The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เซต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yimna_36, 2021-09-13 02:19:26

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เซต

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เซต

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
โรงเรียนชานาญสามคั คีวิทยา
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชา ค31107 คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน 3 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
ภาคเรียน/ปีการศกึ ษา 1/2563 ช่ือ-สกลุ นางสาวอุมาพร เช่ยี วณรงค์กร
หนว่ ยการเรยี นรู้ เซต เรอื่ ง อนิ เตอรเ์ ซกชัน เวลา 60 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจรงิ การดาเนนิ การของจานวน
ผลที่เกิดขนึ้ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้

2. ตัวช้ีวัด
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใชค้ วามรเู้ ก่ยี วกับเซตและตรรกศาสตรเ์ บื้องต้น ในการสอ่ื สารและส่ือความหมาย
ทางคณิตศาสตร์

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
เม่ือเรียนจบบทเรียน
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
3.1 นักเรียนสามารถเขียนผลการอินเตอรเ์ ซกชันของเซตได้อยา่ งถูกต้อง
3.2 นกั เรียนสามารถเขียนแผนภาพเวนน์เพ่ือแสดงการอนิ เตอร์เซกชนั ของเซตได้อย่างถูกต้อง
ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
3.3 นักเรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลประกอบการตัดสนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม
3.4 นักเรยี นสามารถใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ างคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม
3.5 นักเรยี นสามารถเชอื่ มโยงความรทู้ างคณิตศาสตรไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม
ด้านคุณลกั ษณะ (Attribute)
3.6 นกั เรยี นมวี นิ ัย
3.7 นกั เรียนมคี วามมุ่งมั่นในการทางาน
3.8 นักเรยี นมีความใฝ่เรยี นใฝร่ ู้

4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
อนิ เตอรเ์ ซกชนั (Intersection) ของเซต A และเซต B คือเซตที่ประกอบด้วยสมาชกิ ซึง่ เป็นสมาชิกของ

ท้ังเซต A และ B เขียนแทนด้วย A B กล่าวคือ A = { x | x A และ x B } ตวั อยา่ งเชน่ ให้ A = { 1, 2, 3 }

และ B = { 2, 3, 4, 5 } จะได้ว่า A B = { 2, 3 }

5. สาระการเรยี นรู้
 การหาอนิ เตอรเ์ ซกชนั ของเซต A และเซต B
 การเขียนแผนภาพเวนนเ์ พือ่ แสดงการอนิ เตอรเ์ ซกชนั ของเซต

6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
 ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์  ซ่อื สตั ย์สจุ รติ  มีวินัย
 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ใฝเ่ รยี นรู้
 อยอู่ ยา่ งพอเพียง  มงุ่ ม่นั ในการทางาน  รักความเปน็ ไทย  มจี ติ สาธารณะ
8. ช้ินงาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหวา่ งร่วมกิจกรรม
8.2 ใบงาน เร่ือง การอินเตอรเ์ ซกชนั
9. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

รายการ วิธีการ เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์การประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (Knowledge) ประเมนิ ผล ประเมินผล - นักเรียนสามารถตอบคาถามและ
1. การเขียนผลการอนิ เตอร์ - ทาใบงานได้ถูกต้องอย่างน้อย
เซกชนั ของเซตไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน รอ้ ยละ 60
ในชนั้ เรยี น ชัน้ เรยี น - นกั เรียนสามารถตอบคาถามและ
2. การเขียนแผนภาพเวนน์ - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ทาใบงานไดถ้ ูกต้องอยา่ งนอ้ ย
เพอ่ื แสดงการอินเตอร์เซกชนั - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน รอ้ ยละ 60
ของเซตได้อย่างถกู ต้อง ในชน้ั เรยี น ชนั้ เรียน
- การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน

ด้านทักษะกระบวนการ (Process)

3. การให้เหตุผลประกอบ - การสังเกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรยี นมีผลการประเมนิ อยู่ใน
การตดั สินใจได้อยา่ งเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขน้ึ ไป
คณติ ศาสตร์
4. การใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ - การสังเกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นักเรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ได้อย่าง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขึ้นไป
เหมาะสม - การสงั เกต คณิตศาสตร์
5. การเช่ือมโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรยี นมีผลการประเมนิ อยู่ใน
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางข้ึนไป
คณิตศาสตร์

ดา้ นคุณลกั ษณะ (Attribute)

6. ความมีวินัย - การสงั เกต - แบบสังเกต - นักเรยี นมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
7. ความใฝ่เรียนใฝ่รู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางข้นึ ไป
8. ความมุ่งมนั่ ในการทางาน - การสังเกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขน้ึ ไป
- การสังเกต - แบบสงั เกต - นักเรียนมผี ลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางข้นึ ไป

10. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E)
ข้นั กระตุ้นความสนใจ (Engage)
10.1 ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกบั ความสมั พันธ์ระหวา่ งเซตสองเซต โดยใช้คาถาม ถาม – ตอบ
กระต้นุ ความคิดและสรา้ งทักษะการเชือ่ มโยงของนักเรียน ดังนี้
- ให้ A = { 1, 2 } และ B = { 2, 3 } สมาชิกตัวใดที่อยูท่ งั้ ในเซต A และเซต B
( แนวตอบ 2 )
- ให้ A = { 1, 3, 5, 7 } และ B = { 2, 3, 5, 7, 9 } สมาชกิ ตัวใดท่ีอยทู่ ง้ั ในเซต A และเซต B
( แนวตอบ 3, 5 และ 7 )
ข้ันสารวจค้นหา (Explore)
10.2 ครอู ธิบายว่า เราสามารถสรา้ งเซตใหม่ที่มสี มาชิกเป็นสมาชกิ ของท้ังเซต A และเซต B ได้
โดยเรียกเซตดังกลา่ วว่า อินเตอรเ์ ซกชันของเซต A และ B
10.3 ครใู ห้นกั เรียนศึกษา เรื่อง อินเตอรเ์ ซกชนั จากหนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ 4
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของสถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนา้ 21
ขั้นอธบิ ายความรู้ (Explain)
10.4 ครยู กตัวอย่างการหาอินเตอรเ์ ซกชันของเซตสองเซต จานวน 2 – 3 ตวั อยา่ ง เชน่
ตวั อยา่ ง ให้ A = { 2, 4, 5, 7, 9 } และ B = { 3, 4, 6, 7 } จงหา A B
ตอบ A B = { 4, 7 }
จากนัน้ ครูให้นักเรยี นสงั เกตว่าการอินเตอร์เซกชันมสี มบัติสลับที่ กล่าวคอื A B = BA เสมอ
10.5 ครอู ธิบายการเขียนแผนภาพเวนนเ์ พ่ือแสดงการอนิ เตอร์เซกชนั ของเซตสองเซตใดๆ ดงั น้ี

บริเวณทแ่ี รเงา คือ A B
10.6 ครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามเก่ียวกับผลของการอินเตอร์เซกชนั ของเซตสองเซต เม่ือกาหนดแผนภาพ
มาให้ ดงั นี้

จงหา A B
ตอบ A B = { 3, 7 }

10.7 ครยู กตวั อย่างการหาอนิ เตอรเ์ ซกชันของเซต เม่ือกาหนดเซตมาใหจ้ านวน 3 เซต ตวั อย่างเชน่

ตวั อยา่ ง ให้ A = { 1, 2, 3, 4 } , B = { 3, 4, 5, 6, 7} และ C = { 1, 4, 5, 6, 8, 10 } จงหา

1) A B 3) BC

ตอบ A B = { 3, 4 } ตอบ BC = { 4, 5, 6 }

2) A C 4) A BC

ตอบ A C = { 1, 4 } ตอบ A BC = { 4 }

10.8 ครูอธิบายการเขียนแผนภาพเวนน์เพื่อแสดงการอินเตอรเ์ ซกชันของเซตสามเซตใดๆ ดงั น้ี

บริเวณทแ่ี รเงา คอื A B บรเิ วณท่ีแรเงา คือ A C

บริเวณทแี่ รเงา คือ BC บรเิ วณที่แรเงา คือ A BC

10.9 ครูให้นกั เรยี นตอบคาถามเก่ยี วกับผลของการอินเตอร์เซกชนั ของเซต เม่ือกาหนดแผนภาพมาให้ ดังนี้

จงหา A C
ตอบ A C = { 2, 3, 6 }

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
10.10 ครใู หน้ กั เรียนพิจารณาเซตตอ่ ไปนี้

A = { x | x เป็นจานวนนบั ที่น้อยกวา่ 5 } , B = { x | x เป็นจานวนนับท่อี ยรู่ ะหว่าง 3 กับ 7 }
และ C = { x | x เปน็ จานวนคบู่ วกท่นี อ้ ยกวา่ 8 }

จากน้นั ครูใช้คาถาม ถาม – ตอบ กระต้นุ ความคดิ และสร้างทักษะการเชือ่ มโยงของนักเรียน ดงั นี้
- ถา้ เราต้องการหา A B ของเซตทกี่ าหนดให้ นักเรยี นควรทาสงิ่ ใดเปน็ ขั้นตอนแรก

( แนวตอบ เขยี นเซตดังกลา่ วแบบแจกแจงสมาชกิ )
- เซต A, B และ C สามารถเขยี นเซตแบบแจกแจงสมาชิกได้อยา่ งไรบ้าง

( แนวตอบ A = { 1, 2, 3, 4 }, B = { 4, 5, 6 } และ C = { 2, 4, 6 } )
- A B มคี า่ เท่ากับใด

( แนวตอบ A B= { 4 } )
- BC มคี า่ เท่ากบั ใด

( แนวตอบ BC = { 4, 6 } )
10.11 ครูให้นกั เรยี นเลน่ เกม “กรู้ ะเบิด” โดยมีกติกาดงั นี้

ใหน้ กั เรยี นจบั กลุ่มกลุ่มละ 10 คน จากนนั้ สมาชิกแตล่ ะคนจะไดร้ บั กระดาษทีเ่ ขียนเซตแบบแจกแจง
สมาชิกไวค้ นละ 1 ใบ โดยครูจะถามคาถามที่เกี่ยวกบั การอินเตอร์เซกชนั ของเซตและเรม่ิ จบั เวลา จากน้นั ให้
สมาชิกในแต่ละกล่มุ พจิ ารณาวา่ คาตอบอยทู่ ี่กระดาษของตนเองหรอื ไม่ ถ้าคาตอบอยู่ท่ีสมาชิกคนใดให้รบี
ลุกและชกู ระดาษคาตอบขน้ึ ภายในเวลาท่ีกาหนด กลุ่มใดที่สามารถตอบได้ถูกต้องและทันเวลาจะได้รับ
คะแนน

ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
10.12 ครมู อบหมายให้นักเรียนทาใบงาน เร่อื ง อนิ เตอร์เซกชัน
11. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
11.1 ส่ือการเรียนรู้

1) PowerPoint เรอื่ ง อินเตอร์เซกชัน
2) หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ของสถาบันส่งเสริมการสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3) ใบงาน เร่ือง การอินเตอร์เซกชัน
11.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ โรงเรียน

12. บนั ทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
12.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจดั การเรียนรนู้ ้ใี ช้กับนกั เรยี นชน้ั ………… จานวน …..…… คน
 การจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ ป็นไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
 การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ไม่เป็นไปตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เนอื่ งจาก ………….…………..…………
……………………………………..………………………………………………………………………………….………………
12.2 การประเมินผลการเรียนรู้
1) ดา้ นความรู้ (Knowledge)
นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินท่ีกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ………...……
เน่ืองจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินกาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ..........………
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมินท่ีกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เนอ่ื งจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ..........………
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมินที่กาหนด จานวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ …….…..……
เนื่องจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปญั หา / อุปสรรค
 การจัดกจิ กรรมการเรียนรไู้ มเ่ หมาะสมกับเวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
 อน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรุงแผนการจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง ……………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นทีไ่ ม่ผ่านการประเมิน…………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
 อ่นื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ ............................................................
(นางสาวอมุ าพร เชยี่ วณรงค์กร)
ครูผู้สอน
............. / ............. / ..............

13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้ 4 หมายถงึ คุณภาพในระดบั ดีมาก
ระดับคะแนนของแผนการจัดการเรียนรู้ 2 หมายถงึ คุณภาพในระดับพอใช้
5 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดเี ย่ียม
3 หมายถึง คณุ ภาพในระดับดี
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรบั ปรุง

ข้อที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
54321

1 แผนการจดั การเรียนรู้สอดคล้องสัมพนั ธ์กบั หน่วยการเรยี นรู้ทก่ี าหนดไว้

2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งค์ประกอบสาคัญครบถ้วน

3 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ ีความชัดเจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ

4 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ

5 กิจกรรมการเรียนรูม้ ีความหลากหลายและสามารถปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ

6 กจิ กรรมการเรยี นรู้เปน็ กจิ กรรมท่ีส่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น

7 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดแทรกคุณธรรมและค่านิยมทีด่ งี าม

8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ กี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน

9 สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับเนื้อหาสาระ

10 การวดั และประเมินผลท่สี อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

รวม

สรปุ ผลระดบั คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้

สรปุ ผลระดับคุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้
4.50 – 5.00 หมายถงึ แผนการจัดการเรียนรู้มคี ุณภาพในระดับดีเย่ียม
3.50 – 4.49 หมายถงึ แผนการจดั การเรยี นรู้มีคุณภาพในระดับดีมาก
2.50 – 3.49 หมายถงึ แผนการจดั การเรียนรู้มีคณุ ภาพในระดบั ดี
1.50 – 2.49 หมายถึง แผนการจดั การเรยี นรู้มคี ุณภาพในระดบั พอใช้
1.00 – 1.49 หมายถึง แผนการจดั การเรยี นรู้มคี ุณภาพในระดับควรปรบั ปรงุ

ความเห็นเพ่มิ เติมของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
.................................................................................................................................... .........................................
......................................................................................... .................................................................... ................

............................................................................................................................. ................................................

............................................................................................................................. ................................................

ลงชอื่ .................................................... ผูป้ ระเมิน
(นางสาวปัทมา ภูร่ ะหงษ์)

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ความเหน็ ผูช้ ่วยผู้อานวยการกลมุ่ บริหารวชิ าการ
 องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรูส้ อดคล้องกับมาตรฐานและตัวช้วี ดั / ผลการเรียนรู้
 กิจกรรมการเรียนการสอนเปน็ ไปตามลาดบั ข้นั ตอน
 ส่ือและอุปกรณส์ อดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นการสอน
 เวลาท่ีใชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกับเนื้อหา
 การวดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
 ความเห็นเพมิ่ เตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอื่ ...................................................................
(นางจันทรฉ์ าย ศรขี วัญ)

ผูช้ ่วยผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

ความเห็นผู้อานวยการโรงเรยี นชานาญสามัคควี ทิ ยา
 ทราบ
 ความเหน็ เพ่ิมเติม ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอ่ื ....................................................
(นายสันติ มกุ ดาสนทิ )

ผู้อานวยการโรงเรยี นชานาญสามคั คีวิทยา

=ชอื่ – สกลุ ………………………………………………………….
ช้นั ……………… เลขท่ี ………………….

เรอื่ ง อนิ เตอรเ์ ซกชัน (Intersection)

อินเตอร์เซกชนั (Intersection) ของเซต A และเซต B คือเซตท่ีประกอบด้วยสมาชกิ ซ่งึ เป็นสมาชิก
ของทง้ั เซต A และ B เขยี นแทนดว้ ย …………………

กล่าวคอื A = { x | x A และ x B }

ตวั อย่างที่ 1 ให้ A = { 2, 4, 5, 7, 9 } และ B = { 3, 4, 6, 7 } จงหา A B
ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ตวั อยา่ งที่ 2 ให้ A = { 0, 2, 4, 5 } และ B = { -2, 0, 2, 4, 8} จงหา A B และ BA
ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ตวั อยา่ งที่ 3 ให้ A = { 1, 3, 5, 7 } และ B = { 2, 4, 6, 8, 10 } จงหา A B
ตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ให้ U แทนเอกภพสมั พทั ธ์ และ A, B เป็นเซตใดๆ สามารถเขยี น A B โดยใชแ้ ผนภาพ ดงั น้ี

ตัวอย่างที่ 4 กาหนดแผนภาพใหด้ ังน้ี ตวั อย่างที่ 5 กาหนดแผนภาพให้ดงั น้ี

จงหา A B จงหา A B
ตอบ ……………………………………………………………..…. ตอบ ……………………………………………………………..….

ตวั อยา่ งที่ 6 กาหนดแผนภาพให้ดังนี้

จงหา A B
ตอบ ……………………………………………………………..….

ตวั อย่างท่ี 7 ให้ A = { 1, 2, 3, 4 } , B = { 3, 4, 5, 6, 7 } และ C = { 1, 4, 5, 6, 8, 10 } จงหา

1) A B 3) BC
ตอบ ……………………………………………………………..…. ตอบ ……………………………………………………………..….
2) A C 4) A B  C
ตอบ ……………………………………………………………..…. ตอบ ……………………………………………………………..….

ให้ U แทนเอกภพสัมพัทธ์ และ A, B, C เปน็ เซตใดๆ สามารถเขียนแผนภาพ ได้ดังนี้

บรเิ วณทีแ่ รเงา คือ A B บรเิ วณท่แี รเงา คอื A C

บรเิ วณท่ีแรเงา คอื BC บริเวณทแ่ี รเงา คือ A BC
ตัวอย่างที่ 8 กาหนดแผนภาพใหด้ ังน้ี
จงหา A C
ตอบ ……………………………………………………………..….

แบบประเมนิ ทกั ษะและกระบ

กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ เซ
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ื จง : กรณุ าใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรียนลงในช่องวา่ ง โดยที่ระ
5 = พฤตกิ รรมอยู่ในระดับดีมาก 4 = พฤติกรรมอยู่ในระดับดี 3 = พฤติกรรมอยูใ่ นร

รายการประเมนิ 123

ด้านการใหเ้ หตผุ ล
1. นักเรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลได้อยา่ งถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจได้อย่างเหมาะสม
3. นักเรยี นคานึงถึงความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสื่อสาร
4. นักเรียนสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของ
ตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรียนสามารถเขยี นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งถูกต้อง
6. นักเรียนสามารถอธบิ ายโดยใช้ภาษาและสญั ลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์
ได้อย่างชัดเจน
ดา้ นความเชอ่ื มโยง
7. นกั เรยี นสามารถนาข้อมูลทกี่ าหนดให้มาเชอ่ื มโยงกับความรู้ในสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม
8. นักเรยี นสามารถอธิบายความสมั พันธ์ของความรหู้ รือหลักการทีน่ ามา
เชอ่ื มโยงกันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
9. นักเรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การท่ไี ดน้ าไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา
หรือไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม

บวนการทางคณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน 3 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ……….......
ซต เรือ่ ง อินเตอร์เซกชนั วัน/เดือน/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดับของพฤติกรรมนักเรียนแบ่งเป็น 5 ระดับ ดงั น้ี
ระดบั ปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั น้อย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับควรปรบั ปรุง

เลขท่ี
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมนิ 21 22 23 2

ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แบบสงั เกตพฤต

กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ า ค 31107 ค
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ เซต
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ื จง : กรุณาใส่คะแนนที่แสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรียนลงในช่องวา่ ง โดยทีร่ ะ
5 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั ดีมาก 4 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยู่ในร

รายการประเมิน 123
ด้านความมวี นิ ัย
1. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ
ของห้องเรียน
2. นกั เรียนตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั กิ จิ กรรม
3. นักเรียนมีความรบั ผิดชอบในการทางาน
ดา้ นความมุง่ มัน่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมคี วามตั้งใจและรับผิดชอบในหนา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหส้ าเร็จตาม
เป้าหมาย
6. นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็น
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝ่รู้
7. นกั เรียนมีความต้งั ใจในการเรียน และเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
8. นกั เรยี นมีการจดบนั ทึกความรู้ ในระหว่างการเรียน
9. นกั เรยี นมกี ารซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น

ตกิ รรมนักเรียน

คณิตศาสตร์พื้นฐาน 3 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ……….......
เรือ่ ง อินเตอร์เซกชนั วนั /เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดบั ของพฤติกรรมนกั เรียนแบง่ เป็น 5 ระดบั ดงั นี้
ระดบั ปานกลาง 2 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับนอ้ ย 1 = พฤติกรรมอยูใ่ นระดับควรปรับปรุง

เลขท่ี
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมิน 21 22 23 2

ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
โรงเรียนชานาญสามคั คีวิทยา
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ า ค31107 คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน 3 ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ภาคเรียน/ปีการศึกษา 1/2564 ชือ่ -สกลุ นางสาวอุมาพร เชี่ยวณรงค์กร
หน่วยการเรยี นรู้ เซต เรื่อง ยูเนียน เวลา 60 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจริง การดาเนนิ การของจานวน
ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้

2. ตวั ช้ีวัด
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เขา้ ใจและใช้ความรเู้ กย่ี วกับเซตและตรรกศาสตรเ์ บ้ืองต้น ในการสือ่ สารและสอื่ ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
เม่อื เรียนจบบทเรียน
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
3.1 นกั เรียนสามารถเขยี นผลการยูเนยี นของเซตได้อย่างถูกต้อง
3.2 นักเรยี นสามารถเขียนแผนภาพเวนน์เพ่ือแสดงการยูเนยี นของเซตได้อยา่ งถูกตอ้ ง
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
3.3 นักเรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สินใจได้อยา่ งเหมาะสม
3.4 นักเรยี นสามารถใช้ภาษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม
3.5 นกั เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
3.6 นักเรียนมีวนิ ยั
3.7 นกั เรียนมคี วามมุ่งมั่นในการทางาน
3.8 นักเรียนมีความใฝ่เรยี นใฝ่รู้

4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ยูเนยี น (Union) ของเซต A และเซต B คือเซตท่ีประกอบด้วยสมาชิกซง่ึ เปน็ สมาชิกของเซต A หรอื เซต B

เขยี นแทนด้วย A B กล่าวคือ A = { x | x A หรอื x B } ตัวอยา่ งเชน่ ให้ A = { 1, 2, 3 } และ

B = { 2, 3, 4, 5 } จะไดว้ ่า A B = { 1, 2, 3, 4, 5 }

5. สาระการเรียนรู้
 การหายูเนยี นของเซต A และเซต B
 การเขียนแผนภาพเวนน์เพอ่ื แสดงการยูเนียนของเซต

6. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
 ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์  ซ่อื สตั ย์สุจริต  มวี ินยั
 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ใฝ่เรยี นรู้
 อยู่อยา่ งพอเพยี ง  มุ่งม่นั ในการทางาน  รักความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ
8. ช้นิ งาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหว่างร่วมกิจกรรม
8.2 ใบงาน เรือ่ ง การอินเตอรเ์ ซกชัน
9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

รายการ วิธีการ เคร่อื งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (Knowledge) ประเมินผล ประเมินผล - นกั เรียนสามารถตอบคาถามและ
1. การเขียนผลยเู นยี นของเซต ทาใบงานได้ถูกตอ้ งอย่างน้อย
ได้อย่างถกู ตอ้ ง - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน ร้อยละ 60
ในชั้นเรียน ชนั้ เรียน - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
2. การเขยี นแผนภาพเวนน์ - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ทาใบงานไดถ้ ูกต้องอยา่ งนอ้ ย
เพ่อื แสดงการยเู นียนของเซต - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน ร้อยละ 60
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ในชนั้ เรยี น ชน้ั เรยี น
- การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน

ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)

3. การใหเ้ หตุผลประกอบ - การสงั เกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรยี นมีผลการประเมนิ อยู่ใน
การตัดสนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขึ้นไป
คณติ ศาสตร์
4. การใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ - การสังเกต - แบบประเมินทักษะ - นกั เรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่าง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
เหมาะสม - การสงั เกต คณติ ศาสตร์
5. การเชอื่ มโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมินทักษะ - นกั เรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
คณติ ศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขึน้ ไป
คณิตศาสตร์

ด้านคุณลกั ษณะ (Attribute)

6. ความมีวินยั - การสังเกต - แบบสังเกต - นักเรียนมีผลการประเมนิ อยู่ใน
7. ความใฝ่เรยี นใฝ่รู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขึ้นไป
8. ความมุง่ มนั่ ในการทางาน - การสงั เกต - แบบสงั เกต - นักเรยี นมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางข้ึนไป
- การสังเกต - แบบสังเกต - นกั เรียนมีผลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป

10. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E)
ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ (Engage)
10.1 ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับสมาชิกของเซต โดยใช้คาถาม ถาม – ตอบ กระตุ้นความคดิ
และสร้างทักษะการเชอ่ื มโยงของนักเรยี น ดงั นี้
ให้ A = { 1, 2 } และ B = { 2, 3 }
- 1 เปน็ สมาชกิ ท่ีอยู่ในเซต A หรอื เซต B
( แนวตอบ 1 เป็นสมาชกิ ที่อยู่ในเซต A )
- 3 เป็นสมาชกิ ท่ีอยู่ในเซต A หรอื เซต B หรอื ไม่
( แนวตอบ 3 เปน็ สมาชกิ ทอ่ี ยู่ในเซต B )
- 2 เปน็ สมาชิกที่อยู่ในเซต A หรอื เซต B หรอื ไม่
( แนวตอบ 2 เปน็ สมาชิกที่อยู่ในเซต A และเซต B )
- นักเรยี นคดิ วา่ คาว่า “หรือ” มีความหมายวา่ อย่างไร
( แนวตอบ นกั เรยี นสามารถตอบไดห้ ลากหลายตามพน้ื ฐานความรู้และประสบการณข์ องนกั เรียน )
ข้นั สารวจค้นหา (Explore)
10.2 ครอู ธบิ ายวา่ เราสามารถสรา้ งเซตใหม่ท่มี ีสมาชิกเป็นสมาชิกของเซต A หรือเซต B ได้ โดยเรยี กเซต
ดงั กล่าววา่ ยูเนียนของเซต A และ B
10.3 ครใู ห้นักเรยี นศกึ ษา เร่อื ง ยเู นียน จากหนังสอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ 4 ช้นั มัธยมศกึ ษา
ปที ่ี 4 ของสถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนา้ 24
ขน้ั อธิบายความรู้ (Explain)
10.4 ครยู กตวั อย่างการหายูเนียนของเซตสองเซต จานวน 2 – 3 ตวั อยา่ ง เชน่
ตวั อยา่ ง ให้ A = { 2, 4, 5, 7, 9 } และ B = { 3, 4, 6, 7 } จงหา A B
ตอบ A B = { 2, 3, 4, 5, 6, 7, 9 }
จากน้นั ครูให้นักเรียนสังเกตว่าการยูเนียนมสี มบัติสลับที่ กลา่ วคือ A B = B A เสมอ
10.5 ครอู ธบิ ายการเขียนแผนภาพเวนนเ์ พ่ือแสดงการยูเนียนของเซตสองเซตใดๆ ดงั นี้

บริเวณทแี่ รเงา คือ A B
10.6 ครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามเก่ียวกับผลของการยูเนียนของเซตสองเซต เมื่อกาหนดแผนภาพมาให้ ดงั น้ี

จงหา A B
ตอบ A B = { 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 }

10.7 ครยู กตัวอย่างการหายเู นียนของเซต เมอื่ กาหนดเซตมาใหจ้ านวน 3 เซต ตัวอยา่ งเช่น

ตัวอยา่ ง ให้ A = { 1, 2, 3, 4 } , B = { 3, 4, 5, 6, 7 } และ C = { 1, 4, 5, 6, 8, 10 } จงหา

1) A B 3) BC

ตอบ A B = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 } ตอบ BC = { 1, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 10 }

2) A C 4) A BC

ตอบ A C = { 1, 3, 4, 5, 6, 7 } ตอบ A BC = { 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 10 }

10.8 ครอู ธิบายการเขียนแผนภาพเวนน์เพ่ือแสดงการยูเนียนของเซตสามเซตใดๆ ดงั น้ี

บริเวณทแี่ รเงา คอื A B บริเวณทีแ่ รเงา คือ A C

บรเิ วณที่แรเงา คือ BC บรเิ วณที่แรเงา คือ A BC

10.9 ครใู หน้ กั เรียนตอบคาถามเกี่ยวกับผลของการยูเนียนของเซต เมื่อกาหนดแผนภาพมาให้ ดังนี้

จงหา A C
ตอบ A C = { 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 9 }

ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Expand)
10.10 ครใู หน้ ักเรียนพิจารณาเซตตอ่ ไปน้ี

A = { x | x เปน็ จานวนนับท่ีนอ้ ยกว่า 4 } , B = { x | x เป็นจานวนนับที่อย่รู ะหว่าง 2 กับ 6 }
และ C = { x | x เปน็ จานวนคูบ่ วกท่นี ้อยกว่า 6 }

จากนัน้ ครูใชค้ าถาม ถาม – ตอบ กระต้นุ ความคดิ และสรา้ งทักษะการเชื่อมโยงของนักเรยี น ดังนี้
- ถ้าเราต้องการหา A B ของเซตทีก่ าหนดให้ นักเรียนควรทาสิ่งใดเป็นขั้นตอนแรก

( แนวตอบ เขียนเซตดังกล่าวแบบแจกแจงสมาชิก )
- เซต A, B และ C สามารถเขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิกได้อย่างไรบ้าง

( แนวตอบ A = { 1, 2, 3 }, B = { 3, 4, 5, 6 } และ C = { 2, 4 } )
- A B มคี า่ เท่ากับใด

( แนวตอบ A B= { 1, 2, 3, 4, 5, 6 } )
- BC มคี า่ เท่ากบั ใด

( แนวตอบ BC = { 2, 3, 4, 5, 6 } )
10.11 ครใู ห้นักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถามเรื่อง ยเู นียน โดยใชเ้ กม “Kahoot”
ข้นั ตรวจสอบผล (Evaluate)
10.12 ครมู อบหมายให้นักเรียนทาใบงาน เรอ่ื ง ยเู นยี น
11. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
11.1 ส่อื การเรยี นรู้

1) PowerPoint เรอ่ื ง ยเู นยี น
2) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ของสถาบนั สง่ เสรมิ การสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3) ใบงาน เร่ือง ยูเนียน
11.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมดุ โรงเรยี น

12. บนั ทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
12.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจดั การเรียนรนู้ ้ใี ช้กับนกั เรียนชัน้ ………… จานวน …..…… คน
 การจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ ปน็ ไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
 การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก ………….…………..…………
……………………………………..………………………………………………………………………………….………………
12.2 การประเมินผลการเรียนรู้
1) ดา้ นความรู้ (Knowledge)
นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินที่กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เป็นร้อยละ ………...……
เนื่องจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมินท่ีกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เนื่องจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ท่ีกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เน่อื งจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปญั หา / อุปสรรค
 การจัดกิจกรรมการเรียนรไู้ มเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรยี นทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 อืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง ……………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นทีไ่ ม่ผา่ นการประเมิน…………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
 อืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวอุมาพร เช่ยี วณรงค์กร)
ครูผสู้ อน
............. / ............. / ..............

13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้ 4 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับดีมาก
ระดับคะแนนของแผนการจัดการเรียนรู้ 2 หมายถงึ คุณภาพในระดับพอใช้
5 หมายถงึ คุณภาพในระดบั ดเี ยี่ยม
3 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดี
1 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ปรบั ปรุง

ข้อท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
54321

1 แผนการจัดการเรยี นร้สู อดคล้องสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยการเรยี นรทู้ กี่ าหนดไว้

2 แผนการจดั การเรียนรู้มีองค์ประกอบสาคญั ครบถว้ น

3 จดุ ประสงค์การเรียนรูม้ คี วามชดั เจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ

4 กจิ กรรมการเรยี นรูส้ อดคล้องกับจดุ ประสงค์และเน้ือหาสาระ

5 กิจกรรมการเรียนรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏิบัตไิ ด้จรงิ

6 กจิ กรรมการเรียนรู้เปน็ กิจกรรมท่ีส่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น

7 กจิ กรรมการเรียนร้สู อดแทรกคุณธรรมและคา่ นิยมท่ีดีงาม

8 กจิ กรรมการเรียนรู้มกี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั

9 สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ

10 การวัดและประเมินผลทสี่ อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

รวม

สรปุ ผลระดบั คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้

สรปุ ผลระดับคุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้
4.50 – 5.00 หมายถึง แผนการจัดการเรียนรู้มีคณุ ภาพในระดับดเี ย่ยี ม
3.50 – 4.49 หมายถงึ แผนการจดั การเรยี นรู้มคี ณุ ภาพในระดบั ดีมาก
2.50 – 3.49 หมายถงึ แผนการจดั การเรยี นรู้มคี ณุ ภาพในระดับดี
1.50 – 2.49 หมายถึง แผนการจดั การเรยี นรู้มคี ุณภาพในระดับพอใช้
1.00 – 1.49 หมายถงึ แผนการจดั การเรียนรู้มีคณุ ภาพในระดับควรปรบั ปรงุ

ความเหน็ เพม่ิ เติมของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................

............................................................................................................................. ................................................

............................................................................................................................. ................................................

ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมนิ
(นางสาวปัทมา ภู่ระหงษ์)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ความเหน็ ผชู้ ่วยผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
 องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้
 กจิ กรรมการเรยี นการสอนเปน็ ไปตามลาดบั ข้ันตอน
 ส่อื และอปุ กรณส์ อดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน
 เวลาทใ่ี ชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกบั เนื้อหา
 การวัดและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
 ความเหน็ เพิ่มเตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางจันทรฉ์ าย ศรีขวัญ)

ผู้ช่วยผู้อานวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ

ความเหน็ ผ้อู านวยการโรงเรียนชานาญสามคั ควี ิทยา
 ทราบ
 ความเห็นเพ่ิมเติม ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชือ่ ....................................................
(นายสันติ มกุ ดาสนิท)

ผู้อานวยการโรงเรยี นชานาญสามคั ควี ิทยา



แบบประเมินทักษะและกระบ

กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 หน่วยการเรียนรู้
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาช้ืแจง : กรุณาใส่คะแนนที่แสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรียนลงในช่องว่าง โดยท่รี ะ
5 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับดีมาก 4 = พฤติกรรมอยู่ในระดับดี 3 = พฤติกรรมอยู่ในร

รายการประเมิน 123

ด้านการให้เหตผุ ล
1. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจได้อยา่ งเหมาะสม
3. นักเรียนคานงึ ถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบ
ด้านความสามารถในการสอ่ื สาร
4. นกั เรยี นสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของ
ตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
5. นกั เรยี นสามารถเขยี นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง
6. นักเรียนสามารถอธิบายโดยใช้ภาษาและสญั ลกั ษณท์ างคณิตศาสตร์
ได้อย่างชัดเจน
ด้านความเชอื่ มโยง
7. นักเรยี นสามารถนาข้อมลู ท่ีกาหนดให้มาเชอ่ื มโยงกบั ความรู้ในสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม
8. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความสัมพนั ธ์ของความร้หู รือหลักการท่ีนามา
เชื่อมโยงกนั ได้อย่างเหมาะสม
9. นกั เรยี นสามารถนาความรู้หรือหลกั การทไี่ ดน้ าไปใช้ในการแก้ปัญหา
หรือไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม

บวนการทางคณิตศาสตร์

คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน 3 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ……….......
เซต เรอ่ื ง ยเู นยี น วนั /เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดับของพฤติกรรมนักเรียนแบง่ เป็น 5 ระดบั ดังนี้
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยู่ในระดับนอ้ ย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับควรปรบั ปรุง

เลขที่
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมนิ 21 22 23 2

ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แบบสงั เกตพฤต

กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ า ค 31107 ค
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ เซ
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแื้ จง : กรณุ าใส่คะแนนที่แสดงระดบั ของพฤตกิ รรมนักเรียนลงในชอ่ งว่าง โดยท่ีระ
5 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอย่ใู นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยใู่ นร

รายการประเมนิ 123
ดา้ นความมวี ินัย
1. นักเรียนสามารถปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ
ของห้องเรียน
2. นักเรยี นตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความม่งุ ม่นั ในการทางาน
4. นกั เรียนมคี วามต้งั ใจและรับผดิ ชอบในหน้าทที่ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรียนทางานดว้ ยเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้สาเร็จตาม
เป้าหมาย
6. นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็
ด้านความใฝเ่ รยี นใฝ่รู้
7. นกั เรียนมคี วามต้งั ใจในการเรยี น และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทกึ ความรู้ ในระหวา่ งการเรยี น
9. นักเรียนมกี ารซักถามข้อสงสัยระหวา่ งการเรียน

ตกิ รรมนักเรยี น

คณิตศาสตร์พื้นฐาน 3 ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ……….......
ซต เรื่อง ยูเนียน วัน/เดือน/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดับของพฤติกรรมนกั เรียนแบง่ เป็น 5 ระดับ ดงั นี้
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับน้อย 1 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับควรปรบั ปรุง

เลขท่ี
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมิน 21 22 23 2

ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรียนชานาญสามคั คีวิทยา
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ า ค31107 คณิตศาสตร์พื้นฐาน 3 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
ภาคเรยี น/ปกี ารศึกษา 1/2564 ชือ่ -สกลุ นางสาวอมุ าพร เชี่ยวณรงค์กร
หนว่ ยการเรยี นรู้ เซต เร่อื ง คอมพลเี มนต์ เวลา 60 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจรงิ การดาเนนิ การของจานวน
ผลทีเ่ กดิ ขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
2. ตวั ช้ีวดั
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใช้ความร้เู กย่ี วกับเซตและตรรกศาสตร์เบื้องต้น ในการสอ่ื สารและสอ่ื ความหมาย
ทางคณติ ศาสตร์
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
เมือ่ เรยี นจบบทเรียน
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
3.1 นักเรยี นสามารถเขยี นผลการคอมพลเี มนต์ของเซตได้อย่างถูกต้อง
3.2 นกั เรยี นสามารถเขียนแผนภาพเวนนเ์ พื่อแสดงการคอมพลีเมนต์ของเซตได้อย่างถกู ต้อง
ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
3.3 นักเรียนสามารถให้เหตุผลประกอบการตัดสนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม
3.4 นกั เรยี นสามารถใช้ภาษาและสัญลกั ษณท์ างคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม
3.5 นักเรียนสามารถเช่อื มโยงความรูท้ างคณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม
ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
3.6 นักเรียนมวี ินยั
3.7 นกั เรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน
3.8 นักเรียนมีความใฝ่เรยี นใฝ่รู้
4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
คอมพลเี มนต์ (Complement) ของเซต A คือเซตที่ประกอบดว้ ยสมาชกิ ซ่ึงเป็นสมาชิกของ U แต่ไมเ่ ป็น
สมาชกิ ของเซต A เขยี นแทนด้วย A กลา่ วคือ A = { x | x  U และ x  A } ตัวอยา่ งเช่น
ให้ U = { 1, 2, 3, 4, 5 } และ A = { 2, 3, 4 } จะได้วา่ A = { 1, 5 }
5. สาระการเรยี นรู้
 การหาคอมพลเี มนต์ของเซต A
 การเขียนแผนภาพเวนนเ์ พื่อแสดงการคอมพลีเมนต์ของเซต
6. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
 ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์  ซอ่ื สตั ย์สุจรติ  มวี นิ ัย
 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ใฝ่เรียนรู้
 อยอู่ ย่างพอเพียง  มุ่งม่นั ในการทางาน  รกั ความเป็นไทย  มจี ิตสาธารณะ
8. ช้นิ งาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหวา่ งร่วมกจิ กรรม
8.2 ใบงาน เรือ่ ง คอมพลเี มนต์
9. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

รายการ วธิ ีการ เครื่องมอื ท่ีใช้ เกณฑ์การประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้ (Knowledge) ประเมนิ ผล ประเมินผล - นักเรียนสามารถตอบคาถามและ
1. การเขียนผลคอมพลเี มนต์ ทาใบงานไดถ้ ูกตอ้ งอยา่ งน้อย
ของเซตได้อย่างถูกต้อง - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน ร้อยละ 60
ในชน้ั เรียน ชนั้ เรียน - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
2. การเขยี นแผนภาพเวนน์ - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ทาใบงานไดถ้ ูกต้องอยา่ งนอ้ ย
เพ่อื แสดงการคอมพลเี มนต์ - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน รอ้ ยละ 60
ของเซตได้อย่างถูกต้อง ในช้ันเรยี น ชน้ั เรียน
- การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)

3. การใหเ้ หตผุ ลประกอบ - การสังเกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมผี ลการประเมินอยู่ใน
การตดั สนิ ใจได้อย่างเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขึน้ ไป
คณติ ศาสตร์
4. การใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ - การสงั เกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ได้อย่าง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางข้ึนไป
เหมาะสม - การสังเกต คณิตศาสตร์
5. การเชอ่ื มโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขึ้นไป
คณิตศาสตร์

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (Attribute)

6. ความมีวนิ ยั - การสังเกต - แบบสังเกต - นกั เรียนมีผลการประเมนิ อยู่ใน
7. ความใฝ่เรยี นใฝ่รู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขึ้นไป
8. ความมุง่ ม่ันในการทางาน - การสังเกต - แบบสงั เกต - นักเรยี นมีผลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขึ้นไป
- การสงั เกต - แบบสงั เกต - นักเรียนมีผลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขน้ึ ไป

10. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E)
ข้ันกระตุน้ ความสนใจ (Engage)
10.1 ครูและนักเรยี นรว่ มกันสนทนาเกย่ี วกบั เซต โดยใช้คาถาม ถาม – ตอบ กระต้นุ ความคดิ และสรา้ ง
ทักษะการเชื่อมโยงของนักเรียน ดงั นี้
ให้ U = { 1, 2, 3, 4, 5 } และ A = { 2, 3, 4 }
- สมาชิกตวั ใดอยู่ในเซต A
( แนวตอบ 2, 3 และ 4 )
- สมาชกิ ตวั ใดไม่อยู่ในเซต A
( แนวตอบ 1 และ 5 )
ขน้ั สารวจคน้ หา (Explore)
10.2 ครอู ธิบายว่า เราเรยี กเซตซ่ึงประกอบด้วยสมาชิกของ U แต่ไมเ่ ป็นสมาชิกของ A ว่า คอมพลเี มนต์
ของเซต A
10.3 ครใู หน้ ักเรียนศึกษา เรื่อง คอมพลเี มนต์ จากหนังสอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ 4
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ของสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน้า 27
ข้ันอธิบายความรู้ (Explain)
10.4 ครยู กตัวอย่างการหาคอมพลเี มนต์ของเซต จานวน 2 – 3 ตัวอย่าง เชน่
ตวั อยา่ ง ให้ U = { 1, 2, 3, 4, 5 } และ A = { 1, 3, 5 } จงหา A
ตอบ A = { 2, 4 }
10.5 ครอู ธิบายการเขียนแผนภาพเวนน์เพ่ือแสดงการคอมพลีเมนต์ของเซต เม่ือกาหนดเซตมาให้
จานวน 1 – 2 เซต ดงั นี้

บรเิ วณท่แี รเงา คือ A

10.6 ครใู ห้นักเรียนตอบคาถามเก่ยี วกบั ผลของการคอมพลเี มนต์ของเซตเม่ือกาหนดแผนภาพมาให้ ดงั น้ี

จงหา A
ตอบ A = { 1, 6, 8 }

10.7 ครยู กตวั อย่างการหาคอมพลีเมนต์ของเซต เมอื่ กาหนดเซตมาใหจ้ านวน 3 เซต ตวั อยา่ งเชน่

ตัวอยา่ ง ให้ U = { 1, 2, 3, …, 10 } , A = { 1, 2, 3, 4 } , B = { 3, 4, 5, 6, 7 } และ
C = { 1, 4, 5, 6, 8, 10 } จงหา

1) A
ตอบ A = { 5, 6, 7, 8, 9, 10 }
2) B
ตอบ B = { 1, 2, 8, 9, 10 }
3) C
ตอบ C = { 1, 2, 3, 7, 9 }

10.8 ครอู ธบิ ายการเขียนแผนภาพเวนนเ์ พ่ือแสดงการคอมพลีเมนต์ของเซตใดๆ ดังน้ี

บรเิ วณทแ่ี รเงา คอื A บริเวณทแ่ี รเงา คอื B บรเิ วณท่ีแรเงา คอื C

10.9 ครูใหน้ ักเรียนตอบคาถามเกีย่ วกับผลของคอมพลเี มนต์ของเซต เมอ่ื กาหนดแผนภาพมาให้ ดงั น้ี

จงหา A
ตอบ A = { 0, 5, 7, 8, 9, 10 }

ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Expand)
10.10 ครใู หน้ ักเรยี นพิจารณาเซตตอ่ ไปนี้

ให้ U = { 1, 2, 3, …, 7 } และ A = { x | x เปน็ จานวนนับท่ีไมเ่ กนิ 3 } จงหา A
จากน้ันครใู ช้คาถาม ถาม – ตอบ กระตนุ้ ความคิดและสร้างทกั ษะการเชื่อมโยงของนักเรยี น ดงั น้ี
- ถ้าเราต้องการหา A ของเซตท่ีกาหนดให้ นักเรยี นควรทาสิ่งใดเปน็ ข้ันตอนแรก
( แนวตอบ เขยี นเซตดังกล่าวแบบแจกแจงสมาชกิ )
- เซต A สามารถเขยี นเซตแบบแจกแจงสมาชิกได้อย่างไรบ้าง
( แนวตอบ A = { 1, 2, 3 } )
- A มคี า่ เทา่ กบั ใด
( แนวตอบ A = { 4, 5, 6, 7 } )
10.11 ครใู หน้ ักเรยี นเลน่ เกม “กู้ระเบิด” โดยมกี ติกาดังนี้
ใหน้ กั เรยี นจบั กลุม่ กลุ่มละ 10 คน จากน้ันสมาชิกแต่ละคนจะได้รับกระดาษที่เขยี นเซตแบบแจกแจง
สมาชกิ ไวค้ นละ 1 ใบ โดยครูจะถามคาถามทีเ่ กี่ยวกับการคอมพลีเมนต์ของเซตและเร่ิมจับเวลา จากน้นั ให้
สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มพจิ ารณาวา่ คาตอบอยู่ที่กระดาษของตนเองหรือไม่ ถ้าคาตอบอยูท่ ่ีสมาชิกคนใด
ใหร้ บี ลุกและชูกระดาษคาตอบขึน้ ภายในเวลาท่ีกาหนด กลุ่มใดทสี่ ามารถตอบได้ถกู ต้องและทนั เวลา
จะไดร้ ับคะแนน

ขัน้ ตรวจสอบผล (Evaluate)
10.12 ครูมอบหมายให้นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง คอมพลีเมนต์
11. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
11.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1) PowerPoint เรื่อง คอมพลเี มนต์
2) หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ของสถาบนั สง่ เสรมิ การสอน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
3) ใบงาน เรื่อง คอมพลเี มนต์
11.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมุดโรงเรียน

12. บนั ทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
12.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจดั การเรียนรนู้ ้ใี ช้กับนกั เรยี นชัน้ ………… จานวน …..…… คน
 การจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ ปน็ ไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
 การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก ………….…………..…………
……………………………………..………………………………………………………………………………….………………
12.2 การประเมินผลการเรียนรู้
1) ดา้ นความรู้ (Knowledge)
นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ที่กาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ………...……
เนื่องจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ท่ีกาหนด จานวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ …….…..……
เนื่องจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ท่ีกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เน่อื งจาก …………………………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปญั หา / อุปสรรค
 การจัดกิจกรรมการเรียนรไู้ มเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรยี นทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 อืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง ……………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นทีไ่ ม่ผา่ นการประเมิน…………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
 อืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวอุมาพร เชี่ยวณรงค์กร)
ครูผูส้ อน
............. / ............. / ..............

13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้ 4 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับดีมาก
ระดับคะแนนของแผนการจัดการเรียนรู้ 2 หมายถึง คณุ ภาพในระดับพอใช้
5 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับดเี ยยี่ ม
3 หมายถงึ คุณภาพในระดับดี
1 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ปรับปรุง

ข้อท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
54321

1 แผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคล้องสมั พันธ์กับหนว่ ยการเรยี นรูท้ ก่ี าหนดไว้

2 แผนการจดั การเรยี นรู้มีองคป์ ระกอบสาคัญครบถว้ น

3 จดุ ประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ

4 กจิ กรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ

5 กิจกรรมการเรยี นรูม้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ัติได้จรงิ

6 กจิ กรรมการเรียนรู้เปน็ กิจกรรมทสี่ ง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนักเรียน

7 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดแทรกคณุ ธรรมและคา่ นิยมท่ดี งี าม

8 กจิ กรรมการเรียนรู้มีการสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั

9 ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับเนื้อหาสาระ

10 การวดั และประเมินผลทีส่ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นรู้

รวม

สรปุ ผลระดบั คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้

สรปุ ผลระดับคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้
4.50 – 5.00 หมายถึง แผนการจดั การเรียนรู้มคี ณุ ภาพในระดับดเี ยีย่ ม
3.50 – 4.49 หมายถึง แผนการจัดการเรยี นรู้มีคุณภาพในระดบั ดมี าก
2.50 – 3.49 หมายถึง แผนการจดั การเรียนรู้มคี ณุ ภาพในระดบั ดี
1.50 – 2.49 หมายถึง แผนการจดั การเรยี นรู้มีคณุ ภาพในระดบั พอใช้
1.00 – 1.49 หมายถงึ แผนการจดั การเรียนรู้มคี ุณภาพในระดับควรปรบั ปรงุ

ความเหน็ เพ่ิมเติมของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
............................................................. ................................................................................................ ................
............................................................................................................................. ................................................

............................................................................................................................. ................................................

................................................... .................................................................................................... ......................

ลงชื่อ .................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวปทั มา ภรู่ ะหงษ์)

หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ความเห็นผู้ช่วยผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
 องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้
 กจิ กรรมการเรยี นการสอนเปน็ ไปตามลาดบั ข้ันตอน
 ส่ือและอปุ กรณส์ อดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน
 เวลาทใ่ี ชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกบั เนื้อหา
 การวัดและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
 ความเหน็ เพิ่มเตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางจันทรฉ์ าย ศรีขวัญ)

ผู้ช่วยผู้อานวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ

ความเหน็ ผอู้ านวยการโรงเรียนชานาญสามคั ควี ิทยา
 ทราบ
 ความเห็นเพ่ิมเติม ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชือ่ ....................................................
(นายสันติ มกุ ดาสนิท)

ผู้อานวยการโรงเรยี นชานาญสามคั ควี ิทยา



แบบประเมนิ ทกั ษะและกระบ

กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ เซ
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ื จง : กรณุ าใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรียนลงในช่องวา่ ง โดยที่ระ
5 = พฤตกิ รรมอยู่ในระดับดีมาก 4 = พฤติกรรมอยู่ในระดับดี 3 = พฤติกรรมอยูใ่ นร

รายการประเมนิ 123

ด้านการใหเ้ หตผุ ล
1. นักเรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลได้อยา่ งถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจได้อย่างเหมาะสม
3. นักเรยี นคานึงถึงความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสื่อสาร
4. นักเรียนสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของ
ตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรียนสามารถเขยี นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งถูกต้อง
6. นักเรียนสามารถอธบิ ายโดยใช้ภาษาและสญั ลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์
ได้อย่างชัดเจน
ดา้ นความเชอ่ื มโยง
7. นกั เรยี นสามารถนาข้อมูลทกี่ าหนดให้มาเชอ่ื มโยงกับความรู้ในสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม
8. นักเรยี นสามารถอธิบายความสมั พันธ์ของความรหู้ รือหลักการทีน่ ามา
เชอ่ื มโยงกันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
9. นักเรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การท่ไี ดน้ าไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา
หรือไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม

บวนการทางคณิตศาสตร์

คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน 3 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ……….......
ซต เรือ่ ง คอมพลีเมนต์ วัน/เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดบั ของพฤติกรรมนักเรียนแบ่งเป็น 5 ระดบั ดังน้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั น้อย 1 = พฤติกรรมอยู่ในระดบั ควรปรับปรุง

เลขท่ี
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมนิ 21 22 23 2

ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แบบสงั เกตพฤต

กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ า ค 31107 ค
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ เซต
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ื จง : กรุณาใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั ของพฤตกิ รรมนักเรียนลงในชอ่ งวา่ ง โดยที่ระ
5 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั ดีมาก 4 = พฤติกรรมอยู่ในระดับดี 3 = พฤติกรรมอยูใ่ นร

รายการประเมนิ 123
ด้านความมวี นิ ัย
1. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับ
ของห้องเรียน
2. นกั เรียนตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม
3. นักเรียนมีความรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มัน่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมคี วามตั้งใจและรับผดิ ชอบในหน้าที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้สาเร็จตาม
เป้าหมาย
6. นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝ่รู้
7. นกั เรียนมีความต้งั ใจในการเรยี น และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
8. นกั เรยี นมีการจดบนั ทึกความรู้ ในระหวา่ งการเรยี น
9. นกั เรยี นมกี ารซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น


Click to View FlipBook Version