The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การจัดสายการบังคับบัญชาในงานการ ปคส.ภายในเรือ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-06-30 01:28:15

การจัดสายการบังคับบัญชาในงานการ ปคส.ภายในเรือ

การจัดสายการบังคับบัญชาในงานการ ปคส.ภายในเรือ

Keywords: การจัดสายการบังคับบัญชาในงานการ ปคส.ภายในเรือ

- ๔๙ -
๔. ชี้ปลายกระบอกฉดี ไปที่ฐานของไฟ ระยะทไ่ี ดผลจะตอ งหา งจากไฟไมเกิน ๕ ฟตุ
๕. เปดแกส CO2 โดยบีบคันบบี กดลน้ิ ปลอ ยแกส ถาเปดติดตอ กนั แกสจะหมดขวดภายในเวลา
๑๒-๑๔ วนิ าที ( สาํ หรับ CO2 ขนาด ๑๕ ปอนด)
๖. สายหัวฉีดไปมาเพอ่ื ใหคลมุ ไฟไดม ากทีส่ ุด
๗. ถาเปนไฟประเภท ค. ตดั วงจรไฟฟาออกเสยี กอ น

การตรวจสภาพทอ
ใชงานหนักเชน ตามเรอื ตรวจทกุ ๆ ๕ ป ใชงานปกตบิ นบก ตรวจทุก ๆ ๑๒ ป ถาถูก

กระทบกระเทอื นอยา งแรงหรอื ถกู ไฟไหม สงไปตรวจทนั ที

การระวังรักษา
มีวิธปี ฏบิ ตั ดิ ังนี้

๑. ทกุ สปั ดาห ทาํ การตรวจสายแกส กระบอกฉดี สลักนริ ภัย แทน ยึด
๒. ทกุ ๑ เดอื น ตรวจชงั่ นํ้าหนกั และบรรจุใหมถาไมอ ยูในเกณฑเม่อื ติดต้ังบนเรอื
๓. ทกุ ๖ เดอื น ตรวจช่ังน้าํ หนกั และบรรจใุ หมถ า ไมอยใู นเกณฑเ มือ่ ติดตัง้ บนบก
๔. ในการบรรจกุ า ซ ถาในบริเวณท่ีทาํ การบรรจุ (ภายในหองทีม่ ีความรอ น) มอี ณุ หภูมิสูงกวา
๑๓๕ ํฟ. จะทาํ การบรรจุไดเพียง ๙๐ % ของการบรรจจุ รงิ ณ ท่ี ๆ มอี ุณหภมู ธิ รรมดา หรอื เมอ่ื ใชไป
ประมาณ ๑ ๑/๒ ปอนด ตองทาํ การบรรจใุ หม บรเิ วณท่ีจะทาํ การตดิ ต้ังขวด ควรจะมอี ณุ หภมู ิไมเ กิน ๕๐
ํซ. และจะตอ งทาํ การชั่งนาํ้ หนกั กอ นตดิ ตงั้ เสมอ

ชองใสแผนกนั อนั ตราย

คนั บีบกดเปดล้นิ

สายฉีด คันจับสําหรับยก
ดา มจับกระบอกฉดี

กระบอกฉีด

รปู เครื่องมอื ดบั เพลงิ CO2 ขนาด ๑๕ ปอนดชนดิ ทอเหล็ก

- ๕๐ -

ยกเครอื่ งมือดบั เพลิงท่ีแขวน ฉดี ไปที่ฐานของไฟสา ย

ซาย-ขวา

๒. เครอ่ื งดับเพลงิ ผงเคมแี หง ( Dry Chemical Powder )

คุณลกั ษณะและคุณสมบตั ขิ องผงเคมีแหง

ตามมาตรฐาน ทร. ปจ จุบนั มีขนาดอยดู ว ยกัน ๓ ขนาด คอื ๒-๓ ปอนด ๕ ปอนด

และ ๑๐ ปอนด ซ่งึ เครือ่ งมือดับเพลิงแบบผงเคมีแหง นี้ ผงเคมดี านในจะมกี ารบรรจอุ ยูดวยกนั ๓ ชนิด คอื

ก. ชนดิ แบบผงโซเดียมไบคารบ อเนต (Sodium Bicarbonate Base)

ข. ชนิดแบบผงโปแตสเซียมไบคารบ อเนต (Potassium Bicarbonate Base)

ค. ชนิดแบบผงโมโนแอมโมเนยี มฟอสเฟต (Monoammonium Phosphate)

ซ่ึงในการบรรจุผงเคมนี ี้จะตอ งผานกรรมวธิ อี บแหงทางกระบวนการทางเคมโี ดยมากจะบรรจผุ งน้ี

ประมาณ ๙๗ % ทเ่ี หลือเปน สารเคมกี ันชน้ื ผสมอยดู วย ผงเคมีทบี่ รรจุอยนู ้มี ีคณุ สมบัตแิ ตกตา งกนั บาง

ชนดิ เปนผงแบบ BC บางชนดิ เปนผงแบบ ABC กลา วคอื ถาเปนผงแบบ ABC น้ัน จะสามารถ

ดับเพลิงไดทกุ ประเภท สวนผง BC นัน้ ใชด บั เพลิงประเภท ข. และ ค. เทาน้นั โดยเราสามารถทราบได

วาเปน เครื่องมอื ดับเพลิงประเภทใด โดยการอานตัวอักษรขนาดโตทม่ี ตี ราหรอื ปา ยฉลากบอกไวทต่ี วั ภาชนะ

นั้น ๆ

เคร่อื งมือดับเพลงิ แบบผงเคมีแหงนี้ มกี าซไนโตรเจน หรือกาซคารบ อนไดออกไซดท ีม่ คี วามดนั สงู

เปนตัวขบั ดนั โดยปจจบุ นั น้ี บรษิ ทั ผผู ลติ เครอื่ งมือดับเพลิงแบบผงเคมแี หง โดยสามารถแบงออกไดเ ปน ๒

ชนดิ คือ

๑. แบบมีทอ กาซเปนตัวขับดัน ถาจะใชต อ งเปดวาลวหรือบบี ไก

๒. แบบสะสมความดัน และมมี าตรวัดใหแ ลเหน็

- ๕๑ -
การใชผงเคมแี หง ในการดับเพลิงนน้ั สวนมาจะใชใ นทีโ่ ลงหรอื ในหอ งท่ีไมมดิ ชดิ นกั เนอื่ งจากถา
ใชใ นหองทท่ี บึ มาก ๆ ผงฝุนทฉี่ ดี ออกมาจะปกคลมุ จนทาํ ใหไ มส ามารถเหน็ ตน เพลงิ ไดชดั บางคร้ังอาจจะ
กระทบกระเทอื นตอ ระบบทางเดินหายใจ ทาํ ใหห ายใจไมส ะดวก และเม่อื เขาตาจะทาํ ใหระคายเคอื ง
สวนผสมของผงเคมแี หงนี้สว นมากจะผสมสารตา ง ๆ เขา ไปดว ย เพ่อื ทาํ ใหการไหลของฟงเคมี
ออกมาไดสะดวก และทําใหผ งเคมที อี่ ยูในขวดไมเ ปย กนาํ้ ดว ย ซึง่ สว นผสมดังกลา วไดแก

(๑) แมกนีเซยี มสเดียเรท ๑.๕ % ( Magnesium Stearate )
(๒) แมกนีเซยี มคารบอเนต 1% ( Magnesium Carbonate )
(๓) ไทรแคลเซยี มฟอสเฟต ๐.๕ % ( Tricalsium Phosphate )

คุณสมบตั ิในการดบั ไฟ
การดบั ไฟที่ไดผ ลดมี ากสาํ หรับวัตถเุ ช้ือเพลิงประเภท ข. สารเคมขี องพวกไฟประเภทพเิ ศษ กา ซ

ภายใตความกดดัน เชน กาซหุงตม (LPG) ออกซเิ จน อะเชททลี นิ ฯลฯ
การดับไฟที่ไดผ ลดไี ดแ กพ วกไฟประเภท ค. เมื่อดบั แลว ตอ งรบี ทาํ ความสะอาดชําระลางผงออก ถา

นํามาใชดับไฟประเภท ก. จะใหผ ลพอใช
กลไกของปฏกิ ริ ยิ าทางเคมที ที่ ําใหไฟดบั ลงเม่ือใชผ งเคมดี บั ไฟกลาวคอื ผงเคมีจะเปนตวไปกอ กวน

ปฏกิ ริ ยิ าทางเคมขี องการเผาไหม โดยอนขู องผงเคมีจะไปแฝงตัวอยูในไฟทําใหเ ปน ฉากในการแยกความรอน
ออกซิเจนและเช้ือเพลงิ ออกจากกนั

ลักษณะและสวนประกอบของเคร่ืองมือดบั เพลงิ ผงเคมี
๑. ตวั ทอ เครื่องดบั เพลิง
๑.๑ เปน รูปทรงกระบอกทาํ ดว ยโลหะ ภายนอกพน ดวยสแี ดง
๑.๒ ทนกําลงั ดันได ๖๐๐ ปอนด / ตารางน้ิว
๒. ลน้ิ เปด - ปด
๒.๑ เปน แบบคนั บบี กด มมี าตรวัดกําลังดนั
๒.๒ ทางออกของผงเคมีและท่บี รรจกุ า ซรวมอยเู ปน ชดุ เดยี วกัน
๒.๓ มาตรวดั กาํ ลังดันเปนชนิดปอ งกนั น้าํ และผลติ จากวัสดทุ ี่ไมเปน สนิม
๒.๔ หวั ฉีดมฝี าปด ประกอบรวมเปน ชุดเดียวกนั กับล้ิน
๒.๕ สายฉีดเปน ทอ ยางออนสามารถทนกาํ ลงั ดันนํา้ ไดไ มต ํา่ กวา ๓๐๐ ปอนด/ ตารางนว้ิ
๒.๖ กาํ ลังดนั ใชง าน (Operating Pressure) ไมตํา่ กวา ๑๙๕ ปอนด/ ตารางน้ิว
๒.๗ ตรงปลายสายเปนหัวฉดี

การระวังรักษา
๑. ทาํ การตรวจทุกเดอื น
๒. ตรวจดลู วดและตราตะกว่ั ถา ลวดตะกว่ั ถา ลวดขาดชํารุด ใหท าํ การชั่งน้ําหนักตรวจสอบ ถา

นํ้าหนกั คงท่ีใหผกู ลวดตราตะกว่ั ใหม ถานาํ้ หนกั ตาํ่ กวา เกณฑใ หท ําการตรวจสอบและบรรจใุ หม

- ๕๒ -

๓. สถานทต่ี ิดตั้งและเก็บรกั ษาเหน็ ไดงา ย อยาใหตากแดดตากฝน อุณหภมู ิอยูระหวาง ๒๕ - ๖๕

ซ.

๔. ถา เคร่อื งถูกกระทบกระเทือนอยา งแรง หรือไฟไหมส ง ไปให วศ.ทร. ตรวจ

สายฉีดพรอ มหัวฉีด ลวดตราตะกั่ว
คนั จับสําหรบั ยกย

รูปเครื่องดับเพลงิ ผงเคมี ขนาด ๑๐ ปอนดชนดิ ABC

๓. เคร่อื งมอื ดบั เพลิงชนดิ ฟองทางเคมี ( Chemical Foam )
เปนเครื่องมอื ดบั เพลิงทใ่ี ชความดันจากการเกดิ ปฏิกริ ยิ าทางเคมีของนาํ้ ยาท่บี รรจุอยภุ ายในเคร่อื ง

โดยเมอื่ นํ้ายาผสมกนั จะดันนาํ้ ยาออกมาเปน ฟอง โดยจะมีกาซคารบอนไดออกไซดท ีเ่ กิดจากปฏิกริ ยิ าทางเคมี
เปนตัวขับดนั ฟองออกมา ซ่ึงฟองทีเ่ กิดขึ้นมานี้จะเกิดการขยายตัวไดป รมิ าตรเพ่มิ ข้นึ ขนาด ๗ - ๑๒ เทา
ของปรมิ าตรเดมิ

ลักษณะของขวดบรรจุ
เปนขวดรูปกระบอก ๒ ชนั้ ช้ันนอกทาํ ดว ยโลหะทนกาํ ลังดันน้ําไดไ มต ่ํากวา ๓๕๐ ปอนด /

ตารางน้ิว ช้นั ใน เปนรปู ทรงกระบอกพลาสติก ขนาดความจุ ๑.๒ ลิตร ดานบนฝาปด ขวดทาํ ดวยโลหะมี
เกลียว และแปก กงิ้ อดั กันรว่ั สําหรบั ปด ตดิ กบั ขวดชัน้ นอก

สารเคมที ีบ่ รรจุ
ช้ันนอก จะบรรจุดว ยสารละลายโซเดยี มไบรค ารบ อกเนต
ช้นั ใน จะบรรจดุ วยสารละลายอะลูมเิ นยี มซลั เฟต
บางชนดิ ตวั นาํ้ ยาชั้นในอาจจะผสมสารคงตัว (Stabilizer) ลงไป เพ่อื เม่อื น้าํ ยาสองชั้นทํา

ปฏกิ ริ ยิ ากันจะทาํ ใหฟ องเหนยี วและคงตวั ไดนาน
การดบั ไฟ
เหมาะสําหรับดบั ไฟประเภท ข. โดยคลมุ พ้ืนทไ่ี ด ๑๖ ตารางฟตุ และสามารถดบั ไฟประเภท ก.

ไดผ ลพอใช คลมุ พน้ื ที่ได ๘ ตารางฟุต ผลในการดับไฟคอื เปนตัวคลมุ ไฟ และลดอณุ หภูมเิ ล็กนอ ย
วธิ กี ารใช

- ๕๓ -
ใหค วํา่ ขวดฉีดไปทพ่ี น้ื หรอื ผนังในระยะหา งประมาณ ๑๖ - ๒๐ ฟุต ไดผ ลดีในพ้ืนทท่ี ม่ี ขี อบเขต
จํากัด เมอ่ื ไฟดบั แลว รบี ทําความสะอาดอปุ กรณเคร่ืองใชทันทอี ยาใหเ กิน ๑ ช่วั โมง เพราะตวั น้ํายาเปน
อนั ตรายตอโลหะ
ขอควรระวงั
อยาฉีดฟองไปปะทะหนา ของเชอ้ื เพลิง เพราะจะทําใหเพลงิ แตกกระจาย
การระวงั รกั ษา
๑. ทกุ ๆ ๑ เดือน คนน้ํายาทง้ั ๒ ชนดิ เพื่อไมใ หน ํ้ายาตกตะกอน
๒. ถา ไมไ ดใ ชงานเลย ทกุ ๆ ๒ ป เปลย่ี นนํ้ายาใหม

รปู วิธกี ารใชเ ครื่องมือดับเพลงิ แบบฟองทางเคมี

๔. เครอ่ื งมอื ดบั เพลงิ ชนดิ ถงั สบู นาํ้ ดบั เพลิงดว ยมอื
ลกั ษณะของถงั และสวนประกอบ
๑. ตัวถงั เครื่องดับเพลงิ
๑.๑ ขนาดความจุนํา้ ๒.๕ ยเู อส แกลลอน (๙.๔๖ ลิตร)
๑.๒ ตวั ถังทําดว ยโลหะไมเ ปน สนิม (Stainless Steel) รูปทรงกระบอกขนาดโดยประมาณ

(รวมหว งสําหรบั มอื จับเพื่อสบู ชักนา้ํ ) ๒๔ นิว้ เสน ผาศูนยกลาง ๗ - ๘ น้วิ
๑.๓ มีท่เี หยยี บยดึ ตวั ถังขณะใชงานประกอบติดอยทู ่ขี อบถงั ตอนลา ง
๑.๔ มฝี าปดชอ งเตมิ นํ้าอยตู อนบน

๒. ตวั สบู
๒.๑ เปน สบู ชักดวยมือทํางาน ๒ จังหวะ ฉดี น้าํ ไดไ กลไมต่ํากวา ๓๐ ฟุต
๒.๒ กระบอกสบู ติดตัง้ อยกู ง่ึ กลางถัง กระบอกสูบและกา นสูบทาํ ดวยทองเหลือง กา นสูบตอนบน

เปน หว งสําหรบั มอื จบั เพือ่ สบู ชักนํา้
๒.๓ สายฉีดเปนทอ ออน ประกอบติดอยทู ี่ตอนบนของกระบอกสบู ปลายสายเปน หวั ฉดี

- ๕๔ -
๓. การดบั ไฟและวิธใี ช

๓.๑ ใชด บั ไฟประเภท ก. ในขอบเขตพ้ืนที่ไฟไหม ๘ ตารางฟุต ไดผ ลในทางลดความรอน ฉดี ไป
ไดไ กล ๓๐ ฟตุ

๓.๒ วธิ ีการดบั เพลิง
- เขา ทางเหนอื ลม ตัง้ ขวดใหต รงหางไฟพอสมควร
- ใชเทา เหยยี บทย่ี ึดถังดา นลาง มอื หนึ่งจบั หวั ฉีดไปทางไฟ อกี มอื หนงึ่ จับหว งยดึ กา นจับ
- สบู นํา้ โดยชกั กา นสูบ ขนึ้ – ลง จนดบั เปลวไฟหมด
- เมอ่ื เปลวไฟดับหมดแลวใหป รับแตง ใหน าํ้ ฉดี ออกไปเปน ฝอยโดยใชน ิ้วมืออุดทปี่ ลายหวั ฉดี

และฉีดตอ ไปจนวัตถเุ ช้ือเพลงิ เปยกชมุ เพอื่ กนั ไมใหค ุลกุ ไหมขน้ึ อกี
- เม่อื ใชงานเสรจ็ แลว เตมิ น้ําใหเ ตม็ เก็บเขาท่ี
- ถา มีสว นประกอบชาํ รดุ แจง ใหเ จาหนา ท่ผี รู บั ผดิ ชอบทราบ

๔. การระวงั รกั ษา
๔.๑ หมนั่ ตรวจเตมิ นํา้ ใหเตม็ เสมอ
๔.๒ ทกุ ๆ เดอื น ทดลองฉีดน้าํ เปล่ียนน้ํา ขจดั ตะกอน
๔.๓ ถาจําเปน ตอ งใชน า้ํ ทะเลดับ ดับแลวตองลา งดว ยนาํ้ จืด อยา บรรจุน้ําทะเลทง้ิ ไว ถังจะผุเร็ว
๔.๔ ติดต้ังตามสถานทเี่ หน็ ไดง า ย

๕. ขอ ควรระมดั ระวัง
๕.๑ หา มใชเ คร่ืองมือนด้ี บั ไฟประเภท ค.
๕.๒ ถามีกระแสไฟฟา อยู ใหปลดหรือตัดวงจรไฟฟา ออกเสยี กอน
๕.๓ อยา ใชด บั ไฟประเภท ข. เพราะไมไ ดผล

รปู เครื่องดับเพลงิ ถงั สูบนา้ํ ดับเพลงิ ดวยมอื ขนาด ๒.๕ USG

- ๕๕ -

๕. เคร่อื งดับเพลงิ ถังอดั น้าํ ดบั เพลงิ

ลกั ษณะของถังและสวนประกอบ
1. ตวั ถงั เครือ่ งดับเพลิง

๑.๑ เปน รปู กระบอก ทาํ ดว ยโลหะไมเ ปนสนิมผวิ มันเงาไมน ิยมทาสี
๑.๒ ขนาดความจุ ๒.๕ ยเู อส แกลลอน (๙.๔๖ ลิตร)
๑.๓ ความสงู ทั้งหมด (รวมลิ้นเปด - ปด ) ๒๔ - ๒๕ นว้ิ เสน ผา ศูนยกลาง ๗ นิ้ว สวนบนเปน
เกลยี วตวั ผสู าํ หรบั ตอ กบั ล้นิ เปด - ปด
๑.๔ ทนกําลงั ดนั นํ้า (Hydrostatic Test) ไดไ มต า่ํ กวา ๒๐๐ ปอนด / ตารางนว้ิ
๑.๕ กําลังดันใชงาน ๑๐๐ ปอนด / ตารางนว้ิ
๒. ลิ้น ปด – เปด ประกอบดวยสว นตา ง ๆ รวมเปนชดุ เดยี วกนั
๒.๑ เปน แบบคันบบี กดมีมาตรวดั กาํ ลงั ดนั ทางออกของน้าํ และหัวเตมิ ลมรวมเปนชดุ เดียวกนั มี
เกลยี วตวั รับนา้ํ เปนปลอกหมนุ ไดสองตวั สําหรบั ยึดตดิ กบั ตัวถัง
๒.๒ มาตรวดั กําลงั ดนั เปนชนิดปอ งกนั นา้ํ และผลิตจากวสั ดทุ ่ีไมเปน สนิม
๒.๓ หัวเตมิ ลมเปนชนดิ เดยี วกนั กับหวั เตมิ ลมยางรถยนต
๒.๔ สายฉดี เปน ทอออ นสามารถทนกาํ ลงั ดันขณะใชง านได ปลายสายเปนหวั ฉดี รโู ต ๑/๘ นวิ้
๓. การขับดนั นาํ้
๓.๑ ขบั ดันนาํ้ ดว ยอากาศอดั เปนแบบสะสมความดนั ภายในเคร่อื งดบั เพลงิ (Store Pressure)
๓.๒ กาํ ลังดนั ใชง านไมต่ํากวา ๑๐๐ ปอนด/ตารางนิว้ ฉีดนา้ํ ไดไ กลไมต า่ํ กวา ๓๐ ฟตุ
๔. การดับไฟ
๔.๑ ใชด ับไฟประเภท ก. ใชไดผ ลในทางลดความรอ น
๔.๒ หน่งึ ทอใชไ ดใ นขอบเขตพ้ืนท่ี ๘ ตารางฟุต
๔.๓ ถามกี ระแสไฟฟา ใหต ัดวงจรไฟฟาเสียกอ น
๔.๔ สามารถฉีดไดไกล ๒๐ - ๔๐ ฟุต
๕. การเขา ทําการดบั ไฟ
๕.๑ นําเครอ่ื งดับเพลิงไปทบ่ี ริเวณไฟไหมห า งจากไฟพอควร

๕.๒ ดึงหวั ฉดี ออกจากท่ี แลว หนั หวั ฉดี ไปทางไฟ มืออกี ขา งหนึ่งดงึ สลกั หามคันบีบกดพรอม
กบั บบี คนั ฉดี นา้ํ จะออกจากหวั ฉีดเปนลํา

๕.๓ การฉดี ไปท่ีฐานของไฟโดยฉีดไปทฐี่ านของไฟสวนท่ีใกลที่สุดกอ นจนกระทั่งไฟดบั หมด
แลว ฉดี ตอไปอีกจนวตั ถุเช้ือเพลิงเปย กชุมเพือ่ กนั การจดุ ติดไฟไดอีก

๕.๔ ระหวา งการฉดี นาํ้ สามารถหยดุ ไดต ามตอ งการ โดยหยดุ การบีบกด
๕.๕ เมือ่ ใชง านเสรจ็ แลว ตรวจความเรยี บรอยของเครื่อง เตมิ นา้ํ สะอาดตามเกณฑ แลวนําไปอดั ลม
ตามเกณฑค อื ๑๐๐ ปอนด/ ตารางน้ิว ผูกลวดตะก่ัว เกบ็ เขา ท่ี

- ๕๖ -
๖. การระวังรกั ษา และขอควรระวัง

๖.๑ ทาํ การตรวจสอบทุกเดือน โดยทาํ การตรวจสอบ ลวดตราตะกว่ั เกจวดั กาํ ลงั ดนั กาํ ลังดันถา
ไมไ ดตามเกณฑใหท าํ การบรรจุใหม

๖.๒ ตดิ ตง้ั ตามสถานท่เี หน็ ไดงาย
๖.๓ หา มใชเ คร่อื งมอื นีด้ บั ไฟประเภท ค. เพราะนํา้ เปน ส่ือไฟฟา เม่ือจะดบั ไฟบริเวณท่ีมี
กระแสไฟฟา ใหตดั วงจรไฟฟา เสียกอน
๖.๔ อยา ใชด บั ไฟประเภท ข. เพราะไมไ ดผล

รูปเครือ่ งมอื ดับเพลงิ ชนดิ ถงั อัดนา้ํ ดับเพลงิ

๖. เครอื่ งดบั เพลิงชนดิ ฟองกลอัดลม (Pressurized Mechanical Foam Fire
Entinguisher)

เคร่อื งดับเพลงิ ฟองกลอดั ลมขนาด ๒.๕ ยเู อส.แกลลอน (๙.๔๖ ลิตร) เปนเครื่องดับเพลิงชนดิ ยก
เคล่อื นทไ่ี ด ใชนาํ้ ยาฟองกลชนดิ AFFF ๓ % เหมาะท่ีจะใชในการดบั ไฟประเภท ข. ไดแก พวกน้าํ มัน
เชือ้ เพลิงตาง ๆ เมอ่ื ใชง านน้าํ ยาฟองกลจะทําใเกิดฟองมาครอบคลุมผวิ หนา ของนาํ้ มนั เชอื้ เพลิง ทําใหไ ฟดับ
เนอื่ งจากไอระเหยของนา้ํ มนั เชอ้ื เพลงิ มนี อ ยลง

๑. ประโยชน
๑.๑ ใชดับไฟประเภท ข. พวกนํ้ามนั เช้ือเพลงิ ตา ง ๆ ไดผ ลดีมาก
๑.๒ ใชดบั ไฟประเภท ก. พวกไม กระดาษ ผา ฯลฯ ไดผลดี

๒. ลกั ษณะและสว นประกอบ
๒.๑ ตวั ถงั เคร่ืองดับเพลงิ
๒.๑.๑ รูปทรงกระบอกทําดว ยโลหะไมเปน สนิม (Stainless Steel) ผิวมันเงา ไมนยิ ม

ทาสี
๒.๑.๒ ตอนบนเปนเกลยี วตวั ผสู ําหรบั ตอ กับล้ินเปด - ปด และเปนทบ่ี รรจุสารดับเพลงิ
๒.๑.๓ ขนาดโดยประมาณความสูงท้ังหมด (รวมลิ้น เปด - ปด ) ๒๔ - ๒๕ นวิ้

เสนผา ศูนยกลาง ๗ นิ้ว

- ๕๗ -
๒.๑.๔ ความจุ ๒.๕ ยูเอส.แกลลอน (๙.๔๖ ลติ ร)
๒.๑.๕ ทนกาํ ลงั ดนั น้ํา (Hydrostatic Test) ไดไมต ํา่ กวา ๒๐๐ ปอนด/ ตารางนว้ิ
๒.๑.๖ นา้ํ หนกั ถงั เปลา ๗.๕ ปอนด
๒.๑.๗ บรรจนุ า้ํ ยาฟองกลแลวนาํ้ หนกั รวม ๒๘ ปอนด
๒.๒ ลน้ิ เปด - ปด ประกอบดวยสว นตา ง ๆ รวมเปนชดุ เดียวกนั ดังนี้
๒.๒.๑ ตัวล้ินเปด - ปด เปน แบบคนั บบี กด และเปนทีห่ ยบิ ยกเคล่ือนท่มี ีเกลยี วตัวเมยี เปน
ปลอกหมนุ ไดร อบตัวสําหรบั ยดึ ตดิ กบั ตวั ถัง
๒.๒.๒ ตวั ลน้ิ ทั้งชุด เมื่อคลายเกลยี วเปดออกเปนชอ งเติมสารดบั เพลงิ
๒.๒.๓ มาตรวัดกาํ ลงั ดนั ๐ - ๒๐๐ ปอนด/ ตารางนว้ิ เปน ชนิดปองกนั นํา้ ได
๒.๒.๔ หัวเตมิ ลมเปน ชนดิ เดยี วกนั กบั หวั เติมลมยางรถยนต
๒.๒.๕ ทอไซฟอน (Siphon Tube) และกระบอกวดั ระดบั สารดับเพลงิ (Overfill
Tube) อยูภายในตวั ถังเครอื่ งดบั เพลงิ
๒.๒.๖ สายฉดี (Hose) เปน ทอ ออ น ทาํ ดวยยางสามารถทนกําลงั ดันขณะใชง านได ปลาย
สายเปน หวั ฉีดฟองกล (Air Aspiration Foam Nozzle)
๒.๒.๗ สลักหามคันบบี กด และลวดตราตะกวั่
๒.๓ สวนประกอบอื่น ๆ
๒.๓.๑ หแู ขวนเครือ่ งดับเพลิง อยขู า งตวั ถงั ตอนบน
๒.๓.๒ ขอแขวนเครื่องดบั เพลงิ สาํ หรบั ติดขางฝาผนงั
๒.๓.๓ แผนปา ยแสดงรายการรดั อยรู อบตัวถงั
๒.๓.๔ บัตรบนั ทกึ ประจําเคร่อื งดับเพลงิ

รปู เครอื่ งมอื ดับเพลงิ ฟองกลอดั ลม

๓. สารดบั เพลงิ
๓.๑ ใชนํา้ ยาฟองกล AFFF ๓ % (Aqueous Film Foaming Foam) เปน สาร

ดับเพลงิ
๓.๒ อตั ราสวนผสมของนาํ้ ยา : นํา้ สะอาด = ๓ : ๙๗
๓.๓ ปรมิ าณทั้งหมด (นํ้ายาผสมน้าํ ) ๒.๕ ยูเอสแกลลอน (๙.๔๖ ลติ ร)

- ๕๘ -
๓.๔ เมอ่ื ฉีดนา้ํ ยาฟองกลออกมาติดตอ กนั จะหมดถงั ในเวลา ๕๐ วนิ าที
๔. การขบั สารดับเพลิง
๔.๑ ขับดนั สารดบั เพลิงดวยอากาศอัดเปน แบบสะสมความดันภายในเคร่ืองดับเพลิง
๔.๒ กาํ ลังดันใชงาน (Operating Pressure) ไมตาํ่ กวา ๑๐๐ ปอนด/ ตารางน้วิ ฉดี ไดไ กล
ไมนอยกวา ๒๐ ฟตุ
๕. ปฏิกริ ิยาในการดับไฟ
๕.๑ ดับไฟประเภท ก. เมอื่ ฉดี นํา้ ยาฟองกลอดั ลมออกจากเครอ่ื งดบั เพลิงถกู วัตถุเชอื้ เพลิงประเภท
ก.ท่ีไหมไ ฟ วตั ถุเชื้อเพลิงก็จะเยน็ ลงจนอณุ หภมู ิต่ํากวา อุณหภมู ิตดิ ไฟตามชนดิ ของวตั ถเุ ชอ้ื เพลิงนัน้ ๆ วตั ถุ
เชอื้ เพลงิ ไมส ามารถปลอ ยไอระเหยออกไดไ ฟก็จะดบั ลง เพราะองคประกอบของไฟไมสมบรู ณ คอื ขาด
ความรอนตามหลกั การดับไฟที่เรยี กวา ลดความรอน (Cooling)
๕.๒ ดับไฟประเภท ข. นอกจากจะใชหลกั การลดความรอนเชน เดยี วกับการดบั ไฟวตั ถุเช้อื เพลงิ
ประเภท ก. แลว น้าํ ยาฟองกลอัดลมทอ่ี อกจากเครอื่ งดับเพลิง เมอ่ื ไปปะทะกับพืน้ หรือผนังจะเกดิ ฟอง
ข้ึน ซ่ึงฟองนีจ้ ะแผขยายไปปกคลุมวัตถเุ ชอ้ื เพลิงประเภท ข. (นาํ้ มันตาง ๆ ) ทําใหวัตถุเชือ้ เพลงิ ประเภท
ข. ไมส ามารถปลอยไอระเหยออกมาผสมกบั กาซออกซิเจน ซึง่ เปน ตัวชวยใหไฟตดิ ไฟจะดับลงตาม
หลกั การดบั ไฟทเ่ี รยี กวา การคลมุ ไฟ (ฺBlanketing)
๖. วิธใี ช
๖.๑ เคร่อื งดับเพลงิ ฟองกลอดั ลม ขนาด ๒.๕ ยเู อสแกลลอน เหมาะสาํ หรบั

๖.๑.๑ ดบั ไฟประเภท ข. ซึง่ มีประสิทธภิ าพในการดบั ไฟในขอบเขตพืน้ ที่ ๘๐ ตร.ฟุต
๖.๑.๒ ดับไฟประเภท ก. มปี ระสิทธภิ าพในการดบั ไฟในขอบเขตพน้ื ท่ี ๑๒ ตร.ฟุต
๖.๒ เมอื่ จะดบั ไฟในบริเวณทีม่ กี ระแสไฟฟา ใหยกสวทิ ชตดั วงจรไฟฟากอน
๖.๓ นาํ เคร่อื งดับเพลงิ ไปทบี่ รวิ เณไฟไหมโ ดยเขาทางเหนอื ลม เพ่ือหลบความรอ นและควนั
๖.๔ วางเครอ่ื งดบั เพลิงในลกั ษณะต้ังตรง หรอื ถอื ไวเมอื่ ตอ งการเคลอ่ื นทโี่ ดยใหเ ครอื่ งดับเพลิงอยู
หางจากไฟพอควร เครื่องดบั เพลิงนี้ ฉดี นํา้ ยาฟองกลไดไ กล ๒๐ ฟุต
๖.๕ มือขา งหนง่ึ จบั ท่หี วั ฉีดหันไปทางไฟ มอื อกี ขางหนงึ่ ดงึ สลกั หา มคนั บบี กดลวดตราตะก่ัวจะ
ขาดออกแลวจบั ทค่ี นั บีบกด
๖.๖ ฉดี น้ํายาฟองกล โดยบีบคนั บีบกดนา้ํ ยาฟองกลออกจากหวั ฉีดเปน ลาํ ปลายสายนํา้ ยาแตกเปน
ฝอย เม่ือปะทะกบั พน้ื ผนงั หรอื สง่ิ กดี ขวาง กจ็ ะไดฟ องเกิดข้นึ ใหฉีดนํา้ ยาฟองกล กอนถึงฐานไฟจาก
สวนใกลท ่ีสุดกอนแลว ฉดี รกุ ไลด ับไฟตอ ไป การฉีดควรฉีดไปที่พนื้ หรอื ผนัง หามฉีดไปยงั ฐานไฟ เพราะ
จะทําใหไฟทเี่ กดิ จากเชือ้ เพลงิ ประเภท ข. กระจายออกไป
๖.๗ ระหวา งฉีดสารดบั เพลิงอยูนี้ สามารถหยดุ ฉีดนาํ้ ยาฟองกลไดตามตองการ โดยหยดุ บีบคนั บบี
กด

- ๕๙ -
๖.๘ เมือ่ เปลวไฟดบั แลว ใหฉ ีดนํา้ ยาฟองกลตอ ไปอกี จนฟองปกคลุมวตั ถเุ ช้ือเพลงิ น้นั ๆ จนท่ัวเพอ่ื
ปองกนั ไฟคลุ กุ ไหมข้ึนอกี เนื่องจาการสะสมความรอ นไวภายในวตั ถเุ ช้อื เพลงิ ทาํ ใหม ไี อระเหยมาผสมกบั
กา ซออกซเิ จนในอากาศข้นึ ไดอ กี
๖.๙ เมอื่ ใชง านเสร็จแลว ตรวจความเรียบรอ ยของเครอื่ งดับเพลงิ เตมิ น้ํา เตมิ นํา้ ยาฟอง AFFF
๓ % ตามเกณฑแ ลว นําไปอดั ลม ๑๐๐ ปอนด/ ตารางน้วิ ผูกลวดตราตะกว่ั บันทึกลงบัตรประจําเครื่อง
ดบั เพลงิ แลวนาํ เครอ่ื งดบั เพลิงเก็บเขาประจาํ ท่ี หรือสง วศ.ทร. ดาํ เนินการให
๗. การปรนนบิ ัติบาํ รงุ
๗.๑ ทุกเดอื นตรวจลดตราตะกวั่ มาตรวดั กาํ ลังดนั ถา ลวดตราตะกวั่ ชํารุด กาํ ลังดันตา่ํ กวา เกณฑให
ชงั่ นาํ้ หนกั ถานา้ํ หนกั คงทใ่ี หเ ตมิ ลม ถานํ้าหนักตาํ่ กวา เกณฑใ หฉ ดี น้ํายาฟองกลท้งิ ไป แลว บรรจนุ า้ํ นาํ้ ยา
ฟองกล และลมใหมตามเกณฑ (เมอื่ ชัง่ นํา้ หนกั แลวใหบ นั ทึกไวใ นบตั รประจําเคร่อื งดบั เพลงิ )
๗.๒ ติดตงั้ เครอ่ื งดบั เพลิงในทมี่ องเหน็ ไดง าย หยบิ ใชส ะดวก หา งจากแหลงไฟพอควร ไมควร
ติดตัง้ ในบริเวณท่ีมคี วามรอนมาก หรอื เยน็ มาก
๗.๓ การตดิ ตง้ั เครือ่ งดบั เพลิงน้เี หมาะทจ่ี ะติดต้ังในบรเิ วณท่ีมกี ารเก็บนาํ้ มนั เชอ้ื เพลงิ ตาง ๆ
รถบรรทุกนาํ้ มนั
๗.๔ เนอ่ื งจากเคร่ืองดับเพลิงชนดิ นท้ี าํ ดว ยโลหะไมเปน สนิม การทาสมี กั ไมตดิ จงึ ไมนิยมทาสี ซง่ึ
ไมสะดดุ ตา จึงควรมเี ครอื่ งหมายอนื่ ๆ สีแดง ทช่ี ว ยใหเหน็ ไดงา ย
๗.๕ การบรรจนุ า้ํ ยาฟองกลใหม ซอ มทาํ ส่ิงทีช่ าํ รุด ตรวจสภาพกาํ ลงั ดันใหเ สนอเรอื่ งไปตามลาํ ดบั
ถึง วศ.ทร. และนาํ เครือ่ งดับเพลิงพรอมสําเนาเรอื่ งไปสง ที่ วศ.ทร.แจงจํานวนของเครอื่ งดับเพลงิ ท่ี
หนว ยนน้ั ๆ มาขอรบั การบรรจสุ ารดบั เพลงิ ซอมทํา หรือตรวจสภาพเครอ่ื งดบั เพลงิ เพอื่ ใหห นว ยนําไปเบกิ
เปลีย่ นหมนุ เวยี นท่ีพธ.ทร.
๗.๖ การขอรบั เคร่อื งดับเพลงิ ทีเ่ ขารบั การบรรจสุ ารดบั เพลิงใหม ใหห นวยนําใบแนบท่ี วศ.ทร.
แจงจํานวนของเคร่อื งดบั เพลิงของหนวยทมี่ าขอรบั การบรรจุสารดับเพลงิ และตรวจสอบสภาพ ไปขอรับ
เครื่องดบั เพลงิ ไดท่ี พธ.ทร. ไดทันที เพือ่ หนวยจะไดม เี ครอ่ื งดับเพลงิ ไวพ รอ มใชไ ดต ลอดเวลา
๘. การระวงั ปองกันอนั ตราย
๘.๑ หา มดบั ไฟประเภท ค. เชนอปุ กรณไ ฟฟา เพราะน้ําเปนสือ่ ไฟฟา
๘.๒ เม่ือจะดบั ไฟในบริเวณทมี กี ระแสไฟฟา ใหย กสวทิ ชตัดวงจรไฟฟา กอ น
๘.๓ ในขณะดบั ไฟประเภท ข. (น้าํ มันประเภทตาง ๆ ) หา มฉีดไปทแ่ี หลงไฟ เพราะจะทําให
แหลง ไฟกระจาย ควรฉีดไปทพ่ี ้ืนหรอื ผนังทใ่ี กลแหลงไฟ ซ่ึงจะทําใหฟ องทีเ่ กดิ ข้ึนไหลมาคลุมวัตถเุ ชอ้ื เพลงิ
ประเภท ข.

๗. พล่ัว – ทรายดบั เพลงิ
พล่ัว เปน เคร่อื งมอื ตักทราย
ลกั ษณะและขนาด ตามมาตรฐาน ทร.

- ๖๐ -
๑. ใบพล่ัวทําดวยเหล็กแผนหนา ๑/๑๖ น้วิ ทาํ ข้นึ รปู ตามภาพ ขนาด ประมาณ ๙ ๑/๒ X ๑๑
นว้ิ
๒. ดา มไมเ นอื้ แขง็ กลมโต ๑ ๑/๒ นวิ้ ปลายขา งหนึง่ ยดึ ตดิ กับใบพลวั่ ปลายอีกขางหนง่ึ ตดิ กบั ท่ี
จบั เปน หว งเหลก็ ประกอบกบั ไม
๓. ยาวท้งั หมดประมาณ ๓๘ นิว้ มีความแขง็ แรง เหมาะแกก ารใชงานหนกั
๔. สว นท่เี ปนโลหะทาสีแดง สวนทเี่ ปน ไมท านํา้ มันขัดเงา
ทราย ภาชนะทใี่ สเปนถังไม ถังเหลก็ ถงั ปนู หรือถงั นาํ้ มันขนาด ๒๐๐ ลติ ร ซึง่ ถังจะตองมีฝาปด และมี
พลว่ั ตักทรายพรอม

รูปถังทรายดบั เพลิง

การดบั ไฟ ใชดับไฟทไี่ หมต ามพน้ื ผวิ บาง ๆ โดยอาศัยหลกั การคลุมไฟ ไดแก
- ใชกลบไฟทไี่ หมนํ้ามนั ตามพืน้ ราบไดผลดมี าก
-ใชก ลบโลหะหลอมเหลว ซง่ึ หกราดตามพื้นไดผ ลดมี าก
- ใชก ลบไฟจากการระเบดิ ของระเบดิ เพลิง ไดแก สารจําพวก เทอรไมท ฟอสฟอรัส หรือนาปาลม

เปน ตน
-ใชกลบไฟทไี่ หมวตั ถเุ ชื้อเพลงิ ประเภท ก. ไดช่ัวคราวใหใ ชน ํา้ ชว ยจงึ จะไดผ ลแนน อน
- หา มดบั ไฟประเภท ค. เพราะจะเปน อนั ตรายตออุปกรณ และทาํ ความสะอาดออกยาก

ขอ ควรระมัดระวังรักษา เมอ่ื จะใชท รายดบั ไฟ พิจารณาบรเิ วณใกลเคยี งเสยี กอนวาทรายท่ีสาดไปจะทาํ
ความเสียหายตอ วัตถุสงิ่ ของหรอื ไม
๘. ถงั น้าํ ดบั เพลงิ ( Basket Bride )

คณุ สมบัติใชต กั นํา้ หรือตกั ทรายในการดบั เพลงิ
ลักษณะและขนาดของถัง

๑. ถังรปู ทรงกรวยตดั ทาํ ดว ยเหลก็ แผน
๒. เสน ผาศนั ยก ลาง ปากถงั ๑๐ ๑/๒ น้วิ กน ถงั ๘ น้ิว
๓. วัดจากปากถังถึงกนถงั วัดภายใน ๑๐ ๑/๒ นิ้ว
๔. มีขนาดบรรจุ ๒๐ - ๓๐ ลติ ร

- ๖๑ -
๕. สามารถยกเคลือ่ นยา ยไดง าย นํา้ หนกั ถังทัง้ หมดประมาณ ๕ ปอนด
การทาสี
๑. ทาสกี ันสนมิ ทัว่ ถัง ๑ ชั้น ทาสีแดงทับสกี นั สนมิ ๑ ช้นั
๒. เขยี นอักษรสขี าว คาํ วา “ดับเพลิง” สงู ๒ ๑/๒ น้ิว ทีข่ างถงั ๒ แหง ตรงขา ม
การดับไฟ
ใชด ับไฟประเภท ก. ไดผ ลดที ส่ี ดุ หา มใชในการดับไฟประเภท ข.

รปู เครอ่ื งมอื ดับเพลิง ถงั ตกั นํ้าดบั เพลงิ
๙. ผา ดบั ไฟ

๑. มขี นาดกวา ง - ยาว ๓ x ๓ หรือกวา งยาวพอสมควร ชบุ นํ้ากอนใชด บั ไฟ เชน เส้อื ผา หม ผา ปู
ทีน่ อน ผามา น กระสอบ ฯลฯ

๒. ผา แอสเบสทอสเปน วตั ถทุ นไฟ สามารถใชไ ดโ ดยไมตองชุบนํา้ ขนาด ประมาณ ๓ X ๓ ฟตุ
การดับไฟ ไดผ ลในดา นการคลมุ เชือ้ เพลิง (Blanketing)

- ใชด ับไฟทีไ่ หมน ํ้ามัน ซงึ่ หกราดตามพนื้ ราบไดผ ลดมี าก
- ใชดับไฟทีไ่ หมนํ้ามัน ในถงั ในกะทะ ไดผ ลดมี าก
-ใชดบั ไฟประเภท ก. โดยดบั เปลวไฟไดช วั่ คราว ตอ งใชน ้ําชวยดบั จึงจะไดผ ลแนนอน
- หามใชดบั ไฟประเภท ค.

รปู ผาดบั เพลิง

- ๖๒ -
วธิ ีใช

เตรียมผา ใหเพยี งพอเทา ปริมาณไฟท่ไี หม
๑. นาํ ผาชุบนํา้ เขา ทางเหนอื ลม
๒. เอาผา นั้นคลุมไปท่ีฐานของไฟ สวนที่อยใู กลตวั กอน เพือ่ ปองกันไฟแลบถูกตัว
๓. นาํ ผา ผนื ตอ ไปคลุมไฟสวนทีเ่ หลือตอไป
ขอ ควรระวงั
- ระวงั ไฟแลบถกู ตวั ขณะใชผาคลมุ
- อยา ใชผ าฟาดไปจะทาํ ใหไ ฟกระจายลุกลามมากข้ึน
๑๐. สารดบั ไฟฮาลอน (HALON)
สารดับไฟฮาลอน หรือสารดับเพลงิ ชนดิ ฮาโลจเี นต ไฮโดรคารบอน เปน สารดบั เพลงิ ทใ่ี ชดบั เพลงิ ได
ดกี วา เคร่ืองมอื ดบั เพลงิ ชนดิ อื่น โดยไมก อใหเกดิ ความสกปรกทง้ิ ไว เหมาะสาํ หรบั ใชด บั เพลงิ ทไ่ี มต องการ
ใหเกดิ ความเสยี หายกบั วสั ดุ หรอื อุปกรณท ีม่ ีราคาแพง เชน คอมพิวเตอร อากาศยาน อปุ กรณ
อเิ ล็กทรอนกิ ส เปน ตน
สารพวกฮาโลจเิ นตไฮโดรคารบอน เปนสารประกอบทเ่ี กิดจากปฏิกริ ยิ าของหมธู าตุ ฮาโลเจน
(HALOGEN) ซงึ่ ไดแก ธาตฟุ ลอู อรีน (FLUORINE) คลอรนี (CHLORINE) โบรมนี (BROMINE) และ
ไอโอดนี (IODINE) กบั สารประกอบไฮโดรคารบ อน (HYDROCARBON) ซ่งึ สว นมากไดแ กพ วก มเี ทน
(METHANE) โดยธาตฮุ าโลเจนจะเขา ไปแทนทีธ่ าตโุ ฮโดรเจนทอี่ ยูในสารประกอบไฮโดรคารบอนบางตวั
หรอื หมดทกุ ตวั แลว แตชนิดของสารฮาโลจีเนตไฮโดรคารบอนทเ่ี กดิ ขน้ึ
สารฮาโลจเิ นตไฮโดรคารบอน มที ้งั ชนดิ ทีเ่ ปนของเหลวและกา ซ ชนดิ ทเ่ี ปนของเหลวสามารถระเหย
หรือสลายตวั ไดง าย เมอื่ ถกู ความรอน ซง่ึ เรารจู ักกนั ในอีกชอื่ หนงึ่ วา “น้าํ ยาเหลวระเหย” สว นช่อื ทางการคา
ของสารพวกนใ้ี ชเ ลข ๔ ตวั ตามหลงั คาํ วา ฮาลอน (HALON)
โดยเลขตวั แรกบอกจาํ นวนอะตอมของธาตุคารบ อน เลขตวั ทีส่ องบอกจาํ นวนอะตอมของธาตุ
ฟลอู อรีน เลขตัวทสี่ ามบอกจํานวนอะตอมของธาตคุ ลอรนี เลขตวั ท่สี ีบ่ อกจาํ นวนอะตอมของธาตโุ บรมนี
เชน
HALON 1011 BROMO CHLORO METHANE (CH2ClBr หรอื CBM)
HALON 1211 BROMO CHLORO DIFLUORO METHANE (CBrClF2 หรือ BCF)
HALON 1301 BROMOTRIFLUORO METHANE (CBrF3 หรอื CBF)
เคร่ืองดบั เพลงิ ชนิดฮาโลจีเนตไฮโดรคารบ อน ปจจบุ นั ทร.กําหนดใหม ใี ชในมาตรฐานพัสดปุ องกนั
ความเสยี หาย ทร. อยู ๒ ชนิด คือ เครอ่ื งมือดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๒๑๑ และ เคร่ืองมอื ดับเพลิงฮาลอน ๑๓๐๑
ซึง่ ถือวา เปน เครอื่ งมอื ดบั เพลงิ ทท่ี นั สมยั และมีประสทิ ธภิ าพในการดบั เพลงิ มากทสี่ ุดในปจ จบุ นั
คณุ สมบัตทิ วั่ ไปของสารดบั เพลงิ ฮาลอน
๑. เปนกา ซไมม ีสี ไมมกี ลิน่ และไมเ ปนสอ่ื ทางไฟฟา

- ๖๓ -
๒. หนกั กวา อากาศ ๕ เทา
๓. สภาพปกตใิ นธรรมชาตจิ ะเปนกาซ
๔. เมอื่ บรรจุอยูในขวดจะเปนของเหลว โดยใชอณุ หภมู ติ า่ํ และความดันสงู (ภายใตก ําลังดนั ของ
ไนโตรเจน ๖๐๐ PSI ท่อี ุณหภูมิ ๗๐ ํฟ.
๕. จุดเดอื ดประมาณ -๗๒ ฟํ . และจดุ เยอื กแขง็ ประมาณ -๒๗๐ ํฟ.
๖. สามารถดบั ไฟทง้ั ประเภท ก,ข และ ค สวนการดับไฟประเภทพเิ ศษ (CLASS “D” ) ไมไ ดผล
๗. หลงั จากใชแ ลวไมม กี ากเหลอื อยู
๘. วธิ ีการดบั ไฟใชแบบลักษณะเปดทว มหอ ง และหลงั จากฉีดไปแลว จะตอ งใหคลมุ ไฟอยูระยะหนง่ึ
ซง่ึ จําเปน ตอ งปด หอ งท้งิ ไวอ ยางนอ ย ๑๕ นาที
การทาํ ปฏกิ ิรยิ าทางเคมีของสารฮาลอน (HALON) ในการดบั เพลงิ
สารดับเพลงิ ฮาลอน เมอ่ื ทาํ การฉีดออกมายงั บรเิ วณทเี่ กดิ ไฟไหม จะทาํ ใหบริเวณแหลง ไฟนน้ั เยน็ ลง
เรียกวา การลดอุณหภูมิ (COOLING) โดยออกมาในลักษณะหมอกสีขาว นอกจากจะทาํ ใหวตั ถุเชอื้ เพลงิ
เย็นลงแลว ยงั สามารถกน้ั ออกซิเจน (SMOTHERING) อีกดว ย นอกจากนี้ สารดับไฟฮาลอน ซงึ่ มธี าตุฮาโล
เจนเปน องคประกอบ เมือ่ ไดรับความรอ นจะทาํ ใหห มูธ าตฮุ าโลเจนแยกตวั เปนอิสระ และเขา ทาํ ปฏกิ ริ ิยากับ
กา ซไฮโดรเจนซงึ่ เปน ตวั ตดิ ไฟ และกา ซออกซิเจนซงึ่ เปน ตัวชว ยใหไ ฟติด จนทาํ ใหก า ซท้งั สองชนดิ มีปรมิ าณ
นอยลง หรอื หมดไปกอ นทกี่ า ซออกซิเจนจะเขา ทาํ ปฏิกริ ยิ ากบั วัตถุเช้อื เพลงิ ซึ่งจะทาํ ใหอ งคประกอบของไฟ
ไมสมบรู ณ ไฟกจ็ ะดบั ลงอยา งรวดเรว็
ปฏิกริ ยิ าทางเคมเี ปนดงั น้ี

R-H O2 Rํ + O ํH ตดิ ไฟ
(วัตถเุ ชื้อเพลิง) #ความรอน

C - Br C ํ + Br ํ

(สารฮาลอน) #ความรอน

โบรมนี ( Br ํ ) เรดิเคอร เมือ่ แยกออกมาจุทาํ ปฏกิ ริ ยิ าจับตัวกบั ออกซิเจนในอากาศหรือไฮโดรเจน

จากวตั ถเุ ชื้อเพลิง ก็จะทาํ ใหเ พลงิ ดับลง

เครอ่ื งมือดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๒๑๑

(HALON 1211 FIRE EXTINGUISHER)

เคร่ืองดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๒๑๑ ตามมาตรฐาน ปคส.ทร. กาํ หนดมใี ช ๒ ขนาด คอื เคร่อื ง

ดบั เพลิง ฮาลอน ๑๒๑๑ ขนาด ๒ – ๓ ปอนด และขนาด ๕ ปอนด ซ่ึงลกั ษณะของเคร่อื งดับเพลิงทัง้ สอง

ขนาดนี้ มลี กั ษณะตา ง ๆ เหมอื นกัน

- ๖๔ -
คณุ สมบตั ใิ นการดบั ไฟ

๑. สารดบั เพลิง คอื โบรโมคลอโรไดฟลอู อโรมีเทน (BROMO CHLORO DIFLUORO METHANE ,
BCF)

๒. ในสถาวะปกติเปน กา ซ ไมมีกลน่ิ สี รส และไมเ ปนตวั นาํ ทางไฟฟา
๓. จดุ เยือกแขง็ -๑๖๐ ซํ . (-๒๕๖ ํฟ.) จดุ เดือด -๓.๔ ซํ . (๒๖ ฟํ .)
๔. เปนกาซทหี่ นกั กวา อากาศประมาณ ๕ เทา
๕. เปนกาซทท่ี ําใหเ กิดอาการวงิ เวียน
๖. เมื่อแปรสภาพจากของเหลวเปน กา ซจะขยายตวั ประมาณ ๒๖๐ เทา และอุณหภมู ลิ ดลงเปน
๐ - ๑๔ ฟ. ( - ๑๗ ซ. ถึง - ๙ ซ. )
๗. ปรมิ าณของสารฮาลอน ๑๒๑๑ ในอากาศทด่ี ับไฟไดผ ลประมาณ ๔ - ๗ %
๘. ฮาลอน ๑๒๑๐ มีประสทิ ธิภาพในการดบั ไฟไดเ รว็ กวาเครอื่ งดับเพลงิ CO2 ถึง ๓ เทา
๙. อุณหภมู ิใชงาน ๔๐ ฟ. ถึง ๑๒๐ ฟ. ( ๔ ซ. ถึง ๕๐ ซ. )
๑๐. ฮาลอน ๑๒๑๑ ไมเปน สื่อไฟฟา และไมท าํ ใหโลหะเกิดสนมิ เก็บไวไ ดน านตลอดไปไมเ สื่อม
คุณภาพ
ลกั ษณะและสว นประกอบ
๑. ตัวทอ เคร่อื งดับเพลงิ

๑.๑ ตวั ทอรูปทรงกระบอกทาํ ดว ยโลหะภายนอกพน สีแดง
๑.๒ ขนาดโตโดยประมาณความสูงทงั้ หมด ( รวมล้นิ เปด - ปด ) ๑๔ ๕ / ๘ น้ิว เสนผา น
ศูนยก ลาง ๔ ๑ / ๔ นวิ้
๑.๓ ภายในบรรจุสารดับเพลงิ ได ๕ ปอนด ซึ่งกา ซฮาลอน ๑๒๑๑ จะถูกอัดตัวเปน ของเหลว ๒
ใน ๓ สว นทีเ่ หลือจะเปนกา ซ
๑.๔ ทนกาํ ลงั ดนั นาํ้ ( HYDROSTATIC ) ไดไ มต ํา่ กวา ๓๙๐ ปอนด / ตารางนว้ิ
๑.๕ บรรจสุ ารดับเพลิงแลว นา้ํ หนกั ทง้ั หมดประมาณ ๙ ๑ / ๔ ปอนด
๒. ลิน้ เปด - ปด ประกอบดว ยสวนตา ง ๆ รวมเปนชดุ เดยี วกนั อยทู ส่ี ว นบนของตัวทอ ดงั นี้
๒.๑ ตัวลนิ้ เปด - ปด เปน แบบคนั บบี กด และเปน ทหี่ ยบิ ยกเคลอื่ นท่ี
๒.๒ ตัวล้ินเปด - ปด ทงั้ ชุดเม่อื คลายเกลยี วเปดออกเปน ของเตมิ สารดับเพลิง
๒.๓ ทอ ไซฟอน SIPMON TUBE อยูภายในตวั ทอตอ มายงั ลนิ้ เปด - ปด และหัวฉดี
๒.๔ แผน กนั อันตราย SAFETY DISC มแี ผนทองแดงสําหรับปอ งกนั ทอเคร่ืองดับเพลิงฮาลอน
๑๒๑๑ แตก
๒.๕ หวั ฉดี ทาํ ดวยโลหะประกอบตดิ กบั คนั บีบกด
๒.๖ มาตรวดั กําลงั ดนั ชนดิ กนั นาํ้ ได ๐ - ๒๐๐ ปอนด / ตารางนิ้ว
๒.๗ สลักหามคันบบี กดและลวดตราตะกวั่

- ๖๕ -
๓. สวนประกอบอ่นื ๆ

๓.๑ หูแขวนเครือ่ งดับเพลิงอยขู า งตัวทอ ตอนบน หรอื เขม็ ขัดรดั เครือ่ งดับเพลงิ สาํ หรบั เก่ียวกบั
ขอแขวนเครื่องดบั เพลงิ

๓.๒ ขอแขวนเครอื่ งดบั เพลงิ สําหรับติดขางฝาผนงั
๓.๓ บตั รบันทกึ ประจาํ เครือ่ งดับเพลงิ
๓.๔ แผน ปา ยแสดงรายการ NAME PLATE รัดอยูรอบตวั ทอเครอื่ งดบั เพลงิ

รูปเครอื่ งมอื ดบั เพลิง ฮาลอน 1211
การขับดนั สารดับเพลงิ

๑. การขบั ดันสารดับเพลิงตอ งมกี า ซเฉ่อื ย เชน กาซไนโตรเจน บรรจุไปดว ยเพอ่ื ชว ยเพิ่มกาํ ลงั ดนั ใน
การขับสารดับเพลงิ เน่อื งจากกาํ ลงั ดนั ของสารดับเพลงิ มไี มเ พยี งพอทีจ่ ะใชง านได

๒. การขับดนั เปนแบบสะสมความดนั ภายในเครอื่ งดบั เพลิง ( STORE PRESSURE )
๓. กาํ ลงั ดนั ใชง าน ( OPERATING PRESSURE ) ไมต า่ํ กวา ๑๐๐ ปอนดตอตารางนว้ิ ที่อุณหภมู ิ
๒๑ ซ. ( ๗๐ ฟ. )
๔. เม่อื ฉีดสารฮาลอน ๑๒๑๑ ออกจากเครือ่ งดบั เพลิง โดยเปดลนิ้ ตดิ ตอ สารดบั เพลงิ จะหมดใน
๑๐ วนิ าที
๕. สามารถฉดี ไดไกล ๙ - ๑๔ ฟตุ
วิธใี ช
๑. เคร่อื งดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๒๑๑ ขนาด ๕ ปอนด เหมาะสําหรับใชด บั ไฟประเภท ข.
( น้ํามันเชื้อเพลิงตาง ๆ ) และไฟประเภท ค. ( ไฟฟา ) โดยเฉพาะเครอ่ื งอเิ ลก็ ทรอนกิ ส

๑.๑ สามารถดบั ไฟประเภท ข. ไดในขอบเขตพื้นที่ ๒๐ ตารางฟตุ
๑.๒ สามารดบั ไฟประเภท ค. ไดในขอบเขตพ้ืนที่ ๒๐ ตารางฟุต
๒. ควรใชใ นบริเวณทอี่ ากาศถา ยเทไมอ บั อากาศ
๓. เมอ่ื จะดับไฟประเภท ค. ( ไฟฟา ) ใหย กสวิทซตัดวงจรไฟฟา กอน
๔. นําเคร่อื งดับเพลิงฮาลอน ๑๒๑๑ ไปทีบ่ ริเวณไฟไหม โดยเขา ทาํ งานเหนอื ลมเพอ่ื หลบความรอ น
และควัน

- ๖๖ -
๕. จับเครอื่ งดบั เพลงิ ใหต ั้งตรง หา งจากแหลงไฟประมาณ ๙ - ๑๕ ฟตุ
๖. ดึงลวดตราตะก่ัวออก
๗. ดงึ สลกั หา มคันบีบกดออก และหนั หวั ฉดี ไปทีฐ่ านของไฟ
๘. บบี คนั กด กา ซฮาลอน ๑๒๑๑ จะพน ออกมาจากเครอื่ งดับเพลงิ เปน หมอกสีขาวมีเสียงดงั อยา
ตกใจ ไฟบรเิ วณนั้นจะดับเอง หันหัวฉีดรุกไลดับไฟตอไป
๙. เมื่อไฟดบั แลว หยดุ ฉดี ฮาลอน ๑๒๑๑ โดยการหยุดกดคนั บีบกด ล้ินจะปดสนทิ กาซฮาลอน
๑๒๑๑ ท่เี หลอื ในขวดยงั มคี ุณภาพใชต อไปไดอีก
๑๐. เม่อื ใชงานเสรจ็ แลว ใหต รวจความเรียบรอ ยของเคร่อื งดับเพลิงแยกเก็บไวตา งหาก แจง
เจา หนาท่ีเพอื่ ตรวจช่งั นาํ้ หนกั ถา นาํ้ หนักกา ซลดลงตง้ั แต ๕ % ขึ้นไปใหส ง วศ.ทร. เพอื่ บรรจกุ า ซฮาลอน
๑๒๑๑ใหมท นั ที
การปรนนบิ ตั บิ าํ รงุ
๑. ทกุ สปั ดาหใหตรวจลวดและตราตะก่ัว ถา ลวดขาดชาํ รุดใหตรวจชง่ั นา้ํ หนัก ถา นาํ้ หนกั คงที่ใหผ กู
ลวดและตราตะก่ัวใหม ถา นาํ้ หนกั ตํา่ กวา เกณฑใหบรรจกุ า ซฮาลอน ๑๒๑๑ ใหม ใหเ ต็มหรอื ตรวจรั่ว
๒. ทกุ ๓ เดอื น ใหต รวจชง่ั น้ําหนกั และบนั ทกึ ไวในบตั รประจําเครือ่ งดับเพลงิ
๓. ทกุ ๓ เดอื น ตรวจมาตรวดั กําลงั ดัน ถา ตํ่ากวา เกณฑตอ งอดั กา ซไนโตรเจนใหม
๔. ถานา้ํ หนักสารฮาลอน ๑๒๑๑ พรอ งไปเกนิ กวา ๕ % ใหบรรจุกาซลงไปใหม
๕. ถา ใชในสถานทท่ี ม่ี ีอุณหภมู ิสงู กวา ๑๗๔ ฟ. ( ๔๗ ซ. ) ใหบรรจฮุ าลอน ๑๒๑๑ เพยี ง ๙๐ %
๖. การตรวจสภาพทนกาํ ลงั ดันของทอเครอื่ งดับเพลิงฮาลอน ๑๒๑๑ สงไปตรวจที่ วศ.ทร. ดังนี้

๖.๑ ทอเครื่องดับเพลงิ ฮาลอน ๑๒๑๑ ที่ใชง านหนกั เชน ตามเรอื ตรวจทุก ๕ ป
๖.๒ ทอเครือ่ งดับเพลงิ ฮาลอน ๑๒๑๑ ท่ีใชง านปกตบิ นบก ตรวจทุก ๑๒ ป
๖.๓ ทอ เครอื่ งดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๒๑๑ ทถี่ ูกกระทบกระเทอื นอยางแรง ถกู ไฟไหมใหส ง ตรวจ
ทันที
๗. การบรรจุกาซฮาลอน ๑๒๑๑ ใหมซ อมทําสง่ิ ทีช่ าํ รดุ ตรวจสภาพทนกําลงั ดนั ใหเ สนอเรื่องไป
ตามลําดบั ถงึ วศ.ทร. และนําเครอื่ งดบั เพลิงพรอมสาํ เนาเรือ่ ง สง ไปที่ วศ.ทร. เพอื่ ให วศ.ทร. ดาํ เนนิ การ
บรรจุและตรวจสอบตอไป พรอ มทง้ั ให วศ.ทร. แจง จํานวนของเครอื่ งดบั เพลงิ ทหี่ นว ยนนั้ ๆ มาขอรับการ
บรรจุสารดบั เพลงิ ซอมทาํ หรอื ตรวจสภาพเคร่อื งดับเพลงิ เพือ่ ใหหนว ยนําไปเบกิ เปลย่ี นหมนุ เวียนท่ี พธ.ทร.
๘. การขอรบั เคร่ืองดบั เพลงิ ท่ีเขา รับการบรรจสุ ารดับเพลงิ ของหนวยทมี่ าขอรับการบรรจุสาร
ดับเพลิงและตรวจสอบสภาพ ไปขอรบั เครือ่ งดับเพลิงไดที่ พธ.ทร. ไดทันที เพอื่ หนว ยจะไดมเี คร่อื งดับเพลิง
ไวพ รอ มใชตลอดเวลา
๙. การติดตัง้ เครอ่ื งดบั เพลิง ใหต ิดต้ังในสถานท่ที มี่ องเหน็ ไดง า ย หยบิ ใชไดส ะดวก หางจากแหลง
เช้ือเพลงิ พอควร อยา ติดตง้ั เคร่อื งดับเพลงิ ใกลค วามรอน
๑๐. เคร่อื งดับเพลิงฮาลอน ๑๒๑๑ ที่ติดตง้ั ตามรถและเรือ ใหมีสายรดั กนั แกวง ดว ย

- ๖๗ -
๑๑. เม่ือยา ยสถานที่ ทํางาน อยายา ยเครอื่ งดับเพลิงไปใหสง มอบใหห นวยทมี่ าอยใู หมห รอื หนว ยที่
มีหนา ท่รี บั ผดิ ชอบอาคารนนั้
การปองกนั อนั ตราย
๑. กา ซฮาลอน ๑๒๑๑ ถามปี ริมาณนอยไมเ ปนพษิ ตอ รางกาย แตไมค วรสดู ดมไอระเหยของ
กาซฮาลอน ๑๒๑๑ เพราะจะทําใหวงิ เวยี นและถา มีปรมิ าณมาก อาจเปน อนั ตรายตอ ระบบหายใจ
๒. กา ซฮาลอน ๑๒๑๑ จะทาํ ปฏกิ ิรยิ ากบั กา ซออกซเิ จนโดยเรว็ เมือ่ อยใู นท่ีอบั อากาศจะทาํ ใหขาด
ออกซเิ จน ( กรณที ใ่ี ชดับไฟโดยใชเ ปน ระบบฮาลอน ๑๒๑๑ เมือ่ ใชกา ซฮาลอน ๑๒๑๑ ในหอ งอบั ทึบ ควรมี
หนา กากชว ยการหายใจ และเมือ่ ดับไฟแลวอยาเพงิ่ เขาไป ตองใหอ ากาศถา ยเทกอน หรอื รอไว ๑๕ นาที )
๓. ระวงั หา มใชกา ซฮาลอน ๑๒๑๑ ดับไฟทเี่ กดิ ขนึ้ กบั โลหะโซเดียม โลหะมกั นีเซยี มสารพวก
โลหะไฮไดรต สารพวกเซลลโู ลสไนเตรท หรอื ดนิ ปน เพราะสารดบั เพลงิ นจ้ี ะทาํ ปฏกิ ริ ยิ าทางเคมอี ยา งรนุ แรง
กบั โลหะ และสารดังกลา วทาํ ใหเกดิ ความรอ นสูงมาก และอาจเกดิ การระเบดิ ขึ้นได
๔. ควรตดิ ตัง้ ใหห า งจากแหลง ความรอนและอยาใหถูกแสงแดด เน่อื งจากความรอนจะทาํ ใหค วาม
ดนั ของกา ซภายในเคร่อื งดบั เพลงิ สงู ขนึ้ อาจทาํ ใหเ กดิ การร่วั หรือระเบิดได
๕. แผน กนั อนั ตราย ( SAFETY DISC ) ของเครอื่ งดับเพลิงฮาลอน ๑๒๑๑ ถามคี วามดันสงู มากจะ
แตกทะลุ กา ซฮาลอน ๑๒๑๑ จะพน ออกมามเี สยี งดงั อยา ตกใจปลอยใหก า ซฮาลอน ๑๒๑๑ ออกไปจน
หมดทอ ไลก า ซน้อี อกจากหอ ง ( กรณีท่เี ปน หองทึบอับอากาศ ) แลว สงเครื่องดบั เพลิงฮาลอน ๑๒๑๑ นไ้ี ป
บรรจุและเปลย่ี นแผนกนั อนั ตรายใหมท ี่ วศ.ทร.

เครอ่ื งดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑
( HALON ๑๓๐๑ FIRE EXTINGUISHER )
เครื่องดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑ ในปจ จุบนั ถือวา เปน เครอ่ื งมอื ดบั เพลงิ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพในการดบั ไฟ
ไดด ีที่สุด และกอใหเกิดอนั ตรายตอผูใ ชน อ ยทส่ี ุด ดว ยมาตรฐาน ปคส. ทร. กาํ หนดใหม ีใชข นาดเดียว คอื
ขนาด ๓ ปอนด เทา นน้ั
๑. ประโยชน
๑.๑ ใชดบั ไฟประเภท ค. พวกอปุ กรณไฟฟา อุปกรณอ เิ ลก็ ทรอนกิ ส เปนตน ไดผลดมี าก
๑.๒ ใชดับไฟประเภท ข. พวกนา้ํ มนั เช้ือเพลงิ ตา ง ๆ รวมท้งั ของเหลวระเหยที่ติดไฟ เชน อีเทอร
แอลกอฮอล เปนตน ไดผ ลดี
๒. ลกั ษณะและสว นประกอบ
๒.๑ ตวั ทอ เคร่ืองดบั เพลงิ
๒.๑.๑ ตัวทอรูปทรงกระบอก ทาํ ดว ยโลหะภายนอกพน สแี ดง
๒.๑.๒ ขนาดโตโดยประมาณ ความสงู ท้ังหมด ( รวมลน้ิ เปด - ปด ) ๑๕ นวิ้
เสนผา ศนู ยก ลาง ๓.๕ นวิ้

- ๖๘ -
๒.๑.๓ ภายในบรรจุสารดบั เพลิงได ๓ ปอนด ซงึ่ กาซฮาลอน ๑๓๐๑ จะถูกอดั ตวั เปน
ของเหลว ๒ ใน ๓ สว นของเทาสว นท่เี หลือจะเปนกา ซ
๒.๑.๔ ทนกาํ ลังดันนาํ้ ( HYDROSTATIC TEST ) ไดไ มตาํ่ กวา ๓๒๐ ปอนด / ตารางนว้ิ
๒.๑.๕ บรรจุสารดับเพลิงแลว นํา้ หนกั ทงั้ หมดประมาณ ๔ ปอนด
๒.๒ ล้ินเปด - ปด ประกอบดวยสว นตา ง ๆ รวมเปน ชุดเดียวกนั อยทู ่สี ว นบนของตัวทอ ดงั น้ี
๒.๒.๑ ตวั ล้นิ เปด - ปด เปนคันแบบบีบกด และเปนที่สาํ หรับหยิบยกเคลอื่ นทดี่ ับเพลงิ
๒.๒.๒ ตัวลน้ิ เปด - ปด ทัง้ ชดุ เมอ่ื คลายเกลียวเปดออกเปนชอ งเตมิ สารดับเพลิง
๒.๒.๓ ทอไซฟอน ( SIPHON TUBE ) อยภู ายในตวั ทอ ตอมายงั รูลน้ิ เปด - ปด ซงึ่ จะ
ตอไปยังทอฉดี สารดบั เพลิง
๒.๒.๔ แผนปองกนั อันตราย ( SAFETY DISC ) เปนแผนทองแดงสาํ หรบั ปอ งกนั ทอ เครือ่ ง
ดับเพลิงฮาลอน ๑๓๐๑ แตก
๒.๒.๕ ทอ ฉีดกา ซเปน ทอ โลหะหนั ไดส ะดวก มกี ระบอกฉดี ทาํ ดวยวัสดทุ ไ่ี มเ ปน ตัวนาํ ไฟฟา
๒.๒.๖ มาตรวดั กาํ ลงั ดันชนดิ ปอ งกนั นา้ํ ได
๒.๒.๗ สลกั หา มคันบบี กด และลวดตราตะกั่ว
๒.๓ สว นประกอบอน่ื ๆ
๒.๓.๑ หแู ขวนเครื่องดบั เพลิงอยขู างตัวทอ ตอนบน หรอื เข็มขัดรัดเคร่อื งดับเพลงิ สาํ หรบั
เกย่ี วกบั ขอแขวนเครือ่ งดบั เพลิง
๒.๓.๒ ขอแขวนเครอ่ื งดบั เพลงิ สาํ หรับตดิ ขางฝาผนัง
๒.๓.๓ บัตรบนั ทกึ ประจําเครอื่ งดับเพลิง
๒.๓.๔ แผนปายแสดงรายการ ( MAKE PLATE ) รัดอยรู อบตวั ทอ เครอ่ื งดับเพลิง

รูปเครอ่ื งมอื ดับเพลิง ฮาลอน 1301
๓. สารดับเพลิงและคณุ ลักษณะ

๓.๑ สารดับเพลงิ คอื โบรโมไตรฟลูออโรมีเทน ( BROMOTRIFLUOROMETHANE , CBR )
๓.๒ ในสถาวะปกติเปน กาซ ไมมีกลนิ่ สี รส และไมเปนตวั นาํ ไฟฟา
๓.๓ จุดเยือกแขง็ - ๑๖๘ ซ ( - ๒๗๐ ฟ ) จุดเดอื ด - ๕๘ ซ ( - ๗๒ ฟ )

- ๖๙ -
๓.๔ เปนกาซท่หี นักกวา อากาศประมาณ ๕ เทา
๓.๕ ปรมิ าณของสารฮาลอน ๑๓๐๑ ในอากาศท่ีดับไฟไดผ ลประมาณ ๕ - ๗ %
๓.๖ ฮาลอน ๑๓๐๑ มีประสิทธภิ าพในการดบั ไฟไดเ ร็วกวา เครอื่ งดบั เพลิง CO2 ๓ เทา
๓.๗ อณุ หภมู ใิ ชงาน ๔๐ ถงึ ๑๒๐ ฟ. ( ๔ ซ ถงึ ๕๐ ซ )
๓.๘ ฮาลอน ๑๓๐๑ ไมเปน สอื่ ไฟฟาและไมท ําใหโลหะเกิดสนมิ
๓.๙ ฮาลอน ๑๓๐๑ เก็บไวไ ดน านตลอดไป ไมเ ส่ือมคณุ ภาพ
๓.๑๐ สถาบนั UL รับรองวา เปนสารที่มอี นั ตรายตอ มนษุ ยนอยทีส่ ดุ
๔. การขบั สารดบั เพลงิ
๔.๑ การขบั ดันสารดบั เพลงิ ตองมกี า ซเฉอ่ื ย เชน กา ซไนโตรเจน บรรจุลงไปดว ย เพื่อชว ยเพ่ิม
กําลงั ดนั ในการขับดันสารดับเพลิง เนื่องจากกาํ ลังดนั ของสารดับเพลงิ มไี มเ พยี งพอทจ่ี ะใชงานได
๔.๒ การขบั ดนั เปน แบบสะสมความดนั ภายในเคร่อื งดบั เพลิง
๔.๓ กาํ ลงั ดนั ใชง าน ( OPERATING PRESSURE ) ไมต่าํ กวา ๓๖๐ ปอนด / ตารางน้วิ
ท่ีอณุ หภูมิ ๒๑ ซ ( ๗๐ ฟ )
๔.๔ เมอ่ื ฉดี สารฮาลอน ๑๓๐๑ ออกจากเครอื่ งดับเพลิง สารดบั เพลิงจะหมดในเวลา ๘ - ๑๐
วนิ าที
๔.๕ สามารถฉีดไดไ กล ๔ - ๖ ฟตุ
วธิ ีใช
๑. เครื่องดับเพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑ ขนาดเหมาะสาํ หรับดบั ไฟประเภท ข. ( นํา้ มนั เชอ้ื เพลงิ ตา ง ๆ )
และไฟประเภท ค. ( ไฟฟา ) โดยเฉพาะเครื่องอเิ ลก็ ทรอนกิ ส
๑.๑ สามารถดบั ไฟประเภท ข. ไดในขอบเขตพ้ืนที่ ๘ ตารางฟตุ
๑.๒ สามารถดับไฟประเภท ค. ไดในขอบเขตพ้ืนที่ ๙ ตารางฟตุ
๒. เมื่อจะดับไฟประเภท ค. ( ไฟฟา ) ใหยกสวทิ ซ ตัดวงจรไฟฟา กอน
๓. นาํ เครื่องดับเพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑ ไปที่บรเิ วณไฟไหม โดยเขาทางเหนือลมเพอ่ื หลบความรอน
และควนั
๔. จบั เคร่ืองดับเพลงิ ใหต ง้ั ตรง หา งจากแหลง ไฟประมาณ ๔ - ๖ ฟุต
๕. ดงึ ลวดตราตะกวั่ ออก
๖. ดึงสลกั หา มคันบีบกดออก และหนั หัวฉดี ไปทีฐ่ านของไฟ
๗. บีบคันบีบกด กา ซฮาลอน ๑๓๐๑ จะพน ออกมาจากเคร่อื งดบั เพลิงเปนหมอกสีขาว มเี สยี งดงั
อยา ตกใจ ไฟบริเวณนนั้ จะดับเอง หนั หวั ฉีดรกุ ไลดบั ไฟตอ ไป
๘. เม่อื ไฟดับแลว หยดุ ฉดี ฮาลอน ๑๓๐๑ โดยการหยุดกดคันบบี กดล้นิ จะปด สนทิ กา ซฮาลอน
๑๓๐๑ ทเ่ี หลอื ในขวดยงั มีคุณภาพใชต อ ไปไดอีก

- ๗๐ -
๙. เม่อื ใชง านเสรจ็ แลว ใหตรวจความเรียบรอยของเคร่ืองดบั เพลิง แยกเก็บไวตางหาก แจง
เจาหนา ที่เพ่อื ตรวจช่ังนาํ้ หนกั ถา นาํ้ หนกั กาซลดลงตงั้ แต ๕ % ขนึ้ ไป ใหสง วศ.ทร. เพ่อื บรรจกุ า ซฮาลอน
๑๓๐๑ ใหมท นั ที
การปรนนบิ ตั บิ ํารุง
๑. ทกุ สปั ดาหใ หตรวจลวดและตราตะก่ัว ถาลวดขาดชาํ รดุ ใหตรวจชง่ั นา้ํ หนกั ถานา้ํ หนักคงท่ีใหผ ูก
ลวดและตราตะก่ัวใหม ถานา้ํ หนกั ตํา่ กวา เกณฑใ หบรรจกุ า ซฮาลอน ๑๓๐๑ ใหม ใหเ ตม็ หรือตราตะก่ัว
๒. ทุก ๓ เดอื น ใหตรวจช่งั น้าํ หนกั และบนั ทกึ ไวใ นบัตรประจาํ เคร่ืองดบั เพลงิ
๓. ทกุ ๓ เดอื น ตรวจมาตรวัดกําลงั ดนั ถา ตํา่ กวา เกณฑต องอัดกาซไนโตรเจนใหม
๔. ถา น้าํ หนักสารฮาลอน ๑๓๐๑ พรองไปเกนิ กวา ๕ % ใหบ รรจกุ า ซลงไปใหม
๕. ถาใชในสถานทท่ี ่ีมอี ณุ หภูมิสูงกวา ๑๓๔ ฟ ( ๔๗ ซ.) ใหบรรจกุ า ซฮาลอนน ๑๓๐๑ เพยี ง
๙๐%
๖. การตรวจสถาพทนกาํ ลงั ดนั ทอเคร่อื งดับเพลิงฮาลอน ๑๓๐๑ สง ไปตรวจท่ี วศ.ทร. ดงั นี้

๖.๑ ทอเครอื่ งดับเพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑ ทีใ่ ชง านหนกั เชน ตามเรือตรวจทกุ ๕ ป
๖.๒ ทอเคร่อื งดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑ ทใ่ี ชง านตามปกตบิ นบกตรวจทกุ ๑๒ ป
๖.๓ ทอ เครอ่ื งดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑ ท่ถี ูกกระทบกระเทอื นอยา งแรง ถกู ไฟไหม ใหสง ตรวจ
ทันที
๗. การบรรจุกาซฮาลอน ๑๓๐๑ ใหม ซอ มทาํ สง่ิ ทชี่ าํ รุด ตรวจสภาพกาํ ลงั ดนั ใหเสนอเรอ่ื งไป
ตามลําดบั ถงึ ยศ.ทร. และนําเครอ่ื งดบั เพลิงพรอ มสําเนาเรอ่ื งไปสง ที่ วศ.ทร. เพอื่ ให วศ.ทร. ดาํ เนนิ การ
บรรจุและตรวจสอบตอ ไป พรอมทงั้ ให วศ.ทร. แจง จํานวนของเครื่องดบั เพลงิ ทหี่ นว ยนน้ั ๆ มาขอรับการ
บรรจสุ ารดบั เพลิง ซอ มทาํ หรือตรวจสถาพเครือ่ งดบั เพลงิ เพ่อื ใหห นว ยนาํ ไปเบิกเปลย่ี นหมนุ เวยี นท่ี พธ.ทร.
๘. การขอรับเครือ่ งดับเพลงิ ทเี่ ขารบั การบรรจุสารดับเพลิงใหใ หม ใหห นว ยนําใบแนบที่ วศ.ทร. แจง
จาํ นวนของเครอ่ื งดบั เพลิงของหนว ยทม่ี าขอรับการบรรจสุ ารดับเพลงิ ไวพรอมใชต ลอดเวลา
๙. การตดิ ตงั้ เครอ่ื ง ใหตดิ ต้ังในสถานทม่ี องเหน็ ไดงา ย หยบิ ใชไ ดส ะดวก หางจากแหลง เชอ้ื เพลิง
พอสมควร อยา ติดต้งั เคร่ืองดับเพลิงใกลค วามรอน
๑๐. เคร่อื งดบั เพลงิ ฮาลอน ๑๓๐๑ ทต่ี ดิ ตัง้ ตามรถและเรอื ใหมสี ายรดั กนั แกวง ดวย
๑๑. เม่อื ยา ยสถานทที่ าํ งาน อยา ยา ยเครอื่ งดับเพลิงไปใหส งมอบใหหนวยทมี่ าอยูใหมห รอื หนว ยท่ี
มีหนา ที่รับผิดชอบอาคารนน้ั
การปอ งกนั อนั ตราย
๑. กาซฮาลอน ๑๓๐๑ ไดร บั การยอมรับวา เปน สารดบั เพลงิ ที่มอี นั ตรายนอ ยทสี่ ดุ เม่อื เทยี บกับ
สารดบั เพลงิ อนื่ ทีม่ ใี ชใ นปจ จุบัน

- ๗๑ -
๒. ระวงั อยา ใชกา ซฮาลอน ๑๓๐๑ ดับไฟทีเ่ กดิ ขน้ึ กบั โลหะโซเดยี ม โลหะมักนเี ซยี ม สารพวก
โลหะไฮไดรต สารพวกเซลลโู ลสไนเตรท หรือ ดนิ ปน เพราะสารดบั เพลงิ นี้ จะทาํ ปฏกิ ริ ิยาทางเคมอี ยา ง
รนุ แรงกับโลหะและสารดงั กลาว ทาํ ใหเกิดความรอนสงู มาก และอาจเกดิ การระเบดิ ข้ึนได
๓. ควรตดิ ตงั้ ใหหา งจากแหลงความรอน และอยาใหถ กู แสงแดด เน่อื งจากความรอ นจะทาํ ใหค วาม
ดนั ของกา ซภายในเครอ่ื งดบั เพลิงสงู ข้นึ อาจทาํ ใหเกิดเพลงิ หรือระเบดิ ได
๔. แผน กนั อนั ตราย ( SAFETY DISC ) ของเครือ่ งดบั เพลิงฮาลอน ๑๓๐๑ กา ซฮาลอน ๑๓๐๑ น้ี
ไปบรรจแุ ละเปลีย่ นแผนกนั อันตรายใหมท ี่ วศ.ทร.
อันตรายท่เี กดิ ขนึ้ กับบุคคลจากสารฮาลอน ( HALON )
หลังจากฉีดสารฮาลอนเขา ไปดบั ไฟแลว อาจจะเกิดอนั ตรายตอ บคุ คลได กลาวคอื เกิดจากการ
สลายตวั ของสารฮาลอน ( HALON ) เมอื่ ไดรบั ความรอนจากการเผาไหมแ ลว ซงึ่ จะมผี ลดังนี้
๑. สารฮาลอน จะสลายตวั ใหแ กสพษิ ท่อี ณุ หภมู ปิ ระมาณ ๙๐๐ ฟ
๒. สารฮาลอนจะเกิดการสลายตัวกอนที่จะเปนตัวไปกอกวนปฏิกิริยาการเผาไหมผลของการ
สลายตวั ของสารฮาลอนตามปกตจิ ะมีผลอนั ตรายนอยกวาการสลายตัวในทางปฏิกิริยา ( ขณะทําการดับไฟ
) กลาวคือ
๒.๑ ถา เราอยูภ ายในหอ งที่มคี วามเขม ขน ๗ % ภายในเวลา ๕ นาที จะมีผลตอ ระบบของการ
หายใจเล็กนอย
๒.๒ ถาเราอยูภายในหอ งที่มีความเขมขน ๗ - ๑๐ % ภายใน ๓ นาที จะรสู กึ เวยี นศรี ษะ
๒.๓ ถา เราอยูภ ายในหองที่มีความเขม ขน เกนิ กวา ๑๐ % ข้ึนไป ภายใน ๑ นาที จะทําใหเกดิ อาการ
ไรส มรรถภาพ
หมายเหตุ ตามปกตสิ ารฮาลอน จะกาํ หนดความเขม ขนไวป ระมาณ ๕ - ๗ % ซ่งึ จะไมเปน อนั ตรายแตวา
บคุ คลกค็ วรทจี่ ะหนอี อกจากหองนนั้ โดยไมควรเกินกวา เวลาท่ีกาํ หนดไว
๓. การสลายตัวของสารฮาลอน จะเปน ละออง ( GAS VAPOUR ) กระจายครอบคลุมพ้นื ท่อี ยา ง
รวดเรว็ ภายในชวั่ ระยะหนง่ึ
๔. ผลซึ่งเกิดจากการสลายตัวของสารฮาลอน จากปฏกิ ริ ยิ านน้ั ๆ แมภายใน ๑ นาที จะมสี ภาพ
เปนไอระเหยของกรด ซึง่ จะรไู ดจากกลน่ิ ท่เี กิดขนึ้
หมายเหตุ ในหอ งท่ีเตม็ ไปดว ยการสลายตวั ของสารฮาลอน ไมเ หมาะสาํ หรับบุคคลทีจ่ ะเขาไปนอกจาก
จะสวมเครื่องชวยในการหายใจเสียกอน

………………………………….

บทที่ ๑๐
เครือ่ งมอื และอปุ กรณใ นการดบั ไฟในเรอื
สายสบู ดบั เพลิง แบง ออกเปน ๒ ชนดิ คือ แบบท่ีใชบ นบก และแบบทีใ่ ชใ นเรอื
๑. สายสบู ดบั เพลงิ (แบบบก) ตามมาตรฐานท่ีใชอ ยูทว่ั ไปมีแบบและขนาดเดียว โดยตอกับเครอื่ ง
สบู นํ้าหรือหวั ตอ น้าํ ดับเพลงิ ประจาํ ท่ี
๑.๑ ลกั ษณะโดยทวั่ ไป เปน สายสบู ชนดิ เปลือกชั้นเดยี ว สีขาว ทาํ ดว ยฝา ย (Cotton) หรือใย
สงั เคราะห (Synthetic Fiber) เปลือกนอกผนกึ แนน กับทอ ยางภายใน ขนาดโต ๒ ๑/๒ นวิ้ ยาวเสน ละ ๗๕
ฟุต สายสบู และหวั ตอทง้ั เสน ทนกาํ ลงั ดนั ในการตรวจสอบไดไมน อยกวา ๔๐๐ ปอนด/ ตารางนวิ้ และทน
กําลงั ดนั แตก ไดไมต ํ่ากวา ๗๐๐ ปอนด/ ตารางน้ิว
๑.๒ หัวตอสายสบู เปน แบบหัวตอ แบบชนิดสวมเรว็ มีแงขดั ภายใน ๒ แง สว นนอกหมนุ ได
รอบตัว มีวงแหวนยางกนั ร่ัว ลกั ษณะเหมอื นกนั ทงั้ ๒ ขา ง ไมเ ปน ตัวผูหรือตวั เมีย ทาํ ดว ยโลหะไมเปน สนมิ
สายสูบกบั หัวตอ มปี ลอกผา ใบหุมปลาย สายสบู ยาวไมน อยกวา ๑๕ ซม. แลวพนั ทบั ดวยลวดเหลก็ เคลือบ
ปองกนั สนิม ปลายลวดพบั เรยี บรอย
๑.๓ การตรวจสอบ โดยการทดลองการทนกาํ ลงั ดนั นา้ํ พรอมกบั ดกู ารชํารุดไมร ั่วไหล ปริ และ
แตก โดยทนกาํ ลังไดไมต าํ่ กวา ๔๐๐ ปอนด/ ตารางน้วิ ของสายสบู ใหม ถา ใชง านแลว ทนไดไ มต า่ํ กวา ๒๕๐
ปอนด/ตารางน้ิว

สายสบู ดบั เพลงิ ทางบกขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้
๒. สายสบู ดับเพลิง (แบบเรอื ) ตามมาตรฐานมกี ารใชอยใู นกองทพั เรอื มีดว ยกนั ๔ แบบ

๒.๑ ขนาดโต ๑ ๑/๒ นวิ้ ยาว ๒๕ ฟุต
๒.๒ ขนาดโต ๑ ๑/๒ น้ิว ยาว ๕๐ ฟตุ
๒.๓ ขนาดโต ๒ ๑/๒ นวิ้ ยาว ๕๐ ฟุต
๒.๔ ขนาดโต ๔ นวิ้ ยาว ๕๐ ฟตุ
ลักษณะโดยทวั่ ไป เปน สายสูบชนิดเปลอื ก ๒ ชนั้ สีขาว ทาํ ดว ยฝา ย (Cotton) หรือใยสงั เคราะห
(Synthetic Fiber) เชน Polyester เปลือกช้นั ในผนกึ แนน (Bonded) กบั ทอยางภายใน สายสบู และหวั ตอ ทั้ง
เสน ทนกําลงั ดันตรวจสอบ (Testing Pressure) ไดไมต ํ่ากวา ๔๐๐ ปอนด/ ตารางนว้ิ สายสบู ทนกาํ ลังดนั

- ๗๒ -
แตก (Bursting Pressure) ไดไ มต่าํ กวา ๗๐๐ ปอนด/ตารางนิว้ หวั ตอสายสูบเปน แบบชนดิ เกลียว (Rocker
Lug Coupling Style) ขางหนงึ่ เปน ตัวผู อีกขา งหนงึ่ เปน ตัวเมยี ทาํ ดว ยทองเหลือง

ลักษณะของหัวตอ สายสบู มี ๒ แบบ คอื
๑. หวั ตอตวั ผู ทาํ เปน สว นเดียว

๑.๑ ปลายขางหนึง่ อดั ติดแนน อยูกับปลายสายสูบ ดา นนอกมีปมุ ๒ ปุม อยตู รงขา มกัน สาํ หรับ
ใชก บั ประแจคลายสายสูบ

๑.๒ ปลายอกี ขางหนงึ่ ทาํ เปนเกลยี วตัวผขู นาด ๑๑.๕ ฟน /น้ิว ตามแบบมาตรฐานอเมรกิ ัน
(Navy Standard)

๒. หัวตอ ตวั เมีย ทาํ เปน สองสว น
๒.๑ สว นในอดั ติดแนน อยกู บั ปลายสายสบู
๒.๒ สว นนอกเปนปลอกหมนุ ไดรอบตัว ดานนอกมปี มุ ๒ ปมุ อยตู รงขา มกนั สาํ หรบั ใชก บั

ประแจคลายสายสบู ดานในทาํ เปน เกลยี วตวั เมียขนาดเดียวกบั เกลยี วตวั ผู และมีวงแหวนยางกันรว่ั
(Gasket)

การใชง าน เนือ่ งจากสายสูบมอี ยหู ลายขนาด จงึ เลอื กแบบการใชง านตามขนาดของสายสบู กบั
งานท่ี เหมาะสม คือ

๑. สายสบู ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้ ปกตใิ ชตลอดลาํ สาํ หรบั เรอื พฆิ าต หรอื เรือขนาดเลก็ กวา โดยใชต อกบั
หัวตอ ดบั เพลงิ (Fire Plug) และใชใ นบริเวณใตดาดฟาสาํ หรบั เรือขนาดใหญ โดยตอ กบั หวั ตอดบั เพลงิ (Fire
Plug) เชน กนั

๒. สายสูบขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้ สวนมากใชสําหรับตอ กบั หวั ตอดับเพลงิ บนดาดฟา สาํ หรับเรอื ขนาด
ใหญ และใชประกอบกบั เครอ่ื งเปานาํ้ (Eductor) เพ่อื สูบนํา้ ออก

๓. สายสูบขนาด ๔ นว้ิ ใชกบั เครอื่ งเปานา้ํ (Eductor) เพื่อสูบนาํ้ ออก
สถานท่ีติดตงั้ สายสูบ

๑. การติดต้ังใตด าดฟา แบบมาตรฐาน
๑.๑ มเี กลียวตอแยก Wye Gate ตดิ อยทู ่เี คร่อื งกรอง
๑.๒ สายสบู ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้ สองสายแยกกนั โดยใหแตละดา น ยาว ๑๐๐ ฟุต โดยใช ๒ สาย

ตอเขาหากัน
๑.๓ สายหน่ึงตอไวก บั เกลียวตอแยก (เพอ่ื ใชในยามฉกุ เฉิน) โดยลิ้นอยใู นลกั ษณะปด
๑.๔ อีกสายหนง่ึ ไมต อ งตอกบั เกลยี วตอ แยก โดยลน้ิ อยใู นลกั ษณะเปด เพ่ือสําหรับตรวจการ

ทํางานของลนิ้ Fire Plug วาชํารุดหรือไม ถา ชํารุดจะมีนา้ํ ไหลออกมาทางเกลยี วตอ แยกทอ ที่เปดนี้
๑.๕ หวั ฉดี ตองตอ ไวก ับสายสบู ท้งั ๒
๑.๖ ตอ งมหี วั ฉดี แบบ Applicator ขนาด ๔ ฟตุ ติดตงั้ อยบู รเิ วณใกลเคยี ง
๑.๗ มีประแจกวดเกลยี วประจําที่อยบู ริเวณใกลเ คยี ง

- ๗๓ -
๒. การติดตั้งสายสบู บนดาดฟา แบบมาตรฐาน

๒.๑ ใชสายสบู ขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้ โดยให ๑ สาย ยาว ๑๐๐ ฟตุ
๒.๒ ตอ สายสบู เขา กับทางออกของเครอื่ งกรอง พรอมตอหวั ฉีดไวก บั สายสูบ
๒.๓ มีหวั ฉดี แบบ Applicator ขนาด ๑๒ ฟุต อยูบริเวณใกลเคยี ง
การมว นสายสูบ
สายสูบท่ีไมไ ดใชงาน ใหมวนเก็บเปน รูปวงกลมอาจจะผกู ดวยเชือกก็ได โดยมวี ิธีการปฏิบัติ ดงั นี้
๑. คลีส่ ายวางลงบนพ้ืนตามยาว
๒. พบั สายสบู โดยใหเ กลยี วตวั สง นา้ํ อยดู า นบน หา งจากปลายเกลยี วตวั เมยี ประมาณ ๒ - ๓ ฟตุ
(ท่ีใหเกลยี วตวั สงน้าํ อยดู า นบน กเ็ พ่ือใหเกลียวตวั สง นาํ้ อยูดา นใน เปน การปอ งกนั เกลียวเสีย)
๓. มวนสายสบู โดยเร่ิมจากรอยพบั
๔. มว นจนกระท่ังใหป ลายสายสูบทง้ั ๒ อยูร อบนอกของมวน
กําลงั ดันใชง าน
๑. ไมต ่าํ กวา ๖๐ ปอนด / ตารางนิว้
๒. ปกตคิ วรมีกาํ ลงั ดนั ระหวา ง ๖๐ - ๑๐๐ ปอนด / ตารางนวิ้

รปู สายสบู นํ้าดับเพลงิ ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้ รูปสายสบู นา้ํ ดับเพลิงขนาด ๑ ๑/๒ น้วิ

การตรวจสอบและระวงั รกั ษาสายสูบ

๑. ทุกสัปดาห

ก. ตรวจสายสบู ทีต่ ดิ ตั้งตาม Fire Plug

๑) มว นอยใู นรนถูกตอ งหรือไม

๒) จะตอ งแหง ไมช ้นื หรือเปย ก

ข. ตรวจสอบสายสบู ทีม่ วนเก็บวาอยใู นท่เี กบ็ ทด่ี ีหรือไม โดยจะตอง

๑) เก็บในหองทไ่ี มร อนนกั และมีการระบายอากาศถกู ตอ ง

๒) หามนาํ ไปวางกองรวมบนดาดฟา

๒. ตรวจภายหลงั การใช

ก. คลส่ี ายสูบออก ตรวจดูวา มีรอยถลอกของผา ใบ หรอื รอยทะลุหรอื เกลียวตอ ชาํ รุดหรอื ไม

ข. สว นตาง ๆ ทเ่ี ปน ยาง เชน ยางหมุ ภายนอก หรอื ทอ ยางภายในอยา ใหเปรอะคราบน้ํามนั

ตอ งชาํ ระลา งใหสะอาด ทง้ิ ใหแหง

- ๗๔ -
๓. ตรวจทุก ๆ เดือน

ก. นําสายสบู ขนาดตา ง ๆ ท้งั หมด ท่ตี ดิ ต้ังประจําที่ ทไี่ มเคยนาํ ออกมาใชงานเลยเปน เวลานาน
กวา ๓๐ วนั เมอ่ื ตรวจสอบแลว นาํ กลบั คนื เขาที่ ระวังอยา ใหร อยพบั อยูตรงทเี่ ดมิ เพ่อื ปอ งกนั การหกั หรือ
แตกของสายสบู

ข. สายทางดดู ขนาด ๒ นวิ้ และ ๔ นว้ิ ของเครื่องสูบนา้ํ P - 60 P - 500 ตอ งไดร บั การตรวจ
โดยละเอียด

๔. การตรวจสอบสายสูบทุก ๆ ๖ เดือน
โดยการตรวจสอบกาํ ลงั ดนั (Hydrostatic Test) โดยใชกาํ ลงั ดันนา้ํ ๒๕๐ ปอนด / ตารางนวิ้

หวั ฉีดนํา้ ดับเพลงิ (Nozzle) แบง ออกไดเ ปน ๒ แบบ ตามการใชง าน
๑. หวั ฉดี น้ําดบั เพลงิ แบบบก
๒. หวัฉดี นาํ้ ดบั เพลิงแบบเรอื

หัวฉดี น้ําดับเพลงิ แบบบก
เปนแบบหวั ฉดี กรวยชนดิ ปรับแตง ได (Multipurpose Nozzle) ขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้ ใชฉีดนํ้าดบั เพลงิ

โดยตอ กบั สายสบู ดบั เพลงิ ขนาด ๒ ๑/๒ น้ิวแบบบก
ลักษณะโดยทวั่ ไป
๑. ทาํ ดวยอะลูมิเนียมผสมขนาดโดยประมาณ ยาว ๕๐๐ มม. หนกั ๒.๘ กก.
๒. หวั ตอ เปน แบบสวมเร็วแบบบก (Nenorm Standard) ขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้
๓. ล้นิ ปด - เปด แบบทรงกลม (Ball Valve) มีคันโยก ๓ ตําแหนง คือ ฉีดน้ําเปน ลํา ฉีดนาํ้ เปน ฝอย

และปด
๔. ตอนปลายหวั ฉดี มที ป่ี รับแตงฉดี เปน ฉากกนั ความรอนรูปกรวย ทาํ มุมไดต ้ังแต ๐ - ๑๖๐ องศา
๕. ชอ งฉดี นาํ้ เปน ลาํ ขนาดโต เสน ผา ศูนยก ลาง ๑๖ มม.
๖. สามารถทนกําลงั ดันนาํ้ ได ๑๐๐ ปอนด/ตารางนิว้

รปู หวั ฉดี นํา้ ดบั เพลิงทางบก

หวั ฉดี นาํ้ ดบั เพลิงแบบเรือ แบง ออกได ๒ แบบ คือ

- ๗๕ -
๑. หวั ฉดี นาํ้ ดบั เพลิงความเร็วสงู หวั ฉีดรวม (All Purpose Nozzle)
๒. หวั ฉดี น้ําดบั เพลิงความเรว็ ต่าํ หวั ฉีดฝก บัว (Applicator)
หวั ฉดี น้ําดบั เพลงิ ความเรว็ สูง หรอื หวั ฉีดรวม (All Purpose Nozzle)
ลกั ษณะโดยทว่ั ไป
๑. ทาํ ดวยทองเหลือง
๒. ขนาดมี ๒ แบบ คอื ขนาด ๑ ๑/๒ นว้ิ และ ๒ ๑/๒ นวิ้

๒.๑ ขนาด ๑ ๑/๒ นิว้ โดยประมาณ ยาว ๘ ๓/๔ นิว้ หนกั ๙ ปอนด หวั ตอ ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้
เกลียวตวั เมีย ๑๑ ๑/๒ ฟน /นวิ้ ใชต อ กับสายสูบดับเพลงิ ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้ แบบเรอื

๒.๒ ขนาด ๒ ๑/๒ นว้ิ โดยประมาณ ยาว ๑๐ ๓/๔ นว้ิ หนกั ๑๔ ๓/๔ ปอนด หวั ตอ ขนาด ๒ ๑/
๒ นวิ้ เกลยี วตวั เมยี ๗ ๑/๒ ฟน /นว้ิ ใชตอกบั สายสูบดับเพลิง ขนาด ๒ ๑/๒ นว้ิ แบบเรอื

๓. ลิน้ เปด - ปด แบบทรงกลม (Ball Valve) ทําดวยโลหะไมเ ปนสนิม มีคันโยก ๓ ตาํ แหนง คือ ฉดี
นาํ้ เปน ลาํ ฉดี นาํ้ เปน ฝอย และ ปด

๔. รูฉีดน้ําตอนบน ของหัวฉีดขนาด ๑ ๑/๒ นิว้ โต ๕/๘ นว้ิ ของหวั ฉดี ขนาด ๒ ๑/๒ น้ิว โต ๑ น้วิ
โดยฉดี น้ําเปนลํา

๕. รูฉีดนา้ํ ตอนลาง ของหัวฉดี ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้ โต ๑ นว้ิ ของหวั ฉดี ขนาด ๒ ๑/๒ นว้ิ โต ๑ ๑/๒ นวิ้
ประกอบดวยปลายหวั ฉีดฝอยนาํ้ ความเร็วสงู (Nozzle Tip หรอื Fog Tip) และเปน ทต่ี อ ของหวั ฉดี ฝกบัว
(Applicator) ขนาดโต ๑ ๑/๒ นวิ้ และ ๒ ๑/๒ นวิ้

รปู หวั ฉีดนํ้าแบบรวม

คณุ สมบตั ขิ องหวั ฉดี รวม
๑. ตําแหนงการใชล้นิ เปด-ปด มี ๓ ตาํ แหนง คือ
๑.๑ หนา สุด “ปด”
๑.๒ กง่ึ กลางตงั้ ฉาก “ฝอยน้ํา”
๑.๓ หลงั สุด “เปน ลาํ ”

บางหวั ฉดี จะมีกระเดอ่ื งบงั คบั ไว เวลาเปลย่ี นตําแหนง ตอ งกดกระเดอ่ื งน้ีกอ น

- ๗๖ -
๒. หวั ทําฝอยนํา้ ( Fog Tip )

๒.๑ เปน ตวั ทาํ ฝอยนา้ํ กาํ ลังสงู
๒.๒ สามารถถอดออกได
๒.๓ มยี างกนั ร่วั รูปตวั “U”
๒.๔ มโี ซต อ กนั หาย
๓. ระยะและกาํ ลงั ดนั นา้ํ
๓.๑ หวั ฉดี ขนาด ๑ ๑/๒ น้วิ ขณะเปดใช

ก) ถา ฉีดนํา้ เปน ลาํ ไปไดไ กล ๖๕ ฟุต เมือ่ กาํ ลังดัน ๑๐๐ ปอนด / ตารางนว้ิ
ข) ถา ฉดี นาํ้ เปน ฝอยไปไดไกล ๒๕ ฟุต เมอ่ื กาํ ลังดนั ๑๐๐ ปอนด / ตารางนวิ้
๓.๒ ขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้ ขณะเปดใช
ก) ถา ฉดี นา้ํ เปน ลําไปไดไกล ๗๕ ฟตุ เมอ่ื กาํ ลังดัน ๑๐๐ ปอนด / ตร.นว้ิ
ข) ถาฉีดนา้ํ เปน ฝอยไปไดไกล ๓๕ ฟุต เมอ่ื กําลงั ดนั ๑๐๐ ปอนด / ตร.นว้ิ
หวั ฉีดน้าํ ดับเพลิงความเรว็ ตา่ํ หรอื หวั ฉีดฝก บวั (Applicator)
ลักษณะโดยท่ัวไป
๑. ขนาดของหัวฉีดฝกบวั มอี ยู ๓ ขนาด คอื
๑.๑ ขนาดโต ๑ น้ิว ยาว ๔ ฟตุ ปลายทอโคง ๖๐ องศา
๑.๒ ขนาดโต ๑ น้ิว ยาว ๑๐ ฟตุ ปลายทอ โคง ๙๐ องศา
๑.๓ ขนาด โต ๑ ๑/๒ น้ิว ยาว ๑๒ ฟุต ปลายทอโคง ๙๐ องศา
๒. ตวั ทอ
๒.๑ ทาํ ดวยทอ เหลก็ อาบสงั กะสี ทาสีแดง
๒.๒ โคนทอ เปน ขอ ตอ สําหรับสวมตดิ กับหวั ฉีดรวม ขนาด ๑ ๑/๒ นิว้ และ ๒ ๑/๒ นิ้ว แบบเรอื
๒.๓ ปลายทอ เปน ขอตอ เกลียวตวั เมยี สําหรับตอกับหวั ฉดี ทาํ ฝอยน้ํา ความเรว็ ตาํ่ (Fog
Head) ขนาด ๑ ๑/๒ นิ้ว และ ๒ ๑/๒ นวิ้
๓. หวั ฉีดทําฝอยนํ้าความเร็วตาํ่ (Fog Head)
๓.๑ ทาํ ดว ยทองเหลือง
๓.๒ มี ๒ ขนาด คอื ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้ และ ๒ ๑/๒ นว้ิ
ก) ขนาด ๑ ๑/๒ น้วิ ยาว ๔ ๑/๔ นว้ิ หนกั ๑ ปอนด
ข) ขนาด ๒ ๑/๒ นว้ิ ยาว ๕ ๓/๔ นิว้ หนัก ๑ ๔/๘ ปอนด
๓.๓ มรี ฉู ีดนํา้ ไดโดยรอบเปนชั้น ๆ ภายในมกี รวยกรองผง
คุณสมบตั ิโดยทั่วไป
๑. หวั ฉดี ฝก บวั ขนาด ๔ ฟตุ และ ๑๐ ฟตุ

- ๗๗ -
๑.๑ ทกี่ ําลงั ดนั นาํ้ ๑๐๐ ปอนด/ ตารางนว้ิ จะเกดิ ฝอยนํา้ รูปกรวยเสนผานศูนยกลาง ๑๒ ฟุต
หา งจากหวั ฉดี ๓ ฟตุ
๑.๒ ปรมิ าณนาํ้ ทอี่ อกมา ๕๑ ยูเอสแกลลอน/นาที
๒. หัวฉีดฝกบวั ขนาด ๑๒ ฟตุ
๒.๑ ท่ีกาํ ลงั ดันนา้ํ ๑๐ ๐ ปอนด/ตารางนวิ้ จะเกดิ ฝอยน้ํารปู กรวยเสน ผา นศูนยกลาง ๑๔ ฟุต
หางจากหวั ฉดี ๔ ฟุต
๒.๒ ปรมิ าณนาํ้ ที่ออกมา ๙๕ ยูเอสแกลลอน/นาที
๓. น้าํ หนกั รวมท้ังหมดของหัวฉีดฝก บวั
๓.๑ ขนาด ๔ ฟุต หนกั ๔ ๑/๒ ปอนด
๓.๒ ขนาด ๑๐ ฟตุ หนัก ๑๐ ๑/๔ ปอนด
๓.๓ ขนาด ๑๒ ฟตุ หนกั ๑๖ ๑/๘ ปอนด
๔. การใชง าน
๔.๑ หวั ฉีดขนาด ๔ ฟุต ใชใ ตดาดฟาเรอื ขนาดเลก็ และเรอื ขนาดใหญ
๔.๒ หวั ฉดี ขนาด ๑๐ ฟตุ ใชบ นดาดฟา เรอื ขนาดเลก็
๔.๓ หัวฉีดขนาด ๑๒ ฟุต ใชบ นดาดฟา เรือขนาดใหญ
๕. ประสทิ ธภิ าพของหัวฉีดนา้ํ ฝก บัว ชว ยในการลดอุณหภูมไิ ดม าก และยงั เปน ฉากในการกน้ั ความ
รอนไดอ ีก อีกท้ังยังชว ยใหน กั ดบั ไฟอยูหา งจากไฟไดมากขนึ้

รปู หัวฉดี ทําฝอยน้าํ ความเร็วตํา่

ขอตอ ทอ นํ้าดับเพลิง (Couplings) แบง ออกตามลกั ษณะของการใชง านไดหลายแบบ คือ
๑. เกลยี วตอ รับนาํ้ คู (Double Female Coupling)
๒. เกลยี วตอสง นา้ํ คู (Double Male Coupling)
๓. เกลียวตอลด (Reducer Coupling)
๔. เกลยี วตอ เพ่มิ (Increasing Coupling)
๕. หัวตอ แยกสองทาง (Wye Gate)
๖. หวั ตอ แยกสามทาง (Tri Gate)

- ๗๘ -
เกลยี วตอ รบั นา้ํ คู ( Double Female Coupling) แบง ออกเปน ๒ ขนาด คอื ขนาด ๑ ๑/๒ นิว้ และ
ขนาด ๒ ๑/๒ นิว้ โดยใชป ระกอบกับสายสบู นา้ํ ดบั เพลิงในเรอื
ลกั ษณะทว่ั ไป

๑. ทาํ ดวยทองเหลือง ดา นในโต ๑ ๑/๒ นว้ิ และ ๒ ๑/๒ น้วิ ตามขนาดทใี่ ช
๒. ปลายทง้ั สองขา งเปน ปลอกหมนุ ไดร อบตวั ดานในทาํ เปน เกลยี วตวั เมียขนาด ๑๑ ๑/๒ ฟน /นิ้ว
และขนาด ๗ ๑/๒ ฟน /นิ้ว ตามลาํ ดับ
๓. มีวงแหวนยางกันรว่ั ทง้ั ๒ ดา น
๔. ใชตอ กับเกลียวตัวสง นา้ํ สองตัวเขาดว ยกนั
๕. ดานนอกมีปุม ๒ ปมุ อยูตรงขา มกนั (Rocker Lug Coupling Style)
การใชง าน
สามารถใชง านตามปกติโดยทํากาํ ลงั ดันได ๑๐๐ ปอนด/ ตารางน้ิว และทต่ี อ งการเปล่ยี นเกลยี วตวั
สง นา้ํ เปนเกลยี วตวั รบั นา้ํ
เกลยี วตอสง นาํ้ คู (Double Male Coupling) แบงออกไดเปน ๒ ขนาด คอื ขนาด ๑ ๑/๒ นว้ิ และ
ขนาด ๒ ๑/๒ น้วิ โดยใชป ระกอบกับสายสบู นํ้าดบั เพลงิ ในเรือ
ลกั ษณะทวั่ ไป
๑. ทาํ ดว ยทองเหลอื ง ดา นในโต ๑ ๑/๒ นวิ้ และ ๒ ๑/๒ น้วิ
๒. ปลายทง้ั สองขางเปน เกลยี วตัวผู ขนาด ๑๑ ๑/๒ ฟน /นว้ิ และขนาด ๗ ๑/๒ ฟน /นวิ้ ตามลาํ ดบั
๓. ตอนกลางหัวตอ ดา นนอกมปี ุม ๒ ปุม อยตู รงขา มกนั (Rocker Lug Coupling Style)
๔. ใชในโอกาสที่ตอ งการเปลย่ี นเกลยี วตวั รบั น้าํ เปน เกลยี วตัวสง นาํ้
การใชง าน
๑. สามารถใชง านตามปกติ โดยทนกําลงั ดนั นาํ้ ๑๐๐ ปอนด/ ตารางน้วิ
๒. ใชต อ กบั เกลียวตัวรับน้าํ เขาดว ยกนั
๓. หรอื อาจจะใชต อ หัวฉดี เขากับเกลยี วตวั รบั น้ําของสายสูบ
เกลยี วตอลด ( Reducer Coupling)
หรือเรยี กวา หัวตอ สายสบู ลด ตวั เมยี - ตวั ผู (Reducer Adapter) ใชใ นโอกาสที่ตอ งการเปลย่ี น
ขนาดของทางน้าํ จาก ๒ ๑/๒ นวิ้ ลดลงเปน ๑ ๑/๒ นว้ิ
คุณลักษณะท่ัวไป
๑. หวั ตอทาํ ดว ยทองเหลือง
๒. ทางดาน ๒ ๑/๒ น้วิ เปน เกลียวตวั รบั นาํ้ ดาน ๑ ๑/๒ นว้ิ เปน เกลยี วตัวผู
๓. ดา นเกลยี วตวั รบั นํา้ เปน ขนาด ๗ ๑/๒ ฟน /น้ิว มีวงแหวนยางกนั รว่ั
๔. ดา นนอกมปี ุม ๒ ปมุ อยตู รงขามกนั (Rocker Lug Coupling Style)
๕. ทางนา้ํ เขา คอื ดา นเกลยี วตัวรบั นา้ํ ทางนํ้าออกคอื ดานเกลยี วตวั สง นาํ้

- ๗๙ -
๖. เกลียวตวั สง นา้ํ เปน ขนาด ๑๑ ๑/๒ ฟน /น้วิ
การใชง าน
ทางดานเกลียวตัวสง นํา้ ใชต อ กบั สายสบู ขนาด ๑ ๑/๒ นว้ิ โดยตอเขา กบั Fire Plug ขนาด ๒ ๑/๒
น้วิ บางครงั้ ใชต อกบั สายสูบขนาด ๒ ๑/๒ น้วิ เขา กับเครอ่ื งทาํ ฟอง โดยใชท างดานเกลียวตวั รบั นาํ้ ซง่ึ เกลยี ว
ตอ น้สี ามารถทนกาํ ลงั ดนั นาํ้ ได ๑๐๐ ปอนด/ ตารางน้วิ

รปู เกลยี วตอลด
เกลียวตอเพม่ิ ( Increaser Coupling )

เกลียวตอ เพิ่ม หรือเรยี กวา หัวตอ สายสบู เพิม่ ตวั รับนาํ้ - ตวั สง นา้ํ ขนาด ๑ ๑/๒ นว้ิ - ๒ ๑/๒ นว้ิ
แบบเรือ

คุณสมบตั ิทว่ั ไป
๑. หวั ตอ ทําดว ยทองเหลือง
๒. ทางนาํ้ เขาโต ๑ ๑/๒ นว้ิ ดานในเปน เกลียวตวั เมยี ขนาด ๑๑ ๑/๒ ฟน /น้วิ มวี งแหวนยางกนั รว่ั

ดานนอกมปี มุ ๒ ปุม อยตู รงขามกัน (Rocker Lug Coupling Style)
๓. ทางนาํ้ ออกโต ๒ ๑/๒ นวิ้ เปน เกลยี วตวั ผูขนาด ๗ ๑/๒ ฟน /นวิ้

การใชง าน
๑. เพอ่ื ตองการเปล่ียนทางนา้ํ จากขนาด ๑ ๑/๒ น้วิ เพม่ิ ข้นึ เปนขนาด ๒ ๑/๒ นิ้ว
๒. ใชต อกับสายสูบขนาด ๒ ๑/๒ นว้ิ เขากบั Fire Plug ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้
๓. ใชก บั เครอื่ งทาํ ฟอง Duplex Proportioner
๔. เกลียวตอ สามารถทนกําลงั ดนั น้าํ ได ๑๐๐ ปอนด/ ตารางนวิ้

รปู เกลยี วตอเพ่มิ

- ๘๐ -
เกลียวตอแยกสองทาง ( Wye Gate )

เปน หวั ตอ แยกสองทางขนาด ๒ ๑/๒ น้วิ + ๑ ๑/๒ นว้ิ + ๑ ๑/๒ นว้ิ แบบเรือ เพื่อใชตอแยกทางสง
น้ําจากขนาด ๒ ๑/๒ น้วิ ออกเปน ขนาด ๑ ๑/๒ นิว้ จาํ นวน ๒ ทาง

คณุ ลักษณะทั่วไป
๑. เกลยี วตอแยกทาํ ดว ยทองเหลอื ง
๒. หัวตอ ทางน้าํ เขา ขนาด ๒ ๑/๒ น้วิ เปน เกลยี วตัวรบั นํา้ ขนาด ๗ ๑/๒ ฟน /นว้ิ
๓. หัวตอ ทางน้ําออกขนาด ๑ ๑/๒ นว้ิ เปน เกลยี วตวั สง นา้ํ ขนาด ๑๑ ๑/๒ ฟน /นิ้ว จาํ นวน ๒ ทาง
๔. มีลิ้น ปด - เปด ๒ ลนิ้

การใชง าน
เพือ่ ตอ เขากบั Fire Plug ขนาด ๒ ๑/๒ น้วิ หรือตอ เขา กับสายสูบขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้ การทาํ งาน

ตามปกตสิ ามารถทนกาํ ลงั ดนั นาํ้ ได ๑๐๐ ปอนด/ตารางนว้ิ

รูปเกลยี วตอแยกสองทางแนวตงั้ รูปเกลียวตอแยกสองทางแนวนอน(WYE GATE)

เกลียวตอ แยกสามทาง (Tri Gate)
เปน หวั ตอแยกสามทางขนาด ๒ ๑/๒ นิว้ + ๑ ๑/๒ น้วิ + ๑ ๑/๒ นิ้ว แบบเรอื ใชต อแยกทางสง นาํ้

จากขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้ ออกเปนขนาด ๑ ๑/๒ นิว้ จาํ นวน ๓ ทาง
คณุ สมบัติทว่ั ไป
๑. หวั ตอทาํ ดว ยทองเหลือง
๒. หวั ตอทางนํา้ เขา เกลียวตวั รับน้ําขนาด ๒ ๑/๒ น้ิว จํานวน ๗ ๑/๒ ฟน /น้วิ
๓. หัวตอทางนํา้ ออกเปนเกลียวตัวสง นาํ้ ขนาด ๑ ๑/๒ นวิ้ จํานวน ๑๑ ๑/๒ ฟน /นิว้ โดยมี ๓

ชอ งทาง
๔. ทางออกของนาํ้ มลี ิน้ เปด - ปด แยกกนั แตล ะตวั

การใชง าน
เพื่อตอเขากับเครอ่ื งสูบนา้ํ หรือตอ กับ Fire Plug ขนาด ๒ ๑/๒ นว้ิ หรือใชต อ กบั สายสูบขนาด ๒ ๑/

๒ นวิ้ การทาํ งานตามปกติสามารถทนกําลังดนั นํา้ ๑๐๐ ปอนด/ ตารางน้วิ

- ๘๑ -

รูปเกลยี วตอ แยกสามทาง( TRI GATE)
การตรวจสอบและการบาํ รงุ รกั ษา

๑. ตรวจสอบเกลียวตอ ตา ง ๆ วาชาํ รดุ หรอื ไม
๒. ทาํ ความสะอาดดวยแปรงลวดชนิดละเอียด
๓. เกลยี วทส่ี กปรกลา งดวยน้ําสบอู อน ๆ ทางดานเกลยี วตวั เมยี หลอล่นื ดว ยการแชใ นนา้ํ สบแู ลว ทง้ิ
ไวใหแ หง
๔. หา มใชส บชู นดิ แรง น้าํ ยาเคมี นา้ํ มนั เบนซิน น้ํามนั หลอ ลื่น จารบี บางหรือหลอล่นื เกลียวตา ง ๆ
เพราะอาจจะทาํ ใหผ าใบหมุ หรือทอยางในสายสูบชาํ รดุ ได
๕. ตรวจสอบยางกันรว่ั (Gasker) ถา ชาํ รุดจัดการเปลย่ี นใหม
๖. สายสูบหรอื เกลยี วตอตาง ๆ ถา พบวา ชํารดุ หรือขดั ของใหห าเปลย่ี นใหมห รอื สงซอ มทาํ ในโอกาส
แรก

ฟองดับไฟและเคร่ืองประกอบ
คุณลักษณะของฟองดับไฟ ฟองสาํ หรับการดับไฟ จะมนี ํา้ หนกั เบา ซ่งึ เมือ่ ฉีดออกมาแลว จะลอยบน
ผวิ หนา ของเชอื้ เพลงิ และเปน ตวั ปด ก้ัน ในลกั ษณะคลมุ ไฟ เพือ่ ทําใหบ รเิ วณดงั กลาว มปี รมิ าณออกซิเจน
ลดลง ตํ่ากวา ๑๖ % ซึ่งก็จะทาํ ใหเ พลงิ ท่เี กิดลกุ ไหมด บั ลง

ชนิดของฟองดบั ไฟมีอยู 2 ชนิด คือ
1. ฟองทางกล ( Mechanical Foam )
2. ฟองทางเคมี ( Chemical Foam )

ฟองทางกล ( Mechanical Foam )
เปนฟองท่ีตอ งผา นเครอ่ื งผสมฟองกอ นแลว ผสมกับนํา้ และอากาศ ตามอตั ราสว นทเ่ี หมาะสมของ

ฟองแตล ะชนดิ โดยใชห ลกั การรวมตวั ระหวา งนา้ํ ยาฟองขนและน้ํา เปน ตวั หอหุมอากาศไวภายใน
โดยอาศัยแรงยึดเหนย่ี ว ระหวา งฟองขนและน้าํ

ฟองดับไฟไดผ ลติ ขึ้นใชม าเปน เวลานานแลว แตเ ดมิ คณุ ภาพอาจจะยังไมด ี ทุกวันนผี้ ลิตภณั ฑท ่ีเกดิ
จากปโ ตรเลยี มไดพ ฒั นากา วหนาไปมาก ดังนัน้ จงึ ตองพฒั นาฟองทีจ่ ะใชดบั ไฟใหท นั สมัยตามไปดว ย

- ๘๒ -
ฟองทางกล ( Mechanical Foam ) แบงออกไดเปน ๕ ประเภท คอื

๑. Protein Foams
๒. Fluoroprotein Foams
๓. Detergent Base Foams
๔. Alcohol Foams
๕. Aqueous Film Forming Foams
Protein Foam (PF)
- ไดจ ากการหมกั สารอินทรยี  เชน กระดกู สัตว กลีบเทา สัตวเลอื ดสัตว และขนสัตว
- มีสารพวก Stabilizers เพ่อื ไมใ หเ กดิ การบดู เนาเสยี
- มสี ีดาํ หรือสนี ้ําตาลเขม มกี ลิน่ เหม็น
- อายกุ ารใชง าน ๓ - ๕ ป

คุณสมบตั ขิ องโฟมโปรตนี
๑. ความเขมขนใชง าน ๕ - ๖ %
๒. อตั ราการขยายตวั ๘ - ๑๒ เทา
๓. ๒๕ % ของเวลาการสลายตวั (Drainage Time) เทากบั ๑๑ นาที

ขอ ดี
- ราคาถูก
- มีความตา นทาน การกลับมาลุกไหมอ กี (Burn Back )สงู
- ๒๕ % ของการสลายตวั ๑๑ นาที
- เปน โฟมมาตรฐานท่ีมใี ชก นั ทกุ ประเทศ
- สามารถออ นตวั ได จะใชเ หลวหรือขนโดยปรบั ท่ีเคร่ืองผสมโฟม
- มอี ายุการใชง านนาน

ขอเสีย
- ถาฟองโฟมจมผา นช้นั ของน้ํามันเชื้อเพลิงจะมีคาความตา นทาน Burn Back ตํา่ มาก
- ไมสามารถใชร วมกับผงเคมีแหง บางชนดิ ได
- ดับเพลิงน้ํามนั ไดช า
- ไมมีชั้นฟลม ปกคลุม

Fluoroprotein Foams (FPF)
- ฟลโู อโรโปรตนี โฟม เปนการพัฒนาโปรตนี โฟมใหมปี ระสิทธภิ าพดขี ้ึน
- มีอายุการเกบ็ ยาวนานข้นึ ประมาณ ๕ - ๗ ป
- ใสสารประเภท Surfactant
- แตก ย็ ังมคี ณุ สมบตั ิคลา ยโปรตีนโฟม

คณุ สมบตั ขิ องฟลูโอโรโปรตนี โฟม

- ๘๓ -
๑. ดับเพลิงทีล่ กุ ไหมนาํ มนั เชอ้ื เพลงิ ขนาดใหญไดด ีมาก
๒. มคี วามเขม ขนใชง าน ๖ %
๓. อตั ราการขยายตวั ๘ - ๑๐ เทา
๔. ๒๕ % ของเวลาการสลายตัว ๖ นาที (ใชงานจริงอาจถึง ๑๐ นาท)ี

ขอดี
- สามารถใชไดกบั เครอื่ งผสมโฟมทุกชนดิ
- สามารถใชกบั โฟมชนิดอนื่ ได
- มกี ารไหลตวั คลมุ พน้ื ที่ไดเ ร็ว
- มคี วามตา นทาน Burn Back สูง
- ฟองโฟมจะไมสลายตัวในนา้ํ มันเช้อื เพลงิ
- มคี วามคงทนตอเชอ้ื เพลิงประเภทไฮโดรคารบอน
- ใชร วมกับผงเคมแี หง ได
- ดกี วา PF และ AFFF ในดา นการปอ งกัน Burn Back

ขอเสยี
- มีราคาแพงกวา โปรตีนโฟม

Detergent Base Foam ( HIGH - X)
- โดยทว่ั ไปจะรกู นั ในชื่อ Synthetic Foam
- เปนสารประเภท Hydrocarbon Surfactant
- จะใชเปน Medium & High Expansion Foam

ขอดี
- เหมาะสําหรบั ปดกนั้ อากาศ เชน อุโมงคในเหมอื งถานหนิ
- เหมาะทจ่ี ะใชบ รเิ วณท่อี บั ทึบ

ขอ เสีย
- ฟองโฟมเบามาก
- ถาใชใ นทโ่ี ลงแจง ลมจะพดั ทาํ ลายฟองโฟม
- ไมเหมาะทจี่ ะใชด ับไฟ

Alcohol Foams ( ATC)
- แอลกอฮอลโฟม คือโฟมที่ใชดับไฟทเี่ กดิ จากสารไวไฟประเภททีล่ ะลายน้าํ ได (Polar

Solvent)
คณุ สมบัติ มีลกั ษณะการทํางานเปน๒ ขน้ั ตอนคอื
๑. จะสรางช้ันฟลมทเ่ี รียกวา “Polymeric Layer” เพอ่ื ปองกนั การละลายผสมกนั ระหวางนา้ํ

กบั สารไวไฟ

- ๘๔ -
๒. หลงั จากนน้ั จึงสรา งช้ันฟล มของน้าํ ทีเ่ รียกวา “Aqueous Film” เพื่อปกคลุมผิวหนา สาร

ไวไฟ ไมใหก ลายเปน ไอ (Vapour)

ขอดี
- เหมาะทจ่ี ะใชดับไฟจากเช้อื เพลงิ ระเหยไวและละลายนา้ํ ได
- ดกี วาโฟมชนิดอืน่ ๆ ตรงทโ่ี ฟมอน่ื ๆ ไมสามารถดับไฟจากสาร Polar Solvent ได

Aqueoue Film Forming Foams ( AFFF)
- AFFF เปน สารประเภท Fluorochemical Surfactant ซ่งึ มีคณุ สมบัติทําใหเกิดฟอง

โฟมและการแพรก ระจาย (Wetting Power) ไดด ียิง่

คณุ สมบตั ิ
๑. สามารถควบคมุ สาเหตุของการเกดิ ไฟไดทงั้ ๓ ทางคอื
๑.๑ นํ้าที่เปนสวนประกอบทําหนาที่ลดความรอ น
๑.๒ ฟองโฟมทําหนาทปี่ ดกน้ั ออกซิเจนในอากาศ
๑.๓ ช้ันฟล ม (Aqueous Film) ทาํ หนาท่ีปดกั้นไอระเหยของนํา้ มัน
๒. ใชค วบคุมปอ งกนั การลกุ ติดไฟของน้าํ มนั ทีอ่ าจร่ัวไหลหก (Oil Spill) ในบริเวณทม่ี กี ารขน

ถายน้ํามัน
๓. เปน โฟมสังเคราะห มสี อี าํ พัน
๔. ความเขมขน ใชงาน ๓ - ๖ %
๕. อตั ราขยายตัวไมนอ ยกวา ๖ เทา หรือ ๖ ตอ ๑
๖. ๒๕ % ของเวลาการสลายตัว ๕ นาที

ขอดี
- ใชด ับเพลงิ ทล่ี ุกไหมสารไฮโดรคารบอนดีท่สี ุด
- เปน โฟมทมี่ กี ารไหลตวั ดที ส่ี ดุ
- โฟมท่สี ลายตัวแลว จะเคลือบอยบู นผวิ หนาเชือ้ เพลงิ ชว ยปอ งกนั การระเหยตวั ของสารเชื้อเพลิง

รวมตวั กบั อากาศ
- ในการเคลือบผิวหนานจ้ี ะเคลอื บรวมไปถงึ บรเิ วณที่ยงั ไมถกู เพลิงไหมดว ย
- ไมเสอื่ มคุณภาพ สามารถเกบ็ รกั ษาไวไ ดน าน
- สามารถใชกับหวั ฉดี ดบั เพลงิ ทุกชนิด
- สามารถใชดบั เพลิงรวมกบั โฟมชนิดอน่ื ๆ ไดดี
- สามารถใชรวมกบั เคร่อื งดบั เพลิงผงเคมีแหงไดอ ยางมปี ระสิทธภิ าพ

ขอเสยี
- มคี วามตา นทานในการ Burn Back ตํ่า
- ฟองโฟมสลายตวั เรว็
- ราคาแพง

- ๘๕ -

โฟมดบั ไฟชนดิ AFFF

หมายเหตุ แตเ นอ่ื งจากประสทิ ธิภาพในการดับเพลงิ ไดอ ยา งรวดเรว็ จึงกลา วไดว า AFFF มีประสิทธภิ าพ
เหนอื กวาโฟมชนดิ อ่นื ๆ ๒๕ - ๓๐ % แตแรงลมก็ทาํ ใหเกิดผลเสยี แกโ ฟมไดง ายเชน กนั
ฟองทางกล เครื่องมอื และอุปกรณทีใ่ ชกบั โฟม

๑. ฟองทางกล
ก.) น้ํายาฟองขนั บรรจอุ ยูในถังขนาด ๕ ยูเอสแกลลอน หนัก ๕๐ ปอนด หรอื อาจจะบรรจอุ ยใู นถงั

ขนาดใหญก วา เชน ๕๕ ยเู อสแกลลอน
ข.) ระยะเวลาการใชง านประมาณ ๙๐ วนิ าทเี ม่อื ใชก ําลงั ดนั น้ําผานเครอื่ งผสม ๗๕ - ๑๐๐ ปอนด/

ตารางนิว้
ค.) ฟองขนหน่งึ ถงั ขนาด ๕ ยูเอสแกลลอน เม่อื ผสมกบั นา้ํ และอากาศออกมาเปนฟองเหลวได

ประมาณ ๖๖๐ ยเู อสแกลลอน
ง.) ดับไฟประเภท ก. ไดผ ลดีพอใช ดับไฟประเภท ข.ดมี าก

๒. เครอื่ งมอื และอุปกรณท ตี่ อ งใชกบั โฟม
ก.) น้าํ เปน น้าํ สะอาดพอสมควร จะไดน ํ้าจากทอน้ําดบั เพลิงหรือจากแหลงอ่นื ๆ ก็ได แรงดันนา้ํ

และปริมาณนา้ํ จะตองเหมาะสมกบั อปุ กรณต าง ๆ ท่ีจะตอ งใชรวมกนั โดยทว่ั ไปกําลงั ดันนาํ้ อยูระหวาง ๗๕ -
๑๐๐ ปอนด/ตารางนิว้ (๕.๕ - ๗ Bar)

ข.) สายสบู ดับเพลงิ (Hose) เปนสายสบู ดบั เพลิงชนดิ มาตรฐานทนแรงดนั ไดต ามเกณฑคือ ๒๐๐
ปอนด/ ตารางนิว้

ค.) อปุ กรณดดู น้ํายาโฟมผสมกับนํ้า (Eductor ; Pick Up Tube) หรอื FP - 180 ทาํ
หนา ทีด่ ดู น้ํายาโฟมใหไ ดส ดั สวนผสม ๓ % หรือ ๖ % ตามตง อการโดยอาศัยแรงดนั ของนํ้าทาํ ใหแรงดดู
(Suction Force) นา้ํ ยาโฟมขึ้นมาผสมกับนํ้ามี ๓ ชนิด

๑) Pick Up Tube
- ประกอบกับหวั ฉีดโฟม
- เมอ่ื นาํ้ ไหลผา นหวั ฉดี ทาํ ใหเกิดแรงดดู ดดู ฟองขนจากถงั ผสมกบั นาํ้
- อตั ราสวนโฟม ๖ % นา้ํ ๙๔ %

๒) Eductor

- ๘๖ -
- การทําใหเ กดิ แรงดูดโดยการใหน ํ้าไหลผา น Eductor ทําใหโ ฟมเขาผสมกบั นํา้ ทไ่ี หล
ผานไปออกยงั หัวฉดี โฟม
- สามารถประกอบ Eductor ใกล ๆ กบั ถงั โฟม ทาํ ใหห มดความจาํ เปน ที่จะตองยก
ถงั โฟมตามหัวฉีดโฟม
- ทางเขา และทางออกจะตอ กบั สายสบู ดบั เพลงิ ๑ ๑/๒ นว้ิ เรียกวา In - Line
Eductor
๓) FP - 180 (Water Motor Proportioner)
- เปนเครือ่ งผสมโฟมกบั นํ้าทดี่ ีมาก
- สามารถวางไวใกล ๆ บริเวณถังโฟมได
- มเี ฟอง ๒ ชุด ชุดที่นํา้ ไหลผา นเรียกเฟอ งขบั ทางเขา และออกของนํ้าเปน เกลยี วขนาด ๒
๑/๒ นวิ้ อีกชดุ หนึง่ เปน เฟองขนาดเล็กมหี นา ทด่ี ดู โฟมขน จากถงั มาผสมกบั นํา้ ตรงทางออก ทท่ี างออกมี
หลอดแกว เพื่อดู
ฟองวาไหลหรอื ไม
- ทอ ดูดฟอง (Pick Up Tube) ของ FP - 180 มี ๒ ทอ
- เวลาใชงานใชส ลับกันครง้ั ละ ๑ ทอ
- คันโยกเปลย่ี นทอดดู โฟม มี ๕ ตําแหนง คอื Off Prime 1 Hose 1
Prime 2 และ Hose 2
ง.) หวั ฉดี โฟม (Foam Nozzle)
ทาํ หนาที่เปนหัวฉีดโฟมโดยมชี อ งใหอ ากาศจากภายนอกเขา ไปผสมกบั น้ําและโฟมได จะทาํ ให
เกิดฟองโฟมขนึ้ เมอื่ ผา นหวั ฉดี โฟม
หวั ฉดี โฟม มี ๒ ประเภท คือ
๑. หัวฉดี แบบอากาศเขาผสมไมได (Non - Air Aspirating Nozzle) เชนหัวฉดี แบบ
Varry - Nozzle Fog หวั ฉดี ชนดิ นีใ้ ชก ับโฟมชนิดอนื่ ๆ ไมไ ดน อกจากน้าํ ยาโฟมประเภท AFFF
เทา นัน้
๒. หัวฉดี แบบอากาศเขา ผสมได (Air Aspirating Nozzle) หวั ฉดี ประเภทนจี้ ะมชี อ ง
อากาศที่อยรู อบหวั ฉดี จะพบเห็นไดในเรือรบและรถดับเพลงิ เมอื่ โฟมและน้ําไหลผานอากาศจะเขา ตามชอ ง
ไปผสมกบั โฟมและน้าํ ทาํ ใหเ กดิ การขยายตวั

หวั ฉีดทาํ ฟองกลทางเรือ

- ๘๗ -
หวั ฉดี ที่ ทร.ใชอยสู ว นมากจะเปนแบบ Air Aspirating Nozzle มีรายละเอียดดังน้ี

ลักษณะ
- ใชประกอบกับสายสบู ดบั เพลงิ ขนาด ๑ ๑/๒ นว้ิ
- หัวฉดี ยาว ๒๑ นวิ้
- ทําดวยยางแขง็ ประกอบลวดโลหะโคงไปมาได
- สว นประกอบหัวฉดี ทาํ ดวยโลหะทองเหลอื
- สว นหัวฉีดทีต่ อ สายสบู เปน โลหะทองเหลือเชน เดยี วกนั ประกอบดว ยเกลยี วตวั เมยี สําหรับตอสาย

สบู ชองตอทอดูดโฟม (Pick Up Tube) และมีชอ งอากาศเขา อยโู ดยรอบ
- ถาไมประกอบ Pick Up Tube กส็ ามารถใชได แตตอ งปดชอ งตอ ทอ ดูดฟองกอนจะใชกับ

In - Line Eductor หรือ FP - 180 กไ็ ด
เครอ่ื งมอื และอุปกรณที่ตองใชก บั โฟมท้ังหมดน้ี จะตอ งพิจารณาเลอื กใชใ หเหมาะสมในการใชงาน

รว มกนั เชน อตั ราการไหลของน้ํา กําลังดนั ของนํา้ และขนาดชนิดขอ ตอตา ง ๆ เปนตน

วธิ ดี บั ไฟดวยฟองทางกล
๑. เมือ่ เกิดไฟไหมขนึ้ ณ ทใี่ ดก็ตาม ผรู บั ผดิ ชอบทจี่ ะสั่งใชโ ฟมดบั ไฟ ส่ิงท่ตี องพจิ ารณาประกอบ ก็

คอื
๑.๑ โฟมเหมาะท่ีจะดับไฟประเภท ข.
๑.๒ นํา้ มันเชอื้ เพลิงทีล่ ะกไหมเปน นาํ้ มนั เชือ้ เพลิงชนดิ ไหน
๑.๓ เลอื กหาโฟมที่เหมาะสมกับเชือ้ เพลิงน้ัน ๆ
๑.๔ เครอื่ งมอื และอปุ กรณมพี รอ มหรือไม

๒. เมอื่ ใชห วั ฉดี ฟองกลประกอบทอดดู โฟม
๒.๑ ตอ หวั ฉดี ฟองกลกับสายสูบนาํ้ ดบั เพลิง
๒.๒ ประกอบทอ ทางดูดโฟม (Pick Up Tube) เขากบั หวั ฉดี
๒.๓ เปดน้ําดบั เพลิงเขา หวั ฉดี ดว ยกําลงั ดนั ๗๕ - ๑๐๐ ปอนด / ตารางน้ิว
๒.๔ ถือหวั ฉดี ทาํ ฟองกลและใชโซค ลองไหลไว
๒.๕ ใสปลายทางดดู โฟมลงในถังโฟมขน
๒.๖ ถา ดับไฟในหองควรฉีดไปปะทะผนงั ดานตรงขามเพอื่ ใหฟ องไหลมาคลมุ เชอ้ื เพลงิ
๒.๗ ถา เปน Protein Foam ความหนาของโฟมควรอยูระหวา ง ๖ - ๘ นิว้ (ถาดับเพลงิ ใน

หอ งหรอื ถัง) การละลายตัวจะอยปู ระมาณ ๑ นวิ้ ตอ ๑ ชม.
๓. เมือ่ ใช Eductor ( In - Line Eductor)
๓.๑ ประกอบสายสบู ดบั เพลงิ เขากบั ทางเขา - ออก ของ In - Line Eductor
๓.๒ จํานวนสายสูบทต่ี อเขา ทางเขา เม่ือตอแลว ให In - Line Eductor อยูใ กลเ คยี ง

บรเิ วณทีเ่ ก็บถงั โฟม
๓.๓ จาํ นวนสายสบู ทางสง ข้ึนอยูกบั ระยะทางไปถงึ ที่เกดิ เพลงิ ไหม

- ๘๘ -
๓.๔ ดานปลายสายทางสงตอ หัวฉดี โฟมจะเปนแบบอากาศเขาผสมไดหรอื อากาศเขา ผสมไมได
ขึ้นอยูกบั ชนดิ ของโฟมท่ีใช
๓.๕ เปด น้ําดบั เพลิงเขา ระบบเมอื่ กาํ ลงั ดนั ไดต ามเกณฑแ ลว (๗๕ - ๑๐๐ ปอนด/ ตารางนิว้ )
ใหส อดทอ ดดู ฟอง (Pick Up Tube) ลงในถงั โฟมขน
๓.๖ ระยะเวลาการใช ๑ ถงั ขนาด ๕ ยเู อสแกลลอน ประมาณ ๙๐ วนิ าที

IN LINE EDUCTOR

๔. เมอื่ ใช FP - 180

๔.๑ ทางนาํ้ เขา เปนเกลยี วตวั เมียขนาด ๒ ๑/๒ นิว้ ดงั นน้ั จึงตอ งใชสายขนาด ๒ ๑/๒ นว้ิ

๔.๒ ทางน้ําออกเปนเกลยี วตัวผูข นาด ๒ ๑/๒ นวิ้ เชนกัน

๔.๓ ถาตองการใชหวั ฉดี โฟมขนาด ๑ ๑/๒ น้วิ ตรงทางออก FP - 180 ตองใชวายเกจ

(Wye Gate) หรอื เกลียวตอ ลดมาตอ

๔.๔ ความยาวของสายตามความจําเปน ของระยะทาง

๔.๕ สว นปลายสายตอ กบั หวั ฉีดโฟมจะเปน ชนดิ ไหนขนึ้ อยกู บั ชนิดของโฟมที่ใช

๔.๖ กดคันโยกปดเปดไปไวต าํ แหนง OFF

๔.๗ ทอดูดโฟม (Pick Up Tube) มี ๒ ทอ เลอื กใชไ ดท ีละทอโดยโยกทค่ี ันบงั คบั

๔.๘ เมอื่ ตอ สายและหวั ฉดี ตลอดจนเตรียมถงั โฟมเรยี บรอ ยแลว เปด นา้ํ ดบั เพลิงเขา เครือ่ งผสม

โฟมดวยกาํ ลังดนั ไมต ่ํากวา ๗๕ ปอนด/ ตารางน้ิว

๔.๙ เม่ือเคร่ืองผสมโฟมหมุนแลว ใหส อดทอ ดดู โฟมลงถัง แลงโยกคันบังคบั ไปทต่ี าํ แหนง

Prime 1 (ช่วั ระยะเวลา ๑ - ๒ วนิ าท)ี แลว โยกตอ ไปในตําแหนง Hose 1 โฟมจะถูกดดู เขาโฟม

สงออกทางสงผานผลอดแกว เขา ผสมกับนา้ํ ดวยอัตราสวนน้ํา ๙๔ % โฟม ๖ %

๔.๑๐ เมอ่ื โฟมถังที่ ๑ หมด ใหโ ยกคันบงั คบั ไปตําแหนง Prime 1 และตอ ตาํ แหนง Hose

2 เพอ่ื ดดู โฟมถังท่ี ๒ ในขณะนี้กส็ ามารถเตรียมถังโฟมมาแทนถงั ที่ ๑ ซึง่ หมดแลว พอถังท่ี๒ หมด ก็กลบั ไป

ใชถ ังท่ี ๑ ไดอ กี สลับกันเชนนี้ตลอดเวลา

หมายเหตุ ตําแหนง คนั บงั คับมี ๕ ตําแหนง คอื Off Prime 1 Hose 1 Prime 2 Hose2

ท้ัง ๕ ตาํ แหนง ไมสามารถโยกขามตาํ แหนง กันได ตองโยกเรยี งตามลําดบั

Off หมายถงึ ตําแหนง ปด ไมด ดู โฟม

Prime 1 หมายถงึ ตําแหนง ไลอ ากาศของทอ ดูดฟองทอ ท่ี ๑

- ๘๙ -

Hose 1 หมายถงึ ตําแหนงดดู ฟองทอ ท่ี ๑ กําลงั ดูดฟองเขาผสมกับน้ํา

Prime 2 หมายถึง ตาํ แหนงไลอากาศของทอ ดดู ฟองทอท่ี ๒

Hose 2 หมายถงึ ตาํ แหนงดดู ฟองทอ ท่ี ๒ กาํ ลงั ดดู ฟองเขา ผสมกับนาํ้

การระวงั รกั ษา

๑. เนือ่ งจากโฟมดบั ไฟทกุ ชนิด เปน อนั ตรายตอโลหะ ดงั นัน้ เมือ่ ใชแลว ควรทําความสะอาด

เครื่องมอื และอุปกรณทใ่ี ชง านทัง้ หมด

๒. หลงั ไฟดบั แลว ใหดําเนนิ การระบายโฟมออกจากหอ งที่เกดิ เพลิงไหมในโอกาสแรก แตต อง

แนใจวาอณุ หภูมิของเชื้อเพลงิ ลดตํ่าลงกวา อุณหภูมติ ิดไฟแลว

ลักษณะของโฟม (Foam Profile)

องคประกอบของโฟม (Foam Composition) ประกอบดวย

๑. กาซหรอื อากาศ

๒. ผนงั ของฟองโฟมซงึ่ ประกอบดว ย

- นาํ้ ประมาณ ๙๕ - ๙๙ %

- สารเคมีประมาณ ๑ - ๕ %

ปรมิ าณการใช

ตองใชตามมาตรฐานสากล (NFPA) เปนอยางนอ ย เชน ในกรณี

- Spill Fire กาํ หนดใหใ ช Protein Foam ๖.๕ ลิตร/นาท/ี ตารางเมตร

กําหนดใหใ ช AFFF ใชเ พยี ง ๔.๑ ลิตร/นาท/ี ตารางเมตร

- แตใ นกรณไี ฟไหมร ุนแรงใช Protein Foam Fluoro ๘.๒ ลิตร/นาท/ี ตารางเมตร

AFFF ๕.๕ ลติ ร/นาท/ี ตารางเมตร

ฟองทางเคมี เปน การทําปฏกิ ิริยาทางเคมี ระหวางนํ้ายาสองชนดิ ทร่ี วมกันแลว เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

(รายละเอียดดใู นเครอื่ งมือดบั เพลงิ ขั้นตน ในหวั ขอเครอื่ งมอื ดับเพลิงชนดิ ฟองเคม)ี

พัดลมระบายอากาศเคล่อื นที่ ( Portable Ventilating Blowers )
หลงั จากทําการดับไฟเรียบรอยแลว และดาํ เนนิ การปอ งกันไมใ หไ ฟคุข้นึ ไดอีกแลว อกี อยางหน่ึงท่ี
จําเปนคอื การดูดควนั ออกจากหอง ซงึ้ กระทําไดโ ดยใชระบบระบายอากาศธรรมดาหรอื โดยการใชเครอ่ื ง
ระบายอากาศอยางอนื่ อยางไรก็ตามกอนจะทาํ การระบายอากาศจะตอ งคาํ นงึ ถงึ ขอควรระมดั ระวงั ตอ ไปน้ี
๑. จะตองแนใ จวา ไฟไดดบั ลงเรียบรอ ยแลว
๒. ตรวจดบู ริเวณทที่ ําการระบายอากาศ ไมใ หว ตั ถทุ ่ไี หมไฟ หรอื ถานข้เี ถา อยูใกลบรเิ วณนน้ั
๓. จัดชุดดบั ไฟและเครอ่ื งมอื ดบั ไฟ เฝา บรเิ วณพัดลม ( Blowers ) และเครื่องควบคมุ การระบาย
อากาศ
๔. กอนทําการเปด ระบบอากาศและใชพดั ลม ( Blowers ) เพ่อื ทาํ การระบายควนั จะตอ งไดร บั
อนุญาตจากตน กลเรอื กอ นเสมอ

- ๙๐ –
วธิ ที ่ีดที ่ีสดุ ในการดดู ควันออก ควรใชระบบการดดู อากาศออกมามากกวาการเปา อากาศเขา ไปเพอ่ื
ทําการระบายอากาศภายในหอ งนน้ั จะทาํ ใหค วันและไอระเหยซมึ เขาไปในหองทตี่ ิดตอกนั ได สาํ หรบั หองท่ี
เปด ออกสอู ากาศภายนอกโดยตรงได สามารถท่จี ะใชร ะบายอากาศโดยการเปาอากาศเขาไป โดยไมม ี
ปญ หาดงั กลาวขางตน
เครอ่ื งระบายอากาศแบบเคลือ่ นทไ่ี ด ( Portable Ventilating Blowers ) ซ่งึ มกั จะเรยี กกนั วา
“ปศาจสแี ดง” ( Red Devils ) สามารถใชในการดดู ควนั ได แมวา จะมีประสทิ ธภิ าพหรอื ใหค วามสะดวกได
ไมเทา เทียมกบั การระบายอากาศถาวรกต็ าม อยง ไรกด็ ี หากทาํ การระบายควนั หรือไอระเหยระเบิดดว ย
ระบบระบายอากาศประจาํ ท่ี อาจเกดิ อนั ตรายขึน้ ได ในลกั ษณะเชน นี้ ควรใชระบบระบายอากาศแบบชนิด
เคล่อื นที่ได ทใี่ ชอยใู นเรอื มี ๒ แบบ คือ
๑. แบบ 01 / 2 ( A หรือ D ) 1 X 5 ชนิดลมเดินตามแนวแกนเพลา ใชท อ ลมชนดิ แขง็ ขนาด
เสนผา ศนู ยก ลาง 8 นวิ้ สามารถดดู อากาศดวยอัตรา 500 ลูกบาศกฟ ตุ ตอ 1 นาที เม่ือใชทอ ขนาด
เสน ผา ศนู ยกลาง 200 ฟุต พัดลมดดู นี้ขับโดยมอเตอรไ ฟฟา ซง่ึ ปอ งกนั การระเบดิ ได ( Explosion – Proof
Electric Motor ) เมอ่ื ประกอบเสร็จจากโรงงานใหม ๆ แตห ลงั จากทไ่ี ดทาํ การปรับซอมทํา ( Overhauled )
แลว อาจจะกนั การระเบดิ หรอื อาจจะไมสามารถกนั การระเบิดได ฉะนน้ั สําหรับพัดลมดดู ท่ไี ดท ําการปรบั ซอ ม
ทําแลว ไมควรจะนําไปทําการดูดกา ซระเบดิ
๒. แบบ A 3 / 4 T ชนดิ ขับโดยกังหันอากาศ ( Air – Turbine ) แบบแรงเหว่ียง ใชท อ ลมแขง็ ขนาด
เสน ผา ศนู ยกลาง 8 นวิ้ พดั ลมแบบนไ้ี ดออกแบบไวส าํ หรับดดู กา ซระเบดิ โดยตรง มคี วามจุ 750 ลูกบาศกฟ ุต
ตอ 1 นาที เมอื่ ใชทอโต 8 นวิ้ ยาว 100 ฟตุ อากาศอัดทใี่ ชข ับพดั ลมไมค วรมีกําลงั ดนั สูงกวา 80 ปอนดต อ
ตารางนิ้ว ใชอากาศอัดประมาณ 55 ลกู บาศกฟุตตอนาที ในความกดบรรยากาศปกติ หวั ตอของสายอากาศ
อัดเขา เครอื่ ง เปนหวั ตอเกลยี ว ฝ นิว้ ( ไมม ีสายตอ มากบั เคร่อื ง ) ใชตอเขากบั ทอลมใชง านทวั่ ไปของเรือ

เครื่องพดั ลมระบายอากาศเคล่ือนที่ชนิดขบั ดว ยไฟฟา ทอ ลมสําหรบั ประกอบกบั พดั ลมระบายอากาศ

- ๙๑ -
เครอื่ งพัดลมระบายอากาศเคลอื่ นทแี่ บบ 01 / 2 ( A หรอื D ) “ Red Devils”

เครอื่ งพัดลมระบายอากาศเคลือ่ นที่ หวั ตอทอ ลมกับเคร่อื งพดั ลมระบายอากาศเคลื่อนท่ี
ชนดิ ขับโดยกงั หนั อากาศ ชนดิ ขับโดยกงั หนั อากาศ

เคร่ืองพัดลมระบายอากาศเคลอ่ื นทแ่ี บบ A 3 / 4 T ชนดิ ขับโดยกังหนั อากาศ ( AIR TURBINE )
ปจจุบนั เคร่ืองระบายอากาศแบบเคล่อื นท่ใี นเรือรบสหรัฐ ฯ ไดรบั การปรับปรงุ ออกแบบเพื่อเพม่ิ

ประสทิ ธิภาพในการทํางานใหส ะดวก และปลอดภยั มากยิง่ ข้นึ ซ่งึ เรยี กวา RAM FAN 2000 เพือ่ มีไวใช
ทดแทนของเดมิ ซง่ึ เรียกวา ปศ าจสีแดง “ Red Devils “

เคร่ืองระบายอากาศแบบเคลอื่ นท่ี RAM FAN 2000 เปน เครอ่ื งดดู ควันโดยใชน ํา้ ไฟรเ มน ( จาก
ระบบน้าํ ดับเพลงิ เปน ตน ) เปนกาํ ลงั ขบั เพื่อปอ งกันการระเบดิ จากไอระเหยกา ซระเบดิ ขณะทําการระบาย
ควัน ใชแ หลงนํ้าจากไฟรป ลก๊ั หรอื เครอ่ื งสบู นาํ้ เคลอ่ื นที่ ใชกําลังดนั ดนั นํา้ จากไฟรเ มน ประมาณ 40 - 180
ปอนดต อ ตารางนวิ้ เครื่องระบายอากาศชนิดน้ี นา้ํ หนกั 35 ปอนด ( ไมร วมทอสงอากาศ ) ประสทิ ธิภาพใน
การดดู ควัน 2000 CFM ปอ งกนั การระเบดิ ขอ ตอ ทางดดู - ทางสง ของเครอ่ื งใชส ายสูบขนาด 1 ฝ นวิ้ สว น
ทอ สง ควนั ใชท อ ลมชนิดแข็งขนาดเสนผา ศนู ยก ลาง 8 นวิ้ ยาว 15 ฟุต

ขอ ควรระมัดระวังอันตราย
๑. ตรวจสอบสายไฟฟาและปลกั๊ เสียบ หากพบวา มรี อยแตก ฉกี ขาด หรือสายทองแดงหลุดออกมาจาก
ฉนวน หา มใชพัดลมระบายอากาศแบบใชไ ฟฟา นนั้
๒. เฉพาะเจา หนา ท่ีชา งไฟฟา ทสี่ วมถงุ มอื และรองเทา ยางเทา นน้ั ทไี่ ดร ับอนญุ าตใหเสยี บปลก๊ั และเปด-
ปดสวทิ ซพ ัดลมระบายอากาศ และควรยนื อยูบ นแผนยางรองพนื้
๓. ใหยนื หา งจากพดั ลมระบายอากาศ สายไฟ และทอ ยางระบายอากาศในขณะทก่ี าํ ลังทาํ การระบาย
อากาศหรือควนั ไฟ

- ๙๒ -
๔. หา มใชพ ัดลมระบายอากาศแบบใชไ ฟฟา ในการระบายอากาศหรือควันในหองทม่ี ีไอระเหยของกาซ
ระเบดิ
๕. ตรวจสอบสายลมที่จะนาํ มาตอกับพดั ลมระบายอากาศแบบกงั หันอากาศ ไมใ หม รี อยแตก หรอื ร่วั
๖. เพอื่ ปอ งกนั ไฟฟา สถติ ย ควรวางพัดลมระบายอากาศไวบนแผน ยางรองพน้ื หรอื ทาํ การตอ สายดนิ
ใหก ับพดั ลมกอ นใชง าน
๗. หา มใชก าํ ลงั ดันลมเกินกวา ๘๐ ปอนดต อตารางนว้ิ กับพดั ลมระบายอากาศแบบกังหันอากาศ
๘. ทาํ การปอ งกนั สายทอ ลมในการวางสายผา นฝากน้ั นาํ้ และ ประตู เพ่อื ไมใหเ กดิ ความเสยี หายกบั ทอ
ลม จากการปดฝากัน้ นํ้าหรอื ประตโู ดยไมไ ดต ้ังใจ
๙. ไมค วรวางทอ ยางสําหรับระบายอากาศหรอื ควันไวบนข้นั บันได ชองทางเดนิ หรอื ชอ งทางผา นประตู
เพราะอาจมีบคุ คลสะดดุ ลม ได โดยใหผ ูกติดไวด านบนเหนือศีรษะ

เคร่ืองสบู นา้ํ เคลื่อนที่ ( Portable Pumps )
ก. เครอื่ งสบู น้าํ พี. ๒๕๐

๑. เครอื่ งสบู นํ้า พี. ๒๕๐ เปนเครอ่ื งสูบนา้ํ ขับดว ยเครือ่ งยนตนํ้ามันใส
๒. สามารถดูดนํ้าดว ยตวั เองโดยไมตองลอน้ํา ( Self Priming )
๓. อัตราการสูบนํา้ ๒๕๐ แกลลอนตอนาที
๔. ออกแบบเพือ่

ก. สบู นา้ํ ดับไฟ ( Fire Fighting )
ข. สบู นา้ํ ออกนอกเรือ ( Dewatering )
๕. สวนประกอบของเคร่อื งสูบนาํ้
ก. เครือ่ งยนตข บั เคลอ่ื นนํ้ามันใส
ข. Pump สบู นํา้ แบบอาศัยการเหวย่ี งตวั ออกนอกศนู ยก ลางของนา้ํ
ค. Pump ชวย ( Primer Pump ) เพอื่ ชวยดดู โดยไมตอ งลอน้ํา
ง. ทางสงน้ําออก
จ. เครื่องปรบั ความดนั นาํ้ และมาตรวดั ( Pressure Regulator and Gages)
ฉ. เชือกสตารท เครือ่ ง หมุนกลับไดเอง
ช. ถงั น้าํ มนั ขนาด ๖ แกลลอน
๖. เคร่อื งประกอบอ่นื ๆ ท่ใี ชก บั เครื่องสูบนา้ํ
ก. เกลยี วตอ แยก ๓ ทาง ( Tri - Gate ) แบบพิเศษ

๑) ตอจากทอ ๒ ๑/๒ นิ้ว แยกเปน ๓ ทาง ๒ ๑/๒ น้ิว , ๑ ๑/๒ นว้ิ และ ๑ ๑/๒ นว้ิ
ข. ถงั น้ํามนั อะไหล
ค. ทอ ทางดูดทําดวยทอแข็ง ยาว ๑๐ ฟตุ และ ๒๐ ฟตุ ขนาด ๓ นวิ้
ง. ล้ินปลายทางดูดและทีก่ รอง ( Foot Valve and Strainer )

- ๙๓ -
จ. ทอ ไอเสียยาว ๒๐ ฟตุ ขนาด ๒ นวิ้
๗. ลักษณะของเครื่อง
ก. นํ้าหนกั ของเครื่องไมรวมถังนํ้ามัน ๑๔๗ ปอนด
ข. เคร่อื งยนต ๒ สบู ๒ จงั หวะ ๒๕ แรงมาท่ี ๔๕๐๐ รอบ ตอนาที
ค. ใชน ้ํามนั หลอลืน่ ผสมกับนาํ้ มนั เบนซนิ เพ่ือหลอ ลืน่ สวนตาง ๆ
ง. หลอความรอนดวยนํ้าทสี่ บู ออกจาํ นวนหนง่ึ
จ. เมอ่ื เคร่อื งสตารท Pump ชวยซ่งึ ทาํ ดวยแผนไดอะแฟรม จะสบู อากาศออกเปน การไลอากาศ
เพ่ือชว ยในการดูดนาํ้ ดว ยตวั เองในความสงู จากระดบั นํ้าถงึ เครอื่ งไมเกนิ ๑๖ - ๒๐ ฟตุ
๘. กอนเดนิ เครือ่ ง พี. ๒๕๐
ก. ตรวจสอบสายทางดูด ตอ งกวดใหแ นน
ข. ลิ้นปลายทางดูดและทกี่ รอง ตอ งจมมิดอยูในน้าํ สะอาดตลอดเวลาการเดินเครอื่ งไมใชจนอยใู น
โคลน หรอื ทราย ซง่ึ ถาดดู เขา เครือ่ งไปแลว จะเปน อนั ตรายตอ การทํางานของเครื่องได
ค. ใชยางอัดกนั รัว่ ขนาดพอดีทุก ๆ สว นตอสายทางดดู

๑) ถาสายทางดูดกวดไมแ นน มอี ากาศเขา ได จะทําใหเ คร่ืองไมสามารถสูบน้าํ ขึ้นได หรอื สูบ
ขึ้น แตมนี ้าํ ออกไมส ม่ําเสมอ

ง. รองรบั น้าํ หนกั ของสายทางดดู ชวยรบั แรงกดอนั เกดิ จากนา้ํ หนกั ของสายทางดดู
จ. หา มเดนิ เคร่ืองในหอ งปด ทบึ นอกจากจะไดต อ ทอ ไอเสียออกสูอ ากาศเปดภายนอก

๑) ไอเสยี เปนพษิ เพราะมีกาซคารบอนมอนอกไซดอยดู ว ย
๙. วธิ ใี ชเคร่ือง พ.ี ๒๕๐

ก. ตอ ทางดดู , ทอไอเสยี , ทอ ทางสง
ข. เตมิ น้ํามันเครื่องเบอร S.A.E. ๓๐ ( U.S.N. NO ๓๐๖๕ ) สวนผสม ๑/๒ ไพนต อทกุ
ๆ แกลลอนของนาํ้ มนั เบนซนิ ซ่ึงมีออกเทนระหวาง ๘๐ - ๑๐๐ เขยาสว นผสมใหเ ขา กนั
ค. ยกถังนํา้ มนั วางบนทวี่ างบนเคร่อื ง พี. ๒๕๐ และยึดใหแนน
ง. ตอสายนาํ้ มนั จากถงั เขา เครื่อง
จ. กดปม นาํ้ มนั บนสวนบนของถงั นา้ํ มนั หลาย ๆ คร้ัง จนรูสกึ มแี รงตา น เพือ่ สงน้าํ มันเขา
คารบเู รเตอร

๑) อยากดปม ตอ ไปเมือ่ รสู กึ มีแรงตานแลว เพราะจะทาํ ใหตวั ปม ซงึ่ ทําดว ยแผนไดอะแฟรม
เสียหายได

ฉ. โยกคนั ปด - เปด ลิ้นทางสงของน้าํ อยูในตํ่าแหนง ปด และกวดเกลยี วหางปลาคนั โยกเพ่อื ดดู นาํ้
ไดเ อง โดยไมต องลอ ( Hand Priming ) ใหแ นน

ช. ดงึ ปุม Choke ออกใหสดุ หมนุ ปมุ แตงความเรว็ สูงและตํา่ จากตาํ แหนงปด ไปทางซา ย ๓/๔
รอบ

ซ. ดึงเชือกสตารท ระวงั อยา ใหกระตุกกระชาก เมือ่ เครอ่ื งติดแลว รอใหเครอ่ื งเดนิ ประมาณ

- ๙๔ -
๒ - ๓ วนิ าที จึงกดปมุ Choke เขา ท่ี เชอื กสตารท จะมว นกลับเขา ทเี่ องเมอ่ื ปลอ ยมือ

ฌ. ตรวจสอบดูเกจความดนั นาํ้ ความดันนา้ํ จะแสดงทีเ่ กจ หลังจากสตารท เคร่อื งแลว ประมาณ
๒๐ วนิ าที ณ ระดบั ความสงู จากระดับนา้ํ ๑๖ ฟุต

๑) ถากําลงั ดนั นาํ้ ไมแ สดงที่มาตรวัด ( Gage ) ภายใน ๔๕ วนิ าที ใหด บั เครือ่ งแลว
ตรวจสอบทอทางดูดตลอดจนรอยตอ เสยี ใหม

ญ. เมื่อมกี าํ ลงั ดันนํ้าขึน้ ทม่ี าตรวดั แลว เปด ลิ้นทางสงของน้าํ ชา ๆ
ฎ. แตงปุม ความเรว็ สูงเพอื่ ใหเครื่องเดนิ ไดดที ส่ี ดุ สําหรบั การแตงปมุ ความเร็วตํา่ ในการเดนิ เบา
ทําไดเม่ือเบาเครอื่ ง โดยแตง ทป่ี มุ หยุดเคร่ือง ( Stop ) ใหล้ินเปด แตเพียงเล็กนอ ย เครื่องก็จะเดินเบา
ฏ. ใชไขควงแตงกาํ ลังดนั นาํ้ ออกไดตามตอ งการ

๑) ขณะเดินเครื่องตลอดเวลา ตรวจสอบดูบอ ย ๆ วา กําลงั ดนั นาํ้ ทีอ่ อกถูกตอ งหรือไม
ด. เม่ือตองการหยุดเคร่ือง ใหก ดปมุ หยดุ เครือ่ ง ( Stop ) กดไวตลอดเวลาจนเครื่องดบั
ต. ถาเครอื่ งเดินโดยท่ลี ิ้นทางสงนาํ้ ออกปดอยเู ปน เวลานานมากกวา ๑๕ - ๒๐ วินาที เครือ่ งจะเดนิ
แรงข้ึน เนือ่ งจากมอี ากาศสะสมอยใู นปม ใหเปดลิน้ ทางสง นา้ํ ออกเปน คราว เพื่อไลอ ากาศออก
ถ. หลงั จากเลิกเดนิ เครอ่ื งแลว

๑) ระบายนํา้ ในปมของเครอื่ งทงิ้ โดยการพลิกใหด า นทมี่ ีมูเล อยดู านบน และเขยาไปมา
หลาย ๆ ครั้ง แตล ะครั้งแชทงิ้ ไวป ระมาณ ๑๐ วนิ าที

๒) ลา งเครื่องดวยนาํ้ จดื กอ นเกบ็ เขา ที่
๓) เดนิ เครื่องทุกสัปดาห ประมาณครั้งละ ๕ นาที

ข. เครอ่ื งสูบน้าํ SUBMERSIBLE PUMP
๑. สูบนํ้าโดยอาการเหวยี่ งตวั ออกนอกศนู ยกลางของนํา้
๒. ขับดว ยมอเตอรไ ฟฟา AC. หรือ DC.
๓. ชนดิ ปจ จุบนั ออกแบบใหสบู นํา้ ออกได ๑๔๐ แกลลอนตอ นาที โดยมีระดับความสูงจากน้าํ ๗๐ ฟุต
ก. ถา ลดระดับความสูงของนํา้ เหลอื ๕๐ ฟุต จะสบู น้าํ ได ๑๘๐ แกลลอนตอนาที
๔. ออกแบบเพ่อื การสูบน้ําออกนอกเรอื หรอื สบู น้ําถา ยเทเทาน้นั ไมมีประสทิ ธภิ าพในการดับไฟ
๕. เวลาใชส ูบนาํ้ ตอ งหยอนทัง้ ตวั เคร่ืองจมนาํ้ โดยมีทางออกตอ เขา กบั สายสบู ขนาด ๒ ๑/๒ นวิ้
๖. ระยะทลี่ ํานาํ้ พงุ ออกไดไกลประมาณ ๓๐ - ๕๐ ฟุต
๗. เมอื่ ตองการสบู นาํ้ ในที่มีความสูงของระดับนา้ํ มาก ๆ ทําไดโ ดยการใช ๒ เครอ่ื งตอ เปน อนั ดับกนั

โดยใหต วั ลา งจมอยูในนํ้า ทางสง ของตวั ลา งตอ เขากบั ทางดูดของตวั บน มหี ีบสวติ ซห ลายปลัก๊ สาํ หรบั
ทาํ ความสะดวกในการตอหลาย ๆ เครื่อง

๘. หา มใชเครือ่ งสูบนา้ํ Sumersible Pump สบู น้ํามันเบนซนิ หรอื น้าํ มันเคร่ือง
ก. ของเหลวทีเ่ ขาไปใน Pump จะเขา ไปหลอ ความเย็นมอเตอรด วย
ข. ไอระเหยน้าํ มนั เบนซนิ อาจรวั่ ไหลเขาไปในมอเตอร ซึง่ ทําใหเ กดิ ระเบดิ ได
ค. น้ํามันหลอลน่ื ท่มี คี วามหนดื สูง อาจทาํ ใหม อเตอรไ หมได เพราะ Overload

- ๙๕ -
ง. แตห ากสถานการรณจ าํ เปน ตองทาํ กใ็ หสบู นํา้ มนั ไดโ ดยตอเปนอนั ดบั กัน ๒ เครอ่ื ง
๙. ในการใช Submersible Pump เมอื่ จะหยอนหรอื ดงึ เครื่องหามจบั ตรงสายไฟฟา ใหใ ชเชอื ก
ผูกดงึ หรอื หยอ น เพราะอาจจะทาํ ใหยางอดั กนั นํา้ ชาํ รดุ ได
๑๐.ควรจดั เตรยี มสายไฟฟา ฉุกเฉินยาว ๗๕ ฟตุ ไว กรณีไฟฟาบรเิ วณท่เี กดิ เหตขุ ัดขอ ง
๑๑.ขอควรระมัดระวัง
ก. อยาใหส ายทางสงงอหรือพบั
ข. ใชท กี่ รองประกอบดวยเสมอ และตอ งเปน ที่กรองทีส่ ะอาดปราศจากส่ิงสกปรก
ค. ใหต วั เครอ่ื ง หรือทางดูดจมอยใู นนาํ้ ตลอดเวลาที่เคร่ืองเดนิ
ง. หามใช Submersible Pump ในบรเิ วณทีม่ ไี อระเหยแกส ระเบดิ อยดู ว ย

สว นประกอบของเครอ่ื งสูบนาํ้ ใตน ํา้ การตอ พวงของเครื่องสูบนาํ้ ใตน ํ้าสอง
เคร่อื ง

- ๙๖ -

ค. เครื่องสบู น้ําเคลอื่ นที่ พ.ี อี. - ๒๕๐

สว นประกอบของเครอื่ งสูบนํา้

เปนเครื่องยนตนํา้ มนั ใสชนดิ ๒ สูบ ๒ จงั หวะ ขนาด ๔๒ H. P. ๕,๑๐๐ RPM หลอ ล่ืนโดย

ใชนํา้ มนั ผสม

ดับความรอ นดว ยอากาศ ทอ แกสเสยี ดับความรอนดว ยนา้ํ เร่มิ เดินดว ย Battery ขนาด ๑๒ V.

สามารถไลอ ากาศไดเ องถาทางดูดสงู ไมเ กนิ ๒๐ ฟุต แตถา สูงถึง ๕๐ ฟุต ดว ยการตอ Speacial

Tri-gate และ Eductor

แบบมาตรฐาน “S” ใหสวทิ ซ OFF - Start - RUN อยใู นตาํ แหนง Start เมื่อตองการ Start

ใหสวิทซ OFF - Start - RUN อยูในตาํ แหนง Run เมือ่ เคร่อื งเดนิ เรียบรอ ยแลว ปุมไลอ ากาศ

และมกี ําลังดนั เกินกวา ๔๐ PSI คอ ย ๆ เปดล้ินทางสง หามเดิน Pump เกินกวา ๒ นาที ถานํ้าไมข ึ้น

Automatic Shutdown Pressure Switch จะหยดุ เครือ่ งถากาํ ลังดนั ต่ํากวา ๒๐ PSI

สวิทซ OFF - Start - RUN ตอ งอยใู นตาํ แหนง RUN อุปกรณจ ะตองลางดวยนํ้าจดื

หลงั จากใชก ับนาํ้ ทะเลทกุ ครงั้ หา มเดิน Pump นานเกนิ กวา ๒๐ วนิ าที เม่ือล้ินทางสง ปด จะทาํ ใหเ กดิ

ฟองอากาศขึ้นใน Pump

การเรมิ่ เดินเครือ่ ง พี.อี. ๒๕๐

๑. ตอ งแนใ จวา สายทางสง และทางดดู ตอไวอ ยา งถูกตอง Foot Valve and Strainer

จมอยใู นน้ํา

๒. ตอ งแนใ จวา นํา้ มนั ในถังถกู ผสมไวถูกตอง ( ๒ Pts - ๒ cycle Oil ) ตอ ๖ แกลลอน

ตอสายนํ้ามันเขากับเครื่อง

๓. ตอ สาย Battery

- แดง “ + ” (บวก) และ ดาํ “ - ” (ลบ)

๔. ต้งั สวทิ ซ OFF - Start - RUN ไวต าํ แหนง Start

๕. หมุน Speed Control ไว ๑/๔ สวน ( ถา เครอ่ื งเยน็ ) หมนุ Choke ตําแหนง ปด

สดุ แลว หมนุ กลับมา ๑/๒ ขณะ Start เปด Choke เตม็ ที่เมื่อเคร่ืองเดิน

๖. ล้นิ ทางสงตองอยูในตาํ แหนงปด

๗. กดปมุ Start จนกวาเครือ่ งจะทาํ งาน ( ปรบั แตง Choke and Speed Control

ถาตองการ )

๘. กดปมุ Prime และคอยเปด ล้นิ ทางสง อยางชา จนกระท่งั กาํ ลงั ดันขนึ้ ถงึ ๔๐ PSI

๙. ตั้งสวทิ ซ OFF - START - RUN ไวใ นตาํ แหนง “RUN”

๑๐. ถาเครื่องหยุด ใหต ้ัง OFF - START - RUN ไวตาํ แหนง “START” เรมิ่

Prime ใหม ( ตรวจสอบ Automatic Shutdown Pressure ถา กาํ ลังดนั ๒๐ PSI หรือสูง

กวา เมื่อเลอ่ื นสวทิ ซ OFF - Start - RUN จาก START ไปไว RUN แลว ดบั เครอ่ื งเปลย่ี น

ใหม )

- ๙๗ -
การเลิกเครื่อง พี.อ.ี ๒๕๐

๑. เล่อื น OFF - Start - RUN ไวใ นตาํ แหนง OFF ( ลดความเร็วของเครอ่ื งลง
กอ นและเพือ่ ใหน้ํามนั คางอยใู นระบบ )

๒. ลาง Pump และสว นประกอบดว ยน้ําจดื
๓. เปด กอกเดรนน้ําของ Pump ( อยดู า นลางของ Pump )
๔. ถอดสายตาง ๆ ออก
ง. เครอ่ื งสบู นา้ํ เคล่อื นท่ี ชนดิ โตฮัตสุ (TOHATSU)
เครอ่ื งสูบนํา้ เคล่ือนทช่ี นิดโตฮตั สุ มีหลายรนุ หลายขนาดท่ีใชงานอยู คณุ ลักษณะทว่ั ไป ไดแ ก เปน
เคร่ืองยนตชนดิ ๒ สูบ ๒ จังหวะ ระบายความรอนดวยนา้ํ การติดเครอื่ งยนตใชการจุดตดิ ดว ยระบบไฟฟา
และเชอื กดึงจดุ ติด การหลอ ล่ืน ใชน ํา้ มนั เบนซนิ ผสม (เบนซนิ ๓๐ สว นตอนา้ํ มนั เคร่ือง ๑ สว น ใช
แบตเตอร่ีสตารท ขนาด ๑๒ โวลท ๒๖ แอมแปร ปม สบู น้ํา เปนแบบ ปม หอยโขง กงั หนั ชน้ั เดยี ว ๔ ใบพดั
ทางสูบนาํ้ ทางเดียว แบบ Rotary Vacuum Pump รอบการหมนุ ประมาณ ๔,๘๐๐ - ๕,๒๐๐ รอบตอ นาที
แลวแตรนุ ของเคร่อื งสูบนา้ํ
เครอื่ งสูบนาํ้ เคลอ่ื นที่ชนดิ โตฮัตสทุ ่มี ใี ชใ นกองทพั เรือไดแกร นุ V - 75 - CS , รุน V - 50 - CS ,
และรนุ V - 38 - BS
วิธกี ารใชงาน
ขอ ควรปฏิบตั ิกอนจะสตารทเครอ่ื ง
๑. นํ้ามนั เช้ือเพลิง โปรดเติมนาํ้ มนั เชื้อเพลงิ กอนและหลงั การใชเ ครอ่ื ง อตั ราผสมน้ํามัน เบนซนิ ๓๐
ลติ รตอน้ํามันเครอื่ ง (ขนาด ๒ ไซเคิล) ๑ สวน
๒. ตรวจดรู ะดบั นํ้ามนั ทหี่ อ งเก็บนํา้ มนั และหองทเ่ี ก็บนาํ้ มนั ของเครื่องปม สญู ญากาศ ทงั้ นีห้ อ งนาํ้ มัน
สญู ญากาศตอ งมนี าํ้ มนั อยปู ระมาณ ระหวา ง ๗๐ - ๘๐ % อยเู สมอ (ใชนํา้ มันเกรด SAE. No . 20 ใน
ภาวะปกติ หากนาํ้ มนั ขน เกนิ ไป ใหใ ชน ้าํ มันเบนซินผสมใหจ าง)
๓. กอกนํ้า ตรวจดูใหด ีวา กอ กทุกอนั ตอ งอยใู นสภาพปด คือ
๓.๑ กอ กระบายนาํ้ ของปมน้ํา
๓.๒ กอกทางอากาศเขาที่สว นบนของกระบอกสบู
๓.๓ วาลว ของทางจา ยนํ้าออกของเครื่องสบู น้ํา
การตดิ เครอื่ งยนต
๑. เปด วาลว น้าํ มนั โดยหมนุ สกรู
๒. ดึงคนั โยกเรยี กนา้ํ มนั เพอื่ ใหเขาคารบ เู รเตอร และใหแ นใจวานาํ้ มนั เขา เต็มคารบเู รเตอร
๓. ตง้ั ท่คี วบคมุ ความเรว็ ทหี่ นา ปท มใหอ ยใู นตําแหนง “Start”
๔. ดงึ ปุม โชค หากเครอ่ื งยนตร อ นดแี ลว กไ็ มจําเปน ตอ งใช


Click to View FlipBook Version