4. สาระการเรียนรู้
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ การนาคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องและอุปกรณ์เทคโนโลยีมา
เชื่อมต่อกันมากกว่า 1 เครื่อง เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทาให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล สารอง
ข้อมลู รวมถึงการตดิ ต่อสอื่ สารได้
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝเ่ รียนรู้
- มุ่งมั่นในการทางาน
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นา ( 5 นาที )
1. คุณครูอธิบายชี้แจงเรื่องกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองวิจัยในช้ัน
เรียนโดยใช้สื่อโมชันกราฟิก รายวิทยาการคานวณ เรื่องเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สาหรับช้นั
ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 โรงเรียนปักธงชยั ชุณหะวัณวทิ ยาคาร
2. คุณครูแจ้งมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดและจุดประสงค์การเรียนรู้ และขั้นตอนการทา
กจิ กรรมให้นักเรยี นทราบ
3. คุณครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินระดับความรู้ความเข้าใจ
เรอื่ งเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
ขัน้ สอน ( 40 นาที )
4. คณุ ครูใชส้ ่อื คลิปวดิ โี อโมชันกราฟกิ รายวิทยาการคานวณ เรอ่ื งเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สาหรบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นปกั ธงชยั ชณุ หะวณั วิทยาคาร ใหน้ ักเรยี นศกึ ษา
5. นกั เรยี นทากิจกรรม และแบบฝกึ หดั ปฏิบตั ไิ ปพรอ้ ม ๆ กับคลิปสือ่ คลปิ วดิ ีโอดงั กล่าว
6. เมื่อนักเรียน เรียนรู้ด้วยสื่อคลิปวิดีโอโมชันกราฟิก รายวิทยาการคานวณ เรื่องเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ สาหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรียบร้อยแล้ว คุณครูให้นักเรียนทา
แบบทดสอบหลงั เรียน
ขนั้ สรปุ ( 5 นาที )
7. ทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และเฉลยแบบทดสอบพร้อมสรุป
คะแนนแบบทดสอบ
8. ส่อื การเรียนรู้
- สื่อวิดีโอโมชันกราฟิก รายวิทยาการคานวณ เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สาหรับ
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 https://youtu.be/I56MpLymxzg
- ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 อยากเกดิ เป็นมนุษยย์ ุคไหน
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศึกษา
ปที ี่ 4 (พว.)
9. แหล่งการเรยี นรู้
- เว็บสืบคน้ ขอ้ มลู
- หอ้ งสมุด
10. การวดั และประเมินผล
รายการวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
อธิบายการออกแบบโปรแกรม ตรวจแบบ แบบทดสอบก่อนและหลัง เกณฑ์ 50% ขนึ้ ไป
การแก้ปัญหาตามขนั้ ตอนการ ทดสอบหลงั เรยี น
เรอ่ื งเครือขา่ ย เรยี น เร่อื งเครอื ข่าย นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
แกป้ ัญหา (K)
อินเทอรเ์ นต็ อินเทอรเ์ น็ต 5 ขอ้ ผ่านเกณฑ์
นกั เรยี นอธบิ ายลกั ษณะของการ ตรวจแบบ แบบทดสอบกอ่ นและหลัง เกณฑ์ 50% ขน้ึ ไป
ส่อื สารยคุ โบราณและยคุ ทดสอบหลังเรยี น
ปจั จุบันได้(K) เร่ืองเครอื ขา่ ย เรยี น เรื่องเครอื ข่าย นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
อินเทอร์เนต็ อินเทอรเ์ นต็ 5 ข้อผา่ นเกณฑ์
นกั เรยี นสามารถเปรยี บเทยี บ ตรวจแบบ แบบทดสอบกอ่ นและหลัง เกณฑ์ 50% ขน้ึ ไป
ลักษณะของการส่ือสารยคุ ทดสอบหลังเรียน
โบราณและยุคปัจจบุ นั ได้ (K) เรื่องเครอื ข่าย เรยี น เรอ่ื งเครือขา่ ย นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
อินเทอร์เนต็ อนิ เทอร์เนต็ 5 ข้อผ่านเกณฑ์
นกั เรยี นสามารถจาแนก ตรวจแบบ แบบทดสอบก่อนและหลัง เกณฑ์ 50% ขนึ้ ไป
อปุ กรณ์ท่ีใช้เช่อื มตอ่ กบั ทดสอบหลงั เรียน
เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรไ์ ด้ (K) เร่อื งเครอื ข่าย เรยี น เรื่องเครอื ขา่ ย นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
อินเทอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ต 5 ขอ้ ผา่ นเกณฑ์
เห็นความสาคัญของการ
ออกแบบโปรแกรมการ สงั เกต คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์รบู ริค 4 ระดบั
แก้ปัญหาทส่ี ามารถนาไปปรบั ด้านใฝ่เรียนรู้ (A)
ใชไ้ ดใ้ นชวี ิตจริง (A)
บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ .................................................
(นายทศพล ทรายกง่ิ )
ครผู ้สู อน
…………./……………………../…………
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .................................................
(.................................................)
ผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
…………./……………………../…………
เกณฑป์ ระเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้
ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ คณุ ลกั ษณะทแี่ สดงออกถึงความต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้
จากแหลง่ เรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น
ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วม
กิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วย
การเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด
เผยแพร่ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
ตวั ช้ีวัดและพฤติกรรมบ่งชี้
ตวั ช้ีวัด พฤติกรรมบง่ ช้ี
4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียน 4.1.1 ตงั้ ใจเรียน
และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี รพยายามในการเรียนรู้
4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ต่างๆ
4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ 4.2.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยี
ต่างๆ ทัง้ ภายในและภายนอก ตา่ งๆ แหลง่ เรยี นรูท้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ ง
โรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใชส้ อ่ื อย่าง เหมาะสม
เหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ 4.2.2 บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสง่ิ ท่เี รยี นรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้
สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ แลกเปล่ียน 4.2.3 แลกเปลีย่ นเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
เรียนรู้ และนำไปใชใ้ น
ชีวติ ประจำวันได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใชข้ ้อมลู จากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ูส้ อน)
พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยีย่ ม (3)
ตามขอ้ 4.1 – 4.2 ไมต่ ั้งใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจ
ไม่ศกึ ษาค้นควา้ หา ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ ตั้งใจเรยี น เอาใจ เรยี น เอาใจใสใ่ นการ
ความรู้ ใสใ่ นการเรียน ใสใ่ นการเรียน เรียน และมีส่วนรว่ มใน
และมสี ่วนรว่ มใน และมีส่วนรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม
การเรยี นรู้ และเขา้ การเรียนรู้ และเขา้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ต่างๆ
ร่วมกจิ กรรมการ รว่ มกจิ กรรมการ ท้งั ภายในและภายนอก
เรยี นร้ตู า่ งๆ เป็น เรยี นรู้ตา่ งๆ โรงเรยี นเป็นประจำ
บางครง้ั บ่อยครั้ง
หมายเหตุ ขอ้ มูลน้ไี ดร้ บั จากแผนการจดั การเรยี นรู้,บันทึกหลงั สอน,แบบสังเกตพฤตกิ รรม
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้
คำช้แี จง ให้ทำเคร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งรายการคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้
เลขที่ ชื่อ - สกลุ ดีเยยี่ ม รายการ ไมผ่ ่าน สรปุ ผลการ
3 ดี ผ่าน 0 ประเมิน
21
ลงชอ่ื .................................................
(นายทศพล ทรายก่งิ )
ผู้ประเมนิ
…………./……………………../…………
แบบทดสอบวดั ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์กอ่ นเรียนและหลังเรยี น
กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เร่ือง เครือขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 10 ขอ้
คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ หรอื เหมาะสมท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว
1. ข้อใดกลา่ วถึงอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ถูกต้องมากที่สุด
ก. เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ีเช่ือมโยงภายในโรงเรยี นท้ังหมด
ข. เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ท่ีเชอ่ื มต่อกนั ภายในห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์
ค. เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ีเ่ ชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ทั่วโลก
ง. เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรท์ ผี่ ้ใู ช้คอมพวิ เตอร์สามารถสื่อสารถึงกนั ได้
2. ขอ้ ใดเปน็ การส่ือสารในยุคสมยั โบราณ
ก. การส่ือสารโดยใชโ้ ทรศัพท์มอื ถือ
ข. การสอ่ื สารโดยการส่งจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์
ค. การสอ่ื สารโดยการใชย้ ูทูบ
ง. การสือ่ สารด้วยการเคาะใหเ้ กิดเสียง
3. การตดิ ต่อสอื่ สารในยุคโบราณและยุคปจั จุบันเหมอื นกนั อย่างไร
ก. สามารถติดต่อสื่อสารกันได้
ข. การสือ่ สารลาบากเหมือนกัน
ค. การสือ่ สารท้งั สองยคุ สามารถใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตเหมือนกันได้
ง. การสือ่ สารในยคุ โบราณและยุคปจั จุบันใชอ้ ีเมลเหมือนกนั
4. อุปกรณ์เทคโนโลยีชนดิ ใดท่สี ามารถเชอ่ื มต่อกบั คอมพิวเตอร์ได้โดยตรงเทา่ นั้น เพ่อื เกบ็ ข้อมูล
หรอื คัดลอกไฟล์
ก. แฟลชไดรฟ์
ข. เคร่ืองพมิ พ์
ค. ไอแพด
ง. โทรศัพท์มอื ถือ
๕. อุปกรณเ์ ทคโนโลยีชนิดใดทีส่ ามารถเช่ือมต่อกบั คอมพวิ เตอร์ได้โดยไมต่ ้องเช่ือมตอ่ โดยตรง
เพอ่ื ทาการยา้ ยข้อมลู หรือสารองขอ้ มลู
ก. แฟลชไดรฟ์
ข. ซดี ี
ค. เครื่องพิมพ์
ง. โทรศพั ท์มือถอื
6. การเชอ่ื มต่อโดยใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ทาให้นกั เรียนไดร้ บั ความรู้ใช่หรอื ไม่
ก. ใช่เพราะสามารถสืบค้นหาขอ้ มลู และสนทนาแลกเปลยี่ นความรไู้ ด้
ข. ใชเ่ พราะทาให้ขยนั และต้ังใจอา่ นหนังสือ
ค. ไม่ใช่เพราะอินเทอร์เนต็ ไม่สามารถใช้หาความร้ไู ด้
ง. ไมใ่ ช่เพราะอนิ เทอรใ์ ช้เล่นเกมไดอ้ ย่างเดียว
7. การใช้งานคอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คลในยุคแรก ๆ มลี ักษณะเป็นอยา่ งไร
ก. ใช้งานแยกสว่ นจากอปุ กรณ์อ่ืน ๆ หากตอ้ งการเช่อื มต่อกบั อปุ กรณ์ อ่ืนจะนาอปุ กรณ์ท่ีตอ้ งการใช้งานมาตอ่ กันตรง ๆ
ข. คอมพิวเตอร์ในยคุ แรก ๆ สามารถเชื่อมต่อกนั ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งใชส้ ายสญั ญาณ
ค. เครื่องพิมพไ์ มส่ ามารถเช่อื มต่อกบั คอมพิวเตอรไ์ ด้
ง. คอมพิวเตอรเ์ ชื่อมตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ ไดใ้ นยคุ แรก ๆ
8. การนาคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องมาเช่อื มโยงกันมากกวา่ หนึ่งเครื่องเปน็ เครอื ขา่ ย คอมพวิ เตอรม์ ปี ระโยชน์อย่างไร
ก. ทาให้ยา้ ยขอ้ มลู สารองข้อมลู ใชข้ อ้ มูลหรอื อุปกรณ์ต่าง ๆ ร่วมกนั ได้ล่าชา้
ข. ทาใหย้ ้ายข้อมูล สารองขอ้ มลู ใชข้ อ้ มลู หรืออุปกรณต์ า่ ง ๆ ร่วมกันไดส้ ะดวกสบายมากขึน้
ค. การเช่อื มโยงกนั ของคอมพิวเตอร์ทาให้การสื่อสารลาบากมากข้ึน
ง. การเช่ือมโยงกนั ของคอมพิวเตอรไ์ มส่ ามารถส่งข้อมูลหากันได้
9. การเชื่อมต่อ จนปจั จบุ นั คอมพิวเตอรส์ ามารถ เช่ือมต่อกนั เป็นเครอื ข่ายขนาดใหญไ่ ด้ท่ัวโลก เรยี กวา่ อะไร
ก. อินโนเวชัน
ข. อินทผาลัม
ค. อนิ เทอร์เนต็
ง. อนิ โฟกราฟกิ
10. ปัจจบุ นั การเช่อื มตอ่ อินเทอร์เนต็ สามารถทาได้หลายวธิ ี ใช้อปุ กรณ์ได้ หลายชนิด มีชนิดใดบ้าง
ก. ชนดิ ใชส้ ายสญั ญาณ และไมต่ ้องใชส้ ายสญั ญาณ
ข. ชนิดท่ใี ช้คอมพวิ เตอร์ และชนดิ ที่ใช้โทรศัพทเ์ ทา่ นั้น
ค. ชนิดใชอ้ ุปกรณ์ และไม่ต้องใช้อปุ กรณ์
ง. ชนิดท่ใี ชอ้ ินเทอร์เน็ต และไมต่ ้องใช้อินเทอรเ์ น็ต
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาการคานวณ
รหัสวิชา : ว14101 รายวิชา : วิทยาการคานวณ 4
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 : เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง : การใชอ้ นิ เทอร์เน็ต
เวลาสอน : 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ ผูส้ อน : นายทศพล ทรายกง่ิ
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้ : ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิต
จริงอย่างเป็นขนั้ ตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม
ตวั ชี้วัด : ว 4.2 ป.4/3 ใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มลู
ว 4.2 ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน
เคารพในสทิ ธิของผู้อืน่ แจ้งผู้เกยี่ วข้องเม่อื พบข้อมูลหรอื บุคคลท่ีไม่เหมาะสม
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายการใช้บริการบนอนิ เทอร์เนต็ (K)
2. แสดงวธิ ีการใชบ้ ริการบนอนิ เทอรเ์ น็ต (P)
3. มคี วามกระตอื รือรน้ ในการแสวงหาความรโู้ ดยใชบ้ ริการบนอินเทอร์เนต็ (A)
3. สาระสาคัญ
อินเทอรเ์ น็ตเปน็ เครือขา่ ยขนาดใหญ่ที่ช่วยในการเรยี นและการดาเนินชีวติ โดยการใช้งานนน้ั
ต้องทาผา่ นเวบ็ เว็บเบราวเ์ ซอร์ ซึง่ เปน็ โปรแกรมสาหรบั อา่ นเอกสารบนเวบ็ เพจ
4. สาระการเรยี นรู้
การใช้อินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยม คือ การเข้าสู่เว็บไซต์ ซึ่งแต่ละเว็บไซต์มีองค์ประกอบท่ี
สาคญั หลาย ๆ อย่างในการเข้าใชอ้ นิ เทอร์เน็ต เพอ่ื ค้นหาข้อมลู ที่ตอ้ งการ
5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มุ่งม่นั ในการทางาน
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นา ( 5 นาที )
1. คุณครูให้นักเรียนร่วมกันสนทนาและระบุเกี่ยวกับบริการบนอินเทอร์เน็ตที่นักเรียนรู้จัก
โดยเขียนบันทึกคาตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน แล้วตอบคาถาม
ดงั นี้
บริการบนอินเทอรเ์ นต็
▪ Facebook
▪ Google
▪ Microsoft Edge
▪ YouTube
• บรกิ ารทน่ี ักเรียนเข้าใชบ้ อ่ ยทสี่ ุดไดแ้ กบ่ ริการอะไร (ตวั อย่างคาตอบ facebook)
• นักเรียนใช้บริการดังกล่าวด้วยวิธีใด (ตัวอย่างคาตอบ โทรศัพท์เคลื่อนที่
คอมพิวเตอร์โดยใช้อินเทอรเ์ น็ต)
ข้นั สอน ( 40 นาที )
2. คุณครใู ช้ส่อื Powerpoint เรอื่ ง การใชอ้ ินเทอร์เน็ต นาเสนอเนอื้ หาดังน้ี
- องค์ประกอบและสิ่งที่ควรรู้จกั บนเวบ็ ไซต์
- การใชอ้ นิ เทอร์เน็ต
3. นกั เรยี นสงั เกตหนา้ เวบ็ ไซต์ https://www.google.co.th แลว้ ชว่ ยกนั บอกส่วนประกอบ
ของหน้าเว็บไซต์
4. นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคาถามเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบของเวบ็ ไซต์ โดยสง่ ตัวแทนนักเรยี นทีละคน
ออกมาอ่านคาถาม แล้วรว่ มกนั ตอบวา่ ข้อความดงั กล่าวคือองค์ประกอบสว่ นใด
• ตาแหนง่ ชอ่ื เรียกของเว็บไซต์ทีต่ ้องระบทุ กุ ครง้ั ทตี่ ้องการเปิดเวบ็ ไซต์เรียกวา่ อะไร
(ยอู ารแ์ อล URL)
• เว็บไซต์ทีส่ ามารถเช่ือมโยงไปยงั เว็บไซต์อน่ื ๆ ได้เรยี กว่าอะไร (ลิงก์ link)
• หนา้ แรกของเว็บไซตท์ ปี่ รากฏให้เหน็ เรยี กวา่ อะไร (โฮมเพจ home page)
5. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั ข้ันตอนการเข้าใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ ของโปรแกรม
Microsoft Edge และโปรแกรม Google Chrome โดยเริม่ ต้นท่ีปุ่ม Start แลว้ สรุปความคดิ
รวบยอด เขยี นเป็นภาพความคดิ
6. นกั เรยี นรว่ มกนั สงั เกตและเปรยี บเทยี บหนา้ ตา่ งโปรแกรม Microsoft Edge และหนา้ ตา่ ง
โปรแกรม Google Chrome
7. นกั เรยี นรว่ มกนั เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งและความเหมอื นของโปรแกรม Microsoft Edge
และโปรแกรม Google Chrome จากนน้ั เขียนลงในแผนภาพความคิด แลว้ อภปิ รายร่วมกัน
8. คุณรถู ามคาถามนกั เรยี นให้รว่ มกันวเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็น โดยตอบคาถามกระตุ้น
ความคดิ ดงั น้นี ักเรียนมกั จะเข้าใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ด้วยวิธีใด เพราะเหตุใด (ตัวอย่างคาตอบ
เข้าใช้งานดว้ ยโปรแกรม Google Chrome เพราะมกี ารเข้าใชง้ านทง่ี า่ ยหนา้ เวบ็ ไซตม์ ขี นาด
ใหญ่ มแี ถบคาสัง่ หรอื เคร่ืองมือของโปรแกรมท่ีเข้าใจง่ายต่อการใชง้ าน)
9. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ดงั น้ี
บรกิ ารอินเทอร์เนต็ ในปัจจุบนั ไดร้ บั ความนยิ มเปน็ อย่างมากในการเข้าเวบ็ ไซต์
ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาขอ้ มลู การรบั รขู้ า่ วสาร ความบันเทิงตา่ ง ๆ เพื่อตอบสนองตอ่
ความต้องการของมนุษย์
10. นักเรียนจับคู่หรือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจ านวนเครื่องคอมพิวเตอร์
โดยใหม้ นี กั เรยี น 1 คนท่มี ปี ระสบการณใ์ นการใช้งานคอมพวิ เตอร์
11. นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกขั้นตอนการเข้าใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ที่กลุ่มของตนเองสนใจ 1
โปรแกรมแลว้ เปิดโปรแกรมดังกล่าวขนึ้ มาตามข้นั ตอน
12. ทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และเฉลยแบบทดสอบพร้อมสรุป
คะแนนแบบทดสอบ
13. นักเรียนทดลองพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ เช่น https://www.google.co.th แล้วกด Enter
โปรแกรมจะแสดงหนา้ ต่างเวบ็ ไซต์ออกมา
14. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มทดลองชอ่ื เวบ็ ไซตอ์ น่ื ๆ ทีน่ กั เรยี นสนใจ 5 เวบ็ ไซต์ สงั เกตองคป์ ระกอบ
15. ของแต่ละเวบ็ ไซตว์ า่ มลี กั ษณะอย่างไร แลว้ ร่วมกนั อภปิ รายภายในกล่มุ
ขนั้ สรุป ( 5 นาที )
16. การใช้อินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยม คือ การเข้าสู่เว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเว็บไซต์มี
องค์ประกอบทส่ี าคญั หลาย ๆ อยา่ งในการเข้าใชอ้ นิ เทอร์เนต็ เพ่ือคน้ หาข้อมูลทต่ี อ้ งการ
8. สือ่ การเรียนรู้
- ส่อื Powerpoint เร่ือง การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศึกษา
ปที ่ี 4 (พว.)
9. แหล่งการเรียนรู้
- เว็บสบื คน้ ข้อมลู
- หอ้ งสมดุ
10. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
รายการวดั และประเมนิ ผล ตรวจแบบทดสอบ เกณฑ์ 50% ขน้ึ ไป
แบบทดสอบทา้ ย นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
อธบิ ายการใช้บรกิ ารบน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 5 ข้อผา่ นเกณฑ์
อนิ เทอร์เน็ต (K)
แสดงวิธกี ารใช้บริการบน สงั เกตกระบวน แบบประเมิน เกณฑ์รบู รคิ 4 ระดับ
อนิ เทอร์เนต็ (P) การทางานกลุ่ม กระบวนการทางานกลมุ่
มคี วามกระตอื รือรน้ ในการ แบบประเมนิ ประเมิน
แสวงหาความรโู้ ดยใชบ้ รกิ ารบน สังเกต คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑร์ ูบริค 4 ระดบั
อนิ เทอร์เน็ต (A) ดา้ นใฝเ่ รียนรู้
บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .................................................
(นายทศพล ทรายก่ิง)
ครูผู้สอน
…………./……………………../…………
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ .................................................
(.................................................)
ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
…………./……………………../…………
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลมุ่
รายการการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
กระบวนการ 432 1
ทางานกล่มุ ไม่มกี ารกาหนด
มีการกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ
และไมม่ ีการชีแ้ จง
สมาชิกชัดเจน สมาชิกชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ
ตา่ งคนต่างทางาน
และมกี ารชีแ้ จงเป้าหมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย
การทางาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน
มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั
อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แตไ่ ม่มีการประเมนิ ไม่ครบทุกคน
พร้อมกับการประเมินเปน็ เป็นระยะ ๆ
ระยะ ๆ
แบบประเมินกระบวนการทางานกล่มุ
คำชีแ้ จง ใหท้ ำเคร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งรายการกระบวนการทำงานกลุม่
เลขท่ี ช่อื - สกลุ ดเี ยยี่ ม รายการ ไมผ่ า่ น สรปุ ผลการ
4 ดี ผ่าน 1 ประเมิน
32
ลงชอ่ื .................................................
(นายทศพล ทรายกิง่ )
ผู้ประเมิน
…………./……………………../…………
เกณฑ์ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้
ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้
จากแหลง่ เรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น
ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วม
กิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วย
การเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด
เผยแพร่ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
ตวั ช้ีวัดและพฤติกรรมบ่งชี้
ตวั ช้ีวัด พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น 4.1.1 ตงั้ ใจเรียน
และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี รพยายามในการเรียนรู้
4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรตู้ า่ งๆ
4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ 4.2.1 ศึกษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยี
ต่างๆ ทัง้ ภายในและภายนอก ตา่ งๆ แหลง่ เรยี นรูท้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ ง
โรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใชส้ อ่ื อย่าง เหมาะสม
เหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ 4.2.2 บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสง่ิ ท่เี รยี นรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้
สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ แลกเปลยี่ น 4.2.3 แลกเปลีย่ นเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
เรียนรู้ และนำไปใชใ้ น
ชีวติ ประจำวันได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใชข้ ้อมลู จากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ูส้ อน)
พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยีย่ ม (3)
ตามขอ้ 4.1 – 4.2 ไม่ตั้งใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจ
ไมศ่ ึกษาค้นควา้ หา ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ ต้งั ใจเรยี น เอาใจ เรียน เอาใจใสใ่ นการ
ความรู้ ใสใ่ นการเรียน ใส่ในการเรียน เรียน และมีส่วนรว่ มใน
และมสี ่วนรว่ มใน และมีส่วนรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม
การเรยี นรู้ และเขา้ การเรียนรู้ และเขา้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ต่างๆ
ร่วมกจิ กรรมการ ร่วมกจิ กรรมการ ท้งั ภายในและภายนอก
เรยี นร้ตู า่ งๆ เป็น เรียนรูต้ า่ งๆ โรงเรยี นเป็นประจำ
บางครง้ั บอ่ ยครงั้
หมายเหตุ ขอ้ มูลน้ไี ดร้ บั จากแผนการจดั การเรียนรู้,บันทึกหลงั สอน,แบบสังเกตพฤตกิ รรม
แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้
คำช้แี จง ใหท้ ำเครอื่ งหมาย / ลงในช่องรายการคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้
เลขท่ี ช่อื - สกลุ ดเี ย่ียม รายการ ไมผ่ า่ น สรปุ ผลการ
3 ดี ผ่าน 0 ประเมิน
21
ลงชอื่ .................................................
(นายทศพล ทรายกิ่ง)
ผ้ปู ระเมนิ
…………./……………………../…………
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาการคานวณ
รหัสวิชา : ว14101 รายวิชา : วิทยาการคานวณ 4
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 : เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง : การใช้คาคน้ หาข้อมลู
เวลาสอน : 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ผ้สู อน : นายทศพล ทรายกง่ิ
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ัด
มาตรฐานการเรียนรู้ : ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิต
จรงิ อย่างเป็นขน้ั ตอน และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน
และการแก้ปญั หาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชีว้ ดั : ว 4.2 ป.4/3 ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ และประเมินความน่าเช่อื ถอื ของข้อมูล
ว 4.2 ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน
เคารพในสิทธิของผูอ้ น่ื แจง้ ผู้เก่ยี วขอ้ งเมอื่ พบข้อมลู หรอื บคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกวธิ ีการค้นหาขอ้ มลู (K)
2. แสดงวธิ ีการใช้คาค้นหาข้อมลู บนอนิ เทอรเ์ น็ตเป็นขน้ั ตอน (P)
3. สืบค้นขอ้ มูลโดยใชค้ าคน้ หาข้อมูลทต่ี อ้ งการ (P)
4. มคี วามใฝเ่ รียนร้ใู นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (A)
3. สาระสาคัญ
การค้นหาขอ้ มูลที่สนใจบนอินเทอร์เนต็ น้ัน เราจะตอ้ งพิมพ์ทอ่ี ยขู่ องเวบ็ ไซตล์ งไปในโปรแกรม
เว็บเบราวเ์ ซอร์ หากไม่ทราบชื่อเวบ็ ไซตห์ รือที่อยขู่ องเว็บไซต์ เราสามารถนาเว็บไซต์สบื ค้นข้อมูลมาใช้
งานได้เว็บไซต์สืบค้นข้อมูลที่ได้รับความนิยม คือ เว็บไซต์ Google เว็บไซต์หรือเครื่องมือที่ใช้สืบค้น
ขอ้ มลู บนอินเทอร์เน็ต เรียกว่า Search Engine เครือ่ งมอื นส้ี ามารถใชค้ น้ หาขอ้ มูลไดม้ ากมาย
4. สาระการเรียนรู้
การใช้คาค้นที่ตรงประเด็น กระชับ จะทาให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความต้องการ
พิจารณาเปรียบเทียบข้อมูลของเนื้อหาที่ได้จากการสืบค้น แล้วเลือกข้อมูลที่มีความสอดคล้องและ
สมั พันธ์กันในการนาขอ้ มูลมาใช้
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มุง่ มน่ั ในการทางาน
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นา ( 5 นาที )
1. คุณครูให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าเคยใช้อินเทอร์เน็ตในการ
ค้นหาข้อมูลอะไรบ้าง เขียนบันทึกคาตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน
แล้วตอบคาถาม ดงั ตวั อย่าง
การคน้ หาข้อมลู
▪ ข้อมลู อุปกรณเ์ ทคโนโลยี
▪ ข้อมูลจังหวัดตนเอง
▪ ขอ้ มูลวิธีการทาอาหาร
▪ ขอ้ มลู นักวทิ ยาศาสตร์
▪ ข้อมูลสภาพอากาศ
ข้อมูลที่เคยค้นหาเหล่านี้ นักเรียนมักจะเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยวิธีใด เพราะเหตุใด
(ตัวอย่างคาตอบ เข้าใช้งานโดยโปรแกรม Microsoft Edge เพราะใช้งานง่าย มี web note
ช่วยในการเนน้ คาสาคัญที่ต้องการได้ และสะดวกตอ่ การค้นหาข้อมลู )
ขัน้ สอน ( 40 นาที )
2. นกั เรยี นดกู ารสาธติ การคน้ หาขอ้ มลู โดยใชค้ าคน้ หาจากเวบ็ ไซต์https://www.google.co.th
หนา้ ชัน้ เรยี นพร้อมกนั
3. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสมแตล่ ะกลมุ่ เรยี งลาดบั ขน้ั ตอนการคน้ หาขอ้ มูลบน
เว็บไซต์ https://www.google.co.th โดยการนาตัวอักษรหน้าขอ้ ความที่กาหนด เขยี นเปน็
แผนภาพความคดิ ดังตอ่ ไปน้ี
4. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การคน้ หาขอ้ มูล โดยตอบคาถาม
ดังน้ี
- เมื่อทาการป้อนขอ้ มลู หรือคาทต่ี ้องการคน้ หาจะตอ้ งดาเนินการอยา่ งไร
(ตัวอย่างค าตอบ คลิกเมาส์ค้นหาด้วย Google หรือกด Enter ที่คีย์บอร์ด
ระบบจะดาเนนิ การคน้ หาข้อมลู ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั คาทต่ี ้องการ)
- ถ้าใช้คาที่มีความหมายกว้างเกินไป นักเรียนคิดว่าการค้นหาข้อมูลจะเป็นอย่างไร
(ตัวอย่างคาตอบ ข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ะมีความหมายกวา้ ง ๆ)
5. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั น้ี
- การใชค้ าคน้ อย่างไรจึงทาใหไ้ ดข้ ้อมลู ทรี่ วดเร็วและตรงตามความต้องการ
(ตัวอยา่ งคาตอบ ควรใชค้ าท่สี น้ั กระชบั ตรงประเดน็ )
6. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการใช้คาค้น ดังน้ี การค้นหาข้อมูลโดยใช้คา
ค้นหา ควรใช้คาที่สั้น กระชับ เจาะจงเนื้อหา โดยการพิมพ์คา หรือข้อความที่ต้องการค้นลง
ไปในช่องสาหรับคน้ หา
7. นักเรียนจับคู่หรือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจานวนเครื่องคอมพิวเตอร์โดยให้มี
นกั เรยี น 1 คนท่มี ปี ระสบการณ์ในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มฝกึ ปฏิบัติการค้นหาข้อมูลตามตวั อย่าง นักเรียนกาลังศึกษาเรื่อง แม่เหลก็
และสนใจเกี่ยวกับแรงของแม่เหล็ก แล้วเขียนเป็นขั้นตอนการค้นหาข้อมูลเป็นภาพความคิด
ดังตัวอยา่ ง
ขนั้ ตอนการค้นหาขอ้ มูลจาก https://www.google.co.th
คลิกเมาสเ์ ลือกเวบ็ เบราว์เซอรท์ ่ีต้องการ คลกิ เมาสเ์ ลือกเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ที่ต้องการ
พิมพ์ช่อื เว็บไซต์ https://www.google.co.th พิมพ์ชือ่ เว็บไซต์ https://www.google.co.th
ในช่องเวบ็ เบราว์เซอร์ แลว้ กด Enter ในช่องเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ แลว้ กด Enter
พมิ พ์คาค้นวา่ “แรง” ในชอ่ งพนื้ ทส่ี าหรบั พมิ พค์ าค้นว่า “แรงแมเ่ หล็ก” ในชอ่ งพื้นท่ี
พมิ พค์ าสบื คน้ ขอ้ มูล แล้วกด Enter สาหรับพมิ พค์ าสบื ค้นข้อมลู แลว้ กด Enter
แโปรแกรมแสดงหนา้ เว็บไซตท์ ่ีเกี่ยวกับ แโปรแกรมแสดงหนา้ เวบ็ ไซตท์ ี่เก่ยี วกบั
แรงออกมารงออกมา แรงออกมารงออกมา
ขนั้ สรุป ( 5 นาที )
9. การใช้คาค้นที่ตรงประเด็น กระชับ จะทาให้ได้ผลลพั ธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความต้องการ
พิจารณา เปรียบเทียบข้อมูลของเนื้อหาที่ได้จากการสืบค้น แล้วเลือกข้อมูลที่มีความ
สอดคลอ้ งและสมั พันธก์ ันในการนาขอ้ มลู มาใช้
8. สือ่ การเรียนรู้
- ส่อื Powerpoint เรอ่ื ง การใชค้ าค้นหาขอ้ มูล
- เวบ็ ไซต์ https://www.google.co.th
- คอมพิวเตอร์ โทรศัพทม์ ือถอื
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 (พว.)
9. แหล่งการเรียนรู้
- เว็บสบื ค้นข้อมลู
- หอ้ งสมุด
10. การวัดและประเมินผล
รายการวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ
บอกวธิ กี ารค้นหาขอ้ มูลได้ (K) ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบทา้ ย เกณฑ์ 50% ขนึ้ ไป
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
5 ข้อผา่ นเกณฑ์
แสดงวิธกี ารใช้คาคน้ หาข้อมูล สังเกตกระบวน แบบประเมนิ เกณฑร์ ูบรคิ 4 ระดบั
บนอินเทอรเ์ นต็ เปน็ ขน้ั ตอน (P) การทางานกล่มุ กระบวนการทางานกลุ่ม
สืบคน้ ขอ้ มลู โดยใช้คาคน้ หา สงั เกตกระบวน แบบประเมิน เกณฑร์ บู ริค 4 ระดับ
ข้อมูลที่ตอ้ งการ (P) การทางานกลุ่ม กระบวนการทางานกลุ่ม
มีความใฝเ่ รียนรูใ้ นเทคโนโลยี แบบประเมนิ ประเมิน
สารสนเทศ (A) สังเกต คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑร์ ูบริค 4 ระดับ
ด้านใฝ่เรยี นรู้
บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .................................................
(นายทศพล ทรายก่งิ )
ครผู สู้ อน
…………./……………………../…………
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ่ไี ด้รบั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .................................................
(.................................................)
ผ้บู ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
…………./……………………../…………
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลมุ่
รายการการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
กระบวนการ 432 1
ทางานกล่มุ ไม่มกี ารกาหนด
มีการกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ
และไมม่ ีการชีแ้ จง
สมาชิกชัดเจน สมาชิกชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ
ตา่ งคนต่างทางาน
และมกี ารชีแ้ จงเป้าหมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย
การทางาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน
มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั
อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แตไ่ ม่มีการประเมนิ ไม่ครบทุกคน
พร้อมกับการประเมินเปน็ เป็นระยะ ๆ
ระยะ ๆ
แบบประเมินกระบวนการทางานกลมุ่
คำชีแ้ จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย / ลงในชอ่ งรายการกระบวนการทำงานกลุ่ม
เลขที่ ช่อื - สกลุ ดเี ยี่ยม รายการ ไม่ผ่าน สรปุ ผลการ
4 ดี ผา่ น 1 ประเมนิ
32
ลงชื่อ .................................................
(นายทศพล ทรายก่งิ )
ผ้ปู ระเมิน
…………./……………………../…………
เกณฑป์ ระเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้
ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้
จากแหลง่ เรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น
ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วม
กิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วย
การเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด
เผยแพร่ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
ตวั ช้ีวัดและพฤติกรรมบ่งชี้
ตวั ช้ีวัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี
4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น 4.1.1 ตงั้ ใจเรียน
และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้
4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ 4.2.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สงิ่ พมิ พ์ สื่อเทคโนโลยี
ต่างๆ ทัง้ ภายในและภายนอก ต่างๆ แหล่งเรยี นร้ทู ้ังภายในและภายนอกโรงเรียน และเลอื กใช้สอ่ื ไดอ้ ยา่ ง
โรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใชส้ อ่ื อยา่ ง เหมาะสม
เหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ 4.2.2 บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสง่ิ ท่เี รียนรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้
สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ แลกเปลย่ี น 4.2.3 แลกเปลีย่ นเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ ีการต่างๆ และนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
เรียนรู้ และนำไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวันได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใชข้ ้อมลู จากการสังเกตตามสภาพจรงิ ของครูผูส้ อน)
พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ียม (3)
ตามขอ้ 4.1 – 4.2 ไม่ต้งั ใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจ
ไม่ศึกษาค้นควา้ หา ตั้งใจเรียน เอาใจ ตง้ั ใจเรียน เอาใจ เรียน เอาใจใสใ่ นการ
ความรู้ ใส่ในการเรียน ใส่ในการเรียน เรียน และมสี ่วนรว่ มใน
และมสี ่วนรว่ มใน และมีส่วนรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม
การเรยี นรู้ และเขา้ การเรียนรู้ และเขา้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ต่างๆ
รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มกจิ กรรมการ ท้งั ภายในและภายนอก
เรียนรู้ต่างๆ เป็น เรียนรู้ต่างๆ โรงเรยี นเปน็ ประจำ
บางครง้ั บ่อยครั้ง
หมายเหตุ ขอ้ มูลน้ไี ดร้ บั จากแผนการจดั การเรยี นรู,้ บันทกึ หลังสอน,แบบสังเกตพฤตกิ รรม
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้
คำช้แี จง ให้ทำเคร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งรายการคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้
เลขที่ ชื่อ - สกลุ ดีเยยี่ ม รายการ ไม่ผา่ น สรปุ ผลการ
3 ดี ผ่าน 0 ประเมนิ
21
ลงชอื่ .................................................
(นายทศพล ทรายกงิ่ )
ผ้ปู ระเมนิ
…………./……………………../…………
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาการคานวณ
รหัสวิชา : ว14101 รายวิชา : วิทยาการคานวณ 4
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 : เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 4 เร่ือง : การคน้ หาภาพบนอินเทอร์เนต็
เวลาสอน : 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ ผ้สู อน : นายทศพล ทรายก่ิง
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั
มาตรฐานการเรียนรู้ : ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิต
จริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม
ตวั ชี้วัด : ว 4.2 ป.4/3 ใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ และประเมินความนา่ เชอื่ ถอื ของข้อมลู
ว 4.2 ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน
เคารพในสิทธิของผ้อู น่ื แจง้ ผ้เู ก่ยี วขอ้ งเมือ่ พบขอ้ มูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกวธิ ีการคน้ หาภาพบนอนิ เทอรเ์ น็ต (K)
2. สืบคน้ ภาพโดยใชค้ าคน้ บนอนิ เทอร์เนต็ (P)
3. มีความใฝเ่ รยี นรูใ้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (A)
3. สาระสาคญั
การสืบค้นรูปภาพด้วย Search Engine ขั้นตอนการสืบค้นรูปภาพด้วย Search Engine
ทาการเปิดเว็บไซต์ที่ให้บริการ http://www.google.co.th/ 1) เลือกหัวข้อที่ต้องการค้น ในที่นี้จะ
2) เลือกหัวข้อ “รูปภาพ” 3) พิมพ์ keyword (ข้อความ) ที่ต้องการสืบค้นลงในช่อง text box กดท่ี
4) ปุ่ม “ค้นหา” 5) ระบบจะทาการค้นหารูปภาพที่ตรงกับ keyword ที่ต้องการ และแสดงรูปภาพท่ี
ค้นหาพบ
4. สาระการเรียนรู้
การค้นหาภาพบนอินเทอร์เน็ต สามารถค้นหาได้จากคาหรือข้อความที่ต้องการหา
หน้าเว็บไซต์จะแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบภาพที่ตรงตามความต้องการ พิจารณา เปรียบเทียบ
ภาพของเนอ้ื หาที่ไดจ้ ากการสืบคน้ แลว้ เลอื กภาพทม่ี คี วามสอดคลอ้ งและสมั พันธก์ ับข้อมูลมาใช้
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มงุ่ ม่ันในการทางาน
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นา ( 5 นาที )
1. นกั เรยี นรว่ มกนั สงั เกตภาพ แล้วตอบคาถาม ดงั น้ี
▪ จากภาพเหน็ อะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เด็กผู้หญิงกาลังนงั่ เล่นคอมพิวเตอร์)
▪ จากภาพเด็กผู้ชายกาลงั ใช้งานคอมพวิ เตอร์ทาอะไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ค้นหาภาพ
ผลไม้)
▪ นกั เรยี นเคยปฏบิ ตั เิ หมอื นเด็กผชู้ ายในภาพหรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
▪ ถ้าเคย นกั เรยี นคน้ หาภาพเกี่ยวกับอะไรบ้าง (ตวั อยา่ งคาตอบ การ์ตนู อาหาร ขน
ขั้นสอน ( 40 นาที )
2. นกั เรยี นดกู ารสาธติ การคน้ หาขอ้ มลู โดยใชค้ าคน้ หาจากเวบ็ ไซต์https://www.google.co.th
หน้าช้ันเรยี นพร้อมกนั
3. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ เรยี งลาดบั ขน้ั ตอนการคน้ หาภาพบนเวบ็ ไซต์
https://www.google.co.th โดยนาตัวอักษรหน้าขอ้ ความที่กาหนดใหเ้ ขยี นลงใน
ของแผนภาพความคดิ จากน้ันสรุปและอภปิ รายร่วมกันในชั้นเรยี น ดงั ตัวอยา่ ง
4. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การคน้ หาขอ้ มูล โดยตอบคาถาม
ดงั น้ี
- เม่อื ทาการปอ้ นขอ้ มลู หรือคาท่ีต้องการคน้ หาจะตอ้ งดาเนินการอยา่ งไร
(ตัวอย่างค าตอบ คลิกเมาส์ค้นหาด้วย Google หรือกด Enter ที่คีย์บอร์ด
ระบบจะดาเนินการค้นหาข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับคาท่ตี อ้ งการ)
- ถ้าใช้คาที่มีความหมายกว้างเกินไป นักเรียนคิดว่าการค้นหาข้อมูลจะเป็นอย่างไร(ตัวอย่าง
คาตอบ ข้อมูลที่ได้จะมคี วามหมายกว้าง ๆ)
5. นกั เรยี นร่วมกันวเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้
- การใช้คาค้นอยา่ งไรจึงทาให้ไดข้ ้อมลู ทีร่ วดเรว็ และตรงตามความตอ้ งการ
(ตัวอย่างคาตอบ ควรใชค้ าทส่ี ัน้ กระชบั ตรงประเด็น)
6. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการใช้คาค้น ดังน้ี การค้นหาข้อมูลโดยใช้คา
ค้นหา ควรใช้คาที่สั้น กระชับ เจาะจงเนื้อหา โดยการพิมพ์คา หรือข้อความที่ต้องการค้นลง
ไปในชอ่ งสาหรบั คน้ หา
7. นักเรียนจับคู่หรือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจานวนเครื่องคอมพิวเตอร์โดยให้มี
นกั เรยี น 1 คนท่ีมปี ระสบการณ์ในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มฝกึ ปฏิบัติการค้นหาข้อมูลตามตวั อย่าง นักเรียนกาลังศึกษาเรื่อง แม่เหลก็
และสนใจเกี่ยวกับแรงของแม่เหล็ก แล้วเขียนเป็นขั้นตอนการค้นหาข้อมูลเป็นภาพความคิด
ดังตัวอยา่ ง
ขนั้ ตอนการค้นหาขอ้ มูลจาก https://www.google.co.th
คลิกเมาสเ์ ลือกเวบ็ เบราว์เซอรท์ ่ีต้องการ คลกิ เมาสเ์ ลอื กเวบ็ เบราว์เซอรท์ ่ตี อ้ งการ
พิมพ์ช่อื เว็บไซต์ https://www.google.co.th พิมพ์ชือ่ เว็บไซต์ https://www.google.co.th
ในช่องเวบ็ เบราว์เซอร์ แลว้ กด Enter ในช่องเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ แล้วกด Enter
พมิ พ์คาค้นวา่ “แรง” ในชอ่ งพนื้ ทส่ี าหรบั พมิ พค์ าค้นว่า “แรงแมเ่ หลก็ ” ในช่องพ้ืนท่ี
พมิ พค์ าสบื คน้ ขอ้ มูล แล้วกด Enter สาหรบั พมิ พ์คาสืบค้นข้อมลู แลว้ กด Enter
แโปรแกรมแสดงหนา้ เว็บไซตท์ ่ีเกี่ยวกับ แโปรแกรมแสดงหน้าเวบ็ ไซต์ท่เี กย่ี วกับ
แรงออกมารงออกมา แรงออกมารงออกมา
ขนั้ สรุป ( 5 นาที )
9. การใช้คาค้นที่ตรงประเด็น กระชับ จะทาให้ได้ผลลพั ธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความต้องการ
พิจารณา เปรียบเทียบข้อมูลของเนื้อหาที่ได้จากการสืบค้น แล้วเลือกข้อมูลที่มีความ
สอดคลอ้ งและสมั พันธก์ ันในการนาขอ้ มลู มาใช้
8. สือ่ การเรียนรู้
- ส่อื Powerpoint เรอ่ื ง การใชค้ าค้นหาขอ้ มูล
- เวบ็ ไซต์ https://www.google.co.th
- คอมพิวเตอร์ โทรศัพทม์ ือถอื
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 (พว.)
9. แหล่งการเรียนรู้
- เว็บสบื ค้นข้อมลู
- หอ้ งสมุด
10. การวัดและประเมินผล
รายการวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ
บอกวธิ กี ารค้นหาขอ้ มูลได้ (K) ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบทา้ ย เกณฑ์ 50% ขนึ้ ไป
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
5 ข้อผา่ นเกณฑ์
แสดงวิธกี ารใช้คาคน้ หาข้อมูล สังเกตกระบวน แบบประเมนิ เกณฑร์ ูบรคิ 4 ระดบั
บนอินเทอรเ์ นต็ เปน็ ขน้ั ตอน (P) การทางานกล่มุ กระบวนการทางานกลุ่ม
สืบคน้ ขอ้ มลู โดยใช้คาคน้ หา สงั เกตกระบวน แบบประเมิน เกณฑร์ บู ริค 4 ระดับ
ข้อมูลที่ตอ้ งการ (P) การทางานกลุ่ม กระบวนการทางานกลุ่ม
มีความใฝเ่ รียนรูใ้ นเทคโนโลยี แบบประเมนิ ประเมิน
สารสนเทศ (A) สังเกต คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑร์ ูบริค 4 ระดับ
ดา้ นใฝ่เรยี นรู้
บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .................................................
(นายทศพล ทรายกง่ิ )
ครผู ู้สอน
…………./……………………../…………
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ .................................................
(.................................................)
ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
…………./……………………../…………
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลมุ่
รายการการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
กระบวนการ 432 1
ทางานกล่มุ ไม่มกี ารกาหนด
มีการกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ
และไมม่ ีการชีแ้ จง
สมาชิกชัดเจน สมาชิกชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ
ตา่ งคนต่างทางาน
และมกี ารชีแ้ จงเป้าหมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย
การทางาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน
มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั
อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แตไ่ ม่มีการประเมนิ ไม่ครบทุกคน
พร้อมกับการประเมินเปน็ เป็นระยะ ๆ
ระยะ ๆ
แบบประเมินกระบวนการทางานกลมุ่
คำชีแ้ จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย / ลงในชอ่ งรายการกระบวนการทำงานกลุ่ม
เลขที่ ช่อื - สกลุ ดเี ยี่ยม รายการ ไม่ผ่าน สรปุ ผลการ
4 ดี ผา่ น 1 ประเมนิ
32
ลงชื่อ .................................................
(นายทศพล ทรายก่งิ )
ผ้ปู ระเมิน
…………./……………………../…………
เกณฑป์ ระเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้
ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้
จากแหลง่ เรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น
ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วม
กิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วย
การเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด
เผยแพร่ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
ตวั ช้ีวัดและพฤติกรรมบ่งชี้
ตวั ช้ีวัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี
4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น 4.1.1 ต้ังใจเรียน
และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้
4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ 4.2.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สงิ่ พมิ พ์ สื่อเทคโนโลยี
ต่างๆ ทัง้ ภายในและภายนอก ต่างๆ แหล่งเรยี นร้ทู ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สอ่ื ไดอ้ ยา่ ง
โรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใชส้ อ่ื อยา่ ง เหมาะสม
เหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ 4.2.2 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสง่ิ ท่เี รียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้
สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ แลกเปลย่ี น 4.2.3 แลกเปลีย่ นเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ ีการต่างๆ และนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
เรียนรู้ และนำไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวันได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใชข้ ้อมลู จากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ูส้ อน)
พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม (3)
ตามขอ้ 4.1 – 4.2 ไม่ต้งั ใจเรยี น เข้าเรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ต้ังใจ
ไม่ศึกษาค้นควา้ หา ตั้งใจเรียน เอาใจ ตง้ั ใจเรียน เอาใจ เรียน เอาใจใสใ่ นการ
ความรู้ ใสใ่ นการเรียน ใส่ในการเรียน เรียน และมสี ่วนรว่ มใน
และมสี ่วนรว่ มใน และมีส่วนรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม
การเรยี นรู้ และเขา้ การเรียนรู้ และเขา้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ต่างๆ
ร่วมกจิ กรรมการ รว่ มกจิ กรรมการ ท้งั ภายในและภายนอก
เรยี นรู้ต่างๆ เป็น เรียนรู้ต่างๆ โรงเรียนเปน็ ประจำ
บางครง้ั บ่อยครั้ง
หมายเหตุ ขอ้ มูลน้ไี ดร้ บั จากแผนการจดั การเรยี นรู้,บันทกึ หลงั สอน,แบบสังเกตพฤตกิ รรม
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้
คำช้แี จง ให้ทำเคร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งรายการคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้
เลขที่ ชื่อ - สกลุ ดีเยยี่ ม รายการ ไม่ผา่ น สรปุ ผลการ
3 ดี ผ่าน 0 ประเมนิ
21
ลงชอื่ .................................................
(นายทศพล ทรายกงิ่ )
ผ้ปู ระเมนิ
…………./……………………../…………
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาการคานวณ
รหัสวิชา : ว14101 รายวิชา : วิทยาการคานวณ 4
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 : เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง : ฉลาดค้นบนอนิ เทอรเ์ น็ต
เวลาสอน : 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ผสู้ อน : นายทศพล ทรายก่ิง
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้ : ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิต
จรงิ อย่างเปน็ ข้ันตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม
ตวั ชวี้ ดั : ว 4.2 ป.4/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมลู
ว 4.2 ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน
เคารพในสทิ ธิของผูอ้ ืน่ แจ้งผเู้ ก่ยี วข้องเม่อื พบขอ้ มูลหรือบคุ คลท่ีไมเ่ หมาะสม
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายการคน้ หาขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ น็ต (K)
2. สืบคน้ ข้อมูลบนอินเทอรเ์ น็ตและประยุกต์ใช้การคน้ หาข้อมลู กับเรื่องที่สนใจ (P)
3. มีความใฝเ่ รยี นร้ใู นสารสนเทศและการใช้เทคโนโลยีเพ่ือพฒั นาตนเอง (A)
3. สาระสาคัญ
คาสาคัญที่ใช้ในการค้นหา (Keyword) การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์น็ตจะต้องใช้ คีย์เวิร์ด
(Keyword) หรือ คาสาคัญ ซ่ึงคาที่ใช้ควรเป็นคาที่ตรงประเด็น กระชับจะทาให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและ
ตรงตามความต้องการ เพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆ ในเว็บไซต์ เช่น ชื่อเรื่อง หัวข้อ หัวเรื่อง หรือรายละเอียด
อยา่ งย่อของข้อมลู การคน้ หาข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ จาเปน็ ต้องมคี าสาคัญ (Keyword) ใช้ในกรคน้ หา เม่ือ
ค้นหาแล้วจะพบกับเว็บไซซึ่งจะต้องเลือกเว็บไซต์ที่มี ความน่าเชื่อถือ แล้วจึงนาข้อมูลไปประมวลผลเป็น
สารสนเทศให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ไป
4. สาระการเรียนรู้
การสืบค้นข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทาได้โดยการสืบค้นผ่านเว็บไซต์สาหรับสืบค้น
การใช้คาที่ตรงประเด็น กระชับ จะทาให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความต้องการ พิจารณา
เปรยี บเทียบขอ้ มลู แล้วเลอื กขอ้ มลู ท่ีมคี วามสอดคลอ้ งและสัมพนั ธ์กันในการนาขอ้ มลู มาใช้
5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มุ่งมั่นในการทางาน
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา ( 5 นาที )
1. นกั เรยี นสงั เกตหนา้ เวบ็ ไซตบ์ นจอคอมพวิ เตอรร์ ว่ มกัน แลว้ ตอบคาถาม
- ภาพบนหน้าจอเปิดดว้ ยโปรแกรมเบราว์เซอร์อะไร (Google Chrome)
- คาค้นเกีย่ วกบั อะไร (เทคโนโลย)ี
- นกั เรยี นพบขอ้ มลู ประเภทใดบา้ ง (ตวั อยา่ งคาตอบ ขอ้ ความ ภาพ วดิ ีโอ ปมุ่ สัญลกั ษณ)์
ข้ันสอน ( 40 นาที )
2. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การคน้ หาขอ้ มูลใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์
ตามต้องการควรมีลกั ษณะอยา่ งไร โดยเขียนบันทึกคาตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพ
ความคดิ บนกระดาน ดงั ตัวอยา่ ง
การคน้ หาข้อมลู ให้ได้ผลลพั ธ์ตามความต้องการ
▪ หลกี เล่ยี งภาษาพูด
▪ การใชค้ าท่ีใกลเ้ คยี ง
▪ การใชค้ าสาคัญ
▪ ใช้คาท่ีกระชับ
▪ ใชเ้ ครอ่ื งหมายบวกและลบชว่ ย
▪ หลีกเลีย่ งการใชต้ วั เลข
▪ เลอื กคาค้นท่ีตรงประเด็น
3. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั น้ี
ขอ้ มูลทดี่ ีควรมลี ักษณะอย่างไรและสามารถค้นหาขอ้ มลู ไดจ้ ากแหล่งใดไดอ้ ีกบา้ ง
(ตัวอย่างคาตอบ ข้อมลู ทีด่ ีต้องมคี วามถกู ตอ้ ง แมน่ ยา สามารถหาได้จากโทรทศั น์ ส่อื สงิ่ พมิ พ์
วิทย)ุ
4. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การคน้ หาขอ้ มลู ดงั น้ี
การค้นหาขอ้ มลู ผู้ใช้เพยี งแตก่ าหนดหัวขอ้ หรือคาค้นท่ีตอ้ งการและเขา้ ไปสบื ค้น
เพือ่ หาชื่อของเว็บไซตต์ ่าง ๆ ท่ีมขี อ้ มลู ทต่ี อ้ งการ ควรใช้คาท่สี ั้น กระชบั และตรงประเดน็ ท่ี
ตอ้ งการให้มากทีส่ ดุ
5. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมท่ี 2.2 ฉลาดคน้ บนอินเทอรเ์ น็ต โดย
นกั เรยี นค้นหาขอ้ มลู และภาพทเ่ี กย่ี วกบั งานวนั เดก็ บนอนิ เทอรเ์ นต็ โดยใชค้ าคน้ หลาย ๆ คา
แลว้ เปรยี บเทยี บข้อมลู ท่ีไดเ้ ขียนบันทึกลงในตาราง ดังตัวอย่าง
คาค้น ข้อมูล
งานวันเดก็ • กจิ กรรมวันเดก็ ประจาปีตา่ ง ๆ
• รวมสถานท่จี ดั งานวันเดก็
• ภาพบรรยากาศงานวนั เด็ก
วันเด็ก • คาขวญั วันเดก็ ปี 2565
• ประวตั วิ นั เดก็ แหง่ ชาติ
วันเดก็ แหง่ ชาติ • ประวัตคิ วามเป็นมาของวนั เด็กแห่งชาติ
• ความหมายของเดก็
• กจิ กรรมต่าง ๆ ทคี่ วรปฏบิ ัตใิ นวนั เดก็
6. นกั เรยี นค้นหาชอ่ื นกั วทิ ยาศาสตรแ์ ละผลงานทน่ี กั เรยี นรูจ้ กั มา 4 คน จากนนั้ นาชอ่ื
นักวิทยาศาสตรม์ าเขยี นเรยี งลาดับตามชว่ งเวลาของแต่ละคนบันทึกลงในแผนภาพความคิด
7. นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคาถามหลงั การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ดงั น้ี
• การค้นหาข้อมูลบนอนิ เทอรเ์ นต็ เพือ่ ทากิจกรรมคน้ หาข้อมลู และภาพท่ีเกยี่ วกับงาน
วันเด็กและกิจกรรมคน้ หาช่ือนักวทิ ยาศาสตรแ์ ละผลงานทน่ี ักเรยี นรู้จกั มา 4 คน
นกั เรยี นใชค้ าคน้ คาใดบา้ ง (ตัวอยา่ งคาตอบ งานวนั เด็ก วนั เด็กแห่งชาติ
นักวิทยาศาสตร์ และนกั วทิ ยาศาสตรโ์ ลก)
• จากการทากิจกรรม ข้อมลู ทนี่ กั เรยี นคน้ หามอี ยหู่ ลายแหลง่ ข้อมูลใชห่ รอื ไม่ (ใช)่
• ข้อมูลจากการสืบคน้ ซึ่งมีมากกว่า 1 แหล่งข้อมูล นกั เรียนมีวิธกี ารเลือกจากเวบ็ ไซต์
ของหน่วยงานราชการ แหลง่ ขอ้ มลู อย่างไร(ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะมคี วามน่าเช่อื ถือ)
ขนั้ สรุป ( 5 นาที )
8. นกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทเ่ี ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดงั นี้
การใช้คาค้นที่ตรงประเด็น กระชับ จะทาให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความต้องการ
พิจารณา เปรียบเทียบข้อมูลของเนื้อหาที่ได้จากการสืบค้น แล้วเลือกข้อมูลที่มีความสอดคล้องและ
สัมพันธ์กันในการนาขอ้ มูลมาใช้
8. สือ่ การเรียนรู้
- สื่อ Powerpoint เรื่อง ฉลาดค้นบนอินเทอร์เนต็
- เว็บไซต์ https://www.google.co.th
- คอมพวิ เตอร์ โทรศพั ท์มือถือ
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 (พว.)
9. แหล่งการเรียนรู้
- เว็บสบื ค้นข้อมลู
- หอ้ งสมุด
10. การวัดและประเมินผล
รายการวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
อธบิ ายการคน้ หาขอ้ มูลบน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบทา้ ย เกณฑ์ 50% ขนึ้ ไป
อนิ เทอร์เน็ต (K) หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
5 ข้อผ่านเกณฑ์
สืบคน้ ขอ้ มูลบนอนิ เทอรเ์ น็ต สงั เกตกระบวน แบบประเมนิ เกณฑ์รบู ริค 4 ระดับ
และประยกุ ต์ใชก้ ารค้นหาขอ้ มูล การทางานกลุ่ม กระบวนการทางานกลุ่ม
กบั เร่อื งทสี่ นใจ (P)
มีความใฝ่เรียนรู้ในสารสนเทศ แบบประเมิน ประเมนิ
และการใช้เทคโนโลยเี พอ่ื สังเกต คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑร์ ูบรคิ 4 ระดับ
พัฒนาตนเอง (A)
ดา้ นใฝเ่ รียนรู้
บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .................................................
(นายทศพล ทรายกงิ่ )
ครผู ้สู อน
…………./……………………../…………
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผูท้ ่ีได้รับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .................................................
(.................................................)
ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย
…………./……………………../…………
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลมุ่
รายการการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
กระบวนการ 432 1
ทางานกล่มุ ไม่มกี ารกาหนด
มีการกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท มกี ารกาหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ
และไมม่ ีการชีแ้ จง
สมาชิกชัดเจน สมาชิกชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ
ตา่ งคนต่างทางาน
และมกี ารชีแ้ จงเป้าหมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย
การทางาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน
มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั
อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แตไ่ ม่มีการประเมนิ ไม่ครบทุกคน
พร้อมกับการประเมินเปน็ เป็นระยะ ๆ
ระยะ ๆ
แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม
คำชีแ้ จง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย / ลงในชอ่ งรายการกระบวนการทำงานกลุ่ม
เลขท่ี ช่อื - สกลุ ดีเยีย่ ม รายการ ไมผ่ า่ น สรุปผลการ
4 ดี ผา่ น 1 ประเมนิ
32
ลงชอ่ื .................................................
(นายทศพล ทรายกงิ่ )
ผปู้ ระเมนิ
…………./……………………../…………
เกณฑป์ ระเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้
ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้
จากแหลง่ เรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น
ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วม
กิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วย
การเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด
เผยแพร่ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
ตวั ช้ีวัดและพฤติกรรมบ่งชี้
ตวั ช้ีวัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี
4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น 4.1.1 ต้ังใจเรียน
และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้
4.1.3 สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ 4.2.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สงิ่ พมิ พ์ สื่อเทคโนโลยี
ต่างๆ ทัง้ ภายในและภายนอก ต่างๆ แหล่งเรยี นร้ทู ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สอ่ื ไดอ้ ยา่ ง
โรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใชส้ อ่ื อยา่ ง เหมาะสม
เหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ 4.2.2 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสง่ิ ท่เี รียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้
สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ แลกเปลย่ี น 4.2.3 แลกเปลีย่ นเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ ีการต่างๆ และนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
เรียนรู้ และนำไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวันได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใชข้ ้อมลู จากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ูส้ อน)
พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม (3)
ตามขอ้ 4.1 – 4.2 ไม่ต้งั ใจเรยี น เข้าเรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ต้ังใจ
ไม่ศึกษาค้นควา้ หา ตั้งใจเรียน เอาใจ ตง้ั ใจเรียน เอาใจ เรียน เอาใจใสใ่ นการ
ความรู้ ใสใ่ นการเรียน ใส่ในการเรียน เรียน และมสี ่วนรว่ มใน
และมสี ่วนรว่ มใน และมีส่วนรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม
การเรยี นรู้ และเขา้ การเรียนรู้ และเขา้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ต่างๆ
ร่วมกจิ กรรมการ รว่ มกจิ กรรมการ ท้งั ภายในและภายนอก
เรยี นรู้ต่างๆ เป็น เรียนรู้ต่างๆ โรงเรียนเปน็ ประจำ
บางครง้ั บ่อยครั้ง
หมายเหตุ ขอ้ มูลน้ไี ดร้ บั จากแผนการจดั การเรยี นรู้,บันทกึ หลงั สอน,แบบสังเกตพฤตกิ รรม
แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้
คำช้แี จง ใหท้ ำเครอื่ งหมาย / ลงในช่องรายการคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้
เลขท่ี ช่อื - สกลุ ดเี ย่ียม รายการ ไมผ่ ่าน สรปุ ผลการ
3 ดี ผา่ น 0 ประเมนิ
21
ลงช่ือ .................................................
(นายทศพล ทรายกิ่ง)
ผูป้ ระเมนิ
…………./……………………../…………
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาการคานวณ
รหัสวิชา : ว14101 รายวิชา : วิทยาการคานวณ 4
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 : เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง : การค้นหาขอ้ มูลที่สนใจ
เวลาสอน : 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ผูส้ อน : นายทศพล ทรายกง่ิ
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้ : ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิต
จริงอย่างเปน็ ขัน้ ตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม
ตวั ชี้วดั : ว 4.2 ป.4/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ และประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล
ว 4.2 ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน
เคารพในสิทธขิ องผู้อนื่ แจง้ ผู้เก่ยี วข้องเมื่อพบขอ้ มลู หรือบุคคลทไ่ี มเ่ หมาะสม
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกการเข้าใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ในการค้นหาข้อมลู ได้ (K)
2. สืบคน้ ขอ้ มลู บนอินเทอรเ์ นต็ จากแหล่งขอ้ มลู ที่นา่ เชอ่ื ถอื (P)
3. ตระหนกั และเหน็ ถึงคณุ ค่าในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ (A)
3. สาระสาคัญ
การค้นหาข้อมูลจากแหล่งขอ้ มูลที่เชื่อถอื ได้ และการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภัย
4. สาระการเรยี นรู้
ข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ จะต้องนาเนื้อหามาพิจารณา เปรียบเทียบ เลือกข้อมูลที่มี
ความสอดคล้องและสัมพันธ์กัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยพิจารณาจากประเภทของ
เวบ็ ไซต์ของหนว่ ยงานที่น่าเชอ่ื ถือ
5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ มั่นในการทางาน
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นา ( 5 นาที )
1. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• นักเรียนเคยใช้อินเทอร์เน็ตหาข้อมูลอะไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ หาหัวข้อรายงาน
ภาพการต์ ูนภาพสัตว์ ภาพของเล่น)
• นักเรียนหาจากเวบ็ ไซต์เดียวหรือหลาย ๆ เว็บไซต์ (ตัวอย่างคาตอบ เว็บไซต์เดียว/
หลาย ๆ เว็บไซต์)
• เมื่อนักเรียนนาข้อมูลดังกล่าวมาใช้เคยอา้ งอิงถึงแหล่งท่ีมาของข้อมูลหรือไม่ (เคย/
ไม่เคย)
2. นักเรียนร่วมกันฟังคาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้
ว่าอาจประเมินจากประเภทของเว็บไซต์ หากเป็นของหน่วยงานราชการ สานักข่าว หรือ
องค์กรต่าง ๆ ความน่าเชื่อถืออาจจะมากกว่าเว็บไซต์ที่สร้างโดยบุคคลทั่วไป จึงต้อง
พิจารณาถึงผู้เขียนหรือผู้ให้ข้อมูลด้วยนอกจากนี้เมื่อเวลาผ่านไปข้อมูลต่าง ๆ อาจต้อง
ปรับให้ทันสมัย ดงั นั้น เราควรพิจารณาถึงวันทที่ เ่ี ผยแพรข่ ้อมูลนนั้ ด้วย
ข้ันสอน ( 40 นาที )
3. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั วเิ คราะหป์ ญั หาความไม่
น่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มูล จากนั้นเขียนบนั ทึกเปน็ แผนภาพความคิด
4. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั น้ี
การอ้างองิ ถึงแหลง่ ท่มี าของข้อมูลมีประโยชนอ์ ย่างไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ทาใหข้ ้อมลู ที่
นามาใชม้ ีความนา่ เชอ่ื ถอื ทันสมยั และมีความถกู ต้อง)
5. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การคน้ หาขอ้ มลู ดงั น้ี
การค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ควรเลือกจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ จาก
หน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ มากกว่าเว็บไซต์บุคคลทั่วไป และเมื่อต้องการใช้ข้อมูลควร
อ้างอิงทมี่ าหรอื แหลง่ เกบ็ ขอ้ มูลน้นั ด้วย
6. นักเรียนจับคู่หรือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจานวนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยให้มี
นกั เรยี น 1 คนท่ีมปี ระสบการณ์ในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์
7. นักเรียนฝึกปฏิบัติการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร โดยใช้ค าค้นว่า
“กรุงเทพมหานคร”แล้วหาว่าข้อมูลจากเว็บไซต์ใดมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด พร้อมระบุ
ชื่อเว็บไซต์ว่าเป็นของหน่วยงานใด เมื่อวันที่... เดือน... พ.ศ. อะไร จากนั้นอภิปราย
ร่วมกันในชนั้ เรยี น
8. นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมที่ 2.3 ใครนา่ เชอ่ื ถอื โดยนกั เรยี นคน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั จังหวัดของ
ตนเองแล้วนาข้อมูลในประเด็นที่นักเรียนสนใจมาเรียบเรียงเป็นข้อความประมาณ 10
บรรทัด นาภาพมาติดหรือวาดภาพประกอบ และอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลที่นักเรียน
ศึกษาและตอบคาถาม เขยี นบนั ทึกลงในชน้ิ งานท่ี 4 เรอ่ื ง การคน้ หาขอ้ มลู ท่สี นใจ
ขนั้ สรุป ( 5 นาที )
9. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ท่ีเขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกนั ดงั น้ี
ข้อมูลท่ไี ด้จากเว็บไซต์ตา่ ง ๆ จะต้องนาเนื้อหามาพิจารณา เปรยี บเทยี บ เลอื กขอ้ มูลที่มีความ
สอดคล้องและสัมพันธ์กัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยพิจารณาจากประเภทของ
เวบ็ ไซตจ์ ากหน่วยงานท่ีน่าเชื่อถือ
8. สอื่ การเรยี นรู้
- สือ่ Powerpoint เรือ่ ง การคน้ หาข้อมูลทีส่ นใจ
- เว็บไซต์ https://www.google.co.th
- เว็บไซตต์ ่าง ๆ ทีส่ นใจ
- คอมพิวเตอร์ โทรศพั ทม์ ือถือ
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศึกษา
ปที ่ี 4 (พว.)
9. แหลง่ การเรียนรู้
- เวบ็ สืบค้นข้อมลู
- หอ้ งสมดุ
10. การวัดและประเมนิ ผล
รายการวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
บอกการเขา้ ใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบทา้ ย เกณฑ์ 50% ขน้ึ ไป
ในการค้นหาขอ้ มลู (K) หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 นกั เรยี นทง้ั หอ้ งตอบถกู
5 ข้อผา่ นเกณฑ์
สืบคน้ ขอ้ มูลบนอนิ เทอร์เนต็ ตรวจช้ินงาน แบบประเมินชิน้ งาน เกณฑ์รูบรคิ 4 ระดบั
จากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ีน่าเชอ่ื ถอื (P)
สบื ค้นข้อมลู บนอนิ เทอรเ์ น็ต สังเกตกระบวน แบบประเมนิ เกณฑ์รบู ริค 4 ระดับ
จากแหล่งขอ้ มลู ทีน่ ่าเชอ่ื ถือ (P) การทางานกล่มุ กระบวนการทางานกลุม่
ตระหนกั และเหน็ ถึงคุณค่าใน แบบประเมิน ประเมิน
การใช้อนิ เทอรเ์ น็ต สังเกต คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑร์ ูบริค 4 ระดับ
ค้นหาความรู้ (A)
ด้านใฝเ่ รยี นรู้