The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 107 ฤชากร จันสุภีร์, 2024-01-31 04:26:19

แผนเทอม 1

แผนเทอม 1

Keywords: แผน

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 1 (ว31241) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลย์รักษ์พิทยา จังหวัดอุดรธานี นายฤชากร จันสุภีร์ รหัสประจําตัวนักศึกษา 63040111107 สาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไปและชีววิทยา การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 รหัสวิชา ED16401 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1) คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566


คํานํา แผนการจัดการเรียนรู้วิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 4 เล่มที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา2566 จัดทําขึ้นเพื่อกําหนดหรือวางแผนเรื่องที่จะสอนอย่างเป็นระบบให้สอดคล้องกับหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญให้ผู้เรียนได้เป็นผู้คิดและปฏิบัติด้วย ตนเอง ตามสภาพแวดล้อมและบริบทของโรงเรียน คิดออกแบบ จัดหา จัดซื้อ สื่ออุปกรณ์ตามวัยของผู้เรียน ซึ่ง ประกอบด้วยบทที่ 1 เรื่องการศึกษาชีววิทยา, บทที่ 2 เรื่อง เคมีพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต และบทที่ 3 เรื่อง เซลล์ และการทํางานขของเซลล์แผนการจัดการเรียนรู้ให้ประโยชน์หลายประการ นอกจากจะช่วยทําให้ผู้สอนเกิด ความมั่นใจในการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ยังมีส่วนช่วยในการวางแผนการ จัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งการสอนที่มีประสิทธิภาพ จนสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของผู้เรียน เมื่อพบข้อบกพร่องและปัญหาที่พบเจอมาปรับปรุงแก้ไข ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับผู้เรียนและสภาพ ห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ซึ่งช่วยให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อันจะส่งผลไปถึงศักยภาพการ เรียนรู้ของผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเปูาหมายทางการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ประกอบไปด้วยผลการจัดการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ คําอธิบายรายวิชา กําหนดการสอนวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 รวมททั้ง แผนการจัดการเรียนรู้ จํานวน 19 แผน สื่อ ใบงาน วิธีการและเกณฑ์ การประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน ผู้สอนขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้คําแนะนํา และเป็นที่ปรึกษาในการจัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ ที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อการจัดการเรียนการสอน อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อตัวผู้เรียนไว้ ณ โอกาสนี้ ฤชากร จันสุภีร์ 18 ตุลาคม 2566 ก


สารบัญ เรื่อง หน้า คํานํา ก สารบัญ ข หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560)...............................................1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปูาหมายของวิทยาศาสตร์...................................................................................................................1 เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์…................................................................................................................1 สาระวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม.................................................................................................................2-3 คุณภาพผู้เรียน…...................................................................................................................................4 สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน...............................................................................................................8-9 คุณลักษณะอันพึงประสงค์...................................................................................................................9 ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม สาระชีววิทยา.............................................................10-13 คําอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม........................................................................................................................14-15 โครงสร้างรายวิชา...........................................................................................................................................16 การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้.............................................................................................................17 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1..........................................................................................................................18-27 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2..........................................................................................................................28-33 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3..........................................................................................................................34-42 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4..........................................................................................................................43-51 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5..........................................................................................................................52-58 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6..........................................................................................................................59-65 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7..........................................................................................................................66-73 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8.........................................................................................................................74-80 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9.........................................................................................................................81-87 ข


สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10........................................................................................................................88-93 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11........................................................................................................................94-99 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12....................................................................................................................100-110 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13....................................................................................................................111-117 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14....................................................................................................................118-124 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15...................................................................................................................125-131 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16....................................................................................................................132-138 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17....................................................................................................................139-144 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18....................................................................................................................145-155 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19....................................................................................................................156-161 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20....................................................................................................................162-167 ข


1 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป้าหมายของวิทยาศาสตร์ ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ ด้วยตนเองมากที่สุด เพื่อให้ได้ทั้ง กระบวนการและความรู้จากวิธีการสังเกต การสํารวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนําผลที่ได้มาจัดระบบเป็น หลักการ แนวคิด การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จึงมีเปูาหมายที่สําคัญ ดังนี้ 1. เพื่อให้เข้าใจแนวคิด หลักการ ทฤษฎี กฎและความรู้พื้นฐานในวิทยาศาสตร์ 2. เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของธรรมชาติของวิทยาสาสตร์และข้อจํากัดของวิทยาศาสตร์ 3. เพื่อให้มีทักษะที่สําคัญในการสืบเสาะหาความรู้และพัฒนาเทคโนโลยี 4. เพื่อให้ตระหนักการมีผลกระทบซึ่งกันและกันระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์และ สภาพแวดล้อม 5. เพื่อนําความรู้ในแนวคิดและทักษะต่างๆทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและ การดํารงชีวิต 6. เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการจัดการทักษะในการ สื่อสาร และความสามารถในการประเมินและตัดสินใจ 7. เพื่อให้เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรมและค่านิยม ในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่าง สร้างสรรค์ เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทั้งด้านเนื้อหาและปฏิบัติการ โดยใช้กระบวนการในการสืบ เสาะหาความรู้ และแก้ปัญหาที่หลากหลาย เน้นทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นส่วนสําคัญที่ทําให้ ผู้เรียนได้ลงมือทํากิจกรรมต่างๆเพื่อช่วยให้เข้าใจในเนื้อหานั้นๆดียิ่งขึ้น ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุก ขั้นตอน โดย กําหนดสาระสําคัญ ดังนี้


2 ชีววิทยา เรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาชีววิทยา สารที่เป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต เซลล์ของสิ่งมีชีวิต พันธุกรรมและการถ่ายทอด วิวัฒนาการ ความหลากหลายทางชีวภาพ โครงสร้างและการทํางานของส่วนต่างๆ ในพืชดอก ระบบและการทํางานในอวัยวะต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เคมี เรียนรู้เกี่ยวกับปริมาณสาร องค์ประกอบและสมบัติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร ทักษะและ การแก้ปัญหาทางเคมี ฟิสิกส์ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติและการค้นพบทางฟิสิกส์ แรงและการเคลื่อนที่และพลังงานโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับ โลกและกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ข้อมูลทางธรณีวิทยา และการนําไปใช้ประโยชน์ การถ่ายโอนพลังงานความร้อนของโลก การเปลี่ยนแปลงลักษณะลมฟูาอากาศกับ การดํารงชีวิตของมนุษย์ โลกในเอกภพ และดาราศาสตร์กับมนุษย์ สาระวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม สาระชีววิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สาร ที่เป็น องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและ หน้าที่ของเซลล์ การลําเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบ่งเชลล์ และการหายใจระดับเซลล์ 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติและหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลาย ทางชีวภาพ กําเนิดของ สิ่งมีชีวิตความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ําของพืช การลําเลียง ของพืช การ สังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการตอบสนอง ของพืช รวมทั้งนําความรู้ ไปใช้ประโยชน์ 4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ การหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลําเลียงสารและ การหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพ และพฤติกรรม ของสัตว์ รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 5. เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียน สารในระบบ นิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบ การเพิ่มของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและ ผลกระทบที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ และแนวทางการแก้ไขปัญหา


3 สาระเคมี 1. เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์รวมทั้งการนําความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิด ปฏิกิริยาเคมี สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟูา รวมทั้งการนํา ความรู้ไปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจหลักการทําปฏิบัติการเคมี การวัดปริมาณสาร หน่วยวัดและการเปลี่ยนหน่วย การคํานวณ ปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทั้งการบูรณาการความรู้และทักษะ ในการอธิบาย ปรากฏการณ์ในชีวิตประจําวันและการแก้ปัญหาทางเคมี สาระฟิสิกส์ 1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการ เคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุงานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ธรรมชาติของคลื่น เสียงและ การได้ยินปรากฏการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสงและการเห็น ปรากฎการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสง รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจแรงไฟฟูาและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟูา ศักย์ไฟฟูา ความจุไฟฟูา กระแสไฟฟูา และกฎของ โอห์ม วงจรไฟฟูากระแสตรง พลังงานไฟฟูาและกําลังไฟฟูา การเปลี่ยนพลังงานทดแทน เป็นพลังงานไฟฟูา สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทํากับประจุไฟฟูาและกระแสไฟฟูา การเหนี่ยวนํา แม่เหล็กไฟฟูาและกฎ ของฟาราเดย์ ไฟฟูากระแสสลับ คลื่นแม่เหล็กไฟฟูาและการสื่อสาร รวมทั้ง นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ วัสดุและมอดุลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุง และหลักของอาร์คิมีดีส ความตึงผิวและแรงหนืดของ ของเหลว ของไหลอุดมคติ และสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก็สอุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะ ของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรง นิวเคลียร์ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์ ฟิสิกส์อนุภาค รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์


4 สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1. เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการศึกษาลําดับชั้นหิน ทรัพยากรธรณี แผนที่ และการนําไปใช้ประโยชน์ 2. เข้าใจสมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียนของน้ํา ในมหาสมุทร การเกิดเมฆ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกและผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การพยากรณ์อากาศ 3. เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์และ ระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษย์จากการศึกษาตําแหน่ง ดาวบนทรงกลมฟูาและปฏิสัมพันธ์ ภายในระบบสุริยะ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ ในการดํารงชีวิต คุณภาพผู้เรียน ผู้เรียนที่เรียนครบทุกผลการเรียนรู้ มีคุณภาพดังนี้ ❖ เข้าใจวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการค้นหาคําตอบเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต สารที่เป็น องค์ประกอบของ สิ่งมีชีวิตและปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ การใช้กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้าง และหน้าที่ของเซลล์ การลําเลียงสาร เข้าและออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์ ❖ เข้าใจหลักการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต การถ่ายทอดยีน บนออโตโซมและ โครโมโซมเพศ โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอ การจําลองดีเอ็นเอ กระบวนการสังเคราะห์ โปรตีน การเกิดมิวเทชันในสิ่งมีชีวิต หลักการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานและข้อมูลที่ ใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เงื่อนไขของภาวะสมดุลของ ฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กกระบวนการเกิดสปีชีส์ใหม่ของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ กําเนิดของสิ่งมีชีวิต ลักษณะสําคัญของสิ่งมีชีวิต กลุ่มแบคทีเรีย โพรทิสต์ พืช ฟังไจ และสัตว์ การจําแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็น หมวดหมู่และวิธีการเขียน ชื่อวิทยาศาสตร์ ❖ เข้าใจโครงสร้างและส่วนประกอบของพืชทั้งราก ลําต้น และใบ การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ํา การลําเลียงน้ําและธาตุอาหาร การลําเลียงอาหาร การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช กระบวนการสร้างเชลล์ สืบพันธุ์และการปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดผลและเมล็ด บทบาทของสาร ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และการประยุกต์ใช้และการตอบสนองของพืช


5 ❖ เข้าใจกลไกการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต โครงสร้าง หน้าที่ และกระบวนการ ต่าง ๆ ของสัตว์ และมนุษย์ ได้แก่ การย่อยอาหาร การแลกเปลี่ยนแก๊ส การเคลื่อนที่ การกําจัดของเสีย ออกจากร่างกายของ สิ่งมีชีวิตระบบหมุนเวียนเลือด ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ การทํางาน ของระบบประสาทและอวัยวะ รับความรู้สึกระบบสืบพันธุ์การปฏิสนธิ การเจริญเติบโต ฮอร์โมน และพฤติกรรมของสัตว์ ❖ เข้าใจกระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบ โอมการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลง จํานวนประชากรมนุษย์ในระดับ ท้องถิ่นระดับประเทศ และระดับโลก แนวทางการปูองกันและแก้ไข ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ❖ เข้าใจการศึกษาโครงสร้างอะตอมของนักวิทยาศาสตร์ การจัดเรียงอิเล็กตรอน ในอะตอม สมบัติ บางประการของธาตุและการจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ พันธะเคมี สมบัติของสารที่มีความสัมพันธ์กับพันธะเคมี กฎต่างๆ ของแก๊ส และสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของ สารประกอบอินทรีย์ และประเภทและสมบัติ ของพอลิเมอร์ ❖ เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี การคํานวณปริมาณสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีและปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุล ในปฏิกิริยาเคมีและ ปัจจัยที่มี ผลต่อสมดุลเคมี ทฤษฎีกรด-เบส สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส สารละลายบัฟเฟอร์ ปฏิกิริยารีดอกซ์ และ เซลล์เคมีไฟฟูา ❖ เข้าใจข้อปฏิบัติเบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทําปฏิบัติการเคมีการเลือกใช้อุปกรณ์หรือ เครื่องมือในการทําปฏิบัติการ หน่วยวัดและการเปลี่ยนหน่วยวัดด้วยการ ใช้แฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย การ คํานวณเกี่ยวกับมวลอะตอม มวลโมเลกุล และมวลสูตร ความสัมพันธ์ของโมล จํานวนอนุภาค มวล และ ปริมาตรของแก๊สที่ STP การคํานวณสูตรอย่างง่ายและสูตร โมเลกุลของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย การ เตรียมสารละลาย และการบูรณาการความรู้และ ทักษะในการอธิบายปรากฏการณ์ในชีวิตประจําวันและการ แก้ปัญหาทางเคมี ❖เข้าใจธรรมชาติของฟิสิกส์ กระบวนการวัด ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณที่เกี่ยวข้อง กับการ เคลื่อนที่ การเคลื่อนที่ในแนวตรง แรงลัพธ์ กฎการเคลื่อนที่ แรงเสียดทาน กฎความโน้มถ่วง สากล สนามโน้ม ถ่วง งาน กฎการอนุรักษ์พลังงานกล สมดุลกลของวัตถุ เครื่องกลอย่างง่าย โมเมนตัมและการดล กฎการ อนุรักษ์โมเมนตัม การชนและการเคลื่อนที่ในแนวโค้ง


6 ❖ เข้าใจการเคลื่อนที่แบบคลื่น ปรากฏการณ์คลื่น การสะท้อน การหัก,ห การเลี้ยวเบนและการ แทรกสอดของฮอยเกนส์การเคลื่อนที่ของคลื่นเสียง ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง ความเข้มเสียงและระดับ เสียงการได้ยิน ภาพที่เกิดจากกระจกเงาและเลนส์ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสงและการมองเห็นแสงสี ❖ เข้าใจสนามไฟฟูา แรงไฟฟูา กฎของคูลอมบ์ ศักย์ไฟฟูา ตัวเก็บประจุ ตัวต้านทาน และกฎของ โอห์มพลังงานไฟฟูา การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟูา เทคโนโลยีด้าน พลังงาน สนามแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กกับกระแสไฟฟูา การเหนี่ยวนําแม่เหล็ก ไฟฟูา ไฟฟูากระแสสลับ คลื่น แม่เหล็กไฟฟูา และประโยชน์ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟูา ❖ เข้าใจผลของความร้อนต่อสสาร สภาพยืดหยุ่น ความดันในของไหล แรงพยุง ของไหลอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส แนวคิดควอนตัมของพลังงาน ทฤษฎีอะตอมของโบร์ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิ ภาวะของคลื่นและอนุภาค การสลายของนิวเคลียสกัมมันตรังสีกัมมันตภาพ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงาน นิวเคลียร์ ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน แรงภายในนิวเคลียส และการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาค ❖ เข้าใจการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคลื่อนที่ ของแผ่นธรณีที่ สัมพันธ์กับการเกิดลักษณะธรณีสัณฐานและธรณีโครงสร้างแบบต่าง ๆ หลักฐาน ทางธรณีวิทยาที่พบใน ปัจจุบันและการลําดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดีต สาเหตุ กระบวนการ เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึ นามิ ผลกระทบ แนวทางการเฝูาระวัง และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย สมบัติและการจําแนกชนิดของแร่ กระบวนการเกิดและการจําแนกชนิดหิน กระบวนการเกิดและ การสํารวจแหล่งปิโตรเลียมและถ่านหิน การ แปลความหมายจากแผนที่ภูมิประเทศและแผนที่ ธรณีวิทยา และการนําข้อมูลทางธรณีวิทยาไปใช้ประโยชน์ ❖ เข้าใจปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อการรับและปลดปล่อยพลังงานจากดวงอาทิตย์กระบวนการที่ทําให้เกิด สมดุลพลังงานของโลก ผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส แรงสู่ศูนย์กลาง และแรงเสียดทานที่มีต่อการหมุนเวียนของอากาศ การหมุนเวียน ของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อ ภูมิอากาศปัจจัยที่ทําให้เกิดการแบ่งชั้นน้ําและการหมุนเวียน ของน้ําในมหาสมุทร รูปแบบการหมุนเวียนของ น้ําในมหาสมุทรและผลของการหมุนเวียนของน้ํา ในมหาสมุทรที่มีต่อลักษณะลมฟูาอากาศ สิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างเสถียรภาพ อากาศและการเกิดเมฆ การเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลักษณะลมฟูาอากาศที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก รวมทั้งการ แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟูาอากาศ และการพยากรณ์ลักษณะลมฟูาอากาศเบื้องต้น จากแผนที่อากาศ และข้อมูลสารสนเทศ ❖ เข้าใจการกําเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาดอุณหภูมิของเอกภพ หลักฐานที่ สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง ประเภทของกาแล็กชี โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก


7 กระบวนการเกิดดาวฤษ์และการสร้างพลังงานของดาวฤษ์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ความส่องสว่างของดาวฤกษ์ และ ความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ความสัมพันธ์ระหว่างสี อุณหภูมิผิว และ สเปกตรัมของดาวฤษ์ วิธีการหาระยะทางของดาวฤกษ์ด้วยหลักการแพรัลแลกซ์วิวัฒนาการและการ เปลี่ยนแปลงสมบัติบางประการของดาวฤกษ์กระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อการ ดํารงชีวิตการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยกฎเคพเลอร์ และ กฎความโน้มถ่วงของนิวตัน โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะและผลที่มีต่อโลก การระบุ พิกัดของดาว ในระบบขอบฟูาและระบบศูนย์สูตรเส้นทางการขึ้นการตกของดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์ เวลา สุริ ยคติ และการเปรียบเทียบเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก การสํารวจอวกาศและการประยุกตีใช้เทคโนโลยี อวกาศ ❖ ระบุปัญหา ตั้งคําถามที่จะสํารวจตรวจสอบ โดยมีการกําหนดความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวแปรต่าง ๆ สืบคันข้อมูลจากหลายแหล่ง ตั้งสมมติฐานที่เป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือก ตรวจสอบสมมติฐานที่ เป็นไปได้ ❖ ตั้งคําถามหรือกําหนดปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทาง วิทยาศาสตร์ ที่แสดง ให้เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงที่สามารถสํารวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่างครอบคลุมและเชื่อถือได้ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบ เพื่อนําไปสู่ การสํารวจตรวจสอบ ออกแบบวิธีการ สํารวจตรวจสอบตามสมมติฐานที่กําหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม มีหลักฐานเชิงประจักษ์ เลือกวัสดุ อุปกรณ์ รวมทั้งวิธีการในการสํารวจตรวจสอบอย่างถูกต้อง ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และบันทึกผลการสํารวจ ตรวจสอบอย่างเป็นระบบ ❖ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุป เพื่อตรวจสอบกับ สมมติฐานที่ตั้งไว้ ให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวิธีการสํารวจตรวจสอบ จัดกระทํา ข้อมูลและนําเสนอข้อมูล ด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม สื่อสารแนวคิด ความรู้ จากผลการสํารวจ ตรวจสอบ โดยการพูด เขียน จัดแสดง หรือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจ โดยมีหลักฐาน อ้างอิงหรือมีทฤษฎีรองรับ ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในการสืบเสาะ หาความรู้ โดยใช้ เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์อาจมีการ เปลี่ยนแปลงได้ ❖ แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้ พบคําตอบ หรือแก้ปัญหาได้ทํางาน ร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นโดยมีข้อมูลอ้างอิงและเหตุผลประกอบ เกี่ยวกับผลของการ


8 พัฒนาและการใช้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม และยอมรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น ❖ เข้าใจความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และการ พัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า ผลของเทคโนโลยีต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ❖ ตระหนักถึงความสําคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ใน ชีวิตประจําวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดํารงชีวิต และการประกอบ อาชีพ แสดงความชื่นชมภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ชิ้นงานที่เป็นผลมาจาก ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการพัฒนา เทคโนโลยีที่ทันสมัย ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทําโครงงาน หรือสร้างชิ้นงานตามความสนใจ ❖ แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการปูองกัน ดูแลทรัพยากร ธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสําคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคํานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนําไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการปูองกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคํานึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม


9 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเป็นความสามารถในการนํากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การ ดําเนินชีวิตประจําวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทํางาน และการอยู่ร่วมกันใน สังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง พฤติกรรมไม่พึง ประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และ มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทํางาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ดังนี้ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. ใฝุเรียนรู้ 3. อยู่อย่างพอเพียง 4. มุ่งมั่นในการทํางาน


10 ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม สาระชีววิทยา สาระชีววิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์สารที่เป็นองค์ประกอบของ สิ่งมีชีวิตปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์การลําเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์การแบ่งเซลล์และการหายใจระดับเซลล์ ชั้น ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเรติม ม.4 1. อธิบายและสรุปสมบัติที่สําคัญของ สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ของการ จัดระบบในสิ่งมีชีวิตที่ทําให้สิ่งมีชีวิต ดํารงชีวิตอยู่ได้ • สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการสารอาหารและพลังงาน มี การเจริญเติบโตมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า มีการรักษา ดุลยภาพของร่างกาย มีการสืบพันธุ์ มีการปรับตัวทาง วิวัฒนาการ มีการทํางานร่วมกันขององค์ประกอบต่างๆ อย่างเป็นระบบสิ่งเหล่านี้จัดเป็นสมบัติที่สําคัญของ สิ่งมีชีวิต • การจัดระบบในสิ่งมีชีวิตเริ่มจากหน่วยเล็กไปยังหน่วย ใหญ่ได้แก่ เซลล์เนื้อเยื่อ อวัยวะ ระบบอวัยวะ และ สิ่งมีชีวิตตามลําดับ 2. อภิปรายและบอกความสําคัญของ การระบุปัญหาความสัมพันธ์ระหว่าง ปัญหา สมมติฐานและวิธีการตรวจสอบ สมมติฐานรวมทั้งออกแบบการทดลอง เพื่อตรวจสอบสมมติฐาน • วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการค้นหาคําตอบเกี่ยวกับ สิ่งมีชีวิตเริ่มจากการตั้งปัญหาหรือคําถาม ตั้งสมมติฐาน ตรวจสอบสมมติฐานเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผล • การศึกษาสิ่งมีชีวิตต้องอาศัยความรู้จากแขนงวิชาต่าง ๆของชีววิทยาและสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง และคํานึงถึง ชีวจริยธรรมและจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง 3. สืบค้นข้อมูล อธิบายเกี่ยวกับสมบัติ ของน้ําและบอกความสําคัญของน้ําที่มีต่อ สิ่งมีชีวิต และยกตัวอย่างธาตุต่างๆที่มี ความสําคัญต่อร่างกายสิ่งมีชีวิต • สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยธาตุและสารประกอบ ใน ร่างกายของสิ่งมีชีวิตมีน้ําเป็นองค์ประกอบมากที่สุด น้ํา ประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจนและออกซิเจน มีสมบัติเป็น ตัวทําละลายที่ดี เก็บความร้อนได้ดีและมีความจุความ ร้อนสูงซึ่งช่วยรักษาดุลยภาพของเซลล์ได้ • ธาตุที่สิ่งมีชีวิตต้องการจะอยู่ในรูปของไอออน ใน มนุษย์และสัตว์ธาตุจะช่วยให้การทํางานของระบบต่างๆ ในร่างกายดําเนินไปตามปกตินอกจากนี้ในกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อจะมีธาตุเป็นองค์ประกอบด้วย 4. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของ คาร์โบไฮเดรต ระบุกลุ่มของ คาร์โบไฮเดรต รวมทั้งความสําคัญของ คาร์โบไฮเดรตที่มีต่อสิ่งมีชีวิต • คาร์โบไฮเดรตประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจนแบ่งตามขนาดโมเลกุลได้3 กลุ่ม คือ มอโนแซ็กคาไรด์ไดแซ็กคาไรด์และพอลิแซ็กคาไรด์


11 5. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของ โปรตีน และความสําคัญของโปรตีนที่มี ต่อสิ่งมีชีวิต • โปรตีนมีกรดอะมิโนเป็นหน่วยย่อยประกอบด้วยธาตุ คาร์บอนไฮโดรเจน ออกซิเจนและไนโตรเจน บางชนิด อาจมีธาตุฟอสฟอรัสเหล็ก และกํามะถันเป็น องค์ประกอบ 6. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของ ลิพิด และความสําคัญของลิพิดที่มีต่อ สิ่งมีชีวิต • ลิพิดประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และ ออกซิเจนเป็นสารประกอบที่ละลายได้ดีในตัวทําละลาย ที่เป็นสารอินทรีย์ลิพิดกลุ่มสําคัญที่พบในสิ่งมีชีวิต เช่น กรดไขมันไตรกลีเซอไรด์ฟอสโฟลิพิด สเตอรอยด์ 7. อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลีอิก และระบุชนิดของกรดนิวคลีอิกและ ความสําคัญของกรดนิวคลีอิกที่มีต่อ สิ่งมีชีวิต • กรดนิวคลีอิกประกอบด้วยหน่วยย่อย เรียกว่า นิวคลี โอไทด์แต่ละโมเลกุลของนิวคลีโอไทด์ประกอบด้วยหมู่ ฟอสเฟต น้ําตาลที่มีคาร์บอน 5 อะตอม และเบสที่มี ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ • กรดนิวคลีอิกเป็นองค์ประกอบของสารพันธุกรรมทํา หน้าที่เก็บและถ่ายทอดข้อมูลทางพันธุกรรม มี2 ชนิด คือDNA และ RNA 8. สืบค้นข้อมูลและอธิบายปฏิกิริยา เคมีที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต • เมแทบอลิซึมเป็นปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในเซลล์ของ สิ่งมีชีวิตปฏิกิริยาเคมีประกอบด้วยปฏิกิริยาคายพลังงาน และปฏิกิริยาดูดพลังงาน ปฏิกิริยาเคมี เหล่านี้จะดําเนิน ไปได้อย่างรวดเร็วจําเป็นต้องอาศัยเอนไซม์ช่วยเร่ง ปฏิกิริยา 9. อธิบายการทํางานของเอนไซม์ใน การเร่งปฏิกิริยาเคมีในสิ่งมีชีวิตและระบุ ปัจจัยที่มีผลต่อการทํางานของเอนไซม์ • เอนไซม์ส่วนใหญ่เป็นสารอินทรีย์ประเภทโปรตีน ทําหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี ขณะที่เกิดปฏิกิริยาเคมีใน เซลล์สารตั้งต้นจะเข้าไปจับกับเอนไซม์ที่บริเวณจําเพาะ ของเอนไซม์ที่เรียกว่า บริเวณเร่ง ซึ่งถ้าสารตั้งต้นมี โครงสร้างเข้ากับบริเวณเร่งได้สารตั้งต้นนั้นจะถูก เปลี่ยนเป็นสารผลิตภัณฑ์ • อุณหภูมิสภาพความเป็นกรด-เบส และตัวยับยั้ง เอนไซม์เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการทํางานของเอนไซม์ 10. บอกวิธีการ และเตรียมตัวอย่าง สิ่งมีชีวิตเพื่อศึกษาภายใต้กล้อจุลทรรศน์ ใช้แสง วัดขนาดโดยประมาณ และวาด ภาพที่ปรากฏภายใต้กล้อง บอวิธีการใช้ และการดูแลรักษากล้องจุลทรรศน์ใช้ แสงที่ถูกต้อง • กล้องจุลทรรศน์เป็นเครื่องมือที่ใช้ศึกษาสิ่งมีชีวิตขนาด เล็กที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าและรายละเอียด โครงสร้างของเซลล์ • กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงแบบเชิงประกอบ และกล้อง จุลทรรศน์ใช้แสงแบบสเตอริโออาศัยเลนส์ในการทําให้ เกิดภาพขยาย • กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนทําให้เกิดภาพขยายโดย อาศัยเลนส์แม่เหล็กไฟฟูารวมลําอิเล็กตรอน ซึ่งมีอยู่ ด้วยกัน 2ชนิด คือ ชนิดส่องผ่าน และชนิดส่องกราด


12 • ตัวอย่างสิ่งมีชีวิตที่นํามาศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ใช้แสงต้องมีวิธีการเตรียมที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพในการศึกษา • กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงเป็นเครื่องมือที่มีความละเอียด ซับซ้อน ราคาค่อนข้างสูง จึงควรใช้อย่างถูกวิธีมีการเก็บ และดูแลรักษาที่ถูกต้องเพื่อให้สามารถใช้งานได้นาน 11. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของ ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ของเซลล์พืชและเซลล์ สัตว์ 12. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และระบุชนิด และหน้าที่ของออร์แกเนลล์ 13. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของ นิวเคลียส • เซลล์เป็นหน่วยพื้นฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ประกอบด้วยส่วนที่ห่อหุ้ม เซลล์ไซโทพลาซึม และนิวเคลียส • ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ที่พบในเซลล์ทุกชนิด คือ เยื่อหุ้ม เซลล์แต่ในแบคทีเรีย สาหร่าย ฟังไจและพืช จะมีผนัง เซลล์เป็นส่วนห่อหุ้มเซลล์เพิ่มขึ้นมาอีก • โครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ประกอบด้วยโมเลกุลของ ฟอสโฟลิพิดเรียงเป็นสองชั้น และมีโปรตีนแทรกหรืออยู่ ที่ผิวทั้งสองด้านของฟอสโฟลิพิด • ไซโทพลาซึมอยู่ภายในเยื่อหุ้มเซลล์ประกอบด้วยไซโท ซอลและออร์แกเนลล์ • นิวเคลียสเป็นศูนย์กลางควบคุมการทํางานของเซลล์ยู คาริโอต ประกอบด้วยเยื่อหุ้ม ซึ่งภายในมีDNA RNA และโปรตีนบางชนิด 14. อธิบายและเปรียบเทียบการแพร่ ออสโมซิส การแพร่แบบฟาซิลิเทต และ แอกทีฟทราน-สปอร์ต 15. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียน แผนภาพการลําเลียงสารโมเลกุล ใหญ่ออกจากเซลล์ด้วยกระบวน การเอกโซไซโทซิส และการลําเลียงสาร โมเลกุลใหญ่เข้าสู่เซลล์ด้วยกระบวนการ เอนโดไซโทซิส • สารต่างๆ มีการเคลื่อนที่เข้าและออกจากเซลล์อยู่ ตลอดเวลา โดยกระบวนการต่างๆ ได้แก่การแพร่ออสโม ซิสการแพร่-แบบฟาซิลิเทต แอกทีฟทรานสปอร์ตกระ บวนการเอกโซไซโทซิส และเอนโดไซโทซิส • แก๊สต่างๆ เข้าหรือออกจากเซลล์โดยการแพร่ ส่วนน้ํา เข้าหรือออกจากเซลล์ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์โดยออสโมซิส • ไอออนและสารบางอย่างที่ไม่สามารถลําเลียงผ่านเยื่อ หุ้มเซลล์โดยตรงได้จําเป็นต้องอาศัยโปรตีนที่อยู่บนเยื่อ หุ้มเซลล์เป็นตัวพาสารนั้นเข้าและออกจากเซลล์ เรียกว่า การแพร่แบบฟาซิลิเทต • แอกทีฟทรานสปอร์ต เป็นการลําเลียงสารจากบริเวณ ที่มีความเข้มข้นต่ําไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นสูง • สารบางอย่างที่ไม่สามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์หรือ ลําเลียงผ่านโปรตีนที่เป็นตัวพาได้จะถูกลําเลียงออกจาก เซลล์ด้วยกระบวนการเอกโซไซโทซิส • สารขนาดใหญ่ลําเลียงเข้าสู่เซลล์ด้วยกระบวนการเอน โดไซโทซิสซึ่งแบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่ พิโนไซโทซิส ฟาโก ไซโทซิส และการอาศัยตัวรับ


13 16. สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไม โทซิส และแบบไมโอซิสจากตัวอย่าง ภายใต้กล้องจุลทรรศน์พร้อมทั้งอธิบาย และเปรียบเทียบการแบ่งนิวเคลียสแบบ ไมโทซิสและแบบไมโอซิส • การแบ่งเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเป็นการเพิ่มจํานวนเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันเป็นวัฏจักร โดยวัฏจักรของเซลล์ประกอบด้วยอินเตอร์เฟส การแบ่ง นิวเคลียสการแบ่ง ไซโทพลาซึม • การแบ่งนิวเคลียสมี2 แบบ คือ การแบ่งนิวเคลียสแบบ ไมโทซิสและการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิส • การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสประกอบด้วยระยะโพ รเฟสเมทาเฟส แอนาเฟส และเทโลเฟส • การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิส ประกอบไปด้วย ระยะ โพรเฟส Iเมทาเฟส I แอนาเฟส I เทโลเฟส I โพรเฟส II เมทาเฟส IIแอนาเฟส II เทโลเฟส II • การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสทําให้เซลล์ร่างกายเพิ่ม จํานวนเพื่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่วนการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสมีความสําคัญต่อ สิ่งมีชีวิตในกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ • การแบ่งไซโทพลาซึมในเซลล์พืชจะมีการสร้างแผ่นกั้น เซลล์ และเซลล์สัตว์จะมีการคอดเว้าเข้าหากันของเยื่อ หุ้มเซลล์ 17. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรุป ขั้นตอน การหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่ มีออกซิเจนเพียงพอและภาวะที่มี ออกซิเจนไม่เพียงพอ • การหายใจระดับเซลล์เป็นการสลายสารอาหารที่มี พลังงานสูง โดยมีออกซิเจนเป็นตัวรับอิเล็กตรอนตัว สุดท้ายประกอบด้วย 3ขั้นตอน คือ ไกลโคลิซิส วัฏ จักรเครบส์และกระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอน • การหายใจระดับเซลล์พลังงานส่วนใหญ่ได้จากขั้นตอน การถ่ายทอดอิเล็กตรอน พลังงานนี้จะถูกเก็บไว้ในพันธะ เคมีในโมเลกุลของ ATP • ในภาวะที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอ ทําให้การหายใจของ เซลล์ ไม่สมบูรณ์จึงเกิดได้เฉพาะไกลโคลิซิส ผลที่ได้จาก การหายใจในสภาวะนี้ในสัตว์จะได้กรดแลกติก ใน จุลินทรีย์และพืชอาจได้กรดแลกติกหรือ เอทิลแอลกอฮอล์


14 คําอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชาชีววิทยา 1 (ว31241) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 จํานวน 60 ชั่วโมง/ภาค (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จํานวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยา เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเซลล์ของ สิ่งมีชีวิต โครงสร้างและหน้าที่ของเชลล์ ศึกษาวิเคราะห์การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต การลําเลียงสาร และ มีความเข้าใจในการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทชิสและไมโอซิส จากตัวอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์ และการสลาย อาหารระดับเชลล์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นําความรู้ที่ได้ไปพัฒนาเป็นโครงงานเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน ผ่านสื่อสารสนเทศตามยุคสมัยโดยใช้กระบวนการการสืบเสาะหาความรู้ การสํารวจตรวจสอบ การสืบค้น ข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้มีความสามารถใน การตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนําความรู้ไปใช้ในชีวิตประจําวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและ ค่านิยม ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายและสรุปสมบัติที่สําคัญของสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ของการจัดระบบในสิ่งมีชีวิต ที่ทําให้ สิ่งมีชีวิตดํารงชีวิตอยู่ได้ 2. อภิปรายและบอกความสําคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐาน และ วิธีการตรวจสอบสมมติฐาน รวมทั้งออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน . สืบคันข้อมูล อธิบายเกี่ยวกับสมบัติของน้ําและบอกความสําคัญของน้ําที่มีต่อสิ่งมีชีวิต และ ยกตัวอย่างธาตุชนิดต่างๆ ที่มีความสําคัญต่อร่างกายสิ่งมีชีวิต 4. สืบคันข้อมูล อธิบายโครงสร้างของคารโบไฮเดรต ระบุกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งความสําคัญ ของคาร์โบไฮเดรตที่มีต่อสิ่งมีชีวิต 5. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของโปรตีน และความสําคัญของโปรตีนที่มีต่อสิ่งมีชีวิต 6. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของลิพิด และความสําคัญของลิพิดที่มีต่อสิ่งมีชีวิต 7. อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลิอิก และระบูชนิดของกรดนิวคลิอิกและความสําคัญของกรด นิวคลิอิกที่มีต่อสิ่งมีชีวิต 8. สืบค้นข้อมูลและอธิบายปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต


15 9. อธิบายการทํางานของเอนไซม์ในการเร่งปฏิกิริยาเคมีในสิ่งมีชีวิตและระบุปัจจัยที่มีผลต่อ การ ทํางานของเอนไซม์ 10. บอกวิธีการและเตรียมตัวอย่างสิ่งมีชีวิตเพื่อศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง วัดขนาด โดยประมาณและวาดภาพที่ปรากฏภายใต้กล้อง บอกวิธีการใช้และการดูแลรักษากล้องจุลทรรศน์ ใช้แสงที่ ถูกต้อง 11. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ 12. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และระบุชนิดและหน้าที่ของออร์แกเนลล์ 13. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของนิวเคลียส 14. อธิบายและเปรียบเทียบการแพร่ ออสมชิส การแพร่แบบฟาซิลิเทต และ แอกทีฟ ทรานสปอร์ต 15. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนภาพการลําเลียงสารโมเลกุลใหญ่ออกจากเซลล์ด้วย กระบวนการเอกโซไซโทชิสและการลําลียงสารโมเลกุลใหญ่เข้าสู่เซลล์ด้วยกระบวนการเอนโด ไซโทซิส 16. สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทชิสและแบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์ พร้อม ทั้งอธิบายและเปรียบเทียบการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทชิสและแบบไมโอชิส 17. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรุปขั้นตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกชิเจนเพียงพอ และ ภาวะที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอ รวมทั้งหมด 17 ผลการเรียนรู้


16 เค้าโครงรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชาชีววิทยา 1 (ว31241) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 จํานวน 60 ชั่วโมง/ภาค (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จํานวน 1.5 หน่วยกิต หน่วยการเรียนรู้ ชื่อหน่วยการเรียนรู้/สารการเรียนรู้ เวลา(ชั่วโมง) 1 การศึกษาชีววิทยา 1.1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 1.2 การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ 1.3 กิจกรรมสะเต็มศึกษาและกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม 12 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 2.1 อะตอม ธาตุและสารประกอบ 2.2 น้ํา 2.3 สารประกอบคาร์บอนในสิ่งมีชีวิต 2.4 ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต 23 3 เซลล์และการทํางานของเซลล์ 3.1 กล้องจุลทรรศน์ 3.2 โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ 3.3 การลําเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ 3.4 การหายใจระดับเซลล์ 3.5 การแบ่งเซลล์ 25


17 การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีการศึกษา 2566 รหัสวิชา ว30241 ชีววิทยาเพิ่มเติม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลา 60 ชั่วโมง อัตราส่วน ระหว่างภาคเรียน:ปลายภาคเรียน เท่ากับ 80-20 คะแนนก่อนสอบกลางภาคเรียน 30 คะแนน คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน คะแนนหลังสอบภาคเรียน 30 คะแนน คะแนนสอบปลายภาคเรียน 20 คะแนน เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน คะแนน 0-49 ได้ผลการเรียน 0 คะแนน 50-54 ได้ผลการเรียน 1 คะแนน 55-59 ได้ผลการเรียน 1.5 คะแนน 60-64 ได้ผลการเรียน 2 คะแนน 65-69 ได้ผลการเรียน 2.5 คะแนน 70-74 ได้ผลการเรียน 3 คะแนน 75-79 ได้ผลการเรียน 3.5 คะแนน 80-100 ได้รับผลการเรียน 4


18 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต จํานวน 2 ชั่วโมง วันที่ใช้สอน ………………………… ครูผู้สอน นายฤชากร จันสุภีร์ ************************************************************************* 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายและสรุปสมบัติที่สําคัญของสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ของการจัดระบบในสิ่งมีชีวิตที่ทําให้ สิ่งมีชีวิตดํารงชีวิตอยู่ได้ 2. สาระสําคัญ สิ่งมีชีวิตมีการสืบพันธุ์เพื่อเพิ่มจํานวนและการดํารงเผ่าพันธุ์ ต้องการสารอาหารและพลังงาน เพื่อการดํารงชีวิตและการเจริญเติบโต สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีอายุขัยและขนาดแตกต่างกัน และมีลักษณะ จําเพาะ สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ มีกลไกในการรักษาดุลยภาพภายในของร่างกายให้เหมาะสม ต่อการดํารงชีวิต และมีการจัดระบบตั้งแต่ระดับเซลล์ไปจนถึงระดับกลุ่มชีวิต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ (K P A ) 3.1 สามารถอธิบายลักษณะเฉพาะที่สําคัญของสิ่งมีชีวิต (K) 3.2 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะที่สําคัญของสิ่งมีชีวิต (P) 3.3 มีวินัย ใฝุเรียนรู้ มุ่งมั่นในการทํางาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ - สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการสารอาหารและพลังงาน มีการเจริญเติบโต มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า มีการ รักษาดุลยภาพของร่างกาย มีการสืบพันธุ์ มีการปรับตัวทางวิวัฒนาการ และมีการทํางานร่วมกันของ องค์ประกอบต่างๆ อย่างเป็นระบบ สิ่งเหล่านี้จัดเป็นสมบัติที่สําคัญของสิ่งมีชีวิต - การจัดระบบในสิ่งมีชีวิตเริ่มจากหน่วยเล็กไปหน่วยใหญ่ ได้แก่ เซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะ ระบบอวัยวะ และสิ่งมีชีวิตตามลําดับ 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การจําแนกประเภท 5.3 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.4 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) การลงความเห็นจากข้อมูล 3) การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูล 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


19 7. บูรณาการ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) วิธีการสอน : แบบบรรยาย (Lecture) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ให้นักเรียนทําแบบทดสอบก่อนเรียนของบทที่ 1 การศึกษาชีววิทยา จํานวน 10 ข้อ 1. ทบทวนความรู้เดิมเรื่อง สิ่งมีชีวิต โดยใช้ชุดคําถามข้อคําถามหลักประกอบด้วย 1.1 จากความรู้เดิมของนักเรียน จําได้ไหมว่าสิ่งมีชีวิต หมายถึงอะไร (แนวคําตอบ: มีการสืบพันธุ์ มีการเจริญเติบโต มีอายุขัย) 1.2 สิ่งไม่มีชีวิต หมายถึงอะไร (แนวคําตอบ: ไม่สามารถกินอาหาร หายใจ เคลื่อนไหว เจริญ และมีลูกหลานได้) 1.3 ยกตัวอย่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ได้แก่อะไรบ้าง (แนวคําตอบ: สิ่งไม่มีชีวิต เช่น น้ํา ดิน บ้าน รถยนต์ นาฬิกา แว่นตา ภาชนะเครื่องใช้ต่าง ๆ สิ่งมีชีวิต เช่น มนุษย์ สัตว์ และพืช ) 2. ครูนําเสนอเหตุการณ์ใหม่/ประสบการณ์ใหม่ ด้วยภาพ 2 ภาพ คือ ภาพแรกเป็นภาพพืช คล้ายก้อนหิน และภาพที่ 2 เป็นภาพพืชคล้ายนก ให้นักเรียนสังเกตความแตกต่างของภาพที่ปรากฏ 3. ใช้ชุดคําถามการสังเกตภาพดังกล่าวข้อ 2 กับนักเรียน ข้อคําถามหลักประกอบด้วย 3.1 จากภาพที่สังเกตทั้ง 2 ภาพคือ ภาพอะไร และเพราะอะไร 3.2 มีลักษณะเหมือนหรือ แตกต่างกัน อย่างไร 3.3 จากคําตอบของคําถามดังกล่าว นักเรียนทราบหรือไม่ ว่าลักษณะของสิ่งมีชีวิตนั้นประกอบด้วย ลักษณะอะไรบ้าง ขั้นสํารวจและค้นหา (Explore) 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม จําแนกเป็น เก่ง ปานกลาง อ่อน (1:2:2) เรียกกลุ่มนี้ว่า กลุ่มบ้านของเรา (Home Group) 2. ครูให้นักเรียนในกลุ่มศึกษาเนื้อหา เรื่อง สิ่งมีชีวิตคืออะไร คนละ 1 ส่วน โดยเนื้อหาประกอบด้วย เศรษฐกิจพอเพียง ทักษะในศตวรรษที่ 21 ภูมิปัญญาท้องถิ่น - มีชีวิตเรียบง่าย ประหยัด ไม่ฟุุมเฟื่อย - รู้จักพอดี พอประมาณ 1. การสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่า ทันสื่อ 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและ การแก้ปัญหา -


20 2.1 กระบวนการเมแทบอลิซึม 2.2 กระบวนการสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต 2.3 กระบวนการตอบสนอง 2.4 กระบวนการควบคุมสมดุลของร่างกาย 2.5 การจัดระบบ ซึ่งการให้ศึกษาเนื้อหาสาระคนละ 1 ส่วน (เปรียบเสมือนได้ชิ้นส่วนของภาพตัดต่อคนละ 1 ชิ้น) และหาคําตอบในประเด็นปัญหาที่ผู้สอนมอบหมายให้จากใบความรู้ที่ 1 และแหล่งวิทยาการต่างๆ 3. สมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา แยกย้ายไปรวมกับสมาชิกกลุ่มอื่นซึ่งได้รับเนื้อหาเดียวกัน ตั้งเป็นกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญ (expert group) ขึ้นมา และร่วมกันทําความเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้นอย่างละเอียด และร่วมกัน อภิปรายหาคําตอบประเด็นที่ผู้สอนมอบหมายให้ 4. สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ กลับไปสู่กลุ่มบ้านของเรา แต่ละกลุ่มช่วยสอนเพื่อนในกลุ่ม ให้เข้าใจสาระ ที่ตนได้ศึกษาร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ สมาชิกทุกคนก็จะได้เรียนรู้ภาพรวมของสาระทั้งหมด 5. ครูแจกใบงาน เรื่อง ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ให้กับนักเรียนแต่ละกลุ่ม 6. ให้แต่ละกลุ่มสรุปความรู้ที่ศึกษาในรูปแบบของแผนผังความคิด แล้วร่วมกันตั้งคําถามกลุ่มละ 1 คําถามเกี่ยวกับเรื่องที่กลุ่มตนเองศึกษา ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 1. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานําเสนอแผนผังความคิดของกลุ่มตนเองและถามคําถามเพื่อนคน อื่นๆ ในชั้นเรียน 2. เมื่อแต่ละกลุ่มรายงานเสร็จแล้วครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุปผล การทดสอบหากผู้เรียนกลุ่มอื่นมีผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุป ขัดแย้งกับผลอภิปราย ให้ดําเนินแก้ไขผล ดังกล่าวในใบกิจกรรมของตนเองให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ตามสาระสําคัญ ด้วยคําถามดังนี้ - ลักษณะของสิ่งมีชีวิต แบ่งเป็นกี่ลักษณะ ได้แก่อะไรบ้าง (แนวคําตอบ: 5 ลักษณะ ได้แก่ กระบวนการเมแทบอลิซึม กระบวนการสืบพันธุ์และการ เจริญเติบโต กระบวนการตอบสนอง กระบวนการควบคุมสมดุลของร่างกาย และการจัดระบบ) ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับไวรัส โดยใช้คําถามดังนี้ - ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวคําตอบ: ไวรัสไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นอนุภาคที่มีชีวิตเท่านั้น เนื่องจากหากพิจารณาตาม ลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิตแล้วพบว่า ไวรัสไม่มีส่วนหุ้มที่เป็นเยื่อหุ้มเซลล์ของตัวเอง เนื่องจากไม่ได้ ประกอบด้วยเซลล์ ซึ่งเซลล์ต้องมีเยื่อหุ้มเซลล์เพื่อแยกองค์ประกอบอื่นในเซลล์ออกจากสิ่งแวดล้อมและรักษา สภาพในเซลล์ให้สมดุล เมื่อไวรัสไม่ได้ประกอบด้วยเซลล์ไวรัสก็ไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้า ไม่มีการสร้าง และสลายพลังงานเพื่อดํารงชีวิต) ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ให้นักเรียนทําใบงาน เรื่อง ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคําถาม การร่วมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล


21 3. ครูตรวจผลงานจากการทําใบงานหรือแบบฝึกหัด 9. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 9.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 9.2 Power point เรื่อง การศึกษาชีววิทยา 10. ผลงานและนวัตกรรมนักเรียน ใบงาน เรื่อง ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 11. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. K สามารถอธิบายลักษณะเฉพาะที่ สําคัญของสิ่งมีชีวิต (K) ตอบคําถามใน แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 2. P สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ลั ก ษ ณ ะ เ ฉ พ า ะ ที่ สํ า คั ญ ข อ ง สิ่งมีชีวิต ตอบคําถามใน แบบฝึกหัด แบบประเมิน สืบค้นข้อมูล ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบสังเกต ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3.2 ใฝุเรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทํางาน


22 ใบความรู้ เรื่อง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตจะมีการแสดงพฤติกรรมเพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้น ทั ้งสิ่งเร้ าภายในและสิ่งเร้ า ภายนอก 1) สิ่งเร้าภายใน (internal stimulus) คือ สิ่งเร้ าที่เกิดจากการกระตุ้นของระบบร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ เกิดความต้องการทางกายภาพ เช่น ความหิวกระหาย ความรู้ สึกร้ อน-เย็น เป็นต้น สิ่งเร้ าภายใน เช่น ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงระดับสารในร่างกาย เป็นต้น 2) สิ่งเร้าภายนอก (external stimulus) คือ สิ่งเร้าที่ได้รับจากภายนอกหรือจากสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้น ผ่านระบบสัมผัสของระบบประสาททั ้ง 5 คือ หูตา คอ จมูก และการสัมผัส สิ่งเร้ าภายนอก เช่น แสง อุณหภูมิ น ้า การสัมผัส เป็นต้น การตอบสนองเมื่อมีแสงเป็ นสิ่งเร้า ตัวอย่างเช่น - มนุษย์หรี่ตาเมื่อได้รับแสงสว่างมากเกินไป - นกบินกลับรังเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน - ยอดพืชเจริญเติบโตเข้าหาแสง การตอบสนองเม่ือมีอุณหภมูิเป็นส่ิงเร้า ตัวอย่างเช่น - มนุษย์ขับเหงื่อปริมาณมากเมื่ออากาศร้อน - สุนัขแลบลิ้นเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย - แมวเลียอุ้งเท้าเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย การตอบสนองเมื่อมีน ้าหรือความชื้นเป็ นสิ่งเร้า ตัวอย่างเช่น - ไส้เดือนดินเคลื่อนที่เข้าหาความชื้น - รากพืชเจริญเข้าหาความชื้น การตอบสนองเมื่อมีการสัมผัสเป็ นสิ่งเร้า ตัวอย่างเช่น


23 ใบงานที่ 1.1 เรื่อง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต คําชี้แจง : ให้นักเรียนออกแบบและดําเนินการทดลองเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต วิธีดําเนินการ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ออกแบบและดําเนินการทดลองเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อ สิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต กําหนดชนิดของสิ่งเร้า และเลือกชนิดของพืชหรือสัตว์ที่จะศึกษา โดยไม่ซ้ํากับกลุ่มอื่นๆ กําหนดปัญหา สมมติฐาน ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรควบคุม และออกแบบการทดลอง โดยบันทึกลงในกรอบด้านล่าง ปฏิบัติการทดลองตามที่ออกแบบไว้ บันทึกผล และนําเสนอผลงาน


24 ใบงานที่ 1.1 เรื่อง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต คําชี้แจง : ให้นักเรียนออกแบบและดําเนินการทดลองเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต วิธีดําเนินการ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ออกแบบและดําเนินการทดลองเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อ สิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต กําหนดชนิดของสิ่งเร้า และเลือกชนิดของพืชหรือสัตว์ที่จะศึกษา โดยไม่ซ้ํากับกลุ่มอื่นๆ กําหนดปัญหา สมมติฐาน ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรควบคุม และออกแบบการทดลอง โดยบันทึกลงในกรอบด้านล่าง ปฏิบัติการทดลองตามที่ออกแบบไว้ บันทึกผล และนําเสนอผลงาน พิจารณาจากผลงานของนักเรียน โดยอยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ ปัญหา : ชนิดของอาหารมีผลต่อการเคลื่อนที่ของมดเพื่อเข้าหาอาหาร หรือไม่ สมมติฐาน : ถ้าชนิดของอาหารมีผลต่อการเคลื่อนที่ของมดเพื่อเข้าหาอาหาร ดังนั ้นถ้าใช้น ้าตาลเป็นอาหาร มดจะเคลื่อนที่เข้าไปหาเร็วกว่าอาหาร ชนิดอื่น ตัวแปรต้น : อาหารชนิดต่างๆ เช่น น ้าตาล ข้าว เนื ้อสัตว์ ผลไม้ ตัวแปรตาม : ระยะเวลาที่มดใช้ในการเคลื่อนที่เข้าหาอาหาร ตัวแปรควบคุม : ปริมาณอาหาร ชนิดและขนาดของมด ระยะทาง ภาชนะที่ใส่ อุณหภูมิ


25


26


27


28 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การศึกษาสิ่งมีชีวิต จํานวน 1 ชั่วโมง วันที่ใช้สอน ………………………… ครูผู้สอน นายฤชากร จันสุภีร์ ************************************************************************* 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อธิบายและสรุปสมบัติที่สําคัญของสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ของการจัดระบบในสิ่งมีชีวิตที่ทําให้ สิ่งมีชีวิตดํารงชีวิตอยู่ได้ 2. สาระสําคัญ การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตก่อให้เกิดวิชาเฉพาะด้านของสาขาชีววิทยา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา คุณภาพชีวิตมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การศึกษาและการใช้ประโยชน์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต้องคํานึงถึงชีวจริยธรรม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ (K P A ) 3.1 อธิบายเกี่ยวกับแขนงวิชาต่างๆ ของชีววิทยาและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ (K) (K) 3.2 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับขอบข่ายของศาสตร์ต่างๆทางด้านชีววิทยาได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝุเรียนรู้ มุ่งมั่นในการทํางาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ การศึกษาสิ่งมีชีวิตต้องอาศัยความรู้จากแขนงวิชา ต่าง ๆ ของชีววิทยาและสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง และควรคํานึงถึงชีวจริยธรรมและจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การจําแนกประเภท 5.3 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.4 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) การลงความเห็นจากข้อมูล 3) การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูล 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 7. บูรณาการ เศรษฐกิจพอเพียง ทักษะในศตวรรษที่ 21 ภูมิปัญญาท้องถิ่น


29 8. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) วิธีการสอน : แบบบรรยาย (Lecture) และจิกซอล ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับชีววิทยาโดยใช้ชุดคําถามข้อคําถามหลักประกอบด้วย 1.1 ชีววิทยาหมายถึงอะไร (แนวคําตอบ เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตอย่างมีเหตุและผล) 1.2 นักเรียนทราบหรือไม่ องค์ประกอบของชีววิทยามีอะไรบ้าง (แนวคําตอบ มี 2 องค์ประกอบ คือ ความรู้และกระบวนการค้นหาความรู้) 2. ครูนําเสนอรูปภาพเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตให้นักเรียนสังเกตภาพที่ปรากฏ 3. ใช้ชุดคําถามการสังเกตภาพดังกล่าวข้อ 2 กับนักเรียน ข้อคําถามหลักประกอบด้วย 3.1 จากรูปภาพที่นักเรียนสังเกตนักเรียนเห็นสิ่งมีชีวิตอะไร (แนวคําตอบ มนุษย์ เซลล์ สิงโต หอย พืช ไก่ เป็นต้น) ขั้นสํารวจและค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม1 ให้นักเรียนสังเกตรูปภาพ 1.5 เพื่อให้ นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับแขนงวิชาชีววิทยาจากแหล่งวิทยาการต่างๆ 2. ครูแจกใบงานเรื่อง แขนงวิชาชีววิทยาจากแหล่งวิทยาการต่างๆ 3. ครูให้นักเรียนศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแขนงวิชาชีววิทยาจากแหล่งวิทยาการต่างๆจากแหล่ง วิทยาการต่างๆเช่น อินเตอร์เน็ต สไลด์การสอน และหนังสือเรียน ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทํากิจกรรม โดยครูใช้คําถามดังนี้ - มีแขนงวิชาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีววิทยาเพิ่มเติมนอกจากสไลด์และหนังสือเรียนหรือไม่ ถ้ามีแขวงวิชานั้นคืออะไรบ้าง (แนวคําตอบ มีนวิทยา ปักษีวิทยา วิทยาเห็ดรา เป็นต้น) - ถ้าหากนักเรียนต้องการที่จะศึกษาเกี่ยวกับสิ่งเมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่อง จัด อยู่ในแขนงวิชาในชีววิทยาอะไร (แนวคําตอบ จุลชีววิทยา) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคําตอบของใบงานเรื่อง การศึกษาสิ่งมีชีวิต - มีชีวิตเรียบง่าย ประหยัด ไม่ฟุุมเฟื่อย - รู้จักพอดี พอประมาณ 1. การสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่า ทันสื่อ 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและ การแก้ปัญหา


30 ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการนําความรู้ทางด้านชีววิทยาไปเชื่อมโยงกับศาสตร์ในวิชาอื่น ๆ โดยใช้คําถาม - การนําความรู้ทางด้านชีวิทยาไปเชื่อมโยงกับศาสตร์ในวิชาอื่น ๆ จะได้ความรู้ใหม่ๆทางด้านใดบ้าง (แนวคําตอบ วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์การกีฬา ชีวสารเทศศาสตร์ หรือชีววิทยาเชิงคํานวณ ) ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ให้นักเรียนทําแบบฝึกหัด 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคําถาม การร่วมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทําใบงานหรือแบบฝึกหัด 9. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 9.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 9.2 Power point เรื่อง การศึกษาสิ่งมีชีวิต 10. ผลงานและนวัตกรรมนักเรียน - ใบงาน เรื่อง การศึกษาสิ่งมีชีวิต 11. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. K สามารถสรุปขอบข่ายของศาสตร์ ต่างๆทางด้านชีววิทยาได้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 2. P สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ขอบข่ายของศาสตร์ต่างๆทางด้าน ชีววิทยาได้ ตรวจใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบสังเกต ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3.2 ใฝุเรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทํางาน


31


32


33


34 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ชีววิทยากับการดํารงชีวิต และชีวจริยธรรม จํานวน 1 ชั่วโมง วันที่ใช้สอน ………………………… ครูผู้สอน นายฤชากร จันสุภีร์ ************************************************************************* 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อภิปราย และบอกความสําคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐาน และ วิธีการตรวจสอบสมมติฐาน รวมทั้งออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน 2. สาระสําคัญ การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตก่อให้เกิดวิชาเฉพาะด้านทางชีววิทยา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา คุณภาพชีวิตมนุษย์และเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการศึกษาการใช้ประโยชน์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต้อง คํานึงถึงชีวจริยธรรม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ (K P A ) 3.1 อธิบายเกี่ยวกับชีวจริยธรรมและจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลองได้ (K) 3.2 สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับชีววิทยากับการดํารงชีวิต และชีวจริยธรรม (P) 3.3 มีวินัย ใฝุเรียนรู้ มุ่งมั่นในการทํางาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ การศึกษาสิ่งมีชีวิตต้องอาศัยความรู้จากแขนงวิชา ต่าง ๆ ของชีววิทยาและสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง และควรคํานึงถึงชีวจริยธรรมและจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การจําแนกประเภท 5.3 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.4 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) การลงความเห็นจากข้อมูล 3) การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูล 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


35 7. บูรณาการ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการที่ใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) วิธีการสอน : แบบบรรยาย (Lecture) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับชีววิทยากับการดํารงชีวิตโดยใช้ชุดคําถามข้อคําถามหลักประกอบด้วย 1.1 นักเรียนคิดว่าการนําชีววิทยามาใช้ในการดํารงชีวิตในด้านอะไรบ้าง (แนวคําตอบ ด้านการแพทย์ ด้านการเกษตร และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเป็นต้น) 2. ครูนําเสนอวิดิทัศน์เกี่ยวกับเกี่ยวกับโครงการส่วนพระองค์ หรือโครงการหลวง ให้นักเรียนสังเกต ชื่อวิดิทัศน์ : เที่ยวโครงการหลวงกับหนูนาดี-นายมีสนุก แหล่งที่มา:https://www.youtube.com/watch?time_continue=34&v=dwuqsPWaACE& feature=emb_logo 3. ใช้ชุดคําถามการสังเกตวิดิทัศน์ดังกล่าวข้อ 2 กับนักเรียน ข้อคําถามหลักประกอบด้วย 3.1 จากวิดิทัศน์ที่นักเรียนรับชมเกี่ยวกับอะไร (แนวคําตอบ โครงการหลวง) 3.2 ถ้าหากเกษตรกรมีความต้องการเพิ่มผลผลิตทางด้านการเกษตรให้ได้ผลผลิตที่มีทั้งปริมาณและ คุณภาพ เพื่อสนองต่อความต้องการในการบริโภค นักเรียนคิดว่าจะต้องใช้ความรู้ด้านชีววิทยาแขนงใดบ้าง และนําความรู้นั้นมาใช้ในด้านใด (แนวคําตอบ สัตวิทยา ต้องเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้าง รูปร่าง และสรีรวิทยา วัฏจักรชีวิตของสัตว์ พฤษศาสตร์และสรีรวิทยาของพืช ต้องเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้าง รูปร่าง และสรีรวิทยา วัฏจักรชีวิตของพืช เทคโนโลยี เพื่อนําความรู้มาใช้ในการเพิ่มผลผลิต และเทคโนโลยีด้านพันธุศาสตร์ ใช้ในด้านการตัดต่อยีนได้ ลักษณะที่ต้องการ) ขั้นสํารวจและค้นหา (Explore) เศรษฐกิจพอเพียง ทักษะในศตวรรษที่ 21 ภูมิปัญญาท้องถิ่น - มีชีวิตเรียบง่าย ประหยัด ไม่ฟุุมเฟื่อย - รู้จักพอดี พอประมาณ 1. การสื่อสารสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ 2. ความร่วมมือ การ ทํางานเป็นทีม และภาวะ ผู้นํา การดํารงชีวิตของ สิ่งมีชีวิต ในท้องถิ่น


36 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม จําแนกเป็น เก่ง ปานกลาง อ่อน (1:2:2) 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับชีววิทยากับการดํารงชีวิตและชีวจริยธรรม จากแหล่งวิทยาการต่างๆเช่น อินเตอร์เน็ต สไลด์การสอน และหนังสือเรียน 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทํากิจกรรมตามคําชี้แจงใบงานเรื่อง ชีววิทยากับการดํารงชีวิต และชีวจริย ธรรม ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการทํากิจกรรม โดยครูใช้คําถามดังนี้ - จงยกตังอย่างการใช้ประโยชน์จากความรู้ทางชีววิทยาในด้านการเกษตร (แนวตอบ : ใช้การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อขยายพันธุ์พืชเศรษฐกิจ ใช้เทคนิคการดัดแปร พันธุกรรมสร้างพืชที่มีความแข็งแรง ต้านทานโรค และทนต่อศัตรูพืช การผสมเทียมสัตว์ต่างๆ การผลิตปุ๋ยชีวภาพ) - จงยกตังอย่างการใช้ประโยชน์จากความรู้ทางชีววิทยาในด้านการการแพทย์และสาธารณสุข (แนวตอบ : ใช้เทคนิคการดัดแปรพันธุกรรมสร้างสิ่งมีชีวิตที่สร้างสารบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อ การแพทย์ เช่น ฮอร์โมนอินซูลิน สารปฏิชีวนะ) - จงยกตังอย่างการใช้ประโยชน์จากความรู้ทางชีววิทยาในด้านอุตสาหกรรม (แนวตอบ : ใช้เทคโนโลยีการหมักในการผลิตขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต) - ชีวจริยธรรม (bioethics) หมายถึง (แนวคําตอบ การปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตอย่างมีคุณธรรม ไม่ทําร้าย หรือทําอันตรายต่อสัตว์หรือ มนุษย์เพื่อการศึกษาหรือการวิจัย) - จรรยาบรรณในการใช้สัตว์ทดลองควรคํานึงถึงอะไรบ้าง (แนวคําตอบ 1. ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตสัตว์ 2. ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักถึงความแม่นยําของผลงานโดยใช้สัตว์จํานวนน้อยที่สุด 3. การใช้สัตว์ปุาต้องไม่ขัดต่อกฎหมายและนโยบายการอนุรักษ์ปุา 4. ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักว่าสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ 5. ผู้ใช้สัตว์ต้องบันทึกการปฏิบัติต่อสัตว์ไว้เป็นหลักฐานอย่างครบถ้วน) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคําตอบของใบงานเรื่อง ชีววิทยากับการดํารงชีวิต และชีวจริยธรรม ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวจริยธรรม โดยใช้คําถาม - กรณีที่ผู้ที่เป็นโรคเอดส์หรือติดเชื้อ HIV ใช้เข็มฉีดยาที่ติดเชื้อไปจิมแทงผู้อื่น นักเรียนคิดว่าผิดหลัก ชีววจริยธรรมหรือไม่อย่างไร (แนวคําตอบ ผิด เพราะ เมื่อผู้ถูกกระทําได้รับเชื้อ HIV และทําให้เป็นโรคเอดส์ย่อมส่งผลกระทบต่อ บุคคลนั้น) ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ให้นักเรียนทําแบบฝึกหัด 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคําถาม การร่วมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทําใบงานหรือแบบฝึกหัด


37 9. แหล่งเรียนรู้ / สื่อการสอน / วัสดุอุปกรณ์ /เอกสารประกอบการเรียน 9.1 หนังสือเรียนชีววิทยาเพิ่มเติม เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 9.2 Power point เรื่อง การศึกษาชีววิทยา 10. ผลงานและนวัตกรรมนักเรียน - ใบงาน เรื่อง ชีววิทยากับการดํารงชีวิต และชีวจริยธรรม 11. เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (ระบุให้ครบทุกจุดประสงค์ KPA) วิธีการวัดผล ประเมินผล เครื่องมือวัดผล ประเมินผล เกณฑ์การผ่านแต่ละ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. K อธิบายเกี่ยวกับชีวจริยธรรมและ จรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลองได้ ตรวจใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 2. P สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ชีววิทยากับการดํารงชีวิต และชีวจ ริยธรรม ตรวจใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 3. A 3.1 มีวินัย การสังเกต แบบสังเกต ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3.2 ใฝุเรียนรู้ 3.3 มุ่งมั่นการทํางาน


38 ใบงาน เรื่อง ชีวจริยธรรม คําชี้แจง : ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ความรู้ทางชีววิทยาโดยคํานึงถึงชีวจริยธรรม วิธีดําเนินการ ให้นักเรียนจับคู่กันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ความรู้ทางชีววิทยาโดยคํานึงถึงชีวจริยธรรม แล้ว สรุปความรู้ลงในกรอบด้านล่าง ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...............................................................................................................................


39 เฉลยใบงาน เรื่อง ชีวจริยธรรม คําชี้แจง : ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ความรู้ทางชีววิทยาโดยคํานึงถึงชีวจริยธรรม วิธีดําเนินการ ให้นักเรียนจับคู่กันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ความรู้ทางชีววิทยาโดยคํานึงถึงชีวจริยธรรม แล้ว สรุปความรู้ลงในกรอบด้านล่าง ชีวจริยธรรม (bioethics) หมายถึง การปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตอย่างมีคุณธรรม ไม่ท าร้าย หรือท าอันตรายต่อสัตว์หรือมนุษย์เพื่อการศึกษาหรือการวิจัยเช่น จรรยาบรรณในการใช้สัตว์ทดลอง ส านักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ ได้ก าหนดจรรยาบรรณการใช้สัตว์เพื่อ งานวิจัย งานสอน งานทดสอบ และงานผลิตชีววัตถุไว้ ดังนี ้ 1. ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตสัตว์ 2. ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักถึงความแม่นย าของผลงานโดยใช้สัตว์จ านวนน้อยที่สุด 3. การใช้สัตว์ป่ าต้องไม่ขัดต่อกฎหมายและนโยบายการอนุรักษ์ป่ า 4. ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักว่าสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ 5. ผู้ใช้สัตว์ต้องบันทึกการปฏิบัติต่อสัตว์ไว้เป็นหลักฐานอย่างครบถ้วน การใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ หมายถึง การน าสิ่งมีชีวิตหรือชิ ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตมาท าให้เกิด การเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์มากขึ ้นโดยใช้เทคโนโลยี แต่หากน าไปใช้ในทางลบ เช่น น าเอาสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายต่อพืช สัตว์ โดยเฉพาะมนุษย์มาใช้เป็นอาวุธท าลาย ล้างกัน ที่เรียกว่า อาวุธชีวภาพ ก็จะขัดต่อหลักชีวจริยธรรม


40


41


42


43 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 วิชา ชีววิทยา1 รหัสวิชา ว31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์จํานวน 1 ชั่วโมง วันที่ใช้สอน ……………………… ครูผู้สอน นายฤชากร จันสุภีร์ ************************************************************************* 1. ผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) อภิปรายและบอกความสําคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐานและวิธีการ ตรวจสอบสมมติฐาน รวมทั้งออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน 2. สาระสําคัญ นักชีววิทยาใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษา ซึ่งประกอบด้วยการกําหนดปัญหา การ ตั้งสมมติฐาน การตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล และการสรุปผล ความรู้ทาง ชีววิทยาอาจได้จากการสํารวจและศึกษาทั้งในและนอกห้องปฏิบัติการ ดังนั้น ชีววิทยาประกอบด้วยส่วนที่ สําคัญ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นความรู้และส่วนที่เป็นกระบวนการค้นหาความรู้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ (K P A ) 3.1 อธิบายความสําคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐาน และวิธีกร ตรวจสอบสมมติฐานได้ (K) 3.2 ออกแบบและดําเนินการทดลองตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้ (P) 3.3 มีวินัย ใฝุเรียนรู้ มุ่งมั่นในการทํางาน (A) 4. สาระการเรียนรู้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการค้นหาคําตอบเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเริ่มจากการตั้งปัญหาหรือคาถาม ตั้งสมมติฐาน ตรวจสอบสมมติฐาน เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผล 5. ทักษะกระบวนการคิด 5.1 การสังเกต 5.2 การจําแนกประเภท 5.3 การลงความเห็นจากข้อมูล 5.4 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูลสรุป 6. สมรรถนะผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) การลงความเห็นจากข้อมูล 3) การตีความหมายข้อมูลและลงข้อมูล 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


44 7. บูรณาการ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการที่ใช้สอน : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) วิธีการสอน : แบบบรรยาย (Lecture) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการศึกษาชีววิทยาโดยใช้ชุดคําถามข้อคําถามหลักประกอบด้วย 1.1 นักเรียนคิดว่าประโยชน์ของชีววิทยามีอะไรบ้าง (แนวคําตอบ ด้านการศึกษาแนวโน้มของการเกิดโรคพันธุกรรม การพิสูจน์ DNA ด้านการเกษตร พัฒนาพืชและสัตว์เศรษฐกิจ เป็นต้น) 2. ครูนําเสนอนักวิทยาศาสตร์ให้นักเรียนสังเกตภาพที่ปรากฏ 3. ใช้ชุดคําถามการสังเกตภาพดังกล่าวข้อ 2 กับนักเรียน ข้อคําถามหลักประกอบด้วย 3.1 จากภาพที่สังเกตคือภาพอะไร (แนวคําตอบ นักวิทยาศาสตร์) 3.2 นักเรียนคิดว่าสิ่งแรกของการเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีต้องมีคุณสมบัติด้านใด (แนวคําตอบ การสังเกต นักวิทยาศาสตร์มักเป็นคนช่างสังเกต เพราะการสังเกตทําให้พบสิ่งใหม่ๆ ซึ่งนําไปสู่ การคิดค้นหาคําอธิบาย) ขั้นสํารวจและค้นหา (Explore) 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม จําแนกเป็น เก่ง ปานกลาง อ่อน (1:2:2) 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ดังนี้ - การกําหนดปัญหา และการตั้งสมมติฐานจากหนังสือเรียน - การตรวจสอบสมมติฐาน - การเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล และการสรุป 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทํากิจกรรม เรื่อง การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจพอเพียง ทักษะในศตวรรษที่ 21 ภูมิปัญญาท้องถิ่น - มีชีวิตเรียบง่าย ประหยัด ไม่ฟุุมเฟื่อย - รู้จักพอดี พอประมาณ 1. การสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่า ทันสื่อ 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและ การแก้ปัญหา การศึกษาชีววิทยาและวิธีการ ทางวิทยาศาสตร์ในท้องถิ่น


45 4. ครูควรเน้นย้ําว่า จากกิจกรรมนักเรียนจะได้ใช้ทักษะต่างๆ เช่น ทักษะการสังเกต ทักษะการลงความคิดเห็น จากข้อมูล ทักษะการจัดทําและสื่อความหมายของข้อมูล ทักษะการกําหนดและควบคุมตัวแปร ทักษะการ ตีความหมายและสรุปข้อมูล ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่สําคัญในการศึกษาวิทยาศาสตร์ ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explain) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน จากนั้นครูตั้งคําถามเพื่อให้นักเรียนร่วมกัน อภิปราย ดังนี้ - วิธีการทางวิทยาศาสตร์มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง (แนวคําตอบ 5 ขั้นตอน คือ การสังเกต การตั้งสมมติฐาน การตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวบรม ข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล และการสรุปผล) - เหตุใดจึงต้องมีการตรวจสอบสมมติฐาน และการตรวจสอบสมมติฐานมีจุดประสงค์เพื่อสิ่งใด (แนวคําตอบ : การตรวจสอบสมมติฐานเพื่อทําให้ทราบแน่ชัดว่าสมติฐานใดถูกต้อง ซึ่งการตรวจสอบ สมมติฐานมีจุดประสงค์เพื่อค้นคว้าหาข้อมูล รวบรวมข้อมูล และตรวจสอบว่าสมมติฐานข้อใดเป็น คําตอบที่ถูกต้องทีสุด) ขั้นขยายความรู้ (Elaborate) 1. ครูนําอภิปรายว่า หากผลการทดลองไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ นักเรียนควรดําเนินการ อย่างไร แนวการอภิปรายควรเป็น ดังนี้ หากผลการทดลองไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ นักเรียนควร พิจารณาหาข้อผิดพลาดแล้วดําเนินการทดลองซ้ํา แต่หากทดลองซ้ําหลายครั้งแล้วผลการทดลองไม่ สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ควรตั้งสมมติฐานใหม่ และดําเนินการตรวจสอบสมมติฐานอีกครั้ง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการศึกษาชีววิทยา โดยควรได้ข้อสรุป ดังนี้ การศึกษาชีววิทยาประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นความรู้ และส่วนที่เป็นกระบวนการค้นหา ความรู้ ซึ่งได้แก่ การกําหนดปัญหา การตั้งสมมติฐาน การตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวบรวม ข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล และการสรุปผล ความรู้ที่ได้จากกระบวนการตรวจสอบสมมติฐาน ต้องผ่านการตรวจสอบจากนักวิทยาศาสตร์ หลายๆ ท่าน จนกระทั่งได้ข้อสรุปที่เป็นหลักการเดียวกัน ความรู้นั้นๆ จึงสามารถนําไปตั้งเป็นกฎ และทฤษฎี เช่น กฎของเมนเดล ทฤษฎีเซลล์ เป็นต้น 3. ครูจูงใจให้นักเรียนแต่ละกลุ่มดําเนินการตามขั้นตอนที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการศึกษาสิ่งต่างๆ นับตั้งแต่การกําหนดปัญหา การตั้งสมมติฐาน การตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวบรวมข้อมูลและ วิเคราะห์ข้อมูล และการสรุปผล โดยปฏิบัติกิจกรรมในใบงาน เรื่อง วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ให้นักเรียนทําแบบฝึกหัด 2. ครูประเมินจากการสังเกตการตอบคําถาม การร่วมกันทําผลงาน และการนําเสนอผลงาน โดยการใช้แบบประเมินทักษะด้านกระบวนการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการวัดและประเมินผล 3. ครูตรวจผลงานจากการทําใบงานหรือแบบฝึกหัด


Click to View FlipBook Version