The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย

วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2563

คนทอี่ ยู่ในงานจะรบั รเู้ รอ่ื งนก้ี นั หมด มแี ตเ่ พยี งหรรษากบั มานพเทา่ นน้ั ท่ี
เพิ่งรับรู้ว่า อดีต ส.ส. ได้ย้ายสังกัดไปอยู่พรรคการเมืองใหม่แล้ว ความ
กระจา่ งบงั เกดิ ขนึ้ กบั หรรษา เขาเรมิ่ เขา้ ใจสงิ่ ทเี่ ลขาอดตี  ส.ส. เพอื่ นของ
เขา กำ� ลังทำ� อะไรบางอย่างกับกีตารต์ ัวนั้น

ไม่ง่ายเลยท่ีจะลอกสต๊ิกเกอร์ออก ระยะเวลา ๘ ปี ท�ำให้มัน
เกือบผสานเป็นเนื้อเดียวกันกับกีตาร์ของหรรษาไปแล้ว ช่วงเวลาท่ีอดีต
ส.ส. สาธยายเหตุผลของการย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ หรรษา
รีบขึ้นไปช่วยเพื่อนของเขา แต่ก็ลอกสต๊ิกเกอร์ออกได้เพียงแค่คร่ึงเดียว 
หากใชค้ วามรนุ แรงอาจทำ� ใหก้ ตี ารข์ องเขาเสยี หายได ้ จงึ ไมค่ มุ้ กนั  จำ� เปน็
ตอ้ งใชเ้ วลาละเมยี ดละไมมากกวา่ นี ้ เพื่อลอกสต๊กิ เกอรท์ ัง้ หมดออก 

เมื่อเห็นว่าคงไม่ทันการณ์แล้ว ท้ังหรรษาและเพื่อนจึงปล่อย
เลยตามเลย ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ หรือเป็นคนท่ีติดตามการเมืองอย่าง 
เข้มข้น ก็คงยากท่ีจะดูออก การบรรเลงดนตรีของหรรษากับมานพล่า 
ช้ากว่าก�ำหนดการราว ๑๐ นาที เน่ืองจากอดีต ส.ส. ใช้เวลาไปกับการ
อธิบายเหตุผลของการย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ โอกาสท่ีจะท�ำ
ประโยชน์ให้กับพ่นี ้องประชาชนไดม้ ากขนึ้ คือเหตุผลหลกั  

สำ� หรบั หรรษาแลว้  ไมว่ า่ จะอยพู่ รรคการเมอื งเดมิ หรอื พรรคใหม่
ตราบใดทย่ี งั มีงานเล่นดนตร ี มีรายได ้ ก็ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งไปคดิ อะไรให้มาก
นัก ต่อให้คนของพรรคการเมืองอ่ืนมาจ้างไปเล่น ก็คงไม่มีเหตุผลใดที่
จะต้องไปปฏิเสธ ส่วนการตัดสินใจจะลงคะแนนให้ใคร พรรคการเมือง
ใด มันอยู่ในใจของหรรษา โชคดีไม่น้อยที่เลขาอดีต ส.ส. เพื่อนของเขา
บอกวา่ วนั นสี้ ตกิ๊ เกอร์โลโกพ้ รรคการเมอื งทเ่ี พง่ิ ยา้ ยมา บงั เอญิ หมดพอดี
ไม่อย่างนนั้ คงได้อันใหม่ไปแปะแทนท่ ี

นอกจากบทเพลงตา่ งๆ ทหี่ รรษาและมานพนำ� ขนึ้ ไปบนเวทแี ลว้
ขา่ วดที จ่ี ะไดไ้ ปออกรายการโทรทศั นก์ เ็ ปน็ อกี สง่ิ หนงึ่ ทพ่ี วกเขาหอบหวิ้ ขนึ้

100 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

ไปดว้ ย ไมน่ บั รวมยอดไลกจ์ ากเฟซบกุ๊ ทห่ี รรษาโพสต์ไปเมอื่ ตอนบา่ ย มนั
ทะลุถึงหลักห้าร้อย ซ่ึงเขาไม่เคยได้เท่านี้มาก่อน ไม่ต่างจากยอดวิวใน
ยูทูปท่ียังทะยานขึ้นเร่ือยๆ เหตุขลุกขลักอันเกิดจากสติ๊กเกอร์เจ้าปัญหา
กลายเปน็ เรอ่ื งขำ� ขนั  หรรษาคดิ เรอ่ื ยเปอ่ื ยไปวา่  หลงั จากรายการโทรทศั น์
ทพ่ี วกเขากำ� ลงั จะไปบนั ทกึ เทปไดอ้ อกอากาศ บางทคี ลปิ วดิ โี อทพ่ี วกเขา
ลงไว้ในยูทูป ยอดวิวอาจพุ่งไปสู่หลักหมื่น หรือหลายหมื่นก็ได้ คิดแบบ
ข�ำๆ ถ้าน�ำยอดวิวเปล่ียนเป็นคะแนนเสียงเพื่อใช้ตัดสินผลการเลือกตั้งที่
ก�ำลังจะมาถึง หรรษาน่าจะเป็น ส.ส. ไดอ้ ยา่ งสบายๆ

เมอื่ ทกุ อยา่ งพรอ้ ม การบรรเลงดนตรกี เ็ รมิ่ ขน้ึ  เพลง “Free Me”
ของวง “Uriah Heep” ถูกหยิบขึ้นมาเป็นเพลงเปิดวง สัมผัสพิเศษของ
หรรษาบอกวา่  จะตอ้ งถกู ใจอดตี  ส.ส. ทชี่ น่ื ชอบบทเพลงสากลในยคุ  ๗๐-
๘๐ ซง่ึ กเ็ ปน็ ไปตามคาด ตราบใดทยี่ งั ไมไ่ ดเ้ ปน็ ศลิ ปนิ มผี ลงานเพลงเปน็
ของตัวเอง การเลือกเพลงที่คาดว่าจะโดนใจผู้ชมผู้ฟังมาบรรเลง ยังคง
เป็นส่ิงที่ต้องให้ความส�ำคัญ นอกจากจะช่ืนชอบเพลงน้ีแล้ว อดีต ส.ส.
ยังควา้ ไมคม์ ารว่ มรอ้ งเพลงนี้ไปดว้ ยอยา่ งคร้นื เครง

ขณะก�ำลังบรรเลงเพลง หรรษาก้มลงไปมอง “คราบที่ยังลอก
ออกไม่หมด” ของสติ๊กเกอร์ท่ีอดีต ส.ส. แปะไว้บนกีตาร์ของเขาเมื่อ 
๘ ปีท่ีแล้ว พรุ่งน้ีหรรษาตั้งใจว่าจะค่อยๆ ลอกมันออกให้หมด ท่ีจะน�ำ
มาติดแทนต�ำแหน่งเดิมก็คือ สต๊ิกเกอร์รูปถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกกับยูฟ่า
แชมปเ์ ปยี นลกี  ทท่ี มี ลเิ วอรพ์ ลู  ทมี ฟตุ บอลทมี โปรดของเขา กำ� ลงั มสี ทิ ธ์ิ
ลุ้นแชมป์อยู่ในขณะน ี้

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 101

102 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

แค่ผา้ เช็ดเทา้

ชดิ  ชยากร

เรื่องของเรื่องท้งั หมดมาจากผ้าเชด็ เท้าผืนเดียว
มันเป็นผ้าเช็ดเท้าท่ีท�ำจากผ้าเช็ดตัวผืนเก่าของลูกสาว เธอน�ำ

มาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างสามสิบยาวหกสิบเซ็นติเมตร แล้วน�ำ
มาวางไวห้ นา้ ห้องน�ำ้ ในบา้ น

จะวา่ ไปแลว้  มนั น่าจะเปน็ เร่ืองเลก็ นอ้ ยของใครต่อใครหลายคน
แต่ส�ำหรับคนบา้ นน้ี มนั เป็นเรอ่ื งใหญอ่ ย่างไมน่ ่าเชอ่ื

เดิมผมกับภรรยาอยู่บ้านอีกหลังหน่ึง แต่เธอเสียชีวิตเม่ือไม่ก่ี
เดือนท่ีผ่านมา ลูกสาวกับลูกเขยเป็นห่วงที่ผมต้องอยู่คนเดียว จึงขอให้
มาอยู่ที่บ้านหลังน้ี ผมมิขัดในความหวังดีของเขา อีกอย่างท้ังคู่เป็นคน
ดแี ละนา่ รกั  แมแ้ ตล่ กู ชายวยั สบิ เจด็ ของเขายงั เอาใจใสผ่ มเปน็ อยา่ งด ี ผม
อยูท่ น่ี ดี่ ้วยความสขุ ใจ

ผมไดเ้ ห็นเร่ืองราวของผ้าเช็ดเทา้ หลังเขา้ มาอยูไ่ ดส้ ามวัน
เช้าวันน้ันหลังจากหลานชายออกไปมหาวิทยาลัย ลูกสาวผม
เปลี่ยนผ้าเช็ดเท้าผืนใหม่แล้วออกไปท�ำงาน ลูกเขยผมเดินออกมาจาก
หอ้ งนอน ขณะจะเดนิ เขา้ หอ้ งนำ้�  ผมเหน็ อาการชะงกั งนั ในกริ ยิ า เขามอง
ไปที่ผ้าเชด็ เท้าแล้วขมวดค้วิ  ราวกับเหน็ สิ่งท่ีตัวเองมิสบใจ

“มีอะไรหรือ” ผมเอ่ยปากถาม
“ผ้าเช็ดเท้าครับพ่อ” เขาเหลียวหน้ามาบอก “เมียผมชอบวาง
แผท่ งั้ ผนื  พอเดนิ เหยยี บหรอื เชด็ มนั จะตดิ เทา้ ขนึ้ มา เดยี๋ วผมพบั ใหน้ ะครบั
พ่อจะไดเ้ ช็ดงา่ ย”
อมื  เขามเี หตผุ ลของเขานะ ผมลองหวนนกึ ถงึ ภาพสามวนั ทผี่ า่ น
มา เดมิ ทผี า้ เชด็ เทา้ ผนื นว้ี างอย่ใู นลกั ษณะใด เอ ผมมแิ น่ใจนกั หรอื วา่ ผม
หลงลมื  แตจ่ �ำไดว้ ่ามันอยู่ในรปู แบบที่ไม่คอ่ ยเหมือนกัน
เขาพับผ้าผืนน้ันเหลือขนาดหนึ่งในสามของผืนเดิม ผมถามใจ
ตวั เองวา่ มนั เลก็ ไปไหม ไมน่ ะ ไมน่ า่ เลก็  ขนาดของมนั นา่ จะพอดกี บั เทา้
พบั เสรจ็  เขาอาบนำ�้ อาบทา่ แลว้ ออกไปทำ� งานตามปกต ิ ผมลอง
เช็ดเท้าตัวเองกับผ้าผืนน้ัน ใช่ มันจริงเหมือนเขาว่า มันเช็ดได้ง่ายข้ึน
ผ้าไม่ติดเท้าข้ึนมา แถมยังซึมซับน้�ำได้ดีกว่าไม่พับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่า
ขนาดมันเล็กไปบ้าง หรือเท้าผมอาจจะใหญ่กว่าทุกคน แต่เร่ืองนี้ไม่ใช่
ปัญหาอะไรเลย ผมแก่มากแล้ว คงมีเวลาอยู่ดูโลกใบน้ีอีกไม่นาน ไม้
ใกล้ฝั่งมีทั้งกระแสลมและกระแสน้�ำกัดเซาะ แม้พอเกาะติดดินแต่นับวัน
กลบั ยิ่งหม่ินเหม่
ช่วงกลางวัน แม้อยู่บ้านคนเดียวแต่มิเหงา ผมอ่านหนังสือ
บ้าง ดูโทรทัศน์บ้าง ท�ำโน่นท�ำน่ีบ้าง ดูแลผักสวนครัวที่ปลูกไว้ข้างบ้าน
บ้าง ตอนเย็นต่างคนต่างกลับมา เราพร้อมหน้ากันท่ีโต๊ะอาหาร ผม
ชอบบรรยากาศของการอยู่ร่วมลักษณะน้ี ทุกคนปรองดองกันดี ท้ังสาม
คนดูแลผมอย่างมิยอมให้ตกหล่น ตักกับข้าวให้รินน้�ำให้ ถามทุกข์สุขใน
แต่ละวนั มไิ ด้ขาด
วันน้ีรายการโทรทัศน์ระหว่างอาหารมื้อเย็น มีการอภิปรายไม่
ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางท่าน ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่
ดูเหมือนลูกเขยตั้งใจฟังมาก โดยเฉพาะช่วงดาวสภาฝ่ายค้านลุกขึ้นพูด

104 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

ท้ังสายตาและประสาทหแู ทบจะไมไ่ ดล้ ะจากจอทวี ีเลย
ผอู้ ภิปรายขดุ คุ้ยจุดออ่ นของรัฐบาลอยา่ งถึงพรกิ ถึงขิง จน ส.ส.

ฝ่ายตรงข้ามหลายคนลุกขึ้นประท้วงไม่ขาดสาย
ลูกเขยผมบ่นขนึ้ อยา่ งหัวเสียวา่
“ประทว้ งอะไรกนั นกั หนา แตล่ ะคนประทว้ งดว้ ยเหตผุ ลปญั ญาออ่ น

ทัง้ น้นั ”
ลกู สาวผมพูดสวนขน้ึ มาทนั ทวี า่
“อ้าว พูดจาจาบจ้วงเกินเลยกันแบบน้ี มันต้องประท้วงสิ พูดใส่

รา้ ยกันน”ี่
“ไม่เห็นใส่ร้ายตรงไหน ใครๆ ก็รู้กันว่าไอ้รัฐมนตรีคนน้ีมันแย่

จริง มันไม่ได้แค่สีเทานะ มันสีด�ำสนิทแบบติดทนนานเลย แล้วรัฐบาล
จะเกบ็ ไว้ทำ� ไม”

“มีหลักฐานอะไรหรือเปล่า เขาเป็นคนดีคนเก่ง ไอ้คนอภิปราย
มนั ปา้ ยส”ี  ลูกสาวผมเสียงแขง็ ใส่สามี

ผมรู้สึกเหมือนบรรยากาศไม่ดีนัก แต่มันอาจจะเป็นเรื่องปกติ
ของคนบ้านนี้ ผมเพิ่งมาอยู่จึงท�ำหน้าที่ได้แค่เป็นพระประธาน ไม่ใช่
พระประธานท่ีจะตัดสินว่าใครถูกใครผิด แต่เป็นพระปูนปั้นที่ควรปิดปาก
แนบสนิท

หลานชายของผมสนใจไก่ทอดยี่ห้อดังในจานมากกว่าสิ่งใด แต่
ดูเหมอื นสองหูยงั มิละทงิ้ จากสิ่งรอบข้าง

“เธอฝังใจแต่กับรัฐบาลนี้ เห็นดีเห็นชอบด้วยทุกอย่าง ลองมอง
ใหล้ กึ ส ิ บา้ นเมอื งกำ� ลงั ยำ�่ แย ่ เศรษฐกจิ ตกตำ่�  ผคู้ นลำ� บากกนั ทง้ั ประเทศ
ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนห่างกันมาก ย่ิงมีรัฐมนตรีแบบน้ี ควร
ปลดไดแ้ ลว้ ”

“ประเทศก�ำลังปรับตัวต่างหาก” ลูกสาวผมแย้งข้ึนมา “เธอดู

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 105

ไม่ออกหรือว่านายกฯ ตั้งใจท�ำงานมาก รัฐมนตรีมาจากคนเก่งในหลาย
สาขา รฐั บาลเพงิ่ บรหิ ารประเทศมาไดไ้ มถ่ งึ ป ี เธอตอ้ งใหโ้ อกาสเขาบา้ งส”ิ

ผมนั่งฟังอย่างสงบ พยายามเก็บสาระและเหตุผลของท้ังคู่ไว้
ในใจ

“ใครบอกเธอว่ารัฐมนตรีมาจากคนเก่ง มาจากคนใหญ่คนโตใน
พรรครว่ มรฐั บาลทง้ั นนั้  เธอดูไมอ่ อกหรอื  กระทรวงไหนผลประโยชนม์ าก
มนั แยง่ กนั เปน็ เจา้ กระทรวงเหมอื นหมาแยง่ เนอื้  แตล่ ะคนทเ่ี ปน็ รฐั มนตรี
เหมาะสมกบั ตำ� แหนง่ หรอื ไม ่ รฐั มนตรมี หาดไทยควรเปน็ ตำ� รวจหรอื ฝา่ ย
ปกครอง กระทรวงพาณิชย์ควรเป็นพ่อค้า กระทรวงยุติธรรมควรเป็น 
ผู้พิพากษา กระทรวงสาธารณสุขควรเป็นหมอ แต่น่ีม่ัวไปหมด แล้ว
เมอื่ ไรบา้ นเมืองจะเจริญ”

“เธอไมช่ อบรฐั บาลน ี้ เพราะเธอฝงั ใจกบั พรรคฝา่ ยคา้ น ไอพ้ รรค
ที่เธอชอบมันแพ้เลือกต้ัง เธออย่าลืมนะว่ารัฐบาลก่อนที่เธอชอบ คดี
ทุจรติ หลายคดยี งั คา้ งคาอยู่ในศาล ยงั จะไปชอบมันอีกหรอื ”

บรรยากาศระหว่างม้ือเย็นเริ่มซวนเซ หลานชายผมขยับปาก
ออกมาบ้าง

“กินขา้ วเถอะ พ่อแมอ่ ยา่ เถียงกนั เลย เกรงใจคณุ ตาบา้ ง คุณตา
เพ่งิ มาได้ไม่กี่วนั  ทะเลาะกนั ให้เห็นแล้ว”

คลนื่ ลมสงบไปในทันที
หลังทานข้าวเสร็จ ตอนท่ีลูกสาวเดินผ่านหน้าห้องนำ้�  ผมได้ยิน
เสยี งตวาดแหวข้ึนมาวา่
“พพ่ี บั ผ้าเช็ดเท้าอกี หรอื ”
“ใช”่
“พบั ท�ำไมบอกตั้งหลายครัง้ แล้ว”
“อธิบายเธอหลายคร้ังแล้วเหมือนกัน ถ้าไม่พับผ้าจะติดเท้าข้ึน

106 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

มา เธอไม่น่าจะมามากเรื่อง เธอมีห้องน�้ำส่วนตัวของเธอ เธอจะวางแผ่
กต็ ามใจเธอไมม่ ีใครวา่  หอ้ งนำ้� หอ้ งนเ้ี ราใชก้ นั สามคน อยา่ มายงุ่ ไดไ้ หม”

สงครามความคิดระลอกสองเร่ิมข้ึนอีกคร้ัง ผมฟังและพอเดา
ออกวา่ เรอ่ื งนม้ี นั นา่ จะเกดิ มานานแลว้  เพยี งแตม่ กี ารปะทใุ นบางชว่ งของ
เวลา ลกู สาวผมทำ� ทา่ ไมย่ อมแพ ้ เธอมน่ั ใจในเหตผุ ลของตวั เองอยเู่ หมอื น
กนั  เธอตอบดว้ ยความฉนุ เฉียวว่า

“ฉันอธิบายเธอหลายคร้ังแล้วนะ ฉันไม่ได้เช็ดฝ่าเท้าอย่างเดียว
ผ้ามันต้องแผ่เพื่อดึงข้ึนมาเช็ดหลังเท้าได้ด้วย หลังเท้าคนเราต้องแห้ง
ถา้ เธอพบั หนาแบบนน้ั มนั เชด็ ไมไ่ ด ้ ใช ่ ฉนั รวู้ า่ นี่ไม่ใชห่ อ้ งนำ้� สว่ นตวั ของ
ฉัน แตฉ่ ันอยากใหท้ ุกคนไดเ้ ชด็ เทา้ ด้วยวิธีทีถ่ ูกตอ้ ง”

“มีแตเ่ ธอน่ีแหละทเี่ ช็ดหลังเทา้ ”
“ใช ่ ฉนั น่ีแหละ บา้ นฉนั สอนมาแบบน”ี้
ผมเพ่ิงนึกขึ้นมาได้ ภรรยาผมน่ีแหละท่ีสอนลูกสาวให้เช็ดหลัง
เท้าด้วย แต่ส่วนตัวผมแล้วมิได้สนใจในเรื่องน้ีมาก ผ้าวางอยู่แบบไหน
ผมเช็ดแบบนั้น ส่วนมากผชู้ ายไม่ค่อยมากเรือ่ งนกั
“ทีหลงั ไม่ตอ้ งพับอีกนะ” ลูกสาวผมเสยี งแข็ง
ผมเข้าใจชีวิต แต่ละคนมาจากเตาหลอมท่ีต่างกัน ส่ิงเหล่านี้
ท�ำให้ความรู้สึกนึกคิดแตกต่าง เม่ือมารวมตัวกันเป็นครอบครัว แม้ต่าง
คนตา่ งพยายามปรบั ตวั เขา้ หากนั  ตอนแรกมกั ไมม่ ปี ญั หา แตพ่ อวนั เวลา
เปล่ียนไปต่างคนเริ่มกลับมาเป็นตวั ของตัวเองอกี คร้งั  ปัญหาเกดิ ขึ้นเม่อื
มีการอยรู่ ่วมกันนานวัน
อยากแนะน�ำพวกเขาถึงความคิดของผมบ้าง แต่ตัวเองเพ่ิงมา
อยู่ใหม ่ อย่าเพง่ิ แสดงความเห็นอะไรดีกวา่  รอดูทีท่าของแตล่ ะคนอีกสัก
พัก ผมอยากให้เรื่องผ้าเช็ดเท้าเป็นเรื่องเล็กๆ ภายในครอบครัว อย่าได้
ลกุ ลามจนกลายเป็นเรอื่ งใหญเ่ ลย

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 107

เชา้ วนั รงุ่ ขน้ึ  หลงั จากผมใสบ่ าตรพระทผ่ี า่ นมาทางหนา้ บา้ นแลว้
ขณะเดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของลูกสาวดังข้ึนอีกครั้ง พอ
เดินเข้ามาในบ้านจงึ เห็นเธอก�ำลงั ตอ่ วา่ ลกู ชาย

“บอกตั้งกี่ครั้งแล้วท�ำไมไม่จ�ำ ดูสิ ผ้าเช็ดเท้าวางไว้ดีๆ พอลูก
เชด็ เสร็จ ผ้าวางไวไ้ ม่เปน็ ระเบียบเลย ยงิ่ ดยู ่งิ เหมือนผ้าข้ีรวิ้ ”

ผมเห็นผ้าเช็ดเท้าผืนนั้นแล้ว สภาพมันคล้ายถูกขยี้ขย�้ำจน
เละเทะ ดูออกในทันทีว่าหลังจากเช็ดเสร็จ คนเช็ดมิได้ใส่ใจจัดวางให้
เหมือนเดมิ  มนั กองอยูเ่ รี่ยราดอย่างที่ไมค่ วรจะเป็น

“สอนมาตงั้ แตเ่ ดก็ แตไ่ มเ่ คยเชอ่ื แม ่ จะใหเ้ หนอ่ื ยกนั ทงั้ ชวี ติ หรอื ไร”
พอถกู แม่ตอ่ ว่า เขาแก้ตวั ดว้ ยเหตุผลท่ผี มฟงั แลว้ ไม่ขนึ้
“รีบไปเรยี นหนงั สอื  กลวั สาย”
“ไม่รีบก็เป็นแบบน้ีแหละ คนเราถ้าอยากมีชีวิตท่ีดี ต้องเริ่มต้น
ด้วยความเป็นระเบียบ แค่เร่ืองผ้าเช็ดเท้ายังท�ำให้ดีไม่ได้ แล้ววันข้าง
หน้าลูกจะท�ำอะไรได้ละ่ ”
หลานชายของผมไมต่ อ่ ปากตอ่ คำ�  ควา้ หนงั สอื เรยี นรบี เดนิ ออก
ไปนอกบ้าน
ผมลองถามตัวเองว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไรดี เพราะดูแล้ว
นา่ จะเปน็ เรอ่ื งยดื เยอ้ื และเรอ้ื รงั  ถา้ แตล่ ะคนไมย่ อมถอยกนั คนละกา้ ว มนั
จะเปน็ เรอื่ งราวท่ีไมม่ วี นั จบสน้ิ  ดที ลี่ กู สาวผมมหี อ้ งนำ�้ สว่ นตวั ของเธอ แต่
เธออดไมไ่ ดท้ จ่ี ะมาดแู ลความเปน็ ระเบยี บของหอ้ งนำ�้ นด้ี ว้ ย ความจรงิ นา่
จะวางผา้ เชด็ เทา้ ไวส้ องผืน ของพอ่ ผนื ลกู ผนื  ส่วนผมยังไงก็ได้
การอภปิ รายไมไ่ วว้ างใจวนั ทสี่ อง เกดิ ขนึ้ ในชว่ งเวลาอาหารเยน็ เหมอื นเดมิ
วนั นหี้ ลานชายของผมจบั จอ้ งอยบู่ นหนา้ จอแทนจานขา้ ว เพราะ
ผอู้ ภปิ รายเปน็  ส.ส. หนมุ่ นกั เรยี นนอก ผมู้ าจากครอบครวั มอี นั จะกนิ  มา

108 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

จากพรรคใหม่ท่ีมีนโยบายแปลกหลายเรื่อง ดูคล้ายเป้าหมายของพรรค
อยทู่ คี่ นรนุ่ ใหม ่ เขาอภปิ รายในฐานะ ส.ส. ฝา่ ยคา้ น ในขณะทล่ี กู สาวของ
ผมน่ังหนา้ เบท้ �ำท่าเหมอื นไม่อยากฟงั

เขาอภปิ รายดเุ ดอื ด ฟงั ดคู ลา้ ยยงิ่ สรา้ งสงครามนำ�้ ลายหนกั ขอ้ ขนึ้
เขาต�ำหนริ ฐั บาลชนดิ ไมม่ ชี นิ้ ดี

“ชอบหรือลกู ” ลูกสาวผมเอย่ ปากถาม
“ครบั  เขาพดู เรอ่ื งจรงิ นะแม ่ รฐั บาลยงั ใชน้ โยบายแบบเกา่ บรหิ าร
ประเทศ ปัญหาเดิมๆ จึงยังสุมอยู่ สมควรเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปสู่ยุค
ใหม่ได้แล้ว ประเทศไทยต้องการคนแบบน้ี เพ่ือน�ำพาเราก้าวให้ทันโลก
ปัจจุบัน”
“แมว่ ่าพรรคน้ีไมด่ ีนะ ก้าวร้าวจนนา่ รังเกียจ”
“แม่ล้าหลังและตกยุคมาก” หลานชายพูด “แม่คอยดูนะ อีกสัก
พักพรรคน้ีจะได้เป็นรัฐบาล ผมว่าการเลือกตั้งคราวหน้านี่แหละ เขา
ต้องได้เป็นแน่นอน แม่อย่าลืมนะว่าคนรุ่นใหม่มีจ�ำนวนมาก พวกเขา
เบ่ือการเมืองแบบเก่ามานานแล้ว รัฐบาลชุดน้ีบริหารงานไม่เป็น สร้าง
ปัญหาให้ประเทศไม่รจู้ ักจบ”
“คนเราคดิ ไมเ่ หมอื นกันหรอกลกู ” ลูกเขยผมเอย่ ปากขน้ึ มาบา้ ง
“ก็ไม่เหมือนกันน่ันแหละครับ พ่อชอบพรรคท่ีพ่อรัก พรรคสุด
รักของพ่อมีเรื่องฉาวโฉ่มากมาย คอร์รัปชันไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร พ่อ
ตอ้ งเงยหน้าจากพรรคเก่ามาดูพรรคใหม่ๆ บ้าง”
หลานชายผมหยุดพดู นิดหนง่ึ  แลว้ หันมาถามผมว่า
“คณุ ตาละ่ ครบั  ชอบรฐั บาลหรอื ฝา่ ยคา้ น หรอื ชอบพรรคการเมอื ง
ไหนเปน็ พเิ ศษ คุณตาน่ังนิ่งมาตลอด”
ผมได้แต่ยิ้มบางๆ แล้วตอบในฐานะพระประธานวา่
“ตายงั ตอบไม่ถูก แต่ละพรรคตา่ งมขี ้อดีขอ้ ด้อย”

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 109

“ผมรู้แล้วว่าคณุ ตาชอบใคร”
“ร้ไู ด้ไง” ผมแปลกใจในค�ำพดู ของเขา
“รู้สิครับ พฤติกรรมน่ังเงียบๆ ของคุณตา เหมือนกับพรรคๆ
หน่ึงที่ถามอะไรแล้วมักจะตอบแบบกลางๆ ไม่ยอมให้ตัวเองเสียหาย ไม่
ค่อยมีความเหน็  บางครั้งถ้ามีความเหน็ ออกมา มกั จะตอบแบบบวั ไม่ชำ�้
นำ�้ ไมข่ นุ่  เรยี กไดว้ า่ นมุ่ นม่ิ จนนา่ รำ� คาญ เกอื บทงั้ พรรคคลา้ ยเกดิ มาจาก
พอ่ แม่เดยี วกนั  นี่ผมเดานะ แตน่ า่ จะถกู ”
ผมไมท่ ันจะไดต้ อบหลาน ลกู สาวผมเอย่ ปากขนึ้ มาวา่
“ลูกอยา่ ไปบา้ พรรคใหมเ่ ลย มาช่วยสนบั สนนุ รัฐบาลดกี ว่า”
“ไม่เอาหรอกแม่ ดูแล้วไม่เวิร์ก ไปไม่รอดหรอกครับถ้ายัง
ต้วมเตี้ยมอยู่แบบน้ี ยุคนี้มันยุคใหม่แล้ว เต่านาไหนเลยจะเดินทางเร็ว
เท่าเครอ่ื งบิน”
ลกู เขยผมที่นงั่ ฟังมานานพูดแทรกว่า
“พอ่ ไมเ่ หน็ ดว้ ยนะลกู  คนรนุ่ ใหมม่ แี ตค่ วามคดิ ไมม่ ปี ระสบการณ์
ยงั ไงกส็ ้พู รรคทเี่ คยเปน็ รฐั บาลมากอ่ นไมไ่ ด้”
การเมืองบนโต๊ะอาหารคล้ายแบ่งเป็นสามเส้า เริ่มหนักข้อขึ้น
คนแก่โลกอย่างผมจึงต้องลองเปลยี่ นเกมบา้ ง
 “เอาๆๆ อย่าเถยี งกนั  ฟงั พอ่ บา้ งนะลูก ฟังตาบา้ งนะหลาน”
ทงั้ สามเสยี งที่ไมม่ ีใครยอมใครชะงกั ลงพร้อมกัน 
ผมพูดวา่
“เถียงกันไปท�ำไม ใครคิดอย่างไร ใครชอบอย่างไรก็เลือกไป
อย่างนั้น ทุกคนมีสิทธิ์เป็นของตัวเอง ไม่มีใครถูกใครผิดหรอก เราจะ
รู้ว่าพรรคใดดีไม่ดีต้องดูตอนเขาท�ำงาน วันน้ีพรรคที่แม่ชอบเป็นแกน
น�ำรัฐบาล วันข้างหน้ารัฐบาลอาจจะเป็นพรรคท่ีพ่อชอบหรืออาจจะเป็น
พรรคท่ีลูกชอบ พูดก็พูดเถอะ แม่พูดถูกเหมือนกันนะ ท่ีว่ารัฐบาลเพิ่ง

110 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

บรหิ ารงานมาไมถ่ งึ ป ี เรารอดูไปอกี สกั พกั ไมด่ กี วา่ หรอื  สว่ นตา...แมเ้ พงิ่
ย้ายมาอยู่ที่น่ี เพิ่งมาอยู่ร่วมกับลูกๆ และหลาน แต่พอดูออกว่าทุกคนมี
ความแตกตา่ งกนั ในดา้ นความคดิ  ดจู ากการเลอื กขา้ งของพรรคการเมอื ง
ท่ีชอบกพ็ อรู้ แตล่ กู ร้ไู หมวา่ ลกู มีบางอย่างทเี่ หมอื นกัน”

ทุกสายตาจับจ้องมาทผ่ี ม
“อะไรหรือพอ่ ” ลกู สาวผมถาม
“ต่างคนต่างมีความหวังเดียวกัน หวังท่ีจะให้ประเทศชาติได้ดี
แม้ต่างคนต่างคิดเข้าข้างตัวเอง แต่น่ีมิใช่เรื่องผิด เราต้องฟังความเห็น
คนอ่นื ดว้ ย อย่าดงึ ดันแบบหวั ชนฝา”
“แล้วพ่อว่าพวกเราทั้งสามคนจะหลอมรวมกันได้ไหม” ลูกเขย
ผมถาม
“ได้หรอื ไมไ่ ด้เป็นเร่ืองของอนาคต ปัญหาก็คอื ถ้าทุกคนยังฝังใจ
อยู่กับความคิดเดิม ย่อมไม่เกิดการปรองดองข้ึนแน่ ดูเรื่องเล็กๆ สิ แค่
เรื่องผ้าเช็ดเท้าผืนเดียว ต่างคนต่างคิดไปคนละแบบ ถ้ามีความคิดต่าง
ในเร่ืองที่ไมค่ วรต่าง รอยร้าวยอ่ มเกิดขึ้นในทันที”
หลานชายผมถามว่า
“แลว้ เรอื่ งผา้ เช็ดเทา้  คุณตาว่าจะแกป้ ัญหาอย่างไร”
“ง่ายนิดเดียว” ผมหัวเราะเบาๆ แล้วพูดต่อว่า “ใช้คนละผืนกัน
เลย ของใครของมันไม่ต้องข้องแวะกัน ข้อส�ำคัญทุกคนต่างต้องยอมรับ
ของกันและกัน แม่วางแผ่แบบของแม่ แม่มีห้องน�้ำของตัวเองแล้วน่ี
ส่วนของลูกกับของพ่อคนละผืน แต่มีข้อแม้ว่าแม่ต้องไม่มาวุ่นวายกับ
พอ่ และลกู ”
“มันดูไมด่ นี ะพอ่  โดยเฉพาะผ้าท่ลี ูกเช็ดมนั ถกู ขย้ีจนเละ”
“ลูกต้องถอยมาสักก้าวสิ” ผมบอกลูกสาว “ลดทิฐิของตัวเองลง
บ้าง ทุกเร่ืองกค็ งดขี ้ึน”

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 111

เธอพยกั หนา้ คล้ายมเิ ตม็ ใจ แลว้ พูดวา่
“แลว้ เรอ่ื งความคดิ ทางการเมอื งล่ะพ่อ”
“การเมอื งกเ็ หมอื นผา้ เชด็ เทา้  ออ้  ไมใ่ ชส่  ิ พดู ใหมด่ กี วา่  การเมอื ง
ก็แค่ผ้าเชด็ เทา้ ”
“ลกู ไม่เข้าใจ”
“รัฐบาลในวันนี้อาจถูกใจลูก ไม่ถูกใจสามีลูก ไม่ถูกใจลูกของ
ลกู  ใชไ่ หม”
“ใช ่ แลว้ เกีย่ วอะไรกับผ้าเชด็ เท้า”
“เก่ียวสิ การเลือกตั้งคร้ังหน้าเหมือนกับการน�ำผ้าเช็ดเท้าไปซัก
ผ้าที่ถูกซักมาใหม่ย่อมเป็นผ้าสะอาด ทุกคนอาจจะเปล่ียนใจมาชอบใน
สิง่ ที่ตวั เองเหน็ วา่ สะอาดก็ได”้
“พ่อหมายความว่าการเมืองเป็นแค่เรอ่ื งผา้ เชด็ เทา้ หรอื ”
“ใช่ ใช่แค่ผ้าเช็ดเท้าผืนหน่ึง หมดวาระใช้ต้องน�ำไปซัก แล้วน�ำ
มาใชเ้ ชด็ กนั ใหม ่ สกปรกอกี กซ็ กั ใหม ่ เหมอื นทเี่ ราเลอื กตงั้ ใหมน่ น่ั แหละ
ตา่ งกบั ผา้ เชด็ เทา้ ตรงไหนเลา่ ”

112 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 113



ใครจะเก็บซากหมาตัวนนั้

สุวัณนา

“ทำ� ไมวนั นยี้ งั ไมม่ ใี ครมาเกบ็ ซากหมาตวั นน้ั อกี  แลว้ แบบนใ้ี ครจะแวะซอ้ื
ของ” เสยี งบน่ อยา่ งหงดุ หงดิ ปนมากบั เสยี งโยนลงั ใสข่ องอยา่ งแรงจนเกดิ
เสียงโครมครามเกนิ พอดี

เวลาตีส่ีกว่าๆ หลายคนอาจก�ำลังหลับใหล หลายคนก�ำลังต่ืน
แตพ่ อ่ คา้ แมค่ า้ แผงผลไมข้ องฝากรมิ ถนนเรมิ่ ตงั้ รา้ นแลว้  ยงิ่ เปดิ รา้ นเชา้
ปดิ รา้ นดกึ ยง่ิ มเี วลาขายของมากขนึ้  พอ่ คา้ แมค่ า้ แผงรมิ ทางรดู้  ี ชว่ งกอ่ น
ท่ีเศรษฐกิจยังดีชีวิตยังราบรื่นพ่อค้าแม่ค้าแทบจะไม่ปิดแผงเพราะผู้คน
สัญจรไปมาตลอด แผงขายผลไม้ใช้วิธีเปลี่ยนกันมานอนเฝ้าแผงในช่วง
กลางคืน

แต่ในวิกฤตโรคระบาดมีการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน
ท่ีก�ำหนดเวลาออกจากบ้านยามค่�ำคืนท�ำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องเก็บแผงใน
ตอนกลางคืนและรีบมาเปิดใหม่ในเวลาเช้ามืด แม้การค้าขายจะซบเซา
ลงมากแตท่ กุ คนกย็ อมรบั เพราะไมอ่ ยากเสยี่ งกบั โรคตดิ ตอ่ รา้ ยแรงทกี่ ำ� ลงั
ระบาดไปท้งั โลก

“สรุปแล้วมีใครไปแจ้งเจ้าหน้าที่มาเก็บซากหมาหรือยัง” แม่ค้า
คนเดมิ ต้งั ค�ำถาม

“ไปแจง้ ที่ไหนละ่ ” ชายรา่ งทว้ มวัยห้าสบิ กว่าๆ ถาม
“ไปแจ้ง อบต. หรือเปล่า” คนท่ีต้ังค�ำถามน้�ำเสียงหงุดหงิดคน
เดมิ เปล่ยี นเปน็ ลงั เลแทน
“แจง้ ไดห้ รอ แลว้ ใครจะมาเกบ็  รถขยะหรอ” ชายคนเดมิ ถามทำ�
หน้าสงสยั  “ฉันว่านา่ จะแจ้งกรมทางมากกว่านะ”
“แล้วจะแจ้งกรมทางท�ำไม เขามีหน้าที่ซ่อมสร้างถนนไม่ใช่เก็บ
กวาด” คสู่ นทนาเถยี ง ยงั มสี หี นา้ งงๆ แตก่ ม็ น่ั ใจเตม็ ทวี่ า่ ตอ้ งไม่ใชห่ นา้ ที่
ของกรมทางหลวงแน่นอน
“แต่กรมทางเขายังออกมาตัดหญ้าข้างทางตอนที่มันโตจนรก
กดี ขวางการจราจรเลยนะ” อกี ฝ่ายต้ังขอ้ สังเกต
“กจ็ รงิ ” คนพดู ทำ� ทา่ คดิ  “แต ่ อบต. บา้ นเรามรี ถขนขยะนะ เขา
กน็ ่าจะขนซากหมาไปท้งิ ได้เหมอื นกนั ” หญงิ วัยเดียวกันให้เหตผุ ลบา้ ง
“ท้ิงยังไงล่ะ ขยะบ้านเราท่ีเขาเก็บไปน่ีเขาเอาไปฝังหรือเผา ถ้า
ฝังเขาจะเอาไปกองไว้กี่วันถึงฝัง ซากหมามันจะเน่าเหม็นก่อนไหม” อีก
ฝ่ายต้ังคำ� ถาม 
สองสามีภรรยายังถกเถียงและตั้งค�ำถามกันถึงความรับผิดชอบ
ของหนว่ ยงานตา่ งๆ หลายเรอ่ื ง ถงึ แมจ้ ะอยู่ในชุมชนมาตงั้ แต่เกดิ แตท่ ง้ั
สองก็ไมไ่ ดร้ จู้ รงิ ในเรอื่ งการปกครอง หรอื การจดั การเรอื่ งตา่ งๆ รเู้ พยี งแต่
เมอื่ ครบรอบวาระสปี่ จี ะมกี ารเลอื กตง้ั นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล ซงึ่
จะเป็นวาระท่ผี ู้คนจับกลมุ่ คุยกนั ถึงผลประโยชนข์ องชมุ ชนถ้าคนนน้ั หรอื
คนนี้ได้รับเลือกต้ัง และแน่นอน...ถ้าคนหมู่บ้านไหนได้รับเลือกเม็ดเงิน
ในการบริหารชุมชนกจ็ ะเทไปทห่ี มู่บ้านนนั้ มากกว่า
“ยังไม่มีใครมาเก็บซากหมาอีกหรอ” เสียงหงุดหงิดดังมาจาก
รา้ นฝ่งั ตรงข้ามถนน 
“นั่นสิ ต้ังแต่เมื่อวานแล้ว ไม่มีหน่วยงานไหนสนใจมาเก็บเลย

116 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

หรือไง” อกี เสยี งทม่ี าชว่ ยเปิดร้านหงุดหงิดไมแ่ พก้ ัน
“แล้วแบบนี้ใครจะแวะซื้อของ มีซากหมาตายอยู่หน้าร้านเน่ีย”

คนพูดกระแทกลังผลไม้ลงกับแผงขายอย่างแรง
เมอื่ วานเวลาประมาณหา้ โมงเยน็ กวา่ ๆ เจา้ สนุ ขั จรจดั ผอมโซชะตาขาดตวั
หนึ่ง ไม่รู้พลัดหลงมาจากไหนซ่ึงนั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะประเทศเรามี
สุนัขจรจัดมากมายอยู่แล้ว ต้นเหตุก็จากโดนเอามาทิ้งและแพร่ลูกเกิด
หลาน เจ้าสุนัขเคราะห์ร้ายอาจเป็นสุนัขจรจัดตั้งแต่เกิด อาจถูกเอามา
ท้ิงหรืออะไรก็ตาม แต่...

“โครม...” 
กอ่ นหนา้ เสยี งชนโครมใหญ ่ เสยี งเบรกดงั สนนั่ นำ� มากอ่ น แมค่ า้
แผงขายผลไม้ของฝากริมถนนต่างกรีดร้องอย่างตกใจ รถสิบล้อคันน้ัน
ลากเบรกไปสักพักรถถึงจะหยุดก่อนคนขับจะกระโดดลงจากรถท่าทาง
หวั เสยี
“หมาใครเนย่ี  ทำ� ไมปลอ่ ยมาวงิ่ ตดั หนา้ รถ ดสู  ิ รถพงั หมด” เสยี ง 
ถามกระชากอย่างโมโหหันซ้ายหันขวาไปยังแผงขายผลไม้ริมทาง “หมา 
ใครไม่ดูแลปล่อยมาว่ิงกลางถนน รถพังใครจะชดใช้” คนพูดกระฟัด 
กระเฟยี ดใสอ่ ารมณเ์ ตม็ ท ่ี หลงั โวยวายมองรา้ นขา้ งทางที่ไมม่ ีใครออกมา
รับว่าเป็นเจ้าของสุนัข คนขับรถสิบล้อก็อ้อมไปดูร่องรอยความเสียหาย
หน้ารถของตวั เอง ก่อนจะกลบั มาข้างรถพร้อมกบั เร่ิมตะโกนใหม่
“หมาใครไม่ยอมรับอย่าให้กูรู้นะ พวกเปรต” คนขับสิบล้อช้ีน้ิว
กราดใส่แผงผลไม้ขา้ งทางอย่างโมโห
“อา้ ว เฮย้  ไอห้ า่ น ี่ หมาใครจะไปรหู้ รอ ไมเ่ คยเหน็  มายนื ชห้ี นา้
ด่าปาวๆ เป็นบ้าหรือไงมึง” พ่อค้าแผงใกล้ออกมายืนชี้นิ้วใส่อีกฝ่ายบ้าง
อย่างคาดโทษ

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 117

“ใชๆ่  หมาใครจะรมู้ ย้ั ทกุ ทไี มเ่ คยเหน็  ใครเอามาปลอ่ ยหรอื เปลา่
ก็ไม่รู้ ไอห้ า่ น่มี ายนื ดา่ พวกเราปาวๆ” แมค่ า้ อีกแผงออกมาเสรมิ

“มันต้องหมาพวกมึงนั่นแหล่ะ ถ้าไม่มีใครยอมรับเป็นเจ้าของกู
จะแจง้ ความ” คนขับรถสิบล้อช้หี น้ากราดพอ่ ค้าแมค่ า้ ทกุ รา้ น

“เอาเลย แจง้ เลย กจู ะแจง้ กลบั มงึ บา้ ง” เสยี งแมค่ า้ อกี คนตะโกน
กลบั มา พรอ้ มกบั เสยี งออ้ื องึ ของลกู คเู่ จา้ ของแผงผลไมข้ า้ งทางอกี หลาย
แผง

หลังจากน้นั ไม่นาน รถยนตต์ �ำรวจสองคันกเ็ ขา้ จอดเทยี บพร้อม
กับตั้งกรวยจราจรปิดก้ันเส้นทางที่มีเรื่อง เกิดปากเสียงระหว่างพ่อค้า
แม่ค้าและคนขับรถสิบล้อ ฝ่ายคนขับรถสิบล้อต้องการหาเจ้าของสุนัข
ที่ว่ิงตัดหน้ารถ จนรถสิบล้อได้รับความเสียหายซ่ึงจริงๆ ไม่มีรอยบุบ 
สักนิด ส่วนฝ่ายพ่อค้าแม่ค้าไม่พอใจที่คนขับรถสิบล้อมายืนชี้หน้าด่า
กราดต้องการแจง้ ความขอ้ หาหมนิ่ ประมาท

นับเป็นช่วงเย็นที่วุ่นวายบนถนน แผงผลไม้สองข้างทางหลาย
รา้ นตอนเยน็ นนั้ ปดิ รา้ นไปโดยปรยิ าย เพราะคนขายมวั แตเ่ ถยี งกบั คนขบั
สิบล้อเจ้าอารมณ์ ท่ีด้านหลัง สุนัขจรจัดโชคร้ายนอนส้ินใจอยู่กับท่ี แรง
ปะทะจากรถสบิ ลอ้ ไมท่ ำ� ใหร้ ถขนาดใหญบ่ บุ สลาย ตา่ งจากรา่ งผอมจรจดั
ทต่ี ายสนทิ คาท ี่ ซง่ึ นน่ั อาจเปน็ โชคดที ส่ี ดุ ในชวี ติ ของมนั ก็ไดท้ ี่ไมต่ อ้ งนอน
บาดเจ็บอย่างโดดเดีย่ วจนขาดใจตายไป

“นฉ่ี นั กน็ กึ วา่ ตำ� รวจทำ� เรอื่ งเสรจ็ จะเกบ็ ซากหมานี่ไป” แมค่ า้ คน
เดิมทมี่ าเปดิ แผงหลงั สดุ คยุ กับคนทม่ี าด้วย

“นั่นสิ แต่ว่ามันหน้าท่ีต�ำรวจหรอท่ีจะมาเก็บซากหมาตายเนี่ย”
อกี คนตั้งคำ� ถามเพราะไมเ่ คยเหน็ ตำ� รวจจะทำ� หน้าที่น้ี

“ไม่รู้สิ แต่ต�ำรวจท�ำงานเพื่อประชาชนนี่ เก็บซากหมาตายก็ไม่
น่าแปลก” คนพดู พูดไม่เต็มเสียงเพราะชักไม่แน่ใจนัก

118 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

“เราต้องแจ้งหน่วยงานไหนมาเก็บล่ะทีน้ี ปล่อยไว้แบบน้ีใครจะ
มาซื้อของ” 

เมอ่ื วานหลงั จากตำ� รวจมาถงึ คกู่ รณคี อื คนขบั รถสบิ ลอ้ และพอ่ คา้
แมค่ า้ ทะเลาะกนั ยกใหญ ่ ใชเ้ วลารว่ มสองชวั่ โมงกวา่ ตำ� รวจจะจดั การใหท้ ง้ั
สองฝา่ ยสงบลง จากเวลาทเ่ี กดิ เหตหุ า้ โมงเยน็ กวา่ ๆ จนทกุ คนแยกยา้ ยก็
สองทมุ่  ตอนนั้นไมม่ ีใครสนใจซากหมาตายตวั ตน้ เร่ืองแลว้

“นี่ถ้าคุณอเนกได้เป็นนายก อบต. คงแจ้งให้เขาบอกลูกน้องมา
เก็บซากหมาน่ีได้ แต่นี่ไอ้มานพเป็นมันคงไม่ช่วยอะไรหรอก” แม่ค้าคน
เดมิ ยงั พดู ต่อ

“น่ันสิไอ้มานพนั่นต้ังแต่ได้เป็นนายก อบต. ฉันไม่เห็นมันสร้าง
ความเจรญิ อะไรใหท้ อ้ งถนิ่ เลย” ลกู ครู่ บี รบั ชว่ ง “ไดข้ า่ ววา่ คนแถวนเ้ี ลอื ก
ไอม้ านพมาดว้ ยน ่ี ตานเี้ ปน็ ไงละ่ แคเ่ รอื่ งเกบ็ ซากหมา” คนพดู หนั ไปทาง
แผงขายผลไม้ตรงกันข้ามเสยี อย่างนนั้  ทง้ั ๆ ทีค่ ุยกับคนในร้านเดียวกนั

“แหมนะ แค่เร่ืองซากหมากต็ ้องเอามาเปน็ ประเด็นการเมอื งกัน
เชียว” แม่ค้าแผงฝงั่ ตรงขา้ มถนนหันไปตะโกนใสผ่ ู้ชายวัยหา้ สบิ กวา่ รา้ น
เดยี วกัน

“แหม ก็คนมันไม่มีปัญญาจัดการมันก็ต้องโบ้ยใส่คนอ่ืนให้มา
จดั การสิ” อีกฝ่ายตอบกลับมาพรอ้ มกบั ท�ำหนา้ เอือมระอา

“นั่นสิ เร่ืองแค่นี้ หน่วยงานไหนเป็นคนจัดการยังแจ้งไม่ถูกเลย
จะไปโจมตีการเมืองโน่น” อีกฝ่ายเสียงดังหันไปทางแผงฝั่งตรงข้ามถนน
อย่างจงใจ

“เฮย้  แพร มคี นเขาจะจดั การซากหมาเอง แกไมต่ อ้ งไปเทย่ี วแจง้
หนว่ ยงานไหนมาเกบ็ แลว้ นะ ดเี หมอื นกนั  เราไมร่ เู้ รอ่ื งงานแบบนหี้ รอก”
แมค่ า้ แผงผลไมท้ มี่ าเปดิ แผงทหี ลงั ตะโกนบอกนอ้ งสาวเสยี งดงั เกนิ จำ� เปน็
เพราะทง้ั คูย่ นื อยู่ข้างๆ กัน

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 119

“จ๊ะ พ่ีแพง เรามันจัดการเรื่องแค่นี้ไม่ได้ให้คนเก่งเขาจัดการไป
เองละกัน” น้องสาวรับลูกคอู่ ย่างร้กู นั

“นพี่ ี่ไพศาล ซากหมานนั่ มนั อยฝู่ ง่ั โนน้ มากกวา่ ฝง่ั เรา เราไมต่ อ้ ง
ไปสนใจหรอก อยู่ใกล้ร้านใครมากกว่าก็แก้ไขเองละกัน” คู่ชกทางการ
เมืองฝ่งั ตรงข้ามยิ้มอ่อนใสอ่ ีกฝา่ ย

“ไดแ้ ม่มณ ี มนั กน็ ่าจะเปน็ แบบนนั้ แหละ เราจะเดือดร้อนท�ำไม”
ผชู้ ายวยั หา้ สิบกวา่ ตอบรบั หญิงวยั เดยี วกนั อย่างรู้ใจ

“นี่ป้ามณี จะเอายังไง น่ีต้ังใจผลักภาระน่ี” เสียงอีกฝ่ายตะโกน
ข้ามมาจากอีกฝัง่ ถนน ยามเช้ารถยนต์แล่นไปมาไมม่ ากนัก

“เอายังไง อะไรของแก พะแพง ฉันก็ไม่เอายังไงไม่ใช่เร่ืองของ
ฉนั ” อีกฝ่ายตะโกนกลบั พรอ้ มกับยกั ไหลท่ า่ ทางไมส่ นใจ

“แตซ่ ากหมานม่ี นั อยตู่ รงกลางรา้ นเราสองคน ตอ้ งชว่ ยกนั จดั การ
สิ” แพรวาคนน้องสาวยนื เทา้ เอวท่าทางเอาเรอื่ งข้างๆ พ่ีสาว

“ใครว่าก่ึงกลาง มันอยู่ค่อนไปทางร้านโน้นมากกว่า” ไพศาล
ตะโกนกลบั  

“เอา้  แบบนกี้ ็ไมร่ บั ผดิ ชอบนหี่ วา่ ” พะแพงเทา้ เอวตะโกนใสพ่ รอ้ ม
ลงสังเวียนเตรยี มทะเลาะเตม็ ที่

“รบั ผดิ ชอบเรอ่ื งอะไร หมาขา้ ก็ไม่ใช”่  คนพดู เบะปากตาม “ไหน
ใครบอกเกง่ นักเก่งหนาก็จัดการเองสิ” แม่คา้ ผสู้ งู วยั กวา่ ไมย่ อมแพ้

แผงผลไม้ของมณีและพะแพงเป็นคู่กรณีกันมานาน ถึงแม้ร้าน
จะอยู่ตรงข้ามกันคนละฟากถนน ไม่ได้แย่งลูกค้ากัน แต่ทั้งสองร้านก็
เกิดเร่ืองทะเลาะวิวาทกันบ่อย เม่ือก่อนทั้งสองร้านเป็นเพื่อนคู่ค้าจุนเจือ
กันมาอย่างดี ร้านไหนของหมดถ้าลูกค้าอยากได้ อีกร้านจะข้ามไปซื้อ
ผลไม้จากอีกฝั่งมาช่วยขายให้ แต่ความสัมพันธ์อันดีแตกหักหลังจาก 
ทั้งคู่เชยี ร์การเมอื งท้องถิน่ คนละฝา่ ย 

120 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

ฝ่ายมณีกับไพศาลคู่สามีภรรยาท่ีสูงวัยกว่าเชียร์มานพที่ตอนนี้
ได้ต�ำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลสมัยท่ีสอง ส่วนพะแพงกับ
แพรวาวัยสามสิบกว่าเชียร์อเนกที่เป็นคนวัยเดียวกัน สมัยแรกที่มานพ
ได้ต�ำแหน่งเพียงสร้างความหมางใจไม่ชัดเจน แต่ท้ังสองร้านมาแตกหัก
ตอนที่มานพได้ดำ� รงตำ� แหนง่ นายกองค์การบริการสว่ นตำ� บลสมยั ที่สอง

“โกง ไอ้มานพโกงแน่นอน” พะแพงกระแทกเสียงหลังการ
ประกาศผลการเลอื กตัง้

“ใช่ พ่ีอเนกโดนโกงคะแนนแน่ๆ” แพรวาร่วมวงส่งเสริมพ่ีสาว
ด้วย “เน่ีย มัวแต่เลือกคนแก่เข้ามา แบบนี้บ้านเมืองก็ไม่พัฒนาไปไหน
หรอก แก่แล้วก็พักผ่อนเล้ียงหลานอยู่บ้านไปจะเข้ามาท�ำอะไรกัน” คน
พูดยังวิจารณ์ไมไ่ วห้ น้าใคร

“เอา้  แพรวาพดู แบบน้ีไมถ่ กู นะ ทนี่ ง่ั ๆ อยนู่ กี่ ห็ วั หงอกเยอะ” มณี
พูดอย่างเคืองๆ 

“แพรมนั ไมไ่ ดว้ า่ ปา้ สกั หนอ่ ย จะเดอื ดรอ้ นทำ� ไม” พะแพงปกปอ้ ง
นอ้ งสาว

“ว่าไม่ว่า ฉันก็แก่หัวหงอกพอๆ กับมานพนั่น พูดอะไรก็รักษา
น้ำ� ใจกันบา้ ง” นำ้� เสียงมณียังเคืองจดั อยู่

“ฉันไมไ่ ด้วา่ ใหป้ ้า อยา่ โยงส”ิ  แพรวาเถยี ง
“โยงอะไร ใครๆ ก็ไดย้ นิ วา่ เธอวา่ ไอพ้ วกคนแกไ่ มพ่ ฒั นา” ไพศาล
เตมิ เชือ้ ไฟ
“เอ๊ะ ลงุ  หาเรื่องกันไปใหญแ่ ล้วนะ” พะแพงขนึ้ เสยี ง
เคยมีค�ำเตือนว่าเรื่องท่ีไม่ควรตั้งประเด็นเมื่ออยู่กับคนอ่ืนคือ
เชื้อชาติ ศาสนา การเมือง หลังจากการวิจารณ์ผู้ชนะการเลือกตั้งนายก
องค์การบริหารส่วนต�ำบลในวันน้ันท�ำให้ทั้งมณีและพะแพงทะเลาะกัน
รุนแรงขนาดเกลียดหน้ากันท้ังๆ ท่ีทั้งสองไม่มีความขัดแย้งอ่ืนนอกจาก

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 121

เรอื่ งการเมอื ง ทำ� ใหไ้ พศาลและแพรวาตอ้ งเขา้ รว่ มความขดั แยง้ และตอ้ ง
เลือกฝา่ ย หลังจากน้นั ทั้งสองรา้ นก็หาเรอ่ื งขดั แย้งกนั เรอื่ ยมา

“ไม่ต้องเก็บ ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ ถ้าไม่มีใครมาเก็บก็ปล่อย
ใหเ้ นา่ เหมน็ มนั ทง้ั หมด” พะแพงบอกนอ้ งสาวเสยี งดงั หลงั จากทะเลาะกบั
ร้านคู่ปรบั และหาทางออกไม่ได้

“ไม่ต้องไปแจ้งใครมาเก็บนะ ปล่อยไว้แบบน้ันแหละ คนสมัยน้ี
ไม่มีความรับผิดชอบไม่พอ ไม่มีจิตสาธารณะ” มณีบอกสามีเสียงดังไม่
แพก้ นั

ความขนุ่ มวั ของอารมณท์ ำ� ใหห้ ลายคนหงดุ หงดิ งา่ ย เปน็ อกี วนั ท่ี
แผงขายผลไมข้ ้างถนนหลายร้านขายผลไม่ได ้ สาเหตหุ ลกั ไม่ไดเ้ กดิ จาก
พิษเศรษฐกิจ โรคระบาด หรือดวงตกใดๆ ท้ังส้ิน สาเหตุหลักเป็นเรื่องท่ี
แกไ้ ขได้แตไ่ ม่มีใครทำ�

“ฉันเหม็นจะไม่ไหวแล้วนะ” แพรวาพูดหลังจากโก่งคออาเจียน
หลงั มื้อเท่ียงไปแล้ว

“แล้วจะให้ท�ำยังไงล่ะ ฉันก็เหม็นเหมือนกัน อดทนหน่อยสิ” 
พะแพงบอกน้องสาว

“แลว้ จะอดทนถงึ เมอ่ื ไหรล่ ะ่ พ ่ี ของกข็ ายไมไ่ ดม้ าหลายวนั  แถม
ต้องทนเหม็นกลิ่นเน่าน่ีอกี ” แพรวาพูดคลา้ ยจะรอ้ งไห้

“มณี ฉันว่าเราไปแจ้งเจ้าหน้าที่มาเก็บซากหมาเถอะ” ไพศาล
บอกภรรยา อากาศอบอ้าวย่ิงเร่งให้ซากหมากลางถนนตัวน้ันเน่าเปื่อย
และส่งกลิน่ เหม็นคละคลงุ้

“แจ้งใคร จนป่านนี้ไม่เห็นมีเจ้าหน้าท่ีหน่วยงานไหนมาดูด�ำดูดี
แลว้ เราจะแจง้ ใคร” มณถี าม ความรูส้ ึกขยะแขยงไมต่ ่างกัน

“อยา่ งนอ้ ยเรากแ็ จง้  อบต. เถอะ” ไพศาลยอมแพก้ ลนิ่ เหมน็ คลงุ้
ยอมถามหาผรู้ บั ผดิ ชอบมาเกบ็ ซากสนุ ขั กอ่ นคปู่ รบั แผงผลไมร้ า้ นตรงขา้ ม

122 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

“ก็ไหนตอนน้ันบอกไม่ใช่หน้าที่ อบต. ให้แจ้งกรมทาง ไม่ลอง
แจง้ กรมทางก่อนล่ะ” มณถี ามอย่างไมแ่ น่ใจ

“แจ้งใครก็แจ้งเถอะ ท่ีเขาออกมาเก็บซากหมาน่ันน่ะ” ไพศาล
ชักหงุดหงิด อากาศอบอ้าวชวนหงุดหงิดอยู่แล้วดันมีกล่ินชวนอาเจียน
มาเสรมิ อกี

“พี่แพง ฉันไมไ่ หวแล้วนะ เวยี นหวั มาก เราแจง้ กรมทางมาเก็บ
เถอะ” แพรวานั่งดมยาดมสมุนไพรมาตั้งแต่เที่ยง อาการวิงเวียนไม่ได้
ทเุ ลาลง ทกุ ครง้ั ทลี่ มพัดกลนิ่ เหม็นเน่าก็ลอยมาสมทบ

“เดย๋ี วฉนั ลองโทรหากรมทาง อาทติ ยก์ อ่ นเขายงั ออกมาตดั หญา้
ข้างถนนเลย” พะแพงบอก ถึงแม้ในความคิดแรกว่าควรแจ้ง อบต. แต่
ตราบใดทคี่ นทต่ี วั เองไมช่ อบเปน็ นายกฯ อยพู่ ะแพงไมม่ ที างโทรศพั ทข์ อ
ความชว่ ยเหลอื เด็ดขาด

“เปน็ ไงบ้างพีไ่ พศาล” มณีถามสามีหลงั วางสายจากโทรศพั ท์
“เขาบอกวา่ รถขนขยะจะออกมาพรุ่งน้ีเยน็ ๆ” ไพศาลบอก
“โอ้โห พรุ่งน้ีเย็น เราต้องตายเพราะกลิ่นนี่แน่ๆ” มณีนั่งดมยา
พร้อมกับใช้พัดๆ เสริมพัดลมเพ่ือไล่กลิ่น “เราบอกคุณมานพโดยตรงให้
เอารถขยะมาเก็บวนั นเี้ ลยได้มยั้ ” มณีถามอย่างมีความหวัง
“เมอื่ กถ้ี ามแลว้ เขาวา่ ไมไ่ ด ้ เพราะรถขยะวนไปตามตารางประจำ�
หมบู่ ้าน” ไพศาลบอก 
“โอ๊ย แย่แน่ๆ ต้องแย่แน่ ความดันฉันขึ้นแน่เลย” มณีได้แต่
พึมพ�ำอย่างเป็นทุกข์พร้อมกับความคิดท่ีว่ารู้แบบนี้แจ้งเสียต้ังแต่เย็นวัน
แรกที่เกิดเรอื่ งก็คงไม่ตอ้ งมาทนน่ังดมกล่ินเหมน็ เน่าร้ายกาจน่ี
“วา่ ไงพแี่ พง” แพรวาขยบั เขา้ ใกลพ้ สี่ าว สายตาเปย่ี มดว้ ยความ
หวงั
“เขาบอกจะมาไดเ้ ชา้ วนั มะรนื  ตอนนคี้ นของกรมทางออกตดั หญา้

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 123

ตามเส้นทางหลักก่อน” พะแพงทรดุ นง่ั อยา่ งหมดแรง
“โอ้โห มะรืน ป่านน้ันหนอนมันไม่ขึ้นซากหมาน่ันแล้วหรอ” 

แพรวาพูดเสียงเบาอย่างทุกข์ท้อ “พี่แพง เราลองแจ้ง อบต. ดูม้ัย เผื่อ
เคา้ จะมาไวกวา่ ” 

“จะแจง้ ทำ� ไม แจง้ ก็ไมม่ าหรอก เราไม่ใชฐ่ านเสยี งเขา” พะแพง
ยงั อดแขวะคนท่ีไมช่ อบไม่ได้

“อมื ๆ งนั้ เรากร็ อกรมทางไปละกนั ” แพรวาขเ้ี กยี จเถยี งเลยรบั คำ�
เออออไป

“พรุ่งนี้กับมะรืนเราปิดแผงกันเถอะ พ่ีก็ไม่ไหวแล้ว” พะแพง
ยอมรับความพ่ายแพ้ ยอมให้ลุงป้าแผงตรงข้ามถนนปรามาส ยอมปิด
ร้านดีกวา่ มานงั่ ดมกล่นิ เหมน็ เนา่ นี่

วนั นน้ั แผงผลไม้รมิ ทางสองฝ่งั ถนนท่อี ย่ตู รงขา้ มกันเก็บแผงเรว็
กว่าปกติ อากาศร้อนอบอ้าวเกินไป ผสมกับกลิ่นเหม็นตลอดเวลา และ
ภาพไม่สบายตาท่ีกลางถนนท�ำให้ถนนเส้นน้ันไม่มีนักเดินทางคนไหน
อยากจอดรถแวะซ้อื ผลไม้

“วันน้ีแผงพะแพงกับป้ามณีปิดหรอเน่ีย” พ่อค้าแผงใกล้ๆ พูด
อย่างแปลกใจ 

“คงทนไม่ไหวกับกลิ่นเหม็นนั่น” แม่ค้าอีกคนที่แผงอยู่ไกลออก
ไปตอบกลบั มา

“เถียงกันบ้าบอเนาะ” ผู้ชายคนเดิมไปหยิบจอบท้ายรถกระบะ
เดินตรงไปทแี่ ผงท่ีปดิ พร้อมกบั แม่คา้ อีกสามคน

“มัวแต่ทะเลาะกัน ให้หน่วยงานน่ันนี่มาเก็บมันก็เป็นแบบนี้
แหละ” 

“น่ันสิ ถามหาคนรับผิดชอบกันอยู่น่ัน แล้วต่างฝ่ายต่างก็ไม่ลง
รอยกนั  เรอื่ งแคน่ เี้ ลยไมจ่ บสกั ท”ี  คนทถ่ี อื จอบพดู  กอ่ นกระชบั ผา้ ปดิ ปาก

124 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

ปิดจมูกให้แน่น โชคดีที่สมัยนี้ทุกคนต้องสวมผ้าปิดปากปิดจมูกเพราะ
เป็นมาตรการป้องกนั โรคระบาด เขาเลยได้ผลพลอยไดช้ ว่ ยลดกลิ่นเน่า

“วา่ จะเกบ็ ไปฝงั ตงั้ แตเ่ ชา้ วนั โนน่ แลว้  แตร่ ำ� คาญปา้ มณกี บั พะแพง
เลยไมท่ ำ� ” คนพดู นำ้� เสยี งรำ� คาญ “ไปๆ มาๆ สองคนนนั่ กป็ ลอ่ ยหมาเนา่
คาทแ่ี ลว้ ปดิ รา้ นหนเี ฉยเลย” ตอนทา้ ยคนพดู ส่ายศีรษะอยา่ งเอือมระอา

หลงั จากผา่ นไปยส่ี บิ นาทหี ลมุ ลกึ เกอื บถงึ เอวกข็ ดุ เสรจ็ ดว้ ยความ
รว่ มมอื ของพอ่ คา้ แมค่ า้ สค่ี น ซากสนุ ขั ตวั แขง็ ทอ่ื และมกี ลนิ่ เหมน็ รา้ ยกาจ
ถกู ลากมาท่หี ลุมและถกู ฝังกลบอยา่ งเรยี บรอ้ ย

“ไปเกิดที่ดีๆ นะ พวกเราฝังแกแล้ว ชาติหน้าอย่าเกิดมาเป็น
สัตว์จรจัดให้ได้รับทุกขเวทนาอีกเลย” คนพูดใช้จอบกระแทกอัดหน้าดิน
ให้แนน่ เพ่ือปอ้ งกันสนุ ัขจรจดั ตวั อ่ืนมาขดุ ซาก

“อย่างน้อยอานิสงส์วันน้ีก็ช่วยให้เราไม่ต้องทนฟังป้ามณีกับ 
พะแพงทะเลาะกนั เนาะ” หนงึ่ ในพอ่ คา้ แผงขายผลไมห้ วั เราะสนกุ  ทกุ คน
มองแผงผลไม้สองแผงทีเ่ ผชญิ หน้ากนั ทว่ี นั น้ีปดิ เงยี บ

“อมื  แตไ่ มร่ พู้ รงุ่ นจ้ี ะมาทะเลาะกนั เรอ่ื งซากหมาหายอกี หรอื เปลา่ ”
อกี คนหัวเราะ

“ช่างเถอะ อย่างน้อยวันน้ีพวกเราก็น่าจะมีลูกค้ากันแล้วเพราะ
ไม่มีซากหมาตายให้คนที่เดินทางไปมารังเกียจ” แม่ค้าบอก “ไปเถอะ 
วันนีพ้ วกเราตอ้ งขายของไดเ้ ยอะแน่ๆ” 

ที่กลางถนนร่องรอยของซากหมาเน่ายังมีอยู่และคงจะเป็น 
ร่องรอยอยูอ่ กี สองสามวัน แตก่ ลิ่นเหมน็ เน่าน้ันนา่ จะคอ่ ยๆ จางไป บ่าย
วันน้ีกลิ่นอาจจะหายไป พรุ่งน้ีพ่อค้าแม่ค้าแผงขายผลไม้ริมทางคงจะ
คอ่ ยๆ ลมื เรอื่ งนี้ไปราวกบั ไม่เคยเกิดเร่อื งขึ้น

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 125



ซากดกึ ด�ำ บรรพ์ในพพิ ิธภัณฑ์ไมม่ ีชอ่ื

จกั ษณ ์ จันทร

-๑-

จวนจะสที่ มุ่  พเ่ี สยงั ไมก่ ลบั เขา้ บา้ น แมเ่ ดนิ กระวนกระวายเพราะเปน็ หว่ ง
ลกู ชายคนโต 

“ไอส้ ทิ ธม์ิ งึ ออกไปดพู มี่ งึ ทซี  ิ มวั ไปจมอยทู่ ไ่ี หน เดย๋ี วสท่ี มุ่ ถงึ เวลา
ที่รฐั เขาประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เจา้ หน้าที่มาเหน็ เข้า จะเป็นปัญหา...”

ผมขับรถกระบะออกจากบ้านแล้ววนไปในที่ต่างๆ ท่ีคิดว่าน่าจะ
เจอพี่เส แต่ก็ไม่เจอ บางแวบของความรู้สึกก็นึกกลัวว่าพี่เสจะหายไป
เหมือนตอนเด็กๆ อีก ผมคิดไปต่างๆ นานา ขับรถวนไปท่ัว จนถึงถนน
ทเี่ ชอ่ื มตอ่ กบั ชายทงุ่ ซงึ่ สามารถเดนิ ตดั ลดั เขา้ ไปยงั บา้ นได ้ เหน็ พเี่ สกำ� ลงั
ดงึ ซากรถมอเตอร์ไซคอ์ อกมาจากพงหญา้  ผมหยดุ รถพรอ้ มกบั รอ้ งหา้ ม
อธิบายว่าซากโครงรถน้ีอาจเป็นของพวกขโมยรถน�ำมาช�ำแหละอะไหล่
ขาย แล้วน�ำโครงมาทิง้ ไว้ชว่ งฤดนู ้�ำหลากทผ่ี ่านมา พอนำ�้ แห้งจึงเตม็ ไป
ด้วยสนิมเกรอะกรังไม่ใช่ของเก่าอย่างที่พี่เสเข้าใจ ถ้าต�ำรวจมาเจอและ
พบว่ามันอยู่ในครอบครองอาจจะมีความผิดได้ แต่ไม่ว่าผมจะพยายาม
บอกหรืออธบิ ายอย่างไรพเี่ สก็ไมฟ่ ังและไม่เชอ่ื  

“มึงมาก็ดีแล้ว กูจะได้ไม่ต้องลากมันกลับบ้าน” พ่ีเสพูดพร้อม

กับยกซากโครงรถเขลอะสนิมขึ้นท้ายรถกระบะ จากน้ันก็ยกจักรยานท่ี 
ขมี่ าขนึ้ ตามไป ผมยืนงุนงงและเหนอื่ ยใจ

“ไอส้ ิทธ์ิไปกันได้แลว้ ” พี่เสตะโกนบอก พลันเปิดประตูเข้าไปน่ัง
หน้ารถ
ผมจำ� ไดไ้ ม่ลมื วา่ พเี่ ส พีช่ ายคนเดยี วของผมได้หายออกจากบา้ นไปตอน
ผมเรียนอยู่ชัน้  ป.๖ 

เยน็ วนั นนั้ เราเลน่ ซอ่ นแอบกนั กบั เพอ่ื นๆ ในละแวกหมบู่ า้ น เปน็
ช่วงเดือนมกราคม ข้าวในแปลงนาเก็บเก่ียวเสร็จแล้ว ฟางข้าวทั้งหมด
ถูกกองไว้ใกล้ๆ กับลานที่ใช้ตากข้าวเปลือก เกือบทุกปีหลังฤดูเก็บเกี่ยว
เดก็ ๆ ในละแวกบา้ นกม็ กั จะชวนกนั เลน่ สรา้ งบา้ น เลน่ ตจ่ี บั  เลน่ ซอ่ นแอบ
ตามประสาเดก็ บา้ นท่งุ  

กอ่ นพลบคำ�่ ปนี นั้  ผมกบั พเ่ี สกำ� ลงั จะเลกิ เลน่ และกลบั เขา้ บา้ นกนั
อยู่แลว้  ถ้าเพื่อนคนหนึง่ ไม่ตะโกนออกมาว่า “เล่นกันอกี ตา...ตาสดุ ท้าย
ไอส้ ทิ ธ์เิ ปน็ คนหา” ส้นิ เสียงทกุ คนต่างแยกย้ายกันไปซ่อน 

ผมหาทุกคนเจอในเวลาไม่นานนัก เหลือเพียงแค่พ่ีเสคนเดียว
ที่ผมหาไม่เจอ ในขณะที่เด็กคนอื่นๆ ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านหมดแล้ว
เพราะคิดว่าพี่เสคงจะแกล้งผมอกี ตามเคย 

“พี่เสออกมาเถอะ ไม่เล่นแล้ว” ผมเดินร้องไห้พลางร้องเรียกหา
พี่เสจนค่�ำมืดดึกด่ืน แต่พ่ีเสก็ไม่ปรากฏตัวออกมา แล้วหลังจากคืนวัน
นน้ั ...ก็ไม่มีใครพบเจอพเี่ สอกี เลย

จนกระทั่งเดือนมกราคมท่ีผ่านมา ผมเดินออกไปดูท่ีนาเป็นกิจ
ปฏิบัติเช่นทุกครั้ง ที่นารกร้างเพราะไม่มีใครสานต่อ ต้ังแต่พ่อตายจาก
ไปแมย่ ังคงเปน็ เกษตรกรเหมือนเดมิ แต่ปลูกเพียงผกั สวนครวั ไมก่ ี่อย่าง 

128 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

หลังจากผมเรียนจบช้ันมัธยมปลายแล้วเข้าเรียนต่อด้านกฎหมายใน 
มหาวิทยาลยั เปดิ จนสำ� เร็จ 

หลายปีต่อมาผมกลับมาเปิดส�ำนักงานทนายความเล็กๆ ที่บ้าน
เกิด รับว่าความและดูแลแม่ ไม่ได้แต่งงาน ไม่มีครอบครัว วันไหนมี
ตลาดนดั กข็ บั รถพาแมเ่ อาพชื ผกั ทปี่ ลกู ไวใ้ นสวนไปขาย ชวี ติ วนเวยี นอยู่
แบบน้ีทุกเม่ือเช่ือวัน เพราะตั้งแต่พี่เสหายตัวไป ชีวิตผมก็เหมือนมีบาป
ติดตัวมาตลอด ทุกคร้ังท่ีพูดถึงพี่เสแม่ก็จะน้�ำตาไหล หดหู่ใจลงในทันที
กนิ ไมไ่ ดน้ อนไมห่ ลับ 

ก่อนจะกลับเข้าบ้านวันนั้น ผมเงยหน้ามองไปทางทิศตะวันตก
ดวงอาทิตย์ทิ้งตัวลงต�่ำจวนจะลับหาย ที่ทางเดินเล็กๆ ปลายนาซึ่งเชื่อม
ตอ่ กบั ถนนในหมบู่ า้ น ผมสงั เกตเหน็ เงาตะคมุ่ ๆ เดนิ ดมุ่ ๆ ตรงมาทางผม
เดนิ ใกล้เข้ามาเร่ือยๆ จนมาหยุดทต่ี รงหน้า

“จะมืดแล้ว มึงยังเล่นซ่อนแอบอยู่อีกรึ” เจ้าของร่างนั้นส่งเสียง
ทกั ทาย

ผมยืนนิ่งราวถูกมนตร์สะกด หัวใจเต้นแรง ไล่สายตาพินิจมอง
เขาเป็นชายร่างเล็กผอมแกร็นผมหยิกยาว รองเท้าไม่ใส่ เสื้อผ้าขาดวิ่น
หอบหิ้วลงั ไมม้ าดว้ ยหนึง่ ใบ

“พเ่ี ส” ผมพดู กลวั้ ในลำ� คอเมอ่ื พนิ จิ มองจนแน่ใจในเคา้ ลาง กอ่ น
จะยื่นมือไปจับไหล่ “กลับบ้านกันเถอะ” แล้วนำ�้ ใสๆ ก็ร้ืนนัยน์ตาออกมา
ไมห่ ยุด

คำ�่ วนั นนั้ แมเ่ ปน็ ลมลม้ พบั ลงทนั ทที เี่ หน็ ลกู ชายทหี่ ายไปกลบั มา
ยนื อยู่ตรงหน้าอีกครงั้  

พเี่ สหายออกจากบา้ นไปตอนผมอายสุ บิ สองและกลบั มาตอนผม
อายสุ ส่ี บิ  นบั รวมแลว้ ยส่ี บิ แปดป ี ขา่ วการกลบั มาของพเ่ี สถกู แพรอ่ อกไป

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 129

อย่างรวดเร็ว ตลอดทั้งคืนคืนน้ันบ้านผมครึกคร้ืนราวกับมีงานมหรสพ
ทั้งคนแก่คนเฒ่าลูกเล็กเด็กแดงต่างมาออกันท่ีลานหน้าบ้านเต็มไปหมด
พวกเขามาดคู นทเ่ี คยหายไปจากการเล่นซอ่ นแอบคร้ังกระโน้น

-๒-

ทนั ทที ถี่ งึ บา้ น พเ่ี สเปดิ ประตแู ลว้ ลงไปยกซากโครงรถมอเตอรไ์ ซคไ์ ปกอง
รวมกบั เศษซากวตั ถอุ น่ื ๆ ทเี่ กบ็ มากองรวมไวก้ อ่ นหนา้ น ี้ เพยี งไมก่ เ่ี ดอื น
ทพ่ี เ่ี สกลบั มาอยบู่ า้ น บรเิ วณลานโลง่ ขา้ งบา้ นกแ็ ปรสภาพเปน็ เพงิ สงั กะสี
และลานเก็บของเก่า มองผิวเผินคล้ายกองขยะมหึมา ผมกับแม่บอกว่า
ควรขายใหแ้ ก่รถรับซ้อื ของเก่าไปบา้ ง แตก่ ็ไมเ่ ปน็ ผล

พี่เสดูเปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นคนละคน เด็กชายท่ีเคยซุกซน
คนนั้นหายไปแล้วอย่างไม่หวนคืน ใครถามอย่างไรก็ไม่ยอมเล่าอะไรให้
ฟัง เรื่องราวท้ังหมดจึงดูเหมือนจะดับสูญไปกับกาลเวลาที่เขาหายออก
จากบ้านไป เขากลายเป็นคนพูดน้อย มีพฤติกรรมหลายอย่างแปลกไป
จนชาวบ้านมองว่าพี่เสกลายเป็นคนสติไม่ดี บ้างก็ว่าเขาเป็นคนบ้าคน
วิกลจริต เหตุการณ์ท่ีร้านอาหารตามสั่งในหมู่บ้านวันก่อนก็สร้างความ
ฮอื ฮาให้คนในร้านไมน่ ้อย 

เด็กๆ ในหมู่บ้านเล่าว่าพี่เสเก็บบอระเพ็ดมาจากข้างทางแล้ว
บอกใหแ้ มค่ า้ ชว่ ยทำ� ผดั กะเพราราดขา้ วใหห้ นอ่ ย ทกุ คนทอี่ ยู่ในรา้ นงงงนั
นิ่งเงียบ แต่พอพ่ีเสร้องส่ังไข่ดาวราดข้าวเพ่ิมอีกสิบเจ็ดฟอง เด็กๆ และ
คนในรา้ นตา่ งพากนั หวั เราะรว่ น แลว้ เรอ่ื งบอระเผด็ ผดั กะเพรากบั ไขด่ าว 
สบิ เจด็ ฟองก็กลายเปน็ ทอลก์ ออฟเดอะทาวน์ของหมู่บา้ นชว่ั ขา้ มคืน
ก่อนนอน พ่ีเสออกไปนั่งสูบยาอยู่บริเวณระเบียง ผมเดินไปน่ังเก้าอ้ีโยก
ใกลๆ้  กบั พเี่ ส ไมม่ บี ทสนทนาใดๆ มเี พยี งเสยี งแมลงและเสยี งนกกลางคนื  

130 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

แวว่ ดัง ลมโชยพัดเออ่ื ยๆ ทอ้ งฟ้ามืดสนทิ มองไม่เห็นดาว 
“มึงรู้มั้ย ปีที่น�้ำท่วมหนักกูเกือบตาย ปีนั้นฝูงลิงถูกน้�ำท่วมตาย

เปน็ เบอื ” จๆู่  พเี่ สกพ็ ดู ออกมา ผมงนุ งงในคำ� พดู  หยดั ตวั ลกุ ขนึ้ จากเกา้ อี้
โยก หนั มองไปทางพเ่ี ส ควนั จากมวนยาสบู ลอยอวลอยใู่ นความมดื ครหู่ นงึ่
แล้วเลอื นหายไป 

“ตอนเดก็ พห่ี ายไปไหนมา” ผมถาม พเี่ สนงิ่ เงยี บ สบู ยาจนหมด
มวนแลว้ เดินเขา้ บ้านไปนอน 

-๓-

แดดเปรยี้ ง ตะวนั จวนจะตรงหวั  เสยี งหมาเหา่ ดงั มาจากประตรู ว้ั หนา้ บา้ น 
ผมเดนิ ออกไปดู เหน็ ชายหน่มุ วยั ไล่เลย่ี กันกับผมยนื อยู่คนหนงึ่

“มาหาใครครบั ” ผมถามออกไป 
“มคี นบอกวา่ ผชู้ ายผมยาวๆ ทสี่ ตไิ มค่ อ่ ยดแี กอยบู่ า้ นหลงั น”้ี  แลว้
ชายหนมุ่ กเ็ ลา่ ใหฟ้ งั วา่  มชี าวบา้ นเหน็ พเี่ สไปทบุ เสาปนู เอาเหลก็ และปา้ ย
ของแขวงทางหลวงชนบทใสร่ ถเขน็ ลากมาเมอื่ วนั กอ่ น ชายหนมุ่ ตอ้ งการ
น�ำป้ายกลับไปติดตามเดิม เพ่ือจะได้ถ่ายรูปส่งงานบ�ำรุงซ่อมแซมให้
หวั หนา้  ผมไมแ่ น่ใจ แตก่ ร็ บั ปากวา่ จะเปน็ ธรุ ะให ้ ชายหนมุ่ กลา่ วขอบคณุ
แล้วจากไป
ชว่ งบา่ ยพเี่ สกลบั เขา้ มาบา้ นพรอ้ มกบั ขา้ วของทเ่ี กบ็ มาอยา่ งเคย
ผมเอย่ ถามหลงั จากกนิ ขา้ วเสรจ็ แลว้  ความวา่ พเี่ สไปทบุ เอาปา้ ยของแขวง
การทางมาจรงิ ๆ ป้ายน้นั เปน็ ป้าย ‘หยุด’ พเี่ สอธิบายว่าเหน็ มันถูกรถชน
หักกองอยู่ข้างทางนานเกือบสองเดือนได้แล้ว ไม่เห็นมีใครสนใจ ก็เลย
เขา้ ใจวา่ ทางการเขาทิ้งแล้วจงึ เอาค้อนไปทบุ เสาเอาเหล็กกับปา้ ยมา 
ตกเยน็ สารวตั รกำ� นนั ซง่ึ เปน็ เพอื่ นรนุ่ ราวคราวเดยี วกบั พเ่ี ส เปน็
ธุระแวะมาทวงถามขอป้ายคืนให้แขวงทางหลวงชนบทอีกคร้ัง แต่พ่ีเส

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 131

ไม่ให้ สารวัตรก�ำนันว่าพ่ีเสบ้าแบบน้ีจะจับส่งโรงพยาบาลบ้าเสียให้เข็ด
พูดพร้อมกับเดินปร่ีเข้าไปจะเอาป้ายคืน พ่ีเสถือมีดดายหญ้าออกมายืน
ขวางไว้ 

“ไอ้สิทธ์ ดูพ่ีมึงมันบ้าใหญ่แล้ว” สารวัตรก�ำนันเห็นท่าไม่ดีเลย
ตะโกนลนั่ แลว้ ถอยกลับออกไป

“กูไม่ได้บ้า มึงน่ันแหละที่บ้า” พี่เสตะโกนสวนค�ำออกไป และ
ยนื ยนั ไม่ให้ป้ายคนื

-๔-

จวนจะสาย ชายหนุ่มจากแขวงทางหลวงชนบทแวะมาทวงถามหาป้าย
อีกคร้ัง พ่ีเสขี่รถจักรยานออกไปจากบ้านไปหาเก็บของเก่าต้ังแต่เช้า คง
อกี นานกวา่ จะกลบั  แมต่ ะโกนมาจากในบา้ นวา่ ปา้ ยนน้ั หมกอย่ใู นกองวสั ดุ
หลงั บา้ นพรอ้ มกำ� ชบั ใหค้ นื ปา้ ยเขาไป ผมเปดิ ประตูใหช้ ายหนมุ่ เดนิ ตาม
เข้ามา เม่ือถึงบริเวณท่ีเก็บของกองทับถมไว้ชายหนุ่มแสดงอาการตกใจ
เพราะไม่คิดว่าพี่เสหรือคนบ้าในสายตาคนอื่นจะเก็บข้าวของต่างๆ มา 
กองรวมไว้เป็นภูเขาขยะได้มากถึงเพียงน้ี ผมกับชายหนุ่มช่วยกันรื้อค้น
อยพู่ กั หนง่ึ กเ็ จอแผน่ ปา้ ยทตี่ อ้ งการ กอ่ นชายหนมุ่ จะจากไปเขาบอกวา่ ตอน
ขับรถเข้ามาเห็นรถเร่รับซื้อของเก่าจอดอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้าน คาดว่า
อกี สักพักคงเข้ามาถงึ

ผมเหน็ ดกี บั เจตนาทช่ี ายหนมุ่ บอก อยา่ งนอ้ ยกช็ ว่ ยแปรกองขยะ
เปน็ เงนิ ใหพ้ เี่ สไวไ้ ดใ้ ช ้ เมอื่ เสยี งประกาศจากรถเรร่ บั ซอื้ ของเกา่ ดงั เขา้ มา
ใกล ้ ผมจงึ เดนิ ออกไปดกั รอทป่ี ระตรู วั้ หนา้ บา้ น คนรบั ซอื้ ของเกา่ กลุ กี จุ อ
เดินตามผมเข้ามาดูของที่ต้องการขาย ก่อนจะออกไปถอยรถเข้ามาใน
บา้ น เขากบั ภรรยานำ� กระสอบปยุ๋ เกา่ ๆ ลงมาชว่ ยกนั คดั แยกสง่ิ ของ ขวด
แก้ว ขวดพลาสติก เศษเหล็ก มัดใส่กระสอบปุ๋ยแล้วช่ังกิโล ใช้เวลานาน

132 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

กว่าจะแลว้ เสร็จ จากนั้นจงึ คิดค�ำนวณเงินใหต้ ามราคารบั ซ้ือ 
“ของในเพงิ สงั กะสนี นั่ ขายดว้ ยรเึ ปลา่ ครบั ” คนรบั ซอื้ ของเกา่ ถาม

พลางเดินไปดู ผมมองตามไปในเพิงสังกะสีซึ่งมีลังไม้ที่พี่เสหอบหิ้วกลับ
มากับส่ิงของต่างๆ ท่ีพ่ีเสเก็บสะสมไว้ ส่วนใหญ่เป็นข้าวของท่ีคนไม่ใช้
แล้ว ทีวีเก่าๆ โทรศัพท์ หม้อหุงข้าว กระติกน�้ำร้อน อะไหล่ชิ้นส่วนรถ
กลอ่ งสนิ คา้  โคมไฟ ปา้ ยสงั กะส ี หนงั สอื พอ็ กเกต็ บกุ๊  หนงั สอื พมิ พ ์ ฯลฯ
ทกุ อยา่ งถูกวางเรียงไว้อยา่ งเปน็ ระเบียบภายในเพงิ  

“ขายแคน่ พี้ อแลว้ ครบั ” ผมบอกกบั คนรบั ซอ้ื ของเกา่ ออกไปแบบ
น้ัน เขาชักสีหน้าแสดงถึงความเสียดายก่อนจากไปพร้อมกับข้าวของท ี่
รบั ซอื้ จนลน้ พูนคอกเหล็กบรเิ วณกระบะหลัง

พ่ีเสกลับเข้ามาถึงบ้านหลังจากคนรับซ้ือของเก่าจากไปไม่นาน
นกั  กลบั มาพรอ้ มกบั ขวดพลาสตกิ และเศษเหลก็ ทเ่ี กบ็ มาจำ� นวนหนง่ึ  ผม
ยืน่ เงินทข่ี ายของทั้งหมดให้

“เงินอะไร” พ่เี สถามอยา่ งสงสัย
“เงินขายของท่ีพ่ีเก็บมา...” ผมพูดยังไม่ทันจบพ่ีเสก็เดินร่ีไปยัง
บริเวณลานเกบ็ ของ พลันทง้ิ ของในมือลงแลว้ ยืนน่งิ  
“กบู อกไมข่ าย แลว้ มงึ ขายของทก่ี เู กบ็ มาทำ� ไม” พเ่ี สเดนิ กลบั ไป
ท่จี ักรยานแล้วขอ่ี อกจากบ้าน
ผมมองดธู นบตั รในมอื  มองไปยงั ลานเกบ็ ของซงึ่ ตอนนว้ี า่ งเปลา่
ผมรู้สึกส�ำนึกผิดข้ึนในพลัน ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ผมน่าจะเคารพสิทธิ์
และความเปน็ สว่ นตวั ของกันและกนั ใหม้ ากกว่าน้ ี  
พลบค่�ำ พี่เสยังไม่กลับเข้าบ้าน ผมขับรถออกตามหาจนสิ้นสุด
เวลา พ.ร.ก. ฉุกเฉนิ แตก่ ็ไม่พบ 
แนล่ ะ่  แมย่ อ่ มเปน็ ทกุ ขท์ เ่ี หน็ ผมขบั รถกลบั เขา้ บา้ นเพยี งลำ� พงั  

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 133

-๕-

เชา้ วนั รงุ่ ขนึ้ ผมขบั รถออกตามหาพเ่ี สแตเ่ ชา้  จากนน้ั จงึ เลยเขา้ ตวั เมอื งไป
เปดิ สำ� นกั งานเพอื่ ปดั กวาดเชด็ ถแู ลว้ ปดิ ไวต้ ามเดมิ  กอ่ นกลบั เขา้ บา้ นผม
แวะตลาดสดเพอื่ ซอื้ หม ู ไก ่ และขา้ วของเอาไปเกบ็ ไวเ้ พอ่ื ใหแ้ มท่ ำ� กบั ขา้ ว
ตลาดดูเงียบเหงา ผู้คนส่วนใหญ่ระมัดระวังตนเองจากไวรัสโควิด-19 
แพรร่ ะบาดดว้ ยการใสห่ นา้ กาก ทางเขา้ ตลาดมเี จลแอลกอฮอล์ใหล้ า้ งมอื
ผมเดนิ เอาขา้ วของทซี่ อื้ ไปใสร่ ถแลว้ แวะรา้ นชำ� ทค่ี นุ้ เคยกนั เพอื่ ซอ้ื นำ้� แขง็
และน้�ำอัดลม เจ้าของร้านบอกกับผมว่า แกกับเมียได้เงินเยียวยากันทั้ง
สองคนคนละห้าพัน แกว่าขนาดไอ้คนขายพระเคร่ืองออนไลน์ที่เช่าพระ
กับมนั  ยังไดเ้ ลย...

ผมถอนหายใจลกึ ลงปอด ยม้ิ มมุ ปากเลก็ นอ้ ยแลว้ เดนิ กลบั ขน้ึ รถ
ระหว่างขับรถกลับบ้านผมครุ่นคิดต่างๆ นานา คิดว่าจะไปหาพี่เสที่ไหน
เปน็ กงั วลวา่ ถา้ เจา้ หนา้ ทร่ี ฐั มาพบเจอหลงั สท่ี มุ จะเปน็ เรอื่ งเอาได ้ แตแ่ วบ
หนง่ึ กอ็ ดคดิ ไมไ่ ดว้ า่ ทำ� ไมเจา้ ของรา้ นชำ� สองผวั เมยี จงึ ไปลงทะเบยี นเพอ่ื
รับเงิน ทั้งๆ ที่ยังเปิดร้านขายของอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเป็นปกติ ยังไม่นับ
รวมไอค้ นทขี่ ายพระเครอื่ งออนไลนท์ กี่ ลา่ วถงึ นน่ั อกี  พลางคดิ ไปถงึ ผคู้ น
มากมายในภาพข่าวที่เดือดร้อนจริงๆ แต่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีและถูกตัด
สิทธ์ิ เพราะระบบเอไอมปี ญั หาในการคัดกรอง

ผมเอาขา้ วของทซ่ี อื้ มาจากตลาดไปเกบ็ ทบี่ า้ นแลว้ เปลยี่ นจากรถ
กระบะเปน็ รถมอเตอร์ไซค ์ ขบั วนเพอื่ หาพเ่ี สไปทว่ั  ขบั ไปตามตรอกซอก
ซอยทกุ ซอย ขบั ไปตามทวิ ไมป้ ลายนาจนสดุ ทอ้ งทงุ่ คงุ้ นำ�้  ขบั เลาะไปตาม
ถนนรมิ คลองซงึ่ อยหู่ า่ งจากหมบู่ า้ นออกไปไกล ขบั รถจนลา้  จนตะวนั เรม่ิ
ทง้ิ ตัวลบั ทิวไมฟ้ ากตะวันตก

พลบคำ�่  ผมขบั รถกลบั เขา้ บา้ น ผมทอ้ ใจแตไ่ มถ่ อดใจ ความหวงั
ดีของผมในครั้งนี้ได้กลายเป็นคมมีดกรีดใจท�ำร้ายความรู้สึกของพ่ีชาย 

134 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

ตัวเอง ผมหยิบไฟฉายเดินตรงไปยังบริเวณลานท่ีพ่ีเสเคยน�ำเศษวัสดุ
ตลอดจนขยะรีไซเคิลต่างๆ มากองไว้ ซ่ึงบัดน้ีเตียนโล่งเพราะฝีมือผม
และคนรับซื้อของเก่า ผมเดินเข้าไปในเพิงสังกะสี มองไปรายรอบ ในใจ
นึกอยากงัดลังไม้ท่ีพ่ีเสหอบหิ้วกลับมาด้วยใคร่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในลัง แต่ก็
ละอายใจเกินกว่าจะท�ำ ในพลันน้ันเท้าผมสะดุดเข้ากับไม้กระดานแผ่น
หนึ่งท่ีกองขวางอยู่กับพื้น เป็นแผ่นไม้สีน้�ำตาลเจาะรูสองมุมมีโซ่ขนาด
ย่อมร้อยไว้ส�ำหรับแขวน ผมหยิบแผ่นไม้กระดานข้ึนพลิกดู ข้อความสี
ขาวทเ่ี ขยี นดว้ ยสนี ำ้� มนั เลอื นรางดว้ ยกาลเวลา ขอ้ ความวา่  -- พพิ ธิ ภณั ฑ์

-๖-

สองวันสองคืนที่พี่เสไม่กลับเข้าบ้าน ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ ตลอดคืน แม่
เปน็ ทกุ ขจ์ นไมเ่ ปน็ อนั ทำ� อะไร ถามใครตอ่ ใครในหมบู่ า้ นก็ไมม่ ีใครพบเหน็
บางคนวา่ ทำ� ไมไมไ่ ปแจง้ ความเรอื่ งคนหายเอาไวก้ อ่ น ผมเปน็ ทนายความ
ผมย่อมรู้ แตผ่ มรวู้ ่ามนั เปลา่ ประโยชน ์

ช่วงบ่ายของวัน แม่คะยั้นคะยอให้ผมพาไปวัด ผมกับแม่สวม
หนา้ กากเชน่ คนอื่นๆ กอ่ นออกจากบา้ น 

ท่ีวัด...ผู้คนยังมาให้สมภารดูดวงกันเช่นปกติ จะแปลกตาก็ตรง
ทท่ี กุ คนในวนั นล้ี ว้ นใสห่ นา้ กากคยุ กนั  ไมเ่ วน้ แมแ้ ตพ่ ระลกู วดั และสมภาร
ทุกคนน่ังอยู่ห่างกันตามจุดก�ำหนด ผมกับแม่รอนานหลายคิวกว่าจะได้
ดดู วง แมน่ ำ� เงนิ หยอ่ นใสต่ บู้ รจิ าคและใสพ่ านอกี จำ� นวนหนง่ึ ถวายใหท้ า่ น
สมภารก่อนดูดวง ท่านสมภารบอกให้แม่เขียนวันเดือนปีเกิดของพ่ีเสใส่
กระดาษ มองดูสักพักแล้วหลับตาท�ำปากขมุบขมิบ ยกมือขึ้นมานับนิ้ว
ไปมา จงึ ลืมตา

“เด๋ียวมันก็กลับมาเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” ท่านสมภารพูดจบ แม่
ก้มลงกราบด้วยความศรัทธาและสบายใจ ผมขับรถกระบะพาแม่กลับไป

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 135

ส่งที่บ้านแล้วเปลย่ี นเปน็ มอเตอร์ไซค์เพอื่ ความคล่องตวั  ออกตระเวนหา
พ่ีเสเช่นที่เคย 

บ่ายสี่โมงเย็น ผมวนรถมาจอดบริเวณหน้าวัด หัวใจผมเต้นตูม
ด้วยความดีใจ คิดไพล่ไปว่าหรือความเชื่อของแม่ที่มีต่อท่านสมภารจะ
เป็นจริง ผมเห็นรถจักรยานของพ่ีเสจอดพิงอยู่ใต้ร่มไม้ ผมจอดรถแล้ว
รีบจ้�ำเดิน แต่เม่ือไปถึงผมเห็นเพียงรถจักรยานไม่เห็นเจ้าของรถ ใจผม
รู้สกึ หอ่ เหย่ี วลงในทนั ท ี

ผมเดนิ ดรู อบๆ บริเวณก็ไมพ่ บจงึ ตะโกนเรียกหาพเ่ี ส ตะโกนอยู่
นานจนเจ็บคอ แวบหนึ่งได้ยินเสียงครืดคราดคล้ายเสียงสัตว์ค�ำรามดัง
แวว่ มาจากพงหญา้  ผมรวบรวมสตแิ ละความกลา้ แหวกเขา้ ไปด ู เหน็ พเ่ี ส
นอนหลบั กรนครอกๆ ทง้ั ทตี่ วั ทง้ั ตวั แชอ่ ยู่ในแอง่ นำ้�  ผมเรยี กอยา่ งไรก็ไม่
ยอมลกุ ขนึ้  จงึ ลงไปเขยา่ ตวั  พเ่ี สงวั เงยี ลมื ตา ใบหนา้ อดิ โรย ขอบตาคลำ้�
ด�ำ ตามตัวมีรอยยุงกัดเต็มไปหมด พี่เสหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินลงไปอาบ
น้ำ� ล้างตัวในคูน้ำ� ท่ลี ึกลงไป ก่อนจะกลับขนึ้ มาน่งั มวนยาสูบพ่นควนั ฉุยๆ

“กลับเข้าบ้านเถอะพี่เส” ผมพูดอย่างวิงวอน พี่เสนิ่งเงียบครู่
หนึ่งแล้วบอกให้ผมน้ันกลับไปก่อน ผมไม่อยากเซ้าซ้ีเพราะเด๋ียวจะพาล
หงุดหงิดโกรธผมข้ึนมาแล้วหายไปอีก ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปซื้อข้าว
กล่องน้�ำดืม่ และยาเสน้ มาท้งิ ไว้ให้
แม่ดีใจพลางยกมอื ไหวข้ ้นึ ทว่ มหัวเมอื่ ผมเล่าวา่ เจอพ่เี สแลว้   

“มนั ยงั ไมก่ ลบั เขา้ มาบา้ นกช็ า่ งมนั  มงึ อยา่ เพงิ่ ไปกวนใจมนั ” ผม
รับคำ� แลว้ ทง้ิ ตวั ลงนอนในเปลญวนหนา้ บา้ นด้วยความอ่อนลา้ และง่วง

136 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

-๗-

ผมตน่ื นอนขนึ้ มาอกี ทเี มอ่ื เวลาจวนจะโพลเ้ พล ้ เหน็ พเ่ี สสวมใสเ่ สอื้ ผา้ ชดุ
ใหม่ก�ำลังน่ังคุยกับแม่อยู่ที่ระเบียงบ้าน ผมถอนหายใจลึกลงปอดอย่าง
โล่งอก ครู่หน่ึงพ่ีเสจึงลุกแยกจากแม่แล้วเดินไปทางเพิงสังกะสี ผมลุก
จากเปลแลว้ เดนิ ตามไป พเี่ สกม้ หนา้ กม้ ตาเกบ็ กวาดบรเิ วณรายรอบ แลว้
หยิบป้ายไม้ที่มีข้อความเขียนว่า ‘พิพิธภัณฑ์’ ขึ้นแขวนไว้ตรงด้านหน้า
เพิงสงั กะส ี ผมหยดุ ยนื มอง 

“พ่ีเส...” ผมโพลง่ ออกไปแต่พเ่ี สนง่ิ เงยี บ 
“พเี่ ส...ผมขอโทษ” พเ่ี สหนั มาพยกั หนา้ แลว้ แขวนปา้ ยพพิ ธิ ภณั ฑ์
ต่อจนเสร็จ
“มงึ วา่ ...พพิ ธิ ภณั ฑก์ ดู ดู มี ย้ั ” พเ่ี สถาม ผมยมิ้ แลว้ เดนิ ไปนง่ั ลงท่ี
มา้ นงั่ ทำ� จากปีกไม ้ มองดูพเี่ สจัดเรียงขา้ วของในเพิงสังกะสี 
“มงึ อยากร้ใู ชม่ ั้ยวา่ ในกล่องไม้มอี ะไร” จๆู่  พี่เสก็รอ้ งถามในส่ิงที่
ผมอยากรูข้ ้นึ มา 
“พ่ีหายไปไหนมา ท�ำไมผมหาพ่ีไม่เจอ” ผมพูดเสียงราบเรียบ
สวนกลบั ไป พีเ่ สเดินมาทรุดตัวนัง่ ลงข้างผมแลว้ มวนยาขน้ึ จุดสูบ
“กูไปนอนใต้สะพานทางที่มึงขับรถไปคุ้งน�้ำน่ันละ คืนแรกตอน
ดึกๆ หนาวฉิบหาย กูค�ำนวณฟืนผิด นึกว่าจะใช้เพียงพอตลอดคืน กลัว
ก็กลัว มึงรู้รึเปล่าว่าในทุ่งกว้างแถวบ้านเรามีหมาป่าซ่อนอยู่ มันอยู่รวม
กนั เปน็ ฝงู  พวกมนั คอยกดั กนิ เนอ้ื คนยากไรท้ อี่ อ่ นลา้  บางตวั กดั กนิ ความ
หวงั  กดั กนิ อนาคต” ผมนงิ่ เงยี บเพราะรบั รวู้ า่ พเ่ี สไมป่ กต ิ และคงเพราะพ่ี
เสเป็นแบบนี้ใครต่อใครในหมู่บ้านจงึ พากนั ว่าพเ่ี สน้นั วิกลจริต
“ท่ีกูหายไปตอนเด็กๆ วันที่เล่นซ่อนแอบกัน ก็เพราะกูซ่อนมึง
แลว้ ดันไปเจอไอห้ มาปา่ พวกนล้ี ่ะ มนั จะกินความฝันกู กเู ลยตอ้ งหนี” 
“พเี่ สวา่ ไงนะ” ผมรอ้ งถามดว้ ยความตกใจ พเี่ สนง่ิ ไปครหู่ นง่ึ แลว้

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 137

พูดตอ่
“เม่ือคืนกูจับมันได้ตัวหนึ่ง มันจะกินความฝันกู แต่กูไม่ใช่เด็กๆ

แลว้  กฟู าดมนั ตายดว้ ยทอ่ นฟนื  จากนนั้ ชำ� แหละแลว้ ยา่ งเนอื้ มนั กนิ จนอมิ่
ในท้องมันมีแต่ความฝันของเด็กๆ กับความหวังของคนจนยากเต็มท้อง
ไปหมด กเู กบ็ เอาหวั หมาปา่  ความฝนั และความหวงั  ใสก่ ระสอบปยุ๋ กลบั  
มาด้วย พรุ่งน้ีกูจะเอาความฝันความหวังไปคืนให้เด็กๆ และชาวบ้าน
ส่วนหัวมันกูจะสตัฟฟ์แขวนไว้ให้มึงดูในพิพิธภัณฑ์” ผมหัวเราะนึกขัน
กบั จนิ ตนาการและเรอื่ งเลา่ ของพเ่ี ส ไพลค่ ดิ ไปถงึ บางเรอ่ื งราวตอนเดก็ ๆ 

หลังจากพ่ีเสหายตัวไปไม่นานเดือนก็มีข่าวรัฐประหารเกิดขึ้น
จากนั้นอีกไม่ก่ีปีต่อมาก็เกิดวิกฤตต้มย�ำกุ้ง ค่าเงินบาทลอยตัวคนท�ำ
ธุรกิจล้มละลายกันไม่น้อย ปีน้ีพ่ีเสกลับมาพร้อมกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 
ประชาชนท่ัวโลกเสียชีวิตมากมาย เศรษฐกิจชะงักงัน เพราะไม่สามารถ
ทำ� มาหากินได้เปน็ ปกติ ผมคิดปะตดิ ปะต่อเร่ืองไปเรื่อย

พเี่ สหยบิ ชะแลงสง่ ใหผ้ ม แลว้ บอกใหผ้ มคอ่ ยๆ งดั ตะปทู ตี่ อกลงั
ไว้ออกช้าๆ ผมใคร่รู้และปฏิบัติตาม เม่ือถอนตะปูออกจนหมด ฝาลังก็
หลดุ  พเี่ สทำ� ราวกบั วา่ ทกุ อยา่ งในลงั ทขี่ นหอบหวิ้ กลบั มามนั มคี า่ คณานบั  
ข้าวของประดามีในลังไม้ท่ีผมเห็นมีอยู่สองสามอย่าง ม้วนวิดีโอสภาพ
โกโรโกโส หนงั สอื พจนานกุ รมเกา่ ครำ�่  และซากวสั ดดุ กึ ดำ� บรรพค์ ลบั คลา้ ย
รูปหล่อจ�ำลองแบบลอยตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มองเผินๆ คล้ายช้ิน
ส่วนฟอสซลิ แตกหกั แหว่งวนิ่ จากบรรพกาล

พี่เสนั่งลงหยิบส่ิงต่างๆ ออกจากลังขึ้นวางเรียงบนช้ันที่ต่อไว้
หยาบๆ ในเพิงสงั กะสี 

“พี่เก็บพจนานุกรมนี้ไว้ท�ำไม” ผมถามอยา่ งสงสยั  
“มึงรู้รึเปล่าว่าความยุติธรรมมันมีอยู่จริงก็แค่ในพจนานุกรมท่ี
มึงเห็นอยู่ตรงหน้านี้เท่าน้ันล่ะ” พี่เสเปิดพจนานุกรมหน้าท่ีมีเชือกค่ันไว้

138 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

แลว้ ย่นื ให้ผมดู
‘ยตุ ิธรรม’ ผมอ่านถ้อยคำ� และความหมายของมนั ในวงกลมทว่ี ง

รอบไวด้ ้วยหมกึ ดำ�  แล้วมองไปท่ีกระสอบปยุ๋ ใบเขือ่ ง รอยคราบเลือดซมึ
ไหลเป็นทางออกมานอกกระสอบแห้งกรัง ผมเอ้ือมมือกระตุกเชือกที่มัด
ปากกระสอบปยุ๋ หลดุ ออก กลนิ่ คาวเลอื ดอวลเหมน็ คลงุ้ ขน้ึ ถบี จมกู  สายตา
จอ้ งมองสง่ิ ทอี่ ย่ภู ายใน

พลันนั้นความรู้สึกของผมเหมือนด่ิงจมไปในภวังค์เร่ืองเล่าของ
คนที่ใครๆ ในหมบู่ ้านต่างก็วา่ เขาเป็นคนวกิ ลจรติ

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 139



นครลิง

ขัน สผี า

ผมสะดุ้งต่ืนเพราะรับรู้ถึงรถไฟที่ค่อยๆ ชะลอความเร็วลง ผมปรับตาให้
เขา้ กบั แสงแดดยามเชา้ ทกี่ ำ� ลงั แยงตา มองไปทม่ี า้ นง่ั ฝง่ั ตรงขา้ ม ไมเ่ หน็
ป้าแล้ว แกคงลงสถานีไหนสักสถานีก่อนหน้าน้ี ป้าเพื่อนร่วมทางจาก
หัวล�ำโพง ผู้มาพร้อมกับถุงกระสอบสายรุ้งพะรุงพะรังเสื้อคอเว้าลายเสือ
ดาวกับเลกกิ้งลายม้าลาย ตัดด้วยสร้อยลูกปัดสีแดงฉูดฉาด รวมๆ แล้ว
ก็ดูโดดเด่นอย่างไม่ลงตัว แกเดินพลางก้มมองต๋ัวและเลขท่ีน่ัง ก่อนจะ
หยุดที่ม้าน่ังฝั่งตรงข้ามผม ยกแว่นหรี่ตามองเลขท่ีติดกับผนังรถไฟอยู่
สักพัก พยายามจะยกถุงสัมภาระข้ึนวางบนช้ันวางเหนือม้าน่ัง “ผมช่วย
ครับ” ผมเอ่ย พลางช่วยยกสัมภาระขึ้นไว้บนชั้นวาง ป้าหันมาย้ิมบอก
ขอบใจ ก่อนจะนั่งลงและเร่ิมต้นบทสนทนา ด้วยค�ำถามว่าผมมาจาก
ไหน เถือกเถาเหล่ากอ ท่ีอยู่การงาน ไม่นานก็พาผมไปร่วมอุดมการณ์
กับแกด้วยการเล่าเรื่องการชุมนุมไปจนถึงอุดมการณ์ประชาธิปไตยท่ีแท้
จริงอย่างออกรสออกชาติ ราวกับการชุมนุมพ่ึงเกิดขึ้นเมื่อไม่นานน้ีเอง
จบด้วยค�ำถามยอดฮิต “แล้วพ่อหนุ่ม สีไหนรึเรา?” ผมไม่นึกว่าจะได้
เจอค�ำถามเร่ืองสีเส้ือ เรื่องการชุมนุมแบ่งพวกแบ่งฝ่ายแบบนี้ เพราะก็
นานหลายปีแล้วหากนับจากการชุมนุมคร้ังสุดท้าย ผมย้ิมเฝื่อนๆ ให้ป้า

โดยที่ไม่มีค�ำตอบยืนยันหรือปฏิเสธอะไรให้แก แกคงรับรู้ได้ถึงพลังงาน
อะไรบางอย่างจากความเงียบ หรือไม่ก็เริ่มระแวงว่าผมคือฝ่ายตรงข้าม
หรือเปล่า เลยท�ำให้แกเงียบไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเลย เป็นอันจบ
บทสนทนาอันยาวเหยียดของผมกับป้าลง บทสนทนาท่ีมีความยาวจาก
สถานีหวั ลำ� โพงถึงสถานดี อนเมอื ง 

ผมหลับตาลงตั้งแต่รถไฟเร่ิมเคล่ือนออกจากดอนเมือง รู้สึกตัว
เปน็ พกั ๆ แตก่ ็ไมไ่ ดล้ มื ตาขน้ึ มามองอะไรจนถงึ ตอนน ี้ เลยไมม่ โี อกาสได้
ลำ�่ ลาปา้ กอ่ นแกจะลง ผมมองนาฬกิ าทขี่ อ้ มอื เจด็ โมงหา้ สบิ นาท ี ลกุ ขนึ้ บดิ
ตวั ไปมา กอ่ นเออื้ มมอื ไปยกกระเปา๋ เดนิ ทางทอ่ี ยชู่ นั้ วางลงมา เพอื่ นรว่ ม
โบก้ีคนอ่ืนๆ ต่างสาละวนอยกู่ ับการเกบ็ สัมภาระของตวั เอง

“ทนี่ ส่ี ถานลี พบรุ  ี ทนี่ สี่ ถานลี พบรุ  ี เปน็ สถานปี ลายทางครบั ” เสยี ง
ประกาศจากสถานี รถไฟที่เคลื่อนจอดเทียบชานชาลา ผมมองดูนาฬิกา
อีกครั้ง “แปดโมงพอดีเป๊ะ” ผมพึมพ�ำ นับเป็นสถิติที่ไม่เลวส�ำหรับรถ
ท้องถิ่นสามศูนย์สามที่ผมชอบเรียกเจ้าหวานเย็น เลตจากก�ำหนดเวลา
นิดหน่อยไม่กี่สิบนาที ความถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างน่ีแหละที่ผมมองว่าเป็น
เสน่ห์ของการน่ังรถไฟกลับบ้าน “ถึงสักที นครลิงบ้านฉัน” ผมพูดก่อน
กา้ วลงจากรถ

แม้จะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ก่ีกิโล ผมก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน 
สักเท่าไร ครั้งล่าสุดก็เม่ือสองสามปีท่ีแล้วมั้ง ผมวางแผนว่าจะไม่กลับ
บ้านสักสิบปี ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษที่ท�ำให้คิดแบบน้ัน จนเม่ือวาน
ท่ีอยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกเบ่ือกรุงเทพฯ เบื่อวิถีชีวิตอันเร่งรีบ แสงสี รถลา เบ่ือ 
ตกึ ใหญโ่ ตทร่ี ายลอ้ มหอ้ งเชา่ เลก็ ๆ ของผม เบอื่ ในความเจรญิ  เบอ่ื การเมอื ง
เบ่ือรัฐบาล เบื่อการชุมนุมของนักศึกษาท่ีเร่ิมทยอยกันออกมาประณาม
และประทว้ งรฐั บาล เหตผุ ลทที่ ำ� ใหผ้ มตดั สนิ ใจเกบ็ กระเปา๋ กลบั บา้ นกเ็ พราะ
ผมรสู้ กึ วา่ อย่ใู กลก้ บั สง่ิ เหลา่ นม้ี ากเกนิ ไป ผมนงั่ รถแทก็ ซอี่ อกจากหอ้ งเชา่

142 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

แถวลาดพร้าวตอนตีสอง ไปหัวล�ำโพงโดยที่ไม่ได้นึกวางแผนว่าจะกลับ
บา้ นไปแลว้ จะทำ� อะไร แตท่ แ่ี นน่ อนโดยไมต่ อ้ งมแี ผนคอื  แมค่ งดา่ ไฟแลบ
โมโหเป็นฟืนเป็นไฟแน่ ถ้ารู้ว่าอยู่ดีๆ ผมก็จะกลับมาอยู่บ้าน ผมเดินไป
ตามรางรถไฟที่ทอดยาวไปขา้ งหนา้  เห็นพระปรางคอ์ ยไู่ ม่ไกลนัก พลาง 
นกึ หาขอ้ อา้ งดๆี  เพอื่ บอกกบั แม ่ เหตผุ ลทพ่ี อจะเลอื่ นการพพิ ากษา หรอื
รอลงอาญา ไม่ให้โดนก้านมะยมหรือต้องฟังค�ำด่าไปท้ังวัน ผมเดินนึก
จนลืมมองว่าก�ำลังเดินเข้าไปใกล้ฝูงลิงเจ้าถ่ินสี่ห้าตัวกำ� ลังเล่นอยู่บนราง
รถไฟ สายตาราวสิบคู่จ้องมาที่ถุงขนมในมือผม ต้ังท่าพร้อมจะว่ิงเข้า
ปะทะไดท้ กุ เมอื่  ผมรบี ยดั ถงุ ขนมลงในกระเปา๋ เป ้ ลว้ งหนงั สตกิ๊ อาวธุ คกู่ าย 
ชาวลพบุรี เหน่ียวยางแล้วเล็งไปท่ีเจ้าถ่ินที่ก�ำลังวิ่งกรูเข้ามา “มาไอ้จ๋อ
เข้ามา” มันแตกกระเจิงไปคนละทศิ ละทาง 

ผมตดั สนิ ใจเดนิ เลยปากซอยทางเขา้ บา้ น ผา่ นวดั นครโกษา เพอื่
ไปหาลงุ ศกั ดทิ์ ขี่ ายกาแฟโบราณแถวลานขา้ งศาลพระกาฬเจา้ ประจำ� ของ
ผม แกมกั มีไอเดียอะไรใหม่ให้ผมตลอด

“ลุง เอาชาด�ำเย็นแก้วหน่ึง” ผมตะโกนสั่งก่อนที่ตัวจะเดินไปถึง
รา้ น แกเงยหนา้ ขน้ึ มามองผมเหมอื นคนไมร่ จู้ กั กนั  จนผมเดนิ เขา้ ไปใกล้
ถึงรา้ นแก

“เอ้า!” น้�ำเสยี งแกดปู ระหลาดใจนิดหนอ่ ย “ไอ้หนุม่  เอง็ ไปไงมา
ไงเนีย่ ” แกถามผม

“มารถไฟ ไปละนะลุง สวัสดีครับ” ผมเล่นมุกพร้อมยกมือไหว้
ท�ำทา่ ก�ำลังจะเดนิ ไป

“เดยี๋ วๆ” แกปราม
ผมกบั ลงุ หวั เราะประสานเสยี งกนั  ใหม้ กุ หา้ บาทสบิ บาททผ่ี มมกั
จะกวนส้นแกเป็นประจ�ำต้ังแต่เด็กจนโต แม่มักจะพาผมมาขายดอกไม ้
ธูปเทียนที่ลานข้างศาลพระกาฬอยู่เป็นประจ�ำ จะบอกว่าผมเป็นเจ้าถ่ิน

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 143

ของลานนี้ก็ไม่ผิดนัก หากไม่นับไอ้จ๋อพวกนั้น กับลุงศักด์ิกาแฟโบราณ
รถพ่วงเจ้าเก่า ที่มักจะมาจอดเวลาเดิมใต้ร่มฉ�ำฉาใหญ่ ลุงแกมักจะเอา
ชาด�ำเย็นให้ผมกินเป็นประจ�ำ แกขายอยู่ท่ีนี่มานาน ขายต้ังแต่ถุงละ 
สามบาท จากรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคันเก่าๆ มาเป็นรถมอเตอร์ไซค์ท่ี
เกา่ กวา่ เดมิ  ทเ่ี พมิ่ มาตอนนกี้ ค็ งเปน็ ปา้ ยนนั่ โนน่ นต่ี ดิ เตม็ ไปหมด ผมเลย
สนทิ กบั แก ทำ� ใหไ้ ดช้ าดำ� เยน็ ฟรจี ากแกเกอื บทกุ วนั ตอนอยทู่ น่ี  ่ี ทผ่ี มชอบ
มาคยุ มาเลน่ กบั แก เพราะแกเปน็ คนตลกและมกั มองโลกในแงด่ เี สมอ แก
เลยมมี มุ มองอะไรหลายๆ อยา่ งทค่ี นมองโลกในแงล่ บอยา่ งผมไมม่  ี หลาย
ปีที่ไม่ได้เจอกันท�ำให้มีเร่ืองคุยมากมาย ทั้งสาระทุกข์สุกดิบ สัพเพเหระ
ทวั่ ไป เสียงหัวเราะอยา่ งมีความสขุ ดังสนั่นกันเปน็ ระยะ

“ลงุ ๆ ผมถามหนอ่ ย ไอแ้ กง๊ ทม่ี นั อยตู่ รงแถวรางรถไฟนนั่ นะ่  แกง๊
ใหมห่ รอ แกง๊ เกา่ หายไปไหน” ผมถามถงึ เจา้ จอ๋ ทป่ี ระจนั หนา้ กนั ระหวา่ ง
ทางจากสถานมี าทน่ี  ่ี พรอ้ มเลา่ วรี กรรมอนั หา้ วหาญใหแ้ กฟงั  ลงุ กห็ วั เราะ
ชอบใจใหญ่

“เปลา่ หรอก มนั กล็ กู หลานไอเ้ ผอื กนนั่ แหละ ไอแ้ กง๊ ทมี่ นั เคยไล่
กดั ตดู เอง็ กบั พวกตอนเดก็ นนั่ ไง” แกวา่  ทำ� ใหผ้ มนกึ ขน้ึ ได ้ วรี กรรมทเ่ี ลน่
กบั ลงิ ในตอนเดก็ ๆ ตอนดกี ด็ ปี านจะกลนื กนิ  เลน่ กนั มคี วามสขุ สนกุ สนาน
พอทะเลาะกัน คนกับลิงก็ได้ไล่กัดกันทุกที คนกับลิงท่ีน่ีใช้ชีวิตร่วมกัน
เป็นปกติจนบางทีก็ลืมไปเลยว่าพวกมันคือลิง แถวศาลพระกาฬ พระ
ปรางค์สามยอดน่ีศูนย์บัญชาการของพวกมันเลยก็ว่าได้ นักท่องเท่ียว
มาเทยี่ วแถวลพบรุ กี ต็ อ้ งโดนฤทธพ์ิ วกมนั กนั ทกุ คน ผมคดิ เลน่ ๆ วา่ สกั วนั  
มันคงจะครองท่ีน่ีไล่คนออกไปหมด ขึ้นปกครองกันเองจนกลายเป็น 
นครลิงในที่สุด

“ลูกหลานไอ้เผือกรึลุง” ผมถามแกเพราะไม่รู้ว่ามันส่งต่อ
อาณาเขตกนั จากรนุ่ สรู่ นุ่ มากเี่ จเนอเรชนั่ แลว้  ผมเลยไมร่ ถู้ งึ วงศาคณาญาติ 

144 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

พวกมัน ไอ้เผือกลิงเจ้าถ่ินประจ�ำรางรถไฟ อาณาเขตมันก็ตั้งแต่สถานี
รถไฟไปจนถึงวัดนครโกษาต้นปากซอยเข้าบ้านผม ต้นตระกูลมันคือลิง
ที่นั่งรถไฟจากลพบุรีไปเที่ยวงานมังกร ที่นครสวรรค์ เท่ียวกันส�ำราญ
แต่ขากลับดันไปเจอลิงนครสวรรค์เจ้าถิ่น ยกพวกตีกันอุตลุด จนเป็นท่ี
เล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ แกเล่าซ้�ำความเดิมที่แกชอบเล่าให้ผมฟังเป็น
ประจำ�  พวกมนั ยงั คงความซา่ และความเกา๋  แมจ้ ะผา่ นมาหลายเจเนอเรชน่ั
ใหม่แลว้ กต็ าม  

“เองกลับมาท�ำไมวะ ข้าก็ลืมถาม” แกถามก่อนจะก้มไปชง 
ชาด�ำเย็นของผมต่อ 

“ไม่รู้สิลุง เบ่ือเมือง เบ่ือคน เบื่อการเมือง เบ่ือม็อบ เบื่อลุง...”
ผมลากเสยี งยาว ลุงแกชะงกั  เงยหนา้ ขน้ึ มามองผม

“ผมหมายถึงลุงข้างห้องนะ ไม่ใช่ลุงคนน้ัน” เสียงหัวเราะล่ันข้ึน
พร้อมกันอีกคร้งั

“แลว้ ลงุ ละ่ ” ผมถาม 
“ดีว่ะ ดีที่ข้าไม่ตายเนี่ย” แกส่ายหัว “แต่ก็นะ อย่างน้อยมันก็
ทำ� ใหเ้ ราไดร้ วู้ า่  เราควรเตรยี มพรอ้ มรบั มอื กบั สถานการณท์ เ่ี ลวรา้ ยและไม ่
คาดฝนั อยู่เสมอ” แกยังคงมีมมุ มองดีๆ กับสถานการณอ์ ันยำ่� แย่
“ลุงไม่เบื่อหรอ ท้ังรัฐบาล เศรษฐกิจ และการเมืองแบบนี้” ผม
หยบิ ชาดำ� เยน็ ทแ่ี กยนื่ ใหม้ าดดู สองสามอกึ  เพราะรสู้ กึ คอแหง้ และหวั เรมิ่
รอ้ นเมอื่ พดู ถงึ เรอื่ งพวกน ี้ ถา้ จะนบั ผมเปน็ พวกไมส่ นใจไยดแี ละไมแ่ ยแส
กบั การเมอื งก็ไมผ่ ดิ หนกั  ใครจะเลอื กใคร ใครจะไล่ใคร จะกอ่ มอ็ บชมุ นมุ
ผมก็ไม่สน แม้บางสถานการณ์จะเคยเกิดใกล้ตัวผมตอนอยู่ในกรุงเทพฯ
กต็ าม ผมกย็ งั รสู้ กึ วา่ มนั หา่ งไกลมากจากแนวคดิ และวถิ ชี วี ติ ผมอยดู่  ี “ผม
ละเบือ่ อยากหนีไปให้พ้น” ผมคยุ ตอ่ หลังดดู ชาด�ำเยน็ ไปค่อนแกว้
“เอ็งเลยกลับมาบ้านนี้หรอ” แกถามผมพยักหน้ารับเป็นนัยๆ

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 145

เพราะผมเองก็ยังไม่แน่ใจ ไม่รู้สาเหตุท่ีแน่นอนจนตอนน้ี นั่นอาจเป็น
สาเหตุหนึ่งท่ีท�ำให้ผมอยากหนีจากท่ีนั่น เพราะข่าวทีวีช่วงน้ี มีแต่ข่าว
มอ็ บไลร่ ฐั บาล ขา่ วการเมอื งอนั นา่ เบอื่ ซำ้� ไปซำ�้ มา ฉายซำ้� แลว้ ซำ้� อกี  เชา้  
เย็นราวกะว่านักข่าวพวกน้ันอยากจะลากผมเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ใจจะขาด

“เอ็ง หนีไม่พ้นหรอกไอ้หนุ่ม” แกว่า “มันอยู่ในชีวิต มันคือ 
จติ วญิ ญาณ” พรอ้ มทำ� ทา่ เหมอื นศลิ ปนิ วาดภาพชอื่ ดงั  ผมตลกกบั ทา่ ทาง
ของแก แตก่ ็ยังสงสยั กับค�ำทีแ่ กพูด

“เอ็ง หนีไม่พ้น เอ็งออกจาก นครคน เอ็งก็ต้องมาเจอนครลิง
อยู่ดี” ผมยังน่ังงงท่ีแกพูด ลุงมองหน้าผมเหมือนรู้ว่าผมก�ำลังสงสัย
เข้าไปใหญ่

“กน็ ่ีไง การเมอื งลงิ ในนครลงิ นี่ไง” 
“ลิงมีการเมืองด้วยหรอลุง” ผมยังไม่เข้าใจในส่ิงท่ีแกอยากจะ
บอก
“โน่นๆ เอ็งเห็นนั่นไหม” แกช้ีไปที่ทางตัดรางรถไฟ รถวิ่งสวน
กันไปมาไม่ขาดสาย แบ่งศาลพระกาฬและพระปรางค์ให้อยู่คนละฟาก
ของราง ลิงตัวหนึ่งก�ำลังแย่งถุงจากมือนักท่องเท่ียวสามคนที่ก�ำลังเดิน
ขา้ มจากฝง่ั พระปรางคม์ าศาลพระกาฬ “นนั่ ไง ไอท้ ก่ี ำ� ลงั แยง่ ของจากมอื
คนอยู่น่ัน” แกพยามยามช้ีย�้ำๆ ให้ผมเห็น “ไอ้ไข่แดง ศาลพระกาฬ ลิง
ศาลพระกาฬเป็นลิงท่ีขยายตัวออกมาจากฝูงลิงพระปรางค์สามยอด ผู้
ครองพื้นที่ท�ำกินภายในศาลพระกาฬท้ังหมด ของเซ่นไหว้ที่ผู้คนน�ำมา
ถวายพระกาฬจะตกเป็นของพวกมันโดยปริยาย ลิงฝูงอื่นไม่มีสิทธ์ิเข้า
มาหากนิ ในอาณาเขตน ้ี หากมฝี งู ไหนใครกลา้ ทา้ ทายอำ� นาจขนึ้ มาทหี นง่ึ  
ก็มีตะลุมบอนกันยกใหญ่ ลิงศาลพระกาฬแม้จะมีจ�ำนวนน้อยแต่ก็ครอบ
ครองทรพั ยากรอาหารอนั มีค่าไว้เยอะท่สี ดุ ”

146 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

“แลว้ ฝง่ั พระปรางคส์ ามยอดละ่ ลงุ ” ผมเรม่ิ สนกุ กบั สงิ่ ทแ่ี กเลา่ ให้
ฟงั จนอยากจะร้ตู ่อ “ตอนนี้ใครคุม”

“ไอด้ ำ�  พระปรางค ์ ผคู้ รอบครองอสงั หารมิ ทรพั ยท์ ่ีใหญท่ สี่ ดุ  แต่
เปน็ ลกู นอ้ งไอไ้ ขแ่ ดงมนั อกี ทนี ะ” ผมทำ� หนา้ งง ทำ� ไมผคู้ รองอาณาเขตอกี
ฝง่ั ถงึ ไดก้ ลายเปน็ ลกู นอ้ งของอกี ฝง่ั  “ไอด้ ำ� มนั ครองพระปรางคก์ จ็ รงิ  แต่
มนั กต็ อ้ งกนิ ขา้ วปลาอาหาร นอนนะ่  นอนท่ีไหนก็ได ้ แตอ่ าหารนะ่ สำ� คญั  
กว่า ไอ้ไข่แดงเลยมีอ�ำนาจต่อรองมากกว่า” ก็จริงของแก ผู้ท่ีมีอ�ำนาจ
ต่อรองที่สุดมักได้ครอบครองทุกอย่างเสมอไม่ว่าคนหรือลิง ลิงฝั่งศาล
พระกาฬจะไปอาศยั หลบั นอนทพี่ ระปรางค ์ เพราะทศ่ี าลมผี คู้ นพลกุ พลา่ น
อยตู่ ลอดเวลา แต่น่ันก็ไม่ท�ำให้ลงิ พระปรางคม์ อี ำ� นาจต่อรองไปมากกวา่
ลงิ ศาลพระกาฬ

“แสดงวา่ มนั ก็เป็นพันธมิตรกันส ิ ใช่ไหมลุง” ผมสงสัย
“ก็ไมเ่ ชงิ หรอกวะ่  มนั ตกี นั เองออกบอ่ ย” แกหวั เราะ “เขา้ ทำ� นอง
เพื่อนรกั พรอ้ มหกั เหลย่ี มโหดกระมัง”
“โน่นๆ” แกช้ีข้ามรางรถไฟ ไปที่ตึกฝั่งตรงข้ามกับลานข้างศาล
“ไอ้ไข่ยักษ์” ผมมองตามน้ิวที่แกช้ีไป แต่ก็ไม่ได้เห็นลิงตัวไหนไข่ยักษ์
อย่างท่ีคิด ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกไอเดียตั้งช่ือให้แก่พวกมันเป็นคน
แรกๆ ตอนนผ้ี มรสู้ กึ มนึ กบั บรรดาไอไ้ ขท่ ง้ั หลาย สายตากย็ งั พยายามมอง
หาลิงสักตัวท่เี ขา้ ขา่ ยตามชือ่
“พวกน้ันลิงตึก ฝูงน้ีประชากรเยอะสุด” ลิงตึกต้นตระกูลมันเป็น
เจ้าถิ่นท่ีศาลพระกาฬ จนวันหน่ึงไปยกลิงฝั่งพระปรางค์ข้ึนเป็นหัวหน้า
สุดท้ายโดนหักหลังไล่ตะเพิดมาอยู่ฝั่งตึกรามบ้านช่อง แม้จะมีคนแถว
นน้ั ใหอ้ าหารหรอื มเี ศษจากพอ่ คา้ แมค่ า้ จากตลาดเทศบาลบา้ ง แตก่ ็ไม่ใช่
ของกนิ ทด่ี แี ละอดุ มสมบรู ณเ์ หมอื นกบั ฝง่ั ศาลพระกาฬ มนั เลยเปดิ ศกึ ทวง
คืนอาณาเขตและแย่งชิงอาหารกับฝั่งศาลอยู่เรื่อยๆ ผมฟังเร่ืองเล่าจาก 

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 147

ลงุ  จนเหน็ ภาพจนิ ตนาการเปน็ หนงั ฟอรม์ ยกั ษม์ แี อคชนั่ บรู๊ ะหำ�่  หกั เหลย่ี ม 
เฉือนคม ก่อนจะถกู ขัดจังหวะดว้ ยลูกค้าสองสามคนเขา้ มาสง่ั กาแฟ

ผมนงั่ นกึ เพลนิ หากเปรยี บเทยี บเปน็ คนกค็ งวนุ่ วายนา่ ด ู ทรพั ยากร
อันส�ำคัญมักตกอยู่ในมือของกลุ่มคนส่วนน้อยเสมอ ในขณะที่ประชากร
ส่วนใหญ่ไม่สามารถครอบครองทรัพยากรเหล่าน้ันได้เลย อ�ำนาจต่อ
รองจึงเป็นของกลุ่มคนส่วนน้อยนี้ ส่วนกลุ่มประชากรส่วนใหญ่เอง ก็ดู
เหมือนเต็มใจยอมรับต่ออ�ำนาจเหล่านั้นโดยดุษณี ผมเร่ิมรู้สึกว่าผมเป็น
คนสว่ นใหญท่ เ่ี มนิ เฉยและยอมรบั กบั สง่ิ เหลา่ นนั้  ทกุ คนควรมสี ทิ ธเิ์ ขา้ ถงึ
ทรัพยากรเหล่าน้ันอย่างเท่าเทียมกัน ให้แบ่งกันเองคงแย่งชิงกันไม่ต่าง
จากลิงพวกนี้ ใครสักคนจึงถูกเลือกให้มาเป็นตัวแทนท�ำหน้าที่จัดสรร 
ทรัพยากรให้ทุกๆ คน แต่หากตัวแทนหักหลังเกิดคิดจะรวบทุกอย่างไว้
เสียเอง ก็คงไม่ต่างจากนครลิงแห่งน้ี นึกไปนึกมา ฤาผมจะหนีไม่พ้น
การเมืองอยา่ งที่ลงุ ว่าจริงๆ

ผมเล่าให้ลุงฟังในส่ิงที่ผมคิดได้ระหว่างรอแกชงกาแฟให้ลูกค้า
ทฤษฎีการเมืองท่ีผมกล่ันกรองออกมาจากความรู้ท่ีได้ร�่ำเรียนมา เพ่ือ
ให้สมกับท่ีแกพยายามเล่าเรื่องนครลิง อันเต็มไปด้วยการเปรียบเปรย
ทางการเมือง การเสียดสที างสังคม หักเหล่ยี ม เฉอื นคมใหผ้ มฟงั

“ใช่ ใช่ไหมลุง” ผมถามแกเพ่ือยืนยันว่าแนวคิดท่ีพึ่งบอกไปตรง
กับสงิ่ ท่แี กอยากจะบอกผ่านเรือ่ งเล่า

“เปลา่ ” แกวา่  กอ่ นผมจะรอ้ งสวน “อา้ ว” ทำ� หนา้ งงๆ ทฤษฎอี นั
ดชู าญฉลาดของผมเหมือนถูกลงิ ตวั ไหนสักตัวขโมยออกไปจากหวั ผม

“ลงิ ไมไ่ ดม้ าจากการเลอื กตง้ั  แคน่ นั้ แหละทข่ี า้ อยากจะบอก” แก
หัวเราะแบบสะใจ ปล่อยให้ผมงุนงงอยู่กับแง่คิดบทสรุป ดูคล้ายปรัชญา
การเมอื งที่แกพึง่ บอก

ผมก้มมองนาฬิกา เที่ยงย่ีสิบนาที เป็นบทสนทนาท่ียาวนาน

148 วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้

หลายช่ัวโมงโดยที่ไม่รู้สึกเบื่อเลย แม้จะยังงงกับบทสรุปท้ายเร่ืองของลุง 
แต่ก็ร้สู กึ ว่าคุ้มค่ากบั การกลับบา้ นมาครง้ั น ี้ และพอจะคิดเหตุผลดๆี  เพอ่ื
ตอบค�ำถามของแม่ ถึงการหนีออกจากงานที่กรุงเทพฯ แล้วกลับลพบุรี
ของผม ผมบอกลาลุง ยกกระเป๋าสัมภาระบ่นพึมพ�ำเร่ืองท่ีอาจจะโดน
ไม้เรียวจากแม ่

“เห็นไหมไอ้หนุ่ม เอ็งก�ำลังเข้าใกล้การเมือง” ลุงตะโกนไล่หลัง
ผมมา

“ยังไงลงุ ” ผมตะโกนกลับไป โดยไม่เหลียวหลงั ไปมองแก
“เผดจ็ การแบบเบด็ เสรจ็ ของแมเ่ อ็งไงเล่า” 
สดุ ทา้ ยผมรสู้ กึ วา่ ตกอยู่ในวงลอ้ มการเมอื งเสยี แลว้  แตช่ า่ งเถอะ
“แมเ่ ราไมไ่ ดม้ าจากการเลอื กตงั้ เสยี หนอ่ ย” ผมยม้ิ คนเดยี วไปตามรางรถไฟ

ประจำ� ปี ๒๕๖๓ 149


Click to View FlipBook Version