201
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๖๖ ง หนา ๔๕ ๒ เมษายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา
ผูข อรบั ใบอนญุ าตซ่งึ สอบไมผานในรายวิชาใด มีสิทธิสอบแกตัวในรายวิชานั้นภายในสามป
นบั แตวันที่ประกาศผลการทดสอบคร้งั ท่หี น่งึ
ผูขอรบั ใบอนุญาตซ่ึงสอบแกต วั ภายในกําหนดเวลาตามวรรคสอง ตองไดคะแนนในการสอบแกตัว
ไมต ํ่ากวา รอ ยละหกสบิ ของทุกรายวชิ าท่สี อบแกตวั ถือวา สอบผา น
ผขู อรับใบอนญุ าตทไี่ ดค ะแนนในการสอบแกต วั ตา่ํ กวา รอยละหกสิบในรายวิชา ที่สอบแกตัว
หรือไมสอบแกตัวภายในกําหนดเวลาตามวรรคสอง ถือวาสอบไมผาน แตยังคงมีสิทธิสมัครเขารับ
การสอบขอ เขยี นใหม
ขอ ๖ ผูขอรับใบอนญุ าตซงึ่ สอบขอ เขียนผานตอ งเขา สอบสมั ภาษณ
ผูขอรบั ใบอนุญาตซึง่ ไมส ามารถเขาสอบสัมภาษณได ตองย่ืนคํารองขอเล่ือนการสอบสัมภาษณ
ตอคณะอนุกรรมการที่สภาวิศวกรแตงตั้งตามขอ ๔ (๒) ของขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออก
ใบอนญุ าตเปน ผปู ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคมุ ระดบั สามญั วศิ วกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗
โดยใหยื่นผานสํานักงานสภาวิศวกรและตองยื่นลวงหนาไมนอยกวาสามวันกอนถึงกําหนดวันสอบ
สัมภาษณ เวน แตม เี หตุสดุ วสิ ัย แตจ ะขอเลอ่ื นเกนิ สองครง้ั มไิ ด
ขอ ๗ ในการสอบสัมภาษณ ใหคณะอนุกรรมการท่ีสภาวิศวกรแตงตั้งตามขอ ๔ (๒)
ของขอ บังคบั สภาวศิ วกร วา ดวยการออกใบอนญุ าตเปนผปู ระกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ ระดบั สามัญ
วศิ วกรและระดบั วุฒวิ ิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗ วินิจฉัยเพียงวา ผูขอรับใบอนุญาตสอบผา นหรือสอบไมผาน
เทา น้ัน
ผูขอรับใบอนญุ าตซึง่ สอบสมั ภาษณไ มผ าน มีสทิ ธิสอบสมั ภาษณแ กตัวไดอ กี หนึง่ คร้ัง
ขอ ๘ ใหคณะอนุกรรมการที่สภาวิศวกรแตงต้ังตามขอ ๔ (๒) ของขอบังคับสภาวิศวกร
วา ดวยการออกใบอนญุ าตเปนผปู ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๗ รายงานผลการทดสอบตอคณะกรรมการสภาวศิ วกรเพ่อื ดําเนินการตอไป
สวนที่ ๒
การทดสอบความรรู ะดบั วฒุ วิ ศิ วกร
ขอ ๙ ผขู อรบั ใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับวุฒิวิศวกร ท่ีไดตรวจ
รบั รองบญั ชแี สดงผลงานและปริมาณงานในการประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุม เพื่อขอเล่ือนระดับแลว
202
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๖๖ ง หนา ๔๖ ๒ เมษายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา
ตองเขารับการทดสอบความรูความชํานาญในการประกอบวิชาชีพภายในระยะเวลาท่ีคณะกรรมการ
สภาวิศวกรกาํ หนด
การทดสอบความรูตามวรรคหนึง่ ใหก ระทาํ โดยวธิ ีสอบสมั ภาษณ
ขอ ๑๐ ใหคณะอนุกรรมการที่สภาวิศวกรแตงต้ังตามขอ ๕ (๒) ของขอบังคับสภาวิศวกร
วาดว ยการออกใบอนญุ าตเปน ผูประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๗ เปน ผดู ําเนนิ การสอบสมั ภาษณ
ผูขอรับใบอนุญาตซ่ึงไมสามารถเขาสอบสัมภาษณได ตองยื่นคํารองขอเล่ือนการสอบ
สัมภาษณตอคณะคณะอนุกรรมการท่ีสภาวิศวกรแตงตั้งตามขอ ๕ (๒) ของขอบังคับสภาวิศวกร
วา ดว ยการออกใบอนญุ าตเปน ผปู ระกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยใหย ่นื ผา นสํานกั งานสภาวศิ วกรและตองยนื่ ลวงหนาไมนอยกวาสามวันกอนถึงกําหนด
วนั สอบสัมภาษณ เวนแตม เี หตสุ ุดวสิ ัย แตจะขอเล่ือนเกินสองคร้งั มิได
ขอ ๑๑ ในการสอบสัมภาษณ ใหคณะอนุกรรมการท่ีสภาวิศวกรแตงตั้งตามขอ ๕ (๒)
ของขอบังคับสภาวศิ วกร วาดว ยการออกใบอนุญาตเปน ผปู ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ ระดับสามัญ
วศิ วกรและระดบั วฒุ วิ ิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗ วินิจฉยั เพยี งวาผขู อรับใบอนุญาตสอบผานหรือสอบไมผาน
เทา นน้ั
ผูขอรบั ใบอนุญาตซง่ึ สอบสมั ภาษณไ มผา น มสี ทิ ธิสอบสมั ภาษณแ กตวั ไดอ ีกหนง่ึ คร้งั
ขอ ๑๒ ใหคณะอนุกรรมการท่ีสภาวิศวกรแตงตั้งตามขอ ๕ (๒) ของขอบังคับสภาวิศวกร
วาดวยการออกใบอนุญาตเปน ผปู ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๗ รายงานผลการทดสอบตอคณะกรรมการสภาวิศวกร เพ่ือดาํ เนนิ การตอไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
วิระ มาวิจักขณ
นายกสภาวิศวกร
203
เลม ๑๒๗ ตอนพิเศษ ๑๑๕ ง หนา ๑ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓
ราชกิจจานเุ บกษา
ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
วา ดว ยการทดสอบความรคู วามชาํ นาญระดบั สามัญวิศวกรและระดับวฒุ วิ ศิ วกร
(ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๓
โดยท่เี ปนการสมควรปรบั ปรุงระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรู
ความชาํ นาญระดับสามญั วิศวกรและระดบั วฒุ ิวิศวกร
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แหงพระราชบัญญตั วิ ิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับ
ขอ ๔ (๓) และขอ ๕ (๓) ของขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบ
วชิ าชพี วศิ วกรรมควบคมุ ระดบั สามัญวศิ วกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗ คณะกรรมการสภาวิศวกร
จึงออกระเบียบไว ดงั ตอ ไปนี้
ขอ ๑ ระเบียบนี้เรยี กวา “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรู
ความชาํ นาญระดับสามัญวศิ วกรและระดบั วฒุ วิ ิศวกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓”
ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใชบ ังคบั ตง้ั แตว ันถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
ขอ ๓ ใหยกเลิกความในขอ ๓ วรรคสอง ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวย
การทดสอบความรคู วามชาํ นาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใชความ
ตอ ไปนี้แทน
“การทดสอบความรตู ามวรรคหนึ่ง ใหก ระทาํ โดยวธิ ีสอบสมั ภาษณ”
ขอ ๔ ใหยกเลิกความในขอ ๔ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบ
ความรคู วามชํานาญระดับสามัญวิศวกรและระดบั วุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใ ชค วามตอ ไปน้แี ทน
“ขอ ๔ ใหค ณะอนกุ รรมการทีส่ ภาวิศวกรแตงต้ังตามขอ ๔ (๒) ของขอบังคับสภาวิศวกร
วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๗ เปน ผดู ําเนินการสอบสมั ภาษณ”
ขอ ๕ ใหยกเลิกความในขอ ๕ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบ
ความรคู วามชาํ นาญระดับสามัญวิศวกรและระดบั วุฒวิ ิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใชความตอไปน้แี ทน
“ขอ ๕ ในการสอบสัมภาษณ ผูขอรับใบอนุญาตตองไดคะแนนไมนอยกวารอยละเจ็ดสิบ
จงึ จะถือวาสอบผาน
204
เลม ๑๒๗ ตอนพเิ ศษ ๑๑๕ ง หนา ๒ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓
ราชกิจจานุเบกษา
ผูขอรับใบอนุญาตที่สอบไมผาน ใหมีสิทธิสอบแกตัวโดยการเขาฝกอบรมเฉพาะดาน
การจัดทํารายงานทางวิชาการ หรือการสอบขอเขียนวัดผลความรูวิชาหน่ึงวิชาใดหรือหลายวิชา
ตามทค่ี ณะอนกุ รรมการท่สี ภาวิศวกรแตงต้งั ตามขอ ๔ (๒) ของขอบังคบั สภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาต
เปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗ เห็นสมควร
โดยพิจารณาจากความรู ความสามารถ และประสบการณของผขู อรับใบอนญุ าต
ผูขอรับใบอนุญาตท่ีไมผานการสอบแกตัว หรือไมเขาสอบภายในระยะเวลาที่กําหนด
ถอื วา สอบไมผาน
หลักเกณฑและวิธีการสอบสัมภาษณตามวรรคหน่ึง และการสอบแกตัวตามวรรคสอง
ใหเ ปน ไปตามทค่ี ณะกรรมการสภาวศิ วกรประกาศกําหนด”
ขอ ๖ ใหยกเลิกความในขอ ๖ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบ
ความรูค วามชาํ นาญระดับสามญั วิศวกรและระดับวฒุ ิวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใชค วามตอไปน้แี ทน
“ขอ ๖ ผูขอรับใบอนุญาตซ่ึงไมสามารถเขาสอบสัมภาษณได ตองย่ืนคํารองขอเลื่อน
การสอบสมั ภาษณตอคณะอนุกรรมการทีส่ ภาวิศวกรแตง ต้ังตามขอ ๔ (๒) ของขอบังคับสภาวิศวกร
วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับ
วุฒวิ ิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยใหยื่นผานสํานักงานสภาวศิ วกรและตองย่ืนลว งหนาไมนอยกวาสามวัน
กอ นถึงกําหนดวนั สอบสมั ภาษณ เวนแตม ีเหตสุ ุดวสิ ยั แตจะขอเลือ่ นเกินสองครั้งมิได”
ขอ ๗ ใหยกเลิกความในขอ ๗ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวย
การทดสอบความรคู วามชาํ นาญระดบั สามญั วิศวกรและระดบั วฒุ ิวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๕๑
ขอ ๘ ในวันทรี่ ะเบยี บนใ้ี ชบ งั คับ ใหผขู อรับใบอนุญาตระดับสามัญวิศวกร ซึง่ ยงั ไมผา น
การทดสอบความรูตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรูความชํานาญ
ระดบั สามัญวศิ วกรและระดับวฒุ ิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ มีสิทธิเลือกวาจะทดสอบความรูตามระเบียบ
คณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรูความชํานาญระดับสามัญวิศวกรและระดับ
วุฒิวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๔ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ทวี บตุ รสุนทร
นายกสภาวิศวกร
205
เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๑๕๓ ง หน้า ๒ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙
ราชกจิ จานุเบกษา
ระเบยี บคณะกรรมการสภาวิศวกร
วา่ ดว้ ยการทดสอบความรู้ความชํานาญระดับสามัญวศิ วกรและระดับวุฒิวศิ วกร (ฉบบั ที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๙
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการทดสอบความรู้
ความชํานาญระดับสามญั วิศวกรและระดับวฒุ วิ ศิ วกร
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ประกอบกับข้อ ๔ (๓) และข้อ ๕ (๓) ของข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ
วิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗ และโดยมติที่ประชุม
คณะกรรมการสภาวิศวกร ครั้งที่ ๑๒-๘/๒๕๕๙ เม่ือวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๙ คณะกรรมการ
สภาวิศวกรจึงออกระเบยี บไว้ ดังต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการทดสอบความรู้
ความชาํ นาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวฒุ วิ ิศวกร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙”
ขอ้ ๒ ระเบียบนใี้ ห้ใช้บังคับตั้งแตว่ ันถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นต้นไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกความในวรรคหน่ึงของข้อ ๓ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วย
การทดสอบความรู้ความชํานาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ใช้
ความต่อไปน้ีแทน
“ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกรท่ีได้ตรวจรับรอง
บัญชีแสดงผลงานและปริมาณงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม เพื่อขอเล่ือนระดับแล้ว
ต้องเข้ารับการทดสอบความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพ ภายในระยะเวลาท่ีคณะอนุกรรมการ
ท่ีสภาวิศวกรแต่งต้ังตามข้อ ๔ (๒) ของข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ
วิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ ระดับสามัญวิศวกรและระดับวฒุ ิวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๗ กําหนด”
ขอ้ ๔ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ ๙ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วย
การทดสอบความรู้ความชํานาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ใช้
ความตอ่ ไปนแี้ ทน
“ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับวุฒิวิศวกร ท่ีได้ตรวจรับรอง
บัญชีแสดงผลงานและปริมาณงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม เพื่อขอเล่ือนระดับแล้ว
ต้องเข้ารับการทดสอบความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพ ภายในระยะเวลาท่ีคณะอนุกรรมการ
206
เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง หน้า ๓ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙
ราชกิจจานุเบกษา
ที่สภาวิศวกรแต่งต้ังตามข้อ ๕ (๒) ของข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ
วชิ าชพี วิศวกรรมควบคุมระดับสามญั วิศวกรและระดับวฒุ ิวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๗ กําหนด”
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร
207
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๗ ง หน้า ๓๓ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ราชกจิ จานเุ บกษา
ขอ้ บงั คับสภาวิศวกร
วา่ ดว้ ยการออกใบอนญุ าตใหแ้ ก่ผขู้ อประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคมุ
สาขาวศิ วกรรมสิง่ แวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตให้แก่
ผู้ขอประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมส่ิงแวดล้อม เพื่อประโยชน์ในการรองรับ
การให้บริการวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดลอ้ ม แกห่ น่วยงานภาครฐั ผู้ประกอบการ
ภาคอุตสาหกรรม และประชาชน โดยมีจานวนผู้ได้รับใบอนุญาตฯ ที่เหมาะสมต่อการรองรับ
การให้บรกิ ารวชิ าชีพดงั กล่าว รวมถงึ เพื่อเป็นการเสริมสร้างศกั ยภาพและความสามารถของประเทศไทย
ในการแข่งขันการบริการวิชาชีพวิศวกรรม ตามข้อตกลงการเปิดเสรีการค้าบริการระหว่างประเทศ
ซงึ่ ประเทศไทยได้ทาขอ้ ตกลงไวก้ บั นานาประเทศ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ง) และมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกาหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐
สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบของท่ีประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร เม่ือวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๓
และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหง่ สภาวิศวกรออกขอ้ บงั คับไว้ ดังตอ่ ไปนี้
ขอ้ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาตให้แก่
ผูข้ อประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรมส่งิ แวดลอ้ ม พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ข้อบงั คบั น้ใี หใ้ ชบ้ ังคับต้งั แต่วันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
วศิ วกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรมส่งิ แวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๑
ข้อ ๔ ในขอ้ บังคับน้ี
“ผู้ขอรับใบอนุญาต” หมายความว่า ผู้ย่ืนคาขอรับใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคมุ
สาขาวศิ วกรรมสิง่ แวดลอ้ ม
“ใบอนญุ าต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคมุ
“ปริญญา” หมายความว่า ปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคมุ
หมวดท่ี ๑
คุณสมบตั ิของผูย้ ่ืนคาขอรับใบอนญุ าต
ขอ้ ๕ ผขู้ อรบั ใบอนญุ าตต้องเป็นสมาชกิ สภาวิศวกร ประเภทสมาชิกสามญั
208
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๗ ง หน้า ๓๔ ๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔
ราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๖ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นผู้สาเร็จการศึกษา ในหลักสูตรระดับปริญญา
หรือเทียบเท่าปริญญา สาขาวิศวกรรมส่ิงแวดล้อม หรือสาขาวิศวกรรมสุขาภิบาล ซึ่งสภาวิศวกร
ได้รับรองปริญญาไว้ในสาขาวิศวกรรมโยธา และได้รับใบอนุญาตสาขาวิศวกรรมโยธา อยู่ก่อนวันท่ี
ขอ้ บังคบั นม้ี ีผลใชบ้ ังคบั
หมวดที่ ๒
หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงอ่ื นไขการยนื่ คาขอรบั ใบอนญุ าต
ขอ้ ๗ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องย่ืนคาขอรับใบอนุญาตและเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณา
ตามทค่ี ณะกรรมการสภาวศิ วกรกาหนด
ข้อ ๘ สภาวศิ วกรจะพจิ ารณาออกใบอนญุ าตใหแ้ ก่ผู้ขอรบั ใบอนญุ าตในแตล่ ะระดบั ดังนี้
(๑) ระดับภาควี ิศวกร
(ก) เปน็ ผูไ้ ดร้ ับใบอนุญาต สาขาวิศวกรรมโยธา ต้งั แต่ระดับภาคีวศิ วกรขึ้นไป
(ข) ผ่านการทดสอบความรู้ด้วยวิธีการสอบสมั ภาษณ์
(๒) ระดับสามัญวศิ วกร
(ก) เป็นผู้ไดร้ ับใบอนญุ าต สาขาวิศวกรรมโยธา ต้ังแตร่ ะดบั สามัญวิศวกรขนึ้ ไป
(ข) มีผลงานและปริมาณงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
ส่ิงแวดล้อม หรือสาขาวิศวกรรมสุขาภิบาล อยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงกาหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรม
และวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐ ใช้บงั คับ ไมน่ ้อยกวา่ สามปี
(ค) ผ่านการทดสอบความรู้ดว้ ยวธิ กี ารสอบสัมภาษณ์
(๓) ระดบั วฒุ ิวิศวกร
(ก) เป็นผไู้ ด้รบั ใบอนญุ าต สาขาวิศวกรรมโยธา ระดับวฒุ ิวิศวกร
(ข) มีผลงานและปริมาณงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
ส่ิงแวดล้อม อยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงกาหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ ใช้บงั คับ ไมน่ ้อยกว่าห้าปี
(ค) ผ่านการทดสอบความรู้ดว้ ยวธิ กี ารสอบสมั ภาษณ์
ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องชาระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามอัตราที่กาหนดในกฎกระทรวง
กาหนดอัตราค่าธรรมเนียมสาหรับผูป้ ระกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคมุ
การทดสอบความรดู้ ้วยวธิ ีสอบสัมภาษณ์ ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการที่คณะกรรมการ
สภาวศิ วกรกาหนด
ข้อ ๙ ให้คณะอนุกรรมการทดสอบความรู้ความชานาญการประกอบวิชาชีพ ระดับสามัญ
วิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบคุณสมบัติ พิจารณาผลงาน
และปริมาณงาน พรอ้ มทงั้ ทดสอบความรู้ของผู้ขอรับใบอนุญาต
209
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๗ ง หน้า ๓๕ ๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ้ ๑๐ การได้รับใบอนุญาต สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ตามที่กาหนดไว้ในข้อบังคับนี้
ไม่เป็นการตัดสิทธกิ ารเป็นผู้ไดร้ ับใบอนญุ าตและการต่ออายุใบอนุญาตในสาขาอ่นื ของผู้ไดร้ ับใบอนญุ าต
ท่ีไดร้ บั อยเู่ ดมิ รวมถึงการยนื่ คาขอรบั ใบอนญุ าตและการออกใบอนุญาตในสาขาวิศวกรรมควบคมุ อน่ื
ข้อ ๑๑ การย่ืนคาขอรับใบอนุญาตตามที่กาหนดไว้ในข้อบังคับนี้ ผู้มีความประสงค์ขอรับ
ใบอนุญาตต้องย่ืนคาขอภายในกาหนดสองปีนับแต่วันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ หากไม่ย่ืนคาขอรับ
ใบอนุญาตภายในระยะเวลาดังกลา่ วจะตอ้ งเริม่ ขอรับใบอนุญาตในระดับภาคีวิศวกร
ประกาศ ณ วนั ที่ 12 มกราคม พ.ศ. ๒๕64
สชุ ชั วรี ์ สวุ รรณสวสั ด์ิ
นายกสภาวศิ วกร
210
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๗ ง หน้า ๓๖ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ราชกจิ จานเุ บกษา
ข้อบงั คบั สภาวศิ วกร
วา่ ดว้ ยการออกใบอนญุ าตให้แก่ผขู้ อประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ
สาขาวศิ วกรรมเคมี
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตให้แก่
ผู้ขอประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี เพ่ือประโยชน์ในการรองรับการให้บริการ
วิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี แก่หน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม
และประชาชน โดยมีจานวนผไู้ ด้รบั ใบอนญุ าตฯ ทเ่ี หมาะสมตอ่ การรองรบั การให้บรกิ ารวิชาชีพดังกลา่ ว
รวมถึงเพ่ือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพและความสามารถของประเทศไทยในการแข่งขันการบริการ
วิชาชีพวิศวกรรม ตามข้อตกลงการเปิดเสรีการค้าบริการระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทย
ไดท้ าข้อตกลงไวก้ ับนานาประเทศ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ง) และมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกาหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบของท่ีประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร เม่ือวันที่ ๑๑
มิถุนายน ๒๕๖๓ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกรออกข้อบังคับไว้
ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาตให้แก่
ผขู้ อประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุม สาขาวศิ วกรรมเคมี พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ข้อบงั คบั นี้ให้ใชบ้ ังคบั ตั้งแตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
วศิ วกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรมเคมี พ.ศ. ๒๕๕๑
ข้อ ๔ ในข้อบงั คบั น้ี
“ผู้ขอรับใบอนุญาต” หมายความวา่ ผู้ย่ืนคาขอรับใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ
สาขาวศิ วกรรมเคมี
“ใบอนุญาต” หมายความวา่ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
“ปริญญา” หมายความว่า ปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุม
หมวดท่ี ๑
คุณสมบตั ขิ องผู้ย่ืนคาขอรบั ใบอนุญาต
ข้อ ๕ ผู้ขอรับใบอนุญาตตอ้ งเปน็ สมาชิกสภาวศิ วกร ประเภทสมาชกิ สามัญ
211
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๗ ง หน้า ๓๗ ๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ้ ๖ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นผู้สาเร็จการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญา
หรือเทียบเท่าปริญญา ในสาขาวิศวกรรมเคมี สาขาเคมีวิศวกรรม สาขาเคมีเทคนิค หรือที่มี
ชือ่ เรียกอย่างอ่นื เทยี บเท่าวศิ วกรรมเคมี ซึ่งสภาวิศวกรไดร้ บั รองปรญิ ญาไวใ้ นสาขาวศิ วกรรมอุตสาหการ
และไดร้ บั ใบอนุญาต สาขาวศิ วกรรมอุตสาหการ อยู่กอ่ นวันท่ขี อ้ บังคับน้ีมผี ลใชบ้ ังคับ
หมวดท่ี ๒
หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขการยน่ื คาขอรบั ใบอนญุ าต
ข้อ ๗ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องย่ืนคาขอรับใบอนุญาตและเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณา
ตามที่คณะกรรมการสภาวิศวกรกาหนด
ข้อ ๘ สภาวศิ วกรจะพจิ ารณาออกใบอนุญาตใหแ้ ก่ผูข้ อรบั ใบอนญุ าตในแต่ละระดบั ดังนี้
(๑) ระดบั ภาคีวศิ วกร
(ก) เปน็ ผูไ้ ดร้ ับใบอนญุ าต สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ตง้ั แตร่ ะดับภาคีวิศวกรข้นึ ไป
(ข) ผา่ นการทดสอบความรู้ดว้ ยวิธีการสอบสัมภาษณ์
(๒) ระดบั สามัญวิศวกร
(ก) เปน็ ผู้ได้รบั ใบอนญุ าต สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ตั้งแตร่ ะดบั สามญั วิศวกรข้นึ ไป
(ข) มีผลงานและปริมาณงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี
อยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงกาหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐
ใช้บังคับ ไม่น้อยกวา่ สามปี
(ค) ผ่านการทดสอบความรดู้ ้วยวธิ กี ารสอบสัมภาษณ์
(๓) ระดบั วุฒิวิศวกร
(ก) เปน็ ผ้ไู ดร้ บั ใบอนุญาต สาขาวศิ วกรรมอตุ สาหการ ระดับวุฒิวิศวกร
(ข) มีผลงานและปริมาณงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี
อยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงกาหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐
ใชบ้ ังคับ ไม่น้อยกวา่ หา้ ปี
(ค) ผา่ นการทดสอบความรดู้ ว้ ยวธิ กี ารสอบสมั ภาษณ์
ผ้ขู อรับใบอนญุ าตตอ้ งชาระค่าธรรมเนยี มใบอนุญาตตามอตั ราทกี่ าหนดในกฎกระทรวงกาหนด
อตั ราค่าธรรมเนียมสาหรับผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ
การทดสอบความรู้ด้วยวิธีการสอบสัมภาษณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ
สภาวิศวกรกาหนด
ขอ้ ๙ ให้คณะอนุกรรมการทดสอบความรู้ความชานาญการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุม ระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร สาขาวิศวกรรมเคมี ตรวจสอบคุณสมบัติ พิจารณา
ผลงานและปริมาณงาน พรอ้ มทง้ั ทดสอบความร้ขู องผขู้ อรับใบอนญุ าต
212
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๗ ง หน้า ๓๘ ๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔
ราชกจิ จานุเบกษา
ข้อ ๑๐ การได้รับใบอนุญาต สาขาวิศวกรรมเคมี ตามที่กาหนดไว้ในข้อบังคับนี้ ไม่เป็น
การตัดสิทธิการเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตในสาขาอื่นของผู้ได้รับใบอนุญาต
ที่ได้รับอยเู่ ดมิ รวมถงึ การยืน่ คาขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนญุ าตในสาขาวศิ วกรรมควบคุมอน่ื
ข้อ ๑๑ การย่ืนคาขอรับใบอนุญาตตามที่กาหนดไว้ในข้อบังคับนี้ ผู้มีความประสงค์ขอรับ
ใบอนุญาตต้องย่ืนคาขอภายในกาหนดสองปีนับแต่วันท่ีข้อบังคับนี้ใช้บังคับ หากไม่ย่ืนคาขอรับ
ใบอนญุ าตภายในระยะเวลาดงั กลา่ วจะต้องเร่ิมขอรับใบอนุญาตในระดบั ภาคีวิศวกร
ประกาศ ณ วนั ที่ 12 มกราคม พ.ศ. ๒๕64
สชุ ชั วีร์ สวุ รรณสวัสดิ์
นายกสภาวศิ วกร
213
214
215
216
217
เลม่ ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๒๖ ง หนา้ ๖๓ ๔ มนี าคม ๒๕๕๔
ราชกจิ จานเุ บกษา
ขอ้ บังคับสภาวศิ วกร
ว่าดว้ ยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ
ประเภทนิติบุคคล (ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๔
โดยที่เปน็ การสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ
วิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ ประเภทนิติบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๓
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ง) และมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ อันเป็นกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บญั ญัตใิ หก้ ระทําได้โดยอาศยั อํานาจตามบทบัญญตั ิแห่งกฎหมาย สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่สามัญ
สภาวศิ วกร ประจาํ ปี ๒๕๕๓ เม่ือวันที่ ๒๙ มนี าคม ๒๕๕๓ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษ
แห่งสภาวศิ วกร จึงออกข้อบังคบั ไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ
วิชาชพี วิศวกรรมควบคุม ประเภทนติ ิบคุ คล (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔”
ข้อ ๒ ขอ้ บังคับนีใ้ หใ้ ช้บงั คับตัง้ แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๗ และข้อ ๘ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาต
เปน็ ผปู้ ระกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ ประเภทนติ ิบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน
“ข้อ ๗ สภาวิศวกรจะออกใบอนญุ าตให้แก่นิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต หากพิจารณาแล้วเห็นว่า
นติ ิบคุ คลผ้ขู อรับใบอนญุ าต
(๑) มีคุณสมบัติตามขอ้ ๓ และไมม่ ีลักษณะตอ้ งห้ามตามข้อ ๔
(๒) มคี วามเหมาะสมทจี่ ะอนุญาตใหเ้ ปน็ ผูป้ ระกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุม
(๓) ได้ชาํ ระคา่ ธรรมเนียมใบอนุญาตให้แก่สภาวิศวกรแล้ว
ใบอนญุ าตตามวรรคหนงึ่ ให้มอี ายุหนึง่ ปีนบั แตว่ นั ออกใบอนญุ าต
ขอ้ ๘ ผ้ไู ดร้ บั ใบอนุญาตซง่ึ เป็นนิติบุคคล หากประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคําขอ
ต่อสภาวิศวกรพร้อมกับชําระค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตแล้ว ให้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ตอ่ ไปได้ จนกวา่ จะไดร้ ับแจง้ คาํ สั่งไม่ตอ่ อายใุ บอนุญาตจากสภาวศิ วกรภายใตเ้ ง่อื นไข ดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) กรณยี ื่นคําขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ ให้ยื่นคําขอภายในเก้าสิบวัน
กอ่ นวันท่ีใบอนญุ าตสน้ิ อายุ
(๒) กรณยี นื่ คําขอตอ่ อายุใบอนุญาตหลังจากวันที่ใบอนุญาตส้ินอายุ ให้ยื่นคําขอภายในหกสิบวัน
นบั แตว่ นั ท่ีใบอนุญาตส้ินอายุ
218
เลม่ ๑๒๘ ตอนพเิ ศษ ๒๖ ง หน้า ๖๔ ๔ มนี าคม ๒๕๕๔
ราชกิจจานุเบกษา
ผู้ยื่นคําขอต่ออายุใบอนุญาตตามวรรคหน่ึงอาจขอให้สภาวิศวกรออกหนังสือรับรองการย่ืน
คาํ ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตเพื่อประโยชน์ในการประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมของตนกไ็ ด้
คําขอต่ออายุใบอนุญาตและหนังสือรับรองการยื่นคําขอต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามแบบ
ที่คณะกรรมการสภาวศิ วกรกาํ หนด”
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ทวี บตุ รสุนทร
นายกสภาวศิ วกร
219
หน้า ๖๘ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา
ข้อบังคบั สภาวศิ วกร
วา่ ดว้ ยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ประเภทนติ ิบุคคล (ฉบบั ท่ี ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาต
เป็นผู้ประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ ประเภทนติ ิบคุ คล พ.ศ. ๒๕๔๓ ในส่วนท่เี กี่ยวข้องกบั
อายใุ บอนุญาตเป็นผปู้ ระกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม ประเภทนติ บิ คุ คล ประกอบกับเพ่ือให้เปน็ ไป
ตามมาตรการอานวยความสะดวกและลดภาระแกป่ ระชาชนผู้มาติดตอ่ โดยไมเ่ รยี กเกบ็ สาเนาเอกสาร
ท่ีทางราชการออกให้ ตามมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุม เมื่อวนั ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๑ รวมถึง
เพื่อเป็นการอานวยความสะดวกและเพ่ิมประสทิ ธิภาพในการใหบ้ ริการของสภาวิศวกรผ่านธุรกรรม
ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์
อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ง) และมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัตวิ ิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวศิ วกรโดยมตทิ ีป่ ระชมุ ใหญส่ ามัญสภาวิศวกร เมือ่ วนั ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแห่งสภาวศิ วกรออกข้อบังคับไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
ขอ้ ๑ ขอ้ บังคับนเี้ รียกว่า “ขอ้ บังคับสภาวศิ วกร ว่าด้วยการออกใบอนญุ าตเปน็ ผปู้ ระกอบ
วิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ ประเภทนิติบคุ คล (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ข้อบงั คบั น้ีใหใ้ ชบ้ ังคบั ตั้งแตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกความในขอ้ ๕ ของข้อบงั คบั สภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาต
เปน็ ผู้ประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ประเภทนติ บิ คุ คล พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนแี้ ทน
“ขอ้ ๕ ใหน้ ิติบคุ คลท่ีประสงคข์ อรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ ยื่นคาขอ
ต่อสานักงานสภาวศิ วกร ตามแบบคาขอและหลกั ฐานท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรกาหนด”
ข้อ ๔ ใหย้ กเลกิ ความในวรรคสองของขอ้ ๗ ของขอ้ บงั คับสภาวิศวกร วา่ ดว้ ยการออกใบอนญุ าต
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ ประเภทนิติบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึง่ แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ โดยข้อบงั คบั
สภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผ้ปู ระกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุม ประเภทนติ ิบคุ คล (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๔ และให้ใช้ความต่อไปนแี้ ทน
“ใบอนุญาตตามวรรคหนง่ึ ให้มีอายสุ ามปนี บั แต่วนั ออกใบอนุญาต”
ข้อ ๕ ใหเ้ พ่มิ ความต่อไปน้ีเปน็ ข้อ ๑๐ ของขอ้ บงั คับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาต
เปน็ ผู้ประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุม ประเภทนิตบิ ุคคล พ.ศ. ๒๕๔๓
“ข้อ ๑๐ คาขอ ใบสมัคร การอนุญาต คาส่ังทางปกครอง หรือการดาเนนิ การใด ๆ
ตามข้อบงั คับนี้ ถ้าได้กระทาในรปู ของข้อมูลและธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ให้ถอื ว่าใช้บังคบั ได้และ
มีผลโดยชอบด้วยขอ้ บงั คบั น้ี ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์”
220
หน้า ๖๙ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานเุ บกษา
ข้อ ๖ คาขอรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคมุ ประเภทนติ บิ คุ คล ซง่ึ ไดย้ น่ื ไว้
ก่อนวันท่ีข้อบังคบั น้ใี ช้บังคับ ให้ดาเนินการต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ ตามข้อบังคับสภาวศิ วกร
วา่ ด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผ้ปู ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคมุ ประเภทนิติบคุ คล พ.ศ. ๒๕๔๓ และ
ขอ้ บังคบั สภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ ประเภทนติ บิ ุคคล
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔
ข้อ ๗ ให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุม ประเภทนติ บิ ุคคล ซ่ึงได้รบั ใบอนญุ าต
ก่อนวันทีข่ ้อบังคับน้ใี ชบ้ งั คบั ให้ยงั คงใชไ้ ดต้ ่อไปจนกวา่ ใบอนญุ าตจะหมดอายุ
ประกาศ ณ วันท่ี 9 กนั ยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สชุ ัชวรี ์ สวุ รรณสวัสดิ์
นายกสภาวิศวกร
221
เล่ม ๑๓๑ ตอนพเิ ศษ ๕๓ ง หนา้ ๑๔ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗
ราชกจิ จานุเบกษา
ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
ว่าด้วยการข้ึนทะเบยี นวศิ วกรวชิ าชีพอาเซียน
(ASEAN Chartered Professional Engineer)
พ.ศ. ๒๕๕๗
โดยที่เป็นการสมควรให้มีหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน ตามท่ีประเทศไทย
ไดม้ ีข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนด้านบริการวิศวกรรม (ASEAN Mutual Recognition
Arrangement on Engineering Services)
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ประกอบกับมติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญสภาวิศวกร ครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เม่ือวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
คณะกรรมการสภาวศิ วกรจึงออกระเบียบไว้ ดงั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการขึ้นทะเบียน
วศิ วกรวิชาชีพอาเซยี น (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใชบ้ งั คับตัง้ แต่วันถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ ผู้ใดประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered
Professional Engineer) ให้ยื่นคําขอพร้อมชําระค่าคําขอขึ้นทะเบียนต่อสํานักงานสภาวิศวกร
ตามแบบคาํ ขอข้นึ ทะเบยี นและหลักฐานท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรกําหนด
ขอ้ ๔ ผู้ขอข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer)
ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ตามกฎกระทรวงท่ีออกตามความในพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ ตอ้ งมคี ณุ สมบตั ิ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นบุคคลธรรมดาท่ีมีสัญชาติไทยและต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคมุ ในสาขาวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุมทีย่ ืน่ คาํ ขอ
(๒) มปี ระสบการณใ์ นภาคปฏบิ ัติวชิ าชพี มาแลว้ ไม่น้อยกว่าเจ็ดปหี ลังจบการศึกษา
(๓) มีประสบการณไ์ ม่น้อยกว่าสองปีในการรับผดิ ชอบงานดา้ นวิศวกรรมควบคุมท่เี ด่นชดั
(๔) มีหน่วยความรู้ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการพัฒนาวิชาชีพต่อเน่ือง
ตามท่คี ณะกรรมการสภาวศิ วกรกําหนด
(๕) ไมเ่ คยถกู สัง่ พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนญุ าต
222
เลม่ ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๕๓ ง หนา้ ๑๕ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗
ราชกจิ จานุเบกษา
ข้อ ๕ ผู้ขอขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer)
ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรม ตามกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ต้องมีคณุ สมบตั ิดังต่อไปนี้
(๑) เปน็ บุคคลธรรมดาทม่ี สี ญั ชาตไิ ทยและต้องเป็นสมาชิกสามัญหรอื สมาชกิ วสิ ามัญ
(๒) สําเรจ็ การศึกษาระดบั ปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์หรอื เทียบเทา่
(๓) มปี ระสบการณใ์ นภาคปฏบิ ัติวชิ าชพี มาแลว้ ไมน่ ้อยกว่าเจ็ดปีหลังจบการศึกษา
(๔) มีประสบการณไ์ มน่ อ้ ยกว่าสองปีในการรับผิดชอบงานดา้ นวศิ วกรรมที่เด่นชัด
(๕) มีหน่วยความรู้ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง
ตามท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรกําหนด
(๖) ไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามาซึ่งความเส่ือมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ตามทีก่ าํ หนดในข้อบงั คบั สภาวิศวกร
ข้อ ๖ ในกรณีที่คณะกรรมการสภาวิศวกรเห็นว่าผู้ยื่นคําขอมีคุณสมบัติถูกต้อง ตามข้อ ๔
หรือข้อ ๕ ให้มีมติรับบุคคลน้ันขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional
Engineer) และให้สํานกั งานสภาวศิ วกรมีหนงั สอื แจ้งให้ผ้ยู นื่ คาํ ขอทราบ
เม่ือผู้ย่ืนคําขอได้ชําระค่าธรรมเนียมใบรับรองการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียนแล้ว
ให้สาํ นักงานสภาวศิ วกรออกใบรับรองการขึ้นทะเบียนใหแ้ กผ่ ู้นน้ั
ข้อ ๗ การขึน้ ทะเบียนวศิ วกรวชิ าชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer)
มอี ายุครัง้ ละสามปี นบั แตว่ ันท่อี นมุ ตั ิขนึ้ ทะเบยี น
การต่ออายุทะเบียน ให้ย่ืนคําขอต่ออายุพร้อมชําระค่าคําขอต่ออายุทะเบียนต่อสํานักงาน
สภาวิศวกร ภายในเก้าสิบวันก่อนวันท่ีทะเบียนสิ้นอายุและต้องมีหน่วยความรู้ ตามระเบียบ
คณะกรรมการสภาวศิ วกรว่าด้วยการพัฒนาวิชาชพี ตอ่ เนอ่ื ง ตามทค่ี ณะกรรมการสภาวิศวกรกาํ หนด
กรณีที่ไม่สามารถยื่นคําขอต่ออายุทะเบียน ตามเวลาท่ีกําหนดในวรรคสอง การต่ออายุ
ทะเบียนจะต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสภาวศิ วกร เป็นรายกรณีไป
ผู้ย่ืนคําขอต่ออายุทะเบียนที่คณะกรรมการสภาวิศวกรมีมติรับต่ออายุทะเบียน ให้สํานักงาน
สภาวิศวกรมหี นังสือแจ้งให้ผู้ยื่นคําขอทราบ และเม่ือผู้ยื่นคําขอต่ออายุได้ชําระค่าใบรับรองการต่ออายุทะเบียน
วิศวกรวิชาชีพอาเซียนแล้ว ให้สํานักงานสภาวิศวกรดําเนินการออกใบรับรองการต่ออายุทะเบียน
ให้แก่ผนู้ นั้
223
เลม่ ๑๓๑ ตอนพเิ ศษ ๕๓ ง หนา้ ๑๖ ๒๕ มนี าคม ๒๕๕๗
ราชกจิ จานุเบกษา
ข้อ ๘ ค่าคําขอขนึ้ ทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน ค่าคําขอต่ออายุทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน
ค่าใบรับรองการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน และค่าใบรับรองการต่ออายุทะเบียนวิศวกรวิชาชีพ
อาเซียน ให้เป็นไปตามอัตราค่าธรรมเนียมท่ีกําหนดไว้ในข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการกําหนด
ค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบํารงุ และคา่ ธรรมเนียม ทเ่ี รียกเก็บจากสมาชกิ หรอื บุคคลภายนอก
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร
224
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๔ ง หน้า ๑๐ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
ระเบยี บคณะกรรมการสภาวิศวกร
วา่ ดว้ ยการข้นึ ทะเบียนวศิ วกรวชิ าชีพอาเซยี น (ASEAN Chartered Professional Engineer)
(ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐
โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียน
วิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ประกอบกับมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ คร้ังที่ ๑/๒๕๖๐ เม่ือวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ คณะกรรมการ
สภาวศิ วกรออกระเบียบไว้ ดงั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการข้ึนทะเบียน
วิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐”
ขอ้ ๒ ระเบียบน้ใี ห้ใชบ้ ังคับต้งั แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นต้นไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการข้ึนทะเบียน
วิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗ และให้ใช้ความ
ต่อไปนีแ้ ทน
“ข้อ ๔ ผู้ขอขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer)
ในสาขาวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ ต้องมคี ุณสมบัติ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย และต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคมุ จากสภาวิศวกรตง้ั แต่ระดบั สามัญวศิ วกรขน้ึ ไปในสาขาวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ท่ียื่นคําขอ
(๒) มีประสบการณ์ในภาคปฏิบัติงานทางวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมมาแล้วไม่น้อยกว่าเจ็ดปี
หลังจบการศกึ ษา
(๓) มีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าสองปีในการรับผิดชอบงานวิศวกรรมควบคุมที่เด่นชัดตามท่ี
คณะกรรมการสภาวศิ วกรกําหนด
(๔) มีหน่วยความรู้ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการพัฒนาวิชาชีพต่อเน่ือง
ตามท่คี ณะกรรมการสภาวิศวกรกําหนด
(๕) ไมเ่ คยถูกพักใชใ้ บอนญุ าตหรือเพิกถอนใบอนญุ าต”
ขอ้ ๔ ให้ยกเลิกความใน (๔) ของข้อ ๕ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
ว่าด้วยการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer)
พ.ศ. ๒๕๕๗ และใหใ้ ช้ความต่อไปน้แี ทน
“(๔) มีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าสองปีในการรับผิดชอบงานวิศวกรรมที่เด่นชัดตามท่ี
คณะกรรมการสภาวศิ วกรกําหนด”
225
เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๔ ง หนา้ ๑๑ ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
ขอ้ ๕ ให้เพ่ิมความต่อไปนี้เป็นข้อ ๙ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียน
วศิ วกรวชิ าชพี อาเซยี น (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗
“ข้อ ๙ คณะกรรมการสภาวิศวกรมีอํานาจเพิกถอนการขึ้นทะเบียน เม่ือปรากฏว่าผู้ได้รับ
การขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) ขาดคุณสมบัติ
หรอื มีลกั ษณะต้องหา้ มตามท่กี ําหนดไวใ้ นขอ้ ๔ หรือข้อ ๕”
ข้อ ๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ ๑๐ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วย
การขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗
“ข้อ ๑๐ ให้การขนึ้ ทะเบยี นส้นิ สดุ ลง เมอื่ เกดิ กรณดี ังตอ่ ไปนีก้ บั ผูข้ ึ้นทะเบยี น
(๑) ตาย
(๒) ถูกพักใชห้ รอื เพกิ ถอนใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ
(๓) ทะเบียนขาดตอ่ อายุ
(๔) คณะกรรมการสภาวศิ วกรมีมตเิ พิกถอนการขึน้ ทะเบยี น
ห้ามมิให้ผู้ท่ีทะเบียนสิ้นสุดลงตาม (๒) ยื่นคําขอข้ึนทะเบียนเป็นวิศวกรวิชาชีพอาเซียน
(ASEAN Chartered Professional Engineer) อีก”
ข้อ ๗ ให้ใบรับรองการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional
Engineer) ซ่ึงไดร้ บั ก่อนวนั ทขี่ อ้ บังคบั น้ใี ช้บงั คบั ให้ยงั คงใช้ไดต้ ่อไปจนกวา่ จะหมดอายุ
ประกาศ ณ วนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร
226
หน้า ๑๗ ๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๓
เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๐๖ ง ราชกจิ จานุเบกษา
ระเบียบคณะกรรมการสภาวศิ วกร
ว่าดว้ ยการขน้ึ ทะเบยี นวศิ วกรอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer)
(ฉบับท่ี ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๓
โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการข้ึนทะเบียน
วิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗ อาศัยอานาจ
ตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แห่งพระราชบัญญตั วิ ิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกบั มติท่ีประชุมใหญ่
วสิ ามญั ครง้ั ท่ี ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และมติท่ีประชมุ คณะกรรมการสภาวศิ วกร
คร้ังท่ี ๑๐ - ๑๐/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ คณะกรรมการสภาวิศวกรออกระเบียบไว้
ดงั ตอ่ ไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนีเ้ รียกวา่ “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรวา่ ดว้ ยการข้ึนทะเบยี นวศิ วกร
วชิ าชพี อาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓”
ข้อ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ้ ชบ้ ังคับตัง้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าดว้ ยการขน้ึ ทะเบยี น
วิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗ และให้ใช้
ความตอ่ ไปนแ้ี ทน
“ข้อ ๓ ผู้ใดประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN
Chartered Professional Engineer) ให้ย่ืนคาขอขึ้นทะเบียน และแบบประเมินตนเองในเร่ือง
ความสามารถทางวิศวกรรม พร้อมชาระค่าคาขอข้ึนทะเบียนต่อสานักงานสภาวิศวกร ตามแบบคาขอ
ขน้ึ ทะเบยี นแบบประเมนิ ตนเอง และหลกั ฐานทค่ี ณะกรรมการสภาวิศวกรกาหนด”
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วย
การข้ึนทะเบยี นวิศวกรวิชาชีพอาเซยี น (ASEAN Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗
และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนีแ้ ทน
“ข้อ ๖ ผู้ยื่นคาขอมีหน้าที่มานาเสนอผลงานเก่ียวกับประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุม หรือในสาขาวิชาชีพวิศวกรรม แล้วแต่กรณีตามที่ย่ืนคาขอขึ้นทะเบียน ต่อคณะอนุกรรมการ
กากับการขึ้นทะเบียนวิศวกรเอเปคและวิศวกรวิชาชีพอาเซียนตามที่คณะกรรมการสภาวิศวกรแต่งตั้ง
ภายในระยะเวลาท่คี ณะอนกุ รรมการกาหนด
ผู้ย่ืนคาขอข้ึนทะเบียนซ่ึงไม่สามารถมานาเสนอผลงานภายในระยะเวลาที่คณะอนุกรรมการ
กาหนดได้ ต้องย่ืนคารอ้ งขอเลื่อนการนาเสนอผลงาน โดยให้ยื่นผา่ นสานักงานสภาวิศวกร และต้องยื่นล่วงหน้า
ไม่น้อยกว่าสามวันก่อนถึงกาหนดวันนัดนาเสนอผลงานเว้นแต่จะมีเหตุสุดวิสัย และย่ืนคาร้อง
ขอเลื่อนเกนิ สองครงั้ มไิ ด้
227
หน้า ๑๘ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๓
เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๐๖ ง ราชกิจจานเุ บกษา
คณะอนุกรรมการอาจแจ้งให้ผู้ยื่นคาขอแก้ไขหรือเพิ่มเติมผลงาน หรือส่งเอกสารหลักฐาน
เพิ่มเติมอันจะเป็นประโยชนต์ อ่ การพิจารณาได้ ตามความเหมาะสม และผู้ยื่นคาขอต้องนาเสนอผลงาน
ภายในระยะเวลาท่คี ณะอนุกรรมการกาหนด
กรณีผู้ยื่นคาขอขน้ึ ทะเบียนไม่ดาเนินการใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในกาหนดเวลาตามท่กี าหนดไวใ้ นข้อนี้
ให้ถอื วา่ ผู้ยืน่ คาขอขนึ้ ทะเบียนไม่ประสงคจ์ ะขอขึ้นทะเบียนอีกตอ่ ไป
ในกรณีที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบแล้วเห็นว่าผู้ย่ืนคาขอมีคุณสมบัติถูกต้องตามข้อ ๔
หรือข้อ ๕ ให้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการสภาวิศวกรเพื่อมีมติรับบุคคลน้ัน ข้ึนทะเบียนวศิ วกรวชิ าชีพ
อาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) และให้สานักงานสภาวิศวกรมีหนังสือแจ้ง
ให้ผู้ย่ืนคาขอน้ันทราบ ภายในหกสิบวันนับแต่วันท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรมีมติ ท้ังน้ี หนังสือแจ้ง
อาจทาในรปู ขอ้ มลู อเิ ล็กทรอนิกสต์ ามประสงคข์ องผูย้ นื่ คาขอก็ได้
เมอ่ื ผู้ย่นื คาขอได้ชาระค่าธรรมเนียมใบรับรอง และคณะกรรมการประสานงานด้านวิศวกรวิชาชีพ
อาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer Coordinating Committee : ACPECC)
ได้ให้ความเห็นชอบตามข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนด้านบริการวิศวกรรมแล้ว ให้สานักงาน
สภาวศิ วกรจัดสง่ ใบรับรองให้แก่ผู้น้ัน”
ขอ้ ๕ คาขอขึ้นทะเบียนซ่ึงได้ยื่นไว้ก่อนวันท่ีระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ดาเนินการต่อไป
ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN
Chartered Professional Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๗ และระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วย
การขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐ จนกวา่ จะแลว้ เสรจ็
ประกาศ ณ วนั ที่ 2 กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖3
สชุ ัชวีร์ สวุ รรณสวสั ดิ์
นายกสภาวศิ วกร
228
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๓๑ ง หน้า ๕๔ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
ราชกิจจานเุ บกษา
ข้อบังคับสภาวิศวกร
ว่าดว้ ยการขน้ึ ทะเบยี นวศิ วกรวชิ าชีพตา่ งด้าว
ตามขอ้ ตกลงยอมรบั รว่ มของอาเซยี นดา้ นบริการวศิ วกรรม
พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดให้มีข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพ
ตา่ งดา้ ว ตามขอ้ ตกลงยอมรบั ร่วมของอาเซยี นด้านบรกิ ารวศิ วกรรม
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฎ) และมาตรา 8 (๗) ประกอบมาตรา ๗ (๘)
แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกาหนดการดาเนินการอ่ืนอันเปน็ วัตถุประสงค์
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๖๐ สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งท่ี ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่
๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกรออกข้อบังคับไว้
ดังต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการขึ้นทะเบยี นวศิ วกรวิชาชีพต่างดา้ ว
ตามข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซยี นด้านบรกิ ารวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๖๑”
ข้อ ๒ ข้อบงั คับน้ีให้ใช้บังคบั ต้ังแตว่ ันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป
ขอ้ ๓ ในข้อบังคบั น้ี
“วิศวกรวิชาชีพอาเซียน” หมายความว่า ผู้ที่ได้รับการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน
(ASEAN Chartered Professional Engineer) ตามขอ้ ตกลงยอมรับร่วมของอาเซยี นด้านบรกิ ารวิศวกรรม
“วิศวกรวิชาชีพต่างด้าว” หมายความว่า วิศวกรวิชาชีพอาเซียนท่ีประสงค์เข้ามาประกอบ
วชิ าชพี วศิ วกรรมหรือวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคมุ ในประเทศไทย และไดร้ บั การขน้ึ ทะเบยี นวศิ วกรวชิ าชพี ตา่ งดา้ ว
จากสภาวิศวกร (Registered Foreign Professional Engineer) ตามข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียน
ดา้ นบรกิ ารวิศวกรรม
หมวด ๑
คุณสมบตั ิเฉพาะ และลกั ษณะต้องหา้ มของวศิ วกรวิชาชีพตา่ งด้าว
ข้อ ๔ ผู้ขอข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าวต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) มีสัญชาติของประเทศสมาชิกอาเซยี น
(๒) เปน็ วิศวกรวชิ าชีพอาเซยี น
(๓) เป็นสมาชกิ สภาวศิ วกร ประเภทวสิ ามัญ
(๔) ไม่คยถกู เพกิ ถอนการขนึ้ ทะเบียนวศิ วกรวิชาชีพต่างด้าว
229
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๓๑ ง หน้า ๕๕ ๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๒
ราชกจิ จานเุ บกษา
หมวด ๒
หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงอื่ นไขการข้ึนทะเบยี นวศิ วกรวิชาชีพต่างด้าว
ข้อ ๕ ให้ผู้ประสงค์ขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าว ยื่นคาขอพร้อมชาระค่าคาขอ
ข้ึนทะเบียนต่อสานักงานสภาวิศวกร ตามแบบคาขอข้ึนทะเบียนและหลักฐานที่คณะกรรมการ
สภาวิศวกรกาหนด
เอกสารหลักฐานตามวรรคหน่งึ อยา่ งน้อยตอ้ งประกอบดว้ ย
(๑) หนังสือรับรองการปฏิบัติงานของวิศวกรวิชาชีพต่างด้าว ซ่ึงออกโดยผู้ได้รับใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ประเภทนิติบุคคล โดยระบุรายละเอียดช่ือผู้ยื่นคาขอ ตาแหน่ง
และระยะเวลาการปฏิบัตงิ าน
(๒) สาเนาหนังสือเดนิ ทาง
(๓) สาเนาใบรบั รองการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน
(๔) สาเนาใบอนุญาตหรือใบรับรองการข้ึนทะเบียนการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมที่ออกโดย
ประเทศของผูย้ ื่นคาขอ
ข้อ ๖ ให้คณะกรรมการสภาวิศวกรดาเนนิ การข้นึ ทะเบียนวศิ วกรวิชาชีพต่างด้าวในนามของ
สภาวิศวกร เมอื่ ผยู้ นื่ คาขอมีคุณสมบัตแิ ละไม่มลี ักษณะตอ้ งห้ามตามทก่ี าหนดไว้ในขอ้ บงั คบั นี้
ข้อ ๗ เมื่อคณะกรรมการสภาวิศวกรเห็นสมควรให้ขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าว
หรอื ในกรณที ีม่ ีมตไิ ม่รับขึน้ ทะเบยี น ใหส้ านกั งานสภาวิศวกรมีหนงั สือแจงใหผยู้ ื่นคาขอน้ันทราบ ภายใน
หกสบิ วันนับแต่วนั ทค่ี ณะกรรมการสภาวศิ วกรมีมติ
หนังสอื แจง้ ตามวรรคหนึ่งอาจทาในรปู ข้อมลู อิเลก็ ทรอนิกสก์ ไ็ ด้
ให้ผู้ย่ืนคาขอดาเนินการชาระค่าธรรมเนียมใบรับรองการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชี พต่างด้าว
ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากสภาวิศวกร กรณีผู้ย่ืนคาขอไม่ชาระค่าธรรมเนียม
ภายในกาหนดเวลา ให้ถอื วา่ ผยู้ ืน่ คาขอไม่ประสงคจ์ ะขึน้ ทะเบยี นวิศวกรวิชาชีพตา่ งดา้ วอีกตอ่ ไป
เม่ือผู้ยื่นคาขอได้ชาระค่าธรรมเนียมใบรับรองการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าวแล้ว
ใหส้ านกั งานสภาวิศวกรออกใบรับรองการขึ้นทะเบยี นใหแ้ ก่ผนู้ น้ั
ใบรับรองการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าว ให้เป็นไปตามแบบท่ีคณะกรรมการ
สภาวิศวกรกาหนด โดยใหม้ อี ายุหนง่ึ ปนี ับแต่วันท่ีสภาวศิ วกรออกใบรับรองรบั รองการขนึ้ ทะเบียน
ขอ้ ๘ ผู้ขน้ึ ทะเบียนวิศวกรวิชาชีพตา่ งดา้ ว ทีป่ ระสงคจ์ ะตอ่ อายทุ ะเบียนวิศวกรวิชาชพี ต่างด้าว
ให้ย่ืนคาขอต่ออายุทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าว พร้อมชาระค่าคาขอต่ออายุทะเบียนวิศวกร
วิชาชีพต่างด้าว ต่อสานักงานสภาวศิ วกร ตามแบบคาขอต่ออายุทะเบยี นและหลักฐานท่ีคณะกรรมการ
สภาวิศวกรกาหนด ภายในเก้าสิบวันก่อนวันท่ีใบรับรองการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าวส้ินอายุ
230
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๓๑ ง หน้า ๕๖ ๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๒
ราชกิจจานเุ บกษา
และเม่ือได้ยื่นคาขอต่ออายุทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าวแล้ว ให้ดาเนินการต่อไปได้จนกว่า
คณะกรรมการสภาวิศวกรจะส่งั ไม่อนุญาตให้ตอ่ อายุทะเบยี นวศิ วกรวชิ าชพี ต่างดา้ ว
ใหน้ าขอ ๗ วรรคหนงึ่ วรรคสอง และวรรคสาม มาใชก้ ับหนังสือแจง้ ผลการพจิ ารณาต่ออายุ
ใบรบั รองการขน้ึ ทะเบยี นวิศวกรวชิ าชพี ต่างดา้ ว โดยอนโุ ลม
เม่ือผู้ย่ืนคาขอได้ชาระค่าธรรมเนียมใบรับรองการต่ออายุทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าวแล้ว
ใหส้ านกั งานสภาวิศวกรออกใบรบั รองการต่ออายุทะเบียนวศิ วกรต่างดา้ วให้แก่ผนู้ ัน้
ใบรับรองการต่ออายทุ ะเบยี นวศิ วกรตา่ งดา้ ว ใหเ้ ป็นไปตามแบบทค่ี ณะกรรมการสภาวิศวกรกาหนด
โดยใหม้ ีอายหุ นงึ่ ปนี บั จากวันที่หนงั สอื รับรองการขึน้ ทะเบียนเดิมสิน้ อายุ
หมวด ๓
หลกั เกณฑ์ และเงอื่ นไขการประกอบวิชาชพี วศิ วกรรม หรือวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุม
ของวศิ วกรวชิ าชีพตา่ งดา้ ว
ขอ้ ๙ วิศวกรวิชาชีพต่างด้าวมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย
และตามข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนด้านบริการวิศวกรรม และต้องไม่ประกอบวิชาชีพโดยอิสระ
โดยวิศวกรวิชาชพี ตา่ งดา้ วตอ้ งประกอบวชิ าชพี รว่ มกบั ผ้ไู ดร้ บั ใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคมุ
ประเภทนิติบุคคลและผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ประเภทบุคคลธรรมดาที่สังกัด
นิตบิ ุคคลน้ันตามทีไ่ ดแ้ จ้งไว้ตอ่ สภาวิศวกร
ข้อ ๑๐ กรณีวิศวกรวิชาชีพต่างด้าวประสงค์ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องได้รับ
ใบอนญุ าตประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุมจากสภาวศิ วกร
ขอ้ ๑๑ กรณีวศิ วกรวิชาชีพต่างดา้ วทไ่ี ด้รบั การข้นึ ทะเบียนวชิ าชพี ตา่ งด้าวแลว้ ตอ่ มาภายหลัง
หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ประเภทนิติบุคคล ตามท่ี
ได้แจ้งไว้ตอ่ สานักงานสภาวศิ วกร จะต้องย่นื คาขอเพอ่ื แจง้ เปลีย่ นแปลงต่อสานักงานสภาวศิ วกร ภายใน
หกสิบวันนับแตว่ นั ท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลง กรณีไม่แจ้งการเปล่ียนแปลงภายในกาหนด ให้การข้ึนทะเบยี น
วศิ วกรวิชาชีพตา่ งด้าวของผ้นู ั้นสิ้นสุดลง
หมวด ๔
การสิ้นสดุ และการเพกิ ถอนการขน้ึ ทะเบียน
ข้อ ๑๒ การขึ้นทะเบียนวศิ วกรวิชาชีพต่างด้าวส้ินสุดลง เมื่อเกิดกรณีใดกรณีหนงึ่ ดังต่อไปนี้
กับผู้ขึน้ ทะเบยี นเป็นวิศวกรวิชาชพี ต่างดา้ ว
(๑) ตาย
(๒) ขาดตอ่ อายทุ ะเบยี นตามท่ีกาหนดไว้ในขอ้ บงั คบั นี้
(๓) ทะเบียนวศิ วกรวิชาชีพอาเซยี นสิน้ สุดลง
231
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๓๑ ง หน้า ๕๗ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
ราชกจิ จานเุ บกษา
(๔) คณะกรรมการสภาวศิ วกรมมี ติเพกิ ถอนการขนึ้ ทะเบยี น
(๕) ไมแ่ จ้งการเปล่ยี นการประกอบวิชาชพี ร่วมกับผไู้ ด้รับใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม
ประเภทนิติบุคคลอ่ืน ภายในกาหนดเวลาตามข้อ ๑๑ ของข้อบังคบั นี้
ขอ้ ๑๓ คณะกรรมการสภาวิศวกรมีอานาจเพิกถอนการขึ้นทะเบียนเม่ือเกิดกรณีใดกรณีหนึ่ง
ดงั ตอ่ ไปนี้กบั ผขู้ นึ้ ทะเบยี นเป็นวิศวกรวชิ าชพี ตา่ งด้าว
(๑) ขาดคณุ สมบตั ิหรอื มีลกั ษณะต้องหา้ มตามทีก่ าหนดไว้ในข้อบังคับน้ี
(๒) แสดงข้อความหรือหลักฐานอันเป็นเท็จในคาขอข้ึนทะเบียนหรือคาขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน
ในส่วนที่เป็นสาระสาคญั
(๓) กระทาการท่ีเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามเง่ือนไขในการประกอบวิชาชีพ ตามท่ี
กาหนดไว้ในข้อบังคบั นี้ หรอื ตามขอ้ ตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนดา้ นบรกิ ารวิศวกรรม
(๔) มีการกระทาหรือพฤติกรรมอย่างใดอย่างหน่ึงอันทาให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสีย
แห่งวิชาชีพอยา่ งรา้ ยแรง
ในกรณีท่ีปรากฏเร่ืองอันเข้าข่ายการเพิกถอนการข้ึนทะเบียนวิชาชีพต่างด้าวตามวรรคหนึ่ง
ใหเลขาธิการสภาวศิ วกรเสนอเรื่องดงั กล่าวต่อคณะกรรมการสภาวิศวกรโดยไม่ชักช้า
ประกาศ ณ วนั ท่ี 19 ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวศิ วกร
232
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๗ ง หน้า ๔๘ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ราชกจิ จานเุ บกษา
ข้อบงั คับสภาวศิ วกร
ว่าดว้ ยการขน้ึ ทะเบยี นวศิ วกรวิชาชพี ต่างด้าว
ตามขอ้ ตกลงยอมรบั รว่ มของอาเซยี นดา้ นบรกิ ารวศิ วกรรม (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยทีเ่ ป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมขอ้ บังคบั สภาวิศวกร ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพตา่ งด้าว
ตามขอ้ ตกลงยอมรบั รว่ มของอาเซียนด้านบรกิ ารวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยยกเลิกการกาหนดคณุ สมบตั ิ
ของผู้ขอข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าว ต้องเป็นสมาชิกสภาวิศวกร ประเภทวิ สามัญ เพื่อมิให้
ขัดต่อเจตนารมณ์ตามข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนด้านบริการวิศวกรรม ที่มีวัตถุประสงค์เพ่ืออานวย
ความสะดวกในการเคล่อื นย้ายวศิ วกรวชิ าชีพเป็นสาคญั
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฎ) และ (๗) ประกอบมาตรา ๗ (๘)
แห่งพระราชบญั ญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกาหนดการดาเนนิ การอื่นอนั เป็นวัตถปุ ระสงค์
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๖๐ สภาวศิ วกรโดยมติทป่ี ระชุมใหญส่ ามญั สภาวิศวกร เมื่อวนั ที่ ๑๑ มิถนุ ายน ๒๕๖๓
และโดยความเห็นชอบของสภานายกพเิ ศษแห่งสภาวิศวกร ออกขอ้ บงั คับไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้
ขอ้ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าว
ตามข้อตกลงยอมรบั รว่ มของอาเซยี นด้านบรกิ ารวศิ วกรรม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ขอ้ บงั คับนใ้ี หใ้ ชบ้ งั คบั ตง้ั แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก (๓) ของข้อ ๔ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนวิศวกร
วิชาชพี ตา่ งด้าวตามขอ้ ตกลงยอมรับรว่ มของอาเซียนดา้ นบรกิ ารวศิ วกรรม พ.ศ. ๒๕๖๑
ขอ้ ๔ คาขอข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพต่างด้าวท่ีได้ยื่นไว้ก่อนวันท่ีข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ
และยงั อยู่ในหว่างการพจิ ารณา ให้ดาเนนิ การตอ่ ไปตามข้อบงั คบั สภาวศิ วกร วา่ ด้วยการขน้ึ ทะเบยี นวศิ วกร
วิชาชีพต่างดา้ วตามข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซยี นดา้ นบรกิ ารวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๖๑ ซ่ึงแก้ไขเพมิ่ เติม
โดยขอ้ บงั คบั น้ี
ประกาศ ณ วนั ท่ี 12 มกราคม พ.ศ. ๒๕64
สุชัชวีร์ สวุ รรณสวสั ด์ิ
นายกสภาวศิ วกร
233
เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๗๑ ง หนา ๑ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒
ราชกิจจานุเบกษา
ระเบยี บคณะกรรมการสภาวศิ วกร
วา ดวยการขนึ้ ทะเบยี นเปนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer)
พ.ศ. ๒๕๕๒
โดยที่เปนการสมควรใหมีหลกั เกณฑการขึ้นทะเบียนเปน วิศวกรเอเปค (APEC Engineer)
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ประกอบกบั มตขิ องที่ประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๒ คณะกรรมการ
สภาวิศวกรจงึ ออกระเบยี บไว ดังตอไปนี้
ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการข้ึนทะเบียน
เปน วิศวกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒”
ขอ ๒ ระเบยี บนี้ใหใชบังคับตงั้ แตว ันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ผูใดประสงคจะไดรับสิทธิประโยชนในฐานะวิศวกรเอเปค (APEC Engineer)
ใหยน่ื คําขอขึ้นทะเบียนตอสภาวิศวกร ตามแบบท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรกําหนด พรอมกับสําเนา
เอกสารหลักฐานแสดงวุฒิการศึกษา และเอกสารแสดงปริมาณงานและคุณภาพของผลงานในการ
ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมที่รับรองโดยผูไดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในระดับ
ไมตา่ํ กวาผยู ่ืนคําขอ หรือโดยเจาของสถานประกอบการทีผ่ ูย่นื คําขอทํางานอยู หรอื เคยทาํ งาน
ขอ ๔ กรณีผูย่ืนคําขอประสงคจะขึ้นทะเบียนเปนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer)
ในสาขาวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุม ผนู น้ั ตอ งมีคณุ สมบัติ ดังตอ ไปน้ี
(๑) เปน ผูไดร ับใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุมจากสภาวศิ วกร ในสาขาทย่ี ื่นคาํ ขอ
(๒) มีประสบการณในการปฏบิ ัติงานทางวิชาชีพวิศวกรรมมาแลวไมนอยกวาเจ็ดป ในวันท่ี
ยน่ื คาํ ขอ
(๓) รบั ผิดชอบงานวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ในสาขาทีย่ ่ืนคาํ ขอมาแลวไมนอยกวาสองป
ขอ ๕ กรณีผูย่ืนคําขอประสงคจะขึ้นทะเบียนเปนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer)
ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรมอน่ื ซง่ึ มใิ ชส าขาวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุม ผนู ้นั ตองมีคุณสมบัติ ดงั ตอ ไปนี้
234
เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๗๑ ง หนา ๒ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒
ราชกิจจานเุ บกษา
(๑) เปนบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย และตองเปนสมาชิกสามัญหรือสมาชิกวิสามัญของ
สภาวิศวกร
(๒) ไดรับการรับรองจากสภาวิศวกรในการปฏิบัติงานวิชาชีพวิศวกรรมในสาขาที่ย่ืนคําขอ
ตามเกณฑทคี่ ณะกรรมการสภาวิศวกรกําหนด
(๓) สําเรจ็ การศึกษาขัน้ ต่ําระดบั ปรญิ ญาตรีทางวิศวกรรมศาสตร หรอื เทียบเทา
(๔) มีประสบการณใ นการปฏบิ ัติงานทางวิชาชีพวิศวกรรมมาแลวไมนอยกวาเจ็ดป ในวันท่ี
ยน่ื คําขอ
(๕) รับผิดชอบงานทางวิชาชพี วิศวกรรมในสาขาท่ยี ืน่ คําขอมาแลวไมนอ ยกวาสองป
ขอ ๖ ในกรณีที่คณะกรรมการสภาวิศวกรเห็นวาผูย่ืนคําขอมีคุณสมบัติถูกตองตามขอ ๔
หรือขอ ๕ ใหมีมติรับข้ึนทะเบียนบุคคลนั้นเปนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) และใหสํานักงาน
สภาวิศวกรมีหนงั สือแจง ใหผยู ่นื คําขอทราบ
ขอ ๗ ใหผูยื่นคําขอชําระคาธรรมเนียมตอสํานักงานสภาวิศวกรตามอัตราที่กําหนดไวใน
ขอบังคบั สภาวิศวกร วาดว ยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง และคาธรรมเนียม ท่ีเรียกเก็บ
จากสมาชกิ หรือบุคคลภายนอก
เม่ือไดรับชําระคาธรรมเนียมแลว ใหสํานักงานสภาวิศวกรออกใบรับรองการข้ึนทะเบียน
วิศวกรเอเปคใหแ กผนู ้ัน
ขอ ๘ การขน้ึ ทะเบยี นเปน วศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) มีอายุครงั้ ละสามป นบั แตว ันท่ี
อนุมัตขิ ึน้ ทะเบียน
การตอ อายุทะเบยี น ใหย่ืนคําขอตออายุทะเบียนตอคณะกรรมการสภาวิศวกร ภายในเกาสิบวัน
กอนวันทีท่ ะเบียนสิน้ อายุ และตองมหี นวยความรูไมนอ ยกวา ๑๕๐ หนวย ตามระเบียบคณะกรรมการ
สภาวิศวกร วาดว ยการพัฒนาวิชาชพี ตอเนือ่ ง เพื่อประกอบการพิจารณาตอ อายทุ ะเบยี น
กรณีที่ไมสามารถยื่นคําขอตออายุทะเบียน ตามเวลาที่กําหนดในวรรคสอง การตอทะเบียน
จะตอ งขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสภาวศิ วกร เปน รายกรณไี ป
ผูยื่นคําขอตออายุทะเบียนที่คณะกรรมการสภาวิศวกรมีมติรับตออายุทะเบียน และได
ชําระคาธรรมเนียมตอสํานักงานสภาวิศวกร ตามอัตราท่ีกําหนดไวในขอบังคับสภาวิศวกร วาดวย
235
เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๗๑ ง หนา ๓ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒
ราชกจิ จานุเบกษา
การกาํ หนดคาจดทะเบยี นสมาชกิ คา บํารงุ และคาธรรมเนียมท่ีเรียกเก็บจากสมาชกิ หรอื บุคคลภายนอกแลว
ใหส ํานักงานสภาวิศวกรออกใบรับรองการขึ้นทะเบยี นวศิ วกรเอเปคใหแ กผนู น้ั
ประกาศ ณ วันท่ี ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒
วิระ มาวจิ ักขณ
นายกสภาวศิ วกร
236
เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๔ ง หน้า ๑๒ ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
วา่ ด้วยการข้นึ ทะเบยี นเปน็ วิศวกรเอเปค (APEC Engineer)
(ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการข้ึนทะเบียน
เปน็ วศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ประกอบกับมติท่ีประชุมใหญ่วิสามัญ คร้ังท่ี ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันท่ี ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ คณะกรรมการ
สภาวศิ วกรออกระเบียบไว้ ดงั ต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียน
เป็นวศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐”
ขอ้ ๒ ระเบยี บนใ้ี หใ้ ช้บังคบั ต้ังแตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียน
เปน็ วศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒ และใหใ้ ช้ความต่อไปนแี้ ทน
“ข้อ ๔ ผู้ขอข้ึนทะเบียนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ต้องมีคณุ สมบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมจากสภาวิศวกรตั้งแต่ระดับสามัญ
วศิ วกรขน้ึ ไปในสาขาวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ที่ยนื่ คําขอ
(๒) มีประสบการณ์ในภาคปฏิบัติงานทางวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมมาแล้วไม่น้อยกว่าเจ็ดปี
หลังจบการศึกษา
(๓) มีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าสองปีในการรับผิดชอบงานวิศวกรรมควบคุมท่ีเด่นชัดตามที่
คณะกรรมการสภาวิศวกรกาํ หนด
(๔) มีหน่วยความรู้ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการพัฒนาวิชาชีพต่อเน่ือง
ตามท่คี ณะกรรมการสภาวศิ วกรกําหนด
(๕) ไมเ่ คยถกู พักใชใ้ บอนญุ าตหรือเพิกถอนใบอนญุ าต”
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความใน (๔) และ (๕) ของข้อ ๕ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
วา่ ด้วยการขนึ้ ทะเบยี นเปน็ วิศวกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒ และให้ใชค้ วามต่อไปนี้แทน
“(๔) มปี ระสบการณใ์ นการปฏิบัติงานทางวชิ าชีพวิศวกรรมมาแลว้ ไม่น้อยกว่าเจด็ ปีหลังจบการศึกษา
(๕) มีประสบการณไ์ มน่ ้อยกว่าสองปีในการรับผิดชอบงานวิศวกรรมท่ีเด่นชัดตามท่ีคณะกรรมการ
สภาวิศวกรกําหนด”
237
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๔ ง หน้า ๑๓ ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๕ ให้เพ่ิมความต่อไปน้ีเป็น (๖) ของข้อ ๕ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
ว่าดว้ ยการขน้ึ ทะเบียนเปน็ วิศวกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒
“(๖) มีหน่วยความรู้ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง
ตามท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรกําหนด”
ข้อ ๖ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ ๘ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
วา่ ดว้ ยการขนึ้ ทะเบียนเปน็ วศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒ และให้ใชค้ วามต่อไปน้แี ทน
“การต่ออายุทะเบียน ให้ยื่นคําขอต่ออายุทะเบียนต่อคณะกรรมการสภาวิศวกรภายในเก้าสิบวัน
ก่อนวันที่ทะเบียนส้ินอายุ และต้องมีหน่วยความรู้ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการพัฒนา
วชิ าชพี ต่อเนือ่ งตามทีค่ ณะกรรมการสภาวศิ วกรกาํ หนด เพอ่ื ประกอบการพิจารณาต่ออายทุ ะเบียน”
ข้อ ๗ ให้เพ่ิมความต่อไปนี้เป็นข้อ ๙ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียน
เป็นวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒
“ข้อ ๙ คณะกรรมการมอี าํ นาจเพกิ ถอนการขึน้ ทะเบียน เม่ือปรากฏว่าผู้ได้รับการข้ึนทะเบียน
เป็นวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่กําหนดไว้ในข้อ ๔
หรือข้อ ๕”
ขอ้ ๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ ๑๐ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
วา่ ดว้ ยการข้นึ ทะเบียนเปน็ วศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒
“ขอ้ ๑๐ ใหก้ ารขน้ึ ทะเบียนสิ้นสุดลง เมื่อเกดิ กรณีดงั ตอ่ ไปนี้กับผ้ขู ้นึ ทะเบยี น
(๑) ตาย
(๒) ถูกพักใชห้ รือเพกิ ถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม
(๓) ทะเบยี นขาดต่ออายุ
(๔) คณะกรรมการสภาวิศวกรมีมตเิ พิกถอนการขึ้นทะเบียน
หา้ มมิใหผ้ ู้ทที่ ะเบยี นสน้ิ สุดลงตาม (๒) ยื่นคําขอข้ึนทะเบียนเป็นวศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) อกี ”
ข้อ ๙ ให้ใบรับรองการข้ึนทะเบียนเป็นวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) ซึ่งได้รับก่อนวันที่
ระเบยี บน้ใี ชบ้ งั คบั ให้ยังคงใชไ้ ด้ต่อไปจนกวา่ จะหมดอายุ
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร
238
หน้า ๑๙ ๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๓
เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๐๖ ง ราชกจิ จานเุ บกษา
ระเบยี บคณะกรรมการสภาวิศวกร
ว่าดว้ ยการขน้ึ ทะเบยี นเป็นวศิ วกรเอเปค (APEC Engineer)
(ฉบบั ท่ี ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๓
โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการขึ้นทะเบียน
เป็นวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓)
แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ คร้ังที่ ๑/๒๕๖๐
เม่ือวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และมติท่ีประชุมคณะกรรมการสภาวศิ วกร ครั้งที่ ๑๐ - ๑๐/๒๕๖๒
เมอื่ วนั ท่ี ๑๐ ตลุ าคม ๒๕๖๒ คณะกรรมการสภาวิศวกรออกระเบียบไว้ ดังตอ่ ไปน้ี
ขอ้ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการข้ึนทะเบียน
เปน็ วิศวกรเอเปค (APEC Engineer) (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓”
ขอ้ ๒ ระเบียบน้ใี หใ้ ช้บงั คบั ต้งั แตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วย
การขน้ึ ทะเบียนเป็นวศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒ และให้ใช้ความตอ่ ไปน้ีแทน
“ข้อ ๓ ผู้ใดประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) ให้ยื่น
คาขอข้ึนทะเบียน และแบบประเมินตนเองในเรื่องความสามารถทางวิศวกรรม พร้อมชาระค่าคาขอ
ขึ้นทะเบียนต่อสานักงานสภาวิศวกร ตามแบบคาขอข้ึนทะเบียน แบบประเมินตนเอง และหลักฐาน
ทค่ี ณะกรรมการสภาวิศวกรกาหนด”
ขอ้ ๔ ให้ยกเลกิ ความในข้อ ๖ ของระเบยี บคณะกรรมการสภาวศิ วกร วา่ ด้วยการขึ้นทะเบียน
เปน็ วศิ วกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. ๒๕๕๒ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนีแ้ ทน
“ข้อ ๖ ผู้ยื่นคาขอมีหน้าที่มานาเสนอผลงานเกี่ยวกับประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุม หรือในสาขาวิชาชีพวิศวกรรม แล้วแต่กรณีตามที่ยื่นคาขอขึ้นทะเบียน ต่อคณะอนุกรรมการ
กากับการขึ้นทะเบียนวิศวกรเอเปคและวิศวกรวิชาชีพอาเซียนตามท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรแต่งต้ัง
ภายในระยะเวลาท่คี ณะอนกุ รรมการกาหนด
ผู้ยื่นคาขอข้ึนทะเบียนซ่ึงไม่สามารถมานาเสนอผลงานภายในระยะเวลาท่ีคณะอนุกรรมการ
กาหนดได้ ต้องยื่นคาร้องขอเล่อื นการนาเสนอผลงาน โดยให้ย่ืนผา่ นสานักงานสภาวิศวกร และต้องย่ืนล่วงหน้า
ไม่น้อยกว่าสามวันก่อนถึงกาหนดวันนัดนาเสนอผลงาน เว้นแต่จะมีเหตุสุดวิสัย และยื่นคาร้อง
ขอเลื่อนเกินสองคร้งั มไิ ด้
คณะอนุกรรมการอาจแจ้งให้ผู้ย่ืนคาขอแก้ไขหรือเพิ่มเติมผลงาน หรือส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาได้ ตามความเหมาะสมและผู้ย่ืนคาขอต้องนาเสนอผลงาน
ภายในระยะเวลาที่คณะอนกุ รรมการกาหนด
กรณผี ู้ยื่นคาขอขึ้นทะเบยี นไม่ดาเนินการให้แลว้ เสรจ็ ภายในกาหนดเวลาตามท่กี าหนดไว้ในข้อน้ี
ให้ถือวา่ ผู้ย่ืนคาขอขึน้ ทะเบยี นไม่ประสงคจ์ ะขอข้ึนทะเบียนอกี ตอ่ ไป
239
หน้า ๒๐ ๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๓
เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๐๖ ง ราชกจิ จานุเบกษา
ในกรณีท่ีคณะอนุกรรมการตรวจสอบแล้วเห็นว่าผู้ย่ืนคาขอมีคุณสมบัติถูกต้องตามข้อ ๔
หรือข้อ ๕ ให้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการสภาวิศวกรเพ่ือมีมติรับบุคคลนั้น ข้ึนทะเบียนวิศวกรเอเปค
(APEC Engineer) และให้สานักงานสภาวิศวกรมีหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นคาขอนั้นทราบ ภายในหกสิบวัน
นับแต่วันท่ีคณะกรรมการสภาวิศวกรมีมติ ท้ังนี้ หนังสือแจ้งอาจทาในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตามประสงคข์ องผ้ยู ื่นคาขอก็ได้”
ข้อ ๕ คาขอข้ึนทะเบียนซ่ึงได้ยื่นไว้ก่อนวันท่ีระเบียบน้ีใช้บังคับ ให้ดาเนินการต่อไป
ตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการข้ึนทะเบียนเป็นวิศวกรเอเปค (APEC Engineer)
พ.ศ. ๒๕๕๒ และระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการข้ึนทะเบียนเป็นวิศวกรเอเปค
(APEC Engineer) (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ จนกวา่ จะแล้วเสร็จ
ประกาศ ณ วนั ท่ี 2 กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖3
สชุ ชั วรี ์ สวุ รรณสวสั ด์ิ
นายกสภาวศิ วกร
240
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๗๖ ง หนา ๓๑ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา
ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
วาดว ยการพัฒนาวชิ าชีพตอ เนื่อง
พ.ศ. ๒๕๕๑
โดยท่ีเปนการสมควรใหมรี ะเบียบคณะกรรมการสภาวศิ วกร วา ดว ยการพัฒนาวิชาชีพตอเนื่อง
เพือ่ พัฒนาทกั ษะและความรูในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ประกอบกับมติของท่ีประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร เม่ือวันท่ี ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
คณะกรรมการสภาวศิ วกร จึงออกระเบยี บไว ดงั ตอ ไปนี้
ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการพัฒนาวิชาชีพ
ตอเนื่อง พ.ศ. ๒๕๕๑”
ขอ ๒ ระเบยี บนใ้ี หใ ชบังคับตั้งแตวันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
ขอ ๓ ในระเบียบนี้
“การพัฒนาวิชาชีพตอเนื่อง” หมายความวา การเขารวมหลักสูตรหรือกิจกรรมที่มี
วัตถุประสงคและเน้ือหาสาระในอันท่ีจะรักษาหรือพัฒนาทักษะและความรูในการประกอบวิชาชีพ
วศิ วกรรมควบคุมของผไู ดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ
“หนวยความร”ู หมายความวา คะแนนทไ่ี ดรบั จากการพัฒนาวิชาชีพตอเนื่อง
ขอ ๔ การพฒั นาวิชาชีพตอเนอื่ งมวี ตั ถุประสงค ดังตอไปน้ี
(๑) เพื่อใชประกอบการเล่อื นระดบั เปน สามัญวศิ วกร
(๒) เพื่อยกระดับความรูค วามสามารถและประสิทธิผลของผไู ดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุม
(๓) เพื่อสงเสริมและสนับสนุนใหผูไดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ไดพ ัฒนาทกั ษะและความรูในการประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมโดยตอ เนือ่ ง
(๔) เพ่ือสงเสริมและสนับสนุนการฝกอบรม ศึกษา หรือการวิจัยอันเปนประโยชนตอการ
พัฒนาวิชาชีพตอเนอื่ ง
241
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๗๖ ง หนา ๓๒ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
(๕) เพ่ือประโยชนในการแลกเปล่ียนความรูและประสบการณระหวางผูไดรับใบอนุญาต
ประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุม
(๖) เพอ่ื เปนหลกั ประกันและเสริมสรางความเชอื่ มั่นในการใหบริการวชิ าชีพ
ขอ ๕ ผูไดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมท่ีประสงคจะใชการพัฒนา
วิชาชีพตอเน่ืองประกอบการเล่ือนระดับเปนสามัญวิศวกร จะตองไดรับหนวยความรูไมนอยกวาท่ี
สภาวิศวกรประกาศกาํ หนด
ขอ ๖ การพฒั นาวิชาชพี ตอเนอื่ งท่จี ะไดร บั หนว ยความรมู ีสองประเภท ดงั ตอ ไปน้ี
(๑) การเขารว มหลกั สตู รหรอื กิจกรรมมาตรฐาน อันไดแก การบรรยาย ฝกอบรม ประชุม
สมั มนา หรอื การอื่นในทาํ นองเดียวกนั ทจี่ ดั โดยสภาวิศวกรหรอื หนวยงานทีส่ ภาวศิ วกรเห็นชอบ
(๒) การเขารวมหลักสูตรหรือกิจกรรมกําหนดเอง อันไดแก การเขารวมหลักสูตรหรือ
กิจกรรมอื่นนอกจากหลักสูตรหรือกิจกรรมตาม (๑) โดยหลักสูตรหรือกิจกรรมน้ันมีวัตถุประสงค
เพ่ือเพิ่มพูนความรูเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมใหแกผูเขารวมหลักสูตรหรือกิจกรรมน้ัน
เพอ่ื ประโยชนในการประกอบวิชาชพี วศิ วกรรม
ขอ ๗ หนวยงานท่ีจะขอใหสภาวิศวกรเห็นชอบใหจัดหลักสูตรหรือกิจกรรมมาตรฐาน
ตองเปน นติ ิบุคคลและมีคุณสมบัตติ ามทสี่ ภาวศิ วกรประกาศกําหนด
การยน่ื ขอความเหน็ ชอบใหเปน ไปตามหลกั เกณฑแ ละวธิ ีการทีส่ ภาวศิ วกรประกาศกาํ หนด
ขอ ๘ ผูไดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมซึ่งเขารวมหลักสูตรหรือ
กิจกรรมกําหนดเอง หากประสงคจะไดรับหนวยความรู ใหย่ืนคํารองขอเทียบหนวยความรูตอ
สํานักงานสภาวิศวกร พรอมกบั เอกสาร ดงั ตอไปน้ี
(๑) รายละเอยี ดของหลักสูตรหรือกจิ กรรม
(๒) เอกสารประกอบการอบรมหรอื การทาํ กิจกรรม
หลักเกณฑแ ละวธิ ีการกําหนดหนวยความรูใหเ ปน ไปตามทสี่ ภาวิศวกรประกาศกาํ หนด
ขอ ๙ ใหสภาวศิ วกรพิจารณาการใหหนวยความรู จากหลักสูตรหรือกิจกรรมกําหนดเอง
ตามแนวทาง ดังตอไปนี้
(๑) มีวัตถุประสงคและจุดมุงหมายชัดเจนดวยเน้ือหาสาระ ในประการท่ีจะรักษาสภาพ
ปรับปรงุ หรือขยายทักษะและความรู ของผูไดรบั ใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
(๒) ความทนั สมัยของเน้อื หา
242
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๗๖ ง หนา ๓๓ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา
(๓) วทิ ยากรมีความรคู วามสามารถเชิงวิชาการในหวั ขอทบ่ี รรยาย
(๔) เวลาท่ใี ชมีความเหมาะสมกบั หัวขอและเนอ้ื หา
(๕) อนื่ ๆ ตามท่สี ภาวศิ วกรประกาศกาํ หนด
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วิระ มาวิจักขณ
นายกสภาวิศวกร
243
244
245
246
เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๕๔ ง หน้า ๖ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙
ราชกจิ จานุเบกษา
ข้อบังคบั สภาวิศวกร
วา่ ด้วยจรรยาบรรณแหง่ วชิ าชีพวศิ วกรรม
และการประพฤตผิ ิดจรรยาบรรณอันจะนํามาซงึ่ ความเส่ือมเสียเกยี รติศักดแ์ิ หง่ วิชาชพี
พ.ศ. ๒๕๕๙
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม
และการประพฤตผิ ดิ จรรยาบรรณอันจะนํามาซง่ึ ความเสอ่ื มเสียเกียรตศิ กั ดแิ์ ห่งวชิ าชพี
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ซ) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗ เม่ือวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ และโดย
ความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแห่งสภาวิศวกร ออกขอ้ บงั คับไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี
ขอ้ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม
และการประพฤตผิ ดิ จรรยาบรรณอนั จะนาํ มาซึง่ ความเสอ่ื มเสียเกียรตศิ ักดแ์ิ หง่ วิชาชพี พ.ศ. ๒๕๕๙”
ขอ้ ๒ ขอ้ บงั คบั น้ใี ห้ใชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติ
ผิดจรรยาบรรณอันจะนาํ มาซงึ่ ความเสอ่ื มเสยี เกยี รติศักดแ์ิ ห่งวชิ าชีพ พ.ศ. ๒๕๔๓
ขอ้ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหน่ึง
ในข้อบังคับน้ี ให้ถือว่าผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมน้ัน ประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ
วิศวกรรมหรือประพฤตผิ ิดจรรยาบรรณอันจะนํามาซง่ึ ความเสือ่ มเสียเกียรติศกั ดแ์ิ หง่ วิชาชีพ แลว้ แตก่ รณี
หมวด ๑
จรรยาบรรณแห่งวชิ าชพี วศิ วกรรม
สว่ นที่ ๑
จรรยาบรรณตอ่ สาธารณะ
ขอ้ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องประกอบวิชาชีพโดยให้ความสําคัญต่อความปลอดภัย
สุขอนามัย และสวสั ดภิ าพของสาธารณชน ตลอดจนทรพั ย์สินและสงิ่ แวดล้อมอนั เปน็ สาธารณะดว้ ย
ขอ้ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องละเว้นจากการให้การสนับสนุน ส่งเสริม
หรอื เปน็ ตัวการ เกยี่ วกบั การทุจริตในโครงการของภาครัฐหรือเอกชน
247
เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๕๔ ง หน้า ๗ ๓ มนี าคม ๒๕๕๙
ราชกจิ จานุเบกษา
สว่ นท่ี ๒
จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชพี
ขอ้ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ ต้องประกอบวิชาชีพวิศวกรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
มคี วามรบั ผิดชอบ และระมัดระวัง
ขอ้ ๘ ผปู้ ระกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุมตอ้ งปฏิบัตงิ านตามหลักปฏบิ ัตแิ ละวชิ าการ
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมเกินความสามารถ
และความเชี่ยวชาญที่ตนเองจะกระทาํ ได้
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ลงลายมือชื่อเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ในงานท่ตี นไม่ได้ทาํ
ขอ้ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่โฆษณาหรือยอมให้ผู้อื่นโฆษณา
ซ่ึงการประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมเกินความเปน็ จริง
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่เรียก รับ ยอมจะรับ หรือให้ทรัพย์สิน
หรอื ผลประโยชน์อยา่ งใดสาํ หรบั ตนเองหรอื ผ้อู นื่ โดยมิชอบในการประกอบวชิ าชพี วิศวกรรม
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมต้องไม่ใช้อํานาจหน้าท่ีโดยไม่ชอบธรรม หรือใช้อิทธิพล
หรือใหผ้ ลประโยชนแ์ ก่บุคคลใดเพอ่ื ให้ตนเองหรอื ผู้อืน่ ไดร้ บั หรือไมไ่ ด้รบั งาน
ส่วนที่ ๓
จรรยาบรรณตอ่ ผูว้ า่ จ้าง
ข้อ ๑๔ ผ้ปู ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคมุ ตอ้ งไม่ละทิ้งงานโดยไม่มีเหตอุ นั ควร
ข้อ ๑๕ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่เปิดเผยความลับของงานที่ตนทํา เว้นแต่
ได้รบั ความยินยอมเป็นลายลักษณอ์ ักษรจากผูว้ ่าจ้าง หรอื เปน็ การเปดิ เผยขอ้ มลู ตามกฎหมาย
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่รับดําเนินงานช้ินเดียวกันให้แก่ผู้ว่าจ้าง
รายอื่นเพ่ือการแข่งขันด้านเทคนิคหรือราคา เว้นแต่ได้แจ้งให้แก่ผู้ว่าจ้างรายแรกทราบล่วงหน้า
เป็นลายลักษณ์อักษร หรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ว่าจ้างรายแรก และได้แจ้งให้
ผ้วู า่ จา้ งรายอื่นนั้นทราบล่วงหนา้ แลว้
ส่วนที่ ๔
จรรยาบรรณต่อผู้รว่ มวชิ าชพี
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่แย่งงานจากผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุมอน่ื เพื่อประโยชน์ของตนเองหรอื ผอู้ น่ื โดยมิชอบ
248
เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๕๔ ง หน้า ๘ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ้ ๑๘ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่รับทํางาน หรือตรวจสอบงานช้ินเดียวกันกับ
ท่ีผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอ่ืนทําอยู่ เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าท่ี หรือเป็นความประสงค์
ของเจ้าของงานและได้แจ้งเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรใหผ้ ปู้ ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมอ่ืนนนั้ ทราบล่วงหน้าแลว้
ข้อ ๑๙ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ใช้หรือกระทําการในลักษณะคัดลอกแบบ
รูป แผนผัง หรือเอกสารที่เกี่ยวกับงานของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอ่ืน เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรจากผู้ประกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุมนัน้
ขอ้ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่อ้างผลงานของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุมอน่ื มาเปน็ ของตนในการประกอบวิชาชพี วศิ วกรรม
ข้อ ๒๑ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่กระทําการใด ๆ โดยจงใจให้เป็นที่เส่ือมเสีย
แก่ช่ือเสยี ง หรอื งานของผู้ประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคมุ อื่น
สว่ นที่ ๕
เร่ืองอ่ืน ๆ
ข้อ ๒๒ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่กระทําความผิดในการประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๒๗ หรือมาตรา ๒๖๙ จนศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุด
วา่ มีความผิด
หมวด ๒
การประพฤติผิดจรรยาบรรณอนั จะนาํ มาซ่งึ ความเสื่อมเสยี เกยี รตศิ ักด์แิ ห่งวิชาชพี
ข้อ ๒๓ กรณีท่ีจะถือเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักด์ิ
แห่งวชิ าชพี มดี ังต่อไปน้ี
(๑) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมตามข้อบังคับน้ี และเป็นการกระทํา
โดยจงใจหรือประมาทเลินเลอ่ อย่างร้ายแรง จนเป็นเหตุให้บุคคลอ่ืนต้องได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อชีวิต
ร่างกาย หรือทรพั ยส์ นิ
(๒) เคยถูกลงโทษโดยคําสั่งถึงท่ีสุด เน่ืองจากประพฤติผิดจรรยาบรรณ ตามมาตรา ๖๑
แหง่ พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่ยงั ประพฤติผิดซํา้ หรือไม่หลาบจํา หรือไม่มีความเกรงกลัว
ตอ่ การประพฤติผิดจรรยาบรรณแหง่ วชิ าชีพวศิ วกรรม
(๓) กระทาํ ความผดิ ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๒๗
หรอื มาตรา ๒๖๙ โดยคาํ พิพากษาถึงทีส่ ดุ ให้จาํ คกุ
(๔) กรณีอ่ืนท่ีคณะกรรมการจรรยาบรรณเห็นว่าเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามา
ซึ่งความเสื่อมเสียเกยี รติศักดิแ์ หง่ วชิ าชพี
249
เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๕๔ ง หนา้ ๙ ๓ มนี าคม ๒๕๕๙
ราชกจิ จานุเบกษา
บทเฉพาะกาล
ขอ้ ๒๔ การกระทําใดท่ีเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณ หรือประพฤติผิดจรรยาบรรณ
อันจะนํามาซง่ึ ความเสอื่ มเสยี เกียรติศักด์ิแห่งวิชาชีพ ซ่ึงได้กระทําก่อนวันที่ข้อบังคับน้ีใช้บังคับ ให้เป็นไปตาม
ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณ
อนั จะนาํ มาซ่ึงความเสอ่ื มเสยี เกยี รติศกั ด์แิ หง่ วิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๓
ข้อ ๒๕ เรื่องกลา่ วหาหรอื กล่าวโทษผู้ประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุมประพฤติผิดจรรยาบรรณ
ท่ีได้ยื่นไว้ก่อนวันท่ีข้อบังคับนี้ใช้บังคับ ให้พิจารณาดําเนินการตามระเบียบท่ีใช้อยู่ในขณะนั้นต่อไปจนกว่า
จะแล้วเสร็จตามข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณ
อันจะนาํ มาซงึ่ ความเสอื่ มเสยี เกยี รติศกั ดแิ์ ห่งวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๓
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๙ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร
250
Àπâ“ 44
‡≈à¡ ÒÚ µÕπæ‡‘ »… ÒÚˆ ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ı 惻®‘°“¬π ÚıÙˆ
√–‡∫¬’ ∫ ¿“«‘»«°√
«à“¥«â ¬«∏‘ æ’ ‘®“√≥“·≈–«‘π®‘ ©¬— ®√√¬“∫√√≥·Ààß«™‘ “™æ’ «»‘ «°√√¡
æ.». ÚıÙˆ
Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡§«“¡„π¡“µ√“ ÛÛ (Û) ¡“µ√“ ı˜ ·≈–¡“µ√“ ı¯
·Ààßæ√–√“™∫≠— ≠µ— «‘ ‘»«°√ æ.». ÚıÙÚ ‚¥¬Õπÿ¡µ— ‘¢Õß§≥–°√√¡°“√ ¿“«»‘ «°√
„π°“√ª√–™¡ÿ §√Èß— ∑Ë’ ¯/ÚıÙˆ ‡¡ÕË◊ «—π∑’Ë ˘ ¡∂‘ πÿ “¬π æ.». ÚıÙˆ §≥–°√√¡°“√
¿“«‘»«°√®÷ßÕÕ°√–‡∫’¬∫‰«â ¥ß— µÕà ‰ªπ’È
¢Õâ Ò √–‡∫’¬∫πÈ’‡√’¬°«à“ ç√–‡∫’¬∫ ¿“«‘»«°√ «à“¥â«¬«‘∏’æ‘®“√≥“·≈–
«π‘ ®‘ ©¬— ®√√¬“∫√√≥·Àßà «™‘ “™’æ«‘»«°√√¡ æ.». ÚıÙˆé
¢Õâ Ú √–‡∫¬’ ∫π„È’ À„â ™∫â ß— §∫— µßÈ— ·µ«à π— ∂¥— ®“°«π— ª√–°“»„π√“™°®‘ ®“π‡ÿ ∫°…“
‡ªìπµâπ‰ª
¢Õâ Û „π√–‡∫’¬∫π’È
§≥–Õπ°ÿ √√¡°“√‰µà «π À¡“¬§«“¡«“à §≥–Õπÿ°√√¡°“√´Ë÷ß§≥–°√√¡°“√
®√√¬“∫√√≥·µàßµ—ÈߢÈ÷π‡æË◊Õ∑”°“√‰µà «π°√≥’∑Ë’¡’°“√°≈à“«À“«à“ºŸâ‰¥â√—∫„∫Õπÿ≠“µ
ª√–惵º‘ ¥‘ ®√√¬“∫√√≥·Ààß«™‘ “™’æ«‘»«°√√¡
§≥–Õπ°ÿ √√¡°“√°≈π—Ë °√Õß À¡“¬§«“¡«“à §≥–Õπ°ÿ √√¡°“√´ßË÷ §≥–°√√¡°“√
®√√¬“∫√√≥·µàߵȗߢ÷Èπ‡æË◊Õæ‘®“√≥“°≈—Ëπ°√Õ߇√◊ËÕß °√≥’∑’Ë¡’°“√°≈à“«À“«à“ºâŸ‰¥â√—∫
„∫Õπ≠ÿ “µª√–惵º‘ ¥‘ ®√√¬“∫√√≥·Àßà «™‘ “™æ’ «»‘ «°√√¡ °Õà π‡ πÕµÕà §≥–°√√¡°“√
®√√¬“∫√√≥