ปจั จุบันธรรม
เอามรรคทเี่ กดิ ขน้ึ จากกายจากใจ นอ้ มเขา้ มาหาตน นอ้ มเขา้ มาในกาย นอ้ มเขา้
มาในใจ ให้มนั รแู้ จ้งเหน็ จรงิ ในใจนีแ่ หละ อยา่ ไปยึดไปถือเอาท่อี ่ืน
ถา้ รตู้ ามแผนท่ีปรยิ ตั ธิ รรม ไปยดึ ไปถือเอาส่ิงตา่ งๆ ไปตามแผนทีป่ ริยัตธิ รรม
ตา่ งหาก ตอ้ งนอ้ มเขา้ หากาย ตอ้ งนอ้ มเขา้ หาใจ ใหม้ นั แจง้ อยใู่ นกายนี้ ใหม้ นั อยใู่ นใจนี่
มนั จะหลงจะเขวไปอยา่ งไรกต็ าม พยายามดงึ เขา้ มาจดุ นี้ นอ้ มเขา้ มาหากายนี้ นอ้ มเขา้
มาหาใจนี้ เอาใจน่ีแหละน�ำออก ถ้าเอามากบางทีมันก็เขวก็ลืมไป น้อมเข้าหากาย
น้อมเข้าหาใจนี้ มีเท่านี้แหละหลักของมัน ถ้าออกจากกายใจแล้ว มันเขวไปแล้ว
หลงไปแลว้ นอ้ มเขา้ มาสกู่ ายสใู่ จแลว้ กไ็ ดห้ ลกั ใจดี ธรรมะกค็ อื การรกั ษากายรกั ษาใจ
น้อมเขา้ มาหากายนอ้ มเข้ามาหาใจน้แี หละ
ศลี ตง้ั อยใู่ นกายนแี่ หละ ตง้ั อยใู่ นวาจานแ่ี หละ และตง้ั อยใู่ นใจนแ่ี หละ ใหน้ อ้ ม
เข้ามานี้มันจงึ รู้ ตง้ั หลกั ได้ ถา้ สง่ ออกไปจากน้มี ันมักหลงไป เอาอยู่ในกายในใจนี้
น้อมเข้ามาสู่อนั นี้ นำ� หลงน�ำลมื ออกไปเสีย เอาใหเ้ ป็นปจั จบุ นั เอาจิตเอาใจนล่ี ะวาง
ถอดถอนออก ทางกายก็น้อมเข้ามาให้รแู้ จง้ ทางกาย นอ้ มเข้ามาหาใจของตนนใี้ หม้ นั
แจม่ แจ้ง ถา้ ไปยึดถือเอาอย่างอ่นื มันเปน็ เพยี งสัญญาความจำ� น้อมเข้ามารู้แจง้ ในใจ
ของตนนี้ รแู้ จง้ ในกายของตนน่ี นอกจากนเี้ ปน็ แต่เพียงอาการของธรรม
ยกขนึ้ สู่จิต นอ้ มเขา้ มาหาจติ หาใจน้ี ความโลภ ความหลง ความโกรธ กิเลส
ตัณหา มันเกิดข้ึนที่น่ีแหละ ต้องน้อมเข้าสู่จุดนี้ ถ้าน้อมเข้าหาจุดอื่นเป็นแผนท่ี
194
ปริยัติธรรม รู้กายรู้ใจแจ่มแจ้งแล้วนอกนั้นเป็นแต่อาการ บางทีไปจับไปยึดสิ่งนั้น
สงิ่ นมี้ นั กห็ ลงไป ทำ� ใหม้ นั แจง้ อยใู่ นกายแจง้ อยใู่ นใจ มสี ตสิ มั ปชญั ญะ สตสิ มั โพชฌงค์
สมั มาสติ กอ็ ันเดยี วกันนแ่ี หละ ใหพ้ จิ ารณาอย่อู ยา่ งนี้ อาศยั ความเพียรความหมนั่
คำ� ว่า สติ ก็รูใ้ นปัจจบุ ัน สมั ปชัญญะ รู้ในปจั จบุ ัน รูใ้ นตน ร้ใู นใจเรา นีแ้ หละ
รใู้ นปจั จุบนั รลู้ ะความโลภ ความโกรธ ความหลง ราคะ กิเลส ตณั หา เหล่านี้
ละออกให้หมด ละออกจากใจ ละอย่ตู รงนแี้ หละ สตถิ า้ ไดก้ �ำลงั ใจแลว้ มันก็สว่าง
ตง้ั จติ ตง้ั ใจกำ� หนดเบอ้ื งตน้ คอื การกำ� หนดจติ หรอื กำ� หนดศลี คอื กายกบ็ รสิ ทุ ธิ์
วาจากบ็ ริสุทธ์ิ ใจกบ็ ริสทุ ธิ์ กำ� หนดนำ� ความผิดออกจากกายจากใจของตน เมอื่ กาย
วาจา ใจ บรสิ ทุ ธ์ิ สมาธิก็บังเกดิ ข้ึน รู้แจ่มแจ้งไปหาจติ หาใจ กายนกี้ ็รู้แจง้ ในกาย
ในใจของตนน้ี
สตปิ ฏั ฐานส่ี สตมิ เี พยี งตวั เดยี ว นอกนน้ั ทา่ นจดั ไปตามอาการ แตท่ งั้ สมี่ ารวมอยู่
จดุ เดียว คอื เมอ่ื สตกิ �ำหนดรูก้ ายแล้ว นอกนนั้ คอื เวทนา จติ ธรรม กร็ ไู้ ปดว้ ยกนั
เพราะมีอาการเปน็ อย่างเดยี วกนั
อาการทงั้ ๕ คือ อนจิ จฺ ํ ท้งั ๕ ทกุ ขฺ ํ ท้ัง ๕ อนตฺตา ทั้ง ๕ เปน็ ของไมย่ ั่งยนื
เราเกิดมาอาศยั เขาช่วั อายหุ น่ึง อนจิ ฺจํ ทัง้ ๕ ทกุ ขฺ ํ ทง้ั ๕ อนตตฺ า ทง้ั ๕ รูป เวทนา
สญั ญา สังขาร วิญญาณ มนั ก็ส้นิ ไปเสือ่ มไป เราอาศยั เขาอย่เู พยี งอายหุ น่ึงเท่าน้ัน
เมอื่ รูปขันธ์แตกสลายมนั กห็ มดเรอ่ื งกนั
การประพฤตปิ ฏิบัตใิ นปจั จุบนั สมมตกิ นั ใหไ้ ดช้ น้ั นน้ั บา้ งชั้นนีบ้ ้าง อนั น้นั มนั
เปน็ สมมติ แต่ ธรรม เชน่ รปู เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ มนั ไมเ่ ทย่ี ง มนั กเ็ ปน็
อยูอ่ ย่างนั้น รูปํ อนิจฺจ,ํ เวทนา อนิจจฺ า, สญฺา อนจิ ฺจา, สงขฺ ารา อนิจจฺ า, วิญฺาณํ
อนจิ จฺ ํ มนั กเ็ ปน็ อยอู่ ยา่ งนนั้ เรามาอาศยั เขา สญั ญาเรากไ็ หลไปตามเวลา ดนิ นำ�้ ลม ไฟ
สลายจากกนั แล้วมนั กย็ ตุ ลิ ง สว่ นจติ เปน็ ผรู้ ู้ เมอ่ื ละสมมติ วางสมมตไิ ดแ้ ลว้ มนั กเ็ ยน็
ต่อไป กลายเป็นวิมุตติ ความหลุดพ้นไป เพราะสมมติทั้งหลายวางได้แล้วก็เป็น
วมิ ุตต ิ แตถ่ า้ เอาเขา้ จรงิ ๆ แลว้ มนั มกั จะหลง ถา้ เราตง้ั ใจเอาจรงิ ๆ พวกกเิ ลสมนั กเ็ อา
195
จรงิ ๆ กบั เราเหมอื นกนั เพราะฉะนน้ั ตอ้ งอาศยั ความหมนั่ เพยี รไมท่ อ้ ถอ้ ย ถา้ ละพวก
กิเลสตณั หาได้ มนั ก็จะเย็น สงบ สบาย ถ้าจติ มนั ปรงุ มนั แตง่ เป็นอดตี อนาคตไป
เรากต็ อ้ งเพง่ พจิ ารณา เพราะอดตี กเ็ ปน็ ธรรมเมา อนาคตกเ็ ปน็ ธรรมเมา จติ ทรี่ ปู้ จั จบุ นั
จึงเป็นธรรมโม
อาการทง้ั ๕ คอื รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณ เปน็ อนจิ ฺจํ ใหย้ นื อยูใ่ น
ปจั จบุ นั ธรรม อดตี อนาคต เปน็ ธรรมเมา ธรรมโม คอื เหน็ อยรู่ อู้ ยใู่ นปจั จบุ นั ตงั้ อยใู่ น
ปจั จบุ นั ไมไ่ ดเ้ ปน็ อดตี อนาคต ดบั ทงั้ อดตี อนาคต แลว้ เปน็ ปจั จบุ นั คอื ธรรมโม ใหจ้ ติ
รอู้ ยสู่ ว่ นกลาง คอื สงิ่ ทล่ี ว่ งไปแลว้ เปน็ อดตี ยงั ไมม่ าถงึ เปน็ อนาคต ไมเ่ ขา้ ไปเกย่ี วขอ้ ง
สว่ นทง้ั สองน้นั ให้เพง่ พนิ จิ คอื เราอยู่ปัจจุบนั ธรรม มนั จึงจะถกู เพราะปจั จุบนั เป็น
ธรรมโม นอกจากนน้ั เป็นธรรมเมา อดีต อนาคต
รปู้ จั จบุ นั ละปจั จบุ นั เปน็ ธรรมโม ถา้ ไปยดึ ถอื อดตี อนาคตอยู่ เทา่ กบั ไปเกบ็ ไป
ถือเอาของปลอม ธรรมเหลา่ นเี้ ป็นปัจจตั ตัง รู้เฉพาะตน ละเฉพาะตน วางเฉพาะตน
หมนุ เข้าหากายหาใจน่แี หละ ถา้ มวั เอาอดีต อนาคต มันกลายเปน็ แผนท่ี
แผนทปี่ รยิ ตั ธิ รรมจำ� มาไดม้ าก ไปยดึ ไปถอื อยา่ งนนั้ บา้ งสงิ่ นบ้ี า้ งทง้ั อดตี อนาคต
ยงิ่ หา่ งจากการรกู้ ายรใู้ จของเรา ความโลภ ความโกรธ ความหลง มนั เปน็ เชอื้ ของกเิ ลส
มันอยู่ในแผนทใ่ี บลาน มันไมเ่ ดอื ดร้อน ถ้ามันอยใู่ นใจ มนั เดอื ดรอ้ น เพราะฉะนั้น
ถา้ มนั เกดิ ขน้ึ ในใจ ใหเ้ อาใจละ เอาใจวาง เอาใจออก เอาใจถอน ปจั จบุ นั เปน็ อยา่ งน้ี
ไมใ่ ชจ่ ำ� ปรยิ ตั ไิ ดม้ าก พดู ไดค้ ลอ่ ง เวลาเอาจรงิ ๆ ไมร่ จู้ ะจบั อนั ไหนเปน็ หลกั ปจั จบุ นั ธรรม
ตอ้ งรเู้ เจง้ เหน็ เเจง้ ในกายใจของตน ละวาง ถอดถอน ในปจั จบุ นั มนั จงึ ใชไ้ ด้ ความโลภ
ความโกรธ มนั เกดิ ขนึ้ ในใจ นอ้ มมาเเลว้ ละใหม้ นั หมดราคะ กเิ ลส ตณั หา มนั เกดิ ขนึ้ มา
ละมนั เสีย
เรื่องของสงั ขาร มันก็ปรงุ เกิดขน้ึ ดับลง เกดิ ขน้ึ ดบั ลง เอารเู้ ฉพาะปจั จุบัน
อดตี อนาคต วางไปเสยี อดตี อนาคต เปน็ ธรรมเมา ปจั จุบนั เปน็ ธรรมโม ขอ้ นี้
ถือให้มัน่ ๆ
196
การปฏบิ ตั เิ พง่ ความเพยี ร เรง่ เขา้ ๆ มนั กค็ อ่ ยเเจม่ แจม้ ไปเอง ถา้ จติ มนั เปน็ อดตี
อนาคต วางเสีย เอาเฉพาะปจั จบุ นั การกระท�ำส�ำคญั เวลาทำ� ตัง้ ใจเข้าๆ ความโลภ
ความโกรธ ความหลง มนั มกั เกดิ เราตอ้ งพจิ ารณาคน้ เขา้ หาใจ มนั เกดิ ขน้ึ มาไดอ้ ยา่ งไร
จติ มกั จะเกบ็ อดตี อนาคตมาไว้ ทำ� ใหแ้ สส่ า่ ยไปตามอาการ ใหเ้ อาเฉพาะปจั จบุ นั ธรรมโม
นอ้ มเขา้ มาใหไ้ ดก้ ำ� ลงั ทางดา้ นจติ ใจ ละวางอดตี อนาคต อนั เปน็ สว่ นธรรมเมา เพง่ พนิ จิ
เฉพาะธรรมโม
รักษากายให้บริสุทธ์ิ รักษาวาจาใหบ้ ริสทุ ธิ์ รกั ษาใจใหบ้ ริสทุ ธ์ิ นอ้ มเขา้ หาใจ
ใหร้ เู้ เจง้ ใจนี้ กายกใ็ หร้ เู้ เจง้ เอาใหร้ เู้ เจง้ กายใจจนละไดว้ างได้ เพง่ จนเปน็ รา่ งกระดกู
ท�ำได้อยา่ งนีก้ ็พอสมควร เอาให้มนั รู้เเจง้ เฉพาะกายใจน้ี ไมต่ ้องเอามาก ถ้าเอามาก
มนั มกั ไปยดึ เปน็ อดตี อนาคตไปเสยี ขอ้ นส้ี ำ� คญั เกดิ ขนึ้ แลว้ มนั กด็ บั เกดิ ขน้ึ แลว้ มนั กด็ บั
ตวั สัญญา
ตง้ั หลกั ไว้ อดตี อนาคต เปน็ ธรรมเมา ปจั จบุ นั เปน็ ธรรมโม ระลกึ ดบั ละ วาง
ในปจั จบุ นั จงึ เปน็ ธรรมโม เมอ่ื จติ อยใู่ นปจั จบุ นั ธรรม อดตี อนาคต ถา้ มนั เกดิ มนั กต็ อ้ ง
ดับลงไป
ตอ้ งหมนั่ ตอ้ งพยายามเขา้ หาจดุ ของจรงิ อดตี อนาคต ปจั จบุ นั สามอยา่ งนเ้ี เหละ
เปน็ ทางเดนิ ของจติ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ราคะ กเิ ลส ตณั หา มนั กเ็ กดิ ขน้ึ
ในใจนี้เเหละ มันเเสดงออกจากใจน้ี ให้น้อมเข้ามาๆ ถึงอย่างนั้นกิเลสท้ังหลาย
มันก็ยังท�ำลายคุณความดีไดเ้ หมอื นกนั แตถ่ า้ มสี ติ ความช่ัวเหล่าน้นั มนั กด็ บั ไป
197
ตา หู จมูก เปน็ เหตุ
วนั ที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๕
ภาวนาก�ำหนดใจ ถ้าก�ำหนดใจได้แลว้ มันจึงรูพ้ ทุ โธเป็นมรรคของใจ ถา้ ภาวนา
ก�ำหนดจิตยังไม่ได้ มันก็แพ้กิเลส กิเลสมันอยู่ก่อน ต้องมีสติรักษาใจจึงจะดี
ถา้ ไมม่ สี ติ จติ กจ็ ะไปเกาะเกย่ี วอนั นน้ั อนั นที้ ว่ั ไป พาใหห้ ลงไป เวลาหลงไป เชน่ หลงอะไร
กใ็ หย้ กอนั นน้ั ขนึ้ สกู่ ารพจิ ารณา ตวั อยา่ งกาย ใหเ่ พง่ แยกสว่ นของกายออก แตล่ ะสว่ น
เตม็ ไปดว้ ยของไมส่ ะอาดไหลเขา้ ไหลออกตลอดอยทู่ กุ ขณะ
การทพี่ จิ ารณาแยกแยะจนเหน็ เปน็ ของไมง่ ามไมใ่ ชข่ องงา่ ย ในเมอ่ื จติ ยงั แสส่ า่ ย
หาอารมณ์อยู่ ต้องอาศัยความพากเพียรอดทน เม่ือจิตมีก�ำลังมันจึงสงบ ถ้ามัว
เกยี จครา้ นอยู่ จติ มนั กไ็ มเ่ ปน็ ไป ตวั ขเี้ กยี จขคี้ รา้ นนแ้ี หละเปน็ ตวั ทำ� ใหเ้ สยี เปน็ ตวั กเิ ลส
เวลานน้ั ประเดย๋ี วหาวประเดยี๋ วหาว พวกนเ้ี ปน็ กเิ ลสทง้ั นนั้ เเหละ ถา้ พรอ้ มดว้ ยการกระทำ�
จงึ จะได้ก�ำลงั ถา้ ไมพ่ ร้อมมันก็ไมม่ กี ำ� ลัง
ร่างกายของเราน้นั ทีเ่ ราเห็นวา่ งาม กเ็ พราะมขี องไม่สะอาดเต็มทอ้ งเตม็ ไสอ้ ยู่
ถา้ ในทอ้ งในไสไ้ มม่ อี ะไรเลย ลองดซู มิ นั จะงามไหม ถา้ ของในทอ้ งในไสไ้ หลออกหมด
มนั กเ็ หยี่ วเเหง้ เหลอื เเตห่ นงั หมุ้ กระดกู เทา่ นนั้ ถา้ พดู กบั ความจรงิ เเลว้ ทงั้ รา่ งกายเตม็ ไป
ดว้ ยของเสยี ทงั้ หมด ถงึ อยา่ งนนั้ กย็ งั หลงไปวา่ เปน็ ของสวยงาม แตใ่ จมนั ไมว่ า่ เตม็ ไป
ดว้ ยของไมส่ ะอาดหนา เราตอ้ งภาวนาพจิ ารณากลบั ไปกลบั มา ทบไปทวนมาอยนู่ นั้ เเหละ
เราไปหลงของไมง่ าม จบั อันนนั้ ต่ออันน้ีเลยเหน็ ว่างามจนติดจนหลง
198
การภาวนา ถา้ นอนภาวนา มนั เปน็ ภาวนอนไปเสยี การฉนั อาหาร ถา้ ฉนั มากเกนิ ไป
เวลาภาวนากน็ ง่ั หลบั ไปเสยี มนั หลายเรอื่ งหลายราว ถา้ อะไรมนั มากไป จติ มนั ไมส่ งบ
ห้ามมันไม่ฟงั อาหารมันทับ
พวกเรานอนกนั อยใู่ นท้องของมารดาตง้ั ๙ เดือน ๑๐ เดอื น จงึ จะออกมาพ้น
ร้องไหอ้ เุ เว้ๆ ได้ ถา้ ดใี จก็หวั เราะ เสียใจกร็ ้องไห้...
กามนเี้ ราเคยตดิ มาเเลว้ นบั อเนกอนนั ต์ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พระองคเ์ รง่ ความ
เพยี รจนรเู้ เจง้ เหน็ จรงิ กามตวั เดยี วทท่ี ำ� ใหส้ ตั วต์ าย กามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หา
เอาเข้ากลายเปน็ กามตนั หนา้ ภวตันตา วิภวตนั ใจ
เมอื่ กามเหลา่ นไี้ ปอดุ ไปตนั หนา้ ตา ใจ เเลว้ กเ็ กดิ ความหลง ความรกั ความชงั
ความพอใจก็เพราะกาม ความไม่พอใจก็เพราะกาม มันเกดิ ขึ้นกับใจ
ตาเป็นเหตุ หูเปน็ เหตุ จมูกเปน็ เหตุ เปน็ เหตแุ หง่ ความรกั ความชัง
ตาเปน็ เหตุ เมอ่ื ไดเ้ หน็ รปู สวย รปู งาม รปู อปั ลกั ษณ์ นา่ เกลยี ด นา่ ชงั หู เปน็ เหตุ
ไดย้ นิ เสยี งการประโคมขบั รอ้ งอนั ไพเราะ หรอื เสยี งนา่ รำ� คาญ จมกู เเละใจกเ็ หมอื นกนั
ถา้ ดเี ปน็ นา่ รัก มนั ก็ติดก็หลง ถ้าตรงกนั ขา้ ม มนั ก็เกลียดกช็ ัง จงึ วา่ มันเปน็ เหตุ
การฆา่ กนั กเ็ พราะกาม รกั กนั กเ็ พราะกาม ทว่ั อากาศทว่ั พน้ื นำ�้ เเละบนบกเตม็ ไป
ดว้ ยกาม กามตนั หนา้ ภวตนั หู วภิ วตนั ใจ ถา้ จะขยายออกไปมนั กไ็ มม่ ที ส่ี น้ิ สดุ หรอกกาม
เพราะความพอใจเเละไมพ่ อใจกเ็ กดิ จากกามทงั้ สนิ้ พจิ ารณาใหด้ ๆี เปน็ อยา่ งไร มนั จงึ
หลงไป จนกลายเป็นบอ๋ ยรับใช้ไป
199
ให้ตง้ั สัจจะ
แสดงแกพ่ ระภิกษุ วันท่ี ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๗
การปฏบิ ตั ิ เราจะเดนิ กใ็ หต้ ง้ั สจั จะไวว้ า่ จะเดนิ เทา่ นเี้ ทา่ นน้ั หรอื เราจะนงั่ วนั หนง่ึ
คนื หนง่ึ หรอื ถ้าเราสไู้ มไ่ หว เรากเ็ อาแต่พอสมควร ใหต้ ้งั ใจจรงิ ๆ
กำ� หนดตงั้ สจั จะไวใ้ นจติ ในใจ ละความมวั เมาออกใหห้ มด คอยกำ� หนดจติ เขา้ มา
สูภ่ ายในให้ใจเบิกบาน ตัง้ ความสัตยว์ า่ จะภาวนาเป็นเวลาเทา่ นนั้ เท่านี้ หรอื ถา้ จะเดนิ
ก็ให้กำ� หนดระวังรักษาจติ ใจของเราใหแ้ ชม่ ช่นื เบกิ บาน ไมป่ ลอ่ ยใจใหเ้ ป็นธรรมเมา
รกั ษาจิตใจให้ต้ังอยู่เฉพาะธรรมโม
อยา่ ละความเพยี รความพยายาม ใหเ้ พยี รไปตดิ ตอ่ กนั จะเปน็ วนั หนงึ่ หรอื คนื หนงึ่
ก็ได้ เชน่ ตั้งสัจจะว่าจะนงั่ ตลอดคนื จะไม่นอนอยา่ งน้ี ตง้ั สจั จะไว้อย่างนีเ้ ปน็ การดี
ตง้ั สจั จะตอ่ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ แลว้ ตงั้ ใจใหด้ ี คอยระวงั รกั ษาจติ ใจของเรา
นน้ั แหละใหผ้ อ่ งใสตลอดไป ใหพ้ ยายามรกั ษาความดี ความหมนั่ ความขยนั ของเราไว้
ให้สละความเกยี จครา้ นออกไปเสยี
ปกตจิ ติ ของเรานม้ี กั จะไหลไปสคู่ วามเกยี จครา้ น ความลมุ่ หลง เราตอ้ งพยายาม
หาอบุ ายมาเตอื นตนอยเู่ สมอดว้ ยความเพยี ร ความหมน่ั ใหร้ กั ษากาย วาจา ใจ ของเรา
ให้บริสทุ ธบ์ิ ริบรู ณใ์ นสกิ ขาวนิ ัย นำ� ความผดิ ความชัว่ ออกจากกาย จากวาจา จากใจ
อาศยั ความเพยี รเปน็ ไปตดิ ตอ่ จงึ จะชนะความเกยี จครา้ นได้ ความมวั เมา ความประมาท
200
อันใดมี ก็ใหล้ ะเสียใหว้ างเสีย ท�ำจติ ใจของเราให้ตงั้ อย่ใู นธรรมโม พจิ ารณากลับไป
กลบั มาอยอู่ ยา่ งนี้ ตอ้ งอาศยั ความเพยี ร ความหมน่ั ความขยนั ไมเ่ ชน่ นนั้ จติ มนั จะตก
ไปสคู่ วามเกยี จคร้าน
เราตอ้ งตกั เตอื นขม่ ขู่ ชกั จงู แนะนำ� จติ ของเราดว้ ยอบุ ายแยบคาย ถา้ จติ ใจมนั
เกยี จครา้ น เราตอ้ งหาอบุ ายมาตกั เตอื น ชกั จงู แนะนำ� ใหม้ คี วามอาจหาญ รา่ เรงิ ใหเ้ กดิ
ความอตุ สาหะ ขยนั หมนั่ เพยี ร ไม่ปล่อยให้จิตนัง่ เฉย เกียจคร้าน เราต้องละความ
เกยี จครา้ น ความไมด่ ขี องจติ ดว้ ยการอบรมภาวนาอยา่ งนี้ ถา้ เราตกั เตอื นชนี้ ำ� ดว้ ยอบุ าย
อนั ชอบ ในท่ีสดุ จติ ก็จะฟังเหตุผล เกิดความมมุ านะพยายามในความเพียร เราตอ้ ง
ข่มขตู่ กั เตอื นบอ่ ยๆ ในสมยั ที่จิตน่งิ เฉยต่อความเพียร
ถา้ เราคอยประคบั ประคองจติ ดว้ ยอบุ ายขม่ ขตู่ กั เตอื น ดว้ ยอบุ ายแยบคาย จติ ยอ่ ม
จ�ำนนต่อเหตุผล ระวังรักษาสติไว้อย่าให้หลงลืม ฝึกหัดให้เกิดความรู้ความฉลาด
เกิดขึน้ ในจติ ในใจของตน
จติ ของเราถา้ มนั เกยี จครา้ นขนึ้ มา มนั จะใหเ้ รานอนทา่ เดยี ว ถา้ มนั เกดิ ขน้ึ อยา่ งนี้
ข้ึนมา เราต้องหาอุบายมาขม่ ขู่ ตกั เตือน อุบายใดท่ยี กข้นึ มาชแี้ จงแล้วจิตยอมเชอื่ ฟัง
น่ันแหละคืออุบายที่ควรแก่จิตในลักษณะน้ันและในขณะน้ันๆ ถ้าเราไม่ข่มขู่ช้ีโทษ
โดยอุบายที่ชอบ ใครเขาจะมาตกั เตือนเรา
บางครงั้ จติ ถา้ มนั เกยี จครา้ นขน้ึ มา มนั จะวางเฉยในอารมณท์ งั้ หมด ในลกั ษณะ
เชน่ นแ้ี หละ เราตอ้ งหาอบุ ายมาทำ� ใหจ้ ติ ตน่ื ใหไ้ ด้ เชน่ ไหวพ้ ระสวดมนต์ หรอื ยกธรรม
บทใดบทหน่งึ ขึ้นมาพิจารณา ใหต้ ัง้ อยใู่ นความหมน่ั ความเพยี ร ในคุณงามความดี
ของตน พยายามเพง่ ดใู นจติ ในใจของเรานแี้ หละ ถา้ ไมอ่ าศยั ความขยนั หมนั่ เพยี รไมไ่ ด้
จติ เรานมี้ ันมกั จะไหลไปส่อู ารมณ์ต่างๆ เป็นอดีตอนาคตไป เราตอ้ งหาอุบายมาชแี้ จง
ใหต้ ั้งอยใู่ นปัจจบุ ันธรรม
ถ้าเราไม่หม่ันหาอุบายมาอบรมจิตแล้ว ส่วนมากจิตมักจะเกิดความเฉื่อยชา
วางเฉย ดงั นนั้ อบุ ายจงึ เปน็ ของสำ� คญั ยกขนึ้ สกู่ ารพจิ ารณาชแ้ี จงใหจ้ ติ อาจหาญรา่ เรงิ
201
เหน็ แจง้ ในจติ ในใจของเรา ถา้ จติ ยงิ่ เกดิ เกยี จครา้ นเทา่ ไร เรากต็ อ้ งเพมิ่ ความพยายาม
ตกั เตอื นโดยอบุ ายใหม้ ากขน้ึ ใหเ้ ทา่ เทยี มกนั จนเกดิ ความขยนั ขนั แขง็ เบกิ บานผอ่ งใส
ใหต้ งั้ อกตงั้ ใจ ตง้ั สจั จะ ตรงตอ่ คณุ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ใหเ้ กดิ ความ
อุตสาหะวริ ิยะ ความพากความเพยี รในภาวนา ในคุณความดี ให้ตัง้ อยูใ่ นสกิ ขาวนิ ยั
ในความหมั่นความเพียร ให้ต้ังความสัจความเพียรไว้ อย่าเป็นคนเกียจคร้าน
พระพุทธเจ้าสั่งสอนเราใหต้ ้งั อยูใ่ นมรรคในผล ให้พยายามรกั ษาจิตรกั ษาใจของเรา
อาศยั ความองอาจกลา้ หาญในความพากเพยี รของเรา อยา่ ออ่ นแอทอ้ แท้ เราตอ้ งสกู้ บั
ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง ถา้ องอาจกลา้ หาญจงึ จะผา่ นอปุ สรรคไปได้ ใหร้ กั ษาตา รกั ษาหู รกั ษาจมกู
รักษากาย รกั ษาใจ ของตนในทุกอิรยิ าบถ ยนื เดนิ น่งั นอน
202
ปัจจบุ นั ธรรมเป็นธรรมโม
แสดงวันท่ี ๔ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๒๓
ความคดิ ทเ่ี ปน็ อดตี อนาคต เมอ่ื เราคดิ ขนึ้ มาพรอ้ มกนั มนั กด็ บั ทา่ นเจา้ คณุ อบุ าลฯี
ทา่ นกลา่ ววา่ อดตี และอนาคต มนั กอ็ นั เดยี วกนั นนั่ แหละ ความตวั เดยี วนแ้ี หละ อดตี
และอนาคตกอ็ นั นแ้ี หละ ปจั จบุ นั กอ็ นั นแ้ี หละ แตป่ จั จบุ นั นเี้ ปน็ ธรรมโม อดตี อนาคต
เปน็ ธรรมเมา
เรอื่ งของสงั ขารทง้ั หลาย มนั ปรงุ มนั แตง่ มนั เกดิ มนั ดบั อยนู่ ี้ มนั แสดง อนจิ จฺ ํ
ทุกขํ อนตฺตา อยู่น้ีแหละ สมควรจ�ำต้นมันไว้ ต้นเหตุอดีตอนาคตเป็นธรรมเมา
ปจั จุบนั เปน็ ธรรมโม จ�ำไวใ้ ห้แมน่ น้อมเข้ามาสกู่ ายสู่ใจของตน นอ้ มเข้ามาในกาย
ให้รแู้ จง้ เหน็ แจ้งจนเห็นเป็นโครงกระดูก ธรรมทัง้ หลายกต็ ้องรูแ้ จง้ กายนี้ รู้แจง้ ใจนี้
จงึ จะเปน็ ผูร้ ู้
เชน่ พระภกิ ษผุ เู้ ดนิ ทางขณะบณิ ฑบาต ภาวนาไปกน็ อ้ มกายนเี้ ขา้ มา นอ้ มเขา้ มาๆ
ใหม้ นั เหน็ แจง้ เหน็ จนเปน็ รา่ งกระดกู พอดไี ปถงึ บา้ นหลงั หนงึ่ ไปยนื อยหู่ นา้ บา้ นหลงั นน้ั
ขณะเดยี วกนั สามภี รรยาเจา้ ของบา้ นหลงั นนั้ แหละเกดิ มปี ากมเี สยี งกนั ขน้ึ ภรรยาหลบ
ออกจากบา้ นไป เดนิ ผา่ นหนา้ ภกิ ษนุ น้ั ไป สกั ครหู นง่ึ สามกี เ็ ดนิ มาและถามพระภกิ ษวุ า่
“พระคณุ เจา้ เหน็ สตรเี ดนิ ผา่ นมาทางนบี้ า้ งไหม” พระภกิ ษตุ อบวา่ “ขณะทย่ี นื อยตู่ รงนี้
ไมเ่ หน็ สตรเี ดนิ ผา่ นมา มแี ตร่ า่ งกระดกู ผา่ นไปเทา่ นนั้ ” ฝา่ ยสามจี งึ คดิ ในใจวา่ ทำ� ไมเรา
ถามหาสตรี แตพ่ ระคณุ เจา้ บอกว่ารา่ งกระดูกเดินผ่านไป
203
อนั นแี้ หละ ทา่ นทท่ี ำ� ไดก้ ำ� หนดได้ ทำ� ใหเ้ กดิ กำ� ลงั กายกำ� ลงั ใจ เมอ่ื กำ� หนดไดเ้ ชน่ น้ี
กจ็ ะวางหมด ไมเ่ ข้าไปขอ้ งเก่ยี วกับเน้อื หนังมงั สา เหน็ แต่สักวา่ ร่างกระดกู มีตบั ไต
ไส้ พงุ อยภู่ ายใน นแี้ หละการพจิ ารณากาย พจิ ารณาใจ ใหร้ แู้ จง้ เหน็ แจง้ อยภู่ ายในใจ
อย่างนี้
ถ้าว่าตามหลักปริยัติธรรมแล้วมันมากมาย แต่ก็เอาของเก่านี้แหละกลับไป
กลบั มา เลน่ ของเกา่ อยนู่ แี้ หละกลบั ไปกลบั มา ไมม่ ที สี่ นิ้ สดุ ตอ้ งเอาใหแ้ จง้ รรู้ อบสงั ขาร
เมอื่ รรู้ อบสงั ขารทงั้ หลายแลว้ จงึ ดบั ตน้ เหตมุ นั ได้ รเู่ ทา่ สงั ขาร สงั ขารทงั้ หลายดบั ไปหมด
ใจมนั กส็ งบลงไป รธู้ รรมเปน็ นะ กว็ า่ เปน็ ธรรมกไ็ ด้ เปน็ นะโม กว็ า่ อตตี า ธรรมเมา
อนาคตา ธรรมเมา ปจั จบุ นั เปน็ ธรรมโม ตง้ั หลกั อยา่ งนไ้ี วเ้ สยี กอ่ น ถา้ เพลดิ เพลนิ หลงไป
ให้ยกขึ้นพจิ ารณา อดีตอนาคตเป็นธรรมเมา ปัจจบุ ันเปน็ ธรรมโม มนั หลงของเกา่
นแี้ หละ ทำ� เขา้ ไปใหจ้ ิตมกี ำ� ลงั ถ้าจิตยังไมม่ ีกำ� ลัง ดปู ระหนึ่งว่าการท�ำนม้ี ันลำ� บาก
บคุ คลผปู้ กครองคนหมมู่ าก ซงึ่ แตล่ ะคนกม็ คี วามเกิด แก่ เจบ็ ตาย ดว้ ยกนั ทั้งส้นิ
ละความชวั่ เอาไปๆ เวลามนั หลง ตอ้ งจำ� ทต่ี น้ เหตคุ อื ตวั สงั ขาร มนั มกั จะไปเปน็ อตตี า
ธรรมเมา อนาคตา ธรรมเมา ปจั จบุ นั เป็นธรรมโม
€ีติ ภตู ํ ตั้งอยู่ ไม่ไปไมม่ า ไม่ออกไม่เข้า อนั นเ้ี ปน็ ของจรงิ ไมอ่ อกไม่เขา้
ไม่เสยี หาย น้ีคือ €ีติ ธมฺโม ใจมันตั้งอยูใ่ นนน้ั มันไมไ่ ปทไ่ี หน ถ้าทำ� ให้ได้ ของจรงิ
มนั ตง้ั อยใู่ นนนั้ แหละ รแู้ จง้ เหน็ แจง้ สว่ นมากคนทงั้ หลายมกั จะไดม้ ากในดา้ นความจำ�
แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆ หลบเขา้ ไปตรงนัน้ ที หลบเขา้ ไปตรงนี้ที หลงลายเลย
การกระทำ� เปน็ สง่ิ สำ� คญั ทำ� เขา้ ๆ เมอ่ื ไดก้ ำ� ลงั แลว้ มนั เกดิ เอง จำ� หวั ขอ้ อดตี อนาคต
ปจั จบุ นั ปจั จบุ นั เปน็ ธรรมโม อดตี อนาคตเปน็ ธรรมเมา จำ� หลกั อนั นไ้ี วใ้ หด้ ี สงั ขารมนั เกดิ
อยตู่ รงนแี้ หละ วา่ ไปกไ็ มม่ ที ส่ี น้ิ สดุ ประเดย๋ี วเอาอยา่ งนนั้ ประเดยี๋ วเอาอยา่ งน้ี เอาเขา้ ๆ
ไม่มีที่สน้ิ สุด ก็เลยลมื หลักไปเสยี ให้ปฏิบัติอยใู่ นปจั จุบนั นแ้ี หละ เร่งเขา้ ความเพียร
ไม่หลับไมน่ อน บางทกี ห็ ลงลายไปบ้างเหมอื นกัน
อตตี า ธรรมเมา อนาคต ธรรมเมา ปจั จบุ นั เปน็ ธรรมโม ตงั้ อยใู่ น €ตี ิ ภตู ํ ตงั้ อยู่
ไม่ไดไ้ ปทไ่ี หน ไมว่ า่ อดีตอนาคต
204
หลวงปูมั่นท่านวา่ ไม่ต้องเอามาก เอาเพียงเล็กนอ้ ยกพ็ อแลว้ อตตี า ธรรมเมา
อนาคตา ธรรมเมา ปจั จบุ นั เปน็ ธรรมโม ประเดย๋ี วยกอนั นขี้ นึ้ มา ประเดยี๋ วยกอนั นนั้ ขนึ้ มา
ไมม่ ที ส่ี นิ้ สดุ ยกของเกา่ นนั่ แหละ ไมร่ ขู้ องเกา่ ถา้ รขู้ องเกา่ กเ็ ปน็ อนั แลว้ กนั ถา้ ยงั ไมร่ ู้
ของเก่า มันก็ทับอยู่นั่นแหละ
สตสิ มั ปชญั ญะกด็ ี สมั มาสตกิ ด็ ี กอ็ นั เดยี วกนั นนั่ แหละ คดิ ดกี ต็ าม คดิ ชวั่ กต็ าม
มันเกิดข้ึนแล้วมันก็ดับ มันอันเดียวกันนั่นแหละ มันหมุนไปหมุนมาอยู่นั่นแหละ
เอาสตนิ ำ� ออกเสยี จากความชว่ั อนั เปน็ สว่ นดกี ร็ กั ษาไว้ อนั เปน็ สว่ นทกุ ขก์ ใ็ หล้ ะเวน้ เสยี
สติสมั ปชัญญะ สัมมาสติ ก็อนั เดียวกนั นน่ั แหละ มหี นา้ ที่กำ� หนดรทู้ ีเ่ กดิ ของ
ธรรม ทดี่ บั ของธรรม รอู้ ยทู่ เี่ ดยี วนแี้ หละ ละอยทู่ เ่ี ดยี วนแี้ หละ วางอยทู่ เ่ี ดยี วนแี้ หละ
การปรารภความเพียรกเ็ อาสตนิ ี้แหละ
เวลาเกิดความคับขันก็ให้น้อมเข้ามาปฏิบัติอยู่ ให้เพียรเพ่งอยู่จนหายสงสัย
เพง่ จนหายสงสยั อนั นส้ี ำ� คญั มาก เพง่ เขา้ มาสจู่ ติ สใู่ จ อยา่ ไปเพง่ ออกภายนอก เพง่ จน
หายสงสยั จนไมม่ เี กดิ ไมม่ ดี บั พราหมณาจารย์ ผมู้ คี วามเพยี รเพง่ อยู่ เพยี รเพง่ อยจู่ นมนั
ดบั ไปเอง แมเ้ กดิ ขนึ้ แลว้ มนั กด็ บั ไปเอง แตอ่ ยา่ เขา้ ไปยดึ ถอื ในอะไรๆ สง่ิ ทม่ี นั ปรงุ ขน้ึ
แตง่ ขึน้ มักจบั มนั ไมท่ นั จิตของผ้มู คี วามเพยี รเพ่งอยู่จนหายสงสยั อยา่ ไปเพง่ ออก
ภายนอก ให้เพ่งเข้าสภู่ ายใน เมือ่ มสี ตมิ ัน่ เพ่งอย่อู ยา่ งน้ี ส่ิงท้งั ปวงเมอื่ เกิดขน้ึ แล้ว
มนั กด็ บั ไป ใหเ้ พง่ จบั อยเู่ ฉพาะในปจั จบุ นั อยา่ ไปเพง่ อดตี อนาคต อดตี เปน็ ธรรมเมา
อนาคตเปน็ ธรรมเมา
พราหมณาจารย์ ผมู้ คี วามเพยี รเพง่ อยู่ เพง่ อยภู่ ายใน ตอ้ งเพง่ เขา้ สภู่ ายใน สงิ่ ใด
สง่ิ หนงึ่ เมอ่ื เกดิ ขน้ึ มนั กด็ บั ไปเอง อยา่ เขา้ ไปยดึ ถอื สำ� คญั มนั่ หมายวา่ เปน็ สง่ิ นนั้ วา่ เปน็
สง่ิ นี้ เพง่ อยจู่ นหายสงสยั ถา้ หายสงสยั มนั กไ็ ดบ้ รรลมุ รรค ผล นพิ พาน เทา่ นน้ั แหละ
การเพง่ อยา่ ใหม้ นั ออกไปขา้ งนอก ใหเ้ พง่ เขา้ มาหาใจ ใหเ้ ขา้ สใู่ จ ใหเ้ ขา้ สู่ €ตี ิ ภตู ํ
ใหต้ งั้ อยใู นธรรม อนั ไมไ่ ป ไมม่ า ไมเ่ ขา้ ไมอ่ อก เรง่ ความเพยี รไมห่ ยดุ ไมห่ ยอ่ น ธรรม
ท้ังหลายเกดิ ขึน้ แล้วกด็ ับไป พระอรยิ เจ้าทัง้ หลายไมว่ ่าสมัยใด ทา่ นเปลยี่ นอริ ิยาบถ
ทง้ั ๔ ยืน เดนิ นั่ง นอน มีความเพยี รอยู่ทกุ อิริยาบถ ไม่ทอดท้ิง
205
มพี ระภกิ ษรุ ปู หนง่ึ ทา่ นปรารภความเพยี ร นยั วา่ อดตี ชาตขิ องทา่ นเคยเปน็ หมอ
รกั ษาโรคตา ไปประกอบยารกั ษาตาใหค้ นไขค้ นหนง่ึ แตค่ นไขเ้ ปน็ คนไมช่ อบเสยี เงนิ
เมอ่ื นยั นต์ าของตนหายแลว้ กบ็ อกหมอวา่ ยงั ไมห่ าย หมอรวู้ า่ คนไขค้ ดิ จะไมใ่ หค้ า่ รกั ษา
ต่อมาจึงประกอบยาอีกขนานหน่ึงให้คนไข้น้ันหยอดตา เมื่อคนไข้หยอดตาด้วยยา
ขนานใหม่แล้ว ตาพิการไปทั้งสองขา้ ง
หมอนน้ั ละจากอตั ภาพนน้ั แลว้ มาเกดิ เปน็ พระภกิ ษดุ งั กลา่ วน้ี ทา่ นปรารภความ
เพยี รอยา่ งแรงกลา้ ไมย่ อมนอน จนในทสี่ ดุ จกั ษขุ องทา่ นพกิ ารไปทง้ั สองขา้ งพรอ้ มกนั
กบั อาสวะกส็ นิ้ ไปจากใจ จกั ษุพิการทง้ั สองข้าง ก็เพราะอดตี กรรมท่ีเคยประกอบยา
ท�ำให้ตาคนไข้บอดทั้งสองข้าง แต่ความสิ้นไปแห่งอาสวะนั้นเพราะความเพียรอย่าง
ไม่ท้อถอยของทา่ น
เรอื่ งนีเ้ ป็นคตเิ ตือนใจ ผลของกรรมดีกรรมชั่ว แตใ่ หผ้ ลต่างกรรมตา่ งวาระกนั
ขนั ตบิ ารมี อดทนดว้ ยกาย อดทนดว้ ยวาจา อดทนดว้ ยใจ ทา่ นไมย่ อมละความเพยี ร
แม้วา่ จะเสียจักษทุ ั้งสองข้าง ในทีส่ ดุ ทา่ นก็ได้ส�ำเรจ็ อรหันต์ หมดภพหมดชาติ
อตตี า ธรรมเมา อนาคตา ธรรมเมา ปจั จบุ นั เป็นธรรมโม จำ� เอาไวใ้ หแ้ ม่น
206
ปาฏโิ มกขสงั วร วนิ ัยทง้ั ๕
เอากายเปน็ มรรค เอากายเป็นผล ผู้ให้ทาน เอาทานเป็นมรรค เอาทานเปน็ ผล
พระธรรมแปดหมน่ื สพ่ี นั พระธรรมขนั ธ์ ทา่ นกบ็ ญั ญตั ชิ ล้ี งสกู่ ายสใู่ จ เอาอยา่ งอน่ื กเ็ ปน็
ธรรมเมาไป
อุปัชฌาย์อาจารยท์ ่านสอน เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ ท่านก็สอนช้ีใสก่ าย
ใสใ่ จนแี้ หละ นอ้ มมาปฏบิ ตั กิ ายวาจาใจนใ้ี หบ้ รสิ ทุ ธ์ิ ฟงั แตน่ อ้ ย ตอ้ งอาศยั ความหมนั่
ความเพยี รทำ� ใหม้ าก เจรญิ ใหม้ าก ถา้ ฟงั มาก ฟงั เอาแตค่ ำ� พดู เลยกลายเปน็ สญั ญาไป
เอาพุทโธเป็นอารมณ์ของใจ พุทโธเป็นมรรคของใจ อุปัชฌาย์อาจารย์ให้
อปุ สมบทสอนกมั มฏั ฐานแกพ่ วกเรา ทา่ นกส็ อนชใี้ สก่ ายเรานแ้ี หละเปน็ หลกั มวั ไปเลน่
แตแ่ ผนทใ่ี ชไ้ มไ่ ด้ แผนทปี่ รยิ ตั ธิ รรมไมเ่ ขา้ หากายไมเ่ ขา้ หาใจ กลายเปน็ ธรรมเมาไปเสยี
ตงั้ อยใู่ นศลี ชใี้ สก่ ายเราน้ี ชใี้ สใ่ จเรานี้ อนั นแ้ี หละคอื ศลี แท้ กายใจนแ้ี หละเปน็
บอ่ เกดิ ของกศุ ลและอกศุ ล เพราะฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ ทงั้ หลายทา่ นสอนธรรม ทา่ นจงึ
ชี้ลงสู่เหตุ กายของเราเป็นเหตุอันส�ำคัญ ท่านจึงสอนย้�ำให้พุทธบริษัทพิจารณา
กายคตาสติกัมมัฏฐาน กายเป็นท่ีต้ังของธรรมท้ังปวง ถ้าเบ่ือหน่ายในกายน้ีแล้ว
อุปาทานทั้ง ๕ อนิจจงั ทงั้ ๕ ทุกขังทั้ง ๕ อนัตตาทง้ั ๕ วางขันธ์ ๕ ธาตุ ๔ ได้แล้ว
ก็อยูใ่ ครอยมู่ ัน รปู ํ อนิจจฺ ํ เวทนา อนิจจฺ า ทกุ ขทํ ้งั ๕ อปุ าทานท้งั ๕ ก็ยดึ อนั นแ้ี หละ
เวทนาเกิดขนึ้ กย็ ึดอันนแี้ หละ ทุกขก์ ็เกดิ ขึ้นที่น่ี สมทุ ยั กเ็ กิดข้ึนที่น่ี
207
รูจ้ กั สัจธรรมท้งั ๔ ยกกายอันนแ้ี หละขึ้นพิจารณาเปน็ ฐาน เปน็ ท่ีสรา้ งปญั ญา
จงึ จะรูแ้ จง้ เหน็ จริง ยกกายยกใจนี้ข้นึ มเี ท่านีแ้ หละ ถ้าสง่ ใจออกไปสูภ่ ายนอกแล้ว
เปน็ วชิ ชาภายนอกไป เปน็ แผนทป่ี รยิ ตั ธิ รรม วางแผนทแ่ี ลว้ นอ้ มเขา้ มาสกู่ าย นอ้ มเขา้
มาสู่ใจ มีสองอย่างเท่าน้ี อย่างอ่ืนไม่ใช่ทางของมรรคจิตท่ีสร้างปัญญาให้เกิดขึ้น
พระธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ชี้ใส่กายชี้ใส่ใจน้ี นอกจากกายใจไปแล้ว
มิใชท่ างของอรยิ มรรค
ภารา หเว ปจฺ กขฺ นฺธา ภาระหาโร จ ปุคคฺโล วางขันธ์ ๕ ธาตุ ๔ แลว้ ก็รแู้ จง้
เหน็ จรงิ อนจิ จงั ทง้ั ๕ ทกุ ขงั ทง้ั ๕ ถา้ เขา้ ไปยดึ ไวเ้ ปน็ ทกุ ขท์ ง้ั สนิ้ อนตั ตาทงั้ ๕ ไปยดึ
เป็นตวั เปน็ ตนมันกเ็ ป็นทุกข์
เวทนา เวลามนั เจบ็ ปวดขนึ้ มา ตอ้ งกำ� หนดใหม้ นั รู้ ทกุ ขสจั จม์ นั กเ็ กดิ ขน้ึ สมทุ ยั สจั จ์
มันก็เกดิ ขึน้ อริยสจั ธรรมทง้ั ๔ มนั ก็เกิดขึน้ ทนี่ แี่ หละ ทกุ ขเ์ กดิ ขน้ึ ภายในกาย ถา้ รู้
เทา่ ทันตามความจรงิ มนั ก็ใช้ได้ มนั เกดิ ขึน้ ในขันธ์ ๕ ธาตุ ๔ นี้แหละ
รปู ขนั ธแ์ ยกออกเปน็ ดนิ นำ�้ ลม ไฟ กำ� หนดดใู นกายนแ้ี หละ ถา้ ออกนอกกาย
มนั กลายเปน็ อดีตอนาคตไป อดีตนนั้ มนั มากมายมาแต่ดึกดำ� บรรพ์ มันไหลมาสู่ใจ
ปฏบิ ตั ใิ หร้ แู้ จง้ ดว้ ยตนเอง สวากขฺ าโต ภควตา ธมโฺ ม สนทฺ ฏิ €ฺ โิ ก อกาลโิ ก เอหปิ สสฺ โิ ก
โอปนยิโก ปตฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺูหีติ รู้แจ้งเห็นจริง รู้กาย รู้ใจ พระธรรม
แปดหมน่ื สี่พันพระธรรมขนั ธ์ เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ กช็ ี้ลงสู่กายสใู่ จนแ้ี หละ
ธรรมท้งั หลายไหลลงมาจากเหตุ เหตมุ นั เกดิ มาจากน้แี หละ ตา หู จมูก ลน้ิ กาย ใจ
เปน็ เหตุแตล่ ะอย่างๆ ศีลปาฏโิ มกข์ หรือ ปาฏิโมกขสังวรศีล ก็เอาอินทรียท์ ัง้ ๕
นแ้ี หละ สำ� รวมอินทรยี ์ ๕ นีแ้ ล้ว ทา่ นเรียกว่า ปาฏิโมกขสงั วร ตา หู จมกู ลิ้น กาย
เปน็ ทางวนิ ยั ท้งั ๕ ขนั ธ์ ๕ เป็นเปรตเป็นผี ขันธ์ ๕ เปน็ ไฟไหม้ ถา้ ปฏบิ ตั อิ อกไป
จากกายจากใจของเรา หา่ งจากทางของมรรคไปเสยี ตอ้ งใหร้ แู้ จง้ ในกาย ตอ้ งใหร้ แู้ จง้
ในใจ
พจิ ารณาใหม้ าก ทำ� ใหม้ าก อาศยั ความเพยี รรกั ษากายของตนใหเ้ ปน็ ทางสจุ รติ
ธรรม รกั ษาใจของตนให้เปน็ ทางสุจรติ ธรรม รกั ษาวาจาของตนให้เป็นสจุ ริตธรรม
208
กายบรสิ ทุ ธ์ิ วาจาบรสิ ทุ ธ์ิ ใจบรสิ ทุ ธิ์ อาทกิ ลั ยาณงั ศลี กบ็ รสิ ทุ ธิ์ เมอื่ ศลี บรสิ ทุ ธิ์ สมาธิ
ก็เกดิ ภาวนาให้เกดิ สมาธิขน้ึ มชั เฌกลั ยาณัง ปรโิ ยสานกัลยาณัง รแู้ จ้งเหน็ จรงิ ใน
สจั ธรรม พจิ ารณากายพจิ ารณาใจน้ี เมอ่ื สงั ขารมนั เกดิ มนั ดบั เปน็ อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า
มันเกดิ อยอู่ ย่างน้ัน มันดบั อยูอ่ ยา่ งนั้น ร้ทู เ่ี กดิ ของธรรม รทู้ ดี่ ับของธรรม เล้วมันก็
เขา้ ท่ีสงบเทา่ น้ัน
ปาราชกิ ๔ กด็ ี สงั ฆาทเิ สส ๑๓ กด็ ี อนยิ ต กด็ ี นิสสคั คยิ ปาจติ ตยี ์ ก็ดี มันก็
เกิดในทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ของเรานแี้ หละ ตอ้ งส�ำรวมระวังปาฏิโมกขท์ ง้ั ๕
กายกบ็ รสิ ุทธ์ิ วาจากบ็ รสิ ทุ ธ์ิ ใจกบ็ รสิ ทุ ธ์ิ เปน็ อาทิกลั ยาณงั ศลี บริสทุ ธ์ิ สมาธิก็
เกดิ ขนึ้ ภาวนากบั สมาธิกอ็ นั เดยี วกนั นนั่ แหละ ภาวนา พอจติ สงบลง มันกเ็ ปน็ สมาธิ
ศีลท�ำให้สมาธิเกิด ภาวนากับสมาธิก็อันเดียวกันน่ันแหละ ศีลท�ำให้สมาธิเกิดเป็น
มชั เฌกลั ยาณงั พจิ ารณาเกดิ ปญั ญารแู้ จง้ เหน็ จรงิ จนบรรลมุ รรคผลนพิ พาน มนั กเ็ ปน็
ปริโยสานกัลยาณัง
อยา่ ไปร้เู พยี งแผนท่ี ถา้ ร้เู พยี งแผนทีม่ ักเกิดการทะเลาะววิ าท ต้องน้อมเข้ามา
ปฏิบัติในกาย วาจา ใจ ของเรา ต้องศึกษาให้รู้จักภูมิประเทศคือกายของเรานี้
รกั ษาศลี ๕ ประจำ� คอื ขาสอง แขนสอง หวั หนงึ่ นอ้ มเขา้ มาหาตวั เรานแ้ี หละ อนั นแี้ หละ
คือตัวของศลี แท้ เปน็ โลกุตรศีล หรืออริยกันตศลี ศลี ประจ�ำตน
209
มรณานุสสติ
ความเกดิ มแี ลว้ ความแก่ ความตาย มนั กม็ อี ยู่ ไมม่ ใี ครพน้ ตาย เกดิ กเ็ กดิ เตม็
แผน่ ดนิ ตายกต็ ายเตม็ แผ่นดินอยู่ เกิดแลว้ ตาย ตายแล้วเกิดอยูน่ แี้ หละ ความตาย
เตม็ แผน่ ดนิ อยู่ เปน็ เปด็ ไก่ หมู หมา เขากต็ าย มนษุ ยช์ ายหญงิ กต็ าย ใครละ่ เกดิ มา
แลว้ ไมต่ าย ถ้าเกดิ มาขวางโลกเขา เกดิ มาแลว้ ไมต่ าย ไมเ่ ฒา่ ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
ขวางบา้ น ขวางแผน่ ดนิ ขวางโลก เขาอยไู่ ดอ้ ยา่ งไร ใหภ้ าวนามรณานสุ สตดิ อู ยา่ งนแี้ หละ
เปน็ เปด็ เปน็ ไก่ มนั กต็ าย เปน็ วัว ควาย ชา้ ง มา้ หมู หมา แมว เขาก็ตาย คนแก่
กต็ าย คนหนมุ่ กต็ าย ถา้ กลวั ตาย มใี ครพน้ ตายไหม ทกุ คนทกุ สง่ิ สรปุ ลงสคู่ วามตาย
ทงั้ หมด
เป็ด ไก่ วัว ควาย หมู หมา ถ้ามันไมต่ ายเอง เขาก็ฆา่ เอาให้มันตาย อยู่ไหน
สภาพไหนละ่ มนั จะพน้ จากความตาย ถงึ จะมอี ายผุ า่ นพน้ ไปรอ้ ยปพี นั ปี มนั กต็ อ้ งตาย
อยนู่ นั่ แหละ สจั ธรรมขอ้ นใ้ี ครๆ กพ็ น้ ไปไมไ่ ด้ นงั่ อยกู่ ต็ าย นอนอยกู่ ต็ าย กนิ อยกู่ ต็ าย
ไมก่ นิ กต็ าย เจบ็ ปว่ ยอยกู่ ต็ าย ไมเ่ จ็บไม่ปว่ ยมันกต็ าย ความตายมันมอี ยทู่ ุกสถานะ
ทกุ สถานที่ ความเกดิ ความแก่ ความเจบ็ ความตาย มนั ครอบงำ� เราอยทู่ กุ เมอื่ พจิ ารณา
ใหร้ แู้ จง้ เหน็ จรงิ เสยี แมอ้ บายโลกเขากฆ็ า่ กนั กนิ กนั อยู่ ความตายจงึ ไมม่ ที จ่ี ะหลกี เรน้
ซอ่ นหนี
ทพี่ งึ่ อยา่ งอนื่ ไมม่ ี นอกจาก พทุ ธฺ ํ ชวี ติ ํ ยาว นพิ พฺ านํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ธมมฺ ํ ชวี ติ ํ
ยาว นพิ พฺ านํ สรณํ คจฺฉามิ, สงฺฆํ ชวี ิตํ ยาว นพิ พฺ านํ สรณํ คจฉฺ ามิ ท่พี งึ่ อย่างอื่น
210
ของขา้ พเจ้าไมม่ ี นอกจากพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ เราตอ้ งหาทพี่ งึ่ อนั ประเสรฐิ
ไว้เสยี แต่บัดนี้ แตย่ งั มชี ีวิตอยู่อย่างน้ี ยงั แข็งแรงอยอู่ ยา่ งน้ี ถา้ ร่างกายจติ ใจมันไม่
อ�ำนวยแลว้ จะไปคิดถงึ อะไร จะไปยึดไปถือเอาอะไรเปน็ ท่ีพึง่ มันยาก
ศีล เรากต็ ้องรกั ษามันให้ดี ศลี กค็ ือการน�ำความผดิ ความชวั่ ออกจากกายจาก
วาจาของเรานแ้ี หละ ธรรมทัว่ ท้ังสน้ิ แปดหมนื่ สีพ่ ันพระธรรมขันธ์ พระพุทธองค์ชีล้ ง
สูก่ ายสใู่ จของเรา พระองคท์ รงบญั ญัตพิ ระวนิ ัย กท็ รงบัญญัติเพ่ือให้รักษาไตรทวาร
พระอปุ ชั ฌายอ์ าจารยท์ า่ นสอนมลู กมั มฏั ฐาน เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ ทา่ นกส็ อน
ย�ำ้ ลงในสงิ่ ของที่มอี ยูใ่ นตวั เรา
ปัญจกกัมมัฏฐาน ๕ น้ีแหละเป็นที่ต้ังของกรรม กรรมมันหมุนอยู่น้ีแหละ
ในไตรทวารนแ้ี หละ ความรกั ความโลภ ความโกรธ อนั ใด มนั หมนุ อยใู่ นฐานอนั นแี้ หละ
กุสลา ธมมฺ า อกสุ ลา ธมมฺ า กศุ ลนำ� สัตว์ให้ไปเกดิ ในทางเจริญ อกศุ ลน�ำสัตวไ์ ปสู่
อบายภูมิ มีเปรต นรก สัตว์เดรจั ฉาน ก็ดี มนั หมุนอยูใ่ นไตรโลกอนั นี้ ตกอยใู่ น
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา นี้ เกดิ แก่ เจบ็ ตาย ของจรงิ มันมีอยู่ประจ�ำอยู่
อย่างน้ี มันหมนุ เปน็ กงจกั รบดสตั ว์โลกทงั้ หลาย อยูป่ ระจ�ำอิริยาบถ เจบ็ แขง้ เจบ็ ขา
ปวดหลัง ปวดเอว เจ็บไขไ้ ด้ป่วย เป็น อนิจจฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา มันแสดงใหเ้ ราดอู ยู่
อยา่ งนี้ เวน้ แตเ่ รามองไมเ่ หน็ มนั เทา่ นนั้ สว่ นมากจะตกอยใู่ ตอ้ ำ� นาจของสงั ขาร มนั ปรงุ
มนั แตง่ เปน็ อดตี อนาคตไป สว่ นปจั จบุ นั สจั ธรรมทเี่ ขา้ แสดงตวั ใหป้ รากฏอยู่ มนั ไมใ่ คร่
เอามานึกมาคิด ไมเ่ คยนอ้ มเข้าหากายหาใจของเรา มันคอยแตจ่ ะเปน็ ธรรมเมาไป
211
วนิ ัยและศลี คอื การนำ� ความช่ัวออก
อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า ใหพ้ จิ ารณาเรอ่ื งของสงั ขาร เขาปรงุ เขาแตง่ เขาเกดิ เขาดบั
เกดิ ขน้ึ แล้วกด็ บั ไปๆ ถ้ามสี ติอยกู่ ็น�ำออกเสยี วินยั กค็ อื การน�ำความชั่วทเี่ กิดทางตา
ทางหู ทางจมูก ทางล้ิน ทางกาย ทางใจ นีแ้ หละออกใหห้ มด
รปู มาทางตา เปน็ หญงิ กต็ าม เปน็ ชายกต็ าม รปู มวี ญิ ญาณกด็ ี ไมม่ วี ญิ ญาณกด็ ี
น�ำออกในปัจจุบนั จาโคปฏินสิ สฺ คโฺ ค ละคืนเสยี เขามาดา่ มาวา่ กด็ ี เขาด่าว่าบา้ กต็ าม
หา่ กต็ าม กช็ า่ งเขา เปน็ ของภายนอก ของเรากม็ เี ตม็ อยใู่ นทอ้ งในไส้ สละคนื ใหม้ นั หมด
ของเรากม็ ีอยู่เต็มตัว ความไมด่ นี ำ� ออกในปจั จุบนั น้ี ความไมพ่ อใจท่เี กดิ ทางหกู ต็ าม
ทางตากต็ าม ใหน้ ำ� ออกเสยี ความไมพ่ อใจนนั่ แหละทำ� ใหเ้ ราเดอื ดรอ้ น อาศยั ความพาก
เพยี รนน่ั แหละในการละ การวาง อตตี า ธรรมเมา อนาคตา ธรรมเมา อดตี อนาคตมนั พา
ให้เปน็ อดตี มนั ก็เกดิ ข้นึ น้แี หละ อนาคตมันกเ็ กิดขน้ึ นีแ้ หละ ปจั จบุ ันมันก็เกดิ ขน้ึ
นแี้ หละ
ทั้งอดีตทงั้ อนาคตกน็ �ำออกให้หมด ทุกขสัจจ์ มันกเ็ กดิ ขึ้นทับรูปกายของเรานี้
เจบ็ แขง้ เจบ็ ขา เจบ็ หลงั เจบ็ เอว กำ� หนดเขา้ ใหร้ เู้ ทา่ สงั ขารทมี่ นั ปรงุ มนั แตง่ มนั เกดิ
มันดบั เป็น อนิจฺจํ ทกุ ฺขํ อนตฺตา มนั เกิดอยู่นี่แหละ ทกุ ขสจั จ์มันกเ็ กิดอยู่นีแ่ หละ
สมั มากมั มนั โต การงานของกาย เปน็ อรยิ มรรค สมั มาวาจา สาวเขา้ มาหาทสี่ ดุ ทกุ ขสจั จ์
มนั กเ็ กิดอยูท่ ่ีนี่
212
ความหลง ความโกรธ นม้ี นั เปน็ มลู รากของกเิ ลสพนั หา้ ตณั หารอ้ ยแปด เกดิ ความ
พอใจกเ็ พราะตณั หา เกดิ ความไมพ่ อใจกเ็ พราะตณั หา ความทกุ ขเ์ กดิ ขน้ึ กเ็ พราะตณั หา
น้แี หละ อดีตท่ลี ว่ งมาแลว้ ไปกาลนาน จติ มนั เอาอารมณ์อันนัน้ แหละมาคิด ตดั อดตี
อนาคตเสยี เอาอารมณป์ จั จุบัน ให้จติ ด่ิงอย่ใู นปจั จบุ นั
ศลี ๕ กต็ าม ศลี ๘ กต็ าม ศีล ๑๐ ก็ตาม ท่านบญั ญัติลงในกายนี้ บญั ญตั ิ
ลงในใจนี้ ใหม้ นั รอู้ ยู่ในใจนี้ ใจนีเ้ ปน็ ตัวเหตุ ธรรมทัง้ หลายไหลมาจากเหตุ น�ำทกุ ข์
ใหเ้ สวยก็ตวั เหตนุ ้ีแหละ ให้กำ� หนดรเู้ ท่าเหตุ เหตุดับแลว้ ตณั หาก็ดบั ไป
อดีตนี้ส�ำคัญ มันมาแต่ดึกด�ำบรรพ์ อดีตน้ีท่านหมายเอาทั้งกุศลและอกุศล
ทัง้ หมด เมื่อจติ คิดขึ้นมาแล้ว มนั กไ็ ปยึดไปถอื เอาส่ิงนีบ้ ้าง สงิ่ นน้ั บ้าง ยึดไปยดึ มา
กเ็ ดอื ดรอ้ นเจา้ ของเองนนั่ แหละ เดอื ดรอ้ นใจ มนั จะไปเดอื ดรอ้ นทไ่ี หน ใจนแ่ี หละเปน็
ตวั เหตุ กำ� หนดทกุ ขเ์ ขา้ ๆ ใหร้ เู้ ทา่ ถงึ สภาพของเหตแุ ลว้ อยา่ นำ� เอามาหมกั ไวใ้ นจติ ในใจ
พยายามสลดั ออก สง่ิ ทไ่ี มด่ ที งั้ หลายอะไรกเ็ อาเขา้ มาไวใ้ นใจ มนั เดอื ดรอ้ น ละอยทู่ ใี่ จน่ี
วางอยทู่ ใี่ จน้ี ละ วาง รอู้ ยทู่ ี่ ตา หู จมกู ลนิ้ กาย อารมณท์ งั้ ๕ คอื รปู เสยี ง กลนิ่ รส
โผฏฐพั พะ หรือกามารมณท์ ง้ั ๕ มนั ก็ไหลออกไปจากนแ้ี หละ ให้รู้เท่าทันว่าเราจะ
ตง้ั อยูใ่ นศีลต้งั อยใู่ นธรรม จะท�ำกจิ ของตนจะทำ� จิตของตนใหม้ นั สงบ พิจารณาอยู่
อยา่ งนี้
อดตี ที่เป็นสว่ นดกี ็ตาม เปน็ สว่ นช่วั กต็ าม มันกผ็ ่านไปแลว้ เราจะทำ� จิตของเรา
ไม่ตอ้ งเกย่ี วกับอดีต อดีต อนาคต มนั กเ็ กดิ จากกายจากใจของเราน้แี หละ พยายาม
อยา่ ให้มันเขา้ มาเก่ยี วข้อง ถ้าเราก�ำจดั มนั ได้ เราก็สบาย ให้มีเฉพาะอารมณป์ ัจจุบนั
กำ� หนดทกุ ขร์ เู้ ทา่ เหตุ เหตดุ บั แลว้ กส็ ำ� เรจ็ มรรค ผล นพิ พาน สำ� เรจ็ กส็ ำ� เรจ็ อยใู่ น
นแี้ หละ ไมไ่ ดส้ ำ� เรจ็ ทอ่ี น่ื หนา สำ� เรจ็ อยทู่ ่ี ตา หู จมกู ลนิ้ กาย ใจ นแ่ี หละ ความพอใจกด็ ี
ความไมพ่ อใจกด็ ี มนั ตอ้ งนำ� ออกจากใจของเรานี้ เหตไุ มใ่ ชน่ ำ� ออกจากทอ่ี น่ื ใหน้ ำ� ออก
จากใจของเราน้ี ถา้ ใจผดิ กน็ ำ� ความผดิ ออกจากใจ ไมพ่ อใจสง่ิ ใดสง่ิ หนงึ่ มรี ปู เปน็ ตน้
มันก็เกดิ ขนึ้ จากใจน้ีแหละ เอาศีลนแี้ หละนำ� ออกจากใจ อดตี ส่วนดกี ็ดี สว่ นไม่ดีกด็ ี
มันก็น�ำเอามาคดิ อันน้ีสำ� คัญ ถา้ เรารทู้ นั มันแลว้ มนั กจ็ ะดบั ไปหมด
213
รปู เสยี ง กล่ิน รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ปลอ่ ยให้เขาผา่ นไป ผ่านมาดีก็ตาม
ไมด่ กี ต็ าม มนั มอี ยปู่ ระจำ� โลกอยอู่ ยา่ งนน้ั แหละ นำ� ออกจากใจเสยี ใหม้ นั ผอ่ งใส สวา่ ง
รเู้ ทา่ ทนั เหตดุ บั ไป มนั กร็ แู้ จง้ มรรค รแู้ จง้ กร็ แู้ จง้ อยภู่ ายในนแ้ี หละ จะไปรแู้ จง้ ทไ่ี หน
รู้แจง้ อนั นห้ี มดแลว้ ธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ มันกแ็ ล้วหมด รู้อยา่ งอื่นไมช่ ื่อว่ารู้หมดรทู้ ั่ว
ตอ้ งรจู้ กั ตนเอง กายใจของตนเองนแ้ี หละ รปู อยา่ งอน่ื ทมี่ อี ยกู่ เ็ ปน็ อยา่ งเดยี วกบั กายน้ี
รคู้ วามจรงิ อนั เปน็ สจั ธรรมแลว้ ความทกุ ขค์ วามเดอื ดรอ้ นกไ็ มม่ ี อนั นกี้ ค็ อื ทส่ี ดุ พวกนนั้
ไม่มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพราะไม่มสี มมติ ตน้ ไม้ เถาวลั ย์ กต็ าม มอี ยู่เฉพาะที่เราน้ี
ทเี่ ราสมมตเิ อา เราอยา่ ไปยดึ เอาถอื เอา วาง ละ ใหม้ นั หมด ความชว่ั ทเี่ กดิ ทางใจ เรากน็ ำ�
ออกจากใจ เอาศลี คอื แขนสอง ขาสอง หวั หนง่ึ นแี้ หละนำ� ออก ไดแ้ ก่ การสำ� รวมระวงั
ไมล่ ะเมดิ แมโ้ ทษเพียงเลก็ นอ้ ย
รู้จักท่ีเกิดของธรรมท่ีดับของธรรมแล้วก็ใช้ได้ ต้องตัดอดีตอนาคตให้เหลือ
ปจั จบุ นั รา้ ยกต็ าม ดกี ต็ าม สว่ นมากมกี ามตณั หาเปน็ ตวั นำ� ภวตณั หากด็ ี วภิ วตณั หากด็ ี
ทัง้ สามนี้เปน็ ตัวท�ำให้สตั ว์โลกหมุนตัวเป็นเกลยี ว ทงั้ ความพอใจ ท้งั ความไมพ่ อใจ
ถา้ เกิดขึ้นก็ให้นำ� ออกเสยี นำ� ออกจากจติ จากใจของเรานแี้ หละ ไม่รกั ไม่ชัง กใ็ ชไ้ ด้
214
เรอ่ื งสละออกจากใจ
...จาโค ปฏินสิ ฺสคฺโค
สละคนื ใหเ้ ขาเสยี มนั กใ็ จดี มนั ไมย่ อมคนื นะซี นนั้ แลว่ มนั ยงั ถอื ตนถอื ตวั อยู่
ทำ� อยา่ งไรถงึ จะใหม้ นั ยอมคืน
จาโค ปฏินสิ ฺสคฺโค สละคืนเหยี ครนั้ เขาว่าผิดหู หูมันเปน็ เหตุ ตา หู จมกู
ลิน้ กาย เขากเ็ ปน็ ปกตอิ ยู่แล้ว ใจเขาก็เป็นปกตอิ ยู่แลว้ รปู เสียง กล่ิน รส สัมผัส
กามารมณ์ทั้ง ๕ กามคณุ ทั้ง ๕ เขาก็มอี ยอู่ ยา่ งน้นั ... เราเกดิ มา นินทา สรรเสรญิ กด็ ี
ดา่ วา่ ผบี า้ ผบี อ... เขากว็ า่ อยอู่ ยา่ งนนั้ ละ เราอยา่ ไปรบั เอามาหมกั ไวใ้ นใจ ปลอ่ ยใหเ้ ขา
ผา่ นไปผ่านมาเหยี อนั ใดเขากเ็ ป็นปกตอิ ยแู่ ลว่ ตา หู จมูก ล้ิน กาย เขาก็เปน็ ปกติ
อยแู่ ลว้ จะไปเดอื ดรอ้ นทำ� ไมละ่ ไปหอบเอาของเขานะซมี นั เดอื ดรอ้ น เตม็ ขป้ี มุ๋ นนั่ แลว่
บา้ ก็มีอยู่น่ีแลว่ งา่ ว ก็มีอยู่นี่แล่ว นินทาสรรเสรญิ ก็มีอยนู่ ้ีแลว่
หมายเหต:ุ หลวงปูแ่ หวนทา่ นเทศนเ์ ป็นสำ�เนยี งเหนอื ปนอสี าน ขา้ งบนนไ้ี มม่ พี มิ พ์ผิด เขียนไปตามสำ�เนียงของท่าน
215
ตัณหาเปน็ เชือกผูกคอ ปอผกู ศอก โซ่ลา่ มขา
ตัณหาท้ังสามมันปกครองสัตว์ทั้งโลก ความพอใจก็ดี ความไม่พอใจก็ดี
จัดเป็นตัณหา กามตณั หา ภวตัณหา วภิ วตณั หา ตณั หาท้ังสามนี้ เปน็ ไตรวัฏฏอ์ ยูน่ ี่
มันหมุนอยนู่ ่ี กามตณั หา ภวตัณหา วภิ วตณั หา เปรยี บเหมอื นธารแม่นำ�้ นอ้ ยใหญ่
นับไม่ถว้ น ไหลมาสู่ทะเลอนั ไมม่ ีฝัง่ ไมม่ ที เี่ ต็มฉนั ใด ความพอใจกด็ ี ความไม่พอใจ
ก็ดี ก็เพราะกามตัณหานเ้ี อง
กามตัณหา เปรียบเหมือนเชือกผูกคอ ภวตัณหา เปรียบเหมือนปอผูกศอก
วภิ วตณั หา เปรยี บเหมอื นโซผ่ กู ขา จะเอาอาวธุ มมี ดี หรอื ขวานมาตดั มนั เทา่ ไร มนั กไ็ มข่ าด
ยกเว้นแต่ผู้มีปัญญาบารมี มนุษย์ผู้อาชาไนยเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ต่อสู้สงคราม
กามกเิ ลส คอื ความพอใจ ความไมพ่ อใจกด็ ี ความพอใจ ความไมพ่ อใจ นแ้ี หละตดั มนั
ไม่ขาด เวลาเราทำ� ความเพียร บางครง้ั ดเู หมอื นกบั สบาย เยน็ ใจเย็นกาย แตพ่ อเร่ง
ความเพียรเขา้ มันกลับเป็นไปอีกอย่างหน่ึง มนั ไม่ใชง่ า่ ยพวกกามกเิ ลสน้ี
มนษุ ย์ผอู้ าชาไนย ผู้องอาจแกลว้ กลา้ สามารถจะตอ่ สู้กามกิเลสน้อี นั เปน็ ขา้ ศกึ
ในสงครามการตอ่ สู้ ต้องระวงั อินทรีย์ ตามันกเ็ ปน็ เหตอุ นั หน่ึง หกู ็เปน็ เหตุอนั หนง่ึ
จมกู กเ็ ปน็ เหตุอันหนึ่ง กาย ใจ เปน็ เหตอุ ันหนง่ึ ธรรมท้งั หลายไหลมาจากเหตุ
กายนเ้ี ปน็ มรรค เปน็ ทตี่ งั้ ของมรรค กายสมบตั อิ นั นท้ี า่ นยกขน้ึ เปน็ มรรค นะ เปน็
พทุ โธ โม เปน็ พระเจา้ อาศยั บดิ ามารดาเกดิ กเ็ พราะกามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หา
216
กามตณั หานมี้ นั ไมพ่ อ ตณั หา ๓ นก้ี เ็ กดิ ขนึ้ จากกายจากใจเรานแ้ี หละ ไดล้ กู ไดห้ ลานมา
มันก็พอใจ ชังก็เพราะกาม เกิดก็เพราะกาม ทุกข์ก็เพราะกาม ตายก็เพราะกาม
สขุ ก็เพราะกาม นก้ี ามตัณหา
ทา่ นจงึ เปรยี บว่า กามตณั หาเหมอื นเชือกผกู คอ ภวตัณหาเหมือนปอผูกศอก
วภิ วตณั หาเหมอื นโซผ่ กู ขา เพราะความรกั ความโลก ความโกรธ ความหลง มนั ไหลมา
แตต่ ณั หาท้งั สามนี้แหละ การจองล้างจองผลาญฆ่าฟนั กันก็เพราะกามนี้แหละ ความ
พอใจก็เพราะกาม ความไม่พอใจก็เพราะกามน้ีแหละ อนิจจังทั้ง ๕ ก็ช้ีเข้ามาใน
นแ้ี หละ ทกุ ขงั ท้ัง ๕ ก็ดี อนัตตาทัง้ ๕ ก็ดี กช็ เ้ี ขา้ มาใน รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร
วิญญาณ ไมเ่ ทยี่ ง เปน็ ทุกข์ อนตั ตา ความไม่มีตัว ไม่มตี น ถ้าเข้าไปยดึ ถือ มนั ก็
เปน็ ทกุ ข์ สภาพเหลา่ นมี้ อี ยูเ่ ปน็ อยูอ่ ย่างนี้
แมแ้ ตพ่ ่อแม่จะไปแต่งให้เปน็ อยา่ งนนั้ อย่างนก้ี ็แต่งไม่ได้ แตถ่ ้าเป็น ปญุ ญา-
ภสิ งั ขาร อปญุ ญาภสิ งั ขาร อนั นเี้ ราแตง่ เอาเองได้ แตง่ ไมใ่ หม้ นั โลภ แตง่ ไมใ่ หม้ นั หลง
แตง่ ไมใ่ หม้ นั โกรธ ไมใ่ หม้ นั โลภ โกรธ หลง อนั เปน็ รากเหงา้ แหง่ กเิ ลสทงั้ หลาย เพราะ
ตณั หาน้แี หละเปน็ เหตุ ท�ำให้เปน็ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ใหม้ นั หมดโลภ หมดโกรธ
หมดหลง แลว้ มนั ก็สบาย ถ้าโลภก็ยงั ละไมไ่ ด้ โกรธก็ยงั ละไมไ่ ด้ มันเกดิ ขึ้นเปน็ การ
ท�ำลายตนเองเพราะไม่รูจ้ ักพอ
โลภะ โทสะ โมหะ เป็นรากเหง้าของกิเลสพันห้าตัณหาร้อยแปด เราเกิดก็
เพราะกาม ตายกเ็ พราะกาม ทกุ ขก์ เ็ พราะกาม ความพอใจกเ็ พราะกาม ความไมพ่ อใจ
กเ็ พราะกาม ความรกั ความชงั ทเี่ กดิ ขนึ้ กเ็ พราะกามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หา นแี้ หละ
จะไปเอาทีไ่ หน พระธรรมแปดหม่นื สีพ่ ันพระธรรมขันธ์ ท่านชีล้ งสู่กายสใู่ จนแี้ หละ
อันเปน็ สมบัติของเจา้ พ่อเจา้ แม่ อันเป็นฐานทตี่ ง้ั แหง่ ศีล เป็นทีต่ ้ังแหง่ ธรรม น่แี หละ
สมบตั อิ นั น้ี ความโลภ ความโกรธ ความหลง มนั เกดิ ขนึ้ ภายในนแี้ หละ ไมไ่ ดเ้ กดิ ทอ่ี นื่
ภาวนาพุทโธกด็ ี ธัมโมกด็ ี สงั โฆกด็ ี ระวงั อยา่ ใหเ้ ป็นธรรมเมา ตอ้ งก�ำหนดลง
ส่กู ายสู่ใจของเราน้แี หละ อย่าไปก�ำหนดท่ีอ่ืน
217
ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ไปเมอื งพมา่ อนิ เดยี เขากส็ อนอยา่ งนแ้ี หละ สอนอยา่ งเดยี วกนั
นแี้ หละ ไปดทู ปี่ ระสตู ิ ทตี่ รสั รู้ ทปี่ รินพิ พาน มันกเ็ ห็นแตด่ ิน สู้สปุ ฏิปันโน น้อมเขา้
มาสกู่ าย ปฏบิ ตั ใิ หร้ แู้ จง้ ในภายในมนั จงึ ใชไ้ ด้ มวั รแู้ ตภ่ ายนอกกลายเปน็ ธรรมเมาไป
เมาโลภ เมาโกรธ เมาหลง เมาตวั เมาตน พวกนเี้ ปน็ ธรรมเมาท้ังน้ันแหละ
อาจารย์วิปัสสนาของพม่าสมัยก่อนสอน กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา
จติ ตานปุ สั สนา ธมั มานปุ สั สนา เวลาเราถามเขา้ จรงิ ๆ จบั ผมบนหวั ใหด้ ู ถามวา่ “ผมมี
กเี่ สน้ ขนในตวั เรานม้ี กี เี่ สน้ ลำ� ไสข้ องหญงิ ยาวกศี่ อกกวี่ า” เขาบอกวา่ “ไมร่ ”ู้ นนั่ ไมร่ ู้
ยงั จะไปช้ีอกี มันต้องคน้ เข้ามาหาภายในนแี้ หละ ตน้ เหตนุ ้ี ตา มนั ก็เปน็ เหตอุ นั หน่ึง
หู มนั กเ็ ปน็ เหตอุ นั หนง่ึ จมกู ลน้ิ มนั กเ็ ปน็ เหตอุ นั หนงึ่ กาย ใจ มนั กเ็ ปน็ เหตอุ นั หนง่ึ
อกุศลธรรมมนั เกดิ ขึ้น มนั เกิดในเหตเุ หล่าน้ี ศลี ๕ ก็ดี ศีล ๘ ก็ดี ก็รวมเขา้ มาใน
นแี้ หละ ถ้านอกไปจากน้ีเป็นความหลง เป็นธรรมเมาไป
จำ� ไวใ้ หแ้ มน่ พระธรรมแปดหมนื่ สพ่ี นั พระธรรมขนั ธ์ ชไี้ ปในกายน้ี ชไี้ ปในใจนี้
ตอ้ งเอาสมบตั ขิ องเจา้ พอ่ เจา้ แมน่ เี้ ปน็ ทต่ี งั้ เปน็ ฐาน ของศลี ของทาน ของภาวนา เอาสมบตั ิ
อนั นเี้ ปน็ ทต่ี งั้ ของปญั ญา เพอ่ื ทำ� ลายอกศุ ลธรรม คอื ความโลภ ความโกรธ ความหลง
พระพมา่ ถามวา่ “วินี วนิ ัย ศีลปฏิบตั อิ ย่างไร วินัยปฏิบัตอิ ยา่ งไร”
บอกเขาไปวา่ ปฏบิ ตั นิ อ้ มเขา้ มาสกู่ ายสใู่ จนี้ ตอ้ งรเู้ หตุ สำ� รวมระวงั เหตุ ตาเปน็ เหตุ
ตาเห็นรูป ถา้ ไม่รู้เท่าทันมนั ความยนิ ดกี ็เกดิ ขน้ึ ความยนิ รา้ ยกเ็ กิดขึ้น ความโลภ
ก็เกิดขนึ้ เพราะเหตนุ นั้ เราต้องรู้เหตุ ส�ำรวมระวังเหตุ ให้นอ้ มเข้ามาสู่กาย เอากาย
เปน็ มรรค เอากายเปน็ ผล คน้ ลงในสกลกายของเราน้ี วินี วนิ ัย กค็ อื การนำ� ความชว่ั
ความผิดออกจาก กาย วาจา ใจ น้ีแหละ นแี้ หละเป็นวนิ ัย
ตอ้ งทำ� ใหม้ าก ใหม้ สี ติ เขา้ หาพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ปฏบิ ตั ใิ หร้ จู้ กั ทเ่ี กดิ
ของธรรม รู้จักทีด่ ับของธรรม ถา้ บรกิ รรมพุทโธ ก็เอาพทุ โธไป ถา้ พดู มาก ฟงั มาก
ทำ� นอ้ ย กไ็ มไ่ ดผ้ ล แตถ่ า้ ฟงั แตน่ อ้ ย เอาความหมน่ั ความเพยี รใหม้ าก ภาวนาใหม้ าก
น้อมเข้ามาสู่กายสใู่ จของตน อุปาทานทงั้ ๕ อนิจจงั ทง้ั ๕ ทกุ ขังทั้ง ๕ อนตั ตาท้ัง ๕
218
ภาราหเว ปญจฺ กขฺ นธฺ า ภาระหาโร จ ปคุ คฺ โล วางขนั ธ์ ๕ ธาตุ ๔ ไดแ้ ลว้ อปุ าทานทง้ั ๕
อนจิ จงั ทั้ง ๕ ทกุ ขังท้งั ๕ รวมลงในธาตุ ๔ ขนั ธ์ ๕ น้ีแหละ ขันธแ์ ยกออกเป็นดนิ
เปน็ น�้ำ เปน็ ลม เปน็ ไฟ พจิ ารณาอนั นีใ้ ห้มนั รู้ใหม้ ันละมนั วาง ภาวนาพทุ โธนี้แหละ
เหน็ วา่ มนั นอ้ ยๆ อย่างนี้ ไปดถู ูกไม่ได้ ความหม่นั ความเพียรนีแ้ หละ เป็นประโยชน์
มาก
ถ้าฟงั มากๆ ได้เฉพาะค�ำพูด แต่ทำ� เพยี งเลก็ นอ้ ยแลว้ กแ็ ล้วไป มัวแตเ่ จ็บแข้ง
เจ็บขา เจบ็ หลัง เจบ็ เอว อยู่อย่างนี้ มันไม่ไดค้ วามอะไร มนั เจบ็ ท่ไี หนกก็ ำ� หนดเข้า
ทนี่ ่ัน ความเจ็บความปวด ธรรมทั้งหลายไหลมาจากเหตุ ตา หู จมูก ลิน้ กาย ใจ
นแี่ หละเปน็ เหตุ มนั ไหลมาจากนีแ้ หละ มที ี่เดียวน้ีแหละคือ รกั ษา ตา หู จมกู
ลนิ้ กาย ใจ ให้แขง็ แรง ความรกั เกดิ ขึ้นก็นำ� ออกเสีย ความชงั เกิดขึ้นกน็ �ำออกเสยี
ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกดิ ข้นึ ทางตา หู จมกู ล้ิน กาย ใจ กน็ ำ� ออกเสยี
นี้ทา่ นยกข้นึ เป็นศีล ทา่ นยกขน้ึ เปน็ วนิ ัย จะเปน็ ศลี ๕ ศลี ๘ อนั ใดกต็ าม ศลี ๕ นี้
ก็อันนีป้ ระจ�ำตน คือ ขา ๒ แขน ๒ หัว ๑
ขนั ธ์ ๕ นแี้ หละ รักษาใหม้ ันคมุ้ รักษา ตา น้สี �ำคญั ตาเห็นรปู รปู ท่พี อใจกด็ ี
ไม่พอใจก็ดี ถ้าเราหลงลายมันก็มักเกิดความชว่ั ศลี ๕ ศลี ๘ ศลี มากมายเหมือน
ของภกิ ษุ กต็ อ้ งรกั ษาตานแี้ หละ ตา หู จมกู ลนิ้ กาย เปน็ ตวั เหตมุ นั ไหลเขา้ มา ธรรม
ทั้งหลายไหลมาจากเหตุ กำ� หนดเขา้ ๆ รูเ้ ท่าทันเหตุ เหตุดบั มนั กถ็ ึงความสขุ เพราะ
วางอปุ าทาน เหตจุ งึ ดบั ไป อวชิ ชา ความมดื ไมร่ แู้ จง้ มนั กด็ บั ไป เวลาพดู ดเู ปน็ ของงา่ ย
แต่เวลาทำ� ยาก
อยา่ ไปยดึ เอาสง่ิ นน้ั สงิ่ นี้ ฟงั แตน่ อ้ ย แตต่ อ้ งทำ� ใหม้ าก อาศยั ความพากความเพยี ร
ทำ� การงานดว้ ยกายของเรา ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งทำ� ใหเ้ ปน็ อรยิ มรรค อยา่ ใหเ้ ปน็ กเิ ลส ถา้ เปน็
กเิ ลสเปน็ ทุกข์
219
เจตนาคอื ตัวกรรม
คนเราบางคนเกดิ มาแลว้ ชอบทำ� แตค่ วามชวั่ ทงั้ นก้ี เ็ พราะกรรม เจตนากรรมบญุ
เจตนากรรมบาป สองอยา่ งนแ้ี หละตวั เจตนา เจตนาเปน็ ตวั กรรม กรรมบาป กรรมบญุ
เจตนารกั ษาศลี คอื การสำ� รวมระวงั รกั ษากาย รกั ษาวาจา รกั ษาใจ อาศยั ความอดทน
อดทนดว้ ยกาย อดทนดว้ ยวาจา อดทนดว้ ยใจ ตตี กิ ขา ความอดทนคอื ความอดกลนั้
ตอ่ บาปอกศุ ล มนั สำ� คญั อยทู่ ่ี กาย วาจา ใจ อกศุ ลเจตนา กรรมบาป ความตง้ั ใจของเรา
สำ� คัญ อดีต อนาคต ไมข่ ้องเก่ยี ว ตดั ออกหมด
อดตี อนาคตเปน็ ธรรมเมา เอาปจั จบุ นั รใู้ นปจั จบุ นั ละในปจั จบุ นั วางในปจั จบุ นั
ตงั้ เจตนาใหจ้ รงิ กาย จรงิ วาจา จรงิ ใจ กาย วาจา ใจ เขา้ เปน็ ปกตอิ ยแู่ ลว้ ใจกไ็ มไ่ ปทไี่ หน
คงตง้ั อยเู่ ปน็ ปกติ ตอ้ งเอาปญั ญาตดั อกศุ ลเจตนาออกจากใจ อยา่ ใหม้ นั หมกั อยใู่ นใจ
ประเดี๋ยวจะเดอื ดร้อน
ตง้ั เจตนาให้แนว่ แนว่ า่ เราจะท�ำจิตท�ำใจของเราใหเ้ บกิ บาน ให้บรรลุมรรค ผล
นพิ พาน สจั จะ ความจรงิ กาย จรงิ วาจา จรงิ ใจ ขนั ตบิ ารมี อดกลน้ั ดว้ ยกายดว้ ยวาจา
ขนั ตอิ ปุ บารมี อดกลนั้ ดว้ ยวาจา ขนั ตปิ รมตั ถบารมี อดกลน้ั ดว้ ยใจ ตตี กิ ขา ความอดกลน้ั
เปน็ บารมธี รรมอย่างเอก
ตดั อดีต อนาคต มุ่งเฉพาะปจั จุบนั ธรรม อดีต อนาคต มันมาแต่ดึกด�ำบรรพ์
ทัง้ สว่ นดีสว่ นร้าย เนอื่ งมาจากตัณหาทงั้ สาม คือ กามตัณหา ภวตัณหา วภิ วตณั หา
220
ความพอใจหรือไมพ่ อใจกต็ ณั หาน้ี ละออกจากจติ จากใจเสียก็สบาย รูป เสยี ง กล่นิ
รส สัมผสั กามารมณท์ งั้ ๕ ปลอ่ ยให้เขาผ่านไปผ่านมา ดเี ขากไ็ มว่ า่ ไมด่ ีเขาก็ไม่วา่
มนั สำ� คญั อยทู่ เ่ี จตนาตวั กรรมบญุ เจตนาตวั กรรมบาป เขา้ ไปครองจติ แลว้ ทำ� ใหค้ ดิ ไป
ปรุงแตง่ ไป เป็นรัก เปน็ ชัง เป็นโกรธ เปน็ เกลยี ด ใหล้ ะวางตวั นี้ อย่าเอาเขา้ มาหมัก
ไวใ้ นใจ ละอย่ทู ่ใี จ วางอยทู่ ใี่ จ ไม่ใชท่ ี่อนื่ เอาใจน้ลี ะ เอาใจนี้วางจงึ ใชไ้ ด้ ไม่ใชไ่ ป
จำ� เอาคำ� พดู ในคมั ภรี ม์ าพดู ใชไ้ มไ่ ด้ มนั ตอ้ งนอ้ มเขา้ มาหากายหาใจของเรานี้ กำ� หนด
การละ ก�ำหนดการวาง ลงใน กาย วาจา ใจ ของเราน้ี รวมลงในไตรทวารน้ี ไมใ่ ช่
ทีอ่ ่นื
อดตี อนาคตทใี่ จนำ� มากล็ ะเสยี หู ตา กอ็ ยเู่ ปน็ ปกติ อนิ ทรยี ์ ๕ เขากต็ งั้ อยปู่ กติ
อย่างนั้น รปู เสยี ง กลิน่ รส สัมผัส กามารมณ์ อันนั้นตา่ งหากปลอ่ ยให้เขาผา่ นไป
ผา่ นมา อยา่ เอามาหมกั ไวใ้ นใจ ใจของเราใหต้ งั้ อยโู่ ดยปกติ เวลาจะทำ� จติ ทำ� ใจของเรา
ตอ้ งวางหมด อยา่ ใหม้ สี ง่ิ ไมด่ มี อี ยใู่ นใจ จะเดอื ดรอ้ น ตอ้ งนำ� ออกใหห้ มด ทำ� ใจใหว้ า่ ง
ให้มคี วามพอ อดตี อนาคต ไม่ต้องเกย่ี วข้องทัง้ หมด
อย่าปล่อยให้ใจไปเกาะเกี่ยวข้องแวะส่วนที่เป็นอดีตและอนาคต เป็นเคร่ือง
บ่นั ทอนปจั จบุ ันธรรม ให้รู้เฉพาะปัจจบุ ัน ละปัจจุบนั ให้รมู้ รรค รผู้ ล
221
แผนท่ีตา่ งจากภูมิประเทศ
ธรรมเมานม้ี นั มากมาย อตตี า ธรรมเมา อนาคตา ธรรมเมา ธรรมเมานน้ี ำ� มาเปน็
ตัวสังขาร สงั ขารกบั สมุทัยอันเดยี วกันนน่ั แหละ กำ� หนดเขา้ ไปให้มันเหน็ €ีติ ภตู ํ
กพ็ อแล้ว ไมต่ อ้ งเอามากมาย ไปยึดเอาอยา่ งนั้นอยา่ งน้ี ไปส�ำคัญมนั่ หมายอยา่ งน้นั
อยา่ งนี้ เปน็ ธรรมเมาไปหมด ทำ� ใหร้ จู้ ักทเ่ี กดิ ของธรรม ท่ีดับของธรรม ปฏิบตั ิอยู่
อยา่ งนแี้ หละ รมู้ ากมายตามแผนทป่ี รยิ ตั ธิ รรม แลว้ ปฏบิ ตั ไิ มถ่ กู แผนทต่ี า่ งหาก ตอ้ งวาง
แผนทีใ่ หห้ มด
คน้ หาอยใู่ นภมู ิประเทศจึงใชไ้ ด้ ไม่อย่างน้ันไปยึดเอาอย่างนี้บา้ ง อย่างนั้นบ้าง
เปน็ ธรรมเมาไป เวลาเจบ็ หลงั เจบ็ เอว อรยิ สจั ธรรมเกดิ ขน้ึ มนั กเ็ กดิ ขน้ึ ในกอ้ นธรรม
อนั นแี้ หละ กอ้ นธรรมโมกอ็ นั นแี้ หละ กอ้ นธรรมเมากอ็ นั นแ้ี หละ ทกุ ขสจั จม์ นั กเ็ กดิ อยู่
ทน่ี ี่ สมทุ ยั สจั จม์ นั กเ็ กดิ ขน้ึ ในนี้ นโิ รธสจั จม์ นั กเ็ กดิ ขน้ึ ทน่ี ่ี มนั จะไปเกดิ ทไ่ี หน เจบ็ แขง้
เจบ็ ขา เจบ็ หลงั เจบ็ เอว เจ็บเกลา้ เมาหวั มรรค ผล นพิ พาน มันเกิดข้ึนที่นี่แหละ
ถา้ ปฏบิ ัตใิ ห้ตั้งอยใู่ นหลกั อนั นแ้ี ลว้ ก็ต้งั อยูใ่ นธรรมนน่ั แหละ ต้ังอยู่ในศีล
ศีล ก็คอื การนำ� ความชว่ั ความผดิ ออกจากกาย จากวาจา จากใจ ของตน หรอื
เรยี กอกี อยา่ งวา่ มรรค มรรค กค็ อื นำ� ความผดิ ออกจากตนนนั่ แหละ มนั จงึ เปน็ หนทาง
เอาแต่นอ้ ยเทา่ น้ีกพ็ อ อย่าไปเอามาก จะเป็นธรรมเมาไป เอาเข้าจรงิ ๆ พทุ โธ ธัมโม
สงั โฆ เปน็ ธรรมเมาไปเสยี เพราะไปตดิ สงั ขาร สมทุ ยั กอ็ นั เดยี วกนั นแี้ หละ มรรคธรรม
วโิ มกขธรรม กอ็ นั เดยี วกนั นแ้ี หละ มรรคสจั จอ์ นั ใด วโิ มกขธรรมเปน็ ทด่ี บั ทกุ ขก์ อ็ นั น้ี
222
อรยิ มรรคยกขึน้ ก็เหมอื นกับศลี ศลี ๕ ศลี ๘ วินัยศลี ๕ วนิ ยั ศลี ๘ ก็อนั เดียวกัน
น่ันแหละ คือการน�ำความผิดออกจากกายจากใจ ศีลก็คือการน�ำความผิดความชั่ว
ออกจากกายจากใจ
อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เป็นเร่ืองของสังขารมาแต่ดึกด�ำบรรพ์ นับภพนับชาติ
นบั อสงไขยไม่ถว้ น เกดิ แล้วตาย ตายแล้วเกดิ ....
อดตี เปน็ ธรรมเมา อนาคตเปน็ ธรรมเมา จติ ดง่ิ อยใู่ นปจั จบุ นั รใู้ นปจั จบุ นั ละใน
ปจั จบุ นั วางในปจั จบุ นั ตดั ออกในปจั จบุ นั กเิ ลสตณั หา ความพอใจ ไมพ่ อใจ ตดั ออก
ในปจั จุบนั จึงเปน็ ธรรมโม เอาแต่อดตี อนาคต เปน็ ธรรมเมา
ถา้ จะเจรญิ มรรค กเ็ ทยี บเคยี งกบั ศลี ๕ ศลี ๘ ศลี ๑๐ กเ็ หมอื นกนั รวมลงใน
อรยิ มรรค ต้องฝกึ ตา หู จมกู ลิน้ กาย อนิ ทรียท์ ัง้ ๕ น้ีแหละ ฝกึ ทวารท้งั ๕
ให้เรียบรอ้ ยแลว้ กใ็ ชไ้ ด้ ศลี ๕ กต็ าม ศีล ๘ กต็ าม ศลี ๑๐ ก็ตาม ตง้ั ไว้ในใจนี้
ความผดิ เกดิ ขน้ึ กน็ ำ� ออกเสยี นำ� ความผดิ ความชวั่ ออกจากกาย จากวาจา จากใจ ออกจาก
ตา หู จมูก ลิ้น และกาย ตานี้สำ� คญั ธรรมทัง้ หลายไหลมาจากเหตุ
ตาเปน็ เหตุ หเู ป็นเหตุ จมูกเปน็ เหตุ ลนิ้ เป็นเหตุ กายเป็นเหตุ ละให้มนั ได้
ตดั ใหม้ นั ได้ ใหม้ นั ดบั ลงไปได้ วางสงั ขารสมมตเิ สยี แลว้ มนั จงึ รแู้ จง้ ทกุ ข์ กอ้ นธรรมโม
กอ็ นั นี้ กอ้ นธรรมเมากอ็ นั น้ี การกำ� หนดรอู้ รยิ สจั ธรรมทง้ั ๔ กจ็ บั กอ้ นอนั นแี้ หละขน้ึ มา
ทุกขม์ นั กเ็ กดิ ขนึ้ ที่น่ี สมทุ ัยมันกเ็ กิดทีน่ ี่ มรรคมันกเ็ กดิ ท่ีนี่ นโิ รธมนั ก็เกดิ ท่ีนี่ รูแ้ จง้
มรรคผลนพิ พาน รจู้ รงิ เหน็ จรงิ กเ็ หน็ ทน่ี แี่ หละ ถา้ ไปรแู้ จง้ ทอี่ นื่ ใชไ้ มไ่ ด้ เปน็ ธรรมเมาไป
ถ้าเราก�ำหนดข้ึนแล้ว สญั ญามันกต็ ั้งขนึ้ พระสมั มาสมั พุทธเจ้า พระอริยเจ้าท้งั หลาย
อเนกอนนั ต์นับไมถ่ ว้ น ตรัสพระธรรมเทศนาโปรดเวไนยสัตว์ ก็ช้ีลงสู่กายสใู่ จเรานี้
ท้งั สิน้
ไตรโลกทง้ั สามนี้ กามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หา ไตรวฏั ฏม์ นั หมนุ อยใู่ นไตรโลก
อนั น้ี อกสุ ลาธรรมเมา เปน็ รากเหงา้ ของกเิ ลสพนั หา้ ตณั หารอ้ ยแปด สงั โยชนธ์ รรมกด็ ี
โยคธรรมกด็ ี โอฆธรรมกด็ ี พระพทุ ธเจา้ รแู้ จง้ เหน็ จรงิ แลว้ พระพทุ ธเจา้ เปน็ พทุ ธนายก
พระองคพ์ าพทุ ธเวไนยสตั ว์ให้ร้แู จง้ สจั ธรรม ตดั ข้ามสังขารโลก โอฆอนั กนั ดาร
223
กาโมฆะ เปน็ ธรรมเมาทห่ี นงึ่ ภโวฆะ เปน็ ธรรมเมาทส่ี อง ทฏิ โฐฆะ เปน็ ธรรมเมา
ทส่ี าม อวชิ โชฆะ เปน็ ธรรมเมาทสี่ ่ี ซงึ่ เปน็ ความมดื ไมร่ แู้ จง้ อรยิ สจั ธรรม ดบั อนั นไ้ี ดแ้ ลว้
ก็เบาอกเบาใจ กิเลสอนสุ ยั มันสำ� คญั ถ้าเราบอกวา่ เอาปัจจบุ นั น้ีแหละ พอเราตง้ั ทา่
ใส่มัน มันก็ตั้งท่าใส่เราเช่นกัน กิเลสตัวน้ีให้ระวัง มันครองใจสัตว์ท้ังโลกมาแต่
ดึกด�ำบรรพ์ ขนั ติบารมี อดทนดว้ ยกาย อดทนดว้ ยวาจา อดทนด้วยใจ ความพอใจ
กเ็ ปน็ กิเลส ความไม่พอใจก็เป็นกเิ ลส ตณั หากเ็ หมือนกันนน่ั แหละ มันหมุนอยู่ใน
ไตรวฏั ฏ์ เกดิ กเ็ พราะตณั หา ตายกเ็ พราะตณั หา ทกุ ขก์ เ็ พราะตณั หา สขุ กเ็ พราะตณั หา
ความพอใจกเ็ พราะตณั หา ความไมพ่ อใจกเ็ พราะตณั หา อะไรๆ กเ็ พราะตณั หา มนั หมนุ
อย่ใู นไตรโลกอันน้ี ตอ้ งคน้ ลงมาสอู่ นั น้ี อย่าไปคน้ ลงในท่อี ่นื ค้นไปท่ีก้อนธรรมโม
กอ้ นธรรมเมาน้ีแหละ เปน็ ท่ีตง้ั
ผทู้ จี่ ะดำ� เนนิ การฝา่ ยโลกกเ็ อาสมบตั อิ นั นแี้ หละเปน็ ทตี่ ง้ั นกั บวชทง้ั หลายผตู้ งั้ อยู่
ในศีลในธรรมวินัยก็เอาก้อนน้ีแหละเป็นท่ีต้ัง เป็นที่ตั้งของศีล เป็นที่ตั้งของธรรม
เปน็ ทตี่ ั้งของมรรค เป็นทีต่ ้ังของผล เป็นทีต่ ้ังของพระนพิ พาน รู้เขา้ มาสอู่ นั นี้แหละ
อย่าไปยึดถอื เอาอย่างอื่น
224
กมั มฏั ฐาน ๕ เป็นทตี่ ้งั ของกาม
อุปัชฌาย์ท่านสอน เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ ปัญจกกรรมฐาน เปน็ ทต่ี ้ัง
ของกาม กามพาหมนุ อยู่ ทุกข์กเ็ กิดขน้ึ ทนี่ ี่ สมุทยั กเ็ กดิ ขนึ้ ทีน่ ี่ ความเจบ็ แขง้ เจ็บขา
เจบ็ หลงั เจบ็ เอว เวลามนั เจบ็ เรากไ็ มช่ อบ แตก่ ย็ งั ชอบมนั อยู่ ถา้ ไมร่ เู้ ทา่ มนั เสยี เปรยี บ
มนั ไมใ่ ชน่ อ้ ย พวกเราตายเพราะกามมาแลว้ ตงั้ แตด่ กึ ดำ� บรรพ์ นบั ปี นบั เดอื น นบั วนั
นบั ภพ นบั ชาติ ไม่ได้ ตายก็เพราะกาม ทกุ ข์กเ็ พราะกามนี้
ความโกรธ ความเกลียด เกิดมาจากใจ มใี จ มนั ก็เกดิ ความหลงกเ็ หมือนกนั
ถ้าไมม่ ใี จ มันจะเกดิ มาไดอ้ ย่างไร ถ้าไมม่ ีใจ มันไมเ่ กิด พวกความโลภ ความโกรธ
ความถูก ความผิด กเ็ หมือนกัน มนั เกดิ กเ็ พราะใจนแ้ี หละ ต้องก�ำหนดเข้ามาหาใจ
ตัวต้นเหตขุ องมนั ถ้าเราไปแกท้ ีป่ ลายเหตไุ มไ่ ด้ ยงิ่ แก้ยิ่งเดอื ดรอ้ น การต่อสู้กเิ ลส
เปน็ สงครามอันใหญ่ ความพอใจไม่พอใจก็อันน้ีเต็มโลกอยู่
รกั ษาตา หู จมกู ลน้ิ กายของเราใหด้ ๆี ตอ้ งพจิ ารณาใหร้ อบคอบ ตอ้ งนอ้ มเขา้ มา
หากายนี้ น้อมเข้ามาหาใจน้ี พระธรรมท้งั หลาย ทา่ นยกใจขนึ้ มาเป็นหัวหนา้ เปน็
มคั คาวรณ์ สคั คาวรณ์ มนั เกดิ ขน้ึ มาในนท้ี ง้ั สนิ้ ชำ� ระใจใหบ้ รสิ ทุ ธิ์ รกั ษา ตา หู จมกู
ลนิ้ กาย ไวใ้ หด้ ี รกั ษาศลี กร็ กั ษา ตา หู จมกู ลนิ้ กาย ของเรานแี้ หละ รกั ษาธาตุ ๔
ขนั ธ์ ๕ นไี้ ว้ ไปรักษาอย่างอนื่ ไมเ่ ป็นศลี
ขนั ธ์ทง้ั ๕ ธาตทุ ้งั ๔ มันเปน็ กองทุกข์ พิจารณาอนั น้ีใหช้ �ำนชิ �ำนาญเขา้ ไป
ท่านเจา้ คณุ อบุ าลีฯ ทา่ นว่า กามนอี้ ย่าไปอศั จรรย์ สัตว์ทง้ั หลายเขาเสพกามกันอยู่
225
เต็มโลก ก็ไมเ่ หน็ วิเศษไปไหน มีแตเ่ พม่ิ ความทุกข์ มแี ตศ่ ีล สมาธิ ปญั ญา เท่าน้ัน
ท่ีน่าอศั จรรย์ เวลาท�ำสมาธทิ �ำใจให้มนั สงบ มนั ก็ละได้
สัตวท์ ง้ั หลายเกดิ กเ็ พราะกาม ตายก็เพราะกาม โกรธ โลภ หลง เกลียดชงั
ก็เพราะกาม ใหพ้ ิจารณาให้ร้แู จ้งเหน็ ตามสภาพความเปน็ จริงของมนั มันก็คอ่ ยถอน
ออกจากจิตที่สำ� คญั มน่ั หมายนี้ ใหร้ ักษาอินทรียสังวร รกั ษาศีลก็รักษา ตา หู จมกู
ปาก ตนี มอื ของเรานแ้ี หละ ความพอใจความไมพ่ อใจเกดิ ขน้ึ ในปจั จบุ นั นำ� ออกให้
มันหมด เป็นวินยั อันหนึง่ ตาเห็นรูป หูฟงั เสยี ง จมูกดมกล่ิน ลิน้ ลมิ้ รส กายถูกต้อง
สมั ผสั ยนิ ดพี อใจกต็ าม ไมย่ นิ ดไี มพ่ อใจกต็ าม เกดิ ขนึ้ ในปจั จบุ นั ใหน้ ำ� ออกเสยี จงึ ใชไ้ ด้
เป็นวนิ ยั คือการน�ำความผดิ ความยินดี ออกจากจิตจากใจอนั น้ี
วนิ ยั คอื การนำ� มคั คาวรณ์ สคั คาวรณ์ ออกจากจติ จากใจของตน ทำ� ใจของตน
ใหบ้ รสิ ทุ ธิ์ พระธรรมวนิ ยั ทา่ นแสดงบญั ญตั ชิ สี้ กู่ ายสใู่ จของเราทงั้ สน้ิ พวกมคั คาวรณ์
สคั คาวรณ์ เปน็ ทางกนั้ มรรคผลนพิ าน นำ� ออกใหห้ มด อยา่ ใหม้ นั หมกั อยใู่ นใจ ใหม้ ี
สติ สมั ปชญั ญะ ถา้ มสี ตนิ ำ� ความผดิ ออกจากกายจากใจของตนได้ ถา้ ไมม่ สี ติ มนั กห็ ลง
ไปเรอื่ ยๆ ลมื ไปเรอ่ื ยๆ ถา้ มสี มั ปชญั ญะกต็ ง้ั อยใู่ นสงั วร กามทง้ั หลายมรี ปู เสยี ง กลน่ิ
รส สัมผสั ธรรมารมณ์ เขาผ่านไปผ่านมาตามธรรมชาตขิ องเขา
ตา หู จมกู ลิน้ กาย ไมใ่ ชก่ ามารมณ์ กามารมณ์ ไมใ่ ช่ ตา หู จมูก ลิน้ กาย
อยา่ ไปถอื ตามสญั ญาไมร่ เู้ ทา่ สงั ขาร ถา้ ไมร่ เู้ ทา่ สงั ขารมนั เปน็ ทกุ ข์ ตอ้ งมสี ตสิ มั ปชญั ญะ
สตเิ ป็นวนิ ัยอย่างหนง่ึ สำ� คัญ...
226
ไตรสิกขา คือ ไตรทวาร
...ใหห้ มน่ั รกั ษาไตรทวาร ศลี ทา่ นกบ็ ญั ญตั ลิ งทใี่ จน้ี บญั ญตั ลิ งในกายนี้ พระธรรม
ทั้งสิ้นบัญญัติลงในกายในใจ ใจเป็นส่ิงส�ำคัญ ใจเป็นต้นเหตุของกุศลและอกุศล
คดิ ดกี ใ็ จ คดิ รา้ ยกใ็ จ ถา้ กำ� หนดรใู้ จหมดแลว้ กแ็ จม่ แจง้ ...นอ้ มเขา้ มาปฏบิ ตั ิ กาย วาจา
ใจ นี้
ใหต้ ง้ั มนั่ อยใู่ นพระไตรสรณคมน์ รกั ษา กาย วาจา ใจ ใหป้ ราศจากโทษ ตงั้ อยู่
ในกุศลกรรมบถ ๑๐ ต้งั ใจให้มั่นคง ปฏิบัติ กาย วาจา ใจ นใ้ี ห้รู้แจง้ กาย วาจา ใจ
พระธรรมแปดหมนื่ สพี่ นั พระธรรมขนั ธ์ รวมขอ้ ปฏบิ ตั เิ พอื่ รกั ษา กาย วาจา ใจ ทง้ั สนิ้
ไมม่ ีสง่ิ อ่ืนนอกจากไตรทวารน้ี ใจเป็นเหตแุ หง่ ธรรมทงั้ หลาย ใหน้ ้อมเข้ามาหาใจน้ี
ให้พจิ ารณาใหร้ อบคอบ อารมณ์ทงั้ หลายทผ่ี ่านเข้ามาทาง ตา หู เกิดความพอใจกด็ ี
ไมพ่ อใจกด็ ี ใหพ้ จิ ารณาเสยี กอ่ น ใหจ้ ติ ดงิ่ อยใู่ นปจั จบุ นั รกั ษา ตา หู จมกู ลนิ้ กาย
กามคณุ ทง้ั ๕ เขามอี ยู่ เขากผ็ า่ นไปผา่ นมา อยา่ รบั เขา้ มาสใู่ จ การจะทำ� จะพดู ตอ้ งนอ้ ม
เข้ามาให้ใจเพือ่ พิจารณาก่อน
ทุกข์ทง้ั หลายท่ีมันเกดิ ขึ้นในกาย จะเปน็ ปวดแขง้ ปวดขา ปวดหลงั ปวดเอว
ก็ใหก้ �ำหนดรู้ รู้เหตรุ ้ผู ล ร้แู จ้งเหตุ เหตมุ นั ก็ดับไป ศีล สมาธิ ปญั ญา ทา่ นก็บญั ญัติ
ลงในกายในใจนี้ ให้ร้กู าย วาจา รวมเข้ามาสูใ่ จ กศุ ล อกุศลทง้ั สน้ิ มีกาย วาจา ใจ
เปน็ มลู เหตุ ใหศ้ กึ ษา สำ� รวมในไตรทวารของตน นอ้ มเขา้ มาสกู่ าย วาจา ใจ ของตนน้ี
ให้ศึกษาอยทู่ ีน่ ่ี อนั น้ีเปน็ ไตรสิกขา...
227
อวัยวะเป็นธรรม
แสดงแกพ่ ระภิกษุ วันท่ี ๑๘ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๒๗
ตาก็เป็นตาธรรม หกู ็เปน็ หธู รรม จมกู กเ็ ป็นจมูกธรรม แกม้ ก็เปน็ แกม้ ธรรม
แขนก็เปน็ แขนธรรม ขากเ็ ป็นขาธรรม อันนี้แหละธรรม หัวกเ็ ป็นหัวธรรม ตาก็เปน็
ตาธรรม อนั นแ้ี หละพระธรรม ให้รแู้ จง้ ในนี้ ตา หู จมูก แกม้ หัว แขน ขา เปน็ ของ
พระธรรมทั้งหมด อันนี้แหละของจริงให้รู้ไว้ ให้รู้แจ้งเห็นแจ้งในนี้ อย่าไปรู้ท่ีอ่ืน
ตวั กเ็ ปน็ ตัวของธรรม ใหร้ ู้ในน้ี ไม่ใช่รู้ทอี่ ื่น ให้รู้แจง้ เหน็ แจง้ ในธรรมเหลา่ น้ี ใหร้ ้ใู น
สง่ิ เหลา่ นแ้ี หละ จะไปรทู้ ไ่ี หน ตา หู หวั ตวั แขน ขา เปน็ ธรรมทงั้ หมด ใหร้ แู้ จง้ เหน็ แจง้
ในน้ี ในตัวของตวั นีจ้ งึ ใช้ได้ รแู้ จง้ เห็นในของจริงเหลา่ นี้
ตากเ็ ปน็ ตาธรรม หกู เ็ ปน็ หธู รรม หวั กเ็ ปน็ หวั ธรรม ตวั กเ็ ปน็ ตวั ธรรม อนั นแ้ี หละ
ของดขี องจรงิ มอื เปน็ ธรรม ธรรมเปน็ มอื แขนเปน็ ธรรม ธรรมเปน็ แขน ตาเปน็ ธรรม
ธรรมเปน็ ตา ธรรมเป็นหวั หัวเป็นธรรม ธรรมเปน็ ตัว ตวั เปน็ ธรรม อันนีข้ องจริง
ของดี ใหร้ แู้ จง้ เหน็ แจง้ รจู้ รงิ เหน็ จรงิ ในน้ี อยา่ ไปรใู้ นทอ่ี น่ื นแี้ หละธรรม ใหร้ ู้ อยา่ หลง
น้ีแหละของจรงิ ใหร้ ้แู จ้ง ใหล้ ะ ให้วาง ในที่นี้แหละ ใหพ้ ิจารณาดใู ห้รู้แจ้ง ใหร้ ู้ชัด
ในธรรมอนั นี้
ตวั ธรรม หธู รรม หวั ธรรม แขนธรรม ขาธรรม อยา่ ไปหลง อยา่ ไปลมื ของจรงิ ใหร้ ู้
ธรรมของจรงิ อนั นี้ ใหร้ ูล้ ะรวู้ าง มแี ต่ธรรมทั้งน้นั แหละ อยา่ ไปหลง อยา่ ไปลมื ธรรม
ของจรงิ ตากเ็ ป็นตาธรรม หูกเ็ ปน็ หธู รรม จมกู ก็เปน็ จมกู ธรรม กายก็เปน็ กายธรรม
228
อันนี้แหละของแท้ของจริง ให้ก�ำหนดรู้ของจริงของแท้ อย่าลืมอย่าหลงตัวธรรม
ให้รู้แจ้งเห็นแจง้ ในธรรมจริงธรรมแท้ ให้รู้ในธรรมเหล่านี้แหละ จะไปรทู้ ไ่ี หน
ตวั ตา หู แขน ขา นแ้ี หละ อนั นแ้ี หละคอื ธรรม ใหร้ ู้ อยา่ ไปหลง ใหร้ ลู้ ะ อยา่ รหู้ ลง
ธรรมอนั นี้จำ� ไวใ้ หด้ ี เปน็ ธรรมท้งั หมด
ตง้ั ใจไวใ้ หด้ ี เปน็ ตา เปน็ หู เปน็ จมกู เปน็ แขน ขา ตวั อวยั วะนอ้ ยใหญ่ เปน็ ธรรม
ทง้ั หมดแหละ อันนี้แหละของจรงิ เป็นธรรมแท้ ให้รจู้ ริง อยา่ รหู้ ลง ให้รู้ละรู้วาง
ธรรมเป็นตวั ตัวเปน็ ธรรม ธรรมเป็นตา ตาเป็นธรรม ธรรมเป็นหู หเู ป็นธรรม
ธรรมเปน็ ขา ขา จมกู แขน เปน็ ธรรม นแ้ี หละของจรงิ แทใ้ หร้ ไู้ ว้ อยา่ ไปหลง อยา่ ไปเมา
ให้รู้ธรรม รูส้ มมติ
229
ธรรมโอวาทครงั้ สุดทา้ ย
...มาอยู.่ ..นไ้ี มไ่ ด้มาหาลาภยศอะไร มาหาทางหนจี ากความทกุ ข์...
กรรม คือ การกระท�ำ ท้งั บาปท้งั บุญ ใหพ้ ิจารณา รไู้ หม บุญเป็นอยา่ งไร บาป
เปน็ อยา่ งไร คนทป่ี ฏบิ ตั หิ าทางออกจากกองทกุ ขน์ นั้ มนั หายากแลว้ ใหล้ กู หลานจำ� ใหด้ ี
จำ� ไดไ้ หม ใหม้ สี ติ มอี ารมณอ์ ยกู่ บั พทุ โธ พทุ โธเอาใหไ้ ด้ ทำ� ใหม้ นั เหน็ ของดี จำ� ไดไ้ หม
น่ีไม่ได้พูดเลน่ นะ ให้จบั ลมกับกายนี้ กายน้ีให้เหน็ เปน็ กายพระธรรมใหไ้ ด้
มหี ฟู งั แลว้ กใ็ หม้ นั เปน็ พระธรรม ตาใหเ้ ปน็ ตาพระธรรม กายใหเ้ ปน็ กายพระธรรม
ใจกใ็ หเ้ ปน็ ใจพระธรรม ทำ� ใหม้ นั ได้ ใหม้ พี ทุ โธอยกู่ บั กายนใ้ี จนี้ จำ� ไวท้ ใ่ี จ จำ� ไดไ้ หม
จำ� ดีๆ อย่าไปลืมนะ ไมต่ อ้ งไปรทู้ ่ีอน่ื มนั อยใู่ นกายนี้ กายน้แี หละมนั เปน็ ทกุ ข์ อยู่
ทกุ วนั น้ี สงั ขารจะแตกจะตายกใ็ หร้ ู้ จำ� ไดไ้ หม สมปฺ โยโค กใ็ หร้ ู้ จะตอ้ งจากกนั ไมต่ อ้ ง
ตกใจ ให้พิจารณาเดยี๋ วนี้ จำ� ไดไ้ หม จำ� ใหด้ ๆี ใหร้ อู้ ยกู่ บั กายกับใจ อยา่ ไปลมื
ให้รู้จริงๆ อยา่ ท�ำเล่นไม่ได้นะ กามก็ดี ตัวกามน้ีจับมันให้อยู่ จับมันมัดไว้
ใหม้ นั ตาย จำ� ไดไ้ หม ไมว่ า่ สตั วว์ า่ คน หากาม แสวงหากาม มนั เดอื ดรอ้ นวนุ่ วายกเ็ พราะ
กามน้ีแหละ ชาย หญงิ สัตวผ์ ู้เมยี ตา่ งก็ยนิ ดีกันและกนั มวั เมากันอยูอ่ ยา่ งนี้ ให้มัน
เป็นธรรมโม อย่าใหเ้ ปน็ ธรรมเมา ใหอ้ อกจากกาม
หา พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ใหจ้ ำ� ไว้ จำ� ไวใ้ หม้ นั ดี ปฏบิ ตั ใิ หม้ นั รู้ กามมนั
ตายแลว้ มนั กส็ บาย ใหเ้ ปน็ ธรรมโม อยา่ ใหเ้ ปน็ ธรรมเมา จำ� ใหด้ ๆี นะ ปฏบิ ตั ใิ หม้ นั รู้
จำ� ไดไ้ หม อย่าไปลมื นะ
ไม่ตอ้ งพูดมาก พดู มากไปไมใ่ ช่ธรรมะ มนั เป็นธรรมเมา
230
คตธิ รรม
พระสจุ ณิ ฺโณ หลวงปแู่ หวน
231
อดตี อนาคต เปน็ ธรรมเมา
ปัจจุบันเป็นธรรมโม
พระธรรมแปดหม่ืนสี่พนั พระธรรมขนั ธ์
ช้เี ขา้ หา กาย วาจา ใจ
ธรรมท้ังหลายไหลมาจากเหตุ
ตา หู จมกู ลิ้น กาย ใจ เปน็ เหตแุ ต่ละอยา่ งๆ
ไตรสิกขา คือ ไตรทวาร
ศกึ ษา ศลี สมาธิ ปัญญา ใหน้ ้อมเข้ามาศกึ ษา
กาย วาจา ใจ
ศลี คือ แขนสอง ขาสอง หวั หน่ึง
อนั นี้เปน็ ตวั ศีล ให้รักษาสง่ิ นี้ให้เป็นปกติ
ไม่ใหก้ ้าวล่วงวีตกิ มโทษ ศีลในปริยัติธรรมเปน็ ชื่อของศลี
ละบาปอกศุ ล ตอ้ งละที่ใจ วางท่ีใจ เอาใจละ
เอาใจวาง เอาใจถอน จึงใชไ้ ด้
232
อนจิ จังท้ัง ๕ ทกุ ขังทงั้ ๕ อนตั ตาทง้ั ๕
เกดิ มาจากใจ
วางอนจิ จงั ท้ัง ๕ นิจจังต้งั อยู่ เที่ยงอยู่
อนตั ตาทง้ั ๕ วางหมดแลว้ อัตตาต้งั อยู่ภายใน...
เราอาศัย อนตั ตาอยู่
กามทงั้ หลายเป็นเจ้าโลก เกลยี ด โกรธ รัก
ฆา่ กนั ก็เพราะกาม
กามตัณหา เป็น กามตนั ตา
ภวตัณหา เปน็ ภวตันหู
วิภวตัณหา เป็น วิภวตนั ใจ
วนิ ัยท้งั ๕ ปาฏิโมกข์ทั้ง ๕
คือ อินทรยี สงั วร
233
เอาพุทโธเปน็ มรรค เปน็ อารมณข์ องใจ
มีพทุ โธ ธัมโม สงั โฆ เปน็ อารมณข์ องใจ
อย่าใหเ้ ป็นธรรมเมา
เมาคิด เมาอา่ น
เมาอดตี เมาอนาคต
ใชก้ ารไมไ่ ด้
ตัดอดีต อนาคต ลงให้หมด
จติ ตง้ั อยใู่ นปจั จบุ ัน ร้ใู นปัจจบุ นั
ละในปัจจุบัน วางในปจั จบุ นั
แจง้ อยู่ในปัจจบุ นั
เอาปัจจุบันน้แี หละเป็นทตี่ งั้ ...
234
หนังสืออา้ งอิง
รศ.ดร.ปฐม - รศ.ภทั รา นิคมานนท์, หลวงปูแ่ หวน สุจณิ โฺ ณ, พมิ พค์ รั้งท่ี ๓,
๒๕๔๘, บริษทั พ.ี เอ.ลฟี วิ่ง จำ� กดั .
ค�ำแผ่กศุ ลแกส่ รรพสตั ว์
ณ วดั ป่าอมั พโรปัญญาวนาราม
ในพระอปุ ถมั ภ์ สมเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปริณายก
ตำ� บลคลองก่วิ อ�ำเภอบ้านบงึ จังหวดั ชลบรุ ี
วันศกุ รท์ ี่ ๒๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ดิถขี น้ึ ๖ ค�ำ่ เดอื น ๑
ขอบุญกุศลจรยิ า อันข้าพเจา้ ท้งั หลายได้บำ� เพญ็ ด้วยดีแลว้ ทางกาย วาจา และใจ
กลา่ วโดยจำ� เพาะคอื การสรา้ งอารามถวายแดส่ งฆจ์ ตรุ ทศิ อทุ ศิ ไวใ้ นพระบวรพทุ ธศาสนา
อารามนั้นมีนามว่า วัดป่าอัมพโรปัญญาวนาราม ประกอบด้วยปชู นยี วัตถุ และเสนาสนะ
ต่างๆ กล่าวคือพระพุทธปฏิมาปางนาคปรก พระพุทธปฏิมาปางสมาธิ ศาลาที่ประชุม
อาคารพพิ ธิ ภณั ฑท์ ่ีประมวลธรรมโอวาทของพระสปุ ฏปิ ันโน ถนนลาดยางกว้าง ๙ เมตร
ยาว ๘๐๐ เมตร อา่ งเกบ็ นำ�้ สาธารณทาน กำ� แพงรอบพนื้ ทย่ี าว ๒,๘๐๐ เมตร สงู ๓ เมตร
ตลอดทั้งบุญกริ ิยาแหง่ การบ�ำเพญ็ ทาน รกั ษาศีล เจรญิ ภาวนา ดว้ ยน�้ำใจศรทั ธาเลื่อมใส
มน่ั คงในพระรตั นตรยั ดง่ั นี้ ขา้ พเจา้ ขอตง้ั สจั จาธษิ ฐาน แผก่ ศุ ลไปไมม่ ปี ระมาณ ขอถวาย
เปน็ พระราชกศุ ลสนองพระเดชพระคณุ สมเดจ็ พระบรู พมหากษตั รยิ าธริ าช และพระบรม
วงศานวุ งศท์ กุ พระองค์ และเปน็ กศุ ลสนองคณุ ทา่ นผบู้ ำ� เพญ็ คณุ ประโยชนต์ อ่ ประเทศชาติ
และพระพทุ ธศาสนา เปน็ ปฐม
อน่งึ ขอสรรพสัตว์ท้ังหลาย ไม่มีทสี่ ดุ ไม่มปี ระมาณ, จงมีสว่ นแหง่ บุญทีข่ ้าพเจ้า
ไดท้ ำ� ในบดั น,้ี และแหง่ บญุ อน่ื ทไี่ ดท้ ำ� ไวก้ อ่ นแลว้ , คอื จะเปน็ สตั วเ์ หลา่ ใด, ซงึ่ เปน็ ทร่ี กั ใคร่
และมบี ญุ คณุ เชน่ มารดาบดิ าของขา้ พเจา้ เปน็ ตน้ กด็ ี ทขี่ า้ พเจา้ เหน็ แลว้ หรอื ไมไ่ ดเ้ หน็ กด็ ,ี
สตั วเ์ หลา่ อน่ื ทเี่ ปน็ กลางๆ หรอื เปน็ คเู่ วรกนั กด็ ,ี สตั วท์ ง้ั หลายตง้ั อยใู่ นโลก, อยใู่ นภมู ทิ งั้ ๓,
อย่ใู นก�ำเนิดทั้ง ๔, มขี นั ธ์ ๕ ขันธ,์ มีขนั ธข์ ันธ์เดียว, มขี ันธ์ ๔ ขันธ์, ก�ำลังทอ่ งเที่ยว
อยู่ในภพน้อยภพใหญ่ก็ดี, สัตว์เหล่าใดรู้ส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว, สัตว์เหล่านั้น
จงอนุโมทนาเองเถดิ , ส่วนสัตว์เหลา่ ใดยงั ไม่รสู้ ่วนบุญน้,ี ขอเทวดาทั้งหลายจงบอกสตั ว์
เหลา่ นั้นให้รู้
เพราะเหตทุ ไี่ ดอ้ นโุ มทนาสว่ นบญุ ทขี่ า้ พเจา้ แผใ่ หแ้ ลว้ , สตั วท์ งั้ หลายทงั้ ปวง, จงเปน็
ผ้ไู ม่มเี วร, อยู่เปน็ สขุ ทกุ เมอ่ื , จงถงึ บทอนั เกษมกลา่ วคอื พระนพิ พาน, ความปรารถนาที่
ดีงามของสตั ว์เหล่านนั้ จงสำ� เร็จเถิด, สาธุ สาธุ สาธุ