The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สัมมาสมาธิ หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-05-05 23:06:11

สัมมาสมาธิ หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต

สัมมาสมาธิ หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต

Keywords: สัมมาสมาธิ หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต

สมั มาสมาธิ

มูลนิธิพระสงบ มนสฺสนฺโต

ตw.หwนอwงก.วsำaง อ-.nโพgธำoรำbม.จc.รoำชmบรุ ี

สัมมาสมาธิ

พระอาจารยส งบ มนสฺสนโฺ ต

ISBN 978-616-7870-56-4 จํานวน ๖๐,๐๐๐ เลม
จาํ นวน ๖๐,๐๐๐ เลม
พิมพค รั้งที่ ๑ : กุมภาพันธ ๒๕๖๒
พิมพครงั้ ที่ ๒ : พฤศจิกายน ๒๕๖๒

จดั ทาํ โดย มลู นธิ ิพระสงบ มนสฺสนโฺ ต
เลขที่ ๕ หมู ๓ บา นหนองแหน ต.หนองกวาง
อ.โพธาราม จ.ราชบรุ ี ๗๐๑๒๐

จัดพมิ พท่ี บรษิ ัทอมรินทรพร้นิ ต้งิ แอนดพบั ลชิ ชง่ิ จํากัด (มหาชน)
๓๗๖ ถนนชัยพฤกษ( บรมราชชนนี) เขตตล่งิ ชนั กทม.
โทรศพั ท ๐-๒๔๒๒-๙๐๐๐ โทรสาร ๐-๒๔๓๓-๒๗๔๒

หนงั สือเลมนจ้ี ดั พมิ พเพือ่ เผยแผเ ปนธรรมทาน
หา มคดั ลอก ตัดตอน หรอื นําไปพิมพจ ําหนา ย
หากทานใดประสงคจ ะพิมพแจกเปนธรรมทาน

โปรดติดตอ มลู นิธิพระสงบ มนสสฺ นโฺ ต
www.sa-ngob.com

ค�ำนำ�

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา สอนถึงส้ินสุด
แหง่ ทกุ ข์ อนั เปน็ เปา้ หมายสงู สดุ และเปน็ ทปี่ รารถนาของนกั ปฏบิ ตั ิ
ทง้ั หลาย สอนมชั ฌมิ าปฏปิ ทา หรอื ศลี สมาธิ ปญั ญา เปน็ ทางดำ� เนนิ
สอนการปฏบิ ตั ติ อ้ งเปน็ ไปตามความเปน็ จรงิ โดยทำ� ความสงบใจกอ่ น
มีสัมมาสมาธิเป็นพื้นฐาน แล้วใช้ปัญญาออกพิจารณา ตามหลัก
สมถ - วปิ สั สนากรรมฐานควบคกู่ นั ไป ดงั หลวงปเู่ สาร์ หลวงปมู่ น่ั
และครบู าอาจารยท์ งั้ หลาย มอี ำ� นาจวาสนาไดป้ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม
จนส้นิ สดุ แหง่ ทกุ ข์

สมั มาสมาธิ เปน็ หนงั สอื ธรรมะทม่ี สี ารตั ถะประโยชนอ์ ยา่ งมาก
ทา่ นพระอาจารยส์ งบ มนสสฺ นโฺ ต ทา่ นเมตตาเทศนเ์ ตอื นสตชิ าวพทุ ธ
ให้ตื่นตัวและตระหนักถึงครูบาอาจารย์ที่รู้จริงมีคุณธรรมจ�ำเป็นมาก
ซึ่งในปัจจุบันมีน้อยมาก ส่วนครูบาอาจารย์องค์ดังๆ ไม่มีวุฒิภาวะ
อวดอ้างเพ้อพกว่ามีคุณธรรมกลับมีมากมาย แต่ภาวนาไม่เป็น
ท�ำสัมมาสมาธิไม่ได้ เป็นสมาธิหัวตอ มิจฉาสมาธิ และมักสวมรอย
ปลน้ิ ปลอ้ นหลอกลวงอปุ โลกนธ์ รรมสอนชาวพทุ ธใหห้ ลงผดิ ตาม ถอื เปน็
โมฆบรุ ุษ เปน็ ผ้ทู ุศลี

ครบู าอาจารยท์ ร่ี จู้ รงิ ทา่ นสอนใหด้ บั กเิ ลสไฟสมุ ขอนในใจตน
ใหร้ กั ษาคน้ ควา้ ใจตน ใหร้ กั ษาพระธรรมวนิ ยั ขอ้ วตั รปฏบิ ตั ิ ปฏปิ ทา
และใหท้ ำ� สมั มาสมาธติ ามทหี่ ลวงปมู่ นั่ สอนใหพ้ ทุ โธ แมก้ อ่ นมรณภาพ
ทา่ นกย็ ำ้� เตอื นวา่ “อยา่ ทงิ้ ผรู้ ู้ อยา่ ทงิ้ พทุ โธ” หากผใู้ ดฝกึ หดั ปฏบิ ตั ติ าม
ก็จะเกิดความมหัศจรรย์ เห็นกิเลส เห็นสติปัฏฐาน ๔ ตามความ
เปน็ จรงิ ในสตปิ ฏั ฐาน ๔ มกี าย ในกายไมม่ สี ตปิ ฏั ฐาน ๔ เปน็ ผรู้ จู้ รงิ
และท่ีสุดเป็นผู้สิ้นสุดแห่งทุกข์ เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส ผู้สืบทอด
พระพุทธศาสนาให้ย่ังยนื สถาพรสืบตอ่ ไป

มูลนิธิพระสงบ มนสสฺ นโฺ ต
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

สารบญั

สัมมาสมาธิ...................................................... ๕
อปุ โลกน์ธรรม.................................................๕๔
ไฟสมุ ขอน....................................................๑๐๐
ในสตปิ ัฏฐานสม่ี ี........................................... ๑๔๕

สมั มาสมาธิ • 5

พระพทุ ธศาสนาเลอเลิศยอดเยย่ี ม
แตอ ยูท่ใี นหัวใจของใคร

อยูในหวั ใจของหลวงปูเ สาร หลวงปมู ัน่
อยูในหวั ใจของครูบาอาจารยข องเรา
นนั้ เปนท่พี ึ่งท่ีอาศัยท่เี ราพยายามจะแสวงหา
ถาอยูในใจของพวกหนา ดา น โมฆบุรษุ

สมาธหิ วั ตอ มจิ ฉาสมาธิ
มนั จะเกิดเองไปท้ังหมด หยําเป

ไมเปนประโยชนก ับใครเลย
เขาเองกห็ ลง เขาเองกท็ าํ ลายตัวเอง
แลวยงั ชักนาํ ใหส ังคมหลงใหล ชักนําใหค นอน่ื ผิด



สมั มาสมาธิ

พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
เทศน์บนศาลา วนั ท่ี ๙ กันยายน ๒๕๖๑
ณ วดั ป่าสันตพิ ทุ ธาราม ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

ต้ังใจฟังธรรมะ ต้ังใจฟังธรรม ถ้าจิตใจเราเป็นธรรมนะ
มันเข้ากับธรรมะ เข้ากับสัจธรรม แล้วมันนุ่มนวลอ่อนนุ่มไปกับ
หัวใจของเรา

ถ้าจิตใจของเรามันมีกิเลสตัณหาความทะยานอยาก
มนั โตม้ นั แยง้ มนั กดี มนั ขวาง พอมนั กดี มนั ขวางแลว้ มนั กอ็ อ้ ยสรอ้ ย
ออเซาะฉอเลาะกบั ใจของเราเองไง นนู่ กไ็ ด้ นก่ี ไ็ ด้ ไดไ้ ปทกุ อยา่ ง
ถ้ากิเลสมันบงการ

แตถ่ า้ เปน็ ธรรมะนไ่ี มไ่ ดเ้ ลยนะ เพราะอะไร เพราะธรรมะ
มนั ขดั กบั กเิ ลสอยแู่ ลว้ ธรรมะมนั ตรงขา้ มกบั กเิ ลสอยแู่ ลว้ ถา้ ธรรมะ
มนั ตรงขา้ มกบั กเิ ลสนะ สงิ่ ทม่ี นั เปน็ กเิ ลสๆ องคส์ มเดจ็ พระสมั มา
สมั พทุ ธเจา้ ตรัสร้ธู รรมข้นึ มาแลว้ “จะสอนใครได้หนอๆ” เพราะ
สอนคนมีกิเลส สอนคนท่ีมกี ิเลสนะ

สมั มาสมาธิ • 7

ฉะนนั้ เวลาทา่ นจะเทศนาวา่ การเอาปญั จวคั คยี ์ ปญั จวคั คยี ์
ประพฤตปิ ฏบิ ตั กิ บั ทา่ นอยแู่ ลว้ ๖ ปี เวลาไปเอายสะ ยสะเดอื ดรอ้ น
ออกมาจากบ้าน “ท่นี ีเ่ ดือดรอ้ นหนอ ทนี่ ่วี นุ่ วายหนอ”

คนที่จะมาประพฤติปฏิบัติเห็นความวุ่นวายของโลก
เหน็ ความวนุ่ วายในชวี ติ ของเรา มปี ราสาท ๓ หลงั เหมอื นองคส์ มเดจ็
พระสมั มาสมั พุทธเจ้าไง “ทีน่ ี่เดอื ดรอ้ นหนอ ทน่ี ่วี นุ่ วายหนอ”

ฉะนน้ั “ยสะมานี่ ยสะมาน่ี ทนี่ ไ่ี มเ่ ดอื ดรอ้ น ทน่ี ไี่ มว่ นุ่ วาย”
ทน่ี ไ่ี มเ่ ดอื ดรอ้ น ทน่ี ไ่ี มว่ นุ่ วายอยทู่ ไี่ หน อยใู่ นทางจงกรมไง
เพราะองค์สมเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เดินจงกรมอยู่ เห็นไหม
เวลาถ้ามันเป็นสัจจะเป็นความจริง คนท่ีจะออกมา
ประพฤติปฏิบัติข้ึนมามันต้องมีจิตใจที่สมควรแก่การงาน สมควร
ทีเ่ ห็นแกจ่ ะประพฤตปิ ฏิบัติ
ถ้ามันไม่สมควรแก่การงานนะ มันละล้าละลังท้ังนั้นน่ะ
แต่คนเราเกิดมา คนเราเกิดมามันต้องรับผิดชอบ คนเรามันก็
มหี นา้ ทกี่ ารงานของตน นก่ี ารรบั ผดิ ชอบอนั นน้ั ถา้ การรบั ผดิ ชอบ
อันน้ัน คนท่ีอยากประพฤติปฏิบัติเขาต้องจัดการ ต้องเตรียมตัว
ของเขา ความเตรียมตัวของเขานะ
ถา้ มนั เปน็ ธรรมๆ ดสู ิ เวลาอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐแี คไ่ ดย้ นิ
คำ� วา่ “พทุ ธะ” เทา่ นน้ั นะ่ ไปเยย่ี มญาตเิ ทา่ นน้ั นะ่ “เขาทำ� อะไรกนั
ทำ� อาหารมหาศาลเลย”

8 • เทศน์บนศาลา

“เธอไม่รหู้ รือ พระพุทธเจา้ ตรสั รู้แล้ว”
แค่ไดย้ นิ ค�ำวา่ “พทุ ธะ” นอนไมห่ ลบั เลย อยู่ไม่ไดเ้ ลย
อยู่ไม่ได้เลย คืนทั้งคืน รอจนอรุณรุ่งขึ้นมาไปเฝ้าองค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิมนต์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไปฉนั ทบี่ า้ น แลว้ เอาเงนิ ปซู อ้ื ทสี่ รา้ งวดั ให้ นถี่ า้ คนมบี ญุ เปน็ อยา่ งนน้ั
คนมบี ญุ คนมโี อกาส คนทจ่ี ะประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ คนทมี่ อี ำ� นาจวาสนา
ไอ้พวกเรามันขี้ทุกข์ข้ียาก องค์สมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าปรารถนาร้ือสัตว์ขนสัตว์ไง ห่วงไปหมดเลย พอห่วง
ไปหมดเลย ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลา
คนตาย เวลาซากศพ เขาตราสงั หว่ งขอ้ มอื หว่ งผกู เทา้ ผกู ขอ้ มอื
ผูกคอ ผูกหมดเลย ห่วงบุตร ห่วงภรรยา ห่วงทรัพย์สมบัติ
ห่วงไปหมดเลย น่ไี ง เวลาเขาตราสงั ศพนั่นนะ่
น่ันก็เห็นเวลาศพมันเป็นอย่างน้ันน่ะ แต่เราเป็นคนเป็น
เรามสี ตมิ ปี ญั ญาของเรา ถา้ มสี ตปิ ญั ญาของเรา หว่ งกห็ ว่ ง เวลาหว่ ง
คนมกี เิ ลสมนั กค็ ดิ ทงั้ นนั้ นะ่ คนเรามคี วามรสู้ กึ ไมใ่ ชค่ นตาย แตค่ น
มคี วามรสู้ กึ ขนึ้ มาแลว้ ถา้ มนั จะประพฤตปิ ฏบิ ตั มิ นั กต็ อ้ งมสี ตมิ ปี ญั ญา
ของมัน มีสติปัญญาของเราเพื่ออะไร เพ่ือประโยชน์กับเราๆ ไง
ถา้ ประโยชนก์ บั เรา เราเตรยี มตัวของเรา
เวลาขนาดเตรียมตัวของเรา เหน็ ไหม เวลาคนมีอำ� นาจ
วาสนามาบวชเป็นพระ มาบวชเป็นพระนี่นักรบ เพราะเป็นพระ

สมั มาสมาธิ • 9

เปน็ พระกรรมฐาน พระป่า พระปฏิบัติ กิเลสมนั ยงั หลอกเอาเลย
กิเลสมนั ยังท�ำหวั ปนั่ เลยนะ พระหรอื พระกพ็ ระ

พระน่ีเป็นพระสมมุติสงฆ์ เป็นพิธีกรรมท้ังนั้นน่ะ
บวชมาด้วยธรรมและวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ยังไม่ได้ประพฤติปฏิบัติข้ึนมา เผากิเลสให้ตายไปจากหัวใจ
ของตน กเิ ลสมนั ยงั อยใู่ นหวั ใจของพระสมมตุ สิ งฆน์ น้ั มนั กป็ น่ั หวั
พระนั้นใหห้ วั ปน่ั เลย ถ้ามนั ป่นั พระให้หวั ปัน่ เหน็ ไหม

แตถ่ า้ คนมอี ำ� นาจวาสนานะ เวลาอมิ่ บญุ ๆ นะ เวลาพระ
บวชใหม่ๆ ข้นึ มา เขาจะมีความสุขของเขานะ แหม! เราเกดิ มา
เปน็ มนษุ ย์ เกดิ มาพบพระพทุ ธศาสนา เราไดบ้ วชเปน็ พระ มนั อมิ่ บญุ
อม่ิ กศุ ลของมนั มันปล้ืมใจช่ืนใจนะ

แต่อยู่ไปๆ ถ้ากิเลสมันปั่นหัว แล้วเราไม่จริงจังกับชีวิต
ของเราเอง เราไมป่ ระพฤตไิ มป่ ฏบิ ตั ิ เราไมร่ กั ษาดแู ลหวั ใจของเรานะ
เวลากเิ ลสมนั ฟขู นึ้ มานะ “โฮ!้ พระกป็ ฏบิ ตั ไิ ด้ ฆราวาสกป็ ฏบิ ตั ไิ ด้
สึกไปดีกวา่ ” นน่ั นะ่ เวลากเิ ลสมนั ปั่นหวั ขน้ึ มา

สิทธิเทา่ กันไง เวลาเราเป็นฆราวาสใชไ่ หม เราเห็นพระ
เรายกมือไหว้ เราอยากท�ำบุญกุศล เราแสวงหาครูบาอาจารย์
ของเรา เราหาที่ท�ำบุญกุศลของเรา น่ันน่ะพระมีศีล ๒๒๗
พระเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส พระเป็นผู้ท่ีเป็นนักรบ พระเป็น
ผทู้ ม่ี โี อกาสทจ่ี ะประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ พระมโี อกาสทจี่ ะประหตั ประหาร
กิเลสในใจของตน

10 • เทศน์บนศาลา

เวลาเราเปน็ ฆราวาส เราอยากบวชพระ เราคดิ ไปหมดเลยวา่
พระสูงส่ง พระมีอ�ำนาจวาสนา เราต่างหากเป็นคนขี้ทุกข์ขี้ยาก
เราตา่ งหากเป็นคนท่ีไม่มีวาสนา เราต่างหาก

เวลาธรรมะขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ฆราวาส
เปน็ ทางทคี่ บั แคบ พระเปน็ ทางทก่ี วา้ งขวา้ ง บวชมาแลว้ บวชมา
เจอครูบาอาจารยท์ ดี่ ี ครูบาอาจารยท์ ีด่ ีทา่ นพยายามปกปอ้ งดแู ล
ให้ได้ประพฤติปฏิบัติตลอดเวลา ๒๔ ช่ัวโมง ทางกว้างขวาง
๒๔ ช่วั โมงได้ประพฤติปฏิบัติตลอดเวลา เวลาเราจะบวช เราคิด
อยา่ งนี้นะ

เวลากเิ ลสมนั ปน่ั หวั “โฮ!้ เปน็ ฆราวาสกป็ ฏบิ ตั ไิ ด้ สกึ ดกี วา่
ไปเป็นฆราวาส” น่ีทางคับแคบ ก่อนมาก็คิดแล้วว่าทางสมณะ
เปน็ ทางทกี่ วา้ งขวาง ในทางทปี่ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ น้ึ มา พยายามกดกเิ ลส
ใหม้ นั สงบระงบั ขน้ึ มา มาบวชเปน็ พระ บวชเปน็ พระขนึ้ มา เวลาบวช
เป็นพระข้ึนมาแล้ว กิเลสมันก็ยังมาปั่นหัว เห็นไหม ปั่นหัวใจ
ป่ันหวั ใจใหค้ ิดอยา่ งนั้นไง นี่ถา้ มนั คดิ อยา่ งน้นั

เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เราจะ
บวชเปน็ พระแลว้ เราจะรบกบั กเิ ลส ถา้ รบกบั กเิ ลส เรากพ็ ยายามจะ
ประพฤติปฏบิ ตั ิ เราจะแสวงหาทป่ี ฏิบตั ิของเรา

การแสวงหาที่ปฏิบัติของเรา ผู้ที่เป็นปัญญาชน
เวลาบวชมาแล้วก็ศึกษาธรรมและวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้า ถ้าจะประพฤติปฏิบัติขึ้นมาก็ต้องหาสัปปายะ

สัมมาสมาธิ • 11

อาจารยเ์ ปน็ สปั ปายะ สถานทเ่ี ปน็ สปั ปายะ หมคู่ ณะเปน็ สปั ปายะ
สงิ่ ทเ่ี ปน็ อาหารเปน็ สปั ปายะ เปน็ สปั ปายะกบั การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ

เอาล่ะ เรื่องเกิดแล้ว ถ้าเป็นสัปปายะ อย่างน้ีต้องเป็น
สัปปายะเพราะอ่านหนังสือมาไง ไปอ่านหนังสือมา ศึกษาทาง
วชิ าการมานะ ถา้ เปน็ สปั ปายะตอ้ งเปน็ อยา่ งนน้ั ๆ ไมใ่ ชส่ กั อยา่ งเลย
ไมใ่ ช่อยา่ งทเ่ี ราคิดเลย

เปน็ สปั ปายะ เปน็ สปั ปายะพอดำ� รงชพี อยไู่ ดเ้ ทา่ นนั้ แหละ
ถ้ามีครบู าอาจารย์ ครบู าอาจารย์ท่านสูงสง่ กว่าเรา เราไมเ่ ท่าทัน
ทา่ นหรอก เพยี งแตเ่ ราคดิ เราเขา้ ไปศกึ ษาแลว้ เรารบั รไู้ ดไ้ ง รบั รไู้ ด้
เห็นไหม

ดูสิ เวลาครูบาอาจารย์ท่านอยู่ในป่าในเขา สัตว์มัน
อาศยั อยเู่ ปน็ เพอื่ น ดเู สอื มนั ไมท่ ำ� พระ ไมท่ ำ� พระเพราะพระมศี ลี
มีธรรมไง สัตว์มนั ยังรูไ้ ดเ้ ลยวา่ คนนน้ั มีเมตตาธรรม

ไอ้นี่ของเรา เราเป็นพระ เราบวชมาแล้วเราจะไม่รู้
ได้อย่างไรว่าอาจารย์องค์ไหนท่านมีความเมตตาในใจของท่าน
มันรับรู้ได้ มันรับรู้ได้ท้ังนั้นน่ะ เว้นไว้แต่กิเลสมันหนา เวลา
กิเลสมนั หนา “อ้!ู ล�ำเอียง”

ลำ� เอยี งอะไร กเิ ลสเอง็ ทว่ มหวั สงิ่ ทเี่ ขาไมค่ ลอ้ ยตามเอง็
ก็เพราะว่ากิเลสของเอ็งน่ันแหละ เอ็งจะเอากิเลสของเอ็งมา
บญั ชาการหมสู่ งฆไ์ ดอ้ ยา่ งไร จะเอาความรสู้ กึ นกึ คดิ ของตนเทา่ นน้ั นะ่
แลว้ บงั คบั บญั ชาใหส้ งฆท์ ำ� ตาม มนั จะเปน็ อยา่ งนน้ั ไดอ้ ยา่ งไร นไ่ี ง

12 • เทศน์บนศาลา

เพราะศึกษามามากไง ต้องเป็นสัปปายะ สัปปายะก็พอใจกูนี่
เป็นสัปปายะ ถ้าไมพ่ อใจกไู มใ่ ช่สัปปายะ

เรารู้ไม่ได้หรอก แต่เวลาครูบาอาจารย์ของเราฝึกฝน
ของเราๆ เราพยายามฝกึ ฝนของเรานะ มคี รบู าอาจารยท์ ใี่ จเมตตาธรรม
แลว้ เราพยายามประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ นึ้ มาใหเ้ ปน็ ความจรงิ ในใจของเรา
ถา้ ปฏบิ ตั ติ ามความเปน็ จรงิ ในใจของเรา เวลาหลวงปมู่ น่ั หลวงปมู่ นั่
ท่านสอนให้ท�ำความสงบของใจเข้ามาก่อน ท�ำความสงบของใจ
เข้ามากอ่ น ท�ำความสงบของใจเขา้ มาให้เรารม่ เย็นเป็นสุขไง

คนเราเกดิ มานะ ดสู ิ ทางโลกเขา ถา้ ใครมปี จั จยั เครอ่ื งอาศยั
สมบูรณ์ เขาก็อยู่เป็นสุขของเขา น่ีก็เหมือนกัน เรามาบวช
เป็นพระแล้ว สิ่งท่ีได้มา เล้ียงชีพด้วยปลีแข้ง วัดวาอาวาสก็มีท่ี
ใหอ้ าศยั กฏุ กิ ม็ ที ใี่ หอ้ าศยั ทกุ อยา่ งกม็ ที ใี่ หอ้ าศยั ทง้ั นน้ั นะ่ แลว้ เราอยู่
มีความสุขหรือไม่ ถ้าเราอยู่ไม่มีความสุขขึ้นมาเพราะอะไร
เพราะกิเลสมนั เตม็ หวั ใจไง ถ้ากเิ ลสมันเต็มหัวใจขึ้นมา

เวลาบวชใหมๆ่ ขน้ึ มากอ็ มิ่ บญุ ๆ มนั กอ็ ยดู่ ว้ ยความเปน็ สขุ
ของมนั เวลามนั คดิ ของมนั มนั จนิ ตนาการของมนั นะ มนั แผดเผา
เรา่ รอ้ นแลว้ แหละ ฉะนนั้ เวลาหลวงปเู่ สาร์ หลวงปมู่ น่ั ครบู าอาจารย์
ทา่ นสอนใหท้ �ำความสงบของใจเข้ามา ทำ� ความสงบของใจเขา้ มา

ทางโลกเขา เขามปี จั จยั เครอื่ งอาศยั ดว้ ยความอดุ มสมบรู ณ์
เขากม็ คี วามสขุ ของเขา พระเราปฏบิ ตั มิ านะ ถา้ ไมม่ ศี ลี ไมม่ สี มาธิ
ไมม่ ปี ญั ญาในหวั ใจขนึ้ มามนั กเ็ รา่ รอ้ น ความเรา่ รอ้ น เรา่ รอ้ นเพราะ

สมั มาสมาธิ • 13

กเิ ลสมนั ปน่ั หวั ถา้ มนั ปน่ั หวั เรามคี รบู าอาจารยท์ ดี่ ี หลวงปเู่ สาร์
หลวงปู่มัน่ ทา่ นพาท�ำ มีข้อวตั รปฏิบตั ขิ ึน้ มาเป็นเครือ่ งอยู่

ค�ำว่า “เครื่องอยู่ๆ” เคร่ืองอยู่เครื่องอาศัย คนเรา
มันต้องมีที่พักที่อาศัย มีเคร่ืองอยู่เคร่ืองอาศัย หัวใจมันได้อยู่
ได้อาศัยไง มันท�ำด้วยความปลาบปลื้ม ท�ำด้วยความเต็มใจนะ
เวลาท�ำข้อวัตรปฏบิ ตั ิท�ำด้วยหัวใจ ท�ำด้วยเคารพบชู าองคส์ มเดจ็
พระสัมมาสัมพุทธเจา้ ธรรมและวินยั เปน็ ศาสดาของเรา ทำ� ตาม
คำ� สงั่ สอนขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ แตเ่ ราศกึ ษามาแลว้
เราก็ไม่เข้าใจ เวลาครูบาอาจารย์ของเราวางข้อวัตรปฏิบัติไว้
เราทำ� ตามนั้นน่ะ

ถา้ ใครมกี ารศกึ ษา ใครคน้ ควา้ นะ ในวนิ ยั มขุ ในบพุ พสกิ ขา
ไปเปดิ ดสู ิ ไปเปิดดสู ิ่งทเ่ี ราทำ� ๆ เราท�ำมาจากไหน เราทำ� มาจาก
หลวงปเู่ สาร์ หลวงปู่มัน่ ทา่ นทำ� มากอ่ น ทา่ นวางแนวทางไว้

ไอเ้ ราอา่ นหนงั สอื มานค่ี วามรทู้ ว่ มหวั เลย นนู่ กง็ ง นกี่ ส็ งสยั
นนั่ เปน็ อยา่ งนน้ั ๆ แลว้ มนั เกดิ ทฏิ ฐมิ านะ พระบวชใหมๆ่ พอพระ
บวชใหมข่ น้ึ มา เขาวา่ อยา่ งนนั้ ๆ ทนี่ น่ั วา่ อยา่ งนน้ั กเิ ลสวา่ อยา่ งนน้ั
เราว่าอย่างน้ี โห! วุ่นวายไปหมดเลย เพราะอะไร เพราะว่า
เรายงั ไมไ่ ดส้ ัจจะได้ความจรงิ ไง นเี่ วลาผปู้ ฏบิ ตั ปิ ฏบิ ตั กิ ันอยา่ งนี้

คนท่ีมีวาสนามันได้ครูบาอาจารย์ท่ีดีนะ ถ้าคนมีวาสนา
ได้ครูบาอาจารย์ท่ีดี แล้วมันก็อยู่ที่อ�ำนาจวาสนาของเราด้วย
อ�ำนาจวาสนาของเรา สิ่งท่ีเราสร้างมาๆ ไง สิ่งท่ีเราสร้างมานะ

14 • เทศน์บนศาลา

พนั ธกุ รรมของจติ ๆ คนทม่ี อี ำ� นาจวาสนานะ หลวงตาทา่ นพดู ประจำ�
บอกว่า ท่านเปน็ คนดือ้ คนหนงึ่

คำ� วา่ “คนดอื้ คนหนง่ึ ” ทา่ นพดู ภาษาชาวบา้ น แตค่ วามจรงิ
คือท่านเป็นคนท่ีมีหลักการคนหนึ่ง คนท่ีมีสติปัญญาคนหน่ึง
ท่านแสวงหาครบู าอาจารย์ทีด่ ๆี เวลาท่านแสวงหา ทา่ นแสวงหา
หลวงป่มู นั่

ทา่ นกศ็ กึ ษามาจนเปน็ มหา คำ� วา่ “เปน็ มหา” ทางวชิ าการ
ท่านก็รู้มาแล้วทั้งนั้นน่ะ เหมือนกับคนเรียนกฎหมาย เวลาเรียน
กฎหมาย จบกฎหมายแลว้ ก็ไปฝึกกบั สำ� นกั งานกฎหมายตา่ งๆ

นก่ี เ็ หมอื นกนั สงิ่ ทท่ี า่ นกเ็ รยี นมาแลว้ ๆ ทา่ นกเ็ รยี นกฎหมาย
มาแลว้ แตเ่ วลาทา่ นจะปฏบิ ตั ขิ น้ึ มาทา่ นกล็ ะลา้ ละลงั มนั จรงิ หรอื ไม่
มันจริงหรือไม่

กไ็ ปหาหลวงปเู่ สาร์ หลวงปมู่ นั่ นะ มหา มหามาหาอะไร
มรรคผลนิพพานอยู่ท่ีไหน มันอยู่ที่หัวใจของสัตว์โลกใช่ไหม
อย่ใู นหัวใจของสตั ว์โลกน่ันแหละ

เวลาท่านส่ังสอน ท่านอบรมบ่มเพาะขึ้นมา พยายาม
ฝกึ หดั ปฏบิ ตั ขิ นึ้ มาจนเปน็ ความเปน็ จรงิ ในใจของทา่ น ทา่ นเคารพบชู า
ด้วยหัวใจ เทิดทูนเคารพบูชา “หลวงปู่ม่ันเป่ากระหม่อมเรามา
หลวงปูม่ นั่ เป่ากระหม่อมเรามา” เวลาท่านพูดของท่าน เห็นไหม
ความเคารพบชู าอนั นน้ั นะ่ เพราะอะไร

สมั มาสมาธิ • 15

เพราะเรากศ็ กึ ษามาเปน็ มหา นก่ี เ็ หมอื นกนั เราปญั ญาชน
เรากศ็ กึ ษามา เรากเ็ รยี นมาทง้ั นน้ั นะ่ แตเ่ วลาจะทำ� ขน้ึ มา ทำ� ถกู ตอ้ ง
หรือไม่ เวลาท�ำไม่ถูกต้องก็ท�ำตามกิเลสของตน ท�ำตามกิเลส
ของตนไง

หลวงปู่เสาร์ หลวงปมู่ ่นั ท่านสอนใหท้ ำ� ความสงบของใจ
เขา้ มากอ่ น พยายามทำ� ความสงบของใจเขา้ มา มนั กม็ คี วามโตแ้ ยง้
มีความเหน็ ตา่ งๆ นะ “ทำ� สมาธิๆ” นเ่ี ขาวา่

ท�ำสมาธิ เอ็งท�ำสมาธิเป็นหรือเปล่า เวลาหลวงตา
ทา่ นพดู กบั พวกเรา พดู ดว้ ยความสลดสงั เวชไง “สมาธยิ งั ทำ� ไมเ่ ปน็ เลย
แลว้ มันจะภาวนากนั อย่างไร สมาธยิ งั ท�ำไม่ได้ แล้วจะภาวนากนั
อย่างใด”

เวลาภาวนามแี ตพ่ ระอาจารยด์ งั ๆ ทงั้ นน้ั นะ่ มคี ณุ ธรรมสงู สง่
สมาธิมันยังท�ำไม่เป็น มันจะภาวนาอะไรกัน ถ้าสมาธิท�ำไม่ได้
หลกั การทำ� ไม่ได้

เหมอื นเรา เราไมม่ สี ทิ ธอิ ะไรเลยนะถา้ เราเปน็ คนตา่ งดา้ ว
เราจะทำ� สทิ ธไิ ด้ เราเปน็ คนไทย เราตอ้ งมเี ชอ้ื ชาตไิ ทย เราตอ้ งมี
สญั ชาติ เราตอ้ งมบี ตั รประจำ� ตวั ของเรา เราถงึ มสี ทิ ธติ ามกฎหมายได้
ถา้ เราเปน็ คนต่างด้าว มันก็ต้องมสี ิทธิตามคนต่างด้าวใชไ่ หม

นกี่ เ็ หมอื นกนั ถา้ มนั ทำ� สมาธไิ มไ่ ด้ มนั กห็ าใจของมนั ไมไ่ ด้
ในเมอ่ื มนั ไมร่ จู้ กั ตวั มนั เอง มนั ไมม่ สี ทิ ธติ ามความเปน็ จรงิ มนั จะเอา

16 • เทศนบ์ นศาลา

อะไรมา มนั กเ็ ปน็ การสวมรอย เปน็ การเพอ้ เจ้อ เปน็ การเพ้อพก
นไ่ี ง “ฝกึ ทำ� สมาธๆิ ”...ฝกึ ทำ� สมาธิ สมาธอิ ะไร มนั กเ็ ปน็ มจิ ฉาสมาธิ

เวลาค�ำว่า “เป็นมิจฉาสมาธิ” เพราะอะไร เพราะคน
ทำ� สมาธิ คนทำ� ได้จรงิ จัง มันก็ทำ� ความสงบได้ การทำ� ความสงบ
ไดบ้ า้ งๆ คำ� วา่ “ไดบ้ า้ ง” ถา้ มนั ทำ� ไป ถา้ มนั ไมม่ สี ตไิ มม่ ปี ญั ญาขน้ึ มา
มันจะเป็นสัมมาสมาธิ เป็นสมาธิที่ควรแก่การงานได้อย่างไร
เพราะอะไร

เพราะเราไปหาครูบาอาจารย์ท่ีท่านไม่มีวุฒิภาวะ
ไปหาครูบาอาจารย์ที่ท่านอ้างอิงตามครูบาอาจารย์มา
มนั สวมรอยจากคำ� สงั่ สอนของครบู าอาจารยม์ า มนั ไมม่ คี วามจรงิ
ในใจของตน ถ้าไม่มีความจริงในใจของตน ไม่มีหลักการ
ไมม่ แี นวทางทจ่ี ะชนี้ ำ� ได้ คนไมเ่ คยเดนิ เสน้ ทางนนั้ แลว้ จะบอก
วิธีการไปตามเส้นทางนั้น มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นส่ิงที่
เปน็ ไปไมไ่ ดเ้ ลย

นีไ่ ง เวลาท�ำสมาธๆิ สมาธอิ ะไร ถา้ มนั เป็นการสวมรอย
สวมรอยไป แลว้ เวลาสวมรอยขึ้นไปก็บอกวา่ “มีมรรคมผี ลๆ”...
ก็เป็นการสวมรอยไง การสวมรอยก็พดู อยูใ่ กลช้ ิดครูบาอาจารย์
ขน้ึ มา แล้วเดย๋ี วน้มี นั มมี ากมายมหาศาล

เวลาคนเรานะ คนเรามปี ฏภิ าณไหวพรบิ มนั พดู ของมนั ได้
ทงั้ นน้ั นะ่ ไปดเู ซลขายยาสิ มนั พดู จนเราตอ้ งซอื้ มนั กแ็ ลว้ กนั แหละ
น่ีก็เหมอื นกัน พดู ธรรมะๆ ขน้ึ มามนั ก็อา้ งองิ ไป นม่ี ันสวมรอยไง

สมั มาสมาธิ • 17

มนั เปน็ สมาธอิ ยา่ งไร ถา้ เปน็ สมาธิ สมาธถิ า้ มนั เปน็ ขนึ้ มา
มนั มีความสุขความสงบระงบั มันกไ็ มเ่ ปน็ มจิ ฉาสมาธิ

น่ีมันเป็นมิจฉา มันไม่เป็นสัมมา ถ้าเป็นสัมมามันต้อง
คนที่มีอ�ำนาจวาสนา แล้วคนด�ำเนนิ การขนึ้ มา

หลวงปู่มั่นท่านสอนท�ำความสงบของใจเข้ามาก่อน
ครบู าอาจารยข์ องเราทกุ คนสอนทำ� ความสงบของใจเขา้ มากอ่ น
ใหค้ นน้ันมีปัจจยั เคร่อื งอาศยั

คนตอ้ งมปี จั จยั เครอ่ื งอาศยั ดำ� รงชพี สงิ่ ทปี่ จั จยั เครอื่ งอาศยั
ดำ� รงชพี ไดอ้ ดุ มสมบรู ณ์ เรากม็ คี วามสขุ มกี ารดำ� รงชพี ดว้ ยความ
ไมข่ าดแคลน แลว้ ดำ� รงชพี แลว้ เราจะกา้ วหนา้ ตอ่ ไปของเรา เราจะ
ด�ำรงชีพไว้ใหม้ คี วามสุขในชีวิตของเราน้ี

เวลาท�ำสมาธิขึ้นมา ถ้ามันเป็นมิจฉาสมาธิ เวลาคนท่ี
ไม่มีหลักมีเกณฑ์ ไม่มีครูบาอาจารย์ท่ีดี แล้วเวลาส�ำคัญตน
พยายามยกตนให้ว่าตัวเองมีความรู้ มีความดีเด่น ก็ท�ำสมาธิ
ทำ� สมาธิของตนๆ

ทำ� สมาธๆิ สมาธเิ ปน็ สมาธไิ หม สมาธเิ ปน็ สมาธหิ วั ตอไง
ถา้ มนั เปน็ สมาธหิ วั ตอ สมาธหิ วั ตอเวลานงั่ ไปมนั กเ็ ปน็ สมาธิ มนั หวั ตอ
มันไม่มีสติไม่มีปัญญาควบคุมดูแลหัวใจของตนเองได้ แล้วมันมี
ความละเมอเพอ้ พก

18 • เทศน์บนศาลา

อย่างเรา ดูสิ เราเป็นเด็กเป็นเล็ก เราเล่นอยู่ในบ้าน
ในเรอื นของเขา เวลาพระจนั ทรเ์ ตม็ ดวงอยา่ งน้ี โอโ้ ฮ! เหน็ กระตา่ ย
กระต่ายอยู่ในดวงจันทร์ มันส่งออกหมดล่ะ สมาธิหัวตอไปรับรู้
ไปรเู้ รอ่ื งชาวบา้ น ไปรบั รเู้ รอื่ งจติ วญิ ญาณ ไปรบั รวู้ า่ ไปเมอื งลบั แล

มันมีของมันอยู่อย่างน้ันจริงๆ ผลของวัฏฏะๆ กามภพ
รปู ภพ อรปู ภพ มนั มขี องมนั อยแู่ ลว้ จติ นเี้ วยี นวา่ ยตายเกดิ ในวฏั ฏะ
ถ้าจิตทม่ี ันเวียนวา่ ยตายเกดิ ในวัฏฏะ มันมขี องมนั โดยข้อเท็จจรงิ
ของมันอยู่แล้ว แต่เวลาเราประพฤติปฏิบัติ เราต้องการให้เป็น
วิวฏั ฏะ ออกจากวฏั ฏะน้นั ถ้าออกจากวัฏฏะนั้น

วัฏฏะกเ็ ป็นวฏั ฏะ แล้วเอง็ ไปรู้ไปเห็นแลว้ ได้อะไรขนึ้ มา
นเ่ี หน็ กระตา่ ยในดวงจนั ทร์ แลว้ กล็ ะเมอเพอ้ พกนะ โฆษณาชวนเชอื่ วา่
เปน็ ธรรมๆ อวดอา้ ง อวดอา้ งเพราะอะไร อวดอา้ งเพราะรไู้ ดแ้ คน่ น้ั ไง

โดยธรรมชาติเด็กคนไหนมันก็รู้ได้ เด็กคนไหนมันก็เห็น
ดวงจันทร์ ดวงจันทร์เวลาข้างแรมข้างขึ้น โอ๋ย! เต็มท่ีเลย
มันเห็นกระต่าย เห็นในดวงจันทร์ แล้วไปพูดนะ ถ้าเร่ือง
โฆษณาชวนเชื่อ เรอ่ื งการโน้มนา้ วไป เพราะอะไร เพราะเราไม่มี
ครบู าอาจารยท์ สี่ ามารถชกั นำ� เราได้ แลว้ มนั มคี วามสำ� คญั ตนไปไง
ไอพ้ วกหวั ตอนะ่ หัวตอมันไปรู้เห็นส่ิงใดก็มาอวดอา้ ง

แลว้ ถา้ ไปอวดอา้ ง ถา้ เหน็ ดวงจนั ทรน์ ะ เวลาพดู ถงึ ธรรมะไง
พูดถึงเวลาสวมรอย โอ๋ย! เวลาพระจันทร์นะ มันมีแรงโน้มถ่วง

สมั มาสมาธิ • 19

เวลาข้างขึ้นข้างแรม มนั เปน็ อุทกศาสตรเ์ ลย น�ำ้ ขน้ึ น้�ำลง คยุ กับ
ทหารเรือ ทหารเรอื ชอบ น่มี นั เป็นเรื่องโลกๆ ทั้งน้ันน่ะ

ทหารเรอื เวลาเพอ่ื ประโยชนก์ บั กองทพั เรอื กองทพั เรอื
เขาก็มีเรือรบของเขา เขาก็มีปืนของเขา เขาก็มีอาวุธของเขา
เป็นประโยชน์กับเขา ไปเรื่องข้างขึ้นข้างแรม เห็นดวงจันทร์
น่สี ง่ ออก การส่งออกน่หี ัวตอ สมาธิหัวตอ

ดูส่ิงต่างๆ ถ้าเราท�ำความสงบของใจโดยสัจจะ
โดยความจริง ถ้าท�ำความสงบโดยสัจจะโดยความจริง
โดยพระกรรมฐาน พระกรรมฐาน หลวงตาท่านพูดประจ�ำ
เวลาครบู าอาจารยท์ า่ นประพฤตปิ ฏบิ ตั นิ ะ ทา่ นอบรมสง่ั สอนเรา
ตลอด ใหท้ ำ� ความสงบของใจเขา้ มา ทำ� ความสงบของใจเขา้ มา
ท�ำความสงบของใจบ่อยคร้ังเข้าๆ จนจิตต้ังม่ัน จิตเป็นสมาธิ
จิตเป็นสมาธิต่อเมื่อเราท�ำความสงบระงับของเราบ่อยครั้งเข้า
การท�ำความสงบบ่อยคร้ังๆ มันเป็นเครื่องอยู่ มันท�ำให้จิตใจ
ของเราอุดมสมบรู ณ์ ไม่เรา่ ไม่รอ้ น ไม่ทกุ ขไ์ มย่ าก

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอก
ใครท�ำสัมมาสมาธิได้ ใครท�ำความสงบระงับได้ เหมือนมีบ้าน
มีเรือนหลังหน่ึง มีบ้านมีเรือนท่ีอยู่ที่อาศัย คูหาของจิตไง
ท่มี ันได้พกั ไดผ้ ่อนของมัน ถา้ จติ มันสงบระงับเข้ามา

การท�ำความสงบระงับเข้ามาโดยพระพุทธศาสนา เวลา
พระพทุ ธศาสนาสอนอานาปานสติ อบรมสงั่ สอน เขาจดั การอบรม

20 • เทศน์บนศาลา

กับจัดการประพฤติปฏิบัติข้ึนมา เด็กเล็กเด็กน้อยเขาไปปฏิบัติ
ของเขา เวลาไปปฏิบัติของเขา เวลานักข่าวเขาไปสัมภาษณ์ไง
มาแลว้ ได้อะไร

“โอย๋ ! เมอื่ กอ่ นเปน็ คนฉนุ เฉยี ว เดย๋ี วนห้ี ายฉนุ เฉยี วแลว้
โอย๋ ! เมอ่ื กอ่ นเปน็ คนขโ้ี กรธ เดยี๋ วนหี้ ายโกรธแลว้ โอย๋ ! เมอื่ กอ่ น
เป็นคนข้ีกลัว เดี๋ยวน้ีหายกลัวแลว้ ”

สมาธมิ าฝึกหดั แล้วได้ประโยชนอ์ ะไร
“โอย๋ ! ไดป้ ระโยชน์มาก มีสติดีขึน้ ควบคุมตัวเองได”้
เดก็ เลก็ ๆ มนั กย็ งั ใชป้ ระโยชนก์ บั พระพทุ ธศาสนา เดก็ เลก็ ๆ
มันก็ยังได้ประโยชน์กับการประพฤติปฏิบัติ ไอ้น่ีหัวโล้นๆ ห่มผ้า
ใกลจ้ ะเขา้ โลงอยแู่ ลว้ มนั ยงั ทำ� อะไรไมเ่ ปน็ กนั เลย สมาธกิ ท็ ำ� ไมเ่ ปน็
เวลาท�ำขึ้นมาเปน็ สมาธกิ ็เปน็ มจิ ฉา
เป็นมิจฉาเพราะอะไร เป็นมิจฉาเพราะมันไม่ยกขึ้นสู่
วปิ สั สนาไง เปน็ มจิ ฉาเพราะกเิ ลสมนั สวมรอยวา่ สง่ิ นน้ั เปน็ ปญั ญา
สงิ่ นนั้ เปน็ คณุ ธรรมไง ถา้ มนั เปน็ หวั ตอ หวั ตอมนั กว็ า่ มนั รเู้ รอ่ื งวาระ
ร้เู รอ่ื งอภญิ ญา แล้วเอ็งรู้แลว้ ได้อะไร
ถ้ามันเป็นปัญญาๆ พระสารีบุตรน่ีปัญญาวิมุตติ
ถ้าปญั ญาวิมุตติ ถา้ จติ มนั สงบแลว้ ถา้ จิตสงบระงบั เข้ามา ถา้ จติ
สงบไปแล้วเรามีอำ� นาจวาสนามากนอ้ ยแคไ่ หน ถ้าเราไม่มีอ�ำนาจ

สัมมาสมาธิ • 21

วาสนามากนอ้ ยแคไ่ หน เราทำ� ความสงบเขา้ มามนั กเ็ ปน็ ความสงบ
ของเรา

แล้วความสงบ เห็นไหม พระกรรมฐาน หลวงปเู่ สาร์
หลวงปู่ม่ัน ครูบาอาจารย์เราสอนมาประจ�ำ พระกรรมฐาน
ตอ้ งรกั ษาหัวใจของตน ดแู ลรกั ษาหัวใจของตน

เขาบอกวา่ ดจู ติ ๆ ไง วา่ หลวงปมู่ นั่ ทา่ นสอนดจู ติ หลวงตา
ท่านกส็ อนดจู ติ

ท่านบอกให้ดูแลรักษาใจของตน ดูแลรักษาใจของตน
การดูแลรักษาใจของตนก็รักษาหัวใจของตนไม่ให้มันทุกข์มันยาก
ถา้ ไม่ใหม้ นั ทุกขม์ นั ยาก ดูสิ เวลาเดก็ นอ้ ยมันไปอบรมการปฏิบตั ิ
ทเี่ ขาสง่ั สอนมนั ยงั ไดป้ ระโยชนม์ หาศาลเลย ประโยชนม์ หาศาลอยา่ งนนั้
ประโยชนใ์ นพระพทุ ธศาสนาทใี่ ครจะไดป้ ระโยชนจ์ ากพระพทุ ธศาสนา

เราเป็นนักปฏิบัติ เราจะเอาจริงเอาจังของเรา
เราท�ำความสงบของใจเราเข้ามา ถ้าท�ำความสงบของใจเข้ามา
ให้ใจมันสงบระงับ เวลาสงบระงับขึ้นมามันก็ได้ประโยชน์ขึ้นมา
เห็นไหม เวลาเป็นประโยชน์ขึ้นมา สรรพสิ่งในโลกนี้เป็นอนิจจัง
ความท่ีเราทำ� ดี ท�ำดีข้นึ มา เดีย๋ วถา้ มันสงบระงับเขา้ มามันก็เป็น
บญุ กศุ ลของเรา เรากม็ คี วามสขุ

เรามคี วามสขุ ขน้ึ มา ถา้ ไมด่ แู ลรกั ษาใจของตน หลวงปเู่ สาร์
หลวงปมู่ ่นั ครบู าอาจารย์ของเรา พระกรรมฐาน เขาจะควบคุม

22 • เทศนบ์ นศาลา

ดแู ลพระใหพ้ ระอยูใ่ นขอ้ วตั รปฏบิ ัติ ไมใ่ หค้ ลกุ คลกี ัน ไม่ใหต้ า่ งๆ
กเ็ หตนุ แี้ หละ มันเสือ่ มหมด

เวลาจติ ทมี่ นั ดขี น้ึ ก็ “พระพทุ ธศาสนานส่ี ดุ ยอด แสวงหา
ความจรงิ มาตง้ั นานแลว้ เพงิ่ มาพบวนั นเ้ี อง โอย๋ ! พระพทุ ธศาสนาน้ี
ยอดเย่ียม” น่ถี ้าจติ มันดนี ะ

วนั ไหนพอจิตมนั เส่อื ม พอจิตมนั เส่อื มลง มันคลายจาก
สมาธิมา “อ้ืม! พระพุทธศาสนาสอนมาต้ัง ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้ว
กึ่งกลางพระพุทธศาสนา มรรคผลยังมีอยู่หรือไม่” นี่เวลาจิตมัน
เสอ่ื มนะ เวลาจติ มนั ดี โอโ้ ฮ! มรรคผลนพิ พานหยบิ เออื้ มเอาไดเ้ ลย
เวลาจติ มนั เสอ่ื มนะ่ มนั ขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ เทจ็ จรงิ มนั เปน็ อยา่ งนอ้ี ยแู่ ลว้
ตามขอ้ เทจ็ จรงิ

ครบู าอาจารยข์ องเราทา่ นประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ เพราะองคส์ มเดจ็
พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั รธู้ รรมขนึ้ มาแลว้ “จะสอนใครไดห้ นอๆ”
ทอดธุระเลย เพราะอะไร มนั เป็นเร่อื งโลกกับธรรมๆ สงิ่ ต่างๆ

เราเกดิ เปน็ มนษุ ย์ เกดิ มาพบพระพทุ ธศาสนา เราเกดิ มา
กบั โลก เราเกดิ มาจากกรรม คนเรามเี วรมกี รรมถงึ มาเกดิ เปน็ มนษุ ย์
คนเรามีเวรมีกรรมถึงมีการเกิด เวลาเกิดข้ึนมาแล้ว แต่ด้วย
อำ� นาจวาสนาของเรา เรากม็ ศี รทั ธามคี วามเชอ่ื อยากจะประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
เพราะเราเกิดมากึ่งกลางพระพุทธศาสนา ครูบาอาจารย์ของเรา
ทา่ นประพฤตปิ ฏบิ ตั ไิ ปแลว้ ทา่ นพน้ จากทกุ ขไ์ ปแลว้ ในการกระทำ�

สัมมาสมาธิ • 23

มนั กท็ ำ� ใหต้ ามความเปน็ จรงิ อนั นน้ั เรามศี รทั ธามคี วามเชอื่ ขน้ึ มา
เราก็จะท�ำตามอนั นน้ั

ถ้าท�ำตามอันน้ัน มีครูบาอาจารย์ท่ีดี ครูบาอาจารย์
ท่านก็จะส่ังสอน ครูบาอาจารย์ท่านจะอบรม อบรมให้ผู้น้ัน
พยายามทำ� ความสงบของใจเขา้ มาใหม้ นั สดชน่ื ใหม้ นั แจม่ ใสขน้ึ มาไง
ถา้ สดชน่ื แจม่ ใส มหี วั ใจทมี่ น่ั คงขนึ้ มา มนั จะประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ น้ึ มา

ปฏบิ ตั ขิ น้ึ มามนั แสวงหา มนั ตอ้ งสะสม พยายามทำ� ตวั เอง
ใหม้ น่ั คงขนึ้ มา ความทำ� ตวั เองใหม้ นั่ คงขน้ึ มามนั กอ็ ยทู่ วี่ าสนาแลว้ ละ่
เพราะหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ลูกศิษย์ท่านเป็นแสนๆ ลูกศิษย์
ทแี่ ทจ้ รงิ ที่เป็นศากยบุตรมเี ทา่ ไร

หลวงตาท่านบอกว่าลูกศิษย์ท่านมหาศาล แล้วเหลือมา
อีกเทา่ ไร ท่ีอยนู่ สี่ วมรอยท้ังน้นั หวั ตอทั้งนน้ั

ถา้ ไมส่ วมรอย ไมห่ วั ตอ มนั ตอ้ งมสี ตมิ ปี ญั ญา มนั ตอ้ งมี
ความกตญั ญกู ตเวที มนั ตอ้ งมคี วามซอ่ื สตั ย์ มคี วามซอ่ื สตั ยน์ ะ
มันเคารพธรรมวนิ ัยไง

ถ้ามันโป้ปดมดเท็จ มันเอาความจริงมาจากไหน ถ้ามัน
โป้ปดมดเท็จมันก็ทุศีล คนท่ีโกหกมดเท็จจะท�ำความชั่วอย่างอื่น
อีกไม่ได้ไม่มีเลย ท�ำได้ท้ังนั้นเลย น่ีถ้ามันเป็นการอ้างอิง
เปน็ การสวมรอย เปน็ หวั ตอ

24 • เทศนบ์ นศาลา

แต่ถ้ามันเป็นความจริงๆ เราท�ำความสงบของใจเข้ามา
เราพยายามทำ� ความสงบของใจเขา้ มา ทำ� บอ่ ยครงั้ เขา้ ๆ มนั เจรญิ
แลว้ เสอ่ื ม เสอื่ มแลว้ เจรญิ เวลามนั เจรญิ ขน้ึ มา ทวี่ า่ “ทำ� สมาธแิ ลว้
เมอ่ื ไหร่จะไดใ้ ช้ปญั ญาๆ”

ปัญญามันใช้ได้ทุกที่แหละ ปัญญาอบรมสมาธิก็ได้
ปญั ญาทใี่ ช้ ปญั ญาเกดิ จากโลกทง้ั นน้ั นะ่ ปญั ญาเกดิ จากเราทงั้ นนั้ นะ่
ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่องจ�ำมา
เรากม็ าใครค่ รวญ ดสู ิ เขาศกึ ษาเปรยี ญธรรม ๙ ประโยค เขายงั
ตคี วามในศาสนา แปลบาลี เขาตคี วาม เขาเขา้ ใจทงั้ นนั้ นะ่ แตน่ น่ั
ก็เป็นความเข้าใจของโลกไง เป็นความเข้าใจของการศึกษาไง
การศกึ ษา ศกึ ษาเพราะอะไร เพราะจติ ไมไ่ ดท้ ำ� สมั มาสมาธิ ไมไ่ ดท้ ำ�
จิตสงบขนึ้ มา

แลว้ จติ ตภาวนา จติ มนั แกท้ จ่ี ติ น้ี ถา้ มนั ไปแกท้ ท่ี างวชิ าการ
มันก็เป็นความจ�ำ ความจ�ำเกิดจากสัญชาตญาณของมนุษย์
มนษุ ยม์ ขี นั ธ์ ๕ มนั กม็ คี วามจำ� มนั กม็ สี งั ขาร มคี วามปรงุ ความแตง่
ทง้ั นน้ั นะ่ มนั มธี รรมชาตขิ องมนั แตเ่ ปน็ โลกไง มนั เปน็ โลก ถา้ มนั
เป็นเรื่องของโลกๆ ก็โลกียปัญญา

โลกียปัญญา ปัญญาของโลก ปัญญาเกิดจากสถานะ
ของความเป็นมนุษย์ แล้วเวลาศึกษามาแล้วจะประพฤติปฏิบัติ
ข้ึนมา เราพยายามจะท�ำให้เป็นธรรมขึ้นมาไง พยายามท�ำให้
เป็นธรรมข้นึ มา เห็นไหม นีส่ ัมมาสมาธิ

สมั มาสมาธิ • 25

ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้ท�ำความสงบของใจเข้ามา
ท�ำความสงบของใจเข้ามา ถ้าใจมันสงบระงับเข้ามา เราก็
ดแู ลรักษาดว้ ยสติด้วยปัญญาไง

นไี่ ง ทที่ ำ� สมาธๆิ ทำ� สมาธแิ ลว้ กส็ วมรอยไง คำ� วา่ “สวมรอย”
เพราะอะไร เพราะเวลาถา้ เปน็ ปญั ญาวมิ ตุ ตนิ ะ โศลกของหลวงปดู่ ลู ย์
ถูกต้อง ความคิดทั้งหลายท้ังปวงทั้งหมดเป็นการส่งออกท้ังหมด
ความคิดทั้งหลายทั้งปวงเป็นการส่งออกทั้งหมด เป็นสมุทัย
ผลของมันคือทุกข์

แล้วก็ดูจิตๆ ดูจิตก็ดูจิตของท่าน ดูจิตคือใช้ปัญญา
อบรมสมาธิ ถา้ จติ สงบแลว้ จติ เหน็ อาการของจิต จติ เห็นอาการ
ของจติ เปน็ มรรค ถา้ เปน็ มรรคกใ็ ชส้ ตปิ ญั ญาใครค่ รวญ พอใครค่ รวญ
เสร็จแล้ว ผลจากจิตเห็นจติ เป็นนิโรธ นิโรธคือการดับทุกขเ์ พราะ
เป็นความจรงิ นปี่ ญั ญาวมิ ุตตินะ

ถา้ เจโตวมิ ตุ ติ เหน็ ไหม ปญั ญาวมิ ตุ ตเิ ปน็ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
แนวทางของพระสารีบุตร ถ้าเป็นเจโตวิมุตติ โดยแนวทางของ
พระโมคคัลลานะ

ทำ� ความสงบของใจเขา้ มาๆ ถา้ ใจสงบระงับแล้ว ถา้ มนั
ตงั้ มน่ั ขน้ึ มา ถา้ มนั นอ้ มไปเหน็ กาย เหน็ เวทนา เหน็ จติ เหน็ ธรรม
ถา้ มนั เหน็ คำ� วา่ “เหน็ ” เหน็ โดยตาของใจ ถ้าตาใจของมันเหน็
เหน็ กาย พจิ ารณากาย พอเหน็ นมี่ นั เกดิ ความมหศั จรรย์ การเหน็
มันเกิดความมหัศจรรย์

26 • เทศนบ์ นศาลา

จิตเห็นจิตก็เหมือนกัน มันจะเกิดความมหัศจรรย์
ความมหศั จรรยเ์ พราะอะไร ความมหศั จรรยเ์ พราะจติ ทสี่ งบแลว้
สมั มาสมาธิ มนั เหน็ กเิ ลส เหน็ สตปิ ฏั ฐาน ๔ ตามความเปน็ จรงิ
มนั จะเห็นกเิ ลส ความเห็นกิเลสมนั จะขนพองสยองเกล้า

ขนพองสยองเกลา้ กวา่ ทมี่ นั จะขนพองสยองเกลา้ เพราะอะไร
กอ่ นหนา้ นน้ั เราทำ� ความสงบของใจเขา้ มา เราประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ น้ึ มา
เวลาใชป้ ญั ญากส็ วมรอยทงั้ นนั้ นะ่ สวมรอยคอื ความจำ� จำ� ธรรมะ
ขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ จำ� ธรรมะของครบู าอาจารยม์ า
แลว้ กต็ คี วามขยายความเปน็ โลกอยอู่ ยา่ งนน้ั นะ่ มนั กเ็ หมอื นทางโลก
กบั ทางวชิ าการ เขาเรยี งความของเขานน่ั แหละ เรยี งความไปเถอะ
รอบหนง่ึ กโ็ สดาบนั สกิทาคามี อนาคามี จนจบเปน็ พระอรหันต์
มนั กว็ นอยนู่ น่ั นะ่ แลว้ มนั อยนู่ อกจติ เลย มนั ไมเ่ ขา้ มาสหู่ วั ใจนน้ั เลย

น่ีไง มันถึงได้พูด คนปฏิบัติท่ีไม่เป็น “จิตสงบแล้ว
เดี๋ยวมันจะเกิดปัญญา จิตสงบนะ ท�ำสมาธิเด๋ียวปัญญามันจะ
เกิดเลย ท�ำสมาธิแล้วจิตเป็นสมาธิ เดย๋ี วปญั ญามันก็จะเกดิ ”

เราเห็นมาเยอะ แล้วถ้าพูดอย่างน้ีแล้วแสดงว่าไม่เคยรู้
ไมเ่ คยเหน็ ไอพ้ วกหวั ตอๆ เพราะอะไร จะอา้ งตลอด อา้ งตลอดเลย
“นำ้� ใสจะเหน็ ตวั ปลา กพ็ ายเรอื อยนู่ ่ี จะจบั ปลา นำ�้ ใสจะเหน็ ตวั ปลา”
มีพระที่สั่งสอนอย่างนี้มากมาย พระท่ีส่ังสอนอย่างนี้แสดงว่า
เปน็ ไปไมไ่ ดเ้ ลย ไมร่ เู้ หน็ ตามความเปน็ จรงิ ไมเ่ คยมจี ติ ทม่ี ดี วงตา
เห็นธรรม ตาของจติ เกดิ ไมไ่ ด้

สมั มาสมาธิ • 27

คนตาบอด ธรรมะตาบอด เวลาคุยธรรมะไง “โอ๋ย!
ถ้าจิตสงบแล้วจะเห็นกาย เห็นเวทนา เห็นจิต เห็นธรรมตาม
ความเป็นจริง ต้องยกขึ้นสู่วิปัสสนา โอ้โฮ! มันจะเป็นอย่างน้ัน
ไปได้อย่างไร มันก็ต้องรอก่อนสิ มะม่วงมันก็ต้องออกเป็นเกสร
แล้วมันผสมกันแล้ว ผสมเกสรกันแล้วเดี๋ยวมันก็จะเป็นลูกอ่อน
เสรจ็ แลว้ มะมว่ งมนั กจ็ ะโตขน้ึ มา” เขาพดู อยา่ งนนั้ นะ่ เจออยา่ งนี้
เยอะมาก “มนั ต้องเกิดเองไง ธรรมะมนั เกดิ เอง”

มันมีกิเลสที่ไหน มันมีคนร้ายที่ไหนที่แบบว่าท�ำลายเขา
ฉ้อโกงเขา ทำ� ร้ายเขา แลว้ ก็จะไปใหเ้ ขาจบั จะเดินไปหาเขาเลย
สารภาพผดิ มนั ไมม่ หี รอก นมี่ นั เรอื่ งคนรา้ ยนะ กเิ ลสมนั รา้ ยกวา่ นนั้
กเิ ลสมนั รา้ ยกวา่ นนั้ นกั มนั จะเหน็ กเิ ลสไดด้ ว้ ยความสามารถของตน

นี่ก็เหมือนกัน ของเราหาย ส่ิงใดท่ีมันขาดตกบกพร่อง
ขนึ้ มา เราตอ้ งแสวงหาเอง นไ่ี ง เวลาการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ธรรมะ
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเป็นผู้ช้ีทางเท่านั้นๆ
การประพฤติปฏบิ ัตติ ้องเปน็ หนา้ ทข่ี องเธอ

ในการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ อ้ งเปน็ หนา้ ทขี่ องเธอเพราะอะไร
เพราะหัวใจทีเ่ วียนว่ายตายเกดิ ในวฏั ฏะ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น
ทา่ นรกั ลกู ศษิ ยล์ กู หาทง้ั นนั้ นะ่ แตท่ า่ นกไ็ มส่ ามารถทจี่ ะเอาธรรมะ
อดั เขา้ ไปในหวั ใจของลกู ศษิ ยล์ กู หาได้ เพยี งแตท่ า่ นชน้ี ำ� ๆ แลว้ ชนี้ ำ�
ท่านกจ็ ะสังเกตดว้ ย

28 • เทศนบ์ นศาลา

ทา่ นบอกกบั หลวงปเู่ จย๊ี ะไง “ตอ่ ไปจะมพี ระหนมุ่ ๆ องคห์ นง่ึ
เหมือนท่านเจ๊ียะ แต่ไม่ใช่ท่านเจ๊ียะ ต่อไปจะเป็นผู้ที่เป็นที่พ่ึง
ของวงกรรมฐาน” ท่านพูดเลย หลวงปู่เจยี๊ ะเลา่ ใหฟ้ ัง

แล้วหลวงปู่เจี๊ยะก็คอยเฝ้าเลย องค์ไหนๆ นี่ไง
ท่านต้องรอเลยนะ เพราะอะไร เพราะคนที่จะท�ำอย่างน้ีได้
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาทอดธุระจะไม่ส่ังสอน
เพราะอะไรละ่ เพราะอำ� นาจวาสนาของเขามนั ไมม่ ี อำ� นาจวาสนา
ของเขาทำ� ไมไ่ ด้ ถา้ ทำ� ไมไ่ ดข้ น้ึ มา แลว้ จำ�้ จจ้ี ำ�้ ไชอยา่ งไรมนั กไ็ มไ่ ด้
แล้วถ้าไม่ได้ขึ้นมาแล้ว ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ท่ีโหดร้ายนะ
พอบบี บังคบั เขา้ มามนั เป็นความตึงเครียด

แตถ่ ้าเปน็ ครบู าอาจารย์ทดี่ ี แล้วท่านเหน็ อ�ำนาจวาสนา
ของคนนะ ท่านจะมีอุบายวิธีการโน้มน้าว โน้มน้าวข้ึนมาให้เขา
ฝึกฝน ให้เขาขวนขวาย ให้เขามีการกระท�ำ ถา้ เขามกี ารกระทำ�
พอเขาไปเห็นอย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านโน้มน้าว ท่านชี้น�ำไว้
โอ้โฮ! ท�ำไมหลวงตาท่านบอก “หลวงปู่มั่นเป่ากระหม่อมเรามา
หลวงปู่มั่นเป่ากระหม่อมเรามา” แต่ละข้ันแต่ละตอนท่ีมันจะ
ผ่านไปได้ แตล่ ะข้นั แตล่ ะตอนท่มี ันจะไปร้ือค้น

แตไ่ อม้ จิ ฉาสมาธิ ไอพ้ วกสวมรอย “เปน็ สมาธิ เดย๋ี วปญั ญา
จะเกดิ เอง ทำ� สมาธเิ ลย เด๋ยี วปญั ญาจะเกิดเอง”

เวลาในวงกรรมฐาน ผู้ท่ีรู้จริงสังเวชนะ หลวงตา
ท่านพูดนะ ถ้าปัญญามันจะเกิดเอง เราจะติดสมาธิ ๕ ปี

สมั มาสมาธิ • 29

ไดอ้ ยา่ งไร กภ็ าวนาตลอด ถา้ ปญั ญามนั จะเกดิ เอง เพราะสมาธิ
มันแน่นปึ๋ง สมาธินี่สุดยอด ท�ำขนาดนั้นน่ะ ถ้าปัญญามันจะ
เกดิ เอง เราจะติดสมาธิได้อยา่ งไร ๕ ปี

แต่ไอ้พวกสวมรอยก็บอก “อ้าว! ก็เอ็งไม่มีวาสนาไง
ของข้าเป็นผู้ท่ีมีวาสนา เวลาเป็นสมาธิแล้วจะเกิดปัญญาเองๆ”
คำ� พูดคำ� สัง่ สอนลูกศิษยข์ องเขาฟ้องจรงิ ๆ เลยวา่ เขาไมร่ ู้จริง

นี่ก็เหมือนกัน ไอ้พวกหัวตอๆ “น้�ำใสจะเห็นตัวปลา
เดยี๋ วปลามนั กจ็ ะวง่ิ ชนเราเอง” จนอยอู่ ยา่ งนนั้ นะ แลว้ มแี ตว่ นั เสอื่ ม
เสอื่ มไปโดยธรรมดา เพราะอะไร เพราะการทำ� ความสงบของใจเขา้ มา
ถ้าเป็นมิจฉานะ มิจฉาเพราะความเป็นมิจฉาไม่มีสติปัญญารักษา
มันจะเสือ่ มไป

แตพ่ วกนเี้ ขาวา่ ไมเ่ สอ่ื มไป เขาวา่ บรรลธุ รรม มนั จะไปรธู้ รรม
เหมอื นผทู้ ป่ี ระพฤตปิ ฏบิ ตั เิ วลาจติ มนั สงบขน้ึ มา เวลาธรรมมนั เกดิ
คือมคี ำ� ตอบในใจข้ึนมา มนั กบ็ อกนี่บรรลธุ รรมๆ

บรรลธุ รรมอะไร ธรรมมนั เกดิ หลวงตาทา่ นบอกกเิ ลสเกดิ
พอเกดิ ขนึ้ มาแลว้ เพราะธรรมเกดิ ขนึ้ มา โอโ้ ฮ! มนั โลง่ โถงเลยนะ
เพราะอะไร เพราะธรรมมนั เกดิ เหมอื นเราสนเทห่ ส์ งสยั เรอ่ื งสงิ่ ใดอยู่
เวลามันเกิดขึ้นมา โอ้โฮ! มันตอบโจทย์หมดเลย แล้วเราก�ำลัง
คน้ คว้าอะไรอยู่ “นพิ พานจะเปน็ อยา่ งนน้ั ๆ” นธี่ รรมเกดิ

ธรรมเกิด คนท่ีประพฤติปฏิบัติ คนท่ีเขาอยู่ในวงการ
เขารทู้ ้ังน้ันน่ะ ธรรมเกดิ คอื ธรรมเกดิ ธรรมเกิดมนั ไมใ่ ช่อริยสัจ

30 • เทศนบ์ นศาลา

จิตนี้กลั่นออกมาจากอริยสัจ จิตนี้ ท่ีเรามาประพฤติ
ปฏบิ ตั กิ นั อยนู่ ี่ หนง่ึ คน้ ควา้ หาจติ ของตนใหเ้ จอ แลว้ การคน้ ควา้
หาจิตของตนให้เจอไม่ต้องไปค้นที่ไหน หายใจเข้านึกพุท
หายใจออกนึกโธ พุทโธๆๆ อยู่น่ีแหละ จิตสงบนั่นแหละ
คือจิตของเรา จิตสงบนั่นแหละ พอจิตมันสงบแล้ว
สงบบอ่ ยคร้ังเข้าๆ จนมันตงั้ มั่น จนมนั มสี มั มาสมาธิ

ถ้ามันมีสัมมาสมาธิเพราะอะไร เพราะมีสติมีปัญญา
เพราะอะไร เพราะเราเหน็ ความเจรญิ แลว้ เสอื่ ม คนทไี่ มเ่ คยทำ� สมาธิ
จะไมเ่ หน็ ความเจรญิ แลว้ เสอ่ื ม

แล้วดูสิ พระพุทธศาสนาเวลาไปสอนอานาปานสติ
จากการประพฤติปฏิบัติ เด็กน้อยที่มาประพฤติปฏิบัติมันยัง
ไดป้ ระโยชนเ์ ลย มนั ไดป้ ระโยชนเ์ พราะอะไร เพราะเดก็ นอ้ ยมนั ก็
เรียนหนังสือ มันก็แค่ต้องการให้อ่านออกเขียนได้ มันก็แค่
ให้ควบคุมตัวเองได้เพื่อมีการศึกษา อันนั้นมันก็เป็นการด�ำรงชีพ
ในชวี ติ แต่การจะฆา่ กเิ ลสมันละเอียดลกึ ซึ้งกว่าน้นั หลายเท่า

ในการประพฤติปฏิบัติ ปฏิบัติพอเป็นพิธี ปฏิบัติเป็น
ชวี ติ ประจำ� วนั ปฏบิ ตั เิ พอื่ ใหม้ คี วามสขุ สงบระงบั ในใจ มนั กไ็ มเ่ สยี หาย
แตน่ น่ั เปน็ เรอ่ื งโลกๆ เปน็ เรอื่ งของโลกเขา โลกเขามเี ทา่ นน้ั ไง นไ่ี ง
ถา้ มนั ประพฤตปิ ฏบิ ตั ไิ ดห้ มดๆ มนั กเ็ หมอื นกบั การศกึ ษาไง การศกึ ษา
ยกชั้นๆ ในการปฏิบัติให้มันได้หมดๆ มันไมม่ ีหรอก

สมั มาสมาธิ • 31

หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ม่ันท่านประพฤติปฏิบัติข้ึนมา
ท่านสอนเฉพาะๆ เลย เฉพาะ เห็นไหม หลวงตาทา่ นพดู ประจำ�
ถ้าอยู่กันตัวต่อตัว “มหา จิตเป็นอย่างไร” ท่านจะบอก
จิตเปน็ อยา่ งไรเลย หลวงตาท่านตอบเลย

แล้วถ้าหลวงตาท่านประพฤติปฏิบัติของท่านมา ถ้ามี
ความสงสัยขนึ้ มา ท่านเอาก่อนเลย “ปฏิบัติแลว้ เป็นอย่างนัน้ ๆๆ
แลว้ มันทำ� อยา่ งไรต่อๆ”

ท�ำอย่างไรต่อ มันก็มีเทคนิค มีอุบาย เพราะอะไร
เพราะเวลาทีม่ นั เหน็ ผดิ เห็นผิดใช่ไหม แลว้ เราก็ยดึ ความเหน็ ผิด
ของเรา เพราะเราเหน็ นะ่ เวลาครบู าอาจารยบ์ อกวา่ ไมใ่ ชๆ่ ขน้ึ มา
โอ้โฮ! ทิฏฐิมานะมันกลับไปยึดความเห็นน้ันน่ะ เพราะเราไม่มี
โจทยอ์ ่ืนใหต้ อบ เราไม่มีความรู้เห็นอนั อ่ืน เราเห็นเฉพาะอันนีไ้ ง
เห็นไหม เวลามันรู้เห็นสิ่งใดแล้วมันก็ยึดความรู้ความเห็นของตน
นคี่ วามยดึ ความรคู้ วามเห็นของตน

ถา้ มนั ยดึ ความรคู้ วามเหน็ ของตน ถา้ ความเหน็ ของตน
มันถูกต้องมันก็ต้องเจริญก้าวหน้าไปสิ ถ้าความเห็นของเรา
มันผิดพลาด ความเห็นของเรามันไม่จริง ความเห็นของเรา
ท�ำให้เราหัวหมุนอยู่นี่ ความเห็นของเราท�ำให้เราเรรวนอยู่นี่
ท�ำไมเราไม่พิจารณาแนวทางอย่างใดที่มันจะเป็นแนวทาง
ท่ีเราพอจะท�ำได้ น่ีไง มันมีวิธีการทั้งน้ันน่ะ ถ้ามันมีครูบา
อาจารย์ที่ดีนะ แล้วครูบาอาจารย์ท่านจะสอนกลับเข้ามา
ในหวั ใจของสัตว์โลกน้ัน

32 • เทศน์บนศาลา

ในการประพฤติปฏิบัติเข้ามา พระพุทธศาสนา
ปัญญาในพระพุทธศาสนาคือปัญญาทวนกระแสกลับ ปัญญา
เขา้ ไปสู่จิตของตนๆ

ไอ้ส่งออกๆ หัวตอ สมาธิหัวตอ มันคอยรอไง ค�ำว่า
“หวั ตอ” โอโ้ ฮ! มนั เหน็ พระจนั ทร์ มนั อยนู่ อกโลกนนู่ นะ่ มนั สง่ ไป
นนู่ น่ะ โอโ้ ฮ! มีกระต่ายด้วย มันมผี ลประโยชน์ด้วยนะ มนั ทำ� ให้
น�ำ้ ข้นึ นำ้� ลงนะ มันเปน็ เวลาทส่ี ัตวจ์ ะผสมพันธุ์

เวลาเดือนหงายนะ ในทะเล มันเป็นความเพาะพันธุ์
ของสตั วน์ ำ�้ มนั ถงึ คราวของมนั โอย๋ ! ถา้ จะพรรณนาถงึ ความสำ� คญั
พรรณนาถึงผลประโยชน์ของดวงจันทร์ โอ้โฮ! พูดไม่จบๆ
แต่เกีย่ วอะไรกบั จติ มึงละ่ เกีย่ วอะไรกับมรรค

นไ่ี ง สมาธหิ วั ตอ อวดรอู้ วดเหน็ โดยการครอบงำ� ของกเิ ลส
ความเหน็ อยา่ งนน้ั ไมใ่ ชม่ รรค นนั่ นะ่ สมาธหิ วั ตอ แลว้ ถา้ สมาธมิ จิ ฉา
มจิ ฉาคอื หลงผดิ มจิ ฉาคอื ทำ� ใหต้ วั เองออกนอก มนั ไมส่ มั มาสมาธิ

ท�ำสัมมาสมาธิ เราท�ำความสงบของใจบ่อยครั้งๆ
เราทำ� ความสงบของใจเขา้ มาใหใ้ จของเราม่ันคง ใหใ้ จของเรา
มีความสุข น่ีไง สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี แค่จิตสงบแล้ว
ถ้าจิตสงบเปน็ สัมมาสมาธิ มสี ตปิ ญั ญานะ โอ๋ย! มันเชื่อมน่ั ใน
พระพทุ ธศาสนามาก นไ่ี ง พทุ ธะ พทุ ธะคอื ผรู้ ู้ ผตู้ น่ื ผเู้ บกิ บาน

สมั มาสมาธิ • 33

ถา้ มนั จะเปน็ ผรู้ ู้ ผตู้ นื่ ผเู้ บกิ บาน มนั กต็ อ้ งมสี ตสิ มั ปชญั ญะ
ถา้ มนั มสี ตสิ มั ปชญั ญะมนั กร็ วู้ า่ จติ สงบ สงบแลว้ จติ คลายออกจาก
ความสงบนั้น

เวลาจติ สงบแลว้ เวลาเราเขา้ นงั่ สมาธิ จติ มนั กส็ งบ ออกมา
เราเลิกจากสมาธิออกมาแล้วมันก็ออกมาเป็นความปกติ ถ้ามี
ความปกติขึ้นมา ก�ำลังของสมาธิที่มันหลงเหลืออยู่ มันก็ยังมี
ความสขุ อย่ไู ง มคี วามสขุ อยใู่ นใจของเรานะ

ใจของเรา เราจะท�ำส่ิงใดเราก็มีความสุข เราท�ำส่ิงใด
เรากพ็ อใจเรา เพราะอะไร เพราะผลจากการไดท้ ำ� ความสงบของใจ
ใจมีความสงบ ใจมีเครื่องอยู่ แต่ถ้าใจมันเร่าร้อน ขวนขวาย
อยากไดค้ ณุ ธรรม ตะเกยี กตะกาย ทกุ ขอ์ ยนู่ น่ั นะ่ เพราะใจมนั ไมส่ งบ

ความปรารถนา ความต้องการ ทุกคนมีทั้งน้ันน่ะ
ตัณหาซ้อนตัณหา โดยเป้าหมายคนท่ีประพฤติปฏิบัติอยากจะ
พ้นจากทุกข์ท้ังนั้นน่ะ แต่เวลาปฏิบัติต้องวางหมดเลย
กเิ ลสแกก้ เิ ลสไมไ่ ด้ ตอ้ งศลี สมาธิ ปญั ญา ตอ้ งเปน็ ธรรมเทา่ นน้ั
จะแก้กิเลสได้

ฉะนนั้ เวลาจะปฏบิ ตั แิ ลว้ อยากขนาดไหน มคี วามตอ้ งการ
ขนาดไหน วางหมดเลย เข้าทางจงกรม นั่งสมาธิภาวนาของเรา
เราดแู ลรกั ษาใจของเรา ถา้ เราดแู ลรกั ษาใจของเรา เราทำ� ของเราไดน้ ะ
มันกม็ คี วามสุขความสงบของเรา

34 • เทศนบ์ นศาลา

ถ้าเราดูแลรักษาไม่ได้ เด๋ียวมันก็ฟุ้งซ่าน ความฟุ้งซ่าน
เราทำ� ของเราบอ่ ยครงั้ เขา้ ความทำ� ของเราบอ่ ยครง้ั เขา้ ใหเ้ ปน็ สจั จะ
เป็นความจรงิ เป็นสัจจะเป็นความจรงิ ทำ� ของเราๆ

พระท่ีปฏิบัติมันมีการปฏิบัติต่อเนื่อง ทางที่กว้างขวาง
เห็นไหม การดูแลรักษาข้ึนมามันจะพัฒนาเป็นชั้นๆ ข้ึนไป
ถ้าพัฒนาเป็นช้ันขึ้นไป เจริญแล้วเสื่อม เสื่อมแล้วเจริญ มันก็
ก้าวเหยียบพลาดอยู่อยา่ งน้นั นะ่

แตถ่ า้ มสี ตปิ ญั ญาขน้ึ มา สมาธติ งั้ มน่ั ๆ สมาธติ ง้ั มนั่ มนั มสี ติ
มีปัญญานะ ถ้าสมาธิตั้งม่ัน เวลาคลายออกมาแล้ว เวลามัน
เส่ือมไปแล้ว ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย ก็เหมือนมนุษย์ธรรมดา
มันเป็นเพราะอะไรล่ะ เป็นเพราะว่าจิตสงบแล้วเราไม่ขวนขวาย
เราไมค่ ้นคว้าหากิเลส

เออ! อยา่ งนเี้ อาใหม่ ทำ� ความสงบของใจขน้ึ มา ถา้ ใจระงบั
ขึน้ มา รกั ษาใจของตน นอ้ มไปหากาย

แล้วถ้าเป็นปัญญาวิมุตติ ถ้าจิตสงบแล้วนะ จิตสงบ
มนั สงบเพราะอะไร เวลาพจิ ารณาไป เราใชค้ วามคดิ เราใชค้ วามคดิ
ดคู วามคิดดว้ ยสติด้วยปญั ญา ถ้าความคิดมีสติมปี ญั ญา มเี หตุผล
ทม่ี ากกวา่ มนั กห็ ยดุ คดิ หยดุ คดิ เพราะอะไร หยดุ คดิ เพราะมนั โงไ่ ง
เพราะไปคิด มนั ถึงโง่ เอาอารมณ์เข้ามาเผา ร้อนตวั เองไง

แต่ถ้ามีสติปัญญา เราใช้ความคิดด้วยเหตุด้วยผล
ต่อต้านกับความคิด ต่อรองกับความคิดของตน ถ้ามันรู้เท่าๆ

สัมมาสมาธิ • 35

มันก็ปล่อยๆ ความปล่อยบ่อยคร้ังเข้า นั่นน่ะมันจิตสงบ น่ันน่ะ
สมั มาสมาธิ เพราะอะไร เพราะเรามีสติเปน็ คนคดิ เอง เพราะเรา
มีสติ เราเห็นโทษเอง เราเห็นโทษนะ ถ้าเราเผลอ มันจะคิด
ถ้ามันคิดแล้วมนั จะมคี วามทกุ ข์

แตถ่ า้ เราใชป้ ญั ญาของเราๆ เราคดิ กอ่ นมนั เราใชค้ วามคดิ
ก่อนมันเลย เอ็งก็คิดอย่างนี้ๆ ไง แล้วเป็นโทษอย่างนี้ๆ ไง
ถา้ มนั ทนั มนั กห็ ยดุ เราคดิ กอ่ นๆ เปน็ การหยดุ นน้ั แลว้ เวลามนั จะคดิ
มนั จับมับ! นจ่ี ติ เห็นอาการของจติ จิตเหน็ ความคิด

ไอน้ เี่ ราไมเ่ คยเหน็ สญั ญาอารมณท์ งั้ นนั้ มจิ ฉาสมาธทิ ง้ั นนั้
สวมรอยทงั้ หมด กลา่ วอา้ งทง้ั หมด เพราะอะไร เพราะ “จติ เปน็ สมาธิ
เดยี๋ วปญั ญามนั จะเกดิ เอง ทำ� สมาธแิ ลว้ เกดิ เอง”...มนั ไมท่ ำ� อะไรเลย
โง่ยิง่ กว่าหมาตาย หมาตายมันตายไปแลว้ โงก่ ว่ามันอีก

นักปฏิบัติโง่ย่ิงกว่าหมาตาย แล้วสวมรอยด้วยนะ
“ท�ำสมาธิแล้วปัญญาจะเกิดเอง” มันไม่มีอยู่ในโลกหรอก
มันไมม่ ีอยใู่ นอรยิ สัจ มนั ไมไ่ ด้อยู่ในความเป็นจรงิ

ถ้ามันจะเป็นความจริงขึ้นมานะ จิตเห็นอาการของจิต
จิตเห็นอาการของจิต เกิดความมหัศจรรย์ เพราะเราไม่เคยเห็น
อาการแบบน้ี การที่เห็นอาการแบบน้ี การเห็น เรารู้ไปหมด
เศรษฐเี ขามเี งนิ มที องทงั้ นน้ั นะ่ แตว่ นั ไหนทเี่ รามเี งนิ มที องขนึ้ มาบา้ ง
เราก็ภมู ิใจในตัวเรา

36 • เทศนบ์ นศาลา

นกี่ เ็ หมอื นกนั ธรรมะขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้
ยกขน้ึ สวู่ ปิ สั สนา สมถกรรมฐาน วปิ สั สนากรรมฐาน การทำ� ความสงบ
ของใจเขา้ มาเปน็ สมถกรรมฐาน ฐานทตี่ ง้ั แหง่ การงาน ถา้ ใครมสี ติ
มีปัญญา มีความสามารถยกขึ้นสู่วิปัสสนาได้ นั่นน่ะมันจะเป็น
สมถกรรมฐาน วปิ ัสสนากรรมฐาน เดนิ ควบคู่กนั ไปเปน็ อริยสจั

นก่ี เ็ หมอื นกนั เราไมเ่ คยรเู้ คยเหน็ เรากไ็ ดย้ นิ มาทงั้ นน้ั นะ่
เศรษฐมี เี งนิ มที อง คนนนู้ กร็ ำ�่ รวย คนนกี้ ร็ วยมเี งนิ มที อง แตถ่ า้ วนั ไหน
เรามีเงินมีทองของเราข้ึนมาเองล่ะ เรามีเงินมีทอง คนท่ีไม่มีเงิน
ไมม่ ที อง คนทเี่ ปน็ หนเี้ ปน็ สนิ กบั คนทมี่ เี งนิ มที อง อารมณแ์ ตกตา่ งกนั

นี่ก็เหมือนกัน มันทุกข์มันยาก เราเกิดมาด้วยหน้ีเวร
หนี้กรรม เราเกิดมาด้วยอวิชชา เราเกิดมาด้วยกิเลสตัณหา
ความทะยานอยาก เราเกิดมาด้วยกรรมท้ังนั้นน่ะ เราอยู่โดย
สามัญส�ำนึก เราอยู่โดยกิเลส ถ้าเรามีสติมีปัญญา เราพยายาม
รกั ษาของเรา ถา้ จติ มนั สงบระงบั เขา้ มา สงบระงบั เขา้ มาโดยธรรมะ
ขององค์สมเด็จพระสมั มาสัมพุทธเจา้ แล้วเราพยายามท�ำของเรา
ให้มันถูกตอ้ งดีงาม ค�ำวา่ “ถูกตอ้ งดงี าม” คอื สัมมาสมาธิ

คำ� วา่ “สมั มาสมาธ”ิ มนั กจ็ ะเปน็ สมั มาสติ สมั มาปญั ญา
มันจะเป็นสัมมาของมัน ถ้าความเป็นสัมมาของมัน เวลาเรา
พิจารณาแล้วมีสติปัญญาข้ึนมา จิตเห็นอาการของจิต
เห็นความคิด ถา้ จิตมนั เห็นความคดิ มันมีความแตกตา่ งตรงน้ี
ถา้ มนั มคี วามแตกตา่ งตรงน้ี มนั ถงึ จะเหน็ วา่ มนั เปน็ ไปไมไ่ ดท้ มี่ นั

สมั มาสมาธิ • 37

จะรู้เอง มันเป็นไปไม่ได้ ถ้ามันรู้มันเห็นของมัน มันจับต้องได้
มนั ถึงเป็นวปิ สั สนา

เวลาข้ีโม้กันน่ะ “แนวทางสติปัฏฐาน ๔ แนวทาง
สติปัฏฐาน ๔” นกแก้วนกขุนทองแจ้วๆ อยู่อย่างน้ันน่ะ น่ีไง
ไอ้พวกสวมรอย ไอ้พวกหัวตอ มันไมเ่ ปน็ สมั มาสมาธสิ ักคน

ถ้าเป็นสัมมาสมาธิขึ้นมาตามความเป็นจริงข้ึนมา นี่ไง
ถา้ เปน็ สมั มาสมาธิ ถา้ เปน็ สมั มาสมาธแิ ลว้ ยกขนึ้ สวู่ ปิ สั สนา ถา้ ยกขนึ้ สู่
วปิ สั สนา จติ เหน็ อาการของจติ ตอ้ งเหน็ ตามความเปน็ จรงิ อนั นน้ั
ถา้ เหน็ ตามความเปน็ จรงิ อนั นน้ั แลว้ ใครไปทำ� ใหเ้ หน็ ไดล้ ะ่ มนั กม็ ี
ครบู าอาจารยท์ ที่ า่ นประพฤตปิ ฏบิ ตั มิ าแลว้ เปน็ การยนื ยนั แลว้ ถา้
ใครเหน็ โอโ้ ฮ!

โดยธรรมชาติ อวชิ ชาคอื ความไมร่ ใู้ นใจ เรามคี วามไมร่ เู้ รอ่ื ง
ธรรมะเป็นพ้ืนฐาน การศึกษาน้ันคือความจ�ำท้ังหมด การศึกษา
ศกึ ษาธรรมะขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทงั้ หมด แลว้ เวลา
ประพฤติปฏบิ ตั ิไปก็ประพฤติปฏิบตั โิ ดยความเห็นผดิ ของตน

ถา้ ทำ� ความสงบของใจเข้ามา ถา้ ใจมนั สงบเข้ามา เราก็
รไู้ ดว้ า่ สงบเปน็ อยา่ งไร แลว้ ถา้ มนั เสอ่ื มหรอื มนั ไมส่ งบเปน็ อยา่ งไร
เรากร็ ู้

แล้วถ้าเป็นสมาธิข้ึนมา มันเป็นสมาธิโดยการสวมรอย
โดยการแอบอา้ ง โดยความเป็นมจิ ฉา เป็นมจิ ฉานม่ี นั เหลวแหลก
มันหลงใหลไปหมดล่ะ ถ้ามันเป็นมิจฉาสมาธิ มันสร้างภาพ

38 • เทศนบ์ นศาลา

หลอกลวงปลนิ้ ปลอ้ นใหเ้ ราหลงในตวั เราเองมหาศาล โดยทค่ี ดิ วา่
ตวั เองเป็นจริง น่ีมนั จะเปน็ พ้นื ฐานอย่างนอี้ ยู่แล้วโดยกเิ ลส

แตพ่ อเราทำ� ความสงบของใจเขา้ มาๆ ใชป้ ญั ญาอบรมสมาธๆิ
เวลาทำ� สมาธิ เราทำ� มาเรอ่ื ยดว้ ยความถกู ตอ้ งดงี าม ดว้ ยการกระทำ�
ของเรา เหน็ ไหม

เวลาเด็กๆ มันไปฝึกอานาปานสติมันยังรู้เลยว่าเด๋ียวน้ี
โกรธแล้วหายโกรธ เดี๋ยวน้ีไอ้ที่เคร่งเครียดแล้วหายเครียด
แล้วฟังทุกวันนะ นักปฏิบัติ “โอ๋ย! เมื่อก่อนเป็นคนโกรธมาก
เดีย๋ วนหี้ ายโกรธแลว้ ” แลว้ เอ็งได้อะไรล่ะ หายโกรธแล้วท�ำไมละ่
มันพดู ไปเปน็ กระแสสังคม ไม่มีความเปน็ จรงิ ในหัวใจเลย

แตถ่ า้ มนั มคี วามจรงิ นะ เวลาจติ มนั สงบ พอจติ สงบแลว้
ถ้าจิตเห็นอาการของจิต คือจิตเห็นความคิดเป็นรูปเลย จะเป็น
เวทนาก็ได้ จะเป็นสังขารก็ได้ จะเป็นสิ่งใดก็ได้ ถ้ามันจับได้
พอมันจับได้ ส่ิงท่ีมันจับได้ จิตเห็นอาการของจิต มันเกิดความ
มหัศจรรย์ เกิดการกระเทือน นั่นคือการเห็นกิเลส ถ้าเห็นนะ
เห็นแล้วยังท�ำไม่ได้ด้วย เห็นแล้วหลุดมือไปเลย เห็นแล้ว
พิจารณาต่อไปไม่ได้ เพราะอะไร เพราะก�ำลังมันไม่พอ
มันขับเคล่ือนไปไม่ได้ ถ้ามันขับเคล่ือนไปไม่ได้ก็กลับมาพิจารณา
ใชป้ ัญญาอบรมสมาธิ น่ีพดู ถงึ ปัญญาวิมุตตนิ ะ

ถา้ เปน็ เจโตวมิ ตุ ติ ถา้ จติ สงบแลว้ ถา้ มนั ไปเหน็ ดวงจนั ทร์
เห็นกระต่าย ไอ้นั่นหัวตอท้ังน้ันน่ะ เอ็งเห็นอะไร เห็นเทวดา

สมั มาสมาธิ • 39

เห็นอินทร์ เห็นพรหม แล้วส่วนใหญ่จะรู้วาระจิต ถ้าเศรษฐีมา
อ๋อ! อดีตชาติเรามีความสัมพันธ์กันมา ถ้าขอทานมาน่ีไม่รู้จัก
มันจะไปเก่ยี วกบั คนมฐี านะทัง้ นัน้ น่ะ

การมฐี านะหรอื จะเปน็ คนทกุ ขค์ นจน เขากม็ กี ายกบั ใจนะ
มนุษย์เกิดมาเป็นมนุษย์โดยเสรีภาพ เป็นภราดรภาพ มีความ
เสมอกันโดยความเป็นมนุษย์ นี่ไง เวลาองค์สมเด็จพระสัมมา
สมั พทุ ธเจา้ สอนทคุ ตะเขญ็ ใจ คนจนทไี่ มม่ อี าหารแมแ้ ตจ่ ะใสบ่ าตรพระ
ถามพระสารบี ตุ รเลย “ทคุ ตะเขญ็ ใจนีเ้ คยมีบุญคณุ กับใคร”

พระสารบี ตุ รยกมอื เลย “เคยมีบุญคุณกับผมครบั ”
“มีบญุ คุณอะไร”
“เคยใสข่ า้ วทพั พเี ดียว”
โอโ้ ฮ! สงั่ สอนจนเปน็ พระอรหนั ตน์ ะ่ เหน็ ไหม จะคนจน
คนทกุ ขจ์ นเขญ็ ใจ เขากม็ กี ายกบั ใจนะ ไอค้ นรำ่� รวยมที รพั ยส์ มบตั ิ
นนั่ น่ะ เขาจะยึดตดิ ยดึ มั่นในทรัพยส์ มบตั ขิ องเขา
แตไ่ อพ้ วกหวั ตอ โอย๋ ! เหน็ คนมงั่ คนมี เหน็ ไหม โมฆบรุ ษุ
ตายเพราะลาภ พวกโมฆบุรุษว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเป็นสมบัติ
“โอย๋ ! อดตี ชาติ โอ๋ย! รู้ มคี วามสมั พนั ธก์ นั ” นเ่ี ป็นธรรมะหรอื
เป็นความจริงหรอื
แล้วถ้ามันเห็นจริง เวลาจิตมันสงบแล้วน่ีนะ ถ้ามี
ครูบาอาจารย์ท่ีดี ถ้าเอ็งจิตสงบได้ เอ็งไม่ต้องว่าน้�ำใสแล้ว

40 • เทศนบ์ นศาลา

เหน็ ตวั ปลา ไมต่ อ้ งใหม้ ะมว่ งออกลกู ไมต่ อ้ งใหผ้ ลไมม้ นั ออกลกู
แล้วมันหลุดออกจากข้ัวตกใส่ศีรษะมันถึงจะเห็นกาย ไม่มี
ไม่มีหรอก ไม่มีกิเลสหลุดจากขั้วแล้วตกใส่หัว แล้วรู้ตัวขึ้นมา
อูย๋ ! พิจารณาใหญ่เลย ไมม่ ี กิเลสมนั หลอก

แต่ถ้าเป็นจริง จิตสงบแล้ว ถ้าโดยอ�ำนาจวาสนานะ
คนทม่ี อี ำ� นาจวาสนา องคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั รธู้ รรมแลว้
“จะสอนใครไดห้ นอๆ”

มันอยู่ที่วาสนา พูดกันไม่รู้เร่ือง เขาไม่ต้องการ สังเกต
ชาวพทุ ธสิ ไปวดั ไหนกจ็ ะเอาหวยทง้ั นน้ั นะ่ ตอ้ งการรำ่� รวยอยา่ งเดยี ว
ทกุ คนอยากมตี งั ค์ การมตี งั คน์ ะ การรำ่� รวยมนั ยงั อยทู่ ว่ี าสนาของเขา
ท�ำได้ท�ำไม่ได้นะ คนที่มีสติมีปัญญาของเขา เขามีธุรกิจของเขา
เขาประสบความสำ� เรจ็ ของเขา ไอค้ นทป่ี ญั ญาขเ้ี ทอ่ กเ็ ปน็ แรงงาน
ไปตลอดน่นั น่ะ

แม้แต่การหาเงินหาทองมันยังใช้ปัญญาเลย แล้วเวลา
จิตสงบขึ้นมา เวลาถ้ามันเป็นหัวตอ หัวตอมันส่งออก
เห็นพระจันทร์นู่น เห็นกระต่าย แล้วพรรณนาไปเลยแหละ
“มันมีผลกับโลก มันเป็นอุทกศาสตร์ มันมีผลต่อฤดูกาล”...
เปน็ ธรรมหรอื มนั เกยี่ วอะไรกบั การฆา่ กเิ ลส ไอน้ มี่ นั เปน็ ความเปน็ อยู่
ของโลก ถ้ามันจะเป็นความจริงนะ จิตสงบแล้วถ้าไม่มีวาสนา
เป็นอย่างน้ี

สัมมาสมาธิ • 41

ถ้ามีวาสนานะ มีวาสนาจะเห็นเลย เวลาจิตสงบแล้ว
เห็นกายมาเลยนะ เห็นเป็นรูปของกายมาเลย ถ้าจิตสงบแล้ว
ถา้ มนั เป็นเวทนากจ็ บั เวทนาได้ พิจารณาเวทนาได้

แล้วพอกายมา มันก็มีความมหัศจรรย์แล้วล่ะ เห็นกาย
น่ันคืออะไร เห็นใหม่ๆ กายเขาหรือกายเรา เอ๊ะ! น่ีก้อนเน้ือ
ของใครวะ เออ! ก็ของเอง็ น่นั แหละ เอ็งโง่ ไม่ร้หู รอก ตนื่ เตน้

เราจะบอกถึงความมหัศจรรย์ว่า ระหว่างที่ว่าถ้าเป็น
สัมมาสมาธิ ถ้าเป็นสัมมาสมาธิมันมีสติมีปัญญา ถ้ามันรู้มันเห็น
ของมัน น่ันล่ะคือเห็นกิเลส การเห็นสติปัฏฐาน ๔ ตามความ
เปน็ จริงเพราะจิตมันสงบแล้วมนั เห็น

ถ้าจิตสงบระงับแล้ว ถ้าจิตมีก�ำลัง เห็นสติปัฏฐาน ๔
แตส่ ว่ นใหญแ่ ลว้ ไมเ่ หน็ ถา้ มนั เหน็ มนั กเ็ หน็ แบบไมส่ มบรู ณ์ คำ� วา่
“เห็นไม่สมบรู ณ”์ คอื วา่ เห็นแบบธรรมเกดิ ถา้ ธรรมเกิด เราไมม่ ี
สมั มาสมาธิ ไมม่ ีสมั มาสติ

สตทิ เี่ ปน็ สมั มาสมาธิ ถา้ มนั รมู้ นั เหน็ มนั เหมอื นเราจบั ตอ้ ง
ในทางการแพทย์ เวลาคนผา่ ตดั มนั จะมคี วามคม ตอ้ งมคี วามแนน่ อน
มันต้องมีความชัดเจนของมัน เขาถึงผ่าตัด เวลาเขาผ่าตัดขึ้นมา
เขาจะคมกรบิ เขาต้องการอยา่ งน้นั

ไอ้น่ีก็เหมือนกัน เวลาถ้ามันจะรู้มันจะเห็น จิตมันสงบ
ขนาดไหน จติ มนั เปน็ อยา่ งไร ถา้ มนั จะรจู้ ะเหน็ ขนึ้ มา มนั มหศั จรรย์
ขนาดไหน มนั ย่งิ กวา่ แพทยอ์ กี เพราะแพทย์เขาผา่ ตัดทกุ วนั เลย

42 • เทศนบ์ นศาลา

เห็นกายทุกวันเลย เปลี่ยนหัวใจด้วย เปล่ียนตับ เปลี่ยนไต
เปลยี่ นปอด เปลย่ี นไดท้ กุ อยา่ งเลย แตเ่ ขากเ็ ปน็ วชิ าชพี เขายงั ตอ้ งมี
ความชัดเจนอยา่ งน้นั

แลว้ นก่ี ารปฏบิ ตั ิ การฆา่ กเิ ลส การฆา่ กเิ ลสนะ เพราะอะไร
เพราะจติ นเี้ วยี นวา่ ยตายเกดิ ในวฏั ฏะ การทเี่ วยี นวา่ ยตายเกดิ ในวฏั ฏะ
ถ้าเราแก้จิตของเราแล้วเราเป็นวิวัฏฏะออกจากกามภพ รูปภพ
อรูปภพ ถ้ามันเป็นความจริงๆ มันมีผลมหาศาล ดับทุกข์ๆ
การช�ำระล้างกิเลส ส�ำรอกคายกิเลสออกมาจากใจ มันมีความ
มหัศจรรยข์ นาดไหน

แล้วการท�ำกันน่ะ ส�ำมะเลเทเมาท�ำกันโดยให้กิเลสมัน
สวมรอย ใหก้ เิ ลสมนั ครอบงำ� เพยี งแตก่ รรมฐานเรา หลวงปเู่ สาร์
หลวงปมู่ น่ั ครบู าอาจารยข์ องเราทา่ นประพฤตปิ ฏบิ ตั มิ าเปน็ แนวทาง
มันมีความน่าเช่ือถือ ถ้าความน่าเช่ือ มันจะโกหกใครดีไปกว่า
คนน่าเชอ่ื ถือละ่

คนทเี่ ชอ่ื ถอื อยเู่ ขาโกหกงา่ ยไง ดสู ิ ไอพ้ วกคนโกหกเชอื่ ถอื
มันก็โกหกในหมู่ญาติหมู่เพ่ือนน่ันน่ะ ไอ้เพ่ือนโกหกเพ่ือนน่ันน่ะ
เวลาเพื่อนทีโ่ ดนโกหกเสียใจ เป็นเพ่ือนกันไม่น่าท�ำกันเลย เสยี ใจ
ก็คนอื่นโกหกมนั กไ็ มเ่ ช่อื ไง ถา้ เพือ่ นโกหกกเ็ ช่อื ไง

นก่ี เ็ หมอื นกนั เวลาสวมรอยๆ มคี รบู าอาจารยท์ ำ� ใหม้ นั่ คง
ทำ� ใหน้ า่ เชอ่ื ถอื แลว้ เวลาเขามากอ็ า้ งองิ อยา่ งนน้ั นะ่ อา้ งองิ ขนึ้ มา
แต่คนร้เู ขามี หลวงตาท่านพูดประจ�ำ ผรู้ มู้ ีนะ ผู้รู้มี แต่มันน้อย

สัมมาสมาธิ • 43

ผู้รู้ ส่วนใหญ่ผู้รู้ เพราะว่าการแสดงธรรมไม่พูดเพ่ือ
กระทบกระเทยี บ ไมพ่ ดู ตา่ งๆ นไ่ี ง มนั ไปสะเทอื นกนั ไง ความสะเทอื น
มนั กอ็ ยทู่ กี่ รรมของสตั วแ์ ลว้ ละ่ ถา้ สตั วม์ นั มดื บอด สตั วม์ นั เชอื่ ถอื
ฉะนัน้ เวลาเขาสวมรอย เขาก็สวมรอยในสังคมท่ีน่าเชอ่ื ถือ นี่ถา้
น่าเช่อื ถอื

วงกรรมฐานกอ่ นทหี่ ลวงปเู่ สาร์ หลวงปมู่ น่ั ทา่ นแสดงธรรมๆ
ทา่ นกต็ อ้ งประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องทา่ นมากอ่ น แลว้ เวลาประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
ข้ึนมา เวลาสังคมท่ีเขายังไม่ม่ันคง ยังไม่เชื่อถือ หลวงปู่เสาร์
ท่านไปไหน เห็นไหม ประวัติหลวงปู่เสาร์น่ันน่ะ ครอบครัวนี้
ยา้ ยไปไหน เขาทงั้ เสยี ดสี เขาทงั้ ดถู กู เขาไมส่ นใจทงั้ สน้ิ เขาสนใจแต่
ยศถาบรรดาศกั ดกิ์ นั แตค่ รบู าอาจารยข์ องเราทา่ นทำ� ของทา่ นมา
ทำ� ของทา่ นมาโดยทส่ี งั คมเสยี ดสี สงั คมไมต่ อ้ งการ นพ่ี ดู ถงึ สงั คมนะ

แตเ่ วลาบรรดาครบู าอาจารยท์ า่ นบอกวา่ ไมต่ อ้ งพรรณนา
เพราะท่านไม่สนใจเร่ืองอย่างนั้นอยู่แล้ว ท่านไม่สนใจเร่ือง
กระแสสังคมหรอก ท่านไม่สนใจเร่ืองกระแสของโลก เพราะ
ทา่ นตอ้ งการแกก้ เิ ลสของทา่ น นเ่ี วลาเทศนาวา่ การ นนั่ เรอ่ื งโลกๆ
โลกไม่มีความหมาย โลกไม่มีความจ�ำเป็น น่ีสัจธรรมท้ังน้ัน
ในหวั ใจของเรา

นี่ก็เหมือนกัน คนที่เขามีสัจจะมีความเป็นจริงเขาไม่มา
ปลน้ิ ปลอ้ นแบบพวกสวมรอย แบบพวกหวั ตอนห้ี รอก มนั ถงึ ทำ� ให้
เส่ือมเกียรติของกรรมฐานไง เพราะมันไม่มีความรู้จริง ท�ำให้
กรรมฐานเส่อื มเกยี รติ

44 • เทศนบ์ นศาลา

แต่ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ธรรมทายาทๆ สัมมาสมาธิ
สัมมาสมาธิขน้ึ มาแล้ว เวลาพิจารณาของเรา ปญั ญาอบรมสมาธิ
ข้ึนมา จิตถ้ามันมีสติปัญญานะ จิตมีสติปัญญาแล้วก็ต้องมี
อำ� นาจวาสนา

คำ� วา่ “มอี ำ� นาจวาสนา” พระสารบี ตุ ร เวลาองคส์ มเดจ็
พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ แสดงธรรมกบั หลานของทา่ น ทำ� ไมทา่ นฟงั แลว้
ท่านเก็บประโยชน์ของทา่ น ท่านเปน็ พระอรหันตข์ ้ึนมาได้

เวลาพระโมคคัลลานะไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้า ง่วงเหงาหาวนอน พระพุทธเจ้าไปโดยฤทธิ์เลย
เอานำ้� ลบู หนา้ ใหแ้ หงนดดู าว สอน สอนจนดว้ ยอำ� นาจวาสนาของตน
มันจบั ประเด็นได้ แต่ของเราฟังจนหูฉีก

หลวงตาทา่ นพดู ประจำ� เวลาฟงั ฟงั จนจติ ดา้ น จติ ดา้ น
ฟังธรรมๆ จิตมันด้ือด้าน แต่คนถ้ามีสติมีปัญญา เขาหาของเขา
แลว้ ถ้ามสี ติปญั ญามนั จะเข้ากับใจของตน

พระในสมัยพุทธกาลจะไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมา
สมั พทุ ธเจา้ จะถามปญั หาไง แลว้ เวลาฝนมนั ตก มนั เปน็ จดุ เปน็ ตอ่ ม
เพราะอะไร เพราะว่ามีสัมมาสมาธิ จิตเป็นสัมมาสมาธิ จิตมีสติ
มปี ญั ญาของเรา พจิ ารณาในงานชอบของตน ถา้ พจิ ารณาในงานชอบ
ของตน

การพิจารณาอยู่ ปัญญาที่มันพร้อม ส่ิงที่ต่างๆ ท่ีมัน
พร้อมอย่แู ลว้ แต่มนั ยงั ไมม่ อี �ำนาจวาสนาทีส่ ามารถชำ� ระกิเลสได้

สมั มาสมาธิ • 45

จะไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง ไปถึงกุฎี ฝนมัน
ตกลงมานะ ก็ยนื รอด้วยความเคารพ ดว้ ยความบูชา

คนที่ประพฤติปฏิบัติขึ้นมานะ เวลาปฏิบัติข้ึนมา
มนั แสนทกุ ขแ์ สนยากขน้ึ มา ถา้ มคี รบู าอาจารยท์ ด่ี ี มนั เคารพบชู า
ในหัวใจ เวลาจะไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แค่ฝน
ตกลงมา ท่านก็ยืนรออยู่ก่อน รอกอ่ น ฝนกต็ กกระหน�่ำมาเต็มท่ี
จนนำ�้ นองไปหมดเลย พอนำ�้ นองไปหมด มนั กม็ ฝี นตกมาจากชายคา
พอเวลามนั ตก นำ้� กระทบลงเปน็ จดุ เปน็ ตอ่ มเปน็ ฟองขน้ึ มา ทา่ นกย็ นื
พจิ ารณาของทา่ น นที่ า่ นกำ� ลงั ใชป้ ญั ญาของทา่ น ทา่ นมสี ตปิ ญั ญา
ของท่าน

พอพจิ ารณาไปแลว้ พอฝนตก อฮู้ !ู มนั เกดิ คณุ ธรรมขน้ึ ในใจ
หยุดตก กลับเลย ไม่ข้ึนไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กลับ กลับเพราะอะไร กลบั เพราะรู้ธรรม กลับเพราะมคี ุณธรรม
กลบั เพราะมีความจริงในใจ นไ่ี ง ถา้ เปน็ ความจริงๆ มนั ต้องเปน็
อย่างนนั้ มนั ไมใ่ ชโ่ มฆบุรุษตายเพราะลาภ เพราะอะไร

เพราะเราเชอื่ มนั่ วา่ คนทไ่ี มจ่ รงิ มนั จะมคี วามรสู้ กึ ในใจอยวู่ า่
ส่ิงท่ีตัวเองรู้ไม่สมบูรณ์ มันขาดมันแคลนเพราะมันมีความสงสัย
กิเลสอยู่ในใจแล้วมันมีความสงสัยท้ังน้ัน แต่ด้วยความหน้าด้าน
หนา้ ดา้ นกว็ า่ “ทำ� สมาธแิ ลว้ ปญั ญาจะเกดิ เอง” สง่ิ ทที่ ำ� ความสงบ
ของใจเป็นหัวตอแล้ว “เดย๋ี วนำ้� ใสจะเหน็ ตัวปลา”

46 • เทศนบ์ นศาลา

ถา้ เหน็ ตวั ปลากแ็ สดงวา่ ยงั ไมไ่ ดพ้ จิ ารณาอะไรทง้ั สนิ้ ถา้ รอ
มะมว่ งมนั สกุ รอมะมว่ งมนั มากอ่ น มนั กย็ งั ไมม่ กี ารวปิ สั สนาทง้ั สน้ิ
แลว้ เอ็งแสดงธรรมอะไรถ้ามนั ไม่มีวิปสั สนา มันไมม่ ปี ัญญา

ก็เอ็งบอกเอง็ รอไง รอมะมว่ งมนั หล่นใส่หัวไง แลว้ เวลา
สง่ ออกกอ็ อกไปเหน็ ดวงจนั ทรไ์ ง เหน็ ดวงจนั ทร์ เหน็ ดาวพฤหสั นนู่
มันส่งออกไปหมดล่ะ ส่งออกนะ ส่งออกจากใจไปไกลขนาดน้ัน
มันจะมีมรรคมีผลตรงไหน ไม่มีหรอก ไม่มี เห็นไหม เพราะ
ความไมม่ อี ยา่ งนนั้ แตย่ งั พดู ธรรมะไป เขารอู้ ยู่ ทเี่ ราพดู วา่ หนา้ ดา้ น
เพราะเขารู้ตวั ทัง้ นั้นนะ่

แตเ่ พราะไมม่ วี าสนา ถา้ เปน็ กเิ ลสสวมรอย เขากเ็ ขา้ ใจได้
แคน่ นั้ แตจ่ ะเข้าใจไดแ้ คไ่ หนกแ็ ลว้ แต่ เราน่งั กันอย่นู ชี่ วั่ โมงเดียว
เรากม็ เี วทนาใชไ่ หม เรากม็ คี วามทกุ ขค์ วามยากใชไ่ หม ไอค้ นทมี่ นั
จมอยกู่ บั กเิ ลสอยา่ งนนั้ เขาไมม่ คี วามฉกุ คดิ เลยหรอื วา่ อนั นนั้ มนั เปน็
กเิ ลส ไมใ่ ชธ่ รรม ไมม่ ใี ครฉกุ คดิ เลยหรอื แตข่ ห่ี ลงั เสอื ขห่ี ลงั เสอื
แล้วมีวุฒิภาวะแค่น้ีก็พยายามพูดไปตามนั้น หมาห่มหนังเสือ
มันก็เห่าหอน แตไ่ มม่ ีความจริง ไม่มี

ถ้ามีความจริงๆ ความจริงที่ธรรมะขององค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ครูบาอาจารย์
ของเราท่านประพฤติปฏิบัติขึ้นมา ท่านมีสัจจะความจริงข้ึนมา
สิ่งท่ีว่า เวลาท�ำความสงบของใจเข้ามาก็ท�ำบ่อยครั้งเข้าๆ
การทำ� ความสงบของใจบอ่ ยครงั้ เขา้ ๆ ใหใ้ จมนั มเี ครอ่ื งอยู่ ใหใ้ จมนั
มคี วามสุข เห็นไหม สุขอ่ืนใดเทา่ จติ สงบไมม่ ี แล้วพยายามรักษา

สัมมาสมาธิ • 47

ของเราให้มันต้ังม่ันๆ ถ้าตั้งม่ันก็เป็นสมาธิขึ้นมา ถ้ามีสมาธิ
มีความตั้งมั่นข้ึนมา จิตต้ังม่ันแล้ว จิตตั้งม่ัน จิตม่ันคงแล้ว
จติ แข็งแรงแลว้ จิตมนั จะท�ำงานของมนั ได้

ถา้ จติ ท�ำงานของมนั ได้ ถ้ามันเปน็ ปญั ญาวมิ ตุ ติ จติ เหน็
อาการของจติ จะเหน็ อะไรกแ็ ลว้ แต่ เหน็ ดว้ ยปญั ญา มนั ไมไ่ ดเ้ หน็
ด้วยสัมมาสมาธิ ไม่ได้เห็นด้วยสมาธิท่ีม่ันคง มันจะใช้ปัญญา
นถ่ี ้าเปน็ ปัญญาวิมุตติ

ถา้ มนั เปน็ เจโตวมิ ตุ ติ มนั เหน็ โดยตาของจติ เลย เพราะอะไร
เพราะจิตเป็นสัมมาสมาธิ สัมมาสมาธิเวลามันเห็นกายขึ้นมาแล้ว
มนั พยายามโนม้ ไป โนม้ ไปใหเ้ ปน็ ไตรลกั ษณ์ โนม้ ไปใหม้ นั แปรสภาพ
การแปรสภาพน้นั น่นั นะ่ เป็นไตรลักษณ์

ความเป็นไตรลักษณ์ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สิ่งท่ี
สัจธรรม สัจธรรมที่เกิดข้ึนมาจากมรรค จากการกระท�ำของเรา
จากภาวนามยปัญญา ปัญญาเกิดจากการภาวนา ถ้าปัญญา
มนั เกดิ จากการภาวนา มนั เกดิ ไตรลกั ษณข์ น้ึ มา ความเปน็ ไตรลกั ษณ์
ข้ึนมา มันคลายตัวของมนั ขนึ้ มา

นี่ไง ทางสองส่วนที่เธอไม่ควรเสพ อัตตกิลมถานุโยค
กามสุขัลลิกานุโยค ทางสายกลางๆ คือมัชฌิมาปฏิปทา
มัชฌิมาปฏิปทาคือมรรค ๘ งานชอบ สติชอบ ปัญญาชอบ
ความเพยี รชอบ

48 • เทศน์บนศาลา

งานชอบๆ ถา้ มนั ทำ� ถกู ตอ้ งชอบธรรมมนั กเ็ ปน็ งานชอบไง
แตท่ กี่ ารประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องเขาดว้ ยมจิ ฉาสมาธิ ดว้ ยสมาธหิ วั ตอ
มันงานไม่ชอบ มันงานของกิเลส งานของกิเลสที่มันครอบง�ำ
มนั เลยไมเ่ หน็ ความมหศั จรรย์ระหวา่ งกเิ ลสกับธรรม

คนเราถา้ ประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ น้ึ มา ถา้ เปน็ สมั มาสมาธิ เหน็ ไหม
เปน็ สมาธิ มนั เปน็ เรอ่ื งโลกๆ นะ เรากม็ คี วามสขุ เรากเ็ หน็ ความ
มหัศจรรย์อยู่นะ ถ้าจิตเห็นอาการของจิต จิตเห็นสติปัฏฐาน ๔
ตามความเปน็ จริงมนั มคี วามมหัศจรรย์ ค�ำว่า “ความมหัศจรรย”์
มนั แตกตา่ ง แตกตา่ งกบั ความเปน็ โลก แตกตา่ งกบั เปน็ สมาธแิ ลว้
ปญั ญาจะเกดิ เอง แตกตา่ งกบั รอกเิ ลสมนั ตกใสห่ วั เลยไมเ่ คยเหน็
อะไรเลย เปน็ มจิ ฉา เปน็ หวั ตอ ไมเ่ ปน็ ความมงุ่ มน่ั ขององคส์ มเดจ็
พระสัมมาสัมพุทธเจา้

ความมุ่งมั่นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทำ� สมั มาสมาธิ ศลี สมาธิ ปญั ญา คำ� วา่ “ศลี สมาธิ ปญั ญา”
ในมรรค ๘ เพราะมันต้องเป็นสัมมาสมาธิ แล้วสัมมาสติ
แล้วเวลาเพียรชอบ ความเพียรชอบธรรม มันจะต้องเป็น
ความชอบธรรมท้ังนน้ั ถ้าเปน็ มจิ ฉาขึ้นมาแล้วมันไมช่ อบธรรม
เป็นมิจฉาเพราะอะไร เพราะกิเลสมันครอบหัว มันไม่เป็น
ความจรงิ ไง

ถา้ เปน็ ความจรงิ ขนึ้ มา พอจติ สงบแลว้ พจิ ารณาของเราไป
มันจะไปแล้ว ถ้าจิตเห็นอาการของจิต จิตเห็นสติปัฏฐาน ๔

สัมมาสมาธิ • 49

ถ้ามันเป็นสัมมาสมาธิ มันพิจารณาไปนะ พอพิจารณาไป
มนั เกดิ ความมหัศจรรย์

หนงึ่ เวลาพจิ ารณาไปนะ ถา้ จติ มนั สมั มาสมาธิ จติ มกี ำ� ลงั
มนั พจิ ารณาไปมนั ปลอ่ ย มนั โอโ้ ฮ! มนั มหศั จรรย์ คำ� วา่ “มหศั จรรยๆ์ ”
น่ีแหม! อยากจะพูดล้านๆ ครง้ั แล้วมหัศจรรยท์ ี่ไหน

มหัศจรรย์จากปุถุชน กัลยาณปุถุชน โสดาปัตติมรรค
โสดาปัตติผล สกิทาคามิมรรค สกิทาคามิผล อนาคามิมรรค
อนาคามิผล อรหัตตมรรค อรหัตตผล ความมหัศจรรย์มันเกิด
มหาศาลเลย เพราะบุคคล ๔ คู่ ใจต้องพัฒนาเป็นช้ันเป็นตอน
ขนึ้ ไป

แล้วระหว่างบุคคล ๔ คู่ เวลาภาวนาไป หลวงตา
ทา่ นบอกไง ถา้ เปน็ สมาธแิ ลว้ ปญั ญาเราจะเกดิ เอง เราตดิ สมาธอิ ยู่
๕ ปไี ด้อย่างไร

ค�ำว่า “ติดสมาธิอยู่ ๕ ปี” เวลามันหลุดจากสมาธิ
เวลาหลวงปู่ม่ันท่านลากออกจากสมาธิได้ แล้วท่านพิจารณา
ของท่านไปแล้ว ท่านยังกลับมาติด “สมาธิแก้กิเลสไม่ได้
มันต้องปัญญาต่างหาก” เวลาไปแล้วใช้ปัญญาอย่างมหาศาล
ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเต็มท่ีเลย แล้วมันใช้ปัญญามากข้ึนมามันก็
เอียงข้าง น่อี ัตตกลิ มถานุโยค กามสขุ ัลลิกานโุ ยค

กลับไปหาหลวงปู่ม่ันอีก “บอกให้ออกใช้ปัญญาๆ
ใช้ปัญญาจนไมไ่ ด้หลบั ไม่ได้นอนแลว้ นะ”


Click to View FlipBook Version