แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5/1
้
เรื่อง การใชเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เวลา 6 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงค านวณในการแก้ปญหาทีพบในชีวิตจริงอย่างเปนขั้นตอน
่
ั
็
่
ั
็
และเปนระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสารในการเรียนรู้การท างาน และการแก้ปญหาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม
ี้
ตัวชวัดข้อ 4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตามกฎหมาย
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรม
2. แนวคิดสำคัญ
2.1 ความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การรู้จักปองกันภัยคุกคามทีเกิดจากการใช้
้
่
เทคโนโลยี ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภัยคุกคามจากการท าธุรกรรมออนไลนการซือสินค้า
์
้
่
้
2.2 ผลพวงจากการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ท าให้เกิดสือต่าง ๆ ขึนมากมาย เช่น สือสังคม
่
์
์
้
์
็
้
ออนไลนการซือขายสินค้าออนไลน การท าธุรกรรมทางการเงินออนไลน เปนต้น สื่อเหล่านีมีความสะดวกใน
่
์
การใช้อย่างมาก อาจมีผู้ฉกฉวยโอกาสใช้สือในการแสวงหาผลประโยชนโดยไม่สุจริต หรือใช้ในการล่อลวง
ผู้อื่น จึงต้องมีกฎหมายเพือจัดระเบียบการใช้คอมพิวเตอร์
่
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 บอกอันตรายต่าง ๆ ทีเกิดจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้
่
3.2 บอกวิธีใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยได้
3.3 บอกความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้
3.4 บอกโทษจากการท าความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท าความผิดเกียวกับ
่
คอมพิวเตอร์ได้
3.5 บอกการใช้สารสนเทศทีเปนลิขสิทธิ์ของผู้อื่นอย่างชอบธรรมได้
็
่
4. สาระการเรียนรู้
4.1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
่
4.2 กฎหมายเกียวกับคอมพิวเตอร์
5. ชิ้นงาน/ภาระงาน
5.1 ท าแบบทดสอบก่อนเรียน
่
5.2 ท ากิจกรรมประจ าหนวย
่
5.3 ท าใบงานที 1 และใบงานที 2
่
5.4 ท ากิจกรรมประจ าหนวย
่
่
5.5 ตอบค าถามประจ าหนวย
5.6 ท าแบบทดสอบหลังเรียน
6. คำถามหลัก
6.1 ธุรกรรมออนไลนหมายถึงการท าอะไร
์
์
6.2 ข้อควรระวังในการซือสินค้าออนไลนคืออะไร
้
้
้
6.3 การซือไอเท็มคือซืออะไร
6.4 บอกความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาตามทีทราบ
่
ิ
6.5 การเปดอีเมลของผู้ไม่รู้จักทีส่งมาให้อาจมีผลเสียอย่างไร
่
ั
6.6 ทรัพย์สินทางปญญาหมายถึงอะไร
6.7 ลิขสิทธิ์จะได้รับการคุ้มครองเมื่อไร
6.8 สิทธิบัตรหมายถึงอะไร
6.9 เครื่องหมายการค้าต้องจดทะเบียนหรือไม่
6.10 โตโยต้าคืออะไรในภาษากฎหมาย
6.11 ส้มบางมดจัดเปนอะไรในพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์
็
่
์
้
6.12 ครูสอนวิชานาฏศิลปคิดค้นท่าร าอวยพรแบบใหม ท่าร านีต้องจดลิขสิทธิ์หรือไม ่
6.13 ถ้าจดสิทธิบัตรในประเทศไทยแล้ว มีผลคุ้นครองในประเทศอื่นหรือไม ่
6.14 สิทธิบัตรมีผลคุ้มครองนานเท่าไร
6.15 ลิขสิทธิ์มีอายุคุ้มครองนานเท่าไร
ั
6.16 ทรัพย์สินทางปญญาแบ่งเปนกี่ประเภท
็
6.17 การนาเพลงของเบิร์ดมารวมไว้ในหนวยความจ าแบบแฟลชแล้วขายมีความผิดหรือไม่
่
6.18 การเล่นแชร์ออนไลนมีความผิดหรือไม่
์
็
6.19 การคัดลอกข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาส่งเปนรายงานมีความผิดหรือไม่
้
6.20 การคัดลอกเนือหาบางส่วนของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มาท าเปนรายงานแล้วบอกแหล่งทีมาไว้
่
็
ตอนท้าย เรียกว่าการใช้สารสนเทศแบบใด
7. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
7.1 ขั้นนำ (1 ชั่วโมง)
1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
่
์
2. ครูยกตัวอย่างการท าธุรกรรมออนไลนและธุรกรรมทีนิยมใช้มากขึน เช่น การซือขายสินค้า
้
้
๋
ออนไลน การช าระเงินด้วยกระเปาเงินออนไลน (e-Wallet) ผ่านสมาร์ตโฟน
์
์
่
3. ครูยกตัวอย่างเรื่องการหลอกลวงทางสือสังคมออนไลน ทีเกิดขึนช่วงเวลาทีก าลังเรียน เช่น
่
่
์
้
การหลอกว่าสามารถพาไปท างานในต่างประเทศได้ ให้โอนเงินค่าท าวีซ่า และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปให้
เมื่อได้เงินแล้ว ปดเว็บไซต์หนีไป ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์สาเหตุ เช่น มีข้อจูงใจอะไรให้เชื่อ
ิ
4. ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนเปนการบ้าน
็
7.2 ขั้นสอน (5 ชั่วโมง)
1. ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ที 5.1 เรื่อง สรุปสาระส าคัญพระราชบัญญัติการเล่นแชร์
่
พ.ศ. 2534
2. ครูตั้งค าถาม
- ท าไมคนจึงนิยมเล่นแชร์
- เล่นแชร์อย่างไรจึงไม่ผิดกฎหมาย
์
- การเล่นแชร์ออนไลนคืออะไร
็
- ท าอย่างไรจึงเปนการโกงแชร์
- แชร์ลูกโซ่หมายถึงอะไร
่
3. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและยกตัวอย่างการหลอกลวงบนอินเทอร์เน็ตทีได้ยินจากข่าว
็
ต่าง ๆ แล้วสรุปเปนข้อ ๆ นามาจัดล าดับตามประเภทของการหลอกลวง
4. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่าง ท าอย่างไรจึงเปนการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ สรุป
็
็
็
เปน ข้อ ๆ แล้วท าเปนแผ่นปายติดประกาศไว้
้
5. ครูให้นักเรียนศึกษาพระราชบัญญัติทรัพย์สินทางปญญาจากหนังสือแบบเรียนและสืบค้น
ั
เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ
่
6. ครูให้นักเรียนตอบค าถามในใบงานที 5.1
็
่
7. ครูตั้งค าถามเรื่องการคัดลอกเรื่องทีสืบค้นทางอินเทอร์เน็ตมาท าเปนรายงาน ผิดกฎหมาย
็
่
หรือไม่ เพราะอะไร และเปนสิ่งทีควรท าหรือไม่
8. ให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมในใบความรู้ที 5.2
่
7.3 ขั้นสรุป
1. นักเรียนสรุปความรู้ความเข้าใจตามจดประสงค์การเรียนรู้
ุ
2. นักเรียนเขียนผังความคิดสรุปผลการเรียนรู้
8. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
่
1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พืนฐาน วิทยาการค านวณ ชั้นมัธยมศึกษาปที 3 ของบริษัท
้
ี
แม็คเอ็ดดูเคชั่น จ ากัด
2. เว็บไซต์ความรู้ของบริษัท แม็คเอ็ดดูเคชั่น จ ากัด
8.2 แหล่งการเรียนรู ้
1. ห้องสมุดของโรงเรียน
ั
2. เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปญญา https://www.ipthailand.go.th/th/
3. เว็บไซต์คณะกรรมการกฤษฎีกา https://www.sme.go.th/
4. เว็บไซต์กระทรวงยุติธรรม https://www.moj.go.th/
5. ส านักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) https://www.nstda.or.th/
9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
9.1 ท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ท้ายหนวย
่
9.2 แบบประเมินด้านทักษะปฏิบัติ (ในกิจกรรม)
่
9.3 แบบประเมินการนาเสนอผลงานกลุ่ม (โดยให้ครู เพือนกลุ่มอื่น และกลุ่มตนเองประเมิน)
9.4 แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมินผลทีได้จากการสะท้อนตนเองจากการ
่
็
เรียนรู้ลงในแบบประเมินข้อ 11 ซึงครูเปนผู้จัดท าให้)
่
9.5 แบบประเมินการเขียนผังมโนทัศน ์
9.6 แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
่
9.7 แบบประเมินทักษะทีจ าเปนในศตวรรษที 21
่
็
9.8 แบบบันทึกการจัดการเรียนรู้ส าหรับนักเรียน.
9.9 แบบบันทึกการจัดการเรียนรู้ส าหรับครู
9.10 แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
9.11 แบบประเมินสมรรถนะส าคัญของผู้เรียน
9.12 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ
10. ความคิดเห็นของผู้บริหาร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ ................................................... ผู้บริหาร
11. บันทึกการเรียนรู้สำหรับนักเรียน (Student’s Reflection)
11.1 ความรู้ความเข้าใจที่ได้จากการเรียนรู้
ด้านความรู้.........................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านทักษะ..........................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ั
ด้านการพัฒนาคุณลักษณะอนพึงประสงค์.........................................................................................
..............................................................................................................................................................................
11.2 ปัญหา/อุปสรรคในการเรียนรู้ ...........................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
11.3 แนวทางการปรับปรุงหรือพัฒนาตนเองครั้งต่อไป .............................................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ................................................... ผู้เรียน
12. บันทึกการจัดการเรียนรู้สำหรับครู (Teacher’s Reflection)
12.1 ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้
ด้านผู้เรียน..........................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านวิธีสอนการวัดผล.........................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
12.2 ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ .................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
12.3 สิ่งที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผน ..................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
เหตุผล................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
12.4 แนวทางการปรับปรุง/พัฒนาตนเองครั้งต่อไป
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ................................................... ผู้สอน
ใบงานที่ 5.1
เรื่อง ความผิดตามพระราช บัญญัติคอมพิวเตอร์และบทลงโทษ
ื่
ชอ.............................................................................................เ ล ข ท . ี่ . . . . . . . . . . . . . .
ี่
ี
ชั้นมัธยมศึกษาปท 3/........
ี
ื
วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) วันเดอนป ...........................................
ั
้
้
ี
ู
ี
้
้
ื
ค าชแจง ใหนกเรยนสบคนข้อมลจากพระราชบัญญัติวาดวยการกระท าความผิดเก่ยวกับ
่
ี
ี
้
้
่
คอมพิวเตอร์แลวตอบค าถามตอไปน
่
1. การแอบเข้าไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นทีมีการเข้ารหัสไว้ มีโทษอย่างไร
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
2. ถ้านักเรียนเปนผู้วางระบบความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลส าคัญให้กับลูกค้า แต่ได้บอกขั้นตอนการ
็
เข้าถึงและรหัสผ่านให้ผู้อื่นทีไม่ใช่เจ้าของระบบ มีความผิดหรือไม่ อย่างไร
่
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
็
3. การเผยแพร่หรือส่งต่อซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเปนข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมทีนาจะเกิด
่
่
่
ความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มีความผิดอย่างไร
.......................................................................................................................................................
.............
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
่
4. เว็บไซต์แห่งหนึง ประกาศรับสมัครผู้ท างานนอกเวลา ไม่ต้องมีความรู้เพียงแต่มีสมาร์ตโฟน ก็ท างาน
็
ได้ รายได้ดี ช่วยลดภาระของผู้ปกครอง นักเรียนคิดว่าเปนความจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงมีความผิด
อย่างไร
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
............................................................................................................................................................
..........
เฉลยใบงานที่ 5.1
เรื่อง ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์และบทลงโทษ
ื่
ชอ.............................................................................................เ ล ข ท . ี่ . . . . . . . . . . . . . .
ี่
ี
ชั้นมัธยมศึกษาปท 3/........
ี
ื
วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) วันเดอนป ...........................................
ู
้
ื
้
่
้
ี
ค าชแจง ใหนกเรยนสบคนข้อมลจากพระราชบัญญัติวาดวยการกระท าความผิดเก่ยวกับ
ี
ั
ี
้
้
ี
่
้
คอมพิวเตอร์แลวตอบค าถามตอไปน
1. การแอบเข้าไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นทีมีการเข้ารหัสไว้ มีโทษอย่างไร
่
ตามมาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและ
.......................................................................................................................................................
...............
มาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหมื่นบาท หรือทั้งจำ
.......................................................................................................................................................
ทั้งปรับ
...............
.......................................................................................................................................................
...............
2. ถ้านักเรียนเปนผู้วางระบบความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลส าคัญให้กับลูกค้า แต่ได้บอกขั้นตอนการ
็
เข้าถึงและรหัสผ่านให้ผู้อื่นทีไม่ใช่เจ้าของระบบ มีความผิดหรือไม่ อย่างไร
่
............. ตามมาตรา 6 ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการ
มีความผิด
.......................................................................................................................................................
เฉพาะ ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อน ต้องระวาง
ื่
..
โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
็
3. การเผยแพร่หรือส่งต่อซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเปนข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมทีนาจะเกิด
่
่
่
ความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มีความผิดอย่างไร
.......................................................................................................................................................
มีความผิดตามมาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับ
.............
ไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.......................................................................................................................................................
...............
.......................................................................................................................................................
...............
่
4. เว็บไซต์แห่งหนึง ประกาศรับสมัครผู้ท างานนอกเวลา ไม่ต้องมีความรู้เพียงแต่มีสมาร์ตโฟน ก็ท างาน
ได้ รายได้ดี ช่วยลดภาระของผู้ปกครอง นักเรียนคิดว่าเปนความจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงมีความผิด
็
อย่างไร
ส่วนใหญ่มักเป็นข้อความหลอกลวง เพื่อให้นักเรียนทำงานแชร์โฆษณาเว็บไซต์หรือขายสินค้าทางสื่อสังคม
.......................................................................................................................................................
ออนไลน์ ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรา 4 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
...............
.......................................................................................................................................................
...............
............................................................................................................................................................
..........
ใบความรู้ที่ 5.1
่
เรอง สรุปสาระส าคัญพระราชบัญญัติการเลนแชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔
่
ื
1
จีระ พุ่มพวง
๑. หลักการและเหตุผล
่
ั
เนืองจากในปจจบันได้มีผู้ประกอบธุรกิจเปนนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์กันอย่างกว้างขวาง การ
ุ
็
ประกอบธุรกิจดังกล่าวนอกจากจะเปนอันตรายต่อประชาชนแล้วยังกระทบต่อการระดมเงินออมของสถาบัน
็
่
การเงินทีทางราชการสนับสนนและรับผิดชอบ และส่งผลกระทบไปถึงระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวมอีก
ุ
ด้วย นอกจากนียังปรากฏว่าผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวหลายรายได้พยายามด าเนินการให้ใกล้เคียงกับการ
้
่
้
ี
้
ประกอบธุรกิจเงินทุนซึงมีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว ในการนีสมควรห้ามประกอบธุรกิจประเภทน ส่วนการเล่น
็
่
แชร์ของประชาชนทั่วไปทีมิได้ด าเนินการเปนธุรกิจนั้นยังให้กระท าต่อไปได้
๒. สาระส าคัญของพระราชบัญญัติ
่
การเล่นแชร์ ในพระราชบัญญัตินีหมายความว่า การทีบุคคลตั้งแต่สามคนขึนไปตกลงกันเปนสมาชิก
็
้
้
่
วงแชร์ โดยแต่ละคนมีภาระทีจะส่งเงินหรือทรัพย์สินอื่นใด รวมเข้าเปนทนกองกลางเปนงวด ๆ เพือให้สมาชิก
่
็
็
ุ
วงแชร์หมุนเวียนกันรับทุนกองกลางแต่ละงวดนั้นไปโดยการประมูลหรือโดยวิธีอื่นใด และให้หมายความ
รวมถึงการรวมทุนในลักษณะอื่นตามทีก าหนดในกฎกระทรวงด้วย (มาตรา 4)
่
้
กฎหมายก าหนดการกระท าอันมีลักษณะต้องห้ามตามพระราชราชบัญญัตินี ได้แก่
ี
ุ
่
2
็
กรณทเปนนิติบคคล ห้ามมิให้นิติบุคคลเปนนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ (มาตรา 5) และมิ
็
ี
ให้นิติบุคคลสัญญาว่าจะใช้เงินหรือทรัพย์สินอื่นใดแทนนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์หรือสมาชิกวง
แชร์ (มาตรา 8)
่
ี
็
กรณบุคคลธรรมดา ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเปนนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ทีมีลักษณะ
อย่างหนึงอย่างใดดังต่อไปนี ้
่
(1) เปนนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจ านวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง
็
(2) มีจ านวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน
(3) มีทุนกองกลางต่อหนึงงวดรวมกันทุกวงเปนมูลค่ามากกว่าจ านวนทีก าหนดไว้ในกฎกระทรวง
็
่
่
์
(4) นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์นั้นได้รับประโยชนตอบแทนอย่างอื่นนอกจากสิทธิทีจะได้รับ
่
่
้
ทุนกองกลางในการเข้าร่วมเล่นแชร์ในงวดหนึงงวดใดได้โดยไม่ต้องเสียดอกเบีย
ผู้ทีสัญญาว่าจะใช้เงินหรือทรัพย์สินอืนใดแทนนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ให้ถือว่าเปนนายวง
่
่
็
แชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ด้วย (มาตรา 6) ในกรณีดังกล่าวมาไม่กระทบกระเทือนถึงการทีสมาชิกวงแชร์จะ
่
้
ฟองคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ (มาตรา 7)
นอกจากนั้นยังก าหนดห้ามมิให้บุคคลใดโฆษณาชี้ชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในการเล่น
แชร์ (มาตรา 9) ใช้ชื่อหรือค าแสดงชื่อในธุรกิจทีมีค าว่า “แชร์” หรือค าอืนใดทีมีความหมายเช่นเดียวกันและ
่
่
่
่
รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานเบกษา ในกรณีทีมีประกาศดังกล่าว ให้ผู้ทีใช้ชื่อหรือค าแสดงชื่อในธุรกิจทีมีค า
่
ุ
่
ทีรัฐมนตรีประกาศอยู่แล้วในวันทีประกาศ ใช้ชื่อหรือค าแสดงชื่อดังกล่าวต่อไปได้ไม่เกินหนงร้อยแปดสิบวัน
่
่
ึ
่
้
่
่
นับแต่วันทีประกาศดังกล่าวใช้บังคับ เว้นแต่ผู้ทีอาจด าเนินกิจการต่อไปได้ตามพระราชบัญญัตินีก าหนดไว้
(มาตรา 10)
้
่
ในกรณีทีมีกฎกระทรวงซึ่งออกโดยอาศัยอ านาจตามพระราชบัญญัตินีก าหนดให้การรวมทุนใน
่
ลักษณะอื่นใดเปนการเล่นแชร์ตามพระราชบัญญัตินี และการเล่นแชร์ดังกล่าวมีลักษณะต้องห้าม ผู้ทีเปนนาย
้
็
็
่
วงแชร์ หรือจัดให้มีการเล่นแชร์นั้นอยู่แล้วในวันทีกฎกระทรวงดังกล่าวใช้บังคับ อาจด าเนินกิจการดังกล่าว
ี
่
่
เฉพาะวงแชร์ทียังค้างอยู่ต่อไปได้จนกว่าจะเสร็จแต่ต้องไม่เกินสองปนับแต่วันทีกฎกระทรวงดังกล่าวใช้บังคับ
่
็
็
ในกรณีทีเปนนิติบุคคล และประสงค์จะด าเนินการเปนนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์เฉพาะวงแชร์ทียัง
่
่
ค้างอยู่ต่อไป ให้ยื่นรายงานเกียวกับกิจการการเล่นแชร์ตามแบบทีรัฐมนตรีก าหนดต่อพนักงานเจ้าหนาที ่
้
่
่
ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันทีกฎกระทรวงดังกล่าวใช้บังคับ
็
นิติบุคคลใดมีวัตถุประสงค์เปนนายวงแชร์หรือเปนผู้จัดให้มีการรวมทุนในลักษณะอื่นซึงมี
่
็
้
็
กฎกระทรวงก าหนดให้เปนการเล่นแชร์ตามพระราชบัญญัตินีอยู่แล้วในวันทีกฎกระทรวงดังกล่าวใช้บังคับ ให้
่
่
นิติบุคคลนั้นด าเนินการยกเลิกวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยยื่นค าขอต่อนายทะเบียนตามกฎหมายทีเกี่ยวกับนิติ
บุคคลนั้นภายในหนงร้อยแปดสิบวันนับแต่วันทีกฎกระทรวงดังกล่าวใช้บังคับ ให้นิติบุคคลนั้นด าเนินการ
่
่
ึ
่
่
่
ยกเลิกวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยยืนค าขอต่อนายทะเบียนตามกฎหมายทีเกียวกับนิติบุคคลนั้นอย่างช้าต้องไม่
่
่
ี
เกินสองปนับแต่วันทีกฎกระทรวงดังกล่าวใช้บังคับ เว้นแต่นิติบุคคลนั้นจะเปนนิติบุคคลทีอาจด าเนินกิจการ
็
ุ
ต่อไปโดยได้รับอนญาตจากรัฐมนตรี (มาตรา 11 )
ในกรณีทีนิติบุคคลใดละเลยไม่ด าเนินการตามทีกฎหมายก าหนด ให้นายทะเบียนตามกฎหมายที ่
่
่
เกียวกับ นิติบุคคลนั้นมีอ านาจขีดวัตถุประสงค์ดังกล่าวออกจากทะเบียนได้ แต่การใช้อ านาจของนายทะเบียน
่
็
ไม่เปนเหตุให้นิติบุคคลดังกล่าวพ้นความรับผิดตามพระราชบัญญัตินี ้
้
่
่
่
้
ให้พนักงานเจ้าหนาทีซึงรัฐมนตรีแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินีมีอ านาจ เข้าไปในสถานทีใดทีมีเหตุอัน
่
้
ควรสงสัยว่ามีการกระท าความผิดตามพระราชบัญญัตินีในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึนถึงพระอาทิตย์ตก หรือ
้
ในเวลา ท าการของสถานทีนั้นเพือตรวจสอบได้ ยึดหรืออายัดบัญชี เอกสาร หลักฐาน หรือสิ่งอื่นใดที ่
่
่
เกียวข้องหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเกียวข้องกับการกระท าความผิดตามพระราชบัญญัตินี เพือประโยชนใน
่
้
์
่
่
การตรวจสอบหรือด าเนินคดีมีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยค าหรือสั่งให้ส่งบัญชีเอกสาร
้
่
็
หลักฐานหรือสิ่งอื่นใดทีจ าเปนมาประกอบการพิจารณาได้ ทั้งนี โดยให้เวลาบุคคลนั้นตามสมควร (มาตรา 12)
และให้บุคคลซึงเกียวข้องอ านวยความสะดวกตามสมควร (มาตรา 13)
่
่
ื
่
่
้
นอกจากนีพระราชบัญญัตินียังได้ก าหนดโทษทางอาญาแก่บุคคลและนิติบุคคลซึงกระท าการฝาฝน
้
บทบัญญัติของกฎหมายเพือให้กฎหมายมีผลบังคับได้จริง (มาตรา 16 ถึง มาตรา 25) และในกรณีทีนิติบุคคล
่
่
ใดกระท าความผิด กรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึงรับผิดชอบในการจัดการหรือบริหารงานของนิติบุคคล
่
์
นั้น ต้องรับผิดด้วย เว้นแต่จะพิสูจนได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระท าความผิดของนิติบุคคลนั้นด้วย (มาตรา
26)
๓. ผู้รักษาการตามกฎหมายและวันใชบังคับกฎหมาย
้
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตาม
้
้
้
่
พระราชบัญญัตินี และให้มีอ านาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหนาทีเพือปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี และให้
่
้
่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอ านาจออกกฎกระทรวงและประกาศ ทั้งนี เพือปฏิบัติการตาม
้
พระราชบัญญัตินี (มาตรา 30)
็
กรณีวันใช้บังคับ พระราชบัญญัตินีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเบกษาเปน
้
ุ
3
ต้นไป (มาตรา 2)
ศูนย์ข้อมูลกฎหมายกลาง
ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มิถุนายน พ.ศ. 2547
1 นิติกร 3 ศูนย์ข้อมูลกฎหมายกลาง ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
2 “นิติบุคคล” หมายความรวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญทีมิได้จดทะเบียนด้วย (มาตรา 4)
่
3 รก.๒๕๓๔/๑๒๙/๑พ/๒๔ กรกฎาคม ๒๕๓๔
ใบความรู้ที่ 5.2
้
สิทธิของเจาของลิขสิทธิ์
็
ลิขสิทธิ์เปนทรัพย์สินอย่างหนึงทีกฎหมายก าหนดวิธีการคุ้มครองไว้โดยเฉพาะ โดยก าหนดให้เจ้าของ
่
่
่
็
ลิขสิทธิ์เปนผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive right) ในการกระท าบางอย่างทีเกี่ยวกับงานลิขสิทธิ์ของตน
และก าหนดวิธีการส าหรับการโอนและการบังคับใช้สิทธิในเรื่องลิขสิทธิ์ไว้ด้วยเช่นกัน สิทธิแต่เพียงผู้เดียวของ
้
เจ้าของลิขสิทธิ์มีดังนี
่
1. ท าซ ้า คือ การคัดลอกหรือท าส าเนาซึ่งงานลิขสิทธิ์ในส่วนทีเปนสาระส าคัญ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแค่
็
่
บางส่วนของงาน เช่น การถ่ายเอกสาร การตีพิมพ์ การบันทึกเสียงเพลงทีเปดจากซีดีการอัดรูป การอัพโหลด
ิ
์
และดาวนโหลดเพลงหรือภาพยนตร์ ฯลฯ ซึงการท าซ ้าจะได้งานทีเหมือนกับงานลิขสิทธิ์ต้นฉบับ
่
่
่
2. ดัดแปลง คือ การท าซ ้าโดยเปลียนรูปแบบใหม่ การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม หรือการจ าลอง งาน
็
็
้
ต้นฉบับในส่วนอันเปนสาระส าคัญโดยไม่มีลักษณะเปนการจัดท างานขึนใหม่ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เช่น
การแปล การ รีมิกซ์เพลง การแปลงนิยายเปนบทละคร การนาเกมมาท าเปนภาพยนตร์ การปรับเปลียน
็
่
็
ภาพสองมิติเปนแอนิเมชันสามมิติ ฯลฯ ซึงงานชินใหม่ทีเกิดขึนจากการดัดแปลงจะไม่ได้เหมือนงานลิขสิทธิ์
่
็
้
่
้
ต้นฉบับอย่างเช่นการท าซ ้า แต่จะมีการเปลียนแปลงบ้างโดยยังคงสาระส าคัญของงานลิขสิทธิ์ต้นฉบับ
่
เพียงแต่ไม่ได้แตกต่างจนถึงขนาดเกิดเปนงานลิขสิทธิ์ขึนใหม
็
่
้
่
3. เผยแพร่ตอสาธารณชน คือ การนางานออกให้ปรากฏต่อสาธารณชนโดยวิธีต่าง ๆ เช่น การ
จ าหนายหนังสือทีตีพิมพ์ การนารูปทีวาดออกแสดงในงานจัดแสดง การเปดเพลงในร้านอาหาร การโพสต์รูป
่
่
ิ
่
ลงสือสังคมออนไลน ฯลฯ ท าให้สาธารณชนเข้าถึงงานได้และสร้างมูลค่าให้กับตัวงานลิขสิทธิ์ ค าว่า
่
์
่
้
็
่
“สาธารณชน” ในทีนีไม่ได้มีการก าหนดไว้ชัดเจนว่าต้องมีจ านวนคนเท่าไร เพียงแต่เปนลักษณะทีผู้คน
ิ
โดยทั่วไปจ านวนหนึงอาจเข้าถึงงานได้ เช่น การเขียนนยายลงอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะมีคนเข้ามาอ่าน หรือไม่ก็
่
ตาม หรือการแจกบทความแก่นักเรียนในชั้นเรียน ก็ถือเปนการเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้แล้ว แต่ถ้า
็
ิ
็
หากเปนเพียงการโพสต์รูปลงอินเทอร์เน็ตโดยตั้งสถานะเปนส่วนตัว หรือการเปดเพลงฟงทีบ้านโดยมีคนฟง
็
ั
ั
่
็
้
็
เปนแค่คนในครอบครัว เช่นนีก็จะยังไม่เปนการเผยแพร่ต่อสาธารณชน
4. ใหเชาตนฉบับหรือส าเนางาน การให้เช่า คือ การให้ผู้อื่นใช้สอยทรัพย์สินในช่วงระยะเวลาหนึง
่
้
้
่
่
โดยมีค่าตอบแทน ซึงสิทธิ แต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์ในการให้เช่าต้นฉบับหรือส าเนางานนั้น จ ากัด
เฉพาะงานลิขสิทธิ์ประเภทโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียงเท่านั้น
ี
งานทไม่มีลิขสิทธิ์
่
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 7 ยังก าหนดให้งานต่อไปนีไม่ถือเปนงานลิขสิทธิ์ คือ
้
็
็
่
1) ข่าวประจ าวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทีมีลักษณะเปนเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี
แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
2) รัฐธรรมนญและกฎหมาย
ู
้
3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ค าสั่ง ค าชีแจง และหนังสือโต้ตอบของหนวยงาน
่
4) ค าพิพากษา ค าสั่ง ค าวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
5) ค าแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ทีกระทรวง ทบวง กรม หรืองานอื่นใดของรัฐ
่
้
หรือของท้องถิ่นจัดท าขึน
ุ
้
ดังนั้น สาธารณชนสามารถใช้งานดังกล่าวเหล่านีได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องขออนญาตผู้ใด แม้สิ่งดังกล่าว
เหล่านั้นจะปรากฏอยู่ในงานลิขสิทธิ์ของผู้อื่น หากผู้ใช้งานไม่ได้ลอกถ้อยค าใดในการนาเสนอผลงานของบุคคล
อื่น เช่น หนังสือพิมพ์ไม่มีลิขสิทธิ์ในข้อเท็จจริงทีอยู่ในรายงานข่าว เปนต้น เนืองจากไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครอง
่
็
่
ลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
นอกจากนั้น ชื่อผลงาน ชื่อต่าง ๆ (เช่น ชื่อคน ชื่อหนังสือ ชื่อเรื่อง เปนต้น) ถ้อยค าสั้น ๆ ค าขวัญ
็
รายชื่อส่วนประกอบหรือส่วนผสมต่าง ๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ไม่ได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์
่
่
้
่
เนืองจากไมมีการสร้างสรรค์ทีเพียงพอ แต่พึงระวังว่าสิ่งเหล่านีอาจได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายอื่น
เช่น กฎหมายเครื่องหมายการค้า กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทีไม่เปนธรรม เปนต้น
่
็
็
ลักษณะการใชงานลิขสิทธิ์ในการเรียนการสอน
้
ในการวิจัยหรือศึกษางาน อาจมีการท าซ ้างานวรรณกรรม เช่น บทความ ข้อความจากหนังสือ หรือ
่
์
่
่
งานศิลปกรรม (เช่น รูปภาพ) จากงานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอืนเพือประโยชนในการเรียนการสอน ซึง
็
กฎหมายลิขสิทธิ์ก าหนดให้การกระท าในลักษณะต่าง ๆ ดังกล่าว เปนสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของ
่
ลิขสิทธิ์ และเพื่อส่งเสริมความก้าวหนาทางการศึกษา กฎหมายจึงก าหนดข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์เพือ
้
ประโยชนในการเรียนการสอนได้ตามสมควร เช่น การท าซ ้า ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอน หรือท า
์
่
็
บทสรุปโดยผู้สอน หรือสถาบันศึกษา เพื่อประโยชนในการเรียนการสอน หรือนางานนั้นมาใช้เปนส่วนหนึงใน
์
การถามและตอบในการสอบ
่
อย่างไรก็ตาม ร่างคูมือดังกล่าวมีข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์เฉพาะผู้สอนและผู้เรียนตามมาตรา 32
ุ
่
และ มาตรา 33 ไม่รวมถึงข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ทีกฎหมายอนญาตให้บรรณารักษ์ห้องสมุดกระท าการ
็
แก่งานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ถือว่าเปนการละเมิดลิขสิทธิ์ตามมาตรา 34
ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 32 มาตรา 33 และมาตรา 34 ก าหนดข้อยกเว้นการละเมิด
ลิขสิทธิ์ไว้หลายประการ เช่น
่
- การวิจัยหรือศึกษางาน อันมิใช่การกระท าเพือหาก าไร เช่น ผู้เรียนนาบทความมาท าส าเนาเพือ
่
ท าแบบฝกหัดในการศึกษา
ึ
์
่
- การท าซ ้า ดัดแปลง นาออกแสดง หรือท าให้ปรากฏโดยผู้สอน เพือประโยชนในการสอนของตน
่
่
อันมิใช่การกระท าเพือหาก าไร เช่น ผู้สอนท าส าเนาขยายภาพแผนภูมิและนาออกแสดงเพือประกอบการสอน
้
หนา ชั้นเรียน
- การท าซ ้า ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอน หรือท าบทสรุปโดยผู้สอน หรือสถาบัน
่
่
่
ศึกษา เพือแจกจ่ายหรือจ าหนายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา โดยไม่ใช่การกระท าเพือหาก าไร
่
เช่น ผู้สอนจัดท าสรุปสาระส าคัญของบทเรียนทีผ่านมา และแจกจ่ายแก่นักศึกษาจ านวนจ ากัดเพือใช้อ่าน
่
เตรียมการสอบ
็
่
- การนางานลิขสิทธิ์มาใช้เปนส่วนหนงในการถามและตอบในการสอบ เช่น ผู้สอนยกบทกวีนิพนธ์
ึ
์
่
่
็
่
หนึงบทมาเปนข้อสอบเพือให้นักศึกษาวิจารณ หรือนักศึกษาท าข้อสอบโดยอ้างข้อความจากต าราทีได้ศึกษา
็
มาเปนค าตอบ
- การกล่าว คัด ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอนจากงานลิขสิทธิ์ โดยมีการรับรู้ถึงความเปน
็
่
เจ้าของลิขสิทธิ์หรือกล่าวถึงทีมาของงานลิขสิทธิ์ เช่น นักศึกษาจัดท าวิทยานิพนธ์โดยคัดลอกข้อความจาก
ุ
่
งานวิจัยของบุคคลอื่น โดยมีการอ้างทีมาในเชิงอรรถและ/หรือบรรณานกรม
การกระท าตามตัวอย่างเหล่านีไม่ถือว่าเปนการละเมิดลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การกระท าดังกล่าว
็
้
่
์
็
จะต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของการใช้สิทธิทีเปนธรรม 2 ประการ คือ ต้องไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชนจาก
งานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ และต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของ
เจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร
เกณฑ์การพิจารณา
่
เกณฑ์การใช้ลิขสิทธิ์ทีเปนธรรมในการเรียนการสอน ต้องค านึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานลิขสิทธิ์
็
ทั้งหมด 4 ประการประกอบกัน ดังนี ้
1) ค านึงถึงวัตถุประสงค์และความเหมาะสมในการใช้งานลิขสิทธิ์
2) ค านึงถึงลักษณะของงานลิขสิทธิ์
3) ค านึงถึงปริมาณการใช้งานและสัดส่วนของงาน โดยอาจพิจารณาจากเกณฑ์ทีก าหนดในข้อ 4
่
4) ค านึงถึงผลกระทบต่อการตลาดหรือมูลค่าของงานลิขสิทธิ์
้
ปริมาณการใชงานลิขสิทธิ์
็
ุ
1. ภาพยนตร์และโสตทัศนวัสดุ เช่น วีดิทัศน ดีวีดี เลเซอร์ดิสก์ และซีดีรอมสารานกรม เปนต้น
์
1.1 การนาออกฉาย ผู้สอนนาออกให้ผู้เรียนในชั้นเรียนชมได้ไม่จ ากัดความยาว และจ านวนครั้ง
่
ภายใต้เงือนไขดังนี
้
ก. ส าเนางานทีนาออกฉายต้องเปนส าเนาทีมีลิขสิทธิ์ถูกต้อง
็
่
่
ข. เปนการนาออกฉายในชั้นเรียน โดยไม่แสวงหาก าไร และ
็
่
์
ค. เปนการนาออกฉายเพือประโยชนในการเรียนการสอนโดยตรง
็
1.2 การท าส าเนา
็
่
่
์
ก. ผู้สอนท าส าเนาทั้งเรื่องทีจ าเปนต้องใช้เพือประโยชนในการสอน ณ ขณะนั้นได้ หากได้
พยายามใช้วิธีการและมีระยะเวลาอันสมควรแล้ว แต่ไม่สามารถจัดซือจัดหาส าเนาภาพยนตร์หรือโสตทัศนวัสดุ
้
่
ทีมีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายได้
ข. ผู้เรียนท าส าเนาภาพยนตร์หรือโสตทัศนวัสดุเพือใช้ในการศึกษา ได้ไม่เกินร้อยละ 10 หรือ 3
่
้
้
่
นาที ของแต่ละผลงาน (แล้วแต่ว่าจ านวนใดนอยกว่ากัน) ทั้งนี ภาพยนตร์หรือโสตทัศนวัสดุทีใช้ในการจัดท า
ส าเนานั้นต้องมีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย
้
็
ี
่
2. งานแพรเสยงแพรภาพ เชน รายการวิทยุ/โทรทัศน เปนตน
่
่
์
ผู้สอนท าส าเนาและฉายงานแพร่เสียงแพร่ภาพหรือเทปบันทึกภาพงานเพือการเรียน การสอนได้
่
โดยสถาบันศึกษาใช้เทปบันทึกภาพงานดังกล่าวได้ในระยะเวลาหนึงปการศึกษาหรือสามภาคเรียน
ี
่
3. ดนตรีกรรม
3.1 การท าส าเนา
่
่
ก. ผู้สอนท าส าเนาในกรณีเร่งด่วน เนืองจากไม่สามารถซือส าเนางานทีมีลิขสิทธิ์มาใช้ได้ทัน
้
่
่
้
่
้
้
การแสดงทีจะมีขึน ทั้งนี จะต้องจัดซือส าเนางานทีมีลิขสิทธิ์มาใช้ทันทีทีท าได้
ข. ผู้สอนท าส าเนาหนึงชุดหรือหลายชุด จากท่อนใดท่อนหนึงของงาน (excerpts of works)
่
่
เพือการศึกษา ไม่ใช่เพือนาออกแสดง ทั้งนี ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของแต่ละงาน และไม่เกิน 1 ส าเนา ต่อ
่
่
้
ผู้เรียน 1 คน
ค. ผู้สอนท าส าเนาสิ่งบันทึกเสียงงานเพลง เช่น แถบบันทึกเสียง หรือซีดี จ านวน 1 ชุด โดย
่
็
่
ส าเนาจากสิ่งบันทึกเสียงทีมีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ซึงผู้สอนหรือสถาบันศึกษานั้นเปนเจ้าของกรรมสิทธิ์
ั
่
็
งาน สิ่งบันทึกเสียงดังกล่าว เพือจัดท าเปนแบบฝกหัดส าหรับการร้อง การฟงหรือเพือใช้ในการเรียน
ึ
่
การสอน
์
3.2 การดัดแปลง ดัดแปลงส าเนางานเพือประโยชนในการเรียนการสอนได้ แต่จะดัดแปลง
่
้
คุณลักษณะส าคัญของงาน รวมถึงเนือร้องไม่ได้
่
ึ
่
3.3 การบันทึกงาน บันทึกการแสดงของผู้เรียน ซึงใช้ดนตรีกรรมจ านวน 1 ชุดได้ เพือการฝกซ้อม
หรือการประเมินผล โดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษาเก็บรักษาบันทึกการแสดงนั้นไว้ได้
4. รูปภาพและภาพถ่าย
4.1 ใช้ได้อย่างนอย 1 ภาพแต่ไม่เกิน 5 ภาพ ต่อผู้สร้างสรรค์ 1 ราย หรือ ร้อยละ 10 ของจ านวน
้
ภาพของผู้สร้างสรรค์ 1 ราย (แล้วแต่ว่าจ านวนใดนอยกว่ากัน)
้
่
4.2 ผู้สอนและผู้เรียนดาวนโหลดภาพจากอินเทอร์เน็ต เพือใช้ในการศึกษาได้ในปริมาณเท่ากับ
์
(4.4.1) แต่จะอัพโหลดงานนั้นกลับขึนบนอินเทอร์เน็ตไมได้ หากไม่ได้รับอนญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์
้
่
ุ
5. วรรณกรรม/สิ่งพิมพ์
่
5.1 การท าส าเนา 1 ชุด ส าหรับผู้สอนเพื่อใช้ในการสอน หรือ เตรียมการสอนหรือเพือใช้ในการ
วิจัย
ก. 1 บท (chapter) จากหนังสือ 1 เล่ม
ข. บทความ (article) 1 บท จากนิตยสาร/วารสาร หรือหนังสือพิมพ์
ค. เรื่องสั้น (short story) หรือเรียงความขนาดสั้น (short essay) 1 เรื่อง บทกวีขนาดสั้น
(short poem) 1 บท ไม่ว่าจะนามาจากงานรวบรวมหรือไม่ก็ตาม
ง. แผนภูมิ (chart) กราฟ (graph) แผนผัง (diagram) ภาพวาด (painting) ภาพลายเส้น
(drawing) การ์ตูน (cartoon) รูปภาพ (picture) หรือภาพประกอบหนังสือ (illustration) จากหนังสือ นิตยสาร/
วารสาร หรือหนังสือพิมพ์ จ านวน 1 ภาพ
5.2 การท าส าเนาจ านวนมากเพือใช้ในห้องเรียน ท าได้ไม่เกิน 1 ชุดต่อนักเรียน 1 คน โดย
่
้
่
ผู้สอน เพือใช้ในการสอนหรือการอภิปรายในห้องเรียน โดยส าเนาทีท าขึนจะต้องไม่ยาวจนเกินไป และต้องมี
่
็
การระบุรับรู้ความเปนเจ้าของลิขสิทธิ์ไว้ในส าเนาทุกฉบับด้วย ดังนี ้
ก. ร้อยกรอง 1
่
(1) บทกวี (poem) ทีไม่เกิน 250 ค า และเมื่อพิมพ์แล้วไม่เกิน 2 หนา [หนาละ 2,000
้
้
ตัวอักษร (character) ตัวอักษรขนาด 16 หรือ
(2) บทกวีขนาดยาว ตัดตอนมาได้ไม่เกิน 250 ค า
ข. ร้อยแก้ว 2
(1) บทความ (article) 1 บท เรื่อง (story) 1 เรื่อง หรือเรียงความ (essay) 1 เรื่อง
หรือไม่เกิน 2,500 ค า
ึ
่
่
(2) ตอนใดตอนหนง (excerpt) ของร้อยแก้วซึงไม่เกิน 1,000 ค า หรือร้อยละ 10 ของงาน
้
นั้น (แล้วแต่ว่าจ านวนใดนอยกว่ากัน) แต่ได้อย่างนอย 500 ค า
้
่
่
้
อย่างไรก็ดี จ านวนทีระบุไว้นี ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม เช่น อาจมีความยาวเกินมาเพือให้
ข้อความของบทกวีจบบทหรือร้อยแก้วจบย่อหนา เปนต้น
้
็
(3) แผนภูมิ (chart) กราฟ (graph) แผนผัง (diagram) ภาพวาด (painting) ภาพลายเส้น
(drawing) การ์ตูน (cartoon) รูปภาพ (picture) หรือภาพประกอบหนังสือ (illustration) จากหนังสือนิตยสาร/
วารสาร หรือหนังสือพิมพ์ จ านวน 1 ภาพ
่
่
่
(4) งานทีมีลักษณะเฉพาะ งานทีอยู่ในรูปของร้อยกรองหรือร้อยแก้ว หรือผสมผสานกันซึง
มักจะมีภาพประกอบ อาทิ หนังสือเด็ก ท าทั้งฉบับไม่ได้ แต่ใช้ได้ไม่เกิน 2,500 ค า และท าส าเนาตอนใดตอน
่
หนึง (excerpt) ของงานได้ไม่เกิน 2 หนาพิมพ์ของงานนั้น หรือไม่เกินร้อยละ 10 ของค าทีปรากฏในงานนั้น
้
่
์
่
หมายเหตุ 1. ร้อยกรอง หมายถึง ค าประพันธ์ ถ้อยค าทีเรียบเรียงในรูปแบบฉันทลักษณ
่
2. ร้อยแก้ว หมายถึง ความเรียงทีไม่มีลักษณะเปนร้อยกรอง
็
(5) งานของผู้สร้างสรรค์คนเดียวกัน ท าส าเนาบทกวี (poem) บทความ (article) เรื่อง (story)
หรือเรียงความ (essay) ได้ไม่เกิน 1 เรื่อง หรือสามารถตัดตอนมาจากผลงานของผู้สร้างสรรค์คนเดียวกันได้
ไม่เกิน 2 ตอน (two excerpts) หรือท าส าเนาผลงานได้ไม่เกิน 3 เรื่อง จากงานรวบรวมเล่มเดียวกัน หรือจาก
นิตยสาร/วารสารรวมเล่ม ในเวลา 1 ภาคการศึกษา
้
็
้
การรับรูความเปนเจาของลิขสิทธิ์
การนางานลิขสิทธิ์มาใช้ในการเรียนการสอนจะต้องแสดงความรับรู้ความเปนเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยต้อง
็
่
แจ้งให้ทราบชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ และ/หรือผู้สร้างสรรค์ ชือผลงาน (ถ้ามี) และ/หรือแหล่งทีมาด้วย (ถ้ามี)
่
ตัวอย่าง
1) ภาพยนตร์และโสตทัศนวัสดุ
ชื่อผู้สร้างสรรค์………....................................... ภาพจากภาพยนตร์หรือจากโสตทัศนวัสดุ
เรื่อง……….................
ปทีผลิต……………………………..
ี
่
2) ดนตรีกรรม
ผู้แต่งค าร้อง/ท านอง/ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน……………....…………… ชื่อเพลง
………….................…..................
3) รูปภาพและภาพถ่าย
ชื่อผู้สร้างสรรค์………………………………….ชื่อภาพ……………………………… จาก
หนังสือ………………........หรือจากเว็บไซต์……………........…ดาวนโหลดวันที…………………
่
์
4) วรรณกรรม
ี
่
่
่
ชื่อผู้เเต่งหรือนามแฝง. ชื่อบรรณาธิการ (ถ้ามี). (ปทีพิมพ์). ชื่อหนังสือ. ครั้งทีพิมพ์. สถานทีพิมพ์ :
ส านักพิมพ์หรือโรงพิมพ์/เจ้าของลิขสิทธิ์.
5) วรรณกรรมแปล
่
ี
่
ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือไทย. ชื่อหนังสือภาษาอังกฤษ. ชื่อผู้แปลหรือนามแฝง. (ปทีพิมพ์). ครั้งทีพิมพ์.
่
สถานทีพิมพ์ : ส านักพิมพ์หรือโรงพิมพ์/เจ้าของลิขสิทธิ์.
6) ข้อมูล/ตัวเลข/สถิติ
ี
่
่
ชื่อผู้เเต่ง. (ปทีพิมพ์). ชื่อหนังสือ. สถานทีพิมพ์ : ส านักพิมพ์หรือโรงพิมพ์/
เจ้าของลิขสิทธิ์.
หมายเหตุ ข้อมูลจาก website ของกรมทรัพย์สินทางปญญา http://www.ipthailand.org
ั
คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้
์
่
่
่
่
1. หนวยงานของรัฐทีท าหนาทีรับผิดชอบโดยตรงเกียวกับการสือสารออนไลนคือหนวยงานชื่ออะไร
่
่
้
็
2. การนาภาพของผู้อื่นมาตัดต่อใหม่แล้วเผยแพร่ในสือสังคมออนไลน ท าให้ผู้เปนเจ้าของภาพเกิดความอับ
่
์
อาย เสียชื่อเสียง ผู้เผยแพร่ภาพมีความผิดถึงขั้นจ าคุกได้หรือไม่ เปนความผิดตามมาตราใด
็
์
ู
่
3. ค าว่า “Stem wallet” หรือ “Waltet” ทีพบเห็นทั่วไปโดยเฉพาะในเมนของ Line ใช้ประโยชนอย่างไร
4. คุณครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ได้ถ่ายส าเนาเรื่อง พลังงาน จากหนังสือเรื่องโลกแห่งวิทยาศาสตร์และ
้
่
เทคโนโลยี จ านวน 15 หนา เพือแจกให้นักเรียนใช้ประกอบการเรียนรู้ โดยคิดค่าถ่ายส าเนาชุดละ 10 บาท
็
การกระท าของครูท่านนีเปนการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้แต่งหนังสือหรือไม่ เพราะเหตุใด
้
่
่
5. มีข่าวทีแชร์กันอย่างมากว่าโรงเรียนเอกชนทีมีชื่อเสียงแห่งหนึงให้นักเรียนชั้นมัธยมรับประทานอาหาร
่
กลางวันเปนข้าวเปล่ากับไข่ดาวหนึงฟอง ทั้งทีเก็บค่าอาหารแพงมาก นักเรียนคิดว่า ข่าวนีเปนข่าวจริงหรือไม่
่
็
้
่
็
เพราะเหตุใด
เฉลยคำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้
่
่
์
่
่
่
1. หนวยงานของรัฐทีท าหนาทีรับผิดชอบโดยตรงเกียวกับการสือสารออนไลนคือหนวยงานชื่ออะไร
่
้
่
กระทรวงดิจิทัลเพือเศรษฐกิจและสังคม
์
่
็
2. การนาภาพของผู้อื่นมาตัดต่อใหม่แล้วเผยแพร่ในสือสังคมออนไลน ท าให้ผู้เปนเจ้าของภาพเกิดความอับ
อาย เสียชื่อเสียง ผู้เผยแพร่ภาพมีความผิดถึงขั้นจ าคุกได้หรือไม่ เปนความผิดตามมาตราใด
็
ความผิดตามมาตรา 16
็
่
่
่
ผู้ใดนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทีประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ทีปรากฏเปนภาพ
้
็
่
ของผู้อื่น และภาพนั้นเปนภาพทีเกิดจากการสร้างขึน ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
่
้
หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี โดยประการทีนาจะท าให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความ
่
ี
่
อับอาย ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสามป หรือปรับไม่เกินหกหมืนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
่
็
ถ้าการกระท าตามวรรคหนึงเปนการนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระท าไมมีความผิด
่
ความผิดตามวรรคหนึงเปนความผิดอันยอมความได้
็
่
่
ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึงตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของ
็
ผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเปนผู้เสียหาย
่
์
ู
3. ค าว่า “Stem wallet” หรือ “Waltet” ทีพบเห็นทั่วไปโดยเฉพาะในเมนของ Line ใช้ประโยชนอย่างไร
้
"Steam Wallet เปนเงินทีอยู่บน Steam ใช้ในการซือสินค้าในระบบ Steam เช่น เกม และ ของใน
็
่
เกม"
4. คุณครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ได้ถ่ายส าเนาเรื่อง พลังงาน จากหนังสือเรื่องโลกแห่งวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี จ านวน 15 หนา เพือแจกให้นักเรียนใช้ประกอบการเรียนรู้ โดยคิดค่าถ่ายส าเนาชุดละ 10 บาท
้
่
็
้
การกระท าของครูท่านนีเปนการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้แต่งหนังสือหรือไม่ เพราะเหตุใด
ไม่ละเมิดเพราะ
1. ไม่ได้หวังผลก าไร เพราะคิดเฉพาะค่าถ่ายส าเนาเอกสาร
็
2. ใช้บางส่วนเปนการศึกษา
็
3. เปนการใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรม (fair use)
5. มีข่าวทีแชร์กันอย่างมากว่าโรงเรียนเอกชนทีมีชื่อเสียงแห่งหนึงให้นักเรียนชั้นมัธยมรับประทานอาหาร
่
่
่
้
่
็
กลางวันเปนข้าวเปล่ากับไข่ดาวหนึงฟอง ทั้งทีเก็บค่าอาหารแพงมาก นักเรียนคิดว่า ข่าวนีเปนข่าวจริงหรือไม่
็
่
เพราะเหตุใด
็
เปนข่าวปลอม เพราะโรงเรียนเอกชนไม่ได้รับงบค่าอาหารกลางวันจากกระทรวงศึกษาธิการ
แบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
้
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
่
็
1. ข้อใดเปนข้อมูลทีค านวณได้
1. อีกาบินได้
2. มีนกเกาะสายไฟฟา 2 ตัว
้
3. ฮิปโปโปเตมัส ชอบอยู่ในนา
้
4. กบและปลาผสมพันธุ์ภายนอก
็
2. ข้อใดเปนหลักเกณฑ์ในการสืบค้นข้อมูลทีถูกต้อง
่
1. สารสนเทศประเภทใดบ้างที่ได้มา
2. จดบันทึกสารสนเทศที่สืบแยกจากแฟ้มที่ทำงาน
3. สารสนเทศนั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
4. ถูกทุกข้อ
3. ข้อใดเปนการจัดเรียงข้อมูลของนักเรียนในโรงเรียน
็
1. เลขที ่
2. ล าดับชื่อ
3. เลขประจ าตัว
4. ชั้นเรียน/ห้องที ่
็
่
4. ข้อใดเปนวิธีประเมินว่าสารสนเทศทีสืบค้นนามาใช้งานได้จริง
1. การอ่าน
2. การดูและฟงเสียง
ั
3. การพิจารณาเนือหา
้
4. ถูกทุกข้อ
5. จริยธรรมในการใช้สารสนเทศคือข้อใด
1. ต้องเขียนอ้างอิงที่มาของสารสนเทศนั้น
2. ต้องบอกวัน เดือน ปี ที่นำสารสนเทศมาใช้
3. ไม่ลอกมาทั้งหมด
4. ไม่มีข้อถูก
6. การกลั่นกรองและย่อความสารสนเทศในแต่ละเรื่องที่สืบค้นแล้วนำมาปรับเค้าโครงใหม่ทั้งหมดโดยนำประเด็น
ที่มีความสัมพันธ์กันมาเชื่อมโยงกัน มีชื่อเรียกตามข้อใด
1. การวิเคราะห์สารสนเทศ
2. การสังเคราะห์สารสนเทศ
3. การรวบรวมสารสนเทศ
4. การประมวลสารสนเทศ
่
่
่
7. เว็บไซต์ประเภทใดทีให้ข้อมูลนาเชื่อถือทีสุด
1. .com
2. .or
3. .org
4. .net
่
8. ข้อใดท าได้โดยไม่ผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกียวกับคอมพิวเตอร์
1. การโพสต์ (Post)
2. การทวีต (Tweeter)
3. การกดแชร์ (Share)
4. การกดไลค์ (Like)
9. ข้อใดเปนชนิดของข้อมูลเอกสาร
็
1. .xlsx
2. .docx
3. .ppsx
4. .aia
10. ข้อใดเปนผลกระทบทางลบในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
็
1. การแชตท าให้ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
็
่
2. การเล่นเกมท าให้ไม่เปนโรคสมองเสือม
็
3. สมาร์ตโฟนเปนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
้
4. แผงแปนอักขระในสมาร์ตโฟนท าให้พิมพ์ผิดบ่อย ๆ
็
11. ข้อใดเปนการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกวิธี
1. ใช้ให้คุ้มค่า
2. ใส่แว่นรักษาสายตา
3. รู้จักแบ่งเวลาในการใช้
4. ไม่เล่นเกม
12. ตู้เอทีเอ็มเชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลด้วยสิ่งใด
1. สายโทรศัพท์ความเร็วสูง
2. สัญญาณวายฟาย
3. สัญญาณผ่านดาวเทียม
4. สายเช่าตรง (Lease line)
่
็
13. ข้อใดเปนสารสนเทศทีดี
่
1. ตรวจสอบแหล่งทีมาได้
2. เก็บข้อมูลไว้ในระบบคลาวด์
3. นาข้อมูลเก่ามาปรับปรุงใหม่ได้ทันที
้
4. ส ารองข้อมูลไว้หลายส าเนาปองกันการเสียหาย
็
์
14. การสัมภาษณจัดเปนข้อใด
1. ข้อมูลเสียง
2. ข้อมูลทุติยภมิ
ู
3. ข้อมูลปฐมภูมิ
4. ข้อมูลตติยภมิ
ู
่
่
15. ข้อใดเปนหนวยเก็บข้อมูลทีใหญ่ทีสุด
่
็
1. กิโลไบต์
2. กิกะไบต์
3. เมกะไบต์
4. เทระไบต์
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
1. 2 2. 4 3. 3 4. 4 5. 1
6. 2 7. 3 8. 4 9. 2 10. 1
11. 3 12. 4 13. 1 14. 3 15. 4
เฉลยละเอยด
ี
้
1. ตอบข้อ 2 มีนกเกาะสายไฟฟา 2 ตัว
เหตุผล
็
เปนข้อมูลจ านวนนับ
2. ตอบข้อ 3 สารสนเทศนั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
เหตุผล
่
ก่อนนาสารสนเทศทีสืบค้นจากอินเทอร์เน็ตไปใช้งานต้องวิเคราะห์ว่าสารสนเทศนั้นมีความนาเชื่อถือ
่
เพียงใด
3. ตอบข้อ 3 เลขประจ าตัว
เหตุผล
่
เลขประจ าตัวนักเรียนจะออกตามล าดับที ทีนักเรียนสมัครเข้าเรียนในโรงเรียน
่
4. ตอบข้อ 4 ถูกทุกข้อ
เหตุผล
่
่
ั
การพิจารณาสารสนเทศ ต้องอ่านให้ละเอียด ถ้าเปนสือทีมีเสียงและภาพประกอบ ต้องฟงเสียงและดู
็
ภาพประกอบ พร้อมกับพิจารณาว่าเนือหาตรงตามจุดประสงค์ทีจะนาไปใช้หรือไม่
้
่
5. ตอบข้อ 1 ต้องเขียนอ้างอิงที่มาของสารสนเทศนั้น
เหตุผล
การนาสารสนเทศของผู้อื่นมาใช้งานเพียงบางส่วน ต้องอ้างอิงทีมาของสารสนเทศนั้น เช่น จากใคร
่
็
ี
เว็บไซต์ชื่ออะไร วันเดือนปทีนามาใช้ เปนต้น
่
6. ตอบข้อ 2 การสังเคราะห์สารสนเทศ
เหตุผล
็
การสังเคราะห์ หมายถึง การนาเอาสารสนเทศตั้งแต่ 2 สารสนเทศมารวมกันเปนองค์ประกอบของ
่
่
็
สารสนเทศใหม่ ตรงข้ามกับการวิเคราะห์ซึ่งเปนการแยกย่อยเพือให้ได้ข้อมูลทีชัดเจน
7. ตอบข้อ 3 .org
เหตุผล
่
่
็
่
.org เปนเว็บไซต์ของหนวยราชการ ซึงต้องนาเสนอข้อมูลทีถูกต้อง เชื่อถือได้เพราะมีการกลั่นกรองก่อน
นาเสนอ
8. ตอบข้อ 4 การกดไลค์ (Like)
เหตุผล
่
์
่
่
็
่
การกดไลค์ เปนการแสดงความชืนชมเรื่องทีมีผู้นาเสนอในสือสังคมออนไลน โดยการคลิกทีรูปชู
นิวหัวแม่มือ หรือรูปอื่น ๆ ทีหมายถึงความชืนชอบ ไมผิดกฎหมายถึงแม้ว่าจะเปนเรื่องทีไม่ดีก็ตาม
้
่
่
็
่
่
9. ตอบข้อ 2 .docx
เหตุผล
่
เอกสารทีบันทึกด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2007 ขึนไป จะถูกก าหนดเปน docx ส่วนในรุ่นก่อนหนา
้
็
้
่
็
่
็
้
้
เปน .doc เหตุทีเปลียนเพราะต้องการให้เอกสารมีความยืดหยุ่นและใช้ได้กว้างขึน เช่น บันทึกเปนแฟม PDF
ได้
10. ตอบข้อ 1 การแชตท าให้ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
เหตุผล
้
้
ทีกล่าวกันว่าสังคมยุคใหม่เปนสังคมก้มหนา เพราะคนส่วนใหญ่มัวแต่จดจ่ออยู่กับหนาจอของสมาร์ตโฟน
่
็
เพือพิมพ์ข้อความโต้ตอบกันตลอดเวลา แม้กระทั่งขณะเดินทางท าให้ไม่สนใจสภาพแวดล้อม ไม่ดูทาง บางคน
่
เดินไปสะดุดล้ม บางคนขับรถก็ยังแชตกันท าให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ
11. ตอบข้อ 3 รู้จักแบ่งเวลาในการใช้
เหตุผล
การใช้อุปกรณเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น สมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ชนิดต่าง ๆ ต้องรู้จักแบ่งเวลาใน
์
การใช้ให้เหมาะสม ไม่หมกมุ่นอยู่กับอุปกรณเหล่านั้นจนเกินพอ เพราะท าให้เสียเวลาทีควรท างานอื่น ๆ เรียน
่
์
่
ไม่ทันเพือน บางคนติดเกมจนไม่สนใจท าการบ้าน
12. ตอบข้อ 4 สายเช่าตรง (Lease line)
เหตุผล
้
่
เพือปองกันการเจาะระบบจากอาชญากรไซเบอร์ ตู้เอทีเอ็ม (ATM Automatic Teller Machine) จึงไม่ใช้
สายโทรศัพท์และวายฟาย เพราะถูกเจาะระบบง่าย จึงเช่าสายนาสัญญาณโดยตรงจากบริษัททีโอที ปจจุบัน
ั
็
บริษัท ทีโอที จ ากัด (มหาชน) ควบรวมกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จ ากัด (มหาชน) เปนบริษัท
็
โทรคมนาคมแห่งชาติ จ ากัด (มหาชน) มีกระทรวงการคลังเปนผู้ถือหุ้นใหญ่
่
13. ตอบข้อ 1 ตรวจสอบแหล่งทีมาได้
เหตุผล
่
่
ี
่
สารสนเทศทีดีต้องตรวจสอบแหล่งทีได้มาได้ มีข้อมูลผู้จัดท า เอกสารอ้างอิงและวันเดือนปทีนาเสนอ
สารสนเทศ
14. ตอบข้อ 3 ข้อมูลปฐมภูมิ
เหตุผล
ข้อมูลปฐมภูมิ คือ ข้อมูลทีต้องรวบรวมมาเอง เช่น การสัมภาษณ การท าแบบสอบถาม การถามจากผู้รู้
่
์
15. ตอบข้อ 4 เทระไบต์
เหตุผล
10
กิโลไบต์ = 2 = 1,024
20
เมกะไบต์ = 2 = 1,048,576
30
กิกะไบต์ = 2 = 1,073,741,824
40
เทระไบต์ = 2 = 1,099,511,627,776
แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
็
1. ข้อใดเปนธุรกรรมออนไลน ์
1. การฝากเงินในธนาคาร
2. การโฆษณาสินค้าออนไลน ์
3. การช าระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด
ี
4. งบการเงินประจ าปของธนาคาร
์
้
2. สิ่งทีต้องท าในการซือสินค้าออนไลนคือข้อใด
่
1. ช าระเงินเมื่อรับสินค้าเท่านั้น
2. ตรวจสอบสินค้าก่อนลงชื่อรับ
่
3. ไม่รับสินค้าแทนคนอื่น ทีไม่ใช่ญาติ
4. ถูกทุกข้อ
้
3. การซือไอเท็มสามารถท าก าไรให้ผู้ซือได้หรือไม่
้
่
1. ได้เมื่อมีผู้ซือต่อในราคาทีสูงกว่า
้
2. ไม่ได้เพราะแลกคืนเปนเงินสดไม่ได้
็
3. ได้เพราะมีผู้เล่นทีขาดความสามารถจ านวนมาก
่
4. ไม่ได้ เพราะหมดอายุเร็ว
4. การท ารายงานโดยเข้าไปคัดลอกข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาวางลงในเอกสารเวิร์ดแล้วส่งครู จัดเปน
็
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศแบบใด
1. ขาดความรับผิดชอบ
2. ไม่ได้ความรู้จากงาน
3. นาละอาย
่
4. งานเอกสาร
5. ข้อใดเปนเครื่องมือทีมักใช้ในการท าให้ฝายตรงข้ามเกิดความเสียหายได้
่
็
่
1. ข่าวเสียดสี ล้อเลียน
2. ข่าวเชื่อมโยง
3. ข่าวปลอม
4. ข่าวไร้สาระ
6. ข้อใดเปนความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
็
1. ไม่เล่นเกม
2. ใช้เฉพาะการสืบค้น
ั
3. ใช้ดูหนังฟงเพลงก็ได้
4. ไม่รบกวนการท างานของผู้อื่น
็
7. ข้อใดเปนการท ายอดไลค์โดยการลวงให้คลิก
1. คุณได้รางวัลจาก TOT
2. Google search
3. กดไลค์ให้ด้วย
4. กดไลค์ไม่ผิดกฎหมาย
่
8. ท าไมกฎหมายเกียวกับคอมพิวเตอร์จึงมีโทษหนักกว่าการกระท าความผิดอื่น ๆ
1. เพราะคนใช้คอมพิวเตอร์ไม่รู้กฎหมาย
2. เพือปองปรามไม่ให้มีการกระท าความผิด
่
้
3. เพราะความผิดทางคอมพิวเตอร์ท าได้ง่าย
4. เพราะคนใช้คอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟนไม่ค่อยใช้ความระวัง
9.
์
้
ภาพสัญลักษณนี ตรงกับข้อใด
1. เครื่องหมายบริการ (Service Mark)
2. เครื่องหมายการค้า (Trademark)
3. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark)
4. เครื่องหมายรับรอง (Certification mark)
10.
ภาพสัญลักษณนีตรงกับค าอบข้อใด
้
์
1. เครื่องหมายการค้า (Trademark)
2. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark)
3. เครื่องหมายรับรอง (Certification mark)
4. เครื่องหมายบริการ (Service Mark)
11. แปดริวมีความหมายตรงกับข้อใดตามพระราชบัญญัติทรัพย์สินทางปญญา
ั
้
1. สิ่งบ่งชีทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication)
้
2. เครื่องหมายการค้า (Trade Mark)
3. ชื่อสถานที (Geographical District)
่
4. ไม่มีข้อถูก
12. ข้อใดเปนลิขสิทธิ์
็
1. เครื่องหมายการค้า
2. แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์
3. ภาพวาด ภาพถ่าย
้
4. นาปลาตราคนแบกกุ้ง
่
13. การถ่ายภาพอนาจารเพือโพสต์ในเว็บไซต์ส่วนตัวมีความผิดหรือไม ่
1. ไม่มีความผิด เพราะเปนเว็บไซต์ส่วนตัว
็
2. มีความผิด เพราะเปนการนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
็
3. ไม่มีความผิด เพราะรู้เห็นเฉพาะคนในกลุ่มเท่านั้น
4. มีความผิด เพราะผู้ดูแลระบบต้องพบเห็น
้
14. ถ้านักเรียนนาภาพใบหนาของนักแสดงหญิงไปตัดต่อกับภาพลิง แล้วโพสต์ในเฟสบุ๊ก มีความผิดหรือไม่
่
1. ไม่มีความผิด เพราะไมมีค าบรรยายประกอบภาพ
2. ไม่มีความผิด เพราะไม่ใช้ภาพลามกอนาจาร
3. มีความผิด เพราะเปนการเรียบเทียบกับลิง
็
่
4. มีความผิด เพราะเปนการตัดต่ออันอาจท าให้ผู้อื่นเสือมเสียชื่อเสียง
็
่
่
15. “บุคคลทั่วไปมีสิทธิพิเศษทีจะใช้งานอันมีลิขสิทธิ์โดยไมต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์หาก
็
่
การใช้นั้นเปนการใช้ทีเปนธรรม” ค าว่า การใช้ทีเปนธรรม หมายถึงข้อใด
็
็
่
่
1. การกระท านั้นมิได้เปนการกระท าเพือหาก าไร
็
2. เปนการกระท าเพือการวิจัยหรือศึกษางานนั้น
็
่
์
3. ไม่ขัดต่อการแสวงหาผลประโยชนตามปกติของเจ้าของสิทธิ์
4. ถูกทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
1. 3 2. 4 3. 2 4. 3 5. 3
6. 4 7. 1 8. 2 9. 3 10. 4
11. 1 12. 3 13. 2 14. 4 15. 4
เฉลยละเอยด
ี
1. ตอบข้อ 3 การช าระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด
เหตุผล
่
่
ธุรกรรม หมายถึง กิจกรรมทีเกียวกับการท าข้อตกลง สัญญาหรือการด าเนินการใด ๆ กับผู้อื่นทางการ
่
เงิน ทางธุรกิจ หรือการด าเนินการเกียวกับทรัพย์สินผ่านอินเทอร์เน็ต
็
๋
่
็
การช าระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดเปนกระเปาเงินออนไลน เปนค าตอบทีถูกต้อง การฝากเงินในธนาคารเปน
์
็
่
ระบบทีต้องฝากผ่านพนักงานไม่ใช่ออนไลน การโฆษณาสินค้าออนไลนไม่ใช่ธุรกรรมทางการเงิน งบการเงิน
์
์
ี
็
ประจ าปของธนาคารเปนรายงานด้านการเงิน
2. ตอบข้อ 4 ถูกทุกข้อ
เหตุผล
การช าระเงินเมื่อรับสินค้าและตรวจสอบว่าเปนสินค้าทีถูกต้อง เปนวิธีปองกันการหลอกขายแล้วส่งสินค้า
็
่
้
็
่
่
ไม่มีคุณภาพมาให้ ส่วนการไม่รับสินค้าแทนคนอืนทีไม่ใช่ญาติ หรือแม้แต่ญาติทีไม่ได้อยู่ด้วยกันก็อาจถูกแอบ
่
อ้างส่งสิ่งของต้องห้าม เช่น ยาเสพติดมาฝากไว้
็
3. ตอบข้อ 2 ไม่ได้เพราะแลกคืนเปนเงินสดไม่ได้
เหตุผล
่
ไอเท็ม เปนเหรียญหรือบัตรแทนเงินทีใช้เฉพาะการเล่นเกม ผู้เล่นทีท าคะแนนได้สูงก็จะได้รับไอเท็มมาก
็
่
่
็
และสามารถโอนให้ผู้อื่นได้ เปนกลยุทธ์ทางการตลาดของผู้พัฒนาเกม ส่วนผู้เล่นก็คือเหยื่อทีชอบเล่นเกมต้อง
เสียทรัพย์
4. ตอบข้อ 1 ขาดความรับผิดชอบ
เหตุผล
่
จรรยาบรรณในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศข้อหนึง คือ การใช้อย่างมีความรับผิดชอบ การคัดลอกงาน
้
ของผู้อื่น นอกจากผิดจรรยาบรรณแล้วยังอาจถูกฟองร้องได้
5. ตอบข้อ 4 ข่าวปลอม
เหตุผล
่
่
่
้
็
ข่าวปลอม เปนข่าวทีสร้างขึนมาลอย ๆ โดยไม่มีข้อเท็จจริงในการอ้างอิงหรืออ้างถึงสิ่งทีไม่เกียวข้อง ไม่
่
ระบุทีมาของข่าว ส่วนใหญ่ใช้ในการโจมตีฝายตรงข้าม เช่น ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
่
6. ตอบข้อ 4 ไม่รบกวนการท างานของผู้อื่น
เหตุผล
็
็
่
ิ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศโดยไมรบกวนผู้อื่น เช่น ไม่ส่งเสียงดัง ไม่เปดเสียงดังเกินจ าเปน จัดเปน
ความรับผิดชอบอย่างหนึง
่
7. ตอบข้อ 1 คุณได้รางวัลจาก TOT
เหตุผล
็
่
การลวงให้คลิก ส่วนใหญ่มักอ้างการให้รางวัลจากองค์กรทีนาเชื่อถือเปนสิ่งจูงใจ เมื่อคลิกแล้วจะส่ง
่
์
การท างานไปในเรื่องทีไร้สาระ ไม่มีรางวัลอะไร บางแห่งอาจส่งไปทีการพนันออนไลน หรือรับไวรัสเข้ามาก็ได้
่
่
่
้
8. ตอบข้อ 2 เพือปองปรามไม่ให้มีการกระท าความผิด
เหตุผล
การท าความผิดทางคอมพิวเตอร์เกิดได้ง่าย เช่น จากการไมระมัดระวังในการโพสต์ข้อความหรือภาพ ท า
่
ให้ผู้อื่นเสียหาย จากความคึกคะนองเลียนแบบ เช่น เมื่อมีข่าวการฆ่าคนด้วยความบ้าคลั่ง ก็เลียนแบบโดย
การโพสต์ ภาพของตนเองถืออาวุธ โดยไม่ทราบว่าสร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนอย่างมาก พอถูกจับก็บอกว่า
่
รู้เท่าไม่ถึงการ ดังนั้นพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท าความผิดเกียวกับคอมพิวเตอร์จึงมีโทษหนักกว่า
ความผิดอื่น ๆ
9. ตอบข้อ 3 เครื่องหมายร่วม (Collective Mark)
เหตุผล
เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการทีใช้โดยบริษัทหรือ
่
รัฐวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่นใดของรัฐหรือเอกชน
่
fbt เปนเครื่องหมายร่วมทีมีบริษัทหรือร้านค้าจ านวนมากใช้ เช่น เอฟ.บี.ที. สปอร์ตพาร์ค
็
ลาดกระบัง FBT สปอร์ต พาร์คบริษัท เอฟ.บี.ที. สปอร์ตคอมเพล็กซ์ จ ากัด ศูนย์สรรพสินค้ากีฬา FBT Sport
ุ
Complex หัวหมาก และ OUTLET F.B.T. สาขาปทมวัน ถนนบรรทัดทอง F.B.T. Outlet สาขาเมืองทองธานี
เปนต้น
็
10. ตอบข้อ 4 เครื่องหมายบริการ (Service Mark)
เหตุผล
่
็
่
เครื่องหมายบริการ (Service Mark) คือ เครื่องหมายทีใช้เปนทีหมายหรือเกียวข้องกับการบริการ เพือ
่
่
่
แสดงว่าบริการทีใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับบริการทีใช้เครื่องหมายบริการของบุคคลอื่น เช่น เครื่องหมาย
่
ของสายการบิน ธนาคาร โรงแรม เปนต้น
็
ตราสัญลักษณของ ปตท ทีพบเห็นทั่วไปคือสถานีบริการนามันเชือเพลิง ทีประทับลงในหีบห่อของนามัน
้
่
้
้
์
่
เชือเพลิงไม่ได้จึงเปนเครื่องหมายบริการ
้
็
11. ตอบข้อ 1 สิ่งบ่งชีทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication)
้
เหตุผล
่
์
สิ่งบ่งชีทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication) หมายถึง ชื่อ สัญลักษณ หรือสิ่งอื่นใดทีใช้เรียกหรือ
้
่
็
ใช้แทนแหล่งภูมิศาสตร์ และสามารถบ่งบอกว่าสินค้าทีเกิดจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้นเปนสินค้าทีมี
่
คุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์นั้น เช่น มีดอรัญญิก ส้มบางมด ผ้าไหมไทย
็
แชมเปญ คอนยัค เปนต้น
้
้
แปดริวเปนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดฉะเชิงเทราในอดีตมีชื่อเสียงเรื่องมีปลาช่อนในแม่นาบาง
็
ปะกงมีขนาดใหญ่ทีสามารถนามาแล่ออกเปนริวก่อนนาไปตากได้ถีงแปดริว ซึงทีพบเห็นกันทุกวันนมีเพียง 4-
้
่
่
่
้
็
้
ี
6 ริวเท่านั้น
้
12. ตอบข้อ 3 ภาพวาด ภาพถ่าย
เหตุผล
ั
็
ทรัพย์สินทางปญญาแบ่งเปน 2 ประเภท คือ ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมและลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทาง
ั
อุตสาหกรรมต้องขึนทะเบียนต่อกรมทรัพย์สินทางปญญาของแต่ละประเทศ ส่วนลิขสิทธิ์มีผลคุ้นครองทันทีที ่
้
็
ได้สร้างสรรค์ผลงานโดยไมจ าเปนต้องจดทะเบียน
่
ประเภทงานทีกฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครอง ได้แก่ งานวรรณกรรม เช่น หนังสือ บทความ บทกลอน
่
้
งานนาฏกรรม ได้แก่ ท่าเต้นท่าร า งานศิลปกรรม ได้แก่ ภาพวาด ภาพถ่าย งานดนตรีกรรม ได้แก่ เนือร้อง
ท านองเพลง งานโสตทัศนวัสดุ ได้แก่ วีซีดี คาราโอเกะ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่ภาพแพร่เสียง
์
(รายการวิทยุและโทรทัศน) หรืองานอืนใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์หรือแผนกศิลปะ
่
็
13. ตอบข้อ 2 มีความผิดเพราะเปนการนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
เหตุผล
“มาตรา 14 ผู้ใดกระท าความผิดทีระบุไว้ดังต่อไปนี ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินห้าป
ี
่
้
่
หรือปรับไม่เกินหนึงแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
(1) โดยทจริต หรือโดยหลอกลวง นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ทีบิดเบือน
่
ุ
่
็
หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเปนเท็จ โดยประการทีนาจะเกิดความ
่
่
เสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระท าความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
็
่
(2) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเปนเท็จ โดยประการทีนาจะเกิด
่
่
ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง
์
็
้
ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพืนฐานอันเปนประโยชนสาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิด
ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเปนความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
็
่
่
แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกียวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ทีมีลักษณะอันลามกและข้อมูล
่
่
คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยูแล้วว่าเปนข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1)
่
่
็
(2) (3) หรือ (4)
็
่
ถ้าการกระท าความผิดตามวรรคหนึง (1) มิได้กระท าต่อประชาชน แต่เปนการกระท าต่อบุคคลใด
ี
่
บุคคลหนึง ผู้กระท า ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสามป
่
่
็
หรือปรับไม่เกินหกหมืนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ และให้เปนความผิดอันยอมความได้
่
14. ตอบข้อ 4 มีความผิดเพราะเปนการตัดต่ออัน ojk0t ท าให้ผู้อื่นเสือมเสียชื่อเสียง
็
เหตุผล
่
“มาตรา 16 ผู้ใดนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทีประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์
่
่
็
็
้
ทีปรากฏเปนภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเปนภาพทีเกิดจากการสร้างขึน ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการทีนาจะท าให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น
่
่
ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสามป และปรับไมเกินสองแสนบาท
่
ี
่
็
่
ถ้าการกระท าตามวรรคหนึงเปนการกระท าต่อภาพของผู้ตาย และการกระท านั้นนาจะท าให้บิดา
มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย
่
่
ผู้กระท าต้องระวางโทษดังทีบัญญัติไว้ในวรรคหนึง
็
ถ้าการกระท าตามวรรคหนึงหรือวรรคสอง เปนการนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยสุจริตอันเปน
็
่
่
การติชมด้วยความเปนธรรม ซึงบุคคลหรือสิ่งใดอันเปนวิสัยของประชาชนย่อมกระท า ผู้กระท าไม่มีความผิด
็
็
่
ความผิดตามวรรคหนึงและวรรคสองเปนความผิดอันยอมความได้
็
่
ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึงหรือวรรคสองตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส
หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเปนผู้เสียหาย”
็
15. ตอบข้อ 4 ถูกทุกข้อ
เหตุผล
่
็
่
การใช้ทีเปนธรรม เปนข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของอันชอบธรรมเพือส่งเสริมให้เกิดการ
็
สร้างสรรค์ผลงานทีมีคุณค่า เปนประโยชนต่อสังคมและไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของเจ้าของผลงาน
์
่
็
่
็
หลักเกณฑ์ในความหมายของการใช้ทีเปนธรรม ได้แก่
็
1. เปนการกระท าเพือการวิจัยหรือศึกษางานนั้น
่
็
2. การกระท านั้นมิได้เปนการกระท าเพือหาก าไร
่
์
่
3. การกระท านั้นไมขัดต่อการแสวงหาประโยชนตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และไม่
กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร
แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) เรื่อง ......................................................................... ชั้น ม.
3/........
ความ การตั้ง การทำ ส่งงานใน มาเรียน รวม ปรับ
ตั้งใจ คำถาม กิจกรรม เวลาที่ สม่ำเสมอ คะแนน คะแนน
เลขที่ ชื่อ-นามสกุล มุ่งมั่น ตอบ กลุ่ม กำหนด (4) (20) (10)
(4) คำถาม (4) (4)
(4)
1
2
3
4
5
6
7
8
หมายเหตุ 1. เพิ่มชื่อนักเรียนตามจ านวนจริง
2. แบบประเมินนีใช้ได้ตลอดภาคเรียน
้
3. เกณฑ์การประเมิน
ผู้ประเมิน ........................................................
( )
แบบประเมินสมรรถนะส าคัญ
ชื่อ..........................................................นามสกุล........................................................ ชั้น ม.3/.........เลขที ่
.........
้
้
้
ลงในชองระดับคุณภาพ
ื
่
ี
ี
ั
ค าชแจง : ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนกเรยน และใสเคร่องหมาย ่
ระดับคุณภาพ
้
ี
ดมาก ดี พอใช ปรับ
สมรรถนะด้าน รายการประเมิน
(3) (2) (1) ปรุง
(0)
1. ความสามารถ 1.1 ความสามารถในการรับ-ส่งข้อมูล
่
ในการสือสาร 1.2 ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้
ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษา
อย่างเหมาะสม
่
่
1.3 ใช้วิธีการสือสารทีเหมาะสม มีประสิทธิภาพ
ั
่
1.4 เจรจาต่อรองเพือขจัดและลดปญหาความ
ขัดแย้งต่าง ๆ ได้
1.5 เลือกรับและไมรับข้อมูลข่าวสารด้วยเหตุผล
่
และถูกต้อง
สรุปผลการประเมิน
2. ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์
ในการคิด สังเคราะห์
2.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์
2.3 สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการสร้างองค์ความรู้
ั
2.5 ตัดสินใจแก้ปญหาเกี่ยวกับตนเองได้อย่าง
เหมาะสม
สรุปผลการประเมิน
3. ความสามารถ 3.1 สามารถแก้ปญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทีพบ
ั
่
ั
ในการแก้ปญหา ได้
3.2 รู้จักใช้เหตุผลในการแก้ปญหา
ั
3.3 เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลียนแปลงใน
่
สังคม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ
ปองกันและแก้ไขปญหา
้
ั
ั
3.5 ตัดสินใจแก้ปญหาได้เหมาะสมกับวัย
สรุปผลการประเมิน
4. ความสามารถ 4.1 เรียนรู้ด้วยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
ในการใช้ทักษะ 4.2 ท างานกลุ่มร่วมกับผู้อื่นได้
ชีวิต 4.3 นาความรู้ทีได้ไปใช้ประโยชนใน
่
์
ชีวิตประจ าวัน
4.4 จัดการปญหาและความขัดแย้งได้เหมาะสม
ั
่
.5 หลีกเลียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ทีส่งผล
่
กระทบต่อตนเอง
สรุปผลการประเมิน
5. ความสามารถ 5.1 เลือกและใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวัย
ในการใช้ 5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
เทคโนโลยี 5.3 สามารถนาเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาตนเอง
ั
5.4 ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปญหาอย่าง
สร้างสรรค์
5.5 มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
สรุปผลการประเมิน
แบบประเมินคุณลักษณะอันพงประสงค์ 8 ประการ
ึ
ี
วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ภาคเรียนท...........ปการศึกษา..............
ี่
ชื่อ-สกุลนักเรียน............................................................................................ ชั้น ม.3/........... เลขที ่
............
ี
้
้
ั
ค าชแจง : ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนกเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขด ✓ ลง
้
ี
ี
ในชองว่างท่ตรงกับระดับคะแนน
่
คุณลักษณะอันพึง รายการประเมิน ระดับคะแนน
้
ประสงค์ดาน 4 3 2 1
1. รักชาติ ศาสน ์ 1. ยืนตรงเมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติ ร้องเพลงชาติ
กษัตริย์ ได้ และบอกความหมายของเพลงชาติ
2. ปฏิบัติตนตามสิทธิของนักเรียน ให้ความ
ร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่มอย่างแข็งขัน
่
็
2. ซื่อสัตย์ สุจริต 1. ให้ข้อมูลทีถูกต้องและเปนจริง ท างานด้วย
ความสามารถของตนเอง
2. ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง เปน
็
่
่
แบบอย่างทีดีแก่เพือนและนักเรียนอื่น ๆ
3. มีวินัย 1. ปฏิบัติตามระเบียบ กฎการใช้ห้องปฏิบัติการ
รับผิดชอบ คอมพิวเตอร์อย่างเคร่งครัด
่
4. ใฝเรียนรู้ 1. ตั้งใจเรียน
2. เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ
3. ศึกษาและสืบค้นหาความรู้เพิ่มเติมจาก
แหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทั้งในหนังสือแบบเรียน ใน
ห้องสมุดและในอินเทอร์เน็ต
4. วิเคราะห์ความนาเชื่อถือของข้อมูลและสรุป
่
็
เปนองค์ความรู้จัดเก็บไว้ใช้อ้างอิง
5. คิดและหาวิธีแก้ปญหาด้วยขั้นตอนทาง
ั
วิทยาศาสตร์
5. อยู่อย่างเพียงพอ 1. ใช้อุปกรณการเรียนของโรงเรียนอย่าง
์
ประหยัดและคุ้มค่า
6. มุ่งมั่นในการ 1. ความตั้งใจในการท างานให้เสร็จในเวลาที ่
้
ท างาน ก าหนดและมีคุณภาพตามเปาหมาย
2. มีความอดทนไมท้อแท้ต่ออุปสรรคทีพบ
่
่
ท างาน
ให้ส าเร็จ
7. รักความเปนไทย 1. ใช้ภาษาไทยในการท าเอกสารและการโต้ตอบ
็
์
ในโปรแกรมตลอดจนในสือสังคมออนไลนอย่าง
่
ถูกต้อง สุภาพ ไม่ใช้ค าหยาบคาย
8. มีจิตสาธารณะ 1. รู้จักดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของ
์
อุปกรณคอมพิวเตอร์ ห้องเรียนและโรงเรียน
แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ชื่อ .........................................................ชั้น ม.3/.........เลขที่ ...........คะแนนที่ได้ ...............
ิ
ให้นักเรียนประเมินตนเองจากผลที่ได้จากการเรียนรู้ในวิชาวทยาศาสตร์ โดยทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรง
ั
กับระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีในแต่ละหวข้อ
ระดับความรู้ความเข้าใจ ทักษะ บันทึก
สัปดาห์ที่ เรื่อง/หัวข้อย่อย/กิจกรรม
มาก ปานกลาง น้อย เพิ่มเติม
1
2
3
4
5
หมายเหตุ 1. ทำให้ครบทุกสัปดาห์
2. ให้นักเรียนประเมินตนเองจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
แบบประเมินทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) เรื่อง ......................................................................... ชั้น ม.
3/........
การ
การ
รู้ศัพท์ รู้ รู้ การคิดแบบม ี การ คิด สรุป
เลขที่ ชื่อ-นามสกุล ทำงาน
รู้ภาษา คณิตศาสตร์ ICT วิจารณญาณ สื่อสาร สร้าง ผล
ร่วมกัน
สรรค์
ลงชื่อผู้ประเมิน...............................................
(.............................................)
คำชี้แจง 1. เกณฑ์การให้ระดับคุณภาพ
3 = ดีเยี่ยม 2 = ดี 1 = ผ่าน
2. ให้ทำเครื่องหมาย ลงในช่อง เมื่อนักเรียนแสดงพฤติกรรมตามหัวข้อประเมิน แล้วสรุปผลในแต่
ละช่องว่าควรได้ระดับคุณภาพใด โดยทำให้ครบทุกช่อง
3. การสรุปผลการประเมินให้สรุปโดยใช้เกณฑ์ถ้าได้ระดับใดมากที่สุด ผลการประเมินโดยสรุป ใช้
ระดับคุณภาพนั้น เช่น ถ้าได้ 3 = 3 รายการ ได้ 2 = 6 รายการ สรุปผลได้ = 2
4. แบบประเมินนี้ใช้ได้ตลอดทั้งภาคเรียนแล้วจึงสรุปผล