150
คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้งานอาชพี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง
อธบิ ายเหตผุ ลขัน้ ตอนการทำงานแตล่ ะขั้นตอนถูกต้องตามกระบวนการทำงาน เชน่ การซอ่ มแซม ซัก
ตาก เก็บรีด การพับเสอ้ื ผา้ การปลูกพืช การทำบญั ชีครวั เรอื น ฝกึ ปฏิบตั ทิ ักษะ การจดั การในการทำงานอย่าง
เปน็ ระบบประณีตและมีความคิดสร้างสรรค์ เชน่ การจัดโตะ๊ อาหาร ตอู้ าหาร ตเู้ ยน็ และหอ้ งครวั การทำความ
สะอาดห้องนำ้ และหอ้ งสว้ ม การซ่อมแซมอปุ กรณ์ของใช้ในบา้ น การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุเหลือ
ใช้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น การจัดเก็บเอกสารสำคัญ การดูแลรักษาและใช้สมบัติส่วนตัว สำรวจข้อมูลที่เกี่ยวกับ
อาชพี ต่าง ๆ ในชุมชนเพ่อื ระบุความแตกตา่ งและข้อควรคำนงึ เกยี่ วกบั อาชพี
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการในการทำงาน
ทักษะการจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน ทักษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรม
และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวติ และ
ครอบครวั
รหสั ตวั ช้ีวดั (รายป)ี
ง ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ง ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
รวมทั้งสิน้ ๒ มาตรฐาน ๖ ตวั ช้วี ดั
151
คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้งานอาชพี
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
อภิปรายแนวทางในการทำงานและปรับปรุงการทำงานแต่ละขั้นตอน มีการแก้ไขปรับปรุงผลงาน
เช่น การดูแลรักษาสมบัติภายในบ้าน การปลูกไม้ดอก หรือไม้ประดับ หรือปลูกผัก หรือเลี้ยงปลาสวยงาม
การบนั ทกึ รายรับ รายจา่ ยของหอ้ งเรยี น การจัดเก็บเอกสารการเงนิ ฝึกทักษะการจดั การในการทำงาน และ
มีทักษะการทำงานร่วมกัน เช่น การเตรียม ประกอบ จัดอาหารให้สมาชิกในครอบครวั การติดตั้ง ประกอบ
ของใชใ้ นบ้าน การประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแตง่ ให้สมาชกิ ในครอบครัว หรอื เพอ่ื นในโอกาสต่าง ๆ ฝึกปฏิบัติ
มารยาทในการทำงานกับสมาชิกในครอบครัวและผู้อื่น สำรวจตนเพื่อวางแผนในการเลือกอาชีพตามความสนใจ
ความสามารถ และทักษะ มีคุณธรรมในการประกอบอาชีพ เช่น ความซื่อสัตย์ ความขยัน อดทน และความ
ความรับผิดชอบ
เพอ่ื ให้มีความรู้ ความเข้าใจในการทำงาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มที กั ษะกระบวนการในการทำงาน
ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มี
คุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในการ
ดำรงชีวติ และครอบครัว
รหสั ตัวชีว้ ดั (รายป)ี
ง ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒, ป.๖/๓
ง ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
รวมทั้งสนิ้ ๒ มาตรฐาน ๕ ตัวช้วี ัด
152
ง ๒๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑
ภาคเรยี นท่ี ๑ ๐.๕ หนว่ ยกิต
สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ศึกษาวิเคราะห์ขัน้ ตอนการทำงานตามกระบวนการทำงานตามลำดบั ข้ันตอนที่วางแผนไวใ้ นการจัด
และตกแตง่ หอ้ ง การใช้อปุ กรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงานบ้าน รจู้ ักวางแผนการทำงานเป็นกลมุ่ โดยใช้
ทักษะ กระบวนการกลุ่มในการทำงานร่วมกันด้วยความเสียสละในการเตรียม ประกอบ จัด ตกแต่ง และ
บรกิ ารอาหาร การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุทอ้ งถนิ่
โดยใช้ทักษะ กระบวนการเปน็ รายบุคคลและกลุ่มการทำงานร่วมกัน กำหนดวางแผน การจัดการ
การแก้ปัญหาอย่างมเี หตผุ ล ประยุกต์ใชพ้ ลังงานและทรพั ยากรอย่างประหยดั คมุ้ คา่
เพื่อให้เกิดความตระหนัก และเห็นคุณค่าของการทำงาน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจำวัน มีความสามารถในการตัดสินใจ มีจริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม ทั้งมีจิตสำนึกใน
การใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการ
ประกอบอาชีพได้
รวมตัวชี้วัด ๓ ตวั ช้ีวดั
ง ๑.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม ๑/๓
153
ง ๒๑๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑
ภาคเรียนท่ี ๒ ๐.๕ หนว่ ยกติ
สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ
จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ศึกษา การประกอบอาชีพ ความสำคัญของอาชีพต่อการดำเนินชีวิต แนวทางการเลือกอาชีพ
สรา้ งอาชีพ และมีเจตคติทด่ี ตี อ่ การประกอบอาชพี แนวทางในการสรา้ งและเลอื กอาชีพท่สี จุ รติ
โดยใช้ทักษะ กระบวนการเป็นรายบุคคลและกลุ่มการทำงานร่วมกัน กำหนดวางแผน การจัดการ
การแกป้ ัญหาอย่างมีเหตผุ ล
เพื่อให้เกิดความตระหนัก และเห็นคุณค่าของการทำงาน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวัน มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มีจรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ทั้งมีจิตสำนึกใน
การใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการ
ประกอบอาชพี ได้
รวมตัวช้ีวัด ๓ ตัวช้ีวัด
ง ๒.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม ๑/๓
154
ง ๒๒๑๐๑ การงานอาชพี ๓ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒
ภาคเรยี นท่ี ๑ ๐.๕ หน่วยกติ
สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ
จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ศึกษา ค้นคว้า รวบรวม สังเกต สำรวจ บันทึก และแสวงหาความรู้ เพื่อใช้ในการพัฒนาการทำงาน
การจัดและตกแตง่ บ้าน การดูแลรักษาและตกแต่งสวน การจดั การผลผลติ โดยใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา
ในการทำงาน การเตรยี ม ประกอบ จัด ตกแตง่ และบริการเครือ่ งด่ืม การประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวัสดุ
ในโรงเรยี นหรือท้องถิ่น การเล้ียงสัตว์ในบริเวณบา้ น
โดยใช้ทักษะ กระบวนการเป็นรายบุคคลและกลุ่มการทำงานร่วมกัน กำหนดวางแผน การจัดการ
การแก้ปญั หาอย่างมีเหตผุ ล ประยกุ ต์ใช้พลังงานและมีจิตสำนึกและใชท้ รัพยากรอย่างประหยัด คุม้ ค่า
เพื่อให้เกิดความตระหนัก และเห็นคุณค่าของการทำงาน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวัน มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ มีจรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม และมีจิตสำนึกใน
การใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการ
ประกอบอาชพี ได้
รวมตัวชวี้ ัด ๓ ตัวช้วี ดั
ง ๑.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓
155
ง ๒๒๑๐๒ การงานอาชีพ ๔ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒
ภาคเรียนที่ ๒ ๐.๕ หนว่ ยกิต
สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี
จำนวน ๒๐ ชัว่ โมง
ศกึ ษา ค้นคว้า รวบรวม สังเกต สำรวจ บนั ทกึ และแสวงหาความรู้ การเสรมิ สรา้ งประสบการณ์อาชีพ
การเตรยี มตวั เข้าส่อู าชพี และมที กั ษะพื้นฐานทจ่ี ำเปน็ สำหรับการประกอบอาชีพทนี่ ่าสนใจ
โดยใชท้ ักษะ กระบวนการเป็นรายบุคคลและกลุม่ การทำงานรว่ มกนั กำหนดวางแผน การจัดการ การ
แกป้ ัญหาอยา่ งมีเหตผุ ล
เพื่อให้เกิดความตระหนัก และเห็นคุณค่าของการทำงาน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจำวนั มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มีจริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม และมีจิตสำนกึ ใน
การใช้พลังงาน ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสือ่ สาร
ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ และสามารถนำไปเป็นแนวทางใน
การประกอบอาชพี ได้
รวมตัวชี้วัด ๓ ตวั ชี้วดั
ง ๒.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓
156
ง ๒๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
ภาคเรียนที่ ๑ ๐.๕ หน่วยกิต
สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง
ศกึ ษา และเรยี นรูท้ ักษะการทำงานรว่ มกัน โดยคำนึงถงึ การใชท้ รพั ยากรอย่างประหยดั และค้มุ คา่ ตัด
เย็บซ่อมแซม ดูแลรักษาเสือ้ ผ้าอย่างถกู วธิ โี ดยใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน จัดเตรียมอาหาร
ประเภทสำรบั และจัดตกแต่งอยา่ งสวยงาม มคี วามรอบรูก้ ารขยายพันธพุ์ ืช งานช่าง การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์
จากวสั ดุธรรมชาติ
โดยใช้ทักษะ กระบวนการเป็นรายบุคคลและกลุ่มการทำงานร่วมกัน กำหนดวางแผน การจัดการ
การแกป้ ญั หาอยา่ งมเี หตุผล มีจิตสำนึกและใชท้ รัพยากรอย่างประหยดั คุม้ คา่ เปน็ ธรรมในการทำงาน
เพื่อให้เกิดความตระหนัก และเห็นคุณค่าของการทำงาน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มีจรยิ ธรรม คณุ ธรรม ค่านิยมทเี่ หมาะสม และมจี ิตสำนึกในการ
ใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากร และสิง่ แวดล้อม เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถ
ในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และสามารถนำไปเป็น
แนวทางในการประกอบอาชีพได้
รวมตวั ชีว้ ัด ๓ ตวั ช้ีวดั
ง ๑.๑ ม ๓/๑ ม ๓/๒ ม ๓/๓
157
ง ๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ ๖ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓
ภาคเรยี นท่ี ๒ ๐.๕ หน่วยกติ
สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
จำนวน ๒๐ ชัว่ โมง
ศกึ ษา วเิ คราะห์และแสวงหาความรู้ อภิปรายการหางานดว้ ยวธิ ที หี่ ลากหลาย วเิ คราะห์แนวทาง
เข้าสู่อาชพี และสามารถประเมินทางเลอื กในการประกอบอาชีพทีส่ อดคล้องกบั ความรู้ ความถนัด และความ
สนใจของตนเอง เพ่ือการเสริมสรา้ งประสบการณ์อาชีพ การเตรียมตัวเข้าสูอ่ าชพี
โดยใช้ทักษะกระบวนการเป็นรายบุคคลและกลุม่ การทำงานร่วมกนั กำหนดวางแผนการจัดการ
การแกป้ ญั หาอยา่ งมีเหตผุ ลและมีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ อาชพี
เพื่อให้เกิดความตระหนัก และเห็นคุณค่าของการทำงาน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวัน มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มีจรยิ ธรรม คุณธรรม คา่ นยิ มท่ีเหมาะสม และมจี ติ สำนึกในการ
ใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากร และสงิ่ แวดล้อม เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถ
ในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และสามารถนำไปเป็น
แนวทางในการประกอบอาชพี ได้
รวมตัวช้วี ดั ๓ ตัวชีว้ ัด
ง ๒.๑ ม ๓/๑ ม ๓/๒ ม ๓/๓
158
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ง ๒๐๒๑๑ เศษผ้านา่ ใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑
เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของงานออกแบบตัดเย็บ การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
ในการตัดเย็บ การตัดเย็บตะเข็บแบบตา่ ง ๆ การเย็บเครอื่ งเกาะเกยี่ วชนิดต่าง ๆ การเลือกและการออกแบบ
และตัดเย็บงานฝีมือจากเศษผ้าที่เหลือใช้ เช่น พวงกุญแจดอกไม้จากเศษผ้า พวงกุญแจตุ๊กตาจากเศษผ้า
กระเปา๋ จากเศษผ้า ตุ๊กตาจากเศษผา้ เป็นต้น
ปฏิบัติทักษะการออกแบบตัดเย็บจากเศษผ้า การใช้เครื่องมือและอปุ กรณ์ในการตัดเยบ็ การตัดเย็บ
ตะเข็บด้วยมือและการตัดเย็บเครื่องเกาะเกี่ยวชนิดต่าง ๆ การออกแบบและตัดเย็บจากเศษผ้า เช่น พวง
กญุ แจดอกไม้จากเศษผา้ พวงกุญแจตกุ๊ ตาจากเศษผ้า กระเปา๋ จากเศษผา้ ตุ๊กตาจากเศษผา้ เปน็ ตน้
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะ ในการทำงาน ดัดแปลงแบบและออกแบบชิ้นงานกการตัดเย็บ
จากเศษผ้าได้ มีคุณธรรมและลักษณะนิสยั ที่ดีในการทำงาน ใช้พลังงาน ทรัพยากร ในการทำงานอย่างคุ้มคา่
และยั่งยนื เพ่อื การอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดล้อม และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชพี ได้
ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของงานออกแบบตดั เยบ็ ได้
๒. บอกช่ือ หน้าที่ และวธิ ใี ช้วสั ดุ อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมอื เคร่ืองใชใ๎ นการทำงานได้
๓. ปฏบิ ัติการบำรุงรักษา อปุ กรณ์และเครอื่ งมือ เครื่องใช๎ในการทำงานได้
๔. ปฏบิ ัติการตัดเย็บตะเขบ็ ด้วยมอื ได้
๕. ปฏบิ ัตกิ ารตัดเย็บเคร่อื งเกาะเก่ียวชนิดต่าง ๆ ได้
๖. ปฏิบัติการออกแบบและทำการตัดเย็บงานฝีมือด้วยเศษผ้า เช่น พวงกุญแจดอกไม้จากเศษผ้า
พวงกุญแจต๊กุ ตาจากเศษผา้ กระเปา๋ จากเศษผา้ ตุ๊กตาจากเศษผา้ ได้
๗. ฝึกปฏบิ ตั ิการตัดเย็บเพือ่ สรา้ งสรรคช์ ้นิ งานใหม่ ๆ จากเศษผ้าได้
๘. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ลกั ษณะนสิ ยั ทดี่ ใี นการทำงาน และใช้พลังงาน ทรัพยากร ในการทำงานอย่าง
คุ้มค่าและยงั่ ยนื เพ่อื การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
รวม ๘ ผลการเรยี นรู้
159
คำอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม
ง ๒๑๒๐๑ ศลิ ปะประดิษฐ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑
เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
บอกความหมายของศิลปะประดิษฐ์ได้ ศึกษาเทคนิควิธีนำงานศิลป์มาประดิษฐ์เป็นของใช้ ของ
ตกแต่ง การใช้และบำรุงเครื่องมือและอุปกรณ์โดยใช้ทักษะในการปฏิบัติงานเลือกแบบ และวัสดุในการ
ประดิษฐ์ ตามความต้องการของตลาด คำนวณคา่ ใชจ้ า่ ย กำหนดราคาหรอื คา่ บริการ จัดจำหน่ายบนั ทกึ การ
ปฏบิ ตั ิงาน ทำบัญชีรายรับ-รายจา่ ย และประเมนิ ผล
เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะ มีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ เกิดความสามารถในการคิด
มีความสามารถในการแก้ปญั หา และความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ และสามารถนำไปเปน็ แนวทางในการ
ประกอบอาชพี ได้
ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง
๑. รคู้ วามหมายของศลิ ปะประดษิ ฐ์
๒. บอกประเภทของงานศิลปะประดิษฐ์ (งานประดษิ ฐข์ องใช้ /งานประดษิ ฐ์ของตกแตง่ )
๓. เลือกใช้ วัสดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมอื ได้ถกู ตอ้ ง
๔. สร้างชนิ้ งานศลิ ปะประดิษฐ์ อย่างน้อย ๒ ช้ินงาน
๕. สามารถใช้ และบำรงุ รักษาเครื่องมือ อุปกรณ์ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
๖. สามารถคำนวณคา่ ใช้จ่ายและราคาไดถ้ ูกตอ้ ง
๗. ทำบัญชีรายรบั -รายจ่ายได้ถกู ต้อง
๘. มีเจตคติทีด่ ที ีด่ ตี ่องานอาชพี
รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้
160
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ
ง ๒๒๒๐๑ ตดั ผมชาย กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒
เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ฝึกทักษะในการเรียนวิชาช่างตัดผมชาย วิธีการใช้เครื่องอุปกรณ์ในการตัดผมและทำความสะอาด
ซ่อมบำรุงรักษา อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการตัดผมชาย การใช้หวีกับหุ่น การทำงานของแบตเตอร์เลี่ยน
ฝกึ การปฏิบัติการตัดผมทรงนกั เรียนละการใชเ้ ครอื่ งมอื อุปกรณ์ในการตดั ผม
เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจ มที ักษะ ประสบการณ์ เก่ียวกับการตัดผมชาย มีความรับผิดชอบ
จนสามารถทำงานสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธภิ าพ นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั และสามารถ
นำไปเปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพได้
ผลการเรียนรู้
๑. บอกขอ้ ตกลงเก่ียวกับการเรยี นวชิ าชา่ งตดั ผมชายเบ้ืองตน้
๒. บอกคุณคา่ ของการเรยี นวชิ าชา่ งตดั ผมชายเบ้ืองตน้
๓. บอกใชเ้ ครอื่ งมือ อปุ กรณ์ได้ถูกต้อง
๔. สามารถใช้และซ่อมบำรงุ รกั ษาอุปกรณไ์ ดอ้ ย่างถูกต้อง
๕. สามารถใช้และอธิบายวธิ กี ารจับหวเี พ่ือการตดั ผมไดอ้ ย่างถกู ตามหลกั เกณฑ์
๖. บอกวธิ ีใช้และหลักการทำงานของแบตเตอร์เล่ยี น
๗. สามารถใช้และจับแบตเตอร์เลย่ี น ได้อยา่ งถูกวธิ ี
๘. ตัดผมทรงนกั เรียนได้
๙. ตัดผมทรงรองทรงได้
รวมทง้ั หมด ๙ ผลการเรียนรู้
161
คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ง ๒๒๒๐๒ ดอกไมป้ ระดิษฐ์จากผา้ ใยบัว กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
งานประดิษฐด์ อกไมจ้ ากผ้าใยบวั ศึกษาความหมายความสำคัญและคุณคา่ ของงานประดิษฐ์ หลกั การ
เลือกใช้และวิธีการดูแลรกั ษาอุปกรณเ์ ครือ่ งมือเคร่ืองใช้งานประดิษฐ์ การใช้ทกั ษะในการทำงานร่วมกันอย่าง
มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับงานประดิษฐ์ การวางแผนจัดการกับผลงานการประดิษฐ์ รู้จักการนำผลงาน
ประดษิ ฐม์ าใช้ประโยชน์ มที ักษะในการดดั แปลงแบบและจำหน่ายผลงานประดษิ ฐ์
โดยใช้ทักษะกระบวนการทำงานร่วมกัน ทักษะการจัดการในการทำงาน ทักษะการแก้ไขปัญหาใน
การทำงาน ทักษะในในการแสวงหาความรู้เพื่อดำรงชีวิต ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความรู้
ความเข้าใจในวิธีการทำงาน และสร้างสรรค์ผลงาน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใ ช้ในชีวิตประจำวัน
มีประสบการณ์ในอาชีพที่ถนัดและสนใจ มีคุณธรรม จริยธรรม และลักษณะนิสัยที่ดีในการทำงาน และมี
จิตสำนึกในการใช้พลังงาน ใช้ทรัพยากรในการทำงานอยา่ งคุ้มค่าเพื่ออนรุ กั ษ์สิ่งแวดล้อมลักษณะนิสัยท่ีดใี น
การทำงานและมีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ใช้ทรัพยากรในการทำงานอย่างคุ้มค่าเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
และสามารถนำไปเปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพได้
ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง
๑. สามารถบอกความหมาย ความสำคญั คุณคา่ และหลักการออกแบบงานประดษิ ฐ์
๒. เลือกใช้ และดแู ลรักษาอุปกรณเ์ ครื่องมอื เครอื่ งใช้ในงานประดษิ ฐ์ดอกไม้จากผ้าใยบัว
๓. อธิบายหลกั การจดั การกบั ผลงานประดษิ ฐแ์ ละหลักการจัดจำหนา่ ยผลงานประดิษฐไ์ ด้
๔. ประดิษฐ์ดอกไมจ้ ากผา้ ใยบวั ได้อย่างนอ้ ย ๒ ชนดิ
๕. ทำบญั ชี รายรับ-รายจ่ายได้ถกู ตอ้ ง
๖. มีเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การประดษิ ฐเ์ พื่อการจัดจำหน่าย
รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรียนรู้
162
คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ
ง ๒๓๒๐๓ ขนมเพ่อื งานอาชีพ กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓
เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศกึ ษาเกีย่ วกับชนดิ ของขนมอบประเภทต่าง ๆ เช่น คกุ ก้ี เคก้ ขนมปัง เพรสตรี้ และกระบวนการทำ
ขนมอบแต่ละประเภท เพ่ือให้ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทกั ษะในการทำขนมอบ
โดยใช้ทกั ษะกระบวนการ การเลือกซ้ือ เลอื กใชว้ ัตถุดิบและการเก็บรักษา ฝึกปฏิบตั เิ ริ่มตั้งแต่การการ
เตรียมวัตถุดิบ อุปกรณ์ ในการทำขนม ฝึกการชั่ง การตวง การทำขนมอบเพื่อจำหน่วย การนำวัตถุดิบใน
ท้องถน่ิ มาใชต้ ามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง เรียนรูก้ ารคำนวณต้นทุนค่าใช้จ่าย กำหนดราคาขาย จัดจำหน่าย ทำ
บญั ชีรายรับรายจ่ายได้
เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามร้คู วามสามารถในการผลติ ขนมอบออกมาได้อยา่ งมคี ุณภาพ มคี วามซ่อื สัตย์ ขยัน
อดทน และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ พึ่งพาตนเองได้ มีจิตสาธารณะและจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงาน
ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม นำความรทู้ ไี่ ด้มาใชใ้ นชวี ิตประจำวนั เพื่อนำไปประกอบอาชีพในอนาคต
ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวัง
๑. อธิบายและบอกการเลือกซ้อื เลอื กใช้ ชง่ั ตวง วตั ถุดบิ ได้
๒. อธิบายขัน้ ตอนการทำคกุ กี้ได้
๓. อธิบายการทำเค้กแต่ละชนดิ ได้
๔. อธบิ ายการทำเพรสตรี้ได้
๕. อธิบายการทำขนมปังได้
๖. สามารถผลิตและจัดจำหน่ายผลติ ภัณฑ์ได้
๗. มีนสิ ยั ในการทำงานด้วยความประณีต รอบคอบ เป็นระเบียบเรียบรอ้ ย มคี วามรบั ผดิ ชอบ มี
ความคิดสร้างสรรค์
๘. คิดตน้ ทนุ กำไร และทำบญั ชีรายรับ-รายจา่ ยได้
รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรยี นรู้
163
คำอธบิ ายรายวิชา
ง ๒๓๑๐๑ งานกระดาษ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
การประดิษฐ์ชิ้นงานจากการสร้างงานจากกระดาษ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ
พื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการ
ทำงานและมีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียง และมีความสุข เน้นการทำงาน
เป็นกลุ่ม วางแผน ปฏิบัติงาน เก็บข้อมูล แก้ไขปัญหาจากการปฏิบัติงาน การแสดงนำเสนอผลงาน และ
ประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน
ปฏิบตั งิ านสร้างชนิ้ งานเรอื่ ง การสรา้ งงานจากกระดาษ ความสำคัญประโยชน์ ประเภท การ
เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ การจัดการที่ได้จากการปฏบิ ัติตามหลักการ ข้ันตอนการศึกษาปฏิบัติงานในการ
สรา้ งสรรค์ชน้ิ งานที่ผู้เรียนสนใจ และนำมาจัดแสดงนำเสนอผลงาน
เพ่อื ให้มีความรู้ มที กั ษะ และประสบการณใ์ นการปฏิบัตงิ าน สร้างชิน้ งาน มคี ุณธรรม มเี จตคติ
ท่ดี ตี ่องานอาชีพ และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชพี ได้
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
๑.ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงานกระดาษชนิดต่าง ๆ ความหมายและความสำคัญ ของงานกระดาษและ
ประเภทรปู แบบงานกระดาษ
๒. รู้จักวสั ดุอุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นงานกระดาษ การเลอื กวัสดุอุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นงาน กระดาษ ลกั ษณะ วิธีใชแ้ ละ
การดูแล เกบ็ รักษา
๓. ลักษณะงานประดิษฐ์จากกระดาษประเภทและรปู แบบงานกระดาษ
๔. ผู้เรียนมีทักษะและความสามารถ ประยุกต์ใช้วัสดุในงานกระดาษอย่าง สร้างสรรค์โดยการนำ
กระดาษทใ่ี ชแ้ ลว้ มาสรา้ งงานใหม่ได้
๕. ผู้เรียนมีเจตคติที่ดี และมีความสามารถ ประยุกต์ใช้วัสดุในงานกระดาษอย่าง มีประสิทธิภาพ
เพื่อใช้ใน โอกาสต่าง ๆ และนำไปประกอบอาชพี ได้
รวมทงั้ หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
164
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑
สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
จำนวนชัว่ โมง ๑๖๐ ชว่ั โมง
การปฏิบัติตามคำสั่งง่าย ๆ ที่ฟัง การระบุตัวอักษรและเสียง และสะกดคำง่าย ๆ ถูกต้องตาม
หลักการอ่าน การเลือกภาพตรงตามความหมายของคำและกลุ่มคำที่ฟัง ตอบคำถามจากการฟังเรื่องใกล้ตวั
พูดโต้ตอบด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟัง การใช้คำสั่งง่ายๆ ตามแบบที่ฟัง
ความตอ้ งการง่ายๆของตนเองตามแบบทีฟ่ ัง การขอและใหข้ อ้ มูลง่าย ๆ เก่ยี วกับตนเองตามแบบทีฟ่ งั การพูด
ให้ข้อมูลง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัวตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การบอกชื่อและคำศัพท์
เก่ยี วกบั เทศกาลสำคัญของเจา้ ของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกบั วัย การ
ระบุตัวอักษรและเสียงอกั ษรของภาษาอังกฤษ และภาษาไทย การบอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ
เรียนรู้อื่น การฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน การใช้ภาษาองั กฤษ เพื่อรวบรวมคำศพั ท์ท่ี
เกี่ยวข้องใกลต้ วั
โดยปฏิบัติตาม ระบุ อ่านออกเสียง เลือกภาพ ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก พูดขอ ให้ข้อมูล
ทำทา่ ประกอบเข้ารว่ มฟัง/พดู เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเกิดสมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีความสามารถด้าน
การสื่อสาร มีความสามารถด้านการคิด มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต มีความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ ึ้นในตวั ของผู้เรียน และสามารถอยู่รว่ มกับผู้อืน่ ในสังคมไดอ้ ย่างมี
ความสุข สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ
นำไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
รวมตัวตัวช้ีวัด ๑๖ ตัวชว้ี ดั
อ ๑.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒ ป ๑/๓ ป ๑/๔
อ ๑.๒ ป ๑/๑ ป ๑/๒ ป ๑/๓ ป ๑/๔
อ ๑.๓ ป ๑/๑
อ ๒.๑ ป ๑/๑ ป ๑/๒ ป.๑/๓
อ ๒.๒ ป ๑/๑
อ ๓.๑ ป ๑/๑
อ ๔.๑ ป ๑/๑
อ ๔.๒ ป ๑/๑
165
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒
สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
จำนวนช่วั โมง ๑๖๐ ชั่วโมง
การปฏิบัติตามคำสัง่ และคำขอร้องงา่ ย ๆ ทฟ่ี ัง ระบตุ วั อักษรและเสยี ง การอ่านออกเสยี งคำ สะกด
คำ และอ่านประโยคง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือกภาพตรงตามความหมายของคำและกลุ่มคำที่ฟงั
ตอบคำถามจากการฟังประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่าย ๆ ที่มภี าพประกอบ พูดโตต้ อบด้วยคำสนั้ ๆ งา่ ย ๆ
ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟัง ใช้คำสั่งและคำขอร้องง่าย ๆ ตามแบบที่ฟัง บอกความต้องการ
ง่ายๆของตนเองตามแบบที่ฟัง พูดขอและให้ข้อมลู ง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเองตามแบบที่ฟัง พูดให้ข้อมูลเก่ียวกับ
ตนเองและเรื่องใกล้ตัว พูดและทำท่าทางประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาบอกชื่อและคำศัพท์
เกยี่ วกบั เทศกาลสำคญั ของเจ้าของภาษา การเขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะสมกับวยั ระบุ
ตัวอักษรและเสียงอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
ฟัง/พดู ในสถานการณง์ า่ ย ๆ ท่ีเกดิ ขึน้ ในห้องเรียน และใชภ้ าษาองั กฤษ เพ่ือรวบรวมคำศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั
โดยการระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทำท่าทาง เข้าร่วม ฟังเพื่อให้
ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการของ
หลักสูตร มีความสามารถด้านการสือ่ สาร มีความสามารถด้านการคิด มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ มี
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีมีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ข้ึนในตวั ของผู้เรียนและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น
ในสังคมได้อย่างมีความสขุ สามารถนำความรูไ้ ปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
และสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตวั ชวี้ ัด ๑๖ ตวั ชว้ี ัด
อ ๑.๑ ป ๒/๑ ป ๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔
อ ๑.๒ ป ๒/๑ ป ๒/๒ ป ๒/๓ ป ๒/๔
อ ๑.๓ ป ๒/๑ ป ๒/๑
อ ๒.๑ ป ๒/๒ ป ๒/๓
อ ๒.๒ ป ๒/๑
อ ๓.๑ ป ๒/๑
อ ๔.๑ ป ๒/๑
อ ๔.๒ ป ๒/๑
166
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
จำนวนชวั่ โมง ๑๖๐ ช่ัวโมง
การปฏิบัติตามคำสั่งและคำขอร้องที่ฟังหรืออ่าน อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำประโยค
และบทพูดเข้าจังหวะ (chant) ง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุภาพหรือสัญลักษณ์ตรงตาม
ความหมายของคำกลุ่มคำและประโยคที่ฟัง ตอบคำถามจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทาน
ง่าย ๆ ใชค้ ำสนั้ ๆ ง่าย ๆ ในการสือ่ สารระหว่างบุคคลตามแบบทฟี่ งั ใช้คำสงั่ และคำขอร้องงา่ ย ๆ ตามแบบที่
ฟัง บอกความต้องการง่ายๆของตนเองตามแบบท่ีฟัง ขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและเพื่อนตาม
แบบทฟี่ ัง บอกความรู้สกึ ของตนเองเกี่ยวกับส่งิ ตา่ ง ๆ ใกลต้ วั หรือกจิ กรรมต่าง ๆ ตามแบบท่ีฟัง ใหข้ ้อมูลง่าย
ๆ เกี่ยวกับตนเองและเร่อื งใกลต้ วั จดั หมวดหมคู่ ำตามประเภทของ บุคคล สัตว์ และสิ่งของตามที่ฟังหรืออ่าน
พูดและทำท่าประกอบตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษาบอกชื่อและคำศัพท์ง่ายๆเกี่ยวกับ
เทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลองและชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษาเข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม
ที่เหมาะสมกับวัย เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างของเสียงตัว อักษร คำ กลุ่มคำ และประโยคง่าย ๆ
ของภาษาอังกฤษและภาษาไทย บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ใช้ภาษาอังกฤษใน
สถานการณ์ง่าย ๆ ทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรียน และใช้ภาษาภาษาองั กฤษ เพ่ือรวบรวมคำศพั ทท์ ่เี กย่ี วข้องใกลต้ วั
โดยการอ่านออกเสียง สะกดคำ ฟัง พูด เลือก/ระบุ ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก จัด
หมวดหมู่ ทำทา่ ประกอบ เข้ารว่ มกจิ กรรม
เพ่ือให้ผ้เู รยี น มีความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ตนเอง
และสังคม มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม เกดิ สมรรถนะตามความต้องการของหลกั สูตร มคี วามสามารถดา้ นการสือ่ สาร
มีความสามารถด้านการคิด มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีมี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับชวี ิตประจำวนั ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม
รวมตวั ชี้วดั ๑๘ ตวั ชว้ี ดั
อ ๑.๑ ป ๓/๑ , ป ๓/๒ , ป ๓/๓ , ป ๓/๔
อ ๑.๒ ป ๓/๑ , ป ๓/๒ , ป ๓/๓ , ป ๓/๔ , ป ๓/๕
อ ๑.๓ ป ๓/๑ , ป ๓/๒
อ ๒.๑ ป ๓/๑ , ป ๓/๒ , ป ๓/๓
อ ๒.๒ ป ๓/๑
อ ๓.๑ ป ๓/๑
อ ๔.๑ ป ๓/๑
อ ๔.๒ ป ๓/๑
167
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔
สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
จำนวนชัว่ โมง ๘๐ ชั่วโมง
การปฏบิ ัติตามคำส่งั คำขอร้อง และคำแนะนำ (instructions) งา่ ย ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น อ่านออกเสียง
คำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพูดเข้าจังหวะ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/
ระบุภาพหรือสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้น ๆ ที่ฟังหรืออ่าน
ตอบคำถามจากการฟงั หรอื อ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานงา่ ย ๆ พูด/เขียนโตต้ อบในการส่อื สารระหว่าง
บคุ คล ใช้คำสัง่ คำขอร้อง และคำขออนุญาตงา่ ย ๆ พดู /เขียนแสดงความต้องการของตนเองตามและขอความ
ช่วยเหลือในสถานการณง์ ่าย ๆ พูด/เขยี นเพือ่ ขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองเพ่อื น และครอบครวั พูดแสดง
ความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั หรือกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามแบบท่ีฟงั พูด/เขียนให้ข้อมูลง่ายๆ
เก่ยี วกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตัว พดู /วาดภาพแสดงความสัมพนั ธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ ใกล้ตัวทีฟ่ ังหรืออ่าน พูดแสดง
ความคิดเห็นง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว พูดและทำท่าประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม/
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคำถามเกีย่ วกับเทศกาล/วนั สำคัญ/งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ ง่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา การเข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะสมกบั วยั บอกความแตกต่างของเสียง
ตัว อกั ษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคและขอ้ ความ ของภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย บอกความ
เหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้า
รวบรวม คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน ฟัง/พูดใน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถาน ศึกษา ใช้ภาษาภาษาอังกฤษในการ สื บค้น
และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ
โดยการฟงั พดู อา่ น เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลอื ก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอกทำท่าทาง
เข้าร่วม เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิดสมรรถนะตามความ
ต้องการของหลักสูตร มีความสามารถด้านการสื่อสาร มีความสามารถด้านการคิด มีความสามารถในการใช้
ทักษะชีวิต มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของผูเ้ รียน ผู้เรียน
สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไป
ประยุกต์ใชก้ บั ชีวิตประจำวันได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตัวชี้วดั ๒๐ ตัวชว้ี ัด
อ ๑.๑ ป ๔/๑ ป ๔/๒ ป ๔/๓ ป ๔/๔
อ ๑.๒ ป ๔/๑ ป ๔/๒ ป ๔/๓ ป ๔/๔ ป๔/๕
อ ๑.๓ ป ๔/๑ ป ๔/๒ ป ๔/๓
อ ๒.๑ ป ๔/๑ ป ๔/๒ ป ๔/๓
อ ๒.๒ ป ๔/๑, ป ๔/๒
อ ๓.๑ ป ๔/๑
อ ๔.๑ ป ๔/๑
อ ๔.๒ ป ๔/๑
168
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๕
สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
จำนวนชวั่ โมง ๘๐ ชวั่ โมง
การปฏิบตั ิตามคำสง่ั คำขอร้อง และคำแนะนำ ท่ฟี ังหรอื อา่ น อา่ นออกเสียง ประโยค ขอ้ ความ และ
บทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุ/วาดภาพสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของ
ประโยคและข้อความสั้นๆที่ฟังหรืออ่าน บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังหรืออ่านบทสนทนา
และนิทานง่ายๆหรือเรื่องสั้น ๆ พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขอ
อนญุ าตและให้คำแนะนำง่าย ๆ พดู /เขียนแสดงความต้องการของตนเองตาม ขอความช่วยเหลอื ตอบรับและ
ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเองเพื่อน
ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆประกอบ พูด/เขียนให้ข้อมูลง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ
แผนผัง และแผนภมู ิแสดงขอ้ มูลต่าง ๆ ตามที่ฟังหรอื อา่ น พดู แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว
ใชถ้ ้อยคำ น้ำเสยี ง และกิรยิ าท่าทางอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคำถาม/
บอกความสำคญั ของเทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลองและชีวิตความเป็นอย่งู ่าย ๆ ของเจา้ ของภาษา การเข้าร่วม
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียง
ประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำ (order) ตามโครงสร้างของประโยคของ
ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงาน
ฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้ารวบรวม คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อื่น และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน ฟัง พูดและอ่าน/เขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน
หอ้ งเรยี นและสถานศึกษา ใชภ้ าษาอังกฤษในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ตา่ ง ๆ
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทำท่า
ทาง เข้าร่วม เพื่อให้ผู้เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจและนำไปประยกุ ต์ใช้ในเกิดสมรรถนะตามความต้องการของ
หลักสูตร มีความสามารถด้านการสื่อสาร มีความสามารถด้านการคิด มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
และมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน สามารถนำ
ความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ
ชวี ติ ประจำวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตวั ชีว้ ัด ๒๐ ตวั ชวี้ ดั
อ ๑.๑ ป ๕/๑ ป ๕/๒ ป ๕/๓ ป ๕/๔
อ ๑.๒ ป ๕/๑ ป ๕/๒ ป ๕/๓ ป ๕/๔ ป ๕/๕
อ ๑.๓ ป ๕/๑ ป ๕/๒ ป ๕/๓
อ ๒.๑ ป ๕/๑ ป ๕/๒ ป ๕/๓
อ ๒.๒ ป ๕/๑ ป ๕/๒
อ ๓.๑ ป ๕/๑
อ ๔.๑ ป ๕/๑
อ ๔.๒ ป ๕/๑
169
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖
สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
จำนวนช่ัวโมง ๘๐ ช่ัวโมง
การปฏิบัตติ ามคำสงั่ คำขอรอ้ งและคำแนะนำ ท่ฟี ังและอา่ น อ่านออกเสียง ขอ้ ความ นิทาน และ
บทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุประโยค หรือข้อความสั้น ๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์
หรือเครอ่ื งหมายที่อ่าน บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั หรืออ่าน บทสนทนา หรือนิทานง่าย ๆ
และเรื่องเล่า พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และคำขออนุญาตและให้
คำแนะนำ พูด/เขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใน
สถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียนเพอื่ ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพือ่ น ครอบครัวและเร่อื งใกล้ตัว พูด/เขียน
แสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆประกอบ
พูด/เขียนให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อนและสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เขียนภาพ แผนผังและแผนภูมิแสดงข้อมูล
ต่าง ๆ ตามที่ฟังหรืออ่าน พูดเขียนแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียงและ
กิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ
เทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้
เครอ่ื งหมายวรรคตอนและการลำดับคำ ตามโครงสรา้ ง ประโยค ของภาษาอังกฤษและภาษาไทย เปรียบเทียบ
ความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง และประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้า
รวบรวม คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การ
เขยี น ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบค้น
และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ เข้าร่วม
เปรียบเทียบ ค้นคว้า ใช้ บอก เพื่อให้ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั เกิด
สมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีความสามารถด้านการสื่อสาร มีความสามารถด้านการคิด มี
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ขึ้นในตัวของผู้เรียน สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและ
สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตัวช้วี ัด ๒๐ ตัวช้วี ดั
อ ๑.๑ ป ๖/๑ ป ๖/๒ ป ๖/๓ ป ๖/๔
อ ๑.๒ ป ๖/๑ ป ๖/๒ ป ๖/๓ ป ๖/๔ ป๖/๕
อ ๑.๓ ป ๖/๑ ป ๖/๒ ป ๖/๓
อ ๒.๑ ป ๖/๑ ป ๖/๒ ป ๖/๓
อ ๒.๒ ป ๖/๑ ป ๖/๒
อ ๓.๑ ป ๖/๑
อ ๔.๑ ป ๖/๑
อ ๔.๒ ป ๖/๑
170
อ ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑
ภาคเรียนที่ ๑ ๑.๕ หนว่ ยกิต
สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ฟงั คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำชแ้ี จงง่าย ๆ แล้วปฏบิ ัติตามและฟังบทสนทนา เรอ่ื งราวต่าง ๆ
แล้วสรุปสาระสำคัญได้ แล้วพูดโดยใช้ภาษา น้ำเสียง กริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาททางสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาในการขอรอ้ ง ใหค้ ำแนะนำ คำช้แี จง ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธในการ
ให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ต่าง ๆ สรปุ ใจความสำคัญทีเ่ ป็นข้อเท็จจรงิ ทีเ่ ก่ยี วกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
จากแหล่งการเรียนรู้และที่ได้จากการวิเคราะห์ขา่ ว หรือ เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม บอกความ
เหมอื นและแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่าง ๆ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอนการลำดับคำ ตาม
โครงสร้างประโยคของภาษาไทยและภาษาต่างประเทศตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
กิจกรรม และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน แล้ว อ่านคำสั่ง คำแนะนำ คำชี้แจงและปฏิบัตติ าม ตลอดจน
อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรองสั้น ๆ ตามหลักการอ่านและ เขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง
กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวสรุปใจความสำคัญที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง
เหตุการณ์ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคมแลว้ สรุปข้อมูลขอ้ เท็จจริงที่เกีย่ วกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหลง่
การเรยี นรู้อืน่ ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาคน้ คว้า
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ เข้าร่วม
เปรียบเทียบ ค้นคว้า ใช้ บอก เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เกิดสมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีความสามารถด้านการสื่อสาร มีความสามารถด้านการคิด
มคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต และมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ขึ้นในตัวของผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
สามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวิตประจำวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตัวช้วี ัด ๒๑ ตัวชว้ี ดั
อ ๑.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม ๑/๓ ม ๑/๔
อ ๑.๒ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม ๑/๓ ม ๑/๔ ม ๑/๕
อ ๑.๓ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม ๑/๓
อ ๒.๑ ม ๑/๑ ม ๑/๒ ม ๑/๓
อ ๒.๒ ม ๑/๑ ม ๑/๒
อ ๓.๑ ม ๑/๑
อ ๔.๑ ม ๑/๑
อ ๔.๒ ม ๑/๑ ม ๑/๒
171
อ ๒๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ คำอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑
ภาคเรียนที่ ๒ ๑.๕ หน่วยกิต
สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง
ศึกษาคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำและคำชี้แจงต่าง ๆ การอ่านออกเสียงข้อความ การอ่านนิทาน
และบทร้อยกรองสั้นๆ การเลือกระบุประโยคและข้อความสัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง การจับใจความ
สำคัญจากเรื่องที่ฟังและอ่าน การสนทนา การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรมและสถานการณ์
ต่าง ๆ การพูดและเขียนแสดงความต้องการ การขอความช่วยเหลือ การตอบรับ และปฏิเสธกิจกรรมต่าง ๆ
ใกล้ตัว การสรุป การวิเคราะห์เรื่องที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม การใช้ภาษา น้ำเสียงและกิริยาท่าทางตาม
มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมหรือจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
เกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ ประเพณีของเจ้าของภาษา การบอกความเหมือนและความ
แตกต่างเรอ่ื งการออกเสียง ประโยคชนดิ ต่าง ๆ การใช้เครือ่ งหมายวรรคตอน การลำดับคำตามโครงสร้างของ
ประโยคภาษาอังกฤษกับภาษาไทย และเปรียบเทยี บเทศกาล วนั สำคัญและชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา
กับของไทย การค้นคว้ารวบรวมสรุปข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น การใช้ภาษา
สื่อสาร ในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา และใช้ภาษาอังกฤษใน
การสืบค้น/ค้นคว้า ความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชพี
โดยการฟงั พูด อ่าน เขียน ระบุ อา่ นออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พดู โต้ตอบ เขา้ รว่ ม เปรียบเทียบ
ค้นคว้า ใช้ บอก เพื่อให้ผู้เรยี นมคี วามรูค้ วามเข้าใจและนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวัน เกิดสมรรถนะตาม
ความตอ้ งการของหลักสตู ร มีความสามารถดา้ นการส่ือสาร มคี วามสามารถดา้ นการคิด มคี วามสามารถในการ
แก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กบั ชวี ติ ประจำวันได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม
รวมตัวชว้ี ัด ๒๐ ตัวชี้วัด
อ ๑.๑ ม ๑/๑ , ม ๑/๒ , ม ๑/๓ , ม ๑/๔
อ ๑.๒ ม.๑/๑ , ม ๑/๒ , ม ๑/๓ , ม ๑/๔ , ม ๑/๕
อ ๑.๓ ม.๑/๑ , ม ๑/๒ , ม ๑/๓
อ ๒.๑ ม.๑/๑ , ม ๑/๒ , ม ๑/๓
อ ๒.๒ ม.๑/๑ , ม ๑/๒
อ ๓.๑ ม.๑/๑
อ ๔.๑ ม.๑/๑
อ ๔.๒ ม.๑/๑
172
อ ๒๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
ภาคเรยี นที่ ๑ ๑.๕ หน่วยกติ
สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง
เสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุ/เขียนและ
ข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง รูปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องราวตา่ ง ๆ ใกล้ตัว และสถานการณต์ า่ ง ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ใชค้ ำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำ
ช้แี จง และคำอธิบายตามสถานการณ์ พดู และเขยี นแสดงความต้องการ เสนอและให้ความชว่ ยเหลอื ตอบรับ
และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความรู้สึก และ
ความคิดเห็น ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรมและประสบการณ์ พร้อมท้ังให้เหตุผลประกอบอย่าง
เหมาะสม พูดและเขยี นบรรยายเกยี่ วกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ที่อยู่ใน
ความสนใจของสังคม พูดและเขียนสรปุ ความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อเร่ืองท่ีได้จากการวิเคราะหเ์ รื่อง/ข่าว/
เหตกุ ารณ์ท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาทา่ ทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาส ตาม
มารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่าง
ระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาอังกฤษและ
ภาษาไทย เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษากับของไทย ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศกึ ษาและชุมชน
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ เข้าร่วม เปรียบเทียบ
ค้นคว้า ใช้ บอก เพื่อให้ผู้เรียนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจและนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน เกิดสมรรถนะตาม
ความต้องการของหลกั สูตร มคี วามสามารถด้านการส่อื สาร มีความสามารถดา้ นการคดิ มีความสามารถในการ
แก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
รวมตัวชวี้ ัด ๑๒ ตัวชี้วัด
อ ๑.๑ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓
อ ๑.๒ ม ๒/๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓ ม ๒/๕
อ ๑.๓ ม ๒/๑ ม ๒/๒
อ ๒.๒ ม ๒/๓
อ ๒.๓ ม ๒/๑
อ ๔.๑ ม ๒/๑
173
อ ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๔ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒
ภาคเรยี นท่ี ๒ ๑.๕ หนว่ ยกิต
สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง
การเลือกหวั ข้อเรื่อง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเร่ือง
ที่ฟังและอ่านพร้อมท้ังใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่างง่าย ๆ ประกอบ พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย
และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
กจิ กรรม เรือ่ งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และประสบการณ์ พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ อธบิ ายเก่ียวกับเทศกาล
วนั สำคัญ ชีวิตความเปน็ อยแู่ ละประเพณขี องเจ้าของภาษา เข้ารว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตาม
ความสนใจ เปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเปน็ อยู่และวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทยค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ ขอ้ เท็จจริงทีเ่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
อื่นจากแหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม และ
สรุปความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/
ประชาสมั พันธข์ ้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน เปน็ ภาษาอังกฤษ
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ เข้าร่วม เปรียบเทียบ
ค้นคว้า ใช้ บอก เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั เกิดสมรรถนะตาม
ความตอ้ งการของหลักสตู ร มีความสามารถด้านการสอ่ื สาร มีความสามารถด้านการคดิ มีความสามารถในการ
แก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กบั ชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตัวชี้วัด ๙ ตัวช้ีวัด
อ ๑.๑ ม ๒/๔
อ ๑.๒ ม ๒/๔
อ ๑.๓ ม ๒/๓
อ ๒.๑ ม ๒/๒ ม ๒/๓
อ ๒.๒ ม ๒/๒
อ ๓.๑ ม ๒/๑
อ ๔.๒ ม ๒/๑ ม ๒/๒
174
อ ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓
ภาคเรยี นท่ี ๑ ๑.๕ หนว่ ยกิต
สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
การปฏิบตั ติ ามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธบิ ายท่ฟี งั และอ่าน อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว
โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ัน ๆ ไดถ้ ูกต้องตามหลกั การอ่าน ระบุ เขยี นสอื่ ท่ีไมใ่ ชค่ วามเรยี งในรูปแบบต่าง ๆ
ให้สัมพันธ์กับประโยค ข้อความที่ฟังหรืออ่าน สนทนา เขียนโต้ตอบข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว
สถานการณ์ ข่าวและเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม สามารถสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ใช้คำขอร้อง ให้
คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายอย่างเหมาะสม พูด เขียนแสดงความต้องการเสนอให้ความช่วยเหลือ ตอบรบั
และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม พดู เขียน บรรยายความรสู้ กึ ความ
คิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผล ประกอบ
อยา่ งเหมาะสม พดู เขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ /เรือ่ ง/ ประเดน็ ตา่ ง ๆ ท่ี
อยู่ในความสนใจของสังคม พูด เขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อเรื่องที่ได้จากการวิเคราะหเ์ รือ่ ง/
ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง กิริยาท่าทาง เหมาะกับ
บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เปรียบเทยี บอธบิ ายความเหมือน ความ
แตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ ตลอดจนการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาอังกฤษและภาษาไทย ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ เข้าร่วม เปรียบเทียบ
ค้นคว้า ใช้ บอก เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิด
สมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีความสามารถด้านการสื่อสาร มีความสามารถด้านการคิด
มคี วามสามารถในการแก้ปญั หา มคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ มคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี และ
มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของผู้เรยี น สามารถนำความรูไ้ ปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตัวชีว้ ัด ๑๒ ตัวชี้วัด
อ ๑.๑ ม ๓/๑ ม ๓/๒ ม ๓/๓
อ ๑.๒ ม ๓/๑ ม.๓/๒ ม ๓/๓ ม ๓/๕
อ ๑.๓ ม ๓/๑ ม ๓/๒
อ ๒.๑ ม ๓/๑
อ ๒/๒ ม ๓/๑
อ ๔.๑ ม ๓/๑
175
อ ๒๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๖ คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓
ภาคเรียนที่ ๒ ๑.๕ หน่วยกติ
สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
จำนวน ๖๐ ช่ัวโมง
การเลือก/ระบหุ ัวขอ้ เรือ่ ง ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนุน การแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับเรือ่ ง
ที่ฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ล ยกตวั อย่างประกอบ พดู เขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล
อธิบาย เปรียบเทียบ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม พูด เขียนแสดงความ
คิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ อธิบายเกี่ยวกับชีวิต
ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
ตามความสนใจ เปรียบเทยี บ อธบิ ายความเหมอื น ความแตกต่างระหวา่ งชีวิตความเปน็ อยแู่ ละวฒั นธรรมของ
เจ้าของภาษากับของไทย ตลอดจนนำไปใช้อย่างเหมาะสม ค้นคว้า รวบรวม สรุปข้อมูล/ ข้อเท็จจริงท่ี
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้แล้วสามารถนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน
ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบคน้ /ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้/ขอ้ มลู ต่าง ๆ จากสื่อแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ
ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ ประชาสมั พนั ธ์ข้อมูล ขา่ วสารของโรงเรยี น ชมุ ชน และท้องถ่ิน
โดยใช้ภาษาอังกฤษ
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ เข้าร่วม เปรียบเทียบ
ค้นคว้า ใช้ บอก เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิด
สมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีความสามารถด้านการสื่อสาร มีความสามารถด้านการคิด มี
ความสามารถในการแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และมี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใชก้ บั ชีวิตประจำวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
รวมตัวชี้วัด ๙ ตัวชี้วัด
อ ๑.๑ ม ๓/๔
อ ๑.๒ ม ๓/๔
อ ๑.๓ ม ๓/๓
อ ๒.๑ ม ๓/๒ ม ๓/๓
อ ๒.๒ ม ๓/๒
อ ๓.๑ ม ๓/๑
อ ๔.๒ ม ๓/๑ ม ๓/๒
176
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม
อ ๒๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษสื่อสาร ๑ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑
๐.๕ หนว่ ยกติ
ภาคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว
โฆษณาและบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น ระบุและเขียนสื่อที่มใิ ช่ความเรยี งรูปแบบตา่ ง ๆ ให้
สมั พันธ์กบั ประโยค และข้อความทฟ่ี งั หรืออา่ น เลอื ก/ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนนุ และ
แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผล ยกตัวอยา่ งประกอบ
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเร่ืองต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์และขา่ ว/
เหตุการณ์พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม เลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและ กิริยาท่าทาง เหมาะกับ
บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือน
และความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ
เรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/
สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาและชุมชนและสังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สบื คน้ /ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความร/ู้ ขอ้ มลู ต่าง ๆ จากส่ือและแหล่งการเรียนรูต้ ่าง ๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชพี โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ทางภาษา ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิดการ
แก้ปัญหาการใชท้ ักษะชีวิตและการใช้เทคโนโลยี โดยมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่
เรียนรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ
เพอ่ื เป็นพื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน มีความสนุกสนานเพลิดเพลิน
สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษาสื่อสารใน
รปู แบบตา่ ง ๆ ตามสังคมและชมุ ชนเพ่ือการเรยี นร้สู ู่อาเซยี นและสู่สากล
ผลการเรียนรู้
1. ปฏิบตั ิตามคำขอรอ้ ง คำแนะนำคำชี้แจงและคำอธบิ ายที่ฟังและอ่าน (ต 1.1.1)
2. อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณาและบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น (ต 1.1.2)
3. ระบุและเขียนส่ือทีม่ ิใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ให้สมั พนั ธก์ บั ประโยคและข้อความท่ีฟังหรืออ่าน
(ต1.1.3)
4. เลอื ก/ระบหุ วั ข้อเร่อื ง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรื่องท่ี
ฟังอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พรอ้ มท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อย่างประกอบ (ต 1.1.4)
5. พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก ความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม
ประสบการณ์และข่าว/เหตุการณ์พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม (ต 1.2.5)
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
177
คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม
อ ๒๑๒๐๒ ภาษาองั กฤษสอ่ื สาร ๒ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑
๐.๕ หน่วยกติ
ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว
โฆษณาและบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุและเขียนสื่อที่มิใช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ ให้
สัมพันธก์ ับประโยค และขอ้ ความทีฟ่ งั หรอื อ่าน เลือก/ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนุนและ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องทีฟ่ งั และอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผล ยกตัวอย่างประกอบ
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกความคดิ เห็นของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์และขา่ ว/
เหตุการณ์พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม เลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและ กิริยาท่าทาง เหมาะกับ
บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือน
และความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ
เรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/
สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาและชุมชนและสังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สบื ค้น/ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความร/ู้ ขอ้ มูลต่าง ๆ จากสือ่ และแหลง่ การเรียนรูต้ ่าง ๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชีพ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ทางภาษา ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิดการ
แก้ปัญหาการใช้ทักษะชีวิตและการใช้เทคโนโลยี โดยมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย
ใฝเ่ รยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ ม่นั ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ
เพอื่ เป็นพืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน มคี วามสนกุ สนานเพลิดเพลิน
สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษาสื่อสารใน
รูปแบบต่าง ๆ ตามสงั คมและชมุ ชนเพ่ือการเรียนรู้สูอ่ าเซียนและสู่สากล
ผลการเรียนรู้
๑. เลอื กใช้ภาษา นำ้ เสยี งและกิรยิ าทา่ ทาง เหมาะกบั บคุ คลและโอกาสตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1.1)
๒. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ ง ๆ
และลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย (ต 2.2.1)
๓. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ขอ้ เท็จจรงิ ที่เกี่ยวข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ น่ื จากแหลง่
เรยี นรู้และนำเสนอด้วยการพดู และการเขียน (ต 3.1.1)
๔. ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดขึน้ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษาและ
ชุมชนและสังคม (ต 4.1.1)
๕. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นควา้ รวบรวมและสรปุ ความร้/ู ขอ้ มูลต่าง ๆ จากส่อื และ
แหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ (ต 4.2.1)
รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
178
คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ
อ ๒๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษสื่อสาร ๓ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒
๐.๕ หนว่ ยกิต
ภาคเรียนที่ ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำคำชี้แจงและคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว
โฆษณาและบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ นระบุและเขียนสื่อที่มิใช่ความเรียงรปู แบบต่าง ๆ ให้
สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่าน เลือก/ระบุหัวข้อเรือ่ ง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนนุ
และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง และอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลยกตัวอย่าง
ประกอบ พดู และเขยี นบรรยายความรู้สึกความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ยี วกับเรอื่ งต่าง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์
และข่าว/เหตุการณ์พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม เลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและ กิริยาท่าทาง
เหมาะกับบคุ คลและโอกาสตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เปรียบเทยี บและอธิบายความ
เหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค
ของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/
สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาและชุมชนและสังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สบื คน้ /คน้ คว้า รวบรวมและสรปุ ความร้/ู ข้อมูลต่าง ๆ จากส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชพี โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ทางภาษา ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคิดการ
แก้ปัญหาการใชท้ ักษะชีวิตและการใช้เทคโนโลยี โดยมีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่
เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มุง่ ม่ันในการทำงาน รักความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ
เพอ่ื เป็นพน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน มีความสนกุ สนานเพลิดเพลิน
สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษาสื่อสารใน
รูปแบบต่าง ๆ ตามสังคมและชุมชนเพือ่ การเรยี นรู้สูอ่ าเซียนและสูส่ ากล
ผลการเรยี นรู้
1. ปฏิบัตติ ามคำขอร้อง คำแนะนำคำชแ้ี จงและคำอธิบายทฟ่ี ังและอา่ น (ต 1.1.1)
2. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณาและบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน (ต 1.1.2)
3. ระบุและเขียนส่อื ท่มี ใิ ชค่ วามเรยี งรูปแบบตา่ ง ๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยคและขอ้ ความท่ีฟงั หรืออา่ น
(ต 1.1.3)
4. เลือก/ระบหุ ัวข้อเรอื่ ง ใจความสำคัญรายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับเรื่องท่ี
ฟังและอา่ นจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ (ต 1.1.4)
5. พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก ความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม
ประสบการณ์และข่าว/เหตกุ ารณพ์ รอ้ มท้ังใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม (ต 1.2.5)
รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรียนรู้
179
คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ
อ ๒๒๒๐๒ ภาษาอังกฤษสอ่ื สาร ๔ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
๐.๕ หน่วยกิต
ภาคเรียนที่ ๒ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำคำชี้แจงและคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว
โฆษณาและบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ นระบุและเขียนสื่อที่มิใช่ความเรียงรปู แบบต่าง ๆ ให้
สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่าน เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนนุ
และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง และอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลยกตัว อย่าง
ประกอบ พดู และเขยี นบรรยายความรู้สกึ ความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเรอื่ งต่าง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์
และข่าว/เหตุการณ์พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม เลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและ กิริยาท่าทาง
เหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เปรียบเทียบและอธิบายความ
เหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค
ของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/
สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาและชุมชนและสังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สบื คน้ /คน้ ควา้ รวบรวมและสรปุ ความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากสือ่ และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชีพ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้ทางภาษา ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิดการ
แก้ปัญหาการใช้ทักษะชีวิตและการใช้เทคโนโลยี โดยมีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่
เรียนรู้ อย่อู ย่างพอเพียง มงุ่ มั่นในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ
เพ่อื เปน็ พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน มคี วามสนกุ สนานเพลิดเพลิน
สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษาสื่อสารใน
รปู แบบตา่ ง ๆ ตามสังคมและชุมชนเพ่อื การเรียนรสู้ ู่อาเซียนและสสู่ ากล
ผลการเรียนรู้
๑. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและกิริยาท่าทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1.1)
๒. เปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ
และลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย (ต 2.2.1)
๓. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จรงิ ที่เก่ยี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งเรียนรู้
และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขียน (ต 3.1.1)
๔. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาและ
ชุมชนและสังคม (ต 4.1.1)
๕. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและ
แหล่งการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ (ต 4.2.1)
รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
180
คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม
อ ๒๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษส่ือสาร ๕ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓
๐.๕ หน่วยกติ
ภาคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจงและคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว
โฆษณาและบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่านระบุและเขียนสือ่ ที่มิใช่ความเรียงรปู แบบต่าง ๆ ให้
สัมพนั ธ์กับประโยค และขอ้ ความท่ฟี งั หรอื อ่าน เลือก/ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื ง ใจความสำคัญรายละเอยี ดสนบั สนุนและ
แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรื่องทีฟ่ งั และอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลยกตัวอย่างประกอบ
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกความคิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเรื่องตา่ ง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์และขา่ ว/
เหตุการณพ์ ร้อมทัง้ ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม เลือกใช้ภาษา นำ้ เสียงและกิรยิ าท่าทาง เหมาะกับบุคคล
และโอกาสตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความ
แตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ
เรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/
สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาและชุมชนและสังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สบื คน้ /ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความร้/ู ข้อมูลต่าง ๆ จากส่ือและแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชพี โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ทางภาษา ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิดการ
แก้ปัญหาการใชท้ ักษะชีวิตและการใชเ้ ทคโนโลยี โดยมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่
เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มงุ่ มัน่ ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ
เพอ่ื เป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตนมีความสนกุ สนานเพลิดเพลิน
สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษาสื่อสารใน
รูปแบบต่าง ๆ ตามสังคมและชมุ ชนเพอื่ การเรียนร้สู ่อู าเซียนและสสู่ ากล
ผลการเรยี นรู้
1. ปฏบิ ตั ิตามคำขอร้อง คำแนะนำคำชีแ้ จงและคำอธบิ ายท่ีฟงั และอ่าน (ต 1.1.1)
2. อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณาและบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน (ต 1.1.2)
3. ระบุและเขียนส่อื ทมี่ ิใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ับประโยคและข้อความท่ีฟังหรืออ่าน
(ต 1.1.3)
4. เลอื ก/ระบหุ วั ข้อเร่ือง ใจความสำคัญรายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่
ฟงั อา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมท้ังให้เหตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ (ต 1.1.4)
5. พูดและเขียนบรรยายความรสู้ ึกความคดิ เห็นของตนเองเก่ยี วกับเรอ่ื งต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์
และข่าว/เหตุการณพ์ ร้อมทงั้ ใหเ้ หตผุ ลประกอบอย่างเหมาะสม (ต 1.2.5)
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
181
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
อ ๒๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษส่อื สาร ๖ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓
๐.๕ หนว่ ยกิต
ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจงและคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว
โฆษณาและบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ นระบุและเขียนสื่อที่มิใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ให้
สมั พันธก์ บั ประโยค และขอ้ ความทฟ่ี งั หรอื อา่ น เลือก/ระบุหวั ข้อเรื่อง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนนุ และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟัง และอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลยกตวั อย่างประกอบ
พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกความคิดเห็นของตนเองเกีย่ วกับเรื่องตา่ ง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์และขา่ ว/
เหตุการณพ์ รอ้ มทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม เลือกใชภ้ าษา น้ำเสียงและกิริยาท่าทาง เหมาะกบั บุคคล
และโอกาสตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ
เรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/
สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาและชุมชนและสังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สบื ค้น/คน้ ควา้ รวบรวมและสรุปความร/ู้ ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชีพ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ทางภาษา ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิดการ
แก้ปัญหาการใชท้ ักษะชีวิตและการใช้เทคโนโลยี โดยมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่
เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ
เพอื่ เปน็ พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตนมีความสนกุ สนานเพลิดเพลิน
สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษาสื่อสารใน
รปู แบบตา่ ง ๆ ตามสังคมและชุมชนเพ่อื การเรยี นรู้ส่อู าเซียนและสูส่ ากล
ผลการเรยี นรู้
๑. เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสียงและกริ ยิ าท่าทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (ต 2.1.1)
๒. เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ
และลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย (ต 2.2.1)
3. คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู /ข้อเท็จจริงทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรยี นรู้อื่นจากแหลง่
เรยี นรแู้ ละนำเสนอด้วยการพดู และการเขยี น (ต 3.1.1)
4. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองที่เกดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศึกษาและ
ชมุ ชน และสงั คม (ต 4.1.1)
5. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและ
แหลง่ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี (ต 4.2.1)
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้
182
กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาการเรียนรู้อย่างรอบด้าน
เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม
จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้
และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข โรงเรียนวัดพระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง) ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
แบง่ เป็น ๓ ลกั ษณะ ดังน้ี
๑. กจิ กรรมแนะแนว
เป็นกิจกรรมที่สง่ เสริมและพฒั นาผูเ้ รียนใหร้ ู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ
คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนไดอ้ ย่างเหมาะสม
นอกจากน้ียังช่วยให้ครูรู้จักและเขา้ ใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมทีช่ ่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผูป้ กครองใน
การมีสว่ นร่วมพฒั นาผ้เู รยี น
๒. กิจกรรมนกั เรียน
เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ
การทำงานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจท่ีเหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกัน
เอ้อื อาทร และสมานฉนั ท์ โดยจัดให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผเู้ รยี น ให้ได้
ปฏิบตั ิดว้ ยตนเองในทกุ ขน้ั ตอน ไดแ้ ก่ การศกึ ษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ิตามแผน ประเมินและปรับปรุง
การทำงาน เน้นการทำงานรว่ มกันเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั วฒุ ภิ าวะของผู้เรยี น บริบท
ของโรงเรียนและท้องถ่ิน กิจกรรมนกั เรยี นประกอบด้วย
๒.๑ กิจกรรมลกู เสอื ยวุ กาชาด
๒.๒ กิจกรรมชุมนมุ ชมรม กลุ่มสนใจ เป็นกิจกรรมนอกเวลาเรยี น เช่น รักการอ่าน นาฏศิลป์
ดนตรไี ทย ขยับกายสบายชีวี จติ อาสา คาราโอเกะ วิทยาศาสตร์ ศิลป์สรา้ งสรรค์ แอนมิเนช่ัน
๓. กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผูเ้ รียนได้บำเพญ็ ตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตาม
ความสนใจในลักษณะอาสาสมคั ร เพอื่ แสดงถึงความรับผดิ ชอบ ความดงี าม ความเสยี สละต่อสังคม
มีจติ สาธารณะ เช่น กจิ กรรมอาสาพฒั นาต่าง ๆ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์สงั คม
ลักษณะของการจัดกิจกรรมใช้การบูรณาการในกิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาด กิจกรรมบำเพ็ญ
ประโยชน์ในวนั สำคญั ต่าง ๆ ตลอดปีการศกึ ษา
183
โครงสร้างและอัตราเวลาการจดั กจิ กรรม
กิจกรรม ประถมศกึ ษา มธั ยมศึกษาตอนตน้
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓
กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กจิ กรรมนกั เรยี น
-ลูกเสือ เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
-ชุมนุม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
ประโยชน์
รวมทั้งสนิ้ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
๑. กิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมแนะแนวเป็นกจิ กรรมทีส่ ง่ เสริมและพฒั นาผูเ้ รยี นใหร้ ู้จกั ตนเอง รู้รกั ษ์ส่งิ แวดล้อม สามารถคิด
ตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่าง
เหมาะสม นอกจากน้ยี งั ชว่ ยให้ครรู ู้จกั และเขา้ ใจผ้เู รยี น ทั้งยงั เปน็ กจิ กรรมทีช่ ว่ ยเหลอื และใหค้ ำปรกึ ษาแก่ผู้เรยี น
การจดั กจิ กรรมแนะแนวที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั กิจกรรมแนะแนวที่จดั นั้นจะต้องครอบคลุมท้ังด้าน
การศึกษา การงานและอาชีพ และชีวิตและสังคม รวมทั้งสอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความ
สนใจ ธรรมชาติของผู้เรียนและวิสัยทัศน์ของสถานศึกษา และตอบสนองจุดมุ่งหมายหลักสูตรฯ ครูผู้จัด
กิจกรรมแนะแนวสามารถจัดกจิ กรรมไดห้ ลายรปู แบบ ที่เน้นให้ผเู้ รียนมีอสิ ระในการคิดและตดั สนิ ใจดว้ ยตนเอง
เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองดว้ ยการปฏิบัตจิ นกระท่ังเกดิ ทกั ษะชีวติ หรอื การเรียนรู้ รปู แบบการจดั กิจกรรมทีห่ ลากหลาย
หลกั การ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔) ไดก้ ำหนดให้มี
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่จัดเพิ่มเติมให้แก่ผู้เรียน นอกเหนือจากการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระทั้ง ๘
กลุ่ม โดยการพัฒนาที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย
สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คม โดยเป็นกจิ กรรมท่ีจะช่วยสร้างเยาวชนให้เปน็ ผู้มีศีลธรรม จรยิ ธรรม มีระเบียบ
วินัย และมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำ
ประโยชน์เพ่อื สงั คม ซงึ่ สถานศกึ ษาจะต้องดำเนนิ การอย่างมีเปา้ หมาย มรี ปู แบบและวธิ กี ารที่เหมาะสม
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแบ่งเป็น ๒ ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนวและกิจกรรมนักเรียน ในที่นี้จะ
กลา่ วถงึ เฉพาะกิจกรรมแนะแนว ว่าเปน็ กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความสามารถของผู้เรยี นให้เหมาะสมตาม
ความแตกต่างระหว่างบุคคล สามารถคน้ พบและพฒั นาความสามารถของตน เสรมิ สร้างทักษะชวี ิต วุฒิภาวะ
ทางอารมณ์ การเรยี นรใู้ นเชงิ พหปุ ญั ญา และการสร้างสมั พนั ธภาพอนั ดี ซ่ึงผสู้ อนทุกคนต้องทำหนา้ ท่ีแนะแนว
ใหค้ ำปรกึ ษาด้านชีวิต การศกึ ษาต่อ และการพัฒนาตนเองสโู่ ลกอาชีพและการมีงานทำ
การจัดกิจกรรมแนะแนว จะเป็นประโยชน์ต่อครูและผู้เรียนตามขอบข่ายทั้งหมด ประถมศึกษา
ปที ่ี ๑ – ๖ และมัธยมศึกษาปีท่ี ๑- ๓ โดย แบง่ กลุ่มกจิ กรรมเป็น ๔ กล่มุ คือ
๑. กลุ่มกิจกรรมรู้จัก เข้าใจ และเห็นคณุ ค่าในตนเองและผูอ้ ่นื
๒. กลมุ่ กิจกรรมการปรบั ตวั และดำรงชวี ิต
๓. กลุ่มกจิ กรรมการตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา
๔. กล่มุ กิจกรรมการแสวงหาและใช้ข้อมูลสารสนเทศ
184
วัตถปุ ระสงค์
๑. เพื่อผู้เรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเอง
และผู้อืน่
๒. เพื่อให้ผูเ้ รียนแสวงหาความรู้จากข้อมลู ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศกึ ษา อาชีพส่วนตวั
สังคม เพ่ือนำไปใช้ในการวางแผน เลอื กแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคลอ้ งกับศกั ยภาพของ
ตนเอง
๓. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นได้พฒั นาบุคลกิ ภาพ และปรบั ตวั อย่ใู นสังคมได้อย่างมคี วามสุข
๔. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ มีทักษะ มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ในงานอาชพี และมเี จตคติท่ดี ตี อ่ อาชีพสจุ รติ
๕. เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงามในการดำเนินชีวิต สร้างเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมแก่
นักเรยี น
๖. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมจี ติ สำนึกในการรับผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ
แนวการจดั กิจกรรม
๑. ศกึ ษาวิเคราะหส์ ภาพปัญหา ความตอ้ งการ ความสนใจ ธรรมชาตขิ องผูเ้ รยี น
๒. วิเคราะห์สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ วิสัยทัศน์ของสถานศึกษา และ
วิเคราะห์ข้อมูลของผ้เู รียนเปน็ รายบคุ คล
๓. กำหนดสดั ส่วนของกจิ กรรมแนะแนวให้ครอบคลมุ ดา้ นการศกึ ษา ดา้ นอาชีพ ด้านส่วนตวั และสังคม
โดยยึดสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ตลอดจนธรรมชาติของผู้เรียนและเป้าหมายของสถานศึกษา
โดยครู ผ้ปู กครอง และผู้เรยี นมสี ่วนร่วม
๔. กำหนดวตั ถุประสงค์การจดั กิจกรรมแนะแนวของสถานศกึ ษา เปน็ ระดบั การศกึ ษาและชน้ั ปี
๕. ออกแบบการจัดกิจกรรมแนะแนว ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรม เวลาจัดกิจกรรม
หลกั ฐานการทำกิจกรรม และการประเมินผล
๒. การจัดกิจกรรมนักเรียน
โรงเรียนวัดพระญาติการาม (ศุภสุขบำรุง) ได้จัดกิจกรรมนักเรียนเพื่อมุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย
ความเปน็ ผู้นำ ผตู้ ามทดี่ ี ความรับผิดชอบ การทำงานรว่ มกนั การร้จู กั แก้ปัญหา การตัดสินใจทเี่ หมาะสม ความมี
เหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันเออื้ อาทรและสมานฉันท์ โดยจัดใหส้ อดคล้องกบั ความสามารถ ความถนดั และ
ความสนใจของผู้เรยี น ใหไ้ ด้ปฏบิ ตั ิด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตาม
แผนประเมิน และปรับปรุงการทำงาน เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกบั
วฒุ ิภาวะของผเู้ รยี นและบริบทของโรงเรยี นและท้องถ่นิ กิจกรรมนักเรียนประกอบดว้ ย
๒.๑ กิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี
๒.๒ กิจกรรมชุมนุม
๒.๑ กจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี
กระบวนการลูกเสือ คือ กระบวนการพัฒนาเยาวชน มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรม ให้การศึกษา
และพฒั นาเยาวชนให้เป็นพลเมอื งดี โดยไม่คำนึงถงึ เชื้อชาติ ศาสนา ทัง้ นี้เป็นไปตามความม่งุ ประสงค์หลักการ
และวิธกี าร ซึ่งลูกเสือโลกได้กำหนดไวป้ ัจจุบนั กระบวนการลกู เสือถือเป็นกระบวนการทางการศกึ ษาสว่ นหน่งึ
ซึ่งมุ่งพัฒนาสมรรถภาพของบุคคลทั้งทางสมอง ร่างกาย จิตใจ และศีลธรรม เพื่อให้เป็นบุคคลที่มีความ
ประพฤตดิ งี าม ไมก่ ระทำตนให้เป็นปญั หาต่อสงั คม และดำรงชวี ติ อยา่ งมคี วามหมายและสขุ สบาย
185
หลักการจัดกจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี
กระบวนการลูกเสือ มีหลกั การสำคญั ๕ ประการ ดงั นี้
๑. มศี าสนาเปน็ ท่ยี ึดทางจติ ใจ จงรักภักดีตอ่ ศาสนาทีต่ นเองนับถือ และพึงปฏบิ ัตศิ าสนกิจด้วยความ
จริงใจ
๒. จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติของตน พร้อมด้วยการส่งเสริมและสนับสนุน
สนั ติสุข และสันติภาพ ความเขา้ ใจที่ดีต่อกนั และกัน และความรว่ มมอื ซึง่ กนั และกนั ตั้งแต่ระดับ
ท้องถ่นิ ระดับชาติ ระดบั นานาชาติ
๓. เข้าร่วมพฒั นาสังคม ยอมรบั และให้ความเคารพในเกียรติและศกั ด์ิศรีของผู้อ่ืน และเพื่อนมนุษย์
ทกุ คน รวมทงั้ ธรรมชาติ และสรรพสง่ิ ทง้ั หลายในโลก
๔. มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อการพฒั นาตนเองอย่างต่อเนอื่ ง
๕. ลูกเสือทกุ คนตอ้ งยดึ มัน่ ในคำปฏิญาณและกฎของลกู เสอื
วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี
พระราชบัญญัติลูกเสือ พุทธศักราช ๒๕๕๑ มาตรา ๘ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม
ลูกเสือ เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจ และศีลธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ และ
ชว่ ยสร้างสรรค์สงั คมให้เกิดความสามัคคี และมคี วามเจรญิ ก้าวหน้า ทัง้ นเ้ี พื่อความสงบสขุ และความม่ันคงของ
ประเทศชาติ ตามแนวทางดังนี้
๑. ใหม้ ีนิสยั ในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟัง และพ่งึ ตนเอง
๒. ให้มคี วามซื่อสตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบียบวินยั และเหน็ อกเห็นใจผู้อื่น
๓. ให้รู้จักบำเพ็ญตน เพอื่ สาธารณประโยชน์
๔. ใหร้ จู้ ักทำการฝมี อื และฝกึ ฝนการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. ใหร้ จู้ ักรกั ษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม และความมน่ั คงของประเทศชาติ
แนวทางการจดั กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี
การจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี มีแนวทางการจัดกิจกรรมตามวิธีการทางลูกเสือ มีองค์ประกอบ
๗ ประการ คอื
๑. คำปฏิญาณและกฎ ถือเป็นหลกั เกณฑ์ที่ลูกเสอื ทกุ คนให้คำมน่ั สัญญาว่าจะปฏิบัติตามกฎลูกเสือเป็น
หลักในการปฏิบัติ ไม่ “ ห้าม” ทำหรือ “ บังคับให้ทำ” แต่ถ้าทำจะเกิดผลดี แก่ตนเอง เป็นคนดี ได้รับการยก
ย่องเป็นผ้มู ีเกยี รตเิ ชอื่ ถอื ได้
๒. เรียนรู้จากการกระทำ เป็นการพัฒนาส่วนบุคคล ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของผลงานเกิดจากการ
กระทำของตนเอง ทำให้มีความรู้ที่ชัดเจน สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง และท้าทายความสามารถ
ของตนเอง
๓. ระบบหมู่ เป็นรากฐานอันแท้จรงิ ของการลูกเสือ เปน็ พนื้ ฐานในการอยู่ร่วมกัน การยอมรบั ซึง่ กันและ
กนั การแบง่ หนา้ ท่คี วามรับผิดชอบ การชว่ ยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั เปน็ การเรยี นรกู้ ารใชป้ ระชาธิปไตยเบ้อื งต้น
๔. การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ฝึกให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือ เนตรนารี โดยใช้
สัญลักษณ์ร่วมกนั ได้แก่ เคร่อื งแบบ เครอ่ื งหมาย การทำความเคารพ รหสั สญั ญาณช่วยใหผ้ ู้เรยี นตระหนกั และ
ภาคภูมิใจในการเป็นสมาชิกขององศ์การลกู เสือโลก เพราะลกู เสอื เป็นองศ์การทมี่ ีสมาชกิ มากทีส่ ุดในโลก
๕. การศึกษาธรรมชาติ สิ่งสำคัญของการลูกเสือ คือ ธรรมชาติ เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งในการทำ
กจิ กรรม ปา่ เขา ชายทะเล พ่มุ ไม้ การปนี เขา การผจญภัย การบกุ เบิก การอยูค่ ่ายพักแรม การเดินทางไกล เปน็
ท่ีเสนห่ าแกเ่ ดก็ ทุกคน ถ้าขาดสิ่งเหลา่ นี้แลว้ ก็ไมเ่ รียกว่าการใชช้ ีวติ แบบลกู เสอื
186
๖. ความก้าวหนา้ ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ ท่จี ดั ใหเ้ ด็กทำ ต้องมคี วามก้าวหนา้ และดึงดดู ใจ สร้างให้
เกดิ ความกระตอื รอื รน้ การเลน่ เกมท่สี นกุ สนาน การแขง่ ขันกันเป็นส่งิ ที่ดึงดดู ใจและเป็นการจงู ใจที่ดี
๗. การสนับสนุนโดยผใู้ หญ่ ผใู้ หญเ่ ปน็ ผู้ชีแ้ นะหนทางท่ีถูกต้อง เพ่ือให้เขาเกดิ ความม่นั ใจ เดก็ ต้องการให้
ผใู้ หญ่ชีแ้ นะ ผู้ใหญก่ ต็ ้องนำพาไปส่หู นทางทด่ี ี ใหไ้ ดร้ ับการพัฒนาอยา่ งถกู ตอ้ งและดีที่สุดจึงเป็นการร่วมมือกัน
ทง้ั สองฝ่าย
๒.๒ กิจกรรมชมุ นมุ
กิจกรรมชุมนุม เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนรวมกลุ่มกันจัดขึ้นตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจ
ของผเู้ รยี น เพื่อเติมเต็มความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ ทกั ษะ เจตคตเิ พ่ือพฒั นาตนเองตามศกั ยภาพ
หลักการ
กจิ กรรมชมุ นุม มหี ลกั การทสี่ ำคัญดังน้ี
๑. เป็นกิจกรรมท่ีเกิดจากการสรา้ งสรรค์และออกแบบกิจกรรมของผูเ้ รยี นตามความสมคั รใจ
๒. เป็นกิจกรรมทีผ่ เู้ รยี นรว่ มกนั ทำงานเป็นทมี ช่วยกันคดิ ชว่ ยกันทำ และช่วยกนั แก้ปัญหา
๓. เปน็ กจิ กรรมที่สง่ เสริมและพัฒนาศกั ยภาพของผู้เรียน
๔. เป็นกิจกรรมทีเ่ หมาะสมกับวัยและวฒุ ภิ าวะของผ้เู รียน รวมทั้งบริบทของสถานศกึ ษาและท้องถนิ่
วตั ถุประสงค์
๑. เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกับหลกั สูตรพ้ืนฐานสถานศกึ ษา
๒. เพอ่ื ใหม้ ีทกั ษะในการทำงานรว่ มกัน
๓. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมีทักษะกระบวนการในการทำงาน
๔. เพื่อใหร้ ้จู ักการใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์
๕. เพอ่ื ให้มีความรับผดิ ชอบ ขยัน ประหยัด อดทนและมจี ิตใจเอือ้ เฟอื้ เผอ่ื แผ่
การจดั กิจกรรมชมุ นมุ
การจัดกิจกรรมชมุ นุมของโรงเรียนวดั พระญาตกิ าราม (ศุภสขุ บำรุง) มแี นวทางการปฏิบตั ิดงั น้ี
๑. ผู้เรียนรว่ มกนั จัดตัง้ ชุมนมุ ตามความสนใจและเชิญครูเป็นท่ีปรึกษาโดยร่วมกันดำเนนิ กิจกรรมชมุ นมุ
ตามระเบียบปฏบิ ตั ทิ สี่ ถานศึกษา
๒. ครทู ป่ี รึกษามกี ารจดั ตัง้ ชุมนุมอยู่แลว้ และเปิดรบั สมัครนักเรยี นทม่ี ีความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรม
ของชุมนุม
๓. ครูทปี่ รกึ ษาและผเู้ รียนร่วมกนั จัดตงั้ กจิ กรรมชุมนมุ ตามความสนใจของทง้ั สองฝา่ ย
๔. ผเู้ รียนสามารถดำเนนิ กิจกรรมได้หลากหลายทงั้ รูปแบบภายในหรือภายนอกห้องเรียนและระยะเวลา
การจัดกจิ กรรม เปน็ ระยะเวลา ๑ ปกี ารศึกษา แต่นักเรียนที่ตอ้ งการย้ายชมุ นุมใหมส่ ามารถยา้ ยไดใ้ นภาคเรียน
ท่ี ๒ แตน่ ักเรยี นต้องแจ้งครูท่ีปรกึ ษาชุมนุมทน่ี ักเรยี นย้ายออกและหัวหน้ากจิ กรรมชมุ นุมรบั ทราบ
๕. ผูเ้ รียนมกี ารออกแบบประสบการณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพรก่ จิ กรรม
๖. ครูทป่ี รึกษากิจกรรมประเมนิ ตามหลักเกณฑก์ ารประเมนิ ชมุ นมุ
๓. กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนบำเพญ็ ตนให้เปน็ ประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน สังคม ท้องถิ่นและ
ประเทศชาติตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อช่วยขัดเกลาจิตใจของผู้เรียนและเพ่ือแสดงถึงความ
รบั ผิดชอบ ความดีงาม มีความเมตตากรณุ า มีความเสยี สละตอ่ สงั คม และมีจิตสาธารณะเพื่อช่วยสร้างสังคมให้
อยรู่ ่วมกันอย่างมีความสขุ เชน่ กจิ กรรมอาสาพัฒนาตา่ ง ๆ กจิ กรรมสร้างสรรคส์ งั คม
187
หลักการ
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เปน็ กิจกรรมที่ต้องส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนสามารถพัฒนาตนเอง
ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้
ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรมจริยธรรม จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรียนคิดสร้างสรรค์ออกแบบกิจกรรม
บำเพ็ญประโยชนอ์ ย่างหลากหลายรปู แบบ เพื่อแสดงถึงความรบั ผดิ ชอบต่อสังคมในลักษณะจิตอาสา
วตั ถปุ ระสงค์
๑. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนบำเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชมุ ชน สังคมและประเทศชาติ
๒. เพื่อให้ผู้เรียนออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตาม
ความถนดั และความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร
๓. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
๔. เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรมจริยธรรมตาม
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๕. เพื่อให้ผเู้ รยี นมีจิตสาธารณะและใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์
การจดั กจิ กรรม
โรงเรียนกำหนดให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ได้ทั้งภายในและภายนอก
โรงเรยี น โดยใชร้ ปู แบบที่หลากหลาย ดังรายละเอยี ดต่อไปนี้
๑. กำหนดให้ครูท่ีปรกึ ษาเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ กำกบั ดแู ล วางแผนการจดั กจิ กรรมร่วมกบั นกั เรียน
๒. นักเรียนบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ลงในแบบบันทึกการเข้าร่วม
กิจกรรม โดยให้ครูที่ปรึกษาเป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งผู้เรียนจะจัดกิจกรรมหรือ กิจกรรมเพื่อสังคม
และสาธารณประโยชนใ์ นเวลา สถานท่ี หรือรปู แบบของกิจกรรมใดกไ็ ด้
๓. ครูที่ปรึกษาเป็นผู้ประเมินผลกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยผู้เรียนต้องเข้าร่วม
กจิ กรรมให้ครบตามกรอบของโครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียน
การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียนผู้เรียนสามารถเลอื กจัดกจิ กรรมหรือเข้า
ร่วมกจิ กรรมไดท้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดงั น้ี
๑. จัดกิจกรรมในลกั ษณะบูรณาการใน ๘ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ และประสบการณ์ของผูเ้ รียน โดยผูเ้ รยี น
สามารถจดั กิจกรรมตามองคค์ วามรทู้ ไี่ ด้จากการเรยี นรู้และประสบการณ์ ซ่ึงสามารถจดั กิจกรรมไดด้ ังนี้
๑.๑ จดั กจิ กรรมภายในโรงเรียน
๑.๒ จัดกจิ กรรมภายนอกโรงเรียน
๒. จัดกิจกรรมลักษณะโครงการ โครงงาน หรือกิจกรรม หมายถึง กิจกรรมท่ีผู้เรียนนำเสนอการจดั
กจิ กรรมต่อโรงเรียนเพื่อขอความเห็นชอบในการจดั ทำโครงการ โครงงาน หรอื กจิ กรรม ซ่งึ มรี ะยะเวลาเริ่มต้น
และสิน้ สดุ ท่ชี ัดเจน โดยสามารถจดั กิจกรรมได้ดังน้ี
๒.๑ จดั กจิ กรรมในโรงเรยี น
๒.๒ จัดกิจกรรมนอกโรงเรยี น
๓. จัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรอื่น หมายถึง กิจกรรมที่ผู้เรียนอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับ
หน่วยงานหรอื องค์กรอืน่ ๆ ท่จี ดั กิจกรรมในลกั ษณะเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์โดยผู้เรียนสามารถเลือก
เขา้ ร่วมกจิ กรรมได้ดังนี้
๓.๑ ร่วมกับหนว่ ยงานอนื่ ทเ่ี ข้ามาจัดกจิ กรรมในโรงเรียน
๓.๒ ร่วมกบั หน่วยงานอ่ืนทีจ่ ดั กจิ กรรมนอกโรงเรียน
188
การประเมินผลกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
การประเมนิ ผลกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนตามกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียนในหลักสูตรโรงเรยี นวัดพระญาติกา
ราม (ศุภสุขบำรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔) เป็นการประเมินการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ชิ้นงาน / คุณลักษณะของ
ผู้เรียน โดยผู้เรียนต้องมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมตามเกณฑ์ทีก่ ำหนดไว้ในแต่ละกิจกรรม ผ่านการประเมินตาม
เกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากำหนด และใชเ้ ป็นข้อมลู ประเมนิ การเล่ือนชน้ั เรียนและการจบการศึกษาระดบั ตา่ ง ๆ
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมการปฏิบัติกิจกรรม
และผลงานของผู้เรยี นตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และใหผ้ ลการประเมินเปน็ ผ่านและไม่ผ่าน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น มี ๓ ลกั ษณะ คือ
๑. กิจกรรมแนะแนว
๒. กจิ กรรมนกั เรยี น ซงึ่ ประกอบด้วย
๒.๑ กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี
๒.๒ กิจกรรมชุมนมุ
๓. กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
หลักการ
การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียนตามกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นในหลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม
(ศุภสุขบำรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔) เป็นการประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรมหรือผลงาน/ชน้ิ งาน/คุณลกั ษณะของผู้เรียน
เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นให้ผู้เรียนค้นหาศักยภาพของตนเอง สะท้อนแนวคิดจากการปฏิบัติกิจกรรม
การทำงานกลุ่ม และการมีจิตสาธารณะ โดยใหท้ ุกฝ่ายท่เี กย่ี วขอ้ งมีสว่ นรว่ มในการประเมนิ
แนวทางการประเมิน
โรงเรียนได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๒ ประการ คือ การประเมิน
พฒั นาผูเ้ รยี นรายกจิ กรรม และการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี นเพ่ือการตดั สนิ
๑. แนวทางการประเมินกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนรายกิจกรรม ดำเนินการดังน้ี
๑.๑ ตรวจสอบเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียนให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
โดยผู้เรียนต้องมเี วลาเขา้ ร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด โดยการประเมินกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผูเ้ รียน ให้ผล
การประเมนิ เป็นผ่านและไมผ่ า่ น
๑.๒ ผเู้ รยี นทมี่ ผี ลการประเมนิ ไม่ผ่านเกณฑ์เวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม หรอื เกณฑก์ ารปฏิบตั ิ
กิจกรรมและผลงาน / ชิ้นงานของผู้เรียน หรือทั้งสองเกณฑ์ถือว่าไม่ผ่านการประเมนิ ผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ผู้สอนต้องดำเนินการซ่อมเสริมและประเมนิ จนผ่าน ท้ังนคี้ วรดำเนนิ การให้เสร็จสนิ้ ในปีการศึกษาน้ัน ยกเว้นมีเหตุ
สดุ วิสยั ใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของสถานศึกษา
๒. แนวทางการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นเพอ่ื การตัดสนิ
แนวทางการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อการตัดสินเลื่อนชั้นและจบระดับการศึกษาเป็นการ
ประเมินการผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นรายปี / รายภาค เพื่อสรุปผลการผ่านในแต่ละกิจกรรม สรุป
ผลรวมเพื่อเลื่อนชั้นและประมวลผลรวมในปีสุดท้ายเพื่อการจบแต่ละระดับการศึกษาของโรงเรียน โดย
ดำเนินการดงั นี้
๒.๑ กำหนดให้มผี ู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับการรว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
ของผู้เรียนทุกคนตลอดระดับการศึกษา
๒.๒ ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินผลการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผ้เู รียนเป็นราย
189
บคุ คลตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา เกณฑ์การจบแตล่ ะระดบั การศึกษาท่ีสถานศึกษากำหนดน้ัน ผูเ้ รียนจะต้องผ่าน
กิจกรรม ๓ กิจกรรมสำคญั ดงั น้ี
๒.๒.๑ กจิ กรรมแนะแนว
๒.๒.๒ กจิ กรรมนักเรยี น
- ระดับ ประถมศกึ ษา ๑-๖ กจิ กรรมลกู เสอื -เนตรนารี และกิจกรรมชุมนุม
- ระดับ ม. ตน้ (ม.๑-๓) กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมชมุ นมุ
๒.๒.๓ กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารประโยชน์
๒.๓ งานทะเบียนและวดั ผลเป็นผปู้ ระมวลผลรวมปลายปีเพื่อการประเมินการผ่านช้ันปี
/ ระดับการศึกษา ทัง้ น้ผี ู้เรียนต้องมีผลการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารประเมินทกุ กิจกรรม
๒.๔ เสนอผู้บริหารสถานศกึ ษาพิจารณาอนุมตั ิผลการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
ผ่านเกณฑก์ ารจบแต่ละระดับการศกึ ษา
เกณฑก์ ารตัดสนิ
ผู้เรียนจะต้องได้รับการประเมินกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี นและผ่านเกณฑ์ตามท่ีสถานศึกษากำหนด โดย
กำหนดเกณฑใ์ นการประเมนิ อย่างเหมาะสม ดงั นี้
๑. การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน จะตอ้ งพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏิบัติกิจกรรม
และผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในคู่มือกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น การกำหนดคุณภาพหรือเกณฑ์ใน
การประเมนิ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน กำหนด ไว้ ๒ ระดับ คอื ผา่ น และไม่ผา่ น
๒. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนประกอบด้วยกิจกรรม ๔ ลักษณะ คือ
๑) กิจกรรมแนะแนว
๒) กจิ กรรมชมุ นุม
๓) กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี
๔) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
๓. กำหนดประเด็นการประเมินให้สอดคล้องตามวตั ถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมและกำหนดเกณฑ์
การผ่านการประเมนิ ดงั น้ี
เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมินรายกิจกรรม
ผ่าน หมายถึง ผเู้ รยี นมเี วลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมครบตามเกณฑ์ปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม และมผี ลงาน / ช้นิ งาน / คณุ ลกั ษณะตาม
เกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากำหนด
ไม่ผา่ น หมายถงึ ผู้เรยี นมเี วลาเขา้ ร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์
ไมผ่ ่านการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม หรือมผี ลงาน/ช้นิ งาน
/ คณุ ลกั ษณะไม่เปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากำหนด
เกณฑ์การตดั สินผลการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นรายปี / รายภาค
ผา่ น หมายถงึ ผู้เรยี นมผี ลการประเมนิ ระดับ “ผ่าน” ในกิจกรรมสำคญั
ทั้ง ๓ กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน
และกจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
ไมผ่ ่าน หมายถงึ ผู้เรียนมผี ลการประเมนิ ระดบั “ไม่ผา่ น” ในกิจกรรม
สำคัญกจิ กรรมใดกิจกรรมหนึ่งจาก ๓ กจิ กรรม คอื กิจกรรม
แนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพอื่ สงั คมและ
สาธารณประโยชน์
190
เกณฑก์ ารตดั สินผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นเพือ่ จบระดับการศกึ ษา
ผ่าน หมายถงึ ผู้เรยี นมผี ลการประเมินระดับ “ผา่ น” ทุกชัน้ ปี
ในระดบั การศึกษาน้นั
ไมผ่ า่ น หมายถงึ ผู้เรยี นมีผลการประเมินระดับ “ไมผ่ ่าน” ทกุ ช้ันปี
ในระดับการศึกษาน้นั
๔. ใหใ้ ช้ตวั อกั ษรแสดงผลการประเมนิ เปน็ “ผ่าน” และ “ไมผ่ ่าน” ตามคำอธิบายดังน้ี
ผลการประเมนิ ความหมาย
ผ่าน ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมด
ปฏบิ ตั ิกิจกรรมและมีผลงานตามเกณฑต์ ามที่แต่ละกิจกรรมกำหนด
ไมผ่ า่ น
ผ้เู รียนมเี วลาเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนไมถ่ ึงรอ้ ยละ ๘๐ ปฏิบัติกิจกรรม
และมีผลงานไม่เป็นไปตามเกณฑต์ ามที่แต่ละกิจกรรมกำหนด
นกั เรยี นระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๖ และชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น (ม. ๑-๓) เข้าร่วมกจิ กรรม
พฒั นาผเู้ รียนและมผี ลการประเมินผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามท่ีสถานศกึ ษากำหนดทกุ กิจกรรม ดังน้ี
(๑) กจิ กรรมลกู เสอื -เนตรนารี ๓๐ ชวั่ โมง/ปี
(๒) กจิ กรรมชมุ นุม ๔๐ ช่วั โมง/ปี
(๓) กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ช่วั โมง/ปี
(๔) กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ช่วั โมง/ปี*
(*กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์ สอดแทรกอยใู่ นกิจกรรมตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน)
191
เกณฑ์การจบการศึกษา
เกณฑ์การจบระดับประถมศกึ ษา
(๑) ผู้เรียนเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน/รายวิชาเพ่ิมเตมิ และกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ตามโครงสร้าง
เวลาเรยี น ท่ีหลกั สตู รโรงเรียนวดั พระญาตกิ าราม (ศภุ สขุ บำรงุ ) พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ กำหนดไว้
(๒) ผูเ้ รยี นตอ้ งมีผลการประเมินรายวิชาพืน้ ฐานผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ คือ ผู้เรียนต้องเรยี นรู้
ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และได้รับการตัดสินผลการเรียนได้ระดับผลการเรียนไม่
น้อยกวา่ ระดับ “๑” ทุกรายวิชา ทุกระดับชนั้
(๓) ผ้เู รียนเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมผี ลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
คือ ผเู้ รยี นต้องเข้ารว่ มกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นครบทกุ กจิ กรรม และไดร้ ับผลการประเมิน ในระดับ “ผ่าน”
(๔) ผ้เู รียนมผี ลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียนส่ือความ ในระดับผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ คือ ได้รับผลการประเมินปลายปีในระดบั “ผ่าน”
(๕) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน คือ
ไดร้ ับผลการประเมนิ ในระดบั “ผ่าน”
(๖) ผู้เรยี นมีผลการประเมินสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ในระดับผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
คือ ไดร้ ับผลการประเมนิ ในระดบั “ผ่าน”
เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนตน้
(๑) ผเู้ รยี นเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน/รายวิชาเพ่มิ เตมิ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ตามโครงสร้าง
เวลาเรียน ท่ีหลักสตู รโรงเรียนวดั พระญาติการาม(ศุภสุขบำรงุ )พุทธศักราช ๒๕๖๑ กำหนดไว้ โดยผเู้ รียนเรียน
รายวชิ าพน้ื ฐาน และรายวชิ าเพิม่ เตมิ จำนวน ๘๑ หน่วยกติ โดยเปน็ รายวิชาพนื้ ฐานจำนวน ๖๖ หน่วย
กิต และรายวชิ าเพม่ิ เติม จำนวน ๑๕ หนว่ ยกิต
(๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา
พื้นฐานจำนวน ๖๖ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า ๑๑ หน่วยกิต โดยผู้เรียนต้องมีผลการ
ประเมนิ รายวิชาพ้ืนฐานผา่ นเกณฑ์การประเมิน คือ ผเู้ รยี นต้องเรียนรู้ตามกลมุ่ สาระการเรียนรทู้ งั้ ๘ กล่มุ สาระ
การเรียนรู้ และรายวิชาเพิ่มเติมได้รับการตัดสินผลการเรียนได้ระดับผลการเรียนไม่น้อยกว่าระดับ “๑”
ทุกรายวชิ า ทุกระดบั ชั้น
(๓) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน คือ
ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนครบทุกกจิ กรรม และไดร้ ับผลการประเมิน ในระดับ “ผ่าน”
(๔) ผเู้ รยี นมผี ลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ในระดบั ผ่านเกณฑ์การ
ประเมิน คอื ไดร้ ับผลการประเมนิ ปลายปใี นระดบั “ผ่าน”
(๕) ผเู้ รยี นมีผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ในระดบั ผา่ นเกณฑ์การประเมิน คือ
ไดร้ บั ผลการประเมินในระดับ “ผ่าน”
(๖) ผเู้ รียนมีผลการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ในระดับผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ
คือ ไดร้ ับผลการประเมนิ ในระดับ “ผา่ น”
192
คำสงั่ โรงเรยี นวัดพระญาตกิ าราม(ศุภสขุ บำรุง)
ท่ี ๔๒ /๒๕๖๓
เรอ่ื ง แตง่ ต้ังคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รโรงเรยี นวัดพระญาติการาม(ศุภสุขบำรงุ )
*******************
โรงเรียนวัดพระญาติการาม(ศภุ สขุ บำรุง)ไดด้ ำเนนิ การพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง
มาโดยตลอด ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ ได้มุ่งเน้นจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทาง
เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สภาพแวดล้อมและความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอันเป็นการยกระดับ
คุณภาพการศกึ ษาและการเรียนรู้ให้มีคณุ ภาพและมาตรฐานระดับสากล สอดคล้องกับประเทศไทย ๔.๐ โลก
ในศตวรรษท่ี๒๑ ผู้เรียนมีศักยภาพและทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง มี
ความสามารถแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ดำรงชีวิตอย่างสร้างสรรค์ตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และเพอ่ื ให้การนำหลกั สูตรไปส่กู ารปฏิบัติเปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ จงึ ขอแต่งตั้งคณะ
กรรมการบริหารหลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม(ศุภสุขบำรุง) ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษา
หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ ครูผสู้ อน ผู้ปกครองนักเรียน และผู้ทรงคุณวุฒิ ดังน้ี
๑. นายฐานิตย์ เนคมานุรกั ษ์ ผอู้ ำนวยการโรงเรียน ประธานคณะกรรมการ
๒. นางสาวนวพร เตมิ เตชาติพงษ์ รองผู้อำนวยการโรงเรยี น รองประธานคณะกรรมการ
๓. พันอากาศเอกนรชัย กฤษณเกษกุล
ประธานกรรมกรรมการสถานศกึ ษา ผู้ทรงคุณวฒุ ิ
๔. นายพจน์ พลิ าสุข
๕. นางมยุรี ตะปะสา ผูป้ กครอง ตวั แทนผปู้ กครองนกั เรยี น
๖. นางสาวเปรมฤดี ฤทธยิ า
หัวหนา้ งานบริหารวชิ าการ รองประธานคณะกรรมการ
๖. นางสาวฐติ ริ ตั น์ สายอาทิตย์
๗. นางฉลอง วงษพ์ รหม หวั หน้ากลุ่มสาระภาษาไทย กรรมการ
๘. นางสาวศิริวรรณ วนั ที หัวหนา้ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ กรรมการ
๙. นางสาวแนนศยิ า ลุมพะ
๑๐. นางขวัญรพี เครอื ใย หัวหนา้ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรรมการ
๑๑. นางปารณีย์ วรรณบรู ณ หน้ากลุม่ สาระสังคมศึกษาฯ กรรมการ
๑๒. นายเรอื งชยั สุทธิจนั ทร์
หวั หน้ากลมุ่ สาระสุขศึกษาฯ กรรมการ
๑๓. นางสาวณฐั กลุ จิรา สกุณา
๑๔. นางสาวพรชนก วรรณทะเทพ หวั หนา้ กลมุ่ สาระศิลปะ กรรมการ
หัวหน้ากลุ่มสาระการงานอาชพี กรรมการ
หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ กรรมการ
หัวหน้างานกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กรรมการ
รองหัวหน้าฝ่ายวชิ าการ กรรมการและเลขานกุ าร
193
คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรโรงเรยี นวัดพระญาติการาม(ศภุ สุขบำรุง) มีหนา้ ที่
๑. วางแผนการดำเนินงาน กำหนดรายละเอียดของสาระเพิ่มเติมของโรงเรียน แนวการจัด
สัดส่วน การบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับ
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานพุทธศกั ราช๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) สภาพเศรษฐกิจสังคม
ศิลปวัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ
๒. กำกบั ติดตาม ให้คำปรึกษา เก่ียวกับการพฒั นาหลักสตู ร การจัดกระบวนการเรยี นรู้ การจดั
ประเมนิ ผลและการแนะแนวใหส้ อดคล้องและเป็นไปตามมาตรฐานหลักสตู ร
๓. สง่ เสริมและสนบั สนุนการพฒั นาบคุ ลากร การพฒั นาหลักสตู ร การจัดกระบวนการเรียนรู้
การวัด และประเมินผล การแนะแนวใหเ้ ป็นไปตามจดุ หมายและแนวทางการดำเนนิ งานของหลักสูตร
๔. ประสานความร่วมมือจากบคุ คล หนว่ ยงาน องคก์ รต่าง ๆ และชมุ ชน เพือ่ ใหก้ ารใชห้ ลกั สูตร
เป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและมีคุณธรรม
๕. ประชาสัมพันธ์หลกั สตู รและการใช้หลักสูตรแกน่ กั เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผเู้ ก่ียวข้อง
และนำข้อมลู ป้อนกลบั จากฝา่ ยต่าง ๆ มาพจิ ารณาเพ่ือปรับปรุงและพัฒนาหลกั สตู รของโรงเรียน
๖. ส่งเสริมและสนบั สนุนการวิจัยเกยี่ วกับการพัฒนาหลกั สูตร และกระบวนการเรยี นรู้
๗. ติดตามผลการเรยี นของนักเรียนรายบุคคลระดบั ช้นั และระดับกลุม่ สาระในแต่ละปกี ารศกึ ษา
เพ่อื ปรบั ปรงุ แก้ไข และพัฒนาการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษา
๘. ตรวจสอบ ทบทวน ประเมินมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านของครู และการบริหารหลักสูตร ใน
รอบปที ่ีผ่าน มาและใช้ผลการประเมนิ เพอื่ วางแผนพฒั นาการปฏิบตั งิ านของครู และการบริหารหลักสตู รในปี
การศึกษาต่อไป
ใหค้ ณะกรรมการท่ไี ด้รับการแต่งตั้ง ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีตามคำสง่ั ทไี่ ด้รบั มอบหมายตง้ั แต่บัดนเ้ี ป็นต้นไป
ส่ัง ณ วนั ที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
( นายฐานิตย์ เนคมานรุ ักษ์ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั พระญาติการาม(ศุภสขุ บำรุง)
194
The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
หลักสูตรโรงเรียนวัดพระญาติการาม ปรับปรุง 2563
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search