แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Help and service จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับแสดงความช่วยเหลือและบริการ ผู้อื่นได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถพูดสนทนาเกี่ยวกับการแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่นได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - talking about help and service Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทบทวนเนื้อหาที่เรียนในคาบที่แล้ว 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การแสดงความช่วยเหลือ เช่น What can I do for you? May I help you? Is there anything I can do for you? Would you mind if I………………………..? Can I do something for you? การตอบรับ หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถพูดสนทนาเกี่ยวกับการแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น ได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับแสดงความ ช่วยเหลือและบริการผู้อื่นได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
I would appreciate it very much. Please, thanks a lot. That’s very kind of you. Thank you. If you don’t mind. Thank you very much. ขั้นฝึก (Practice) 4. ครูให้นักเรียนชมคลิปการให้ความช่วยเหลือ จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันแปลว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร https://www.youtube.com/watch?v=nmt9KIiUAC8 ขั้นนำไปใช้ (Production) 5. ครูให้นักเรียนจับคู่สนทนาเกี่ยวกับการแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น ขั้นสรุป (Warp up) 6. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง
10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –เข้าใจความหมายของ คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับ แสดงความช่วยเหลือและ บริการผู้อื่นได้ถูกต้อง - ตอบคำถาม - วิดีโอ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- พูดสนทนาเกี่ยวกับการ แสดงความช่วยเหลือและ บริการผู้อื่นได้ - สังเกตจากการตอบคำถาม -คำถาม - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Saying Thanks and Responding จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการกล่าวขอบคุณและตอบรับได้ ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถทำแผนผังความคิดสรุปสำนวนที่เกี่ยวกับการกล่าวขอบคุณและตอบรับได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - talking about saying thanks and responding Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วถามว่า “What are they doing?” 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการกล่าวขอบคุณและตอบรับ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการกล่าวขอบคุณและตอบรับ https://www.youtube.com/watch?v=qlSgs9dx1QA หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถทำแผนผังความคิดสรุปสำนวนที่เกี่ยวกับการกล่าวขอบคุณ และตอบรับได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการกล่าว ขอบคุณและตอบรับได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
4. ครูและนักเรียนทบทวนสำนวนด้วยกันอีกครั้ง ขั้นฝึก (Practice) 5. ครูถามนักเรียนว่า เราจะสามารถพูดขอบคุณในสถานการณ์ใดบ้าง ให้นักเรียนตอบพร้อม ยกตัวอย่างสถานการณ์ ขั้นนำไปใช้ (Production) 6. ครูให้นักเรียนทำแผนผังความคิดสรุปการพูดขอบคุณและตอบรับจากคลิปที่ได้ชมไปในข้อ3 ขั้นสรุป (Warp up) 7. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล
การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –เข้าใจความหมายของ คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการ กล่าวขอบคุณและตอบรับได้ ถูกต้อง - การตอบคำถาม - คำถาม -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถทำแผนผัง ความคิดสรุปสำนวนที่ เกี่ยวกับการกล่าวขอบคุณ และตอบรับได้ - ตรวจแผนผังความคิด -แผนผังความคิด - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Asking for permission and accepting จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการพูดขออนุญาตและตอบรับ ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถพูดขออนุญาตและตอบรับได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - talking about asking for permission and accepting Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการพูดขออนุญาตและตอบรับ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูเปิดคลิปการอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดการพูดขออนุญาตและตอบรับ https://www.youtube.com/watch?v=iDoWBEY8mB4 4. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวน สำนวน ปรธโยคพูดอีกครั้ง ขั้นฝึก (Practice) 5. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างการพูดขออนุญาตประโยคต่างๆ คนละ 1 ประโยค หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถพูดขออนุญาตและตอบรับได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการพูดขอ อนุญาตและตอบรับได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
ขั้นนำไปใช้ (Production) 6. ครูให้นักเรียนจับคู่สนทนาเกี่ยวกับการพูดขออนุญาตและการตอบรับ ขั้นสรุป (Warp up) 7. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –เข้าใจความหมายของ คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการ พูดขออนุญาตและตอบรับ ได้ถูกต้อง - ตรวจการพูดประโยค - ประโยค -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถพูดขออนุญาต และตอบรับได้ - ประเมินจากการสนทนา -คำถาม - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
https://www.youtube.com/watch?v=iDoWBEY8mB4
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Apologizing and accepting จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการพูดขอโทษและตอบรับได้ ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถมีทักษะการสนทนาเกี่ยวกับการพูดขอโทษและตอบรับได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - talking about apologizing and accepting Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูให้นักเรียนชมคลิป แล้วถามว่า “From the video, what are they talking about?” 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการพูดขอโทษและตอบรับ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดขอโทษและตอบรับ หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถมีทักษะการสนทนาเกี่ยวกับการพูดขอโทษและตอบรับได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการพูดขอโทษ และตอบรับได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
1. Excuse ใช้เป็นกริยาในประโยคคำสั่ง โดยมี me เป็นตัวกรรม (object) ใช้ในการขอโทษสิ่งที่ผิดพลาดไป เล็กๆ น้อยๆ และถ้าขอโทษ เกี่ยวกับเรื่องใด ก็ใช้ for สำหรับสิ่งนั้น มีโครงสร้างดังนี้ Excuse me for … ตัวอย่าง Excuse me, please. โปรดยกโทษให้ฉันด้วย Excuse me for disturbing you. ขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ Excuse me for what I said yesterday. ขอโทษด้วยสำหรับสิ่งที่ทำไปเมื่อวานนี้ แต่โดยทั่วไปแล้ว คำนี้มักจะใช้ไนการขออนุญาต ขอร้อง โดยนำ ประโยคอื่นๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ Excuse me, I want to go out. ขออนุญาต, ฉันต้องการจะออกไปข้างนอก Excuse me, open the window, please. ขอโทษ, กรุณาเปิดหน้าต่างด้วย Excuse me, may I come in? ขอโทษ, ฉันเข้าไปข้างในได้ไหม Excuse me, where is the post office? ขอโทษ, ที่ทำการไปรษณีย์อยู่ที่ไหน การตอบรับ ในการตอบรับการขอโทษ ขออนุญาต สำหรับคำนี้ อาจใช้ได้หลายคำ แต่มีความหมายอย่าง เดียวกัน ดังนี้ That’s all right. ไม่เป็นไร Certainly. ไม่เป็นไร Of course. ไม่เป็นไร Not at all. ไม่เป็นไร 2. Sorry เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) ใช้แสดงความเสียใจกับ ความผิด ถือเป็นการขอโทษได้เหมือนกัน นิยม ใช้กันมาก สร้างเป็นรูปประโยค ได้ดังนี้ I’m sorry ถ้าแสดงความเสียใจหรือขอโทษเกี่ยวกับเรื่องใดแล้ว ก็เพิ่ม เข้าโดยสร้างเป็นประโยคหรือเป็นเพียงวลี Infinitive ก็ได้ ตัวอย่าง I’m sorry.
ฉันขอโทษ (ฉันเสียใจ) I’m sorry, I’m late. ฉันขอโทษที่มาสาย I’m terribly sorry. ขอโทษมากๆ เลย (เสียใจมากๆ) I’m awfully sorry I have kept you waiting for hours. ขอโทษมากๆ ที่ปล่อยให้คุณรอเป็นเวลาหลายชั่วโมง I’m very sorry I have troubled you. ขอโทษอย่างมาก ด้วยที่รบกวนคุณ 3. Pardon ใช้เป็นทั้งนามและกริยา ใช้แสดงการขอโทษสำหรับ ความผิดที่หนักขึ้นไปอีก ส่วนมากนิยมใช้เมื่อ ฟังไม่ได้ยิน ไม่ชัด และขอร้อง เพื่อขอให้พูดใหม่ และถ้าจะเน้นการขอโทษเกี่ยวกับเรื่องใดแล้ว ก็เติมเข้ามาได้ โดยนำด้วย for หรือเป็นประโยคเลยก็ได้ การใช้ Pardon เป็นนามมีโครงสร้างดังนี้ I beg your pardon ดัง ตัวอย่างต่อไปนี้ I beg your pardon. ขอโทษ I beg your pardon, will you please say it again? ขอโทษ กรุณาพูดอีกครั้งได้ไหมครับ I must beg your pardon for interrupting. ฉันขอโทษที่ขัดจังหวะ 4. Apologize เป็นกริยา ใช้ขอโทษความผิดที่รุนแรงกว่าที่กล่าว มาแล้ว ถ้าจะเน้นว่าขอโทษเกี่ยวกับเรื่องอะไร ก็ใช้ for นำหน้าสิ่งนั้นๆ คำนี้ นิยมสร้างเป็นประโยค ตัวอย่าง I apologize for my clumsiness. ฉันขอโทษด้วยที่ซุ่มซ่าม I apologize for losing your book. ฉันขอโทษด้วยที่ทำหนังสือคุณหาย I apologize for what I said last night. ฉันขอโทษด้วยสำหรับสิ่งที่ฉันได้พูดไปเมื่อคืนที่แล้ว I must apologize to you for breaking my promise. ฉันต้องขอโทษคุณด้วยที่ต้องผิดสัญญา ขั้นฝึก (Practice) 4. ครูเขียนสำนวนเกี่ยวกับการพูดขอโทษและตอบรับ แล้วให้นักเรียนออกมาแปลความหมาย
ขั้นนำไปใช้ (Production) 5. ครูให้นักเรียนจับคู่สนทนาเกี่ยวกับการพูดขอโทษและตอบรับ ขั้นสรุป (Warp up) 6. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –เข้าใจความหมายของ คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการ พูดขอโทษและตอบรับได้ ถูกต้อง - ตรวจการแปลประโยค - ประโยค -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- มีทักษะการสนทนา เกี่ยวกับการพูดขอโทษและ ตอบรับได้ - สังเกตจากการสนทนา -ประโยคสนทนา - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Expression of opinion, wishes, offering etc. เรื่อง Polite Interrupting จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ เรียนรู้คำ วลี ประโยค บทสนทนาในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดง ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ได้แก่ การพูดให้กำลังใจ ดีใจ/เสียใจ การแสดงความคิด เห็นด้วย/ไม่เห็น ด้วย การแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น การกล่าวขอบคุณและตอบ รับ การพูดขออนุญาตและตอบรับ การพูดขอโทษและตอบรับ และการพูดแทรกอย่างสุภาพ เพื่อสามารถนำไป ปรับใช้ในสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการพูดแทรกอย่างสุภาพได้ ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถพูดสนทนาและมีทักษะการพูดแทรกอย่างสุภาพได้ 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น Vocabulary - Function/Speaking - talking about polite Interrupting Grammar -
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน 2. ครูชี้แจงกิจกรรมในวันนี้คือการเรียนเกี่ยวกับการพูดแทรกอย่างสุภาพ ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายคำศัพท์ สำนวน และประโยคในการพูดแทรกอย่างสุภาพ https://www.youtube.com/watch?v=iDoWBEY8mB4 (นาทีที่ 8) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถพูดสนทนาและมีทักษะการพูดแทรกอย่างสุภาพได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการพูดแทรก อย่างสุภาพได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
ขั้นฝึก (Practice) 5. ครูสุ่มนักเรียนมาเขียนประโยคการพูดแทรกบนกระดาน พร้อมแปลความหมาย ขั้นนำไปใช้ (Production) 6. ครูให้นักเรียนจับคู่สนทนา ให้พูดสนทนาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมีการพูดแทรกเข้ามาด้วย ขั้นสรุป (Warp up) 7. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –เข้าใจความหมายของ คำศัพท์ สำนวนเกี่ยวกับการ พูดแทรกอย่างสุภาพได้ ถูกต้อง - ตรวจการแต่งประโยค - ประโยค -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถพูดสนทนาและ มีทักษะการพูดแทรกอย่าง สุภาพได้ - สังเกตจากการตอบคำถา สนทนา -ประโยคสนทนา - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
คลิป https://www.youtube.com/watch?v=iDoWBEY8mB4
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 Different Types of English Sentences เรื่อง Affirmative sentence จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รู้จักลักษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำสั่ง ประโยคอุทาน ประโยคความรวม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 3 สามารถนำเสนอความคิดรวบยอด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งการเขียนในรูปแบบ ต่างๆกัน ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Simple ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Simple ได้ถูกต้อง 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร Vocabulary - Function/Speaking - talking about affirmative sentence Grammar - Present Simple (Subject + V1)
2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน 2. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วลองให้นักเรียนแต่งประโยคภาษาอังกฤษ The boy go to school. 3. ครูถอดโครงสร้างประโยคข้างต้น และชี้แจงว่าคาบนี้จะเรียนเกี่ยวกับประโยคบอกเล่า Present Simple หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Simple ได้ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Simple ได้ ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 4. ครูอธิบายโครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Simple โครงสร้างประโยคบอกเล่าPresent Simple = Subject + V1 (ขึ้นอยู่กับว่า ประธาน ว่าจะเติม s/es หรือไม่ เติม) ตัวอย่างประโยค a) My name is Jeep. b) I live in Chiang Mai, Thailand. c) Tina works at the bank. d) My mom eats rice every day. 5. ครูและนักเรียนทบทวนโครงสร้างประโยคร่วมกันอีกครั้ง ขั้นฝึก (Practice) 6. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ขั้นนำไปใช้ (Production) 7. ครูสุ่มนักเรียนออกมาแต่งประโยคบอกเล่า Present Simple คนละ 1 ประโยค ขั้นสรุป (Warp up) 8. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจโครงสร้างประโยค บอกเล่า Present Simple ได้ถูกต้อง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถแต่งประโยคโดยใช้ โครงสร้างประโยคบอกเล่า Present Simple ได้ถูกต้อง - ตรวจการแต่ง ประโยค -ประโยค - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นรายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 Different Types of English Sentences เรื่อง Affirmative sentence จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รู้จักลักษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำสั่ง ประโยคอุทาน ประโยคความรวม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 3 สามารถนำเสนอความคิดรวบยอด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งการเขียนในรูปแบบ ต่างๆกัน ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคบอกเล่า Past Simple ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่า Past Simple ได้ถูกต้อง 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร Vocabulary - Function/Speaking - talking about affirmative sentence Grammar - Past Simple (Subject + V2)
2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน 2. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วลองให้นักเรียนแต่งประโยคภาษาอังกฤษ แต่เป็นรูปประโยคในอดีต The boy went to school yesterday. 3. ครูถอดโครงสร้างประโยคข้างต้น และชี้แจงว่าคาบนี้จะเรียนเกี่ยวกับประโยคบอกเล่า Past Simple ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 4. ครูอธิบายโครงสร้างประโยคบอกเล่า Past Simple โครงสร้างประโยคบอกเล่าPast Simple = Subject + V2 กฎของ Verb ที่เป็นในรูปของอดีต (เค้าเรียกมันว่า V2 ) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่า Past Simple ได้ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคบอกเล่า Past Simple ได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
1. บางครั้งก้อเติม -ed เช่น walked 2. บางคำก็เปลี่ยนรูปไปเลย เช่น ate 3. บางครั้งก็ไม่เปลี่ยนอะไรเลย เช่น read, hit ตัวอย่างประโยค a) My name was Lula. b) I lived in Illinois, United States. c) Tina worked at the mall. d) My mom ate noodle yesterday. 5. ครูและนักเรียนทบทวนโครงสร้างประโยคร่วมกันอีกครั้ง ขั้นฝึก (Practice) 6. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ขั้นนำไปใช้ (Production) 7. ครูสุ่มนักเรียนออกมาแต่งประโยคบอกเล่า Past Simple คนละ 1 ประโยค ขั้นสรุป (Warp up) 8. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจโครงสร้างประโยค บอกเล่า Past Simple ได้ถูกต้อง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถแต่งประโยคโดยใช้ โครงสร้างประโยคบอกเล่า Past Simple ได้ถูกต้อง - ตรวจการแต่ง ประโยค -ประโยค - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นรายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 Different Types of English Sentences เรื่อง Affirmative sentence จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รู้จักลักษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำสั่ง ประโยคอุทาน ประโยคความรวม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 3 สามารถนำเสนอความคิดรวบยอด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งการเขียนในรูปแบบ ต่างๆกัน ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคบอกเล่า Future Simple ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่า Future Simple ได้ถูกต้อง 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร Vocabulary - Function/Speaking - talking about affirmative sentence Grammar - Future Simple (Subject + will + Main Verb)
2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน 2. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วลองให้นักเรียนแต่งประโยคภาษาอังกฤษ แต่เป็นรูปประโยคในอนาคต The boy will go to school tomorrow. 3. ครูถอดโครงสร้างประโยคข้างต้น และชี้แจงว่าคาบนี้จะเรียนเกี่ยวกับประโยคบอกเล่า Future Simple ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 4. ครูอธิบายโครงสร้างประโยคบอกเล่า Future Simple โครงสร้างประโยคบอกเล่าFuture Simple = Subject + will + Main Verb หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่า Future Simple ได้ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคบอกเล่า Future Simple ได้ ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
Main Verb คือ คำกริยาที่ไม่มีการเติม s/es ไม่ว่าประธานจะเป็นใครก็ตาม ตัวอย่างประโยค a) I will change my name to Jenny. b) I will live in London next year. c) Tina will work at the zoo next month. d) My mom will eat sushi tomorrow. 5. ครูและนักเรียนทบทวนโครงสร้างประโยคร่วมกันอีกครั้ง ขั้นฝึก (Practice) 6. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ขั้นนำไปใช้ (Production) 7. ครูสุ่มนักเรียนออกมาแต่งประโยคบอกเล่า Future Simple คนละ 1 ประโยค ขั้นสรุป (Warp up) 8. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจโครงสร้างประโยค บอกเล่า Future Simple ได้ถูกต้อง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถแต่งประโยคโดยใช้ โครงสร้างประโยคบอกเล่า Future Simple ได้ถูกต้อง - ตรวจการแต่ง ประโยค -ประโยค - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นรายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 Different Types of English Sentences เรื่อง Negative sentences จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รู้จักลักษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำสั่ง ประโยคอุทาน ประโยคความรวม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 3 สามารถนำเสนอความคิดรวบยอด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งการเขียนในรูปแบบ ต่างๆกัน ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense ได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense ได้ ถูกต้อง 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน Vocabulary - Function/Speaking - talking aboutnegative sentences Grammar - Negative form สำหรับ Present Simple Tense (Subject + V + not)
1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน 2. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพ แล้วลองให้นักเรียนแต่งประโยคภาษาอังกฤษ แต่เป็นประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense The girl doesn't like to eat vegetables. 3. ครูถอดโครงสร้างประโยคข้างต้น และชี้แจงว่าคาบนี้จะเรียนเกี่ยวกับประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense ได้ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense ได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 4. ครูอธิบายโครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense โครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense = Subject + V + not ตัวอย่างเช่น: I am here. ประโยคปฏิเสธ (negative sentence) คือ I am not here. Tanggwa is good at football. ประโยคปฏิเสธ (negative sentence) คือ Tanggwa is not good at football. หรือ Tanggwa isn’t good at football. ถ้าในประโยคไม่มี Verb to be (is am are) ให้ใช้ do not หรือ does not เพิ่มเข้ามาเป็นกริยาช่วย 1. Negative form = Subject(เอกพจน์, ยกเว้น I กับ You) + does not หรือ doesn’t + V(ไม่ เติม s หรือ es) 2. Negative form = Subject(พหูพจน์, รวมทั้ง I กับ You) + do not หรือ don’t + V(ไม่เติม s หรือ es) ตัวอย่างเช่น: He likes music. ประโยคปฏิเสธ (negative sentence) คือ He does not like music. หรือ He doesn’t like music. They play football. ประโยคปฏิเสธ (negative sentence) คือ They do not play football. หรือ They don’t play football. I do the job. ประโยคปฏิเสธ (negative sentence) คือ I do not do the job. หรือ I don’t do the job. ขั้นฝึก (Practice) 6. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ขั้นนำไปใช้ (Production) 7. ครูสุ่มนักเรียนออกมาแต่งประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense คนละ 1 ประโยค ขั้นสรุป (Warp up) 8. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?”
9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจโครงสร้างประโยค ปฏิเสธ Present Simple Tenseได้ ถูกต้อง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถแต่งประโยคโดยใช้ โครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense ได้ถูกต้อง - ตรวจการแต่ง ประโยค -ประโยค - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นรายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 อ30205 ภาษาอังกฤษเสริมประสบการณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 Different Types of English Sentences เรื่อง Negative sentences จำนวน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ รู้จักลักษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำสั่ง ประโยคอุทาน ประโยคความรวม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 2.ผลการเรียนรู้ ข้อ 1เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สาร คดีจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2 สามารถใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและ นอกสถานศึกษา ข้อ 3 สามารถนำเสนอความคิดรวบยอด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งการเขียนในรูปแบบ ต่างๆกัน ข้อ 5 เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3.สาระการเรียนรู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคปฏิเสธใน Tense ต่างๆได้ถูกต้อง 2. ด้านกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคปฏิเสธ ในTense ต่างๆได้ถูกต้อง 3. ด้านเจตคติ (A) - นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน Vocabulary - Function/Speaking - talking aboutnegative sentences Grammar - Negative form สำหรับมี modal verb ในประโยค (Subject + modal verb + not + V)
1. ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. การบูรณาการหลักปรัชญา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน 2. ครูให้นักเรียนทบทวนเนื้อหาในคาบที่แล้ว ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3. ครูอธิบายโครงสร้างประโยคปฏิเสธ เพิ่มเติมจากคาบที่แล้ว โดยสำหรับ Tense อื่นๆ ที่มีกริยาช่วย ในประโยคบอกเล่าอยู่แล้ว เราสามารถเติม not ข้างหลังกริยาช่วยนั้นได้เลย ตัวอย่างเช่น: Tanggwa was invited, but Sutee was not invited. หรือ … but Jane wasn’t invited. (ตอนนั้น) แตงกวาได้รับเชิญแต่สุธีร์ไม่ได้รับเชิญ They were rewarded, but they were not satisfied. หรือ … but they weren’t satisfied. พวกเขาได้รับผลตอบแทนแต่ก็ไม่พอใจ หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยคปฏิเสธ ใน Tense ต่างๆได้ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการทำงาน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคปฏิเสธ ใน Tense ต่างๆได้ถูกต้อง เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น
สำหรับบางประโยคจะมี adverb ที่มีความหมายเป็น Negation ก็จะถือเป็นประโยคปฏิเสธ (negative sentence) เช่นกัน โดย adverb มักจะวางไว้หน้า verb แท้ของประโยค ตัวอย่างเช่น: He never comes here. There are scarcely any flowers in our garden. ไม่ค่อยมีดอกไม้ในสวนของเรา They could barely hear the speaker. พวกเขาแทบไม่ได้ยินเสียงลำโพง ถ้าในประโยคมี modal verb (can, could, will, would, may, might, shall, should) ให้เติม not หลังคำ เหล่านี้ได้เลย Negative form = Subject + modal verb + not + V ตัวอย่างเช่น: I can do the job. ประโยคปฏิเสธ (negative sentence) คือ I cannot do the job. หรือ I can’t do the job. He will love you. ประโยคปฏิเสธ (negative sentence) คือ He will not love you. หรือ He won’t love you. ถ้าประโยคมี verb to have หรือ verb to do เป็นกริยาแท้จะเติม not เข้าไปโดยตรงไม่ได้ ต้องใช้กริยาช่วย ตาม tense นั้นมาเติมอีกทีหนึ่ง เช่น ด้านล่างนี้คือ “รายการคำเชิงลบหรือคำปฏิเสธ (negations or negative words) ทั่วไปที่ใช้บ่อยๆ” Negative words: No Not None
No one Nobody Nothing Neither Nowhere Never Negative Adverbs: Hardly Scarcely Barely Negative verbs: is not = isn’t am not = ‘m not are not = aren’t was not = wasn’t were not = weren’t does not = doesn’t do not = don’t did not = didn’t has not = hasn’t have not = haven’t had not = hadn’t shall not = shan’t should not = shouldn’t will not = won’t would not = wouldn’t cannot = can’t could not = couldn’t
ขั้นฝึก (Practice) 5. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ขั้นนำไปใช้ (Production) 6. ครูสุ่มนักเรียนออกมาแต่งประโยคปฏิเสธที่มีmodal verb คนละ 1 ประโยค ขั้นสรุป (Warp up) 7. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from today?” 9. สื่อ / อุปกรณ์ สื่ออุปกรณ์ 1. Power point 2. คอมพิวเตอร์ 3. ลำโพง 10. การวัดประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) –สามารถเข้าใจโครงสร้างประโยค ปฏิเสธ Present Simple Tenseได้ ถูกต้อง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (P)- สามารถแต่งประโยคโดยใช้ โครงสร้างประโยคปฏิเสธ Present Simple Tense ได้ถูกต้อง - ตรวจการแต่ง ประโยค -ประโยค - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ (A) -กระตือรือร้น -สังเกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นรายบุคคล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วเติมคะแนนลงในช่องว่าง เลขที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม / ลักษณะบ่งชี้ รวม มีความ สรุป รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ กล้าซักถาม กล้าพูด กล้าแสดงความ คิดเห็น และกล้าแสดงออก ทุ่มเทและมีความอดทนในการทำงาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานสำเร็จ ผ่าน ไม่ผ่าน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 27 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล (ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดี) ระดับ 3 ช่วงคะแนน 19 – 27 ดี ระดับ 2 ช่วงคะแนน 10 – 18 พอใช้ ระดับ 1 ช่วงคะแนน 1 – 9 ปรับปรุง