The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-05-18 01:08:00

พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

Keywords: พรบ.วิศวกรพ.ศ.๒๕๔๒

101

102

103

104

105

106

107

108

109

110

111

112

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๔ ง หนา ๒๓ ๑๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอบังคบั สภาวิศวกร

วา ดว ยการเลอื กและการเลอื กตั้งกรรมการสภาวศิ วกร
(ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๑

โดยท่ีเปนการสมควรแกไขเพิ่มเติมขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือกและการเลือกตั้ง
กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) และมาตรา ๓๒ แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติท่ีประชุมใหญวิสามัญ ครั้งท่ี ๑/๒๕๕๐ เม่ือวันที่ ๒๒ สิงหาคม
พ.ศ. ๒๕๕๐ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร จึงออกขอบังคับไว
ดังตอไปน้ี

ขอ ๑ ขอ บงั คบั น้ีเรียกวา “ขอ บังคบั สภาวศิ วกร วา ดว ยการเลือกและการเลือกต้ังกรรมการ
สภาวิศวกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑”

ขอ ๒ ขอ บังคับนี้ใหใ ชบ ังคับตั้งแตว นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลิกความในขอ ๒๔ ของขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือกและ
การเลอื กตง้ั กรรมการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ ชความตอ ไปนีแ้ ทน
“ขอ ๒๔ กรรมการสภาวิ ศวกรจากสมาชิ กสามั ญที่ มิ ได ดํ ารงตํ าแหน งคณาจารย ใน
สถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาจํานวนสิบคน ตามมาตรา ๒๔ (๑) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดแก
(๑) ผูไดรบั เลอื กตง้ั ที่ไดคะแนนสูงสุดในแตละสาขาวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม
(๒) ผูไดรับเลือกต้ังในแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ท่ีไดคะแนนสูง รองจาก (๑)
เรยี งตามลําดับ เปน ผไู ดร บั การเลือกต้งั ของจาํ นวนกรรมการทีเ่ หลอื อยู
สาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในแตละสาขาไดรับการเลือกตั้งไดไมเกินสองคน เวนแต
ในกรณีไมมีผูสมัคร หรือที่มีผูสมัครแตไมครบทุกสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ใหผูสมัครที่เหลือ
ท่ีไดคะแนนสูงสุดของแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมเรียงตามลําดับ เปนผูไดรับการเลือกต้ัง
ตามจํานวนกรรมการ
กรณมี ผี ไู ดค ะแนนเทากนั หลายคน ใหใชวธิ ีจับสลาก”

113

เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๔ ง หนา ๒๔ ๑๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ ๔ ใหเพ่ิมความตอไปนี้เปน ขอ ๒๔/๑ ของขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือก
และการเลอื กตงั้ กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

“ขอ ๒๔/๑ กรรมการสภาวิศวกรจากสมาชิกสามัญที่ดํารงตําแหนงคณาจารยใน
สถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาจํานวนหาคน ตามมาตรา ๒๔ (๒) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดแก ผูไดรับเลือกต้ังที่ไดคะแนนสูงสุดในแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
เรียงตามลาํ ดับ

สาขาวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมในแตล ะสาขาจะมีผูไดรบั การเลอื กตงั้ ไดไมเกินหนึ่งคน เวนแต
ในกรณีที่ไมมีผูสมัคร หรือมีผูสมัครไมครบทุกสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ใหผูสมัครท่ีเหลือ
ที่ไดคะแนนสูงสุดของแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมเรียงตามลําดับ เปนผูไดรับการเลือกต้ัง
ตามจํานวนกรรมการ

กรณมี ผี ูไดค ะแนนเทากนั หลายคน ใหใชว ิธจี บั สลาก”

ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

วิระ มาวจิ ักขณ
นายกสภาวิศวกร

114

เลม่ ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๘๘ ง หนา้ ๗๒ ๑ มถิ ุนายน ๒๕๕๕
ราชกจิ จานเุ บกษา

ขอ้ บังคบั สภาวิศวกร

วา่ ด้วยการเลือกและการเลือกตงั้ กรรมการสภาวศิ วกร (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๕

โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือกและการเลือกต้ัง
กรรมการสภาวิศวกร

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) และมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ อันเป็นกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บญั ญัตใิ ห้กระทําได้โดยอาศยั อาํ นาจตามบทบัญญัตแิ ห่งกฎหมาย สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่สามัญ
สภาวศิ วกร และความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกร จงึ ออกข้อบังคับไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ ข้อบังคับนีเ้ รียกวา่ “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือกและการเลือกตั้งกรรมการ
สภาวศิ วกร (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๕”

ขอ้ ๒ ข้อบังคับนใ้ี ห้ใชบ้ ังคบั ตั้งแตว่ ันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในขอ้ ๑๗ ของขอ้ บังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือกและการเลือกต้ัง
กรรมการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และให้ใช้ความต่อไปน้แี ทน
“ข้อ ๑๗ ให้คณะกรรมการอํานวยการเลือกต้ังดําเนินการจัดส่งบัตรเลือกตั้ง พร้อมเอกสาร
แนะนําวิธีการลงคะแนนเลอื กตง้ั และซองทีจ่ า่ หน้าสง่ ไปที่ตู้ไปรษณีย์ท่ีผู้อํานวยการเลือกตั้งเช่าไว้สําหรับ
การเลือกต้งั เพือ่ สง่ กลบั ถึงสํานักงานสภาวิศวกร โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ณ ที่อย่ปู ัจจุบนั ซง่ึ บุคคลดงั กลา่ วใหไ้ วต้ ่อสํานักงานสภาวิศวกร รวมทั้งแจ้งกําหนดวันและเวลาการเปิดตู้ไปรษณีย์
เพ่ือนบั คะแนนเลอื กตง้ั ใหท้ ราบลว่ งหนา้ ไมน่ อ้ ยกวา่ สามสิบวนั ”
ขอ้ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๑ วรรคสอง ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือก
และการเลอื กตัง้ กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนีแ้ ทน
“การนับคะแนนในวันนับคะแนนเลือกตั้ง เมื่อเริ่มดําเนินการแล้ว ให้ดําเนินการต่อเนื่องไป
จนกว่าจะแลว้ เสรจ็ ”

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เรอื งศกั ดิ์ วชั รพงศ์
นายกสภาวศิ วกร

115

หน้า ๗๔ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา

ขอ้ บงั คบั สภาวิศวกร

ว่าด้วยการเลอื กและการเลอื กต้ังกรรมการสภาวิศวกร (ฉบบั ท่ี ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าดว้ ยการเลือกและการเลือกต้งั
กรรมการสภาวศิ วกร เพือ่ รองรับการเลือกต้งั ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ อนั จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชกิ สามญั
ของสภาวศิ วกรผู้มสี ิทธิเลือกตั้งในการแสดงความจานงเลือกใชส้ ทิ ธลิ งคะแนนเลอื กตัง้ แบบอิเล็กทรอนกิ ส์
แทนวิธีการลงคะแนนแบบเดมิ ทางไปรษณีย์

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) และมาตรา ๓๒ แหง่ พระราชบัญญัตวิ ิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติทปี่ ระชุมใหญส่ ามญั สภาวิศวกร เมือ่ วนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔
และโดยความเห็นชอบของสภานายกพเิ ศษแห่งสภาวศิ วกรออกข้อบังคับไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ขอ้ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลอื กและการเลือกต้ัง
กรรมการสภาวิศวกร (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ขอ้ ๒ ข้อบงั คบั นี้ใหใ้ ชบ้ ังคบั ตง้ั แตว่ ันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในวรรคสองของขอ้ ๑๖ ของขอ้ บงั คับสภาวิศวกร วา่ ด้วยการเลอื ก
และการเลือกตัง้ กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ช้ความต่อไปนแ้ี ทน
“การเลอื กตงั้ กรรมการให้ดาเนินการเลือกตง้ั ทางไปรษณีย์ หรอื โดยวธิ ีอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ก็ได้”

ประกาศ ณ วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารยส์ ชุ ชั วีร์ สุวรรณสวัสดิ์
นายกสภาวศิ วกร

116

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๙๒ ง หนา ๘ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๒
ราชกจิ จานเุ บกษา

ขอบงั คบั สภาวศิ วกร

วา ดวยการเลือกกรรมการเพื่อดาํ รงตาํ แหนงนายกสภาวิศวกรและอปุ นายกสภาวิศวกร
และการเลือกหรือการเลือกต้ังกรรมการแทนตําแหนง กรรมการท่ีวางลง
พ.ศ. ๒๕๕๒

โดยทีเ่ ปน การสมควรปรบั ปรุงขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือกกรรมการเพื่อดํารงตําแหนง
นายกสภาวิศวกรและอุปนายกสภาวิศวกร และการเลือกหรือการเลือกต้ังกรรมการแทนตําแหนง
กรรมการทวี่ า งลง

อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) ประกอบกบั มาตรา ๓๒ แหง พระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ อันเปนพระราชบญั ญตั ทิ ีม่ บี ทบัญญตั ิบางประการเกยี่ วกบั การจาํ กัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญตั ใิ หก ระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบญั ญตั แิ หงกฎหมาย สภาวศิ วกรโดยมติที่ประชุมใหญวิสามัญ
ครั้งท่ี ๑/๒๕๕๑ เมื่อวันท่ี ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษ
แหง สภาวิศวกร จงึ ออกขอบังคับไว ดงั ตอไปน้ี

ขอ ๑ ขอ บงั คบั นีเ้ รยี กวา “ขอ บงั คบั สภาวิศวกร วา ดวยการเลือกกรรมการเพอื่ ดํารงตําแหนง
นายกสภาวิศวกรและอุปนายกสภาวิศวกร และการเลือกหรือการเลือกตั้งกรรมการแทนตําแหนง
กรรมการที่วา งลง พ.ศ. ๒๕๕๒”

ขอ ๒ ขอ บังคบั นใ้ี หใชบงั คับต้ังแตว ันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปนตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลกิ ขอ บงั คับสภาวศิ วกร วาดว ยการเลือกกรรมการเพ่ือดํารงตําแหนงนายกสภา
วิศวกรและอุปนายกสภาวิศวกร การเลือกหรือการเลือกตั้งกรรมการแทนตําแหนงกรรมการท่ีวางลง
พ.ศ. ๒๕๔๓

สวนที่ ๑
การเลือกกรรมการเพ่ือดํารงตาํ แหนง นายกสภาวิศวกรและอปุ นายกสภาวิศวกร

ขอ ๔ ในวันเริ่มวาระของการอยูในตําแหนงกรรมการ ใหคณะกรรมการเลือกกรรมการ
เพื่อดํารงตําแหนงนายกสภาวิศวกร อุปนายกสภาวิศวกรคนที่หน่ึง อุปนายกสภาวิศวกรคนท่ีสอง
ตําแหนงละหน่งึ คน

117

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๙๒ ง หนา ๙ ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๕๒
ราชกจิ จานุเบกษา

ในการเลือกตามวรรคหนึ่ง ใหกรรมการซ่ึงอยูในที่ประชุมและมีอายุสูงสุดทําหนาท่ีประธาน
ในที่ประชุมเปนการช่ัวคราว และใหประธานในที่ประชุมมอบหมายใหกรรมการสองคนทําหนาที่
ชวยประธานในการนบั คะแนน

ขอ ๕ ในการเลือกกรรมการเพื่อดํารงตําแหนงนายกสภาวิศวกร กรรมการแตละคนมีสิทธิ
เสนอชอ่ื กรรมการซ่ึงอยูใ นทปี่ ระชมุ และสมควรไดรบั เลอื กเปนนายกสภาวศิ วกร คนละหนง่ึ ช่อื

การเสนอชอ่ื ตามวรรคหนงึ่ ใหก รรมการเขียนช่ือและชื่อสกุลของผูท่ีตนเสนอในบัตรลงคะแนน
ลงลายมอื ชือ่ ของตนกาํ กับ แลว สง ใหป ระธาน กรรมการผูใดไมประสงคจะเสนอชื่อ ใหเขียนขอความ
ท่ีแสดงความประสงคดงั กลาว ลงลายมอื ชือ่ ของตนกาํ กบั แลว สง ใหป ระธาน

ความผิดพลาดในการสะกดช่ือและช่ือสกุลของผูท่ีไดรับการเสนอชื่อไมกระทบตอความสมบูรณ
ของการเสนอชือ่

เมือ่ กรรมการซง่ึ อยูในทปี่ ระชุมทุกคนไดดําเนินการตามวรรคสองแลว ใหประธานในทป่ี ระชุม
และกรรมการซ่งึ ไดร บั มอบหมายตามขอ ๔ วรรคสอง ดําเนินการนบั คะแนน

ผูไดรับการเสนอช่ือดวยคะแนนสูงสุดเกินกึ่งหน่ึงของจํานวนกรรมการท้ังหมด ซ่ึงเสนอชื่อ
และแสดงความประสงคตามวรรคสองเปน ผไู ดร บั เลอื ก หากไมม ผี ไู ดรบั การเสนอช่ือดวยคะแนนสูงสุด
เกินก่ึงหนึ่ง ใหมีการเลือกใหมเฉพาะผูไดรับการเสนอชื่อดวยคะแนนสูงสุดสองลําดับแรก และให
ผไู ดรับการเสนอชอ่ื ดวยคะแนนสงู สุดของจํานวนกรรมการท้งั หมดซึ่งเสนอช่ือและแสดงความประสงค
ตามวรรคสองในรอบนี้เปนผูไดรบั เลือก แตถ าในรอบนี้มีผูไดรับการเสนอชื่อดวยคะแนนสูงสุดเทากัน
ใหป ระธานในทปี่ ระชุมออกเสียงเพิม่ ข้ึนอีกเสยี งหน่งึ เปน เสียงชข้ี าด

ในกรณตี ามวรรคหา หากประธานในที่ประชุมเปนผูไดรับการเสนอชื่อและไดคะแนนสูงสุด
เทากันกับผูไดรับการเสนอช่ือรายอื่น ประธานในที่ประชุมไมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง
เปนเสียงช้ีขาด และตองมีการลงคะแนนใหมระหวางผูไดรับการเสนอชื่อดังกลาว โดยใหกรรมการ
ซึ่งอยใู นทปี่ ระชุมและมอี ายุสูงสุดถดั ลงมา และมใิ ชผไู ดรับการเสนอช่อื ทําหนาที่ประธานในที่ประชุม
เปนการชั่วคราวแทนเฉพาะการเลือกกรรมการตามวรรคน้ี และถาในรอบนี้มีผูไดรับการเสนอชื่อ
ดว ยคะแนนสงู สุดเทา กันอกี ใหป ระธานชัว่ คราวออกเสยี งเพมิ่ ขนึ้ อีกเสียงหนึ่งเปนเสยี งชี้ขาด

ถามีผูไดรับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว ไมวาจะมีการแสดงความประสงคไมเสนอชื่อดวยหรือไม
ใหถือวาผนู นั้ ไดร ับเลือก

ขอ ๖ ในการเลอื กอุปนายกสภาวศิ วกรคนทห่ี น่งึ และอปุ นายกสภาวศิ วกรคนท่สี อง ใหดําเนินการ
ตามขอ ๕ โดยอนุโลม

118

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๙๒ ง หนา ๑๐ ๓๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๒
ราชกิจจานุเบกษา

สว นที่ ๒
การเลอื กหรือการเลอื กตง้ั กรรมการแทนตาํ แหนง กรรมการที่วางลง

ขอ ๗ เมื่อตําแหนงกรรมการซึ่งไดรับเลือกตั้งตามมาตรา ๒๔ (๑) หรือ (๒)
แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ วางลงกอนครบวาระ และตองมีการเลือกกรรมการแทน
ใหคณะกรรมการประชุมเพื่อเลือกสมาชิกผูมีคุณสมบัติและไมมีลักษณะตองหาม ตามมาตรา ๒๗
แหงพระราชบัญญัติดังกลาวเปนกรรมการแทน แลวแตกรณี ทั้งน้ี ผูไดรับการเสนอช่ือตองเปน
ผูไดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในสาขาวิศวกรรมเดียวกันกับตําแหนงกรรมการ
ท่ีวางลง

การเลือกตามวรรคหนึ่ง ใหด ําเนนิ การตามขอ ๕ โดยอนุโลม
ขอ ๘ ในการประชุมใหญเพอ่ื เลอื กตง้ั กรรมการแทนตําแหนงกรรมการท่ีวางลง สมาชิกสามัญ
ซึ่งเขาประชุมแตละคนมีสิทธิเสนอชื่อสมาชิกสามัญซึ่งอยูในท่ีประชุมไมเกินจํานวนกรรมการท่ีวางลง
ตอทป่ี ระชมุ เพือ่ เลือกตั้งขน้ึ เปนกรรมการแทน และตองมีสมาชิกสามัญรับรองการเสนอชื่อไมนอยกวา
หาสบิ คน
การลงมตเิ ลือกผูไดรบั การเสนอชอื่ เปนกรรมการแทนตําแหนงกรรมการท่วี า งลงใหเปนไปตาม
ขอ บงั คบั สภาวิศวกรวา ดว ยการประชุมใหญสภาวิศวกร

ประกาศ ณ วันท่ี ๒๙ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๒
วริ ะ มาวจิ กั ขณ
นายกสภาวิศวกร

119

120

121

122

123

124

125

126

127

เลม ๑๒๔ ตอนพเิ ศษ ๒๓ ง หนา ๔๖ ๒๘ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๐
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ บังคบั สภาวิศวกร

วาดวยการประชมุ ใหญส ภาวศิ วกร (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๐

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ญ) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
สภาวศิ วกรโดยมติทปี่ ระชมุ ใหญว ิสามัญ ครงั้ ที่ ๑/๒๕๔๙ เมอ่ื วนั ท่ี ๒๕ กันยายน ๒๕๔๙ และโดย
ความเห็นชอบของสภานายกพเิ ศษแหง สภาวศิ วกร จงึ ออกขอ บังคบั ไว ดังตอ ไปนี้

ขอ ๑ ขอบังคับน้ีเรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการประชุมใหญสภาวิศวกร
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐”

ขอ ๒ ขอบงั คับนี้ใหใ ชบงั คบั ตง้ั แตวนั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปนตนไป
ขอ ๓ ใหยกเลิกความในขอ ๘ แหงขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการประชุมใหญ
สภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชค วามตอไปนี้แทน
“ขอ ๘ ใหคณะกรรมการมีหนังสือนัดประชุมแจงวัน เวลา สถานท่ี และระเบียบวาระ
การประชมุ ไปยังสมาชกิ โดยทางไปรษณยี ต ามทอี่ ยทู ไ่ี ดแจงไวตอสภาวิศวกรและใหประกาศ วัน เวลา
สถานท่ี และระเบยี บวาระการประชุมในระบบสารสนเทศของสภาวิศวกรและในหนังสือพิมพรายวัน
ทแ่ี พรหลายทว่ั ราชอาณาจักรไมน อ ยกวา หนึ่งฉบบั เปน เวลาสามวันติดตอ กัน
การแจง และการประกาศตามวรรคหน่ึง ตองกระทํากอนวันประชุมใหญไมนอยกวาสิบหาวัน
และใหสงเอกสารประกอบการประชุมไปในคราวเดียวกันไป หรือจัดสงเอกสารการประชุมลวงหนา
ใหส มาชกิ กอ นวนั ประชุมใหญไ มน อ ยกวา สามวัน
เอกสารประกอบการประชุมตามวรรคสองอาจทําในรปู ขอมูลอิเล็กทรอนิกสกไ็ ด
ในกรณที มี่ กี ารจดั ทาํ เอกสารประกอบการประชมุ ในรูปขอ มูลอิเลก็ ทรอนิกส คณะกรรมการ
ตอ งเผยแพรขอ มลู ดังกลา วในระบบสารสนเทศของสภาวิศวกรลวงหนา กอ นวันประชุมใหญไมนอยกวา
สามวัน และตอ งเปด ใหส มาชกิ สามารถทําสาํ เนาขอมูลนัน้ ผา นระบบสารสนเทศของสภาวิศวกรไดโดย
ไมเสยี คาธรรมเนยี ม

128

เลม ๑๒๔ ตอนพเิ ศษ ๒๓ ง หนา ๔๗ ๒๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๐
ราชกิจจานเุ บกษา

ใหคณะกรรมการสงหนังสือนัดประชุมและเอกสารประกอบการประชุมในรูปเอกสาร
สิง่ พมิ พไ ปยังผูต รวจลวงหนากอนการประชุมไมนอยกวาหนึง่ วัน”

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๓ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๐
วิระ มาวจิ กั ขณ
นายกสภาวิศวกร

129

หน้า ๗๐ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

ข้อบังคับสภาวิศวกร

วา่ ดว้ ยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยทเ่ี ป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมขอ้ บังคับสภาวิศวกร ว่าดว้ ยการประชมุ ใหญ่สภาวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๓ และข้อบังคบั สภาวิศวกร วา่ ด้วยการประชุมใหญ่สภาวศิ วกร (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
เพอื่ ให้สามารถจดั สง่ หนงั สือนัดประชมุ และเอกสารประกอบวาระการประชมุ ผ่านระบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ญ) แห่งพระราชบัญญตั ิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
สภาวิศวกรโดยมตทิ ปี่ ระชุมใหญส่ ามญั สภาวิศวกร เมื่อวนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔ และโดยความเห็นชอบ
ของสภานายกพเิ ศษแหง่ สภาวิศวกรออกขอ้ บงั คบั ไว้ ดังต่อไปน้ี

ข้อ ๑ ข้อบังคับนีเ้ รียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชมุ ใหญ่สภาวิศวกร
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ขอ้ ๒ ขอ้ บังคับน้ีให้ใชบ้ งั คบั ตั้งแตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ ใหย้ กเลิกความในข้อ ๘ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าดว้ ยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๓ ซงึ่ แก้ไขเพิม่ เตมิ โดยข้อบังคบั สภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน
“ขอ้ ๘ การนัดประชุม การเชญิ ประชมุ การส่งเอกสารการประชมุ และการแจ้งมติที่ประชมุ
ให้คณะกรรมการมีหนังสือนดั ประชุมแจ้งวัน เวลา สถานที่ และระเบยี บวาระการประชมุ พร้อมเอกสาร
ประกอบการประชมุ ไปยังสมาชิกก่อนวนั ประชมุ ใหญไ่ มน่ อ้ ยกวา่ สิบหา้ วนั ผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนกิ สก์ ไ็ ด้
ท้งั น้ี ไมร่ วมถึงการดาเนนิ การประชมุ ”
ขอ้ ๔ ใหเ้ พม่ิ ความตอ่ ไปนีเ้ ป็นวรรคสองของข้อ ๑๕ ของข้อบังคบั สภาวิศวกร ว่าด้วย
การประชุมใหญ่สภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓
“ในการแจง้ บนั ทกึ รายงานการประชุมตามวรรคหนึง่ จะใชว้ ธิ ผี า่ นระบบทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์
ด้วยกไ็ ด้”

ประกาศ ณ วนั ท่ี 9 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สุชัชวรี ์ สวุ รรณสวัสดิ์
นายกสภาวิศวกร

130

เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๕๔ ง หนา้ ๒ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙
ราชกิจจานุเบกษา

ข้อบงั คบั สภาวศิ วกร

ว่าดว้ ยคณุ สมบัติ วาระการดํารงตาํ แหน่ง
และการพ้นจากการดํารงตําแหน่งของผู้ตรวจสภาวิศวกร

พ.ศ. ๒๕๕๙

โดยทีเ่ ปน็ การสมควรปรับปรุงข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดคณุ สมบตั ขิ องผ้ตู รวจสภาวิศวกร
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (จ) และมาตรา ๒๐ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ
วิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติท่ีประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งท่ี ๑/๒๕๕๗ เมื่อวันท่ี
๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแห่งสภาวิศวกร ออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยคุณสมบัติ วาระการดํารงตําแหน่ง
และการพน้ จากการดํารงตําแหนง่ ของผตู้ รวจสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๕๙”
ขอ้ ๒ ข้อบงั คับนใ้ี หใ้ ช้บงั คับตั้งแตว่ ันถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดคุณสมบัติของผู้ตรวจการสภาวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๓

หมวด ๑
คณุ สมบัติ

ข้อ ๔ ผู้ตรวจสภาวิศวกรซ่ึงแต่งต้ังจากสมาชิกสภาวิศวกรต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ และไม่มี
ลกั ษณะต้องห้าม ดงั ต่อไปนี้

(๑) มีอายไุ มต่ ํา่ กวา่ สส่ี ิบปบี ริบรู ณใ์ นวนั ทไี่ ด้รบั การแตง่ ตงั้
(๒) มสี ญั ชาตไิ ทย
(๓) ไม่มีความประพฤติเส่ือมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี หรือไม่ได้กระทําการใด ๆ
อนั ไม่นา่ ไว้วางใจในความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต
(๔) ไม่เคยต้องคําพิพากษาให้จําคุก แม้คดีน้ันจะยังไม่ถึงท่ีสุดหรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่
เป็นกรณีที่คดียังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทําโดยประมาท ความผิดลหุโทษ
หรือความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาท
(๕) ไมเ่ ปน็ บคุ คลลม้ ละลาย หรอื เคยเปน็ บคุ คลล้มละลายทุจริต
(๖) ไม่เปน็ ผูว้ ิกลจริตหรือจิตฟ่ันเฟือนไม่สมประกอบ
(๗) ไม่เคยถกู ลงโทษฐานประพฤติผดิ จรรยาบรรณ
(๘) ไมเ่ คยถกู ท่ปี ระชมุ ใหญส่ ภาวศิ วกรมมี ติใหพ้ น้ จากตําแหน่งผตู้ รวจสภาวิศวกร
(๙) ไม่เปน็ กรรมการหรือเจ้าหนา้ ที่สภาวิศวกร

131

เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๕๔ ง หน้า ๓ ๓ มนี าคม ๒๕๕๙
ราชกิจจานุเบกษา

ในกรณีผู้ตรวจสภาวิศวกรซึ่งแต่งตั้งจากบุคคลภายนอกต้องเป็นผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ
และประสบการณ์เป็นท่ีประจักษ์ ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์หรือศาสตร์สาขาอ่ืนที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่
ผู้ตรวจสภาวิศวกร ท้ังน้ี ในกรณีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามให้นําความในวรรคหน่ึง มาใช้บังคับ
โดยอนโุ ลม

หมวด ๒
วาระการดํารงตําแหน่ง

ขอ้ ๕ ผู้ตรวจสภาวิศวกรมีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละสามปี และอาจได้รับแต่งต้ังใหม่
แตจ่ ะดาํ รงตําแหน่งเกินสองวาระตดิ ตอ่ กนั ไม่ได้

ในกรณีไม่มีผู้ตรวจสภาวิศวกรเหลืออยู่ ให้ผู้ตรวจสภาวิศวกรที่พ้นจากตําแหน่งตามวาระปฏิบัติ
หน้าทตี่ ่อไป จนกวา่ จะมีการแตง่ ตัง้ ผ้ตู รวจสภาวศิ วกรใหม่

หมวด ๓
การพน้ จากตาํ แหนง่

ขอ้ ๖ นอกจากการพน้ จากตําแหน่งตามวาระ ผูต้ รวจสภาวิศวกรพน้ จากตาํ แหนง่ เมือ่
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบัตหิ รอื มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามขอ้ ๔
(๔) ที่ประชุมใหญ่สภาวิศวกรมีมติให้พ้นจากตําแหน่งผู้ตรวจสภาวิศวกรด้วยคะแนนเสียง
ไมน่ ้อยกว่าสองในสามของจํานวนสมาชิกสามัญทมี่ าประชมุ

บทเฉพาะกาล

ข้อ ๗ ให้ผู้ตรวจการสภาวิศวกรตามข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดคุณสมบัติของ
ผู้ตรวจการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ ซ่ึงดํารงตําแหน่งอยู่ก่อนวันท่ีข้อบังคับน้ีใช้บังคับ ให้คงดํารงตําแหน่ง
และปฏบิ ัติหน้าทต่ี ่อไปจนกว่าจะส้ินสุดวาระ

ในระหว่างที่การแต่งต้ังผู้ตรวจสภาวิศวกรตามข้อบังคับนี้ยังไม่แล้วเสร็จให้ผู้ตรวจการสภาวิศวกร
ตามข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดคุณสมบัติของผู้ตรวจการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ ปฏิบัติหน้าที่
ตอ่ ไปจนกวา่ จะมกี ารแต่งตัง้ ผตู้ รวจสภาวิศวกรตามข้อบังคับนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวศิ วกร

132

133

134

135

หน้า ๖๒ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกจิ จานุเบกษา

ขอ้ บังคับสภาวศิ วกร

ว่าดว้ ยการรบั สมัครเปน็ สมาชิกสามัญของสภาวศิ วกร (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยทเ่ี ป็นการสมควรแกไ้ ขเพม่ิ เติมขอ้ บังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการรับสมคั รเปน็ สมาชิกสามญั
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการอานวยความสะดวกและลดภาระ
แก่ประชาชนผู้มาติดต่อ โดยไมเ่ รียกเกบ็ สาเนาเอกสารท่ีทางราชการออกให้ ตามมติคณะรัฐมนตรี
ในคราวประชมุ เมอ่ื วันที่ ๒ ตลุ าคม ๒๕๖๑ รวมถึงเพ่ือเปน็ การอานวยความสะดวกและเพมิ่ ประสิทธิภาพ
ในการให้บรกิ ารของสภาวศิ วกรผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์

อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบญั ญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมตทิ ีป่ ระชุมใหญส่ ามญั สภาวศิ วกร เม่อื วันท่ี ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔
และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหง่ สภาวิศวกรออกขอ้ บงั คับไว้ ดงั ต่อไปนี้

ข้อ ๑ ขอ้ บงั คับนี้เรยี กว่า “ขอ้ บงั คบั สภาวิศวกร วา่ ดว้ ยการรับสมัครเปน็ สมาชกิ สามัญ
ของสภาวิศวกร (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ขอ้ ๒ ข้อบังคบั นใี้ ห้ใชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในข้อ ๖ ของข้อบงั คบั สภาวิศวกร วา่ ดว้ ยการรับสมคั รเปน็ สมาชิกสามัญ
ของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปน้ีแทน
“ข้อ ๖ ผู้สมคั รเป็นสมาชิก ต้องยื่นใบสมคั รตามแบบท่คี ณะกรรมการสภาวิศวกรกาหนดต่อ
สานักงานสภาวศิ วกร พรอ้ มดว้ ยหลักฐาน ดงั น้ี
(๑) สาเนาหลกั ฐานการศึกษา
(๒) รปู ถา่ ยปัจจบุ นั ไม่เกนิ ๑๒ เดือน หนา้ ตรงไมส่ วมหมวก ไม่สวมแว่นดา ขนาดกวา้ ง
๒.๕ เซนตเิ มตร สูง ๓.๕ เซนตเิ มตร จานวน ๒ รปู
(๓) ใบรับรองแพทย์ตามแบบทีแ่ พทยสภารับรอง”
ขอ้ ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนเ้ี ปน็ หมวด ๔ ธรุ กรรมอิเล็กทรอนิกส์ และข้อ ๑๐ ของข้อบงั คบั
สภาวศิ วกร ว่าด้วยการรบั สมคั รเป็นสมาชกิ สามญั ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓

“หมวด ๔
ธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

ข้อ ๑๐ คาขอ ใบสมัคร การอนุญาต ทะเบียนสมาชิก คาสั่งทางปกครอง หรือ
การดาเนนิ การใด ๆ ตามข้อบงั คับน้ี ถา้ ได้กระทาในรปู ของขอ้ มูลและธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ให้ถือว่า
ใช้บังคบั ไดแ้ ละมีผลโดยชอบด้วยข้อบังคับน้ี ท้งั น้ี หลกั เกณฑ์ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ด้วยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนกิ ส์”

136

หน้า ๖๓ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๕ ใบสมคั รสมาชิกทไ่ี ด้ยน่ื ไว้ก่อนวนั ท่ีข้อบังคับนี้มีผลใชบ้ งั คบั และยงั อยใู่ นระหวา่ ง
การพิจารณา ให้ดาเนนิ การต่อไปจนกว่าจะแลว้ เสร็จตามขอ้ บังคบั สภาวศิ วกร วา่ ดว้ ยการรบั สมัคร
เป็นสมาชิกสามญั ของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

ประกาศ ณ วนั ท่ี 9 กนั ยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สชุ ชั วรี ์ สวุ รรณสวสั ด์ิ
นายกสภาวศิ วกร

137

138

139

140

หน้า ๖๔ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

ขอ้ บงั คบั สภาวศิ วกร

วา่ ด้วยการรับสมัครเปน็ สมาชกิ วิสามญั ของสภาวศิ วกร (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยท่ีเปน็ การสมควรแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ขอ้ บงั คับสภาวศิ วกร วา่ ด้วยการรับสมคั รเป็นสมาชกิ วสิ ามญั
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการอานวยความสะดวกและลดภาระ
แก่ประชาชนผ้มู าติดต่อ โดยไม่เรียกเก็บสาเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ ตามมติคณะรัฐมนตรี
ในคราวประชมุ เม่ือวันท่ี ๒ ตุลาคม ๒๕๖๑ รวมถงึ เพือ่ เปน็ การอานวยความสะดวกและเพ่มิ ประสิทธิภาพ
ในการให้บริการของสภาวิศวกรผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนกิ ส์

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ วรรคสอง
แหง่ พระราชบญั ญัตวิ ศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวศิ วกรโดยมตทิ ป่ี ระชมุ ใหญส่ ามญั สภาวศิ วกร เมือ่ วนั ท่ี
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแหง่ สภาวิศวกรออกข้อบงั คับไว้
ดงั ตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ ขอ้ บังคบั น้ีเรยี กว่า “ข้อบังคบั สภาวศิ วกร ว่าดว้ ยการรบั สมคั รเปน็ สมาชกิ วิสามัญ
ของสภาวิศวกร (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ข้อ ๒ ขอ้ บังคบั น้ีให้ใชบ้ ังคบั ต้งั แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในข้อ ๕ ของข้อบงั คบั สภาวิศวกร วา่ ดว้ ยการรับสมัครเป็นสมาชกิ วสิ ามัญ
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปน้ีแทน
“ข้อ ๕ ผสู้ มัครเปน็ สมาชิก ตอ้ งยนื่ ใบสมัครตามแบบท่ีคณะกรรมการสภาวศิ วกรกาหนดต่อ
สานักงานสภาวิศวกร พร้อมดว้ ยหลกั ฐาน ดังนี้
(๑) สาเนาหนังสือเดินทางสาหรบั ชาวตา่ งประเทศ
(๒) สาเนาหลักฐานการศกึ ษา
(๓) หนงั สือรับรองวา่ เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ิงานเกยี่ วข้องกับวชิ าชีพวิศวกรรม โดยมผี ไู้ ด้รับใบอนญุ าต
ประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ต้ังแตร่ ะดบั สามัญวศิ วกรข้นึ ไปเปน็ ผลู้ งนามรับรอง
(๔) รูปถ่ายปัจจบุ ัน ไมเ่ กนิ ๑๒ เดือน หน้าตรงไม่สวมหมวก ไมส่ วมแว่นดา ขนาดกวา้ ง
๒.๕ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร จานวน ๒ รปู
(๕) ใบรับรองแพทย์ตามแบบทแ่ี พทยสภารบั รอง”
ข้อ ๔ ใหเ้ พิ่มความต่อไปนเี้ ปน็ หมวด ๕ ธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ และขอ้ ๙ ของข้อบงั คบั
สภาวศิ วกร วา่ ด้วยการรบั สมคั รเป็นสมาชกิ วิสามัญของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

141

หน้า ๖๕ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานเุ บกษา

“หมวด ๕
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ ๙ คาขอ ใบสมัคร การอนุญาต ทะเบียนสมาชิก คาส่ังทางปกครอง หรือ
การดาเนินการใด ๆ ตามขอ้ บังคบั นี้ ถา้ ได้กระทาในรปู ของข้อมูลและธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ใหถ้ อื ว่า
ใชบ้ ังคบั ได้และมีผลโดยชอบด้วยขอ้ บังคับน้ี ทัง้ นี้ หลักเกณฑใ์ ห้เปน็ ไปตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม
ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์”

ขอ้ ๕ ใบสมัครสมาชิกทไี่ ด้ย่ืนไว้กอ่ นวันทข่ี ้อบังคบั นี้มผี ลใชบ้ งั คบั และยังอยู่ในระหวา่ ง
การพจิ ารณา ใหด้ าเนินการต่อไปจนกว่าจะแลว้ เสร็จตามขอ้ บงั คบั สภาวิศวกร วา่ ดว้ ยการรบั สมัคร
เป็นสมาชกิ วิสามญั ของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

ประกาศ ณ วนั ที่ 9 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สชุ ชั วีร์ สวุ รรณสวสั ดิ์
นายกสภาวิศวกร

142

143

144


1083

145

1 09 4

146

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๙๒ ง หนา ๙๗ ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๕๑
ราชกิจจานเุ บกษา

ขอบงั คบั สภาวศิ วกร

วา ดวยการกําหนดคาจดทะเบยี นสมาชกิ คาบํารุง และคา ธรรมเนยี ม
ทีเ่ รยี กเก็บจากสมาชกิ หรือบุคคลภายนอก
พ.ศ. ๒๕๕๑

โดยท่ีเปนการสมควรปรับปรุงขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง
และคา ธรรมเนียมทเ่ี รยี กเกบ็ จากสมาชกิ หรือบุคคลภายนอก

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
อนั เปนกฎหมายท่ีมบี ทบัญญตั ิบางประการ เก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙
ประกอบกบั มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยบัญญัติใหกระทําได
โดยอาศยั อาํ นาจตามบทบญั ญัติแหง กฎหมาย สภาวิศวกรโดยมติท่ีประชุมใหญวิสามัญ ครั้งท่ี ๑/๒๕๕๐
เม่ือวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๐ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร
จึงออกขอบงั คับไว ดงั ตอไปนี้

ขอ ๑ ขอ บงั คับนเ้ี รียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก
คา บาํ รุง และคาธรรมเนียมทีเ่ รยี กเกบ็ จากสมาชกิ หรอื บคุ คลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๑”

ขอ ๒ ขอ บังคบั น้ใี หใ ชบ งั คบั ต้ังแตวนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลิกขอ บงั คับสภาวิศวกร วา ดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาธรรมเนียม
จากสมาชิกและบุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๔๓
ขอ ๔ ในขอ บงั คับนี้
“คา จดทะเบียนสมาชกิ ” หมายความวา เงินที่สภาวิศวกรเรียกเก็บเปนคาแรกเขาในการสมัคร
เปน สมาชกิ สภาวิศวกร
“คาบํารุง” หมายความวา เงินท่ีสภาวิศวกรเรียกเก็บจากสมาชิกสภาวิศวกรเปนรายหาป
เพอื่ ใชด าํ เนินกิจการตามวัตถปุ ระสงคของสภาวศิ วกร
“คาธรรมเนียม” หมายความวา เงินท่ีสภาวิศวกรเรียกเก็บจากสมาชิกสภาวิศวกร
หรือบุคคลภายนอกท่ขี อรับบริการจากสภาวศิ วกร

147

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๙๒ ง หนา ๙๘ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอ ๕ สภาวิศวกรกําหนดอัตราคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง และคาธรรมเนียมที่เรียกเก็บ
จากสมาชกิ หรอื บุคคลภายนอก ตามทก่ี ําหนดไวใ นบญั ชีทายขอ บงั คบั นี้

ขอ ๖ ในกรณีสมาชิกซ่ึงไดชําระคาจดทะเบียนสมาชิกรายป ตามขอบังคับสภาวิศวกร
วาดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาธรรมเนียมจากสมาชิกและบุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๔๓
ไวตอสภาวิศวกรอยูกอนวันท่ีขอบังคับนี้ใชบังคับและยังไมหมดอายุ ใหถือวาไดชําระคาจดทะเบียน
และคาบาํ รงุ ตามขอ บังคับนี้ แตเ มอ่ื จะชําระคาบาํ รงุ สมาชิกในครง้ั ตอ ไป ใหช ําระคา บํารุงตามขอบังคับนี้

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
วิระ มาวจิ กั ขณ
นายกสภาวิศวกร

148

บญั ชที า ยขอ บงั คับสภาวศิ วกร
วา ดวยการกําหนดคา จดทะเบยี นสมาชกิ คาบาํ รงุ และคา ธรรมเนียม

ทเ่ี รียกเกบ็ จากสมาชิกหรอื บุคคลภายนอก
พ.ศ. ๒๕๕๑

ก. คาจดทะเบียนสมาชิก ครง้ั ละ ๕๐๐ บาท
คาจดทะเบยี นสมาชกิ ท้งั ประเภทสามญั หรือวิสามัญ

ข. คาบํารงุ
คา บํารงุ ทีเ่ รยี กเก็บจากสมาชกิ รายหาป (เศษของปใหคดิ เปน ป) คนละไมเกิน ๑,๐๐๐ บาท

ค. คาธรรมเนียมทเ่ี รยี กเกบ็ จากสมาชกิ หรอื บุคคลภายนอก ฉบับละ ๕๐๐ บาท
๑. คา หนังสอื รบั รองการเปน สมาชิกฉบับภาษาอังกฤษ
ฉบบั ละ ๕๐ บาท
๒. คาคําขอใบแทนบัตรสมาชิก กรณีบัตรสมาชิกชํารุด ช่ือละ ๒๕ บาท
สญู หาย หรือเปลี่ยนแปลงรายละเอยี ด
ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
๓. คาคําขอขอ มลู สมาชกิ
วนั ละ ๑,๕๐๐ บาท
๔. คาคําขอออกใบรับรองการขึ้นทะเบียนวิศวกรเอเปค
อายุสามป ครง้ั ละ ๒,๐๐๐ บาท

๕. คา การฝกอบรม ตามอัตราที่คณะกรรมการสภาวิศวกร
ประกาศกาํ หนด สาํ หรบั การฝก อบรมแตล ะคร้งั แตตอ งไมเ กนิ

๖. คาสอบวัดผลความรู ท่ีไมเกี่ยวของกับการทดสอบ
ค ว า ม รู ใ น ก า ร ป ร ะ ก อ บ วิ ช า ชี พ วิ ศ ว ก ร ร ม ค ว บ คุ ม
ตามอัตราที่คณะกรรมการสภาวิศวกรกําหนด สําหรับการ
สอบแตละครั้ง แตตองไมเ กนิ

149

๗. คารับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรใน หลักสูตรละ ๑๐,๐๐๐ บาท
การประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุม
ครงั้ ละ ๒๐,๐๐๐ บาท
๘. คาใชจ ายในการเดนิ ทางไปตรวจรับรองหลกั สตู ร คร้ังละ ๓๐,๐๐๐ บาท
ในอตั ราดังนี้ ครงั้ ละ ๔๕,๐๐๐ บาท
คร้งั ละ ๕๐,๐๐๐ บาท
๘.๑ ภายในกรงุ เทพมหานคร สมุทรปราการ ครั้งละ ๕๐,๐๐๐ บาท
ปทุมธานี และนนทบรุ ี

๘.๒ ภาคกลาง (ยกเวนจงั หวดั ตาม ๘.๑)
ภาคตะวนั ตก และภาคตะวนั ออก

๘.๓ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
๘.๔ ภาคเหนอื

๘.๕ ภาคใต

150

เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๘๒ ง หน้า ๒๔ ๙ เมษายน ๒๕๕๘
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอ้ บังคบั สภาวศิ วกร

วา่ ด้วยการกาํ หนดค่าจดทะเบียนสมาชิก คา่ บํารงุ และคา่ ธรรมเนยี ม
ที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบคุ คลภายนอก (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๘

โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก

ค่าบํารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๑ ให้สมบูรณ์

และรองรับการขน้ึ ทะเบยี นและการขอใบรบั รองวศิ วกรวชิ าชพี อาเซยี น

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒

ซึ่งสภาวิศวกรโดยมติท่ีประชุมใหญ่วิสามัญ คร้ังที่ ๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ และโดย

ความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกร ออกขอ้ บังคับไว้ ดงั ต่อไปน้ี

ขอ้ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก

ค่าบํารุง และค่าธรรมเนยี มทเี่ รียกเกบ็ จากสมาชิกหรอื บุคคลภายนอก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘”

ขอ้ ๒ ขอ้ บังคบั นใี้ ห้ใชบ้ ังคบั ตั้งแต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป

ขอ้ ๓ ให้เพ่ิมความต่อไปนี้เป็นลําดับที่ ๙ ลําดับที่ ๑๐ ลําดับท่ี ๑๑ และลําดับท่ี ๑๒

ของ ค. ในบัญชีท้ายข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบํารุง และค่าธรรมเนียม

ทเี่ รียกเก็บจากสมาชิกหรอื บุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๑

“๙. คา่ คําขอข้นึ ทะเบียนวศิ วกรวชิ าชพี อาเซยี น ฉบบั ละ ๑,๐๐๐ บาท

อายสุ ามปี

๑๐. ค่าคําขอต่ออายทุ ะเบยี นวิศวกรวชิ าชพี อาเซยี น ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท

อายุสามปี

๑๑. ค่าใบรับรองการขนึ้ ทะเบยี นวศิ วกรวิชาชีพอาเซียน ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท

๑๒. คา่ ใบรับรองการตอ่ อายุทะเบยี นวิศวกรวิชาชีพอาเซียน ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท”

ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร


Click to View FlipBook Version