The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jiraporn.nantarak, 2018-08-27 01:29:58

Network Diagram

เอกสารอ้างอิง

รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.


เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน

1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)
2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)
3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)

4. โปรเจคเตอร์ (Projector)

บันทึกหลังการสอน
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................


.......................................................................
( )

ผู้บันทึก

วิทยาลัยเทคนิคระยอง



เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)
วันที่ 8 มิถุนายน 2561 เวลา 08.30 – 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 การสอนครั้งที่ 4

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
การเชื่อมไฟฟ้ า(Arc Welding) เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- ความหมายของการเชื่อมไฟฟ้า 1. อธิบายเกี่ยวกับความหมายของการเชื่อมไฟฟ้าได้
- เครื่องมือและอุปกรณ์การเชื่อมไฟฟ้า อย่างถูกต้อง

งานปฏิบัติ 2. อธิบายคุณลักษณะเครื่องมือและอุปกรณ์งาน
- การเชื่อมไฟฟ้าเริ่มต้นอาร์กและเดินแนวช่วงสั้นๆ เชื่อมไฟฟ้าได้

3. ปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้าเริ่มต้นอาร์ก และเดินแนว
ช่วงสั้นๆได้

วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)
บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน

การเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ( Shielded และขานใบรายชื่อนักศึกษา
Metal Are Welding ) หรือการเชื่อมแบบ SMAW ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ

หมายถึง การเชื่อมที่เกิดจากการอาร์กระหว่างชิ้นงานและ ฟังชื่อแล้วขานรับ
ลวดเชื่อมโดยผ่านช่องว่างอากาศ ท าให้เกิดความร้อนขึ้นใน ผู้สอน : บอกเกณฑ์การ 10
(0)
บริเวณนั้น ความร้อนท าให้ลวดเชื่อมหลอมเหลวหยดลง ประเมินและท าข้อตกลงกับ (-) [10]

เป็นแนวเชื่อม โดยมีการฟลักซ์เป็นตัวปกคลุมแนวเชื่อม นักเรียน และบรรยายน าเข้าสู่
เพื่อป้องกันไม่ให้ออกซิเจนเข้าไปรวมตัวกับแนวเชื่อม บทเรียน
ตลอดจนความปลอดภัยในการเชื่อมไฟฟ้าตามหลักอาชีวอ ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก

นามัย เป็นการจัดสภาพแวดล้อม เช่น ฝุ่น เสียง แสง และ หรือสอบถามข้อสงสัย

เครื่องมืออุปกรณ์ได้มาตรฐานในการเชื่อมไฟฟ้า
1. ความหมายการเชื่อมไฟฟ้ าด้วยลวดเชื่อม

หุ้มฟลักซ์
การเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Shielded Metal

Arc Welding) หรือการเชื่อมแบบ SMAW หมายถึง การ
เชื่อมที่เกิดจากการอาร์กระหว่างชิ้นงานและลวดเชื่อม โดย

ผ่านช่องว่างของอากาศ ท าให้เกิดความร้อนขึ้นบริเวณนั้น

ความร้อนจะท าให้ลวดเชื่อมหลอมเหลวหยดลงในรอยต่อ
ของแนวเชื่อม โดยมีก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ของฟลักซ์ที่
หุ้มลวดเชื่อมเป็นตัวปกคลุมแนวเชื่อม เพื่อป้องกันไม่ให้

ออกซิเจนในอากาศรวมตัวกับแนวเชื่อม โดยฟลักซ์

หลอมเหลวจะลอยขึ้นปกคลุมแนวเชื่อม เรียกว่า สแล็ก ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา
(Slage) ประกอบสื่อ Power point

 ข้อดีของการเชื่อมเมื่อเปรียบเทียบกับการย ้าหมุด ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด
- โครงสร้างของงานไม่ยุ่งยาก บันทึก

- รอยต่อมีคุณภาพสูง 25
- สามารถป้องกันการรั่วไหลของแก๊ส ของเหลว A: 144 (10)

และอากาศได้ดี [35]
- ประหยัดวัสดุ

- ลดขั้นตอนการท างาน
- งานมีคุณภาพสูงคงทนและสวยงาม

- ลดต้นทุนการผลิต

- ลดเสียงดังขณะท างาน
 ข้อเสียของการเชื่อม

- ท าให้คุณสมบัติโลหะงานเชื่อมเปลี่ยนแปลง
- โลหะงานเชื่อมบิดตัวและหดตัว

- เกิดความเค้นตกค้างอยู่ในวัสดุงานเชื่อม
- การตรวจสอบคุณภาพของงานเชื่อมท าได้ยาก

- วัสดุงานเชื่อมมีความไวต่อการเกิดความเค้น
เฉพาะที่

2. เครื่องมือและอุปกรณ์เชื่อมไฟฟ้ า
2.1 หัวจับลวดเชื่อม ( Electrode Holder )

2.2 สายเชื่อม ( Welding Cable )

2.3 หัวจับสายดิน ( Ground Clamp )
2.4 เครื่องมือท าความสะอาด ( Cleaning Tool ) เป็น

อุปกรณ์ที่ใช้ท าความสะอาดชิ้นงานเชื่อม และแนวเชื่อม 10
ประกอบด้วย A : 161 (35)

- ค้อนเคาะสแลก( Chipping Hammer ) [45]
- แปรงลวด ( Wire Brush )

- คีมจับชิ้นงานร้อน ( Pliers )
- อุปกรณ์ป้องกันอันตราย ( Protective Equipment )

- หน้ากากเชื่อมชนิดสวมหัว ( Helmet )
- หน้ากากเชื่อมชนิดมือถือ ( Hand Shield )

3. ชุดปฏิบัติงานและชุดป้ องกันจากการเชื่อม

ช่างเชื่อมควรใส่ชุดปฏิบัติงานที่ท าจากฝ้ายหรือผ้าป้ายและ
ขนสัตว์ ห้ามน าชุดที่ท าจากวัสดุเทียมที่เป็นไนลอน เพราะ

จะติดไฟได้ง่าย ควรเป็นชุดที่สะอาด เพราะชุดที่สกปรก
หรือเปียกเหงื่อชุดนั้นจะเป็นตัวน าไฟฟ้าที่ดี เนื่องจากเหงื่อ

มีความเค็มหรือเกลือผสมอยู่ โดยเฉพาะชุดที่ใช้ผ้าหนาหรือ
ใส่หลายชุด จะเป็นฉนวนไฟฟ้ าได้ดี นอกจากชุดที่สวมใส่

แล้วยังต้องสวมใส่ชุดป้องกันอันตราย


การปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้ าเริ่มต้นอาร์กและเดินแนวช่วงสั้นๆ

เครื่องมือและอุปกรณ์
1. เครื่องเชื่อมไฟฟ้า Ac หรือ Dc

2. ค้อนเคาะสแลก
3. เหล็กตอกน าศูนย์

4. แปรงลวด
5. หน้ากากเชื่อมไฟฟ้า

6. คีมจับชิ้นงาน
7. ถุงมือหนัง 7

ล าดับขั้นตอนการท างาน A : 191 (45)
1. เลือกระบบกระแสไฟ Ac หรือ Dc [52]

2. ปรับกระแสไฟประมาณ 75-100 แอมป์
3. น าชิ้นงานวางบนโต๊ะเชื่อมบีบหัวจับลวดเชื่อม

4. เขี่ยลวดเชื่อมบนชิ้นงานไปมาให้เกิดการอาร์กโดยไม่ให้

ลวดเชื่อมติดกับชิ้นงาน
5. ขณะเขี่ยพยายามควบคุมให้ปลายลวดเชื่อมเกิดการอาร์ก
แล้วให้ยกปลายลวดขึ้นประมาณ 3 มม. แช่ไว้อยู่ที่เดิมอย่า

ให้ดับ ถ้าดับก็เขี่ยใหม่จนกระทั่งช านาญ

6. เริ่มต้นโดยวิธีเคาะ จ่อลวดเชื่อมลงบนผิวหน้างาน เคาะ
ลวดเชื่อมกับชิ้นงานเบา ๆ พอเกิดการอาร์กให้ยกขึ้น

ประมาณ 3 มม. อาร์กแช่ไว้ประมาณ 1-2 วินาที ฝึกจน
ช านาญ

7. น าชิ้นงานจริงตามที่ก าหนดแล้วใช้เหล็กน าศูนย์ตอก
เพื่อให้แนวตรงและระยะห่างเท่ากันประมาณ 15 มม.

8. เริ่มต้นเชื่อมที่ขอบทางซ้ายมือของชิ้นงานยาวประมาณ
30 มม. เว้น 30 มม. จ านวน 3 แนว

9. เชื่อมดังข้อ 8 ทั้ง 3 แถว

10. ใช้ค้อนเคาะสแลกออกให้หมดแล้วท าความสะอาดด้วย
แปรงลวด น าชิ้นงานส่งอาจารย์

11. ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ 7-10 จนเกิดความช านาญได้
ชิ้นงานที่มาตรฐาน


สรุป ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา

และถามค าถาม

ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ
กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ (-) 8

ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย (52)
[60]
ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว
แยกย้ายปฏิบัติงาน


มอบใบงานให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบใบงานให้นักเรียน

และอธิบายขั้นตอนในการ

ปฏิบัติงาน (-) 180
(60)
ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว [240]

แยกย้ายปฏิบัติงาน


สรุป

การเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Shielded Metal Arc Welding) หรือการเชื่อมแบบ SMAW
หมายถึง การเชื่อมที่เกิดจากการอาร์กระหว่างชิ้นงานและลวดเชื่อม โดยผ่านช่องว่างของอากาศ ท าให้เกิดความ

ร้อนขึ้นบริเวณนั้น ความร้อนจะท าให้ลวดเชื่อมหลอมเหลวหยดลงในรอยต่อของแนวเชื่อม โดยมีก๊าซที่เกิดจาก
การเผาไหม้ของฟลักซ์ที่หุ้มลวดเชื่อมเป็นตัวปกคลุมแนวเชื่อม เพื่อป้องกันไม่ให้ออกซิเจนในอากาศรวมตัวกับ

แนวเชื่อม โดยฟลักซ์หลอมเหลวจะลอยขึ้นปกคลุมแนวเชื่อม เรียกว่า สแล็ก (Slage)


ค าถาม
1. การเชื่อมแบบ SMAW มีชื่อเรียกเต็มว่าอะไร? (จ)

ตอบ การเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Shielded Metal Arc Welding)

2. ฟลักซ์หลอมเหลวจะลอยขึ้นปกคลุมแนวเชื่อม เรียกว่าอะไร ? (ข)
ตอบ สแล็ก (Slag)

หมายเหตุ

สัญลักษณ์
(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้

(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า


ข้อสังเกตการสอน


ผู้สอน ผู้เรียน


ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้าน ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน
เนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน

ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้ การตอบค าถามของผู้เรียน

น ้าเสียงในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น
หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม




เอกสารอ้างอิง
รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.



เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน
1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)

2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)
3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)

4. โปรเจคเตอร์ (Projector)


บันทึกหลังการสอน
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................


.......................................................................

( )
ผู้บันทึก



วิทยาลัยเทคนิคระยอง



เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)
วันที่ 15 มิถุนายน 2561 เวลา 08.30 – 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 การสอนครั้งที่ 5

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
การเชื่อมไฟฟ้ า(Are Welding) เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- ชนิดเครื่องเชื่อมไฟฟ้า 1. อธิบายความแตกต่างชนิดเครื่องเชื่อมไฟฟ้าได้
- ลักษณะการท างานของเครื่องเชื่อมไฟฟ้า อย่างถูกต้อง

งานปฏิบัติ 2. ปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้าเดินแนวท่าราบได้

- ปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้าเดินแนวท่าราบ
วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)
บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน

เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ( Welding Machines ) เป็น และขานใบรายชื่อนักศึกษา
อุปกรณ์ที่ส าคัญในกระบวนการเชื่อม เป็นตัวก าเนิด ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ

พลังงาน โดยผลิตและแรงเคลื่อนคงที่และเพียงพอ ฟังชื่อแล้วขานรับ 10

เหมาะสมกับการอาร์กเกิดความร้อนจนสามารถหลอมเหลว ผู้สอน : บอกเกณฑ์การ
ชิ้นงานได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด เครื่องเชื่อม ประเมินและท าข้อตกลงกับ (-) (0)
กระแสตรง และเครื่องเชื่อมกระแสสลับ นักเรียน และบรรยายน าเข้าสู่ [10]

บทเรียน

ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก
หรือสอบถามข้อสงสัย


ชนิดเครื่องเชื่อมไฟฟ้ า ( Electric Welding Machine ) ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา

เครื่องเชื่อมเป็นอุปกรณ์ที่ส าคัญในกระบวนการเชื่อมเป็น ประกอบสื่อ Power point
ตัวก าเนิดพลังงาน โดยผลิตกระแสและแรงเคลื่อนออกมา ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด

คงที่และเพียงพอที่จะท าให้การอาร์กเกิดความร้อนจน บันทึก
สามารถหลอมเหลวชิ้นงานที่มีความหนาต่าง ๆ ได้ 25

เครื่องไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ชนิด (A: 146) (10)
คือ [35]

1. ชนิดกระแสตรง ( Direct Current ) หรือเรียกว่า เครื่อง

เชื่อม DC
2. ชนิดกระแสสลับ( Alternating Current ) หรือเรียกว่า

เครื่องเชื่อม AC

เครื่องเชื่อมชนิดกระแสตรง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้

1.1 เครื่องเชื่อมแบบเจนเนอเรเตอร์ ( Welding Generator )
ใช้เจนเนเรเตอร์เป็นแหล่งพลังงาน เจนเนอเรเตอร์ส าหรับ

การเชื่อมจะถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ สามารถผลิตกระแสสูงที่
แรงเคลื่อนต ่าเป็นเครื่องเชื่อมี่ผลิตกระแสตรงจ่ายให้กับ

วงจรเชื่อม
1.2 เครื่องเชื่อมเรกติไฟเออร์ ( Rectifier Welding )

ประกอบด้วย หม้อแปลงและตัวเรียงกระแส (Rectifier )

ตัวเรียงกระแส เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เปลี่ยนกระแสสลับให้เป็น
กระแสตรง เครื่องเรียงกระแสสลับให้เป็นกระแสตรงจะใช้

สารกึ่งตัวน า
เครื่องกระแสตรงแบบเรกติไฟเออร์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด

คือ
1.2.1 เครื่องเชื่อมกระแสตรงต่อขั้วตรง ( Direct Current

Straight Polarity ) หรืออิเล็กโทรดเป็นขั้วลบ (Direct
Current Electrode Negative )

1.2.2 เครื่องเชื่อมกระแสตรงต่อกลับขั้ว ( Direct Current
Reverse Polarity ) หรืออิเล็กโทรดเป็นขั้วบวก (Direct

Current Electrode Positive )
เครื่องเชื่อมชนิดกระแสสลับ ( Alternating Current

Welding )
เครื่องเชื่อมกระแสสลับจะมีทรานส์ฟอร์เมอร์

(Transformers) เป็นส่วนประกอบที่ส าคัญหรือโดยทั่วไป
เรียกว่า หม้อแปลงไฟ โดยหม้อแปลงไฟฟ้า(Transformers)

จะแปลงแรงเคลื่อนไฟฟ้าจากภายนอกให้เป็นแรงเคลื่อน

ส าหรับใช้เชื่อม ( Welding Voltag ) หม้อแปลงนี้จะ
ประกอบด้วย

 ขดลวดปฐมภูมิ ( Primary Winding ) เป็นขดลวดขนาด
เล็กพันรอบแกนเหล็กจ านวนมาก ปลายทั้งสองข้างจะต่อเข้า

กับกระแสไฟจากภายนอก เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
ขดลวดจะท าให้เกิดเส้นแรงแม่เหล็กไหลวนในแกนเหล็ก

นั้น
 ขดลวดทุติยภูมิ ( Secondary Winding ) เป็นขดลวดที่

มีขนาดใหญ่ และจ านวนรอบที่พันอยู่บนแกนเหล็กน้อย
กว่าขดลวดปฐมภูมิ ที่ขดลวดทุติยภูมิจะมีเส้นแรงแม่เหล็ก

ซึ่งเกิดจากการเหนี่ยวน าของขดลวดปฐมภูมิไหลผ่านตัดกับ

ขดลวดทุติยภูมิท าให้เกิดความต้านทานต ่า และมีกระแสสูง
ประสิทธิภาพของเครื่องเชื่อม ( Duty Cycle )

ประสิทธิภาพของเครื่องเชื่อม หมายถึง ความสามารถ
ของเครื่องเชื่อมในการเชื่อม โดยเทียบอัตราส่วนระหว่าง

เวลาที่เชื่อมต่อเวลาทั้งหมด ซึ่งเวลาทั้งหมดจะเทียบจาก 10
นาที เช่น เครื่องเชื่อมที่มีประสิทธิภาพของเครื่องเชื่อม 60

% หมายถึง เครื่องเชื่อมเครื่องนี้สามารถเชื่อมติดต่อกัน
นาน 6 นาที แล้วหยุดพัก 4 นาที



การเชื่อมไฟฟ้ าเดินแนวท่าราบ
เครื่องมือและอุปกรณ์

1. เครื่องเชื่อมไฟฟ้า Ac หรือ Dc
2. ค้อนเคาะสแลก

3. เหล็กตอกน าศูนย์
4. แปรงลวด

5. หน้ากากเชื่อมไฟฟ้า
6. คีมจับชิ้นงาน

7. ถุงมือหนัง
8. เสื้อหนัง 10

ล าดับขั้นการท างาน A : 161 (35)
1. เตรียมงานเชื่อมใช้เหล็กตอกน าศูนย์เพื่อให้แนวตรงและ [45]

เป็นระยะห่างเท่ากัน ประมาณ 15 มม. ดังรูป

2. ตรวจสายเชื่อมและอุปกรณ์อื่น ๆ ให้เรียบร้อย
3. ปรับประแสไฟเชื่อมประมาณ 95-120แอมป์

4. เปิดเครื่องเชื่อมไฟฟ้า
5. เริ่มต้นเชื่อมแนวที่ 1 จากซ้ายไปขวาโดยไม่ส่ายลวด

เชื่อมตามแนวที่ตอกน าศูนย์ไว้
6. ท าความสะอาดแนวเชื่อมแล้วส่งอาจารย์ตรวจ เพื่อบอก

จุดบกพร่องและสิ่งที่แก้ไข
7. เชื่อมแนวที่ 2 ให้ขนานกับแนวที่ 1 ให้ศูนย์กลางของ

แนวเชื่อมห่างกัน 15 มม.
8. เชื่อมแนวต่อไปจนเต็มหน้าแผ่นงาน

9. ปิดเครื่องเชื่อมไฟฟ้า
10. เคาะสแลกท าความสะอาดชิ้นงานด้วยแปรงลวด น างาน

ส่งอาจารย์

11. ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ 5-10 จนเกิดความช านาญ ได้
ชิ้นงานที่มาตรฐาน


สรุป ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา

และถามค าถาม

ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ
กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย 8

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ (-) (52)
ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย [60]

ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว
แยกย้ายปฏิบัติงาน

มอบใบงานให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบใบงานให้นักเรียน
และอธิบายขั้นตอนในการ 180

ปฏิบัติงาน (-) (60)
ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว [240]

แยกย้ายปฏิบัติงาน


สรุป
เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ( Welding Machines ) เป็นอุปกรณ์ที่ส าคัญในกระบวนการเชื่อม เป็นตัวก าเนิด

พลังงาน โดยผลิตและแรงเคลื่อนคงที่และเพียงพอเหมาะสมกับการอาร์กเกิดความร้อนจนสามารถหลอมเหลว
ชิ้นงานได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด เครื่องเชื่อมกระแสตรง และเครื่องเชื่อมกระแสสลับ

ชนิดเครื่องเชื่อมไฟฟ้า ( Electric Welding Machine )
เครื่องเชื่อมเป็นอุปกรณ์ที่ส าคัญในกระบวนการเชื่อมเป็นตัวก าเนิดพลังงาน โดยผลิตกระแสและแรงเคลื่อน

ออกมาคงที่และเพียงพอที่จะท าให้การอาร์กเกิดความร้อนจนสามารถหลอมเหลวชิ้นงานที่มีความหนาต่าง ๆ ได้

เครื่องไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. ชนิดกระแสตรง ( Direct Current ) หรือเรียกว่า เครื่องเชื่อม DC

2. ชนิดกระแสสลับ ( Alternating Current ) หรือเรียกว่า เครื่องเชื่อม AC
เครื่องเชื่อมชนิดกระแสตรง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้

1. เครื่องเชื่อมแบบเจนเนอเรเตอร์ ( Welding Generator ) ใช้เจนเนเรเตอร์เป็นแหล่งพลังงาน เจนเนอเรเตอร์
ส าหรับการเชื่อมจะถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ สามารถผลิตกระแสสูงที่แรงเคลื่อนต ่าเป็นเครื่องเชื่อมี่ผลิตกระแสตรง

จ่ายให้กับวงจรเชื่อม
2. เครื่องเชื่อมเรกติไฟเออร์ ( Rectifier Welding ) ประกอบด้วย หม้อแปลงและตัวเรียงกระแส (Rectifier ) ตัว

เรียงกระแส เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เปลี่ยนกระแสสลับให้เป็นกระแสตรง เครื่องเรียงกระแสสลับให้เป็นกระแสตรงจะ

ใช้สารกึ่งตัวน า

เครื่องเชื่อมชนิดกระแสสลับ ( Alternating Current Welding )
เครื่องเชื่อมกระแสสลับจะมีทรานส์ฟอร์เมอร์ (Transformers) เป็นส่วนประกอบที่ส าคัญหรือโดยทั่วไปเรียกว่า

หม้อแปลงไฟ โดยหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformers) จะแปลงแรงเคลื่อนไฟฟ้าจากภายนอกให้เป็นแรงเคลื่อน
ส าหรับใช้เชื่อม ( Welding Voltag ) หม้อแปลงนี้จะประกอบด้วย

• ขดลวดปฐมภูมิ ( Primary Winding ) เป็นขดลวดขนาดเล็กพันรอบแกนเหล็กจ านวนมาก ปลายทั้งสองข้างจะต่อ
เข้ากับกระแสไฟจากภายนอก เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดจะท าให้เกิดเส้นแรงแม่เหล็กไหลวนในแกนเหล็ก

นั้น
• ขดลวดทุติยภูมิ ( Secondary Winding ) เป็นขดลวดที่มีขนาดใหญ่ และจ านวนรอบที่พันอยู่บนแกนเหล็กน้อย

กว่าขดลวดปฐมภูมิ ที่ขดลวดทุติยภูมิจะมีเส้นแรงแม่เหล็ก ซึ่งเกิดจากการเหนี่ยวน าของขดลวดปฐมภูมิไหลผ่าน

ตัดกับขดลวดทุติยภูมิท าให้เกิดความต้านทานต ่า และมีกระแสสูง


ค าถาม
1. เครื่องเชื่อมชนิดกระแสตรง แบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง? (จ)

ตอบ 2 ประเภท ได้แก่ 1. เครื่องเชื่อมแบบเจนเนอเรเตอร์ 2. เครื่องเชื่อมเรกติไฟเออร์
2. จงอธิบายลักษณะของขดลวดทุติยภูมิ มาพอสังเขป? (ข)

ตอบ เป็นขดลวดที่มีขนาดใหญ่ และจ านวนรอบที่พันอยู่บนแกนเหล็กน้อยกว่าขดลวดปฐมภูมิ ที่ขดลวด
ทุติยภูมิจะมีเส้นแรงแม่เหล็ก



ข้อสังเกตการสอน

ผู้สอน ผู้เรียน


ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้าน ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน
เนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน

ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้ การตอบค าถามของผู้เรียน
น ้าเสียงในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม


หมายเหตุ

สัญลักษณ์
(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้

(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า


เอกสารอ้างอิง
รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.

เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน

1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)
2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)

3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)
4. โปรเจคเตอร์ (Projector)


บันทึกหลังการสอน

......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................


.......................................................................
( )

ผู้บันทึก

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ภาควิชาครุศาสตร์อุตสาหการ
เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)

วันที่ 22 มิถุนายน 2561 เวลา 08.30 – 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 การสอนครั้งที่ 6
หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

การเชื่อมไฟฟ้ า(Are Welding) เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- ลวดเชื่อมเปลือยและลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ 1. อธิบายลวดเชื่อมเปลือยและลวดหุ้ม ฟลักซ์ ได้
- ฟลักซ์ส าหรับกระบวนการเชื่อมไฟฟ้า อย่างถูกต้อง

- การเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้า 2. บอกหน้าที่ของฟลักซ์เชื่อมไฟฟ้า ได้
- ข้อเปรียบเทียบลวดเชื่อมเปลือยกับลวดเชื่อมหุ้ม 3. อธิบายวิธีการเลือกลวดเชื่อมไฟฟ้าได้อย่าง

ฟลักซ์ ถูกต้อง
งานปฏิบัติ 4. ปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้าโดยการฝึกต่อแนวเชื่อมได้

- การเชื่อมไฟฟ้าโดยการฝึกต่อแนวเชื่อม

วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)

บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน
ลวดเชื่อมจะท าหน้าที่เป็นตัวอาร์กกับโลหะงานจะท าให้ และขานใบรายชื่อนักศึกษา

เกิดความร้อนสูง จนกระทั่งชิ้นงานหลอมเหลวตัวมันเองก็ ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ
จะหลอมเหลวเติมบนเนื้อโลหะเชื่อมฟลักซ์ ( Flux ) ท า ฟังชื่อแล้วขานรับ

การหุ้มแกนลวดเชื่อมและแกนลวดเชื่อมมีหน้าที่ส าคัญสอง ผู้สอน : บอกเกณฑ์การ 10

อย่างคือ เป็นขั้วไฟฟ้าและเป็นตัวเติมเนื้อโลหะลงในแนว ประเมินและท าข้อตกลงกับ (-) (0)
เชื่อม ตลอดจนการเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้าต้องเหมาะสม นักเรียน และบรรยายน าเข้าสู่ [10]

กับงานเชื่อม และข้อเปรียบเทียบลวดเชื่อมเปลือยกับลวด บทเรียน
เชื่อมหุ้มฟลักซ์ ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก

หรือสอบถามข้อสงสัย


1. ลวดเชื่อมไฟฟ้ า ( Electrode ) ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา
ลวดเชื่อมไฟฟ้าจะท าหน้าที่เป็นตัวอาร์กกับโลหะงาน ท า ประกอบสื่อ Power point

ให้เกิดความร้อนสูง จนกระทั่งโลหะงานหลอมเหลว ใน ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด
ขณะเดียวกันตัวมันเองก็จะหลอมเหลว และจะเติมลงบน บันทึก

เนื้อโลหะเชื่อมและเมื่อเย็นตัวลงจะแข็งตัวกลายเป็นแนว
เชื่อม เพื่อให้ได้แนวเชื่อมที่แข็งแรงเนื้อโลหะรวมตัวเป็น

เนื้อเดียวกัน ลวดเชื่อมและโลหะงานที่จะน ามาเชื่อม
จะต้องเป็นโลหะชนิดเดียวกัน

 ลวดเชื่อมโลหะ ( Metallic Electrode ) แบ่งออกเป็น

2 ชนิด ดังนี้คือ
1. ลวดเชื่อมเปลือย ( Bare Electrode )

2. ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ( Flux Covered Electrode ) แบ่ง
ออก ได้เป็น

2.1 หุ้มฟลักซ์หนา
2.2หุ้มฟลักซ์บาง

ลวดเชื่อมเปลือย ( Bare Electrode )

ลวดเชื่อมเปลือยจะเป็นแกนเหล็ก ซึ่งไม่มีฟลักซ์หุ้ม
เป็นลวดเชื่อมแบบเก่า ปัจจุบันยังคงมีใช้อยู่เพื่อเชื่อมงาน

บางประการที่ไม่ต้องการคุณภาพของแนวเชื่อม ซึ่งแนว
เชื่อม (Bead) ที่ได้จะมีความแข็งแรงน้อยกว่าแนวเชื่อมที่

เชื่อมด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Flux) เนื่องจากการเชื่อมด้วย
ลวดเชื่อมเปลือย ไนโตรเจนและออกซิเจนในอากาศมี 35

โอกาสเข้าไปรวมตัวกับแนวเชื่อมได้ และน ้าโลหะที่หยดลง (A: 152) (10)
จะมีรูปร่างเป็นเม็ดขนาดใหญ่ [45]

ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ( Flux Covered Electrode )
อิเล็กโทรดหุ้มฟลักซ์นี้จะผ่านขบวนการผลิตโดยใช้

วัสดุปกคลุมที่เรียกว่า ฟลักซ์ (Flux) ท าการหุ้มแกนลวด
เชื่อม (Core Wire) แกนลวดเชื่อมมีหน้าที่ส าคัญสองอย่าง

คือ เป็นขั้วไฟฟ้าและในขณะเดียวกันก็เป็นตัวเติมเนื้อโลหะ
ลงในแนวเชื่อมด้วย

2. ฟลักซ์ ( Flux )

ฟลักซ์ที่ใช้หุ้มแกนลวดประกอบด้วยแร่ธาตุหลายชนิด
ด้วยกัน เช่น ใยแร่ เฟลด์สปาร์ (Feldspar) ไทเทเนียมได

ออกไซด์ (Titanium Dioxide) ไมกา (Mica) แคลเซียม
คาร์บอเนต (Calcium) ถ้าหากเป็นลวดชนิดพิเศษ จะมี

ส่วนผสมของเกลือโลหะผสมอยู่ด้วย เพื่อช่วยให้แนวเชื่อม
เป็นโลหะเจือที่สมบูรณ์

หน้าที่ของฟลักซ์
เมื่อมีการเชื่อมเกิดขึ้น ฟลักซ์ที่ใช้พอกหุ้มลวดเชื่อมจะ

หลอมเหลวพร้อมกับลวดเชื่อมและท าหน้าที่ดังนี้
1. ช่วยให้เกิดระบบการอาร์กที่ดี

2. ช่วยในการสร้างสแลก

3. ช่วยในการสร้างแก๊สป้องกันบ่อหลอมเหลว

4. ช่วยเติมและรักษาคุณสมบัติของธาตุที่ผสมอยู่ และช่วย

ให้แนวเชื่อมมีคุณสมบัติตามต้องการ
คุณสมบัติของฟลักซ์ที่ดี

1. มีความถ่วงจ าเพาะต ่า เพื่อให้สามารถลอยตัวขึ้นมาจาก
น ้าโลหะเหลวได้

2. จะต้องมีอุณหภูมิการหลอมเหลวเมื่อเกิดการอาร์ก
3. เมื่อหลอมเหลวจะเกิดกลุ่มควันซึ่งเป็นแก๊สชนิดหนึ่ง

เพื่อป้องกันและขับไล่แก๊สจากภายนอกไม่ให้เข้าไปท าให้

เกิดผลเสียต่อแนวเชื่อม
4. ต้องหุ้มแกนลวดได้แน่น ไม่แตกหรือหลุดจากแกนลวด

ได้ง่าย
การเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้ า

การเลือกใช้ลวดเชื่อมให้เหมาะสมกับงานเชื่อมนั้นมี
หลักพิจารณาดังนี้

1) ความแข็งแรงของโลหะงาน (Base Metal Strength
Properties)

2) ส่วนผสมของโลหะงาน
3) ต าแหน่งท่าเชื่อม

4) กระแสไฟเชื่อม
5) การออกแบบและประกอบรอยต่อ

6) รูปร่างและความหนาของโลหะงาน
7) สภาพการใช้งานและข้อก าหนด

8) ประสิทธิภาพในการผลิตและสภาพของงาน

มาตรฐานของลวดเชื่อม ( Standard of Electrode )
การผลิตลวดเชื่อมใช้ในวงการอุตสาหกรรม จ าเป็นต้อง

ควบคุมคุณภาพให้ได้ตามบริษัทหรือประเทศผู้ผลิต แต่ละ
ประเทศก็มีการผลิตลวดเชื่อมต่างก็มีมาตรฐานของตนเอง


ข้อเปรียบเทียบอาร์กด้วยลวดเชื่อมเปลือยกับลวดเชื่อมหุ้ม

ฟลักซ์

ลวดเชื่อมเปลือย
1. ล าอาร์กที่เกิดขึ้นไม่เป็นระเบียบ ยากต่อการควบคุมแนว

เชื่อม
2. จากล าอาร์กที่ไม่เป็นระเบียบ ขณะเชื่อมจะเกิดน ้าโลหะ

กระเด็นมาก ( Spater )

3. การซึมลึกของแนวเชื่อมน้อย

4. ขณะเชื่อมไม่มีแก๊สเฉื่อยปกคลุมแนวเชื่อมโอกาส
ที่อากาศเข้ารวมตัวกับแนวเชื่อมมากท าให้แนวเชื่อมเกิดรอย

พรุนเพราะฟองอากาศ
5. เมื่อเชื่อมเสร็จจะไม่มีขี้ตะกรันปกคลุมแนวเชื่อม

ท าให้แนวเชื่อมเย็นตัวอย่างรวดเร็วชิ้นงานจะหดตัวเร็วด้วย
ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชิ้นงานอาจจะท าให้ชิ้นแตกร้าวได้

ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

1. ล าอาร์กที่เกิดขึ้นเป็นระเบียบสามารถควบคุมแนวเชื่อม
ง่าย

2. จากล าอาร์กที่เป็นระเบียบ ขณะเชื่อมจะเกิดน ้าโลหะ
กระเด็นน้อย

3. การซึมลึกของแนวเชื่อมมาก
4. ขณะเชื่อมฟลักซ์หุ้มลวดเชื่อมได้รับความร้อนบางส่วนจะ

ระเหยเป็นแก๊สเฉื่อยปกคลุมแนว เชื่อมป้องกันอากาศเข้า
รวมตัวกับแนวเชื่อม จะไม่เกิดรอยพรุนเพราะฟองอากาศ

5. เมื่อเชื่อมเสร็จจะมีขี้ตะกรันปกคลุมแนวเชื่อม ท าให้แนว
เชื่อมเย็นตัวอย่างช้า ๆ ชิ้นงานจะหดตัวอย่างช้า ๆ จึงเป็น

ผลดีต่อชิ้นงาน


การปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้ าโดยการฝึกต่อแนวเชื่อม
เครื่องมือและอุปกรณ์

1. เครื่องเชื่อมไฟฟ้าและอุปกรณ์

2. หน้ากากเชื่อมไฟฟ้า
3. ค้อนเคาะสแลก

4. คีมจับชิ้นงานร้อน 7
5. แปรงลวดท าความสะอาด A : 197 (45)

6. เหล็กตอกน าศูนย์ [52]
7. ถุงมือหนัง

8. เสื้อหนัง

ล าดับขั้นตอนการท างาน
1. เตรียมชิ้นงานที่ฝึกการเดินแนวระยะสั้นมาใช้ในการ
เชื่อมต่อแนวเชื่อม

2. ปรับกระแสไฟเชื่อมประมาณ 95-120 แอมป์

3. เปิดเครื่องเชื่อมไฟฟ้า

4. ท าความสะอาดชิ้นงาน

5. ตอกน าศูนย์ให้เป็นรอยเพื่อใช้ในการสังเกตในการเดิน
การเชื่อม

6. ท าการเชื่อมต่อแนวเชื่อม
7. ท าความสะอาดแนวเชื่อมหลังการเชื่อม

8. ตอกรหัสแล้วส่งตรวจ







สรุป ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา
และถามค าถาม

ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ
กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย 8

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ (-) (52)

ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย [60]
ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว
แยกย้ายปฏิบัติงาน

มอบใบงานให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบใบงานให้นักเรียน

และอธิบายขั้นตอนในการ 180
ปฏิบัติงาน (-) (60)

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว [240]
แยกย้ายปฏิบัติงาน



สรุป
ลวดเชื่อมไฟฟ้ า ( Electrode )

ลวดเชื่อมไฟฟ้าจะท าหน้าที่เป็นตัวอาร์กกับโลหะงาน ท าให้เกิดความร้อนสูง จนกระทั่งโลหะงานหลอมเหลว ใน
ขณะเดียวกันตัวมันเองก็จะหลอมเหลว และจะเติมลงบนเนื้อโลหะเชื่อมและเมื่อเย็นตัวลงจะแข็งตัวกลายเป็นแนว

เชื่อม เพื่อให้ได้แนวเชื่อมที่แข็งแรงเนื้อโลหะรวมตัวเป็นเนื้อเดียวกัน ลวดเชื่อมและโลหะงานที่จะน ามาเชื่อม
จะต้องเป็นโลหะชนิดเดียวกัน

ลวดเชื่อมโลหะ ( Metallic Electrode ) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้คือ
1. ลวดเชื่อมเปลือย ( Bare Electrode )

2. ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ( Flux Covered Electrode )
2.1 หุ้มฟลักซ์หนา

2.2 หุ้มฟลักซ์บาง

ลวดเชื่อมเปลือย ( Bare Electrode )
ลวดเชื่อมเปลือยจะเป็นแกนเหล็ก ซึ่งไม่มีฟลักซ์หุ้ม เป็นลวดเชื่อมแบบเก่า ปัจจุบันยังคงมีใช้อยู่เพื่อเชื่อมงาน

บางประการที่ไม่ต้องการคุณภาพของแนวเชื่อม ซึ่งแนวเชื่อม (Bead) ที่ได้จะมีความแข็งแรงน้อยกว่าแนวเชื่อมที่
เชื่อมด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Flux) เนื่องจากการเชื่อมด้วยลวดเชื่อมเปลือย ไนโตรเจนและออกซิเจนในอากาศมี

โอกาสเข้าไปรวมตัวกับแนวเชื่อมได้ และน ้าโลหะที่หยดลงจะมีรูปร่างเป็นเม็ดขนาดใหญ่
ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ( Flux Covered Electrode )

อิเล็กโทรดหุ้มฟลักซ์นี้จะผ่านขบวนการผลิตโดยใช้วัสดุปกคลุมที่เรียกว่า ฟลักซ์ (Flux) ท าการหุ้มแกนลวด

เชื่อม (Core Wire) แกนลวดเชื่อมมีหน้าที่ส าคัญสองอย่างคือ เป็นขั้วไฟฟ้าและในขณะเดียวกันก็เป็นตัวเติมเนื้อ
โลหะลงในแนวเชื่อมด้วย

ฟลักซ์ ( Flux )
ฟลักซ์ที่ใช้หุ้มแกนลวดประกอบด้วยแร่ธาตุหลายชนิดด้วยกัน เช่น ใยแร่ เฟลด์สปาร์ (Feldspar) ไทเทเนียม

ไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ไมกา (Mica) แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium) ถ้าหากเป็นลวดชนิดพิเศษ จะมี
ส่วนผสมของเกลือโลหะผสมอยู่ด้วย เพื่อช่วยให้แนวเชื่อมเป็นโลหะเจือที่สมบูรณ์

หน้าที่ของฟลักซ์
เมื่อมีการเชื่อมเกิดขึ้น ฟลักซ์ที่ใช้พอกหุ้มลวดเชื่อมจะหลอมเหลวพร้อมกับลวดเชื่อมและท าหน้าที่ดังนี้

1. ช่วยให้เกิดระบบการอาร์กที่ดี
2. ช่วยในการสร้างสแลก

3. ช่วยในการสร้างแก๊สป้องกันบ่อหลอมเหลว

4. ช่วยเติมและรักษาคุณสมบัติของธาตุที่ผสมอยู่ และช่วยให้แนวเชื่อมมีคุณสมบัติตามต้องการ
คุณสมบัติของฟลักซ์ที่ดี

1. มีความถ่วงจ าเพาะต ่า เพื่อให้สามารถลอยตัวขึ้นมาจากน ้าโลหะเหลวได้
2. จะต้องมีอุณหภูมิการหลอมเหลวเมื่อเกิดการอาร์ก

3. เมื่อหลอมเหลวจะเกิดกลุ่มควันซึ่งเป็นแก๊สชนิดหนึ่งเพื่อป้ องกันและขับไล่แก๊สจากภายนอกไม่ให้เข้าไปท าให้
เกิดผลเสียต่อแนวเชื่อม

4. ต้องหุ้มแกนลวดได้แน่นไม่แตกหรือหลุดจากแกนลวดได้ง่าย
การเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้า

การเลือกใช้ลวดเชื่อมให้เหมาะสมกับงานเชื่อมนั้นมีหลักพิจารณาดังนี้
1. ความแข็งแรงของโลหะงาน (Base Metal Strength Properties)

2. ส่วนผสมของโลหะงาน

3. ต าแหน่งท่าเชื่อม
4. กระแสไฟเชื่อม
5. การออกแบบและประกอบรอยต่อ

6. รูปร่างและความหนาของโลหะงาน

7. สภาพการใช้งานและข้อก าหนด

8. ประสิทธิภาพในการผลิตและสภาพของงาน

มาตรฐานของลวดเชื่อม ( Standard of Electrode )
การผลิตลวดเชื่อมใช้ในวงการอุตสาหกรรม จ าเป็นต้องควบคุมคุณภาพให้ได้ตามบริษัทหรือประเทศผู้ผลิต

แต่ละประเทศก็มีการผลิตลวดเชื่อมต่างก็มีมาตรฐานของตนเอง

ข้อเปรียบเทียบอาร์กด้วยลวดเชื่อมเปลือยกับลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์
ลวดเชื่อมเปลือย

1. ล าอาร์กที่เกิดขึ้นไม่เป็นระเบียบ ยากต่อการควบคุมแนวเชื่อม
จากล าอาร์กที่ไม่เป็นระเบียบ ขณะเชื่อมจะเกิดน ้าโลหะกระเด็นมาก ( Spater )

2. การซึมลึกของแนวเชื่อมน้อย
3. ขณะเชื่อมไม่มีแก๊สเฉื่อยปกคลุมแนวเชื่อมโอกาสที่อากาศเข้ารวมตัวกับแนวเชื่อมมากท าให้แนวเชื่อมเกิด

รอยพรุนเพราะฟองอากาศ
4. เมื่อเชื่อมเสร็จจะไม่มีขี้ตะกรันปกคลุมแนวเชื่อม ท าให้แนวเชื่อมเย็นตัวอย่างรวดเร็วชิ้นงานจะหดตัวเร็วด้วย

ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชิ้นงานอาจจะท าให้ชิ้นแตกร้าวได้
ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

1. ล าอาร์กที่เกิดขึ้นเป็นระเบียบสามารถควบคุมแนวเชื่อมง่าย
2. จากล าอาร์กที่เป็นระเบียบ ขณะเชื่อมจะเกิดน ้าโลหะกระเด็นน้อย

3. การซึมลึกของแนวเชื่อมมาก
4. ขณะเชื่อมฟลักซ์หุ้มลวดเชื่อมได้รับความร้อนบางส่วนจะระเหยเป็นแก๊สเฉื่อยปกคลุมแนว เชื่อมป้องกัน

อากาศเข้ารวมตัวกับแนวเชื่อม จะไม่เกิดรอยพรุนเพราะฟองอากาศ

ค าถาม
1. จงบอกหน้าที่ของฟลักซ์ มาอย่างน้อย 2 ข้อ ? (ข)

ตอบ 1. ช่วยให้เกิดระบบการอาร์กที่ดี 2. ช่วยในการสร้างสแลก
2. จงอธิบายหน้าที่ของลวดเชื่อมไฟฟ้า มาพอสังเขป? (ข)

ตอบ เป็นตัวอาร์กกับโลหะงาน ท าให้เกิดความร้อนสูง จนกระทั่งโลหะงานหลอมเหลว ในขณะเดียวกัน
ตัวมันเองก็จะหลอมเหลว และจะเติมลงบนเนื้อโลหะเชื่อมและเมื่อเย็นตัวลงจะแข็งตัวกลายเป็นแนวเชื่อม



ข้อสังเกตการสอน
ผู้สอน ผู้เรียน

ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้าน ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน

เนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน
ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้ การตอบค าถามของผู้เรียน


น ้าเสียงในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม

หมายเหตุ

สัญลักษณ์
(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้

(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า


เอกสารอ้างอิง

รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.


เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน
1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)

2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)
3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)

4. โปรเจคเตอร์ (Projector)


บันทึกหลังการสอน
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................


.......................................................................
( )

ผู้บันทึก

วิทยาลัยเทคนิคระยอง



เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)
วันที่ 29 มิถุนายน 2561 เวลา 08.30 – 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 การสอนครั้งที่ 7

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
การเชื่อมไฟฟ้ า(Are Welding) เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- การเดินแนวเชื่อมและการเกิดขี้ตะกรัน 1. อธิบายการเดินแนวเชื่อมและการเกิดขี้ตะกรันได้
- ลักษณะรอยต่อ อย่างถูกต้อง

- องค์ประกอบของการเชื่อมไฟฟ้า 2. อธิบายลักษณะรอยต่อและองค์ประกอบของการ
งานปฏิบัติ เชื่อมได้อย่างถูกต้อง

- การเชื่อมต่อชนท่าราบ 3. ปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้าต่อชนท่าราบได้
วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)

บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน
การที่จะให้ได้งานเชื่อมที่มีคุณภาพนั้นจ าเป็นต้อง และขานใบรายชื่อนักศึกษา

อาศัยเทคนิคและองค์ประกอบต่างๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะ ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ

การเชื่อมที่ ควบคุมด้วยมือ ช่างเชื่อมจะต้องมีการควบคุม ฟังชื่อแล้วขานรับ
แอ่งหลอมละลาย เพื่อให้ได้แนวเชื่อมที่สมบูรณ์ ส าหรับผู้ที่ ผู้สอน : บอกเกณฑ์การ 10
ฝึกหัดเชื่อมจะประสบความส าเร็จมากน้อยเพียงใดนั้น ประเมินและท าข้อตกลงกับ (-) (0)

นอกจากคุณลักษณะเฉพาะบุคคลแล้ว จะต้องมีการฝึกฝน นักเรียน และบรรยายน าเข้าสู่ [10]

พอสมควร เพื่อให้เกิดทักษะและความช านาญ ซึ่งการเชื่อม บทเรียน
ด้วยมือนั้น แต่ละคนจะมีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวแตกต่างกัน ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก

ไป หรือสอบถามข้อสงสัย
ดังนั้นถ้าเพียงคิดว่าจะศึกษาจากต าราคู่มือ โดยไม่ได้ลง

มือปฏิบัติแล้ว ก็ไม่สามารถเป็นช่างเชื่อมที่มีฝีมือได้


การเดินแนวเชื่อมและการเกิดขี้ตะกรัน ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา
การเดินแนวเชื่อม ประกอบสื่อ Power point

การเดินแนวเชื่อมไฟฟ้าต้องค านึงถึงแนวเชื่อม ท่าเชื่อม ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด
ชนิดของลวดเชื่อม (ชนิดของสารพอกหุ้ม) และความหนา บันทึก

ของแนวเชื่อมการเดินแนวเชื่อมท าได้ดังนี้

รูปที่ 1 การเดินแนวเชื่อมซิกแซ็ก

การเดินแนวเชื่อมแนวระนาบ
1) เดินแนวตรงไม่ส่ายลวด แนวเชื่อมเล็ก แนวนูน

2) เดินแนวส่ายลวดเชื่อม ต้องการแนวเชื่อมกว้าง
แนวเชื่อมเว้าตรงกลาง





35

รูปที่ 2 ลักษณะการส่ายลวดเชื่อมแนวระนาบ (A: 170 (10)
การเดินแนวเชื่อมตั้งขึ้นและลง -179) [45]
1) ตั้งขึ้น ให้เชื่อมส่ายลวดเชื่อมแบบซิกแซ็กขึ้นบน

2) เชื่อมลง ส่ายลวดเชื่อมแบบสามเหลี่ยมจากบนลงล่าง
3) เชื่อมลง ส่ายลวดเชื่อมแบบครึ่งวงกลมจากบนลงล่าง








รูปที่ 3 การเดินแนวเชื่อมตั้งขึ้นและลง
1. การเกิดขี้ตะกรันปกคลุมแนวเชื่อม

การเกิดขี้ตะกรันปกคลุมแนวเชื่อม ในขณะเชื่อมต้องใช้
ความร้อนมาก ความร้อนที่ได้ในงานเชื่อมไฟฟ้า คือ อาร์ก

ไฟฟ้า ซึ่งให้ความร้อนสูง 3,500OC ขณะเกิดอาร์กลวด

เชื่อมและชิ้นงานได้รับความร้อนมาก จึงหลอมเหลวพร้อม
กัน และรวมกันในแอ่งหลอมเหลว น ้าเหล็กในแอ่ง
หลอมเหลวแยกออกได้เป็นน ้าฟลักซ์และน ้าเหล็ก

น ้าฟลักซ์ ได้จากการหลอมเหลวของฟลักซ์ที่หุ้มลวดเชื่อม

ซึ่งเมื่อได้รับความร้อนจะ หลอมเหลวเปลี่ยนสภาพเป็น
แก๊สเฉื่อยปกคลุมแนวเชื่อม

น ้าเหล็ก เกิดขึ้นจากลวดเชื่อมและชิ้นงานหลอมเหลว
รวมตัวกัน ส่วนที่หลอมเหลวจาก ลวดเชื่อม จะเป็น

ปริมาตรที่เพิ่มเติมเข้าในชิ้นงานและนูนจากผิวชิ้นงานเป็น

แนวเชื่อม







รูปที่ 4 ลักษณะการอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์
การรวมตัวของน ้าฟลักซ์และน ้าเหล็ก

น ้าฟลักซ์และน ้าเหล็ก จะรวมตัวกระจายอยู่ทั่วไป
ในแอ่งหลอมเหลว ในดังรูปที่ 5 น ้าเหล็ก น ้าฟลักซ์จะ

ลอยตัวอยู่เหนือแนวเชื่อมส่วนน ้าฟลักซ์ที่อยู่ด้านล่างของ
แนวเชื่อม จะลอยตัวขึ้นอยู่เหนือแนวเชื่อมเช่นกัน แต่ส่วนที่

อยู่ล่างสุดของแนวเชื่อมจะลอยตัวไม่ทัน เพราะโดนอากาศ
จะแข็งตัวเป็นขี้ตะกรันก่อนที่จะลอยตัวขึ้นด้านบนการ

แข็งตัวของน ้าฟลักซ์เป็นขี้ตะกรันก่อนที่จะลอยตัวขึ้น
ด้านบนการแข็งตัวของน ้าฟลักซ์เป็นขี้ตะกรันคลุมแนวเชื่อม

เป็นฉนวนป้องกันอากาศเข้าท าปฏิกิริยากับแนวเชื่อมและ
ควบคุมแนวเชื่อมให้เย็นตัวลงอย่างช้าๆ ดังในรูปที่ 6







รูปที่ 5 ลักษณะสารในแอ่งหลอมละลาย







รูปที่ 6 ลักษณะแนวเชื่อมเย็นตัว
2. ลักษณะการออกแบบรอยต่อ
การออกแบบรอยต่อ (Joint design) เป็นการเตรียม

รอยต่อของชิ้นงานก่อนการเชื่อมเพื่อให้ท าการเชื่อมได้แนว
ต่อที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ ส าหรับชิ้นงานเชื่อมแต่ละ

แบบและแต่ละชนิดที่น ามาต่อเข้าด้วยกัน จะมีลักษณะ
รอยต่อที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปร่างลักษณะงานและการ

น าไปใช้ โดยรอยต่อพื้นฐานมีอยู่ 5 ชนิด (Five basic
Joint) คือ

1.1 รอยต่อชน (Butt joint)

1.2 รอยต่อเกย (Lap joint)
1.3 รอยต่อมุม (Corner joint)

1.4 รอยต่อตัวที (T - joint)
1.5 รอยต่อขอบ (Edge joint)






รูปที่ 7 รอยต่อพื้นฐาน 5 ชนิด (Basic types of joints)
1.1 รอยต่อชน (Butt joint)
รอยต่อชน เป็นชนิดของรอยต่อที่นิยมใช้กันมาก

เป็นการต่อเข้าด้วยกันโดยการหลอม
เหลวผิวหน้าของขอบชิ้นงานทั้งสองซึ่งอยู่ในระดับเดียวกัน

ให้หลอมเหลวติดกัน ส าหรับชิ้นงานที่มีความหนาต ่ากว่า

3/16 นิ้ว ใช้วิธีต่อชนโดยไม่ต้องบากงาน อาจใช้วิธีต่อ
ชิ้นงานติดกัน (ClosedButt) หรือจะใช้วิธีต่อชิ้นงานเว้น

ระยะห่าง (Open butt) ขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นงาน ดัง
รูป8 ชิ้นงานที่มีความหนา 3/8 นิ้ว หรือหนากว่านี้แต่ไม่

เกิน ¾ นิ่ว ต้องบากชิ้นงานแบบรูปตัววีด้านเดียว (Single –
V butt joint)






รูปที่ 8 ชนิดของรอยต่อชนไม่บากงาน
ส าหรับงานที่มีความหนามากขึ้น (เกินกว่า ¾ นิ้ว) และ
รับแรงมากๆ ต้องเชื่อมทั้งสองด้าน
ของชิ้นงาน ควรบากงานเป็นรูปตัววีทั้งสองด้าน (Double –

V butt joint) ส่วนการบากงานรูป

ตัวยูด้านเดียว (Single – U joint) ใช้กับงานที่ต้องการ
คุณภาพการเชื่อมสูง วัสดุชิ้นงาน หนา

½ -¾ นิ้ว และต่อชนบากงานรูปตัวยูสองด้าน (Double – U
joint) ส าหรับโลหะงานที่มีความหนา

¾ นิ้ว หรือมากกว่านี้ รอยต่อของชิ้นงานที่ได้จะมีความ
แข็งแรงมากขึ้น

รูปที่ 9 แสดงการบากงานชนิดต่าง ๆ ส าหรับการต่อชน
1.2 รอยต่อเกย (Lap joint)
รอยต่อเกย คือการน าชิ้นงานทั้งสองที่จะเชื่อมต่อเข้า

ด้วยกันมาเกยหรือซ้อนกันเพื่อท าการเชื่อม โดยเชื่อมที่ขอบ
ชิ้นงานหนึ่งกับผิวหน้าของชิ้นงานหนึ่ง ได้แนวเชื่อมแบบ

ฟิลเลทในการซ้อนเกยกันควรไม่น้อยกว่า 3 เท่า ความหนา
ของโลหะชิ้นงานเชื่อม





รูปที่ 10 การต่อเกยเชื่อมสองด้าน
1.3 รอยต่อมุม (Corner Joint)
การต่อมุม คือ รอยต่อที่เกิดจากการน าชิ้นงานทั้งสองมา

ต่อขนานกัน และท ามุมซึ่งกันและกัน 90O การละเลือก
เตรียมงาน มุมแบบใดขึ้นอยู่กับลักษณะชิ้นงานและการ

น าไปใช้





รูปที่ 11 เชื่อมเต็มมุม (มุม Full open corner weld)
1.4 รอยต่อตัวที (T – joint)

รอยต่อตัวที คือ การน าชิ้นงานทั้งสองมาต่อกันโดยน า
ขอบของชิ้นงานชิ้นหนึ่งมาวางตั้งบนผิวหน้าของชิ้นงานอีก

ชิ้นหนึ่งเป็นรูปตัวที ชิ้นงานทั้งสองท ามุม 90OC ซึ่งกัน
และกัน ลักษณะแนวเชื่อมเป็นแบบฟิลเลท







รูปที่ 12 ต่อตัวทีเชื่อมสองด้าน
1.5 รอยต่อขอบ (Edge joint)

รอยต่อขอบ คือ การน าขอบของชิ้นงานมาต่อเข้า

ด้วยกันในลักษณะชิ้นงานวาง ตั้งยก ขอบทั้งสองที่จะ

เชื่อมขึ้น แล้วเชื่อมแนวบนขอบของชิ้นงานทั้งสอง ซึ่ง
บางครั้งเรียกว่า “ต่อยกสัน (Flange joint)” ลักษณะ

รอยต่อขอบดังรูปที่ 13





รูปที่ 13 รอยต่อขอบ (Flange joint)
3. องค์ประกอบและปัจจัยการเชื่อมไฟฟ้า

ปัจจัยส าคัญ 5 ประการของการเชื่อมไฟฟ้าด้วย
ลวดเชื่อม (Fire essentials of arc welding)

1. การเลือกลวดเชื่อม (Correct electrode)

2. การปรับแต่งกระแสไฟ (Correct current)
3. ระยะอาร์คหรือแรงเคลื่อน

4. มุมลวดเชื่อม (Correct electrode angle)
5. ความเร็วในการเดินลวดเชื่อม (Correct travel speed)

3.1 การเลือกลวดเชื่อม (Correct electrode)
ในการเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อมสารพอกหุ้ม การเลือก

ลวดเชื่อมก่อนการเชื่อมถือเป็นปัจจัยส าคัญอย่างหนึ่ง ช่าง
เชื่อมต้องศึกษาหลักการเลือกลวดเชื่อมให้เหมาะสมกับงาน

ที่น ามาเชื่อม ซึ่งมีหัวข้อที่ต้องน ามาพิจารณาประกอบคือ
ศึกษาคุณสมบัติทางกลและส่วนผสมทางเคมีของชิ้นงาน

ลักษณะรอยต่อ ต าแหน่งท่าเชื่อม และกระแสไฟที่ใช้เชื่อม

โดยเฉพาะจะต้องศึกษาให้เข้าใจถึงหลักการแบ่งลวดเชื่อม
ระบบมาตรฐานต่างๆ ด้วย เพื่อที่จะสามารถพิจารณาเลือกมา
ใช้ให้ เหมาะสมกับงานได้

3.2 การปรับแต่งกระแสไฟ (Correct current)

กระแสไฟที่ใช้ในการเชื่อม ช่างเชื่อมจะต้องเลือกและ
ปรับโดยค านึงถึงตั้งแต่ชนิดของกระแสไฟที่ใช้ จะเป็น

กระแสไฟสลับหรือกระแสไฟตรง เป็นชนิดขั้วใด (DCEN
หรือ DCEP) การปรับกระแสสูงต ่าอย่างไร ซึ่งในการปรับ

กระแสนี้ขึ้นอยู่กับขนาด ลักษณะงาน และชนิดของลวด
เชื่อม โดยดูได้จากคู่มือหรือข้างกล่องของลวดเชื่อมที่เรา

เลือกมาใช้

3.3 ระยะอาร์คหรือแรงเคลื่อน (Correct arc length or

voltage) แรงเคลื่อนจะขึ้นอยู่กับระยะอาร์ค ถ้าระยะอาร์ค

ยาวหรือห่างเพิ่มขึ้น แรงเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นตาม และถ้า
ระยะอาร์คสั้นลง แรงเคลื่อนจะลดลงด้วย การเชื่อมระยะ

อาร์ค หมายถึง ระยะห่างจากปลายสุดของลวดเชื่อมถึง
ผิวหน้าของโลหะงาน ที่นิยมใช้กันโดยประมาณคือ เท่ากับ

ความโตของลวดเชื่อมหรือน้อยกว่า
เล็กน้อย ส่วนแรงเคลื่อนที่ใช้ในการเชื่อมโดยทั่วๆ ไป จะ

อยู่ระหว่าง 20 – 40 โวลต์

ระยะห่างของการอาร์ค ถ้ามากเกินไปจะท าให้แนว
เชื่อมกว้าง ไม่เรียบร้อย และมีเม็ดโลหะกระเด็นติดที่ขอบ

ของแนวเชื่อมจ านวนมาก และการซึมเล็กน้อย ส่วน
ระยะห่างของการอาร์คสั้นเกินไป จะได้แนวเชื่อมที่ไม่

สม ่าเสมอ ไม่เรียบร้อย ปลายลวดเชื่อมติดชิ้นงานได้ง่าย
การ

หลอมเหลวลึกหรือการซึมลึกน้อย รอยเชื่อมแคบและนูน
3.4 มุมลวดเชื่อม (Correct eletrsfeangle)

มุมของลวดเชื่อมเป็นปัจจัยส าคัญ ถ้าช่างเชื่อมท ามุมลวด
เชื่อมไม่ถูก แนวเชื่อมที่ออกมาจะไม่ดี คือถ้าท ามุมของ

ลวดเชื่อมกับแผ่นงานน้อยเกินไป จะท าให้แนวเชื่อมแบน
กว้าง การซึมลึกไม่ดี แต่ถ้าลวดเชื่อมท ามุมกับแผ่นงาน

มากเกินไป แนวเชื่อมที่ได้จะเล็ก เชื่อมได้ยาก การซึมลึกก็
ไม่ดีเช่นกัน ฉะนั้นช่างจะต้องท ามุมของลวดเชื่อมกับ

ชิ้นงานให้ถูกต้อง







รูปที่ 14 ลักษณะมุมลวดเชื่อมที่ถูกต้อง
3.5 ความเร็วในการเดินลวดเชื่อม (Correct travel

speed)
การเดินลวดเชื่อมขณะท าการเชื่อมต้องเป็นไปอย่าง

สม ่าเสมอถูกต้อง ถ้าเดินเร็วเกินไปจะได้แนวเชื่อมที่เล็ก
เกินไป การซึมลึกก็น้อย

ความแข็งแรงที่ได้จากการเชื่อมน้อย แต่ถ้าเดินลวดเชื่อมช้า
เกินไป จะได้แนวเชื่อมใหญ่ โลหะเชื่อมไปกองอยู่มาก ท า

ให้สิ้นเปลืองและเสียเวลาในการเชื่อม การเชื่อมจะได้ผลดี

จึงควรพยายามเดินลวดเชื่อมให้สม ่าเสมอตลอดแนว













รูปที่ 15 เปรียบเทียบแนวเชื่อมตัวอย่าง (Bead examples)
แนว A กระแสไฟ ระยะอาร์คและการเดินลวดเชื่อมปกติ
(Current, Voltage and Speed)

แนว B กระแสไฟต ่ามาก (Current too low)
แนว C กระแสไฟสูงมาก (Current too high)

แนว D ระยะอาร์คสั้นมาก (Voltage too low)
แนว E ระยะอาร์คยาวมาก (Voltage too high)

แนว F ความเร็วในการเดินลวดต ่า (Speed too slow)
แนว G ความเร็วในการเดินลวดสูง (Speed too fast)



สรุป
ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา

และถามค าถาม
ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ 8

กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย (-) (52)

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ [60]
ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย
ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว

แยกย้ายปฏิบัติงาน

มอบใบงานให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบใบงานให้นักเรียน
180
และอธิบายขั้นตอนในการ (-) (60)

ปฏิบัติงาน [240]
ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว

แยกย้ายปฏิบัติงาน

สรุป

การเดินแนวเชื่อมและการเกิดขี้ตะกรัน
การเดินแนวเชื่อม

การเดินแนวเชื่อมไฟฟ้าต้องค านึงถึงแนวเชื่อม ท่าเชื่อม ชนิดของลวดเชื่อม (ชนิดของสารพอกหุ้ม) และความหนา

ของแนวเชื่อมการเดินแนวเชื่อมท าโดย แนวเชื่อมแนวระนาบ แนวเชื่อมท่าตั้ง
การเกิดขี้ตะกรันปกคลุมแนวเชื่อม
การเกิดขี้ตะกรันปกคลุมแนวเชื่อม ในขณะเชื่อมต้องใช้ความร้อนมาก ความร้อนที่ได้ในงานเชื่อมไฟฟ้า คือ

อาร์กไฟฟ้า ซึ่งให้ความร้อนสูง 3,500OC ขณะเกิดอาร์กลวดเชื่อมและชิ้นงานได้รับความร้อนมาก จึงหลอมเหลว

พร้อมกัน และรวมกันในแอ่งหลอมเหลว น ้าเหล็กในแอ่งหลอมเหลวแยกออกได้เป็นน ้าฟลักซ์และน ้าเหล็ก
ลักษณะงานและการน าไปใช้ โดยรอยต่อพื้นฐานมีอยู่ 5 ชนิด (Five basic Joint) คือ

1.1 รอยต่อชน (Butt joint) 1.2 รอยต่อเกย (Lap joint) 1.3 รอยต่อมุม (Corner joint)
1.4 รอยต่อตัวที (T - joint) 1.5 รอยต่อขอบ (Edge joint)

องค์ประกอบและปัจจัยการเชื่อมไฟฟ้ า
ปัจจัยส าคัญ 5 ประการของการเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อม (Fire essentials of arc welding)

1. การเลือกลวดเชื่อม (Correct electrode)
2. การปรับแต่งกระแสไฟ (Correct current)

3. ระยะอาร์คหรือแรงเคลื่อน
4. มุมลวดเชื่อม (Correct electrode angle)

5. ความเร็วในการเดินลวดเชื่อม (Correct travel speed)


ค าถาม

1. ลักษณะรอยต่อพื้นฐานซึ่งมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่อะไรบ้าง ? (จ)
ตอบ 1.1รอยต่อชน (Butt joint) 1.2 รอยต่อเกย (Lap joint) 1.3 รอยต่อมุม (Corner joint)

1.4 รอยต่อตัวที (T - joint) 1.5 รอยต่อขอบ (Edge joint)
2. องค์ประกอบและปัจจัยในงานเชื่อมไฟฟ้า ได้แก่อะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 ข้อ ? (ข)

ตอบ 1. การเลือกลวดเชื่อม (Correct electrode)

2. การปรับแต่งกระแสไฟ (Correct current)
3. ระยะอาร์คหรือแรงเคลื่อน
4. มุมลวดเชื่อม (Correct electrode angle)

5. ความเร็วในการเดินลวดเชื่อม (Correct travel speed)

3. การเดินแนวเชื่อมต้องค านึงถึงสิ่งใดบ้าง จงบอกมาอย่างน้อย 3 ข้อ ?
ตอบ แนวเชื่อม ท่าเชื่อม ชนิดของลวดเชื่อม (ชนิดของสารพอกหุ้ม) และความหนาของแนวเชื่อมการ

เดินแนวเชื่อมท าโดย แนวเชื่อมแนวระนาบ แนวเชื่อมท่าตั้ง

ข้อสังเกตการสอน



ผู้สอน ผู้เรียน

ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้าน ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน

เนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน

ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้ การตอบค าถามของผู้เรียน

น ้าเสียงในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม



หมายเหตุ

สัญลักษณ์
(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้

(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า


เอกสารอ้างอิง
รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.



เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน
1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)

2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)
3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)

4. โปรเจคเตอร์ (Projector)


บันทึกหลังการสอน
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................


.......................................................................
( )

ผู้บันทึก

วิทยาลัยเทคนิคระยอง



เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)
วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 เวลา 08.30 – 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 การสอนครั้งที่ 8

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
การเชื่อมไฟฟ้ า(Are Welding) เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- เทคนิคการวางงานฉาก 1. อธิบายเทคนิคการวางงานฉากของการเชื่อมไฟฟ้า
- ลักษณะการเชื่อมฉากไม่ถูกวิธีและวิธีแก้ไข ได้อย่างถูกต้อง

- ลักษณะประเภทแนวเชื่อมต่อชน 2. อธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นในแนวเชื่อมและการ
- ปัญหาที่เกิดขึ้นในแนวเชื่อมและการแก้ไข แก้ไขได้อย่างถูกต้อง

- ลักษณะข้อบกพร่องของแนวเชื่อมและสาเหตุ 3. ปฏิบัติการเชื่อมไฟฟ้าในลักษณะ T Join ได้
งานปฏิบัติ

- การเชื่อมไฟฟ้าในลักษณะ T Joint

วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)

บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน

ในการเชื่อมไฟฟ้า จะมีเทคนิควิธีการเชื่อมที่ และขานใบรายชื่อนักศึกษา
แตกต่างกันตามต าแหน่งการเชื่อมและรอยต่อซึ่ง ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ

ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมจ าเป็นจะต้องศึกษาและฝึกให้มีความ ฟังชื่อแล้วขานรับ
ช านาญ เพื่อให้ได้งานเชื่อมที่มีคุณภาพ ในงานเชื่อมต่อชน ผู้สอน : บอกเกณฑ์การ 10

นั้นเพื่อที่จะให้ได้คุณภาพงานที่มีความคงทนแข็งแรง และ ประเมินและท าข้อตกลงกับ (-) (0)
สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับลักษณะงาน นักเรียน และบรรยายน าเข้าสู่ [10]

บางครั้งอาจมีปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้ปฏิบัติควรจะมี บทเรียน
ความรู้ ทักษะ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้ได้งานที่ ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก

ออกมามีความแข็งแรง เหมาะสมกับการน าไปใช้งานต่อไป หรือสอบถามข้อสงสัย


เทคนิคการวางชิ้นงานเชื่อม

เพื่อความสะดวกสบายและคุณภาพงานเชื่อม เมื่อ
เตรียมชิ้นงานดีแล้ว ควรจับวางชิ้นงาน ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา
ดังต่อไปนี้ ประกอบสื่อ Power point

1)ประกอบชิ้นงานต่อชนฉาก ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด

2)วางชิ้นงานบนแท่นเหล็กเอียง 45O ต่อชนฉากอยู่ บันทึก
แนวระนาบดังรูปซ้ายมือ

รูปที่ 1 เทคนิคการวางชิ้นงานเชื่อม
การเตรียมชิ้นงานเชื่อมต่อชนฉากและเทคนิคการเชื่อม
การประกอบชิ้นงานที่ดีต้องแนบสนิท

การประกอบชิ้นงานตั้งฉากตามแนวยาวของ
ชิ้นงาน ชิ้นงานต้องตั้งสัมผัสแนบสนิทกับผิวงานด้านฐาน

การประกอบชิ้นงานแนบสนิทเพื่อป้องกันอากาศเข้ารวมตัว
กับแนวเชื่อม ในขณะเชื่อมชิ้นงาน






35
รูปที่ 2 ลักษณะการประกอบชิ้นงานดี (A: 179- (10)
การประกอบไม่ดีมีช่องว่าง 183) [45]
การประกอบชิ้นงานไม่แนบสนิท ระหว่างแผ่นเหล็ก

แนวตั้งและแผ่นฐาน ขณะเชื่อมอากาศจะเข้ารวมตัวกับแนว
เชื่อมที่ก าลังหลอมเหลวน ้าฟลักซ์จะเย็นตัว และจมตัวอยู่ที่

มุมด้านในของแนว
เชื่อม การซึมลึกของแนวเชื่อมจะไม่ถึงมุมแนวเชื่อมไม่

แข็งแรง





รูปที่ 3 อากาศเข้ารวมตัวกับแนวเชื่อม
การประกอบไม่ดีเพราะไม่แนบสนิท

การประกอบชิ้นงานที่ไม่โก่งงอ จะเป็นผลต่อ
ความแข็งแรงต่อแนวเชื่อมอย่างมาก เพราะส่วนที่ชิ้นงาน

เกิดช่องว่างมาก อากาศจะเข้ารวมตัวกับแนวเชื่อม ท าให้
น ้าฟลักซ์จมอยู่มุมแนวเชื่อมเมื่อเย็นตัวจะเป็นขี้ตะกรัน แนว

เชื่อมจะซึมลึกไม่ถึงมุมลดความแข็ง






รูปที่ 4 การประกอบชิ้นงานไม่แนบสนิท

ลักษณะงานเชื่อมต่อชนฉากไม่ถูกวิธีและวิธีแก้ไข

ลักษณะงานเชื่อมที่ไม่ถูกวิธี
ต าแหน่งลวดเชื่อมไม่ถูกลักษณะงาน (ลวดเชื่อมอยู่ใน

ลักษณะตั้งมากไป) ลักษณะต าแหน่งเอียงลวดเชื่อม ดังใน
รูปที่ 5 ความร้อนจากอาร์กจะส่งถ่ายความร้อนจ านวนมาก

ไปที่แผ่นเหล็กฐานของชิ้นงาน ดังนั้นน ้าเหล็กที่หลอมเหลว
จะรวมตัวที่แผ่นฐาน ชิ้นงานมากกว่าแผ่นชิ้นงานตั้ง แนว

เชื่อมจะประสานติดกับแผ่นฐานมากกว่าชิ้นงานในแนวตั้ง

จะเกิดรอยแหว่งที่ ขอบชิ้นงานแผ่นตั้งซึ่งเป็นจุดอ่อน
ของงานเชื่อม






รูปที่ 5 แสดงการตั้งลวดเชื่อมมาก
ต าแหน่งลวดเชื่อมไม่ถูกลักษณะงาน (ลวดเชื่อมอยู่ใน
ลักษณะเอียงมากไป)

ลักษณะต าแหน่งเอียงมุมลวดเชื่อมมากความร้อน
จากอาร์กส่งถ่ายความร้อนจ านวนมากไปที่แผ่นเหล็กแนวตั้ง

ของชิ้นงาน ดังนั้นน ้าเหล็กที่หลอมเหลวจะรวมตัวที่แผ่น
เหล็กแนวตั้งของชิ้นงานมากกว่าแผ่นฐานชิ้นงาน แนวเชื่อม

จะประสานติดกับแผ่นเหล็กแนวตั้งของชิ้นงานมากกว่าแผ่น

ฐานจะเกิดรอยกัดแหว่งที่ขอบชิ้นงานแผ่นฐาน ซึ่งเป็น
จุดอ่อนของงานเชื่อม






รูปที่ 6 แสดงการเอียงลวดเชื่อมมาก
ลักษณะแนวเชื่อมตั้งไฟแรงมาก

การตั้งไฟเชื่อมแรงมาก การเชื่อมมุมตั้งไฟเชื่อมแรงมาก
จะท าให้ที่ขอบของแนวเชื่อมเกิดรอยแหว่าง (Undercut)

แนวเชื่อมจะแบนราบ รอยแหว่งที่ขอบแนวเชื่อมเป็นผลให้
ชิ้นงานเสียความหนาในขณะเชื่อม





รูปที่ 7 ลักษณะแนวเชื่อมตั้งไฟแรง

ลักษณะแนวเชื่อมตั้งไฟอ่อน

การตั้งไฟเชื่อมอ่อน การเชื่อมมุมตั้งไฟเชื่อมอ่อน จะท า
ให้แนวเชื่อมซึมลึกไม่ถึงมุมของ ชิ้นงานการค านวณหา

ความหนาของแนวเชื่อมผิวพลาดมาก เพราะเมื่อเชื่อมเสร็จ
ความหนาของ แนวเชื่อมไม่ได้ตามก าหนด แนวเชื่อมจะ

นูนมาก แต่ความแข็งแรงของแนวเชื่อมน้อยมาก
วิธีการแก้ไขเชื่อมต่อชนฉากไม่ถูกต้อง

1)การเตรียมชิ้นงานทั้ง 2 ชิ้น จะต้องต่อสัมผัสผิวกันแบบ
สนิท โดยมีช่องที่อากาศจะเข้าด้านหลังแนวเชื่อมน้อยที่สุด

หรือไม่มีเลย

2)การตั้งไฟเชื่อที่พอเหมาะ การตั้งไฟเชื่อมของช่างเชื่อมที่
ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับลักษณะอาร์ก






รูปที่ 8 ลักษณะแนวเชื่อมที่ดี
3)การวางต าแหน่งลวดเชื่อมที่ท ากัน แบ่งครึ่งมุมชิ้นงาน

เพื่อให้ระยะอาร์กส่งถ่ายความร้อนให้ชิ้นงานทั้งสองชิ้นเท่า
ๆ กัน

4)ระยะอาร์กที่พอเหมาะ ประมาณได้เท่ากับขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลางของลวดเชื่อม ดังนั้นระยะอาร์กก าหนดให้

ปลายลวดเชื่อมสูงจากมุมชิ้นงาน เท่ากับขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลางของลวดเชื่อม

5)การเดินแนวเชื่อมที่สม ่าเสมอ และปรับระยะอาร์กที่

สม ่าเสมอ ในขณะเชื่อม
6)การท าความสะอาดชิ้นงานก่อนลงมือเชื่อมและการท า
ความสะอาดชิ้นงานหลังการเชื่อม

การเชื่อมพอกแนวเชื่อมต่อชนฉาก

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการเชื่อมและแก้ไข
รอยเกย (Overlap)

สาเหตุ
1. ความเร็วในการเดินลวดเชื่อมช้าเกินไป

2. ท ามุมลวดเชื่อมไม่ถูกต้อง
3. ระยะอาร์กชิดหรือตั้งกระแสไฟต ่าเกินไป

วิธีแก้ไข
1. เดินลวดเชื่อมให้เร็วขึ้น

2. ตั้งมุมลวดเชื่อมให้ถูกต้อง

3. ปรับระยะอาร์ก และตั้งกระแสไฟให้ถูกต้อง
Undercut

สาเหตุ
1. ปรับกระแสไฟสูงเกินไป

2. ระยะอาร์กสูงเกินไป
3. เดินลวดเชื่อมเร็วเกินไป

4. ส่ายลวดเชื่อมเร็วเกินไป

วิธีแก้ไข
1. ปรับกระแสไฟให้ถูกต้อง

2. ปรับระยะอาร์กให้ถูกต้อง
3. ใช้ความเร็วให้เหมาะสม

4. ไม่ควรส่ายลวดเกิน 3 เท่าความโตลวดเชื่อมและต้องหยุด
ที่ขอบแนวเชื่อมทั้ง 2

เม็ดโลหะกระเด็นมาก
สาเหตุ

1. ปรับกระแสไฟสูงเกินไป
2. ระยะอาร์กสูงเกินไป

3. ใช้ลวดเชื่อมผิดประเภท
4. ใช้ขั้วไฟไม่ถูกต้อง

5. เกิดอาร์กเบน (Arc blow)
วิธีแก้ไข

1. ปรับกระแสไฟให้เหมาะสม

2. ปรับระยะอาร์กให้ถูกต้อง
3. เลือกลวดเชื่อมให้เหมาะสม

4. ใช้ขั้วไฟให้ถูกต้องกับชนิดลวด
5. ปรับระยะอาร์กให้ชิด


ลักษณะข้อบกพร่องของแนวเชื่อมและสาเหตุ






A

B






C






D






E





F

สาเหตุ
A แนวเชื่อมไม่สวย (ไม่เป็นแนว)

1.กระแสไฟสูงเกินไป

2.ระยะอาร์กไม่คงที่สูงๆ ต ่า
3.ความเร็วไม่สม ่าเสมอ

B การหลอมลึกไม่สมบูรณ์
1.กระแสไฟต ่าเกินไป

2.เดินเร็วเกินไป
3.เว้นระยะห่างรอยต่อน้อยไป

C การหลอมลึกมากเกินไป
1.กระแสไฟสูง

2.เว้นระยะห่างรอยต่อมาก
3.เดินลวดเชื่อมช้า

D การหลอมลึกมีบ้างไม่มีบ้าง

1.กระแสไฟต ่า

2.มุมด้านข้างเอียงไม่ถูกต้อง

3.การสร้างคีย์โฮล์ เดินไม่ถูกต้อง
E การหลอมลึกเว้าเข้า

1.กระแสไฟสูง
2.เว้นระยะห่างรอยต่อมาก

3.เดินลวดเชื่อมช้า
F ชิ้นงานทะลุ

1.กระแสไฟสูงมาก

2.เว้นระยะห่างรอยต่อมาก
3.เดินลวดเชื่อมช้า


สรุป ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา

และถามค าถาม
ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ

กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย 8

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ (-) (52)
ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย [60]

ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว
แยกย้ายปฏิบัติงาน


มอบใบงานให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบใบงานให้นักเรียน

และอธิบายขั้นตอนในการ
ปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว

แยกย้ายปฏิบัติงาน 180
(60)
(-) [240]

สรุป

เทคนิคการวางชิ้นงานเชื่อม
เพื่อความสะดวกสบายและคุณภาพงานเชื่อม เมื่อเตรียมชิ้นงานดีแล้ว ควรจับวางชิ้นงานดังต่อไปนี้

1) ประกอบชิ้นงานต่อชนฉาก
2) วางชิ้นงานบนแท่นเหล็กเอียง 45O ต่อชนฉากอยู่แนวระนาบดังรูปซ้ายมือ

การประกอบชิ้นงานที่ดีต้องแนบสนิท
การประกอบชิ้นงานตั้งฉากตามแนวยาวของชิ้นงาน ชิ้นงานต้องตั้งสัมผัสแนบสนิทกับผิวงานด้านฐาน

การประกอบชิ้นงานแนบสนิทเพื่อป้องกันอากาศเข้ารวมตัวกับแนวเชื่อม ในขณะเชื่อมชิ้นงาน

การประกอบไม่ดีมีช่องว่าง
การประกอบชิ้นงานไม่แนบสนิท ระหว่างแผ่นเหล็กแนวตั้งและแผ่นฐาน ขณะเชื่อมอากาศจะเข้ารวมตัวกับ

แนวเชื่อมที่ก าลังหลอมเหลวน ้าฟลักซ์จะเย็นตัว และจมตัวอยู่ที่มุมด้านในของแนว
เชื่อม การซึมลึกของแนวเชื่อมจะไม่ถึงมุมแนวเชื่อมไม่แข็งแรง

ลักษณะงานเชื่อมที่ไม่ถูกวิธี
ต าแหน่งลวดเชื่อมไม่ถูกลักษณะงาน (ลวดเชื่อมอยู่ในลักษณะตั้งมากไป) ลักษณะต าแหน่งเอียงลวดเชื่อม

วิธีการแก้ไขเชื่อมต่อชนฉากไม่ถูกต้อง
1) การเตรียมชิ้นงานทั้ง 2 ชิ้น จะต้องต่อสัมผัสผิวกันแบบสนิท โดยมีช่องที่อากาศจะเข้าด้านหลังแนว

เชื่อมน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย
2) การตั้งไฟเชื่อที่พอเหมาะ การตั้งไฟเชื่อมของช่างเชื่อมที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับลักษณะอาร์ก

3) การวางต าแหน่งลวดเชื่อมที่ท ากัน แบ่งครึ่งมุมชิ้นงาน เพื่อให้ระยะอาร์กส่งถ่ายความร้อนให้ชิ้นงานทั้ง
สองชิ้นเท่า ๆ กัน

4) ระยะอาร์กที่พอเหมาะ ประมาณได้เท่ากับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลวดเชื่อม ดังนั้นระยะอาร์ก
ก าหนดให้ปลายลวดเชื่อมสูงจากมุมชิ้นงาน เท่ากับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลวดเชื่อม

5) การเดินแนวเชื่อมที่สม ่าเสมอ และปรับระยะอาร์กที่สม ่าเสมอ ในขณะเชื่อม

6) การท าความสะอาดชิ้นงานก่อนลงมือเชื่อมและการท าความสะอาดชิ้นงานหลังการเชื่อม
การเชื่อมพอกแนวเชื่อมต่อชนฉาก


ค าถาม

1. จงยกอย่างที่ท าให้เม็ดโลหะกระเด็นมาก มาสัก 3 ข้อ? (จ)
ตอบ 1. ปรับกระแสไฟสูงเกินไป 2. ระยะอาร์กสูงเกินไป 3. ใช้ลวดเชื่อมผิดประเภท

2. การตั้งไฟเชื่อมแรงมาก จะส่งผลชิ้นงานอย่างไร? (ข)

ตอบ ท าให้ที่ขอบของแนวเชื่อมเกิดรอยแหว่าง (Undercut) แนวเชื่อมจะแบนราบ รอยแหว่งที่ขอบแนว
เชื่อมเป็นผลให้ชิ้นงานเสียความหนาในขณะเชื่อม
3. เมื่อประกอบชิ้นงานไม่แนบสนิทหรือมีช่องว่างจะส่งผลอย่างไร? (ข)

ตอบ การซึมลึกของแนวเชื่อมจะไม่ถึงมุมแนวเชื่อมไม่แข็งแรง

ข้อสังเกตการสอน


ผู้สอน ผู้เรียน


ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้าน ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน

เนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน

ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้ การตอบค าถามของผู้เรียน

น ้าเสียงในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม



หมายเหตุ

สัญลักษณ์
(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้

(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า


เอกสารอ้างอิง
รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.



เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน
1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)

2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)
3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)

4. โปรเจคเตอร์ (Projector)


บันทึกหลังการสอน
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................


.......................................................................
( )

ผู้บันทึก

วิทยาลัยเทคนิคระยอง



เตรียมหน่วยการสอน (Unit Lesson Preparation)
วันที่ 13 กรกฎาคม 2561 เวลา 08.30 – 17.30 น.

วิชา งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น รหัส 2100 1005 การสอนครั้งที่ 9

หัวเรื่อง-หัวข้อย่อย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
กระบวนการเชื่อมแก๊ส (Gas Metal Arc Welding) เมื่อนักศึกษาเรียนจบเรื่องนี้แล้วจะสามารถ :

- เครื่องมือและอุปกรณ์ในการเชื่อมแก๊ส 1. อธิบายเกี่ยวกับเครื่องมือและอุปกรณ์ในงานเชื่อม
- เปลวไฟในการเชื่อมแก๊ส แก๊สได้อย่างถูกต้อง

- เทคนิคในการเชื่อมแก๊ส 2. อธิบายเกี่ยวกับเปลวไฟชนิดต่างๆ ในงานเชื่อม
งานปฏิบัติ แก๊ส

- การปรับเปลวไฟในการเชื่อมและการเคลื่อนย้าย แก๊สได้อย่างถูกต้อง
ถังแก๊ส 3. ปฏิบัติการปรับเปลวไฟในการเชื่อมและ

เคลื่อนย้ายถังแก๊สได้

วิธีการสอน รหัส เวลา
รายละเอียดเนื้อหา
กิจกรรมผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ (นาที)

บทน า ผู้สอน : กล่าวทักทายผู้เรียน
งานเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส จ าเป็นต้องใช้เครื่องมือ และขานใบรายชื่อนักศึกษา

และอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันเพื่อให้ได้งานที่ดีมีความ ผู้เรียน : กล่าวทักทายและตั้งใจ
ปลอดภัย โดยจะต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ฟังชื่อแล้วขานรับ
10
อย่างถูกต้อง ซึ่งจะท าให้ลดต้นทุนการผลิต ลดความสูญเสีย ผู้สอน : บอกเกณฑ์การ (0)

เสีย และสามารถใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ได้ยาวนาน ประเมินและท าข้อตกลงกับ (-)
ยิ่งขึ้น ซึ่งส าคัญที่สุดจะช่วยลดอุบัติเหตุอันอาจจะเกิด นักเรียน และบรรยายน าเข้าสู่ [10]
ขึ้นจากการปฏิบัติงานที่จะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สิน บทเรียน

การปฏิบัติงานเชื่อมแก๊สจ าเป็นจะต้องใช้เครื่องมือ ผู้เรียน : ตั้งใจฟังและจดบันทึก

และอุปกรณ์ที่ท าไว้โดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัย และ หรือสอบถามข้อสงสัย
เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัยในการ

ปฏิบัติงาน


1. เครื่องควบคุมความดันแก๊ส ผู้สอน : บรรยายเนื้อหา
เครื่องควบคุมความดันแก๊สมีความส าคัญเป็นอย่าง ประกอบสื่อ Power point

มาก มีประโยชน์คือ ลดความดันแก๊สจากความดันสูงให้ ผู้เรียน : ฟังบรรยาย และจด
ความดันต ่าลง เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการปฏิบัติงานแต่ บันทึก

ละงาน โดยสามารถตั้งความดันได้ตามความต้องการและ
สามารถควบคุมอัตราการไหลของแก๊ส ซึ่งประกอบด้วยเกจ

วัดความดันสูงและเกจวัดความดันต ่า







2. สายเชื่อมแก๊ส
มีหน้าที่ส่งแก๊สอะเซทิลีนและแก๊สออกซิเจนจาก

เครื่องควบคุมความดันไปยังหัวเชื่อม ต้องเป็นสายที่อ่อน
ตัวเครื่องไหวไปมาได้สะดวก และทนความดันภายในได้ไม่

ต ่ากว่า 20 บาร์ (400 ปอนด์/ตารางนิ้ว)





90

(A: 25- (10)
3. เครื่องมือจุดเปลวไฟ 60) [100]

ท าให้เกิดประกายไฟในการจุดแก๊ส





4. ข้อต่อ

ข้อต่อสายเชื่อม หรือนิปเปิล ท าจากวัสดุทองเหลือง
หรือบรอนซ์ ส าหรับสวมเข้าไปในสายเชื่อมและใช้เข็มขัด

รัดให้แน่นติดกับอุปกรณ์อื่นข้อต่อของสายเชื่อมแก๊ส
ออกซิเจนกับแก๊สอะเซทิลีนไม่เหมือนกัน ข้อต่อของแก๊ส

ออกซิเจนจะเป็นเกลียวขวา

ส่วนข้อต่อของแก๊สอะเซทิลีนจะเป็นเกลียวซ้าย

5. แว่นตาเชื่อมแก๊ส

แว่นตาเชื่อมแก๊สเป็นอุปกรณ์ป้องกันตาจากแสงเชื่อม
และสะเก็ดไฟ กรอบแว่นท าจากวัสดุที่ทนสะเก็ดไฟ เช่น

พลาสติกแข็ง และจะต้องมีลักษณะกระชับใบหน้า







6. หัวเชื่อมแก๊ส
หัวเชื่อมเป็นอุปกรณ์ที่ใช้รวมแก๊สออกซิเจนกับแก๊ส
อะเซทิลีนให้ผสมกันภายในห้องผสมในหัวเชื่อม โดย

สามารถควบคุมการไหลของแก๊สทั้งสองให้ได้สัดส่วน

ถูกต้องตามความต้องการ หัวเชื่อมท าจากโลหะผสม เช่น
บรอนซ์ ทองเหลือง โดยหัวเชื่อมแก๊สสามารถแบ่งออกเป็น

2 ชนิด
ชนิดความดันสมดุล







ชนิดหัวฉีด







7. หัวทิพเชื่อม

เป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่ที่ปลายหัวเชื่อม ใช้ส าหรับน าส่ง
แก๊สที่ออกมาจากห้องผสมแก๊สของหัวเชื่อม ตรงปลายมีรู
กลมขนาดแตกต่างกัน การเลือกใช้หัวทิพจะต้องค านึงถึง

ความหนาและชนิดของโลหะที่จะใช้เชื่อม โดยหัวทิพมี 2

แบบ
1. แบบชิ้นเดียว

2. แบบแยกชิ้น
8. เครื่องมือท าความสะอาดหัวทิพ

หัวทิพขณะท าการเชื่อมอาจเกิดการอุดตันหรือสิ่ง

สกปรกขึ้นได้ ซึ่งมีผลท าให้เปลวไฟที่ใช้ท าการเชื่อมไม่ดี

คือมีการแตกปลายของเปลวเชื่อมหรือกรวยไฟเอียงไปทาง
ใดทางหนึ่งซึ่งมีผลต่อการเชื่อม ดังนั้นต้องท าความสะอาด

หัวทิพด้วยเครื่องท าความสะอาดหัวทิพ ซึ่งมีลักษณะคล้าย
ลวดเส้นเล็กๆ มีคมคล้ายตะไบ









9. โต๊ะเชื่อมละอุปกรณ์ประกอบ
โต๊ะเชื่อม พื้นโต๊ะจะปูด้วยอิฐทนไฟ ซึ่งท าจากวัสดุที่

ติดไฟได้ยากเพื่อวางชิ้นงานเชื่อม หรือชิ้นงานที่จะน ามาเผา
อุ่นให้ร้อน นอกจากนี้ยังมีถังบรรจุน ้าส าหรับหล่อเย็นหัว

เชื่อม ขณะเชื่อมไปนานๆ รวมทั้งมีกล่องใส่ลวดเชื่อมประจ า
โต๊ะและอุปกรณ์ที่จ าเป็นต้องใช้เสมอ เช่น ประแจ คีมคีบ

งานร้อน และค้อนไว้ส าหรับปรับแต่งชิ้นงาน เป็นต้น






10. อุ ป ก ร ณ์

ป้ อ งกั น ไฟกลับ
ในขณะที่น าแก๊สอะเซทิลีนจากเครื่องก าเนิดแก๊สไป

ใช้งาน บางครั้งเปลวไฟอาจจวกกลับมา ตามสายแก๊ส
อะเซทิลีนเรียกว่า ไฟย้อนกลับ หรือแก๊สออกซิเจนวกเข้ามา

ตามสายแก๊สอะเซทิลีน ซึ่งจะเป็นอันตรายเกิดการระเบิดขึ้น

ได้ จะต้องป้ องกันด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ป้ องกันไฟกลับ ซึ่ง
แบ่งลักษณะการท างานได้ 2 ชนิด

1. ชนิดใช้น ้าบรรจุภายใน
2 . ชนิดไม่ใช้

น ้าบรรจุ ภายใน

11. ลวดเชื่อมแก๊ส

ลวดเชื่อมที่ใช้ในการเชื่อมประสานโลหะด้วยเปลวไฟ
แก๊สท าจากโลหะหลายชนิดแตกต่างกัน ได้แก่ เหล็กเหนียว

เหล็กหล่อ ทองเหลือง อะลูมิเนียม สแตนเลส และอื่นๆ การ
เชื่อมงานใดๆ โดยใช้ลวดเชื่อมแก๊สจะต้องเลือกใช้ลวด

เชื่อมที่ท าจากโลหะชนิดเดียวกับโลหะงานนั้น หรือมี
คุณสมบัติใกล้เคียงกันจึงจะท าให้งานเชื่อมมีคุณภาพดีและ

แข็งแรงเพียงพอ และยังแบ่งตามลักษณะผิวลวดได้อีก 2

ชนิดคือ ชนิดเคลือบผิวทองแดง และชนิดผิวอาบไขมัน
ป้องกันสนิม โดยการผลิตลวดเชื่อมจะใช้วิธีดึงหรือรีด

เปลวไฟในการเชื่อมแก๊ส
1. คุณสมบัติของเปลวไฟ

การเชื่อมแก๊สเป็นกระบวนการที่ใช้กันมานาน ซึ่ง
ปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมอยู่ โดยใช้ความร้อนจากการเผา

ไหม้ของแก๊สออกซิเจนกับแก๊สอะเซทิลีน ให้เปลวไฟที่มี
ความร้อนสูงประมาณ 6000 องศาฟาร์เรนไฮร์ ซึ่งเปลวไฟที่

ใช้ในการเชื่อมต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.1 มีอุณหภูมิสูงเพียงพอที่จะหลอมละลายชิ้นงาน

1.2 มีปริมาณความร้อนเพียงพอเมื่อต้องการ
1.3 ต้องไม่มีสิ่งสกปรกจากเปลวไฟ

1.4 เปลวไฟต้องไม่เพิ่มธาตุคาร์บอนลงในเนื้อโลหะ ซึ่งท า
ให้คุณสมบัติเปลี่ยน

1.5 ต้องไม่เป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน

2. ชนิดของเปลวไฟ
โดยทั่วไปแบ่งเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ

2.1 เปลวคาร์บูไรซิ่ง (Carburizing Flame)
โดยทั่วไปได้จากการจุดระเบิดของแก๊สอะเซทิลีนกับ

แก๊สออกซิเจน โดยอัตราของแก๊สอะเซทิลีนมากกว่า เปลว
ชั้นนอกมีลักษณะเป็นเปลวยาวมีสีส้มล้อมลอบเปลวชั้นใน

ซึ่งมีความยาวครึ่งหนึ่งของเปลวชั้นนอก เปลวชั้นในจะมี
ลักษณะพลิ้วเหมือนขนนก ในระยะที่ห่างจากกรวยไฟ

ประมาณ 3 มิลลิเมตร จะมีอุณหภูมิประมาณ 2800 องศา
เซลเซียส เหมาะส าหรับงานที่ต้องการเติมคาร์บอน หรือ

เชื่อมบัดกรีโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น อะลูมิเนียม เป็นต้น
2.2 เปลวนิวทรัล (Neutral Flame)

เป็นเปลวไฟที่ได้จากการผสมกันระหว่าง ออกซิเจน

กับอะเซทิลีนในอัตราที่เท่ากัน การเผาไหม้สมบูรณ์
ประกอบด้วยเปลวไฟ 2 ชั้น ชั้นในเป็ นปลายกรวยมน

ระยะห่างจากปากกรวย 3 ม.ม. มีอุณหภูมิประมาณ 3150
องศาเซลเซียส เมื่อน าไปเผา โลหะที่เป็นเหล็กจะหลอม

ละลายเป็นบ่อน ้าโลหะคล้ายน ้าเชื่อม เมื่อเย็นลงแนวเชื่อมที่
สะอาดจะมีความแข็งแรง เปลวไฟชนิดนี้เหมาะส าหรับการ

เชื่อมและการตัดโลหะได้ดี
2.3 เปลวออกซิไดซิ่ง (Oxidizing Flame)

เป็นเปลวไฟที่ได้จากการผสมกันระหว่าง ออกซิเจน
กับอะเซทิลีนในอัตราที่ออกซิเจนมากกว่าอะเซทิลีน

ลักษณะเปลวมี 2 ชั้น เปลวชั้นในเป็นรูปกรวยแหลมหดสั้น

เปลวชนิดนี้จะมีอุณหภูมิสูงที่สุดคือ 3480 องศาเซลเซียส
การเชื่อมจะเกิดสะเก็ดกระเด็นออกจากบ่อหลอมละลายเป็น

จ านวนมาก ไม่เหมาะสมกับการเชื่อม เพราะออกซิเจนจะ
แทรกเข้าไปในเนื้อเหล็ก ท าให้แนวเชื่อมเปราะ ความ

แข็งแรงต ่า นิยมใช้ในการตัดโลหะแผ่นบาง
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เปลวไฟที่นิยมในการ

น ามาเชื่อมนั้น คือ เปลวนิวทรัล หรือเปลวกลาง เนื่องจาก
เป็นเปลวที่มีการเผาไหม้สมบูรณ์ ไม่มีการเติมธาตุบางตัวที่

ไม่พึงประสงค์ลงไปในเนื้อโลหะที่น ามาท าการเชื่อม และ
นอกจากการเชื่อมแล้ว การตัดโลหะเหล็กก็นิยมใช้เปลว

นิวทรัลในการตัดเช่นเดียวกัน

เทคนิคการเชื่อมแก๊ส
1. กรรมวิธีการเชื่อมแก๊ส
เมื่อต้องการเชื่อมโลหะสองชิ้นเข้าด้วยกัน ก่อนอื่นต้อง

ท าการเชื่อมยึด ที่ขอบของงานทั้งสองข้าง ให้งานทั้งสอง

ข้างติดเป็นชิ้นเดียวกันเสียก่อน แล้วจึงเริ่มต้นการเชื่อมจาก
ซ้ายไปขวา โดยเอียงหัวทิพให้ท ามุม 45 องศา และเอียงลวด

เชื่อม 45 องศา เมื่อขอบชิ้นงานเริ่มร้อนแดงมีบ่อหลอม
ละลายจึงเริ่มเติมลวดเชื่อม และเริ่มเดินหัวทิพไปทางซ้าย

ด้วยความเร็วสม ่าเสมอ ในขณะเดียวกันต้องรักษาระยะห่าง
ของลวดเชื่อมกับชิ้นงานประมาณ 3 มิลลิเมตร

2. การส่ายหัวทิพ
ขณะท าการเชื่อมผู้เชื่อมจะมีการส่ายหัวทิพหรือไม่นั้น

ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เชื่อมเอง หรือลักษณะของงาน

ที่จะเชื่อม การที่ไม่มีการส่ายหัวทิพจะท าให้แนวเชื่อมมี
ขนาดเล็ก แนวเชื่อมที่ได้จะมีความนูนมาก ส่วนการเชื่อม

โดยการส่ายหัวทิพ จะท าให้บ่อหลอมละลายมีขนาดกว้าง มี
การซึมลึกที่ดี เหมาะส าหรับการเชื่อมที่มีความหนา ซึ่ง

ต้องการให้เกิดการหลอมละลายตลอดแนวการเชื่อม
3. เทคนิคการเชื่อม

ในอุตสาหกรรมนอกจากจะมีโลหะหลายประเภทแล้ว
ความหนาของโลหะก็แตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นการเชื่อม

โลหะจึงต้องมีเทคนิคต่างๆเข้ามาช่วยให้การเชื่อมมีความ
สมบูรณ์ ดังนี้

3.1 การเชื่อมจากขวาไปซ้าย (Forehand Welding)

ท าการเชื่อมจากขอบของงานทางขวามือไปซ้ายมือ
จนกว่าจะสิ้นสุดการเชื่อม จากการเดินลวดเชื่อมและเปลว

เชื่อมจะน าหน้าหัวทิพ วิธีนี้จะสูญเสียความร้อนไปบางส่วน
เนื่องจากมีความร้อนสะท้อนออกจากผิวหน้าของงาน ผู้

เชื่อมสามารถจะเพิ่มหรือลดความร้อนให้กับชิ้นงานได้โดย
การปรับหรือเอียงมุมของหัวทิพกับชิ้นงาน หากต้องการ

ความร้อนมากก็เอนน้อย หากต้องการความร้อนน้อยก็เอน
มาก ดังนั้นเทคนิคการเชื่อมนี้จึงเหมาะส าหรับการเชื่อม

ชิ้นงานบางหรือชิ้นงานที่มีความหนาไม่เกิน 6 ม.ม. หรือ
โลหะที่ไม่ใช่เหล็ก

3.2 การเชื่อมจากซ้ายไปขวา (Backhand Welding)
ท าการเชื่อมจากทางซ้ายของขอบชิ้นงาน เดินไป

ทางขวามือจนกระทั่งสิ้นสุดชิ้นงาน จากทิศทางการเดินลวด
เชื่อมและการเติมลวดเชื่อม แนวเชื่อมจะได้รับความร้อน

เต็มที่ โดยไม่มีการสูญเสียความร้อน หรือสูญเสียน้อย จึงท า

ให้การเชื่อมเกิดการซึมลึกดี เหมาะส าหรับการเชื่อมโลหะ
เหล็กที่มีความหนาตั้งแต่ 6 ม.ม. ขึ้นไป ส ารับผู้ที่ฝึกเชื่อม

ใหม่ๆ ควรจะท าการเชื่อมจากขวาไปซ้าย ถือหัวเชื่อมท ามุม
ประมาณ 30 – 45 องศา กับชิ้นงาน เปลวไฟจะพุ่งไป

ข้างหน้า ส่วนการส่ายหัวทิพหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะ
ของงาน ความต้องการของผู้เชื่อม หรือชนิดของรอยต่อ

สรุป ผู้สอน : บรรยายสรุปเนื้อหา

และถามค าถาม
ผู้เรียน : ร่วมสรุปไปพร้อมๆ

กันกับผู้สอน และถามข้อสงสัย

ผู้สอน : ตอบค าถามและมอบ 10
ใบงานให้ผู้เรียนและอธิบาย (-) (100)
[110]
ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน

ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว
แยกย้ายปฏิบัติงาน


มอบใบงานให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบงาน ผู้สอน : มอบใบงานให้นักเรียน

และอธิบายขั้นตอนในการ 130
ปฏิบัติงาน (-) (110)
[240]
ผู้เรียน : ฟังอธิบายใบงานแล้ว

แยกย้ายปฏิบัติงาน

สรุป

เครื่องมือและอุปกรณ์ในการเชื่อมแก๊ส
1. เครื่องควบคุมความดันแก๊ส 2. สายเชื่อมแก๊ส 3. เครื่องมือจุดเปลวไฟ 4. ข้อต่อ 5. แว่นตาเชื่อมแก๊ส

6. หัวเชื่อมแก๊ส 7. หัวทิพเชื่อม
- ชนิดความดันสมดุล - แบบชิ้นเดียว

- ชนิดหัวฉีด - แบบแยกชิ้น

8. เครื่องมือท าความสะอาดหัวทิพ
9. โต๊ะเชื่อมละอุปกรณ์ประกอบ
10. อุปกรณ์ป้องกันไฟกลับ

แบ่งลักษณะการท างานได้ 2 ชนิด

1. ชนิดใช้น ้าบรรจุภายใน
2. ชนิดไม่ใช้น ้าบรรจุภายใน

11. ลวดเชื่อมแก๊ส
ในการปฏิบัติงานเชื่อมแก๊สทุกครั้ง จะต้องมีการปรับเปลวไฟให้ถูกต้องและเหมาะสมกับลักษณะของชิ้นงาน

เพื่อที่จะให้เกิดการยึดติดกัน ซึ่งเปลวไฟแต่ละชนิดจะให้คุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป สามารถแบ่งออกเป็น 3
ชนิด คือ

1. เปลวคาร์บูไรซิ่ง (Carburizing Flame)
2. เปลวนิวทรัล (Neutral Flame)

3. เปลวออกซิไดซิ่ง (Oxidizing Flame)

ค าถาม

1. จงอธิบายถึงเทคนิคในการเชื่อมแก๊สมาพอสังเขป ? (ข)
ตอบ เทคนิคในการเชื่อมแก๊ส ประกอบด้วย การเชื่อมจากขวาไปซ้าย (Forehand Welding) ท าการเชื่อม

จากขอบของงานทางขวามือไปซ้ายมือจนกว่าจะสิ้นสุดการเชื่อม และการเชื่อมจากซ้ายไปขวา (Backhand

Welding) ท าการเชื่อมจากทางซ้ายของขอบชิ้นงาน เดินไปทางขวามือจนกระทั่งสิ้นสุดชิ้นงาน
2. หัวทิพเชื่อมสามารถแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง ? (จ)

ตอบ 1. แบบชิ้นเดียว 2. แบบแยกชิ้น
3. ลักษณะของเปลวคาร์บูไรซิ่ง (Carburizing Flame) ในงานเชื่อมแก๊ส แล้วเปลวไฟชนิดนี้จะมีปริมาณแก๊ส

อะเซทิลีนกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นอย่างไร
ตอบ ปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มกกกว่าแก๊สอะเซทิลีน



ข้อสังเกตการสอน
ผู้สอน ผู้เรียน


ก่อนสอน: เตรียมความพร้อมของผู้สอนด้าน ก่อนเรียน : การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน
เนื้อหาและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน ขณะเรียน : ความสนใจของผู้เรียนต่อผู้สอน

ขณะสอน: การเคลื่อนไหว ท่าทาง การใช้ การตอบค าถามของผู้เรียน

น ้าเสียงในการพูด และการตั้งค าถามๆผู้เรียน หลังเรียน : ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

หลังสอน : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม



หมายเหตุ
สัญลักษณ์

(จ) = ความจ า (ข) = ความเข้าใจ (น) = น าไปใช้
(ว) = วิเคราะห์ (ส) = สังเคราะห์ (ป) = ประเมินค่า



เอกสารอ้างอิง
รหัส A : นริศ ศรีเมฆ. “งานเชื่อมและโลหะแผ่นเบื้องต้น”. นนทบุรี : เอมพันธ์, 2556.


เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน

1. กระดานไวท์บอร์ด (White Board)
2. โน๊ตบุ๊ค (Notebook)

3. พาวเวอร์พอยต์ (Power Point)

4. โปรเจคเตอร์ (Projector)

บันทึกหลังการสอน

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................................


.......................................................................
( )

ผู้บันทึก


Click to View FlipBook Version