The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม ปรับปรุง 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nawapon deputy, 2021-07-15 10:14:12

หลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม ปรับปรุง 2563

หลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม ปรับปรุง 2563

1

ประกาศโรงเรยี นวัดพระญาติการาม (ศภุ สขุ บำรุง)
เรอ่ื ง ให้ใชห้ ลกั สูตรโรงเรยี นวดั พระญาตกิ าราม (ศุภสุขบำรุง) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
โรงเรียนวัดพระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง) ได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติ
การาม (ศุภสุขบำรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐) เพอ่ื พฒั นาเด็กและเยาวชนไทยในระดับการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ให้มีคุณภาพด้านความรู้
ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สำหรับการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง
มีความสามารถแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตโดยได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์
จุดหมาย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน โครงสร้างของหลักสูตร การวิเคราะห์
มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ัด คำอธบิ ายรายวิชา กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น และเกณฑก์ ารจบการศึกษาระดับ
ประถมศึกษาและระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้
ทั้งนี้ “หลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๔” ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ได้รับความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน เมอ่ื วนั ที่ ๕ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
จึงประกาศให้ใชห้ ลักสูตรโรงเรียนต้ังแต่บดั น้เี ป็นตน้ ไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๕ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

(พ.อ.อ.นรชัย กฤษณเกษกุล) (นายฐานติ ย์ เนคมานรุ กั ษ์)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พื้นฐาน ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั พระญาตกิ าราม (ศภุ สขุ บำรงุ )

2

หลักสตู รโรงเรียนวัดพระญาตกิ าราม (ศุภสขุ บำรุง) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

(ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐)

ความนำ
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวัดพระญาตกิ าราม (ศุภสุขบำรุง) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔ เปน็ หลักสูตรที่

โรงเรยี นได้พัฒนาขึ้นตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)

เพื่อพัฒนาผู้เรียน โดยยึดองค์ประกอบหลักสำคัญ ๓ ส่วน คือ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๐) สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน และสาระสำคญั ทีโ่ รงเรยี นพัฒนาเพ่ิมเติม

ใช้เป็นกรอบในการจัดทำรายละเอียด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนด แล ะให้
เหมาะสมกับสภาพของชุมชน ท้องถิ่น จุดเน้นและความตอ้ งการของโรงเรียน หลักสูตรโรงเรียนวดั พระญาติ
การาม (ศุภสุขบำรุง) พุทธศกั ราช ๒๕๖๔ ท่พี ฒั นาข้นึ มีลักษณะของหลักสตู ร ดงั น้ี

๑. เป็นหลักสตู รเฉพาะของวัดพระญาตกิ าราม (ศภุ สุขบำรุง) สำหรบั จัดการศกึ ษาตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้น

มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓
๒. มีความเปน็ เอกภาพ คือ เปน็ หลกั สตู รของโรงเรยี นสำหรับให้ครูผู้สอนนำไปจัดการเรียนรู้ได้

อยา่ งหลากหลาย โดยกำหนดให้
๒.๑ มีสาระการเรียนรู้ที่โรงเรียนใช้เป็นหลักเพื่อสร้างพื้นฐานด้านความรู้ความคดิ

ความเข้าใจ และการแก้ปัญหา ประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
๒.๒ มีสาระการเรียนรู้ที่เสรมิ สร้างความเป็นมนุษยส์ ่งเสริมศักยภาพในการคิดและ

การทำงาน ประกอบด้วย สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และ
สาระการเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษ

๒.๓ มีสาระการเรยี นรู้เพิม่ เติม โดยในระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ มีรายวิชา

เพม่ิ เตมิ คือ หน้าที่พลเมอื ง ในระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ – ๓ มวี ชิ าเพม่ิ เติม คือ หนา้ ที่พลเมอื ง ภาษาองั กฤษ
เพอ่ื การสอื่ สาร และส่งเสริมงานอาชพี

๒.๔ มีสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น สอดแทรกโดยบรู ณาการอยู่ในหน่วยการเรยี นรู้ตาม
หลกั สตู ร

๒.๕ มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านรา่ งกาย สติปัญญา อารมณ์

จิตใจ และสงั คมตามศกั ยภาพ เป็นการเสริมสร้างการเรียนรนู้ อกจากสาระการเรียนรู้หลักทง้ั ๘ กล่มุ สาระการ
เรียนรู้

๓. มีมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายการเรียนรู้ที่สำคัญในการพัฒนา
คุณภาพของผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร
มที กั ษะภาษาอังกฤษ มีความสามารถในการคดิ การแก้ปญั หา และการใช้ทักษะชวี ติ

๔. มีความยืดหย่นุ ในการกำหนดเวลาเรยี น หลักสูตรโรงเรียนวดั พระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง)
พุทธศักราช ๒๕๖๔ เป็นหลักสูตรที่โรงเรียนได้จัดทำรายละเอียดต่าง ๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสร้างหลักที่

กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) เป็น
ขอบข่ายในการจดั ทำและกำหนดเวลาเรยี นตามโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรโรงเรยี นวัดพระญาติการาม
(ศุภสุขบำรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๔ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการของท้องถิ่น และความ

เหมาะสมกับตวั ผเู้ รยี น

3

๕. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ที่เน้นหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การประเมิน
เพือ่ พัฒนาผู้เรียนและเพ่ือตัดสินผลการเรยี น โดยผูเ้ รยี นตอ้ งได้รับการพัฒนาและประเมนิ ตามตัวชี้วัด เพื่อให้
บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดชั้นปี สะท้อนถึงความรู้ ทักษะกระบวนการ สมรรถนะสำคัญของ
ผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ
ความกา้ วหนา้ และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน เป็นข้อมลู ที่เปน็ ประโยชนต์ ่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิด
การพัฒนาและเรยี นรอู้ ย่างเต็มทตี่ ามศกั ยภาพ

 วสิ ัยทศั นข์ องโรงเรียน
โรงเรียนวัดพระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง) มุ่งพัฒนาศักยภาพด้านวิชาการ สมรรถนะสำคัญของ

ผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ โดยใชนวัตกรรมที่หลากหลาย ภูมิใจในความเป็นอยุธยา พัฒนาครูให้
เปน็ ครยู คุ ใหม่และบรหิ ารจดั การตามหลักธรรมาภบิ าลบนพืน้ ฐานของเศรษฐกิจพอเพียง

 พนั ธกจิ
๑. จัดการศึกษาตาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และนักเรียน
สามารถอ่านออกเขียนได้ วิเคราะห์ สังเคราะห์คำนวณได้และมีคุณลักษะอันพึงประสงค์ตาม
หลักสูตรสถานศกึ ษา
๒. จัดการเรยี นรูแ้ ละเน้นเด็กเปน็ สำคญั ใหม้ ีความรู้ท่ีหลากหลาย
๓. ส่งเสรมิ และพัฒนาครูให้มคี วามตระหนกั มงุ่ มนั่ ขยนั ประหยัด มกี ลั ยาณมิตร และทำงานอย่างมี
ประสิทธิภาพและประสทิ ธิผล ทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงในดา้ นต่าง ๆ
๔. ส่งเสรมิ สนับสนุนดูแลสขุ ภาพอนามัย และการโภชนาการที่ดแี กน่ กั เรียน
๕. จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ สนับสนุนดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรรม
๖. จัดสภาพอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อมให้ดสี วยงามเออ้ื ต่อการเรียนรู้ สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การสรา้ ง
ความสมั พันธ์ ทดี่ ีระว่างบคุ ลากรในโรงเรียนและชุมชน

 เป้าประสงค์
๑. ประชากรวัยเรยี นทกุ คนในเขต / นอกเขตบรกิ ารทกุ คนไดร้ บั โอกาสในการศึกษาทโ่ี รงเรยี นจัด
ตามสทิ ธิอย่างทัว่ ถงึ เท่าเทียมกน้
๒. นกั เรยี นทกุ คนได้รบั การศึกษาตามระดบั การศึกษาที่มคี ุณภาพตามหลกั สตู รและมีความรู้ /
ทกั ษะ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ เขียน คำนวณไดแ้ ละเน้นตามระดับชน้ั
๓. นกั เรยี นมีสุขภาพอนามยั ทด่ี ที ุกคน มคี ุณลกั ษณะพึงประสงค์ตามหลกั สตู ร
๔. มกี ารนิเทศ ติดตามงานและพัฒนาบคุ ลากร ใหข้ วัญและกำลงั ใจ มีกัลปย์ าณมิตรอย่างสม่ำเสมอ
๕. โรงเรียนมสี ภาพอาคารสถานทีแ่ ละส่ิงแวดล้อมที่สวยงาม เปน็ ระเบียบเอื้อต่อการเรยี นรู้
๖. นักเรยี น ผู้ปกครองและชมุ ชน พึงพอใจต่อการจดั การศกึ ษา

 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ในการพัฒนาผู้เรียนตาม หลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๔
มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนใหม้ คี ุณภาพตามมาตรฐานทีก่ ำหนด ซึ่งจะช่วยให้ผูเ้ รียนเกิดสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
และ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดังน้ี

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
มงุ่ ใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดงั นี้

4

๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสารได้สองภาษา มวี ัฒนธรรมใน
การใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
ขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพือ่ ขจัด
และลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล และความถูกต้อง
ตลอดจนการเลือกใชว้ ิธีการส่ือสารทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสงั คม

๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสูก่ ารสรา้ งองค์ความรู้หรือสารสนเทศ
เพื่อการตัดสินใจเกยี่ วกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญ ได้
อยา่ งถกู ต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลกั เหตุผล คณุ ธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศเข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปญั หา และมีการตดั สินใจทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ ต่อตนเอง สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม

๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดำเนินชีวิตประจำวนั การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรูอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง การทำงาน และการอยู่รว่ มกนั ในสังคม
ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง
ประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ
ทำงาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสม และมีคณุ ธรรม

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นให้มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพ่อื ให้สามารถอยูร่ ว่ มกับผอู้ ่นื ในสังคมได้อย่างมีความสุข
ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและมีศักยภาพเปน็ พลโลก ดงั นี้

๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นผ้ทู มี่ ีลักษณะซึ่งแสดงออกถงึ การเป็นพลเมอื งดีของชาติ มีความสามัคคี
ปรองดองกัน ภูมิใจ เชิดชูความเป็นไทย ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และแสดงความจงรักภักดีต่อ
สถาบนั พระมหากษตั ริย์

๒. ซื่อสัตย์สุจริต เป็นผู้ที่ประพฤติตรงตามความเป็นจริงทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความเป็น
จรงิ
ความถูกต้องในการดำเนินชีวติ มีความละอายและเกรงกลวั ต่อการกระทำผดิ
๓. มีวินัย เป็นผู้ที่ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียนและ
สังคมเป็นปกตนิ ิสัย ไมล่ ะเมดิ สิทธขิ องผอู้ นื่
๔. ใฝ่เรียนรู้ เป็นผู้ที่มีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี นและการเข้าร่วมกิจกรรม แสวงหาความรู้
จากแหล่งเรียนรูท้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสมสรุปเปน็ องค์
ความรู้แล้วนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ทำใหม้ คี วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
๕. อยู่อย่างพอเพียง เป็นผทู้ ด่ี ำเนนิ ชีวิตอยา่ งประมาณตน มเี หตผุ ล รอบคอบ ไม่เบยี ดเบยี นผู้อืน่ ไม่
ประมาท เห็นคณุ ค่าของทรพั ยากรตา่ ง ๆ มกี ารวางแผนการใช้ชวี ิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ป้องกัน
ความเส่ียงและพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลง
๖. มุ่งมน่ั ในการทำงาน เป็นผทู้ ่ีมีลกั ษณะซง่ึ แสดงออกถึงความตง้ั ใจในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ีทไี่ ดร้ ับ

5

มอบหมายด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังใจ กำลังกาย ในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงตาม
เป้าหมาย สามารถผลติ ผลงานอย่างสรา้ งสรรค์และมคี วามภูมิใจในผลงาน

๗. รกั ความเปน็ ไทย เปน็ ผทู้ ม่ี ีความภาคภมู ิใจในความเป็นคนไทย เหน็ คณุ ค่า ชื่นชม มีส่วน ร่วม
ในการอนรุ ักษ์ สบื ทอด และเผยแพรภ่ มู ิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมและประเพณไี ทย รวมไปถงึ ศลิ ปวัฒนธรรม
ไทย มคี วามกตัญญูกตเวทตี อ่ ผู้มพี ระคุณ ใชภ้ าษาไทยในการสอื่ สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั กาลเทศะ

๘. มีจติ สาธารณะ เป็นผู้ทม่ี ลี ักษณะเปน็ ผู้ให้และชว่ ยเหลือผูอ้ น่ื รู้จักแบ่งปัน เสียสละความสขุ ส่วน
ตนเพื่อทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคมด้วยแรงกาย
สติปัญญา อนุรักษส์ ิ่งแวดล้อม ลงมือปฏิบัตเิ พือ่ แกป้ ัญหาหรือร่วมสร้างสรรค์สิ่งท่ีดีงามใหเ้ กดิ ในชมุ ชนโดยไม่
หวงั สิง่ ตอบแทน และร่วมกันรบั ผิดชอบต่อสังคมโลก

ค่านิยม ๑๒ ประการ
เพอื่ สรา้ งคนไทยเขม้ แขง็ นำไปส่กู ารสรา้ งสรรค์ประเทศไทยให้เข้มแขง็ ดังนี้
๑. มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ซ่งึ เป็นสถาบันหลักของชาติในปัจจบุ ัน
๒. ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ในสิง่ ทดี่ ีงามเพอ่ื ส่วนรวม
๓. กตญั ญตู อ่ พ่อแม่ ผูป้ กครอง ครูบาอาจารย์
๔. ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรียนทางตรงและทางออ้ ม
๕. รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณีไทยอนั งดงาม
๖. มีศลี ธรรม รกั ษาความสัตย์ หวังดตี ่อผอู้ ่นื เผ่ือแผ่และแบ่งปัน
๗. เขา้ ใจ เรยี นรู้ กานเปน็ ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทีถ่ กู ต้อง
๘. มีระเบยี บวินยั เคารพกฎหมาย ผ้นู ้อยร้จู ักเคารพผใู้ หญ่
๙. มสี ตริ ้ตู วั รู้คดิ รูท้ ำ รปู้ ฏิบตั ิ ตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว
๑๐.รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่าย จำหน่ายและ
ขยายกิจการ เมือ่ มคี วามพรอ้ มโดยภูมคิ ุ้มกันที่ดี
๑๑.มีความเข้มแข็งทั้งรา่ งกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือมีกิเลสมีความละอายเกรง
กลัวต่อบาปตามหลกั ของศาสนา
๑๒.คำนึงถงึ ผลประโยชน์ของส่วนรวมและตอ่ ชาตมิ ากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง

จุดเนน้ หน้าท่ีพลเมอื ง
จุดเนน้ ท่ี ๑ ความเปน็ ไทย
จดุ เน้นท่ี ๒ ยึดมัน่ ในศาสนาและเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
จดุ เนน้ ที่ ๓ ความเปน็ พลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ
จุดเน้นท่ี ๔ ความปรองดอง สมานฉันท์
จุดเน้นท่ี ๕ ความมีวนิ ัยในตนเอง

6

โครงสรา้ งเวลาเรียน
โรงเรยี นวัดพระญาตกิ าราม (ศุภสุขบำรุง)

ระดบั ประถมศึกษา

สาระการเรยี นรู้ รายวชิ า จำนวนชัว่ โมงตอ่ ปี
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
ภาษาไทย ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณติ ศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์และ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
เทคโนโลยี

สังคมศึกษา ศาสนา สังคมศึกษา

และวัฒนธรรม ประวัตศิ าสตร์

สุขศกึ ษาและพลศึกษา สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

ศิลปะ ทัศนศิลป์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
การงานอาชีพ ดนตรี นาฏศิลป์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

การงานอาชีพ

ภาษาตา่ งประเทศ ภาษาองั กฤษ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
รวมเวลาเรียนพื้นฐาน ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สาระการเรียนรู้เพ่ิมเตมิ หนา้ ท่พี ลเมอื ง

กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมชุมนมุ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

ลูกเสือ - ยุวกาชาด ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
กจิ กรรมเพือ่ สังคมและ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
สาธารณประโยชน์

รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด รวม ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐

7

โครงสร้างเวลาเรยี น

โรงเรยี นวัดพระญาติการาม (ศุภสขุ บำรุง)
ระดบั มัธยมศกึ ษา

สาระการเรยี นรู้ รายวชิ า จำนวนชัว่ โมงต่อปี
ม.๑ ม.๒ ม.๓

ภาษาไทย ภาษาไทย ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.)

คณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.)

วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐(๓ นก.) ๑๖๐(๓ นก.) ๑๖๐(๓ นก.)

สงั คมศึกษา ศาสนา สงั คมศึกษา ๑๖๐ (๓ นก.) ๑๖๐ (๓ นก.) ๑๖๐ (๓ นก.)
(๔๐) (๑นก.) (๔๐) (๑นก.) (๔๐) (๑นก.)
และวฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์

สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา สขุ ศึกษา (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.)
ศิลปะ (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.)
พลศกึ ษา
การงานอาชพี (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.)
ทศั นศิลป์ (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.)
ดนตรี นาฏศิลป์ (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.) (๔๐) (๑ นก.)
งานบ้านและงานประดษิ ฐ์
งานเกษตร

ภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษ ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.)

รวมเวลาเรยี นพ้ืนฐาน ๘๘๐(๒๒ นก.) ๘๘๐(๒๒ นก.) ๘๘๐(๒๒ นก.)

สาระการเรียนรเู้ พ่ิมเติม หน้าทพ่ี ลเมือง ๒๐๐(๒.๕ นก.) ๒๐๐(๒.๕ นก.) ๒๐๐(๒.๕ นก.)
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร (๔๐) (๔๐) (๔๐)
การงานอาชพี และเทคโนโลยี (๔๐) (๔๐) (๔๐)
รวมเวลาเรยี นทง้ั หมด (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐)
กจิ กรรมแนะแนว
ชมุ นมุ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
ลูกเสือ - ยุวกาชาด ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมเพื่อสังคมและ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สาธารณประโยชน์ ๓๐ ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐ ๑๐
รวม
๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐

8

๑. จำนวนชั่วโมงที่จัดให้นักเรียนระดับประถมศึกษา (ป.๑ - ป.๖) เรียนทั้งหมด ๑,๐๐๐ ชั่วโมง
แผนการเรยี นรู้ / จดุ เนน้ การพัฒนาผู้เรียนท่ีต้องการเนน้ เปน็ พิเศษ คอื กลุ่มสาระการเรียนรู้ทักษะ
ภาษาไทย คณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาการอา่ นออก เขียนได้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ คิด
วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ทีด่ ี โดยจัดการเรยี นการสอนและประเมนิ ผลเปน็ รายปี

๒. จำนวนชั่วโมงที่จัดให้กับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (ม.๑-ม.๓) เรียนทั้งหมด ๑,๒๐๐ ชั่วโมง
แผนการเรียนรู้ / จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ คือ กลุ่มสาระการงานอาชีพ
เพื่อให้นักเรยี นไดฝ้ ึกปฏิบัติงานอาชีพ โดยจัดการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระ และประเมินผลเปน็
รายภาค

๓. การจัดการศึกษาตามพระบรมราโชบายของรัชกาลที่ ๑๐ ให้การศึกษามุง่ สรา้ งผูเ้ รยี น ๔ ดา้ น ได้แก่
มีทัศนคติที่ถูกต้องติ่บ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงมีคุณธรรมมีงานทำ มีอาชีพ เป็นพลเมืองดี
บูรณาการในกล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

๔. การจดั การเรียนรตู้ ามหลกั สูตรต้านทุจรติ บรู ณาการในกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น (ลกู เสอื -เนตรนารี)

9

โครงสรา้ งรายวิชาโรงเรียนวดั พระญาติการาม (ศภุ สุขบำรงุ )

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ า/กิจกรรม ๘๔๐
รายวิชาพน้ื ฐาน ๒๐๐
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๘๐
ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๔๐
ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๔๐
ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑๖๐
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ
๑๒๐
รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ๔๐
ส ๑๑๒๓๑ หน้าท่พี ลเมือง ๑
๑๒๐
กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๔๐
- กจิ กรรมแนะแนว
- กจิ กรรมนกั เรยี น ๓๐
❖ ลูกเสือ/เนตรนาร/ี ยุวกาชาด ๔๐
❖ ชมุ นุม ๑๐
- กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑,๐๐๐
รวมเวลาเรยี นท้งั สิน้

10

โครงสรา้ งรายวิชาโรงเรียนพระญาตกิ าราม (ศุภสุขบำรงุ )

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลาเรียน (ชม./ป)ี
รายวิชา/กิจกรรม ๘๔๐
รายวชิ าพ้นื ฐาน ๒๐๐
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๘๐
ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
ส ๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๔๐
ส ๑๒๑๐๑ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐
พ ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๑๖๐
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ
๑๒๐
รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ๔๐
ส ๑๒๒๐๑ หน้าท่ีพลเมอื ง ๒
๑๒๐
กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ๔๐
- กิจกรรมแนะแนว
- กจิ กรรมนกั เรยี น ๓๐
❖ ลูกเสือ/เนตรนารี/ยวุ กาชาด ๔๐
❖ ชมุ นมุ ๑๐
- กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑,๐๐๐
รวมเวลาเรียนท้งั ส้นิ

11

โครงสรา้ งรายวิชาโรงเรยี นพระญาตกิ าราม (ศภุ สขุ บำรงุ )

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ า/กิจกรรม ๘๔๐
รายวชิ าพ้นื ฐาน ๒๐๐
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒๐๐
ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ๘๐
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ๔๐
ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ๓ ๔๐
ส ๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๓ ๔๐
พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๓ ๔๐
ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓ ๔๐
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๓ ๑๖๐
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓

รายวิชาเพิ่มเตมิ ๑๒๐
ส ๑๓๒๐๑ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๓ ๔๐

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๐
๔๐
- กิจกรรมแนะแนว
- กิจกรรมนักเรียน ๓๐
❖ ลูกเสอื /เนตรนารี/ยุวกาชาด ๔๐
❖ ชมุ นมุ ๑๐
- กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑,๐๐๐

รวมเวลาเรียนทัง้ ส้ิน

12

โครงสร้างรายวิชาโรงเรียนพระญาติการาม (ศุภสุขบำรงุ )

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ า/กิจกรรม ๘๔๐
รายวชิ าพ้นื ฐาน ๑๖๐
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๒๐
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา ๔๐
ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๘๐
พ ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๘๐
ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๘๐
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ
๑๒๐
รายวิชาเพ่ิมเตมิ ๔๐
ส ๑๔๒๐๒ หนา้ ท่พี ลเมอื ง ๔ ๑๒๐
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ๔๐

- กิจกรรมแนะแนว ๓๐
- กจิ กรรมนักเรยี น ๔๐
❖ ลกู เสือ/เนตรนาร/ี ยวุ กาชาด ๑๐
❖ ชุมนมุ
- กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์

รวมเวลาเรยี นทงั้ สิ้น ๑,๐๐๐

13

โครงสร้างรายวชิ าโรงเรียนพระญาตกิ าราม (ศุภสขุ บำรุง)

ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลาเรียน (ชม./ป)ี
รายวชิ า/กิจกรรม ๘๔๐
รายวชิ าพ้นื ฐาน ๑๖๐
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๒๐
ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
ส ๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา ๔๐
ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๘๐
พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๘๐
ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ๘๐
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ
๑๒๐
รายวิชาเพิ่มเตมิ ๔๐
ส ๑๕๒๐๒ หน้าท่ีพลเมอื ง ๕ ๑๒๐
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ๔๐

- กจิ กรรมแนะแนว ๓๐
- กจิ กรรมนกั เรยี น ๔๐
❖ ลกู เสอื /เนตรนาร/ี ยุวกาชาด ๑๐
❖ ชมุ นมุ ๑,๐๐๐
- กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์

รวมเวลาเรยี นท้ังสนิ้

14

โครงสร้างหลกั สตู รโรงเรยี นพระญาตกิ าราม (ศุภสขุ บำรุง)

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ า/กิจกรรม ๘๔๐
รายวิชาพื้นฐาน ๑๖๐
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๒๐
ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ๔๐
ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๘๐
พ ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๘๐
ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๘๐
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ
๑๒๐
รายวิชาเพมิ่ เติม ๔๐
ส ๑๖๒๐๒ หน้าที่พลเมือง ๖ ๑๒๐
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ๔๐

- กจิ กรรมแนะแนว ๓๐
- กิจกรรมนกั เรยี น ๔๐
❖ ลูกเสอื /เนตรนาร/ี ยวุ กาชาด ๑๐
❖ ชมุ นมุ ๑,๐๐๐
- กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์

รวมเวลาเรียนท้ังส้นิ

15

โครงสร้างหลักสูตรชน้ั ปี
ระดับมธั ยมศกึ ษา

ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑

รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
(ชม./ปี)
๘๘๐
ภาคเรยี นท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ๑.๕ (๖๐)
๑.๕ (๖๐)
รายวชิ าพนื้ ฐาน ๑๑ (๔๔๐) รายวิชาพื้นฐาน ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๕ (๖๐) ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
ค ๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑.๕ (๖๐) ค ๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๐.๕ (๒๐)
๐.๕ (๒๐)
ว ๒๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑.๕ (๖๐) ว ๒๑๑๐๓ วทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ (๒๐)
๐.๕ (๒๐)
ว ๒๑๑๐๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๐.๕ (๒๐) ว ๒๑๑๐๔ วทิ ยาการคำนวณ ๐.๕ (๒๐)
๑.๕ (๖๐)
ส ๒๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๑.๕ (๖๐) ส ๒๑๑๐๓ สังคมศกึ ษา ๒.๕ (๑๐๐)
๐.๕ (๒๐)
ส ๒๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๐.๕ (๒๐) ส ๒๑๑๐๔ ประวัตศิ าสตร์ ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
พ ๒๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษา ๐.๕ (๒๐) พ ๒๑๑๐๓ สขุ ศกึ ษา
๖๐
พ ๒๑๑๐๒ พลศกึ ษา ๐.๕ (๒๐) พ ๒๑๑๐๔ พลศึกษา ๒๐

ศ ๒๑๑๐๑ ทัศนศิลป์ ๐.๕ (๒๐) ศ ๒๑๑๐๓ ทัศนศิลป์ ๑๕
๒๐
ศ ๒๑๑๐๒ ดนตรแี ละนาฏศิลป์ ๐.๕ (๒๐) ศ ๒๑๑๐๔ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๕

ง ๒๑๑๐๑ การงานอาชพี ๐.๕ (๒๐) ง ๒๑๑๐๓ การงานอาชีพ ๖๐๐

อ ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑.๕ (๖๐) อ ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ

รายวชิ าเพ่ิมเติม ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพ่ิมเตมิ

ส ๒๑๒๓๑ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง ๐.๕ (๒๐) ส ๒๑๒๓๒ หน้าท่ีพลเมอื ง

ง ๒๑๒๐๑ ศลิ ปะประดิษฐ์ ๑.๕ (๖๐) ง ๒๑๒๐๒ ผา้ ด้นมือ

อ ๒๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่อื การ ๐.๕ (๒๐) อ ๒๑๒๐๒ ภาษาอังกฤษเพือ่ การสอ่ื สาร

สื่อสาร

กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ๖๐ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น

- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐ - กจิ กรรมแนะแนว

- กิจกรรมนกั เรยี น - กิจกรรมนกั เรยี น

❖ ลูกเสือ/เนตรนารี/ยวุ กาชาด ๑๕ ❖ ลกู เสือ/เนตรนารี/ยวุ กาชาด

❖ ชุมนมุ ๒๐ ❖ ชุมนุม
- กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะ ๕ - กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ

ประโยชน์ ประโยชน์

รวมเวลาเรียนท้ังสิ้น ๖๐๐ รวมเวลาเรยี นทัง้ สิน้

16

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ป)ี
(ชม./ปี)
๘๘๐
ภาคเรียนท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ๑.๕ (๖๐)
๑.๕ (๖๐)
รายวิชาพนื้ ฐาน ๑๑ (๔๔๐) รายวชิ าพนื้ ฐาน ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๕ (๖๐) ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
ค ๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑.๕ (๖๐) ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๐.๕ (๒๐)
๐.๕ (๒๐)
ว ๒๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑.๕ (๖๐) ว ๒๒๑๐๓ วทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ (๒๐)
๐.๕ (๒๐)
ว ๒๒๑๐๒ การออกแบบและเทคโนโลยี ๐.๕ (๒๐) ว ๒๒๑๐๔ วทิ ยาการคำนวณ ๐.๕ (๒๐)
๑.๕ (๖๐)
ส ๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๑.๕ (๖๐) ส ๒๒๑๐๓ สงั คมศึกษา ๒.๕ (๑๐๐)
๐.๕ (๒๐)
ส ๒๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๐.๕ (๒๐) ส ๒๒๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
พ ๒๒๑๐๑ สขุ ศึกษา ๐.๕ (๒๐) พ ๒๒๑๐๓ สุขศกึ ษา
๖๐
พ ๒๒๑๐๒ พลศกึ ษา ๐.๕ (๒๐) พ ๒๒๑๐๔ พลศกึ ษา ๒๐

ศ ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๐.๕ (๒๐) ศ ๒๒๑๐๓ ทศั นศิลป์ ๑๕
๒๐
ศ ๒๒๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๐.๕ (๒๐) ศ ๒๒๑๐๔ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๕

ง ๒๒๑๐๑ การงานอาชพี ๐.๕ (๒๐) ง ๒๒๑๐๓ การงานอาชพี ๖๐๐

อ ๒๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑.๕ (๖๐) อ ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ

รายวชิ าเพ่ิมเติม ๒.๕ (๑๐๐) รายวชิ าเพิม่ เติม

ส ๒๒๒๓๓ หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๐.๕ (๒๐) ส ๒๒๒๓๔ หนา้ ทพ่ี ลเมือง

ง ๒๒๒๐๑ ตัดผมชาย ๑.๕ (๖๐) ง ๒๒๒๐๒ ดอกไมป้ ระดิษฐ์

อ ๒๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการ ๐.๕ (๒๐) อ ๒๒๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร

สอ่ื สาร

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ๖๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

- กจิ กรรมแนะแนว ๒๐ - กจิ กรรมแนะแนว

- กจิ กรรมนักเรยี น - กจิ กรรมนกั เรยี น

❖ ลูกเสอื /เนตรนารี/ยุวกาชาด ๑๕ ❖ ลกู เสอื /เนตรนาร/ี ยวุ กาชาด

❖ ชุมนมุ ๒๐ ❖ ชุมนมุ
- กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะ ๕ - กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะ

ประโยชน์ ประโยชน์

รวมเวลาเรยี นท้ังส้ิน ๖๐๐ รวมเวลาเรียนท้งั สิน้

17

ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓

รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรยี น รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
(ชม./ป)ี
๘๘๐
ภาคเรยี นท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ๑.๕ (๖๐)
๑.๕ (๖๐)
รายวิชาพน้ื ฐาน ๑๑ (๔๔๐) รายวิชาพน้ื ฐาน ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๕ (๖๐) ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑.๕ (๖๐) ค ๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๐.๕ (๒๐)
๐.๕ (๒๐)
ว ๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑.๕ (๖๐) ว ๒๓๑๐๓ วิทยาศาสตร์ ๐.๕ (๒๐)
๐.๕ (๒๐)
ว ๒๓๑๐๒ เทคโนโลยแี ละการออกแบบ ๐.๕ (๒๐) ว ๒๓๑๐๔ วิทยาการคำนวณ ๐.๕ (๒๐)
๑.๕ (๖๐)
ส ๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๑.๕ (๖๐) ส ๒๓๑๐๓ สงั คมศึกษา ๒.๕ (๑๐๐)
๐.๕ (๒๐)
ส ๒๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๐.๕ (๒๐) ส ๒๓๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๑.๕ (๖๐)
๐.๕ (๒๐)
พ ๒๓๑๐๑ สุขศกึ ษา ๐.๕ (๒๐) พ ๒๓๑๐๓ สุขศึกษา
๖๐
พ ๒๓๑๐๒ พลศกึ ษา ๐.๕ (๒๐) พ ๒๓๑๐๔ พลศึกษา ๒๐

ศ ๒๓๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๐.๕ (๒๐) ศ ๒๓๑๐๓ ทศั นศิลป์ ๑๕
๒๐
ศ ๒๓๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๐.๕ (๒๐) ศ ๒๓๑๐๔ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๕

ง ๒๓๑๐๑ การงานอาชพี ๐.๕ (๒๐) ง ๒๓๑๐๓ การงานอาชีพ ๖๐๐

อ ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑.๕ (๖๐) อ ๒๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ

รายวชิ าเพิม่ เติม ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพิม่ เตมิ

ส ๒๓๒๓๕ หน้าท่พี ลเมือง ๐.๕ (๒๐) ส ๒๓๒๓๖ หนา้ ทพ่ี ลเมือง

ง ๒๓๒๐๑ ขนมเพื่ออาชพี ๑.๕ (๖๐) ง ๒๓๒๐๒ งานกระดาษ

อ ๒๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่อื การ ๐.๕ (๒๐) อ ๒๓๒๐๒ ภาษาอังกฤษเพ่อื การสื่อสาร

สื่อสาร

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๖๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน

- กิจกรรมแนะแนว ๒๐ - กิจกรรมแนะแนว

- กิจกรรมนกั เรียน - กิจกรรมนกั เรยี น

❖ ลูกเสือ/เนตรนารี/ยวุ กาชาด ๑๕ ❖ ลกู เสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด

❖ ชมุ นมุ ๒๐ ❖ ชุมนมุ
- กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะ ๕ - กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ

ประโยชน์ ประโยชน์

รวมเวลาเรียนท้งั สิน้ ๖๐๐ รวมเวลาเรยี นท้ังสิน้

โครงสรา้ งรายวชิ า 18

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย จำนวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง
รายวชิ าพนื้ ฐาน จำนวน ๒๐๐ ช่วั โมง
จำนวน ๑๖๐ ช่วั โมง
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๖๐ ชัว่ โมง
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑
จำนวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ จำนวน ๒๐๐ ชัว่ โมง
ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จำนวน ๒๐๐ ช่วั โมง
ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ จำนวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จำนวน ๑๖๐ ชวั่ โมง
ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง
จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง
รายวชิ าพ้นื ฐาน จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง
จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ จำนวน ๑๒๐ ช่ัวโมง
จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง
ค ๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ จำนวน ๖๐ ช่วั โมง

ค ๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒
ค ๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓
ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔

ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕
ค ๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

รายวชิ าพืน้ ฐาน
ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑
ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๒
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๓
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๔
ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๕
ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๖
ว ๒๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑
ว ๒๑๑๐๓ วิทยาศาสตร์ ๒

19

ว ๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ว ๒๒๑๐๓ วทิ ยาศาสตร์ ๔ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
ว ๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕
ว ๒๓๑๐๓ วทิ ยาศาสตร์ ๖ จำนวน ๖๐ ชัว่ โมง
ว 21102 การออกแบบและเทคโนโลยี จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง
ว 22102 การออกแบบและเทคโนโลยี
ว 23102 การออกแบบและเทคโนโลยี จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ว ๒๑๑๐๔ วิทยาการคำนวณ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ว ๒๒๑๐๔ วิทยาการคำนวณ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ว ๒๓๑๐๔ วทิ ยาการคำนวณ
จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
กลุ่มสาระสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๒๐ ชั่วโมง

รายวชิ าพนื้ ฐาน จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ๑
ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๓ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ๔ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ๕ จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง
ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษา ๖ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
ส ๒๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ๑ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ส ๒๑๑๐๓ สังคมศกึ ษา ๒ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
ส ๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๓ จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง
ส ๒๒๑๐๓ สงั คมศึกษา ๔ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ส ๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๕ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ส ๒๓๑๐๓ สงั คมศึกษา ๖ จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง
จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง
ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑
ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๒ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๓ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๖ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๒๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๒๑๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ส ๒๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๓ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ส ๒๒๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๔ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ส ๒๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ส ๒๓๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๖ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๒๐ ชั่วโมง

รายวิชาเพิม่ เติม 20
ส ๑๑๒๓๑ หนา้ ท่ีพลเมือง ๑
ส ๑๒๒๓๒ หน้าท่พี ลเมือง ๒ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๓๒๓๓ หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๓ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๔๒๓๔ หนา้ ที่พลเมอื ง ๔ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๕๒๓๕ หน้าทพ่ี ลเมือง ๕ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๑๖๒๓๖ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๖ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๒๑๒๓๑ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง ๑ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๒๑๒๓๒ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๒ จำนวน ๔๐ ช่วั โมง
ส ๒๒๒๓๓ หนา้ ท่พี ลเมือง ๓ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๒๒๒๓๔ หนา้ ที่พลเมอื ง ๔ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๒๓๒๓๕ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง ๕ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง
ส ๒๓๒๓๖ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๖ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
รายวชิ าพ้ืนฐาน จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง
พ ๑๑๑๐๑ สุขศึกษา ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษา ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
พ ๑๓๑๐๑ สุขศึกษา ๓ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
พ ๑๔๑๐๑ สขุ ศกึ ษา ๔ จำนวน ๔๐ ช่วั โมง
พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษา ๕ จำนวน ๒๐ ช่วั โมง
พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษา ๖ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
พ ๒๑๑๐๑ สขุ ศึกษา ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
พ ๒๑๑๐๓ สขุ ศกึ ษา ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
พ ๒๒๑๐๑ สุขศึกษา ๓ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
พ ๒๒๑๐๓ สุขศกึ ษา ๔ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
พ ๒๓๑๐๑ สุขศกึ ษา ๕ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
พ ๒๓๑๐๓ สขุ ศกึ ษา ๖ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
พ ๑๑๑๐๑ พลศกึ ษา ๑ จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง
พ ๑๒๑๐๑ พลศึกษา ๒ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
พ ๑๓๑๐๑ พลศกึ ษา ๓ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
พ ๑๔๑๐๑ พลศึกษา ๔ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง
พ ๑๕๑๐๑ พลศึกษา ๕ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
พ ๑๖๑๐๑ พลศกึ ษา ๖ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
พ ๒๑๑๐๒ พลศกึ ษา ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
พ ๒๑๑๐๔ พลศกึ ษา ๒ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง
พ ๒๒๑๐๒ พลศึกษา ๓ จำนวน ๒๐ ชัว่ โมง
พ ๒๒๑๐๔ พลศกึ ษา ๔ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
พ ๒๓๑๐๒ พลศึกษา ๕
พ ๒๓๑๐๔ พลศกึ ษา ๖

กล่มุ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ 21

รายวิชาพืน้ ฐาน จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง
ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ จำนวน ๔๐ ช่วั โมง
ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง
ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๕ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง
ศ ๒๑๑๐๑ ทัศนศิลป์ ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง
ศ ๒๑๑๐๒ ดนตรี นาฎศิลป์ ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ศ ๒๑๑๐๓ ทัศนศิลป์ ๓ จำนวน ๒๐ ช่วั โมง
ศ ๒๑๑๐๔ ดนตรี นาฏศิลป์ ๔ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๒๑๐๑ ทัศนศลิ ป์ ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ศ ๒๒๑๐๒ ดนตรี นาฏศิลป์ ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๒๑๐๓ ทัศนศิลป์ ๓ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๒๑๐๔ ดนตรี นาฏศิลป์ ๔ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ศ ๒๓๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๓๑๐๒ ดนตรี นาฏศิลป์ ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๓๑๐๓ ทัศนศิลป์ ๓ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง
ศ ๒๓๑๐๔ ดนตรี นาฏศิลป์ ๔
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
รายวชิ าพ้ืนฐาน จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ จำนวน ๔๐ ช่วั โมง
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๔ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๖ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ง ๒๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง
ง ๒๑๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ง ๒๒๑๐๑ การงานอาชพี ๓
ง ๒๒๑๐๒ การงานอาชีพ ๔
ง ๒๓๑๐๑ การงานอาชพี ๕
ง ๒๓๑๐๒ การงานอาชพี ๖

รายวชิ าเพิ่มเตมิ 22
ง ๒๐๒๑๑ เศษผ้าน่าใช้
ง ๒๑๒๐๑ ศลิ ปะประดิษฐ์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
ง ๒๒๒๐๑ ตัดผมชาย จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
ง ๒๒๒๐๒ ดอกไมป้ ระดษิ ฐ์จากผ้าใยบัว จำนวน ๖๐ ชัว่ โมง
ง ๒๓๒๐๓ ขนมเพ่อื งานอาชีพ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
ง ๒๓๑๐๑ งานกระดาษ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
จำนวน ๑๖๐ ชัว่ โมง
รายวชิ าพ้ืนฐาน จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ จำนวน ๑๖๐ ชัว่ โมง
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
อ ๒๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
อ ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
อ ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง
อ ๒๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๔ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
อ ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕
อ ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๖ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง
จำนวน ๒๐ ช่วั โมง
รายวิชาเพมิ่ เตมิ จำนวน ๒๐ ช่วั โมง
อ ๒๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษสอ่ื สาร ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
อ ๒๑๒๐๒ ภาษาอังกฤษสอ่ื สาร ๒ จำนวน ๒๐ ชัว่ โมง
อ ๒๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษสื่อสาร ๓ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
อ ๒๒๒๐๒ ภาษาอังกฤษสื่อสาร ๔
อ ๒๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษสอื่ สาร ๕
อ ๒๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษสื่อสาร ๖

23

คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน

ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ จำนวนชัว่ โมง ๒๐๐ ช่ัวโมง

ศกึ ษาการอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง และข้อความส้ันๆการบอกความหมายของคำ และข้อความ
ที่อ่านการตอบคำถามการเล่าเรื่องย่อการคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่อง ที่อ่ านการบอกความหมา ยของ
เครื่องหมาย หรือสัญลักษณส์ ำคัญที่มักพบเห็นในชีวิตประจำวันมารยาทในการอ่าน การคัดลายมือตัวบรรจง

เต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย การเขียนสื่อสารด้วยคำและประโยคง่าย ๆ มารยาทในการ
เขียนการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ คำสั่งง่ายๆการตอบคำถามและเล่าเรื่องที่ฟังและดูการพูดแสดงความ

คดิ เหน็ และความร้สู กึ จากเรือ่ งทีฟ่ งั และดูการพูดสอ่ื สารตามวตั ถปุ ระสงค์มารยาทในการฟัง การดู และการพูด
พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และ เลขไทยการเขียนสะกดคำและบอกความหมาย ของคำการเรียบเรียงคำเป็น
ประโยคง่าย ๆ การต่อคำคล้องจองง่าย ๆ วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก การท่องจำบท

อาขยานตามทกี่ ำหนด และบทร้อยกรองตามความสนใจ
โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางการอา่ นออกเสียงคำคลอ้ งจอง และข้อความสัน้ ๆ บอกความหมายของ

คำ และขอ้ ความที่อา่ นตอบคำถามเกี่ยวกบั เรอ่ื งท่อี ่านเล่าเร่ืองย่อจากเร่ืองท่อี ่านคาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ือง
ที่อ่านอ่านหนังสือตามความสนใจนำเสนอเรื่องที่อ่านบอกความหมายของเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์
การคัดลายมือเขียนสื่อสารฟังและปฏิบัติตามปฏิบัติตามคำแนะนำตอบคำถามและเล่าเรื่องพูดแสดงความ

คิดเห็นและความรู้สึกพูดสื่อสารบอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทยเขียนสะกดคำ
บอกความหมายของคำเรยี บเรยี งคำเป็นประโยคง่าย ๆ ตอ่ คำคล้องจองบอกขอ้ คิดได้จากการอ่านหรือการฟัง

วรรณกรรมร้อยแกว้ และร้อยกรอง และทอ่ งจำอาขยานตามทีก่ ำหนด
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ส่อื สารไดถ้ กู ต้อง รกั การเรยี นภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกจิ

พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการสื่อสาร และความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิตอยา่ งเหมาะสม

รวมตัวชี้วัด ๒๒ ตัวชว้ี ัด
ท ๑.๑ ป ๑/๑ป ๑/๒ป ๑/๓ ป ๑/๔ ป ๑/๕ ป ๑/๖ป ๑/๗ ป ๑/๘

ท ๒.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒ ป ๑/๓
ท ๓.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒ ป ๑/๓ ป ๑/๔ ป ๑/๕

ท ๔.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒ ป ๑/๓ ป ๑/๔
ท ๕.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒

24

คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒ จำนวนช่วั โมง ๒๐๐ ช่วั โมง

ศกึ ษาการอา่ นออกเสียง คำคล้องจอง ขอ้ ความและบทรอ้ ยกรองงา่ ย ๆ การอธบิ ายความหมายของคำ
และข้อความที่อ่านการต้ังคำถามและตอบคำถามเก่ียวกับเรื่องที่อ่านการระบุใจความสำคัญและรายละเอียด
จากเรือ่ งทอ่ี า่ นการแสดงความคดิ เห็นและคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรอื่ งทีอ่ ่าน การอ่านหนังสือตามความสนใจ

การอ่านข้อเขียนเชิงอธบิ ายและปฏิบัตติ ามคำสัง่ หรอื ขอ้ แนะนำ มารยาทในการอ่านการคัดลายมือตัวบรรจง
เต็มบรรทัดการเขียนเรื่องสั้น ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การเขียนเรื่องสั้น ๆ ตามจินตนาการมารยาทในการ

เขยี นการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ คำส่งั ท่ซี ับซอ้ นการเล่าเรอ่ื งทีฟ่ งั และดูการบอกสาระสำคญั ของเรือ่ งที่ฟงั
และดกู ารตัง้ คำถามและตอบคำถามการพูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกการพดู ส่ือสารได้ชัดเจนมารยาท
ในการฟัง การดูและการพูดพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ เลขไทยการเขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ

การเรียบเรยี งคำเปน็ ประโยคคำคล้องจองการเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นการระบุข้อคิดที่ได้จาก
การอ่านหรอื ฟังวรรณกรรมสำหรับเดก็ การร้องบทร้องเลน่ สำหรบั เด็กการทอ่ งจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนดและ

บทรอ้ ยกรองที่มีคุณค่า
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางการอ่านออกเสียงคำคล้องจอง ข้อความและ บทร้อยกรองง่าย ๆ

อธิบายความหมายของคำและข้อความต้ังคำถามตอบคำถามระบุใจความสำคัญแสดงความคดิ เห็น คาดคะเน
อ่านหนังสือตามความสนใจนำเสนอเรื่องทอี่ า่ นอ่านข้อเขียนเชิงอธิบายปฏิบัติตามคำสง่ั คัดลายมือเขียนส่ือสาร
ฟังและปฏิบัติตามปฏิบตั ติ ามคำแนะนำตอบคำถามและเล่าเรือ่ งพดู แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกพูดสื่อสาร

บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทยเขยี นสะกดคำบอกความหมายของคำเรยี บเรยี งคำเป็น
ประโยคง่าย ๆ ตอ่ คำคล้องจองบอกข้อคิดได้จากการอ่านหรือการฟงั วรรณกรรมร้อยแกว้ และรอ้ ยกรองท่องจำ

อาขยานตามท่กี ำหนด
เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่อื สารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจ

พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง เกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการสือ่ สาร และความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ อยา่ งเหมาะสม

รวมตัวช้ีวัด ๒๗ ตัวชว้ี ัด
ท ๑.๑ ป๒/๑ ป๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔ ป ๒/๕ ป ๒/๖ ป ๒/๗ ป ๒/๘
ท ๒.๑ ป๒/๑ ป๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔

ท ๓.๑ ป๒/๑ ป๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔ ป ๒/๕ ป ๒/๖ ป ๒/๗
ท ๔.๑ ป๒/๑ ป๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔ ป ๒/๕

ท ๕.๑ ป๒/๑ ป๒/๒ ป ๒/๓

25

คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ จำนวนช่ัวโมง ๒๐๐ ชั่วโมง

ศึกษาการอธบิ ายความหมายของคำและข้อความที่อ่านการตัง้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลการ
ลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านการสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องท่ีอ่าน การอ่าน
หนังสือตามความสนใจ การอ่านข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ การอธิบาย

ความหมายของข้อมูลจากแผนภาพมารยาทในการอา่ นการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดการเขียนบรรยาย
เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การเขียนบันทึกประจำวัน การเขียนจดหมายลาครู การเขียนเรื่องตามจินตนาการ

มารยาทในการเขยี น การเล่ารายละเอยี ดเกีย่ วกบั เรอื่ งทฟ่ี งั และดู การตง้ั คำถามและตอบคำถามเกีย่ วกับเร่ืองที่
ฟังและดู การพูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกการพูดสื่อสาร ได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์มารยาทใน
การฟัง การดู และการพูดการเขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำการระบุชนิดและหน้าที่ของคำใน

ประโยคการใชพ้ จนานุกรม การแตง่ ประโยค การแต่งคำคล้องจอง การแต่งคำขวญั การใช้ภาษาไทยมาตรฐาน
การใช้ภาษาถิ่น การระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรม การรู้จักเพลงพื้นบ้านและเพลงกล่อมเด็ก การ

แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับวรรณคดที ี่อ่าน การท่องจำบทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางการอ่านออกเสยี งคำ ข้อความ เรือ่ งสน้ั ๆ อธิบายความหมายตั้งคำถาม

และตอบคำถามลำดับเหตุการณ์คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อ่านหนังสือตาม
ความสนใจอ่านข้อเขียนเชิงอธิบายปฏิบัติตามคำสั่งอธิบายความหมายคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดเขียน
บรรยายเขียนบันทึกประจำวัน เขียนจดหมายลาครู เขียนเรื่องตามจินตนาการ เล่ารายละเอียดบอก

สาระสำคัญจากการฟังและการดูพูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก พูดสื่อสารเขียนสะกดคำบอก
ความหมายของคำระบชุ นดิ ของคำ ระบุหนา้ ทข่ี องคำ ใช้พจนานกุ รมแตง่ ประโยคแตง่ คำคลอ้ งจอง แต่งคำขวัญ

เลือกใช้ภาษาไทย ระบุข้อคิดนำไปใช้ในชีวิตประจำวันรู้จักเพลงพื้นบ้านแสดงความคิดเห็นท่องจำบท
อาขยาน

เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ส่อื สารไดถ้ กู ต้อง รกั การเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกจิ
พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง เกิดความสามารถในการคิด

ความสามารถในการสื่อสาร และความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิตอย่างเหมาะสม

รวมตวั ชวี้ ัด ๓๑ ตัวช้ีวดั
ท ๑.๑ ป๓/๑ ป๓/๒ ป ๓/๓ ป๓/๔ ป ๓/๕ ป ๓/๖ ป ๓/๗ ป ๓/๘ ป ๓/๙

ท ๒.๑ ป๓/๑ ป๓/๒ป ๓/๓ ป๓/๔ ป ๓/๕ ป ๓/๖
ท ๓.๑ ป๓/๑ ป๓/๒ป ๓/๓ ป๓/๔ ป ๓/๕ ป ๓/๖

ท ๔.๑ ป๓/๑ ป๓/๒ ป ๓/๓ ป๓/๔ ป ๓/๕ ป ๓/๖
ท ๕.๑ ป๓/๑ ป ๓/๒ป ๓/๓ ป๓/๔

26

คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ จำนวนชว่ั โมง ๑๖๐ ช่ัวโมง

ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองการอธิบายความหมายของคำ ประโยค
และสำนวนการอ่านเรอื่ งสน้ั ๆ ตามเวลาท่กี ำหนดและตอบคำถามจากเร่ืองการแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น

การคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดยระบุเหตุผลประกอบ การสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน
เพ่อื นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน มารยาทในการอ่านการคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่งึ บรรทัดการเขียน
สื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจน การนำแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดไปพัฒนางานเขียน

การเขยี นยอ่ ความจากเรือ่ งส้นั ๆ การเขยี นจดหมายถงึ เพ่ือนและบดิ ามารดา การเขยี นบนั ทกึ และเขียนรายงาน
จากการศึกษาค้นคว้า การเขียนเรื่องตามจินตนาการ มารยาทในการเขียน การจำแนกข้อเท็จจริงและ

ขอ้ คิดเห็นจากเร่ืองท่ฟี งั และดู การพูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และความรู้สกึ การต้ังคำถามและตอบคำถาม
เชิงเหตุผลการรายงานเรื่องหรือประเดน็ ทศ่ี ึกษาค้นควา้ มารยาทในการฟัง การดู และการพดู การสะกดคำและ
บอกความหมายของคำ การระบุชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค การใช้พจนานุกรมการแต่งประโยคได้

ถูกต้องตามหลักภาษา การแต่งบทร้อยกรองและคำขวัญ สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิตภาษาไทย
มาตรฐานภาษาถิ่นการระบุข้อคิดจากนิทานพื้นบ้านหรือนิทานคติธรรม การอธิบายข้อคิดจากการอ่านเพ่ือ

นำไปใช้ในชีวิตจริง เพลงพนื้ บา้ น การท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่า
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองอธิบายความหมาย

ของคำ ประโยค และสำนวนอา่ นเรอ่ื งส้ันๆตามเวลาทก่ี ำหนดตอบคำถามคำถามจากเรื่องทอ่ี ่านแยกขอ้ เท็จจริง

และข้อคิดเห็น คาดคะเนเหตุการณร์ ะบุเหตุผล สรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดนำไปใช้ อ่านหนังสอื ท่มี คี ณุ ค่าตามความ
สนใจแสดงความคิดเห็น คัดลายมือ การเขียนสื่อสาร เขียนแผนภาพเขียนย่อความ เขียนจดหมาย เขียน

บันทึกเขียนรายงานเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นพูดสรปุ ความพูดแสดงความรู้
ความคิดเห็นและความรู้สึกตั้งคำถามเชิงเหตุผลตอบคำถามเชิงเหตุผลรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษา
สนทนาสะกดคำบอกความหมายของคำระบุใช้พจนานุกรมแต่งประโยคแต่งบทร้อยกรองและคำขวัญบอก

ความหมายเปรยี บเทียบระบขุ อ้ คดิ อธบิ ายข้อคิดนำไปใชร้ อ้ งเพลงพ้นื บา้ นทอ่ งจำบทอาขยาน
เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สอ่ื สารไดถ้ กู ต้อง รกั การเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิ จ
พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง เกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการสือ่ สาร และความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิตอยา่ งเหมาะสม

รวมตัวช้ีวดั ๓๓ ตวั ชีว้ ดั
ท ๑.๑ ป ๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖ ป๔/๗ ป๔/๘

ท ๒.๑ ป ๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖ ป๔/๗ ป๔/๘
ท ๓.๑ ป ๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖
ท ๔.๑ ป ๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖ ป๔/๗

ท ๕.๑ ป ๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔

27

คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน

ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ จำนวนชั่วโมง ๑๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอธิบายความหมายของคำประโยคและ
ข้อความที่เป็นการบรรยายและพรรณนา การอธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่าน การแยกข้อเท็จจริง

และข้อคิดเห็นจากเร่ืองทีอ่ า่ น การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเร่ืองที่อา่ น การอ่านงานเขียนเชงิ
อธิบาย คำส่งั ข้อแนะนำ และปฏบิ ตั ิตามการอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจมารยาทในการอา่ น การคดั ลายมือตัว
บรรจงเตม็ บรรทัดและครึง่ บรรทดั การเขียนสื่อสารโดยใชค้ ำไดถ้ ูกต้องชดั เจนและเหมาะสม การนำแผนภาพ

โครงเรื่องและแผนภาพความคิดไปพัฒนางานเขียน การเขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน การเขียนจดหมายถึง
ผู้ปกครองและญาติ การเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นการกรอกแบบรายการ การเขียนเรื่องตาม

จนิ ตนาการ มารยาทในการเขียนการพูดแสดงความรู้ ความคดิ เห็นและความรู้สกึ จากเรื่องท่ฟี ังและดู การต้ัง
คำถาม และตอบคำถามเชงิ เหตุผลจากเรือ่ งที่ฟงั และดูการวิเคราะห์ ความน่าเช่ือถือจากเรอื่ งทฟี่ ังและดูอย่าง
มีเหตุผล การพูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า มารยาทในการฟังการดูและการพูดการระบุชนดิ

และหน้าที่ของคำในประโยค การจำแนกส่วนประกอบของประโยคภาษาไทย มาตรฐานภาษาถิ่นการใช้คำ
ราชาศัพท์ การบอกคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย การแต่งบทร้อยกรอง การใช้สำนวนได้ถูกต้องการสรุป

เรื่องจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน การระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมท่ี
สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง การอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม การท่องจำบทอาขยานตามที่
กำหนดและบทร้อยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจ

โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง อธบิ ายความหมายของ
คำอธิบายความหมายโดยนยั แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ วเิ คราะห์แสดงความคดิ เหน็ นำไปใช้ในการดำเนิน

ชีวิต อ่านงานเขียนเชิงอธิบายปฏิบัติตามอ่านหนังสือแสดงความคิดเห็น ฝึกคัดลายมือ เขียนสื่อสาร เขียน
แผนภาพ เขียนย่อความ เขียนจดหมาย เขียนแสดงความรู้สกึ และความคิดเห็น กรอกแบบรายการเขยี นเรื่อง
ตามจินตนาการ ฝึกพูดแสดงความรู้ความคิดเห็นต้ังคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลวเิ คราะห์ พูดรายงาน

สนทนาระบชุ นดิ และหน้าท่ีของคำจำแนก เปรยี บเทียบใช้คำราชาศพั ทบ์ อกคำภาษาต่างประเทศ แต่งบทร้อย
กรองใช้สำนวน ฝึกสรุปเรื่องจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและ

วรรณกรรมอธิบายคณุ คา่ ทอ่ งอาขยาน
เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารไดถ้ กู ต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจ

พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง เกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการสอื่ สาร และความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิตอยา่ งเหมาะสม

รวมตัวช้วี ัด ๓๓ ตัวชวี้ ัด
ท ๑.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕ ป๕/๖ ป๕/๗ ป๕/๘
ท ๒.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕ ป๕/๖ ป๕/๗ ป๕/๘ ป๕/๙

ท ๓.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕
ท ๔.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕ ป๕/๖ ป๕/๗

ท ๕.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔

28

คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ จำนวนช่วั โมง ๑๖๐ ช่วั โมง

ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอธิบายความหมายของคำ ประโยคและ

ข้อความที่เป็นโวหาร การอ่านเร่ืองส้ัน ๆ อย่างหลากหลายโดยจับเวลาแล้วถามเกี่ยวกับเร่ืองท่ีอ่าน การแยก
ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน การอธิบายการนำความรูแ้ ละความคิดจากเรื่องทีอ่ ่าน การอ่านงาน

เขียนเชงิ อธิบาย คำส่ัง ข้อแนะนำ และปฏบิ ตั ติ ามการอธบิ ายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนท่ี
แผนภูมิ และกราฟการอ่านหนงั สือตามความสนใจ มมี ารยาทในการอา่ น การคัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัด
และคร่งึ บรรทัด การเขียนสื่อสารโดยใชค้ ำไดถ้ ูกตอ้ ง การเขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพ่ือให้

พัฒนางานเขียน การเขียนเรียงความ การเขียนย่อความจากเร่ืองที่อ่านการเขยี นจดหมายส่วนตัว การกรอก
แบบรายการต่าง ๆ การเขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการสร้างสรรค์ มารยาทในการเขียนการพูดแสดงความรู้ ความ

เข้าใจจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู การตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดูการ
วิเคราะห์ความน่าเชอื่ ถอื จากการฟงั และดโู ฆษณา การพดู รายงานเรื่องหรอื ประเดน็ ที่ศึกษาคน้ ควา้ จาก การฟงั

การดู และการสนทนาการพูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผล และน่าเชื่อถอื มารยาทในการฟัง การดู และการพูดการ
วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยคการใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล การรวบรวมและ
บอกความหมายของคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย การระบลุ กั ษณะของประโยคการแตง่ บทร้อยกรอง

การวิเคราะห์และเปรียบเทียบสำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต การแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีและ
วรรณกรรมการเล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเอง และนิทานพื้นบ้าน การอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ

วรรณกรรมทอี่ ่านการทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทร้อยกรองทม่ี คี ณุ ค่าตามความสนใจ
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางการอ่านออกเสียงอธิบายความหมายอ่านเรื่องสั้น ๆ แยกข้อเท็จจริง

ฝึกอธิบายตดั สินใจแก้ปญั หา อา่ นงานเขยี นปฏบิ ัตติ ามอ่านหนงั สือตามความสนใจ ฝกึ คัดลายมือเขียนสื่อสาร

เขียนแผนภาพฝึกพัฒนางานเขียนเขียนเรียงความเขียนย่อความเขียนจดหมายการกรอกแบบรายการเขียน
เรื่องตามจินตนาการ พูดแสดงความรู้ตั้งคำถามตอบคำถามวิเคราะห์ฟังและดูพูดรายงาน พูดโน้มน้าวฝึก

วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำใช้คำได้เหมาะสมรวบรวมบอกความหมายระบุลักษณะของประโยคแต่งบท
ร้อยกรองวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบแสดงความคิดเหน็ เล่านิทานพื้นบ้านอธบิ ายคณุ ค่า นำไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง
ท่องจำบทอาขยาน

เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สื่อสารไดถ้ กู ต้อง รักการเรยี นภาษาไทย เห็นคุณค่าของ
การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกจิ

พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง เกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตอย่าง
เหมาะสม

รวมตัวชีว้ ัด ๓๓ ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕ ป๕/๖ ป๕/๗ ป๕/๘
ท ๒.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕ ป๕/๖ ป๕/๗ ป๕/๘ ป๕/๙
ท ๓.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕
ท ๔.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔ ป๕/๕ ป๕/๖ ป๕/๗
ท ๕.๑ ป๕/๑ ป๕/๒ ป๕/๓ ป๕/๔

29

ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑
ภาคเรียนท่ี ๑ ๑.๕ หนว่ ยกติ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาการอ่าน การเขียน การฟัง ดูและพูด หลักการใช้ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม เกี่ยวกับ

การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว การอ่านจับใจความ การอ่านหนังสือตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน
การคัดลายมือ การเขียนสื่อสาร การเขียนย่อความ การเขียนแสดงความคิดเห็น การเขียนจดหมายส่วนตัว
การเขียนจดหมายกิจธุระ มารยาทในการเขียน การพูดสรุปความรู้ ความคิด มารยาทในการฟัง ดูและพูด

เสยี งในภาษาไทย การสรา้ งคำ ชนิดและหนา้ ทขี่ องคำ วรรณคดแี ละวรรณกรรม บทอาขยานและบทร้อยกรอง
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อ่านและเขียน เพื่อฝึกทักษะอ่านออกเสียง จับใจความ

ระบุเหตุและผล ระบุและอธิบาย วิเคราะห์ นำไปใช้ แก้ปัญหา คัดลายมือ เขียนสื่อสาร เขียนย่อความ
เขยี นแสดงความคดิ เหน็ อธิบาย สร้างคำ สรุปเน้ือหา ทอ่ งจำบทอาขยานและบทรอ้ ยกรอง

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรคู้ วามเขา้ ใจทกั ษะกระบวนการทางภาษาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ เกดิ คุณลกั ษณะอัน

พึงประสงค์ตามกลุ่มสาระภาษาไทย คือ รักความเป็นไทยและ เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามธรรมชาติ
รายวิชา เกิดทักษะกระบวนการทางภาษา ได้ถูกต้อง เหมาะสม อย่างหลากหลาย มีมารยาทในการอ่าน

ถกู ตอ้ ง ชัดเจน เหมาะสมและสละสลวย มมี ารยาทในการเขียนอยา่ งสรา้ งสรรค์ มีมารยาทในการฟงั ดแู ละพูด
เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปญั หา และความสามารถใน
การใช้ทักษะชวี ติ อย่างเหมาะสม

รวมตวั ช้วี ัด ๒๑ ตัวช้วี ดั ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม๑/๓ ม ๑/๔ ม ๑/๘ ม ๑/๙
ท ๑.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๒
ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม๑/๕ ม ๑/๖ ม ๑/๗ ม ๑/๙
ท ๒.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม๑/๓ ม ๑/๖
ท ๓.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๕ ม๑/๓
ท ๔.๑

ท ๕.๑

30

ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
ภาคเรยี นที่ ๒ ๑.๕ หน่วยกิต
กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง

ศึกษาการอ่าน การเขียน การฟัง ดูและพูด หลักการใช้ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม เกี่ยวกบั

การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง การอ่านจับใจความ การอ่านและปฏิบัติตามเอกสารคู่มือ การอ่านหนังสือ
ตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน การบรรยายประสบการณ์ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา การเขียน
แสดงความคิดเห็น การเขียนรายงาน มารยาทในการเขียน การพูดประเมินความน่าเชื่อถือ การพูดรายงาน

การศกึ ษาคน้ คว้า มารยาทในการฟัง ดแู ละพูด ภาษาพดู ภาษาเขยี น กาพย์ยานี ๑๑ สำนวนท่ีเป็นคำพังเพย
และสุภาษิต วรรณคดีและวรรณกรรม การคิดวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม บท

อาขยานและบทร้อยกรอง
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อ่านและเขียน เพื่อฝึกทักษะอ่านออกเสยี ง ตีความ ระบุ

ข้อสังเกต ปฏิบัติตามคู่มือ วิเคราะห์ นำไปใช้ แก้ปัญหา เขียนบรรยาย เขียนเรียงความ เขียนแสดงความ

คิดเห็น เขียนรายงาน ประเมิน พูดรายงาน แต่งบทร้อยกรอง จำแนก ใช้สำนวน สรุปเนื้อหา อธิบาย สรุป
ประยุกต์ใช้ ทอ่ งจำบทอาขยานและบทรอ้ ยกรอง

เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจทักษะกระบวนการทางภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดคุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์ตามกลมุ่ สาระภาษาไทย คือ รักความเปน็ ไทยและเกิดคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตามธรรมชาติ
รายวิชา ทักษะกระบวนการทางภาษาได้ถูกต้อง เหมาะสม อย่างหลากหลาย มมี ารยาทในการอา่ น มมี ารยาท

ในการเขียน อย่างสร้างสรรค์ มีมารยาทในการฟงั ดูและพูด เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการ
สือ่ สาร ความสามารถในการแกป้ ัญหา และความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ อย่างเหมาะสม

รวมตัวช้ีวัด ๒๒ ตัวชว้ี ัด

ท ๑.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๕ ม ๑/๖ ม ๑/๗ ม ๑/๘ ม ๑/๙
ท ๒.๑ ม ๑/๓ ม ๑/๔ ม ๑/๖ ม ๑/๘ ม ๑/๙
ท ๓.๑ ม ๑/๔ ม ๑/๕ ม ๑/๖

ท ๔.๑ ม ๑/๔ ม ๑/๕ ม ๑/๖
ท ๕.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม ๑/๓ ม ๑/๔ ม ๑/๕

ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน 31
ภาคเรียนท่ี ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษาการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด หลักการใช้ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม

เกย่ี วกับการอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว การจบั ใจความ การอา่ นหนงั สือนอกเวลา หนังสือท่ีนกั เรียนสนใจและ
เหมาะสมกับวัย มารยาทในการอ่าน การคัดลายมือตัวบรรจงครึง่ บรรทัด การเขียนเรียงความ การเขียนยอ่
ความ การเขยี นวเิ คราะห์ มารยาทในการเขียน การพูดสรุปความ การพดู วิเคราะห์และวิจารณ์ การพดู อวยพร

มารยาทในการฟงั การดู และการพูด การสร้างคำสมาส ลกั ษณะของประโยคสามญั ประโยครวม ประโยคซ้อน
คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ การสรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรม การท่องจำบทอาขยานและ

บทร้อยกรองตามทก่ี ำหนด
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อ่าน และเขียน เพื่อฝึกทักษะอา่ นออกเสียง จับใจความ

สรุปความ อธิบายรายละเอียด เขียนผังความคิด อภิปราย วิเคราะห์ จำแนกข้อเท็จจรงิ ระบุข้อสงั เกต แสดง

ความเห็นและข้อโต้แย้ง อ่านหนังสือ ประเมินคุณค่า นำไปใช้ แก้ปัญหา คัดลายมือ เขียนบรรยายและ
พรรณนา เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น โต้แย้ง พูดสรปุ

ความ ประยุกต์ใช้ พูดอวยพร สร้างคำ วิเคราะห์โครงสร้างประโยค รวบรวม อธิบายความหมาย สรุปเนื้อหา
ทอ่ งจำบทอาขยานและบทร้อยกรอง

เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม เกิดคณุ ลกั ษณะ
อันพึงประสงค์ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ รักความเป็นไทย และเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามธรรมชาติ
วชิ าได้ถกู ตอ้ ง มีมารยาทในการอา่ น มมี ารยาทในการเขียน ได้ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ มีมารยาทในการฟงั การ

ดู และการพูด เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการแก้ปญั หา และ
ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ อยา่ งเหมาะสม

รวมตัวชว้ี ัด ๒๔ ตวั ชว้ี ัด ม ๒/๖ ม ๒/๗ ม ๒/๘
ท ๑.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓ ม ๒/๔ ม ๒/๕ ม ๒/๘
ท ๒.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓ ม ๒/๔ ม ๒/๗

ท ๓.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓ ม ๒/๔ ม ๒/๖
ท ๔.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๕

ท ๕.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๕

32

ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒
ภาคเรียนที่ ๒ ๑.๕ หนว่ ยกติ
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการพูด หลักการใช้ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม
เกี่ยวกับการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง การจับใจความ การอ่านหนังสือที่ครูและนักเรียนกำหนดร่วมกัน
มารยาทในการอ่าน การเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า การเขียนรายงานโครงงาน การเขียนจดหมาย

การเขียนวิเคราะห์ มารยาทในการเขียน การพูดโน้มน้าว การพูดโฆษณา การพูดรายงานการศึกษาค้นคว้า
มารยาทในการฟัง การดู และการพูด กลอนสุภาพ การใช้คำราชาศัพท์ การสรุปเนื้อหาวรรณคดีและ

วรรณกรรม การวิเคราะห์คณุ ค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม การท่องจำบทอาขยานและบทรอ้ ย
กรองตาม ความสนใจ

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อ่าน และเขียน เพื่อฝึกทักษะอา่ นออกเสียง จับใจความ

สรุปความ อธิบายรายละเอียด เขียนผังความคิด อภิปราย วิเคราะห์ จำแนกข้อเท็จจริง ระบุข้อสังเกต
แสดงความเห็นและข้อโต้แย้ง อ่านหนังสือ ประเมินคุณค่า นำไปใช้ แก้ปัญหา เขียนรายงาน เขียนจดหมาย

เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น โต้แย้ง พูดโน้มน้าว พูดโฆษณา พูดรายงาน แต่งบทร้อย
กรอง ใช้คำราชาศพั ท์ สรปุ เน้อื หา อธิบายคุณคา่ สรุปความรู้ บอกขอ้ คดิ และท่องจำบทร้อยกรอง

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เกิด
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ รกั ความเป็นไทย และเกิดคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตาม
ธรรมชาตวิ ิชาไดถ้ ูกต้อง มีมารยาทในการอา่ น อย่างมเี หตผุ ล มีมารยาทในการเขียน ไดต้ รงตามวัตถุประสงค์ มี

มารยาทในการฟัง การดู และการพดู เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถ
ในการแก้ปัญหา และความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิตอยา่ งเหมาะสม

รวมตัวชี้วัด ๒๒ ตัวชี้วัด ม ๒/๒ ม ๒/๓ ม ๒/๔ ม ๒/๕ ม ๒/๖ ม ๒/๗ ม ๒/๘
ม ๒/๖ ม ๒/๗ ม ๒/๘
ท ๑.๑ ม ๒/๑
ท ๒.๑ ม ๒/๕ ม ๒/๕ ม ๒/๖
ม ๒/๔
ท ๓.๑ ม ๒/๔ ม ๒/๒ ม ๒/๓ ม ๒/๔ ม ๒/๕
ท ๔.๑ ม ๒/๓
ท ๕.๑ ม ๒/๑

ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน 33
ภาคเรยี นที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษาการอ่าน การเขียน การฟัง พูด และดู หลักการใช้ภาษา วรรณกรรม และวรรณคดี เกี่ยวกับ
การอา่ นออกเสียง การอา่ นจบั ใจความ การอา่ นตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน การคดั ลายมือตัวบรรจง

ครง่ึ บรรทัด การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณแ์ ละในโอกาสต่าง ๆ การเขยี นอตั ชีวประวตั แิ ละชีวประวัติ การ
เขียนจดหมายกิจธุระ การกรอกแบบสมัครงาน มารยาทในการเขียน การพูดแสดงความคิดเห็น การประเมิน

เรื่องจากการฟังและดู การพูดวิจารณ์วิเคราะหจ์ ากเรื่องที่ฟังและดู การพูดโน้มน้าว มารยาทในการฟังการดู
ประโยคซับซ้อน ระดับภาษา วรรณคดี วรรณกรรม วรรณกรรมท้องถิ่น การวิเคราะห์วิถีไทย การวิเคราะห์
คุณคา่ จากวรรณคดี และวรรณกรรม

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา ฟงั พดู อ่าน และเขียน เพ่ือฝึกทกั ษะ อา่ นออกเสียง ระบคุ วามแตกตา่ ง
ระบุใจความสำคัญ ประเมินความถูกต้อง วิจารณ์ วิเคราะห์ ตีความ ประเมินคุณค่า นำไปใช้ แก้ปัญหา

คดั ลายมอื เขียนขอ้ ความ เขยี นอัตชวี ประวตั หิ รอื ชวี ประวัติ เล่าเหตกุ ารณ์ เขยี นจดหมาย กรอกแบบสมัครงาน
เขยี นบรรยาย แสดงความคิดเห็น ประเมินเรอ่ื ง พูดโนม้ นา้ ว สรุปเน้ือหา ทอ่ งจำและบอกคุณค่า

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เกิดคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์ตามสาระการเรียนรู้ รักความเป็นไทย และเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามธรรมชาติวิชา
มีมารยาทในการอ่าน ได้ถูกต้องเหมาะสม มีมารยาทในการเขยี น อย่างมีเหตุผลและน่าเช่ือถือ มีมารยาทใน

การฟัง การดู และการพดู ที่มีคุณค่า ตามความสนใจ เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการแกป้ ญั หา และความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

รวมตัวชีว้ ัด ๒๒ ตัวชว้ี ัด
ท ๑.๑ ม๓/๑ ม ๓/๒ ม ๓/๓ ม ๓/๖ ม ๓/๗ ม ๓/๘ ม ๓/๙ ม ๓/๑๐
ท ๒.๑ ม๓/๑ ม ๓/๒ ม ๓/๓ ม ๓/๕ ม ๓/๘ ม ๓/๑๐

ท ๓.๑ ม๓/๑ ม ๓/๒ ม ๓/๕ ม ๓/๖
ท ๔.๑ ม๓/๒ ม ๓/๓

ท ๕.๑ ม๓/๑ ม ๓/๔

ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน 34
ภาคเรียนท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกติ

ศึกษาการอ่าน การเขียน การฟัง พูด และดู หลักการใช้ภาษา วรรณกรรม และวรรณคดี เกี่ยวกับ
การอ่านออกเสยี ง การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ การอ่านตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน การเขียน
ข้อความตามสถานการณ์และโอกาสต่าง ๆ การเขียนอธิบาย ชี้แจง แสดงความคิดเห็น และโต้แย้งในเรื่อง
ต่าง ๆ การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งจากสื่อต่าง ๆ มารยาทในการ
เขียน การพูดรายงานการศึกษาคน้ คว้าเก่ียวกับภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น การพูดในโอกาสต่าง ๆ มารยาทในการฟัง
การดู และการพูด คำที่มาจากภาษาตา่ งประเทศ คำทบั ศพั ท์ คำศัพทบ์ ญั ญัติ คำศัพทท์ างวชิ าการและวิชาชีพ
โคลงสี่สุภาพ วรรณคดี วรรณกรรม วรรณกรรมท้องถิ่น การวิเคราะห์ วิถีไทย การวิเคราะห์คุณค่าจาก
วรรณคดี วรรณกรรม บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองท่ีมคี ณุ ค่า

โดยใช้กระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อ่านและเขียน เพื่อฝึกทักษะ ระบุความแตกต่าง อ่านเรื่อง
ตา่ ง ๆ วิเคราะห์ ตคี วาม ประเมินคุณค่า นำไปใช้ แก้ปญั หา เขียนข้อความเขียนยอ่ ความ เขยี นอธิบาย ช้ีแจง
แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น เขียนรายงาน พูดรายงาน
พูดจำแนก ใช้คำ คำอธบิ าย ความหมาย แตง่ บทรอ้ ยกรอง สรปุ เน้อื หา สรปุ ความร้แู ละขอ้ คดิ ท่องจำและบอก
คณุ คา่

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม เกิดคุณลักษณะ อันพงึ
ประสงค์ตามสาระการเรียนรู้ รักความเป็นไทย และเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามธรรมชาติวิชา ได้
ถูกต้องและเหมาะสม มีมารยาทในการอ่าน ได้ถูกต้อง อย่างมีเหตุผล มีมารยาทในการเขียน ได้ตรงตาม
วัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ที่มีคุณค่า ตามความสนใจ เกิดความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตอย่างมี
ประสิทธภิ าพ

รวมตัวช้วี ัด ๒๒ ตัวชวี้ ัด
ท ๑.๑ ม ๓/๑ ม ๓/๔ ม ๓/๕ ม ๓/๙ ม ๓/๑๐
ท ๒.๑ ม ๓/๒ ม ๓/๔ ม ๓/๖ ม ๓/๗ ม ๓/๙ ม ๓/๑๐
ท ๓.๑ ม ๓/๓ ม ๓/๔ ม ๓/๖
ท ๔.๑ ม ๓/๑ ม ๓/๔ ม ๓/๕ ม ๓/๖
ท ๕.๑ ม ๓/๑ ม๓/๒ ม ๓/๓ ม ๓/๔

35

คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน

ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ จำนวนช่ัวโมง ๒๐๐ ช่ัวโมง

ศกึ ษาจำนวน ระบบจำนวน เก่ยี วกบั ปรมิ าณท่ีได้จากการนับจำนวนไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ รู้และเข้าใจ

หลักการอ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก และตัวเลขไทย เปรียบเทียบจำนวน ใช้เครื่องหมาย =, ≠, > และ

< และเรยี งลำดับจำนวนนับไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ ตัง้ แต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยค

สญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก โจทยป์ ญั หาการลบ แบบรูปของจำนวนที่เพิ่มข้ึน

หรือลดลงทีละ ๑ และทีละ ๑๐ แบบรูปซ้ำของจำนวน รูปเรขาคณิต และรูปอื่น ๆ การวัดความยาวเป็น

เซนติเมตร เป็นเมตร การวัดน้ำหนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด การเปรียบเทียบน้ำหนักเป็นกิโล กรัม เป็นขีด

ลกั ษณะของทรงสี่เหล่ยี มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ลกั ษณะของรูปสามเหลี่ยม รปู ส่ีเหลยี่ ม วงกลม

และวงรี การอา่ นแผนภูมริ ูปภาพ

โดยใช้ทักษะสื่อสาร สื่อความหมาย ใช้สมบัติในการแก้ปัญหา บอกปริมาณ เขียนตัวเลข อ่านตัวเลข

เปรยี บเทียบจำนวน ใชเ้ ครื่องหมาย =,≠,> และ < หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา

และนำไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา รวมทัง้ จำแนกรูปสามเหลย่ี ม รูปสีเ่ หล่ยี ม วงกลม วงรี ทรงสเี่ หลี่ยมมุมฉาก ทรง

กลม ทรงกระบอก และกรวย

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถใน

การใช้ทกั ษะชีวิต

รวมตัวช้ีวัด ๑๐ ตัวชีว้ ัด

ค ๑.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒ ป ๑/๓ ป ๑/๔ ป ๑/๕

ค ๑.๒ ป ๑/๑

ค ๒.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒

ค ๒.๒ ป ๑/๑

ค ๓.๑ ป ๑/๑

36

คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน

ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ จำนวนชัว่ โมง ๒๐๐ ชว่ั โมง

ศึกษาจำนวน และระบบจำนวน เก่ียวกับการเขียนและอา่ นตัวเลขฮินดอู ารบกิ และตวั เลขไทย แสดง
จำนวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ การเปรียบเทียบจำนวนและการใช้เครื่องหมาย =,≠,> และ < การ
เรยี งลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ต้ังแต่ ๓ ถงึ ๕ จำนวนจากสถานการณ์ต่าง ๆ การหาค่าของตัว

ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและลบ การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
แสดงการคณู ของจำนวน ๑ หลักกบั จำนวนไมเ่ กิน ๒ หลัก การหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์

แสดงการหารท่ีตวั ต้งั ไม่เกนิ ๒ หลัก ตวั หาร ๑ หลักโดยท่ีผลหารมี ๑ หลกั ทัง้ หารลงตัวและหารไม่ลงตัว การ
บวก ลบ คูณ หารระคน ศึกษาการวัดเกี่ยวกับ การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร การเปรียบเทียบ
ความยาวโดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ระหว่างเมตรกับเซนตเิ มตร การวดั นำ้ หนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กิโลกรัมและขีด

การวัดปริมาตรและความจุลิตร การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็น ลิตร ศึกษารูปเรขาคณิตเกี่ยวกับ
ลักษณะของรูปหลายเหลย่ี ม วงกลม และศึกษาสถติ เิ กยี่ วกบั การอา่ นแผนภูมิรูปภาพ

โดยใช้ทกั ษะส่อื สาร สอื่ ความหมาย ในการบอกปริมาณ เขียนตัวเลข อา่ นตวั เลขของจำนวนนับไมเ่ กิน
๑,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบจำนวน ใช้เครื่องหมาย =,≠,> และ < และแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา
เกย่ี วกับจำนวนและการวัด

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เกิดความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปญั หา และความสามารถใน

การใช้ทักษะชีวิต

รวมตัวชี้วัด ๑๖ ตัวชีว้ ัด
ค ๑.๑ ป ๒/๑ ป ๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔ ป ๒/๕ ป ๒/๖ ป ๒/๗ ป ๒/๘
ค ๒.๑ ป ๒/๑ ป ๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔ ป ๒/๕ ป ๒/๖

ค ๒.๒ ป ๒/๑
ค ๓.๑ ป ๒/๑

37

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ จำนวนช่ัวโมง ๒๐๐ ชว่ั โมง

ศึกษาการอ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน
๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ
บอก อ่านและเขียนเศษส่วนที่แสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วนที่กำหนดการ

เปรยี บเทยี บเศษส่วนท่ีตวั เศษเท่ากัน โดยท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรอื เท่ากับตวั สว่ น การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ การหาค่าของตัวไม่

ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณของจำนวน ๑ หลักกับจำนวนไม่เกิน ๔ หลักและจำนวน ๒ หลัก
กับจำนวน ๒ หลัก การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก
ตัวหาร ๑ หลัก และการหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนและแสดงวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา

๒ ขน้ั ตอนของจำนวนนับไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ การหาผลบวกและแสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการ
บวกของเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกิน ๑ และการหาผลลบพร้อมทั้งแสดงวิธีหาคำตอบ

ของโจทย์ปัญหาการการลบของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน การระบุจำนวนที่หายไปในแบบรูปของจำนวนท่ี
เพม่ิ ข้ึนหรือลดลงทีละเทา่ ๆ กนั

โดยใชท้ กั ษะสอ่ื สาร สอื่ ความหมาย ในการบอกปริมาณ เขียนตัวเลข อ่านตวั เลขของจำนวนนบั ไมเ่ กิน

๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบและเรยี งลำดับเศษส่วน และแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกับเงนิ
เวลาและระยะเวลา เลอื กใช้เครอ่ื งมอื ความยาวที่เหมาะสม วัดและบอกความยาวของสิ่งตา่ ง ๆ เปน็ เซนตเิ มตร

และมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร เปรียบเทียบความยาว
และแสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับระหวา่ งเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกบั เซนตเิ มตร กโิ ลเมตร
กับเมตร จากสถานการณต์ า่ ง ๆ เลอื กใช้เคร่อื งชั่งทเี่ หมาะสม วดั และบอกน้ำหนักเป็นกโิ ลกรมั และขีด กิโลกรมั

และกรัม คาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้ำหนักและแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์
ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้

เครื่องตวงที่เหมาะสม วัดและเปรียบเทียบปริมาตร ความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนและแสดงวิธีหา
คำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิเมตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มี
แกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร เขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพและใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำตอบ

ของโจทย์ปัญหา เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลที่เป็นจำนวนนับและใช้ข้อมูลจากตารางทางเดียวในการหา
คำตอบของโจทยป์ ญั หา

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เกิดความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปญั หา และความสามารถใน
การใชท้ ักษะชวี ิต

รวมตัวชี้วัด ๒๘ ตัวช้ีวัด

ค ๑.๑ ป ๓/๑ ป ๓/๒ ป ๓/๓ ป ๓/๔ ป ๓/๕ ป ๓/๖ ป ๓/๗ ป ๓/๘ ป ๓/๙ ป ๓/๑๐ ป ๓/๑๑

ค ๑.๒ ป ๓/๑
ค ๒.๑ ป ๓/๑ ป ๓/๒ ป ๓/๓ ป ๓/๔ ป ๓/๕ ป ๓/๖ ป ๓/๗ ป ๓/๘ ป ๓/๙ ป ๓/๑๐ ป ๓/๑๑

ป ๓/๑๒ ป ๓/๑๓

ค ๒.๒ ป ๓/๑
ค ๓.๑ ป ๓/๑ ป ๓/๒

38

คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน

ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ จำนวนชั่วโมง ๑๖๐ ชวั่ โมง

ศึกษาจำนวน เกี่ยวกับการอา่ นและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวน

นับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ พร้อมทั้งเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ จาก

สถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียนเศษส่วน จำนวนคละแสดงปริมาณสิ่งตา่ ง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตาม

เศษส่วน จำนวนคละที่กำหนด เปรียบเทียบ เรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละที่ตวั ส่วนตัวหนึ่งเป็นพหูคณู

ของอีกตัวหนึ่ง อ่านและเขียนทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ ตามทศนิยมที่กำหนด

เปรียบเทียบและเรียงลำดับทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง และประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบการคูณ

การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสมเหตุสมผล หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการ

บวก การลบของจำนวนนบั ที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงการคูณของจำนวนหลายหลัก ๒ จำนวน ที่มี

ผลคณู ไมเ่ กิน ๖ หลัก และแสดงการหารท่ีตัวตงั้ ไม่เกนิ ๖ หลกั ตัวหารไม่เกนิ ๒ หลัก หาผลลัพธ์การบวก ลบ

คูณ หารระคนของจำนวนนับ และ ๐ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ข้นั ตอนของจำนวนนบั ที่มากกว่า

๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สร้างโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจำนวนนับ และ ๐ พร้อมทั้งหาคำตอบ หาคำตอบและ

แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบของเศษสว่ นและจำนวนคละที่ตวั ส่วนตัวหนึ่งเป็นพหูคูณ

ของอีกตัวหนึ่ง หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง และแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา

การบวก การลบ ๒ ขัน้ ตอนของทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่

โดยใช้ทักษะแสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์

แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับความยาวรอบรูปและพืน้ ท่ขี องรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก จำแนกชนดิ ของ

มุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเมื่อกำหนดความ

ยาวของด้าน และใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู แิ ท่ง ตารางสองทางในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรไ์ ดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม เกิด

ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปญั หา และความสามารถในการ

ใช้ทกั ษะชีวติ

รวมตัวชีว้ ัด ๒๒ ตัวชวี้ ัด
ค ๑.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗ ป.๔/๘ ป.๔/๙ ป.๔/๑๐
ป.๔/๑๑ ป.๔/๑๒ ป.๔/๑๓ ป.๔/๑๔ ป.๔/๑๕ ป.๔/๑๖

ค ๒.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓
ค ๒.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒

ค ๓.๑ ป.๔/๑

39

คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ จำนวนชัว่ โมง ๑๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาการเขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม

แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บญั ญัตไิ ตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคณู ผลหารของเศษส่วนและ

จำนวนคละ แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ๒ ข้ันตอน หาผล

คูณของทศนิยม ที่ผลคูณเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง หาผลหารที่ตัวตัง้ เป็นจำนวนนับหรือทศนิยมไม่เกนิ

๓ ตำแหน่ง และตัวหารเป็นจำนวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์

ปัญหาการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม ๒ ขั้นตอน และแสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หารอ้ ยละไม่

เกิน ๒ ขนั้ ตอน

โดยใชท้ กั ษะแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกยี่ วกบั ความยาว นำ้ หนัก ทม่ี กี ารเปล่ียนหน่วยและ

เขียนในรปู ทศนิยม แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับปรมิ าตรของทรงสี่เหลีย่ มมุมฉากและความจุ

ของภาชนะทรงส่ีเหลีย่ มมมุ ฉาก ความยาวรอบรปู ของรูปสี่เหลีย่ มและพื้นที่ของรปู สีเ่ หลี่ยมดา้ นขนานและรูป

สีเ่ หล่ียมขนมเปยี กปนู สรา้ งเส้นตรงหรอื ส่วนของเสน้ ตรงให้ขนานกับเสน้ ตรงหรือส่วนของเส้นตรงที่กำหนดให้

จำแนกรปู สเี่ หล่ียมโดยพจิ ารณาจากสมบัติของรูป สรา้ งรูปส่ีเหลี่ยมชนิดต่าง ๆ เมื่อกำหนดความยาวของด้าน

และขนาดของมุมหรือเมือ่ กำหนดความยาวของเส้นทแยงมุม และบอกลักษณะของปรซิ ึม ใช้ข้อมูลจากกราฟ

เส้นในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา และเขียนแผนภูมแิ ทง่ จากขอ้ มลู ท่เี ปน็ จำนวนนับ

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถใน

การใชท้ กั ษะชีวติ

รวมตัวชี้วัด ๑๙ ตัวชว้ี ัด
ค ๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ป.๕/๘ ป.๕/๙

ค ๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒

40

คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน

ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ จำนวนชัว่ โมง ๑๖๐ ชวั่ โมง

ศึกษาการเปรยี บเทียบ เรยี งลำดบั เศษส่วนและจำนวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขยี นอตั ราส่วน
แสดงการเปรียบเทยี บปรมิ าณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรอื สถานการณ์ โดยท่ีปรมิ าณแต่ละปริมาณเป็นจำนวน
นบั หาอตั ราส่วนทีเ่ ทา่ กับอัตราสว่ นท่กี ำหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจำนวนนับไมเ่ กิน ๓ จำนวน แสดง

วิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใช้ความรู้เกีย่ วกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หาร
ระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ ๒ – ๓

ขั้นตอน หาผลหารของทศนิยมที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของ
โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ขั้นตอน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา
อตั ราสว่ น ปัญหารอ้ ยละ ๒ – ๓ ขน้ั ตอน แสดงวธิ คี ิดและหาคำตอบของปญั หาเกีย่ วกบั แบบรปู

โดยใช้ทักษะแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติ
ที่ประกอบด้วยทรงส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก และแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรปู และพ้ืนที่

ของรูปหลายเหล่ียม ความยาวรอบรปู และพ้นื ที่ของวงกลม จำแนกรูปสามเหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของ
รปู สรา้ งรูปสามเหลยี่ มเม่อื กำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุม บอกลกั ษณะของรปู เรขาคณิตสามมิติ
ชนดิ ต่าง ๆ ระบรุ ูปเรขาคณิตสามมิติทีป่ ระกอบจากรปู คลแ่ี ละระบรุ ปู คลขี่ องรปู เรขาคณิตสามมิติ ใช้ขอ้ มูลจาก

แผนภมู ิรปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา
เพ่ือใหเ้ กิดความรูค้ วามเข้าใจ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสมเกิด

ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปญั หา และความสามารถในการ
ใชท้ กั ษะชีวติ

รวมตัวชว้ี ัด ๒๑ ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป ๖/๑ ป ๖/๒ ป ๖/๓ ป ๖/๔ ป ๖/๕ ป ๖/๖ ป ๖/๗ ป ๖/๘ ป ๖/๙ ป ๖/๑๐

ป ๖/๑๑ ป ๖/๑๒
ค ๑.๒ ป ๖/๑
ค ๒.๑ ป ๖/๑ ป ๖/๒ ป ๖/๓

ค ๒.๒ ป ๖/๑ ป ๖/๒ ป ๖/๓ ป ๖/๔
ค ๓.๑ ป ๖/๑

41

ค ๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑
ภาคเรยี นที่ ๑ ๑.๕ หนว่ ยกิต
สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง

ศกึ ษาจำนวนเตม็ สมบัติของจำนวนเต็ม ทศนยิ มและเศษสว่ น เลขยกกำลังที่มีเลขชีก้ ำลังเป็นจำนวน
เต็มบวก การนำความรู้เกี่ยวกับจำนวนเต็ม และเลขยกกำลังไปใช้ในการแก้ปัญหา การสร้างพื้นฐานทาง
เรขาคณิต การสร้างรูปเรขาคณติ สองมิติโดยใช้การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณติ การนำความรูเ้ กยี่ วกบั การสร้าง

ทางเรขาคณิต หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ ภาพที่ได้จากการมองด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบนของรูป
เรขาคณิตสามมติ ิทปี่ ระกอบจากลกู บาศก์ไปใชใ้ นชีวติ จริง

โดยใช้ทักษะการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
ใช้สมบัติของจำนวนตรรกยะใช้สมบัติของเลขยกกำลังในการแก้ปัญหา ใช้โปรแกรม The Geometer’s
Sketchpad ในการสร้างรูปเรขาคณิต ใช้ความรู้ทางสถิติในการนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูล

นำไปใช้ในการแกป้ ญั หาเกยี่ วกับสถติ ิ
เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรไ์ ดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม เกิด

ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชวี ิต และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

รวมตัวชี้วัด ๔ ตวั ช้ีวดั
ค ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒
ค ๒.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒

42

ค ๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
ภาคเรยี นท่ี ๒ ๑.๕ หนว่ ยกิต
สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง

ศึกษา ประยุกต์ใช้ อัตราส่วนของจำนวนหลาย ๆ จำนวน สัดส่วน การนำความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน
สัดส่วน และร้อยละไปใช้ในการแก้ปัญหา ใช้สมบัติของการเท่ากันและสมบัติของจำนวน สมการเชิงเส้นตัว

แปรเดียว การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดยี ว การนำความรู้เกีย่ วกับการแก้สมการเชงิ เส้นตัวแปรเดียวไปใช้ใน
ชีวิตจริง กราฟและความสัมพันธ์เชิงเส้นคู่อันดับและกราฟของคู่อันดับการนำความรู้เกี่ยวกับกราฟและ
ความสัมพันธ์เชิงเส้นไปใช้ในชีวิตจริง สถติ ิ คำถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การนำเสนอและการแปล

ความหมายขอ้ มูล และการนำความร้เู กี่ยวกับสถติ ิไปใช้ในชวี ิตจรงิ
โดยใช้ทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทาง

คณติ ศาสตร์ ใช้ความร้เู ก่ียวกับกราฟในการแก้ปัญหา ใชค้ วามรูเ้ กี่ยวกบั ความสัมพนั ธเ์ ชิงเส้น ในการแก้ปัญหา
ประยกุ ต์ใช้อตั ราสว่ น สดั ส่วน และร้อยละ ในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวติ จรงิ

เพื่อให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เกิด

ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้
ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

รวมตัวชี้วัด ๕ ตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ม.๑/๓

ค ๑.๓ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓
ค ๓.๑ ม.๑/๑

43

ค ๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒
ภาคเรยี นท่ี ๑ ๑.๕ หน่วยกติ
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง

ศึกษาทฤษฎีบทพีทาโกรัส บทกลับของทฤษฎีบทพีทาโกรัส จำนวนตรรกยะ จำนวนอตรรกยะ
รากที่สอง รากที่สาม พื้นที่ผวิ และปริมาตรของปริซึม พื้นที่ผิวและปริมาตรของทรงกระบอก การเลื่อนขนาน
การสะท้อน การหมุน การดำเนินการของเลขยกกำลัง สมบัติอื่น ๆ ของเลขยกกำลัง การบวกและการลบ

เอกนาม การบวกและการลบพหนุ าม การคณู พหนุ าม การหารพหุนามด้วยเอกนาม
โดยใช้ทักษะการคิดคำนวณ แก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ใช้สมบัติ

ของเลขยกกำลงั ในการแก้ปญั หา ใช้สมบัติของจำนวนจรงิ ในการแก้ปญั หา ประยุกต์ใชค้ วามรู้เรอื่ งพืน้ ท่ีผิวของ
ปริซึมและทรงกระบอกในการแก้ปัญหา ประยุกต์ใช้ความรู้เรื่องปริมาตรของปริซึมและทรงกระบอกในการ
แก้ปญั หา ใช้ทฤษฎีบทพที าโกรัสและบทกลับในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการ

ใช้ทกั ษะชวี ิต และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

รวมตัวชว้ี ัด ๗ ตวั ชี้วัด

ค ๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒
ค ๑.๒ ม.๒/๑
ค ๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒
ค ๒.๒ ม.๒/๓ ม.๒/๕

44

ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒
ภาคเรยี นท่ี ๒ ๑.๕ หนว่ ยกติ
สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง

ศึกษาแผนภาพจุด แผนภาพต้น – ใบ ฮิสโทแกรม ค่ากลางของข้อมูล ความเท่ากันทุกประการของ
รปู เรขาคณิตความเท่ากันทุกประการของรูปสามเหลย่ี ม รปู สามเหลี่ยมสองรปู ทีส่ มั พันธ์กนั แบบ ด้าน-มมุ -ด้าน
รูปสามเหลี่ยมสองรูปที่สัมพนั ธ์กันแบบ มุม-ด้าน-มุม รูปสามเหลี่ยมสองรูปที่สัมพันธ์กันแบบด้าน-ด้าน-ด้าน

รูปสามเหลี่ยมสองรูปที่สัมพันธ์กันแบบมุม-มมุ -ด้าน รูปสามเหลี่ยมสองรูปที่สัมพนั ธ์กันแบบ ฉาก-ด้าน-ด้าน
และการนำไปใช้ เส้นขนานและมุมภายใน เส้นขนานและมุมแย้ง เส้นขนานและมุมภายนอกกับมุมภายใน

เส้นขนานและรปู สามเหลีย่ ม ความรู้พื้นฐานเก่ยี วกับการให้เหตผุ ลทางเรขาคณติ การสร้างและการให้เหตุผล
เกีย่ วกับการสร้าง การให้เหตุผลเก่ียวกับรูปสามเหลยี่ มและรูปสเ่ี หล่ยี ม การแยกตวั ประกอบของพหุนามโดย
ใช้สมบตั กิ ารแจกแจง การแยกตวั ประกอบของพหุนามดกี รสี องตวั แปรเดยี ว การแยกตวั ประกอบของพหนุ าม

ดีกรสี องท่ีเปน็ กำลังสองสมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่เป็นผลต่างของกำลังสอง
โดยใชท้ ักษะการคิดคำนวณ แกป้ ญั หา การใหเ้ หตุผล การส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ใชค้ วามรู้

ในการนำเสนอข้อมลู และวเิ คราะห์ขอ้ มูล นำสถติ ไิ ปใชใ้ นชีวติ จรงิ โดยใชเ้ ทคโนโลยีที่เหมาะสม ใชส้ มบตั ขิ องรูป
สามเหลี่ยมที่เท่ากันทุกประการในการแก้ปัญหา ใช้ความรู้ทางเรขาคณิตและเครื่องมือ เช่น วงเวียนและสัน
ตรง รวมทั้งโปรแกรม The Geometer’s Sketchpad หรือโปรแกรมเรขาคณิตพลวัตอื่น ๆ เพื่อสร้างรูป

เรขาคณิต ตลอดจนนำความรู้เกีย่ วกับการสร้างนไี้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการแกป้ ญั หาในชีวิตจรงิ ใช้พหุนามในการ
แกป้ ัญหา ใชก้ ารแยกตวั ประกอบของพหนุ ามดกี รีสองในการแกป้ ญั หา

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการ
ใชท้ ักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

รวมตัวชวี้ ัด ๕ ตวั ช้ีวดั

ค ๑.๒ ม.๒/๒
ค ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๔
ค ๓.๑ ม.๒/๑

45

ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓
ภาคเรียนที่ ๑ ๑.๕ หนว่ ยกติ
สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว คำตอบของอสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว การแกอ้ สมการเชิงเส้น
ตัวแปรเดียว โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูป
ผลบวกและผลต่างของกำลังสาม การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม สมการกำลังสองตัว

แปรเดียว การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
รูปเรขาคณติ ท่คี ล้ายกนั รปู สามเหลีย่ มท่คี ลา้ ยกัน โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับรปู สามเหลยี่ มทคี่ ล้ายกัน ฟงั กช์ นั กราฟ

ของฟังกช์ ันกำลงั สอง แผนภาพกล่อง การอ่านและแปลความหมายจากแผนภาพกลอ่ ง
โดยใช้ทักษะการสืบเสาะหาความรู้เกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวในการแก้ปัญหา พร้อมทั้ง

ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสม อ่าน แปลความหมาย

และวเิ คราะห์ข้อมลู ทไี่ ด้จากการนำเสนอ ใช้วธิ ีการทห่ี ลากหลายแก้ปัญหา ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการ
ทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ให้เหตุผล

ประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร
การสื่อความหมาย และการนำเสนอ ได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์
และนำความรู้ หลกั การ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชอื่ มโยงกบั ศาสตรอ์ ื่น ๆ มีความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการ

ใช้ทักษะชวี ติ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

รวมตัวชีว้ ัด ๖ ตัวชี้วดั
ค ๑.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒
ค ๑.๓ ม.๓/๑ ม.๓/๒

ค ๒.๒ ม.๓/๑
ค ๓.๑ ม.๓/๑

46

ค ๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓
ภาคเรียนที่ ๒ ๑.๕ หน่วยกติ
สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง

ศึกษาระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร การแกโ้ จทย์ปัญหา
โดยใช้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร มุมที่จุดศูนย์กลางและมุมในส่วนโค้งของวงกลม คอร์ดของวงกลม
เส้นสัมผัสวงกลม ปรมิ าตรและพน้ื ท่ีผวิ ของพีระมดิ ปริมาตรและพนื้ ที่ผวิ ของกรวย ปรมิ าตรและพื้นท่ีผิวของ

ทรงกลม โอกาสของเหตุการณ์ ความนา่ จะเป็น ความหมายของอัตราส่วนตรีโกณมติ ิ อตั ราส่วนตรีโกณมิติ
ของมุมแหลม การนำอัตราสว่ นตรีโกณมติ ไิ ปใชใ้ นการแก้ปัญหา

โดยใช้ทักษะการสืบเสาะหาความรู้ ใช้ความร้เู ก่ียวกบั พน้ื ท่ี พ้นื ทผ่ี วิ และปรมิ าตรในการแก้ปัญหาใน
สถานการณ์ตา่ ง ๆ หาความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์จากการทดลองสุ่มที่ผลแต่ละตวั มโี อกาสเกิดขน้ึ เท่า ๆ กัน
และใช้ความรู้เกี่ยวกับความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผล สามารถแสดงเหตุผลโดยการ

อา้ งองิ ความรขู้ ้อเท็จจรงิ การสร้างแผนภาพเช่ือมโยงเนอื้ หาต่าง ๆ ในคณติ ศาสตร์ ใช้ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
นำความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน และเกิดเจตคติที่ดีต่อสาระคณิตศาสตร์ มีจริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่ี
เหมาะสม

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการ

ใชท้ ักษะชีวติ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

รวมตัวชี้วัด ๖ ตวั ชี้วัด
ค ๑.๓ ม.๓/๓
ค ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒

ค ๒.๒ ม.๓/๒ ม.๓/๓
ค ๓.๒ ม.๓/๑

47

ว ๑๑๑๐๑ วิชาวิทยาศาสตร์ ๑ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง

ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร ลักษณะ หนาที่และการดูแลรักษาสวนตาง ๆ ของรางกาย

มนุษย ลักษณะและหนาที่ของสวนตาง ๆ ของสัตวและพชื รอบตัว และสภาพแวดลอม ในบรเิ วณที่สตั วและพืช

อาศยั อยู ชนิดและสมบตั ิของวสั ดทุ ่ีใชทําวตั ถุรอบตัว การเกิดเสียงและ ทศิ ทางการเคล่อื นท่ีของเสียง ลักษณะ

ของหิน และการมองเห็นดาวบนทองฟาในเวลากลางวัน และกลางคืน การแกปญหาโดยการลองผิดลองถูก

การเปรยี บเทยี บ การเขียนโปรแกรมอยางงายโดยใช ซอฟตแวรหรอื สอ่ื การใชงานอปุ กรณเทคโนโลยีเบ้ืองตน

การใชงานซอฟตแวรเบือ้ งตน

ใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต สํารวจตรวจสอบโดยใชเครื่องมืออยางงาย รวบรวมขอมูล บันทึก

และอธิบายผลการสํารวจตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตรขน้ั

พืน้ ฐานและมีทกั ษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยี สารสนเทศและการสอ่ื สารเบ้ืองตน

สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู มีความคิดสรางสรรค สามารถทํางาน รวมกับผูอื่น แสดงขั้นตอนการแกปญหา

อยางงาย เขยี นโปรแกรมโดยใชสื่อ สราง จัดเกบ็ และเรยี กใช ไฟลตามวตั ถปุ ระสงค

ตระหนักถึงประโยชนของการใชความรูและกระบวนการทางวิทยาศาสตร ในการดํารงชีวิต

ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัย ปฏิบัติตามขอตกลงในการใชงาน ดูแลรักษาอุปกรณและใชงาน

เทคโนโลยสี ารสนเทศอยางเหมาะสม มจี ติ วิทยาศาสตร จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคานิยมทเี่ หมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ว ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑
ว ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๓.๒ ป.๑/๑
ว ๔.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕

รวม ๗ มาตรฐาน ๑๕ ตวั ชี้วัด

48

ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๒ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
จำนวน ๘๐ ชั่วโมง

ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต ความจําเปนของแสง
และน้ำต อการเจริญเติบโตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก สมบัติการดูดซับน้ ำของวัสดุและ
การนําไปใช ประโยชน สมบัติของวสั ดุท่ีเกิดจากการนําวสั ดุมาผสมกัน การเลือกวัสดุมาใชทําวัตถุตามสมบตั ิ
ของวัสดุ การนําวัสดุท่ีใช้แลวกลับมาใชใหม การเคลื่อนท่ีของแสง การมองเหน็ วัตถุ การปองกันอันตรายจาก
การ มองวัตถุในบริเวณที่มแี สงสวางไมเหมาะสม สวนประกอบและการจาํ แนกชนดิ ของดิน การใชประโยชน
จากดิน การแสดงขนั้ ตอนการแกปญหา การตรวจหาขอผิดพลาดของโปรแกรม การใชงานซอฟตแวรเบื้องตน
การจัดการไฟลและโฟลเดอร การใชงานและดูแลรักษาอุปกรณคอมพิวเตอร เทคโนโลยีในชีวิตประจําวัน
การใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอยางปลอดภยั

ใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต จําแนกประเภท รวบรวมข อมูล บันทึก และอธิบายผล
การสํารวจ ตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรข้ันพื้นฐานและมี
ทักษะ การเรียนรูในศตวรรษที่ ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องตน สามารถ
สื่อสารสิ่งท่ี เรียนรู มีความคิดสรางสรรค สามารถทํางานรวมกับผูอื่น แสดงขั้นตอนการแกปญหาอยางงาย
เขียนโปรแกรม แบบมีเงื่อนไขโดยใชบัตรคําสั่งและตรวจหาขอผิดพลาด ใชงานซอฟตแวร สรางจัดหมวดหมู
ไฟลและโฟลเดอร ตระหนักถึงประโยชน ของการใช ความรู และกระบวนการทางวิทยาศาสตร ใน
การดํารงชวี ติ

ตระหนกั ถงึ ความสาํ คัญของการปกปองขอมูลสวนตวั ใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอยางปลอดภยั ดูแล
รักษาอปุ กรณ คอมพิวเตอร มีจิตวทิ ยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมท่เี หมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ว 1.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3
ว 1.3 ป.2/1
ว 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
ว 2.3 ป.2/1, ป.2/2
ว 3.2 ป.2/1, ป.2/2
ว 4.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4

รวม ๖ มาตรฐาน ๑๖ ตวั ชีว้ ัด

49

ว ๑๓๑๐๑ วิชาวิทยาศาสตร์ ๓ คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๓
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง

ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ ปัจจัยในการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของมนุษย์และ
สัตว์ วัฏจักรชีวิตของสัตว์ วัตถุประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อยซึ่งสามารถแยกออกจากกนั และประกอบกันเปน็
วัตถุ ชิ้นใหม่ได้ การเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำให้ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ผลของแรงที่มีต่อ

การเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนที่ของวัตถุ แรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัส วัสดุที่แม่เหล็กดึงดูดได้ แรงแม่เหล็ก
ข้วั แมเ่ หล็ก การเปล่ยี นพลังงานหนงึ่ ไปเปน็ อีกพลงั งานหนึ่ง การทำงานของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟ้า แหล่งพลังงาน

ในการผลติ ไฟฟา้ การใช้ ไฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภยั การเกิดกลางวนั กลางคนื การขึน้ และตกของดวง
อาทิตย์ การกำหนด ทิศ ความสำคัญของดวงอาทิตย์ ส่วนประกอบของอากาศ ความสำคัญของอากาศ
ผลกระทบของมลพิษ ทางอากาศ การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม การแสดงขั้นตอน

การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เบื้องต้น การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้บัตรคำสั่งและ
การตรวจหาข้อผิดพลาด การใช้อินเทอร์เน็ต และข้อตกลงในการใช้งาน การรวบรวมขอ้ มูล การประมวลผล

ข้อมลู เบอ้ื งต้น การนำเสนอขอ้ มูล เทคโนโลยี ในงานด้านตา่ ง ๆ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสียในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการสอื่ สาร

ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต รวบรวมข้อมูล จัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล สร้าง

แบบจำลอง และอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ ข้ันพนื้ ฐานและมีทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในดา้ นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ

สื่อสาร เบื้องต้น สามารถสื่อสารสิ่งทีเ่ รียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืน แสดงขั้นตอน
การ แก้ปัญหา เขียนโปรแกรมแบบวนซ้ าโดยใช้บัตรคำสั่ง ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาความรู้ รวบรวม
ประมวลผล และนำเสนอข้อมลู ตามวัตถปุ ระสงค์

ต ร ะ ห นั ก ถ ึ ง ป ร ะ โ ย ช น ์ ข อ ง ก า ร ใ ช ้ ค ว า ม ร ู ้ แ ล ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง ว ิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ ใ น
การดำรงชีวิต ตระหนัก ถึงการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและอยู่ในการดูแลของครูหรือผู้ปกครอง
มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

ว ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ ว ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒

ว ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ ว ๒.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓

ว ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ ว ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔

ว ๔.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป๓/๕

รวมรวม ๗ มาตรฐาน ๒๕ ตัวช้ีวัด


Click to View FlipBook Version