78
สำคญั ควบคกู่ นั ไป เพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน ท้งั น้ี ให้กำลังทย่ี ึดรกั ษาท่ีมัน่ ตามแนวสันเนนิ ท่ี
ยึดอยใู่ นปัจจุบนั ไวใ้ ห้ได้ และดัดแปลงใหม้ ีความมนั่ คงแข็งแรงให้มากท่ีสดุ สำหรับการโจมตีทางอากาศในห้วง
ต่อไปจะกระทำอยา่ งรุนแรงที่สดุ ตอ่ เป้าหมายนอกประเทศเขา้ มาตามลำดับ ในระหวา่ งน้ี ทอ.ไดป้ ฎิบตั กิ าร
โจมตที างอากาศตอ่ เป้าหมายนอกประเทศอย่างรุนแรง ซง่ึ สรา้ งความเสยี หายใหก้ ับฝ่ายขา้ ศกึ อยา่ งมาก อยา่ งไร
ก็ดี บ.โอวี ๑๐ ของ ทอ.ถูกยงิ ตก ๑ เคร่ือง ที่บรเิ วณ บ.นากอก แขวงไชยบุรี
๑๔. ภายหลังจากท่ีได้ปรบั และโยกย้ายกำลังทสี่ ดชนื่ เข้าพ้ืนท่ีปฏิบตั กิ าร ตงั้ แต่ ๑๔ – ๑๗ ก.พ.
๓๑ แล้ว ทบ.โดย ทภ.๓ และ พล.ร.๔ พรอ้ มท่จี ะปฏิบัตกิ ารอยา่ งรุนแรง เพื่อเข้ายดึ ที่หมายขั้นสดุ ท้ายตาม
แนวเนิน ๑๔๒๘ – ๑๓๗๐ – ๑๑๘๒ ซึง่ ยงั คงมที ่หี มาย ๖, ๙, ๑๐ และ ๑, ๒ เหลอื อยู่ โดยใช้กำลงั ร.๔
กดดนั ทางด้านบน และ ร.๗ เข้าตที หี่ มายตา่ ง ๆ ดงั กลา่ ว ทางด้านลา่ ง โดยใช้ พัน.ร.๔๗๒, พัน.ร.๔๗๑
และ ฉก.๕๑๓ เขา้ ตีที่หมายต่าง ๆ ดงั กล่าว ทางดา้ นลา่ ง โดยใช้ พัน.ร.๔๗๒, พนั .ร.๔๗๑ และ ฉก.๕๑๓
เข้าตีเคยี งกนั ภายใตก้ ารโจมตีท้ิงระเบดิ อยา่ งรนุ แรงของกำลงั ทางอากาศ และการยิงอย่างหนักหนว่ งของ
หน่วย ป.ในพื้นท่ีรวมทงั้ การปฏิบตั ิการหลังแนวขา้ ศึกอยา่ งกวา้ งขวางย่งิ ขน้ึ โดยมี ๑ กรม ม. เปน็ กองหนุน
ขณะเดียวกันทางดา้ น ทภ.๒ ใชก้ ำลงั ๑ พนั .ผสม เขา้ ต้ังมัน่ ในพ้นื ท่ี อ.นาแห้ว และอีก
๒ พัน.ผสมปฏิบัตกิ ารแสดงกำลังในพืน้ ที่ อ.ด่านซา้ ย จว.ล.ย. เพ่อื ขวญั และกำลังใจของประชาชนในพื้นท่ี
และเปน็ การป้องปรามฝา่ ยตรงข้ามไปดว้ ย
๑๕. อย่างไรกด็ ี กอ่ นท่ฝี า่ ยเราจะปฏบิ ัตกิ ารโจมตอี ย่างรุนแรงข้นั สดุ ท้ายตามแผน ทบ.ทบ./รรก.
ผบ.ทหารสูงสุด และหวั หน้าเสนาธิการทหารสูงสุด กองทัพประชาชนลาวไดต้ กลงทีจ่ ะให้ทหารท้งั สองฝ่ายหยดุ
ยิง โดยลงนามในขอ้ ตกลงหยุดยงิ คอื ๑๗ ก.พ. ๓๑ ทบ.จงึ ได้สง่ั การให้หน่วยตา่ ง ๆ หยดุ ยงิ และยตุ ิการ
ปฏบิ ัตกิ ารทางทหารทัง้ สน้ิ ต้งั แตว่ นั หยุดยิง คอื ๑๙ ก.พ. ๓๑ เวลา ๑๘๐๐ เปน็ ตน้ ไป และในห้วงเวลา
ตัง้ แต่ ๑๙ ก.พ. - ๒๙ ก.พ. ๓๑ คณะเจ้าหน้าทีป่ ระสานงานรว่ มทางทหารของทั้งสองฝา่ ยไดต้ รวจตราแยก
กำลังออกจากแนวปะทะเดิมฝา่ ยละ ๓ กม. คือ ทปล.ถอนตวั ไปอยทู่ าง ตอ. ของแมน่ ้ำเหอื งงา ตามแนวภู
เวียง – ภกู งเด่นิ และกำลังของ ทบ.ถอนมาทาง ตต. จากแนวปะทะ ๓ กม. พร้อมกันนีท้ ้ังสองฝา่ ยได้
ดำเนินการเก็บกกู้ ับระเบิดในพน้ื ท่ี และหาศพผู้เสียชวี ิตเพื่อส่งมอบตอ่ กัน
๑๖. สรุปการสญู เสียของการปฏิบัตกิ ารกรณี บ.ร่มเกล้า ของฝ่ายเรา ต้งั แต่
๓๑ พ.ค. ๓๐ จนถงึ สนิ้ ก.พ. ๓๑ สรุปได้ดังน้ี.-
เสยี ชีวติ จากการรบ ๑๔๘ นาย
เสยี ชวี ิตมิใชจ่ ากการรบ ๕ นาย
บาดเจ็บจากการรบ ๖๐๐ นาย
(พิการทพุ ลภาพ ๖๘ นาย)
บาดเจ็บมิใช่จากการรบ ๓๕ นาย
79
บทเรียนจากการรบ
การรบที่ บ.รม่ เกล้า นับวา่ เปน็ สงครามจำกัด ระหวา่ งไทยกบั ทปล. เนือ่ งจากการสรู้ บเกิดข้ึน
เฉพาะพ้ืนท่ขี ดั แย้งกบั พน้ื ท่ีใกล้เคียงท่ีมีความตอ่ เน่ืองกนั แต่การรบครัง้ น้มี ลี กั ษณะเปน็ การปฏิบตั ิขนาดใหญ่
เนอ่ื งจากฝา่ ยเรามีการอำนวยการปฏิบตั ถิ ึงในระดบั ทบ. และมีการใชก้ ำลงั ทั้งในและนอก ทภ.๓ เข้ารว่ มใน
การปฏบิ ตั ินอกจากนี้ ในระดบั รัฐบาลยังมกี ารดำเนินงานดา้ นการเมืองระหว่างประเทศ และความร่วมมือ
ระหว่างประเทศพนั ธมิตร ดงั นั้น บทเรียนท่ไี ดจ้ ากการรบในครงั้ นี้ จึงมคี วามหลากหลายตามระดับหนว่ ยที่มี
ส่วนรว่ มในการปฏิบัติ
ด้านกำลังพล
การบรรจุกำลงั ในการปฏบิ ตั กิ ารรบ หนว่ ยไม่สามารถยกรา่ งคำส่ังปฏบิ ัติหนา้ ที่ให้ทนั
ก่อนทหี่ นว่ ยจะออกปฏิบตั กิ ารรบ ในการปฏบิ ัติการในคร้ังนี้ หนว่ ยยกร่างคำส่ังปฏบิ ัติหน้าทีถ่ ึง ทภ.๓ เม่ือการ
ปฏบิ ัติการรบผ่านไปเป็นเวลาเน่นิ นานแลว้
การจัดทำบัญชบี รรจกุ ำลัง หน่วยมิได้จัดทำบัญชีบรรจขุ องหน่วย เพ่อื เก็บไวเ้ ป็นขอ้ มูล
และตอ้ งตรวจสอบให้ทนั สมัยอยเู่ สมอ เมอ่ื หน่วยออกปฏิบตั ิการรบกพ็ ร้อมทีจ่ ะออกคำสง่ั ปฏิบัติหน้าที่ไดท้ นั ท่ี
การใชก้ ำลังขึ้นปฏิบัติการรบ ควรใช้กำลังเปน็ หน่วย เพื่อให้เกดิ เอกภาพทางการบังคับบัญชาเพราะกำลงั พลที่
จดั ไปสนธกิ ำลังจะไม่มคี วามผูกพันกับหน่วยของตนเองซึ่งเป็นการยากต่อการปกครองบงั คับบัญชา
การบรกิ ารกำลงั พล การรายงานขอรบั เงินสิทธพิ ิเศษ ให้กบั ทายาทของผูเ้ สียชีวิต
เป็นไปอย่างลา่ ช้า เนือ่ งจากขาดหลกั ฐานเอกสารต่าง ๆ เช่น คำสั่งปฏิบัตหิ นา้ ท่ี รายงานการสูญเสีย และใบมา
รณบตั รเป็นตน้
ขวญั ของกำลังพลจากการเข้าตที ี่หมายซ้ำซากโดยไมผ่ ลัดเปล่ียนหน่วยในการเข้าตี
บา้ งโดยเฉพาะเข้าตไี มส่ ำเร็จในครั้งแรก ขวญั และกำลงั ใจจะเรม่ิ ตกต่ำลงเรอ่ื ย ๆ ซ่งึ ตรงขา้ มกบั ฝ่ายตรงขา้ มที่จะ
มีการผลดั เปล่ยี นกำลังพลทกุ ๆ ๑๕ วัน หรอื หลังจากการปฏิบัติคร้ังทส่ี ำคัญ ๆ
ด้านการข่าว
กลา่ วโดยทว่ั ไปแล้ว การจดั ระบบงานการข่าวนั้น ทภ.๓ ได้มีการดำเนนิ การมาอยา่ งตอ่ เนื่องทั้ง
ในห้วงก่อนเกดิ เหตกุ ารณ์ ในระหวา่ งการปฏิบัตริ วมท้ัง การดำเนินการหลงั การปฏบิ ตั กิ าร เพียงแตว่ า่ การ
ดำเนินการในหว้ งก่อนเกดิ เหตกุ ารณข์ นึ้ ฝ่ายเราไม่สามารถดำเนนิ กรรมวธิ ใี ห้ได้ข่าวสถานการณ์ ดา้ นฝ่ายตรง
ข้ามอย่างกระจา่ งชดั เพียงพอ การปฏิบัติงานดา้ นการข่าวของหนว่ ยสรปุ ได้ดงั นี้
๑. ไมส่ ามารถพสิ จู น์ทราบได้วา่ ทปล.เข้ามาดัดแปลงฐานท่มี ัน่ ในหว้ งระยะเวลาน้ันทง้ั ๆ
ทท่ี ราบว่ามีการเคลื่อนไหวของ ทปล. อยู่ในบรเิ วณนี้ จากปฏิบัติข่าวสารท่ีได้รบั ทราบ ไม่เพียงพอท่ีจะประมาณ
สถานการณ์ไดว้ า่ ทปล.มีจดุ มุ่งหมายอะไร ซึ่งในขนั้ ตน้ คาดว่า ทปล.จะมุ่งปฏิบัติต่อ กตต.เท่านน้ั
๒. การใช้กำลังเขา้ พิสูจน์ทราบ (จะต้องมีการขออนมุ ตั ิหลกั การตอ่ ศปก.ทบ.) อาจจะ
เป็นสาเหตุท่ีกอ่ ให้เกิดการกระทบกระทง่ั ทางด้านการทหารขน้ึ ได้ง่าย
๓. เกย่ี วกับกรณที ี่หนว่ ยงานยังคงต้องเกบ็ แผนท่ีระหว่างทมี่ ปี ัญหาไวใ้ ช้ ท้ังนเ้ี พราะว่า
การแจกจ่ายมไี ม่เพียงพอ การส่งั การให้ยกเลิกและเกบ็ จึงไมเ่ กิดผลอย่างเตม็ ที่
80
๔. การประมาณข่าวกรอง จะต้องจดั ทำใหท้ นั สมยั อยู่ตลอดเวลาในทกุ ระดบั หน่วย เพ่ือ
เปน็ ขอ้ มูลสำหรับการปฏิบัตกิ ารโดยทนั ที และตอ้ งยอมรับในการลงทนุ เกย่ี วกับงานด้านการข่าวได้ เชน่
ถ่ายภาพทางอากาศ งานด้านการข่าวลับ เป็นต้น
การดำเนนิ การด้านการข่าวในห้วงระหว่างเกิดเหตุการณก์ ารสัง่ ใชห้ น่วยกองพันผสมเตรยี มพร้อม
(ม.พัน. ๑๘) เขา้ พสิ ูจนท์ ราบ ภายหลงั จากที่ ชค.๕๑๓ สย.๑๘ ไดป้ ฏบิ ัติงานมาแลว้ ในห้วงเวลาหนงึ่ หน่วย
กองพนั ผสมเตรียมพรอ้ ม ไม่ได้รบั ขา่ วสารขอ้ มลู เกีย่ วกับฝา่ ยตรงขา้ มตลอดจนพื้นทีก่ ารรบ เพียงพอทีจ่ ะนำมา
เป็นข้อพจิ ารณาในการวางแผนเลย ขา่ วสารที่ได้รับจะมีความคลาดเคล่อื นไปจากข้อเทจ็ จริง กล่าวคอื
รับทราบว่ากำลังของ ทปล. มีประมาณ ๔๐ คน สภาพขวญั ตกต่ำ จิตใจโดยทัว่ ไปกลัวกำลังทหารไทย อาวธุ
หนักในการสนับ-สนนุ ไมด่ ี ขา่ วสารเก่ยี วกับการวางกำลัง ตามแนวสจั เนนิ ไมแ่ นช่ ัด ซ่ึงหนว่ ยเองกไ็ ม่มเี วลาท่ี
จะทำการพสิ ูจน์ทราบให้ได้มาซ่ึงขา่ วสารแนช่ ัดประกอบกบั ท่ีทางหนว่ ยเหนือไดเ้ รง่ รดั ใหม้ กี ารปฏบิ ตั กิ ารให้แลว้
เสร็จโดยเรว็ จงึ ไมส่ ามารถปฏบิ ัติใหเ้ ปน็ ไปตามแผนทวี่ างไว้ได้ในห้วงระยะเวลาระหวา่ งการสูร้ บ
ด้านยทุ ธการ
การดำเนนิ กลยุทธ ในหว้ งเวลาทหี่ นว่ ยดำเนนิ กลยุทธเขา้ ปฏิบัติการนั้น พบวา่ การปฏิบตั ิที่
สมควรได้รบั การแก้ไข สามารถสรุปเปน็ ประเด็นสำคญั ไดด้ งั นี้
๑.ในกรณสี ถานการณด์ า้ นการข่าวไมม่ ีความชดั เจนเพียงพอท่ีจะใหห้ น่วยนำไปเปน็
ข้อพจิ ารณาในการวางแผนนนั้ จำเปน็ ทจ่ี ะต้องใหห้ น่วยได้ใช้เวลาในชว่ั ระยะหน่งึ เพื่อทำการคล่ีคลาย
สถานการณแ์ ละพสิ จู นท์ ราบการปฏิบัตขิ องฝา่ ยตรงข้ามให้กระจ่างชัดเสียกอ่ น แต่จากการที่หนว่ ยจำเปน็ ตอ้ ง
เข้าปฏิบัตกิ ารเลยในทนั ทที นั ใดนน้ั ผลการปฏบิ ัติในสว่ นใหญจ่ ึงมักไม่เปน็ ไปตามแผนทไี่ ด้วางไว้
๒.บทเรียนจากการเข้าปฏิบัตติ อ่ ท่หี มายโดยไมม่ ีข้อมูลเพียงพอในด้านของประมาณการณ์ข่าว
กรอง จะส่งผลให้หน่วยปฏิบัตเิ สียเปรยี บตอ่ ฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างยงิ่ ซ่งึ จะเหน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนวา่ ในขน้ั
แรกเรม่ิ ของการยุทธนัน้ หน่วยปฏบิ ัติการสามารถยดึ พืน้ ทไี ด้บางส่วน โดยเข้าใจวา่ สามารถยึดท่หี มายสำคัญได้
แล้ว แต่ตอ่ มาเมอ่ื ได้มกี ารตรวจสอบทีต่ งั้ โดยแน่นอนแล้ว กลบั พบว่าพน้ื ท่ี (ตำบล) ทเ่ี รายึดไดน้ ั้นไม่ไดเ้ ปน็ ท่ี
หมายท่ตี ั้งการวางกำลังหลกั ของฝ่ายตรงข้ามจงึ ต้องกำหนดความรบั ผดิ ชอบในการเขา้ ตีทห่ี มายใหม่และกำหนด
ตำบลพกิ ัดทีห่ มายใหแ้ น่ชัด
๓. การจำกดั ขอบเขตของพ้ืนท่ปี ฏิบัติการ โดยเฉพาะในช่วงแรกเร่มิ ของการปฏิบัตติ ่อ ทม.
เนนิ ๑๔๒๘ เน่ืองจากขอ้ จำกดั ด้วยเหตผุ ลหลาย ๆ ประการ ทำใหต้ อ้ งจำกัดขอบเขตการปฏิบตั ิการอยใู่ น
เฉพาะบรเิ วณพน้ื ทีป่ ญั หา ส่งผลให้การปฏิบัติของฝา่ ยเราตกเป็นฝ่ายเสยี เปรยี บมากย่ิงขึ้น
๔. การใช้กำลงั เข้าปฏิบัติการเปน็ จำนวนมากในแต่ละครั้ง น่าจะนำมาทบทวนและพิจารณา
ถึงขอ้ ดีขอ้ เสยี อกี ครงั้ โดยจากลกั ษณะของภมู ิประเทศมักจะจำกัดตอ่ การดำเนินกลยุทธ หนว่ ยเขา้ ตจี ำเปน็ ตอ้ ง
ใชร้ ปู ขบวนแถวตอน จึงทำให้อำนาจการยิงมีนอ้ ย อกี ท้งั การทฝี่ ่ายข้าศกึ เลอื กจุดท่ีม่นั ไดเ้ ปรียบต่อการปฏบิ ตั ิ
ของฝ่ายเราเป็นอยา่ งยง่ิ สามารถตรวจการณเ์ หน็ ได้อย่างชดั เจน ต้ังแตก่ อ่ นถึงแนวปะทะ เกือบทุกคร้ังที่ฝา่ ย
เราใชร้ ูปขบวนแถวตอนเขา้ ดี ข้าศึกจะรอคอยจนกระทง่ั สว่ นนำบางสว่ นของฝา่ ยเราเข้ามาถงึ ในระยะหวงั ผล
81
ของอาวุธปืนเล็ก แลว้ จงึ ทำการยิงและใช้ อาร์พีจ.ี , ลข.ทำลายกำลงั ในส่วนหน้าสำหรบั กำลังในสว่ นท่หี นนุ
เนอ่ื งของฝ่ายเรา ฝ่ายขา้ ศึกสามารถใช้ ค., ปรส. ยงิ ทำลายรูปขบวนอย่างไดผ้ ล
๕. หนว่ ยกำลังทหารหลกั ต้องเขา้ ใจในขดี ความสามารถของหน่วยทหารพราน การใชใ้ น
ภารกิจที่เกินขีดความสามารถจะกอ่ ใหเ้ กิดผลเสยี แก่สว่ นรวมได้ จากการทกี่ ำหนดให้หนว่ ยทหารพรานระวงั
ปอ้ งกนั ทางปีกดา้ นบนของพื้นท่ีการสู้รบนน้ั เมื่อมาพิจารณาเปรยี บเทยี บกับความรุนแรงของสถานการณใ์ น
ขณะน้นั แลว้ ไมส่ มควรใชอ้ ย่างยิ่ง เพราะเปรยี บเสมอื นกับมอบภารกจิ ต้ังรบั ทางปีกให้กับหนว่ ยทหารพราน
ซึ่งขวญั และกำลงั ใจอยู่ในสภาพทีไ่ ม่พร้อมเต็มทใ่ี นขณะน้ัน จึงเสี่ยงตอ่ การที่ฝา่ ยตรงขา้ ศกึ จะเจาะแนวด้านบน
เข้าหาทตี่ ้งั หน่วยบญั ชาการรบไดอ้ ยา่ งไมย่ ากนกั
๖. ในสถานการณ์ทฝ่ี า่ ยเราเป็นฝา่ ยเขา้ ตี หน่วยเคลอื่ นทไ่ี ปได้อยา่ งเชื่องชา้ และอยุ้ อ้าย ทหาร
ขนยุทโธปกรณ์และสมั ภาระทไ่ี มจ่ ำเป็นตดิ ตัวไปด้วยมากเกนิ ไป ทำให้เหน็ดเหนอ่ื ยและขาดความคลอ่ งตวั เป็น
ผลให้ในการขยายผลตอ่ ที่หมายไม่สามารถกระทำได้อยา่ งต่อเนอื่ ง
๗. หนว่ ยเข้าตีไมด่ ำรงความมงุ่ หมายในการหนุนเน่ืองกำลัง ซึ่งในการยุทธหลายครัง้ ที่ ทปล.
มีโอกาสริเร่ิมปฏิบัติการเข้าตตี อ่ ฝ่ายเรา โดยการขยายผลจากการที่เราไมส่ ามารถเข้าตีตอ่ ที่หมายได้ และทำ
การหยดุ วางกำลงั เกาะติดท่หี มายไว้ ซึง่ กลับกลายเปน็ การวางกำลังตง้ั รับด้วยกำลังน้อย และทม่ี ั่นทยี่ ดึ อยู่ไม่ใช่
ท่ีม่นั ดดั แปลงแข็งแรง
๘.การใชห้ น่วยทหารพรานโดยไมไ่ ดก้ ำหนดแผนการใชก้ ำลงั ท่ีแนช่ ดั ลงไปตามความรนุ แรง
ของสถานการณ์ทีเ่ ปลี่ยนแปลงไป การใชก้ ำลงั มีลักษณะเป็นการเพิ่มเตมิ กำลงั ทหารพรานเข้าปฏิบัตกิ าร โดย
สนธกิ ำลงั กบั หนว่ ยทหารหนว่ ยเดิม เพอื่ ใหก้ ำลงั บางส่วนได้ปฏบิ ัตภิ ารกิจเดิมต่อไป กำลงั ทจี่ ัดเข้าทำการรบไม่
เคยมีการฝกึ ร่วมกนั มากอ่ น
๙.การปอ้ งกนั ฐานจากการทำลายดว้ ยอาวุธหนักของฝ่ายขา้ ศึกตอ้ งมกี ารนำมาทบทวนกนั ใหม่
จากการทีเ่ ราประสบกับการยิงทำลายอย่างหนกั ก่อนการเข้าตี ณ ทม.๗ นนั้
๑๐. การใช้ ถ. และ รสพ.ในพื้นทบี่ รเิ วณป่าภเู ขาเชน่ น้ี สามารถใชไ้ ด้ผลในระดบั หน่งึ แม้วา่
จะจำกัดในคุณลักษณะ และล่อแหลมต่อการถูกทำลาย เนื่องจากอาวธุ อยา่ งอื่น เชน่ ปรส,. ป. และ ค. ใช้
ไม่ไดผ้ ลการปฏบิ ัติในบางที่หมาย ป.ของ ถ.เบา ๒๑ สามารถใชย้ ิงเปิดท่ีมั่นดัดแปลงแข็งแรง หรือมูลดินได้
ดีกว่า เม่อื เปรยี บเทยี บกับ ปรส.๑๐๖ มม. ท่ีติดตงั้ บน รยบ.๑/๔ ตนั สำหรับ รสพ.นั้น จะใช้ในกรณี
ลำเลยี ง สป.๕ หรือกำลังพลในกรณที ถี่ ูก ป.ฝ่ายตรงข้ามยงิ กดแต่การใช้ ถ.และ รสพ.จำเป็นที่จะตอ้ งมกี าร
เตรียมการกอ่ นเชน่ การตัดเสน้ ทาง และการเตรยี มการในเรอ่ื งการส่งกำลัง เปน็ ต้น
๑๑. จากการที่ไม่เคยมกี ารใช้อากาศยานปีกหมนุ (ฮ.) เข้ารว่ มในการยทุ ธสงครามในแบบจงึ
ก่อให้เกดิ ปญั หาขอ้ ขัดข้องขน้ึ ในระหว่างการปฏิบตั ิ ซง่ึ หนว่ ยภาคพนื้ ดนิ มักจะไม่คำนึงถงึ หลกั นิยมและขีดจำกัด
ของหน่วยบิน
๑๒.หนว่ ยภาคพืน้ มกั จะละเลยตอ่ การจัดเจ้าหน้าทพ่ี รอ้ มเครอ่ื งมอื ติดต่อสอ่ื สารประจำสนาม
จอดของอากาศยานในพนื้ ทีก่ ารยุทธ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในเร่ืองของการตดิ ต่อส่อื สารและการสัง่ ใช้บ่อยคร้ัง
82
การยงิ สนับสนุนของ ป. สนาม มบี ทเรียนจากการอำนวยการปฏบิ ตั แิ ละเทคนิคในการปฏิบตั ิดงั น้ี
ดา้ นยทุ ธการ การใช้ ป.ชต. ในการรบคร้งั น้ี เป้าหมายที่เกดิ ข้นึ ขณะที่หนว่ ยดำเนนิ กลยุทธเขา้ ตี
มีหลาย ๆ ทห่ี มายเกดิ ขึน้ พรอ้ ม ๆ กนั ทำให้ ป. แตล่ ะกองร้อยตอ้ งแบง่ ย่อยออกไปอีก เป็นกองรอ้ ยละ ๒
เปา้ หมาย พร้อม ๆ กัน ซ่งึ กองรอ้ ยไมส่ ามารถแบง่ ยอ่ ยไดม้ ากกว่านีอ้ ีก แตก่ ็ปรากฏว่ายงั ไม่สามารถยิงไดค้ รบ
ทกุ เป้าหมาย เพราะลักษณะการยงิ เปน็ การยิงขม่ ไม่ใช่การยิงทำลาย ซง่ึ ในการยิงข่มนั้นหนว่ ยจะตอ้ งยงิ
อย่างต่อเนอื่ ง และหน่วยดำเนนิ กลยทุ ธควรจะตงั้ ฐานยงิ สนบั สนุน โดยใชอ้ าวุธประจำหน่วย เช่น ค.๖๐,
ปรส. และเครอ่ื งยงิ จรวด เอ็ม.๗๓ ยงิ สนบั สนุนดว้ ย
การใช้ ป.ของข้าศกึ ในการยิงตอ่ เป้าหมาย โดยมากเปน็ ป.วิถรี าบ มที ต่ี ัง้ สูงกว่าเป้าหมาย
สามารถมองเห็นทห่ี มาย การยงิ ต่อทห่ี มายจึงเกือบจะเป็นลกั ษณะการยงิ เล็งตรง จงึ มีความแม่นยำสูงมาก จึง
เป็นข้อพจิ ารณาในการเลอื กที่ตงั้ ของหนว่ ยดำเนินกลยุทธ วา่ ควรอยู่หลงั เนินทางดา้ นตรงข้าม ป. ของข้าศกึ และ
ควรดัดแปลงภมู ิประเทศเพื่อปอ้ งกนั ค.หนักของขา้ ศึกดว้ ย
ดา้ นการสง่ กำลังบำรุง สป.๕ ในช่วงแรก กระสุน ป.และ ค. มจี ำนวนน้อยและสง่ ไมท่ ันตามความ
ต้องการ ทำให้การยิงสนับสนุนทำไดไ้ ม่เตม็ ที่ บางคร้ังเม่ือหนว่ ยดำเนินกลยทุ ธเข้าตี กระสุน ป.และ ค. ยงั มี
จำนวนไม่ถงึ เกณฑท์ ่ีจะต้องใช้ในการเขา้ ตี ดังน้ันกอ่ นจะทำการยุทธ ควรวางแผนเตรียมการในเรอื่ ง สป.๕ ไว้
ใหพ้ ร้อมในระดบั ท่ีกำหนด
กำลังทางอากาศ การใช้กำลงั ทางอากาศ และการสนบั สนนุ ด้วย ป.ทางพ้ืนดิน มบี ทเรยี น
จาการรบดังน้ี
๑. ทาง ทอ. ไดจ้ ัด ชนอต.ประจำ ฉก.พล. ในห้วงการปฏบิ ตั ิการ ทำให้สามารถประสานกัน
ได้เปน็ อย่างดี
๒. การขอสนับสนุน บ. โจมตีทางอากาศเรง่ ดว่ น ทอ.สนับสนุนให้เป็นตามแผนให้ได้
๓. การประสานการยงิ ระหว่างการปฏบิ ตั ิทางอากาศกบั การยิง ป. ยงั ไม่ดีนกั เพราะทาง
ทอ. ไมเ่ คยฝึกรว่ มกับ ป. ในพ้ืนท่ีประสานห้วงอากาศ (พปอ.) เพ่ือประสานการยิง ทำให้การสนับสนนุ ไมเ่ ป็นไป
อยา่ งต่อเน่ืองคอื เม่ือ บ. ทำงาน ป. มกั จะได้รับการรอ้ งขอใหห้ ยดุ ยิง เพอื่ ความปลอดภัย (สาเหตุอาจเป็น
ด้วยสภาพทัศนวสิ ัยในห้วงปฏิบตั กิ ารมหี มอกมากจำกดั การมองเห็น)
การป้องกันภัยทางอากาศ
๑. การจัดตงั้ ศปภอ.(สย.) เพ่ือเชื่อมโยง และประสานการปอ้ งกันภยั ทางอากาศกับ ทอ. ทำ
ให้ข่ายการยงิ ของ ปตอ. สามารถทำได้อยา่ งรวดเร็ว และการแจ้งเตือนทางอากาศเปน็ ไปอยา่ งทนั ต่อเหตกุ ารณ์
๒. ชีดความสามารถของขา้ ศึก คอื มอี าวธุ ในการตอ่ ตา้ น บ.ของฝ่ายเราจำนวนมากและมี
ประสิทธผิ ล ข้าศกึ สามารถใช้จรวดแซม ๗ จำนวนมาก ประสานการยงิ ด้วย ปตอ.๓๗ ยิงเป็นฉากในการ
ต่อตา้ น บ.ของฝ่ายเรา ขณะเข้าบินโจมตี ข้าศึกสามารถเลือกทตี่ ั้งของอาวธุ ปตอ.ได้เปน็ อย่างดี ยากแก่การ
ถกู ทำลายจาก บ. และ ป. ของฝา่ ยเรา
๓. ฝ่ายขา้ ศกึ ไมม่ ีการใชก้ ารปฏิบตั ิทางอากาศ ทำใหฝ้ ่ายเราไม่สามารถทดสอบระบบ ปภอ.
ไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่
83
ดา้ นการสง่ กำลงั บำรุง
การปฏบิ ัติการทีผ่ ่านมา ด้านการสง่ กำลังบำรงุ มปี ัญหาขอ้ ขัดข้องมากมาย แต่
อย่างไรกต็ ามอาจกลา่ วไดว้ ่าการปฏิบตั กิ ารท่ี บ.ร่มเกลา้ ทภ.๓ สามารถแก้ไขปญั หาข้อขดั ขอ้ งตา่ ง ๆ ให้สำเร็จ
ลุล่วงไปได้ ทั้งนเี้ กิดข้ึนได้จากความร่วมมอื เป็นอย่างดขี องหนว่ ยและเจ้าหน้าทข่ี องหนว่ ยส่งกำลงั บำรงุ ทกุ ระดับ
คือ มทบ./จทบ.,จทบ.สว่ นแยก, บชร.๓, ฝ่ายกำลงั บำรงุ ทภ.๓, กรมฝ่ายยทุ ธบริการของ ทบ. และ ศปก.
ทบ. สำหรับการปฏบิ ตั กิ ารรบในโอกาสตอ่ ไป ถา้ หากมุง่ หวงั ทจ่ี ะใหก้ ารส่งกำลังบำรุงมีความสมบูรณ์ย่ิงข้ึน
บทเรียนทกุ บทเรยี นจำเปน็ ต้องศกึ ษา และดำเนินการแก้ไขข้อบกพรอ่ งต่าง ๆ โดยเร่งดว่ นและตอ่ เนื่อง
ดา้ นกจิ การพลเรอื น
๑. การปฏบิ ัติการจิตวิทยาและประชาสมั พนั ธ์ เป็นหน้าท่ีของกำลังพลทกุ นายท่ีจะ
ต้องปฏิบตั อิ ยแู่ ล้ว หากยังคดิ วา่ การปฏบิ ัตกิ ารจติ วิทยาและประชาสัมพนั ธเ์ ป็นหนา้ ท่ีเฉพาะของผูใ้ ดผหู้ น่ึง
โดยเฉพาะกจ็ ะทำใหง้ าน ปจว./ปชส. ไมส่ ามารถกา้ วไปข้างหนา้ หรอื ประสบผลสำเร็จได้เลย
๒. การสร้างพลังมวลชนตอ้ งกระทำอย่างตอ่ เนือ่ ง มกี ารฝกึ ทบทวน ซกั ซอ้ มกันอยูเ่ สมอ
รวมทงั้ การตรวจเย่ยี มให้กำลงั ใจจากผ้บู งั คับบัญชาอยา่ งสมำ่ เสมอ
การปฏบิ ัตขิ องหนว่ ยรบพเิ ศษ (นสศ.)ในยทุ ธภูมบิ า้ นรม่ เกลา้
สถานการณ์ท่ีเริม่ มาจาก เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๐ แลว้ ไดท้ วีความรุนแรงเพม่ิ ข้นึ จน
เหตุการณ์ที่รุนแรงทีส่ ดุ ในวนั ท่ี ๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๓๑ ฝ่ายทหารลาวไดใ้ ชอ้ ำนาจกำลังยิงประมาณ ๑,๐๐๐
นัด ต่อที่หมาย ๗ และสามารถยดึ ที่หมาย ๗ ได้ จงึ ทำใหก้ องทพั บกจำตอ้ งหาหนทางปฏิบัติทเ่ี ปน็ การออมกำลงั
รบตามแบบ ในขณะเดยี วกนั จะต้องเป็นหนทางปฏบิ ตั ทิ ่จี ะตอ้ งประกนั ในความสำเร็จของกองทพั บกเป็นสว่ นรวม
คอื ทำให้ทหารลาวเกิดการสูญเสียทั้งทางดา้ นกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ตลอดจนขวญั กำลงั ใจในการตอ่ สู้ และ
เปา้ หมายสุดท้ายคอื สามารถสนันสนุนให้กำลงั รบตามแบบประสบชัยชนะโดยสญู เสียน้อยที่สดุ จงึ ได้มอบ
ภารกิจให้ “หนว่ ยบัญชาการสงครามพิเศษ” ปฏบิ ัติภารกจิ โดยตรงในพื้นทรี่ ะวงั ป้องกนั สนับสนนุ การปฏิบัติ
ตามแผนปอ้ งกนั ประเทศของกองทพั ภาคท่ี ๓ และ กองทัพภาคที่ ๒ ในกรณีคุกคามดว้ ยกำลังทหารของทหาร
ลาวตอ่ พน้ื ทบ่ี รเิ วณชายแดน อำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ - อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก - อำเภอ
ด่านซ้าย จังหวดั เลย ตง้ั แต่วนั ว.เวลา น. จนกว่าจะสำเร็จภารกิจ “หน่วยบญั ชาการสงครามพิเศษ” ได้
มอบให้กรมรบพิเศษที่ ๑ เป็นหนว่ ยรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิ โดยไดจ้ ัดตัง้ กองบญั ชาการควบคมุ การปฏบิ ตั ิขนึ้
ท่ีกรมรบพเิ ศษท่ี ๔ ค่ายสฤษด์ิเสนา อำเภอวงั ทอง จงั หวดั พษิ ณโุ ลกในต้นเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๓๑ โดยเรยี ก
กองบญั ชาการควบคมุ นี้วา่ “กองพลรบพิเศษที่ ๑ ส่วนหน้า” ควบคุมกำลังเข้าปฏบิ ตั ิภารกิจโดยตรงของ
หนว่ ยรบพเิ ศษ สำหรบั กำลังพลท่ีเข้าปฏิบัติการในครั้งนเ้ี ปน็ การสนธิกำลังระหวา่ ง กองพลรบพิเศษท่ี ๑ และ
กองพลรบพเิ ศษที่ ๒ โดยมอี าสาสมัครและประชาชนในพ้ืนท่ีปฏบิ ตั ิการซง่ึ หนว่ ยรบพเิ ศษไดม้ กี ารจัดเตรียมไว้
แล้วเข้ารว่ มปฏิบัติดว้ ย นอกจากน้นั ยงั มีกำลังพลซ่งึ เป็นชุดผู้ตรวจการณ์หน้าของ กองพนั ทหารปืนใหญ่ที่ ๔
เขา้ สนบั สนนุ โดยสมทบไปกบั ชดุ รบต่าง ๆ ด้วย
84
บทเรยี นจากการรบ การปฏบิ ตั ขิ องหนว่ ยรบพิเศษทีส่ ามารถแทรกซึมผ่านพื้นท่ีอทิ ธิพลของข้าศกึ เข้า
ไปลาดตระเวนคน้ หาและพิสูจน์ทราบที่ตัง้ ยิง เสน้ ทางลับ ตลอดจนคลังเสบียงสง่ิ อปุ กรณข์ องฝา่ ยขา้ ศกึ จน
สามารถติดตอ่ ให้ปนื ใหญฝ่ ่ายไทยยิงทำลายทห่ี มายจนเสียหายยบั เยนิ ได้ ท้งั ทก่ี ารเคล่ือนท่ีเขา้ ไปในดินแดน
ข้าศกึ กระทำไดย้ ากลำบากมาก เพราะภมู ปิ ระเทศสงู ชนั และเปน็ ป่ารกทึบ ซำ้ ยงั ขาดแหล่งน้ำ จนบางครง้ั
ต้องดื่มน้ำปสั สาวะของตนเองประทงั ชีวิต แต่ผลทไี่ ดร้ บั กค็ มุ้ ค่ากบั การเสี่ยง เพราะไดม้ ีส่วนชว่ ยกดดนั ให้ฝ่าย
ลาวตอ้ งยอมยตุ กิ ารส้รู บ ซ่ึงนอกจากจะเข้าไปสู่ท่ีต้งั ยงิ เสน้ ทางส่งกำลังบำรุง และอ่ืน ๆ แล้วการทีท่ หารไทย
สามารถเขา้ ไปปฏบิ ตั ิการในพ้ืนทีห่ ลงั แนวขา้ ศึกได้นัน้ มีผลตอ่ การทำลายขวญั และกำลังใจของขา้ ศึกด้วย
การตอ่ สเู้ พอ่ื เอาชนะคอมมิวนสิ ตแ์ ละขบวนการก่อการรา้ ยในพ้นื ท่ี ทภ.4
ความเปน็ มาของผกู้ ่อการรา้ ยคอมมวิ นสิ ต์ (ผกค.) ในพน้ื ทีภ่ าคใต้
พ.ศ.2488 พรรคคอมมวิ นิสต์แหง่ ประเทศไทย (พคท.) ไดเ้ ร่มิ มกี ารเคลื่อนไหว และเปดิ ดำเนินงาน
ในภาคใต้คร้งั เร่มิ แรกในพนื้ ที่ ต.ท่ายาง อ.เมอื งชุมพร จว.ชุมพร
พ.ศ.2490 พคท.เริ่มมาดำเนินงานในเขตพื้นที่ จว.ตรัง โดยมี นายมงคล ณ นคร อดีตเทศมนตรี
ตำบลกนั ตงั และนายประภาส คงสมัย อดตี สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร จว.ตรงั โดยเร่มิ ในเขตพ้นื ท่ี อ.ปะเหรียน
และ อ.ยา่ นตาขาว ตอ่ มาได้ขยายเขตงานเข้าไปใน อ.เมืองตรงั
พ.ศ.2494 พคท.ขยายเขตงานลงไปทางใต้เพอื่ ครอบคลมุ พนื้ ทีภ่ าคใต้ท้ังหมด
พ.ศ.2495 พคท.ไดจ้ ัดตั้งคณะกรรมการภาคใต้และคณะกรรมการจังหวัด
พ.ศ.2496 – 2499 พคท.ได้ขยายเขตงานไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์
อ.เวียงสระ อ.คีรรี ฐั นิคม อ.นาสาร และ อ.เคียนซา จว.สรุ าษฎร์ธานี
พ.ศ.2500 รัฐบาลสมยั จอมพลสฤษด์ิ ธนะรชั ต์ ได้ดำเนนิ การปราบปรามกวาดล้างอยา่ งรนุ แรงและ
เด็ดขาด ได้จับกุมหัวหน้าและผู้ที่เข้าร่วมขบวนการมาประหารชีวิต จึงทำให้พวกที่เคยร่วมกิจกรรมกับ ผกค.
หลบหนีเข้าไปร่วมขบวนการของ พคท.ในป่ามากขน้ึ
พ.ศ.2501 เริ่มก่อตัวขึ้นใน อ.ฉวาง จว.นครศรีธรรมราช และ อ.เมือง จว.พัทลุง โดยมีการปลุก
ระดมมวลชน โฆษณาชวนเชอ่ื หาสมาชกิ และสอนลทั ธิคอมมิวนสิ ต์
พ.ศ.2503 การดำเนินการปราบปรามจับกุมที่ จว.ตรัง กระทำให้กระบวนการของ พคท.
ในเขตพื้นท่ี จว.ตรัง ต้องหยุดชะงักและสงบเงียบลงไป
พ.ศ.2504 พคท.ใน จว.พัทลุง และ จว.นครศรีธรรมราช เริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น ได้เริ่มมีหน่วย
จรยุทธ์เข้ามาปฏิบตั ิงาน
พ.ศ.2505 สมาชิกพรรคได้ขยายเขตงานมากขึ้น ได้มีชื่อเรียกขบวนการต่าง ๆ กันหลายชื่อ เช่น
“ขบวนร่วมปฏิวัติแห่งประเทศไทย” “ขบวนการคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” “แนวร่วมสังคมนิยม”
“แนวรว่ มรักชาตแิ หง่ ประเทศไทย” ในพ้ืนที่ จว.สรุ าษฏรธ์ านี
พ.ศ.2505 – 2507 มผี ู้เข้าร่วมกบั พคท.ในป่ามากขน้ึ ทำให้ พคท.มกี ำลังเขม้ แขง็ ข้นึ
พ.ศ.2507 ผกค.สุราษฏร์ธานี ไดม้ กี ารจดั ตงั้ กองกำลงั ตดิ อาวธุ สร้างค่าย มกี ารฝึกสอน อบรม ผกค.
ตรังได้เริ่มเปิดงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถูกจับกุมและหยุดไป เมื่อ พ.ศ. 2503 โดยขยายเขตงานกว้าง
85
ออกไปใน อ.ห้วยยอด และเชื่อมกับ ผกค.ใน จว.พัทลุง ผกค.พัทลุง เริ่มติดอาวุธเปิดเขตงานออกไปอีกหลาย
อำเภอในเขตจังหวัด
พ.ศ.2508 พคท. เปิดคา่ ย 508 ทชี่ ่องชา้ ง อ.นาสาร จว.สรุ าษฏรธ์ านี ไดข้ ยายเขตงานกวา้ งขวางขึ้น
มกี ำลังเพ่มิ ขน้ึ และได้สร้างคา่ ยบริวารข้ึนหลายแหง่ ในพื้นท่ี จว.สุราษฏร์ธานี รวมท้งั มีกองโจรออกปฏิบตั ิงาน
พ.ศ. 2509 รฐั บาลไดส้ ่งกำลังเข้าปราบปรามกวาดลา้ งและจบั กมุ หวั หนา้ ผกค.ที่ จว.ตรัง ได้ออกมา
มอบตัว พคท.จึงต้องจัดตั้งคณะกรรมการจังหวัดใหม่ และขยายการควบคุมออกไปถึงสองจังหวัด (พัทลุง –
ตรัง)
พ.ศ. 2510 ผกค. ที่หลบหนีการกวาดล้างในพื้นที่ จว.ตรัง นครศรีธรรมราช และสุราษฏร์ธานี
ได้เข้ามาเคล่ือนไหวใน จว.กระบ่ี
พ.ศ. 2512 เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นในสี่จังหวัด คือ จว.สุราษฏร์ธานี, จว.นครศรีธรรมราช,
จว.พัทลุง และ จว.ตรัง ผกค.ได้ขยายพื้นที่เขตปฏิบัติงานอย่างกว้างขวางทุกอำเภอ เว้นอำเภอกันตัง มี
การปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง ด้วยการโจมตีที่ตั้ง ซุ่มโจมตี ซุ่มยิง
วางกับระเบิด ตลอดจนการลอบสงั หารเจ้าหน้าทแ่ี ละราษฎรท่ีให้ความร่วมมอื กับเจ้าหน้าที่ ทางรัฐบาลก็ได้ส่ง
กำลังออกทำการปราบปรามกวาดลา้ งอย่างรุนแรงและเดด็ ขาดเชน่ กัน
พ.ศ. 2514 – 2515 การปฏิบัติงานของ พคท.ในภาคใต้ได้เริ่มความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในจังหวัด
สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง และยังได้ขยายเขตงานเข้าไปในจังหวัดสตูลใน อ.ควนกาหลง
อ.ทุ่งหว้า อ.ละงู และตอนเหนือของกิ่ง อ.ควนโดน ในปลายปี 15 ได้มีการปิดล้อมหมู่บ้านบังคับให้ราษฎร
มาร่วมฟงั การอบรมลทั ธิฯ บีบบังคบั ใหเ้ ด็กหนุม่ สาวขึน้ เขาไปรับการฝึกอบรม เรยี กเก็บอาวุธปนื จากราษฎรเพ่ือ
ป้องกันมิให้ราษฎรไปเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่มาทำการปราบปรามพวกตน ขอรับการสนับสนุนเสบียงอาหารจาก
ราษฎรที่อยู่ใกล้ที่เจ้าหน้าที่ปกครองเข้าไปไม่ถึง ราษฎรบางตำบลทนไม่ได้ต้องอพยพหนีเข้ามาทางอำเภอ
จังหวดั ใหช้ ่วยคุม้ ครองให้ ทางราชการได้สง่ กำลังออกไปกวาดลา้ ง แต่ไม่คอ่ ยจะไดผ้ ลมากนกั เพราะกำลังท่ีใช้
ปราบปรามก็มีนอ้ ยไม่ครบทกุ พ้นื ท่ีหรอื ทุกจุดท่มี ีการปฏบิ ัตกิ ารของ พคท. สำหรบั เวลาทใ่ี ช้ในการปราบปราม
ชองเจ้าหน้าที่ก็มีระยะเพียงสั้น ๆ เพียงชั่วระยะเวลา 1 เดือน หรือ 1 เดือนครึ่ง ก็หยุดการปราบปรามถอน
กำลังกลับเข้าหน่วย พคท.จึงมเี วลาฟืน้ ฟูกำลัง และปรับปรงุ กำลัง ชักจูง และบีบบังคับคนหนุ่มสาวเข้ามาเปน็
พรรคพวกอีกเพ่อื เตรยี มต่อสกู้ ับเจา้ หนา้ ทข่ี องรัฐตอ่ ไป
พ.ศ. 2516 เหตุการณ์หลัง 14 ต.ค. 16 ได้ทำให้นกั ศกึ ษา นักการเมืองหนีเข้าป่ามารว่ มขบวนการ
พคท.มากขึ้น แต่เนื่องจากอุดมการณ์และความคิดเห็นไม่ตรงกัน จึงก่อให้เกิดความแตกแยกและบางพวกก็ได้
ออกมามอบตัวทางราชการไดด้ ำเนินการกวาดล้างอยา่ งรนุ แรงและเดด็ ขาด แต่ขาดความต่อเนอ่ื ง
พ.ศ. 2517 – 2518 การดำเนินงานของ พคท.ยังคงดำเนินต่อไปเกือบทุกจังหวัดในภาคใต้โดย
เฉพาะที่สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง ยังคงรุนแรงตลอดมา พคท.ได้ออกแถลงการณ์เมื่อ
1 ธ.ค. 18 ใหก้ ลมุ่ สามัคคีพลงั รักชาติรักประชาธิปไตย ขยายสงครามประชาชนอย่างเต็มท่ี ผกค.ในภาคใต้เร่ิม
ปฏิบัติการต่อกำลังของเจ้าหน้าที่มากยิ่งขึ้น แต่เนื่องจากการกวาดล้างอย่างรุนแรงและเด็ ดขาดจากกำลัง
ฝ่ายเจ้าหน้าที่ ทำให้การดำเนินงานของ พคท.ภาคใต้ต้องหยุดชะงกั ไปชั่วระยะหนึ่ง แต่ต่อมาก็สามารถขยาย
86
เขตงานและกองกำลังติดอาวธุ ไดเ้ พิ่มมากขึ้น โดยอาศัยเงื่อนไขและจุดอ่อนจากการปฏิบัติของเจา้ หน้าทีเ่ ปน็
เครื่องมอื ในการขยายเขตงานแลว้ ปลกุ ระดมมวลชน รวบรวมกำลงั ผทู้ เี่ ข้ารว่ มขบวนการ ตั้งเปน็ ฐานปฏิบัติการ
ในพ้ืนทรี่ อยต่อของจงั หวดั ตรงั , พทั ลงุ , สตูล และนครศรีธรรมราช โดยเป็นแหลง่ สอ่ งสุมกำลงั และฐานที่ม่นั คง
พ.ศ. 2519 อดีตนักการเมือง, สส., นักศึกษา ซึ่งหลบหนีกรณีเหตุการณ์ 6 ต.ค.19 เข้าไปร่วมกับ
พคท. มากขึ้น ทำให้กำลังกล้าแข็งยิ่งขึ้นได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างของเขตงานต่าง ๆ
นโยบายของคณะกรรมการเขต คณะกรรมการจังหวัด ผกค.ใน จว.กระบ่ี ได้เขา้ โจมตีและเผาสถานีตำรวจภูธร
ตำบลลำทับ อ.คลองทอ่ ม ลอบสังหารเจา้ หนา้ ทถี่ งึ 3 ครั้ง
พ.ศ. 2520 – 2522 การปราบปรามของกำลังฝ่ายเจา้ หน้าที่เพื่อลดอิทธิพลของ ผกค.ได้ผลดีมาก
ทำให้ ผกค.สูญเสียอยา่ งมาก แตเ่ มอื่ กองกำลงั ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ถอนกลับ ผกค.กก็ ลบั เข้ามายึดครองพื้นที่และ
มีอิทธิพลเหนือพ้ืนที่ในบริเวณได้ใหม่ รวมทั้งมีการสถาปนาฟ้ืนฟูกำลังรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์ เสบียงอาหาร
และปรบั ปรงุ เขตงานขน้ึ อีก
พ.ศ. 2524 แม้ว่ากองกำลังของฝ่ายรัฐบาลจะได้เพิ่มความกดดันทางทหารมากขึ้นเพียงใดก็ตาม
การก่อการร้ายก็ไม่ลดลง ทัง้ ชุมพร กระบี่ สรุ าษฏร์ธานี พัทลงุ และ นครศรีธรรมราช ยังมกี ารเข้าโจมตีสถานท่ี
ราชการ ลอบทำรา้ ยเจา้ หนา้ ท่ี ซุม่ โจมตขี บวนเดินทางของเจ้าหน้าท่ี กอ่ ให้เกิดการสญู เสยี ท้ังชีวิตและทรัพย์สิน
ของทางราชการอยา่ งมาก
พ.ศ. 2525 จากการรุกทางดา้ นการเมอื งและการกดดันทางด้านการทหารอย่างต่อเนือ่ ง โดยไมใ่ ห้
โอกาส ผกค.ได้มีเวลาหยุดพักเพื่อฟื้นฟู หรือปรับปรุงกำลังเหมือนเดิมทำให้ ผกค.ต้องสูญเสียทั้งฐานที่ม่ัน
อาวธุ ยทุ โธปกรณ์ และมวลชนไปมาก โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ใน จว.นครศรธี รรมราชและสุราษฎร์ธานี ทำให้ ผกค.
ออกมามอบตัวมากย่งิ ขน้ึ และ ผกค.ทยี่ ังหลงเหลือพยายามที่จะหลกี เลี่ยงการปะทะ
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2534 การสูญเสียของ พคท.สาขาภาคใต้ในทุกด้าน ปรากฏความเสื่อมทรุด
รวมทั้งความแตกแยกภายใน สาเหตุของความตกต่ำที่เกิดจากปัญหาสำคัญ 2 ประการ คือ ความล้มเหลว
ทางการบงั คบั บญั ชา และขาดศรัทธาตอ่ สภาพการนำ และสภาพความจำเปน็ ทางเศรษฐกจิ ทจ่ี ะตอ้ งพึง่ ตนเอง
แม้จะปรากฏข่าวการเคลื่อนไหวของ พคท.สาขาภาคใต้ว่า จะพยายามทบทวนสภาพความมั่นคง
ด้วยการประชุมชี้แจงสมาชิกพรรค, ฝึกอบรมสมาชกิ ใหม่ แต่ก็ไม่มีแนวทางท่ีจะฟื้นฟู, หรือแก้ไขปัญหาสำคัญ
ทั้ง 2 ประการดังกล่าวให้ลุล่วงไปได้ ทั้งนี้ด้วยสถานการณโ์ ลกและภายในประเทศ ไม่มีเง่ือนไขท่ีจะเก้ือกูลต่อ
ความเติบโตขึน้ มาใหมไ่ ด้อยา่ งแนน่ อนโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ พคท.ทกุ สาขาภายใน พคท.ขาดความเป็นอันหนึ่งอัน
เดียวกนั อย่างแนช่ ัด และสภาพการนำของ พคท.เอง กไ็ มส่ ามารถบริหารพรรคได้
ในส่วนของ พคท.สาขาภาคใต้ จากการตดิ ตอ่ ประสานของฝ่ายเรากบั ระดบั หวั หนา้ เขตงานมาเป็น
ลำดบั ต้ังแตป่ ี 32 เป็นการเพิม่ นำ้ หนกั ความจรงิ ใจในการแกป้ ญั หาใหห้ มดสนิ้ ไปแมว้ ่าจะมีปัญหาการเจรจา
ต่อรองในเงอื่ นไขทีเ่ กยี่ วข้องอยบู่ า้ งในห้วงเวลาทผี่ ่านมา แต่การเคล่ือนไหวของความรนุ แรงเปน็ ตวั ชใี้ หเ้ หน็
อย่างชดั เจนวา่ พคท.สาขาภาคใต้ ได้ลดบทบาทการก่อการร้ายลง จะมีเพียงการอยูร่ อดดา้ นเศรษฐกจิ เพอ่ื
รักษากองกำลังไว้ใหน้ านที่สดุ กับงานจำเปน็ ทีจ่ ะคงไวซ้ ่งึ อิทธพิ ลเหนือดพ้นื ทีก่ ารเคลื่อนไหวต่อมวลชนในพื้นท่ี
เพอื่ ความปลอดภัยและตั้งแต่ 1 ก.ค. 34 เป็นตน้ มา พคท.ภาคใต้ ไดย้ ตุ กิ ารต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างไมเ่ ป็นทางการ
87
รวมท้งั ไดใ้ ห้ความรว่ มมอื ต่อ ทภ.4 และ กอ.รมน.ภาค 4 ในการไม่เคลอื่ นไหวในการสร้างความไม่ปลอดภยั
ในชีวิตและทรัพย์สิน อันเกิดจากสมาชิกของ พคท.ภาคใต้ การลงนามอยา่ งเปน็ ทางการ เมือ่ 26 ม.ิ ย. 34 ใน
พื้นที่ ม.6 บ.ปากลง ต.กรุงชงิ อ.ท่าศาลา จว. น.ศ. (เขตงานสม) ระหว่างผนู้ ำ พคท.สาขาภาคใต้กับผแู้ ทน
กอ.รมน.ภาค 4
ข้อสังเกต พคท.สาขาภาคใตย้ อมมอบตัวเข้าเปน็ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยสว่ นหนึง่ แต่ไม่มีการมอบอาวุธ
ให้กับทางราชการเหมอื นภาคอื่น ๆ
88
คำถามท้ายบทท่ี 9
การตอ่ ส้เู พื่อเอาชนะคอมมวิ นิสตใ์ นประเทศไทย
1. ลทั ธิคอมมิวนสิ ต์ มกี ำเนดิ มาจากปรชั ญาใด และผใู้ ดท่ีทำการปฏิวตั ริ ัสเซีย
2. พรรคคอมมิวนิสต์จีนไดส้ ถาปนา “พรรคคอมมิวนสิ ต์ทะเลใต้” ขน้ึ การขยายตวั ของคอมมวิ นสิ ต์ โดย
เข้าส่ปู ระเทศไทยเมอ่ื ปี พ.ศ.ใด
3. พวกคอมมิวนิสต์ก็ได้ประกาศตั้ง “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” โดยได้มีการประชุมพรรค
เปน็ ครั้งแรกเมอื่ ใด
4. จงอธิบายความเคลื่อนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จนถึงวันเสียงปืนแตก
มาพอสังเขป
5. วนั “วันเสียงปนื แตก” ตรงกับวนั เดือนปีอะไร และพรรคคอมมวิ นิสต์แหง่ ประเทศไทยได้กระทำส่ิง
ใดต่อเจา้ หนา้ ที่รัฐ
6. คอมมิวนิสต์ได้พยายามใชจ้ ดุ อ่อนใดกบั ประชาชนต่างๆรวมถึงประชาชนชนบทท่ีอยู่หา่ งไกล
7. เพราะเหตุใดทางการจึงสัง่ ลงโทษประหารชีวิต พคท.ระดับนำ 2 คน คือ นายครอง จันดาวงษ์ กับ
นาย รวม วงศ์พนั ธ์
8. จงอธิบายแนวทางเคล่ือนทบี่ ริเวณช่องบกสามารถแบ่งเปน็ แนวสำคญั ได้ ก่ี แนว อะไรบา้ ง
9. จงสรุปสรุปผลการปฏบิ ัตเิ หตกุ ารณ์ ผกค.โจมตีฐานปฏบิ ตั ิการ บ.ห้วยโก๋น มาพอสงั เขป
10. จงแสดงความคิดเห็นเพราะเหตุใด พคท.สาขาภาคใต้ยอมมอบตัวเข้าเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
ส่วนหนึ่ง แตไ่ มม่ ีการมอบอาวุธให้กับทางราชการเหมอื นภาคอืน่ ๆ มาพอสังเขป