คมู ือ
การฝก อบรมเจา หนา ท่ี
และผูบ งั คับบญั ชายวุ กาชาด
หลกั สูตรครูผูสอนกจิ กรรมยุวกาชาด
กลุมสง เสรมิ และพฒั นายุวกาชาด
สํานักการลูกเสอื ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรียน
สาํ นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
คมู่ ือ
การฝึกอบรมเจ้าหน้าท่ีและผู้บังคบั บญั ชายวุ กาชาด
หลักสูตรครผู สู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
กล่มุ สง่ เสรมิ และพัฒนายวุ กาชาด
ส�ำ นกั การลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนกั เรยี น
ส�ำ นกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ
คู่มือการฝึกอบรมเจา้ หนา้ ที่และผบู้ งั คบั บัญชายวุ กาชาด
หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยวุ กาชาด
ปที ่พี ิมพ ์ พ.ศ. 2561
จำ�นวนพมิ พ ์ 3,000 เลม่
ผู้จดั พมิ พ ์ กลุ่มสง่ เสริมและพฒั นายวุ กาชาด
สำ�นกั การลูกเสือ ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรียน
ส�ำ นกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
พิมพ์ท ่ี ห้างห้นุ สว่ นจ�ำ กดั โรงพมิ พอ์ กั ษรไทย (น.ส.พ. ฟ้าเมอื งไทย)
เลขท่ี 85, 87, 89, 91 ซอยจรัญสนทิ วงศ์ 40 ถนนจรญั สนิทวงศ์ แขวงบางยข่ี นั
เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700
โทร. 0-2424-4557, 0-2424-0694 โทรสาร 0-2433-2858
คำ�น�ำ
การฝึกอบรมเจา้ หนา้ ทแี่ ละผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผูส้ อนกิจกรรมยุวกาชาด
เปน็ หลักสูตรพืน้ ฐานของการฝกึ อบรมด้านยุวกาชาด โดยคณะวทิ ยากรเปน็ ผนู้ ำ�การฝึกอบรมดงั กลา่ ว
ส�ำ นกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น โดยกลมุ่ สง่ เสรมิ และพฒั นายวุ กาชาด ไดป้ รบั ปรงุ เนอ้ื หา
สาระคู่มือการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด
เล่มนี้ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรจัดกิจกรรมยุวกาชาด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 และข้อบังคับ ระเบียบของสภากาชาดไทย ที่ปรับปรุงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์
ให้คณะวิทยากรและผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด มีคู่มือ
และแนวปฏิบัติในการฝึกอบรมได้อย่างถูกต้อง และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้เป็นมาตรฐาน
เดียวกัน ส่งผลให้ครูและเจ้าหน้าท่ีที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมยุวกาชาด ที่สำ�เร็จการฝึกอบรม
ตามหลักสูตรนี้ สามารถนำ�ความรู้ประสบการณ์ และทักษะจากการฝึกอบรม ไปจัดกิจกรรมให้กับ
สมาชิกยุวกาชาดในสถานศึกษาได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ส่งผลต่อสมาชิกยุวกาชาดซ่ึงเป็นเยาวชน
ของชาติได้อย่างสมบูรณ์
การดำ�เนินการปรับปรุงคู่มือเล่มน้ี ได้รับความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านยุวกาชาด
ในการตรวจสอบ แกไ้ ข และบรรณาธกิ าร ใหม้ คี วามชดั เจน ถกู ตอ้ ง สอดคลอ้ งกบั ขอ้ บงั คบั และระเบยี บ
ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง รวมทงั้ ค�ำ นงึ ถงึ การน�ำ ไปใชใ้ นทางปฏบิ ตั จิ รงิ ดว้ ย ซงึ่ ขอบคณุ ทกุ ทา่ นทเี่ กย่ี วขอ้ งไว้ ณ ทน่ี ดี้ ว้ ย
ทงั้ นี้ ให้ยกเลิกคูม่ ือวทิ ยากร หลักสูตรครูผู้สอนกจิ กรรมยุวกาชาด ซึ่งจัดพมิ พเ์ ม่อื ปพี ทุ ธศกั ราช 2558
และให้ใช้คู่มือการฝึกอบรมเจ้าหน้าท่ีและผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรม
ยุวกาชาด จัดพิมพ์ปพี ทุ ธศักราช 2561 เล่มนี้แทน
สำ�นักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือเล่มนี้จะเป็น
ประโยชน์กับผู้ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดกิจกรรมยุวกาชาดในสถานศึกษา และผู้ท่ีสนใจในการส่งเสริม
สนับสนุนกจิ การยวุ กาชาดใหข้ ยายในทุกพ้ืนท่ี และเจริญรงุ่ เรืองสบื ไป
ส�ำ นักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรียน
สำ�นกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
สารบัญ
หน้า
ค�ำ นำ�
โครงสรา้ งหลักสตู รการฝึกอบรมเจา้ หนา้ ที่ และผู้บังคับบญั ชายวุ กาชาด 1
หลกั สตู รครผู ูส้ อนกิจกรรมยวุ กาชาด
จุดประสงคแ์ ละหัวขอ้ เน้ือหา 3
ตารางฝึกอบรมเจา้ หน้าท่ีและผ้บู ังคับบัญชายวุ กาชาด 8
หลักสูตรครูผ้สู อนกิจกรรมยุวกาชาด
วชิ าหลัก
กาชาดและยวุ กาชาด 9
ระเบียบแถวและสญั ญาณ 26
พิธีเปิด - พิธปี ิดกิจกรรมยวุ กาชาด 37
ข้อบงั คบั และระเบียบปฏิบตั ิเกย่ี วกับยุวกาชาด 47
หลักสตู รและแนวการจัดกิจกรรมยุวกาชาด 66
เพลงยุวกาชาด 78
การจดั คา่ ยยุวกาชาด 87
การเล่นเกม 94
การแสดงรอบกองไฟ 99
พิธเี ข้าประจ�ำ หมูย่ ุวกาชาด 108
พธิ ีการยุวกาชาด 115
บรรณานุกรม 136
ภาคผนวก 139
- รายละเอียดส�ำ หรับผู้จดั การฝกึ อบรม 140
- การด�ำ เนนิ การฝึกอบรม 142
- หน้าทีร่ ับผดิ ชอบในการด�ำ เนินการฝึกอบรม หลักสตู รครูผู้สอนกจิ กรรมยุวกาชาด 144
- ตวั อยา่ งเอกสารประกอบการประชุมคณะวิทยากรในการฝกึ อบรมเจา้ หนา้ ที่ 147
และผู้บังคบั บญั ชายวุ กาชาด
- วัสด-ุ อุปกรณท์ ่ีจำ�เป็นส�ำ หรับการฝึกอบรม สารบญั (ตอ่ )
- รายละเอยี ดการปฐมนเิ ทศ
- พธิ เี ปดิ - พธิ ปี ดิ การฝึกอบรม หนา้
- นันทนาการ
- การประเมินผลการฝกึ อบรม 151
- การอภปิ รายทัว่ ไป 153
- แบบทดสอบปากเปล่า 159
- แบบประเมนิ ผลรายวิชา (ภาควิชาการ) 162
- ตัวอยา่ งแบบประเมนิ ผลโครงการ 163
คณะผจู้ ดั ทำ� 163
164
165
166
169
โครงสรา้ งหลกั สตู ร
การฝกึ อบรมเจา้ หน้าทแ่ี ละผ้บู ังคบั บญั ชายวุ กาชาด
หลกั สูตรครผู ู้สอนกจิ กรรมยุวกาชาด
จดุ หมาย
เพอ่ื ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรม มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการจดั กจิ กรรมยวุ กาชาดใหแ้ กส่ มาชกิ
ยุวกาชาด
วตั ถุประสงค์
1. เพือ่ ใหผ้ ู้เข้ารบั การฝกึ อบรมมีความรู้ ความเขา้ ใจในกจิ กรรมยวุ กาชาด
2. เพ่ือให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถจัดกิจกรรมยุวกาชาดตามหลักสูตร
กิจกรรมยุวกาชาดได้
3. เพ่ือให้ผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรมมเี จตคตทิ ่ีดีต่อกิจกรรมยุวกาชาด
คุณสมบัติของผู้เขา้ รับการฝึกอบรม
บุคคลที่จะเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ ได้แก่ ครู และบุคลากรทางการศึกษา
ในสถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกสังกัด บุคคลทั่วไปที่สนใจ ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพ
แขง็ แรง สมบรู ณ์ ไม่มีโรคประจำ�ตัวอนั เปน็ อปุ สรรคต่อการฝึกอบรม
สิทธิข์ องผู้ส�ำ เร็จการฝึกอบรม
ผู้สำ�เรจ็ การฝกึ อบรม ได้รบั วุฒิบตั รและเครือ่ งหมาย “ครผู ้สู อนกิจกรรมยวุ กาชาด”
หลักสูตร
ภาควชิ าการและภาคกจิ กรรม
ภาควชิ าการ ประกอบด้วย วชิ าหลัก ซง่ึ เป็นวชิ าทจ่ี ะตอ้ งจดั ให้มีในการฝึกอบรม จำ�นวน
11 รายวิชา ไดแ้ ก่
(1) กาชาดและยวุ กาชาด 1:00 ชวั่ โมง
(2) ระเบยี บแถวและสญั ญาณ 1:00 ชัว่ โมง
(3) พิธีเปิด - พธิ ีปดิ กิจกรรมยุวกาชาด 1:30 ชว่ั โมง
(4) ขอ้ บังคบั และระเบียบปฏบิ ัติเกยี่ วกบั ยุวกาชาด 1:30 ชว่ั โมง
คมู่ อื การฝึกอบรมเจา้ หน้าทีแ่ ละผู้บังคบั บญั ชายุวกาชาด 1
หลักสูตรครผู สู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
(5) หลักสูตรและแนวการจัดกิจกรรมยุวกาชาด 1:30 ช่วั โมง
(6) เพลงยวุ กาชาด 1:30 ชวั่ โมง
(7) การจดั คา่ ยยวุ กาชาด 1:00 ชั่วโมง
(8) การเลน่ เกม 1:00 ชวั่ โมง
(9) การแสดงรอบกองไฟ 1:00 ช่ัวโมง
(10) พธิ ีเขา้ ประจ�ำ หม่ยู ุวกาชาด 1:00 ช่ัวโมง
(11) พธิ กี ารยวุ กาชาด 2:00 ชว่ั โมง
ภาคกิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมหลัก ซ่ึงเป็นกิจกรรมที่ต้องจัดให้มีในการฝึกอบรม
จ�ำ นวน 10 กจิ กรรม ได้แก่
(1) พธิ ีเปดิ - พิธปี ดิ การฝกึ อบรม
(2) การปฐมนิเทศ
(3) การจัดหวั หนา้ หน่วย/รองหัวหน้าหนว่ ย
(4) การจัดหน่วยบรกิ ารประจำ�วัน
(5) การทดสอบขน้ั ต้น - ขนั้ ปลาย
(6) การทดสอบปากเปลา่
(7) งานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
(8) นันทนาการ
(9) การประเมินผลการฝึกอบรม
(10) การอภปิ รายทวั่ ไป
2 คมู่ อื การฝึกอบรมเจ้าหน้าทแ่ี ละผู้บงั คบั บัญชายวุ กาชาด
หลกั สตู รครผู ู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด
จุดประสงคแ์ ละหัวข้อเน้อื หา
1. กาชาดและยุวกาชาด (เวลา 1 ชัว่ โมง)
จดุ ประสงค์
1. บอกประวตั คิ วามเปน็ มาของกาชาดสากลได้
2. บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของกาชาดไทยได้
3. บอกประวตั ิความเป็นมาของยวุ กาชาดได้
4. บอกบทบาทและภารกิจของกาชาดและยวุ กาชาดได้
หวั ขอ้ เนอื้ หา
1. กาชาดสากล
2. กาชาดไทย
3. ยุวกาชาดไทย
2. ระเบียบแถวและสัญญาณ (เวลา 1 ชัว่ โมง)
จุดประสงค์
1. ใช้คำ�ส่ังและสัญญาณไดถ้ ูกตอ้ ง
2. ปฏิบัติตามค�ำ สัง่ และสัญญาณไดถ้ กู ต้องและพรอ้ มเพรียง
หวั ข้อเนือ้ หา
1. สญั ญาณนกหวีด
2. การเรยี กแถว
3. การใชค้ ำ�สง่ั
4. การหันอย่กู บั ท่ี
5. การเรยี กแถวโดยใช้สัญญาณมอื
คมู่ อื การฝกึ อบรมเจ้าหน้าท่แี ละผูบ้ ังคบั บัญชายวุ กาชาด 3
หลักสูตรครผู สู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
3. พิธีเปิด - พิธีปิดกิจกรรมยวุ กาชาด (เวลา 1:30 ชั่วโมง)
จดุ ประสงค์
1. อธิบายขนั้ ตอนพิธีเปดิ - พิธีปดิ กจิ กรรมยวุ กาชาดได้
2. ปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนพิธเี ปิด - พธิ ปี ดิ กิจกรรมยวุ กาชาดได้
หัวขอ้ เนือ้ หา
1. พิธีเปิดกิจกรรมยวุ กาชาด
2. พธิ ีปดิ กิจกรรมยวุ กาชาด
4. ขอ้ บงั คบั และระเบียบปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ยุวกาชาด (เวลา 1:30 ช่วั โมง)
จดุ ประสงค์
1. มีความรู้ตามข้อบังคับสภากาชาดไทย หมวดที่ 9 ว่าด้วยยุวกาชาด และระเบียบ
คณะกรรมการบรหิ ารยุวกาชาด ว่าด้วยการปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกับยวุ กาชาด
2. ปฏิบัติตามข้อบังคับสภากาชาดไทย หมวดที่ 9 ว่าด้วยยุวกาชาด และระเบียบ
คณะกรรมการบริหารยุวกาชาด ว่าด้วยการปฏบิ ัติเก่ียวกบั ยวุ กาชาด
หวั ขอ้ เน้ือหา
1. คุณสมบตั ิของสมาชกิ ยุวกาชาด
2. การจดั ต้งั หมู่ยวุ กาชาดในสถานศึกษา
3. การปกครองยุวกาชาดในสถานศกึ ษา
4. การจ�ำ หนา่ ยชอื่ สมาชกิ
5. การท�ำ ความเคารพ
6. คณะกรรมการยวุ กาชาดสถานศึกษา และอ�ำ นาจหนา้ ที่
7. เครอื่ งแบบยวุ กาชาด
8. การประดบั เครือ่ งหมาย
9. การเงนิ
10. แบบพมิ พ์
4 คมู่ อื การฝกึ อบรมเจา้ หน้าทแี่ ละผู้บงั คบั บัญชายุวกาชาด
หลกั สูตรครูผสู้ อนกิจกรรมยวุ กาชาด
5. หลกั สตู รและแนวการจัดกิจกรรมยุวกาชาด (เวลา 1:30 ชั่วโมง)
จุดประสงค์
1. อธบิ ายหลักสตู รและแนวการจดั กิจกรรมยวุ กาชาดได้
2. สามารถก�ำ หนดแนวการจดั กิจกรรมยวุ กาชาดได้
หวั ข้อเนือ้ หา
หลกั สตู รกจิ กรรมยวุ กาชาด ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
1. วสิ ัยทศั น์
2. หลักการ
3. จุดหมาย
4. สมรรถนะสำ�คญั ของสมาชกิ ยวุ กาชาด
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
6. โครงสรา้ งเวลาการจัดกจิ กรรมยุวกาชาด
7. สาระกิจกรรมและการจัดกิจกรรมยุวกาชาด
8. แนวการจดั กจิ กรรมยวุ กาชาด
6. เพลงยวุ กาชาด (เวลา 1:30 ชั่วโมง)
จุดประสงค์
1. บอกประเภทของเพลงยวุ กาชาดได้
2. รอ้ งเพลงยุวกาชาดได้
หัวข้อเนื้อหา
1. ความหมายและประเภทของเพลง
2. เพลงท่ใี ช้ในกิจกรรมยวุ กาชาด
3. วิธีการขับรอ้ งเพลง
7. การจัดคา่ ยยวุ กาชาด (เวลา 1 ชัว่ โมง)
จุดประสงค์
1. บอกความหมาย ความมุ่งหมาย และประเภทของการจดั ค่ายยวุ กาชาดได้
2. อธิบายการจัดกจิ กรรมในคา่ ยยุวกาชาดได้
คู่มอื การฝึกอบรมเจา้ หนา้ ทแี่ ละผบู้ งั คับบญั ชายวุ กาชาด 5
หลักสตู รครผู ู้สอนกิจกรรมยวุ กาชาด
หัวข้อเนอื้ หา
1. ความหมายของคา่ ยยุวกาชาด
2. ความมงุ่ หมายของการจัดค่ายยุวกาชาด
3. ประเภทของการจดั ค่ายยุวกาชาด
4. การเตรยี มงาน
5. การจดั กิจกรรม
6. พิธีเปดิ - พธิ ปี ิดคา่ ยยวุ กาชาด
8. การเล่นเกม (เวลา 1 ชัว่ โมง)
จดุ ประสงค์
1. บอกความหมายและประเภทของเกมได้
2. อธบิ ายวิธกี ารเลน่ เกมได้
3. เลือกเกมเพื่อใชใ้ นการจัดกิจกรรมได้เหมาะสม
หัวข้อเนือ้ หา
1. ความหมายของเกม
2. ประเภทของเกม
3. การเลอื กเกม
4. การจดั อุปกรณแ์ ละเคร่อื งอำ�นวยความสะดวกในการน�ำ เกม
5. วธิ ีการเล่นเกม
6. ขอ้ ควรคำ�นึงในการเลน่ เกม
7. ความปลอดภัยในการเลน่ เกม
8. ลกั ษณะของผู้น�ำ เกมทด่ี ี
9. การแสดงรอบกองไฟ (เวลา 1 ชั่วโมง)
จดุ ประสงค์
1. บอกความมุ่งหมายและความเป็นมาของการแสดงรอบกองไฟได้
2. อธบิ ายการเตรยี มการและข้นั ตอนการแสดงรอบกองไฟได้
3. ระบุแนวปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับการแสดงรอบกองไฟได้
6 คูม่ ือการฝกึ อบรมเจา้ หน้าทแ่ี ละผู้บังคับบญั ชายุวกาชาด
หลักสตู รครผู สู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
หัวขอ้ เนือ้ หา
1. ความมุ่งหมายและความเป็นมาของการแสดงรอบกองไฟ
2. การเตรยี มการแสดงรอบกองไฟ
3. ขน้ั ตอนการแสดงรอบกองไฟ
4. แนวปฏิบัติในการแสดงรอบกองไฟ
10. พิธีเข้าประจำ�หมยู่ วุ กาชาด (เวลา 1 ชัว่ โมง)
จุดประสงค์
1. บอกจดุ มุ่งหมายของพธิ ีเขา้ ประจำ�หมู่ยุวกาชาดได้
2. อธิบายขั้นตอนพิธเี ขา้ ประจ�ำ หม่ยู ุวกาชาดได้
หวั ขอ้ เนื้อหา
1. จุดม่งุ หมายของการจดั พธิ ีเข้าประจ�ำ หมู่ยุวกาชาด
2. โอกาสในการจดั พธิ เี ขา้ ประจ�ำ หมู่ยวุ กาชาด
3. การดำ�เนนิ การจัดพิธเี ขา้ ประจำ�หม่ยู วุ กาชาด
11. พิธีการยวุ กาชาด (เวลา 2 ชว่ั โมง)
จุดประสงค์
1. ปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนพิธีเปิดการอย่คู ่ายพกั แรมยวุ กาชาดได้
2. ปฏิบตั ิตามขัน้ ตอนการตรวจเยยี่ มได้
3. ปฏบิ ัตติ ามขั้นตอนพธิ หี น้าเสาธงได้
4. ปฏิบตั ิตามขัน้ ตอนพธิ ปี ิดการอย่คู ่ายพกั แรมยวุ กาชาดได้
หัวขอ้ เนอ้ื หา
1. พิธเี ปดิ การอย่คู า่ ยพักแรมยวุ กาชาด
2. การตรวจเยย่ี ม
3. พธิ หี นา้ เสาธง
4. พธิ ีปดิ การอยูค่ า่ ยพกั แรมยุวกาชาด
คูม่ อื การฝึกอบรมเจ้าหนา้ ที่และผู้บงั คบั บัญชายุวกาชาด 7
หลกั สตู รครผู ู้สอนกิจกรรมยวุ กาชาด
8
คมู่ ือการฝกึ อบรมเจ้าหนา้ ทีแ่ ละผู้บังคบั บัญชายวุ กาชาด ตารางฝึกอบรมเจา้ หน้าทแ่ี ละผบู้ งั คบั บญั ชายุวกาชาด หลักสูตรครผู ู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด
หลกั สูตรครผู สู้ อนกิจกรรมยุวกาชาด วันท่ี เวลา 09.00 - 10.00 น. 10.15 - 11.15 น. 11.15 - 12.15 น. 12.15 - 13.00 น. 13.30 - 14.30 น. 14.30 - 15.30 น. 15.45 - 16.45 น.
1 พธิ ีเปดิ / ระเบยี บแถว พิธเี ปิด - พิธีปดิ ข้อบังคบั และระเบยี บ
ปฐมนเิ ทศ ทดสอบ กาชาดและยุวกาชาด และสัญญาณ กิจกรรมยวุ กาชาด ปฏบิ ตั ิเก่ยี วกับยวุ กาชาด
รับประทานอาหารกลางวนั
ขน้ั ตน้
2 หลักสตู รและแนวการจัด เพลงยุวกาชาด การจดั ค่ายยวุ กาชาด การเลน่ เกม การแสดงรอบกองไฟ
กจิ กรรมยุวกาชาด
3 พิธีการยุวกาชาด ทดสอบข้นั ปลาย/
พธิ เี ข้าประจ�ำ หมู่ 1. พธิ ีเปดิ - พธิ ปี ิดค่ายยวุ กาชาด ประเมินผล/ พธิ ปี ิด
ยุวกาชาด 2. พิธหี นา้ เสาธง อภิปรายซกั ถาม
3. การตรวจเยี่ยม
หมายเหต ุ : 1. 07.30 - 08.00 น. รายงานตัว
2. 08.00 - 09.00 น. ปฐมนเิ ทศ
3. ทดสอบข้นั ต้นก่อนพธิ ีเปิดการฝกึ อบรม และทดสอบข้นั ปลายกอ่ นพธิ ปี ดิ การฝกึ อบรม
4. ใหม้ พี ักยอ่ ย เช้า - บา่ ย ชว่ งละ 15 นาที
5. อาจจัดใหม้ กี ิจกรรมนนั ทนาการก่อนการฝึกอบรมภาคบา่ ย
6. ตารางนอ้ี าจเปลย่ี นแปลงได้ตามความเหมาะสม
กาชาดและยวุ กาชาด เวลา 1:00 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์
1. บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของกาชาดสากลได้
2. บอกประวตั ิความเปน็ มาของกาชาดไทยได้
3. บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของยุวกาชาดได้
4. บอกบทบาทและภารกิจของกาชาดและยุวกาชาดได้
หัวข้อเนือ้ หา
1. กาชาดสากล
2. กาชาดไทย
3. ยุวกาชาดไทย
เนื้อหา
1. กาชาดสากล
1.1 ประวตั กิ าชาดสากล
อังรี ดูนงั ต์ (Henry Dunant) หรือ อองรี ดนู องต์
เป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ เกิดเม่ือวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2371
ณ กรุงเจนีวา ได้พบเห็นการสู้รบระหว่างประเทศออสเตรียกับประเทศ
อิตาลี/ฝร่ังเศส มีทหารตายและบาดเจ็บเป็นจำ�นวนมาก โดยปราศจาก
การรักษาพยาบาล อังรี ดูนังต์ จึงได้เข้าช่วยเหลือโดยการรวบรวม
ชาวบา้ นในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง เขา้ ชว่ ยเหลอื ผบู้ าดเจบ็ เหลา่ นน้ั โดยไมเ่ ลอื กวา่
จะเปน็ ฝา่ ยใด บนหลกั การวา่ “เราทกุ คนเป็นพ่นี อ้ งกนั ” (We are all
brothers)
คู่มอื การฝกึ อบรมเจา้ หน้าท่ีและผู้บงั คับบัญชายวุ กาชาด 9
หลักสูตรครูผูส้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
อังรี ดูนังต์ ได้นำ�แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ดังกล่าวนำ�มาเขียนหนังสือเรื่อง
“ความทรงจ�ำ แหง่ ซอลเฟรโิ น” (A Memory of Solferino) โดยใหข้ อ้ คดิ ไวว้ า่ “จะเปน็ ไปไดห้ รอื ไม่
ทจี่ ะตงั้ องคก์ ารอาสาสมคั ร ซงึ่ มวี ตั ถปุ ระสงคท์ จ่ี ะชว่ ยเหลอื ดแู ลทหารบาดเจบ็ ในสงคราม” นอกจากนี้
ได้เสนอแนะว่า ควรมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ และเครื่องมือในการพยาบาลให้พร้อมในยามสงบ
เพราะเมื่อเกิดสงครามข้ึน จะได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทุกฝ่ายได้ทันท่วงที และขอให้ทุกฝ่ายไม่ทำ�ร้าย
คนท่ีช่วยบรรเทาทุกข์เหล่าน้ี จากจุดนี้เองจึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือกับกลุ่มบุคคลที่มีแนวคิด
เดยี วกนั เม่อื วนั ท่ี 17 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2406 และมีมติใหต้ งั้ ชอื่ ว่า “คณะกรรมการระหวา่ งประเทศ
เพ่ือการบรรเทาทุกข์ทหารบาดเจ็บ” กาชาดสากลจึงได้เร่ิมก่อกำ�เนิดข้ึนมาต้ังแต่นั้นเป็นต้นมา
โดยในปี พ.ศ. 2423 ได้เปลีย่ นชอ่ื เป็น “คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ” และเพอื่ ให้เกียรติ
กบั องั รี ดนู ังต์ ซ่ึงถอื ว่าเป็นบคุ คลทใ่ี ห้กำ�เนดิ กาชาดสากล จงึ ก�ำ หนดให้วันที่ 8 พฤษภาคมของทกุ ปี
เป็นวนั กาชาดโลก และใหส้ ภากาชาดทุกประเทศจดั กจิ กรรมตา่ ง ๆ ขนึ้ มา ปัจจุบนั กลุ่มองคก์ รกาชาด
ประกอบดว้ ย 3 องค์กร คอื
1) คณะกรรมการกาชาดระหวา่ งประเทศ (International Committee of
the Red Cross หรือ ICRC) มีหน้าที่ในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดการขัดแย้งทางทหาร
เกดิ สงครามกลางเมืองหรือสงครามระหว่างประเทศ และธ�ำ รงรกั ษาหลักการกาชาด
2) สหพนั ธส์ ภากาชาดและสภาเสย้ี ววงเดอื นแดงระหวา่ งประเทศ (International
Federation of The Red Cross and Red Crescent Societies หรือ IFRC) หนา้ ท่ีตดิ ตอ่
ประสานงานกับสภากาชาดของแต่ละประเทศ เพ่ือช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยท่ัวโลก
พฒั นาสขุ ภาพของประชาชน จดั ตงั้ และพฒั นาสภากาชาดของประเทศตา่ ง ๆ โดยปฏบิ ตั งิ านตามหลกั การ
กาชาดและอนสุ ัญญาเจนวี า
3) สภากาชาดหรือสภาเส้ียววงเดือนแดงประจำ�ประเทศ (National Red
Cross/Red Crescent Societies) มหี นา้ ท่ฝี ึกอบรมบคุ ลากรเพือ่ ชว่ ยเหลอื บรรเทาทุกข์ เชน่ แพทย์
พยาบาล อาสาสมคั ร ในการปฏบิ ัติงานตามโครงการต่าง ๆ ของสภากาชาดแตล่ ะประเทศ ด�ำ เนนิ การ
บรรเทาทุกขเ์ มือ่ เกดิ ภยั พิบัติ และฝกึ อบรมเยาวชนใหร้ ูจ้ กั บ�ำ เพ็ญประโยชนต์ อ่ สังคม
10 ค่มู ือการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผูบ้ งั คบั บญั ชายวุ กาชาด
หลกั สตู รครผู สู้ อนกจิ กรรมยวุ กาชาด
1.2 หลักการกาชาด (Red Cross Principles)
จากมติของการประชุมกาชาดระหว่างประเทศ ครั้งท่ี 26 ณ กรุงเวียนนา
ประเทศออสเตรียเม่ือปี พ.ศ. 2508 ได้กำ�หนดหลักการกาชาดเพ่ือใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน
ของสภากาชาดทั่วโลกดงั น้ี
1) มนษุ ยธรรม (Humanity)
กาชาดเกิดจากการที่จะนำ�ความช่วยเหลือ
โดยไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั มิ าสผู่ บู้ าดเจบ็ ในสนามรบ เพอ่ื ปอ้ งกนั และบรรเทาทกุ ข์
ทรมานของมนุษย์ไม่ว่าจะพบท่ใี ด ความม่งุ หมายของการกาชาด
ไดแ้ ก่ การคมุ้ ครองชวี ติ และสขุ ภาพการประกนั ความนบั ถอื ตอ่ มนษุ ยชน
สง่ เสรมิ ความเขา้ ใจ มติ รภาพ ความรว่ มมอื ระหวา่ งกนั และสนั ตภิ าพ
ย่งั ยนื ระหวา่ งประชากรทวั่ โลก
2) ความไมล่ ำ�เอยี ง (Impartiality)
การปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมโดย
ไมล่ �ำ เอยี งนน้ั จะตอ้ งไมม่ อี คตสิ ว่ นตวั ใด ๆ ทง้ั สน้ิ กาชาดไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ
เร่ืองสัญชาติ ศาสนา ชนชั้น วรรณะ หรอื ความคิดเหน็ การเมือง
และพยายามอย่างยิ่งท่ีจะบรรเทาทุกข์ทรมาน โดยให้การปฏิบัติ
ลำ�ดบั แรกต่อกรณคี วามทกุ ขย์ ากที่เรง่ ดว่ นทีส่ ุด
3) ความเปน็ กลาง (Neutrality)
เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย
กาชาดจึงไม่เข้ากับฝ่ายหน่ึงฝ่ายใดในการสู้รบ หรือที่เก่ียวข้อง
ไม่ว่าในเวลาใด ความขัดแย้งทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา
หรือลัทธนิ ิยม รวมทัง้ ขอ้ พิพาทของฝา่ ยตา่ ง ๆ
4) ความเป็นอิสระ (Independence)
กาชาดเป็นอิสระ สภากาชาดประจำ�
ประเทศตา่ ง ๆ จะชว่ ยเหลอื สนบั สนนุ การใหบ้ รกิ ารดา้ นมนษุ ยธรรม
แก่รัฐบาลของตน และอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศ แต่จะต้อง
ธ�ำ รงความเปน็ อสิ ระอยเู่ สมอไป เพอ่ื ทจ่ี ะสามารถปฏบิ ตั ติ ามหลกั การ
กาชาดได้ทกุ เวลา และคงไวซ้ ่งึ ความเช่ือมัน่ ของทุกฝา่ ย
ค่มู ือการฝึกอบรมเจ้าหนา้ ทแ่ี ละผ้บู งั คบั บญั ชายวุ กาชาด 11
หลักสตู รครูผสู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
5) บรกิ ารอาสาสมคั ร (Voluntary Service)
กาชาดเป็นองค์การอาสาสมัครในการ
บรรเทาทกุ ข์ โดยมิไดม้ ่งุ หวังผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ
6) ความเปน็ เอกภาพ (Unity)
ประเทศหนึ่งจะมีสภากาชาด หรือ
สภาเส้ียววงเดือนแดง หรือสภาคริสตัลแดงประจำ�ประเทศ
ได้เพียงหน่ึงเดียวเท่านั้น ซ่ึงจะต้องเปิดกว้างให้แก่ทุกฝ่าย
แ ล ะ ต้ อ ง ป ฏิ บั ติ ง า น ด้ า น ม นุ ษ ย ธ ร ร ม ต ล อ ด ทั่ ว อ า ณ า เ ข ต
ของประเทศนนั้
7) ความเป็นสากล (Universality)
กาชาดเป็นสถาบันสากล สภากาชาด
ทกุ ประเทศ มีฐานะเทา่ เทยี มกัน มคี วามรบั ผิดชอบ และมหี นา้ ท่ี
ช่วยเหลอื ซง่ึ กันและกนั
1.3 อนุสญั ญาเจนวี า (Geneva Convention)
อนุสัญญาเจนีวาเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศท่ีมีสาระสำ�คัญในเรื่องกฎเกณฑ์
ทจี่ ำ�กัดวธิ กี ารอันทารณุ ในการทำ�สงคราม อนุสัญญานี้จะปกปอ้ งคุม้ ครองเหล่าผูท้ ี่มิได้มสี ่วนเก่ยี วขอ้ ง
ในการสูร้ บ เชน่ พลเรอื น บุคลากรทางการแพทย์ และกลมุ่ ผู้ทำ�งานเพื่อการช่วยเหลือต่าง ๆ รวมทัง้
ผู้ท่ีไม่สามารถร่วมการสู้รบได้อีกต่อไป เช่น ทหารที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วย ทหารเรืออัปปาง และ
เชลยสงคราม
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เป็นผู้ริเริ่มและดำ�เนินการให้มีอนุสัญญา
เจนวี า เพอื่ ใหค้ วามคมุ้ ครองเจา้ หนา้ ทที่ างทหารผไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ อนสุ ญั ญาเจนวี าน้ี มหี ลกั การส�ำ คญั คอื
การใหค้ วามคมุ้ ครองชว่ ยเหลอื โดยไมห่ วงั ผลประโยชนใ์ ด ๆ จากผปู้ ระสบภยั สงคราม ไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ
ไม่ว่ากรณใี ด
12 คมู่ ือการฝกึ อบรมเจ้าหนา้ ทแ่ี ละผบู้ ังคบั บญั ชายุวกาชาด
หลักสูตรครผู ู้สอนกิจกรรมยวุ กาชาด
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง อนุสัญญาน้ีได้ช่วยคุ้มครองเชลยศึกนับล้าน
เม่อื สงครามโลกคร้งั นั้นได้ยตุ ิลงเมื่อปี พ.ศ. 2488 คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศได้เสนอให้มี
การพัฒนาและปรับปรุงส่วนท่ีเก่ียวกับมนุษยธรรมของกฎหมายระหว่างประเทศจากประสบการณ์
ทไี่ ดร้ บั จากสงครามโลกครง้ั ทส่ี องนน้ั ขอ้ เสนอนไ้ี ดร้ บั ความเหน็ ชอบจากรฐั บาลและสภากาชาดประเทศ
ต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 2492 ไดม้ กี ารประชุมผแู้ ทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ มีการอภปิ ราย
ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 4 เดือน ที่ประชุมมีมติจัดทำ�อนุสัญญาเจนีวาขึ้น 4 ฉบับ โดยมีหลักการ
มูลฐานสำ�คัญ 3 ประการ คือ มนุษยธรรม ความเสมอภาค และความไม่ลำ�เอียง อนุสัญญาเจนีวา
ทงั้ 4 ฉบับ ไดแ้ ก่
อนุสญั ญาฉบบั ท่ี 1 ว่าดว้ ยทหารบาดเจบ็ และปว่ ยในสนามรบ
อนสุ ญั ญาฉบบั ท่ี 2 วา่ ดว้ ยทหารบาดเจบ็ เจบ็ ปว่ ยขณะอยใู่ นทะเล หรอื เรอื อบั ปาง
อนุสญั ญาฉบบั ท่ี 3 ว่าดว้ ยการปฏิบัติตอ่ เชลยศึก
อนสุ ัญญาฉบับท่ี 4 วา่ ดว้ ยการคุ้มครองบุคคลพลเรอื นในยามสงคราม
ในปี พ.ศ. 2520 ณ กรงุ เจนีวา ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ ไดม้ มี ตเิ พม่ิ ขอ้ กฎหมาย
ท่ีเรียกว่า พิธีสารเพิ่มเติม (The Addition Protocols) เพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือประชาชน
ให้มคี วามปลอดภัยมากยงิ่ ขน้ึ ดงั น้ี
ข้อที่ 1 การคุ้มครองพลเรือนซึ่งได้รับผลกระทบจากการขัดแย้งทางกำ�ลังทหาร
ระหวา่ งประเทศครอบคลมุ ถงึ ทรพั ยส์ นิ ของพลเรอื น อปุ กรณร์ กั ษาพยาบาล แพทย์ พยาบาล เจา้ หนา้ ท่ี
บรรเทาทุกขแ์ ละกำ�หนดวธิ ีการใชอ้ าวุธในการท�ำ สงคราม
ข้อท่ี 2 การคุ้มครองพลเรือนซึ่งได้รับผลกระทบจากการขัดแย้งที่มิใช่ระหว่าง
ประเทศ เช่น สงครามกลางเมอื ง การขดั แย้งระหว่างฝ่ายรฐั บาลและฝา่ ยกบฏ
คู่มือการฝึกอบรมเจา้ หนา้ ทแ่ี ละผู้บงั คบั บญั ชายวุ กาชาด 13
หลักสตู รครผู ูส้ อนกจิ กรรมยวุ กาชาด
1.4 สญั ลักษณ์กาชาด
สัญลักษณก์ าชาด มี 3 แบบ คอื
1.4.1 กากบาทแดงบนพื้นขาว (Red Cross)
เปน็ สัญลกั ษณก์ าชาดท่ีสภากาชาด
หลายประเทศท่ัวโลกใช้ในปัจจุบนั
1.4.2 เสย้ี ววงเดอื นแดงบนพน้ื ขาว (Red Crescent)
เป็นสัญลักษณ์ของกาชาดที่ใช้ในกลุ่มประเทศ
อาหรับ และประเทศทน่ี บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม
1.4.3 ครสิ ตลั แดงบนพนื้ ขาว (Red Crystal) *
เปน็ สญั ลกั ษณท์ ไ่ี ดร้ บั การรบั รองเปน็ สญั ลกั ษณใ์ หม่
เมอื่ วนั ที่ 8 ธนั วาคม พ.ศ. 2548 ซง่ึ เปน็ ขอ้ เสนอวา่
เปน็ สัญลักษณท์ ี่เปน็ กลาง ปราศจากอิทธพิ ล
ของศาสนา
* ที่มาของตราคริสตันแดง เร่ิมจากองค์กรมาเกน เดวิด อะดอม หรือ
องคก์ รดาวแดงแหง่ เดวดิ ซงึ่ เปน็ องคก์ รชว่ ยเหลอื ทางดา้ นมนษุ ยธรรมของอสิ ราเอล และอกี หลายประเทศสมาชกิ เสนอ
ตอ่ ท่ปี ระชุมใหม้ ีการใชส้ ัญลักษณท์ ี่เป็นกลางปราศจากอิทธิพลของศาสนา มาเป็นสญั ลักษณป์ ระจำ�องคก์ ร
ในท่ีสุดที่ประชุมของสมาชิกข้อตกลงเจนีวา 192 ประเทศ ได้ลงคะแนนเสียงรับรองสัญลักษณ์ใหม่
ในวนั ท่ี 8 ธนั วาคม ค.ศ. 2005 ด้วยคะแนนเสยี งเหน็ ดว้ ย 98 เสยี ง ไม่เห็นด้วย 27 เสยี ง งดออกเสยี ง 10 เสยี ง
รวมถึงองค์กรด้านมนุษยธรรมของแต่ละประเทศงดออกเสยี งอกี 57 องคก์ ร ทัง้ นี้ประเทศท่ไี มเ่ หน็ ดว้ ยส่วนใหญน่ ้นั
เปน็ ประเทศอาหรับ ประเทศท่นี บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม รวมทั้งประเทศทป่ี กครองในระบอบคอมมิวนิสต์
14 คมู่ อื การฝึกอบรมเจา้ หน้าท่แี ละผ้บู งั คบั บัญชายุวกาชาด
หลกั สูตรครผู ู้สอนกจิ กรรมยุวกาชาด
การใช้สัญลักษณ์กาชาด
1. ใชเ้ พอ่ื การคมุ้ ครอง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีกรณีพิพาทกัน สัญลักษณ์กาชาดเป็นเคร่ืองหมายแสดง
การคมุ้ ครองท่มี องเหน็ ได้ ซึ่งรบั รองโดยอนสุ ัญญาเจนวี า เคร่ืองหมายกาชาดจะแสดงให้ผทู้ �ำการส้รู บ
ทราบว่าบุคคล (อาสาสมัครสภากาชาดประจ�ำชาติ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้แทนคณะกรรมการ
กาชาดระหวา่ งประเทศ และอื่น ๆ) หน่วยแพทย์ (โรงพยาบาล สถานีปฐมพยาบาล ฯลฯ) และพาหนะ
ขนส่ง (ทางบก ทางน้�ำ หรือทางอากาศ) ได้รับการคมุ้ ครองโดยอนุสญั ญาเจนีวา และพิธีสารเพ่มิ เตมิ
เม่ือใช้เครื่องหมายกาชาดเพื่อเป็นเคร่ืองมือส�ำหรับการคุ้มครอง จะต้องกระตุ้นให้ผู้ท�ำการสู้รบ
เกดิ ความรสู้ กึ ตอบสนอง กลา่ วคอื มคี วามยบั ยง้ั และความเคารพ ในกรณนี ี้ การใชเ้ ครอ่ื งหมายกาชาด
เพ่ือการคมุ้ ครอง จงึ ตอ้ งมีขนาดใหญ่ เพ่อื ให้เหน็ ได้ในระยะไกลทงั้ บนพืน้ ราบ และบนที่สูง
ผมู้ ีสิทธใิ์ ช้สญั ลกั ษณ์กาชาดเพ่อื การคมุ้ ครอง
1) หน่วยบริการทางการแพทย์ของกองทัพ
2) สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงประจำ�ชาติ ที่ได้รับการยอมรับ
และไดร้ บั การอนญุ าตจากรฐั บาลของตนใหท้ �ำ หนา้ ทชี่ ว่ ยเหลอื หนว่ ยบรกิ ารทางการแพทยข์ องกองทพั
3) หนว่ ยแพทยพ์ ลเรือนทงั้ หมด เชน่ โรงพยาบาล สถานีปฐมพยาบาล ฯลฯ
4) สมาคมบรรเทาทุกข์อาสาสมัครอ่ืน ๆ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกับ
สภากาชาดประจำ�ชาติ และต้องได้รับการยอมรับและอนุญาตจากรัฐบาล แต่ใช้เฉพาะกับบุคลากร
และอปุ กรณท์ างการแพทยท์ ี่จดั มาให้การช่วยเหลอื หน่วยบริการทางการแพทย์ของกองทัพ และให้อยู่
ภายใต้กฎหมาย และกฎระเบยี บของทหารดว้ ย
2. ใช้เพอ่ื การบง่ ช้ถี ึงการเป็นสมาชกิ ของขบวนการกาชาด
การใช้เคร่ืองหมายเพ่ือบ่งช้ีเป็นการใช้ในยามสงบ เพื่อแสดงให้เห็นว่าบุคคล
หรอื วัตถนุ ้ัน มีความเกย่ี วพันกบั ขบวนการกาชาด และเสีย้ ววงเดอื นแดงระหว่างประเทศ ไมว่ ่าจะเป็น
สภากาชาด และสภาเสยี้ ววงเดอื นแดงประจ�ำ ชาติ สหพนั ธส์ ภากาชาดและสภาเสย้ี ววงเดอื นแดงระหวา่ ง
ประเทศ หรอื คณะกรรมการกาชาดระหวา่ งประเทศ ในกรณนี ้ี การใชเ้ ครอ่ื งหมายกาชาดเพอ่ื การบง่ ช้ี
จะมขี นาดเลก็ กว่าการใชเ้ พอ่ื การคุ้มครอง
คู่มือการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผบู้ งั คบั บญั ชายวุ กาชาด 15
หลักสูตรครผู ้สู อนกจิ กรรมยุวกาชาด
ผู้มีสทิ ธ์ิใชส้ ัญลกั ษณ์กาชาดเพ่อื การบ่งชี้
1) สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงประจำ�ประเทศต่าง ๆ สามารถ
ดำ�เนินกิจกรรมภายใต้สัญลักษณ์กาชาด โดยมีเง่ือนไขว่ากิจกรรมเหล่านั้นต้องสอดคล้องกับหลักการ
กาชาด และเป็นการให้ความช่วยเหลือโดยอาสาสมัคร และไม่เลือกปฏิบัติกับผู้ประสบความทุกข์
ทงั้ มวล สภากาชาดประจ�ำ ชาติ สามารถใชส้ ญั ลกั ษณเ์ พอื่ สนบั สนนุ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของสภากาชาดของตน
หรือกิจกรรมหารายได้ และการใช้สัญลักษณ์กาชาดท่ีใช้เพ่ือบ่งช้ีไม่จำ�เป็นต้องติดปลอกแขน หรือ
ติดสัญลักษณ์บนหลงั คาอาคาร
2) รถพยาบาลและสถานีปฐมพยาบาล ซึง่ ด�ำ เนนิ การโดยบคุ คลที่ 3 สามารถ
แสดงสัญลักษณ์กาชาดเพื่อเป็นการบ่งช้ีได้ แต่ต้องเฉพาะในยามสงบเท่านั้น โดยมีเง่ือนไขว่าต้องใช้
กฎหมายของประเทศและโดยไดร้ บั อนญุ าตจากสภากาชาดประจ�ำ ชาติ รวมทง้ั ใชไ้ ดก้ บั สถานบี รรเทาทกุ ข์
ทเี่ กดิ ขนึ้ เป็นการเฉพาะ เพ่อื ใหก้ ารรักษาพยาบาลโดยไม่คิดมูลคา่
การใช้สญั ลกั ษณ์ในทางทีผ่ ดิ
ทุกประเทศท่ีเปนภาคีของอนุสัญญาเจนีวา มีพันธกรณีท่ีจะตองกําหนด
มาตรการปองกัน และปราบปรามการใชเคร่ืองหมายกาชาดในทางท่ีผิดในทุกโอกาส และโดยเฉพาะ
จะตอ งออกกฎหมายคมุ ครอง เครอื่ งหมายกาชาดและเสยี้ ววงเดอื นแดง “การใชเ ครอื่ งหมายกาชาดใด ๆ
ซ่ึงมิไดอนุญาตไวในอนุสัญญาเจนีวา และพิธีสารเพ่ิมเติม ถือวาเปนการใช้สัญลักษณ์กาชาด
ในทางทผี่ ิดทง้ั สน้ิ เชน
1. ใชเลียนแบบ การใช้สัญลักษณ์ที่ก่อให้เกิดความสับสน เช่น มีสีหรือรูปแบบ
ทค่ี ลา้ ยกนั
2. ใชผ ดิ อยางรายแรง (เพือ่ การหลอกลวง) คือ การใชส้ ญั ลักษณก าชาด หรือ
เสย้ี ววงเดอื นแดงในยามสงคราม เพื่อคุมครองทหารท่ีตดิ อาวธุ หรืออปุ กรณท์ างทหาร เชน การนํารถ
พยาบาล หรือเครื่องบินที่ติดเคร่ืองหมายกาชาดไปใชขนสงทหารท่ีมีอาวุธ หรือคลังอาวุธท่ีพราง
ดว ยธงกาชาด ถือเปน อาชญากรรมสงคราม
16 คูม่ ือการฝกึ อบรมเจ้าหน้าทแ่ี ละผูบ้ ังคบั บญั ชายวุ กาชาด
หลักสูตรครผู สู้ อนกิจกรรมยุวกาชาด
2. กาชาดไทย
สภากาชาดไทยเป็นสภาการกุศลอาสา
สงเคราะห์ ต้ังขึ้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาดไทย
พ.ศ. 2461 มีวัตถุประสงค์ในการช่วยรักษาพยาบาล
ผู้ป่วยไข้และบาดเจ็บในเวลาสงคราม และในยามสงบ
รวมท้ังการบรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์สาธารณภัยพินาศ
โดยไม่เลือกชาติ ชั้น ลัทธิ ศาสนา หรืออุดมคติในทาง
การเมอื งของผปู้ ระสบภยั กลา่ วคอื ยดึ หลกั มนษุ ยธรรมเปน็ ทตี่ งั้
ซ่ึงมปี ระวัตคิ วามเปน็ มา และภารกจิ ดังนี้
2.1 ประวัติสภากาชาดไทย
ในปี พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) เกิดกรณี
พพิ าทระหวา่ งไทยกบั ฝรง่ั เศสเรอ่ื งเขตแดนทฝ่ี ง่ั แมน่ ำ�้ โขง มกี าร
สรู้ บกนั ขนึ้ ดว้ ยความหว่ งใยทหารทบี่ าดเจบ็ สตรไี ทยชนั้ สงู ในสมยั นนั้ โดยทา่ นผหู้ ญงิ เปลยี่ น ภาสกรวงษ์
เปน็ หวั หนา้ มแี นวความคดิ วา่ ควรจะมอี งคก์ รขนึ้ สกั องคก์ รหนง่ึ เพอ่ื ชว่ ย
บรรเทาทุกข์ยากของทหารคล้ายกับสภากาชาดของต่างประเทศ จึงได้
นำ�ความกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาพระบรมราชเทวี
(สมเด็จพระศรีสวรนิ ทราบรมราชเทวี พระพันวสั สาอยั ยิกาเจ้า)
ขอให้ทรงเปน็ “ชนนีผูบ้ ำ�รงุ ” ในการจดั ตั้งองคก์ ารน้ี
เมอื่ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดท้ รงทราบ
ก็พอพระราชหฤทัยในความคิดนี้ เพราะเป็นการกุศล เข้าแบบอย่าง
ของประเทศที่เจริญรุ่งเรืองแล้ว เม่ือเร่ียไรได้เงินทุนพอสมควรจึง
พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ตั้งสมาคมการกุศลโดยมีนามว่า
“สภาอณุ าโลมแดง” ขนึ้ เมอ่ื วนั ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2436 และนอกจากจะไดร้ บั พระราชทานใหอ้ ยใู่ น
พระบรมราชูปถัมภ์แล้ว สภาอุณาโลมแดงยังมีเจ้านายฝ่ายในช้ันสูง และสตรีผู้มีเกียรติ
ทรงดำ�รงตำ�แหน่งท่ีสำ�คัญ อาทิ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาบรมราชเทวี ทรงเป็น “สภาชนนี”
พระนางเจ้าเสาวภาผอ่ งศรี พระวรราชเทวี (สมเดจ็ พระศรีพัชรินทราบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง) ทรงเป็นสภานายิกาพระองค์แรก และท่านผู้หญิงเปล่ียน ภาสกรวงษ์ เป็นเลขานุการิณี
จึงถือใหว้ ันที่ 26 เมษายนของทกุ ปี เปน็ วันคล้ายวันสถาปนาสภากาชาดไทย
คมู่ อื การฝกึ อบรมเจา้ หน้าทแี่ ละผูบ้ ังคับบัญชายุวกาชาด 17
หลกั สตู รครผู ู้สอนกิจกรรมยวุ กาชาด
ในปี พ.ศ. 2449 พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระบรม
ราชานญุ าตใหพ้ ระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จรญู ศกั ดก์ิ ฤษดากร เปน็ ผแู้ ทนไปรว่ มประชมุ กาชาดระหวา่ ง
ประเทศ ณ กรงุ เจนวี า ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ ถอื ไดว้ า่ เปน็ ครงั้ แรกทป่ี ระเทศสยามเขา้ รว่ มประชมุ กบั
กาชาดสากล และเปน็ การประชมุ ครงั้ ส�ำ คญั กลา่ วคอื ไดม้ กี ารลงนามความตกลงในการใชเ้ ครอ่ื งหมาย
กาชาด เพื่อการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในสนามรบ ดังน้ัน ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 คำ�ว่า “กาชาด”
ได้เร่ิมนำ�มาใช้ในประเทศสยามแทน “สภาอุณาโลมแดงแห่งชาติสยาม” โดยใช้ช่ือใหม่ว่า
“สภากาชาดสยาม” ปี พ.ศ. 2453 และเปล่ียนเป็นสภากาชาดไทยตามชื่อประเทศที่เปล่ียนไป
ด�ำ เนนิ ภารกจิ ดา้ นการชว่ ยเหลอื ทหารบาดเจบ็ การจดั สง่ ยาสง่ิ ของเครอื่ งใชต้ า่ ง ๆ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ทหาร
และประชาชนทีป่ ระสบภยั สงคราม
รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 6 ทรงสร้าง
โรงพยาบาลถวายเปน็ พระบรมราชานสุ รณแ์ ดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระราชทาน
นามวา่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สังกัดสภากาชาดสยาม เปิดท�ำ การเมือ่ ปพี ุทธศกั ราช 2457
ปี พ.ศ. 2454 รชั กาลที่ 6 มพี ระบรมราชานญุ าตใหส้ ง่ ผแู้ ทนเขา้ รว่ มประชมุ กาชาด
ระหวา่ งประเทศ (คร้งั ที่ 9) ณ กรงุ วอชงิ ตัน เพื่อลงนามความตกลงเรอ่ื ง กฎหมายค้มุ ครองเครื่องหมาย
กาชาด (กฎหมายมนษุ ยธรรม)
ปี พ.ศ. 2460 ทรงโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตง้ั ใหพ้ ระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ บรพิ ตั รสขุ มุ พนั ธ์
กรมพระนครสวรรคว์ รพินติ เปน็ อุปนายกผู้อำ�นวยการสภากาชาดสยาม
ปี พ.ศ. 2461 มพี ระราชโองการใหป้ ระกาศพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยสภากาชาดสยาม
พ.ศ. 2461
ปี พ.ศ. 2464 สันนิบาตสภากาชาด (ปัจจุบันเรียกว่า สหพันธ์สภากาชาดและ
สภาเสย้ี ววงเดอื นแดงระหวา่ งประเทศ) รบั สภากาชาดสยามเปน็ สมาชกิ ล�ำ ดบั ท่ี 27 (เมอ่ื วนั ท่ี 8 เมษายน
พ.ศ. 2464)
ปี พ.ศ. 2465 สนั นบิ าตสภากาชาด รว่ มกบั สภากาชาดสยามจดั ประชมุ สภากาชาด
ฝา่ ยบูรพาประเทศ ครัง้ ที่ 1 ณ กรุงเทพฯ โดยได้รว่ มกันพิจารณาภารกจิ ของสภากาชาดสยามทีค่ วร
ดำ�เนินการ คอื
1. การอนามัยศึกษา คือ ช้ีแจงสั่งสอนด้วยเอกสารหรือโดยวาจา ให้ประชาชน
เข้าใจในการบำ�รงุ รกั ษาอนามยั ให้แข็งแรง ปราศจากโรคภยั
18 คมู่ อื การฝึกอบรมเจ้าหน้าทีแ่ ละผูบ้ ังคับบัญชายวุ กาชาด
หลกั สูตรครผู ู้สอนกจิ กรรมยวุ กาชาด
2. การประชานามัยพิทักษ์ คือ เย่ียมราษฎรตามบ้านเรือน ช่วยดูแลเมื่อเจ็บไข้
สงเคราะห์แมแ่ ละเด็กก่อนเกิดและเมือ่ เกิดแล้ว
3. การอบรมสั่งสอนให้เป็นพลเมืองดี มีอนามัยดี มีใจเมตตากรุณา รู้คุณคน
และไม่นยิ มการศกึ สงคราม
4. การช่วยบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดสาธารณภัยท้ังภายในประเทศและต่างประเทศ
ให้จดั ตามล�ำดับความสามารถ เชน่ ไฟไหม้ นำ�้ ทว่ ม แผน่ ดนิ ไหว เกดิ โรคระบาด เปน็ ต้น
สภากาชาดไทย มีบทบาทหน้าที่เป็นไปตามนโยบายของกาชาดสากล และ
เปน็ องค์กรที่ด�ำ เนนิ การช่วยเหลอื มนษุ ยชาติอย่างแทจ้ ริง
2.2 ภารกิจหลักของสภากาชาดไทย
2.2.1 ใหบ้ ริการด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาล
2.2.2 การบรรเทาทกุ ข์และประชานามยั พิทกั ษ์
2.2.3 จัดหาและใหบ้ ริการโลหิต
2.2.4 กจิ กรรมด้านวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์
2.2.5 กิจกรรมเหลา่ กาชาดในภูมิภาค
2.2.6 กจิ กรรมดา้ นยุวกาชาดและอาสาสมัคร
2.2.7 ผลติ และพัฒนาบคุ ลากรสาธารณสุข
2.2.8 จัดหาทรพั ยากรเพอ่ื สนับสนนุ กจิ กรรมของสภากาชาดไทย
2.2.9 สง่ เสริมเผยแพรก่ ฎหมายมนษุ ยธรรมระหว่างประเทศ
2.2.10 ส่งเสรมิ ความสมั พันธ์กบั คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ สหพันธ์
สภากาชาดและสภาเสย้ี ววงเดือนแดงระหว่างประเทศ
เหล่ากาชาดจังหวดั และกิง่ กาชาดอ�ำ เภอ
โดยที่งานกาชาดเป็นงานท่ีเกี่ยวกับการบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือมนุษย์
ทงั้ ในยามปกตแิ ละในยามเกดิ ภยั พนิ าศ และโดยทส่ี าธารณภยั พนิ าศนน้ั ยอ่ มเกดิ ขน้ึ ไดท้ ว่ั ไปและมกั จะเกดิ ขน้ึ
ในทันทีทันใด ฉะนั้นสภากาชาดจึงควรมีสาขาข้ึนตามท้องที่ต่าง ๆ ให้มากเท่าท่ีจะสามารถจัดขึ้นได้
ท้ังนี้เพ่ือจะช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ได้ทันท่วงที กับทั้งเป็นการทำ�ให้ประชาชนในท้องท่ีที่ได้มีโอกาส
บำ�เพ็ญกุศลกิจ ตามหลักมนุษยธรรมได้เต็มท่ีด้วย สาขาตามท้องที่นี้เรียกว่า เหล่ากาชาดจังหวัด
ซง่ึ ไดจ้ ดั ตงั้ ขน้ึ แลว้ ทกุ จงั หวดั ในประเทศไทย และในแตล่ ะจงั หวดั ยงั มกี ารจดั ตง้ั กาชาดในอ�ำ เภอตา่ ง ๆ อกี
เรียกวา่ ก่ิงกาชาดอำ�เภอ (ยกเว้นกรงุ เทพมหานคร ซึ่งไมม่ ีเหล่ากาชาดจงั หวดั )
คู่มอื การฝกึ อบรมเจ้าหนา้ ทแี่ ละผบู้ ังคบั บัญชายวุ กาชาด 19
หลักสูตรครูผสู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
วตั ถปุ ระสงคข์ องเหลา่ กาชาดจงั หวัด และก่ิงกาชาดอ�ำ เภอ
1. ทำ�การบรรเทาทุกขผ์ ูป้ ระสบสาธารณภยั
2. ให้การสังคมสงเคราะห์แก่ราษฎรที่ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน และ
ผ้ดู อ้ ยโอกาส โดยเฉพาะในถน่ิ ทุรกันดาร ตลอดท้ังในท้องทท่ี ่วั ไปและในชมุ ชนตามความจำ�เป็น
3. รบั บริจาคโลหติ ดวงตา และอวัยวะอน่ื
4. ส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามัยและการพฒั นาคุณภาพชวี ติ
5. สนบั สนนุ และสง่ เสรมิ กจิ การยวุ กาชาด อาสากาชาด จติ อาสาสภากาชาดไทย
และกิจการต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย
6. ดำ�เนินการตามโครงการในพระราชดำ�ริ
7. เป็นตัวแทนของสภากาชาดไทยในจังหวัดที่เป็นท่ีตั้งของเหล่ากาชาดจังหวัด
ตามทส่ี ภากาชาดไทยมอบหมาย
8. ส่งเสริมการเผยแพร่อุดมการณ์และหลักการกาชาด และการสร้างจิตสำ�นึก
ในเมตตาธรรมและมนษุ ยธรรม
หน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบของเหลา่ กาชาดจงั หวัด และกิ่งกาชาดอ�ำ เภอ
1. เป็นตัวแทนของสภากาชาดไทยในทอ้ งถิน่
2. ชว่ ยสนบั สนนุ ส�ำ หรบั กจิ การของสภากาชาดไทยในดา้ นยวุ กาชาด อาสากาชาด
บริจาคโลหติ และบรจิ าคดวงตา
3. ท�ำ การบรรเทาทุกข์ผปู้ ระสบสาธารณภยั
4. เป็นตัวแทนประสานงานระหว่างสมาชกิ สภากาชาดกับสภากาชาดไทย
3. ยุวกาชาดไทย
3.1 ประวตั ยิ วุ กาชาดไทย
จากข้อเสนอของท่ีประชุมสันนิบาตสภากาชาด (สหพันธ์
สภากาชาด) เม่ือปี พ.ศ. 2462 ว่า “สภากาชาดทุกชาติควรจัดต้ัง
กาชาดส�ำ หรบั เดก็ เพอ่ื ฝกึ อบรมเยาวชนใหร้ จู้ กั การกนิ ดี อยดู่ ี รกั ษา
สขุ ภาพอนามัย มคี วามเมตตาสงสารเพอื่ นมนุษย์ด้วยกนั ไมว่ ่าชาติ
ใด ๆ มีศรทั ธา เสียสละ ท�ำ ประโยชน์ใหแ้ ก่สังคม โดยจดั วิธีด�ำ เนนิ
การให้สอดคล้องกบั ระบบการศกึ ษาของแตล่ ะประเทศ”
20 ค่มู อื การฝกึ อบรมเจ้าหน้าทีแ่ ละผบู้ ังคับบัญชายวุ กาชาด
หลักสตู รครูผู้สอนกจิ กรรมยวุ กาชาด
จากข้อเสนอข้างต้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์
กรมพระนครสวรรค์วรพินติ อุปนายกผอู้ �ำ นวยการสภากาชาดสยาม ในสมัยนัน้ ทรงมพี ระราชดำ�รใิ ห้
จดั ตง้ั ขน้ึ เชน่ เดยี วกบั สภากาชาดประเทศตา่ ง ๆ เพอื่ เชดิ ชเู กยี รตยิ ศของบา้ นเมอื งในการด�ำ เนนิ กจิ การ
ให้ทันสมัย โดยการฝึกอบรมนักเรียนเช่นเดียวกับนานาประเทศ กิจการของยุวกาชาดจึงเกิดขึ้น
ในประเทศไทยเมือ่ วันท่ี 27 มกราคม 2465 ซ่ึงในระยะแรกเรยี กกนั ว่า “อนสุ ภากาชาดสยาม” และ
เนอื่ งจากกจิ การของอนสุ ภากาชาดเก่ียวขอ้ งกับเยาวชนและการศกึ ษา จงึ มอบใหอ้ ยู่ในความดูแลของ
กระทรวงศึกษาธิการดำ�เนินการ จัดทำ�หลักสูตรเพื่อฝึกอบรมเยาวชนในโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนราชินี
นับเป็นสถานศึกษาแห่งแรกที่ตั้งหน่วยอนุสภากาชาดขึ้น กิจกรรมระยะแรกของอนุสภากาชาด
เช่น ออกชว่ ยเหลอื ในการประชาสมาชกิ ของกาชาด และรับเงนิ จากประชาสมาชิก มพี ธิ ีเข้าประจ�ำ หมู่
นอกจากนนั้ ในงานกาชาดประจำ�ปไี ด้มกี ารประกวดสุขภาพ ประกวดร้อยดอกไม้สด ฯลฯ
ปี พ.ศ. 2476 มกี ารจดั ตง้ั กรมพลศกึ ษาขน้ึ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจงึ ใหม้ กี จิ การลกู เสอื
และอนุสภากาชาดอยู่ในความดูแลของกรมพลศึกษา ต่อมา พ.ศ. 2485 ได้ตั้งเป็นกองอนุกาชาดข้ึน
และปี พ.ศ. 2521 ไดข้ ยายกจิ กรรมใหก้ วา้ งขวางครอบคลมุ ถงึ เยาวชนทมี่ ีอายตุ ัง้ แต่ 7-25 ปี เพอ่ื ให้
สอดคล้องกับประเทศต่าง ๆ คำ�ว่า “อนุกาชาด” จึงเปลี่ยนเป็น “ยุวกาชาด” ใช้ภาษาอังกฤษว่า
“RED CROSS YOUTH”
ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2546 รฐั บาลไดม้ กี ารปรบั ปรงุ ระบบราชการท�ำ ใหก้ จิ การยวุ กาชาด
ซ่ึงอยู่ภายใต้การกำ�กับดูแลของกองยุวกาชาด กรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการถูกยุบรวมเข้ากับ
กจิ การลูกเสือและสารวตั รนักเรยี น พรอ้ มยกฐานะเปน็ สำ�นกั การลกู เสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรียน
ภายใตส้ งั กดั ส�ำ นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร รวมทงั้ ยา้ ยทท่ี �ำ การไปอยทู่ ก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารดว้ ย
ส่วนส�ำ นกั งานยวุ กาชาด สภากาชาดไทย ยา้ ยท่ที ำ�การกลบั ไปอยภู่ ายใตส้ ังกัดสภากาชาดไทยโดยตรง
จากอดตี จนถงึ ปจั จบุ นั กจิ การกาชาดมกี ารด�ำ เนนิ งานอยา่ งเปน็ ระบบและเปน็ สากล
ตามแนวทางและนโยบายท่ีคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) สหพันธ์สภากาชาด
และสภาเส้ียววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) และสภากาชาดไทยได้วางกรอบไว้ ซ่ึงนอกจาก
จะปลกู ฝงั อบรมเยาวชนกลมุ่ เปา้ หมายใหเ้ จรญิ เตบิ โตขน้ึ เปน็ พลเมอื งทด่ี ขี องประเทศอยา่ งมคี ณุ ภาพแลว้
การดำ�เนินงานยังเป็นไปในรูปแบบของการขยายเครือข่ายเพื่อให้เกิดความม่ันคงย่ังยืนสืบทอดต่อกัน
จากรนุ่ สรู่ นุ่ เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี หแ้ กเ่ ยาวชนทวั่ ไปโดยการอทุ ศิ ตนบ�ำ เพญ็ ประโยชนแ์ กช่ มุ ชนและสงั คม
ของตน ทา่ มกลางสถานการณค์ วามเปน็ ไปของโลกในปจั จบุ นั ทสี่ มาชกิ ของสงั คมตอ้ งพงึ่ พาซงึ่ กนั และกนั
ภารกจิ การพัฒนากิจกรรมยวุ กาชาดของท้ัง 2 องคก์ ร มีกระบวนการดำ�เนินงานแบบบูรณาการทง้ั ใน
ส่วนขององคก์ ารเองและองค์การอนื่ ๆ
คมู่ ือการฝกึ อบรมเจ้าหน้าที่และผู้บงั คบั บญั ชายุวกาชาด 21
หลักสูตรครูผ้สู อนกจิ กรรมยุวกาชาด
ทั้งน้ี เพ่ือมุ่งม่ันพัฒนาเยาวชนของชาติให้เป็นผู้มีองค์รวมของความเป็นบุคคล
ท่ีมีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และมีจิตสำ�นึกสาธารณะ พร้อมท่ีจะบริการ
เสียสละ มีจิตเมตตากรุณา มีความเอ้ืออาทร พร้อมที่จะเป็นผู้ให้ตามความสามารถและโอกาส
ที่จะอำ�นวย
3.2 วตั ถุประสงค์ยวุ กาชาดไทย
ถึงแม้ว่าตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ มากมาย
แต่สิ่งหนึ่งท่ีกิจการของยุวกาชาดยึดถือเป็นหลักในการดำ�เนินการเสมอมาก็คือ วัตถุประสงค์ของ
ยุวกาชาดตามแนวทางของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ
(เดมิ คือสนั นบิ าตสภากาชาด) ซึ่งถือปฏบิ ัติเหมือนกันทุกประเทศท่ัวโลก ได้แก่
Education for Peace : การปลกู ฝงั อบรมใหส้ มาชกิ และอาสายวุ กาชาดมอี ดุ มคติ
ในศานตสิ ุข
Good Health : การอบรมใหส้ มาชกิ และอาสายวุ กาชาดใหม้ คี วามรคู้ วามช�ำ นาญ
ในเร่ืองการรักษาอนามัยของตนเองและผู้อ่ืนโดยการฝึกอบรมเรื่องการปฐมพยาบาล และทักษะ
การปอ้ งกนั ชวี ติ และสขุ ภาพ
Good Service : การปลกู ฝงั อบรมสมาชกิ และอาสายวุ กาชาดใหร้ จู้ กั การบ�ำ เพญ็ ตน
ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อผู้อืน่ โดยการเขา้ รว่ มกจิ กรรมบ�ำ เพญ็ ประโยชน์รปู แบบต่าง ๆ
International Friendship : ส่งเสริมให้สมาชิกและอาสายุวกาชาดได้สร้าง
สมั พันธภาพและความเขา้ ใจอนั ดีกบั บุคคลทั่วไป ทงั้ ภายในประเทศและระหวา่ งประเทศ
3.2.1 วตั ถปุ ระสงค์ยุวกาชาดสากล
วตั ถุประสงคข์ องยวุ กาชาดตามข้อเสนอของสันนบิ าตสภากาชาด คือ
1) มีอุดมคติในศานติสุข มีความรู้ความชำ�นาญในเร่ืองการรักษาอนามัย
ของตนเองและของผู้อนื่ (Education for Peace and Good Health)
2) ร้จู กั บำ�เพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ตอ่ ผอู้ ่ืน (Good Service)
3) มสี มั พนั ธภาพอนั ดกี บั บคุ คลทัว่ ไป (International Friendship)
3.2.2 วตั ถปุ ระสงคย์ วุ กาชาดไทย ตามขอ้ บงั คบั สภากาชาดไทย หมวดที่ 9 วา่ ดว้ ย
ยุวกาชาดข้อ 57 ระบวุ า่ เพอ่ื ฝกึ อบรมใหเ้ ดก็ และเยาวชนชายและหญิง
22 คมู่ อื การฝึกอบรมเจ้าหนา้ ทแี่ ละผูบ้ งั คับบญั ชายุวกาชาด
หลกั สตู รครผู ูส้ อนกจิ กรรมยวุ กาชาด
1) มอี ดุ มคตใิ นศานตสิ ขุ มคี วามจงรกั ภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
2) มีความรู้ ความชำ�นาญในการรักษาอนามัยของตนเองและของผู้อ่ืน
ตลอดจนการพฒั นาตนเองทางรา่ งกาย จติ ใจ คณุ ธรรม และธ�ำ รงไวซ้ ง่ึ เอกลกั ษณท์ างวฒั นธรรมของชาติ
3) มีความรู้ ความเข้าใจในหลักการและอุดมการณ์กาชาด มีคุณธรรม
จริยธรรม และมจี ิตใจเมตตากรุณาต่อเพ่อื นมนุษย์
4) บ�ำ เพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ ผอู้ นื่ ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
5) มีจิตส�ำ นกึ ในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
6) มีสัมพนั ธภาพและมติ รภาพทีด่ ีตอ่ บุคคลทั่วไป
3.3 ค�ำ ปฏญิ าณตนยวุ กาชาดไทย
ข้อ 1 ขา้ ฯ จะจงรกั ภกั ดีตอ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
ขอ้ 2 ขา้ ฯ จะเปน็ มติ รกบั คนทว่ั ไป และจะบ�ำ เพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ กส่ ว่ นรวม
ขอ้ 3 ข้าฯ จะรกั ษาอนามัยของตนเองและส่งเสรมิ อนามยั ของผอู้ นื่
3.4 สัญลกั ษณ์ยุวกาชาดไทย
กากบาทสแี ดง
พน้ื สีขาว
วงกลมสนี ำ้� เงนิ
ส่ีเหลี่ยมจัตุรัสสีแดง 5 รูปตอกันเปนรูปกากบาทลอมรอบดวยวงกลมสีน�้ำเงิน
โดยมขี นาดความกวา งของเสน รอบวงเทา กบั ครง่ึ หนงึ่ ของขนาดสเ่ี หลยี่ มจตั รุ สั เชน สเี่ หลย่ี มจตั รุ สั มขี นาด
3 x 3 น้ิว ดงั นนั้ ขนาดของ ความกวางของเสน รอบวงจะเทากบั 1.5 นว้ิ
3.5 บทบาทและภารกจิ ยวุ กาชาดไทย
3.5.1 ด�ำ เนนิ การเกย่ี วกบั กจิ การยวุ กาชาดตามขอ้ บงั คบั สภากาชาดไทย นโยบาย
กระทรวงศึกษาธกิ าร สหพันธส์ ภากาชาด และสภาเสยี้ ววงเดือนแดงระหวา่ งประเทศ
3.5.2 ปฏิบัติร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง
หรอื ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
คู่มอื การฝกึ อบรมเจา้ หนา้ ท่ีและผู้บังคับบญั ชายุวกาชาด 23
หลักสตู รครูผสู้ อนกิจกรรมยวุ กาชาด
วิธีการนำ�เสนอ
1. การน�ำ เขา้ สู่บทเรยี น
2. การน�ำ เสนอ
2.1 แจง้ วตั ถุประสงค์
2.2 นำ�เข้าสูบ่ ทเรยี น
2.3 ศกึ ษาจากสื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ หรอื วีดทิ ศั น์ เก่ยี วกบั การก�ำ เนดิ กาชาดสากล และ
หลักการกาชาด
2.4 บรรยาย สลับการร้องเพลงประกอบบทเรียนเกย่ี วกับกาชาดและยุวกาชาด
2.4.1 กาชาดสากล
- ประวัตกิ าชาดสากล
- หลักการกาชาด
- อนสุ ญั ญาเจนีวา
- สัญลกั ษณ์กาชาด
2.4.2 กาชาดไทย
- ประวตั ิสภากาชาดไทย
- ภารกจิ หลกั ของสภากาชาดไทย
2.4.3 ยุวกาชาดไทย
- ประวัตยิ วุ กาชาดไทย
- วตั ถปุ ระสงค์ยุวกาชาด
- ค�ำ ปฏญิ าณตนยุวกาชาดไทย
- สัญลักษณ์ยุวกาชาดไทย
- บทบาทและภารกิจยวุ กาชาดไทย
3. การสรปุ
3.1 สรุปด้วยเพลง
3.2 เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เข้ารบั การฝกึ อบรมซักถามข้อสงสัย
24 คู่มอื การฝึกอบรมเจา้ หนา้ ทแี่ ละผบู้ งั คับบัญชายุวกาชาด
หลกั สูตรครูผูส้ อนกิจกรรมยุวกาชาด
กิจกรรมเสนอแนะ
1. การศึกษาเป็นฐาน
2. จัดนิทรรศการ
3. แสดงบทบาทสมมติ
4. สถานการณ์จ�ำ ลอง
5. การเลน่ เกม
6. ศกึ ษาจากแหลง่ ข้อมูล
สื่อและนวัตกรรม
1. วีดิทัศน์
2. รปู ภาพ
3. ใบงาน
การวดั และประเมินผล
1. การสงั เกต
2. การน�ำ เสนอผลงานกลุม่
3. การทดสอบ
4. แบบประเมินรายวิชา
คมู่ อื การฝึกอบรมเจา้ หน้าทแ่ี ละผบู้ งั คับบญั ชายุวกาชาด 25
หลักสตู รครผู สู้ อนกิจกรรมยุวกาชาด
ระเบยี บแถวและสัญญาณ
เวลา 1:00 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์
1. ใชค้ ำ�ส่งั และสญั ญาณได้ถูกตอ้ ง
2. ปฏิบัติตามค�ำ สัง่ และสัญญาณได้ถกู ต้องและพรอ้ มเพรยี ง
หัวขอ้ เนือ้ หา
1. สญั ญาณนกหวดี
2. การเรยี กแถว
3. การใช้ค�ำ สัง่
4. การหันอยู่กบั ที่
5. การเรียกแถวโดยใชส้ ัญญาณมอื
เนื้อหา
1. สญั ญาณนกหวีด
การใชส้ ัญญาณนกหวีด ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรมปฏิบัติดงั น้ี
1.1 เตือน คือ เป่ายาว 1 ครั้ง ให้ทุกคนเงียบเตรียมรับฟังสัญญาณที่จะเป่าต่อไป
แต่ในโอกาสที่จะถงึ เวลาตรวจเยี่ยม ให้ทุกคนเตรยี มเขา้ แถวเพ่อื รบั การตรวจเยี่ยม
1.2 เรียกทง้ั หมด คอื เป่าส้นั ติดตอ่ กันหลาย ๆ ครั้ง ใหท้ ุกคนวิ่งไปหาผูเ้ รียกโดยเร็ว
1.3 เหตฉุ กุ เฉนิ คือ เปา่ ส้นั ยาว สลับกนั ไปหลาย ๆ คร้ัง ใหท้ กุ คนรวมกลุ่มกนั อยู่กบั
ทพี่ ัก เตรียมพร้อมท่จี ะปฏบิ ัตกิ ารตามคำ�ส่ังต่อไป
1.4 เรยี กหวั หนา้ หนว่ ยเปา่ สน้ั 3ครงั้ ยาว1ครงั้ สลบั กนั ไปหลายๆครงั้ ใหห้ วั หนา้ หนว่ ย
หรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมายวง่ิ ไปหาผูเ้ รียกโดยเรว็
1.5 การชกั ธงชาตลิ งประจำ�วนั เป่ายาว 1 ครง้ั เป็นการเตือน แล้วเปา่ ยาวอีก 3 ครงั้
ตามความเหมาะสมของชว่ งเสาธง และเปา่ สน้ั 1 ครงั้ เมอ่ื สน้ิ สดุ การชกั ธง ขณะทธ่ี งชาตลิ งใหท้ กุ คนยนื ตรง
หันหนา้ ไปทางเสาธงเพื่อเคารพธงชาติ
26 คมู่ อื การฝึกอบรมเจา้ หน้าที่และผบู้ ังคบั บญั ชายวุ กาชาด
หลกั สตู รครูผ้สู อนกิจกรรมยุวกาชาด
1.6 ปฏบิ ตั ิต่อไป เป่ายาวติดตอ่ กันหลาย ๆ ครัง้ (ไม่ควรน้อยกว่า 4 คร้งั ) โดยผเู้ ปา่
ตอ้ งสังเกตความเหมาะสมของการเป่ากับสญั ญาณ
สัญญาณนกหวีด
เตอื น (ยาว 1 ครง้ั )
เรียกท้งั หมด (สน้ั ตดิ ตอ่ กัน)
เหตฉุ ุกเฉนิ (ส้นั 1 ยาว 1 เปน็ ชุด)
เรยี กหัวหนา้ หน่วย (ส้ัน 3 ยาว 1 เป็นชุด)
ชักธงชาตลิ งประจ�ำ วนั (ยาว 3 ส้นั 1)
ปฏิบตั ติ อ่ ไป (ยาวติดต่อกนั )
หมายเหตุ ก่อนการใชส้ ญั ญาณนกหวดี ทุกสัญญาณ ต้องเปา่ สญั ญาณเตอื น 1 ครั้งเสมอ
2. การเรยี กแถว
ผู้เรียกตอ้ งใช้คำ�ส่งั “แถว” พร้อมใชส้ ญั ญาณมือ เพ่อื ใหผ้ ู้ปฏบิ ตั ิ ปฏิบตั ติ าม ในกรณีที่
ผปู้ ฏบิ ตั ิอยู่ไกลจากผ้เู รียก ใหใ้ ช้สัญญาณนกหวดี เรียกรวมทัง้ หมด
3. การใช้ค�ำ ส่ัง ให้ปฏิบตั ดิ ังต่อไปน้ี
3.1 การเรียกแถว ใช้ค�ำ ส่ัง “แถว” ใหผ้ ู้รับการปฏบิ ัตคิ อยฟังคำ�ส่งั หรือดสู ัญญาณมอื
เพอ่ื จะไดป้ ฏิบัตติ อ่ ไป
3.2 ทา่ ตรง ใชค้ �ำส่ัง “แถว - ตรง” ยืนให้สน้ เท้าชดิ และอยู่ในแนวเดยี วกัน ปลายเทา้
แยกออกขา้ งละเทา่ ๆ กนั หา่ งกนั ประมาณ 1 คืบ (ท�ำมมุ 45 องศา) เข่าเหยียดตึงและบีบเข้าหากัน
ล�ำตัวยืดตรง อกผาย ไหล่เสมอกัน แขนท้ังสองอยู่ข้างล�ำตัวและเหยียดตรงจนไหล่ตึง น้ิวมือเหยียด
และชิดกัน น้ิวกลางแนบชิดติดโคนขาด้านข้าง ตาแลตรงไปข้างหน้า น้�ำหนักตัวอยู่บนเท้า
ทงั้ สองเท่า ๆ กนั และนิ่ง
3.3 ท่าพกั
3.3.1 พกั ปกติ ใชค้ ำ�สง่ั “แถว - พัก” หรือ “พกั ” ให้หยอ่ นเข่าขวาลงก่อนตอ่ ไป
จงึ จะเปลยี่ นเขา่ และเคลอื่ นไหวสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายไดต้ ามสมควร แตเ่ ทา้ ทง้ั สองคงอยกู่ บั ท่ี หา้ มพดู
เม่ือไดย้ ินคำ�สง่ั “แถว - ตรง” ให้กระตุกเข่าโดยเรว็ กลบั ไปอยูใ่ นท่าตรง
คู่มือการฝกึ อบรมเจา้ หนา้ ท่แี ละผ้บู ังคบั บญั ชายวุ กาชาด 27
หลักสตู รครูผูส้ อนกิจกรรมยุวกาชาด
3.3.2 พักตามระเบียบ ใช้ค�ำส่ัง “ตามระเบียบ - พัก” แยกเท้าซ้ายออก
ไปทางซา้ ยประมาณ 30 เซนตเิ มตร หรอื 1 ชว่ งไหล่ อยา่ งแขง็ แรงและองอาจ พรอ้ มกบั จับมือไขวไ้ ว้
ข้างหลัง ให้หลังมือเข้าหาล�ำตัว มือขวาทับมือซ้าย นิ้วหัวแม่มือขวาทับน้ิวหัวแม่มือซ้าย หลังมือซ้าย
แนบติดล�ำตัว แนวกึ่งกลางหลังและอยู่ใต้เข็มขัดเล็กน้อย ขาท้ังสองตึง น้�ำหนักตัวอยู่บนเท้าท้ังสอง
เท่า ๆ กนั เม่อื ได้ยนิ ค�ำสั่งวา่ “แถว - ตรง” ใหช้ กั เทา้ ซา้ ยมาชดิ เท้าขวาอยา่ งแขง็ แรง พร้อมกบั มือ
ท้งั สองกลับไปอยใู่ นลักษณะทา่ ตรงตามเดิม
3.3.3 พักตามสบาย ใช้คำ�ส่ัง “ตามสบาย - พัก” หย่อนเข่าขวาก่อน ต่อไป
จึงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสบายและพูดกันได้ แต่เท้าข้างหน่ึงต้องอยู่กับท่ี ถ้าไม่ได้รับอนุญาตให้น่ัง
จะนัง่ ไม่ได้
3.3.4 พักนอกแถว ใช้คำ�ส่ัง “พัก - แถว” ต่างคนต่างแยกออกจากแถวทันที
แต่ต้องอยูบ่ ริเวณใกลเ้ คยี งน้นั และไม่ท�ำ เสยี งอกึ ทกึ เมือ่ ไดย้ ินค�ำ วา่ “แถว” ใหร้ บี กลบั มาเข้าแถวตรง
ที่เดมิ โดยเร็ว ในรูปแบบเดมิ และเมอื่ จดั แถวเรยี บรอ้ ยแล้ว ให้อย่ใู นทา่ ตรงจนกวา่ จะมคี ำ�สั่งต่อไป
3.4 การถอดหมวก เพอื่ สวดมนต์และสงบนง่ิ ใชค้ ำ�ส่งั “ถอดหมวก” ใชม้ อื ขวาจับท่ี
กะบงั หนา้ หมวกแล้วถอดหมวก แขนอยขู่ ้างลำ�ตัว รอคำ�ส่ัง ดังตอ่ ไปน้ี
3.4.1 การสวดมนต์ ใช้คำ�สั่ง “เตรียมสวดมนต์” ทุกคนประนมมือ โดยให้
กะบังหน้าหมวกอยู่ระหว่างฝ่ามือ ตัวหมวกขนานกับลำ�ตัว และให้ด้านในของหมวกหันไปทางซ้าย
เสรจ็ แลว้ ให้ลดมอื ลง โดยมอื ขวาจบั ทกี่ ะบังหมวก แขนอยขู่ า้ งลำ�ตัว รอคำ�ส่งั ตอ่ ไป
3.4.2 การสงบน่งิ ใชค้ �ำสั่ง “สงบน่งิ เพอื่ ระลึกถงึ .....ปฏิบัติ” ทุกคนก้มศรี ษะ
เลก็ นอ้ ย มอื ขวา (ทถ่ี อื หมวก) ทับมอื ซา้ ยไว้ข้างหน้าในระดับต�ำ่ กว่าเอว กิรยิ าส�ำรวม ประมาณ 1 นาที
รอค�ำสั่งต่อไป
หมายเหตุ การสั่งสงบนิ่ง อาจส่ังให้ระลึกถึงผู้มีพระคุณทั่วไป หรือผู้มีพระคุณ
ตอ่ กิจการกาชาดและยุวกาชาด
3.5 การสวมหมวก ใชค้ �ำ สงั่ “สวมหมวก” ใหย้ กมอื ขวาทจี่ บั กะบงั หนา้ หมวกขนึ้ สวม
หมวก โดยใช้มือซ้ายช่วยประคองดา้ นหลงั เพื่อจัดหมวก และลดมอื ลงในท่าตรง
28 ค่มู ือการฝึกอบรมเจา้ หนา้ ท่ีและผู้บังคบั บัญชายุวกาชาด
หลักสตู รครูผสู้ อนกจิ กรรมยวุ กาชาด
3.6 การจัดแถว ใช้คำ�สั่ง “จัดแถว” การเรียกแถวของยุวกาชาด เม่ือได้รับคำ�สั่ง
หรือสัญญาณ สมาชิกยุวกาชาดวิ่งไปหาผู้เรียก และเข้าแถวตามคำ�ส่ังหรือสัญญาณดังกล่าวโดยเร็ว
ตามตำ�แหน่งของหน่วยและจัดแถวให้มีระยะเคียงระหว่างบุคคล 1 ช่วงศอก โดยยกมือซ้ายข้ึน
เท้าตะโพกให้ฝ่ามือพักอยู่บนตะโพก นิ้วท้ังห้าชิดกันเหยียดตรงชี้ลงพื้น นิ้วกลางอยู่ประมาณ
แนวตะเข็บขอบกระโปรงหรือกางเกง ศอกอยู่เสมอแนวลำ�ตัว การจัดแถวให้แขนขวา
จรดปลายศอกซ้ายของคนทางขวาและสะบัดหน้าแลขวาทุกคน เว้นแต่คนที่อยู่ทางขวาสุดของแถว
แลตรงเป็นหลัก เมื่อผู้เรียกตรวจการจัดแถวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่ัง “น่ิง” ให้ทุกคนลดมือลง
พร้อมกับสะบัดหน้ากลับมาอยู่ในท่าตรง และในกรณีท่ีการจัดแถวตามรูปแบบที่เรียกยังไม่ถูกต้อง
เรียบรอ้ ย จะใช้คำ�สั่ง “จดั แถว” เพอื่ ใหจ้ ดั แถวใหม่อีกครั้งก็ได้
3.7 การแยกแถว ใช้คำ�ส่ัง “แยกแถว” ให้ทุกคนทำ�ขวาหันแล้วแยกย้ายกันไป
การสัง่ แยกแถว หมายความว่า กจิ กรรมนั้นยังไม่เสรจ็ ส้นิ และจะตอ้ งกลบั มาเขา้ แถวอกี คร้งั หนึ่ง
3.8 การเลกิ แถว ใช้คำ�สั่ง “เลิกแถว” ใหท้ กุ คนทำ�ขวาหันแล้วแยกยา้ ยกันไป
4. การหันอยกู่ ับที่
4.1 ขวาหนั ใชค้ �ำสั่ง “ขวาหัน” ใหท้ �ำเปน็ 2 จงั หวะ จังหวะ 1 เปดิ ปลายเทา้ ขวา
และยกส้นเท้าซ้าย พร้อมกับหันไปทางขวาจนได้ 90 องศา โดยหมุนเท้าท้ังสองไปให้ส้นเท้าและ
ปลายเทา้ ซงึ่ เปน็ หลกั ยงั คงตดิ อยกู่ บั พนื้ นำ้� หนกั ตวั อยทู่ เ่ี ทา้ ขวา จงั หวะ 2 ชกั เทา้ ซา้ ยชดิ เทา้ ขวาโดยเรว็
4.2 ซา้ ยหัน ใช้ค�ำส่ัง “ซา้ ย - หัน” ใหท้ �ำเป็น 2 จงั หวะ จังหวะ 1 เปิดปลายเท้าซา้ ย
และยกส้นเท้าขวา พร้อมกับหันไปทางซ้ายจนได้ 90 องศา โดยหมุนเท้าท้ังสองไปให้ส้นเท้าและ
ปลายเทา้ ซง่ึ เปน็ หลกั นนั้ คงตดิ อยกู่ บั พน้ื นำ้� หนกั ตวั อยทู่ เ่ี ทา้ ซา้ ย จงั หวะ 2 ชกั เทา้ ขวาชดิ เทา้ ซา้ ยโดยเรว็
4.3 กลบั หลงั หนั ใชค้ �ำ สงั่ “กลบั หลงั - หนั ” ใหท้ �ำ เปน็ 2 จงั หวะ โดยใหท้ �ำ เชน่ เดยี วกนั
กบั “ขวาหนั ” แต่จังหวะ 1 ให้หนั เลยไปจนกลบั หนา้ เปน็ หลงั ครบ 180 องศา เทา้ ซ้ายไปหยุดขา้ งหลัง
เฉยี งซ้ายครง่ึ กา้ ว จังหวะ 2 ชกั เทา้ ซา้ ยชดิ เทา้ ขวาโดยเรว็
4.4 ก่ึงขวา ก่ึงซ้ายหัน ให้ออกคำ�สั่ง “กึ่งขวา” หรือ “กึ่งซ้าย - หัน” ให้ปฏิบัติ
เช่นเดียวกันกบั “ขวาหัน” หรอื “ซ้ายหนั ” แตใ่ ห้หันไปเพียง 45 องศา
คู่มอื การฝึกอบรมเจ้าหนา้ ทแี่ ละผู้บงั คบั บัญชายวุ กาชาด 29
หลักสูตรครผู ู้สอนกจิ กรรมยวุ กาชาด
5. การเรียกแถวโดยใช้สญั ญาณมือ
การเรยี กแถวผ้เู รยี กจะตอ้ งเลือกสถานที่ให้เหมาะสมเสยี กอ่ น และยืนตรงแล้วจงึ เรยี ก
และใชส้ ัญญาณมือ
5.1 แถวตอน
สัญญาณ ผู้เรียกยืนตรงเหยียดแขนทั้งสองออกไปข้างหน้าให้
ขนานกัน และได้ฉากกับลำ�ตัว ฝ่ามือแบน้ิวมือติดกัน เหยียดตรง
และหันฝา่ มอื เข้าหากนั
การเขา้ แถวใหท้ กุ หนว่ ยเขา้ แถวหนา้ ผเู้รยี กหนว่ ยบรกิ ารหนว่ ยแรก(หนว่ ยท่ี1)
อยู่ทางซ้ายมือ และหน่วยสุดท้ายอยู่ทางด้านขวามือของผู้เรียก
แต่ละหน่วยหัวหน้าอยู่หัวแถว รองหัวหน้าหน่วยอยู่ท้ายแถว หน่วยที่
อยูก่ ง่ึ กลางเป็นหลักยืนตรงหน้าผเู้ รยี ก ห่างจากผ้เู รียกประมาณ 6 กา้ ว
การจัดแถว ระยะเคียงระหว่างหน่วย 1 ช่วงศอก โดยยกมือซ้าย
ข้ึนเท้าตะโพกให้ฝ่ามือพักอยู่บนตะโพก น้ิวท้ังห้าชิดกันเหยียดตรงช้ีลงพ้ืน นิ้วกลางอยู่ประมาณ
แนวตะเข็บของกระโปรงหรือกางเกง สะบัดหน้าไปทางขวา ระยะต่อ 1 ช่วงแขน (ไม่ต้องยกแขน)
เมื่อผูเ้ รยี กตรวจ ความเรยี บรอ้ ยถูกตอ้ งแล้ว ส่งั “นิ่ง” ให้ทุกคนลดมอื ลงและอยู่ในทา่ ตรง
ถา้ เขา้ แถวตอนเรยี งหนงึ่ ระยะตอ่ ระหวา่ งบคุ คล 1 ชว่ งแขน โดยเหยยี ดแขนขวาไป
ขา้ งหนา้ สงู เสมอแนวไหล่ ควำ�่ ฝา่ มอื ใหป้ ลายนวิ้ จรดหลงั ของคนหนา้ พอดี และเมอ่ื ผเู้ รยี กแถวสง่ั “นงิ่ ”
ให้ทุกคนลดแขนลงโดยพร้อมเพรยี งกันและอยู่ในท่าตรง
5.2 แถวหน้ากระดานหน่วยปดิ ระยะ
สญั ญาณ ผเู้ รยี กยนื ตรง ก�ำ มอื ทง้ั สองขา้ ง ยกแขนเหยยี ดตรงไปขา้ งหนา้
ขนานกบั พ้ืน แลว้ งอขอ้ ศอกข้นึ เปน็ มมุ ฉากหนั หนา้ มอื เข้าหากัน
การเข้าแถว ให้หน่วยบริการหน่วยแรก (หน่วยที่ 1) เข้าแถว
หน้ากระดานหน้าผู้เรียก และให้ก่ึงกลางของหน่วยอยู่ตรงหน้าผู้เรียก
ห่างประมาณ 6 ก้าว หน่วยต่อ ๆ ไปเข้าแถวหน้ากระดานด้านหลัง
ตามลำ�ดบั
การจดั แถว ระยะเคยี งระหวา่ งบคุ คลในหนว่ ย 1 ชว่ งศอก โดยยกมอื ซา้ ย
ขน้ึ เทา้ ตะโพกใหฝ้ า่ มอื พกั อยบู่ นตะโพก นว้ิ ทง้ั หา้ ชดิ กนั เหยยี ดตรงชล้ี งพน้ื
นิ้วกลางอยู่ประมาณแนวตะเข็บของกระโปรงหรือกางเกง สะบัดหน้า
ไปทางขวา ระยะตอ่ ระหว่างหน่วย 1 ชว่ งแขน โดยใหร้ องหวั หนา้ หน่วย
ยกแขนซา้ ยขนานกบั พน้ื เมอื่ ผเู้ รยี กตรวจแถวดคู วามเรยี บรอ้ ยถกู ตอ้ งแลว้ สง่ั “นง่ิ ” ใหท้ กุ คนลดมอื ลง
พร้อมกบั สะบดั หน้ามาอย่ใู นทา่ ตรงดว้ ยความแขง็ แรงและพร้อมเพรยี งกัน
30 คู่มือการฝกึ อบรมเจา้ หนา้ ที่และผ้บู ังคับบญั ชายุวกาชาด
หลักสูตรครผู ้สู อนกจิ กรรมยุวกาชาด
5.3 แถวหน้ากระดานหน่วยเปิดระยะ
สัญญาณ ผู้เรียกงอข้อศอกยกขึ้นเป็นมุมฉากทั้งสองข้างมือกำ�
แขนทอ่ นบนแบะออกจนเป็นแนวเดยี วกบั ไหล่ หนั หน้าไปขา้ งหนา้
การเข้าแถว ให้หน่วยบริการหน่วยแรก (หน่วยท่ี 1) เข้าแถวหน้า
ผู้เรียก กึ่งกลางของหน่วยอยู่ตรงหน้าผู้เรียก ห่างจากผู้เรียกประมาณ
6 ก้าว หน่วยต่อ ๆ ไป เข้าแถวหน้ากระดานด้านหลัง ตามลำ�ดับ
ระยะตอ่ ระหวา่ งหน่วย 3 ช่วงแขน
การจดั แถว ระยะเคยี งระหวา่ งบคุ คลในหนว่ ย 1 ชว่ งศอก โดยยกมอื ซา้ ย
ขน้ึ เทา้ ตะโพกใหฝ้ า่ มอื พกั อยบู่ นตะโพก นว้ิ ทง้ั หา้ ชดิ กนั เหยยี ดตรงชล้ี งพน้ื
นิ้วกลางอยู่ประมาณแนวตะเข็บของกระโปรงหรือกางเกง สะบัดหน้า
ไปทางขวา เมื่อผู้เรียกตรวจแถวดูความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ส่งั “น่งิ ” ให้ทุกคนลดมือลงพร้อมกับ
สะบดั หนา้ มาอยใู่ นท่าตรง
5.4 แถวหน้ากระดานแถวเดียว
สัญญาณ ผู้เรียกยืนตรง กางแขนทั้งสองข้างออกไปเสมอไหล่
ตั้งฉากกับลำ�ตัว มือแบ นิ้วมือชิดกัน เหยียดตรงหันฝ่ามือ
ไปข้างหน้า
การเข้าแถว ให้เข้าแถวหน้ากระดานแถวเดียวหน้าผู้เรียก
ให้ก่ึงกลางของแถวอยู่ตรงหน้าผู้เรียก หน่วยบริการหน่วยแรก
(หนว่ ยที่ 1) อยทู่ างซา้ ยมอื ของผเู้ รยี ก หนว่ ยตอ่ ๆ ไป อยทู่ างดา้ ย
ซา้ ยมอื ของหนว่ ยบรกิ ารหนว่ ยแรก(หนว่ ยที่1)และหวั หนา้ หนว่ ย
แต่ละหน่วยอยู่ทางขวามือ รองหัวหน้าหน่วยอยู่ทางซ้ายมือ
ในหนว่ ยของตน
การจดั แถว ระยะเคยี งระหวา่ งบคุ คล 1 ชว่ งศอก โดยยกมอื ซา้ ย
ข้ึนเท้าตะโพกให้ฝ่ามือพักอยู่บนตะโพก นิ้วทั้งห้าชิดกันเหยียดตรงชี้ลงพ้ืน นิ้วกลางอยู่ประมาณ
แนวตะเขบ็ ของกระโปรงหรอื กางเกงการจดั แถวใชแ้ ขนขวาจรดปลายศอกซา้ ยไมเ่ วน้ ระยะเคยี งระหวา่ งหนว่ ย
ทุกคนจัดแถวทางขวา เม่ือผู้เรียกแถวตรวจดูความเรียบร้อยถูกต้องแล้วส่ัง “น่ิง” ให้ทุกคน
ลดมอื ลงพร้อมกบั สะบัดหน้ามาอยใู่ นท่าตรง
คมู่ ือการฝกึ อบรมเจา้ หนา้ ที่และผบู้ ังคบั บัญชายวุ กาชาด 31
หลกั สูตรครผู ้สู อนกจิ กรรมยวุ กาชาด
5.5 แถวคร่งึ วงกลม
สัญญาณ ผู้เรียกยืนตรง แขนทั้งสองเหยียดตรงลงข้างล่าง ฝ่ามือแบ
คว�่ำเข้าหาล�ำตัว นิ้วมือชิดกันเหยียดตรง เหว่ียงแขนไขว้เข้าหากัน
ด้านหน้าระดบั เอวเป็นรูปครงึ่ วงกลม เวลาเหวี่ยงแขนแยกออกจากกนั
ไม่เกนิ ครึ่งของล�ำตวั
การเข้าแถว หน่วยบริการหน่วยแรก (หน่วยที่ 1) อยู่ทางซ้ายมือ
ของผู้เรียก หัวหน้าหน่วยอยู่ในแนวเดียวกับผู้เรียกหน่วยต่อ ๆ ไป
อยทู่ างด้านซ้ายของหนว่ ยบรกิ าร รองหวั หน้าหนว่ ยของหน่วยสดุ ท้าย
อยใู่ นแนวเสน้ ตรงเดยี วกบั หัวหน้าหนว่ ยแรก (หนว่ ยท่ี 1) โดยมผี เู้ รยี ก
เป็นจุดศูนยก์ ลาง ไมเ่ ว้นระยะระหว่างหน่วย
การจัดแถว ระยะเคียงระหว่างบุคคล 1 ชว่ งศอก โดยยกมือซา้ ยข้นึ เทา้ ตะโพก
ใหฝ้ า่ มอื พกั อยบู่ นตะโพก นว้ิ ทง้ั หา้ ชดิ กนั เหยยี ดตรงชล้ี งพนื้ นว้ิ กลางอยปู่ ระมาณแนวตะเขบ็ ของกระโปรง
หรือกางเกง สะบัดหน้าไปทางขวา เม่ือผู้เรียกตรวจแถวดูความเรียบร้อยถูกต้องแล้ว สั่ง “นิ่ง”
ใหท้ ุกคนลดมือลงพรอ้ มกับสะบัดหน้ามาอยู่ในท่าตรง
5.6 แถววงกลม
5.6.1 ผเู้ รยี กเปน็ ศูนย์กลาง
สัญญาณ ทำ�เช่นเดียวกับแถวครึ่งวงกลม แต่เม่ือตอนเหว่ียงแขน
แยกจากกนั ใหม้ าจรดดา้ นหลงั เป็นรูปวงกลม
การเขา้ แถว หน่วยบริการหนว่ ยแรก (หนว่ ยที่ 1) อยู่ทางซ้ายมือของ
ผ้เู รียก หัวหนา้ หนว่ ยอย่ใู นแนวเดยี วกบั ผูเ้ รียกหนว่ ยต่อ ๆ ไป อยู่ทาง
ด้ายซ้ายของหน่วยบริการ ตามลำ�ดับจนถึงรองหัวหน้าหน่วยของ
หนว่ ยสดุ ทา้ ยยนื ตดิ กบั หวั หนา้ หนว่ ยบรกิ ารโดยมผี เู้ รยี กเปน็ จดุ ศนู ยก์ ลาง
ไม่เวน้ ระยะระหว่างหน่วย
การจัดแถว ระยะเคียงระหว่างบุคคล 1 ช่วงศอก โดยยกมือซ้าย
ข้ึนเท้าตะโพกให้ฝ่ามือพักอยู่บนตะโพก น้ิวท้ังห้าชิดกันเหยียดตรง
ชล้ี งพน้ื นว้ิ กลางอยปู่ ระมาณแนวตะเขบ็ ของกระโปรงหรอื กางเกง สะบดั หนา้ ไปทางขวาเมอ่ื ผเู้ รยี กตรวจแถว
ดคู วามเรียบรอ้ ย ถกู ต้องแล้ว สง่ั “นิง่ ” ใหท้ กุ คนลดมือลงพรอ้ มกบั สะบดั หนา้ มาอย่ใู นท่าตรง
32 คมู่ ือการฝึกอบรมเจา้ หน้าทแ่ี ละผบู้ ังคับบัญชายวุ กาชาด
หลักสูตรครูผ้สู อนกจิ กรรมยวุ กาชาด
5.6.2 ผูเ้ รยี กเปน็ ส่วนหนง่ึ ของวงกลม
สัญญาณ ผู้เรียกกำ�มือขวา เหยียดแขนยกไปข้างหน้าเหวี่ยงแขนขึ้น
ข้างบนและไปข้างหลังเป็นรปู วงกลม ขนานกับล�ำ ตวั
การเขา้ แถว หน่วยบรกิ ารหน่วยแรก (หน่วยที่ 1) อยทู่ างดา้ นซ้ายมือ
ของผู้เรียก โดยให้หัวหน้าหน่วยยืนชิดกับผู้เรียกหน่วยต่อ ๆ ไป อยู่
ทางด้านซ้ายมือของหน่วยบริการ ตามลำ�ดับ รองหัวหน้าหน่วยของ
หนว่ ยสดุ ท้ายยืนติดกบั ผเู้ รยี กทางด้านขวามอื โดยผเู้ รยี กเปน็ ส่วนหนึง่
ของเส้นรอบวงด้วย
การจัดแถว ระยะเคียงระหว่างบุคคล 1 ช่วงศอก โดยยกมือซ้าย
ขึ้นเท้าตะโพกให้ฝ่ามือพักอยู่บนตะโพก น้ิวท้ังห้าชิดกันเหยียดตรง
ช้ีลงพื้น น้ิวกลางอยู่ประมาณแนวตะเข็บของกระโปรงหรือกางเกง สะบัดหน้าไปทางขวาเม่ือผู้เรียก
ตรวจความเรียบร้อยถกู ตอ้ งแล้ว จงึ ส่ัง “นง่ิ ” ให้ทุกคนลดมอื ลงพรอ้ มกบั สะบัดหน้ามาอย่ใู นทา่ ตรง
5.7 แถวสีเ่ หลี่ยมเปดิ ดา้ นหนึ่ง
สัญญาณ ผู้เรียกแถวยืนอยูด่ ้านหนึ่ง ซ่งึ เป็นด้านเปิดยกแขนทั้งสองขนึ้
งอศอกให้ต้ังได้ฉากกับระดับไหล่แบฝ่ามือท้ังสองให้นิ้วมือทั้งห้าติดกัน
ฝา่ มือขวาทับหลังมอื ซ้าย ประมาณแนวลกู คางเป็นสญั ญาณ
การเข้าแถว ให้ยุวกาชาดทุกคนปฏิบัติเหมือนกับการเข้าแถวหน้า
กระดาน เว้นระยะตรงมุมของแต่ละด้านให้เท่ากัน พอควร ไม่ซ้อน
หรอื ตรงกัน ถา้ มยี ุวกาชาด 3 หน่วย ให้หัวหน้าหน่วยแรกเขา้ แถวหน้า
กระดานแถวเดยี่ วทางซา้ ยมอื ของผเู้ รยี กหนั หนา้ เขา้ ดา้ นในรปู สเี่ หลย่ี ม
หน่วยที่สองเข้าแถวหน้ากระดานแถวเดียวด้านตรงข้ามกับผู้เรียก
และหนว่ ยทสี่ ามเขา้ แถวหนา้ กระดานแถวเดีย่ ว ตรงขา้ มกบั หน่วยแรก
ทางดา้ นขวามอื ของผู้เรียก
ถา้ มยี วุ กาชาดมากกวา่ 3 หนว่ ย ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของผเู้ รยี กแถว แตค่ วรใหด้ า้ นซา้ ยมอื
กบั ดา้ นขวามือมีจำ�นวนเท่ากนั เม่อื ผเู้ รียกตรวจแถวดูความเรยี บร้อยถกู ตอ้ งแล้ว ส่งั “น่ิง” ยวุ กาชาด
ทกุ คนลดแขนลงพร้อมกับสะบัดหนา้ อยใู่ นท่าตรง
คมู่ ือการฝึกอบรมเจา้ หน้าทแี่ ละผบู้ ังคบั บญั ชายวุ กาชาด 33
หลักสตู รครผู สู้ อนกิจกรรมยวุ กาชาด
5.8 แถวรศั มหี รือล้อเกวยี น
สญั ญาณ ผเู้ รยี กยนื ตรง ยกแขนขวาเหยยี ดไปขา้ งหนา้ ท�ำ มมุ ประมาณ
45 องศา แบมอื ออกไปดา้ นหนา้ นว้ิ ทงั้ หา้ กางออกเหยยี ดตรงใหท้ กุ คน
สามารถมองเหน็ ไดช้ ดั
การเขา้ แถว ใหท้ กุ หนว่ ยเขา้ แถวตอนหนา้ ผเู้ รยี กเปน็ รปู รศั มหี า่ งจากผู้
เรยี ก6กา้ วโดยใหห้ นว่ ยบรกิ ารหนว่ ยแรก(หนว่ ยที่1)อยทู่ างซา้ ยมอื ของ
ผู้เรยี ก ประมาณ 45 องศา และหนว่ ยตอ่ ๆ ไป อยู่ทางด้านซา้ ยของ
หนว่ ยบรกิ าร ตามล�ำ ดบั ผเู้ รยี กเปน็ จดุ ศนู ยก์ ลางระยะตอ่ ระหวา่ งบคุ คล
ของแต่ละหน่วย 1 ช่วงแขน ระยะเคียงระหว่างหัวหน้าหน่วยจัดให้
พอเหมาะ สวยงาม และหน่วยสุดท้าย อยู่ทางขวามือของผู้เรียก
ประมาณ 45 องศา
การจัดแถว ให้ทุกคน (ยกเว้นหัวหน้าหน่วย) ยกแขนขวาเหยียดไปข้างหน้า
สูงเสมอแนวไหล่ มือคว่�ำ นิ้วทั้งห้าชิดกัน เหยียดตรง ปลายน้ิวจรดหลังคนหน้าพอดี เมื่อผู้เรียก
ตรวจแถวดูความเรยี บร้อยถูกต้องแลว้ สง่ั “นิ่ง” ใหท้ ุกคนลดแขนลงและอยใู่ นทา่ ตรง
5.9 ท่าตรงและทา่ พัก
สัญญาณ ผู้ใหส้ ัญญาณยืนตรง เท้าชิด กำ�มอื ขวา หนั ฝ่ามือ
เข้าหาล�ำ ตัว งอแขนตรงข้อศอก ต�ำ แหน่งขวามอื ท่ีก�ำ อยทู่ ี่
หวั เขม็ ขดั เหวยี่ งแขนไปทางขวาขา้ งล�ำ ตวั เปน็ มมุ 180 องศา
แขนท่ีเหว่ียงจะทำ�มุมกับลำ�ตัว ประมาณ 45 องศา
เปน็ สัญญาณ “พกั ” เม่ือชกั เมอื กลบั มาไว้ในตำ�แหน่งเดมิ
เปน็ สญั ญาณ “ตรง”
การปฏิบัติ ทุกคนอยู่ในท่าตรง เม่ือผู้เรียกให้สัญญาณ
“พัก” ให้แยกเท้าซ้ายออกไปทางซ้ายมือ ประมาณ
30 เซนตเิ มตร หรือ 1 ช่วงไหล่ อย่างแขง็ แรง วอ่ งไว พรอ้ มกบั ไขว้มือ หัวแม่มือซ้าย หลังมือหันเขา้ หา
ล�ำตวั มอื ซ้ายแนบติดล�ำตัว แนวกงึ่ กลางหลงั ใตเ้ ข็มขัดเล็กนอ้ ย ขาท้งั สองขา้ งตึง น้ำ� หนกั ตัวอยู่บนเท้า
ท้ังสองเท่า ๆ กัน และเม่ือเรียกให้สัญญาณ “ตรง” ทุกคนชักเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวา ดึงแขนทั้งสอง
กลับมาไว้ข้างล�ำตัวและเหยียดตรง น้ิวมือเหยียดชิดกัน ช้ีลงพื้นนิ้วกลางแนบชิดติดโคนขวาด้านข้าง
นำ้� หนักตัวอยบู่ นเทา้ ทั้งสองเท่า ๆ กนั และน่ิง
34 คมู่ อื การฝึกอบรมเจ้าหนา้ ทแ่ี ละผบู้ ังคับบญั ชายวุ กาชาด
หลักสูตรครผู สู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด
วิธีการน�ำ เสนอ
1. การน�ำ เข้าสูบ่ ทเรียน
แจง้ วตั ถุประสงค์
2. การน�ำ เสนอ
2.1 น�ำ เข้าสู่บทเรียน
2.2 บรรยายประกอบการสาธติ
2.2.1 สญั ญาณนกหวีด
2.2.1.1 เรยี กทง้ั หมด
2.2.1.2 ชกั ธงชาติลงประจำ�วัน
2.2.2 การเรียกแถว
2.2.3 การใชค้ �ำ ส่งั
2.2.4 การหันอยกู่ บั ที่
2.2.5 การเรยี กแถวโดยใช้สญั ญาณมือ
2.2.5.1 แถวตอน
2.2.5.2 แถวครง่ึ วงกลม
2.3 แบ่งกลุ่มฝกึ ปฏบิ ตั ิเป็นฐาน ตามหวั ขอ้ เน้ือหา
3. การสรุป
3.1 สรุปประเด็นส�ำ คัญและจดุ เนน้
3.2 เปิดโอกาสให้ผู้เข้ารบั การฝึกอบรมซกั ถามข้อสงสยั
กิจกรรมเสนอแนะ
1. การศึกษาเปน็ ฐาน
2. ศึกษาจากวดี ทิ ศั น์
3. ศึกษาจากรปู ภาพ
4. ศึกษาจากแผนภมู ิ
คูม่ อื การฝึกอบรมเจา้ หนา้ ทีแ่ ละผบู้ งั คับบญั ชายวุ กาชาด 35
หลกั สตู รครผู สู้ อนกิจกรรมยุวกาชาด
สือ่ และนวัตกรรม
1. สอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์
2. รูปภาพ
3. แผนภูมิ
4. นกหวีด
การวดั และประเมินผล
1. สังเกตจากการปฏิบตั ิ
2. การทดสอบภาคปฏบิ ตั ิ
3. แบบประเมินผลรายวิชา
36 คู่มือการฝึกอบรมเจา้ หน้าทแ่ี ละผบู้ งั คับบญั ชายุวกาชาด
หลักสตู รครูผ้สู อนกิจกรรมยวุ กาชาด
พิธีเปดิ - พธิ ปี ิดกิจกรรมยวุ กาชาด
เวลา 1:30 ช่ัวโมง
จุดประสงค์
1. อธิบายขัน้ ตอนพิธเี ปดิ - พิธีปดิ กจิ กรรมยวุ กาชาดได้
2. ปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนพธิ ีเปดิ - พธิ ปี ดิ กิจกรรมยุวกาชาดได้
หัวข้อเนือ้ หา
1. พิธเี ปดิ กิจกรรมยวุ กาชาด
2. พธิ ีปิดกจิ กรรมยุวกาชาด
เนือ้ หา
พธิ เี ปดิ - พธิ ปี ดิ กจิ กรรมยวุ กาชาด เปน็ พธิ กี ารทด่ี �ำ เนนิ การกอ่ นทจ่ี ะมจี ดั กจิ กรรมยวุ กาชาด
ในสถานศึกษา โดยพิธีเปิดกิจกรรมยุวกาชาด จะดำ�เนินการก่อนท่ีจะมีการจัดกิจกรรมยุวกาชาด
ในแตล่ ะสปั ดาห์ และพธิ ปี ดิ กจิ กรรมยวุ กาชาดจะด�ำ เนนิ การหลงั จากเสรจ็ สนิ้ การจดั กจิ กรรมยวุ กาชาด
ในสัปดาห์น้ัน ๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีเปิด - พิธีปิดกิจกรรมยุวกาชาด ประกอบด้วย ธงยุวกาชาด
ขนาดมาตรฐาน 1 ผืน และเสาธงยุวกาชาด 1 เสา โดยแยกจากเสาธงชาติ พิธีเปิด - พิธีปิด
กจิ กรรมยวุ กาชาด มีขัน้ ตอนดังน้ี
1. พิธเี ปดิ กจิ กรรมยุวกาชาด มี 6 ขนั้ ตอน ดงั น้ี
1.1 เรยี กสมาชิกเข้าแถวครงึ่ วงกลมหนา้ เสาธง
ใหผ้ นู้ �ำ กลมุ่ หรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ยนื หนา้ เสาธง หา่ งจากเสาธงประมาณ 3 กา้ ว
ใช้สัญญาณนกหวีด เรียกทั้งหมด แล้วส่ัง “แถว” พร้อมกับทำ�สัญญาณมือแถวคร่ึงวงกลม สมาชิก
ยวุ กาชาดเขา้ แถวคร่ึงวงกลม หน่วยบรกิ ารหนว่ ยแรกอย่ทู างซา้ ยมือ และหนว่ ยสดุ ทา้ ยอยู่ทางขวามอื
ของผนู้ �ำ กลมุ่ แตล่ ะหนว่ ยยนื ห่างกนั 1 ช่วงแขน แตล่ ะคนในหนว่ ยห่างกนั 1 ชว่ งศอก หัวหน้าหนว่ ย
อยู่ทางขวาของแถว รองหัวหน้าหน่วยอยู่ท้ายแถวเสมอ หัวหน้าหน่วยหน่วยบริการหน่วยแรกยืนอยู่
แนวเดียวกับผู้นำ�กลุ่มด้านซ้ายมือ และรองหัวหน้าหน่วยหน่วยสุดท้ายยืนอยู่แนวเดียวกับผู้นำ�กลุ่ม
คมู่ อื การฝึกอบรมเจา้ หน้าท่ีและผบู้ ังคับบญั ชายวุ กาชาด 37
หลกั สูตรครผู ู้สอนกจิ กรรมยุวกาชาด
ดา้ นขวามอื โดยใหห้ า่ งจากผ้นู �ำ กลมุ่ ระยะเทา่ กัน เมอ่ื จดั แถวเรียบร้อยแล้ว ผนู้ �ำ กลุ่มส่ัง “นิง่ ” และ
ส่งั “พัก” เพอื่ ดำ�เนนิ การตอ่ ไป (ในกรณีที่การเข้าแถวตามรูปแบบทเี่ รียกยังไมเ่ ปน็ ถกู ต้อง เรยี บร้อย
อาจใช้ค�ำ สั่ง “จดั แถว” เพ่อื ใหจ้ ัดแถวใหม่ อกี ครัง้ กไ็ ด)้
ระหวา่ งทสี่ มาชกิ ยวุ กาชาดก�ำ ลงั จดั แถว ผนู้ �ำ กลมุ่ และรองผนู้ �ำ กลมุ่ ทจี่ ะด�ำ เนนิ การ
จดั กิจกรรมเข้าแถวหน้ากระดานหลงั เสาธง หนั หน้าไปทางสมาชิกยุวกาชาด (ดงั ภาพ)
เมื่อจัดแถวเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้นำ�กลุ่มหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย นัดหมาย
ผู้แทนหน่วยบริการ จ�ำ นวน 2 คน ท�ำ หน้าทช่ี ักธงยุวกาชาดขึ้นสูย่ อดเสา จากนั้นผูน้ �ำ กลุ่มหรอื ผทู้ ่ไี ดร้ ับ
มอบหมายเดนิ ไปอยูด่ ้านขวา หรือด้านซา้ ยของเสาธง
1.2 ชักธงยุวกาชาด
ผนู้ �ำ กลมุ่ หรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เชญิ ผแู้ ทนหนว่ ยบรกิ ารทงั้ 2 คน ชกั ธงยวุ กาชาด
โดยยืนเป็นแถวหน้ากระดานหน้าเสาธง ห่างจากเสาธงประมาณ 3 ก้าว แล้วทำ�ความเคารพ โดยให้
คนทางขวาสง่ั “แถว - ตรง” “วนั ทยหตั ถ์” “มอื ลง” คนทางขวาก้าวเทา้ ไปข้างหนา้ 2 ก้าว เท้าชดิ
ปลดเชือกและถอยกลับมายืนท่ีเดิม ส่งเชือกให้คนทางซ้าย แล้วส่ัง “พัก” (การก้าวไปข้างหน้าและ
ก้าวถอยหลัง ควรกา้ วเท้าซา้ ยกอ่ นเสมอ)
38 คมู่ ือการฝกึ อบรมเจ้าหน้าท่ีและผู้บังคบั บญั ชายุวกาชาด
หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยวุ กาชาด
ผู้นำ�กลุ่มหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายสั่ง “เคารพธงยุวกาชาด ท้ังหมด - ตรง”
“วันทยหัตถ์” ให้ทุกคนทำ�วันทยหัตถ์พร้อมกัน การชักธงจะต้องให้ธงขึ้นทางขวามือ โดยให้คน
ทางซ้ายมือเป็นผู้ชักธง ขณะที่ชักธงน้ันไม่ต้องร้องเพลงใด ๆ และต้องให้เชือกตึงอยู่เสมอ เม่ือชักธง
ขึ้นสยู่ อดเสาแล้ว ใหค้ นทางขวาทำ�หนา้ ท่เี ป็นผู้ผกู เชือกธง แล้วถอยกลบั เข้าทเ่ี ดมิ เมือ่ เสรจ็ เรียบรอ้ ย
คนทางขวาสั่ง “วันทยหัตถ์” “มือลง” “ขวา - หัน” กลับไปเข้าแถวตามเดิม และทำ�วันทยหัตถ์
เหมอื นกบั สมาชิกทุกคนในแถว ผู้น�ำ กลมุ่ สั่ง “มือลง” ทกุ คนเอามอื ลงแขนอย่ขู า้ งลำ�ตวั ในท่าตรง
1.3 สงบน่ิง
ผู้น�ำกลุ่มหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายสั่ง “ถอดหมวก” ให้ทุกคนใช้มือขวาจับที่
กะบังหน้าหมวก แล้วถอดหมวกแขนอยู่ข้างล�ำตัว ผู้น�ำกลุ่มหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายสั่ง “สงบน่ิง
เพื่อระลึกถึง.....ปฏิบัติ” ทุกคนก้มศีรษะเล็กน้อย มือขวา (ที่ถือหมวก) ทับมือซ้ายไว้ข้างหน้า
ระดับต�่ำกว่าเอว โดยกิริยาส�ำรวม เป็นเวลา 1 นาที หลังจากนั้นผู้น�ำกลุ่มสั่ง “สวมหมวก”
ให้ยกมือขวาท่ีจับกะบังหน้าหมวกขึ้น สวมหมวก โดยใช้มือซ้ายช่วยประคองด้านหลัง เพ่ือจัดหมวก
และลดมือลงในทา่ ตรง เมื่อทกุ คนสวมหมวกเรียบรอ้ ยแลว้ ส่ัง “พกั ” (ดงั ภาพ)
การสงบนิง่ อาจสั่งให้ระลกึ ถึงผมู้ พี ระคุณทั่วไป หรอื ผูม้ ีพระคณุ ตอ่ กจิ การกาชาด
และยุวกาชาด
คมู่ อื การฝกึ อบรมเจา้ หน้าที่และผบู้ งั คบั บัญชายวุ กาชาด 39
หลกั สตู รครผู ู้สอนกจิ กรรมยวุ กาชาด
1.4 กล่าวค�ำ ปฏญิ าณตนยุวกาชาด
ผู้นำ�กลุ่มหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายสั่ง “ทั้งหมด - ตรง กล่าวคำ�ปฏิญาณตน”
ให้ทุกคนกล่าวค�ำ ปฏญิ าณตนพร้อมกัน ดงั นี้
ข้อ 1 ขา้ ฯ จะจงรกั ภักดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
ขอ้ 2 ขา้ ฯ จะเปน็ มติ รกบั คนทว่ั ไป และจะบ�ำ เพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ กส่ ว่ นรวม
ข้อ 3 ข้าฯ จะรกั ษาอนามัยของตนเองและส่งเสรมิ อนามัยของผอู้ ่นื
จบแลว้ ผู้น�ำ กลมุ่ สั่ง “พกั ”
1.5 การตรวจและรายงาน
ในการตรวจสมาชิกยุวกาชาด ผู้นำ�กลุ่มจะให้รองผู้นำ�กลุ่ม หรือหัวหน้าหน่วย
ท�ำ การตรวจก็ได้ และเมือ่ ตรวจเสรจ็ แลว้ จะต้องรายงานต่อผนู้ ำ�กลุ่มดว้ ย ซ่ึงมีข้ันตอนการปฏิบตั ิ ดงั นี้
1.5.1 การด�ำ เนนิ การตรวจ มี 2 วิธี ดงั น้ี
วิธที ่ี 1 กรณีผู้น�ำ กลุ่มให้รองผนู้ �ำ กลุ่มเป็นผ้ตู รวจ
(1) ผู้นำ�กลุ่มสั่ง “ให้รองผู้นำ�กลุ่ม ตรวจ...ของสมาชิก - ปฏิบัติ”
(อาจส่ังให้ตรวจอุปกรณ์การจัดกิจกรรมหรือตรวจเฉพาะบางส่วนของร่างกาย เช่น เล็บมือ ผม ตา
ผวิ หนงั ฯลฯ)
(2) รองผู้นำ�กลุ่มก้าวออกไปยืนแนวเดียวกันกับผู้นำ�กลุ่มด้านซ้าย หรือ
ด้านขวาก็ได้ หันหน้าเข้าหาผู้นำ�กลุ่ม ทำ�วันทยหัตถ์ทีละคน ผู้นำ�กลุ่มทำ�วันทยหัตถ์รับลดมือลง
หลังจากน้ันรองผู้นำ�กลุ่มตรงไปยังแถวของสมาชิกแต่ละหน่วย แล้วยืนตรงหน้าหัวหน้าหน่วย
ห่างประมาณ 3 ก้าว
ข้อเสนอแนะ ควรนัดหมายการออกจากแถว และการตรวจสมาชิก
แตล่ ะหน่วยไวล้ ่วงหนา้ เพ่อื ความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย
(3) หัวหน้าหน่วยสั่ง “หน่วยสี...ตรง” “วันทยหัตถ์” (รองผู้นำ�กลุ่ม
ท�ำ วนั ทยหตั ถร์ บั ) หวั หนา้ หนว่ ยลดมอื ลง แลว้ กา้ วออกไปขา้ งหนา้ 1 กา้ ว ท�ำ วนั ทยหตั ถแ์ ละรายงานวา่
“หนว่ ยส.ี ...มสี มาชกิ ....คน ชาย....คน หญงิ ....คน (หรอื ชายทง้ั หมด หรือหญงิ ทงั้ หมด) พรอ้ มทจ่ี ะรบั
การตรวจแล้วค่ะ (ครับ)” เมื่อรายงานเสร็จแล้ว หัวหน้าหน่วยลดมือลง ถอยหลังกลับเข้าท่ีเดิม
ทำ�วันทยหตั ถ์และสง่ั “มอื ลง” “พัก” รองผนู้ �ำ กลุ่มลดมอื ลง
(4) รองผนู้ �ำ กลมุ่ กา้ วไปขา้ งหนา้ หนง่ึ กา้ ว เพอ่ื ตรวจหวั หนา้ หนว่ ยเปน็ ล�ำ ดบั แรก
หวั หน้าหน่วยปฏิบัตทิ ่าตรงโดยอตั โนมตั ิ
40 คู่มือการฝึกอบรมเจ้าหน้าทแี่ ละผบู้ งั คับบัญชายวุ กาชาด
หลักสูตรครผู ู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด
(5) รองผนู้ �ำ กลมุ่ เดนิ ไปตรวจสมาชกิ คนตอ่ ไปในหนว่ ยนนั้ ในลกั ษณะสบื เทา้
ไปดา้ นขา้ งทางขวามอื ขณะเดยี วกนั ใหห้ วั หนา้ หนว่ ยกา้ วออกมายนื ดา้ นซา้ ยมอื ของรองผนู้ �ำ กลมุ่ ในแนว
เดยี วกนั ดว้ ย เมอ่ื รองผนู้ �ำ กลมุ่ สบื เทา้ ตอ่ ไปทางดา้ นขวา หวั หนา้ หนว่ ยจะตอ้ งสบื เทา้ ตามในลกั ษณะเดยี วกนั
จนครบทุกคน เพอ่ื รบั ฟงั ค�ำ แนะนำ�ในการตรวจจากรองผนู้ �ำ กลุม่ และขณะท่ีรองผูน้ �ำ กล่มุ เดินไปตรวจ
สมาชกิ คนใด ใหค้ นนน้ั ปฏบิ ตั ทิ า่ ตรงโดยอตั โนมตั ิ เมอ่ื ตรวจผา่ นไปแลว้ ใหผ้ นู้ น้ั ปฏบิ ตั ทิ า่ พกั โดยอตั โนมตั ิ
เชน่ เดียวกัน
(6) การตรวจ มี 2 กรณี ดงั น้ี
กรณที ี่ 1 ตรวจเฉพาะดา้ นหนา้ ของสมาชกิ ยวุ กาชาด เชน่ ตรวจเลบ็ มอื
ตรวจผม ตรวจฟัน เป็นต้น ใหร้ องผู้นำ�กลมุ่ ดำ�เนนิ การตรวจตามท่ผี ู้นำ�กลมุ่ สงั่ หากมีข้อแนะนำ�ให้แจ้ง
กบั หวั หนา้ หนว่ ยทราบ เพอื่ ใหห้ วั หนา้ หนว่ ยน�ำ ไปแจง้ กบั สมาชกิ และเมอื่ ผตู้ รวจท�ำ การตรวจถงึ สมาชกิ
คนสุดท้ายในหน่วยแล้ว ให้หัวหน้าหน่วยเดินอ้อมหลังผู้ตรวจ แล้วอ้อมหลังแถวหน่วยสีของตนเอง
กลับเข้าท่เี ดิม
กรณีท่ี 2 กรณีตรวจท้ังด้านหน้าและด้านหลังของสมาชิก เช่น
ตรวจเคร่อื งแต่งกาย เป็นต้น เม่อื หัวหน้าหน่วยรายงานจำ�นวนสมาชิกเสร็จเรียบร้อย รองผู้นำ�กลุ่ม
ก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว สั่ง “หัวหน้าหน่วยกลับหลัง - หัน” เม่ือตรวจด้านหลังหัวหน้าหน่วย
เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ รองผนู้ �ำ กลมุ่ สง่ั “กลบั หลงั - หนั ” อกี ครง้ั รองผนู้ �ำ กลมุ่ เดนิ ไปตรวจสมาชกิ คนตอ่ ไป
ในหน่วยสี ในลักษณะสืบเท้าไปด้านข้างทางขวามือ ในขณะเดียวกันให้หัวหน้าหน่วยก้าวมายืน
ด้านซ้ายมอื ของรองผู้นำ�กลมุ่ ในแนวเดียวกนั ดว้ ย เมอ่ื รองผนู้ �ำ กลมุ่ สบื เทา้ ไปทางดา้ นขวา หวั หนา้ หนว่ ย
จะต้องสืบเท้าตามในลักษณะเดียวกันจนครบทุกคน จากนั้นรองผู้นำ�กลุ่มและหัวหน้าหน่วย
เดินอ้อมหลังไปตรวจด้านหลังของสมาชิกทุกคน ในลักษณะสืบเท้าเช่นเดียวกับการตรวจด้านหน้า
ทั้งน้ี การตรวจด้านหน้าและด้านหลัง หากมีข้อแนะนำ�ให้รองผู้นำ�กลุ่มแจ้งกับหัวหน้าหน่วย
เพือ่ นำ�ไปแจง้ กบั สมาชิกตอ่ ไป
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ
- กรณีตรวจด้านหน้า ขณะที่รองผู้นำ�กลุ่มเดินไปตรวจผู้ใด ให้ผู้นั้น
ปฏบิ ัติทา่ ตรงโดยอตั โนมตั ิ เมื่อตรวจผา่ นไปแลว้ ให้ผู้นน้ั ปฏิบัติทา่ พกั โดยอตั โนมตั ิเชน่ เดียวกัน
- กรณีตรวจด้านหลัง ขณะที่รองผู้นำ�กลุ่มตรวจด้านหลัง ให้ทุกคน
อยใู่ นทา่ พัก
(7) เมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว รองผู้นำ�กลุ่มยืนห่างจากหัวหน้าหน่วย
ประมาณ 3 ก้าว หัวหนา้ หน่วยสง่ั “หน่วยส.ี ...ตรง” “วนั ทยหัตถ”์ (รองผ้นู �ำ กลมุ่ ทำ�วนั ทยหตั ถร์ บั )
แล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ (ครับ)” โดยไม่ต้องก้าวออกมาจากแถว หลังจากน้ันหัวหน้าหน่วยส่ัง
“มอื ลง” “พกั ” (รองผูน้ �ำ กล่มุ ลดมอื ลงแลว้ ไปเขา้ แถว เพื่อรายงานผ้นู �ำ กลมุ่ )
คู่มอื การฝึกอบรมเจา้ หนา้ ท่แี ละผบู้ งั คับบัญชายวุ กาชาด 41
หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด
วิธีที่ 2 กรณหี ัวหนา้ หนว่ ยเป็นผูต้ รวจ
(1) ผู้นำ�กลุ่มส่ัง “ให้หัวหน้าหน่วยไปตรวจ....ของสมาชิก - ปฏิบัติ”
(อาจส่ังให้ตรวจอุปกรณ์การจัดกิจกรรมหรือตรวจเฉพาะบางส่วนของร่างกาย เช่น เล็บมือ ผม ตา
ผิวหนัง ฯลฯ) เม่อื ไดร้ บั ค�ำ ส่งั แลว้ ใหห้ วั หน้าหนว่ ยกา้ วออกไปขา้ งหน้า 3 ก้าว ทำ�วนั ทยหัตถ์ ผู้น�ำ กล่มุ
ทำ�วันทยหัตถ์รับ ลดมือลง หลังจากน้ันหัวหน้าหน่วยกลับหลังหัน ในขณะเดียวกันรองหัวหน้าหน่วย
วง่ิ อ้อมด้านหลงั แถว ท�ำ หนา้ ทแี่ ทนหวั หน้าหนว่ ย
(2) รองหวั หนา้ หนว่ ยสง่ั “หนว่ ยส.ี ...ตรง” “วนั ทยหตั ถ”์ (หวั หนา้ หนว่ ย
ท�ำ วนั ทยหตั ถร์ บั ) รองหวั หนา้ หนว่ ยลดมอื ลงแลว้ กา้ วออกไปขา้ งหนา้ 1 กา้ ว ท�ำ วนั ทยหตั ถแ์ ละรายงานวา่
“หนว่ ยส.ี ...มสี มาชกิ ....คน ชาย....คน หญงิ ....คน (หรอื ชายทง้ั หมด หรอื หญงิ ทง้ั หมด) ไปปฏบิ ตั หิ นา้ ที่
เปน็ ผ้ตู รวจ 1 คน พร้อมทจ่ี ะรบั การตรวจแล้วค่ะ (ครับ)” เม่อื รายงานเสร็จแล้ว รองหวั หนา้ หนว่ ย
ลดมอื ลง ถอยหลงั กลับเขา้ ทเ่ี ดิม ท�ำ วันทยหัตถแ์ ละส่ัง “มือลง” “พัก”
(3) การตรวจเฉพาะด้านหน้าของสมาชกิ ใหด้ �ำ เนินการตามข้อ 1.5.1 (6)
กรณที ่ี 1 ส�ำ หรบั การตรวจดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั ของสมาชกิ ใหห้ วั หนา้ หนว่ ยซง่ึ ท�ำ หนา้ ทเี่ ปน็ ผตู้ รวจสงั่
“รองหวั หนา้ หนว่ ยกลบั หลงั -หนั ”เพอ่ื ตรวจดา้ นหลงั เมอ่ื ตรวจดา้ นหลงั รองหวั หนา้ หนว่ ยเรยี บรอ้ ยแลว้
ผตู้ รวจ (หวั หนา้ หนว่ ย) สง่ั “กลบั หลงั - หนั ” อกี ครง้ั แลว้ ท�ำ การตรวจสมาชกิ คนตอ่ ไปจนถงึ คนสดุ ทา้ ย
ให้ผู้ตรวจ (หัวหน้าหน่วย) และรองหัวหน้าหน่วยเดินอ้อมหลังไปตรวจด้านหลังของสมาชิกทุกคน
ในลักษณะเดยี วกับข้อ 1.5.1 (6) กรณีท่ี 2
(4) เม่ือตรวจเสร็จแล้ว ใหด้ ำ�เนินการเช่นเดียวกับขอ้ 1.5.1 (7)
1.5.2 การรายงาน
(1) เมอ่ื ผตู้ รวจ (รองผนู้ �ำ กลมุ่ หรอื หวั หนา้ หนว่ ย แลว้ แตก่ รณ)ี ตรวจสมาชกิ
ยุวกาชาดแต่ละหน่วยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้ตรวจแต่ละคนวิ่งไปเข้าแถวหน้ากระดานหน้าผู้นำ�กลุ่ม
ซง่ึ ยืนอย่หู นา้ เสาธง โดยให้ผู้ตรวจท่ีมาถงึ เป็นคนแรกยนื ตรงหนา้ ผูน้ ำ�กลมุ่ หา่ งจากผู้นำ�กลมุ่ ประมาณ
3 ก้าว และคนตอ่ ไปให้ยนื ตอ่ ด้านซ้ายมอื ของคนแรกตามลำ�ดับก่อน - หลงั
(2) ผตู้ รวจคนทางขวาของแถว (คนทมี่ ายนื เปน็ คนแรก) สงั่ “แถว - ตรง”
“วันทยหตั ถ”์ “มอื ลง” (ผนู้ �ำ กลุ่มท�ำ วนั ทยหตั ถ์รบั ลดมอื ลง) กา้ วเท้าซ้ายไปขา้ งหนา้ 1 กา้ ว เท้าชดิ
ทำ�วันทยหัตถ์ (ผู้นำ�กลุ่มทำ�วันทยหัตถ์รับ) และรายงานผลการตรวจเป็นลำ�ดับแรก โดยรายงานผล
การตรวจว่า “ตามที่ได้รับมอบหมายให้ไปตรวจ....ของสมาชิกหน่วยสี....ปรากฏว่า....และได้ให้
คำ�แนะน�ำ แก้ไขเรียบร้อยแลว้ ค่ะ (ครับ)” หรอื “ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมายใหไ้ ปตรวจ........หน่วยส.ี ...
42 คู่มือการฝกึ อบรมเจ้าหน้าทีแ่ ละผบู้ ังคบั บญั ชายุวกาชาด
หลกั สูตรครผู ูส้ อนกิจกรรมยวุ กาชาด
ปรากฏว่า เรียบร้อยดีค่ะ (ครับ)” ลดมือลง (ผู้นำ�กลุ่มลดมือลง) แล้วถอยกลับท่ีเดิม ผู้นำ�กลุ่ม
สืบเท้าไปทางขวามือให้ตรงกับผู้ตรวจคนต่อไป ผู้ตรวจคนต่อไปปฏิบัติเช่นเดียวกับคนแรก
เรียงตามลำ�ดับทีละคนจนครบ เมื่อรายงานครบ ผู้นำ�กลุ่มมายืนตรงกลางแถว แล้วกล่าวขอบคุณ
คนทางขวาของแถวส่ัง “วันทยหัตถ์” “มือลง” (ผู้นำ�กลุ่มทำ�วันทยหัตถ์ ลดมือลง) “ขวา - หัน”
แลว้ วิ่งกลับทเี่ ดมิ
กรณมี อบหมายใหห้ วั หนา้ หนว่ ยเปน็ ผตู้ รวจ เมอ่ื รายงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้
ขณะที่หัวหน้าหน่วยว่ิงกลับไปเข้าแถวประจำ�ที่เดิม ให้รองหัวหน้าหน่วยวิ่งอ้อมด้านหลัง
แถวกลับไปประจำ�ที่เดมิ เชน่ กนั
ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม ในกรณีท่ีมอบหมายรองผู้นำ�กลุ่มเป็นผู้ตรวจ
และรายงาน เมอ่ื ผนู้ �ำ กลมุ่ รบั รายงานการตรวจสมาชกิ ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมายจากรองผนู้ �ำ กลมุ่ ครบทกุ คน
และกล่าวขอบคุณรองผนู้ ำ�กลุ่มเรยี บร้อยแล้ว อาจด�ำ เนินการได้ตามความเหมาะสม ดังน้ี
1. ผนู้ �ำ กลมุ่ ยนื อยทู่ เ่ี ดมิ รองผนู้ �ำ กลมุ่ คนทางขวาของแถวสง่ั “วนั ทยหตั ถ”์
“มอื ลง” “ขวา - หัน” จากนัน้ รองผูน้ ำ�กลมุ่ แยกย้ายไปเตรยี มความพร้อมในการปฏิบตั ิหนา้ ทีต่ ามที่
ไดร้ ับมอบหมาย หรือ
2. ผนู้ �ำ กลมุ่ ยนื อยทู่ เ่ี ดมิ รองผนู้ �ำ กลมุ่ คนทางขวาของแถวสงั่ “วนั ทยหตั ถ”์
“มือลง” “ขวา - หัน” จากน้ัน รองผู้นำ�กลุ่มทุกคนกลับไปเข้าแถวหลังเสาธง แล้วให้รองผู้นำ�กลุ่ม
คนขวาของแถวส่งั “รองผูน้ �ำ กลมุ่ ตรง” “ขวา - หัน” รองผู้นำ�กลุ่มแยกยา้ ยกนั ไปเตรียมความพรอ้ ม
ในการปฏิบัติหนา้ ที่ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย
1.6 นดั หมายและชี้แจง
ผู้นำ�กลุ่มหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย อธิบาย ขน้ั ตอน วิธกี ารใหส้ มาชกิ ทุกคนเข้าใจ
ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปปฏิบัติตามคำ�สั่ง (อาจจะมีการเล่นเกม หรือร้องเพลง ก่อนที่จะเข้าร่วม
กิจกรรมก็ได้ ท้ังนี้ ให้ค�ำ นงึ ถงึ ความเหมาะสม) เมอ่ื นัดหมายและชี้แจงเสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ผู้น�ำ กลมุ่ ส่งั
“ทั้งหมด - ตรง” “แยกแถว” สมาชิกทุกคนทำ�ขวาหันแยกย้ายไปปฏิบัติกิจกรรมตามท่ีผู้นำ�กลุ่ม
ช้ีแจงทนั ที
กรณีจัดกิจกรรมเป็นฐาน ในการไปปฏิบัติกิจกรรมแต่ละคร้ัง สมาชิกยุวกาชาด
จะตอ้ งทำ�ความเคารพตอ่ ผู้สอน โดยการรายงานการเขา้ - ออกฐานกิจกรรม ดงั นี้
คู่มอื การฝกึ อบรมเจา้ หนา้ ทีแ่ ละผ้บู งั คบั บัญชายุวกาชาด 43
หลกั สูตรครูผสู้ อนกจิ กรรมยวุ กาชาด