คำนำ
ด้วยกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดกลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสต ร์ วิทยาศาสตร์ แล ะสาระภูมิ ศาสตร์ใน กลุ่มสาระ การเรียน รู้สังคมศึก ษา ศาสน า
และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ ตามคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการท่ีสพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
และคาสั่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ เรื่อง
ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ท้ังนี้ให้
โรงเรียนใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดที่ปรับปรุงต้ังแต่ศึกษา ๒๕๖๑ ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑
และ ๔ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ส่วนปีการศึกษา ๒๕๖๒
ให้ใช้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑, ๒, ๔ ,๕ และช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑, ๒, ๔ และ ๕ และใช้ทุกช้ันปี
ต้ังแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ การปรับปรุงหลักสูตรคร้ังนี้ยังคงหลักการและโครงสร้างเดิมของหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แต่มุ่งเน้นการปรับปรุงเนื้อหาให้มีความทันสมัย
ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการต่าง ๆ คานึงถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียน มีทักษะ
ท่ีจาเป็นสาหรับการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เป็นสาคัญ เตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ
พร้อมท่ีจะประกอบอาชีพ เม่ือจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อในระดับท่ีสูงขึ้น สามารถแข่งขันและ
อยรู่ ว่ มกับประชาคมโลกได
โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครักษป์ ระชา)จงึ ไดจ้ ดั ทาการหลกั สูตรสถานศึกษา พุทธศกั ราช ๒๕๖๒
(ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ปรับปรงุ
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม เพ่อื นาไปใช้ประโยชน์และเปน็ กรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสตู รของสถานศึกษา
และจดั การเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มีกระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การ
ปฏิบัติ โดยมกี ารกาหนดวิสยั ทศั น์ จดุ หมาย สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มาตรฐาน
การเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ดั โครงสร้างเวลาเรยี น ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมนิ ผลให้มคี วามสอดคล้องกับมาตรฐาน
การเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนดทิศทางในการจดั ทาหลักสตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดับ
ตามความพร้อมและจดุ เนน้ โดยมกี รอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ีชดั เจนเพ่ือตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มี
ความพร้อมในการกา้ วสสู่ ังคมคุณภาพ มคี วามรอู้ ยา่ งแทจ้ รงิ และมที ักษะในศตวรรษท่ี ๒๑
มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั ท่ีกาหนดไวใ้ นเอกสารน้ี ช่วยทาให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ในทุกระดับ
เห็นผลคาดหวงั ที่ตอ้ งการในการพัฒนาการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นที่ชัดเจนตลอดแนว ซ่งึ จะสามารถชว่ ยให้หนว่ ยงานที่
เกีย่ วข้องในระดบั ทอ้ งถ่นิ และสถานศึกษารว่ มกนั พัฒนาหลกั สตู รได้อย่างมั่นใจ ทาใหก้ ารจดั ทาหลักสตู รในระดับ
สถานศึกษามีคณุ ภาพและมคี วามเป็นเอกภาพยิง่ ขนึ้ อีกท้งั ยงั ช่วยให้เกิดความชดั เจนเรอ่ื งการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้ และช่วยแกป้ ญั หาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังน้ันในการพัฒนาหลักสูตรในทุกระดับต้ังแต่
ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดท่ีกาหนดไว้ใน
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน รวมท้งั เปน็ กรอบทศิ ทางในการจดั การศกึ ษาทกุ รปู แบบ และครอบคลุม
ผู้เรยี นทกุ กลุ่มเปา้ หมายในระดบั การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน
การจัดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีคาดหวังได้ ทุกฝ่ายที่
เกี่ยวข้องทง้ั ระดบั ชาติ ชุมชน ครอบครัว และบคุ คลตอ้ งร่วมรับผดิ ชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบ และ
ตอ่ เนื่อง ในการวางแผน ดาเนนิ การ สง่ เสรมิ สนบั สนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรงุ แกไ้ ข เพ่อื พัฒนาเยาวชนของ
ชาตไิ ปสู่คณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ท่ีกาหนดไว้
ฝา่ ยวชิ าการ โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา)
สำรบัญ
เร่ือง หนำ้
ส่วนนา..................................................................................................................................................... ๑
ความนา..................................................................................................................................... ๑
ปรชั ญาประจาโรงเรยี น.............................................................................................................. 3
ปณธิ าน...................................................................................................................................... 3
สญั ลักษณ์ประจาโรงเรยี น ......................................................................................................... 3
สปี ระจาโรงเรียน........................................................................................................................ 3
เอกลกั ษณ.์ ................................................................................................................................. 3
อตั ลักษณ์................................................................................................................................... 3
วสิ ัยทศั น์.................................................................................................................................... 4
พันธกจิ ....................................................................................................................................... 4
เป้าประสงค.์ .............................................................................................................................. 4
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์........................................................................................................ 5
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น....................................................................................................... 5
การจดั เวลาเรยี น........................................................................................................................ 6
โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษา............................................................................................................... ๗
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้............................................................................................................... 15
คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐานและรหัสตวั ชวี้ ดั ............................................................................................. 22
- วิชาภาษาไทย......................................................................................................................... 22
- วชิ าคณติ ศาสตร์..................................................................................................................... 36
- วชิ าวิทยาศาสตร์.................................................................................................................... ๔7
- วิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม................................................................................. ๕9
- วิชาประวตั ิศาสตร์................................................................................................................. 72
- วิชาสุขศึกษาและพลศกึ ษา.................................................................................................... 80
- วิชาศลิ ปะ.............................................................................................................................. 89
- วิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยี.......................................................................................... 97
- วิชาภาษาตา่ งประเทศ........................................................................................................... ๑05
- วิชาหน้าที่พลเมือง................................................................................................................. 113
กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น............................................................................................................................ ๑26
คาอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น............................................................................................... 129
แนวทางการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน.......................................................................................... 138
การวัดและประเมนิ ผลและเกณฑ์การจบการศึกษา............................................................................... ๑๓9
บรรณานุกรม...................................................................................................................... .................. ๑48
คณะผจู้ ัดทา.......................................................................................................................................... ๑50
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลองครักษ์ (ผดงุ องครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๑
สว่ นนา
ความนา
หลักสตู รโรงเรียนอนุบาลองครกั ษ์ (ผดุงองครกั ษป์ ระชา) พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรงุ
พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ เปน็ แผนหรือ
แนวทางของการจัดการศกึ ษาของโรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) ทีจ่ ะใช้เปน็ แนวทางใน
การจัดการเรยี นการสอน เพื่อพัฒนาผู้เรยี นใหม้ คี ุณภาพตามมาตรฐานทกี่ าหนด มุ่งพฒั นาผเู้ รยี นให้เป็น
คนดี คนเก่ง อยูใ่ นสังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ มีศกั ยภาพในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ โดยมงุ่ หวังใหม้ ี
ความสมบรู ณท์ ั้งด้านรา่ งกาย จติ ใจ และสติปญั ญา อีกทง้ั มคี วามรแู้ ละทกั ษะ ท่จี าเป็นสาหรบั การดารงชีวติ
และมคี ณุ ภาพได้มาตรฐานสากลเพื่อการแขง่ ขันในยคุ ปจั จบุ นั ดงั นน้ั หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์
(ผดงุ องครกั ษ์ประชา) พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ จึงประกอบดว้ ยวิสยั ทศั นข์ องโรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์
(ผดุงองครักษป์ ระชา) สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ โครงสรา้ งหลักสตู ร
คาอธิบายรายวิชา กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น และเกณฑก์ ารจบการศึกษา
เอกสารหลกั สตู รการศึกษาขน้ั พื้นฐาน โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา)
พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ นี้ จัดทาขึ้นสาหรบั โรงเรยี นได้นาไปใชเ้ ป็นกรอบและทศิ ทางในการจัดทาหลกั สูตรใน
กล่มุ สาระตา่ งๆ และจัดการเรียนการสอนเพื่อพฒั นาเดก็ และเยาวชนไทยทกุ คนในระดบั การศึกษาข้ัน
พื้นฐานใหม้ คี ณุ ภาพด้านความรู้ และทกั ษะท่จี าเปน็ สาหรบั การดารงชีวติ ในสังคมทม่ี กี ารเปล่ยี นแปลง และ
แสวงหาความรเู้ พ่ือพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ งตลอดชีวติ
นอกจากน้ี การศกึ ษาข้อมลู เกี่ยวกบั ทิศทาง กรอบยุทธศาสตร์ แผนแมบ่ ท และกฎหมายท่ี
เกยี่ วขอ้ งกบั การพัฒนาประเทศ พบวา่ ประเดน็ สาคัญเพอื่ แปลงแผนไปสูก่ ารปฏิบัติใหเ้ กิดผลสัมฤทธ์ิได้
อย่าง แท้จรงิ คอื การเตรยี มพรอ้ มดา้ นกาลังคนและการเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของประชากรในทกุ ช่วงวยั
มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพทุนมนุษยข์ องประเทศ โดยพฒั นาคนใหเ้ หมาะสมตามชว่ งวยั เพอ่ื ใหเ้ ตบิ โต
อยา่ งมีคุณภาพ การพัฒนาทักษะทส่ี อดคลอ้ งกบั ความต้องการในตลาดแรงงานและทกั ษะทีจ่ าเป็น ต่อการ
ดารงชวี ติ ในศตวรรษ ที่ 21 ของคนในแต่ละช่วงวัยตามความเหมาะสม การเตรยี มความพร้อมของกาลงั คน
ด้าน วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยที ่ีจะเปล่ยี นแปลงในอนาคต ตลอดจนการยกระดบั คุณภาพการศึกษาสู่
ความเป็นเลศิ ดงั นนั้ การขบั เคลือ่ นยทุ ธศาสตรช์ าติ เพอื่ เตรยี มความพรอ้ มคนใหส้ ามารถปรบั ตวั รองรบั
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้อยา่ งเหมาะสม กระทรวงศึกษาธกิ ารจึงกาหนดเป็นนโยบายสาคญั และ
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๒
เรง่ ด่วนใหม้ ีการปรับปรงุ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
รวมทงั้ สาระเทคโนโลยี โดยมอบหมายใหส้ ถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
ดาเนนิ การปรบั ปรุง กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ และสาระ
เทคโนโลยี และมอบหมายใหส้ านกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานดาเนินการปรบั ปรุงสาระ
ภมู ิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม การปรบั ปรงุ หลกั สตู รครงั้ น้ี
ยังคงหลักการและโครงสรา้ งเดมิ ของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 คอื
ประกอบดว้ ย 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศลิ ปะ การ งานอาชีพและเทคโนโลยี และ
ภาษาตา่ งประเทศ แตม่ ุ่งเน้นการปรบั ปรงุ เน้ือหาใหม้ คี วามทนั สมยั ทันตอ่ การ เปลี่ยนแปลงและความ
เจรญิ กา้ วหน้าทางวทิ ยาการตา่ ง ๆ คานึงถงึ การสง่ เสรมิ ใหผ้ ้เู รียน มที ักษะทจ่ี าเป็นสาหรบั การเรยี นรใู้ น
ศตวรรษที่ 21 เป็นสาคัญ เตรยี มผูเ้ รียนใหม้ คี วามพรอ้ มทีจ่ ะเรยี นรสู้ งิ่ ต่าง ๆ พร้อมทจ่ี ะ ประกอบอาชพี เมอ่ื
จบการศึกษา หรอื สามารถศึกษาตอ่ ในระดบั ทสี่ งู ขึน้ สามารถแขง่ ขันและอยรู่ ว่ มกับ ประชาคมโลกได้
กรอบในการปรบั ปรงุ คอื ให้มอี งค์ความรทู้ เ่ี ป็นสากลเทยี บเท่านานาชาติ ปรบั มาตรฐานการ
เรียนรแู้ ละตวั ช้วี ัดให้มคี วามชดั เจน ลดความซา้ ซ้อน สอดคลอ้ งและเชื่อมโยงกันภายในกลมุ่ สาระการเรียนรู้
และระหวา่ งกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนเชื่อมโยงองค์ความร้ทู างวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และ
เทคโนโลยี เข้าดว้ ยกัน จดั เรยี งลาดบั ความยากงา่ ยของเนื้อหาในแตล่ ะระดับชัน้ ตามพฒั นาการแตล่ ะชว่ งวัย
ให้มคี วาม เช่ือมโยงความรแู้ ละกระบวนการเรียนรู้ โดยใหเ้ รยี นรผู้ ่านการปฏิบตั ทิ ีส่ ง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นพัฒนา
ความคิด สาระสาคัญของการปรับปรงุ หลักสตู ร มดี งั น้ี
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร์
1.1 จดั กลุ่มความรู้ใหม่และนาทกั ษะกระบวนการไปบูรณาการกับตัวชว้ี ัด เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ
การคดิ วเิ คราะห์ คิดแกป้ ญั หา และมีทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
๑.๒ กาหนดมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัดสาหรบั ผเู้ รยี นทกุ คน ทเ่ี ป็นพ้นื ฐานทเี่ กี่ยวข้องกบั
ชวี ติ ประจาวนั และเป็นพน้ื ฐานสาคญั ในการศึกษาตอ่ ระดบั ท่สี งู ข้นึ
๑.๓ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 – 6 กาหนดตัวช้ีวัด เป็นรายปี เพอ่ื เป็นแนวทางให้ สถานศึกษา
จดั ตามลาดบั การเรยี นรู้ อยา่ งไรกต็ ามสถานศกึ ษาสามารถพจิ ารณาปรับเลอ่ื นไหลระหว่างปีไดต้ าม ความ
เหมาะสม
2. กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ไดเ้ พมิ่ สาระเทคโนโลยี ซ่ึงประกอบด้วยการ ออกแบบและ
เทคโนโลยี และวิทยาการคานวณ ทงั้ นเี้ พื่อเอื้อตอ่ การจัดการเรียนรบู้ รู ณาการสาระทางคณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กับกระบวนการเชิงวิศวกรรม ตามแนวคดิ สะเตม็ ศกึ ษา
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครักษ์ประชา) ห น้ า | ๓
๓. สาระภูมิศาสตร์ ซ่ึงเปน็ สาระหนงึ่ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ได้
ปรบั มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชี้วดั ให้มคี วามชัดเจน สอดคลอ้ งกบั พฒั นาการตามช่วงวัย มีองค์ความรทู้ ่ี
เป็นสากล เพมิ่ ความสามารถ ทักษะ และกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ทีช่ ัดเจนขึ้น
การจดั หลักสูตรการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน โรงเรียนอนุบาลองครกั ษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) พุทธศักราช
๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ น้ี จะประสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมายทีค่ าดหวงั ได้ ทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องท้ังระดับ ครอบครัว ชุมชน
และบุคคลทกุ ภาคส่วนตอ้ งมสี ่วนรว่ มในการรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบ และต่อเน่ืองใน
การวางแผน ดาเนนิ การ ส่งเสริม สนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรบั ปรุงแกไ้ ข เพอ่ื พัฒนาเยาวชนของชาติ
ไปสคู่ ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรูท้ ่ีกาหนดไว้
ปรัชญาประจาโรงเรยี น
สุวิชาโน ภวโหติ
ผ้มู คี วามรดู้ เี ป็นผู้เจรญิ
ปณิธาน
โรงเรยี นน่าอยู่ ครดู ี นกั เรียนมคี ุณภาพ
สัญลกั ษณ์ประจาโรงเรียน
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๔
สปี ระจาโรงเรียน
แสด-ขาว
เอกลกั ษณ์
โรงเรียนดปี ระจาตาบล
โรงเรยี นคุณภาพประจาตาบล
อตั ลักษณ์
นักเรยี นมีวินัย ใช้ ICT เพือ่ การเรียนรู้ รกั การอ่าน
วิสยั ทศั น์
โรงเรยี นอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดุงองครกั ษป์ ระชา) มงุ่ การบริหารจดั การศึกษาให้บรรลุเป้าหมายตาม
มาตรฐานสถานศกึ ษา โดยเน้นให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ใช้ ICT เพื่อการเรยี นรู้ มีทกั ษะในการใช้
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ใช้หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม ยึดแนวตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
พันธกจิ
๑. ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรมและดารงไว้ซง่ึ วัฒนธรรมอนั ดีงามของไทย
๒. ส่งเสรมิ การจัดการเรยี นรทู้ กุ กลมุ่ สาระวิชาให้ไดเ้ กณฑม์ าตรฐาน
๓. ส่งเสรมิ ทักษะทางกีฬา เพอื่ พฒั นาสุขภาพอนามัยของนกั เรยี น
๔. ส่งเสริมใหม้ ีการจัดการเรยี นรู้ โดยใช้ส่อื เทคโนโลยที ท่ี ันสมัย
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๕
๕. พฒั นาบคุ ลากรภายในโรงเรียนใหม้ งุ่ สมู่ าตรฐานวชิ าชีพ
๖. สนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจดั การศกึ ษา
๗. ส่งเสรมิ พฒั นาสภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศภายในโรงเรยี นใหเ้ อ้อื ตอ่ การเรยี นการสอน
๘. ส่งเสริมการดาเนินชีวติ ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เป้าประสงค์
๑. นกั เรยี นมคี ุณธรรม จริยธรรม และดารงไว้ซง่ึ วฒั นธรรมอนั ดงี ามของไทย
๒. นักเรยี นมีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนผ่านเกณฑม์ าตรฐานทกุ กลมุ่ วิชา
๓. นกั เรยี นมีสขุ ภาพกาย และจิตใจทส่ี มบูรณ์
๔. ครูและนกั เรยี นมีทักษะในการใชส้ อ่ื เทคโนโลยที ีท่ ันสมัย
๕. ครทู ุกคนผ่านเกณฑก์ ารประเมินมาตรฐานท่ีทันสมยั
๖. คณะกรรมการสถานศกึ ษา คณะกรรมการเครอื ขา่ ย ผปู้ กครอง และชมุ ชนมสี ่วนร่วมใน
การจดั การศึกษา
๗. โรงเรยี นมสี ภาพแวดล้อมเอือ้ ตอ่ การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
๘. โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบบูรณาการยึดแนวตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง
คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๖
๖. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มจี ติ สาธารณะ
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
หลกั สตู รการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน โรงเรียนอนบุ าลองครักษ์ (ผดงุ องครกั ษ์ประชา) มุ่งพัฒนาผู้เรียน
ให้มีคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ จะชว่ ยให้ผู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั น้ี
๑. ความสามารถในการส่ือสาร เปน็ ความสามารถในการรบั และส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้
ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรูส้ ึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพอื่ ขจัดและ
ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้ อง
ตลอดจนการเลอื กใชว้ ิธกี ารสอื่ สาร ทมี่ ีประสทิ ธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบทม่ี ีต่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพ่อื การตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ท่ี
เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสมั พันธ์และการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ใน
การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา และมกี ารตดั สนิ ใจทม่ี ีประสทิ ธภิ าพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง
สังคมและส่ิงแวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆ ไปใช้ใน
การดาเนนิ ชวี ติ ประจาวัน การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรูอ้ ยา่ งต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่รว่ มกันใน
สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่าง
เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง
พฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ นื่
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่างๆ
และมที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ
ทางานการแกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม
การจัดเวลาเรยี น
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๗
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ได้กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนขั้นต่าสาหรับกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซ่ึงสถานศึกษาสามารถเพ่ิมเติมได้ตามความพร้อมและ
จดุ เนน้ โดยสามารถปรบั ใหเ้ หมาะสมตามบรบิ ทของสถานศึกษาและสภาพของผู้เรยี น ดังนี้
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษา (ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖) ใหจ้ ัดเวลาเรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียน
วันละไมเ่ กนิ ๕ ชวั่ โมง
การกาหนดโครงสรา้ งเวลาเรยี นพน้ื ฐาน และเพิม่ เตมิ โรงเรียนได้ดาเนินการ ดงั น้ี
ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ - ๖ ปรบั เวลาเรยี นพืน้ ฐานของแต่ละกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ไดต้ าม
ความเหมาะสม ทงั้ นี้ ต้องมีเวลาเรียนรวมตามท่กี าหนดไว้ในโครงสร้างเวลาเรยี นพนื้ ฐาน และผเู้ รยี นตอ้ งมี
คุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั ทีก่ าหนด
สาหรับเวลาเรียนเพ่ิมเติม ท้ังในระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ ให้จัดเป็นรายวิชาเพ่ิมเติม
หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พิจารณาให้สอดคล้องกับความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษาและเกณฑ์การจบ
หลกั สูตร ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑ – ๖ สถานศึกษาไดจ้ ัดใหเ้ ปน็ เวลาสาหรับสาระการเรียนรู้เพ่ิมเติมใน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า หน้าท่พี ลเมอื ง เพ่มิ เตมิ ๔๐ ช่วั โมง
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นทก่ี าหนดไว้ในชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ - ๖ ปีละ ๑๒๐ ช่ัวโมง เป็นเวลาสาหรบั
ปฏิบัติกจิ กรรมแนะแนวกจิ กรรมนกั เรยี น และกจิ กรรม เพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ในสว่ นกจิ กรรมเพ่ือ
สงั คมและสาธารณประโยชนใ์ หส้ ถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครักษ์ประชา) จัดสรรเวลาให้
ผู้เรยี นไดป้ ฏบิ ัติกจิ กรรม ดงั น้ี
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ จานวน ๑๐ ช่วั โมง
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ จานวน ๑๐ ชัว่ โมง
ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ จานวน ๑๐ ชัว่ โมง
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ จานวน ๑๐ ชั่วโมง
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ จานวน ๑๐ ช่ัวโมง
ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ จานวน ๑๐ ชว่ั โมง
จานวน ๖๐ ช่ัวโมง
รวม ๖ ปี
โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษา
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา) ห น้ า | ๘
โครงสร้างหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครักษ์ประชา) พทุ ธศักราช ๒๕๖๒
(ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดังนี้
กลมุ่ สาระการเรยี นรู/้ กิจกรรม เวลาเรียน
ระดบั ประถมศกึ ษา
ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖
กลุ่มสาระการเรยี นรู้
ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
วิทยาศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
เศรษฐศาสตร์
ภูมิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
ประวตั ิศาสตร์
สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐
ภาษาอังกฤษ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
รวมเวลาเรียน (พื้นฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
รายวิชาเพ่ิมเติม
หน้าท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
และการดาเนนิ ชวี ติ ในสังคม
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กจิ กรรมนักเรียน ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
- ลกู เสอื /เนตรนารี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
- ชมุ นมุ
กจิ กรรมเพือ่ สังคมและ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
สาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนท้ังหมด ๑,๐๐๐ ช่ัวโมง/ปี
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๙
โครงสร้างหลกั สูตรชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลาเรยี น
(ชม./ปี)
รายวิชา/กจิ กรรม (๘๔๐)
๒๐๐
รายวิชาพื้นฐาน ๒๐๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๘๐
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๑ ๘๐
* ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
๔๐
* เศรษฐศาสตร์
* ภูมศิ าสตร์ ๔๐
๔๐
ส๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ ๔๐
๑๒๐
พ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๑ (๔๐)
ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ๑ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๑ (๑๒๐)
อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๔๐
รายวิชาเพ่มิ เติม
ส๑๑๒๓๑ หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๑ ๓๐
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๔๐
กจิ กรรมแนะแนว ๑๐
กจิ กรรมนกั เรียน ๑,๐๐๐
- ลกู เสือ/เนตรนารี
- ชุมนมุ
กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๑๐
โครงสร้างหลกั สตู รชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลาเรยี น
(ชม./ป)ี
รายวิชา/กจิ กรรม (๘๔๐)
๒๐๐
รายวชิ าพ้นื ฐาน ๒๐๐
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒
ค๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ ๘๐
ว๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๒
ส๑๒๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒ ๘๐
* ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
๔๐
* เศรษฐศาสตร์
* ภมู ศิ าสตร์ ๔๐
๔๐
ส๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๔๐
๑๒๐
พ๑๒๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๒ (๔๐)
ศ๑๒๑๐๑ ศิลปะ๒ ๔๐
ง๑๒๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๒ (๑๒๐)
อ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒ ๔๐
รายวิชาเพิ่มเตมิ
ส๑๒๒๓๒ หน้าที่พลเมือง ๒
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
กิจกรรมแนะแนว
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา) ห น้ า | ๑๑
กิจกรรมนกั เรยี น ๓๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๔๐
- ชมุ นุม ๑๐
๑,๐๐๐
กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนท้ังส้ิน
โครงสรา้ งหลักสตู รชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลาเรียน
(ชม./ป)ี
รายวชิ า/กจิ กรรม (๘๔๐)
๒๐๐
รายวชิ าพ้ืนฐาน ๒๐๐
ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓
ค๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๘๐
ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓
ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓ ๘๐
* ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
๔๐
* เศรษฐศาสตร์
* ภูมศิ าสตร์ ๔๐
๔๐
ส๑๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๓ ๔๐
พ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๓
ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓
ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๓
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลองครกั ษ์ (ผดงุ องครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๑๒
อ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ๑๒๐
รายวิชาเพ่มิ เติม (๔๐)
๔๐
ส๑๓๒๓๓ หน้าท่พี ลเมือง ๓ (๑๒๐)
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๔๐
กิจกรรมแนะแนว ๓๐
กิจกรรมนกั เรียน ๔๐
๑๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๑,๐๐๐
- ชมุ นุม
กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรยี นท้ังสนิ้
โครงสรา้ งหลักสูตรชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลาเรียน
(ชม./ป)ี
รายวิชา/กจิ กรรม (๘๔๐)
๑๖๐
รายวิชาพน้ื ฐาน ๑๖๐
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ ๑๒๐
ค๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔
ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๔ ๘๐
ส๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔
* ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
* เศรษฐศาสตร์
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๑๓
* ภมู ศิ าสตร์ ๔๐
ส๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔ ๘๐
พ ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔ ๘๐
ศ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ ๔๐
ง๑๔๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔ ๘๐
อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ (๔๐)
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ๔๐
ส๑๔๒๓๔ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๔ (๑๒๐)
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ๔๐
กิจกรรมแนะแนว ๓๐
๔๐
กิจกรรมนกั เรยี น ๑๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๑,๐๐๐
- ชมุ นุม
กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทั้งสน้ิ
โครงสรา้ งหลักสูตรชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวชิ า/กจิ กรรม (๘๔๐)
รายวชิ าพืน้ ฐาน ๑๖๐
ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลองครกั ษ์ (ผดงุ องครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๑๔
๑๖๐
ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๑๒๐
ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕
ส๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๕ ๘๐
* ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ๔๐
* เศรษฐศาสตร์ ๘๐
* ภมู ิศาสตร์ ๘๐
๔๐
ส๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๕ ๘๐
(๔๐)
พ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๕ ๔๐
ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๕ (๑๒๐)
ง๑๕๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๕ ๔๐
อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕
รายวิชาเพ่มิ เตมิ ๓๐
ส๑๕๒๓๕ หนา้ ที่พลเมอื ง ๕ ๔๐
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๐
๑,๐๐๐
กจิ กรรมแนะแนว
กิจกรรมนกั เรยี น
- ลกู เสือ/เนตรนารี
- ชมุ นมุ
กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนท้ังสิ้น
โครงสรา้ งหลกั สูตรช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา) ห น้ า | ๑๕
รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวชิ าพื้นฐาน (๘๔๐)
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๑๖๐
ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ ๑๖๐
ว๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๖
ส๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ ๘๐
* ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
๘๐
* เศรษฐศาสตร์
* ภูมิศาสตร์ ๔๐
ส๖๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๖ ๘๐
๘๐
พ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๖ ๘๐
ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ ๘๐
ง๑๖๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๖ (๔๐)
อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ ๔๐
รายวชิ าเพม่ิ เติม (๑๒๐)
ส๑๖๒๓๖ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๖ ๔๐
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
กิจกรรมแนะแนว ๓๐
กจิ กรรมนกั เรียน ๔๐
๑๐
- ลกู เสอื /เนตรนารี ๑,๐๐๐
- ชมุ นมุ
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทั้งส้ิน
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลองครกั ษ์ (ผดุงองครักษ์ประชา) ห น้ า | ๑๖
ตัวชว้ี ัดช้ันปี / ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตัวชวี้ ัดชนั้ ปี รวม
สาระ มาตรฐาน ป.๑ ป. ๒ ป. ๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
๑. ภาษาไทย ๕ ๕ ๒๒ ๒๗ ๓๑ ๓๓ ๓๓ ๓๔ ๑๘๐
๒. คณติ ศาสตร์ ๓ ๗ ๑๐ ๑๖ ๒๘ ๒๒ ๑๙ ๓๑ ๑๒๖
๓. วทิ ยาศาสตร์ ๔ ๑๐ ๑๕ ๑๖ ๒๘ ๒๑ ๓๒ ๓๗ ๑๔๙
๔. สังคมศึกษา ฯ ๕ ๑๑ ๓๑ ๓๔ ๓๙ ๓๘ ๓๖ ๓๙ ๒๑๗
๕. สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๕ ๖ ๑๕ ๒๑ ๑๘ ๑๙ ๒๕ ๒๒ ๑๒๐
๖. ศลิ ปะ ๓ ๖ ๑๘ ๒๕ ๒๙ ๒๙ ๒๖ ๒๗ ๑๕๔
๗. การงานอาชพี ฯ 2 2 3 3 ๘ 5 6 ๑๓ ๓๘
๘. ภาษาต่างประเทศ ๔ ๘ ๑๖ ๑๖ ๑๘ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๑๐
๓๑ ๕๕ ๑๓๐ ๑๕๘ ๑๙๙ ๑๘๗ ๑๙๗ ๒๒๓ ๑,๐๙๔
รวม
หมายเหตุ
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครักษ์ประชา) ห น้ า | ๑๗
- ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1,2,4 และ ๕ ใชม้ าตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ในกล่มุ สาระการเรยี นรู้
คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
- ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ และ ๖ ใชม้ าตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ัดตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครักษ์ประชา) ห น้ า | ๑๘
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หา
ในการดาเนนิ ชวี ิต
สาระที่ ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราว
ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้า
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ
ความรใู้ นโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา และ
พลังของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ
สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็
คุณค่า และนามาประยกุ ต์ใช้ชวี ิตจริง
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
สาระที่ ๑ จานวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค. ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดุงองครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๑๙
ผลที่เกดิ ขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค. ๑.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสมั พนั ธ์ ฟังกช์ นั ลาดบั และอนุกรม และนาไปใช้
มาตรฐาน ค. ๑.๓ ใช้นพิ จน์ สมการ และอสมการ อธบิ ายความสมั พนั ธ์ หรือชว่ ยแกป้ ญั หา
ท่ีกาหนดให้
สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค. ๒.๑ เข้าใจพืน้ ฐานเกยี่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทีต่ ้องการวัด และนาไปใช้
มาตรฐาน ค. ๒.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสัมพันธร์ ะหวา่ งรปู เรขาคณติ
และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้
สาระที่ ๓ สถิตแิ ละความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค. ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถิติในการแกป้ ัญหา
มาตรฐาน ค. ๓.๒ เข้าใจหลักการนับเบื้องต้น ความนา่ จะเปน็ และนาไปใช้
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
สาระที่ ๑ วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสงิ่ ไม่มีชีวิต กับ
สิ่งมชี วี ติ และความสัมพันธ์ระหว่างสงิ่ มชี วี ิตกับสง่ิ มชี วี ิตต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ การ
ถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ ประชากร
ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการ
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสงิ่ แวดล้อม รวมทง้ั นาความรูไ้ ปใช้
ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออก
จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ขี องระบบต่าง ๆ ของสตั ว์และมนุษย์
ทีท่ างานสมั พนั ธ์กัน ความสมั พนั ธข์ องโครงสร้าง และหน้าท่ี ของอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ที่
ทางานสมั พนั ธ์กนั รวมทง้ั นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร
พนั ธกุ รรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธุกรรมทม่ี ผี ลต่อสิ่งมชี วี ติ ความหลากหลาย ทางชวี ภาพ
และววิ ฒั นาการของสง่ิ มชี วี ิต รวมท้ังนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ขิ อง สสารกับ
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา) ห น้ า | ๒๐
โครงสร้างและแรงยึดเหนย่ี วระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการ
เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิด ปฏิกริ ิยาเคมี
มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวนั ผลของแรงทีก่ ระทาตอ่ วัตถุ ลกั ษณะ การ
เคล่ือนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทัง้ นาความร้ไู ปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลยี่ นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหว่างสสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ิตประจาวนั ธรรมชาติของ คลื่น
ปรากฏการณ์ท่ีเก่ยี วข้องกับเสียง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทัง้ นาความรู้ไปใช้
ประโยชน์
สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี
ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ทสี่ ่งผลตอ่
สง่ิ มีชีวติ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองคป์ ระกอบและความสมั พันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลง ภายใน
โลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้า อากาศและ
ภูมิอากาศโลก รวมท้งั ผลต่อสิ่งมีชีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๑ เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชวี ิตในสงั คมทมี่ ีการเปลยี่ นแปลง
อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่นๆ
เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการ
ออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบตอ่
ชีวติ สงั คม และสงิ่ แวดล้อม
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขนั้ ตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และ
การแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๒๑
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ
ศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตาม
หลักธรรม เพ่ืออยูร่ ่วมกนั อยา่ งสันตสิ ขุ
มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏิบตั ิตนเปน็ ศาสนิกชนทีด่ ี และธารงรักษาพระพุทธศาสนา
หรอื ศาสนาท่ีตนนับถือ
สาระท่ี ๒ หนา้ ที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชวี ติ ในสงั คม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ทขี่ องการเป็นพลเมืองดี มคี า่ นิยมท่ีดงี าม และ
ธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ
สงั คมโลกอยา่ งสันติสุข
มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจบุ นั ยดึ มน่ั ศรัทธา และธารงรกั ษาไว้ซึ่งการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส.๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้
ทรพั ยากรท่มี ีอย่จู ากดั ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพและคุ้มคา่ รวมทง้ั เขา้ ใจหลักการของ
เศรษฐกิจพอเพียง เพือ่ การดารงชวี ติ อย่างมีดุลยภาพ
มาตรฐาน ส.๓.๒ เขา้ ใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสัมพนั ธท์ างเศรษฐกิจ
และความจาเป็นของการรว่ มมือกนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก
สาระที่ ๔ ประวัตศิ าสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้
วธิ ีการทางประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตุการณต์ ่าง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ นั ในด้านความสัมพนั ธแ์ ละ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณอ์ ย่างต่อเนือ่ ง ตระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถ
วเิ คราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กดิ ขนึ้
มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรกั
ความภูมิใจและธารงความเปน็ ไทย
สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เขา้ ใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสง่ิ ซง่ึ มผี ล ตอ่ กนั
ใช้แผนท่แี ละเครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตรใ์ นการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรปุ ขอ้ มลู
ตามกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ ตลอดจนใช้ภมู สิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ
มาตรฐาน ส ๕.๒ เขา้ ใจปฏิสมั พันธ์ระหว่างมนุษย์กบั สภาพแวดล้อมทางกายภาพทีก่ ่อใหเ้ กิดการ
สร้างสรรค์วถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ มีจติ สานกึ และมีสว่ นร่วมในการจดั การ
ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ มเพือ่ การพฒั นาที่ยั่งยืน
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๒๒
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
สาระท่ี ๑ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์
สาระท่ี ๒ ชีวิตและครอบครวั
มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเห็นคุณคา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที กั ษะในการดาเนินชวี ติ
สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที ักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลังกาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ
มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี ้าใจนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมใน
สนุ ทรียภาพของการกีฬา
สาระท่ี ๔ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณคา่ และมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกันโรค
และการสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ
สาระท่ี ๕ ความปลอดภัยในชีวติ
มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเล่ียงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา
สารเสพตดิ และความรนุ แรง
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
สาระที่ ๑ ทศั นศิลป์
มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ปต์ ามจนิ ตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์
วพิ ากษ์ วิเคราะห์คุณค่างานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้ศกึ ความคิดตอ่
งานศิลปะอย่างอสิ ระชืน่ ชม และประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั
มาตรฐาน ศ ๑.๒ เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งทศั นศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็น
คุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ท่เี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิน่ ภูมปิ ญั ญา
ไทยและสากล
สาระท่ี ๒ ดนตรี
มาตรฐาน ศ ๒.๑ เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรอี ยา่ งสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์
คณุ ค่าทางดนตรี ถ่ายทอดความรูส้ กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ชืน่ ชม
และประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลองครกั ษ์ (ผดุงองครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๒๓
มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณคา่
ของดนตรีทเี่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภมู ิปัญญาไทยและ
สากล
สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์
มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์
คุณค่านาฏศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชน่ื ชม
และในชีวติ ประจาวนั
มาตรฐาน ศ ๓.๒ เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เหน็
คุณค่าของนาฏศลิ ปท์ ี่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ภูมิปญั ญา
ไทยและสากล
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
สาระที่ ๑ การดารงชวี ิตและครอบครัว
มาตรฐาน ง ๑.๑ เขา้ ใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน ทักษะการ
จัดการทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทางานรว่ มกนั และทกั ษะการ
แสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรม และลกั ษณะนิสยั ในการทางาน มจี ิตสานกึ ในการใช้
พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม เพอื่ การดารงชีวติ และครอบครัว
สาระที่ ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจเทคโนโลยแี ละกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสรา้ งสง่ิ ของ
เครื่องใช้ หรือวธิ กี าร ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งมคี วามคดิ สร้างสรรค์
เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสรา้ งสรรคต์ ่อชีวติ สังคม สิ่งแวดล้อม และมสี ว่ น
รว่ มในการจดั การเทคโนโลยที ี่ยง่ั ยืน
สาระท่ี ๓ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ง ๓.๑ เขา้ ใจ เหน็ คณุ ค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสบคน้ ขอ้ มลู
การเรียนรู้ การสอ่ื สาร การแกป้ ญั หา การทางาน และอาชีพอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ประสทิ ธิผล และมคี ุณธรรม
สาระที่ ๔ การอาชีพ
มาตรฐาน ง ๔.๑ เข้าใจ มีทกั ษะท่ีจาเปน็ มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใช้
เทคโนโลยเี พอ่ื พัฒนาอาชพี มีคุณธรรม และมเี จตนคตทิ ด่ี ีตอ่ อาชีพ
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๒๔
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
สาระที่ ๑ ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความ คิดเหน็
อยา่ งมเี หตุผล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความ
คิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน
สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้อย่าง
เหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ่นื
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ บั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื และเปน็ พน้ื ฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครอื่ งมือพ้นื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับสังคมโลก
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา) ห น้ า | ๒๕
คาอธิบายรายวชิ า
ภาษาไทย
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๒๖
รายวิชาพื้นฐานและรายวชิ าเพม่ิ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ระดบั ประถมศกึ ษา
รายวิชา จานวน
(ชม./ป)ี
รายวชิ าพนื้ ฐาน
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ๒๐๐
ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒๐๐
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ ๑๖๐
ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑๖๐
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๑๖๐
รายวิชาเพ่ิมเติม
-
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลองครกั ษ์ (ผดงุ องครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๒๗
คาอธิบายรายวชิ าภาษาไทย ๑
รหัสวิชา ท๑๑๑๐๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลาเรียน ๒๐๐ ชวั่ โมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝึกอา่ นออกเสยี งสะกดคา แจกลูกและอ่านเป็นคา คาพ้ืนฐานที่ใช้ในชีวิตประจาวันไม่น้อยกว่า
๖๐๐ คา ไดแ้ ก่ คาท่ีมรี ูปวรรณยุกตแ์ ละไม่มรี ปู วรรณยกุ ต์ คาท่ีมีตัวสะกดตรงมาตราและไม่ตรงมาตรา คา
อกั ษรควบ อกั ษรนา ใหถ้ ูกตอ้ งตามหลักเกณฑ์ทางภาษา การอ่านข้อความ คาคล้องจอง เคร่ืองหมายหรือ
สัญลกั ษณท์ ีพ่ บเห็นในชวี ติ ประจาวนั
ฝกึ อา่ นออกเสียงและอ่านจับใจความข้อความ คาคล้องจอง และเรื่องราวประเภทนิทาน เร่ือง
สนั้ ๆ ปรศิ นาคาทาย บทรอ้ งเลน่ และบทเพลง บออาขยาน บทร้อยกรอง วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีเหมาะ
กับวัย และเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจแล้วตอบคาถาม เล่าเรื่องย่อ บอกข้อคิดและคาดคะเน
เหตุการณ์จากเร่ืองทอ่ี า่ น
ฝกึ เขียนพยัญชนะ สระ เลขไทย การเขียนสะกดคาทม่ี ีรปู วรรณยกุ ตแ์ ละไมม่ ีรปู วรรณยกุ ต์ คาท่ีมี
ตัวสะกดตรงมาตราและไม่ตรงมาตรา คาอักษรควบ อักษรนา ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทางภาษา การคัด
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดุงองครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๒๘
ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด การเขียนประโยค คาคล้องจอง และการเขียนสื่อสารด้วยประโยคง่ายๆ
ในชวี ิตประจาวนั
ฝกึ ฟังคาแนะนา คาสั่งงา่ ย ๆ และปฏบิ ัตติ าม ฟังเร่อื งราวทเี่ ปน็ ความรู้ และความบันเทิง ได้แก่
นทิ าน เร่ืองส้ัน ๆ ปริศนาคาทาย บทร้องเล่นและบทเพลง เรื่องเล่าและสารคดีสาหรับเด็ก การ์ตูน เรื่อง
ขบขนั แลว้ ตอบคาถาม เลา่ เรื่อง บอกขอ้ คดิ พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเร่อื งที่ฟงั และดู รวมทัง้
การท่องจาบทอาขยานทีก่ าหนดหรือบทร้อยกรองตามความสนใจ
เพ่อื ใหม้ ีความร้แู ละทักษะพน้ื ฐานในการอา่ น การเขียน การฟัง การดูและการพดู มคี วามรู้ความ
เขา้ ใจความหมายของคา ขอ้ ความและประโยค มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด
ตามวยั และมีนสิ ัยรกั การอ่าน
รหสั ตัวชีว้ ัด
สาระที่ ๑ การอ่าน
ท๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕ ป.๑/๖ ป.๑/๗ ป.๑/๘
สาระท่ี ๒ การเขยี น
ท๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓
สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู
ท๓.๑ ป.๑/๑ ป.๑/ ๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
ท๔.๑ ป.๑.๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔
สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลองครกั ษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๒๙
ท๕.๑ ป.๑.๑ ป.๑/๒
รวม ๒๒ ตัวช้วี ัด
คาอธบิ ายรายวชิ าภาษาไทย ๒
รหสั วิชา ท๑๒๑๐๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลาเรียน ๒๐๐ ช่ัวโมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดุงองครักษ์ประชา) ห น้ า | ๓๐
ฝกึ อา่ นออกเสียงสะกดคา แจกลูกและอ่านเป็นคา คาพื้นฐานท่ีใช้ในชีวิตประจาวันไม่น้อยกว่า
๘๐๐ คา ได้แก่ คาทมี่ รี ูปวรรณยกุ ต์และไมม่ ีรูปวรรณยกุ ต์ คาทีม่ ตี ัวสะกดตรงมาตราและไม่ตรงมาตรา คา
ควบกล้า อักษรนา คาท่ีมตี วั การนั ต์ คาทม่ี ี รร คาที่มพี ยญั ชนะและสระทไี่ ม่ออกเสียง คาทม่ี ีความหมายตรง
ข้ามกนั ฝึกผนั อกั ษรกลาง อกั ษรสูง และอกั ษรตา่ ตามหลกั เกณฑ์ทางภาษา การอ่านข้อความ คาคล้องจอง
เครอ่ื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ทีพ่ บเห็นในชวี ิตประจาวัน
ฝกึ อ่านออกเสียงและอา่ นจับใจความคาคลอ้ งจอง ข้อความ นทิ าน เรื่องเล่าสั้น ๆ บทเพลงและ
บทร้อยกรองง่าย ๆ ปริศนาคาทาย ข่าวและเหตุการณ์ประจาวัน บทอาขยาน บทร้อยกรอง บทร้องเล่น
ขอ้ เขยี นเชงิ อธบิ าย คาส่ังหรือข้อแนะนา วรรณคดีและวรรณกรรมที่เหมาะกับวัย และเลือกอ่านหนังสือ
ตามความสนใจแล้วต้ังคาถาม ตอบคาถาม เล่าเร่ืองย่อระบุใจความสาคัญ คาดคะเนเหตุการณ์ และบอก
ข้อคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน
ฝกึ เขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกตแ์ ละเลขไทย การเขยี นสะกดคาที่มีรูปวรรณยุกต์และไม่มีรูป
วรรณยุกต์ คาทมี่ ีตวั สะกดตรงมาตราและไม่ตรงมาตรา อักษรนา คาควบกล้า คาที่มีตัวการันต์ คาที่มี
รร ใหถ้ กู ต้องตามหลักเกณฑ์ทางภาษา การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด การแต่งประโยค การเรียบ
เรียงประโยคเป็นข้อความสั้นๆ การเขียนคาคล้องจองและการเขียนสื่อสารด้วยประโยคง่ายๆ ใน
ชีวติ ประจาวนั
ฝึกฟังคาแนะนา คาสั่งง่ายๆ และปฏิบัติตาม การฟัง การดูเร่ืองราวท่ีเป็นความรู้ และความ
บนั เทิง ไดแ้ ก่ นทิ าน เพลง เรือ่ งเล่า และสารคดีสาหรับเด็ก การ์ตูน เรื่องขบขัน รายการสาหรับเด็ก ข่าว
และเหตุการณป์ ระจาวันแล้วพดู ตัง้ คาถาม ตอบคาถาม เล่าเรอ่ื ง บอกสาระสาคัญ แสดงความคิดเห็น และ
ความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู ฝึกพูดส่ือสารในชีวิตประจาวัน ได้แก่ การแนะนาตนเอง การขอความ
ช่วยเหลือ การกล่าวคาขอบคุณ คาขอโทษ การพูดขอร้องในโอกาสต่างๆ การเล่าประสบการณ์ใน
ชีวิตประจาวนั รวมท้ังการท่องจาบทอาขยานทกี่ าหนดหรือบทร้อยกรองตามความสนใจ รู้จักคาภาษาไทย
มาตรฐาน และภาษาถิน่ ทพี่ บในชีวติ ประจาวนั และเลอื กใช้ได้อยา่ งเหมาะสม
เพอื่ ให้มคี วามร้แู ละทักษะพ้ืนฐานในการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพดู มคี วามรู้ความ
เข้าใจความหมายของคา ข้อความ ประโยค หลักการใชภ้ าษาไทยขน้ั พน้ื ฐาน และมมี ารบาทในการอ่าน การ
เขยี น การฟัง การดแู ละการพูดตามวยั
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๓๑
รหัสตวั ช้ีวดั
สาระที่ ๑ การอ่าน
ท๑.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗ ป.๒/๘
สาระท่ี ๒ การเขยี น
ท๒.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔
สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด
ท๓.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗
สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย
ท๔.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕
สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
ท๕.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓
รวม ๒๗ ตวั ช้วี ดั
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดงุ องครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๓๒
คาอธบิ ายรายวชิ าภาษาไทย ๓
รหัสวชิ า ท๑๓๑๐๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลาเรียน ๒๐๐ ชวั่ โมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝกึ อา่ นออกเสียงสะกดคา แจกลูกและอ่านเป็นคา คาพื้นฐานท่ีใช้ในชีวิตประจาวันไม่น้อยกว่า
๑,๒๐๐ คา ไดแ้ ก่ คาทีม่ ตี วั สะกดตรงมาตราและไม่ตรงมาตรา การผันอกั ษรกลาง อักษรสงู อกั ษรตา่ คาที่มี
พยัญชนะควบกลา้ คาที่มีอกั ษรนา คาท่ีประวิสรรชนียแ์ ละคาที่ไม่ประวิสรรชนีย์ คาท่ีใช้ ฑ ฤ ฤา คาท่ีใช้
บนั บรร คาท่ใี ช้ รร คาที่มีตัวการนั ต์ คาพ้อง คาทม่ี ีพยญั ชนะและสระไมอ่ อกเสียง
ฝึกอ่านออกเสียงและอ่านจับใจความบทร้อยกรอง คาคล้องจอง ข้อความ นิทานหรือเรื่อง
เก่ียวกับท้องถิ่น เร่ืองสั้นง่ายๆ ปริศนาคาทาย บทร้อยกรอง เพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ข่าวและ
เหตุการณ์ในชีวติ ประจาวนั ในทอ้ งถน่ิ และชมุ ชน ขอ้ เขยี นเชิงอธิบาย คาสั่งหรือข้อแนะนา คาแนะนาต่างๆ
ในชีวิตประจาวัน ประกาศ ป้ายโฆษณา คาขวัญ การอ่านข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ีและแผนภูมิ บท
อาขยาน วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน และเลอื กอ่านหนังสือที่เหมาะสมกับวัยตามความสนใจแล้ว
ตงั้ คาถาม ตอบคาถาม เลา่ เรื่องยอ่ แสดงความคิดเห็น ระบุใจความสาคัญ การลาดับเหตุการณ์ คาดคะเน
เหตุการณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล และสรปุ ข้อคดิ หรอื แนวปฏิบัตทิ ่ีได้จากการอ่าน
ฝึกคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัด แตง่ ประโยคชนิดตา่ งๆ เชน่ ประโยคบอกเลา่ ประโยคปฏเิ สธ
ประโยคคาถาม ประโยคขอรอ้ ง และประโยคคาส่งั การเขยี นคาคลอ้ งจอง คาขวัญ การเขยี นบรรยาย เขียน
บันทกึ ประจาวนั จดหมายลาครู การเขยี นเร่ืองตามจินตนาการจากคา ภาพ และหวั ขอ้ ทกี่ าหนดให้
ฝึกทกั ษะการฟงั และการดู เรือ่ งเล่าและสารคดีสาหรับเด็ก นิทาน การ์ตูน เร่ืองขบขัน รายการ
สาหรบั เด็ก ข่าวและเหตกุ ารณใ์ นชวี ิตประจาวัน เพลง แลว้ พูดตอบคาถาม เล่าเรือ่ ง แสดงความคิดเห็นและ
แสดงความรู้สกึ จากเร่อื งทีฟ่ ังและดู ฝึกพดู สอื่ สารในชวี ิตประจาวัน ได้แก่ การแนะนาตนเอง การแนะนา
สถานที่ในโรงเรียนและในชุมชน การแนะนา เชิญชวนเกี่ยวกับการปฏิบัติตนในด้านต่างๆ การเล่า
ประสบการณ์ในชวี ิตประจาวนั รวมท้งั การพดู ในโอกาสต่างๆ เช่น การพดู ขอร้อง การพูดทักทาย การกล่าว
ขอบคุณและขอโทษ กาพูดปฏิเสธและการพูดซักถาม การขอความช่วยเหลือ การกล่าวคาขอบคุณ การ
กล่าวคาขอโทษ การพดู ขอร้องในโอกาสต่างๆ รวมท้ังการท่องจาบทอาขยานที่กาหนด หรือบทร้อยกรอง
ตามความสนใจ
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๓๓
ศึกษาหลักการใช้ภาษาไทย เกี่ยวกับคาท่ีมีตัวสะกดตรงมาตราแลไม่ตรงมาตรา การผันอักษร
กลาง อักษร-สงู และอักษรตา่ คาทมี่ ีพยัญชนะควบกลา้ คาท่ีมอี ักษรนา คาที่ประวิสรรชนีย์และคาที่ไม่ประ
วสิ รรชนีย์ คาพเิ ศษอื่นๆ เช่น คาท่ใี ช้ ฑ ฤ ฤา คาที่ใช้ บนั บรร คาท่ใี ช้ รร คาทม่ี ตี วั การันต์ คาพ้อง คาท่ี
มีพยญั ชนะและสระไมอ่ อกเสียง ชนดิ และหน้าท่ีของคาทใ่ี ช้ในประโยค ได้แก่ คานาม คาสรรพนาม คากริยา
ประโยคชนดิ ตา่ งๆ และรูห้ ลักการใช้พจนานกุ รมในการค้นหาคาและความหมายของคา เลือกใช้ภาษาไทย
มาตรฐานและภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ
เพอื่ ให้มคี วามรู้และทกั ษะพื้นฐานในการอา่ น การเขียน การฟัง การดแู ละการพดู มีความรู้ความ
เข้าใจความหมายของคา ข้อความ ประโยค หลักการใช้ภาษาไทยพื้นฐาน และมีมารยาทในการอ่าน การ
เขยี น การฟงั การดแู ละการพูด และมีนสิ ยั รกั การอ่าน
รหัสตัวชวี้ ดั
สาระท่ี ๑ การอ่าน
ท๑.๑ ป๓ /๑ ป๓/๒ ป๓/๓ ป๓/๔ ป๓/๕ ป๓/๖ ป๓/๗ ป๓/๘ ป๓/๙
สาระท่ี ๒ การเขยี น
ท๒.๑ ป๓ /๑ ป๓/๒ ป๓/๓ ป๓/๔ ป๓/๕ ป๓/๖
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด
ท๓.๑ ป๓/๑ ป๓/๒ ป๓/๓ ป๓/๔ ป๓/๕ ป๓/๖
สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
ท๔.๑ ป๓/๑ ป๓/๒ ป๓/๓ ป๓/๔ ป๓/๕ ป๓/๖
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
ท๕.๑ ป ๓/๑ ป๓/๒ ป๓/๓ ป๓/๔
รวม ๓๑ ตัวชว้ี ัด
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลองครักษ์ (ผดงุ องครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๓๔
คคาาออธธบิ บิ าายยรราายยววิชชิ าาภภาาษษาาไทไทยย๔๔
รหัสวชิ า ท๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลาเรียน ๑๖๐ ช่วั โมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝึกอ่านออกเสียงสะกดคา และบอกความหมายของคาในบริบทต่างๆ ได้แก่ คาในแม่ ก กา
มาตราตัวสะกด การผันอกษร คาเป็นคาตาย คาพ้อง คาท่ีมี ร ล เป็นพยัญชนะต้น คาควบกล้า อักษรนา
คาประสม อักษรย่อและเคร่อื งหมายวรรคตอน สานวน สุภาษิต คาพงั เพย ปรศิ นาคาทาย และการอา่ นบท
รอ้ ยกรองเปน็ ทานองเสนาะ
ฝึกอ่านออกเสียงและอา่ นจับใจความจากสื่อต่างๆ ได้แก่ เร่ืองส้ัน เรื่องเล่าจากประสบการณ์
นทิ านชาดก บทความ บทโฆษณา งานเขยี นประเภทโน้มน้าวใจ ข่าวและเหตุการณ์ประจาวัน สารคดีและ
บันเทิงคดี วรรคดีและวรรณกรรม เช่น นิทานพื้นบ้าน นิทานคติธรรม เพลงพื้นบ้าน วรรณคดีและ
วรรณกรรมในบทเรยี น และเลอื กอา่ นหนังสือตามความสนใจแล้วตัง้ คาถาม ตอบคาถาม เลา่ เรือ่ งย่อ แสดง
ความคิดเห็น ระบุใจความสาคัญ ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์อย่างมีเหตุผล จาแนกและสรุป
ข้อคดิ หรือแนวปฏบิ ัติทไ่ี ดจ้ ากการอา่ น
ฝึกคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด แต่งประโยคชนิดต่างๆ เขียนคาขวัญ
คาแนะนา แต่งบทรอ้ ยกรอง กลอนส่ี เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคิด เขียนย่อความ เขียน
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๓๕
จดหมายถงึ เพือ่ นและบดิ ามารดา เขยี นบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า และการเขียนเรื่อง
ตามจินตนาการ
ฝึกทักษะการฟัง การดูเร่ืองราวที่เป็นความรู้และความบันเทิง ได้แก่ เร่ืองเล่า บทความสั้นๆ
รายการสาหรับโก ข่าวและเหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจาวนั เพลง โฆษณา สื่ออีเลกทรอนิกส์ จาแนกข้อเท็จจริง
ขอ้ คดิ เหน็ แล้วพดู ตอบคาถามเชงิ เหตุผล เลา่ เรอ่ื ง แสดงความคดิ เห็นและแสดงความรู้สึก พูดสรุปความรู้
พดู รายงาน สนทนา จากเรือ่ งที่ฟังและดู รวมทั้งการท่องจาบทอาขยานที่กาหนด หรือบทร้อยกรองตาม
ความสนใจ
ศกึ ษาหลักการใช้ภาษาไทยเกี่ยวกบั คาในมาตรามา ก กา มาตราตัวสะกด การผันอักษร คาเป็น
คาตาย อกั ษรย่อและเคร่อื งหมายวรรคตอน สานวน คาพงั เพย สภุ าษิต ปรศิ นาคาทาย ชนดิ และหนา้ ท่ีของ
คาที่ใช้ในประโยค ได้แก่ คานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์ ประโยคสามัญ ส่วนประกอบของ
ประโยค ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ รู้หลกั การใชพ้ จนานกุ รมในการคน้ หาคาและความหมายของคา
เพอื่ ใหม้ คี วามร้แู ละทักษะพ้นื ฐานในการอา่ น การเขยี น การฟงั การดูและการพดู มีความรู้ความ
เข้าใจความหมายของคา ข้อความ ประโยค หลักการใช้ภาษาไทยขั้นพ้ืนฐาน มีนิสัยรักการอ่านและมี
มารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดแู ละการพดู
รหสั ตวั ชวี้ ดั
สาระท่ี ๑ การอ่าน
ท๑.๑ ป๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖ ป๔/๗ ป๔/๘
สาระที่ ๒ การเขียน
ท๒.๑ ป๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖ ป๔/๗ ป๔/๘
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด
ท๓.๑ ป๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖
สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
ท๔.๑ ป๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔ ป๔/๕ ป๔/๖ ป๔/๗
สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
ท๕.๑ ป๔/๑ ป๔/๒ ป๔/๓ ป๔/๔
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลองครกั ษ์ (ผดงุ องครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๓๖
รวม ๓๓ ตวั ชี้วัด
คาอธิบายรายวชิ าภาษาไทย ๕
รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น ๑๖๐ ชั่วโมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๓๗
ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรองและทานองเสนาะ แล้วบอกความหมายของคาทั้ง
ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ได้แก่ คาท่ีมีพยัญชนะควบกล้า คาท่ีมีอักษรนา คาท่ีมีตัว
การนั ต์ อกั ษรย่อและเครอ่ื งหมายวรรคตอน ประโยคและขอ้ ความทเี่ ป็นการบรรยายและการพรรณนา
ฝกึ อา่ นจับใจความจากส่ือตา่ งๆ ได้แก่ เรื่องสั้น เร่ืองเล่าจากประสบการณ์ นิทานชาดก นิทาน
พืน้ บา้ น นทิ านคตธิ รรม เพลงพน้ื บา้ น วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี น บทความ บทโฆษณา งานเขียน
ประเภทโน้มน้าวใจต่างๆ ข่าวและเหตุการณ์ประจาวัน สารคดีและบันเทิงคดี อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย
คาสั่ง ขอ้ แนะนา ได้แก่ การใช้พจนานุกรม การใช้วัสดุอุปกรณ์ การอ่านฉลากยา คู่มือและเอกสารของ
โรงเรยี นที่เกย่ี วขอ้ งกบั นกั เรียน ขา่ วสารทางราชการและเลอื กอ่านหนังสอื ตามความสนใจ
ฝึกคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด แต่งประโยค เขียนคาขวัญ คาอวยพร
คาแนะนา และคาอธิบายแสดงข้ันตอน แต่งบทร้อยกรองกาพย์ยานี ๑๑ เขียนแผนภาพโครงเรื่อง และ
แผนภาพความคิด เขียนย่อความจากสื่อต่างๆ เช่น นิทาน ความเรียงประเภทต่างๆ ประกาศ แจ้งความ
แถลงการณ์ จดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ คาสอน โอวาท คาปราศรัย เขียนแสดงความรู้สึกและความ
คิดเห็น การกรอกแบบรายการต่าง ๆ ได้แก่ ใบฝากเงินและใบถอนเงิน ธนาณัติ แบบฝากส่งพัสดุ
ไปรษณียภัณฑ์ และการเขยี นเรอื่ งตามจินตนาการ
ฝึกการอ่านการเขียนคา การผนั อกั ษร การแตง่ ประโยค ศึกษาชนดิ และหน้าที่ของคาในประโยค
ไดแ้ ก่ คานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวเิ ศษณ์ คาบุพบท คาสันธาน คาอุทาน คาเป็นคาตาย คาพ้อง คา
ทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ คาราชาศัพท์ การใช้พจนานกุ รม ประโยคสามัญและส่วนประกอบของประโยค
เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิน่ สานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสภุ าษติ
ฝึกฟงั เร่อื งราวที่เป็นความรู้และความบันเทิง ได้แก่ เร่ืองเล่า บทความส้ันๆ รายการสาหรับเด็ก
ขา่ งและเหตกุ ารณ์ในชีวติ ประจาวัน เพลง โฆษณา ส่ืออเี ลกทรอนิกส์ พูดตอบคาถามเชิงเหตุผล เล่าเร่ือง
แสดงความคดิ เห็น แสดงความรสู้ กึ สรุปความรู้ พูดรายงาน สนทนา รวมท้ังการท่องจาบทอาขยานตามท่ี
กาหนด และบทรอ้ ยกรองทีม่ คี ุณคา่ ตามความสนใจ
เพอื่ ให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักการใช้ภาษาไทย ทีทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและ
การพดู อ่านไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และเข้าใจความหมายของคา ข้อความ ประโยค สามารถระบุใจความสาคัญ
เรยี งลาดับ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ วเิ คราะห์ แสดงความคดิ เหน็ อธบิ ายคณุ คา่ สรุปความรู้ความคิดท่ีไดจ้ าก
การอา่ น การฟัง และการดนู าไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดูและ
การพูด และมีนสิ ยั รกั การอา่ น
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลองครักษ์ (ผดงุ องครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๓๘
รหสั ตวั ช้วี ดั
สาระที่ ๑ การอ่าน
ท๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ป.๕/๘
สาระท่ี ๒ การเขียน
ท๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ป.๕/๘ ป.๕/๙
สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพูด
ท๓.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕
สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
ท๔.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
ท๕.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔
รวม ๓๓ ตวั ช้ีวัด
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดุงองครักษป์ ระชา) ห น้ า | ๓๙
คคาาออธธบิิบาายยรราายยววชิชิ าาภภาาษษาาไไททยย ๖๖
รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลาเรียน ๑๖๐ ชว่ั โมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรองแล้วบอกความหมายของคา ประโยคและ
ข้อความทเ่ี ปน็ โวหารต่างๆ สานวนเปรยี บเทียบ ทงั้ ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย การอ่านบท
ร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะ การทอ่ งจาบทอาขยานที่กาหนดและบทร้อยกรองทีม่ คี ุณคา่ ตามความสนใจ
ฝึกอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ต่างๆ เชน่ เร่ืองสัน้ ๆ นิทาน เพลงพน้ื บ้าน บทความ พระบรมราโชวาท
สาตคดี เรื่องส้ัน งานเขยี นประเภทโน้มน้าว บทโฆษณา ข่าวและเหตกุ ารณ์สาคัญ การอา่ นเร็ว การอ่านงาน
เขียนเชิงอธิบาย คาส่ัง ข้อแนะนาและปฏิบัติตาม การใช้พจนานุกรม การปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกันใน
สงั คม ข้อตกลงในการอย่รู ว่ มกนั ในโรงเรียน การใช้สถานที่สาธารณะในชุมชนและท้องถ่ิน การอ่านข้อมูล
จากแผนผงั แผนท่ี แผนภูมิและกราฟ วรรณคดหี รอื วรรณกรรม นทิ านพืน้ บ้านของท้องถ่ินตนเองและนิทาน
พืน้ บ้านของทอ้ งถ่ินอน่ื แล้วแสดงความคิดเหน็ อธบิ ายคุณค่าและนาความรู้ ความคิดท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ จรงิ การอา่ นหนังสือตามความสนใจและหนงั สืออา่ นทีค่ รูและนักเรยี นกาหนดรว่ มกัน
ฝกึ การคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทดั และคร่งึ บรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย การ
เขียนส่ือสาร เช่น คาขวัญ คาอวยพร ประกาศ การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง และแผนภาพความคิด การ
เขยี นเรียงความ การเขยี นย่อความจากสอ่ื ต่างๆ เช่น นิทาน ความเรียงประเภทต่างๆ ประกาศ แจ้งความ
คาสอน โอวาท คาปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คาสงั่ การเขยี นจดหมายส่วนตวั จดหมายขอโทษ
จดหมายแสดงความขอบคณุ จดหมายแสดงความเสียใจ จดหมายแสดงความยินดี การกรอกแบบรายการ
เชน่ แบบคารอ้ งต่างๆ ใบสมคั รศึกษาต่อ แบบสง่ ฝากพัสดุและไปรษณียภณั ฑ์ การเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการ
และสร้างสรรค์
ฝึกการพูดแสดงความรู้ ความเข้าใจในจุดประสงค์ของเร่ืองท่ีฟังและดูจากส่ือต่างๆ ได้แก่ ส่ือ
ส่งิ พิมพ์ สื่ออเิ ล็กทรอนิคส์ การพูดเล่าเรื่อง การต้ังคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผล การวิเคราะห์ความ
นา่ เชอ่ื ถือจากการฟงั และดูสื่อโฆษณา การรายงาน เช่น การพูดตามลาดับข้ันตอนการปฏิบัติงาน การพูด
ลาดบั เหตุการณ์ การพดู โน้มนา้ วในสถานการณต์ ่าง ๆ เชน่ การเลอื กตั้งกรรมการนักเรียน การรณรงค์ด้าน
ต่างๆ และการโต้วาที
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลองครกั ษ์ (ผดุงองครกั ษ์ประชา) ห น้ า | ๔๐
ฝกึ อ่าน เขียนและใชค้ าให้ถูกต้องตามหลกั การใช้ภาษาไทย ได้แก่ คาที่มีพยัญชนะควบกล้า คาที่มี
อักษรนา คาทมี่ ตี วั การันต์ คาทมี่ าจากภาษาต่างประเทศ อักษรย่อ และเคร่ืองหมายวรรคตอน วัน เดือน ปี
แบบไทย ศึกษาวเิ คราะห์ชนดิ และหนา้ ที่ของคาในภาษาไทย ไดแ้ ก่ คานาม คาสรรพนาม คากรยิ า
คาวิเศษณ์ คาบุพบท คาสันธาน และคาอุทาน คาราชาศัพท์ ระดับภาษา ภาษาถ่ิน
ภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทย กลุ่มคาหรือวลี ประโยคสามัญ ประโยคความรวม ประโยคความซ้อน
ฝึกแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสภุ าพ วเิ คราะห์และเปรียบเทียบสานวนทเี่ ปน็ คาพังเพยและสภุ าษิต
เพือ่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจในหลักภาษาไทย มที ักษะการอา่ น การเขยี น การฟัง การดูและการพูด
อ่านได้รวดเร็วและเข้าใจความหมายของคา ข้อความประโยค สามารถระบุใจความสาคัญ เรียงลาดับ
คาดคะเนเหตุการณ์ วเิ คราะห์ แสดงความคิดเหน็ อธบิ ายคุณคา่ สรปุ ความรคู้ วามคิดท่ีได้จากการอ่าน การ
ฟงั การดูและนาไปประยุกต์ใช้กบั ชีวติ จริง มีมารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดูและการพูด และมี
นสิ ัยรักการอา่ น
รหัสตัวชว้ี ดั
สาระที่ ๑ การอ่าน
ท๑.๑ ป๖/๑ ป๖/๒ ป๖/๓ ป๖/๔ ป๖/๕ ป๖/๖ ป๖/๗ ป๖/๘ ป๖/๙
สาระที่ ๒ การเขียน
ท๒.๑ ป๖/๑ ป๖/๒ ป๖/๓ ป๖/๔ ป๖/๕ ป๖/๖ ป๖/๗ ป๖/๘ ป๖/๙
สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพดู
ท๓.๑ ป๖/๑ ป๖/๒ ป๖/๓ ป๖/๔ ป๖/๕ ป๖/๖
สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย
ท๔.๑ ป๖/๑ ป๖/๒ ป๖/๓ ป๖/๔ ป๖/๕ ป๖/๖
สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
ท๕.๑ ป๖/๑ ป๖/๒ ป๖/๓ ป๖/๔
รวม ๓๔ ตวั ชี้วัด
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๔๑
คาอธบิ ายรายวชิ า
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลองครักษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา) ห น้ า | ๔๒
คณติ ศาสตร์
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑(ฉบบั ปรับปรุง 2560)
รายวิชาพ้ืนฐานและรายวิชาเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์
ระดบั ประถมศกึ ษา
รายวิชา จานวน
(ชม./ปี)
รายวชิ าพน้ื ฐาน
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๒๐๐
ค๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒ ๒๐๐
ค๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๒๐๐
ค๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔ ๑๖๐
ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๑๖๐
ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ ๑๖๐
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดุงองครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๔๓
-
รายวชิ าเพม่ิ เติม
-
คาอธบิ ายรายวชิ าคณติ ศาสตร์ ๑
รหสั วิชา ค๑๑๑๐๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลาเรยี น ๒๐๐ ชวั่ โมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครกั ษป์ ระชา) ห น้ า | ๔๔
ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปัญหา จานวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดง
จานวนสิ่งต่าง ๆ ตามจานวนทก่ี าหนด อา่ นและเขียนตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย การบอกอนั ดับทห่ี ลัก
ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั และเขยี นแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐ และ
๐ โดยใช้เครือ่ งหมาย = ≠ > < เรียงลาดบั จานวนตัง้ แต่ ๓ ถงึ ๕ จานวน และหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจานวนนับไม่เกิน
๑๐๐ และ ๐ ความยาวและนา้ หนัก สร้างโจทย์ปัญหาพร้อมท้ังแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการ
บวก การลบ ของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ระบุจานวนที่หายไปในแบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขึ้น
หรือลดลงทลี ะ๑ ทีละ ๑๐ รูปที่หายไปในแบบรปู ซ้าของรูปเรขาคณติ และรูปอ่ืน ๆ ที่สมาชิกใน แต่ละชุดท่ี
ซา้ มี ๒ รปู วดั และเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร น้าหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด และใช้
หนว่ ยท่ไี มใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน จาแนกรูปสามเหลยี่ ม รปู สเ่ี หลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอก และกรวย ใชข้ อ้ มูลจากแผนภมู ริ ูปภาพในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา เมื่อกาหนดรปู
๑ รูปแทน ๑ หน่วย
รหัสตัวช้วี ัด
สาระท่ี ๑ จานวนและพชี คณติ
ค๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕
ค๑.๒ ป.๑/๑
สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณติ
ค๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒
ค๒.๒ ป.๑/๑
สาระท่ี ๓ สถิติและความนา่ จะเป็น
ค๓.๑ ป.๑/๑
รวม ๑๐ ตัวชีว้ ัด
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลองครกั ษ์ (ผดงุ องครักษ์ประชา) ห น้ า | ๔๕
คาคอาธอบิธาบิ ยารยารยาวยิชวาชิ คาณคณิตศติ าศสาตสรต์ ร๒์ ๒
รหสั วิชา ค๑๒๑๐๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลาเรยี น ๒๐๐ ชวั่ โมง/ปี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปัญหา จานวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐
บอกและแสดงจานวนสิ่งต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย
การบอกอันดับที่หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบ
จานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้เคร่ืองหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน๑,๐๐๐
และ ๐ ตงั้ แต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ
การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู ของจานวน ๑ หลกั กับจานวนไม่เกิน ๒ หลัก และประโยคสัญลักษณแ์ สดง
การหารทต่ี วั ตั้งไมเ่ กิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดยที่ผลหาร มี ๑ หลัก ทั้งหารลงตัวและหารไม่ลงตัว
หาผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคนของจานวนนับ ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของ
โจทย์ปัญหา ๒ ขนั้ ตอนของจานวนนับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ
เวลาที่มีหนว่ ยเด่ยี วและเปน็ หน่วยเดยี ว วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร พร้อมทั้ง
แสดงวธิ ีการหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัด
และเปรียบเทยี บนา้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัมและกรมั กิโลกรมั และขดี พร้อมท้ังแสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์
ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด วัดและ
เปรยี บเทียบปริมาตรและความจุเป็นลิตร จาแนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหล่ียมและวงกลม ใช้
ข้อมูลจากแผนภูมริ ูปภาพในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา เมือ่ กาหนดรปู ๑ รปู แทน ๒ หน่วย ๕ หนว่ ย
หรอื ๑๐ หนว่ ย
ในการจัดการเรียนรู้ได้กาหนดสถานการณ์เพ่ือให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ
โดยการปฏิบตั จิ รงิ สรุปเนื้อหา มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณิตศาสตร์ มคี วามคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ เพ่ือพัฒนาทักษะ
และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของผู้เรียน และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้
รหัสตัวช้วี ดั
สาระท่ี ๑ จานวนและพีชคณิต
ค๑.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗ ป.๒/๘
สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณติ