ชุดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณ

สว่ นท่ี 4

การสรปุ และอภปิ รายผล

การสรปุ สาระสาคญั ดา้ นองค์ความรู้จากการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
จากการจัดกิจกรรมในวนั ท่ี 1 มีนาคม พ.ศ. 2563 ผเู้ ขา้ รว่ มไดอ้ งค์ความรู้ในคร้งั นน้ั ประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
1. ความหมายคุณธรรมจรยิ ธรรมของวิชาชพี
2. ความหมายองค์ประกอบคุณธรรมจรยิ ธรรมของวิชาชีพ

การวเิ คราะหก์ ารดาเนนิ กจิ กรรม
จากการจัดกิจกรรมในฐานคุณธรรมจริยธรรมของวิชาชีพ สามารถสรุปและอภิปรายการดาเนิน

กจิ กรรม โดยแบง่ การวิเคราะห์ออกเป็น 4 ประเด็นสาคัญ ได้แก่ จุดเด่น จดุ ด้อย ปัญหาในการดาเนนิ กิจกรรม
และอปุ สรรค ดังน้ี

จุดเดน่ ของกลุม่
1. มกี ิจกรรมท่หี ลาย
2. มกี ารใชส้ อ่ื ท่สี ามารถดงึ ดูดเดก็
3. ผู้ดาเนนิ งานมีความเฮฮา

จดุ ด้อยของกลุม่
1. กจิ กรรมกลมุ่ เราเหมาะสาหรบั การเล่นกับคนจานวนมาก

ปัญหาในการดาเนนิ กิจกรรม
1. มคี วามขัดข้องทางเทคนิค
2. ผเู้ ขา้ ร่วมรอบท่ี 2 มจี านวนน้อยกวา่ รอบแรก

อุปสรรคท่ีพบเจอ
1. ผเู้ ข้าร่วมมีจานวนนอ้ ย
2. เวลานอ้ ย

Part 4
จรรยาบรรณวชิ าชีพที่ครสุ ภากาหนด

สว่ นท่ี 1

การทบทวนเอกสารท่เี กย่ี วข้องจรรยาบรรณวิชาชีพทคี่ รสุ ภากาหนด

ความหมายจรรยาบรรณวิชาชีพ
กู๊ด (Good 1973: 80) ได้ให้ความหมายจรรยาบรรณวิชาชีพว่า ความประพฤติท่ีดีงาม ซึ่กานดให้

เป็นมาตรฐานการปฏิบัตอิ ย่างมีขอบเขตและชัดเจน โดยความเห็นชอบของบุคคล และถอื ปฏบิ ัติมาตรฐานทาง
ความประพฤตขิ องบคุ คลหรอื กล่มุ คนนนั้ ๆ

ครเู ชยี งราย (2560) ไดใ้ ห้ความหมายจรรยาบรรณวชิ าชีพวา่ รปู แบบหนงึ่ ของจริยธรรมในวงการวชิ า
ชีพเป็นข้อกาหนดกฎเกณฑ์ให้ผุ้ประกอบวิชาชีพยึดถือปฏิบัติ มีปกาศิตบังคับในระดับ “พึง” คือพึงทาอย่าง
นั้น พึงทาอย่างนี้ ไม่ใช้เป็นการบังคับโดยเด็ดขาด แต่ผลสัมฤทธ์ิหรือเป้าหมายของจรรยาบรรณและศักดิ์ศรี
ของผู้ประกอบวิชาชีพโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคนและเพื่องาน ดังน้ันในแต่ละวิชาชีพจึงได้กาหนดจรรยาบรรณ
มากาหนดบทบาทหนา้ ที่ และพฤตกิ รรมของสมาชิกในวงกรวิชาชพี

พระเทพเวที (ป.อ. ปยุตโต) (2548: 44) ได้ให้ความหมายว่า ประมวลจริยธรรมของผู้ประกอบ
วิชาชีพการงานหรือวิชาชพี นน้ั ๆ เปน็ มาตรฐานความชอบธรรมและเกยี รตฐิ านะของความเปน็ ขา้ ราชการ

พระเมธีธรรมาภรณ์ (2548: 3) ได้ให้ความหมายของจรรยาบรรณวิชาชีพว่าหมายถึงจริยวิชาชีพ
จรรยาวิชาชีพ หรือจริยธรรมวิชาชีพจะ ครอบคลมุ ในทุกเรอ่ื งทุกประการที่จะเป็นข้อควรประพฤติสาหรบั กลุ่ม
วิชาชีพอนั รวมถึงข้าราชการดว้ ย

ราชกิจจานุเบกษา (2556: 73) ได้ให้ความหมายว่า จรรยาบรรณของวิชาชีพหมายถึงมาตรฐานการ
ปฏิบัติตนที่กาหนดขึ้นเป็นแบบแผน ในการประพฤตติ นซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องปฏิบัติตามเพื่อ
รกั ษาและสง่ เสริมเกียรตคิ ุณช่อื เสียงและฐานะของผ้ปู ระกอบวิชาชีพทางการศึกษาใหเ้ ปน็ ทีเ่ ช่ือถือ

ราชบัณฑิตยสถาน (2546: 289) ได้ให้ความหมายจรรยาบรรณวิชาชีพว่า ประมวลความประพฤติ
ท่ผี ู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกานดข้ึนเพื่อรักษาส่งเสริมเกียรติตณุ ชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจ
เขียนเป็นหลายลักษณอ์ กั ษรกไ็ ด้

ยนต์ ชุ่มจิต (2550) ได้ให้ความหมายจรรยาบรรณวิชาชีพว่า ประมวลความประพฤติ หรือกริยา
อาการทีผ่ ้ปู ระกอบวิชาชพี ควรปฏบิ ัติ เพ่ือรักษาส่งเสรมิ เกียรตคิ ณุ ชือ่ เสยี งและฐานะของความเปน็ วิชาชพี

วิยาลัยเทคโนโลยีและสหวิชาการ (2546) ได้ให้ความหมายว่า ประมวลมาตรฐานความประพฤติที่ผู้
ประกอบวิชาชีพจะต้องประพฤติปฏิบัติ เป็นแนวทางให้ผู้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติอย่างถูกต้องเพื่อผดุงเกียรติ
และสถานะ ของวิชาชีพน้ันก็ได้ผู้กระทาผิดจรรยาบรรณ จะต้องได้รับโทษโดยว่ากล่าว ตักเตือน ถูกพักงาน
หรือถูกยกเลิกใบประกอบวิชาชพี ได้
องคป์ ระกอบของจรรยาบรรณวชิ าชีพที่ครสุ ภากาหนด

1. จรรยาบรรณต่อตนเองครูต้องมีวินัยในตนเองอาชีพ บุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการ
พัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองอยู่เสมอ โดยมีพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์และไม่พึงประสงค์
ดงั ตัวอย่าง

ตารางท่ี 16 แสดงพฤติกรรมท่ีพงึ ประสงคแ์ ละไม่พึงประสงค์ของจรรยาบรรณต่อตนเอง

พฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ พฤตกิ รรมทไี่ ม่พงึ ประสงค์

1. ประพฤติตนเหมาะสมกับสถานภาพและเป็น 1.เกี่ยวข้องกับอบายมุขและสิ่งเสพติด จนขาดสติ

แบบอย่างท่ดี ี หรือแสดงกริ ิยาไม่สภุ าพเป็นทน่ี า่ รงั เกยี จในสังคม

2. ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการดาเนินชีวิต 2. ประพฤติ ผิดทางชู้สาวหรือมีพฤติกรรมล่วง

ตามประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ละเมดิ ทางเพศ

3. ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สาเร็จ 3. ขาดความรับผิดชอบ ความกระตือรือร้นความเอา

อย่างมคี ุณภาพตามเป้าหมายทก่ี าหนด ใจใส่จนเกิดความเสียหายในการปฏบิ ตั ติ ามหนา้ ที่

4. ศึกษาหาความรู้วางแผนพัฒนาตนเองพัฒนางาน 4. ไมร่ ับรู้ หรอื ไมแ่ สวงหาความรใู้ หมๆ่ ในการจัดการ

และ สะสมผลงานอยา่ งสมา่ เสมอ เรียนรู้และการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี

5. ค้นคว้า แสวงหา และนาเทคนิคด้านวิชาชีพที่ 5. ขัดขวางการพฒั นาองค์การจนเกิดผลเสียหาย

พัฒนาและก้าวหน้าเป็นท่ียอมรับมาใช้แก่ศิษย์ และ

ผู้รับบรกิ ารให้ เกดิ ผลสมั ฤทธ์ิท่ีพึงประสงค์

2. จรรยาบรรณต่อวชิ าชีพ ครูต้องรับ ศรัทธา ซอื่ สตั ยส์ ุจริต รบั ผิดชอบตอ่ วิชาชพี และเปน็ สมาชิกท่ีดี
ขององคก์ รวชิ าชีพ โดยมีพฤตกิ รรมทพ่ี ึงประสงค์และไมพ่ ึงประสงค์ ดงั กว่าอยา่ ง

ตารางท่ี 17 แสดงพฤตกิ รรมที่พงึ ประสงค์และไมพ่ งึ ประสงค์ของจรรยาบรรณต่อวชิ าชพี

พฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ พฤติกรรมทไ่ี ม่พึงประสงค์

1. แสดงความชื่นชมและศรทั ธาในคุณคา่ ของวิชาชีพ 1. ไมแ่ สดงความภาคภูมใิ จในการประกอบวชิ าชีพ

2. รกั ษาชอื่ เสยี งและปกป้องศักดิ์ศรีแห่งวชิ าชพี 2. ดหู ม่ิน เหยียดหยาม ใหร้ า้ ยผรู้ ว่ มประกอบวชิ าชพี

3. ยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้มีผลงานในวิชาชีพให้ ศาสตร์ในวชิ าชพี หรือองค์กรวิชาชีพ

สาธารณชนรบั รู้ 3. ประกอบการงาน เอิร์นที่ไม่เหมาะสมกับการเป็น

4. อุทิศตนเพือ่ ความกา้ วหนา้ ของวชิ าชพี ผูป้ ระกอบวิชาชพี ทางการศึกษา

5. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบซ่ือสัตย์สุจริต 4. ไม่ซ่ือสัตย์สุจริต ไม่รับผิดชอบ หรือไม่ปฏิบัติตาม

ตามกฎระเบยี บและแบบแผนของทางราชการ กฎระเบยี บ จนก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หาย

6. ใช้หลักวิชาที่ถูกต้องสร้างสรรค์เทคนิควิธีการ 5. คัดลอกหรือนาผลงานของผู้อ่นื มาเปน็ ของตน

ใหม่ๆเพื่อพฒั นาวชิ าชพี 6. ใช้หลักวิชาการที่ไม่ถูกต้องในการปฏิบัติวิชาชีพ

7. ใชอ้ งค์ความ รู้ กบั สมาชิกในองคก์ าร สง่ ผลให้เสร็จหรือผ้รู บั บรกิ ารเกดิ ความเสียหาย

8. เข้าร่วมกิจกรรมของวิชาชีพองค์กรวิชาชีพอย่าง 7. ใช้ความรู้ทางวิชาการ วิชาชีพ หรืออาศัยองค์กร

สร้างสรรค์ วิชาชีพ แสวงหาผลประโยชน์ต่อตนเองหรือผู้อ่ืนโดย

มชิ อบ

3. จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ ับบริการ
3.1 ครูต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กาลังใจแก่ศิษย์และผู้รับบริการ ตามบทบาท
หนา้ ทีโ่ ดยเสมอภาค

3.2 ครูต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยท่ีถูกต้องดีงามแก่ศิษย์และผู้รับบริการตาม
บทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธ์ิใจ 3.3 ครูต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีท้ังทาง
กาย วาจา และจติ ใจ

3.4 ครูต้อง ไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคม
ของศิษย์และผูร้ บั บริการ

3.5 ครูต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์ จาก
การใชต้ าแหนง่ หน้าทีโ่ ดยมิชอบโดยมพี ฤติกรรมทพ่ี ึงประสงคแ์ ละไม่พึงประสงค์

ตารางที่ 18 แสดงพฤตกิ รรมทพี่ งึ ประสงคแ์ ละไมพ่ งึ ประสงค์ของจรรยาบรรณต่อผรู้ ับบรกิ าร

พฤตกิ รรมท่ีพึงประสงค์ พฤตกิ รรมทีไ่ ม่พึงประสงค์

1. ให้คาปรึกษาหรือช่วยเหลือศิษย์และผู้รับบริการ 1. ลงโทษสิทธอิ์ ย่างไมเ่ หมาะสม

ด้วยความเมตตากรุณาอย่างเต็มความสามารถและ 2. ไ ม่ ใ ส่ ใ จ ห รื อ ไ ม่ รั บ รู้ ปั ญ ห า ข อ ง ศิ ษ ย์ ห รื อ

เสมอภาค 2. สนับสนุนการดาเนินงานเพื่อปกป้อง ผู้รับบริการจนเกิดความเสียหาย ต่อสิทธิ์หรือ

สิทธเิ ดก็ เยาวชนและผูด้ อ้ ยโอกาส ผู้รบั บรกิ าร

3. ตั้งใจ เสียสละ และอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าท่ี 3. ดหู มิน่ เหยยี ดหยามศษิ ยแ์ ละผู้รบั บริการ

เพ่ือให้ศิษย์และผู้รับบริการได้รับการพัฒนาตาม 4. เปดิ เผยความลบั ของศิษย์หรือผรู้ บั บรกิ าร เปน็ ผล

ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของแต่ละ ให้ไดร้ ับความอับอายหรอื เส่ือมเสยี ชอ่ื เสียง

บุคคล 5. จูงใ จ โ น้มน้ าว ยุยง ส่งเ สริ มให้ ศิษย์ หรื อ

4. ส่งเสริมให้ศิษย์และผู้รับบริการสามารถแสวงหา ผรู้ ับบรกิ ารปฏบิ ตั ิขดั ตอ่ ศีลธรรม หรอื กฎระเบยี บ

ความรู้ได้ด้วยตนเองจากส่ือ อุปกรณ์และแหล่ง 6. ชักชวน จ้างวานศิษย์หรือผู้รับบริการให้จัดซื้อ

เรยี นรู้อย่างหลากหลาย จัดหาส่งิ เสพติดหรือเขา้ ไปเกีย่ วขอ้ งกบั อบายมขุ

5. ให้ศิษย์และผู้รับบริการ มีส่วนร่วมวางแผนการ 7. เรียกร้องผลตอบแทนจากศิษย์ผู้รับบริการในงาน

เรยี นรู้ และเลือกวธิ ีการปฏิบตั ิทีเ่ หมาะสมกบั ตนเอง ตามหนา้ ที่ทีต่ ้องให้บริการ

6. เสริมสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ศิษย์และ

ผู้รับบริการด้วยการรับฟังความคิดเห็น ยกย่อง

ชมเชยและใหก้ าลังใจอย่างกลั ยาณมิตร

4. จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลซ่ึงกันและกนั อย่างสร้างสรรค์ โดย

ยึดม่ันในระบบคุณธรรม สรา้ งความสามัคคีในหมู่คณะ โดยมีพฤติกรรมทีพ่ งึ ประสงค์และไม่พึงประสงค์

ตารางท่ี 19 แสดงพฤติกรรมทีพ่ ึงประสงค์และไมพ่ ึงประสงค์ของจรรยาบรรณต่อผรู้ ว่ มประกอบวิชาชพี

พฤตกิ รรมท่ีพึงประสงค์ พฤติกรรมทไ่ี ม่พึงประสงค์

1. เสียสละ เอื้ออาทร และให้ความช่วยเหลือผู้ร่วม 1. ปิดบังข้อมูลข่าวสารในการปฏิบัติงาน จนทาให้

ประกอบวิชาชีพ เกดิ ความเสียหายต่องานหรือผรู้ ่วมประกอบวิชาชีพ

2. มีความรัก ความสามัคคีและร่วมใจกันผนึก กาลัง 2. ปฏิเสธความรับผิดชอบโดยตาหนิให้ร้ายผู้อื่นใน

ในการพฒั นาการศึกษา ความบกพรอ่ งที่เกิดขน้ึ

3. สร้างกลุ่มอิทธิพลภายในองค์การ หรือกล่ันแกล้ง

ผรู้ ว่ มประกอบวิชาชพี ให้เกิดความเสียหาย

พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ พฤติกรรมทไ่ี ม่พงึ ประสงค์

4. เจตนาให้ข้อมูลเท็จทาให้เกิดความเข้าใจผิดหรือ
เกดิ ความเสียหายตอ่ ผู้รว่ มประกอบวิชาชพี
5. วิพากษ์วิจารณ์ผู้ร่วมประกอบวิชาชีพในเร่ืองที่
ก่อให้เกดิ ความเสยี หาย หรอื แตก ความสามคั คี

5. จรรยาบรรณตอ่ สงั คม ครพู ึงปฏิบัติตนเปน็ ผู้นาในการอนุรักษ์ และพฒั นาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา
ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ต่อส่วนรวมและยึดมั่นในการ ปกครอง ระบอบ
ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข โดยมพี ฤติกรรมทพี่ ึงประสงค์และไม่พงึ ประสงค์

ตารางท่ี 20 แสดงพฤตกิ รรมทพ่ี งึ ประสงคแ์ ละไม่พงึ ประสงค์ของจรรยาบรรณต่อสังคม

พฤตกิ รรมที่พงึ ประสงค์ พฤติกรรมทีไ่ ม่พึงประสงค์

1. ยึดมั่น สนับสนุนและส่งเสริมการปกครองระบอบ 1. ไม่ให้ความร่วมมือหรือสนับสนุนกิจกรรมของ

ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ชุมชนที่จัดเพ่ือประโยชน์ต่อการศึกษา ทั้งทางตรง

2. นาภูมิปัญญาท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมมาเป็น หรือทางอ้อม 2. ไม่แสดงความเป็นผู้นาในการ

ปัจจัยในการจัดการศึกษาให้เป็นประโยชน์ต่อ อนุรักษ์หรือพัฒนาเศรษฐ กิจ สังคมศาสนา

สว่ นรวม ศลิ ปวฒั นธรรมภูมปิ ญั ญา หรอื สง่ิ แวดลอ้ ม

3. จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ศิษย์เกิดการเรียนรู้และ 3. ไม่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการอนุรักษ์

สามารถดาเนินชวี ิตตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง พัฒนาสงิ่ แวดล้อม

4. เป็นผู้นาในการ วางแผนและดาเนินการเพ่ือ 4. ปฏิบัติตนเป็นปฏิปักษ์ต่อวัฒนธรรมอันดีงามของ

อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพัฒนาเศรษฐกิจ ภูมิปัญญา ชมุ ชนหรือสงั คม

ทอ้ งถ่นิ และศลิ ปวัฒนธรรม

สว่ นที่ 2

เครื่องมือการพฒั นาจรรยาบรรณวิชาชพี ทีค่ รสุ ภากาหนด

การออกแบบชุดกจิ กรรมเพอื่ พฒั นาจรรยาบรรณวิชาชีพท่ีครุสภากาหนด
จากการทก่ี ลุ่มได้ศึกษาเอกสารที่เกย่ี วขอ้ งกบั จรรยาบรรณวิชาชีพที่ครุสภากาหนด หมายถึง ประมวล

ความประพฤติ ข้อบังคับ มารยาท ท่ีผู้ประกอบวิชาชีพแต่ละอย่างกาหนดข้นึ เพื่อรักษา และส่งเสริมเกียรติคุณ
ชอื่ เสยี ง ฐานะของสมาชิกความดงี ามรวมทั้งก่อให้เกดิ ความสงบสุข และความเจริญในตวั คน วชิ าชีพ และสงั คม
และได้ทาการวิเคราะห์องค์ประกอบร่วมท่ีสาคัญๆ จากนักวิชาการต่าง ๆ สามารถแบ่งองค์ประกอบของ
จรรยาบรรณวิชาชีพท่ีครุสภากาหนด ออกเป็น 5 องค์ประกอบ และมีตัวบ่งชี้ทั้งหมด 13 ตัวบ่งช้ี จึงนามา
พัฒนาเครื่องมือท่ีจะใช้ในการพัฒนาจรรยาบรรณวิชาชีพที่ครุสภากาหนด แบ่งเครื่องมือในการพัฒนา
จรรยาบรรณวชิ าชีพที่ครุสภากาหนดออกเปน็ 2 สว่ น ไดแ้ ก่

1. ชดุ กิจกรรมเพ่ือพฒั นาจรรยาบรรณวชิ าชีพท่ีครุสภากาหนด
2. แบบสอบถามการรับรูจ้ รรยาบรรณวชิ าชีพทค่ี รุสภากาหนด
โดยกระบวนการในการออกแบบชุดกิจกรรมและแบบสอบถามการรับรู้จรรยาบรรณวิชาชีพท่ีครุสภา
กาหนด มดี งั น้ี

ชุดกจิ กรรมเพ่อื พฒั นาจรรยาบรรณวชิ าชพี ที่ครุสภากาหนด
เป็นการออกแบบชุดกิจกรรมภายใต้การกากับของตัวบ่งชี้พฤติกรรมท่ีกลุ่มได้ทาการวิเคราะห์แล้ว

สามารถแสดงการวิเคราะห์ ดังตารางที่ 6

ตารางท่ี 21 แสดงองคป์ ระกอบหลัก องค์ประกอบย่อย ตวั บง่ ชพ้ี ฤตกิ รรม และกจิ กรรม

องคป์ ระกอบ องค์ประกอบยอ่ ย ตวั บง่ ชพ้ี ฤติกรรม กจิ กรรม จานวน
ช่วั โมง
หลัก
2 ชม.
จรรยาบรรณ 1. จรรยาบรรณตอ่ 1 มวี นิ ยั 1. กิจกรรมหัวใจติดหลอด 70 น.
2 ชม.
วชิ าชพี ทคี่ รสุ ภา ตนเอง 2 พัฒนาตนเอง 2. กิจกรรมอศั วนิ ลาเลยี งพล 2 ชม.
50 น.
กาหนด 3 บคุ ลกิ ภาพ 3. กจิ กรรมสานสายใย

2. จรรยาบรรณต่อ 4 รกั และศรทั ธา 4. กิจกรรมเชดิ ชูพระคุณครู

วชิ าชพี 5 ความรบั ผดิ ชอบ 5. กจิ กรรมนิทานหรรษาคน

6 ซอื่ สัตยส์ จุ รติ ตัดไม้ผูซ้ ื่อสตั ย์

3. จรรยาบรรณตอ่ 7 เมตตา

ผ้รู บั บรกิ าร 8 ชว่ ยเหลือ

4. จรรยาบรรณต่อ 9 มคี วามสามคั คี

ผู้ร่วมประกอบ 10 ชว่ ยเหลอื เก้ือกูล

วชิ าชพี 11 คดโกง

5. จรรยาบรรณตอ่ 12 การอนุรักษ์

สังคม

องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบยอ่ ย ตัวบง่ ช้พี ฤตกิ รรม กจิ กรรม จานวน
หลกั ช่วั โมง
13 ระบอบ
ประชาธปิ ไตย

ตารางที่ 22 แสดงความเชอื่ มโยงระหวา่ งกจิ กรรมกบั ตัวบ่งชีพ้ ฤตกิ รรม

ตวั บ่งชพ้ี ฤติกรรม กจิ กรรมที่ 1 กจิ กรรมที่ 2 กจิ กรรมที่ 3 กจิ กรรมที่ 4 กิจกรรมท่ี 5
หัวใจติดหลอด อัศวนิ ลาเลียงพล สานสายใย เชิดชพู ระคณุ ครู คนตดั ไมผ้ ซู้ ื่อสตั ย์
1. วินัย
2. พัฒนาตนเอง ✓ ✓ ✓✓ ✓
3. บคุ ลกิ ภาพ ✓ ✓ ✓
4. รักและศรัทธา ✓ ✓
5. ความ ✓ ✓✓ ✓
รบั ผดิ ชอบ ✓ ✓ ✓✓ ✓
6. ซื่อสัตยส์ ุจริต ✓ ✓ ✓
7. เมตตา ✓ ✓
8. ช่วยเหลอื ✓ ✓✓
เกอ้ื กลู ✓
9. ความสามคั คี ✓
10. คดโกง ✓
11. การอนรุ ักษ์ ✓
12. ระบอบ ✓✓
ประชาธปิ ไตย

แผนกิจกรรม
เรือ่ ง หวั ใจตดิ หลอด

กรอบแนวคิด
กจิ กรรมนีม้ ีชื่อวา่ หัวใจตดิ หลอด เป็นกิจกรรมทส่ี ง่ เสริมความรเู้ บอื้ งตนเกี่ยวกับจรรยาบรรณวชิ าชพี

ครู สรา้ งความสามคั คีภายในกล่มุ ฝกึ ระเบยี บวนิ ยั สามารถทาตามกฎระเบยี บที่กาหนดได้ และฝึกความซอื่ สตั ย์
ตอ่ ตนเองและเพื่อนร่วมกจิ กรรม

สาระสาคัญ
กิจกรรมนี้เด็กสามารถนาความรเู้ ก่ียวกับจรรยาบรรณวิชาชีพครูไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน โดย

ตระหนักถึงพฤติกรรมทเี่ หมาะสมและไม่เหมาะสม

วตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรม
1. เดก็ สามารถทาตามกฎข้อบงั คบั ท่ีกาหนดขน้ึ มาได้
2. เดก็ สามารถฝกึ การมีวัยในการเล่นกิจรรม

ความสอดคล้องกับตวั บ่งช้ี
1. การมีวินัย
2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ
3. ช่วยเหลือ
4. ความสามคั คี
5. พฒั นาตนเอง

เวลาที่ใช้
2 ชม.

จานวนผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม
15 - 20 คน

สอ่ื /อุปกรณ์
1. กระดาดทตี่ ัดเป็นรปู ทรงหัวใจ
2. หลอด
3. แป้ง
4. จาน
5. ตะกร้า

เทคนคิ /วธิ กี าร
1. บรรยาย
2. ระดมความคดิ

3. อภิปราย
4. นนั ทนาการ

ขน้ั ตอนการดาเนินกิจกรรม
ขนั้ นา

1. ครูกลา่ วทกั ทายเด็ก
2. นันทนาการ แนะนาตัวโดยเพลง ฉนั ช่ือบุษบา
ขัน้ สอน
3. บรรยายใหค้ วามรใู้ นหัวข้อเรือ่ งจรรยาบรรณวชิ าชพี ที่ครุสภากาหนด
ครูแนะนาอุปกรณ์ วธิ กี ารเล่น
4. ครแู บง่ กลมุ่ 3 กลมุ่ เท่าๆกัน แลว้ ใหเ้ ด็กต้งั แถว (แถวตอน)
5. กตกิ า หา้ มใช้มือจบั กระดาษ ยกเว้น คนแรกท่เี ป่าเจอกระดาษสามารถจบั กระดาษได้
6. ครแู นะนาอุปกรณ์ มีจานพลาสติก แป้ง กระดาษรปู หวั ใจ หลอดดูดน้า ครูเท่แปง้ และซอ่ นกระดาษ
รปู หวั ใจในจานพลาสตกิ
7. คนแรกของแถวจะเป็นคนเร่มิ กจิ กรรม โดยเปา่ แปง้ หากระดาษรปู หวั ใจในจาน เมอื่ เจอกระดาษรปู
หวั ใจในจาน เอาหลอดดูดกระดาษรูปหัวใจสง่ ต่อให้กบั คนท่ี 2 คนท่ี 3 จนถงึ คนสดุ ท้าย คนสุดทา้ ยก็
วิ่งไปใส่ในตะกร้า และหยบิ หัวข้อในการนาเสนอ (นาเสนอในรปู แบบการแสดงบทบาทสมมตุ พิ ร้อม
อภิปราย)
ขน้ั สรปุ
1. ครแู ละเด็กสรุปกิจกรรม
การวัดผล/ประเมินผล
1. สังเกต

แผนกจิ กรรม
เรื่อง อศั วนิ ลาเลยี งพล

กรอบแนวคดิ
กจิ กรรมอัศวนิ ลาเลยี งพล เป็นกจิ กรรมท่สี ง่ เสริมให้เด็กตระหนกั ถึงการอยรู่ ว่ มกันภายในสังคมอย่าง

สันติวิธี ชว่ ยเหลอื เกื้อกลู ซึ่งกันและกัน เสรมิ ทักษะการเป็นผนู้ า และความคิดคิดสรา้ งสรรค์

สาระสาคญั
กิจกรรมน้ีทาให้ผู้เข้าร่วมเกิดความสามัคคี ความกล้าแสดงออก รับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน ยอมรับ

ในเสียงส่วนมาก

วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรม
1. เพ่ือส่งเสรมิ ทกั ษะการทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่
2. เพ่ือส่งเสริมความสามคั คีภายในกลุ่ม
3. ฝกึ ความว่องไว และปฏิภาณไหวพรบิ
4. ฝึกทักษะการเป็นผู้นา

ความสอดคล้องกับตัวบ่งชี้
1. การมีวินยั
2. พฒั นาตนเอง
3. บุคลิกภาพ
4. ซอ่ื สัตย์สุจริต
5. ช่วยเหลอื เก้ือกลู
6. มคี วามสามัคคี
7. ประชาธิปไตย

เวลาที่ใช้
70 นาที

จานวนผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม
15-20 คน

สอ่ื /อปุ กรณ์
1. กระดาษลงั ขนาน สีเ่ หล่ียมผนื ผ้า 2 แผ่น
2. กระดาษหนังสื่อพมิ พ์
3. สกอ็ ตเทป
4. ลูกโป่ง

เทคนคิ /วธิ ีการ
1. นันทนาการ
2. เทคโนโลยี
3. ระดมความคิด
4. อภปิ ราย

ข้นั ตอนการดาเนนิ กิจกรรม
ขัน้ นา

1. ครกู ล่าวทักทายเด็ก
2. ครูใหเ้ ดก็ ตบมือเป็นจงั หวะ และร้องเพลง รถไฟไปเชียงใหม่
ข้นั สอน
3. ครแู บ่งกลมุ่ เด็กออกเป็น 3 กลมุ่ เทา่ ๆกนั
4. ครูแจกอปุ กรณ์ และกาหนดตวั ละครในกิจกรรม มดี ังน้ี

- อัศวิน 1 คน (เป็นผ้นู า)
- กล่มุ ชาวบา้ น
5. ครบู อกกติกาและวิธีการเล่น
ให้สมาชิกในกลุ่มเลอื กอัศวนิ 1 คน และสร้างชุดอัศวิน โดยใชอ้ ุปกรณ์ท่คี รูนามาให้
เดก็ ท้งั 3 กลมุ่ ย้ายจากทหี่ นึ่ง ไปอยู่อีกทหี่ นึ่ง ซงึ่ มรี ะยะห่างประมาณ 3-4 เมตร ภายในเวลาท่ี
กาหนด โดยห้ามเทา้ แตะพืน้ และมีอุปกรณช์ ่วยคือ แผน่ ฟวิ เจอร์บอร์ด
ไฮไลท์ คอื การเลือ่ นสลับฟวิ เจอร์บอรด์ ไปขา้ งหนา้ พร้อมกับเดนิ ไปบนฟวิ เจอรบ์ อร์ด ที่สลบั
ไปเรอ่ื ยๆ จนถงึ จุดที่หมาย เม่ือถึงจุดท่ีหมายแลว้ ให้อศั วินทาลายลูกโป่งให้แตก ทีมไหนทาแตกก่อน
ถือวา่ เป็นฝ่ายชนะ
ขั้นสรุป
1. ครุและเด็กรว่ มกันสรุปสง่ิ ทีไ่ ดจ้ ากกิจกรรม

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
1. สังเกต

แผนกิจกรรม
เรอื่ ง สานสายใย

กรอบแนวคิด
กจิ กรรมสานสายใย เปน็ กิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กตระหนักถงึ การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทย ส่งเสริมการ

ใชเ้ ทคโนโลยี

สาระสาคัญ
กิจกรรมน้ีทาให้เด็กรักและสืบสานภูมิปัญญาวัฒนธรรมไทย ใช้เทคโนโลยีเวลาว่างให้เกิดประโยชน์

สร้างสรรคผ์ ลงานฝมี ือ และเดก็ ยงั สามารถตอ่ ยอดผลงานแฮนดเ์ มดเปน็ งานเสริมรายได้

วตั ถุประสงค์ของกิจกรรม
1. เพ่ืออนรุ ักษ์ศลิ ปวัฒนธรรมไทย
2. ฝึกใช้เทคโนโลยใี ห้เปน็ ประโยชน์

ความสอดคล้องกับตัวบ่งชี้
1. การอนรุ ักษ์
2. พฒั นาตนเอง
3. รักและศรทั ธา
4. ความรับผิดชอบ
5. ชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู
6. ความสามัคคี
7. ระบอบประชาธิปไตย

เวลาทใ่ี ช้
2 ช่ัวโมง

จานวนผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรม
15-20 คน

สอ่ื /อุปกรณ์
1. ใบมะพรา้ ว/ใบเตย
2. กรรไกร
3. ปากกาสี

เทคนิค/วธิ กี าร
1. บรรณยาย
2. เทคโนโลยี

3. ระดมความคิด
4. อภปิ ราย

ขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม
ขนั้ นา

1. เรียกสติเด็ก โดยการปรบมือเป็นจงั หวะ
ข้ันสอน

2. ครแู ละเด็กแลกเปลี่ยนความรู้ เช่นตง้ั คาถาม การอนุรักษ์คอื อะไร ทาไมถึงต้องอนุรกั ษ์ ฯลฯ
ครูอธบิ ายความหมายการของการอนุรักษ์ การอนรุ กั ษเ์ ครื่องเลน่ เครื่องใช้ในสมัยโบราณ ยกวธิ ีการอนรุ กั ษ์ โดย
วิธกี ารสาน

3. ครใู หเ้ ด็กแบ่งกลุ่ม 3 กลมุ่ เท่าๆกัน
4. ครูแนะนาวัสดุอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการทากิจกรรม
5. ครใู หเ้ ด็กประดิษฐ์เครอ่ื งเล่นเคร่อื งใช้อยา่ งน้อย 1-2 ชนิ้ เดก็ สามารถหาข้อมลู วธิ ีการทาได้จาก
อนิ เตอร์เน็ต ครูกาหนดเวลาในการประดิษฐ์ 40 นาที
6. นาเสนอผลงานของแต่ละกลุ่ม
ขน้ั สรุป
1. ครแู ละเด็กรว่ มกนั สรปุ กิจกรรม

การวดั ผล/ประเมินผล
1. สงั เกต

แผนกิจกรรม
เร่ือง เชดิ ชพู ระคุณครู

กรอบแนวคดิ
กิจกรรมเชดิ ชูพระคุณครู เป็นกิจกรรมทส่ี ง่ เสริมให้เด็กมีความรัก ความเมตตา กรุณา มีความจรงิ ใจที่

จะช่วยเหลือผอู้ ื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน รูจ้ กั เปน็ ผ้ใู ห้มกกว่าผู้รับ รู้จกั แบง่ ปัน

สาระสาคญั
กิจกรรมน้ีทาให้เด็กรู้จักความรัก ความเมตตา การแบ่งปัง พฤติกรรมบุคลิกภาพของคนเป็นครู รู้จัก

วเิ คราะหข์ อ้ มูล

วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรม
1. ฝึกให้รู้จักการวเิ คราะห์
2. ฝกึ ให้รจู้ กั ความเมตตา

ความสอดคล้องกับตัวบง่ ชี้
1. พฒั นาตนเอง
2. บคุ ลกิ ภาพ
3. รกั และศรัทธา
4. ความรับผิดชอบ
5. เมตตา
6. ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู
7. ระบบประชาธปิ ไตย

เวลาทีใ่ ช้
2 ช่ัวโมง

จานวนผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม
15-20 คน

สอ่ื /อปุ กรณ์
1. วีดีโอครผู สู้ อนด้วยหวั ใจ
2. วดี ีโอโรงเรยี นปลายขา้ ว
3. วีดโี อเชิดชูพระคุณครู

เทคนคิ /วธิ ีการ
1. เทคโนโลยี
2. ระดมความคิด

3. อภปิ ราย

ขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม
ขัน้ นา

1. ใหเ้ ด็กน่ังสมาธิ โดยการหลบั ตา 3 นาที
ขนั้ สอน

2. สมุ่ ใหเ้ ด็กบอกความหมายความรกั ความเมตตาตามความคิดของตัวเอง โดยสมุ่ ออกมา 5 คน
ครูแบ่งกล่มุ 3 กลุ่มเทา่ ๆกนั

3. ครเู ปดิ VDO ใหเ้ ดก็ ดใู นหัวข้อเรอื่ งเชิดชูพระคุณครู ให้แตล่ ะกลุ่มวิเคราะห์ VDO พฤติกรรมท่ี
สอดคล้องกบั จรรยาบรรณวชิ าชีพ พร้อมส่งตวั แทนออกมาอภิปราย
ขน้ั สรปุ

1. ครแู ละเด็กร่วมกันสรปุ กิจกรรม

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
1. สงั เกต

แผนกจิ กรรม
เรอื่ ง คนตดั ไม้ผซู้ อ่ื สัตย์

กรอบแนวคดิ
กิจกรรมเล่านิทานคนตัดไม้ผู้ซื่อสตั ย์ เป็นกจิ กรรมทสี่ ่งเสริมใหเ้ ด็กตระหนักถงึ การไมพ่ ูดโกหก

สาระสาคัญ
เดก็ ได้รู้จักความซื่อสัตยส์ ุจริต หมายถึง ความนา่ ไวว้ างใจ จริงใจ ความภกั ดี ความเป็นธรรมและความ

บรสิ ทุ ธใ์ิ จต่อตนเอง พร้อมด้วยความประพฤติที่ควรละเวน้ เช่น การโกหก การคดโกง หรือการลักขโมย เปน็
ต้น

วตั ถุประสงคข์ องกจิ กรรม
1. เพ่ือให้เด็กรู้จักความซื่อสัตย์สุจริต ไมโ่ กหก ไม่ลักขโมย
2. ส่งเสริมทกั ษะการอ่าน การฟงั การวเิ คราะห์

ความสอดคล้องกับตัวบ่งช้ี
1. ซอ่ื สตั ย์สุจริต
2. พฒั นาตนเอง
3. ความรับผดิ ชอบ
4. ชว่ ยเหลือเก้ือกูล
5. ความสามัคคี
6. คดโกง

เวลาท่ีใช้
50 นาที

จานวนผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม
15-20 คน

สอ่ื /อปุ กรณ์
1. นทิ านคนตดั ไม้ผซู้ ่ือสตั ย์

เทคนิค/วิธีการ
1. เทคโนโลยี
2. ระดมความคิด
3. อภปิ ราย

ขน้ั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม
ข้นั นา

1. ครูกล่าวทกั ทายทาความรู้จกั เด็ก
2. ครูกลา่ วบทกลอน ความซ่ือสตั ย์ “ ผทู้ แ่ี ข็งแกรง่ คือ ผู้ท่ีย้มิ ให้กบั ความทุกข์ ผู้ที่มีความสขุ คือ ผทู้ ่ี
หัวเราะใหก้ บั อปุ สรรค ”
ขั้นสอน
3. ครเู ลา่ นิทานคนตัดไม้ผู้ซ่อื สัตยใ์ ห้เด็กฟัง
4. ครูใหเ้ ดก็ วเิ คราะห์พฤติกรรมทีเ่ ข้าเครือคา่ ย ความซ่ือสัตยส์ จุ รติ พรอ้ มเสนอความคิดเห็น
5. ครูจดบนั ทึกข้อเสนอความคิดเหน็ ของเดก็ พรอ้ มสรปุ
ขั้นสรปุ
1. ครแู ละเด็กรว่ มกนั สรปุ กิจกรรม

การวัดผล/ประเมนิ ผล
1. สังเกต
2. แบบประเมินกิจกรรม

แบบสอบถามการรับรู้จรรยาบรรณของวิชาชพี ทค่ี ุรสุ ภากาหนด

กลุ่มได้ทาการวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก องค์ประกอบย่อย กาหนดตัวบ่งชี้ และสร้างข้อคาถามเพื่อ
ตรวจประเมินความเท่ียงตรงเชิงเน้ือหาจากอาจารย์ประจารายวิชา จากน้ันได้มีการปรับแก้ข้อคาถามให้
สอดคล้องและเหมาะสม ประกอบด้วยข้อคาถามทางบวกทั้งหมด 35 ข้อ ลักษณะเป็นมาตราสว่ นประมาณค่า
แบบลเิ คิร์ท (Likert Scale) มี 5 ระดับ คือ มากท่ีสุด มาก ปานกลาง นอ้ ย และน้อยทีส่ ดุ

เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับคะแนน 5 คะแนน
จะให้คะแนนดงั น้ี ระดบั คะแนน 4 คะแนน
ระดบั คะแนน 3 คะแนน
มากท่ีสดุ ระดับคะแนน 2 คะแนน
มาก ระดับคะแนน 1 คะแนน
ปานกลาง
น้อย
นอ้ ยที่สุด

เกณฑ์การแปลความหมาย (พิสมัย หาญมงคลพิพัฒน์, 2547 อา้ งถงึ ใน สวุ ชริ า ศิริเจรญิ , 2550)
ดงั น้ี

พสิ ยั = (คะแนนรายข้อสูงสุด – คะแนนรายข้อตา่ สุด) / จานวนระดับ
= (5 – 1) / 5
= 0.80

จากเกณฑด์ ังกล่าวสามารถกาหนดระดับการเห็นคุณคา่ ในตนเอง ได้ดังน้ี
ค่าเฉลย่ี 1.00 – 1.80 หมายถงึ มีการรบั รู้จรรยาบรรณของวชิ าชพี ทค่ี ุรุสภากาหนดระดบั น้อยมาก
คา่ เฉลย่ี 1.81 – 2.60 หมายถงึ มีการรับรู้จรรยาบรรณของวชิ าชีพที่ครุ ุสภากาหนดระดับนอ้ ย
คา่ เฉล่ีย 2.61 – 3.40 หมายถึง มีการรบั รู้จรรยาบรรณของวชิ าชีพท่ีครุ สุ ภากาหนดระดบั ปาน
กลาง
ค่าเฉลยี่ 3.41 – 4.20 หมายถงึ มีการรับรู้จรรยาบรรณของวิชาชีพที่ครุ ุสภากาหนดระดบั มาก
ค่าเฉลีย่ 4.21 – 5.00 หมายถึง มีการรบั รู้จรรยาบรรณของวิชาชพี ที่คุรสุ ภากาหนดระดบั สูงมาก

แบบสอบถามจรรยาบรรณวิชาชีพที่ครสุ ภากาหนด

คาชแ้ี จง
1. แบบสอบถามจรรยาบรรณวิชาชีพทคี่ รุสภากาหนด ฉบับน้ี ประกอบด้วย 2 ตอน ได้แก่

ตอนที่ 1 เปน็ แบบสอบถามเกี่ยวกับลักษณะสว่ นบคุ คลของผ้ตู อบแบบสอบถาม
ตอนท่ี 2 เป็นแบบประเมนิ ตนเองด้านจรรยาบรรณวชิ าชพี ที่ครสุ ภากาหนด
2. ขอ้ มูลจากการตอบแบบสอบถามของท่าน จะถูกเกบ็ เป็นความลับ

ตอนท่ี 1 แบบสอบถามเกยี่ วกับลักษณะส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม

คาชี้แจง ขอให้ทา่ นตอบแบบสอบถามข้อมลู ส่วนตัว โดยเม่อื ทา่ นอ่านข้อความแล้วโปรดทาเคร่ืองหมาย  ลง
ใน  หรือเติมข้อความลงในชอ่ งวา่ งใหต้ รงกับความเปน็ จรงิ
1. เพศ

 ชาย  หญงิ
2. คณะ

 ครุศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารเกษตร  มนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
 การจัดการ
3. ชน้ั ปี
 ปีท1ี่  ปที 2ี่ ปีท3ี่  อื่นๆ (ระบุ)....................................
4. ศาสนา
 พุทธ  อิสลาม  คริสต์  อื่นๆ (ระบุ)....................................
5. ลาดบั การเกดิ
 ลูกคนเดียว  ลกู คนโต  ลกู คนกลาง  ลูกคนเล็ก
6. สถานภาพสมรสของพ่อแม่
 อยดู่ ้วยกัน  แยกกนั อยู่  อนื่ ๆ (ระบุ)................................................
7. ภูมิลาเนาเดิม............................................................................

ตอนท่ี 2 จรรยาบรรณวชิ าชีพที่ครสุ ภากาหนด
คาชีแ้ จง ขอให้ทา่ นอ่านข้อความทลี ะข้อ แลว้ ทาเคร่ืองหมาย  ลงใน  ให้ตรงกับความรู้สึกและ

ความเป็นจรงิ ของท่านมากที่สดุ

ข้อที่ ขอ้ ความ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย

ที่สดุ กลาง ท่สี ดุ

ดา้ นจรรยาบรรณตอ่ ตนเอง

1 ฉนั เขา้ เรียนตรงต่อเวลา

2 ฉนั เขา้ แถวตรงต่อเวลา

3 ฉันคดิ วา่ การพฒั นาตนเองอยู่เสมอ

เป็นส่งิ ทสี่ าคญั

4 ฉันพยายามศกึ ษาข้อมูลอยู่

ตลอดเวลา

5 ฉันทางานอย่างเป็นระบบ และสร้าง

ผลงานใหมๆ่

6 ฉันมีความกระตือรอื รน้ ในการทางาน

7 ฉันปฏิบัติตนไดเ้ หมาะสมกับ

กาลเทศะ

8 ฉนั ปรบั ปรงุ แก้ไขข้อผิดพลาดจาก

การทางาน

ดา้ นจรรยาบรรณต่อวชิ าชีพ

9 ฉันไมแ่ สดงถึงความไม่พอใจในงานท่ี
ทา

10 ฉนั ไมเ่ คยละเลยในการมีส่วนรว่ มใน
กิจกรรมต่างๆ ของกล่มุ และ
หน่วยงาน

11 ฉันจะพยายามทางานจนสาเร็จตาม
เปา้ หายที่ตง้ั ไว้

12 ฉนั ไมน่ าเรื่องไมด่ ีของหนว่ ยงานไปพดู
ในทางท่เี สยี หาย

13 ฉนั มคี วามจรงิ ใจตอ่ ผ้รู ว่ มประกอบ
วชิ าชพี

14 ฉนั รกั ษาชอ่ื เสยี งและปกป้องศักดแ์ิ หง่
วชิ าชีพ

15 ฉนั ไม่อาศยั องค์กรวิชาชีพเพ่ือ
แสวงหาผลประโยชน์

ข้อท่ี ข้อความ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย
ดา้ นจรรยาบรรณต่อผูร้ บั บริการ ที่สุด กลาง ท่สี ดุ

16 ฉนั เปิดโอกาสใหผ้ ู้อ่ืนได้แสดงความ
คิดเหน็

17 ฉันเอน็ ดเู ด็กเท่าเทียมกนั

18 ฉนั ชื่นชมในผลงานของเด็ก

19 ฉนั ใหค้ าช้ีแนะทด่ี แี กเ่ ด็กๆ

20 ฉนั ใหค้ วามช่วยเหลอื แก่เดก็ เสมอ
21 ฉันสนับสนุนผู้เรยี นตามความ

เหมาะสม
ด้านจรรยาบรรณตอ่ ผรู้ ่วมประกอบวิชาชีพ

22 ฉนั ให้ความร่วมมือแกเ่ พื่อนรว่ มงาน

23 ฉันจะรักใคร่ ปรองดองกนั ต่อ
ผรู้ ่วมงาน

24 ฉนั รบั ฟงั ความคดิ เห็นและ
ข้อเสนอแนะของผรู้ ว่ มงานเสมอ

25 ฉนั ช่วยเหลอื เพอ่ื นรว่ มงานและให้
ความรว่ มมอื ในการแสดงความ
คดิ เหน็

26 ฉันไม่คิดรา้ ยตอ่ ผรู้ ่วมงานและมอง
โลกในแง่ดี

27 ฉนั ไมเ่ ปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสารลบั ในการ
ปฏิบตั ิงานของผ้รู ว่ มงาน

28 ฉันให้ข้อมลู ทีเ่ ปน็ จรงิ เสมอ
29 ฉนั ปฏบิ ัติงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายอยา่ ง

ซือ่ ตรง

จรรยาบรรณตอ่ สังคม

30 ฉันปลูกฝังใหเ้ ด็กร้จู ักการทาความ
เคารพผู้อาวุโสกว่า

31 ฉันอนรุ กั ษก์ ารแต่งกายของวัฒนธรรม
ไทย

32 ฉันสง่ เสริมการใชภ้ าษาท้องถ่ิน
33 ฉันเปดิ โอกาสและรบั ฟังเสียงส่วนมาก

34 ฉันมีสว่ นร่วมในการไปใช้สิทธ์ิเลอื กตง้ั

ขอ้ ท่ี ข้อความ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย

ทีส่ ดุ กลาง ทส่ี ดุ

35 ฉันไมป่ ฏบิ ตั ติ นเปน็ ปฏปิ ักษต์ ่อ

วฒั นธรรมอันดีงามของชุมชนและ

สงั คม

ขอ้ เสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ขอขอบคุณในการตอบข้อคาถามด้วยความต้งั ใจคะ่

ส่วนท่ี 3

การวเิ คราะหผ์ ลการทดลองใช้ชดุ กิจกรรมพัฒนาจรรยาบรรณของวชิ าชีพท่ีคุรสุ ภากาหนด

การวิเคราะห์ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมพัฒนาจรรยาบรรณของวิชาชีพท่ีคุรุสภากาหนด จะขอ
นาเสนอใน 3 ตอน ดงั นี้

ตอนที่ 1 การวเิ คราะห์ผลการตอบแบบสอบถามการรบั รู้จรรยาบรรณของวิชาชีพทคี่ ุรสุ ภากาหนด
ตอนที่ 2 การวเิ คราะหผ์ ลความพึงพอใจ
ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ

ตอนท่ี 1 การวิเคราะหผ์ ลการตอบแบบสอบถามการรบั รู้จรรยาบรรณของวชิ าชีพทค่ี ุรสุ ภากาหนด

ตารางที่ 23 ค่าเฉล่ยี ของการรับรู้จรรยาบรรณของวิชาชพี ท่คี ุรสุ ภากาหนดจาแนกตามข้อคาถาม

ขอ้ ท่ี รายการ (ข้อคาถาม) ระดับ

ด้านจรรยาบรรณตอ่ ตนเอง 3.94 มาก
1 ฉันเขา้ เรียนตรงต่อเวลา 4.25 มากทส่ี ุด
2 ฉนั เข้าแถวตรงตอ่ เวลา 4.25 มากทส่ี ุด
3 ฉันคิดวา่ การพฒั นาตนเองอยู่เสมอเปน็ สง่ิ ท่ีสาคญั 3.56 มาก
4 ฉันพยายามศกึ ษาข้อมูลอยูต่ ลอดเวลา 3.63 มาก
5 ฉนั ทางานอยา่ งเปน็ ระบบ และสร้างผลงานใหม่ๆ 3.94 มาก
6 ฉันมคี วามกระตือรอื รน้ ในการทางาน 4.13 มาก
7 ฉันปฏิบัตติ นไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ 4.60 มาก
8 ฉนั ปรบั ปรุง แก้ไขข้อผิดพลาดจากการทางาน
3.94 มาก
ด้านจรรยาบรรณต่อวิชาชพี 4.25 มากที่สดุ
9 ฉนั ไม่แสดงถึงความไม่พอใจในงานท่ที า
10 ฉนั ไมเ่ คยละเลยในการมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่ม 4.31 มากท่ีสดุ
และหนว่ ยงาน 4.19 มาก
11 ฉันจะพยายามทางานจนสาเร็จตามเปา้ หายที่ต้ังไว้ 4.56 มากทีส่ ดุ
12 ฉนั ไม่นาเร่ืองไมด่ ีของหนว่ ยงานไปพูดในทางที่เสียหาย 4.56 มากทส่ี ดุ
13 ฉนั มีความจริงใจตอ่ ผู้รว่ มประกอบวิชาชพี 4.13 มาก
14 ฉันรักษาช่ือเสียงและปกปอ้ งศกั ด์ิแหง่ วชิ าชพี
15 ฉันไม่อาศยั องค์กรวิชาชีพเพ่ือแสวงหาผลประโยชน์ 4.00 มาก

ด้านจรรยาบรรณตอ่ ผูร้ บั บริการ
16 ฉันเปดิ โอกาสให้ผู้อนื่ ได้แสดงความคดิ เหน็

ข้อท่ี รายการ (ข้อคาถาม) ระดับ

17 ฉันเอ็นดเู ด็กเท่าเทียมกัน 4.62 มากทส่ี ุด

18 ฉันชน่ื ชมในผลงานของเดก็ 4.62 มากที่สดุ

19 ฉันใหค้ าช้ีแนะทด่ี ีแก่เดก็ ๆ 4.50 มากทส่ี ุด

20 ฉันใหค้ วามช่วยเหลือแกเ่ ด็กเสมอ 4.62 มากทส่ี ุด

21 ฉันสนับสนนุ ผเู้ รียนตามความเหมาะสม 4.56 มากที่สุด

ดา้ นจรรยาบรรณต่อผรู้ ว่ มประกอบวชิ าชีพ

22 ฉนั ให้ความร่วมมือแกเ่ พ่ือนรว่ มงาน 4.62 มากทส่ี ุด

23 ฉันจะรักใคร่ ปรองดองกันต่อผรู้ ่วมงาน 4.56 มากท่ีสุด

24 ฉนั รับฟงั ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผู้รว่ มงานเสมอ 4.62 มากทสี่ ดุ

25 ฉนั ช่วยเหลือเพอื่ นร่วมงานและให้ความร่วมมอื ในการแสดง 4.62 มากทีส่ ุด

ความคิดเห็น

26 ฉนั ไม่คิดร้ายต่อผู้รว่ มงานและมองโลกในแง่ดี 4.56 มากทีส่ ุด

27 ฉนั ไมเ่ ปดิ เผยขอ้ มูลขา่ วสารลับในการปฏบิ ตั งิ านของผู้รว่ มงาน 4.50 มากทส่ี ดุ

28 ฉนั ให้ข้อมลู ท่เี ป็นจริงเสมอ 4.56 มากที่สุด

29 ฉนั ปฏบิ ัตงิ านทีไ่ ดร้ บั มอบหมายอย่างซื่อตรง 4.56 มากทสี่ ดุ

จรรยาบรรณตอ่ สังคม

30 ฉนั ปลูกฝงั ให้เดก็ ร้จู ักการทาความเคารพผู้อาวโุ สกวา่ 4.56 มากที่สุด

31 ฉันอนรุ กั ษ์การแต่งกายของวฒั นธรรมไทย 4.13 มาก

32 ฉนั ส่งเสริมการใชภ้ าษาทอ้ งถิ่น 4.56 มากที่สดุ

33 ฉนั เปดิ โอกาสและรบั ฟังเสยี งส่วนมาก 4.62 มากที่สดุ

34 ฉันมสี ่วนรว่ มในการไปใชส้ ิทธเิ์ ลือกตั้ง 4.00 มาก

35 ฉนั ไมป่ ฏิบัติตนเป็นปฏปิ ักษ์ต่อวฒั นธรรมอันดงี ามของชุมชน 4.50 มากที่สุด

และสงั คม

จากตารางที 8 แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีการรับรู้เป็นคะแนนเฉลี่ยรายด้าน พบว่าด้าน
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพมากที่สดุ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 ด้านจรรยาบรรณต่อตนเอง มีคา่ เฉล่ีย
เทา่ กบั 4.49 และดา้ นจรรยาบรรณต่อสงั คม มีค่าเฉล่ยี เท่ากบั 4.40 ตามลาดับ

ตอนที่ 2 การวิเคราะห์ความพึงพอใจ

ตารางท่ี 24 ร้อยละของคะแนนความพงึ พอใจในการเข้าร่วมกจิ กรรม ร้อยละ
53.30
ขอ้ ที่ รายการ (ข้อคาถาม) 50.00
1 รปู แบบกจิ กรรมมีความน่าสนใจ 50.00
2 ความสามารถในการดาเนินกิจกรรม มคี วามลนื่ ไหล / ไม่ติดขัด 62.50
3 ความสามารถในการถา่ ยทอดความรูแ้ ละสรุป
4 การประยุกต์และการนาไปใช้

จากตารางที่ 9 แสดงใหเ้ หน็ ว่า ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมท่ตี อบแบบประเมินจานวน 16 คน พบวา่ มคี วาม
พงึ พอใจทุกข้ออยู่ในระดับมาก โดยในเร่ืองการประยุกต์และนาไปใชม้ ากทส่ี ุดคดิ เป็นร้อยละ 62.50

ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ

จากการจัดกิจกรรมในฐานจรรยาบรรณของวิชาชพี ที่คุรสุ ภากาหนด พบวา่ มผี ู้ให้ข้อเสนอแนะใน

ประเด็น ดังต่อไปน้ี

1. กิจกรรมมสี าระการเรยี นรู้ทช่ี ดั เจน
2. สถานทีม่ ีความสะดวก อากาศไม่รอ้ น และเก็บเสยี งเป็นสว่ นตวั แต่พนื้ ที่ทากิจกรรมแคบนดิ หนอ่ ย
3. กจิ กรรมมคี วามสนุกเพ่อื นๆ ได้ทากจิ กรรมกันทุกคน
4. อยากให้มีการจัดกจิ กรรมในลักษณะน้ีในภาคเรยี นต่อไป
5. ตอนจดั กิจกรรมอยากให้ทาเเค่ช่วงเช้า เพราะชว่ งบา่ ยงว่ งนอน
6. กจิ กรรมดี ควรจัดต่อไป
7. กจิ กรรมน้ีทาให้ทุกคนได้พัฒนาตนเอง

สว่ นท่ี 4

การสรปุ และอภปิ รายผล

การสรุปสาระสาคญั ดา้ นองค์ความรู้จากการเขา้ รว่ มกิจกรรม
จากการจัดกจิ กรรมในวันท่ี 1 มนี าคม พ.ศ. 2563 ผู้เขา้ ร่วมได้องค์ความรู้ในคร้ังนัน้ ประเดน็ ต่อไปนี้
1. ความหมายจรรยาบรรณของวิชาชีพทคี่ ุรสุ ภากาหนด
2. ความหมายองค์ประกอบจรรยาบรรณของวิชาชีพท่ีคุรสุ ภากาหนด

การวิเคราะหก์ ารดาเนินกิจกรรม
จากการจัดกจิ กรรมในฐานจรรยาบรรณของวชิ าชพี ทค่ี ุรสุ ภากาหนด สามารถสรปุ และอภิปรายการ

ดาเนนิ กจิ กรรม โดยแบ่งการวิเคราะห์ออกเปน็ 4 ประเด็นสาคัญ ไดแ้ ก่ จดุ เดน่ จุดด้อย ปัญหาในการดาเนิน
กจิ กรรม และอปุ สรรค ดังนี้

จุดเด่นของกลุ่ม
1. ห้องมสี ีสนั ที่นา่ ดึงดดู
2. มีการเลน่ มุขตลกของคณุ ครู

จุดดอ้ ยของกลุม่
1. การพูดของครูไมค่ ่อยคล่อง
2. สมาชกิ ภายในกลุ่มเปน็ คนพดู น้อย

ปัญหาในการดาเนินกจิ กรรม
1. เดก็ ไมค่ ่อยตอบในส่งิ ท่ีครูถาม
2. เดก็ มีอาการงว่ งและเหนื่อยล้า

อุปสรรคทพ่ี บเจอ
1. เด็กมาน้อยยากตอ่ การแบ่งกลุม่
2. พน้ื ท่ีไม่เพยี งพอในการจดั กจิ กรรม

Part 5
Project การบรู ณาการทักษะสู่การปฏิบตั ิ

สว่ นท่ี 1

ทักษะสกู่ ารปฏิบตั คิ ุณธรรมจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ

หลักธรรมาภิบาล
หมายถึง การบริหารจัดการทรัพยากรทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อจัดระเบียบให้อยู่ร่วมกันภายใต้

กฎหมายข้อบังคับให้เกิดผลสาเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและมีความชอบธรรมทั้งฝ่ายผบู้ ริหารและประชาชนเข้า
มาใช้บริการ

องคป์ ระกอบของหลักธรรมาภิบาล
1. หลักความโปร่งใส คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ และร่วมคิดร่วมเสนอความ

คิดเห็นในการตัดสินใจแก้ปัญหาสาคัญของประเทศในด้านต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถรับรู้การทางานของ
หนว่ ยงานได้

2. หลักนิติธรรม คือ การเคารพกฎระเบียบข้อบังคับและกฎหมายต่างๆ ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและมี
ความไว้วา่ งใจซง่ึ กนั และกนั ไมล่ ะเมดิ สิทธสิ ่วนบคุ คล

3. หลักคุณธรรม คือ ผู้บริหารควรสร้างทัศนคติด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้เกิดขึ้นแก้บุคลากรเจ้า
หน้าทีของรัฐให้ยึดม่ันในความถูกต้องดีงามยึดถือหลักนี้ในการปฏิบัติหน้าท่ีให้เป็นตัววอย่างแก้สังคมและ
ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหป้ ระชาชนพฒั นาตนเอง

4. หลักความคุ้มค่า คือ การถือเอาประโยชน์สูงสุดแห่งองค์กรเป็นทีต้ังในการบริหารจัดการและใช้
ทรพั ยากรทีม่ ีอยอู่ ยา่ งจากัดใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุดแกส่ ่วนรวม เพอ่ื ขับเคลือ่ นองค์กรไปสคู่ วามสาเรจ็

5. หลักการมีส่วนร่วม คือ การเปิดโอกาสให้บุคคลได้มีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็นในการตัดสินใจ
แกป้ ัญหาสาคญั ๆ

6. หลักความรับผิดชอบ คือ ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้เป็นการสร้างกลไกให้มีผู้รับผิดชอบ
ตระหนักในหน้าท่ี ความสานึกในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจ ปัญหาสาธารณะของบ้านเมืองและ
กระตอื รือร้นในการแก้ปญั หา

ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ
หมายถึง ความประพฤติปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเหมาะสมมีความจริงใจ ไม่คิดทรยศ ไม่คดโกงและ

ปฏิบัติอยา่ งตรงไปตรงมา ท้ังกาย วาจาและใจ

องค์ประกอบของความซ่ือสัตย์สจุ ริต
1. ความซื่อสตั ยต์ ่อตนเอง มคี วามรสู้ กึ ผดิ ชอบช่วั ดี มคี วามละอายและเกรงกลัวตอ่ การกระทาผิด
2. ความซอ่ื สัตยต์ อ่ หนา้ ท่ี ไมท่ อดทิ้งหน้าที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย และไมท่ จุ ริตต่อหน้าที่
3. ความซอื่ สตั ยต์ ่อผู้อน่ื มีความซ่อื สตั ยต์ อ่ บุคคลอน่ื ต่อมติ ร ตอ่ หวั หนา้ งาน ต่อผู้มีพระคณุ
4. ความซ่ือสตั ย์ต่อประเทศชาติ การปฏบิ ัติตนเป็นพลเมอื งดี ไมท่ าผดิ กฎหมาย

คณุ ธรรมจรยิ ธรรม
หมายถึงหลกั แห่งความประพฤติดีเป็นพฤติกรรม การแสดงอนั เนื่องมาจากคุณงามความดีท่ีปลูกฝังข้ึน

ในจิตใจ จนเกิดจิตสานึกท่ีดีทางกายวาจา ใจส่งผลให้เกิดการกระทาท่ีเป็นประโยชน์และความดีที่แท้จริงต่อ
สังคม

องคป์ ระกอบของคุณธรรมจริยธรรมวชิ าชีพครู
1. การรักษาระเบียบวินัย หมายถึง การควบคุมการประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง และเหมาะสมกับ

จรรยามารยาท ข้อบังคับ กฎหมาย และศีลธรรม ช่วยให้สังคมเป็น ระเบียบเรียบร้อย และเกิดความสุขความ
เจริญในประเทศชาติ

2. ความรับผิดชอบ หมายถึง นักเรียนต้องแสดงออกดว้ ยการเอาใจใสใ่ นการปฏิบัตหิ นา้ ทีก่ ารงานของ
ตนเอง มีความตั้งใจในการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ท้ังนี้ นักเรียนต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเอง
สงั คมครอบครัว สถาบันการศกึ ษา และเพ่อื น

3. ความอุดสาหะ หมายถึง ความพยายามอยา่ งเข้มแข็งเพื่อใหเ้ กิดความสาเร็จ ในการงาน
4. ความซื่อสัตย์ หมายถึง การประพฤติปฏิบัติอย่างเหมาะสม และตรงต่อความ เป็นจริง ประพฤติ
อย่างตรงไปตรงมาทง้ั กาย วาจา ใจ ตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น
5. ความเมตตากรุณา หมายถึง ความรักใคร่ปรารถนาจะให้ผู้อื่นเป็นสุข ความ สงสารคือ จะช่วยให้
ผู้อ่ืนพนั ทกุ ข์

จรรยาบรรณต่อวชิ าชีพครู
หมายถึง ประมวลความประพฤติ ข้อบังคับ มารยาท ท่ีผู้ประกอบวิชาชีพแต่ละอย่างกาหนดข้ึนเพื่อ

รักษาและสง่ เสริมเกยี รตคิ ณุ ชอ่ื เสยี ง ฐานะของสมาชิก
ความดีงามรวมท้ังก่อให้เกดิ ความสงบสุขและความเจริญในตัวคน วชิ าชพี และสังคม

องค์ประกอบจรรยาของบรรณตอ่ วชิ าชีพครู
1.จรรยาบรรณต่อตนเอง ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองดา้ นวิชาชีพ บคุ ลกิ ภาพ และวิสยั ทศั น์ ให้

ทันตอ่ การพัฒนาทางวิชาการ เศรษฐกิจสังคมและการเมือง
2.จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสตั ย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพและเป็นสมาชิกทีด่ ีของ

องค์กรวิชาชีพ
3.จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ มีความเมตตา เอาใจใส่ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีมีความจริงใจ

และเสมอภาค
4.จรรยาบรรณต่อผู้รว่ มประกอบวิชาชีพ ช่วยเหลือเก้ือกูลซ่ึงกันและกันอย่างสร้างสรรค์โดยยึดม่ันใน

ระบบคณุ ธรรม
5.จรรยาบรรณต่อสังคม ประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นาในการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม

ศาสนา ศิลปวฒั นธรรม ภมู ิปัญญา สง่ิ แวดล้อม รกั ษาผลประโยชนข์ องส่วนรวม

ตารางท่ี 25 องคป์ ระกอบ องค์ประกอบย่อย ตัวบง่ ช้ีทักษะสู่การปฏบิ ตั ิคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณ

องคป์ ระกอบหลัก องคป์ ระกอบย่อย ตัวบ่งชีพ้ ฤตกิ รรม (ลักษณะพฤติกรรม)

1.หลกั ธรรมาภิบาล 1.หลักความโปรง่ ใส 1.1 มีความยุติธรรม

1.2 มีความสจุ รติ ในการทางาน

2.หลกั นิติธรรม 2.1 เข้าแถวรอลฟิ ต์

2.2 จอดรถเป็นระเบียบเรียบร้อย

3.หลักคุณธรรม 3.1 มีความกตัญญตู ่อผู้มีพระคุณ

3.2 เคารพครูบาอาจารย์

3.3 รจู้ ักการชว่ ยเหลือผอู้ ื่นด้วยความบรสิ ุทธใ์ิ จ

3.4 มีความขยันหมั่นเพียร

4.หลักความคมุ้ ค่า 4.1 มคี วามประหยดั อดออม

5.หลักการมีสว่ นร่วม 5.1 มสี ว่ นร่วมในการทากจิ กรรมในหอ้ งเรียน

5.2 ร่วมทางานกบั เพ่ือนด้วยความจรงิ ใจเต็มที่

2.ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 1.ความซื่อสตั ยต์ ่อตนเอง 1.1 มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ขี องตนเอง

1.2 ไม่พดู เท็จ

2.ความซ่ือสตั ย์ต่อหน้าท่ี 2.1 มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ไี ด้รบั มอบหมาย

2.2 เคารพกฎระเบียบ

3.ความซ่ือสัตยต์ ่อผ้อู ื่น 3.1 ไม่เบียดเบียนผอู้ น่ื

3.2 ไมเ่ อารัดเอาเปรยี บต่อผทู้ ีด่ อ้ ยกว่า

4.ความซื่อสตั ย์ต่อประเทศชาติ 3.1 เคารพกฎหมาย

4.2 ไม่คอรัปช่ัน

3.คณุ ธรรม 1. การรกั ษาระเบียบวนิ ัย 1.1 ตรงตอ่ เวลา

จรยิ ธรรม 1.2 ปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บ

1.3 เคารพกฎหมาย

2. ความรบั ผิดชอบ 2.1 มีความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีไดร้ บั มอบหมาย

3. ความอุดสาหะ 3.1 มคี วามพยายาม

3.2 อดทน

4. ความซอ่ื สัตย์ 10.1 ซื่อสตั ยต์ ่อตนเองและผู้อื่น

5. ความเมตตากรณุ า 11.1 มนี า้ ใจตอ่ ผ้อู ืน่ โดยไม่หวังผลตอบแทน

11.2 เออ้ื อาทรต่อผอู้ ื่นด้วยความเตม็ ใจ

11.3 แสดงวาจาต่อผู้อน่ื อยา่ งนมุ่ นวล

4.จรรยาบรรณตอ่ 1.จรรยาบรรณต่อตนเอง 1.1 มีวนิ ัยตอ่ ตนเอง

วชิ าชพี ครู 1.2 แต่งการสภุ าพและถูกต้องตามกฎระเบยี บ

1.3 มคี วามรับผิดชอบต่อหน้าท่ี

1.4 ใฝ่หาความรูส้ มา่ เสมอ

2.จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชีพ 2.1 มคี วามศรทั ธา ซอ่ื สตั ยส์ ุจริตในวชิ าชีพไมร่ ับ

สินบน

2.2 มีความรับผิดชอบต่องานท่ไี ด้รับมอบหมาย

องคป์ ระกอบหลัก องคป์ ระกอบยอ่ ย ตัวบ่งชีพ้ ฤติกรรม (ลักษณะพฤติกรรม)

3.จรรยาบรรณต่อผูร้ ับบรกิ าร 2.3 อบรมสัง่ สอนศษิ ย์ให้เป็นคนดแี ละคนเก่ง

4.จรรยาบรรณตอ่ ผู้รว่ ม 3.1 มคี วามเมตตา
ประกอบวชิ าชพี
4.1 ไม่เบยี ดเบยี นผู้อนื่
5.Project บูรณา 5.จรรยาบรรณตอ่ สังคม 4.2 ชว่ ยเหลอื เก้อื กลู ซ่ึงกันและกนั
การทกั ษะสู่การ 1.หลักธรรมาภิบาล 4.3 รับฟงั ความคิดเห็นและเคารพการตัดสินใจ
ปฏิบัติ ซึง่ กันและกัน

2.ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต 5.1 ชว่ ยเหลือสงั คม
3.คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 5.2 รกั ษาผลประโยชน์ของส่วนรวม

4.จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชีพครู 1.1 เคารพการตัดสนิ ใจซึ่งกันและกนั รบั ฟงั
ความคิดเห็นของผู้อน่ื
1.2 มีความยตุ ิธรรมและมคี วามสุจรติ ในการ
ทางาน
1.3 มีส่วนรว่ มในการปฏบิ ัติงาน รจู้ กั ชว่ ยเหลือ
สังคม
1.4 เคารพกฎระเบยี บขอ้ บังคับและกฎหมาย
ต่างๆ

2.1 มคี วามรับผิดชอบต่อหน้าทีข่ องตนเองและ
หน้าทท่ี ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
2.2 ไม่เบยี ดเบียนและไม่เอารัดเอาเปรยี บต่อ
ผอู้ น่ื
2.3 ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมอื งดี ไมท่ าผิดกฎหมาย

3.1 ถือประโยชนส์ ว่ นตนเป็นท่ีสอง ประโยชน์
ของเพอ่ื นมนษุ ยเ์ ป็นกิจที่หน่ึง
3.2 มีความเมตตากรุณาต่อผูอ้ นื่ ด้วยความเต็ม
ใจและบรสิ ุทธ์ใิ จ
3.3 มคี วามเท่าเทยี มและไม่เอารดั เอาเปรยี บ
ผู้อืน่

4.1 มคี วามเมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือศิษย์และ
เพ่อื นรว่ มงาน
4.2 มคี วามเป็นธรรมตอ่ ศิษย์อย่างบรสิ ุทธ์ใิ จ
4.3 เปน็ แบบอยา่ งทีด่ ีต่อวชิ าชีพและสงั คม
4.4 อนุรักษภ์ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินของตน
4.5 จงรกั ภักดตี อ่ ชาติ ศาสนา และ
พระมหากษัตริย์
4.6 แต่งกายสุภาพและถกู ต้องตามกฎระเบียบ
4.7 อบรมสัง่ สอนศษิ ย์ใหเ้ ป็นคนดีและคนเกง่

สว่ นที่ 2

เคร่ืองมอื พฒั นาคณุ ธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณ

จากการศึกษาเอกสารเก่ียวกับ Project บูรณาการทักษะสู่การปฏิบัติและทาการวิเคราะห์สังเคราะห์
จนได้องค์ประกอบหลักของ Project บูรณาการทักษะสู่การปฏิบัติ จาแนกเป็น 4 องค์ประกอบ 15 ตัวบ่งช้ี
ซ่ึงผู้จัดทาได้ทาการออกแบบชุดกิจกรรมที่ส่งเสริมและพฒั นาคณุ ลักษณะพฤติกรรมให้สอดคล้องกับตัวบ่งช้ีท้ัง
15 ตวั ประกอบด้วย 8 กิจกรรมสาคัญ ดังตารางทแ่ี ละทกุ กิจกรรมสอดคล้องกับทกุ ตัวบ่งชี้ ดังตารางท่ี 3

ตารางท่ี 26 แสดงองค์ประกอบหลกั องคป์ ระกอบยอ่ ย ตัวบ่งชีพ้ ฤตกิ รรม และกจิ กรรม

องค์ประกอบ องคป์ ระกอบยอ่ ย ตวั บ่งชพี้ ฤติกรรม กิจกรรม จานวน
ชั่วโมง
หลกั
8 ชั่วโมง
Project บูรณา 1. หลักธรรมาภบิ าล 1.1 เคารพการตัดสนิ ใจซ่ึง 1.Project บูรณา

การทกั ษะสกู่ าร กนั และกัน รับฟังความ การทักษะสู่การ

ปฏิบตั ิ คดิ เหน็ ของผู้อ่นื ปฏิบัติ

1.2 มีความยตุ ธิ รรมและมี 2.กิจกรรมการ

ความสจุ รติ ในการทางาน แสดงนิทาน

1.3 มสี ่วนรว่ มในการ 3.เหมือนแค่ไหน

ปฏบิ ัตงิ าน รจู้ กั ช่วยเหลือ ถามใจเธอดู

สงั คม 4.โจรปล้นบา้ น

1.4 เคารพกฎระเบียบ 5.แมงมมุ หรรษา

ข้อบงั คบั และกฎหมายต่างๆ 6.ลูกโป่ง

2. ความซื่อสตั ย์ 2.1 มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อ 7.ตักนา้ ใส่ขวด

สุจรติ หน้าที่ของตนเองและหน้าท่ี 8.Kahoot

ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

2.2 ไม่เบยี ดเบยี นและไม่

เอารดั เอาเปรยี บต่อผู้อื่น

2.3 ปฏิบัติตนเป็นพลเมือง

ดี ไม่ทาผิดกฎหมาย

3. คุณธรรม 3.1 ถอื ประโยชน์สว่ นตน

จรยิ ธรรม เป็นที่สอง ประโยชนข์ อง

เพอื่ นมนษุ ย์เป็นกจิ ทีห่ น่งึ

3.2 มีความเมตตากรุณาต่อ

ผอู้ ื่นดว้ ยความเต็มใจและ

บริสุทธใิ์ จ

3.3 มคี วามเท่าเทยี มและไม่

เอารัดเอาเปรียบผ้อู ่ืน

องค์ประกอบ องคป์ ระกอบย่อย ตวั บ่งช้พี ฤตกิ รรม กจิ กรรม จานวน
หลกั ชว่ั โมง
4. จรรยาบรรณตอ่ 4.1 มคี วามเมตตา เอาใจใส่
วิชาชพี ครู ชว่ ยเหลอื ศษิ ย์และเพ่ือน
รว่ มงาน
4.2 มีความเปน็ ธรรมตอ่
ศษิ ยอ์ ย่างบริสุทธิใ์ จ
4.3 เปน็ แบบอย่างท่ีดีต่อ
วิชาชีพและสังคม
4.4 อนุรกั ษ์ภูมปิ ญั ญา
ท้องถิน่ ของตน
4.5 จงรกั ภักดตี ่อชาติ
ศาสนา และ
พระมหากษัตริย์
4.6 แต่งกายสุภาพและ
ถกู ต้องตามกฎระเบยี บ
4.7 อบรมส่งั สอนศิษย์ให้
เป็นคนดแี ละคนเก่ง

ตารางท่ี 27 แสดงความเช่ือมโยงระหวา่ งกจิ กรรมกบั ตวั บ่งชพ้ี ฤตกิ รรม
ตวั บง่ ช้ีพฤติกรรม
ูบรณาการ ัทกษะสู่การปฏิบัติ
ิกจกรรมการแสดงนิทาน
เหมือนแค่ไหน ถามใจเธอ ูด
โจรปล้น ้บาน
แมงมุมหรรษา
ลูกโป่ง
ตักน้าใส่ขวด
kahoot

1. เคารพการตัดสินใจซ่ึงกนั และกัน      

รบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน

2. มคี วามยุตธิ รรมและมีความสุจรติ ใน      

การทางาน

3. มีสว่ นร่วมในการปฏิบตั งิ าน รู้จัก       

ชว่ ยเหลือสงั คม

4. เคารพกฎระเบยี บขอ้ บังคับและ   

กฎหมายตา่ งๆ

5. มีความรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีของ        

ตนเองและหนา้ ทีท่ ่ีไดร้ ับมอบหมาย

ตวั บ่งชี้พฤติกรรม บูรณาการ ัทกษะสู่การปฏิบัติ
ิกจกรรมการแสดง ินทาน
เหมือนแค่ไหน ถามใจเธอดู
โจรปล้นบ้าน
แมงมุมหรรษา
ลูกโป่ง
ตัก ้นาใส่ขวด
kahoot

6. ไม่เบียดเบียนและไมเ่ อารัดเอา       

เปรยี บตอ่ ผู้อื่น

7. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมืองดี ไม่ทาผิด  

กฎหมาย

8. ถือประโยชนส์ ่วนตนเปน็ ทสี่ อง      

ประโยชนข์ องเพื่อนมนษุ ย์เป็นกิจที่

หน่งึ

9. มคี วามเมตตากรุณาต่อผอู้ ื่นด้วย  

ความเตม็ ใจและบริสทุ ธิ์ใจ

10. มีความเมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ   

ศิษยแ์ ละเพ่ือนรว่ มงาน

11. มคี วามเปน็ ธรรมต่อศิษย์อยา่ ง 

บรสิ ทุ ธิใ์ จ

12. เป็นแบบอย่างทีด่ ตี ่อวชิ าชพี และ  

สังคม

13. จงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศาสนา และ 

พระมหากษัตริย์

14. แต่งกายสุภาพและถกู ต้องตาม 

กฎระเบยี บ

15. อบรมส่ังสอนศษิ ย์ใหเ้ ปน็ คนดีและ  

คนเก่ง

แผนกิจกรรม
เรือ่ ง Project บูรณาการทักษะสกู่ ารปฏิบตั ิ

กรอบแนวคิด
กจิ กรรม Project บรู ณาการทกั ษะสกู่ ารปฏิบัติเปน็ กิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ ใหผ้ ู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมมคี วามรู้

ความเขา้ ใจ และสามารถนาความร้ทู ี่ได้ไปประยุกตใ์ ช้ในการดาเนินชีวิตได้

สาระสาคญั
กิจกรรม Project บรู ณาการทักษะสู่การปฏิบตั เิ ปน็ กจิ กรรมทีส่ ่งเสริมให้ผเู้ ขา้ ร่วมได้พฒั นาตนเอง และ

มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั Project บรู ณาการทักษะสู่การปฏบิ ตั ิ ซง่ึ ประกอบด้วยเนื้อหาจานวน 4 หวั ขอ้
ไดแ้ ก่ หลักธรรมาภิบาล ความซอื่ สตั ย์สจุ รติ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณตอ่ วิชาชพี ครู และสามารถนาไป
ประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาได้อย่างถกู ต้อง

วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรม
1. เพื่อส่งเสริมให้ผเู้ ข้ารว่ มรูจ้ ักการทางานรว่ มกับผู้อื่นได้
2. เพอ่ื ส่งเสริมใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มได้ฝึกความกล้าแสดงออก
3. เพื่อสง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มนาความรู้ไปต่อยอดได้

ความสอดคล้องกับตวั บง่ ช้ี
1. เคารพการตดั สนิ ใจซึ่งกนั และกัน รบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ นื่
2. มคี วามยตุ ธิ รรมและมีความสจุ รติ ในการทางาน
3. มีส่วนรว่ มในการปฏิบัติงาน รจู้ กั ชว่ ยเหลอื สังคม
4. เคารพกฎระเบยี บข้อบังคับและกฎหมายต่างๆ
5. มคี วามรบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ของตนเองและหนา้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย
6. ไมเ่ บียดเบียนและไม่เอารดั เอาเปรยี บต่อผู้อื่น
7. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมืองดี ไมท่ าผดิ กฎหมาย
8. ถือประโยชนส์ ่วนตนเป็นท่ีสอง ประโยชนข์ องเพื่อนมนุษยเ์ ป็นกิจที่หนึ่ง
9. มีความเมตตากรุณาต่อผอู้ ื่นดว้ ยความเต็มใจและบรสิ ทุ ธ์ิใจ
10. มีความเมตตา เอาใจใส่ ชว่ ยเหลือศิษย์และเพ่ือนร่วมงาน
11. มีความเป็นธรรมตอ่ ศิษย์อย่างบริสุทธใิ์ จ
12. เป็นแบบอย่างที่ดตี ่อวชิ าชพี และสังคม
13. จงรกั ภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
14. แต่งกายสภุ าพและถกู ต้องตามกฎระเบยี บ
15. อบรมสงั่ สอนศิษย์ให้เป็นคนดีและคนเก่ง

เวลาที่ใช้ 1 ชัว่ โมง 30 นาที

จานวนผ้เู ขา้ ร่วมกิจกรรม 15-20 คน

ส่อื /อปุ กรณ์
1. กระดาษ
2. ปากกาเคมี

เทคนิค/วธิ ีการ
1. เชิงอภิปราย
2. ความรู้

ข้ันตอนการดาเนินกจิ กรรม
1. เรยี กสตโิ ดยการร้องเพลง กจิ กรรม
2. อธบิ ายเน้อื หาเกย่ี วกับ Project บรู ณาการทกั ษะสู่การปฏิบัติ
3. แบ่งกลมุ่ ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีเนอื้ หา หลักธรรมาภิบาล ความซอื่ สัตยส์ ุจรติ คุณธรรม
จรยิ ธรรมของวิชาชพี ครู จรรยาบรรณของวิชาชีพท่ีคุรุสภากาหนด
4. ให้แตล่ ะกลุ่มไปสืบค้นขอ้ มลู เพิ่มเตมิ พร้อมออกมานาเสนอหน้าชั้น
5. ร่วมกนั สรุปกิจกรรม
6. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ นาเนอ้ื หาไปต่อยอดในกจิ กรรมถัดไป

การวัดผล/ประเมนิ ผล
1. การสงั เกต
2. ซกั ถาม/การสมั ภาษณ์

แผนกจิ กรรม
เร่ือง กจิ กรรมการแสดงนิทาน

กรอบแนวคิด
กิจกรรมการแสดงนทิ าน เปน็ กจิ กรรมท่ีสง่ เสริมให้ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมไดต้ ระหนักถงึ ความสามัคคี

ความรับผิดชอบ และเคารพความคดิ เห็นของผู้อน่ื

สาระสาคัญ
กิจกรรมการแสดงนทิ าน เปน็ กิจกรรมท่ีส่งเสริมทักษะด้านการพดู และการส่ือสาร การวางแผนและ

การดาเนนิ งาน นอกจากน้ียงั ส่งเสรมิ ทกั ษะด้านไหวพริบและจินตนาการ

วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรม
1. ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เขา้ ร่วมกิจกรรมทางานกับผอู้ นื่ ได้
2. ส่งเสรมิ ให้ผ้เู ข้ารว่ มมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
3. ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมเกิดความสามคั คแี ละเคารพการตดั สินใจของผู้อืน่
4. สง่ เสริมให้ผู้เข้ารว่ มเกดิ ความกลา้ แสดงออก

ความสอดคล้องกับตัวบง่ ชี้
1. มีสว่ นร่วมในการปฏิบัตงิ านและชว่ ยเหลอื สงั คม
2. มีความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ทีข่ องตนเองและหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
3. ไมเ่ บยี ดเบียนและไมเ่ อารัดเอาเปรยี บผอู้ ืน่
4. ถอื ประโยชนส์ ่วนตนเป็นที่สองประโยชน์ของเพื่อนมนุษยเ์ ปน็ กิจที่หนงึ่

เวลาทใี่ ช้ 1 ช่ัวโมง 40 นาที

จานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 15-20 คน

ส่ือ/อปุ กรณ์ -

เทคนิค/วธิ กี าร
1. เชงิ อภิปราย
2. แสดงบทบาทสมมุติ

ขั้นตอนการดาเนนิ กจิ กรรม
1. แบ่งกลมุ่ ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมใหเ้ ป็น 2 กลุ่มเท่าๆกนั
1.1 โดยการนบั เลข 1-2
1.2 ใหน้ ง่ั ตามกลุม่ ตามเลขท่ีตนเองนบั
2. บอกกตกิ าและหวั ข้อให้ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม

2.1 บอกเวลาทีใ่ ช้ในการแสดง กลมุ่ ละ30 นาที
2.2 ทุกคนในกล่มุ จะต้องมีบทบาทในการแสดง
2.3 บอกหัวขอ้ ทใี่ ช้ในการแสดงดังน้ี

2.3.1 ธรรมาภบิ าล
2.3.2 ความซอ่ื สัตยส์ ุจริต
2.3.3 คุณธรรม จริยธรรม
2.3.4 จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชีพครู
3. ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมจบั ฉลากหวั ข้อ
3.1ส่งตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ มาจับฉลาก โดยกลุ่มหนึ่งจะได้ 2 หวั ขอ้
4. ให้ผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมไปคดิ และฝกึ ซ้อมภายในเวลา 30 นาที
5. จบั ฉลากลาดับการแสดงนิทาน
6. รว่ มกนั สรุปกิจกรรมในครั้งนี้

การวัดผล/ประเมินผล
1. การสงั เกต
2. ซักถาม/การสัมภาษณ์

แผนกิจกรรม
เรือ่ ง เหมอื นแคไ่ หน ถามใจเธอดู

กรอบแนวคิด

เกมเหมือนแค่ไหน ถามใจเธอดูเปน็ กจิ กรรมเกมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมได้ตระหนกั ถึงความ

ซื่อสัตย์ มีคุณธรรมจรยิ ธรรมตอ่ ตนเองและผู้อืน่ นอกจากนี้ยงั ฝกึ การสือ่ สารและสง่ สารได้อยา่ งถูกต้อง

สาระสาคัญ
กจิ กรรมนี้เปน็ กจิ กรรมทีส่ ง่ เสรมิ ใหผ้ ้เู ขา้ รว่ มเกดิ ทักษะกระบวนการในการสื่อสาร และฝกึ ใหผ้ เู้ ข้ารว่ ม

ไดเ้ หน็ ถึงความสาคัญของความสอื่ สัตย์ อีกทง้ั ยงั ส่งเสริมให้ผเู้ ข้าร่วมมคี วามสัมพนั ธ์ทดี่ ตี ่อกันกบั ผ้อู ื่น

วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรม
1. เพ่ือส่งเสรมิ ให้ผเู้ ขา้ รว่ มพัฒนาทกั ษะในการทางานรว่ มกับผอู้ น่ื ได้
2. เพ่ือสง่ เสริมให้ผ้เู ขา้ ร่วมได้ฝึกทักษะการฟัง ความวอ่ งไว และปฏิภาณไหวพรบิ
3. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มเกิดจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์

ความสอดคล้องกับตวั บ่งชี้
1. เคารพการตดั สินใจซึ่งกันและกนั รบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื
2. มคี วามยุตธิ รรมและมีความสุจรติ ในการทางาน
3. มสี ่วนรว่ มในการปฏิบัตงิ าน ร้จู กั ชว่ ยเหลอื สังคม
4. เคารพกฎระเบยี บขอ้ บังคับและกฎหมายต่างๆ
5. มีความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ขี องตนเองและหน้าท่ที ี่ได้รับมอบหมาย
5. ไม่เบยี ดเบยี นและไม่เอารดั เอาเปรียบต่อผ้อู ื่น
7. ปฏิบัติตนเปน็ พลเมอื งดี ไม่ทาผิดกฎหมาย
8. ถือประโยชน์สว่ นตนเป็นท่สี อง ประโยชน์ของเพ่ือนมนุษยเ์ ปน็ กจิ ท่ีหนง่ึ
9. มคี วามเมตตากรุณาต่อผูอ้ ่ืนด้วยความเตม็ ใจและบริสุทธิ์ใจ
10. มคี วามเมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือศิษยแ์ ละเพ่ือนร่วมงาน
11. เป็นแบบอย่างท่ดี ตี ่อวชิ าชพี และสังคม

เวลาทใี่ ช้ 1 ชว่ั โมง

จานวนผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม 15-20 คน

สอื่ /อปุ กรณ์
1. กระดาษ
2. รปู ภาพ
3. สี
4. เชอื ก

เทคนคิ /วธิ กี าร
1. เชิงอภิปราย

ขน้ั ตอนการดาเนินกิจกรรม
1. แบง่ กลุ่มผูเ้ ขา้ ร่วมให้เท่ากันโดยใช้เพลง ลมเพ ลมพัด
2. บอกกฎกติกาและวธิ ีการเลน่ ให้กับผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม
2.1 มคี นใบ้หนึง่ คน โดยผ้ใู บ้มหี น้าทพี่ ยกั หน้าและส่ายหวั เทา่ นนั้
2.2 มีผู้สง่ สารทค่ี อยบอกตา่ งๆ
2.3 ผรู้ บั สารคอยรบั สารจากผูส้ ง่ สาร และบอกต่อให้กับผู้วาดภาพ
2.4 ผวู้ าดภาพต้องวาดภาพให้เหมือนต้นฉบับในเวลาทกี่ าหนด
2.5 เมอื่ ผู้วาด วาดภาพเสรจ็ ให้นาไปเปรยี บเทยี บกบั ต้นฉบับ เมอ่ื ทาการตัดส้นิ
3 ร่วมกันสรุปกิจกรรมในคร้ังน้ี

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
1. การสงั เกต
2. ซักถาม/การสมั ภาษณ์

แผนกจิ กรรม
เรื่อง โจรขน้ึ บ้าน

กรอบแนวคิด
เกมโจรปลน้ บา้ นเป็นกจิ กรรมเกมที่สง่ เสริมใหผ้ ้เู ขา้ ร่วมได้ตระหนักเหน็ ถึงความสามัคคี ความซอื่ สัตย์

ต่อตนเองและการอยรู่ ว่ มกันอย่างสนั ตวิ ิธี

สาระสาคัญ
กิจกรรมโจรขนึ้ บา้ นเป็นกิจกรรมที่อาศัยการเคลื่อนไหวของร่างกาย ผู้เขา้ ร่วมจะต้องมีกฎกติกาและ

ข้อตกลงในการเล่น ซ่ึงทาใหผ้ ู้เขา้ ร่วมได้ฝึกทกั ษะการคดิ การอยู่ร่วมกันในสงั คม นอกจากนผ้ี ้เู ขา้ รว่ มสามารถ
นาแนวคดิ ไปปฏบิ ัตใิ ช้ในการดาเนินชีวติ ของตนได้

วัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรม
1. เพ่อื สง่ เสริมและสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมจี ติ ใจ เอ้ือเฟือ้ เผ่ือแผ่
2. มีจติ ใจเป็นนักประชาธปิ ไตย ยอมรับในความสามารถและความคิดเหน็ ของผูอ้ ่นื ในขณะเดยี วกันก็
กล้าแสดงความคดิ เห็นต่อผูอ้ ื่น
3. ฝึกการเป็นผนู้ าและผู้ตามทีด่ ี และเกิดการยอมรบั ซึ่งกนั และกัน

ความสอดคล้องกับตัวบ่งช้ี
1. เคารพการตัดสนิ ใจซ่ึงกนั และกัน รับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อ่นื
2. มีความยตุ ธิ รรมและมีความสจุ ริตในการทางาน
3. มีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิงาน ร้จู ักช่วยเหลือสังคม
4. เคารพกฎระเบยี บข้อบังคับและกฎหมายต่างๆ
5. มีความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ของตนเองและหนา้ ทที่ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
6. ไม่เบยี ดเบยี นและไม่เอารัดเอาเปรียบต่อผ้อู ืน่
7. ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดี ไมท่ าผิดกฎหมาย
8. ถือประโยชนส์ ่วนตนเปน็ ทีส่ อง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษยเ์ ปน็ กจิ ทห่ี น่ึง
9. มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นดว้ ยความเต็มใจและบริสุทธ์ิใจ
10. มคี วามเมตตา เอาใจใส่ ชว่ ยเหลอื ศษิ ย์และเพ่ือนร่วมงาน
11. มคี วามเปน็ ธรรมตอ่ ศิษย์อยา่ งบรสิ ทุ ธิ์ใจ

เวลาท่ใี ช้ 40 นาที

จานวนผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม 15-20 คน

สื่อ/อุปกรณ์
1. กระดาษ

เทคนคิ /วธิ กี าร
1. เชิงคาสัง่

ขั้นตอนการดาเนนิ กจิ กรรม
1. เตรยี มความพรอ้ มโดยใหเ้ ด็กปรบมือเปน็ จงั หวะและร่วมกนั รอ้ งเพลง
2. บอกกฎกติกาและวิธกี ารเล่นให้กบั ผเู้ ล่น
2.1 มีโจรหน่งึ คน
2.2 มีบ้านว่างหน่ึงท่ี
2.3 กรณีทผ่ี ู้เล่นกา้ วขาออกจากบา้ นของตนเองหา้ มย้อนกลบั ไปเดด็ ขาด
2.4 ห้ามทาร้ายโจรไมว่ า่ จะด้วยวธิ ใี ดก็ตาม
2.5 ผู้ร่วมทกุ คนตอ้ งช่วยกนั รักษาบา้ นวา่ ง
2.6 กรณีทโ่ี จรปล้นบา้ นได้สาเร็จถือวา่ จบเกม
3. รว่ มกนั สรปุ กิจกรรมในครง้ั น้ี

การวัดผล/ประเมนิ ผล
1. การสังเกต
2. ซักถาม/การสัมภาษณ์

แผนกจิ กรรม
เร่ือง แมงมุมหรรษา

กรอบแนวคดิ
เกมแมงมุมหรรษาเปน็ กจิ กรรมท่ีส่งเสริมใหผ้ ้เู ขา้ รว่ มตระหนักเห็นถึงความสามคั คีภายในกลุ่ม มคี วาม

ซ่อื สตั ย์ตอ่ ตนเองและยังฝึกทักษะในการคิดแก้ปญั หาร่วมกันได้อีกด้วย เคารพความคิดเหน็ ซึ่งกันและกนั

สาระสาคญั
กิจกรรมแมงมุมหรรษา เปน็ กิจกรรมที่อาศัยการเคล่ือนไหวในส่วนต่างๆของร่างกายและยงั ฝกึ ให้

ผู้เข้ารว่ มเกดิ ทักษะในการไหวพริบ มคี วามคล่องแคลว่ ของร่างกาย มคี วามคดิ สร้างสรรค์ อกี ท้ังยงั ฝึกการ
ทางานเปน็ ทีมได้อีกดว้ ย

วตั ถปุ ระสงคข์ องกิจกรรม
1. เพื่อส่งเสรมิ ให้ผเู้ ข้ารว่ มเกิดทักษะในการคิดและแกป้ ัญหา
2. สง่ เสริมใหผ้ ูเ้ ขา้ รว่ มมีความสามคั คตี ่อกันภายในกลุ่มและชว่ ยเหลือซึง่ กันและกัน
3. สง่ เสริมให้ผูเ้ ข้าร่วมมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์และจินตนาการ
4. ส่งเสริมให้ผูเ้ ขา้ รว่ มแลกเปลีย่ นรบั ฟงั ความคิดเหน็ ซงึ่ กันและกนั เพื่อใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มยอมรับใน

ความสามารถของกันและกนั

ความสอดคล้องกับตัวบง่ ช้ี
1. เคารพการตัดสินใจซ่ึงกนั และกัน รับฟังความคิดเห็นของผูอ้ นื่
2. มคี วามยตุ ธิ รรมและมีความสุจรติ ในการทางาน
3. มีสว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิงานรู้จักช่วยเหลอื สังคม
4. เคารพกฎระเบยี บขอ้ บังคับและกฎหมายต่างๆ
5. มีความรบั ผิดชอบต่อหน้าทีข่ องตนเองและหนา้ ทท่ี ี่ได้รับมอบหมาย
6. ไมเ่ บยี ดเบียนและไมเ่ อารดั เอาเปรยี บต่อผู้อ่ืน
7. ถือประโยชน์สว่ นตนเป็นที่สองประโยชนข์ องเพื่อนมนุษยเ์ ป็นกจิ ทีห่ นง่ึ
8. มคี วามเมตตากรุณาต่อผ้อู ่ืนด้วยความเต็มใจและบรสิ ทุ ธ์ิใจ
9. มีความเมตตาเอาใจใสช่ ว่ ยเหลือศิษย์และเพ่อื นรว่ มงาน

เวลาทใี่ ช้ 50 นาที

จานวนผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม 15-20 คน

สอ่ื /อุปกรณ์
1. เชือกฟาง
2. กระดาษโรตี
3. ปากกาเคมี

4. ยาง
5. นกหวีด

เทคนิค/วธิ ีการ
1. เชิงคาส่งั

ข้นั ตอนการดาเนินกจิ กรรม
1. แบง่ กลมุ่ ผ้เู ข้าร่วมใหเ้ ท่ากันโดยใหน้ บั 1 และ 2
2. แนะนาอปุ กรณ์และอธิบายอปุ กรณ์ในการเล่นเกมให้ผเู้ ข้าร่วมเขา้ ใจ
2.1 แจกอุปกรณ์แต่ละกลุม่ ใหเ้ ท่าเท่ากนั
2.2 บอกกติกาและวิธกี ารเล่นใหผ้ เู้ ข้ารว่ มเขา้ ใจ.
2.3 เม่ือผู้เขา้ รว่ มไดย้ นิ เสียงนกหวดี กเ็ รมิ่ เกมได้เลย
2.4 มกี ารจบั เวลา กรณที ีห่ มดเวลาผ้เู ข้าร่วมจะได้ยนิ เสยี งนกหวดี ดงั แล้วให้ทกุ คนวางอุปกรณ์ทุก

อย่างลง ถือวา่ จบการแข่งขนั
2.5 การตัดสินทีมแพ้ทมี ชนะจะใชจ้ ากผลงานภายในกลุ่มในการตดั สนิ

3. ร่วมกนั สรุปกจิ กรรมในครัง้ นี้

การวดั ผล/ประเมินผล
1. การสังเกต
2. การซักถาม / การสัมภาษณ์

แผนกจิ กรรม
เรือ่ ง ลกู โปง่

กรอบแนวคดิ
เกมลูกโปง่ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เขา้ ร่วมตระหนักถึงความซอ่ื สตั ย์ ความสามคั คี อกี ทัง้ ยงั ฝึกให้ได

เหน็ ถงึ ความสาคัญของการช่วยเหลือปรองดองซึ่งกนั และกัน

สาระสาคัญ
กิจกรรมลูกโป่งเป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ความคล่องแคล่วของร่างกาย การ

เคล่ือนไหวและการทรงตวั ฝึกให้รจู้ ักการวางแผน การแก้ปญั หายอมรับความคิดเห็นของผูอ้ ื่น อีกท้ังยังฝกึ การ
ทางานร่วมกนั เปน็ ทีม

วตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรม
1. ส่งเสรมิ ให้ผเู้ ขา้ รว่ มมที กั ษะการเคล่ือนไหวในดา้ นต่างๆของร่างกาย
2. ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เข้าร่วมมกี ระบวนการคิดแก้ปญั หาเฉพาะหน้า
3. สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มมีความรกั ความสามัคคี ร้จู ักชว่ ยเหลือและแก้ปัญหารว่ มกนั เป็นทีม

ความสอดคล้องกับตวั บ่งชี้
1. มคี วามยตุ ธิ รรมและมีความสจุ รติ
2. มีส่วนร่วมในการปฏิบัตงิ าน รจู้ ักชว่ ยเหลอื สังคม
3. มีความรบั ผิดชอบต่อหน้าท่ีของตนเองและหน้าท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย
4. ไม่เบยี ดเบยี นและไม่เอารัดเอาเปรียบผอู้ ่นื
5. มคี วามเมตตากรุณาต่อผู้อ่ืนด้วยความเตม็ ใจและบรสิ ุทธิ์ใจ
6. เคารพการตดั สินใจซึ่งกันและกนั รบั ฟังความคิดเห็นของผ้อู นื่

เวลาท่ีใช้ 40 นาที

จานวนผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม 15-20 คน

สื่อ/อุปกรณ์
1. ลกู โปง่ สี
2. นกหวดี

เทคนิค/วธิ กี าร
1. เชงิ ปฏบิ ตั ิ

ขน้ั ตอนการดาเนินกจิ กรรม
1. เร่มิ เข้าสู่กจิ กรรมดว้ ยการสนั ทนาการเพลง ปรบมือให้ดัง
2. บอกช่อื กจิ กรรมพร้อมบอกกติกาในการเลน่
3. แบง่ ผเู้ ข้าร่วมให้ได้ทีมละเทา่ กัน
4. ในแตล่ ะทีมจะได้รับโจทย์อวยั วะไปทีมละ 1 ส่วน เชน่ ใบหนา้ หน้าผาก หวั ไหล่ ทอ้ ง โดยทกุ คน

ในทมี จะตอ้ งใชอ้ วัยวะท่ีกาหนดใหใ้ นการเล่นเกมเท่าน้ัน
5. สมาชกิ ในทมี ต้องจับคูก่ ันวิ่งหนีบลกู โปง่ ใหถ้ งึ เส้นชยั
6. วง่ิ กลับมาท่ีจดุ เรม่ิ ตน้ ให้เร็วทส่ี ุดเพอ่ื สง่ ลกู โปง่ ให้กับค่ถู ัดไป
7. ทมี ไหนหนีบลูกโป่งได้ครบทุกคนกอ่ นจะเป็นฝ่ายชนะ
8. รว่ มกันสรปุ กิจกรรมในคร้งั น้ี

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
1. สงั เกต
2. ซกั ถาม/สมั ภาษณ์

แผนกจิ กรรม
เร่ือง ตักนา้ ใสข่ วด

กรอบแนวคดิ
เกมตักน้าใส่ขวดฝกึ เปน็ กิจกรรมท่สี ่งเสริมให้ผเู้ ขา้ ร่วมได้ตระหนักถึงความซ่ือสัตย์ความสามัคคยี อมรับ

ความคดิ เหน็ ของผู้อื่นและเคารพความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ นอกจากน้ยี งั การแก้ปัญหาร่วมกันไดอ้ ย่างบริสุทธิใ์ จฝกึ

สาระสาคัญ
กจิ กรรมเกมตักนา้ ใสข่ วดช่วยส่งเสรมิ พฒั นาการด้านกล้ามเนื้อ การประสานสมั พันธ์ การเคล่อื นไหว

การทรงตวั และฝึกให้รู้จกั การวางแผน การแก้ปญั หา ยอมรับ เคารพความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน นอกจากนี้ยังฝึก
การทางานร่วมกนั เปน็ ทีม

วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรม
1. สง่ เสริมใหผ้ ู้เข้าร่วมมจี ินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
2. สง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ ข้าร่วมเกิดทักษะการคิดและแก้ปญั หา
3. ส่งเสริมให้ผูเ้ ข้าร่วมเกิดการแลกเปลีย่ นความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อ่นื

ความสอดคล้องกับตวั บ่งช้ี
1. เคารพการตดั สนิ ใจซึ่งกันและกัน รับฟังความคิดเหน็ ของผู้อืน่
2. มีความยตุ ธิ รรมและมีความสจุ ริต
3. มสี ่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ิงาน รจู้ กั ชว่ ยเหลือสังคม
4. เคารพกฎระเบยี บข้อบังคับและกฎหมายต่างๆ
5. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองและหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย
6. ถอื ประโยชน์สว่ นตนเปน็ ท่ีสองประโยชนข์ องเพ่ือนมนุษยเ์ ปน็ กจิ ทห่ี นึ่ง
7. มคี วามเมตตาเอาใจใส่ ชว่ ยเหลือศษิ ยแ์ ละเพื่อนร่วมงาน

เวลาทใี่ ช้ 50 นาที

จานวนผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม 15-20 คน

สอ่ื /อุปกรณ์
1. ขวดพลาสตกิ
2. ถงั
3. นกหวีด
4. กรรไกร
5. กระดาษ
6. พลาสตกิ
7. หลอด

8. ช้อน

เทคนคิ /วิธีการ
1. เชิงปฏิบัติ

ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรม
1. แบ่งกลุ่มผเู้ ขา้ ร่วมใหเ้ ท่าๆกนั โดยนบั เลข 1 2 3
2. บอกกติกา วธิ กี ารเล่นให้กับผ้เู ขา้ ร่วมกิจกรรม
3. แนะนาอุปกรณใ์ หก้ ับผู้เข้ารว่ มว่ามอี ะไรบา้ ง
3.1 ขวดพลาสตกิ
3.2 ชอ้ น
3.3 หลอด
3.4 กระดาษ
3.5 พลาสติก
3.6ถงั นา้
4. อธิบายเกี่ยวกับอุปกรณ์ท่ีแจกในการเล่นเกมให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจ เช่น พลาสติกที่แจก ผู้เข้าร่วม

สามารถนามาใส่นา้ เทลงขวดทเ่ี จาะรไู้ ว้หรือนามาปิดขวดที่เจาะรไู้ ว้ เป็นต้น
5. แจกอุปกรณ์แต่ละกลุ่ม ทุกกลุ่มมีอุปกรณ์ท่าๆกัน โดยแต่ละกลุ่มมีถังน้า 1 ถัง ท่ีแจกไว้ให้แต่ละ

กลมุ่ นอกจากนผี้ ู้เข้าร่วมทุกกลมุ่ จะไดร้ บั สิทธพิ เิ ศษ คอื สามารถใช้สว่ นของร่างกายในการตกั น้า
6. ผู้เข้าร่วมทุกกลุ่มเม่ือยินเสียงนกหวีดเร่ิมทาการแข่งขันตักน้าใส่ขวดโดยขวดจะมีการเจาะรูและ

ผูเ้ ขา้ ร่วมตอ้ งมีการวางแผนร่วมกนั
7. มกี ารจบั เวลา 10 นาที กรณีทีห่ มดเวลาผ้เู ขา้ ร่วมจะได้ยนิ เสียงนกหวดี และถือวา่ จบการแข่งขัน
8. ผ้เู ข้ารว่ มนาขวดมาต้ังดา้ นหนา้ โดยมกี ารตัดสนิ กลมุ่ ไหนมีน้าในขวดปริมาณมากถือว่าเป็นผชู้ นะ
9. รว่ มกันสรปุ กจิ กรรมในครั้งนี้

การวดั ผล/ประเมินผล
1. การสงั เกต
2. ซักถาม/การสัมภาษณ์

แผนกิจกรรม
เร่อื ง Kahoot

กรอบแนวคิด
กิจกรรม kahoot เปน็ กิจกรรมทตี่ อบสนองการจดั กิจกรรมและการเรียนการสอน เพ่ือใหผ้ เู้ ข้าร่วม

กจิ กรรมมีความสนกุ สนาน โดยการตอบคาถามบนอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ แทบ็ เล็ตหรือสมารท์ โฟนของตนเอง

สาระสาคัญ
ปัจจุบันการเรยี นการสอนในศตวรรษท่ี 21 เร่มิ มีการนาเทคโนโลยเี ขา้ มาเป็นส่วนหน่งึ ในการจัดการ

เรยี นการสอนเพอื่ ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ โดยการจัดกจิ กรรมในครง้ั นี้ทางกลุม่ ไดน้ าแอพพลเิ คชั่น kahoot

เขา้ มาเปน็ ส่วนหนงึ่ ของกจิ กรรม โดยสอดแทรกเนื้อหา Project บูรณาการทักษะสู่การปฏบิ ัติ

วัตถุประสงค์ของกิจกรรม
1. เพอื่ ใหผ้ ู้เขา้ ร่วมมีความสนุกสนาน ตื่นเต้นอยตู่ ลอดเวลา
2. เพอ่ื ชว่ ยประเมนิ ผลการสอนทั้งก่อนเรยี นและหลังเรียน
3. สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เข้ารว่ มมีกระบวนการทางานเป็นกลุ่ม

ความสอดคล้องกับตัวบ่งชี้
1. เคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกนั รับฟงั ความคิดเห็นของผ้อู ืน่
2. มีความยุตธิ รรมและมีความสจุ รติ ในการทางาน
3. มีความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าทขี่ องตนเองและหน้าทที่ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. ไม่เบียดเบยี นและไมเ่ อารัดเอาเปรียบต่อผู้อน่ื
5. มคี วามเมตตา เอาใจใส่ ชว่ ยเหลือศิษยแ์ ละเพื่อนรว่ มงาน

เวลาทใี่ ช้ 50 นาที

จานวนผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม 10-15 คน

ส่ือ/อุปกรณ์
1. โทรศัพทม์ อื ถอื
2. โปรเจคเตอร์
3. คอมพวิ เตอร์

เทคนิค/วธิ กี าร
1. เชงิ ปฏบิ ตั ิ
2. ความรู้