The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-05-18 01:08:00

พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

Keywords: พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๘ ก 22 ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐

หน้า ๑
ราชกจิ จานุเบกษา



พระราชบญั ญัติ

แกไ้ ขเพิม่ เตมิ บทบญั ญัติแห่งกฎหมาย
ท่ีเก่ยี วกับความรบั ผิดในทางอาญาของผู้แทนนติ บิ ุคคล

พ.ศ. ๒๕๖๐

สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร

ใหไ้ ว้ ณ วันที่ ๑๐ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
เปน็ ปีท่ี ๒ ในรชั กาลปัจจุบัน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ
ใหป้ ระกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีเกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ
ผูแ้ ทนนติ บิ ุคคล

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ
สภานติ ิบญั ญัตแิ หง่ ชาติ ดงั ต่อไปน้ี

มาตรา ๑ พระราชบัญญตั ินเี้ รียกว่า “พระราชบญั ญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ทเ่ี กย่ี วกับความรับผดิ ในทางอาญาของผแู้ ทนนติ บิ คุ คล พ.ศ. ๒๕๖๐”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

มาตรา ๓ ใหย้ กเลิกความในมาตราแห่งประมวลกฎหมาย พระราชบัญญัติและพระราชกําหนด
จํานวนเจ็ดสิบหกฉบบั ดังตอ่ ไปนี้ และให้ใช้ความตามท่ีปรากฏในบัญชที า้ ยพระราชบัญญตั ิน้ีแทนตามลาํ ดบั

(๑) มาตรา ๑๒ จัตวา แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า
พุทธศักราช ๒๔๗๔ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า
(ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๓๕

23

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๒ ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

(๒) มาตรา ๓๕ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลรษั ฎากร (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๒๕ และมาตรา ๙๐/๕ แห่งประมวลรัษฎากร ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลรษั ฎากร (ฉบับท่ี ๓๐) พ.ศ. ๒๕๓๔

(๓) มาตรา ๖๒ ตรี แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญัติเรือไทย (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔

(๔) มาตรา ๑๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัตกิ ารเดินอากาศ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑

(๕) มาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติกําหนดความผิดเก่ียวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
ห้างหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
กําหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด สมาคม และมูลนิธิ
(ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕

(๖) มาตรา ๒๘/๔ แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญตั ิสถานบรกิ าร (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๖

(๗) มาตรา ๓๙ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญัติภาษีป้าย (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔

(๘) มาตรา ๓๓ แหง่ พระราชบัญญัตอิ งค์การสงเคราะหท์ หารผ่านศึก พ.ศ. ๒๕๑๐
(๙) มาตรา ๗๖ แหง่ พระราชบญั ญัติภาษเี งินไดป้ โิ ตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
(๑๐) มาตรา ๗๒/๕ แหง่ พระราชบญั ญัตปิ ุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึง่ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติปุ๋ย
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
(๑๑) มาตรา ๘๓ แหง่ พระราชบัญญตั ิคนเขา้ เมอื ง พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๒) มาตรา ๘๘ แห่งพระราชบญั ญตั สิ ทิ ธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๓) มาตรา ๓๘ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ ารรับเดก็ เป็นบตุ รบญุ ธรรม พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๔) มาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
อาคารชุด (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๑๕) มาตรา ๕๙ แหง่ พระราชบญั ญัตคิ ุม้ ครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๖) มาตรา ๗๒ แหง่ พระราชบัญญตั ิควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๗) มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๒๔
(๑๘) มาตรา ๒๓ แห่งพระราชกาํ หนดควบคุมสินคา้ ตามชายแดน พ.ศ. ๒๕๒๔
(๑๙) มาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญตั อิ อ้ ยและน้ําตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗

24

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๘ ก หนา้ ๓ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

(๒๐) มาตรา ๑๕ แห่งพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗
ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
พ.ศ. ๒๕๒๗ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕

(๒๑) มาตรา ๙๒ แหง่ พระราชบัญญัตจิ ดั หางานและคุม้ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘
(๒๒) มาตรา ๔๑ แหง่ พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สํารองเลีย้ งชพี พ.ศ. ๒๕๓๐
(๒๓) มาตรา ๑๐๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิประกนั สงั คม พ.ศ. ๒๕๓๓
(๒๔) มาตรา ๒๖ แห่งพระราชบญั ญัติการเลน่ แชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔
(๒๕) มาตรา ๔๘/๑ แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติ
การทะเบยี นราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔
(๒๖) มาตรา ๕๙ แหง่ พระราชบัญญตั สิ งวนและค้มุ ครองสตั ว์ปา่ พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒๗) มาตรา ๖๐ แหง่ พระราชบัญญัติการส่งเสรมิ การอนรุ กั ษ์พลงั งาน พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒๘) มาตรา ๑๑๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒๙) มาตรา ๘๗/๒ แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญตั ิวตั ถอุ นั ตราย (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๓๐) มาตรา ๖๓ แหง่ พระราชบญั ญตั ิโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
(๓๑) มาตรา ๑๑๔ แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญัตปิ ระกันชวี ิต (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๓๒) มาตรา ๑๐๘ แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติประกนั วนิ าศภยั (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๓๓) มาตรา ๓๙ แหง่ พระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสนิ คา้ ทางเรือแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๗
(๓๔) มาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญตั ิลิขสทิ ธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
(๓๕) มาตรา ๘๙ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ องทุนบาํ เหนจ็ บํานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙
(๓๖) มาตรา ๑๓ แห่งพระราชกําหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญัติแก้ไขเพ่ิมเตมิ พระราชกําหนดบรษิ ัทบรหิ ารสนิ ทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๐
(๓๗) มาตรา ๔๒ แหง่ พระราชบญั ญตั วิ ่าดว้ ยราคาสินคา้ และบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๒
(๓๘) มาตรา ๖๑ แหง่ พระราชบัญญัตปิ ้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
(๓๙) มาตรา ๘๘ แห่งพระราชบัญญตั ิมาตราช่งั ตวงวัด พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๐) มาตรา ๖๙ แห่งพระราชบัญญัตคิ ้มุ ครองพันธพ์ุ ชื พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๑) มาตรา ๘๒ แห่งพระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองและสง่ เสริมภมู ปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๒) มาตรา ๗๔ แหง่ พระราชบญั ญตั วิ ศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒

25

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๔ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

(๔๓) มาตรา ๗๘ แหง่ พระราชบญั ญตั ิควบคุมนา้ํ มันเชื้อเพลงิ พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๔) มาตรา ๗๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ิสถาปนกิ พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๕) มาตรา ๔๓ แห่งพระราชบญั ญตั กิ ารขุดดนิ และถมดิน พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๖) มาตรา ๔๐ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๗) มาตรา ๕๒ แหง่ พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแบบผังภมู ิของวงจรรวม พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๘) มาตรา ๖๖ แหง่ พระราชบัญญัติการจดั สรรท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๙) มาตรา ๑๘ แหง่ พระราชบัญญัตกิ ารจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๓
(๕๐) มาตรา ๖๐ แหง่ พระราชบัญญัติการคา้ น้ํามนั เชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๓
(๕๑) มาตรา ๘๖ แหง่ พระราชบัญญตั ิการรถไฟฟา้ ขนส่งมวลชนแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓
(๕๒) มาตรา ๔๑ แหง่ พระราชบัญญตั ิกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔
(๕๓) มาตรา ๗๘ แหง่ พระราชบญั ญตั ิการประกอบกจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
(๕๔) มาตรา ๔๖ แห่งพระราชบญั ญัตวิ า่ ดว้ ยธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
(๕๕) มาตรา ๖๔ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ ารฌาปนกจิ สงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๔๕
(๕๖) มาตรา ๑๓๕ แห่งพระราชบัญญัติสญั ญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. ๒๕๔๖
(๕๗) มาตรา ๑๑๕ แห่งพระราชบญั ญตั ิสถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖
(๕๘) มาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองสิง่ บ่งช้ีทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๔๖
(๕๙) มาตรา ๗๒ แหง่ พระราชบัญญัติวชิ าชีพบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗
(๖๐) มาตรา ๓๖ แหง่ พระราชบัญญตั ิการผลติ ผลิตภัณฑ์ซีดี พ.ศ. ๒๕๔๘
(๖๑) มาตรา ๗๗ แหง่ พระราชบัญญัติการขนส่งต่อเน่ืองหลายรปู แบบ พ.ศ. ๒๕๔๘
(๖๒) มาตรา ๖๐ แห่งพระราชบญั ญตั ิโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๓) มาตรา ๑๔๑ แหง่ พระราชบัญญัติการประกอบกจิ การพลงั งาน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๔) มาตรา ๑๕๓ แหง่ พระราชบัญญัติโรงเรยี นเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๕) มาตรา ๘๐ แห่งพระราชบญั ญัตทิ รสั ตเ์ พอื่ ธรุ กรรมในตลาดทุน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๖) มาตรา ๕๔ แหง่ พระราชบัญญตั ิองคก์ ารกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๕๑
(๖๗) มาตรา ๑๓๒ และมาตรา ๑๓๙ แหง่ พระราชบญั ญตั ธิ รุ กิจสถาบนั การเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑
(๖๘) มาตรา ๖๒ แห่งพระราชบญั ญัติคมุ้ ครองซากดึกดําบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๖๙) มาตรา ๖๕ และมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติสถาบนั คมุ้ ครองเงนิ ฝาก พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๐) มาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญตั ิการดูแลผลประโยชนข์ องคสู่ ัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๑) มาตรา ๗๖ แหง่ พระราชบญั ญัติมาตรฐานสนิ คา้ เกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๒) มาตรา ๕๘ แหง่ พระราชบัญญตั กิ ารมาตรฐานแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑

26

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๘ ก หนา้ ๕ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

(๗๓) มาตรา ๘๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ิภาพยนตรแ์ ละวีดิทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๔) มาตรา ๑๒๒ แหง่ พระราชบัญญตั ิเครอ่ื งมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๕) มาตรา ๔๘ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองผูร้ ับงานไปทําทบ่ี ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓
(๗๖) มาตรา ๖๒ แห่งพระราชบัญญตั กิ องทนุ การออมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔

ผ้รู ับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา

นายกรัฐมนตรี

27

บัญชที ้ายพระราชบญั ญตั ิ
แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ บทบญั ญัตแิ ห่งกฎหมายทเ่ี กยี่ วกับความรบั ผิดในทางอาญาของผู้แทนนติ บิ ุคคล

พ.ศ. ๒๕๖๐

๑. พระราชบัญญตั คิ วบคุมการขายทอดตลาดและคา้ ของเกา่ พทุ ธศักราช ๒๔๗๔
“มาตรา ๑๒ จตั วา ในกรณที ผ่ี กู้ ระทาํ ความผดิ เปน็ นติ บิ ุคคล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนติ บิ คุ คลน้ันเกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิติบคุ คลนัน้ หรือในกรณที ี่บคุ คลดังกล่าว
มหี นา้ ที่ตอ้ งสงั่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตุให้
นติ บิ คุ คลนน้ั กระทําความผิด ผู้นั้นตอ้ งรับโทษตามที่บญั ญัตไิ วส้ าํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”

๒. ประมวลรัษฎากร
“มาตรา ๓๕ ทวิ ผูใ้ ดฝา่ ฝืนมาตรา ๑๒ ทวิ ตอ้ งระวางโทษจําคุกไมเ่ กินสองปี

และปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาท
ในกรณีท่ผี ้กู ระทําความผดิ ตามวรรคหน่ึงเป็นนิติบุคคล ถา้ การกระทําความผดิ

ของนติ ิบคุ คลนั้นเกิดจากการสัง่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ หรอื บุคคลใด
ซ่ึงรบั ผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิตบิ คุ คลนั้น หรอื ในกรณีทีบ่ คุ คลดังกล่าวมหี นา้ ที่ตอ้ งสัง่ การ
หรอื กระทาํ การและละเว้นไมส่ ่งั การหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตใุ ห้นิติบคุ คลน้ันกระทําความผิด
ผ้นู ั้นต้องรบั โทษตามทบี่ ัญญัตไิ วใ้ นวรรคหน่ึงดว้ ย”

“มาตรา ๙๐/๕ ในกรณีทผ่ี กู้ ระทําความผดิ ตามหมวดนีเ้ ป็นนิติบคุ คล
ถา้ การกระทาํ ความผดิ ของนิติบุคคลน้ันเกดิ จากการสงั่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ
หรอื ผ้จู ดั การ หรอื บุคคลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบคุ คลน้นั หรือในกรณีท่ี
บุคคลดังกลา่ วมหี น้าทีต่ ้องสั่งการหรอื กระทาํ การและละเว้นไม่สงั่ การหรอื ไมก่ ระทาํ การ
จนเป็นเหตุใหน้ ติ บิ ุคคลนนั้ กระทาํ ความผิด ผูน้ ้นั ต้องรบั โทษตามทีบ่ ญั ญัติไว้สาํ หรบั ความผดิ
น้นั ๆ ด้วย”

๓. พระราชบญั ญตั ิเรอื ไทย พทุ ธศักราช ๒๔๘๑
“มาตรา ๖๒ ตรี ในกรณีที่ผู้กระทาํ ความผิดตามมาตรา ๖๒ ทวิ เปน็ นติ ิบุคคล

ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ คุ คลน้นั หรอื ในกรณที ่บี ุคคลดงั กล่าวมีหนา้ ท่ี
ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ หน้ ติ บิ ุคคลนั้น
กระทําความผิด ผ้นู ั้นตอ้ งรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๖๒ ทวิ ด้วย”

๔. พระราชบญั ญตั ิการเดนิ อากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗
“มาตรา ๑๑๘ ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทาํ

ความผิดของนิตบิ ุคคลนนั้ เกดิ จากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ

28



หรอื บคุ คลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ ุคคลนน้ั หรือในกรณีทบี่ ุคคลดังกล่าว
มีหนา้ ทีต่ อ้ งสงั่ การหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่งั การหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตใุ ห้
นติ ิบคุ คลน้ันกระทําความผิด ผู้นัน้ ตอ้ งรบั โทษตามทบ่ี ญั ญัตไิ วส้ าํ หรบั ความผิดน้ัน ๆ ดว้ ย”

๕. พระราชบัญญัติกําหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด
สมาคม และมลู นิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙

“มาตรา ๒๕ ในกรณีที่บริษทั จํากดั ใดกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๗
ถงึ มาตรา ๒๔ ถ้าการกระทําความผดิ ของบริษัทจํากัดน้นั เกดิ จากการส่ังการหรือการกระทาํ
ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ หรอื บุคคลใดซึ่งรบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของบรษิ ัทจํากดั นั้น
หรอื ในกรณีทบี่ ุคคลดงั กล่าวมหี น้าทีต่ อ้ งสง่ั การหรอื กระทําการและละเว้นไมส่ ั่งการหรอื ไม่กระทําการ
จนเป็นเหตใุ ห้บรษิ ัทจาํ กดั น้นั กระทาํ ความผิด ผูน้ ั้นตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ ห้าหม่นื บาท”

๖. พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙
“มาตรา ๒๘/๔ ในกรณีที่ผูก้ ระทําความผิดเป็นนติ บิ คุ คล ถ้าการกระทาํ

ความผิดของนิติบคุ คลน้นั เกิดจากการส่งั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรอื บคุ คลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ ิบคุ คลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าท่ตี ้องสัง่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทาํ การจนเปน็ เหตใุ ห้
นติ บิ คุ คลนนั้ กระทําความผิด ผู้น้นั ต้องรับโทษตามทีบ่ ัญญตั ิไวส้ าํ หรับความผิดน้นั ๆ ด้วย”

๗. พระราชบัญญตั ิภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐
“มาตรา ๓๙ ทวิ ในกรณที ผี่ กู้ ระทําความผดิ เปน็ นิตบิ คุ คล ถา้ การกระทํา

ความผดิ ของนติ ิบุคคลนั้นเกดิ จากการสง่ั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดําเนินงานของนิติบคุ คลน้นั หรอื ในกรณีทีบ่ ุคคลดงั กล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผิด ผนู้ ้นั ต้องรับโทษตามท่ีบญั ญัติไวส้ ําหรบั ความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”

๘. พระราชบัญญัตอิ งค์การสงเคราะห์ทหารผา่ นศกึ พ.ศ. ๒๕๑๐
“มาตรา ๓๓ ผใู้ ดมิใช่ในกิจการของ อผศ. หรอื โดยมไิ ดร้ ับอนุญาตเป็นหนงั สอื

จาก อผศ. ใชช้ อื่ หรอื ถอ้ ยคาํ ในประการทนี่ า่ จะทาํ ใหป้ ระชาชนเข้าใจว่าเป็นกจิ การของ อผศ.
หรือเกี่ยวเน่ืองกับกิจการของ อผศ. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท
หรอื ท้ังจําท้งั ปรบั

นติ บิ คุ คลใดมิใชก่ ระทรวง ทบวง กรม หรอื โดยมไิ ดร้ ับอนญุ าตเป็นหนงั สอื
จาก อผศ. ใช้คําว่า “อผศ.” “ทหารผ่านศึก” “ผ่านศึก” “นอกประจําการ” หรือคําว่า“ทหาร”
เป็นชื่อหรือประกอบชื่อของนิติบุคคลน้ัน ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการส่ังการ
หรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ หรอื บุคคลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดําเนินงาน
ของนิติบุคคลน้ัน หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการ
หรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตุให้นติ ิบุคคลนัน้ กระทําความผิดผู้น้นั ต้องรับโทษตามที่บัญญตั ิไว้
ในวรรคหน่ึงดว้ ย”

29



๙. พระราชบญั ญตั ภิ าษเี งนิ ได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
“มาตรา ๗๖ ในกรณีทบ่ี รษิ ัทใดกระทาํ ความผิด ถ้าการกระทาํ ความผดิ

ของบริษทั น้ันเกดิ จากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จดั การ หรอื บคุ คลใด
ซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของบริษัทน้ัน หรอื ในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กลา่ วมีหน้าท่ตี ้องสัง่ การ
หรอื กระทาํ การและละเว้นไม่สง่ั การหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตุใหบ้ รษิ ัทนัน้ กระทาํ ความผดิ
ผนู้ ั้นตอ้ งรับโทษตามที่บัญญตั ไิ วส้ าํ หรบั ความผดิ นั้น ๆ ดว้ ย”

๑๐. พระราชบัญญตั ปิ ๋ยุ พ.ศ. ๒๕๑๘
“มาตรา ๗๒/๕ ในกรณที ี่ผู้กระทําความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คล เว้นแตก่ รณี

ตามมาตรา ๗๒/๒ ถ้าการกระทําความผิดของนติ ิบุคคลนนั้ เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทํา
ของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ หรือบุคคลใดซึง่ รบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ คุ คลนน้ั
หรอื ในกรณที ี่บคุ คลดังกล่าวมหี น้าท่ตี อ้ งสงั่ การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ ั่งการ
หรอื ไม่กระทาํ การจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระทําความผิด ผูน้ ้ันตอ้ งรบั โทษตามทบี่ ัญญตั ิไว้
สาํ หรบั ความผิดน้ัน ๆ ด้วย”

๑๑. พระราชบญั ญตั ิคนเข้าเมอื ง พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๘๓ ในกรณที ผ่ี ู้กระทาํ ความผดิ เปน็ นิติบคุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนติ บิ คุ คลน้ันเกดิ จากการส่ังการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดําเนินงานของนติ ิบคุ คลนนั้ หรอื ในกรณีทบี่ ุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าทตี่ ้องสง่ั การหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นิตบิ ุคคลนนั้ กระทําความผดิ ผู้น้ันตอ้ งรบั โทษตามท่บี ญั ญตั ไิ ว้สาํ หรบั ความผดิ นน้ั ๆ ด้วย”

๑๒. พระราชบญั ญตั สิ ทิ ธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๘๘ ในกรณีที่ผู้กระทําความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนติ ิบคุ คลนน้ั เกดิ จากการสงั่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซงึ่ รบั ผดิ ชอบในการดําเนินงานของนติ บิ คุ คลน้นั หรอื ในกรณีท่ีบุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าท่ตี ้องส่ังการหรือกระทาํ การและละเวน้ ไม่ส่ังการหรอื ไมก่ ระทาํ การจนเป็นเหตุให้
นติ ิบุคคลนัน้ กระทาํ ความผิด ผนู้ ัน้ ตอ้ งรับโทษตามท่บี ัญญตั ไิ วส้ ําหรบั ความผิดน้ัน ๆ ดว้ ย”

๑๓. พระราชบญั ญัตกิ ารรบั เดก็ เปน็ บตุ รบุญธรรม พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๓๘ ในกรณที ผ่ี ู้กระทําความผิดเป็นนติ ิบคุ คล ถ้าการกระทํา

ความผิดของนติ ิบคุ คลน้ันเกิดจากการสงั่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรือบุคคลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบคุ คลนนั้ หรอื ในกรณีทีบ่ ุคคลดงั กล่าว
มหี น้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเวน้ ไมส่ งั่ การหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตุให้
นติ บิ ุคคลนนั้ กระทําความผดิ ผนู้ ั้นตอ้ งรับโทษตามที่บัญญตั ไิ วส้ ําหรบั ความผิดนน้ั ๆ ดว้ ย”

30



๑๔. พระราชบญั ญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๗๑ นิติบคุ คลอาคารชุดใดฝ่าฝืนหรือไมป่ ฏบิ ตั ิตามมาตรา ๓๘/๑

มาตรา ๓๘/๒ และมาตรา ๓๘/๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนง่ึ หม่นื บาท
ในกรณีทนี่ ติ บิ คุ คลอาคารชดุ กระทําความผิดตามวรรคหน่ึง ถ้าการกระทําความผิด

ของนิติบุคคลอาคารชุดนั้นเกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของผู้จัดการของนิติบุคคลอาคารชุดนั้น
หรือในกรณที ่ีผู้จัดการของนิติบคุ คลอาคารชดุ น้ันมหี น้าที่ต้องสั่งการหรอื กระทาํ การและละเว้น
ไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลอาคารชุดนั้นกระทําความผิด ผู้จัดการของนิติบุคคล
อาคารชุดนั้นต้องรับโทษตามท่ีบัญญตั ิไว้ตามวรรคหนง่ึ ดว้ ย”

๑๕. พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองผู้บรโิ ภค พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๕๙ ในกรณีทีผ่ กู้ ระทําความผดิ เป็นนติ บิ ุคคล ถา้ การกระทํา

ความผดิ ของนิตบิ ุคคลน้ันเกดิ จากการสัง่ การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของนิติบคุ คลน้นั หรือในกรณีท่ีบุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผ้นู นั้ ต้องรับโทษตามที่บัญญตั ิไว้สาํ หรับความผิดน้นั ๆ ด้วย”

๑๖. พระราชบญั ญตั ิควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๗๒ ในกรณที ่ผี ู้กระทําความผดิ เปน็ นิตบิ คุ คล ถา้ การกระทํา

ความผิดของนิติบุคคลนน้ั เกดิ จากการสงั่ การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซงึ่ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ ุคคลนั้น หรือในกรณที ี่บคุ คลดังกลา่ ว
มหี น้าท่ีตอ้ งสง่ั การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ ัง่ การหรือไม่กระทาํ การจนเป็นเหตใุ ห้
นิติบุคคลนนั้ กระทาํ ความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษตามทบ่ี ญั ญตั ไิ ว้สําหรับความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”

๑๗. พระราชบญั ญตั ชิ ดเชยคา่ ภาษีอากรสินค้าส่งออกท่ผี ลติ ในราชอาณาจกั ร พ.ศ. ๒๕๒๔
“มาตรา ๓๒ ในกรณีที่ผู้กระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๓๐ หรอื มาตรา ๓๑

เป็นนิตบิ คุ คล ถา้ การกระทาํ ความผิดของนติ บิ คุ คลน้นั เกิดจากการสงั่ การหรอื การกระทํา
ของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ หรอื บคุ คลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิติบุคคลน้นั
หรอื ในกรณที บี่ คุ คลดงั กล่าวมีหนา้ ท่ตี อ้ งสัง่ การหรอื กระทําการและละเวน้ ไมส่ ่งั การหรือไม่กระทาํ การ
จนเปน็ เหตุใหน้ ิติบุคคลนัน้ กระทําความผดิ ผู้นัน้ ต้องรับโทษตามท่ีบญั ญตั ิไวส้ ําหรับความผดิ
นั้น ๆ ด้วย”

๑๘. พระราชกาํ หนดควบคมุ สินค้าตามชายแดน พ.ศ. ๒๕๒๔
“มาตรา ๒๓ ในกรณีท่ีผูก้ ระทําความผดิ เป็นนิติบคุ คล ถ้าการกระทํา

ความผิดของนิติบุคคลนนั้ เกิดจากการสัง่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบคุ คลน้ัน หรอื ในกรณที ่ีบุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าท่ตี อ้ งสง่ั การหรือกระทําการและละเวน้ ไม่ส่ังการหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตุให้
นติ บิ คุ คลนนั้ กระทาํ ความผิด ผู้นน้ั ตอ้ งรบั โทษตามทีบ่ ญั ญตั ิไวส้ าํ หรบั ความผดิ นั้น ๆ ดว้ ย”

31



๑๙. พระราชบญั ญตั ิอ้อยและนํา้ ตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗
“มาตรา ๗๖ ในกรณีทีผ่ ้กู ระทาํ ความผดิ เป็นนติ ิบุคคล ถา้ การกระทํา

ความผดิ ของนติ ิบคุ คลน้ันเกิดจากการสง่ั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่งึ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบคุ คลนนั้ หรือในกรณีทบ่ี ุคคลดังกลา่ ว
มหี น้าท่ตี อ้ งสงั่ การหรือกระทําการและละเวน้ ไม่ส่ังการหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นิติบุคคลนัน้ กระทําความผิด ผนู้ น้ั ต้องรบั โทษตามที่บัญญตั ไิ วส้ าํ หรบั ความผดิ นน้ั ๆ ด้วย”

๒๐. พระราชกาํ หนดการกู้ยืมเงนิ ทเ่ี ปน็ การฉอ้ โกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗
“มาตรา ๑๕ ในกรณที ีผ่ ้กู ระทําความผดิ เปน็ นิตบิ คุ คล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนติ ิบุคคลนนั้ เกิดจากการสงั่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรอื บคุ คลใดซึง่ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ ุคคลนั้น หรอื ในกรณีท่ีบคุ คลดงั กลา่ ว
มีหนา้ ท่ตี ้องส่งั การหรือกระทาํ การและละเว้นไม่สัง่ การหรอื ไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้
นติ บิ ุคคลน้นั กระทําความผดิ ผ้นู ้ันตอ้ งรบั โทษตามที่บญั ญัติไวส้ ําหรับความผดิ นนั้ ๆ ด้วย

ความในวรรคหนึง่ ใหใ้ ชบ้ ังคบั แก่พนักงานหรือลูกจ้างของนิติบคุ คลซงึ่ ปรากฏ
พยานหลักฐานว่ามพี ฤติกรรมเปน็ ผูร้ ับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบุคคลดว้ ย”

๒๑. พระราชบัญญัติจดั หางานและคมุ้ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘
“มาตรา ๙๒ ในกรณที ่ผี ู้กระทาํ ความผดิ เปน็ นติ ิบคุ คล ถา้ การกระทํา

ความผิดของนิตบิ คุ คลนนั้ เกิดจากการสัง่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรือบุคคลใดซง่ึ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิติบุคคลนั้น หรอื ในกรณีทบ่ี คุ คลดังกล่าว
มหี น้าท่ตี ้องสั่งการหรอื กระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นติ ิบุคคลนัน้ กระทําความผดิ ผูน้ ัน้ ต้องรับโทษตามที่บญั ญัติไวส้ าํ หรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”

๒๒. พระราชบญั ญตั ิกองทนุ สาํ รองเลี้ยงชีพ พ.ศ. ๒๕๓๐
“มาตรา ๔๑ ในกรณที ี่คณะกรรมการกองทนุ กระทาํ ความผิดตามมาตรา ๓๔

ถ้าการกระทาํ ความผดิ ของคณะกรรมการกองทนุ นนั้ เกิดจากการสงั่ การหรอื การกระทาํ
ของกรรมการผู้ใด หรอื ในกรณที ก่ี รรมการดงั กลา่ วมีหน้าทีต่ อ้ งสัง่ การหรือกระทําการและละเว้น
ไม่สง่ั การหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตใุ ห้คณะกรรมการกองทุนนั้นกระทําความผิด กรรมการผูน้ นั้
ต้องรับโทษตามที่บญั ญัตไิ ว้สาํ หรับความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”

๒๓. พระราชบัญญัติประกนั สงั คม พ.ศ. ๒๕๓๓
“มาตรา ๑๐๑ ในกรณที ีผ่ ู้กระทําความผิดเป็นนิติบคุ คลและถูกลงโทษ

ถา้ การกระทําความผิดของนิตบิ คุ คลน้ันเกิดจากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ
หรือผู้จัดการ หรือบคุ คลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบคุ คลนัน้ หรอื ในกรณที ่ี
บคุ คลดังกลา่ วมหี นา้ ท่ีตอ้ งสงั่ การหรอื กระทาํ การและละเวน้ ไมส่ งั่ การหรือไม่กระทาํ การ
จนเป็นเหตุใหน้ ติ บิ ุคคลนน้ั กระทาํ ความผดิ ผู้นนั้ ตอ้ งรับโทษตามท่ีบัญญัติไวส้ าํ หรบั ความผิด
น้ัน ๆ ดว้ ย”

32



๒๔. พระราชบัญญตั กิ ารเลน่ แชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔
“มาตรา ๒๖ ในกรณที ีผ่ ู้กระทําความผดิ ตามมาตรา ๕ หรอื มาตรา ๘

เป็นนติ บิ คุ คล ถ้าการกระทําความผดิ ของนติ บิ ุคคลน้นั เกิดจากการสั่งการหรือการกระทํา
ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ หรือบุคคลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ คุ คลนั้น
หรือในกรณที ่บี คุ คลดงั กล่าวมหี นา้ ทตี่ อ้ งสง่ั การหรอื กระทําการและละเว้นไม่สัง่ การหรือไม่กระทาํ การ
จนเป็นเหตุใหน้ ติ บิ คุ คลนั้นกระทาํ ความผิด ผนู้ ้ันตอ้ งระวางโทษจําคุกไมเ่ กินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกนิ
สามแสนบาท หรือทงั้ จาํ ทงั้ ปรบั ”

๒๕. พระราชบญั ญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔
“มาตรา ๔๘/๑ ผใู้ ดฝา่ ฝนื มาตรา ๑๕ วรรคส่ี ต้องระวางโทษจาํ คกุ ต้ังแตห่ กเดอื น

ถงึ ห้าปี และปรบั ตัง้ แต่หนงึ่ หม่นื บาทถงึ หนึง่ แสนบาท
ในกรณที ่ีสว่ นราชการหรือหนว่ ยงานของรฐั กระทําผดิ ตามวรรคหนงึ่

ถ้าการกระทําความผิดของสว่ นราชการหรอื หน่วยงานของรัฐนัน้ เกิดจากการสั่งการหรือการกระทํา
ของหัวหน้าสว่ นราชการหรือหัวหนา้ หน่วยงานของรฐั หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกลา่ วมีหน้าท่ี
ต้องสงั่ การหรอื กระทาํ การและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทาํ การจนเป็นเหตใุ ห้ส่วนราชการ
หรือหน่วยงานของรัฐนนั้ กระทาํ ความผดิ หัวหนา้ ส่วนราชการหรอื หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั นั้น
ต้องรับโทษตามทีบ่ ญั ญตั ิไวส้ ําหรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๔๙ ผ้ใู ดฝา่ ฝืนมาตรา ๑๗ ต้องระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กินหกเดอื น
หรือปรับไม่เกินสองหม่นื บาท หรอื ท้ังจําทั้งปรบั

ในกรณที ่ผี ูก้ ระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ เปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทํา
ความผิดของนติ บิ ุคคลนั้นเกดิ จากการสงั่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ ิบุคคลน้นั หรือในกรณีทบี่ คุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผูน้ นั้ ต้องรับโทษตามที่บัญญัตไิ วส้ าํ หรบั ความผิดน้นั ๆ ดว้ ย”

๒๖. พระราชบญั ญัตสิ งวนและคุ้มครองสตั วป์ า่ พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๕๙ ในกรณีทผี่ ้กู ระทาํ ความผิดเปน็ นิตบิ ุคคล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนติ ิบคุ คลนน้ั เกิดจากการสง่ั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบุคคลนั้น หรือในกรณีทีบ่ คุ คลดงั กลา่ ว
มหี นา้ ที่ตอ้ งสัง่ การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ ัง่ การหรือไมก่ ระทาํ การจนเป็นเหตุให้
นติ ิบุคคลนน้ั กระทําความผิด ผู้น้ันตอ้ งรบั โทษตามที่บัญญัตไิ ว้สําหรบั ความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”

๒๗. พระราชบัญญัตกิ ารส่งเสริมการอนุรักษ์พลงั งาน พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๖๐ ในกรณที ผ่ี กู้ ระทาํ ความผิดเป็นนิตบิ ุคคล ถา้ การกระทํา

ความผดิ ของนติ ิบุคคลนนั้ เกดิ จากการส่งั การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผ้จู ัดการ
หรอื บคุ คลใดซึง่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลนั้น หรอื ในกรณที บ่ี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหนา้ ท่ีต้องสงั่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไม่ส่ังการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้
นิติบคุ คลนนั้ กระทาํ ความผดิ ผู้น้ันตอ้ งรบั โทษตามท่บี ญั ญตั ไิ วส้ าํ หรบั ความผิดนั้น ๆ ด้วย”

33



๒๘. พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๑๑ ในกรณีท่ผี กู้ ระทาํ ความผดิ เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทํา

ความผิดของนิติบคุ คลน้นั เกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรอื บุคคลใดซงึ่ รบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ คุ คลนัน้ หรือในกรณที ่บี คุ คลดงั กล่าว
มีหนา้ ท่ีตอ้ งสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สัง่ การหรอื ไมก่ ระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นิติบคุ คลนั้นกระทําความผิด ผู้น้นั ต้องรบั โทษตามท่ีบัญญตั ไิ ว้สําหรับความผดิ น้นั ๆ ด้วย”

๒๙. พระราชบัญญตั วิ ตั ถอุ นั ตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๘๗/๒ ในกรณีท่ีผกู้ ระทําความผิดเปน็ นติ บิ คุ คล ถ้าการกระทําความผิด

ของนิตบิ ุคคลนั้นเกดิ จากการสง่ั การหรือการกระทําของกรรมการหรือผู้จดั การ ผู้เชี่ยวชาญ
บคุ ลากรเฉพาะ หรอื บุคคลใดซ่งึ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ คุ คลน้ัน หรอื ในกรณที ่ี
บคุ คลดังกลา่ วมีหนา้ ท่ีต้องส่งั การหรอื กระทําการและละเวน้ ไม่สั่งการหรอื ไม่กระทาํ การจนเป็นเหตุให้
นติ ิบคุ คลน้นั กระทาํ ความผิด ผู้น้นั ตอ้ งรบั โทษตามทีบ่ ัญญตั ไิ ว้สําหรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”

๓๐. พระราชบัญญตั ิโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๖๓ ในกรณที ่ีผู้กระทาํ ความผดิ เป็นนติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผดิ ของนติ บิ ุคคลนัน้ เกดิ จากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ คุ คลน้นั หรอื ในกรณที ่ีบคุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผู้นนั้ ต้องรับโทษตามทบ่ี ญั ญัติไวส้ ําหรบั ความผดิ นนั้ ๆ ด้วย”

๓๑. พระราชบัญญัติประกันชวี ิต พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๑๔ ในกรณที บี่ ริษัทใดกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๘

มาตรา ๓๖ หรือมาตรา ๕๑ วรรคหน่งึ หรือแสดงขอ้ ความอันเป็นเท็จหรือปกปดิ ความจริง
ทตี่ ้องบอกใหแ้ จ้งหรอื ให้ทําคาํ ชี้แจงตามมาตรา ๔๕ ถา้ การกระทําความผิดดงั กล่าวของบรษิ ัทนัน้
เกิดจากการสงั่ การหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผ้จู ดั การ หรือบคุ คลใดซงึ่ รับผดิ ชอบ
ในการดาํ เนนิ งานของบริษทั น้ัน หรอื ในกรณที ่ีบคุ คลดงั กล่าวมีหนา้ ทีต่ อ้ งส่งั การหรอื กระทาํ การ
และละเวน้ ไมส่ ั่งการหรอื ไมก่ ระทาํ การจนเปน็ เหตุใหบ้ รษิ ทั น้ันกระทําความผิดผ้นู น้ั ตอ้ งระวางโทษ
จําคุกไม่เกินหนึง่ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนึ่งแสนบาท หรอื ทง้ั จาํ ทัง้ ปรบั ”

๓๒. พระราชบัญญตั ปิ ระกันวินาศภยั พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๐๘ ในกรณที ีบ่ รษิ ทั ใดกระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๘

มาตรา ๓๕ หรอื มาตรา ๕๗ วรรคหน่งึ หรอื แสดงข้อความอันเปน็ เท็จ หรือปกปิดความจรงิ
ท่ีต้องบอกให้แจ้งหรือให้ทําคําชี้แจงตามมาตรา ๔๙ หรือไม่หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว
ตามมาตรา ๕๒ วรรคหน่ึง ถ้าการกระทาํ ความผิดดงั กลา่ วของบริษัทน้ันเกิดจากการส่ังการหรือการกระทํา
ของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของบริษัทน้ัน หรือในกรณีท่ี
บุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้
บรษิ ัทนน้ั กระทําความผิด ผู้น้ันต้องระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ หนึง่ ปี หรอื ปรบั ไม่เกินหน่งึ แสนบาท
หรือท้งั จาํ ทั้งปรบั ”

34



๓๓. พระราชบญั ญตั ิสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๗
“มาตรา ๓๙ ในกรณีทีส่ ภากระทาํ ความผิดและถกู ลงโทษ ถา้ การกระทําความผิด

ของสภานั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการผู้ใด หรือในกรณีที่กรรมการผู้ใดมีหน้าที่
ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้สภานั้นกระทําความผิด
กรรมการผู้น้นั ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินหา้ หมนื่ บาท”

๓๔. พระราชบญั ญัติลขิ สิทธ์ิ พ.ศ. ๒๕๓๗
“มาตรา ๗๔ ในกรณีทีผ่ ้กู ระทาํ ความผดิ เป็นนติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผดิ ของนิติบคุ คลนนั้ เกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผ้นู น้ั ต้องรบั โทษตามท่ีบญั ญัตไิ วส้ าํ หรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย”

๓๕. พระราชบญั ญตั ิกองทุนบําเหนจ็ บาํ นาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙
“มาตรา ๘๙ ผู้ได้รับมอบหมายใหด้ ําเนนิ การจัดการกองทุนรายใดไม่ปฏิบตั ิ

ตามมาตรา ๘๕ ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กินหนง่ึ ล้านบาท และปรบั อีกไม่เกินวนั ละหนงึ่ แสนบาท
จนกวา่ จะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

ในกรณีท่ผี ูไ้ ด้รบั มอบหมายให้ดําเนินการจัดการกองทนุ กระทําความผิด
ตามวรรคหนงึ่ ถ้าการกระทาํ ความผดิ ของผไู้ ด้รับมอบหมายให้ดาํ เนนิ การจดั การกองทุนนัน้ เกดิ จาก
การส่ังการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ หรอื บคุ คลใดซง่ึ รับผิดชอบในการดาํ เนนิ งาน
ของผู้ได้รับมอบหมายให้ดําเนินการจัดการกองทุนนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการ
หรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับมอบหมายให้ดําเนินการ
จดั การกองทุนน้นั กระทําความผดิ ผนู้ น้ั ต้องระวางโทษจําคุกไมเ่ กนิ สามปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ
หนง่ึ ลา้ นหา้ แสนบาท หรอื ทง้ั จําทงั้ ปรับ”

๓๖. พระราชกําหนดบริษัทบรหิ ารสินทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๑
“มาตรา ๑๓ บริษทั บรหิ ารสินทรพั ย์ใดฝา่ ฝนื หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔/๑ วรรคหน่ึง

มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๑/๑ วรรคสอง หรือฝา่ ฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ติ ามหลกั เกณฑ์
หรอื คําส่ังหรอื เงือ่ นไขท่ีกําหนดตามมาตรา ๔/๑ วรรคสอง มาตรา ๕ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑
มาตรา ๑๑/๑ วรรคหน่ึง หรือมาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท และปรับอีกไม่เกิน
วันละสามพนั บาทตลอดเวลาทย่ี ังมิได้ปฏบิ ัตใิ ห้ถูกตอ้ ง

ในกรณที บี่ รษิ ทั บรหิ ารสินทรัพย์ใดกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหน่งึ ถ้าการกระทํา
ความผิดของบริษัทบริหารสินทรัพย์นั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซงึ่ รบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของบรษิ ัทบริหารสินทรัพย์นนั้ หรือในกรณที ่บี ุคคล
ดงั กลา่ วมหี น้าทตี่ ้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สัง่ การหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้
บรษิ ทั บรหิ ารสินทรัพย์น้นั กระทาํ ความผิด ผู้น้ันต้องระวางโทษจาํ คุกไม่เกินสามปี หรือปรบั
ไมเ่ กนิ สามแสนบาท หรอื ทงั้ จําท้งั ปรับ”

35



๓๗. พระราชบญั ญตั ิว่าดว้ ยราคาสนิ คา้ และบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๔๒ ในกรณีทผ่ี ้กู ระทาํ ความผดิ เปน็ นิติบุคคล ถา้ การกระทํา

ความผิดของนิติบคุ คลน้ันเกดิ จากการสั่งการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ
หรือบคุ คลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของนิตบิ คุ คลนั้น หรือในกรณที บ่ี คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผนู้ ้นั ต้องรบั โทษตามท่บี ัญญัติไว้สาํ หรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”

๓๘. พระราชบญั ญตั ิปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๖๑ นติ ิบุคคลใดกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๗ มาตรา ๘

หรือมาตรา ๙ ตอ้ งระวางโทษปรับตัง้ แตส่ องแสนบาทถงึ หน่ึงลา้ นบาท
ในกรณที ี่การกระทําความผิดตามวรรคหนึง่ ของนติ ิบคุ คลเกิดจากการสง่ั การ

หรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลน้ัน
หรือในกรณที บี่ คุ คลดงั กล่าวมหี นา้ ทตี่ อ้ งสัง่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไม่สงั่ การหรอื ไมก่ ระทาํ การ
จนเปน็ เหตใุ ห้นิตบิ ุคคลนน้ั กระทาํ ความผดิ ผนู้ ้ันต้องระวางโทษจําคุกตัง้ แต่หนง่ึ ปีถึงสิบปี
หรือปรบั ตัง้ แตส่ องหมื่นบาทถงึ สองแสนบาท หรอื ทง้ั จําทัง้ ปรบั ”

๓๙. พระราชบัญญตั มิ าตราช่ังตวงวดั พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๘๘ ในกรณีทผ่ี ู้กระทําความผดิ เป็นนติ ิบคุ คล ถ้าการกระทาํ

ความผิดของนติ ิบคุ คลนั้นเกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดําเนินงานของนิตบิ ุคคลนนั้ หรอื ในกรณีทบี่ คุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผนู้ ้นั ต้องรับโทษตามทบี่ ญั ญัติไวส้ าํ หรับความผิดนน้ั ๆ ด้วย”

๔๐. พระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุพ์ ืช พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๖๙ ในกรณที ่ผี ู้กระทําความผดิ เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซึ่งรบั ผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลนนั้ หรือในกรณที ี่บคุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผนู้ ัน้ ตอ้ งรับโทษตามท่ีบัญญตั ไิ ว้สาํ หรับความผดิ นน้ั ๆ ดว้ ย”

๔๑. พระราชบัญญตั ิคมุ้ ครองและส่งเสรมิ ภมู ิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๘๒ ในกรณที ี่ผู้กระทําความผิดเป็นนิตบิ ุคคล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนติ ิบุคคลนนั้ เกิดจากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ
หรือบุคคลใดซง่ึ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ ุคคลนัน้ หรอื ในกรณที ีบ่ ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผูน้ ้ันตอ้ งรับโทษตามทบี่ ญั ญัตไิ ว้สาํ หรบั ความผดิ น้นั ๆ ด้วย”

36

๑๐

๔๒. พระราชบัญญตั ิวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๗๔ ในกรณที ่ีผ้กู ระทําความผดิ เป็นนิติบคุ คล ถา้ การกระทํา

ความผดิ ของนิตบิ ุคคลนน้ั เกดิ จากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ ุคคลน้ัน หรือในกรณที บ่ี ุคคลดงั กล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผูน้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามทบี่ ญั ญัติไว้สาํ หรบั ความผิดนน้ั และสําหรบั นติ บิ ุคคล
ตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกินสบิ เทา่ ของอัตราโทษปรบั สําหรบั ความผดิ น้ันด้วย”

๔๓. พระราชบัญญัติควบคุมน้าํ มนั เชอ้ื เพลิง พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๗๘ ในกรณที ผ่ี ู้กระทาํ ความผิดเปน็ นติ บิ ุคคล ถา้ การกระทํา

ความผิดของนิตบิ คุ คลน้นั เกดิ จากการสงั่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ บิ คุ คลนัน้ หรือในกรณีทีบ่ คุ คลดังกล่าว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผู้น้ันตอ้ งรับโทษตามทีบ่ ญั ญตั ิไวส้ ําหรับความผิดน้นั ๆ ด้วย”

๔๔. พระราชบญั ญัติสถาปนกิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๗๔ ในกรณีทผ่ี ้กู ระทาํ ความผดิ เปน็ นติ ิบคุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนิตบิ ุคคลน้ันเกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบคุ คลน้ัน หรอื ในกรณีท่บี คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผดิ ผู้น้นั ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาํ หรับความผิดน้ัน และสําหรบั นิตบิ คุ คล
ต้องระวางโทษปรับไม่เกนิ สิบเท่าของอตั ราโทษปรับสําหรบั ความผดิ นนั้ ดว้ ย”

๔๕. พระราชบัญญตั กิ ารขดุ ดนิ และถมดนิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๔๓ ในกรณที ีผ่ ้กู ระทาํ ความผิดเปน็ นติ บิ ุคคล ถา้ การกระทํา

ความผดิ ของนติ ิบคุ คลนน้ั เกดิ จากการสงั่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ
หรอื บคุ คลใดซ่งึ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบุคคลน้ัน หรือในกรณที บี่ ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ตี ้องสั่งการหรอื กระทาํ การและละเวน้ ไม่สั่งการหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นติ ิบุคคลน้นั กระทําความผดิ ผนู้ น้ั ต้องรบั โทษตามทบ่ี ญั ญัติไว้สําหรบั ความผิดนั้น ๆ ด้วย”

๔๖. พระราชบัญญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๔๐ ในกรณที ี่ผูก้ ระทาํ ความผิดเปน็ นิติบคุ คล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนติ ิบุคคลนน้ั เกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ดั การ
หรือบคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ คุ คลน้ัน หรือในกรณที ่บี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผู้นนั้ ตอ้ งรบั โทษตามทบ่ี ญั ญัตไิ วส้ าํ หรับความผิดน้ัน ๆ ด้วย”

37

๑๑

๔๗. พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแบบผงั ภูมิของวงจรรวม พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๕๒ ในกรณที ีผ่ ูก้ ระทาํ ความผิดเป็นนิติบคุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผดิ ของนิตบิ ุคคลนัน้ เกดิ จากการส่งั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ดั การ
หรอื บคุ คลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลนัน้ หรอื ในกรณีทบี่ คุ คลดังกล่าว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามทบ่ี ญั ญตั ไิ วส้ ําหรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย”

๔๘. พระราชบัญญัติการจัดสรรทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๖๖ ในกรณที ี่ผู้กระทาํ ความผิดเป็นนิตบิ ุคคล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนติ ิบคุ คลนั้นเกิดจากการส่งั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผ้จู ดั การ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบุคคลน้นั หรอื ในกรณีท่บี คุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผนู้ ัน้ ตอ้ งรบั โทษตามทบี่ ัญญตั ไิ วส้ าํ หรับความผดิ นน้ั ๆ ด้วย”

๔๙. พระราชบัญญัตกิ ารจัดการหุ้นส่วนและหนุ้ ของรฐั มนตรี พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๑๘ ในกรณีทผ่ี ้กู ระทาํ ความผิดเปน็ นิตบิ ุคคล ถ้าการกระทาํ

ความผดิ ของนติ ิบคุ คลนนั้ เกดิ จากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผูจ้ ดั การ
หรอื บคุ คลใดซงึ่ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ บิ คุ คลน้ัน หรือในกรณที ีบ่ คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผูน้ ้ันต้องรบั โทษตามท่บี ัญญตั ไิ วส้ ําหรบั ความผิดน้ัน ๆ ด้วย”

๕๐. พระราชบัญญัตกิ ารค้านํา้ มนั เชือ้ เพลงิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๖๐ ในกรณที ีผ่ ู้กระทําความผิดเป็นนิตบิ คุ คล ถ้าการกระทํา

ความผิดของนติ บิ ุคคลน้ันเกดิ จากการสั่งการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิติบุคคลนัน้ หรอื ในกรณที ่ีบุคคลดังกล่าว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผนู้ ้นั ตอ้ งรบั โทษตามทบี่ ญั ญัตไิ วส้ าํ หรับความผิดนนั้ ๆ ดว้ ย”

๕๑. พระราชบญั ญัติการรถไฟฟ้าขนสง่ มวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๘๖ ในกรณที ่ีผู้กระทาํ ความผดิ เปน็ นิติบคุ คล ถ้าการกระทํา

ความผิดของนิตบิ ุคคลนั้นเกดิ จากการสัง่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดําเนินงานของนติ ิบคุ คลนน้ั หรือในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผนู้ ั้นตอ้ งรับโทษตามทบี่ ญั ญตั ิไว้สําหรับความผดิ นั้น ๆ ดว้ ย”

38

๑๒

๕๒. พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔
“มาตรา ๔๑ ในกรณีทผี่ ้กู ระทาํ ความผดิ เป็นนิตบิ คุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนติ ิบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนติ ิบคุ คลน้ัน หรอื ในกรณีทบี่ ุคคลดังกลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผูน้ ัน้ ต้องรบั โทษตามทบี่ ญั ญัตไิ ว้สําหรับความผิดน้ัน ๆ ดว้ ย”

๕๓. พระราชบญั ญัตกิ ารประกอบกจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
“มาตรา ๗๘ ในกรณีทีผ่ กู้ ระทาํ ความผิดเปน็ นิติบุคคล ถ้าการกระทํา

ความผิดของนิตบิ ุคคลนนั้ เกิดจากการส่งั การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลนัน้ หรอื ในกรณีทบ่ี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามทบ่ี ญั ญัติไว้สําหรบั ความผิดนัน้ ๆ ด้วย”

๕๔. พระราชบญั ญัติวา่ ด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
“มาตรา ๔๖ ในกรณที ่ผี กู้ ระทาํ ความผดิ เป็นนติ ิบคุ คล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนิตบิ คุ คลน้ันเกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซงึ่ รับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ ิบุคคลนนั้ หรอื ในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผู้นัน้ ต้องรบั โทษตามท่ีบญั ญัติไว้สาํ หรบั ความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”

๕๕. พระราชบัญญตั กิ ารฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๔๕
“มาตรา ๖๔ ในกรณที ่สี มาคมฌาปนกจิ สงเคราะหไ์ ม่ปฏิบัตติ ามมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง

มาตรา ๑๗ มาตรา ๒๐ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ หรือมาตรา ๓๙ หรือฝ่าฝืนมาตรา ๓๐
หรือมาตรา ๓๑ ถา้ การกระทาํ ความผิดของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์น้นั เกิดจากการสัง่ การ
หรือการกระทําของกรรมการผู้ใด หรือในกรณีที่กรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการ
และละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นกระทําความผิด
กรรมการผ้นู ั้นตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หน่งึ หมน่ื บาท”

๕๖. พระราชบญั ญัตสิ ญั ญาซือ้ ขายล่วงหน้า พ.ศ. ๒๕๔๖
“มาตรา ๑๓๕ ในกรณที ผ่ี ูก้ ระทาํ ความผิดตามมาตรา ๑๒๖ มาตรา ๑๒๗

มาตรา ๑๒๘ มาตรา ๑๒๙ มาตรา ๑๓๐ มาตรา ๑๓๑ มาตรา ๑๓๓ หรือมาตรา ๑๓๘ เปน็ นิติบคุ คล
ถา้ การกระทาํ ความผดิ ของนิตบิ คุ คลนนั้ เกดิ จากการสง่ั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบุคคลนน้ั หรือในกรณีท่บี ุคคลดังกลา่ วมีหนา้ ที่
ต้องสง่ั การหรือกระทาํ การและละเว้นไม่สัง่ การหรอื ไม่กระทาํ การจนเป็นเหตุให้นิตบิ ุคคลน้ัน
กระทําความผิด ผู้น้ันต้องรับโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตามท่ีบัญญัติไว้สําหรับความผิดน้ัน ๆ
หรือทั้งจําท้งั ปรับ”

39

๑๓

๕๗. พระราชบัญญัติสถาบนั อุดมศกึ ษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖
“มาตรา ๑๑๕ สถาบันอุดมศกึ ษาเอกชนใดไมป่ ฏิบัติตามมาตรา ๗๔

หรือมาตรา ๗๕ ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กินหนง่ึ ล้านบาท
ในกรณที ีส่ ถาบนั อดุ มศึกษาเอกชนใดกระทําความผดิ ตามมาตรา ๗๔

หรอื มาตรา ๗๕ ถา้ การกระทําความผดิ ของสถาบนั อดุ มศึกษาเอกชนนั้นเกดิ จากการสัง่ การ
หรอื การกระทาํ ของกรรมการสภาสถาบัน อธกิ ารบดี หรอื บุคคลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งาน
ของสถาบนั อดุ มศึกษาเอกชนนน้ั หรอื ในกรณที ีบ่ คุ คลดังกลา่ วมหี นา้ ที่ตอ้ งส่งั การหรอื กระทาํ การ
และละเว้นไมส่ ง่ั การหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตใุ หส้ ถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชนน้นั กระทําความผดิ
ผูน้ ้นั ต้องรบั โทษตามท่บี ัญญัติไว้สาํ หรับความผิดนนั้ ๆ ดว้ ย”

๕๘. พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองส่งิ บง่ ช้ีทางภมู ิศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๔๖
“มาตรา ๔๒ ในกรณีที่ผกู้ ระทําความผิดเป็นนติ ิบุคคล ถา้ การกระทํา

ความผิดของนิติบุคคลนนั้ เกดิ จากการสงั่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ
หรอื บคุ คลใดซงึ่ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลนัน้ หรือในกรณีท่บี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผู้นั้นตอ้ งรับโทษตามทบ่ี ญั ญตั ิไว้สาํ หรบั ความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”

๕๙. พระราชบัญญตั ิวชิ าชพี บัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗
“มาตรา ๗๒ ในกรณที ีผ่ ้กู ระทาํ ความผิดเป็นนิตบิ ุคคล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนิตบิ ุคคลนั้นเกดิ จากการสัง่ การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรอื บคุ คลใดซึง่ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ บิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณีท่ีบุคคลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผูน้ ้นั ต้องรบั โทษตามท่ีบัญญัติไว้สําหรบั ความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”

๖๐. พระราชบญั ญัติการผลติ ผลิตภณั ฑซ์ ีดี พ.ศ. ๒๕๔๘
“มาตรา ๓๖ ในกรณีที่ผู้กระทาํ ความผิดเปน็ นติ บิ ุคคล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนิตบิ ุคคลน้นั เกิดจากการส่งั การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซึง่ รับผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณีทีบ่ คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผ้นู น้ั ต้องรบั โทษตามทีบ่ ญั ญตั ไิ ว้สาํ หรับความผดิ นนั้ ๆ ดว้ ย”

๖๑. พระราชบัญญตั ิการขนส่งตอ่ เนอ่ื งหลายรูปแบบ พ.ศ. ๒๕๔๘
“มาตรา ๗๗ ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดซึ่งต้องรับโทษตามมาตรา ๗๐ หรือมาตรา ๗๑

เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ
หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลน้ัน หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผู้น้ันต้องรับโทษตามท่บี ัญญัตไิ วส้ ําหรับความผดิ นั้น ๆ ด้วย”

40

๑๔

๖๒. พระราชบญั ญตั โิ รงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๖๐ ในกรณีทผ่ี ้รู บั ใบอนุญาตหรือผ้รู บั อนญุ าตตามมาตรา ๓๓

ซ่งึ เป็นนิติบุคคลกระทําความผิด ถ้าการกระทําความผดิ ของนิตบิ ุคคลนน้ั เกิดจากการส่งั การ
หรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ หรอื บคุ คลใดซึ่งรบั ผิดชอบในการดําเนนิ งาน
ของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการ
หรอื ไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุใหน้ ิติบุคคลน้ันกระทําความผิด ผู้นนั้ ต้องรับโทษตามทบ่ี ญั ญัติไว้
สําหรบั ความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”

๖๓. พระราชบญั ญัติการประกอบกิจการพลงั งาน พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๑๔๑ ในกรณีที่ผกู้ ระทาํ ความผดิ เปน็ นิติบุคคล ถา้ การกระทํา

ความผิดของนิตบิ คุ คลนน้ั เกิดจากการส่งั การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิติบคุ คลน้ัน หรือในกรณีที่บคุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผดิ ผู้น้นั ต้องรบั โทษตามทบี่ ัญญัติไว้สาํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”

๖๔. พระราชบญั ญตั โิ รงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๑๕๓ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลกระทําความผิดและถูกลงโทษ

ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลน้ันเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซ่งึ รับผดิ ชอบในการดําเนินงานของนิติบคุ คลน้ันหรือในกรณที บ่ี คุ คลดงั กล่าวมีหนา้ ที่
ต้องสง่ั การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ั่งการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้นติ บิ คุ คลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผนู้ ัน้ ต้องรบั โทษตามทบี่ ญั ญตั ไิ ว้สาํ หรับความผิดนน้ั ๆ ดว้ ย”

๖๕. พระราชบัญญตั ทิ รสั ต์เพ่ือธุรกรรมในตลาดทนุ พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๘๐ ผใู้ ดให้ถ้อยคําอันเปน็ เท็จตอ่ พนักงานเจ้าหนา้ ที่ ซง่ึ ความเท็จน้นั

เป็นขอ้ สําคัญในการตรวจสอบหรือการดําเนินการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ต้องระวางโทษจาํ คกุ
ไม่เกินหนึ่งปี หรอื ปรบั ไม่เกินหนึง่ แสนบาท หรือท้งั จาํ ทัง้ ปรับ

ในกรณที ผ่ี ูใ้ หถ้ อ้ ยคาํ อนั เปน็ เท็จต่อพนกั งานเจ้าหนา้ ทต่ี ามวรรคหน่ึงเปน็ ทรัสตี
ถ้าการกระทําความผิดของทรัสตีนั้นเกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของทรสั ตีนน้ั หรอื ในกรณที ่บี ุคคลดังกลา่ วมีหน้าท่ี
ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้ทรัสตีนั้นกระทําความผิด
ผู้น้นั ต้องระวางโทษจาํ คุกไม่เกินสองปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาท หรือท้ังจําท้งั ปรบั ”

๖๖. พระราชบญั ญตั อิ งคก์ ารกระจายเสียงและแพรภ่ าพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๕๔ ในกรณีท่ีผกู้ ระทําความผิดเป็นนติ บิ คุ คล ถ้าการกระทํา

ความผิดของนติ บิ ุคคลนัน้ เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผ้จู ัดการ
หรือบคุ คลใดซึง่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลนัน้ หรอื ในกรณที ่บี ุคคลดังกล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผูน้ นั้ ตอ้ งรบั โทษตามท่ีบัญญัตไิ ว้สาํ หรับความผิดน้นั ๆ ด้วย”

41

๑๕

๖๗. พระราชบัญญตั ิธรุ กิจสถาบนั การเงนิ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๑๓๒ ในกรณีท่ีผกู้ ระทําความผิดตามมาตรา ๑๒๑ หรอื มาตรา ๑๒๓

เป็นนิตบิ ุคคล ถ้าการกระทาํ ความผดิ ของนิติบคุ คลนนั้ เกดิ จากการสัง่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ
หรอื ผู้จดั การ หรอื ผมู้ ีอํานาจในการจดั การของนิติบคุ คล หรอื บุคคลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดําเนินงาน
ของนติ บิ คุ คลน้ัน หรือในกรณที ี่บคุ คลดงั กล่าวมีหน้าที่ตอ้ งส่ังการหรือกระทําการและละเวน้ ไมส่ ่ังการ
หรือไม่กระทาํ การจนเป็นเหตใุ หน้ ติ ิบุคคลนั้นกระทาํ ความผดิ ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามท่ีบญั ญตั ไิ ว้สําหรับ
ความผิดน้นั ๆ ดว้ ย

ภายใต้บังคับมาตรา ๑๓๙ ในกรณีที่สถาบันการเงินกระทําความผิดตามมาตรา ๑๒๒
มาตรา ๑๒๔ มาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา ๑๒๘ ถ้าการกระทําความผดิ ของสถาบันการเงินนั้น
เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ หรือผู้มีอํานาจในการจัดการของ
สถาบันการเงิน หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของสถาบันการเงินน้ัน หรือในกรณีท่ี
บุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้
สถาบนั การเงินน้ันกระทาํ ความผดิ ผ้นู ้นั ต้องรบั โทษตามทบ่ี ญั ญตั ิไว้สาํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ด้วย”

“มาตรา ๑๓๙ ในกรณีท่ีสถาบันการเงินใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๖ มาตรา ๕๐
มาตรา ๖๖ มาตรา ๘๐ มาตรา ๙๓ มาตรา ๙๔ หรือมาตรา ๙๕ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
ประกาศ ข้อกําหนด หลักเกณฑ์ หรือคําสั่งที่กําหนดตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง
มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๖ มาตรา ๕๐ มาตรา ๖๖ มาตรา ๗๑ มาตรา ๘๐ มาตรา ๙๐ หรือมาตรา ๙๕
ถา้ การกระทําความผิดของสถาบนั การเงินนน้ั เกดิ จากการสงั่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ
หรือผู้จัดการ หรือผู้มีอํานาจในการจัดการของสถาบันการเงิน หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการ
ดําเนินงานของสถาบันการเงนิ นน้ั หรือในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กลา่ วมีหนา้ ท่ตี ้องสั่งการหรอื กระทาํ การ
และละเว้นไมส่ ั่งการหรือไม่กระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้สถาบันการเงนิ นัน้ กระทาํ ความผิด
ผู้นนั้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกนิ หนง่ึ ปี หรอื ปรบั ตัง้ แตห่ ้าแสนบาทถงึ หนง่ึ ล้านบาท หรอื ทงั้ จําทง้ั ปรับ”

๖๘. พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองซากดึกดําบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๖๒ ในกรณที ผี่ ้กู ระทําความผิดเป็นนิติบคุ คลและถกู ลงโทษ

ถ้าการกระทําความผิดของนิตบิ ุคคลน้ันเกิดจากการสัง่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ
หรอื ผ้จู ัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิตบิ คุ คลนน้ั หรือในกรณีท่ี
บุคคลดงั กลา่ วมีหน้าทต่ี ้องสงั่ การหรอื กระทําการและละเวน้ ไมส่ ั่งการหรอื ไม่กระทําการจนเป็นเหตใุ ห้
นิติบคุ คลนน้ั กระทาํ ความผิด ผนู้ ้ันต้องรับโทษตามทบ่ี ัญญตั ิไวส้ าํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ด้วย”

๖๙. พระราชบัญญัติสถาบนั ค้มุ ครองเงนิ ฝาก พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๖๕ ผู้ใดนอกจากสถาบันการเงิน ใช้ข้อความ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์

เพื่อแสดงวา่ ธรุ กิจของตนเป็นสถาบนั การเงินทเี่ งนิ ฝากได้รับการคมุ้ ครองตามพระราชบัญญัตินี้
ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ สองปี หรอื ปรับไม่เกนิ สองแสนบาทหรอื ทั้งจําทั้งปรับ และปรับอกี ไม่เกนิ
วันละห้าพันบาทตลอดเวลาท่ยี งั ฝา่ ฝืน

ในกรณที ่ีผู้กระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ เปน็ นิติบคุ คล ถ้าการกระทําความผดิ
ของนิตบิ ุคคลน้ันเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบคุ คลใด
ซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ บิ คุ คลนั้น หรือในกรณที ่ีบุคคลดังกล่าวมีหนา้ ท่ีต้องส่ังการ
หรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทาํ การจนเปน็ เหตุให้นติ ิบุคคลนั้นกระทาํ ความผิด
ผู้น้นั ต้องรับโทษตามทบ่ี ัญญัติไว้สาํ หรับความผิดนน้ั ๆ ด้วย

42

๑๖

มาตรา ๖๖ สถาบันการเงินใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๐ ต้องระวางโทษ
ปรบั ไมเ่ กินหา้ แสนบาท และปรบั อีกไม่เกนิ วันละห้าพนั บาทตลอดเวลาท่ยี ังฝา่ ฝนื

ในกรณที ี่การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนึง่ เกิดจากการส่งั การหรอื การกระทาํ
ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ หรอื บุคคลใดซึง่ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของสถาบันการเงนิ นนั้
หรือในกรณีที่บคุ คลดังกลา่ วมหี น้าที่ต้องสง่ั การหรอื กระทาํ การและละเว้นไม่ส่ังการหรอื ไม่กระทาํ การ
จนเปน็ เหตุให้สถาบันการเงินน้นั กระทําความผิด ผนู้ ้ันต้องรบั โทษตามทีบ่ ัญญัตไิ วใ้ นวรรคหน่งึ ด้วย”

๗๐. พระราชบัญญตั ิการดแู ลผลประโยชน์ของคสู่ ญั ญา พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๕๐ ในกรณีท่ีผู้กระทําความผิดในส่วนท่ี ๒ นี้ ยกเว้นมาตรา ๔๘ เป็นนิติบุคคล

ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลน้ันเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลน้นั หรอื ในกรณที ีบ่ ุคคลดงั กล่าวมีหน้าท่ี
ต้องสง่ั การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ ง่ั การหรอื ไม่กระทําการจนเปน็ เหตุใหน้ ติ ิบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผ้นู ัน้ ต้องรับโทษตามทบ่ี ัญญตั ิไว้สาํ หรับความผดิ น้นั ๆ ด้วย”

๗๑. พระราชบัญญัตมิ าตรฐานสนิ ค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๗๖ ในกรณที ่ผี กู้ ระทําความผิดเป็นนิตบิ คุ คล ถ้าการกระทํา

ความผดิ ของนิติบคุ คลนัน้ เกดิ จากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ ุคคลนน้ั หรือในกรณีทีบ่ คุ คลดังกล่าว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผูน้ ั้นต้องรบั โทษตามที่บัญญัติไวส้ าํ หรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย”

๗๒. พระราชบัญญตั ิการมาตรฐานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๕๘ ในกรณีท่ีผู้กระทําความผดิ เปน็ นติ ิบุคคล ถา้ การกระทํา

ความผิดของนติ ิบคุ คลนั้นเกิดจากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บคุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผดิ ผนู้ น้ั ต้องรบั โทษตามท่ีบญั ญตั ิไวส้ าํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ด้วย”

๗๓. พระราชบญั ญตั ิภาพยนตรแ์ ละวีดทิ ัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๘๕ ในกรณีทีผ่ กู้ ระทําความผดิ ซ่ึงต้องรับโทษอาญาตามสว่ นนี้

เป็นนิตบิ คุ คล ถา้ การกระทาํ ความผดิ ของนิตบิ ุคคลนั้นเกดิ จากการส่งั การหรือการกระทาํ
ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ หรอื บุคคลใดซ่ึงรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ บิ ุคคลน้นั
หรือในกรณที ีบ่ ุคคลดังกล่าวมหี นา้ ทีต่ ้องส่งั การหรอื กระทําการและละเว้นไมส่ ง่ั การหรือไมก่ ระทําการ
จนเปน็ เหตใุ หน้ ิตบิ ุคคลนั้นกระทาํ ความผดิ ผนู้ ้ันต้องรับโทษตามท่บี ัญญัตไิ ว้สาํ หรบั ความผดิ
น้ัน ๆ ดว้ ย”

43

๑๗

๗๔. พระราชบัญญัตเิ ครอื่ งมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๑๒๒ ในกรณีท่ผี ้กู ระทาํ ความผิดเปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผิดของนติ บิ คุ คลนัน้ เกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ
หรอื บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ คุ คลนั้น หรอื ในกรณที บ่ี ุคคลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผูน้ นั้ ต้องรบั โทษตามทีบ่ ญั ญัตไิ ว้สําหรบั ความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”

๗๕. พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองผรู้ ับงานไปทําท่บี ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓
“มาตรา ๔๘ ในกรณที ่ผี ู้กระทาํ ความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ

ความผดิ ของนิติบุคคลนัน้ เกดิ จากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณที บ่ี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผูน้ ้ันต้องรับโทษตามที่บัญญตั ิไว้สาํ หรับความผดิ นั้น ๆ ด้วย”

๗๖. พระราชบัญญัตกิ องทนุ การออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔
“มาตรา ๖๒ ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนรายใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๕๗

วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหน่ึงแสนห้าหม่ืนบาท
จนกว่าจะได้ปฏบิ ตั ใิ ห้ถูกต้อง

ในกรณที ีก่ ารกระทําความผดิ ตามวรรคหนงึ่ เกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ
ของกรรมการ หรือผ้จู ัดการ หรอื บคุ คลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของผ้ไู ด้รบั มอบหมาย
ใหจ้ ดั การเงินของกองทนุ นนั้ หรอื ในกรณีทบ่ี ุคคลดงั กลา่ วมีหนา้ ท่ตี ้องสง่ั การหรอื กระทําการ
และละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนนั้น
กระทําความผดิ ผูน้ ้ันต้องระวางโทษจําคุกไมเ่ กินสามปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ สองล้านบาท หรอื ทงั้ จําท้งั ปรบั ”

44

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๑๘ ก หน้า ๖ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคําวินิจฉัยว่า
พระราชบญั ญัตขิ ายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕๔ เฉพาะในส่วนท่ีสันนิษฐานให้กรรมการผู้จัดการ
ผูจ้ ัดการ หรือบคุ คลใดซ่งึ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลน้ัน ต้องรับโทษทางอาญาร่วมกับการกระทํา
ความผิดของนิติบุคคล โดยไม่ปรากฏว่ามีการกระทําหรือเจตนาประการใดอันเกี่ยวกับการกระทําความผิดของ
นิติบุคคลน้ัน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๙ วรรคสอง
เป็นอันใช้บังคับไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ และต่อมา
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคําวินิจฉัยในลักษณะดังกล่าวทํานองเดียวกัน คือ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
มาตรา ๗๔ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๗๘ พระราชบัญญัติ
สถานบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๘/๔ และพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๗๒/๕ ขัดหรือแย้งต่อ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๙ วรรคสอง เป็นอันใช้บังคับไม่ได้
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ ดังน้ัน เพื่อแก้ไขบทบัญญัติของ
กฎหมายดงั กล่าวและกฎหมายอ่ืนที่มบี ทบัญญตั ใิ นลกั ษณะเดียวกนั มิให้ขัดหรอื แยง้ ตอ่ รัฐธรรมนูญ จึงจําเป็นต้อง
ตราพระราชบัญญัตนิ ้ี

‡≈¡à ÒÒ¯ µÕπ∑’Ë ÒÒ ° 45 ı 惻®°‘ “¬π ÚıÙÙ

Àπâ“ 5
√“™°®‘ ®“π‡ÿ ∫°…“

°Æ°√–∑√«ß

°”Àπ¥Õµ— √“§à“∏√√¡‡π’¬¡ ”À√—∫ºŸâª√–°Õ∫«™‘ “™’æ«»‘ «°√√¡§«∫§ÿ¡
æ.». ÚıÙÙ

Õ“»¬— Õ”π“®µ“¡§«“¡„π¡“µ√“ ı ·Àßà æ√–√“™∫≠— ≠µ— «‘ »‘ «°√ æ.». ÚıÙÚ Õπ— ‡ªπì æ√–√“™

∫≠— ≠µ— ∑‘ ¡Ë’ ∫’ ∑∫≠— ≠µ— ∫‘ “ߪ√–°“√‡°¬Ë’ «°∫— °“√®”°¥—  ∑‘ ∏·‘ ≈–‡ √¿’ “æ¢Õß∫§ÿ §≈ ´ßË÷ ¡“µ√“ Ú˘ ª√–°Õ∫°∫—

¡“µ√“ Û˘ ·≈–¡“µ√“ ı ¢Õß√∞— ∏√√¡π≠Ÿ ·Àßà √“™Õ“≥“®°— √‰∑¬ ∫≠— ≠µ— „‘ À°â √–∑”‰¥‚â ¥¬Õ“»¬— Õ”π“®

µ“¡∫∑∫≠— ≠—µ·‘ Ààß°ÆÀ¡“¬ √—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß¡À“¥‰∑¬ÕÕ°°Æ°√–∑√«ß‰«â ¥—ßµàÕ‰ªπ’È

„À°â ”Àπ¥§à“∏√√¡‡π’¬¡ ¥—ßµÕà ‰ªπÈ’

(Ò) §à“„∫Õπ≠ÿ “µ‡ªìπºªâŸ √–°Õ∫«‘™“™æ’ «»‘ «°√√¡§«∫§¡ÿ

∫ÿ§§≈∏√√¡¥“

(°) √–¥∫— «ÿ≤‘«»‘ «°√ ©∫—∫≈– ı, ∫“∑

(¢) √–¥—∫ “¡—≠«»‘ «°√ ©∫—∫≈– Û,ı ∫“∑

(§) √–¥—∫¿“§’«‘»«°√ ©∫—∫≈– Ò, ∫“∑

(ß) √–¥—∫¿“§«’ ‘»«°√摇»… ©∫∫— ≈– Ò, ∫“∑

𵑠‘∫ÿ§§≈

§“à „∫Õπÿ≠“µπ‘µ‘∫§ÿ §≈ ©∫—∫≈– Ò, ∫“∑

(Ú) §à“µàÕÕ“¬ÿ„∫Õπÿ≠“µ‡ªìπºŸâª√–°Õ∫«‘™“™’æ«‘»«°√√¡§«∫§ÿ¡∑Ë’¢ÕµàÕÕ“¬ÿ„∫Õπÿ≠“µ°àÕπ

„∫Õπÿ≠“µÀ¡¥Õ“¬ÿ

∫§ÿ §≈∏√√¡¥“

(°) √–¥∫— «≤ÿ ‘«»‘ «°√ ©∫∫— ≈– Ò,ı ∫“∑

(¢) √–¥∫—  “¡≠— «»‘ «°√ ©∫∫— ≈– Ò, ∫“∑

46

‡≈à¡ ÒÒ¯ µÕπ∑’Ë ÒÒ ° Àπ“â 6 ı 惻®°‘ “¬π ÚıÙÙ
√“™°®‘ ®“π‡ÿ ∫°…“

(§) √–¥—∫¿“§«’ ‘»«°√ ©∫∫— ≈– ı ∫“∑

(ß) √–¥—∫¿“§«’ »‘ «°√懑 »… ©∫—∫≈– ı ∫“∑

 ”À√∫— ºâŸ∑¢’Ë ÕµàÕÕ“¬ÿ„∫Õπÿ≠“µÀ≈ß— ®“°„∫Õπÿ≠“µÀ¡¥Õ“¬ÿ

„À‡â æ¡‘Ë Õ—µ√“§à“∏√√¡‡π’¬¡ ©∫∫— ≈– Ú, ∫“∑

𑵑∫ÿ§§≈

(°) §“à µÕà „∫Õπÿ≠“µπµ‘ ‘∫ÿ§§≈∑’¢Ë ÕµÕà Õ“¬ÿ„∫Õπ≠ÿ “µ

°àÕπ„∫Õπ≠ÿ “µÀ¡¥Õ“¬ÿ ©∫∫— ≈– Û, ∫“∑

(¢) §“à µÕà „∫Õπ≠ÿ “µπ‘µ∫‘ ÿ§§≈∑¢Ë’ ÕµÕà Õ“¬ÿ„∫Õπ≠ÿ “µ

À≈—ß®“°„∫Õπÿ≠“µÀ¡¥Õ“¬ÿ ©∫∫— ≈– ı, ∫“∑

(Û) §“à Àπß—  Õ◊ √∫— √Õß§«“¡√§âŸ «“¡™”π“≠„π°“√ª√–°Õ∫«‘™“™’æ

«‘»«°√√¡§«∫§ÿ¡ ©∫—∫≈– ı, ∫“∑

(Ù) §à“„∫·∑π„∫Õπ≠ÿ “µÀ√◊ÕÀ≈°— ∞“π√∫— √Õß°“√‰¥√â ∫— „∫Õπ≠ÿ “µ

∫§ÿ §≈∏√√¡¥“ ©∫—∫≈– ı ∫“∑

𵑠∫‘ §ÿ §≈ ©∫∫— ≈– ı, ∫“∑

(ı) §“à ∑¥ Õ∫§«“¡√⟄π°“√ª√–°Õ∫«‘™“™æ’ «‘»«°√√¡§«∫§¡ÿ

§√—ßÈ ≈– Ò,ı ∫“∑

„À‰â «â ≥ «π— ∑’Ë Ú˘ µÿ≈“§¡ æ.». ÚıÙÙ
√âÕ¬µ”√«®‡Õ° ª√ÿ –™¬— ‡ªï¬ò ¡ ¡∫Ÿ√≥å
√—∞¡πµ√’«“à °“√°√–∑√«ß¡À“¥‰∑¬

47

‡≈à¡ ÒÒ¯ µÕπ∑Ë’ ÒÒ ° Àπâ“ 7 ı 惻®°‘ “¬π ÚıÙÙ
√“™°‘®®“π‡ÿ ∫°…“

À¡“¬‡Àµÿ :- ‡Àµÿº≈„π°“√ª√–°“»„™â°Æ°√–∑√«ß©∫—∫πÈ’ §◊Õ ‡πË◊Õß®“°Õ—µ√“§à“∏√√¡‡π’¬¡‡¥‘¡∑’˰”Àπ¥‰«âµ“¡
°Æ°√–∑√«ß∑ÕË’ Õ°‚¥¬Õ“»¬— Õ”π“®µ“¡æ√–√“™∫≠— ≠µ— «‘ ™‘ “™æ’ «»‘ «°√√¡ æ.». Úıı ´ß÷Ë ∂°Ÿ ¬°‡≈°‘ ‰ª·≈«â ·µ¬à ß— ¡’
º≈„™â∫—ß§—∫Õ¬Ÿàµ“¡∫∑‡©æ“–°“≈¢Õßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘«‘»«°√ æ.». ÚıÙÚ ‰¡à‡À¡“– ¡°—∫ ∂“π°“√≥å„πªí®®ÿ∫—π
·≈–‚¥¬∑’Ë¡“µ√“ ı ·Ààßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘«‘»«°√ æ.». ÚıÙÚ °”Àπ¥„Àâ√—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß¡À“¥‰∑¬ÕÕ°
°Æ°√–∑√«ß°”Àπ¥Õ—µ√“§“à ∏√√¡‡π’¬¡‰¡‡à °π‘ Õµ— √“∑“â ¬æ√–√“™∫—≠≠µ— ¥‘ —ß°≈“à « ®ß÷ ®”‡ªìπµâÕßÕÕ°°Æ°√–∑√«ßπÈ’

เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๘๖ ก 48 ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐

หนา ๔
ราชกิจจานเุ บกษา

กฎกระทรวง

กําหนดสาขาวชิ าชีพวิศวกรรมและวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ
พ.ศ. ๒๕๕๐

อาศัยอาํ นาจตามความในบทนยิ ามคาํ วา “วชิ าชีพวศิ วกรรม” และ “วิชาชพี วิศวกรรมควบคุม”
ในมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒ อนั เปน กฎหมายท่มี ีบทบัญญัติ
บางประการเกีย่ วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และ
มาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตาม
บทบญั ญตั แิ หง กฎหมาย รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดงั ตอไปน้ี

ขอ ๑ ใหกําหนดเพมิ่ เตมิ สาขาวศิ วกรรมดงั ตอ ไปน้ีเปนวิชาชพี วิศวกรรม
(๑) วิศวกรรมส่ิงแวดลอม
(๒) วศิ วกรรมเคมี
ขอ ๒ ใหว ิชาชพี วศิ วกรรมในสาขาดงั ตอไปน้ีเปน วชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุม
(๑) วศิ วกรรมโยธา
(๒) วิศวกรรมเหมอื งแร
(๓) วศิ วกรรมเครอื่ งกล
(๔) วิศวกรรมไฟฟา
(๕) วศิ วกรรมอุตสาหการ
(๖) วศิ วกรรมสิง่ แวดลอ ม
(๗) วิศวกรรมเคมี

49

เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก หนา ๕ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
ราชกจิ จานเุ บกษา

ทั้งนี้ เฉพาะงานตามประเภทและขนาดของวิชาชีพวิศวกรรมแตละสาขาที่กําหนดไวใน
กฎกระทรวงนี้

ขอ ๓ งานในวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุมแตล ะสาขา มีดังตอ ไปน้ี
(๑) งานใหค าํ ปรึกษา หมายถงึ การใหขอ แนะนาํ การตรวจวนิ ิจฉยั หรอื การตรวจรบั รองงาน
(๒) งานวางโครงการ หมายถึง การศึกษา การวิเคราะหหาทางเลือกที่เหมาะสม หรือ
การวางแผนของโครงการ
(๓) งานออกแบบและคํานวณ หมายถึง การใชหลักวิชาและความชํานาญเพื่อใหไดมาซ่ึง
รายละเอียดในการกอสราง การสราง การผลิต หรือการวางผังโรงงานและเครื่องจักร โดยมีรายการ
คํานวณ แสดงเปนรูป แบบ ขอกําหนด หรือประมาณการ
(๔) งานควบคุมการสรางหรือการผลิต หมายถึง การอํานวยการควบคุม หรือการควบคุม
เก่ียวกับการกอสราง การสราง การผลิต การติดต้ัง การซอม การดัดแปลง การรื้อถอนงาน หรือ
การเคลือ่ นยา ยงานใหเปนไปโดยถูกตอ งตามรูป แบบ และขอกาํ หนดของหลกั วิชาชีพวศิ วกรรม
(๕) งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การคน ควา การวิเคราะห การทดสอบ การหาขอมูล
และสถิตติ าง ๆ เพื่อใชเปนหลักเกณฑ หรือประกอบการตรวจสอบวนิ ิจฉัยงาน หรือในการสอบทาน
(๖) งานอํานวยการใช หมายถึง การอํานวยการดูแลการใช การบํารุงรักษางาน ทั้งที่เปน
ชนิ้ งานหรอื ระบบ ใหเ ปน ไปโดยถูกตอ งตามรปู แบบ และขอกาํ หนดของหลักวิชาชพี วิศวกรรม
ขอ ๔ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมโยธา
มีดังตอไปน้ี
(๑) อาคารทีม่ ีความสงู ตงั้ แต ๓ ชัน้ ข้นึ ไป หรอื โครงสรางของอาคารทชี่ ั้นใดช้ันหน่งึ มีความสูง
ตงั้ แต ๔ เมตรขึ้นไป หรอื อาคารทีม่ ชี ว งคานต้ังแต ๕ เมตรข้นึ ไป
(๒) อาคารสาธารณะทุกขนาด
(๓) คลังสินคา ไซโล หองเย็น หรอื ยุง ฉางที่มีความจตุ ัง้ แต ๑๐๐ ลูกบาศกเมตรขน้ึ ไป
(๔) โครงสรางที่มีลักษณะเปนหอ ปลอง หรือศาสนวัตถุ เชน พระพุทธรูปหรือเจดียท่ีมี
ความสูงตัง้ แต ๖ เมตรข้ึนไป
(๕) โครงสรางสะพานที่มีชวงระหวางศูนยกลางตอมอชวงใดชวงหนึ่งยาวต้ังแต ๑๐ เมตร
ขึ้นไป
(๖) ทาเทยี บเรอื หรอื อเู รือสาํ หรับเรอื ที่มรี ะวางขบั น้ําตง้ั แต ๕๐ เมตรกิ ตันข้ึนไป

เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก 50 ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐

หนา ๖
ราชกจิ จานุเบกษา

(๗) ชิ้นสว นโครงสรา งคอนกรีตหลอ สําเร็จหรอื คอนกรตี อดั แรงหลอสาํ เร็จทุกชนดิ ที่มคี วามยาว
ตง้ั แต ๕ เมตรขึน้ ไป

(๘) เสาเข็มคอนกรีตท่ีมีความยาวตั้งแต ๖ เมตรข้ึนไป หรือท่ีรับนํ้าหนักบรรทุกปลอดภัย
ตง้ั แต ๓ เมตริกตันขน้ึ ไป

(๙) งานเสรมิ ความมั่นคงของฐานรากทุกขนาด
(๑๐) นั่งรา นหรือคํา้ ยนั ช่ัวคราวทีม่ ีความสงู ต้ังแต ๔ เมตรขน้ึ ไป
(๑๑) แบบหลอคอนกรีตสําหรับเสาที่มีความสูงตั้งแต ๔ เมตร หรือคานท่ีมีชวงคานตั้งแต
๕ เมตรขนึ้ ไป
(๑๒) โครงสรา งใตดนิ สงิ่ กอ สรา งชัว่ คราว กาํ แพงกนั ดิน คนั ดินปองกันน้ํา หรือคลองสงนํ้า
ทม่ี ีความสงู หรอื ความลกึ ตงั้ แต ๑.๕๐ เมตรข้นึ ไป
(๑๓) โครงสรา งของระบบขนสงสาธารณะ ทางรถสาธารณะ หรอื ทางว่ิงสนามบนิ ทุกขนาด
(๑๔) ทางรถไฟ ทางรถรางสาธารณะ ทางหลวง ทางสาธารณะ หรอื ทางวิ่งสนามบินทกุ ขนาด
(๑๕) เขือ่ น ฝาย อโุ มงค ทอ ระบายนํ้า หรือระบบชลประทานท่มี ีความสงู ตัง้ แต ๑.๕๐ เมตร
ข้ึนไป หรือมีความจุต้ังแต ๕๐ ลูกบาศกเมตรข้ึนไป หรือท่ีมีอัตราการไหลของนํ้าต้ังแต ๑ ลูกบาศกเมตร
ตอ วินาทขี ึน้ ไป
(๑๖) โครงสรา งทีม่ กี ารกักของไหล เชน ถังเกบ็ นาํ้ ถงั เกบ็ นํ้ามัน อุโมงคสงน้ํา หรือสระวายนํ้า
ท่ีมีความจุตัง้ แต ๕๐ ลูกบาศกเ มตรขึน้ ไป
(๑๗) ทอ สง นาํ้ ทอระบายนํ้า หรอื ชอ งระบายนํ้าที่มีเสน ผา ศูนยกลางตัง้ แต ๐.๘๐ เมตรข้ึนไป
หรือพ้ืนท่ีหนาตัดต้ังแต ๐.๕๐ ตารางเมตรข้ึนไปและมีโครงสรางรองรับ หรือมีความยาวตั้งแต
๑๐๐ เมตรข้นึ ไป
(๑๘) ระบบชลประทานท่ีมพี นื้ ท่ชี ลประทานต้ังแต ๕๐๐ ไรตอโครงการขึน้ ไป
(๑๙) ปายหรอื สิง่ ทสี่ รา งขน้ึ สาํ หรบั ติดหรือตั้งปายทีม่ พี ืน้ ที่ตั้งแต ๕๐ ตารางเมตรขึ้นไปและมี
ความสงู จากพ้ืนดินต้ังแต ๑๕ เมตรขึ้นไป หรือปายหรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติดหรือต้ังปายที่มีพื้นที่
ต้งั แต ๒๕ ตารางเมตรขึ้นไปท่ตี ดิ ตัง้ อยูบนหลงั คา ดาดฟา หรอื กันสาด หรอื ที่ติดกับสวนใดสวนหนึ่ง
ของอาคาร
(๒๐) อฒั จันทรท มี่ พี ื้นทต่ี ้งั แต ๑,๐๐๐ ตารางเมตรข้ึนไป


Click to View FlipBook Version