The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาการป้องกันการทุจริต ป.1
โรงเรียนวัดคลองห้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tummeng.kt, 2021-05-30 09:13:28

แผนการสอนวิชาการป้องกันการทุจริต ป.1

แผนการสอนวิชาการป้องกันการทุจริต ป.1
โรงเรียนวัดคลองห้า

98

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้

หน่วยท่ี ๒ ช่อื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓ เรือ่ ง การประยกุ ต์ ใชค้ วามร้เู รือ่ งความละอายและความไมท่ น เวลำ ๒ ชวั่ โมง

ตอ่ การทจุ รติ กบั กิจกรรมภายในบ้าน ห้องเรียน การทาเวร

๑. ผลกำรเรียนรู้

๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ
๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ

๑.๓ ตระหนักและเห็นความสาคญั ของการตอ่ ต้านและปอ้ งกนั การทุจริต
๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

๒.๑นักเรียนบอกความหมายของการทาเวรได้

๒.๒นักเรียนบอกเหตุผลของการที่ต้องทาเวรได้
๒.๓นักเรียนสามารถวางแนวทางในการปฏบิ ัตติ นใหเ้ ป็นผ้ลู ะอาย และไมท่ นตอ่ การทจุ ริตในการทาเวร

๒.๔นักเรียนมคี วามละอาย เมือ่ ไม่ช่วยเพอื่ นทาเวร
๒.๕ นักเรียนไมท่ นเมอื่ เหน็ เพ่ือนทุจริตในการทาเวร
๓. สำระกำรเรยี นรู้

๓.๑ ควำมรู้
ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต การทาเวร หมายถึง การผลัดเปลีย่ นเวรกนั ทางานโดยเฉพาะทา

ความสะอาดหอ้ งเรยี นของนกั เรยี นและการทาเวรตามเขตท่ีรับผิดชอบ บริเวณต่างๆ ของโรงเรยี น เหตุผลทีน่ กั เรยี น
ตอ้ งทาเวร คือ เพ่อื ฝกึ เสยี สละให้สว่ นรวม มคี วามรับผดิ ชอบ รกั ษาความสะอาดของหอ้ งเรยี นและบรเิ วณโรงเรียน

กจิ กรรมในการทาเวร คอื กวาดห้องเรยี น ถหู อ้ งเรยี น ยกเกา้ อีข้ น้ึ วางบนโตะ๊ ลบกระดาน

กวาดใบไมใ้ นสวนหยอ่ ม เกบ็ ขยะบริเวณโรงเรียน เปน็ ตน้
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร

ความสามารถในการคิด
๓.๓ คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์

มุง่ ม่นั ในการทางาน

๔. กจิ กรรมกำรเรียนรู้
๔.๑ ขั้นตอนกำรเรียนรู้

ช่วั โมงท่ี ๑
๑) ใหน้ ักเรียนดภู าพ “การทาความสะอาดห้องเรียน”

๓) ครนู านักเรยี นสนทนาวา่ ภาพทน่ี ักเรยี นเหน็ เป็นภาพอะไร (นกั เรียนกาลังทาความสะอาดหอ้ งเรยี น)

99

๓) ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นความหมายของการทาเวรจากแผนภูมิ เรือ่ ง การทาเวร ตามครู

กำรทำเวร
การทาเวร หมายถงึ ผลัดเปลี่ยนเวรกนั ทางาน
โดยเฉพาะทาความสะอาดหอ้ งเรียนของนกั เรยี นและการทาเวร
ตามเขตท่ีรบั ผิดชอบ บริเวณต่างๆ ของโรงเรยี น

๔) นกั เรียนแตล่ ะคนบอกครูว่านกั เรียนอย่เู วรวนั อะไร
๕) ใหน้ ักเรยี นระบายสรี ูปภาพการทาความสะอาดหอ้ งเรยี นพร้อมท้ังตง้ั ชื่อภาพ และร่วมกันสนทนา
ดงั ตอ่ ไปน้ี

๕.๑) ในภาพเปน็ การทากจิ กรรมใด
๕.๒) นักเรียนแต่ละคนมีหน้าทอี่ ยา่ งไร
๕.๓) ถ้าบางคนไมท่ าตามหนา้ ทขี่ องตนเอง จะเกดิ อะไรข้นึ
๕.๔) นักเรยี นจะมวี ธิ ีแกไ้ ขอยา่ งไร
๖) นักเรยี นสรปุ ความหมายของการทาเวร โดยครถู ามนาวา่ การทาเวรหมายถงึ อะไร (การทาเวร หมายถงึ
ผลดั เปลี่ยนเวรกนั ทางานโดยเฉพาะทาความสะอาดห้องเรยี นของนกั เรียนและการทาเวรตามเขตที่รับผิดชอบ บริเวณ
ตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น)
ช่ัวโมงที่ ๒
๑) ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นแถบประโยค “ทาไมคุณครูจึงต้องใหน้ ักเรยี นทาเวร”

เหตผุ ลทีน่ ักเรยี นตอ้ งทาเวร คือ
๑. เพอ่ื ฝกึ เสยี สละให้ส่วนรวม
๒. เพื่อฝกึ ใหน้ กั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบ
๓. เพ่ือรกั ษาความสะอาดของห้องเรยี น
๔. เพื่อรักษาความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น

100

2) นักเรยี นบอกกิจกรรมที่นักเรียนปฏิบตั ขิ ณะทาเวรแตล่ ะวันวา่ ทาอะไรบ้าง เชน่

กจิ กรรมในการทาเวร คือ
๑. กวาดห้องเรยี น
๒. ถูห้องเรียน
๓. ยกเกา้ อขี้ ้นึ วางบนโต๊ะ
๔. ลบกระดาน
๕. กวาดใบไม้ในสวนหย่อม
๖. เกบ็ ขยะบริเวณโรงเรยี น

3) นกั เรยี นทาใบงานที่ ๒ เร่อื ง ความละอายและไมท่ นต่อการทุจรติ (การทาเวร)
4) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ องคค์ วามรูเ้ กีย่ วกับความละอายตอ่ การทาเวร
๔.๒ ส่ือกำรเรยี นรู้
๑) ภาพ “การทาความสะอาดห้องเรียน”
๒) แผนภมู ิ เร่อื ง การทาเวร
๓) แถบประโยค “ทาไมคุณครูจึงตอ้ งให้นกั เรียนทาเวร
๔) ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง “ระบายสีรปู ภาพการทาความสะอาดหอ้ งเรียน”
๕) ใบงานท่ี ๒ เรื่อง ความละอายและไมท่ นตอ่ การทุจริต (การทาเวร)

๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ ีกำรประเมิน
๑) ตรวจใบงาน
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน
๕.๒ เครอื่ งมือที่ใช้ในกำรประเมนิ
๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมิน
ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น

101

บนั ทึกหลังสอน

หน่วยกำรสอนที่................ แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่..............
บนั ทกึ หลังสอน
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ปญั หำและอุปสรรค
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จิตรบรรจง)
ครูผู้สอน

ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรียนวัดคลองห้า

102

๗. ภำคผนวก

ภำพ “กำรทำควำมสะอำดห้องเรยี น”

103

ใบงำนที่ ๑
เร่ือง ระบำยสีรปู ภำพกำรทำควำมสะอำดห้องเรยี น

ชอื่ -สกุล............................................................................ช้ัน..........เลขท่.ี ..........โรงเรียน....................................
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนระบายสีรปู ภาพการทาความสะอาดห้องเรยี นพรอ้ มท้งั ตงั้ ชื่อภาพ ( ๑๐ คะแนน)

ชื่อ....................................................................................................

104

ใบงำนท่ี ๒
เรือ่ ง ควำมละอำยและไมท่ นตอ่ กำรทุจรติ

ชอ่ื -สกุล............................................................................ชั้น..........เลขที่...........โรงเรียน....................................
คำชีแ้ จง นักเรยี นโยงเสน้ ข้อความทีม่ ีความสมั พันธก์ นั (๕ คะแนน)

ความหมายของการทาเวร ๑ ๑ เพอ่ื ให้ห้องเรยี นสะอาด

เหตุผลที่ตอ้ งทาเวร ๒ ๒. การผลดั เปลี่ยนกันทาความสะอาด
๓ ห้องเรยี น

กิจกรรมทน่ี กั เรยี นต้องทา ๔ ๓ กวาดห้องเรียน

๔ ฝกึ ความรบั ผิดชอบ

๕ ลบกระดาน

ในวนั ท่ีนกั เรียนทาเวร ๕

เกณฑ์กำรประเมนิ
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ถอื ว่า ผ่าน ( ตอบถูก ๔ ขอ้ )

105

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงำน

เลขที่ ชอ่ื – สกุล คะแนนทไ่ี ด้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่ำน ไมผ่ ่ำน









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑
๒๒

สรุป

เกณฑก์ ำรประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถอื ว่า ผ่าน (ตอบถกู ๘ ขอ้ )

106

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น
ชือ่ นกั เรียน.......................................................................... ชัน้ ..............ภาคเรียนท่ี...........ปกี ารศกึ ษา.............
คำช้แี จง การบนั ทกึ ให้กาเครอื่ งหมาย  ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั พฤตกิ รรมท่เี กดิ ขึ้นจริง

ที่ พฤติกรรม เป็นประจา ระดบั การปฏบิ ัติ ไมท่ าเลย/
ไมช่ ดั เจน
(๓) บางคร้งั น้อยครงั้
(๒) (๑) (๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ที่การงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
๓ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายาม
๔ รจู้ ักแกป้ ัญหาในการทางานเมือ่ มอี ุปสรรค
๕ อดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย
๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทางานให้ดขี น้ึ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดบั คุณภำพ

เกณฑ์กำรประเมิน ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน
ระดบั คุณภำพ (.................................................)
ดเี ย่ยี ม
เกณฑ์กำรประเมนิ
ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้
ใดขอ้ หนง่ึ ต่ากว่า ๒ คะแนน
ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้
ใดขอ้ หนง่ึ ต่ากวา่ ๐ คะแนน
ไมผ่ า่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ
ใดขอ้ หน่ึงต่ากวา่ ๐ คะแนน
ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๕ คะแนน

107

แบบประเมนิ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ช่ือ-นามสกลุ ผ้เู รียน ....................................................................ชั้น .......................................... เลขที่ .............
ให้ครสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้ำน ๓ ๒๑๐
๑. มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานที่ได้รับ
ม่งุ มัน่ ในกำรทำงำน มอบหมาย
๒. มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ

คะแนน
สรปุ ผลคะแนน

ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมนิ
(....................................................)

เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ ๒ คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิบางคร้งั ให้ ๑ คะแนน

- พฤตกิ รรมทไ่ี มป่ ฏบิ ตั ิ ให้ ๐ คะแนน

สรุปเกณฑก์ ำรประเมิน
 ดีมาก ได้ ๕ – ๖ คะแนน
 ดี ได้ ๓ – ๔ คะแนน

 พอใช้ ได้ ๑ – ๒ คะแนน
 ปรับปรงุ ได้ ๐ คะแนน

108

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้

หน่วยท่ี ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๔ เรอ่ื ง การประยุกต์ ใช้ความรู้เร่อื งความละอายและความไมท่ น เวลำ ๑ ชัว่ โมง

ต่อการทุจริต กบั กจิ กรรมภายในบ้าน หอ้ งเรียน การสอบ

๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ
๑.๒ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทกุ รูปแบบ
๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสาคัญของการต่อตา้ นและปอ้ งกันการทจุ ริต

๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
๒.๑นกั เรยี นรคู้ วามหมายของขอ้ สอบ
๒.๒นกั เรยี นสามารถวางแนวทางการเป็นผลู้ ะอาย และไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ในการสอบ
๒.๓ นกั เรยี นไมท่ จุ ริตในการสอบ
๒.๔นักเรยี นไมท่ นเมือ่ เหน็ เพอ่ื นทุจรติ ในการสอบ

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
-ขอ้ สอบ หมายถึง โจทย์หรือปัญหาที่ต้งั ขน้ึ เพ่ือวดั ความรู้
-ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ เกย่ี วกบั การสอบ ซึ่งหมายถงึ การวดั ผลการศกึ ษาซ่งึ ใช้ข้อสอบ

ทาหนา้ ท่เี ป็นเคร่ืองมือวดั ความสามารถของบคุ คล มขี ้อปฏิบัติตนในการสอบมดี งั นี้
๑) ไม่คยุ กนั
๒) ไมถ่ ามเพอ่ื น
๓) ไมแ่ อบดคู าตอบ
๔) ไม่ใหเ้ พ่อื นลอกข้อสอบ
๕) ไม่อา่ นขอ้ สอบเสยี งดัง

๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร
ความสามารถในการคิด

๓.๓ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์
มีวนิ ัย

๔. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
๔.๑ ข้ันตอนกำรเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี ๑
๑) ครูนาขอ้ สอบใหน้ กั เรียนดูและถามนักเรยี นว่า สงิ่ นค้ี อื อะไร (คาตอบ ข้อสอบ)
๒) ครูบอกความหมายของข้อสอบ

ข้อสอบ หมายถึง โจทย์หรอื ปญั หาท่ีตงั้ ขน้ึ เพ่ือวดั ความรู้

109

๓) ครูใหน้ ักเรียนอา่ นใบความรู้ เรื่อง ความจาเป็นท่นี กั เรียนจะต้องมีการทดสอบ

ใบความรู้ เร่ือง ความจาเป็นท่ีนกั เรยี นจะตอ้ งมีการทดสอบ
๑. สอบเพอ่ื วัดความรู้ของนักเรยี น
๒. สอบเพ่อื ให้ครรู ู้ปญั หาของนักเรยี นวา่ นกั เรยี นเรียนอ่อน
วิชาอะไร เพ่อื ใหแ้ ก้ไขไดถ้ กู ตอ้ ง
๓. เพ่ือให้นกั เรียนและผู้ปกครองทราบผลการเรยี นของนกั เรียน

๔) นักเรียนชว่ ยกนั บอกวธิ ีการปฏิบัติตนในการสอบ ดังน้ี
๔.๑) ไมค่ ุยกนั
๔.๒) ไม่ถามเพอื่ น
๔.๓) ไม่แอบดคู าตอบ
๔.๔) ไมใ่ หเ้ พอ่ื นลอกข้อสอบ
๔.๕) ไมอ่ ่านข้อสอบเสียงดงั

๕) ครใู ห้นกั เรียนปฏิบตั ิจริงในการทดสอบ ดงั นี้
๕.๑) จดั ห้องสอบเสมือนจรงิ
๕.๒) ให้นกั เรยี นน่ังตามเลขท่ี
๕.๓) ครแู จกข้อสอบใหน้ ักเรยี นทกุ คน
๕.๔) นักเรียนทบทวนขอ้ ปฏบิ ัตติ นในการสอบ
๕.๕) นักเรยี นทาขอ้ สอบ
๕.๖) ครูเก็บขอ้ สอบสอบ/กระดาษคาตอบ

๖) นกั เรียนทาใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง “การปฏบิ ัตติ นอย่างไรในการทาข้อสอบให้สุจริต”
๔.๒ สือ่ กำรเรยี นรู้

๑) ตัวอยา่ งขอ้ สอบ
๒) ใบความรู้ เรอื่ ง ความจาเปน็ ท่ีนักเรียนจะต้องมีการทดสอบ
๓) ใบงานที่ ๑ เรื่อง “การปฏิบัตติ นอย่างไรในการทาขอ้ สอบให้สุจรติ ”

๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วธิ ีกำรประเมิน
ตรวจใบงาน
สังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น
๕.๒ เครือ่ งมอื ทใี่ ชใ้ นกำรประเมนิ
แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมิน
นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

110

บนั ทึกหลงั สอน

หน่วยกำรสอนท.่ี ............... แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่..............
บนั ทกึ หลงั สอน
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ปัญหำและอปุ สรรค
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ครูผสู้ อน

ควำมคิดเหน็ ของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดคลองหา้

111

๗. ภำคผนวก

ใบงำนท่ี ๑
เร่ือง “กำรปฏิบตั ิตนอยำ่ งไรในกำรทำข้อสอบให้สุจริต”

ชื่อ-สกลุ ..........................................................................ช้ัน.........เลขท่.ี .........โรงเรียน...............................
คำช้ีแจง นกั เรียนทาเคร่อื งหมาย หน้าขอ้ ที่ถกู และทาเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ที่ผิด

........... ๑. ไม่คยุ กนั ขณะทาข้อสอบ

........... ๒. อ่านขอ้ สอบด้วยเสียงทีด่ ังเพ่ือให้เพอื่ นไดย้ ินดว้ ย

........... ๓. แอบดูคาตอบของเพอื่ นถา้ ทาไมไ่ ด้

........... ๔. ไมใ่ ห้เพื่อนลอกข้อสอบเพราะจะทาให้เพ่ือนมนี สิ ัยไมด่ ี

........... ๕. เมอ่ื เห็นเพอื่ นลอกขอ้ สอบ ควรบอกครเู พ่อื ไห้แก้นิสยั ทไ่ี มด่ ีของเพ่ือน

เกณฑก์ ำรประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถือว่า ผา่ น (ตอบถกู ๔ ข้อขึน้ ไป)

112

เฉลย
ใบงาน
เรอ่ื ง “การปฏิบัตติ นอย่างไรในการทาขอ้ สอบให้สุจริต”

คำชแี้ จง นักเรียนทาเครอ่ื งหมาย หนา้ ขอ้ ท่ถี ูก และทาเครอ่ื งหมาย  หน้าขอ้ ทผ่ี ดิ
..... ...... ๑. ไมค่ ุยกนั ขณะทาขอ้ สอบ
...... .... ๒. อ่านขอ้ สอบด้วยเสยี งท่ีดังเพือ่ ให้เพอ่ื นไดย้ นิ ดว้ ย
..... ..... ๓. แอบดคู าตอบของเพ่อื นถ้าทาไมไ่ ด้
..... ...... ๔. ไมใ่ หเ้ พือ่ นลอกขอ้ สอบเพราะจะทาใหเ้ พอ่ื นมีนสิ ยั ไมด่ ี
...... ..... ๕. เมื่อเห็นเพอ่ื นลอกขอ้ สอบ ควรบอกครเู พือ่ ไหแ้ กน้ สิ ยั ทไ่ี มด่ ีของเพ่อื น

113

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงำน

เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ คะแนนทไี่ ด้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่ำน ไมผ่ ่ำน









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑
๒๒

สรุป

เกณฑก์ ำรประเมนิ
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ น (ตอบถกู ๔ ขอ้ )

114

แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน
ชอื่ นัก เรยี น......................................................................... ชน้ั ..............ภาคเรยี นที่...........ปกี ารศกึ ษา.............
คำชี้แจง การบันทึกให้กาเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกบั พฤติกรรมท่เี กดิ ขึ้นจริง

ท่ี พฤตกิ รรม เป็นประจา ระดับการปฏบิ ัติ ไมท่ าเลย/
ไม่ชดั เจน
(๓) บางครัง้ นอ้ ยคร้งั
(๒) (๑) (๐)

๑ มีความรับผดิ ชอบในหนา้ ทีก่ ารงาน
๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัติหน้าที่ทไี่ ด้รับมอบหมาย
๓ ทางานด้วยความเพยี รพยายาม
๔ ร้จู ักแก้ปญั หาในการทางานเม่ือมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่อื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย
๖ ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทางานให้ดีขนึ้ ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคุณภำพ

เกณฑ์กำรประเมิน ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน
ระดับคุณภำพ (.................................................)
ดเี ยย่ี ม
เกณฑ์กำรประเมิน
ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินขอ้
ใดขอ้ หนงึ่ ต่ากวา่ ๒ คะแนน
ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินขอ้
ใดขอ้ หนึง่ ต่ากวา่ ๐ คะแนน
ไม่ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมินข้อ
ใดข้อหน่งึ ตา่ กวา่ ๐ คะแนน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

115

แบบประเมนิ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ชอ่ื -นามสกลุ ผูเ้ รยี น .......................................................................ช้นั .......................................... เลขท่ี .............
ใหค้ รสู งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดับคะแนน

คุณลักษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ ้ำน ๓ ๒๑๐
๑. ใหข้ ้อมูลทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ
ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต ๒. ปฏิบัติในส่ิงท่ีถกู ต้อง คะแนน
สรุปผลคะแนน

ลงชือ่ ..................................................ผู้ประเมนิ
(....................................................)

เกณฑก์ ำรให้คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้งั ให้ ๒ คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน

- พฤติกรรมทีไ่ มป่ ฏิบัติ ให้ ๐ คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ำรประเมนิ
 ดีมาก ได้ ๕ – ๖ คะแนน

 ดี ได้ ๓ – ๔ คะแนน
 พอใช้ ได้ ๑ – ๒ คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ ๐ คะแนน

116

หน่วยท่ี ๓

STRONG : จิตพอเพียงต้ำนกำรทุจรติ

117

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑
เวลำ ๒ ชว่ั โมง
หนว่ ยท่ี ๓ ช่ือหน่วย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจรติ
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรือ่ ง ความหมายของ STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต
๑.๒ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ที่ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต

๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
นักเรียนบอกความหมายของ STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ รติ ได้

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
- S (Sufficient) พอเพียง หมายถึงการนาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเคร่ืองมือในการป้องกันการทุจรติ เช่น

สร้างจิตพอเพยี งให้แก่ตัวเราและเพ่ือนๆ เม่ือเราพอเพยี งเรากจ็ ะไมท่ จุ รติ
- T (Transparent) โปรง่ ใส หมายถงึ การมุ่งเน้นการปฏบิ ตั ิงาน และตรวจสอบได้ เชน่ ไม่ลอกการบ้านเพ่อื น

และครสู ามารถตรวจดไู ด้ วา่ นักเรยี นตอบไมเ่ หมือนเพอ่ื น
- R (Realize) ต่ืนรู้ หมายถึง ความเข้าใจ ความตระหนักรู้ และการวิเคราะห์ความเสี่ยง เช่น หากนักเรียน

จะทาการบา้ น นักเรียนต้องเรียนให้เขา้ ใจ และหากคิดวา่ ตวั เองจะทาไม่ได้ กค็ วรถามเพือ่ น หรือครู
- O (Onward) ม่งุ ไปข้างหนา้ หมายถงึ การมีแนวคิดมงุ่ สู่ความโปร่งใส
- N (Knowledge) ความรู้ หมายถงึ มกี ารพัฒนาองค์ความรู้อยา่ งสมา่ เสมอ เชน่ เขา้ หอ้ งสมดุ เสมอๆ
- G (Generosity) เอื้ออาทร หมายถึงการร่วมสร้างสังคมไทยให้มีความเอ้ืออาทร เช่น แบ่งปังสิ่งของให้

เพ่ือนๆ
๓.๒ ทักษะ / กระบวนกำร (สมรรถนะท่เี กดิ )
๑) ความสามารถในการสอื่ สาร
๑.๑) การตอบคาถาม
๑.๒) การดูคลิปวดี โี อ
๑.๓) การทาใบงาน
๒) ความสามารถในการคิด
การคดิ วเิ คราะห์ แยกแยะส่ิงของเครื่องใชส้ ว่ นตวั
๓) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
การใช้สิง่ ของเคร่ืองใช้อยา่ งประหยัดและคุ้มค่า
๓.๓ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ / คำ่ นยิ ม
อยู่อย่างพอเพยี ง

118

๔. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
๔.๑ ขัน้ ตอนกำรเรยี นรู้
ชง่ั โมงที่ 1
๑) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันร้องเพลง “เด็กเอ๋ยเดก็ ดี” แล้วสนทนาเกี่ยวกบั เนื้อเพลงว่า การเปน็ เด็กดีตอ้ ง

ปฏิบตั ติ นอย่างไร
๒) ครูกล่าวกับนักเรียนวา่ “มีแนวปฏิบัตติ นเปน็ คนดี ที่มีช่อื ว่า STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริตนกั เรียน

อยากรู้ไหมวา่ แนวปฏิบตั ิน้ีเปน็ อย่างไร”
๓) ครูอธิบายความหมายของคาว่า STRONG ตามแนวคิดจิตพอเพียงต้านทุจริต ให้นักเรยี นทราบที่ละตัว

พร้อมยกตวั อย่างประกอบ โดยใชบ้ ัตรภาพ ดงั นี้
- S (Sufficient) พอเพียง หมายถึงการนาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเครื่องมือในการป้องกันการทุจริต เช่น

สรา้ งจิตพอเพียงใหแ้ ก่ตวั เราและเพื่อนๆ เม่อื เราพอเพยี งเรากจ็ ะไม่ทจุ ริต
- T (transparent) โปร่งใส หมายถึงการมุ่งเน้นการปฏิบตั ิงาน และตรวจสอบได้ เช่น ไม่ลอกการบ้านเพอ่ื น

และครสู ามารถตรวจดูได้ วา่ นกั เรยี นตอบไมเ่ หมือนเพือ่ น
- R (Realize) ต่ืนรู้ หมายถึง ความเข้าใจ ความตระหนักรู้ และการวิเคราะห์ความเสี่ยง เช่น หากนักเรียน

จะทาการบ้าน นกั เรียนต้องเรียนให้เขา้ ใจ และหากคดิ ว่าตัวเองจะทาไม่ได้ กค็ วรถามเพอ่ื น หรอื ครู
- O (Onward) มงุ่ ไปขา้ งหน้า หมายถงึ การมีแนวคิดมุ่งสคู่ วามโปรง่ ใส
- N (Knowledge) ความรู้ หมายถึง มีการพัฒนาองค์ความรู้อยา่ งสมา่ เสมอ เช่น เขา้ ห้องสมดุ เสมอๆ
- G (Generosity) เออื้ อาทร หมายถึงการร่วมสรา้ งสงั คมไทยใหม้ คี วามเอ้ืออาทร เชน่ แบ่งปนั สิ่งของให้

เพ่อื นๆ ในหอ้ งเรยี น

ชงั่ โมงที่ ๒
๑) ครใู ห้นักเรียนแบง่ ออกเปน็ สองฝา่ ย และเล่นเกม “เรารู้ STRONG คอื ?” กติกาดังน้ี
๑.๑ นักเรยี นแบ่งออกเปน็ ๒ กลมุ่
๑.๒ แต่ละครั้งนักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มละ ๑ คน ออกมาหยิบพยางค์ ภาษาอังกฤษ คาว่า STRONG

ให้ตรงกบั ความหมาย ตามแนวคิดจิตพอเพียงต้านทจุ ริต
๑.๓ กล่มุ ใดทาถกู ชนะ หรอื หากทาถูกทั้งสองกลุ่ม ตัดสนิ ทเ่ี วลา

๒) ครอู ธบิ ายความหมายของ STRONG ตามแนวคิดจิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต ซ้าอกี ครงั้
๓) ครูให้นักเรยี นทาใบงาน ท่ี ๑ เรื่อง การทาการบา้ น แบบ STRONG : จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ
๔.๒ สื่อกำรเรยี นรู้ / แหล่งกำรเรียนรู้
๑) เพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี จาก https://www.youtube.com/watch?v=qVVCFjCo_bI
๒) บัตรคา STRONG ตามแนวคดิ จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ
๓) ใบงาน ที่ ๑ เรือ่ ง การทาการบ้าน แบบ STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ ริต

๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วธิ ีกำรประเมิน
๑) ตรวจผลงานการทาใบงาน
๒) การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน

119

๕.๒ เคร่ืองมือที่ใช้ในกำรประเมิน
๑) แบบตรวจผลงานการทาใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน

๕.๓ เกณฑ์กำรประเมนิ

นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถือว่า ผ่าน

120

บนั ทกึ หลงั สอน

หน่วยกำรสอนท่ี................ แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู .ี่ .............
บันทกึ หลังสอน
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ปัญหำและอปุ สรรค
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ครูผู้สอน

ควำมคิดเห็นของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จติ รบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรียนวัดคลองห้า

121

๗. ภำคผนวก

เพลงเด็กเอย๋ เด็กดี

พวกเราร้องเพลง บรรเลงรว่ มกนั เพลงของเรานน้ั คอื เพลงเดก็ ดี
เดก็ เอ๋ยเดก็ เลก็ ตวั เลก็ เหลอื ที่ เด็กเอย๋ เดก็ ดี มีความจริงใจ
ไม่ลกั ขโมย ไม่หยบิ ของใคร แม้เราอยากได้ แตม่ นั ไม่ดี

เด็กเอ๋ยเด็กเล็ก เดก็ เอ๋ยเด็กดี หวั ใจเราน้ี มีซอื่ สตั ยเ์ อย.

แหล่งข้อมลู https://www.youtube.com/watch?v=qVVCFjCo_bI

122

บตั รคำ STRONG ตำมแนวคดิ จติ พอเพยี งต่อตำ้ นกำรทจุ รติ

หมำยถึงกำรนำเศรษฐกิจพอเพยี งมำเป็น
เคร่อื งมือในกำรป้องกันกำรทุจรติ เช่น
สร้ำงจติ พอเพียงใหแ้ ก่ตวั เรำและเพอื่ น ๆ
เมอื่ เรำพอเพียงเรำกจ็ ะไม่ทุจรติ

(Sufficient)

หมำยถึงกำรม่งุ เนน้ กำรปฏบิ ตั ิงำน และ
ตรวจสอบได้ เชน่ ไมล่ อกกำรบ้ำนเพือ่ น
และครสู ำมำรถตรวจดูได้ วำ่ นักเรยี นตอบ
ไม่เหมือนเพอื่ น

(transparent)

123

หมำยถงึ ควำมเขำ้ ใจ ควำมตระหนักรู้ และ
กำรวเิ ครำะห์ควำมเสี่ยง เชน่ หำกนกั เรียนจะ
ทำกำรบำ้ น นักเรียนต้องเรียนใหเ้ ข้ำใจ และ
หำกคดิ ว่ำตัวเองจะทำไม่ได้ กค็ วรถำมเพอ่ื น
หรือครู

(Realize)

หมำยถึงกำรมีแน วคิดมุ่งสู่ควำม
โปร่งใส

(Onward)

124

หมำยถึง มีกำรพัฒนำองค์ควำมรู้อย่ำง
สมำ่ เสมอ เชน่ เขำ้ ห้องสมุดเสมอ ๆ

(Knowledge)

หมำยถึงกำรรว่ มสรำ้ งสงั คมไทยใหม้ ี
ควำมเอื้ออำทร เชน่ แบง่ ปงั ส่ิงของให้
เพื่อน ๆ

(Generosity)

125

ใบงำน ท่ี ๑ เร่อื ง กำรทำกำรบำ้ น แบบ STRONG / จติ พอเพียงต้ำนกำรทุจริต

- มงุ่ ม่นั หาคาตอบใหถ้ กู ตอ้ ง

-ใชห้ ลกั ภมู ริ ู้ ในการตอบตอบคาถาม - สามารถทาเอง หาคาตอบ
เอง ถามครูหากไมเ่ ขา้ ใจ

กำรบ้ำน แบบ - ไมล่ อกผอู้ ่ืน
STRONG

- สอนเพอ่ื นหากเพอื่ นทาไมไ่ ด้
บอกแหลง่ ขอ้ มลู แกเ่ พื่อน
และใหเ้ พ่อื นยืมดนิ สอ
ยางลบหากเพอื่ นไมม่ ี

- มีการนาความรูจ้ ากการเรยี น
มาใชต้ อบคาถาม และ
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิต

(ข้อละ ๕ คะแนน)

126

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงำน

เลขที่ ชื่อ – สกุล คะแนนท่ีได้ สรปุ ผล
(๓๐ คะแนน) ผำ่ น ไมผ่ ่ำน









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑
๒๒

สรุป

เกณฑ์กำรประเมิน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน

127

แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน
ชอื่ นัก เรยี น......................................................................... ชน้ั ..............ภาคเรียนที่...........ปีการศึกษา.............
คำชี้แจง การบันทึกให้กาเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกับพฤติกรรมท่เี กิดข้ึนจริง

ท่ี พฤตกิ รรม เปน็ ประจา ระดับการปฏิบัติ ไมท่ าเลย/
ไม่ชดั เจน
(๓) บางคร้ัง น้อยคร้งั
(๒) (๑) (๐)

๑ มีความรับผดิ ชอบในหนา้ ทีก่ ารงาน
๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัติหน้าท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย
๓ ทางานด้วยความเพยี รพยายาม
๔ ร้จู ักแก้ปญั หาในการทางานเม่ือมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่อื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย
๖ ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทางานให้ดขี น้ึ ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภำพ

เกณฑ์กำรประเมิน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน
ระดับคุณภำพ (.................................................)
ดเี ยย่ี ม
เกณฑ์กำรประเมนิ
ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อ
ใดขอ้ หนึง่ ตา่ กว่า ๒ คะแนน
ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อ
ใดขอ้ หนึง่ ตา่ กวา่ ๐ คะแนน
ไม่ผ่าน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้
ใดข้อหน่งึ ต่ากวา่ ๐ คะแนน
ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๕ คะแนน

128

แบบประเมนิ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ช่อื -นามสกุลผูเ้ รียน .......................................................................ช้ัน .......................................... เลขท่ี .............

ให้ครสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ดำ้ น ๓ ๒๑๐
๑. ใชท้ รพั ย์สินและสง่ิ ของโรงเรยี นอย่างประหยดั
อยูอ่ ย่ำงพอเพียง ๒. ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และร้คู ุณค่า
๓. ใชจ่ ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ
๔. ไม่เห็นแกต่ ัว

คะแนน
สรุปผลคะแนน

ลงชอื่ ..................................................ผู้ประเมนิ
(....................................................)

เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ ๓ คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ิชัดเจนและบ่อยครงั้ ให้ ๒ คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏิบัติบางคร้ัง ให้ ๑ คะแนน

- พฤตกิ รรมทีไ่ ม่ปฏิบัติ ให้ ๐ คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ำรประเมิน
 ดีมาก ได้ ๑๐ – ๑๒ คะแนน

 ดี ได้ ๗ – ๙ คะแนน
 พอใช้ ได้ ๔ – ๖ คะแนน
 ปรับปรุง ได้ ๐ – ๓ คะแนน

129

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้

หนว่ ยท่ี ๓ ชื่อหนว่ ย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจรติ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง กิจกรรมในห้องทีย่ ึดหลัก STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต เวลำ ๒ ชว่ั โมง

การเลือกหวั หนา้ หอ้ ง

๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจรติ
๑.๒ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต

๒. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
๒.๑นักเรียนสามารถบอกความหมายของคาวา่ STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทุจริตได้
๒.๒ นักเรียนสามารถปฏิบตั ิตนเป็นผู้ที่ STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริตในกจิ กรรมการเลอื กหัวหน้าห้องได้

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
- S (Sufficient) พอเพียง หมายถึงการนาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเครื่องมือในการป้องกันการทุจริต เช่น

สรา้ งจติ พอเพยี งให้แก่ตัวเราและเพื่อน ๆ เม่อื เราพอเพียงเรากจ็ ะไม่ทุจริต
- T (transparent) โปร่งใส หมายถึงการมุ่งเน้นการปฏิบตั ิงาน และตรวจสอบได้ เช่น ไม่ลอกการบ้านเพือ่ น

และครสู ามารถตรวจดูได้ ว่านักเรยี นตอบไมเ่ หมอื นเพอื่ น
- R (Realize) ตระหนักรู้ หมายถึง ความเข้าใจ ความตระหนักรู้ และการวิเคราะห์ความเส่ียง เช่น หาก

นักเรียนจะทาการบา้ น นกั เรยี นตอ้ งเรยี นให้เขา้ ใจ และหากคิดวา่ ตวั เองจะทาไมไ่ ด้ กค็ วรถามเพื่อน หรือครู
- O (Onward) ม่งุ ไปขา้ งหนา้ หมายถงึ การมแี นวคดิ มุ่งสู่ความโปรง่ ใส
- N (Knowledge) ความรู้ หมายถึง มกี ารพัฒนาองค์ความรู้อยา่ งสม่าเสมอ เช่น เข้าหอ้ งสมดุ เสมอๆ
- G (Generosity) เอื้ออาทร หมายถงึ การร่วมสรา้ งสังคมไทยใหม้ ีความเออื้ อาทร เชน่ แบ่งปันสงิ่ ของให้

เพ่อื นๆ
๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนกำร (สมรรถนะทีเ่ กิด)
๑) ความสามารถในการสื่อสาร
๑.๑ การแสดงความคิดเหน็
๑.๒ การฟังนทิ าน
๑.๓ การทาใบงาน
๒) ความสามารถในการคดิ
๒.๑ การบอกพฤติกรรมทแ่ี สดงถึงความโปรง่ ใส
๓) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
๓.๑ การให้ความสาคญั การพูดแต่ความจรงิ
๓.๒ ปฏิบตั ติ นตรงตามคาสญั ญาได้
๓.๓ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ / คำ่ นิยม
ความซ่อื สตั ย์

130

๔. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
๔.๑ ขนั้ ตอนกำรเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
๑) ครูทบทวนความร้เู ดมิ จากชวั่ โมงท่ีผ่านมา โดยสนทนาเรอ่ื ง ความหมายของคาว่า STRONG / จติ พอเพียง

ตา้ นทจุ รติ
๒) ให้นกั เรียนดูนิทานเร่ือง “เดก็ เลย้ี งแกะ” แลว้ สนทนาร่วมกนั โดยใชค้ าถาม ดังตอ่ ไปนี้
๒.๑) เดก็ เลี้ยงแกะมนี สิ ยั อย่างไร (ชอบโกหก)
๒.๒) การโกหกของเด็กเลี้ยงแกะทาให้เกิดอะไรข้ึน (ชาวบา้ นมาชว่ ย,แกะตาย,หมาป่ามามากนิ แกะ ฯลฯ)
๒.๓) ทาไมชาวบ้านเลิกเช่ือเด็กเล้ียงแกะท้ังท่ีมีหมาป่ามาจริงๆ (เพราะเด็กเล้ียงแกะเป็นคนท่ีไม่

น่าเช่ือถือ)
๒.๔) นกั เรยี นจะทาอย่างไรให้คนเชอื่ ถอื เรา (ต้องพดู ความจริง , ไม่โกหก , ไม่พดู ปด)

๓) ครแู ละนกั เรียนรว่ มสนทนากนั ในการสารวจพฤติกรรมของนกั เรยี น
๓.๑) ใครเคยโกหกบ้าง
๓.๒) เพราะอะไรถึงโกหก
๓.๓) รู้สึกอย่างไรเมือ่ โกหก

๔) ครูเช่ือมโยงความรู้ โดยการถามว่า การไม่โกหก เข้าหลัก STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริตในข้อใด :
ตอบ O คอื ความโปร่งใส

๕) นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมถึงความโปรง่ ใส โดยการพูดแต่ความจริง
ไม่พูดปด ไม่โกหก และทาตามสัญญา (นักเรียนอยู่ในครอบครัวก็ต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่ไม่พูดโกหก ไม่ทาให้พ่อแม่
ตอ้ งเสยี ใจ มีความซื่อสัตย์ และกลา้ ทจ่ี ะพูดความจรงิ อยู่ในโรงเรยี นกต็ ้องไมโ่ กหกครู ไม่โกหกเพ่ือน และทาตามสญั ญา
ท่ีใหไ้ ว้)

ช่ัวโมงท่ี ๒
๑) ครูบอกจดุ ประสงค์วา่ ในวันนี้ เราจะเลือกหัวหนา้ ห้องคนใหม่ โดยมีข้อแม้ว่า หัวหน้าห้องของเราต้องมี
หลัก STRONG / จติ พอเพียงตา้ นทุจรติ โดยเฉพาะขอ้ O คอื ความโปรง่ ใส
๒) ครูให้นักเรียนเสนอช่ือตัวแทนห้อง ๕ คน เป็นผู้ลงสมัครหัวหน้าห้อง และคิดนโยบายในการบริหาร
หอ้ งเรยี น ๓ ข้อขึ้นไป โดยยดึ หลกั วา่ นโยบายเหล่านั้นตอ้ งทาไดจ้ ริง หากไดร้ บั เลือกเปน็ หวั หน้าหอ้ ง
๓) ครใู หต้ วั แทน ๕ คน ออกมาพดู แนะนาตัว และนโยบายหากตนเองไดร้ บั เลอื กเป็นหัวหนา้ ห้อง
๔) นักเรยี นแต่ละคน ลงคะแนนเสียง
5) เมอื่ ได้หัวหน้าหอ้ งแล้ว ครูให้นักเรยี นทุกคนสรุปกิจกรรม การเลอื กหวั หน้าห้อง ตามหัวข้อ STRONG /
จิตพอเพยี งตา้ นการทจุ รติ ลงในกระดานดาโดยครูเปน็ ผ้ชู ว่ ยในการสรุป

แนวการตอบดังนี้
- S (Sufficient) พอเพยี ง คือ การนาภมู ธิ รรม มาเป็นแนวทางในการดาเนินการเลอื กตง้ั
- T (transparent) โปร่งใส คือ ตัวแทนท่ีลงเลือกต้ัง มีความมุ่งมั่น ในการคิดนโยบาย และ

ตง้ั ใจแนะนาตวั เอง
- R (Realize) ตระหนักรู้ หมายถึง เพ่ือนๆ ในห้องเลือกตัวแทนจากความรู้ความสามารถ

ของเพ่ือนและตัวแทนหอ้ งคิดนโยบายด้วยความเขา้ ใจบริบทตา่ งๆ ของห้องเรยี นตนเอง

131

- O (Onward) มุ่งไปข้างหน้า หมายถึง การลงคะแนนเสียงเป็นไปด้วยความโปร่งใส
ตรวจสอบได้

- N (Knowledge) ความรู้ หมายถึง หลังจากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้องแล้ว ก็ยังพัฒนาตนเอง
อยเู่ สมอ

- G (Generosity) เออื้ อาทร หมายถึง ผู้ที่ไม่ได้รับการเลือกต้ัง ก็รู้จักแพ้ ชนะ อภัย กลบั มา
เป็นเพอ่ื นที่ดตี อ่ กัน

๔.๒ ส่ือกำรเรยี นรู้ / แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) ภาพลูกแกะ
๒) นิทานเรือ่ ง “เดก็ เล้ยี งแกะ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=l๖s๐Ayf๕gsk

๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วิธกี ำรประเมิน
การสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ นท่ีแสดงถึงความโปร่งใส
๕.๒ เคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ นกำรประเมิน
แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติตนท่แี สดงถึงความโปร่งใส
๕.๓ เกณฑ์กำรประเมนิ
นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน

132

บนั ทึกหลงั สอน

หนว่ ยกำรสอนท่.ี ............... แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท.ี่ .............
บนั ทึกหลังสอน
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ปญั หำและอุปสรรค
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทำงแกไ้ ข
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จติ รบรรจง)
ครูผู้สอน

ควำมคดิ เห็นของผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จติ รบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรียนวดั คลองห้า

133

๗. ภำคผนวก

ภำพลูกแกะ

แหล่งข้อมลู ภำพ https://www.bloggang.com/data/coffeespoon/picture/๑๑๘๘๕๔๗๕๘๑.gif

134

นทิ นเรือ่ งเดก็ เลยี้ งแกะ

คร้ังหนึ่งมีเด็กเลย้ี งแกะอยู่ผู้หน่ึงซึ่งมีนิสยั ชอบโกหก ในวันหนึ่งขณะท่ีเขาปล่อยใหฝ้ ูงแกะกินหญ้าอยู่ท่ี
เนินเขานั้นก็เกิดคิดอะไรสนุกๆ ข้ึนมา จึงแกล้งตะโกนใหช้ าวบา้ นแถวนั้นไดย้ ินว่า “ช่วยด้วย ช่วยดว้ ย
หมำป่ำมำกินลูกแกะ”
ชาวบ้านเม่ือได้ยินต่างก็ตกใจและรีบว่ิงมาพร้อมอาวุธต่างๆ ในมือเพ่ือจะช่วยกันขับไล่หมาป่า แต่พอ
มาถงึ กลับไม่พบหมาปา่ แม้แต่ตัวเดยี ว มีแต่เพียงเด็กเล้ียงแกะท่ียืนหัวเราะชอบใจอยู่ เด็กเล้ียงแกะเห็น
ว่าการโกหกเป็นเร่ืองสนุกจึงหลอกชาวบ้านอีกคร้ังแล้วคร้ังเล่าจนชาวบ้านต่างโกรธและเอือมระอาต่อ
การกระทาของเขา
อยู่มาวันหน่ึงขณะท่ีเด็กเล้ียงแกะกาลังเฝ้าฝูงแกะอยู่เช่นทุกครั้ง ก็เกิดมีหมาป่าเข้ามาจับแกะกินจริงๆ
เด็กเล้ยี งแกะตกใจจึงตะโกนบอกชาวบ้านเพ่ือขอความชว่ ยเหลอื แต่คราวนี้ไม่ว่าเขาจะตะโกนอยา่ งไรก็
ไมม่ ีใครสนใจทีจ่ ะออกมาชว่ ยสกั คน จนกระทั่งหมาป่าไลก่ นิ ลูกแกะจนหมดฝงู ไปในท่ีสดุ

นทิ ำนเรื่องนสี้ อนใหร้ ู้วำ่ : ไม่มีใครเช่ือคนโกหก แม้ว่าต่อมาเขาจะพดู ความจริงกต็ าม
แหล่งข้อมลู http://www.muengthai.com/%E๐%B๙%๘๐%E๐%B๘%๙๔%E๐%B๙%๘๗%E

๐%B๘%๘๑%E๐%B๙%๘๐%E๐%B๘%A๕%E๐%B๘%B๕%E๐%B๙%๘๙%E๐%B๘%A๒%E

๐%B๘%๘๗%E๐%B๙%๘๑%E๐%B๘%๘๑%E๐%B๘%B๐/

135

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรแสดงออกถึงควำมโปรง่ ใส

ท่ี ชื่อ – สกุล พฤตกิ รรมการแสดงออกถึง รวม สรปุ ผล
ความโปร่งใส คะแนน ผ่าน ไมผ่ า่ น
๑ (๑๐)
๒ ใหข้ อ้ มูลที่เป็นจรงิ ปฏบิ ตั ติ นตรงตาม
๓ (๕) คาสัญญา (๕)






๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕

รวม

ลงช่ือ…………..…………………………….ผูส้ ังเกต
(………………….………………….……)

เกณฑก์ ำรประเมนิ
- นักเรียนไดค้ ะแนน ๘ คะแนนขึน้ ไป ถอื ว่า ผ่าน

136

แบบประเมนิ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ช่อื -นามสกลุ ผูเ้ รียน .......................................................................ชัน้ .......................................... เลขที่ .............

ให้ครูสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ งทตี่ รงกับระดับคะแนน

คุณลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงคด์ ำ้ น ๓ ๒๑๐
๑. ให้ข้อมูลทถี่ ูกตอ้ ง และเปน็ จริง
ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต ๒. ปฏิบัตใิ นสง่ิ ที่ถูกต้อง คะแนน
สรปุ ผลคะแนน

ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมนิ
(....................................................)

เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ ๓ คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครัง้ ให้ ๑ คะแนน

- พฤติกรรมทีไ่ มป่ ฏบิ ตั ิ ให้ ๐ คะแนน

สรปุ เกณฑ์กำรประเมิน
 ดมี าก ได้ ๕ – ๖ คะแนน

 ดี ได้ ๓ – ๔ คะแนน
 พอใช้ ได้ ๑ – ๒ คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ ๐ คะแนน

137

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้

หนว่ ยที่ ๓ ชอ่ื หนว่ ย STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ รติ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑

แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ี ๓ เร่ือง กจิ กรรมในห้องที่ยึดหลัก STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต เวลำ ๑ ชัว่ โมง

การทาความสะอาดหอ้ งเรียน

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจรติ
๑.๒ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจริต

๒. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
๒.๑นักเรยี นสามารถบอกความหมายของ STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ ได้
๒.๒ นักเรียนปฏบิ ัติตนเป็นผู้ที่ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจรติ ในกิจกรรมการทาความสะอาดหอ้ งเรียนได้

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
- S (Sufficient) พอเพียง หมายถึงการนาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเคร่ืองมือในการป้องกันการทุจริต

เชน่ สร้างจติ พอเพียงให้แก่ตัวเราและเพอ่ื น ๆ เม่อื เราพอเพยี งเรากจ็ ะไม่ทุจรติ
- T (transparent) โปรง่ ใส หมายถึงการมุ่งเน้นการปฏิบัติงาน และตรวจสอบได้ เชน่ ไม่ลอกการบ้าน

เพอ่ื น และครสู ามารถตรวจดูได้ วา่ นักเรยี นตอบไม่เหมอื นเพื่อน
- R (Realize) ตระหนักรู้ หมายถงึ ความเข้าใจ ความตระหนักรู้ และการวิเคราะห์ความเสยี่ ง เชน่ หาก

นักเรยี นจะทาการบ้าน นักเรียนตอ้ งเรียนใหเ้ ข้าใจ และหากคิดว่าตัวเองจะทาไม่ได้ กค็ วรถามเพ่ือน หรอื ครู
- O (Onward) มุ่งไปขา้ งหน้า หมายถงึ การมแี นวคิดมุ่งสูค่ วามโปรง่ ใส
- N (Knowledge) ความรู้ หมายถงึ มีการพัฒนาองค์ความรู้อยา่ งสมา่ เสมอ เช่น เขา้ ห้องสมดุ เสมอๆ
- G (Generosity) เออ้ื อาธร หมายถึงการรว่ มสร้างสังคมไทยให้มคี วามเออื้ อาทร เช่น แบ่งปนั ส่ิงของให้

เพ่อื นๆ
๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนกำร (สมรรถนะท่เี กิด)
๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร
การแสดงความคิดเห็น
๒) ความสามารถในการคิด
บอกพฤติกรรมการปฏิบัติตนเป็นคนดี
๓) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
การไม่ส่งเสริมการกระทาความผิด
๓.๓ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ค่ำนิยม
ความซ่ือสัตย์

138

๔. กิจกรรมกำรเรียนรู้
๔.๑ ขั้นตอนกำรเรยี นรู้
๑) นกั เรียนและครูร่วมกนั ทบทวนความหมายของคาวา่ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริตจากบตั รคา
๒) นักเรยี นและครูร่วมกนั ทบทวนแผนผงั กจิ กรรมเลือกหัวหนา้ ห้อง ตามหลัก STRONG : จติ พอเพยี ง

ต้านทจุ รติ จากช่วั โมงท่ีแล้ว
๓) ให้นักเรยี นแบ่งกลุม่ ตามเวรประจาวันของตนเอง และใหก้ ระดาษชาร์ท กลมุ่ ละ ๑ แผน ใหน้ กั เรียน

วางแผนการทาเวรของตนเอง ดว้ ยหลกั STRONG / จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต โดยมีครชู ว่ ยเหลืออยา่ งใกล้ชดิ
แนวการทาแผนผงั
- S (Sufficient) ใชอ้ ปุ กรณ์ในการทาความสะอาดอย่างถนถุ นอม และเก็บรักษาอยา่ งถกู ตอ้ ง
- T (transparent) ทกุ คนชว่ ยกันทาหน้าทขี่ องตนเองอย่างดีท่ีสดุ
- R (Realize) มกี ารวางแผนก่อนแบ่งหนา้ ที่ให้เพ่ือนๆ เช่นเพอ่ื นท่ตี ัวเล็กไม่ให้นาถงั ขยะไปทิง้ คนเดียว
- O (Onward) มกี ารจดบันทึกว่าใครมาทาเวรบ้าง ทาหนา้ อะไรในวนั น้นั
- N (Knowledge) มกี ารหาความรูเ้ พิ่มเตมิ วา่ อุปกรณใ์ ด ใชท้ าความสะอาดอะไร
- G (Generosity) แบง่ ปนั อุปกรณใ์ หเ้ พือ่ นห้องอน่ื ๆ หากเพือ่ นไม่มอี ปุ กรณ์ใช,้ ช่วยเพอ่ื นคนอ่ืนๆ

เม่ือตนเองทาหนา้ ท่ขี องตนเองเรยี บร้อยแลว้
๔) นกั เรียนแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานของตนเอง

๔.๒ สื่อกำรเรยี นรู้ / แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) บัตรคา STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต
๒) กระดาษชาร์ท / สี

๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ำรประเมิน
ตรวจผลการทากจิ กรรม
๕.๒ เครื่องมือที่ใช้ในกำรประเมิน
แบบตรวจผลการทากิจกรรม
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมนิ
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น

139

บันทึกหลงั สอน

หนว่ ยกำรสอนท.ี่ ............... แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ี..............
บนั ทกึ หลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หำและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ครูผู้สอน

ควำมคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั คลองห้า

140

๗. ภำคผนวก

แบบตรวจใหค้ ะแนนกิจกรรม

รายการประเมนิ รวม สรปุ ผล

ท่ี ชอ่ื – สกุล การปฏบิ ัตติ าม แผนผังทอ่ี อกมา คะแนน ผ่าน ไม่ผา่ น
คาสั่ง (๕) (๕) (๑๐)









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖

ลงช่อื …………..…………………………….ผ้ตู รวจ
(………………….………………….……)
…………/…………/………..

เกณฑก์ ำรประเมิน
- นักเรียนไดค้ ะแนน ๘ คะแนนขึน้ ไป ถอื วา่ ผ่าน

141

แบบประเมนิ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ชอื่ -นามสกุลผู้เรยี น .......................................................................ชั้น .......................................... เลขที่ .............
ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน

คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้ำน ๓ ๒๑๐
๑. ให้ข้อมลู ท่ถี กู ตอ้ ง และเป็นจริง
ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ ๒. ปฏิบัตใิ นสง่ิ ที่ถกู ต้อง คะแนน
สรปุ ผลคะแนน

ลงชื่อ..................................................ผูป้ ระเมิน

(....................................................)

เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครัง้ ให้ ๒ คะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน

- พฤติกรรมที่ไมป่ ฏิบัติ ให้ ๐ คะแนน

สรปุ เกณฑ์กำรประเมนิ
 ดมี าก ได้ ๕ – ๖ คะแนน
 ดี ได้ ๓ – ๔ คะแนน
 พอใช้ ได้ ๑ – ๒ คะแนน

 ปรับปรงุ ได้ ๐ คะแนน

142

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้

หน่วยท่ี ๓ ชอ่ื หน่วย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจริต ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๔ เร่อื ง กจิ กรรมในห้องทยี่ ดึ หลกั STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ ริต เวลำ ๑ ช่ัวโมง

การวางรองเทา้

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับ STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจริต
๑.๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ที่ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ ริต

๒. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ ได้
๒.๒ นกั เรยี นมวี นิ ัยในการวางรองเท้า
๒.๓ นักเรยี นปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผูท้ ี่ STRONG : จิตพอเพยี งต้านทุจริตในกจิ กรรมการวางรองเทา้ ได้

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
- S (Sufficient) พอเพียง หมายถึงการนาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเครื่องมือในการป้องกันการทุจริต

เชน่ สรา้ งจติ พอเพียงใหแ้ ก่ตัวเราและเพื่อน ๆ เมื่อเราพอเพียงเรากจ็ ะไมท่ จุ รติ
- T (transparent) โปร่งใส หมายถึงการมุ่งเน้นการปฏิบัติงาน และตรวจสอบได้ เช่น ไม่ลอกการบ้าน

เพื่อน และครสู ามารถตรวจดูได้ ว่านักเรยี นตอบไมเ่ หมอื นเพอื่ น
- R (Realize) ตระหนักรู้ หมายถึง ความเข้าใจ ความตระหนักรู้ และการวเิ คราะหค์ วามเส่ียง เชน่ หาก

นักเรยี นจะทาการบ้าน นักเรยี นตอ้ งเรียนให้เขา้ ใจ และหากคดิ ว่าตวั เองจะทาไมไ่ ด้ ก็ควรถามเพ่ือน หรือครู
- O (Onward) มุ่งไปข้างหนา้ หมายถงึ การมีแนวคดิ มงุ่ สู่ความโปร่งใส
- N (Knowledge) ความรู้ หมายถงึ มีการพัฒนาองค์ความรู้อย่างสม่าเสมอ เชน่ เขา้ ห้องสมดุ เสมอ ๆ
- G (Generosity) เออ้ื อาทร หมายถงึ การรว่ มสรา้ งสังคมไทยใหม้ ีความเอือ้ อาทร เช่น แบ่งปันสง่ิ ของให้

เพ่อื น ๆ
- วินยั หมายถงึ ข้อปฏบิ ัติ, ระเบยี บแบบแผนและขอ้ บงั คบั

๓.๒ ทักษะ / กระบวนกำร (สมรรถนะท่เี กิด)
๑) ความสามารถในการส่อื สาร
๑.๑ การแสดงความคิดเห็น
๒) ความสามารถในการคิด
บอกพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิตนเป็นคนดี
๓) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
การไม่สง่ เสรมิ การกระทาความผดิ

๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ / คำ่ นิยม
ความซือ่ สัตย์

143

๔. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
๔.๑ ขั้นตอนกำรเรยี นรู้
๑) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั รอ้ งเพลง “เดก็ ดีมวี นิ ยั ”
๒) ครูสนทนากับนักเรียนถึงเพลงทรี่ ้องไป วา่ ส่ือถงึ การมีระเบียบวินยั ของเดก็ ๆ
๓) ครูให้คานยิ ามของคาว่าวนิ ยั
๔) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ทบทวนความหมายของคาว่า STRONG / จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ จากบัตรคา
๕) ครูทบทวนข้อตกลงในการวางรองเทา้ ของห้องเรียนตนเอง ว่ามขี ้อปฏิบตั ิอะไรบ้าง
๖) ครูและนักเรียนรว่ มกันทบทวนแผนผงั กิจกรรมการทาความสะอาด ตามหลกั STRONG / จติ พอเพยี ง

ต้านทุจริต จากช่วั โมงทีแ่ ลว้
๗) ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ ๕ คน และใหก้ ระดาษชาร์ท กล่มุ ละ ๑ แผน ใหน้ ักเรยี นวาง

แผนการวางรองเท้า ด้วยหลกั STRONG / จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต โดยมีครูช่วยเหลืออย่างใกล้ชดิ
แนวการทาแผนผงั
- S (Sufficient) ไมท่ าลายช้นั วางรองเท้า และไม่โยนรองเทา้
- T (transparent) ทุกคนดแู ลวางรองเทา้ ของตนเองอยา่ งเปน็ ระเบียบ
- R (Realize) มีการวางแผนวา่ รองเท้าใครจะวางไวต้ าแหน่งใด
- O (Onward) มีวางรองเท้าไว้ตาแหนง่ เดิมเสมอ เพอื่ ให้ครูตรวจสอบได้วา่ วางรองเทา้ เป็นระเบยี บ

หรอื ไม่
- N (Knowledge) ใส่ใจเพอ่ื นว่ารองเทา้ คู่ไหนเป็นของเพือ่ น เพ่อื ช่วยเพอ่ื นดูแลรองเท้า
- G (Generosity) ไมเ่ ตะรองเทา้ เพื่อน, เก็บรองเท้าให้เพื่อนหากรองเทา้ เพื่อนไม่วางเป็นระเบียบ

8) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานของตนเอง
๔.๒ สื่อกำรเรียนรู้ / แหลง่ กำรเรยี นรู้

๑) บัตรคา STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต
๒) กระดาษชาร์ท / สี
๓) เพลงเด็กดีมวี นิ ัย
๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ ีกำรประเมนิ
ตรวจผลการทากิจกรรม
๕.๒ เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นกำรประเมนิ
แบบตรวจผลการทากิจกรรม
๕.๓ เกณฑ์กำรประเมิน
นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป ถอื ว่า ผา่ น

144

บนั ทกึ หลังสอน

หนว่ ยกำรสอนท.่ี ............... แผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ี่..............
บันทึกหลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหำและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ครูผู้สอน

ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จิตรบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดคลองห้า

145

๗. ภำคผนวก

เพลงเด็กดีมวี ินยั

จำก : https://www.youtube.com/watch?v=jwZird๒I_๑k

146

แบบตรวจใหค้ ะแนนกิจกรรม

รายการประเมิน รวม สรปุ ผล

ท่ี ชือ่ – สกุล การปฏิบตั ติ าม แผนผังที่ออกมา คะแนน ผา่ น ไม่ผา่ น
คาสั่ง (๕) (๕) (๑๐)









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖

ลงชอ่ื …………..…………………………….ผตู้ รวจ
(………………….………………….……)
…………/…………/………..

เกณฑ์กำรประเมนิ
- นักเรียนได้คะแนน ๘ คะแนนขน้ึ ไป ถอื ว่า ผ่าน

147

แบบประเมนิ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ชอื่ -นามสกุลผ้เู รยี น .......................................................................ชน้ั .......................................... เลขท่ี .............

ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่องทตี่ รงกับระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงค์ดำ้ น ๓ ๒๑๐
๑. ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง
ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต ๒. ปฏิบัตใิ นสิง่ ท่ีถูกตอ้ ง สรุปผลคะแนน

คะแนน

ลงชื่อ..................................................ผปู้ ระเมนิ
(....................................................)

เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ ๓ คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ ๒ คะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติบางครัง้ ให้ ๑ คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ไี ม่ปฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน

สรุปเกณฑ์กำรประเมิน
 ดมี าก ได้ ๕ – ๖ คะแนน
 ดี ได้ ๓ – ๔ คะแนน
 พอใช้ ได้ ๑ – ๒ คะแนน
 ปรับปรุง ได้ ๐ คะแนน


Click to View FlipBook Version