คลิปการบอกหมายเลขโทรศัพท์ https://www.youtube.com/watch?v=zBuq6JN97YU https://www.youtube.com/watch?v=Vep0aCOPag4
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Telephone conversation เรื่อง Business English จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ การฝึกใช้ภาษาในการถาม-ตอบเรื่องโทรศัพท์ เป็นการใช้ภาษาในชีวิตประจำวันที่จำเป็น ผู้เรียน จำเป็นต้องเรียนรู้ศัพท์ สำนวน โครงสร้างประโยค ทั้งในเรื่องการสื่อสารทางโทรศัพท์ด้านธุรกิจ เพื่อให้สามารถ สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเปรียบเทียบประโยคเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเรื่องที่ฟังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Company - Through - Hold the line - Calling Function/Speaking - talking the telephone conversation Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูเปิดคลิปการสนทนาทางโทรศัพท์ จากนั้นให้นักเรียนเดาว่า ในคลิป เขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร https://www.youtube.com/watch?v=I32lXCU60kc 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูยกตัวอย่างประโยคสนทนาทางโทรศัพท์แบบพื้นฐานบนกระดาน จากนั้นอธิบายคำศัพท์และให้ นักเรียนช่วยกันแปลความหมายประโยคสนทนาข้างต้น หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเรื่องที่ฟังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเปรียบเทียบประโยคเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ได้ ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
4. ครูยกตัวอย่างประโยคสนทนา 2 แบบ ให้นักเรียนเปรียบเทียบว่า แบบไหนมีความสุภาพมากกว่า กัน แบบที่ 1 แบบที่ 2 คำตอบคือ แบบที่ 2 มีความสุภาพมากกว่า
ขั้นฝึก (Practice) 6. ครูเปิดคลิปวิดีโอให้นักเรียนชมอีกครั้ง จากนั้นให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1) What's the name of the shop? - Chic boutique 2) Who does John want to speak to? - Mr. Morgan 3) Where does John work? - International fashion supplies 4) What is John's number? - 01632960994 ขั้นนำไปใช้ (Production) 7. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน ให้แสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับการสนทนา ทางโทรศัพท์ เวลาในการแสดงไม่เกิน 5 นาที โดยทำการแสดงในคาบถัดไป ขั้นสรุป (Warp up) 9. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง
10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถตอบคำถาม จากเรื่องที่ฟังได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม - ตรวจจากการตอบคำตอบ - คลิปวิดีโอ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- เปรียบเทียบประโยค เกี่ยวกับการสนทนาทาง โทรศัพท์ได้ถูกต้อง - สังเกตการตอบคำถาม -บทสนทนา - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
คลิป https://www.youtube.com/watch?v=I32lXCU60kc
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 Telephone conversation เรื่อง Role play จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ การแสดงบทบาทสมมติในการฝึกใช้ภาษาในการถาม-ตอบเรื่องโทรศัพท์ เป็นการใช้ภาษาใน ชีวิตประจำวันที่จำเป็น เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ ข้อ 6 สามารถใช้ภาษาอังกฤษตามสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยวิธีการและรูปแบบที่หลากหลายและ ซับซ้อน 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถแสดงบทบาทสมมติโดยสื่อสารเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ได้ 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทที่เพื่อนแสดงได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - Role play Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการแสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 2. ก่อนทำการแสดงครูชี้แจงรายละเอียดดังนี้ 1) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (ที่ไม่ใช่กลุ่มที่แสดง) ทำการประเมินการแสดง โดยให้คะแนนตาม หัวข้อต่อไปนี้ ที่ เกณฑ์ คะแนนเต็ม 1 ความถูกต้องของคำศัพท์ ประโยคสนทนา 20 2 การแสดงสีหน้า อารมณ์ ความรู้สึก การเข้าถึงบทบาท ตัวละคร 10 3 สำเนียงภาษา 10 4 ตรงต่อเวลา 10 รวม 50 คะแนน หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทที่เพื่อนแสดงได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถแสดงบทบาทสมมติโดยสื่อสารเกี่ยวกับการสนทนาทาง โทรศัพท์ได้ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
ขั้นฝึก (Practice) 6. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาจับสลากเพื่อจัดลำดับการแสดง 7. ครูให้เวลาแต่ละกลุ่มเตรียมตัว 5 นาที 8. แต่ละกลุ่มเริ่มทำการแสดง ขั้นนำไปใช้ (Production) 9. เมื่อแต่ละกลุ่มทำการแสดงจบ ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นติชมการแสดงของแต่ละ กลุ่ม เพื่อนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไป ขั้นสรุป (Warp up) 10. ครูสุ่มถามนักเรียนว่า วันนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถแสดงบทบาท สมมติโดยสื่อสารเกี่ยวกับการ สนทนาทางโทรศัพท์ได้ - ประเมินจากการแสดง บทบาทสมมติ - การแสดงบทบาทสมมติ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ บทบาทที่เพื่อนแสดงได้ - สังเกตการพูดแสดง ความคิดเห็น -การแสดงบทบาทสมมติ - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 Expression of feelings เรื่อง My feeling จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ เช่น การเติม -ed และ -ing ใน adjective เพื่อบอกความรู้สึกต่างๆ สำนวนการบอกความพอใจ/ไม่พอใจ และ สำนวนการบอกความสนใจ/ไม่สนใจ เพื่อสามารถนำไปปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจการเติม -ed และ -ing ใน adj. ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถทำแผนผังความคิดสรุปหลักการใช้ -ed และ -ing ใน adj. ได้ถูกต้อง 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Interesting - Bore - Way too - Confuse - Fascinate Function/Speaking - talking about -ed & -ing in ADJ.
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน โดยเข้าไปเล่นเกมใน https://wordwall.net/th/resource/4473561/ed-ing-adjectives เพื่อทดสอบเกี่ยวกับการเติม -ed และ -ing ใน adj. 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับ-ed และ -ing ใน adj. เพื่อใช้บอกความรู้สึก ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูเปิดคลิปเกี่ยวกับการใช้ -ed และ -ing https://www.youtube.com/watch?v=cKfv0avS1CI 4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการใช้ -ed และ -ing อีกครั้ง ขั้นฝึก (Practice) 5. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน โดยเข้าเกมที่เล่นไปตอนต้นคาบ https://wordwall.net/th/resource/4473561/ed-ing-adjectives 6. ครูแจกรางวัลให้กับผู้ที่มีคะแนนสูงสุด หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถทำแผนผังความคิดสรุปหลักการใช้ -ed และ -ing ใน adj. ได้ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจการเติม -ed และ -ing ใน adj. ได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
ขั้นนำไปใช้ (Production) 7. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำแผนผังความคิด สรุปหลักการใช้ -ed และ -ing ขั้นสรุป (Warp up) 8. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจการเติม -ed และ -ing ใน adj. ได้ ถูกต้อง - ตรวจจากการเข้าไปทำ แบบทดสอบ - แบบทดสอบ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- ทำแผนผังความคิดสรุป หลักการใช้ -ed และ -ing ใน adj. ได้ถูกต้อง - ตรวจแผนผังความคิด -แผนผังความคิด - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
คลิป https://wordwall.net/th/resource/4473561/ed-ing-adjectives https://www.youtube.com/watch?v=cKfv0avS1CI
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 Expression of feelings เรื่อง Satisfied & Unsatisfied จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ เช่น การเติม -ed และ -ing ใน adjective เพื่อบอกความรู้สึกต่างๆ สำนวนการบอกความพอใจ/ไม่พอใจ และ สำนวนการบอกความสนใจ/ไม่สนใจ เพื่อสามารถนำไปปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ Vocabulary - That’s great - That’s bad - I’m so pleased / glad to know that - How awful / terrible - How wonderful / awesome - I hate / dislike / detest / abhor to hear that - prefer Function/Speaking - talking about Satisfied & Unsatisfied Grammar -
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการบอกความพึงพอใจ/ไม่พอใจ ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพอใจ/ไม่พอใจเกี่ยวกับรสชาติอาหารในโรง อาหารของโรงเรียนได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนดูภาพทั้งสอง แล้วถามว่า “What expressions do these two pictures show?” หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพอใจ/ไม่พอใจเกี่ยวกับ รสชาติอาหารในโรงอาหารของโรงเรียนได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการบอกความ พึงพอใจ/ไม่พอใจได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับ Satisfied & Unsatisfied ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดแสดงความรู้สึกพึงพอใจ และไม่พึงพอพอใจ พึงพอใจ (Satisfied) ไม่พึงพอใจ (Unsatisfied) That’s great. That’s bad. I’m so pleased / glad to know that. How awful / terrible. How wonderful / awesome I hate / dislike / detest / abhor to hear that. I love / like / enjoy it. I am disappointed to see that movie. I’m proud of my son. I can’t stand on it. I’m crazy about it. I don’t want to hear / see / know about it. I like / prefer it. I don’t like / prefer it. I’m afraid I don’t like it . ขั้นฝึก (Practice) 5. ครูให้นักเรียนเล่นเกมทายประเภทของประโยค โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่ม จะต้องส่งตัวแทนมาแย่งกันกดกระดิ่ง เพื่อตอบคำถาม ว่าประโยคที่ครูเขียนบนกระดาน เป็นประโยคประเภท Satisfied หรือ Unsatisfied 6. เริ่มเล่นเกม ขั้นนำไปใช้ (Production) 7. ครูให้นักเรียนจับคู่สนทนา พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพึงพอใจ/ไม่พอใจเกี่ยวกับรสชาติ อาหารในโรงอาหารของโรงเรียน โดยใช้ประโยคที่ได้เรียนไปตอบคำถาม เช่น “How do you feel about the taste of school food?” - That’s great, It delicious and cheap.
ขั้นสรุป (Warp up) 8. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจ ความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการบอก ความพึงพอใจ/ไม่พอใจได้ ถูกต้อง - สังเกตจากการเล่นเกม - เกม -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- พูดแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการพอใจ/ไม่พอใจ เกี่ยวกับรสชาติอาหารในโรง อาหารของโรงเรียนได้ - สังเกตจากการตอบคำถาม -คำถาม - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 Expression of feelings เรื่อง Interested & not interested จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ เช่น การเติม -ed และ -ing ใน adjective เพื่อบอกความรู้สึกต่างๆ สำนวนการบอกความพอใจ/ไม่พอใจ และ สำนวนการบอกความสนใจ/ไม่สนใจ เพื่อสามารถนำไปปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการบอกความสนใจ/ไม่สนใจได้ ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสนใจ/ไม่สนใจเกี่ยวกับกีฬาได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - talking about interested & not interested Grammar - Are you interested in + เรื่องที่สนใจ (คำนาม) ? - Are you interested in + การกระทำที่สนใจ (กริยาเติม ing)?
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วถามว่า “Are you interested in playing football?” 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับ interested & not interested ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดแสดงความรู้สึกสนใจและไม่สนใจในเรื่องต่างๆ หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสนใจ/ไม่สนใจเกี่ยวกับ กีฬาได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการบอกความ สนใจ/ไม่สนใจได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
4. ครูและนักเรียนสรุปโครงสร้างประโยคร่วมกัน ขั้นฝึก (Practice) 5. ครูสุ่มนักเรียนมาแต่งประโยคหน้าห้อง โดยใช้รูปประโยค Are you interested in + เรื่องที่สนใจ (คำนาม) ? คุณสนใจ … มั้ย ? Are you interested in + การกระทำที่สนใจ (กริยาเติม ing)? คุณสนใจการ … มั้ย ? ขั้นนำไปใช้ (Production) 6. ครูให้นักเรียนจับคู่สนทนา พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสนใจ/ไม่สนใจเกี่ยวกับกีฬา โดยใช้ ประโยคที่ได้เรียนไปถาม-ตอบ เช่น “Are you interested in volleyball?” - Yes, I am. ขั้นสรุป (Warp up) 7. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” การถาม Are you interested in + เรื่องที่สนใจ (คำนาม) ? คุณสนใจ … มั้ย ? Are you interested in + การกระทำที่สนใจ (กริยาเติม ing)? คุณสนใจการ … มั้ย ? เช่น Are you interested in German? Are you interested in studying abroad? การตอบ ถ้าจะตอบว่า “สนใจ” ก็ตอบว่า “Yes, I am.” หรือถ้าไม่สนใจ ก็ตอบว่า “No, I’m not.” การบอกว่าสนใจ/ไม่สนใจ I’m interested in…………………………… I’m not interested in …………………………
9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –เข้าใจความหมายของ คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการ บอกความสนใจ/ไม่สนใจได้ ถูกต้อง - ตรวจการแต่งประโยค - ประโยค -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- พูดแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการสนใจ/ไม่สนใจ เกี่ยวกับกีฬาได้ - สังเกตจากการตอบคำถาม -คำถาม - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Saying to encouragement จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ Vocabulary - Cheer up! = ร่าเริงหน่อยสิ - Chill out! = ใจเย็นๆ นะ - Don’t discourage. = อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย - Don’t feel so bad. = อย่ารู้สึกแย่ไปเลย - Don’t think too much. = อย่าคิดมากเลยน่า - Don’t worry about it. = อย่ากังวลใจไปเลย - I feel for you. = ฉันเห็นใจเธอนะ Function/Speaking - talking about saying to encouragement Grammar -
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของสำนวนเกี่ยวกับการพูดให้กำลังใจได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแต่งบทสนทนาเกี่ยวกับการพูดให้กำลังใจได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วถามว่า “What do you see in this picture?” หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งบทสนทนาเกี่ยวกับการพูดให้กำลังใจได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของสำนวนเกี่ยวกับการพูดให้กำลังใจได้ ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการพูดให้กำลังใจ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดปลอบใจ ให้กำลังใจ เช่น Be strong! = เข้มแข็งไว้นะ Cheer up! = ร่าเริงหน่อยสิ Chill out! = ใจเย็นๆ นะ Don’t discourage. = อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย Don’t feel so bad. = อย่ารู้สึกแย่ไปเลย Don’t think too much. = อย่าคิดมากเลยน่า Don’t worry about it. = อย่ากังวลใจไปเลย I feel for you. = ฉันเห็นใจเธอนะ I’ ll encourage you. = ฉันจะเป็นกำลังใจให้นะ It can’t be that bad. = มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ง Pull yourself together. = ทำตัวให้สดชื่นหน่อย Snap yourself out of it. = ลืมมันไป ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ Look on the bright side. = มองโลกในแง่ดีบ้างเถอะ it’s could happen to anyone. = เรื่องแบบนี้อาจเกิดกับใครก็ได้ I hope you get well soon. = หวังว่าคุณคงจะหายดีเร็วๆ นะ ขั้นฝึก (Practice) 4. ครูให้นักเรียนเล่นเกมแปลความหมายของคำศัพท์ โดยจะเขียนสำนวนที่ได้เรียนไปในข้อที่ 3 ลงใน กระดาษแล้วม้วน ใส่ลงในกล่อง จากนั้นให้นักเรียนหยิบทีละคน แล้วแปลความหมาย ใครแปลถูกรับรางวัล ขั้นนำไปใช้ (Production) 5. ครูให้นักเรียนจับคู่ ช่วยกันแต่งบทสนทนาเกี่ยวกับการให้กำลังใจ ขั้นสรุป (Warp up) 6. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?”
9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจ ความหมายของสำนวน เกี่ยวกับการพูดให้กำลังใจได้ ถูกต้อง - ตรวจการตอบคำถาม - ประโยคหรือสำนวน -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถแต่งบทสนทนา เกี่ยวกับการพูดให้กำลังใจได้ - ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Expressing congratulations and regrets จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ Vocabulary - Congratulations - entrance examination - glad - That’s great - Extremely Function/Speaking - talking about expressing congratulations and regrets Grammar -
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของสำนวนเกี่ยวกับการพูดแสดงความยินดี ดีใจและเสียใจได้ ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแต่งบทสนทนาเกี่ยวกับการพูดแสดงความยินดี ดีใจและเสียใจได้ถูกต้อง 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วถามว่า “What do you see in this picture?” หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งบทสนทนาเกี่ยวกับการพูดแสดงความยินดี ดีใจและ เสียใจได้ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของสำนวนเกี่ยวกับการพูดแสดงความยินดี ดีใจและเสียใจได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
Glad sad 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการพูดแสดงความยินดี ดีใจและเสียใจ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดแสดงความยินดี ดีใจและเสียใจ ดังนี้ ในกรณีที่ญาติหรือผู้ที่เราคุ้นเคยประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องโชคลาภ ยศตำแหน่ง หรือสมหวัง ในสิ่งใด เราก็ควรจะแสดงความยินดีกับเขาในสิ่งนั้นๆ เช่น 1. Congratulations to you on your graduation. ขอแสดงความยินดีกับคุณสำหรับการที่คุณได้รับปริญญา 2. Congratulation on your passing the entrance examination. ขอแสดงความยินดีกับคุณในการสอบผ่านเข้ามหาวิทยาลัยได้ 3. Heartiest congratulation! ขอแสดงความยินดี จากใจจริง 4. Congratulations on your winning the scholarship. ขอแสดงความยินดีกับการได้รับทุนการศึกษาของคุณ 5. My congratulations to you on the birth of your daughter. ขอแสดงความยินดีกับคุณกับการได้บุตรสาว 6. Let me congratulate you on your success. ผมขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของคุณ นอกจากการกล่าวประโยคข้างบนนี้แล้วก็อาจจะตามด้วยประโยคดังต่อไปนี้คือ 1. I’m glad to hear it. ผมดีใจที่ได้ทราบเรื่องนี้ครับ 2. I was very happy to hear of your success. ผมดีใจมากที่ได้ทราบในความสำเร็จขอบคุณครับ 3. That’s wonderful. นั่นวิเศษจริงๆ เลยครับ 4. That’s great. นั่นเยี่ยมจริงๆ เลยครับ
5. How lucky you are! คุณโชคดีจริงๆ เลยครับ 6. What wonderful news! ข่าวดีจริงๆ เลยครับ การแสดงความเสียใจ (Condolence) 1. I was very sorry to hear of the sudden death of your elder brother. ผมเสียใจมากที่ได้ทราบข่าวการจากไปอย่างกะทันหันของพี่ชายคุณ 2. I was shocked by the sad news. ผมตกใจที่ได้ทราบข่าวร้ายนั้น 3. I was extremely sorry to hear of your wife’s death. ผมเสียใจมากที่ได้ทราบข่าวการจากไปของภรรยาคุณ 4. Sorry to hear that your younger sister passed away. เสียใจที่ได้ทราบว่าน้องสาวของคุณเสียชีวิตครับ 5. Sorry to hear that you lost your son. เสียในที่ได้ทราบว่าคุณเพิ่งสูญเสียบุตรชายครับ 6. I was sorry to hear of your great loss. ผมเสียใจที่ได้ทราบข่าวการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของคุณ 7. I was sad to read of your father’s death in this morning’s paper. ผมเสียใจที่ทราบข่าวการจากไปของบิดาคุณจากหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้ ขั้นฝึก (Practice) 4. ครูให้นักเรียนเล่นเกมแปลความหมายของคำศัพท์ โดยจะเขียนสำนวนที่ได้เรียนไปในข้อที่ 3 ลงใน กระดาษแล้วม้วน ใส่ลงในกล่อง จากนั้นให้นักเรียนหยิบทีละคน แล้วแปลความหมาย ใครแปลถูกรับรางวัล ขั้นนำไปใช้ (Production) 5. ครูให้นักเรียนจับคู่ ช่วยกันแต่งบทสนทนาเกี่ยวกับการพูดแสดงความยินดี ดีใจและเสียใจ ขั้นสรุป (Warp up) 6. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง
10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจ ความหมายของสำนวน เกี่ยวกับการพูดแสดงความ ยินดี ดีใจและเสียใจได้ ถูกต้อง - ตรวจการตอบคำถาม - ประโยคหรือสำนวน -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถแต่งบทสนทนา เกี่ยวกับการพูดแสดงความ ยินดี ดีใจและเสียใจได้ ถูกต้อง - ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Agreeing and disagreeing จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ Vocabulary - Agree - Disagree - Exactly - Point - guess so Function/Speaking - talking about agreeing and disagreeing Grammar -
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของสำนวนเกี่ยวกับการพูดแสดงความคิดเห็น เห็นด้วย/ไม่ เห็นด้วยได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถโต้วาทีเกี่ยวกับการพูดแสดงความคิดเห็น เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย เรื่อง School uniforms are better than private uniforms ได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนดูคลิป แล้วถามว่า “What are they talking about?” https://www.youtube.com/watch?v=i2kbZXoT34Q หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถโต้วาทีเกี่ยวกับการพูดแสดงความคิดเห็น เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย เรื่อง School uniforms are better than private uniforms ได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของสำนวนเกี่ยวกับการพูดแสดงความ คิดเห็น เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วยได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการพูดแสดงความคิดเห็น เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดแสดงความคิดเห็น เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย การบอกว่าเห็นด้วย I completely agree. / ผมเห็นด้วยมากๆ เลย You’re absolutely right. / คุณพูดถูกแล้วจริงๆ I agree with you entirely. / เราโคตรเห็นด้วยกับเธอนะ I totally agree with you. / ชั้นเห็นด้วยกับเธอร้อยเปอร์เซนต์เลย I couldn’t agree more. / กูเห็นด้วยเว้ย Exactly. / ช่ายๆ Absolutely! / นั่นแหละ You’re right. / ใช่เลยครับท่าน Me too! / ฉันก็ด้วยนะ I agree. / ผมเห็นด้วย I see exactly what you mean! / ฉันเข้าใจนะที่เธอพูดนะ That’s exactly what I think. / เหมือนที่เราคิดอยู่เลย There is no doubt about it. / ฉันไม่สงสัยเลยเรื่องนั่นน่ะ การบอกว่าเห็นด้วยแค่บางส่วน I agree up to a point, but… / ผมเห็นด้วยนะ แต่ว่า… That’s partly true, but… / มันก็จริงอยู่ส่วนหนึ่งนะ แต่… That may be true, but… / ก็อาจจะใช่นะ แต่… I see your point, but… / กูเข้าใจเว้ย แต่ว่า… I guess so, but… / เราก็ว่านะ แต่… That seems obvious, but… / เหมือนจะใช่นะ แต่ว่า…
I’m not so sure about that. / ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจนักนะ การบอกว่าไม่เห็นด้วย I don’t agree! / ฉันไม่เห็นด้วยค่ะ I don’t agree with you. / เราไม่เห็นด้วยกับเธอหรอก I totally disagree! / กูโคตรไม่เห็นด้วยเลย I’m sorry, but I disagree. / ขอโทษนะครับ แต่ผมไม่เห็นด้วย Absolutely not! / ไม่จริงหง่ะ เป็นไปไม่ได้เลย I’m afraid I can’t agree with you. / ดิฉันเกรงว่า ดิฉันคงจะเห็นต่างจากคุณนะคะ That’s not right! / มันบ่ช่าย That’s not always true. / มันก็ไม่จริงเสมอไปหรอกนะ I don’t think so. / เราไม่คิดว่างั้นนะ No, that’s not true. / ไม่อะ ไม่จริง No way! / ไม่มีทาง ขั้นฝึก (Practice) 4. ครูแจกใบงาน ให้นักเรียนเติมความหมายของสำนวนให้ถูกต้อง ขั้นนำไปใช้ (Production) 5. ครูให้นักเรียนชายและนักเรียนหญิงโต้วาทีกัน เรื่อง School uniforms are better than private uniforms ขั้นสรุป (Warp up) 6. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง
10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจความหมาย ของสำนวนเกี่ยวกับการพูด แสดงความคิดเห็น เห็นด้วย/ไม่ เห็นด้วยได้ถูกต้อง - ตรวจใบงาน - ใบงาน -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถโต้วาทีเกี่ยวกับการ พูดแสดงความคิดเห็น เห็น ด้วย/ไม่เห็นด้วย เรื่อง School uniforms are better than private uniforms ได้ - การพูดโต้วาที -หัวข้อเรื่อง School uniforms are better than private uniforms - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
คลิป https://www.youtube.com/watch?v=i2kbZXoT34Q
Agreeing and Disagreeing คำสั่ง : ให้นักเรียนแปลสำนวนที่กำหนดให้ถูกต้อง สำนวน ความหมาย I completely agree. I agree with you entirely. I couldn’t agree more. Absolutely! I see exactly what you mean! I agree up to a point, but… That may be true, but… That seems obvious, but… I’m not so sure about that. That’s partly true, but… I don’t agree! Absolutely not! That’s not always true. No, that’s not true. No way!
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Expressing to needs and responding จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการแสดงความต้องการและ ตอบรับได้ 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถพูดสนทนาเกี่ยวกับการแสดงความต้องการและตอบรับได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - talking aboutexpressing to needs and responding Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับพูดการแสดงความต้องการและตอบรับ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 2. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดการแสดงความต้องการและตอบรับ การบอกความต้องการ เช่น I’d like some more coffee. I want to go to……………………………. I wish you should go with me. I need…………………………………………… การตอบรับ Yes, ……………..please do. /sure Certainly. Of course. หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถพูดสนทนาเกี่ยวกับการแสดงความต้องการและตอบรับได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการแสดง ความต้องการและตอบรับได้ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
Not at all. All right. ขั้นฝึก (Practice) 3. ครูแจกใบงานให้นักเรียนเติมบทสนทนาให้สมบูรณ์เกี่ยวกับพูดแสดงความต้องการและตอบรับ ขั้นนำไปใช้ (Production) 4. ครูให้นักเรียนจับคู่สนทนาพูดแสดงความต้องการและตอบรับ ขั้นสรุป (Warp up) 5. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –เข้าใจความหมายของ คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการ แสดงความต้องการและ ตอบรับได้ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- พูดสนทนาเกี่ยวกับการ แสดงความต้องการและ ตอบรับได้ - สังเกตจากการตอบคำถาม -คำถาม - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์