The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sukanya, 2023-01-03 21:17:51

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

EASTERN ASIA UNIVERSITY

คุณธรรมนำชีวิต
ชั้นปีที่ 3

แบบประเมินผลงาน

เกณฑ์การประเมินผล : คะแนนเต็ม 12 คะแนน
คะแนน 12-10 = ดีมาก (4) คะแนน 9-7 = ดี (3)
คะแนน 6-4 = พอใช้ (2) คะแนน 3-0 = ควรปรับปรุง (1)

เกณฑ์การประเมิน “WHAT IS THE MORAL IN THE STORY?”

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 151

คุณธรรมนำชีวิต

ใบงาน

ใบงานกิจกรรม 7.1 เรื่อง “WHAT IS THE MORAL IN THE STORY?”
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ชื่อ-นามสกุล

........................................................................................................................................................................

รหัสนักศึกษา

........................................................................................................................................................................

ชื่อเรื่อง
........................................................................................................................................................................

เนื้อเรื่องโดยย่อ
........................................................................................................................................................................

ตัวละคร
........................................................................................................................................................................

ประเด็นปัญหาหรืออุปสรรค
........................................................................................................................................................................

การแก้ปัญหาหรือผลสรุปของเรื่อง
........................................................................................................................................................................

ข้อคิด ด้านคุณธรรมและจริยธรรม
........................................................................................................................................................................

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 152

คุณธรรมนำชีวิต

ชั้นปีที่ 3

กิจกรรมที่ 7.2“บทบาทและหน้าที่”

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม

1. วิทยากรให้ผู้เข้ากิจกรรมเป็นกลุ่มๆละเท่าๆกัน และให้แต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งเลือกหัวหน้ากลุ่ม
2. วิทยากร แจกบทบาทให้สมาชิกแต่ละกลุ่ม และให้แต่ละกลุ่มหาข้อสรุปของกลุ่มโดยแสดงความคิดเห็นตาม

บทบาทที่ได้รับ โดยมีตัวอย่างสถานการณ์ เช่น

จากสถานการณ์ เรือล่มในมหาสมุทรแปซิฟิก ในเรือมีแพชูชีพที่สามารถบรรทุกคนได้จำกัด “ใครควรได้รับ

โอกาสนั่งไปกับแพชูชีพบ้าง” โดยมีบทบาทดังนี้ ได้แก่ หมอ / ครู / วิศวกร / ลูกเสือ / ข้าราชการวัยเกษียณ

/ พยาบาล
“ใครควรได้สิทธิ์ในโบนัสปีนี้” โดยมีบทบาทดังนี้ ได้แก่ CEO / หัวหน้างาน / เลขานุการ / แม่บ้าน /

พนักงานรักษาความปลอดภัย
จากสถานการณ์ สายการบินนกเอี้ยงแอร์ไลน์กำลังจะตกฉุกเฉิน ในขณะที่ร่มชูชีพที่ใช้งานได้มีไม่เพียงพอ

“ใครควรเป็นผู้ที่จะเสียสละในสถานการณ์นี้” โดยมีบทบาทดังนี้ ได้แก่ นักบิน / พนักงานต้อนรับบนเครื่อง

บิน / นักการเมือง / พระสงฆ์ / ทหาร / นักธุรกิจ / ตำรวจ / ข้าราชการบำนาญ
3. ให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทนนำเสนอข้อสรุปของกลุ่ม
4. วิทยากรสรุปข้อคิดในเรื่อง “บทบาทและหน้าที่”
5. ให้แต่ละกลุ่มเลือกสัมภาษณ์บุคคลตัวอย่างที่เป็นแบบอย่างของการประกอบวิชาชีพตามที่สนใจ
6. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (FEEDBACK) กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของ

ตนเอง

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 153

คุณธรรมนำชีวิต

ชั้นปีที่ 3

สื่อและแหล่งเรียนรู้

รายชื่อบทบาทสมมุติ
ห้องกิจกรรม GOOGLE CLASSROOM
ใบงาน เรื่อง “WHAT IS THE MORAL IN THE STORY?”

การประเมินผลกิจกรรม

แบบประเมินผลงาน
ประเมินผ่านใบงาน “บทบาทและหน้าที่ และจรรณยาบรรณในการประกอบอาชีพ” โดยใช้เกณฑ์การ

ประเมิน (RUBRIC SCORE 4 ระดับ)

เกณฑ์การผ่านการประเมินกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องได้รับการตัดสินคุณภาพในระดับดีขึ้นไปทุกรายการประเมิน

ระยะเวลาของกิจกรรม

10 ชั่วโมง

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

นักศึกษาชั้นปีที่ 3

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 154

คุณธรรมนำชีวิต
ชั้นปีที่ 3

แบบประเมินผลงาน

เกณฑ์การประเมินผล : คะแนนเต็ม 12 คะแนน
คะแนน 12-10 = ดีมาก (4) คะแนน 9-7 = ดี (3)
คะแนน 6-4 = พอใช้ (2) คะแนน 3-0 = ควรปรับปรุง (1)

เกณฑ์การประเมิน “บทบาทและหน้าที่”

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 155

คุณธรรมนำชีวิต

ใบความรู้

ในกิจกรรม “คุณธรรมนำชีวิต” จะมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านคุณธรรมและจริยธรรม ในการใช้ชีวิตจรรยา

บรรณในการประกอบอาชีพ โดยมีรายละเอียดดังนี้

โลกปัจจุบันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ยุคแห่งการแข่งขัน

และมีการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในสังคม ทำให้คุณธรรมจริยธรรม ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนใน

สังคมนั้น เหมือนจะลดลงไปมาก เยาวชนรุ่นใหม่เกิดมาท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งความก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพ มีวิถีชีวิตและดำเนินชีวิตประจำวัน การ

ศึกษาและวิธีการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมที่แตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นสิ่งสำคัญในการพัฒนาจิตใจของเยาวชนไทย

ให้มีคุณธรรมจริยธรรม จึงเป็นความหวังที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติในอนาคตต่อไป

คุณธรรม จริยธรรม
คุณธรรม หมายถึง คุณงามความดีที่เป็นธรรมชาติ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม เป็นแนวความคิดที่


ดี เป็นตัวบังคับให้ประพฤติดี เป็นจริยธรรมที่แยกเป็นรายละเอียดแต่ละประเภท หากประพฤติปฏิบัติอย่าง

สม่ำเสมอแล้ว ก็จะเป็นสภาพคุณงามความดีทางความประพฤติและจิตใจของผู้นั้น

จริยธรรม หมายถึง ความประพฤติที่เป็นธรรมชาติ เกิดจากคุณธรรมในตัวเอง ก่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยใน

สังคม รวมสรุปว่าคือ ข้อควรประพฤติปฏิบัติ

คุณธรรมจริยธรรม เมื่อนำมารวมกันแล้ว มีความหมายว่า คุณงามความดีของบุคคลที่กระทำลงไปด้วยความมี

สำนึกดีในจิตใจ โดยได้ยึดถือปฏิบัติจนเป็นความเคยชินกันมายาวนาน อันเป็นลักษณะนิสัยของคนดีที่พึงประพฤติ

ปฏิบัติจนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีงามถูกต้องตามจารีตประเพณีของตนเองผู้อื่นและสังคมโดยรวมในสังคมไทย

ปัจจุบันที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันมากขึ้น ทำให้บางครั้งผู้คนเกิดความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เห็นแก่

ประโยชน์ส่วนตน จนขาดความยับยั้งชั่งใจ กระทำในสิ่งที่ผิด ไม่คำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรม นำไปสู่หายนะของ

ประเทศชาติ การศึกษา การอบรมและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเยาวชนซึ่งเป็น

อนาคตของชาติที่มีคุณค่าให้เป็นคนดี มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งทางจิตใจและร่างกาย ช่วยให้สังคมประเทศชาติสงบ

ร่มเย็น

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 156

คุณธรรมนำชีวิต

ใบความรู้

การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือตั้งแต่คนในครอบครัว เพื่อน ญาติมิตร ครูอาจารย์

สังคม รวมถึงกระบวนการของประเทศชาติ ผู้ปกครองต้องเป็นแบบอย่าง ครูอาจารย์เป็นทั้งต้นแบบและคอยชี้นำใน

สิ่งที่ถูกต้อง โรงเรียน วัด บ้านช่วยอบรมปลูกฝัง และขัดเกลาจิตใจ ให้เยาวชนสามารถพัฒนาจิตใจด้านคุณธรรม

จริยธรรมได้ด้วยตนเอง สามารถควบคุมความประพฤติปฏิบัติของตนให้อยู่ในกรอบของพฤติกรรมที่พึงปรารถนา

ของสังคมทั้งในสภาพการณ์ปกติและทั้งเมื่อเผชิญกับปัญหาหรือความขัดแย้ง ประเทศชาติเปรียบดังเรือลำใหญ่

ต้องอาศัยลูกเรือที่มีคุณภาพ มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นคนดี มีคุณค่าในสังคม เพื่อนำพาประเทศชาติสู่จุดหมายอัน

มั่นคง เยาวชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติ จึงจำเป็นต้องได้รับการปลูกฝัง จากผู้ใหญ่ทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับ

ครอบครัว ตลอดจนสถาบันชาติ ช่วยขัดเกลาจิตใจหล่อหลอมให้เป็นคนมีคุณธรรมจริยธรรม อันเป็นหลักธรรม

สำคัญให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ดังพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวดังกล่าวข้างต้น.

เมตตา กรุณา
เมตตา หมายถึง การมีจิตแห่งความรักใคร่ ความห่วงใย ความสงสาร ความปรารถนาดี ความเป็นมิตร ความ


อนุเคราะห์โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อให้ผู้อื่นมีความสุขหรือให้พ้นจากทุกข์โดยไม่คาดหวังว่าจะได้อะไรตอบแทน
กรุณา หมายถึง การกระทำหรือปฏิบัติภายใต้จิตที่เกิดจากความรัก ความสงสารเพื่อให้ผู้อื่นมีความสุขหรือพ้น


จากทุกข์ เช่น การให้ทานแก่ผู้ยากไร้ การช่วยเหลือค่าเล่าเรียน การให้ความรู้แก่ผู้อื่นในการประกอบอาชีพ เป็นต้น

เมตตากรุณา หมายถึง การปฏิบัติเพื่อต้องการช่วยให้ผู้อื่นมีความสุข ให้พ้นจากทุกข์ มีความสุขความเจริญ

ด้วยการแสดงความมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อผู้อื่นด้วยความเต็มใจ แสดงอาการทางวาจาต่อผู้อื่นอย่างนุ่มนวล การไม่เอา

เปรียบไม่เบียดเบียนผู้อื่น การรู้จักให้อภัยร่วมบริจาคทรัพย์สินเพื่อส่วนรวม และเสียสละเวลาปฏิบัติกิจกรรมที่เป็น

ประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมตามสมควรตามสถานการณ์ และตามความสามารถของตน โดยไม่หวังผลตอบแทน

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 157

คุณธรรมนำชีวิต

ใบความรู้

ประโยชน์ของการมีเมตตากรุณา
ความเมตตามีทั้งแก่ตนเองและบุคคลอื่น ในด้านประโยชน์แก่ตนเองนั้น หมายถึง การมีเมตตาเป็นพื้นฐาน


จิตใจ ทำให้มีจิตใจดีงาม ปรารถนาดี ต่อบุคคลและสัตว์อื่น เมื่อมีจิตใจดีก็ย่อมมีความประพฤติและคำพูดที่ประกอบ

ด้วยเมตตา เมื่อคิด พูด และทำด้วยจิตที่เมตตา ก็จะทำให้บุคคลนั้นไม่เบียดเบียนใคร ไม่มีการทำร้ายกัน ไม่มีการ

ทุจริตฉ้อโกง ไม่มีการผิดประเวณี ไม่มีการพูดเท็จ และไม่เสพสิ่งเสพย์ติดให้โทษ เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ คนในสังคม

จะเต็มไปด้วยความสุข ไม่มีศัตรู มีแต่ความเป็นเพื่อน มีความรักทุกๆคนเสมอเหมือนกันโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังอัน

จะทำให้สังคมประเทศชาติมีแต่ความเจริญก้าวหน้าไปด้วย (อรพิมล จินดาเวช ซูเตย์รันท์, 2554)

ในการประกอบอาชีพ หรือ วิชาชีพ (PROFESSION) ก็มีการนิยามไว้ใน 2 รูปแบบ คือ คำว่า ค่านิยมพื้นฐาน

และค่านิยมวิชาชีพ ดังนั้นหากจะศึกษาคำว่าค่านิยมในการประกอบอาชีพ จึงมีการเรียนรู้ได้ 2 รูปแบบ ดังนี้

ค่านิยมพื้นฐาน ประกอบด้วย ศีลธรรม (MORAL VALUES) คุณธรรม (ETHICAL VALUES) ธรรมเนียม

ประเพณีวัฒนธรรม (CULTURAL VALUES) และกฎหมาย (LEGAL VALUES)

ค่านิยมวิชาชีพ ประกอบด้วย อุดมการณ์ประจำวิชาชีพของตน วินัยประจำวิชาอาชีพของตน มารยาทประจำ

วิชาชีพของตน และพระราชบัญญัติประจำวิชาชีพของตนโดยเฉพาะ (สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ,

2549)

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 158

คุณธรรมนำชีวิต

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 159

คุณธรรมนำชีวิต

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 160

คุณธรรมนำชีวิต

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 161

คุณธรรมนำชีวิต

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 162

คุณธรรมนำชีวิต

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 163

LIVE AND LEARN ON YOUR LIFE

คุณธรรมนำชีวิต

อกส
ารอ้างอิง

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. ค่านิยมและสภาพแวดล้อมที่พึงประสงค์ของสังคมไทยใน
สายตาเยาวชน. สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ : กระทรวงวัฒนธรรม. 2549.

อรพิมล จินดาเวช ซูเตย์รันท์. (2554). คำถามดี...มีคำตอบ. โรงพิมพ์ บุญศิริการพิมพ์.

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 164

กาคุรณสืธ่อรรสมานรำใชนีวยิตุคดิจิตอล
END

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์
ชั้นปีที่ 3

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์
ชั้นปีที่ 3

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้นักศึกษาสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดจากความเชื่อและค่านิยมทางสังคมได้
2. เพื่อให้นักศึกษาสามารถแสดงความคิดเห็น พร้อมระบุเหตุผลตามหัวข้อที่กำหนดให้ได้

สาระสำคัญ : หน่วยการเรียนรู้ที่เป็นค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม
(VALUE UNIT หรือ MORAL UNIT)
การคิดอย่างมีเหตุผล นั้นจะครอบคลุมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล การให้เหตุผล การตั้งคำถาม
และการหาคำตอบ

ทักษะในศตวรรษที่ 21 : คิดเลขเป็น (ARITHMETIC)

การคิดอย่างมีเหตุผล

เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (LEARNING AND ACTIVITY MANAGEMENT)

การแสดงบทบาทสมมติ (ROLE PLAYING)
การคิดเลขเป็น (ARITHMETIC) ในทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 167

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

ชั้นปีที่ 3

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม

1. วิทยากร ให้ความรู้ เรื่อง “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์”
2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่มๆละเท่าๆ กัน พร้อมเลือกประเด็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสาร

(POLL) จากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและค่านิยมทางสังคม โดยเสนอประเด็นที่สนใจศึกษาข้อมูล (IDEA)
3. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม นำเสนอร่าง การทำ POLL
4. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสรุปข้อมูลที่ได้จากการเก็บข้อมูลข่าวสาร พร้อมนำเสนอในรูปแบบการรายงานข้อมูลตาม

จำนวนที่เก็บข้อมูลมาได้
5. ให้แต่ละกลุ่มงานแสดงความคิดเห็นต่อข้อสรุปจากการเก็บรวบรวมข้อมูล ในประเด็นเรื่อง ปัญหาและอุปสรรค

จากการเก็บข้อมูลข่าวสาร
6. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้ากลุ่มๆนำเสนอ รายงานสรุปข้อมูลจากการทำแบบสำรวจ พร้อมวิเคราะห์ผลของการ

สำรวจ และอภิปรายผล จากเหตุการณ์ดังกล่าวจากความเชื่อและค่านิยมทางสังคม
7. วิทยากรสรุปกิจกรรมและบรรยายสรุปในหัวข้อ “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์”
8. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (FEEDBACK) กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของ

ตนเอง

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 168

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

ชั้นปีที่ 3

สื่อและแหล่งเรียนรู้

เอกสารประกอบการบรรยาย เรื่อง “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์”
ห้องกิจกรรม GOOGLE CLASSROOM

การประเมินผลกิจกรรม

แบบประเมินผลงาน
ประเมินผ่านบันทึกการประชุม “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์” โดยใช้เกณฑ์การประเมิน
(RUBRIC SCORE 4 ระดับ)

เกณฑ์การผ่านการประเมินกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องได้รับการตัดสินคุณภาพในระดับดีขึ้นไปทุกรายการประเมิน

ระยะเวลาของกิจกรรม

10 ชั่วโมง

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

นักศึกษาชั้นปีที่ 3

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 169

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์
ชั้นปีที่ 3

แบบประเมินผลงาน

เกณฑ์การประเมินผล : คะแนนเต็ม 12 คะแนน
คะแนน 12-10 = ดีมาก (4) คะแนน 9-7 = ดี (3)
คะแนน 6-4 = พอใช้ (2) คะแนน 3-0 = ควรปรับปรุง (1)

เกณฑ์การประเมิน “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์”

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 170

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

ใบความรู้

ในกิจกรรม “คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์” จะมุ่งเน้นการพัฒนาการคิดอย่างมีเหตุผล นั้นจะครอบคลุมถึงการ

วิเคราะห์ข้อมูล การให้เหตุผล การตั้งคำถามและการหาคำตอบ โดยมีรายละเอียดดังนี้

การคิดเชิงนามธรรม คือ กระบวนการคิดที่ซ่อนส่วนที่ไม่ใช่สาระและให้ความสนใจกับส่วนที่เป็นสาระในการ

ทำงานในแต่ละขั้น (CURZON, BELL, WAITE, & DORLING, 2019) นักวิชาการหลายท่านเห็นตรงกันว่า การคิด

เชิงนามธรรมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของกระบวนการคิด และยังเป็นยังเป็นเครื่องมือในการจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อน

เพื่อแตกย่อยปัญหา หารูปแบบ ทำให้อยู่ในรูปทั่วไป ประเมินประสิทธิภาพของลำดับขั้นตอนการดำเนินการ และ

เขียนให้อยู่ในรูปแบบภาษาคอมพิวเตอร์ที่เครื่องจักรเข้าใจและนําไปดำเนินการตามได้

ความสามารถในการจัดการกับความคิดในระดับนามธรรมและการเชื่อมโยงนามธรรมในแต่ละระดับเข้าด้วย

กันได้ จำเป็นจะต้องเข้าใจการพัฒนาการคิดเชิงนามธรรมของผู้เรียนเพื่อเลือกกิจกรรมและจัดการเรียนรู้ได้อย่าง

เหมาะสม เพียเจต์ (PIAGET) แบ่งระดับของการพัฒนาของมนุษย์ออกเป็น 4 ระดับ ตามช่วงอายุ

SENSORIMOTOR (แรกเกิด-2 ปี), PREOPERATIONAL (2-7 ปี), CONCRETE OPERATIONAL(7-11 ปี) และ

FORMAL OPERATIONAL (สูงกว่า 11 ปี) ทฤษฎีของเพียเจต์ทำให้เราเข้าใจพัฒนาการทางความคิดของเด็ก และ

สามารถจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย ต่อมาภายหลังนักทฤษฎีการเรียนรู้ที่เรียกตัวเองว่า

กลุ่มนี้โอเพียเจต์ซึ่งเห็นพ้องกับลำดับพัฒนาการมนุษย์ตามที่เพียเจต์เสนอ แย้งว่าระดับการพัฒนาอาจจะไม่ได้ขึ้น

กับอายุ หากแต่ขึ้น กับประสบการณ์ในเรื่องนั้น ๆ และคนเราอาจจะมีระดับการคิดเชิงนามธรรมที่แตกต่างกันแม้

จะเป็นเรื่องเดียวกัน (BEILIN & PUFALL, 2013; CASE, 1992; LISTER, 2011)

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 171

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

ใบความรู้

แนวคิดของนีโอเพียเจต์ดังกล่าวสามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการประเมินผลผู้

เรียนได้ ประการแรก การพัฒนาแนวคิดเชิงนามธรรมนั้นต้องอาศัยประสบการณ์ที่หลากหลายของผู้เรียนเอง ดังนั้น

การจัดการเรียนรู้ไม่ ใช่การบอกให้นักเรียนจดจําขั้นตอนหรือวิธีการ แต่นักเรียนต้องพัฒนาแนวคิดและวิธีคิดของ

ตนเอง ประการที่สอง แนวคิดของนีโอเพียเจต์แนะนําว่า ระดับความสามารถในการคิดไม่ขึ้นกับช่วงอายุโดยตรง

หากแต่ขึ้นกับประสบการณ์ในเนื้อหานั้น ๆ ด้วย ดังนั้นในแต่ละระดับผู้เรียนจะมีหลากหลายความสามารถทางการ

คิด แม้ว่าจะมีอายุที่ใกล้เคียงกัน ผู้สอนจึงต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่คำนึงถึงความหลากหลายของประสบการณ์

ของผู้เรียน และทำให้นักเรียนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้อาจจะเริ่มจากแนวคิดง่าย ๆ หรือตรงไปตรงมา มีความ

เป็นรูปธรรมก่อนในช่วงแรก หากปัญหามีความซับซ้อนให้แตกออกเป็นปัญหาย่อย ๆ ที่เหมาะกับระดับการคิดของ

ผู้เรียน เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ และแก้ทีละส่วนบทบาทครูที่สำคัญมากอีกอย่างคือการช่วยให้นักเรียนสะท้อนคิด

ในวิธีการ เพื่อพัฒนาแนวคิดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหรือเอื้อให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างนักเรียนกันเองเพื่อ

ให้เห็นความคิดที่หลากหลายจะช่วยให้นักเรียนสามารถพัฒนาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (VYGOTSKY, 1978)

ดังนั้น การคิดเชิงนามธรรม (ABSTRACTION) คือ กระบวนการคัดแยกคุณลักษณะที่สำคัญออกจากราย

ละเอียดในโจทย์ปัญหาหรืองานที่กำลังพิจารณา เพื่อให้ได้องค์ประกอบที่จำเป็น เพียงพอ และกระชับที่สุดในการ

พิจารณาภายใต้สถานการณ์ที่สนใจ โดยจะได้ผลลัพธ์เป็นแบบจำลอง (MODEL) ซึ่งสามารถแสดงเป็นแผนภาพที่มี

การตัดรายละเอียดที่ไม่จำเป็นในการพิจารณาออกทั้งหมด

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 172

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 173

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 174

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 175

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 176

LIVE AND LEARN ON YOUR LIFE

คิดก่อนเชื่อ ชัวร์ก่อนแชร์

เอกสา
รอ้
างอิง

CURZON, P., BELL, T., WAITE, J., & DORLING, M. (2019). COMPUTATIONAL THINKING. IN S. A.
FINCHER & A. V. ROBINS (EDS.), THE CAMBRIDGE HANDBOOK OF COMPUTING EDUCATION
RESEARCH (PP. 513–546).

BEILIN, H., & PUFALL, P. B. (2013). PIAGET’S THEORY: PROSPECTS AND POSSIBILITIES.
PSYCHOLOGY PRESS.

VYGOTSKY, L. S. (1978). MIND IN SOCIETY: THE DEVELOPMENT OF HIGHER PSYCHOLOGICAL
PROCESSES. AMERICAN ANTHROPOLOGIST.

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 177

คิดกก่อานรเสชืื่่ออสชัาวรร์ใกน่อยนุคแดชิรจ์ิตอล
END

คิดดี คิดเก่ง

ชั้นปีที่ 4

คิดดี คิดเก่ง
ชั้นปีที่ 4

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้นักศึกษาสามารถคิดอย่างเป็นระบบได้
2. เพื่อให้นักศึกษาสามารถคิดอย่างมีวิจารญาณ ได้
3. เพื่อให้นักศึกษาสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างเหมาะสม

สาระสำคัญ : หน่วยการเรียนรู้ที่เป็นปัญหา (PROBLEM UNIT)

การคิดอย่างเป็นระบบและการคิดอย่างมีวิจารญาณ จะทำให้แก้ปัญหาต่างๆได้อย่างเป็นขั้นตอนและเหมาะสม

ทักษะในศตวรรษที่ 21 : การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ, การคิดอย่างมีวิจารณญาณ

การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ, การคิดอย่างมีวิจารณญาณ

เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (LEARNING AND ACTIVITY MANAGEMENT)

การเขียนผังงาน (FLOWCHART)
·ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหาในทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 180

คิดดี คิดเก่ง

ชั้นปีที่ 4

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
1. วิทยากรให้ความรู้เรื่อง คิดดี...คิดเก่ง
2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่ม กลุ่มๆละเท่าๆ กัน และให้แต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งเลือกหัวหน้ากลุ่ม
3. วิทยากรนำเสนอตัวอย่างผังงานออนไลน์ (FLOWCHART) และอธิบายวิธีการเขียนผังงาน
4. จากนั้นมอบหมายให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อตามความสนใจมาสร้างผังงาน ตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้

การจดทะเบียนสมรสของ LGBT
การมีเพศสัมพันธ์ของเด็กวัยรุ่น
โรคซึมเศร้า
ภาวะติดเกมของเด็กไทย
ภาวะโ]Dร้อน
ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
พฤติกรรมเรียนแบบของวัยรุ่น
ยาเสพติดในวัยรุ่น
การพนันออนไลน์
การเป็นที่ยอมรับในโลกโซเชียลในสังคมวัตถุนิยม
การคุกคามทางไซเบอร์ (CYBERBULLY)
ปัญหาการใช้ภาษาบนสื่อสังคมออนไลน์ของวัยรุ่น
เด็กแว็น กับ เด็กสก๊อย ในสังคมไทย
การใช้เวลามากเกินไปกับเทคโนโลยี
ความเครียดของเด็กไทย จากระบบการเรียนการสอนออนไลน์ในช่วงโควิด-19
5. ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำเสนอผังงาน “คิดดี คิดเก่ง”
6. ให้แต่ละกลุ่มเลือกจับคู่ และวิพากษ์งานของคู่ของตนเอง โดยการจับสลาก พร้อมแสดงความคิดเห็น แผนผัง
งานของกลุ่มอื่น เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการนำไปปรับปรุง

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 181

คิดดี คิดเก่ง

ชั้นปีที่ 4

7. วิทยากรสรุปกิจกรรมและบรรยายสรุปในหัวข้อ “คิดดี คิดเก่ง”
8. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (FEEDBACK) กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง

สื่อและแหล่งเรียนรู้

เอกสารประกอบบรรยาย เรื่อง “คิดดี คิดเก่ง”
ห้องกิจกรรม GOOGLE CLASSROOM
หัวข้อสำหรับสร้างผังงาน

การประเมินผลกิจกรรม

แบบประเมินผลงาน
ประเมินผ่านผังงาน (FLOWCHART) “คิดดี คิดเก่ง” โดยใช้เกณฑ์การประเมิน
(RUBRIC SCORE 4 ระดับ)

เกณฑ์การผ่านการประเมินกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องได้รับการตัดสินคุณภาพในระดับดีขึ้นไปทุกรายการประเมิน

ระยะเวลาของกิจกรรม

10 ชั่วโมง

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

นักศึกษาชั้นปีที่ 4

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 182

คิดดี คิดเก่ง
ชั้นปีที่ 4

แบบประเมินผลงาน

เกณฑ์การประเมินผล : คะแนนเต็ม 12 คะแนน
คะแนน 12-10 = ดีมาก (4) คะแนน 9-7 = ดี (3)
คะแนน 6-4 = พอใช้ (2) คะแนน 3-0 = ควรปรับปรุง (1)

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 183

คิดดี คิดเก่ง
ชั้นปีที่ 4

เกณฑ์การประเมิน “คิดดี คิดเก่ง”

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 184

คิดก่อนคิเดชื่ดอี คชิัดวเร์กก่่งอนแชร์

ใบความรู้

ในกิจกรรม “คิดดี คิดเก่ง” จะมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบและการคิดอย่างมีวิจารญาณ จะ

ทำให้แก้ปัญหาต่างๆได้อย่างเป็นขั้นตอนและเหมาะสม โดยมีรายละเอียดดังนี้

บัณฑิตในยุคศตวรรษที่ 21 ต้องอาศัยทักษะการคิด ทั้งการคิดขั้นพื้นฐาน และการคิด ขั้นสูง ซึ่งได้แก่ การคิด

แก้ปัญหา คิดตัดสินใจ คิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นต้น ผลของการคิดขั้นสูงจะนำไปสู่ การแก้ปัญหาที่หลากหลาย

และเกิดประโยชน์สูงสุด (ทิศนา แขมมณี, 2554) การคิดอย่างเป็นระบบ (SYSTEMATIC THINKING) เป็นรูปแบบ

การคิดขั้นสูงที่มนุษย์ใช้ในการมองปัญหา วิเคราะห์ถึงปัจจัยสาเหตุของการเกิดสถานการณ์รวมทั้งความเป็นเหตุ

เป็นผลกัน เป็นการคิดที่มองแบบองค์รวม ยอมรับความซับซ้อนของปัญหา รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ทำให้เกิด

พฤติกรรมรูปแบบต่าง ๆ (มนตรี แย้มกสิกร, 2546) สอดคล้องกับแนวคิด สมรรถภาพทางสมองของ STERNBERG

(STERNBERG & GRIGORENKO, 2007) ที่อธิบายว่าบุคคลที่มีเชาวน์ปัญญาแห่งความสำเร็จ (SUCCESSFUL

INTELLIGENCE) เป็นผู้ที่สามารถบูรณาการชุดของความสามารถทางสมองในการคิด วิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์และ

คิดเชิงประยุกต์ใช้เพื่อความสำเร็จในชีวิต อธิบายว่า ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น คนเราจำเป็นต้องมีทักษะในการ

ทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อที่จะนำไปสู่การประสบความสำเร็จในชีวิต โดยอาศัย ความสามารถทั้งสามด้านอย่าง

สมดุล บุคคลที่มีเชาวน์ปัญญาแห่งความสำเร็จจะรู้จักจุดเด่นของความสามารถตน และใช้ประโยชน์จากจุดเด่นนั้น

มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็รู้จักจุดด้อยของตนและรู้จักแก้ไขชดเชยจุดด้อยนั้น โดยการปรับตัว (ADAPT TO)

ดัดแปลง (SHAPE) และเลือก (SELECT) สิ่งแวดล้อม โดยการใช้ความสามารถใน การคิดวิเคราะห์ การคิด

สร้างสรรค์ และการคิดประยุกต์อย่างสมดุล (STERNBERG & GRIGORENKO, 2007) ซึ่งนับว่ามีคุณลักษณะ

เดียวกันกับความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 185

คิดก่อนคิเดชื่ดอี คชิัดวเร์กก่่งอนแชร์
ใบความรู้

การคิดอย่างเป็นระบบ หมายถึง วิธีการคิดอย่างมีเหตุผล ทำให้ผลของการคิด หรือผลของการแก้ปัญหาที่ได้

นั้นมีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว

การคิดอย่างเป็นระบบ หมายถึง การคิดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มองภาพรวมที่เป็นระบบและมีส่วนประกอบย่อยๆ

โดยอาศัยการคิดในรูปแบบโดยตรง และโดยทางอ้อม ทฤษฎีระบบให้แนวคิดว่า ทุกสิ่งล้วนย่อมอยู่ในเอกภพ รวม

ทั้งสิ่งเล็กหรือใหญ่ ล้วนเป็นระบบมีวงจรการทำงาน ปัจจัย กระบวนการ เกิดจากการประสานงานกันหลาย ๆ

ระบบ แต่ละหน่วยย่อมมีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ละสิ่งในเอกภพมีความเป็นระบบตามมิติต่าง ๆ กันในเวลา

เดียวกัน (ดร. สุนทร โคตรบรรเทา, 2554)

การคิดอย่างเป็นระบบ หมายถึง การคิดที่มีความเข้าใจ เชื่อมโยง มีความเชื่อในทฤษฎีระบบเป็นพื้นฐาน ใน

สมองคนปกติมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบในสรรพสิ่งที่อยู่ในโลกที่สอดคล้องกับทฤษฎีระบบอยู่แล้ว เพียงแต่ความ

สามารถในการทำได้ดีในระดับความเข้มข้นของระบบแตกต่างกัน
โดยสรุปการคิดอย่างเป็นระบบ หมายถึง เป็นการคิดในภาพรวมที่เป็นระบบ และมีส่วนประกอบย่อย ๆ มีความ

สัมพันธ์เชื่อมโยงจากส่วนย่อยไปหาส่วนใหญ่ เป็นการคิดอย่างมีเหตุมีผล เน้นการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดเพื่อให้

เกิดความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว

ความสำคัญของการคิดอย่างเป็นระบบ
การคิดอย่างเป็นระบบมีความสำคัญ (เกรียงศักดิ เจริญวงศ์ศักดิ, 2546) ดังนี้

1. ช่วยให้เกิดความคิดเพื่อพัฒนาองค์กรในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ประสานงานร่วมกับบุคคลอื่นให้เป็นไปตามกระบวนการ และระบบการบริหารงานภายใน
3. สามารถแก้ปัญหา ตัดสินใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. แก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. เพื่อมองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับระบบภายในองค์กรอย่างเป็นระบบเชื่อมโยงติดต่อกัน

และสามารถแก้ไขสถานการณ์เอย่างมีประสิทธิภาพ

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 186

คิดก่อนคิเดชื่ดอี คชิัดวเร์กก่่งอนแชร์
ใบความรู้

การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (CRITICAL THINKING ) หมายถึง กระบวนการคิดที่ใช้เหตุใช้ผลพิจารณา

ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยการศึกษาข้อมูล หลักฐาน แยกแยะข้อมูลว่าข้อมูลใดคือ ข้อเท็จจริง ข้อมูลใดคือ

ความคิดเห็น ตลอดจนพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูล แล้วตั้งสมมติฐานเพื่อหาสาเหตุของปัญหา และ

สามารถหาแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้

กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ จะนำไปสู่การคิดตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพื่อให้เห็นว่าเรื่องใดควรเชื่อ

หรือไม่ควรเชื่อ สิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ เพราะเหตุใด ผู้ที่มีความคิดอย่างมีวิจารณญาณจะเป็นคนใจกว้าง

ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างมีเหตุผล ไม่ยึดความคิดเห็นของตนเองเป็นหลัก ก่อนตัดสินใจอย่างใดต้องมี

ข้อมูลหลักฐานเพียงพอ และสามารถเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองได้ หากเห็นว่าความคิดเห็นของผู้อื่นดีกว่า มี

เหตุผลมากกว่า นอกจากนี้ผู้ที่มีความคิดอย่างมีวิจารณญาณจะต้องเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นในการแสวงหา

ข้อมูล และความรู้อยู่เสมอ ตลอดจนเป็นผู้ที่มีเหตุผล ไม่ใช้อคติหรืออารมณ์ของตนเองเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยัง

เป็นผู้ที่ไวต่อความรู้สึกของผู้อื่น เข้าใจผู้อื่น ทำให้รับรู้สถานการณ์ความคิด ความรู้สึกของผู้อื่นได้ดี (ประพันธ์ศิริ

สุเสารัจ, 2551)

กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณมีแนวคิดหลายทฤษฎี และขั้นตอนหลายรูปแบบ ในที่นี้จะนำแนวคิด

ทฤษฎีหลายทฤษฎีมาสรุปเป็นขั้นตอนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 6 ขั้นตอนดังนี้ (รศ. ดร. สุนทร โคตรบรรเทา,

2554) ได้แก่

1. การนิยามปัญหา หมายถึง การกำหนดประเด็นปัญหา โดยพิจารณาจากข้อมูล ข้อโต้แย้งเพื่อกำหนด

ปัญหา ซึ่งการนิยามปัญหาเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพราะกระตุ้นให้คนเริ่มตระหนักถึง

ปัญหา ข้อโต้แย้งเพื่อหาคำตอบที่สมเหตุสมผล

2. การรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับประเด็นปัญหาข้อโต้แย้งที่คลุมเครือ รวมทั้งการดึงข้อมูลหรือความรู้จาก

ประสบการณ์เดิมมาใช้ เมื่อพบกับสถานการณ์ที่เป็นปัญหา การรวบรวมข้อมูลถือว่ามีความจำเป็นต่อการคิด

อย่างมีวิจารณญาณ

3. การจัดระบบข้อมูล หมายถึง การพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูล ความเพียงพอของข้อมูล และ

สามารถแยกแยะข้อมูลได้ว่าข้อมูลใดเป็นความคิดเห็น ข้อมูลใดเป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งจัดลำดับความสำคัญของ

ข้อมูล เพื่อเป็นแนวทางในการตั้งสมมติฐาน

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 187

คิดก่อนคิเดชื่ดอี คชิัดวเร์กก่่งอนแชร์

ใบความรู้

4. การตั้งสมมติฐาน หมายถึง การนำข้อมูลที่จัดระบบแล้วมาเชื่อมโยงหาความสัมพันธ์ เพื่อกำหนดแนวทาง

การสรุปที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด หรือตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล

5. การสรุปอ้างอิงโดยใช้หลักตรรกศาสตร์ หมายถึง การพิจารณาทางเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดจากข้อมูลและ

หลักฐานที่มีอยู่ เพื่อนำไปสู่การสรุปที่สมเหตุสมผล

6. การประเมินสรุปอ้างอิง หมายถึง การประเมินความสมเหตุสมผลของการสรุปอ้างอิง รวมทั้งพิจารณาว่า

ข้อสรุปนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ผลจะเป็นอย่างไรหากข้อสรุปนั้นมีการเปลี่ยนแปลง หรือได้รับ

ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะนำไปสู่การรวบรวมข้อมูลที่มีอยู่อีกครั้งหนึ่ง หรือตั้งสมมติฐานและการสรุปอ้างอิงใหม่

การฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณอยู่เสมอ จะทำให้ผู้เรียนรู้จักใช้เหตุผลพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ย่อม

ทำให้เป็นคนใจกว้าง ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากตนได้ นอกจากนี้ยังรู้จักการหาแนวทางแก้ปัญหาด้วย

การค้นหาความรู้ ทำให้เป็นคนมีความรู้อย่างกว้างขวาง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้นักเรียนสามารถนำกระบวนการคิด

อย่างมีวิจาณญาณไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 188

คิดดี คิดเก่ง

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 189

คิดดี คิดเก่ง

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 190

คิดดี คิดเก่ง

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 191

คิดดี คิดเก่ง

เอกสารประกอบการบรรยาย

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 192

LIVE AND LEARN ON YOUR LIFE

คิดดี คิดเก่ง


อก
สารอ้างอิง

เกรียงศักดิ เจริญวงศ์ศักดิ. (2546). การคิดเชิงวิเคราะห์. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : ซัคเซสมีเดีย.

ทิศนา แขมมณี. (2554). ทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ :
การบูรณาการในการจัดการเรียนรู้. วารสารราชบัณฑิตยสถาน. 36(2), 188–204.

ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ. (2551). การพัฒนาการคิด. กรุงเทพฯ : 9119 เทคนิคพริ๊นติ้ง.

มนตรี แย้มกสิกร. (2546). การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาการคิดเชิงระบบของนิสิตระดับปริญญาตรี
สาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา. ปริญญานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาการวิจัยและพัฒนา

รศ. ดร. สุนทร โคตรบรรเทา. (2554) . หลักการและทฤษฏีการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ : ปัญญาชน.

สมชาย เทพแสง. (2555). การบริหารและการจัดการการศึกษา. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

STERNBERG, R.J. & GRIGORENKO, E.L. (2007). TEACHING FOR SUCCESSFUL INTELLIGENCE. 2ND

EDS.

THOUSAND OAKS, CA: CORWIN PRESS.

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 193

คิดดี คิดเก่ง

END

สร้างผลงาน...จากปัญหา

ชั้นปีที่ 4

สร้างผลงาน...จากปัญหา

ชั้นปีที่ 4

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้นักศึกษาบอกแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผล
2. เพื่อให้นักศึกษาสามารถสร้างรูปแบบเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

สาระสำคัญ : หน่วยการเรียนรู้ที่เป็นโครงงาน (PROJECT UNIT)

การสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นการใช้ความสามารถในการเลือกใช้ความรู้ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิด

วิธีการหรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทักษะในศตวรรษที่ 21 : ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม

การคิดเชิงสร้างสรรค์

เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (LEARNING AND ACTIVITY MANAGEMENT)

การใช้ปัญหาเป็นฐาน (PROBLEM BASE LEARNING)
สะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
ทักษะการร่วมมือและการทำงานเป็นทีม ภาวะผู้นำ และ ทักษะด้านความเข้าใจ ความต่างของวัฒนธรรม ต่าง

กระบวนทัศน์ (CAREER AND LEARNING SKILLS) ในทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 196

สร้างผลงาน...จากปัญหา

ชั้นปีที่ 4

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม

1. วิทยากรบรรยาย เกี่ยวกับ การสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
2. วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแบ่งเป็นกลุ่มกลุ่มละ 6-8 คน พร้อมทั้งเลือกหัวหน้ากลุ่ม
3. ให้แต่ละกลุ่มเลือกโจทย์ปัญหา และออกแบบรูปแบบ หรือสิ่งประดิษฐ์เพื่อแก้ปัญหาต่อไปนี้
โจทย์ปัญหา

CAR PARK : ที่จอดอย่างไรที่ให้มากกว่าที่จอด
จัดการอย่างไร กับการดูแลผู้สูงวัยให้มีความสุข
ประกันรถยนต์ รอเคลมนานจัดการอย่างไร
อยากส่งสินค้า แต่ไม่อยากหาแมสเซนเจอร์ประจำจะทำอย่างไร
ช้อปปิ้งอย่างไรให้ได้ใจนักช็อป
ดูดน้ำอย่างไร ให้รักโลก
รถติดนานๆ อยากเข้าห้องน้ำ จะทำอย่างไร
อยากผอม แต่ร่างกายไม่ยอมหยุดกินขนมหวานต้องทำอย่างไร
ป่วย ไม่สบาย อยู่ไกล จะหาหมออย่างไรให้ให้ตรงจุด
สัตว์เลี้ยง HAPPY กินขนมอย่างไร ให้ดีทั้งใจและร่างกาย
4. ให้แต่ละกลุ่มออกแบบรูปแบบ หรือสิ่งประดิษฐ์ เพื่อแก้ปัญหาจากโจทย์ข้างต้น
5. ในระหว่างการประชุม หัวหน้ากลุ่มทำแบบประเมินการทำงานในกลุ่ม
6. ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน พร้อมอธิบายลักษณะและรูปแบบ ออกแบบรูปแบบ หรือสิ่งประดิษฐ์ เพื่อแก้

ปัญหาจากโจทย์
7. หัวหน้ากลุ่มนำเสนอตัวงานในรูปแบบแผนผังความคิด (MINDMAP)
8. วิทยากรให้แต่ละกลุ่มประชุมและส่งตัวแทนเพื่อสรุปข้อคิดที่ได้จากการทำกิจกรรมในเรื่องการทำงานเป็นทีม

พร้อมนำเสนอ
9. วิทยากรให้ข้อมูลป้อนกลับ (FEEDBACK) กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาให้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของ

ตนเอง

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 197

สร้างผลงาน...จากปัญหา

ชั้นปีที่ 4

สื่อและแหล่งเรียนรู้

เอกสารประกอบบรรยาย เรื่อง “สร้างผลงาน...จากปัญหา”
ห้องกิจกรรม GOOGLE CLASSROOM
โจทย์ปัญหา

การประเมินผลกิจกรรม

แบบประเมินผลงาน
ประเมินผ่านการทำงานกลุ่ม “สร้างผลงาน...จากปัญหา” ” โดยใช้เกณฑ์การประเมิน
(RUBRIC SCORE 4 ระดับ)

เกณฑ์การผ่านการประเมินกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องได้รับการตัดสินคุณภาพในระดับดีขึ้นไปทุกรายการประเมิน

ระยะเวลาของกิจกรรม

10 ชั่วโมง

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

นักศึกษาชั้นปีที่ 4

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 198

สร้างผลงาน...จากปัญหา

ชั้นปีที่ 4

แบบประเมินผลงาน

เกณฑ์การประเมินผล : คะแนนเต็ม 12 คะแนน
คะแนน 12-10 = ดีมาก (4) คะแนน 9-7 = ดี (3)
คะแนน 6-4 = พอใช้ (2) คะแนน 3-0 = ควรปรับปรุง (1)

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 199

สร้างผลงาน...จากปัญหา

ชั้นปีที่ 4

เกณฑ์การประเมิน “สร้างผลงาน...จากปัญหา”

ชุดฝึกทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 200


Click to View FlipBook Version