EASTERN ASIA UNIVERSITY
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
คำนำ
กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดนโยบายในการจัดการศึกษา โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ที่เน้นการเชื่อม
โยงกับกระบวนการมีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความ
รู้และการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรมด้วยการลงมือ
ปฏิบัติจริงอย่างหลากหลาย และให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จาก
ประสบการณ์การฝึกปฏิบัติซึ่งจะได้พัฒนาวิธีการคิด ทั้งความคิดด้านเป็นเหตุเป็นผลคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์
วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญในการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง แก้ปัญหาได้ อย่างเหมาะสม
สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างรู้เท่าทัน เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายไปสู่ การพัฒนาที่
ยั่งยืน (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในบริบทโลกและภูมิภาคทั้งในด้านเทคโนโลยี
ดิจิทัลที่พัฒนาแบบ ก้าวกระโดด สภาพภูมิอากาศ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจและการค้าระดับภูมิภาคและ
ระดับโลก รูปแบบเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีการบูรณาการและเชื่อมโยงเศรษฐกิจของโลกเข้าด้วยกัน การ
เปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่มีอัตราการเกิดลดลง และเกิดสังคมผู้สูงวัย การเปลี่ยนแปลง ทางสังคม
ภูมิปัญญาและวัฒนธรรม ปัจจัยเหล่านี้ล้วนนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงค่านิยม วิถีชีวิต รูปแบบเศรษฐกิจและ
ปฏิสัมพันธ์ของคนในสังคมไทย การศึกษาจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม ให้กับคนทุกช่วงวัยให้สามารถดำรง
ชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ให้มีการพัฒนา เต็มตามศักยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม และมี
ทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทย และ ทักษะ คุณลักษณะ สมรรถนะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
สถาบันอุดมศึกษาในศตวรรษใหม่นี้ นอกจากจะมีอิสระและความคล่องตัวในการบริหารจัดการแล้วคุณภาพนับ
เป็นจุดเน้นที่สำคัญของอุดมศึกษาที่พึงปรารถนาดังนั้นในการพัฒนานักศึกษาหรือการสร้างบุคลากรให้มีความ
พร้อมในการประกอบอาชีพ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญกับผู้เรียนทั้งในชั้นเรียนและนอก
ชั้นเรียนควบคู่กัน (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2560)
ดังนั้นในกระบวนการผลิตบุคลากรป้อนให้กับตลาดแรงงานนั้น ความรู้ในวิชาชีพถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
ในการเสริมสร้างให้ผู้เรียนได้มีองค์ความรู้ดังกล่าว แต่ในการพัฒนานักศึกษานอกชั้นเรียนก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่
สำคัญไม่น้อยกว่ากันเพราะ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) ได้ระบุได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์การลงมือปฏิบัติซึ่งจะได้พัฒนาวิธีการคิด ทั้งความคิดด้าน
เป็นเหตุเป็นผลคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญในการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ได้
ด้วยตนเอง แก้ปัญหาได้ อย่างเหมาะสมสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างรู้เท่าทัน เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคที่มี
ประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายไปสู่ การพัฒนาที่ยั่งยืน (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551)
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 2
คำนำ
มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย จะมุ่งการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยมีประเด็นการ
พัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพื่อเตรียมความพร้อมในการ
สร้างองค์ความรู้ความชำนาญการและความสามารถในการเรียนรู้ด้านต่างๆตั้งแต่ มาตรฐานการเรียนรู้หลักสูตร
และวิธีการสอน การพัฒนาวิชาชีพ รวมถึงการพัฒนานักศึกษา โดยเน้นให้นักศึกษาสามารถปรับตัวและเรียนรู้ที่
จะอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างมั่นคง
ในการพัฒนาการเรียนรู้และทักษะต่างๆของนักศึกษานั้นมีหลายรูปแบบ แต่วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงใน
การพัฒนานักศึกษา โดยการใช้ชุดฝึกทักษะ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรม การฝึกทักษะที่จะทำให้
นักศึกษาได้รับการพัฒนาความคิด มีความชัดเจนในเป้าหมายและทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ (PAREEK AND
ROA, 1980) จำแนกชุดฝึก เป็น 2 ประเภท คือ ชุดฝึกสำหรับศึกษาด้วยตนเอง (SELF-LEARNING MODULE)
และชุดฝึกที่ใช้สอน (TEACHING MODULE) ความหมายใกล้เคียงกัน โดยชุดฝึกทักษะให้สามารถเป็นแบบ
ฝึกหัดที่ใช้ตัวอย่างปัญหาหรือคำสั่งที่ตั้งขึ้นเพื่อให้นักศึกษาฝึกตอบ แบบฝึกหัดเสริมทักษะที่ครูจัดขึ้นให้แก่
นักศึกษาเพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกทักษะเพิ่มขึ้น โดยทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย ความสนใจและพอใจ หลัง
จากที่นักศึกษาเรียนรู้นั้นสิ่งนั้นมาแล้ว ส่งผลให้แบบฝึกหัดหรือวิธีสอนอีกวิธีหนึ่งที่ครูสร้างขึ้น เพื่อดึงดูดให้
นักเรียนสนใจพัฒนาตนเอง เพราะในแบบฝึกทักษะ มีทั้งคำถามและแบบและเฉลยในชุดเดียวกัน จึงเป็นการ
เสริมแรงให้นักศึกษาอยากเรียนมากขึ้น
ดังนั้น ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย เป็นสิ่งที่สำคัญ
และจำเป็นอย่างยิ่งที่สถาบันการศึกษา ที่ต้องให้ความสำคัญและสามารถกำหนดแนวทางการพัฒนานักศึกษา
ร่วมกัน เพื่อสร้างรูปแบบที่ชัดเจนในการพัฒนานักศึกษาของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย โดยชุดฝึกทักษะการ
เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของ
นักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ในหลักสูตรปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน
และอยู่ภายใตก ารควบคุมและดูแลของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สิทธิกร สุมาลีอาจารยท ี่ปรึกษาวิทยานิพนธห ลัก
และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมลักษม์ กูลศรีโรจน์ อาจารยท ี่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 3
สารบัญ
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 4
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
1. หลักการและเหตุผล
การศึกษาถือเป็นกลไกหลักในการพัฒนา ส่งเสริม แนวความคิด ความรู้ ให้กับพลเมืองและสังคมโดยรวมของ
ทุกประเทศ การออกแบบการศึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญของการพัฒนาประเทศในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์และ
สังคม บริบทที่สำคัญในการออกแบบการศึกษา ในปัจจุบันก็คือการเปลี่ยนแปลงของโลกจากการก้าวผ่านจาก
ศตวรรษที่ 20 เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 กระแสการเปลี่ยนแปลงโลกได้ส่งผลกระทบทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม
และการเมืองของทุกประเทศ คนในโลกยุคใหม่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจึงต้องมีความพร้อมที่จะเผชิญ
กับความเปลี่ยนแปลงการเปลี่ยนผ่านเหล่านี้ ประเทศไทยก็จำเป็นต้องก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 เช่นกัน ดังนั้น
การเตรียมความพร้อมคนไทย เพื่อการนำพาสังคมและประเทศไปสู่โลกที่ 1 จึงเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ
(CRITICAL POINT) ของชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (วิจารณ์ พานิช, 2555; BELLANCA AND BRANDT, 2010)
ปัจจุบันเป็นยุคที่โลกมีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอันสืบเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูล
ต่าง ๆ ของทุกภูมิภาคของโลกเข้าด้วยกัน กระแสการปรับเปลี่ยนทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ส่งผลต่อ
วิถีการดำรงชีพของสังคมอย่างทั่วถึง ครูจึงต้องมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการจัดการเรียนรู้เพื่อเตรียม
ความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะสำหรับการออกไปดำรงชีวิตในโลกในศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนไปจากศตวรรษที่ 20
และ 19 โดยการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้ โดยร่วมกันสร้าง
รูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นที่องค์ความรู้
ทักษะ ความเชี่ยวชาญและสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมแห่งความเปลี่ยนแปลงใน
ปัจจุบัน โดยจะอ้างถึงรูปแบบ (MODEL) ที่พัฒนามาจากเครือข่ายองค์กรความร่วมมือเพื่อทักษะแห่งการเรียนรู้ใน
ศตวรรษที่ 21 (PARTNERSHIP FOR 21ST CENTURY SKILLS) ที่มีชื่อย่อว่า เครือข่าย P21 ซึ่งได้พัฒนา
กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยผสมผสานองค์ความรู้ ทักษะเฉพาะด้าน ความชำนาญการและ
ความรู้เท่าทันด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อความสำเร็จของผู้เรียนทั้งด้าน การทำงานและการดำเนินชีวิตกรอบ
แนวคิดในการจัดการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 ที่แสดงผลลัพธ์ของผู้เรียนและปัจจัยส่งเสริมสนับสนุน
ในการจัดการเรียนรู้เพื่อรองรับศตวรรษที่ 21 ซึ่งสำคัญที่สุด คือ ทักษะการเรียนรู้ (LEARNING SKILL) ส่งผลให้มี
การเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 นี้ มีความรู้ ความสามารถ และทักษะที่จำเป็น
ที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน การพัฒนานักศึกษา ตลอดจนการเตรียมความ
พร้อมด้านต่างๆ ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 5
รวมทั้งเป็นยุคแห่งการแข่งขันทางสังคมค่อนข้างสูงในปัจจุบัน ส่งผลต่อการปรับตัวให้ทัดเทียมและเท่าทันกับความ
เปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นในบริบททางสังคมในทุกมิติรอบด้าน
การเสริมสร้างองค์ความรู้ (CONTENT KNOWLEDGE) ทักษะเฉพาะทาง (SPECIFIC SKILLS) ความเชี่ยวชาญ
เฉพาะด้าน (EXPERTISE) และสมรรถนะของการรู้เท่าทัน (LITERACY) จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องเกิดขึ้นกับ
ตัวผู้เรียนในการเรียนรู้ยุคสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระแสการปรับ
เปลี่ยนทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคแห่งความเป็นโลกาภิวัตน์ (THE GLOBALIZATION)
ที่ได้เกิดวิวัฒนาการความก้าวหน้าในทุกๆ มิติเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ส่งผลต่อวิถีการดำรงชีพของสังคม
อย่างทั่วถึง ดังนั้นการกำหนดยุทธศาสตร์และการสร้างความพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น
เป็นสิ่งที่ท้าทายศักยภาพและความสามารถของมนุษย์ที่จะสร้างความรู้ความสามารถทางการเรียนรู้ในลักษณะ
ต่างๆให้เกิดขึ้น และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว(วิจารณ์ พานิช, 2555; MISHRA, 2012)
ดังนั้น การจัดการศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 ต้องเปลี่ยนแปลงทัศนะ (PERSPECTIVES) จากกระบวนทัศน์
แบบดั้งเดิม (TRADITION PARADIGM) ไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ (NEW PARADIGM) ที่ให้โลกของผู้เรียนและโลก
ความเป็นจริงเป็นศูนย์กลางของกระบวนการเรียนรู้ เป็นการเรียนรู้ที่ไปไกลกว่าการได้รับความรู้แบบง่ายๆ
ไปสู่การเน้นพัฒนาทักษะและทัศนคติ ทักษะการคิด ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะองค์การ ทัศนคติเชิงบวก
ความเคารพตนเอง นวัตกรรม ความสร้างสรรค์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะและค่านิยมทางเทคโนโลยี
ความเชื่อมั่นตนเอง ความยืดหยุ่น การจูงใจตนเอง และความตระหนักในสภาพแวดล้อม และเหนืออื่นใด
คือ ความสามารถใช้ความรู้อย่างสร้างสรรค์ (THE ABILITY TO HANDLE KNOWLEDGE EFFECTIVELY IN
ORDER TO USE IT CREATIVELY) ถือเป็นทักษะที่สำคัญจำเป็นสำหรับการเป็นผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายในการที่จะพัฒนาเรียนเพื่ออนาคต ให้ผู้เรียนมีทักษะ ทัศนคติ ค่านิยม และบุคลิกภาพ
ส่วนบุคคล เพื่อเผชิญกับอนาคตด้วยภาพในทางบวก (OPTIMISM) ที่มีทั้งความสำเร็จและมีความสุข (NORTH
CENTRAL REGIONAL EDUCATIONAL LABORATORY, 2003).
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 6
สถาบันอุดมศึกษาจึงจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
การพัฒนานักศึกษาให้ทักษะที่จำเป็นและสำคัญ ความท้าทายด้านการศึกษาในศตวรรษที่ 21ในการเตรียม
นักเรียนให้พร้อมกับชีวิตในศตวรรษที่ 21 เป็นเรื่องสำคัญของกระแสการปรับเปลี่ยนทางสังคมที่เกิดขึ้นใน
ศตวรรษที่ 21 ส่งผลต่อวิถีการดำรงชีพของสังคมอย่างทั่วถึง ครูจึงต้องมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการ
จัดการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะสำหรับการออกไปดำรงชีวิตในโลกในศตวรรษที่ 21 ที่
เปลี่ยนไปจากศตวรรษที่ 20 และ 19 โดยทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่สำคัญ คือ ทักษะความเป็นผู้นำ
(LEADERSHIP SKILL) ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เด็กในศตวรรษที่ 21 นี้ (กระทรวง
ศึกษาธิการ, 2551)
แนวโน้มของการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ การใช้และการบูรณาการเทคโนโลยีที่มากขึ้นการใช้หลักความ
เป็นโลกเรียนรู้สิ่งที่ไกลตัวออกไปความตระหนักถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษาความ
จำเป็นมีแรงงานเชิงแข่งขันที่มีทักษะสูงการศึกษาแบบไร้พรมแดนและข้ามพรมแดนการแลกเปลี่ยนครูและ
นักเรียนให้มีประสบการณ์ระดับโลกมากขึ้นความสร้างสรรค์มากขึ้นความรู้ถูกสร้างขึ้นมีมากขึ้นการเป็นหุ้นส่วน
ระหว่างรัฐบาลกรรมการสถานศึกษาสถานศึกษาและนักการศึกษาการเรียนรู้แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
โดยใช้เทคโนโลยีการยึดหลักการประเมินสินทรัพย์เป็นการประเมินเชิงเปรียบเทียบและแนวคิดเกี่ยวกับการเตรี
ยมนักเรียนในปัจจุบันเพื่อสังคมอนาคตในอนาคตที่ซับซ้อน (WAGNER, 2018)
ในเรื่องนี้ได้มีนักการศึกษาซึ่งเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก คือ ด้านการรู้คิดและการศึกษาที่บัณฑิตวิทยาลัย
ศึกษาศาสตร์แห่งฮาร์เวิร์ด ได้เสนอแนวคิดของจิต 5 ลักษณะที่สังคมควรปลูกฝังในคนรุ่นถัดไป ได้เรียกว่า การ
พัฒนาสมองนักเรียนในห้าด้าน ได้แก่ 1) สมองด้านวิชาและวินัย (DISCIPLINED MIND) เป็นการพัฒนาความ
เชี่ยวชาญทางด้านวิชาความรู้และความมีวินัยในการฝึกฝนตนเองให้เชี่ยวชาญยิ่งขึ้น ผู้ที่เชี่ยวชาญหลายอย่าง
กำลังเป็นที่ต้องการของสังคม 2) สมองด้านสังเคราะห์ (SYNTHESIZING MIND) ถือว่าเป็นการพัฒนาสมองที่มี
ค่าที่สุดในยุคปัจจุบัน เพราะในปัจจุบันข้อมูลต่าง ๆ ท่วมท้น คนที่รู้ว่าตนเองจะสังเคราะห์อะไร อะไรคือข้อมูลที่
ต้องการย่อมได้เปรียบคนที่สังเคราะห์ไม่เป็น 3) สมองด้านสร้างสรรค์ (CREATING MIND) เป็นสมองที่รู้จักแผ้ว
ถางหนทางใหม่ รู้จักคิดนอกกรอบเป็นสมองที่จาเป็น เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับโลก 4) สมองด้าน
เคารพให้เกียรติ (RESPECTFUL MIND) สมองด้านนี้เป็นสิ่งที่สะสมมาตั้งแต่เด็กและเป็นส่วนสำคัญในการอยู่ร่วม
กันในสังคมมนุษย์ และ5) สมองด้านจริยธรรม (ETHICAL MIND) เป็นสมองเกี่ยวกับมโนทัศน์ของผู้ที่รู้จักสิทธิและ
ความรับผิดชอบที่ตนเองต้องมีต่อสังคมส่วนรวม
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 7
ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมองห้าด้าน ไม่ได้ทาแบบแยกส่วนแต่ต้องเรียนรู้ทุกด้านไปพร้อม ๆ กัน พลัง
สมองในสามด้านแรกเป็นพลังเชิงทฤษฎีหรือที่เรียกว่า COGNITIVE MIND ส่วนอีกสองด้านเป็นพลังด้านมนุษย์
สัมผัสมนุษย์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของนักการศึกษามองว่าในการจัดการศึกษาในศตวรรษ ที่ 21 สังคมควรปลูก
ฝังสิ่งใดลงไปในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กมีความรู้ อยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก เศรษฐกิจ การเมือง
วัฒนธรรมที่หลากหลาย และเท่าทันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (EATON, 2011)
มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย จะมุ่งการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยมีประเด็นการพัฒนา
ศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างองค์
ความรู้ความชำนาญการและความสามารถในการเรียนรู้ด้านต่างๆตั้งแต่ มาตรฐานการเรียนรู้หลักสูตรและวิธีการ
สอน การพัฒนาวิชาชีพ รวมถึงการพัฒนานักศึกษา โดยเน้นให้นักศึกษาสามารถปรับตัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคม
แห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างมั่นคง ดังนั้น การพัฒนานักศึกษาในศตวรรษที่ 21 จึงจำเป็นต้องเตรียมการในการ
พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานอุดมศึกษาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในโลกาภิวัตน์มุ่งหวัง
ให้คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา สร้างความเข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจที่สามารถแข่งขันได้และการสร้างคุณภาพ
ชีวิตที่ดีให้กับประชาชนและสังคมโดยรวม เพื่อให้เกิดแนวทางในการพัฒนาดังกล่าว
ในการพัฒนาการเรียนรู้และทักษะต่างๆของนักศึกษานั้นมีหลายรูปแบบ แต่วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในการ
พัฒนานักศึกษา โดยการใช้ชุดฝึกทักษะ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรม การฝึกทักษะที่จะทำให้ผู้เข้ารับ
การอบรมได้รับการพัฒนาความคิด มีความชัดเจนในเป้าหมายและทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ (PAREEK AND
ROA,1980) จำแนกชุดฝึก เป็น 2 ประเภท คือ ชุดฝึกสำหรับศึกษาด้วยตนเอง (SELF-LEARNING MODULE)
และชุดฝึกที่ใช้สอน (TEACHING MODULE) ความหมายใกล้เคียงกัน โดยชุดฝึกทักษะให้สามารถเป็นแบบฝึกหัดที่
ใช้ตัวอย่างปัญหาหรือคำสั่งที่ตั้งขึ้นเพื่อให้นักศึกษาฝึกตอบ แบบฝึกหัดเสริมทักษะที่ครูจัดขึ้นให้แก่นักศึกษาเพื่อให้
นักศึกษาได้ฝึกทักษะเพิ่มขึ้น โดยทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย ความสนใจและพอใจ หลังจากที่นักเรียนเรียน
รู้นั้นสิ่งนั้นมาแล้ว ส่งผลให้แบบฝึกหัดหรือวิธีสอนอีกวิธีหนึ่งที่ครูสร้างขึ้น เพื่อดึงดูดให้นักเรียนสนใจพัฒนาตนเอง
เพราะในแบบฝึกทักษะ มีทั้งคำถามและแบบและเฉลยในชุดเดียวกัน จึงเป็นการเสริมแรงให้นักศึกษาอยากเรียน
มากขึ้นการใช้ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย จะทำให้นักศึกษา
มีทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญและจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบันต่อไป
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 8
2. วัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ให้กับนักศึกษา มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
3. กลุ่มเป้าหมาย
นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
4. ขั้นตอนการดำเนินการ
ในการใช้ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้กับนักศึกษาคณะการบิน ระดับชั้นปริญญาตรี มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
ดังนี้
1) ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 จำนวน 10 ชุด ประกอบด้วย
ชื่อกิจกรรม
วัตถุประสงค์ของกิจกรรม
สาระสำคัญ
ทักษะในศตวรรษที่ 21
เทคนิคการจัดการเรียนรู้
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
การประเมินผลกิจกรรม
เกณฑ์การผ่านการประเมินผลกิจกรรม
ระยะเวลาของกิจกรรม
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 9
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
แบบประเมินผลงาน
เกณฑ์การประเมิน
ใบความรู้
ใบงาน/ใบกิจกรรม
เอกสารประกอบการบรรยาย
2) รูปแบบการจัดกิจกรรมมีทั้งการบรรยายให้ความรู้ และการฝึกปฏิบัติทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้
ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
3) สรุปและนำผลการประเมินมาวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลการใช้ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้
5. บทบาทของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้
1) รับฟังการบรรยายให้ความรู้จากวิทยากร
2) ทำกิจกรรมในการสัมมนาทุกกิจกรรมทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่มตามลักษณะงานที่วิทยากรชี้แจง
3) ปฏิบัติตามกระบวนการกลุ่ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น อภิปราย ระดมพลังสมอง และสรุปความรู้ แนว
ปฏิบัติที่ได้จากกิจกรรมการสัมมนา
4) ส่งผลงานจากการทำกิจกรรมทุกกิจกรรมให้วิทยากรตรวจสอบ และเพื่อให้ข้อเสนอแนะ
ในการพัฒนางาน
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 10
6. โครงสร้างกิจกรรมส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จำนวน 10 กิจกรรม ดังนี้
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
1. อ่านได้ 1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วม
1. วิทยากร ให้ความรู้เรื่อง “อ่านได้ อ่าน
อ่านออก (Reading)
อ่านเป็น กิจกรรมสามารถ
เป็น เขียนให้เห็นคุณค่า” เขียนได้ (Writing)
เขียนให้เห็น จับใจความสำคัญ
2. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเลือกอ่านบทความ/
- การอ่านจับใจความ
คุณค่า จากการอ่าน หนังสือที่สนใจ อย่างน้อย 3 เรื่อง ให้อธิบาย
- การเขียนสรุปความ
(10 ชั่วโมง) 2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วม
ใจความสำคัญพร้อมทั้งวิเคราะห์สาระที่ได้
กิจกรรมสามารถ
อ่านและแสดงความคิดเห็นที่มีต่อเรื่องที่
เขียนประเด็นสำคัญ
อ่าน ผ่านการเขียนสรุปใจความ
ของเรื่องที่อ่านได้ 3. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำใจความที่เขียน
สรุปได้มาดำเนินการอัดคลิปวีดีทัศน์
4. วิทยากรคัดเลือกคลิปที่น่าสนใจ มานำ
เสนอ เพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่างของการทำ
กิจกรรม “อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็น
คุณค่า”
5. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)
กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น
จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 11
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
2. พูดและฟัง เพื่อให้นักศึกษา 1. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทักษะด้านการสื่อสาร
อย่างไรให้ สามารถเลือกวิธีการ ศึกษาลักษณะและวิธีการใช้งานของ
สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ
เกิดผล พูดสื่อสาร และฟังได้ โปรแกรมประยุกต์สำหรับการสื่อสารผ่าน
- การพูดและฟังในที่ชุมชน
(10 ชั่วโมง) อย่างเหมาะสมและมี เทคโนโลยีสารสนเทศโดยมอบหมายให้ผู้
ประสิทธิภาพ เข้าร่วมกิจกรรมศึกษาความรู้จากสื่อและ
แหล่งเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ให้
2. มอบหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำความรู้
เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมฯ ที่ได้จากการ
ศึกษา มาใช้ในการพิจารณาสถานการณ์ต่อ
ไปนี้ให้เหมาะสม โดยอธิบายเหตุผล
ประกอบ
3. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5
คน เลือกกรณีศึกษาที่กำหนดให้เลือกใช้
โปรแกรมท่านคิดว่าเหมาะสม พร้อมทั้งนำ
เสนอผ่านโปรแกรมดังกล่าวพร้อมทั้งให้
เหตุผลประกอบ
4. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)
กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น
จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 12
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
3. การสื่อสารใน 1. เพื่อให้นักศึกษา
1. วิทยากรให้ความรู้เรื่อง “การสื่อสาร
ทักษะด้านคอมพิวเตอร์
ยุคดิจิตอล สามารถสื่อสารผ่าน ในยุคดิจิตอล” และเทคโนโลยีสารสนเทศ
(10 ชั่วโมง) เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งเป็น
และการสื่อสาร
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มๆละเท่าๆ กัน พร้อมทั้งเลือกหัวหน้า
- การสื่อสารผ่าน
2. เพื่อให้นักศึกษา
กลุ่ม เทคโนโลยีสารสนเทศ
สามารถเลือกใช้
3. ให้แต่ละกลุ่มหาข้อมูลสำหรับการนำ
- การเลือกรับสารสนเทศ
เทคโนโลยีดิจิตอลใน
เสนอความรู้และความคิดเห็นในประเด็น
อย่างมีวิจารณญาณ
การสื่อสารได้อย่างมี
ที่กำหนดให้
ประสิทธิภาพ 4. ให้แต่ละกลุ่มศึกษาข้อมูลในหัวข้อที่ได้
3. เพื่อให้นักศึกษา
รับ และจัดทำคลิปการปราศรัยในหัวข้อ
สามารถใช้วิจารณญาณ
ที่ได้รับ
ในการเลือกรับฟังสื่อได้ 5. ให้แต่ละกลุ่มจัดทำคลิปการปราศรัย
ในหัวข้อที่กำหนด หัวข้อละอย่างน้อย 2
กลุ่ม โดยสมาชิกในกลุ่มมีบทบาทในการ
พูดอย่างน้อยคนละ 1 นาที
6. วิทยากรประเมินและให้ข้อเสนอแนะ
ของแต่ละกลุ่ม
7. วิทยากรฉายสไลด์สรุปข้อคิดเรื่อง
“การสื่อสารในยุคดิจิตอล”
8. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ
(Feedback) กับนักศึกษา เพื่อให้
นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา
ของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 13
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
4. Live and
1. เพื่อให้นักศึกษา
1. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่มๆละ
ทักษะอาชีพ และ
Learn on
สามารถบอกวิธีการ
6 หรือ 8 คน พร้อมทั้งเลือกหัวหน้ากลุ่ม ทักษะการเรียนรู้
Your Life ปรับตัวในการอยู่
2. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม
- การปรับตัวในการอยู่
(10 ชั่วโมง) ร่วมกับผู้อื่นได้ ชื่อ “ใครควรอยู่รอช่าง” ร่วมกับผู้อื่น
2. เพื่อให้นักศึกษา
3.ผู้เข้าร่วมกิจกรรม แสดงบทบาทสมมุติ ตาม - ทักษะในการ
สามารถบอกวิธีการ
สถานการณ์ที่กำหนดให้ ประกอบอาชีพ
ปฏิบัติตนเพื่อการ
- ให้สมาชิกจับสลาก คนละ 1 อาชีพ พร้อม
- การเรียนรู้ตลอดชีวิต
เรียนรู้ตลอดชีวิตได้ ทั้งสืบค้นหรือสัมภาษณ์ข้อมูลเกี่ยวกับบทบาท
สมมุติที่ได้รับ
- ให้แต่ละกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติ เพื่อ
อภิปราย และให้เหตุผลตามบทบาทของตน
ว่าใครควรจะอยู่รอช่าง
- กลุ่มที่มีสมาชิกมากกว่า 5 คน ให้สมาชิกที่
เหลือรับบทเป็นผู้สังเกตการณ์
4. วิทยากรให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน หรือผู้
สังเกตการณ์ นำเสนอข้อสรุปและบรรยากาศ
ของกลุ่มหน้าชั้นเรียน
5. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสรุปข้อคิดที่
ได้รับจากกิจกรรมฯ
6. วิทยากรฉายสไลด์สรุปข้อคิดเรื่อง “Live
and Learn on Your Life”
7. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)
กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น
จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 14
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
5. คนสร้างทีม เพื่อให้นักศึกษา
1. วิทยากรให้ความรู้ เรื่อง “คนสร้างทีม ทีม
ทักษะด้านความร่วมมือ
ทีมสร้างงาน สามารถทำงานร่วม
สร้างงาน” การทำงานเป็นทีม และ
(10 ชั่วโมง) กับผู้อื่นได้ 2. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม แบ่งเป็นกลุ่มกลุ่มละ
ภาวะผู้นำ
6-8 คนต่อกลุ่ม - การทำงานร่วมกับผู้
3. วิทยากรแจกอุปกรณ์ กลุ่มละ 1 ชุด
อื่น
ประกอบด้วย ก้อนหิน 1 ถุง / ดินน้ำมัน 1
ก้อน / ทราย 1 ถุง /เกลือ 1 ถุง / แก้ว 1 ใบ
4. ให้แต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่ของการทำงาน
คัดเลือกผู้สังเกตการณ์ 1 คน
5. ให้วิทยากรประชุมผู้สังเกตการณ์แต่ละ
กลุ่ม และมอบหมายบทบาทหน้าที่
6. ให้แต่ละกลุ่มนำเริ่มต้นการทำงานจาก
อุปกรณ์ที่ได้รับ ตามเงื่อนไข
7. วิทยากรให้ผู้สังเกตการณ์ในแต่ละกลุ่ม นำ
เสนอรูปแบบการทำงานของแต่ละกลุ่ม
8. วิทยากรให้แต่ละกลุ่มประชุมและส่งตัว
แทนเพื่อสรุปข้อคิดที่ได้จากการทำกิจกรรม
ในเรื่องการทำงานเป็นทีม
9. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)
กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น
จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 15
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
6. เรียนรู้
เพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้
1. วิทยากร ให้ความรู้เรื่อง “เรียนรู้
ทักษะด้านความเข้าใจต่าง
วัฒนธรรมที่
และเข้าใจความแตก
วัฒนธรรมที่แตกต่าง” วัฒนธรรม ต่างกระบวน
แตกต่าง ต่างของวัฒนธรรม 2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากการ
ทัศน์
(10 ชั่วโมง) ตอบแบบสำรวจ “แตกต่าง...แต่ไม่
- ความเข้าใจในความแตก
แตกแยก” ต่างของวัฒนธรรม
3. วิทยากรให้ผู้เข้ากิจกรรมเป็นกลุ่มๆละ
เท่าๆ กันจากนั้นแจกกรณีศึกษาเพื่อให้
แต่ละกลุ่มอภิปราย แสดงความคิดเห็นใน
หัวข้อกรณีศึกษาที่กำหนดให้
4. ให้แต่ละกลุ่มสรุปประเด็น และนำ
เสนอออกมาเป็นผังมโนทัศน์ (Mind
Map) พร้อมทั้งในแต่ละกลุ่ม ให้สมาชิก
แต่ละคนสรุปความคิดเห็นจากการทำงาน
ชิ้นนี้ คนละ 1 นาทีโดยมีการระบุเหตุผล
และที่มาได้อย่างชัดเจน
5. วิทยากรฉายสไลด์สรุปข้อคิดเรื่อง
“เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง”
6. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ
(Feedback) กับนักศึกษา เพื่อให้
นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา
ของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 16
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
7. 7.1 คุณธรรม
1. เพื่อให้นักศึกษา
1. วิทยากรให้ความรู้เรื่อง คุณธรรมและ
ความมีเมตตา กรุณา
นำชีวิต สามารถสรุปประเด็น
จริยธรรม วินัย คุณธรรม จริยธรรม
(20 ชั่วโมง) เกี่ยวกับคุณธรรมหรือ
2. วิทยากร แบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรม ให้มี
- คุณธรรมและจริยธรรม
ข้อคิดจากละครที่ดูได้ จำนวนใกล้เคียงกัน ในการใช้ชีวิต
2. เพื่อให้นักศึกษา
3. วิทยากรให้แต่ละกลุ่ม เลือกดูภาพยนตร์
- จรรยาบรรณในการ
สามารถนำเสนอ
สั้นที่กำหนดให้ ประกอบอาชีพ
รายงานบุคคลตัวอย่าง
4. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เลือกจำนวน 1
ที่เป็นแบบอย่างของ
เรื่อง พร้อมทั้งให้วิเคราะห์และสรุปประเด็น
การประกอบวิชาชีพ
ลงในใบงาน เรื่อง “What is the moral in
ตามสาขาวิชาที่ตน
the story?”
ศึกษา 5. วิทยากรสุ่มให้ผู้แทนกลุ่มนำเสนอ ข้อ
สรุป
6. วิทยากรสรุปกิจกรรมและบรรยายสรุปใน
หัวข้อ “What is the moral in the
story?”
7. วิทยากรมอบหมายให้แต่ละกลุ่ม ทำงาน
จิตอาสาช่วยเหลือสังคม พร้อมถ่ายทำคลิป
ส่งพร้อมรายละเอียดของกิจกรรม
8. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)
กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น
จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 17
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
7.2 บทบาท
1. วิทยากรให้ผู้เข้ากิจกรรมเป็นกลุ่มๆละ
และหน้าที่ เท่าๆกัน และให้แต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งเลือก
หัวหน้ากลุ่ม
2. วิทยากร แจกบทบาทให้สมาชิกแต่ละ
กลุ่ม และให้แต่ละกลุ่มหาข้อสรุปของกลุ่ม
โดยแสดงความคิดเห็นตามบทบาทที่ได้รับ
3. ให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทนนำเสนอข้อสรุป
ของกลุ่ม
4. วิทยากรสรุปข้อคิดในเรื่อง “บทบาท
และหน้าที่”
5. ให้แต่ละกลุ่มเลือกสัมภาษณ์บุคคล
ตัวอย่างที่เป็นแบบอย่างของการประกอบ
วิชาชีพตามที่สนใจ
6. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ
(Feedback) กับนักศึกษา เพื่อให้
นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา
ของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 18
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
8. คิดก่อนเชื่อ
1. เพื่อให้นักศึกษา
1. วิทยากร ให้ความรู้ เรื่อง “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์
คิดเลขเป็น
ชัวร์ก่อนแชร์ สามารถวิเคราะห์
ก่อนแชร์” - การคิดอย่างมีเหตุผล
(10 ชั่วโมง) เหตุการณ์ที่เกิดจาก
2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่มๆละ
ความเชื่อและค่า
เท่าๆ กัน พร้อมเลือกประเด็นในการเก็บรวบรวม
นิยมทางสังคมได้ ข้อมูลข่าวสาร (POLL) จากประเด็นที่เกี่ยวข้อง
2. เพื่อให้นักศึกษา
กับความเชื่อและค่านิยมทางสังคม โดยเสนอ
สามารถแสดงความ
ประเด็นที่สนใจศึกษาข้อมูล (Idea)
คิดเห็นประกอบ
3. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม นำเสนอร่าง
เหตุผลตามหัวข้อที่
การทำ POLL
ได้รับ 4. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสรุปข้อมูลที่ได้จากการ
เก็บข้อมูลข่าวสาร พร้อมนำเสนอในรูปแบบการ
รายงานข้อมูลตามจำนวนที่เก็บข้อมูลมาได้
5. ให้แต่ละกลุ่มงานแสดงความคิดเห็นต่อข้อสรุป
จากการเก็บรวบรวมข้อมูล ในประเด็นเรื่อง
ปัญหาและอุปสรรคจากการเก็บข้อมูลข่าวสาร
6. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้ากลุ่มๆนำเสนอ
รายงานสรุปข้อมูลจากการทำแบบสำรวจ พร้อม
วิเคราะห์ผลของการสำรวจ และอภิปรายผล จาก
เหตุการณ์ดังกล่าวจากความเชื่อและค่านิยมทาง
สังคม
7. วิทยากรสรุปกิจกรรมและบรรยายสรุปใน
หัวข้อ “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์”
8. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) กับ
นักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควร
พัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 19
ลำดับ ชื่อ
วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
กิจกรรม ในศตวรรษที่ 21
9. คิดดี คิดเก่ง 1. เพื่อให้นักศึกษา
1. วิทยากรให้ความรู้เรื่อง คิดดี...คิดเก่ง ทักษะด้านการคิดอย่างมี
(10 ชั่วโมง) สามารถคิดอย่างเป็น
2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่มๆ
วิจารณญาณ และทักษะใน
ระบบ ละเท่าๆ กัน และให้แต่ละกลุ่ม พร้อมทั้ง
การแก้ปัญหา
2. เพื่อให้นักศึกษา
เลือกหัวหน้ากลุ่ม - การแก้ปัญหาอย่างเป็น
สามารถคิดอย่างมี
3. วิทยากรนำเสนอตัวอย่างผังงาน
ระบบ
วิจารญาณ ออนไลน์ (Flowchart) และอธิบายวิธีการ
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
3. เพื่อให้นักศึกษา
เขียนผังงาน
สามารถแก้ไขปัญหา
4. จากนั้นมอบหมายให้แต่ละกลุ่มเลือก
ต่างๆได้อย่างเหมาะ
หัวข้อตามความสนใจมาสร้างผังงาน
สม 5. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำเสนอผังงาน
“คิดดี คิดเก่ง”
6. ให้แต่ละกลุ่มเลือกจับคู่ และวิพากษ์งาน
ของคู่ของตนเอง โดยการจับสลาก พร้อม
แสดงความคิดเห็น แผนผังงานของกลุ่มอื่น
เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการนำไปปรับปรุง
7. วิทยากรสรุปกิจกรรมและบรรยายสรุป
ในหัวข้อ “การคิดอย่างเป็นระบบ เกิด
ประสิทธิภาพในการตัดสินใจ และสามารถ
ประยุกต์ความรู้ไปสู่การแก้ไขปัญหาต่างๆ
ได้อย่างเหมาะสม”
8. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ
(Feedback) กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษา
ให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 20
ลำดับ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การดำเนินกิจกรรม ทักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21
10. สร้างผลงาน
1. เพื่อให้นักศึกษาบอก
1. วิทยากรบรรยาย เกี่ยวกับ การสร้าง
ทักษะด้านการ
จากปัญหา แนวทางการแก้ไข
นวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สร้างสรรค์ และ
(10 ชั่วโมง) ปัญหาอย่างมีเหตุผล 2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งเป็นกลุ่ม
นวัตกรรม
2. เพื่อให้นักศึกษา
กลุ่มละ 6-8 คนต่อกลุ่ม พร้อมทั้งเลือกหัวหน้า
- การคิดสร้างสรรค์
สามารถสร้างนวัตกรรม กลุ่ม
เพื่อแก้ปัญหาในชีวิต
3. ให้แต่ละกลุ่มเลือกโจทย์ปัญหา และ
ประจำวัน ออกแบบรูปแบบ หรือสิ่งประดิษฐ์เพื่อแก้ปัญหา
4. ให้แต่ละกลุ่มออกแบบรูปแบบ หรือสิ่ง
ประดิษฐ์ เพื่อแก้ปัญหาจากโจทย์ข้างต้น
5. ในระหว่างการประชุม หัวหน้ากลุ่มทำแบบ
ประเมินการทำงานในกลุ่ม
6. ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน พร้อมอธิบาย
ลักษณะและรูปแบบ ออกแบบรูปแบบ หรือสิ่ง
ประดิษฐ์ เพื่อแก้ปัญหาจากโจทย์
7. หัวหน้ากลุ่มนำเสนอตัวงานในรูปแบบแผนผัง
ความคิด (MindMap)
8. วิทยากรให้แต่ละกลุ่มประชุมและส่งตัวแทน
เพื่อสรุปข้อคิดที่ได้จากการทำกิจกรรมในเรื่อง
การทำงานเป็นทีม พร้อมนำเสนอในห้อง
Google Classroom
9. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) กับ
นักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่
ควรพัฒนาของตนเอง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 21
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ชั้นปีที่ 1
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ชั้นปีที่ 1
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถจับใจความสำคัญจากการอ่าน
2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเขียนประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
สาระสำคัญ : หน่วยการเรียนรู้ที่เป็นทักษะ (SKILL UNIT)
การอ่านจับใจความเป็นความสามารถในการจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่านได้อย่างถูกต้อง ส่วนการเขียนสรุป
จากการอ่านเป็นอีกวิธีหนึ่งในการถ่ายทอดประเด็นที่สำคัญจากเรื่องที่อ่านได้
ทักษะในศตวรรษที่ 21 : อ่านออก (READING) เขียนได้ (WRITING)
การอ่านจับใจความ, การเขียนสรุปความ
เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (LEARNING AND ACTIVITY MANAGEMENT)
ONLINE LEARNING
การจัดการเรียนรู้โดยคำนึงถึงความถนัดและความสนใจ (INDIVIDUAL) ของผู้เรียน
การส่งเสริมทักษะการอ่าน (READING SKILL) และการเขียน (WRITING) ในทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่
21 (3R8C)
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 23
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ชั้นปีที่ 1
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
1. วิทยากรให้ความรู้เรื่อง “อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า”
2. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเลือกอ่านบทความ/หนังสือที่สนใจ จำนวน 3 เรื่อง ให้อธิบายใจความสำคัญพร้อมทั้ง
วิเคราะห์สาระที่ได้อ่านและแสดงความคิดเห็นที่มีต่อเรื่องที่อ่าน ผ่านการเขียนสรุปใจความ
3. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำใจความที่เขียนสรุปได้มาดำเนินการอัดคลิปวีดีทัศน์
4. วิทยากรคัดเลือกคลิปที่น่าสนใจ มานำเสนอ เพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่างของการทำกิจกรรม “อ่านได้ อ่านเป็น
เขียนให้เห็นคุณค่า”
5. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (FEEDBACK) กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
สื่อและแหล่งเรียนรู้
เอกสารประกอบการบรรยาย เรื่อง “อ่านได้ อ่านเป็นเขียนให้เห็นคุณค่า”
ใบงานใบงานกิจกรรมที่ 1 “อ่านได้ อ่านเป็นเขียนให้เห็นคุณค่า”
ห้องกิจกรรม GOOGLE CLASSROOM
การประเมินผลกิจกรรม
คลิปวีดีทัศน์ การวิเคราะห์เรื่องที่เลือกอ่าน จำนวน 1 คลิป
แบบประเมินผลงาน
แบบประเมินคลิปวีดีทัศน์ “อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า” โดยใช้เกณฑ์การประเมิน
(RUBRIC SCORE 4 ระดับ)
เกณฑ์การผ่านการประเมินผลกิจกรรม
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องได้รับการตัดสินคุณภาพในระดับดีขึ้นไปทุกรายการประเมิน
ระยะเวลาของกิจกรรม
10 ชั่วโมง
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
นักศึกษาชั้นปีที่ 1
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 24
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ชั้นปีที่ 1
แบบประเมินผลงาน
เกณฑ์การประเมินผล : คะแนนเต็ม 12 คะแนน
คะแนน 12-10 = ดีมาก (4) คะแนน 9-7 = ดี (3)
คะแนน 6-4 = พอใช้ (2) คะแนน 3-0 = ควรปรับปรุง (1)
เกณฑ์การประเมิน “อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า”
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 25
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบความรู้
ในกิจกรรม “อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า” จะมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความเป็นความสามารถ
ในการจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่านได้อย่างถูกต้อง ส่วนการเขียนสรุปจากการอ่านเป็นอีกวิธีหนึ่งในการถ่ายทอด
ประเด็นที่สำคัญจากเรื่องที่อ่านได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
การอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาหาความรู้ และพัฒนาชีวิต ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความรู้แล้วยังก่อให้
เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน และส่งเสริมให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้แนวคิดในการดำเนินชีวิต (HARAPPA
LEARNING, 2020).
การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนิดต่างๆ การอ่านในใจเพื่อสร้างความ
เข้าใจ และการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ความรู้จากสิ่งที่อ่าน เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน (กระทรวงศึกษาธิการ,
2551).
การอ่าน คือ การแปลความหมายของตัวอักษรที่อ่านออกมาเป็นความรู้ความคิด และเกิดความเข้าใจเรื่องราวที่อ่านตรง
กับเรื่องราวที่ผู้เขียนเขียน ผู้อ่านสามารถนำความรู้ ความคิด หรือสาระจากเรื่องราวที่อ่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
การอ่านจึงมีความสำคัญ (แววมยุรา เหมือนนิล, 2564) ดังนี้
1) การอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน
จำเป็นต้องอ่านหนังสือเพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ
2) การอ่านเป็นเครื่องมือช่วยให้ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ เพราะสามารถนำ
ความรู้ที่ได้จากการอ่านไปพัฒนางานของตนได้
3) การอ่านเป็นเครื่องมือสืบทอดทางวัฒนธรรมของคนรุ่นต่อ ๆ ไป
4) การอ่านเป็นวิธีการส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้ เพราะประสบการณ์ที่ได้
จากการอ่านเมื่อเก็บสะสมเพิ่มพูนนานวันเข้า ก็จะทำให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคนฉลาดรอบรู้ได้
5) การอ่านเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลินบันเทิงใจ เป็นวิธีหนึ่งในการแสวงหา
ความสุขให้กับตนเองที่ง่ายที่สุด และได้ประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
6) การอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและบุคลิกภาพ
เพราะเมื่ออ่านมากย่อมรู้มาก สามารถนำความรู้ไปใช่ในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 26
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบความรู้
7) การอ่านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบบการเมือง การปกครอง ศาสนา ประวัติศาสตร์ และสังคม
8) การอ่านเป็นวิธีการหนึ่งในการพัฒนาระบบการสื่อสารและการใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
การอ่านจับใจความ คือ การอ่านที่มุ่งค้นหาสาระของเรื่องหรือของหนังสือแต่ละเล่มที่เป็นส่วนใจความสำคัญ และส่วน
ขยายใจความสำคัญของเรื่อง
การอ่านจึงเป็นหัวใจของการศึกษาทุกระดับ และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้เรื่องต่างๆ การอ่านที่ดีมี
ประสิทธิภาพ (วรรณี โสมประยูร, 2553) จะต้องอ่านแล้วจับใจความได้ สรุปสาระสำคัญของเรื่องที่อ่านได้ แต่การ
สำรวจการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนพบว่า ปัญหาที่สำคัญในการอ่านของผู้เรียน คือ อ่านแล้วจับใจ
ความสำคัญไม่ได้ ไม่สามารถสรุปประเด็นได้ ไม่สามารถแยกความรู้ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ไม่สามารถแยกใจความสำคัญ
กับใจความรองได้ ทำให้ไม่ได้รับประโยชน์จากการอ่านเท่าที่ควร ทั้งยังเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการเรียนรู้และการศึกษา
วิชาต่างๆด้วย (แววมยุรา เหมือนนิล, 2564)
ความสำคัญของนิสัยการอ่านนั้นเชื่อมโยงกับความสำเร็จในวิชาชีพอย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นการเปิดใจรับ
ประสบการณ์ใหม่ๆ และให้แนวทางใหม่ๆ ของความรู้ (INDEED EDITORIAL TEAM, 2021)
“ไม่มีเพื่อนที่ภักดีเท่าหนังสือ”
เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ นักเขียนชาวอเมริกันกล่าว
หนังสือจุดประกายจินตนาการ ให้การปลอบใจในยามเศร้าโศก และเปิดโลกของผู้อ่าน
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 27
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบความรู้
ความสำคัญของการอ่านหนังสือในการประชุมใหญ่สามัญปี พ.ศ. 2530 ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม
พระบรมราชกุมารี (กรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ, 2554) สรุปได้ดังนี้
1) การอ่านหนังสือทำให้ได้เนื้อหาสะระความรู้มากกว่าการศึกษาหาความรู้ด้วยวิธีอื่นๆ
2) การอ่านสามารถอ่านได้โดยไม่มีการจำกัดสถานที่
3) หนังสือสามารถเก็บได้นานกว่าสื่อรูปแบบอื่นๆ
4) การอ่านสามารถส่งเสริมให้สมองดี มีสมาธิมากกว่าสื่ออื่นๆ
5) ผู้อ่านสามารถฝึกการคิด และสร้างจินตนาการได้เองในขณะที่อ่าน
6) ผู้อ่านสามารถกำหนดการอ่านได้ด้วยตนเอง โดยจะอ่านคร่าวๆ อ่านละเอียด อ่านข้าม หรืออ่านตามตัวอักษาก็เป็นไป
ได้ตามใจของผู้อ่าน หรือจะเลือกอ่านเล่มใดก็ได้
7) หนังสือมีหลากหลายรูปแบบ และราคาถูกกว่าสื่ออย่างอื่น จึงทำให้สมองเปิดกว้างมากกว่าสื่ออื่นๆ สร้างแนวคิดและ
ทัศนคติได้มากกว่า
8) ผู้อ่านเกิดความคิดได้ด้วยตนเอง วินิจฉัยเนื้อหาสาระได้ด้วยตนเอง รวมทั้งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติตามได้
ข้อดีของการอ่าน
การอ่าน คือ การแปลความหมายของตัวอักษรที่อ่านออกมาเป็นความรู้ความคิด และเกิดความเข้าใจเรื่องราวที่อ่าน
ตรงกับเรื่อราวที่ผู้เขียนเขียน ผู้อ่านสามารถนำความรู้ ความคิดหรือสาระจากเรื่องราวที่อ่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
(FRANS JOHANSSON, 2015) การอ่านจึงมีความสำคัญ ดังนี้
1) การอ่านเป็นเครื่องมือช่วยให้ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ เพราะสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไป
พัฒนางานของตนได้
2) การอ่านจะฝึกฝนให้ผู้อ่านได้สังเกตรายละเอียดต่างๆ และสามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆได้อย่างมีเหตุผล
3) การอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน จำเป็นต้องอ่านหนังสือเพื่อการ
ศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ
4) การอ่านเป็นเครื่องมือสืบทอดทางวัฒนธรรมของคนรุ่นต่อ ๆ ไป
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 28
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบความรู้
5) การอ่านเป็นวิธีการส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้ เพราะประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านเมื่อเก็บสะสม
เพิ่มพูนนานวันเข้า ก็จะทำให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคนฉลาดรอบรู้ได้
6) การอ่านเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลินบันเทิงใจ เป็นวิธีหนึ่งในการแสวงหาความสุขให้กับตนเองที่ง่าย
ที่สุด และได้ประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
7) การอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและบุคลิกภาพ เพราะเมื่ออ่านมากย่อม
รู้มาก สามารถนำความรู้ไปใช่ในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
8) การอ่านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบบการเมือง การปกครอง ศาสนา ประวัติศาสตร์ และสังคม
9) การอ่านเป็นวิธีการหนึ่งในการพัฒนาระบบการสื่อสารและการใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
การอ่านจับใจความ
ใจความสำคัญของเรื่อง คือ ข้อความที่มีสาระคลุมข้อความอื่นๆ ในย่อหน้านั้นหรือเรื่องนั้นทั้งหมด ข้อความอื่นๆ
เป็นเพียงส่วนขยายใจความสำคัญเท่านั้น ข้อความหนึ่งหรือตอนหนึ่งจะมีใจความสำคัญที่สุดเพียงหนึ่งเดียว นอกนั้น
เป็นใจความรอง คำว่าใจความสำคัญนี้ ผู้รู้ได้เรียกไว้เป็นหลายอย่าง เช่น ข้อคิดสำคัญของเรื่อง แก่นของเรื่อง หรือ
ความคิดหลัก ของเรื่องแต่จะเป็นอย่างไรก็ตาม ใจความสำคัญก็คือ สิ่งที่เป็นสาระที่สำคัญที่สุดของเรื่องนั่นเอง
(กรมวิชาการ, 2554)
แนวการอ่านจับใจความให้บรรลุจุดประสงค์ มีแนวทางดังนี้
1) ตั้งจุดมุ่งหมายในการอ่านได้ชัดเจน เช่น อ่านเพื่อหาความรู้ เพื่อความเพลิดเพลิน หรือเพื่อบอกเจตนาของผู้เขียน
เพราะจะเป็นแนวทางกำหนดการอ่านได้อย่างเหมาะสม และจับใจความหรือคำตอบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
2) สำรวจส่วนประกอบของหนังสืออย่างคร่าวๆ เช่น ชื่อเรื่อง คำนำ สารบัญ คำชี้แจงการใช้หนังสือภาคผนวก ฯลฯ
เพราะส่วนประกอบของหนังสือจะทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องหรือหนังสือที่อ่านได้กว้างขวางและรวดเร็ว
3) ทำความเข้าใจลักษณะของหนังสือว่าประเภทใด เช่น สารคดี ตำรา บทความ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้มีแนวทางอ่านจับใจ
ความสำคัญ ได้ง่าย
4) ใช้ความสามารถทางภาษาในด้านการแปลความหมายของคำ ประโยค และข้อความต่างๆ อย่างถูกต้องรวดเร็ว
5) ใช้ประสบการณ์หรือภูมิหลังเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านมาประกอบจะทำความเข้าใจและจับใจความที่อ่านได้ง่ายและรวดเร็ว
ขึ้น
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 29
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบความรู้
ขั้นตอนการอ่านจับใจความ
1)อ่านทำความเข้าใจเนื้อเรื่องอย่างละเอียดเพื่อจับใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า
2)คิดเพื่อตั้งคำถามให้ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร ใคร กำลังทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และมีข้อสรุปอย่างไร
3)เขียนร่างข้อความที่ได้อ่านโดยสรุปไว้เป็นตอนๆ เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ
4)เรียบเรียง ข้อความโดยใช้ภาษาของเรา
5)สรุปเนื้อเรื่องเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการในการใช้งาน
การเขียนสรุปความ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ให้ความหมายของ “สรุป เอาไว้ว่า หมายถึงประเด็นย่อๆ ของ
เรื่อง ย่อเอาเฉพาะใจความสำคัญของเรื่องเป็นประเด็นๆ ไป เช่น สรุปข่าว สรุปเหตุการณ์
การสรุปความ คือ การหยิบยกเอาความคิดหลักหรือประเด็นที่สำคัญของเรื่องที่ได้ฟัง ได้ดู ได้อ่านมากล่าวย้ำให้เด่น
ชัด โดยใช้ประโยคสั้นๆ แล้วเรียบเรียงให้เป็นระเบียบ
การเขียนสรุปความ คือ การเขียนประเด็นที่สำคัญของเรื่องที่ฟังหรืออ่านให้เด่นชัด โดยใช้ ประโยคสั้นๆ แล้วเรียบ
เรียงให้เป็นระเบียบ เพื่อการสื่อสารที่ตรงประเด็น ชัดเจน ต่อเนื่อง และสละสลวย (ราชบัณฑิตยสถาน, 2556).
ประเภทของการเขียนสรุปความ
การเขียนสรุปความ (นิตยา กาญจนะวรรณ, 2561) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1) การเขียนสรุปความจากการฟัง ไม่ว่าจะเป็นการฟังบรรยาย อภิปราย การประชุม ตลอดจนข่าวสารประเภทต่างๆ
ผู้เขียนต้องมีสมาธิในการฟัง เพื่อจับใจความสำคัญของเรื่องโดยสรุปสาระสำคัญของเรื่อง เป็นประเด็นย่อย เพื่อความ
เข้าใจที่ชัดเจนและรวดเร็ว
2) การเขียนสรุปความจากการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านร้อยแก้วหรือร้อยกรอง ผู้เขียนต้องอ่าน เรื่องหรือสารนั้นๆ โดย
ละเอียด จับใจความสำคัญ ตลอดจน แนวทางความคิด ทัศนคติเพื่อนํามาเป็นข้อมูลในการเขียน
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 30
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบความรู้
วิธีการเขียนสรุปความ มีขั้นตอนการเขียนสรุปความ ดังนี้
1) ขั้นอ่าน อ่านข้อความหรือเรื่องราวให้ตลอดเรื่อง
2) ขั้นคิด ตั้งคำถามสั้นๆ เพื่อทดสอบความเข้าใจ โดยตั้งคำถามกับตัวเองเกี่ยวกับจุดสำคัญของเรื่อง ได้แก่
เรื่องอะไร ใครเป็นผู้เขียน มีความว่าอย่างไร
ใครอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่อย่างไร ทำไม
สาระสำคัญของเรื่องจะสัมพันธ์กับหัวข้อเรื่องมากที่สุด ส่วนรายละเอียดจะสัมพันธ์กับสาระสำคัญอีกต่อหนึ่ง
คำถามที่จะตั้งจึงควรถามหาสาระสำคัญ ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเรื่อง
3) ขั้นเขียน เรียบเรียงสาระสำคัญของเรื่องมาสรุปความโดย
สาระสำคัญที่จดบันทึกไว้แต่ละตอนมาเรียบเรียงใหม่
เขียนด้วยสำนวนของตนเอง ใช้ภาษาให้ถูกต้อง กระชับ
คำที่ยากและยาวในเรื่องเดิมควรเปลี่ยนใช้คำธรรมดาที่ทุกคนเข้าใจง่าย
ประโยคสั้นๆ ทุกประโยคต้องเชื่อมโยงกัน โดยอาจใช้บุพบท สันธาน หรือวลีมาเชื่อม
4) ขั้นตรวจ สอบการเขียนสรุปความเมื่อเขียนเสร็จแล้วควรทบทวน ดังนี้
มีสารสนเทศสำคัญครบถ้วน โดยเปรียบเทียบกับเรื่องเดิม
ใช้ประโยคสมบูรณ์หรือไม่ มีรายละเอียดของเรื่องความติดมาบ้างหรือไม่
มีข้อความใดที่ผิดเพี้ยนไปจากเรื่องเดิมบ้าง
ประโยคต่างๆ เชื่อมโยงด้วยถ้อยคำที่เหมาะสม
หลักภาษา และการสะกดคำถูกต้อง
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 31
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบความรู้
เทคนิคการอ่านเพื่อจับใจความสำคัญ “ อ่าน คิด เขียน เรียบเรียง สรุป ”
การอ่านเพื่อจับใจความสำคัญส่วนมากจะมีลักษณะเป็นประโยค ซึ่งอาจปรากฏอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของย่อหน้า
ก็ได้จุดที่พบใจความสำคัญของเรื่องในแต่ละย่อหน้ามากที่สุดคือ ประโยคที่อยู่ตอนต้นย่อหน้า เพราะผู้เขียนมักบอก
ประเด็นสำคัญไว้ก่อน แล้วจึงขยายรายละเอียดให้ชัดเจน รองลงมาคือประโยคตอนท้ายย่อหน้า โดยผู้เขียนจะบอกราย
ละเอียดหรือประเด็นย่อยก่อน แล้วจึงสรุปด้วยประโยคที่เป็นประเด็นไว้ภายหลังสำหรับจุดที่พบใจความสำคัญยากขึ้นก็
คือ ประโยคตอนกลางย่อหน้า ซึ่งผู้อ่านจะต้องใช้ความสังเกตและพิจารณาให้ดี ส่วนจุดที่หาใจความสำคัญยากที่สุดคือ
ย่อหน้าที่ไม่มีประโยคใจความสำคัญปรากฏชัดเจน อาจมีประโยค หรืออาจอยู่รวมๆกันในย่อหน้าก็ได้ ซึ่งผู้อ่านจะต้อง
สรุปด้วยตนเอง (สุนันทา มั่นเเศรษฐวิทย์, 2545)
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 32
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
ใบงาน
ใบงานกิจกรรมที่ 1 “อ่านได้ อ่านเป็นเขียนให้เห็นคุณค่า”
--------------------------------------------------------------
ชื่อ-นามสกุล ...........................................................................................................
รหัสนักศึกษา .........................................................................................................
ชื่อหนังสือ/บทความ................................................................................................
ผู้เขียน/ผู้แต่ง .........................................................................................................
วันที่พิมพ์หนังสือ/บทความ.....................................................................................
ใจความสำคัญได้จากการอ่านจับใจความสำคัญ
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
ความคิดเห็นเพิ่มเติมของผู้อ่าน
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 33
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารประกอบการบรรยาย
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 34
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารประกอบการบรรยาย
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 35
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารประกอบการบรรยาย
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 36
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารประกอบการบรรยาย
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 37
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารประกอบการบรรยาย
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 38
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารประกอบการบรรยาย
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 39
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารประกอบการบรรยาย
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 40
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2551.
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2554). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2554.
กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.)
นิตยา กาญจนะวรรณ. (2561). การวิเคราะห์โครงสร้างภาษาไทย. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว. เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล
เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน
วรรณี โสมประยูร. (2553). เทคนิคการสอนภาษาไทย. กรุงเทพฯ : ดอกหญาวิชาการ
แววมยุรา เหมือนนิล. (2564). การอ่านจับใจความ. (พิมพ์ครั้งที่ 1) กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน.
สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์. (2545). เทคนิควิจัยด้านการอ่าน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
FRANS JOHANSSON. (2015). THE CLICK MOMENT : SEIZING OPPORTUNITY
IN AN UNPREDICTABLE WORLD. NEW YORK, UNITED STATES.
HARAPPA LEARNING. (2020). IMPORTANCE AND BENEFITS OF READING SKILLS
IN COMMUNICATION. สืบค้นเมื่อ 01 มกราคม 2565 จากHTTPS://HARAPPA.
EDUCATION/CONTACTUS/
INDEED EDITORIAL TEAM. (2021). HOW TO IMPROVE YOUR READING SKILLS.
สืบค้นเมื่อ 01 มกราคม 2565 จาก HTTPS://WWW.INDEED.COM/CAREER-ADVICE/CAREER-
DEVELOPMENT/HOW-TO-IMPROVE-READING- SKILLS
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 41
อ่านได้ อ่านเป็น เขียนให้เห็นคุณค่า
END
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ชั้นปีที่ 1
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ชั้นปีที่ 1
วัตถุประสงค์
เพื่อให้นักศึกษาสามารถเลือกวิธีการพูดสื่อสาร และฟังได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
สาระสำคัญ : หน่วยการเรียนรู้ที่เป็นทักษะ (SKILL UNIT)
การฝึกพูดและการฟังในที่ชุมชน จะช่วยพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทักษะในศตวรรษที่ 21 : ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ
การพูดและฟังในที่ชุมชน
เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (LEARNING AND ACTIVITY MANAGEMENT)
ห้องเรียนกลับด้าน (FLIPPER CLASSROOM)
การสนทนากลุ่ม (GROUP DISCUSSION)
ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ในทักษะการเรียนรู้ศตวรรษที่ 21
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 44
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ชั้นปีที่ 1
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
1. 1.วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ศึกษาใบความรู้ และวิธีการใช้งานของโปรแกรมประยุกต์สำหรับการสื่อสารผ่าน
เทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมทั้งทำความเข้าใจการใช้งาน โดยมอบหมายให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมศึกษาความรู้จากสื่อ
และแหล่งเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งมีหัวข้อในการศึกษา ดังต่อไปนี้
A.GOOGLE MEET/ ZOOM/ MS TEAM
B.TIKTOK
C.LINE
D.CLUBHOUSE
E.YOUTUBE
F.E-MAIL
G.อื่นๆ
2. มอบหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำความรู้เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมฯ ที่ได้จากการศึกษา มาใช้ในการพิจารณา
สถานการณ์ต่อไปนี้ให้เหมาะสม โดยอธิบายเหตุผลประกอบ
A. กรณีศึกษา : ท่านและเพื่อนร่วมโครงงานต้องการจะการอภิปรายกลุ่มในงานชิ้นใหม่ โดยต้องการมอบหมาย
ให้แบ่งกลุ่มย่อย (6-10 คน) เพื่อหาข้อสรุปงานงานดังกล่าว ท่านจะเลือกใช้โปรแกรมใด เพราะเหตุใด
B. กรณีศึกษา : ท่านต้องการขายสินค้าตัวใหม่ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในตลาดออนไลน์ ท่านจะเลือกใช้
โปรแกรมใด เพราะเหตุใด
C. กรณีศึกษา : ท่านต้องการมุมมองที่แตกต่างของหัวข้อหลักในการจัดทำงานกลุ่ม โดยกลุ่มเป้าหมายเป็น
บุคคลทั่วไป ท่านจะเลือกใช้โปรแกรมใด เพราะเหตุใด
D. กรณีศึกษา : ท่านต้องการส่งข้อมูลพร้อมนัดหมายวันประชุมไปถึงลูกค้า ท่านจะเลือกใช้โปรแกรมใด เพราะ
เหตุใด
E. กรณีศึกษา : ท่านต้องการจัดทำการสอนนักศึกษาในยุคโควิด โดยต้องการให้นักศึกษาสามารถกลับมาทบท
วนย้อนหลังได้ ท่านจะเลือกใช้โปรแกรมใด เพราะเหตุใด
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 45
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ชั้นปีที่ 1
3. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5 คน เลือกกรณีศึกษาที่กำหนดให้ จำนวน 1 กรณีศึกษา ไม่ซ้ำกัน โดย
เลือกใช้โปรแกรมท่านคิดว่าเหมาะสม พร้อมทั้งนำเสนอผ่านโปรแกรมดังกล่าว พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ
4.วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (FEEDBACK) กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง
สื่อและแหล่งเรียนรู้
เอกสารประกอบการบรรยาย เรื่อง พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
LINK แหล่งเรียนรู้ของโปรแกรมประยุกต์สำหรับการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ห้องกิจกรรม GOOGLE CLASSROOM
การประเมินผลกิจกรรม
แบบประเมินผลงาน
แบบประเมินคลิปวีดีทัศน์ “พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล” โดยใช้เกณฑ์การประเมิน
(RUBRIC SCORE 4 ระดับ)
เกณฑ์การผ่านการประเมินกิจกรรม
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องได้รับการตัดสินคุณภาพในระดับดีขึ้นไปทุกรายการประเมิน
ระยะเวลาของกิจกรรม
10 ชั่วโมง
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
นักศึกษาชั้นปีที่ 1
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 46
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ชั้นปีที่ 1
แบบประเมินผลงาน
เกณฑ์การประเมินผล : คะแนนเต็ม 12 คะแนน
คะแนน 12-10 = ดีมาก (4) คะแนน 9-7 = ดี (3)
คะแนน 6-4 = พอใช้ (2) คะแนน 3-0 = ควรปรับปรุง (1)
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 47
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ชั้นปีที่ 1
เกณฑ์การประเมิน “พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล”
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 48
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ใบความรู้
ในกิจกรรม “พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล” จะมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการฝึกพูดและการฟังในที่ชุมชน จะช่วย
พัฒนาทักษะด้านการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ทักษะการฟัง -พูด เป็นการสื่อสารทางวาจาของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่งต่างมีจุดประสงค์ที่จะสื่อสารของตนเอง
ผู้ฟังจะต้องตีความในสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อความหมายและสามารถโต้ตอบได้ด้วยภาษาที่ผู้ฟังสามารถเข้าใจได้ตรงกับ
ความตั้งใจในการสื่อความหมายของผู้พูด (แพทย์หญิงกุสุมาวดี คำเกลี้ยง, 2563).
ทักษะการพูด
การพูดเป็นกระบวนการสื่อสารสองทิศทางที่เกี่ยวข้องกันระหว่างทักษะการรับสารของผู้ฟังและทักษะการผลิตสาร
ของผู้พูด ผู้พูดจะทำหน้าที่ส่งรหัสเพื่อสื่อถึงเจตนาและความต้องการ ส่วนผู้ฟังจะเป็นผู้ถอดรหัสของสารนั้น ทั้งนี้โดย
อาศัยความรู้ในเรื่องระบบภาษา เช่น เสียงหนักเบาในค าตลอดจนความเข้าใจภาษาท่าทางของผู้พูดเป็นเครื่องช่วย
ให้การตีความสารนั้นตรงตามเจตนาของผู้สื่อ หรืออาจกล่าวสรุปได้ว่าในความเป็นจริง
ความสามารถในการพูดเกี่ยวข้องกับการฟังโดยตรง โดยผู้พูดจะทำหน้าที่เป็นผู้ส่งข้อมูลให้กับผู้ฟังเป็นลักษณะการ
สื่อสารแบบ 2 ทาง โดยมีการแลกเปลี่ยนบทบาทกันเป็นผู้พูดและผู้ฟัง (BYRNE, 1986)
การพูด เป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกหรือความต้องการของผู้พูด เพื่อสื่อความหมายไปยังผู้ฟัง โดย
ใช้ถ้อยคำน้ำเสียงและอากัปกริยาท่าทางจนเป็นที่เข้าใจกันได้ (จุไรรัตน์ลักษณะศิริ และบาหยัน อิ่มสำราญ, 2550)
ประเด็นความสำคัญของการพูด (สุภัชชา นาทอง, 2553) มีวัตถุประสงค์เพื่อ
ช่วยให้ข้อมูล
ช่วยโน้มน้าว
ช่วยสร้างความบันเทิง
ช่วยสร้างสรรค์
ช่วยให้รู้สึกดี
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 49
พูดและฟังอย่างไรให้เกิดผล
ใบความรู้
การฝึกพูดอยู่เสมอจะช่วยเสริมสร้างลักษณะผู้นำได้เป็นอย่างดี ซึ่งลักษณะผู้นำที่ดีนั้นจะแฝงอยู่ในตัวนักพูดที่ดี
นั่นเอง เนื่องจากการฝึกพูดต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการพูดในแต่ละครั้ง อันจะทำให้ผู้พูดได้เตรียมความ
พร้อมหลายด้าน (สุภัชชา นาทอง, 2553) ซึ่งก่อให้เกิดคุณลักษณะผู้นำที่ดี 14 ประการ ดังนี้
ลักษณะท่าทางหรือการวางตัว (BEARING) การพูดจะทำให้ผู้พูดรู้จักสร้างความประทับใจในเรื่องท่าทาง การ
วางตัว และความ ประพฤติให้อยู่ในระดับสูงสุดเป็นที่นิยมของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา มีความสุภาพนุ่มนวลหลีกเลี่ยง
การ พูดด้วยถ้อยคำหยาบคาย หรือเหยียดหยามผู้อื่น เป็นบุคคลที่มีความสง่าผ่าเผย ควบคุมตนเองได้ทั้ง ในการ
ปฏิบัติตน และอารมณ์แต่งกายสะอาดเรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบแบบแผน
ความกล้าหาญ (COURAGE) การพูดเป็นการบังคับจิตใจตนเองให้อยู่ในอาการอันสงบ มุ่งเน้นในเรื่องที่จะพูด ไม่
เกรง กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่สะทกสะท้านหรืออ่อนไหว กล้าทำ กล้าพูด กล้ายอมรับผิดหรือคำติเตียน เมื่อมี
ความผิดพลาด หรือบกพร่อง ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกที่ควร
ความเด็ดขาด (DECISIVENESS) การพูดเป็นการฝึกให้เกิดความสามารถในการตกลงใจโดยฉับพลัน หรือเป็นการ
ฝึกทักษะการแสดงไหวพริบและปฏิภาณในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และประกาศข้อตกลงใจอย่างเอาจริง และ
ชัดแจ้ง โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงต่าง ๆ รวมทั้งประสบการณ์ของตนเองและบุคคลอื่น อย่างมีเหตุผลและมี
ความมั่นใจ
ความไว้เนื้อเชื่อใจ (DEPENDABILITY) การพูดจะทำให้การได้รับความไว้วางใจในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ หรือ
งานที่ มอบหมายได้ถูกต้องไม่ผิดพลาด ด้วยความคล่องแคล่ว ว่องไว เฉลียวฉลาด กระทำการอย่างเต็ม ความ
สามารถและพิถีพิถัน เป็นคนตรงต่อเวลา ไม่กล่าวคำแก้ตัว มีความตั้งใจ และจริงใจ
ความอดทน (ENDURANCE) การพูดจะทำให้ผู้พูดเกิดพลังทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งวัดได้จากขีดความสามารถใน
การ ทนต่อความเจ็บปวด ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ความยากลำบาก ความเคร่งเครียด งานหนัก รวมถึงความ
อดกลั้นต่อสถานการณ์ที่บีบคั้น
ความกระตือรือร้น (ENTHUSIASM) การพูดช่วยให้ผู้พูดสามารถแสดงออกซึ่งความสนใจอย่างจริงจัง และมีความ
จดจ่อต่อการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง กล่าวคือการพูดเป็นการฝึกฝนให้เกิดความคิดในแง่ดีเสมอ
ความริเริ่ม (INITIATIVE) การพูดทำให้ผู้พูดเริ่มรู้จักใช้ความคิดในการสร้างสรรค์และพัฒนาตนเองด้านต่าง ๆ และ
เริ่มหาหนทางแนวทางในการพูดใหม่ ๆ ที่ดีมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 50