The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลากหลายแนวคิด
อุกฤษ มงคลนาวิน
เล่ม 3
กำเนิดคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พีระยา นาวิน, 2020-06-30 01:13:44

หลากหลายแนวคิด เล่ม 3

หลากหลายแนวคิด
อุกฤษ มงคลนาวิน
เล่ม 3
กำเนิดคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การเลือกต้งั คณบดี
คณะนิติศาสตร์

การเลอื กต้งั คณบดีคณะนิติศาสตร์

ขั้นตอนต่อไปเมื่อมีการประกาศของคณะปฏิวัติจัดต้ังคณะนิติศาสตร์
เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางมหาวิทยาลัยโดยสภามหาวิทยาลัยจ�ำเป็นต้อง
มีการเลือกต้ังคณบดีคณะนิติศาสตร์ข้ึน เป็นปัญหาว่าผู้ใดจะมาเป็น
คณบดีคณะนิติศาสตร์เป็นคนแรก ศาสตราจารย์ ดร.สุกิจ นิมมาน-
เหมินทร์ซึ่งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัย และศาสตราจารย์ ดร.แถบ
นีละนิธิ อธิการบดี ได้มีความเห็นให้ผมในฐานะท่ีเป็นผู้ด�ำเนินการและ
รับผิดชอบในการก่อตั้งคณะนิติศาสตร์มาต้ังแต่ต้นจนกระท่ังประสบ
ผลส�ำเร็จให้ด�ำรงต�ำแหน่งคณบดี เพราะจะได้สืบต่อเร่ืองราวให้เป็น
ผลส�ำเร็จตามเจตนารมณ์และปณิธานท่ีตั้งไว้ แต่ผมได้เรียนท่านท้ังสอง
วา่ ในขณะนั้น ศาสตราจารย์ ดร.ประยรู กาญจนดลุ เป็นหัวหนา้ แผนกวิชา
และเปน็ อาจารยข์ องผมมากอ่ น อยา่ งนอ้ ยทสี่ ดุ ขอใหท้ า่ นไดเ้ ปน็ คณบดกี อ่ น
แต่การเปน็ คณบดขี องศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดลุ นัน้ จะเป็นได้
เพยี ง ๒ เดือนคือวนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๑๕ ถงึ วนั ที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๑๕
เพราะเหตวุ า่ ในขณะนนั้ ไดม้ คี วามคดิ อยา่ งแขง็ ขนั โดยเฉพาะจากผอู้ ำ� นวยการ
กองกลางและบุคคลภายนอกที่เห็นว่า ผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้วไม่ควรท่ี
จะให้มีต�ำแหน่งทางบริหารต่อไป ซ่ึงในท่ีสุดที่ประชุมเห็นด้วยตามแนวทาง
ดังกล่าว แต่อยา่ งไรก็ตามไดอ้ นโุ ลมตัง้ ศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดลุ
เป็นคณบดีคนแรกมีระยะเวลาการด�ำรงต�ำแหน่งแน่นอน ๒ เดือนคือวันที่
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๑๕ ถึงวนั ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๑๕ และหลงั จากน้นั ให้มี
การเลือกต้งั คณบดคี นใหม่โดยให้มีผรู้ กั ษาการคณบดีในชว่ งรอยต่อดังกล่าว
ซึ่งในท่ีสุด อาจารย์ ดร.สมศักดิ์ ชูโต ได้เป็นผู้รักษาการคณบดีในช่วงสั้นๆ
เม่ือศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดลุ พน้ จากตำ� แหนง่ คณบดีแล้ว

101

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

102

103

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

104

เรื่องท่ผี มผดิ หวงั อยา่ งยงิ่ คือ เมื่อศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดุล
ได้รับเลือกต้ังเป็นคณบดี งานแรกที่ท่านได้ด�ำเนินการคือมอบอ�ำนาจ
การบรหิ ารทางดา้ นงานธรุ การและงานเจา้ หนา้ ทท่ี ง้ั ปวงไปใหค้ ณะรฐั ศาสตร์
เป็นผู้ด�ำเนินการเช่นเดิม เสมือนกับไม่ได้มีการต้ังคณะนิติศาสตร์ข้ึนมาเลย
โดยที่ไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับผู้หนึ่งผู้ใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งท่ีรู้อยู่
ตลอดเวลาว่า ผมผู้ด�ำเนินการก่อต้ังคณะนิติศาสตร์นั้น ได้มีแนวความคิดมี
โครงการในการพัฒนาคณะนติ ิศาสตรไ์ วอ้ ย่างไรบา้ ง ซง่ึ การกระท�ำดงั กลา่ ว
ได้สร้างความยุ่งยากความล�ำบากให้กับการด�ำเนินการท่ีจะวางรากฐานของ
คณะนิตศิ าสตร์ในอนาคตตอ่ ไปเป็นอย่างมาก
ตอ่ มาไดม้ กี ารประชมุ สภามหาวทิ ยาลยั อกี ครงั้ หนงึ่ เพอื่ เลอื กตงั้ คณบดี
คณะนิติศาสตร์ต่อจากศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดุล การเลือกต้ัง
คณบดีในขณะน้ันให้เลือกตั้งจากหัวหน้าแผนกวิชาต่างๆ (สมัยน้ันเรียกว่า
แผนกวชิ าไมใ่ ชภ่ าควชิ า) ผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ หวั หนา้ แผนกวชิ าตา่ ง ๆ ในขณะนน้ั
มีผม อาจารย์อนุมัติ ใจสมุทร อาจารยส์ มนกึ ประยูรวงศ์  และอาจารย์
ด�ำรง ธรรมารกั ษ์ สว่ นศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดลุ ได้พน้ ตำ� แหนง่
ไปแล้ว ปรากฏว่ากอ่ นมกี ารเลือกต้ังคณบดี อาจารย์อนุมัติ ใจสมุทร ซ่งึ เป็น
เพอ่ื นศกึ ษาวชิ ากฎหมายดว้ ยกนั ทค่ี ณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์
รุ่นเดียวกัน แต่ได้ไปสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา และเมื่อเป็นผู้พิพากษาแล้ว
ได้โอนกลับมารับราชการในคณะรัฐศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง โดยท่ีผมเมื่อจบ
การศึกษาในรุ่นเดียวกันแล้วได้ไปเรียนต่อท่ีมหาวิทยาลัยปารีส อาจารย์
อนมุ ตั ิ ไดข้ อรอ้ งผมโดยแจง้ วา่ ไดจ้ ดั พมิ พห์ นงั สอื รวมคำ� พพิ ากษาศาลฎกี าไว้
ได้ลงทุนไปเป็นจ�ำนวนพอสมควรเพื่อกระตุ้นและเพื่อสนับสนุนในการ
จ�ำหน่ายหนังสือจึงขอเป็นคณบดีก่อน โดยการด�ำเนินการต่าง ๆ ในหน้าที่
คณบดี โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาและด้านพิธีการทางศาสนาขอให้เป็น
เรอ่ื งทผ่ี มจะดำ� เนนิ การ เพราะอาจารยอ์ นมุ ตั เิ ปน็ ผนู้ บั ถอื ศาสนาอสิ ลามดว้ ย

105

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคิดลนาวนิ

ความเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมเห็นว่าไม่เป็นส่ิงที่ถูกต้องจึงได้แจ้งว่าขอให้
เปน็ มตกิ รรมการสภามหาวทิ ยาลยั ทจ่ี ะเลอื กผหู้ นงึ่ ผใู้ ดกไ็ ดแ้ ลว้ ผมจะยอมรบั
มติของสภามหาวิทยาลัยทุกประการ ในส่วนของอาจารย์อนุมัติ ใจสมุทร
ก่อนวันประชุมสภามหาวิทยาลัย ๑ วัน ได้น�ำหนังสือรวมค�ำพิพากษาศาล
ฎีกาไปมอบให้กับกรรมการสภามหาวิทยาลัยทกุ ท่าน สว่ นหัวหนา้ แผนกอีก
๒ คน คืออาจารย์สมนึกและอาจารย์ด�ำรง ไม่ได้ถอนตัวจากการเลือกต้ัง
ปรากฏวา่ ผลจากการลงคะแนน อาจารย์อนมุ ตั  ิ ใจสมทุ ร ได้รับการเลอื กตั้ง
๒ เสียง อาจารย์สมนึก ๑ เสียง ส่วนอาจารย์ด�ำรงไม่มีเสียงสนับสนุนเลย
นอกจากน้ันกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่เหลือทั้งหมดสนับสนุนผมให้เป็น
คณบดี ซ่ึงทั้งหมดน้ีได้ปรากฏในรายงานการประชุมสภามหาวิทยาลัยอยู่
แลว้ และเมอื่ สภามหาวทิ ยาลยั ลงมตเิ ลอื กใหผ้ มเปน็ คณบดดี ว้ ยคะแนนเสยี ง
ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดแลว้ ได้มกี รรมการสภาจากคณะรฐั ศาสตร์ ๒ ทา่ น ได้
เสนอความเหน็ ใหผ้ มรกั ษาการคณบดคี ณะนติ ศิ าสตรไ์ ปพลางกอ่ น กรรมการ
สภา ๒ ทา่ นนน้ั คอื ศาสตราจารย์ ดร.เกษม สวุ รรณกลุ คณบดคี ณะรฐั ศาสตร์
จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั และศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ชูโต ซ่งึ รักษาการ
คณบดคี ณะนติ ศิ าสตรใ์ นชว่ งสัน้ ๆ ดังกลา่ ว แต่ท่ีประชมุ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่
นายกสภามหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.สุกิจ นิมมานเหมินทร์ และ
อธิการบดจี ุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย คือ ศาสตราจารย์ ดร.แถบ นีละนธิ ิ
ไมเ่ หน็ ดว้ ยและไดอ้ ธบิ ายในทป่ี ระชมุ วา่ เมอื่ ผมเปน็ ผกู้ อ่ ตงั้ คณะนติ ศิ าสตร์
เปน็ ผรู้ เู้ รอ่ื งราว และเปน็ ผกู้ ำ� หนดแนวทางตา่ ง ๆ ไวแ้ ลว้ เมอื่ เลอื กตงั้ เปน็
คณบดแี ลว้ กใ็ หท้ ำ� งานไดเ้ ตม็ ทไ่ี มจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งใหเ้ ปน็ ผรู้ กั ษาการแตอ่ ยา่ งใด
ซ่ึงท่ีประชุมก็มีมติเห็นชอบตามที่ท่านผู้อาวุโสทั้งสองได้แสดงความเห็น
ในท่ปี ระชุม ผมจงึ ไดด้ �ำรงต�ำแหนง่ คณบดีคณะนติ ศิ าสตร์ โดยไมจ่ �ำเป็น
ตอ้ งเปน็ ผู้รกั ษาการไปก่อนดังทีม่ คี วามเห็นในที่ประชุม

106

จดหมายแสดงความยินดีของอาจารยบ์ ัญญัติ สุชวี ะ ถงึ ผม
ท่ีได้รับเลือกตง้ั ให้เป็นคณบดคี ณะนติ ศิ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั

อาจารยบ์ ัญญัติ สชุ ีวะ ตอ่ มาไดด้ �ำรงตำ� แหนง่ ประธานศาลฎกี า
ในชว่ งเวลาเดยี วกบั ทผี่ มด�ำรงต�ำแหน่งประธานรฐั สภา

107

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคิดลนาวิน

อาจจะพูดได้ว่าเหตุใดผมจึงได้รับการสนับสนุนอย่างมากมายจาก
ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างย่ิงนายกสภามหาวิทยาลัย
ศาสตราจารย์ ดร.สุกิจ นิมมานเหมินทร์ และอธิการบดีคือ ศาสตราจารย์
ดร.แถบ นีละนิธิ น่าจะเป็นเพราะท่านท้ังสองได้รู้จักและได้เคยขอให้ผม
ไปร่วมงานด้วย และได้ทราบถึงความรู้ความสามารถและความต้ังใจดีของ
ผมมาก่อน เพราะฉะน้ันทั้งสองท่านจึงให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันที่ให้
ผมได้ด�ำรงต�ำแหน่งคณบดี ในฐานะผู้จัดการผลประโยชน์ของจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย ผมจึงมีโอกาสเข้าร่วมในที่ประชุมคณบดีและที่ประชุม
สภามหาวิทยาลัย และได้มีส่วนเสนอความเห็นของผมทุกเรื่อง โดยเฉพาะ
ความเห็นที่เกี่ยวกับกฎหมาย เพราะฉะนน้ั ผมไดด้ �ำรงตำ� แหน่งคณบดีไม่ใช่
เป็นเร่ืองท่ีเกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นเร่ืองที่กรรมการสภามหาวิทยาลัย
โดยเฉพาะทา่ นผใู้ หญแ่ ละกรรมการทา่ นอน่ื ๆ ทป่ี ระกอบดว้ ยคณบดที กุ คณะ
และผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ า่ นอน่ื ๆ เกอื บทงั้ หมดไดพ้ จิ ารณาแลว้ เหน็ ชอบ โดยเฉพาะ
ถา้ ไมม่ ที ่านผูใ้ หญส่ องท่านน้ี ผมกย็ ังไม่สามารถที่จะพูดไดว้ า่ อะไรจะเกดิ ข้นึ
ในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากที่ได้มีประกาศของ
คณะปฏวิ ตั ใิ นการจดั ตง้ั คณะนติ ศิ าสตรข์ น้ึ แลว้ และผมเปน็ คณบดคี นเดยี วที่
ไมไ่ ดจ้ บจากจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ในบรรดากรรมการสภามหาวทิ ยาลยั
ซ่ึงประกอบด้วย นายกสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี รองอธิการบดี และ
กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิประมาณ ๒๕ ท่าน

108

ขอ้ ความแสดงความยนิ ดี

ในการจดั ตง้ั คณะนติ ศิ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
พ.ศ. ๒๕๑๕



111

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

112

113

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

114

115

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

116

117

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

118

119

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

120

121

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

122

123

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

124

การด�ำเนนิ งานของคณะนิติศาสตร์
ภายหลังการรับตำ� แหนง่ คณบดี

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวนิ

การด�ำเนินงานของคณะนติ ิศาสตร์
ภายหลงั การรับตำ� แหนง่ คณบดี

การด�ำเนินการในฐานะคณบดีคณะนิติศาสตร์ประการแรกได้แก่
การแต่งตง้ั เลขานกุ ารคณะนติ ศิ าสตร์ซ่งึ ถอื วา่ เป็นตำ� แหน่งท่มี ีความส�ำคญั
รองจากคณบดี โดยเฉพาะในคณะทเี่ รม่ิ กอ่ ตงั้ และเปน็ คณะเลก็ ๆ ผทู้ ท่ี ำ� หนา้ ท่ี
เลขานุการคณะจะต้องเป็นผู้ท่ีสามารถท�ำงานร่วมกับคณบดีเป็นอันหน่ึง
อันเดียวกัน และเป็นการศึกษางานเพ่ือจะมีโอกาสที่จะเป็นคณบดีต่อไป
ในอนาคต
ในการนผ้ี มไดก้ ำ� หนดแนวทางวา่ จะใหผ้ ทู้ ส่ี ำ� เรจ็ การศกึ ษาจากคณะ
รฐั ศาสตร์ แผนกวชิ านติ ศิ าสตร์ ซงึ่ มคี วามรคู้ วามสามารถในการศกึ ษาเปน็ ที่
ยอมรบั กนั พอสมควรและมฐี านะเปน็ อาจารยใ์ นแผนกวชิ านติ ศิ าสตรอ์ ยแู่ ลว้
ไดเ้ ขา้ มาท�ำหนา้ ทน่ี ้ี โดยทไี่ มไ่ ดม้ คี วามคนุ้ เคยเปน็ สว่ นตวั แตด่ ว้ ยเจตนาและ
แนวทางท่ีวางไว้ โดยได้แสดงเจตนาไว้ว่าการก่อต้ังคณะนิติศาสตร์ก็เพื่อให้
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั มคี วามเปน็ มหาวทิ ยาลยั ทส่ี มบรู ณเ์ ตม็ ทใ่ี นลกั ษณะ
ท่ีเป็นสากลและต้องการพัฒนาวิชานิติศาสตร์ของประเทศ และต้องการ
พฒั นานกั นิตศิ าสตร์ให้มคี ุณภาพ ใหม้ ีมาตรฐาน
โดยการด�ำรงต�ำแหน่งคณบดีของผมคงจะไม่อยู่ในต�ำแหน่งเป็น
ระยะเวลานาน เม่อื ไดว้ างรากฐานต่างๆ และสามารถด�ำเนนิ การไปไดด้ ้วยดี
พอสมควรแล้ว ผมก็จะไปท�ำกิจการอื่น โดยเฉพาะงานด้านส�ำนักกฎหมาย
ให้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในระดับหน่ึง เพื่อเป็นการยกฐานะทนายความ
คนไทยให้สงู ยิ่งขึน้ ซ่งึ ถอื เป็นภาระหนา้ ท่อี ีกประการหนึง่ ในชวี ติ ทั้งน้ี ผมได้

126

จดั ตงั้ สำ� นกั กฎหมายขนึ้ แลว้ ตง้ั แตว่ นั ที่ ๕ ธนั วาคม ๒๕๑๓ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์
ส่วนหน่ึงคือให้เป็นที่รองรับการฝึกงานของผู้ที่จบการศึกษาวิชานิติศาสตร์
หรืออาจารย์ผู้ท�ำหน้าที่สอนกฎหมาย โดยที่ยังไม่มีประสบการณ์ทางด้าน
ปฏิบตั ิ ได้มีโอกาสเขา้ มาศึกษาและเรียนร้งู านของทนายความ
ผมได้ตัดสินในการเลือกอาจารย์ด�ำรง ธรรมารักษ์ เป็นเลขานุการ
คณะ

การแก้ไขการมอบอ�ำนาจด�ำเนินการทางดา้ นธรุ การของคณะ
นติ ิศาสตร์

ซ่ึงเกิดจากศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดุล ในขณะเข้ารับ
ต�ำแหน่งคณบดีคณะนิติศาสตร์เป็นเวลาหน่ึงเดือน โดยงานช้ินแรกและชิ้น
เดียวท่ีท่านได้ด�ำเนินการคือ การท�ำเรื่องการมอบอ�ำนาจด้านด�ำเนินการ
ด้านธุรการของคณะนิติศาสตร์ ซ่ึงได้จัดตั้งข้ึนใหม่ให้คณะรัฐศาสตร์รับไป
ดำ� เนนิ การ โดยทไี่ มไ่ ดม้ กี ารปรกึ ษาหารอื ผทู้ มี่ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งอนื่ แตป่ ระการใด
ดังนั้นเมื่อเป็นคณะนิติศาสตร์แล้ว และมีคณบดีถาวรแล้ว จึงควรท่ีจะรับ
มอบด�ำเนินการทางด้านธุรการของคณะให้กลับมาเป็นการด�ำเนินการของ
คณะนติ ศิ าสตรเ์ อง ทงั้ ๆ ทค่ี ณะนติ ศิ าสตรใ์ นขณะทจี่ ดั ตง้ั คณะนน้ั มอี าจารย์
ประจำ� ทสี่ งั กดั แผนกวชิ านติ ศิ าสตรแ์ ละโอนมาขนึ้ กบั วชิ านติ ศิ าสตรม์ จี ำ� นวน
เพียง ๘ ทา่ น และมเี จา้ หนา้ ท่ีอยูเ่ พยี งไม่กคี่ น แตม่ ีความเชื่อมนั่ วา่ สามารถ
ที่จะด�ำเนินการทางด้านธุรการหรือด้านบริหารเองได้ จึงได้แจ้งการขอรับ
การด�ำเนินกิจการด้านธุรการของคณะนิติศาสตร์มาด�ำเนินการเองภายใน
เวลา ๓ วันนบั จากวนั ทีร่ ับเลือกต้งั เป็นคณบดี การดำ� เนินงานเปน็ ไปได้โดย
ไม่มอี ุปสรรคใดๆ

127

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคิดลนาวิน

การด�ำเนนิ การตง้ั งบประมาณเพอ่ื จดั สรา้ งอาคารคณะนิตศิ าสตร์
เปน็ การถาวร

เนอ่ื งจากคณะนติ ศิ าสตรย์ งั เปน็ คณะเลก็ มจี ำ� นวนนสิ ติ ทงั้ ภาคปกติ
และภาคสมทบประมาณ ๖๐๐ คน และมีอาจารย์เจ้าหน้าท่ีจ�ำนวนน้อย
จงึ ไดข้ องบประมาณการสรา้ งอาคารไปจำ� นวนหนงึ่ ในทส่ี ดุ ไดร้ บั การจดั สรร
งบประมาณในการสรา้ งตึกมาเปน็ เงนิ ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท ซ่งึ เมอื่ ๔๔ ปที ่ี
แลว้ ยงั ถอื วา่ เปน็ จำ� นวนเงนิ ทน่ี อ้ ยมาก ยง่ิ ถา้ มาเทยี บกบั คา่ ของเงนิ ในปจั จบุ นั
แลว้ เงนิ ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท จะไมส่ ามารถท�ำอะไรไดเ้ ลย แตก่ ไ็ ดด้ �ำเนนิ การ
ใช้งบประมาณน้ีให้เป็นประโยชน์ โดยจัดตั้งคณะกรรมการด�ำเนินการ
เขยี นแบบโดยมอี าจารยค์ ณะสถาปตั ยกรรมศาสตรเ์ ปน็ สถาปนกิ และอาจารย์
ในคณะวศิ วกรรมศาสตรเ์ ป็นวศิ วกร การออกแบบได้ออกแบบเป็นอาคาร ๔
ช้ัน และให้มีประโยชน์ในการใช้งานสูง สิ้นเปลืองงบประมาณน้อย รวมท้ัง
การบ�ำรุงรักษา ซ่ึงคณะกรรมการผู้ออกแบบก็ได้ด�ำเนินการออกแบบตาม
วตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใช้เวลาไมม่ ากนกั ในการออกแบบ

จากแนวคิดท่ีให้การออกแบบอาคารเป็นไปโดยประหยัดและการ

ดูแลรักษา ไม่สิ้นเปลืองมากและมีความแข็งแรง คณะสถาปนิกและวิศวกร
จึงออกแบบด้วยวิธีการให้ตัวอาคารเป็นคอนกรีต และเม่ือถอดไม้แบบมา
แล้วไม่ต้องใช้วิธีการทาสีส้ินเปลืองมากมาย และสามารถที่จะเป็นอาคารท่ี
ทนทาน แตถ่ า้ จะพูดถงึ ในลกั ษณะความสวยงามแลว้ อาจจะนอ้ ยลงบ้าง แต่
ประโยชน์ ใชส้ อยสมบูรณ์แบบตามความประสงค์
เม่ือได้งบประมาณในการจัดสร้างอาคารและเขียนแบบเสร็จ
เรยี บรอ้ ยแลว้ ปญั หาหนกั ใจและยงุ่ ยากและยากล�ำบากท่ีสดุ คอื การจดั หา
สถานท่ีส�ำหรับการก่อสร้างคณะนิติศาสตร์ โดยได้พยายามหาสถานท่ี
ในบริเวณท่ีใกล้กับท่ีตั้งของคณะรัฐศาสตร์หลายแห่งและได้พิจารณาถึง
สถานท่ีด้านข้างของศาลาพระเก้ียวด้วย แต่ในที่สุดก็ไม่ประสบความส�ำเร็จ

128

แผนทีบ่ ริเวณจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย

129

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

จึงต้องข้ามมาอีกฝั่งหน่ึงของถนนพญาไท ทางด้านสามย่านอันเป็นท่ีก่อต้ัง
คณะนติ ศิ าสตรใ์ นปจั จบุ นั สถานทก่ี อ่ ตง้ั คณะนติ ศิ าสตรใ์ นปจั จบุ นั เมอื่ ๔๔ ปี
ท่ีแล้วยงั เปน็ อาคารไม้ ๒ ชนั้ เกา่ แก่ทรุดโทรม เป็นอซู่ อ่ มรถ เปน็ สถานที่
ฆ่าสัตว์ และเป็นอาคารทรุดโทรมอีกจ�ำนวนประมาณ ๒๐ ห้อง ซ่ึงยาก
แก่การร้ือถอน นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังถือเสมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งของ
คณะนิเทศศาสตร์ซ่ึงในสมัยนั้นเรียกว่าแผนกวิชาอิสระสื่อสารมวลชน
มีอาจารย์บำ� รุงสขุ สหี อ�ำไพ เป็นหัวหนา้ แผนกวิชา ไดม้ กี ารเจรจากันหลาย
ครงั้ เรอื่ งขอใชท้ บ่ี รเิ วณดงั กลา่ วซง่ึ มเี นอ้ื ทท่ี งั้ หมดประมาณ ๘ ไร่ ไดจ้ ดั สรรไว้
สำ� หรบั แผนกวชิ าอสิ ระสอื่ สารมวลชน ซง่ึ แผนกวชิ าไดส้ รา้ งอาคารขนึ้ มาหนง่ึ
หลงั แตส่ ว่ นทเี่ ปน็ คณะนติ ศิ าสตรป์ จั จบุ นั แผนกสอ่ื สารมวลชนไมส่ ามารถ
เขา้ มาใชป้ ระโยชนไ์ ดเ้ พราะเหตวุ า่ มผี อู้ ยอู่ าศยั ครอบครองตามทก่ี ลา่ วแลว้
และไม่สามารถทจ่ี ะดำ� เนนิ การร้ือถอนหรอื ขับไลไ่ ด้เอง จึงได้ยินยอมทจี่ ะ
ให้คณะนิติศาสตร์ได้เข้ามาใช้สอยและสร้างอาคารที่ท�ำการได้ โดยต้อง
ด�ำเนินการเรื่องผู้อาศยั เอง
การดำ� เนนิ การทจ่ี ะรอ้ื ถอนและเจรจากบั บรรดาผอู้ ยอู่ าศยั ๒๐ กวา่
ห้องนั้นเป็นเรื่องท่ีท�ำได้ยาก เพราะมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นผู้ด�ำเนินการให้
และไม่มีการก�ำหนดค่าตอบแทนการร้ือถอนให้บรรดาเจ้าของห้องเหล่านั้น
ซ่ึงถ้ามีการฟ้องร้องด�ำเนินคดีกัน ถ้าผู้อยู่อาศัยไม่ยินยอมที่จะออกไปจาก
บริเวณสถานที่ก่อสร้างเพียงรายเดียวหรือสองรายก็จะไม่สามารถท่ีจะ
ด�ำเนินการก่อสร้างได้ และอาจจะต้องคืนงบประมาณและต้องอาศัยตึก
คณะรฐั ศาสตรอ์ ยตู่ ่อไป ซ่ึงทางคณะรัฐศาสตรเ์ องกไ็ มเ่ ตม็ ใจทจ่ี ะให้อยู่
เป็นโชคดีอีกประการหนึ่งของคณะนิติศาสตร์ เพราะก่อนท่ีผมจะ
ได้รับเลือกตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่งคณบดีคณะนิติศาสตร์ ผมได้รับการขอร้อง
ให้เป็นผู้จัดการส�ำนักงานผลประโยชน์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ดังท่ีกล่าวมาแล้ว จึงได้เชิญผู้อยู่อาศัยมาเจรจา ขอร้องให้เห็นแก่ความ

130

เจรญิ กา้ วหนา้ ในการขยายการศกึ ษาวชิ านติ ศิ าสตรใ์ หม้ นั่ คงตอ่ ไป โดยแจง้ วา่
ได้รับงบประมาณมาแล้ว ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือก็ต้องคืนงบประมาณ
เพราะฉะนน้ั จงึ ไดก้ ำ� หนดเวลา ๓ เดอื น ดว้ ยการขอรอ้ งใหผ้ อู้ าศยั เหลา่ นน้ั ได้
ขนย้ายทรัพย์สินออกไปแล้วส่งมอบท่ีดินคืนให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อท่ีบรรดาผู้อาศัยเหล่านั้นต่างให้ความร่วมมือด้วยดี
เพราะเหตวุ ่าถา้ ไม่ใหค้ วามรว่ มมือ ทางส�ำนกั งานจดั การผลประโยชน์ซึง่ ผม
เองเป็นผู้จัดการจ�ำเป็นจะต้องด�ำเนินการฟ้องร้องขับไล่ตามกฎหมายและ
เรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งผมได้หลีกเล่ียงโดยอาศัยหลักเมตตาธรรม
และสร้างความเข้าใจกับบรรดาผู้อยู่อาศัย ซ่ึงเป็นบุญของคณะนิติศาสตร์
ซ่ึงจะได้มีบ้านเป็นของตัวเอง ท�ำให้บรรดาผู้อยู่อาศัยครอบครองอาคาร
เหลา่ นัน้ ใหค้ วามรว่ มมือดว้ ยดี ซึง่ ควรจะต้องจดจำ� เอาไว้ถึงความรว่ มมือนี้
เป็นอันว่าคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการ
แบ่งปันเนื้อที่ส�ำหรับการก่อสร้างประมาณ ๓ ไร่คร่ึง บริเวณหัวมุมทาง
ดา้ นสามย่าน ซึ่งเปน็ ทีต่ ั้งปจั จุบนั ดงั กลา่ วแลว้ มผี ู้ทไี่ ม่รู้ขอ้ เท็จจรงิ และพดู
วา่ ท�ำไมคณะนิติศาสตร์ จฬุ าฯ จงึ ตอ้ งมาต้ังอยใู่ นสถานที่อนั คับแคบเชน่ นี้
ซ่ึงผมก็มีความรู้สกึ เชน่ เดียวกนั ที่ดินของจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั มีจำ� นวน
มากมายท่ีได้รับพระราชทานไว้เพื่อประโยชน์ของการศึกษา แต่เน่ืองจาก
ผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้น�ำที่ดินเหล่าน้ันไปเป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
รวมทั้งในขณะน้ันด�ำเนินการเก่ียวกับการที่จะให้มีศูนย์การค้ามาบุญครอง
เกิดขน้ึ ในท่ีดิน ๒๓ ไร่ บริเวณถนนพญาไท ซ่ึงผมได้เคยต้ังข้อสังเกตแสดง
ความไม่เห็นด้วยที่จะเอาที่ดินพระราชทานไปเป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
แทนทจี่ ะเปน็ ประโยชนใ์ นดา้ นการศกึ ษา ถา้ ทด่ี นิ บรเิ วณทตี่ ง้ั ของศนู ยก์ ารคา้
มาบุญครองปัจจุบันได้รับการจัดสรรให้แก่คณะวิชาต่างๆ ซ่ึงก�ำลังก่อร่าง
สรา้ งตวั และทจี่ ะกอ่ ตงั้ ขน้ึ อกี ในอนาคต การใชท้ ดี่ นิ พระราชทานกจ็ ะเปน็ การ
ใชต้ ามวัตถปุ ระสงคท์ ่ถี กู ต้องและสมบรู ณ์ แต่การหาเปน็ เชน่ น้นั ไม่

131

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวนิ

เพราะฉะน้ัน การที่คณะนิติศาสตร์ได้รับการแบ่งปันที่บริเวณ
ท่ีต้ังอยูน่ จี้ ึงถอื วา่ เปน็ โชคดีท่สี ดุ เทา่ ท่จี ะท�ำได้ในขณะนน้ั ซงึ่ กว่าจะได้มา
ก็ต้องผ่านการเจรจากับหัวหน้าแผนกวิชาอิสระสื่อสารมวลชนหลายคร้ัง
โดยมีคณบดีคณะต่างๆ โดยเฉพาะคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
(ศาสตราจารย์ ม.ร.ว.แหลมฉาน หัสดนิ ทร) ให้ความสนบั สนุนร่วมเป็น
สกั ขพี ยาน

ศาสตราจารย์ ม.ร.ว.แหลมฉาน หัสดนิ ทร คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ในฐานะผ้ใู ห้การสนบั สนนุ
เกีย่ วกับสถานทก่ี ่อสร้างคณะนติ ิศาสตร์

132

ส�ำหรับผู้ท่ีไม่รู้ความเป็นมาเป็นไป จึงควรรับทราบข้อเท็จจริง
ข้อนี้ไว้ด้วย เหตุท่ีผมไม่ต้องการที่จะพูดเร่ืองเบ้ืองหน้าเบื้องหลังการจัดตั้ง
คณะนิตศิ าสตร์ การสรา้ งอาคารคณะนิติศาสตรแ์ ละปญั หาอนื่ ๆ นั้น เพราะ
เห็นว่างานต่าง ๆ ได้ส�ำเรจ็ ลุล่วงไปเป็นประโยชน์แก่นสิ ติ เป็นประโยชน์แก่
คณะนติ ศิ าสตร์ เปน็ ประโยชนแ์ กจ่ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั แลว้ จงึ ไมต่ อ้ งการ
ทจ่ี ะไดพ้ ดู ถงึ สง่ิ ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ใหก้ ระทบกระเทอื นจติ ใจของบคุ คลใดบคุ คล
หน่ึง เพราะถือว่าประโยชน์สูงสุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและของ
คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เกิดขึ้นแล้ว แต่บัดนี้นับวันผู้ที่
ไม่ล่วงรู้ประวัติความเป็นมาจะมีความเข้าใจผิดและไขว้เขวไปในส่ิงที่มีผู้ที่รู้
ความจริงแต่ไม่พดู ความจรงิ หรอื ไมร่ ู้ความจรงิ แต่ได้พูดเร่อื งการจดั ตง้ั คณะ
นิติศาสตร์ไปด้วยความไม่รู้ โดยไม่เจตนาหรือเจตนาก็ตาม จึงจ�ำเป็นท่ีจะ
ต้องพดู ถงึ เรื่องนีไ้ วท้ ้งั หมด ในขณะทีย่ งั มบี คุ คลและมีหลักฐานพยานต่าง ๆ
อยู่ รวมท้งั การจัดร่างโครงการโครงสร้างตา่ ง ๆ ด้วยลายมอื และมีผจู้ ัดพมิ พ์
ซง่ึ มีตวั ตนปรากฏอยู่ และทัง้ หมดไดเ้ ขา้ มามีสว่ นในภายหลงั ได้เปน็ คณบดี
เป็นอาจารย์ เป็นศาสตราจารย์ เป็นราชบัณฑติ ทางนติ ิศาสตร์ รวมทัง้ ผู้ที่ได้
รับต�ำแหน่งเลขานุการคณะนิติศาสตร์ต่อมาจากอาจารย์ด�ำรง ธรรมารักษ์
ซงึ่ ไดข้ อลาออกจากตำ� แหน่งไปคือ อาจารย์ดำ� ริห์ บรู ณะนนท์ ซงึ่ ได้รบั โอน
มาจากคณะรฐั ศาสตรจ์ ะเปน็ ผูท้ ส่ี ามารถจดจำ� เรื่องราวต่าง ๆ ได้เปน็ อย่างดี
ปัญหาการก่อสร้างอาคารยังไม่เสร็จสิ้นเพียงเท่านั้น เพราะได้ต้ัง
กรรมการประกวดราคาการก่อสร้างอาคารนิตศิ าสตรข์ น้ึ มีบรรดาผู้เข้าร่วม
ประกวดราคา ๕ รายดว้ ยกนั ในวนั เปดิ ซองประมลู ประกวดราคา ปรากฏทง้ั
๕ รายได้เสนอราคาเกินกวา่ งบประมาณ ในลักษณะทดี่ ูแลว้ เป็นการเสนอ
ราคาท่ีค่อนข้างจะมีการรู้กันมาก่อน เป็นโชคดีของคณะนิติศาสตร์และ
เป็นโชคดที ี่สามารถประหยัดเงินงบประมาณได้ เพราะในคนื ก่อนท่ีจะมีการ
เปิดซองประมูลประกวดราคา ได้มีผู้หวังดีได้ส่งหลักฐานและได้แจ้งสถานที่

133

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคิดลนาวิน

ทบ่ี รษิ ทั ผเู้ ขา้ ประมลู ไดเ้ ปดิ ประชมุ ทำ� ความตกลงกนั ในเรอ่ื งการเสนอราคา
ทภ่ี ตั ตาคารแหง่ หนง่ึ แถวสแ่ี ยกอนสุ าวรยี ช์ ยั สมรภมู  ิ ซง่ึ เมอื่ ไดห้ ลกั ฐานและ
ข้อมูลมาเช่นน้ี ในวันที่ผมเป็นประธานเปิดซองประกวดราคา ได้สอบถาม
บรรดาผู้ยื่นซองท้ังหมดขอให้ยอมรับความจริงอย่างลูกผู้ชายว่า ก่อนหน้า
วนั เปดิ ซองประกวดราคาไดม้ กี ารประชมุ ปรกึ ษาหารอื กนั ทภี่ ตั ตาคารแหง่ หนง่ึ
ในเวลากลางคนื ใชห่ รอื ไม่ เมอ่ื ทกุ คนไดท้ ราบวา่ ผมไดล้ ว่ งรเู้ รอ่ื งนี้ กไ็ มป่ ฏเิ สธ
แตป่ ระการใด ผมจงึ ใหล้ ม้ เลกิ การประกวดราคาและเปดิ การประกวดราคา
ครงั้ ที่ ๒ ข้ึน โดยไมม่ ีขอ้ โตแ้ ยง้ จากบรรดาผู้เข้าประกวดราคาชุดแรก
ในการเข้าประกวดราคาครั้งท่ี ๒ มีผู้เข้ายื่นซองประกวด ๓ ราย
รายทเ่ี สนอราคาต�่ำสดุ เปน็ เงนิ ๒,๘๕๐,๐๐๐ บาทโดยประมาณ ซง่ึ เป็นสว่ น
ท่ีมีการก่อสร้างอาคารรวมทั้งค่าครุภัณฑ์ด้วย ซึ่งต�่ำกว่างบประมาณท่ีต้ังไว้
เหตทุ ผ่ี รู้ บั เหมากอ่ สรา้ งแจง้ วา่ ไดเ้ สนอราคาตำ่� ลงเชน่ นเี้ พราะผมรบั รองวา่ จะ
ดแู ลการเบกิ จา่ ยเงนิ ใหไ้ ดร้ บั ความเปน็ ธรรมโดยไมต่ อ้ งบวกคา่ ผลประโยชนใ์ ห้
แกผ่ หู้ นง่ึ ผใู้ ด โดยวางกฎเกณฑก์ บั คณะกรรมการควบคมุ การกอ่ สรา้ ง ซงึ่ ไดแ้ ก่
อาจารยจ์ ากคณะสถาปตั ยแ์ ละจากคณะวศิ วกรรมศาสตร์ วา่ ในการตรวจการ
จ้างทุกคร้ังขอให้ด�ำเนินการตรวจการจ้างตามหลักวิชาตามสัญญาอย่าง
ตรงไปตรงมา โดยให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ในสว่ นผู้รบั เหมากอ่ สรา้ งขอ
ไม่ต้องให้ค่าตอบแทนหรือพยายามท่ีจะให้บริการแก่คณะกรรมการควบคุม
การก่อสร้างและคณะกรรมการตรวจการจ้างแต่อย่างหน่ึงอย่างใด รวมท้ัง
ไม่จ�ำเป็นที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้มีหน้าท่ีจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมา
ก่อสร้าง ซ่ึงมักจะถูกครหาว่ามีการถ่วงเวลาเพื่อให้ผู้รับเหมาก่อสร้างต้อง
เสยี เงนิ จำ� นวนหนงึ่ ซงึ่ เกอื บจะเรยี กวา่ เปน็ ประเพณี เพอ่ื จะไดร้ บั คา่ งวดตา่ ง ๆ
และผมไดแ้ จง้ วา่ ถ้าคณะกรรมการตรวจการจ้างได้ลงนามอนุมัติใหผ้ ่านงาน
งวดหนึง่ งวดใดแล้วภายใน ๗ วันไม่ได้รบั เงินหลงั จากทม่ี กี ารเสนอขอรับค่า
งวดไปแลว้ ขอให้แจง้ ใหผ้ มทราบเพ่อื จะไดด้ �ำเนนิ การต่อไป ทำ� ให้ผู้รับเหมา

134

ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร อดตี นายกรัฐมนตรี และอดีตอาจารย์พิเศษ
คณะนิติศาสตร์ ผสู้ นับสนุนการกอ่ สร้างอาคารหลังทส่ี อง (อาคาร ๕ ชน้ั )

135

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

สามารถลดทอนคา่ ใช้จ่ายตา่ งๆ ไปได้ตามทไ่ี ดพ้ ูดไว้ เพราะฉะนั้นผ้รู บั เหมา
กอ่ สรา้ งจงึ แจง้ วา่ เหตทุ ส่ี ามารถลดราคาลงมาไดเ้ พราะมคี วามเชอ่ื ในวธิ ปี ฏบิ ตั ิ
ตามท่ีผมให้แนวทางไว้ ซ่ึงต้องขอขอบคุณสถาปนิก วิศวกร และเจ้าหน้าที่
กองคลงั ของจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ในขณะนนั้ ทไ่ี ดก้ รณุ าดำ� เนนิ การใหเ้ ปน็
ไปตามแนวทางที่ผมได้วางไว้ ทำ� ใหง้ านส�ำเร็จลลุ ว่ งไปดว้ ยดที ุกประการ ซ่ึง
เป็นเรื่องเหลือเช่ือท่ีคณะนิติศาสตร์ได้สร้างอาคารเรียนรวมทั้งวัสดุครุภัณฑ์
โดยใชเ้ งนิ เพยี ง ๒,๘๕๐,๐๐๐ บาทโดยประมาณในเวลานนั้ ซง่ึ ในเวลาปจั จบุ นั
เงินไม่ถึง ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ไม่สามารถท่ีจะท�ำอะไรได้ นา่ เสียดายอาคาร
หลงั นไี้ ดถ้ กู รอื้ ไปแลว้ เหลอื แตค่ วามหลงั วา่ เปน็ อาคารทไ่ี ดส้ รา้ งนกั นติ ศิ าสตร์
ทม่ี ีช่ือเสยี งขน้ึ มารับใชป้ ระเทศชาติเปน็ จ�ำนวนมาก
เม่ือสร้างอาคารเสร็จเรียบร้อยแต่ยังไม่มีความสมบูรณ์ อาคาร
หลังใหมย่ งั มีสิ่งทยี่ ังต้องแก้ไขปรับปรงุ อีกเป็นจำ� นวนมาก เพราะในขณะนน้ั
ไม่มีการอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย ฉะน้ัน การปรับปรุง
ภูมิทัศน์พื้นท่ีต่างๆ อาจารย์และนิสิตได้ร่วมมือกัน เช่น อาจารย์วิมลศิริ
ชำ� นาญเวช และคณะรบั ท่ีจะหาต้นไม้ เชน่ ต้นชมพูพนั ธทุ์ พิ ย์มาปลกู จำ� นวน
หลายต้นเพ่ือสรา้ งความร่มร่ืน
ระยะแรก ๆ ทกุ คนมคี วามอดึ อดั ขดั ขอ้ งในการใชอ้ าคารหลงั ใหม่
เพราะไมม่ สี ว่ นรูเ้ หน็ ถึงความยากลำ� บากต่าง ๆ แตถ่ า้ คิดว่านกน้อยท�ำรัง
แตพ่ อตวั เราอยใู่ นทท่ี เี่ ปน็ บา้ นของเรากย็ งั ดกี วา่ อาศยั บา้ นผอู้ น่ื อยู่ แตก่ าร
คิดเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเร่ืองท่ีทุกคนคิดได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะน้ัน ในขณะน้ัน
ถา้ มผี ทู้ ไี่ มพ่ อใจเกยี่ วกบั อาคารสถานทเ่ี มอื่ ไดท้ ราบขอ้ ความนแ้ี ละเวลาผา่ นไป
ถงึ ๔๐ กวา่ ปี กน็ า่ จะไดส้ ำ� รวจความคดิ ของตวั เองในขณะนน้ั วา่ เปน็ ความคดิ
ที่ปราศจากขอ้ มลู และไมม่ คี วามถกู ต้อง แตส่ ่งิ ตา่ ง ๆ เหล่านี้ก็ได้ผ่านพ้นไป
แล้วด้วยดี

136

จนกระท่ังต่อมาในสมัยที่มีการปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน
ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีอาจารย์
วิมลศิริ  ช�ำนาญเวช เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย  ทั้งสอง
ท่านโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ในคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัยเปน็ เวลาช้านาน ไดใ้ ห้การสนบั สนุนอย่างเตม็ ที่ใน
การทจ่ี ะสรา้ งอาคารหลงั ท่ี ๒ ขน้ึ โดยมอี าจารยว์ มิ ลศริ ิ ชำ� นาญเวช รฐั มนตรี
ว่าการทบวงมหาวิทยาลัยเป็นผู้สนับสนุนอย่างส�ำคัญ อาคารหลังท่ีสองจึง
เกดิ ขน้ึ โดยใช้เงนิ งบประมาณ ประมาณ ๘,๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยอาคารหลงั
ท่ีสองผมได้ก�ำหนดให้มีห้องประชุมอเนกประสงค์ในรูปของโรงละครท่ี
สามารถใชเ้ ปน็ ทปี่ ระชมุ เปน็ ทบี่ รรยาย จดั การแสดงตา่ งๆ จคุ นประมาณ
๓๐๐ คน โดยผมออกเงินสว่ นตัวประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ บาท เพือ่ จัดท�ำ
เฟอรน์ เิ จอรแ์ ละคา่ เครอ่ื งเสยี งทงั้ ระบบ และไดจ้ ดั การสรา้ งหอ้ งสมดุ ถาวร
ขนึ้ เปน็ ครั้งแรกของคณะนิตศิ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั

137

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

138

กจิ กรรมภายในหอ้ งประชุม ตึก ๒ (ตึก ๕ ช้นั )

139

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวนิ

กิจกรรมภายในหอ้ งประชมุ ตกึ ๒ (ตึก ๕ ช้นั )

140

141

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวนิ

ภาพห้องประชุมตกึ ๒ (ตกึ ๕ ช้นั ) ทน่ี ่งั เป็นอฒั จันทร์
โดย ดร.อุกฤษ มงคลนาวนิ เป็นผ้กู �ำหนดรูปแบบ จดั หาชา่ งท�ำเฟอรน์ ิเจอร์

มีท่ีนั่งประมาณ ๑๕๐ ท่ี ค่าใชจ้ า่ ยในการจัดท�ำห้องประชุมท้งั หมด
รวมท้ังระบบเครือ่ งเสียงเปน็ เงินประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ บาท (เจด็ แสนกวา่ บาท)

เปน็ เงินส่วนตวั ของ ดร.อุกฤษ มงคลนาวนิ

142

เมอื่ พดู ถงึ เรอ่ื งหอ้ งสมดุ กต็ อ้ งยอ้ นไปถงึ ขอ้ ตกลงอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ
กับคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส�ำหรับผู้ที่รู้เร่ืองดีต้องเข้าใจ
ว่า จ�ำนวนหนังสือในห้องสมุดของคณะรัฐศาสตร์ในขณะน้ันนอกจากเงิน
งบประมาณแผ่นดินส่วนหน่ึงแล้วยังเป็นเงินที่เรียกว่าเงินค่าหัวของนิสิต
ซ่ึงมหาวิทยาลยั แบ่งให้เป็นค่ากจิ กรรมของนสิ ติ สว่ นหนงึ่ และเป็นคา่ หนงั สอื
ต�ำราเรียนส่วนหน่ึง โดยแบ่งให้ตามจ�ำนวนของนิสิต เพราะฉะนั้นบรรดา
หนงั สอื ต่าง ๆ ท่หี อ้ งสมุดคณะรฐั ศาสตร์ในขณะนัน้ ครงึ่ หนงึ่ เปน็ เงนิ ค่าหวั
นิสิตคณะนิติศาสตร์ท้ังภาคปกติและภาคสมทบ เกือบจะเรียกว่าหนังสือ
กฎหมายทั้งหมดในห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ขณะน้ันเป็นเงินท่ีมาจากค่าหัว

ห้องสมดุ ห้องแรกทเ่ี ปน็ ทางการ ตกึ ๒ (ตกึ ๕ ชั้น)

143

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคิดลนาวนิ

นสิ ติ ภาคปกตแิ ละภาคสมทบแผนกวชิ านติ ศิ าสตร์ ซง่ึ ขณะทม่ี กี ารดำ� เนนิ การ
จัดต้ังคณะนิติศาสตร์และใกล้จะเป็นผลส�ำเร็จ จนกระทั่งเม่ือได้มีการ
จดั สรา้ งคณะนติ ศิ าสตรข์ นึ้ ใหมไ่ ดม้ กี ารทำ� ความตกลงกนั อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ
ว่า เม่ือคณะนิติศาสตร์ได้จัดต้ังในสถานท่ีถาวรแล้วก็จะแบ่งหนังสือ
โดยเฉพาะที่เป็นหนังสือกฎหมายทั้งหมดให้แก่คณะนิติศาสตร์ แต่เมื่อ
คณะนิติศาสตร์ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยและขอรับมอบหนังสือจาก
ห้องสมุดตามสัญญาเกียรติยศ ปรากฏว่าไม่ได้รับการแบ่งปันหนังสือมาท่ี
คณะนติ ิศาสตรแ์ ตป่ ระการใด (โปรดตรวจสอบหลกั ฐานดูได้)


144

145

หลากอหกุ ลฤาษยแนมวงคคดิ ลนาวิน

ภาพห้องทำ� งานคณบดี ตกึ ๑

146

อาจารย์วิมลศิริ ช�ำนาญเวช อดตี รัฐมนตรีทบวงมหาวทิ ยาลัย และอาจารย์
คณะนติ ศิ าสตร์ กอ่ นทีจ่ ะได้รับโปรดเกล้าฯ ใหด้ ำ� รงตำ� แหนง่ รฐั มนตรี
ผู้ใหก้ ารสนบั สนนุ การก่อสร้างอาคารหลงั ท่สี อง (อาคาร ๕ ชัน้ )

สิ่งที่คณะนิติศาสตร์ได้รับแบ่งมาจากคณะรัฐศาสตร์ในขณะน้ัน
คือโต๊ะท�ำงานของอาจารย์จ�ำนวนหนึ่งและโต๊ะของเจ้าหน้าที่จ�ำนวนหน่ึง
ซงึ่ ทง้ั หมดมปี ระมาณ ๑๐ กวา่ ตวั นอกนนั้ ไมไ่ ดร้ บั การแบง่ ปนั มาแตป่ ระการใด
ขอ้ นผ้ี ทู้ ใี่ หร้ ายละเอยี ดไดด้ ที สี่ ดุ คอื อาจารยด์ ำ� รหิ ์ บรู ณะนนท์ อาจารยอ์ รพนิ ท์
ขจรอำ� ไพสขุ อาจารยป์ นดั ดา พงษส์ รู มาศย์ ซงึ่ มสี ว่ นรเู้ หน็ งานดา้ นธรุ การใน
ขณะนนั้ ซ่งึ คงจะให้ข้อมูลประกอบได้

147

หลากอหุกลฤาษยแนมวงคคิดลนาวิน

ศาสตราจารยธ์ านนิ ทร์ กรัยวเิ ชยี ร, อาจารย์วมิ ลศิริ ชำ� นาญเวช,
อาจารย์ด�ำริห์ บูรณะนนท์ และอาจารย์ประสิทธิ์ โฆวไิ ลกูล
ในหอ้ งประชุม ตกึ ๒ (ตึก ๕ ชั้น)

148

อาคารคณะนิติศาสตร์อาคารแรก เปน็ อาคาร ๔ ชัน้ มีความแข็งแรง
คา่ กอ่ สร้างในขณะนน้ั (พ.ศ. ๒๕๑๕) ไม่ถึงสามล้านบาท

คณบดีและคณาจารยบ์ างส่วนกำ� ลงั ตรวจการก่อสรา้ งอาคารคณะนิตศิ าสตร์

149


Click to View FlipBook Version