The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patton3273, 2021-05-27 03:51:34

ตำราประวัติศาสตร์การสงครามฉบับเต็ม

ตำราประวัติศาสตร์การสงคราม

43

ให้ตามที่ร้องขอ พร้อมกับนำกำลังไปเสริมด้วย โดย กรม ร.1 ได้ประสานให้ ป.พล.อสส.ยิงเป็นฉากตามแนว
เสน้ ทางจากถนนสาย 15 เข้าฐานปฏิบัติการของ ทก.ร.1 ที่ล็อคแอน เพอื่ ให้คุม้ ครองแก่ชุดลาดตระเวนดังกล่าว

เมื่อ 160430 มี.ค.2512 มว.ยานเกราะที่ 1 ร้อย ม.ที่ 3 พัน.ม.พล.อสส. (ร.ต.สุพจน์ วงค์ชั้น เป็น
ผบ.มว.) รว่ มกบั 2 หม.ู่ ปล. ของ ร้อย 2 พัน.2 ไดเ้ คลอื่ นชุดลาดตระเวนเข้าบรรจบกับ ร.1 พนั .3 โดยเคลื่อนท่ี
เกาะฉากการยิงของ ป.พล.อสส. และยิงเปิดทางด้วยอาวุธประจำกาย (ปก.93 และ ปก.เอ็ม 60) ไปยังข้าศึก
อย่างหนักหน่วงทำให้ข้าศึกไม่สามารถหยุดยั้งได้ ชุดลาดตระเวนสามารถเข้าบรรจบกับ ร .1 พัน.3 ได้
เวลาประมาณ 0445

เมื่อ 160500 มี.ค.2512 การสู้รบดำเนินต่อไป โดยที่ฝ่ายเราได้รับเสริมกำลังและกระสุนเพิ่มเติม
จึงมีกำลังใจดีขึ้น ข้าศึกได้เริ่มถอนกำลังกลับไปทางทิศใต้ซึ่งเป็นป่ารกทึบ ร.1 พัน.3 จึงได้จัดกำลังออกไล่
ติดตาม โดยมี มว.ยานเกราะ ร่วมด้วยซึ่งได้ไล่ติดตามกวาดล้างทำลายข้าศึกทางทิศตะวันตกและทางทิศใต้
จนถึงชายป่าทึบพร้อมกับขอรับการยิงสนับสนุนจาก ป.พล.อสส. โดยการขอยิงกระสุนระเบิดแตกอากาศตาม
เส้นทางถอนตัวของข้าศกึ และเพอ่ื ใหส้ ามารถทำลายข้าศึกได้มากยง่ิ ข้นึ ร.1 พัน.3 ได้รอ้ งขอการสนับสนุนทาง
อากาศโดยใกล้ชิด ณ เป้าหมายท่คี าดว่าข้าศึกถอนไปเขา้ ตำบลนดั พบหรือที่รวมพลอกี ดว้ ยและการรุกไล่ติดตาม
ได้ยุติลงเมื่อเวลาประมาณ 0700 จากการตรวจสนามรบปรากฏวา่ ข้าศึกเสียชีวิตทาง ร้อย อวบ.ที่ 1 (ทิศทาง
เข้าตหี ลกั ) เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบรเิ วณที่ฝงั ลูกระเบดิ ปรากฏมีขา้ ศึกเสยี ชีวติ เปน็ จำนวนมาก

ผลการสู้รบ

ฝ่ายเรา ฝา่ ยขา้ ศกึ

เสยี ชีวติ 2 นาย เสยี ชวี ติ 116 คน

บาดเจบ็ สาหสั 19 นาย จับเปน็ เชลยได้ 3 คน

บาดเจ็บเล็กน้อย 8 นาย

ยึด ปลย.เอเค 47 ได้ 31 กระบอก

ยดึ อาร์พจี ี ได้ 12 กระบอก

ยึด ปกบ.แบบจนี แดงได้ 3 กระบอก

วิเคราะห์ผลการปฏบิ ตั ิของท้งั สองฝา่ ย

การรบที่หมู่บ้านล็อคแอน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2512 นี้ ถือเป็นชัยชนะครั้งที่สำคัญที่สุดของ

พล.อสส. ผลดั ที่ 1 ปจั จยั แห่งความสำเรจ็ ดงั กลา่ วอาจพิจารณาไดเ้ ปน็ 4 ประการ ดังนี้

1. ขวัญและกำลังใจ ฝ่ายเรามีความมั่นใจในอนุภาพ ประสิทธิภาพความต่อเนื่องของอาวุธยิง

สนับสนุนของฝ่ายเรา ซึ่งเหนือกว่าข้าศึกมากมาย และมีความมั่นใจว่าขึ้น ฮ.พยาบาล ได้แล้วจะไม่เสียชีวิต

ปจั จยั ทั้ง 2 ดงั กลา่ วทำใหฝ้ ่ายเรามีขวญั และกำลงั ใจเหนอื กว่าฝ่ายขา้ ศึกทัง้ ท่ีเป็นฝ่ายต้งั รบั

2. ความรว่ มมือด้วยความเสียสละ อดทน กลา้ หาญของทุกฝ่าย จะเห็นได้วา่ ทหารทุกคนของทุก

หน่วยได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่เห็นแก่ชีวิต ความเหน็ดเหนื่อยหรือท้อถอยกับกำลังข้าศึกท่ี

เหนอื กวา่ และมุ่งม่ันใหก้ ำลงั ฝา่ ยเราอยูร่ อดปลอดภัย และได้ชัยชนะ

44

3. ใช้หลักการดำเนนิ กลยุทธ์และจโู่ จม การใชช้ ดุ ลาดตระเวนเส้นทาง (ROAD RUNNER) ตีฝ่าเข้า
ไปถึงฐานปฏิบัติการของ ร.1 พัน.3 นั้น นับเป็นการดำเนินกลยุทธ์อย่างกล้าหาญ และจู่โจม ทำให้ข้าศึกรู้ตัว
ทันทีว่าไม่สามารถเอาชนะได้ และการดำเนินกลยุทธ์ด้วยการยิง ป. และ ฮ.ติดอาวุธอย่างมีการประสานกัน
ทำลายการรุกคืบหนา้ ของข้าศึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง สกัดกั้นการถอนตวั ของขา้ ศึกอย่างได้ผล และ
การใช้เคร่อื งบินท้งิ พลุส่องสว่างทำให้ฝ่ายเราพลิกสถานการณ์เป็นฝา่ ยได้เปรยี บทันที

4. ใชห้ ลักการออมกำลงั ร.1 พนั .3 ไดอ้ าศยั ที่กำบังปอ้ งกนั การระดมยิงด้วยอาวุธตา่ ง ๆ ของข้าศึกซึ่ง
จดั เตรยี มไวเ้ ป็นอยา่ งดี ทำให้ลดการสูญเสียได้มาก และฝ่ายเราได้อาวธุ ยงิ สนับสนนุ ทกุ อย่างอย่างแม่นยำและ
ทันเวลาภายใต้การประสาน การใช้อาวุธอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการยิงสนับสนุนทางอากาศเป็น
เครอ่ื งมือออมกำลังทมี่ คี วามสำคัญอยา่ งยงิ่

5. ใช้หลกั ระวังปอ้ งกนั ร.1 พัน.3 ไดเ้ ตรียมการระวังป้องกนั ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพโดยใชพ้ ลุสะดุด
และทุ่นระเบิดแสวงเครื่องในการป้องกัน ทก.พันและที่ตั้ง ค.อย่างแน่นหนา เพื่อชดเชยความขาดแคลนลวด
หนามหีบเพลง การจัดกำลังซุ่มโจมตีนอกฐานการวางตำบลยิงปอ้ งกนั ตนเองและการเฝ้าสังเกตสิ่งทีผ่ ิดปกติ
ตา่ ง ๆ ที่อาจแปลเปน็ สิง่ บอกเหตไุ ด้ ทำใหส้ ามารถร้ตู วั ลว่ งหนา้ และเตรยี มการป้องกนั ไดท้ ันเวลาและไดผ้ ล

บทเรยี นจากการรบ
1. การยิงสนบั สนุนทแี่ ม่นยำและทันเวลานับเป็นหัวใจทส่ี ำคัญยิง่ ในการปฏบิ ัตกิ ารรบ
2. ขณะการปฏิบตั ิ ซ่ึงมีการใชอ้ ากาศยาน และมกี ารยงิ สนับสนนุ ของ ป. พร้อม ๆ กนั นน้ั การตกลง

ใจให้ป.ยิงสนับสนุนต่อไปหรือไม่ เป็นไปตามความต้องการของ ผบ.หน่วยกำลังรบ โดยผู้ที่ประสานการยิง
สนบั สนนุ จะเป็นผ้ใู ห้คำแนะนำท่เี หมาะสม เพื่อให้เกดิ ผลดที สี่ ดุ ตอ่ การปฏิบัตขิ องหนว่ ยกำลังรบได้

3. ระบบการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพ เช่น พลุสะดุด ยามคอยเหตุ การสังเกตสิ่งผิดปกติต่าง ๆ
ยอ่ มจะทำใหร้ ู้การเข้ามาของข้าศกึ ไดก้ อ่ นข้าศกึ เรม่ิ เขา้ ตี

4. ขวัญและกำลงั ใจดี เป็นสง่ิ ท่ีสำคญั ท่สี ุดในการรบ ซึ่งทกุ หนว่ ยจะตอ้ งบำรงุ และรักษาให้มีสภาพดี
ตลอดเวลา

5. การเตรยี มสะสม สป.5 ไว้อย่างเพยี งพอท่ีจะทำการรบไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง และเตรียมการสง่ กำลังได้
อยา่ งทันเวลา ยอ่ มทำใหห้ นว่ ยมศี กั ยภาพพอทจ่ี ะเอาชนะการเขา้ ตีของข้าศึกได้
การยุติสงครามเวยี ดนาม

สงครามเวียดนามได้ดำเนินไปถึง 7 ปี แต่สถานการณ์ต่าง ๆ ยังไม่กระเตื้องขึ้นแม้แต่น้อย มีแต่การ
สูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน และความอดอยากยากแค้นไปทัว่ การรบไม่มีผลแพ้ชนะกนั โดยเด็ดขาด ฝ่ายเวียดนาม
เหนือ และ เวียดกงได้ดำเนินการรุกทางการเมือง ควบคู่ไปกับการทหาร ด้วยการลวงฝ่ายโลกเสรีว่าต้องการ
สันติภาพ และร้องขอให้มีการเจรจาสงบศึกขึ้นที่กรุงปารีส ได้มีการเจรจากัน 146 ครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม
2511 จนถึงเดือน มกราคม 2515 เริ่มตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี จอห์นสัน จนถึงสมัยประธานาธิบดี นิกสัน
ของสหรัฐฯ แตก่ ารเจรจาไม่มีผลคืบหน้า ฝา่ ยเวียดนามเหนือ และเวียดกง จะถอื โอกาสให้ที่ประชุมเจรจาเป็น
สถานที่โฆษณาชวนเชื่อ และเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อใดที่ฝ่ายเวียดนามเหนือ และเวียดกงเพลี้ยงพล้ำในด้าน
การทหาร จะต้องเสนอขอเจรจาสันติภาพทันที เพ่ือประวิงเวลาในการปรับกำลังทหาร เข้าโจมตีเวียดนามใต้

45

ใหม่ ในระหวา่ งปี พ.ศ.2514 - 2515 ขณะที่สหรัฐฯ ประสบปัญหาภายในประเทศอย่างหนัก ทั้งภาระเงินเฟอ้
ปัญหาคนว่างงาน และปัญหาการขาดแคลนน้ำมันภายในประเทศ ฝ่ายเวียดนามเหนือ และเวียดกงได้
ฉวยโอกาส เพิ่มการปฏิบัติการทางจิตวิทยาในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน โดยชี้ให้เห็นว่าการที่สหรัฐฯ อยู่ใน
ภาวะดังกลา่ ว เปน็ ผลสืบเน่ืองมาจากการที่สหรฐั ฯ สง่ ทหารเข้าไปทำสงครามในเวียดนามถึง 600,000 คน และ
ใช้งบประมาณ ปลี ะไม่ต่ำกวา่ 30,000 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯต้งั แตป่ ี พ.ศ. 2507 ถึงปี พ.ศ. 2514

ผลการโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าว ทำให้ประชาชนชาวอเมริกันเรียกร้องให้รัฐบาลถอนทหารออกจาก
เวยี ดนามใต้ และยุตกิ ารช่วยเหลอื ทงั้ ส้นิ โดยมีการเดนิ ขบวนทั่วประเทศ เป็นผลใหร้ ฐั สภาสหรัฐฯ ลงมตใิ ห้ถอน
ทหารอเมริกนั ออกจากเวยี ดนามใต้ พร้อมกับตดั ทอนการชว่ ยเหลือแกเ่ วยี ดนามใต้ ประธานาธิบดนี ิกสนั จำต้อง
เปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับเวียดนามใต้ และประกาศหลักการนิกสัน (Nixon's Doctrin) สหรัฐฯ ได้ดำเนินการ
ถอนกำลังทหารออกจากเวียดนามใต้ และให้เวียดนามใต้ใช้โครงการช่วยเหลือตนเอง ในการป้องกันทหาร
(Vietnamization) โดยมอบอาวธุ หลักให้เท่าน้ัน ด้วยเหตุนี้กำลงั ของฝา่ ยโลกเสรที ี่ส่งไปรว่ มรบในเวยี ดนามใต้
จงั ตดั สินใจถอนกำลงั ของชาติตนกลับเชน่ กัน รวมท้ังประเทศไทย

ประธานาธิบดีนิกสันได้แถลงนโยบายของสหรัฐฯ เพื่อให้เกิดสันติภาพขึ้นในเวียดนามใต้รวม 8 ข้อ
ด้วยกัน มีใจความว่า กำลังทหารทั้งหมดที่ไม่ใช่ของเวียดนามใต้ จะเริ่มถอนออกจากเวยี ดนามใต้เมื่อไดต้ กลง
เห็นชอบร่วมกันแล้ว การถอนจะถอนเป็นขั้น ๆ ภายใน 12 เดือน กำลังเวียดนามเหนือที่อยู่ในเวียดนามใต้
กต็ อ้ งกลบั ไปเช่นเดียวกัน ใหค้ ณะกรรมาธิการระหว่างประเทศ ทท่ี ้ังสองฝา่ ยรับรองควบคมุ ดูแลการถอนทหาร
ของทั้งสองฝ่าย ให้จัดการเลือกตั้งขึ้นตามวิธีการที่เห็นชอบร่วมกัน โดยให้อยู่ในความควบคุมดูแลของ
กรรมาธกิ ารระหวา่ งประเทศ ให้มกี ารตกลงเก่ียวกับการสง่ คนื เชลยศึก และทกุ ฝา่ ยจะต้องปฏิบัตติ ามอนุสัญญา
เจนวี า พ.ศ. 2497 เรอื่ งเวียดนามและกมั พชู ากับขอ้ ตกลงเรอ่ื งลาว พ.ศ. 2505

สหรฐั ฯ ไดเ้ ร่มิ ถอนทหารออกจากเวียดนามใต้ ตงั้ แต่วนั ที่ 8 กรกฎาคม 2512 เป็นต้นมา และกำลังรบ
ชดุ สุดทา้ ยไดเ้ ดินทางออกจากเวยี ดนาม เมอ่ื วันท่ี 11 สิงหาคม 2515 เหลอื ไวเ้ พียงเจา้ หน้าที่ทางธุรการเท่านั้น
และเมื่อไดม้ ีการลงนามในความตกลงสงบศกึ สงครามเวียดนามทีก่ รงุ ปารีส ในเดือน มกราคม 2516 แลว้ ทหาร
สหรฐั ฯ คนสุดท้ายได้เดินทางออกจากเวียดนามใต้ เม่อื วนั ที่ 29 มีนาคม 2516
ยุทธศาสตร์เวียดนามเหนือ เวียดนามเหนือกำหนดแผนการเขา้ ยึดเวียดนามใต้ เพื่อรวมเป็นประเทศเดียวกัน
โดยแบ่งการดำเนนิ การเป็น 3 ขน้ั ตอน คอื

1. เสรมิ สร้างความม่ันคงให้แกเ่ วียดนามเหนือ
2. ปลดแอกเวียดนามใต้
3. รวมเวียดนามทงั้ สองส่วนเข้าด้วยกัน
ในปีพ.ศ.2514 เวียดนามเหนือประสบความสำเร็จในการจัดตั้งโครงสร้างทางการเมืองภายใน
(Infrastructure) ในเวยี ดนามใต้อย่างต่อเนอื่ ง
ในปลายปี พ.ศ.2514 เวียดนามใต้พฒั นาระบบการส่งกำลังบำรุงทั้งในลาวใต้ และกัมพูชาโดยเฉพาะ
อยา่ งยง่ิ เส้นทางโฮจิมินห์ เพิม่ ความรนุ แรงในการปฏิบัติการทางทหาร จากระดับเดมิ มากยิ่งขึน้ โดยส่งกำลังและ

46

อาวุธยุทโธปกรณ์ แทรกซึมเข้าไปในเวียดนามใต้ รวมทั้งเคลื่อนย้ายกำลังหลัก จากเวียดนามเหนือมายัง
เวียดนามใต้แล้วเร่ิมทำการรกุ ใหญ่ตัง้ แต่วันที่ 10 มีนาคม 2515 เป็นตน้ มา
การดำเนนิ การของเวยี ดนามเหนือ และเวียดกง

เวียดนามเหนือได้ปฏิบัติการรุกเข้าไปในเวียดนามใต้ เพื่อผลทางการเมือง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ระหว่าง
ปลายเดือนกันยายน ถึงต้นเดือน ตุลาคม 2514 ซึ่งเปน็ ระยะทีม่ ีการเลอื กตัง้ ผู้แทนราษฎร และประธานาธบิ ดี
ในเวียดนามใต้ ครง้ั ที่ 2 ระหวา่ ง ปลายเดือน มีนาคม - พฤษภาคม 2515 เวยี ดนามเหนือไดเ้ ปิดฉากการรกุ ใหญ่
ในเวียดนามใต้ จากเขตปลอดทหารลงไปจนถึงแหลมคาเมา มีการปฏิบัติการรุนแรง ที่บริเวณชายฝั่งทะเล
ตอนกลางของเวียดนามใต้ รวมทั้งภาคตะวันออก และภาคตะวันตกที่มีราษฎรอาศัยอยู่หนาแน่น พื้นที่
ปฏิบัติการของกำลังรบหลักเวียดนามเหนือได้แก่ พื้นที่ตั้งเขตปลอดทหาร (เส้นขนานที่ 17) ลงมายังที่ราบสงู
ด้านตะวนั ตกของเวยี ดนามใต้ และพ้นื ทตี่ ิดชายแดนลาวเหนือจังหวัดไทนินห์ และทางตะวันตกเฉียงเหนือของ
กรุงไซง่ ่อน

การที่เวียดนามเหนือรุกใหญ่ครั้งนี้เนื่องจากสหภาพโซเวียตให้การสนับสนุนอาวุธหนัก เช่น ปืนใหญ่
รถถัง และปนื ต่อสู่อากาศยานเปน็ จำนวนมาก กองทัพเวียดนามใต้ สามารถต้านทานไว้ได้อย่างเหนียวแนน่ ฝา่ ย
เวียดนามเหนือยังไมส่ ามารถยึดจังหวัดกวางตรีได้ รถถงั 50 คนั ถกู ทำลายเกอื บหมด กองทพั อากาศสหรฐั ฯ ได้
ส่งฝงู บินทิ้งระเบดิ แบบ B - 52 ไปท้งิ ระเบดิ ขา้ ศึกบริเวณจังหวัดเกยี วลนิ นับเป็นการเร่มิ ตน้ การท้ิงระเบิดโจมตี
เวยี ดนามเหนือครง้ั ใหม่ หลงั จากได้หยดุ ชะงกั มาตง้ั แต่วันท่ี 11 ตุลาคม 2511

เวียดนามเหนือได้หันไปเปิดการรุกทางภาคใต้ ของเวียดนามใต้ โดยส่งกำลังประมาณ 10,000 คน
พร้อมรถถังเป็นจำนวนมาก จากฐานที่ตั้งในกัมพูชาบุกเข้าเวียดนามใต้ มุ่งเข้ายึดจังหวัดล็อคนิน และอันล็อค
เพ่ือบุกเข้าไปยึดกรงุ ไซ่ง่อน และพวกเวียดกงในท่ีราบล่มุ บรเิ วณปากแม่น้ำโขงก็เริม่ เปิดฉากรุกเข้าสู่กรงุ ไซ่ง่อน
การเจรจาสันตภิ าพทก่ี รุงปารสี

การเจรจาเพื่อยุติสงครามในเวียดนาม ระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนามใต้ฝ่ายหนึ่ง กับเวียดนามเหนอื
และ เวียดกงอีกฝ่ายหนึ่ง เริ่มการเจรจามาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2511 จนถึงเดือนมกราคม 2515 ปรากฏว่าท่ี
ประชุมไม่สามารถตกลงปัญหาเวียดนามกนั ได้ ฝ่ายเวียดนามเหนือและเวียดกงได้ยื่นข้อเสนอตอ่ ที่ประชุมครง้ั
หลังสุดเมือ่ 1 กรกฎาคม 2514 สรปุ ไดด้ ังนี้

1. สหรฐั ตอ้ งกำหนดเวลาถอนทหารสหรัฐฯ และทหารชาติพันธมิตรฝา่ ยโลกเสรอี อกจากเวียดนาม
ใต้โดยเร็วท่สี ุด และต้องส่งคนื เชลยศึกเวียดนามเหนอื และเวยี ดกงด้วย

2. ยุตกิ ารสนับสนุนรฐั บาลของประธานาธิบดี เหงยี นวนั เทียวของเวียดนามใต้ และรีบจัดตั้งรัฐบาล
ผสมขน้ึ

3. การแก้ไขปัญหาการขัดแย้งระหว่างกำลังทหารเวียดนามใต้ กับเวียดกง เป็นเรื่องระหว่าง
ชาวเวียดนามดว้ ยกนั เอง

4. จัดใหม้ ีการรวมประเทศเวียดนามเป็นข้นั ตอนตามลำดบั
5. เวยี ดนามใตต้ ้องดำเนินนโยบายเป็นกลาง
6. สหรัฐฯ ตอ้ งชดใชค้ ่าเสียหายจากสงครามให้กบั เวียดนามเหนอื และเวียดนามใต้

47

7. ความตกลงตา่ ง ๆ ท่ีลงนามรว่ มกนั จะต้องมอี งค์การระหวา่ งประเทศให้การรบั รองด้วย
ข้อเสนอดงั กลา่ วนี้ ฝ่ายสหรฐั ฯ และเวยี ดนามใต้ไม่ยอมรับ โดยเฉพาะขอ้ 1 และขอ้ 2 ทำใหก้ ารเจรจา
หยุดชะงัก ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ส่งนายคิสซิงเจอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดี
เดินทางไปเจรจาอย่างไม่เป็นทางการกับฝ่ายเวยี ดนามเหนือที่กรุงปารีส ถึง 10 ครั้ง ในที่สุดฝ่ายสหรัฐฯ และ
เวียดนามใตไ้ ดย้ ืน่ ขอ้ เสนอต่อทป่ี ระชมุ รวม 8 ขอ้ มลี ักษณะโอนออ่ นใหแ้ กเ่ วียดนามเหนือเป็นอันมากเพ่อื แสดง
วา่ สหรัฐฯมีความต้ังใจจรงิ ที่จะยุติสงครามเวียดนาม แตฝ่ า่ ยเวยี ดนามเหนือไม่ยอมตกลงใด ๆ ด้วย สหรัฐฯ จึง
ตกลงใจเปดิ เผยการเจรจาอยา่ งไม่เปน็ ทางการให้ชาวโลกได้ทราบข้อเท็จจรงิ ทำให้เวยี ดนามเหนอื และเวียดกง
แสดงความโกรธแค้นสหรัฐฯ มาก และได้ปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในการประชุม
ครั้งที่ 143 เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2515 พร้อมกับยื่นข้อเสนอใหม่ 8 ข้อ มีสาระสำคัญว่า ให้สหรัฐฯ และ
ชาติพนั ธมติ รฝา่ ยโลกเสรถี อนกำลงั ทัง้ หมดออกจากเวยี ดนามใต้โดยไม่มเี งอ่ื นไข กบั ให้ยกเลกิ โครงการชว่ ยเหลือ
ตนเองในการป้องกนั ทางทหารของเวยี ดนามใต้
ประเทศฝ่ายโลกเสรีทั่วไป โดยเฉพาะชาวอเมริกันมีความเห็นว่าข้อเสนอของสหรัฐฯ เหมาะสมและ
ยุติธรรมดีแลว้ แสดงถึงความตั้งใจแน่วแน่ทีจ่ ะยตุ ิสงครามเวียดนาม ชมเชยรัฐบาลเวียดนามใต้ว่าใจกวา้ งและ
กล้าหาญพอที่จะแข่งขนั กับฝา่ ยเวียดนามเหนือด้วยวิถที างการเมอื งอย่างยุติธรรมและประณามฝ่ายเวียดนาม
เหนือว่าปราศจากความบริสทุ ธ์ิใจท่ีจะยุตสิ งคราม
ประเทศผ้นู ำฝ่ายคอมมิวนิสตต์ า่ งก็แสดงการสนบั สนนุ เวียดนามเหนอื และเวยี ดกง ต่อมาในปลายเดือน
มีนาคม นางเหงียนทิบินห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเหนือ และหัวหน้าคณะ
ผู้แทน เวียดกง ได้เดินทางไปรว่ มเจรจาที่กรุงปารสี อีกครั้ง โดยยืนกรานใหส้ หรัฐฯ ถอนทหารทั้งหมดออกจาก
เวียดนามใต้ กับใหป้ ระธานาธิบดีเหงียนวันเทียว ลาออกจากตำแหน่ง และยบุ รฐั บาลก่อน ฝา่ ยเวียดนามเหนือ
และเวียดกง จึงจะยอมเจรจาด้วย นอกจากนี้สหรัฐฯ ต้องปฏิบัติตามข้อเสนอของฝ่ายเวียดนามเหนือและ
เวยี ดกงจงึ จะมีการเจรจาสงบศกึ กนั ต่อไปเมื่อเป็นดังนป้ี ระธานาธิบดนี กิ สนั จึงสั่งใหย้ ุติการประชมุ
สถานการณใ์ นเวียดนามใตห้ ลงั การถอนกำลงั ฝา่ ยโลกเสรี
สหรัฐฯ ได้ถอนกำลังในเวียดนามใต้เป็นจำนวน 450,000 คน แต่เวียดนามเหนือและเวียดกง ก็มิได้
ปฏิบัติการอันใดท่ีจะช่วยให้เกิดสันตภิ าพ แต่กลับฉวยโอกาสทำการรุกรบทันทีเมื่อได้โอกาส ดังนั้นการเจรจา
สงบศกึ ที่กรงุ ปารสี ตลอดเวลา 3 ปคี รง่ึ จำนวน 146 คร้ัง จึงไม่มผี ลคืบหนา้ เท่าที่ควรจนในท่ีสุดสหรัฐฯถอนตัว
จากการประชุม
จากการประชมุ ใหญค่ ร้งั ท่ี 2 ของเวยี ดนามเหนอื ในเดอื น เมษายน 2515 จนทำให้สหรัฐฯ ตอ้ งตอบโต้
ด้วยการโจมตีทางอากาศ ตามเส้นทางส่งกำลังของฝ่ายเวียดนามเหนอื ตั้งแต่เมอื งท่าไฮฟอง กรงุ ฮานอย และ
เส้นทางรถไฟสายจีน - เวียดนาม เป็นผลให้เวียดนามเหนือต้องชลอการบุกของตนลง เน่ืองจากประสบปัญหา
ดา้ นการสง่ กำลงั เมอื่ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรยี บเวียดนามเหนือ จงึ หันไปใช้ที่ประชมุ เจรจาตกลงสงบอีกคร้งั สหรัฐฯ
ยอมกลับเข้าร่วมเจรจาด้วย เมื่อ 29 เมษายน 2515 และในวันเดียวกันนี้ ประธานาธิบดีนิกสันได้ออก
แถลงการณว์ ่า สหรฐั ฯ จะถอนทหารจำนวน 20,000 คน ออกจากเวียดนามใต้ และในวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2515
กำลงั ทหารภาคพ้ืนดินของสหรฐั ฯจะเหลอื อยใู่ นเวียดนามไดเ้ พียง 49,000 คน เทา่ น้ัน

48

เม่ือเวียดนามเหนือเปิดการเจรจาทก่ี รงุ ปารีสได้ ก็กลับดำเนินการรกุ รบเวียดนามใต้โดยใช้กำลังทหาร
40,000 คน เขา้ ตเี มืองกวางตรี โดยใช้กองพลรถถังเป็นขบวนนำเขา้ ตี และยึดเมอื งดองฮาได้ แล้วเคล่ือนกำลัง
ไปทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ตามทางหลวง เพือ่ เข้ายึดเมืองเว้ตอ่ ไป พรอ้ มกบั เขา้ ตเี มืองกวางตรี เวียดนามเหนือ
สง่ กำลังทหาร 20,000 คน รุกจากชายแดนลาวเข้าสู่ทรี่ าบสูงภาคกลางของเวยี ดนามใต้ เพอื่ ตีเมอื งคอนทูมเป็น
การตัดการตดิ ตอ่ ระหว่างภาคเหนอื กบั ภาคใต้ของเวียดนามใต้ เวียดนามเหนือยดึ เมืองกวางตรีได้เมื่อต้นเดือน
พฤษภาคม 2515 แล้วเคลื่อนกำลังเขา้ คุกคามเมอื งเว้

สหรัฐฯ ตัดสินใจใช้มาตราการเด็ดขาดด้วยการส่งกำลังโจมตีทั้งทางทะเลและทางอากาศ โดย
กองทัพเรือที่ 7 ส่งเรือรบ 8 ลำ มีทั้งเรือพิฆาต เรือลาดตระเวน และเรือบรรทุกเครื่องบนิ เข้าปิดล้อมชายฝ่ัง
เวียดนามเหนือ และวางทุ่นระเบดิ ตลอดแนวอ่าวตังเกี๋ย ส่วนทางอากาศได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B - 52
และแบบอ่นื ๆ ประมาณ 500 เครือ่ ง ทง้ั จากฐานทัพอากาศ และเรือบรรทุกเครอื่ งบินโจมตีเมืองกวางตรี เพื่อ
ทำลาย และขับไลท่ หารเวียดนามเหนอื ท่ียึดครองอยู่ พร้อมกบั โจมตีทง้ิ ระเบิดท่าเรือ คลังน้ำมัน และคลังยุทธ
สัมภาระ บริเวณเมืองไฮฟอง และกรุงฮานอย ซึ่งเป็นฐานส่งกำลังบำรุงที่สำคัญยิ่งของเวียดนามเหนือกับท้ิง
ระเบิดเสน้ ทางรถไฟสายจนี -เวียดนามเป็นครง้ั ท่ี 2

เวียดนามเหนือไดป้ ระกาศตงั้ รัฐบาลเวียดกงขึน้ ในเมอื งกวางตรี ในปลายเดอื นพฤษภาคม เวียดนามใต้
จึงยึดเมืองกวางตรีกลับคืนมาได้ เวียดนามเหนือได้พยายามเข้าตีเมืองเว้หลายครั้ง ทำให้พระราชวัง
โบราณสถาน ศาสนสถานในพุทธศาสนา และคริสตศาสนา และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งได้เคย
เสียหายอย่างหนกั มาแลว้ จากการรกุ ใหญ่ของเวยี ดนามเหนอื ระหว่างเทศกาลตรุษญวน พ.ศ. 2514 ถูกทำลาย
ลงหมดสนิ้

ตอนปลายเดือน พฤษภาคม 2515 เวยี ดนามเหนือได้พยายามเข้ายึดเมอื งคอนทมู สหรฐั ฯ ได้ใช้จรวด
นำวิถีทำลายรถถังของเวยี ดนามเหนือจนหมดสิ้น และทงิ้ ระเบดิ กำลังเวียดนามเหนือที่ต้งั ล้อมเมืองอยู่ สหรัฐฯ
ใช้เคร่อื งบินทงิ้ ระเบิดทำลายที่มน่ั ทางทหาร ในเขตเวียดนามเหนอื ทุกวนั เฉลย่ี วันละ 250 เที่ยวบิน

ในระหว่างห้วงเวลา 31 กรกฎาคม 2515 ถึง 25 ตุลาคม 2515 ได้มีการเจรจาลับ ระหว่าง 2 ฝ่าย
หลายครั้ง จึงได้แถลงข่าวเมื่อ 25 ตุลาคม 2515 ที่กรุงวอชิงตันว่า การเจรจายุติสงครามเวียดนามใต้บรรลถุ ึง
จดุ หมาย ทจ่ี ะได้มกี ารลงนามระหว่างกนั แลว้ และสันติภาพอยูใ่ กล้แค่เอื้อม แตแ่ ลว้ ก็ไมเ่ ป็นผลเวียดนามเหนือ
เรยี กร้องมากเกนิ ไป จนสหรฐั ฯและเวียดนามใตไ้ มส่ ามารถปฏิบัตไิ ด้การเจรจาจึงลม้ เหลว สหรฐั ฯ จึงท้ิงระเบิด
เวียดนามเหนือในบริเวณเหนือเส้นขนานที่ 20 ขึ้นไป กับวางทุ่นระเบิดปิดอ่าวเมืองท่าไฮฟองเพิ่มขึ้น จนถึง
21 ธันวาคม 2515 สหรัฐฯ จึงเปล่ยี นนโยบายเปน็ ยื่นคำขาดใหเ้ วียดนามเหนอื และเวยี ดนามใตย้ ุติการสู้รบกัน
โดยให้เวียดนามเหนือยอมรับเงื่อนไขความตกลงสงบศึก มิฉะนั้นจะทิ้งระเบิดรุนแรงขึ้นกว่าเดิม และให้
เวียดนามใตย้ อมเข้าร่วมเจรจาตกลงสงบศึกดว้ ย มฉิ ะนนั้ สหรฐั ฯ จะยุติการช่วยเหลือทั้งหมด แต่เวยี ดนามเหนือ
ไม่ปฏิบัติตาม สหรัฐฯ จึงดำเนินการทิ้งระเบิด กรุงฮานอย เมืองไฮฟอง และเมืองสำคัญอื่น ๆ อย่างรุนแรง
เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B - 52 ประมาณ 500 เครื่อง ทำการทิ้งระเบิดเวียดนามเหนือทั้งวันทั้งคืน
เวียดนามเหนือสามารถทำลายเครื่องบินสหรัฐฯ ได้ถึง 16 เครื่อง ในที่สุดก็ขอเปิดการเจรจาสันติภาพที่กรุง
ปารีสอีกครั้ง เมื่อ 8 มกราคม 2516 ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็สามารถลงนามในความตกลง จะสงบศึก

49

อย่างเป็นทางการ เมื่อ 27 มกราคม 2516 มีผลบังคับตั้งแต่ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 28 มกราคม 2516 มี
สาระสำคญั ดงั น้ี

1. ให้มีการหยดุ ยงิ ทกุ แห่งในเวยี ดนามใต้
2. ใหส้ ง่ คืนเชลยศึกชาวอเมริกันท้ังหมดภายใน 60 วัน หลังจากลงนาม
3. สหรัฐฯ จะถอนกำลงั ทหารที่เหลอื อยใู่ นเวียดนามใต้ 24,000 คน ภายใน 60 วัน
4. สหรฐั ฯ ให้คำรบั รองว่าประชาชนเวียดนามใต้มีสิทธทิ จ่ี ะกำหนดอนาคตของตนเอง โดยปราศจาก
การแทรกแซงจากภายนอก
เวยี ดนามเหนอื ยังไม่ละความพยายามท่ีจะรกุ รานเวยี ดนามใต้ และให้รัฐบาลเวียดนามใต้ ยอมรับวิถีทาง
การปกครองตามลัทธิคอมมิวนิสต์ เมื่อสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรฝ่ายโลกเสรีได้ถอนกำลังทั้งหมด ออกจาก
เวียดนามใต้แล้ว เวียดนามใต้จึงตกเป็นฝ่ายเพลีย้ งพล้ำแก่เวียดนามเหนอื กองทัพเวียดนามเหนือและเวยี ดกง
เข้ายึดกรุงไซ่ง่อนได้เมื่อ 30 เมษายน 2518 และเวียดนามเหนือสามารถรวมเวียดนามใต้เข้าด้วยกัน เม่ือ
3 กรกฎาคม 2518 และประกาศใชช้ ือ่ ประเทศใหม่วา่ สาธารณรฐั เวียดนาม
บทเรียนจากการรบ และการสูญเสยี
ผลการปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นการผสมของฝ่ายโลกเสรี มีการประสานอำนาจการยิงของปนื ใหญ่ กับ
การทิ้งระเบิดโจมตีต่อที่หมายร่วมกัน ดำเนินกลยุทธ์ด้วยวิธีโอบดิ่งลงในบริเวณที่หมาย มีการป้องกันด้วยการ
ลาดตระเวนตามลำน้ำเพื่อบีบให้เวียดกงอยู่ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถตรงึ เวยี ดกงให้อยู่กับท่ี สะดวกแก่การ
ทำลายของฝา่ ยเรา
การสญู เสยี จากการรบ เสียชวี ิต 91 คน บาดเจบ็ 1,059 คน
การสูญเสยี ทางธุรการ เสยี ชวี ิต 25 คน บาดเจ็บ 166 คน
ส่งกลับเนอื่ งจากความผดิ 49 คน
หนรี าชการ 9 คน รวมท้งั สิน้ 1,399 คน

50

คำถามทา้ ยบทที่ 8
สงครามเวยี ดนาม

1. เวียดนามรับวัฒนธรรมของจีนไว้มากในปี พ.ศ. 2416 เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสไดแ้ บง่ การปกครองเวยี ดนามออกเป็น ก่แี ควน้ อะไรบา้ ง
2. นโยบายรสุ เซียมีความตอ้ งการปฏวิ ตั ิเกาหลีเหนอื ใหเ้ ป็นระบอบการปกครองใด
3. จงอธบิ าย อนสุ ญั ญาเจนีวา ปี พ.ศ.2497 มสี าระสำคญั อย่างไร
4. เวียดนามเหนือ หรือเวียดมินห์ ได้เริ่มทำสงครามกองโจรกับเวยี ดนามใต้ โดยมีเป้าหมายสำคญั คอื

โรงเรียน เพราะเหตใุ ด
5. สหภาพโซเวยี ตกับสหรัฐมีนโยบายการปกครองต่างกนั อย่างไร
6. รอ้ ย อวบ.ที่ 1 กรม อสส. โดยมี พ.ต.ยุทธนา แยม้ พนั ธุ์ เป็น ผบ.ร้อย มีภารกจิ อย่างไร
7. จงอธิบายภารกจิ ของ รอ้ ย อวบ.ที่ 1 และ ร้อย อวบ.อ่นื ๆ เพอ่ื เตรยี มการโจมตีมาพอสังเขป
8. จงวเิ คราะหผ์ ลการปฏิบัติของทัง้ สองฝา่ ย การรบท่ีหมู่บ้านลอ็ คแอน คร้ังที่ 1 มาพอเขา้ ใจ
9. จงสรุปเหตุการณท์ ี่เวยี ดนามเหนอื ลวงโลกเสรีมาพอสังเขป
10. ยุทธศาสตร์เวียดนามเหนือ คือต้องการเข้ายึดเวียดนามใต้ เพื่อรวมเป็นประเทศเดียวกัน โดยแบ่ง

การดำเนินการเปน็ ก่ีข้ันตอน อะไรบ้าง

51

บทที่ 9

การตอ่ สู้เพื่อเอาชนะคอมมวิ นิสตใ์ นประเทศไทย

1. ประวัตกิ ารเกดิ ลัทธคิ อมมวิ นสิ ต์
ลัทธิคอมมิวนิสต์ กำเนิดมาจากปรัชญาของคาร์ลมาร์กที่กล่าวไว้ว่า การกระทำของมนุษย์ทุกอย่าง

ขึ้นอยู่กับเหตุผลทางเศรษฐกิจแต่เพียงประการเดียวเท่านั้น ฉะนั้นมนุษย์จะต้องปฏิวัติระบบเศรษฐกิจไปสู่
ยุคคอมมิวนสิ ต์ให้ได้ ซึ่งการปฏวิ ัติน้ีจะตอ้ งมีการต่อสู้ระหว่างชนชั้นต่าง ๆ จะต้องใช้กำลังเขา้ ลม้ ล้างรัฐบาลที่
ครอบครองอำนาจการปกครองอยใู่ ห้พนิ าศสิ้น และชนช้นั กรรมาชีพทั่วทุกมุมโลกจะต้องลุกข้ึนร่วมกันต่อต้าน
รฐั บาลของตน

วิลาดีเมีย อิลยิส อุลยานอฟ เลนิน ชาวรัสเซีย มีความเลื่อมใสปรัชญาของคาร์ล มาร์ก อย่างจริงจัง
และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ปรัชญาของคาร์ล มาร์ก เป็นจริงโดยเร็วที่สุด แต่เลนินเห็นว่า
การเปลี่ยนสังคมไปสู่ยุคคอมมิวนิสต์นั้น ต้องรอคอยเป็นเวลายาวนาน จึงสมควรมีการปฏิวัติขึ้นโดยเร็ว
โดยการยุยงชาวเมืองขึน้ ให้ก่อการปฏิวัติ ทำสงครามปลดแอกจากประเทศจักรวรรดินยิ ม และประกาศอิสรภาพ
เปน็ ประเทศเอกราชให้จงได้ เลนินจงึ ได้สถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซียขึ้นในปี พ.ศ. 2446 เรยี กวา่ “บอลเช
วิค” และในปี พ.ศ. 2460 กป็ ฏิวัตริ สั เซยี ไดส้ ำเร็จ

หลังการปฏิวัติรัสเซีย สภาพสังคมและการเมืองเปลี่ยนไปมากและเป็นไปอย่างรวดเร็วรุนแรง
พรรคบอลเชวิค มีอำนาจเด็ดขาดในการปกครองประเทศ แนวความคิดที่จะให้ชนชั้นกรรมาชีพทั่วโลกลุกขนึ้
ต่อต้านพวกนายทุนเป็นเรื่องพน้ วิสัยเสียแล้ว ในระยะนี้เองปรัชญาของสตาลินจงึ ได้เกดิ ข้ึน เขาเห็นว่า จะต้อง
สร้างการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ให้เกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึง่ ก่อน แล้วขยายไปทั่วทุกมุมโลก
ซึ่งต่อมารัสเซียกลายเป็นฐานทัพสำหรับคอมมิวนิสต์สากลเพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งการขยายอิทธิพลไปยัง
ประเทศอื่น ๆ ท่วั โลก

เมาเจ๋อตุง ประธานพรรคคอมมิวนสิ ต์ของจีน เป็นอีกบุคคลหน่ึงทีไ่ ด้นำวิธีการของเลนิน และสตาลนิ
มาใช้ โดยใช้จีนเป็นศูนย์กลาง เพื่อขยายอิทธิพล และสถาปนาระบอบคอมมิวนิสต์ให้มัน่ คงในเอเชีย ด้วยการ
เอาชนะจติ ใจของประชาชน และจัดตั้งเป็นกองโจรคอมมวิ นิสต์รว่ มกบั ทหารคอมมิวนิสต์เข้าทำการต่อประเทศ
เป้าหมายโดยฉับพลนั และรุนแรง เพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองไปสู่ระบอบคอมมวิ นิสต์ ซึ่งวิธีการนีเ้ รียกวา่
“แนวความคดิ เมาเจ๋อตุง”

จากวิวัฒนาการของลัทธิคอมมิวนิสต์ จึงกล่าวได้ว่า คาร์ล มาร์ก เป็นผู้ต้นคิดปรัชญาของ
คอมมิวนิสต์ เลนินเป็นผู้นำมาใช้ และสตาลินมีส่วนแก้ไข ฉะนั้นจึงเรียกขบวนการนี้ว่า ลัทธิมาร์กซิสต์ –
เลนนิ – สตาลิน โดยมเี มาเจอ๋ ตุงนำไปประยุกต์ เป็นแนวความคดิ ของเมาเจอ๋ ตุง
2. การเผยแพร่ลัทธิคอมมวิ นสิ ต์ในประเทศไทย

การขยายตวั ของคอมมิวนสิ ต์เข้าสู่ประเทศไทย ไดเ้ รม่ิ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2469 โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้
สถาปนา “พรรคคอมมิวนิสต์ทะเลใต้” ขึ้น เพื่อติดต่อกับนักปฎิวัติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซ่ึงรวมถึง
ประเทศไทยด้วย ต่อมาพรรคนี้ถูกยุบ และให้พรรคคอมมิวนิสต์มลายู ดำเนินการแทน ซึ่งต่อมาก็ได้มีการ
แยกตวั เปน็ พรรคคอมมิวนสิ ต์จนี แหง่ ประเทศสยาม

52

ในระยะแรกการดำเนินการของพรรคคอมมิวนิสต์ มุ่งเผยแพร่ และปลุกระดมมวลชนในหมู่กรรมกร
ชาวจีน ตามท่าเรือ โรงสี โรงเลื่อย และครูในโรงเรียน ต่อมาขบวนการกู้อิสรภาพญวนนำโดยโฮจิมินต์ได้
หลบหนีการกวาดล้างของฝรั่งเศสมาต้งั สำนักงานใหญ่ของพรรคในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื และได้โฆษณาเผยแพร่
ลัทธคิ อมมวิ นิสต์ หาความรว่ มมอื ในกลมุ่ คนญวนในประเทศไทยอยา่ งกว้างขวาง

ในปี พ.ศ. 2475 คอมมิวนิสต์ได้ถือโอกาสที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศไทยโฆษณา
ชวนเชื่ออย่างกว้างขวางว่าพวกตนมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยการใช้ใบปลิวแจกจ่ายท้ัง
ในกรุงเทพฯ และในบางจงั หวดั ของภาคตะวันออกเฉียงเหนอื และในเหตุการณ์นี้พวกคอมมวิ นสิ ต์นอกประเทศ
ก็ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทย ด้วยการที่องค์การคอมมิวนิสต์สากล ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีต่อ
คณะผเู้ ปลี่ยนแปลงการปกครอง

ต่อมาได้มกี ารปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนมองเห็นความดีงามของประเทศคอมมิวนิสต์
โดยเฉพาะโครงการเศรษฐกิจของรสั เซยี และไดม้ ใี บปลวิ กระจายในภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ระบุความมุ่งหมายว่า
จะสถาปนาระบบการปกครองแบบรัสเซียข้ึนในประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2484 พวกคอมมวิ นสิ ตไ์ ด้ฉวยโอกาสจากการเกิดสงครามมหาเอเชยี บูรพาขยายอทิ ธิพลของ
ตนเอง โดยการแทรกซมึ เข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทยเคลอ่ื นไหวตอ่ ต้านญ่ีปุ่น ซึ่งเป็นการปฏบิ ตั ิเพื่อสร้างความ
เป็นแนวร่วมอีกกลุ่มหนึ่ง และในห้วงนี้เอง พวกคอมมิวนิสต์ก็ได้ประกาศตั้ง “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศ
ไทย” ขน้ึ เม่อื วนั ที่ 1 ธนั วาคม 2485 โดยได้มีการประชมุ พรรคเป็นครง้ั แรกในวันน้ี
3. ความเคลอ่ื นไหวของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จนถึงวนั เสียงปนื แตก

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยตกอยู่ในฐานะพ่ายแพ้ตอ่ ฝ่ายสัมพันธมิตร รัสเซียไดใ้ ช้อทิ ธพิ ลทางออ้ ม
บีบบังคับไทย ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยคอมมิวนิสต์ ปี พ.ศ. 2476 และ พ.ศ. 2478 ทั้งนี้รัสเซีย
อ้างว่า กฎหมายดังกล่าวขัดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หลักจากยกเลิกกฎหมายนี้แล้ว
พรรคคอมมวิ นิสตจ์ นี และพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ดำเนนิ การทางการเมืองอย่างเปิดเผย ดว้ ยการ
หาทุนเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติ ของพวกคอมมิวนิสต์ในประเทศจีน ทำให้มีอิทธิพลเหนือหนังสือพิมพ์จีน
โรงเรียนจีน กรรมกรจีนในประเทศไทยอย่างกว้างขวางจนกระทั่งเกิดรัฐประหารขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี
พ.ศ. 2490 จอมพล ป.พบิ ลู สงคราม หวั หน้ารัฐประหารได้ดำเนินการกวาดลา้ งคอมมวิ นิสตใ์ นประเทศไทยอย่าง
จรงิ จงั ทำใหค้ อมมิวนิสต์ตอ้ งหลบลงดำเนนิ งานใตด้ ิน

ปี พ.ศ. 2492 จีนคอมมิวนิสต์ได้รับชัยชนะในประเทศจีน และได้ครอบครองผืนแผ่นดินใหญ่
โดยสมบรู ณ์ หลังจากที่ได้จดั ระเบียบภายในประเทศของตนให้เรียบรอ้ ยแลว้ จึงไดเ้ ริม่ สนบั สนุนการดำเนินงานของ
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอยา่ งจริงจัง ในขณะเดียวกันก็ได้จัดตั้งรัฐไทยอิสระขึ้นที่มณฑลยูนานเพอ่ื
บ่อนทำลายความสามัคคีในชาติไทยให้เห็นว่าประเทศไทยมีการแตกแยกออกเป็นหลายฝ่ายพร้อมกันนี้ก็ได้
พยายามทุกวิถที างทีจ่ ะแทรกซึมเข้ามาในประเทศไทย โดยคดั เลือกสมาชกิ ไปฝึกอบรมวธิ กี ารทำสงครามจรยุทธ์
ในโรงเรยี นพรรคคอมมวิ นิสต์แห่งประเทศไทยทเ่ี วยี ดนามเหนือ

ในปี พ.ศ. 2506 พรรคคอมมิวนสิ ตแ์ ห่งประเทศไทย ไดจ้ ัดตงั้ กองกำลังติดอาวุธข้นึ เปน็ หนว่ ยกองโจร
กลุ่มเล็ก ๆ โดยได้รับการสนับสนุนอาวุธจากจีน และรัสเซียกำลังเหล่านี้เรียกตัวเองว่า กองกำลังติดอาวุธ

53

ประชาชน กองทหารประชาชน หรือหน่วยจรยุทธ์ พื้นที่การเคลื่อนไหวมากที่สุดอยู่ในเขตจังหวัดนครพนม,
อุบลราชธาน,ี สกลนคร และอดุ รธานี

ปลายปี พ.ศ. 2507 คอมมิวนิสต์ได้แสดงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะเริ่มสงครามปลดแอกข้ึน
ในประเทศไทย ทั้งนี้ จากคำแถลงของวิทยุปักกิ่ง และวิทยุประชาชนแห่งประเทศไทย ที่พยากรณ์ว่า
คอมมิวนิสต์จะต้องเข้ายึดครองประเทศไทยในที่สุด และหลังจากนั้น ก็ได้ประกาศก่อตั้ง “แนวร่วมรักชาติ
แห่งประเทศไทย” ขน้ึ เมือ่ วนั ท่ี 1 มกราคม 2508 ตอ่ มาประมาณอีกหนง่ึ สปั ดาห์ นายเซนยี บุคคลชั้นนำของ
จีนคอมมิวนิสต์ ได้แถลงการณ์ว่า สงครามปลดปล่อยชาตอิ าจจะเร่ิมข้นึ ในประเทศไทยในปลายปนี ี้

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2508 กองโจรคอมมิวนิสต์ไดซ้ มุ่ โจมตีขบวนของเจ้าหนา้ ที่ตำรวจที่ บ.นาบัว
ต.เรณูนคร อ.ธาตุพนม จว.นครพนม ทำให้ พ.ต.อ.สงัด โรจนภิรมย์ ผกก.ภ.จว.น.พ. ได้รับบาดเจ็บสาหัส
นับเป็นครั้งแรกที่พวกคอมมิวนิสต์ได้ใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ได้ถือโอกาสนั้น ประกาศว่า วันที่ 7 สิงหาคม 2508 เป็นวันที่ทางพรรคเปิดสงครามจรยุทธ์และพวกเขาเรียก
วนั น้ีวา่ “วันเสียงปนื แตก” จากวันน้ันประเทศไทยก็ตกอย่ใู นสถานการณก์ ่อการร้ายเปน็ ตน้ มา
4. การป้องกันและปราบปราม ผกค.ดว้ ยมาตรการทางกฏหมายและมาตรการทางทหาร

รฐั บาลไทยทุกยุคทุกสมัยได้ดำเนินนโยบายในการต่อต้านคอมมวิ นิสต์เสมอมาตัง้ แตเ่ กดิ ลัทธิคอมมิวนิสต์
ข้นึ ในโลก และต่างเชอื่ มัน่ ว่า ราษฏรไทยคงไมน่ ยิ มชมชอบลัทธิดังกล่าว เน่อื งจากความเป็นผรู้ กั สงบยดึ มนั่ อย่าง
เคร่งครัดในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และขนบธรรมเนียมประเพณี ฉะนั้น รัฐบาลในสมัยที่เริ่มเกิด
ลทั ธคิ อมมวิ นิสต์ จึงมไิ ดก้ ำหนดวิธกี ารป้องกนั และปราบปรามอย่างแนช่ ัด

พวกคอมมิวนสิ ต์ได้พยายามใช้จดุ อ่อนในเรือ่ งความอดอยาก และความไม่เป็นธรรมของประชาชนใน
พื้นที่ชนบทห่างไกล ประกอบกับความสัมพันธ์ด้านเชื้อชาติขนบธรรมเนียมประเพณีกับประเทศใกล้เคียง
คือ ลาว และเขมร เป็นจุดปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อเพื่อเพาะเชื้อคอมมิวนิสต์ขึ้น แล้วขยายกว้างออกไป
เร่อื ย ๆ จนประชาชนในพื้นท่หี า่ งไกลยอมเขา้ ร่วมอดุ มการณ์

การดำเนินการของคอมมิวนิสต์ เริ่มทำให้เกิดความไมม่ ั่นคงขึ้นในประเทศซึง่ หากปล่อยให้เป็นไปโดย
อิสระเสรีแล้ว อาจทำให้ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้ลัทธิคอมมิวนิสต์ในท่ี สุด ฉะนั้น รัฐบาลจึงได้
ตราพระราชบัญญัติว่าด้วยคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2476 ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันและปราบปราม
คอมมวิ นิสต์ วิธีการตามกฎหมายน้ี คือการสบื สวน สอบสวน จับกมุ นำมาลงโทษ คุมขงั ตามแต่กรณี จนถึงข้ัน
ประหารชีวิต และได้แก้ไขเรื่อยมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2489 ต้องถูกยกเลิกเพื่อแลกกับการเข้าเป็นสมาชกิ
องค์การสหประชาชาติของประเทศไทย แตร่ ัฐบาลก็ต้องนำกลับมาใช้ใหม่ โดยตราเป็นพระราชบัญญัติป้องกัน
การกระทำอนั เป็นคอมมวิ นิสต์ พ.ศ. 2495 ขึน้ เนอื่ งจากมคี นไทยแตกแยกกัน เพื่อล้มลา้ งสถาบันของประเทศ
ถึงแม้รัฐบาลจะได้นำกฎหมายดังกล่าวมาใช้ใหม่ แต่พวกคอมมิวนิสต์พยายามซุ่มซ่อนเผยแพร่ลัทธิของตน
และปฏิบัติการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงมากขึ้น ฉะนั้น ในปี พ.ศ. 2501 รัฐบาลจึงได้ประกาศกฎอัยการศึก
ท่ัวประเทศ เพ่ือสกดั กัน้ การขยายตัวของลัทธอิ บุ าทว์น้ี และไดก้ ำหนดใหเ้ จา้ พนักงานสอบสวนมอี ำนาจควบคุม
ผู้ต้องหาการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ได้ตลอดเวลาท่ีมีการสอบสวน โดยให้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ทั้งน้ี
ให้ลงโทษผู้กระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเปน็ คอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495 อย่างเฉียบขาด

54

และรุนแรง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2502 รัฐบาลได้สั่งประหารชีวิต นายศุภชัย ศรีสติ ที่ จว.น.ม. และในปี
พ.ศ. 2504 ได้ประหารชีวิต นายครอง จันดาวงศ์ หัวหน้าคอมมิวนิสต์เขตสว่างแดนดิน ณ อ.สว่างแดนดิน
จว.ส.น.

ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลได้จัดตั้ง กองอำนวยการรักษาความปลอดภัยส่วนกลาง (กรป.กลาง)
เพื่อรับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์โดยเฉพาะ โดยใช้นโยบายการพัฒนาควบคู่ไปกับ
การป้องกัน พร้อมกันนั้น ก็ได้ออกพระราชบัญญัติเพื่อควบคุมผู้ต้องหาการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์เพิ่มเติม
โดยใหอ้ ำนาจพนักงานสอบสวนควบคมุ ผู้ต้องหาไดโ้ ดยไมม่ กี ำหนด และใหอ้ ำนาจแกผ่ ูบ้ ังคบั หน่วยทหารในการ
ควบคุมผตู้ อ้ งหาเชน่ เดียวกับพนักงานสอบสวน

ในหว้ งปี พ.ศ. 2508 ถึง 2509 นี้ รัฐบาลได้ใช้นโยบายการปราบปรามโดยเนน้ หนักในการใช้กำลังเข้า
กวาดลา้ ง ผกค. จนกระท่ังในปลายปี พ.ศ. 2509 รัฐบาลได้เริ่มทบทวนนโยบาย โดยนำประสบการณ์ท่ีผ่านมา
กำหนดเป็นแนวความคิดในการระดมพลัง อาศัยความร่วมมือและประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง พลเรอื น
ตำรวจ ทหารโดยยึดถือเอาประชาชนเป็นเปา้ หมาย คอยให้ความคุ้มครองประชาชน ควบคุมทรัพยากรเสบียง
อาหาร อภัยโทษผหู้ ลงผดิ (โครงการการณุ ยเทพ) พัฒนาสง่ เสรมิ อาชีพและปฏบิ ัตกิ ารจติ วทิ ยา

การปฏิบัตติ ามแนวความคิดข้างต้นน้ัน จะเรมิ่ ด้วยแผนค้มุ ครองหมู่บ้าน เป็นโครงการหลักในการต่อสู้
กับ ผกค. โดยจัดตั้ง บก.ควบคุม มีกำลังทหาร ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน หมวดโจมตี ทำหน้าที่ในการให้
ความปลอดภัยแกป่ ระชาชน และกวาดล้าง ผกค.ในพืน้ ที่ป่าเขา ซึ่งเรยี กแผนนี้วา่ 0910 (เริ่มปฏิบัติระหว่างปี
2509 – 2510)

เน่ืองจากผรู้ ับผดิ ชอบในการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนสิ ต์ ยงั เข้าใจเร่อื งคอมมิวนิสต์ไม่เพียงพอ
มองปัญหาคอมมวิ นสิ ตอ์ ย่างสับสน โดยมองวา่ เปน็ พวกมีจติ ใจเหยี้ มโหด ทารุณ ท่ีจะมาทำลายล้างสถาบันชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีและลิดรอนเสรีภาพของประชาชนและยังคิดว่าปัญหาของ
ผกค.กค็ อื ปญั หาที่หน่วยติดอาวธุ ของคอมมิวนิสต์ท่ีมีฐานปฏิบัติการหรือท่ีหลบซ่อนอยใู่ นป่าเขา เข้ามาคุกคาม
ข่มขู่บีบบงั คบั และ/หรือหลอกลวงประชาชนเอาไปเปน็ พวก ฉะน้ันจึงตอ้ งใชม้ าตรการทางทหารมงุ่ กำจัดหน่วย
ติดอาวุธของ ผกค.ให้หมดไปโดยเร็ว แต่ปรากฏว่า การใช้กำลังเข้าปราบปรามโดยไม่รู้จักโครงสร้าง รูปร่าง
หนา้ ตา และไมม่ ีความเขา้ ใจเก่ยี ววธิ ีการของ ผกค. ทำใหเ้ จ้าหน้าท่ีเขา้ ทำลายล้างด้วยความเกลียดชัง โดยขาด
การประสานกับส่วนราชการท่ีเกย่ี วข้อง และไม่กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธที ่ีแน่นอน เปน็ การปราบปรามแบบ
เหวี่ยงแห ไม่มีเป้าหมายเด่นชัด บางครั้งการปราบปรามผิดเป้าหมาย ผิดตัวบุคคลทำให้เกิดความเดือดร้อน
ทั่วไป จนมีประชาชนจำนวนไม่น้อยแตกหนีเข้าป่า เพราะตื่นกลัวเจ้าหนา้ ที่ หรือหันไปให้ความนิยมกบั ผกค.
เพราะเหน็ วา่ เจา้ หนา้ ท่ไี ม่ให้ความเปน็ ธรรมและทำรนุ แรงเกนิ ไป จนเปน็ เหตุใหม้ ีผู้สนับสนนุ ผกค.เพิ่มข้ึนอย่าง
รวดเรว็ การตอ่ สดู้ ้วยอาวธุ เริ่มรุนแรงข้นึ ตามลำดับ พน้ื ท่ีการเคล่อื นไหวขยายไปเกือบทัว่ ทุกจังหวัด
5. การทำสงครามปฏวิ ัติของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนแดง ได้ประกาศให้ประเทศไทยเป็นเป้าหมายทำสงครามกองโจร
หลังจากนั้นกองกำลังติดอาวุธได้เพ่ิมความรนุ แรงในการโจมตีที่ต้ังรัฐบาล ปิดล้อมหมู่บ้านลอบสังหารสายลบั
ก่อวินาศกรรม และโฆษณาชวนเชื่ออย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในเดือน มกราคม พ.ศ.2512 พคท. ได้ประกาศ

55

จัดตั้ง “กองบัญชาการสูงสุด กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย” ขึ้นโดยมีภารกิจในการสู้รบ
ทำงานมวลชน และตดิ อาวุธให้มวลชน
การต่อส้เู พือ่ เอาชนะคอมมิวนิสตใ์ นพนื้ ท่ี ทภ.2

การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มขึ้นประมาณปี 2470
เป็นต้นมา และสามารถจัดตั้ง “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” (พคท.) ได้สำเร็จเมื่อ 1 ธันวาคม 2485
จากนั้นก็ทำการเคลื่อนไหวดำเนินการอย่างตอ่ เนื่องจนมีกำลังกล้าแข็งและเป็นองค์กรที่ทา้ ทายต่อเสถียรภาพ
ของรัฐบาล ไม่ว่าวิถีทางการเมืองภายในประเทศจะผันแปรไปในรูปใด ในขณะที่การดำเนินงานของพรรค
การเมืองอืน่ ๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย กลับขาดตอนเป็นช่วง ๆ ตามวิกฤติการณท์ างการเมืองภายในประเทศ
แต่ละยุคสมัย ลักษณะที่น่าสนใจประการหนึ่งของ พคท. คือเป็นพรรคที่มีลักษณะเป็นมวลชนมากกว่าพรรค
การเมืองอ่ืน ๆ กลา่ วคือ พคท. มฐี านมวลชนที่แน่นหนา มีโครงสรา้ งที่หยั่งรากลกึ และแผส่ าขาไปสปู่ ระชาชนใน
ชนบท กว้างขวาง ขณะเดียวกันก็มีสมาชิกและผู้ปฏิบัติงานที่มีอุดมการณ์อุทิศตนให้กับงานของพรรคอย่าง
จริงจังโดยไม่สนใจกับสภาพส่วนตัวและสังคม ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ พคท. เติบโตอย่างรวดเร็วและ
พัฒนาขึ้นเปน็ ลำดับ โดยยึดคำขวัญที่ว่า “จากไม่มีสู่มี จากเล็กสู่ใหญ่ และจากอ่อนสู่แข็ง” และสามารถขยาย
งานได้อย่างกว้างขวางทั้งในด้าน พรรค แนวร่วม และกองกำลังติดอาวุธ จนในที่สุด พคท.สามารถประกาศ
จดั ต้ังกองกำลงั ปกครองตนเอง (อำนาจรัฐซ้อน) เกอื บจะเรียกไดว้ ่าครอบคลุมพืน้ ทภ่ี าค ตอ./น. มีเขตงานหลัก
รวมท้ังส้นิ 13 เขตงาน คอื

- ภาคอีสานตอนบน ประกอบด้วยเขตงาน กจ.นพ./111, กจ.นค./222, กจ.กธ./333, กจ.อุบล
เหนือ/444, กจ.สน./555, กจ.ขก./666, กจ.อด./777 และ กจ.กส./999

- ภาคอีสานตอนล่าง ประกอบด้วยเขตงาน 11, เขตงาน 30, เขตงาน 205, เขตงาน 207 และ
เขตงาน 209

ในปี 2521 ผกค.ในภาค ตอ./น. มีกำลังเข้มแข็งที่สดุ มีกองกำลังตดิ อาวธุ ทั้งส้ิน ประมาณ 4,080 คน
ทงั้ นี้ ไมน่ ับรวมมวลชนพน้ื ฐานและแนวรว่ มอกี ประมาณ 10,000 คนเศษ

จากสถานการณ์ก่อการรา้ ยของ ผกค.ที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า พคท. นั้นสามารถขยายอำนาจได้อยา่ ง
กว้างขวางจนรัฐบาลในบางยุคสมัยแทบจะไม่สามารรถควบคุมสถานการณ์ในบางพื้นที่เอาไว้ได้ สถานการณ์
ก่อการร้ายดังกล่าวส่งผลกระทบตอ่ ความมั่งคงของประเทศทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและจิตวิทยา
เป็นอย่างมาก รัฐต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการปราบปราม ผกค.จำนวนมหาศาล เจ้าหน้าที่ของรัฐรวมทั้ง
ประชาชนตอ้ งสญู เสยี ชวี ิตและทรพั ย์สินจากภยั คอมมวิ นิสต์ไมใ่ ช่น้อย
การรบท่ชี อ่ งบก จว.อบุ ลราชธานี ในปี 2529 – 2530

กลา่ วทว่ั ไป
1. ลักษณะของพ้ืนทีป่ ฏบิ ัติการ : พ้นื ท่บี ริเวณช่องบก อยใู่ นเขต อ.น้ำยืน จว.อ.บ.เป็นพื้นท่ีซึ่งมีเขต
ติดตอ่ กันทัง้ 3 ประเทศ คือ ไทย – ลาว – กัมพชู า โดยมีทิวเขาพนมดงรัก กัน้ เปน็ เขตแดนระหว่างไทย – ลาว
และไทย – กัมพูชา ช่องบกเป็นช่องซึ่งประชาชนทั้ง 3 ประเทศ ใช้เป็นเส้นทางติดต่อเดินข้ามไปมาได้ใน
สมัยก่อน และหากได้มกี ารดัดแปลงปรับปรงุ เพียงเลก็ น้อยยานพาหนะก็จะสามารถวิ่งไปมาได้สะดวกบริเวณท่ี

56

เป็นทิวเขานี้จะมีความสลับซับซ้อน เป็นป่ารกทึบ ยากต่อการตรวจการณ์ ทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ
สามารถใช้เป็นแหล่งซ่อนพรางและกำบังเป็นอย่างดี ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะเกื้อกูลอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติของ
หน่วยทหารขนาดเลก็ โดยเฉพาะการแทรกซึมเขา้ -ออกตามแนวชายแดน แนวท่มี คี วามสำคญั 3 แนว ไดแ้ ก่

แนวที่ 1 ซ่งึ ถอื เปน็ แนวยอดเนินสดุ ทา้ ย ห่างชายแดนเขา้ มาในเขตประเทศไทย 3 -5 กม.มียอดเนนิ
ทอดติดต่อกนั จากซา้ ยไปขวาคอื ยอดเนิน 453, 352, 361, 362 และ 436

แนวที่ 2 เป็นแนวยอดเนนิ ซึ่งห่างจากแนวชายแดนเข้ามาในเขตไทย 1-3 กม. ทอดติดต่อกันจาก
ซา้ ยไปขวา คือ ยอดเนนิ 497, 500, 408, 382 และ 396

แนวที่ 3 เป็นแนวยอดเนิน ซึ่งได้แก่ ยอดเนิน 565, 469, 495, 477, 502 และ 500 จนถึง
ช่องโป่งแดง

2. สถานการณ์ท่ัวไป : ในสมัยก่อนที่ ไทย – ลาว – กัมพูชา เป็นประเทศเพ่ือนบ้านท่ีเป็นมิตรตอ่ กนั
การไปมาหาสู่ของประชาชนทั้งสามประเทศ จะเข้ามาในลักษณะที่ดี เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ซึ่งไม่ถอื ว่าเปน็ การรกุ ล้ำอธปิ ไตยตอ่ กัน ครน้ั เมอื่ ลาว และกมั พชู า แสดงความไม่เปน็ มติ รตอ่ ไทย มีการลักลอบ
แทรกซึมเข้ามาในเขตประเทศไทย โดยเฉพาะกำลงั ติดอาวธุ ฝ่ายเราถอื วา่ การเขา้ มาในลักษณะเช่นนี้เปน็ การรุก
ล้ำอธิปไตย เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นรุนแรงเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2521 ซึ่งในสมัยนั้นคอมมิวนิสต์
องค์การเซียม ซึ่งเขมรแดงสนับสนุนอยู่ ได้นำกำลังจากภายนอกประเทศรุกล้ำเข้ามาในบริเวณช่องโอบก
อ.บา้ นกรวด จว.บ.ร.ทำให้ฝ่ายเราไดร้ บั ความเสียหายเปน็ จำนวนมาก นอกจากน้ี ยังใชก้ ำลังรุกลำ้ เขา้ มาบริเวณ
ช่องบก อ.น้ำยืน จว.อ.บ.มากวาดต้อนราษฎรไทย ที่ บ.แปดอุ้มเก่า อ.น้ำยืน จว.อ.บ.ไปฝึกอบรม
ลัทธิคอมมิวนิสต์แล้วส่งกลับเข้ามาเผยแพร่ และทำลายความมั่นคงในเขตไทย โดยเฉพาะพื้นที่สามอำเภอ
ของ จว.อ.บ. บริเวณเขตรอยตอ่ สามประเทศคอื อ.นำ้ ยืน, อ.นาจะหลวย อ.บุญฑริก

3. สถานการณ์เฉพาะ : เมื่อ 4 ม.ค. 28 ทหารเวียดนาม (ทวน.) ได้ใช้กำลังจาก 3 พล.ร. คือ พล.ร.
315, พล.ร.2 และบางส่วนของ พล.ร.307 เข้ากวาดลา้ ง กรช.กลุม่ นี้ใช้เวลาปฏบิ ัตอิ ยู่ประมาณ 7 วัน ปรากฏว่า
สามารถกวาดล้าง กรช. กลุ่มนไี้ ดส้ ำเรจ็ หลงั จากน้นั แลว้ กำลังบางส่วนของ พล.ร.315 ได้วางกำลังปิดกั้นแนว
ชายแดนโดยต้งั บก.หน่วย ระดบั กรม คือ กรม ร.733 อยบู่ รเิ วณเนิน 306 ในเขตกมั พูชาหา่ งจากแนวชายแดน
ประมาณ 1 กม.เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ต่ำ ซึ่งล่อแหลมต่อการถูกตรวจพบและทำลายได้ง่าย ฝ่ายเรา
ในต้นปี พ.ศ. 2529 ทภ.2 โดย กกล.สุรนารี จึงได้วางแผนในการใช้กำลังผลักดัน โดยใช้ชื่อแผนว่า “แผน
ยุทธการดี – 8”

หลงั จากฝา่ ยเราไดใ้ ช้เวลาปฏบิ ัติตามแผนอยู่ ประมาณ 3 เดอื นเศษ ปรากฏว่าสามารถผลกั ดัน ทวน.ท่ี
ภปู าดชา้ ง, เนนิ 352 และภูถำ้ เจยี ออกไปได้ หลังจากนนั้ ฝ่ายเราไดว้ างกำลงั รกั ษาพน้ื ทีเ่ สริมความมนั่ คงบริเวณ
ดังกล่าว เพอ่ื ใช้เปน็ ฐานทม่ี ่นั ในการขยายผลการปฏิบัติในโอกาสตอ่ ไป สรปุ การปฏบิ ัติตามแผนยุทธการดี – 8
นี้ ฝ่ายเราเสยี ชวี ิต 28 นาย, บาดเจ็บ 82 นาย

เพือ่ เป็นการขยายผลการปฏิบตั ิต่อจากแผนยุทธการดี – 8 กกล.สรุ นารี จงึ ไดอ้ อกแผนยุทธการดี – 9
เพื่อใช้กำลงั ทหารเข้าผลักดนั ขับไล่ และทำลายกำลงั ทวน.ท่ยี งั คงอยู่ในพ้ืนที่ในเขตไทย

57

การปฏบิ ตั ติ ามแผนยุทธการดี – 9 ของ กกล.สรุ นารี ไดเ้ รมิ่ ตง้ั แต่เดอื น ธ.ค. 29 การปฏิบัตติ ามแผน
ยุทธการดี สามารถผลักดันขา้ ศกึ ออกไปได้บางส่วน – 9 ฝ่ายเราเสยี ชวี ติ 36 นาย, บาดเจ็บ 252 นาย, ฝา่ ยตรง
ขา้ มเสยี ชีวิต 17 นาย (นบั ศพได)้ มอบตวั 2 นาย คาดว่ายังมี ทวน.อีกบางส่วนที่ได้รบั ความเสยี หายจำนวนมาก

สรุปกำลังที่ฝ่ายเราใช้ทั้งสิ้น จำนวน 5 พัน.ร. (19 ร้อย ร.), 1 ร้อย ถ.(-), 9 ร้อย ป., 1 ร้อย ลว.ไกล
และ 37 กองร้อยทหารพราน นอกจากนี้ยังมีกำลังสนับสนุนการรบ และสนับสนุนการช่วยรบอื่น ๆ ได้แก่
ชุดสัตว์ต่าง, ชุดสุนัขทหาร, กำลังราษฎรอาสาสมัคร ซึ่งจะใช้ในการคุ้มกนั เส้นทางส่งกำลังบำรุง ระวังป้องกนั
พืน้ ทสี่ ว่ นหลงั และช่วยดัดแปลงฐานทมี่ น่ั ของกำลงั ทหารฝา่ ยเรา

สรุปแล้วในการปฏิบัติแผนยุทธการเผด็จศึก เราสามารถควบคุมพื้นที่ช่องบกได้ในระดับหนึ่ง ตั้งแต่
18 เม.ย. 30 แต่การสง่ กำลังเข้าสถาปนาความมน่ั คงท้งั หมดตามแนวชายแดน ต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเนื่องจาก
บางพื้นท่ีเป็นจดุ ระดมยงิ ของขา้ ศึก ซ่ึงอยภู่ ายนอกประเทศ สำหรับที่หมายเนนิ 382 เราสามารถยึดได้ส่วนหน่ึง
และสามารถยึดและควบคมุ ไดโ้ ดยเด็ดขาด เมือ่ 25 พ.ค. 30 พรอ้ มกบั เนนิ 408 ส่วนเนนิ 500 สามารถควบคุม
ด้วยการยิง และการตรวจการณ์ ฝ่ายข้าศกึ ปรากฏ การสญู เสยี เป็นจำนวนมาก โดยได้รบั รายงานข่าวทเ่ี ชอ่ื ถือได้
วา่ ฝา่ ยข้าศึก จำนวน 1 กรม ได้รับการสูญเสียจนต้องมกี ารปรับกำลงั ใหม่ สำหรบั ฝา่ ยเรา ตงั้ แต่ 1 เม.ย. 30
จนถงึ 16 พ.ค. 30 เสยี ชีวิต 45 นาย บาดเจ็บ 330 นาย (15 เม.ย. 30)

อปุ สรรคประการหนึ่งท่ีฝ่ายเราไม่สามารถยึดรกั ษาเนนิ ได้ นอกจากเหตุผลดงั กล่าวแลว้ คือ การท่ีฝ่าย
เราต้องเคลื่อนที่ผ่านภูมิประเทศที่ยากลำบาก เป็นป่าทึบ ภูเขาสูงชัน มีทุ่นระเบิด/กับระเบิดเป็นจำนวนมาก
มีเส้นทางในทางลึกจำกัดขาดเส้นทางในทางกว้างที่จะเก้อื กูลต่อการโยกย้ายกำลงั , การส่งกำลงั บำรงุ กระทำได้
ในหว้ งเวลาจำกดั ซึง่ สงิ่ เหล่าน้จี ะกอ่ ให้เกิดความไม่หนนุ เน่ืองในการปฏบิ ัติ สำหรับฝา่ ยขา้ ศกึ น้ันได้เตรียมพ้ืนที่
การรบไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยจัดสร้างที่มั่นแข็งแรง, วางจุดระดมยิง, เตรียมอาวุธยิงสนับสนุนไว้อย่างแน่นอน
มีเส้นทางข่ายถนน บริเวณแนวชายแดน ทั้งทางกว้างและทางลึก ทำให้มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง
สามารถรวมกำลังเข้าปฏบิ ัติการอย่างรวดเร็ว การส่งกำลังบำรุงกระทำได้อย่างต่อเนื่องฉะนั้นฝ่ายขา้ ศึกจึงชิง
ความได้เปรยี บปฏบิ ัติการโตต้ อบฝ่ายเราในทนั ทีทนั ใด จนฝ่ายเราต้องถอนกำลังมาปรับแผนการปฏบิ ตั ใิ หม่
สถานการณ์และการปฏิบัติตามแผนยทุ ธการเผดจ็ ศึกฝ่ายตรงขา้ ม

ทวน.พล.ร.315 ได้จัดตั้ง บก.สน.ขึ้นที่ บ.เดิมไร (ดับบลิวเอ 3861) เพื่อควบคุมกำลังที่ปฏิบัติการ
บริเวณพื้นที่รอยต่อ 3 ประเทศ ภารกิจสกัดกั้นการแทรกซึมของ กรซ.ในพื้นที่รับผิดชอบกำลังเผชิญหน้าของ
ฝา่ ยเรา มกี ำลงั ท้ังสิ้น 5 พนั .ร. โดยใชก้ ำลังของ กรม ร.733 เป็นกำลังหลัก ไดว้ างกำลังไว้ดงั น้ี

ก) บก.กรม ร.733 ตั้งอยู่ใต้ช่องบก ประมาณ 1.5 กม. (ดับบลิวเอ 226883) ประกอบด้วย
หนว่ ยรองหลัก ไดแ้ ก่ ร.พนั .3 ตั้งอยูร่ ะหว่างเนิน 477 กับเนนิ 495 (ดับบลวิ เอ 246883) ร.พัน.8 ต้งั อย่รู ะหวา่ ง
เนิน 469 กบั เนิน 565 (ดบั บลิวเอ 203852) และ ร.พนั .9 ต้งั อยเู่ หนือช่องบก ประมาณ 500 เมตร (ดบั บลิวเอ
225860) นอกจากนัน้ ยังมีหนว่ ยขึน้ ตรงระดับกองรอ้ ย สนบั สนนุ เตม็ อตั รา

ข) นอกจากกำลังของ กรม ร.733 ก็ยังมีกำลังอกี 2 พัน.ร. ปฏิบัติการทางปีกของ กรม ร.733
คือ ร.พัน.2 กรม ร.143 ปฏิบัติต่อจาก ร.พัน.7 กรม ร.733 ไปทางทิศตะวันออก (พื้นที่บริเวณช่องโป่งแดง)
และ ร.พัน.6 กรม ร.142 ปฏบิ ัตกิ ารตอ่ จาก ร.พนั .8 ร.733 ไปทางทิศตะวนั ออก (พ้นื ที่บริเวณรวงผึง้ ) ซงึ่ แตล่ ะ

58

กองพันยังได้รับการสมทบอาวุธหนักในอัตราของ กรม ร.142 และ กรม ร.143 เข้ามาปฏิบัติในพื้นที่เป็น

จำนวนมาก

ค) อาวุธยิงสนับสนุนที่มีอยู่ในพื้นที่ ได้แก่ ป., ปรส., ค., ปตอ. และจรวด ขนาด 107 มม.

สำหรับ ป.นัน้ จดั จาก กรม ป.729 และ ปตอ.พัน.14

ภารกจิ

ทภ.2 ไดร้ บั มอบภารกิจสำคญั ใหป้ ฏิบตั ใิ นพ้นื ทช่ี อ่ งบก อ.น้ำยนื จว.อ.บ. 2 ประการ คอื

- ผลักดัน ทำลาย ขับไล่ ทวน.ที่รุกล้ำเข้ามาในเขตไทย ให้ออกพ้นชายแดนโดยเร็วและ

สถาปนาความมั่นคง เพือ่ ควบคมุ ชอ่ งบก ตอ่ ไป

- พัฒนาพืน้ ท่ีบริเวณช่องบก ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้ทุกแห่งในลักษณะ

ยุทธศาสตร์พัฒนา ซง่ึ สอดคล้อง และเป็นไปตามพระราชดำรใิ นพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั

แนวความคิดในการปฏิบัติตามแผนยุทธการเผดจ็ ศกึ

ทภ.2 ปฏิบัติภารกิจ โดยใช้กำลังทั้งกำลังรบหลัก กำลังประจำถิ่น กำลังประชาชนร่วมปฏิบัติใน

ลักษณะการต่อสูเ้ บ็ดเสร็จด้วยการใช้กำลังรบหลัก และกำลังทหารพราน เป็นหน่วยหลักในการโจมตี ผลักดนั

ทำลายฝ่ายตรงข้าม ใชก้ ำลังประจำถน่ิ และกำลังประชาชนค้มุ กนั เสน้ ทาง สนับสนุนการปฏบิ ัติการทางทหาร

และชว่ ยเหลอื กำลงั ทหารในการก่อสรา้ งที่มน่ั แขง็ แรง

การปฏบิ ัติของหนว่ ยตามแผนยทุ ธการเผด็จศึก

1. วันที่ 1 – 3 เม.ย. 30 หน่วยตามแผนยุทธการเผด็จศึก เคลื่อนย้าย เข้าที่รวมพลขั้นต้นที่บริเวณ

พื้นที่ อ.น้ำยนื จว.อ.บ. ผบ.ทกย.ทภ.2/มทภ.2 ให้โอวาทกำลงั พลเปน็ สว่ นรวม และตรวจเย่ยี มหน่วยในพ้ืนท่ี

2. วันที่ 4 เม.ย. 30 ทกย.ทภ.2 ประชุม ผบ.หน่วย และนายทหาร เพื่อช้แี จงสถานการณ์ปัจจุบันใน

พน้ื ทีท่ ้งั ฝา่ ยเรา และฝ่ายตรงข้าม ชีแ้ จงสถานภาพด้านกำลังพลการส่งกำลงั บำรงุ และชีแ้ จงแผนการปฏิบัติของ

ทกย.ทภ.2

3. วันที่ 5 – 6 เม.ย. 30 สาธิตและฝึกกำลังพลให้มคี วามคุน้ เคยกับอาวุธของหน่วยและอาวุธพิเศษ

ซ่ึงไดร้ บั จาก ทบ.

4. วันที่ 7 – 13 เม.ย. 30 เป็นการเตรียมหน่วยให้พร้อมรบ, การฝึกหน่วยให้คุน้ เคยกบั ภูมิประเทศ

การฝึกเข้าตีต่อที่หมาย ซึ่งจำลองจากที่หมายจริง การ ลว. และตรวจภูมิประเทศ การกำหนดแผน

ในรายละเอียด การสบื สภาพเปา้ หมายการประสานการปฏิบัตขิ ้นั สดุ ทา้ ย และการเตรียมปฏิบัติในวัน ว.

5. วนั ว. ในการเขา้ ตีทหี่ มาย คือ วันท่ี 14 เม.ย. 30 โดยกำหนดความรบั ผิดชอบ ดงั น้ี

ก) ฉก.จรุ นิ ทร์ เขา้ ทห่ี มายเนนิ 408

ข) ฉก.สชุ าติ เขา้ ที่หมายเนนิ 382

ค) ฉก.ทองแก้ว เขา้ ทหี่ มายเนนิ 376

ง) ฉก.สุเทพ รับผิดชอบป้องกันปีกด้านตะวันออก และลิดรอนทำลายข้าศึก

บรเิ วณเนนิ 502

จ) ฉก.ไกรศกั ดิ์ เข้าทหี่ มายเนิน 500, เนิน 565

59

ฉ) ฉก.ประจักษ์ รบั ผิดชอบค้มุ กันเสน้ ทางในพ้ืนท่ีเขตหนา้

ช) ฉก.นคิ ม รับผิดชอบคุ้มกันเส้นทางในพื้นที่เขตหลัง และระวังป้องกันพื้นที่

เขตหลัง

ซ) ฉก.เพ่มิ ศักดิ์ รับผิดชอบในการพิสูจน์ทราบเป้าหมาย และประสานการปฏิบัติ

กับ จนท.นปพ. 838

ด) ฉก.นพิ นธ์ เปน็ กองหนุน

6. การปฏิบัตใิ นวันที่ 14 เม.ย. 30 หน่วยตา่ ง ๆ สามารถเข้าถึงไดโ้ ดยได้รบั การตา้ นทานจากการยิง

ของฝา่ ยตรงขา้ มอย่างหนกั แตเ่ พ่อื เปน็ การออมกำลัง ทกย.ทภ.2 จงึ ส่ังการใหห้ น่วยถอนกำลังมาตงั้ ฐานท่ีมั่นใน

พน้ื ที่ ซ่งึ สามารถควบคมุ เป้าหมายเหลา่ น้ไี วไ้ ด้ ทั้งการตรวจการณ์ และการยิงสำหรับรายละเอียดการปฏบิ ัติต่อ

ที่หมายเนิน ต่าง ๆ นั้น ให้ศึกษาได้จากการปฏิบัตสิ ำคัญและบทเรียนจากการรบในการปฏิบัติของหน่วยตอ่ ท่ี

หมายเหล่าน้ันในตอนต่อไป

ผลการปฏิบตั ิ

ผลการปฏิบัติเป็นส่วนรวมของฝ่ายเรา ปรากฏว่า สามารถทำลายและผลักดันฝ่ายตรงข้ามบริเวณท่ี

หมาย ตา่ ง ๆ ในข้ันต้นได้ในระดับหน่ึง และสามารถควบคุมท่หี มายต่าง ๆ ไดท้ ั้งหมด ด้วยการตรวจการณ์ และ

การยงิ ต้ังแต่ 18 เม.ย. 30 เปน็ ต้นไป

ผลต่อฝ่ายตรงข้าม ทำให้ฝ่ายตรงข้ามขาดเสรีในการปฏิบัติ สูญเสียที่มั่น ยุทโธปกรณ์ และกำลังพล

ได้รับความสญู เสยี เป็นจำนวนมาก ประมาณร้อยละ 20 ของกำลงั พลท่อี ยใู่ นพ้นื ที่ปฏิบัตกิ าร จนต้องมีการปรับ

กำลังในหน่วยระดับกรมข้นึ ไป พร้อมท้ัง เพิ่มเตมิ กำลังเขา้ มาในพน้ื ที่

การสญู เสียและความเสยี หาย (ตงั้ แต่ 1 เม.ย. – 25 พ.ค.30)

ฝา่ ยเรา

- เสยี ชีวิต 45 นาย

- บาดเจบ็ สาหสั 40 นาย (ไมส่ ามารถกลับเขา้ ทำการรบได)้

- บาดเจ็บเล็กน้อย 284 นาย (สามารถเข้าทำการรบได)้

ฝ่ายตรงข้าม

- เสยี ชีวิต และบาดเจ็บ ประมาณ 538 คน (เสียชวี ิตประมาณ 90 - 120 คน)

- ถูกจบั กุม และเข้ามอบตวั 5 คน

- ยทุ โธปกรณ์ถูกทำลาย และยดึ ไดเ้ ป็นจำนวนมาก

วิเคราะห์ผลการปฏบิ ตั ิของทงั้ สองฝา่ ย

ฝา่ ยเรา

1. บทเรียนจากการเข้าตีต่อที่หมายเนิน 408 และเนิน 382 ในห้วงแรกไม่สามารถบรรลุภารกิจได้

เนื่องจากฝ่ายเราเข้าตีในเวลากลางวัน เส้นทางเคลื่อนที่จำกัด และการเข้าตีไม่เป็นความลับ ข้าศึกสามารถ

ตรวจการณ์เหน็ และยงิ ทำลายด้วยอาวธุ ยิงสนับสนุน ท้ัง ค., ปรส., ป. นอกจากนี้ข้าศึกอยู่ในพ้ืนที่ต้ังรับที่เป็น

60

ที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง ถึงแม้ว่าฝ่ายเราจะใช้ บ.โจมตีทางอากาศ และใช้ ป.ทำการยิง แต่ก็ไม่สามารถรวม
อำนาจการยิง ณ ตำบลใดตำบลหน่งึ ได้เตม็ ท่ี เนือ่ งจากเป้าหมายมีหลายแห่ง

2. บทเรียนจากการสูญเสียจากการตีโต้ตอบของข้าศึก ก็คือ การดัดแปลงที่มั่นตัง้ รบั โดย การขุดคูยิง
หลมุ บุคคล และบังเกอร์ จะต้องรีบกระทำในทันทีเมอื่ ยึดที่หมายได้ แต่เนอ่ื งจากหนว่ ยมีเวลาน้อยและขาดวัสดุ
ป้อมสนาม เช่น กระสอบทราย ขอนไม้ที่จะใช้ทำบังเกอร์หลังคาปิด ดังนั้นหน่วยจึงควรเตรียมการตั้งรับด้วย
เครอ่ื งกีดขวาง และกับระเบดิ แนวหนา้ ตอ้ งรีบกระทำต้งั แต่ยงั ไม่มอื คำ่ เพราะโดยปกตแิ ลว้ ข้าศึกมักจะเข้าตีใน
เวลากลางคืน โดยมอี าวธุ หนักยงิ สนบั สนุนการเข้าตที ุกครั้ง

3. ปรส.เป็นอาวธุ ท่ีมีประสทิ ธภิ าพในการรบบนภูเขา เพราะบนสันเขาแคบ ๆ หรือในพื้นที่อับกระสนุ
นั้น ป. ไม่สามารถทำการยิงได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้น ปรส.ยังมีขีดความสามารถในการทำลายสิ่งกีดขวาง
และบังเกอร์ได้เป็นอย่างดี การลดอันตรายจาก ปรส. กระทำได้โดยการสร้างบังเกอร์ให้เสมอกับพื้น และการ
ต่อสู้ในคูยิงจะได้รับอันตรายจาก ปรส.น้อยมากบังเกอร์ที่สูงจากพื้นดินโดยใช้กระสอบทรายก่อขึ้นมาจะเป็น
อันตรายอย่างยง่ิ

4. หน่วยไม่ได้คำนึงถึงความสำคัญของการระวังป้องกัน การจัดที่ฟังการณ์ และการจัดกำลังซุม่ โจมตี
รอบฐานท่มี ั่นในเวลากลางคนื ทำใหข้ ้าศกึ สามารถเข้าถึงฝ่ายเราได้อย่างรวดเร็ว โดยท่ฝี า่ ยเราไม่สามารถทราบ
การเข้ามา และรั้งหน่วงการเขา้ มาของข้าศกึ ได้

5. การปฏิบัติในคร้ังน้ี ทุกหน่วยทำการตั้งรับอยู่ในฐานที่ม่ันทั้งหมด ไม่มีหน่วยเคลื่อนที่ทำให้เสมือน
ทุกหน่วยติดอยู่กับที่ จึงเกิดมีช่องว่าง ข้าศึกสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเสรีในพื้นที่นอกเหนือไปจากที่มั่น
ของฝ่ายเรา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือในเวลาที่มีทัศนวิสัยเลว ซึ่งข้าศึกมีขีดความสามารถสูงในการ
ปฏบิ ัติในห้วงระยะเวลาดังกล่าว

6. การขาดการติดต่อประสานงานที่ดี และขาดการสนับสนุนซึ่งกันและกันเป็นผลทำให้กำลังมาก
ทใ่ี ช้รบ กลายเป็นกำลังนอ้ ยไป ขา้ ศกึ ทจ่ี ะเข้าทำการรบต่อฝ่ายเราด้วยการทมุ่ เทกำลงั เข้าทำลายเปน็ จุดๆ หรือ
เป็นตำบล ๆ โดยทฝี่ ่ายเรามไิ ด้ใหก้ ารสนบั สนนุ หรอื ดำเนินกลยุทธชว่ ยเหลือหน่วยท่ีถูกข้าศึกตเี ลย

7. ในสถานการณ์ทเี่ ปน็ ฝ่ายรกุ หรือเข้าตี การเคลอื่ นทีอ่ ย่างเชอื่ งช้า และอยุ้ อา้ ยเนื่องจากทหารตอ้ งขน
ยุทโธปกรณ์และสัมภาระทีไ่ ม่จำเปน็ ติดตัวไปดว้ ยเป็นเหตุใหท้ หารเกิดความเหน็ดเหน่อื ยเม่อื ยล้า และขาดความ
คลอ่ งตวั ในการยุทธ

8. ผูบ้ ังคับบญั ชาขาดลักษณะผ้นู ำท่ีดี และไม่เอาใจใสด่ แู ลความเปน็ อยู่ของทหาร ทำใหท้ หารไม่เคารพ
และไม่มีความเชื่อมั่นในตัว ผบ.ร้อย เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คับขัน จึงไม่สามารรถที่จะควบคุมบังคับ
บญั ชาทหารได้ ทำใหเ้ กดิ ความระส่ำระสายขึน้ ภายในหนว่ ย

9. การติดต่อสื่อสาร พนักงานวิทยุมักไม่ค่อยมีวินัยในเรื่องการรักษาความลับในการส่งข่าวและ
ผู้บังคับหน่วยไม่ค่อยมองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงไม่ค่อยกวดขันพนักงานวิทยุ ทำให้เกิดผลเสียหายเป็น
อย่างมาก เพราะข้าศึกมักจะทราบความเคล่อื นไหวของฝ่ายเราตลอดเวลา

10. บทเรียนที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ การใช้กำลังรบในลักษณะอาสาสมัครจากประชาชนซึ่งมิใช่
กองทัพทหารประจำการมาแตย่ ามปกตนิ นั้ จะสามารถใช้ได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประหยัดมาก การท่ีจะทำ

61

ใหบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงค์น้นั ได้จะต้องมีการเตรียมการวางแผนไวล้ ว่ งหน้า ในการจัดตัง้ กำลงั อาสาสมคั รเพ่ือสู้รบท้ัง
ในแบบกองโจร และกองทัพประจำการ โดยจดั ใหม้ กี ารฝกึ การสรา้ งหน่วยรบ การเตรียมผนู้ ำหนว่ ยในทุกระดับ
การสะสมอาวธุ ยุทโธปกรณ์ และการสนบั สนุนทจ่ี ำเปน็ รวมทง้ั การจัดสายการบงั คบั บัญชาท่ีเข้มแข็ง ซึง่ สามารถ
กระทำได้ไม่ยากนกั เนอ่ื งจากคนไทยมจี ิตใจในการส้รู บเปน็ พืน้ ฐานอยู่ในสายเลือด ในยามคับขันจะรวมกันอยู่
ตอ่ สู้เพื่อรกั ษาอธิปไตยของชาตไิ วจ้ นถงึ ท่ีสุด
การรบที่ บ.โนนหมากมุ่น อ.ตาพระยา จว.ปราจีนบรุ ี ในปี ๒๕๒๓
กลา่ วท่ัวไป

สถานการณใ์ นประเทศกัมพูชาภายหลังทหารเวยี ดนามไดส้ ง่ กำลังทหารรุกเข้ายึดครองกมั พชู าได้ตั้งแต่
ปลายปี ๒๕๒๑ เป็นต้นมา ทำให้ดินแดนกมั พูชาเกอื บทัง้ หมด อยภู่ ายใต้การปกครองของทหารเวียดนามและ
ทหารกมั พูชา เฮง ซมั รนิ แตส่ หประชาชาติ และประเทศส่วนใหญใ่ นโลกไม่รับรองรัฐบาลเฮง ซมั ริน โดยให้
การรับรองรัฐบาลกัมพชู าประชาธิปไตย ซง่ึ ประกอบด้วยเขมร ๓ ฝ่าย ซง่ึ นำโดยเจ้าสีหนุ, นายซอนซาน และนาย
เขยี ว สัมพนั ในขณะนั้นเขมร ๓ ฝา่ ย ได้นำกำลังติดอาวุธเขา้ ตอ่ ส้กู ับทหารเวยี ดนามและ ทกพ. เฮง ซมั ริน
โดยมีพน้ื ทกี่ ารรบทง้ั ตอนในของกัมพชู า และตามบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพชู า จากการสรู้ บระหวา่ ง
ทหารเวียดนาม/ทกพ.เฮง ซมั ริน กบั กำลังเขมร ๓ ฝ่าย บรเิ วณแนวชายแดนไทย – กมั พูชาทำให้ทหาร
เวียดนาม/ทกพ.เฮง ซัมริน ถือโอกาสกลา่ วหาไทยว่าใหก้ ารสนบั สนนุ เขมร ๓ ฝ่าย และใช้เปน็ เง่อื นไขในการ
ใชก้ ำลงั ทหารเข้ายึด บ.โนนหมากมนุ่ อ.ตาพระยา จว.ปราจีนบุรี ดว้ ยกำลังประมาณ ๑ กองพัน ตัง้ แต่เวลา
๐๔๕๐ ของวันที่ ๒๓ ม.ิ ย. ๒๓ ทำให้บ้านเรอื นราษฎรไดร้ บั ความเสยี หายจำนวนมาก กำลังฝา่ ยเราและราษฎร
ไดร้ บั การสูญเสียจำนวนหนง่ึ จากเหตกุ ารณ์ในครั้งนนี้ บั ได้วา่ เป็นบทเรยี นทด่ี ใี นดา้ นการระวังป้องกันและการ
รกั ษาความลับของฝ่ายตรงขา้ ม
สถานการณ์และการปฏิบัติ

๑. กำลังฝ่ายเรา คอื ร.๒ พนั .๒ มีกำลัง ๕ กองร้อย และได้รบั การสมทบกำลังจาก ร.๓๑ พัน.๑ จำนวน
๑ กองร้อย, หน่วยปฏิบัติการพเิ ศษของ ร.๒ จำนวน ๗ ชุดปฏบิ ัติการพเิ ศษ, ม.พนั ๑๑ จำนวน ๑ ร้อย ลว. และ
จาก ม.พนั .๒ จำนวน ๑ มว.ถ.

๒. กำลังฝา่ ยตรงข้าม คอื ทหารเวียดนามและ ทกพ.เฮง ซมั ริน จำนวน ๑ กองพันประมาณ ๕๐๐ คน
สนบั สนนุ ด้วย ป. และ ค. ได้เข้ายึด บ.โนนหมากมุ่น โดยวางกำลงั ปิดลอ้ มหมูบ่ ้านเป็นวงรอบ

๓. ลกั ษณะภูมิประเทศของพน้ื ทปี่ ฏบิ ัตกิ ารมลี กั ษณะเปน็ ป่าโปรง่ สลับทุ่งนา พ้ืนดินเป็นดินปนทราย
เป็นพื้นราบ มีต้นไม้ใหญ่ข้ึนบ้างเป็นระยะ ๆ และบรเิ วณพื้นทีป่ ฏบิ ตั กิ าร มีเครอ่ื งกดี ขวางเปน็ คันคลองยุทธวิธี
ซึ่งสามารถกดี ขวางการเคล่ือนย้ายกำลังพล ยานยนต์ล้อและสายพานไดเ้ ป็นอย่างดี

๔. เม่อื ๒๓๐๓๔๕ มิ.ย.๒๓ ทหารเวียดนาม/ทกพ.เฮง ซมั ริน จำนวน ๑ กองพนั ประมาณ ๕๐๐ คน
ได้เขา้ ยึด บ.โนนหมากมนุ่ (ทเี อ ๕๓๕๒๕๓) ต.โคกสงู อ.ตาพระยา จว.ป.จ. โดยกระจายกำลงั ปิดล้อมและ
ควบคมุ ราษฎรไทยในหมบู่ ้านรวมทัง้ กระจายกำลงั ระวังป้องกันหมู่บา้ นเป็นวงรอบ ต่อมาเมื่อ ๒๓๐๕๓๐ มิ.ย.
๒๓ ชดุ เฝา้ ตรวจและค้มุ ครองหมบู่ ้านไดจ้ ัดกำลัง ๑ ชุดปฏิบัติการ เขา้ พสิ ูจน์ทราบ บริเวณ บ.โนนหมากมนุ่ ได้
ปะทะกบั กำลังทหารเวียดนาม/ทกพ.เฮง ซัมริน ทบ่ี ริเวณพกิ ดั ทีเอ ๕๓๔๒๕๕ ประมาณ ๕๐๐ เมตร ทางทิศ

62

เหนอื ของ บ.โนนหมากมุ่น ฝา่ ยตรงข้ามไดว้ างกำลงั ซ่มุ โจมตตี ามแนวถนน บ.โนนหมากมุน่ ไปทางหลกั เขตแดน
ท่ี ๔๔ (พิกัด ทีเอ ๕๕๑๒๓๓) และวางกำลังอีกสว่ นหนงึ่ โอบลอ้ มกำลังฝ่ายเราไว้ ทำใหก้ ำลังของชุดเฝ้าตรวจ
เสยี เปรยี บ และเคล่ือนที่เข้าไปอยใู่ นพ้ืนที่สงั หาร ผลการปะทะ ผบ.มว.และกำลงั พลเสียชีวิตทันที รวม ๗
นาย ถกู จบั กมุ ๘ นาย และหนีรอดมาได้ ๒ นาย สรุปผลการปะทะในคร้ังนนั้ กำลังพลฝ่ายเราเสียชีวิต ๑๔
นาย ( น.๑, ส.๑๓) กำลังฝา่ ยตรงขา้ มยงั คงยึด บ.โนนหมากม่นุ อย่ตู อ่ ไป

๕. เม่อื ๒๓๐๕๕๐ มิ.ย.๒๓ ผบ.ร.๒ พนั .๒ ไดส้ ง่ั การให้ กองหนนุ ของ ร.๒ พัน.๒ จำนวน ๑ กองรอ้ ย
และชุดปฏิบัตกิ ารพิเศษของ ร.๒ เขา้ คลคี่ ลายสถานการณโ์ ดยจดั กำลงั ๒ มว.ปล. เคลอื่ นทีไ่ ปวางกำลงั บรเิ วณ
ทางทิศใตข้ อง บ.โคกสูง (พิกัด ทีเอ ๕๒๒๒๗๒) ระหว่างแนวถนน บ.โคกสูง – บ.โนนหมากมุ่น กับแนวคนั คลอง
ยทุ ธวิธีเพอื่ ทำการรงั้ หนว่ งการรกุ เข้ามาของกำลังทหารเวียดนาม/ทกพ.เฮง ซัมรนิ และรอเวลาให้กองหนุนอีก ๑
กองร้อย ชดุ รบ ร. – ถ. เข้าคลคี่ ลายสถานการณใ์ นพื้นที่ปะทะ

๖. เมอ่ื ๒๓๐๘๐๐ ม.ิ ย.๒๓ หนว่ ยปฏิบัติการพิเศษของ ร.๒ ได้รบั คำสัง่ ใหไ้ ปสนับสนุนการปฏบิ ตั ิของ
ร.๒ พัน.๒ ผบ.ร.๒ พนั .๒ จึงส่งั การใหช้ ดุ ปฏิบัติการพเิ ศษ ประกอบดว้ ยกำลงั พล ๗ ชุดปฏิบัติการ เขา้ ตีผา่ น
แนววางกำลงั ของฝา่ ยเรา เพอ่ื กวาดล้างกำลงั ฝา่ ยตรงขา้ มบริเวณทศิ ใต้ของ บ.โคกสูง มายงั บ.โนนหมากมุ่น
ในขณะเข้าปฏบิ ัติการ ได้รับการสนบั สนนุ ด้วยการยงิ จาก ป., ค.และกำลังทางอากาศอยา่ งใกล้ชิดและต่อเน่ือง
แต่เน่อื งจากพน้ื ทปี่ ฏบิ ตั ิการเปน็ ทงุ่ นาโล่งสลับปา่ โปร่ง มีนำ้ ทว่ มขัง ทำให้ยากตอ่ การดำเนนิ กลยุทธ อีกท้งั กำลงั
ฝ่ายตรงขา้ มได้มเี วลาดดั แปลงทม่ี น่ั แขง็ แรงตามแนวคันคลองยุทธวธิ ี กำลงั ฝ่ายตรงขา้ มไดต้ า้ นทานการเขา้ ตี
ของชดุ ปฏิบตั ิการพเิ ศษของฝา่ ยเรา ด้วยการยิงสนบั สนนุ จาก ป. และ ค.สกดั กน้ั เป็นระยะ ๆ อยา่ งเหนียวแนน่
กำลังฝา่ ยเราพยายามเขา้ ตตี ่อไปเพอื่ ต้องการใหฝ้ ่ายตรงขา้ มเปิดเผยทตี่ ้ัง จากนนั้ จงึ รอ้ งขอการยิงจาก ป., ค.
และกำลังทางอากาศเข้าทำลายกำลังของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งใช้ ป.ยิงสกดั กนั้ การเพม่ิ เตมิ กำลงั ของฝา่ ยตรงขา้ ม
ซ่ึงวางกำลังกองหนุนอยใู่ นเขตกัมพูชา เปน็ ผลใหก้ ำลงั ฝา่ ยตรงขา้ มสูญเสียเป็นจำนวนมาก จากน้ันชุดปฏบิ ตั กิ าร
พิเศษได้เคลอ่ื นกำลังเข้าเกาะติดท่ีหมาย บ.โนนหมากม่นุ เพ่ือรอการเขา้ ตจี ากชุด ร. – ถ. ตอ่ ไป

๗. เมือ่ ๒๓๑๐๐๐ มิ.ย. ๒๓ ร.๒ พนั .๒ ไดจ้ ัดกำลังกองหนุน จำนวน ๑ กองรอ้ ย สนบั สนนุ ดว้ ย มว.ถ.
ร้อย ถ.๒๑ ม.พนั .๒ จำนวน ๓ คนั โดยปรับกำลังเป็นชดุ รบ ร. – ถ. โดยมี รอ้ ย ลว.ท่ี ๒ ม.พนั .๑๑ ม.๑ รอ.
สนบั สนนุ การเขา้ ตีด้วยการวางกำลังปอ้ งกนั ปกี ซา้ ยของกำลังชดุ รบ ร. – ถ. กำลงั ชุดรบ ร. – ถ. เคลอื่ นท่เี ข้าตี
ทางปกี ซา้ ยของท่หี มาย บริเวณ บ.โนนหมากมนุ่ ใช้แนวทางเคลอื่ นทจี่ าก บ.โคกสูงไปยงั บ.โนนหมากมนุ่ เมอื่
กำลงั ชุดรบ ร. – ถ. เคล่อื นทม่ี าถงึ บรเิ วณ บ.โคกสูง ได้ทำการปรบั รูปขบวน เพ่อื ให้ ๒ มว.ปล. ท่วี างกำลงั อยูท่ ่ี
บ.โคกสูง เขา้ ร่วมปฏิบัตกิ ารดว้ ย ระหว่างการเขา้ ตขี องชุดรบ ร. – ถ. ไดร้ ับการสนับสนุนการระวังป้องกนั จากชุด
ปฏบิ ตั ิการรบพเิ ศษ ซง่ึ วางกำลังอยใู่ กล้ทีห่ มาย อีกทัง้ ยังได้รับการสนบั สนนุ การยงิ จาก ป., ค., ถ. และกำลงั ทาง
อากาศของ บ.ทบ. ในการทำลายกำลงั ทหารเวยี ดนาม/ทกพ.เฮง ซมั ริน ในท่ีม่นั ดัดแปลง จากการปฏิบตั กิ าร
ดว้ ยความรวดเรว็ และรุนแรง ทำใหก้ ำลงั ทหารเวยี ดนาม/ทกพ.เฮง ซมั ริน ต้องถอนตัวไปยงั บรเิ วณแนว
ชายแดนไทย – กัมพชู า และทง้ิ ศพทหารเวียดนาม/ทกพ.เฮง ซมั รนิ ไว้เป็นจำนวนมาก เม่อื ๒๓๑๕๐๐ ม.ิ ย.
๒๓ กำลังฝ่ายเราสามารถยึด บ.โนนหมากม่นุ กลับคืนมาอยู่ในความคุ้มครองของฝ่ายเราได้ และหนว่ ยได้นำ
กำลังเขา้ เสรมิ ความมัน่ คงบริเวณแนวคันคลองยทุ ธวิธี

63

๘. เมื่อ ๒๔๑๔๐๐ ม.ิ ย. ๒๓ กำลงั ฝ่ายตรงข้ามได้เริ่มระดมยิง ป. และ ค. มายงั พนื้ ท่ีปฏบิ ตั กิ าร
ตามแนวคนั คลองยทุ ธวิธีเปน็ จำนวนมาก ฝ่ายเราไดต้ อบโตด้ ้วยการยิงทำลายท่ีต้ังยิง ป. และ ค. ฝ่าย
ตรงข้ามอยา่ งรุนแรง ขณะเดยี วกันฝา่ ยตรงขา้ มยังพยายามเขา้ ตีโอบกำลงั ฝา่ ยเรา ซึง่ วางกำลังบรเิ วณ
แนวคันคลองยุทธวิธี จากทางด้านทศิ ใต้ ไปยงั ทศิ เหนือ แต่ฝา่ ยเราได้จัดกำลังเข้าตีโต้ตอบต่อท่ีหมาย
บรเิ วณด้านทศิ เหนือของช่องทางหลกั เขตท่ี ๔๔ และอีก ๑ กองรอ้ ยของ ร.๓๑ พนั .๓ กับชุดปฏบิ ตั กิ าร
พิเศษของ ร.๒ เขา้ ตีทางทศิ ใต้โดยได้รับการยงิ สนับสนนุ อยา่ งใกลช้ ิดจากกำลังทหารอากาศ และ ป.,
ค. อย่างตอ่ เนื่อง จึงสามารถผลักดนั กำลงั ทหารเวยี ดนาม/ทกพ.เฮง ซัมรนิ ออกไปนอกเขตแดนไทย
ไดส้ ำเรจ็ จากการตรวจคน้ พน้ื ที่ปะทะ พบศพทหารเวยี ดนาม/ทกพ.เฮง ซัมริน จำนวน ๘๕ ศพ
พรอ้ มอาวุธยทุ โธปกรณ์ และเวชภัณฑ์อกี เปน็ จำนวนมาก

๙. สรปุ ผลการสญู เสีย
ฝ่ายเรา
- เสยี ชีวติ ๒๒ นาย
- บาดเจ็บ ๑๔ นาย
- ฮ.ท.๑/๑ เครื่อง และ บ.ต. ๑๙/๑ เคร่ือง ถกู ยงิ ตก
- อาวธุ ยุทโธปกรณเ์ สียหายจำนวนหนง่ึ
ฝา่ ยตรงขา้ ม
- เสยี ชีวติ ๑๑๑ คน
- ถกู จบั เป็นเชลย ๑ คน
- คาดว่าไดร้ บั บาดเจบ็ เปน็ จำนวนมาก
- ยึดอาวธุ ยทุ โธปกรณ์และเวชภณั ฑ์ไดเ้ ปน็ จำนวนมาก

วเิ คราะหผ์ ลการปฏิบัติของทงั้ สองฝา่ ย
๑. ฝา่ ยตรงข้ามไดล้ กั ลอบนำกำลงั เข้ามาในขณะพลบค่ำ และทำการดัดแปลงภมู ปิ ระเทศเปน็

อยา่ ดี การปฏบิ ตั ิการเข้ายดึ ทหี่ มาย บรเิ วณ บ.โนนหมากมุน่ และบรเิ วณใกลเ้ คยี ง เป็นการปฏบิ ัติ
อยา่ งจู่โจม ขณะเข้าปฏิบัติการบรเิ วณ บ.โนนหมากมนุ่ ใชก้ ารติดตอ่ ทางสายซึ่งสามารถรกั ษาความลับ
ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี กบั ได้รับการสนบั สนุนอาวธุ ต่อสูอ้ ากาศยานที่มีประสิทธิภาพสงู ในการทำลายให้การ
ปฏิบัตเิ ข้ายึด บ.โนนหมากม่นุ ในห้วงแรกประสบผลสำเร็จ โดยทำให้กำลังฝ่ายเราตอ้ งสญู เสยี จำนวนหนง่ึ

๒. ระบบข่าวกรองของฝ่ายเราไมส่ ามรถแจง้ เตอื นถงึ ส่ิงบอกเหตกุ ารณป์ ฏบิ ัตขิ องฝ่ายตรงขา้ ม
ได้ หลังจากทราบว่าฝ่ายตรงข้ามได้เขา้ ยึด บ.โนนหมากมุ่นไว้แลว้ ฝา่ ยเราไม่สามารถแยกแยะได้วา่
เปน็ กำลังของฝ่ายใดและมจี ุดประสงค์ในการปฏิบัตกิ ารอยา่ งใดเน่ืองจากในขณะนน้ั มีกำลังหลายฝ่ายสู้
รบกันในเขตกัมพูชา การเข้าพิสจู น์ทราบโดยชุดเฝ้าตรวจคุม้ ครองหมู่บา้ นซึง่ มกี ำลงั ไม่มากนกั จึงเป็น
ฝา่ ยได้รบั การสญู เสียในคร้งั น้ัน

๓. การประกอบกำลังฝ่ายเราในการเขา้ ตีกำลงั ฝา่ ยตรงข้าม ในเวลาต่อมากระทำได้เหมาะสม
ตอ่ การปฏบิ ัติ ชดุ ปฏบิ ัติการพิเศษ ได้นำอาวุธเสรมิ (อาร์พจี ี -๒, ๗) มาใชใ้ นการปฏิบัติครั้งนี้ ทำให้เพิม่

64

อำนาจการทำลายกำลังฝ่ายตรงขา้ มซึง่ อยู่ในทม่ี นั่ ดัดแปลงอยา่ งได้ผล การดำเนินกลยุทธของฝา่ ย
เราโดยใช้กำลงั หลกั เขา้ ตีทางด้านขา้ งของท่ีหมาย ทำใหฝ้ ่ายตรงขา้ มเกดิ จุดออ่ นและเสยี เปรยี บตอ่ การ
ปฏิบตั ิการของฝา่ ยเรากำลงั ฝา่ ยเราได้ใชค้ วามคลอ่ งแคล่วในการเคลือ่ นทอี่ ย่างรวดเร็ว และความ
ชำนาญในพ้นื ทีป่ ฏิบตั กิ าร กับได้รบั การสนับสนุนจากกำลงั ทางอากาศ, ป. และ ค. อยา่ งใกล้ชดิ
ต่อเนื่อง และมีประสทิ ธิภาพ ทำให้กำลังฝา่ ยเราสามารถผลักดนั กำลังฝ่ายตรงขา้ มให้ออกนอกเขตไทย
ได้สำเรจ็

๔. การเข้ายดึ บ.โนนหมากม่นุ ของทหารเวียดนาม/ทกพ.เฮง ซัมรนิ ไมม่ ีกำลังทางอากาศ
ในการสนบั สนุนการปฏิบตั ิซ่ึงเป็นขอ้ เสียเปรียบกำลงั ฝ่ายเรา คลองยทุ ธวิธี เปน็ เคร่อื งกีดขวางการถอน
ตัวของฝา่ ยตรงข้าม การเคลือ่ นท่ีเข้าปะทะของฝา่ ยตรงขา้ มมลี ักษณะเปน็ กลมุ่ กอ้ นทำให้เกิดการ
สญู เสียจำนวนมากจากการทำลายของฝ่ายเรา ระบบอาวุธยงิ สนบั สนนุ ของฝา่ ยตรงขา้ มถูกฝา่ ยเรา
ทำลายเปน็ จำนวนมาก ทำให้ฝ่ายตรงขา้ มขาดความต่อเนอ่ื งในการยงิ สนับสนนุ ระบบการตดิ ตอ่ สอื่ สาร
ของฝา่ ยตรงขา้ ม ไมส่ ามารถตดิ ต่อกันได้กับหนว่ ยเหนอื ขณะมกี ารปฏิบัติ ฝ่ายตรงขา้ มไม่มีความคุน้ เคย
พนื้ ทปี่ ฏิบตั กิ ารทำใหก้ ารวางแผนขาดความสมบรู ณ์ การสง่ กำลงั บำรุงของฝา่ ยตรงข้ามไม่สามารถ
สนับสนุนไดอ้ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง ท้ังน้ีเนือ่ งจากฝ่ายเราได้ใช้ ป., ค. และกำลังทางอากาศ ตัดการสนับสนนุ
อยา่ งไดผ้ ล
บทเรยี นจากการรบ

จากการทีท่ หารเวยี ดนาม/ทกพ.เฮง ซัมริน เข้ายดึ บ.โนนหมากมุน่ ต.โคกสูง อ.ตาพระยา จว.ป.จ.
ครั้งน้ี ทำให้เกดิ บทเรียนที่สำคัญในด้าน การข่าว, ยุทธการ และกจิ การพลเรือน ดงั น้.ี -

๑. ดา้ นการข่าว การท่ีทหารเวยี ดนาม/ทกพ.เฮง ซัมรนิ สามารถยดึ บ.โนนหมากมนุ่ ได้อย่างรวดเรว็
และวางแผนซมุ่ โจมตีกำลงั ฝา่ ยเราอย่างได้ผลนั้น แสดงให้เห็นวา่ ฝา่ ยตรงขา้ มต้องมกี ารขา่ วทีด่ พี อ โดยอาจ
ทราบความเคล่ือนไหวของกำลงั ฝา่ ยเราล่วงหนา้ ในกรณนี ี้ หากกำลงั ชดุ เฝ้าตรวจและคุม้ ครองหมู่บ้านของฝ่าย
เราได้มกี ารตรวจสอบขา่ วสารใหแ้ นช่ ัดเสยี ก่อนโดยไม่นำกำลงั เข้าพิสูจนท์ ราบในทนั ทีแลว้ ก็อาจจะลดการ
สูญเสยี ของฝา่ ยเราลงได้

๒. ดา้ นยทุ ธการ
การที่ทหารเวยี ดนาม/ทกพ.เฮง ซมั ริน สามารถยดึ บ.โนนหมากมนุ่ ไดน้ ้ันเปน็ บทเรยี นทางด้าน

ยุทธการทแ่ี สดงให้เหน็ ว่าระบบเฝา้ ตรวจและการระวงั ป้องกนั ของฝ่ายเราในพื้นทชี่ ายแดนยงั ขาดประสิทธิภาพ
ไม่สามารถเชอ่ื มต่อการแจ้งเตือนการเข้ามาของฝ่ายตรงขา้ ม และทำให้ฝ่ายตรงขา้ มมีเวลาในการดัดแปลงภูมิ
ประเทศเป็นที่มัน่ แขง็ แรงได้ การเฝ้าตรวจและระวงั ป้องกนั ชายแดนซ่ึงมีทก่ี วา้ งดา้ นหนา้ มาก ฝ่ายเราจำเป็นตอ้ ง
ติดตามสถานการณ์อยา่ งใกล้ชิด เพื่อวางนำ้ หนักการเฝ้าตรวจให้เหมาะสมในทิศทางที่ล่อแหลมตอ่ การคกุ คาม

การปฏิบัติเพอ่ื ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอยา่ งฉบั พลนั จำเปน็ ต้องเตรยี มแผนเผชิญเหตุและซกั ซ้อมการ
ปฏิบตั ไิ ว้กอ่ นเปน็ อยา่ งดี การใชช้ ุดรบ ร. – ถ. ของฝ่ายเราในคร้งั นี้หน่วยต้องใชเ้ วลานานเน่ืองจากต้องรอ พนั .ถ
ซ่ึงวางกำลงั เปน็ กองหนุนของกองพล

65

การใช้ ฮ.ท.๑ และ บ.ต.๑๙ ของฝา่ ยเราล่อแหลมต่อการขดั ขวางจากฝา่ ยตรงข้ามเนื่องจากฝ่าย
ตรงขา้ มมอี าวธุ จรวดตอ่ สู้อากาศยาน การปฏบิ ตั ิทางอากาศของฝ่ายเราทกุ ครง้ั จะตอ้ งคำนึงถึงขดี ความสามารถ
ในการป้องกันภัยทางอากาศของฝ่ายตรงข้ามเสมอ

๓. ดา้ นกิจการพลเรือน ในกรณที ่ีทหารเวียดนาม/ทกพ.เฮง ซัมรนิ สามรถยดึ บ.โนนหมาก
ม่นุ ไดโ้ ดยง่ายน้ัน แสดงใหเ้ ห็นวา่ ฝา่ ยเราไมท่ ราบข่าวสารใด ๆ จากราษฎรในพื้นที่ ทัง้ ๆ ที่มรี าษฎรอาศัยอยู่
การปฏิบัติทุกครั้งหน่วยจะต้องใช้มาตรการทางด้านกิจการพลเรือนในการแสวงประโยชน์จากราษฎรหรือ
ทรัพยากรในพื้นที่ ในการแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามตลอดจนแสวงประโยชน์ในด้านอื่น ๆ
เพือ่ ใหเ้ ก้อื กูลตอ่ การปฏบิ ตั ทิ างยุทธวิธี ของฝ่ายเราได้มากท่ีสดุ

1

ตอนท่ี ๑
การเขา้ มาของผกู้ อ่ การรา้ ยคอมมวิ นสิ ตใ์ นพนื้ ท่ีบา้ นหมากแขง้

บ้านหมากแข้งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาต้นแม่น้ำหมัน ใต้จุดบรรจบกันของห้วยหมันใหญ่และลำ
ห้วยหมันน้อยซึ่งไหลมาบรรจบกันบริเวณ “ปากแบ่ง” ปัจจุบันบ้านหมากแข้ง อยู่ในท้องที่ตำบลกกสะทอน
อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย บริเวณหุบเขาสองฝั่งตามลำแม่น้ำหมันก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์บกและสัตว์น้ำ
ตลอดจนพืชพันธุธ์ ญั ญาหารนานาพันธ์ุท่ีอุดมสมบรู ณ์เป็นอย่างมาก ทำใหม้ ชี าวบ้านในเขตตัวเมืองด่านซ้ายซ่ึง
มาล่าสัตว์ได้เห็นว่ามีบริเวณที่ราบหรอื ทำเลท่ีน่าจะตั้งเป็นหมู่บ้านได้จึงได้ชักชวนกันขึ้นมาตั้งถิ่นฐานเมื่อราว
กลางพทุ ธศตวรรษที่ ๒๕

ตำแหนง่ ท่ีตงั้ บ้านหมากแข้งอยใู่ นพ้ืนที่ราบแคบๆ กลางหุบเขาริมฝ่งั แมน่ ำ้ หมัน
ภายหลังเมื่อมีประชากรอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้นพอที่จะจัดตั้งเป็นหมู่บ้านตามระเบียบการปกครอง
ท้องที่ได้ ทางเจ้าหนา้ ทอี่ ำเภอด่านซ้ายในสมัยนัน้ จงึ ไดม้ าสำรวจแลว้ กจ็ ัดตัง้ เปน็ หมู่บา้ นขน้ึ โดยใหช้ ื่อว่า “บ้าน
หมากแขง้ ” อยูต่ ่อมาก็มีราษฎรจากท่อี ืน่ ๆ อพยพมาตงั้ หมู่บา้ นเพิม่ ขนึ้ เรือ่ ยๆ เปน็ ตน้ วา่ หมู่บา้ นป่าบง บ้านห้วย
หก บ้านพ่อค้ำ บ้านสะนายาว บ้านสองคอน บ้านไฮตาก บ้านหนองผักก้าม บ้านกกกำพร้าว บ้านแก่งหม่ืน
บ้านเก่ากกจำปา บ้านกกพะยอม เมื่อมีหมู่บ้านเพิ่มขึ้นดังนี้ ทางเจ้าหน้าท่ีจึงจัดตั้งให้เป็นตำบลขึ้น ชื่อว่า
“ตำบลหมนั เหนือ” โดยมศี นู ย์กลางอยู่ท่ีบ้านหมากแขง้

2

ต่อมาได้มีการยุบตำบลหมันเหนือไปรวมกับตำบลกกสะทอน เนื่องจากในช่วงเวลานั้นชาวบ้านใน
หมู่บ้านอื่นๆ ได้อพยพกลับไปยังภูมิลำเนาเดิมของตนหมด เพราะการสัญจรไปมาลำบากมาก ทำให้สุดท้าย
ตำบลหมันเหนอื เหลือเพียง ๓ หมู่บ้าน คือ บ้านป่ายาบ บ้านขี้เถ้า และบ้านหมากแข้ง ปัจจุบันบา้ นหมากแข้ง
ต้ังอยหู่ มทู่ ี่ ๔ ตำบลกกสะทอน อำเภอดา่ นซา้ ย จงั หวดั เลย ซงึ่ เป็นเขตรอยตอ่ ระหวา่ งอำเภอด่านซ้าย จังหวัด
เลย กบั อำเภอหลม่ เก่า จังหวดั เพชรบรู ณ์ และอำเภอนครไทย จังหวดั พิษณโุ ลก

ราว พ.ศ.๒๕๑๑ ในช่วงเวลาน้นั ประเทศไทยเริม่ ทำสงครามกับ “ลทั ธิคอมมิวนิสต์” ในหลายพ้ืนท่ี รวม
ไปถงึ ในรอยต่อ ๓ จังหวดั ซ่งึ ครอบคลุมอำเภอหลม่ สัก อำเภอหล่มเกา่ จงั หวัดเพชรบูรณ์ พนื้ ทีอ่ ำเภอด่านซ้าย
อำเภอนาแหว้ จังหวดั เลย และพื้นทีอ่ ำเภอนครไทย อำเภอชาติตระการ จงั หวัดพิษณโุ ลก ในปจั จุบนั

ประมาณเดอื นมีนาคม พ.ศ.๒๕๑๑ พรรคคอมมวิ นิสต์แหง่ ประเทศไทยได้สง่ ผูก้ ่อการร้ายคอมมวิ นิสต์
ทยอยเข้ามาปฏิบัติการในรอยต่อ ๓ จังหวัด และได้เกิดการปะทะกันขึ้นครั้งแรกที่บ้านห้วยทรายใต้ ในเขต
อำเภอนครไทย จังหวัดพษิ ณโุ ลก เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๑ นบั ตงั้ แตบ่ ัดน้ันเปน็ ตน้ มาผกู้ อ่ การร้าย
คอมมวิ นิสตไ์ ด้มีการเคลือ่ นไหวปฏิบตั ิการรนุ แรงยิ่งขนึ้ มกี ารซมุ่ ยิง ซุ่มโจมตี เขา้ ตฐี านปฏบิ ตั ิการของเจ้าหน้าท่ี
และลอบยิงราษฎรจนได้รับบาดเจ็บล้มตายอยู่ตลอดเวลา บ้านหมากแข้ง ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย
จังหวดั เลย กเ็ ปน็ หมู่บ้านแห่งหนึง่ ท่ีอยู่ในพื้นทที่ ม่ี ีผ้กู อ่ การรา้ ยคอมมิวนสิ ตเ์ คล่ือนไหว

ทางราชการได้ส่งเจ้าหนา้ ท่ีตำรวจมาค้มุ ครองรกั ษาหมู่บ้านไว้ ซ่งึ ขณะนัน้ หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งบริเวณ
ใกล้เคยี ง ได้แก่ หมบู่ า้ นปา่ ยาบ หมบู่ ้านขเ้ี ถา้ หมบู่ า้ นทบั เบกิ หมบู่ า้ นสะนาจ้งุ หมู่บา้ นห้วยปูน หมู่บ้านเป่าค้อ
หมู่บ้านป่าหวายและหมู่บา้ นตูบค้อ ได้ถูกผู้ก่อการรา้ ยคอมมิวนิสต์เกลี้ยกล่อมเข้าเป็นพรรคพวก เพื่อเข้ารว่ ม
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยไปประมาณร้อยละ ๙๕ ของชาวม้งทั้งหมด และมีชาวม้งบางส่วนท่ีอพยพ
ออกไปอยพู่ ืน้ ที่อน่ื

ช่วงระยะเวลาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๑๒ ก็ได้มีการปะทะกันระหว่าง
ผกู้ อ่ การร้ายคอมมวิ นิสต์กับเจ้าหน้าท่ีตำรวจท่บี ้านหมากแขง้ ข้นึ เปน็ คร้ังแรก ที่บรเิ วณโรงเรียนบ้านหมากแข้ง
ซง่ึ มีผู้กอ่ การรา้ ยคอมมิวนิสต์ประมาณ ๔-๕ คน ไดย้ ิงตอ่ สกู้ ันกับเจา้ หน้าที่ตำรวจทร่ี ักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน
ประมาณ ๓๐ นาที ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จึงล่าถอยไป ผลการปะทะปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอดภัย
โรงเรียนไดร้ บั ความเสยี หายเลก็ นอ้ ย ทางราชการจงึ ได้ส่งเจา้ หน้าทตี่ ำรวจมาเพิม่ กำลงั รักษาความปลอดภัย

หลงั จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางราชการจึงได้มกี ารสำรวจหาทำเลทตี่ ้งั ฐานปฏิบัติการขน้ึ (บริเวณฐาน
ปฏิบตั กิ ารเกา่ ของตำรวจในปัจจบุ ัน) และได้จดั ทำฐานปฏบิ ัติการบา้ นหมากแข้งขน้ึ โดยการนำของ จ่าสิบตำรวจ
บุญมี ศรีสวัสดิ์ พร้อมกำลงั พล ๑๐ นาย เมื่อจัดตั้งฐานปฏิบัติการเสร็จเรยี บร้อย ทางการจึงส่ง ร้อยตำรวจโท
ลำ้ เลิศ ธรรมนิทรา ขึ้นมาเปน็ ผู้บงั คับหมวดหน่วยปฏบิ ัติการพิเศษบ้านหมากแข้ง (ผบู้ ังคับฐานบ้านหมากแข้ง)
เป็นคนแรก ภายหลังจึงส่งร้อยตำรวจโททวีศักดิ์ ศรีวิไล ขึ้นมาเป็นผู้บังคับฐาน และในสมัยนั้นพันตำรวจตรี
กฤช สังขทรัพย์ (ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์โจมตีจนฐานปฏิบัติการแตกมาจากหมู่บ้านขีเ้ ถา้
แลว้ มาสมทบกับตำรวจที่บ้านหมากแขง้ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑) ได้นำเฮลคิ อปเตอร์มาส่งเจา้ หนา้ ทีต่ ำรวจดว้ ย

จากนั้นการต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ก็มีความรุนแรงเพิ่มมากขึน้
จนกระทั่งวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๕ เวลาประมาณ ๐๒.๐๐ นาฬิกา ฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจถูก

3
ผู้ก่อการร้ายโจมตีอย่างหนัก ร้อยตำรวจตรีมนัส สุขเจริญ ผู้บังคับฐาน (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเลื่อนยศเป็น
พลตำรวจตรีเขมณัส สุขเจริญ) พร้อมตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจำนวน ๑๕ นาย ได้ต่อสู้ป้องกนั ฐานอยา่ ง
สุดความสามารถ แต่ไม่สามารถตา้ นทานกำลงั ของผู้ก่อการร้ายได้ ทำให้ต้องสละฐาน จากเหตุการณ์ครั้งน้ันมี
ตำรวจเสยี ชีวติ ๗ นาย และบาดเจ็บ ๘ นาย

ตอ่ มาทางการได้ส่งทหารจำนวน ๑ กองพนั เขา้ มารักษาและคุม้ ครองหมบู่ ้าน เหตกุ ารณจ์ ึงสงบลง เม่ือ
เหน็ ว่าเหตุการณ์สงบดีอยู่ในข้ันท่ีปลอดภยั แล้ว จงึ สง่ กำลังตำรวจจำนวน ๑ กองร้อยข้นึ มาปฏบิ ตั ิการแทน โดย
มรี ้อยตำรวจโทยงยุทธ สงา่ เนตร เป็นผู้บงั คบั ฐาน

แผนที่แสดงปฏิบัติการยุทธการภขู วาง
๒๐ มกราคม – ๒๒ มนี าคม พ.ศ.๒๕๑๕

4

ต้นปี พ.ศ.๒๕๑๕ เมื่อสถานการณ์ไม่ดีข้ึน กองทัพภาคที่ ๓ ได้ส่งกำลังทหารราบ ๑ กองร้อยจากกอง
พันทหารราบท่ี ๓ กรมทหารราบท่ี ๑ มหาดเลก็ รกั ษาพระองค์ ซง่ึ อยูร่ ะหวา่ งทำการฝึกร่วมปี ๒๕๑๕ (ยุทธการ
ภูขวาง) เข้าไปแก้ไขสถานการณ์ แล้วส่งมอบพื้นที่ให้กับกองพันทหารม้าที่ ๖ และโดยที่ผู้ก่อการร้ายยังคง
ปฏิบตั ิการต่อส้กู ับกำลงั ฝา่ ยรฐั บาลอยา่ งต่อเน่อื ง กองทพั ภาคท่ี ๓ ไดน้ ำปนื ใหญ่ทำการยงิ สนบั สนนุ ใหก้ บั หน่วย
ดำเนินกลยุทธ ส่งผลให้ชาวบ้านหมากแข้งเกิดความหวาดกลัว ชาวบ้านหมากแข้งจึงตัดสินใจอพยพไปยัง
หมู่บ้านใกลเ้ คียงในตำบลและที่อื่นๆ คือไปที่บ้านนำ้ หมัน บ้านห้วยมุ่น บ้านกกจาน บ้านน้ำเย็น บ้านแก่งครก
บา้ นนาหวา้ นอ้ ย ฯลฯ แตส่ ่วนใหญไ่ ปรวมกนั ที่บ้านหว้ ยมุ่น (บริเวณวดั บา้ นห้วยมนุ่ ปจั จบุ ัน)

หลงั จากเกดิ เหตกุ ารณ์อพยพของชาวบ้านหมากแข้งไมน่ าน ทางราชการจงึ สง่ หน่วยสืบราชการลับมา
สืบเสาะหาข้อมูลท่ีแท้จรงิ ทเี่ ป็นเหตุให้ชาวบา้ นตอ้ งอพยพหนีภยั ท้ิงถิน่ ฐานมา จงึ ได้ทราบความจริงทุกประการ
หน่วยราชการลับนี้มีทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน จากนั้นสถานการณ์การสู้รบก็ดำเนินมาเรื่อยๆ และยิ่งทวี
ความรุนแรงมากยงิ่ ขน้ึ เพราะผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสตเ์ หน็ ชยั ชนะของฝา่ ยตนเองจึงมีกำลังฮึกเหิมย่งิ นกั

ต่อมาหลงั จากน้ัน ๕ เดอื น ทางราชการได้สง่ หนว่ ยสบื ราชการลับมาเก็บข้อมูลและถามความสมัครใจ
ของชาวบ้านว่าอยากกลับภมู ลิ ำเนาเดมิ มากหรือนอ้ ยเพียงใด ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มีความต้องการย้ายกลับมา
ยงั ภมู ลิ ำเนาเดมิ ในท่สี ดุ ทางราชการจงึ อนุมัตใิ ห้ชาวบ้านหมากแข้งย้ายกลับภมู ิลำเนาเดิมโดยส่งกำลังทหารมา
คุ้มครอง ภายหลังการฝึกร่วมปี ๒๕๑๖ (ยุทธการสามชัย) หน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดเลยได้เข้ารับผิดชอบ
การรักษาความปลอดภัยให้กบั บ้านหมากแข้งตอ่ จากกำลังทหาร

5

ตอนท่ี ๒
บ้านหมากแขง้ “เยน็ ศิระ” เพราะพระบรบิ าล

เมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๑๖ ทางราชการได้ส่งเจ้าหน้าท่ีทหารมารักษาคุ้มครองชาวบ้านจำนวน ๑ กองพนั
เมื่อเหตุการณ์ต่างๆ สงบแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารจึงย้ายกำลังกลับและส่งตำรวจเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษา
หมบู่ า้ น

ในปดี ังกล่าวนี้เอง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปหี ลวง ขณะดำรงพระอิสริยยศ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินนี าถ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ขณะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงสิรินธรเทพรัตนราชสุดา และ
สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งนางเธอ เจา้ ฟ้าจุฬาภรณวลยั ลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรสี วางควฒั น วรขัตติยราชนารี
ขณะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินโดย
เฮลิคอปเตอรพ์ ระที่นั่ง มขี ้าราชการช้ันผูใ้ หญร่ ะดบั กระทรวง จังหวดั อำเภอ ตำรวจ ทหารเปน็ จำนวนมากตาม
เสด็จฯ มาทรงเยี่ยมเยียนตำรวจ ทหาร และราษฎรในวันศุกร์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๖ ครั้งนั้นมีชาวบ้าน
หมากแข้งและชาวบ้านใกล้เคียงทีม่ ารอเฝ้ารบั เสด็จจำนวนมาก และได้ทรงมีพระราชดำริให้จัดตัง้ “โครงการ
เย็นศิระ” ขึน้ ทบี่ ้านหมากแข้ง

โครงการเย็นศิระทที่ รงพระราชทานให้จัดตง้ั ขนึ้ ท่ีบ้านหมากแขง้ นั้น ประกอบดว้ ย การก่อสร้างอาคาร
เรียน ขยายการเรียนการสอนจากชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เป็นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๗ มีการสร้างระบบ
น้ำประปาภูเขา การขุดบ่อเลีย้ งปลา พร้อมพระราชทานพนั ธป์ุ ลานิล พระราชทานพันธุ์พชื พนั ธุ์ปศุสัตว์ เชน่ วัว
สกุ ร ไก่พนั ธ์ไุ ข่ อปุ กรณ์การเกษตร เป็นตน้ ตลอดทง้ั พระราชทานเครื่องนุ่งห่ม ชุดนกั เรยี น อุปกรณ์การเรียน
อปุ กรณก์ ฬี า ฯลฯ ใหก้ ับราษฎรบ้านหมากแขง้ หลงั จากทกี่ ารดำเนินโครงการแล้วเสรจ็ สมบูรณ์ก็มีการจัดสร้าง

6

ศูนย์ “เย็นศิระ” เป็นศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพ เป็นศูนย์รวมการจัดกิจกรรมของหมู่บ้าน และมีพระมหา
กรุณาธิคณุ ทรงรับหมู่บา้ นหมากแขง้ ไว้เป็นหมูบ่ ้านในพระบรมราชปู ถัมภ์

7

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณา
พระราชทานพระราชทรัพย์และมีการพระราชทานกระแสรับสั่งเกีย่ วกับการพัฒนาปรับปรุงหมู่บ้านหมากแข้ง
เพ่ือความอยู่ดกี นิ ดีของหมู่บ้านหมากแขง้ ดังนั้น อำเภอดา่ นซ้ายโดยความเห็นชอบของผวู้ ่าราชการจังหวัดเลย
และกองทัพภาคท่ี ๓ ได้วางโครงการพัฒนาหมบู่ ้านหมากแข้งข้นึ ให้ช่ือว่า “เย็นศิระ” และมีโครงการฝึกอบรม
ลูกเสอื ชาวบ้าน ซง่ึ ได้เริม่ ดำเนินการฝกึ อบรมในเดอื นเมษายน พ.ศ.๒๕๑๗

จากนั้นวนั ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๘ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี-
พันปีหลวง พร้อมดว้ ยสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ขณะ
ดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงสิรินธรเทพรัตนราชสดุ า และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ-
เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขตั ติยราชนารี เสด็จพระราชดำเนินโดย
เฮลคิ อปเตอร์พระที่นั่งถงึ บา้ นหมากแข้ง เวลาประมาณ ๑๔.๑๐ นาฬกิ า โดยมีข้าราชการทหาร ตำรวจ ลูกเสือ
ชาวบ้าน คณะครู นกั เรยี น ตลอดจนราษฎรรอเฝ้ารบั เสด็จอยู่บรเิ วณสนามโรงเรียน

ในการนี้ ทรงพระราชทานชื่อโรงเรียนบ้านหมากแข้งใหม่เป็น “โรงเรียนเย็นศิระบ้านหมากแข้ง”
ทรงเปดิ ปา้ ยโรงเรียน โดยสมาคมสง่ เสริมการศึกษาในถิน่ กนั ดารในพระอุปถัมภ์ นอ้ มเกล้าฯ ถวาย หลงั จากน้ัน
ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้มารอรับเสด็จอย่างทั่วถึง จากนั้นเสด็จประทับที่โรงเรียนประมาณ ๓ ชั่วโมง
จนถึงเวลาประมาณ ๑๕.๐๐ นาฬิกา จึงเสด็จกลบั โดยเฮลคิ อปเตอร์พระท่นี ั่ง

ภายหลังจากการเสด็จเปิดโครงการ “เย็นศิระ” โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างเป็นทางการแล้ว ยังได้มีโครงการสนับสนุนโครงการ “เย็นศิระ” ซึ่ง
ดำเนินงานหลังปี พ.ศ.๒๕๑๘ เช่น โครงการฝึกอบรมกลุ่มสตรีด้านการตัดเย็บเสื้อผ้าและการฝีมือ โครงการ
ส่งเสริมการเลี้ยงโค และได้มีการสร้างศูนย์ “เย็นศิระ” ซึ่งใช้เป็นศูนย์พัฒนาอาชีพ และศูนย์รวมกิจกรรม
ทกุ อย่างของหมบู่ า้ น

8

ตอนท่ี ๓
พระราชกรณยี กจิ ดา้ นความมั่นคงของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจ้าอย่หู วั

ณ ฐานปฏิบตั ิการบา้ นหมากแข้ง

เมื่อเช้าตรู่วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้มาลอบโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งขณะนั้นมีร้อยตำรวจโทสมัย ศรีเกตุ เป็นผู้บังคับฐาน และมีสิบตำรวจเอกเทียนชัย
สุวรรณโชติ เป็นรองผู้บังคับฐาน จนมีเจ้าหน้าท่ีตำรวจเสียชีวิต ๑ นาย คือ สิบตำรวจตรีวิศิษย์ บุตรดีสุวรรณ
และไดร้ ับบาดเจ็บ ๑ นาย คอื พลสมัครฯ โยธนิ ศรีนรจนั ทร์

สบิ ตำรวจตรีวศิ ิษย์ บตุ รดีสวุ รรณ เจา้ หน้าท่ตี ำรวจทีเ่ สียชวี ิต

พลสมัครฯ โยธนิ ศรนี รจนั ทร์ เจ้าหนา้ ท่ีตำรวจทีไ่ ด้รับบาดเจบ็

9

จากนน้ั ก็เกิดการปะทะกนั อยา่ งดเุ ดือดและตอ่ เนอ่ื งจนถึงชว่ งสาย เม่ือเสยี งปนื สงบลงในช่วงเท่ยี ง ฝ่าย
เจ้าหน้าท่ีตำรวจหน่วยปฏิบตั กิ ารพเิ ศษคาดการณ์ว่าเหตุการณส์ งบ ผู้ก่อการรา้ ยคงถอนกำลงั ไปแลว้ จงึ วิทยุขอ
เฮลิคอปเตอร์จากกองบังคับการพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ ๑๖๑๗ ให้มารับศพผู้เสียชีวิตและเจ้าหน้าท่ี
ผูไ้ ด้รับบาดเจ็บไปทำการรักษา

ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังจะลงแตะพื้น และเจ้าหน้าท่ีตำรวจได้นำศพผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บมาข้นึ
เฮลิคอปเตอร์นั้น ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้เปิดฉากยิงโจมตีอกี ระรอกอย่างหนัก เป้าหมายสำคัญคือการยิง
เฮลคิ อปเตอร์ จนไม่สามารถนำศพผเู้ สียชวี ิตและผู้บาดเจ็บขึ้นเครอื่ งได้ กระสนุ ปืนทีผ่ ้กู อ่ การร้ายยิงมาจากเนิน
ทางทิศตะวันตกของฐานปฏิบัติการถูกบริเวณตัวเครื่องหลายแห่ง ทำให้ส่วนหางของเฮลิคอปเตอร์ขาด
นายทหารนักบินจงึ พยายามนำเครอ่ื งบนิ หนีวิถกี ระสนุ แตเ่ ฮลิคอปเตอร์ได้เสียการทรงตัว จึงได้ตกลงในหมู่บ้าน
หมากแข้ง และทำใหบ้ ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย ๑ หลงั

สภาพความเสยี หายของเฮลคิ อปเตอร์
และบา้ นเรอื นราษฎรหลังจากทเ่ี ฮลิคอปเตอร์
ถูกผูก้ อ่ การรา้ ยยิงตกในหมบู่ า้ น

เมอ่ื เฮลคิ อปเตอรต์ กลงในหมูบ่ า้ นทางทศิ ใตข้ องฐานปฏิบัติการ เจ้าหน้าทต่ี ำรวจหน่วยปฏบิ ัตกิ ารพิเศษ
จำนวน ๑ นาย คือ พลสมัคร สมศักดิ์ ดลภักดี และชาวบ้านได้ช่วยนักบินออกมาแล้วจึงพาไปหลบซ่อนในท่ี
ปลอดภัย ก่อนจะนำส่งขึ้นฐานปฏิบัติการ จากนั้นชาวบา้ นและพลประจำปืนก็ปลดเอาปืนกล เอ็ม ๖๐ พร้อม
กระสุน ออกมาทำการยิงตอ่ สู้กับผกู้ ่อการร้ายคอมมิวนิสต์อย่างดุเดือด จนผูก้ อ่ การรา้ ยคอมมิวนิสต์ไม่สามารถ
เข้ามาทำลายซากเฮลคิ อปเตอร์ได้

จากน้ันผูก้ ่อการรา้ ยก็ลอ้ มฐานปฏิบัติการบ้านหมากแขง้ ไวแ้ ละเกิดการยงิ ปะทะกันเปน็ ระยะ วันต่อมา
ผู้บังคับฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้งได้ให้พลวิทยุฯ วิทยุขอกำลังทหารจากฐานปฏบิ ัติการบ้านห้วยมุ่น วันที่
๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ กองบังคับการพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ ๑๖๑๗ ได้ส่งกำลัง ๔ ชุดปฏิบัติการลำเลียง
โดยเฮลิคอปเตอร์ ขณะร่อนลงถกู ยิงไมส่ ามารถนำส่งได้ ต้องเคลื่อนที่ดว้ ยการเดินเท้า ถูกผู้ก่อการร้ายซุม่ ยิงที่
บา้ นปา่ บงเสยี ชวี ติ ๒ นาย บาดเจ็บ ๓ นาย

วันท่ี ๓๑ ตลุ าคม พ.ศ.๒๕๑๙ กองบังคับการพลเรือน ตำรวจ ทหารท่ี ๑๖๑๗ ได้สง่ กำลังทหารพลร่ม
มาสนับสนุนโดยอาศัยรถ ๖ ลอ้ โดยมีผ้บู ังคบั ฐานปฏิบัตกิ ารบ้านหว้ ยมนุ่ พร้อมกำลังทหารพลร่มรวม ๑๑ นาย
แต่ขณะที่รถวิ่งมาใกล้ถึงบา้ นหมากแข้ง ห่างประมาณ ๒ กิโลเมตร รถคันดังกล่าววิ่งเหยียบกับระเบิด (ซึ่งทำ

10

ดว้ ยลกู ปนื ใหญ่ที่ยิงมาแลว้ แตเ่ ป็นลกู ด้าน) ทผี่ ู้ก่อการรา้ ยคอมมิวนิสต์ได้วางไว้เปน็ เหตใุ ห้รถคันดังกล่าวถูกแรง
ระเบดิ ไดร้ บั ความเสียหายอยา่ งมาก ทหารเสียชีวติ ทั้งหมด พรอ้ มด้วยพลเรอื นทขี่ ับรถ ๑ คน

จากเหตุการณส์ บื เน่อื งเมื่อวันท่ี ๒๙ ตลุ าคม พ.ศ.๒๕๑๙ ทผี่ ู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสตไ์ ด้ลอบเข้าโจมตีท่ี
ฐานปฏิบัติการของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษบ้านหมากแข้ง ทำให้ตำรวจเสียชีวิต ๑ นาย และบาดเจ็บ ๑
นาย กองบงั คับการพลเรอื น ตำรวจ ทหารท่ี ๑๖๑๗ ได้ส่งเฮลิคอปเตอรไ์ ปรบั และขณะทน่ี กั บนิ นำเครอ่ื งขนึ้ ได้
ถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ยิงตกลงมาถูกบ้านเรือนราษฎรจนได้รับความเสียหาย กำลังทหารจากฐาน
ปฏบิ ตั กิ ารบา้ นหว้ ยมนุ่ ทีไ่ ปช่วยเหลือยังถูกผู้กอ่ การรา้ ยคอมมิวนสิ ต์ลอบวางระเบิดจนเสยี ชวี ติ ท้งั หมด ๑๑ นาย

เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทราบ
ด้วยความห่วงใยพระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร-
มหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะนั้นดำรงพระอสิ ริยยศร้อยเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมทหาร ตำรวจและราษฎรในพื้นที่ โดยในวันที่ ๕
พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๙ ร้อยเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จราชดำเนินโดย
เฮลคิ อปเตอรพ์ ระทีน่ งั่ ไปยงั ฐานปฏบิ ตั ิการบา้ นห้วยมุ่น

เหตุการณ์ในครั้งนั้น พลโทนริศ ศรีเนตร อดีตแม่ทัพภาคที่ ๓ ซึ่งได้มีโอกาสสัมภาษณ์นายทหารชั้น
ผู้ใหญ่ที่ตามเสด็จในครั้งนั้น ได้บันทึกพระราชกรณียกิจด้านความมั่นคงของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร-
รามาธิบดีศรีสนิ ทรมหาวชริ าลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หัว ณ ฐานปฏิบตั กิ ารบ้านหมากแข้ง และเหตุการณ์
ต่างๆ ไว้ดงั นี้

วันศกุ ร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณฯ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนิน โดยเครื่องบิน ซี-๗๕ พระที่นั่ง จากสนามบินดอนเมืองถึง
สนามบนิ หล่มสกั เมื่อเวลา ๑๒.๐๐ นาฬิกา หลังการรับเสด็จ (โดยพันเอกศุกรีย์ กลั ยาณมติ ร ผู้อำนวยการกอง
บังคับการพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ ๑๖๑๗ และคณะนายทหาร-ตำรวจ) พระองค์ได้เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์
ฮท.๑ ไปยังฐานปฏิบัติการบา้ นห้วยมุ่น อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย หลังจากทีป่ ระทับรบั ฟังคำกราบบังคมทูล
เกีย่ วกบั สถานการณ์ทบ่ี ้านหว้ ยมุ่นและบา้ นหมากแข้ง รวมท้ังพน้ื ทใ่ี กล้เคยี งในขณะนั้นแล้ว พระองค์ได้รับส่ังกับ
พลโทสมศกั ด์ิ ปัญจมานนท์ แมท่ พั ภาคท่ี ๓ ว่า “จะต้องไปแกไ้ ขสถานการณ์ ใหด้ ขี ึน้ กวา่ ท่เี ป็นอยู่ในขณะนั้น”
แม่ทัพภาคที่ ๓ ได้กราบบังคมทูลชี้แจงให้ทราบว่าเหตุการณ์ขณะนี้อยู่ในห้วงอันตราย การเสด็จอาจจะไม่
ปลอดภัย เพราะยงั มกี ารสู้รบติดพันกนั อยู่ ประกอบกับกำลงั ฝ่ายเราที่บ้านหมากแขง้ มกี ำลงั เพยี ง ๑ กองร้อย
เท่าน้ัน แตพ่ ระองคท์ รงมีพระกระแสรบั ส่งั ว่า “ไม่ได้ ชกั ช้า ตอ้ งรบี ไปแกไ้ ขใหไ้ ด้ ในวนั นี้”

เม่อื เวลา ๑๓.๔๕ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณฯ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์ ฮท.๑ จากฐานปฏิบัติการบ้านห้วยมุ่น ไปยัง
สนามกีฬาอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทรงวางแผนและปรับขบวนการเคลื่อนย้ายทางยุทธวิธี
ระหวา่ งรอเฮลิคอปเตอร์พระที่นัง่ จากกรงุ เทพมหานคร

11

จากนั้นเวลาประมาณ ๑๕.๓๐ นาฬิกา เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร-
รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยูห่ ัว ได้ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่น่ัง ทรงรับสั่งให้
นักบินนำเครือ่ งมงุ่ ตรงไปยงั ฐานบา้ นหมากแขง้ ทนั ที

เมื่อเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งได้นำคณะของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร-
รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปยังฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ขบวน
เฮลิคอปเตอร์ที่เสด็จพระราชดำเนินประกอบ เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ๑ ลำ เฮลิคอปเตอร์ทหาร ๑ สำหรับ
ผตู้ ดิ ตาม ๒ ลำ รวมทง้ั ส้นิ ๓ ลำ โดยกอ่ นหนา้ น้นั ราว ๑๐ นาที กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ร.๔๗๒ ซง่ึ มีร้อยโท
เฉลมิ ชยั วริ ุฬเพชร ผู้บังคับกองร้อย พร้อมชุดสุนขั สงครามกไ็ ดเ้ ดนิ เทา้ มาถึงฐานปฏบิ ัติการบา้ นหมากแขง้

ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์พระที่น่งั ไดเ้ ตรยี มร่อนลงยังฐานปฏบิ ตั ิการบา้ นหมากแขง้ เมื่อสกีเฮลคิ อปเตอร์
พระที่น่ังใกล้แตะพื้น พระองค์ได้ทรงกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์แล้วโผเข้าหาที่กำบังเป็นพระองค์แรกอยา่ ง
ห้าวหาญ ต่อหน้าข้าศึกศัตรู ทำให้นายทหารชั้นผู้ใหญท่ ี่ติดตามต้องรีบกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์และเข้าท่ี
วางตัวอย่างกระชั้นชิด ในขณะเดียวกันผู้ก่อการรา้ ยคอมมิวนิสต์จากบริเวณเนินเขาทางทิศตะวันตกของฐาน
ปฏิบัติการบ้านหมากแขง้ ได้ใช้อาวธุ ปืนเล็กยงิ เขา้ มายงั ฐานปฏบิ ัติการอย่างรุนแรงจำนวนหลายชุด ชุดละหลาย
นัด

พระองค์ได้รับสั่งให้ พันเอกรวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ รองผู้อำนวยการกองบังคับการพลเรือน ตำรวจ
ทหารที่ ๑๖๑๗ เข้ารับผดิ ชอบพืน้ ท่ีทางทิศเหนือของฐานปฏิบัติการ พนั เอกพิจติ ร กลุ ละวณิชย์ ผู้ช่วยหัวหน้า
กองยุทธการกองทพั ภาคที่ ๓ เข้ารับผดิ ชอบพนื้ ทีท่ างทศิ ใต้ของฐานปฏบิ ัติการ ร้อยเอกอณุ สุมิตร ผชู้ ่วยหวั หนา้
กองยทุ ธการกองทัพภาคท่ี ๓ เข้ารบั ผิดชอบพ้นื ท่ีทางทิศตะวันออกของฐานปฏิบตั กิ าร ส่วนพระองคพ์ ร้อมด้วย
พลโทสมศักดิ์ ปญั จมานนท์ มทภ.๓ และคณะผตู้ ดิ ตามประกอบด้วย พันเอกเทียนชยั จัน่ มุกดา, พนั ตรีสายัณห์
คัมภีรพันธ์ และนาวาตรีปรีชา ศักดิ์ณรงค์ ได้วางกำลังทางทิศตะวันตกของฐานปฏิบัติการ ซึ่งเป็นทิศทางท่ี
เผชญิ หน้ากับผู้ก่อการรา้ ย พร้อมกับไดบ้ ญั ชาการให้กำลังพลจากฐานปฏบิ ัติการยิงโต้ตอบ รวมทง้ั ได้บัญชาการ
ให้ปืนใหญ่ ปกค.๑๕๕ จากฐานปฏิบัติการบ้านห้วยมุ่นยิงไปยังที่บริเวณเนินเขาทางทิศตะวันตกของฐาน
ปฏบิ ตั กิ ารบา้ นหมากแขง้ และบรเิ วณทีส่ งสัย หลงั จากน้ันพระองค์ไดเ้ สด็จไปยังหลุมบุคคลรอบฐานปฏิบัติการ
ทรงให้คำแนะนำเรือ่ งการวางกำลัง การจัดฐานปฏิบตั ิการ และการวางระบบป้องกันตนเอง รวมทั้งได้แนะนำ
เรอ่ื งการวางมมุ ยิงของปนื ป. และปนื ค. ตลอดจนไดท้ รงชี้จดุ อันตราย ซ่ึงเป็นจดุ ท่ีลอ่ แหลมท่ีผกู้ อ่ การร้ายได้ใช้
จดุ นัน้ ๆ เป็นจุดเขา้ ทำการซุม่ ยงิ หรือโจมตี

12

13

14

จากนั้นเวลา ๑๖.๕๕ นาฬิกา ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ไม่ทราบจำนวนจากบริเวณเนินเขาทางทิศ
ตะวันตกของฐานปฏิบัติการ ได้ใช้อาวุธปืนเล็กยิงรบกวนเข้ามายังฐานปฏิบัติการหลายครั้ง ครั้งละหลายนัด
พระองค์จึงไดบ้ ญั ชาการให้กำลงั จากฐานปฏิบตั ิการ ทำการยงิ โต้ตอบไปยังบริเวณดังกล่าว และได้ส่ังการให้จัด
ชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก ออกทำการพิสูจน์ทราบพ้ืนที่บริเวณดังกล่าว โดยมีพระองค์ทรงทำหน้าท่ีผูบ้ ังคับการ
กำลังพลในชุดซึ่งประกอบด้วย พลโทสมศักดิ์ ปัญจมานนท์, พันเอกรวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์, พันเอกพิจิตร
กุลละวณิชย์, พันเอกเทียนชัย จั่นมุกดา, พันตรีสายัณห์ คัมภีรพันธ์, ร้อยเอกอณุ สุมิตร และกำลังจากฐาน
ปฏิบตั ิการอกี จำนวนหนงึ่ พลโทสมศักด์ิ ปญั จมานนท์ได้กราบบังคมทลู วา่ ขณะนี้ยังเป็นพืน้ ทอ่ี นั ตราย พระองค์
กไ็ ดร้ ับส่ังวา่ “ต้องไป เพราะเป็นหน้าทขี่ องทหาร”

ขณะที่ชุดปฏิบัติการออกปฏิบัติการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบนัน้ พระองคไ์ ด้แสดงความกล้าหาญและ
น้ำพระทัยเด็ดเด่ยี ว เยยี่ งกษตั ริยช์ าตนิ กั รบ ทรงกำชบั กำลังพลท่รี ่วมออกปฏบิ ตั กิ ารใหเ้ พ่ิมความระมดั ระวงั เป็น
พิเศษอยู่ตลอดเวลาอันเป็นที่ประจักษ์ประทับใจ ในหมู่ทหารหาญที่ร่วมปฏิบัติการในขณะนั้นเป็นอย่างมาก
เส้นทางจากฐานปฏิบตั กิ าร ไปยังบริเวณเนนิ ดังกลา่ ว เป็นเสน้ ทางทุรกนั ดาร ยากลำบาก เสีย่ งต่ออันตรายจาก
การซุ่มยิง และจากกับระเบิดเป็นอันมาก แต่พระองค์มิได้แสดงความหวาดกลัวหรือย่อท้อต่อการปฏิบัติการ
ดังกล่าวแต่อย่างใด ชดุ ปฏิบัติการต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยง่ิ ต้องคอ่ ยๆ เคลือ่ นขบวนไปจนถึงบริเวณ
เนินที่สงสยั พระองค์ได้แสดงพระปรีชาสามารถ โดยคาดคะเนจุดซุ่มยงิ ของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้ถูกต้อง
และเป็นไปตามทีพ่ ระองคค์ าดคดิ จริงๆ เพราะในวินาทนี ั้นเองได้มีเสียงปืนดงั ขึ้นเป็นจำนวนมาก กระสุนได้พงุ่
ตรงมายังชุดปฏิบัติการของพระองค์ จนฝ่ายตรงข้ามสงบการยิงและหลบหนีไป แล้วพระองค์เสด็จพระราช-
ดำเนินต่อไปจนกระทั่ง ได้ค้นพบหลุมบุคคลของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ประมาณ ๑๐ หลุม และพบปลอก
กระสุนปืนอารก์ ้าจำนวนหนึ่ง ก่อนทีช่ ดุ ปฏบิ ัติการจะกลับไปยังฐานปฏิบัตกิ ารพระองคไ์ ด้บัญชาการให้จัดกำลัง
ทหารสว่ นหน่ึงวางกำลงั ยึดรักษาพนื้ ท่ีบริเวณเนนิ ดังกล่าวไว้อีกด้วย

15

เมอ่ื เวลา ๑๗.๑๐ นาฬกิ า พระองค์ไดส้ ั่งให้จัดชุดปฏบิ ตั กิ าร โดยที่พระองคท์ รงทำหนา้ ที่ผ้บู ังคบั การชุด
ไปยังหมู่บ้านหมากแข้ง ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าฐานปฏิบัติการซึ่งต้องผ่านจุดอันตรายหลายแห่ง การเสด็จ
พระราชดำเนนิ ไปยงั หมบู่ ้านหมากแข้งน้ี เพ่อื ทรงต้องการฟ้ืนฟูจติ ใจของประชาชนในย่านทม่ี ีการแทรกซึมของ
ฝ่ายตรงกันข้าม พระองค์ไดป้ ระทับอยู่ในหมู่บ้านหมากแขง้ นี้ทา่ มกลางความปลืม้ ปีติของชาวบ้านอยู่ประมาณ
๒๐ นาที พระองค์ทรงไตถ่ ามทุกขส์ ขุ และทรงแนะนำการประกอบอาชีพให้ หลังจากนัน้ ได้เสดจ็ พระราชดำเนิน
ไปยังบริเวณเฮลิคอปเตอร์ที่ถกู ยงิ ตกใส่บ้านเรือนราษฎร ซึ่งเป็นบ้านของนายหำ ราศรีชยั พงั เสยี หาย พร้อมได้
สอบถามนายสีทา โสภาวัง ผ้ใู หญ่บา้ นในขณะนนั้ ถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอรต์ กตกด้วยพระองค์เอง

หลังจากนั้นพระองค์ทรงตรวจสภาพของเฮลิคอปเตอร์เคร่ืองนั้นอยู่เป็นเวลานาน ต่อมาได้เสด็จ
พระราชดำเนินไปยังบริเวณโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ ๕๐๐ เมตร เส้นทางเสด็จ
พระราชดำเนนิ ตอ้ งผ่านจดุ อันตรายที่ผู้ก่อการรา้ ยคอมมวิ นิสต์เคยซุม่ ยิงเจ้าหน้าท่ีมาแลว้ หลายแหง่ แตพ่ ระองค์
ก็มไิ ด้ทรงหวนั่ เกรง ต่ออนั ตรายแตอ่ ย่างใด ท่ี โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง พระองคไ์ ดท้ รงตรวจสภาพของโรงเรยี นที่
ถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ยึดไว้ได้ ต่อจากนั้นได้เสด็จไปยังบริเวณเนินเขาสูงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ
หมู่บา้ นหมากแขง้ พระองค์ทรงได้แนะนำช้จี ดุ อันตรายหลายแหง่ รวมทง้ั ไดส้ ั่งวางกำลงั เข้ายึดพื้นท่บี รเิ วณต่างๆ
ดว้ ยพระองคเ์ องตลอดเวลา

16

ชว่ งเวลาท่ีพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณฯ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หัว

เสดจ็ พระราชกรณยี กจิ ด้านความมนั่ คง ณ ฐานปฏิบตั กิ ารบ้านหมากแขง้ น้นั ฐานปฏบิ ตั ิการบ้านหมากแข้งของ

ตำรวจหน่วยปฏบิ ัติการพิเศษ มเี จ้าหนา้ ทตี่ ำรวจประจำการอยู่ดังนี้

รอ้ ยตำรวจโท สมยั ศรีเกตุ สบิ ตำรวจเอก เทยี นชัย สุวรรณโชติ

สบิ ตำรวจโท วรสทิ ธ์ิ ผาลา สิบตำรวจโท ประจกั ษ์ พฒุ เิ ปรมเดช

สบิ ตำรวจโท ประสาท เมืองราษฎร์ สิบตำรวจตรี ฉันทะ ทาแกว้

สิบตำรวจตรี ศึกษา ชิดชม พลสมคั ร เกยี รตศิ ักดิ์ พรอ้ มพรม

พลสมคั ร สุวิน วริ ิยะวัฒน์ พลสมัคร สมศกั ดิ์ ดลภักดี

พลสมัคร มรกต เหมะธลุ ินทร์ พลสมคั ร โยธิน ศรนี รจันทร์

พลสมคั ร อำนาจ บตุ รวงศ์ พลสมัคร พจนารถ รัตนนิมติ

พลสมัคร คชา ปาทาน พลสมคั ร สุพจน์ อดุ มนาม

พลสมคั ร ประพันธ์ พันธ์นาเหนอื พลสมคั ร สุพรรณ โคตรแสนเมอื ง

พลสมคั ร พษิ ณุ ทพิ สลี าด พลสมคั ร ปัญญา ทองสกุล

พลสมัคร ปัญญา เล็กประชา พลสมัคร สเุ ทพ คชั รนิ ทร์

พลสมคั ร สมรรถพงษ์ บำรุงญาติ พลสมัคร ดำรง วะรีวฒั น์

พลสมคั ร สมทรง ห้องแซง พลสมัคร โสภัณ ไชยลิ้นฟ้า

พลสมัคร น้อย ลอื หาญ พลสมัคร สวุ ิช ปราการ

17

พลสมัคร สุขุม กิมะพันธ์ พลสมคั ร ยรรณยง อุตสาหะสุข

พลสมัคร บญั ชา สุรชาติเมธนิ ทร์ พลสมคั ร เสถยี ร เย่ยี มเจริญ

พลสมคั ร โสภา อาสสารี พลสมัคร ทรงศิลป์ ศรพี ันธ์

พลสมัคร ธวชั ชยั ทดั เท่ียง พลสมัคร ทะนงศักด์ิ ศรที บั ทมิ

พลสมคั ร นิวัฒน์ เหล่าตน้ พลสมคั ร ประจวบ เจริญชยั

พลสมัคร วชิ ิต ซาแกว้ พลสมัคร ดำรง วะรวี ัฒน์

เวลาประมาณ ๑๗.๔๕ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ

พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว ทรงให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าทไี่ ปวางกบั ระเบิด พลุสดุด สญั ญาณเตอื นภยั ต่างๆ รอบๆ

บริเวณฐานปฏิบัติการทั้งชั้นนอกและชั้นใน และได้เรียกประชุมนายทหารท่ีเก่ียวข้องทั้งหมด วางแผนป้องกนั

ฐานปฏิบัตกิ ารในเวลากลางคนื รวมทั้งไดม้ ีการซกั ซ้อมเพอื่ ปอ้ งกนั การสบั สนเมอื่ มีเหตุการณ์เกิดข้ึน พระองคไ์ ด้

ประทับแรมอยู่ในหลมุ บุคคลภายในฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นพืน้ ทีย่ า่ นอนั ตรายและมีสถานการณ์

อยู่ในขนั้ รนุ แรงตลอดคนื

เมื่อใกล้ถงึ เวลาค่ำทรงสั่งการให้เตรียม Stand to ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจแทบทกุ นายไม่เข้าใจ

จึงได้ทรงอธิบายหลักการและความม่งุ หมายของ Stand to ระหวา่ งการ Stand to นัน้ ได้ทรงตรวจเจ้าหน้าที่

ปฏบิ ัติการ ทกุ นายรอบฐานอยา่ งละเอียด รวมทัง้ ไดท้ รงตรวจสอบเขตรบั ผิดชอบพน้ื ทต่ี รวจการณ์และการยงิ แต่

ละจดุ จนถงึ เวลา Stand down ประมาณครงึ่ ชวั่ โมงหลงั มดื

พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หัว ทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯ ใหน้ ายทหารและตำรวจท่ีตามเสด็จและปฏิบัตกิ ารบนฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้งเข้าเฝ้า
อยา่ งใกล้ชดิ หลัง Stand down โดยพระองคเ์ องประทบั อยบู่ นขอบแนวที่ตง้ั ยิ่งเก่า ทรงอธิบายปญั หาเกี่ยวกับ
พ้นื ทีป่ ฏิบัตกิ ารยุทธศาสตร์พัฒนา และการต่อสูภ้ ัยคุกคามท่ีเกิดจากผกู้ ่อการร้ายคอมมวิ นิสต์ของทางราชการ
ยทุ ธวธิ ีการปฏิบตั ิงานของฐานปฏบิ ัติการในพน้ื ที่ป่า และภูเขา ฯลฯ ทำให้บรรดานายทหาร-ตำรวจ ท่ีเข้าเฝ้าฯ
โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติการชายแดนประทับใจ และซาบซึ้งในพระปรีชาสามารถอย่างหาที่สุดมิได้ หลังจากนั้นได้
รว่ มฉลองวนั ลอยกระทงล่วงหน้ากับขา้ ราชการ ทหาร ตำรวจ ณ ท่นี นั้ โดยไมม่ ที รงถอื พระองค์

18

ในคืนวันที่ประทับแรมดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ
พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หวั เสวยพระกระยาหารค่ำ เมนูผัดกะเพราเนอ้ื กระป๋อง กบั ไขด่ าว ซง่ึ เป็นเสบียงที่มีอยู่บน
ฐานปฏิบัติการ เนื่องจากเป็นการเสด็จพระราชดำเนินโดยมิได้มีหมายกำหนดการล่วงหน้า โดยมีพลสมัคร
ปญั ญา เล็กประชา เปน็ ผูป้ ระกอบพระกระยาหารถวาย

เวลาประมาณ ๒๔.๐๐ นาฬกิ า ทรงเขา้ บรรทมทีห่ ลมุ บคุ คลดา้ นเหนอื ซ่งึ มีความลึกประมาณ ๒ ฟตุ มี
เพียงหลังคามุงแฝกหญ้าตา ๔ ตับ สำหรับกันลมและน้ำค้าง ในหลุมนั้นมีผ้าปันโจสำหรับรองพื้นดินสำหรับ
บรรทม พระองคใ์ ช้เป้สนามหนนุ พระเศียร และบรรทมในเครือ่ งแบบสนามทีท่ รงนำไปชดุ เดียว โดยไม่มีฉลอง
พระองค์ เสอื้ แจกเก็ตฟลิ ด์ ซงึ่ ในคนื วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๘ อากาศค่อนข้างหนาวและมีหมอกลงหนกั

ในวันรุ่งขึ้น ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๙ พระองค์ทรงตื่นบรรทมในเวลาประมาณ ๐๕.๐๐ นาฬิกา
เสด็จนำแม่ทัพภาคที่ ๓ นายทหารและตำรวจประจำตัว ไปตรวจการเตรยี มพรอ้ มของกำลงั พลประจำแนวยาม
เช้าตรู่ เมอ่ื เวลา ๐๗.๐๐ นาฬกิ า ทรงควบคุมการกู้กับระเบิดรอบฐานปฏบิ ัตกิ ารที่ได้ทรงวางไว้

เมื่อเวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา พระองค์ได้บัญชาการให้จัดกำลังออกเป็น ๓ ชุด ออกทำการพิสูจน์ทราบ
เส้นทาง และพื้นท่ีเนินเขาทางทิศตะวันตก บริเวณหมู่บา้ นและบรเิ วณเฮลิคอปเตอร์ตก รวมทั้งบริเวณเนินเขา
ทางทิศตะวนั ออกเฉยี งใต้

19

เมื่อเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ นาฬิกา พระองค์ได้เสด็จกลับมายังฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง และ
เสวยพระกระยาหารเช้ารว่ มกับเจา้ หน้าท่ีตำรวจและทหาร พร้อมทัง้ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
จำนวน ๕,๐๐๐ บาท ให้กับร้อยตำรวจโทสมัย ศรีเกตุ เพื่อทำการซ่อมแซมปรับปรุงฐานปฏิบัติการใหม่ให้มี
ความมั่นคงแข็งแรง สามารถป้องกันแรงระเบิดและกระสุนปืนใหญ่ได้ และยังตรัสว่าจะเสด็จกลับมาฐาน
ปฏิบัตกิ ารบา้ นหมากแขง้ อีกคร้งั

20

21

จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ ๑๐.๐๐ นาฬิกา จึงได้เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังสนามกีฬา
อำเภอเมอื งเพชรบูรณ์ จงั หวัดเพชรบูรณ์ เสดจ็ ไปเยยี่ มและมอบของพระราชทานแกท่ หารและตำรวจท่ีบาดเจ็บ
ทโ่ี รงพยาบาลเพชรบรู ณ์

22

เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ นาฬิกา ได้เสด็จไปที่สนามบินหล่มสัก (พตท.๑๖๑๗) ได้ทรงพระราชทาน
ขอ้ คดิ เห็นสถานการณใ์ นภาพรวม และข้อควรนำไปปรบั ปรุงแนวทางการปฏิบัติให้กบั พันเอกศุกรยี ์ กัลยาณมติ ร
ผอู้ ำนวยการกองบงั คับการพลเรอื น ตำรวจ ทหารท่ี ๑๖๑๗ และฝา่ ยอำนวยการที่เกี่ยวข้อง

เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ นาฬกิ า ไดเ้ สดจ็ โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นงั่ ไปยงั ค่ายสฤษดิ์เสนา อำเภอวังทอง
จงั หวดั พษิ ณุโลก เพ่ือเยย่ี มกำลงั พลของหน่วยพันพิเศษ

เวลาประมาณ ๑๓.๑๐ นาฬิกา เสด็จโดยเฮลคิ อปเตอร์พระที่น่งั ไปสนามบินพิษณโุ ลก เวลา ๑๓.๓๐ น.
เสด็จพระราชดำเนินกลับกรงุ เทพมหานคร โดยเครื่องบนิ ซี-๔๓

23

หลงั จากท่ีพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดศี รีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว
พื้นที่บ้านหมากแข้งก็สงบลง ผู้ก่อการร้ายก็ถอยห่างออกไป ทหารจากร้อย ร.๔๗๒ เชียงคำ ซึ่งถูกส่งขึ้นมา
ช่วยเหลือตำรวจหน่วยปฏิบัตกิ ารพิเศษกไ็ ดอ้ ยรู่ ักษาความปลอดภยั ระยะหน่ึงกอ่ นถอยกำลงั กลบั

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณฯ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หัว ได้เสด็จ
พระราชดำเนินยังฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้งอีกครั้งในวันศุกร์ท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๙ เสด็จโดย
เครื่องบนิ แอฟโร่ พระที่นัง่ จากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินพิษณุโลก และได้ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่
น่ังไปยังฐานปฏบิ ตั กิ ารบ้านหมากแข้ง เมอื่ เวลา ๑๒.๒๐ นาฬกิ า

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จถึง
ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้งเมื่อเวลา ๑๒.๕๐ นาฬิกา ได้เสด็จทอดพระเนตรบริเวณฐานปฏิบัติการ และได้
พระราชดำรัสกับเจ้าหน้าที่ทหารกับสถานการณ์ทั่วไป เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ได้ประทับเสวยพระกระยาหาร
กลางวันที่ฐานปฏิบัติการบา้ นหมากแขง้

24

25

26

เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ได้เสดจ็ พระราชดำเนินไปยังโรงเรยี นเยน็ ศิระบา้ นหมากแข้ง พระราชทานผ้าห่ม
และยารกั ษาโรคแก่ผู้ใหญบ่ ้านหมากแขง้ เพอ่ื นำไปแจกจา่ ยให้กับราษฎร พระราชทานอปุ กรณ์การศึกษาแก่ครู
พระราชทานเส้ือผ้าแต่เด็กนักเรยี น และทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์ที่โดยเสด็จพระราชดำเนินทำการ
ตรวจรักษาราษฎรผบู้ าดเจ็บกับให้เจ้าหน้าทีก่ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเสด็จพระราชดำเนนิ ทำการชี้แจง
เกี่ยวกบั โรคและรักษาเกย่ี วกับโรคระบาดของไก่ และไดพ้ ระราชทานไกพ่ นั ธ์ุให้กบั ราษฎร

27

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยหู่ ัว
ไดส้ ั่งใหจ้ ัดชุดปฏิบตั ิการ โดยท่พี ระองคท์ รงทำหน้าท่ีผู้บังคับการชุด ออกตรวจบรเิ วณท่ีเฮลิคอปเตอรต์ กอีกครงั้
เพอื่ เยี่ยมการปฏิบัตขิ อง ร้อย.ร.๔๐๖๒ ทอ่ี อกปฏิบัติการชว่ ยเหลอื ราษฎร ซ่อมแซมสถานท่อี ยู่อาศัยท่เี สยี หาย
จากเฮลคิ อปเตอร์ตก และการโจมตีของผกู้ ่อการร้ายท่ผี ่านมา

ต่อมาเวลา ๑๗.๓๐ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังสนามบินพิษณุโลกและได้
เสวยพระกระยาหารทเ่ี รือนรับรองริมน้ำ กองบัญชาการชว่ ยรบท่ี ๓ คา่ ยสมเด็จพระเอกาทศรถ ก่อนท่ีจะเสด็จ
โดยเคร่ืองบินแอฟโร่พระท่ีน่ังกลบั กรุงเทพมหานคร


Click to View FlipBook Version