The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลากหลายแนวคิด
อุกฤษ มงคลนาวิน
เล่ม 3
กำเนิดคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พีระยา นาวิน, 2020-06-30 01:13:44

หลากหลายแนวคิด เล่ม 3

หลากหลายแนวคิด
อุกฤษ มงคลนาวิน
เล่ม 3
กำเนิดคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวนิ

แตเ่ มอื่ เหตกุ ารณผ์ า่ นไป ทา่ นกใ็ หอ้ ภยั นสิ ติ ผนู้ ำ� การชมุ นมุ นน้ั ทสี่ ำ� คญั คอื แม้
เม่อื หลายคนต้องล้ภี ัยการเมืองเขา้ ปา่ เมื่อออกมาจากป่า ท่านก็เมตตาดแู ล
เขาเหล่าน้ีด้วยความอาทร ข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นประจักษ์พยานให้เห็นว่า
ทา่ นไมไ่ ด้ถือว่านิสติ เป็นเพียง “ศิษย”์ ทม่ี ารบั การศึกษาเท่านน้ั แต่ยงั เปน็
“ลูก”ดว้ ย
ดงั น้นั การทเ่ี รา - ทา่ นทั้งหลายในฐานะที่เปน็ “ลูกศิษย์”ของท่าน
จะร่วมแสดงกตเวทิตบูชาด้วยการร่วมออกทุนสมทบสร้างห้องประชุม
ซ่ึงมีนามท่านไว้คู่กับคณะนิติศาสตร์เพื่อเป็นอาจาริยานุสรณ์ในความดีงาม
ของทา่ นทมี่ ตี อ่ สถาบนั แหง่ น้ี และตวั เรา - ทา่ นทงั้ หลายจงึ นบั เปน็ มงคลสงู สดุ
ดงั ทพ่ี ระบรมศาสดาไดท้ รงแสดงไวใ้ นมงคลสตู ร๒ขอ้ คอื “ปชู าจปชู เนยยฺ าน”ํ
และ “กตญญฺ ตุ า” วา่ “เอตมมฺ งคฺ ลมตุ ตฺ ม”ํ บชู าผคู้ วรบชู าหนงึ่ ...ความกตญั ญู
รูค้ ณุ หน่งึ ...เป็นมงคลอันสงู สุด
ผมขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท้ังหลายในสากล
พิภพ ท้ังบุญกุศล คุณงามความดีที่ท่านอาจารย์บ�ำเพ็ญมาตลอดชีวิต ได้
อภิบาลรักษาท่านอาจารย์ให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว เป็นแบบอย่าง
ให้ศษิ ย์รนุ่ หลงั ไดเ้ จริญรอยตามตลอดไป

ด้วยความเคารพรกั อย่างสงู
บวรศกั ด์ิ อวุ รรณโณ

200

บนั ทกึ ความทรงจำ�

โดย ศาสตราจารย์พเิ ศษธงทอง จนั ทรางศุ

เมอ่ื ผมเรยี นจบชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลายจากโรงเรยี นสาธติ ปทมุ วนั
ในพทุ ธศักราช ๒๕๑๖ ผมตัดสนิ ใจทจ่ี ะเลือกเรียนวิชากฎหมายหรือท่ีเรียก
อยา่ งเปน็ ทางการวา่ ‘คณะนติ ศิ าสตร’์ เวลานน้ั ประเทศไทยมคี ณะนติ ศิ าสตร์
อยู่เพียงสามแห่งคือท่ีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และมหาวิทยาลัยรามค�ำแหง ระบบการสอบคัดเลือกที่เรียกว่าการสอบ
เอนทรานซท์ ี่ใชอ้ ยใู่ นขณะนนั้ ผู้สอบตอ้ งเลอื กคณะทต่ี ัวเองมคี วามประสงค์
จะเข้าศึกษาเรียงล�ำดับก่อนหลังกัน ๖ อันดับ ผมได้เลือกคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ไว้เป็นลำ� ดับท่ี ๑ และ ๒ ลำ� ดบั ที่ ๑ นัน้ สำ� หรบั
ภาคเรียนปกติ คือการเรียนเวลากลางวันอย่างท่ีเรารู้จักคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
ส่วนล�ำดับที่ ๒ คือการเรยี นภาคสมทบ ซึง่ เป็นการเรียนการสอนในภาคค�ำ่
ของวันราชการและวันเสาร์อาทิตย์ เมื่อประกาศผลสอบออกมาปรากฏว่า
ผมสอบได้ในภาคปกติตามความปรารถนา ปัญหาใหญ่ข้อแรกท่ีเกิดขึ้นคือ
ผมไมเ่ คยทราบมากอ่ นเลยวา่ คณะนติ ศิ าสตรข์ องจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ท่ี
ตวั เองเลอื กและสอบไดเ้ ขา้ ไปแลว้ นน้ั ตง้ั อยตู่ รงไหนถามใคร ๆ กไ็ มค่ อ่ ยมใี ครรจู้ กั
มาทราบภายหลังว่าที่เขาไม่รู้จักกันก็เพราะคณะนี้เพ่ิงต้ังขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ
ก่อนหน้าผมจะเข้าไปเป็นสมาชิกไม่ถึงหนึ่งปีเต็ม เดือดร้อนถึงกับต้อง
โทรศัพท์ไปถามผู้ท่ีเป็นญาติกันและเป็นนิสิตอยู่ในคณะนิติศาสตร์อยู่ใน
เวลาน้ันคือพี่เกริก วณิกกุล จึงได้ความว่าวันสอบสัมภาษณ์ตัวเองควรจะ
ไปรายงานตวั ท่ตี กึ ไหน มุมไหนของจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั

201

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวนิ

ยุคน้ันคณะนิติศาสตร์ยังไม่มีอาคารที่ท�ำการเป็นของตัวเองเพราะ
เพ่ิงแยกฐานะจากการเป็นภาควิชานิติศาสตร์ในคณะรัฐศาสตร์ออกมาเป็น
คณะใหม่ๆ ยังต้องอาศัยตึกเรียนของคณะรัฐศาสตร์ที่เรียกว่าตึก ๒ เป็น
หอ้ งเรยี นหอ้ งท�ำงานอยู่ อาคารทว่ี า่ นย้ี งั อยจู่ นบดั นค้ี รบั ลกั ษณะเปน็ อาคาร
สองช้นั แวดล้อมด้วยต้นไมใ้ หญโ่ ตรม่ ร่นื แต่กด็ ูนา่ เกรงขามมิใช่นอ้ ยส�ำหรบั
เด็กทเ่ี พิง่ จบชั้นมัธยมมาใหม่ ๆ และต้องมาสอบสัมภาษณเ์ ข้ามหาวิทยาลยั
เป็นครั้งแรกของชีวิต จ�ำได้แม่นย�ำว่านิสิตใหม่รุ่นเดียวกันกับผมแบ่งเป็น
ภาคปกติ ๗๕ คน ภาคสมทบอีก ๗๕ คน รวมท้ังร่นุ แล้วเปน็ จ�ำนวน ๑๕๐
คน การสอบสมั ภาษณจ์ รงิ ๆ นนั้ จำ� ไมไ่ ดเ้ สยี แลว้ วา่ อาจารยท์ า่ นใดเปน็ ผสู้ อบ
สมั ภาษณ์ผม แต่ทีจ่ ำ� ได้แม่นย�ำจนบดั นี้คือ นสิ ติ ใหมท่ กุ คนที่สอบสัมภาษณ์
ผา่ นจากโต๊ะสมั ภาษณต์ ่าง ๆ มาแลว้ จะตอ้ งน่ังคอยรอเขา้ ไปพบคณบดี ซึ่ง
เวลาน้ันเป็นผู้มีชื่อเสียงกิตติคุณท่ีรู้จักกันแพร่หลายทั่วไปแล้ว แม้จะยังอยู่
ในวัยท่เี ป็นหนมุ่ ทะมดั ทะแมงมากก็ตามที คณบดที ่านทว่ี ่านี้ ปจั จุบนั เป็นที่
รจู้ กั กนั ในนามของศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวนิ ขอยำ�้ วา่ ทุกคนเลย
นะครับ บทสนทนาระหว่างคณบดีกับนิสิตใหม่วันน้ันมีอะไรบ้างไม่เหลืออยู่
ในความทรงจ�ำแลว้ ครบั  แตผ่ มไดจ้ ดไวใ้ นหวั ใจผมแลว้ ตง้ั แตว่ นั นนั้ วา่ ทา่ นคอื
อาจารยอ์ กุ ฤษ ‘ครูและคณบดีของผม’
สมควรบันทึกไว้ด้วยว่านิสิตที่เข้าศึกษาในคณะนิติศาสตร์ก่อนผม
หน่ึงรุ่น ที่เรียกกันเวลานี้ว่า ‘นิติศาสตร์จุฬารุ่น ๑๕’ เมื่อแรกลงทะเบียน
เป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยในเดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕ คณะ
นิติศาสตร์ยังไม่ได้ถือก�ำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ นิสิตรุ่นนั้นจึงมีฐานะทาง
ทะเบียนเปน็ นสิ ติ ของคณะรัฐศาสตร์ จนมาถงึ รุ่นของผมซงึ่ เปน็ ‘นติ ิศาสตร์
จุฬารุ่น ๑๖’ เม่ือมหาวิทยาลัยลงทะเบียนแรกรับเราเข้าเป็นนิสิต คณะ
นติ ศิ าสตรต์ งั้ ขนึ้ เปน็ ทางการแลว้ ผมและเพอื่ นๆ จงึ ไดร้ บั เลขประจ�ำตวั นสิ ติ
ข้ึนต้นอักษรย่อ น.หนูและตามด้วยล�ำดับที่ตัวเองสอบเข้าได้เรียงกันไป
เรื่องราวเป็นมาเชน่ นีค้ รบั

202

ด้วยฝีไม้ลายมือในการบริหารของท่านคณบดี พอผมขึ้นเป็นนิสิต
ช้ันปีที่ ๒ คณะนิติศาสตรก์ ็มอี าคารเปน็ ของตัวเองแลว้ เม่อื มานึกยอ้ นหลงั
ดูก็พบว่าเป็นเวลาท่ีรวดเร็วและกระชั้นชิดมาก เมื่อนับจากวันแรกเกิดของ
คณะ ต้องเป็นฝีมือขั้นเทพเท่าน้ันจึงจะท�ำเช่นน้ีได้ คณะนิติศาสตร์ท่ีว่าน้ี
อยู่ตรงท่ตี ง้ั คณะในปัจจุบนั น้แี หละครับ หน้าตาเป็นอาคาร ๔ ช้ันกะทัดรดั
ตง้ั อยโู่ ดดเดย่ี วกลางทงุ่ โลง่ ใกลก้ นั กบั คณะนเิ ทศศาสตร์ ซง่ึ มอี าคารดหู นกั แนน่
ม่ันคงกว่าคณะของเราเป็นไหน ๆ เวลาที่เราย้ายมาน้ันคือเดือนมิถุนายน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๗ บรษิ ทั กอ่ สรา้ งเพงิ่ จะขนขา้ วของออกไปจากบรเิ วณงาน
ก่อสร้างของคณะแบบเห็นหลังกันไว ๆ จะเป็นด้วยด�ำริจากใครก็ไม่ทราบ
แต่ได้มีการตกลงกันว่าสนามโล่งคล้ายทะเลทรายหน้าคณะนั้นจะแบ่งพ้ืนที่
ออกเปน็ ๔ แปลง มพี ้ืนที่แปลงละเทา่ ๆ กนั จากนั้นแบ่งปนั ให้นสิ ติ แต่ละ
ชั้นปีช่วยกันปลูกหญ้า นิสิตปี ๑ นั้นดูจะมีสตางค์มากหน่อยเขาปลูกหญ้า
เต็มพ้ืนท่ีช่ัวเวลาเพียงพริบตา หญ้าก็ข้ึนเขียวไปเต็มบริเวณ ส่วนนิสิตชั้นปี
ที่ ๒ ของผมซึง่ มีผมเปน็ หวั หนา้ ชัน้ ปี เราใช้วิธปี ลูกหญา้ เปน็ ตารางหมากรกุ
เพอื่ ประหยดั เงนิ และดว้ ยความเขา้ ใจวา่ หญา้ คงจะแผเ่ ขา้ หากนั จนเตม็ สนาม
ไดใ้ นทีส่ ดุ สว่ นพ่ี ๆ ปสี ามปีสี่นนั้ จะดว้ ยความยากจนหรอื ดว้ ยเหตผุ ลกลใด
ไม่ปรากฏชดั ได้ ใช้วิธีซ้อื หญา้ มาจำ� นวนหนึง่ แล้วฉกี เป็นช้นิ เล็กชิ้นน้อยปลูก
เป็นหยอ่ มๆ กระจายไปท่ัวแปลง แบบนีใ้ ชเ้ วลานานหน่อย แตส่ ดุ ทา้ ยแล้วก็
เขียวเต็มสนามไดเ้ หมอื นกัน เชอื่ วา่ ท่านอาจารย์อุกฤษคงได้ยนื ดพู ัฒนาการ
ของสนามหญา้ ท้ังสีแ่ ปลงอยดู่ ้วยความสนใจและนกึ ข�ำอยู่ในใจ

ผมได้เรียนหนังสือกับท่านอาจารย์อุกฤษในฐานะครูผู้สอนวิชา

กฎหมายจรงิ ๆกเ็ มอ่ื ไปอยชู่ นั้ ปที ี่๓แลว้ วชิ าทไ่ี ดเ้ รยี นกบั ทา่ นคอื วชิ าคำ�้ ประกนั
จำ� นอง จ�ำนำ� จำ� ได้วา่ ต�ำราของทา่ นเปน็ ‘เอกสารโรเนียว’ (ซงึ่ เดก็ ปัจจบุ นั
คงไม่รู้จักค�ำนีเ้ สียแลว้ ) มสี าระครบถ้วน อา่ นงา่ ยเข้าใจงา่ ย เมอ่ื ประกอบกบั
การได้ฟังบรรยายของท่านอาจารย์ในช้ันเรียน ก็ท�ำให้ผมสอบผ่านวิชาน้ีได้

203

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวนิ

โดยไม่ยากเย็นและมีหลักกฎหมายในเร่ืองน้ีติดตรึงอยู่ในความรู้ความเข้าใจ
ของตัวเองมาจนทุกวันนี้
นอกจากน้ัน สมควรกล่าวได้ว่าตลอดระยะเวลาสี่ปีท่ีผมเป็นนิสิต
อยู่ในคณะนิติศาสตร์ ซ่ึงมีท่านอาจารย์อุกฤษเป็นคณบดีอยู่ตลอดเวลา
เช่นเดียวกัน ผมเป็นนักกิจกรรมและเป็นยุคสมัยที่นิสิตนักศึกษาสนใจ
กิจกรรมมากกว่าสมัยน้นี ัก  เมอ่ื อย่ชู น้ั ปีที่ ๓ และปที ี่ ๔ ผมเป็นกรรมการ
ศูนย์แนะน�ำกฎหมายซึ่งจัดต้ังขึ้นตามแนวคิดของท่านอาจารย์อุกฤษ
เพอื่ เผยแพรค่ วามรทู้ างกฎหมายใหก้ บั ประชาชนและขณะเดยี วกนั กเ็ ปน็ การ
สร้างชื่อเสียงเกียรติคุณให้กับคณะที่เกิดใหม่อย่างคณะของเราด้วย สถานะ
เชน่ นี้ทำ� ใหผ้ มต้องพบกบั ‘ทา่ นคณบดี’ อยบู่ อ่ ยครัง้ เพือ่ ปรึกษาหารือหรอื
ขอความเห็นค�ำแนะน�ำจากท่าน และผมก็ไม่เคยผิดหวัง ในฐานะท่ีท่าน
เป็นผู้บริหารระดับสูง ผ่านประสบการณ์มามากและรู้จักผู้คนกว้างขวาง
ความเหน็ ทไี่ ดร้ บั จากทา่ นจงึ มปี ระโยชนม์ ากและสามารถนำ� ไปปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ
ย่ิงไปกว่านั้นเมื่อมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น ผมก็ก�ำเริบขอความเมตตา
จากทา่ น ชกั ชวนเพอื่ นฝงู ชนั้ ปเี ดยี วกนั บา้ ง ตา่ งชนั้ ปบี า้ ง ไปขออาศยั บา้ นพกั
ของท่านบริเวณชายหาดจอมเทียนท่ีเรียกว่า ‘วิลล่านาวิน’ เป็นที่พักผ่อน
หยอ่ นใจ บางครง้ั บางคราว ในเวลาทวี่ า่ งจากการเรยี น ทา่ นกไ็ ดก้ รณุ าอนญุ าต
ทุกครั้งไป มานึกดูในเวลาน้ีแล้ว เห็นจะต้องกล่าวว่าท่านอาจารย์อุกฤษมี
ความอดทนกบั ผมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เปน็ ความอดทนอย่างย่งิ จรงิ ๆ ครบั

พอผมเรยี นจบเปน็ นติ ศิ าสตรบณั ฑติ และรบั พระราชทานปรญิ ญา-

บัตร ในเดอื นกรกฎาคม ๒๕๒๐ ปรญิ ญาบตั รของผมกม็ ีลายมอื ชอื่ ของทา่ น
อาจารย์ลงก�ำกับไว้ในฐานะคณบดี ผมจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก
กเ็ ดอื ดรอ้ นทา่ นอาจารยอ์ กี แลว้ ทต่ี อ้ งเขยี นหนงั สอื รบั รองให้ หนงั สอื รบั รอง
ของท่านอาจารย์ ‘สลักหลัง’ ผมเสียเต็มเหนี่ยว เกินกว่าแบบธรรมเนียม

204

ธรรมดาเป็นไหนๆ และเป็นปัจจัยส�ำคัญที่ทำ� ให้ผมมีโอกาส ได้เข้าเรียนใน
มหาวทิ ยาลยั ตา่ งประเทศครับ

นา่ เสยี ดายทเี่ มอ่ื ผมกลบั มาจากตา่ งประเทศและมารบั ราชการเปน็

อาจารย์ในคณะนิติศาสตร์ในพุทธศักราช ๒๕๒๓ ตามความต้ังใจที่มีมา
แต่เดิม เวลาน้ันท่านอาจารย์อุกฤษได้ลาออกจากราชการและพ้นจาก
ตำ� แหนง่ คณบดคี ณะนติ ศิ าสตรไ์ ปเสยี แลว้ ผมจงึ ไมม่ โี อกาสไดเ้ ปน็ ผใู้ ตบ้ งั คบั
บัญชาของท่าน แต่ก็ไม่เสียใจนะครับ เพราะความจริงท่ีวิเศษกว่าน้ันคือ
ท่านเป็นครูของผมและผมเป็นศิษย์ของท่าน เป็นความจริงท่ีไม่สามารถ
ถดถอย ลบเลือนหรือเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้ ผมได้มีโอกาสท�ำงาน
ร่วมกับท่านอาจารย์อุกฤษหลายวาระโอกาสในหน้าที่ต่าง ๆ กัน ยิ่งวันคืน
ผ่านไปผมก็ยิ่งมั่นใจว่าท่านอาจารย์เป็นผู้ท่ีหนักแน่น มั่นคงในหลักการที่
มน่ั คงตรงหลกั วชิ าและเป่ยี มดว้ ยเมตตาธรรมอย่างแทจ้ รงิ

กราบมุทิตาคารวะทา่ นอาจารย์อุกฤษ
‘ครแู ละคณบดขี องผม’ ดว้ ยความเคารพยิ่งครับ

205

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

กตเวทติ าคุณแด่ศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน

โดย รองศาสตราจารยธ์ ติ ิพันธุ์ เช้อื บุญชยั

ผมเข้ามาเป็นอาจารย์ประจ�ำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ด้วยค�ำชักชวนของท่านศาสตราจารย์
ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน ในขณะท่ีผมเพ่ิงจบการศึกษาสาขาวิชานิติศาสตร์
และเป็นอาจารย์ประจ�ำโดยตลอดต้ังแต่นั้นมาจนกระทั่งผมเกษียณอายุ
ราชการในปี พ.ศ. ๒๕๕๙
ในระหว่างที่ผมเป็นนิสิต ผมได้รับการบอกเล่าว่า ศาสตราจารย์
ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน เป็นผู้มีส่วนส�ำคัญในการแยกคณะนิติศาสตร์
ออกจากคณะรัฐศาสตร์ในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ และเปน็ ผวู้ างรากฐานการศึกษา
วชิ านติ ศิ าสตร์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้มีมาตรฐานจนกระทง่ั ปจั จบุ ัน
ในระยะเวลาเร่ิมแรกการเป็นอาจารย์ประจ�ำคณะนิติศาสตร์ของ
ผม ผมได้ทราบถึงแนวทางการพัฒนาวิชาการของคณะนิติศาสตร์ของ
ศาสตราจารย์ ดร. อกุ ฤษ มงคลนาวนิ ไดช้ ดั เจนขน้ึ จากนโยบายการสนบั สนนุ
ให้คณาจารย์ประจ�ำของคณะนิติศาสตร์ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ และ
ด้วยทุนที่มหาวิทยาลัยให้เป็นทุนในระดับปริญญาเอกและมีอยู่อย่างจ�ำกัด
ซ่ึงหากให้คณาจารย์ไปศึกษาต่อตามจ�ำนวนทุนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย
ให้ คณะนติ ศิ าสตรก์ จ็ ะมคี ณาจารยใ์ นจำ� นวนทจี่ ำ� กดั และอาจารยท์ ไ่ี ดร้ บั ทนุ
จะตอ้ งไปศกึ ษาตอ่ เป็นระยะเวลานาน ท�ำใหค้ ณะต้องขาดแคลนคณาจารย์
ประจำ� ทจี่ ะสอนนสิ ติ และตอ้ งพงึ่ พาคณาจารยพ์ เิ ศษซง่ึ ขดั แยง้ กบั หลกั การที่
ศาสตราจารย์ ดร. อกุ ฤษ มงคลนาวนิ ไดว้ างไวต้ ง้ั แตแ่ รกเมอื่ แยกคณะมา ดงั นน้ั
ศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน จงึ ไดเ้ จรจากับมหาวทิ ยาลยั เพือ่ ขอ
แตกทนุ ปรญิ ญาเอกหนง่ึ ทนุ เปน็ ทนุ ปรญิ ญาโทสองทนุ ซง่ึ กไ็ ดร้ บั การตอบรบั

206

จากมหาวิทยาลัยด้วยดี จนท�ำให้คณาจารย์ประจ�ำของคณะในขณะนั้น
ไดไ้ ปศกึ ษาต่อยังต่างประเทศและกลบั มาสอนนสิ ิตในคณะเปน็ จำ� นวนมาก
หลังจากทศี่ าสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน พน้ จากต�ำแหน่ง
หน้าท่ีราชการในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านก็ยังคง
ใหก้ ารสนบั สนนุ กจิ การของคณะนติ ศิ าสตรอ์ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง ซง่ึ สงิ่ ทผ่ี มประจกั ษ์
ในความเอื้อเฟื้อท่ีศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน มีต่อกิจการของ
คณะก็คือ เม่ือคราวที่คณะนิติศาสตร์จัดการประชุมเชิงวิชาการในโครงการ
“ประมวลการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในรอบปี” เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ท่าน
ศาสตราจารย์ ดร. อกุ ฤษ มงคลนาวิน ซึ่งด�ำรงตำ� แหน่งรองประธานวุฒิสภา
ในขณะนน้ั ไดใ้ หค้ วามอนเุ คราะหแ์ กค่ ณะกรรมการจดั การสมั มนาดว้ ยการมอบ
สง่ิ พมิ พท์ เ่ี ปน็ การรวมกฎหมายรฐั สภาใหค้ วามเหน็ ชอบในรอบปี พ.ศ. ๒๕๒๗
เพื่อน�ำมาเป็นเอกสารประกอบการประชมุ เชิงวิชาการในโครงการดังกล่าว
และท้ายสุด เม่ือท่านศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน
เจรญิ อายคุ รบ ๘๒ ปี ท่านศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน ยงั มนี �ำ้ ใจ
ให้กับคณะนิติศาสตร์ด้วยการปรับปรุงห้องอเนกประสงค์ (ห้องกล่องใส)
ท่ีตั้งอยู่บนชั้น ๕ ของอาคารเทพทวาราวดี เพื่อประโยชน์กิจการของคณะ
และของนิสติ ซง่ึ นับเป็นคุณประโยชนแ์ กค่ ณะและนสิ ิตเปน็ อยา่ งย่ิง
ในศภุ วาระที่ศาสตราจารย์ ดร. อกุ ฤษ มงคลนาวนิ เจริญอายุครบ
๘๒ ปใี นวันที่ ๑๐ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ผมขอพระบรมราชกฤษฎาภินหิ าร
แห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดอภิบาลรักษาให้ศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ
มงคลนาวิน มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ ปราศจากภยันตรายโรคาพาธ
และประสบแตค่ วามเกษมสุขตลอดไป

รองศาสตราจารย์ธิติพันธ์ุ เชื้อบญุ ชัย
คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย คนทแ่ี ปด
(พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕๕๒)

207

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคิดลนาวิน

บนั ทึกความทรงจำ�

โดย ศาสตราจารย์ ดร.ศกั ดา ธนติ กุล

เม่ือผมจบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนในต่าง
จังหวดั และสอบเข้าเรียนต่อในคณะนิตศิ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัยได้
ผมทั้งดีใจและกังวลใจ เนื่องจากต้องเดินทางเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ
เพยี งลำ� พงั และฐานะของทางบา้ นกไ็ มส่ จู้ ะดนี กั วนั แรกทเี่ ดนิ เขา้ คณะนติ ศิ าสตร์
ยง่ิ รูส้ กึ ประหมา่ ในความใหญ่โตของอาคารเรียนและเพื่อน ๆ ซึง่ แต่งตวั ดว้ ย
เส้อื ผ้าและเครื่องใชร้ าคาแพง ตน้ เดอื นมิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นสัปดาห์
แรกของภาคการศึกษา มีคนบอกให้นิสิตใหม่จ�ำนวนหน่ึงรวมท้ังตัวผมด้วย
ไปพบคณบดีที่ห้องท�ำงานช้ันสองของตึกคณะนิติศาสตร์ เมื่อถึงอันดับ
ของผม ผมก็เดินและเปิดประตูเข้าไปด้วยความต่ืนเต้นประหม่าอย่างยิ่ง
ทา่ นอาจารยอ์ ุกฤษยนื รอรบั ดว้ ยบุคลิกท่อี บอ่นุ และสง่างามย่ิง ทา่ นพูดด้วย
น�้ำเสียงและสายตาท่ีเมตตาว่า “เรามาจากต่างจังหวัดแต่สอบเข้าได้อันดับ
ดีมาก เก่งมากนะ ขอให้ตั้งใจเรียน” ค�ำพูดของท่านยังอยู่ในความทรงจ�ำ
เปน็ กำ� ลงั ใจและความอบอนุ่ ใหก้ บั ชวี ติ การเปน็ นสิ ติ คณะนติ ศิ าสตร์ และเปน็
แนวทางให้ผมยึดเหน่ียวตลอดมาในชีวิตการเป็นอาจารย์ คือ ความเมตตา
และหวงั ดตี ่อนสิ ติ มีคำ� พูดทีเ่ ป็นกำ� ลงั ใจแกน่ สิ ิตเมอ่ื มโี อกาสท่เี หมาะสม
เมอ่ื เข้ามาเปน็ อาจารย์ทค่ี ณะนติ ิศาสตร์ในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ คณบดี
จะนำ� คณาจารยแ์ ละเจา้ หนา้ ทข่ี องคณะฯ ไปอวยพรและขอรบั พรปใี หมจ่ าก
ท่านอาจารย์ ซ่งึ ก่อนทีท่ ่านอาจารย์จะใหพ้ ร คณบดีจะเรยี นทา่ นใหท้ ราบถึง
การเปล่ียนแปลงและพัฒนาการท่ีส�ำคัญของคณะในรอบปีที่ผ่านไป และ

208

ทา่ นอาจารยก์ จ็ ะเลา่ ประสบการณแ์ ละกจิ กรรมของทา่ นใหพ้ วกเราฟงั สาระ
ที่ผมถอดได้จากการฟังมีอยูส่ องเร่อื งท่ีสำ� คญั คอื
ประการแรก อาจารย์ต้องเป็นคนหม่ันเพียรหาความรู้ใหม่ๆ อยู่
ตลอดเวลาจึงจะเป็นคนเก่ง เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ส�ำคัญของคณะฯ และ
เปน็ พลงั ขบั เคล่ือนคณะนิติศาสตรใ์ ห้ก้าวเป็นคณะนิติศาสตรช์ ้นั น�ำได้
ประการทสี่ อง อาจารยต์ อ้ งมจี ติ สาธารณะ ทำ� ประโยชนใ์ หส้ ว่ นรวม
และประเทศชาติด้วย ซึ่งเมื่อรวมค�ำสอนและแบบอย่างของท่านอาจารย์
แล้ว อาจารย์ที่ดีควรเป็นคนเก่งในทางวิชาการ รอบรู้หลายเรื่อง มีเมตตา
และความปรารถนาดีต่อนิสิต มีจิตสาธารณะท่ีจะท�ำประโยชน์ให้แก่
ส่วนรวมและประเทศชาติ
เมื่อผมเข้ามาเป็นคณบดีในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ผมได้
ปฏิบัติตามธรรมเนียมที่ดีงามและอบอุ่นทุก ๆ ปีเช่นเดียวกัน โดยพวกเรา
ทงั้ คณาจารยแ์ ละเจา้ หนา้ ทจี่ ะไปอวยพรปใี หมแ่ ละขอรบั พรจากทา่ นอาจารย์
ด้วย ในเดอื นธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ถึง ๒๕๕๕ เหมือนธรรมเนียมปฏิบตั ิ
ท่ีผ่านมา ผมจะน�ำเรียนให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการ
ที่สำ� คัญของคณะฯ ในรอบปที ่ผี า่ นไป
ความภาคภูมิใจท่ีส�ำคัญมากเร่ืองหน่ึงนับจากรับต�ำแหน่งคณบดี
คณะนติ ศิ าสตร์ คนที่ ๙ ซง่ึ เกดิ ขนึ้ ในเดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๖ นบั เปน็ เวลา
๓๗ ปี หลังจากที่ผมพบท่านอาจารย์คร้ังแรกในห้องท�ำงานคณบดีเมื่อต้น
เดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๑๙ สงิ่ ทผ่ี มอยากจะกราบเรยี นใหท้ า่ นอาจารยท์ ราบ
คือ คณะนิติศาสตร์ของเราได้รับการจัดอันดับจาก QS International
Rankings ซ่ึงเป็นสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีช่ือเสียงและทรง
อิทธิพลมาก ได้จัดอันดับให้คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

209

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคิดลนาวิน

ไดอ้ นั ดบั ท่ี ๑ โดยพจิ ารณาจากคะแนนรวม ๔ ดา้ น ไดแ้ ก่ ๑. ชอ่ื เสยี งในระดบั
นานาชาติ ๒. ความพึงพอใจของนายจา้ ง ๓. ผลงานวชิ าการระดบั นานาชาติ
และ ๔. การมีอิทธิพลทางวิชาการ สูงท่ีสุดในบรรดาคณะนิติศาสตร์ใน
ประเทศไทยทง้ั หมด จึงกราบเรยี นมาด้วยความภาคภูมใิ จครบั

ศาสตราจารย์ ดร.ศักดา ธนติ กุล
(กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ - กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖)

210

ด้วยจติ กตเวที แด่บุพการขี องคณะนติ ศิ าสตร์ จฬุ าฯ

โดย ศาสตราจารย์ ดร.นนั ทวัฒน์ บรมานันท์

กว่าคณะนติ ิศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั จะถอื ก�ำเนิดขนึ้ เปน็
รปู เปน็ รา่ ง และลงหลกั ปกั ฐานยนื ยนั เปน็ หลกั ของแผน่ ดนิ ดา้ นนติ ศิ าสตรม์ า
ตราบเทา่ ทกุ วนั นี้ คณาจารย์ บุคลากร และนสิ ิตรุ่นหลังๆ อาจไม่ทราบชัดว่า
ต้องอาศัยความอุตสาหะวิริยะและปรีชาสามารถของบุคคลผู้หาได้ยาก
ทา่ นหนงึ่ เปน็ กำ� ลงั หลกั พากเพยี รสรา้ งสรรคแ์ ละวางรากฐานไว้ ทา่ นผนู้ น้ั คอื
ศาสตราจารย์ ดร.อกุ ฤษ มงคลนาวนิ คณบดผี กู้ อ่ ตงั้ คณะและครขู องพวกเรา
คงไม่เกินจริง หากจะกล่าวว่าศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษเป็นบุรุษอัศจรรย์
ท่านหนึง่ ในประวตั ิศาสตร์สังคมไทยยคุ ใหม่ ผมยงั จนิ ตนาการไมอ่ อกเลยว่า
ในบ้านเมืองเราทุกวันน้ี จะมีคนหนุ่มวัยประมาณ ๓๐ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง
ผบู้ กุ เบกิ กอ่ ตง้ั คณะทที่ ำ� การเรยี นการสอนกฎหมายขน้ึ ใหม่ พรอ้ มผลติ ผลงาน
ทงั้ ดา้ นวชิ าการและการบรกิ ารสงั คมในระดบั ชาติ จนเปน็ ทนี่ ยิ มนบั ถอื อยา่ ง
กว้างขวางได้อย่างไร แต่ท่านอาจารย์สามารถท�ำได้แล้วอย่างวิเศษท่ีสุด
นอกเหนือจากต�ำแหนง่ หนา้ ทอี่ ันหนกั หนาในบา้ นเมอื งท่ีทา่ นแบกรบั ไวแ้ ล้ว
ความผกู พนั พเิ ศษประการหนง่ึ ซง่ึ เปน็ เยอ่ื ใยไมข่ าดสาย นบั ไดว้ า่ เปน็ ตำ� แหนง่
ถาวรและเป็นบทบาทส�ำคัญอันไม่เคยจืดจาง น่ันคือในฐานะ “บุพการี”
ของชาว ฬ.จฬุ าฯ
มหี นว่ ยงานนอ้ ยแหง่ ในโลก ทเี่ มอื่ กลา่ วถงึ หนว่ ยงานจะมคี วามรสู้ กึ
ยึดโยงไปถึงตัวบุคคล และมีบุคคลน้อยคนในโลก ท่ีเมื่อกล่าวถึงนามผู้นั้น
แลว้ จะมีความรู้สกึ ยึดโยงไปสู่หน่วยงาน อย่างไรก็ตาม นามคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับนามศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน

211

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

กลับเป็นหน่ึงในจ�ำนวนน้อยท่ีว่านั้น เพราะใครต่อใครก็ทราบดีว่าเมื่อใด
เอ่ยถึงคณะ ก็ต้องนึกถึงท่านอาจารย์อุกฤษ และเม่ือใดเอ่ยถึงท่านอาจารย์
อุกฤษ ก็ต้องพลันนึกถึงคณะของพวกเรา ประหน่ึงเป็นสัญลักษณ์ส�ำคัญ
ของกนั และกัน

ท่านอาจารย์มีเมตตาต่อเราท้ังหลายผู้เป็นศิษย์เสมอมา บัดน้ี
ท่านได้อนุเคราะห์สร้างถาวรวัตถุเป็นห้องและห้องประชุมในนามของท่าน
บนชนั้ ๔ และชั้น ๕ อาคารเทพทวาราวดี ส�ำเร็จงดงามแลว้ ถาวรวัตถนุ จ้ี ัก
เป็นอนุสรณ์แห่งพระคุณอันอุกฤษฏ์ของท่านอาจารย์อุกฤษตลอดกาลนาน
ในนามของคณะนติ ศิ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ผมขอตง้ั ตนเปน็ กตเวที
นอ้ มกราบบูชาคณุ ของศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวนิ บพุ การขี องเรา
ชาว ฬ.จุฬาฯ ด้วยหวังใจให้ท่านเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยมงคล เพ่ือเป็น
หลกั ชัยของคณะนติ ศิ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สบื ไปตราบนานเทา่
นาน

ศาสตราจารย์ ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์
คณบดคี ณะนติ ิศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั


212

ภาคท่ี ๓

คณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในสายตาส่ือมวลชน

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

แผนกวิชานิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์
จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั จดั งานหาเงินสมทบทุน

ตั้งศนู ยแ์ นะน�ำกฎหมาย มกราคม ๒๕๑๑

214

215

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

216

217

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

218

219

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

220

สื่อมวลชนกับการอภปิ รายเร่อื ง
“ความมั่นคงของชาติ”

การอภิปรายในหัวข้อ “ความมั่นคงของชาติ” ถือได้ว่าเป็นการ
อภปิ รายครง้ั สำ� คญั และไดร้ บั ความสนใจจากสอื่ มวลชนมากมายทเ่ี สนอขา่ ว
การอภิปรายในหลายรูปแบบ
ตั้งแต่ก่อนการอภิปรายหลายวันจนถึงวันอภิปรายและหลัง
วันอภิปราย ซ่ึงน่าจะเป็นประวัติศาสตร์การน�ำเสนอเร่ืองการอภิปราย
โดยส่ือมวลชนอย่างครึกโครม ท�ำให้ชื่อเสียงของแผนกวิชานิติศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการรู้จักอย่างแพร่หลาย
การเผยแพร่ชื่อเสียงแผนกวิชานิติศาสตร์ประสบความส�ำเร็จตามที่หวังไว้
เกินกว่าความคาดหมายอกี เร่ืองหน่ึง

221

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

222

223

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

224

225

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

226

227

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

228

229

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

230

231

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

232

233

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

234

235

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

236

237

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

238

239

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

240

241

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

242

243

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

244

245

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

246

247

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

248

249


Click to View FlipBook Version