Network Diagram

แฟ้มสะสมผลงาน












































นายภัทรพงศ์ ซื่อประเสริฐ

ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป

1.1 ประวัติส่วนตัว/ ประวัติการศึกษา















ชื่อ – สกุล นายภัทรพงศ์ ซื่อประเสริฐ (อ็อฟ)

วัน เดือน ปีเกิด 29 กันยายน 2537

ที่อยู่ 7/1 ม. 9 ต. บางบุตร อ. บ้านค่าย จ. ระยอง



ประวัติการศึกษา

อนุบาล โรงเรียนวัดหนองพะวา
ประถมศึกษา โรงเรียนวัดหนองพะวา

มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนวัดหนองพะวา

มัธยมศึกษาตอนปลาย วิทยาลัยเทคนิคระยอง

ปริญญาตรี ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต

สาขา วิศวกรรมอุตสาหการ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี


ประสบการณ์ฝึกงานและฝึกสอน

- ด้านวิศวกรรมอุตสาหการ โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง

555 ถนนสุขุมวิท ต าบลมาบตาพุด อ าเภอเมือง จังหวัดระยอง 21122



- ด้านการสอน 1. ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร

แผนกช่างเชื่อมโลหะ

2. ภาคเรียนที่ 1 และ 2 ปีการศึกษา 2560 วิทยาลัยเทคนิคระยอง

แผนกช่างเชื่อมโลหะและเทคนิคโลหะ

ภาพกิจกรรมต่างๆ ปี พ.ศ. 2561 (ครูพิเศษสอน)

1. กิจกรรมวันไหว้ครู ที่ 21 มิถุนายน



2. การจัดสร้างเครื่องกลเติมอากาศแบบใบพัดหมุนตีผิวน ้าและพ้นน ้าใต้ผิวน ้า โครงการกิจกรรมจิตอาสา

"เราท้าดี ด้วยหัวใจ" Big Cleaning เฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว







3. กิจกรรมถวายพระพร และ แห่เทียนพรรษา

4. เวณยืนหน้าประตูวิทยาลัยประจ้าวันอังคาร

5. โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการสถานศึกษาธรรมาภิบาล การสร้างการรับรู้ และการยอมรับ ซื่อสัตย์ มีวินัย



ลักษณะรายวิชา

(Course Description)



1. ชื่อวิชาและค าอธิบายรายวิชา (Title and Description)

ชื่อวิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น

รหัสวิชา 2100 1005 จ านวนหน่วยกิต 2

หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

แผนกวิชา ช่างไฟฟ้าก าลัง และ ช่างกลโรงาน


2. ค าอธิบายรายวิชา

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นของกระบวนการเชื่อมและโลหะแผ่นหลักความปลอดภัย

ในการปฏิบัติงาน การเลือกใช้วัสดุ เครื่องและอุปกรณ์งานเชื่อม ท่าเชื่อม รอยต่อที่ใช้ในงานเชื่อมและการ

แล่นประสาน การประกอบติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์งานเชื่อมแก๊ส การแล่นประสาน (Brazing) และเชื่อม

ไฟฟ้ าการเริ่มต้นอาร์ก การเชื่อมเดินแนว ต่อมุม ต่อตัวที เครื่องจักรและเครื่องมือที่ใช้ในงานโลหะแผ่น การ

เขียนแบบแผ่นคลี่ การถ่ายแบบ การเข้าขอบ การท าตะเข็บ การย ้าหมุด การบัดกรี (Soldering) การขึ้นรูปด้วย


การพับ ดัด ม้วนเคาะ และประกอบชิ้นงาน




3. วัตถุประสงค์รายวิชา (General Objective)

เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ


1. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ กระบวนการเชื่อมแก๊ส การเชื่อมไฟฟ้าและงานโลหะแผ่น
2. มีทักษะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเชื่อมแก๊ส เชื่อมไฟฟ้าและการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ในงานเชื่อม

3. มีทักษะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานขึ้นรูปโลหะแผ่น รูปทรงเรขาคณิตและใช้เครื่องมือ อุปกรณ์

โลหะแผ่น
4. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการท างานด้วยความละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เป็นระเบียบ สะอาด


ตรงต่อเวลามีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และรักษาสภาพแวดล้อม

4. มาตรฐานรายวิชา



1. แสดงความรู้ หลักการกระบวนการเชื่อมแก๊สและการเชื่อมไฟฟ้า

2. เชื่อมแล่นประสานและตัดแผ่นเหล็กกล้าคาร์บอนด้วยแก๊ส
3. เชื่อมอาร์กลวดหุ้มฟลักซ์แผ่นเหล็กกล้าคาร์บอน

4. เขียบแบบแผ่นคลี่ลงแผ่นงานตามแบบ

5. ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์โลหะแผ่นตามแบบ

คู่มือวิชาโดยสังเขป

(Course Outline)



1. ชื่อวิชาและค าอธิบายรายวิชา (Title and Description)

ชื่อวิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น

รหัสวิชา 2100 1005 จ านวนหน่วยกิต 2

หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
แผนกวิชา ไฟฟ ้าก าลัง และ ช่างกลโรงงาน



2. ค าอธิบายรายวิชา

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นของกระบวนการเชื่อมและโลหะแผ่นหลักความปลอดภัยใน

การปฏิบัติงาน การเลือกใช้วัสดุ เครื่องและอุปกรณ์งานเชื่อม ท่าเชื่อม รอยต่อที่ใช้ในงานเชื่อมและการแล่น

ประสาน การประกอบติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์งานเชื่อมแก๊ส การแล่นประสาน (Brazing) และเชื่อมไฟฟ้ าการ
เริ่มต้นอาร์ก การเชื่อมเดินแนว ต่อมุม ต่อตัวที เครื่องจักรและเครื่องมือที่ใช้ในงานโลหะแผ่น การเขียนแบบแผ่น

คลี่ การถ่ายแบบ การเข้าขอบ การท าตะเข็บ การย ้าหมุด การบัดกรี (Soldering) การขึ้นรูปด้วยการพับ ดัด ม้วน

เคาะ และประกอบชิ้นงาน


3. พื้นฐานที่จ าเป็น (Require Background)

ไม่มี

ชื่อผู้สอน นายภัทรพงศ์ ซื่อประเสริฐ


4. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Objective)

เมื่อนักศึกษาเรียนจบหน่วยการเรียนนี้แล้ว จะมีความสามารถดังนี้

1. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ กระบวนการเชื่อมแก๊ส การเชื่อมไฟฟ้าและงานโลหะแผ่น

2. มีทักษะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเชื่อมแก๊ส เชื่อมไฟฟ้าและการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ในงานเชื่อม
3. มีทักษะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานขึ้นรูปโลหะแผ่น รูปทรงเรขาคณิตและใช้เครื่องมือ อุปกรณ์

โลหะแผ่น

4. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการท างานด้วยความละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เป็นระเบียบ สะอาด

ตรงต่อเวลามีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และรักษาสภาพแวดล้อม

5. ต าราประกอบการเรียน (Text Book and Bibliography)

1. นริศ ศรีเมฆและคณะ งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์เอมพันธ์, 2556.



6. วัสดุอุปกรณ์ที่นักศึกษาควรมี (Minimum Student Materials)

1. สมุดจด 4. ปากกา, ดินสอ
2. ยางลบ 5. ไม้บรรทัด

3. ต าราประกอบการเรียน 6. ชุดปฏิบัติงาน



7. เครื่องอ านวยความสะดวกในการสอน


1. เครื่องมือและอุปกรณ์ในงานเชื่อมไฟฟ้า/แก๊ส 5. แปรงลบกระดาน

2. ปากกาเขียนกระดาน (White broad) 6. เครื่องฉายโปรเจคเตอร์

3. อุปกรณ์ป้ องกันอันตรายส่วนบุคคล 7. คอมพิวเตอร์ / โน๊ตบุ๊ค
4. กระดาน (White broad) 8. ห้องเรียน / โรงฝึกงาน



8. วิธีการสอน (METHOD OF INSTRUCTION)

1. การสอนแบบบรรยาย

2. การสอนแบบบรรยายประกอบภาพ
3. การสอนแบบบรรยายก่อนการปฏิบัติ

4. การสอนแบบสาธิตก่อนการปฏิบัติ

5. การสอนแบบปฏิบัติตามใบงาน


9. เกณฑ์การประเมินผล

. เกณฑ์การประเมินผล

ระหว่างภาค 60 คะแนน
- ใบงาน 40 คะแนน

- สอบปฏิบัติ 20 คะแนน

จิตพิสัย 20 คะแนน
- ความตรงต่อเวลา 5 คะแนน

- เข้าเรียน 10 คะแนน

- ความมีน้ าใจ 5 คะแนน

สอบปลายภาค 20 คะแนน
รวม 100 คะแนน



10. การประเมินผล
ประเมินผลโดยวิธีอิงเกณฑ์

เกณฑ์การให้คะแนน

80 –100 คะแนน ตัดเกรดที่ 4
75 – 79 คะแนน ตัดเกรดที่ 3.5

70 – 74 คะแนน ตัดเกรดที่ 3

65 – 69 คะแนน ตัดเกรดที่ 2.5

60 – 64 คะแนน ตัดเกรดที่ 2
55 – 59 คะแนน ตัดเกรดที่ 1.5

50 – 54 คะแนน ตัดเกรดที่ 1

0 – 49 คะแนน ตัดเกรดที่ 0


11. แผนการจัดเนื้อหา (COUSE CONTAIT PLAN)

กิจกรรมการสอน
สัปดาห์ เนื้อหา
บรรยาย ปฏิบัติ

1 พูดคุย แนะน ารายวิชา และการตัดเกรด 4

ความปลอดภัยในงานเชื่อม
- ความปลอดภัยในงานเชื่อมแก๊ส
2 2 2
- ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้า

- ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่น

ต าแหน่งและลักษณะการต่อชิ้นงาน
- ลักษณะรอยต่อและชนิดของรอยต่อ

- ลักษณะท่าเชื่อม
3 1 3
งานปฏิบัติ

-อการประกอบ ปรับ และติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ใน

การเชื่อมไฟฟ้า

กระบวนการเชื่อมไฟฟ้า(Arc Welding)

- ความหมายของการเชื่อมไฟฟ้า
4 - เครื่องมือและอุปกรณ์การเชื่อมไฟฟ้า 1 3

งานปฏิบัติ

- การเชื่อมไฟฟ้าเริ่มต้นอาร์กและเดินแนวช่วงสั้นๆ
กระบวนการเชื่อมไฟฟ้า(Are Welding)

- ชนิดของเครื่องเชื่อมไฟฟ้า

5 - ลักษณะการท างานของเครื่องเชื่อมไฟฟ้า 1 3
งานปฏิบัติ

- การเชื่อมไฟฟ้าเดินแนวท่าราบ

กระบวนการเชื่อมไฟฟ้า(Are Welding)
- ลวดเชื่อมเปลือยและลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

- ฟลักซ์ส าหรับกระบวนการเชื่อมไฟฟ้า

- การเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้า
6 1 3
- ข้อเปรียบเทียบลวดเชื่อมเปลือยกับลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

งานปฏิบัติ

- การเชื่อมไฟฟ้าโดยการฝึกต่อแนวเชื่อม


กิจกรรมการสอน
สัปดาห์ เนื้อหา
บรรยาย ปฏิบัติ

กระบวนการเชื่อมไฟฟ้า(Are Welding)
- การเดินแนวเชื่อมและการเกิดขี้ตะกรัน

- ลักษณะรอยต่อ
7 1 3
- องค์ประกอบของการเชื่อมไฟฟ้า
งานปฏิบัติ

- การเชื่อมต่อชนท่าราบ

กระบวนการเชื่อมไฟฟ้า(Are Welding)
- เทคนิคการวางงานฉาก
8 1 3
- ลักษณะการเชื่อมฉากไม่ถูกวิธีและวิธีแก้ไข

- ลักษณะประเภทแนวเชื่อมต่อชน

- ปัญหาที่เกิดขึ้นในแนวเชื่อมและการแก้ไข

- ลักษณะข้อบกพร่องของแนวเชื่อมและสาเหตุ
งานปฏิบัติ

- การเชื่อมไฟฟ้าในลักษณะ T Joint


กระบวนการเชื่อมแก๊ส

- เครื่องมือและอุปกรณ์ในการเชื่อมแก๊ส

- เปลวไฟในการเชื่อมแก๊ส
9 - เทคนิคในการเชื่อมแก๊ส 1 3

งานปฏิบัติ

- ปฏิบัติการปรับเปลวไฟในการเชื่อมและการเคลื่อนย้าย
ถังแก๊ส

กระบวนการเชื่อมแก๊ส

- การผลิตแก๊สอะเซทิลีนและการป้องกัน
- การผลิตออกซิเจนและการป้องกัน

- ระบบจ่ายแก๊สแบบหลายจุดใช้งาน

10 งานปฏิบัติ 1 3
- การสร้างบ่อหลอมละลายการเชื่อมแก๊สโดยไม่เติมลวด

เชื่อมในต าแหน่งท่าราบ




กระบวนการเชื่อมแก๊ส

เทคนิคการเชื่อมแบบ Forehand และแบบ Backhand
- การเชื่อมแบบ Forehand
11 4
- การเชื่อมแบบ Backhand

งานปฏิบัติ
- การเชื่อมแก๊สโดยเติมลวดเชื่อมในต าแหน่งท่าราบ

เทคนิคการเชื่อมแก๊ส

12 - การเชื่อมต่อชน 4

- การเชื่อมต่อชนท่าราบ

- การเชื่อมต่อชนท่าตั้ง

งานปฏิบัติ
- การเชื่อมต่อชนท่าราบ

การตัดแผ่นเหล็กกล้าคาร์บอนด้วยแก๊ส

- หลักการตัดด้วยแก๊ส
- เครื่องมือและอุปกรณ์ส าหรับงานตัดด้วยแก๊ส

13 - ลักษณะรอยตัดด้วยแก๊ส 1 3

- ข้อควรระวังในการตัดโลหะด้วยแก๊ส
งานปฏิบัติ

- การงานตัดด้วยแก๊สออกซิเจนและแก๊สอะเซทิลีน

การแล่นประสาน
- ความหมายของการแล่นประสาน

- เครื่องมือและอุปกรณ์แล่นประสาน

- วัสดุที่ใช้แล่นประสาน
14 1 3
- ลักษณะของรอยต่อ

- ข้อดีของการแล่นประสานและล าดับการท า

งานปฏิบัติ
- การเชื่อมแล่นประสานต่อเกย

งานโลหะแผ่นและงานประกอบขึ้นรูปชิ้นงาน

- ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่น
15 - เครื่องมืออุปกรณ์ในงานโลหะแผ่น 1 3

งานปฏิบัติ

- การตัดตรงและการตัดโค้งด้วยกรรไกร

งานโลหะแผ่นและงานประกอบขึ้นรูปชิ้นงาน
- การท าตะเข็บและขอบงาน

16 - เครื่องมือ (Hand Tool ) 4

งานปฏิบัติ
- การพับตะเข็บและการพับขอบ

งานโลหะแผ่นและงานประกอบขึ้นรูปชิ้นงาน
17 4
- การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์

- วัสดุในงานขึ้นรูปโลหะ

- การเขียนแผ่นคลี่อย่างง่าย
งานปฏิบัติ

- การท ากล่องสี่เหลี่ยม

18 สอบปลายภาค 4

BLOCK DIAGRAM วิชางานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น 2100 1005



ประวัติและความส าคัญของงานเชื่อมโลหะ ต าแหน่งและลักษณะการต่อชิ้นงาน กระบวนการเชื่อมไฟฟ้ า

ความปลอดภัยในงานเชื่อม
2.1 ลักษณะรอยต่อและชนิดของรอยต่อ 3.1 หลักการเชื่อมไฟฟ้า
1.1 ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้า

2.2 ลักษณะต าแหน่งท่าเชื่อม 3.2 การประกอบติดตั้งชุดไฟฟ้า
1.2 ความปลอดภัยในงานเชื่อมแก๊ส
3.3 เครื่องมือและอุปกรณ์ในงานเชื่อมไฟฟ้า

1.3 ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่น
3.4 การเริ่มต้นอาร์ก

3.5 ลวดเชื่อมเปลือยและลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

กระบวนการเชื่อมแก๊ส
3.6 ฟลักซ์ส าหรับกระบวนการเชื่อมไฟฟ้า
4.1 หลักการเชื่อมโลหะด้วยแก๊สออกซิเจนและอะเซทิลีน 3.7 การเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้า
4.2 ความปลอดภัยในงานเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส
4.3 การประกอบและติดตั้งชุดเชื่อมแก๊สออกซิเจนและอะเซทิลีน 3.8 ข้อเปรียบเทียบลวดเชื่อมเปลือยกับลวดเชื่อม
4.4 เครื่องมือและอุปกรณ์การเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส หุ้มฟลักซ์
4.5 ชนิดของเปลวไฟเชื่อมแก๊ส 3.9 การเดินแนวเชื่อมและการเกิดขี้ตะกรัน
4.6 เทคนิคการเชื่อมแก๊ส
4.7 การสร้างและควบคุมบ่อหลอมละลาย 3.10 เทคนิคการวางงานฉาก
4.8 การเตรียมแก๊สออกซิเจนและแก๊สอะเซทิลีน 3.11 ลักษณะการเชื่อมฉากไม่ถูกวิธีและวิธีแก้ไข

4.9 ไฟย้อนกลับและไฟไม่ย้อนกลับ
3.12ปัญหาที่เกิดขึ้นในแนวเชื่อมและการแก้ไข
3.13 ลักษณะข้อบกพร่องของแนวเชื่อมและสาเหตุ

BLOCK DIAGRAM วิชางานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น 2100 1005



ประวัติและความส าคัญของงานเชื่อมโลหะ ต าแหน่งและลักษณะการต่อชิ้นงาน กระบวนการเชื่อมไฟฟ้ า

ความปลอดภัยในงานเชื่อม
2.1 ลักษณะรอยต่อและชนิดของรอยต่อ 3.1 หลักการเชื่อมไฟฟ้า
1.1 ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้า

2.2 ลักษณะต าแหน่งท่าเชื่อม 3.2 การประกอบติดตั้งชุดไฟฟ้า
1.2 ความปลอดภัยในงานเชื่อมแก๊ส
3.3 เครื่องมือและอุปกรณ์ในงานเชื่อมไฟฟ้า

1.3 ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่น
3.4 การเริ่มต้นอาร์ก

3.5 ลวดเชื่อมเปลือยและลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

กระบวนการเชื่อมแก๊ส
3.6 ฟลักซ์ส าหรับกระบวนการเชื่อมไฟฟ้า
4.1 หลักการเชื่อมโลหะด้วยแก๊สออกซิเจนและอะเซทิลีน 3.7 การเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้า
4.2 ความปลอดภัยในงานเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส
4.3 การประกอบและติดตั้งชุดเชื่อมแก๊สออกซิเจนและอะเซทิลีน 3.8 ข้อเปรียบเทียบลวดเชื่อมเปลือยกับลวดเชื่อม
4.4 เครื่องมือและอุปกรณ์การเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส หุ้มฟลักซ์
4.5 ชนิดของเปลวไฟเชื่อมแก๊ส 3.9 การเดินแนวเชื่อมและการเกิดขี้ตะกรัน
4.6 เทคนิคการเชื่อมแก๊ส
4.7 การสร้างและควบคุมบ่อหลอมละลาย 3.10 เทคนิคการวางงานฉาก
4.8 การเตรียมแก๊สออกซิเจนและแก๊สอะเซทิลีน 3.11 ลักษณะการเชื่อมฉากไม่ถูกวิธีและวิธีแก้ไข

4.9 ไฟย้อนกลับและไฟไม่ย้อนกลับ
3.12ปัญหาที่เกิดขึ้นในแนวเชื่อมและการแก้ไข
3.13 ลักษณะข้อบกพร่องของแนวเชื่อมและสาเหตุ

การตัดแผ่นเหล็กกล้าคาร์บอนด้วยแก๊ส การแล่นประสาน การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์โลหะแผ่น

5.1 หลักการตัดด้วยแก๊ส 6.1 ความหมายของการแล่นประสาน 7.1 เครื่องมืออุปกรณ์ในงานโลหะแผ่น

5.2 เครื่องมือและอุปกรณ์ส าหรับงานตัดด้วยแก๊ส 6.2 เครื่องมือและอุปกรณ์แล่นประสาน 7.2 การใช้กรรไกรตัดตรงและการตัดโค้ง


5.3 ลักษณะรอยตัดแก๊ส 6.3 วัสดุที่ใช้แล่นประสาน 7.3 การท าตะเข็บและขอบงาน

5.4 ข้อควรระวังในการตัดโลหะด้วยแก๊ส 6.4 ลักษณะของรอยต่อ 7.4 การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์

- ข้อดีของการแล่นประสาน 7.5 วัสดุในงานขึ้นรูปโลหะ

- ล าดับขั้นตอนของการแล่นประสาน 7.6 การท ากล่องสี่เหลี่ยม




การเขียนแบบแผ่นคลี่อย่างง่าย

8.1 หลักการเขียนแบบแผ่นคลี่

8.2 การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นขนาน

8.3 การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นรัศมี

8.4 การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นสี่เหลี่ยม

การตัดแผ่นเหล็กกล้าคาร์บอนด้วยแก๊ส การแล่นประสาน การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์โลหะแผ่น

5.1 หลักการตัดด้วยแก๊ส 6.1 ความหมายของการแล่นประสาน 7.1 เครื่องมืออุปกรณ์ในงานโลหะแผ่น

5.2 เครื่องมือและอุปกรณ์ส าหรับงานตัดด้วยแก๊ส 6.2 เครื่องมือและอุปกรณ์แล่นประสาน 7.2 การใช้กรรไกรตัดตรงและการตัดโค้ง


5.3 ลักษณะรอยตัดแก๊ส 6.3 วัสดุที่ใช้แล่นประสาน 7.3 การท าตะเข็บและขอบงาน

5.4 ข้อควรระวังในการตัดโลหะด้วยแก๊ส 6.4 ลักษณะของรอยต่อ 7.4 การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์

- ข้อดีของการแล่นประสาน 7.5 วัสดุในงานขึ้นรูปโลหะ

- ล าดับขั้นตอนของการแล่นประสาน 7.6 การท ากล่องสี่เหลี่ยม




การเขียนแบบแผ่นคลี่อย่างง่าย

8.1 หลักการเขียนแบบแผ่นคลี่

8.2 การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นขนาน

8.3 การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นรัศมี

8.4 การเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นสี่เหลี่ยม

Network Analysis

วิชางานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005







ประวัติและควำมส ำคัญของงำน
เชื่อมโลหะควำมปลอดภัยในงำน
ลักษณะรอยต่อและชนิดของรอยต่อ
เชื่อม 3 ต ำแหน่งและลักษณะกำรต่อชิ้นงำน 8

2 5 6 7
แนะน ำรำยวิชำ
1 ประโยชน์ของอำชีวอนำมัยและ
ควำมปลอดภัยในกำรท ำงำน ลักษณะต ำแหน่งท่ำเชื่อม
4 9

Network Analysis

วิชางานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005







ประวัติและควำมส ำคัญของงำน
เชื่อมโลหะควำมปลอดภัยในงำน
ลักษณะรอยต่อและชนิดของรอยต่อ
เชื่อม 3 ต ำแหน่งและลักษณะกำรต่อชิ้นงำน 8

2 5 6 7
แนะน ำรำยวิชำ
1 ประโยชน์ของอำชีวอนำมัยและ
ควำมปลอดภัยในกำรท ำงำน ลักษณะต ำแหน่งท่ำเชื่อม
4 9

หลักกำรเชื่อมไฟฟ้ำ 13

กำรประกอบติดตั้งชุดไฟฟ้ำ
14
เครื่องมือและอุปกรณ์ในงำนเชื่อมไฟฟ้ำ 15
กำรเริ่มต้นอำร์ก
16
ลวดเชื่อมเปลือยและลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์
17

ฟลักซ์ส ำหรับกระบวนกำรเชื่อมไฟฟ้ำ
18
กำรเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้ำ
10 ควำมปลอดภัยในงำนเชื่อมไฟฟ้ ำ 11 12 ข้อเปรียบเทียบลวดเชื่อมเปลือยกับลวด 19 26 ควำมปลอดภัยในงำนเชื่อมแก๊ส 27


เชื่อมหุ้มฟลักซ์ 20 7
กำรเดินแนวเชื่อมและกำรเกิดขี้ตะกรัน
21
เทคนิคกำรวำงงำนฉำก 22
ปัญหำที่เกิดขึ้นในแนวเชื่อมและกำรแก้ไข
23
ลักษณะกำรเชื่อมฉำกไม่ถูกวิธีและวิธีแก้ไข
24

ลักษณะข้อบกพร่องของแนวเชื่อมและสำเหตุ 25

หลักกำรเชื่อมไฟฟ้ำ 13

กำรประกอบติดตั้งชุดไฟฟ้ำ
14
เครื่องมือและอุปกรณ์ในงำนเชื่อมไฟฟ้ำ 15
กำรเริ่มต้นอำร์ก
16
ลวดเชื่อมเปลือยและลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์
17

ฟลักซ์ส ำหรับกระบวนกำรเชื่อมไฟฟ้ำ
18
กำรเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้ำ
10 ควำมปลอดภัยในงำนเชื่อมไฟฟ้ ำ 11 12 ข้อเปรียบเทียบลวดเชื่อมเปลือยกับลวด 19 26 ควำมปลอดภัยในงำนเชื่อมแก๊ส 27


เชื่อมหุ้มฟลักซ์ 20 7
กำรเดินแนวเชื่อมและกำรเกิดขี้ตะกรัน
21
เทคนิคกำรวำงงำนฉำก 22
ปัญหำที่เกิดขึ้นในแนวเชื่อมและกำรแก้ไข
23
ลักษณะกำรเชื่อมฉำกไม่ถูกวิธีและวิธีแก้ไข
24

ลักษณะข้อบกพร่องของแนวเชื่อมและสำเหตุ 25

หลักกำรเชื่อมโลหะด้วยแก๊สออกซิเจนและ

อะเซทิลีน 29
7
กำรประกอบและติดตั้งชุดเชื่อมแก๊สออกซิเจน
และอะเซทิลีน 30 หลักกำรตัดด้วยแก๊ส
เครื่องมือและอุปกรณ์กำรเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส 7 เครื่องมือและอุปกรณ์ 40
31
7
ชนิดของเปลวไฟเชื่อมแก๊ส 32 ส ำหรับงำนตัดด้วยแก๊ส 41
7
28 7 37 กำรตัดแผ่นเหล็กกล้ำคำร์บอนด้วยแก๊ส 38 39 ลักษณะรอยตัดแก๊ส
เทคนิคกำรเชื่อมแก๊ส 7 42
33 ข้อควรระวังในกำรตัด 7
7
กำรสร้ำงและควบคุมบ่อหลอมละลำย 34 โลหะด้วยแก๊ส 43
7 7
กำรเตรียมแก๊สออกซิเจนและแก๊สอะเซทิลีน
35
ไฟย้อนกลับและไฟไม่ย้อนกลับ 7
36
7

หลักกำรเชื่อมโลหะด้วยแก๊สออกซิเจนและ

อะเซทิลีน 29
7
กำรประกอบและติดตั้งชุดเชื่อมแก๊สออกซิเจน
และอะเซทิลีน 30 หลักกำรตัดด้วยแก๊ส
เครื่องมือและอุปกรณ์กำรเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส 7 เครื่องมือและอุปกรณ์ 40
31
7
ชนิดของเปลวไฟเชื่อมแก๊ส 32 ส ำหรับงำนตัดด้วยแก๊ส 41
7
28 7 37 กำรตัดแผ่นเหล็กกล้ำคำร์บอนด้วยแก๊ส 38 39 ลักษณะรอยตัดแก๊ส
เทคนิคกำรเชื่อมแก๊ส 7 42
33 ข้อควรระวังในกำรตัด 7
7
กำรสร้ำงและควบคุมบ่อหลอมละลำย 34 โลหะด้วยแก๊ส 43
7 7
กำรเตรียมแก๊สออกซิเจนและแก๊สอะเซทิลีน
35
ไฟย้อนกลับและไฟไม่ย้อนกลับ 7
36
7

ควำมหมำยของกำรแล่นประสำน
47
4

เครื่องมือและอุปกรณ์งำนแล่นประสำน

44 กำรแล่นประสำน 45 46 48 51 กำรขึ้นรูปผลิตภัณฑ์โลหะแผ่น 52
7
7 วัสดุที่ใช้ในกำรแล่นประสำน 49 7

7
ลักษณะรอยต่อในกำรแล่นประสำน 50
7

ควำมหมำยของกำรแล่นประสำน
47
4

เครื่องมือและอุปกรณ์งำนแล่นประสำน

44 กำรแล่นประสำน 45 46 48 51 กำรขึ้นรูปผลิตภัณฑ์โลหะแผ่น 52
7
7 วัสดุที่ใช้ในกำรแล่นประสำน 49 7

7
ลักษณะรอยต่อในกำรแล่นประสำน 50
7

เครื่องมืออุปกรณ์ในงำนโลหะแผ่น
54
7 หลักกำรเขียนแบบแผ่นคลี่ 63

กำรใช้กรรไกรตัดตรงและกำรตัดโค้ง 55
7 7
กำรท ำตะเข็บและขอบงำน กำรเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นขนำน 64
56 60 กำรเขียนแบบแผ่นคลี่อย่ำงง่ำย 7
53 7 61 62
7
กำรขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ 57 กำรเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นรัศมี 65


วัสดุในงำนขึ้นรูปโลหะ 7 7

58 กำรเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นสี่เหลี่ยม 66
7
กำรท ำกล่องสี่เหลี่ยม 59 7
7

เครื่องมืออุปกรณ์ในงำนโลหะแผ่น
54
7 หลักกำรเขียนแบบแผ่นคลี่ 63

กำรใช้กรรไกรตัดตรงและกำรตัดโค้ง 55
7 7
กำรท ำตะเข็บและขอบงำน กำรเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นขนำน 64
56 60 กำรเขียนแบบแผ่นคลี่อย่ำงง่ำย 7
53 7 61 7 62
กำรขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ 57 กำรเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นรัศมี 65


วัสดุในงำนขึ้นรูปโลหะ 7 7

58 กำรเขียนแบบแผ่นคลี่ด้วยวิธีเส้นสี่เหลี่ยม 66
7
กำรท ำกล่องสี่เหลี่ยม 59 7
7

วิทยาลัยเทคนิคระยอง



เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)
วันที่ 25 พฤษภาคม 2561 เวลา 08.30 - 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 สัปดาห์ที่ 2

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
ความปลอดภัย เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- ความปลอดภัยในงานเชื่อมแก๊ส 1. ปฏิบัติงานตามกฎของโรงงานได้อย่างถูกต้อง
- ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้า 2. อธิบายวิธีป้องกันอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน

- ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่น เชื่อมไฟฟ้า และเชื่อมแก๊สได้อย่างถูกต้อง
3. อธิบายวิธีป้องกันอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน

โลหะแผ่นได้
วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)

บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน
ในวงการอุตสาหกรรม งานเชื่อมเป็นขบวนการขึ้นรูป และขานใบรายชื่อนักศึกษา

ที่ส าคัญ และ ใช้กันอย่างกว้างขวาง โดยมีหลักการ คือ การ ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ
ให้ความร้อนหรือแรงกดร่วมกันแก่บริเวณเชื่อมจนกระทั่ง ฟังชื่อแล้วขานรับ

โลหะนั้นหลอมละลายประสานเป็นเนื้อเดียวกัน โดยใช้เนื้อ ผู้สอน : บอกเกณฑ์การ
ของโลหะที่จะน ามาต่อประสานกันโดยตรง หรือใช้ลวด ประเมินและท าข้อตกลงกับ

เชื่อมเติม ลงในแนวเชื่อมก็ได้ และในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ นักเรียน และบรรยายน าเข้าสู่

เกิดความปลอดภัยในขณะที่ท างานและจัดให้มีสภาพการ บทเรียน 10
ท างานที่ดี เพียงเท่านี้มิได้ช่วยให้เกิดอุบัติเหตุลดลงได้ เลย ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก (-) (0)

ถ้าหากไม่ได้เน้นถึงตัวผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะจากสถิติของ หรือสอบถามข้อสงสัย [10]
บริษัทหลายๆแห่งจะแสดงให้เห็นว่าอันตรายที่เกิดขึ้นกับ

บุคคลนั้น ส่วนมากจะเกิดจากความประมาทและการละเลย
ที่จะปฏิบัติตามกฎของความปลอดภัยของตัวผู้ปฏิบัติงานเอง

ท าให้งานผลิตหยุด ชะงักแล้ว ยังจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาล
เพิ่มอีกด้วยจึงจ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องป้องกันมิให้เกิดขึ้น

กระบวนการเชื่อมโลหะ
การเชื่อมโลหะคือ กรรมวิธีการต่อโลหะให้ติดกันโดย

การให้ความร้อนหรือแรงกดร่วมกันแก่บริเวณเชื่อม
จนกระทั่งโลหะนั้นหลอมละลายประสานเป็นเนื้อเดียวกัน

โดยใช้เนื้อของโลหะที่จะน ามาต่อประสานกันโดยตรง หรือ
ใช้ลวดเชื่อมเติม ลงในแนวเชื่อมก็ได้

ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้ า ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา

ในงานเชื่อมไฟฟ้าเป็นงานเชื่อมที่ต้องมีความ ประกอบสื่อ Power point
ระมัดระวังอย่างมากเพราะว่าเป็นงานเชื่อมที่มีกระแสไฟฟ้า ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด

เข้ามาเกี่ยวข้องกันด้วย จะท าให้เกิดเป็นอันตรายได้ถ้าผู้ที่ บันทึก
ปฏิบัติงานขาดความระมัดระวังและไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับ

ข้อมูลในการใช้เครื่องมาก่อนก่ออาจท าให้เกิดอันตรายขึ้น
เช่นกัน

อันตรายที่เกิดจากการเชื่อมไฟฟ้ า

การปฏิบัติงานเชื่อมผู้ปฏิบัติงานอาจได้รับอันตรายได้ผู้ที่
ปฏิบัติงานจะต้องระมัดระวังไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น ฉะนั้น

ช่างเชื่อมจะต้องศึกษาและสังเกตวิธีการป้องกันจากผู้รู้ คู่มือ
หรือหน่วยงานป้องกันอุบัติภัย ผู้ร่วมงานในหน่วยงาน 42

จะต้องมีความจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกัน A: 1-8 (10)
อุบัติเหตุ โดยจะต้องมีความพร้อมที่จะแก้ไขเหตุการณ์ที่อาจ [52]

เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที และถ้าอุบัติเหตุขึ้นก็ต้องสามารถ
ท าการปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้

อันตรายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าท าให้ผู้ที่ได้รับ
บาดเจ็บเกิดอาการ ช๊อคและมีอันตรายถึงชีวิตได้รังสีจากการ

อาร์คท าให้ผิวไหม้ได้ และท าให้มีการระคายเคืองต่อร่างกาย
และดวงตา เม็ดโลหะที่มีความร้อนท าให้ผิวหนังพุพอง

ละอองน ้าและควันไฟท าให้ไม่สบายเนื่องจากระบบหายใจ
เป็นหวัดและเป็นอันตรายจากแก๊สพิษ ฉะนั้นผู้ที่ท างานเป็น

ช่างเชื่อม

โดยจะต้องศึกษาและท าความเข้าใจเกี่ยวกับข้อควรระวัง
ตลอดจนค าแนะน าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานการ

ใช้เครื่องเชื่อมรวมทั้งการใช้เครื่องมือประกอบอื่นๆ
ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้ า

1. ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้า
- ต้องใช้หน้ากากกรองแสงที่เหมาะสมกับงานและสามารถ

ป้องกันอันตรายจากสะเก็ดไฟจากการเชื่อมและมีมาตรฐาน
ในการป้องกันอุบัติเหตุ

- สวมชุดที่สามารถป้องกันอันตรายจากสะเก็ดไฟจากการ
เชื่อมและไม่ลุกติดไฟง่าย

- ต้องสวมรองเท้าชนิดหุ้มข้อหรือรองเท้านิรภัยตามความ

เหมาะสม

- ต้องสวมถุงมือหนังชนิดไม่เปิดปลายนิ้วมือ

2. เครื่องเชื่อมและอุปกรณ์
- เครื่องเชื่อมโลหะแต่ละเครื่องต้องมีสวิทซ์ตัดตอนไฟฟ้า

เพื่อป้องกันไฟฟ้าเกินขนาดและเกินก าลัง
- เครื่องเชื่อมต้องต่อสายดินทุกเครื่อง

- ห้ามใช้ลวดทองแดงแทนฟิวส์ตะกั่ว
- สายไฟฟ้าที่ใช้จะต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน เหมาะสม

กับงานและต้องรักษาให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
3. พื้นที่ปฏิบัติงาน

- พื้นที่อาคารโรงงานต้อนเป็นวัสดุทนไฟไม่ขรุขระและมีน ้า
ขัง

- ต้องมีฉากหรือห้องกั้นส าหรับป้องกันแสง รังสีและ

สะเก็ดลูกไฟ
- ต้องไม่มีวัตถุไวไฟในบริเวณที่ท าการเชื่อมและในบริเวณ

ใกล้เคียง
- จะต้องมีการระบายอากาศในโรงงานและในบริเวณที่

ปฏิบัติงานให้เพียงพอ
- ต้องจัดไห้มีแสงสว่างที่เพียงพอ

4. การปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟ้า
- ก่อนที่จะท าการเชื่อมควรตรวจสอบเครื่องมือต่างให้มี

สภาพความพร้อมในการใช้งาน
- ไม่ควรน าขากางเกงใส่ไว้ในรองเท้า หรือสวมนาฬิกา

ขณะที่ท าการเชื่อม
- เมื่อต้องการเพิ่มหรือลดกระแสไฟฟ้า ควรหยุดเครื่องก่อน

เสมอ
- แคลมป์ จับยึดสายดินจะต้องแน่น และขนาดของสายดิน

จะต้องเหมาะสมกับกระแสไฟฟ้ามิฉะนั้นสายเชื่อมจะร้อน

และลุกติดไฟในที่สุด
- อย่าเชื่อมงานกลางสายฝนหรือบนพื้นที่นองไปด้วยน ้า

เพราะกระแสไฟฟ้าอาจลัดวงจรเป็นอันตรายต่อผู้ที่เชื่อมได้
- เมื่อเกิดไฟลุกติดโดยที่ผู้ที่เชื่อมไม่รู้บุคคลที่พบเห็นไม่ควร

ที่จะไปดับไฟด้วยน ้าเพราะไฟฟ้าอาจลัดวงจรดูดผู้เชื่อมได้
ควรดับด้วยน ้ายาดับเพลิง

- อย่ามองแสงที่เกิดจากการเชื่อมด้วยตาเปล่า เพราะแสง
สว่างมากเกินไปจะท าให้ตารับไม่ได้ มองไม่เห็นชั่วขณะ

หนึ่ง แสงที่เกิดจากการเชื่อมสามารถมองด้วยตาเปล่าได้ต้อง

มีระยะห่าง 40 ฟุตขึ้นไป
- ควรตรวจสอบอุปกรณ์ดูดควันให้สามารถท างานได้เมื่อท า

การเชื่อมโลหะจ าพวก ตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม สังกะสี
เพราะจะเกิดแก๊สพิษที่เป็นอันตรายมาก

- อย่าท าการเชื่อมชิ้นงานที่อยู่ใกล้ถังน ้ามันเชื้อเพลิง เพราะ
สะเก็ดไฟอาจกระเด็นไปถูกถังและลุกไหม้ได้

- ไม่ควรเชื่อมในห้องที่ปิดหมดทุกด้านควรเชื่อมในบริเวณที่
มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกและมีท่อลมดูดควันพิษ

- อย่าเชื่อมไฟฟ้าด้วยตาเปล่าต้องใช้เลนส์กรองแสงทุกครั้ง
และควรที่จะเชื่อมในห้องที่จัดไว้โดยเฉพาะ ถ้าจ าเป็นต้อง

เชื่อมนอกสถานที่ควรที่จะมีฉากป้องกันแสงเพื่อไม่ให้เป็น

อันตราย หรือรบกวนผู้ที่อยู่ข้างเคียง
- อย่าจับชิ้นงานด้วยมือเปล่าหรือใส่ถุงมือจับเมื่อเชื่อมเสร็จ

ใหม่ๆ ควรใช้คีมจับงานร้อน
- การเชื่อมงานท่าเหนือศีรษะควรสวมหมวกไม่เช่นนั้น

ความร้อนจากชิ้นงานอาจลุกไหม้ติดศีรษะได้
- ควรใส่แว่นตาป้องกันเศษโลหะขณะท าการเคาะสแลก

และให้เคาะออกจากตัวด้วยความระมัดระวังเพราะอาจ
กระเด็นไปถูกผู้อื่นได้

- หลังจากเชื่อมงานเสร็จใหม่ๆต้องระมัดระวังไปให้ปลาย
ของธูปเชื่อมไปถูกเพื่อนข้างเคียง

- อย่าซ่อมเครื่องเชื่อมไฟฟ้าเป็นอันขาดในขณะที่เครื่อง
ก าลังท างานอยู่เพราะไฟฟ้าอาจ

ดูดได้ขณะที่ท าการเชื่อม
ควรเลือกกระจกกรองแสงที่เหมาะสมเพราะถ้าความเข้ม

ของกระจกน้อยเกินไปจะเป็นอันตรายกับสายตาได้

- การเชื่อมในสถานที่สูงๆควรใช้เข็มขัดนิรภัยช่วยทุกครั้ง
- ขณะที่ท าการเชื่อมไม่ควรใส่เครื่องประดับเช่นแหวน

นาฬิกา สร้อยคอ หรือพกเครื่องมือวัดตามส่วนต่างๆ ของ
ร่างกายเพราะอุปกรณ์พวกนี้ถ้าไปกระทบกับชิ้นงานที่มี

กระแสไฟฟ้าไหลผ่านกระแสไฟฟ้าอาจดูดได้
- ในการเปลี่ยนลวดใหม่ เมื่อท าการเปลี่ยนลวดเก่าหมดไป

ไม่ควรใช้มือเปล่าจับลวดใส่หัวจับเพราะอาจถูกไฟช๊อตได้
ควรวางลวดเชื่อมในที่ใกล้เคียงและสะดวกในการใช้หัว

เชื่อมจับลวดเชื่อมหรือใช้ถุงมือช่วยในการจับ

ความปลอดภัยในงานเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส
1. ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส

- ต้องสวมแว่นตากรองแสงชนิดส าหรับเชื่อมโลหะด้วยก๊าซ

ที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานและสามารถป้องกันเศษวัสดุ
กระเด็นเข้าตาได้ด้วย
- สวมชุดที่สามารถป้องกันอันตรายจากสะเก็ดไฟจากการ

เชื่อมและไม่ลุกติดไฟง่าย

- ต้องสวมรองเท้าชนิดหุ้มข้อหรือรองเท้านิรภัยตามความ
เหมาะสม

- ต้องสวมถุงมือหนังชนิดไม่เปิดปลายนิ้วมือ
2. เครื่องเชื่อม

- ถังก๊าซและอุปกรณ์ต้องมีสมบัติตามมาตรฐานของ
กระทรวงอุตสาหกรรมและมีสัญลักษณ์สีตามมาตรฐานบอก

ชนิดของก๊าซที่บรรจุอยู่ภายใน
- ถังกาซต้องตั้งหัวขึ้นและมีสายผูกยึดกันล้มกับสิ่งที่มั่นคง

- ถังบรรจุก๊าซต้องมีเกจวัดความดันของก๊าซในถัง วาล์ว
ควบคุมความดัน เกจวัดความดันที่ใช้งานที่อยู่ในสภาพดี

- วาล์วและท่ออุปกรณ์ที่ใช้กับก๊าซออกซิเจนต้องมี่มีน ้ามัน

ไข หรือ จารบี และไม่ใช้ท่อทองแดงกับท่อน าก๊าซอะเซติ
ลีนหรือส่วนประกอบ
- หัวเชื่อมและท่อน าก๊าซต้องอยู่ในสภาพดีและปลอดภัย

3. วัสดุ / อุปกรณ์

- ถังเก็บแคลเซียมคาร์ไบด์ต้องเป็นถังโลหะที่สามารถ
ป้องกันน ้าเข้าได้และตั้งอยู่ในพื้นที่ยกระดับอย่างน้อย 15

ซม
- การเก็บรักษาท่อแก๊ส หรือการน าท่อแก๊สมาใช้งานควรใช้

โซ่คล้องแล้วยึดติดกับผนังเพื่อไม่ให้ท่อล้มเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ขึ้น

- การเก็บรักษาท่อแก๊สและการใช้งานควรห่างจากสารติด
ไฟไม่น้อยกว่า 25 ฟุต หรือ 7.6 เมตร

- การเก็บรักษาท่อแก็สและท่อออกซิเจนควรที่จะแยกออก
จากกัน โดยมีก าแพงกั้นกลางมีความสูงอย่างน้อย 5 ฟุต หรือ

1.5 เมตร

- ห้องที่ใช้ท าการเก็บแก๊ส อะเซทิลีน ต้องมีช่องระบาย

อากาศและที่ประตูต้องมีค าเตือนห้ามน าเชื้อเพลิงหรือไฟเข้า

ใกล้
- การเคลื่อนย้ายท่อแก๊สต้องสวมฝาครอบป้องกันวาล์วเสมอ

เพื่อป้องกันไม่ให้วาล์วกระแทกจนแตกหรือบิ่น เมื่อขนส่ง
ด้วยรถบรรทุกหรือรถเทลเลอร์

- กรณีที่ท่อแก๊สรั่ว ต้องรีบน าท่อแก๊สออกจากอาคารหรือ
พื้นที่ ที่ท างานไปใว้ในที่โล่งแจ้งที่อากาศระบายได้ดี ใน

ขณะเดียวกันควรน าป้ายบอกเตือนเพื่อไม่ให้ผู้อื่นสูบบุหรี่
หรือท าให้เกิดประกายไฟบริเวณที่แก๊สรั่ว

4. บริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน
- พื้นที่อาคารโรงงานต้อนเป็นวัสดุทนไฟไม่ขรุขระและมีน ้า

ขัง

- ต้องมีฉากหรือห้องกั้นส าหรับป้องกันแสง รังสี และ
สะเก็ดลูกติดไฟ

- ต้องไม่มีวัตถุไวไฟในบริเวณที่ท าการเชื่อมและในบริเวณ
ใกล้เคียง

- จะต้องมีการระบายอากาศในโรงงานและในบริเวณที่
ปฏิบัติงานให้เพียงพอ

- ต้องจัดไห้มีแสงสว่างที่เพียงพอ

5. การปฏิบัติงานเชื่อมแก๊ส
- ก่อนท าการเชื่อมต้องสังเกตพื้นที่เสียก่อนว่ามีถังแก๊สถังสี
หรือกาน ้ามันอยู่ในบริเวณพื้นที่เชื่อมหรือไม่

- ถ้าเป็นการเชื่อมในห้องสิ่งที่ต้องค านึงถึงคือ ห้องนั้นมีการ

ระบายอากาศพอเพียง โดยทั่วไปของพื้นที่ของห้องที่
เพียงพอต่อการระบายอากาศจะมีพื้นที่ 10000 ลูกบาศก์ฟุต

หรือ283 ลูกบาศก์เมตร ต่อช่างเชื่อม 1 คน ในขณะเดียวกัน
ห้องนั้นต้องควบคุมความสูง 16 ฟุต หรือ 4.9 เมตร

- ต้องมีการระบายอากาศอยู่เสมอเมื่อท าการเชื่อมโลหะบาง
ประเภท เช่น สังกะสี ตะกั่ว หรือโลหะที่ท าการเชื่อมแล้ว

เกิดควันพิษ ซึ่งจะท าให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
- ถ้าวางท่อแก๊สอะเซทิลีนในต าแหน่งแนวนอนนานๆ หรือ

น าท่อตั้งขึ้นแล้วใช้งานทันทีสารอซิโตนจะเคลื่อนตัวออกมา
จากท่อ สารอซิโตนที่เคลื่อนตัวออกมาจากท่อ

- จะท าให้เปลวไฟมีอุณหภูมิต ่ากว่าปกติและท าความ
เสียหายต่อมาตรวัดความดัน ( Regulator ) หรือบริเวณลิ้น

เปิดปิด ( Valve ) ของกระบอกเชื่อม ( Torch ) ถ้าการ

เคลื่อนย้ายจ าเป็นต้องวางท่อในลักษณะแนวนอน เมื่อจะใช้
งานควรน าตั้งขึ้นและมีระยะเวลาเพื่อให้สารอะซิโตนเข้าที่

หรือจัดระเบียบตัวเองระยะเวลาหนึ่ง จึงจะใช้งานได้อย่าง
ปลอดภัย

ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่น
- การเคลื่อนย้ายโลหะแผ่นบางจะต้องสวมถุงมือทุกครั้ง

มิฉะนั้นขอบของโลหะแผ่นอาจบาดมือ
- การเคลื่อนย้ายโลหะแผ่นควรยกในแนวตั้ง เพราะถ้ายกใน

แนวนอนโลหะจะห้อยตัวลงและต้องใช้พื้นที่ในการ

เคลื่อนย้ายกว้าง
- ในการใช้เครื่องพับต้องแน่ใจว่าไม่มีผู้อยู่ในรัศมีการ

เคลื่อนไหวของชิ้นส่วนของเครื่องจักร
- ไม่ควรใช้กรรไกรมือตัดงานโลหะแผ่นที่มีความหนามาก

เพราะการใช้แรงบีบจากมือมากจะท าให้ความปลอดภัย
ลดลง

- ไม่ควรน าบรรทัดเหล็กไปใช้งัดอุปกรณ์อื่น เช่น กระป๋ องสี
- ไม่ควรใช้เหล็กถ่ายแบบแทนเหล็กน าศูนย์

- ไม่ควรใช้กรรไกรตัดลวดหรือแผ่นโลหะที่แข็งเกินไป
- อย่าใช้กรรไกรเคาะ หรือตีแผ่นโลหะ ขณะตัดแล้วเกิดรอย

เยิน ควรเปลี่ยนมาใช้ค้อนแทน
- เหล็กขีดทื่อไม่ควรเจียระไน เพราะความแข็งที่ชุบไว้จะ

หมดไป ควรลับให้แหลมคมดังเดิมด้วยหินลับ

- แผ่นโลหะจะมีรอยเยิน ครีบ และความคมอันเกิดจากการ
ตัด ควรใช้ตะไปแต่งลบคม


มอบหมายงานให้ผู้เรียนปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบหมายงานให้

นักเรียน โดยการจับกลุ่มกลุ่ม
ละ 3 คน และให้สรุปเป็นผัง 173

ความคิด แล้วออกมาน าเสนอ (-) (52)

หน้าชั้นเรียน [225]
ผู้เรียน : ฟังอธิบาย,ซักถามข้อ

สงสัยและแยกย้ายกันท างาน
ตามกลุ่ม

สรุป ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา

และถามค าถาม
ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ

กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย (-) 15

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ (225)
ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย [240]

ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว
แยกย้ายปฏิบัติงาน

สรุป
ในการปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟ้าหรืองานเชื่อมแก๊สทุกครั้ง ผู้ปฏิบัติงานจะต้องมีการตรวจสอบอุปกรณ์

ป้องกันอันตรายจากการเชื่อมทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ติดมากับตัวเครื่อง หรืออุปกรณ์ป้ องกันความปลอดภัย
ส่วนบุคคลต่างๆ ที่จะต้องน ามาใช้ว่ามีอยู่ครบหรือไม่ และจะต้องท าการตรวจสอบสภาพของเครื่องเชื่อมทุกครั้งว่า

อยู่ในสภาพที่พร้อมต่อการใช้งานหรือไม่ ถ้ามีการช ารุดก็ไม่ควรที่จะน ามาใช้งาน และควรน าไปซ่อมบ ารุงทันที
และควรปฏิบัติงานเชื่อมตามข้อปฏิบัติของผู้สอนอย่างเคร่งครัด และจะต้องมีการดูแลของผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน

อย่างใกล้ชิดเพื่อป้ องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้


ค าถาม

1. การเก็บรักษาท่อแก๊สอะเซทิลีนควรแยกออกจากท่อออกซิเจนโดนมีก าแพงกั้น ก าแพงควรสูง
อย่างน้อยกี่เมตร ? (ข)

ตอบ 1.5 เมตร
2. วัตถุที่ไม่ควรอยู่ใกล้ขณะท าการเชื่อมคือ ? (น)

ตอบ เชื้อเพลิง


ข้อสังเกตการสอน


ผู้สอน ผู้เรียน

ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้านเนื้อหา ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน
และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน การ

ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้น ้าเสียง ตอบค าถามของผู้เรียน


ในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม

หมายเหตุ

สัญลักษณ์
(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้

(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า


เอกสารอ้างอิง
รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.



เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน
1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)

2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)
3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)

4. โปรเจคเตอร์ (Projector)


บันทึกหลังการสอน
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................


.......................................................................

( )
ผู้บันทึก

วิทยาลัยเทคนิคระยอง



เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)
วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เวลา 08.30 – 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 การสอนครั้งที่ 3

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
ต าแหน่งและลักษณะการต่อชิ้นงาน เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- ลักษณะรอยต่อและชนิดของรอยต่อ 1. บอกท่าเชื่อมพื้นฐานในงานเชื่อมได้อย่างถูกต้อง
- ลักษณะท่าเชื่อม 2. บอกชนิดของรอยต่อที่ใช้ในงานเชื่อมได้อย่าง

งานปฏิบัติ ถูกต้อง
- การประกอบ ปรับ และติดตั้งเครื่องมือและ 3. เลือกชนิดของรอยต่อให้เหมาะสมกับความหนา

อุปกรณ์ในการเชื่อมไฟฟ้า ของงานได้
4. ปฏิบัติการประกอบ ปรับ และติดตั้งเครื่องมือและ

อุปกรณ์ในการเชื่อมไฟฟ้าได้

วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)

บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน
การที่จะให้ได้งานเชื่อมที่มีคุณภาพนั้นจ าเป็นต้องอาศัย และขานใบรายชื่อนักศึกษา

เทคนิคและองค์ประกอบต่างๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะการ ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ
เชื่อมที่ ควบคุมด้วยมือ ช่างเชื่อมจะต้องมีการควบคุมแอ่ง ฟังชื่อแล้วขานรับ

หลอมละลาย เพื่อให้ได้แนวเชื่อมที่สมบูรณ์ ส าหรับผู้ที่ ผู้สอน : ทบทวนเนื้อหาสัปดาห์

ฝึกหัดเชื่อมจะประสบความส าเร็จมากน้อยเพียงใดนั้น ที่ 1 และบรรยายน าเข้าสู่ 10
นอกจากคุณลักษณะเฉพาะบุคคลแล้ว จะต้องมีการฝึกฝน บทเรียน (-) (0)

พอสมควร เพื่อให้เกิดทักษะและความช านาญ นอกจากจะมี ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก [10]
ความช านาญแล้วงานที่ออกมาก็ต้องมีคุณภาพด้วย โดยต้อง หรือสอบถามข้อสงสัย

ค านึงของลักษณะรอยต่อ ชนิดของรอยต่อในการปฏิบัติงาน
แต่ละครั้ง ในการปฏิบัติงานเชื่อมจะต้องมีหลาย

องค์ประกอบที่จะช่วยงานที่ออกมามีคุณภาพและสามารถใช้
งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

1. ลักษณะรอยต่อและชนิดของรอยต่อ ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา
รอยต่อ คือ การประสานหรือท าการต่อชิ้นส่วนสอง ประกอบสื่อ Power point

ชิ้น หรือมากกว่านั้น ซึ่งอาจจะกระท าได้ โดยการยึดด้วย ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด

สกรู นัต การบัดกรี หรือการเชื่อมก็ตาม พอจะสรุปแบบ บันทึก
ของรอยต่อได้ดังนี้

1.1 รอยต่อชน (Butt Joint) เป็นการน าขอบงานทั้ง

สองชิ้นมาวางให้ขอบชนกัน ซึ่งจะมีการ
เว้นช่องว่างหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความหนาของงาน ดังใน

รูปที่ 1.1






รูปที่ 1.1 แสดงลักษณะของรอยต่อชน
ที่มา : นริศ ศรีเมฆและพิชัย โอภาสอนันต์. งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น.
(กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์เอมพันธ์, 2546), หน้า 12.
42
1.2 รอยต่อเกย (Lap Joint) ลักษณะการต่อเป็นการ (10)
น าชิ้นงานสองชิ้นมาซ้อนเกยกัน ซึ่งมีข้อดีคือ ไม่ต้อง A: 1-8 [52]

เสียเวลาในการเตรียมงานมาก การต่อเกยที่ดีนั้น ควรให้
ชิ้นงานทั้งสองชิ้นวางซ้อนกันแนบสนิทตลอดความยาว ดัง

ในรูปที่ 1.2








รูปที่ 1.2 แสดงลักษณะของรอยต่อเกย
ที่มา : นริศ ศรีเมฆและพิชัย โอภาสอนันต์. งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น.
(กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์เอมพันธ์, 2546), หน้า 13.

1.3 รอยต่อขอบ (Edge Joint) โดยทั่วไปใช้ออกแบบ

ส าหรับงานบาง ๆ และไม่นิยมเติมลวด
การต่องานลักษณะนี้สามารถกระท าได้ง่าย รวดเร็วและ

ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ดังในรูปที่ 1.3







รูปที่ 1.3 แสดงลักษณะของรอยต่อขอบ
ที่มา : นริศ ศรีเมฆและพิชัย โอภาสอนันต์. งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น.
(กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์เอมพันธ์, 2546), หน้า 13.

1.4 รอยต่อมุม (Corner Joint) การต่อมุมนี้มีลักษณะการ

ต่อคล้าย ๆ กับการเชื่อมรอยต่อแบบตัวที (T-Joint)
แตกต่างกันที่การวางรอยต่อมุมนั้นวางตั้งฉากกันบริเวณ

ขอบของชิ้นงานทั้งสองการเชื่อมต่อมุมสามารถเชื่อมได้ทั้ง
รอยต่อมุมภายใน และรอยต่อมุมภายนอก (Inside and

Outside Corner Joint Weld) ดังในรูปที่ 1.4







รูปที่ 1.4 แสดงลักษณะของรอยต่อมุม
ที่มา : นริศ ศรีเมฆและพิชัย โอภาสอนันต์. งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น.
(กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์เอมพันธ์, 2546), หน้า 14.


1.5 รอยต่อตัวที (T – Joint) การต่อจะวางชิ้นงานตั้งฉากกัน
บนความกว้างของงานอีกแผ่นหนึ่งการต่อลักษณะนี้จะต้อง

มีการเดิมลวดเชื่อม เพื่อให้งานมีความแข็งแรง นิยมใช้กัน
มากในการประกอบโครงสร้างของการสร้างอาคาร ดังใน

รูปที่ 1.5








รูปที่ 1.5 แสดงลักษณะรอยต่อตัวที
ที่มา : นริศ ศรีเมฆและพิชัย โอภาสอนันต์. งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น.
(กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์เอมพันธ์, 2546), หน้า 14.
การบากร่องรอยต่อ

ในการเชื่อมงาน แนวเชื่อมจะต้องมีความแข็งแรงเท่ากับ
หรือมากกว่าชิ้นงานที่น ามาเชื่อม

นั่นคือ แนวเชื่อมจะต้องมีการหลอมละลายตลอดความหนา

ของงาน ถ้าชิ้นงานไม่หนามากนัก
สามารถท าการเชื่อมได้ทันที แต่ถ้าชิ้นงานมีความหนาเกิน
กว่า 3 มิลลิเมตรขึ้นไป จะต้องมีการ

บากร่องชิ้นงาน เพื่อให้เกิดการซึมลึกและได้เนื้อรอยเชื่อม

ที่มากพอที่จะท าให้เกิดความแข็งแรง
โดยทั่วไปได้มีการออกแบบลักษณะการบากร่องรอยต่อไว้

ดังนี้





ต่อชนบากเฉียงด้านเดียว




ต่อชนบากรูปตัววีด้านเดียว




ต่อชนบากรูปตัวยูสองด้าน




ต่อชนไม่บาก

2. ลักษณะท่าเชื่อม (Welding Positions)
ในการเชื่อมแก๊ส บางครั้งไม่สามารถที่จะเชื่อมชิ้นงาน

ในท่าเชื่อมที่ถนัดได้ เพราะต้องเชื่อมในสถานการณ์ที่
บังคับท าให้ต้องท าการเชื่อมในต าแหน่งต่างๆ ท่าเชื่อมจะมี

อยู่ 4 ท่าด้วยกัน คือ
4.1 ท่าราบ (Flat Position) เป็นการเชื่อมที่ง่ายที่สุด โดย

วางชิ้นงานราบกับพื้น







รูปที่ 1.6 แสดงการเชื่อมท่าราบ
2.2 การเชื่อมท่าขนานนอน (Horizontal Position) การ
เชื่อมท่านี้รอยต่อชิ้นงานจะอยู่ในดิ่งตั้งฉากกับพื้นแนวเชื่อม

ขนานกับพื้น การเชื่อมต้องใช้เทคนิคการควบคุมน ้าโลหะ






รูปที่ 1.7 แสดงการเชื่อมท่าขนานนอน
2.3 การเชื่อมท่าตั้ง (Vertical Position) การเชื่อมท่านี้
ชิ้นงานจะตั้งฉากกับแนวระนาบ

อยู่ในแนวดิ่งการเชื่อมท่าตั้งสามารถเชื่อมได้ทั้งเชื่อมขึ้นและ

เชื่อมลง ดังในรูปที่ 4.8








รูปที่ 1.8 แสดงการเชื่อมท่าตั้ง
2.4 การเชื่อมท่าเหนือศีรษะ (Overhand position) เป็นท่า

เชื่อมที่รอยต่อของชิ้นงานอยู่ในต าแหน่งขนานกับระนาบอยู่
เหนือศีรษะ ดังในรูปที่ 1.9











รูปที่ 1.9 แสดงการเชื่อมท่าเหนือศีรษะ










สรุป

ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา
และถามค าถาม

ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ
กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย 8

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ (-) (52)
ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย [60]

ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว
แยกย้ายปฏิบัติงาน

มอบใบงานให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบใบงานให้นักเรียน

และอธิบายขั้นตอนในการ
ปฏิบัติงาน
180
ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว (60)

แยกย้ายปฏิบัติงาน (-) [240]





สรุป

ในการปฏิบัติงานเชื่อมต่อชนทั้งท่าราบ และท่าขนานนอนนั้นปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของแนวเชื่อม
นอกเหนือไปจากคุณสมบัติของผู้เชื่อมยังมีอีกหลายประการ ได้แก่ ความเร็วในการเชื่อม

การรักษาระยะห่างระหว่างหัวเชื่อมกับชิ้นงาน การส่ายลวดเชื่อม
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความช านาญและงานมีประสิทธิภาพผู้เชื่อมต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อให้เกิดทักษะในการการเชื่อม

ขั้นต่อไป
ค าถาม

1. ลักษณะท่าเชื่อมมีทั้งหมดกี่ท่า ได้แก่อะไรบ้าง ? ( จ,ข)
ตอบ 4 ท่า ได้แก่ 1. ท่าราบ 2. การเชื่อมท่าขนานนอน 3. การเชื่อมท่าตั้ง 4. การเชื่อมท่าเหนือศีรษะ

2. ท่าเชื่อมใดเป็นท่าเชื่อมที่ควบคุมบ่อหลอมละลายได้ง่ายที่สุด ? (น)

ตอบ ท่าราบ


ข้อสังเกตการสอน
ผู้สอน ผู้เรียน



ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้าน ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน
เนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน

ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้ การตอบค าถามของผู้เรียน
น ้าเสียงในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม




หมายเหตุ
สัญลักษณ์

(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้
(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า