The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1 A บรรยาย กศป. ม.ศรีปทุม รุ่น 4 Power Point 17 10 64 (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pachairat, 2021-10-16 06:07:23

1 A บรรยาย กศป. ม.ศรีปทุม รุ่น 4 Power Point 17 10 64 (1)

1 A บรรยาย กศป. ม.ศรีปทุม รุ่น 4 Power Point 17 10 64 (1)

กฎหมายกล่มุ ควบคมุ อาคาร

หลักวิ ชาการพื้นฐานที่ เป็ นเนื้ อหาของเรื่อง คือ การควบคุม
การก่อสร้างอาคาร (Building Control) เพ่ือความปลอดภยั ของสาธารณะและ
ตามวตั ถุประสงค์ของกฎหมายแต่ละเร่ือง ที่มีมาตรฐานของกฎหมายใน
เรือ่ งนัน้ ๆ กาหนดไว้

แ ย ก เ ป็ น “ ก า ร ค ว บ คุม อ า ค า ร ที่ ก่ อ ส ร้ า ง บ น พื้น ดิ น ” ไ ด้ แ ก่
พระราชบญั ญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบญั ญัติโบราณสถาน
โ บ ร า ณ วัต ถุ ศิ ล ป วัต ถุ แ ล ะ พิ พิ ธ ภัณ ฑ ส ถ า น แ ห่ ง ช า ติ พ .ศ . ๒ ๕ ๐ ๔
พระราชบัญญัติ การเดิ นอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ พระราชบัญญัติ ว่าด้วย
เขตปลอดภยั ในราชการทหาร พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๘ เป็นต้น

และ “การควบคุมอาคารท่ีก่อสร้างในพื้นน้าท่ีมีการสญั จรทางน้า”
ได้แก่ พระราชบญั ญตั ิการเดินเรือในน่ านน้าไทย พระพุทธศกั ราช ๒๔๕๖
เป็ นต้น

51

10/16/2021 52

ผงั บริเวณ รูปด้าน B-B

ผงั พืน้ ช้ันบน รูปด้าน D-D

รูปด้าน A-A รูปด้าน C-C

10/16/2021 53

10/16/2021 54

10/16/2021 55

และหมายความรวมถงึ 56
อฒั จนั ทร์ หรือส่ิงทส่ี ร้างขนึ้ อย่างอ่ืน
เพ่ือใช้เป็ นทช่ี ุมนุมของประชาชน

อฒั จนั ทร์

10/16/2021

10/16/2021 57

10/16/2021 58

เขอ่ื น สะพาน อโุ มงค์ ทางหรอื ท่อระบายน้า อ่เู รอื คานเรอื ท่าน้า
ท่าจอดเรอื รวั้ กาแพง หรือประตู ท่ีสรา้ งขึน้ ติดต่อหรอื ใกล้เคียงกบั

ท่ีสาธารณะ หรอื สิ่งที่สรา้ งขึน้ ให้บคุ คลทวั่ ไปใช้สอย

10/16/2021 59

เขื่อนสะพาน อโุ มงค์ ทางหรอื ท่อระบายน้า อ่เู รอื คานเรือ ท่าน้า ท่าจอด
เรอื รวั้ กาแพง หรอื ประตู ที่สรา้ งขึน้ ติดต่อหรอื ใกล้เคียงกบั ที่สาธารณะ
หรอื ส่ิงที่สรา้ งขึน้ ให้บคุ คล ทวั่ ไปใช้สอย

10/16/2021 60

เขือ่ น สะพาน อโุ มงค์ ทางหรอื ท่อระบายน้า อ่เู รอื คานเรอื ท่าน้า
ท่าจอดเรอื รวั้ กาแพง หรือประตู ท่ีสรา้ งขึน้ ติดต่อหรอื ใกล้เคียงกบั
ท่ีสาธารณะหรอื สิ่งท่ีสรา้ งขึน้ ให้บคุ คลทวั่ ไปใช้สอย

10/16/2021 61

เข่ือนตามกฎหมายเฉพาะ
ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมอาคาร

เขื่อนเจา้ พระยา กรมชลประทาน

เขื่อนภูมิพล การไฟฟ้าฝ่ ายผลิตแห่งประเทศไทย

เข่ือนศรีนครินทร์ การไฟฟ้าฝ่ ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนปากมูล การไฟฟ้าฝ่ ายผลิตแห่งประเทศไทย

62

ป้ายหรือส่ิงที่สร้างขึน้ สาหรบั ติดหรือตงั้ ป้าย (ก) ที่ติดตงั้ หรือตงั้ ไว้เหนือที่สาธารณะและมีขนาดเกิน

หนึ่งตารางเมตร หรือมีน้าหนักรวม ทงั้ โครงสร้าง เกินสิบกิโลกรมั (ข) ที่ติดหรือตงั้ ไว้ในระยะห่างจากท่ี
สาธารณะ ซ่ึงเมื่อวดั ในทางราบแล้วระยะห่างจากท่ีสาธารณะมีน้อยกว่าความสงู ของป้ายนัน้ เม่ือวดั จาก
พืน้ ดิน และมีขนาดหรือน้าหนักเกินกว่าที่กาหนดในกฎกระทรวง

10/16/2021 63

10/16/2021 64

(๑) อาคารสงู

10/16/2021 65

10/16/2021 66

10/16/2021 67

10/16/2021 Burj Dubai มีความหมายวา่ Dubai Tower 68

(๒) อาคารขนาดใหญ่พิเศษ

10/16/2021 69

(๓) อาคารชมุ นุมคน

10/16/2021 70

10/16/2021 71

(๔) โรงมหรสพ

10/16/2021 72

(๕) กระเช้าไฟฟ้าและเครอื่ งเล่นในสวนสนุก

10/16/2021 73

พระราชบญั ญตั โิ บราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวตั ถุ และพพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔

พระปฐมเจดยี ์ จงั หวดั นครปฐม 74

10/16/2021

พระราชบญั ญัติการเดนิ อากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗

10/16/2021 75

พระราชบัญญตั กิ ารเดนิ เรือในน่านนา้ ไทย พระพทุ ธศักราช ๒๔๕๖

ส่ิงปลูกสร้างล่วงลา้ ลานา้

กล่มุ กฎหมายเหตเุ ดือดรอ้ นราคาญ

หลกั วชิ าการพ้นื ฐานท่ีเป็นเน้ือหาของเร่อื ง คอื การควบคุมการประกอบ
กจิ กรรม (Activity Control) เพ่อื ความปลอดภยั ของสาธารณะและตามวตั ถุประสงค์
ของกฎหมายแต่ละเรอ่ื ง ทม่ี มี าตรฐานของกฎหมายในเรอ่ื งนนั้ ๆกาหนดไว้

แยกเป็น “เหตุราคาญ” ตามบทบญั ญตั มิ าตรา ๒๕ แห่งพระราชบญั ญตั ิ
การสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ท่ีบญั ญัติว่า ในกรณีท่ีมเี หตุอนั อาจก่อให้เกิดความ
เดอื ดร้อนแก่ผูอ้ ยู่อาศยั ในบรเิ วณใกล้เคยี งหรอื ผูท้ ่ตี ้องประสบกบั เหตุนัน้ ดงั ต่อไปน้ี
ใหถ้ อื วา่ เป็น เหตุราคาญ

และ “เหตุเดือนร้อน” เป็นเหตุท่ีมีความรุนแรงเกินเกณฑ์มาตรฐานท่ี
กาหนดไว้เป็นเหตุราคาญของกิจกรรมตามกฎหมายต่างๆ ได้แก่ พระราชบญั ญตั ิ
โรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลงั งาน พ.ศ. ๒๕๕๐
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ .ศ. ๒๕๓๕
พระราชบญั ญตั ริ กั ษาความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยของบา้ นเมอื ง พ.ศ.
๒๕๓๕ พระราชบญั ญตั กิ ารขดุ ดนิ และถมดนิ พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นตน้

77

พระราชบัญญตั กิ ารสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕

78

พระราชบัญญตั โิ รงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
พระราชบัญญตั ิการประกอบกจิ การพลงั งาน พ.ศ. ๒๕๕๐
พระราชบัญญตั สิ ่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕

10/16/2021 79

พระราชบญั ญตั ิรกั ษาความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ยของบา้ นเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕

พระราชบญั ญตั กิ ารขุดดนิ และถมดนิ พ.ศ. ๒๕๔๓

81

ประเดน็ ปัญหาการอานวย
ความยตุ ิธรรมของประเทศไทย

คือ

การใช้กฎหมาย

APPLICATION OF LAW

เพื่อให้เกดิ ความยุตธิ รรม และ
ความเป็นธรรมทางสงั คม

82

พระราชดารัสพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช

“มีคาพูดที่พูดถึงนักกฎหมายอยู่อย่างหน่ึ งว่า คนที่ทางานกับ
กฎหมายมาก ๆ มกั จะติดอย่กู บั ตวั บทกฎหมาย คาพดู อย่างนี้ดจู ะไม่ใช่คาชม
หากเป็นคาติติงนักกฎหมายบางคน ท่ีถือแต่ตวั กฎหมายเป็นหลกั การในการ
ธารงรกั ษาความยตุ ิธรรม ซึ่งดจู ะเป็นการคบั แคบเกินไป และอาจทาให้รกั ษา
ความยตุ ิธรรมไว้ได้ไมเ่ ตม็ ท่ี

ผู้ทาหน้ าที่พิ ทักษ์ความยุติ ธรรมหรือความเป็ นธรรมจึงควร
ระมดั ระวงั ให้มาก คือ ควรจะได้ทาความเข้าใจให้แน่ชดั ว่ากฎหมายนัน้ ไม่ใช่
ตวั ความยตุ ิธรรม เป็นแต่เพียงเครือ่ งมืออย่างหน่ึงสาหรบั ใช้ในการรกั ษาและ
อานวยความยตุ ิธรรมเท่านัน้

“การใช้กฎหมาย” จึงต้องมุ่งหมายใช้เพ่ือรกั ษาความยุติธรรม
ในแผ่นดิน มิได้มีวงแคบอยู่เพียงแค่ขอบเขตของกฎหมาย หากต้องขยาย
ออกไปให้ถงึ ศีลธรรมจรรยา ตลอดจนเหตแุ ละผลตามเป็นจริงด้วย”

พระราชดารสั ฯเน่ืองในโอกาสพระราชทานประกาศนียบตั รแก่ผ้สู อบไล่ได้ วิชาความรู้ชนั้ เนติบณั ฑิต
สมยั ท่ี ๓๓ วนั พฤหสั บดี ที่ ๒๙ ตลุ าคม ๒๕๒๔

83

“กฎหมาย” & “ความยุตธิ รรม”

“การที่มีคาใช้อยู่สองคา คือ “กฎหมาย” คาหนึ่ง
“ความยุติธรรม” คาหนึ่ง ก็แสดงอยู่ในตัวแล้วว่าหาใช่
สิ่งเดียวกันเสมอไปไม่ การท่ีนักกฎหมายจะยึดถือแต่
กฎหมายไม่คานึงถงึ ความยุตธิ รรมตามความหมายทวั่ ไป
น้ัน เป็ นความเห็นความเข้าใจแคบกว่าทีค่ วรจะเป็ น ”

ศาสตราจารย์ ดร.จิตติ ติงศภัทยิ ์ หลกั วชิ าชีพกฎหมาย

84

ปัญหาการอานวยความยตุ ิธรรมของประเทศไทย

“การอานวยความยุติธรรมปัญหากค็ ือว่า ความยุติธรรมคืออะไร เรามกั จะได้ยิน

กนั ว่าความยุติธรรมตามกฎหมาย และกม็ กั เข้าใจว่าที่มนั ไม่เป็ นกฎหมายละกเ็ ป็ นยุติธรรม
ไปไม่ได้ น่ี เป็ นแต่เพียงความเข้าใจในแง่หน่ึ งเท่านั้นเอง คือ กฎหมายเขียนขึ้นมาก็มี
วตั ถปุ ระสงคท์ ี่จะกาหนดให้ความยตุ ิธรรมนัน้ แน่นอน

เมื่อเรากาหนดไว้แน่นอนแล้วมนั กต็ ้องไปตามหลกั การนัน้ แต่ถ้ากรณีที่มนั ไม่เป็ น
เหมือนกรณีทวั่ ไปขึ้นมา ปัญหาระหว่างกฎหมายกบั ความยุติธรรมอยู่ตรงนี้ ความยุติธรรม
นัน้ เป็ นเรื่องซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ส่ิงใดท่ีเป็ นยุติธรรมหรือไม่ มนั เป็ นความคิดของ
บุคคลตามธรรมชาติ มนั ไม่ใช่สิ่งซึ่งบุคคลใดคนหน่ึ งจะไป บอกว่า น่ี ยุติธรรม น่ี ไม่ใช่
ความยุติธรรม มนั เป็ น เรื่องของธรรมชาติ ส่ิงใดจะเป็ นความยุติธรรม กเ็ ป็ นความร้สู ึกของ
คนตามธรรมชาติ

ความยตุ ิธรรมกบั กฎหมายนัน้ บางทีไม่ตรงกนั ผทู้ ี่ใช้กฎหมายเช่น ผพู้ ิพากษาที่ดีจะ
สามารถใช้กฎหมายให้ประสานกบั ความยตุ ิธรรมได้เป็นอย่างดี คือ สามารถตีความกฎหมาย
ให้สอดคล้องกบั ความยตุ ิธรรมได้ ตวั กฎหมายเองที่เขียนไว้กม็ ่งุ หมายให้โอกาสผใู้ ช้กฎหมาย
ได้ตามที่ควรจะเป็ น เราเรียนกฎหมาย กพ็ อจะเข้าใจลายลกั ษณ์อกั ษรกบั ความมุ่งหมายของ
กฎหมายจะควบค่กู นั ”

ศาสตราจารย์ ดร. หยดุ แสงอทุ ยั หนังสือ ๑๐๐ ปี ชาตกาล ๘ เมษายน ๒๕๕๑

การใช้กฎหมายเพ่ือให้เกดิ ความยตุ ธิ รรม

“ความยตุ ิธรรม” หรอื “หลกั นิติธรรม”
จะไมส่ ามารถเกิดเป็นจริงขึน้ มาได้

ถา้ ผใู้ ช้กฎหมายยงั ตามความเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ทนั
กฎหมายแมจ้ ะเป็นกรอบท่ีกาหนดทางเดินให้เราเดิน

เป็นกรอบที่ก่อให้เกิดความยตุ ิธรรมและความดีในสงั คม
แต่การเดินตามกรอบท่ีกฎหมายขีดเส้นไว้นัน้
กต็ ้องเป็นไปอย่างมีศิลปะด้วยเช่นกนั เพราะ

กฎหมาย คือ ศิลปะว่าด้วยความดีและความยตุ ิธรรม
(Jus est ars boni et aequi)

ศาสตราจารย์ ดร. อกั ขราทร จฬุ ารตั น
ประธานศาลปกครองสงู สดุ ท่านแรก

(พ.ศ. ๒๕๔๓ - ๒๕๕๓)

ศาสตราจารย์ ดร. อมรจนั ทรสมบูรณ์ กล่าวว่า คาพิพากษา
ของศาลปกครองซึ่งเป็ นตรรกะของการใช้เหตุผลตามนิ ติปรชั ญาของ
กฎหมายมหาชน ต้องมีการวิเคราะห์ (Rationalization) เพื่อดูว่า
คาพิพากษาของศาลมีความผิดพลาดที่เกิดจากการวินิ จฉัยของศาล
หรือไม่เพียงใด ความผิดพลาดในการพิพากษาคดีหมายถึงผลของ
คาพิ พากษาผิ ดไปจ ากเจ ตนารมณ์ ของบทกฎหมายและทาให้ เกิ ด
ผลเสียแก่สงั คม

ซึ่งความผิดพลาดนั้นอาจมีสาเหตุมาจากตัวบุคคล ได้แก่
ความ(ไม่)สามารถ หรือความ(ไม่)สุจริ ตของผู้ใช้อานาจชี้ขาด
ท่ีใช้อานาจ(รฐั ) โดยบิดเบือน (Abuse)ก็ได้ หรืออาจมีสาเหตุมาจาก
ถ้อยคาในบทกฎหมายท่ีไม่เปิ ดโอกาสให้มีการตีความให้เป็ นไปตาม
เจตนารมณ์ของกฎหมายกไ็ ด้

87

ปัญหาการอานวยความยตุ ธิ รรมของประเทศไทย

“ คนส่วนใหญ่มกั จะคดิ ว่า
ความยุตธิ รรม (Justice) เป็ นเร่ืองของกฎหมาย
และนักกฎหมายเท่าน้ัน ทจี่ ะเป็ นผู้เข้าใจถงึ ความยุตธิ รรมได้ดที ส่ี ุด

แม้แต่ข้าพเจ้าซึ่งเป็ นนักเศรษฐศาสตร์
ทขี่ ณะนีไ้ ด้มโี อกาสเข้าไปทางานเกย่ี วกบั การอานวยความยุตธิ รรม

กเ็ คยคดิ เช่นน้ัน
และพยายามจับทางและเลยี นแบบนักกฎหมาย

ในการอานวยความยุตธิ รรม
แต่กพ็ บว่า ไม่ได้ผล เพราะพบว่า
นักกฎหมายทไ่ี ม่ได้ศึกษาทางด้านปรัชญาและสังคมศาสตร์อย่างจริงจงั
จะมองเห็นความยุตธิ รรมในมุมทแี่ คบเกนิ ไป
และในหลายกรณเี ป็ นมุมมองทผ่ี ดิ ด้วยซ้า ”

ศาสตราจารย์ ดร.เมธี ครองแกว้
๑๓ มกราคม ๒๕๕๔

“ศาลปกครอง”

หลกั ประกนั ความเป็นธรรมของสงั คม

ปกเอกสาร “สถติ คิ ดปี กครอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๖”
สานกั บรหิ ารยทุ ธศาสตร์ สานกั งานศาลปกครอง

เดอื นกุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๗

89

การวิเคราะหส์ ถิติคดีปกครอง

ตามสถติ คิ ดปี กครองของศาลปกครองช้ันต้น เม่ือจาแนกตามลกั ษณะ คดแี ล้วเสร็จ (ต้ังแต่เปิ ด

ทาการ –วันท่ี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖) มีคาฟ้องย่ืนต่อศาลปกครองช้ันต้น ท้ังหมด ๕๗,๗๑๗ คดี
ศาลปกครองช้ันต้นมีคาพิพากษา ๒๒,๖๙๙ คดี จาหน่ายคดี ๓๕,๐๑๘ คดี (จาหน่ายคดี แยกเป็ นไม่รับ
คาฟ้อง ๒๕,๑๗๙ คดี และเหตุอื่น ๙,๘๓๙ คด)ี (ตารางที่ 9 หน้าท่ี 20)

สถิติคดีปกครองท่ีศาลปกครองช้ันต้นมีคาสั่งไม่รับคาฟ้องไว้พิจารณา (ต้ังแต่เปิ ดทาการ –
วนั ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖) กรณไี ม่อยู่ในเขตอานาจศาลปกครอง ๖,๑๒๗ คดี (ตารางที่ 10 หน้าท่ี 22)
กรณไี ม่เป็ นไปตามเงื่อนไขการฟ้องคดี ๑๘,๙๕๘ คดี (ตารางที่ 11 หน้าที่ 23)

โดยเป็ นคาส่ังไม่รับคาฟ้องเพราะไม่เป็ นไปตามเงื่อนไขการฟ้องคดี “ที่วินิจฉัยว่าไม่ใช่
ผู้มีสิทธิฟ้องคดี” ๕,๗๔๙ คดี (หรือร้อยละ ๓๐.๓๒ ของคาส่ังไม่รับคาฟ้องไว้พิจารณาตามเงื่อนไข
การฟ้องคด)ี (ตารางที่ 11 หน้าที่ 23)

สถิติอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุด มีคาพิพากษา/คาส่ังยืน (ต้ังแต่เปิ ดทาการ –วันท่ี ๓๑
ธันวาคม ๒๕๕๖) อุทธรณ์คาพพิ ากษาที่ ศาลปกครองสูงสุดพจิ ารณาแล้วเสร็จ ๔,๙๙๘ คดี ศาลปกครอง
สูงสุดมีคาพิพากษายืน ๒,๙๙๘ คดี (หรือร้อยละ ๕๙.๙๘ ของอุทธรณ์คาพิพากษา) คาร้องอุทธรณ์คาส่ัง
ที่ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเสร็จ ๙,๙๘๒ คดี ศาลปกครองสูงสุดมีคาส่ังยืน ๗,๔๙๘ คดี (หรือ
ร้อยละ ๗๕.๑๒ ของคาร้องอทุ ธรณ์คาสั่ง) (แผนภูมทิ ี่ 17 หน้าที่ 52)

สถิติคดีปกครองกบั ปัญหาการอานวยความยตุ ิธรรม

ในกระบวนการยตุ ิธรรมทางปกครอง

คดีปกครองกรณี ท่ีศาลปกครองมีคาสัง่ ไม่รับ

คาฟ้องเพราะ “ไม่อยู่ในอานาจของศาลปกครอง” หรือ
“ไมใ่ ช่ผมู้ ีสิทธิฟ้องคดี”

เมื่อวิเคราะห์เหตุผลในคาวินิ จฉัยหลายคดีใน
สถิติที่กล่าวมา สะท้อนให้เห็นถึง การใช้ดุลพินิ จของ
ตุลาการศาลปกครองซ่ึงเป็ นดุลพินิ จที่ไม่เปิ ดกว้างต่อ
การใช้สิทธิทางศาล หรือ เป็ นอุปสรรคต่อการเข้าถึง
กระบวนการยตุ ิธรรมทางปกครอง

“การวิเคราะหส์ ถิติคดีปกครองเพื่อประโยชน์ในการปฏิรปู กระบวนการยตุ ิธรรมทางปกครอง
หรอื กระบวนการยตุ ิธรรมของรฐั ทงั้ ระบบต่อไปในอนาคต”

คาพิพากษาหรือคาสงั่ ของศาลปกครองท่ีออกมา ชนั้ แรก เป็ นเพียง

ผลผลิ ต (Out put) ของศาลปกครองเท่านั้น แต่ในชัน้ ต่อไปหลังจากนั้น
เมื่อคาพิพากษาหรอื คาสงั่ ของศาลปกครองเกิด ผลลพั ธ์ (Out come) ท่ีทาให้เกิด
ความเป็ นธรรมขึ้นในสังคม จึงจะแสดงถึงคุณภาพอย่างแท้ จริ งของ
คาพิพากษาหรือคาสงั่ ของศาลปกครอง

ดงั นัน้ จานวนคาพิพากษาและคาสงั่ ของศาลปกครองต่อปี จึงแสดง
ผลผลิต (Out put) ในเชิงปริมาณ ที่ชี้วดั ถึงประสิทธิภาพในการทางานและ
การบริหารองคก์ รของศาลปกครอง

แต่ “ความเป็ นธรรมที่เกิดจากคาพิพากษาและคาสงั่ ของศาลปกครอง
แต่ละคดี” แสดง ผลลพั ธ์ (Out come) ในเชิงคุณภาพ ที่บ่งบอกถึงคุณค่าของ
คาพิพากษาหรือคาสงั่ ของศาลปกครอง ว่า ได้สร้างความเป็ นธรรมให้เกิดขึ้น
แก่สงั คมไทยตามเจตนารมณ์ของการจดั ตงั้ ศาลปกครองขึน้ ในประเทศไทยแล้ว

กฎหมายเป็ นเครื่ องมือสาคัญอันหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสั งคม
แต่เบื้องหลังกฎหมาย คือ มนุษย์ ความสาเร็จหรือล้มเหลวของกฎหมายแยก
ไม่ออกจากเร่ืองท่าทีหรือทัศนคติต่อชีวิตสังคมของมนุษย์ การพัฒนาจิตสานึก
ของมนุษย์จงึ เป็ นสิ่งสาคญั อย่างสูงในการเปลย่ี นแปลงสังคมอนั แท้จริง

ตราบใดท่ยี งั ไม่มกี ารเปลย่ี นแปลงท่าทีหรือทศั นคติต่อชีวติ อนั ล้าหลงั
หรือไม่สามารถสร้างส่ิงท่เี รียกว่า “สามญั สานึกใหม่” New Common Sense
ของผู้คนทั่วไปในสังคมจนถึงระดับที่สามารถยันหรือท้าทายอย่างจริงจังต่อ
ความคิดเก่าท่ีครอบงาหรือครอบครองความเป็ นใหญ่ในสังคม การเปลี่ยนแปลง
สังคมอย่างถงึ รากฐานย่อมยากทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ ได้

Mindset : ความเช่ือที่ส่งผลต่อพฤติกรรม

ปัญหาจากวิธีคิดการใช้กฎหมายของ
นักกฎหมายในกระบวนการยตุ ิธรรมทางปกครอง

นักกฎหมายไทยส่วนหนึ่งยงั ยึดถือว่า “ประเทศไทยอยู่ใน
ระบบ Civil Law” ซ่ึงยึดติดกบั ความคิดท่ีว่า “ประเทศไทยอยู่ใน
ระบบ Civil Law รฐั สภาเป็ นผ้มู ีอานาจออกกฎหมาย ส่วนศาลมี
หน้าที่ตีความตามกฎหมายที่รฐั สภาออกมาใช้บงั คบั ศาลจะตีความ
กฎหมายขยายตัวบทออกไปไม่ได้ จะเป็ นการทาตามอาเภอใจ
หากรัฐสภายังไม่ตรากฎหมายออกมาใช้บังคับ ศาลจะเขียน
กฎหมายเองไม่ได้ เพราะเป็นอานาจของฝ่ ายนิติบญั ญตั ิ เม่ือรฐั สภา
ออกกฎหมายมาแล้วศาลจะไปตีความแก้ไขเปล่ียนแปลงอะไร
ไมไ่ ด้ ต้องตดั สินไปตามนัน้ จนกว่ารฐั สภาจะแก้กฎหมายใหม่”

ปัญหาจากวิธีคิดการใช้กฎหมายของ
นักกฎหมายในกระบวนการยตุ ิธรรมทางปกครอง

“วธิ ีคดิ ท่ีห้ามศาลวางหลักกฎหมายแทนรัฐสภา” มีผลให้ศาลสนใจแต่ตัวบท
แทนอุดมคติที่สอนกันว่าต้องใส่ ใจความเป็ นธรรมในลาดับสูงสุด โดยเฉพาะ
คดีสิ่งแวดล้อมที่ปัญหามลพิษเติบใหญ่ไปเร็วจนตัวบทตามไม่ทัน ซ่ึงทาให้เกิด
“ช่องว่างแห่งความเป็ นธรรม” ที่เห็นชัดเสมอ ดังน้ัน “หลกั อุดช่องว่างทางกฎหมาย”
(Filling Gaps in Law) ท่ีให้อานาจศาล “อุดช่องว่าง” เป็ นการช่ัวคราว จึงเป็ นเรื่อง
สาคัญสาหรับคดีสิ่งแวดล้อมท่ีเก่ียวพันคุณค่าของความเป็ นมนุษย์ เพราะการอุด
ช่องว่างทางกฎหมาย (Gaps of Law) ทาให้สามารถ อุดช่องว่างความไม่เป็ นธรรม
(Gaps of Justice) ไปพร้อมกัน “การอุดช่องว่างทางกฎหมาย” เพ่ือความเป็ นธรรม
ทางสังคม สามารถกระทาได้ภายใต้บริบทหลักการแบ่งแยกอานาจ(Separation of
Power) เนื่องจากไม่ใช่เป็ นการแย่งชิงใช้อานาจของฝ่ ายนิตบิ ญั ญตั ิแต่อย่างใด

ทีมวิจยั ปัญหาตุลาการศาสตร์, “ศาลวางหลกั กฎหมายอย่างไร ใน ๔ คดีมลพิษใหญ่ในประเทศญ่ีป่ ุน”, (How Judges

Think), แผนงานสร้างเสริมนโยบายสาธารณะที่ดี (นสธ.), ๒๕๕๖, คาปรารภ.

การตีความอดุ ช่องว่างกฎหมาย

การพิ จารณาพิ พากษาคดีปกครองของประเทศไทยมีสถานการณ์
เช่นเดียวกบั คากล่าวของ ท่านวีระมนตรี (Christopher G. Weeramantry) ตุลาการ
ประเทศศรีลงั กา และรองประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรงุ เฮก ประเทศ
เนเธอรแ์ ลนด์ ซ่ึงได้รบั รางวลั Unesco Peace Award ที่กล่าวว่า

ประเทศกาลงั พฒั นามกั มีปัญหาว่า คดีส่ิงแวดล้อมยงั ไม่มีบทกฎหมายในชาติ
ของตนที่จะใช้ตดั สินคดี หรือไม่มีคดีบรรทดั ฐานในด้านนี้ ท่านเห็นว่า ถ้าตุลาการมี
ความกล้า (Gut) นากฎหมายที่มีอยู่แล้วไปปรบั ใช้ในคดี หรือตีความข้ามตวั บท &
วางนโยบายสงั คม (Judicial Activism & Judicial Policy Making) จะสามารถแก้ไข
ปัญหาส่ิงแวดล้อมในชาติของตนได้ เน่ืองจากฝ่ ายนิ ติบญั ญตั ิไม่อาจคาดการณ์ได้
ล่วงหน้าทุกเรื่องว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะเกิดขึ้นเช่นไรในอนาคต จึงเป็ นฝี มือของ
ฝ่ ายตุลาการที่จะต้อง “ตีความอุดช่องว่างกฎหมาย” ในเวลาใดๆกต็ ามที่ต้องเผชิญ
กบั ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ[1]

[1] พิเชษฐ เมาลานนท์ และทีมวิจยั ปัญหาตลุ าการศาสตร์ “ค่มู อื ตลุ าการด้านสิ่งแวดล้อม” หน้า ๑๘ - ๒๕

96

การพิ จารณาพิ พากษาคดีปกครองของประเทศไทยมีสถานการณ์
เช่นเดียวกบั คากล่าวของท่านวีระมนตรี (Christopher G. Weeramantry) ตุลาการ
ประเทศศรีลงั กา และรองประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรงุ เฮก ประเทศ
เนเธอรแ์ ลนด์ ซึ่งได้รบั รางวลั Unesco Peace Award ท่ีกล่าวว่า

ประเทศกาลงั พฒั นามกั มีปัญหาว่า คดีส่ิงแวดล้อมยงั ไม่มีบทกฎหมายในชาติ
ของตนท่ีจะใช้ตดั สินคดี หรือไม่มีคดีบรรทดั ฐานในด้านนี้ แต่ท่านเหน็ ว่า ถ้าตุลาการ
มีความกล้า(Gut)นากฎหมายท่ีมีอยู่แล้วไปปรบั ใช้ในคดี หรือตีความข้ามตวั บท &
วางนโยบายสงั คม (Judicial Activism & Judicial Policy Making) จะสามารถแก้ไข
ปัญหาส่ิงแวดล้อมในชาติของตนได้ เนื่องจากฝ่ ายนิ ติบญั ญตั ิไม่อาจคาดการณ์ได้
ล่วงหน้าทุกเร่ืองว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะเกิดขึ้นเช่นไรในอนาคต จึงเป็ นฝี มือของ
ฝ่ ายตุลาการที่จะต้องตีความอดุ ช่องว่างกฎหมาย ในเวลาใดๆกต็ าม ท่ีต้องเผชิญกบั
ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ[1]

[1] พิเชษฐ เมาลานนท์ และทีมวิจยั ปัญหาตลุ าการศาสตร์ “ค่มู ือตลุ าการด้านสิ่งแวดล้อม” หน้า ๑๘ - ๒๕

97

หลกั กฎหมายทวั่ ไป

General Principles of Law
“หลกั กฎหมายทวั่ ไป” มีบทบาทสาคญั มากในระบบกฎหมายของประเทศต่างๆ เพราะหลกั กฎหมาย
ทวั่ ไปเป็ นเครื่องมือท่ีศาลใช้เพื่อพิทกั ษ์รกั ษาและเป็ นหลกั ประกนั ในสิทธิและเสรีภาพขนั้ พื้นฐานของประชาชน
ทัง้ นี้ เพราะเป็ นไปไม่ได้ที่ฝ่ ายนิ ติบญั ญตั ิจะคาดการณ์ทุกอย่างได้ล่วงหน้า และกาหนดทางแก้ปัญหาไว้ใน
กฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษร โดยศาลจะใช้หลกั กฎหมายทวั่ ไปเข้าไปอุดช่องว่างของกฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษร
ตลอดจนการใช้หลกั กฎหมายทวั่ ไปเป็นพืน้ ฐานในการตีความกฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษร
ลกั ษณะของหลกั กฎหมายทวั่ ไปมีความเป็ นนามธรรม อะไรคือข้อความคิดพื้นฐานของมนุษย์และ
หลกั ในการดาเนิ นชีวิตร่วมกนั ของมนุษยใ์ นสงั คม หรืออะไรคือตรรกะทางนิ ติศาสตร์ ซึ่งหากไม่มีอยู่แล้วจะเป็ น
ช่องทางให้มีการใช้อานาจตามอาเภอใจ หรือเกิดสภาวะไร้ขื่อแปในบ้านเมือง สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องการ
ความชดั เจน มีคากล่าวท่ีว่า “หลกั กฎหมายทวั่ ไปมีสภาพบงั คบั แมจ้ ะไม่มีกฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษรกาหนดไว้”
แต่หลกั กฎหมายทวั่ ไปกย็ งั มีความสมั พนั ธก์ บั กฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษร กล่าวคือ หลกั กฎหมายทวั่ ไป
บางหลกั เกิดขึ้นจากการสกดั หลกั ที่ได้มาจากบทบญั ญตั ิของกฎหมายท่ีมีอยู่ โดยอาจเกิดขึ้นจากการตีความ
ตวั บทกฎหมายท่ีมีอยู่หรือจากเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็ นการค้นหาเจตนารมณ์จากกฎหมายฉบบั ใด
ฉบบั หน่ึง หรือการค้นหาจากเจตนารมณ์ของกฎหมายหลายๆ ฉบบั สภาพบงั คบั ของหลกั กฎหมายทวั่ ไปนัน้ ๆ
จะต้องเกิดขึ้นจากหลกั กฎหมายทวั่ ไปนัน้ เอง มิได้อาศยั บทบญั ญตั ิที่เป็ นลายลกั ษณ์อกั ษรท่ีมีอยู่ กล่าวคือ มิใช่มี
ผลบงั คบั เพราะกฎหมายเขียนไว้ เพราะกฎหมายลายลกั ษณ์ที่มีอย่เู ป็ นเพียงที่มาโดยอ้อมของหลกั กฎหมายทวั่ ไป
เท่านัน้

ดร. บบุ ผา อคั รพมิ าน หลกั กฎหมายทวั่ ไป www.pub-law.net, 14 พฤษภาคม 2549

รฐั ท่ีดีจะต้องรบั รองและค้มุ ครองสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมอื ง ICCPR

ซึ่งตาม กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ.๑๙๖๖ หรือ ICCPR
(International Covenant on Civil and Political Rights, ๑๙๖๖) Article ๑๗ ที่บญั ญตั ิว่า (๑) No one shall be

subjected to arbitrary or unlawful interference with his privacy, family, home or correspondence, nor to

unlawful attacks on his honour and reputation. (๒) Everyone has the right to the protection of the law
against such interference or attacks. ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีของสนธิสญั ญาดงั กล่าว ได้มีการรบั รองและ
ค้มุ ครองสิทธิของบุคคลในท่ีอยู่อาศยั และในทรพั ยส์ ิน จากการไม่ถกู รบกวนในการอยู่อาศยั และการใช้ประโยชน์
ในทรพั ยส์ ิน

ซึ่งตามเจตนารมณ์ของการคุ้มครองสิทธิที่กล่าวมา หมายรวมถึง การไม่ถกู รบกวนจากการดาเนิ น
กิจการทางปกครองหรือการจดั ทาบริการสาธารณะท่ีมีอนั ตรายโดยสภาพ เช่น คลงั น้ามนั คลงั ก๊าซ คลงั เก็บ
สารเคมีชนิดร้ายแรง ท่อส่งวตั ถอุ นั ตราย หรือโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เป็นต้น เน่ืองจากโดยสภาพของกิจการที่กล่าว
มาถือว่าเป็ นสิ่งคกุ คามทาให้เกิดความด้อยค่าในการอยู่อาศยั ของประชาชนและต่อทรพั ยส์ ินของบุคคล ดงั นัน้
เมื่อมีการดาเนิ นกิจการทางปกครองหรือบริการสาธารณะ ท่ีมีอนั ตรายโดยสภาพดงั กล่าว รฐั ที่ดีจึงมีหน้าที่ต้อง
เยียวยาความเสียหายหรือจ่ายค่าทดแทนความด้อยค่าในการอย่อู าศยั และความด้อยค่าในทรพั ยส์ ินแก่ประชาชน
ที่ถกู รบกวนสิทธิในการอยู่อาศยั และในทรพั ย์สินดงั กล่าว รฐั ท่ีดีจึงมีหน้าที่เยียวยาความเสียหายหรือจ่ายค่า
ทดแทนความด้อยค่าในการอย่อู าศยั และความด้อยค่าในทรพั ยส์ ินแก่ประชาชนท่ีถกู รบกวนสิทธิในการอยู่อาศยั
และในทรพั ยส์ ิน เพื่อแสดงออกถึงความรบั ผิดชอบและการให้ความธรรมแก่ประชาชนของตน ศาลปกครองจึง
ต้องวางหลกั เพ่ือให้หน่วยงานของรฐั กาหนดระเบียบการปฏิบตั ิราชการสาหรบั เยียวยาความเสียหายหรือจ่ายค่า
ทดแทนความด้อยค่าในการอย่อู าศยั และความด้อยค่าในทรพั ยส์ ินแก่ประชาชนในกรณีดงั กล่าวต่อไป

หลกั นิติธรรม & หลกั นิติศาสตรส์ ากล

ตวั อย่างท่ีเก่ียวกบั

คดีปกครองด้านการผงั เมอื ง อาคาร และ เหตเุ ดือดร้อนราคาญ

สิทธิมนุษยชน

คนทกุ คนมีสิทธิในการดารงชีวิต เสรีภาพ และความมนั่ คงแห่งตวั เอง

กรรมสิทธ์ิในทรพั ยส์ ิน

การใช้อานาจยึดทรพั ยส์ ินโดยพลการจะทาไม่ได้

เสรีภาพในการตงั้ ถิ่นฐานของมนุษย์

การจากดั การเลือกถิ่นท่ีอย่ภู ายในดินแดนของแต่ละรฐั จะทาไมไ่ ด้

สิทธิในการอย่อู าศยั และการใช้ทรพั ยส์ ิน

การจากดั การอย่อู าศยั และการใช้ทรพั ยส์ ินต้องได้รบั การทดแทนอย่างเป็นธรรม


Click to View FlipBook Version