The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กรอบโครงสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูแดง คนเดิม, 2022-11-23 02:36:00

กรอบโครงสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2565

กรอบโครงสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2565

40

าระ วิธีการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ แหลง่ การ การประเมนิ ผล
เรยี นรู้
STRONG model - บรรยาย -สอ่ื ดิจิทลั -การทดสอบ
- การฝกึ ปฏิบตั ิ -คลิปวีดโี อ - ห้องสมดุ -การใช้คาถามและ
.พอเพยี ง - กรณศี กึ ษา -เอกสารความรู้ - เวบ็ ไซต์ ให้ขอ้ มูลย้อนกลับ
Sufficient: S) -สื่อสิงพมิ พ์ - platform -การสังเกตการ
2.โปรง่ ใส ปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ /
Transparent: T) การอภปิ ราย
.ตนื่ รู้ (Realize: R) -การสังเกตพฤติกรรม
.ม่งุ ไปข้างหน้า
Onward: O)
.ความรู้
Knowledge: N)
.เอืออาทร
Generosity: G)

.โปร่งใส - บรรยาย -สื่อดจิ ิทลั -ห้องสมดุ -การทดสอบ
Transparent: T) - อภิปราย -คลิปวดี โี อ - เว็บไซต์ -การประเมนิ ผลงาน
.ตน่ื รู้ (Realize: R) - วิเคราะห์ -เอกสารความรู้ - platform และตรวจผลงาน
.มงุ่ ไปขา้ งหนา้ กรณีศกึ ษา -ส่ือสิงพมิ พ์
Onward: O) - การฝึกปฏบิ ตั ิ -ใบความรู้
.ความรู้ -ใบกิจกรรม
Knowledge: N)
.เอืออาทร
Generosity: G)

๔. หนว่ ยการเรียนรู้

ที่ ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ จดุ ประสงคเ์ รียนรู้ เวลา เนอ้ื หาสา
ชม. ทรัพยากรป่าไม้

3 รู้เทคโนโลยีปา่ ไม้ วเิ คราะห์และ 4 1. การประยุกต์ใช้ 1.

ประยุกต์ใช้เทคโนโลยใี น เทคโนโลยีเก่ียวกับ (S

การต้านทจุ รติ ด้าน ภูมสิ ารสนเทศ และ 2

ทรัพยากรป่าไม้ได้ เทคโนโลยีสื่อสารสังคม (T

2. กรณีศึกษาการทุจริต 3.

ด้านทรัพยากรปา่ ไม้ 4.

3. การสอ่ื สารสงั คม (O

5.

(K

6.

(G

4 ป่าไมโ้ ปร่งใส มีสว่ นรว่ มในการ 3 1. การจดั การอยา่ งมี 1.

ต้านทจุ รติ ดา้ นทรพั ยากร ส่วนร่วม (S

ปา่ ไม้ 2. การเฝา้ ระวัง การแจ้ง 2

เบาะแสการทจุ รติ (T

ด้านทรัพยากรปา่ ไม้ 3.

4.

(O

5.

(K

6.

(G

41

าระ วิธีการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ แหลง่ การ การประเมนิ ผล
เรยี นรู้
STRONG model - อภปิ ราย -ส่ือดิจิทลั -การทดสอบ
- หอ้ งสมดุ -การใชค้ าถามและ
.พอเพยี ง - สถานการณ์ -คลิปวดี โี อ - เว็บไซต์ ให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลับ
Sufficient: S) - platform -การสงั เกตการ
2.โปรง่ ใส จาลอง -เอกสารความรู้ ปฏิบัติงานกลมุ่ /
Transparent: T) การอภปิ ราย
.ตน่ื รู้ (Realize: R) - ปญั หาเป็นฐาน -ส่อื สิงพมิ พ์ -การประเมินผลงาน
.มงุ่ ไปข้างหน้า และตรวจผลงาน
Onward: O) (Problem based -ใบความรู้
.ความรู้
Knowledge: N) Learning) -ใบกิจกรรม
.เออื อาทร
Generosity: G) -การฝกึ ปฏบิ ตั ิ

.พอเพยี ง - บรรยาย -สอื่ ดจิ ิทลั -ห้องสมดุ -การทดสอบ
Sufficient: S) -การฝกึ ปฏบิ ตั ิ -คลิปวดี ีโอ - เวบ็ ไซต์ -การประเมนิ ผลงาน
2.โปร่งใส -เอกสารความรู้ - platform และตรวจผลงาน
Transparent: T) -สื่อสงิ พมิ พ์
.ตน่ื รู้ (Realize: R)
.มุง่ ไปขา้ งหน้า
Onward: O)
.ความรู้
Knowledge: N)
.เออื อาทร
Generosity: G)

42

5.แนวทางการจัดการเรยี นรู้และประเมินผล

การจัดกจิ กรรมการจดั การเรียนรูท้ เี่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ โดยใช้วธิ ีการบรรยายในชันเรยี น การสืบคน้ ข้อมูล
การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน (Project
based Learning) ปัญหาเป็นฐาน (Problem based Learning) ปรากฏการณ์เป็นฐาน (Phenomenon based
Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เป็นต้น

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพื่อพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมินจาก
การทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติงานกล่มุ /การอภิปราย การสงั เกตพฤติกรรมการร่วมอนุรกั ษ์ทรัพยากรป่าไม้ การ
ประเมนิ ผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกิจกรรม

เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ท่ีจะ
ช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชันได้อย่างมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์การประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏิบัติงาน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจากแฟ้มสะสม
ผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมินเพ่ือน(Peer-
Assessment) 6) การให้ข้อมูลปอ้ นกลับแกน่ ักเรยี น (Student Response)

การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีเหมาะสมและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ต่อยอดด้วย
ตนเองและนาความรู้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นการเรยี นรู้รวมถึงการทางานในสถานการณต์ ่าง ๆ

6. แนวทางการนาหลักสตู รไปใช้
(1) ใช้ฝกึ อบรมใหก้ บั เจ้าหน้าทข่ี องสานกั งาน ป.ป.ช.
(2) ใช้ฝึกอบรมให้กับโคช้ STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต
(3) ใชฝ้ กึ อบรมใหก้ บั บุคลากรภาครัฐ และรัฐวิสาหกจิ

43

หลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา
เรอ่ื ง การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้

สาหรับ กลุ่มโคช้

1. ความเปน็ มาของหลักสตู ร

“ป่าไม้” เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีสาคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ โดยเฉพาะการเป็นแหล่งต้นนาท่ีสาคัญต่อ
ระบบนิเวศและเป็นแหล่งกาเนิดของปัจจัยส่ี อันได้แก่ อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจนยังมี
ประโยชน์ในแง่ของการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันทรัพยากรปา่ ไม้ได้ลดน้อยลงเน่ืองจากการถูกรุกราน
และถูกทาลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพืนท่ีป่าเพื่อตัดต้นไม้ การถางป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ
ในท่ดี นิ โดยมิชอบ เป็นตน้ ซง่ึ ปัญหาดงั กล่าวส่งผลกระทบต่อวถิ ีชีวติ ของประชาชนในภาพรวม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเร่ืองกล่าวหาร้องเรียนเก่ียวกับการใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ อาทิ การ
ออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และประชาชน
โดยมีเจ้าหน้าท่ีของรัฐกระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าท่ีหรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ
โดยการละเลย เพิกเฉย หรือเอือประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย ซ่ึงการทุจริตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทาง
สงั คม เศรษฐกิจ และสิง่ แวดล้อมของประเทศ

ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยการสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนรว่ มในการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด สร้างความตระหนักรู้ในทุกภ าคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้วางแนวทางเก่ียวกับหน้าที่ของรัฐในการส่งเสริม สนับสนุน และให้
ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทังการจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มี
ประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว อีกทังวาระการปฏิรูปประเทศ
ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง
ได้กาหนดกลยุทธ์หลักในการเร่งสร้างการรับรู้และจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันรังเกียจการทุจริตและมีส่วนร่วมในการต่อต้านทุจริตด้วยการชีเบาะแส การสร้าง
ลกั ษณะนิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสริมสร้างบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเสริมสร้าง
ธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ และในส่วนของสานักงาน ป.ป.ช. ซ่ึงถือเป็นองค์กรหลักในการ
ดาเนินการเก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ ได้มีการให้ความสาคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตผ่าน
กลไกการศึกษา ซ่ึงถือเป็นอีกกลไกหน่ึงที่มีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการปรับเปล่ียนกระบวนการคิดของคน
จึงได้จัดทาชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือเรียกว่าหลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ท่ีมีเนือหา
สอดคล้องกับสถานการณ์ปจั จุบัน อาทิ โลกยคุ ดิจิทัล หรอื การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติทีไ่ ม่เหมาะสม

เน่ืองจากสถานการณ์การบุกรุกทาลายป่าในปัจจุบันเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึน ดังนัน การส่งเสริมให้
ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้จึงถือเป็นจุดเร่ิมต้นท่ีสาคัญในการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จึงนามาสู่การจัดทาหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรอื หลักสูตรต้าน
ทุจริตศึกษา เร่ือง “การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้” เพื่อให้ผู้เรียนทุกระดับชันได้มีความตระหนักรู้และร่วมพิทักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ตามบทบาทหนา้ ท่ีของตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในการเรยี นการสอนตลอดหลักสตู ร

44

กลุ่มเป้าหมายที่สาคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการต้านทุจริต ในประเด็น “ทรัพยากร
ป่าไม้” สู่ภาคประชาชน คือ กลุ่มโค้ช ไม่ว่าจะเป็น โค้ช STRONG /ผู้นาชุมชน/ฯลฯ เน่ืองจากเป็นผู้ที่ส่งต่อความรู้
ในการต่อต้านการทุจริตสู่ภาคประชาชนในพืนท่ี ดังนัน กลุ่มโค้ชควรจะต้องมีการเรียนรู้และเข้าใจเก่ียวกับการใช้
ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ท่ีสอดคล้องกับบริบทและวัฒนธรรมในพืนที่ของตนเอง ตลอดจนควรมี
องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทุจริต เช่น การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม
เพอื่ ใหก้ ารถา่ ยทอดองค์ความรู้ด้านการพิทักษ์ทรัพยากรปา่ ไม้เป็นไปอย่างมีประสทิ ธิภาพและย่ังยืน

2. วัตถปุ ระสงค์ของหลักสตู ร
2.1 เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้อย่างถ่องแท้ ตามบริบททางสังคม

และวฒั นธรรมในพืนท่ี
๒.๒ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นตระหนักถงึ คณุ ค่า และการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรปา่ ไม้อยา่ งยง่ั ยนื
๒.๓ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสามารถใชเ้ ทคโนโลยที เี่ ก่ียวขอ้ งตดิ ตาม ประเมินสภาพปัจจุบันของทรัพยากรปา่ ไม้

และสอื่ สารสู่สังคมได้
๒.๔ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในการเฝา้ ระวงั และแจง้ เบาะแสการทจุ รติ ดา้ นทรัพยากรป่าไม้

3. โครงสรา้ งเนือ้ หาสาระ ระยะเวลา
(ชวั่ โมง)
ลาดับ เน้อื หาสาระ

1 ร้ลู กึ ร้จู ริง ร้ถู ่องแท้ ๓
- การอนุรักษท์ รพั ยากรป่าไม้ตามบริบททางสังคม
3
2 รูค้ า่ ป่าไม้
- ประโยชน์และคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ ๓
- การมีส่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรปา่ ไม้อย่างย่งั ยืน

3 รเู้ ทคโนโลยี
- เทคโนโลยที เ่ี กี่ยวขอ้ งของแต่ละหนว่ ยงาน
- การสื่อสารการใช้เทคโนโลยีที่เก่ยี วข้องสู่สังคม

4 ฟ้ามีตา ป่ามีใจ
- การเฝา้ ระวังการทจุ ริตด้านทรัพยากรป่าไม้
- การแจ้งเบาะแสการทจุ ริตด้านทรัพยากรปา่ ไม้
- การถา่ ยทอดวธิ กี ารเฝ้าระวงั และแจ้งเบาะแสการทุจริตดา้ นทรพั ยากรป่าไม้

รวม 12

45

STRONG Model : จิตพอเพยี งต้านทจุ รติ
โมเดล STRONG เป็นการนาตัวอักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายเชิงบวก จานวน 6 คา

มาประกอบเป็นคาศัพท์สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต
โดยมีความมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทุจริต ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์และ
บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
ส่วนรวม การตระหนักรู้และใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอืออาทรบนพืนฐานของ
จริยธรรมและจิตพอเพยี ง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนาสรา้ งวัฒนธรรมไม่ทน
ต่อการทุจริต ซึ่งโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ
ตงั แตป่ ี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงไดด้ ังแผนภาพ ดังนี
แผนภาพท่ี 1 โมเดล STRONG – จติ พอเพียงตา้ นทุจริต ปี พ.ศ. 2562

จากแผนภาพข้างตน้ สามารถอธบิ ายนิยามเชงิ ปฏิบตั กิ ารได้ดังนี
(1) พอเพยี ง (Sufficient : S)

คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมท่ีระดับที่แตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ
ความสามารถ รวมทงั ตามสถานภาพทางเศรษฐกจิ และสงั คมของบคุ คลและครอบครัว
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และ
เป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกที่พอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน ไม่เบียดบังรัฐ

46

ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพที่สุจริต สามารถหาทรัพย์สินเงินทองได้ตาม
ความสามารถ ทงั นี โดยไม่เดอื ดร้อนตนเองและผอู้ ื่น

(2) โปรง่ ใส (Transparent : T)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความโปร่งใส ทาใหเ้ หน็ ภาพหรอื ปรากฏการณ์ณ์ชดั เจน
กลไกหลัก คอื สรา้ งความรู้ความเข้าใจ และวธิ ีสงั เกตเกีย่ วกับความโปร่งใสของโครงการตา่ ง ๆ

(3) ต่ืนรู้ (Realize : R)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
เมอ่ื บุคคลร้พู ษิ ภัยของการทุจริต และไมท่ นทจี่ ะเหน็ การทจุ ริตเกิดขึน
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพืนท่ี ในชุมชน หรือในกรณีที่ปรากฏการณ์ทุจริตขึน

หรอื กรณศี กึ ษาท่ีเกิดขนึ มาแลว้ และมีคาพิพากษาถึงทีส่ ุดแลว้

(4) มุง่ ไปข้างหน้า (Onward : O)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การไมม่ กี ารทุจริตของภาครฐั จะทาให้เงนิ ภาษีถูกนาไปใช้ในการพฒั นาอย่างเต็มท่ี
กลไกหลัก คือ การป้องกันและการป้องปราม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังพืนท่ีท่ีมี

ความเสี่ยง ในการทจุ ริต เช่น การบกุ รกุ พนื ท่สี าธารณะ หรอื เฝ้าระวังโครงการให้ดาเนินการด้วยความโปรง่ ใส

(5) ความรู้ (Knowledge : N)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความรูด้ ้านตา่ ง ๆ มคี วามจาเปน็ ตอ่ การปอ้ งกนั และป้องปรามการทจุ ริต
กลไกหลกั คอื การให้ความรู้ในรูปแบบการฝกึ อบรม หรอื ให้ส่อื เรียนรู้อยา่ งตอ่ เนื่อง เชน่
(1) ความรู้เก่ยี วกับรูปแบบการทุจรติ แบบต่าง ๆ ทังแบบสมยั อดตี แบบปัจจุบัน และแบบที่อาจจะ

เกิดขึนในอนาคต
(2) ความร้เู ก่ียวกบั การทจุ ริตในต่างประเทศ
(3) วธิ ีการป้องกนั - ป้องปรามแบบตา่ ง ๆ
(4) ความรู้เก่ียวการเฝ้าระวัง
(5) ความรเู้ กีย่ วกับกฎหมายที่เกย่ี วข้อง

(6) เออื้ อาทร (Generosity : G)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การพฒั นาสงั คมไทยใหม้ ีนาใจ โอบออ้ มอารี เอือเฟื้อเผ่ือแผ่ โดยไมม่ ีผลประโยชนต์ อบแทนหรือหวัง

ผลตอบแทน ในฐานะเพอื่ นมนุษย์
กลไกหลัก กจิ กรรมจติ อาสา ช่วยเหลอื บคุ คล ชุมชน/สังคมในยามวิกฤติ หรือการร่วมมือในการรว่ ม

พัฒนาชมุ ชน

47

จากนิยามข้างตน้ STRONG: จิตพอเพียงต้านทุจรติ จงึ หมายถึง ผู้ที่มีความพอเพียง ไม่เบียดเบียนตนเอง
และผอู้ ่ืน (S) มุ่งอนาคตท่เี จรญิ ทงั ตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักความโปรง่ ใสตรวจสอบได้ (T) พืนฐานจิตใจมี
มนุษยธรรมเอืออาทร ชว่ ยเหลือเพื่อนมนุษยโ์ ดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G) ใหค้ วามสาคัญต่อการเรียนรู้
ตลอดชีวิต เพื่อการดารงชีวิตในทางท่ีชอบ (N) แต่ตื่นรู้เร่ืองภัยทุจริตท่ีร้ายแรงส่งผลต่อสังคม รังเกียจการทุจริต
ประพฤติมิชอบทงั ปวง ไม่ยอมทนตอ่ การทจุ รติ ทุกรูปแบบ (R)

นอกจากนี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพ่ิมในเรื่องของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเช่ือมโยงและขับเคล่ือนหลักการของโมเดล STRONG ไปสู่การป้องกัน
การทุจริตได้เป็นรูปธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชน จะดาเนินการ
โดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคัดเลือกผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดท่ีมีเครือข่าย มีความสามารถ
และทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับโมเดล STRONG การนาไป
ประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความไม่ทน
และความอายตอ่ การทุจรติ หลักการจิตพอเพียงด้วยวธิ ีการท่ีเหมาะสม เป็นต้น เพอื่ ให้ผู้ได้รับการคดั เลือกเป็นโค้ช
(coach) ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับหลักการของโมเดล STRONG และการต่อต้านการทุจริตให้แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ใน
ชมุ ชน รวมถึงยงั มีการจัดตังชมรม STRONG เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนกั รู้เล็งเห็นถึงความสาคัญของปัญหา
การทจุ รติ และมสี ่วนรว่ มในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทจุ รติ

แผนภาพท่ี 2 หลักสูตรตา้ นทุจริตศึกษา เรือ่ ง การพิทกั ษ์ทรัพยากรป่าไม้
กลุ่มโคช้

4. หนว่ ยการเรยี นรู้

ท่ี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ จุดประสงค์เรียนรู้ เวลา เนื้อหาสาระ
ชม. ทรัพยากรปา่ ไม้ STR

1 รู้ลึก รจู้ ริง มคี วามรู้ ความเข้าใจ 3 1. การอนรุ กั ษ์ 1.พอเ

รู้ถอ่ งแท้ ในการอนรุ ักษ์ทรัพยากร ทรัพยากรปา่ ไม้ตาม (Suff

ป่าไม้อยา่ งถอ่ งแท้ บริบททางสังคม 2.โป

ตามบริบททางสังคม (Tran

3.ตื่นร

4.มุง่ ไ

(Onw

5.ควา

(Know

6.เออื

(Gene

2 รู้ค่าป่าไม้ 1. ตระหนักถึงคณุ คา่ 3 1.ประโยชน์และ 1.พอเ

และความสาคญั ของ คุณค่าของทรพั ยากร (Suff

ทรพั ยากรปา่ ไม้ ป่าไม้ 2.โป

2. มีสว่ นร่วมในการ 2. การมสี ว่ นร่วม (Tran

อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ในการอนรุ กั ษ์ 3.ตื่นร

อย่างยั่งยนื ทรัพยากรปา่ ไม้ 4.ม่งุ ไ

อย่างยัง่ ยนื (Onw

5.ควา

(Know

6.เออื

(Gene

48

ะ วธิ กี ารเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ แหล่งการเรยี นรู้ การประเมินผล

RONG model - บรรยาย -สอื่ ดจิ ิทลั - หอ้ งสมดุ -การทดสอบ
- อภิปราย -คลปิ วีดโี อ - เว็บไซต์
เพยี ง - กรณีศึกษา -เอกสารความรู้ - platform
ficient: S) -สอ่ื สิงพมิ พ์
ปรง่ ใส -ใบความรู้
nsparent: T)
รู้ (Realize: R)
ไปข้างหนา้
ward: O)
ามรู้
wledge: N)
ออาทร
erosity: G)

เพียง - อภิปราย -สื่อดจิ ิทลั - หอ้ งสมดุ -การทดสอบ
ficient: S) - เวบ็ ไซต์ -การสังเกตการ
ปรง่ ใส - กรณีศกึ ษา -คลปิ วดี โี อ - platform ปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ /
nsparent: T) การอภิปราย
รู้ (Realize: R) - ปัญหาเป็นฐาน -เอกสารความรู้ -การประเมินผลงาน
ไปข้างหน้า และตรวจผลงาน
war: O) (Problem based -สอื่ สงิ พมิ พ์
ามรู้
wledge: N) Learning) -ใบความรู้
ออาทร
erosity: G) - บทบาทสมมติ -ใบกจิ กรรม

4. หนว่ ยการเรียนรู้

ที่ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ จดุ ประสงคเ์ รียนรู้ เวลา เนื้อหาสาระ
ชม. ทรัพยากรป่าไม้ STR

3 รู้เทคโนโลยี 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยี 3 1. เทคโนโลยที ี่ 1.พอเ

ที่เกย่ี วขอ้ งตดิ ตาม เกยี่ วขอ้ งของแต่ละ (Suff

ประเมนิ ผลได้ หน่วยงาน 2.โป

2. การสื่อสารการใช้ (Tran

2. สามารถสอ่ื สารการ เทคโนโลยที ่ี 3.ตืน่ ร

ใช้เทคโนโลยีท่เี กย่ี วขอ้ ง เกย่ี วขอ้ งสสู่ งั คม 4.มุง่ ไ

ส่สู งั คมได้ (Onw

5.ควา

(Know

6.เออื

(Gene

4 ฟา้ มีตา ป่ามใี จ สามารถถา่ ยทอดการเฝา้ 3 1. การเฝา้ ระวังการ 1.พอเ

ระวงั และแจ้งเบาะแส ทจุ ริตดา้ นทรัพยากร (Suff

การทุจริตด้านทรพั ยากร ป่าไม้ 2.โป

ปา่ ไม้ 2. การแจง้ เบาะแส (Tran

การทุจรติ ดา้ น 3.ตน่ื ร

ทรัพยากรปา่ ไม้ 4.มุ่งไ

3. การถ่ายทอด (Onw

วิธกี ารเฝา้ ระวังและ 5.ควา

แจ้งเบาะแสการ (Know

ทจุ ริตด้านทรัพยากร 6.เอือ

ปา่ ไม้ (Gene

49

ะ วธิ กี ารเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ แหล่งการเรยี นรู้ การประเมินผล
- บรรยาย
RONG model - การฝกึ ปฏิบตั ิ -ส่ือดจิ ทิ ลั - ห้องสมุด -การทดสอบ
-คลปิ วีดีโอ - เว็บไซต์ -การประเมินผลงาน
เพียง - บรรยาย -เอกสารความรู้ - platform และตรวจผลงาน
ficient: S) -การฝึกปฏิบตั ิ -สอ่ื สิงพมิ พ์
ปร่งใส - สถานการณ์ -ใบความรู้
nsparent: T) จาลอง -ใบกิจกรรม
รู้ (Realize: R)
ไปข้างหน้า -สือ่ ดจิ ทิ ัล - ห้องสมดุ -การทดสอบ
ward: O) -คลิปวดี ีโอ - เว็บไซต์ -การใชค้ าถามและ
ามรู้ -เอกสารความรู้ - platform ใหข้ อ้ มูลย้อนกลับ
wledge: N) -สื่อสิงพมิ พ์ -การประเมินผลงาน
ออาทร -ใบความรู้ และตรวจผลงาน
erosity: G) -ใบกิจกรรม

เพียง
ficient: S)
ปรง่ ใส
nsparent: T)
รู้ (Realize: R)
ไปขา้ งหน้า
ward: O)
ามรู้
wledge: N)
ออาทร
erosity: G)

50

5.แนวทางการจัดการเรียนรู้และประเมินผล

การจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใช้วิธีการบรรยายในชันเรียน การสืบค้น
ข้อมูล การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน
(Project based Learning) ปั ญ ห าเป็ น ฐ าน (Problem based Learning) ป ราก ฏ ก าร ณ์ เป็ น ฐ า น
(Phenomenon based Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เป็นตน้

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพื่อพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมิน
จากการทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม/การอภิปราย การสังเกตพฤติกรรมการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากร
ปา่ ไม้ การประเมนิ ผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกิจกรรม

เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ที่
จะช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ใหก้ ับนักเรียนในชันไดอ้ ย่างมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์การประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏิบตั ิงาน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจากแฟ้มสะสม
ผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมินเพ่ือน
(Peer-Assessment) 6) การให้ขอ้ มูลปอ้ นกลับแกน่ ักเรยี น (Student Response)

การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีเหมาะสมและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ต่อยอด
ด้วยตนเองและนาความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในการเรยี นรู้รวมถงึ การทางานในสถานการณ์ต่าง ๆ

6. แนวทางการนาหลักสตู รไปใช้
(1) ใช้ฝกึ อบรมใหก้ ับเจ้าหนา้ ทขี่ องสานกั งาน ป.ป.ช.
(2) ใชฝ้ กึ อบรมใหก้ ับโคช้ STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต/ผู้นาชุมชน
(3) ใช้ฝึกอบรมให้กบั บุคลากรภาครัฐ

51

หลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา
เร่อื ง การพิทักษท์ รพั ยากรป่าไม้
สาหรับ กลุ่มประชาชน และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ

1.ความเปน็ มาของหลักสตู ร

“ป่าไม้” เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีสาคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ โดยเฉพาะการเป็นแหล่งต้นนาท่สี าคัญต่อ
ระบบนิเวศและเป็นแหล่งกาเนิดของปัจจัยส่ี อันได้แก่ อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ท่ีอยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจน
ยังมีประโยชน์ในแง่ของการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ได้ลดน้อยลงเนื่องจากการ
ถูกรุกรานและถูกทาลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพืนท่ีป่าเพ่ือตัดต้นไม้ การถางป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิ
ในท่ีดนิ โดยมิชอบ เปน็ ตน้ ซงึ่ ปัญหาดังกลา่ วส่งผลกระทบต่อวิถีชีวติ ของประชาชนในภาพรวม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเร่ืองกล่าวหาร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ อาทิ
การออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ ท่ีส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้และประชาชน
โดยมีเจ้าหน้าท่ีของรัฐกระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าท่ีหรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าท่ีราชการ
โดยการละเลย เพิกเฉย หรือเอือประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย ซึ่งการทุจริตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความม่ันคง
ทางสงั คม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ มของประเทศ

ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดยการสร้างความต่ืนตัวและการมีส่วนร่วมในการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2560 ได้วางแนวทางเก่ียวกับหน้าทีข่ องรัฐในการส่งเสริม สนับสนนุ และ
ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายท่ีเกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทังการจัดให้มีมาตรการและ
กลไกท่ีมีประสิทธิภาพเพ่ือป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าว อีกทังวาระการปฏิรูปประเทศ
ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง
ได้กาหนดกลยุทธ์หลักในการเร่งสร้างการรับรู้และจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตวั กันรังเกียจการทุจริตและมีสว่ นรว่ มในการต่อต้านทจุ ริตด้วยการชีเบาะแส การสรา้ ง
ลักษณะนิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสริมสร้างบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการ
เสริมสร้างธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ และในส่วนของสานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งถือเป็น
องค์กรหลักในการดาเนินการเกี่ยวกบั การป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต ได้มีการให้ความสาคัญกับการแกไ้ ข
ปัญหาการทุจริตผ่านกลไกการศึกษา ซ่ึงถือเป็นอีกกลไกหน่ึงที่มีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการ
ปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดของคน จึงได้จัดทาชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือเรียกว่า
หลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ท่ีมีเนือหาสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ โลกยุคดิจิทัล หรือการใช้
ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ีไ่ มเ่ หมาะสม

เนื่องจากสถานการณ์การบุกรุกทาลายป่าในปัจจุบันเร่ิมทวีความรุนแรงมากยิ่งขึน ดังนัน การส่งเสริม
ให้ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้จึงถือเป็นจุดเร่ิมต้นที่สาคัญในการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จึงนามาสู่การจัดทาหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือ หลักสูตร
ต้านทุจริตศึกษา เร่อื ง “การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้” เพอ่ื ให้ผเู้ รียนทุกระดับชันได้มีความตระหนักรู้และร่วมพทิ ักษ์
ทรัพยากรป่าไม้ตามบทบาทหน้าที่ของตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในการเรยี นการสอนตลอดหลักสตู ร

52

ประชาชน ถือเป็นภาคส่วนสาคัญในการสงวน รักษา ฟ้ืนฟู พัฒนา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากร
ป่าไม้ ดังนัน ประชาชนควรจะต้องมีความรู้และเข้าใจในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทุจริต ตลอดจนการ
ตระหนักถึงคุณค่า และการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เพ่ือนาไปต่อยอดและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการ
ปอ้ งกันการทุจริตเกี่ยวกับทรพั ยากรปา่ ไม้ได้อย่างยัง่ ยนื ต่อไป

2.วตั ถุประสงคข์ องหลกั สูตร

2.1 เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจ การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรปา่ ไมอ้ ย่างยั่งยนื
2.2 เพ่ือให้ผเู้ รยี นตระหนกั ถงึ คณุ ค่า และการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรป่าไม้อย่างย่ังยืน
๒.๓ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีท่ีเกีย่ วขอ้ งตดิ ตาม ประเมนิ สภาพปจั จบุ ันของทรัพยากรปา่ ไม้
๒.๔ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีสว่ นร่วมในการเฝ้าระวัง และแจ้งเบาะแสการทุจริตด้านทรัพยากรป่าไม้

3.โครงสร้างเนือ้ หาสาระ ระยะเวลา
(ชวั่ โมง)
ลาดบั เนื้อหาสาระ

1 ป่าของเรา ๓
- การอนรุ ักษ์ทรพั ยากรปา่ ไม้

2 อยกู่ ับป่า
- ประโยชน์และคณุ ค่าของทรัพยากรปา่ ไม้ ๓
- การมีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้อยา่ งย่งั ยนื
๑๒
3 รเู้ ทคโนโลยี
- เทคโนโลยที เ่ี กีย่ วข้องของแต่ละหน่วยงาน
- การใช้เทคโนโลยที ่เี กี่ยวข้องของแตล่ ะหนว่ ยงาน

4 คนเฝา้ ป่า
- การเฝา้ ระวงั การทุจริตดา้ นทรพั ยากรป่าไม้
- การแจ้งเบาะแสการทจุ ริตด้านทรัพยากรปา่ ไม้
รวม

53

STRONG Model : จติ พอเพยี งตา้ นทุจริต
โมเดล STRONG เป็นการนาตัวอักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษที่มคี วามหมายเชิงบวก จานวน 6 คา

มาประกอบเป็นคาศัพท์สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต
โดยมีความมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทุจริต ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์
และบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและ
ผลประโยชน์ส่วนรวม การตระหนักรู้และใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอืออาทร
บนพืนฐานของจริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนา
สร้างวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร.
มาณี ไชยธรี านุวฒั ศริ ิ ตงั แตป่ ี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงได้ดงั แผนภาพ ดังนี
แผนภาพท่ี 1 โมเดล STRONG – จติ พอเพียงตา้ นทุจรติ ปี พ.ศ. 2562

จากแผนภาพข้างต้น สามารถอธบิ ายนิยามเชิงปฏบิ ตั ิการได้ดงั นี
(1) พอเพยี ง (Sufficient: S)

คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมท่ีระดับที่แตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ
ความสามารถ รวมทงั ตามสถานภาพทางเศรษฐกจิ และสังคมของบุคคลและครอบครวั
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน
และเป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกที่พอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น

54

ไม่เบียดบังรัฐ ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพที่สุจริต สามารถหาทรัพย์สิน
เงนิ ทองไดต้ ามความสามารถ ทังนี โดยไม่เดือดร้อนตนเองและผอู้ ื่น

(2) โปร่งใส (Transparent: T)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความโปร่งใส ทาให้เหน็ ภาพหรือปรากฏการณ์ชัดเจน
กลไกหลัก คือ สรา้ งความรู้ความเขา้ ใจ และวธิ สี งั เกตเก่ียวกับความโปรง่ ใสของโครงการต่าง ๆ

(3) ต่นื รู้ (Realize: R)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
เมอ่ื บคุ คลรู้พษิ ภัยของการทจุ รติ และไมท่ นทจ่ี ะเห็นการทุจริตเกดิ ขึน
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพืนท่ี ในชุมชน หรือในกรณีท่ีปรากฏการทุจริต

ขึน หรอื กรณศี ึกษาที่เกิดขนึ มาแล้วและมีคาพิพากษาถงึ ทสี่ ดุ แล้ว

(4) มุง่ ไปข้างหนา้ (Onward: O)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การไม่มีการทจุ ริตของภาครัฐ จะทาใหเ้ งนิ ภาษถี ูกนาไปใช้ในการพฒั นาอยา่ งเต็มที่
กลไกหลัก คือ การป้องกันและการปอ้ งปราม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวงั พืนท่ีท่ี

มคี วามเสยี่ ง ในการทจุ ริต เชน่ การบกุ รุกพนื ท่ีสาธารณะ หรือเฝา้ ระวังโครงการให้ดาเนนิ การดว้ ยความโปรง่ ใส

(5) ความรู้ (Knowledge: N)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความรดู้ า้ นต่าง ๆ มคี วามจาเปน็ ตอ่ การป้องกันและปอ้ งปรามการทุจรติ
กลไกหลกั คอื การใหค้ วามรใู้ นรูปแบบการฝึกอบรม หรือให้ส่อื เรยี นรอู้ ย่างต่อเนื่อง เช่น
(1) ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการทุจริตแบบต่าง ๆ ทังแบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบที่

อาจจะเกดิ ขนึ ในอนาคต
(2) ความรเู้ กีย่ วกบั การทจุ รติ ในต่างประเทศ
(3) วธิ กี ารปอ้ งกัน - ป้องปรามแบบต่าง ๆ
(4) ความรู้เกี่ยวการเฝ้าระวัง
(5) ความร้เู กย่ี วกับกฎหมายท่เี กีย่ วขอ้ ง

(6) เออ้ื อาทร (Generosity: G)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การพัฒนาสังคมไทยใหม้ ีนาใจ โอบอ้อมอารี เออื เฟอื้ เผื่อแผ่ โดยไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนหรือ

หวงั ผลตอบแทน ในฐานะเพื่อนมนุษย์
กลไกหลัก กิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือบุคคล ชุมชน/สังคมในยามวิกฤติ หรอื การร่วมมือในการ

รว่ มพัฒนาชุมชน

จากนิยามข้างต้น STRONG: จิตพอเพียงต้านทุจริต จึงหมายถึง ผู้ท่ีมีความพอเพียง ไม่เบียดเบียน
ตนเองและผู้อื่น (S) มุ่งอนาคตท่ีเจริญทังตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักความโปร่งใสตรวจสอบได้ (T)
พืนฐานจิตใจมีมนุษยธรรมเอืออาทร ช่วยเหลือเพ่ือนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่ างตอบแทน (G)

55

ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อการดารงชีวิตในทางท่ีชอบ (N) แต่ตื่นรู้เรื่องภัยทุจริตท่ีร้ายแรง
ส่งผลต่อสงั คม รังเกยี จการทุจริตประพฤติมชิ อบทงั ปวง ไมย่ อมทนต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ (R)

นอกจากนี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพิ่มในเรื่องของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเช่ือมโยงและขับเคลื่อนหลักการของโมเดล STRONG ไปสู่การ
ป้องกันการทุจริตได้เป็นรูปธรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชน
จะดาเนินการโดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคัดเลอื กผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดท่ีมีเครือข่าย
มีความสามารถและทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับโมเดล STRONG
การนาไปประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์
ส่วนรวม ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต หลักการจิตพอเพียงด้วยวิธกี ารที่เหมาะสม เป็นต้น เพื่อให้ผู้
ได้รับการคัดเลือกเปน็ โค้ช (coach) ถ่ายทอดความรเู้ ก่ยี วกบั หลักการของโมเดล STRONG และการต่อต้านการ
ทุจริตให้แก่ผู้ท่ีอาศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีการจัดตังชมรม STRONG เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้
เล็งเหน็ ถงึ ความสาคัญของปัญหาการทจุ รติ และมีส่วนร่วมในการเฝา้ ระวงั และแจง้ เบาะแสการทจุ ริต

แผนภาพท่ี 2 หลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา เรอ่ื ง การพิทกั ษท์ รัพยากรปา่ ไม้

กลุ่มประชาชน และองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน

4. หน่วยการเรียนรู้

ท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ จุดประสงคเ์ รียนรู้ เวลา ชม. เนอื้ หาสาระ
ทรพั ยากรปา่ ไม้ STR

1 ปา่ ของเรา มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ 3 1. การอนุรักษ์ 1.พอเพ

การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรป่า ทรัพยากรป่าไม้ (Suffi

ไมอ้ ย่างยง่ั ยนื 2.โปร

(Trans

3.ตน่ื ร

4.มุง่ ไป

(Onwa

5.ความ

(Know

6.เอืออ

(Gene

2 อยู่กับปา่ 1. ตระหนักถึงคณุ ค่า 3 1.ประโยชน์และ 1.พอเพ

และความสาคญั ของ คุณคา่ ของทรพั ยากร (Suffi

ทรพั ยากรป่าไม้ ป่าไม้ 2.โปร

2. มสี ว่ นรว่ มในการ 2. การมสี ว่ นรว่ มใน (Trans

อนรุ ักษท์ รพั ยากรปา่ ไม้ การอนุรักษ์ 3.ตน่ื ร

อยา่ งยัง่ ยนื ทรัพยากรปา่ ไม้ 4.ม่งุ ไป

อย่างยั่งยนื (Onwa

5.ความ

(Know

6.เอืออ

(Gene

3 รูเ้ ทคโนโลยี สามารถใช้เทคโนโลยที ี่ 3 1. เทคโนโลยีท่ี 1.พอเพ

เก่ียวข้องติดตาม เกี่ยวข้องของแตล่ ะ (Suffi

ตรวจสอบ ประเมนิ หนว่ ยงาน 2.โปร

สถานการณก์ ารอนรุ ักษ์ (Trans

56

ะ วธิ ีการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ แหล่งการเรยี นรู้ การประเมินผล
- บรรยาย -การสังเกตพฤติกรรม
RONG model - กรณศี กึ ษา -ส่ือดิจิทลั - หอ้ งสมดุ
-คลปิ วดี โี อ - เว็บไซต์
พยี ง - บรรยาย -เอกสารความรู้ - platform
icient: S) - กรณศี กึ ษา -สือ่ สงิ พิมพ์
ร่งใส -ใบความรู้
sparent: T) - บรรยาย
รู้ (Realize: R) - กรณศี ึกษา -สอ่ื ดจิ ทิ ัล - หอ้ งสมุด -การสงั เกตพฤตกิ รรม
ปขา้ งหน้า - ฝกึ ปฏบิ ัติ -คลิปวีดโี อ - เว็บไซต์
ard: O) -เอกสารความรู้
มรู้ -ส่อื สิงพิมพ์ - platform
wledge: N) -ใบความรู้
อาทร
erosity: G) -สอ่ื ดจิ ทิ ัล - ห้องสมุด -การทดสอบ
-คลปิ วดี ีโอ - เวบ็ ไซต์
พยี ง -เอกสารความรู้ - platform
icient: S) -สอื่ สิงพมิ พ์
ร่งใส
sparent: T)
รู้ (Realize: R)
ปขา้ งหน้า
ard: O)
มรู้
wledge: N)
อาทร
erosity: G)

พียง
icient: S)
รง่ ใส
sparent: T)

4. หนว่ ยการเรยี นรู้

ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงคเ์ รียนรู้ เวลา ชม. เน้อื หาสาระ
ทรัพยากรป่าไม้ได้
ทรัพยากรป่าไม้ STR
4 คนเฝ้าปา่ มีส่วนรว่ มในการ
เฝ้าระวัง และแจ้ง 2. การใช้เทคโนโลยี 3.ตน่ื ร
เบาะแสการทจุ รติ
ด้านทรพั ยากรปา่ ไม้ ทีเ่ กย่ี วข้อง 4.มงุ่ ไป

(Onwa

5.ความ

(Know

6.เอืออ

(Gene

3 1. การเฝา้ ระวัง 1.พอเพ

การทุจริตด้าน (Suffi

ทรพั ยากรป่าไม้ 2.โปร

2. การแจง้ เบาะแส (Trans

การทจุ รติ ดา้ น 3.ตนื่ ร

ทรัพยากรปา่ ไม้ 4.มุ่งไป

(Onwa

5.ความ

(Know

6.เอืออ

(Gene

57

ะ วิธีการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ แหลง่ การเรียนรู้ การประเมนิ ผล
-ใบความรู้
RONG model

รู้ (Realize: R)
ปข้างหนา้
ard: O)
มรู้
wledge: N)
อาทร
erosity: G)

พียง - บรรยาย -สื่อดจิ ทิ ลั - ห้องสมุด -การสงั เกตพฤตกิ รรม
icient: S) -การฝกึ ปฏบิ ตั ิ -คลิปวีดีโอ - เว็บไซต์ -การใชค้ าถามและ
ร่งใส - สถานการณจ์ าลอง -เอกสารความรู้ - platform ใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั
sparent: T) -ส่ือสงิ พิมพ์
รู้ (Realize: R) -ใบความรู้
ปขา้ งหนา้ -ใบกจิ กรรม
ard: O)
มรู้
wledge: N)
อาทร
erosity: G)

58

5.แนวทางการจดั การเรยี นรู้และประเมินผล

การจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใช้วิธีการบรรยายในชันเรียน การสืบค้น
ข้อมูล การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน
(Project based Learning) ปั ญ ห าเป็ น ฐ าน (Problem based Learning) ป ราก ฏ ก าร ณ์ เป็ น ฐ า น
(Phenomenon based Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เปน็ ตน้

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพื่อพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมิน
จากการทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม/การอภิปราย การสังเกตพฤติกรรมการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากร
ป่าไม้ การประเมินผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกจิ กรรม

เคร่ืองมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ท่ี
จะช่วยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชันได้อย่างมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์การประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏบิ ตั งิ าน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจากแฟม้ สะสม
ผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมินเพื่อน
(Peer-Assessment) 6) การให้ข้อมูลป้อนกลับแก่นักเรยี น (Student Response)

การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีเหมาะสมและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ต่อยอด
ดว้ ยตนเองและนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรยี นร้รู วมถึงการทางานในสถานการณต์ ่างๆ

6.แนวทางการนาหลกั สูตรไปใช้
(๑) จัดฝกึ อบรมให้กับภาคประชาชน
(2) จดั เปน็ กิจกรรมเสรมิ สรา้ งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน
(3) บูรณาการกบั วถิ ชี วี ติ ในชุมชน
(4) จัดเป็นหลักสูตรฝึกอบรมที่เลื่อนตาแหน่งสูงขึนและหลักสูตรฝึกอบรมอ่ืน ๆ สาหรับบุคลากร

องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่

กรอบโครงสร้าง

หลักสูตรตา้ นทุจริตศกึ ษา พ.ศ. 2565
เรอ่ื ง การพทิ ักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝงั่

กลุ่มเปา้ หมายของหลกั สตู ร ดงั นี้
1. กล่มุ การศึกษาข้ันพื้นฐาน (ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย)
2. กลุ่มอุดมศกึ ษา
3. กลุม่ ทหาร และตารวจ
4. กลุ่มวทิ ยากร ป.ป.ช. / บคุ ลากรภาครัฐ และรัฐวสิ าหกิจ
5. กล่มุ โค้ช
6. กล่มุ ประชาชน และองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่

1

หลักสูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา

เรอ่ื ง การพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั

สาหรับ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

๑. ความเปน็ มาของหลกั สูตร

การทุจริตในสังคมไทยระหว่างช่วงกว่าทศวรรษท่ีผ่านมานั้น ส่งผลเสียต่อประเทศอย่างมหาศาล
ทง้ั ยังเป็นอปุ สรรคต่อการพัฒนาประเทศในทุกมติ ิ รูปแบบการทุจริตจากเดิมที่เป็นการทุจริตทางตรงไมซ่ ับซ้อน
ได้ปรับเปลีย่ นเป็นการทจุ ริตท่ีมีความซับซ้อนมากย่ิงขึ้น ประเทศไทยมีความพยายามแก้ไขปัญหาการทจุ ริตโดย
การสร้างความตื่นตัวและการเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด
สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
ได้กาหนดในหมวดที่ ๕ หน้าท่ีของรัฐว่า “รัฐต้องส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตราย
ที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งภาครัฐและเอกชนโดยจัดให้มีมาตรการและกลไกท่ีมีประสิทธิ ภาพ
เพอ่ื ป้องกันและขจดั การทุจรติ และประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวด” ท้ังวาระการปฏิรปู ประเทศดา้ นการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเดน็ ปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง ไดก้ าหนดกลยุทธ์หลัก
ในการเร่งสร้างการรับรแู้ ละจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมชิ อบ สง่ เสรมิ ให้ประชาชน
รวมตวั กันไม่ยอมรับและไมท่ นต่อการทจุ ริตและมสี ว่ นร่วมในการต่อต้านทจุ ริตด้วยการช้ีเบาะแส การสร้างลักษณะ
นิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผใู้ ดโกง และเสริมสร้างบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเสรมิ สร้างธรรมาภิบาล
และต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ในยุทธศาสตร์ท่ี ๖
การปรับสมดุลและพัฒนา การบริหารจัดการภาครัฐ โดยได้กาหนดให้การพัฒนาระบบบริหารจัดการกาลังคน
และพัฒนาบุคลากรภาครัฐในการปฏิบัติราชการ และการต่อต้านการทุจริตและประพฤติผิดมิชอบ เป็นส่วนหน่งึ
ของกรอบแนวทางที่มีความสาคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี อีกท้ังแผนแม่บทภายใต้
ยุทธศาสตรช์ าติ (๒๑) ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมชิ อบ แผนย่อยท่ี ๑) การปอ้ งกันการทุจริต
และประพฤติมิชอบ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคน ปรับพฤติกรรม “คน” ทุกกลุ่มในสังคม โดยมีสานักงาน ป.ป.ช.
เป็นองค์กรหลักในการดาเนินการเพ่ือให้เจตนารมณ์ที่กาหนดไว้ดังกล่าวปรากฏข้ึนมาในสังคมไทย ผ่านกลไก
ทางการศึกษาซ่ึงเป็นอีกกลไกหน่ึงท่ีมีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการปรั บเปล่ียนกระบวนคิดของคน
ผา่ นการเรยี นรูจ้ ากชุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านการป้องกัน หรือเรียกวา่ หลักสตู ร “ตา้ นทจุ ริตศึกษา” ทมี่ เี นื้อหา
สอดคล้องและมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันท่ีมีการใช้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ
ทรพั ยากรป่าไม้ ในลกั ษณะท่ีเป็นการละเมดิ (Abuse) ผลประโยชนต์ ่อสาธารณะ เพียงเพ่ือเพิ่มประโยชน์ให้กับ
บุคคลหรือกลมุ่ คนเพยี งบางกล่มุ เท่านั้น

ดังนั้น “การพทิ กั ษท์ รัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง” จงึ เป็นเร่ืองหน่งึ ทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช. ใหค้ วามสาคัญ
เน่ืองจากเป็นผลประโยชน์ของชาติ และมีส่วนสาคัญต่อการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศผ่านการใช้
ประโยชน์จากส่ิงที่มีอยู่ในทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน แนวชายหาด เป็นแหล่ง
ทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสาคัญต่อประเทศ เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ เป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์น้า
ตลอดจนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างมากมาย ปัจจุบันการพัฒนาประเทศทาให้มีการขยายตัว
ทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การท่องเท่ียว ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อีกท้ังจานวน
ประชากรท่ีเพิ่มมากขนึ้ ทาให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังในดา้ นต่าง ๆ อยา่ งตอ่ เน่ือง
ซ่ึงจะเห็นได้ว่าทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังน้ัน เป็นสิ่งท่ีสาคัญท่ีช่วยในการสร้างโอกาสให้แก่สังคมมนุษย์ได้
อยู่ดี กินดี มีฐานะม่ันคง ทาให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้ดีย่ิงขึ้น อย่างไรก็ตาม

2

เนื่องจากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนนั้ เปน็ ทรพั ยากรท่สี ิ้นเปลือง ถูกใช้แล้วหมดไป บรเิ วณที่มีการดาเนินการ
ใช้ประโยชน์หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง หรือใช้ในทางที่มิชอบก็มักจะเสื่อมคุณค่า ดังน้ัน การควบคุมการเข้าใช้
ประโยชน์ในทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงเป็นประเด็นท่ีสาคัญท่ีจะต้องเล็งเห็นถึงการใช้ประโยชน์ว่าต้อง
ตอบสนองประโยชนส์ าธารณะมากกวา่ ประโยชนส์ ว่ นบุคคล มกี ารประเมินความเส่ียงต่อการทจุ รติ ในการเข้าใช้
ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยควรมกี ารสรา้ งการตระหนักรู้ เพ่ือใหเ้ กิดความหวงแหน นามาสกู่ ารร่วมกัน
อนุรกั ษ์รักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั เพื่อใหป้ ระเทศไดร้ บั ประโยชน์มากทส่ี ุด จึงนาสกู่ ารสร้างหลักสูตร
การเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต หรือ หลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา เรอ่ื ง การพทิ ักษท์ รัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง
ทม่ี เี น้อื หาสอดคล้องและมีประเด็นทีเ่ กยี่ วข้องกับสถานการณ์ปจั จุบนั คือ การใช้ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ในลกั ษณะทเ่ี ป็นการละเมิด (Abuse) ตอ่ ผลประโยชนส์ าธารณะ เพือ่ ให้ผ้เู รยี นทุกระดับชั้นได้มีความตระหนักรู้
และรว่ มพทิ ักษ์ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตามบทบาทหนา้ ที่ของตน โดยประยกุ ตใ์ ช้ STRONG Model ใน
การเรียนการสอนตลอดหลกั สตู ร

ในการนี้ นักเรียนในระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น เป็นผู้ที่มีความสาคญั และจาเป็นอย่างยิ่งทจี่ ะต้องเรียนรู้
คุณค่าและความสาคัญของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพ่ือให้เกิดความหวงแหนในทรัพยากรสาคัญของชาติ
รวมถึงปลูกฝงั ความซื่อสตั ยส์ จุ ริต แยกแยะประโยชน์สว่ นตนและประโยชนส์ ่วนรวมได้ มคี วามละอายและไม่ทน
ต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ นาไปสู่การมีสว่ นร่วมในการสงวน รักษา ฟืน้ ฟู พฒั นา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเล
และชายฝั่งอยา่ งยัง่ ยนื

๒. วตั ถปุ ระสงค์ของหลกั สตู ร
๒.๑ เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับการอนุรกั ษท์ รพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั
๒.๒ เพอ่ื ให้ผู้เรียนตระหนกั และเห็นความสาคญั ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่งั

๓. โครงสรา้ งเนอื้ หาสาระ 3

ลาดับ เนอ้ื หาสาระ ระยะเวลา
(ชวั่ โมง)
๑ รู้ทะเล : แหล่งกาเนดิ สรรพชีวิต
(เรอ่ื งนา่ รูเ้ กี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง) 4
- ความหมายและประเภทของทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่ง
- ระบบนิเวศและสง่ิ แวดล้อมทีเ่ ก่ียวข้องกบั ทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง่ 2
- ความสาคัญและคณุ ค่าของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
6
๒ รักษท์ ะเล
(การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) 8
- ความหมายการอนุรักษท์ รัพยากรทางทะเลและชายฝงั่ ๒๐
- แนวคิดในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝัง่
- การใช้ประโยชนท์ รพั ยากรทางทะเลและชายฝ่งั อย่างย่งั ยืน

๓ ทะเลเปล่ียน
(ปัญหาและผลกระทบ)
- สถานการณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง (การกัดเซาะชายฝง่ั /
สิ่งแวดลอ้ มทางทะเลและชายฝ่ัง/การท่องเทย่ี วทางทะเล/การประมง)
- สภาพปัญหาและผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง่
- รปู แบบการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝงั่ ท่ีไมเ่ หมาะสม

๔ พิทกั ษ์ทะเลงาม
(การแก้ไขปัญหา)
- สถานการณป์ ัญหาการทจุ ริตทส่ี ง่ ผลต่อทรัพยากรทางทะเลชายฝง่ั
- แนวทางการแก้ไขปญั หาเบื้องตน้
รวม

4
STRONG Model : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต

โมเดล STRONG เป็นการนาตัวอักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษท่มี ีความหมายเชงิ บวก จานวน 6 คา
มาประกอบเป็นคาศัพท์ส่ือความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต
โดยมคี วามมุ่งหวังใหช้ ุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทจุ ริต ร่วมกนั พัฒนาชุมชนใหก้ ้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์และ
บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
ส่วนรวม การตระหนักรู้และใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอ้ืออาทรบนพ้ืนฐานของ
จริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนาสร้างวัฒนธรรม
ไม่ทนต่อการทุจริต ซ่ึงโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวฒั ศิริ
ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงไดด้ ังแผนภาพ ดงั น้ี
แผนภาพที่ 1 โมเดล STRONG – จติ พอเพียงต้านทจุ ริต ปี พ.ศ. 2562

จากแผนภาพข้างตน้ สามารถอธิบายนยิ ามเชิงปฏบิ ตั ิการได้ดังน้ี
(1) พอเพยี ง (Sufficient : S)

คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับท่ีแตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ
ความสามารถ รวมทั้งตามสถานภาพทางเศรษฐกจิ และสงั คมของบุคคลและครอบครวั
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน
และเป็นอัตโนมัตจิ ะนาไปสู่จิตสานึกที่พอเพียง ไมก่ อบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไมเ่ บียดเบียนผู้อื่น ไมเ่ บียดบังรัฐ

5

ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพท่ีสุจริต สามารถหาทรัพย์สินเงินทองได้ตาม
ความสามารถ ท้ังน้ี โดยไม่เดอื ดรอ้ นตนเองและผู้อืน่

(2) โปรง่ ใส (Transparent : T)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความโปรง่ ใส ทาให้เห็นภาพหรอื ปรากฏการชดั เจน
กลไกหลกั คอื สรา้ งความรู้ความเข้าใจ และวธิ ีสังเกตเกยี่ วกับความโปรง่ ใสของโครงการตา่ ง ๆ

(3) ตืน่ รู้ (Realize : R)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
เมื่อบุคคลร้พู ษิ ภัยของการทจุ ริต และไมท่ นที่จะเหน็ การทุจรติ เกิดขึ้น
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพื้นท่ี ในชุมชน หรือในกรณีที่ปรากฏการทุจริตขึน้

หรือกรณีศึกษาที่เกิดข้ึนมาแล้วและมีคาพิพากษาถึงท่สี ดุ แล้ว

(4) มงุ่ ไปข้างหนา้ (Onward : O)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
การไมม่ ีการทุจรติ ของภาครฐั จะทาใหเ้ งนิ ภาษีถูกนาไปใช้ในการพัฒนาอย่างเต็มท่ี
กลไกหลกั คอื การปอ้ งกันและการป้องปราม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังพ้ืนที่ท่ี

มคี วามเสยี่ ง ในการทจุ รติ เชน่ การบุกรุกพน้ื ทีส่ าธารณะ หรือเฝ้าระวังโครงการให้ดาเนนิ การด้วยความโปรง่ ใส

(5) ความรู้ (Knowledge : N)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
ความรู้ด้านตา่ ง ๆ มคี วามจาเป็นตอ่ การป้องกันและป้องปรามการทุจริต
กลไกหลกั คอื การให้ความรใู้ นรูปแบบการฝึกอบรม หรือใหส้ ือ่ เรยี นรอู้ ยา่ งต่อเน่ือง เชน่
(1) ความรู้เก่ียวกับรูปแบบการทุจริตแบบต่าง ๆ ท้ังแบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบท่ี

อาจจะเกดิ ข้นึ ในอนาคต
(2) ความรู้เกี่ยวกับการทจุ รติ ในต่างประเทศ
(3) วิธีการป้องกนั - ปอ้ งปรามแบบตา่ ง ๆ
(4) ความรเู้ ก่ยี วการเฝา้ ระวัง
(5) ความรเู้ กย่ี วกับกฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ้ ง

(6) เอ้ืออาทร (Generosity : G)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การพฒั นาสงั คมไทยให้มีนา้ ใจ โอบอ้อมอารี เอือ้ เฟื้อเผื่อแผ่ โดยไมม่ ผี ลประโยชน์ตอบแทนหรือ

หวังผลตอบแทน ในฐานะเพื่อนมนุษย์
กลไกหลัก กจิ กรรมจิตอาสา ช่วยเหลอื บุคคล ชมุ ชน/สงั คมในยามวิกฤติ หรอื การร่วมมือในการร่วม

พัฒนาชุมชน
จากนิยามข้างต้น STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต จึงหมายถึง ผ้ทู ม่ี ีความพอเพียง ไมเ่ บียดเบียนตนเอง

และผูอ้ ื่น (S) มุ่งอนาคตท่ีเจริญท้ังตนเองและสว่ นรวม (O) โดยใชห้ ลักความโปร่งใสตรวจสอบได้ (T) พนื้ ฐานจิตใจมี
มนุษยธรรมเอ้ืออาทร ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G) ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้

6

ตลอดชีวติ เพอ่ื การดารงชีวติ ในทางที่ชอบ (N) แต่ต่นื รเู้ ร่ืองภยั ทุจริตทรี่ ้ายแรงส่งผลต่อสงั คม รงั เกยี จการทุจริต
ประพฤติมชิ อบท้ังปวง ไมย่ อมทนตอ่ การทุจริตทกุ รปู แบบ (R)

นอกจากน้ี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพ่ิมในเร่ืองของการมีส่วนร่วม
(Participation) อันเป็นกลไกสาคัญในการเช่ือมโยงและขับเคล่ือนหลักการของโมเดล STRONG ไปส่กู ารป้องกัน
การทุจริตได้เปน็ รูปธรมอย่างมีประสิทธภิ าพ ซง่ึ การเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สู่ชุมชนจะดาเนินการ
โดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด และมีการคดั เลือกผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดที่มเี ครือข่าย มีความสามารถ
และทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดล STRONG การนาไป
ประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต หลักการจิตพอเพียงด้วยวิธีการที่เหมาะสม เป็นต้น เพ่ือให้ผู้ได้รับการ
คัดเลือกเป็นโค้ช (coach) ถ่ายทอดความรู้เก่ียวกับหลักการของโมเดล STRONG และการต่อต้านการทุจริต
ให้แก่ ผู้ท่ีอาศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีการจัดต้ังชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ซ่ึงเป็นองค์กรภาค
ประชาชนที่มีความเข้มแข็ง เสรมิ สรา้ งความตระหนักรู้เล็งเห็นถึงความสาคัญของปัญหาการทุจริตและมสี ่วนร่วม
ในการเฝา้ ระวังและแจ้งเบาะแสการทุจรติ ของประชาชนท่ัวไป

แผนภาพที่ 2 หลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา เรื่อง การพิทักษ์ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝัง่
สาหรบั กลุ่มการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน (ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ )

4. หน่วยการเรียนรู้

เวลา เนือ้ หาสาระ
ชม.
ท่ี ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทรัพยากร STRONG
ทางทะเลและชายฝ่งั

๑ รู้ทะเล : 1. อธบิ ายความสาคญั ของ ๔ 1. ความหมายและ 1. ความร

แหลง่ กาเนิด ระบบนเิ วศและ ประเภทของทรัพยากร (Knowled

สรรพชวี ิต ส่ิงแวดลอ้ มที่เกย่ี วข้องได้ ทรพั ยากรทางทะเลและ 2. ตนื่ รู้

(เรือ่ งนา่ ร้เู กี่ยวกบั 2. อธบิ ายประโยชนข์ อง ชายฝง่ั (Realize :

ทรพั ยากรทางทะเล ทรัพยากรทางทะเลและ 2. ระบบนเิ วศและ

และชายฝงั่ ) ชายฝง่ั ได้ ส่งิ แวดล้อมท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั

ทรพั ยากรทางทะเลและ

ชายฝง่ั

3. ความสาคญั และ

คุณค่าของทรัพยากรทาง

ทะเลและชายฝ่ัง

๒ รักษท์ ะเล 1. อธิบายความหมายและ ๒ 1. ความหมายการ ความรู้

(การอนุรกั ษ์ แนวคิดการอนรุ กั ษ์ อนุรกั ษท์ รัพยากรทาง (Knowled

ทรัพยากรทางทะเล ทรัพยากรทางทะเลและ ทะเลและชายฝ่งั

และชายฝงั่ ) ชายฝ่ังได้ 2. แนวคิดในการอนรุ กั ษ์

2. วิเคราะห์คณุ คา่ ของ ทรพั ยากรทางทะเลและ

ทรพั ยากรทางทะเลและ ชายฝัง่

ชายฝงั่ ได้ 3. การใชป้ ระโยชน์

ทรัพยากรทางทะเล

และชายฝ่งั อยา่ งยัง่ ยืน

7

G model วธิ ีการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ แหลง่ การเรยี นรู้ การประเมินผล

รู้ - การบรรยาย - เอกสาร - หอ้ งสมุด - การทดสอบ
dge: N) - การอภปิ ราย ความรู้ - กรมทรัพยากรทางทะเล - การใชค้ าถามและ
: R) - การใช้เกม (Game - ส่อื สงิ พิมพ์ และชายฝัง่ ให้ข้อมลู ยอ้ นกลับ
based Learning) ตา่ ง ๆ - กรมประมง - การสงั เกตการ
dge: N) - การสืบเสาะหาความรู้ ใบความรู้ - พพิ ธิ ภณั ฑ์ทางทะเลและ ปฏิบัติงานกลมุ่
(Inquiry based ใบกจิ กรรม ศนู ย์การเรยี นรู้ - การสังเกตการ
Learning) - สอื่ ดจิ ทิ ลั เชน่ - เวบ็ ไซต์ของหนว่ ยงานท่ี อภิปรายกลุ่ม
คลปิ วีดีโอ เกีย่ วข้อง - การสังเกต
- การบรรยาย ภาพยนตรส์ นั้ - platform พฤติกรรมระหว่าง
- การอภปิ ราย การจัดการเรยี นรู้
- การใช้เกม (Game -เอกสารความรู้ https://itcenter.dmcr.g - การประเมนิ ผล
based Learning) -ส่ือสิงพมิ พ์ o.th/detailAll/358/nw งานและตรวจ
- การสืบเสาะหาความรู้ ต่าง ๆ ผลงาน
(Inquiry based ใบความรู้ - หอ้ งสมดุ
Learning) ใบกิจกรรม - กรมทรัพยากรทางทะเล -การทดสอบ
-สื่อดจิ ทิ ลั เช่น และชายฝั่ง -การใชค้ าถามและ
คลิปวดี ีโอ - กรมประมง ใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลบั
ภาพยนตรส์ ั้น - พิพธิ ภัณฑ์ทางทะเลและ -การสงั เกตการ
ศนู ย์การเรยี นรู้ ปฏิบัติงานกลมุ่
- เว็บไซตข์ องหนว่ ยงานที่ /การอภปิ ราย
เกย่ี วข้อง - การสงั เกต
- platform พฤตกิ รรมระหวา่ ง
การจดั การเรยี นรู้
https://itcenter.dmcr.g -การประเมนิ ผลงาน
o.th/detailAll/358/nw และตรวจผลงาน

4. หน่วยการเรียนรู้

เวลา เน้อื หาสาระ
ชม.
ท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ทรัพยากร STRONG
ทางทะเลและชายฝ่ัง

3 ทะเลเปลี่ยน ระบุสภาพปัญหาและ 6 1. สถานการณ์ของ 1. ความร
(ปัญหาและ ผลกระทบท่ีมีต่อ
ผลกระทบ) ทรัพยากรทางทะเลและ ทรัพยากรทางทะเลและ (Knowled
ชายฝัง่ ได้
ชายฝั่ง (การกดั เซาะ 2. ตนื่ รู้

ชายฝง่ั / สิ่งแวดล้อมทาง (Realize :

ทะเลและชายฝง่ั 3. พอเพยี

/การทอ่ งเท่ียวทางทะเล (Sufficien

/การประมง)

2. สภาพปัญหาและ

ผลกระทบต่อทรพั ยากร

ทางทะเลและชายฝั่ง

3. รูปแบบการใช้

ประโยชนท์ รพั ยากรทาง

ทะเลและชายฝ่งั ท่ไี ม่

เหมาะสม

๔ พทิ ักษ์ทะเลงาม 1. อภิปรายความสาคญั 8 1. สถานการณ์ปญั หาการ 1. ตืน่ รู้
(การแกไ้ ขปญั หา) ของการตา้ นทจุ รติ ได้
2. ระบุชอ่ งทางการแจง้ ทจุ ริตท่สี ง่ ผลตอ่ (Realize :
เบาะแสได้
ทรพั ยากรทางทะเล 2. มงุ่ ไปข้า

ชายฝัง่ (Onward

2. แนวทางการแกไ้ ข 3. โปร่งใส

ปญั หาเบ้อื งตน้ (Transpar

4. เอ้ืออาท

(Generos

8

G model วธิ กี ารเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ แหลง่ การเรียนรู้ การประเมินผล

รู้ - การบรรยาย -เอกสารความรู้ - หอ้ งสมุด -การใช้คาถามและ
dge: N) - การอภปิ ราย -สื่อสิงพมิ พ์ - กรมทรัพยากรทางทะเล ให้ข้อมลู ยอ้ นกลบั
- การใช้เกม (Game ต่าง ๆ และชายฝัง่ -การสงั เกตการ
: R) based Learning) ใบความรู้ - กรมประมง ปฏิบตั งิ านกลมุ่
ยง - การสบื เสาะหาความรู้ ใบกิจกรรม - พพิ ิธภณั ฑท์ างทะเลและ /การอภปิ ราย
nt : S) (Inquiry based -สอ่ื ดิจิทัล เชน่ ศนู ย์การเรยี นรู้ - การสงั เกต
Learning) คลปิ วีดโี อ - เวบ็ ไซต์ของหน่วยงาน พฤตกิ รรมระหว่าง
- การใช้โครงงานเปน็ ภาพยนตรส์ ั้น ทเี่ ก่ียวข้อง การจดั การเรยี นรู้
ฐาน (Project based -การประเมินผลงาน
Learning) - platform และตรวจผลงาน
- การใช้ปรากฏการเปน็
ฐาน (Phenomenon https://itcenter.dmcr.g
based Learning) o.th/detailAll/358/nw

: R) - การบรรยาย -คลปิ วีดโี อ - หอ้ งสมดุ -การใชค้ าถามและ
างหนา้ - การอภิปราย -ภาพยนตรส์ ้ัน - กรมทรัพยากรทางทะเล ใหข้ ้อมูลย้อนกลบั
: O) - การใช้เกม (Game -เอกสารความรู้ และชายฝงั่ -การสังเกตการ
ส based Learning) -สอ่ื สงิ พิมพ์ - กรมประมง ปฏบิ ตั งิ านกลมุ่
rent : T) - การใช้สถานการณ์ ตา่ ง ๆ - พิพธิ ภัณฑท์ างทะเลและ /การอภปิ ราย
ทร จาลอง ใบความรู้ ศูนยก์ ารเรยี นรู้ -การสังเกต
sity : G) - การใช้โครงงานเป็น ใบกจิ กรรม - เว็บไซตข์ องหน่วยงาน พฤตกิ รรมระหว่าง
ฐาน (Project based -สื่อดจิ ิทัล ท่เี กย่ี วขอ้ ง การจัด
Learning) - platform การเรยี นรู้
- การใช้ปญั หาเปน็ ฐาน - -การประเมินผลงาน
(Problem based https://itcenter.dmcr.g และตรวจผลงาน
Learning) o.th/detailAll/358/nw

4. หนว่ ยการเรยี นรู้

เวลา เนอ้ื หาสาระ
ชม.
ท่ี ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ทรพั ยากร STRONG
ทางทะเลและชายฝงั่

9

G model วิธกี ารเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ แหลง่ การเรยี นรู้ การประเมินผล

- การใช้ปรากฏการเป็น
ฐาน (Phenomenon
based Learning)
- การสบื เสาะหาความรู้
(Inquiry based
Learning)

10

5.แนวทางการจัดการเรยี นรู้และประเมนิ ผล

การจัดกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ที่เน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ โดยใชว้ ธิ ีการบรรยายในชัน้ เรียน การสืบค้นข้อมูล
การแบ่งกลุ่มอภิปราย การศึกษากรณีศึกษา ทัศนศึกษา การอภิปราย สถานการณ์จาลอง โครงงาน (Project
based Learning) ปัญหาเป็นฐาน (Problem based Learning) ปรากฏการณ์เป็นฐาน (Phenomenon
based Learning) เกม (Game based Learning) ตลอดจนการระดมสมอง เปน็ ต้น

การวัดและประเมินผล เน้นการประเมินเพ่ือพัฒนา การประเมินตามสภาพจริง โดยมีวิธีการประเมิน
จากการทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม/การอภิปราย การสังเกตพฤติกรรมการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากร
ทางทะเลและชายฝง่ั การประเมนิ ผลงานและตรวจผลงาน การตรวจสอบใบกจิ กรรม

เคร่ืองมือประเมินและกลยุทธ์ทางการประเมิน ท่ีส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการเรียนรู้ท่ี
จะชว่ ยให้ครูสร้างบรรยากาศในการเรยี นรู้ให้กับนักเรยี นในชัน้ ได้อย่างมีประสิทธิผล อนั ได้แก่ 1) เกณฑก์ ารประเมิน
(Rubric) 2) การประเมินการปฏิบัติงาน (Performance based Assessments: PBAs) 3) การประเมินจาก
แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolios Assessment) 4) การประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) การประเมิน
เพือ่ น(Peer-Assessment) 6) การใหข้ ้อมูลปอ้ นกลบั แก่นกั เรยี น (Student Response)

การใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลบั แกผ่ ู้เรียนดว้ ยวิธีการที่เหมาะสมและสรา้ งสรรค์ กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รยี นไปเรยี นรตู้ ่อยอด
ดว้ ยตนเองและนาความรูไ้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการเรยี นร้รู วมถงึ การทางานในสถานการณ์ต่างๆ

6.แนวทางการนาหลักสตู รไปใช้
(1) เปิดรายวชิ าเพม่ิ เติม
(2) บูรณาการการเรยี นการสอนกับกลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(3) บรู ณาการการเรยี นการสอนกบั กลุ่มสาระอื่น ๆ
(4) จดั ในกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
(5) จัดเป็นกิจกรรมเสริมหลกั สูตร
(6) บรู ณาการกับวิถชี วี ิตในโรงเรยี น

11

หลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา

เร่อื ง การพทิ กั ษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั

สาหรบั ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย

1.ความเปน็ มาของหลักสูตร

การทุจริตในสังคมไทยระหว่างช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมานั้น ส่งผลเสียต่อประเทศอย่างมหาศาล
ทั้งยงั เปน็ อปุ สรรคต่อการพฒั นาประเทศในทุกมิติ รปู แบบการทจุ ริตจากเดมิ ที่เป็นการทุจริตทางตรงไมซ่ ับซ้อน
ไดป้ รับเปลยี่ นเป็นการทจุ ริตที่มีความซับซ้อนมากย่ิงขึ้น ประเทศไทยมีความพยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตโดย
การสร้างความตื่นตัวและการเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปรับความคิด
สร้างความตระหนักรู้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
ได้กาหนดในหมวดที่ ๕ หน้าที่ของรัฐว่า “รัฐต้องส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตราย
ท่ีเกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบท้ังภาครัฐและเอกชนโดยจัดให้มีมาตรการและกลไกท่ีมีประสิทธิภาพ
เพ่ือปอ้ งกันและขจดั การทุจรติ และประพฤติมชิ อบดงั กล่าวอยา่ งเข้มงวด” ท้งั วาระการปฏริ ูปประเทศด้านการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประเด็นปฏิรูปด้านการป้องกันและเฝ้าระวัง ไดก้ าหนดกลยุทธ์หลัก
ในการเร่งสร้างการรับร้แู ละจิตสานึกของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ สง่ เสรมิ ให้ประชาชน
รวมตวั กนั ไมย่ อมรับและไมท่ นต่อการทุจรติ และมสี ว่ นรว่ มในการต่อต้านทจุ ริตด้วยการชเ้ี บาะแส การสรา้ งลักษณะ
นิสัยไม่โกงและไม่ยอมให้ผู้ใดโกง และเสริมสร้างบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเสรมิ สร้างธรรมาภบิ าล
และต่อต้านการทุจรติ ประพฤติมิชอบ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ในยุทธศาสตรท์ ี่ ๖
การปรับสมดุลและพัฒนา การบริหารจัดการภาครัฐ โดยได้กาหนดให้การพัฒนาระบบบริหารจัดการกาลัง คน
และพัฒนาบุคลากรภาครัฐในการปฏิบตั ิราชการ และการต่อต้านการทุจริตและประพฤติผิดมิชอบ เป็นส่วนหนึ่ง
ของกรอบแนวทางท่ีมีความสาคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี อีกทั้งแผนแม่บทภายใต้
ยุทธศาสตร์ชาติ (๒๑) ประเด็น การตอ่ ต้านการทจุ ริตและประพฤติมิชอบ แผนยอ่ ยที่ ๑) การป้องกันการทุจริต
และประพฤติมิชอบ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคน ปรับพฤติกรรม “คน” ทุกกลุ่มในสังคม โดยมีสานักงาน ป.ป.ช.
เป็นองค์กรหลักในการดาเนินการเพื่อให้เจตนารมณ์ท่ีกาหนดไว้ดังกล่าวปรากฏข้ึนมาในสังคมไทย ผ่านกลไก
ทางการศึกษาซ่ึงเป็นอีกกลไกหนึ่งท่ีมีประสิทธิภาพและสามารถทาให้เกิดการปรับเปล่ียนกระบวนคิดของคน
ผา่ นการเรียนรู้จากชุดหลักสตู รการเรยี นรู้ดา้ นการป้องกนั หรอื เรียกวา่ หลักสตู ร “ตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา” ทีม่ ีเนื้อหา
สอดคล้องและมีประเด็นท่ีเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง และ
ทรัพยากรป่าไม้ ในลักษณะท่ีเปน็ การละเมิด (Abuse) ผลประโยชนต์ ่อสาธารณะ เพียงเพอ่ื เพ่ิมประโยชน์ให้กับ
บุคคลหรือกลุ่มคนเพียงบางกลุ่มเทา่ น้นั

ดงั น้ัน “การพิทักษท์ รัพยากรทางทะเลและชายฝ่งั ” จึงเปน็ เรือ่ งหน่ึงท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ความสาคัญ
เนื่องจากเป็นผลประโยชน์ของชาติ และมีส่วนสาคัญต่อการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศผ่านการใช้
ประโยชน์จากส่ิงที่มีอยู่ในทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน แนวชายหาด เป็นแหล่ง
ทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีความสาคัญต่อประเทศ เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้า
ตลอดจนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างมากมาย ปัจจุบันการพัฒนาประเทศทาให้มีการขยายตัว
ทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อีกท้ังจานวน
ประชากรทเี่ พ่ิมมากขนึ้ ทาใหม้ กี ารใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังในดา้ นต่าง ๆ อยา่ งตอ่ เนื่อง
ซึ่งจะเห็นได้ว่าทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังน้ัน เป็นส่ิงที่สาคัญท่ีช่วยในการสร้างโอกาสให้แก่สังคมมนุษย์ได้

12

อยู่ดี กินดี มีฐานะม่ันคง ทาให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่งน้ัน เป็นทรพั ยากรที่สิ้นเปลือง ถกู ใช้แลว้ หมดไป บรเิ วณท่มี กี ารดาเนินการ
ใช้ประโยชน์หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง หรือใช้ในทางท่ีมิชอบก็มักจะเสื่อมคุณค่า ดังนั้น การควบคุมการเข้าใช้
ประโยชน์ในทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง จึงเป็นประเด็นท่ีสาคัญที่จะต้องเล็งเห็นถึงการใช้ประโยชน์ว่าต้อง
ตอบสนองประโยชนส์ าธารณะมากกวา่ ประโยชน์สว่ นบุคคล มีการประเมินความเสีย่ งต่อการทจุ รติ ในการเข้าใช้
ทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง โดยควรมกี ารสรา้ งการตระหนักรู้ เพื่อให้เกิดความหวงแหน นามาสู่การร่วมกัน
อนุรักษ์รักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั เพอื่ ให้ประเทศได้รบั ประโยชน์มากท่ีสุด จึงนาสกู่ ารสรา้ งหลักสูตร
การเรยี นรู้ดา้ นการป้องกันการทุจรติ หรือ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เรือ่ ง การพทิ กั ษท์ รัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ทมี่ เี น้ือหาสอดคลอ้ งและมีประเดน็ ทเี่ กี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจบุ ัน คอื การใช้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง
ในลกั ษณะทีเ่ ป็นการละเมิด (Abuse) ต่อผลประโยชนส์ าธารณะ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นทุกระดบั ช้ันได้มีความตระหนักรู้
และรว่ มพทิ กั ษ์ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั ตามบทบาทหน้าท่ขี องตน โดยประยุกตใ์ ช้ STRONG Model ใน
การเรยี นการสอนตลอดหลกั สูตร

ในการน้ี นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นผู้ท่ีมีความสาคัญและจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง
เรียนรู้คุณค่าและความสาคัญของทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง เพ่ือให้เกิดความหวงแหนในทรัพยากรสาคัญ
ของชาติ รวมถึงปลูกฝงั ความซ่ือสตั ย์สุจริต แยกแยะประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมได้ มีความละอาย
และไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ นาไปสู่การมีส่วนร่วมในการสงวน รักษา ฟื้นฟู พัฒนา และใช้ประโยชน์
ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยัง่ ยนื

2.วตั ถุประสงค์ของหลกั สูตร
2.1 เพอื่ ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
2.2 เพื่อให้ผู้เรยี นตระหนักและเหน็ ความสาคัญของทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั
2.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถระบุชอ่ งทางการแจ้งเบาะแส และช่องทางการร้องเรียนในการเฝา้ ระวังการทจุ รติ

ท่ีอาจจะเกดิ ข้ึน

13

3.โครงสร้างเน้ือหาสาระ

ลาดับ เนอื้ หาสาระ ระยะเวลา
(ชัว่ โมง)
1 รู้ทะเล : แหล่งกาเนดิ สรรพชวี ติ
(เร่อื งน่ารู้เกยี่ วกบั ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) 4
- ความสาคญั ของระบบนเิ วศและส่งิ แวดล้อมทีเ่ ก่ียวข้อง (ชายหาด ปา่ ชายเลน 3
ปะการัง หญา้ ทะเล)
4
2 รักษ์ทะเล 9
(การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง)
- ความหมายการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่งั 20
- แนวคดิ ในการอนุรกั ษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง่
- การใช้ประโยชนท์ รพั ยากรทางทะเลและชายฝั่งอยา่ งย่ังยืน

3 ทะเลเปล่ียน
(ปัญหาและผลกระทบ)
- สถานการณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังได้
- สภาพปัญหา สาเหตแุ ละผลกระทบตอ่ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั ได้

4 พิทกั ษ์ทะเลงาม
(การป้องกันการใชท้ รพั ยากรทางทะเลและชายฝ่ังท่ไี ม่เหมาะสม)
- กฎหมายเบ้ืองตน้ เกี่ยวกับการปอ้ งกนั การใชท้ รัพยากรทางทะเลและชายฝัง่
- รูปแบบการใช้ประโยชนท์ รัพยากรทางทะเลและชายฝัง่ ท่ีไม่เหมาะสม
- ช่องทางการแจง้ เบาะแส/ร้องเรยี นในการเฝ้าระวงั การทุจริตดา้ นทรัพยากรทาง
ทะเลและชายฝ่งั
รวม

14
STRONG Model : จิตพอเพยี งตา้ นทุจรติ

โมเดล STRONG เป็นการนาตวั อักษรแรกของศัพท์ภาษาอังกฤษทม่ี ีความหมายเชงิ บวก จานวน 6 คา
มาประกอบเป็นคาศัพท์สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในการต่อต้านการทุจริต
โดยมคี วามมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้านทจุ ริต รว่ มกันพัฒนาชุมชนใหก้ ้าวไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์และ
บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับความโปร่งใส การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
ส่วนรวม การตระหนักรู้และใส่ใจปัญหาการทุจริต และร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความเอื้ออาทรบนพื้นฐานของ
จริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ายชุมชนจิตพอเพียงต้านทุจริตและเป็นแกนนาสร้างวัฒนธรรม
ไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งโมเดล STRONG ได้มีการสร้างและพัฒนาโดยรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ
ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงได้ดงั แผนภาพ ดังน้ี
แผนภาพที่ 1 โมเดล STRONG – จิตพอเพียงต้านทจุ ริต ปี พ.ศ. 2562

จากแผนภาพขา้ งต้น สามารถอธบิ ายนิยามเชิงปฏิบตั กิ ารไดด้ ังนี้
(1) พอเพียง (Sufficient : S)

คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับที่แตกต่างกันตามวิธีคิด สภาพความพร้อมและ
ความสามารถ รวมทัง้ ตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสงั คมของบุคคลและครอบครัว
กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน
และเป็นอัตโนมัติจะนาไปสู่จิตสานึกท่ีพอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไมเ่ บียดเบียนผู้อื่น ไมเ่ บยี ดบังรัฐ

15

ไม่รับอามิสสินบนโดยมิต้องจากัดขอบเขตของการประกอบอาชีพที่สุจริต สามารถหาทรัพย์สินเงินทองได้ตาม
ความสามารถ ทั้งนี้ โดยไม่เดือดร้อนตนเองและผู้อื่น

(2) โปร่งใส (Transparent : T)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความโปรง่ ใส ทาใหเ้ ห็นภาพหรอื ปรากฏการชดั เจน
กลไกหลกั คือ สรา้ งความรู้ความเขา้ ใจ และวธิ สี ังเกตเกีย่ วกับความโปรง่ ใสของโครงการต่าง ๆ

(3) ตนื่ รู้ (Realize : R)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
เม่อื บคุ คลร้พู ิษภัยของการทุจรติ และไมท่ นทจ่ี ะเหน็ การทจุ ริตเกดิ ข้นึ
กลไกหลัก การเรียนรู้สถานการณ์การทุจริตในพ้ืนที่ ในชุมชน หรือในกรณีท่ีปรากฏการทุจริตขน้ึ

หรอื กรณศี กึ ษาท่ีเกดิ ขึน้ มาแลว้ และมีคาพิพากษาถึงทส่ี ดุ แลว้

(4) ม่งุ ไปข้างหน้า (Onward : O)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การไมม่ กี ารทุจริตของภาครฐั จะทาให้เงินภาษถี ูกนาไปใช้ในการพัฒนาอย่างเต็มที่
กลไกหลกั คอื การปอ้ งกนั และการป้องปราม ดว้ ยกระบวนการมีสว่ นร่วมในการเฝา้ ระวังพ้ืนท่ีท่ี

มีความเส่ียง ในการทุจรติ เชน่ การบุกรุกพน้ื ทส่ี าธารณะ หรือเฝา้ ระวังโครงการให้ดาเนินการด้วยความโปรง่ ใส

(5) ความรู้ (Knowledge : N)
คานิยามปี พ.ศ. 2562
ความร้ดู ้านต่าง ๆ มคี วามจาเปน็ ต่อการป้องกันและป้องปรามการทจุ ริต
กลไกหลกั คือ การให้ความรู้ในรูปแบบการฝึกอบรม หรือให้ส่อื เรียนรู้อย่างตอ่ เนือ่ ง เชน่
(1) ความรู้เก่ียวกับรูปแบบการทุจริตแบบต่าง ๆ ทั้งแบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบที่

อาจจะเกดิ ข้ึนในอนาคต
(2) ความรูเ้ กย่ี วกบั การทจุ รติ ในตา่ งประเทศ
(3) วธิ กี ารปอ้ งกนั - ปอ้ งปรามแบบต่าง ๆ
(4) ความรู้เกย่ี วการเฝา้ ระวัง
(5) ความร้เู ก่ียวกับกฎหมายท่ีเกยี่ วขอ้ ง

(6) เออ้ื อาทร (Generosity : G)
คานยิ ามปี พ.ศ. 2562
การพฒั นาสังคมไทยให้มีน้าใจ โอบออ้ มอารี เอ้อื เฟื้อเผื่อแผ่ โดยไม่มผี ลประโยชนต์ อบแทนหรือ

หวังผลตอบแทน ในฐานะเพ่อื นมนษุ ย์
กลไกหลัก กจิ กรรมจิตอาสา ชว่ ยเหลอื บุคคล ชุมชน/สงั คมในยามวิกฤติ หรอื การร่วมมือในการร่วม

พัฒนาชุมชน
จากนิยามข้างตน้ STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ รติ จึงหมายถึง ผู้ที่มคี วามพอเพียง ไม่เบยี ดเบียนตนเอง

และผู้อน่ื (S) มงุ่ อนาคตทีเ่ จรญิ ทง้ั ตนเองและส่วนรวม (O) โดยใชห้ ลกั ความโปร่งใสตรวจสอบได้ (T) พ้ืนฐานจิตใจมี
มนุษยธรรมเอ้ืออาทร ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่างตอบแทน (G) ให้ความสาคัญต่อการเรียนรู้

16

ตลอดชีวติ เพอื่ การดารงชีวติ ในทางท่ีชอบ (N) แต่ตน่ื รู้เรื่องภัยทุจริตท่รี ้ายแรงสง่ ผลต่อสงั คม รงั เกียจการทุจริต
ประพฤตมิ ชิ อบทั้งปวง ไม่ยอมทนต่อการทุจรติ ทกุ รูปแบบ (R)

นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการพัฒนาโมเดล STRONG โดยเพิ่มในเรื่องของการมีส่วนร่วม
(Participation) อนั เปน็ กลไกสาคัญในการเช่ือมโยงและขับเคลื่อนหลักการของโมเดล STRONG ไปสกู่ ารป้องกัน
การทุจรติ ไดเ้ ปน็ รปู ธรมอย่างมีประสิทธภิ าพ ซึง่ การเผยแพร่หลักการของโมเดล STRONG สชู่ มุ ชนจะดาเนินการ
โดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจงั หวดั และมกี ารคัดเลือกผู้แทน/ผู้นาชุมชนในจังหวัดท่ีมีเครือข่าย มคี วามสามารถ
และทักษะในการถ่ายทอดองค์ความรู้มาอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดล STRONG การนาไป
ประยุกต์ใช้ในการการต่อต้านการทุจริต เช่น การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต หลักการจิตพอเพียงด้วยวิธีการที่เหมาะสม เป็นต้น เพ่ือให้ผู้ได้รับการ
คัดเลือกเป็นโค้ช (coach) ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับหลักการของโมเดล STRONG และการต่อต้านการทุจริต
ให้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีการจัดตั้งชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ซึ่งเป็นองค์กรภาค
ประชาชนท่ีมีความเข้มแข็ง เสรมิ สรา้ งความตระหนักรู้เล็งเห็นถึงความสาคัญของปัญหาการทุจริตและมสี ่วนร่วม
ในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทจุ ริตของประชาชนทั่วไป

แผนภาพท่ี 2 หลักสูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา เรือ่ ง การพิทกั ษท์ รัพยากรทางทะเลและชายฝัง่
สาหรบั กลุ่มการศึกษาขนั้ พื้นฐาน (ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย)

4. หน่วยการเรยี นรู้

เวลา เนอื้ หาสาระ
ชม.
ท่ี ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทรัพยากร STRO
ทางทะเลและชายฝงั่

๑ รู้ทะเล : 1. อธบิ ายความสาคญั ของ ๔ ความสาคญั ของระบบ ความร

แหล่งกาเนดิ ระบบนิเวศและส่ิงแวดลอ้ มท่ี นิเวศและส่งิ แวดล้อมที่ (Know

สรรพชีวติ เกย่ี วข้องได้ เก่ียวข้อง (ชายหาด

(เรื่องนา่ รเู้ ก่ียวกับ 2. อธิบายประโยชน์ของ ปา่ ชายเลน ปะการงั

ทรัพยากรทางทะเล ทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่งั หญ้าทะเล)

และชายฝ่งั ) ได้

๒ รักษ์ทะเล อธบิ ายความหมายและแนวคดิ 3 1. ความหมายการ 1. ควา

(การอนุรกั ษ์ การอนรุ ักษ์ทรพั ยากรทาง อนุรกั ษ์ทรัพยากรทาง (Know

ทรัพยากรทางทะเล ทะเลและชายฝง่ั ได้ ทะเลและชายฝั่ง 2. ตืน่

และชายฝ่ัง) 2. แนวคิดในการอนรุ กั ษ์ (Realiz

ทรพั ยากรทางทะเลและ

ชายฝ่ัง

17

ONG model วิธีการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ แหลง่ การเรียนรู้ การประเมนิ ผล

รู้ - การบรรยาย -คลปิ วีดีโอ - หอ้ งสมุด -การทดสอบ
wledge: N) - การอภปิ ราย -ภาพยนตรส์ ั้น - กรมทรพั ยากรทางทะเล -การใช้คาถามและให้
- การใช้เกม -เอกสารความรู้ และชายฝง่ั ขอ้ มลู ย้อนกลับ
ามรู้ (Game based -สอ่ื สิงพมิ พ์ - กรมประมง -การสงั เกตการ
wledge: N) Learning) ตา่ ง ๆ - พพิ ิธภณั ฑท์ างทะเลและ ปฏิบตั งิ านกลมุ่ /การ
นรู้ - การใช้โครงงาน ใบความรู้ ศนู ย์การเรียนรู้ อภปิ ราย
ze : R) เปน็ ฐาน (Project ใบกิจกรรม - เว็บไซต์ของหนว่ ยงานที่ -การสงั เกตพฤตกิ รรม
based Learning) -สอ่ื ดจิ ิทลั เก่ียวขอ้ ง ระหว่างการจดั การ
- การใช้ปัญหาเปน็ - platform เรยี นรู้
ฐาน (Problem -คลิปวดี ีโอ - -การประเมินผลงาน
based Learning) -ภาพยนตรส์ ้ัน https://itcenter.dmcr.g และตรวจผลงาน
- การใช้ปรากฏการ -เอกสารความรู้ o.th/detailAll/358/nw
เป็นฐาน -สือ่ สงิ พมิ พ์ -การทดสอบ
(Phenomenon ต่าง ๆ - ห้องสมุด -การใช้คาถามและให้
based Learning) -ใบความรู้ - กรมทรพั ยากรทางทะเล ขอ้ มูลยอ้ นกลับ
- การสบื เสาะหา -ใบกจิ กรรม และชายฝงั่ -การสังเกตการ
ความรู้ (Inquiry - กรมประมง ปฏบิ ตั ิงานกลมุ่ /การ
based Learning) - พพิ ธิ ภณั ฑท์ างทะเลและ อภิปราย
ศนู ยก์ ารเรียนรู้
- การบรรยาย
- การอภปิ ราย
- การใช้เกม
(Game based
Learning)
- การใช้
สถานการณจ์ าลอง

4. หน่วยการเรยี นรู้ เวลา เนือ้ หาสาระ
ชม.
ที่ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ทรัพยากร STRO
ทางทะเลและชายฝ่งั

3. การใชป้ ระโยชน์

ทรพั ยากรทางทะเลและ

ชายฝั่งอยา่ งยัง่ ยืน

3 ทะเลเปลย่ี น 1. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ของ 4 1. สถานการณข์ อง 1. ตื่น
(ปัญหาและ
ผลกระทบ) ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั ทรัพยากรทางทะเลและ (Realiz

ได้ ชายฝงั่ ได้ 2. พอ

2. วิเคราะหส์ ภาพปญั หา 2. สภาพปญั หา สาเหตุ (Suffic

สาเหตแุ ละผลกระทบต่อ และผลกระทบต่อ

ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทรพั ยากรทางทะเลและ

ได้ ชายฝงั่ ได้

18

ONG model วธิ ีการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ แหล่งการเรียนรู้ การประเมนิ ผล

นรู้ - การใช้ปัญหาเปน็ -สอ่ื ดิจทิ ลั - เว็บไซตข์ องหนว่ ยงานท่ี -การสังเกตพฤตกิ รรม
ze : R) ฐาน (Problem เก่ียวขอ้ ง ระหวา่ งการจดั การ
อเพียง based Learning) -เอกสารความรู้ - platform เรียนรู้
cient : S) - การใช้ปรากฏการ -สื่อสิงพมิ พ์ - -การประเมนิ ผลงาน
เป็นฐาน ต่าง ๆ https://itcenter.dmcr.g และตรวจผลงาน
(Phenomenon ใบความรู้ o.th/detailAll/358/nw
based Learning) ใบกิจกรรม -การใชค้ าถามและ
- การสืบเสาะหา -สื่อดจิ ิทลั เชน่ - หอ้ งสมดุ ใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลับ
ความรู้ (Inquiry คลปิ วดี โี อ - กรมทรัพยากรทางทะเล -การสังเกตการ
based Learning) ภาพยนตรส์ ั้น และชายฝง่ั ปฏิบัตงิ านกลมุ่
- กรมประมง /การอภิปราย
- การบรรยาย - พพิ ิธภัณฑ์ทางทะเลและ - การสงั เกต
- การอภปิ ราย ศูนยก์ ารเรียนรู้ พฤติกรรมระหวา่ ง
- การใช้เกม - เวบ็ ไซตข์ องหน่วยงาน การจดั การเรยี นรู้
(Game based ท่เี ก่ยี วขอ้ ง -การประเมินผลงาน
Learning) - platform และตรวจผลงาน
- การสืบเสาะหา
ความรู้ (Inquiry https://itcenter.dmcr.g
based Learning) o.th/detailAll/358/nw
- การใช้โครงงาน
เป็นฐาน (Project
based Learning)
- การใช้ปรากฏการ
เป็นฐาน
(Phenomenon
based Learning)

4. หน่วยการเรียนรู้

เวลา เน้อื หาสาระ
ชม.
ที่ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ทรพั ยากร STRO
ทางทะเลและชายฝั่ง

๔ พิทักษ์ทะเลงาม 1. สรปุ สาระสาคัญของ 9 1. กฎหมายเบื้องตน้ 1. ควา

(การแก้ไขปัญหา) กฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ งกับ เกยี่ วกับการปอ้ งกันการ (Know

ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ใชท้ รพั ยากรทางทะเล 2. ต่ืน

ได้ และชายฝ่งั (Realiz

2. อภิปรายความสาคญั ของ 2. รูปแบบการใช้ 3. พอ

การต้านทุจรติ ได้ ประโยชนท์ รัพยากรทาง (Suffic

3. วิเคราะหช์ ่องทางการแจง้ ทะเลและชายฝัง่ ทไ่ี ม่ 4. ม่งุ ไ

เบาะแสการทจุ รติ ทรัพยากร เหมาะสม (Onwa

ทางทะเลและชายฝงั่ ได้ 3. ช่องทางการแจ้ง 5. โปร

เบาะแส/รอ้ งเรยี นในการ (Trans

เฝา้ ระวงั การทุจรติ ด้าน 6. เอื้อ

ทรัพยากรทางทะเลและ (Gene

ชายฝ่งั

19

ONG model วธิ กี ารเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ แหล่งการเรยี นรู้ การประเมินผล

ามรู้ - การบรรยาย -คลิปวีดโี อ - ห้องสมุด -การใช้คาถามและ
wledge: N) - การอภิปราย -ภาพยนตรส์ ั้น - กรมทรัพยากรทางทะเล ให้ข้อมูลยอ้ นกลับ
นรู้ - การใช้เกม -เอกสารความรู้ และชายฝง่ั -การสังเกตการ
ze : R) (Game based -สอื่ สงิ พิมพ์ - กรมประมง ปฏิบตั งิ านกลมุ่
อเพยี ง Learning) ตา่ ง ๆ - พพิ ธิ ภณั ฑท์ างทะเลและ /การอภิปราย
cient : S) - การใช้ ใบความรู้ ศูนยก์ ารเรยี นรู้ -การสังเกตพฤตกิ รรม
ไปข้างหนา้ สถานการณจ์ าลอง ใบกจิ กรรม - เว็บไซตข์ องหน่วยงาน ระหว่างการจดั
ard : O) - การใช้โครงงาน -สอื่ ดจิ ิทลั ที่เก่ียวขอ้ ง การเรยี นรู้
รง่ ใส เปน็ ฐาน (Project - platform เชน่ เฟซบ๊คุ -การประเมินผลงาน
sparent : T) based Learning) อินตราแกรม ไลน์ และตรวจผลงาน
ออาทร - การใช้ปญั หาเปน็ -
erosity : G) ฐาน (Problem
based Learning) https://itcenter.dmcr.go.th
- การใช้ปรากฏการ /detailAll/358/nw
เปน็ ฐาน
(Phenomenon
based Learning)
- การสบื เสาะหา
ความรู้ (Inquiry
based Learning)


Click to View FlipBook Version