The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ม 6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rattiya2252, 2022-09-21 09:36:08

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ม 6

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ม 6

คำนำ

แผนจดั การเรยี นรวู้ ิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ สาหรับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 กลมุ่ สาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนนาคาราษฎรร์ งั สรรค์ .สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา
มัธยมศึกษานครพนม จดั ทาขึน้ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั
ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ไดจ้ ัดทาขน้ึ เพือ่ เป็นแนวทางจัดการเรียนการสอน ให้ บรรลตุ ามตวั ช้ีวดั เพื่อให้นกั เรียน
มีลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามที่กาหนด

แผนจดั การเรียนรู้เล่มน้ี สาเรจ็ ลุลว่ งไปด้วยดีก็ด้วย คาแนะนาจากเพ่อื นครู และผ้บู รหิ าร
โรงเรียนนาคาราษฎร์รงั สรรค์ สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษานครพนม จึงขอขอบพระคุณท่านมา
ณ โอกาส

สำรบญั

เรือ่ ง หนำ้

คานา

สารบญั

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน 1

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1.............................................................................................................. 2

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2.............................................................................................................. 14

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3.............................................................................................................. 27

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4.............................................................................................................. 33

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 5.............................................................................................................. 42

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6............................................................................................................ 50

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7............................................................................................................ 85

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8............................................................................................................ 94

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 9........................................................................................................... 104

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10........................................................................................................... 114

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11........................................................................................................... 126

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 12.......................................................................................................... 136

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 13........................................................................................................... 146

รำยวชิ ำ โลก ดำรำศำสตร์และอวกำศ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

วชิ ำ ว 32061 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง 2560)

ช้ันมัธมยมศึกษำปี ที่ 6 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายส่วนประกอบบนทรงกลมฟ้า การระบุตาแหน่งบนทรงกลมฟ้า การ
เคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์และดวงดาว เวลาสุริยคติ มุมห่างและตาแหน่งของดาวเคราะห์ในวง
โคจร การเคลื่อนที่ปรากฏของดาวเคราะห์วงในและดาวเคราะห์วงนอก เทคโนโลยีกับการสารวจอวกาศ
เทคโนโลยีอวกาศกบั การประยุกต์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การ
สังเกต การวิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและการสรุปผล เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิด และ
ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตตนเอง
ตลอดจนมีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ถูกต้อง

ผลกำรเรยี นรู้
1. สรา้ งแบบจาลองทรงกลมฟ้า สงั เกตและเชื่อมโยงจุดและเสน้ สาคญั ของแบบจาลองทรงกลมฟ้ากับท้องฟ้า

จรงิ และอธบิ ายการระบพุ ิกัดของดาวในระบบขอบฟา้ และระบบศูนยส์ ูตร
2. สังเกตท้องฟ้าและอธบิ ายเสน้ ทางการข้ึน การตกของดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์
3. อธิบายเวลาสุริยคตปิ รากฏ โดยรวบรวมข้อมลู และเปรยี บเทยี บเวลาขณะท่ีดวงอาทิตย์ผ่านเมริเดยี นของผู้

สงั เกตในแตล่ ะวัน
4. อธิบายเวลาสุรยิ คติปานกลาง และการเปรยี บเทยี บเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก
5. อธบิ ายมมุ หา่ งที่สมั พันธ์กับตาแหนง่ ในวงโคจร และอธิบายเช่อื มโยงกับตาแหนง่ ปรากฏของดาวเคราะห์ท่ี

สังเกตไดจ้ ากโลก
6. สบื ค้นข้อมลู อธิบายการสารวจอวกาศ โดยใช้กลอ้ งโทรทรรศน์ในชว่ งความยาวคล่นื ต่าง ๆ ดาวเทยี ม ยาน

อวกาศ สถานีอวกาศ และนาเสนอแนวคิดการนาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีอวกาศมาประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวันหรอื ในอนาคต
7. สืบค้นข้อมูล ออกแบบ และนาเสนอกิจกรรมการสังเกตดาวบนท้องฟ้าด้วยตาเปล่าและ/หรือกล้อง
โทรทรรศน์

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 1

รำยวิชำเพ่มิ เตมิ โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 ทรงกลมท้องฟ้ำ เวลำ 5 ชว่ั โมง

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของทรงกลมฟำ้ เวลำ 2 ช่ัวโมง

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 6 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

……………………………………………………………………………………………………..

สำระโลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ

3. เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสุริยะ ความสัมพนั ธ์ของดาราศาสตร์กับมนษุ ย์ จากการศกึ ษาตาแหนง่ ดาวบนทรงกลมฟา้ และปฏิสัมพนั ธ์

ภายในระบบสุรยิ ะ รวมทั้งการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศในการดารงชวี ิต

1. ผลกำรเรียนรู้

1. สร้างแบบจาลองทรงกลมฟา้ สังเกต และเชือ่ มโยงจดุ และเส้นสาคัญของแบบจาลองทรงกลมฟา้ กบั

ท้องฟ้าจรงิ และอธิบายการระบพุ ิกัดของดาวในระบบขอบฟา้ และระบบศูนย์สตู ร

2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้

1. อธบิ ายลกั ษณะของทรงกลมฟ้าได้ (K)
2. อธบิ ายปรากฏการณท์ ่ีสังเกตไดเ้ มื่อผู้สงั เกตอยู่บรเิ วณต่าง ๆ ของโลกได้ (K)
3. สร้างแบบจาลองของทรงกลมฟา้ ได้ (P)
4. สามารถนาความรู้เรือ่ งทรงกลมฟ้ามาใช้ในการประมาณละติจูดที่เราอยู่ได้ (A)
5. ซอื่ สตั ย์ สุจริต ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทางาน (A)

3. สำระกำรเรยี นรู้

สำระกำรเรยี นรู้เพมิ่ เติม
- ทรงกลมฟา้ เปน็ ทรงกลมสมมตขิ นาดใหญ่ที่มรี ัศมีอนนั ต์ มจี ุดศูนยก์ ลางของโลกเป็นจุดศนู ยก์ ลางของทรงกลมฟา้

มีดวงดาวและเทห์ฟ้าต่าง ๆ ปรากฏอยบู่ นผวิ ของทรงกลมฟา้ น้ี การระบพุ ิกดั ของดวงดาวและเทหฟ์ ้าตา่ ง ๆ บน
ทรงกลมฟ้าตามระบบที่สาคัญ ได้แก่
- ระบบขอบฟา้ เป็นระบบทอี่ า้ งองิ จากตาแหนง่ ผูส้ งั เกตบนโลก โดยระบพุ กิ ัดเป็นมุมทิศและ มุมเงย อา้ งองิ กับ

ทศิ เหนอื และเส้นขอบฟา้ ของผู้สังเกต
- ระบบศนู ย์สตู รเปน็ ระบบทีอ่ ้างองิ กบั เสน้ ศนู ย์สูตรฟ้าและจุดวิษุวัตระบพุ ิกัดเปน็ ไรต์แอสเซนชนั และเดคลิ

เนชัน

4. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด

ทรงกลมฟา้ เป็นทรงกลมสมมตขิ นาดใหญ่ท่มี จี ดุ ศนู ยก์ ลางของโลกเป็นจุดศนู ยก์ ลางของวงกลมและมีดาวอยู่

บนผิวในของทรงกลม โดยมีเส้นแบ่งคร่ึงทรงกลมเป็นวงกลมใหญ่ที่แบ่งคร่ึงทรงกลมออกเป็น 2 ซีก โดยทรง

กลมฟ้ามี 2 แบบ คือ ทรงกลมฟ้าแบบไม่มเี ส้นขอบฟา้ และทรงกลมฟ้าแบบมีเส้นขอบฟ้า การหมุนของทรงกลม

ฟา้ จะทาใหเ้ ราเห็นการเคล่อื นทข่ี องดวงดาวแตกตา่ งกนั เมอื่ เราสังเกตทต่ี าแหน่งแตกต่างกันของโลก

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทกั ษะการสือ่ สาร 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

2) ทักษะการวเิ คราะห์

3) ทักษะการทางานรว่ มกนั

3. ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

1) ทกั ษะการสงั เกต

2) ทักษะการวัด

3) ทักษะการสร้างแบบจาลอง

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้

แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชวั่ โมงที่ 1

ขั้นนา

กระต้นุ ควำมสนใจ (Engage)
1. ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพ่ือวดั ความรู้เดมิ ของนกั เรยี นก่อนเขา้ สบู่ ทเรียน
2. ครกู ระตนุ้ ความสนใจเรียนโดยใช้คาถาม
3. รายวชิ าเพม่ิ เติมวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2 หรือใช้คาถาม

ดังตอ่ ไปนี้
• เม่ือนักเรยี นสงั เกตดวงดาวบนท้องฟ้าจะเหน็ วา่ ดาวเคล่อื นที่ เพราะเหตุใดจงึ เป็นเชน่ นน้ั

(แนวตอบ: เพราะโลกหมนุ รอบตวั เอง)
• เพราเหตใุ ดในเวลาเดียวกนั ของแตล่ ะฤดจู ึงเห็นดาวต่างกัน
(แนวตอบ: โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย)์
• ดาวบนท้องฟ้าอยู่หา่ งจากโลกเท่ากันทุกดวงหรือไม่
(แนวตอบ: ไมเ่ ทา่ กนั )

ข้นั สอน

สำรวจคน้ หำ (Explore)
1. ครูแจง้ ใหน้ ักเรียนทราบว่าจะไดศ้ กึ ษา เรอื่ ง ทรงกลมฟ้า
2. ครถู ามคาถามกระตุ้นความคิดนักเรยี นว่า “นกั เรียนร้จู กั ทรงกลมฟ้าหรอื ไม่ และคิดวา่ ทรงกลมฟา้ จะมี

ลกั ษณะอยา่ งไร” โดยครยู งั ไม่เฉลยคาตอบแต่แจง้ นกั เรียนให้ทราบว่าจะรคู้ าตอบเมอ่ื จบชวั่ โมง
3. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลาง

ค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน แล้วให้นักเรียนร่วมกันศึกษา ทรงกลมฟ้า จากแหล่ง
การเรยี นรตู้ ่าง ๆ เชน่ หนงั สอื เรียน อนิ เทอรเ์ น็ต โดยครเู นน้ ย้าให้นกั เรียนเลือกศกึ ษาจากแหลง่ ข้อมูล
ท่นี ่าเชอื่ ถอื
4. ครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ทให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 แผ่น แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุป
ความรู้ที่ศึกษาได้โดยจัดทาเป็นอินโฟกราฟิก เรื่อง ทรงกลมฟ้า โดยครูคอยให้คาแนะนาและ
ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของชน้ิ งาน
(หมายเหตุ: ครเู ริม่ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ )
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาแผนท่ีความคิดของกลุ่มตนเองมาติดรอบห้องเรียน แล้วเดินชมผลงานของ
เพื่อนร่วมชั้นเรียน โดยในระหว่างที่นักเรียนเดินชมผลงาน ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนแลกเปล่ียน
ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานที่แต่ละกลุ่มได้ทา

(หมายเหตุ: ครูเริม่ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด)
6. ครูให้นักเรียนร่วมกันโหวตให้คะแนนแผนที่ความคิดที่กลุ่มที่ตนเองชื่นชอบ กลุ่มไหนมีคะแนน

มากสุดครูให้ออกมานาเสนอแผนที่ความคิดของกลุ่มตนเองหน้าชั้นเรียน
(หมายเหตุ: ครูเร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการนาเสนอผลงาน)
7. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่าจะได้สร้างแบบจาลองทรงฟ้า แล้วแจกใบกิจกรรมที่ 4.1 กิจกรรมกำร
สรำ้ งแบบจำลองทรงกลมฟ้ำ ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่ม
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันออกแบบและเลือกวสั ดุอุปกรณ์ที่มาใช้ในการสร้างแบบจาลองทรงกลมฟ้า
แลว้ รว่ มกันสร้างแบบจาลองทรงกลมฟา้ ตามที่ได้ออกแบบไว้
9. ครแู จ้งให้นักเรียนทราบวา่ ทุกกลุม่ จะไดอ้ อกมานาเสนอแบบจาลองของกล่มุ ตนเองในช่ัวโมงถดั ไป โดย
แบบจาลองท่ีจะออกมานาเสนอไดต้ อ้ งผ่านการตรวจสอบและการให้คาแนะนาจากครกู อ่ น
(หมายเหตุ: ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ แบบจาลอง)

ช่วั โมงท่ี 2
ข1น้ั 0ส.อน

อธบิ ำยควำมรู้ (Explain)
1. ครูจัดลาดับการนาเสนอผลงาน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาการจับสลากหมายเลข

ลาดบั การนาเสนอผลงาน
2. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานตามลาดบั การนาเสนอผลงานทก่ี ลุม่ ตนเองจับฉลากได้

(หมายเหตุ: ครเู ร่ิมประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินการนาเสนอผลงาน)
1. ครูครูแจกใบงำนที่ 4.1 เร่ือง ทรงกลมฟ้ำและลกู โลก ให้นกั เรยี นทาเปน็ รายบุคคล

ถามคาถามเพอ่ื ให้นักเรยี นอธิบายความรู้โดยใช้คาถาม ดังนี้

• ทรงกลมฟา้ คืออะไร และมีลกั ษณะอยา่ งไร
(แนวตอบ: ทรงกลมฟา้ คือ ทรงกลมสมมติขนาดใหญท่ ม่ี จี ุดศูนย์กลางของโลกเปน็ จุดศูนยก์ ลางของ
วงกลมและมีดาวอยบู่ นผิวในของทรงกลม โดยมีเส้นแบ่งครึ่งทรงกลมเป็นวงกลมใหญท่ ี่แบ่งครงึ่ ทรง
กลมออกเป็น 2 ซกี )

• ทรงกลมฟา้ มีกแ่ี บบอะไรบ้าง
(แนวตอบ: 2 แบบ คือ ทรงกลมฟา้ แบบไมม่ ีเส้นขอบฟ้าและทรงกลมฟา้ แบบมเี ส้นขอบฟา้ )
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมาเขยี นคาตอบหนา้ ชัน้ เรียน แล้วครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
โดยครูจะเปน็ ผู้เฉลยคาตอบท่ถี กู ต้องในตอนสดุ ท้าย
4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หดั เรอ่ื ง ทรงกลมฟา้ จากแบบฝึกหดั รายวิชาเพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เป็นการบ้านส่งครใู น
ชวั่ โมงถดั ไป

7. กำรวัดและประเมนิ ผล

รำยกำรวัด วิธวี ัด เครือ่ งมือ เกณฑ์กำรประเมนิ
- ประเมนิ ตามสภาพจริง
7.1 กำรประเมนิ ก่อน - แบบทดสอบ
ก่อนเรียน
เรียน - ตรวจแบบทดสอบ

- แบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นเรียน

ทรงกลมฟ้า

7.2 ประเมินระหว่ำงกำร

จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้

1) ทรงกลมฟา้ - ตรวจอนิ โฟกราฟกิ - แบบประเมนิ ช้ินงาน/ - ระดับคุณภาพ 2
ภาระงานรวบยอด ผ่านเกณฑ์
- ตรวจแบบจาลอง - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2
ทรงกลมฟ้า แบบจาลอง ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจการทาใบ - ใบกิจกรรมที่ 4.1 - ประเมนิ ตามความ
สมเหตสุ มผล
กจิ กรรมที่ 4.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ระดบั คุณภาพ 2
- ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์

2) การหมนุ ของ - ประเมนิ การปฏบิ ัติ - แบบประเมินการ - ระดับคณุ ภาพ 2
ทรงกลมฟ้า ผา่ นเกณฑ์
กจิ กรรมการหมนุ ของ ปฏิบัติกิจกรรม - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
3) การนาเสนอผลงาน
4) พฤตกิ รรมการ ทรงกลมฟ้า - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ระดับคุณภาพ 2
ทางานกลุ่ม - ตรวจอินโฟกราฟิก
5) คุณลกั ษณะอนั พึง ผ่านเกณฑ์
- ตรวจการทาใบงานท่ี - แบบประเมนิ ชิน้ งาน/ - ระดบั คณุ ภาพ 2
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
4.1 ภาระงานรวบยอด - ระดบั คุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจแบบฝกึ หดั - ใบงานที่ 4.1

- แบบฝึกหดั

- ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ

ผลงาน นาเสนอผลงาน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม

- สังเกตความซือ่ สัตย์ - แบบประเมิน

สจุ ริต ความใฝ่เรียนรู้ คุณลักษณะอนั

และความมงุ่ มนั่ ในการ พงึ ประสงค์

ทางาน

8. สือ่ /แหล่งกำรเรียนรู้

8.1 ส่ือกำรเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี น รายวิชาเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 ทรงกลมฟา้
2) แบบฝึกหัด รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ทรงกลมฟา้
3) ใบกจิ กรรมที่ 4.1 กิจกรรมการสรา้ งแบบจาลองทรงกลมฟา้
4) ใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง ทรงกลมฟา้ และลกู โลก
5) วัสดอุ ุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการทากิจกรรมการหมนุ ของทรงกลมฟา้
6) วสั ดอุ ุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นการทากจิ กรรมการสร้างแบบจาลองทรงกลมฟา้
7) วัสดุอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการทากจิ กรรมการประมาณละติจดู ทเ่ี ราอยู่
8) PowerPoint เรอ่ื ง ทรงกลมฟา้ และลูกโลก

8.2 แหลง่ กำรเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ

ใบกจิ กรรมที่ 4.1

กจิ กรรม กำรสร้ำงแบบจำลองทรงกลมฟ้ำ

คำชแ้ี จง : เลือกวัสดอุ ปุ กรณ์ ออกแบบ และสร้ำงแบบจำลองทรงกลมฟ้ำแบบมเี สน้ ขอบฟ้ำ

1. เลือกวัสดุอุปกรณท์ ่ใี ช้ในการสร้างแบบจาลองทรงกลมฟา้ จากรายการที่กาหนดให้

1) ฝาพลาสตกิ ปดิ แก้วทรงโดมขนาดต่าง ๆ 2) กระดาษแข็งสีขาว

3) ชามโฟมขนาดตา่ ง ๆ 4) ถงุ พลาสติกใส

5) ปากกาเมจกิ 6) ตุ๊กตาขนาดเลก็

7) เทปใส หรอื กาว 8) กรรไกรหรอื คตั เตอร์

ระบุอปุ กรณ์ที่เลอื กใช้

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

.. ............................... ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

2. ออกแบบและวาดภาพแบบจาลองทรงกลมฟ้าแบบมีเสน้ ขอบฟ้า โดยระบุวสั ดุอปุ กรณ์ท่ีไดเ้ ลือกใชล้ งในแบบ

ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 เฉลย

กจิ กรรม กำรสรำ้ งแบบจำลองทรงกลมฟ้ำ

คำชีแ้ จง : เลอื กวสั ดอุ ปุ กรณ์ ออกแบบ และสร้ำงแบบจำลองทรงกลมฟ้ำแบบมเี สน้ ขอบฟำ้

1. เลือกวัสดุอุปกรณท์ ี่ใช้ในการสรา้ งแบบจาลองทรงกลมฟ้าจากรายการท่ีกาหนดให้

1) ฝาพลาสติกปดิ แกว้ ทรงโดมขนาดต่าง ๆ 2) กระดาษแข็งสขี าว

3) ชามโฟมขนาดตา่ ง ๆ 4) ถงุ พลาสตกิ ใส

5) ปากกาเมจิก 6) ตกุ๊ ตาขนาดเลก็

7) เทปใส หรือกาว 8) กรรไกรหรือคัตเตอร์

ระบุอุปกรณท์ ่เี ลอื กใช้

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

.. ............................... ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

2. ออกแบบและวาดภาพแบบจาลองทรงกลมฟ้าแบบมีเสน้ ขอบฟา้ โดยระบวุ สั ดอุ ุปกรณ์ท่ีไดเ้ ลือกใช้ลงในแบบ

ใบงำนที่ 4.1

เร่อื ง ทรงกลมฟำ้ และลูกโลก

คำชีแ้ จง : ตอบคำถำมเกยี่ วกบั ทรงกลมฟ้ำและลูกโลก
1. ทรงกลมฟ้าคอื อะไร และมีลกั ษณะอยา่ งไร
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
2. ใหน้ กั เรียนระบวุ า่ ทรงกลมฟ้าในภาพเป็นทรงกลมฟา้ แบบใด

........... ...... .................................

........... ...... .................................
3. ผู้สังเกตอยู่บริเวณข้ัวโลกเหนือจะสังเกตเห็นดาว
เหนอื อยูบ่ รเิ วณใด และสงั เกตเห็นดวงอาทิตยข้ึนและตกเปน็ อย่างไร
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

ใบงำนท่ี 4.1 เฉลย

เรอื่ ง ทรงกลมฟำ้ และลูกโลก

คำชแี้ จง : ตอบคำถำมเก่ยี วกบั ทรงกลมฟ้ำและลกู โลก
1. ทรงกลมฟา้ คืออะไร และมลี ักษณะอย่างไร
ทรงกลมฟ้าเป็นทรงกลมสมมติขนาดใหญ่ที่มีรัศมีอนันต์ มีจุดศูนย์กลางของโลกเป็นจุดศูนย์กลางของ
ทรงกลมฟ้า มดี วงดาวและเทหฟ์ า้ ตา่ ง ๆ ปรากฏอยู่บนผิวของทรงกลมฟ้านี้
2. ใหน้ กั เรยี นระบุวา่ ทรงกลมฟ้าในภาพเปน็ ทรงกลมฟ้าแบบใด

ทรงกลมฟา้ แบบไม่มีเสน้ ขอบฟา้

ทรงกลมฟ้าแบบมเี ส้นขอบฟา้
3. ผู้สังเกตอยู่บริเวณขั้วโลกเหนือจะสังเกตเห็นดาว
เหนืออยู่บริเวณใด และสังเกตเห็นดวงอาทิตยข้ึนและ
ตกเปน็ อย่างไร
ผู้สังเกตอยู่บริเวณขั้วโลกเหนือจะสังเกตเห็นดาวเหนืออยู่เหนือศรีษะ และจะไม่เห็นการข้ึนและตกของ
ดวงอาทิตย์ แตจ่ ะเห็นดวงอาทติ ยเ์ คลื่อนท่ีไปรอบ ๆ

9. บนั ทึกผลหลังกำรสอน

• ด้านความรู้

• ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

• ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

• ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

• ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

• ปัญหา/อุปสรรค

• แนวทางการแก้ไข

ลงชอ่ื
(นางรตั ติยา สุธรรม)

ตำแหน่ง ครู

10. ควำมเห็นของหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
“……………………………….

ควำมเหน็ ของหัวหนำ้ กลมุ่ บริหำรงำนวิชำกำร ลงชือ่ .................................
(นางรัตตยิ า สุธรรม)

ตำแหนง่ ครู

“……………………………….

ลงช่ือ .................................

(นายถาวร ลาวช่าง)

ตำแหน่ง ครู

ควำมเหน็ ของผู้บรหิ ำรสถำนศึกษำหรอื ผูท้ ี่ได้รับมอบหมำย

“……………………….

ลงชื่อ .................................
(วำ่ ท่ีรอ้ ยโทวุฒิชัย ไปปลอด)

ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นนำคำรำษฎร์รังสรรค์

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 2

รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 1 ทรงกลมท้องฟ้ำ เวลำ 5 ชัว่ โมง

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ เร่ือง พกิ ดั ขอบฟำ้ เวลำ 1 ช่ัวโมง

ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี 6 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………….

สำระโลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ

3. เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสรุ ยิ ะ ความสัมพันธข์ องดาราศาสตรก์ ับมนุษย์ จากการศกึ ษาตาแหนง่ ดาวบนทรงกลมฟา้ และปฏิสัมพนั ธ์

ภายในระบบสุรยิ ะ รวมท้ังการประยุกต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศในการดารงชวี ิต

1. ผลกำรเรียนรู้

1. สรา้ งแบบจาลองทรงกลมฟ้า สงั เกต และเชือ่ มโยงจดุ และเส้นสาคัญของแบบจาลองทรงกลมฟา้ กับ
ท้องฟ้าจริง และอธิบายการระบุพิกดั ของดาวในระบบขอบฟ้า และระบบศูนย์สตู ร

2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

1. อธิบายพิกัดขอบฟ้าและสว่ นประกอบสาคัญของพกิ ดั ขอบฟา้ ได้ (K)
2. จดั ทาผงั มโนทัศน์ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและเปน็ ลาดับขั้นตอน (P)
3. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทางาน (A)

3. สำระกำรเรยี นรู้

สำระกำรเรียนรู้เพ่ิมเติม
- ทรงกลมฟ้าเปน็ ทรงกลมสมมติขนาดใหญ่ที่มีรัศมอี นันต์ มจี ุดศนู ยก์ ลางของโลกเปน็ จดุ ศูนย์กลางของทรงกลม

ฟ้า มดี วงดาวและเทหฟ์ ้าต่าง ๆ ปรากฏอยบู่ นผิวของทรงกลมฟ้าน้ี การระบพุ กิ ัดของดวงดาวและเทหฟ์ า้ ตา่ ง ๆ
บนทรงกลมฟ้าตามระบบท่สี าคัญ ได้แก่
- ระบบขอบฟา้ เป็นระบบที่อา้ งอิงจากตาแหนง่ ผู้สังเกตบนโลก โดยระบุพกิ ัดเป็นมุมทิศและ มุมเงย อ้างอิง

กับทศิ เหนือและเส้นขอบฟ้า ของผู้สงั เกต
- ระบบศนู ยส์ ตู ร เปน็ ระบบทีอ่ า้ งองิ กับ เสน้ ศูนยส์ ูตรฟ้าและจุดวิษวุ ัตระบพุ ิกดั เปน็ ไรตแ์ อสเซนชนั และ

เดคลเิ นชนั

4. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด

พิกัดขอบฟา้ เปน็ พกิ ัดที่บอกตาแหนง่ ของวัตถุบนท้องฟ้าโดยให้ผู้สังเกตเปน็ ศนู ย์กลางของทรงกลมฟ้า และ
ใช้ขอบฟ้าของผู้สังเกตเปน็ ระนาบอ้างองิ ส่วนประกอบสาคัญของพกิ ัดท้องฟ้ามีดังน้ี จุดเหนือศรีษะ เมริเดียน
ฟ้า มมุ เงย มมุ ทศิ และจดุ ใตเ้ ท้า

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. ซ่ือสตั ย์ สุจริต

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทกั ษะการส่ือสาร 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

2) ทกั ษะการวเิ คราะห์

3) ทกั ษะการทางานรว่ มกัน

3. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

1) ทักษะการสังเกต

2) ทกั ษะการจัดกระทาและส่อื ความหมายขอ้ มูล

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้

แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงที่ 1

ขนั้ นา

กระตนุ้ ควำมสนใจ (Engage)
ครูกระตุ้นความสนใจเรียนโดยใช้คาถาม โดยเขียนคาถามลงในกระดาษและขยาเป็นก้อนกลม ๆ

คล้ายลูกบอล แล้วโยนให้นกั เรียนในช้ันเรยี นแบบสุ่ม นักเรียนท่ีได้รับกระดาษคาถามต้องตอบคาถาม หากยัง
ได้คาตอบไม่ครบถ้วนและถูกต้อง นักเรียนก็โยนกระดาษคาถามใหเ้ พื่อนรว่ มชั้นรับและตอบคาถามจนกว่าจะ
ไดค้ าตอบที่ครบถ้วนและถกู ต้อง โดยครูใชค้ าถามดงั ต่อไปน้ี

• หากนักเรียนต้องการบอกตาแหนง่ บนพื้นโลกใหผ้ อู้ ่ืนทราบ นักเรยี นควรบอกอยา่ งไร
(แนวตอบ: บอกโดยระบุพกิ ดั ละตจิ ดู กบั ลองจิจดู )

• แผนท่ใี น Google map บอกตาแหน่งโดยใช้พกิ ัดใด
(แนวตอบ: พิกดั ละตจิ ูดกบั ลองจิจูด)

ข้นั สอน

สำรวจคน้ หำ (Explore)
11. ครูถามคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า โดยครูอาจกระตุ้นให้นักเรียนแข่งขันกันตอบคาถาม หาก

นักเรียนคนไหนตอบได้ถูกตอ้ งและรวดเรว็ ครอู าจให้รางวลั หรือให้คะแนนพิเศษ

• หากตอ้ งการบอกตาแหนง่ วตั ถุใด ๆ บนทอ้ งฟ้า สามารถบอกไดอ้ ย่างไร
(แนวตอบ: หากต้องการบอกตาแหน่งวัตถุใด ๆ บนท้องฟา้ สามารถบอกได้โดยบอกพิกดั ทอ้ งฟา้ )

• พกิ ดั ท้องฟ้าขน้ึ อยูก่ ับส่ิงใด
(แนวตอบ: ระนาบอา้ งองิ )
12. ครแู จ้งใหน้ ักเรยี นทราบวา่ จะได้ศึกษา เรื่อง พิกัดขอบฟ้า
13. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน อย่างอิสระ แล้วให้นักเรียนร่วมกันศึกษา ทรงกลมฟ้า จาก
แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดารา
ศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 ทรงกลมฟ้า หรืออินเทอร์เนต็ โดยครูเน้นย้าให้
นักเรยี นเลอื กศกึ ษาจากแหลง่ ขอ้ มูลทน่ี า่ เชอ่ื ถอื
14. ครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ทให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 แผ่น แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุป
ความรู้ที่ศึกษาได้โดยจัดทาเป็นผังมโนทัศน์ เรื่อง พิกัดขอบฟ้า โดยครูคอยให้คาแนะนาและ
ตรวจสอบความถูกตอ้ งของช้ินงาน
(หมายเหตุ: ครเู ร่ิมประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม)
15. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาผังมโนทัศน์ของกลุ่มตนเองมาติดรอบห้องเรียน แล้วเดินชมผลงานของ
เพ่ือนร่วมชั้นเรียน โดยในระหว่างท่ีนักเรียนเดินชมผลงาน ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นเก่ียวกับผลงานที่แต่ละกลุ่มได้ทา
(หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมินชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด)
16. ครูแจกสติ๊กเกอร์ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น แล้วให้นักเรียนนาสติ๊กเกอร์ไปแปะบนผังมโนทัศน์ท่ี
นักเรียนช่ืนชอบ โดยมีข้อตกลงว่าห้ามแปะสตกิ้ เกอร์บนผังมโนทัศน์ของกล่มุ ตนเอง
17. นักเรียนกลุ่มที่มีจานวนสติ๊กเกอร์ที่มากที่สุด 5 ลาดับแรกออกมานาเสนอผังมโนทัศน์ของกลุ่ม
ตนเองหน้าชั้นเรียน
(หมายเหตุ: ครเู ริม่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน)

ช่วั โมงที่ 3-4

ข1น้ั 8ส.อน

กระตนุ้ ควำมสนใจ (Engage)
ครูกระตุ้นความสนใจเรียนโดยใช้คาถาม โดยเขียนคาถามลงในกระดาษและขยาเป็นก้อนกลม ๆ

คล้ายลูกบอล แล้วโยนให้นกั เรียนในช้ันเรยี นแบบสุ่ม นักเรียนท่ีได้รบั กระดาษคาถามต้องตอบคาถาม หากยัง
ได้คาตอบไม่ครบถ้วนและถูกต้อง นักเรียนก็โยนกระดาษคาถามให้เพื่อนรว่ มชั้นรับและตอบคาถามจนกวา่ จะ
ไดค้ าตอบทค่ี รบถว้ นและถูกตอ้ ง โดยครูใช้คาถามดังตอ่ ไปนี้

• หากนักเรียนตอ้ งการบอกตาแหน่งบนพ้ืนโลกใหผ้ ูอ้ ืน่ ทราบ นกั เรยี นควรบอกอย่างไร
(แนวตอบ: บอกโดยระบุพิกัดละติจดู กับลองจิจดู )
• แผนท่ใี น Google map บอกตาแหน่งโดยใช้พิกัดใด
(แนวตอบ: พิกัดละตจิ ดู กับลองจิจูด)

อธบิ ำยควำมรู้ (Explain)
5. ครูถามคาถามเพื่อให้นกั เรยี นอธบิ ายความร้โู ดยใชค้ าถาม ดงั นี้

• พิกัดขอบฟ้าคืออะไร และใชส้ ่งิ ใดเป็นระนาบอา้ งอิง
(แนวตอบ: พิกัดขอบฟา้ คือ พิกดั ท่บี อกตาแหนง่ ของวตั ถุบนทอ้ งฟ้าโดยให้ผ้สู งั เกตเปน็ ศนู ยก์ ลางของ
ทรงกลมฟ้า และใช้ขอบฟา้ ของผู้สงั เกตเป็นระนาบอ้างองิ
• สว่ นประกอบสาคญั ของพกิ ดั ท้องฟ้ามีอะไรบ้าง
(แนวตอบ: จุดเหนือศรษี ะ เมริเดยี นฟา้ มมุ เงย มุมทิศ และจดุ ใตเ้ ท้า)
• พิกดั ขอบฟ้าใช้ข้อมูลใดในการระบตุ าแหนง่ ดาวบนท้องฟา้
(แนวตอบ: มมุ เงยและมมุ ทิศ)
6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปรึกษาหาคาตอบแล้วส่งตัวแทนมาเขียนคาตอบบนกระดานหน้าชั้นเรียน
ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง โดยครูอาจใหร้ างวัลแกก่ ล่มุ ที่ตอบได้ถูกตอ้ งมากทสี่ ุดและรวดเรว็ ที่สุด
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาตัวอย่างที่ 4.1 และ 4.2 ในหนังสือเรียน โดยมีครูคอยสังเกตการณ์
และให้คาแนะนา
(หมายเหตุ: ครเู ริ่มประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม)
8. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นโจทย์ปัญหาที่เก่ียวกับพิกัดท้องฟ้าพร้อมแสดงวิธีหาคาตอบ
กลมุ่ ละ 3 ขอ้ โดยบันทึกลงในสมดุ ประจาตวั

ขยำยควำมเขำ้ ใจ (Elaborate)

1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเน้ือหาทีไ่ ด้ศึกษา เร่ือง พิกัดขอบฟา้ วา่ มสี ่วนไหนท่ยี ังไมเ่ ข้าใจ แล้ว
ใหค้ วามร้เู พิม่ เติมในส่วนนนั้ โดยท่ีครูอาจจะใช้ PowerPoint เร่อื ง พิกดั ขอบฟ้า มาช่วยในการอธิบาย

2. ครแู จกใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง พิกดั ขอบฟา้ ใหน้ ักเรยี นทาเป็นรายบุคคล
3. ครูขออาสาสมัครให้ออกมาเขียนเฉลยใบงานแต่ละข้อลงบนกระดานหนา้ ชั้นเรียน แล้วครูตรวจสอบ

ความถูกต้อง
4. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัด เรอื่ ง พกิ ัดขอบฟ้า จากแบบฝึกหัด เป็นการบ้านส่งครใู นชั่วโมง

ถดั ไป

ขน้ั สรปุ

นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับพิกัดขอบฟ้า โดยนักเรียนจดบันทึกลงในสมุดประจาตัวเป็น
รายบุคคล

ข้นั ประเมิน

ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูประเมินความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง พิกัดขอบฟ้า จากการทาผังมโนทัศน์ การตอบคาถาม การทา
ใบงาน และการทาแบบฝึกหัด
2. ครูประเมินทักษะและกระบวนการโดยสังเกตการทาผังมโนทัศน์ และการสังเกตพฤติกรรมการ
ทางานกลุ่มจากการร่วมกันศึกษาและสืบคน้ ขอ้ มลู
3. ครูประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยการสังเกตความซื่อสัตย์ สจุ ริต การใฝ่เรยี นรู้ และความ
ม่งุ มนั่ ในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย

7. กำรวัดและประเมนิ ผล

รำยกำรวดั วิธีวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์กำรประเมิน

7.1 ประเมินระหว่ำงกำร - แบบประเมนิ ชิน้ งาน/ - ระดับคุณภาพ 2
ภาระงานรวบยอด ผ่านเกณฑ์
จดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ - ใบงานที่ 4.2 - ระดบั คณุ ภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
1) พกิ ัดขอบฟ้า - ตรวจผงั มโนทัศน์ - แบบฝกึ หัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบประเมนิ การ - ระดับคุณภาพ 2
2) การนาเสนอผลงาน - ตรวจการทาใบงานท่ี นาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
4.2
- ตรวจแบบฝกึ หัด
- ประเมินการนาเสนอ
ผลงาน

รำยกำรวัด วธิ ีวัด เคร่อื งมือ เกณฑก์ ำรประเมิน
3) พฤตกิ รรมการ - ระดับคุณภาพ 2
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
ทางานกลุ่ม - ระดบั คณุ ภาพ 2
4) คุณลักษณะอนั พึง การทางานกล่มุ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์

ประสงค์ - สังเกตความซ่ือสตั ย์ - แบบประเมนิ

สจุ ริต ความใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะอนั

และความมงุ่ มน่ั ในการ พึงประสงค์

ทางาน

8. ส่อื /แหลง่ กำรเรยี นรู้

8.1 สื่อกำรเรียนรู้
1) หนังสือเรียน รายวิชาเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 ทรงกลมฟา้
9) แบบฝกึ หดั รายวชิ าเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เลม่ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ทรงกลมฟ้า
10) ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง พกิ ัดขอบฟา้
11) PowerPoint เรอ่ื ง พิกดั ขอบฟ้า
12) แบบฝกึ หดั เรื่อง พกิ ัดขอบฟ้า

8.2 แหล่งกำรเรียนรู้
4) ห้องเรยี น
5) หอ้ งสมุด
6) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ

ใบงำนท่ี 4.2

เร่ือง พิกัดขอบฟำ้

คำชี้แจง : ตอบคำถำมเกี่ยวกบั พกิ ดั ขอบฟำ้

1. พจิ ารณาความถกู ตอ้ งของขอ้ ความที่เกีย่ วกบั พิกดั ขอบฟา้ หากไม่ถกู ต้องใหแ้ ก้ไขพรอ้ มใหเ้ หตุผล

ข้อควำมทีเ่ กี่ยวกับพิกดั ขอบฟำ้ ควำมถูกต้อง เหตุผล

1. ตาแหน่งของดาวฤกษ์บนพิกัดขอบฟ้า ................ ...... .................................................................
จะไม่มีการเปลยี่ นแปลงไปตามสถานทีแ่ ละ .................................................................

เวลาของผูส้ ังเกต .................................................................

2. ระบบพิกัดท่ีตาแหน่งของวัตถุมีการ ................ ...... .................................................................
เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ต า ม ส ถ า น ที่ แ ล ะ เ ว ล า ข อ ง .................................................................

ผสู้ งั เกต คอื ระบบพกิ ดั ขอบฟ้า .................................................................

3. จดุ ยอดฟา้ จะมมี มุ เงยในพิกัดขอบฟา้ ................ ...... .................................................................
เทา่ กับ 0 องศา .................................................................

4. สาหรับผู้สังเกตที่อยู่บริเวณละติจูด 15 ................ ...... .................................................................
องศาเหนือ จะพบข้ัวฟ้าเหนือในระบบพิกดั .................................................................

ขอบฟ้าอยู่ที่มุมเงย 15 องศา และมุมทิศ .................................................................

0 องศา

2. การบอกตาแหน่งด้วยพิกัดขอบฟ้าสามารถใช้อ้างอิงถึงบุคคลอ่ืนที่อยู่ต่างสถานท่ีและเวลากับผู้สังเกต

ไดห้ รอื ไม่ อย่างไร

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

3. ถ้านักเรียนอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงรายและเพื่อนของนักเรียนอาศัยอยู่ที่จังหวัดยะลาสังเกตดาวเหนือ

พร้อมกัน นักเรียนและเพื่อนเหน็ ดาวเหนือที่ตาแหน่งเดียวกนั หรือไม่ อย่างไร

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

4. กรุงเทพมหานครตั้งอยู่ท่ีละติจูด 13.8 องศาเหนือ ในวันเหมายันผู้สังเกตท่ีอยู่บริเวณนี้จะเห็นดวงอาทิตย์

ข้ามเมรเิ ดยี นสูงจากขอบฟ้าทางทศิ ใด และเป็นมมุ เงยกอ่ี งศา

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

ใบงำนท่ี 4.2 เฉลย

เรื่อง พิกัดขอบฟำ้

คำชแ้ี จง : ตอบคำถำมเกีย่ วกับพิกดั ขอบฟ้ำ

1. พิจารณาความถกู ต้องของข้อความท่ีเกีย่ วกับพิกัดขอบฟ้า หากไม่ถูกตอ้ งใหแ้ กไ้ ขพรอ้ มให้เหตุผล

ข้อควำมทเี่ ก่ยี วกบั พิกดั ขอบฟำ้ ควำมถกู ตอ้ ง เหตผุ ล

1. ตาแหน่งของดาวฤกษ์บนพิกัดขอบฟ้า ไม่ถกู ต้อง ตาแหน่งของดาวฤกษ์บนพกิ ดั ขอบฟ้า
จะไม่มกี ารเปล่ียนแปลงไปตามสถานทแี่ ละ จะเปลย่ี นแปลงไปตามสถานทแ่ี ละเวลา

เวลาของผ้สู งั เกต ของผสู้ งั เกต

2. ระบบพิกัดที่ตาแหน่งของวัตถุมีการ ถกู ต้อง
เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ต า ม ส ถ า น ท่ี แ ล ะ เ ว ล า ข อ ง

ผ้สู ังเกต คอื ระบบพกิ ดั ขอบฟ้า

3. จดุ ยอดฟา้ จะมีมุมเงยในพิกดั ขอบฟา้ ไมถ่ ูกต้อง จุดยอดฟ้าจะมีมมุ เงยในพกิ ัดขอบฟา้
เท่ากับ 0 องศา เทา่ กบั 90 องศา

4. สาหรับผู้สังเกตท่ีอยู่บริเวณละติจูด 15 ไม่ถูกต้อง
องศาเหนือ จะพบขั้วฟ้าเหนือในระบบพิกดั

ขอบฟ้าอยู่ที่มุมเงย 15 องศา และมุมทิศ

0 องศา

2. การบอกตาแหน่งด้วยพิกัดขอบฟ้าสามารถใช้อ้างอิงถึงบุคคลอ่ืนท่ีอยู่ต่างสถานที่และเวลากับผู้สังเกต

ไดห้ รือไม่ อย่างไร

ไมไ่ ด้ เนอื่ งจากการบอกตาแหนง่ ด้วยพกิ ัดขอบฟา้ จะบอกเปน็ คา่ มุมทิศและมุมเงยพร้อมกัน ซ่ึงจะใชก้ ับผู้สังเกต

ท่ีอยู่บนเส้นละติจูดเดียวกันในเวลาเดียวกันเท่าน้ัน ไม่สามารถอ้างอิงถึงบุคคลอ่ืนที่อยู่ต่างสถานท่ีและเวลา

กบั ผู้สังเกตได้เพราะมีจุดเหนอื ศรี ษะคนละจุดกัน

3. ถ้านักเรียนอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงรายและเพื่อนของนักเรียนอาศัยอยู่ที่จังหวัดยะลาสังเกตดาวเหนือ

พร้อมกัน นักเรยี นและเพือ่ นเห็นดาวเหนอื ทตี่ าแหน่งเดียวกันหรือไม่ อยา่ งไร

คนละตาแหน่งกัน โดยนักเรียนคนที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงรายจะเห็นดาวเหนือที่ตาแหน่งมุมเงย 20 องศา

ส่วนนกั เรยี นคนท่ีอาศัยอยู่ที่จังหวัดยะลาจะเหน็ ดาวเหนอื ที่ตาแหนง่ มมุ เงย 6.3 องศา

4. กรุงเทพมหานครตั้งอยู่ที่ละติจูด 13.8 องศาเหนือ ในวันเหมายันผู้สังเกตท่ีอยู่บริเวณน้ีจะเห็นดวงอาทิตย์

ขา้ มเมรเิ ดียนสงู จากขอบฟ้าทางทิศใด และเปน็ มุมเงยกอ่ี งศา

ในวันเหมายัน ดวงอาทิตย์จะอยู่ค่อนไปทางใต้สุด ซ่ึงตาแหน่งใต้สุดที่ดวงอาทิตยจ์ ะอยู่ได้ก็คือ -23.5 หรืออยู่

ต่ากว่าเส้นศูนย์สูตรฟ้า 23.5 (เนื่องจากแกนโลกเอียง 23.5 ) สาหรับกรุงเทพมหานครท่ีตั้งอยู่ที่ละติจูด

13.8 N ขั้วฟา้ เหนอื จะยกข้นึ มา 13.8 ดังนั้น เส้นศูนย์สตู รฟ้าจะอยูค่ ่อนไปทางใต้ 13.8 จงึ เหน็ ดวงอาทติ ย์อยู่

ต่ากว่าเส้นศูนย์สูตรฟ้าอีก 23.5 นั่นคือ ดวงอาทิตย์จะค่อนไปทางใต้ โดยอยู่เหนือเส้นขอบฟ้า 90 - 23.5 -

13.8 = 52.7 ขณะทผ่ี า่ นเมรเิ ดียน

9. บันทึกผลหลงั กำรสอน

• ด้านความรู้
• ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
• ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
• ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์
• ด้านอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถา้ มี))

• ปญั หา/อุปสรรค ลงชอื่
• แนวทางการแกไ้ ข (นางรตั ตยิ า สุธรรม)

ตำแหนง่ ครู

ลงชอื่
(นางรัตตยิ า สุธรรม)

ตำแหนง่ ครู

10. ควำมเหน็ ของหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
“……………………………….

ควำมเหน็ ของหัวหน้ำกลมุ่ บริหำรงำนวชิ ำกำร ลงช่อื .................................
(นางรตั ติยา สธุ รรม)

ตำแหน่ง ครู

“……………………………….

ลงชอื่ .................................

(นายถาวร ลาวชา่ ง)

ตำแหน่ง ครู

ควำมเห็นของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผูท้ ไ่ี ด้รบั มอบหมำย

“……………………….

ลงช่อื .................................
(วำ่ ที่รอ้ ยโทวฒุ ชิ ยั ไปปลอด)

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นนำคำรำษฎร์รงั สรรค์

แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 3

รำยวิชำเพ่มิ เตมิ โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี 1 ทรงกลมท้องฟำ้ เวลำ 5 ชั่วโมง

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ เรือ่ ง พกิ ัดศนู ยส์ ูตร เวลำ 1 ช่ัวโมง

ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 6 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

สำระโลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ

3. เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตรก์ ับมนุษย์ จากการศึกษาตาแหน่งดาวบนทรงกลมฟา้ และปฏสิ มั พันธ์

ภายในระบบสรุ ยิ ะ รวมทั้งการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศในการดารงชีวิต

1. ผลกำรเรยี นรู้

1. สรา้ งแบบจาลองทรงกลมฟ้า สังเกต และเช่ือมโยงจดุ และเส้นสาคัญของแบบจาลองทรงกลมฟา้ กบั

ท้องฟ้าจรงิ และอธิบายการระบพุ กิ ดั ของดาวในระบบขอบฟา้ และระบบศนู ย์สตู ร

2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

1. อธิบายพิกัดศนู ยส์ ูตรและส่วนประกอบสาคัญของพกิ ัดศนู ย์สตู รได้ (K)
2. จดั ทาผงั มโนทศั น์ได้อย่างถกู ตอ้ งและเป็นลาดับข้ันตอน (P)
3. ซื่อสตั ย์ สุจรติ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทางาน (A)

3. สำระกำรเรยี นรู้

สำระกำรเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ
- ทรงกลมฟ้าเป็นทรงกลมสมมติขนาดใหญ่ที่มีรัศมีอนนั ต์ มีจุดศูนย์กลางของโลกเป็นจุดศูนย์กลางของทรงกลมฟ้า มี

ดวงดาวและเทห์ฟ้าต่าง ๆ ปรากฏอยู่บนผิวของทรงกลมฟ้าน้ี การระบุพิกัดของดวงดาวและเทห์ฟ้าต่าง ๆ บนทรง
กลมฟ้าตามระบบที่สาคญั ไดแ้ ก่
- ระบบขอบฟ้า เป็นระบบท่ีอ้างองิ จากตาแหนง่ ผู้สังเกตบนโลก โดยระบุพิกัดเป็นมุมทิศและ มุมเงย อ้างอิงกับทิศ

เหนือและเส้นขอบฟ้าของผู้สงั เกต
- ระบบศูนย์สูตร เป็นระบบทอ่ี ้างองิ กับเสน้ ศนู ยส์ ูตรฟ้าและจดุ วษิ วุ ัตระบพุ กิ ัดเป็น ไรต์แอสเซนชันและเดคลเิ นชนั

4. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด

พิกัดศูนย์สูตรเป็นพกิ ัดที่บอกตาแหนง่ ของวัตถุบนท้องฟา้ โดยให้เป็นศูนย์กลางและอ้างอิงกับเส้นศูนย์สตู ร
ฟา้ บนทรงกลมฟา้ โดยตรง ส่วนประกอบสาคญั ของพิกดั ศูนย์สตู รมีดงั นี้ ข้วั ฟา้ เหนือ ขว้ั ฟ้าใต้ เส้นศนู ยฟ์ า้ เดคลิ
เนชัน และไรสแ์ อสเซนชนั

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. ซ่ือสตั ย์ สุจรติ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทักษะการสือ่ สาร 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

2) ทักษะการวิเคราะห์

3) ทกั ษะการทางานร่วมกนั

3. ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

1) ทกั ษะการสังเกต

2) ทักษะการจัดกระทาและสอ่ื ความหมายขอ้ มลู

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมกำรเรียนรู้

แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : การจัดการเรยี นการสอนแบบเนน้ มโนทัศน์

ช่ัวโมงที่ 1

ขนั้ นา

ขน้ั กำรใช้ควำมรเู้ ดิมเช่ือมโยงควำมรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
1. ครชู ักชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับพกิ ัดท้องฟ้าเพ่ือเปน็ การทบทวนความรู้เดิม โดยครูอาจใช้คาถาม
ในการเปิดประเดน็ ในการพูดคุย ดงั น้ี
• ถา้ นักเรยี นต้องการบอกตาแหน่งวตั ถบุ นทอ้ งฟา้ นกั เรียนสามารถบอกไดด้ ว้ ยส่ิงใด
(แนวตอบ : พกิ ัดท้องฟา้ )
• พกิ ัดขอบฟ้าคืออะไร และใช้สงิ่ ใดเปน็ ระนาบอ้างองิ
(แนวตอบ: พิกดั ขอบฟา้ คอื พกิ ดั ทบี่ อกตาแหน่งของวตั ถบุ นทอ้ งฟ้าโดยใหผ้ ู้สังเกตเป็นศูนย์กลาง
ของทรงกลมฟ้า และใช้ขอบฟ้าของผสู้ ังเกตเปน็ ระนาบอ้างองิ )
• ถ้านกั เรียนตอ้ งการบอกตาแหน่งดาวบนทอ้ งฟา้ ในระบบพิกัดขอบฟา้ นักเรยี นต้องบอกค่า
ใดบา้ ง
(แนวตอบ: มุมเงยและมมุ ทิศ)
2. ครูตง้ั คาถามกระตนุ้ ความคิดโดยครอู าจถามว่า “นอกจากพกิ ัดขอบฟา้ ทใี่ ช้ในการบอกตาแหน่งวัตถุ
บนทอ้ งฟา้ นกั เรียนคิดว่ามีระบบพิกดั อ่นื ในการบอกตาแหน่งหรือไม่” โดยครปู ลอ่ ยนักเรียนรว่ มกนั
อภปิ รายหาคาตอบอยา่ งอสิ ระ โดยไม่เฉลยคาตอบ

ข้ันสอน

ข้ันเขำ้ ใจ (Understanding)
ครูใช้คาถามให้นักเรียนอธิบายส่ิงที่นักเรียนได้เรียนรู้ โดยให้นักเรียนแข่งขันกันตอบคาถาม หาก
นักเรียนคนใดตอบได้ถูกต้องรวดเร็วท่ีสุดครูจะให้รางวัล เช่น คะแนนพิเศษ โดยครูอาจใช้คาถามจาก
แบบฝึกหัด เรื่อง พกิ ัดท้องฟ้า จาก คาถาม ในหนงั สอื หรอื ใชค้ าถาม ดังตอ่ ไปนี้

• พิกัดศนู ย์สตู รคอื อะไร และใชส้ ิง่ ใดเปน็ ระนาบอ้างองิ
(แนวตอบ: พิกดั ขอบฟ้า คือ พิกดั ทบ่ี อกตาแหน่งของวัตถบุ นท้องฟ้าโดยให้เป็นศูนย์กลางและ
อ้างอิงกับเสน้ ศนู ย์สูตรฟ้าบนทรงกลมฟา้ โดยตรง)
• ส่วนประกอบสาคัญของพิกดั ศูนยส์ ตู รมอี ะไรบา้ ง
(แนวตอบ: ขั้วฟา้ เหนอื ขวั้ ฟา้ ใต้ เส้นศนู ย์ฟา้ เดคลิเนชนั และไรส์แอสเซนชัน)
• พิกัดศนู ย์สตู รใช้ข้อมูลใดในการระบุตาแหนง่ ดาวบนท้องฟา้
(แนวตอบ: เดคลเิ นชนั และไรส์แอสเซนชัน)

ขน้ั ลงมือทำ (Doing)
1. ครูใช้เทคนิคเพ่ือนคู่คิดโดยให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนร่วมชั้นเรียนอย่างอิสระ แล้วแจกใบงานที่ 4.3
เรือ่ ง พิกัดศูนยส์ ตู ร ใหน้ ักเรียนแตล่ ะคู่
2. นักเรยี นแต่ละคูร่ ่วมกนั ทาใบงานท่ี 4.3 โดยไมป่ รกึ ษากับเพือ่ นนกั เรียนคู่อนื่
3. ครูขออาสาสมัครให้ออกมาเขียนเฉลยของคาถามในใบงานท่ี 4.3 แต่ละข้อลงบนกระดานหน้าชั้น
เรยี น แล้วครตู รวจสอบความถูกตอ้ งและกลา่ วช่นื ชมอาสาสมคั ร

ขนั้ สรปุ

1. ครูถามคาถามเพ่ือให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และอภิปราย โดยครูนาคาถามที่เคยเคยใช้เพ่ือต้ัง
ประเดน็ ในการศกึ ษาทเี่ คยถามในช่วั โมงแรกนามาถามอกี ครงั้ (และคาถามอ่นื ท่คี รคู ดิ ว่านา่ สนใจ)
• พิกัดขอบฟา้ กับพกิ ัดศูนยส์ ูตรเหมือนกนั หรือไม่ อยา่ งไร
(แนวตอบ : ไม่เหมือน พิกัดขอบฟ้าจะมีค่าเปล่ียนแปลงตามละติจูดของผู้สังเกตและเวลาของการ
สงั เกต ส่วนพิกัดศูนย์สูตรจะมีคา่ ไมเ่ ปลย่ี นแปลงตามเวลาและละตจิ ูดของผ้สู ังเกตแตล่ ะคืน)
• เพราะเหตุใด พิกดั ศนู ยส์ ูตรจงึ เหมาะกับการระบุตาแหน่งดาวบนแผนทด่ี าว
(แนวตอบ : เน่ืองจากพกิ ัดศูนย์สตู รไม่ข้ึนอยกู่ ับตาแหนง่ ของผู้สงั เกต และไมว่ า่ จะอยตู่ าแหน่งใด ๆ
บนโลก พกิ ดั ศนู ย์สตู รของดาวดวงใด ๆ บนทอ้ งฟา้ กจ็ ะอยู่ตาแหน่งเดียวกนั เสมอ พิกัดศูนยส์ ตู รจิง
เหมาะกบั การนาไประบุตาแหนง่ ดาวบนแผนทด่ี าว)

2. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์และอภิปราย แล้วเขียนคาตอบลงในสมุดประจาตัวเปน็ รายบคุ คล

3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด เรื่อง พิกัดศูนย์สูตร จากแบบฝึกหัด รายวิชาเพ่ิมเติม
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ทรงกลม
ฟา้ เปน็ การบา้ นสง่ ครูในชวั่ โมงถัดไป

ข้ันประเมนิ

4. ครูประเมินความรเู้ กี่ยวกบั เร่ือง พิกัดศูนย์สูตร จากการทาผังมโนทัศน์ การตอบคาถาม การทาใบ
งาน และการทาแบบฝึกหัด

5. ครูประเมินทักษะและกระบวนการโดยสังเกตสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มจากการจัดทาทาผงั
มโนทัศน์ และจากการสืบค้นและศกึ ษา เร่ือง พกิ ดั ศูนยส์ ตู ร

6. ครูประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยการสงั เกตความซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ การใฝ่เรยี นรู้ และความ
มุ่งม่ันในการทางานท่ไี ด้รบั มอบหมาย

7. กำรวัดและประเมินผล

รำยกำรวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ำรประเมนิ

7.1 ประเมินระหวำ่ งกำร - ระดบั คุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
จัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) พกิ ัดศนู ย์สูตร - ตรวจผังมโนทัศน์ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ - ระดบั คณุ ภาพ 2

ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
- ระดับคุณภาพ 2
- ตรวจใบงานที่ 4.3 - ใบงานท่ี 4.3
ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั - ระดบั คุณภาพ 2

2) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ ผ่านเกณฑ์
- ระดบั คณุ ภาพ 2
ผลงาน ผลงาน นาเสนอผลงาน
ผา่ นเกณฑ์
3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม

ทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล

4) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

การทางานกล่มุ การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่

5) คุณลักษณะ - สังเกตความซอ่ื สัตย์ - แบบประเมิน

อนั พงึ ประสงค์ สจุ ริต ความใฝ่เรียนรู้ คณุ ลกั ษณะ

และความมุง่ มัน่ ในการ อันพงึ ประสงค์

ทางาน

8. ส่อื /แหล่งกำรเรียนรู้

8.1 สือ่ กำรเรียนรู้

1) หนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ทรงกลมฟ้า

13) แบบฝกึ หัด รายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 ทรงกลมฟา้

14) ใบงานท่ี 4.3 เร่อื ง พิกดั ศูนย์สตู ร
15) PowerPoint เร่ือง พกิ ดั ศูนยส์ ตู ร
8.2 แหลง่ กำรเรยี นรู้
7) ห้องเรยี น
8) ห้องสมดุ
9) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ

ใบงำนท่ี 4.3

เร่ือง พกิ ดั ศูนย์สตู ร

คำชี้แจง : ตอบคำถำมเกยี่ วกบั พกิ ัดศูนยส์ ูตร

1. พจิ ารณาความถกู ต้องของข้อความที่เกย่ี วกบั พกิ ดั ศนู ย์สตู ร หากไม่ถกู ตอ้ งใหแ้ ก้ไขพรอ้ มให้เหตผุ ล

ข้อควำมท่เี ก่ียวกบั พิกดั ศนู ย์สตู ร ควำมถกู ต้อง เหตุผล

1. ตาแหน่งของดาวฤกษ์บนพิกัดศูนย์สูตร ................ ...... .................................................................
จะเปล่ียนแปลงตามสถานท่ีและอัตราเร็ว .................................................................

ในการเคลื่อนของผู้สงั เกต .................................................................

2. ระบบพิกัดศูนย์สูตร มีค่าเดคลิเนชัน ................ ......
อยรู่ ะหว่าง -90 องศาถึง +90 องศา

3. ระบบพกิ ดั ศนู ย์สูตร มีค่าไรส์แอสเซนชัน ................ ...... .................................................................
อยรู่ ะหว่าง -180 องศาถงึ +180 องศา .................................................................

4. พิกัดไรส์แอสเซนชันเท่ากับ 0 ช่ัวโมง ................ ...... .................................................................
นิ ย า ม ไ ว้ ท่ี ต า แ ห น่ ง ข อ ง ด ว ง อ า ทิ ต ย์ ใ น .................................................................

วันวสนั ตวษิ วุ ตั .................................................................

2. ดาวดวงหน่ึงอยกู่ งึ่ กลางระหวา่ งขว้ั ฟ้าเหนอื กบั ระนาบศูนย์สูตรฟ้า ดาวดวงนี้จะมีคา่ เดคลิเนชันก่ีองศา
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

3. ในคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปรง่ เห็นดวงดาวชัดเจน นักเรียนได้หันหน้าไปทางทิศใต้เพ่ือสังเกตการเคลื่อนทีข่ อง
ดาวที่อย่ใู กล้เมรเิ ดียน นกั เรยี นคดิ วา่ นกั เรยี นจะสังเกตเหน็ ดาวเคลอ่ื นท่เี ป็นอยา่ งไร
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

4. ให้นกั เรียนบอกตาแหน่งดาวเหนือ เมื่อนกั เรยี นอยทู่ ี่สถานทด่ี ังตอ่ ไปน้ี
4.1 ขั้วโลกเหนือ

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

4.2 เส้นศูนยส์ ูตร
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

4.3 บา้ นของนักเรียนเอง
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

ใบงำนท่ี 4.3 เฉลย

เรอื่ ง พิกัดศนู ย์สูตร

คำชี้แจง : ตอบคำถำมเก่ียวกบั พกิ ดั ศูนย์สตู ร

1. พจิ ารณาความถูกตอ้ งของขอ้ ความที่เก่ยี วกบั พกิ ดั ศนู ยส์ ูตร หากไมถ่ ูกตอ้ งใหแ้ กไ้ ขพรอ้ มให้เหตผุ ล

ขอ้ ควำมท่ีเกี่ยวกับพิกัดศนู ย์สูตร ควำมถูกต้อง เหตุผล

1. ตาแหน่งของดาวฤกษ์บนพิกัดศูนย์สูตร ไม่ถกู ตอ้ ง ตาแหนง่ ของดาวฤกษบ์ นพกิ ัดศนู ย์สตู รจะ
จะเปล่ียนแปลงตามสถานที่และอัตราเร็ว ไม่มกี ารเปล่ยี นแปลงตามสถานท่แี ละ

ในการเคล่อื นของผสู้ ังเกต เวลาของผู้สังเกต

2. ระบบพิกัดศูนย์สูตร มีค่าเดคลิเนชัน ถกู ตอ้ ง
อยรู่ ะหว่าง -90 องศาถึง +90 องศา

3. ระบบพกิ ดั ศนู ยส์ ตู ร มีคา่ ไรสแ์ อสเซนชนั ไมถ่ กู ต้อง ระบบพิกัดศนู ย์สตู ร มคี ่าไรสแ์ อสเซนชนั
อยรู่ ะหว่าง -180 องศาถึง +180 องศา อยู่ระหวา่ ง 0 ช่วั โมงถึง 24 ชั่วโมง

4. พิกัดไรส์แอสเซนชันเท่ากับ 0 ช่ัวโมง ถูกต้อง
นิ ย า ม ไ ว้ ที่ ต า แ ห น่ ง ข อ ง ด ว ง อ า ทิ ต ย์ ใ น

วันวสนั ตวษิ ุวัต

2. ดาวดวงหนงึ่ อยู่กึง่ กลางระหว่างขัว้ ฟ้าเหนอื กับระนาบศนู ย์สูตรฟา้ ดาวดวงนจ้ี ะมีค่าเดคลเิ นชนั กอ่ี งศา
45 องศา

3. ในคืนท่ีท้องฟ้าปลอดโปร่ง เห็นดวงดาวชัดเจน นักเรียนได้หนั หน้าไปทางทิศใต้เพ่ือสังเกตการเคลื่อนทข่ี อง
ดาวท่อี ยูใ่ กล้เมรเิ ดียน นกั เรยี นคิดวา่ นักเรียนจะสงั เกตเห็นดาวเคล่อื นทเ่ี ปน็ อย่างไร
จะสังเกตเห็นดาวเคล่ือนที่ผ่านเมริเดียนจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ท่ีสังเกตได้เช่นนี้เพราะโลกหมุน
จากทศิ ตะวนั ตกไปยังทศิ ตะวันออก จึงทาใหด้ าวมีคา่ มมุ เงยสงู สุดขณะผ่านเมริเดียน

4. ให้นักเรียนบอกตาแหนง่ ดาวเหนอื เมื่อนกั เรยี นอยูท่ ี่สถานท่ดี งั ตอ่ ไปน้ี
4.1 ขั้วโลกเหนอื
ดาวเหนอื จะอยเู่ หนือศรษี ะ
4.2 เส้นศูนย์สตู ร
ดาวเหนือจะอยู่ท่ขี อบฟ้าทิศเหนือ
4.3 บา้ นของนกั เรียนเอง
ดาวเหนือจะอยู่ทมี่ ุมทศิ 0 องศา มุมเงยเทา่ กับละตดิ จดู ของบา้ นนกั เรยี นเอง

9. บันทกึ ผลหลงั กำรสอน

• ด้านความรู้

• ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

• ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

• ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

• ดา้ นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมที่มปี ัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

• ปญั หา/อปุ สรรค

• แนวทางการแก้ไข

ลงชอ่ื
(นางรตั ตยิ า สธุ รรม)

ตำแหนง่ ครู

10. ควำมเห็นของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
“……………………………….

ควำมเหน็ ของหวั หน้ำกล่มุ บรหิ ำรงำนวิชำกำร ลงชื่อ .................................
(นางรัตติยา สุธรรม)

ตำแหนง่ ครู

“……………………………….

ลงช่อื .................................

(นายถาวร ลาวช่าง)

ตำแหนง่ ครู

ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศึกษำหรอื ผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมำย

“……………………….

ลงช่ือ .................................
(วำ่ ที่ร้อยโทวุฒชิ ัย ไปปลอด)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนนำคำรำษฎรร์ ังสรรค์

• ปัญหา/อุปสรรค
• แนวทางการแก้ไข

แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 4

รำยวิชำเพิม่ เติม โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ 1 ทรงกลมทอ้ งฟ้ำ เวลำ 5 ชั่วโมง

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ เรือ่ ง พิกัดสรุ ิยวถิ ี เวลำ 1 ช่ัวโมง

ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 6 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………….

สำระโลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ

3. เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสุรยิ ะ ความสมั พันธข์ องดาราศาสตรก์ บั มนุษย์ จากการศกึ ษาตาแหนง่ ดาวบนทรงกลมฟา้ และปฏสิ ัมพนั ธ์

ภายในระบบสุริยะ รวมทง้ั การประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศในการดารงชีวิต

1. ผลกำรเรยี นรู้

1. สรา้ งแบบจาลองทรงกลมฟ้า สงั เกต และเช่อื มโยงจดุ และเส้นสาคัญของแบบจาลองทรงกลมฟา้ กับ

ท้องฟา้ จรงิ และอธิบายการระบพุ กิ ดั ของดาวในระบบขอบฟา้ และระบบศูนยส์ ตู ร

2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

1. อธิบายพกิ ดั สุริยวิถีและบอกตาแหน่งวตั ถบุ นท้องฟา้ โดยใชพ้ กิ ัดสุริยวิถไี ด้ (K)
2. จัดทาผงั มโนทัศนไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเป็นลาดับข้นั ตอน (P)
3. ซ่ือสัตย์ สุจรติ ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มั่นในการทางาน (A)

3. สำระกำรเรยี นรู้

สำระกำรเรยี นรู้เพิม่ เตมิ

4. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด

พกิ ัดสุริยวถิ ีเป็นพกิ ดั ท่ีใช้เส้นทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทิตย์เป็นเสน้ หลักซ่งึ อยู่บนระนาบการโคจรของโลก
รอบดวงอาทติ ย์ การบอกตาแหนง่ วตั ถุบนท้องฟา้ โดยใชพ้ ิกัดสุริยวิถีทาได้โดยบอกลองจิจูดสุริยวิถีและละติจูด
สรุ ิยวิถี

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. ซื่อสตั ย์ สุจริต

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทกั ษะการส่อื สาร 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

2) ทกั ษะการวเิ คราะห์

3) ทกั ษะการทางานรว่ มกนั

3. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

1) ทักษะการสังเกต

2) ทักษะการจัดกระทาและสื่อความหมายขอ้ มูล

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้

แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : การจัดการเรยี นการสอนแบบเนน้ มโนทศั น์

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั นา

ขน้ั กำรใช้ควำมรู้เดมิ เชื่อมโยงควำมรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
9. ครูชกั ชวนนกั เรยี นพูดคุยเก่ียวกับพิกัดท้องฟ้าเพ่ือเปน็ การทบทวนความรูเ้ ดิม โดยครูอาจใช้คาถามใน

การเปดิ ประเดน็ ในการพดู คยุ ดงั นี้
• พิกดั ขอบฟ้าคอื อะไร และใชส้ ง่ิ ใดเปน็ ระนาบอ้างอิง
(แนวตอบ: พิกดั ขอบฟา้ คือ พกิ ดั ที่บอกตาแหนง่ ของวัตถุบนท้องฟา้ โดยใหผ้ ู้สังเกตเปน็ ศูนย์กลางของ
ทรงกลมฟ้า และใช้ขอบฟ้าของผู้สงั เกตเปน็ ระนาบอ้างองิ )
• พิกัดศูนยส์ ตู รคอื อะไร และใช้สิ่งใดเป็นระนาบอา้ งองิ
(แนวตอบ: พกิ ดั ขอบฟ้า คือ พิกัดที่บอกตาแหนง่ ของวัตถุบนท้องฟ้าโดยให้เป็นศูนยก์ ลางและอ้างอิง
กับเสน้ ศูนยส์ ูตรฟ้าบนทรงกลมฟ้าโดยตรง)
10. ครูต้ังคาถามกระตุ้นความคิดโดยครูอาจถามว่า “นอกจากพิกัดขอบฟา้ กับพิกัดศูนย์สูตรนักเรียนคดิ
วา่ มพี ิกดั อ่นื หรือไม่ ทีใ่ ชใ้ นการบอกตาแหน่งวัตถบุ นทอ้ งฟา้ ” โดยครูปลอ่ ยนักเรียนรว่ มกันอภิปรายหา
คาตอบอยา่ งอิสระ โดยไม่เฉลยคาตอบ

ข้ันสอน

ขน้ั รู้ (Knowing)
1. ครูแจง้ ใหน้ กั เรียนทราบว่าจะได้ศกึ ษา เร่อื ง พกิ ดั สรุ ยิ วถิ ี
2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลาง
ค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน แล้วให้นักเรียนร่วมกันศึกษา พิกัดสุริยวิถี จาก
หนงั สอื เรียน รายวิชาเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เลม่ 2
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ทรงกลมฟ้า หรือแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต โดยครูเน้นย้ากับ
นกั เรียนว่า ควรคัดเลอื กศกึ ษาแหล่งข้อมลู ท่ีนา่ เช่ือถอื
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายข้อมูลท่ีได้ศึกษามาร่วมกันแล้วบันทึกผลการอภิปรายลงในสมุด
ประจาตัว
4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ จัดทาผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง พิกัดสรุ ยิ วถิ ี ในรูปแบบท่ีน่าสนใจ เมือ่ จัดทาเสรจ็ แล้วนา
ผงั มโนทศั น์มาตดิ รอบห้องเรียน
5. ครูตรวจสอบความถกู ต้องและให้คาแนะนาในการปรบั ปรงุ ผังมโนทัศน์ของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด))
6. นักเรียนเดินชมผลงานของเพอื่ นกลุม่ ต่าง ๆ อยา่ งอสิ ระ แล้วบนั ทึกความร้ทู ี่ไดล้ งในสมุดประจาตัว
7. ครูคัดเลือกผังมโนทัศนข์ องกลุ่มท่ีมีความถูกต้อง ครบถ้วน และมีวิธีการนาเสนอท่ีนา่ สนใจ จานวน
3-4 กลุม่ โดยใหน้ กั เรียนกลุ่มเจา้ ของผลงานออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน
(หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน)

ขัน้ เขำ้ ใจ (Understanding)

ครูใช้คาถามให้นักเรียนอธิบายส่ิงท่ีนักเรียนได้เรียนรู้ โดยให้นักเรียนแข่งขันกันตอบคาถาม หาก
นักเรียนคนใดตอบได้ถูกต้องรวดเร็วท่ีสุดครูจะให้รางวัล เช่น คะแนนพิเศษ โดยครูอาจใช้คาถามจาก
แบบฝึกหดั เรื่อง พิกัดท้องฟ้า จาก คาถาม ในหนังสอื หรือใชค้ าถาม ดงั ตอ่ ไปนี้

• พิกัดสุรยิ วิถีคอื อะไร และใชส้ ่งิ ใดเปน็ ระนาบอ้างอิง
(แนวตอบ: พิกัดสุริยวิถีเปน็ พิกดั ท่ีใชเ้ สน้ ทางเดนิ ปรากฏของดวงอาทติ ยเ์ ป็นเสน้ หลกั ซ่ึงอยบู่ น

ระนาบการโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ย์ โดยใชร้ ะนาบสุรยิ วถิ เี ป็นระนางอา้ งองิ )

• ส่วนประกอบสาคญั ของพิกัดสรุ ิยวิถีมีอะไรบา้ ง
(แนวตอบ: ข้วั ฟา้ เหนอื สุรยิ วิถี ข้ัวฟา้ ใต้สรุ ิยวิถี ระนาบสรุ ิยวิถี ลองจจิ ูดสรุ ยิ วถิ ีและละติจูดสุรยิ วิถี)

• พิกัดสุรยิ วิถีใชข้ อ้ มูลใดในการระบุตาแหนง่ ดาวบนท้องฟา้
(แนวตอบ: ลองจจิ ูดสรุ ยิ วิถีและละติจูดสรุ ยิ วถิ ี)

ข้นั ลงมือทำ (Doing)
4. ครูใช้เทคนิคเพือนคู่คิดโดยให้นักเรยี นจับคู่กับเพื่อนร่วมช้ันเรยี นอย่างอิสระ แล้วแจกใบงานที่ 4.4
เรื่อง พกิ ดั สุรยิ วถิ ี ให้นักเรียนแตล่ ะคู่
5. นักเรียนแต่ละคูร่ ว่ มกนั ทาใบงานที่ 4.4 โดยไมป่ รกึ ษากับเพอ่ื นนกั เรียนคู่อื่น
6. ครูขออาสาสมัครให้ออกมาเขียนเฉลยของคาถามในใบงานที่ 4.4 แต่ละข้อลงบนกระดานหน้าช้ัน
เรยี น แลว้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและกล่าวชนื่ ชมอาสาสมคั ร

ขั้นสรุป

1. ครใู หน้ กั เรยี นเขียนสรุปเน้ือหา เรอื่ ง พกิ ดั สุริยวิถี ลงในสมดุ บนั ทกึ ประจาตัวเปน็ รายบคุ คล
2. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด เรื่อง พิกัดสุริยวิถี จาก Unit Question 4 ในหนังสือเรียน

เป็นการบ้านสง่ ครใู นชวั่ โมงถดั ไป

ข้นั ประเมนิ

7. ครูประเมนิ ความรูเ้ ก่ยี วกบั เรื่อง พิกัดสุริยวถิ ี จากการทาผังมโนทัศน์ การตอบคาถาม การทาใบงาน
และการทาแบบฝึกหดั

8. ครูประเมินทักษะและกระบวนการโดยสังเกตสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มจากการจัดทาทาผงั
มโนทัศน์ และจากการสบื คน้ และศึกษา เรอื่ ง พิกดั สุริยวิถี

9. ครปู ระเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยการสงั เกตความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ การใฝ่เรยี นรู้ และความ
มุ่งม่นั ในการทางานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย

7. กำรวดั และประเมนิ ผล

รำยกำรวดั วิธีวดั เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน

7.1 ประเมนิ ระหวำ่ งกำร - แบบประเมินช้นิ งาน/ - ระดับคณุ ภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
จดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ - ใบงานท่ี 4.4 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบฝกึ หัด - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) พกิ ัดสุรยิ วถิ ี - ตรวจผงั มโนทัศน์ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คณุ ภาพ 2
นาเสนอผลงาน
2) การนาเสนอ - ตรวจใบงานที่ 4.4 - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
ผลงาน - ตรวจแบบฝึกหัด การทางานรายบคุ คล - ระดบั คุณภาพ 2
- ประเมินการนาเสนอ
3) พฤติกรรมการ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ทางานรายบคุ คล - สงั เกตพฤตกิ รรม
การทางานรายบุคคล

รำยกำรวัด วิธีวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ำรประเมิน
4) พฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
5) คุณลกั ษณะ การทางานกลุ่ม การทางานกล่มุ - ระดบั คุณภาพ 2

อันพงึ ประสงค์ - สังเกตความซ่อื สัตย์ - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์

สจุ รติ ความใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะ

และความมุ่งมน่ั ในการ อนั พงึ ประสงค์

ทางาน

8. สื่อ/แหลง่ กำรเรยี นรู้

8.1 สอ่ื กำรเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พิกดั สรุ ิยวิถี
16) ใบงานท่ี 4.4 เร่อื ง พกิ ัดสุริยวถิ ี
17) PowerPoint เร่อื ง พิกัดสรุ ิยวถิ ี

8.2 แหล่งกำรเรียนรู้
10) ห้องเรยี น
11) ห้องสมดุ
12) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ

ใบงำนท่ี 4.4

เร่ือง พกิ ดั สุรยิ ะวถิ ี

คำชี้แจง : ตอบคำถำมเก่ยี วกบั พิกัดสรุ ยิ ะวิถี
1. นาขอ้ ความที่กาหนดให้ไปเติมลงในชอ่ งว่างเพื่อให้ภาพทรงกลมฟา้ ในระบบสรุ ิยะวถิ สี มบรู ณ์

ละติจดู สรุ ิยวถิ ี ลองจจิ ดู สุริยะวิถี ระนำบสุริยวิถี

ขว้ั ฟ้ำเหนอื สุรยิ ะวิถี ขั้วฟ้ำใตส้ ุริยะวิถี

.........................................

............................ ............................
............................

2. อธบิ ายความหมายของคาตอ่ ไปน้ี .........................................

2.1 ขัว้ ฟ้าเหนอื สรุ ิยะวิถี ....................... ........................ ................ ................................... ......ใ.......

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

2.2 ขวั้ ฟ้าใตส้ รุ ยิ ะวถิ ี ....................... ........................ ................ ................................... ......ใใ......ใใ

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

2.3 ระนาบสุรยิ วถิ ี ....................... ........................ ................ ................................... ......ใใ......ใใ......ใ

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

2.3 ละติจูดสรุ ยิ วถิ ี ....................... ........................ ................ ................................... ......ใใ......ใใ......ใ

................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

2.5 ลองจจิ ูดสุรยิ วิถี ....................... ........................ ................ ................................... ......ใใ......ใใ.”

.......ใ................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .....

ใบงำนท่ี 4.4 เฉลย

เรือ่ ง พิกดั สรุ ยิ ะวถิ ี

คำชแ้ี จง : ตอบคำถำมเก่ยี วกับพกิ ัดสุรยิ ะวิถี
1. นาข้อความทีก่ าหนดใหไ้ ปเติมลงในชอ่ งว่างเพอื่ ให้ภาพทรงกลมฟา้ ในระบบสุริยะวิถีสมบรู ณ์

ละติจดู สรุ ยิ วิถี ลองจจิ ูดสรุ ิยะวิถี ระนำบสุริยวถิ ี

ข้วั ฟำ้ เหนอื สุริยะวิถี ขว้ั ฟ้ำใต้สรุ ิยะวถิ ี

ขั้วฟ้าเหนอื สรุ ยิ ะวิถี

ระนาบสรุ ิยวถิ ี ละตจิ ูดสุรยิ วิถี
ลองจจิ ูดสรุ ิยวิถี

ขวั้ ฟา้ ใต้สุรยิ ะวิถี

2. อธิบายความหมายของคาต่อไปน้ี
2.1 ขว้ั ฟ้าเหนอื สรุ ิยะวถิ ี จุดท่อี ยู่หา่ งจากระนาบสรุ ิยวิถเี ป็นมุม 90 องศา ซ่งึ อยูห่ ่างจากขัว้ ฟ้าเหนือของ

ทอ้ งฟ้าประมาณ 23.5 องศา
2.2 ขว้ั ฟา้ ใต้สุริยะวิถี จุดที่อยู่ห่างจากระนาบสุริยวถิ เี ปน็ มมุ 90 องศา ซึง่ อยู่ห่างจากขั้วฟ้าใต้ของท้องฟ้า

ประมาณ 23.5 องศา
2.3 ระนาบสุริยวถิ ี ระนาบเส้นทางเดินปรากฎของดวงอาทิตยท์ ่ีผ่านกลุ่มดาวต่างๆ ในรอบปี โดยทามุม

ประมาณ 23.5 องศา กับระนาบศูนยส์ ูตรฟ้า
2.4 ละตจิ ดู สรุ ิยวิถี มมุ ทด่ี าวอยหู่ า่ งจากระนาบสรุ ิยะวถิ ี โดยวดั ไปในแนวตั้งฉากกับเส้นสรุ ิยะวิถี หากวนั ไป

ทางทิศเหนือจะมคี ่าเปน็ บวก แต่หากวดั ไปทางทิศใตจ้ ะมีคา่ เป็นลบ
2.5 ลองจจิ ูดสุรยิ วถิ ี ค่าทวี่ ัดไปตามแนวเสน้ สุรยิ วิธีไปทางทศิ ตะวนั ออก โดยเร่ิมจากจดุ วสนั ตวิษวุ ัตจนถึง

เส้นทีบ่ อกมุมชัว่ โมง

9. บันทกึ ผลหลงั กำรสอน

• ด้านความรู้
• ด้านสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
• ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
• ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์
• ด้านอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

• ปญั หา/อุปสรรค
• แนวทางการแกไ้ ข

ลงช่ือ
(นางรตั ติยา สธุ รรม)

ตำแหนง่ ครู

10. ควำมเห็นของหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
“……………………………….

ควำมเห็นของหัวหนำ้ กลมุ่ บริหำรงำนวิชำกำร ลงชือ่ .................................
(นางรัตตยิ า สุธรรม)

ตำแหนง่ ครู

“……………………………….

ลงช่ือ .................................

(นายถาวร ลาวช่าง)

ตำแหน่ง ครู

ควำมเหน็ ของผู้บรหิ ำรสถำนศึกษำหรอื ผูท้ ี่ได้รับมอบหมำย

“……………………….

ลงชื่อ .................................
(วำ่ ท่ีรอ้ ยโทวุฒิชัย ไปปลอด)

ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นนำคำรำษฎร์รังสรรค์

แผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 5

รำยวิชำเพิ่มเติม โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 1 ทรงกลมท้องฟ้ำ เวลำ 5 ช่ัวโมง

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ เรอ่ื ง ตำแหนง่ ของดวงอำทติ ยบ์ นทรงกลมฟำ้ เวลำ 2 ช่ัวโมง

ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 6 เวลำ 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………….

สำระโลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ

3. เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสุริยะ ความสัมพันธข์ องดาราศาสตรก์ ับมนุษย์ จากการศึกษาตาแหนง่ ดาวบนทรงกลมฟ้าและปฏสิ มั พันธ์

ภายในระบบสรุ ิยะ รวมท้ังการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศในการดารงชีวิต

1. ผลกำรเรยี นรู้

2. สงั เกตทอ้ งฟา้ และอธบิ ายเส้นทางการขนึ้ การตกของดวงอาทติ ย์และดาวฤกษ์

2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้

1. อธบิ ายตาแหน่งของดวงอาทิตยบ์ นทรงกลมฟา้ ได้ (K)
2. จดั ทาอนิ โฟกราฟิกไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเป็นลาดับข้นั ตอน (P)
3. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทางาน (A)

3. สำระกำรเรยี นรู้

สำระกำรเรยี นรเู้ พิ่มเติม
- โลกหมุนรอบตัวเองจากทางทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก ทาให้เกิดปรากฏการณ์ขึ้นตกของดวง

อาทิตย์และดวงดาวในรอบวัน ซึง่ เส้นทางปรากฏของการขึน้ การตกของดวงอาทิตยจ์ ะเปล่ียนแปลงตาม
วัน เวลาและตาแหน่งละติจูดของผู้สังเกต ส่วนเส้นทางปรากฏของการข้ึน การตกของดาวฤกษ์จะ
เปลีย่ นแปลงตามละตจิ ดู ของผสู้ งั เกต

4. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด

ตาแหน่งของดวงอาทิตย์บนวงกลมฟ้าจะเป็นเส้นทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์ซ่ึงมีตาแหน่งสาคัญ 4 จุด
ได้แก่ จุดวสันตวิษุวัต ศารทวิษุวัต ครีษมายัน และเหมายัน โดยจุดวสันตวิษุวัตและจุดศารทวิษุวัตเป็นจุดตัด
ของเส้นศูนย์สูตรฟ้ากับเส้นสุริยวิถี ส่วนจุดครีษมายันเป็นตาแหน่งที่อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรฟ้าไปทางขั้วฟ้า
เหนือมากที่สดุ และจดุ เหมายันเปน็ ตาแหน่งทีอ่ ยูห่ า่ งจากเส้นศนู ยส์ ตู รฟ้าไปทางข้ัวฟา้ ใตม้ ากท่ีสดุ

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้

1) ทกั ษะการสือ่ สาร 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

2) ทกั ษะการวเิ คราะห์

3) ทักษะการทางานร่วมกัน

3. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

1) ทกั ษะการสังเกต

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กิจกรรมกำรเรยี นรู้

แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : การจดั การเรียนการสอนแบบเน้นมโนทศั น์

ชวั่ โมงท่ี 1-2

ข้นั นา

ข้ันกำรใช้ควำมรูเ้ ดิมเชอ่ื มโยงควำมร้ใู หม่ (Prior Knowledge)
3. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนสแกน QR Code จากหนังสือเรียน รายวิชา
เพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4
ทรงกลมฟ้า เพอ่ื เขา้ ไปศกึ ษา Interactive 3D เรื่อง ดวงอาทิตย์
4. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยเก่ียวกับดวงอาทิตย์เพ่ือเป็นการทบทวนความรู้เดิม โดยมีคาถามในการ
เปดิ ประเดน็ ในการพูดคุย ดังนี้

• การท่ีเราเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกแล้วตกทางทิศตะวันตก เป็นการเคลื่อนท่ีท่ี
แท้จรงิ ของดวงอาทติ ย์หรือไม่ อยา่ งไร

(แนวตอบ : ไม่ใช่ สิง่ ที่สงั เกตได้เป็นการเคล่อื นท่ปี รากฏของดวงอาทิตย์)

ขัน้ สอน

ขน้ั เขำ้ ใจ (Understanding)

ครูใชค้ าถามเพอ่ื ใหน้ ักเรียนเขียนอธิบายสิ่งทน่ี กั เรียนได้เรียนรู้ลงในสมดุ ประจาตวั เป็นรายบุคคล โดยใช้
คาถาม ดังต่อไปน้ี

• ตาแหนง่ ของดวงอาทติ ยบ์ นทรงกลมฟา้ เปน็ ตาแหนง่ เดยี วกนั ตลอดท้งั ปหี รอื ไม่ อย่างไร
(แนวตอบ: เน่ืองจากโลกหมุนรอบตวั เองจากทางทศิ ตะวันตกไปทางทศิ ตะวันออก ทาให้เกดิ

ปรากฏการณ์ขน้ึ ตกของดวงอาทติ ยแ์ ละดวงดาวในรอบวัน ซงึ่ เส้นทางปรากฏของการขึน้ การตก
ของดวงอาทิตย์จะเปลย่ี นแปลงตามวนั เวลาและตาแหนง่ ละติจูดของผู้สังเกต จึงทาให้ตาแหนง่
ของดวงอาทติ ย์บนทรงฟ้าไมไ่ ด้อยใู่ นตาแหน่งเดมิ ตลอดทั้งปี)

ขั้นลงมอื ทำ (Doing)
7. ครูใชน้ ักเรยี นกลบั สู่กลุ่มเดมิ ตามท่ีได้แบ่งไวต้ อนตน้ ชัว่ โมง แลว้ แจกใบงานท่ี 4.5 เรอื่ ง ตาแหน่งของ
ดวงอาทิตยบ์ นทรงกลมฟ้า ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม
8. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ทาใบงานท่ี 4.5 โดยปรึกษาหารือร่วมกนั เพอื่ หาคาตอบ
9. ครูขออาสาสมัครให้ออกมาเขียนเฉลยของคาถามในใบงานท่ี 4.5 แต่ละข้อลงบนกระดานหน้าช้ัน
เรียน แลว้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและกลา่ วช่ืนชมอาสาสมคั ร

ขัน้ สรุป

ครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนสรุปเน้ือหาตาแหน่งของดวงอาทิตย์บนทรงกลมฟ้า ลงในสมุดบันทึก
ประจาตัวเป็นรายบุคคล และทาแบบฝึกหัด เรื่อง ตาแหน่งของดวงอาทิตย์บนทรงกลมฟ้า จากแบบฝึกหัด
รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
ทรงกลมฟา้ เปน็ การบา้ นสง่ ครูในช่วั โมงถัดไป

ขน้ั ประเมิน

10. ครูประเมินความรู้เกีย่ วกับ เร่ือง ตาแหน่งของดวงอาทิตยบ์ นทรงกลมฟา้ จากการทาอินโฟกราฟกิ
การตอบคาถาม การทาใบงาน และการทาแบบฝกึ หัด

11. ครูประเมินทักษะและกระบวนการโดยสังเกตสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มจากการจัดทาอนิ โฟ
กราฟิก และจากการสบื ค้นและศกึ ษา เรอ่ื ง ตาแหนง่ ของดวงอาทติ ย์บนทรงกลมฟ้า

12. ครปู ระเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยการสงั เกตความซื่อสัตย์ สุจริต การใฝ่เรียนรู้ และความ
มุง่ ม่ันในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย

7. กำรวดั และประเมินผล

รำยกำรวัด วิธวี ดั เคร่ืองมอื เกณฑ์กำรประเมิน

7.1 ประเมินระหวำ่ งกำร

จัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้

1) ตาแหน่งของ - ตรวจอินโฟกราฟกิ - แบบประเมินชิ้นงาน/ - ระดบั คุณภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
ดวงอาทิตยบ์ น - ใบงานที่ 4.5 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ทรงกลมฟา้ - ตรวจใบงานที่ 4.5

- ตรวจแบบฝกึ หัด

รำยกำรวดั วิธวี ดั เครื่องมอื เกณฑ์กำรประเมิน
2) การนาเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2
- ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ การ
ผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤตกิ รรมการ ผลงาน นาเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพ 2

ทางานรายบุคคล - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
4) พฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล
การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์
5) คุณลักษณะ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2

อันพึงประสงค์ การทางานกล่มุ การทางานกลุม่ ผา่ นเกณฑ์

- สงั เกตความซื่อสัตย์ - แบบประเมิน

สจุ ริต ความใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะ

และความม่งุ ม่ันในการ อนั พงึ ประสงค์

ทางาน

8. สือ่ /แหลง่ กำรเรยี นรู้

8.1 ส่อื กำรเรยี นรู้
1) หนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติมวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เล่ม 2
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 ทรงกลมฟา้
18) แบบฝกึ หดั รายวิชาเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.6 เลม่ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ทรงกลมฟ้า
19) ใบงานที่ 4.5 เรือ่ ง ตำแหน่งของดวงอำทิตย์บนทรงกลมฟำ้

20) Interactive 3D เรอ่ื ง ตาแหนง่ ของดวงอาทติ ย์บนทรงกลมฟา้
8.2 แหล่งกำรเรียนรู้

13) ห้องเรยี น
14) ห้องสมดุ
15) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ

ใบงำนที่ 4.5

เรอ่ื ง ตำแหน่งของดวงอำทติ ยบ์ นทรงกลมฟ้ำ

คำชีแ้ จง : อธิบำยตำแหนง่ ดวงอำทติ ย์บนทรงกลมฟำ้ ในวนั ทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปนี้

วันสันตวษิ วุ ตั ........ ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
วนั ครษี มำยัน ........ ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
วันศำรทวษิ ุวตั ........ ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
วันเหมำยนั ........ ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............
................................. ...... ................................. ...... ................................. ...... ................................. .............

ใบงำนที่ 4.4 เฉลย

เรือ่ ง ตำแหนง่ ของดวงอำทติ ยบ์ นทรงกลมฟ้ำ

คำช้ีแจง : อธิบำยตำแหนง่ ดวงอำทิตย์บนทรงกลมฟำ้ ในวนั ทกี่ ำหนดใหต้ ่อไปนี้

วันสันตวิษุวัต ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงที่ทางทิศตะวนั ออกและตกลงทางทิศตะวันตกพอดี จึงเป็นวันท่ีช่วงเวลา
กลางวันเทา่ กับชว่ งเวลากลางคืน ส่วนในวันถัดไปตาแหนง่ ขน้ึ และตกของดวงอาทติ ย์จะคอ่ ย ๆ เล่อื นไปทางทิศ
ตะวันออกเฉียงเหนอื

วันครีษมำยัน ดวงอาทิตย์จะข้ึนทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุดและตกทางทิศตะวันตกเฉียงไป
ทางเหนือมากท่ีสุด จึงเป็นวันท่ีมีช่วงเวลากลางวันยาวนานท่ีสุด ส่วนในวันถัดไปตาแหน่งขึ้นและตกของดวง
อาทิตย์จะคอ่ ย ๆ เคลือ่ นกลับมาทางทศิ ตะวนั ออก

วันศำรทวิษุวตั ดวงอาทิตยจ์ ะข้นึ ตรงที่ทางทศิ ตะวันออกและตกลงทางทิศตะวันตกพอดีอกี ครง้ั และเปน็ วันท่ี
มชี ่วงเวลากลางวันยาวนานทส่ี ุดอกี ครั้ง สว่ นในวันถัดไปตาแหน่งข้นึ และตกของดวงอาทิตยจ์ ะค่อย ๆ เคลอ่ื นไป
ทางทิศตะวนั ออกเฉียงใต้

วนั เหมำยนั ดวงอาทิตยจ์ ะขึน้ ทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากทีส่ ุด และตกทางทิศตะวนั ตกเฉียงไปทางใต้
มากทส่ี ดุ จงึ เปน็ วนั ทีม่ ีช่วงเวลากลางวันสนั้ ที่สุดและช่วงเวลากลางคืนยาวที่สุดในรอบปี หรือท่ีคนไทยเรียกว่า
ตะวนั ออ้ มข้าว


Click to View FlipBook Version