แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวชิ าภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวชิ า ท21102
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1
นางสาวพัชรภี รณ์ เดชชู
นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู
โรงเรียนโยธินบาํ รงุ
สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษานครศรีธรรมราช
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565
คาํ นาํ
การฝึกปฏิบัติการสอนเป็นภารกิจที่นักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์หลักสูตร ๕ ปี ต้องปฏิบัติการสอนก่อนที่จะ
สําเร็จการศึกษาออกไปเป็นครูในอนาคต ซึ่งการปฏิบัติการสอนนั้น นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพจะต้องปฏิบัติ
หน้าที่ทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของครูและต้องรวบรวมชิ้นงานหรือกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติในระหว่างการฝึกปฏิบัติการสอน
โดยสร้างแฟ้มสะสมผลงานและแผนการจัดการเรียนรู้ในระยะเวลา 2 ภาคเรียนที่ปฏิบัติหน้าที่การเป็นนักศึกษา
ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ๒๖๒ – ๕๑2 การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา
จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐานที่ได้ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา
ตลอดภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖5 ภายในแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ จะประกอบด้วยประมวลการสอน
รายวิชา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ - 37 ซึ่งแผนการจัดการเรียนรู้ทั้งหมดใช้ในการปฏิบัติการสอนจริงในระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนโยธินบํารุง จังหวัดนครศรีธรรมราช แผนการจัดการเรียนรู้ทั้งหมดนี้ได้แสดงให้เห็นถึง
ความพยายาม ความตั้งใจ ความอดทน ความก้าวหน้า และความสำเร็จในการฝึกปฏิบัติการสอนอย่างเป็นระบบ
ตลอด ๑ ปีการศกึ ษา นบั วา่ เป็นความภาคภูมใิ จอย่างย่ิง
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณ ครูสุรีย์พร พันทวีศักดิ์ (ครูพี่เลี้ยง) ครูประจํากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรยี นโยธนิ บาํ รุง จังหวดั นครศรีธรรมราช เปน็ อยา่ งยงิ่ ทคี่ อยช่วยเหลือ อบรมสั่งสอน และแนะนําในทุกด้าน เก่ียวกับ
การสอน การวางตัว การปฏิบัติงานในฐานะครู ตลอดจนการใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน หากแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้
เกดิ ขอ้ ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ โอกาสน้ดี ว้ ย
นางสาวพัชรภี รณ์ เดชชู
ผู้จัดทาํ
สารบัญ
เรอ่ื ง
คํานํา
สารบัญ
ประมวลการสอนรายวชิ า
- สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
- ตัวช้วี ดั และสาระการเรียนร้แู กนกลาง
- เอกสารประกอบการเรยี นการสอน
- โครงสร้างรายวชิ า
- เนอ้ื หา กิจกรรม และส่ือการเรยี นรู้
- การประเมนิ ผล
- ผังมโนทศั น์
- แบบวิเคราะห์ตวั ช้วี ัดส่แู ผนการจดั การเรียนรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้
- แผนการจดั การเรียนรหู้ น่วยที่ ๑ ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
- แผนการจดั การเรียนรู้หนว่ ยที่ ๒ สารพนั บทความวชิ าการ
- แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ ๓ กาพยพ์ ระไชยสุรยิ า
- แผนการจดั การเรยี นร้หู น่วยท่ี 4 สภุ าษติ พระร่วง-นทิ านพืน้ บา้ น
ภาควชิ า : ประมวลการสอนรายวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ท21102
ระดบั การศึกษา :
ผสู้ อน : โรงเรยี นโยธนิ บํารุง จังหวดั นครศรีธรรมราช
ครพู ่ีเล้ียง : ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
ปส. พชั รีภรณ์ เดชชู
นางสาวสุรียพ์ ร พนั ทวศี กั ด์ิ
1. ข้อมลู ทว่ั ไป : สาระการเรยี นรู้พืน้ ฐาน
1.1. ประเภทรายวชิ า : 1.5 หนว่ ยกิต (3 คาบ/ สัปดาห)์
1.2. จำนวนหนว่ ยการเรียนรู้ : ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565
1.3. ภาคเรียนทส่ี อน
ประมวลการสอน ภาคเรยี นที่ 2/2565
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท21102 จำนวนหนว่ ยกติ 1.5 หนว่ ยกติ
ช่อื ผสู้ อน : นางสาวพชั รีภรณ์ เดชชู เวลาเรียนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ
• ทำไมตอ้ งเรยี นภาษาไทย
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้าง
บุคลิกภาพของคนในชาตใิ ห้มคี วามเป็นไทย เปน็ เครื่องมอื ในการตดิ ตอ่ สอื่ สารเพ่อื สรา้ งความเข้าใจและความสัมพนั ธท์ ่ีดี
ต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน และดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข และเป็น
เครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความรู้ พัฒนากระบวน
การคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้ในการพฒั นาอาชีพให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นส่ือแสดงภูมปิ ัญญาของ
บรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี และสุนทรียภาพเป็นสมบัติล้ำค่าควรแก่การเรียนรู้ อนุรักษ์ และสืบสานให้คงอยู่
คู่ชาตไิ ทยตลอดไป
• เรยี นรู้อะไรในภาษาไทย
ภาษาไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การเรียนรู้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ และเพ่ือนำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ
การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนิดต่าง ๆ การอ่านในใจเพื่อสร้าง
ความเขา้ ใจ และการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะหค์ วามรจู้ ากส่งิ ทอ่ี ่าน เพื่อนำไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวัน
การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคำและรูปแบบต่าง ๆ ของการเขียน
ซึ่งรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่าง ๆ การเขียนตามจินตนาการ วิเคราะห์วิจารณ์และเขียน
เชิงสร้างสรรค์
การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกพูดลำดับ
เรื่องราวต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางกา รและการพูดเพื่อ
โน้มนา้ วใจ
หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาสและ
บคุ คล การแตง่ บทประพนั ธป์ ระเภทตา่ ง ๆ และอทิ ธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย
วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณค่าของงาน
ประพันธ์และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทำความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพื้นบ้านที่เป็น ภูมิปัญญา
ที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราวของสังคมในอดีตและ
ความงดงามของภาษา เพ่ือให้เกิดความซาบซ้งึ และภมู ิใจในบรรพบรุ ษุ ทไ่ี ดส้ ั่งสมสบื ทอดมาจนถึงปัจจุบัน
• สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน มุ่งให้ผ้เู รยี นเกดิ สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดงั น้ี
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสารมีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอด
ความคิด ความรูค้ วามเข้าใจ ความรู้สกึ และทศั นะของตนเองเพอ่ื แลกเปลี่ยนข้อมลู ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเปน็
ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือก
รับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดย
คำนึงถงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์
การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ
เกย่ี วกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลง
ของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรูม้ าใช้ในการป้องกันและแก้ไขปญั หาและมกี ารตัดสินใจท่ี
มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กิดข้ึนตอ่ ตนเอง สงั คมและสิง่ แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนิน
ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกัน ในสังคมด้วยการสร้าง
เสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลการจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับ
การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเอง
และผอู้ ่นื
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน
การแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม
• คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่
ร่วมกับผู้อนื่ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลกดงั นี้
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง
๖. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มจี ติ สาธารณะ
นอกจากนี้ สถานศกึ ษาสามารถกำหนดคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์เพิ่มเตมิ ให้สอดคล้องตามบริบทและ
จดุ เนน้ ของตนเอง
• มาตรฐานการเรยี นรู้
การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จงึ กำหนดใหผ้ ู้เรียนเรยี นรู้ ๘ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ดังนี้
๑. ภาษาไทย
๒. คณิตศาสตร์
๓. วิทยาศาสตร์
๔. สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๕. สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
๖. ศลิ ปะ
๗. การงานอาชีพและเทคโนโลยี
๘. ภาษาต่างประเทศ
ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้น
พื้นฐาน นอกจากนน้ั มาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลอ่ื นพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐาน
การเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอนอย่างไรและประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเครื่องมือใน
การตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบ การประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพ
ภายนอก ซึ่งรวมถึงการทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษาและการทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบเพื่อประกัน
คุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามที่มาตรฐาน
การเรียนรู้กำหนดเพียงใด
• สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น
สาระที่ ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่าง มีประสทิ ธิภาพ
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิดและความรู้สึกใน
โอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคณุ คา่ และนำมา
ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ
ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ชิ าภาษาไทย
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
• สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชีวิต
และมีนิสัยรกั การอา่ น
ระดบั ช้นั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ม.1 ๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบท การอา่ นออกเสยี ง ประกอบดว้ ย
รอ้ ยกรองไดถ้ กู ต้องเหมาะสมกับเร่อื งที่อา่ น
- บทรอ้ ยแกว้ ท่ีเปน็ บทบรรยาย
๒. จับใจความสำคญั จากเรอื่ งทอี่ ่าน - บทร้อยกรอง เช่น กลอนสภุ าพ กลอน
๓. ระบุเหตุและผล และข้อเทจ็ จริงกบั
ขอ้ คิดเหน็ จากเรอ่ื งทีอ่ า่ น สักวา กาพยย์ านี 11 กาพยฉ์ บัง 16
๔. ระบแุ ละอธบิ ายคำเปรียบเทยี บ กาพยส์ ุรางคนางค์ 28 และโคลงสี่สภุ าพ
และคำท่ีมีหลายความหมายในบริบทตา่ ง ๆ
จากการอา่ น การอา่ นจบั ใจความจากสอื่ ตา่ ง ๆ เช่น
๕. ตีความคำยากในเอกสารวิชาการ - เรอ่ื งเลา่ จากประสบการณ์
โดยพิจารณาจากบรบิ ท - เรอ่ื งสนั้
๖. ระบขุ ้อสงั เกตและความสมเหตสุ มผล - บทสนทนา
ของงานเขียนประเภทชกั จูงโน้มน้าวใจ - นทิ านชาดก
- วรรณคดใี นบทเรียน
๗. ปฏบิ ตั ิตามคู่มอื แนะนำวิธกี ารใชง้ าน - งานเขียนเชงิ สร้างสรรค์
ของเครอ่ื งมอื หรอื เคร่ืองใช้ในระดับที่ยากขน้ึ - บทความ
๘. วเิ คราะหค์ ุณค่าท่ีได้รับจากการอ่าน - สารคดี
งานเขยี นอย่างหลากหลาย เพ่ือนำไปใช้ - บนั เทงิ คดี
แก้ปญั หาในชีวติ - เอกสารทางวิชาการทีม่ คี ำ ประโยคและ
ข้อความทีต่ อ้ งใช้บรบิ ทช่วยพจิ ารณา
๙. มมี ารยาทในการอา่ น ความหมาย
- งานเขยี นประเภทชกั จูงโนม้ น้าวใจเชงิ
สร้างสรรค์
การอา่ นและปฏบิ ตั ติ ามเอกสารคมู่ อื
การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ เช่น
- หนังสือทน่ี ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั
วัย
- หนงั สอื อ่านท่ีครแู ละนกั เรยี นกำหนด
ร่วมกัน
มารยาทในการอา่ น
• สาระท่ี ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราวในรูปแบบต่าง ๆ
เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ระดบั ช้นั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบ
๑. คัดลายมอื ตวั บรรจงครึง่ บรรทัด การเขียนตัวอักษรไทย
การเขยี นสอื่ สาร เชน่
๒. เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำ
ถูกตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย - การเขยี นแนะนำตัวเอง
- การเขียนแนะนำสถานที่สำคญั
๓. เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุ - การเขยี นบนสื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์
สาระสำคัญ และรายละเอียดสนับสนนุ การบรรยายประสบการณ์
๔. เขยี นเรียงความ การเขียนเรียงความเชงิ พรรณนา
๕. เขียนย่อความจากเรื่องทอ่ี า่ น การเขียนย่อความจากสื่อต่าง ๆ เช่น เรื่องสั้น
คำสอน โอวาท คำปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน
ระเบียบ คำส่งั บทสนทนา เรื่องเลา่ ประสบการณ์
ม.1 ๖. เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับสาระ การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับสาระจากสอ่ื
จากส่ือที่ไดร้ ับ ตา่ ง ๆ เชน่
- บทความ
- หนงั สืออ่านนอกเวลา
- ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน
- เหตุการณส์ ำคัญตา่ ง ๆ
๗. เขียนจดหมายสว่ นตวั และจดหมายกจิ ธุระ การเขียนจดหมายสว่ นตวั
- จดหมายขอความชว่ ยเหลอื
- จดหมายแนะนำตัว
๘.เขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้าและ การเขยี นจดหมายกจิ ธุระ
โครงงาน - จดหมายสอบถามข้อมูล
การเขียนรายงาน ได้แก่
- การเขยี นรายงานจากการศึกษาค้นควา้
- การเขยี นรายงานโครงงาน
๙. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน
• สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความร้สู ึก
ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
ระดบั ชัน้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ม.1 - การพูดสรุปความ พูดแสดงความรู้ ความคดิ อยา่ ง
๑. พูดสรุปใจความสำคัญของเร่อื งท่ฟี งั และดู สรา้ งสรรคจ์ ากเรอื่ งทีฟ่ งั และดู
๒. เล่าเรื่องยอ่ จากเร่ืองท่ฟี ังและดู - การพดู ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของสอื่ ที่มีเนื้อหา
๓. พูดแสดงความคดิ เห็นอย่างสรา้ งสรรค์ โนม้ นา้ ว
เกย่ี วกบั เรอ่ื งที่ฟังและดู
๔. ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของสือ่ ทม่ี เี นอื้ หา - การพดู รายงานการศกึ ษาค้นควา้ จากแหลง่ เรยี นรู้
โน้มน้าวใจ ต่าง ๆ ในชมุ ชนและทอ้ งถน่ิ ของตน
๕. พดู รายงานเร่ืองหรือประเดน็ ที่ศกึ ษา
คน้ ควา้ จากการฟงั การดู และการสนทนา
๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู - มารยาทในการฟงั การดู และการพดู
• สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ
ระดับชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ม.1
๑. อธิบายลักษณะของเสยี งในภาษาไทย เสยี งในภาษาไทย
๒. สรา้ งคำในภาษาไทย การสรา้ งคำ
- คำประสม คำซ้ำ คำซอ้ น
- คำพอ้ ง
๓. วเิ คราะห์ชนดิ และหนา้ ทข่ี องคำในประโยค ชนิดและหน้าท่ีของคำ
๔. วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพดู ภาษาพูด
และภาษาเขียน ภาษาเขยี น
๕. แต่งบทร้อยกรอง กาพย์ยานี 11
๖. จำแนกและใช้สำนวนท่ีเปน็ คำพังเพย สำนวนท่เี ปน็ คำพงั เพยและสุภาษิต
และสุภาษติ
• สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และนำมา
ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ
ระดบั ช้นั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ม.1
๑. สรุปเน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อา่ น วรรณคดแี ละวรรณกรรมเกี่ยวกบั
- ศาสนา
- ประเพณี
- พธิ ีกรรม
- สุภาษติ คำสอน
- เหตุการณ์ประวตั ิศาสตร์
- บันเทิงคดี
- บันทึกการเดนิ ทาง
- วรรณกรรมทอ้ งถิ่น
๒. วิเคราะห์วรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี า่ น การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ และข้อคดิ จากวรรณคดีและ
พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ วรรณกรรม
๓. อธบิ ายคุณคา่ ของวรรณคดแี ละ
วรรณกรรมที่อา่ น
๔. สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่าน เพื่อ
ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ
๕. ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทมี่ คี ณุ ค่า
และบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณค่าตามความสนใจ - บทอาขยานตามที่กำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
เอกสารประกอบการเรยี นการสอน
วชิ าภาษาไทย 2
รหสั วิชา ท21102
นางสาวพัชรีภรณ์ เดชชู
สอนระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7
โรงเรยี นโยธนิ บำรุง อำเภอเมือง จังหวดั นครศรีธรรมราช
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย 2 รหัสวชิ า ท21102
สาระพื้นฐาน ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
3 ช่วั โมง/สปั ดาห์ 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น 1.5 หนว่ ยกติ
เอกสารปฐมนเิ ทศ
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ๒ รหสั วิชา ท๒๑๑๐๒ สาระพืน้ ฐาน
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ๓ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๖๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น ๑.๕ หนว่ ยกิต
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้
รหสั ตวั ชีว้ ดั ตวั ชว้ี ัดข้อที่ สาระการเรยี นรู้
ท 1.1 ม.1/1
1. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อย • การอ่านออกเสียงประกอบดว้ ย
ท 1.1ม.1/2-4
กรองได้ถกู ต้องเหมาะสมกบั เรอื่ งทอี่ า่ น - บทรอ้ ยแกว้ ท่ีเป็นบทบรรยาย
ท 1.1 ม.1/5
ท 1.1 ม.1/6 - บทร้อยกรอง เชน่
ท 1.1 ม.1/8
ท 1.1 ม.1/9 กาพยย์ านี 11
กาพยฉ์ บับ 16
กาพยส์ ุรางคนางค์ 28
2. จับใจความสำคญั จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน • การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ต่างๆเช่น
3. ระบเุ หตแุ ละผล และข้อเทจ็ จรงิ กับ - วรรณคดใี นบทเรียน
ขอ้ คิดเห็นจากเรื่องท่ีอา่ น - เร่อื งส้ัน
4. ระบแุ ละอธิบายคำเปรยี บเทียบ และคำทมี่ ี - บทสนทนา
หลายความหมายในบริบทตา่ งๆ จากการอา่ น - งานเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์
5. ตีความคำยากในเอกสารวชิ าการ • ตีความคำยากในเอกสารวิชาการ เช่น
โดยพิจารณาจากบริบท - บทความ
- เอกสารทางวิชาการทมี่ ีคำประโยค และ
ข้อความที่ตอ้ งใช้บริบท
6. ระบขุ ้อสงั เกตและความสมเหตุสมผลของ • งานเขียนประเภทชักจูงโนม้ น้าวใจเชิง
งานเขยี นประเภทชักจูงโนม้ น้าวใจ สรา้ งสรรค์
8. วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ทไ่ี ด้รับจากการอา่ นงาน • หนังสือทนี่ กั เรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั
เขียนอยา่ งหลากหลายเพ่ือนำไปใชแ้ ก้ปญั หา
ในชีวิต
9. มีมารยาทในการอา่ น • มารยาทในการอ่าน
รหสั ตัวช้วี ัด ตัวชีว้ ดั ข้อที่ สาระการเรยี นรู้
ท 2.1 ม.1/1 1. คัดลายมอื ตวั บรรจงครึ่งบรรทดั • การคัดลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทัดตาม
ท 2.1 ม.1/3 รูปแบบ การเขยี นตัวอักษรไทย
ท 2.1 ม.1/4 3. เขยี นบรรยาย ประสบการณโ์ ดยระบุ • การบรรยายประสบการณ์
ท 2.1 ม.1/6 สาระสำคัญและรายละเอยี ดสนบั สนุน
4. เขยี นเรียงความ • การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนา
ท 2.1 ม.1/7 6. เขยี นแสดงความคดิ เห็น • การเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สาระจาก
ท 2.1 ม.1/8 เก่ียวกับสาระจากสื่อที่ไดร้ บั สอื่ ตา่ งๆ เชน่
ท 2.1 ม.1/9
ท 3.1 ม.1/4 7. เขยี นจดหมายส่วนตัวและจดหมายกจิ ธรุ ะ - ข่าวและเหตุการณป์ ระจำวนั
ท 3.1 ม.1/5 - เหตกุ ารณ์สำคัญต่างๆ
ท 3.1 ม.1/6 8. เขยี นรายงานการศกึ ษา - หนงั สอื ทนี่ ักเรียนสนใจ
ท 4.1 ม.1/2 ค้นคว้าและโครงงาน • การเขียนจดหมายกจิ ธุระ
9. มีมารยาทในการเขยี น - จดหมายสอบถามข้อมลู
ท 4.1 ม.1/4 4. ประเมินความนา่ เชอื่ ถอื ของสื่อที่มีเนื้อหา • การเขียนรายงาน ได้แก่
ท 4.1 ม.1/5 โน้มน้าวใจ - การเขียนรายงานโครงงาน
ท 5.1 ม.1/1-4 5. พดู รายงานเร่ืองหรอื ประเดน็ ทศ่ี ึกษา • มารยาทในการเขยี น
คน้ คว้าจากการฟัง การดแู ละการสนทนา • การพูดประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของส่อื ทม่ี ี
ท 5.1 ม.1/5 6. มีมารยาทในการฟัง การดูและการพดู เนอ้ื หาโน้มนา้ ว
2. สร้างคำในภาษาไทย • การพูดรายงานการศกึ ษาค้นควา้
4. วเิ คราะหค์ วามแตกต่างของภาษาพดู และ • มารยาทในการฟัง การดู และการพดู
ภาษาเขยี น • การสรา้ งคำ
5. แต่งบทรอ้ ยกรอง
1. สรุปเนอ้ื หาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น - คำประสม คำซ้ำ คำซ้อน
2. วิเคราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรม ท่ีอ่าน - คำพอ้ ง
พรอ้ มยกเหตผุ ลประกอบ • ภาษาพดู
3. อธิบายคุณค่าของวรรณคดี แลวรรณกรรม • ภาษาเขยี น
ทอี่ า่ น • กาพยย์ านี 11
4. สรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากการอา่ นเพื่อ • สรปุ เน้อื หาการวเิ คราะหค์ ุณค่าและข้อคดิ จาก
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่เี กย่ี วกบั
5. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบท - บันเทงิ คดี
ร้อยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ - สภุ าษิตคำสอน
- เหตุการณ์ประวัตศิ าสตร์
- วรรณกรรมท้องถิน่
• บทอาขยานและบทร้อยกรองทีม่ คี ุณคา่
- บทอาขยานตามความสนใจ
โครงสรา้ งรายวชิ า/หนว่ ยการเรยี นรู้
วิชา ท 21102 ภาษาไทย 1.5 หนว่ ยกติ
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 60 ชว่ั โมง ภาคเรยี นที่ 2
ลำดบั ท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั จำนวน นำ้ หนกั
ชวั่ โมง คะแนน
ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา ท 1.1 ม.1/1 16 20
การอ่านรอ้ ยแก้ว (บทบรรยาย) ท 2.1 ม.1/1
การคดั ลายมอื ท 2.1 ม.1/3 2
การเขยี นบรรยายประสบการณ์ 1
1 การสร้างคำ ท 4.1 ม.1/2 1
- คำประสม คำซ้ำ คำซอ้ น ท 5.1 ม.1/1-4 6
- คำพ้อง
สรุปเนอื้ หา วเิ คราะหค์ ณุ คา่ และข้อคดิ (ราชาธริ าช ตอน ท 3.1 ม.1/4 6
สมงิ พระรามอาสา) ท 2.1 ม.1/8
ท 3.1 ม.1/5 12 15
สารพนั บทความวชิ าการ 2
พดู ประเมินความน่าเชือ่ ถอื ของส่อื ทม่ี เี นื้อหาโนม้ น้าวใจ ท 3.1 ม.1/6 6
การเขียนรายงานโครงงาน 2
2 พูดรายงานเรอ่ื งหรือประเด็นท่ศี กึ ษา คน้ ควา้ จากการ 2
ฟงั การดู และมีมารยาทในการฟัง ดู และพูด
2 15
ภาษาพดู ภาษาเขยี น 30 35
สอบกลางภาค
รวม
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั จำนวน นำ้ หนกั
ชว่ั โมง คะแนน
กาพยพ์ ระไชยสุรยิ า 15
20
อา่ นทำนองเสนาะบทร้อยกรอง กาพย์ยานี 11 ท 1.1 ม.1/1 2
15
กาพยฉ์ บัง 16 และ กาพยส์ ุรางคนางค์ 28 2
2 35
การเขยี นแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั สาระจากสื่อตา่ งๆ ท 2.1 ม.1/6 2 15
3 แตง่ กาพย์ยานี 11 ท 4.1 ม.1/5 7 100
ท่องบทอาขยานตามความสนใจ ท 5.1 ม.1/5 15
ท 5.1 ม.1/1-4 2
สรุปเนอื้ หา วเิ คราะห์ คุณค่า ขอ้ คิดจาก
วรรณคดี (กาพยเ์ รอ่ื งพระไชยสุริยา) 2
2
สภุ าษติ พระรว่ ง-นทิ านพน้ื บา้ น ท 1.1 ม.1/2-4
9
อา่ นจับใจความสำคญั วรรณคดสี ุภาษิตคำสอนและ ท 2.1 ม.1/7
วรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ท 2.1 ม.1/4 30
ท 2.1 ม.1/9
การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ 60
4 การเขียนเรียงความเชงิ พรรณนาและมีมารยาทใน ท 5.1 ม.1/1-4
การเขียน
สรปุ เน้ือหา วเิ คราะห์ คณุ คา่ ขอ้ คิดจาก
วรรณคดสี ุภาษติ คำสอนและวรรณกรรมพ้ืนบา้ น
(สภุ าษิตพระร่วง นิทานพ้ืนบา้ น)
รวม
สอบปลายภาค
รวมตลอดภาคเรยี น
เนือ้ หา กจิ กรรม และสือ่ การสอน
สัปดาห์ จำนวน เนือ้ หา กจิ กรรมการสอน สือ่ การสอน
ที่ คาบ
ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา 1. Active Learning 1. ใบความรู้
• การอา่ นรอ้ ยแกว้ (บทบรรยาย) 2. บรรยายและอภิปราย 2. ใบกจิ กรรม
• การคดั ลายมือ 3. เขยี นบรรยาย 3. บตั รคำ
• การเขยี นบรรยายประสบการณ์ 4. แผนภาพ ผังมโนทัศน์ 4. วดี ทิ ศั น์
1-6 16 • การสร้างคำ 5. อา่ นบทบรรยาย 5. ฉลากหมายเลข
- คำประสม คำซำ้ คำซ้อน 6. แบบทดสอบ 6. หนังสือเรียนหลัก
- คำพ้อง ภาษาและการใช้
• สรุปเนื้อหา วิเคราะห์คุณค่า ภาษาไทย
และข้อคิด (ราชาธิราช ตอน 7. สื่อ PowerPoint
สมงิ พระรามอาสา)
สารพันบทความวิชาการ 1. Active Learning 1. หนังสอื เรียนหลัก
• พูดประเมินความน่าเชื่อถือของ 2. บรรยายและอภิปราย ภาษาและการใช้
สื่อทมี่ เี นือ้ หาโนม้ น้าวใจ 3. การสาธติ ภาษาไทย
• การเขยี นรายงานโครงงาน 4. การพดู นำเสนอ 2. ใบกจิ กรรม
6-10 12 • พูดรายงานเรื่องหรือประเด็น 5. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 3. แถบประโยค
ที่ศึกษา ค้นคว้าจากการฟัง 6. จดบนั ทกึ ขอ้ มลู 4. บัตรคำ
การดู และมีมารยาทในการฟัง
ดู และพดู
• ภาษาพูด ภาษาเขียน
กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า 1. Active Learning 1. หนงั สอื เรยี นหลัก
• อ่านทำนองเสนาะบทร้อยกรอง 2. บรรยายและอภปิ ราย ภาษาและการใช้
กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 3. ผังมโนทัศน์
ภาษาไทย
และกาพย์สรุ างคนางค์ 28 4. อา่ นบทอาขยาน 2. ตวั อย่างบทอาขยาน
• อา่ นหนังสือที่นักเรยี นสนใจและ 5. เขียนแสดงความ 3. ตัวอย่างการเขยี น
เหมาะสมกับวัย คดิ เหน็ แสดงความคดิ เหน็
11-15 15 • การเขียนแสดงความคิดเห็น 6. แตง่ บทประพันธ์ 4. แผนผังฉันทลักษณ์
ประเภทกาพย์
เกย่ี วกบั สาระจากส่ือตา่ ง ๆ ประเภทกาพย์
• แตง่ กาพย์ยานี 11 5. ส่ือ PowerPoint
• ท่องบทอาขยานตามความสนใจ
• สรุปเนื้อหา วิเคราะห์ คุณค่า
ข้อคิดจากวรรณคดี (กาพย์เรื่อง
พระไชยสรุ ยิ า)
สปั ดาห์ จำนวน เนือ้ หา กจิ กรรมการสอน สือ่ การสอน
ท่ี คาบ
สภุ าษิตพระรว่ ง-นทิ านพน้ื บา้ น 1. Active Learning 1. หนงั สอื เรียนหลัก
• อ่านจับใจความสำคัญวรรณคดี 2. บรรยายและอภิปราย ภาษาและการใช้
สุภาษิตคำสอนและวรรณกรรม 3. ผงั มโนทศั น์ ภาษาไทย
ท้องถ่ิน 4. อ่านจับใจความจาก 2. ตัวอยา่ งเรยี งความ
• การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ เรื่องทก่ี ำหนดให้ 3. ตัวอยา่ งการเขียน
• ก า ร เ ข ี ย น เ ร ี ย ง ค ว า ม เ ชิ ง 5. เขยี นเรยี งความ จดหมายกจิ ธรุ ะ
15-20 15 พรรณนาและมีมารยาทใน 6. สรุปความคดิ 4. ตวั อย่างนทิ าน
การเขียน 7. ผงั มโนทศั น์ พ้ืนบ้าน
• สรุปเนื้อหา วิเคราะห์ คุณค่า 8. ถอดความเรอื่ ง 5. สอื่ PowerPoint
ขอ้ คดิ จาก สภุ าษติ พระรว่ ง
• วรรณคดีสุภาษิตคำสอนและ
วรรณกรรมพื้นบ้าน (สุภาษิต
พระรว่ ง นิทานพืน้ บ้าน)
การประเมนิ ผล
๑. การประเมนิ ผลกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ประกอบดว้ ย
-ประเมินความพร้อมและพ้นื ฐานของผเู้ รียน
-ประเมนิ ความรใู้ นเร่อื งท่ีจะเรยี นก่อนเรียนและหลงั เรียน
๒. การประเมนิ ผลระหว่างเรยี น กลางภาค และปลายภาคเรยี น
อตั ราสว่ นคะแนน
คะแนนหนว่ ยการเรียน : คะแนนสอบกลางภาค : คะแนนสอบปลายภาค
๗๐ : ๑๕ : ๑๕
๓. ระดบั ผลการเรยี น ชว่ งคะแนนเปน็ ร้อยละ
๘๐-๑๐๐
๓.๑ เกณฑ์การใหร้ ะดบั ผลการเรียนและผลการเรียน ๗๕-๗๙
๗๐-๗๔
ระดับผลการเรยี น ความหมาย ๖๕-๖๙
๖๐-๖๔
๔ ผลการเรยี นดีเย่ียม ๕๕-๕๙
๕๐-๕๔
๓.๕ ผลการเรียนดมี าก ๐-๔๙
๓ ผลการเรียนดี
๒.๕ ผลการเรียนคอ่ นข้างดี
๒ ผลการเรียนปานกลาง
๑.๕ ผลการเรยี นพอใช้
๑ ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ขนั้ ตำ่
๐ ผลการเรียนตำ่ กวา่ เกณฑ์ (ไม่ผา่ นการประเมิน)
“มส” ผู้เรยี นไมม่ สี ิทธิ์เขา้ สอบวัดผลปลายภาคเรยี น หากเวลาเรียนไม่ถึงรอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี น
“ร” รอการตัดสนิ และยงั ตัดสนิ ผลการเรยี นไมไ่ ด้ หากไม่ส่งงานตามทต่ี กลง
๔. การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมินตามรายการต่อไปน้ี
๑) รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒) ซ่อื สตั ยส์ ุจริต
๓) มวี ินัย
๔) ใฝ่เรยี นรู้
๕) อยู่อย่างพอเพียง
๖) มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
๗) รกั ความเปน็ ไทย
๘) มจี ิตสาธารณะ
ผลการประเมนิ ใช้ตวั เลขแสดงระดับคณุ ภาพ ดงั น้ี
๓ หมายถึง ดเี ยี่ยม
๒ หมายถึง ดี
๑ หมายถงึ ผ่าน
๐ หมายถงึ ไม่ผา่ น
๕. การประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน ประเมนิ ตามรายการต่อไปนี้
1. สามารถคัดสรรสื่อที่ต้องการอ่านเพื่อหาข้อมูลสารสนเทศได้ตามวัตถุประสงค์ สามารถสร้างความเข้าใจ
และประยกุ ตใ์ ชค้ วามรูจ้ ากการอา่ น
2. สามารถจบั ประเดน็ สำคัญและประเด็นสนบั สนนุ โต้แยง้
3. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ ความสมเหตุสมผล ความน่าเชื่อถือ ลำดับความและความเป็นไปได้ของเรื่องที่
อ่าน
4. สามารถสรุปคณุ คา่ แนวคิด แงค่ ิดท่ีไดจ้ ากการอา่ น
5. สามารถสรุป อภิปราย ขยายความแสดงความคิดเห็น โต้แย้ง สนับสนุน โน้มน้าว โดยการเขียนสื่อสารใน
รปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ ผังความคดิ เปน็ ตน้
ผลการประเมนิ ใช้ตัวเลขแสดงระดบั คณุ ภาพ ดงั นี้
๓ หมายถึง ดเี ยยี่ ม
๒ หมายถงึ ดี
๑ หมายถึง ผา่ น
๐ หมายถงึ ไม่ผา่ น
๖. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน มุ่งให้ผเู้ รยี นเกิดสมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดังน้ี
๑) ความสามารถในการสือ่ สาร
๒) ความสามารถในการคดิ
๓) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
๕) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ผังมโนทศั น์
รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๑๑๐๒
จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต เวลา ๖๐ ชว่ั โมง
-สรปุ เนอ้ื หาวรรณคดี -การอ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ และร้อย -การคดั ลายมอื ตวั บรรจงคร่งึ บรรทัด
-การวิเคราะหค์ ณุ คา่ และขอ้ คดิ กรอง ตามรปู แบบการเขียนอกั ษรไทย
จากวรรณคดีและวรรณกรรมที่ -การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื -เขียนบรรยายประสบการณ์
เก่ยี วกับ -ระบขุ ้อสงั เกตงานเขยี นประเภท -เขียนเรยี งความเชงิ พรรณนา
ชักจูงโนม้ นา้ วใจเชิงสร้างสรรค์ -เขียนแสดงความคิดเห็นจากส่ือ
*บันเทงิ คดี -วเิ คราะห์คณุ คา่ จากการอ่านหนงั สือ -เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ(สอบถาม)
*สภุ าษติ คำสอน ท่นี ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั -เขียนรายงานโครงงาน
*เหตกุ ารณป์ ระวตั ศิ าสตร์ -มีมารยาทในการเขียน
*วรรณกรรมทอ้ งถิ่น สาระที่ ๑ การอ่าน
-ทอ่ งจำบทอาขยานตามความ
สนใจ ภาษาไทย ๒ สาระที่ ๒ การเขยี น
ท๒๒๑๐๒
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละ
วรรณกรรม
สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษา สาระท่ี ๓ การฟงั การดู การ
พดู
-การสรา้ งคำในภาษาไทย
*คำประสม คำซำ้ คำซ้อน -พดู ประเมนิ ความน่าเช่ือถือของ
*คำพอ้ ง สอ่ื ทีม่ ีเน้ือหาโนม้ นา้ วใจ
-พดู รายงานการศึกษาค้นคว้า
-ความแตกตา่ งของภาษาพูด ภาษาเขยี น -มารยาทในการฟงั การดู และ
-แตง่ บทร้อยกรองประเภท การพดู
กาพย์ยานี ๑๑
แบบวเิ คราะห์ตวั ชวี้ ดั สแู่ ผนการจดั การเรยี นรู้
รหสั วชิ า ท21102 รายวชิ าภาษาไทย 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
สาระที่ 1 : การอา่ น
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนิน
ชีวิตและมีนสิ ัยรักการอา่ น
ตัวช้วี ัด สาระความรู้ (K) ทกั ษะ (S) เจตคต/ิ สมรรถนะผเู้ รยี น
คณุ ลกั ษณะฯ (A) (C)
ท 1.1 ม.1/1 - การอ่านออกเสียง - อา่ นออกเสยี ง - มีมารยาทใน - ความสามารถใน
อ่านออกเสียงบท บทร้อยแก้วและ บทร้อยแก้วและ การอา่ น การสอื่ สาร
ร้อยแก้วและบท บทร้อยกรองได้ รอ้ ยกรอง - รกั ความเปน็ ไทย - ความสามารถใน
รอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ถูกต้องเหมาะสม การคดิ
เหมาะสมกับเร่ือง กบั เรื่องที่อ่าน
ท่อี า่ น
ท 1.1 ม.1/2 - การจบั ใจความ - จบั ใจความสำคญั - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถใน
จบั ใจความสำคัญ สำคญั จากเร่ืองท่ี จากเร่ืองทอ่ี ่าน - มีนสิ ัยรกั การอ่าน การส่อื สาร
จากเรอื่ งทอ่ี ่าน อา่ น - ความสามารถใน
การคิด
ท 1.1 ม.1/4 - การระบแุ ละ - ระบแุ ละอธบิ าย - มุ่งมัน่ ในการ - ความสามารถใน
ระบแุ ละอธบิ ายคำ อธิบายคำ คำเปรียบเทยี บ ทำงาน การสื่อสาร
เปรยี บเทยี บและ เปรยี บเทียบและ และคำทมี่ หี ลาย - ความสามารถใน
คำท่มี หี ลาย คำทีม่ ีหลาย ความหมายใน การคิด
ความหมายใน ความหมายจาก บริบทตา่ ง ๆ จาก
บรบิ ทต่าง ๆ จาก การอ่าน การอ่าน
การอา่ น - วเิ คราะหค์ ุณคา่ ท่ี - วิเคราะห์คุณค่าท่ี - มีนสิ ยั รกั การอา่ น - ความสามารถใน
ไดจ้ ากการอ่านงาน ได้จากการอ่านงาน การใชท้ ักษะชีวิต
เขยี นทหี่ ลากหลาย เขียนเพื่อนำไปใช้
แก้ปัญหาชีวติ
สาระที่ 2 : การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชวี้ ัด สาระความรู้ (K) ทกั ษะ (S) เจตคต/ิ สมรรถนะผเู้ รยี น
- การคัดลายมอื ตัว - การคดั ลายมอื ตัว คณุ ลกั ษณะฯ (A) (C)
ท 2.1 ม.1/1 บรรจงครึง่ บรรทัด บรรจงคร่งึ บรรทดั - มุ่งมั่นในการ
คดั ลายมือตวั - การเขียน - เขียนบรรยาย ทำงาน - ความสามารถใน
บรรจงครง่ึ บรรทดั บรรยาย ประสบการณ์ - รักความเปน็ ไทย การสอ่ื สาร
ท 2.1 ม.1/3 ประสบการณ์ - ใฝเ่ รียนรู้
เขียนบรรยาย - เขียนเรยี งความ - ความสามารถใน
ประสบการณ์ - การเขยี น - ซ่ือสตั ยส์ ุจริต การคดิ
โดยระบสุ าระ เรียงความ - เขียนแสดงความ - มุ่งมั่นในการ
สำคัญและ คิดเหน็ เก่ยี วกบั ทำงาน - ความสามารถใน
รายละเอยี ด - การเขยี นแสดง สาระจากส่อื ที่ - มวี ินัย การสอื่ สาร
สนับสนุน ความคิดเห็น ไดร้ ับ - ความสามารถใน
ท 2.1 ม.1/4 - เขียนจดหมาย - รกั ความเป็นไทย การคดิ
เขียนเรียงความ - การเขียน สว่ นตวั - ความสามารถใน
จดหมาย - ใฝเ่ รียนรู้ การใชท้ กั ษะชีวติ
ท 2.1 ม.1/6 - เขยี นรายงาน - มุ่งม่ันในการ
เขยี นแสดงความ - การเขยี นรายงาน การศกึ ษาค้นควา้ ทำงาน - ความสามารถใน
คิดเห็นเกย่ี วกับ จากการศกึ ษา - มมี ารยาทในการ การส่อื สาร
สาระจากสือ่ ท่ี ค้นควา้ - มมี ารยาทในการ เขยี น
ไดร้ ับ - มมี ารยาทในการ เขียน - ความสามารถใน
ท 2.1 ม.1/7 เขยี น การคิด
เขียนจดหมาย
สว่ นตวั และ - ความสามารถใน
จดหมายกิจธรุ ะ การใช้ทกั ษะชวี ิต
ท 2.1 ม.1/8
เขียนรายงาน
การศกึ ษาค้นคว้า
และโครงงาน
ท 2.1 ม.1/9
มีมารยาทในการ
เขยี น
สาระที่ 3 : การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟงั และดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความร้สู ึกใน
โอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์
ตวั ชว้ี ัด สาระความรู้ (K) ทกั ษะ (S) เจตคต/ิ สมรรถนะผเู้ รยี น
คณุ ลกั ษณะฯ (A) (C)
ท 3.1 ม.1/4 - ก า ร ป ร ะ เ มิ น - ประเมินความ - มีวินัย
ประเมินความ - ความสามารถใน
น่าเช่อื ถอื ของส่อื ความน่าเชื่อถือ น่าเช่อื ถอื ของสือ่ - มมี ารยาทใน การใชท้ ักษะชีวิต
ทีม่ ีเน้อื หาโนม้ นา้ ว การพูด
ใจ ของสื่อที่มีเนื้อหา ที่มีเนื้อหาโน้มน้าว - ความสามารถใน
ท 3.1 ม.1/5 - มีวนิ ัย การสือ่ สาร
พดู รายงานเรอื่ ง โน้มนา้ วใจ ใจ - รักความเปน็ ไทย
หรือประเด็นท่ี - ความสามารถใน
ศกึ ษาค้นควา้ จาก - การพดู รายงาน - พดู รายงานเรื่อง การคดิ
การฟัง การดู และ เร่อื งหรอื ประเดน็ ท่ี หรือประเด็นท่ี - ความสามารถใน
การสนทนา ศึกษาค้นควา้ ศกึ ษาค้นควา้ การแกป้ ญั หา
ท 3.1 ม.1/6
มีมารยาทในการ - มีมารยาทในการ - มมี ารยาทในการ
ฟัง การดู และการ ฟงั การดู และ ฟงั การดู และ
พดู การพดู การพดู
สาระที่ 4 : หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ
ตัวชว้ี ัด สาระความรู้ (K) ทกั ษะ (S) เจตคต/ิ สมรรถนะผเู้ รยี น
คณุ ลกั ษณะฯ (A) (C)
ท 4.1 ม.1/2 - การสร้างคำใน - สร้างคำใน
สร้างคำใน ภาษาไทย ภาษาไทย - มงุ่ ม่ันในการ - ความสามารถใน
ภาษาไทย ทำงาน การคดิ
ท 4.1 ม.1/4 - การวเิ คราะห์ - การวิเคราะห์ - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถใน
วเิ คราะห์ชนิดและ ความแตกตา่ งของ ความแตกตา่ งของ การคิด
หน้าท่ขี องคำใน ภาษาพูดและภาษา ภาษาพูดและภาษา
ประโยค เขยี น เขียน
ท 4.1 ม.1/5 - การแตง่ บทรอ้ ย - แต่งบทรอ้ ยกรอง - รกั ความเปน็ ไทย - ความสามรถใน
แตง่ บทร้อยกรอง กรอง การสอื่ สาร
สาระที่ 5 : วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและนำมา
ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง
ตัวช้ีวดั สาระความรู้ (K) ทกั ษะ (S) เจตคต/ิ สมรรถนะผเู้ รยี น
คณุ ลกั ษณะฯ (A) (C)
ท 5.1 ม.1/2 - การวเิ คราะห์ - วเิ คราะห์ - ใฝ่เรยี นรู้
วเิ คราะห์วรรณคดี - ความสามารถใน
และวรรณกรรม วรรณคดีและ วรรณคดแี ละ - รกั ความเป็นไทย การสอื่ สาร
ทอ่ี ่านพรอ้ มยก - ความสามารถใน
เหตุผลประกอบ วรรณกรรม วรรณกรรม การคิด
ท 5.1 ม.1/3
อธิบายคณุ คา่ ของ ท่อี ่านพรอ้ มยก - ความสามารถใน
วรรณคดีและ การคิด
วรรณกรรมทีอ่ า่ น เหตุผลประกอบ
ท 5.1 ม.1/4 - ความสามารถใน
สรปุ ความรแู้ ละ - การอธบิ ายคณุ ค่า - อธิบายคณุ คา่ การใช้ทกั ษะชีวิต
ข้อคิดจากการอ่าน
เพ่ือประยุกตใ์ ช้ใน ของวรรณคดีและ ของวรรณคดีและ - ความสามารถใน
ชวี ติ จริง การสอ่ื สาร
ท 5.1 ม.1/5 วรรณกรรมท่ีอา่ น วรรณกรรมท่อี า่ น - ความสามารถใน
ทอ่ งจำบทอาขยาน การคิด
ตามทก่ี ำหนด - ความรแู้ ละขอ้ คิด - เขียนสรปุ ความรู้ - รักความเป็นไทย
และบทรอ้ ยกรองท่ี
มคี ณุ ค่าตาม จากวรรณคดีและ และข้อคดิ จากการ
ความสนใจ
วรรณกรรม อา่ นเพอื่ ประยกุ ต์
การประยุกตใ์ ช้ ใชใ้ นชีวติ จริง
ความรู้และขอ้ คิด
- การอา่ นบทรอ้ ย - ทอ่ งจำบท - รักความเป็นไทย
กรอง อาขยานตามที่ - อยอู่ ย่างพอเพยี ง
- การวิเคราะห์ กำหนดและบท
คุณค่าของบทร้อย รอ้ ยกรองที่มคี ณุ ค่า
กรอง ตามความสนใจ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ภาคเรยี นที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑
รหสั วชิ า ท ๒๑๑๐๒ รายวชิ าภาษาไทย เวลา ๑๖ ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ประวตั คิ วามเปน็ มาราชาธิราช (ตอนสมงิ พระรามอาสา)
๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ
แก้ปัญหาในการดำเนินชีวติ และมนี ิสัยรกั การอ่าน
ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ม. ๑/๔ ระบุและอธบิ ายคำเปรยี บเทียบและคำที่มีหลายความหมายในบรบิ ทต่าง ๆ
จากการอา่ น
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความเป็นมาของเรอ่ื ง ราชาธิราช (K)
๒. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายคำศัพท์และเขียนคำศพั ท์ (P)
3. นกั เรยี นเหน็ ความสำคญั ของการเขียน อา่ น และเข้าใจความหมายคำศัพท์ท่ีถูกต้อง (A)
๒. สาระสำคญั
วรรณคดีเรอื่ ง ราชาธิราช แปลมาจากพงศาวดารมอญ และนำมาเรยี บเรยี งใหมส่ อดแทรกวถิ ชี ีวติ ความเปน็ ไทย
เรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา มีคำศัพท์ท่ีควรศึกษามากมายเพื่อเป็นประโยชน์ในการอ่านเรื่องให้เข้าใจมาก
ยงิ่ ขน้ึ
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑. สาระการเรยี นรู้(K)
คำศัพทแ์ ละความหมายจากเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
๓.๒. ทกั ษะ(S)
การปฏบิ ัต/ิ การสาธิต การสรุปความรู้
๓.๓. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์(A)(ประจำหนว่ ยการเรยี นรู้)
ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
๓.๔. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์(A)(ประจำกลมุ่ สาระการเรียนรู้)
ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเป็นไทย
๓.๕. สมรรถนะสำคัญผเู้ รยี น(C)(ประจำกลมุ่ สาระการเรยี นร)ู้
ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ
๔. ภาระงาน (สะทอ้ นการจดั กิจกรรม)
- จดบนั ทกึ คำศพั ท์น่ารู้
๕. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
๑. วิธกี ารวดั และประเมินผล
๑) ตรวจผลงานของนกั เรยี น
๒. เครอ่ื งมอื
1 ) แบบประเมนิ ผลงานนักเรียน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
1) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านตัง้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
๖. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำ
1. นกั เรยี นทำกิจกรรมเปดิ แผน่ ป้ายทายรปู ภาพ โดยครเู ปดิ รูปภาพปริศนาแล้วให้นักเรียนช่วยกนั ทายว่าภาพ
เหล่านั้นเป็นภาพที่สื่อถึงอะไร ครูพร้อมเฉลยและบอกความหมายจากนั้นตั้งคําถามกับนักเรียนว่าเป็นภาพท่ี
เกย่ี วข้องกับเรือ่ งอะไร และเชอื่ มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี น
ราชา กะทิ ราดนำ้
ขนั้ สอน
1. นักเรียนศึกษาบทนำเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา จากหนังสือหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย
โดยให้นกั เรยี นร่วมกันสนทนาในประเดน็ ต่อไปนี้
- วรรณคดเี รอื่ ง ราชาธิราช มีความเป็นมาอยา่ งไร
- การประพันธใ์ นลกั ษณะใด
- คำศัพทใ์ นวรรณคดี เรือ่ ง ราชาธิราช มคี วามเป็นมาอย่างไร
2. ครูติดบัตรคําศัพท์และคําแปลบนกระดาน อย่างละ 10 คํา เรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา จากนั้น
ให้นักเรียนค้นหาคําศัพท์และคําแปลจากหนังสือ เมื่อนักเรียนคนใดทราบคําศัพท์หรือคําแปลที่ครูกําหนดให้
ให้นกั เรียนออกมาเขียนคําเหลา่ นั้นบนกระดาน
3. เมื่อนกั เรยี นเขียนคาํ ตอบครบตามท่ีครูกําหนด นักเรียนและครรู ว่ มกนั เฉลยคาํ ศพั ทพ์ รอ้ มทั้งคําแปล
4. นักเรยี นจดคําศัพทแ์ ละคาํ แปลจากการทาํ กจิ กรรมขา้ งต้นลงในสมุด
5. นกั เรยี นอา่ นและอธบิ ายความหมายคำศพั ท์บนกระดานรว่ มกนั และครอู ธบิ ายสรปุ เพม่ิ เตมิ
ขัน้ สรุป
1. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี
วรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช แปลมาจากพงศาวดารมอญ และนำมาเรียบเรียงใหม่สอดแทรกวิถีชีวิต
ความเป็นไทย เรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา มีคำศัพท์ที่ควรศึกษามากมายเพื่อเป็นประโยชน์ใน
การอา่ นเร่ืองใหเ้ ขา้ ใจมากยง่ิ ข้นึ
๗. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
- หนงั สอื หลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
- บัตรคำศัพทแ์ ละคำแปล
รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนนจากการสังเกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนรว่ มในช้นั เรยี นรายบคุ คล
รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ/ระดบั คะแนน
1. ต้งั ใจเรยี น
2 1.5 1 0
2. มสี ่วนรว่ มในการทำ
กจิ กรรมในช้นั เรยี น สนใจเรยี น มคี วาม สนใจเรียน มีความ สนใจเรยี น มคี วาม ไม่สนใจเรียน และ
3. ตอบคำถามในชั้นเรยี น พร้อมในการใฝ่
เรียนรู้ พร้อมในการใฝเ่ รยี นรู้ พร้อมในการใฝเ่ รียนรู้ ไมม่ ีความพร้อมใน
มสี ว่ นรว่ มในการ เปน็ สว่ นใหญ่ บา้ ง การใฝ่เรยี นรู้
ทำกจิ กรรมทุก
กจิ กรรม มสี ว่ นร่วมในการทำ มีสว่ นร่วมในการ ไมม่ สี ่วนร่วมใน
ตอบคำถามท่คี รู กิจกรรมเปน็ สว่ นใหญ่ ทำกิจกรรมบาง การทำกจิ กรรม
ถามทุกคร้งั
กจิ กรรม
ตอบคำถามทค่ี รู ตอบคำถามท่ีครู ไมต่ อบคำถามท่คี รู
ถามเกือบทกุ ครัง้ ถามเพยี งบางคร้ัง ถาม
4. ต้ังใจทำงาน เอาใจใสต่ อ่ งานท่ี เอาใจใสต่ ่องานท่ี เอาใจใสต่ อ่ งานที่ ไมเ่ อาใจใสต่ ่องาน
5. ตรงตอ่ เวลา ได้รับมอบหมาย ได้รับมอบหมายและ ไดร้ บั มอบหมาย ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
และทำงานดว้ ย ทำงานดว้ ยความ และทำงานด้วย
ความตัง้ ใจทุกครั้ง ตง้ั ใจเปน็ ส่วนใหญ่ ความต้ังใจบางงาน สง่ งานท่ีได้รับมอบ
หมายไมท่ ันเวลาท่ี
ส่งงานท่ีไดร้ บั มอบ ส่งงานทีไ่ ด้รบั มอบ ส่งงานทไี่ ด้รับมอบ กำหนดและไมม่ ี
หมายก่อนเวลาที่ หมายตรงเวลาตามท่ี หมายไมท่ นั เวลาท่ี ความถูกตอ้ ง
กำหนดและมคี วาม กำหนดและมคี วาม กำหนดแต่มีความ
ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง
เกณฑ์การประเมิน
คะแนน ระดบั
9 – 10 คะแนน ดีมาก
7 – 8 คะแนน
5 – 6 คะแนน ดี
นอ้ ยกวา่ 5 คะแนน พอใช้
ควรปรับปรงุ
หมายเหตุ : นกั เรยี นทไี่ ดเ้ กณฑค์ ณุ ภาพระดับ ดี ข้นึ ไปจึงถือว่า ผา่ น
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คำช้ีแจง : ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นแลว้ ขีด ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
รายการประเมนิ พฤตกิ รรมนกั เรยี นรายบคุ คล
ท่ี ช่อื - สกลุ ตงั้ ใจเรยี น มีสว่ นรว่ มใน ตอบคำถาม ตง้ั ใจทำงาน ตรงต่อเวลา รวม
การทำกจิ กรรม ในชน้ั เรยี น
1. 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 10
2. ในชน้ั เรยี น
3.
4. 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0
5.
6.
7.
8.
9.
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
บันทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา
ในเรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา และมคี วามรเู้ รอื่ งคำศพั ท์เบอ้ื งตน้
ดา้ นทกั ษะ (S)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 สามารถอธิบายความหมายคำศัพท์และเขียนคำศัพท์
จาก เรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสาได้ โดยใช้กิจกรรมในรูปแบบ Active learning จัดเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
โดยใชบ้ ตั รคำศัพทแ์ ละคำแปลในการทำกิจกรรม
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนรู้
มีความม่งุ มัน่ ตั้งใจและกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน (C)
นักเรียนส่วนใหญ่มีความสามารถในการสื่อสาร โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ ความเข้าใจจากบทเรียน
เรื่อง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา และร่วมกนั แลกเปลยี่ นเรยี นรผู้ ่านการทำกิจกรรมไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ปญั หาและอปุ สรรค
ในการทำกิจกรรมนักเรียนมีความรู้ ให้ความร่วมมือและสนุกสนาน ทำให้การจัดกิจกรรมเกิดความล่าช้าและ
เวลาไม่เพียงพอ
แนวทางแกไ้ ข
ครูกำกับเรื่องการตรงต่อเวลา และการรักษาเวลากับนักเรียน และกำหนดแนวทางในการทำกิจกรรมใน
เรื่องตอ่ ไป
ลงชือ่ พัชรีภรณ์
(นางสาวพชั รภี รณ์ เดชช)ู
นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 ภาคเรยี นที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
รหสั วิชา ท ๒๑๑๐๒ รายวชิ าภาษาไทย เวลา ๑๖ ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา เวลา ๑ ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง อา่ นคล่อง ตอ้ งรู้
๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทย
อยา่ งเหน็ คณุ คา่ และนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ
ตัวชวี้ ัด
ท ๕.๑ ม. ๑/๑ สรปุ เนอ้ื หาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจเน้ือเรื่องย่อ เร่ือง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา (K)
๒. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหแ์ ละจับใจความ เรือ่ ง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา (P)
๓. นกั เรยี นเหน็ ความสำคญั ของเร่ือง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา และนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน (A)
๒. สาระสำคญั
วรรณคดีเร่อื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา ใหค้ ุณค่าท้งั ดา้ นสำนวนภาษาทไ่ี พเราะจับใจ สละสลวยชวน
อา่ น ใหข้ อ้ คดิ เกีย่ วกบั การรกั ษาคำพูด การรักชาตบิ า้ นเมือง รกั เกยี รตแิ ละศกั ด์ิศรขี องตนเอง
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑. สาระการเรยี นร(ู้ K)
เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
๓.๒. ทกั ษะ(S)
จบั ใจความสำคัญ การสังเคราะห์ การสรปุ ความรู้
๓.๓. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์(A)(ประจำหนว่ ยการเรยี นร)ู้
มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
๓.๔. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์(A)(ประจำกลมุ่ สาระการเรียนรู้)
ใฝเ่ รียนรู้ รกั ความเป็นไทย
๓.๕. สมรรถนะสำคัญผเู้ รยี น(C)
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด
๔. ภาระงาน (สะทอ้ นการจดั กจิ กรรม)
-
๕. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
๑. วิธกี ารวดั และประเมินผล
1) ตรวจชิ้นงานนกั เรยี น
๒. เครอ่ื งมอื
1) แบบประเมนิ ผลงานนักเรียน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
1) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น
๖. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำ
1. ครูใช้คำถามทบทวนเนื้อหา ที่มาและความสำคัญ รวมทั้งคำศัพทจ์ ากเรือ่ ง ราชาธิราช ตอน สมิงพระราม
อาสา จากช่ัวโมงที่แลว้ และนำคำตอบของนักเรยี นเชอื่ มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี น
ขน้ั สอน
1. นกั เรยี นรบั ชมวดี ทิ ัศน์ วรรณคดเี ร่ือง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา จากนนั้ ใหน้ กั เรียนจับใจความ
สำคัญของเรอื่ งท่ีรับชมวดี ิทัศน์ข้างตน้ โดยมปี ระเด็นดงั ต่อไปนี้
- กามะนีมคี วามสามารถทางดา้ นใด (ชำนาญเพลงทวนบนหลงั มา้ )
- เดิมแลว้ สมงิ พระรามเป็นคนเมอื งใด (เมอื งมอญ)
- สมงิ พระรามวางอุบายหาจุดออ่ นของกามะนอี ย่างไร (ให้กามะนีรำเพลงทวนตาม)
- พระเจ้ามณเฑยี รทองประกาศจะใหส้ ง่ิ ใดตอบแลว้ แกผ่ อู้ าสารบชนะกามะนี (โปรดให้เป็นมหา
อปุ ราช และพระราชทานพระราชธดิ าให้อภิเษกด้วย)
- เหตใุ ดสมิงพระรามจงึ กลับเมืองของตน (พระเจ้ามณเฑยี รทองหลดุ ปากพดู ว่า ไอล้ ูกเชลย)
ขนั้ สรุป
1. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ บทเรยี น
วรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา ให้คุณค่าทั้งด้านสำนวนภาษาที่ไพเราะจับใจ
สละสลวยชวนอ่าน ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการรักษาคำพูด การรักชาติบ้านเมือง รักเกียรติและศักดิ์ศรีของ
ตนเอง
๗. สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้
- ใบความรู้ เรอ่ื ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา
รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนจากการสงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนรว่ มในชนั้ เรยี นรายบคุ คล
รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ/ระดับคะแนน
1. ต้งั ใจเรยี น
2 1.5 1 0
2. มสี ่วนรว่ มในการทำ
กจิ กรรมในชัน้ เรยี น สนใจเรยี น มคี วาม สนใจเรียน มคี วาม สนใจเรียน มคี วาม ไม่สนใจเรยี น และ
3. ตอบคำถามในชัน้ เรียน พร้อมในการใฝ่
เรียนรู้ พร้อมในการใฝเ่ รียนรู้ พร้อมในการใฝเ่ รียนรู้ ไมม่ ีความพรอ้ มใน
มีสว่ นร่วมในการ เป็นส่วนใหญ่ บ้าง การใฝเ่ รียนรู้
ทำกจิ กรรมทุก
กจิ กรรม มสี ว่ นร่วมในการทำ มสี ว่ นร่วมในการ ไม่มสี ว่ นรว่ มใน
ตอบคำถามท่ีครู กิจกรรมเปน็ สว่ นใหญ่ ทำกิจกรรมบาง การทำกิจกรรม
ถามทุกครั้ง
กจิ กรรม
ตอบคำถามที่ครู ตอบคำถามที่ครู ไมต่ อบคำถามท่ีครู
ถามเกอื บทกุ คร้ัง ถามเพยี งบางคร้ัง ถาม
4. ต้ังใจทำงาน เอาใจใส่ตอ่ งานที่ เอาใจใส่ต่องานท่ี เอาใจใส่ตอ่ งานท่ี ไมเ่ อาใจใส่ตอ่ งาน
5. ตรงต่อเวลา ไดร้ ับมอบหมาย ไดร้ ับมอบหมายและ ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ด้รับมอบหมาย
และทำงานดว้ ย ทำงานด้วยความ และทำงานด้วย
ความตง้ั ใจทกุ ครง้ั ต้งั ใจเป็นสว่ นใหญ่ ความต้ังใจบางงาน สง่ งานท่ีไดร้ ับมอบ
หมายไม่ทนั เวลาที่
ส่งงานท่ีได้รบั มอบ ส่งงานท่ีได้รบั มอบ ส่งงานท่ไี ดร้ บั มอบ กำหนดและไม่มี
หมายก่อนเวลาท่ี หมายตรงเวลาตามที่ หมายไมท่ นั เวลาท่ี ความถกู ต้อง
กำหนดและมีความ กำหนดและมีความ กำหนดแต่มคี วาม
ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง
เกณฑก์ ารประเมนิ
คะแนน ระดบั
9 – 10 คะแนน ดีมาก
7 – 8 คะแนน
5 – 6 คะแนน ดี
น้อยกวา่ 5 คะแนน พอใช้
ควรปรบั ปรุง
หมายเหตุ : นกั เรยี นทไ่ี ดเ้ กณฑค์ ุณภาพระดบั ดี ข้นึ ไปจึงถอื ว่า ผา่ น
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คำช้ีแจง : ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นแลว้ ขีด ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
รายการประเมนิ พฤตกิ รรมนกั เรยี นรายบคุ คล
ท่ี ช่อื - สกลุ ตงั้ ใจเรยี น มีสว่ นรว่ มใน ตอบคำถาม ตง้ั ใจทำงาน ตรงต่อเวลา รวม
การทำกจิ กรรม ในชน้ั เรยี น
ในชน้ั เรยี น
2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 10
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
บนั ทกึ หลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อเรื่องย่อใน
เร่อื ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา
ด้านทกั ษะ (S)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 ส่วนใหญ่มีความสนใจวีดิทัศน์ เรื่อง ราชาธิราช ตอน
สมิงพระรามอาสา จากการรับชมวีดิทัศน์นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเรื่องได้ โดยครูใช้คำถามกระตุ้นความคิด
นกั เรยี นจากเรื่องท่ีได้รบั ชมข้างตน้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 ส่วนใหญ่เห็นความสำคัญจากเรื่องราชาธิราช ตอน
สมงิ พระรามอาสา มีความมุ่งมนั่ ต้งั ใจในการรับชมวดี ทิ ัศน์
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (C)
นักเรียนทุกระดับชั้นมีความสามารถในการสื่อสาร โดยถ่ายทอดความรู้ผ่านการรับชมวีดิทัศน์ เรื่อง ราชาธิราช
ตอน สมิงพระรามอาสา และสามารถสรปุ ความคดิ รวบยอดได้เปน็ อยา่ งดี
ปญั หาและอปุ สรรค
ปัญหาในการควบคุมชั้นเรียน เนื่องจากนักเรียนบางส่วนพูดคุยในขณะรับชมวีดิทัศน์ และระดับเสียงของ
วีดิทศั น์เบาจนเกินไปทำใหน้ กั เรียนบางส่วนไมไ่ ด้ยินเสยี ง
แนวทางแกไ้ ข
ครูใช้คำถามกระตุ้นความคิดนักเรียนจากเรื่องที่ได้รับชม และถามนักเรียนที่กำลังพูดคุย เพื่อให้นักเรียนสนใจ
เนื้อหามากยิ่งข้ึน
ลงช่อื พชั รีภรณ์
(นางสาวพชั รภี รณ์ เดชช)ู
นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 ภาคเรยี นที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑
รหสั วชิ า ท ๒๑๑๐๒ รายวิชาภาษาไทย เวลา ๑๖ ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา เวลา ๑ ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง อ่านไดเ้ ขา้ ใจเรอื่ ง
๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทย
อย่างเห็นคุณคา่ และนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง
ตวั ชีว้ ดั
ท ๕.๑ ม. ๑/๑ สรุปเนือ้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่อี ่าน
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ เรอ่ื ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา (K)
๒. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหแ์ ละตอบคำถามจาก เร่อื ง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา (P)
๓. นกั เรยี นเหน็ ความสำคญั ของเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั (A)
๒. สาระสำคญั
วรรณคดีเรือ่ ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา ใหค้ ุณคา่ ท้งั ด้านสำนวนภาษาทไี่ พเราะจบั ใจ สละสลวยชวน
อ่าน ใหข้ ้อคิดเกย่ี วกับการรักษาคำพูด การรักชาติบ้านเมือง รกั เกยี รติและศักด์ิศรีของตนเอง
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑. สาระการเรยี นร(ู้ K)
เร่อื ง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา
๓.๒. ทกั ษะ(S)
การสังเคราะห์ การสรุปความรู้
๓.๓. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์(A)(ประจำหนว่ ยการเรียนร)ู้
มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มั่นในการทำงาน
๓.๔. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์(A)(ประจำกลมุ่ สาระการเรยี นรู้)
ใฝเ่ รยี นรู้ รกั ความเป็นไทย
๓.๕. สมรรถนะสำคญั ผเู้ รยี น(C)
ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ
๔. ภาระงาน (สะท้อนการจดั กิจกรรม)
- ใบกจิ กรรม เรื่อง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา
๕. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
๑. วธิ กี ารวดั และประเมินผล
1) ตรวจชิ้นงานนักเรียน
๒. เครอื่ งมอื
1) แบบประเมนิ ผลงานนกั เรยี น
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
1) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ผ่านต้ังแต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น
ผ่าน ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
๖. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำ
1. ครูใช้คำถามทบทวนเนื้อหา ที่มาและความสำคัญ เรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา จากชั่วโมง
ทีแ่ ลว้ และนำคำตอบของนักเรียนเชอ่ื มโยงเข้าสบู่ ทเรยี น
ขนั้ สอน
1. นกั เรียนทำใบกิจกรรม เรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา โดยตอบคำถามทค่ี รกู ำหนดให้จำนวน
10 ขอ้ เมอื่ นักเรยี นทำใบกิจกรรมเสรจ็ แล้ว นกั เรียนและครูร่วมกันเฉลยใบกจิ กรรม
ขนั้ สรปุ
2. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ บทเรยี น
วรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา ให้คุณค่าทั้งด้านสำนวนภาษาที่ไพเราะจับใจ
สละสลวยชวนอ่าน ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการรักษาคำพูด การรักชาติบ้านเมือง รักเกียรติและศักดิ์ศรีของ
ตนเอง
๗. ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้
- ใบกจิ กรรม เรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา
ชอ่ื -สกลุ .........................................................................................เลขที.่ ..................ชั้น............/..............
ใบกจิ กรรม เรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา
วิชา ภาษาไทย ท21102 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. เรื่องราชาธิราชแปลในสมยั ใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เรอ่ื งราชาธิราชเป็นวรรณกรรมประเภทใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เหตุใดสมิงพระรามจึงตกเปน็ เชลยของพมา่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. กามะนีมคี วามสามารถทางด้านใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. เหตุใดพระเจ้ากรงุ จีนจึงยกทพั มาพม่า
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. หากทหารของพม่าแพก้ ามะนีจะเกดิ ผลเสียต่อพมา่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. พระเจา้ มณเฑียรทองประกาศจะให้สงิ่ ใดตอบแทนแกผ่ อู้ าสารบชนะกามะนี
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
8. สมงิ พระรามวางอบุ ายหาจุดออ่ นของกามะนอี ยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
9. ใครเปน็ ผทู้ ำให้สมงิ พระรามซึง่ ถกู คมุ ขังมีโอกาสแสดงฝมี อื
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
10. สมิงพระรามทำอย่างไรใหม้ า้ กามะนีถอยกำลัง
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
ชอ่ื -สกลุ .......................................................................................เลขที่...................ช้ัน............/..............
ใบกิจกรรม เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา
วิชา ภาษาไทย ท21102 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. เร่อื งราชาธิราชแปลในสมยั ใด
รัชกาลท่ี 1 พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช
2. เรอื่ งราชาธิราชเป็นวรรณกรรมประเภทใด
พงศาวดารมอญ
3. เหตุใดสมงิ พระรามจึงตกเป็นเชลยของพม่า
เพราะพลายประกายมาศตกหลม่ เพราะชาวพมา่ มีกองกำลังทีเ่ ข้มแข็งกวา่ ชาวพมา่ ใช้กลอุบายลอ่ ลว่ งใน
การศึก
4. กามะนีมีความสามารถทางดา้ นใด
เปน็ ผเู้ กง่ กาจ มีความสามารถในการรำทวน
5. เหตุใดพระเจ้ากรงุ จนี จึงยกทพั มาพมา่
เพราะต้องการขยายอาณาเขตลงมาทางตอนใต้ อยากทอดพระเนตรเห็นทหารท่ีมฝี ีมอื รำทวนต่อสตู้ ัวตอ่ ตวั
กับกามะนี
6. หากทหารของพม่าแพ้กามะนีจะเกิดผลเสยี ต่อพมา่ อยา่ งไร
ถา้ ฝา่ ยพม่าแพ้จะต้องยกเมอื งใหแ้ ก่จนี
7. พระเจา้ มณเฑยี รทองประกาศจะใหส้ ง่ิ ใดตอบแทนแกผ่ อู้ าสารบชนะกามะนี
จะโปรดให้เปน็ มหาอุปราช และยกพระธดิ าให้
8. สมงิ พระรามวางอบุ ายหาจุดอ่อนของกามะนีอยา่ งไร
ใหแ้ ตล่ ะฝา่ ยแสดงท่ารำให้อกี ฝา่ ยรำตามกอ่ นจะตอ่ สู้กนั
9. ใครเป็นผทู้ ำให้สมิงพระรามซง่ึ ถูกคุมขังมโี อกาสแสดงฝีมอื
ทหารผคู้ ุมหนา้ หอ้ งขงั สมงิ พระราม
10. สมงิ พระรามทำอย่างไรให้มา้ กามะนีถอยกำลงั
ควบมา้ ด้วยความเรว็ และแกลง้ ทำเปน็ เสียทคี วบม้าหนีไป
บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง ราชาธิราช ตอน
สมิงพระรามอาสา ครอู ธิบายเพิม่ เติมและทบทวนความรเู้ ร่ืองเดิม
ดา้ นทกั ษะ (S)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 สามารถทำใบกิจกรรม เรื่อง ราชาธิราช ตอน
สมิงพระรามอาสา จำนวน 10 ขอ้ ได้อยา่ งถกู ต้อง
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 , 1/6 และ 1/7 ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการทำงาน ส่งงานที่ได้
รับมอบหมายตรงต่อเวลา มีความมงุ่ ม่ันและใฝ่เรยี นรู้ในการเรียน
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน (C)
นักเรียนทุกระดับชั้นส่วนใหญ่มีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์และตอบคำถามจากใบกิจกรรม เรื่อง
ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา ถกู ต้องร้อยละ 80
ปัญหาและอุปสรรค
-
แนวทางแกไ้ ข
-
ลงชือ่ พัชรีภรณ์
(นางสาวพัชรภี รณ์ เดชช)ู
นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 ภาคเรยี นท่ี ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
รหสั วชิ า ท ๒๑๑๐๒ รายวชิ าภาษาไทย เวลา ๑๖ ชัว่ โมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา เวลา ๑ ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง อา่ นคล่อง ต้องฝกึ ฝน
๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ัดสนิ ใจ
แกป้ ัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนสิ ยั รกั การอา่ น
ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ม. ๑/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั
เรือ่ งทอี่ ่าน
ท ๑.๑ ม. ๑/๙ มีมารยาทในการอา่ น
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวธิ ีการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ (K)
๒. นกั เรยี นสามารถแบ่งวรรคตอนเน้อื เร่อื งราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา (P)
๓. นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสียงเรื่องราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา (P)
๔. นกั เรยี นเห็นความสำคัญของการอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ อยา่ งถูกต้องชัดเจน (A)
๒. สาระสำคญั
การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ ตอ้ งออกเสยี งคำใหถ้ ูกต้อง ชัดเจน ตามอักขรวิธี และแบง่ วรรคตอนให้ถูกตอ้ ง
เพ่อื ใหผ้ ฟู้ ังเข้าใจเนอ้ื หาของเรือ่ ง
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑. สาระการเรยี นร(ู้ K)
วิธีการอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้
๓.๒. ทกั ษะ(S)
การปฏิบตั /ิ การสาธติ การประเมนิ คา่ การสรุปความรู้
๓.๓. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์(A)(ประจำหนว่ ยการเรยี นร)ู้
ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย
๓.๔. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์(A)(ประจำกลมุ่ สาระการเรยี นรู้)
ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเปน็ ไทย
๓.๕. สมรรถนะสำคญั ผเู้ รยี น(C)
ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด
๔. ภาระงาน (สะทอ้ นการจดั กิจกรรม)
การอา่ นออกเสยี งเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา (กิจกรรมกลมุ่ )
๕. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
๑. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล
๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
๒. เครอื่ งมอื
๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
๑) การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่
คะแนน ๙ - ๑๐ ระดบั ดมี าก
คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี
คะแนน ๕ - ๖ ระดับ พอใช้
คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรบั ปรุง
๖. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำ
๑. นกั เรยี นฟงั และสงั เกตการอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ จากแถบขอ้ ความทค่ี รตู ดิ บนกระดาน ดงั น้ี
ครั้นเวลาเช้าพระเจ้ามณเฑียรทองจึงมีรับสั่งให้หาเจ้าสมิงพระรามเข้ามากินเลี้ยง
บนพระราชมนเทียร สมิงพระรามรับพระราชทานเครื่องเลี้ยงพอควรแล้วก็เข้ามากราบถวายบังคม
เฝ้าอยู่โดยลำดับ พระเจ้ามณเฑียรทองจึงตรัสว่า เราเป็นกษัตริย์อันประเสริฐได้ออกวาจาแล้ว
ถงึ จะตายกห็ าเสียดายชวี ติ ไม่ เพราะรกั สัตย์ย่ิงกว่ารกั ชวี ิตได้ร้อยเทา่ ...
๒. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาจากขอ้ สงั เกตทฟ่ี งั ครอู า่ นในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
- การอา่ นออกเสยี งคำตามอักขรวธิ ี เช่น ความสั้นยาวของเสียงสระ ความสูงตำ่
ของเสียงวรรณยุกต์ คำทมี่ พี ยญั ชนะควบกล้ำ คำท่มี ี ร ล
- การแบ่งวรรคตอนของข้อความ
- การเนน้ เสยี งถ้อยคำหรือขอ้ ความท่ีเปน็ ใจความสำคญั
- การใชน้ ำ้ เสยี งให้สอดคล้องกบั เน้อื หา
ขนั้ สอน
1. นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วในแถบข้อความพร้อมกัน ครูสังเกตการอ่านออกเสียงของนักเรียนและ
ให้คำแนะนำ
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๘ กลุ่ม ส่งตัวแทนออกมาเลือกหมายเลขที่มีบทอ่าน กลุ่มละ ๑ หมายเลข เมื่อได้รับบท
อ่านแลว้ แต่ละกลุ่มร่วมกนั อา่ นสำรวจเพ่ือจับใจความ ค้นหาคำยากและถ้อยคำหรือขอ้ ความ ที่ควรเน้นเสียง แบ่งวรรค
ตอน และฝกึ ฝนการอา่ นออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว ข้อความที่แต่ละกลมุ่ ได้รบั มีดงั นี้
เรายกพยุหเสนามาครั้งนี้ ด้วยมีความปรารถนาสองประการ ประการหนึ่งจะให้
พระเจ้าอังวะอยูใ่ นอำนาจออกมาถวายบังคมเรา ประการหนึง่ จะใคร่ดูทหารขีม่ ้ารำทวนสูก้ นั ตวั
ต่อตัวชมเล่นเป็นขวัญตา แม้นทหารกรุงรัตนบุระอังวะแพ้ก็ให้ยอมถวายเมืองแก่เราโดยดี
อย่าให้สมณชีพราหมณ์ อาณาประชาราษฎร์ได้ความเดือดร้อนเลย ถ้าทหารฝ่ายเราแพ้ก็จะ
เลิกทัพกลับไปยังพระนคร และราษฎรในกรุงรัตนบุระอังวะนั้น โดยต่ำลงไปแต่กระท่อมน้อย
หลงั หน่งึ ก็มิใหเ้ ปน็ อันตราย พระเจา้ อังวะจะคดิ ประการใดกเ็ รง่ บอกออกมา
2 ซึ่งพระเจ้ากรุงจีนมีพระทัยปรารถนาจะใคร่ชมฝีมือทหารฝ่ายพม่าขี่ม้ารำทวนสู้กัน
เป็นสงครามธรรมยุทธ์นั้น เราเห็นชอบด้วยมีความยินดียิ่งนัก เพราะสมควรแก่พระองค์เป็น
โดยเร็วนั้นมิได้ ของดไว้ภายในเจ็ดวัน อนึ่ง พระองค์ก็เสด็จมาแต่ประเทศไกล ไพร่พลทั้งปวงยัง
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอยู่ ขอเชิญพระองค์พักพลทหารระงับพระกายให้สำราญพระทัยก่อนเถิด
แล้วเราจงึ จะให้มกี ำหนดนดั หมายออกไปแจง้ ตามมพี ระราชสาส์นมานัน้
3 ...สมิงพระรามก็เข้ามากราบถวายบังคมหน้าพระที่นั่ง พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง
ทอดพระเนตรเห็นสมิงพระรามก็มีพระทัยยินดีนัก จึงตรัสถามว่า ศึกมาติดกรุงอังวะครั้งนี้
หาผู้ใดที่จะอาสาออกสู้กับทหารจีนมิได้ ท่านจะรับอาสาเราหรือประการใด สมิงพระรามจึง
กราบทูลว่า อันการสงครามเพียงนี้มิพอเป็นไรนัก ข้าพเจ้าจะขอรับอาสาพระองค์ออกไปต่อสู้
ด้วยกามะนี สนองพระเดชพระคุณมิให้อัปยศแก่พระเจ้ากรุงจีนนั้นพอจะได้อยู่ แต่ข้าพเจ้า
จะขอรับพระราชทานม้าที่ดีมีฝีเท้าตัวหนึ่ง ถ้าได้สมคะเนแล้ว อย่าว่าแต่กามะนีเลย เว้นไว้แต่
เทพยดานอกกวา่ นนั้ ข้าพเจ้าจะสู้ได้ส้นิ
4 ...สมิงพระรามจึงทูลว่า ลักษณะช้างดีต่อเมื่อขี่จึงจะรู้ว่าดี ม้าดีได้ต้องเอามือต้องหลัง
ดูก่อน จึงจะรู้ว่าดี ทแกล้วทหารก็ดี ถ้าอาสาออกสงครามทำศึกจึงจะรู้ว่าดี ทองนพคุณเล่า
ขีดลงหน้าศิลาก่อนจึงจะรู้ว่าดี สตรีรูปงามถ้าพร้อมด้วยลักษณะกิริยามารยาทต้องอย่าง
จึงควรนับว่างาม ถ้าจะให้รู้รสอร่อยได้สัมผัสถูกต้องก่อนจึงนับถือว่ามีโอชาอร่อย ถ้าใจดี
ต้องทดลองใหส้ ิ้นเชิงปัญญากอ่ นจึงจะนบั ว่าดี...
5 ครั้นสมิงพระรามแลเห็นกามะนีควบม้าเต็มกำลังแล้วมิทัน ก็แสร้งรอม้าไว้หวังจะ
ดูท่วงที เห็นกามะนียังไกลเชิงนักอยู่ สำคัญได้ว่าเหงื่อม้ากามะนีตกจนถึงกีบ ก็รู้ว่าม้า
หย่อนกำลังลงแล้ว จึงชักม้าวกเป็นเพลงโคมเวียน เข้ารับกามะนี ๆ ชักม้าเป็นเพลงผ่าหมาก
แลกเปลี่ยนกันต่าง ๆ ฝ่ายม้ากามะนีหอบรวนหย่อนกำลังลงกลับตัวตามเพลงไม่ทัน
สมิงพระรามได้ทีก็สอดทวนแทงถูกซอกรักแร้กามะนี ๆ เอนตัวลง สมิงพระรามจึงชักดาบ
กระทืบม้าเข้าฟันย้อนตามกลีบเกราะขึ้นไป ต้องศีรษะกามะนีขาดออกตกลงมายังมิทันถึงดิน
ก็เอาขอเหล็กสับเอาศีรษะกามะนีได้ ใส่ตะกรวยแล้วก็ชักม้าฟ้อนรำเป็นเพลงทวนเข้ามา
ตรงหน้าพลบั พลาพระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง
6 ...ซึ่งข้าพเจ้าจะผูกจิตสมิงพระรามให้อยู่ด้วยยางรักนั้น ก็คือจะให้ใจสมิงพระรามมา
ผูกรักอยู่ด้วยสิ่งนี้ อันจะผูกด้วยมนตราคมและโซ่ตรวนเชือกพวนสรรพเครื่องจองจำทั้งสิ้นนน้ั
ก็พลันที่จะหลุดถอนเคลือ่ นคลายไมแ่ น่นเหนยี วเหมอื นยางรัก ถ้าผู้ใดผูกติดอยู่ด้วยยางรกั แลว้
ถึงจะเอาเชือกพวนเข้ามาฉุดชักก็มิอาจจะหลุดเคลื่อนคลายได้ เห็นสมิงพระรามจะสวามิภักดิ์
อยูด่ ้วยพระองคเ์ พราะสิ่งนเี้ ป็นม่นั คง
7 ...อนึ่งเราเกรงคนทั้งปวงจะครหานินทาได้ ท่านรับอาสากู้พระนครไว้มีความชอบเป็น
อันมาก มไิ ด้รับบำเหน็จรางวลั ส่งิ ใด นานไปเบ้อื งหน้าถา้ บา้ นเมืองเกดิ จลาจลหรอื ข้าศึกมาย่ำยี
เหลือกำลัง ก็จะไม่มีผู้ใดรับอาสาอีกแล้ว เห็นเราจะได้ความขัดขวางเป็นมั่นคงตรัสแล้วจึงสั่ง
ให้พระราชธิดายกพานพระศรีมาตั้ง ให้เจ้าสมิงพระรามกินต่อหน้าพระที่นั่ง พระราชธิดาก็
อายพระทัยย่ิงนกั ด้วยเปน็ ราชบุตรีกษัตรยิ ์ แต่ทรงพระเยาว์มาจนเจรญิ พระชนม์ ยังไม่เคยยก
พานพระศรีให้ทหารและขุนนางผู้ใดกิน แต่ขยับขยั้นยั้งพระองค์อยู่มิใคร่จะแหวก
ขัดรับสง่ั
สมเด็จพระราชบิดามิได้ก็ยกพานพระศรีมาตั้งลงเฉพาะหน้าสมิงพระรามแต่ห่าง ๆ
ช้อยชำเลืองดสู มิงพระรามไมท่ นั จะเตม็ พระเนตร ดว้ ยความอายกเ็ สดจ็ กลบั เขา้ ไป...
8 ...ฝ่ายพระราชกุมารเป็นทารกยังทรงพระเยาว์ไม่แจ้งความ กำดัดคะนองลุกจาก
พระเพลา ยืนขึ้นยุดพระอังสาพระเจ้ามณเฑียรทองไว้แล้ว เอื้อมพระหัตถ์ขึ้นไปเล่นบนที่สูง
พระเจ้ามณเฑียรทองผันพระพักตร์มา ทอดพระเนตรเห็นดังน้ันกต็ รัสพลั้งพระโอษฐ์ออกไปว่า
ลูกอ้ายเชลยนี้กล้าหาญนัก นานไปเห็นองอาจแทนมังรายกะยอฉะวาได้ สมิงพระรามได้ยิน
พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องดังนั้นก็น้อยใจ จึงคิดว่าครั้งนี้สิ้นวาสนากันแล้ว เป็นผลที่เราจะได้กลับไป
เมืองหงสาวดดี ว้ ยความสตั ย์