The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธัมมะในลิขิต - หลวงตาบัว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-08-18 00:01:14

ธัมมะในลิขิต - หลวงตาบัว

ธัมมะในลิขิต - หลวงตาบัว

Keywords: ธัมมะในลิขิต - หลวงตาบัว

ฉบับท่ี ๑๖ ๒๔ กันยายน ๒๕๐๑

วดั ป่าบ้านตาด อุดรธานี

การอบรมทางใจโปรดทำ�ตามท่เี คยไดอ้ ธิบายให้ฟงั แลว้ น้ัน จะไม่
ผิดทางเลย การภาวนาโปรดใชป้ ญั ญาวิจารณใ์ นขนั ธภ์ ายในภายนอกให้
รอบคอบโดยความมสี ติ และใหถ้ ือสตกิ ับปญั ญาเป็นธรรมในการแกก้ เิ ลส
ขออยา่ ไดพ้ รวดพราด จะเสียหลักความจริงทีม่ ีอยปู่ ระจ�ำ ตนทุกเมื่อ กิเลส
อาสวะท้งั หมดจะนอกเหนือกบั สติปญั ญาไปไมพ่ ้น

บวั

๑๙๙

ฉบบั ท่ี ๑๗

วัดป่าบ้านตาด อดุ รธานี

๗ ตลุ าคม ๒๕๐๑

พึงหยง่ั อาวธุ คือปญั ญาลงตรงทีข่ ้าศึก คือกิเลสและกองทกุ ขอ์ ยู่จงึ จะ
ไดช้ ยั ชนะ กิเลสแลกองทกุ ขท์ ง้ั มวลไมม่ นี อกเหนือไปจากเบญจขนั ธ์ ฉะน้ัน
พงึ ทราบว่าขา้ ศึกอย่ทู ี่น้นั พึงต้ังสติปัญญาลงทนี่ ้นั อย่าลดละ พระพทุ ธ ธรรม
สงฆ์ หรอื ผูว้ เิ ศษทัง้ หลายอยู่แทรก ณ ที่นั้น (คอื เบญจขันธ์) เอง เพราะอะไร
เลา่ ? เพราะจิตธรรมชาตวิ เิ ศษ สิงสถติ อย่ใู นเบญจขันธน์ น้ั การพิจารณา
อยา่ งนีต้ รงตามพทุ ธประสงค์ และตรงตามความหมายของธรรมแทไ้ ม่ผดิ อย่า
กงั วลในความเปน็ อยู่หรือความจะแตกตาย นนั่ เป็นอจินไตย เหนอื ความคาด
หมาย ใหก้ ำ�หนดลงทเี่ ปน็ ทุกขแ์ ละว่นุ วาย เพราะสง่ิ นเี้ องกอ่ ใหก้ เิ ลสในจิตฟุ้ง
ข้นึ เพราะความหลงกลมายาของเขา
อนจิ จงั ทุกขัง อนตั ตา ทง้ั สามน้ีเป็นธรรมตายตัว ไมเ่ ปน็ ไปตามความ
คาดหมายหรือปรงุ แต่งของใครทงั้ นนั้ ฉะนั้นจงหย่งั สตปิ ัญญาลงให้เปน็ ธรรม
ตายตวั โดยชดั เจน จึงจะเป็นจติ ทีต่ ายตัวไม่หลอกตน และจะหายกงั วลใน
ขันธ์ ซง่ึ จะเปน็ ไปในหนา้ ที่แต่ละขนั ธ์ เร่ืองกลัวแลกงั วลในขันธจ์ ะแตกดับ ก็
คอื ก่อไฟเผาตวั และจิตใหก้ ิเลสฟ้งุ และลุกลามนนั่ เอง อย่างไร ๆ ขันธ์ตอ้ งแตก
แน่ ใหพ้ ิจารณาขันธ์ตัวที่จะตอ้ งแตกแนน่ ใี้ ห้ชัดด้วยปญั ญา เม่อื ชัดแล้วความ
ร้ทู ี่แทจ้ รงิ น้ีไม่แตกตามขนั ธ์ ฉะนน้ั ทา่ นผรู้ ขู้ ันธ์ชัดเจนจึงไม่เดือดรอ้ น เพราะ
ขันธ์จะตง้ั อยู่ หรอื ขันธจ์ ะแตกไปเม่ือไร นีค่ ือหลักการพิจารณาที่แทจ้ รงิ และ
ความรทู้ แี่ ทจ้ ริงต้องเป็นอยา่ งนี้ อยา่ ให้สา่ ยแสไ่ ปในทางอดตี อนาคต ปัจจุบนั
เป็นกฎความจรงิ ท่ีจะร้อื ถอนกเิ ลสโดยสิน้ เชิง นอกนัน้ คือเรือ่ งกงจักรหมนุ รอบ
ตวั เอง พงึ ทราบไว้อยา่ งน้ีตลอดกาลดว้ ย
๒๐๐ บัว

ฉบบั ที่ ๑๘

วัดปา่ บ้านตาด อุดรธานี

๙ มกราคม ๒๕๐๒

เรือ่ งการพจิ ารณาทางใจของแม่เจต ซ่งึ ออกคน้ คิดบ้าง พกั สงบ
บ้าง และพจิ ารณาอาการของจิตบ้าง ประสานกันไปน้ันเป็นการชอบแล้ว
ไมต่ ้องมกี ารแก้ไขอะไรอีกแล้ว นอกจากเวลาจติ พิจารณาเกนิ ขอบเขต
ไม่ค่อยหยดุ ย้งั ก็พยายามให้จติ พักสงบเสยี บา้ ง เพือ่ เปน็ กำ�ลงั ใจในการ
คิดคน้ ตอ่ ไป อาการของจิตซึ่งเกิดๆ ดบั ๆ เปน็ ส่งิ สำ�คญั จะตอ้ งพจิ ารณา
ใหร้ อบคอบถถ่ี ว้ น

บวั

๒๐๑

ฉบับที่ ๑๙

วัดป่าบ้านตาด อดุ รธานี

๒๖ มกราคม ๒๕๐๒

อาการปว่ ยของอาตมาก�ำ เริบบ้าง หายบ้าง อย่าวติ กไปมากนัก
เรื่องของขันธต์ ้องเป็นอย่างน้ันทุกขนั ธ์ และเป็นท่วั โลกไมล่ ำ�เอยี ง หากว่า
ทุกขห์ ายไปจากโลก อรยิ สัจที่พระองค์ตรสั ไว้กค็ งไมค่ รบ ศาสนธรรมก็
ไม่สมบูรณอ์ ยู่ เทา่ ที่ศาสนธรรมมสี มบูรณ์อย่กู ็เพราะอริยสจั มสี มบูรณ์
ฉะนัน้ ทุกขสัจ จงึ จัดว่าเป็นศาสดาเอก แทนพระพทุ ธเจา้ ซ่งึ ปรินิพพาน
แล้ว อาตมาเองไมเ่ สยี ใจในการที่ทกุ ข์จะเกิดข้ึน กำ�เริบรนุ แรง หรือทกุ ข์
จะหายไปจากขันธ์ แม้ทุกข์จะหายไปก็หายไปเพื่อเกิดขึ้นอกี เทา่ นัน้ ไม่
เพ่ืออนื่ ใดทั้งสิ้น ตราบเทา่ ขันธ์แตกดับ ทกุ ขจ์ ึงจะดบั โดยสน้ิ เชงิ คุณโยม
มารดาและคุณแม่แก้วคดิ ถึงคณุ ทั้งสองมาก นับวา่ คุณทง้ั สองมวี าสนา
มาก ฉะนน้ั จงภาคภมู ใิ จในวาสนาของตน เอว.ํ

บวั

๒๐๒

ฉบับที่ ๒๐

วดั ปา่ บ้านตาด อุดรธานี

๒๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๐๒

การพิจารณาอย่างวา่ นั้นถูกตอ้ งแลว้ ความมสี ติประจ�ำ จะพิจารณา
อาการใดกช็ อื่ ว่าถูกตอ้ ง เว้นเสียแตไ่ ม่มีสติ สตเิ ปน็ ธรรมจำ�เป็นยง่ิ นัก
อยา่ ปล่อยวาง อยา่ วติ กว่าเราจะไมด่ ี ขอใหม้ ีสตปิ ญั ญารกั ษาใจขณะท่ี
เคล่ือนไหว อะไรผา่ นจติ ขอให้ผา่ นสติปญั ญาวจิ ารณ์ไปพร้อมๆ กนั น้ีแล
บอ่ เกิดแหง่ ความดี ความดีไม่อยู่ในทีไ่ หนๆ อยา่ คาดคะเนไป จะเสยี หลกั
ของนกั ปฏบิ ตั ิ อาตมาเปน็ หว่ งคุณทง้ั สองมาก เพราะถือวา่ เป็นอาจารย์
ผูฝ้ กึ สอน แต่อย่าลมื อาจารย์เอก คือสตปิ ญั ญาซึง่ มีอยกู่ ับตัวทุกเม่ือ
สติปัญญานเ้ี องจะเป็นคู่เป็นคูต่ ายของเราแทๆ้ บาปความชว่ั ลามกไม่มา
จากไหน ไม่ต้องพรั่นพรึงหวั่นไหวต่อภายนอก แต่พึงทราบว่าจิตเป็น
เครื่องหลอกในเวลาที่เราไร้สติปัญญา ฉะนั้นจงจับอาวุธคือสติปัญญา
ไว้กำ�กับตัว จะร่มเย็นตลอดกาล จิตดวงเดียวเท่านั้นที่พึงกำ�หนดให้
รอบคอบในตัวเอง อย่าตนื่ เงาของตวั คอื อาการของจติ เอวํ.

บวั

๒๐๓

ฉบับท่ี ๒๑ ๑๑ เมษายน ๒๕๐๒

วดั ปา่ บ้านตาด อุดรธานี

การพิจารณาท้งั สองดา้ นเปน็ การถูกตอ้ งดแี ลว้ ทีเ่ ห็นชดั บ้าง ไมช่ ัด
บ้าง เป็นเพราะสติแลโอกาสของความเพียรทีส่ ะดวกบ้าง ไมส่ ะดวกบ้าง
แต่ไมต่ อ้ งหวนั่ ไหวตามอาการท่ีชดั บา้ ง ไมช่ ดั บา้ ง พึงท�ำ ความเข้าใจว่า
สัจจะมอี ย่ใู นกายในจิตอย่างไม่ปดิ บังตลอดกาล ความรูช้ นิดหน่งึ ซึง่ คงท่ี
และรับรใู้ ห้ว่าขณะนเ้ี หน็ ชดั ขณะนีเ้ ห็นไมช่ ัด ความรูอ้ ันนีเ้ องเป็นความรู้
ท่จี ะทรงอริยสัจไว้ไดต้ ลอดกาล ความรู้นอกน้นั เป็นความรู้ทต่ี ัง้ ขึน้ และดับ
ไปตามอาการท่เี กิดดับ ไมส่ ามารถจะทรงอริยสัจไวไ้ ด้ ใครหลงตาม ผ้นู ้นั
จะเดือดรอ้ นตลอดกาล

ฉะนั้น พงึ กำ�หนดใหร้ ตู้ ามเพลงของเขา อย่าหลงตาม ไฟกบั นำ้�มี
ประโยชน์เสมอกนั ขาดธาตทุ ้ังสองนี้ โลกก็แตกตัง้ อยู่ไม่ได้ ทุกขส์ มุทยั ก็
เชน่ กัน นกั ปราชญไ์ มข่ าดสญู จากโลก เพราะทกุ ขส์ มุทัยเปน็ เครือ่ งหนุน
ฉะนน้ั ทกุ ขส์ มทุ ัยจงึ ควรเป็นเวทขี องนกั ปฏบิ ตั ไิ มเ่ ลอื กหน้า เราผูห้ นง่ึ เปน็
นกั ปฏิบัติ ต้องยกทกุ ข์สมุทัยข้ึนเปน็ หินลับ ยกปญั ญาขึ้นเปน็ มีด-ลับหนิ
ใหค้ มกลา้ ฝา่ ฟันขา้ ศึก ซ่งึ เกดิ ขน้ึ กับตน อย่าเหน็ ทกุ ขส์ มุทัยเปน็ คนละ
คน นอกจากตนไป และอยา่ เห็นนิโรธ มรรคเป็นมติ รสหายมาจากตา่ ง
แดน พึงทราบว่าอริยสจั ทั้งสเ่ี ปน็ ลวดลายของจติ ดวงเดียวของคนๆ เดียว
เทา่ น้ัน

ท่ีถูกแท้ไมไ่ ดเ้ อาทคี่ วามเหน็ ชดั และไม่ชัดในขนั ธ์ ๕ แต่เอาที่เห็น
ชดั ดว้ ยปญั ญา เพราะพน้ จากทุกข์ด้วยปญั ญาทเ่ี หน็ ชัดในไตรลกั ษณ์ อนั
เกย่ี วกบั การพจิ ารณาขันธ์ เอวํ.

๒๐๔ บัว

ฉบับท่ี ๒๒ ๑๘ เมษายน ๒๕๐๒

วัดป่าบ้านตาด อดุ รธานี

ธรรมไม่เปน็ ของลบั แกผ่ สู้ นใจจรงิ ตอ้ งประจักษ์ใจแน่ และเป็น
ธรรมชาตมิ ีอยทู่ ุกกาล ผทู้ ย่ี งั ไมเ่ ห็นไมร่ ู้ กอ็ ย่าเสยี ใจ ให้ด�ำ เนินไปตาม
ความสามารถ การคน้ คดิ อยา่ ใหเ้ พลนิ เกนิ ขอบเขต ใหม้ เี วลาพกั จิตตามท่ี
สอนไว้ ธรรมคู่แข่งขัน เพราะการค้นคดิ (ปญั ญา) กบั การพกั สงบ (สมาธ)ิ
เป็นธรรมอาศัยกัน มคี วามจำ�เป็นเทา่ เทียมกนั ให้ด�ำ เนนิ ตามทีแ่ นะมาน้ี
ใจจะด�ำ เนินไปดว้ ยความราบร่นื ปราศจากอุปสรรค การบวชหรือไม่บวช
นั้น ยังไม่เปน็ ปญั หาที่ควรคิดให้เกิดกังวล การแก้กิเลสทุกประเภท
เป็นปัญหาสำ�คัญยิ่งกว่าอื่น ความบริสุทธิ์ไมใ่ ชเ่ พชฌฆาต อยา่ กลวั
ขันธจ์ ะแตกเพราะความบรสิ ุทธิท์ ำ�ลาย ให้เหน็ ในใจเราแจ้งประจักษด์ ีกวา่
เช่อื ข่าว แม้แตอ่ าหารในถ้วยชามยงั มกี ระดกู และกา้ งแฝงอยู่ เร่ืองข่าว
กเ็ ช่นกนั ย่อมมสี ง่ิ เคลือบแฝง โปรดอย่ากงั วลในสิง่ ท่ีไมค่ วรกงั วล
สรุปความการพจิ ารณา พึงค้นคดิ ใหเ้ หน็ ขนั ธจิตโดยรอบคอบ กิเลส
อยูท่ ีน่ ่นั เอง สนั ตธิ รรมก็อยใู่ นทแี่ ห่งเดยี วกัน หมดกเิ ลสก็เหน็ สนั ตธิ รรม
โดยสมบูรณ์ เร่อื งเหลา่ นี้ครูอาจารยข์ องเราทา่ นผ่านมาหมดแลว้ ต้อง
ลงเอยกนั ทร่ี ูเ้ ท่าจิตดวงเดยี ว ฉะนั้นเราพยายามใหเ้ ป็นอยา่ งทา่ นใหจ้ งได้
จะเปน็ ศษิ ย์มคี รแู ทร้ ้อยเปอรเ์ ซน็ ต์

บวั

๒๐๕

ฉบบั ที่ ๒๓ ๔ กรกฎาคม ๒๕๐๒

วดั ปา่ บา้ นตาด อุดรธานี

การด�ำ เนินจิตส�ำ หรับแม่เจตนั้น ไม่มอี ะไรกวา้ งขวาง นอกจากจะ
พจิ ารณาขันธก์ ับผ้รู ใู้ ห้เห็นประจักษด์ ว้ ยปัญญา ความรู้ ความหลง ความ
ฉลาด ความโง่ ความเศรา้ หมอง ความผ่องใส ทั้งน้ีจะรวมหวั กันอยใู่ น
จุดผู้รนู้ ้ันแหง่ เดยี ว จงกำ�หนดพิจารณาหรอื ท�ำ ลายจุดผูร้ ูใ้ ห้แตกกระจาย
ไปดว้ ยปญั ญา อย่าสงวนหรือส�ำ คัญว่าเป็นของจรงิ แลว้ ถือม่ันไว้ จะเป็น
ภัยแก่ตนไมร่ หู้ าย จงทำ�ความระวงั อยา่ หลงตามหรอื ยดึ ถอื สิง่ ที่กลา่ ว
มาน้ี เพราะอาการท้ังหมดที่เกดิ จากผรู้ กู้ ็ดี ตัวผู้ร้กู ด็ ี นค่ี อื สิ่งหลอกลวง
ใหค้ นโงห่ ลงนนั่ เอง เราจงรเู้ ท่าสิ่งเหลา่ นด้ี ้วยปญั ญา ขอยำ้�อกี ว่า อยา่
เกรงกลัวว่าความรู้จะสูญหายไปในเวลาผู้รู้ซ่ึงเป็นตัวผสมกับยาพิษได้ถูก
ทำ�ลายดว้ ยปัญญา ผู้รอู้ นั นเ้ี องเป็นเหตุทำ�ความเกิดแกเ่ จ็บตายของสตั ว์
ให้เปน็ ไปไมม่ วี นั สน้ิ สดุ ฉะนัน้ จงทำ�ลายผูร้ นู้ ี้ใหแ้ ตกท�ำ ลายไปโดยส้นิ เชิง
อยา่ ยดึ ถอื เอาไวแ้ มแ้ ตน่ อ้ ย ผ้รู ้แู ลอาการของผรู้ ้ทู ั้งหมด มีความเศรา้
หมองผอ่ งใส เปน็ ต้น เปน็ กองทัพแนวหนา้ ของอวิชชาร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้
พยายามพิจารณาเพือ่ รเู้ ท่าและปล่อยวางโดยถา่ ยเดยี ว

สว่ นผู้รทู้ ี่จะเป็นองค์สันติ (พระนิพพาน) แท้ ไมใ่ ชผ่ ู้รูอ้ นั ขวางหนา้
เราอยนู่ ี้ ผู้รทู้ ่เี ปน็ สันติแท้ ไม่มีอาการใดๆ แทรกแม้แต่นอ้ ย และกไ็ มใ่ ช่
ผู้รทู้ ี่ผสมนเี้ ลย ไมใ่ ช่ผรู้ ้ทู ่จี ะแยกตวั ออกจากส่ิงผสมนดี้ ว้ ย ผรู้ ทู้ ี่ผสมน้ีจะ
ต้องสลายตัวไปพรอ้ มๆ กับส่งิ ผสมในขณะทป่ี ัญญาของเรารู้รอบนน่ั เอง
ส่วนผู้รทู้ ่ีเป็นองคส์ ันติแท้ เราจะรู้ประจกั ษ์ขึ้นกบั เรา ในขณะทผ่ี ้รู กู้ บั สง่ิ

๒๐๖

ผสมถูกทำ�ลายลงด้วยปญั ญาญาณ จะหมดปญั หาใดๆ ในขณะนัน้ ฉะนน้ั
จ�ำ ให้ดี ตคี วามหมายแห่งธรรมทีแ่ สดงมาน้ใี หแ้ ตก สมบัตคิ ือสันติธรรม
(พระนพิ พาน) จะเป็นของเราแท้ หนไี ปไม่พน้
สรุปความ การพิจารณาให้ลงในไตรลักษณ์ มีอนัตตาเปน็ ภาชนะ
อันสุดทา้ ย จงพิจารณาทง้ิ ลงปล่อยลงในภาชนะน้นั เอวํ
คณุ เอี๋ยน อาตมากเ็ ป็นห่วงมาก ฉะน้ันจงพยายามปลอ่ ยอดตี
อนาคต และเจตสิกธรรมอนั ชัว่ รา้ ยทจี่ ะเกิดขนึ้ ในปจั จุบันแล้วลกุ ลามไปสู่
อดตี อนาคต อันเป็นตัวเพชฌฆาตคอยสงั หารความสงบของเรา ปจั จบุ ัน
เท่านั้นเปน็ ตวั มิตร มติ รท่ีดจี ะเปน็ อดตี อนาคตกเ็ ป็นมติ ร (มิตร หมายถงึ
เจตสิกทเี่ ป็นกุศล) ถา้ เปน็ เพชฌฆาตแล้วไม่วา่ อดีต อนาคต แมแ้ ตค่ ิด
ข้นึ ในปจั จุบันก็เป็นเพชฌฆาต เพราะสามารถท�ำ ลายความสงบของเราได้
เราตอ้ งการความสงบสขุ จงพยายามสนใจในอารมณท์ ี่เป็นกศุ ล อย่ากังวล
เทีย่ วกอ่ ไฟขึน้ เผาตัวเอง ไฟโดยเฉพาะไฟอดีต อนาคต ถงึ คนท้งั หลาย
คิดว่าเราทำ�ชว่ั ไวใ้ นอดตี และเราจะไปเสวยทกุ ขใ์ นอนาคต อย่างน้ี
เรยี กวา่ จติ สง่ ไปทางอดตี อนาคต สง่ิ ทั้งนเ้ี ราเคยผิด เราต้องแก้โดยปจั จบุ ัน
ถ้าปจั จบุ ันแก้ไม่ได้ ใครๆ ในโลกแม้พระพุทธเจา้ ก็ทรงบรสิ ุทธ์ิไมไ่ ด้ และ
จะวางโอวาทแก่สัตวท์ ั้งหลายเพอื่ แกค้ วามผิดซ่งึ ตนทำ�มาก็ไม่ได้ แตน่ ี่
ความผดิ ของผ้หู ลงกย็ ังมีอยูใ่ นโลก ธรรมจงึ ยงั มอี ยู่ในโลกเพอ่ื แกค้ วามผิด
ท่ีตนท�ำ ฉะน้นั เรามีความผดิ ทกุ คน จงพยายามแกค้ วามผิดของตนตาม
โอวาทของพระองค์ทรงสอนไว้ จะไดพ้ น้ จากภยั ไปโดยลำ�ดบั อย่าสงสัย
น้ำ�เป็นเครือ่ งช�ำ ระสิ่งสกปรก ธรรมเปน็ ธรรมชาตลิ า้ งความชว่ั ซง่ึ เกิดขน้ึ
จากกายวาจาใจ เอวํ

บัว

๒๐๗

ฉบับที่ ๒๔ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๐๒

วดั ป่าบ้านตาด อดุ รธานี

เร่ืองขนั ธ์ทั้งโลกมีเตรียมต้งั ขน้ึ ตงั้ อยู่ แล้วเตรียมแตกดับไปเท่านน้ั
ไมว่ า่ ขันธ์ใดๆ บรรดามีประจำ�ในสัตวแ์ ละสังขาร เราเคยไดเ้ หน็ ได้ยิน
จนชนิ ตา ชนิ หู ชนิ ใจ ในความตั้งขึ้น แตกไปของขนั ธเ์ หลา่ นี้ท่วั แผ่นดิน
เฉพาะอยา่ งยง่ิ ในโรงฆา่ สตั ว์ ในครัวไฟ เตาไฟ ซ่ึงมีอยู่ทกุ หนทกุ แห่ง
ซง่ึ นอกไปจากตัวเรา เราพึงนอ้ มความเปน็ อยา่ งนน้ั ของมนษุ ย์และสตั ว์
เขา้ มาเปน็ เคร่ืองพร่ำ�สอนตนเราวา่ จะตอ้ งเป็นเชน่ เดียวกับส่งิ ท่ีผ่าน
ความรสู้ กึ เรามาแน่ๆ สิ่งทเ่ี สมอกนั ทัง้ โลก คอื ความเกดิ ความตาย
ไมม่ ีใครย่ิงหย่อนกวา่ ใคร คะแนนเตม็ เทา่ กัน เราอยา่ หวัน่ ไหวตอ่ ทุกข์
ที่เกิดข้ึนในกาย จงตง้ั สตปิ ญั ญาไวเ้ ฉพาะหน้า ตรงทีท่ กุ ข์เกดิ ขึน้ อย่า
หมายใจว่าทุกข์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าเป็นศัตรูเรา พึงทำ�ความเข้าใจว่า
ทกุ ข์ท่เี กิดขนึ้ นค้ี ือของจรงิ ประกาศตน รูป เวทนา สัญญา สังขาร
วญิ ญาณ ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค ทง้ั หมดนีม้ อี ยใู่ นตวั เรา เป็นของจรงิ
เสมอกนั ฉะน้นั จงท�ำ ใจใหก้ ล้าหาญและเดด็ เดย่ี วตอ่ ทุกขท์ ่ีเกิดขึน้ จง
พร่ำ�สอนตนว่าเราเท่าน้ันที่จะรู้สาเหตุของทุกข์ที่จรมาเกิดข้ึนหมดทั้งมวล
ของทกุ ข์ และจะสามารถบงั คับจิตใหต้ ัง้ อย่โู ดยเท่ียงธรรม ไม่เอนเอยี งไป
ตามทุกข์ที่ประกาศตัว

ขนั ธเ์ กดิ ขึ้นกบั เรา ฉะนัน้ ทกุ ข์จึงเกดิ ขนึ้ กับเรา เราเท่าน้นั เปน็
นักต่อสเู้ พื่อความเท่ยี งธรรมเฉพาะตน ไม่มีใครช่วยได้ ทกุ ขจ์ ะดับหรอื
ไม่ดับ ข้นึ อยกู่ บั ปัญญาพจิ ารณาตามเปน็ จรงิ ไมข่ ึน้ อยกู่ ับความหวนั่ ไหว

๒๐๘

หรือความอยากให้หาย ฉะนั้นไม่ควรสั่งสมธรรมทั้งสองประเภทนี้ให้
เกดิ ขน้ึ ภายในใจ จะเปน็ ภยั แก่เราเปล่าๆ พึงพรำ่�สอนตนว่า คนและสตั ว์
ทัง้ โลกกอ่ นจะตาย ตอ้ งเผชญิ ทกุ ข์และทนทกุ ขด์ ้วยกันทุกราย ไม่ใชจ่ ะ
ประสบทกุ ข์ ทนทกุ ขเ์ ฉพาะเราคนเดียว ทกุ ขเ์ กดิ ข้นึ ทกุ ข์ต้องดับไป ใจ
ไมเ่ กิดขน้ึ จึงไมด่ ับตามทกุ ข์ ฉะนน้ั เม่อื ใจเป็นอมตะไมต่ าย จงึ ไม่ควรหวั่น
ไหวไปตามทกุ ข์ ซ่งึ เปน็ ตวั เกิด ตัวดับ (ไมใ่ ช่อนั เดียวกนั )
กายคน-สัตว์อ่นื ๆ แตก กายเรายงั กายเราแตกสว่ นใจเรายงั ไม่
ควรเปน็ ทุกขเ์ ดอื ดร้อนไปตามทุกข์ ซงึ่ เทา่ กบั ฟองน้�ำ แตกไปเท่าน้นั ทกุ ข์
เปน็ สิง่ เกิดดบั ใจเปน็ ธรรมแทง่ หนง่ึ จากทกุ ข์ แตไ่ มเ่ กดิ ไม่ดบั เหมือนทกุ ข์
จึงไมค่ วรไหวตามทกุ ขซ์ ่ึงเกิดๆ ดับๆ เมือ่ ใจเปน็ ธรรมแท่งหนึ่งแลว้ เราก็
มอี ำ�นาจและหนา้ ทที่ จ่ี ะตอ้ งพิจารณาทกุ ข์ไดอ้ ย่างเต็มที่ โดยไมต่ อ้ งของ้อ
กับทุกขแ์ ตอ่ ย่างใด จงพิจารณาวา่ ทุกข์เกิดจากอะไร ใครเป็นผู้ใส่นามว่า
ทุกข์ อวัยวะทัง้ หมดไมใ่ ชท่ ุกข์ หากวา่ อวยั วะท้งั หมดเปน็ ทุกข์ คนสตั ว์
ตายแล้วนำ�ไปเผาไฟฝังดนิ เขาไมเ่ หน็ บ่นว่าทุกข์ ทุกขป์ รากฏอย่กู ับคน
สตั วท์ ่ียังเป็นอยู่ อะไรท�ำ ใหเ้ ป็นอยูค่ ือใจ ใจหลงทุกข์ใจจงึ เดอื ดร้อน ใจ
รูท้ ุกข์แลว้ ก็เห็นทุกข์เปน็ ของจริง แมท้ ุกขจ์ ะเกิดข้นึ ในกายหรือจะดับไป
ใจกไ็ มต่ ่นื เต้นหวน่ั ไหว นีแ่ หละจงึ จะหมดกังวล โปรดพิจารณาอย่างนี้
โรคของคณุ เกย่ี วกับความแกช่ รา เยยี วยายาก โปรดเยยี วยากนั ไปทัง้
ภายนอกภายในใจ แม้ตายอยา่ ใหข้ าดทุน คนท้งั โลกไม่มใี ครยง่ิ หยอ่ นกว่า
กนั คือความตาย ตายเหมือนกันหมด เอวํ

บวั

๒๐๙

ฉบับท่ี ๒๕

วดั ป่าบา้ นตาด อดุ รธานี

๑ เมษายน ๒๕๐๒

เร่ืองจิตใจ แมเ่ จตพงึ ด�ำ เนินไปด้วยความมีวิจาร สิ่งใดปรากฏขึน้
เฉพาะหน้า พงึ ก�ำ หนดให้รเู้ หตผุ ล อยา่ ดว่ นถอื เอา จะเป็นดี-ชวั่ เศรา้
หมอง ผอ่ งใสใดๆ พงึ กำ�หนดใหร้ ้แู จ้งเพอื่ ปลอ่ ยวางเสียส้นิ ไม่ใชเ่ ป็นของ
ควรถอื เอา ข้อควรระวงั คอื สุขกับผ่องใส เปน็ สง่ิ จะควรติดโดยแท้ ใน
ขณะเดยี วกนั สองส่งิ น้ี ถา้ เราติดจะเปน็ มารแก่เราเช่นเดยี วกับสง่ิ อ่ืนๆ
ฉะนั้นเพอ่ื ความรอบคอบดว้ ยปญั ญา จงพิจารณาใหเ้ ห็นวา่ สงิ่ ทป่ี รากฏกบั
จติ ทั้งหมด จงเห็นวา่ ตกอยู่ในไตรลักษณ์ส้นิ ไม่ควรถอื เอาเด็ดขาด เม่อื
เราร้เู ทา่ หมดแลว้ ธรรมทไี่ ม่มีปญั หาว่าเกิดดบั จะเป็นของเราตลอดอนันต
กาล จงจำ�ใหด้ ี

บวั

๒๑๐

ฉบบั ท่ี ๒๖

วัดปา่ บ้านตาด อุดรธานี

๑๒ ตลุ าคม ๒๕๐๒

การพจิ ารณาของแมเ่ จตนบั ว่าถกู ต้องดี ขอใหย้ ดึ หลักวา่ “ขนั ธก์ บั จิตเปน็
สิง่ ทีเ่ ราจะพิจารณาไมข่ าดระยะ และเปน็ สิ่งส�ำ คญั กว่าอ่นื ทง้ั หมด” เรือ่ งจติ จะ
บริสทุ ธิห์ รือละเอยี ดขึน้ ไปอย่างไรนั้น ขนึ้ อยกู่ ับจิตทำ�งานการค้นคิดให้รู้ตามเป็น
จรงิ ในขนั ธท์ ้ังหลาย หนา้ ท่ีของขันธ์ท่เี ขาทำ�งานอยปู่ ระจ�ำ อิรยิ าบถ ก็คือความตั้ง
ขน้ึ แลดบั ไปเทา่ นน้ั ยกสังขารขันธเ์ ปน็ ตวั อยา่ ง คือสังขารจะคิดข้ึนปรงุ ขน้ึ ทาง
ดกี ต็ ามทางช่วั กต็ าม คดิ เร่อื งอดตี ก็ตามอนาคตก็ตาม จะตอ้ งดับไปในขณะๆ ทกุ
ประเภทท่คี ิดขน้ึ ปรงุ ข้นึ ขอแตเ่ ราจงจบั หลักของสงั ขารไวด้ ้วยดี ยกสตปิ ัญญาเข้า
ใกล้ชดิ ตอ่ ความเกิดความดับของสงั ขารทกุ เวลา แมเ้ วทนา สัญญา เป็นต้น ก็
โปรดพิจารณาท�ำ นองเดียวกนั จะต้องทำ�หน้าที่เกิดดับเชน่ เดยี วกัน
อย่าท�ำ ความคาดหมายว่ากลวั ลำ�บากหรอื ร�ำ คาญ หรอื ละเอยี ดบรสิ ุทธ์ิ
ไปก่อนความเป็นเองของจติ สุข ทกุ ข์ เศรา้ หมอง ผอ่ งใส เปน็ ตน้ ที่เกดิ ข้นึ
ให้ถอื วา่ เปน็ ธรรมเครื่องเตือนสตปิ ญั ญา อย่าถอื วา่ เป็นของเอาหรือของทง้ิ ให้
ถือวา่ เป็นสง่ิ ท่ีจะตอ้ งรเู้ ทา่ เสมอกนั หมด อย่าแสดงความดีใจ เสียใจไปตามสิง่ ที่
ปรากฏขึน้ แลดบั ไป ผิดหลักของผจู้ ะยกตนให้พน้ ความลำ�เอียงในสภาวธรรม ไม่วา่
ประเภทใดๆ ทงั้ หมด พึงทราบว่าขนั ธท์ ั้งหมดที่มอี ยู่ในตัวเรา ไมใ่ ช่เปน็ ของ
ขวา้ งทิ้ง หรือจะถอื เอา แต่เปน็ ของจะรเู้ ทา่ ดว้ ยปญั ญา แล้วตา่ งฝา่ ยตา่ งก็อยู่
ตามความเป็นจริงของตนๆ ไมส่ ับสนกนั จึงจะไม่มเี รอื่ งยุ่งเกดิ ข้ึน เม่ือไม่มเี รื่อง
ก็ไม่มีคดีเกี่ยวขอ้ ง พอท่จี ะหาทนายและผูพ้ พิ ากษามาชว่ ยเบกิ ความและตัดสิน
อนึง่ แม้จิตคอื ผรู้ ู้ เม่อื ถงึ ขนั้ รู้เฉพาะจิตไมเ่ ก่ียวกบั อารมณ์ใดๆ แลว้ ก็
พงึ พิจารณาเฉพาะจติ ด้วยปญั ญา เช่นเดยี วกบั การพิจารณาขนั ธท์ ง้ั หลาย ไมเ่ ช่น

๒๑๑

น้ันจะท�ำ ความนอนใจในผ้รู ู้ กจ็ ะติดผู้ร้เู ขา้ อีก ยิ่งจะเปน็ ผรู้ ูท้ เี่ ต็มไปดว้ ยความ
หลง ขอ้ ส�ำ คญั เราอยา่ กลวั ผรู้ จู้ ะฉบิ หายไปจากตัวเรา ในขณะทเ่ี ราจะพิจารณา
หรอื กล่ันกรองผรู้ ู้ ใหท้ ำ�ความเข้าใจวา่ สงิ่ ทัง้ หมดทัง้ นอกกาย นอกใจ ทัง้ ในกาย
ในใจ ท้ังใจ สง่ิ ใดจะเคลอ่ื นไหวไปอย่างไร จะแตกจะดบั กข็ อใหเ้ ราเห็นชัดดว้ ย
ปัญญาญาณ ว่าส่งิ น้นั ๆ แตกดบั ไป เราอยา่ มสี ว่ นเก่ยี วข้องว่าเราจะถกู ท�ำ ลาย
หรือแตกดบั ไปตามส่ิงนนั้ ๆ ธรรมชาติใดที่จะเป็นธรรมชาติทีป่ ระเสรฐิ ธรรมชาติ
น้ันจะปรากฏชดั ขน้ึ กบั เราทันที และธรรมชาติอนั นนั้ ไมอ่ ยใู่ นกรอบของความเกิด
ขึน้ แลแตกดบั สญู ไปตามใครๆ ดว้ ย นั่นแหละเรียกว่าธรรมดวงเอก คือพทุ ธธรรม
พุทธธรรมคอื ผรู้ ้ทู บี่ ริสุทธ์ิ (พระพทุ ธเจา้ แลสาวกทงั้ หลาย ท่านได้ธรรมดวงนี้ จงึ
เปน็ ผู้ประเสริฐสุดของไตรภพ โลกทงั้ สามไดก้ ราบไหว้ กก็ ราบไหวธ้ รรมดวงนี้เอง
หาไดน้ อกเหนอื ไปจากตัวเราตัวทา่ นท่ไี หนไม่)
ฉะนนั้ จงพยายามตามทีอ่ ธบิ ายมาน้ี สมบตั ิคือธรรมดวงเอก จะกลาย
เป็นของเราในวันหน่ึงแน่ เพราะสมยั นี้หาคนผ้จู ะทำ�ตนเพื่อดวงธรรมดวงเอกนี้
หายากมาก และจะหาครอู าจารย์ผทู้ จ่ี ะมาชีท้ างเพือ่ ธรรมดวงเอกได้โดยถกู ตอ้ ง
แก่นกั ศกึ ษาแลนกั ปฏิบัติผ้มู งุ่ หวงั อยู่แลว้ เตม็ ใจ กห็ ายากเชน่ เดียวกัน เพราะ
ฉะนนั้ ๑.ธรรมดวงเอก ๒.ผู้มุง่ หวงั ธรรมดวงเอก ๓.ผชู้ ี้ทางเพ่อื ธรรมดวงเอก
โดยถูกต้อง ทงั้ สามซง่ึ เป็นของหายากน้ี แต่ไมย่ ากไปทุกราย ไม่ง่ายจนเกินไป
ถงึ กบั ไม่เป็นของแปลก ธรรมชาติทง้ั สามนที้ ี่ว่าหายาก ควรจะไดเ้ ปน็ ของสะดวก
ส�ำ หรับเรา เพราะเข้าใจว่าเราเป็นคนๆ หนึง่ ท่ีได้มีวาสนาบารมี มาประพฤติตน
เพ่อื ธรรมอนั เอกกบั เพือ่ นพทุ ธบรษิ ทั เพ่ือความเปน็ ลกู ท่ดี ขี องพระพุทธเจ้า เอวํ
อาตมาเปน็ ห่วงคณุ ทงั้ สองมาก การปว่ ยพงึ ทราบวา่ เขาจะมาเตอื นเรื่อง
หนสี้ ิน ต่อไปเขาจะมาทวงหนี้สนิ กลบั คืน จงรบี ต้งั เนือ้ ต้ังตัวดว้ ยอรยิ ทรพั ย์

บัว

๒๑๒

ฉบบั ท่ี ๒๗ ๗ ธันวาคม ๒๕๐๒

วดั ปา่ บ้านตาด อุดรธานี

อาการของจติ ทุกอาการทเี่ กิดขึน้ ตอ้ งดับและแปรปรวน อยา่ ตน่ื เงา
ของจิตตัวเองจะเดอื ดร้อน ความรู้วา่ เผลอและไมเ่ ผลอเป็นทางทถี่ ูกตอ้ ง
แลว้ ความเส่อื มความเจริญเป็นอาการของโลก ใหร้ เู้ ทา่ ผู้รู้ว่าเส่ือมหรือ
เจริญ นีแ่ หละเป็นธรรมทค่ี งท่ี ความรับรู้ทกุ ขณะนแี้ ลเปน็ ธรรมยง่ั ยนื
เราเปน็ นักปฏิบัตอิ ย่าหลงตามอาการของความเส่อื มความเจริญ จงรตู้ าม
อาการ จงึ จดั ว่าเปน็ ผูฉ้ ลาดในธรรม ดวงไฟยังมดี อกแสงควนั ไฟ ตอ้ ง
แสดงความเกิดความดับจากดวงไฟเป็นธรรมดา จติ ยังมอี าการเกดิ ๆ ดบั ๆ
ซงึ่ เกดิ จากดวงจิตต้องมเี ช่นเดยี วกัน ข้อสำ�คญั อยา่ หลงตาม เสือ่ มจงรูต้ าม
เจริญจงตามรู้ เผลอหรอื ไม่เผลอจงตามรู้ทกุ อาการ จึงจดั วา่ นักค้นควา้
ความรู้เทา่ ในอาการเกิดๆ ดับๆ ของส่งิ เหลา่ นีด้ ว้ ยปัญญาเสมอไป น่นั แล
จัดว่าเป็นผ้รู ู้ จะร้เู ทา่ ทันโลกและเรียนโลกจบ จึงจะพบของจรงิ

กระพี้ต้องหุ้มห่อแก่นไม้ไว้ฉันใด กระพี้ธรรมก็ห่อหุ้มปกปิดแก่น
ธรรมไวฉ้ ันนน้ั อาการเกิดๆ ดับๆ ดี ช่วั เส่ือม เจรญิ เผลอ ไมเ่ ผลอ
เหลา่ น้จี งทราบว่าเป็นกระพธี้ รรมปกปดิ แก่นธรรมคือของจริงไว้ ใครหลง
ตามช่อื วา่ คว้าเอากระพี้ธรรม จะน�ำ ความเสอื่ ม ความเจรญิ เป็นต้น มา
ผันดวงใจใหด้ ิน้ รน จะตามดูโลกและร้โู ลกของตนไม่จบ จะพบแต่ของ
ปลอม อาการท่ีปรากฏขึ้นมาจากจิต จะดี ช่วั สขุ ทุกข์ เส่อื ม เจรญิ
เผลอ ไมเ่ ผลอ เศรา้ หมอง ผอ่ งใส นี้เป็นเครื่องเตือนสติปญั ญา จงตาม
รู้ทุกอาการอย่าด่วนถอื เอา การเดินทางตอ้ งมีสูงๆ ตำ�่ ๆ ลมุ่ ๆ ดอนๆ

๒๑๓

ตลอดทางจนถงึ ที่อยู่ฉนั ใด การเดนิ ธรรม (คอื การด�ำ เนนิ ทางจติ ) ตอ้ ง
ประสบอาการต่างๆ มีดชี ั่วเปน็ ต้น ซง่ึ จะเกดิ จากจิตเชน่ เดียวกนั จนถงึ
จดุ จบของสมมตุ ิ จึงจะไมป่ ระสบอาการเชน่ นีอ้ ีก
การเดนิ ทางอยา่ ถือความร้อนหนาว ความสูงตำ�่ ในระยะทางมา
เป็นอุปสรรค จงมงุ่ ความถึงที่ประสงค์เป็นสำ�คญั การดำ�เนินทางใจ อย่า
ถืออาการดชี ่วั เป็นตน้ ที่เกิดจากใจมาเป็นอปุ สรรค จงตัง้ ใจพจิ ารณาสิง่
ทม่ี าสมั ผัสด้วยปัญญาตลอดไป จนถึงจุดจบของส่ิงที่มาสมั ผสั อย่าหวั่น
ไหวตามอาการทเ่ี กิดข้ึนเฉพาะใจ จะเป็นนักรบต้องประสบกับขา้ ศึกคอื
อารมณ์ จงสู้รบดว้ ยปญั ญา จนเห็นความจรงิ ของอารมณน์ ั้นๆ ครูเอก
ของเราก่อนหนา้ จะปรากฏเป็นองคศ์ าสดาของเรา ต้องผ่านข้าศึกเชน่
เดียวกับเรา แมอ้ าจารยข์ องเราจะน�ำ ธรรมมาสอนเราได้ ต้องขดุ คน้ ข้นึ
มาจากอุปสรรค คือสิง่ กระทบเช่นเดียวกบั เรา ฉะนั้นจงตอ่ สู้จนสดุ ฝีมอื
จะสมชื่อว่าเราเปน็ ศิษยม์ คี รูแท้
ข้าศึกของเราทุกวนั ทเี่ ป็นไปอยู่ ไมม่ วี นั สงบศึกกันได้ ก็เนื่องจาก
เราเป็นศึกกบั ตวั เราเอง คอื ถา้ ใจสงบลงไมไ่ ด้ ศึกก็ยังสงบไม่ได้ แท้จริง
บาปมารเปน็ ตน้ ไม่มีตัง้ คา่ ยแนวรบ รอรบกบั เราอยูส่ ถานที่ใดๆ แต่ใจ
ดวงเดยี วเท่าน้ี ตง้ั ตวั เป็นเจ้าบาปเจา้ มารประหตั ประหารกบั เรา ถ้าเรา
เขา้ ใจวา่ บาปมารคอยเราอย่ภู ายนอก ไมย่ อ้ นกลับความรเู้ ข้ามาดูจิตผู้เป็น
ตวั มารแท้ ข้าศึกของเราจะหาวนั สงบไมไ่ ด้ จงทราบวา่ เรอื่ งทกุ ข์ทเ่ี ปน็
ไปในกายแลจติ ของเราตลอดเวลา ถา้ เรามองขา้ มทกุ ข์ก้อนน้ไี ป อริยสัจ
คอื ของจริงอนั ประเสรฐิ ก็เป็นอันวา่ เรามองข้ามไปเชน่ เดียวกนั อรยิ สัจ
มอี ยกู่ บั เราทุกเวลา จงต้ังปญั ญาให้เห็นตามความจริงของอริยสจั ทม่ี อี ยู่

๒๑๔

พระพุทธเจ้าถึงนิพพาน เพราะพิจารณาอริยสัจ เห็นอริยสัจ อย่าส่งใจไป
หาบาปบุญนอกจากกายใจ จะผดิ หลักผดิ ทาง อดีตอนาคตจงเหน็ เปน็ ไฟ
อย่าสง่ ใจไปเกาะเก่ยี ว ปัจจบุ นั คือความเพยี รมีสตจิ ำ�เพาะหน้า พจิ ารณา
ไตรลกั ษณอ์ นั มีอยกู่ ับตนน่ีแล เป็นธรรมแผดเผาบาปมารได้แท้ จงตง้ั จติ
ลงตรงนี้ ฉะนั้นจงพากันต้ังใจ คณุ ทงั้ สองมีวาสนาบารมีอนั ได้สรา้ งไวม้ าก
แล้ว อยา่ เสยี ใจ ไม่เสยี ทเี ลย จงเรง่ เข้า

บวั

๒๑๕

ฉบับท่ี ๒๘ ๑๖ มีนาคม ๒๕๐๓

วัดป่าบา้ นตาด อุดรธานี

การอบรมจติ จงใชป้ ัญญาพจิ ารณาดว้ ยดี ในอาการของธรรมทุก
แง่ (อาการของจิต) ซึ่งเกิดขนึ้ จากจติ ความสัมผสั รับรู้ในขณะทีอ่ ารมณ์
มากระทบจิต ไมใ่ ห้พลั้งเผลอและนอนใจในอารมณ์ นน่ั แลเรียกวา่ ความ
เพยี ร ดี ชั่ว สุข ทุกข์ เศร้าหมอง ผ่องใส จงตามรดู้ ว้ ยปญั ญา แล้ว
ปล่อยวางไว้ตามสภาพ ไม่ยึดถือและส�ำ คญั วา่ เปน็ ตน สง่ิ ใดปรากฏขึ้นจง
กำ�หนดรู้ อยา่ ถอื เอาแมแ้ ต่อย่างเดียว รชู้ ว่ั ปลอ่ ยช่ัว กลับมาหลงดี ถอื
สง่ิ ท่ดี ีวา่ เป็นตน น้ีกช็ อื่ วา่ หลง จงระวังการมีสติหรือเผลอสตใิ นขณะๆ
นน้ั ๆ อย่าตามกังวล เป็นความผดิ ทง้ั นัน้ จงก�ำ หนดเฉพาะหนา้ พจิ ารณา
เฉพาะหนา้
กายมีอยู่ จิตมีอยู่ ช่อื ว่าธรรมมีอยู่ อยา่ หลงธรรมว่ามีนอกไปจาก
กายกับจติ ไตรลกั ษณ์ หรอื สติปัญญากต็ อ้ งมอี ยู่ในสถานที่แห่งเดียวกนั
จงพจิ ารณาในจุดท่บี อกน้ัน แม้ท่สี ุดทำ�ผู้รหู้ รอื สตใิ หร้ อู้ ยู่ในวงกายตลอด
โดยไมเ่ จาะจงในกายส่วนหนึง่ ส่วนใดกถ็ ูก ข้อสำ�คัญใหจ้ ติ ต้ังอยูใ่ นกาย
อยา่ ใช้ความอยากเลยเหตผุ ลท่ีตนกำ�ลังท�ำ อยู่ก็แลว้ กนั การทำ�ถูกจุดผล
จะคอ่ ยเกดิ เอง ไมม่ ีใครแต่งหรือบงั คับ อย่าส่งจิตไปตามอดีตท่ีลว่ งแล้ว
ไม่มปี ระโยชนแ์ มแ้ ตน่ ้อย

บวั

๒๑๖

ฉบบั ท่ี ๒๙ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๐๓

วดั ปา่ บา้ นตาด อุดรธานี

ใจเปน็ สมบัตอิ นั ล้�ำ ค่าในโลก ไมม่ สี มบัติใดๆ จะเทยี มถึง สมบัติ
มากน้อยในโลกชอ่ื ว่าเป็นบริวารของใจ ฉะนัน้ จงพากันอบรมใจให้ไดค้ วาม
สงบเป็นล�ำ ดบั อย่าเห็นภัยอื่นนอกจากใจ ขณะเดียวกันอย่าเห็นคุณใน
สง่ิ อนื่ นอกไปจากใจเทา่ นนั้ เป็นบอ่ คุณบ่อโทษและบ่อบญุ -บาป ใจนั้น
ยังมีผเู้ หนอื อำ�นาจอีกคือสตปิ ัญญา สตปิ ญั ญาน้ีแลจะเป็นเครอื่ งบังคับใจ
ใหค้ ลายจากชว่ั เป็นดี แตเ่ มอื่ ใจบริสุทธิ์เตม็ ทีแ่ ลว้ เปน็ สตปิ ญั ญาสำ�เรจ็ ขน้ึ
ในตวั เอง ฉะน้นั ท่านผ้บู ริสุทธิแ์ ลว้ สตปิ ัญญาและความบริสุทธ์ิ จงึ
กลายเปน็ อนั เดยี วกนั โดยธรรมชาติ ปราศจากคำ�วา่ มรรค (เชน่ มรรค
๘ ไม่ใชธ่ รรมชาตินี้) เพราะธรรมชาตนิ อี้ ยู่นอกเหนอื มรรคแลผล ซึ่งเป็น
ธรรมคูก่ ัน

ขนั ธ์ไมเ่ ที่ยง เป็นทุกข์ เปน็ อนัตตา อาการของจติ ทุกอาการพงึ
ทราบวา่ เปน็ ไตรลกั ษณ์เชน่ วา่ นี้ อย่าหลงในอาการของจติ ที่แสดงออก
ทุกขณะ ผรู้ ูซ้ งึ่ เป็นทตี่ ั้งขึน้ แห่งขนั ธน์ นั้ ก็คือตวั อวชิ ชาแท้ อย่าหลงยึดถอื
เพราะผูร้ ู้อันนเี้ ป็น อมตํ ของวฏั ฏะ ไม่ใช่ อมตํ ของพระนพิ พาน
โดยมากมาหลงกนั ทต่ี รงผู้รู้ของอวชิ ชานี้ทง้ั น้นั ฉะน้นั เมื่อจติ เราไดช้ ำ�ระ
เขา้ ถงึ จดุ ผรู้ ้อู นั นี้ (คอื รังอวิชชา) จงท�ำ ลายอย่าใหเ้ หลอื อยู่เลย เม่อื ผรู้ ้นู ้ี
ถกู ทำ�ลายลงไปแล้ว จงึ จะเหน็ ผรู้ ทู้ ่ีเปน็ อมตํ ของพระนิพพานประจกั ษ์
ขน้ึ ในขณะนัน้ น่นั เอง ฉะน้นั จงสนใจ จริงหรือเท็จจะเหน็ ขึน้ จากใจ
ผปู้ ฏบิ ตั ิโดยแท้ (ของจริงอย่ใู ต้ของเทยี ม) ผู้รปู้ กปิดผู้รู้จงทราบโดยนยั นี้

๒๑๗

เราตอ้ งการเหน็ ผรู้ จู้ รงิ จงท�ำ ลายผรู้ ้ปู ลอมใหส้ น้ิ ไป ใจจะเปน็ อมตํ ขน้ึ
ในขณะน้นั อนงึ่ ความเกดิ ความดับของขันธ์ไมม่ สี ้ินสดุ จงตามเข้าไปให้
ถึงฐานทีเ่ กิดดับของขันธ์ ฐานอนั นั้นเองทา่ นเรยี กวา่ อวชิ ชา เอาละ จง
พยายามเตม็ ความสามารถ

บวั

๒๑๘

ฉบับท่ี ๓๐ สงิ หาคม ๒๕๐๓

วดั ป่าบา้ นตาด อดุ รธานี

การภาวนาเพ่อื ส่งเสริมผ้รู ใู้ ห้เดน่ ขนึ้ ก็มี การภาวนาเพอ่ื ท�ำ ลาย
ผรู้ ้กู ม็ ี เป็นไปตามช้ันของจติ ขั้นตน้ ต้องอบรมส่งเสรมิ ผู้รู้ใหเ้ ด่นชัด จน
ปรากฏเป็นจุดของความสงบ เราวดิ น�้ำ ให้แหง้ เท่าไร ยิ่งเหน็ ตวั ปลาในน้ำ�
ชัด การพิจารณาอาการของกายจะนอ้ ยหรอื มากอาการก็ตาม พิจารณา
ขยนั เทา่ ไร ย่ิงจะเหน็ ความสงบของใจชัด เชน่ เดยี วกบั เห็นตัวปลาท่ีวิด
น�ำ้ แห้งแลว้ น้นั กายเป็นของส�ำ คัญสำ�หรบั จติ ท่ียงั เกี่ยวข้องกบั กาย สว่ น
จิตทีเ่ ห็นแจง้ ในกายจนปลอ่ ยวางไดแ้ ลว้ กายไมเ่ ปน็ สำ�คญั เป็นคนละชน้ั
ฉะน้นั การทำ�ลายผรู้ ู้จึงอยใู่ นชัน้ ละเอยี ดของจิต จะนั่งอยใู่ นทเี่ ดียว แต่จิต
ไดก้ า้ วเข้าอยูใ่ นความละเอียดทคี่ วรจะละกเิ ลสได้หมด กค็ วรทำ�ลายผู้รู้
ไดเ้ ชน่ กนั ข้อส�ำ คัญอยทู่ ่ีจิตละเอยี ด เช่น สาวกของพระพทุ ธเจ้านง่ั ฟัง
เทศน์อยู่ต่อพระพักตร์ของพระองคก์ ็ละกเิ ลสได้หมด การละกิเลสไดห้ มด
กแ็ สดงวา่ รเู้ ท่าจติ หรอื ท�ำ ลายจติ ในขณะนนั้ ๆ เอง ถา้ ไม่รเู้ ท่าจิตหรือ
ท�ำ ลายจิต ก็ติดหรอื หลงจติ ไปไม่รอดเช่นเดียวกัน
กายทกุ สว่ นเปรียบเหมอื นน้�ำ ปลาในนำ้�เปรยี บเหมือนจิตทส่ี ิงอยู่
ในกาย จงพิจารณากายใหม้ าก จะเห็นความสงบโดยไมต่ อ้ งสงสัย

บวั

๒๑๙

ฉบับที่ ๓๑

วดั ป่าบา้ นตาด อดุ รธานี

๑๗ กนั ยายน ๒๕๐๓

การภาวนาของคณุ เอยี๋ น โปรดทำ�ไปตามสภาพของคนแก่ ใหจ้ ิต
ท่องเท่ียวอยใู่ นขนั ธจ์ ะมกี �ำ ลงั ใจดีกว่าเที่ยวท่ีอื่น ซ่งึ เคยคิด เคยเท่ยี วมา
นานแล้ว ถอื ไตรลกั ษณเ์ ป็นอารมณ์เครื่องเล่นของจิตเสมอไป เรอ่ื งแก่
เจบ็ ตาย ไม่มีใครเปน็ อาจารย์สอนเขาให้อยใู่ นอำ�นาจได้ เรอื่ งของขนั ธก์ ็
คือเรื่องของไตรลกั ษณ์และเรอ่ื งแก่ เจ็บ ตายนนั่ เอง ใครๆ ต้องเปน็ อย่าง
นัน้ หนีไม่พ้น จงพจิ ารณาให้เหน็ ตามความเปน็ จริงของเขา

บัว

๒๒๐

ฉบับที่ ๓๒ ๒๕ กนั ยายน ๒๕๐๓

วดั ปา่ บา้ นตาด อุดรธานี

การภาวนาเพอ่ื ความรู้ความฉลาด จงคน้ ลงที่เบญจขันธ์ บ่อกเิ ลส
ตัณหาอยทู่ ข่ี นั ธ์ แดนพ้นทุกขก์ ็อยู่ท่ขี ันธ์ จะก�ำ หนดทกุ ข์ก็ดี อนิจจังก็
ดี อนตั ตาก็ดี ในลักษณะใดกต็ าม จงกำ�หนดให้เหน็ ประจกั ษ์ใจจรงิ ๆ สงิ่
เหล่านมี้ อี ยูท่ ี่ขนั ธท์ ง้ั นนั้ ความทุกข์-ทกุ ข์ตลอดอวัยวะและตลอดกาล ไม่
เทย่ี งและอนัตตากเ็ ชน่ เดียวกัน ประกาศอยู่ท่ขี ันธท์ กุ เวลาไมม่ ีวา่ งเวน้
เหน็ ความจริงจากขนั ธ์แลว้ หายเพลนิ หายโศก กิเลสไมก่ วา้ งไมแ่ คบ ไม่
มากไมน่ อ้ ย มีขนาดเทา่ ตวั หรอื เท่าเบญจขนั ธเ์ ทา่ นัน้ สันตธิ รรมคอื พระ
นิพพานกเ็ ชน่ เดียวกัน ปัญญารอบขนั ธแ์ ล้วก็เทา่ กับรอบโลกรอบธรรม
หย่งั ถึงโลกถงึ ธรรม ธรรมกบั โลกไมล่ กึ ไมต่ ื้นไปจากขันธ์ จงกำ�หนดลงที่
ขันธ์น้ี ความหนาบางของกเิ ลสเป็นชอ่ื ท่ีเราต้ังให้เขาตา่ งหาก ความจริง
กเิ ลสกับนิพพานคือใจดวงเดียวเทา่ นั้น จะหนาหรือบางก็ใจผู้รู้ดวงเดยี ว
เทา่ นน้ั ไม่มีใครเปน็ กเิ ลสแลนิพพาน อยา่ รอ้ นใจไปอนื่ ผิดทางพน้ ทกุ ข์

บัว

๒๒๑

ฉบบั ท่ี ๓๓ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๐๓

วดั ปา่ บา้ นตาด อุดรธานี

ในจดหมายอาตมาบอกเร่ืองการกำ�หนดจิตโดยเฉพาะบ้าง
พิจารณาบ้าง ไมไ่ ดส้ อนให้เปน็ การขดั แยง้ สำ�หรบั ผปู้ ฏิบตั จิ ะพงึ เห็นผดิ
สอนเฉพาะกาลท่ีจะควรกำ�หนดเฉพาะจิต หรอื สอนเพ่ือพจิ ารณาขนั ธ์
ในกาลท่จี ะควรพจิ ารณา เพ่ือพอดแี ละราบร่นื ในการดำ�เนนิ จิตเท่านนั้
ไม่เชน่ นนั้ ผู้ปฏิบตั ิจะดำ�เนินทางจติ ไม่พอดีเท่าทคี่ วร แล้วจะตดิ อยู่ในวธิ ใี ด
วิธีหนึ่งก็จะเอาตัวไม่รอด การกำ�หนดเฉพาะจิตกับการพิจารณาขันธ์
เป็นกาลเปน็ เวลานัน้ เปน็ ทางตรงและราบรน่ื แท้อยา่ สงสัย อาหาร
เครื่องรับประทานมีทั้งหวานทั้งคาว ต่างก็เป็นอาหารด้วยกัน แต่
ผู้รับประทานก็ยังเลือกกาลให้พอเหมาะกับหวานกับคาวนั้นๆ ฉันใด
การพิจารณาขันธ์กับการกำ�หนดเฉพาะจิตก็เป็นอริยสัจอันเดียวกัน
แต่ก็พึงเลอื กทำ�ตามกาลฉนั นัน้ เหมอื นกนั ปัจจบุ ันธรรมเป็นเคร่ือง
ตัดความสงสัย จงกำ�หนดลงในกายในจิตซ่งึ เปน็ เรอื นอริยสัจ จะเป็น
ตวั ปจั จุบันตลอดกาล อยา่ วนุ่ วายไปอดตี อนาคต ไม่ใชท่ าง แม่เจตกผ็ ู้หนึ่ง
ทม่ี คี วามเปน็ ไปในจิตต่างกัน จงึ ต้องสอนตา่ งกนั ขอให้ผฟู้ ังจงก�ำ หนด
ให้เหมาะกับจริตของตนๆ ความเกิดๆ ดับๆ ไมใ่ ช่สิง่ จะควรถอื เอา จง
ก�ำ หนดให้รู้ กว้างแคบไม่ตอ้ งหมายไป มเี รือ่ งอยู่ทไี่ หนจงก�ำ หนดลงท่ีนน่ั
ค่อยแรง หนักเบา ตามแต่เหตุการณจ์ ะมาสัมผัสหรือเกิดขึน้ จงพิจารณา
ด้วยปญั ญา ส้นิ ไม่ส้ิน หมดไมห่ มด มีจิตดวงเดียวเป็นผู้จะตัดสนิ ด้วย
ปัญญา ปัจจุบันธรรมเปน็ ส่ิงส�ำ คัญกวา่ ส่งิ ใดท้ังหมด เอวํ

๒๒๒ บวั

ฉบับที่ ๓๔ ๑๒ มกราคม ๒๕๐๔

วดั ปา่ บ้านตาด อดุ รธานี

แมเ่ จตอยา่ หลงเพลงของจติ ทีแ่ สดงขึ้น ค่อยบ้าง แรงบ้าง อาการ
ใดปรากฏขึ้นจงกำ�หนดใหร้ ู้ เร่ืองปรากฏข้นึ ทัง้ หมดเปน็ สภาวธรรม ผู้รจู้ ง
อยา่ เผลอตัวไปตามอาการนน้ั ๆ ช้าหรอื เรว็ อย่าไปหมาย ความหมายวา่
ชา้ หรอื เร็วเป็นเรอ่ื งสมทุ ัย คือเครอ่ื งหลอก ไมม่ ชี า้ หรอื เร็วไปไหนหรอก
มีแตป่ รากฏขึ้นทจี่ ติ ดับไปทีจ่ ติ รู้อยูท่ ีจ่ ิตเท่านน้ั จงกำ�หนดอยู่ทจ่ี ิตให้ร้ทู ง้ั
อารมณ์เกิดจากจิต และใหร้ ู้ทง้ั จิต มเี ทา่ น้ี เมื่อยงั บกพร่องหรอื สมบูรณ์
จิตจะเปน็ ผ้ตู ัดสินข้ึนเอง
คณุ เอ๋ยี นก็เชน่ กนั อย่าส่ายแสห่ าเร่ือง ไม่ดี อดีต อนาคตปรากฏ
ขึ้นจากจิต ซง่ึ เปน็ ตัวปจั จบุ นั น้เี อง ตวั ปัจจุบันคอื จิตไมเ่ อนเอยี งแล้วไมม่ ี
อะไรเอนเอียงในโลก จงก�ำ หนดลงทกี่ ายที่จติ สันตธิ รรมอยูท่ ี่นี่ ไม่อยู่
ในอดตี อนาคต จงกำ�หนดลงปัจจุบัน คอื กายกับจติ ทกุ เวลาท่ปี ระกอบ
ความเพียร เอวํ

บวั

๒๒๓

ฉบบั ที่ ๓๔ ๒๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๐๔

วัดป่าบา้ นตาด อุดรธานี

อริยสัจประกาศอยูใ่ นกายในใจตลอดเวลา จงตามพิจารณาให้เห็น
จรงิ อริยสจั ๔ ไมไ่ ดเ้ ดินทางมาจากไหน เกดิ อยกู่ ับกายกับใจเราเท่าน้ี
ฉะนน้ั จึงไมค่ วรพิจารณาตามค้นหาอริยสัจในท่อี ื่นๆ ให้มากไปกวา่
การพิจารณากายกบั ใจซ่ึงเปน็ เรือนอริยสัจแท้ การเจรญิ ข้นึ หรือเสื่อมลง
แหง่ อาการดีช่ัวซงึ่ เกิดกับใจ จงกำ�หนดรู้ด้วยปญั ญา อยา่ แสวงหา อริยสจั
และศลี สมาธปิ ญั ญาไม่ใชธ่ รรมนอกไปจากกายกับใจ ซ่งึ พอจะแสวงหา
ทางใดทางหน่ึง อวชิ ชาและวิชชาเกดิ จากใจดวงเดยี วเทา่ นน้ั จงคน้ ดู
ใหเ้ หน็ ชัด ในอาการของกายและใจ ซงึ่ เป็นบอ่ ทั้งวชิ ชาและอวชิ ชา จงอยา่
วิตกวจิ ารไปกบั ความเจริญและความเส่ือมแหง่ อาการของจิต มันเคล่อื นไหว
อย่างไรจงตามร้ใู ห้หมด รูห้ มดแล้วไม่มีอะไรมาแสดงตนเป็นผูเ้ จรญิ และ
ผ้เู สอื่ มตอ่ ไป เหตุที่ส่งิ เหล่านีจ้ ะปรากฏดๆี ช่วั ๆ เนือ่ งจากเราตื่นเงาของ
ตัวเอง (อาการของจิตนนั้ เอง) หรอื ปญั ญายังไมร่ อบคอบพอ ส่ิงเหลา่ นจี้ งึ
แสดงตนเป็นเจ้ามายาได้ สรุปอรยิ สัจ ๔ ศลี สมาธิ ปญั ญา คอื ใจดวง
เดยี วเทา่ นนั้ จงก�ำ หนดให้รู้ด้วยปัญญา จะหมดปัญหาในส่งิ ทง้ั ปวง

บัว

๒๒๔

ฉบับท่ี ๓๖ เมษายน ๒๕๐๔

วดั ปา่ บ้านตาด อดุ รธานี

จงดูความเคล่ือนไหวของใจที่แสดงความเคล่ือนไหวอยู่ตลอดเวลา
อาการของใจ มนั เกดิ ไปถึงไหน และดบั ไปถึงไหน มันเกิดที่ไหนมันก็ดบั
ลงท่ีน่ันเอง จงพิจารณาใหช้ ดั ต่อความเกดิ -ดบั ของใจ ความเกดิ กับความ
ดับทีป่ รากฏข้ึนจากใจ ไมใ่ ชเ่ ป็นส่งิ ทคี่ วรถือเอา จงฆา่ แม่คือใจใหต้ าย ลกู
คืออาการก็จะหมดปัญหาทันที แม้จะปรากฏเกิดๆ ดบั ๆ ก็ไมเ่ ปน็ ปัญหา
และไมม่ พี ษิ สงอะไรตอ่ ไปอีก อาการของใจจึงจะกลายเปน็ ขันธ์ลว้ นๆ
ไม่มีกเิ ลสเจอื ปน จะหมดกงั วลใดๆ ลงทันที

บัว

๒๒๕

ฉบบั ที่ ๓๗ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๐๔

วดั ปา่ บ้านตาด อดุ รธานี

จงพากนั ตั้งใจภาวนาอย่าไดข้ าดวนั ขาดคนื เราทกุ รูปทุกนามไม่ว่า
หนุ่มหรือแก่ เดนิ ใกลค้ วามตายด้วยกนั ทุกคน ไมม่ ใี ครจะเดินหา่ งไกลไป
จากความตายได้แม้แต่คนเดยี ว จติ ดวงพยศของเราทกุ ท่านนเ้ี อง เปน็
ดวงจิตทจี่ ะรบั เคราะห์กรรมแหง่ ความพยศของตน ไม่มีสง่ิ ใดจะมารับ
ภาระแทนได้ ฉะน้นั จงพยายามดดั แปลงใจดวงนี้ใหเ้ ห็นโทษแหง่ ความ
พยศของตน จะเป็นสุขแก่ใจเอง ความพยศเปน็ วฏั ฏะของจิต ไม่มีสน้ิ สุด
ลงได้ เอวํ

บวั

๒๒๖

ฉบับที่ ๓๘ ๗ สงิ หาคม ๒๕๐๔

วดั ปา่ บ้านตาด อดุ รธานี

การพิจารณามนี ยั ต่างกัน ใครถนัดโดยวธิ ีใดในวงแห่งกาย จง
พจิ ารณาตามความถนดั ของตน ไมเ่ ปน็ ข้าศกึ ตอ่ ผลรายได้ อันจะเกดิ ข้ึน
จากการพจิ ารณากาย จะเป็นกายนอกกายในไมผ่ ิด เพราะการพจิ ารณา
กายใดก็เพ่อื ความถอดถอนความกังวลจากกายหรือความยดึ ม่ัน อันเปน็
กเิ ลสประเภทหน่ึงจากความถอื กายด้วยกนั จงบงั คับลงท่ีจุดเปา้ หมาย
คือกาย ไม่เป็นความเสยี หายแต่อยา่ งใด เร่อื งไตรลกั ษณ์จะเป็นสง่ิ รูข้ ึ้น
จากการพจิ ารณากาย หนีไปไม่พน้ ความสงสัยเป็นภยั ตอ่ การด�ำ เนนิ นกั
ปราชญท์ ัง้ หลายถอื กายเปน็ สนามรบ จบส้ินกนั ลงทก่ี ายกับจติ

บวั

๒๒๗

ฉบับที่ ๓๙ ๖ กันยายน ๒๕๐๔

วดั ป่าบา้ นตาด อดุ รธานี

การภาวนาจะดหี รอื ไมด่ ี ละเอยี ดหรือไม่ละเอียด จงถือเปน็ กิจ
จำ�เป็นประจ�ำ อิริยาบถและประจ�ำ วัน เราเป็นศิษย์พระตถาคต บุกหนา้
เรอื่ ยไป ไม่ต้องถอยหลัง ความตายไม่เคยไวห้ น้าคน และถอยหลงั
ให้ผ้ใู ดได้เยาะเย้ยเขา จงตัง้ หน้ารับความตายด้วยความเพียรของเรา จะ
มชี ยั ชนะไปเปน็ ล�ำ ดับ ทางอ่นื ไม่มที ่าจะสคู้ วามตายได้ ใครก็ใครเถอะ ถ้า
เวน้ ความดแี ลว้ ตอ้ งหมอบราบต่อเขาแน่ โลก เราทกุ คนได้เคยผ่านมา
แล้ว ความสขุ ทกุ ขใ์ นทางโลกใครโกหกกันไม่ได้ เพราะใครกม็ เี ครอ่ื งรับ
(อายตนะ) เหมือนกัน และสขุ ทุกข์จะต้องผา่ นอายตนะดว้ ยกัน รดู้ ว้ ยกัน
เห็นสขุ ทุกขด์ ้วยกนั ที่สุดของสขุ ทกุ ข์ก็แคต่ ายเทา่ นั้น ไม่มใี ครสามารถเลย
ไปได้ ถ้าผูม้ ีบญุ อนั ได้สร้างไว้แลว้ ผู้นัน้ แลจะมีโอกาส ไดเ้ ห็นสขุ แลทุกข์
เยยี่ มกว่าโลกเขาเป็นชนั้ ๆ ขึน้ ไป จนสามารถข้ามแดนแห่งทุกขถ์ งึ บรม
สขุ คือพระนิพพานได้แน่ ฉะนน้ั ทาน ศลี ภาวนาจึงเปน็ ทางขา้ มแดน
แห่งทกุ ข์ได้โดยสวสั ดี ขอได้พากนั อตุ สาหะพยายามตามรอยพระพทุ ธเจ้า
เสดจ็ ไป จะเหน็ แดนแหง่ ความอศั จรรย์ในวันหน่ึงแน่ เอวํ

บัว

๒๒๘

ฉบับที่ ๔๐ ๗ ตุลาคม ๒๕๐๔

วดั ปา่ บ้านตาด อดุ รธานี

เวทนาก็เปน็ ธรรมเทศนาเคร่อื งเตือนเราอยา่ งเอกเหมอื นกนั กาย
เวทนา จติ ธรรม เป็นสตปิ ัฏฐาน ทางพ้นทุกข์โดยตรงไมอ่ ้อมคอ้ ม
เวทนาเกดิ จากจติ อาศัยกายตงั้ อยู่ จงถือเวทนาเปน็ เปา้ หมายของการ
ตัง้ สตดิ มี าก โปรดพากนั รบี เร่ง อย่านอนใจ สุข ทกุ ข์ อุเบกขา ปรากฏ
ขึ้นสมั ผสั ใจ เหมือนรูปเสียงเป็นต้น มาสัมผสั ตา หู เป็นตน้ แล้วกด็ บั
ไปเชน่ เดียวกนั จติ ของเราถา้ ไมต่ ื่นเงาของตวั เองมันกด็ ีเทา่ นน้ั ขันธ์
ทัง้ หา้ พงึ ทราบวา่ เปน็ เงาของจิต จงพิจารณาให้รอบคอบ อย่าหลงดีใจ
เสียใจไปตามสุขทกุ ข์ท่เี กดิ ข้ึนจากกายหรอื จากใจ ความฉลาดพิจารณา
ขันธ์ ใครไมไ่ ด้ไปหามาจากทไ่ี หน ยอ่ มเกิดขน้ึ ท่ีใจของเราทง้ั นนั้ จงหา
อบุ ายคิดคน้ ขึ้นมาเปน็ ปญั ญาสอนตนเอง ความฉลาดเท่านนั้ จะสามารถ
แกค้ วามโงเ่ ขลาได้ นอกจากความฉลาดแลว้ ไมม่ ที างจะเอาตวั รอดได้
ฉะน้นั จงพากนั สนใจในปญั ญา

บัว

๒๒๙

ฉบับท่ี ๔๑ ๑๙ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๐๕

วัดป่าบา้ นตาด อุดรธานี

จงพากันตั้งใจบำ�เพ็ญความดี เพื่อเตรียมตัวทั้งอยู่และไปโดย
ไม่ประมาทนอนใจ เร่อื งทุกข์น้ีใครอยทู่ ่ไี หนกต็ อ้ งพบเช่นกัน เพราะทกุ ข์
มอี ยใู่ นตวั ของเราทุกคน อยา่ กลวั ทุกขท์ ต่ี ิดอยู่กบั ตวั จงพิจารณาใหร้ ู้เทา่
ด้วยปญั ญา จึงจะอยู่เปน็ สขุ
นางวารีก็ขอได้บ�ำ เพ็ญตนเสมอ อย่าหาอปุ สรรคมาเป็นเครอ่ื งกดี
ขวางตนเอง จนไม่มีเวลาทำ�ความดี ความตายและความทกุ ข์ ใครจะ
รอ้ งขอหรอื ผอ่ นผันเขาไม่ไดท้ ัง้ นน้ั ผฉู้ ลาดตอ้ งพยายามแกอ้ ุปสรรคออก
จากตนเสมอ และไมแ่ ส่หาอปุ สรรคไปใสต่ น จนถงึ กับนอนจมอยใู่ น
อปุ สรรคตลอดกาล ถอนตวั ไม่ข้ึน จงใฝ่ใจต่อตนเองในทางความดี โลกน้ี
จงทราบวา่ โลกาวินาศ ไมม่ ใี ครจะเป็นตวั ของตัวอย่ไู ด้ตลอดกลั ป์ กายนี้
ต้องแตกวินาศไปวนั หนึง่ แน่

บวั

๒๓๐

ฉบบั ท่ี ๔๒

วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี

๓๐ มีนาคม ๒๕๐๕
ใหพ้ ากันต้งั ใจบ�ำ เพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ลอดไป ความตายมอง
ดูเราอยู่ตลอดเวลา ถงึ คราวแลว้ เขาไม่เลือกว่าคนบญุ คนบาป มัดตวั ไป
ด้วยกันท้งั นัน้

บัว

ฉบับที่ ๔๓

วดั ป่าบา้ นตาด อดุ รธานี

๒๕ พฤษภาคม ๒๕๐๕
การภาวนาเปน็ กิจจ�ำ เป็นยง่ิ กวา่ กิจใดๆ ท้งั สิ้น จงสนใจ ความตาย
จ�ำ เปน็ ฉนั ใด การเตรียมตวั เตรียมใจก็จำ�เปน็ ฉันน้นั แมเ่ จตก็โปรดภาวนา
จนถงึ วนั สดุ ทา้ ยเชน่ เดียวกัน

บวั

๒๓๑

ฉบบั ท่ี ๔๔

วดั ปา่ บา้ นตาด อดุ รธานี

๒๐ มถิ นุ ายน ๒๕๐๕
ความทกุ ขท์ กุ ประเภทที่แสดงขน้ึ ในกายในใจ จงทราบว่าน่ันคือ
ตวั แทนของพระพทุ ธเจ้า โปรดพจิ ารณาใหด้ ี

บวั

ฉบับท่ี ๔๕ ๒๘ มถิ นุ ายน ๒๕๐๕

วดั ปา่ บา้ นตาด อุดรธานี

ทะเลทกุ ขเ์ ต็มอยู่ในเบญจขนั ธ์ของเรา ไมม่ ีอนั บกพร่อง เต็มอยู่
ดว้ ยทุกขต์ ลอดกาล ทกุ ข์จงกำ�หนดรู้ อย่าเหน็ ทุกขเ์ ปน็ เรา และอย่าเห็น
เราเป็นทุกข์ ทกุ ข์เปน็ ของเกดิ ขนึ้ ดับไป จิตไม่ได้ดบั ไปด้วย สตปิ ญั ญา
เทา่ นน้ั จะตามรูท้ ุกข์ทเี่ กิดขนึ้ ในขนั ธ์ จงพยายามฝึกหดั สติปัญญาใหต้ ิดต่อ
กัน

บวั

๒๓๒

ฉบบั ท่ี ๔๖ ๙ สิงหาคม ๒๕๐๕

วัดป่าบ้านตาด อดุ รธานี

เรอื่ งจิตจะสงบหรอื ไม่นั้น ไมต่ อ้ งถอื เป็นข้ออุปสรรค การพิจารณา
จนเห็นชัดในเวทนาเป็นหน้าที่ของเรา จงพิจารณาจนวันแตกสลาย
นั้นแลเป็นศษิ ยท์ ่ีมคี รูแท้ ความอ่อนใจจะเปน็ ไปเพื่อส่งเสริมกิเลส ครบู า
อาจารยท์ ุกทา่ นไมเ่ คยแกก้ ิเลสดว้ ยความออ่ นใจท้อใจ ทา่ นแก้กเิ ลสได้
เพราะความกลา้ หาญท้งั นั้น การบังคบั จิตใจให้ทอ่ งเทีย่ วในห้วงไตรลักษณ์
เป็นการทวนกระแสโลกคือวัฏฏะ จะได้มากน้อยไมเ่ ปน็ ทางเสียหาย เป็น
แต่ทางดที งั้ นัน้ จงพยายาม เพราะการปล่อยใจไปตามกระแสวัฏฏะเรา
เคยปล่อยมานานแล้ว ผลก็คือความทกุ ขท์ เ่ี ราแลเหน็ อย่ดู ้วยกนั ทง้ั โลก
ใครจะโกหกกนั ไม่ได้

บัว

๒๓๓

ฉบับที่ ๔๗ ๒ กันยายน ๒๕๐๕

วัดปา่ บา้ นตาด อุดรธานี

การฝึกหัดภาวนาน้ันเป็นหนา้ ท่ขี องเรา โรคก็เดินไปตามทางของ
เขา เรากเ็ ดินไปตามทางเดินของเรา อย่าไปยงุ่ กบั เขาจนเกิดความทุกข์
ทางใจข้ึนมาอกี จะกลายเปน็ โรคสองโรคไป ทุกขเ์ ขาไม่ฟังเสยี ง ทง้ั คน
โง่ คนฉลาด ใครมีปัญญากถ็ ือเอาประโยชนจ์ ากเขาได้ ใครมวั โงค่ นนนั้ ก็
จะจมลงไป พญามจั จรุ าชคอื ความตาย จะสามารถน�ำ ไปไดแ้ ตก่ ายเทา่ นั้น
แตไ่ มส่ ามารถน�ำ ใจของเราไปได้ จงต้ังใจอาจหาญรา่ เริงตอ่ ความเพยี ร
ของตน อย่าไปกงั วลกับส่ิงใดและใครๆ ทั้งน้ัน จะเปน็ อารมณท์ ำ�ใหเ้ สยี
การ นักปราชญ์ทา่ นชอบตายคนเดยี ว ไมช่ อบยงุ่ กบั ใครๆ ท้ังน้นั

บัว

๒๓๔

ฉบบั ที่ ๔๘ ๗ ตลุ าคม ๒๕๐๕

วดั ป่าบา้ นตาด อุดรธานี

การพิจารณากายหรือไตรลกั ษณ์ จะแจ้งหรอื ไม่แจง้ สง่ิ เหล่านก้ี ม็ ี
อย่ใู นกายเราครบบริบูรณ์ จงพจิ ารณาตามส่ิงท่ีมอี ยู่ ดว้ ยสตปิ ัญญาทีม่ อี ยู่
เชน่ เดียวกัน

บัว

ฉบบั ที่ ๔๙ มิถุนายน ๒๕๐๖

วดั ปา่ บา้ นตาด อดุ รธานี

ขันธ์นบั วันใกลเ้ ขา้ ทกุ ที ฉะนัน้ ให้รบี เร่งทางด้านจติ ใจ พิจารณา
ขนั ธต์ ัวมันชำ�รดุ อยู่ทกุ ขณะ และพยายามทำ�ความสงบภายในจติ ใจไม่
เคยชำ�รดุ ไปตามธาตขุ ันธ์ คงท่อี ยใู่ นความรขู้ องตนตลอดกาล

บวั

๒๓๕

ฉบบั ท่ี ๕๐ ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๐๖

วดั ป่าบ้านตาด อุดรธานี

ขอใหต้ ้งั หน้าบำ�เพญ็ ตนเต็มความสามารถ ส่ิงเป็นผลอนั จะพงึ ได้
รบั จะเป็นที่พอใจ ไมส่ ูญหายไปไหน ต้องเกดิ กับต้นเหตทุ ี่ทำ�ดแี ลว้ แน่นอน

บวั

ฉบบั ท่ี ๕๑ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๐๖

วดั ปา่ บ้านตาด อุดรธานี

การอบรมจติ โปรดท�ำ ทกุ วนั อยา่ ใหข้ าด ความแก่ ความทกุ ข์ เขา
ก้าวเข้ามาทุกวันและเวลา ไมเ่ คยหยุดย้ังและผอ่ นผนั ต่อผ้ใู ด เราจึง
ควรเตรยี มรบั เขาด้วยความดี คือการอบรมใจให้รเู้ ทา่ ทนั กับเร่อื งเหล่านี้
อาจารยไ์ ดแ้ ผ่สว่ นบญุ มาให้เสมอ ขอได้อนุโมทนารบั ส่วนบุญน้ีด้วย

บัว

๒๓๖

ฉบบั ที่ ๕๒ ๒๔ กันยายน ๒๕๐๖

วัดปา่ บ้านตาด อดุ รธานี

กายเปน็ บ้านของโรคทุกชนิด ไม่ทราบว่าจะขบั ไลเ่ ขาไปอยู่ท่ีไหน
ถ้าออกจากกายคนกายสัตว์แล้ว เขากไ็ ม่มที ่ีอยเู่ ช่นเดยี วกับเราอยูใ่ นบ้าน
ของเรา คดิ ดแู ลว้ กน็ า่ เหน็ ใจเขาอยา่ งยง่ิ รา่ งกาย เราถือวา่ ของเรา แต่
กเ็ ปน็ บา้ นของเขา ถ้ามกี ารฟ้องร้องกนั ขึ้น เราตอ้ งเปน็ ฝา่ ยแพ้วันยังค�ำ่
เรื่องคติธรรมดาเป็นฝ่ายพยานของเขาทัง้ น้ัน แมพ้ ระพุทธเจา้ และธรรม
ของพระพุทธเจ้ากเ็ หน็ ตามเขาดว้ ย ธรรมแปดหมนื่ สี่พนั ล้วนเป็นหลกั
ฐานพยานของเขาท้ังน้นั เราไมม่ ีทางสู้ นอกจากจะขออาศยั เขาอย่ไู ปเปน็
วันๆ พอถงึ วันเขาขับไลอ่ ย่างจริงจงั เทา่ นน้ั ฉะน้ันเราควรจะหาอุบายรู้
ทางของคตธิ รรมดาที่เขาเดินอยู่ประจ�ำ วฏั ฏะนี้ จะเปน็ ความเบาใจไม่มี
ห่วงใยอะไร ไปกเ็ ปน็ สุข อยูก่ ็สบายใจ ไมข่ อ้ งแวะกับสงิ่ ใด

บวั

๒๓๗

ฉบับที่ ๕๓ ๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๐๗

วัดปา่ บ้านตาด อดุ รธานี

พระโสดา สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ท่านไม่ได้รธู้ รรมนอก
เหนอื จากกายกับจติ ซ่งึ พวกเราก�ำ ลงั หลงกันอยู่เดยี๋ วน้ี ค�ำ วา่ “ยงกฺ ิญฺจิ
สมุทยธมฺมํ สพพฺ นตฺ ํ นิโรธธมฺมํ” “สิ่งใดสงิ่ หน่งึ เกดิ ขน้ึ เปน็ ธรรมดา
สง่ิ น้นั ย่อมดับเปน็ ธรรมดา” ทพ่ี ระอญั ญาโกณฑัญญะรู้ก็ดี คำ�ว่า “วุ
สติ ํ พรฺ หฺมจรยิ ํ กตํ กรณียํ” “เสร็จกจิ ในพระศาสนา” ท่พี ระอรหันตร์ ูก้ ็
ดี ท่านกร็ ู้ในส่งิ เกดิ ดับภายในกายในจิตนีเ้ อง และท่านทำ�การปราบปราม
กิเลสจบส้นิ ลงไดก้ ็ดี ก็สนิ้ เสร็จในจดุ เดียวกัน เพราะส่งิ เหล่าน้มี อี ยู่ใน
กายในจติ อยา่ งสมบรู ณ์ อยา่ ไปสงสยั ว่ามีอย่ใู นท่อี ืน่ การพจิ ารณาวธิ ใี ด
ก็ตาม ถา้ เปน็ ไปเพื่อความสงบสุขภายในใจ ไมเ่ ปน็ ไปเพอ่ื เดือดรอ้ น ชอื่
วา่ ถกู ทางเดนิ ทพ่ี ระพทุ ธเจ้าทรงสอนไวท้ ั้งน้ัน โปรดอยา่ สงสยั ไปอืน่ จะ
เสียเวลา โปรดพิจารณาไปเร่อื ยๆ อย่าลดละทางความเพยี ร

บวั

๒๓๘

ฉบบั ท่ี ๕๔ ๒ มถิ ุนายน ๒๕๐๗

วดั ป่าบ้านตาด อุดรธานี

เราเป็นนกั บ�ำ เพ็ญภาวนาอยแู่ ลว้ โปรดอยา่ ได้สงสยั ความจรงิ ซึ่ง
มอี ยู่กบั ตวั ตลอดกาล จงพจิ ารณาลงในกายในจติ ซ่งึ เปน็ ท่สี ถิตอยู่ของ
ธรรมทัง้ ปวง ใจเป็นของกลาง ถ้าเราพาเปน็ โลกกเ็ ปน็ โลกไป ถ้าเราพา
เปน็ ธรรมกเ็ ปน็ ธรรมไปดว้ ย เพราะใจอยใู่ นอำ�นาจของเรา ดังน้ัน จง
พจิ ารณาอยู่ในวงกายแลจติ เพราะทอ่ งเท่ยี วในโลกก็ท่องเทีย่ วมานาน
ไมม่ ีทส่ี ิ้นสุด แตก่ ารท�ำ จติ ทอ่ งเทย่ี วตามสรรพางคร์ า่ งกายและจิตใจจะ
เปน็ ความสขุ สงบ สิง่ สำ�คัญคือสติ โปรดให้เป็นไปกบั ความเคลือ่ นไหวของ
ใจ จะมโี อกาสรแู้ ละเข้าใจเรอ่ื งของใจตัวเองได้ดี

บวั

๒๓๙

ฉบับท่ี ๕๕ ๑๐ กนั ยายน ๒๕๐๗

วัดป่าบา้ นตาด อดุ รธานี

เรือ่ งขนั ธ์ไมว่ า่ ขันธค์ นหนุ่มคนแก่ แมแ้ ต่ขันธ์ของเด็กก็เปน็ ขันธ์
ของทุกขเ์ สมอภาคกัน ในโลกนไ้ี มม่ ขี นั ธ์ใดเปน็ ขันธ์พิเศษ ซ่งึ ไมอ่ ยใู่ นขา่ ย
ของกองทกุ ข์ ต้องอย่ใู นวงเดยี วกนั เช่นเดยี วกบั นกั โทษ ไมว่ า่ ครุโทษ
หรอื ลหุโทษ ต้องอยู่ในเรอื นจ�ำ เสมอกัน ไม่มนี กั โทษคนไหนไดร้ บั เกียรติ
เปน็ พเิ ศษ จะกินอยู่หลับนอนนอกเรือนจ�ำ จ�ำ ตอ้ งอยู่ในวงเดียว ฉะน้นั
จงเหน็ ว่ากองขันธ์คอื กองทุกข์ ทง้ั ของทา่ นและของเราไม่มีใครได้เปรยี บ
กนั นับแต่สตั วด์ ริ ัจฉานข้นึ ไปถงึ มวลมนษุ ยท์ ุกช้ัน อยู่ในวงกองทุกข์อนั
เดยี วกัน

บัว

๒๔๐

ฉบบั ที่ ๕๖ ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๐๙

วัดปา่ บา้ นตาด อดุ รธานี

การภาวนาเพ่อื เตรยี มตัวในอนาคตเปน็ ส่งิ จำ�เป็นอย่างยิ่ง จะได้
หลักยึดหรือไมน่ ัน้ โปรดทราบว่า ธรรมท่เี คยนำ�มาบำ�เพญ็ ก็มีอยู่ ใจผู้รับ
ธรรมกม็ ีอยู่ ไมม่ ีอะไรสูญหาย โปรดน้อมเขา้ มาเปน็ เครื่องยดึ ของใจ สิ่ง
อน่ื ๆ เราเคยยึดครองมาแลว้ ผลเป็นอยา่ งไรเราทราบไดด้ ีทุกประการ ไม่
เป็นทน่ี า่ สงสยั การพิจารณาผรู้ ู้ คือจิตล้วนๆ นบั เป็นธรรมช้นั สงู ย่ิง ซง่ึ
ผูป้ ฏิบัติมาถึงจุดนแี้ ล้ว ไม่มที างพิจารณาส่วนอน่ื ๆ นอกจากพจิ ารณาจิต
เพอ่ื ธรรมสดุ ยอดเทา่ นนั้ ถ้าไมบ่ อกไวว้ า่ ให้พิจารณาจติ ผปู้ ฏบิ ตั ิกจ็ ะตดิ
อย่ใู นจุดนนั้ แล้วหาทางหลุดพน้ ไม่เจอ การพจิ ารณาจิตเปน็ ทางหลดุ พ้น
สำ�หรบั ธรรมช้นั สงู สว่ นธรรมช้ันตำ�่ ชั้นกลาง เป็นอีกเรอื่ งหนง่ึ โปรด
อย่านำ�มาคละเคล้ากัน จะเกิดความสงสยั หาที่ยดึ ไม่ได้ เลยจะเสยี หลัก
ทคี่ วรจะได้จากธรรมทีท่ ่านอธิบายให้ฟงั จงทำ�ให้ใจสงบสุขไดแ้ ลว้ เปน็ ถูก
ต้อง

บวั

๒๔๑

ฉบบั ท่ี ๕๗ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๐๙

วดั ป่าบา้ นตาด อุดรธานี

ค�ำ วา่ ความสงบสุขมีหลายช้นั แมใ้ จจะยังเปน็ อวชิ ชาอยู่ แต่ใจ
หาความสงบสขุ เป็นเรอื นพกั ได้ ก็จดั ว่ามีท่พี ง่ึ เช่นเดียวกับการเดนิ ทาง
ยังไม่ถงึ ทพ่ี กั แตม่ ีอาหารและท่ีพกั ในระหว่างทาง กย็ งั จดั ว่าดกี วา่ การ
ไมม่ ี เม่ือยงั ไมถ่ งึ ท่ีอยตู่ ราบใด จ�ำ ต้องอาศัยท้งั อาหารและทพ่ี กั อยู่ตราบ
นัน้ จติ กเ็ ช่นเดยี วกนั โปรดทำ�ความเข้าใจกับธรรมท่แี สดงให้ฟงั ด้วยดจี ะ
ไม่เปน็ กงั วลใจ แต่การท�ำ ลายอวชิ ชานั้นเทยี บเหมอื นผเู้ ดินทางถึงทแี่ ล้ว
ย่อมปล่อยวางหนทางทีเ่ ดินไปเอง เช่นเดยี วกับเราขึ้นบนั ไดจนถึงห้อง
เรอื นแลว้ มอื ย่อมปล่อยบันไดทันทฉี ะนน้ั

บวั

๒๔๒

๒๔๓

ออกแบบและจดั พิมพ์
ไทยชบา กราฟฟิค เฮาส์ เอเจนซี่ โทร. 042-324360, 082-3048887
E-mail : [email protected]




Click to View FlipBook Version