แผนบูรณาการสาระทอ้ งถ่ิน/เศรษฐกิจพอเพยี ง/ทกั ษะชวี ิต/โรงเรียนสุจรติ /พระบรมราโชบาย ร.10
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 30205 รายวชิ า ฟสิ ิกส์ 5
ปกี ารศกึ ษา 2565
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1
นางดวงดาว บดรี ฐั
ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง ของแขง็ และของไหล
ช่อื แผน ของไหลสถิต เวลา 6 ชัว่ โมง ผู้สอน
โรงเรยี นวัชรวิทยา อาเภอเมือง จังหวดั กาแพงเพชร
************************************************************************************
1. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
1. ความดนั
แรงดนั ( Force , F ) ผลคูณระหว่างความดันกบั พืน้ ท่ี ๆ ถูกแรงกระทา แรงดันเป็นปรมิ าณเวกเตอร์
มีหน่วยเปน็ นิวตนั
ความดัน ( Pressure , P ) คอื อตั ราสว่ นระหวา่ งแรงทีก่ ระทาตอ่ พืน้ ท่ี ๆ ถูกแรงกระทาโดยพนื้ ที่นั้น
ต้องตัง้ ฉากกับแรงกระทาดว้ ยความดันเปน็ ปรมิ าณสเกลาร์ มีหน่วยเป็นนวิ ตันต่อตารางเมตรหรือพาสคัล(Pa)
ให้ F คือ แรงทกี่ ระทา ( N )
A คือ พ้ืนท่ที ่ถี กู แรงกระทาและต้งั ฉากกบั F ( m 2 )
P คือ ความดนั ( N / m 2)
P= F
A
หมายเหตุ 1. ในทางอุตุนิยมวิทยาใชห้ น่วยเป็น Bar เม่อื 1 Bar = 10 5 พาสคัล (Pa)
2. ในบางครัง้ ความดันอ่านเป็นบรรยากาศ โดยท่ี 1 บรรยากาศ = 1.013 X 10 5 N / m 2
3. 1 บรรยากาศ ( atm ) = 760 มลิ ลเิ มตรปรอท ( torr ) = 14.7 lb/in2
สรปุ หลักการสาคัญเกยี่ วกับความดันในของเหลวในสภาวะอย่นู ่ิงไดด้ ังนี้
1. ณ จดุ ใด ๆ ในของเหลวจะมีแรงกระทาของของเหลวไปในทุกทิศทกุ ทาง
2. แรงทขี่ องเหลวกระทาต่อผนงั ภาชนะหรือผิววตั ถุที่อย่ใู นของเหลวจะอย่ใู นทศิ ตง้ั ฉากกับผนัง
ภาชนะหรอื ผิวของวัตถุท่ขี องเหลวสัมผัส
3. ความดนั ณ จดุ ใด ๆ ในของเหลวท่อี ยู่นิ่งแปรผันตรงกับความลึกและความหนาแนน่ ของ
ของเหลวเม่อื อุณหภมู ิคงตัว
4. ความดันในของเหลวชนิดหนง่ึ ๆ ไม่ขน้ึ อยูก่ ับปริมาตรและรูปร่างของภาชนะท่ีบรรจุของเหลว
และทค่ี วามลกึ เท่ากนั ของเหลวชนดิ เดยี วกันความดนั จะเทา่ กนั เสมอ
การจาแนกชนิดของความดนั
1. ความดันบรรยากาศ (Atmospheric Pressure , Pa) เปน็ ความดันท่ีเกิดจากบรรยากาศท่ที ับถม
อยูเ่ หนอื จุดทพ่ี จิ ารณามคี ่าเท่ากับน้าหนกั ของอากาศในช้ันบรรยากาศที่ทบั ถมอย่เู หนือพนื้ ท่ี 1 ตารางหน่วย
ซงึ่ คานวณแลว้ ได้ 1.013 X 10 5 N/m 2 เมื่อภาวะปกติ
2. ความดนั เกจ (Gauge Pressure , PW )หมายถงึ ความดันของของเหลวเน่อื งจากนา้ หนกั ของ
ของเหลว
ให้ PW คอื ความดันเกจหรอื ความดนั ของของเหลวเน่อื งจากนา้ หนักของของเหลว
คอื ความหนาแน่นของของเหลว
h คอื ความสงู หรอื ความลึกของของเหลวจากผวิ ของของเหลว
PW = gh
3. ความดันสมั บรู ณ์ (Absolute Pressure , P ) หมายถงึ ความดันของของเหลวเนือ่ งจากนา้
หนักของของเหลวรวมกับความดนั บรรยากาศ จะได้วา่
P = Pa + PW
P = Pa + gh
แรงดันน้าทกี่ ระทาตอ่ เขอื่ น
ให้ F คอื แรงดนั ท่นี า้ กระทาต่อประตูเขอ่ื นหรือเข่อื น
คอื ความหนาแน่นของนา้ l คือ ความยาวของประตเู ข่ือน
g คือ ความเร่งเนื่องจากแรงดึงดูดของโลก h คอื ความสงู ของระดบั น้า
F 1 lg h 2
2
2. มาตรฐาน
สาระฟิสิกส์
4. เขา้ ใจความสัมพนั ธข์ องความรอ้ นกบั การเปลยี่ นอุณหภูมิและสถานะของสสารสภาพยืดหย่นุ
ของวสั ดุและมอดลู ัสของยงั ความดนั ในของไหล แรงพยุง และหลัก ของอาร์คมิ ีดิส
ความตงึ ผิวและแรงหนืดของของเหลว ของไหลอดุ มคติ และ สมการแบร์นลู ลี กฎของแก๊ส
ทฤษฎีจลนข์ องแกส๊ อดุ มคตแิ ละพลังงานในระบบ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์
โฟโตอิเลก็ ทรกิ ทวิภาวะของคล่ืนและ อนุภาค กัมมันตภาพรงั สี แรงนิวเคลยี ร์ ปฏิกริ ิยา
นิวเคลียร์ พลงั งานนิวเคลยี ร์ ฟสิ กิ สอ์ นุภาค รวมท้งั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
3. ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้
ผลการเรียนรู้
อธิบายและคานวณความดันเกจ ความดันสมั บูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมทง้ั
อธบิ ายหลกั การทางานของแมนอมิเตอร์ บารอมิเตอรแ์ ละเคร่ืองอดั ไฮโดรลกิ และการสรา้ งฝายและเข่ือนก้ันนา้
ในทอ้ งถิน่ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
4. สาระการเรียนรู้
- สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1. ความดันในของไหล
2. อปุ กรณ์ทใ่ี ช้วดั ความดัน
5. สอดแทรกหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. การสรา้ งฝายและเขือ่ นก้นั น้าในท้องถิ่น
6. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
จุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี นด้านสมรรถนะ
1. การใช้เทคโนโลยีเพอ่ื การเรยี นรู้
2. ทกั ษะการส่อื สารอยา่ งสร้างสรรค์ตามชว่ งวัย
3. ทักษะการคิดช้ันสูง
7. องค์ประกอบทักษะชีวติ
องคป์ ระกอบที่ 1 การตระหนกั รูแ้ ละเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผู้อ่ืน
- ปรบั ปรงุ ทศิ ทางการดาเนนิ ชีวิตให้มโี อกาสประสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมายทก่ี าหนดไว้
องคป์ ระกอบท่ี 2 การคดิ วเิ คราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์
- มคี วามยดื หยุ่นทางความคดิ ไม่ยดึ ตกิ บั ทางเลือกเดิมที่คนุ้ เคย
องค์ประกอบที่ 3 การจดั การอารมณ์และความเครียด
- ปรบั อารมณ์ความรูส้ กึ ในสถานการณ์ตา่ งๆ ได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
องคป์ ระกอบที่ 4 การสรา้ งสัมพนั ธภ์ าพท่ีดกี ับผอู้ ื่น
- วางตัวและกาหนดทา่ ทีได้เหมาะสมกบั บคุ คลและสถานการณ์
จดุ เน้นการพัฒนาทกั ษะชีวติ
วางตวั และกาหนดท่าทไี่ ด้เหมาะสมกับบุคคลและสถานการณ์ มกี ารยืดหย่นุ ทางความคดิ
8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต
3. มีวินยั
4.ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมัน่ ในการทางาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
จุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนด้านคุณลกั ษณะ
1. คุณลักษณะมุ่งมนั่ ในการทางาน
2. คุณลกั ษณะใฝ่เรียนรู้
9. คณุ ลักษณะ 5 ประการโรงเรียนสุจรติ
1. กระบวนการคดิ
2. มีวนิ ัย
3.ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
4. อยู่อย่างพอเพียง
5. มจี ติ สาธารณะ
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
1. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรียน แผนการเรยี นรทู้ ่ี 13 เรอ่ื ง ของไหลสถิต
2. ทาแบบฝกึ หัดพฒั นาทักษะการคดิ ในแบบเรียน เร่ือง ของไหลสถติ ในแบบเรยี น
แบบฝึกหดั 17.3 ข้อ 1 (หนา้ 236) และปัญหาข้อ 11-20 (หน้า 249-251)
11 .การวัดและประเมนิ ผล
11.1 การประเมนิ ระหวา่ งจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ช้นิ งาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมิน เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ
ตามเกณฑ์
ทาแบบทดสอบกอ่ น ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ
เรยี น เรือ่ ง ก่อนเรยี น กอ่ นเรียน การประเมินผล
ของไหลสถิต จานวน 10 ขอ้ การทาแบบทดสอบ
จานวน 10 ขอ้
ตามเกณฑ์
ทาแบบฝกึ หัดพัฒนา ตรวจแบบฝึกหัดพฒั นา แบบฝึกหดั พัฒนา การประเมินผล
ทกั ษะการคดิ ใน ทกั ษะการคิดใน ทักษะการคิดใน แบบฝึกหดั
แบบเรยี น เรอ่ื ง แบบเรียน เร่ือง แบบเรียน เรอื่ ง
ของไหลสถิต ของไหลสถติ ของไหลสถิต
11.2 การประเมินเมอ่ื สน้ิ สุดการเรยี นรู้
ชิน้ งาน/ภาระงาน วิธีการประเมิน เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
สอบเก็บคะแนน
ทาแบบทดสอบ แบบทดสอบเก็บ ตามเกณฑ์
เกบ็ คะแนน คะแนน การประเมินผล
จานวน 10 ข้อ การทาแบบทดสอบ
จานวน 10 ขอ้
เกณฑก์ ารประเมนิ (Rubrics)
ภาระงาน/ชิ้นงาน ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง
แบบฝกึ หัด ทาแบบฝึกหดั ทาแบบฝึกหัด ทาแบบฝึกหัด ทาแบบฝึกหัด
ถูกตอ้ ง 80% ถกู ตอ้ ง 60-80% ถูกต้อง 50 - ถกู ตอ้ ง ต่ากว่า
ขน้ึ ไป 50%
60%
เกณฑก์ ารประเมินผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน / แบบทดสอบเกบ็ คะแนน ใช้เกณฑด์ งั น้ี
ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป หมายถึง ดมี าก
ร้อยละ 70-79 หมายถึง ดี
รอ้ ยละ 60-69 หมายถงึ ปานกลาง
ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผ่าน
ตา่ กว่ารอ้ ยละ 50 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
ผูป้ ระเมนิ
1. ครผู ้สู อนประเมินนักเรยี น 2. นกั เรยี นประเมินนกั เรียน
12. การวเิ คราะห์ความสอดคล้องหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
12.1 ผ้เู รียนได้เรียนรูห้ ลกั คิด และฝกึ ปฏิบัติ ตาม 3 ห่วง 2 เงอื่ น ดังน้ี
ความรู้ คุณธรรม
1. แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความขยัน
2. การสร้างฝายกนั้ นา้ 2. ใฝ่เรยี นรู้
3. การสร้างเขื่อน 3. ความรบั ผิดชอบ
4. ความมุง่ ม่ันในการทางาน
5. ความสามัคคภี ายในกลมุ่
พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิคุม้ กนั ในตัวทดี่ ี
1. พอประมาณกับงบประมาณ ใน 1. เข้าใจและเหน็ ความสาคญั ในการนา 1. นาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไป
การนาเสนอผลงานหนา้ แนวทางปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ ประยกุ ตใ์ ช้กบั การดาเนนิ ชีวติ ของตนเอง
ช้ันเรยี น เชน่ การทารายงาน ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งมเี หตผุ ล อย่างเหมาะสมถูกตอ้ ง เพ่ือใหส้ ามารถยืน
2. พอประมาณในการดาเนนิ ชวี ิต หยัดได้อยา่ งมน่ั คงท่ามกลางกระแส
การเปล่ยี นแปลงอย่างรวดเรว็ ของสงั คม
เศรษฐกจิ และส่งิ แวดล้อม
12.2 ผเู้ รยี นได้เรียนรกู้ ารใช้ชวี ิตทสี่ มดุลและพรอ้ มรับการเปลยี่ นแปลงใน 4 มติ ิ ตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง ดังน้ี
ด้าน สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลงในด้านต่างๆ
องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม วัฒนธรรม
ความรู้ -มีความรเู้ กยี่ วกบั แนวคดิ -รู้จักแบง่ หน้าที่ -มีความรูเ้ กย่ี วกบั การ -ร้แู ละเขา้ ใจ
เศรษฐกิจพอเพยี งและ รับผิดชอบใน รักษาธรรมชาตแิ ละ ในวฒั นธรรม
สามารถนาปรชั ญา การทางาน สิ่งแวดลอ้ ม ทอ้ งถนิ่ ทต่ี น
เศรษฐกจิ พอเพียงมา อาศยั อยู่
ประยกุ ต์ใช้
ในชีวติ ประจาวนั
ทกั ษะ -มที ักษะในการนา - ปฏิบัตกิ จิ กรรม - ดแู ลรกั ษา -การชว่ ยเหลอื
ดา้ น แนวคิดเศรษฐกจิ ภายในกลมุ่ ได้ และไมท่ าลาย เก้อื กูลเอื้อเฟ้อื
องคป์ ระกอบ
พอเพยี งมาประยกุ ต์ อย่างมปี ระสทิ ธิ ภาพ ส่งิ แวดล้อม แบง่ ปนั
ทกั ษะ
ใช้ชวี ติ ประจาวนั
ค่านยิ ม
สมดลุ และพรอ้ มรับการเปลีย่ นแปลงในด้านต่างๆ
วัตถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม
-มที ักษะในการนา - ปฏิบัตกิ จิ กรรม - ดแู ลรักษา -การช่วยเหลือ
แนวคิดเศรษฐกจิ ภายในกลุม่ ได้ และไม่ทาลาย เกื้อกลู เอือ้ เฟือ้
พอเพยี งมาประยกุ ต์ อยา่ งมปี ระสทิ ธิ สงิ่ แวดลอ้ ม แบง่ ปัน
ใช้ชวี ิตประจาวัน ภาพ
-ตระหนกั ในการ -เห็นคณุ คา่ ของ
-มคี วามตระหนักและ -เกิดความรกั ใช้ทรัพยากรที่มี วัฒนธรรมองถิ่นทต่ี น
เห็นคณุ ค่าของการ สามคั คใี นหมู่ อยูอ่ ย่างคมุ้ ค่า อาศยั อยู่
นา แนวคิดเศรษฐกิจ คณะและยอมรบั
พอเพยี งมาประยุกต์ ฟงั ความคิดเห็น
ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ของผู้อ่นื
13. กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้การเรยี นการสอน แบบ 5E
1. ขัน้ สร้างความสนใจ
1. นกั เรยี นดูวีดโี อเกีย่ วกบั ความดนั
2. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ต้ังคาถามเกี่ยวกับสง่ิ ท่ตี ้องการรู้ จากเนอื้ หาที่เกยี่ วกับความดนั
3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน แผนการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่อง ความดนั จานวน 10 ขอ้
2. ข้ันสารวจและคน้ หา
1. แบ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ ๆ 6 -7 คน (ประกอบด้วย นักเรียน เก่ง กลาง อ่อน จากผลการวิเคราะห์
ผูเ้ รยี น) (เงื่อนไขคณุ ธรรม : ความรบั ผดิ ชอบ, ความมงุ่ ม่นั )
2. ใหน้ ักเรียนทบทวนความสามารถของความดันแรงดนั และพื้นทต่ี ้ังฉากกับแรง แล้วใหน้ ักเรยี น
อธิบายความสัมพนั ธข์ องตวั แปรขา้ งตน้ โดยใช้คาถามดงั นี้ (เงอื่ นไขความรู้)
- ถ้าพนื้ ทีห่ น้าตดั คงท่แี ตเ่ พม่ิ แรงที่มากระทาความดันจะมีลักษณะอยา่ งไร และถา้ ลดแรงท่ีมา
กระทาความดันจะมีลักษณะอยา่ งไร
- ถ้าแรงที่กระทาคงตัว แตพ่ นื้ ทต่ี งั้ ฉากกับแรงกบั แรงที่ถกู แรงกระทาเพิม่ ขน้ึ ความดนั จะมลี กั ษณะ
อย่างไรและถ้าลดพน้ื ทที่ แ่ี รงมากระทาความดันจะมีลักษณะอยา่ งไร
3. ใหน้ กั เรยี นทบทวนนยิ ามของความหนาแนน่
4. ครูให้นยิ ามของความดนั ในของเหลวว่าเกิดจากน้าหนักของของเหลวท่ีกดดนั ในของเหลวว่าเกดิ
จากนา้ หนักของของเหลวทีก่ ดทับเหนือตาแหนง่ ท่พี ิจารณา (เงอ่ื นไขความรู้)
5. ครูให้นักเรียนศึกษาประเภทของความดนั ได้แก่ ความดันบรรยากาศ ความดันเกจและความดัน
สมั บูรณ์
6. สนทนาดว้ ยเทคนคิ คาถาม R – C – A เพือ่ พัฒนาทักษะชวี ติ ปรับปรุงทิศทาง การดาเนินชีวติ
ให้มโี อกาสประสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมายทีก่ าหนดไว้
(R) คาถามเพ่อื การสะทอ้ น
- นักเรยี นศกึ ษาเรื่อง ความดัน ได้ผลการศึกษาตามทีน่ ักเรยี นคาดไว้หรอื ไม่
(C) คาถามเพอ่ื การเชื่อมโยง
- การเรียนเรื่อง ความดนั นักเรียนเคยตง้ั คาถามหรอื ไม่ว่าเรยี นไปเพอ่ื อะไรและมปี ระโยชน์
อยา่ งไร
- นกั เรียนคิดวา่ ความดนั สอดคล้องและสัมพนั ธ์กบั ความหนาแน่นหรือไม่ อย่างไร
(A) คาถามเพ่ือการปรับใช้
- นกั เรยี นนาเรอื่ ง ความดนั ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้หรอื ไม่อยา่ งไร และตรงตามกบั
เป้าหมายท่นี ักเรียนคาดหวงั ไว้ได้หรอื ไมอ่ ย่างไร
7. สนทนาดว้ ยเทคนคิ คาถาม R – C – A เพ่ือพฒั นาทกั ษะชีวติ มีความยดื หยนุ่ ทางความคดิ ไม่
ยดึ ตดิ กับทางเลอื กเดมิ ที่คนุ้ เคย
(R) คาถามเพ่ือการสะท้อน
- จากผลการศึกษาของกลุ่มนักเรยี นและกลุ่มของเพอ่ื น มีความสอดคล้องหรือแตกต่างจาก
ของนกั เรยี นหรือไมอ่ ยา่ งไร
(C) คาถามเพื่อการเช่อื มโยง
- นกั เรียนคดิ ว่านอกจากความดันและเครือ่ งมือวัดความดันที่ศกึ ษาแลว้ ยังมีแบบอืน่ อีก
หรอื ไมอ่ ย่างไร
(A) คาถามเพ่อื การปรับใช้
- นักเรยี นสามารถนาเสนอผลการการศึกษา ไปอธิบายความดันและเคร่ืองมอื วัดความดัน
แบบอน่ื ได้หรอื ไมอ่ ยา่ งไร
- จากการศึกษาของนักเรยี นแต่ละคนในกลมุ่ สอดคลอ้ งกนั หรอื ไม่ และนักเรียนสามารถ
รวบรวมเป็นผลการสรุปของกลุ่มไดอ้ ย่างไร
8. นักเรียนแต่ละกลมุ่ อภปิ รายรว่ มกันถงึ ความดันและประเภทของความดนั (เง่อื นไขความรู้)
3. ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป
1. นักเรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอผลการอภิปราย(พอประมาณกับงบประมาณ, ความมีเหตุผล, การมี
ภมู ิคมุ้ กันในตวั ทดี่ ี, เงอื่ นไขความรู้ และเงื่อนไขคณุ ธรรม)
2. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ไดผ้ ลการอภปิ ราย เหมอื นกนั หรอื ตา่ งกนั อย่างไร
3. นกั เรยี นท้ังหมดร่วมกันสรุปความดันและประเภทของความดนั
4. ครูแสดงตัวอยา่ งวธิ ีการคานวณหาคา่ ความดัน และการประยุกตใ์ ช้สมการความดันหาคา่ แรงดันนา้ ที่
กระทากบั ประตูนา้ และเข่อื น( ความมเี หตุผล, การมีภมู ิค้มุ กันในตัวท่ดี ,ี เงือ่ นไขความรู้ และเงอื่ นไข
คุณธรรม)
4. ข้นั ขยายความรู้
1. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายแนวคดิ ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาและอภปิ ราย เรื่อง ความดนั ( ความมเี หตุผล,
การมีภมู คิ มุ้ กนั ในตัวทีด่ ,ี เงอื่ นไขความรู้ และเงอ่ื นไขคณุ ธรรม)
2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลทไ่ี ด้จากการการศกึ ษาและอภิปราย เรื่อง ความดันและการนาไปใช้
ประโยชน์ ( ความพอประมาณ,ความมีเหตผุ ล, การมภี ูมคิ ุม้ กันในตัวทดี่ ,ี เง่อื นไขความรู้ และ
เง่ือนไขคณุ ธรรม) ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและพระบรมราโชบายของ ร.10
5. ข้นั ประเมินผล
1. แบบฝึกหัดพัฒนาทกั ษะการคิดในแบบเรียน เรือ่ ง เรื่อง ของไหลสถิต ในแบบเรยี น
แบบฝกึ หดั 17.3 ข้อ 1 (หน้า 236) และปญั หาขอ้ 11-20 (หน้า 249-251)
2. นกั เรียนทาแบบทดสอบเกบ็ คะแนนแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13 เร่อื ง ของไหลสถิต
14. สอ่ื การเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้
สือ่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนรายวชิ าเพิม่ เติมฟิสกิ ส์ เล่ม 5 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ของ สสวท.
2. คลปิ วีดิโอ “ความดัน” สอื่ การสอน สสวท.
https://www.youtube.com/watch?v=GcjV1hbvaNg
3. PPT หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง ของแขง็ และของไหล
4. แบบฝึกหัดพัฒนาทกั ษะการคดิ ในแบบเรยี น เรื่อง เร่อื ง ของไหลสถติ ในแบบเรยี น
แบบฝกึ หัด 17.3 ข้อ 1 (หนา้ 236) และปญั หาข้อ 11-20 (หนา้ 249-251)
5. แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลังเรยี นแผนการเรียนรทู้ ี่ 13 เรอื่ ง ของไหลสถติ
แหล่งเรียนรู้
1. ห้องสมดุ โรงเรยี น
2. หอ้ งสืบค้น Resource Center
15. กิจกรรมเสนอแนะ
แนะนาให้นักเรยี นคน้ คว้าหาความรูเ้ พ่ิมเตมิ เร่ือง
จาก http://www.school.net.th/education/physics-resources.php3 และ
http://SCIENCE.HOWSTAFFWORKS.com
ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ลงช่ือ........................................................
(นางเกศินี พงษพ์ ันธ)ุ์
ตาแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............
ข้อเสนอแนะของรองผ้อู านวยการกล่มุ บริหารงานวชิ าการ
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………........................................……….
ลงชอ่ื ...................................................................
(นายสรุ ศกั ดิ์ โพธบิ์ ัลลงั ค์)
ตาแหนง่ รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของผู้อานวยการโรงเรียน
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ลงช่ือ.......................................................
(นายพฒั นา ทรงประดิษฐ)
ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรยี นวัชรวิทยา
วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ............
บันทึกผลหลังการสอนแผนการสอนท่ี 13
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 วิชา ฟิสิกส์ 5 รหสั วิชา ว30205
ครผู ู้สอน นางดวงดาว บดรี ัฐ
1. ผลการสอน
1.1 สรุปผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 หาความก้าวหน้าในการเรียนการสอน
จานวนนกั เรยี น คะแนนเตม็ คะแนนเฉลยี่ คะแนนเฉล่ีย คะแนนเฉลี่ย ความกา้ วหน้าใน
ก่อนเรยี น ระหว่างเรยี น หลังเรียน การเรียน
ร้อยละความก้าวหนา้ = คะแนนหลงั เรียน – คะแนนกอ่ นเรียน x 100
คะแนนเตม็
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….………………………………………………………
ลงช่ือ………………………………ครูผูส้ อน
( นางดวงดาว บดีรัฐ)
ตาแหนง่ ครู คศ. 3
วนั ที่…..เดอื น……………..……..พ.ศ...........
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 30205 รายวิชา ฟิสิกส์ 5
ปกี ารศึกษา 2565
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1
นางดวงดาว บดีรัฐ
ชื่อหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง ของไหล
ชอ่ื แผน แรงพยงุ จากของไหล เวลา 3 ชว่ั โมง ผสู้ อน
โรงเรียนวชั รวิทยา อาเภอเมอื ง จังหวดั กาแพงเพชร
************************************************************************************
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
1. แรงพยงุ และหลกั ของอาร์คมิ ดี ีส
ถา้ หากเราช่งั นา้ หนกั วตั ถุในขณะท่จี มอยู่ในของเหลว จะพบว่าน้าหนกั วัตถขุ ณะนนั้ จะน้อยกว่า
น้าหนักวัตถุทีช่ ่ังในอากาศ ทง้ั นีเ้ พราะของเหลวออกแรงพยงุ วัตถุไว้ในทิศขน้ึ ข้างบน เรยี กแรงนวี้ ่าแรงลอยตวั
ของของเหลว ( Buoyant Force , B )
หลกั ของอารค์ ิมีดีส กลา่ วว่า วัตถใุ ด ๆ ท่ีจมอยู่ในของเหลวทง้ั กอ้ นหรอื จมอย่เู พียงบางส่วน จะถกู แรง
ลอยตัวกระท้าและขนาดของแรงลอยตัวนัน้ จะเท่ากบั ขนาดของน้าหนักของของเหลวท่ีถูกวตั ถแุ ทนท่ี
แรงลอยตวั คือ แรงทีข่ องเหลวพยายามยกตวั วตั ถขุ ึ้นมา
หลักสมดุล แรงรวมข้นึ = แรงรวมลง
FB = mg
1 v1 = 2 v2
11 = 2 2
ก้าหนดให้ FB = แรงลอยตวั 2 = ความหนาแน่นของเหลว
V2 = ปรมิ าตรที่จม
1 = ความหนาแน่นวตั ถุ 2 = ความยาวที่จม
V1 = ปรมิ าตรท้ังหมด
1 = ความยาวทัง้ หมด
g = ความเร่งโนม้ ถว่ ง
2. มาตรฐาน
สาระฟสิ ิกส์
4. เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ของความร้อนกับการเปล่ียนอณุ หภมู ิและสถานะของสสารสภาพยดื หยุ่น
ของวัสดแุ ละมอดลู สั ของยงั ความดนั ในของไหล แรงพยุง และหลกั ของอารค์ มิ ดี สิ
ความตึงผิวและแรงหนดื ของของเหลว ของไหลอุดมคติ และ สมการแบร์นลู ลี กฎของแก๊ส
ทฤษฎีจลนข์ องแกส๊ อุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์
โฟโตอิเล็กทรกิ ทวภิ าวะของคลืน่ และ อนภุ าค กมั มนั ตภาพรงั สี แรงนวิ เคลยี ร์ ปฏิกริ ิยา
นวิ เคลียร์ พลังงานนวิ เคลียร์ ฟสิ ิกสอ์ นภุ าค รวมท้งั นา้ ความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
3. ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้
ทดลอง อธบิ ายและค้านวณขนาดแรงพยงุ จากของไหล
4. สาระการเรยี นรู้
- สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1. แรงพยงุ
2. หลักการของอาร์คมี ีดีส
3. การลอยของวัตถใุ นของไหล
5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
จดุ เน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนด้านสมรรถนะ
1. การใช้เทคโนโลยเี พ่อื การเรียนรู้
2. ทกั ษะการสอ่ื สารอยา่ งสร้างสรรค์ตามชว่ งวัย
3. ทักษะการคดิ ชนั้ สูง
6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซอื่ สตั ยส์ ุจริต
3. มวี ินัย
4.ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มงุ่ มั่นในการทา้ งาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มีจติ สาธารณะ
จุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นด้านคุณลกั ษณะ
1. คุณลักษณะมุง่ มน่ั ในการท้างาน
2. คณุ ลักษณะใฝ่เรยี นรู้
7. คุณลักษณะ 5 ประการโรงเรียนสุจริต
1. กระบวนการคดิ
2. มวี นิ ัย
3.ซ่ือสัตยส์ ุจรติ
4. อยู่อย่างพอเพียง
5. มีจติ สาธารณะ
8. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
1. ทา้ แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี นแผนการเรียนรู้ท่ี 14 เร่ือง แรงพยงุ จากของไหล
2. ทา้ แบบฝึกหดั พัฒนาทกั ษะการคดิ ในแบบเรยี น เรอื่ ง แรงพยงุ จากของไหล
ในแบบเรียนคา้ ถาม ขอ้ 5-6 (หน้า 248) และ ปัญหาขอ้ 16-17 (หน้า 251)
3. ท้าแบบทดสอบเก็บคะแนนแผนการเรียนรูท้ ่ี 14 เรอ่ื ง แรงพยุงจากของไหล
9 .การวัดและประเมินผล
9.1 การประเมนิ ระหว่างจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ชิน้ งาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
ตามเกณฑ์
ทา้ แบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ
กอ่ นเรียน การประเมนิ ผล
เรอ่ื ง แรงพยงุ จากของไหล ก่อนเรยี น จา้ นวน 10 ขอ้
การท้าแบบทดสอบ
จา้ นวน 10 ข้อ
ทา้ แบบฝกึ หดั พฒั นา ตรวจแบบฝกึ หัดพัฒนา แบบฝึกหัดพฒั นาทักษะ ตามเกณฑ์
ทกั ษะการคิดในแบบเรยี น ทกั ษะการคิดใน การคิดในแบบเรยี น เรอื่ ง การประเมินผล
แบบเรียน เรื่อง
เรอื่ ง แรงพยงุ จากของไหล แบบฝกึ หดั
แรงพยุงจากของไหล
แรงพยุงจากของไหล เกณฑก์ ารประเมิน
ตามเกณฑ์
9.2 การประเมนิ เมอื่ สน้ิ สดุ การเรยี นรู้
การประเมินผล
ช้ินงาน/ภาระงาน วิธีการประเมนิ เครอ่ื งมือ การทา้ แบบทดสอบ
สอบเก็บคะแนน ทา้ แบบทดสอบ แบบทดสอบเกบ็ คะแนน
จา้ นวน 10 ขอ้
เก็บคะแนน
จา้ นวน 10 ขอ้
ภาระงาน/ช้นิ งาน เกณฑก์ ารประเมนิ (Rubrics) พอใช้ ปรับปรุง
แบบฝึกหัด ดีมาก ดี
ท้าแบบฝึกหัด ท้าแบบฝกึ หัด
ทา้ แบบฝกึ หัด ท้าแบบฝึกหดั ถูกตอ้ ง 50 - ถูกตอ้ ง ต่้ากว่า
ถูกต้อง 80% ถกู ตอ้ ง 60-80%
60% 50%
ขน้ึ ไป
เกณฑก์ ารประเมินผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน / แบบทดสอบเกบ็ คะแนน ใชเ้ กณฑด์ ังนี้
ร้อยละ 80 ข้ึนไป หมายถึง ดมี าก
รอ้ ยละ 70-79 หมายถงึ ดี
รอ้ ยละ 60-69 หมายถึง ปานกลาง
รอ้ ยละ 50-59 หมายถึง ผา่ น
ต่้ากว่าร้อยละ 50 หมายถึง ปรับปรงุ
ผู้ประเมนิ
1. ครูผสู้ อนประเมนิ นกั เรยี น 2. นกั เรียนประเมินนักเรยี น
9. กจิ กรรมการเรียนรู้ ใช้การเรียนการสอน แบบ 5E
1. ขน้ั สร้างความสนใจ
1. นกั เรียนดูคลปิ วดี ีโอเกยี่ วกบั นา้ ท่วมและการลอยของวตั ถุ
2. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั ตงั้ คา้ ถามเก่ียวกบั สง่ิ ท่ีตอ้ งการรู้ จากเน้อื หาท่ีเก่ยี วกับแรงพยุงและหลกั ของ
อาร์คมี ดี ีส
3. นักเรยี นทา้ แบบทดสอบกอ่ นเรียนแผนการเรียนรู้ที่ 14 เรอ่ื ง แรงพยงุ จากของไหล
จ้านวน 10 ข้อ
2. ขนั้ ส้ารวจและคน้ หา
1. แบ่งนกั เรยี นเปน็ กลมุ่ ๆ 6 -7 คน (ประกอบด้วย นักเรียน เกง่ กลาง อ่อน จากผลการวเิ คราะห์
ผเู้ รยี น)
2. ครูเลา่ เรื่อง การค้นพบหลักการของแรงพยุง แล้วให้นักเรียนดวู ดี โี อเรื่องหลักการของอารค์ ีมีดีส
3. ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความสมั พนั ธ์ของแรงพยุง โดยครใู ช้ค้าถามดังนี้
- น้าหนกั ของวตั ถุใดๆ จะมีค่าข้นึ กับสิง่ ใดบ้าง
- น้าหนกั ของของเหลวบนพื้นโลกจะมีคา่ เท่าใด
- ความหนาแน่นมีความสมั พนั ธก์ ับนา้ หนกั อยา่ งไร
- จงสรปุ ความสัมพนั ธ์ของแรงพยงุ เป็นสมการส้นั ๆ
4. ใหน้ ักเรียนสงั เกตภาพวัตถุบางส่วนลอยอยเู่ หนือผิวของของเหลวแลว้ ให้นกั เรียนร่วมกันสนทนา
โดยครใู ช้คา้ ถาม ดงั น้ี
- ถ้าวัตถุลอยนงิ่ ในของเหลว จงอธิบายความสัมพนั ธข์ องแรงท่ีกระทา้ ต่อวตั ถใุ นกรณีนี้
- จากความสัมพนั ธ์ของแรงจงอธบิ ายความสมั พันธ์ของความหนาแน่นของวัตถุ (Pวตั ถุ) และ
ความหนาแนน่ ของของเหลว (Pของเหลว)
5. ครูแสดงภาพวตั ถลุ อยอยใู่ นของเหลวแลว้ ให้นักเรยี นวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบความหนาแน่นของ
ของเหลวและของแขง็ พจิ ารณาจากนิยามของแรงลอยตัว โดยครใู ช้ค้าถาม ดังน้ี
- ในกรณนี ้ี Vจม และ V มคี วามสัมพันธก์ ันอย่างไร
- จงอธบิ ายความสัมพนั ธข์ องความหนาแน่นของวตั ถุ และความหนาแน่นของของเหลว
ในกรณีน้ี
6. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ อภิปราย
3. ขัน้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป
1. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ น้าเสนอผลการอภิปราย เรือ่ ง แรงพยงุ และหลกั ของอารค์ มี ดี สี
2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ได้ผลการอภิปราย เหมือนกันหรือต่างกันอยา่ งไร
3. นักเรยี นวิเคราะห์เปรียบเทยี บความหนาแน่นของของเหลวและของแขง็ พิจารณาจากนยิ ามของ
แรงพยงุ โดยครูใช้ค้าถามดังนี้
- ในกรณีนี้ Vจม และ V มีความสัมพันธก์ ันอย่างไร
- ถ้าวัตถุจมนงิ่ อยทู่ ีก่ ้นภาชนะ จงอธิบายความสัมพนั ธ์ของแรงท่กี ระท้าตอ่ วัตถนุ ้ี
-จงอธบิ ายความสมั พนั ธ์ของความหนาแน่นของวตั ถุ และความหนาแนน่ ของของเหลว ในกรณนี ้ี
4. นกั เรียนดูภาพการชงั่ นา้ หนักของวตั ถซุ ึง่ อยูใ่ นของเหลวแล้วให้นกั เรียนพจิ ารณาเปรียบเทียบ
น้าหนกั ที่อ่านได้กับน้าหนักทอี่ ่านเมือ่ ช่ังวตั ถุในอากาศหรือในของเหลวชนิดอ่นื ทีม่ ีความหนาแน่น
ต่างกัน
4. นักเรยี นทั้งหมดรว่ มกนั สรปุ แรงพยงุ และหลักของอารค์ ีมีดีส
5. ครูแสดงตวั อยา่ งวธิ กี ารคา้ นวณหาคา่ แรงพยงุ ตามหลกั ของอารค์ ีมีดีส
4. ขน้ั ขยายความรู้
1. ให้นกั เรยี นร่วมกันอภิปรายแนวคิดท่ีได้จากการศกึ ษาและอภปิ ราย เรื่อง แรงพยุงและหลักของ
อารค์ ีมีดีส
2. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ น้าเสนอผลที่ไดจ้ ากการการศึกษาและอภิปราย เร่ือง แรงพยุงและหลกั ของ
อารค์ ีมีดีส
5. ข้ันประเมนิ ผล
1. แบบฝึกหัดพัฒนาทกั ษะการคดิ ในแบบเรียน เรอื่ ง เรื่อง แรงพยงุ จากของไหล
ในแบบเรยี นค้าถาม ขอ้ 5-6 (หน้า 248) และ ปัญหาขอ้ 16-17 (หน้า 251)
2. นกั เรียนทา้ แบบทดสอบเกบ็ คะแนนแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 14 เรอ่ื ง แรงพยงุ จากของไหล
10. สอื่ การเรยี นรู/้ แหลง่ เรยี นรู้
ส่ือการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นรายวชิ าเพม่ิ เติมฟิสกิ ส์ เลม่ 5 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของ สสวท.
2. คลปิ วีดีโอ “น้าท่วมและการลอยของวัตถุ”
3. คลิปวดี ิโอ “อะตอมและการคน้ พบอิเลคตรอน” สื่อการสอน สสวท.
https://www.youtube.com/watch?v=GcjV1hbvaNg
4. PPT หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ของแขง็ และของไหล
5. แบบฝึกหัดพฒั นาทกั ษะการคดิ ในแบบเรยี น เร่ือง เร่อื ง แรงพยุงจากของไหล
ในแบบเรยี นค้าถาม ข้อ 5-6 (หนา้ 248) และ ปญั หาข้อ 16-17 (หนา้ 251)
6. แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลังเรียนแผนการเรียนร้ทู ี่ 14 เรื่อง แรงพยุงจากของไหล
7. แบบทดสอบแผนการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง แรงพยงุ จากของไหล
แหลง่ เรียนรู้
1. ห้องสมุดโรงเรยี น
2. ห้องสบื คน้ Resource Center
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
แนะนา้ ใหน้ ักเรียนค้นควา้ หาความรเู้ พ่มิ เตมิ เรอื่ ง
จาก http://www.school.net.th/education/physics-resources.php3 และ
http://SCIENCE.HOWSTAFFWORKS.com
ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ลงชือ่ ........................................................
(นางเกศนิ ี พงษพ์ ันธ)ุ์
ต้าแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของรองผูอ้ า้ นวยการกล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………........................................……….
ลงชอื่ ...................................................................
(นายสรุ ศักดิ์ โพธ์ิบัลลังค์)
ตา้ แหนง่ รองผอู้ ้านวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
วนั ที่..........เดอื น..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของผู้อ้านวยการโรงเรียน
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ลงช่ือ.......................................................
(นายพฒั นา ทรงประดษิ ฐ)
ต้าแหนง่ ผอู้ ้านวยการโรงเรียนวชั รวิทยา
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............
บันทึกผลหลังการสอนแผนการสอนท่ี 14
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6 วิชา ฟสิ กิ ส์ 5 รหัสวิชา ว30205
ครูผสู้ อน นางดวงดาว บดรี ัฐ
1. ผลการสอน
1.1 สรปุ ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 หาความก้าวหนา้ ในการเรียนการสอน
จา้ นวนนักเรียน คะแนนเต็ม คะแนนเฉล่ีย คะแนนเฉล่ยี คะแนนเฉลี่ย ความก้าวหนา้ ใน
กอ่ นเรียน ระหว่างเรยี น หลงั เรยี น การเรยี น
ร้อยละความก้าวหนา้ = คะแนนหลังเรียน – คะแนนก่อนเรยี น x 100
คะแนนเตม็
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….………………………………………………………
ลงช่ือ………………………………ครผู สู้ อน
( นางดวงดาว บดีรฐั )
ต้าแหน่ง ครู คศ. 3
วนั ท่ี…..เดอื น……………..……..พ.ศ...........
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 30205 รายวิชา ฟิสกิ ส์ 5
ปีการศึกษา 2565
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1
นางดวงดาว บดีรัฐ
ชื่อหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง ของแข็งและของไหล
ชอ่ื แผน ความตึงผิว เวลา 3 ช่วั โมง ผูส้ อน
โรงเรียนวัชรวทิ ยา อาเภอเมอื ง จังหวดั กาแพงเพชร
************************************************************************************
1. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
1. ความตงึ ผิว ( Surface tension )
ความตึงผวิ หมายถงึ อตั ราสว่ นของแรงทกี่ ระทาไปตามผิวของเหลวตอ่ ความยาวของผิวที่ถกู แรง
กระทา ความยาวนีต้ ้องต้ังฉากกบั แรงด้วย มหี น่วยเป็น นวิ ตันตอ่ ตารางเมตร
แรงตงึ ผิวของของเหลว หมายถึง แรงชนิดหน่ึงทพ่ี ยายามยดึ ผวิ ของเหลวไว้ แรงดงึ ผิวของของเหลวจะ
มีทิศขนานกบั ผิวของของเหลวและตงั้ ฉากกับเสน้ ขอบท่ขี องเหลวสัมผัส
ให้ F คือ ขนาดของแรงตงึ ผิว
คอื แรงตงึ ผวิ ของของเหลว
l คอื ความยาวของเสน้ ผิวที่ขาด
F ……………………………..(1)
l
เพ่มิ เติม 1. ค่าความตงึ ผวิ ของของเหลวแต่ละชนดิ จะมคี ่าไมเ่ ท่ากัน
2. สาหรบั ของเหลวชนิดเดยี วกนั ค่าความตงึ ผวิ จะเปลีย่ นไป เมอื่ มีสารมาเจือปน เช่น
นา้ สบู่ น้าเกลือ จะมคี วามตึงผวิ น้อยกว่าความตึงผิวของนา้
3. คา่ ความตงึ ผิวจะลดลงเม่ืออุณหภมู ิของของเหลวเพมิ่ ขึน้
การหาค่าความตงึ ผิว
X Y
WF
F F
2l
22r
หา F จาก F.Y = W.X
2. มาตรฐาน
มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งพลังงานกับการดารงชีวติ การเปลี่ยนแปลง
พลงั งานปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลังงานต่อ
สงิ่ มีชวี ิตและส่ิงแวดลอ้ ม มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สือ่ สารสงิ่ ที่
เรยี นรแู้ ละนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสบื เสาะหา
ความรู้ การแกป้ ัญหา รู้วา่ ปรากฏการณท์ างธรรมชาติท่ีเกิดขึ้นสว่ นใหญม่ ี
รปู แบบที่แนน่ อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ภายใตข้ อ้ มูลและ
เคร่อื งมือท่มี อี ย่ใู นช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม
และส่งิ แวดลอ้ ม มคี วามเกย่ี วขอ้ งสมั พันธ์กนั
3. ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้
ผลการเรยี นรู้
ทดลอง อธบิ ายและคานวณความตึงผวิ ของของเหลว
4. สาระการเรียนรู้
- สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
1. ความตึงผิวของของเหลว
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
จุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียนดา้ นสมรรถนะ
1. การใช้เทคโนโลยีเพอื่ การเรียนรู้
2. ทกั ษะการสอื่ สารอย่างสร้างสรรค์ตามชว่ งวัย
3. ทกั ษะการคิดชั้นสงู
6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต
3. มวี นิ ัย
4.ใฝเ่ รียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมั่นในการทางาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจิตสาธารณะ
7. คณุ ลกั ษณะ 5 ประการโรงเรยี นสุจรติ
1. กระบวนการคิด
2. มวี นิ ยั
3.ซ่อื สัตย์สจุ รติ
4. อยู่อย่างพอเพียง
5. มจี ติ สาธารณะ
จุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นดา้ นคุณลักษณะ
1. คุณลักษณะมุ่งมัน่ ในการทางาน
2. คณุ ลกั ษณะใฝ่เรียนรู้
8. ชิน้ งาน/ภาระงาน
1. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง ความตึงผวิ
2. ทาแบบฝึกหัดพัฒนาทักษะการคดิ ในแบบเรยี น เรื่อง ความหนาแนน่ ในแบบเรียน
คาถาม ข้อ 15 (หนา้ 44) และ ปัญหาข้อ 23-25 (หนา้ 50)
3. ทาแบบทดสอบเก็บคะแนนแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 5 เร่อื ง ความตงึ ผวิ
9 .การวัดและประเมนิ ผล
9.1 การประเมินระหวา่ งจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ชิน้ งาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมิน เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
ตามเกณฑ์
ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ
กอ่ นเรยี น การประเมินผล
เร่อื ง ความตงึ ผิว กอ่ นเรยี น จานวน 10 ข้อ การทาแบบทดสอบ
จานวน 10 ข้อ ตามเกณฑ์
การประเมนิ ผล
ทาแบบฝกึ หดั พฒั นา ตรวจแบบฝึกหัดพัฒนา แบบฝึกหัดพัฒนา
ทักษะการคดิ ในแบบเรียน ทักษะการคดิ ใน ทักษะการคดิ ใน แบบฝึกหดั
เรอื่ ง ความตงึ ผวิ แบบเรียน เร่อื ง ความ แบบเรียน เกณฑ์การประเมิน
เร่ือง ความตงึ ผิว ตามเกณฑ์
ตงึ ผิว
เครื่องมอื การประเมนิ ผล
9.2 การประเมินเมือ่ ส้ินสุดการเรียนรู้ แบบทดสอบเก็บ การทาแบบทดสอบ
ชิ้นงาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมนิ คะแนน
จานวน 10 ข้อ
สอบเกบ็ คะแนน ทาแบบทดสอบ
เก็บคะแนน
จานวน 10 ขอ้
เกณฑก์ ารประเมนิ (Rubrics)
ภาระงาน/ช้นิ งาน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบฝกึ หดั ทาแบบฝกึ หัด ทาแบบฝกึ หัด ทาแบบฝกึ หัด ทาแบบฝึกหัด
ถูกต้อง 80% ถกู ต้อง 60-80% ถูกตอ้ ง 50 - ถกู ต้อง ตา่ กวา่
ข้นึ ไป 60% 50%
เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน / แบบทดสอบเก็บคะแนน ใช้เกณฑ์ดังน้ี
รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป หมายถงึ ดมี าก
ร้อยละ 70-79 หมายถึง ดี
ร้อยละ 60-69 หมายถึง ปานกลาง
ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผา่ น
ตา่ กว่ารอ้ ยละ 50 หมายถงึ ปรับปรงุ
ผปู้ ระเมนิ
1. ครผู ู้สอนประเมินนกั เรยี น 2. นกั เรยี นประเมนิ นักเรียน
10. กจิ กรรมการเรียนรู้ ใช้การเรียนการสอน แบบ 5E
1. ขั้นสรา้ งความสนใจ
1. นักเรยี นทบทวนสมบัตขิ องไหลท่ีอยนู่ งิ่ และดภู าพสัตวเ์ ดินบนผวิ น้า ใบมีดโกน/เข็ม/แผ่นซีดี
ลอยนา้
2. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ตงั้ คาถามเกย่ี วกบั สิ่งทีต่ ้องการรู้ จากเน้ือหาที่เกย่ี วกบั ความตึงผิว
3. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนแผนการเรียนร้ทู ่ี 15 เรอื่ ง ความตงึ ผวิ จานวน 10 ขอ้
2. ขั้นสารวจและค้นหา
1. แบ่งนักเรียนเป็นกล่มุ ๆ 6 -7 คน (ประกอบด้วย นักเรยี น เก่ง กลาง ออ่ น จากผลการวิเคราะห์
ผูเ้ รยี น)
2. นกั เรยี นทาการทดลองเรอื่ ง ความตงึ ผิว
3. ใหน้ กั เรียนหาค่าความยาวทงั้ หมดท่ีผวิ ของของเหลวเกาะติดอยู่ (L) โดยครใู ช้คาถาม ดังนี้
- จงหาค่าความยาวท้งั หมดที่ผวิ ของของเหลวเกาะตดิ อยู่ (L) ของห่วงวงกลมรัศมี R มคี า่ เท่าใด
- จงหาค่าความยาวทัง้ หมดท่ผี ิวของของเหลวเกาะตดิ อยู่ (L) ของหว่ งรปู สี่เหล่ียมกว้าง a ยาว b
มีค่าเท่าใด
- จงหาค่าความยาวทั้งหมดทผ่ี ิวของของเหลวเกาะตดิ อยู่ (L) ของแผน่ กลมตัน มคี า่ เท่าใด
4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มอภปิ รายผลการทดลองและการหาค่าความยาวของผิวของเหลว
3. ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ
1. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการอภิปรายผลการทดลองและการหาค่าความยาวของผิวของเหลว
2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ได้ผลการอภปิ ราย เหมอื นกันหรือตา่ งกันอยา่ งไร
3. นกั เรยี นศึกษานยิ ามของความดนั ลาปลาซและวเิ คราหะ์ ต่อความดนั ลาปลาซของของเหลวในกรณี
ท่ีผวิ ของของเหลวเป็นทรงกลมรัศมี R จากภาพโดยครูใช้คาถามดังน้ี
- พื้นท่ีต้ังฉากกับแรงตงึ ผิว Fr คอื เทา่ ใด
- แรงตึงผวิ Fr มีคา่ เทา่ กบั เทา่ ใด
- ความดนั ลาปลาซ PL มคี า่ เทา่ กับเท่าใด
4. ให้นกั เรียนสงั เกตภาพแลว้ ให้นักเรยี นวเิ คราะหต์ ่อความดนั ปลาปลาซของของเหลวในกรณที ีท่ ่อ
เปน็ ทรงกระบอกรัศมี R โดยครูใชค้ าถามดังนี้
- พ้ืนที่ต้งั ฉากกับแรงตงึ ผิว Fr คือเท่าใด
- ความดนั ลาปลาซ PL มคี ่าเท่ากับเท่าใด
5. นักเรียนทัง้ หมดรว่ มกนั สรุปความตงึ ผิว และแรงตึงผิว
5. ครแู สดงตัวอย่างวธิ ีการคานวณหาคา่ ความตงึ ผิวและแรงตึงผิว
4. ข้ันขยายความรู้
1. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันอภิปรายแนวคดิ ทไ่ี ด้จากการศกึ ษาและอภปิ ราย เร่ือง ความตึงผวิ
2. นักเรียนแต่ละกล่มุ นาเสนอผลทีไ่ ดจ้ ากการการศกึ ษาและอภปิ ราย เร่อื ง ความตึงผิว
5. ขน้ั ประเมนิ ผล
1. แบบฝกึ หดั พฒั นาทักษะการคิดในแบบเรยี น เรอื่ ง ความหนาแน่น ในแบบเรยี น คาถาม
คาถาม ขอ้ 15 (หนา้ 44) และ ปญั หาขอ้ 23-25 (หนา้ 50)
2. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรียนแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 15 เรอ่ื ง ความตึงผิว
3. นกั เรยี นทาแบบทดสอบเกบ็ คะแนนแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง ความตงึ ผิว
11. ส่อื การเรียนร/ู้ แหล่งเรยี นรู้
ส่อื การเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนรายวชิ าเพม่ิ เติมฟิสกิ ส์ เล่ม 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ของ สสวท.
2. คลปิ วีดโิ อ “การทดลองความตงึ ผิว” สอื่ การสอน สสวท.
https://www.youtube.com/watch?v=GcjV1hbvaNg
3. PPT หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง ของไหล
4. แบบฝกึ หัดพฒั นาทกั ษะการคิดในแบบเรยี น เรื่อง ความหนาแน่น ในแบบเรียน คาถาม
คาถาม ข้อ 15 (หน้า 44) และ ปัญหาข้อ 23-25 (หน้า 50)
5. แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรยี นแผนการเรยี นรู้ท่ี 5 เรอื่ ง ความตึงผวิ
6. แบบทดสอบเก็บคะแนนแผนการเรยี นรู้ท่ี 5 เร่อื ง ความตงึ ผวิ
แหลง่ เรียนรู้
1. ห้องสมุดโรงเรียน
2. หอ้ งสบื คน้ Resource Center
12. กจิ กรรมเสนอแนะ
แนะนาใหน้ ักเรียนคน้ คว้าหาความรเู้ พมิ่ เติมเร่ือง
จาก http://www.school.net.th/education/physics-resources.php3 และ
http://SCIENCE.HOWSTAFFWORKS.com
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ลงชือ่ ........................................................
(นางเกศินี พงษ์พนั ธ)์ุ
ตาแหน่ง หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
วนั ที่..........เดอื น..........................พ.ศ............
ข้อเสนอแนะของรองผูอ้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………........................................……….
ลงชือ่ ...................................................................
(นายสรุ ศักดิ์ โพธบิ์ ัลลงั ค์)
ตาแหน่ง รองผู้อานวยการกลุม่ บริหารงานวชิ าการ
วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของผูอ้ านวยการโรงเรียน
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ลงชื่อ.......................................................
(นายพฒั นา ทรงประดษิ ฐ)
ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนวัชรวิทยา
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............
บนั ทกึ ผลหลังการสอนแผนการสอนท่ี 15
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 วิชา ฟสิ ิกส์ 5 รหัสวิชา ว30205
ครูผู้สอน นางดวงดาว บดีรัฐ
1. ผลการสอน
1.1 สรปุ ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 หาความกา้ วหนา้ ในการเรยี นการสอน
จานวนนักเรียน คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย คะแนนเฉล่ยี คะแนนเฉลี่ย ความก้าวหนา้
ก่อนเรียน ระหว่างเรยี น หลังเรยี น ในการเรยี น
รอ้ ยละความกา้ วหนา้ = คะแนนหลงั เรยี น – คะแนนก่อนเรียน x 100
คะแนนเตม็
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….………………………………………………………
ลงชือ่ ………………………………ครูผ้สู อน
( นางดวงดาว บดีรัฐ)
ตาแหนง่ ครู คศ. 3
วนั ที่…..เดอื น……………..……..พ.ศ...........
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16
กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 30205 รายวชิ า ฟิสิกส์ 5
ปีการศกึ ษา 2565
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1
นางดวงดาว บดรี ัฐ
ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ของแขง็ และของไหล
ชอื่ แผน ความหนดื เวลา 3 ชวั่ โมง ผ้สู อน
โรงเรียนวชั รวิทยา อาเภอเมอื ง จังหวัดกาแพงเพชร
***********************************************************************************
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
1. ความหนืด
แรงหนืด คือ แรงเสียดทานภายในของไหล หรือแรงต้านทานการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุทเี่ กิดภายในของ
ไหลน้ัน ซ่งึ จะเปน็ สัดส่วนโดยตรงกับความเรว็ พืน้ ท่ีผวิ ของของไหล และเป็นปฏภิ าคกลบั ความหนาของของไหล
ความหนืด () คือ คณุ สมบตั ิของของไหลในการตา้ นการเคลือ่ นท่ีของวตั ถุในของไหลนัน้
มีหน่วยเป็น นิวตนั -วนิ าทีตอ่ ตารางเมตร ( N-S /m 2 )
ความหนดื ในของเหลวเกดิ จากแรงดงึ ดูดระหว่างโมเลกุล ซงึ่ จะมคี ่าลดลงเมอ่ื ของเหลวมีอณุ หภมู ิ
สูงขึน้
ความหนืดในอากาศ ซงึ่ โมเลกลุ ของมันอยหู่ า่ งกนั มากเกิดการถา่ ยทอดโมเมนตมั ซ่ึงจะมีคา่ ความหนืด
เพ่มิ ขน้ึ เมอ่ื อุณหภูมขิ องอากาศสูงขึน้
ของไหลทีม่ คี วามหนดื สงู จะเคลอื่ นทีไ่ ด้ชา้ กวา่ ของไหลทีม่ ีความหนดื ต่า ในเครอ่ื งกลชนดิ ต่าง ๆ เรา
ใชน้ า่้ มนั หลอ่ ลนื่ ชนิดต่าง ๆ กนั ความหนืดของน้่ามนั หล่อล่ืนมีหนว่ ยเปน็ SAE ยอ่ มาจาก The Society
of Automotive Engineering
การพจิ ารณาแรงหนดื และความหนดื
ถ้าของเหลวสองชนั้ มพี น้ื ที่ A เทา่ กัน ก่าลังเคล่ือนทดี่ ว้ ยความเรว็ สัมพัทธ์ v โดยมรี ะยะระหวา่ ง
ช้นั มีค่าเปน็ d
Fd
Av
บางกรณีความหนดื ใช้หนว่ ยเปน็ Poise (ปอยส์) ซึง่ ย่อมาจาก Poiseville 1 Poise = 10 –1 N-S /m 2
กฎของสโตกส์ ( Stokes Law )
ส่าหรบั ของไหลอดุ มคติ(ไมม่ ีความหนืด) ไหลผ่านลกู ทรงกลม หรือลูกทรงกลมเคลอ่ื นที่ผ่านของไหล
ท่อี ยู่นิง่ ความดนั ของกระแสครงึ่ บนเท่ากับความดนั กระแสคร่งึ ล่าง ท่าให้แรงลพั ธ์เป็นศูนย์ ถ้าของไหลมี
ความหนืด กจ็ ะมีแรงเนือ่ งจากความหนืดมาฉดุ ใหเ้ คลอ่ื นท่ีชา้ ลง
สา่ หรบั ทรงกลมรัศมี r ซงึ่ เคล่อื นท่ผี ่านของไหลท่มี สี ัมประสทิ ธิ์แห่งความหนืด และ v เป็น
ความเรว็ ของทรงกลมสมั พทั ธ์กบั ของไหล แรงต้านการเคลอื่ นท่ี F คอื
F 6vr …………………………………(15)
แรงทีก่ ระทา่ กบั วตั ถทุ ีเ่ คลื่อนทีใ่ นของไหล
แรงลอยตัว (B)
ทศิ การเคลอ่ื นท่ี แรงหนืด(F)
นา้่ หนกั (W)
เมอื่ วตั ถุเคลอื่ นทดี่ ้วยความเร็วคงที่
B + F = mg
Vg + 6vr = mg
mg 4 r 3 g
3
6vr
2. มาตรฐาน
สาระฟิสิกส์
4. เข้าใจความสัมพนั ธข์ องความรอ้ นกบั การเปล่ียนอุณหภูมแิ ละสถานะของสสารสภาพยดื หยนุ่
ของวสั ดแุ ละมอดลู ัสของยงั ความดันในของไหล แรงพยุง และหลัก ของอาร์คมิ ดี ิส
ความตงึ ผิวและแรงหนดื ของของเหลว ของไหลอุดมคติ และ สมการแบรน์ ลู ลี กฎของแก๊ส
ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอดุ มคติและพลงั งานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์
โฟโตอิเลก็ ทริก ทวภิ าวะของคลืน่ และ อนภุ าค กัมมันตภาพรงั สี แรงนิวเคลยี ร์ ปฏิกริ ยิ า
นิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลยี ร์ ฟิสิกส์อนุภาค รวมทั้งนา่ ความร้ไู ปใช้ประโยชน์
3. ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้
ทดลอง อธบิ ายและค่านวณแรงหนืดของของเหลว
4. สาระการเรียนรู้
- สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1. ความหนืด
2. กฎของสโตกส์ ( Stokes Law )
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
จุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียนดา้ นสมรรถนะ
1. การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการเรยี นรู้
2. ทกั ษะการสอื่ สารอย่างสร้างสรรคต์ ามช่วงวยั
3. ทักษะการคิดชน้ั สงู
6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
2. ซ่อื สัตยส์ จุ ริต
3. มีวินัย
4.ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมนั่ ในการทา่ งาน
7. รกั ความเป็นไทย
8. มีจติ สาธารณะ
จุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผ้เู รียนด้านคุณลักษณะ
1. คุณลักษณะมุ่งมัน่ ในการท่างาน
2. คณุ ลักษณะใฝ่เรยี นรู้
7. คณุ ลักษณะ 5 ประการโรงเรียนสุจริต
1. กระบวนการคดิ
2. มวี ินยั
3.ซื่อสตั ย์สุจรติ
4. อยู่อย่างพอเพียง
5. มจี ติ สาธารณะ
8. ช้ินงาน/ภาระงาน
1. ทา่ แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียนแผนการเรยี นร้ทู ี่ 6 เรือ่ ง ความหนดื
2. ท่าแบบฝกึ หัดพัฒนาทกั ษะการคิดในแบบเรยี น เร่อื ง ความหนดื ในแบบเรียน
ค่าถาม ขอ้ 16-17 (หน้า 45) และ ปญั หาข้อ 26-29 (หน้า 50-51)
3. ทา่ แบบทดสอบเก็บคะแนนแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 เรือ่ ง ความหนดื
9 .การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
9.1 การประเมินระหว่างจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ แบบทดสอบ ตามเกณฑ์
ชน้ิ งาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมิน
ทา่ แบบทดสอบกอ่ น ตรวจแบบทดสอบ
เรียน เร่ือง กอ่ นเรยี น ก่อนเรยี น การประเมินผล
ความหนดื จ่านวน 10 ขอ้
จ่านวน 10 ข้อ การทา่ แบบทดสอบ
ท่าแบบฝกึ หดั พฒั นา ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั พัฒนา ตามเกณฑ์
ทกั ษะการคดิ ใน การประเมินผล
ทักษะการคดิ ใน พฒั นาทกั ษะการคดิ แบบเรยี น เรื่อง
ความหนืด แบบฝกึ หัด
แบบเรียน เรอ่ื ง ในแบบเรยี น เร่อื ง
เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน
ความหนืด ความหนดื แบบทดสอบเก็บ ตามเกณฑ์
9.2 การประเมินเมอื่ สิ้นสุดการเรียนรู้ คะแนน การประเมินผล
จา่ นวน 5 ขอ้ การท่าแบบทดสอบ
ชน้ิ งาน/ภาระงาน วิธีการประเมนิ
สอบเก็บคะแนน ท่าแบบทดสอบ
เกบ็ คะแนน
จา่ นวน 5 ข้อ
เกณฑ์การประเมนิ (Rubrics)
ภาระงาน/ชิน้ งาน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบฝึกหัด ท่าแบบฝกึ หดั ท่าแบบฝกึ หัด ท่าแบบฝึกหดั ทา่ แบบฝกึ หดั
ถกู ตอ้ ง 80% ถกู ตอ้ ง 60-80% ถกู ตอ้ ง 50 - ถูกต้อง ต่ากวา่
ขึ้นไป 50%
60%
เกณฑ์การประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น / แบบทดสอบเกบ็ คะแนน ใชเ้ กณฑ์ดงั นี้
รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป หมายถึง ดมี าก
ร้อยละ 70-79 หมายถงึ ดี
ร้อยละ 60-69 หมายถงึ ปานกลาง
ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผ่าน
ต่ากวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง ปรับปรงุ
ผู้ประเมนิ
1. ครูผูส้ อนประเมนิ นักเรียน 2. นกั เรียนประเมนิ นักเรียน
10. กจิ กรรมการเรียนรู้ ใชก้ ารเรียนการสอน แบบ 5E
1. ข้ันสร้างความสนใจ
1. นกั เรียนทบทวนนิยามความตึงผิวและความหนาแนน่
2. ใหน้ ักเรียนรว่ มกันตั้งคา่ ถามเก่ยี วกับสง่ิ ท่ีต้องการรู้ จากเนอ้ื หาที่เกี่ยวกับความหนืด
3. นักเรยี นทา่ แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง ความหนืด จา่ นวน 10 ข้อ
2. ขนั้ ส่ารวจและคน้ หา
1. แบ่งนกั เรียนเป็นกล่มุ ๆ 6 -7 คน (ประกอบด้วย นกั เรยี น เกง่ กลาง ออ่ น จากผลการวิเคราะห์
ผู้เรียน)
2.ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับความหนืด โดยครูใชค้ ่าถามดงั นี้
- หากนกั เรยี นเทนา้่ ใส่แกว้ กบั เทนมข้นหวานใส่แก้ว มลี ักษณะการไหลของน้่าและนมขน้
หวานแตกตา่ งกันหรือไม่ อย่างไร ทีเ่ ป็นเชน่ นเี้ พราะเหตุใด ใหน้ กั เรยี นตอบค่าถาม
3. ครูใหน้ ักเรียนทา่ การทดลองการใช้วัตถุคนน่้าและนมขน้ หวานในแก้ว โดยครูใชค้ ่าถามดงั น้ี
- เมอื่ ใช้วตั ถุคนนา้่ และนมข้นหวานดว้ ยความเรว็ เท่ากนั ตอ้ งออกแรงคนอย่างไร
- เพราะเหตุใดเมอ่ื ใช้วัตถคุ นในของเหลวตา่ งชนิดกนั จึงออกแรงไมเ่ ท่ากนั
- การเปรยี บเทียบแรงทใี่ ช้คนวตั ถุ 2 ชนดิ
- ถา้ เปลยี่ นชนดิ ของของเหลวเป็นนา่้ มันพชื นา่้ เช่ือมและนา้่ มันเครอ่ื ง ผลการทดลองจะเปน็
อย่างไร
- นักเรยี นอธบิ ายผลการทดลองที่เกดิ ข้นึ
4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ อภิปรายรว่ มกนั ถึง ความหนืด
3. ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป
1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มน่าเสนอผลการอภิปราย เรอ่ื ง ความหนืด
2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ไดผ้ ลการอภปิ ราย เหมอื นกันหรือตา่ งกนั อยา่ งไร
3. ใหน้ กั เรียนตอบค่าถาม ดังน้ี
- การเปรียบเทียบความหนืดของวัตถุ 2 ชนดิ ที่เปน็ ของเหลวทั้งคู่ นักเรยี นคิดวา่ มีข้อจา่ กัดใน
การทดสอบความหนดื และแรงหนดื อย่างไร
- หากพบข้อจ่ากัดดังกลา่ ว นกั เรียนจะสามารถหาวิธีทดสอบเพื่อเปรยี บเทยี บความหนืดและแรง
หนืดของเหลวทั้ง 2 ชนดิ นน้ั ไดอ้ ยา่ งไร
4. นักเรยี นทงั้ หมดร่วมกันสรปุ การเปรยี บเทยี บความหนืดของของเหลว
5. ครูแสดงตวั อย่างวิธกี ารค่านวณหาคา่ แรงหนดื
4. ข้ันขยายความรู้
1. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปรายแนวคิดทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาและอภิปราย เรือ่ ง ความหนืด
2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ น่าเสนอผลทีไ่ ด้จากการการศึกษาและอภิปราย เรอื่ ง ความหนืด
5. ข้นั ประเมินผล
1. ท่าแบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลังเรียนแผนการเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่ือง ความหนืด
2. ทา่ แบบฝกึ หดั พัฒนาทกั ษะการคิดในแบบเรียน เรอื่ ง ความหนืด ในแบบเรียนคา่ ถาม ข้อ 16-17
(หน้า 45) และ ปญั หาขอ้ 26-29 (หนา้ 50-51)
3. ท่าแบบทดสอบเกบ็ คะแนนแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 6 เรอ่ื ง ความหนดื
11. สือ่ การเรียนรู/้ แหลง่ เรียนรู้
ส่ือการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียนรายวิชาเพ่มิ เติมฟิสกิ ส์ เลม่ 5 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ของ สสวท.
2. คลปิ วีดิโอ “การทดลอง เรื่อง ความหนืด” สื่อการสอน สสวท.
https://www.youtube.com/watch?v=GcjV1hbvaNg
3. PPT หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่อื ง ของไหล
4. แบบฝกึ หัดพฒั นาทกั ษะการคิดในแบบเรียน เร่ือง ความหนืด ในแบบเรียนคา่ ถามขอ้ 16-17
(หนา้ 45) และ ปญั หาขอ้ 26-29 (หนา้ 50-51)
5. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี นแผนการเรยี นรู้ท่ี 6 เรือ่ ง ความหนืด
6. แบบทดสอบเก็บคะแนนแผนการเรยี นรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง ความหนืด
แหลง่ เรยี นรู้
1. หอ้ งสมุดโรงเรียน
2. ห้องสืบค้น Resource Center
12. กจิ กรรมเสนอแนะ
แนะน่าให้นกั เรยี นค้นควา้ หาความร้เู พม่ิ เติมเรอื่ ง
จาก http://www.school.net.th/education/physics-resources.php3 และ
http://SCIENCE.HOWSTAFFWORKS.com
ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ลงชื่อ........................................................
(นางเกศินี พงษ์พันธ)์ุ
ต่าแหนง่ หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อา่ นวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………........................................……….
ลงชื่อ...................................................................
(นายสุรศกั ดิ์ โพธ์บิ ัลลงั ค์)
ต่าแหนง่ รองผ้อู า่ นวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
วนั ที่..........เดอื น..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของผูอ้ ่านวยการโรงเรยี น
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .......................................................
(นายพฒั นา ทรงประดษิ ฐ)
ตา่ แหน่ง ผอู้ า่ นวยการโรงเรียนวัชรวทิ ยา
วนั ที่..........เดอื น..........................พ.ศ............
บนั ทกึ ผลหลงั การสอนแผนการสอนท่ี 16
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 วิชา ฟสิ ิกส์ 5 รหัสวชิ า ว30205
ครผู ู้สอน นางดวงดาว บดีรัฐ
1. ผลการสอน
1.1 สรุปผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 หาความก้าวหน้าในการเรยี นการสอน
จา่ นวนนกั เรียน คะแนนเต็ม คะแนนเฉลย่ี คะแนนเฉลย่ี คะแนนเฉลีย่ ความกา้ วหน้า
กอ่ นเรยี น ระหวา่ งเรียน หลังเรียน ในการเรียน
ร้อยละความกา้ วหนา้ = คะแนนหลงั เรียน – คะแนนก่อนเรยี น x 100
คะแนนเตม็
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อปุ สรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….………………………………………………………
ลงช่ือ………………………………ครูผู้สอน
( นางดวงดาว บดีรฐั )
ต่าแหน่ง ครู คศ. 3
วนั ท่ี…..เดอื น……………..……..พ.ศ...........
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 17
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 30205 รายวชิ า ฟสิ ิกส์ 5
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง ของแขง็ และของไหล
ชือ่ แผน พลศาสตร์ของของไหล เวลา 6 ช่ัวโมง ผสู้ อน นางดวงดาว
บดรี ัฐ โรงเรยี นวัชรวิทยา อาเภอเมอื ง จังหวัดกาแพงเพชร
************************************************************************************
1. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
1. พลศาสตร์ของของไหล
เราได้ศึกษาสมบัติบางประการของของไหล เชน่ ความดัน แรงลอยตัว เปน็ ตน้ ซึ่งเป็นการศึกษา
ของไหลท่ีอยนู่ ่งิ สา้ หรับของไหลท่มี กี ารเคลอื่ นท่ี เชน่ พดั ลม การไหลของน้าในท่อ ความดันของของไหล
เหล่านันจะเปล่ยี นอย่างไรหรือไม่ จะไดศ้ กึ ษาต่อไปนี
1.1 ของไหลอดุ มคติ
การเคลื่อนที่ของของไหลเปน็ การเคลื่อนที่ทีซ่ บั ซอ้ น เพื่อใหก้ ารศกึ ษาการเคล่ือนท่ขี องของไหลไม่
ย่งุ ยาก เราจะพิจารณา ของไหลอุดมคติ(ideal fluid) หมายถงึ ซึ่งมสี มบตั ิดงั นี
1. มกี ารไหลอย่างส่า้ เสมอ (steady flow) หมายถึงความเรว็ ของทุกอนุภาค ณ ตา้ แหน่งตา่ งๆ ใน
การไหลมีค่าคงตวั โดยความเร็วของอนุภาคของของไหลเมื่อไหลผ่านจุดต่าง ๆ กันจะเท่ากันหรือต่างกนั กไ็ ด้
2. มีการไหลโดยไม่หมุน (irrotational flow) กล่าวคือในบรเิ วณโดยรอบจดุ หน่งึ ๆ ในของไหลจะไม่
มีอนภุ าคของของไหลเคลอ่ื นทด่ี ว้ ยความเร็วเชงิ มุมรอบจุดนนั ๆ เลย
3. มีการไหลโดยไมม่ แี รงตา้ นเน่อื งจากความหนดื (nonviscous flow) หมายความวา่ ไม่มีแรงต้าน
ใด ๆ ภายในเนือของของไหลมากระทา้ ตอ่ อนภุ าคของของไหล
4. ไมส่ ามารถอัดได้ (incompressible flow) หมายความว่า ของไหลมปี ริมาตรคงตัวโดยปริมาตร
ของของไหลแตล่ ะส่วนไมว่ า่ จะไหลผ่านบรเิ วณใดก็ยังมีความหนาแน่นเทา่ เดมิ
การไหลของของไหลอุดมคติ
1.2 พิจารณาการไหลของของไหลในอุดมคติ
R VR
P vP Q VQ
จากรปู แสดงเส้นทางของอนภุ าคของของไหลเม่ือมกี ารเคลอื่ นทผ่ี ่านจุด P, Q, R เส้นทางเดนิ นี
เรียกว่า สายกระแส
- สายกระแสขนานกับความเร็วของอนภุ าคของของไหลที่แต่ละตา้ แหนง่
- สายกระแสจะไมต่ ดั กัน
- สายกระแสจ้านวนหนง่ึ ประกอบกันเปน็ มัดเราเรยี กว่า หลอดการไหล
1.3 สมการความตอ่ เนอื่ ง
ให้ V1 = ความเร็วของอนภุ าคของของไหลท่จี ุดท่ี 1
V2 = ความเรว็ ของอนุภาคของของไหลท่ีจดุ ที่ 2
A1 = พืนทห่ี น้าตัดของหลอดที่ตงั ฉากกบั สายกระแสทีจ่ ุดที่ 1
A2 = พนื ท่หี น้าตดั ของหลอดท่ีตังฉากกบั สายกระแสท่ีจุดท่ี 2
1 = ความหนาแนน่ ของของไหลท่ีจุดที่ 1
2 = ความหนาแนน่ ของของไหลทจี่ ุดท่ี 2
R1 = รศั มขี องท่อทจี่ ุดที่ 1
R2 = รัศมีของทอ่ ทจ่ี ุดท่ี 2
D1 = เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางของทอ่ ท่ีจุดที่ 1
D2 = เส้นผ่าศนู ยก์ ลางของทอ่ ท่ีจุดที่ 2
Q = อตั ราการไหล
จาก 1 A1V1 = 2 A2V2
A V = ค่าคงตัว
แต่ 1 = 2
จะได้ A1 V1 = A2 V2
R21 v1 = R22v2
D21 v1 = D22 v2
จะไดว้ า่
AV = คา่ คงตวั = Q
ผลคณู ของ AV เรยี กวา่ อัตราการไหล มีหน่วยเป็นลกู บาศกเ์ มตร / วินาที
2. สมการของแบรน์ ลู ี
ก้าหนดให้
P = ความดัน
= ความหนาแน่น
v = อตั ราเร็ว
h = ความสูง
สูตร P1 + Ep1 + Ek1 = P2 + Ep2 + Ek2
P1 gh1 1 v12 P2 gh2 1 v22
2 2
แรงยกของปีกเคร่อื งบิน
กา้ หนดให้
F = แรงยกปกี
v = ความเร็วลม
= ความหนาแนน่ อากาศ
A = พนื ท่ปี ีก
สูตร F = A
ท่ีดา้ นบน v มาก
F = ( 1 - 2 ) A
F = 1 ( v22 – v21 ) A
2
P น้อย ท่ีดา้ นล่าง v น้อย P มาก
การประยกุ ตส์ มการแบรน์ ลู ลี
สมการของแบรน์ ูลลสี ามารถอธบิ ายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกบั การเคล่อื นท่ขี องของไหลได้
หลายเรื่อง เช่น การหาอัตราเรว็ ของของเหลวที่พงุ่ ออกจากรูเลก็ ๆ การทา้ งานของเคร่อื งพ่นสี และ
การออกแบบปกี เครอ่ื งบนิ เปน็ ต้น
อัตราการไหลทปี่ ากท่อมคี า่ เดียวกนั กับอัตราเรว็ ของเทหวตั ถุ เม่อื ปลอ่ ยให้ตกอย่างเสรจี ากทสี่ ูง
ทฤษฎนี ีเรียกว่า ทฤษฎีของทอริเชลล่ี ไมจ่ ้ากัดว่ารูร่วั หรอื ท่อจะต้องเปิดทก่ี น้ แท้งค์ อาจให้รูร่ัวทีข่ ้าง ๆ แท็งค์
กไ็ ด้ แต่ให้รรู ัว่ อยใู่ ต้ผิวของไหล h
V = 2gh
2. มาตรฐาน
สาระฟิสิกส์
4. เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ของความรอ้ นกับการเปล่ยี นอณุ หภูมแิ ละสถานะของสสารสภาพยืดหยนุ่
ของวัสดุและมอดลู ัสของยงั ความดันในของไหล แรงพยุง และหลัก ของอาร์คมิ ดี สิ
ความตงึ ผวิ และแรงหนืดของของเหลว ของไหลอดุ มคติ และ สมการแบรน์ ลู ลี กฎของแกส๊
ทฤษฎีจลนข์ องแก๊สอดุ มคตแิ ละพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์
โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลน่ื และ อนุภาค กัมมนั ตภาพรังสี แรงนวิ เคลยี ร์ ปฏิกิรยิ า
นิวเคลยี ร์ พลังงานนิวเคลียร์ ฟสิ กิ สอ์ นุภาค รวมทงั น้าความรไู้ ปใช้ประโยชน์
3. ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้
อธิบายสมบัตขิ องของไหลอดุ มคติ สมการความต่อเน่อื ง และสมการของแบร์นูลลี รวมทังค้านวณ
ปรมิ าณต่างๆท่เี ก่ียวข้อง และนา้ ความรูเ้ ก่ียวกับสมการต่อเนอ่ื งและสมการแบร์นูลลไี ปอธบิ ายหลกั ารท้างาน
ของอปุ กรณ์ทางวศิ วกรรมในภมู ภิ าคอาเซยี นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
4. สาระการเรียนรู้
- สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
พลศาสตรข์ องไหล
1. ของไหลอดุ มคติ
2. สมการความต่อเน่อื ง
3. หลกั การของแบรน์ ลู ี
4. การประยุกต์ใชห้ ลักการของแบรน์ ูลีทางวิศวกรรมในภูมภิ าคอาเซียน
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
จุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนด้านสมรรถนะ
1. การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการเรียนรู้
2. ทกั ษะการสือ่ สารอยา่ งสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย
3. ทักษะการคดิ ชนั สูง
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซื่อสัตย์สจุ ริต
3. มวี นิ ยั
4.ใฝเ่ รียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. ม่งุ มน่ั ในการทา้ งาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มจี ิตสาธารณะ
จุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนด้านคุณลักษณะ
1. คณุ ลักษณะมุ่งมัน่ ในการท้างาน
2. คุณลกั ษณะใฝ่เรียนรู้
7. คุณลกั ษณะ 5 ประการโรงเรียนสจุ ริต
1. กระบวนการคิด
2. มีวนิ ยั
3.ซ่อื สตั ย์สจุ ริต
4. อยู่อย่างพอเพียง
5. มจี ิตสาธารณะ
8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. ท้าแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียนแผนการเรยี นรทู้ ี่ 17 เรื่อง พลศาสตร์ของของไหล
2. ทา้ แบบฝึกหัดพัฒนาทักษะการคดิ ในแบบเรยี น เรอ่ื ง พลศาสตร์ของของไหล
ในแบบเรียน แบบฝกึ หัด 17.4 คา้ ถามข้อ 18-20 (หน้า 45) และ ปญั หาข้อ 21-25
(หนา้ 252-253) ปัญหาทา้ ทายขอ้ 30-31 (หน้า 253)
3. ท้าแบบทดสอบเก็บคะแนนแผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 17 เรื่อง พลศาสตร์ของของไหล
9 .การวัดและประเมนิ ผล
9.1 การประเมนิ ระหวา่ งจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ชินงาน/ภาระงาน วิธกี ารประเมิน เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
ตามเกณฑ์
ทา้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ
กอ่ นเรียน การประเมนิ ผล
เรือ่ ง พลศาสตรข์ องของไหล กอ่ นเรียน จา้ นวน 10 ข้อ
การท้าแบบทดสอบ
จ้านวน 10 ข้อ
ทา้ แบบฝึกหัดพัฒนาทักษะ ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัดพัฒนา ตามเกณฑ์
ทกั ษะการคดิ ใน การประเมินผล
การคดิ ในแบบเรยี น เร่ือง พฒั นาทักษะการคิด แบบเรยี น เรอื่ ง
พลศาสตร์ของของไหล แบบฝกึ หัด
พลศาสตร์ของของไหล ในแบบเรียน เรอื่ ง
เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
พลศาสตร์ของของไหล แบบทดสอบเกบ็ ตามเกณฑ์
9.2 การประเมนิ เมอื่ สนิ สดุ การเรยี นรู้ คะแนน การประเมนิ ผล
จา้ นวน 10 ขอ้ การท้าแบบทดสอบ
ชินงาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมิน
สอบเก็บคะแนน ทา้ แบบทดสอบ
เกบ็ คะแนน
จา้ นวน 10 ขอ้
ภาระงาน/ชนิ งาน เกณฑก์ ารประเมิน (Rubrics) พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบฝึกหดั ดมี าก ดี
ท้าแบบฝึกหัด ทา้ แบบฝกึ หัด
ทา้ แบบฝกึ หดั ท้าแบบฝกึ หดั ถูกตอ้ ง 50 - ถกู ตอ้ ง ต้่ากว่า
ถูกตอ้ ง 80% ถกู ต้อง 60-80%
60% 50%
ขึนไป
เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น / แบบทดสอบเกบ็ คะแนน ใชเ้ กณฑ์ดังนี้
ร้อยละ 80 ขนึ ไป หมายถงึ ดมี าก
รอ้ ยละ 70-79 หมายถึง ดี
รอ้ ยละ 60-69 หมายถึง ปานกลาง
ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผ่าน
ตา่้ กวา่ รอ้ ยละ 50 หมายถึง ปรับปรุง
ผปู้ ระเมนิ
1. ครผู ้สู อนประเมนิ นกั เรยี น 2. นกั เรียนประเมินนักเรียน
10. กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้การเรียนการสอน แบบ 5E
1. ขนั สร้างความสนใจ
1. นกั เรยี นทบทวนการศึกษาสมบัติสถติ ศาสตร์ของของไหล
2. ให้นักเรียนร่วมกนั ตังค้าถามเกีย่ วกับสง่ิ ท่ีต้องการรู้ จากเนอื หาท่ีเก่ียวกบั พลศาสตร์ของของไหล
3. นักเรียนทา้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นแผนการเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง พลศาสตร์ของไหล จา้ นวน 10 ข้อ
2. ขนั ส้ารวจและค้นหา
1. แบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม ๆ 6 -7 คน (ประกอบด้วย นกั เรียน เก่ง กลาง อ่อน จากผลการวเิ คราะห์
ผเู้ รียน)
2. ครแู สดงภาพของหลอดเล็กๆ ทเี่ รยี กว่าหลอดแคปิลลารี ให้นักเรยี นพจิ ารณาความดัน
บรรยากาศ และความดนั ลาปลาซของของเหลวในหลอดนัน
3. ครูใหน้ ิยามความตีบ
4. ครแู สดงภาพหลอดแคปิลลารีแล้วใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครใู ช้คา้ ถาม ดังนี
- ความดันบรรยากาศหรือ Po คอื อะไร
- ความดันลาปลาซหรอื PL คืออะไร
- ในกรณี (a) ของเหลวมแี รงดึงดดู ระหวา่ งโมเลกุลนอ้ ยกวา่ แรงดึงดดู ระหวา่ งของเหลวกบั
ผิวของหลอด ลกั ษณะของเหลวในหลอดเป็นอย่างไร
- จากภาพ (a) นักเรยี นคิดว่าความดันต่างๆ มผี ลตอ่ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึนกับของเหลว
ภายในหลอดอยา่ งไร
- ในกรณี (a) ผวิ ของของเหลวในหลอดมลี ักษณะอย่างไร
- ความดนั ลาปลาซในกรณี (a) มีค่าเท่าใด
- รศั มีของผิวของเหลว (R) มีความสัมพนั ธก์ ับรัศมีของหลอด (r) อยา่ งไร
- จากความสัมพนั ธ์ของ R และ r จะทา้ ใหค้ วามดนั ลาปลาซมีค่าเท่าใด
- จงอธิบายความสัมพนั ธ์ของความดนั ณ ตา้ แหน่ง A และ B จากภาพ (a)
- จากความสัมพันธข์ องความดันลาปลาซ และความดัน ณ ตา้ แหนง่ A และ B จงระบุ
ความสมั พนั ธ์ของความสูงทขี่ องเหลวอยใู่ นระดบั สงู กว่าระดบั ของเหลวนอกหลอด
- ในกรณีภาพ (c) ของเหลวมีแรงดงึ ดูดระหวา่ งโมเลกลุ มากกวา่ แรงดงึ ดดู ระหว่างของเหลวกบั
ผวิ ของหลอด ลักษณะของของเหลวในหลอดเปน็ อย่างไร
- ในกรณภี าพ (a) และ (c) จะเกดิ ขึนเมอื่ ของเหลวมีความหนาแน่นมากน้อยตา่ งกันอย่างไร
5. ใหน้ ักเรยี นสรุปความสมั พันธข์ องความดนั บรรยากาศและความดันลาปลาซของของเหลวในหลอด
แคปิลลารี
6. ครอู ธบิ ายลักษณะการไหลของของไหลในอดุ มคติ ซงึ่ มกี ารไหลเป็นระเบียบและให้นยิ ามของ
อตั ราการไหล
7. ครอู ธิบายสมการความตอ่ เนอ่ื ง แลว้ ใหน้ กั เรยี นพิจารณาความสมั พันธ์ของความเรว็ ของของไหล
กับพนื ท่หี น้าตัดของภาชนะหรือลา้ ของของเหลว
8. ครูแสดงภาพการเคลอ่ื นที่ของของไหลผา่ นทอ่ ซ่งึ มีพนื ทห่ี นา้ ตดั ตา่ งกันโดยมีแรงกระทา้ ที่ปลาย
ท่อทัง 2 ข้าง แลว้ ใหน้ ักเรียนอธบิ ายความสัมพนั ธ์ของงาน พลงั งาน โดยครูใช้ค้าถามดังนี
- ในทีน่ ีงานของแรงภายนอกท่กี ระทา้ ต่อของไหล เกิดจากแรงใดบา้ ง
- ถา้ ก้าหนดใหป้ ลายทอ่ 1 และ 2 มีพืนทีห่ น้าตัดเป็น (A1) และ (A2) ตามล้าดับและจาก
ความสมั พันธ์ F = PA จงหาวา่ งานของแรงภายนอกทีเ่ กดิ ขึนมคี วามสมั พันธก์ ับความดนั อย่างไร
- นอกจากงานของแรงภายนอกแล้ว การเคลื่อนทขี่ องของไหลมกี ารเปล่ยี นแปลงพลงั งานใดบา้ ง
- จากสมการพลงั งาน จงระบุค่างานและพลังงานจากการเคลอ่ื นทข่ี องของไหล
- ปริมาตรของของไหล (1) มคี ่าแตกต่างจากปริมาตรของของไหล (2 ) หรอื ไม่ อย่างไร
m
- จากความสมั พนั ธ์ระหว่างปริมาตร มวล และความหนาแน่น ( v = p ) และจากความสมั พนั ธ์ของ
งานของแรงภายนอกกบั ความดัน แทนค่าลงในสมการจะได้ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งความดนั ท่ี
ปลายท่อทัง 2 ขา้ ง จงหาความสัมพนั ธน์ ัน
3. ขนั อธิบายและลงข้อสรปุ
1. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นา้ เสนอผลการอภิปรายเพอื่ สรปุ ความสมั พันธข์ องอตั ราการไหล และ
สมการแบรน์ ลู ลี
2. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มไดผ้ ลการอภิปราย เหมอื นกันหรอื ตา่ งกนั อย่างไร
3. จากสมการของแบรน์ ลู ลใี ห้นักเรียนอธบิ ายหลกั การประยุกตจ์ ากอปุ กรณ์ในภาพโดยครใู ช้
ค้าถามดังนี
- จงพิจารณาการไหลของของเหลวจากภาชนะทเ่ี จาะรู จงใช้สมการของแบร์นลู ลี เพื่อค้านวณหา
ความเรว็ ทขี่ องเหลวพ่งุ ออกมาจากรู (V2)
4. ครูแสดงภาพเคร่ืองมือวัดเวนจรู ี แล้วให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้ค้าถามดงั นี
- จากสมการของความตอ่ เนือ่ ง จงแสดงความสัมพนั ธร์ ะหว่างพนื ท่ีหนา้ ตัดของท่อและ
อัตราเรว็ ของของเหลวท่ไี หลผา่ นท่อทัง 2 ด้าน
- จากสมการของแบรน์ ูลลี จงแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งอตั ราเรว็ ของของไหลและความสงู
ของของเหลวในเครอ่ื งเวนจูรี
5. ครูแสดงตัวอย่างวธิ กี ารค้านวณหาค่าปรมิ าณท่ีเกยี่ วขอ้ งจากสมการของแบรน์ ูรลล่ี
6. นักเรียนสืบค้นการน้าหลกั การแบร์นูลล่ีไปใชป้ ระโยชน์ในภูมภิ าคอาเซียน
4. ขนั ขยายความรู้
1. ให้นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายแนวคิดทไี่ ด้จากการศกึ ษาและอภิปราย เรอ่ื ง พลศาสตรข์ องไหลและ
การประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการของแบร์นูลล่ี
2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นา้ เสนอผลการสืบคน้ การนา้ หลักการแบร์นูลลี่ไปใชป้ ระโยชนใ์ นภูมิภาคอาเซียน
5. ขนั ประเมนิ ผล
1. แบบฝกึ หัดพฒั นาทักษะการคดิ ในแบบเรยี น เรื่อง พลศาสตร์ของของไหล ในแบบเรยี น แบบฝกึ หัด
17.4 ค้าถามข้อ 18-20 (หนา้ 45) และ ปัญหาขอ้ 21-25 (หนา้ 252-253) ปัญหาท้าทายข้อ
30-31 (หนา้ 253)
2. นักเรยี นทา้ แบบทดสอบเก็บคะแนนแผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 17 เรอื่ ง พลศาสตรข์ องของไหล
11. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้
สอื่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ฟสิ ิกส์ เล่ม 5 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ของ สสวท.
2. คลปิ วีดิโอ “หลกั ารของแบร์นลู ล่ี” สื่อการสอน สสวท.
https://www.youtube.com/watch?v=GcjV1hbvaNg
3. PPT หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง ของแขง็ และของไหล
4. แบบฝึกหัดพฒั นาทักษะการคิดในแบบเรยี น เรื่อง พลศาสตร์ของไหล ในแบบเรียน แบบฝกึ หัด
17.4 ค้าถามขอ้ 18-20 (หน้า 45) และ ปญั หาข้อ 21-25 (หน้า 252-253) ปญั หาทา้ ทาย
ข้อ 30-31 (หน้า 253)
5. แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรยี นแผนการเรียนรู้ที่ 17 เร่ือง พลศาสตร์ของของไหล
แหล่งเรียนรู้
1. หอ้ งสมุดโรงเรยี น
2. หอ้ งสืบค้น Resource Center
12. กจิ กรรมเสนอแนะ
แนะนา้ ให้นักเรียนคน้ คว้าหาความรู้เพิ่มเติมเร่ือง
จาก http://www.school.net.th/education/physics-resources.php3 และ
http://SCIENCE.HOWSTAFFWORKS.com
ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ลงชื่อ........................................................
(นางเกศนิ ี พงษ์พนั ธ)์ุ
ต้าแหน่ง หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของรองผูอ้ า้ นวยการกล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………........................................……….
ลงชอื่ ...................................................................
(นายสรุ ศกั ดิ์ โพธ์ิบัลลังค์)
ตา้ แหนง่ รองผอู้ ้านวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
วนั ที่..........เดอื น..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของผู้อ้านวยการโรงเรียน
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ลงช่ือ.......................................................
(นายพฒั นา ทรงประดษิ ฐ)
ต้าแหน่ง ผ้อู ้านวยการโรงเรียนวชั รวทิ ยา
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............
บันทึกผลหลงั การสอนแผนการสอนที่ 17
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 วชิ า ฟิสิกส์ 5 รหัสวชิ า ว30205
ครูผู้สอน นางดวงดาว บดีรฐั
1. ผลการสอน
1.1 สรปุ ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 หาความกา้ วหน้าในการเรียนการสอน
จา้ นวนนักเรยี น คะแนนเต็ม คะแนนเฉลย่ี คะแนนเฉล่ีย คะแนนเฉลยี่ ความกา้ วหนา้ ใน
กอ่ นเรียน ระหว่างเรียน หลังเรยี น การเรยี น
รอ้ ยละความก้าวหนา้ = คะแนนหลังเรียน – คะแนนก่อนเรียน x 100
คะแนนเตม็
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………….………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………ครผู ้สู อน
( นางดวงดาว บดรี ัฐ)
ต้าแหน่ง ครู คศ. 3
วนั ท่ี…..เดอื น……………..……..พ.ศ...........