196
การประเมินผล
1. สังเกตผ้เู รียนมคี วามสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ทันเวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผ้เู รยี นทำแบบฝกึ หัดหลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เปน็ อย่างตำ่
เอกสารอา้ งอิง
หนงั สือเรยี น รหสั 20204-2108 การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถเุ บอ้ื งต้นของสำนกั พิมพเ์ มอื งไทย จำกัด
197
แผนการจัดการเรยี นรู้
หน่วยที่............... 9..................................... จำนวน........4..........ชัว่ โมง สัปดาหท์ ่ี.....10.....
ชื่อวชิ า การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บ้อื งตน้
ชอ่ื หนว่ ย คำส่ัง For ลปู
ช่อื เร่ือง คำสง่ั For ลูป
1. สาระสำคญั
เนือ้ หาในหน่วยการเรยี นนจี้ ะกลา่ วถงึ การออกแบบโปรแกรมเพ่อื ประยกุ ต์ใช้ในดา้ นธรุ กจิ เบอ้ื งตน้ โดย
ใชค้ ำสงั่ For ลปู เป็นคำสงั่ ทใ่ี ช้เขยี นโปรแกรมเพ่อื วนซำ้ ขนั้ ตอนการทำงานของ for ลปู สงั เกตวา่ เง่ือนไขของ
ลปู จะถกู ตรวจสอบกอ่ นที่คำสัง่ วนซ้ำคำสง่ั แรกจะถูกเรียกใช้ ดงั น้นั โครงสร้าง for จงึ มกี ารทำงานท่ีคลา้ ยคลึง
กับโครงสรา้ ง while
ในใบความรูก้ ่อนหน้านี้เราไดเ้ หน็ โครงสร้างของโปรแกรมแบบวนซำ้ ทใ่ี ชค้ ำสั่ง while และเมอ่ื
พจิ ารณาการใช้คำสง่ั เหลา่ นใ้ี นการเขียนลปู แบบวนนบั (counting loop) เราจะพบวา่ โครงสร้างของ
ลปู มกั จะมสี ว่ นประกอบเหล่าน้ีเสมอ
• สว่ นกำหนดคา่ เรม่ิ ต้นให้ตัวนับเปน็ คำสัง่ ใหค้ ่าเริม่ ต้นกับตวั แปรท่นี ำมาใช้เปน็ ตวั นบั คำส่งั นม้ี กั จะ
ถูกเขียนไวท้ ันทกี อ่ นท่ีโปรแกรมจะเขา้ มาทำงานในสว่ นของคำสั่ง while
• ส่วนคำส่ังที่ถกู ทำซำ้ ส่วนหลกั ของลปู ท่ีประกอบดว้ ยคำสง่ั ทถ่ี กู เรยี กทำงานในแตล่ ะรอบการวนซ้ำ
• ส่วนเงื่อนไขใชส้ ำหรบั กำหนดเง่ือนไขวา่ คำส่ังในลปู จะถูกเรียกทำต่อหรือไม่
• สว่ นปรับค่าตวั นับมกั เปน็ เพยี งคำส่ังสั้น ๆ เพื่อเพิ่มหรือลดคา่ ตวั แปรที่นำมาใชเ้ ป็นตัวนบั
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
แสดงความรเู้ กีย่ วกบั การออกแบบและเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถเุ บอ้ื งตน้ เพอ่ื ประยกุ ตใ์ นงานธรุ กิจ โดยใช้
คำสัง่ For ลปู
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงค์ทัว่ ไป
1. เพอ่ื มีความรคู้ วามเขา้ ใจคำสั่ง For ลูป
1.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. อธบิ ายคำสัง่ For ลูป ไดถ้ ูกตอ้ ง
2. เขยี นโปรแกรมเพอ่ื ประยุกตใ์ นงานธรุ กจิ โดยใชค้ ำส่งั For ลปู ไดถ้ กู ต้อง
4. สาระการเรียนรู้
1 คำสัง่ For ลปู
2 ตวั อยา่ งโปรแกรม
198
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท.่ี .....10.........)
กิจกรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน
ข้ันนำเขา้ สูบ่ ทเรียน(สปั ดาหล์ ะ 30 นาท)ี
1. ตรวจสอบรายชื่อนักศกึ ษาทเี่ ข้าเรยี น 1. ใหค้ วามร่วมมอื กบั ครใู นการตรวจสอบ
2.ให้นักศกึ ษาคน้ ควา้ เรือ่ ง คำสงั่ For ลูป 2. ค้นควา้ คำส่ัง For ลปู
3. ร่วมสนทนาเก่ยี วกบั เรอื่ ง คำส่งั For ลปู 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เหน็
ขน้ั ดำเนินการสอน(สัปดาหล์ ะ 180 นาที)
1. บอกจดุ ประสงค์การเรียน ฟงั ทำความเข้าใจและซักถาม
2. บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการ ฟงั ทำความเข้าใจและปฎบิ ัติตาม
ปฎิบัตใิ นแต่ ละหวั ข้อการเรียนและให้นักศกึ ษา ผู้เรียนซกั ถามข้อสงสยั และจดบันทกึ
ปฎิบัติไปพร้อมกนั รบั การประเมิน
3. ครูบอกวิธกี าร และแนวคิดในการปฏิบตั ทิ ่ี
ถูกตอ้ งให้แกผ่ ูเ้ รียน
4. ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คลโดยครจู ะซักถาม
ในแต่ละคน
ข้นั สรปุ (สปั ดาหล์ ะ 30 นาท)ี ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ สาระสำคัญ
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สาระสำคญั นักเรยี นสอบถามข้อสงสยั
เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามขอ้ สงสยั ฟงั และจดบันทึก
มอบหมายใหไ้ ปหัดทำและศึกษาเพมิ่ เติม ทำแบบทดสอบทา้ ยบท
ทำแบบทดสอบ
6. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
6.1 หนงั สอื เรยี น รหสั 20204-2108การเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถุเบ้ืองต้นของสำนกั พมิ พเ์ มืองไทย จำกดั
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝกึ หัด
6.4 แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ
6.5 แบบทดสอบหลงั เรียน
6.7 คอมพิวเตอร์
6.8 เคร่ืองฉายโปรเจ็คเตอร์
199
7. หลักฐานการเรยี นรู้
7.1 หลักฐานความรู้
ใบงาน แบบฝึกหัด การค้นควา้ ข้อมลู ท่ไี ดร้ บั การเรยี บเรียง สวยงาม เป็นระเบยี บ ถกู ต้อง
7.2 หลักฐานการปฏิบตั งิ าน
ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการค้นคว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรยี ง สวยงาม เป็นระเบยี บ
ถูกต้อง พร้อมท้ังเอกสารประกอบการนำเสนองานหนา้ ชั้นเรยี นของผเู้ รียน และภาพประกอบ
8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
8.1 เคร่อื งมือประเมิน
1. ใบงาน
2. แบบฝกึ หัด
3. แบบประเมนิ ผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
8.2 เกณฑ์การประเมนิ
เคร่ืองมอื การประเมิน วธิ ีวัดและประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝกึ หดั ตรวจแบบฝกึ หัด ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ข้นึ ไป
ถูก 1 คะแนน
ไมถ่ กู 0 คะแนน
แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ตรวจแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขนึ้ ไป
ถกู 1 คะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน
แบบทดสอบหลังเรียน ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ได้คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขึน้ ไป
ถกู 1 คะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคุณธรรม สังเกตพฤตกิ รรม ไดค้ ะแนน
จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึง ดี 2 คะแนน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
ประสงค์ พอใช้ 1 คะแนน
ปรับปรงุ 0 คะแนน
200
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถ้าม)ี
1. ผู้เรยี นตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศกึ ษา เพอื่ หาเทคนิค วิธีการ หรอื หลักการง่ายเพอ่ื ให้หาคำตอบได้
อยา่ งถกู ต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตัง้ ใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครผู สู้ อนสรปุ ในขณะท่ีทำการสอน และ
นำข้อสงสัยซกั ถามครูในการเรียนทกุ ครง้ั ท่เี กดิ ความสบั สน และไม่เขา้ ใจ
2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพอื่ เสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ รงิ
3. ผเู้ รยี นหมัน่ ทำใบงาน แบบฝกึ หัด และแก้ไขขอ้ ทผี่ ิดใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกบั
ความจำเปน็ ในการนำไปประยกุ ต์ใช้ให้เกิดขึน้ โดยตนเองให้ได้เพ่ือเกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งแท้จริงไมใ่ ช่
เกดิ จากการท่องจำ
10. เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108 การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บื้องต้นของสำนกั พิมพเ์ มืองไทย จำกดั
201
ใบความรทู้ ่ี 9 หนว่ ยที่ 9
รหัสวิชา 20204-2108 ชอื่ วชิ า การเขียนโปรแกรมเชิง ภาคเรียนที่ 1
วัตถุเบื้องตน้
ช่ือหน่วย คำสง่ั For ลปู เวลารวม 8 ชั่วโมง
ชอ่ื เร่อื ง คำส่ัง For ลปู เวลา 4 ชัว่ โมง
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ่วั ไป
1. เพอื่ มคี วามรู้ความเขา้ ใจคำสง่ั For ลูป
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. อธบิ ายคำสง่ั For ลปู ไดถ้ กู ตอ้ ง
2. เขียนโปรแกรมเพอ่ื ประยุกตใ์ นงานธรุ กิจโดยใชค้ ำสงั่ For ลปู ได้ถูกต้อง
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความร้เู กย่ี วกบั การออกแบบและเขยี นโปรแกรมเชงิ วตั ถเุ บอื้ งต้นเพอ่ื ประยุกต์ในงานธรุ กจิ โดย
ใช้คำสั่ง For ลปู
202
หน่วยท่ี 9 คำสงั่ For ลูป
คำส่ัง For loop
for loop น้ันเป็นลูปท่ใี ช้ทำซำ้ คำสง่ั หรอื ชดุ ของคำสง่ั เปน็ จำนวนรอบท่ีแนน่ อน โดยมันมรี ปู แบบในการใช้
งานดงั น้ี
for (initialize; condition; iterator) {
statements
}
ในการใช้ for loop เราสามารถกำหนดค่าเรม่ิ ต้น สรา้ งเง่อื นไข (expression) และทำการกำหนดการเพมิ่
ค่าหรือลดคา่ ของตัวทำซำ้ ไดก้ ่อนทล่ี ปู จะเรม่ิ ทำงาน มนั จะมปี ระโยชนท์ จี่ ะใหส้ ะดวกเมอื่ เราร้จู ำนวนรอบท่ี
แน่นอนในการวนซ้ำของโปรแกรม
using System;
class ForLoop
{
static void Main(string[] args)
{
for (int i = 1; i <= 10; i++)
{
Console.WriteLine(i);
}
}
}
ในตวั อยา่ งเปน็ การใช้ for loop เพอื่ แสดงตัวเลข 1 ถึง 10 เช่นกัน สังเกตวุ า่ การกำหนดคา่ เริม่ ต้น การสร้าง
เง่อื นไขและการเพ่มิ ค่าจะถกู ใสไ่ วท้ ีส่ ว่ นหวั ของโปรแกรมทเ่ี ดยี ว อยา่ งไรกต็ าม มันกเ็ ป็นแค่ทางเลือก และ
เราสามารถนำไปใส่ทีใ่ หมไ่ ดถ้ า้ หากตอ้ งการ เหมอื นตวั อย่างข้างลา่ งน้ี
using System;
class ForLoop
{
static void Main(string[] args)
{
int i = 1;
for (; i <= 10; )
{
Console.WriteLine(i);
i++;
203
}
}
}
และข้างลา่ งนี่เป็นผลลัพธข์ องโปรแกรมทง้ั สองทใี่ ช้ for loop จะเห็นวา่ มันได้ผลลัพธ์เหมอื น while loop
ซ่งึ ลปู ทง้ั สองประเภทนีก้ ส็ ามารถใช้ทดแทนกนั ได้เช่นกนั แตอ่ าจจะเขียนแตกตา่ งกนั เลก็ นอ้ ย
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
คำส่งั foreach loop
foreach loop นั้นจะใช้สำหรบั วนซำ้ คา่ ในอาเรย์ ทท่ี ราบหรอื ไมท่ ราบขนาด โดยลปู จะเรม่ิ อ่านค่าจาก
สมาชิกตวั แรกในอาเรย์ ไปจนถงึ ตวั สดุ ท้าย
using System;
class ForeachLoop
{
static void Main(string[] args)
{
int[] numbers = { 2, 4, -1, 5, 0, 8, 9 };
foreach (int i in numbers)
{
Console.WriteLine(i);
}
}
}
ในตวั อย่างเราได้สร้างอาเรยข์ องตวั เลขแบบ integer ซง่ึ มสี มาชิกท้ังหมด 8 ตัว ในการวนซำ้ แตล่ ะรอบ ค่าะ
เกบ็ ไวท้ ่ตี วั แปร i แลว้ ก็แสดงผลออกทาง console
2
4
204
-1
5
0
8
9
และน่ีเป็นตัวอยา่ งผลลัพธข์ องการใช้ foreach loop
คำสง่ั break
คำสั่ง break เพอ่ื บงั คบั ใหล้ ปู ส้ินสดุ การทำงานในทันที การหยดุ การทำงานของลปู โดยการใช้คำสง่ั break
มักจะสร้างใหก้ ับเงอ่ื นไขบางอย่าง condition เพื่อทำให้โปรแกรมออกจากลปู มันสามารถใชไ้ ดก้ ับลปู ทกุ
ประเภททงั้ while, do-while, for และ foreach loop
มาดตู ัวอยา่ งการใชค้ ำสงั่ break
using System;
class ForLoop
{
static void Main(string[] args)
{
for (int i = 1; i <= 10; i++)
{
Console.WriteLine(i);
if (i == 5) break;
}
}
}
ในตัวอยา่ งโปรแกรมจะออกจากลปู เมอ่ื i มคี า่ เทา่ กบั 5 มันไมส่ ำคญั วา่ เงือ่ นไขในลูปที่ i <= 10 จะเปน็ จรงิ
หรอื ไม่
1
2
3
4
5
และข้างบนเป็นผลลพั ธข์ องตวั อยา่ งการใชค้ ำสงั break
คำสงั่ continue
คำสัง่ continue ใช้เพ่อื ข้ามการวนซำ้ รอบปจั จบุ ัน มนั จะขา้ มการทำงานคำสัง่ ท้ังหมดภายในลปู หลงั จาก
คำส่งั continue และไปเรม่ิ ต้นรอบใหม่ มันสามารถใชไ้ ดก้ บั ลปู ทุกประเภท
205
using System;
namespace ContinueStatement
{
class Program
{
static void Main(string[] args)
{
for (int i = 1; i <= 10; i++)
{
if (i % 2 == 0) continue;
Console.WriteLine(i);
}
}
}
}
ในตัวอย่างเราไดใ้ ช้คำสั่ง continue เพื่อขา้ มการแสดงผลของตวั เลขคู่ โดยคำส่ังจะทำงานเมื่อ i % 2 == 0
นั่นหมายความวา่ i จะขา้ มการแสดงผลไป
1
3
5
7
9
นี่เปน็ ฟลลพั ธต์ วั อยา่ งการใช้คำสัง่ continue
ภาพรวมของ For Loop
1. ใช้คำสั่ง for ( init-expr; test-expr; increment-expr) ในการวนลูปโปรแกรม
2. คำสั่ง for จะตอ้ งมีรอบในการวนลูปทีแ่ นน่ อน หรอื ตายตวั เช่น 2, 3, 4 หรือ 5 รอบ
3. คำส่ัง for จะต้องวนลปู จนครบรอบเสมอ (ในกรณไี ม่ใชค่ ำสัง่ อนื่ ใดชว่ ยในการหยดุ การทำงาน)
ตวั อย่างโปรแกรม
using System;
using System.Collections.Generic;
using System.Linq;
using System.Text;
namespace ConsoleApplication1
206
{
class Program
{
static void Main(string[] args)
{
for (int i = 1; i <= 12; i++)
{
Console.WriteLine(i + " x 2 = " + (i*2));
}
Console.ReadLine();
}
}
}
ผลลัพธ์
207
แบบฝึกหัด/เฉลย
ตอนท่ี 1 คำสั่ง จงตอบคำถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง
ใหน้ ักศึกษาเขียนโปรแกรมเพื่อบวกเลข 1 ถึง 10 และใหแ้ สดงเลข 1-10 ออกมาด้วย พร้อมผลบวก โดยใช้
คำสงั่ For ลูป
ตอบ
โคต๊ โปรแกรม
using System;
using System.Collections.Generic;
using System.Linq;
using System.Text;
namespace ConsoleApplication9_1
{
class Program
{
static void Main(string[] args)
{
int i, sum;
sum = 0;
for (i = 1; i <= 10; i++)
{
Console.WriteLine(i);
sum = sum + i;
}
Console.WriteLine("====");
Console.WriteLine(sum);
Console.WriteLine("====");
Console.ReadKey();
}
}
}
208
ผลลพั ธโ์ ปรแกรม
ให้นักศึกษาเขียนโปรแกรมเพ่ือบวกเลข 1 ถึง 100 และให้แสดงเลข 1-100 ออกมาด้วย พร้อม
ผลบวก โดยใชค้ ำสัง่ For ลปู
ตอบ
โคต๊ โปรแกรม
using System;
using System.Collections.Generic;
using System.Linq;
using System.Text;
namespace ConsoleApplication9_2
{
class Program
{
static void Main(string[] args)
{
int i, sum;
sum = 0;
for (i = 1; i <= 100; i++)
{
Console.Write("{0:#} ", i);
sum = sum + i;
}
Console.WriteLine();
Console.WriteLine("Sum from 1 to 100 = {0:##}", sum);
Console.ReadKey();
}
}
}
209
ผลลัพธโ์ ปรแกรม
เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108 การเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถเุ บ้ืองต้นของสำนกั พมิ พเ์ มืองไทย
จำกัด
ภาคผนวก (ถา้ มี)
210
ใบงานที่ 9 หนว่ ยท่ี 9
รหสั วิชา 20204-2108 ชอ่ื วิชา การเขยี นโปรแกรมเชิง ภาคเรียนที่ 1
วัตถเุ บ้ืองต้น
ช่ือหนว่ ย คำส่งั For ลปู เวลารวม 8 ชวั่ โมง
ชอื่ งาน คำส่งั For ลปู จำนวน 4 ช่ัวโมง
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. เพอ่ื มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจคำสั่ง For ลปู
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. อธบิ ายคำส่งั For ลูป ไดถ้ ูกตอ้ ง
2. เขยี นโปรแกรมเพอื่ ประยุกต์ในงานธรุ กจิ โดยใช้คำส่งั For ลปู ไดถ้ กู ตอ้ ง
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การออกแบบและเขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุเบ้อื งตน้ เพอ่ื ประยุกต์ในงานธรุ กิจ โดย
ใชค้ ำสง่ั For ลูป
เครอ่ื งมือ วัสดุ – อุปกรณ์
1. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื
ลำดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
1. ใหน้ กั ศกึ ษาแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม เพ่อื ศกึ ษาและอภปิ ราย
1.1 อธิบายความรู้เกี่ยวกบั ความเข้าใจคำส่ัง For ลูป1.2 เขยี นรูปพร้อมอธบิ ายความเขา้ ใจ
คำสง่ั For ลปู
2. เขียนอภิปรายและวเิ คราะห์ใส่กระดาษ
3. นำผลงานสง่ ครูผสู้ อนเพอื่ ประเมินผล
ภาพประกอบ
ข้อควรระวงั
ผเู้ รียนควรตรวจสอบขอ้ มลู ก่อนใหถ้ ี่ถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพื่อป้องกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี)
นกั ศกึ ษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเน้ือหาใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาพใหถ้ ูกตอ้ ง
การประเมินผล (ตอ้ งระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ดั เจน)
211
1. สังเกตผเู้ รียนมีความสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือรน้
ในการแสดงความคดิ เห็นและสรปุ สาระการเรยี นรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ทนั เวลาที่กำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หัดหลงั เรียนได้ถูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถุเบ้อื งต้นของสำนักพมิ พ์เมอื งไทย จำกัด
212
ใบกิจกรรมท่ี 9 หนว่ ยท่ี 9
รหัสวิชา 20204-2108ชอื่ วิชา การเขียนโปรแกรมเชิง ภาคเรยี นที่ 1
วัตถุเบื้องต้น
ชื่อหน่วย คำสั่ง For ลปู เวลารวม 8 ชั่วโมง
ชือ่ งาน คำสงั่ For ลูป จำนวน 4 ช่ัวโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพอ่ื มีความรคู้ วามเข้าใจคำสง่ั For ลปู
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. อธิบายคำส่งั For ลปู ไดถ้ ูกตอ้ ง
2. เขียนโปรแกรมเพอื่ ประยุกตใ์ นงานธรุ กิจโดยใช้คำส่ัง For ลปู ไดถ้ กู ตอ้ ง
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การออกแบบและเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถเุ บื้องต้นเพอ่ื ประยกุ ต์ในงานธรุ กจิ โดย
ใชค้ ำสัง่ For ลูป
เครอ่ื งมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สือ
ลำดับกจิ กรรม
1. ผ้เู รยี นต้องใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพ่อื หาเทคนิค วธิ กี าร หรอื หลักการง่ายเพื่อให้หาคำตอบ
ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการทีค่ รูผู้สอนสรปุ ในขณะทีท่ ำการ
สอน และนำข้อสงสยั ซกั ถามครูในการเรยี นทกุ คร้ังทเ่ี กดิ ความสับสน และไมเ่ ขา้ ใจ
2. ผูม้ กี ารทบทวนบทเรียน ตลอดเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
3. ผ้เู รียนหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขข้อทผ่ี ิดให้ถกู ตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธกี ารพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดข้ึนโดยตนเองให้ไดเ้ พื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
ไมใ่ ชเ่ กิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาท่ี
กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เม่อื ได้รบั มอบหมายงานมา
การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑ์การประเมนิ ใหช้ ดั เจน)
1. สังเกตผู้เรียนมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื รน้ ใน
การแสดงความคดิ เห็นและสรุปสาระการเรยี นรู้ประจำหน่วย
213
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทันเวลาที่กำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหดั หลังเรียนไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งองิ
หนังสือเรียน รหสั 20204-2108การเขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุเบอ้ื งตน้ ของสำนกั พมิ พ์เมืองไทย จำกัด
214
ใบปฏบิ ัติงานที่ 9 หน่วยที่ 9
รหัสวชิ า 20204-2108ช่ือวชิ า การเขียนโปรแกรมเชิง ภาคเรยี นที่ 1
วัตถเุ บอื้ งตน้
ชื่อหน่วย คำสง่ั For ลปู เวลารวม 8 ช่ัวโมง
ชือ่ งาน คำสัง่ For ลูป จำนวน 4 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพอ่ื มคี วามรูค้ วามเข้าใจคำสง่ั For ลปู
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. อธบิ ายคำสั่ง For ลูป ได้ถกู ต้อง
2. เขียนโปรแกรมเพอ่ื ประยกุ ตใ์ นงานธรุ กจิ โดยใช้คำส่ัง For ลปู ไดถ้ กู ตอ้ ง
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การออกแบบและเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถุเบอื้ งต้นเพอ่ื ประยุกตใ์ นงานธรุ กจิ โดย
ใช้คำสงั่ For ลูป
เคร่ืองมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ
ลำดับขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ าน
1. ผู้เรียนค้นหาข้อมลู จากในอินเตอร์เนต็ ตามเรอ่ื งที่ได้รบั มอบหมายมาจาครผู สู้ อน
2. เม่ือผเู้ รยี นไดร้ ับขอ้ มลู เรียบร้อยแลว้ ให้ผู้เรียน นำข้อมูลนั้น มาเรียบเรียงใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจไดง้ า่ ย โดยจัดทำในรูปแบบเล่มรายงาน
ภาพประกอบ
ข้อควรระวงั
ผู้เรียนควรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นให้ถี่ถว้ น ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพอื่ ปอ้ งกนั ความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเน้ือหาให้สอดคลอ้ งกบั ภาพให้
ถูกตอ้ ง
215
การประเมนิ ผล
1. สงั เกตผเู้ รียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรยี นรูป้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ทนั เวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝกึ หัดหลังเรยี นไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งตำ่
เอกสารอ้างองิ
หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บ้อื งตน้ ของสำนกั พมิ พ์เมอื งไทย จำกัด
216
ใบมอมหมายงานท่ี 9 หนว่ ยท่ี 9
รหสั วชิ า 20204-2108 ชอ่ื วชิ า การเขยี นโปรแกรมเชิง ภาคเรียนท่ี 1
วตั ถุเบื้องตน้
ชือ่ หนว่ ย คำส่งั For ลปู เวลารวม 8 ช่วั โมง
ชอื่ งาน คำสง่ั For ลปู จำนวน 4 ชัว่ โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ท่วั ไป
1. เพอื่ มีความรูค้ วามเขา้ ใจคำส่งั For ลูป
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. อธบิ ายคำสัง่ For ลปู ได้ถกู ตอ้ ง
2. เขยี นโปรแกรมเพอ่ื ประยุกตใ์ นงานธรุ กจิ โดยใช้คำส่งั For ลปู ไดถ้ กู ตอ้ ง
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั การออกแบบและเขยี นโปรแกรมเชงิ วตั ถุเบอื้ งต้นเพอ่ื ประยุกต์ในงานธรุ กจิ โดย
ใชค้ ำส่งั For ลปู
เคร่ืองมอื วัสดุ – อุปกรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสอื
แนวทางการปฏิบตั ิงาน
1. ใหผ้ ู้เรยี นปฏิบตั งิ านตามใบงาน ใบกจิ กรรม ใบปฏบิ ตั งิ าน อยา่ งเคร่งครดั ตามหัวข้อท่ไี ดร้ บั
มอบหมาย ใหเ้ สรจ็ ส้ินตามระยะเวลาที่กำหนด พร้อมทัง้ การจัดทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง
ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย
2. ให้ผู้เรียนแบ่งหน้าทกี่ ับเพ่ือนในกล่มุ ใหช้ ัดเจน และสามารถเข้าใจเนอ้ื หาตามหัวขอ้ ดังกลา่ ว ได้
อยา่ งถกู ต้อง ครบถว้ น
ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง
ผเู้ รยี นควรตรวจสอบข้อมลู ก่อนให้ถ่ีถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพอื่ ป้องกันความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ
นกั ศกึ ษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนือ้ หาให้สอดคล้องกับภาพให้
ถกู ตอ้ ง
217
การประเมินผล
1. สังเกตผเู้ รียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรยี นรูป้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ทนั เวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หัดหลังเรยี นไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งตำ่
เอกสารอ้างองิ
หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุเบ้อื งตน้ ของสำนักพมิ พ์เมอื งไทย จำกัด
218
แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยที่............... 10..................................... จำนวน........4..........ชว่ั โมง สปั ดาหท์ .ี่ ....11......
ชอ่ื วิชา การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บื้องตน้
ชื่อหนว่ ย คำสัง่ อาเรย์
ชอ่ื เร่ือง คำส่งั อาเรย์
1. สาระสำคัญ
คอมพวิ เตอร์เป็นอุปกรณ์ท่ีเพม่ิ ความรวดเรว็ ในการประมวลผลขอ้ มลู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานท่ี
มีปริมาณข้อมูลมากๆ ที่อาศัยการประมวลผลในรูปแบบเดียวกัน ดังนั้นการเขียนโปรแกรมเพื่อจัดการงาน
เหล่านี้จะตอ้ งมีการเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากลงในตัวแปร ในกรณีนี้ หากเราประกาศตัวแปรหนึ่งตัวสำหรับ
ข้อมูลหนึ่ง จำนวนโปรแกรมของเราจะประกอบด้วยตัวแปรเปน็ จำนวนมาก นอกจากนั้นการเข้าถึงค่าภายใน
ตัวแปรจะต้องกระทำผา่ นตัวแปรแต่ละตัวโดยตรง และไมส่ ามารถรวบรวมการประมวลผลในรูปแบบเดียวกัน
ไวใ้ นโครงสร้างแบบวนซ้ำได้ ภาษาโปรแกรมส่วนใหญ่รวมทั้ง ภาษา C# จงึ รองรบั การใช้งานโครงสร้างการเกบ็
ข้อมูลชนิดพิเศษ ที่อนุญาตให้เราจัดการกับข้อมูลชนิดเดียวกันหลายๆ จำนวนผ่านตัวแปรเพียงตัวเดียว
โครงสรา้ งการเก็บข้อมลู ดงั กลา่ วมีชื่อเรียกวา่ อาเรย์ (array) และตัวแปรทป่ี ระกาศข้ึนมาเพื่อใช้อ้างถึงอาเรย์
จะถูกเรยี กวา่ ตัวแปรแบบอาเรย์
2. สมรรถนะประจำหน่วย
แสดงความรเู้ ก่ยี วกับการออกแบบและเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บอื้ งตน้ เพอื่ ประยกุ ตใ์ นงานธุรกจิ โดยใช้
คำสัง่ อาเรย์
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป
1. เพอ่ื มคี วามร้คู วามเข้าใจชนดิ ข้อมูลแบบอาเรย์
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกชนดิ ข้อมูลแบบอาเรย์ได้ถูกตอ้ ง
2. อา้ งถงึ ขอ้ มลู แบบอาเรยไ์ ดถ้ กู ต้อง
3. เขยี นโปรแกรมเพ่ือประยกุ ต์ในงานธุรกจิ โดยใชค้ ำสัง่ อาเรย์ ไดถ้ ูกต้อง
4. สาระการเรยี นรู้
1 ชนดิ ขอ้ มลู แบบอาเรย์
2 การอา้ งถงึ ขอ้ มลู ในอาเรย์
3 ตัวอย่างโปรแกรม
219
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี......16-17.........)
กจิ กรรมครู กิจกรรมนักเรยี น
ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน(สปั ดาหล์ ะ 30 นาท)ี
1. ตรวจสอบรายชื่อนกั ศกึ ษาทเี่ ขา้ เรียน 1. ให้ความรว่ มมอื กับครใู นการตรวจสอบ
2.ใหน้ ักศึกษาค้นคว้า คำสั่ง อาเรย์ 2. ค้นคว้า การเก็บข้อมูลแบบอาร์เรย์ ประโยชน์
3. ร่วมสนทนาเก่ยี วกบั เร่ือง คำสั่ง อาเรย์ ของการเกบ็ ข้อมูลแบบอารเ์ รย์มาใช้ การนำเอา
แนวคิดอารเ์ รย์มาใชใ้ นการประมวลผล
ขน้ั ดำเนินการสอน(สัปดาหล์ ะ 180 นาที) 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เหน็
1. บอกจดุ ประสงค์การเรยี น
2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธกี าร ฟัง ทำความเข้าใจและซกั ถาม
ปฎบิ ัตใิ นแต่ ละหวั ข้อการเรียนและใหน้ ักศกึ ษา ฟงั ทำความเขา้ ใจและปฎบิ ัติตาม
ปฎบิ ตั ไิ ปพร้อมกนั ผเู้ รยี นซักถามขอ้ สงสัยและจดบนั ทกึ
3. ครบู อกวธิ กี าร และแนวคิดในการปฏิบตั ทิ ่ี รบั การประเมนิ
ถูกตอ้ งใหแ้ กผ่ ู้เรียน
4. ประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คลโดยครจู ะซักถาม
ในแต่ละคน
ข้ันสรุป(สปั ดาหล์ ะ 30 นาท)ี ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สาระสำคญั
ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สาระสำคญั นกั เรยี นสอบถามขอ้ สงสยั
เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามข้อสงสัย ฟงั และจดบันทึก
มอบหมายให้ไปหดั ทำและศกึ ษาเพมิ่ เตมิ ทำแบบทดสอบทา้ ยบท
ทำแบบทดสอบ
6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
6.1 หนังสอื เรยี น รหสั 20204-2108การเขียนโปรแกรมเชงิ วตั ถเุ บ้ืองต้นของสำนกั พิมพเ์ มืองไทย จำกดั
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝึกหัด
6.4 แบบฝึกปฏบิ ตั ิ
6.5 แบบทดสอบหลงั เรียน
6.7 คอมพิวเตอร์
6.8 เคร่อื งฉายโปรเจ็คเตอร์
220
7. หลักฐานการเรยี นรู้
7.1 หลักฐานความรู้
ใบงาน แบบฝึกหัด การค้นควา้ ข้อมลู ท่ไี ดร้ บั การเรยี บเรียง สวยงาม เปน็ ระเบียบ ถกู ต้อง
7.2 หลักฐานการปฏิบตั งิ าน
ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการค้นคว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรยี ง สวยงาม เป็นระเบยี บ
ถูกต้อง พร้อมท้ังเอกสารประกอบการนำเสนองานหนา้ ชั้นเรยี นของผเู้ รียน และภาพประกอบ
8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
8.1 เคร่อื งมือประเมิน
1. ใบงาน
2. แบบฝกึ หัด
3. แบบประเมนิ ผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
8.2 เกณฑ์การประเมนิ
เคร่ืองมอื การประเมิน วธิ ีวัดและประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝกึ หดั ตรวจแบบฝกึ หัด ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขึน้ ไป
ถูก 1 คะแนน
ไมถ่ กู 0 คะแนน
แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ตรวจแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ได้คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
ถกู 1 คะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน
แบบทดสอบหลังเรียน ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ได้คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขึน้ ไป
ถกู 1 คะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคุณธรรม สังเกตพฤตกิ รรม ไดค้ ะแนน
จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึง ดี 2 คะแนน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
ประสงค์ พอใช้ 1 คะแนน
ปรับปรงุ 0 คะแนน
221
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถ้าม)ี
1. ผเู้ รยี นตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศกึ ษา เพือ่ หาเทคนิค วิธกี าร หรือหลักการงา่ ยเพื่อใหห้ าคำตอบได้
อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ต้ังใจฟงั หลกั การ เทคนิควธิ ีการทค่ี รผู สู้ อนสรปุ ในขณะท่ที ำการสอน และ
นำขอ้ สงสัยซักถามครใู นการเรยี นทุกครง้ั ท่ีเกิดความสับสน และไม่เข้าใจ
2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพอื่ เสริมสร้างความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
3. ผเู้ รียนหมั่นทำใบงาน แบบฝกึ หัด และแก้ไขข้อทผี่ ดิ ให้ถูกต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกับ
ความจำเปน็ ในการนำไปประยกุ ต์ใช้ให้เกิดขึน้ โดยตนเองให้ได้เพื่อเกดิ ความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงไมใ่ ช่
เกิดจากการท่องจำ
10. เอกสารอ้างอิง
หนังสอื เรยี น รหสั 20204-2108การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บื้องตน้ ของสำนกั พมิ พ์เมืองไทย จำกัด
222
ใบความรู้ที่ 10 หน่วยที่ 10
รหสั วชิ า 20204-2108 ช่ือวิชา การเขยี นโปรแกรมเชงิ ภาคเรยี นที่ 1
วตั ถุเบอ้ื งต้น
ชื่อหน่วย คำสัง่ อาเรย์ เวลารวม 8 ชั่วโมง
ชอ่ื เร่ือง คำสัง่ อาเรย์ เวลา 4 ช่ัวโมง
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์ทัว่ ไป
1. เพอื่ มคี วามรคู้ วามเข้าใจชนดิ ขอ้ มลู แบบอาเรย์
จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกชนิดขอ้ มลู แบบอาเรยไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง
2. อ้างถึงข้อมลู แบบอาเรย์ได้ถกู ต้อง
3. เขียนโปรแกรมเพ่ือประยกุ ต์ในงานธุรกจิ โดยใชค้ ำสงั่ อาเรย์ ไดถ้ ูกตอ้ ง
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กย่ี วกับการออกแบบและเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบ้อื งต้นเพือ่ ประยกุ ต์ในงานธุรกจิ
โดยใช้คำสั่งอาเรย์
หน่วยที่ 10 คำสง่ั อาเรย์
(อารเ์ รย์)
อารเ์ รย์จะถกู เกบ็ ไว้ในลำดบั ของคอลเลกชนั ขนาดคงทข่ี ององค์ประกอบของประเภทเดียวกนั
อาร์เรยท์ ใี่ ช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู มักจะถือว่าเปน็ อารเ์ รยค์ ือชดุ ของตวั แปรชนิดเดียวกนั
ประกาศของตัวแปรอารเ์ รยจ์ ะไม่ไดป้ ระกาศ number0, ตวั เลข 1, ... , number99 ตวั แปรที่แยกกนั แต่
การประกาศเช่นหมายเลขตัวแปรนจี้ ากน้ันใชต้ ัวเลข [0], จำนวน [1], ... , หมายเลข [ 99] เพื่อเปน็ ตวั แทน
ของตัวแปรแยกต่างหาก องคป์ ระกอบอาร์เรย์ระบโุ ดยดัชนมี ีการเขา้ ถึง
อาร์เรย์ทั้งหมดจะทำในสถานทีห่ น่วยความจำที่อยู่ติดกนั นน้ั ที่อยู่ตำ่ สุดทส่ี อดคล้องกับองค์ประกอบแรกที่
อยูส่ งู สดุ ทส่ี อดคลอ้ งกบั องคป์ ระกอบทีผ่ ่านมา
C # อาร์เรย์
ประกาศอารเ์ รย์
ประกาศอารเ์ รย์ใน C #, คณุ สามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปน้ี:
ประเภทข้อมลู [] ArrayName;
ในหม่พู วกเขา
ประเภทข้อมลู ทีใ่ ชใ้ นการระบุชนดิ ขององคป์ ระกอบทเ่ี ก็บไวใ้ นอาร์เรย์
[]ยศอารเ์ รยร์ ะบุ (มติ ิ) อนั ดับระบุขนาดของอารเ์ รย์
ArrayNameระบุชือ่ ของอาร์เรย์
223
ตัวอย่างเชน่ :
คู่ [] สมดลุ ;
เร่ิมตน้ array
ประกาศอารเ์ รยไ์ มไ่ ดเ้ รม่ิ ต้นอาร์เรย์ในหน่วยความจำ เมอื่ เรม่ิ ต้นตวั แปรอารเ์ รยค์ ุณสามารถกำหนดใหก้ ับ
อาร์เรย์
อาร์เรยเ์ ปน็ ชนิดอ้างองิ ดงั น้นั คุณจำเปน็ ต้องใช้คำใหมท่ ่จี ะสร้างตัวอย่างของอารเ์ รย์
ตวั อย่างเช่น:
คู่ [] = สมดลุ ใหมค่ ู่ [10];
ได้รับมอบหมายให้อารเ์ รย์
คุณสามารถไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ปน็ องคป์ ระกอบอารเ์ รย์เดียวโดยใชห้ มายเลขดชั นีตัวอย่างเช่น:
คู่ [] = สมดลุ ใหม่คู่ [10];
สมดุล [0] = 4,500.0;
สามารถประกาศอารเ์ รยก์ ารกำหนดอารเ์ รย์ในเวลาเดยี วกนั เช่น:
คู่ [] = {สมดุล 2340.0, 4523.69, 3421.0};
นอกจากนีค้ ณุ ยงั สามารถสรา้ งและเรมิ่ ต้นอาร์เรยเ์ ช่น:
int [] = เครอ่ื งหมาย int ใหม่ [5] {99, 98, 92, 97, 95};
ในกรณขี า้ งต้นคุณสามารถละเว้นขนาดของอารเ์ รย์ตวั อย่างเชน่ :
int [] เครอ่ื งหมาย = new int [] {99, 98, 92, 97, 95};
นอกจากน้ีคณุ ยงั สามารถกำหนดตวั แปรอารเ์ รยไ์ ปยงั เปา้ หมายอกี ตวั แปรอารเ์ รย์ ในกรณีนแ้ี หลง่ ทม่ี าและ
เปา้ หมายจะช้ไี ปยงั ตำแหนง่ หนว่ ยความจำเดียวกัน:
int [] เครอ่ื งหมาย = new int [] {99, 98, 92, 97, 95};
int [] = คะแนนเคร่อื งหมาย;
เมอ่ื คณุ สรา้ งอาร์เรย์, C # คอมไพเลอรจ์ ะเริ่มตน้ ได้โดยปริยายชนดิ อารเ์ รย์ของแตล่ ะองค์ประกอบอารเ์ รย์
ค่าเรม่ิ ต้น ยกตัวอย่างเช่นองค์ประกอบทงั้ หมด int อาร์เรย์จะเรม่ิ ต้นได้ที่ 0
การเข้าถงึ องคป์ ระกอบมากมาย
องค์ประกอบการจดั ทำดัชนีโดยใช้ชื่อในการเข้าถงึ อารเ์ รย์ นจ้ี ะกระทำโดยการวางดชั นีขององคป์ ระกอบใน
วงเลบ็ หลังชอื่ ของอารเ์ รยเ์ พื่อใหบ้ รรลุ ตัวอย่างเช่น:
เงินเดอื นคู่ = สมดลุ [9];
นค่ี อื ตัวอย่างการใช้สามแนวคิดดังกล่าวข้างตน้ คำส่งั ท่ไี ด้รบั มอบหมายการเขา้ ถงึ อารเ์ รย์:
การใช้ระบบ
ArrayApplication namespace
{
MyArray ระดบั
224
{
เป็นโมฆะคง main (String args [])
{
int [] n = new int [10]; / * n คืออาร์เรย์จำนวนเต็ม 10 * /
int I, J;
/ * เร่ิมตน้ อาร์เรย์ขององค์ประกอบ n นี้ * /
สำหรบั (i = 0; i <10; i ++)
{
n [I] = i + 100;
}
/ * มูลค่าของการสง่ ออกของแต่ละองคป์ ระกอบอารเ์ รย์ * /
สำหรบั (J = 0; J <10; J ++)
{
Console.WriteLine ( "ธาตุ [{0}] = {1}", J, n [เจ]);
}
Console.ReadKey ();
}
}
}
เม่อื โค้ดขา้ งตน้ จะรวบรวมและดำเนนิ การกจ็ ะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลลพั ธ์ตอ่ ไปน้ี:
องคป์ ระกอบ [0] = 100
องค์ประกอบ [1] = 101
องค์ประกอบ [2] = 102
องคป์ ระกอบ [3] = 103
องคป์ ระกอบ [4] = 104
องค์ประกอบ [5] = 105
องคป์ ระกอบ [6] = 106
องคป์ ระกอบ [7] = 107
องค์ประกอบ [8] = 108
องค์ประกอบ [9] = 109
ใชห้ ว่ งforeach
ในตัวอย่างก่อนหน้านเี้ ราใชส้ ำหรบั วงในการเขา้ ถงึ แตล่ ะองคป์ ระกอบอาร์เรย์ นอกจากน้คี ุณยงั สามารถใช้
คำสัง่ foreach เพอื่ สำรวจอารเ์ รย์
การใชร้ ะบบ
225
ArrayApplication namespace
{
MyArray ระดบั
{
เป็นโมฆะคง main (String args [])
{
int [] n = new int [10]; / * n คืออารเ์ รย์จำนวนเต็ม 10 * /
/ * เรม่ิ ต้นอารเ์ รยข์ ององคป์ ระกอบ n นี้ * /
for (int i = 0; i <10; i ++)
{
n [I] = i + 100;
}
/ * มลู คา่ ของการสง่ ออกของแตล่ ะองคป์ ระกอบอารเ์ รย์ * /
foreach (int J ใน n)
{
int i = J-100;
Console.WriteLine ( "ธาตุ [{0}] = {1}", I, J);
}
Console.ReadKey ();
}
}
}
เมอื่ โคด้ ข้างตน้ จะรวบรวมและดำเนนิ การกจ็ ะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลลพั ธ์ตอ่ ไปนี้:
Element[0] = 100
Element[1] = 101
Element[2] = 102
Element[3] = 103
Element[4] = 104
Element[5] = 105
Element[6] = 106
Element[7] = 107
Element[8] = 108
Element[9] = 109
226
แบบฝกึ หัด/เฉลย
ตอนที่ 1 คำสง่ั จงตอบคำถามต่อไปนใี้ หถ้ ูกตอ้ ง
1. จงยกตัวอย่างขอ้ มลู ชนิดอาเรย์
ตอบ
int[] score; ตวั แปร score มีชนิดขอ้ มลู เปน็ แบบเลขจำนวนเตม็ (integer)
char[] grade; ตัวแปร char มชี นิดข้อมูลเปน็ แบบอักขระ (characters)
string[] name; ตวั แปร string มีชนิดขอ้ มูลเปน็ แบบสตริง (strings)
2. จงอธิบายการอ้างถงึ ขอ้ มลู ในอาเรย์พรอ้ มยกตัวอย่าง
ตอบ การอา้ งถึงข้อมูลในอาเรย์
เราสามารถเขา้ ถึงข้อมลู แตล่ ะจำนวนภายในอาเรย์ผ่านทางดัชนี (index) ทีส่ อดคล้องกับตำแหน่ง
ของข้อมูลนั้น ๆ โดยค่าดัชนีสำหรับข้อมูลตวั แรกสุดในอาเรย์ถูกำหนดให้เป็นดัชนีหมายเลข 0 ถัดมาเป็น
หมายเลข 1 เรอ่ื ยไป ดังนนั้ สำหรบั อาเรยท์ ่ีมคี วามยาว N แล้ว คา่ ของดัชนที ีใ่ ช้งานไดจ้ งึ เรม่ิ ตั้งแต่ 0 ถึง N-1
ในภาษา C# ขอ้ มลู ณ ตำแหนง่ idx ภายในอาเรย์ชือ่ ArrayName จะถูกอ้างถึงในรปู แบบ
ArrayName[idx]
การอ้างองิ ถงึ ข้อมูลภายในอาเรย์ในรูปแบบนี้จะมีการใช้งานเสมือนเป็นตวั แปรโดดตัวหน่ึง นั่นคอื
หากเราใช้การอ้างองิ นี้เป็นส่วนหนึง่ ของนิพจน์ใดๆ ค่าภายในอาเรย์จะถูกดึงออกมาใช้เพื่อประเมนิ ค่าของ
นิพจนน์ ้ันๆในทางตรงกนั ขา้ ม หากเราวางการอ้างองิ น้ีไวท้ างด้านซา้ ยของเครื่องหมาย = ในคำสั่งให้ค่ากับ
ตัวแปร ค่าของอาเรยต์ ำแหนง่ น้กี ็จะถูกเปล่ยี นคา่ ไปตามนน้ั
ตัวอย่าง อาเรย์ scores ซึ่งประกอบด้วยจำนวนเต็ม 5 จำนวน กำหนดค่า 52 ให้กับข้อมูลตัวแรก
ของอาเรย์
scores[0] = 52;
นำข้อมูลในตำแหนง่ ท้ายสุดของอาเรยม์ าแสดงผลบนหน้าจอ
Console.WriteLine(scores[4]);
กำหนดให้ค่าทุกคา่ ในอาเรย์มคี า่ เท่ากับ 3
for (int i = 0; i < 5; i++)
scores[i] = 3;
227
คำนวณผลรวมของคา่ ทง้ั หมดภายในอาเรย์
int sum = 0;
for (int i = 0; i < 5; i++)
sum = sum + scores[i];
นำคา่ ทงั้ หมดในอาเรย์มาแสดงผลบนหน้าจอ
for (int i = 0; i < 5; i++)
Console.WriteLine("Student {0}: {1}", i+1, scores[i]);
ให้นกั ศึกษาออกแบบและเขยี นโปรแกรมเพอ่ื ประยกุ ต์ในงานธุรกิจ โดยใช้คำสัง่ อาเรย์
ขอ้ ที่ 1 สร้างอาเรยส์ ำหรบั เกบ็ รหัสประจำตัวนกั ศกึ ษา จำนวน 5 คน อ้างอิงผ่านตัวแปรแบบ
อาเรยช์ ่ือ code และใหแ้ สดงผลออกมาทางหนา้ จอภาพ (1111,2222,3333,4444,5555)
สร้างอาเรย์สำหรับเก็บ ชื่อนักศึกษา จำนวน 5 คน อ้างอิงผ่านตัวแปรแบบอาเรย์
ชอ่ื names และให้แสดงผลออกมาทางหน้าจอภาพ (Manee,Somchai,Weera,Meena,Juntima)
สรา้ งอาเรย์ชื่อ scores เพ่ือเก็บคะแนน เปน็ เลขจำนวนเต็ม 5 จำนวน โดยมคี ่าเร่ิมต้น
เทา่ กบั 60, 55, 73, 45, 80 และใหแ้ สดงผลออกมาทางหน้าจอภาพ ดงั น้ี
ผลลพั ธโ์ ปรแกรม
โคต๊ โปรแกรม
using System;
using System.Collections.Generic;
using System.Linq;
using System.Text;
namespace ConsoleApplication21
{
class Program
{
static void Main(string[] args)
{
228
int[] code = new int[5] { 1111, 2222, 3333, 4444, 5555 };
for (int i = 0; i < 5; i++)
Console.WriteLine("Code = {0}: {1}", i + 1, code[i]);
string[] names;
names = new string[5] { "Warapron", "Weera", "Khanidtha", "Thakon", "Pronchai" };
for (int i = 0; i < 5; i++)
Console.WriteLine("Name = {0}: {1}", i + 1, names[i]);
int[] scores = new int[5] { 60, 55, 73, 45, 80 };
for (int i = 0; i < 5; i++)
Console.WriteLine("Score = {0}: {1}", i + 1, scores[i]);
Console.ReadKey();
}
}
}
เอกสารอ้างอิง
หนังสือเรยี น รหสั 20204-2108 การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บือ้ งตน้ ของสำนกั พมิ พเ์ มืองไทย
จำกัด
ภาคผนวก (ถ้าม)ี
229
ใบงานที่ 10 หนว่ ยที่ 10
รหสั วิชา 20204-2108 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมเชงิ ภาคเรยี นท่ี 1
วตั ถเุ บ้ืองต้น
ชอ่ื หนว่ ย คำสั่ง อาเรย์ เวลารวม 8 ชัว่ โมง
ช่ืองาน คำสง่ั อาเรย์ จำนวน 4 ช่วั โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ัว่ ไป
1. เพอ่ื มีความรูค้ วามเขา้ ใจชนดิ ขอ้ มูลแบบอาเรย์
จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกชนดิ ขอ้ มลู แบบอาเรย์ไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อ้างถึงขอ้ มูลแบบอาเรย์ได้ถูกต้อง
3. เขียนโปรแกรมเพ่อื ประยกุ ตใ์ นงานธุรกจิ โดยใชค้ ำสัง่ อาเรย์ ได้ถูกต้อง
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความร้เู กย่ี วกบั การออกแบบและเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถเุ บอ้ื งต้นเพื่อประยกุ ต์ในงานธุรกจิ
โดยใชค้ ำส่ังอาเรย์
เครอ่ื งมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สือ
ลำดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
1. ให้นักศกึ ษาแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม เพ่อื ศกึ ษาและอภิปราย
1.1 อธิบายความรู้เกยี่ วกบั ความเข้าใจคำสัง่ อาเรย์กราฟิก
1.2 เขยี นรปู พรอ้ มอธบิ ายความเขา้ ใจคำสงั่ อาเรย์
2. เขียนอภปิ รายและวเิ คราะหใ์ ส่กระดาษ
3. นำผลงานส่งครผู สู้ อนเพอื่ ประเมนิ ผล
ภาพประกอบ
ข้อควรระวงั
ผูเ้ รยี นควรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นใหถ้ ี่ถ้วน ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพ่อื ป้องกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
230
ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี)
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนอ้ื หาให้สอดคลอ้ งกบั ภาพใหถ้ กู ตอ้ ง
การประเมินผล (ตอ้ งระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ดั เจน)
1. สงั เกตผู้เรยี นมคี วามสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้
ในการแสดงความคดิ เหน็ และสรปุ สาระการเรยี นรูป้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถูกต้อง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝกึ หัดหลังเรียนได้ถูกต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียน รหสั 20204-2108การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุเบอ้ื งตน้ ของสำนกั พมิ พ์เมอื งไทย จำกดั
231
ใบกิจกรรมท่ี 10 หนว่ ยท่ี 10
รหสั วิชา 20204-2108ช่อื วชิ า การเขียนโปรแกรมเชงิ ภาคเรยี นที่ 1
วตั ถเุ บือ้ งต้น
ชอื่ หนว่ ย คำสง่ั อาเรย์ เวลารวม 8 ชวั่ โมง
ชื่องาน คำสั่ง อาเรย์ จำนวน 4 ชัว่ โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ่วั ไป
1. เพอื่ มคี วามรู้ความเขา้ ใจชนิดขอ้ มลู แบบอาเรย์
จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกชนิดข้อมลู แบบอาเรยไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง
2. อ้างถงึ ขอ้ มูลแบบอาเรยไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง
3. เขียนโปรแกรมเพือ่ ประยกุ ตใ์ นงานธรุ กจิ โดยใชค้ ำสั่งอาเรย์ ได้ถกู ต้อง
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรู้เกีย่ วกบั การออกแบบและเขียนโปรแกรมเชงิ วตั ถุเบื้องต้นเพ่ือประยกุ ตใ์ นงานธรุ กจิ
โดยใชค้ ำสัง่ อาเรย์
เคร่ืองมอื วัสดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ
ลำดบั กจิ กรรม
1. ผู้เรยี นต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพ่อื หาเทคนคิ วิธีการ หรอื หลักการงา่ ยเพ่ือให้หาคำตอบ
ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควธิ ีการทีค่ รูผู้สอนสรปุ ในขณะที่ทำการ
สอน และนำข้อสงสัยซักถามครูในการเรียนทุกครั้งท่ีเกดิ ความสับสน และไม่เขา้ ใจ
2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพื่อเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง
3. ผเู้ รียนหมั่นทำใบงาน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขข้อที่ผดิ ให้ถกู ต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรูแ้ ละเทคนิควิธกี ารพร้อมกับ
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ไดเ้ พื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไมใ่ ช่เกิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาท่ี
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เมอื่ ได้รบั มอบหมายงานมา
232
การประเมินผล (ตอ้ งระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ดั เจน)
1. สงั เกตผเู้ รยี นมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรียนร้ปู ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ทนั เวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หัดหลังเรยี นได้ถูกต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งอิง
หนงั สือเรียน รหสั 20204-2108การเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถุเบ้อื งตน้ ของสำนกั พมิ พ์เมืองไทย จำกัด
233
ใบปฏบิ ตั ิงานที่ 10 หน่วยท่ี 10
รหัสวิชา 20204-2108ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมเชิง ภาคเรียนที่ 1
วัตถเุ บอื้ งต้น
ชือ่ หนว่ ย คำส่ัง อาเรย์ เวลารวม 8 ชวั่ โมง
ชือ่ งาน คำส่งั อาเรย์ จำนวน 4 ชว่ั โมง
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
จุดประสงค์ทว่ั ไป
1. เพอ่ื มีความรคู้ วามเข้าใจชนิดขอ้ มลู แบบอาเรย์
จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. บอกชนดิ ขอ้ มลู แบบอาเรย์ได้ถูกต้อง
2. อา้ งถงึ ขอ้ มลู แบบอาเรย์ไดถ้ ูกตอ้ ง
3. เขียนโปรแกรมเพื่อประยกุ ตใ์ นงานธุรกจิ โดยใช้คำส่ังอาเรย์ ได้ถูกตอ้ ง
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรูเ้ กยี่ วกับการออกแบบและเขียนโปรแกรมเชงิ วตั ถุเบอื้ งต้นเพือ่ ประยกุ ต์ในงานธรุ กจิ
โดยใชค้ ำสง่ั อาเรย์
เคร่ืองมือ วัสดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสือ
ลำดบั ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
1. ผเู้ รียนคน้ หาข้อมลู จากในอนิ เตอร์เนต็ ตามเรื่องที่ได้รบั มอบหมายมาจาครูผสู้ อน
2. เมอ่ื ผเู้ รยี นไดร้ บั ข้อมลู เรียบรอ้ ยแลว้ ใหผ้ ู้เรยี น นำขอ้ มูลนนั้ มาเรยี บเรยี งใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจได้งา่ ย โดยจัดทำในรปู แบบเลม่ รายงาน
ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง
ผู้เรยี นควรตรวจสอบข้อมลู ก่อนให้ถีถ่ ว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพ่ือปอ้ งกนั ความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
234
ขอ้ เสนอแนะ
นกั ศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนือ้ หาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้
ถูกต้อง
การประเมนิ ผล
1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือรน้ ใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรียนได้ถกู ต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งองิ
หนังสือเรียน รหสั 20204-2108การเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถุเบอื้ งตน้ ของสำนกั พมิ พ์เมืองไทย จำกดั
235
ใบมอมหมายงานที่ 10 หน่วยท่ี 10
รหสั วชิ า 20204-2108ชือ่ วชิ า การเขียนโปรแกรมเชงิ ภาคเรยี นที่ 1
วัตถเุ บ้อื งตน้
ช่ือหน่วย คำสงั่ อาเรย์ เวลารวม 8 ช่วั โมง
ช่อื งาน คำสง่ั อาเรย์ จำนวน 4 ชัว่ โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1. เพอ่ื มคี วามรคู้ วามเข้าใจชนิดขอ้ มูลแบบอาเรย์
จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกชนิดขอ้ มลู แบบอาเรยไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง
2. อา้ งถึงขอ้ มลู แบบอาเรย์ได้ถูกต้อง
3. เขียนโปรแกรมเพื่อประยกุ ต์ในงานธรุ กจิ โดยใชค้ ำส่ังอาเรย์ ได้ถูกตอ้ ง
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความร้เู ก่ยี วกบั การออกแบบและเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถเุ บ้อื งตน้ เพ่อื ประยกุ ตใ์ นงานธรุ กจิ
โดยใช้คำส่งั อาเรย์
เครือ่ งมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสือ
แนวทางการปฏบิ ัตงิ าน
1. ให้ผู้เรยี นปฏิบัตงิ านตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏิบตั งิ าน อย่างเคร่งครัด ตามหวั ขอ้ ท่ีไดร้ บั
มอบหมาย ใหเ้ สรจ็ ส้นิ ตามระยะเวลาทีก่ ำหนด พรอ้ มทัง้ การจดั ทำรายงาน และนำเสนองานอย่าง
ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน เป็นระเบียบเรียบร้อย
2. ให้ผ้เู รยี นแบง่ หนา้ ทก่ี ับเพอ่ื นในกลมุ่ ให้ชัดเจน และสามารถเขา้ ใจเนอื้ หาตามหัวข้อดงั กล่าว ได้
อย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน
ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวงั
ผเู้ รียนควรตรวจสอบข้อมลู กอ่ นให้ถ่ีถ้วน ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพื่อป้องกนั ความผิดพลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ
236
นกั ศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนื้อหาให้สอดคล้องกบั ภาพให้
ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล
1. สังเกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ทนั เวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผูเ้ รยี นทำแบบฝึกหัดหลังเรยี นไดถ้ กู ต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108 การเขียนโปรแกรมเชงิ วตั ถเุ บอ้ื งต้นของสำนกั พมิ พเ์ มอื งไทย จำกดั
ฃฃฃฃฃฃฃฃฃฃฃฃฃฃฃฃ
237
แผนการจัดการเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี............... 11..................................... จำนวน........12..........ชัว่ โมง สัปดาห์ท่ี.....12-14......
ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถเุ บ้ืองต้น
ชอ่ื หนว่ ย การเขยี นโปรแกรมในโหมด Windows Forms Application
ชื่อเรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมในโหมด Windows Forms Application
1. สาระสำคัญ
ในการพัฒนาโปรแกรมเราสามารถเลือก ตน้ แบบ (Template) โดยโปรแกรมจะเตรียมสว่ นประกอบ
พื้นฐานที่จำเป็นให้เราใช้งาน เช่นหน้าจอ คลาสหลักๆ ที่ต้องใช้ จากนั้นให้ผู้พัฒนาโปรแกรมเลือกกำหนด
รายละเอียดของหน้าจอ การตกแต่งหน้าจอ และการเขียนโปรแกรมเอง การใช้ต้นแบบทำให้การเขียน
โปรแกรมทำได้เรว็ ขึ้น และมมี าตรฐานเดียวกันทกุ ๆโปรแกรมสำหรับต้นแบบ
Windows Forms Application เปน็ ตน้ แบบทใ่ี ชส้ ำหรบั การสรา้ งโปรแกรมท่ที ำงานบนวนิ โดว์
Console Application เป็นต้นแบบที่ใช้ในการสร้างโปรแกรมที่ทำงานบน Dos การทำงานจะเป็น
แบบพมิ พ์คำสัง่
2. สมรรถนะประจำหน่วย
แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การออกแบบและการเขียนโปรแกรมในโหมด Windows Forms Application
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จุดประสงคท์ วั่ ไป
1. เพอื่ มคี วามร้คู วามเข้าใจการเขียนโปรแกรมด้วย Windows Forms Application
2. เพื่อมีความรู้ความเขา้ ใจเขียนโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Button
3. เพอื่ มคี วามรู้ความเขา้ ใจเขียนโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล Label
4. เพื่อมีความรูค้ วามเข้าใจเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Textbox
5. เพอ่ื มีความรูค้ วามเขา้ ใจเขียนโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล Picture box
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกขนั้ ตอนการเขยี นโปรแกรมด้วย Windows Forms Application
2. เขียนโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล Button ไดถ้ ูกต้อง
3. เขียนโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล Label ไดถ้ ูกตอ้ ง
4. เขียนโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล Textbox ได้ถูกต้อง
5. เขยี นโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล (Picture box) ไดถ้ กู ต้อง
6. เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสง่ั เงื่อนไข If ไดถ้ ูกต้อง
238
4. สาระการเรียนรู้
1 ขัน้ ตอนการเขยี นโปรแกรมดว้ ย Windows Forms Application
1.1 หนา้ ตา่ ง Form Designer
1.2 Button
1.3 Label
1.4 Textbox
1.5 Picture box
2 ตัวอย่างโปรแกรมพ้ืนทส่ี เี่ หลย่ี มผืนผ้า
3 ตวั อย่างโปรแกรมทกั ทาย โดยใชร้ ปู แบบ MassageBox.show
4 ตวั อยา่ งโปรแกรมบวกเลข
5 ตวั อย่างโปรแกรมเปรียบเทยี บอายุ โดยใช้เงอื่ นไข if
6 ตัวอยา่ งโปรแกรมเลขคูเ่ ลขค่ี โดยใชเ้ ง่ือนไข if
7 ตวั อยา่ งโปรแกรมค่าคอมมสิ ชัน่ โดยใช้คำสงั่ เงอ่ื นไข If
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี......12-14.........)
กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรียน
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น(สปั ดาหล์ ะ 30 นาท)ี
1. ตรวจสอบรายชอื่ นักศึกษาทเ่ี ขา้ เรยี น 1. ใหค้ วามร่วมมอื กับครูในการตรวจสอบ
2.ให้นกั ศกึ ษาคน้ ควา้ คำสง่ั อาเรย์ 2. ค้นควา้ การเก็บขอ้ มลู แบบอารเ์ รย์ ประโยชน์
3. รว่ มสนทนาเกยี่ วกบั เร่อื ง คำสง่ั อาเรย์ ของการเกบ็ ข้อมูลแบบอารเ์ รยม์ าใช้ การนำเอา
แนวคดิ อารเ์ รยม์ าใชใ้ นการประมวลผล
3. ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เหน็
ข้นั ดำเนินการสอน(สปั ดาห์ละ 180 นาท)ี ฟงั ทำความเขา้ ใจและซักถาม
1. บอกจุดประสงค์การเรยี น ฟงั ทำความเขา้ ใจและปฎบิ ตั ติ าม
2. บรรยาย อธิบาย ยกตวั อย่าง แสดงวธิ ีการปฎบิ ตั ิ ผู้เรยี นซกั ถามข้อสงสยั และจดบนั ทึก
ในแต่ ละหวั ข้อการเรียนและใหน้ กั ศกึ ษาปฎบิ ตั ิไป รับการประเมนิ
พร้อมกัน
3. ครูบอกวธิ กี าร และแนวคิดในการปฏบิ ตั ทิ ี่ถกู ต้อง ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญ
ใหแ้ ก่ผ้เู รียน นักเรียนสอบถามขอ้ สงสยั
4. ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คลโดยครูจะซกั ถามใน ฟังและจดบันทึก
แต่ละคน ทำแบบทดสอบทา้ ยบท
ขัน้ สรุป(สปั ดาห์ละ 30 นาที)
ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปสาระสำคญั
เปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั
มอบหมายให้ไปหัดทำและศกึ ษาเพม่ิ เติม
ทำแบบทดสอบ
239
6. สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
6.1 หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108 การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถุเบ้อื งตน้ ของสำนักพมิ พเ์ มอื งไทย จำกัด
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝึกหดั
6.4 แบบฝกึ ปฏบิ ัติ
6.5 แบบทดสอบหลงั เรยี น
6.7 คอมพิวเตอร์
6.8 เครือ่ งฉายโปรเจ็คเตอร์
7. หลักฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
ใบงาน แบบฝึกหัด การคน้ คว้าขอ้ มลู ท่ีได้รบั การเรียบเรียง สวยงาม เปน็ ระเบียบ ถกู ตอ้ ง
7.2 หลกั ฐานการปฏิบัติงาน
ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการคน้ คว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เป็นระเบยี บ
ถกู ต้อง พรอ้ มท้ังเอกสารประกอบการนำเสนองานหนา้ ช้ันเรยี นของผ้เู รียน และภาพประกอบ
8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
8.1 เคร่อื งมือประเมนิ
1. ใบงาน
2. แบบฝึกหดั
3. แบบประเมนิ ผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
8.2 เกณฑ์การประเมิน
เคร่อื งมอื การประเมิน วิธีวดั และประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝกึ หัด ตรวจแบบฝกึ หัด ได้คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ข้นึ ไป
ถกู 1 คะแนน
ไมถ่ กู 0 คะแนน
แบบฝกึ ปฏิบัติ ตรวจแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ได้คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขึน้ ไป
ถกู 1 คะแนน
ไมถ่ ูก 0 คะแนน
แบบทดสอบหลังเรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ได้คะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
ถูก 1 คะแนน
ไมถ่ ูก 0 คะแนน
240
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคุณธรรม สงั เกตพฤติกรรม ไดค้ ะแนน
จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ดี 2 คะแนน รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
ประสงค์ พอใช้ 1 คะแนน
ปรับปรงุ 0 คะแนน
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถา้ มี)
1. ผ้เู รยี นต้องใหค้ วามสนใจในการศกึ ษา เพ่ือหาเทคนิค วธิ กี าร หรอื หลกั การง่ายเพอ่ื ให้หาคำตอบได้
อยา่ งถกู ต้อง และรวดเรว็ โดยการ ต้ังใจฟังหลักการ เทคนคิ วธิ ีการทค่ี รผู ูส้ อนสรปุ ในขณะที่ทำการสอน และ
นำขอ้ สงสัยซกั ถามครูในการเรียนทุกครงั้ ท่ีเกิดความสับสน และไม่เขา้ ใจ
2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเข้าใจอย่างแท้จริง
3. ผเู้ รยี นหมัน่ ทำใบงาน แบบฝึกหัด และแก้ไขขอ้ ทผี่ ิดให้ถูกต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกบั
ความจำเปน็ ในการนำไปประยุกตใ์ ชใ้ ห้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแทจ้ ริงไมใ่ ช่
เกิดจากการทอ่ งจำ
10. เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียน รหสั 20204-2108 การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถเุ บ้อื งตน้ ของสำนักพมิ พเ์ มอื งไทย จำกัด
241
ใบความร้ทู ี่ 11 หน่วยท่ี 11
รหสั วชิ า 20204-2108 ชื่อวชิ า การเขียนโปรแกรมเชิง ภาคเรียนที่ 1
วัตถเุ บอื้ งต้น
ชือ่ หนว่ ย การเขยี นโปรแกรมในโหมด Windows Forms เวลารวม 12 ชั่วโมง
Application
ช่อื เร่ือง การเขยี นโปรแกรมในโหมด Windows Forms Application เวลา 4 ช่วั โมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. เพอื่ มีความรูค้ วามเข้าใจการเขยี นโปรแกรมดว้ ย Windows Forms Application
2. เพอ่ื มีความรคู้ วามเข้าใจเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Button
3. เพ่ือมีความรูค้ วามเขา้ ใจเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Label
4. เพอ่ื มีความรู้ความเข้าใจเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Textbox
5. เพอ่ื มีความรู้ความเขา้ ใจเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Picture box
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกขั้นตอนการเขียนโปรแกรมดว้ ย Windows Forms Application
2. เขียนโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล Button ได้ถูกต้อง
3. เขียนโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Label ได้ถูกตอ้ ง
4. เขียนโปรแกรมโดยใชค้ อลโทรล Textbox ได้ถกู ต้อง
5. เขยี นโปรแกรมโดยใช้คอลโทรล (Picture box) ไดถ้ กู ตอ้ ง
6. เขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั เงื่อนไข If ได้ถูกต้อง
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การออกแบบและการเขยี นโปรแกรมในโหมด Windows Forms
Application
หนว่ ยที่ 11 การเขียนโปรแกรมในโหมด Windows Forms Application
สรา้ งโปรเจกตช์ ื่อ BookShop
โปรเจกต์นจ้ี ะจำลองร้านขายหนงั สือ โดยแบง่ ออกเป็นสองสว่ น ไดแ้ ก่
- หน้ารา้ น
- หลงั ร้าน
เรมิ่ จากส่วนหลงั ร้านกอ่ น โดยสมมติให้พนกั งานประจำรา้ นสามารถเรยี กดู, เพม่ิ , แก้ไข หรอื ลบขอ้ มลู
เก่ยี วกับสินค้าในร้านได้
- เปิด Microsoft Visual Studio
- เลือกเมนู File -> New -> Project...
242
- เลือก Templates เป็น Visual C#
- เลือกรปู แบบ Windows Forms Application
- ตงั้ ชื่อโปรเจกตเ์ ป็น BookShop และเลอื กไมส่ รา้ ง solution
จะปรากฎหน้าต่าง Form1.cs [Design]
- ให้ทดลองกด Ctrl + F5 หรอื เลอื กเมนู Debug -> Start Without Debugging
*** สลับการใชง้ านโหมด Layout ระหว่าง SnapLines และ SnapToGrid
- เลอื กเมนู Tools -> Options
- เลือกหมวด Windows Forms Designer -> General
243
- มองไปทางดา้ นขวาเลอื กหัวขอ้ LayoutMode เป็น SnapToGrid
...จากความร้เู รือ่ งพรอเพอร์ต้ที ผ่ี า่ นมา เพ่อื นๆสามารถปรบั เปลี่ยนคุณสมบัตขิ อง form ไดต้ ามต้องการ
- กดปมุ่ รูป ซ่งึ อาจอยดู่ ้านบนมมุ ขวา หรอื เลอื กเมนู View -> Properties Window
- มองหาพรอเพอร์ต้ชี ือ่ Text แลว้ เปลยี่ นเปน็ ขอ้ ความ หลงั ร้าน
***หมายเหตุ พรอเพอรต์ ีอ้ ่นื ๆให้เพอ่ื นๆทดลองปรบั เปลี่ยนตามใจชอบ แล้วสงั เกตผลลัพธท์ เ่ี กดิ ขึ้น จะทำให้
เรียนรไู้ วย่งิ ข้นึ
244
การใช้งาน MessageBox ใน Windows Forms
1. แสดง MessageBox ทม่ี เี ฉพาะข้อความ
1MessageBox.Show("สวัสดี, CS Developers");
2. แสดง MessageBox ทมี่ ีข้อความและคำอธิบาย
1MessageBox.Show("สวสั ดี, CS Developers", "แจ้งตอื น");
3. แสดง MessageBox ทม่ี ขี ้อความ คำอธิบาย และปุ่ม
1 MessageBox.Show("สวัสดี, CS Developers", "แจ้งตือน", MessageBoxButtons.OK);
โดยจะมีปมุ่ ให้เลือกใช้งานไดห้ ลายรปู แบบ ดงั นี้
MessageBoxButtons.OK MessageBoxButtons.OKCancel
MessageBoxButtons.AbortRetryIgnore MessageBoxButtons.YesNoCancel
MessageBoxButtons.YesNo MessageBoxButtons.RetryCancel
245
4. แสดง MessageBox ทมี่ ขี อ้ ความ คำอธิบาย ปุม่ และไอคอน
1MessageBox.Show(
2 "สวสั ด,ี CS Developers",
3 "แจง้ ตอื น",
4 MessageBoxButtons.OK,
5 MessageBoxIcon.Asterisk
6);
โดยจะมไี อคอนให้เลอื กใชง้ านได้หลายรปู แบบ (บางไอคอนก็จะแสดงผลเหมือนกนั ) ดงั น้ี
MessageBoxIcon.Asterisk MessageBoxIcon.Error
MessageBoxIcon.Exclamation MessageBoxIcon.Hand
MessageBoxIcon.Information MessageBoxIcon.None
MessageBoxIcon.Question MessageBoxIcon.Stop