188 ตารางที่ 16 สรุปค่าความยากง่าย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) ของแบบวัดทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี ข้อที่ p r 1 .55 .35 2 .57 .30 3 .62 .25 4 .57 .40 5 .52 .35 6 .52 .45 7 .60 .45 8 .55 .45 9 .52 .50 10 .62 .60 11 .62 .60 12 .60 .60 13 .72 .65 14 .65 .25 15 .60 .60 16 .72 .20 17 .60 .55 18 .47 .65 19 .55 .40 20 .62 .45 21 .50 .65 22 .52 .60 23 .57 .45 24 .52 .50 25 .62 .35 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .92
189 ตารางที่ 17 สรุปค่าดัชนีความสอดคล้อง ( IOC) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยผู้เชี่ยวชาญ ข้อที่ ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ (คนที่) รวม IOC แปลผล 1 2 3 4 5 1 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 2 1 0 1 1 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 3 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 4 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 5 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 6 1 1 0 1 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 7 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 8 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 9 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 10 1 1 1 0 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 11 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 12 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 13 1 0 1 1 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 14 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 15 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 16 1 1 1 0 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 17 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 18 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 19 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 20 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 21 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 22 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 23 1 0 1 1 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 24 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 25 1 1 1 0 1 4.00 0.80 สอดคล้อง
190 ตารางที่ 17 สรุปค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยผู้เชี่ยวชาญ (ต่อ) ข้อที่ ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ (คนที่) รวม IOC แปลผล 1 2 3 4 5 26 1 1 0 1 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 27 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 28 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 29 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 30 1 1 1 0 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 31 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 32 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 33 1 0 1 1 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 34 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 35 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 36 1 1 1 0 1 4.00 0.80 สอดคล้อง 37 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 38 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 39 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง 40 1 1 1 1 1 5.00 1.00 สอดคล้อง
191 ตารางที่ 18 สรุปค่าความยากง่าย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ข้อที่ p r 1 .52 .35 2 .50 .30 3 .47 .25 4 .55 .40 5 .52 .35 6 .57 .45 7 .57 .45 8 .57 .45 9 .60 .50 10 .55 .70 11 .60 .60 12 .60 .60 13 .57 .65 14 .62 .70 15 .60 .60 16 .70 .20 17 .57 .55 18 .62 .65 19 .55 .40 20 .57 .45 21 .62 .65 22 .60 .60 23 .57 .45 24 .60 .50 25 .52 .35
192 ตารางที่ 18 สรุปค่าความยากง่าย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน (ต่อ) ข้อที่ p r 26 .50 .30 27 .47 .25 28 .57 .45 29 .52 .35 30 .57 .45 31 .60 .50 32 .60 .60 33 .57 .65 34 .62 .65 35 .55 .40 36 .62 .65 37 .55 .40 38 .57 .45 39 .55 .70 40 .55 .40 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .95
193 ภาคผนวก จ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
194 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา การงานพื้นฐานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ชื่อ-สกุล…………………………………………...........................................……………………………………… ชั้น …………………...........................................………….. เลขที่ …….....……………………..…………… โรงเรียน ……………………………………………………………….....................................................……… คำชี้แจง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา การงานพื้นฐานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 จัดทำขึ้นเพื่อวัดความรู้ ของกลุ่มประชากรในการวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเชื่อมโยงความรู้และแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 แบบวัดฉบับนี้มีลักษณะเครื่องมือ คือ เป็นข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ในแต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกเพียงคำตอบเดียว เกณฑ์การให้คะแนน คือตอบถูกให้1 คะแนน ตอบผิดหรือไม่ตอบให้0 คะแนน ขอให้นักเรียนตอบคำถามให้ครบทุกข้อโดยเลือกคำตอบจากตัวเลือกที่กำหนดให้เพียง คำตอบเดียวและขอขอบคุณนักเรียนทุกคนมา ณ โอกาสนี้ ผู้วิจัย นางสาวสุวิมล เภาวนะ
195 คำชี้แจง 1. ให้นักเรียนเขียนชื่อ นามสกุล ชั้นเรียน เลขที่ ในกระดาษคำตอบ 2. ข้อสอบฉบับนี้เป็นข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อเวลาในการทำ ข้อสอบ 1 ชั่วโมง 3. ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว จาตัวเลือก ก ข ค และ ง แล้วทำ เครื่องหมาย X ลงในช่อง ในกระดาษคำตอบตรงกับตัวเลือกที่ต้องการ เช่น ก ข ค ง X 4. ห้ามขีดเขียนข้อความใด ๆ ลงในแบบทดสอบ 5. เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จแล้วให้ ส่งกระดาษคำตอบพร้อมด้วยแบบทดสอบกับกรรมการ กำกับการสอบ ผู้ศึกษาค้นคว้า (นางสาวสุวิมล เภาวนะ) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
196 ๑. “ช่าง” มีความหมายตรงกับข้อใด ก. ผู้มีความชํานาญเฉพาะทาง ข. ผู้มีความชํานาญทุกช่าง ค. ผู้มีความชํานาญงานไฟฟ้า ง. ผู้มีความชํานาญงานไม้ ๒. การออกแบบบ้านที่ให้ความสวยงามถือว่า สนองความต้องการในด้านใดของมนุษย์ ก. ร่างกาย ข. สมอง ค. สติปัญญา ง. จิตใจ ๓. “งานช่างที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน และมี ฝีมือด้านการสร้างปัจจัยสี่ในการดํารงชีวิต” เป็นการกล่าวถึงงานช่าง ในข้อใด ก. ช่างไฟฟ้า ข. งานช่างโลหะ ค. งานช่างยนต์ ง. งานช่างก่อสร้าง ๔. งานช่างข้อใดเป็นงานขั้นสุดท้ายที่สร้าง คุณค่าให้กับชิ้นงาน ก. งานสี ข. งานไม้ ค. งานปูน ง. งานท่อ ๕. วิชัยต้องการที่จะมีความรู้ด้านเครื่องทํา ความเย็นและเครื่องปรับอากาศ วิชัยจะต้อง เรียนช่างในข้อใด ก. ช่างไฟฟ้า ข. ช่างก่อสร้าง ค. ช่างกลโรงงาน ง. ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ๖. งานช่างข้อใดถือเป็นแม่แบบของงานช่าง ทุกประเภท ก. งานออกแบบ ข. งานช่างเขียน ค. งานสถาปัตยกรรม ง. งานศิลป์ ๗. ลักษณะของงานช่างประเภทใดต่างจาก พวก ก. การประกอบตามคู่มือ ข. การซ่อมแซม ค. การบํารุงรักษา ง. การติดตั้งที่เหมาะสม ๘. อาทิตย์กําลังเลื่อยไม้เพื่อประกอบเป็นเก้าอี้ แสดงว่าอาทิตย์กำลังปฏิบัติงานในลักษณะใด ของงานช่าง ก. งานการผลิต ข. งานซ่อมแซม ค. งานบํารุงรักษา ง. งานติดตั้ง ๙. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของหลักการจัดการ งานช่าง ก. การควบคุม ข. การวางแผน ค. การประเมินผล ง. การมอบหมายงาน
197 ๑๐. ข้อใดเป็นลักษณะของการประเมิน กระบวนการทํางานช่าง ก. งานยังขาดความประณีต ข. งานออกแบบได้อย่างสวยงาม ค. ลําดับการทํางานเน้นความปลอดภัย ง. พบปัญหาในด้านการประกอบ ชิ้นงาน ๑. ข้อใดคือลักษณะของความปลอดภัยในการ ทำงาน ก. แมนทำางานกับเครื่องจักรด้วยความ ระมัดระวัง ข. นุชปวดหลังจากการก้มหยิบอุปกรณ์ ทำางาน ค. ชยากรปวดเมื่อยจากการใช้งาน คอมพิวเตอร์ ง. ศักดิ์มีผื่นคันตามตัวเพราะแพ้สารเคมี ๒. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของความปลอดภัยใน การทำงาน ก. ผลผลิตเพิ่มขึ้น ข. ค่าใช้จ่ายลดลง ค. มีพนักงานเพิ่มมากขึ้น ง. คุณภาพชีวิตพนักงานดีขึ้น ๓. ข้อใดคือวิธีการเสริมสร้างความปลอดภัยใน การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ก. สร้างกฎระเบียบในการทำงาน ข. สร้างจิตสำนึกที่ดีต่อความปลอดภัย ค. ลงโทษอย่างรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ง. จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายมาให้ ผู้ปฏิบัติงานใช้ ๔. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับเครื่องหมาย บังคับ ก. ใช้สีน้ำเงินตัดกับสีขาว ข. ใช้สีเขียวตัดด้วยสีขาว ค. ใช้สีแดงตัดด้วยสีขาว ง. ใช้สีเหลืองตัดกับสีดำ ๕. การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานในข้อ ใดที่นำไปสู่ความปลอดภัยในการทำงาน ก. เพิ่มอุณหภูมิในห้องทำงานให้สูงเพื่อ ความอบอุ่น ข. วางวัสดุอุปกรณ์ตามทางเดินเพื่อ สะดวกในการใช้งาน ค. ลดแสงสว่างในห้องทำงานให้สลัว เพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ดี ง. ปรับสภาพแวดล้อมให้เปลี่ยนแปลง ไปตามลักษณะการทำงาน ๖. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับความปลอดภัย ในการปฏิบัติงาน ก. อุบัติเหตุในการทำงานส่วนใหญ่เกิด จากเครื่องจักร ข. ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ขึ้นอยู่กับนายจ้างเพียงอย่างเดียว ค. อุบัติเหตุในการทำงานส่งผลกระทบ ต่อผู้ปฏิบัติงานเพียงฝ่ายเดียว ง. ความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายใน องค์กรนำไปสู่ความปลอดภัยในการ ทำงาน
198 ๗. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับหลักความปลอดภัย ในการปฏิบัติงานไฟฟ้า ก. ใช้ฟิวส์ให้เหมาะสมกับงาน ข. ติดตั้งไฟฟ้าตามมาตรฐานของการ ไฟฟ้า ค. ต่อสายไฟแบบหลวมเพื่อสะดวกใน การใช้ไฟฟ้า ง. ติดตั้งเสาอากาศโทรทัศน์ให้ห่างจาก สายส่งไฟฟ้า ๘. การเกิดอันตรายจากไฟฟ้าส่วนใหญ่เกิด จากสาเหตุใด ก. ไฟฟ้าลัดวงจร ข. เบรกเกอร์ไม่ตัดวงจร ค. อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน ง. สายไฟฟ้าเสื่อมคุณภาพ ๙. หากพบผู้บาดเจ็บที่ต้องการความช่วยเหลือ ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นอันดับแรก ก. วัดปรอทเพื่อตรวจดูไข้ ข. เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บทันที ค. ตรวจดูอาการและบาดแผล ง. ให้รับประทานยาแก้ปวดทันที ๑๐. ข้อใดคือจุดมุ่งหมายหลักของการปฐม พยาบาล ก. ลดความเจ็บปวด ข. ยืดชีวิตผู้บาดเจ็บ ค. ลดความกังวลของผู้บาดเจ็บ ง. ป้องกันการบาดเจ็บไม่ให้รุนแรงมาก ขึ้น ๑. ข้อใดไม่ใช่วิธีการบำรุงรักษาปั๊มน้ำที่ ถูกต้อง ก. ตรวจเช็กรอยรั่วของท่อบริเวณ รอยต่อปั๊มน้ำ ข. ตรวจเช็กการรั่วของกระแสไฟฟ้า ค. ตรวจสอบสภาพทางกลของปั๊มน้ำ ง. นั่งดูการทำงานของปั๊มน้ำ ๒. ข้อใดไม่ใช่วิธีการแก้ไขข้อขัดข้อง เมื่อเปิด เครื่องทำน้ำอุ่นแต่น้ำไม่อุ่น ก. ตรวจเช็กแรงดันของน้ำ ข. ตรวจเช็กขดลวดความร้อน ค. ตรวจเช็กรอยรั่วของท่อทางเข้า ง. ตรวจเช็กหลอดสัญญาณว่าติดหรือไม่ ๓. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในการดูแลรักษา โทรทัศน์ ก. ซ่อมโทรทัศน์เอง ข. ใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นโทรทัศน์เป็นประจำ ค. ปรับจอภาพให้มีความสว่าง พอประมาณ ง. วางโทรทัศน์ไว้ในตำแหน่งที่อากาศ ถ่ายเทได้สะดวก ๔. ข้อใดคือวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดเมื่อผ้าติดเตารีด ไฟฟ้าขณะรีดผ้า ก. ซื้อเตารีดใหม่ ข. ฉีดน้ำพรมผ้าให้มาก ๆ ค. ทำความสะอาดพื้นเตารีด ง. เพิ่มความร้อนให้เตารีดอีก
199 ๕. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในการใช้พัดลมไฟฟ้า ก. เปิดพัดลมให้ความเร็วต่ำสุด ข. เปิดพัดลมให้มีความเร็วสูงสุด ค. ทำความสะอาดพัดลมเป็นประจำ ง. ติดตั้งพัดลมบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ สะดวก ๖. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในการใช้กาต้มน้ำไฟฟ้า ก. ต้มเฉพาะน้ำที่สะอาด ข. ดึงปลั๊กออกเมื่อไม่ใช้งาน ค. ทำความสะอาดกาต้มน้ำเป็นประจำ ง. เติมน้ำให้เต็มไว้ตลอด เพื่อป้องกันกา ต้มน้ำไหม้ ๗. ข้อใดคือสาเหตุของหม้อหุงข้าวไฟฟ้าตัดช้า เกินไปหรือไม่ตัด ก. ใส่น้ำมากเกินไป ข. หุงข้าวมากเกินไป ค. ปรับตัวควบคุมอุณหภูมิไม่ถูกต้อง ง. ส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวควบคุม อุณหภูมิสัมผัสกับแผ่นฮีตเตอร์ ๘. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในการใช้เครื่องดูดฝุ่น ก. ใช้หัวดูดฝุ่นให้เหมาะกับสถานที่ ข. ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นในห้องที่มีอากาศ ถ่ายเทได้สะดวก ค. ถอดตัวกรองหรือตะแกรงดักฝุ่น ออกมาทำความสะอาดเป็นประจำ ง. ปรับความเร็วของเครื่องดูดฝุ่นให้มี ความเร็วสูงสุด เพื่อจะดูดฝุ่นได้รวดเร็ว ๙. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในการใช้ตู้เย็น ก. ปรับตัวควบคุมอุณหภูมิตำแหน่ง สูงสุด ข. ไม่นำอาหารที่มีความร้อนเข้าไปแช่ ในตู้เย็น ค. ตั้งห่างจากฝาผนังไม่น้อยกว่า ๑๕ เซนติเมตร ง. เก็บสิ่งของหรืออาหารที่ต้องการใช้ บ่อยในพื้นที่ใกล้มือ ๑๐. ข้อใดคือข้อเสียของเครื่องซักผ้าแบบ กึ่งอัตโนมัติ ก. ต่อท่อน้ำหรือตักน้ำใส่ถังเองได้ ข. ราคาถูกกว่าเครื่องซักผ้าแบบ อัตโนมัติ ค. ซักผ้าได้ช้ากว่าเครื่องซักผ้าแบบ อัตโนมัติ ง. ติดตั้งง่ายและมีความสะดวกในการ เคลื่อนย้าย ๑. “การเขียนแบบ” หมายความว่าอย่างไร ก. เป็นการสั่งงานหลายลักษณะ ข. การถ่ายทอดจินตนาการให้ออกเป็น รูปร่างบนกระดาษ ค. การลากเส้นหลายลักษณะ เช่น เส้นตรง เส้นเอียงให้เกิดเป็นรูป ง. ถูกทุกข้อ ๒. ข้อใดคือแบบที่เขียนสำหรับอาคารที่พัก อาศัย ก. แบบเครื่องกล ข. แบบโครงสร้าง ค. แบบสถาปัตยกรรม
200 ง. แบบสำาหรับผลิตภัณฑ์ ๓. กระดาษเขียนแบบ A3 มีขนาดเท่าใด ก. ๔๒๐ x ๕๙๔ ตารางมิลลิเมตร ข. ๒๙๗ x ๔๒๐ ตารางมิลลิเมตร ค. ๒๑๐ x ๒๙๗ ตารางมิลลิเมตร ง. ๑๔๘ x ๒๑๐ ตารางมิลลิเมตร ๔. คำกล่าวที่ว่า “เขียนแบบเป็นภาษาสากล” หมายความว่าอย่างไร ก. การสั่งงานในระบบอุตสาหกรรม จะต้องใช้แบบงาน ข. เป็นการสื่อสารกันระหว่างวิศวกรกับ ช่างเทคนิค ค. ช่างอุตสาหกรรมทุกสาขาต้องเรียน เขียนแบบ ง. เป็นความรู้ที่พบในงานก่อสร้าง เท่านั้น ๕. งานเขียนแบบสถาปัตยกรรมและงานเขียน แบบไฟฟ้าต่างกันอย่างไร ก. วิธีการเขียนแบบ ข. เจตคติในการเขียนแบบ ค. จุดมุ่งหมายของการเขียนแบบ ง. ความรู้พื้นฐานในการเขียนแบบ ๖. การเขียนแบบเพื่อย่อหรือขยาย ควรใช้ อุปกรณ์เขียนแบบชนิดใด ก. ไม้ที ข. บรรทัดสเกล ค. บรรทัดสามเหลี่ยม ๔๕ องศา ง. บรรทัดสามเหลี่ยม ๓๐ และ ๖๐ องศา ๗. การใช้วงเวียนข้อใดถูกต้องที่สุด ก. หมุนตามเข็มนาฬิกา ข. หมุนทวนเข็มนาฬิกาให้เอนไป ข้างหน้าเล็กน้อย ค. หมุนตามเข็มนาฬิกาให้เอนไปข้าง หลังเล็กน้อย ง. หมุนตามเข็มนาฬิกาให้เอนไป ข้างหน้าเล็กน้อย ๘. ไส้ดินสอในข้อใดเป็นเกรดที่มีความแข็ง น้อยที่สุด ก. F ข. 9H ค. 7B ง. HB ๙. การลากเส้นตรงแนวนอน ควรลาก อย่างไร ก. สามารถลากได้ทั้งซ้ายและขวา ข. ลากจากซ้ายมือไปขวามือ ค. ลากจากขวามือไปซ้ายมือ ง. ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน ๑๐. ข้อใดคือเส้นที่ใช้แสดงเส้นขอบรูปที่ถูก บดบัง ก. เส้นลูกโซ่บาง ข. เส้นเต็มบาง ค. เส้นมือเปล่า ง. เส้นประ
ภาคผนวก จ ภาพกิจกรรมในโครงการวิจัย
202
203
204
217 ประวัติผู้วิจัย ชื่อ – สกุลนางสาวสุวิมล เภาวนะ ชื่อเล่น โม หมู่โลหิต บี เกิดวันที่1 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2544 เป็นบุตรคนที่3 จากจำนวน 3 คน สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนา พุทธ บิดาชื่อนาย จรัญ เภาวนะ มารดาชื่อนาง บัวลา เภาวนะ ที่อยู่ปัจจุบัน136 หมู่ 4 บ้านยางงาม ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ สาขาวิชาเครื่องกลคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี รหัสนักศึกษา 63040109107 เบอร์โทรศัพท์ 080-297-0430 คติประจำใจ ถ้าเต็มที่แล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจ อาชีพที่อยากเป็นในอนาคต คุณครู อุปนิสัย โกรธง่ายหายเร็ว E-mail: [email protected]
หวัขอ้วจิยัในชัน้ เรยีน ก า ร พัฒ น า ผ ล สัม ฤ ท ธิ ์ก า ร เ รีย น โดยประยุกตใ์ชแ้นวคดิหอ้งเรยีนกลบัดา้นของนักเรยีนชัน้มธั ยมศกึษาปีที ่5 โรงเรยีนสตรรีาชนิูทศิ ผู้วิจัย นางสาวสุวิมล เภาวนะ สาขาวิชา เครือ่งกล อาจารยท์ีป่รกึษาผศ.ดร.ชญานนท์ แสงมณี ครูพี ่ เลีย้ง นายจักรกฤษ วงษ์ชาลี อาจารย์ประจ าหลักสูตรครุศาสตร ์บัณฑิต สาขาวิชาเครื ่องกล ค ณ ะ ค รุ ศ า ส ต ร ์ มหาวทิยาลยัราชภฏัอุดรธานีอนุมตั ใิหน้ับวจิยัในชัน้ เรยีนฉบบันี ้ เป็นส่วนหนึ ่งข องการศึกษาตามหลักสูตรครุศาสตร ์บัณฑิต สาขาวิชาเครือ่งกล .................................................................. หัวหน้าสาขาวิชา (รองศาสตร ์ตราจารย์ ดร.สุนทร สุทธิบาก) วนัที ่ .......…เดือน…….…………พ.ศ…………… คณะกรรมการผูป้ระเมนิรายงานวจิยัในชัน้ เรยีน .................................................................................. ประธานคณะกรรมการ (รองศาสตร ์ตราจารย์ ดร.สุนทร สุทธิบาก) .................................................................................. กรรมการ (ผู้ช่วยศาสตร ์ตราจารย์.ดร.ชญานนท์ แสงมณี) .................................................................................. กรรมการ (ผู้ชว่ยศาสตรต์ราจารย์ณัฐกติติ ์แสนทอง) .................................................................................. กรรมการ (ดร.อธิกา จันทนปุ่ม)
.................................................................................. กรรมการ (อาจารย์ กลมรัตน์ ดีสภา)
ก ชือ่ เรือ่ง ก า ร พัฒ น า ผ ล สัม ฤ ท ธิ ์ท า ง ก า ร เ รีย น โดยประยุกต ์ใช้แนวคิดห้องเรียนกลับด้านของ นัก เ รีย น ชั ้น มัธ ย ม ศึก ษ า ปีที ่ 5 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ผู้วิจัย นางสาวสุวิมล เภาวนะ อาจารยท์ีป่รกึษา ผศ.ดร.ชญานนท์ แสงมณี อาจารยท์ีป่รกึษารว่ม นายจักรกฤษ วงษ์ชาลี ปีการศึกษา 2566 . . บทคัดย่อ ก า ร วิจัย ค รั ้ง นี ้มีวัต ถุป ร ะ ส ง ค์เ พื ่อ 1 ) พั ฒ น า รู ป แ บ บ ก า ร เ รีย น ก า ร ส อ น โ ด ย ป ร ะ ยุ ก ต์ใ ช ้ท ฤ ษ ฎี ก า ร เ ชือ่ม โ ย ง ค ว า ม รูแ้ล ะ แ น ว ค ดิห อ้งเ ร ยีน ก ล บัด า้น 2) เพือ่ศกึษาและเปรยีบเทยีบผลสมัฤทธิท์างการเรยีนวชิาการงานพืน้ฐานอาชี พของนักเรียน ชัน้มธัยมศกึษาปีที ่5 โดยด าเนินการวิจัยแบ่งเป็ น 2 ระยะ คือ ร ะ ย ะ ที ่ 1 การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยประยุกตใ์ชท้ฤษฎกีารเชือ่มโ ยงความรู ้และแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ได้ด าเนินการศึกษาแนวคิด ท ฤ ษ ฎี เพือ่กา หนดกรอบและรายละเอยีดของรูปแบบการเรยีนการสอนและจดัท า รู ป แ บ บ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ฉ บั บ ร่ า ง โดยประยุกตใ์ชท้ฤษฎกีารเชือ่มโยงความรูแ้ละแนวคดิหอ้งเรยีนกลบัดา้น กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรยีนชัน้มธัยมศึกษาปีที ่5 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ภาคเรยีนที ่1 ปีการศกึษา 2566 ได้มาโดยใช ้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม จ านวน 2 ห้อ ง เ รี ย น ป ร ะ ก อ บ ด้ว ย นั ก เ รี ย น ทั ้ง ห ม ด 8 3 ค น จั บ ส ล า ก เ ป็ น ห้ อ ง ค ว บ คุ ม แ ล ะ ห้ อ ง ท ด ล อ ง ใชรู้ปแบบการวิจยัแบบกึ ่งทดลองที ่มีกลุ่มควบคุม ทดสอบก่อนและหลัง (Nonequivalent Control Group Design) เครือ่งมือที ่ใชใ้นการวจิยั ไดแ้ก่ 1) แบบวดัผลสมัฤทธิท์างการเรยีนวิชา การงานพืน้ฐานอาชพี วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติ ค่าเฉลี ่ย ส่วนเบี ่ยงเบนมาตรฐานและรอ้ยละ
ข การทดสอบทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมพหุคูณ (One-Way MANCOVA) ผลการวิจัยพบว่า 1. รู ป แ บ บ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น โดยประยุกตใ์ชท้ฤษฎีการเชือ่มโยงความรูแ้ละแนวคิดหอ้งเรยีนกลบัดา้น ประกอบด้วย 9 องค์ประกอบ คือ 1) ทีม่าของรูปแบบการเรยีนการสอน 2) ห ลั ก ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น 3) วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ 4) ขัน้ตอนการจดัการเรยีนการสอน ประกอบดว้ย 5 ขัน้ตอน ไดแ้ก่ขัน้ที ่ 1 ขั ้นเตรีย ม คว า มพร อ้ม (Preparing & Aggregating) ขั ้นที ่ 2 ขั ้น จัด ห ม ว ด ห มู่เ นื ้อ ห า (Introducing & Remixing) ขั ้น ที ่ 3 ขั ้นจัดการเรียนการสอน (Processing & Repurposing) ขั ้นที ่ 4 ขัน้ประเมนิผล (Evaluating) และขัน้ที ่ 5 ขัน้แบ่งปันความรู้(Sharing) 5) การวัดและประเมินผล 6) ระบบสังคม 7) หลักการแสดงปฏิสัมพันธ ์ 8) สิ ่งสนับสนุนการสอน และ 9) ผลที ่ เกดิขึน้กบัผูเ้รยีน 2 . ผลการใชรู้ปแบบการเรยีนการสอนโดยประยุกตใ์ชท้ฤษฎกีารเชื ่ อ ม โ ย ง ค ว า ม รู ้แ ล ะ แ น ว ค ิด ห ้อ ง เ ร ีย น ก ล ับ ด ้า น ทีม่ตี ่อทกัษะดา้นสารสนเทศ สือ่และเทคโนโลยีและผลการเรียนรู ้วิชา การงานพืน้ฐานอาชพี 2.1 ผลการเปรียบเทียบทักษะด้านสารสนเทศ สื ่อ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ผ ล สัม ฤ ท ธิ ์ ทางการเรียน ของนักเรียนชั ้นมัธยมศึกษาปีที ่5 กลุ่มทดลอง ก่อนเรียนและหลังเรียน 2.1.1 นั ก เ รี ย น ก ลุ่ ม ท ด ล อ ง มีค ะ แ น น เ ฉลี ่ย ทัก ษ ะ ด้า น ส า ร ส น เ ทศ สื ่อ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 2.1.2 นั ก เ รี ย น ก ลุ่ ม ท ด ล อ ง มคีะแนนเฉลีย่ผลสมัฤทธิท์างการเรยีน หลงัเรยีนสงูกว่าก่อนเรียน 2.2 ผลการเปรียบเทียบทักษะด้านสารสนเทศ สื ่อ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ผ ล สัม ฤ ท ธิ ์ท า ง ก า ร เ รี ย น ของนักเรยีนชัน้มธัยมศกึษาปีที ่5 กลุ่มควบคุม ก่อนเรียนและหลังเรียน
ค 2.2.1 นั ก เ รี ย น ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม มีค ะ แ น น เ ฉลี ่ย ทัก ษ ะ ด้า น ส า ร ส น เ ทศ สื ่อ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 2.2.2 นั ก เ รี ย น ก ลุ่ ม ค ว บ คุ ม มคีะแนนเฉลีย่ผลสมัฤทธิท์างการเรยีน หลงัเรยีนสงูกว่าก่อนเรียน 2.3 ผลการเปรียบเทียบทักษะด้านสารสนเทศ สื ่อ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ผ ล สัม ฤ ท ธิ ์ท า ง ก า ร เ รี ย น ของนักเรยีนชัน้มธัยมศกึษาปีที ่5 กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม 2.3.1 นั ก เ รี ย น ก ลุ่ ม ท ด ล อ ง มีค ะ แ น น เ ฉ ลี ่ย ทัก ษ ะ ด้า น ส า ร ส น เ ทศ สื ่อ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี หลังเรียนสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม 2.3.2 นั ก เ รี ย น ก ลุ่ ม ท ด ล อ ง มีค ะ แ น น เ ฉ ลี ่ย ผ ล สัม ฤ ท ธิ ์ท า ง ก า ร เ รีย น หลังเรียนสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม