The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปนวัตกรรมการศึกษาชั้นเรียน และวิธีแบบเปิด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จิรพงศ์ ไมตรีจิตร, 2021-05-04 13:00:37

สรุปนวัตกรรมการศึกษาชั้นเรียน และวิธีแบบเปิด ปีการศึกษา 2563

สรุปนวัตกรรมการศึกษาชั้นเรียน และวิธีแบบเปิด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

นวตั กรรมการศึกษาชน้ั เรยี น (Lesson Study)
และวธิ กี ารแบบเปิด (Open Approach)

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563
แผนกประถมศกึ ษา โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

นวัตกรรมการศกึ ษาช้ันเรียน (Lesson Study)
และวิธกี ารแบบเปดิ (Open Approach)

คำนำ

ปัจจุบันการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ จาเปน็ ต้องเนน้ ในเรือ่ งความรู้ควบคู่ไปกบั การพฒั นาทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเนอ่ื งจากไม่
มวี ธิ กี ารสอนใดดีทส่ี ุดทจ่ี ะชว่ ยใหน้ ักเรียนแกป้ ัญหาได้ นอกจากให้นักเรียนลงมอื แกป้ ญั หาด้วยตนเอง นักเรยี นควรไดเ้ รียนรู้ ได้คิด อธิบาย และเปรียบเทียบแนวคิดทห่ี ลากหลายจน
เกิดเปน็ กระบวนการแกป้ ัญหาของตนเอง ทางโรงเรียนเล็งเหน็ ถงึ ความสาคญั จงึ ไดม้ กี ารนานวัตกรรมการศึกษาชนั้ เรียน (Lesson Study) และวธิ กี ารแบบเปดิ (Open Approach)
เข้ามาใชใ้ นการเรยี นการสอนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาในรายวิชาคณติ ศาสตร์อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารการสรุปกิจกรรมการเรียนการสอนในหน่วยการคูณ ของนักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1/1 - 1/7 ปีการศึกษา 2563 เล่มน้ีจะเป็น
ประโยชนต์ อ่ ต่อการเรยี นการสอนวชิ าคณิตศาสตรข์ องผ้ทู ่ีได้ศึกษาให้มปี ระสทิ ธิภาพทด่ี ีย่ิงขึ้นไป

สำรบญั หนำ้

เร่อื ง 1
3-20
คานา 21-31
สารบัญ 32-133
นวัตกรรมการศึกษาชัน้ เรียน (Lesson Study) และวิธีการแบบเปิด (Open Approach) 134-137
แผนการจัดการเรียนการสอนด้วยนวตั กรรมการศกึ ษาช้นั เรียน (Lesson Study) และวธิ ีการแบบเปดิ (Open Approach) 138-184
ตัวอย่างกิจกรรมจากหนงั สือ เพอ่ื สร้างสถานการณป์ ัญหา 185-188
ภาพการจัดกิจกรรม
ใบงานและผลงาน
สะท้อนผลนวตั กรรมการศึกษาช้ันเรยี น (Lesson Study) และวิธีการแบบเปิด (Open Approach)
ความคิดเห็นของครผู ู้สอนเกีย่ วกับการใช้นวตั กรรมการศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ กี ารแบบเปดิ (Open Approach)

1

นวตั กรรมกำรศกึ ษำชนั้ เรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)

การสอนคณิตศาสตร์ด้วยวิธีการแบบเปิด (Open Approach) มีจุดมุ่งหมาย คือการทาให้กิจกรรมของนกั เรียนและวิธีคิดทางคณิตศาสตร์จะต้องถูกนา
ออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถ ต้องให้นักเรียนแต่ละคนมีอิสระในการพฒั นาความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาตามความสามารถและความสนใจของตน ส่ิ งสุดท้ายคือต้อง
ปล่อยให้นักเรียนได้พัฒนาความฉลาดทางคณิตศาสตร์ของเขา ดังนั้นครูจึงต้องสร้างกิจกรรมห้องเรียนท่ีจะส่งเสริมวิธีคิดทางคณิตศาสตร์แบบต่าง ๆ ขณะที่นักเรียนท่ีมี
ความสามารถสูงกวา่ ก็สามารถท่ีจะใช้วิธีการทางคณิตศาสตรอ์ ย่างหลากหลาย และนักเรียนท่ีมีความสามารถด้อยกว่าก็ยังคงสนุกสนานกับกับกิจกรรมทางคณิตศาสตร์ตาม
ความสามารถของตน ทาให้นกั เรยี นเปดิ โอกาสการสืบเสาะดว้ ยวธิ ีการท่ีตนเชอื่ มนั่ และนาไปสูก่ ารแก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ทม่ี คี วามซับซอ้ นสูงขึ้น ผลท่เี กิดข้นึ มีความเป็นไป
ได้ที่นักเรียนจะเกิดการพฒั นาสูงขึ้นที่จะแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของพวกเขา และในขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้นกั เรียนแต่ละคน วิธีการ
แบบเปิด (Open Approach) จากัดความได้ว่า เป็นวิธีการสอนหน่ึงที่ใช้กิจกรรมที่มีปฏสิ ัมพันธร์ ะหว่างวิชาคณิตศาสตร์และนักเรียน ได้เปิดการใช้วิธีการในการแก้ปัญหาที่
หลากหลาย

จาเป็นต้องสร้างกิจกรรมที่มีปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งวิธคี ิดทางคณิตศาสตร์ และพฤติกรรมการแก้ปัญหาของนกั เรยี นให้ถูกเปิดออกมาอย่างชัดเจน สามารถ
อธบิ ายได้ 3 ลักษณะ คือ

1) มีการพฒั นากิจกรรมของเดก็ เพอื่ วิธกี ารสอนแบบเปดิ โดยเฉพาะ
2) ปญั หาทีก่ าหนดในวิธกี ารแบบเปดิ ต้องอาศัยแนวคิดทางคณติ ศาสตร์
3) วิธีการแบบเปดิ ควรสอดคลอ้ งกันในกจิ กรรมสัมพนั ธ์ระหว่าง ขอ้ 1 กบั ข้อ 2
ส่ิงทคี่ วรตระหนักอย่างมากตอ่ กระบวนการสรา้ งความเขา้ ใจ “วธิ ีการแบบเปิด” คอื ความสมั พันธ์ระหวา่ งปัญหาและวธิ กี ารแกไ้ ข ปัญหาทใี่ ช้ “วธิ กี ารแบบ
เปดิ ” นี้ต้องเป็นปัญหาทไ่ี ม่เกดิ เป็นประจา ท้งั สถานการณ์ของปัญหา กระบวนการแกป้ ญั หาตามแบบท่กี าหนด และการแกป้ ัญหาแบบปลายเปดิ ในการนาไปปฏิบตั ิจริง ครแู ต่
ละคนย่อมจัดสภาพห้องเรียนและจุดมุ่งหมายการสอนตามแนวทางของตน ดังน้ันวิธกี ารที่ใช้ใน “วิธีการแบบเปิด” จึงข้ึนอยู่กับตัวปัญหา ซ่ึงประกอบด้วยสถานการณ์ของ
ปัญหากระบวนการแก้ปัญหาท่ีมีแนวทางให้ปฏิบัติและการแก้ปัญหาแบบปลายเปิด สาหรับจุดเน้นสาคัญของวิธีการสอนด้วยวิธีแบบเปิด (Open Approach) จะต้องให้
นกั เรียนเปิดใจกวา้ งเกย่ี วกับคณิตศาสตร์ โดยมีเป้าหมายใหน้ ักเรยี นทกุ คนไดเ้ รียนคณิตศาสตรซ์ ึ่งสอดคลอ้ งกับศกั ยภาพทางคณิตศาสตรข์ องตน และระดบั ของการกาหนดการ
เรยี นรูด้ ้วยตนเอง นอกจากน้ยี ังตอ้ งการใหเ้ ด็กสามารถใชศ้ กั ยภาพของตนเองไดอ้ ย่างเต็มท่ีในกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ รูปแบบในการเรียนสอนวชิ าคณิตศาสตรโ์ ดยใช้
วธิ กี ารแบบเปิด (Open Approach) มี 4 ขนั้ ตอนดงั น้ี
1. ข้ันการนาเสนอปัญหา (Posing open-ended problem)
2. ขัน้ การเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรยี น (Students’ self learning through problem solving)
3. ขัน้ การอภิปรายรว่ มกนั ท้งั ช้ันเรียนและขยายแนวคิดในช้ันเรียน (Whole class discussion andcomparison)
4. ข้ันการสรุปโดยการเช่ือมโยงแนวคิดของนักเรียนที่เกิดข้ึนในชั้นเรียน (Summarization through connecting students’ mathematical ideas
emerged in the classroom)

2

การนาเสนอสถานการณ์ปัญหาเป็นข้ันตอนแรกของการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการแบบเปิด(Open Approach) หากครูไม่สามารถที่จะนาเสนอ
สถานการณป์ ัญหาให้กลายเป็นปัญหาของนกั เรยี นได้ ในการดาเนนิ การเรยี นการสอนกอ็ าจจะเป็นไปอย่างไม่ราบรน่ื ซ่งึ อาจจะเกดิ ปัญหาว่าปัญหานั้นไม่กลายเป็นปญั หาของ
นักเรียน นกั เรียนไมอ่ ยากทจี่ ะลงมือแก้ปญั หานัน้ และไมอ่ ยากจะเรยี นวิชาคณติ ศาสตรต์ ่อไป

3

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศกึ ษำชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 2 : คำบท่ี 1

4

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศกึ ษำชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 2 : คำบท่ี 2

5

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศกึ ษำชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 3 : คำบท่ี 3

6

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศกึ ษำชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 4 : คำบท่ี 4

7

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศกึ ษำชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 7 : คำบท่ี 5

8

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศกึ ษำชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 8 : คำบท่ี 6

9

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศกึ ษำชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 10 : คำบที่ 7

10

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปิด (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 10 : คำบท่ี 8

11

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวิธีกำรแบบเปิด (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 11 : คำบท่ี 9

12

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 11 : คำบท่ี 10

13

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 12 : คำบท่ี 11

14

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 13 : คำบท่ี 12

15

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 14 : คำบท่ี 13

16

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 14 : คำบท่ี 14

17

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 15 : คำบท่ี 15

18

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 15 : คำบท่ี 16

19

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 16 : คำบท่ี 17

20

แผนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนดว้ ยนวตั กรรมกำรศึกษำชั้นเรียน (Lesson Study) และวธิ ีกำรแบบเปดิ (Open Approach)
สปั ดำห์ท่ี 16 : คำบท่ี 18

21

ตัวอยำ่ งกจิ กรรมจำกหนังสือ เพ่อื สรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบท่ี 1 หน้ำท่ี 76-78

22

ตัวอยำ่ งกิจกรรมจำกหนงั สอื เพ่อื สรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบท่ี 2 หน้ำที่ 78-79

คำบที่ 3 หนำ้ ที่ 79-80

23

ตัวอยำ่ งกจิ กรรมจำกหนงั สือ เพื่อสรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบที่ 4 หนำ้ ที่ 81

คำบท่ี 5 หนำ้ ที่ 82-83

24

ตัวอยำ่ งกจิ กรรมจำกหนังสือ เพ่อื สรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบท่ี 6 หน้ำท่ี 86-88

25

ตัวอยำ่ งกิจกรรมจำกหนงั สอื เพ่อื สรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบท่ี 7 หน้ำที่ 88-89

คำบที่ 8 หนำ้ ที่ 89-90

26

ตัวอย่ำงกจิ กรรมจำกหนงั สือ เพ่อื สรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบท่ี 9 หนำ้ ที่ 91

คำบท่ี 10 หน้ำที่ 92-93

27

ตัวอยำ่ งกจิ กรรมจำกหนงั สอื เพ่อื สร้ำงสถำนกำรณป์ ัญหำ

คำบที่ 11 หน้ำที่ 101

คำบที่ 12 หน้ำท่ี 102-103

28

ตัวอย่ำงกจิ กรรมจำกหนังสือ เพ่อื สรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบที่ 13 หนำ้ ท่ี 104

29

ตัวอย่ำงกจิ กรรมจำกหนงั สือ เพื่อสรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบท่ี 14 หน้ำท่ี 107-110

30

ตัวอยำ่ งกจิ กรรมจำกหนงั สอื เพ่อื สร้ำงสถำนกำรณป์ ัญหำ

คำบที่ 15 หน้ำท่ี 110-111

คำบท่ี 16 หนำ้ ท่ี 112

31

ตัวอย่ำงกจิ กรรมจำกหนงั สือ เพ่อื สรำ้ งสถำนกำรณป์ ญั หำ

คำบที่ 17 หน้ำที่ 113

คำบที่ 18 หนำ้ ท่ี 114

32

ภำพกำรจดั กจิ กรรม

สปั ดำหท์ ่ี 1 คำบที่ 1

ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ 1/1

ข้นั ที่ 1 ข้นั การอ่าน (Reading=R) – ครูทบทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขัน้ ที่ 2 ขน้ั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมให้แต่ละ

ปัญหาโดยการติดภาพ กลมุ่

ข้ันที่ 3 ขนั้ กจิ กรรมต่อเนอื่ ง (Activity=A) – ตัวแทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ข้ันท่ี 4 ขน้ั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุป

ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี 1/2 33

ขัน้ ท่ี 1 ข้นั การอ่าน (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมให้แต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ กิจกรรมต่อเน่อื ง (Activity=A) – ตวั แทนนักเรยี นออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ขน้ั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุป
แนวคิด

ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 1/3 ESC 34

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอ่าน (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการตดิ ภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้นั กจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1/4 ESC 35

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้ันกจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1/5 ESC 36

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้ันกจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1/6 ESC 37

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้ันกจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 1/7 ESC 38

ขน้ั ที่ 1 ขนั้ การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ขั้นกิจกรรมตอ่ เน่อื ง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ท่ี 4 ขนั้ แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

สปั ดำห์ที่ 1 คำบท่ี 2 39

ช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 1/1 ขั้นที่ 2 ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ (Expanding=E) – ครูแจกใบกิจกรรมให้แต่ละ
กลุ่ม
ขั้นท่ี 1 ขน้ั การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์
ปัญหาโดยการตดิ ภาพ

ข้ันที่ 3 ข้นั กิจกรรมต่อเนอื่ ง (Activity=A) – ตัวแทนนักเรียนออกมานาเสนอ ขั้นท่ี 4 ขน้ั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ

ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 1/2 40

ข้นั ที่ 1 ขั้นการอ่าน (Reading=R) – ครูทบทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขั้นที่ 2 ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมให้แตล่ ะ
ปญั หาโดยการตดิ ภาพ กลุ่ม

ขน้ั ท่ี 3 ขั้นกจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง (Activity=A) – ตวั แทนนักเรยี นออกมานาเสนอ ขนั้ ท่ี 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุป

ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 1/3 ESC 41

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอ่าน (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการตดิ ภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้นั กจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1/4 ESC 42

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้ันกจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1/5 ESC 43

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้ันกจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1/6 ESC 44

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ข้ันกจิ กรรมตอ่ เน่ือง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 1/7 ESC 45

ขน้ั ที่ 1 ขนั้ การอา่ น (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์ ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ ขยายความเข้าใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
ปญั หาโดยการติดภาพ กลุ่ม

ขน้ั ที่ 3 ขั้นกิจกรรมตอ่ เน่อื ง (Activity=A) – ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอ ขนั้ ท่ี 4 ขนั้ แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุป

สัปดำหท์ ี่ 2 คำบท่ี 3 46

ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 1/5 ESC ขนั้ ที่ 2 ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ (Expanding=E) – ครแู จกใบกิจกรรมใหแ้ ต่ละ
กล่มุ
ข้ันที่ 1 ขั้นการอ่าน (Reading=R) – ครทู บทวนและนาเสนอสถานการณ์
ปัญหาโดยการติดภาพ

ขน้ั ที่ 3 ข้ันกิจกรรมตอ่ เนือ่ ง (Activity=A) – ตวั แทนนักเรยี นออกมานาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ข้นั แสดงผลงาน (Display=D) – ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุป


Click to View FlipBook Version