The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รูปแบบของวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญา และศิลปะ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thananwrat, 2022-01-17 02:33:36

ข้อมูลด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรรมท้องถิ่น

รูปแบบของวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญา และศิลปะ

Keywords: ท้องถิ่น,ชาติพันธุ์,ศิลปะ,จังหวัดเชียงราย,ศิลป์,ประเพณี,ศาสนา,ปราชญ์ชาวบ้าน

198

แกงหำงหวำย
"หวำย" เป็นพืชไม้เล้ือยที่มีอยู่ท่ัวทุกภำคของประเทศไทย ซ่ึงเป็นท่ีนิยม
ในกำรนำมำทำเปน็ เฟอร์นิเจอร์ เนื่องจำกหวำยมีควำมเหนยี ว และคงทนอย่ำงดีเย่ียม
นอกจำกนี้แล้ว "หวำย" ยังถูกนำมำเป็นวัตถุดิบในกำรทำเมนอู ำหำร โดยเฉพำะ
แกนอ่อนของตน้ หวำย ซ่ึงมลี กั ษณะคล้ำยกันกับยอดอ่อนของมะพร้ำวหรือปลีตำล
หวำยมีคุณค่ำทำงโภชนำกำรที่ดีต่อร่ำงกำยพอสมควร ในลูกหวำยอุดม
ไปดว้ ยแคลเซียม และวติ ำมินซี ใน 100 กรัม ใหพ้ ลงั งำนถึง 79 แคลอรี คำร์โบไฮเดรต
18.6 กรัม หน่อหวำยมีโปรตีนและเส้นใย รสขมของหวำยมีสรรพคุณทำงยำ แก้โรค
ท้องร่วง หน่อหวำยมีธำตุสังกะสีในปริมำณสูง ช่วยให้ไม่เครียดง่ำย ช่วยให้เด็ก
เจริญเติบโตได้ดี อีกท้ังยังช่วยไม่ให้สมรรถภำพทำงเพศเส่ือม นอกจำกน้ียังช่วยแก้ไอ
บำรุงน้ำดี แกร้ ้อนใน และกระหำยน้ำ
อำเภอดอยหลวง มีต้นหวำยขึ้นอยู่ตำมป่ำเป็นจำนวนมำก เนื่องจำก
ควำมเหมำะสมของสภำพดินท่ีทำให้หวำยสำมำรถเจริญเติบโตและ
แพร่ขยำยพันธุ์ได้ดี ปัจจุบันมีกำรนำหวำยมำเพำะปลูกเพื่อขำยในเชิงธุรกิจ
โดยหวำยของอำเภอดอยหลวงเป็นหวำยพันธ์ุหนำมขำว ซ่ึงเป็นหวำยท่ีมี
คุณภำพดี นอกจำกจะนำมำทำเป็นเฟอรน์ เิ จอร์แล้ว ชำวบ้ำนยังนิยมนำมำ
ทำเมนู “แกงหำงหวำย” โดยมักจะนำมำแกงกับหมูย่ำงทำให้แกงมีควำม
หอมและเนือ้ หมมู คี วำมนุม่ เพอื่ รสชำติของแกงให้กลมกลอ่ ม และไม่เหมือน
แกงหำงหวำยในพนื้ ทีอ่ ่นื ทีน่ ยิ มใสก่ ระดูกหมหู รือเน้ือสัตว์ประเภทอ่นื
สว่ นประกอบ
หำงหวำย (ต้นหวำยออ่ น) / หมูยำ่ งหรอื กระดกู หมูยำ่ ง / เห็ดลม / ผักแค / ผกั ชะอม / ผกั ชฝี ร่งั / จะค่ำน /
เกลือ / กระเทยี ม / ตะไครห้ ั่น / เม็ดผกั ชี / ขำ่ / กะปิ และน้ำปลำร้ำนิดหนอ่ ย
ขั้นตอนกำรทำ
1. เริ่มจำกเกบ็ ต้นหวำยขนำดพอเหมำะ ลำต้นใหญ่ประมำณหัวแม่มอื ใหญ่กวำ่ นีจ้ ะแข็งเกิน
เล็กกว่ำนีร้ สชำติฝำด จำกนั้นปอกเปลอื กแชน่ ้ำทงิ้ ไว้
2. เตรยี มพรกิ แกง โดยโขลกกระเทยี ม ตะไคร้ เมด็ ผกั ชี ข่ำ กะปิ และนำ้ ปลำรำ้ ให้ละเอียด
ใส่เกลอื เลก็ นอ้ ย
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย นำเครื่องแกงท่ีโขลกไว้ลงผัดพอให้มีกล่ินหอม นำเน้ือหมูย่ำง
หรอื กระดกู หมู ลงขลกุ กบั เครือ่ งแกงผัดรวมกันพอสกุ และหอม เติมน้ำเปล่ำลงไปใหท้ ว่ ม
4. พอนำ้ เดือดใสห่ วำยอ่อนลงไป โดยใหใ้ ส่ลำต้นหวำยกอ่ น ประมำณ 5 นำทีพอต้นหวำยเกือบ
สุก ให้ใส่ยอดหวำยตำมลงไป ตำมด้วยเห็ดลม จะค่ำน ผักแค ผักชะอม ตั้งไฟทิ้งไว้สักครู่ ปรุงรส
ตำมชอบ จำกน้ันใสผ่ ักชฝี รงั่ โรยหน้ำยกเสิร์ฟ
เคล็ดลับ
❖ ผักท่ีใส่ในแกงหำงหวำย ต้องเป็นผักไม่มีกลิ่นฉุน เดี๋ยวเสีย ผู้ทีถ่ อื ปฏิบัติมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
รสชำติหวำย และสำมำรถใสผ่ ักทชี่ อบไดต้ ำมฤดูกำล ชื่อ นำงบษุ รำรัตน์ คีรแี กว้

❖ แกงหำงหวำยท่ีอร่อยจะต้องใช้หำงหวำยท่ีสด โดยตัดมำแล้ว ทอ่ี ยู่ ๖๐ หมู่ ๒ บำ้ นปำ่ เลำ ตำบลหนองปำ่ ก่อ
แกงวนั ตอ่ วนั จะทำใหห้ วำยไมข่ มจนเกนิ ไป รสชำตอิ รอ่ ย อำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงรำย ๕๗๑๑๐

❖ ยอดหวำยทเ่ี ก็บมำอย่ำลำ้ งน้ำ ให้ล้ำงเฉพำะตน้ หวำยเทำ่ นัน้ หมำยเลขโทรศพั ท์ 080 131 2446
จะทำใหห้ วำยมีรสชำตดิ ี

199

ผ้ำทอกะเหรยี่ ง
ชำวกะเหร่ียง บ้ำนห้วยสัก และบ้ำนป่ำซำงงำม ตำบลหนองป่ำก่อ อพยพมำจำก
อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ควำมเช่ือในเรื่องทอผ้ำมีมำตั้งแต่อดีตว่ำ ผู้หญิงทุกคนจะตอ้ ง
ทอผ้ำเป็น ผู้สูงอำยุจึงให้ควำมสำคัญต่อวัฒนธรรมกำรทอผ้ำ และถ่ำยทอดภูมิปัญญำ
แก่บุตรสำวที่มีอำยุ ๑๒ - ๑๕ ปี โดยเร่ิมจำกแบบง่ำย ๆ ฝึกฝนจนมีควำมชำนำญและ
สำมำรถออกแบบลวดลำยได้ด้วยตนเอง ชำวกะเหร่ียงปลูกฝ้ำย และยอ้ มดำ้ ยด้วยสธี รรมชำติ
จำกพันธ์ุไม้ เช่น เปลือกไม้สัก เปลือกปอแดง ขมิ้น ต้นครำม ผลมะเกลือ ผ้ำที่ทอส่วนใหญ่
เป็นเคร่อื งนงุ่ ห่ม และของใช้ มีกำรประดบั ลวดลำยบนลำยผ้ำ ซึ่งสำมำรถบ่งบอกถงึ สถำนะ
ทำงสงั คมของผู้สวมใส่ได้อกี ด้วย เช่น เสือ้ ของหญิงท่ีแต่งงำนแล้ว จะมี ๒ แบบ แบบท่ี ๑ ทอลำยท้งั ตัว และแบบท่ี ๒ ทอเป็น
ผ้ำพ้ืนท้ังผืนมักจะมีพื้นสีดำหรือสีน้ำเงิน แล้วทอดอกหรือปักลวดลำยด้วยด้ำย หรือไหมพรมสีชมพูเข้มหรือสีแดง
หรอื ใช้เมด็ เดอื ยหนิ ปักระหวำ่ งด้ำยสตี ำ่ ง ๆ
วัสดุ - อปุ กรณ์
1. แผ่นคำดหลัง (อย่ำกุงไผย่) 2. ไมพ้ นั ผ้ำ (เคอ่ ไถ่ย) 3. ไม้กระทบ (เน่ยบะ) 4. ไม้แยกด้ำย (กงค๊)ู
5. ไมไ้ บ่หรอื วำ้ บัง 6. ทะคู่เถงิ 7. เสย่ ถงึ 8. ลุงทยุ้ 9. คองญ่ำยฆอ่ ง 10. ฝ้ำย

ขน้ั ตอนกำรทอผำ้
1. กำรเตรยี มเครือ่ งทอผ้ำ

1.1 กำรปนั่ ดำ้ ย อปุ กรณ์ในกำรปัน่ ดำ้ ยผ้ำทอกะเหรี่ยง ประกอบด้วย หลอดกรอด้ำย และเครือ่ งมอื กรอดำ้ ย หลอดกรอด้ำย
1.2 กำรกรอด้ำยขวำง ด้ำยขวำงเป็นด้ำยท่ีสอดเข้ำไประหว่ำงด้ำยยืน ทำให้เกิดลวดลำยต่ำง ๆ เรียกว่ำ ลุงทุ้ย
ใชด้ ำ้ ยพันกบั ไม้ ขนำดยำวประมำณ 1 ฟตุ เสน้ ผำ่ ศนู ย์กลำงประมำณ 1 เซนตเิ มตร
1.3 ตงั้ ไม้เคร่อื งทอกเ่ี อว หลังจำกปั่นดำ้ ยเสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ กน็ ำด้ำยมำขนึ้ ดำ้ ย
1.4 กำรข้ึนด้ำย หรือกำรข้ึนเคร่ืองทอกี่เอว เป็นกำรนำเอำเส้นด้ำยมำเรียงต่อกันอยำ่ งมีระเบียบตำมแนวนอน
โดยพันรอบกบั ส่วนประกอบของเครื่องทอ และก่อนท่ีจะมีกำรขน้ึ ด้ำยจะต้องมีกำรเตรียมเส้นด้ำยด้วยกำรปั่นด้ำย
กำรตัง้ เคร่อื งทอ กำรเรียงเส้นดำ้ ย กำรเปล่ียนไม้เป็นเครอ่ื งทอ
2. กำรทอผ้ำ มีขัน้ ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี
2.1 เรม่ิ ตน้ คลอ้ งด้ำยลงที่หลักท่ี 1 สำวเส้นด้ำยผ่ำนหลักท่ี 2,3,4,5,6,7 นำไปคลอ้ งที่หลักที่ 8 และสำวมำคล้องทห่ี ลกั ท่ี 1
2.2 ดงึ ดำ้ ยท้ังหมดให้ตึงเสมอกัน นำมำพนั รอบหลกั ที่ 2
2.3 ดึงด้ำยให้ตึงเสมอกันพำดผ่ำนด้ำนหน้ำของไม้หลักที่ 3 ถึงไม้หลักท่ี 4 เป็นจุดแยกด้ำยโดยใช้ด้ำยสีขำว
อีกกลุ่มหน่ึงเป็นเส้นด้ำยตะกอสอดเข้ำไประหว่ำงเส้นด้ำยเป็น 2 ส่วนเท่ำ ๆ กัน ส่วนที่ไม่ได้คล้องกับตะกอแยก
เสน้ ด้ำยผำ่ นหลังหลักท่ี 4 และส่วนทค่ี ลอ้ งตะกอ ดงึ เส้นด้ำยผำ่ นด้ำนหน้ำหลกั ที่ 4
2.4 รวบดำ้ ยทงั้ สองสว่ นเขำ้ ดว้ ยกนั ใหต้ งึ พำดผ่ำนหลักท่ี 5,6 พนั อ้อมหลกั ท่ี 7
2.5 ดงึ ดำ้ ยท้ังหมดใหต้ ึงพรอ้ มอ้อมหลกั ท่ี 8 และสำวให้ตงึ ดึงกลับมำเริม่ ต้นท่ีหลกั ท่ี 1 ใหม่
2.6 สอดไม้ท้ังหมดออกจำกเครื่องทอ และนำไม้ไบ่ 1 อัน สอดเข้ำไปแทนไม้ใส่ตะกอที่ 1 นำไม้ไบ่ 2 อันเข้ำ
สอดเปลีย่ นไม้ใส่ตะกอท่ี 2 และไม้ใสต่ ะกอที่ 3 ซง่ึ ตอ้ งใช้ชว่ ยแยกด้ำยเวลำทอแกะดอก สว่ นไม้ไบ่ท่ี 2 ใสก่ ระบอกไมไ้ ผ่แทน 1
อัน ผูท้ ่ถี ือปฏิบตั ิมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม

ชือ่ นำงอสุ นำ ปวนทำ
ท่ีอยู่ 41 หมู่ 2 บ้ำนป่ำซำงงำม ตำบลหนองปำ่ กอ่

อำเภอดอยหลวง จังหวดั เชยี งรำย 57110
หมำยเลขโทรศพั ท์ 082 384 3772

ฐานข้อมูลองค์ความรู้มรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรม
ดา้ นศาสนาวัฒนธรรม และจารตี ประเพณที อ้ งถ่นิ

ประจาปี ๒๕๖๔

จัดพมิ พโ์ ดย สภาวฒั นธรรมจังหวดั เชียงราย กระทรวงวฒั นธรรม
พิมพ์ครั้งท่ี 1 พ.ศ. 256๕

จำนวน ๕0 เลม่
คณะทำงำน

๑. นางสลกั จฤฎด์ิ ตยิ ะไพรชั ประธานสภาวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงราย

๒. นายวงั นอรตั น์ รองประธานสภาวฒั นธรรมจังหวดั เชียงราย คนที่ ๑

๓. นายธนั วา เหลี่ยมพันธุ์ รองประธานสภาวฒั นธรรมจังหวดั เชียงราย คนท่ี ๒

๔. นางรชั ฏ์พันธ์ุ รัชนีวงศ์ รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวดั เชียงราย คนท่ี ๓

๕. นายณรงค์ เจนใจ รองประธานสภาวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงราย คนท่ี ๔

๖. คณะกรรมการสภาวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรายทกุ ทา่ น จานวน ๔๑ ท่าน

๗. นกั วชิ าการวฒั นธรรมผปู้ ระสานงานอาเภอทกุ อาเภอ

๘. นางเบญ็ จมาส บุญเทพ นักวชิ าการวัฒนธรรมชานาญการพิเศษ

๙. นางเพยี รโสม ปาสาทงั นักวชิ าการวัฒนธรรมชานาญการ

๑๐. นางสาวธัญวรัตม์ วรรณสอน นกั วิชาการวฒั นธรรม

๑๑. นางสาวฐิฒิกา วงศ์มา เจา้ หนา้ ทมี่ รดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม

บรรณำธกิ ำรและผูเ้ รียบเรยี ง จันทรศ์ ลิ ป์ วัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งราย
1. นายพิสันต์ เลขานุการสภาวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงราย

2. นางเบ็ญจมาส บุญเทพ นักวิชาการวัฒนธรรมชานาญการพิเศษ
3. นางเพยี รโสม ปาสาทงั นักวิชาการวัฒนธรรมชานาญการ
๔. นางสาวธัญวรัตม์ วรรณสอน นักวิชาการวฒั นธรรม

๕. นางสาวฐิฒกิ า วงศ์มา เจา้ หนา้ ที่มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม

ออกแบบและจดั พิมพ์
ร้านเป็นต่อ
โทร. 096 232 3949

FACEBOOK : สภาวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย
โทร. ๐๕๓-๑๕๐-๑๖๙

โทรสาร ๐๕๓-๑๕๐-๑๗๐
โดย...สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม


Click to View FlipBook Version