เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพบิ ลู อุปถมั ภ์ | |114488
ท่ี ชอื่ หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
สอบปลายภาคเรียน (100)
รวมตลอดภาคเรยี น -
100 20
100
หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพบิ ูลอุปถัมภ์ | |114499
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวชิ าเพมิ่ เตมิ
พ 32205 วทิ ยาศาสตร์การกฬี า 4 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2
เวลาเรียน 60 ช่ัวโมง (3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ศึกษาความรู้และความเขา้ ใจ และอธบิ ายเกย่ี วกบั ความหมาย ความเปน็ มา ของวิทยาศาสตรก์ ารกีฬา
ในด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการป้องกันการบาดเจ็บทางกีฬา ทั้งในเรื่องของหลักการและวิธีการ
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นทางการกีฬา การนวด การใช้ความร้อน ความเย็น และการประยุกต์ใช้อุปกรณ์ในการ
ปฐมพยาบาล เพือ่ บรรเทาการเจบ็ ปวดจากอุบัติเหตุทางการกีฬา รวมไปถึงความรเู้ บือ้ งต้นเกี่ยวกับชนิด กลไก
และการปอ้ งกนั การบาดเจบ็ จากการกีฬาทั้งขณะฝกึ ซ้อมและขณะแข่งขนั ได้
เพื่อให้นักเรียนมีสามารถวิเคราะห์ชนิดและกลไก การบาดเจ็บจากการกีฬาทั้งขณะฝึกซ้อม
และขณะแข่งขัน รวมไปถึงสามารถป้องกันการบาดเจ็บ และปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อบรรเทาการเจ็บปวด
จากอบุ ตั ิเหตทุ างการกีฬาได้
เพื่อให้นักเรียนเหน็ ความสำคัญ มเี จตคตทิ ี่ดแี ละเหมาะสมเก่ยี วกับการนำความรู้ด้านการปฐมพยาบาล
เบอื้ งต้นเพ่ือบรรเทาอาการบาดเจ็บทางการกีฬา และการปอ้ งกนั การบาดเจ็บจากการเลน่ กีฬาทั้งขณะฝึกซ้อม
และขณะแขง่ ขนั
ผลการเรียนรู้
1. มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ ความหมาย ความเป็นมา ของวิทยาศาสตร์การกีฬาในด้านการ
ปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ และการป้องกนั การบาดเจบ็ ทางกฬี า
2. อธิบายเกี่ยวกับหลักการและวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องตน้ ทางการกีฬา และความรู้เบื้องต้นเก่ียวกบั
ชนิด กลไก และการปอ้ งกนั การบาดเจบ็ จากการกีฬาท้ังขณะฝึกซ้อมและขณะแข่งขนั ได้อยา่ งถกู ต้อง
3. สามารถวิเคราะห์ชนิดและกลไก การบาดเจ็บจากการกีฬาทั้งขณะฝึกซ้อมและขณะแข่งขันได้อย่าง
ถกู ตอ้ ง
4. เห็นความสำคญั ของการนำความรู้ดา้ นการปฐมพยาบาลเบื้องตน้ และการป้องกนั การบาดเจบ็ จากการ
เล่นกฬี าท้งั ขณะฝึกซ้อมและขณะแข่งขันไปใช้
รวม 4 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้ โรงเรียนพบิ ูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพบิ ูลอุปถมั ภ์ | |115500
โครงสร้างรายวชิ า
รหัสวชิ า พ 32205 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์การกีฬา 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
สัดสว่ นคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ที่ ชื่อหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100)
1 พน้ื ฐาน ข้อ 1 วทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬา เป็นศาสตร์ 6 10
วทิ ยาศาสตร์ แขนงหนึง่ ที่กล่าวถึงความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการ
การกฬี า (3) สงั เกตและการค้นควา้ จากการประจกั ษ์
ทางธรรมชาติของการเคลื่อนไหวของ
มนษุ ย์ และปรากฏการตา่ งๆ ในการเล่น
กฬี า แล้วจดั เข้าเป็นหมวดหมู่ เพอื่ นำไปสู่
การส่งเสรมิ สุขภาพ การเพ่ิมพูนพัฒนา
สมรรถภาพทางกาย ทกั ษะการเลน่ กฬี า
เพื่อความสนุกสนานเพลดิ เพลิน และการ
แข่งขันเพอ่ื ความเป็นเลิศทางการกฬี า
2 การบาดเจ็บ ข้อ 1 การบาดเจ็บทางกีฬาสามารถ 9 10
ทางกฬี า เกิดขึ้นได้กบั ทกุ ๆ สว่ นของรา่ งกาย
ตำแหนง่ ทีเ่ กิดแตกต่างกนั แลว้ แต่การใช้
สว่ นหรืออวยั วะของร่างกายหนักไปในทาง
ใด ซง่ึ การบาดเจ็บทางกฬี าถือเปน็ การ
จำกัดการเคลอื่ นไหวและโอกาสของ
นกั กีฬา
3 ลกั ษณะและ ขอ้ 2, 3 การบาดเจ็บทางกีฬาทพ่ี บบอ่ ย มี 9 10
ชนดิ ของการ ดังตอ่ ไปน้ี
บาดเจบ็ ทาง - การบาดเจบ็ ทผี่ วิ หนงั และชน้ั ไขมันใต้
กีฬา ผิวหนงั
- การบาดเจ็บที่กลา้ มเนอื้ และเอ็น
กล้ามเนื้อ
- การบาดเจบ็ ทข่ี ้อตอ่ และเอ็นยดึ ขอ้ ต่อ
- การบาดเจ็บทีก่ ระดกู
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนพบิ ลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพบิ ูลอปุ ถัมภ์ | |115511
ที่ ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก
การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100)
- การบาดเจ็บท่ีอวยั วะภายใน
สอบกลางภาคเรียน - 10
9 10
4 การปอ้ งกนั การ ขอ้ 2, 3 หลกั การสำคัญในการป้องกนั
บาดเจบ็ ทาง อบุ ตั เิ หตกุ ค็ อื การคน้ หาสาเหตแุ ละทำการ
กฬี า แกไ้ ขทันทีเพ่ือปอ้ งกนั ไม่ให้เกิดขึ้นอกี โดย
สาเหตุของการเกิดอบุ ัตเิ หตุจากการกีฬา
เกดิ ข้ึนได้ 2 ทาง คือ สาเหตุจากตัว
นกั กฬี าเอง และจากส่งิ แวดลอ้ มภายนอก
5 หลกั การ ขอ้ 2, 3, 4 การปฐมพยาบาลและการรักษา 15 10
ปฐมพยาบาล อาการบาดเจบ็ ทางกฬี าเป็นเรื่องทส่ี ำคัญ
มาก โดยเฉพาะการปฐมพยาบาลทีถ่ ูกวธิ ี
จะทำใหก้ ารรกั ษาง่ายขึน้ และยงั ชว่ ยลด
อันตรายลง
6 การปฐม ขอ้ 2, 3, 4 การปฐมพยาบาลและการรกั ษา 12 20
พยาบาล อาการบาดเจบ็ ทางกีฬาเปน็ เร่ืองที่สำคัญ
ภาคสนาม มาก และต้องทำโดยเร่งดว่ นอย่างถูกวิธี
เนอ่ื งจากจะช่วยในการบรรเทาอาการ
บาดเจ็บให้ทุเลาลง และชว่ ยใหก้ ารรกั ษา
ง่ายขน้ึ ซงึ่ การไดฝ้ ึกปฏิบตั จิ ากสถานการณ์
จรงิ จะทำใหเ้ กดิ ความชำนาญมากขึน้
สอบปลายภาคเรียน - 20
รวมตลอดภาคเรยี น 60 100
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพบิ ลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถัมภ์ | |115522
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าเพิ่มเติม
พ 32206 ความถนดั ดา้ นกฬี า 4 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2
เวลาเรียน 100 ชว่ั โมง (5 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 2.5 หนว่ ยกติ
ศึกษาการฝึกทักษะ เห็นคุณค่าของการออกกำลังกายและเล่นกีฬาตามความถนัดเป็นประจำอย่าง
สม่ำเสมอ มีความสามารถในการเล่นและตัดสินกีฬาในชนิดกีฬาสากล รู้และเข้าใจกฎ กติกาในการเล่นกีฬา
สามารถถ่ายทอดความรู้สูผ่ ูอ้ ่ืนได้
เพือ่ ใหน้ กั เรยี นมีทักษะในการเล่นและตัดสนิ กีฬาชนดิ กีฬาสากล สามารถวางแผนการเลน่ ออกแบบ
แบบฝึกกีฬานั้นๆ ไดเ้ ปน็ อย่างดี
เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ถูกต้องและเหมาะสมเกี่ยวกับการเล่นกีฬา ถ่ายทอดความรู้ในกีฬานั้นๆ
มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ในการศกึ ษาและนำทักษะกีฬาไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันไดเ้ ปน็ อย่างดี
ผลการเรียนรู้
1. ร้แู ละเข้าใจประวัตคิ วามเปน็ มา กฎ กตกิ า วิวัฒนาการและประโยชน์ของกีฬาแต่ละชนดิ
2. มีทกั ษะในการเล่นกฬี าสากลและสามารถตดั สนิ กีฬาได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
3. สามารถออกแบบแบบฝึกและถา่ ยทอดความรู้สู่ผู้อนื่ ได้
4. มวี ินัย ตรงต่อเวลาและมีมารยาทในการออกกำลังกายเพอ่ื สุขภาพเป็นอย่างดี
5. ร่วมกจิ กรรมทางกายและเลน่ กฬี าอย่างมคี วามสุข ชื่นชมในคุณค่าและความงามของการกฬี า
รวม 5 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพบิ ลู อุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ | |115533
โครงสร้างรายวิชา
รหสั วิชา พ 32206 รายวชิ า ความถนดั ดา้ นกีฬา 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 100 ชั่วโมง จำนวน 2.5 หนว่ ยกติ
สดั ส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ที่ ช่อื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
1. ประวัตแิ ละวิวัฒนาการของกฬี า (100)
1 กีฬาสากล ขอ้ 1, 2, 4, 5 วอลเล่ย์บอล 25
(วอลเล่ยบ์ อล) 20
2. ข้นั ตอนและวิธกี ารอบอนุ่ รา่ งกาย 10
2 การสร้าง ขอ้ 3 3. การสรา้ งความคุ้นเคยกีฬาวอลเลย่ บ์ อล 10
แบบฝกึ 4. ขอ้ ตกลงในการเรยี นและการดแู ลรกั ษา
อปุ กรณ์กฬี า
5. ทกั ษะพน้ื ฐานกีฬาวอลเล่ยบ์ อล
- การอนั เดอรว์ อลเล่ย์บอล
- การสง่ (เซ็ท)
- การตบลูกวอลเลย์บอล
- การเสริ ์ฟลกู วอลเล่ยบ์ อล
- การสกัดกน้ั (ป้องกนั การตบ)
6. ตำแหนง่ และการเล่นทมี
7. ฝึกทกั ษะพนื้ ฐานกีฬาวอลเลย่ ์บอล
- การอนั เดอร์วอลเลย่ บ์ อล
- การสง่ (เซท็ )
- การตบลูกวอลเลย์บอล
- การเสริ ฟ์ ลกู วอลเล่ยบ์ อล
- การสกดั กั้น (ปอ้ งกันการตบ)
8. กฎและกตกิ า กีฬาวอลเลย่ ์บอล
9. การตัดสนิ กฬี าวอลเลย่ ์บอล
10. การวางแผนจัดการแข่งขนั
11. การแข่งขนั กีฬาวอลเล่ย์บอล
1. การสร้างแบบฝกึ และนำเสนอ (กีฬา
วอลเลย่ ์บอล)
หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพิบูลอุปถมั ภ์ | |115544
ท่ี ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก
การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
(100)
กฬี าสากล
(วอลเล่ยบ์ อล)
3 กฬี าสากล ข้อ 1, 2, 4, 5 1. ประวตั ิ และววิ ัฒนาการของกีฬา 25 20
(ฟตุ วอลเลย่ )์ ฟตุ วอลเลย่ ์
2. การสร้างความคุ้นเคยและทักษะ
พน้ื ฐานของกีฬาฟุตวอลเลย่ ์
- วิธีการเล่น
- การใชอ้ ุปกรณ์
3. ทักษะพ้นื ฐานกีฬาฟตุ วอลเล่ย์
- การเสรฟิ
- การรบั ลกู เสริฟ
- การทำแต้ม
- การรบั ลกู ทำ
- การชง
- การเดาะลกู
4. การตัดสนิ กีฬาฟตุ วอลเล่ย์
5. การจบั คู่ฝึกซอ้ มทักษะ
6. การเล่นทีม
7. การตดั สินกีฬาฟุตวอลเล่ย์
8. การจับคู่ฝึกซ้อมทกั ษะ
9. การเลน่ ทมี
10. การวางแผนการจัดการแข่งขนั
11. การแขง่ ขันฟตุ วอลเล่ย์
สอบกลางภาคเรยี น - 10
5 10
4 การสร้างแบบ ขอ้ 3 1. การสร้างแบบฝกึ และนำเสนอ
25 20
ฝกึ (กีฬาฟตุ วอลเลย่ ์)
กฬี าสากล
(ฟตุ วอลเล่ย)์
5 กฬี าสากล ข้อ 1, 2, 4, 5 1. กฎและกตกิ า กีฬาเทเบิลเทนนิส
(เทเบิลเทนนสิ ) 2. อปุ กรณแ์ ละการดแู ลรักษา
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพบิ ูลอุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพิบลู อุปถมั ภ์ | |115555
ท่ี ชือ่ หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
(100)
3. ทักษะพน้ื ฐานกฬี าเทเบิลเทนนิส
4. การสรา้ งความค้นุ เคย
- การจบั ไม้
- การส่งลูก
- การใช้หนา้ ไม้
- การใชห้ ลงั ไม้
5. แบบฝกึ ทกั ษะการใช้หนา้ ไม้และหลงั ไม้
6. การตโี ตผ้ นัง
7. การตบี นพ้ืน
8. การตบี นโต๊ะ
9. วธิ กี ารตดั สินกีฬาเทเบลิ เทนนสิ
10. กฏและกติกา กฬี าเทเบิลเทนนสิ
11. ประเภทของการแข่งขัน
12. การจับคู่ฝึกซอ้ มทักษะพน้ื ฐานกฬี าเท
เบิลเทนนิส
13. การวางแผนการจัดการแข่งขนั กีฬาเท
เบิลเทนนสิ
14. การทดลองตดั สนิ กฬี าเทเบลิ เทนนิส
15. การแขง่ ขันกีฬาเทเบิลเทนนสิ
6 การสรา้ ง ข้อ 3 1. การสรา้ งแบบฝึกและนำเสนอ 10 10
แบบฝกึ (กฬี าเทเบิลเทนนิส)
กีฬาสากล
(เทเบลิ เทนนิส)
สอบปลายภาคเรยี น - 20
รวมตลอดภาคเรียน 100 100
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบลู อุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถมั ภ์ | |115566
คำอธิบายรายวิชาเพิม่ เติม
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าเพิ่มเติม
พ 33203 วทิ ยาศาสตร์การกีฬา 5 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1
เวลาเรียน 60 ชว่ั โมง (3 ชั่วโมง/สปั ดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศึกษาความรู้ ความเข้าใจ และอธิบายเกี่ยวกับ ความหมาย ขอบข่าย ความเป็นมาของจิตวิทยาการ
กีฬาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการกีฬา เทคนิคทางจิตวิทยาการกีฬา เพื่อการจัดการอารมณ์และ
ความเครียดขณะการแขง่ ขนั และเพ่อื ความเปน็ เลิศทางกฬี า
เพื่อให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์การประยุกต์ทฤษฎีและหลักทางจิตวิทยาในสถานการณ์ต่างๆ
เพอ่ื จดั การกับอารมณแ์ ละความเครียดของตน ขณะชว่ งใกลแ้ ข่งขนั ขณะแข่งขนั และหลงั การแขง่ ขนั กฬี า
เพือ่ ให้นักเรียนเห็นความสำคัญ มเี จตคตทิ ี่ดีและเหมาะสมเกีย่ วกบั การนำความรู้ทางจิตวิทยาการกีฬา
ไปใชใ้ นการพฒั นาความสามารถทางกฬี า บคุ ลิกภาพท่ีจำเป็นกับการกฬี าต่อไป
ผลการเรยี นรู้
1. มีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกบั ความหมาย ขอบข่าย ความเปน็ มาของจติ วทิ ยาการกฬี า
2. อธบิ ายเกยี่ วกับปจั จัยที่เกี่ยวข้องกบั จิตวทิ ยาการกีฬา เทคนคิ ทางจติ วทิ ยาการกีฬา เพ่ือการจดั การ
อารมณแ์ ละความเครยี ดขณะการแขง่ ขันและเพื่อความเปน็ เลิศทางกีฬาได้อยา่ งถูกต้อง
3. สามารถวิเคราะหก์ ารประยกุ ต์ทฤษฎีและหลกั ทางจิตวทิ ยาในสถานการณ์ต่างๆ เพอื่ จดั การกับอารมณ์
และความเครยี ดของตน ขณะช่วงใกล้แขง่ ขัน ขณะแข่งขนั และหลังการแข่งขันกฬี า
4. เห็นความสำคัญของการนำความรู้ทางจิตวิทยาการกีฬาไปใช้ในการพัฒนาความสามารถทางกีฬา
บคุ ลิกภาพท่จี ำเปน็ กับการกีฬาต่อไป
รวม 4 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรียนพิบลู อุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนพิบูลอปุ ถัมภ์ | |115577
โครงสร้างรายวิชา
รหสั วชิ า พ 33203 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์การกีฬา 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
สัดสว่ นคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ท่ี ช่ือหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
(100)
1 พื้นฐาน ขอ้ 1 วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า เปน็ ศาสตร์ 6 10
วิทยาศาสตร์ แขนงหนง่ึ ท่กี ล่าวถึงความรู้ที่ได้จากการ
การกีฬา (4) สงั เกตและการค้นควา้ จากการประจกั ษ์
ทางธรรมชาติของการเคลือ่ นไหวของ
มนุษย์ และปรากฏการต่างๆ ในการเล่น
กฬี า แลว้ จัดเข้าเป็นหมวดหมู่ เพือ่ นำไปสู่
การส่งเสริมสุขภาพ การเพ่มิ พูนพฒั นา
สมรรถภาพทางกาย ทกั ษะการเล่นกฬี า
เพื่อความสนกุ สนานเพลิดเพลนิ และการ
แขง่ ขนั เพ่อื ความเปน็ เลิศทางการกฬี า
2 พ้ืนฐาน ขอ้ 1 จติ วิทยา คอื ศาสตรท์ ่ีว่าด้วย 9 10
จติ วทิ ยา การศึกษาเกี่ยวกบั จติ ใจ (กระบวนการของ
จติ ), กระบวนความคิด, และพฤติกรรม
ของมนษุ ยด์ ว้ ยกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ เนอื้ หาท่ีนกั จติ วทิ ยาศกึ ษา
เชน่ การรับรู้ (กระบวนการรับข้อมูลของ
มนุษย์), อารมณ,์ บุคลกิ ภาพ, พฤตกิ รรม,
และรปู แบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
จติ วทิ ยายงั มีความหมายรวมไปถึงการ
ประยุกต์ใชค้ วามรู้กับกิจกรรมในดา้ นตา่ งๆ
ของมนุษย์ อย่างเช่นการกีฬาด้วย
3 จติ วทิ ยากับ ขอ้ 1, 2 จิตวทิ ยาการกีฬา คือ การศึกษา 6 10
การกฬี า พฤติกรรมตา่ งๆ ของมนุษยท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกับ
การเข้ารว่ มกิจกรรมกีฬาหรอื การออก
กำลงั กาย รวมทง้ั อทิ ธิพลของนกั กีฬา
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนพบิ ลู อปุ ถมั ภ์ | |115588
ที่ ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก
การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
(100)
ผู้ฝึกสอน และสิ่งแวดล้อมทมี่ ีผลต่อการ
เพ่ิมขีดความสามารถของนักกีฬา และ
การใชช้ วี ิตในสังคมอยา่ งมคี วามสุข
4 แรงจงู ใจกับ ขอ้ 2, 3, 4 แรงจูงใจเปน็ ปัจจัยทางจิตวทิ ยาทมี่ ี 9 10
การกฬี า ผลต่อการกระทำ พฤติกรรมและ
ความสามารถของคนเราในการกฬี า
แรงจูงใจเปน็ ปัจจยั ที่สำคญั หน่ึงในการ
กระต้นุ ใหน้ กั กีฬาตน่ื ตวั ทงั้ ในขณะฝกึ ซ้อม
และแขง่ ขัน
สอบกลางภาคเรียน - 10
9 10
5 การจัดการ ขอ้ 2, 3, 4 ความเครยี ด คือ ปฏกิ ริ ิยาตาม
อารมณ์ ธรรมชาตขิ องมนษุ ยท์ ี่เกิดข้นึ เมือ่ ตอ้ ง
เผชญิ กับปัญหาการเปล่ยี นแปลงหรอื
สถานการณ์ต่างๆ ซ่ึงเปน็ สาเหตคุ วาม
เครียดท่เี หมาะสมจะกระตุ้นให้เกดิ การ
ปรบั ตัวแก้ไขปญั หา เกดิ การพัฒนาและ
สรา้ งสรรค์แตค่ วามเครียดท่ีมากเกนิ ไปจะ
เป็นผลเสยี ต่อรา่ งกายและจิตใจ เกดิ ความ
ไมส่ บายใจ
นกั กฬี าทข่ี าดประสบการณ์ เม่อื มี
ความเครยี ดอาจจะแสดงความสามารถได้
ไม่เต็มที่ การรจู้ ักความเครียดในนักกีฬาจงึ
เป็นสงิ่ สำคัญในการเตรยี มนักกฬี าให้
สามารถเผชิญความเครยี ดในขณะแข่งขนั
และแสดงความสามารถของตนเองได้ดี
ท่ีสดุ
ความวิตกกังวล หมายถึง ความ
รู้สกึ หวาดกลัว เปน็ การทคี่ นมสี ภาวะ
ความตืน่ ตวั เพม่ิ มากข้ึน ซ่ึงเป็นความรู้สกึ ที่
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบูลอปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถมั ภ์ | |115599
ที่ ชอื่ หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
(100)
ใกลเ้ คยี งกบั ความกลวั เป็นอย่างมาก ความ
วติ กกงั วลจะเกิดขน้ึ ในขณะนน้ั ดว้ ย ความ
กังวลมีอิทธิพลต่อการแสดงความสามารถ
ของนกั กฬี ามาก
6 การ ขอ้ 2, 3, 4 เปน็ เทคนิคในการสรา้ งแรงจูงใจท่ี 9 10
ต้งั เป้าหมาย มงุ่ หวังเพ่อื เพ่ิมประสิทธิภาพในการเลน่
กีฬา เพราะเป็นการมุ่งเนน้ ให้เกิดความ
ต้ังใจไปพรอ้ มกบั การเพิ่มระดับของการฝกึ
หรอื การเล่นกีฬา การกำหนดเป้าหมายที่
เหมาะสม ท้าทายและชัดเจน เปน็ ตวั เพ่มิ
ระดับความสามารถในการเล่นกฬี าเป็นตวั
เพิ่มระดบั ความมน่ั ใจเฉพาะอย่างดว้ ย
7 บคุ ลิกภาพ ข้อ 2, 3, 4 นักกีฬามบี คุ ลิกลักษณะสว่ นบุคคล 12 10
ของนกั กฬี า 8 ประการท่ีมคี วามเกีย่ วข้องใกลช้ ิดกบั
ความสามารถของนักกีฬา ได้แก่
- ความมนั่ คงทางอารมณ์
- มจี ิตใจทเ่ี ขม็ แข็งอดทน
- ความมจี ติ สำนึก มีสติสัมปชญั ญะ
- ความมวี นิ ยั ในตนเอง
- มีความมัน่ คงแนแ่ น่วในตนเอง
- มคี วามตึงเครียดตำ่
- มีความนา่ เชือ่ ไวว้ างใจได้
- มีลกั ษณะท่แี สดงออก
สอบปลายภาคเรยี น - 20
รวมตลอดภาคเรียน 60 100
หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพิบูลอปุ ถัมภ์ | |116600
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ าเพิ่มเติม
พ 33204 ความถนัดดา้ นกีฬา 5 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1
เวลาเรียน 80 ชวั่ โมง (4 ช่ัวโมง/สปั ดาห์) จำนวน 2.0 หน่วยกติ
ศึกษาการฝึกทักษะ เห็นคุณค่าของการออกกำลังกายและเล่นกีฬาตามความถนัดเป็นประจำอย่าง
สม่ำเสมอ มีความสามารถในการวางแผนการจดั การแข่งขันกีฬาและใช้ทักษะการเคลื่อนไหวเพื่อประยุกต์ใช้กับ
การเลน่ กีฬา รู้และเขา้ ใจกฎ กตกิ าในการเล่นกีฬา ตดั สินกฬี าไดอ้ ย่างถกู ต้อง
เพื่อให้นักเรียนมที ักษะการเคลือ่ นไหวในการเล่นกีฬา สามารถวางแผนการเล่น ออกแบบแบบฝึก
ตัดสินชนิดกฬี านัน้ ๆ ได้และสามารถวางแผนการจัดการแข่งขันกฬี าไดเ้ ปน็ อย่างดี
เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ถูกต้องและเหมาะสมเกี่ยวกับการเล่นกีฬา ถ่ายทอดความรู้ในกีฬานั้นๆ
มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ ในการศึกษาและนำทักษะกฬี าไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
ผลการเรยี นรู้
1. รแู้ ละเข้าใจประวตั คิ วามเปน็ มา กฎ กตกิ า ววิ ฒั นาการและประโยชน์ของกฬี าแต่ละชนิด
2. มีความสามารถในการเคลอ่ื นไหวเพื่อประยุกตใ์ ช้กบั การเลน่ กีฬา
3. สามารถตัดสินกีฬาได้อย่างถูกต้อง
4. สามารถออกแบบแบบฝกึ และถ่ายทอดความรู้ส่ผู ู้อน่ื ได้
5. สามารถออกแบบและวางแผนการจดั การแขง่ ขนั กีฬาได้อยา่ งเป็นขนั้ ตอน
6. มวี ินยั ตรงต่อเวลาและมมี ารยาทในการออกกำลังกายเพอื่ สขุ ภาพเปน็ อยา่ งดี
7. ร่วมกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬาอยา่ งมคี วามสุข ชน่ื ชมในคุณค่าและความงามของการกฬี า
รวม 7 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพบิ ลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพิบูลอปุ ถัมภ์ | |116611
โครงสร้างรายวชิ า
รหัสวชิ า พ 33204 รายวิชา ความถนดั ด้านกีฬา 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ชัว่ โมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต
สดั ส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ท่ี ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
1. ข้อตกลงในการเรียน (100)
1 กีฬาประเภท ขอ้ 1, 2, 3, 4 2. ประวตั ิความเป็นมากีฬาบาสเกตบอล 30
ทมี 3. ทกั ษะพนื้ ฐานและการสร้าง 20
(บาสเกตบอล) ความค้นุ เคย
- การเลย้ี งลกู
- การจบั ลกู ยิงประตู
4. กฎและกติกา กฬี าบาสเกตบอล
5. แบบฝึกกีฬาบาสเกตบอล
- การเคลื่อนที่
- การเลีย้ งลกู บาสเกตบอล
- การรับ – ส่ง ลกู บาสเกตบอล
6. วธิ ีการตัดสนิ กีฬาบาสเกตบอล
7. การแยกกลมุ่ ฝึกทกั ษะและสรา้ งแบบ
ฝกึ ทกั ษะ
8. การนำเสนอแบบฝกึ ทกั ษะ
9. แผนการเล่นกฬี าบาสเกตบอล
10. วธิ กี ารวางแผนรุก – รับ ในการเลน่
กฬี าบาสเกตบอล
11. การแบ่งกลมุ่ ระดมความคดิ สร้าง
วิธีการ รุก - รับ ในการแข่งขนั
12. การแข่งขนั กฬี าบาสเกตบอล การ
ตัดสินและการวางแผน รุก – รบั ดว้ ย
ตนเอง
13. สรปุ ข้อเสนอแนะ ในการเรยี น
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพบิ ูลอุปถัมภ์ | |116622
ท่ี ช่อื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
(100)
2 กีฬาประเภท ข้อ 1, 2, 3, 4 1. ข้อตกลงในการเรียน 30 20
ทมี 2. ประวตั ิความเปน็ มากฬี าแบดมนิ ตัน
(แบดมินตนั ) 3. ทกั ษะพน้ื ฐานและการสรา้ ง
ความคนุ้ เคย
- การตลี ูก
- การจบั ไม้
- การใชห้ น้าไม้และหลงั ไม้
- การจบั คูฝ่ กึ
4. กฎและกติกา กฬี าแบดมนิ ตนั
- การเล่นคู่
- การเล่นเด่ียว
5. แบบฝึกกีฬาแบดมนิ ตนั
- การเคลื่อนท่ี
- การ 8 ทิศ
- การตบลูก
- การหยอด
6. วธิ ีการตดั สนิ กีฬาแบดมนิ ตัน
7. การแยกกลมุ่ ฝกึ ทกั ษะและสรา้ งแบบ
ฝึกทกั ษะ
8. การนำเสนอแบบฝึกทักษะ
9. แผนการเลน่ กีฬาแบดมินตัน
10. วธิ กี ารวางแผนรุก – รับ ในการเลน่
กฬี าแบดมินตนั
11. การแบง่ กลุม่ ระดมความคิดสร้าง
วธิ ีการ รุก-รับ ในการแข่งขนั
12. การแขง่ ขนั กีฬาแบดมินตัน การ
ตดั สนิ และการวางแผน รกุ – รบั ดว้ ย
ตนเอง
สอบกลางภาคเรยี น - 10
หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพิบลู อุปถัมภ์ | |116633
ท่ี ช่ือหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก
การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
1. ข้อตกลงในการเรียน (100)
3 การจดั การ ข้อ 3, 4, 6, 7 2. ประวัตแิ ละววิ ฒั นาการของกฬี า 20
แขง่ ขนั กฬี าใน 30
โรงเรยี น ฟุตซอล
(ฟุตซอล) 3. กฏและกติกาของกฬี าฟุตซอล
4. การยดื เหยียดกล้ามเนือ้
5. ทกั ษะพนื้ ฐาน
- การเลยี้ งลกู
- การยงิ ประตู
6. แบบฝึกกฬี าฟตุ ซอล
- การเคลอ่ื นที่
- ความสัมพันธ์ในทมี
- การใช้ศรี ษะ
- การใชข้ ้างเทา้
- การใช้หลังเท้า
- การเลน่ เปน็ ทีม
7. แบบฝกึ กฬี าฟตุ ซอล
- ความสมั พนั ธ์ในทมี
- การเคลอ่ื นท่ีหลบหลกี
- การเลีย้ ง + ยิงประตู
8. วธิ ีการตดั สนิ กฬี าฟตุ ซอล
9. แผนการเล่นกฬี าฟุตซอล
10. วธิ กี ารวางแผนรุก – รบั ในการเล่น
กีฬาฟุตซอล
11. การแบ่งกล่มุ ระดมความคิดสรา้ ง
วธิ ีการ รุก-รบั ในการแขง่ ขนั
12. การวางแผนการจดั การแข่งขันฟตุ
ซอลในโรงเรยี น แบ่งหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบ
ในแต่ละกลุม่
13. การแข่งขันกีฬาฟุตซอล การตัดสนิ
และการวางแผน รุก – รบั ดว้ ยตนเอง
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบลู อุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นพบิ ูลอุปถมั ภ์ | |116644
ท่ี ช่ือหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
สอบปลายภาคเรียน (100)
รวมตลอดภาคเรียน -
80 20
100
หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้ โรงเรียนพบิ ลู อุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพบิ ลู อปุ ถมั ภ์ | |116655
คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เตมิ
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา รายวิชาเพ่ิมเตมิ
พ 33205 วทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬา 6 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2
เวลาเรยี น 60 ช่ัวโมง (3 ช่ัวโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศกึ ษาความรแู้ ละความเข้าใจ และอธบิ ายเกีย่ วกับ ความหมาย ความเปน็ มา ของวทิ ยาศาสตร์การกฬี า
ในด้านโภชนาการสำหรับการกีฬา ทั้งในเรื่องของโภชนาการ บทบาท ของสารอาหารที่สำหรับการ
ออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนัก และสำหรับนักกีฬาทั้งขณะฝึกซ้อม และแข่งขัน การประเมินภาวะ
โภชนาการและองค์ประกอบของร่างกาย หลักการนำสารอาหารไปใช้เพื่อเป็นพลังงานในทั้งในการ
ออกกำลังกาย การฝกึ ซอ้ ม และแขง่ ขัน
เพื่อให้นักเรียนมีสามารถวิเคราะห์ภาวะโภชนาการและองค์ประกอบของร่างกาย และหลักการนำ
สารอาหารไปใช้เพอื่ เป็นพลังงานในทัง้ ในการออกกำลังกาย การฝกึ ซอ้ ม และแข่งขนั ได้
เพื่อให้นักเรียนเห็นความสำคัญ มีเจตคติที่ดีและเหมาะสมเกี่ยวกับการนำความรู้ด้านโภชนาการ
สำหรับการกีฬามาใช้เพ่ือพัฒนาสมรรถภาพทางกายต่อไป
ผลการเรยี นรู้
1. มีความรู้และความเข้าใจเกยี่ วกับ ความหมาย ความเปน็ มา ของวิทยาศาสตร์การกีฬาในด้าน
โภชนาการสำหรับการกีฬา
2. อธบิ ายบทบาท ของสารอาหารที่สำหรบั การออกกำลังกายเพอ่ื ควบคมุ น้ำหนัก และสำหรบั นักกฬี าได้
อย่างถูกตอ้ ง
3. สามารถวิเคราะห์ภาวะโภชนาการและองคป์ ระกอบของรา่ งกาย และหลักการนำสารอาหารไปใช้เพ่ือ
เปน็ พลงั งานในทั้งในการออกกำลังกาย การฝกึ ซ้อม และแข่งขันไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
4. เหน็ ความสำคัญของการนำความรูด้ า้ นโภชนาการสำหรับการกีฬามาใช้เพอื่ พัฒนาสมรรถภาพทางกาย
รวม 4 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพิบูลอปุ ถมั ภ์ | |116666
โครงสร้างรายวิชา
รหัสวิชา พ 33205 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์การกีฬา 6 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
สดั สว่ นคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ที่ ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
(100)
1 พนื้ ฐาน ข้อ 1 วิทยาศาสตรก์ ารกีฬา เปน็ ศาสตร์ 6 10
วทิ ยาศาสตร์ แขนงหนง่ึ ทกี่ ลา่ วถึงความร้ทู ไ่ี ด้จากการ
การกีฬา (5) สังเกตและการค้นควา้ จากการประจักษ์
ทางธรรมชาตขิ องการเคลื่อนไหวของ
มนษุ ย์ และปรากฏการตา่ งๆ ในการเลน่
กีฬา แลว้ จดั เข้าเป็นหมวดหมู่ เพอื่ นำไปสู่
การสง่ เสริมสขุ ภาพ การเพมิ่ พนู พฒั นา
สมรรถภาพทางกาย ทักษะการเล่นกีฬา
เพื่อความสนกุ สนานเพลิดเพลิน และการ
แข่งขนั เพ่อื ความเป็นเลศิ ทางการกฬี า
2 โภชนาการ ขอ้ 1 โภชนาการ เป็นวิทยาศาสตร์สาขา 6 10
หนง่ึ ท่ีว่าดว้ ยเร่อื งอาหารและสารอาหาร
การเปลี่ยนแปลงของอาหารหลังจากเข้าสู่
ร่างกาย การกนิ การยอ่ ย การดูดซมึ การ
ขับถา่ ย
3 โภชนาการ ขอ้ 1, 2 สารอาหารท่ีให้พลังงาน จะมี 9 10
กับการกฬี า บทบาทมากตอ่ กิจกรรมการออกกำลังกาย
หรอื การทำงานของรา่ งกาย
สอบกลางภาคเรยี น - 10
12 10
4 การใช้พลังงาน ข้อ 2, 3 มนษุ ยต์ อ้ งการพลังงานจาก
ในร่างกาย สารอาหารคารโ์ บไฮเดรต ไขมนั และ
โปรตนี เพอ่ื การดำรงชวี ิต กระบวนการ
ตา่ งๆ ท่ีเป็นกจิ กรรมของชวี ิต เชน่ การ
เคลื่อนไหว การทำงานของเซลลป์ ระสาท
การหายใจ การสงั เคราะห์โปรตนี หรือ
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพบิ ูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพบิ ลู อปุ ถัมภ์ | |116677
ที่ ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
(100)
เอนไซม์ลว้ นเกีย่ วขอ้ งกบั การใช้พลังงาน
ทัง้ สนิ้
5 อาหาร ก่อน/ ข้อ 2, 3 สมาคมสขุ ศึกษา พลศกึ ษา และ 12 10
หลัง การเล่น นันทนาการแห่งสหรัฐอเมรกิ า (AAHPER)
กีฬา ได้กำหนดปริมาณอาหารของนกั กฬี าท่ี
ควรได้รับในแตล่ ะวนั โดยวดั ปริมาณ
อาหารในรปู แคลอร่ีของคนในช่วงอายุที่
แตกตา่ งกัน
สารอาหารที่นกั กฬี าต้องการ ในแต่
ละชว่ งของการแข่งขัน น้นั กม็ คี วาม
แตกตา่ งกนั ออกไป
6 อาหารกบั ขอ้ 2, 3, 4 การลดปริมาณไขมนั ในร่างกายที่มี 15 20
การควบคุม มากเกินความตอ้ งการลง ในขัน้ เบือ้ งตน้
สัดส่วน จะยึดหลกั การลดอาหาร (ลดแคลอร)่ี ลง
ควบคู่กับการออกกำลังกาย การเปลย่ี น
นสิ ยั การกินการดำเนินวถิ ชี วี ติ ใหม่
สอบปลายภาคเรยี น - 20
รวมตลอดภาคเรยี น 60 100
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบูลอุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพิบลู อปุ ถมั ภ์ | |116688
คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เตมิ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าเพม่ิ เติม
พ 33206 ความถนดั ด้านกฬี า 6 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2
เวลาเรียน 80 ชัว่ โมง (4 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต
ศึกษาการฝึกทักษะ เห็นคุณค่าของการออกกำลังกายและเล่นกีฬาตามความถนัดเป็นประจำอย่าง
สม่ำเสมอ มีความสามารถในกิจกรรมเข้าจังหวะและกีฬาประเภททีมอย่างน้อย 1 ชนิด มีการเคลื่อนไหว
ทถ่ี ูกตอ้ ง สวยงามและถา่ ยทอดความรู้สผู่ ู้อนื่ ได้
เพื่อให้นักเรียนมีทักษะในการเล่นกีฬาประเภททีมและกิจกรรมเข้าจังหวะ สามารถเคลื่อนไหวเข้า
จังหวะได้เป็นอย่างดี ถูกต้องและสวยงาม มีความสามารถในการทำงานเป็นทีมในการเล่นกีฬาประเภททีม
สามารถวางแผนการเล่นไดเ้ ปน็ อย่างดี
เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ถูกต้องและเหมาะสมเกี่ยวกับการเล่นกีฬา ถ่ายทอดความรู้ในกีฬานั้นๆ
มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ ในการศกึ ษาและนำทกั ษะกฬี าไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้เปน็ อยา่ งดี
ผลการเรยี นรู้
1. รู้และเขา้ ใจประวตั ิความเปน็ มา กฎ กติกา ววิ ัฒนาการและประโยชน์ของกฬี าแตล่ ะชนดิ
2. มที ักษะในการทำงานเปน็ ทีม วางแผน กลวธิ ี ในการเลน่ กฬี า
3. สามารถตัดสนิ กีฬาได้อยา่ งถูกตอ้ ง
4. สามารถออกแบบแบบฝกึ และถ่ายทอดความรู้ส่ผู ู้อน่ื ได้
5. สามารถเคลอ่ื นไหวเข้าจงั หวะไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและสง่างาม
6. มีวินยั ตรงตอ่ เวลาและมมี ารยาทในการออกกำลังกายเพอ่ื สขุ ภาพเป็นอย่างดี
7. ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกฬี าอยา่ งมีความสุข ช่ืนชมในคุณค่าและความงามของการกฬี า
รวม 7 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพบิ ูลอุปถัมภ์ | |116699
โครงสร้างรายวิชา
รหสั วชิ า พ 33206 รายวชิ า ความถนดั ด้านกฬี า 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
สดั ส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ท่ี ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
1. การเคล่อื นไหวพ้นื ฐาน (100)
1 การเคลื่อนไหว ข้อ 2, 5, 7 - Walking (วอร์คกง้ิ ) 16
ผสมผสาน - Marching (มาร์ชชิ่ง) 10
- Step Touch (สเตป็ ทัช)
- Heel Touch(ฮีลทชั )
- Side Tap (ไซดแ์ ทบ็ )
- Leg Curl (เลกเคิล)
- Grapevine (เกรปวาย)
- Two Step (ทูสเตป็ )
- E-Zwalk (Easy Walk)
- Box step (บอ๊ กซ์สเต็ป)
- Kick (คกิ )
- Step Knee (สเตป็ นี)
- Cha Cha Cha (ชา่ ช่า ชา่ )
- Membo (แมมโบ้)
- Cha Cha Cha (ช่า ชา่ ช่า)
2. การเคลอ่ื นไหวแบบตอ่ เนือ่ งในท่าทาง
ต่างๆ เชน่ (Grapevine + Walking
+ Leg Curl)
3. การออกแบบการเคล่อื นไหวผสมผสาน
4. การเข้าจงั หวะเพลง
5. การนบั จังหวะเพลง
6. การนำเสนอการออกแบบการ
เคลื่อนไหว
7. ลกั ษณะการเคลื่อนไหว ลลี าศ พ้นื ฐาน
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพิบูลอปุ ถมั ภ์ | |117700
ที่ ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
(100)
- มารยาทในการลลี าศ
- การเคล่อื นไหวพืน้ ฐานในลีลาศ
2 กฬี าและ ข้อ 2, 5, 7 1. การเคลื่อนไหวพื้นฐานจงั หวะบีกนิ 44 40
กิจกรรมเข้า - ทา่ ทางพ้นื ฐาน
จังหวะ - การจับคู่
- การไขวด้ า้ นหน้า ด้านหลัง
- การหมุนตวั
- การฟงั เพลง
- การนับจงั หวะ
2. การเคลอ่ื นไหวพ้นื ฐานจงั หวะชะชะช่า
- ท่าทางพน้ื ฐาน
- การไขว้ด้านหน้า ด้านหลัง
- การหมนุ ตัว
3. การทดสอบลีลาศ จงั หวะ บีกิน และ
ชะชะช่า
4. การเคลอ่ื นไหวพน้ื ฐานจังหวะรุมบ้า
- ท่าทางพน้ื ฐาน
- การจบั คู่
- การหมุนตวั
- การเคลอ่ื นตัว
- การเข้าจงั หวะเพลง
5. การเคลือ่ นไหวพ้นื ฐานจังหวะดสิ โก้
- ทา่ ทางพ้ืนฐาน
- การหมนุ ตวั
- การเคล่อื นตัว
6. การทดสอบลีลาศ จงั หวะ รุมบา้ และ
ดิสโก้
สอบกลางภาคเรียน - 10
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบลู อุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพบิ ลู อุปถมั ภ์ | |117711
ท่ี ชื่อหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100)
4 กฬี าและ ขอ้ 1, 3, 4, 6 1. แบ่งกลมุ่ เลอื กชนดิ กฬี าตามความถนดั 20 20
ความสามารถ ของตนเอง
สว่ นบุคคล 2. การเลือกฝกึ ชนิดกีฬาตามความถนดั
ของตนเอง
3. ภาระงานรายบุคคล ใบงาน เรื่อง กีฬา
ท่ตี นเองชน่ื ชอบ โดยมีหัวขอ้
- สาเหตุท่ีชอบกฬี าชนิดน้นั ๆ
- ประโยชน์ทเี่ ราจะได้จากกฬี า
ชนดิ น้ันๆ
- ประวัตขิ องกฬี าชนดิ นั้นๆ
- การสร้างแบบฝกึ 1 แบบ สำหรบั
กีฬาชนดิ นั้นๆ
- กฎและกติกาของกฬี าชนิดนน้ั ๆ
- อนาคตของตัวเรากบั กีฬาชนดิ
นนั้ ๆ
4. การนำเสนอชนิ้ งาน
5. การฝกึ ทกั ษะขน้ั สูง ในชนดิ กีฬาที่
ตนเองเลอื กและถนดั ทีส่ ุด เชน่ การ
เดาะตะกรอ้ นาน, การยิงประตู
บาสเกตบอล, การกระโดดสงู เป็นต้น
6. การนำเสนอผลการฝกึ ฝนทักษะกีฬาข้นั
สูงตามท่ตี นเองถนัด
สอบปลายภาคเรยี น - 20
รวมตลอดภาคเรยี น 80 100
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนพิบลู อปุ ถัมภ์ | |117722
คำอธิบายรายวิชาเพิม่ เตมิ
กล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเพม่ิ เตมิ
I 30201 การศึกษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1
เวลาเรียน 60 ชัว่ โมง (3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์) จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ ตั้งประเด็น/คำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก การตั้งสมมติฐาน
การค้นคว้า การแสวงหาความรู้ข้อมูล การออกแบบ การวางแผนรวบรวมข้อมูล การใช้กระบวนการกลุ่ม
การวเิ คราะหข์ อ้ มูลโดยใช้คา่ สถิติ การสังเคราะห์ การสรปุ องค์ความและการเสนอวธิ ีคดิ แก้ปญั หาทีเ่ ปน็ ระบบ
ฝึกทักษะตั้งประเด็นปัญหา/ตง้ั คำถามเกย่ี วกบั สถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก ต้ังสมมติฐาน และให้
เหตผุ ลทส่ี นับสนุนหรอื โต้แยง้ ประเดน็ ความรู้ โดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่างๆ และมที ฤษฎีรองรับ ค้นคว้า
แสวงหาความรู้เกี่ยวกับสมมติฐานที่ตัง้ ไว้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งปฐมภูมิและทุติยภูมิ ออกแบบวางแผนรวบรวม
ข้อมูลและสารสนเทศ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่เหมาะสม สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้และร่วมกันเสนอ
แนวคิด วธิ ีการแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ ดว้ ยกระบวนการคดิ กระบวนการสบื ค้นขอ้ มูล กระบวนการแก้ปญั หา
กระบวนการปฏิบตั ิและกระบวนการกลุม่ ในการวพิ ากษ์
เพื่อให้เกิดทักษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ สังเคราะห์สรุป อภิปรายผลเปรียบเทียบเชื่อมโยง
ความรู้ ความเป็นมาของศาสตร์ หลักการและวิธีคิดในสิ่งที่ศึกษา และมีทักษะในการนำเสนอผลการศึกษา
ค้นคว้าในรปู แบบการเขยี นรายงานและอ้างอิงแหล่งทีม่ าของข้อมูลที่นา่ เชือ่ ถือ นำองค์ความรู้ไปแก้ปัญหาได้
อยา่ งเปน็ ระบบ เห็นประโยชน์และคณุ ค่าของการศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. ต้ังประเดน็ ปัญหา จากสถานการณ์ปจั จุบันและสังคมโลก
2. ตง้ั สมมติฐานและให้เหตุผลทสี่ นับสนุนหรือโต้แย้งประเด็นความรู้โดยใชค้ วามรู้จากสาขาวชิ าตา่ ง ๆ
และมีทฤษฎีรองรับ
3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. ศึกษา คน้ ควา้ แสวงหาความรเู้ กี่ยวกบั ประเด็นทเ่ี ลือก จากแหลง่ เรยี นรู้ทม่ี ีประสิทธภิ าพ
5. ตรวจสอบความน่าเชอื่ ถือของแหลง่ ที่มาของข้อมูล
6. วเิ คราะห์ขอ้ ค้นพบดว้ ยสถิติทเี่ หมาะสม
7. สงั เคราะห์สรปุ องค์ความร้ดู ้วยกระบวนการกล่มุ
8. เสนอแนวคดิ การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบด้วยองคค์ วามร้จู ากการค้นพบแผนการทางานของนกั เรยี น
รวม 8 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพบิ ูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพิบลู อุปถัมภ์ | |117733
โครงสร้างรายวชิ า จำนวน 1.5 หน่วยกติ
รหสั วชิ า I 30201 รายวชิ า การศึกษาค้นควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ 1
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง
สดั สว่ นคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ท่ี ชื่อหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
(100)
1 จดุ ประเดน็ ขอ้ 1, 2, 3 - การตัง้ ประเด็นคำถามเกีย่ วกบั 9 10
คำถาม สถานการณ์ปัจจุบนั และสังคมโลก
- การตัง้ สมมตฐิ านและใหเ้ หตุผล
โดยใชค้ วามร้จู ากศาสตร์สาขาตา่ งๆ
- การออกแบบการเรียนรู้โดยมี
ทฤษฎีรองรบั
2 คน้ คว้าความ ข้อ 4, 5 - การคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ 15 20
จรงิ เก่ยี วกบั สมมตฐิ านจากแหลง่ ปฐมภมู ิ ทุติย
ภูมิ และสารสนเทศ
3 ปรารถนา ข้อ 5, 6 - ตรวจสอบความน่าเช่ือถอื ของ 15 20
คำตอบ แหลง่ ทีม่ าของข้อมลู
- วเิ คราะห์ ความนา่ เชื่อถอื ของ
แหลง่ เรียนรู้
สอบกลางภาคเรียน - 10
21 20
4 สรุป ข้อ 7, 8 - เปรียบเทยี บ/เชอ่ื มโยง/สรุป
องค์ประกอบ องค์ความรู้ดว้ ยกระบวนการ อยา่ งเปน็
ระบบ
สอบปลายภาคเรยี น - 20
รวมตลอดภาคเรียน 60 100
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพบิ ูลอปุ ถัมภ์ | |117744
คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ าเพ่มิ เตมิ
I 30202 การศกึ ษาค้นคว้าและสรา้ งองค์ความรู้ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2
เวลาเรียน 60 ช่ัวโมง (3 ช่ัวโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ตั้งประเด็น/คำถามภายใต้ขอบเขตการเรียนทางพลศึกษา การออกกำลังกาย และ
วิทยาศาสตร์การกีฬา การตั้งสมมติฐาน การค้นคว้า การแสวงหาความรู้ข้อมูล การออกแบบ การวางแผน
รวบรวมข้อมูล การใช้กระบวนการกลุม่ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ การสังเคราะห์ การสรุปองค์ความ
และการเสนอวิธีคดิ แกป้ ญั หาที่เป็นระบบ
ฝกึ ทกั ษะต้ังประเดน็ ปัญหา/ตัง้ คำถามภายใต้ขอบเขตการเรียนทางพลศกึ ษา การออกกำลงั กาย และ
วิทยาศาสตรก์ ารกฬี า การตง้ั สมมตฐิ านและให้เหตุผลที่สนบั สนุนหรือโต้แยง้ ประเดน็ ความรู้ โดยใช้ความรู้จาก
ศาสตร์สาขาต่างๆ และมีทฤษฎีรองรับ ค้นคว้าแสวงหาความรู้เกี่ยวกับสมมติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่งเรียนรู้ทัง้
ปฐมภูมิและทุตยิ ภูมิ ออกแบบวางแผนรวบรวมขอ้ มูลและสารสนเทศ วเิ คราะหข์ ้อมูลโดยใช้วธิ ีการท่ีเหมาะสม
สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้และร่วมกันเสนอแนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ด้วยกระบวนการคิด
กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มลู กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการปฏบิ ัติและกระบวนการกล่มุ ในการวิพากษ์
เพื่อให้เกิดทักษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ สังเคราะห์สรุป อภิปรายผลเปรียบเทียบเชื่อมโยง
ความรู้ ความเป็นมาของศาสตร์ หลักการและวิธีคิดในสิ่งที่ศึกษา และมีทักษะในการนำเสนอผลการศึกษา
ค้นคว้าในรปู แบบการเขียนรายงานและอ้างอิงแหลง่ ที่มาของข้อมลู ที่น่าเช่ือถือ นำองค์ความรู้ไปแก้ปัญหาได้
อยา่ งเป็นระบบ เหน็ ประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. ต้งั ประเด็นปัญหา ภายใต้ขอบเขตการเรียนทางพลศึกษา การออกกำลงั กาย และวทิ ยาศาสตร์การ
กฬี า
2. ตั้งสมมตฐิ านและให้เหตุผลทส่ี นบั สนุนหรือโต้แย้งประเดน็ ความรโู้ ดยใชค้ วามรู้จากสาขาวชิ าตา่ ง ๆ
และมีทฤษฎรี องรับ
3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ศึกษา คน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั ประเดน็ ทเี่ ลอื ก จากแหล่งเรยี นรู้ทีม่ ปี ระสิทธิภาพ
5. ตรวจสอบความนา่ เช่อื ถอื ของแหล่งท่มี าของขอ้ มูล
6. วเิ คราะหข์ ้อคน้ พบด้วยสถิตทิ ่ีเหมาะสม
7. สังเคราะห์สรปุ องคค์ วามร้ดู ้วยกระบวนการกลุ่ม
8. เสนอแนวคดิ การแก้ปญั หาอย่างเป็นระบบดว้ ยองค์ความรู้จากการค้นพบแผนการทางานของนกั เรยี น
รวม 8 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพบิ ูลอปุ ถมั ภ์ | |117755
โครงสร้างรายวิชา จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
รหสั วิชา I 30202 รายวชิ า การศึกษาคน้ คว้าและสร้างองคค์ วามรู้ 2
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่วั โมง
สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ที่ ชื่อหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100)
1 จดุ ประเด็น ขอ้ 1, 2, 3 - การตัง้ ประเดน็ คำถามภายใต้ 9 10
คำถาม ขอบเขตการเรียนทางพลศึกษา การออก
กำลงั กาย และวิทยาศาสตรก์ ารกีฬา
- การตงั้ สมมติฐานและให้เหตุผล
โดยใชค้ วามรจู้ ากศาสตร์สาขาตา่ งๆ
- การออกแบบการเรียนรโู้ ดยมี
ทฤษฎรี องรบั
2 คน้ คว้าความ ข้อ 4, 5 - การค้นคว้าแสวงหาความรู้ 15 20
จรงิ เกยี่ วกบั สมมตฐิ านจากแหลง่ ปฐมภมู ิ ทุติย
ภมู ิ และสารสนเทศ
3 ปรารถนา ข้อ 5, 6 - ตรวจสอบความนา่ เชอื่ ถือของ 15 20
คำตอบ แหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล
- วเิ คราะห์ ความน่าเชือ่ ถือของ
แหล่งเรียนรู้
สอบกลางภาคเรียน - 10
21 20
4 สรปุ ข้อ 7, 8 - เปรียบเทียบ/เช่อื มโยง/สรุป
องค์ประกอบ องค์ความรู้ดว้ ยกระบวนการ อย่างเปน็
ระบบ
สอบปลายภาคเรยี น - 20
รวมตลอดภาคเรียน 60 100
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพบิ ลู อุปถมั ภ์ | |117766
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ าเพม่ิ เติม
I 30203 การส่อื สารและการนำเสนอ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1
เวลาเรียน 60 ชวั่ โมง (3 ชั่วโมง/สปั ดาห์) จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
ศึกษา เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์จากรายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้าง
องค์ความรู้ 1 เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก โดยเขียนโครงรา่ ง บทนา เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของ
รายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทยความยาว จำนวน 4,000 คำ หรือ เป็นภาษาอังกฤษ
ความยาว 2,000 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่างหลากหลายเชื่อถือได้ ทั้งในประเทศและ
ต่างประเทศ เรียบเรียงและถ่ายทอดสื่อสาร นำเสนอความคดิ อย่างชัดเจน เป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบ
เดีย่ ว (Oral individual) หรือกลมุ่ (Oral panel presentation) โดยใชส้ อ่ื เทคโนโลยีทหี่ ลากหลาย และมีการ
เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มี
ประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์แก่
สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
1. วางโครงรา่ งการเขียนตามหลกั เกณฑ์ องคป์ ระกอบและวิธกี ารเขียนโครงร่าง
2. เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้าเชิงวิชาการเปน็ ภาษาไทยความยาว 4,000 คำ หรอื ภาษาองั กฤษ
ความยาว 2,500 คำ ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสทิ ธิภาพ
3. นำเสนอข้อคน้ พบ ข้อสรปุ จากประเดน็ ท่ีเลือกในรูปแบบเด่ียว (Oral individual presentation) หรอื
กลุม่ (Oral panel presentation) โดยใช้สือ่ เทคโนโลยที หี่ ลากหลาย
4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ โดยใช้การสนทนา / วิพากษผ์ ่านส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เชน่ e-conference,
social media online
5. เหน็ ประโยชนแ์ ละคุณค่าการสรา้ งสรรคง์ านและถ่ายทอดสิง่ ที่เรยี นรใู้ หเ้ ปน็ ประโยชน์
รวม 5 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพบิ ลู อุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพบิ ูลอปุ ถัมภ์ | |117777
โครงสร้างรายวชิ า จำนวน 1.5 หน่วยกิต
รหสั วิชา I 30203 รายวชิ า การส่อื สารและการนำเสนอ 1
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชัว่ โมง
สัดสว่ นคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ที่ ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100)
1 การเขยี น ข้อ 1 การฝกึ เขยี นโครงร่างรายงาน 8 10
โครงรา่ ง เชิงวิชาการซงึ่ มีองค์ประกอบดว้ ยชอื่ เรอ่ื ง
ความนำ วตั ถปุ ระสงค์ สมมตุ ิฐาน
ขอบเขตการศกึ ษา เน้อื หา วิธีการศึกษา
และการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เป็นการวาง
แผนการเขยี นรายงานเชงิ วิชาการอย่าง
เป็นระบบ และการตรวจสอบทง้ั ด้วย
ตนเอง และเพอื่ นชว่ ยตรวจสอบโดยใช้
สญั ลกั ษณ์ในการตรวจสอบช่วยให้รายงาน
เชงิ วิชาการนั้นถกู ต้องแมน่ ยำและสมบูรณ์
ย่งิ ขนึ้
2 การเขยี น ข้อ 2 การถา่ ยโอนองคค์ วามรู้จาก 28 20
รายงานผล การศกึ ษา ค้นคว้า และข้อค้นพบโดยการ
รายงานที่ใชร้ ปู แบบการเขียนรายงานเชงิ
วชิ าการได้ครบองคป์ ระกอบและถูกต้อง
ตามหลักวิชาการเปน็ การสื่อสารทม่ี ี
ประสทิ ธภิ าพ
3 การนำเสนอ ข้อ 3 การนำเสนอผลงานจากการศึกษา 20 20
ค้นคว้า ขอ้ ค้นพบโดยมกี ารเตรียมความ
พรอ้ มของผูน้ ำเสนอ การเลือกรปู แบบ
ประเภทสือ่ ประกอบการนำเสนอให้
เหมาะสม และสอดคล้องกบั ตามความ
ตอ้ งการ ความสนใจ ความชื่นชอบของ
ผฟู้ งั ช่วยใหก้ ารเผยแพรผ่ ลงานไดอ้ ย่างมี
ประสทิ ธิผล
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรยี นพิบูลอุปถมั ภ์ | |117788
ท่ี ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100)
สอบกลางภาคเรยี น -
4 10
4 ฝึกถา่ ยทอด ขอ้ 4, 5 การเผยแพร่ผลงานการเขียน 20
ความรู้ รายงานการค้นคว้าดว้ ยการจดั
นทิ รรศการ/เผยแพร่ด้วยวิธีการที่
หลากหลาย
สอบปลายภาคเรยี น - 20
60 100
รวมตลอดภาคเรยี น
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพิบูลอปุ ถมั ภ์ | |117799
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวชิ าเพ่ิมเตมิ
I 30204 การสอ่ื สารและการนำเสนอ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2
เวลาเรยี น 60 ช่วั โมง (3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์) จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศึกษา เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์จากรายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้าง
องค์ความรู้ 2 ภายใต้ขอบเขตการเรียนทางพลศึกษา การออกกำลังกาย และวิทยาศาสตร์การกฬี า โดยเขียน
โครงร่าง บทนา เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทยความยาว
จำนวน 4,000 คำ หรือ เป็นภาษาอังกฤษ ความยาว 2,000 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่าง
หลากหลายเชื่อถือได้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียบเรียงและถา่ ยทอดสือ่ สารนำเสนอความคิดอย่าง
ชัดเจน เป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation)
โดยใชส้ ื่อเทคโนโลยีทห่ี ลากหลาย และมกี ารเผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะ เพอื่ ให้เกิดทักษะ ในการเขียนรายงาน
เชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและ
ถ่ายทอดส่ิงทีเ่ รียนรู้ให้เปน็ ประโยชนแ์ ก่สาธารณะ
ผลการเรยี นรู้
1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องคป์ ระกอบและวธิ ีการเขียนโครงรา่ ง
2. เขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้าเชงิ วิชาการเปน็ ภาษาไทยความยาว 4,000 คำ หรอื ภาษาอังกฤษ
ความยาว 2,500 คำ ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
3. นำเสนอขอ้ ค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นทเ่ี ลือกในรูปแบบเด่ยี ว (Oral individual presentation) หรือ
กลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สือ่ เทคโนโลยีทห่ี ลากหลาย
4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ โดยใช้การสนทนา/วพิ ากษ์ผ่านส่อื อิเล็กทรอนิกส์ เช่น e-conference,
social media online
5. เหน็ ประโยชนแ์ ละคุณคา่ การสร้างสรรคง์ านและถ่ายทอดส่ิงท่ีเรียนรู้ให้เปน็ ประโยชน์
รวม 5 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนพิบลู อปุ ถมั ภ์ | |118800
โครงสร้างรายวชิ า จำนวน 1.5 หน่วยกติ
รหสั วิชา I 30204 รายวชิ า การสอื่ สารและการนำเสนอ 2
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชัว่ โมง
สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ท่ี ชื่อหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
การฝกึ เขียนโครงร่างรายงาน (100)
1 การเขียนโครง ข้อ 1 เชิงวชิ าการซ่งึ มีองคป์ ระกอบด้วยช่ือเรื่อง 8
รา่ ง ความนำ วัตถปุ ระสงค์ สมมตุ ิฐาน 10
ขอบเขตการศึกษา เน้อื หา วธิ ีการศึกษา 28
2 การเขยี น ข้อ 2 และการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เปน็ การวาง 20
รายงานผล แผนการเขยี นรายงานเชงิ วิชาการอย่าง 20
เปน็ ระบบ และการตรวจสอบทงั้ ด้วย 20
3 การนำเสนอ ข้อ 3 ตนเอง และเพือ่ นชว่ ยตรวจสอบโดยใช้
สญั ลกั ษณ์ในการตรวจสอบช่วยใหร้ ายงาน
เชงิ วชิ าการน้ันถกู ต้องแมน่ ยำและสมบูรณ์
ยง่ิ ขึน้
การถ่ายโอนองคค์ วามรู้จาก
การศกึ ษา ค้นควา้ และข้อค้นพบโดยการ
รายงานทใ่ี ชร้ ูปแบบการเขยี นรายงานเชงิ
วิชาการไดค้ รบองคป์ ระกอบและถูกตอ้ ง
ตามหลกั วชิ าการเป็นการสือ่ สารทม่ี ี
ประสิทธภิ าพ
การนำเสนอผลงานจากการศึกษา
ค้นควา้ ข้อคน้ พบโดยมกี ารเตรียมความ
พรอ้ มของผนู้ ำเสนอ การเลือกรปู แบบ
ประเภทส่ือประกอบการนำเสนอให้
เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั ตามความ
ตอ้ งการ ความสนใจ ความชื่นชอบ ของ
ผู้ฟงั ช่วยใหก้ ารเผยแพรผ่ ลงานไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิผล
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพบิ ูลอปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรยี นพิบูลอปุ ถมั ภ์ | |118811
ที่ ช่อื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
(100)
สอบกลางภาคเรยี น - 10
4 20
4 ฝึกถา่ ยทอด ข้อ 4, 5 การเผยแพร่ผลงานการเขยี น
ความรู้ รายงานการค้นคว้าด้วยการจดั
นิทรรศการ/เผยแพรด่ ้วยวิธกี ารทหี่ ลาก
หลาย
สอบปลายภาคเรียน - 20
รวมตลอดภาคเรียน 60 100
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพบิ ูลอุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถมั ภ์ | |118822
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าเพิม่ เติม
I 30205 การนำองคค์ วามร้ไู ปใช้บริการสงั คม 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1
เวลาเรียน 60 ชว่ั โมง (3 ช่ัวโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อการ
เปลี่ยนแปลงในเชิงลึกทั้งด้านพื้นฐานความคิด ความรู้สึกและการกระทาที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
การเชื่อมโยงประสานสมั พันธ์ ความเสมอภาค ความเข้าใจกันในระหวา่ งมนุษย์ โดยมุ่งเน้นการศึกษาภายใต้
ขอบเขตการเรยี นทางพลศึกษา การออกกำลงั กาย และวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อให้ผู้เรยี นมีความตระหนักรู้
ในตนเอง และเชื่อมโยงในระดับท้องถิ่น โดยการวิเคราะห์ข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่ องค์ความรู้ใหม่
ที่เป็นความจริงใกล้ตัวของผู้เรียน เลือกนำประเด็น / เรื่องราวที่สัมพันธ์กับขอบเขตการเรียนรู้ กระตุ้นให้
เชื่อมโยงเหตุการณ์ในระดับท้องถิ่น และอภิปราย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ดังกล่าวโดยจัดเป็นกิจกรรม โครงการ หรือโครงงาน
ผลการเรียนรู้
1. วางแผน การจัดเปน็ กจิ กรรม โครงการ หรอื โครงงาน เพื่อการบริการสงั คม โดยมุง่ เน้นการศึกษา
ภายใตข้ อบเขตการเรยี นทางพลศกึ ษา การออกกำลงั กาย และวิทยาศาสตรก์ ารกฬี า
2. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิง่ ท่ีเรยี นรู้ใหเ้ ป็นประโยชน์
รวม 2 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นพบิ ูลอุปถัมภ์ | |118833
โครงสรา้ งรายวิชา
รหสั วิชา I 30205 รายวิชา การนำความรู้ไปใชบ้ ริการสงั คม 1
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
สดั สว่ นคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ที่ ช่ือหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
(100)
1 วางแผนสรา้ ง ข้อ 1 - วางแผนการทำกจิ กรรมเพื่อนำ 18 20
งาน ความรไู้ ปสร้างประโยชนต์ ่อโรงเรียนและ
ชุมชน
- วเิ คราะหอ์ งค์ความร้เู พื่อกำหนด
แนวทางการนำไปประยกุ ต์ ใชใ้ หเ้ กดิ
ประโยชนต์ ่อโรงเรยี นและชมุ ชน
- จดั ทำปฏิทนิ การทำงาน
2 สรา้ งสรรค์ ข้อ 2 - ปฏบิ ัตงิ านตามปฏิทินท่ีกำหนด 24 30
งานคุณภาพ - จดั ทำสื่อเพือ่ เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้
ในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ นทิ รรศการ การจัด
ทำเวบ็ ไซต์ และจัดทำ Facebook
Fanpage เป็นต้น
สอบกลางภาคเรยี น - 10
12 20
3 วางแผน ข้อ 1, 2 - สรปุ ผลการสร้างสรรค์ผลงาน
กจิ กรรม กอ่ นนำไปเผยแพร่
- จัดทำปฏิทินกิจกรรม
สอบปลายภาคเรียน - 20
รวมตลอดภาคเรียน 60 100
หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบูลอุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพิบูลอุปถมั ภ์ | |118844
คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ าเพ่ิมเติม
I 30206 การนำองค์ความรูไ้ ปใช้บรกิ ารสงั คม 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 2
เวลาเรียน 60 ชัว่ โมง (3 ช่ัวโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
การจัดกิจกรรมการนำองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อการ
เปลี่ยนแปลงในเชิงลึกทั้งด้านพื้นฐานความคิด ความรู้สึกและการกระทาที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
การเชื่อมโยงประสานสัมพันธ์ ความเสมอภาค ความเข้าใจกันในระหว่างมนุษย์ โดยมุ่งเน้นการศึกษาภายใต้
ขอบเขตการเรยี นทางพลศึกษา การออกกำลงั กาย และวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อให้ผู้เรยี นมีความตระหนักรู้
ในตนเอง และเชื่อมโยงในระดับท้องถิ่น โดยการวิเคราะห์ข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่ องค์ความรู้ใหม่
ที่เป็นความจริงใกล้ตัวของผู้เรียน เลือกนำประเด็น/เรื่องราวที่สัมพันธ์กับขอบเขตการเรียนรู้ กระตุ้นให้
เชื่อมโยงเหตุการณ์ในระดับท้องถิ่น และอภิปราย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ดงั กล่าวโดยจดั เปน็ กิจกรรม โครงการ หรอื โครงงาน
ผลการเรยี นรู้
1. ดำเนนิ การจดั เปน็ กิจกรรม โครงการ หรอื โครงงาน เพือ่ การบรกิ ารสงั คม โดยมุง่ เนน้ การศกึ ษาภายใต้
ขอบเขตการเรยี นทางพลศกึ ษา การออกกำลงั กาย และวทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬา ตามแผนงานที่วางไว้
2. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าการสรา้ งสรรคง์ านและถ่ายทอดส่งิ ท่ีเรียนรใู้ ห้เปน็ ประโยชน์
รวม 2 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบูลอปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถมั ภ์ | |118855
โครงสรา้ งรายวิชา
รหสั วิชา I 30206 รายวิชา การนำความร้ไู ปใช้บรกิ ารสงั คม 2
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
สดั สว่ นคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20
ท่ี ชื่อหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
(100)
1 เผยความรู้สู่ ขอ้ 1 เผยแพร่องค์ความรู้ ในรปู แบบ 24 30
สาธารณะ ตา่ งๆ เชน่ นิทรรศการ การจัดทำเว็บไซต์
และจดั ทำ Facebook Fanpage เปน็ ต้น
ตามแผนทวี่ างไว้
2 แลกเปลี่ยน ข้อ 2 สรปุ ผลการดำเนนิ กิจกรรมเผยแพร่ 12 20
เรยี นรู้ ความรู้ ด้วยการบนั ทึก และสะทอ้ นความ
คดิ เหน็ ของตน สมาชิกภายในกลุ่ม ครู
และผู้ท่ีได้รับการถา่ ยทอดความรู้
สอบกลางภาคเรียน - 10
24 20
4 การรายงานผล ข้อ 1, 2 การเขยี นรายงานสรปุ ผลการ
ดำเนนิ กิจกรรมเผยแพรค่ วามรู้ ให้เป็น
รปู เลม่
สอบปลายภาคเรียน - 20
รวมตลอดภาคเรียน 60 100
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพบิ ลู อุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนพบิ ลู อปุ ถัมภ์ | |118866
สือ่ /แหล่งเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ได้จัดทำสื่อและจัดให้มีแหล่งเรียนรู้ ตามหลักการและ
นโยบายของการจัดการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ดังนี้
สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มี
หลากหลายประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรียนรู้ตา่ งๆ ที่มีในท้องถ่นิ
การเลือกใช้สื่อควรเลือกใหม้ ีความเหมาะสมกบั ระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลายของผู้เรยี น
การจัดหาส่อื การเรียนรู้ ผเู้ รียนและผู้สอนสามารถจดั ทำและพฒั นาขนึ้ เอง หรือปรับปรงุ เลอื กใชอ้ ย่างมีคุณภาพ
จากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพ่ือนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรยี นรู้ทีส่ ามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียน
เกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง
สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ควรดำเนินการ
ดังนี้
1. จัดให้มีแหล่งการเรยี นรู้ ศูนยส์ ื่อการเรยี นรู้ ระบบสารสนเทศการเรยี นรู้ และเครอื ขา่ ยการเรียนรู้ที่
มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การ
เรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษา ท้องถน่ิ ชมุ ชน สงั คมโลก
2. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผูเ้ รียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมท้ัง
จัดหาสงิ่ ทีม่ อี ยใู่ นท้องถิน่ มาประยุกต์ใช้เป็นสอ่ื การเรียนรู้
3. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการ
เรียนรู้ ธรรมชาตขิ องสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลของผูเ้ รียน
4. ประเมินคุณภาพของส่ือการเรียนรู้ทเ่ี ลอื กใชอ้ ย่างเป็นระบบ
5. ศกึ ษาค้นคว้า วิจัย เพ่ือพฒั นาสือ่ การเรียนรใู้ ห้สอดคลอ้ งกับกระบวนการเรยี นรูข้ องผู้เรียน
6. จัดใหม้ กี ารกำกับ ตดิ ตาม ประเมนิ คณุ ภาพและประสทิ ธิภาพเก่ยี วกับสอื่ และการใช้ส่ือการเรียนรู้
เป็นระยะๆ และสมำ่ เสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษาควรคำนึงถึง
หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ
กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคง
ของชาติ ไม่ขดั ตอ่ ศีลธรรม มกี ารใชภ้ าษาทีถ่ กู ต้อง รูปแบบการนำเสนอท่ีเขา้ ใจงา่ ย และน่าสนใจ
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนพบิ ลู อุปถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพบิ ูลอปุ ถมั ภ์ | |118877
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ คะแนน
(80)
กลุม่ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 70
1. อัตราสว่ นคะแนน (ระดบั ประถมศกึ ษา) 10
(20)
คะแนนระหว่างปกี ารศึกษา : สอบปลายปกี ารศกึ ษา = 80 : 20 100
รายการวัด
➢ ระหว่างภาค
มกี ารวดั และประเมนิ ผล ดงั น้ี
1. คะแนนระหว่างปกี ารศกึ ษา
1.1วดั โดยใช้แบบทดสอบ
1.2วดั ทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลอื กวัดตามแผนการจดั การเรยี นรู้)
1.2.1 ภาระงานที่มอบหมาย
- การทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทกั ษะ
- การศกึ ษาคน้ คว้าทางสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
- การรว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
1.2.2 แฟ้มสะสมงานสุขศกึ ษาและพลศึกษา
1.2.3 การเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางพลศกึ ษา และการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
1.2.4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1.3 วัดคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ และเจตคติทด่ี ีตอ่ วิชาสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
- รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
- ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต
- มีวนิ ยั
- ใฝ่เรยี นรู้
- อยู่อย่างพอเพียง
- ม่งุ มั่นในการทำงาน
- รกั ความเปน็ ไทย
- มีจิตสาธารณะ
2. คะแนนสอบกลางปีการศกึ ษา
มกี ารวัดและประเมนิ ผลโดยใชแ้ บบทดสอบ
➢ คะแนนสอบปลายปีการศึกษา
มกี ารวัดและประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ
รวมทัง้ ภาคเรยี น
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพิบลู อุปถมั ภ์ | |118888
2. อัตราสว่ นคะแนน (ระดบั มธั ยมศกึ ษา) คะแนน
คะแนนระหวา่ งภาคเรียน : สอบปลายภาคเรียน = 80 : 20 (80)
70
รายการวดั
10
➢ ระหว่างภาค (20)
มกี ารวัดและประเมินผล ดงั นี้ 100
1. คะแนนระหวา่ งภาคเรียน
1.1 วัดโดยใช้แบบทดสอบ
1.2 วดั ทกั ษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลือกวัดตามแผนการจัดการเรยี นรู้)
1.2.1 ภาระงานท่ีมอบหมาย
- การทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝกึ ทกั ษะ
- การศึกษาคน้ คว้าทางสุขศึกษาและพลศึกษา
- การรว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
1.2.2 แฟม้ สะสมงานสขุ ศึกษาและพลศึกษา
1.2.3 การเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางพลศกึ ษา และการทดสอบสมรรถภาพ
ทางกาย
1.2.4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1.3 วัดคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และเจตคติท่ีดีต่อวิชาสุขศกึ ษาและพลศึกษา
- รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
- ซื่อสัตยส์ ุจริต
- มวี นิ ยั
- ใฝเ่ รียนรู้
- อยู่อย่างพอเพียง
- มุง่ มั่นในการทำงาน
- รกั ความเปน็ ไทย
- มีจติ สาธารณะ
2. คะแนนสอบกลางภาคเรียน
มีการวัดและประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ
➢ คะแนนสอบปลายภาคเรยี น
มกี ารวดั และประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ
รวมทง้ั ภาคเรยี น
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพิบลู อุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนพิบลู อปุ ถมั ภ์ | |118899
3. เกณฑ์การวัดผลประเมินผล
1. การวดั และประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ
กำหนดเกณฑ์การให้คะแนนแตล่ ะแบบทดสอบ ดังน้ี
1.1 เกณฑใ์ หค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเลอื กตอบ พจิ ารณาจากความถกู ผิดของการเลือกตอบ
ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผิดให้ 0 คะแนน
1.2 เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบถูกผดิ พิจารณาจากความถกู ผิดของคำตอบ
ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผิดให้ 0 คะแนน
1.3 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบจับคู่ พิจารณาจากความถกู ผดิ ของการจับคู่
จับคถู่ ูกให้ 1 คะแนน จับคูผ่ ิดให้ 0 คะแนน
1.4 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบเปรียบเทียบ พิจารณาจากความถูกผดิ ของการเปรียบเทยี บ
เปรยี บเทียบถูกให้ 1 คะแนน เปรยี บเทยี บผิดให้ 0 คะแนน
1.5 เกณฑใ์ หค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเตมิ คำ พิจารณาจากความถูกผิดของคำตอบ
ตอบถกู ให้ 1 คะแนน ตอบผิดให้ 0 คะแนน
1.6 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบเขียนตอบ พจิ ารณาจากคำตอบในภาพรวมทัง้ หมด
โดยกำหนดระดบั คะแนนเป็น 4 ระดับ ดงั น้ี
ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
4 ตอบไดถ้ กู ตอ้ ง และสามารถอธิบายเหตผุ ลไดอ้ ยา่ งชดั เจน พร้อมทงั้ แสดงแนวคิดเชงิ เปรียบเทยี บ
3 ตอบได้ถกู ตอ้ ง และสามารถอธบิ ายเหตผุ ลไดอ้ ย่างชัดเจน
2 ตอบได้ถูกตอ้ ง และสามารถอธบิ ายเหตุผลไดเ้ ปน็ บางสว่ น แตย่ ังไม่อยา่ งชัดเจน
1 ตอบไดถ้ กู ต้อง แต่ไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้
0 ตอบไดถ้ กู ตอ้ ง และไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้
1.7 เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบตอ่ เนอ่ื ง
1.7.1 เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนื่องทก่ี ำหนดสถานการณ์
พิจารณาจากความถูกผิดของคำตอบ ตอบถกู ให้ 1 คะแนน ตอบผิดให้ 0 คะแนน
1.7.2 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบต่อเน่ืองสองข้ันตอน
โดยกำหนดระดบั คะแนนเปน็ 3 ระดบั ดงั นี้
ระดับคะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
2 เลอื กคำตอบและบอกเหตผุ ลประกอบถกู ตอ้ ง
1 เลือกคำตอบถกู ตอ้ ง แต่บอกเหตุผลประกอบไม่ถกู ตอ้ ง หรอื เลอื กคำตอบไม่ถกู ตอ้ ง
แต่บอกเหตุผลประกอบได้สอดคล้องกบั คำตอบที่เลือก
0 เลือกคำตอบและบอกเหตุผลประกอบไมถ่ กู ตอ้ ง
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพบิ ลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพบิ ูลอุปถัมภ์ | |119900
1.8 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบแสดงวธิ ีทำ โดยกำหนดระดบั คะแนนเปน็ 4 ระดบั ดังน้ี
ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
4 คำตอบถูกตอ้ งและแสดงวธิ ีทำทม่ี ีประสทิ ธิภาพโดยแสดงถงึ การคิดอยา่ งเป็นระบบ
และการคิดวเิ คราะห์
3 คำตอบถูกต้องและแสดงวธิ ที ำถูกตอ้ งสมบูรณ์
2 คำตอบถูกต้อง แต่แสดงวิธที ำถูกตอ้ ง
1 คำตอบถกู ตอ้ ง มีการแสดงแสดงวิธีทำ แต่ยงั ไม่สมบูรณ์
0 คำตอบไม่ถกู ต้อง และแสดงวธิ ีทำไมถ่ กู ต้อง
2. การวดั และประเมินผลด้านทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ
2.1 ภาระงานท่มี อบหมาย ดังน้ี
- ใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทักษะ
กำหนดเกณฑ์การประเมินผลของการทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทักษะ เป็น 4 ระดับ ดังนี้
ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา
4 - ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะครบถ้วนและเสร็จตามกำหนดเวลา
- ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทักษะไดถ้ กู ต้อง
(ดมี าก) - แสดงลำดับขัน้ ตอนของการทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทกั ษะชัดเจนเหมาะสม
- ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทกั ษะครบถว้ นและเสร็จตามกำหนดเวลา
3 - ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะไดถ้ ูกตอ้ ง
(ด)ี - สลบั ขั้นตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทกั ษะ หรอื ไมร่ ะบุขัน้ ตอนของการ
2 ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะ
(พอใช)้ - ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะครบถว้ น แต่เสร็จหลังกำหนดเวลาเลก็ นอ้ ย
- ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทกั ษะข้อไม่ถกู ตอ้ ง
1 - สลบั ข้ันตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะ หรอื ไมร่ ะบขุ น้ั ตอนของการ
(ตอ้ งปรับปรุง)
ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะ
- ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะไมค่ รบถ้วน หรอื ไมเ่ สร็จตามกำหนดเวลาเล็ก
- ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝกึ ทกั ษะไมถ่ ูกต้อง
- แสดงลำดับขนั้ ตอนของการทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะไมส่ ัมพันธก์ ับโจทย์
หรือไมแ่ สดงลำดับขนั้ ตอน
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพิบลู อุปถมั ภ์ | |119911
- การประเมินผลการศึกษาค้นคว้าทางสุขศึกษาและพลศึกษา
1) กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการศึกษาค้นคว้าทางสขุ ศกึ ษาและพลศึกษาด้านทฤษฎี เป็น 4
ระดับ ดงั น้ี
ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา
4 - การวางแผนชัดเจนและทำงานเปน็ ระบบ
- แสดงขอ้ มูลทล่ี ะเอยี ดชัดเจน
(ดมี าก) - แสดงความเชอ่ื มโยงระหวา่ งเน้ือหาวชิ าไดช้ ัดเจน
- ลงขอ้ สรปุ ทถี่ กู ตอ้ งชัดเจน
3 - นำเสนอผลงานอยา่ งเหมาะสม
(ดี) - การวางแผนชัดเจน
- แสดงขอ้ มลู ทลี่ ะเอยี ดชัดเจน
2 - แสดงความเชื่อมโยงระหวา่ งเนื้อหาวิชาได้ชดั เจน
(พอใช้) - ลงข้อสรปุ ทถี่ กู ต้องชัดเจน
- นำเสนอผลงานไดย้ งั ไม่ชัดเจน
1 - การวางแผนไม่ชัดเจน
(ต้องปรับปรงุ ) - แสดงขอ้ มูลบางส่วนผดิ พลาด
- แสดงความเชอ่ื มโยงระหว่างเนอ้ื หาวิชาไดไ้ ม่ชัดเจน
- ลงขอ้ สรปุ บางส่วนผดิ พลาด
- นำเสนอผลงานไดไ้ มช่ ัดเจน
- การวางแผนไม่ชัดเจน
- แสดงข้อมูลทไี่ ม่ถกู ต้อง
- แสดงความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาไดไ้ ม่ชดั เจน
- ลงข้อสรปุ ทีไ่ มถ่ ูกต้อง
- นำเสนอผลงานได้ไมถ่ ูกตอ้ ง
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพบิ ูลอุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพิบลู อุปถัมภ์ | |119922
2) กำหนดเกณฑ์การประเมินผลการศึกษาค้นคว้าทางสุขศึกษาและพลศกึ ษาท่ีมีผลงาน
เปน็ สิง่ ประดษิ ฐ์ เป็น 4 ระดบั ดงั นี้
ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพจิ ารณา
4 - มีความคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์และแปลกใหม่
(ดมี าก) - แก้ปญั หาและตอบสนองตามความตอ้ งการ
- วางแผนการสรา้ งโดยใชเ้ ทคนคิ ระดับสงู และมคี ุณภาพ พร้อมทัง้ แสดงรายละเลียด
ของช้ินงานในแตล่ ะส่วนชัดเจนสมบรู ณ์
- เลือกและใชเ้ ครอ่ื งมือวดั พรอ้ มระบหุ น่วยวดั ได้เหมาะสม
- ดงึ ดูดความสนใจและมีประสิทธิภาพในการทำงารนสูงสดุ ตลอดจนปลอดภัย
ประหยดั แขง็ แรงและนา่ เชอื่ ถือ
- ใช้งานได้ตามความคาดหวงั
- สร้างและเก็บรกั ษางา่ ย
- คูม่ อื แนะนำการใช้มีความชดั เจนและเข้าใจง่าย
3 - มคี วามคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรคแ์ ละแปลกใหม่
(ดี) - แก้ปญั หาและตอบสนองตามความต้องการ
- วางแผนการสรา้ งและแสดงรายละเลยี ดของแต่ละสว่ นชดั เจน
- เลือกและใชเ้ ครอื่ งมอื วัดพรอ้ มระบุหน่วยวดั ไดเ้ หมาะสม
- ดึงดดู ความสนใจ
- ใช้งานได้ตามความคาดหวัง
- สร้างและเก็บรกั ษาง่าย
2 - มคี วามคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์
(พอใช้) - แก้ไขปัญหาและตอบสนองตามความต้องการ
- วางแผนการสรา้ งและแสดงรายละเลียดของแตล่ ะสว่ นไดช้ ดั เจนสมบรู ณ์เป็นส่วนใหญ่
- เลอื กและใช้เครอ่ื งมอื วดั พร้อมระบหุ นว่ ยวดั ได้เหมาะสม
- ดึงดดู ความสนใจ
- ใช้งานได้ตามความคาดหวัง
- สรา้ งและเกบ็ รกั ษางา่ ย
1 - ขาดความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์
(ตอ้ งปรบั ปรุง) - ไม่ตอบสนองตอ่ แก้ไขปญั หาและความตอ้ งการ
- วางแผนการสรา้ งไดช้ ดั เจนเพยี งบางส่วน
- เลือกและใช้เคร่ืองมอื วดั พร้อมระบุหน่วยวัดไดไ้ ม่เหมาะสม
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรยี นพบิ ูลอปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรยี นพบิ ูลอุปถมั ภ์ | |119933
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา
- ช้ินงานขัดขอ้ ง ใชง้ านไม่ไดต้ ามความคาดหวงั
- การประเมินผลการร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
การร่วมกจิ กรรมการเรียนร้สู ่วนใหญ่จะมอบหมายภาระงานเปน็ กลมุ่ กำหนดเกณฑ์การประเมินผลการ
ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั นี้
รายการประเมิน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารพจิ ารณา
1. การวางแผน 3(ด)ี - วางแผนและมอบหมายหน้าที่ความรบั ผิดชอบใหส้ มาชิก
2. ความร่วมมือในกลุ่ม 2 (พอใช้) ไมช่ ัดเจน
- วางแผน แต่มอบหมายหนา้ ทค่ี วามรบั ผิดชอบใหส้ มาชิก
3. ทักษะการปฏบิ ัติการ 1 (ต้องปรับปรงุ )
3.1 การสงั เกต 3 (ดี) ไมช่ ดั เจน
3.2 การสร้างข้อความ - ไม่มกี ารวางแผน
คาดการณ์ 2 (พอใช)้ - ทกุ คนทำงานตามหน้าท่รี ับผดิ ชอบ
3.3 การสำรวจ 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - สมาชกิ ส่วนมากทำงานตามหนา้ ท่ี
ตรวจสอบ - สมาชกิ ไมท่ ำงานตามหนา้ ที่
3.4 การแปลความและ 3 (ด)ี - ปฏิบตั ไิ ด้ครบทกุ อย่างถูกต้องเหมาะสม
ประเมินผล 2 (พอใช้) - ปฏิบตั ิไดค้ รบทกุ ขอ้ แต่ยงั มีข้อผิดพลาดเปน็ บางสว่ น
3.5 การลงขอ้ สรุป 1 (ต้องปรบั ปรุง) - ไม่สามารถปฏิบตั ิได้ครบทกุ ขอ้ ด้วยตนเองและมคี วาม
4. การเขยี นรายงาน ผดิ พลาดในการลงข้อสรุป
5. เวลา 3 (ดี) - เขียนรายงานดว้ ยรูปแบบท่ีถูกต้องเหมาะสมและนำเสนอ
ไดส้ มบรู ณ์
2 (พอใช้)
1 (ต้องปรับปรงุ ) - เขียนรายงานได้ไมส่ มบูรณ์
- รายงานมขี ้อผิดพลาด หรือไม่เขียนรายงาน
3 (ด)ี - ปฏบิ ัติงานเสร็จสมบรู ณต์ ามเวลาท่กี ำหนด
2 (พอใช้) - ปฏิบัตงิ านเสรจ็ ตามเวลาที่กำหนดแตไ่ มส่ มบูรณ์
1 (ตอ้ งปรบั ปรงุ ) - ปฏบิ ัติงานไม่เสร็จสมบรู ณ์ตามเวลาที่กำหนด
หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นพิบลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นพิบลู อุปถมั ภ์ | |119944
2.2 แฟ้มสะสมงานสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
การประเมนิ ผลแฟม้ สะสมงานสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา กำหนดเกณฑ์การประเมิน ดังน้ี
ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา
4 - ผลงานมีรายละเอยี ดอยา่ งเพยี งพอทีแ่ สดงถงึ ระดบั ความร้แู ละพัฒนาการของผเู้ รยี น
(ดีมาก) และแสดงถึงความเข้าใจในเรอื่ งทศ่ี ึกษา การนำเสนอขอ้ มลู แสดงถึงการบรู ณาการ
หรือเช่อื มโยงมโนทศั นต์ ่างๆ เข้าดว้ ยกนั
3 - ผลงานมีรายละเอยี ดอยา่ งเพยี งพอท่แี สดงถึงระดับความร้แู ละพฒั นาการของผเู้ รยี น
(ด)ี ไมม่ ีข้อผดิ พลาดท่ีแสดงว่าไมเ่ ขา้ ใจ แต่การนำขอ้ มูลไม่แสดงถึงการบรู ณาการ
ระหว่างขอ้ มูลหรือมโนทศั นใ์ นเรื่องทศี่ ึกษา
2 - ผลงานมรี ายละเอยี ดแสดงไวใ้ นบันทึกให้เหน็ ถึงระดับความรแู้ ละพฒั นาการของ
(พอใช้) ผเู้ รยี น แต่พบว่าบางสว่ นมคี วามผดิ พลาดหรอื ไม่ชัดเจนหรือแสดงถงึ ความไม่เข้าใจ
ในเรือ่ งทศ่ี กึ ษาของผู้เรียน
1 - ผลงานมีข้อมลู นอ้ ย ไมม่ รี ายละเอยี ดแสดงไว้ในบันทกึ หรอื แสดงให้เหน็ ถึงระดับ
(ตอ้ งปรบั ปรงุ ) ความรู้และพัฒนาการของผ้เู รียน
2.3 การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางพลศกึ ษา และการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
การประเมนิ ผลการเข้ารว่ มกิจกรรมทางพลศกึ ษา
ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพิจารณา
4 - ผูเ้ รียนมคี วามสนใจในกจิ กรรมทางพลศึกษาในทกุ คาบเรยี น อย่างเตม็ ท่ี และ
(ดีมาก) พยายามพฒั นาตนเองตลอดเวลา
- ฝกึ ฝนทักษะการเคล่อื นไหว และทักษะกลไกตา่ งๆ ตามชนิดของกิจกรรม อยา่ ง
ต้ังใจในทุกคาบเรยี น จนสามารถพฒั นาตนเองใหม้ ีทกั ษะต่างๆในระดบั ท่ดี ขี ้นึ ได้
3 - ผู้เรยี นมีความสนใจในกจิ กรรมทางพลศกึ ษาในบางคาบเรียน อย่างเต็มที่ และ
(ด)ี พยายามพฒั นาตนเองตลอดเวลา
- ฝึกฝนทกั ษะการเคล่อื นไหว และทักษะกลไกตา่ งๆ ตามชนดิ ของกิจกรรม อยา่ ง
ตัง้ ใจในบางคาบเรยี น จนสามารถพฒั นาตนเองให้มที กั ษะต่างๆใน
2 - ผเู้ รียนมคี วามสนใจในกจิ กรรมทางพลศึกษาบ้าง และพยายามพัฒนาตนเองใน
(พอใช้) บางคร้ัง
- ไมฝ่ ึกฝนทกั ษะการเคลอื่ นไหว และทักษะกลไกตา่ งๆ ตามชนดิ ของกิจกรรม แตม่ ี
ทกั ษะต่างๆในระดับที่ดีขน้ึ
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนพบิ ลู อปุ ถมั ภ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนพิบลู อปุ ถมั ภ์ | |119955
ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา
1
- ผู้เรยี นไม่มคี วามสนใจในกจิ กรรมทางพลศึกษาในทกุ คาบเรยี น และไม่พยายามท่ี
(ต้องปรับปรงุ ) จะพัฒนาตนเองเลย
- ไม่ฝกึ ฝนทักษะการเคล่อื นไหว และทักษะกลไกต่างๆ ตามชนดิ ของกจิ กรรม และ
ไมม่ ีการพัฒนาตนเองเลย
พิจารณาจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 7 แบบทดสอบ โดยกำหนดคะแนนเป็น 4 ระดบั
กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ดงั นี้
ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา
4 - มภี าพรวมของผลการทดสอบสมรรถทางกายทัง้ 7 แบบอยใู่ นเกณฑ์ดมี าก
(ดีมาก)
3 - มีภาพรวมของผลการทดสอบสมรรถทางกายทงั้ 7 แบบอยใู่ นเกณฑ์ดี
(ดี)
2 - มีภาพรวมของผลการทดสอบสมรรถทางกายทง้ั 7 แบบอยใู่ นเกณฑพ์ อใช้
(พอใช้)
1 - มภี าพรวมของผลการทดสอบสมรรถทางกายทง้ั 7 แบบอยู่ในเกณฑ์ตอ้ งปรบั ปรุง
(ต้องปรับปรุง)
2.4 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
- การประเมนิ ผลสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
การประเมินผลสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ประเมนิ โดยใช้แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
โดยกำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดังนี้
ระดบั คณุ ภาพ ความหมาย
(3) ผเู้ รียนปฏบิ ตั ติ นตามสมรรถนะจนเปน็ นสิ ยั และนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั เพอ่ื
ดีเย่ียม ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ดีเยยี่ ม
จำนวน 3-5 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่าระดบั ดี
ผเู้ รยี นมสี มรรถนะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพอื่ ให้เปน็ การยอมรบั ของสงั คม
โดยพิจารณาจาก
(2) 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเยีย่ ม จำนวน 1-2 สมรรถนะ และไม่มี
ดี สมรรถนะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ดี หรอื
2. ได้ผลการประเมินระดบั ดีเย่ยี ม จำนวน 2 สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะ
ใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกว่าระดับผา่ น หรือ
หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพิบลู อปุ ถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนพบิ ูลอุปถัมภ์ | |119966
3. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด
ได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดับผ่าน
ผูเ้ รียนรับรแู้ ละปฏิบัติตามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขท่สี ถานศึกษากำหนด โดย
พิจารณาจาก
(1) 1. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะ
ผ่าน ใดไดผ้ ลการประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ผ่าน หรือ
2. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 2 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใด
ได้ผลการประเมนิ ต่ำกว่าระดับผา่ น
(0) ผเู้ รยี นรับรู้และปฏิบัตไิ ดไ้ ม่ครบตามเกณฑแ์ ละเง่อื นไขทก่ี ำหนด โดยพิจารณา
ไมผ่ ่าน จากผลการประเมนิ ระดบั ตอ้ งปรับปรงุ ตงั้ แต่ 1 สมรรถนะ
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตสิ ม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติบางคร้ัง ให้ 0 คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตนิ ้อยครงั้
เกณฑก์ ารตัดสินระดบั คณุ ภาพตามสมรถนะรายขอ้
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
13 - 15 ดเี ย่ยี ม (3)
9 - 12 ดี (2)
5-8 ผ่าน (1)
ต่ำกว่า 5 ไมผ่ า่ น (0)
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โรงเรียนพบิ ลู อุปถัมภ์
เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนพิบลู อุปถัมภ์ | |119977
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
ชอ่ื .......................................................นามสกลุ ....................................................เลขท.่ี .............ชั้น...................
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน และขีด ลงในช่องที่ตรงกบั คะแนน
ระดบั คุณภาพ
สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดีเยีย่ ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น
1. ความสามารถ
ในการสือ่ สาร 1.1 มีความสามารถในการรับ-ส่งสาร (3) (2) (1) (0)
1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
2. ความสามารถ ของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม รวม .......... คะแนน ระดบั ...............
ในการคดิ 1.3 ใช้วธิ กี ารส่ือสารทเ่ี หมาะสม มีประสิทธภิ าพ รวม .......... คะแนน ระดบั ...............
1.4 เจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปญั หาความขดั แย้งตา่ งๆ ได้ รวม .......... คะแนน ระดบั ...............
3. ความสามารถ 1.5 เลอื กรับและไม่รบั ข้อมลู ขา่ วสารดว้ ยเหตผุ ลและถกู ต้อง รวม .......... คะแนน ระดับ ...............
ในการแกป้ ญั หา รวม .......... คะแนน ระดบั ...............
สรปุ ผลการประเมนิ
4. ความสามารถ 2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์
ในการใช้ทักษะ 2.2 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์
ชีวติ 2.3 สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการสร้างองคค์ วามรู้
5. ความสามารถ 2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั ตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ในการใช้
เทคโนโลยี สรุปผลการประเมนิ
3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทเ่ี ผชญิ ได้
3.2 ใช้เหตผุ ลในการแกป้ ญั หา
3.3 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์และการเปลี่ยนแปลงในสังคม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรูม้ าใช้ในการป้องกนั และแก้ไขปญั หา
3.5 สามารติดสนิ ใจไดเ้ หมาะสมตามวัย
สรุปผลการประเมิน
4.1 เรียนรดู้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
4.2 สามารถทำงานกลมุ่ ร่วมกบั ผ้อู ื่นได้
4.3 นำความรูท้ ่ไี ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน
4.4 จดั การปัญหาและความขดั แย้งไดเ้ หมาะสม
4.5 หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบต่อตนเอง
สรปุ ผลการประเมิน
5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวัย
5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนำเทคโนโลยไี ปใช้พฒั นาตนเอง
5.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์
5.5 มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยี
สรุปผลการประเมนิ
ระดับคุณภาพตามเกณฑก์ ารประเมินในหลักสูตรรายชน้ั
ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมนิ
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรียนพิบลู อุปถมั ภ์