The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กรอบโครงสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูแดง คนเดิม, 2022-11-23 02:36:00

กรอบโครงสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2565

กรอบโครงสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2565

กรอบโครงสร้าง

หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๕

จัดทำโดย สำนักต้านทุจริตศึกษา
สำนักงาน ป.ป.ช.

หลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษา พ.ศ. 2565
เรื่อง การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้

กล่มุ เปา้ หมายของหลกั สตู ร ดงั นี้
1. กลุม่ การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย)
2. กลมุ่ อดุ มศกึ ษา
3. กล่มุ ทหาร และตารวจ
4. กลมุ่ วทิ ยากร ป.ป.ช. / บคุ ลากรภาครัฐ และรัฐวสิ าหกิจ
5. กลุ่มโคช้
6. กลมุ่ ประชาชน และองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น

1

หลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา
เรื่อง การพทิ กั ษท์ รัพยากรป่าไม้
สาหรบั กลุ่มการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน (ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ )

1.ความเปน็ มาของหลกั สตู ร

“ป่าไม้” เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สาคัญอย่างย่ิงต่อมนุษย์ โดยเฉพาะการเปน็ แหล่งต้นนาทส่ี าคัญต่อ
ระบบนิเวศและเป็นแหล่งกาเนิดของปัจจัยสี่ อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจน
ยังมีประโยชน์ในแง่ของการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ได้ลดน้อยลงเนื่องจากการ
ถูกรุกรานและถูกทาลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพืนท่ีป่าเพื่อตัดต้นไม้ การถางป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ
ในท่ีดนิ โดยมชิ อบ เปน็ ตน้ ซึ่งปัญหาดังกลา่ วสง่ ผลกระทบต่อวิถชี วี ิตของประชาชนในภาพรวม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเร่ืองกล่าวหาร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรป่าไม้ อาทิ
การออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และประชาชน
โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าท่ีหรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ
โดยการละเลย เพิกเฉย หรือเอือประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย ซึ่งการทุจริตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความม่ันคง
ทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ มของประเทศ

ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยการสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมในการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้วางแนวทางเก่ียวกับหน้าทข่ี องรฐั ในการส่งเสริม สนับสนุน และ
ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทังการจัดให้มีมาตรการและ
กลไกท่ีมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว อีกทังวาระการปฏิรูปประเทศ
ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง
ได้กาหนดกลยุทธ์หลักในการเร่งสร้างการรับรู้และจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตวั กันรงั เกียจการทุจริตและมสี ว่ นรว่ มในการตอ่ ตา้ นทจุ ริตด้วยการชีเบาะแส การสรา้ ง
ลักษณะนิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสริมสร้างบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการ
เสริมสร้างธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ และในส่วนของสานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งถือเป็น
องคก์ รหลักในการดาเนนิ การเก่ียวกบั การป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต ได้มีการให้ความสาคัญกบั การแก้ไข
ปัญหาการทุจริตผ่านกลไกการศึกษา ซ่ึงถือเป็นอีกกลไกหน่ึงท่ีมีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการ
ปรับเปล่ียนกระบวนการคิดของคน จึงได้จัดทาชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือเรียกว่า
หลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ท่ีมีเนือหาสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ โลกยุคดิจิทัล หรือการใช้
ทรพั ยากรธรรมชาติทีไ่ ม่เหมาะสม

เน่ืองจากสถานการณ์การบุกรุกทาลายป่าในปัจจุบันเริ่มทวีความรุนแรงมากย่ิงขึน ดังนัน การส่งเสริม
ให้ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นท่ีสาคัญในการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จึงนามาสู่การจัดทาหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือ หลักสูตร
ต้านทุจริตศึกษา เร่อื ง “การพทิ ักษ์ทรัพยากรปา่ ไม้” เพอื่ ให้ผู้เรยี นทุกระดับชันไดม้ ีความตระหนักรู้และร่วมพทิ ักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ตามบทบาทหนา้ ท่ีของตน โดยประยุกตใ์ ช้ STRONG Model ในการเรียนการสอนตลอดหลกั สูตร

2

ในส่วนของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ควรจะต้องมีการเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้
ในเบืองต้น รวมทังสภาพปัญหาต่าง ๆ ในด้านทรัพยากรป่าไม้ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจและตระหนักถึงการ
อนุรักษ์และการแยกแยะประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมในการใช้ทรัพยากรป่าไม้ จนนาไปสู่การ
ปลูกฝังแนวคิดในการการสงวน รกั ษา ฟ้นื ฟู พฒั นา และใช้ประโยชนจ์ ากปา่ ไม้อย่างยง่ั ยนื

2.วัตถุประสงคข์ องหลักสูตร
2.1 เพือ่ ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ทรพั ยากรป่าไม้
2.2 เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถวเิ คราะหส์ ภาพและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาดา้ นทรัพยากรปา่ ไม้
2.3 เพอื่ ให้ผู้เรยี นตระหนักถงึ การอนรุ กั ษท์ รัพยากรป่าไม้อย่างย่งั ยืนและแยกแยะประโยชน์ส่วนบคุ คล

กับประโยชนส์ ว่ นรวมในการใชท้ รัพยากรปา่ ไม้ได้

3.โครงสร้างเนื้อหาสาระ ระยะเวลา
(ชั่วโมง)
ลาดบั เนือ้ หาสาระ

1 กาเนิดของป่าไม้
- ความรู้ท่วั ไปเกีย่ วกับทรพั ยากรปา่ ไม้ ๗
- ความหมายของการอนรุ กั ษ์ปา่ ไม้ (สงวน/รกั ษา/ฟืน้ ฟ/ู พัฒนา/ใชอ้ ย่างยง่ั ยนื )
- ความสมดลุ ระหวา่ งความต้องการของมนษุ ย์กบั ทรัพยากร ๗
- คุณประโยชน์ 20
▪ ทางตรง
▪ ทางอ้อม

2 รักษป์ า่ ไม้
- จานวนพืนทป่ี ่า
- ความอุดมสมบรู ณ์ของปา่
- การจดั การป่าในประเทศไทย
- ปัญหา สถานการณ์ (ผลกระทบ)

3 การอยู่ร่วมกนั ของคนกับป่า
- การแยกแยะประโยชนส์ ว่ นบคุ คลกับประโยชนส์ ่วนรวม
- การใชท้ รพั ยากรป่าไม้
- การตระหนกั รู้
รวม

3

STRONG Model : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต

โมเดล STRONG เป็นการนาตัวอกั ษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายเชิงบวก จานวน 6 คา
มาประกอบเป็นคาศัพท์ส่ือความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต
โดยมีความมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทุจริต ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์
และบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและ
ผลประโยชน์ส่วนรวม การตระหนักรู้และใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอืออาทร
บนพืนฐานของจริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนา
สร้างวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดย รองศาสตราจารย์
ดร. มาณี ไชยธีรานวุ ัฒศิริ ตังแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงไดด้ ังแผนภาพ ดังนี

แผนภาพที่ 1 โมเดล STRONG – จติ พอเพียงตา้ นทุจริต ปี พ.ศ. 2562

จากแผนภาพขา้ งต้น สามารถอธบิ ายนิยามเชิงปฏบิ ัตกิ ารได้ดงั นี

(1) พอเพยี ง (Sufficient: S)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับที่แตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ

ความสามารถ รวมทังตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของบุคคลและครอบครัว
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดที่แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน

และเป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกท่ีพอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน

4

ไม่เบียดบังรัฐ ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพท่ีสุจริต สามารถหาทรัพย์สิน
เงนิ ทองไดต้ ามความสามารถ ทงั นี โดยไม่เดอื ดรอ้ นตนเองและผู้อน่ื

(2) โปรง่ ใส (Transparent: T)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความโปรง่ ใส ทาใหเ้ หน็ ภาพหรือปรากฏการณ์ชัดเจน
กลไกหลกั คือ สรา้ งความรคู้ วามเข้าใจ และวิธีสงั เกตเกี่ยวกบั ความโปรง่ ใสของโครงการตา่ ง ๆ

(3) ตน่ื รู้ (Realize: R)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
เมื่อบคุ คลรูพ้ ิษภัยของการทจุ รติ และไมท่ นท่จี ะเห็นการทุจรติ เกิดขึน
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพืนท่ี ในชุมชน หรือในกรณีที่ปรากฏการทุจริต

ขนึ หรือกรณีศกึ ษาทเี่ กิดขึนมาแล้วและมีคาพิพากษาถึงท่ีสดุ แลว้

(4) มุง่ ไปข้างหนา้ (Onward: O)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การไมม่ ีการทจุ ริตของภาครฐั จะทาใหเ้ งนิ ภาษีถกู นาไปใชใ้ นการพัฒนาอย่างเต็มท่ี
กลไกหลัก คือ การป้องกันและการป้องปราม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวงั พืนท่ีที่

มีความเส่ียง ในการทุจริต เช่น การบกุ รุกพนื ทส่ี าธารณะ หรอื เฝา้ ระวงั โครงการใหด้ าเนนิ การดว้ ยความโปรง่ ใส

(5) ความรู้ (Knowledge: N)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความรดู้ า้ นต่าง ๆ มีความจาเปน็ ตอ่ การป้องกนั และปอ้ งปรามการทจุ ริต
กลไกหลัก คอื การใหค้ วามร้ใู นรูปแบบการฝกึ อบรม หรอื ให้สือ่ เรียนรอู้ ย่างต่อเนือ่ ง เช่น
(1) ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการทุจริตแบบต่าง ๆ ทังแบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบที่

อาจจะเกดิ ขึนในอนาคต
(2) ความรู้เก่ียวกบั การทุจริตในตา่ งประเทศ
(3) วธิ กี ารปอ้ งกัน - ปอ้ งปรามแบบต่าง ๆ
(4) ความรูเ้ กี่ยวการเฝา้ ระวัง
(5) ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ้ ง

(6) เออื้ อาทร (Generosity: G)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การพฒั นาสังคมไทยใหม้ ีนาใจ โอบอ้อมอารี เอือเฟือ้ เผ่ือแผ่ โดยไม่มผี ลประโยชน์ตอบแทนหรือ

หวงั ผลตอบแทน ในฐานะเพื่อนมนษุ ย์
กลไกหลัก กิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือบุคคล ชุมชน/สังคมในยามวิกฤติ หรือการร่วมมือในการ

ร่วมพัฒนาชุมชน

จากนิยามข้างต้น STRONG: จิตพอเพียงต้านทุจริต จึงหมายถึง ผู้ท่ีมีความพอเพียง ไม่เบียดเบียน
ตนเองและผู้อ่ืน (S) มุ่งอนาคตท่ีเจริญทังตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักความโปร่งใสตรวจสอบได้ (T)
พืนฐานจิตใจมีมนุษยธรรมเอืออาทร ช่วยเหลือเพ่ือนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G)

5

ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือการดารงชีวิตในทางท่ีชอบ (N) แต่ตื่นรู้เรื่องภัยทุจริตที่ร้ายแรง
สง่ ผลตอ่ สงั คม รังเกยี จการทุจรติ ประพฤติมิชอบทังปวง ไม่ยอมทนต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ (R)

นอกจากนี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพิ่มในเร่ืองของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเช่ือมโยงและขับเคลื่อนหลักการของโมเดล STRONG ไปสู่การ
ป้องกันการทุจริตได้เป็นรูปธรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงการเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชน
จะดาเนินการโดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคัดเลอื กผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดที่มีเครือข่าย
มีความสามารถและทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับโมเดล STRONG
การนาไปประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์
สว่ นรวม ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต หลกั การจิตพอเพียงด้วยวิธีการท่ีเหมาะสม เป็นต้น เพ่ือให้ผู้
ไดร้ ับการคัดเลือกเป็นโค้ช (coach) ถ่ายทอดความรู้เกย่ี วกบั หลักการของโมเดล STRONG และการตอ่ ต้านการ
ทุจริตให้แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีการจัดตังชมรม STRONG เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้
เล็งเหน็ ถงึ ความสาคญั ของปญั หาการทุจรติ และมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวงั และแจ้งเบาะแสการทุจรติ

แผนภาพท่ี 2 หลักสูตรต้านทุจริตศกึ ษา เรอ่ื ง การพิทักษท์ รพั ยากรปา่ ไม้

สาหรบั กลุ่มการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน (ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น)

4. หนว่ ยการเรยี นรู้

ที่ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ จุดประสงคเ์ รียนรู้ เวลา ชม. เนอ้ื หาสาระ
ทรัพยากรป่าไม้ ST

1 กาเนิดของปา่ ไม้ 1. อธิบายความหมาย 6 1.ความร้ทู ่ัวไปเกยี่ วกบั 1.พ

ของทรัพยากรปา่ ไมไ้ ด้ ทรพั ยากรป่าไม้ (Su

2. อธบิ ายความสาคญั 2.ความหมายของการ 2.ต
และประโยชน์ของ อนรุ ักษป์ ่าไม้ (สงวน/ ๓.ม
ทรพั ยากรป่าไม้ได้ รกั ษา/ฟน้ื ฟู/พัฒนา/ (On
ใช้อย่างยง่ั ยืน) ๔.ค

3. รว่ มอนุรกั ษ์ 3.ความสมดลุ ระหวา่ ง (Kn
ทรพั ยากรปา่ ไม้ได้ ความตอ้ งการของ
มนุษยก์ บั ทรัพยากร

4.คณุ ประโยชน์

-ทางตรง

-ทางอ้อม

2 รักษ์ป่าไม้ 1.วเิ คราะหส์ ภาพปญั หา 7 1.จานวนพืนท่ีปา่ 1.พ

ดา้ นทรัพยากรปา่ ไมไ้ ด้ 2.ความอุดมสมบรู ณ์ (Su

ของป่า 2.

2.เสนอแนะแนวทาง 3.การจดั การปา่ ใน (Tra

แก้ปญั หาทรัพยากรป่า ประเทศไทย 3.ต

ไมไ้ ด้ 4.ปัญหา สถานการณ์ 4.ม

(ผลกระทบ) (On

5.ค

(Kn

6.เ

(Ge

6

ะ วิธีการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ การประเมินผล

TRONG model -การบรรยายในชนั -สื่อ power -หอ้ งสมุด -การทดสอบ
เรยี น point -เว็บไซต์ -การสงั เกตการ
พอเพียง -การสบื คน้ ข้อมลู -คลปิ VDO -แพลตฟอร์ม ปฏบิ ัตงิ านกลมุ่ /
ufficient: S) -การแบ่งกลุ่ม -ส่อื สงิ พมิ พ์ - เสน้ ทางศึกษา การอภิปราย
ต่ืนรู้ (Realize: R) อภิปราย -ใบกิจกรรม ธรรมชาติ -การสังเกตพฤติกรรม
ม่งุ ไปข้างหน้า -การใช้กรณีศกึ ษา -สือ่ ดิจทิ ลั - ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ การร่วมอนุรักษ์
nward: O) -การทัศนศกึ ษา ทรัพยากรป่าไม้
ความรู้
nowledge: N)

พอเพียง -การอภิปราย -คลิป VDO - เว็บไซต์ - การสงั เกตการ
ufficient: S) -การเรยี นรู้โดยใช้ -สื่อส่งิ พิมพ์ - แหลง่ ขอ้ มูล อภปิ รายกลมุ่
.โปรง่ ใส ปรากฏการณ์เปน็ ฐาน -ใบกจิ กรรม ออนไลน์ของ -การประเมนิ ผลงาน
ransparent: T) (Phenomenon -กรณีศึกษา หนว่ ยงานที่ และตรวจผลงาน
ตื่นรู้ (Realize: R) based Learning) เกี่ยวข้อง
มงุ่ ไปข้างหน้า -การเรียนรโู้ ดยใช้ - วทิ ยากรของ
nward: O) โครงงาน (Project หนว่ ยงานท่ี
ความรู้ based Learning) เกี่ยวข้อง
nowledge: N) -การเรียนรู้โดยใช้ - หอ้ งสมดุ
เอืออาทร ปัญหาเปน็ ฐาน
enerosity: G) (Problem based
Learning)

4. หน่วยการเรียนรู้

ที่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ จดุ ประสงคเ์ รียนรู้ เวลา ชม. เน้อื หาสาระ
ทรพั ยากรปา่ ไม้ ST

3 การอยรู่ ่วมกนั ของ 1.ตระหนกั ถงึ การ 7 1.การแยกแยะ 1.พ

คนกับป่า อนุรกั ษ์ทรพั ยากรป่าไม้ ประโยชนส์ ว่ นบุคคล (Su

กับประโยชนส์ ว่ นรวม 2.โ

2.แยกแยะประโยชน์ 2.การใชท้ รัพยากร (Tra

ส่วนบุคคลกบั ประโยชน์ ป่าไม้ 3.ต

สว่ นรวมในการใช้ 3.การตระหนักรู้ 4.ม

ทรัพยากรป่าไม้ได้ (On

5.ค

(Kn

6.เ

(Ge

7

ะ วิธีการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ การประเมนิ ผล

TRONG model -การใช้สถานการณ์ -คลิป VDO - เว็บไซต์ -การสงั เกตพฤติกรรม
จาลอง -สอื่ สงิ่ พิมพ์ - แหล่งขอ้ มลู -การประเมินผลงาน
พอเพยี ง -การเรียนรู้โดยใช้ -ใบกิจกรรม ออนไลนข์ อง -การประเมินผลการ
ufficient: S) ปัญหาเปน็ ฐาน -กรณีศึกษา หนว่ ยงานท่ี อภิปรายกลุ่ม
โปรง่ ใส (Problem based เกีย่ วขอ้ ง -การตรวจสอบใบ
ransparent: T) Learning) - วิทยากรของ กจิ กรรม
ตื่นรู้ (Realize: R) - การเรียนรู้โดยใช้ หนว่ ยงานที่
มุ่งไปข้างหนา้ เกม (Game based เกย่ี วข้อง
nward: O) Learning) - ห้องสมดุ
ความรู้ -การระดมสมอง
nowledge: N)
เอืออาทร
enerosity: G)

8

5.แนวทางการจดั การเรียนรู้และประเมนิ ผล

การจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใช้วิธีการบรรยายในชันเรียน การสืบค้น
ข้อมูล การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน
(Project based Learning) ปั ญ ห าเป็ น ฐ าน (Problem based Learning) ป ราก ฏ ก าร ณ์ เป็ น ฐ า น
(Phenomenon based Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เปน็ ต้น

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพื่อพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมิน
จากการทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม/การอภิปราย การสังเกตพฤติกรรมการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากร
ปา่ ไม้ การประเมินผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกจิ กรรม

เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ท่ี
จะช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชันไดอ้ ย่างมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์การประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏิบตั ิงาน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจากแฟม้ สะสม
ผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมินเพ่ือน
(Peer-Assessment) 6) การให้ขอ้ มลู ป้อนกลบั แก่นักเรยี น (Student Response)

การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนด้วยวิธีการที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ต่อยอด
ดว้ ยตนเองและนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้รวมถงึ การทางานในสถานการณต์ ่างๆ

6.แนวทางการนาหลักสตู รไปใช้
(1) เปดิ รายวิชาเพ่ิมเตมิ
(2) บรู ณาการการเรยี นการสอนกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(3) บูรณาการการเรียนการสอนกบั กลุ่มสาระอื่น ๆ
(4) จดั ในกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน
(5) จดั เปน็ กจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร
(6) บรู ณาการกบั วถิ ีชวี ิตในโรงเรยี น

9

หลกั สูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา
เร่ือง การพิทักษท์ รัพยากรป่าไม้
สาหรับ กลุ่มการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน (ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย)

1.ความเป็นมาของหลกั สตู ร

“ป่าไม้” เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สาคัญอย่างย่ิงต่อมนษุ ย์ โดยเฉพาะการเปน็ แหล่งต้นนาทสี่ าคัญต่อ
ระบบนิเวศและเป็นแหล่งกาเนิดของปัจจัยสี่ อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ท่ีอยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจน
ยังมีประโยชน์ในแง่ของการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ได้ลดน้อยลงเนื่องจากการ
ถูกรุกรานและถูกทาลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพืนที่ป่าเพ่ือตัดต้นไม้ การถางป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ
ในท่ดี นิ โดยมชิ อบ เปน็ ตน้ ซงึ่ ปญั หาดงั กล่าวสง่ ผลกระทบตอ่ วิถชี วี ิตของประชาชนในภาพรวม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเร่ืองกล่าวหาร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรป่าไม้ อาทิ
การออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ ท่ีส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และประชาชน
โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ
โดยการละเลย เพิกเฉย หรือเอือประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย ซึ่งการทุจริตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความม่ันคง
ทางสังคม เศรษฐกิจ และส่งิ แวดลอ้ มของประเทศ

ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยการสร้างความต่ืนตัวและการมีส่วนร่วมในการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2560 ได้วางแนวทางเก่ียวกับหนา้ ท่ขี องรฐั ในการส่งเสริม สนับสนุน และ
ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทังการจัดให้มีมาตรการและ
กลไกท่ีมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว อีกทังวาระการปฏิรูปประเทศ
ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง
ได้กาหนดกลยุทธ์หลักในการเร่งสร้างการรับรู้และจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตวั กันรงั เกียจการทจุ ริตและมีสว่ นรว่ มในการตอ่ ต้านทุจริตด้วยการชีเบาะแส การสร้าง
ลักษณะนิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสริมสร้างบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการ
เสริมสร้างธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ และในส่วนของสานักงาน ป.ป.ช. ซ่ึงถือเป็น
องค์กรหลกั ในการดาเนินการเกี่ยวกบั การป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต ไดม้ ีการให้ความสาคญั กบั การแกไ้ ข
ปัญหาการทุจริตผ่านกลไกการศึกษา ซึ่งถือเป็นอีกกลไกหน่ึงที่มีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการ
ปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดของคน จึงได้จัดทาชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือเรียกว่า
หลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ท่ีมีเนือหาสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ โลกยุคดิจิทัล หรือการใช้
ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ไ่ี ม่เหมาะสม

เน่ืองจากสถานการณ์การบุกรุกทาลายป่าในปัจจุบันเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึน ดังนัน การส่งเสริม
ให้ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นท่ีสาคัญในการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จึงนามาสู่การจัดทาหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือ หลักสูตร
ตา้ นทุจริตศึกษา เรอ่ื ง “การพทิ ักษ์ทรัพยากรป่าไม้” เพือ่ ให้ผ้เู รียนทุกระดับชันได้มีความตระหนักรู้และร่วมพิทักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ตามบทบาทหน้าท่ีของตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในการเรยี นการสอนตลอดหลกั สูตร

10

ในส่วนของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ควรจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้และเข้าใจ
ในการร่วมอนุรักษ์ป่าไม้ โดยสามารถวิเคราะห์สภาพปัญหาและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา
ดา้ นทรพั ยากรป่าไม้ ตลอดจนการตระหนักถงึ การอนุรกั ษท์ รัพยากรป่าไม้และการแยกแยะประโยชน์ส่วนบุคคล
กับประโยชน์ส่วนรวมในการใช้ทรัพยากรป่าไม้ เพ่ือนาไปสู่การสงวน รักษา ฟ้ืนฟู พัฒนา และใช้ประโยชน์จาก
ป่าไม้อยา่ งย่ังยนื

2.วัตถุประสงคข์ องหลกั สูตร

2.1 เพ่อื ให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และรว่ มอนรุ กั ษ์ทรัพยากรป่าไม้อย่างย่ังยืน
2.2 เพือ่ ให้ผูเ้ รียนสามารถวิเคราะห์สภาพและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาดา้ นทรัพยากรป่าไม้
2.3 เพอ่ื ให้ผ้เู รียนตระหนักถึงการอนุรักษท์ รัพยากรป่าไม้อย่างย่งั ยนื และแยกแยะประโยชนส์ ่วนบคุ คล
กับประโยชน์ส่วนรวมในการใชท้ รัพยากรป่าไม้ได้

3.โครงสร้างเนอื้ หาสาระ ระยะเวลา
(ชัว่ โมง)
ลาดับ เนอ้ื หาสาระ

1 ป่าไม้งาม
- การอนรุ ักษป์ า่ ไม้ (สงวน/รักษา/ฟน้ื ฟ/ู พัฒนา/ใชอ้ ยา่ งยั่งยืน) ๗
- ความสมดุลระหว่างความต้องการของมนุษย์กับทรัพยากร
- ความรูท้ ั่วไปเกย่ี วกับชนิดป่ากับการดูดซบั คาร์บอนไดออกไซด์ ๗
- คุณประโยชน์
▪ ทางตรง 20
▪ ทางอ้อม

2 ปา่ คือผ้ใู ห้
- มลู ค่าของปา่
-ดา้ นเศรษฐกจิ
-ส่งิ แวดลอ้ ม
- ความอดุ มสมบูรณ์ของป่า
- ปา่ ไมก้ บั ระบบนิเวศ
- ปัญหา สถานการณ์ (ผลกระทบ)

3 คนงดงาม
- ประโยชน์สว่ นบุคคล
- ประโยชนส์ ว่ นรวม
- การใชท้ รัพยากรปา่ ไม้
- การตระหนกั รู้
รวม

11

STRONG Model : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ
โมเดล STRONG เปน็ การนาตัวอักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายเชิงบวก จานวน 6 คา

มาประกอบเป็นคาศัพท์ส่ือความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต
โดยมีความมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทุจริต ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์
และบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและ
ผลประโยชน์ส่วนรวม การตระหนักรู้และใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอืออาทร
บนพืนฐานของจริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนา
สร้างวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต ซ่ึงโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี
ไชยธีรานวุ ัฒศิริ ตงั แต่ปี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงไดด้ ังแผนภาพ ดงั นี

แผนภาพท่ี 1 โมเดล STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจรติ ปี พ.ศ. 2562

จากแผนภาพข้างตน้ สามารถอธิบายนยิ ามเชิงปฏบิ ัติการได้ดังนี
(1) พอเพียง (Sufficient: S)

คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับที่แตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ
ความสามารถ รวมทังตามสถานภาพทางเศรษฐกจิ และสงั คมของบคุ คลและครอบครัว
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน
และเป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกที่พอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น

12

ไม่เบียดบังรัฐ ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพที่สุจริต สามารถหาทรัพย์สิน
เงนิ ทองได้ตามความสามารถ ทงั นี โดยไม่เดือดรอ้ นตนเองและผอู้ ่ืน

(2) โปร่งใส (Transparent: T)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความโปรง่ ใส ทาให้เหน็ ภาพหรอื ปรากฏการณ์ณช์ ดั เจน
กลไกหลัก คือ สรา้ งความร้คู วามเข้าใจ และวธิ ีสงั เกตเกีย่ วกับความโปรง่ ใสของโครงการต่าง ๆ

(3) ต่นื รู้ (Realize: R)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
เม่อื บุคคลรพู้ ิษภยั ของการทุจริต และไม่ทนทจี่ ะเหน็ การทุจริตเกดิ ขึน
กลไกหลัก การเรียนรสู้ ถานการณ์การทจุ ริตในพืนท่ี ในชมุ ชน หรือในกรณีท่ีปรากฏการณ์ทุจริต

ขนึ หรอื กรณศี ึกษาท่ีเกิดขึนมาแล้วและมีคาพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

(4) มุ่งไปขา้ งหน้า (Onward: O)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การไมม่ กี ารทุจริตของภาครัฐ จะทาใหเ้ งนิ ภาษถี กู นาไปใช้ในการพฒั นาอยา่ งเต็มท่ี
กลไกหลัก คือ การป้องกันและการปอ้ งปราม ด้วยกระบวนการมสี ่วนร่วมในการเฝ้าระวงั พืนที่ท่ี

มคี วามเสีย่ ง ในการทุจริต เช่น การบกุ รุกพืนทส่ี าธารณะ หรือเฝา้ ระวงั โครงการใหด้ าเนินการด้วยความโปรง่ ใส

(5) ความรู้ (Knowledge: N)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความรู้ด้านต่าง ๆ มคี วามจาเป็นตอ่ การปอ้ งกันและป้องปรามการทุจรติ
กลไกหลัก คือ การใหค้ วามร้ใู นรปู แบบการฝกึ อบรม หรือให้สอ่ื เรยี นรู้อยา่ งตอ่ เนื่อง เชน่
(1) ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการทุจริตแบบต่าง ๆ ทังแบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบที่

อาจจะเกดิ ขึนในอนาคต
(2) ความรเู้ กี่ยวกบั การทจุ ริตในต่างประเทศ
(3) วธิ ีการปอ้ งกนั - ปอ้ งปรามแบบต่าง ๆ
(4) ความร้เู กยี่ วกบั การเฝ้าระวัง
(5) ความรเู้ กย่ี วกบั กฎหมายท่เี ก่ียวข้อง

(6) เอ้ืออาทร (Generosity: G)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การพัฒนาสังคมไทยใหม้ ีนาใจ โอบอ้อมอารี เออื เฟ้อื เผื่อแผ่ โดยไม่มผี ลประโยชนต์ อบแทนหรือ

หวังผลตอบแทน ในฐานะเพอ่ื นมนษุ ย์
กลไกหลัก กิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือบุคคล ชุมชน/สังคมในยามวิกฤติ หรือการร่วมมือในการ

รว่ มพฒั นาชมุ ชน

จากนิยามข้างต้น STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต จึงหมายถึง ผู้ท่ีมีความพอเพียง ไม่เบียดเบียน
ตนเองและผู้อ่ืน (S) มุ่งอนาคตท่ีเจริญทังตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักความโปร่งใสตรวจสอบได้ (T)
พืนฐานจิตใจมีมนุษยธรรมเอืออาทร ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G) ให้ความสาคัญ

13

ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือการดารงชีวิตในทางที่ชอบ (N) แต่ตื่นรู้เร่ืองภัยทุจริตท่ีร้ายแรงส่งผลต่อสังคม
รงั เกียจการทุจริตประพฤตมิ ิชอบทงั ปวง ไมย่ อมทนตอ่ การทุจริตทกุ รูปแบบ (R)

นอกจากนี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพ่ิมในเร่ืองของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเช่ือมโยงและขับเคล่ือนหลักการของโมเดล STRONG ไปสู่การ
ป้องกันการทุจริตได้เป็นรูปธรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชน
จะดาเนินการโดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคัดเลอื กผู้แทน/ผู้นาชมุ ชนในจังหวัดที่มีเครือข่าย
มีความสามารถและทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดล STRONG
การนาไปประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์
ส่วนรวม ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต หลักการจิตพอเพียงด้วยวิธกี ารที่เหมาะสม เป็นต้น เพื่อให้ผู้
ไดร้ ับการคัดเลือกเป็นโค้ช (coach) ถา่ ยทอดความรู้เก่ยี วกับหลักการของโมเดล STRONG และการตอ่ ต้านการ
ทุจริตให้แก่ผู้ท่ีอาศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีการจัดตังชมรม STRONG เพ่ือให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้
เลง็ เหน็ ถึงความสาคัญของปญั หาการทุจรติ และมสี ว่ นรว่ มในการเฝา้ ระวังและแจ้งเบาะแสการทุจรติ

แผนภาพท่ี 2 หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา เร่ือง การพิทกั ษ์ทรัพยากรป่าไม้

กลุม่ การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

4. หนว่ ยการเรียนรู้

ที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์เรยี นรู้ เวลา ชม. เน้ือหาสาระ
ทรพั ยากรป่าไม้ ST

1 ปา่ ไมง้ าม 1. อธบิ ายความหมาย 6 1.การอนรุ ักษป์ ่าไม้ 1.พ

ของทรพั ยากรป่าไม้ (สงวน/รกั ษา/ฟ้ืนฟ/ู (Su

ได2้ . อธบิ าย พฒั นา/ใชอ้ ย่างย่งั ยืน) 2.ต

ความสาคญั และ 2.ความสมดลุ 3.ม

ประโยชนข์ องทรพั ยากร ระหวา่ งความตอ้ งการ (On

ป่าไมไ้ ด้ ของมนุษยก์ บั ทรพั ยากร 4.ค

3. รว่ มอนุรักษ์ 3.ความรู้ทั่วไป (Kno

ทรพั ยากรปา่ ไม้ได้ เก่ียวกับชนดิ ป่ากับ

การดดู กลับ

คาร์บอนไดออกไซด์

4.คณุ ประโยชน์

-ทางตรง

-ทางอ้อม

2 ปา่ คือผ้ใู ห้ 1.วเิ คราะหส์ ภาพปญั หา 7 1. มลู ค่าของป่า 1.พ

ดา้ นทรัพยากรปา่ ไมไ้ ด้ -ดา้ นเศรษฐกิจ (Su

2.เสนอแนะแนวทาง -สง่ิ แวดลอ้ ม 2.โ

แก้ปญั หาทรัพยากรป่า 2. ความอดุ มสมบูรณ์ (Tra

ไมไ้ ด้ ของปา่ 3.ต

3. ปา่ ไม้กับระบบ 4.ม

นเิ วศ (On

4. ปัญหา 5.ค

สถานการณ์ (Kno

(ผลกระทบ) 6.เอ

(Gen

14

ะ วธิ ีการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ แหล่งการเรยี นรู้ การประเมนิ ผล

TRONG model 1.บรรยายในชนั เรยี น -สื่อ ppt. -ห้องสมุด -การทดสอบ
2.สบื คน้ ขอ้ มูล -คลิป VDO - website -การสงั เกตการ
พอเพยี ง 3.แบง่ กลุ่มอภปิ ราย -ส่อื สิงพิมพ์ - platform ปฏบิ ัตงิ านกลมุ่ /
ufficient: S) 4.กรณศี กึ ษา -ใบกจิ กรรม - เสน้ ทางศกึ ษา การอภปิ ราย
ตนื่ รู้ (Realize: R) 5.ทศั นศกึ ษา -สอ่ื ดจิ ทิ ัล ธรรมชาติ -การสงั เกตพฤตกิ รรม
มุง่ ไปข้างหน้า - ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ การร่วมอนรุ ักษ์
nward: O) ทรพั ยากรป่าไม้
ความรู้
owledge: N)

พอเพยี ง - อภิปราย -คลปิ VDO - website - สังเกตการอภปิ ราย
ufficient: S) -ปรากฎการณ์เปน็ ฐาน -สอ่ื สิ่งพิมพ์ - แหล่งข้อมูล กลุม่
โปร่งใส (Phenomenon -ใบกจิ กรรม ออนไลนข์ อง -การประเมนิ ผลงาน
ansparent: T) based Learning) -กรณศี ึกษา หน่วยงานท่ี และตรวจผลงาน
ตืน่ รู้ (Realize: R) -โครงงาน (Project เกย่ี วข้อง -สถานการณจ์ าลอง
มุ่งไปขา้ งหนา้ based Learning) - วิทยากรของ -บทบาทสมมตุ ิ
nward: O) -ปญั หาเปน็ ฐาน หนว่ ยงานท่ี
ความรู้ (Problem based เก่ยี วข้อง
owledge: N) Learning) - หอ้ งสมดุ
อืออาทร
nerosity: G)

4. หนว่ ยการเรียนรู้

ที่ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ จดุ ประสงค์เรียนรู้ เวลา ชม. เนอื้ หาสาระ
ทรัพยากรป่าไม้ STRON

3 คนงดงาม 1.ตระหนักถึงการ 7 - การแยกแยะ 1.พอเพีย

อนรุ ักษท์ รพั ยากรปา่ ไม้ ประโยชนส์ ่วนบคุ คล (Sufficie

2.แยกแยะประโยชน์ กับประโยชนส์ ่วนรวม 2.โปรง่ ใ

สว่ นบุคคลกบั ประโยชน์ - การใชท้ รพั ยากร (Transpa

ส่วนรวมในการใช้ ป่าไม้ 3.ต่ืนรู้ (R

ทรัพยากรป่าไมไ้ ด้ - การตระหนักรู้ 4.มุง่ ไปข

(Onward

5.ความร

(Knowle

6.เออื อา

(Genero

15

NG model วธิ ีการเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ แหล่งการเรยี นรู้ การประเมนิ ผล

ยง -สถานการณ์จาลอง -คลิป VDO - website -การสังเกตพฤตกิ รรม
ent: S) -ปัญหาเปน็ ฐาน -ส่ือส่งิ พมิ พ์ - แหล่งข้อมลู -ประเมินผลงาน
ใส (Problem based -ใบกิจกรรม ออนไลนข์ อง -ประเมนิ ผลการ
arent: T) Learning) -กรณีศกึ ษา หนว่ ยงานท่ี อภปิ รายกลมุ่
Realize: R) - เกม (Game based เกย่ี วขอ้ ง -การตรวจสอบใบ
ข้างหนา้ Learning) - วทิ ยากรของ กจิ กรรม
d: O) -การระดมสมอง หนว่ ยงานท่ี
รู้ -อภิปราย เกย่ี วข้อง
edge: N) -บทบาทสมมติ - ห้องสมดุ
าทร
osity: G)

16

5.แนวทางการจัดการเรียนรู้และประเมินผล

การจัดกิจกรรมการจัดการเรียนร้ทู ่เี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั โดยใช้วิธีการบรรยายในชันเรียน การสืบคน้ ข้อมูล
การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน (Project
based Learning) ปัญหาเป็นฐาน (Problem based Learning) ปรากฏการณ์เป็นฐาน (Phenomenon based
Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เปน็ ต้น

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพื่อพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมินจาก
การทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม/การอภิปราย การสังเกตพฤติกรรมการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
การประเมนิ ผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกจิ กรรม

เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ที่จะ
ช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชันได้อย่างมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์การประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏิบัติงาน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจากแฟ้มสะสม
ผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมินเพ่ือน (Peer-
Assessment) 6) การให้ข้อมลู ปอ้ นกลับแกน่ ักเรยี น (Student Response)

การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนด้วยวิธีการที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ต่อยอดด้วย
ตนเองและนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรูร้ วมถึงการทางานในสถานการณต์ ่าง ๆ

6.แนวทางการนาหลักสตู รไปใช้
(1) เปิดรายวิชาเพ่ิมเติม
(2) บรู ณาการการเรยี นการสอนกบั กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(3) บรู ณาการการเรียนการสอนกับกลมุ่ สาระอ่ืน ๆ
(4) จดั ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
(5) จดั เป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตร
(6) บรู ณาการกบั วิถีชวี ิตในโรงเรียน

17

หลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา

เรอื่ ง การพทิ กั ษ์ทรพั ยากรป่าไม้

สาหรับ กลุ่มอุดมศกึ ษา

1. ความเป็นมาของหลักสตู ร

“ป่าไม้” เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีสาคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ โดยเฉพาะการเป็นแหล่งต้นนาท่ีสาคัญต่อ
ระบบนิเวศและเป็นแหล่งกาเนิดของปัจจัยส่ี อันได้แก่ อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจนยังมี
ประโยชน์ในแง่ของการรักษาสมดุลของส่ิงแวดล้อม แต่ปัจจุบันทรพั ยากรปา่ ไม้ได้ลดน้อยลงเนอ่ื งจากการถูกรุกราน
และถูกทาลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพืนท่ีป่าเพื่อตัดต้นไม้ การถางป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ
ในทด่ี ินโดยมชิ อบ เปน็ ตน้ ซึง่ ปญั หาดงั กล่าวสง่ ผลกระทบตอ่ วถิ ีชีวิตของประชาชนในภาพรวม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรยี นเก่ยี วกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ อาทิ การ
ออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ ท่ีส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และประชาชน
โด ย มี เจ้ าห น้ าที่ ของรัฐ กระท าความ ผิ ด ฐาน ทุ จ ริต ต่ อห น้ าที่ ห รือกระท า ความ ผิ ด ต่ อต าแ ห น่ งห น้ าท่ี ร าช การ
โดยการละเลย เพิกเฉย หรือเอือประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย ซ่ึงการทุจริตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทาง
สงั คม เศรษฐกิจ และส่งิ แวดลอ้ มของประเทศ

ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยการสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมในการป้อง กันและ
ปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้วางแนวทางเกี่ยวกับหน้าที่ของรัฐในการส่งเสริม สนับสนุน และให้
ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายท่ีเกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทังการจัดให้มีมาตรการและกลไกท่ีมี
ประสิทธิภาพเพ่ือป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว อีกทังวาระการปฏิรูปประเทศ
ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง
ได้กาหนดกลยุทธ์หลักในการเร่งสร้างการรับรู้และจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันรังเกียจการทุจริตและมีส่วนร่วมในการต่อต้านทุจริตด้วยการชีเบาะแส การสร้าง
ลกั ษณะนิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสรมิ สรา้ งบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเสริมสร้าง
ธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ และในส่วนของสานักงาน ป.ป.ช. ซ่ึงถือเป็นองค์กรหลักในการ
ดาเนินการเก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้มีการให้ความสาคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตผ่าน
กลไกการศึกษา ซ่ึงถือเป็นอีกกลไกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดของคน
จึงได้จัดทาชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือเรียกว่าหลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ที่มีเนือหา
สอดคลอ้ งกับสถานการณ์ปจั จุบนั อาทิ โลกยุคดจิ ิทัล หรือการใชท้ รัพยากรธรรมชาติทไี่ มเ่ หมาะสม

เน่ืองจากสถานการณ์การบุกรกุ ทาลายป่าในปัจจบุ ันเรม่ิ ทวคี วามรนุ แรงมากยิ่งขนึ ดงั นนั การส่งเสริมให้ทุก
ภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สาคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากร
ป่าไมข้ องประเทศ จงึ นามาสู่การจดั ทาหลักสตู รการเรียนรู้ดา้ นการป้องกันการทุจริต หรือ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
เร่ือง “การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้” เพ่ือให้ผู้เรียนทุกระดับชันได้มีความตระหนักรู้และร่วมพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตาม
บทบาทหนา้ ทีข่ องตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในการเรียนการสอนตลอดหลกั สตู ร

18

ในส่วนของผู้เรียนระดับอุดมศึกษา นอกจากจะต้องเรียนรู้และเข้าใจในการร่วมอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืนแล้ว
ควรวิเคราะห์และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการต้านทุจริตด้านทรัพยากรป่าไม้ ตลอดจนการสร้างสรรค์นวัตกรรม
ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เพ่ือนาไปสู่การมีส่วนร่วมในการสงวน รักษา ฟ้ืนฟู พัฒนา และใช้ประโยชน์จากป่าไม้
ตอ่ ไป

2. วตั ถุประสงคข์ องหลกั สตู ร
2.1 เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรพั ยากรปา่ ไม้อย่างย่ังยนื
2.2 เพื่อให้ผเู้ รียนสามารถวิเคราะหแ์ ละประยุกต์ใช้เทคโนโลยใี นการตา้ นทุจรติ ด้านทรัพยากรป่าไม้
2.3 เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีจิตสาธารณะในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
2.4 เพอื่ ให้ผู้เรยี นสร้างสรรค์นวตั กรรมในการอนุรักษท์ รัพยากรปา่ ไม้

3. โครงสร้างเนื้อหาสาระ

ลาดบั เนือ้ หาสาระ ระยะเวลา

1 ป่ายั่งยืน
- การอนรุ กั ษป์ ่าไม้ (สงวน/รักษา/ฟนื้ ฟ/ู พัฒนา/ใช้อย่างยัง่ ยนื )
▪ ความหลากหลายทางชีวภาพ
▪ การเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ
▪ การดูดซับกา๊ ซคารบ์ อนของป่าแตล่ ะชนิด
- ความสมดลุ ระหว่างความต้องการของมนุษย์กับทรัพยากร
- การกาหนดชันคณุ ภาพลุ่มนาและการใช้ทด่ี นิ ในเขตลมุ่ นา
- กฎหมายทเ่ี ก่ียวข้อง

2 เทคโนโลยีปา่ ไม้ ๒๐
- เทคโนโลยีเกี่ยวกบั ภมู สิ ารสนเทศ/เทคโนโลยสี ื่อสารสงั คม
- การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกบั ภมู ิสารสนเทศ /เทคโนโลยีสือ่ สารสงั คม
- กรณศี กึ ษาการทจุ รติ ดา้ นทรัพยากรปา่ ไม้

3 จติ อาสาพฒั นาปา่ ไม้ 1๒
- การมสี ่วนรว่ มในการอนุรักษป์ า่ ไม้
▪ จิตสาธารณะ
▪ การเห็นแกป่ ระโยชนส์ ่วนรวม
▪ ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
▪ ความเสยี สละ

19

ลาดบั เนื้อหาสาระ ระยะเวลา

4 นวตั กรรมต้านทุจริตด้านทรพั ยากรปา่ ไม้
- ความหมาย ประเภท และความสาคญั ของนวัตกรรม 4๕
- การสร้างสรรคน์ วัตกรรม และกรณีศึกษานวตั กรรมการต้านทจุ รติ
ด้านทรัพยากรป่าไม้
- การนานวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
- การสง่ ผ่านนวัตกรรม
รวม

STRONG Model : จติ พอเพียงต้านทุจรติ

โมเดล STRONG เป็นการนาตัวอักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษท่ีมีความหมายเชิงบวกจานวน 6 คา
มาประกอบเป็นคาศัพท์สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต โดยมี
ความมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทุจริต ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์และบูรณาการ
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
การตระหนักร้แู ละใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอืออาทรบนพืนฐานของจริยธรรมและ
จิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริต และเป็นแกนนาสร้างวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต
ซ่ึงโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ตังแต่ปี พ.ศ. 2560 –
2562 แสดงไดด้ ังแผนภาพ ดังนี

แผนภาพท่ี 1 โมเดล STRONG – จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ ปี พ.ศ. 2562

20

จากแผนภาพขา้ งต้น สามารถอธบิ ายนิยามเชิงปฏบิ ตั กิ ารได้ดงั นี

(1) พอเพยี ง (Sufficient : S)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับที่แตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ

ความสามารถ รวมทังตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของบุคคลและครอบครัว
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และ

เป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกที่พอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดบังรัฐ
ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพท่ีสุจริต สามารถหาทรัพย์สินเงินทองได้ตาม
ความสามารถ ทังนี โดยไม่เดอื ดรอ้ นตนเองและผู้อน่ื

(2) โปร่งใส (Transparent : T)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความโปรง่ ใส ทาใหเ้ หน็ ภาพหรือปรากฏการณ์ชดั เจน
กลไกหลัก คือ สรา้ งความร้คู วามเข้าใจ และวธิ ีสังเกตเกีย่ วกับความโปร่งใสของโครงการตา่ ง ๆ

(3) ตนื่ รู้ (Realize : R)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
เม่อื บคุ คลรู้พษิ ภัยของการทจุ รติ และไม่ทนทจี่ ะเห็นการทจุ ริตเกดิ ขนึ
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพืนที่ ในชุมชน หรือในกรณีที่ปรากฏการณ์ทุจริตขึน

หรอื กรณีศกึ ษาทเี่ กดิ ขึนมาแลว้ และมีคาพิพากษาถึงทส่ี ดุ แล้ว

(4) มุ่งไปข้างหน้า (Onward : O)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การไม่มีการทจุ ริตของภาครัฐ จะทาใหเ้ งินภาษีถกู นาไปใช้ในการพฒั นาอย่างเต็มท่ี
กลไกหลัก คือ การป้องกันและการป้องปราม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังพืนที่ที่มี

ความเสยี่ ง ในการทุจริต เช่น การบกุ รุกพืนทีส่ าธารณะ หรอื เฝา้ ระวงั โครงการให้ดาเนินการด้วยความโปรง่ ใส
(5) ความรู้ (Knowledge : N)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความรูด้ ้านตา่ ง ๆ มคี วามจาเปน็ ตอ่ การป้องกนั และปอ้ งปรามการทจุ ริต
กลไกหลัก คอื การใหค้ วามรู้ในรปู แบบการฝกึ อบรม หรอื ใหส้ ่ือเรยี นรู้อยา่ งต่อเนอื่ ง เชน่
(1) ความรู้เกี่ยวกบั รปู แบบการทุจรติ แบบต่าง ๆ ทังแบบสมัยอดีต แบบปัจจบุ ัน และแบบที่อาจจะ

เกิดขนึ ในอนาคต
(2) ความร้เู กย่ี วกบั การทจุ ริตในต่างประเทศ
(3) วิธกี ารป้องกนั - ปอ้ งปรามแบบตา่ ง ๆ
(4) ความรู้เกยี่ วการเฝา้ ระวงั
(5) ความรเู้ กย่ี วกับกฎหมายทเี่ ก่ยี วข้อง

21

(6) เออ้ื อาทร (Generosity : G)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การพัฒนาสังคมไทยให้มีนาใจ โอบออ้ มอารี เออื เฟ้ือเผ่ือแผ่ โดยไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนหรอื หวัง

ผลตอบแทน ในฐานะเพอ่ื นมนุษย์
กลไกหลัก กจิ กรรมจิตอาสา ช่วยเหลือบุคคล ชุมชน/สังคมในยามวิกฤติ หรอื การร่วมมือในการรว่ ม

พฒั นาชมุ ชน

จากนิยามข้างตน้ STRONG : จิตพอเพยี งต้านทุจริต จึงหมายถึง ผู้ท่ีมคี วามพอเพียง ไมเ่ บียดเบียนตนเอง
และผอู้ ื่น (S) มุ่งอนาคตทเ่ี จริญทงั ตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักความโปร่งใสตรวจสอบได้ (T) พืนฐานจิตใจมี
มนุษยธรรมเอืออาทร ช่วยเหลือเพ่ือนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G) ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้
ตลอดชีวิต เพื่อการดารงชีวิตในทางท่ีชอบ (N) แต่ต่ืนรู้เรื่องภัยทุจริตท่ีร้ายแรงส่งผลต่อสังคม รังเกียจการทุจริต
ประพฤติมชิ อบทงั ปวง ไมย่ อมทนตอ่ การทจุ รติ ทกุ รูปแบบ (R)

นอกจากนี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพิ่มในเรื่องของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเชื่อมโยงและขับเคลื่อนหลักการของโมเดล STRONG ไปสู่การป้องกัน
การทุจริตได้เป็นรูปธรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชน จะดาเนินการ
โดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคัดเลือกผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดท่ีมีเครือข่าย มีความสามารถ
และทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับโมเดล STRONG การนาไป
ประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความไม่ทน
และความอายต่อการทุจริต หลกั การจิตพอเพียงด้วยวิธีการที่เหมาะสม เป็นต้น เพ่ือให้ผู้ได้รบั การคดั เลือกเปน็ โค้ช
(coach) ถ่ายทอดความรู้เก่ียวกับหลักการของโมเดล STRONG และการต่อต้านการทุจริตให้แก่ผู้ท่ีอาศัยอยู่ใน
ชุมชน รวมถึงยังมกี ารจัดตังชมรม STRONG เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้เล็งเหน็ ถึงความสาคัญของปัญหา
การทจุ ริตและมีส่วนรว่ มในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทจุ รติ

22

แผนภาพที่ 2 หลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา เรอื่ ง การพิทักษท์ รพั ยากรปา่ ไม้
กลมุ่ อดุ มศึกษา

4. หนว่ ยการเรยี นรู้

ท่ี ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์เรียนรู้ เวลา ชม. เน้ือหาสาระ
ทรพั ยากรป่าไม้ S

1 ปา่ ยง่ั ยืน 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมี 5 1. การอนุรกั ษป์ ่าไม้ 1.

ความรู้ ความเข้าใจ และ (สงวน/รกั ษา/ฟืน้ ฟ/ู (S

ตระหนกั ถงึ การอนรุ กั ษ์ พฒั นา/ใชอ้ ยา่ งยั่งยืน) 2.

ทรัพยากรป่าไม้อย่าง -ความหลากหลายทาง (T

ย่ังยนื ชวี ภาพ 3.

-การเปลย่ี นแปลง 4.

สภาพภมู อิ ากาศ (O

-การดูดซับแก๊ส 5.

คาร์บอนของปา่ (K

แต่ละชนดิ 6.

2.ความสมดลุ ระหวา่ ง (G

ความต้องการของ

มนษุ ยก์ ับทรพั ยากร

3. การกาหนดชัน

คณุ ภาพล่มุ นาและการ

ใช้ท่ดี นิ ในเขตลุ่มนา

4. กฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ ง

2 เทคโนโลยปี า่ ไม้ 1. เพือ่ ให้ผเู้ รียน 20 1. เทคโนโลยเี กยี่ วกบั 1.

สามารถวิเคราะห์ ภูมสิ ารสนเทศ / (S

เทคโนโลยใี นการตา้ น เทคโนโลยีส่ือสารสงั คม 2

ทจุ ริตดา้ นทรพั ยากรป่า 2. การประยุกต์ใช้ (T

ไม้ เทคโนโลยเี ก่ียวกบั 3.

2. เพ่ือประยกุ ตใ์ ช้ ภมู ิสารสนเทศ / 4.

เทคโนโลยใี นการตา้ น เทคโนโลยีสอื่ สารสังคม (O

ทจุ ริตดา้ นทรพั ยากร

ปา่ ไม้

23

ะ วธิ ีการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ แหลง่ การเรยี นรู้ การประเมินผล
STRONG model
-คลิปวีดโี อ -หอ้ งสมดุ -การทดสอบ
.พอเพยี ง - บรรยาย -ภาพยนต์สนั - เวบ็ ไซต์ -การสงั เกต
-เอกสารความรู้ - platform พฤตกิ รรม
Sufficient: S) -สถานการณจ์ าลอง -สื่อสงิ พิมพ์ -การใช้คาถาม
-ใบความรู้ และ ให้ข้อมลู
.โปร่งใส -โครงงาน (Project -ใบกจิ กรรม ย้อนกลับ
-ส่อื ดิจทิ ัล -การสังเกตการ
Transparent: T) based Learning) ปฏิบัติงานกลมุ่ /
การอภิปราย
.ตน่ื รู้ (Realize: R) -ปัญหาเป็นฐาน -การประเมินผล
งานและตรวจ
.มุ่งไปขา้ งหนา้ (Problem based ผลงาน

Onward: O) Learning)

.ความรู้ -ปรากฏการเปน็ ฐาน

Knowledge: N) (Phenomenon

.เอืออาทร based Learning)

Generosity: G) -สืบเสาะหาความรู้

(Inquiry based

Learning)

- วิเคราะห์

กรณีศกึ ษา

.พอเพยี ง - บรรยาย -ส่อื ดิจิทลั -หอ้ งสมดุ -การประเมนิ ผล
-คลปิ วดี ีโอ - เวบ็ ไซต์ งาน ตรวจ
Sufficient: S) -สถานการณ์จาลอง -เอกสารความรู้ - platform ผลงาน และ
-ส่ือสงิ พมิ พ์ กรณีศกึ ษา
2.โปรง่ ใส -โครงงาน (Project -ใบความรู้
-ใบกจิ กรรม
Transparent: T) based Learning)

.ต่นื รู้ (Realize: R) -ปญั หาเปน็ ฐาน

.มุ่งไปขา้ งหนา้ (Problem based

Onward: O) Learning)

ที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ จุดประสงคเ์ รียนรู้ เวลา ชม. เนอ้ื หาสาระ

ทรัพยากรป่าไม้ S

3. กรณีศึกษาการทจุ รติ 5.
ด้านทรพั ยากรปา่ ไม้ (K

6.
(G

3 จติ อาสาพัฒนา 1.มสี ว่ นรว่ มในการ 12 การมีส่วนร่วมในการ 1.

ป่าไม้ อนรุ ักษป์ ่าไมไ้ ด้ อนรุ กั ษ์ป่าไม้ (S

2.มจี ติ สาธารณะในการ -จิตสาธารณะ 2

อนุรักษท์ รัพยากรปา่ ไม้ -การเห็นแก่ประโยชน์ (T

ส่วนรวม 3.

-ความรบั ผดิ ชอบตอ่ 4.

สังคม (O

-ความเสียสละ 5.

(K

6.

(G

4 นวัตกรรมต้าน สรา้ งสรรคน์ วตั กรรม 8 1. ความหมาย ประเภท 1.
ทจุ รติ ดา้ น เพ่อื แกไ้ ขปัญหาการ
และความสาคญั ของ (S
ทรพั ยากรป่าไม้ ลดลงของทรพั ยากรป่า
ไม้ได้ นวตั กรรม 2

2. การสรา้ งสรรค์ (T

นวัตกรรม และ 3.

กรณศี กึ ษานวัตกรรม 4.

การต้านทจุ รติ (O

24

ะ วิธีการเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ แหลง่ การเรยี นรู้ การประเมินผล

STRONG model -สบื เสาะหาความรู้
(Inquiry based
.ความรู้ Learning)
Knowledge: N) - วเิ คราะห์
.เออื อาทร กรณีศกึ ษา
Generosity: G) - บทเรยี น
คอมพวิ เตอรช์ ว่ ย
สอน
-การฝึกปฏบิ ตั ิ

.พอเพยี ง - บรรยาย -สื่อดิจิทัล -หอ้ งสมุด -การสงั เกต
-คลิปวีดโี อ - เวบ็ ไซต์ พฤตกิ รรม
Sufficient: S) -สถานการณจ์ าลอง -เอกสารความรู้ - platform รายบุคคล
-สื่อสิงพมิ พ์ -แหลง่ เรียนรู้ เช่น -การประเมิน
2.โปร่งใส -ปญั หาเป็นฐาน -ใบความรู้ ศูนย์การเรยี นรู้ จากการสะทอ้ น
-ใบกจิ กรรม ป่าชายเลน ผลการทางาน
Transparent: T) (Problem based คุ้งกระเบน ร่วมกนั
ศูนย์การเรียนรู้
.ต่นื รู้ (Realize: R) Learning) ระบบนเิ วศปา่
ชายเลนสริ นิ าถ
.มงุ่ ไปขา้ งหน้า -สืบเสาะหาความรู้ ราชินี ป่าชมุ ชน

Onward: O) (Inquiry based

.ความรู้ Learning)

Knowledge: N) -การฝกึ ปฏบิ ตั ิ

.เออื อาทร -ทศั นศกึ ษา

Generosity: G)

.พอเพียง - บรรยาย -สื่อดิจิทลั -หอ้ งสมุด -การทดสอบ
-คลปิ วดี ีโอ - เวบ็ ไซต์ -การใชค้ าถาม
Sufficient: S) -สบื เสาะหาความรู้ -เอกสารความรู้ - platform และใหข้ อ้ มูล
-สอ่ื สงิ พิมพ์ ย้อนกลบั
2.โปรง่ ใส (Inquiry based -ใบความรู้ -การสังเกต
-ใบกิจกรรม การอภิปราย
Transparent: T) Learning) -การสงั เกต

.ต่ืนรู้ (Realize: R) -โครงงาน (Project

.มุ่งไปข้างหนา้ based Learning)

Onward: O) -ปญั หาเปน็ ฐาน

ท่ี ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ จุดประสงคเ์ รยี นรู้ เวลา ชม. เน้อื หาสาระ

ทรัพยากรป่าไม้ S

ดา้ นทรัพยากรปา่ ไม้ 5.

3. การนานวัตกรรมไป (K

ใช้ประโยชน์ 6.

4. การสง่ ผา่ นนวตั กรรม (G

25

ะ วธิ กี ารเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ แหล่งการเรียนรู้ การประเมินผล

STRONG model (Problem based พฤติกรรม
Learning) -การประเมินผล
.ความรู้ - วเิ คราะห์ งานและตรวจ
Knowledge: N) กรณศี ึกษา ผลงาน
.เอืออาทร -การฝึกปฏิบตั ิ
Generosity: G) -การอภปิ ราย

26

5.แนวทางการจดั การเรียนรู้และประเมินผล

การจัดกจิ กรรมการจัดการเรียนรทู้ ่เี นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ โดยใชว้ ิธีการบรรยายในชันเรยี น การสบื คน้ ขอ้ มูล
การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน (Project
based Learning) ปัญหาเป็นฐาน (Problem based Learning) ปรากฏการณ์เป็นฐาน (Phenomenon based
Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เป็นตน้

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพ่ือพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมินจาก
การทดสอบ การสงั เกตการปฏิบัติงานกลุ่ม/การอภิปราย การสงั เกตพฤติกรรมการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ การ
ประเมินผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกจิ กรรม

เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ท่ีจะ
ช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชันได้อย่างมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์การประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏิบัติงาน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจากแฟ้มสะสม
ผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมินเพื่อน(Peer-
Assessment) 6) การให้ขอ้ มูลปอ้ นกลับแก่นักเรยี น (Student Response)

การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนด้วยวิธีการที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ต่อยอดด้วย
ตนเองและนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรยี นรู้รวมถึงการทางานในสถานการณ์ต่างๆ

6. แนวทางการนาหลกั สูตรไปใช้
(1) จดั ทาเป็น 1 รายวิชา จานวน 3 หน่วยกติ
(2) จดั ทาเป็นหน่วยการเรยี นรู้ โดยอาจารย์ผสู้ อนสามารถนาเนอื หาใหมใ่ นหน่วยการเรยี นรู้ต่าง ๆ

ไปปรบั ใช้/ประยกุ ตใ์ ชใ้ นรายวิชาของตนเอง
(3) จดั ทาเปน็ วิชาเลอื ก

27

หลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา

เร่ือง การพิทักษท์ รพั ยากรป่าไม้

สาหรับ กลุ่มทหารและตารวจ

1. ความเป็นมาของหลกั สูตร

“ป่าไม้” เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีสาคัญอย่างย่ิงต่อมนุษย์ โดยเฉพาะการเป็นแหล่งต้นนาท่ีสาคัญต่อ
ระบบนิเวศและเป็นแหล่งกาเนิดของปัจจัยสี่ อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจนยังมี
ประโยชน์ในแง่ของการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบนั ทรัพยากรปา่ ไม้ได้ลดน้อยลงเนอ่ื งจากการถูกรุกราน
และถูกทาลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพืนที่ป่าเพื่อตัดต้นไม้ การถางป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ
ในทด่ี นิ โดยมชิ อบ เปน็ ต้น ซึ่งปัญหาดังกลา่ วสง่ ผลกระทบต่อวถิ ีชีวิตของประชาชนในภาพรวม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รบั เรื่องกล่าวหารอ้ งเรยี นเกีย่ วกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ อาทิ การ
ออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และประชาชน
โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าท่ีหรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าท่ีราชการ
โดยการละเลย เพิกเฉย หรือเอือประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย ซึ่งการทุจริตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทาง
สังคม เศรษฐกจิ และสงิ่ แวดล้อมของประเทศ

ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยการสร้างความต่ืนตัวและการมีส่วนรว่ มในการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้วางแนวทางเก่ียวกับหน้าที่ของรัฐในการส่งเสริม สนับสนุน และให้
ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทังการจัดให้มีมาตรการและกลไกท่ีมี
ประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว อีกทังวาระการปฏิรูปประเทศ
ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง
ได้กาหนดกลยุทธ์หลักในการเร่งสร้างการรับรู้และจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันรังเกียจการทุจริตและมีส่วนร่วมในการต่อต้านทุจริตด้วยการชีเบาะแส การสร้าง
ลักษณะนิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสรมิ สรา้ งบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเสริมสร้าง
ธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ และในส่วนของสานักงาน ป.ป.ช. ซ่ึงถือเป็นองค์กรหลักในการ
ดาเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ ได้มีการให้ความสาคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตผ่าน
กลไกการศึกษา ซึ่งถือเป็นอีกกลไกหนึ่งท่ีมีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดของคน
จึงได้จัดทาชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือเรียกว่าหลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ท่ีมีเนือหา
สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ โลกยคุ ดิจทิ ลั หรือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติท่ีไม่เหมาะสม

เนื่องจากสถานการณ์การบุกรุกทาลายป่าในปัจจุบันเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึน ดังนัน การส่งเสริมให้
ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้จึงถือเป็นจุดเร่ิมต้นที่สาคัญในการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จึงนามาสู่การจัดทาหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรอื หลักสูตรต้าน
ทุจริตศึกษา เรื่อง “การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้” เพ่ือให้ผู้เรียนทุกระดับชันได้มีความตระหนักรู้และร่วมพิทักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ตามบทบาทหน้าที่ของตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในการเรยี นการสอนตลอดหลกั สตู ร

28

ในส่วนของผูเ้ รยี นกล่มุ ทหาร ตารวจ ควรจะต้องมงุ่ เน้นการเรียนรู้และเข้าใจเกย่ี วกบั กฎหมาย และระเบียบ
ท่ีเกี่ยวข้อง ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย รวมทังการวิเคราะห์และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการต้านทุจริต
ด้านทรัพยากรปา่ ไมเ้ พื่อให้การป้องกันการทุจรติ ในการใช้ทรัพยากรปา่ ไมเ้ ปน็ ไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

2. วัตถุประสงค์ของหลกั สตู ร

2.1 เพ่อื ให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในกฎหมาย และระเบยี บที่เกยี่ วข้องดา้ นทรัพยากรป่าไม้
2.2 เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการตรวจพิสูจน์/ตรวจสอบการกระทาความผิด และสามารถบังคับใช้
กฎหมาย และระเบยี บท่เี กี่ยวขอ้ งดา้ นทรพั ยากรป่าไม้
๒.๓ เพ่อื ให้ผู้เรยี นสามารถวเิ คราะห์และประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีในการต้านทุจรติ ด้านทรัพยากรป่าไม้

3. โครงสร้างเนอ้ื หาสาระ ระยะเวลา
(ชั่วโมง)
ลาดับ เนื้อหาสาระ

1 มารู้จกั กฎหมาย
-การใช้ภาษาทางกฎหมาย/ระเบยี บ ๓
-การตคี วาม
-เจตนารมณท์ างกฎหมาย ๒

2 ร้ลู กึ รจู้ รงิ ๙
- กระบวนการตรวจพสิ ูจน์ และตรวจสอบการกระทาความผดิ เกีย่ วกบั ทดี่ ิน ไม้ ของปา่ และสัตวป์ า่
- การประเมินมลู คา่ ความเสยี หายต่อทรัพยากรป่าไม้

3 เทคโนโลยปี า่ ไม้
- การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีเกี่ยวกบั ภมู ิสารสนเทศ
- กรณศี ึกษาการทุจรติ ด้านทรัพยากรป่าไม้
รวม

STRONG Model : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต

โมเดล STRONG เป็นการนาตัวอักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษท่ีมีความหมายเชิงบวก จานวน 6 คา
มาประกอบเป็นคาศัพท์สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต
โดยมีความมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทุจริต ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์และ
บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
ส่วนรวม การตระหนักรู้และใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอืออาทรบนพืนฐานของ
จริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนาสร้างวัฒนธรรม

29

ไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ
ตงั แตป่ ี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงไดด้ ังแผนภาพ ดังนี
แผนภาพท่ี 1 โมเดล STRONG – จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ ปี พ.ศ. 2562

จากแผนภาพขา้ งตน้ สามารถอธิบายนิยามเชงิ ปฏิบัติการไดด้ งั นี
(1) พอเพียง (Sufficient: S)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมท่ีระดับท่ีแตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ

ความสามารถ รวมทังตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของบุคคลและครอบครวั
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และ

เป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกท่ีพอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน ไม่เบียดบังรัฐ
ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพท่ีสุจริต สามารถหาทรัพย์สินเงินทองได้ตาม
ความสามารถ ทงั นี โดยไม่เดอื ดร้อนตนเองและผอู้ ่นื

(2) โปรง่ ใส (Transparent : T)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความโปร่งใส ทาให้เห็นภาพหรือปรากฏการณ์ณช์ ดั เจน
กลไกหลกั คอื สร้างความรู้ความเข้าใจ และวธิ ีสังเกตเก่ียวกับความโปรง่ ใสของโครงการต่าง ๆ

30

(3) ต่นื รู้ (Realize : R)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
เม่ือบุคคลร้พู ษิ ภัยของการทจุ ริต และไมท่ นท่ีจะเห็นการทุจริตเกิดขนึ
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพืนท่ี ในชุมชน หรือในกรณีท่ีปรากฏการณ์ทุจริตขึน

หรอื กรณีศกึ ษาทเ่ี กดิ ขนึ มาแลว้ และมีคาพิพากษาถึงท่สี ดุ แลว้

(4) มุ่งไปข้างหนา้ (Onward : O)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การไมม่ ีการทจุ ริตของภาครัฐ จะทาให้เงินภาษถี กู นาไปใช้ในการพัฒนาอย่างเต็มที่
กลไกหลัก คือ การป้องกันและการป้องปราม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังพืนท่ีท่ีมี

ความเสย่ี ง ในการทจุ รติ เชน่ การบุกรุกพืนทสี่ าธารณะ หรือเฝ้าระวงั โครงการให้ดาเนินการดว้ ยความโปร่งใส

(5) ความรู้ (Knowledge : N)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความรดู้ า้ นต่าง ๆ มีความจาเป็นตอ่ การป้องกันและป้องปรามการทจุ รติ
กลไกหลกั คอื การใหค้ วามรูใ้ นรูปแบบการฝกึ อบรม หรอื ใหส้ ่ือเรยี นรูอ้ ย่างต่อเนอื่ ง เช่น
(1) ความร้เู ก่ยี วกับรปู แบบการทจุ ริตแบบต่าง ๆ ทงั แบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบทอี่ าจจะ

เกิดขึนในอนาคต
(2) ความรเู้ กี่ยวกบั การทุจรติ ในตา่ งประเทศ
(3) วธิ ีการปอ้ งกัน - ปอ้ งปรามแบบตา่ ง ๆ
(4) ความรเู้ กย่ี วการเฝ้าระวัง
(5) ความรูเ้ กีย่ วกับกฎหมายที่เกย่ี วข้อง

(6) เอ้อื อาทร (Generosity : G)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การพัฒนาสังคมไทยใหม้ ีนาใจ โอบอ้อมอารี เอือเฟื้อเผ่ือแผ่ โดยไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนหรอื หวัง

ผลตอบแทน ในฐานะเพ่ือนมนุษย์
กลไกหลัก กิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือบุคคล ชุมชน/สังคมในยามวกิ ฤติ หรอื การร่วมมือในการร่วม

พฒั นาชมุ ชน

จากนิยามข้างตน้ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต จงึ หมายถึง ผ้ทู ี่มีความพอเพยี ง ไม่เบียดเบยี นตนเอง
และผู้อน่ื (S) มุ่งอนาคตทเ่ี จริญทงั ตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักความโปรง่ ใสตรวจสอบได้ (T) พืนฐานจิตใจมี
มนุษยธรรมเอืออาทร ชว่ ยเหลือเพ่ือนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G) ใหค้ วามสาคญั ต่อการเรียนรู้
ตลอดชีวิต เพ่ือการดารงชีวิตในทางท่ีชอบ (N) แต่ตื่นรู้เร่ืองภัยทุจริตท่ีร้ายแรงส่งผลต่อสังคม รังเกียจการทุจริต
ประพฤติมิชอบทงั ปวง ไม่ยอมทนตอ่ การทจุ รติ ทุกรูปแบบ (R)

31

นอกจากนี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพ่ิมในเร่ืองของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเชื่อมโยงและขับเคลื่อนหลักการของโมเดล STRONG ไปสู่การป้องกัน
การทุจริตได้เป็นรูปธรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชน จะดาเนินการ
โดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคัดเลือกผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดที่มีเครือข่าย มีความสามารถ
และทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดล STRONG การนาไป
ประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความไม่ทน
และความอายต่อการทุจรติ หลักการจิตพอเพียงด้วยวิธีการที่เหมาะสม เป็นต้น เพือ่ ใหผ้ ู้ได้รับการคดั เลือกเป็นโค้ช
(coach) ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับหลักการของโมเดล STRONG และการต่อต้านการทุจริตให้แก่ผู้ท่ีอาศัยอยู่ใน
ชุมชน รวมถึงยังมีการจัดตังชมรม STRONG เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนกั รู้เล็งเห็นถึงความสาคญั ของปัญหา
การทจุ รติ และมสี ่วนร่วมในการเฝ้าระวงั และแจง้ เบาะแสการทจุ ริต

แผนภาพที่ 2 หลักสตู รต้านทุจริตศกึ ษา เรือ่ ง การพิทกั ษท์ รพั ยากรป่าไม้

กลุม่ ทหารและตารวจ

๔. หนว่ ยการเรียนรู้

ที่ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ จดุ ประสงค์เรียนรู้ เวลา เนื้อหาสาระ
ชม. ทรัพยากรป่าไม้ STR

1 มารู้จกั กฎหมาย เพ่ือให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ 4 1. การใช้ภาษาทาง 1.โปร

ความเขา้ ใจในกฎหมาย กฎหมาย/ระเบียบ (Tran

และระเบียบทีแ่ กไ้ ขและ 2. การตคี วาม 2.ต่นื ร

เพม่ิ เตมิ ด้านทรัพยากร 3. เจตนารมณ์ 3.มุ่งไ

ปา่ ไม้ ทางกฎหมาย (Onw

4.ควา

(Know

2 รู้ลึก รจู้ รงิ เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนเข้าใจ 3 1. กระบวนการ 1.โปร

กระบวนการตรวจ ตรวจพิสจู น/์ (Tran

พิสจู น์/ตรวจสอบการ ตรวจสอบการ 2.ตน่ื ร

กระทาความผิด กระทาความผดิ 3.มุ่งไ

สามารถและบังคบั ใช้ เกย่ี วกับ ทดี่ ิน ไม้ (Onw

กฎหมาย และระเบียบ ของป่า และสัตว์ป่า 4.ควา

ที่เกีย่ วขอ้ งดา้ น 2. การประเมนิ (Know

ทรัพยากรปา่ ไม้ มลู ค่าความเสียหาย 5.เอือ

ต่อทรพั ยากรปา่ ไม้ (Gene

3 เทคโนโลยปี า่ ไม้ เพือ่ ให้ผู้เรยี นสามารถ 2 1. การประยุกตใ์ ช้ 1.พอเ

วเิ คราะห์และ เทคโนโลยีเกย่ี วกับ (Suff

ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยใี น ภมู ิสารสนเทศ 2.โป

การตา้ นทุจรติ ดา้ น 2. กรณศี กึ ษาการ (Tran

ทรัพยากรปา่ ไม้ ทุจรติ ดา้ นทรัพยากร 3.ตน่ื ร

ปา่ ไม้ 4.มุ่งไ

(Onw

5.ควา

(Know

32

RONG model วธิ ีการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ แหลง่ การเรียนรู้ การประเมินผล
-การบรรยาย
รง่ ใส -การอภิปราย -สื่อดิจิทัล -ห้องสมุด -การทดสอบ
nsparent: T) -การใช้กรณศี ึกษา -คลิปวีดีโอ - เวบ็ ไซต์ -การใชค้ าถาม
รู้ (Realize: R) -เอกสารความรู้ - แพลตฟอรม์ และใหข้ อ้ มูล
ไปข้างหน้า -การบรรยาย -สอ่ื สงิ พิมพ์ ยอ้ นกลบั
ward: O) -การอภิปราย -การสังเกต
ามรู้ -การใช้กรณีศกึ ษา การอภิปราย
wledge: N)
-การบรรยาย -สื่อดจิ ทิ ลั -หอ้ งสมุด -การทดสอบ
ร่งใส -การอภิปราย -คลปิ วีดโี อ - เวบ็ ไซต์ -การใชค้ าถาม
nsparent: T) -การใช้กรณีศึกษา -เอกสารความรู้ - แพลตฟอร์ม และใหข้ ้อมลู
รู้ (Realize: R) -ส่ือสิงพิมพ์ ย้อนกลับ
ไปขา้ งหนา้ -ใบความรู้ -การสงั เกต
ward: O) -ใบกิจกรรม การอภิปราย
ามรู้
wledge: N) -สือ่ ดจิ ิทลั -ห้องสมดุ -การทดสอบ
ออาทร -คลิปวดี โี อ - เวบ็ ไซต์ -การใช้คาถาม
erosity: G) -เอกสารความรู้ - แพลตฟอรม์ และให้ขอ้ มูล
-สอ่ื สงิ พิมพ์ ย้อนกลับ
เพียง -ใบความรู้ -การสงั เกต
ficient: S) -ใบกจิ กรรม การอภปิ ราย
ปรง่ ใส
nsparent: T)
รู้ (Realize: R)
ไปข้างหน้า
ward: O)
ามรู้
wledge: N)

33

5.แนวทางการจดั การเรียนรู้และประเมนิ ผล

การจดั กจิ กรรมการจัดการเรียนรทู้ เี่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใช้วธิ ีการบรรยายในชันเรยี น การสืบคน้ ข้อมูล
การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน (Project
based Learning) ปัญหาเป็นฐาน (Problem based Learning) ปรากฏการณ์เป็นฐาน (Phenomenon based
Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เป็นตน้

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพ่ือพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมินจาก
การทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม/การอภิปราย การสังเกตพฤติกรรมการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
การประเมนิ ผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกิจกรรม

เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ที่จะ
ช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชันได้อย่างมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์การประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏิบัติงาน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจากแฟ้มสะสม
ผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมินเพ่ือน (Peer-
Assessment) 6) การให้ขอ้ มลู ป้อนกลับแก่นักเรียน (Student Response)

การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีเหมาะสมและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ต่อยอดด้วย
ตนเองและนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้รวมถึงการทางานในสถานการณต์ ่างๆ

6. แนวทางการนาหลักสตู รไปใช้
(1) ทหาร - หลักสูตรตามแนวทางการรับราชการและหลกั สตู รเพม่ิ พูนความรู้
(2) ตารวจ - หลกั สตู รฝกึ อบรมทเี่ ลอ่ื นตาแหนง่ สูงขนึ และหลักสตู รฝึกอบรมอื่น ๆ

34

หลักสูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา
เร่ือง การพทิ กั ษ์ทรพั ยากรป่าไม้

สาหรบั กลุ่มวิทยากร ป.ป.ช. / บุคลากรภาครัฐ และรฐั วสิ าหกิจ

1. ความเป็นมาของหลกั สตู ร

“ป่าไม้” เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีสาคัญอย่างย่ิงต่อมนุษย์ โดยเฉพาะการเป็นแหล่งต้นนาท่ีสาคัญต่อ
ระบบนิเวศและเป็นแหล่งกาเนิดของปัจจัยส่ี อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ท่ีอยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจนยังมี
ประโยชน์ในแง่ของการรักษาสมดุลของส่ิงแวดล้อม แต่ปัจจุบันทรพั ยากรปา่ ไม้ได้ลดน้อยลงเนอ่ื งจากการถูกรุกราน
และถูกทาลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพืนท่ีป่าเพื่อตัดต้นไม้ การถางป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ
ในทด่ี นิ โดยมิชอบ เปน็ ต้น ซ่ึงปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบตอ่ วถิ ีชวี ติ ของประชาชนในภาพรวม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรยี นเกีย่ วกับการใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรป่าไม้ อาทิ การ
ออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ ท่ีส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และประชาชน
โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ
โดยการละเลย เพิกเฉย หรือเอือประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย ซ่ึงการทุจริตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทาง
สังคม เศรษฐกิจ และสิง่ แวดลอ้ มของประเทศ

ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยการสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนรว่ มในการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้วางแนวทางเก่ียวกับหน้าที่ของรัฐในการส่งเสริม สนับสนุน และให้
ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทังการจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มี
ประสิทธิภาพเพ่ือป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว อีกทังวาระการปฏิรูปประเทศ
ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง
ได้กาหนดกลยุทธ์หลักในการเร่งสร้างการรับรู้และจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันรังเกียจการทุจริตและมีส่วนร่วมในการต่อต้านทุจริตด้วยการชีเบาะแส การสร้าง
ลักษณะนิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสริมสรา้ งบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเสริมสร้าง
ธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ และในส่วนของสานักงาน ป.ป.ช. ซ่ึงถือเป็นองค์กรหลักในการ
ดาเนินการเก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ ได้มีการให้ความสาคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตผ่าน
กลไกการศึกษา ซ่ึงถือเป็นอีกกลไกหน่ึงที่มีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการปรับเปล่ียนกระบวนการคิดของคน
จึงได้จัดทาชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือเรียกว่าหลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ที่มีเนือหา
สอดคล้องกับสถานการณป์ ัจจุบนั อาทิ โลกยุคดจิ ิทัล หรือการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติทีไ่ ม่เหมาะสม

เน่ืองจากสถานการณ์การบุกรุกทาลายป่าในปัจจุบันเร่ิมทวีความรุนแรงมากยิ่งขึน ดังนัน การส่งเสริมให้
ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้จึงถือเป็นจุดเร่ิมต้นท่ีสาคัญในการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จึงนามาสู่การจัดทาหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรอื หลักสูตรต้าน
ทุจริตศึกษา เรื่อง “การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้” เพ่ือให้ผู้เรียนทุกระดับชันได้มีความตระหนักรู้และร่วมพิทักษ์
ทรัพยากรปา่ ไม้ตามบทบาทหน้าที่ของตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในการเรียนการสอนตลอดหลักสตู ร

35

ในส่วนของผู้เรียนกลุ่มวิทยากร ป.ป.ช. / บุคลากรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งมีส่วนสาคัญในการแก้ไขปัญหาการทุจริตเก่ียวกับทรัพยากรป่าไม้ นอกจากจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจใน
กฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ ในเบืองต้นแล้ว มีความจาเป็นจะต้องเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
ในการต้านทุจริตด้านทรัพยากรป่าไม้ โดยมีการติดตาม ประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพ่ือให้สามารถตรวจสอบการ
กระทาความผิด และบังคับใช้กฎหมาย จนนาไปสู่การส่ือสารต่อสังคมในการต่อต้านทุจริตด้านทรัพยากรป่าไม้
อยา่ งเป็นรูปธรรม

2. วัตถุประสงค์ของหลกั สตู ร
2.1 เพ่อื ให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย และระเบียบทีเ่ ก่ยี วขอ้ งดา้ นทรัพยากรปา่ ไม้
2.2 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบการกระทาความผิด การบังคับใช้กฎหมายและระเบียบที่เก่ียวข้อง

ด้านทรพั ยากรป่าไม้
2.3 เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นสามารถปฏบิ ตั ิงานตามภารกิจและหนา้ ท่ีภายใตห้ ลักธรรมาภบิ าล
2.4 เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นสามารถวเิ คราะหแ์ ละประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการตา้ นทจุ ริตด้านทรัพยากรปา่ ไม้
2.5 เพอ่ื ให้ผู้เรยี นสามารถสื่อสารสังคมในการต้านทุจริตด้านทรัพยากรปา่ ไม้
๒.๖ เพื่อใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในการตา้ นทุจริตดา้ นทรัพยากรปา่ ไม้

3. โครงสร้างเน้อื หาสาระ ระยะเวลา
(ช่วั โมง)
ลาดบั เน้อื หาสาระ

1 กฎหมาย และจริยธรรมปา่ ไม้
1. กฎหมาย ระเบียบ และข้อบงั คับทเ่ี ก่ยี วข้อง
-เจตนารมณ์ทางกฎหมาย
-การตีความทางกฎหมาย
- นโยบายของรฐั
2. การบังคับใช้กฎหมาย
3. หลกั ธรรมาภบิ าล

2 รแู้ ล้วเราทาได้ ๒
1. กระบวนการตรวจพสิ ูจน์ และตรวจสอบการกระทาความผดิ เกีย่ วกับทีด่ ิน ไม้ ของป่า
และสตั วป์ ่า
2. การประเมนิ มูลค่าความเสียหายตอ่ ทรัพยากรปา่ ไม้

3 รู้เทคโนโลยปี ่าไม้ 4
การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีเกย่ี วกับภมู สิ ารสนเทศ และเทคโนโลยสี ่ือสารสงั คม

ลาดับ เนอ้ื หาสาระ 36

4 ป่าไม้โปร่งใส ระยะเวลา
1. การจดั การอย่างมีสว่ นร่วม (ชัว่ โมง)
2. การเฝ้าระวัง การแจ้งเบาะแสการทจุ รติ ด้านทรัพยากรป่าไม้
รวม ๓

12

STRONG Model : จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต

โมเดล STRONG เป็นการนาตัวอักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษท่ีมีความหมายเชิงบวก จานวน 6 คา
มาประกอบเป็นคาศัพท์สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต โดยมี
ความมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทุจรติ ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการประยกุ ต์และบูรณา
การหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
การตระหนักรแู้ ละใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอืออาทรบนพืนฐานของจริยธรรมและ
จิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนาสร้างวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต
ซึ่งโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ตังแต่ปี
พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงได้ดงั แผนภาพ ดังนี

แผนภาพท่ี 1 โมเดล STRONG – จติ พอเพียงตา้ นทุจริต ปี พ.ศ. 2562

37

จากแผนภาพข้างต้น สามารถอธบิ ายนิยามเชงิ ปฏิบัติการไดด้ งั นี

(1) พอเพยี ง (Sufficient : S)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับที่แตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ

ความสามารถ รวมทงั ตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของบคุ คลและครอบครัว
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และ

เป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกท่ีพอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน ไม่เบียดบังรัฐ
ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพท่ีสุจริต สามารถหาทรัพย์สินเงินทองได้ตาม
ความสามารถ ทงั นี โดยไม่เดือดร้อนตนเองและผอู้ ่ืน

(2) โปรง่ ใส (Transparent : T)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความโปร่งใส ทาใหเ้ หน็ ภาพหรือปรากฏการชัดเจน
กลไกหลกั คือ สร้างความร้คู วามเขา้ ใจ และวธิ ีสังเกตเก่ยี วกบั ความโปรง่ ใสของโครงการตา่ ง ๆ

(3) ตน่ื รู้ (Realize : R)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
เมอื่ บุคคลรูพ้ ษิ ภัยของการทจุ รติ และไม่ทนทจ่ี ะเหน็ การทุจรติ เกิดขนึ
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพืนท่ี ในชุมชน หรือในกรณีที่ปรากฏการทุจริตขึน

หรือกรณศี ึกษาที่เกิดขึนมาแล้วและมีคาพิพากษาถึงท่ีสดุ แลว้

(4) มงุ่ ไปขา้ งหน้า (Onward : O)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การไมม่ กี ารทุจรติ ของภาครฐั จะทาใหเ้ งนิ ภาษีถูกนาไปใชใ้ นการพัฒนาอยา่ งเต็มท่ี
กลไกหลัก คือ การป้องกันและการป้องปราม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังพืนท่ีท่ีมี

ความเสย่ี ง ในการทจุ รติ เช่น การบุกรกุ พนื ท่ีสาธารณะ หรือเฝา้ ระวงั โครงการให้ดาเนนิ การด้วยความโปร่งใส

(5) ความรู้ (Knowledge : N)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความรดู้ า้ นตา่ ง ๆ มคี วามจาเป็นต่อการป้องกันและปอ้ งปรามการทจุ รติ
กลไกหลกั คือ การให้ความรู้ในรปู แบบการฝกึ อบรม หรอื ใหส้ ่อื เรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง เชน่
(1) ความรู้เกย่ี วกับรปู แบบการทุจริตแบบต่าง ๆ ทังแบบสมยั อดีต แบบปัจจบุ ัน และแบบทอ่ี าจจะ

เกิดขนึ ในอนาคต
(2) ความรเู้ ก่ยี วกับการทุจริตในต่างประเทศ
(3) วธิ กี ารป้องกัน - ป้องปรามแบบตา่ ง ๆ
(4) ความร้เู กย่ี วการเฝา้ ระวัง
(5) ความรูเ้ ก่ียวกบั กฎหมายทีเ่ ก่ยี วข้อง

38

(6) เอื้ออาทร (Generosity : G)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การพัฒนาสังคมไทยใหม้ ีนาใจ โอบออ้ มอารี เออื เฟื้อเผื่อแผ่ โดยไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนหรอื หวัง

ผลตอบแทน ในฐานะเพอ่ื นมนษุ ย์
กลไกหลัก กจิ กรรมจติ อาสา ช่วยเหลอื บุคคล ชุมชน/สังคมในยามวิกฤติ หรือการร่วมมือในการรว่ ม

พัฒนาชมุ ชน

จากนิยามข้างตน้ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจริต จึงหมายถึง ผทู้ ี่มีความพอเพยี ง ไมเ่ บียดเบียนตนเอง
และผ้อู ่นื (S) มุ่งอนาคตทเ่ี จริญทังตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักความโปรง่ ใสตรวจสอบได้ (T) พืนฐานจิตใจมี
มนุษยธรรมเอืออาทร ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G) ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้
ตลอดชีวิต เพ่ือการดารงชีวิตในทางท่ีชอบ (N) แต่ตื่นรู้เร่ืองภัยทุจริตท่ีร้ายแรงส่งผลต่อสังคม รังเกียจการทุจริต
ประพฤติมชิ อบทังปวง ไมย่ อมทนต่อการทุจริตทุกรปู แบบ (R)

นอกจากนี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพ่ิมในเร่ืองของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเช่ือมโยงและขับเคลื่อนหลักการของโมเดล STRONG ไปสู่การป้องกัน
การทุจริตได้เป็นรูปธรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงการเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชน จะดาเนินการ
โดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคัดเลือกผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดท่ีมีเครือข่าย มีความสามารถ
และทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดล STRONG การนาไป
ประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต หลักการจิตพอเพียงด้วยวิธีการที่เหมาะสม เป็นต้น เพื่อให้ผู้ได้รับการ
คัดเลือกเป็นโค้ช (coach) ถ่ายทอดความรู้เก่ียวกับหลักการของโมเดล STRONG และการต่อต้านการทุจริตให้แก่
ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีการจัดตังชมรม STRONG เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้เล็งเห็นถึง
ความสาคัญของปญั หาการทจุ ริตและมีส่วนร่วมในการเฝา้ ระวังและแจง้ เบาะแสการทจุ ริต

39

แผนภาพที่ 2 หลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษา เร่อื ง การพิทกั ษท์ รัพยากรป่าไม้
กลุม่ วิทยากร ป.ป.ช. / บคุ ลากรภาครฐั และรฐั วิสาหกิจ

๔. หน่วยการเรียนรู้

ที่ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ จุดประสงค์เรยี นรู้ เวลา เนอื้ หาสา
ชม. ทรัพยากรปา่ ไม้

1 กฎหมาย และ 1.เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ 3 1. กฎหมาย ระเบยี บ 1.

จริยธรรมปา่ ไม้ ความเขา้ ใจในกฎหมาย และข้อบังคบั ทเ่ี กีย่ วข้อง (S

และระเบยี บทเี่ กยี่ วข้อง -เจตนารมณ์ทาง 2

ด้านทรพั ยากรปา่ ไม้ กฎหมาย (T

2.เพื่อให้ผเู้ รยี นสามารถ -การตีความทาง 3.

ปฏิบัตงิ านตามภารกจิ กฎหมาย 4.

และหน้าทภี่ ายใตห้ ลกั - นโยบายของรัฐ (O
ธรรมาภิบาล 2. การบังคบั ใช้ 5.
กฎหมาย (K

3. หลกั ธรรมาภิบาล 6.

(G

2 รู้แลว้ เราทาได้ ตรวจสอบการกระทา 2 1.กระบวนการตรวจ 1.

ความผดิ และบังคับใช้ พสิ ูจน์ และตรวจสอบ (T

กฎหมาย และระเบยี บ การกระทาความผดิ 2.

ที่เกี่ยวข้องดา้ น เกย่ี วกบั ท่ีดิน ไม้ 3.

ทรพั ยากรป่าไม้ ของปา่ และสตั ว์ปา่ (O

2. การประเมนิ มลู ค่า 4.

ความเสยี หายตอ่ (K

ทรพั ยากรป่าไม้ 5.

(G


Click to View FlipBook Version