย้ นิ เพราะกีตาร์อยูใ่ นสภาพไร้น้ำหนกั
เฉลย 2. ก. 3. ง. 4. ก. 5. ก.
1. ข.
178
แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลังเรยี น
เร่อื ง แหลง่ กำเนิดเสียง (1)
คำชแี้ จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่สี ดุ เพยี งข้อเดียว
1. ตวั กลางในข้อใดเสียงเดนิ ทางผา่ นได้ดีท่ีสุด
ก. ของแข็ง ข. ของเหลว ค. แก๊ส ง. ของแข็งก่ึงเหลว
2. เมือ่ ดีดกีตาร์แลว้ ใช้มอื จับสายกีตารใ์ ห้หยดุ สัน่ จะเกิดผลอยา่ งไร
ก. ทำให้เสียงต่ำ ข. ทำให้เสยี งแหลม ค. ทำให้เสียงสูง ง. ไม่มเี สยี ง
3. อดตี นายพรานใช้วธิ ีใดถ้าอยากรู้วา่ มีสัตวใ์ หญ่อยู่ใกล้ ๆ หรือไม่
ก. ใชห้ แู นบพื้นฟงั เสยี งการเคล่ือนไหวของสตั ว์
ข. ปอ้ งหูฟงั เสยี งการเคลอ่ื นไหวของสัตว์
ค. สังเกตเงาของสัตว์ท่ีทอดมา
ง. ใช้เข็มทศิ จบั ทศิ ทางของสัตว์
4. เสียงเคลอื่ นที่ได้อย่างไร
ก. อาศยั ความเรว็
ข. อาศัยตัวกลาง
ค. อาศัยตวั เรง่
ง. อาศัยแรง
5. การเกิดเสยี งในบรเิ วณใดที่เราจะไม่ได้ยนิ
ก. บรเิ วณทม่ี ลี มพัดแรง
ข. บริเวณที่มีอากาศชนื้
ค. บรเิ วณที่มอี ากาศแหง้ แล้ง
ง. บริเวณสญุ ญากาศ
เฉลย
1. ก. 2. ง. 3. ก. 4. ก. 5. ก
179
แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน
เรือ่ ง แหลง่ กำเนิดเสยี ง (2)
คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว
1. การสนทนาผ่านโทรศัพท์กระป๋อง ตัวกลางเสยี งคอื ข้อใด
ก. กระปอ๋ งฝ่งั ตรงข้าม
ข. เชือก
ค. อากาศ
ง. เสียง
2. ข้อใดไม่ใช่แหลง่ กำเนิดเสียงจากปรากฎการณธ์ รรมชาติ
ก. เสียงน้ำตก
ข. เสยี งฟา้ ร้อง
ค. เสยี งฟ้าผ่า
ง. เสยี งเด็กร้องไห้
3. ขอ้ ใดคือแหลง่ กำเนิดเสียงตอนเราเปลง่ เสยี งออกมา
ก. กล่องเสยี ง
ข. รมิ ฝีปาก
ค. ฟนั
ง. ลน้ิ
4. เมอ่ื เราไดย้ ินเสียงแล้ว อวยั วะส่วนใดท่ีทำให้เรารบั รู้ว่าเปน็ เสียงอะไร
ก. เยอ่ื แก้วหู
ข. รหู ู
ค. กระดูกทงั่
ง. สมอง
5. เสยี งข้อใดให้ความรสู้ กึ แตกตา่ งจากพวก
ก. เสยี งดนตรี
ข. เสยี งปะทัด เฉลย 2. ง. 3. ก. 4. ค. 5. ข.
ค. เสียงรอ้ งเพลง 1. ข.
ง. เสยี งนกร้อง
180
แบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรยี น
เรื่อง เสยี งสูงและเสียงต่ำ
คำช้แี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพยี งข้อเดียว
1. เสียงสูงเสียงตำ่ โดยทวั่ ไปเรยี กว่าข้อใด
ก. ระดับเสยี ง
ข. ความถ่ขึ องเสียง
ค. การสั่นของเสียง
ง. ความดงั ของเสยี ง
2. การเกิดเสยี งดัง เสยี งค่อยขนึ้ อยู่กับอะไร
ก. ความถข่ี องเสียง
ข. ตัวกลางของเสียง
ค. ชนดิ ของแหลง่ กำเนดิ เสยี ง
ง. พลังงานทท่ี ำให้เกิดเสยี ง
3. การทเี่ ราไดย้ นิ เสยี งดังหรอื เสียงเบาขนึ้ อยกู่ ับปจั จัยใดบ้าง
ก. พลังงานในการส่นั ของแหล่งกำเนดิ เสยี ง
ข. ระยะทางจากแหลง่ กำเนิดเสียงกบั หู
ค. ความถ่ีของแหลง่ กำเนดิ เสียง
ง. พลังงานในการส่ันสะเทอื นของแหลง่ กำเนิดเสยี งและระยะทางจากแหลง่ กำเนดิ เสยี งกับหู
4. เราจะไมไ่ ดย้ นิ เสียงใดเลย เม่ือเราอยู่ทีใ่ ด
ก. ในถ้ำลึก ข. ในนำ้ ลกึ ค. ในห้องท่ีไม่มีอากาศเลย ง. บนยอดเขา
5. การเกดิ เสียงสูง เสยี งตำ่ ขึ้นอยู่กบั อะไร
ก. ความถ่ีของเสียง
ข. ตัวกลางเสยี ง
ค. ชนดิ ของแหลง่ กำเนดิ เสียง
ง. พลังงานที่ทำใหเ้ กดิ เสยี ง
เฉลย 4. ค. 5. ก.
1. ก. 2. ง. 3. ง.
181
แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลังเรียน
เร่อื ง เสียงดังเสยี งค่อย
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ุดเพียงข้อเดียว
1. เสยี งทม่ี รี ะดบั ความเขม้ เท่าใดก่อใหเ้ กดิ อันตรายต่อผู้รบั ฟงั
ก. 50 เดซเิ บล ข. 75 เดซเิ บล ค. 85 เดซิเบล ง. 100 เดซิเบล
2. การเกดิ เสียงดัง เสยี งค่อยขึน้ อยกู่ ับอะไร
ก. ความถ่ีของเสียง
ข. ตัวกลางของเสียง
ค. ชนดิ ของแหลง่ กำเนิดเสียง
ง. พลงั งานท่ที ำให้เกดิ เสยี ง
3. การทเี่ ราได้ยนิ เสยี งดังหรอื เสยี งเบาขึน้ อยกู่ ับปัจจยั ใดบ้าง
ก. พลังงานในการส่ันของแหล่งกำเนิดเสยี ง
ข. ระยะทางจากแหลง่ กำเนิดเสียงกบั หู
ค. ความถข่ี องแหล่งกำเนดิ เสยี ง
ง. พลังงานในการส่นั ของแหล่งกำเนดิ เสียงและระยะทางจากแหลง่ กำเนิดเสียง
4. ถ้าได้ยินเสียงปะทดั ดงั ขนึ้ มาอยา่ งฉับพลนั เราควรทำอยา่ งไร
ก. ใช้นวิ้ มอื อดุ หู
ข. ตะโกนโตต้ อบ
ค. วิ่งหนใี หเ้ รว็ ทส่ี ดุ
ง. หันหลงั ให้ต้นกำเนิดเสียง
5. นกั ดนตรีใช้น้ิวกดสายแล้วเล่ือนตำแหนง่ การกดสายไปมาขณะดดี กีตารเ์ พ่ืออะไร
ก. ปรบั ใหเ้ สยี งสูงต่ำตามต้องการ
ข. บงั คบั ให้สายไม่สัน่
ค. บงั คับใหเ้ สียงกีตารไ์ ม่สน่ั
ง. ปรบั เสยี งให้ดังหรอื ค่อยไดต้ ามต้องการ
เฉลย
1. ค. 2. ง. 3. ง. 4. ก. 5. ก.
182
แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน
เรอื่ ง มลพิษทางเสียง
คำชี้แจง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องทสี่ ดุ เพียงข้อเดียว
1. บริเวณใดทมี่ ีเสยี งดังมากจนเกิดมลพิษทางเสียง
ก. ทะเล ข. ภเู ขา ค. โรงงาน ง. โรงพยาบาล
2. บรเิ วณใดเปน็ พ้นื ท่ีปลอดเสยี ง
ก. โรงพกั
ข. โรงเรยี น
ค. โรงแรม
ง. โรงพยาบาล
3. ขอ้ ใดไม่ใชเ่ สยี งที่มาจากเครือ่ งใชต้ ่าง ๆ ภายในบ้าน
ก. โทรทศั น์
ข. วิทยุ
ค. เครื่องดดู ฝนุ่
ง. รถยนต์
4. อปุ กรณ์ใดใชป้ ้องกันเสียงได้
ก. ท่ีครอบหู
ข. สำลี
ค. คัดตอนบัด
ง. หมวก
5. มลพษิ ทางเสยี งหมายถึงข้อใด
ก. เสยี งท่กี อ่ ให้เกิดความรำคาญ และก่อใหเ้ กิดอนั ตรายต่อการไดย้ นิ
ข. เสียงบน่ เสยี งนินทา ทก่ี อ่ ใหเ้ กิดความรำคาญตอ่ การได้ยนิ
ค. เสยี งเพลงในผับบาร์ท่เี ปดิ ดงั เอาใจวยั รุน่
ง. เสียงทฟี่ ังแลว้ รู้สกึ สบายใจ และทำให้จิตใจรน่ื รมย์
เฉลย 2. ง. 3. ง. 4. ก. 5. ก
1. ค.
183
แบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรยี น
เรื่อง ความสำคัญของดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะ
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ดุ เพียงข้อเดียว
1. ข้อใดคือศูนยก์ ลางของระบบสุริยะ
ก. โลก
ข. ดวงจันทร์
ค. ดวงอาทิตย์
ง. ดวงจันทร์
2. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเก่ยี วกบั ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
ก. มีสง่ิ มชี วี ติ อาศยั อยู่
ข. เคล่ือนทร่ี อบดวงอาทิตย์
ค. มีแสงสวา่ งในตวั เอง
ง. มีดาวเคราะหท์ งั้ หมด 9 ดวง
3. ข้อไม่ใช่เปน็ ดาวฤกษ์
ก. ดวงอาทติ ย์
ข. ดาวศุกร์
ค. ดาวอังคาร
ง. ดาวเสาร์
4. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง
ก. มองดวงอาทติ ย์โดยตรงอาจทำใหต้ าบอดได้
ข. ดวงอาทติ ย์กับดาวพฤหสั บดีมขี นาดเทา่ กัน
ค. ดาวพฤหัสบดเี ปน็ ดาวที่มวี งแหวน
ง. ดาวยเู รนัสสามารถมองเห็นไดด้ ้วยตาเปล่า
5. ดาวเคราะหท์ ี่มขี นาดเล็กท่ีสุดในระบบสุริยะคือข้อใด
ก. ดาวองั คาร
ข. โลก
ค. ดาวพุธ
ง. ดาวศุกร์
เฉลย 3. ก. 4. ก. 5. ค.
1. ค. 2. ข.
184
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น / หลังเรียน
เรื่อง ตำแหน่งของดวงอาทติ ย์
คำชี้แจง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบที่ถูกต้องท่ีสดุ เพียงขอ้ เดียว
1. ขอ้ ใดไม่ใชส่ มบัตขิ องดาวฤกษ์
ก. มีแสงสว่างในตวั เอง
ข. กะพริบแสงระยิบระยับ
ค. เปน็ บริวารของดวงอาทิตย์
ง. ไมเ่ คล่อื นท่ีเมื่อเทียบกับดาวสว่ นใหญ่
2. ในวันท่ี 15 กันยายน ดวงอาทิตยเ์ คลอื่ นท่ีปรากฏผ่านกลุ่มดาวฤกษ์หรือกลมุ่ ดาวจักรราศีกล่มุ ใด
ก. กลมุ่ ดาวปู
ข. กลุ่มดาวสงิ โต
ค. กลุ่มดาวคนั ชัง่
ง. กลุ่มดาวปลา
3. กลมุ่ ดาวในข้อใดทขี่ ึ้นตรงจดุ ด้านทศิ ตะวนั ออกพอดี และตกทางด้านทิศตะวันตกพอดี
ก. กลุ่มดาวแพะทะเล
ข. กลมุ่ ดาวแมงป่อง
ค. กลมุ่ ดาวนายพราน
ง. กลุ่มดาวหมใี หญ่
4. ดาวท่เี หน็ บนท้องฟา้ ยามค่ำคืนส่วนใหญ่เปน็ ดาวประเภทใด
ก. กลุม่ ดาวฤกษ์
ข. ดวงจนั ทร์
ค. ดาวศกุ ร์
ง. ดาวเหนือ
5. ดาวใดมแี สงสวา่ งในตัวเองและสว่างท่ีสุดในดาวหมีเล็ก
ก. ดาวศกุ ร์
ข. ดาวโพลารสิ
ค. ดาวพธุ
ง. ดาวเคราะห์แคระ
เฉลย
1. ค. 2. ข. 3. ค. 4. ก. 5. ข.
185
แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลังเรียน
เรือ่ ง ความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์
คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องทีส่ ุดเพยี งข้อเดียว
1. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง
ก. ดาวฤกษ์ไมม่ ีความร้อนและแสงสวา่ งในตวั เอง
ข. ดาวเคราะห์มีความร้อนและแสงสวา่ งในตัวเอง
ค. นกั เดนิ ทางสมยั โบราณใช้ดาวเหนือในการหาทศิ
ง. ดาวศุกร์สามารถมองเหน็ ไดด้ ว้ ยตาเปล่าในช่วงเช้า
2. เหตใุ ดดาวพลูโตจึงไม่จัดเป็นดาวเคราะห์
ก. มีขนาดเลก็ มาก
ข. มวี งโคจรไมส่ อดคล้องกับดาวเคราะห์ดวงอ่ืน ๆ
ค. มลี ักษณะคลา้ ยวัตถุมากกว่าเปน็ ดาวเคราะห์
ง. ถูกทุกขอ้
3. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ กู ต้องเกี่ยวกบั การรวมกลุ่มของดาวบนฟา้
ก. ดาวเคราะห์ไม่จำนวนน้อยจึงรวมกลุ่มกนั เป็นกลมุ่ ก้อน
ข. ดาวฤกษ์มีจำนวนมากและรวมกันเป็นกลุ่มดาว
ค. ดาวเคราะหเ์ ปน็ บริวารของดวงอาทติ ย์
ง. ดาวฤกษ์ไม่มีดาวบริวาร
4. ดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษแ์ ตกตา่ งกนั อยา่ งไร
ก. ดาวเคราะหม์ ีมวลนอ้ ยแต่ดาวฤกษ์มีมวลมาก
ข. ดาวเคราะห์มองเหน็ เปน็ แสงนวลแตด่ าวฤกษ์เป็นแสงกะพรบิ
ค. ดาวเคราะห์เกดิ จากการรวมตวั ของอนภุ าคฝนุ่ ส่วนดาวฤกษเ์ กิดจากการหดตัวของฝนุ่
ง. ถูกทุกข้อ
5. เหตุใดจงึ มองเหน็ ดาวศุกร์ได้ด้วยตาเปลา่
ก. เพราะมีขนาดใหญ่
ข. เพราะแสงอาทิตย์ตกกระทบ
ค. เพราะโคจรรอบโลกเป็นเวลา
ง. ไมม่ ขี ้อถูก
เฉลย
1. ค. 2. ง. 3. ก. 4. ง. 5. ข.
186
แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลังเรียน
เรื่อง ปรากฎการณ์การขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องทสี่ ดุ เพียงข้อเดียว
1. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ดาวเคราะหม์ ีปรากฏการณข้ึนตกเชน่ เดียวกับดาวฤกษ์
ข. กลุ่มดาวปรากฏขึน้ ทางดา้ นตะวันออกและตกทางด้านตะวันตก
ค. กลุ่มของดาวฤกษ์จะปรากฏที่ตำแหนง่ เดมิ และเวลาเดิมในทุกคืน
ง. ปรากฏการณ์ขึ้นตกของกลุ่มดาวเกิดจากการหมนุ รอบตัวเองของโลก
2. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง
ก. ดวงจนั ทร์ขึน้ ทางทิศตะวันตก และตกทางทศิ ตะวนั ออก
ข. ดวงจันทรข์ ึ้นทางทศิ ตะวันตก และตกทางทศิ ตะวนั ออก
ค. ดาวต่าง ๆ ข้ึนทางทศิ ตะวันตกและตกทางทิศตะวนั ออก
ง. ดาวตา่ ง ๆ ขึ้นและตกทางทิศเดียวกันกับดวงอาทติ ย์
3. ข้อใดถูกต้องเกีย่ วกับรูปร่างท่ีปรากฏและเสน้ ทางข้นึ ตกของกลุ่มดาวฤกษ์
รปู ร่างทปี่ รากฏ เส้นทางข้ึนตก
ก. เหมือนเดมิ คงท่ี
ข. เหมือนเดมิ ไม่คงท่ี
ค. ไม่เหมือนเดมิ คงที่
ง. ไม่เหมือนเดมิ ไม่คงที่
ใช้ภาพกลุ่มดาวต่อไปนีต้ อบคำถามขอ้ 4
4. การทคี่ นชาตติ ะวนั ตกและคนไทยเรียกช่ือกลุ่มดาวน้ีตา่ งกันเพราะอะไร 187
ก. จินตนาการต่างกัน
ข. มองในทิศทตี่ ่างกนั 5. ข.
ค. ใช้อุปกรณ์ช่วยดูดาวต่างกัน
ง. อยู่ในตำแหนง่ บนโลกที่ต่างกนั
5. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกยี่ วกับเส้นทางการขน้ึ และตกของกลุ่มดาว
ก. เกดิ จากแกนของโลกเอยี ง
ข. เกดิ จากโลกหมนุ รอบตัวเอง
ค. เกิดจากโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
ง. เกิดจากการเคล่ือนทีข่ องดวงอาทติ ย์
เฉลย 4. ก.
1. ค. 2. ง. 3. ก.
แบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรียน
เร่อื งที่ ทรงกลมท้องฟา้
คำช้แี จง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องทีส่ ดุ เพียงขอ้ เดียว
ใช้ภาพต่อไปน้ี ตอบคำถามข้อ 1-2
1. จากภาพ เส้นใดแสดงเสน้ ขอบฟา้ ไดถ้ ูกต้อง
ก.
ข.
ค.
ง.
188
2. จากภาพข้อใดถกู ต้องเกี่ยวกบั จดุ A
ก. เป็นตำแหน่งที่พบดาวเหนอื
ข. เป็นตำแหน่งคงทบ่ี นท้องฟา้
ค. เป็นจุดทมี่ มี ุมทิศ 90 องศา
ง. เปน็ จดุ ท่ีใชบ้ อกคา่ มมุ เงย 90 องศา
3. ข้อใดเปน็ ศนู ย์กลางของทรงกลมทอ้ งฟ้า
ก. โลก
ข. ดวงอาทิตย์
ค. ดวงจันทร์
ง. กลุ่มดาวเคราะห์
4. ข้อใดคือเสน้ สมมติท่เี ปน็ แนวเช่ือมระหว่างขอบฟ้ากับพ้นื ดินหรอื พืน้ นำ้
ก. เสน้ ศูนย์สูตรฟ้า
ข. เสน้ ขอบฟ้า
ค. เสน้ เมอรเิ ดียน
ง. เส้นเวลา
5. ข้อใดคอื คำศัพท์ของตำแหนง่ สงู สดุ ของทรงกลมท้องฟ้า
ก. จุดเหนือศรี ษะ ข. จดุ จอมฟา้
ค. จุดกลางศรี ษะ ง. ไม่มขี ้อถูกต้อง
เฉลย 4. ข. 5. ข.
1. ค. 2. ง. 3. ก.
189
แบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรยี น
เรอ่ื ง แผนที่ดาว
คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่สี ดุ เพียงขอ้ เดียว
1. วันท่ี 7 ธันวาคม เวลา 20.30 น. สังเกตเหน็ กลุ่มดาวนายพรานทมี่ ุมเงย 25 องศา จะเห็นกลุ่มดาวน้อี ีกคร้งั
ท่ีตำแหนง่ เดิม และเวลาเดิมเม่ือใด
ก. อกี 1 เดือน ข้างหนา้
ข. อีก 3 เดือน ข้างหน้า
ค. อีก 6 เดือน ข้างหนา้
ง. อีก 12 เดือน ขา้ งหนา้
2. ถ้าต้องการดดู าวใหช้ ดั เจน ควรเลือกดูดาวในคนื ใด
ก. คนื ท่ีมีเมฆมาก
ข. คนื เดือนมืด
ค. คนื ทฝี่ นตก
ง. คืนทีม่ ีพระจนั ทรเ์ ตม็ ดวง
3. หากตอ้ งการใชแ้ ผนที่ดูดาว สิ่งแรกที่ควรกระทำคือข้อใด
ก. ถอื แผนที่ดาวไวต้ รงหน้าและหนั หน้าไปยังทิศท่ตี ้องการดูดาว
ข. หันหน้าไปทางทิศเหนอื ถือแผนทด่ี าวไวต้ รงหน้า
ค. หมนุ แผน่ วงกลมเลอื กวันท่ีและเดอื นให้ตรงกับวันทีต่ ้องการดูดาว
ง. ถา้ ต้องการดทู ิศใต้ ให้กลบั แผนท่ีเพ่ือให้ทิศใต้อยดู่ ้านล่าง
4. ถา้ เราหนั หนา้ เขา้ หาดวงอาทิตยต์ อนเช้า ดา้ นขวามือของเราจะเปน็ ทิศใด
ก. ทิศใต้
ข. ทิศเหนือ
ค. ทิศตะวนั ตก
ง. ทิศตะวนั ออก
5. ขอ้ ใดคอื การบอกตำแหน่งของแผนท่ีดาว
ก. มมุ ทศิ
ข. มุมเงย
ค. เสน้ สรุ ิยวิถี
ง. ถกู ทัง้ ก และ ข
เฉลย
1. ง. 2. ง. 3. ก. 4. ก. 5. ง.
190
แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน
เรอ่ื ง การหาค่ามมุ เงย
คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถกู ต้องทสี่ ดุ เพียงข้อเดียว
1. เส้นขอบฟ้าบอกค่ามุมเงยเป็นเทา่ ใด
ก. 0 องศา
ข. 45 องศา
ค. 90 องศา
ง. 180 องศา
2. ภาพใดแสดงตำแหนง่ ของกลุ่มดาวท่มี มุ เงย 80 องศา มุมทิศ 150 องศา
ก.
ข.
ค.
ง.
191
ใช้ภาพการประมาณคา่ มุมเงยตอ่ ไปน้ีตอบคำถามข้อ 3-4
3. การทำมือดงั ภาพ A เป็นการประมาณคา่ มุมเงยเท่าไหร่
ก. 1 องศา
ข. 5 องศา
ค. 10 องศา
ง. 15 องศา
4. ข้อใดเปน็ การวัดคา่ มมุ เงย 70 องศา
ก. A 4 ครัง้ D 3 คร้ัง
ข. B 1 ครัง้ D 4 คร้ัง
ค. B 1 ครงั้ C 4 ครง้ั
ง. C 1 ครัง้ D 4 ครง้ั
5. สถานที่ดดู าวควรมลี กั ษณะอย่างไร
ก. คับแคบ มแี สงรบกวน
ข. โลง่ กว้าง ไมม่ ีแสงรบกวน
ค. โล่งกวา้ ง ผคู้ นพลุกพล่าน
ง. คบั แคบ ไมม่ ีแสงสว่าง
เฉลย 2. ก. 3. ก. 4. ง. 5. ข.
1. ก.
ภาคผนวก ง
แบบประเมนิ
193
แบบประเมนิ
การทำใบกิจกรรมเร่อื ง เสยี งจากไม้บรรทัด
คะแนน การแปลผล
ท่ี ช่อื กลุ่ม กดคร้งั ท่ี 1 กดครัง้ ที่ 2 รวม
321321 ดมี าก ดี พอใช้
1
2
3
4
5
เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 3 คะแนน
บนั ทึกผลได้ถกู ต้อง ภาษาที่ใช้มีความชดั เจนตรงประเดน็ 2 คะแนน
บนั ทกึ ผลได้ถูกต้อง ภาษาที่ใชข้ าดความชดั เจน 1 คะแนน
บันทกึ ผลไม่ถูกต้อง ภาษาทใ่ี ช้ขาดความชัดเจน
การแปลผลคะแนนเกณฑก์ ารตดิ สนิ คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ
ดีมาก
ช่วงคะแนน ดี
5-6 คะแนน พอใช้
3-4 คะแนน
1-2 คะแนน
194
แบบประเมิน
การทำใบกจิ กรรม เร่ือง ทศิ ทางการเคล่อื นท่ีของเสยี ง (ตอนที่ 1)
ท่ี ชื่อนกั เรยี น ทดลองทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ี คะแนน การแปลผล
ของเสียง รวม
1 ดีมาก ดี พอใช้
2 321
3
4
5
เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพ
บนั ทกึ ผลไดถ้ ูกต้องท้ังหมด 3 คะแนน
คะแนน
บนั ทึกผลไดถ้ ูกตอ้ งเป็นบางข้อ 2 คะแนน
บันทกึ ผลไมถ่ กู ต้องทุกขอ้ 1
การแปลผลคะแนนเกณฑก์ ารตดิ สินคุณภาพ ระดับคณุ ภาพ
ดมี าก
ช่วงคะแนน
3 คะแนน ดี
2 คะแนน พอใช้
1 คะแนน