The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระป่าและช้างป่า ว่านยาคนโบราณ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wonchai890, 2022-02-21 20:45:52

พระป่าและช้างป่า ว่านยา

พระป่าและช้างป่า ว่านยาคนโบราณ

170

วา่ นแกอ้ าหารเป็นพษิ

สรรพคุณ แกพ้ ษิ ทเ่ี กดิ จากอาหารตา่ งๆ
วิธใี ช ้ เคี้ยวหัวกนิ จากนน้ั นำ� ไปต้มใหน้ �้ำออกสเี หลือง ดมื่ กินจนกว่าจะหาย
วธิ ีปลูก ปลูกเชา้ วันองั คารก่อนเทย่ี ง

วา่ นงูกัด ๔

สรรพคณุ แก้ถูกงูพิษกัดทุกชนดิ
วธิ ใี ช้ เอาหัววา่ นสดมาตำ� ใหล้ ะเอยี ด แล้วทาหรือพอกแผลท่ถี กู งกู ดั ดีนกั แล
วธิ ปี ลูก ปลูกเชา้ วนั องั คารก่อนเทีย่ ง ในพน้ื ที่โลง่
หา้ มใสป่ ยุ๋ เคมีทุกชนิด

พญาวา่ น จ.ตราด

สรรพคณุ แกง้ สู วัด แก้เริมทข่ี ้ึนตามปาก คอ หลัง เอว
วิธใี ช้ ลา้ งหวั วา่ นให้สะอาด เคย้ี วพ่นและฝนทาบรเิ วณทเ่ี ปน็
วธิ ีปลกู ปลกู เช้าวนั องั คารก่อนเทย่ี ง ปลูกบรเิ วณตรงกลางสวนวา่ น
หา้ มใส่ปุ๋ยเคมีทุกชนดิ

171

พญาว่าน

สรรพคุณ ใชแ้ กเ้ มอ่ื ถกู พษิ วา่ นเบอ่ื เมาชนดิ ตา่ งๆ หรอื ถกู พษิ ไมม้ พี ษิ หรอื เบอื่ เมาจาก
พิษอาหารตา่ งๆ นยิ มปลกู ไว้เพือ่ ค้มุ กันอันตรายต่างๆ จากพิษว่าน และ
รกั ษาคุณภาพของว่านให้ทรงคุณประโยชน์ โบราณนยิ มปลกู พญาว่าน
ไว้ตรงกลาง และยังใช้ปลูกล้อมว่านท้ังหมดได้อีกด้วย มีคุณท้ังรักษา
และป้องกัน

วิธีใช ้ น�ำหวั วา่ นมาลา้ งใหส้ ะอาด ฝนใส่นำ้� ซาวข้าวหรือเหล้าใช้ดืม่ หรือฝนทา
บรเิ วณท่ถี ูกพิษจะหายไดท้ นั ที โรคผิวหนงั ผดผ่ืนคนั ฝนผสมน้�ำสุราทา
จะหายเรว็ ไว

วธิ ปี ลูก ปลกู เช้าวันองั คารกอ่ นเท่ียง ในตรงกลางสวนว่าน และรอบบริเวณของ
สวนวา่ น หา้ มใส่ปุ๋ยเคมที ุกชนิด

วา่ นริดสีดวงร้อยเอ็ด ชนิดพเิ ศษ

สรรพคณุ รกั ษาโรครดิ สีดวงทวาร
วิธใี ช้ ใช้หัวว่าน ๕ หัว ตำ� หรือโขลกให้ละเอียด ดองใส่ในนำ�้ สุราประมาณ

๑ แบน หรือครึง่ ขวดแม่โขง ใหต้ ัวยาออกพอประมาณ แล้วจบิ กนิ ตาม
ต้องการจนกว่าจะหาย ส�ำหรับหัวว่านสด เคี้ยวกินประมาณ ๑ องคุลี
กินวันละ ๒ คร้ัง เชา้ - เยน็ การรักษาโรคริดสดี วงทวาร เคยรกั ษา
ผ่านมาแลว้ หายทุกราย
วธิ ีปลกู ปลกู เชา้ วนั พฤหสั บดกี ่อนเท่ยี ง เดอื นพฤษภาคม ในท่โี ล่ง

172

ว่านแกพ้ ิษ แกเ้ บ่ือเมา

สรรพคุณ แก้พษิ และเบ่อื เมาทกุ ชนิด
วธิ ีใช้ ลา้ งหัวว่านใหส้ ะอาด เค้ยี วกินครง้ั ละประมาณ ๑ ข้อมือ หรอื ฝนใส่น้�ำ

กินกไ็ ด้ แมลงสัตว์กดั ตอ่ ย ฝนทาตรงทถ่ี ูกกัดดนี กั แล
วธิ ปี ลูก ปลูกเชา้ วันองั คารก่อนเทีย่ ง ในพ้ืนท่โี ล่ง หา้ มใส่ปุ๋ยเคมีทุกชนิด

วา่ นงูจงอาง

สรรพคณุ แกพ้ ษิ งจู งอาง และงพู ษิ ทกุ ชนดิ รกั ษาโรคพษิ สนุ ขั บา้ (หมาวอ้ ) ไดด้ อี กี ดว้ ย
วิธใี ช้ - รากและใบนำ� มาตม้ กนิ สว่ นหวั ฝนทาบรเิ วณทงี่ กู ดั หรอื จะฝานกนิ สดๆ

ได้ทนั ที
- เฉพาะโรคพิษสุนัขบ้า ฝนให้ข้น ใส่น้�ำท่ีสะอาดปราศจากสารเคมี

ประมาณ ๑ แกว้ กินหรือด่มื ประมาณ ๒ ช่ัวโมง เหน็ ผลหาย
ยานไี้ ดเ้ อาไปรกั ษาโรคหมาบา้ ทห่ี มอแผนปจั จบุ นั รกั ษาไมไ่ ดห้ ายมาแลว้
วธิ ีปลกู ปลูกเชา้ วันองั คารก่อนเท่ียง ในทีโ่ ล่ง ห้ามใสป่ ยุ๋ เคมีทุกชนิด

ว่านแก้พษิ งู (ตวั เมีย)

สรรพคณุ แก้พษิ งูทกุ ชนิด พษิ แมลงสัตวก์ ดั ต่อย แกฝ้ ที กุ ชนิด
วิธใี ช ้ เมื่อเวลาถูกงูกัด ฝนใส่น้�ำสะอาดให้เข้มข้นกิน กรณีฉุกเฉินเร่งด่วน

ตำ� ปดิ ปากแผลทถ่ี กู งกู ดั (พอกแผล) ลา้ งใหส้ ะอาดกนิ ไดเ้ ลย จนกวา่ พษิ งู

173

วธิ ีปลกู จะหาย จ�ำพวกแมลงทุกชนิดกัดหรือต่อย ฝนให้เข้มข้นกับน�้ำสะอาด
ทาปากแผล ฝีทุกชนดิ ต�ำพอกปิดปากแผลอย่างเดยี วจนหาย
สรรพคุณ ปลกู เชา้ วนั องั คารกอ่ น ๑๐ โมงเชา้ กอ่ นปลกู ใชเ้ หลก็ ขนาดไหนกไ็ ด้ ๓ ชน้ิ
วธิ ใี ช้ เทียนไขเลก็ หรือใหญ่ก็ได้ ๑ คู่ ดอกไม้ ๑ คู่ ทั้งสามอยา่ งนร้ี องกน้ หลมุ
กอ่ นปลกู วา่ นลงไป หา้ มปลกู ใกลว้ า่ นงเู หา่ ตวั ผู้ และหา้ มใสป่ ยุ๋ เคมที กุ ชนดิ
วิธปี ลูก
ว่านจงอางศึก

สรรพคุณ แก้พิษงู พษิ แมลงสัตว์กดั ต่อย แก้คัน แกเ้ ชอ้ื ราทกุ ชนดิ
วิธใี ช ้ แกพ้ ิษ นำ� หัววา่ นมาฝานแปะไว้ตรงแผลถกู กัดหรอื ต่อย
แกค้ ัน แกเ้ ชอ้ื รา นำ� หัววา่ นมาล้างให้สะอาด ตม้ กนิ ประจำ� จนกว่าจะหาย
วธิ ีปลกู ปลกู เชา้ วันอังคารกอ่ นเท่ียง ในที่โล่ง
ห้ามใส่ปุ๋ยเคมที ุกชนดิ

ขม้นิ ใหญ่

แก้โรคหืดหอบ ขับลม แกท้ อ้ งอดื ทอ้ งเฟอ้ ทอ้ งร่วงอย่างรุนแรง แก้ผด
ผื่นคนั
หวั วา่ นลา้ งใหส้ ะอาด ฝานตม้ กนิ วนั ละ ๓ เวลา แกโ้ รคหดื หอบ บำ� รงุ หวั ใจ
หรือจะฝานเค้ียวกินดื่มน�้ำตามลงไป อาการปวดท้องต่างๆ จะหายไป
ทนั ที ผดผน่ื คนั ใช้หัวตำ� ทาถูบรเิ วณที่มอี าการ
ปลูกวันพฤหัสบดี

174

ว่านแสนสารพดั พิษ

สรรพคณุ แก้โรคไซนสั
วิธใี ช ้ ล้างให้สะอาด ฝานเป็นช้นิ ๆ แล้วเคย้ี วกินจนกวา่ จะหาย กนิ ได้ทกุ เวลา

เม่ือมีอาการปวด
วธิ ีปลกู ปลกู เช้าวนั องั คารกอ่ นเทีย่ ง ในพืน้ ทโ่ี ล่ง
ห้ามใส่ปยุ๋ เคมที กุ ชนดิ

วา่ นแกน้ ิ่วไต

สรรพคณุ เป็นยาขับน่วิ ไตไดด้ ี
วธิ ใี ช ้ น�ำหวั มาล้างใหส้ ะอาด ฝานเป็นชิน้ ๆ ต้มกนิ เปน็ ประจ�ำจนกวา่ จะหาย
วธิ ีปลูก ปลูกเช้าวนั อังคารก่อนเท่ียง ในพน้ื ทโี่ ลง่
หา้ มใสป่ ๋ยุ เคมีเชน่ กนั

วา่ นแกน้ วิ่ พิเศษ นิ่วทุกชนิด

สรรพคณุ เปน็ ยาขบั น่วิ ในกระเพาะปัสสาวะไดด้ ี ช่วยบ�ำรงุ หมวกไตใหเ้ ปน็ ปกติใน
การทำ� งาน

วธิ ใี ช้ ใชก้ า้ นและใบต้มกนิ เป็นประจำ� จนกวา่ จะหาย
วิธปี ลูก ปลูกเช้าวันองั คารกอ่ นเที่ยง ในพน้ื ทโี่ ล่ง
หา้ มใสป่ ยุ๋ เคมีทุกชนดิ

175

สรรพคณุ ขมิ้นขาวหรือขมิน้ หวั ใหญ่
วิธใี ช ้
เปน็ ยาอายวุ ฒั นะขนานเอกในการบ�ำรุง แก้โรคหอบหืด (ขกี้ ะยอื ) ท้องรว่ ง
- ยาบำ� รงุ กำ� ลงั และหอบหดื ใชห้ วั ลา้ งใหส้ ะอาด ฝานตม้ กนิ วนั ละ ๓ เวลา
คือ เชา้ กลางวัน เย็น กินเป็นประจ�ำจะดนี ัก
วิธปี ลูก - สำ� หรบั ทอ้ งรว่ งอยา่ งแรง ฝานเคยี้ วกนิ ดม่ื นำ้� ตามลงไป อาการถา่ ยทอ้ ง
ปวดท้องจะหายทนั ที หมอโบราณใชม้ าเปน็ ประจำ� ไดผ้ ลดนี ัก
ปลูกเชา้ วันอังคารกอ่ นเทย่ี ง ปลูกได้ทงั้ ในทโี่ ล่งและทร่ี ่ม
สรรพคุณ ห้ามใสป่ ยุ๋ เคมีทุกชนดิ

วธิ ใี ช ้ วา่ นไฟใจด�ำ (ว่านไพร)

แก้สารพิษตา่ งๆ เชน่ แพ้ยา แพ้สารเคมี ขบั พษิ ในร่างกาย แกเ้ ม็ดผด
ผน่ื คนั บำ� รุงรา่ งกาย
วิธปี ลกู - แก้สารพษิ เอาหัววา่ นมาลา้ งให้สะอาด ฝานบางๆ เคีย้ วกนิ ไดท้ ันที
อาการเปน็ พษิ จะหาย
- ใช้หัวและใบตม้ อาบ แก้โรคผิวหนัง ผดผ่นื คัน
- บ�ำรงุ ร่างกาย ใหเ้ อาหัว ลำ� ตน้ และใบ ต้มเคย่ี ว ดืม่ กินเปน็ ประจ�ำจะดีนัก
ปลูกเชา้ วนั อังคารกอ่ นเทย่ี ง ในที่โลง่ หรือรม่ ก็ได้
หา้ มน�ำปุ๋ยเคมที กุ ชนดิ มาใส่

176

ว่านไฟด�ำ (ว่านไพรด�ำ)

สรรพคุณ แก้เคลด็ ขัดยอก แกเ้ หน็บชา ขับประจำ� เดือน
วิธีใช้ - เคลด็ ขัดยอก ใช้ฝนทาทีเ่ คลด็ เปน็ ประจำ� ไมน่ านก็จะหาย
- ขบั ประจำ� เดอื น ใชห้ วั สดตำ� คน้ั เอานำ�้ ผสมกบั เกลอื กนิ ครง้ั ละ ๑ ชอ้ นโตะ๊
- แกเ้ หน็บชา ตำ� หวั สดคั้นเอาน�ำ้ ทาที่เป็นเหน็บชา ทาเปน็ ประจำ� จนกว่า

จะหาย
วิธีปลกู ปลูกวนั องั คารกอ่ นเทีย่ ง ในทโ่ี ล่งหรอื รม่ ก็ได้
หา้ มใสป่ ยุ๋ เคมที ุกชนดิ

วา่ นธรรมลา

สรรพคณุ แกช้ กั ลมบา้ หมู
วิธีใช ้ หวั ลา้ งใหส้ ะอาด เคยี้ วกนิ วนั ละ ๓ – ๔ ครงั้ หรอื ตามตอ้ งการ กนิ ไปเรอื่ ยๆ

จะท�ำให้ไม่ชัก
วธิ ีปลกู ปลูกเช้าวันอังคารก่อนเที่ยง ในทโ่ี ลง่
หา้ มใสป่ ยุ๋ เคมีทุกชนดิ

177

สรรพคุณ ว่านไฟด�ำ (ไพลด�ำ)
วธิ ีใช้
แกเ้ คลด็ ขดั ยอก แก้โรคกระเพาะอาหาร แก้เหนบ็ ชา
- เคลด็ ขดั ยอก ใชฝ้ นทาท่ีเคลด็ เปน็ ประจำ� จนกวา่ จะหาย
- ขับประจ�ำเดือน หัวสดต�ำคั้นเอาน้�ำผสมเกลือเล็กน้อย กินคร้ังละ
วธิ ปี ลูก ๑ ช้อนโตะ๊ วันละ ๓ เวลาหลงั อาหาร
- แกเ้ หนบ็ ชา เอาหวั สดมาตำ� คน้ั เอาน้�ำทาท่เี ปน็ เหน็บชาจนกว่าจะหาย
ปลกู วันใดกไ็ ด้ ในทโ่ี ลง่ หรอื รม่ กไ็ ด้
สรรพคณุ ห้ามใสป่ ๋ยุ เคมที ุกชนดิ
วิธีใช้
วธิ ปี ลกู ว่านแก้พิษสุนัขบา้ กัด ๒ (หมาวอ้ กัด)

ใชถ้ อนพษิ สนุ ัขบา้ กัด (หมาวอ้ กดั )
สรรพคุณ ใชฝ้ นผสมนำ้� มะนาวทาแผลทถี่ กู กดั หรอื ใชห้ วั กา้ นใบ ตม้ กนิ พษิ กจ็ ะหาย
วิธีใช ้ ปลูกเช้าวันอังคารก่อนเทย่ี ง ในทโี่ ลง่
วิธปี ลกู หา้ มใส่ปุ๋ยเคมที กุ ชนดิ

ว่านแกพ้ ิษงูเหา่ จ.ตาก

แกง้ เู ห่ากดั
หัววา่ นล้างใหส้ ะอาด ฝนทาหรอื จะตำ� พอกแผลทีถ่ ูกกัดกไ็ ด้
ปลูกเช้าวนั อังคารก่อนเทีย่ ง ในที่โลง่
ห้ามใสป่ ุ๋ยเคมที ุกชนิด

178

ว่านแกพ้ ิษสนุ ขั บ้า ๓ (หมาว้อ)

สรรพคณุ แก้หมาว้อกัด (สุนขั บ้ากดั )
วธิ ใี ช้ หวั วา่ นฝนผสมกบั นำ�้ มะนาวทาแผลทถ่ี กู กดั ไดท้ กุ เวลา จนกวา่ แผลจะหาย
วธิ ปี ลกู ปลูกเชา้ วันองั คารกอ่ นเทย่ี ง ในทโ่ี ล่ง
ห้ามใสป่ ุ๋ยเคมีทกุ ชนิด

วา่ นแกเ้ ส้นเจ็บหลงั ปวดเอว

สรรพคุณ แก้เส้นเจบ็ หลงั ปวดเอว
วธิ ีใช ้ หวั ลา้ งให้สะอาด ฝานต้มกนิ เปน็ ประจำ� ดีนกั แล
วิธีปลกู ปลกู เช้าวนั อังคารก่อนเทยี่ ง ในท่ีโล่ง
หา้ มใสป่ ุ๋ยเคมีทุกชนิด

ว่านแก้ท้องอืด

สรรพคุณ แกท้ ้องอืด ท้องเฟอ้
วิธีใช้ หัวล้างให้สะอาด ฝานกินสดๆ ไดเ้ ลย
วธิ ีปลูก ปลกู เชา้ วันองั คารกอ่ นเทยี่ ง ในที่โล่ง
หา้ มใส่ปยุ๋ เคมีทุกชนิด

179

สรรพคณุ ขมิน้ ดำ�
วธิ ใี ช้
วธิ ีปลกู แก้หดื หอบ ขบั ถ่ายพยาธิ แกโ้ รคกระเพาะ ขบั ลม แกโ้ รคบิด
เอาหัวมาตม้ กนิ จนกว่าจะหาย
ปลกู วันใดกไ็ ด้ ในทโี่ ล่งเหมาะ
สรรพคุณ หา้ มใส่ป๋ยุ เคมที กุ ชนิด
วิธีใช ้
วา่ นแกท้ อ้ งร่วง
วิธีปลูก
แกท้ ้องร่วง ท้องถา่ ยอยา่ งแรง
หวั ลา้ งใหส้ ะอาด เคยี้ วกนิ พอสมควร หรอื ตำ� ใหล้ ะเอยี ด ผสมนำ้� มะนาวกนิ
สรรพคุณ ก็ได้ กินไปเรอื่ ยๆ จนกว่าจะหาย
วธิ ใี ช ้ ปลูกเชา้ วันองั คารกอ่ นเทยี่ ง ในทโี่ ลง่
ห้ามใส่ป๋ยุ เคมที กุ ชนิด
วิธปี ลูก
ว่านแกโ้ รคบุรษุ (กามโรค)

แก้โรคหนองใน และแผลนอก
หวั วา่ นลา้ งใหส้ ะอาด ฝานบางๆ ประมาณ ๑ กำ� มอื ตม้ กนิ จนกวา่ จะหาย
ว่านน้ีใช้ไดผ้ ลดีนัก
ปลกู เชา้ วนั อังคารกอ่ นเทย่ี ง ในทีโ่ ลง่
ห้ามใส่ปุ๋ยเคมีทกุ ชนิด

180

ว่านกระชายขาว

สรรพคุณ บำ� รุงหัวใจ มตุ กดิ ระดูขาว แก้บิดมูกเลือด บำ� รุงก�ำลัง แก้กามตายด้าน
วธิ ีใช้ หน่ั เปน็ แวน่ บางๆ ตม้ กนิ นำ�้ หรอื จะเคยี้ วกนิ สดๆ กไ็ ด้ กนิ เปน็ ประจำ� จะเปน็

ยาบำ� รงุ ไดด้ ีนกั
วิธีปลูก ปลกู เชา้ วนั อังคารก่อนเทย่ี ง ในทีโ่ ลง่ หรือรม่ พอสมควรก็ได้
ห้ามใส่ปยุ๋ เคมเี ช่นกนั

ขมิน้ ดำ�

สรรพคณุ แก้โรคหดื หอบ แก้โรคกระเพาะอาหาร และลำ� ไส้อกั เสบ
วธิ ีใช ้ ฝานหวั ตม้ กนิ ไปเรอ่ื ยๆ จนกวา่ จะหาย
วิธปี ลกู ปลกู วันองั คาร ในทโ่ี ล่ง ไมช่ อบที่ชนื้ แฉะ
ห้ามใสป่ ุย๋ เคมที กุ ชนดิ

ขงิ ดำ� กระชายดำ�

สรรพคณุ แก้โรคตบั อกั เสบ ดซี ่าน
วธิ ใี ช้ หัวลา้ งให้สะอาด ต้มกนิ แทนนำ้� กนิ วันละหลายๆ ครงั้ เม่อื หวิ น�้ำกินได้

ตามตอ้ งการ
วิธีปลูก ปลกู วนั ใดกไ็ ด้ ในที่โลง่ หรือรม่ พอประมาณก็ได้
หา้ มใส่ปยุ๋ เคมีทกุ ชนิด

181

สรรพคณุ ว่านแก้พษิ งู (ตัวผ)ู้
วธิ ีใช้
แก้พษิ งู แมลงสัตวก์ ดั ต่อย แก ้ฝที ุกชนดิ
วิธีปลกู เมอื่ เวลาถกู งกู ดั ฝนหวั วา่ นใสก่ บั นำ�้ สะอาดใหเ้ ขม้ ขน้ กนิ หรอื ยามฉกุ เฉนิ
รีบด่วนต�ำปิดปากแผล (พอกแผล) ลา้ งให้สะอาดเค้ยี วกนิ ไดเ้ ลย จนกว่า
สรรพคณุ พิษงูจะหาย แมลงสัตว์กัดต่อยทุกชนิด ฝนให้เข้มข้นกับน�้ำสะอาด
วธิ ใี ช ้ ทาปากแผลฝีทกุ ชนิด ตำ� พอกปดิ ปากแผลอยา่ งเดียวจนกวา่ จะหาย
ใช้เหลก็ ขนาดไหนกไ็ ด้ ๓ ชิ้น เทียนไขเลก็ หรือใหญ่ก็ได้ ๑ คู่ ดอกไม้
ข้อห้าม ๑ คู่ ทงั้ สามอยา่ งนร้ี องพนื้ กน้ หลมุ กอ่ นปลกู วา่ น ปลกู วนั องั คาร อยา่ ใหเ้ กนิ
๑๐ โมงเชา้ ห้ามปลกู ใกลว้ ่านงูตัวเมยี และห้ามใส่ปุ๋ยเคมที ุกชนดิ

ว่านพษิ งจู งอาง จ.เลย

แก้พษิ งูทกุ ชนิดกดั
ห้ามใชม้ ีด เสยี ม จอบ ตดั หวั วา่ นออกมาใช้ ใช้มอื หักเอาคุ้ยเอาหวั วา่ น
ออกใช้ นำ� มาล้างให้สะอาด หน่ั เปน็ ช้ินๆ เคีย้ วกิน แลว้ กินน�ำ้ ตามลงไป
หรือต�ำพอกแผลท่ีถูกกัดได้ผลดีมาก หรือฝนใส่น้�ำมะนาวกินย่ิงได้ผลดี
โขลกใสน่ �้ำมะนาวหรือน�้ำปนู ใส พอกที่แผลงกู ดั ยิง่ ได้ผลเร็วเช่นกัน
หา้ มใช้จอบ เสียม หรือเคร่อื งมือที่ทำ� ดว้ ยโลหะ เพอ่ื ตดั ฟนั เอาหวั ว่านมา
รักษาเมือ่ ถูกงูกัด จะทำ� ใหว้ า่ นเสื่อมคณุ ภาพไม่ดีเท่าทค่ี วรในการรักษา
และหา้ มผหู้ ญงิ เขา้ ไปใกลใ้ นชว่ งเวลาทห่ี วั วา่ นขน้ึ สเี ขยี ว ใหห้ า่ งประมาณ
๖ เมตร ขนึ้ ไป เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงตายได้

182

วธิ ปี ลกู ใชเ้ หลก็ ๑ ชนิ้ รองหวั วา่ นกอ่ นปลกู ทกุ ครงั้ วา่ น ๑ หวั ตอ่ เหลก็ ๑ ชนิ้ ใชต้ ะปู
กไ็ ด้ ปลูกเชา้ วนั องั คารกอ่ นเทยี่ ง ในทีโ่ ล่ง

หา้ มรดนำ�้ และใสป่ ยุ๋ เคมที ุกชนดิ

ว่านม้าไส้แหล้ (ใจแหล้ จ.อบุ ลฯ)

สรรพคณุ แก้เจบ็ หลงั เจ็บเอว ปวดตามข้อ ปวดขา ปวดท้อง เจ็บท้อง
วิธีใช ้ หวั ลา้ งใหส้ ะอาด ฝานเป็นชนิ้ ๆ เค้ียวกนิ หรือตม้ กนิ กไ็ ด้ จนกวา่ จะหาย

กนิ ไดท้ กุ เวลาเมื่อมอี าการปวด
วิธีปลูก ปลกู เช้าวันอังคารกอ่ นเทย่ี ง ในท่โี ล่ง
หา้ มใส่ปุ๋ยเคมที ุกชนดิ

ว่านจางจดื (วา่ น จ.จ.ล.)

สรรพคุณ แก้เบ่อื เมาทกุ ชนิด
วิธีใช ้ ถ้าถูกพิษเบ่ือเมาต่างๆ เอาหัวสดเท่าหัวแม่มือมาเค้ียวกิน อาการต่างๆ

ก็จะหาย
วิธปี ลูก ปลกู เชา้ วนั พฤหสั บดกี อ่ นเทยี่ ง อยา่ นำ� ไปปลกู ปนกบั วา่ นชนดิ อน่ื จะทำ� ให้

ว่านอย่างอ่ืนเสียคณุ ภาพ ห้ามใสป่ ุ๋ยเคมที กุ ชนิด

183

สรรพคุณ ว่านน่ิวพเิ ศษ
วธิ ใี ช้
วธิ ปี ลกู ย้ายไปปลูกทอ่ี ่นื
แก้โรคนว่ิ ทกุ ประเภท
หัวล้างให้สะอาด หั่นเป็นช้ินๆ ต้มกินเป็นประจ�ำแทนน�้ำ กินไปเรื่อยๆ
สรรพคณุ จนกว่าจะหาย
วิธใี ช ้ ปลูกเช้าวนั อังคารก่อนเทีย่ ง
หา้ มใสป่ ยุ๋ เคมีทุกชนดิ
วธิ ปี ลูก
ว่านพญาใหญ่

แกอ้ สรพิษทุกอย่าง เช่น พิษงูจงอาง และงทู ม่ี พี ิษอืน่ ๆ แมลงสัตวก์ ดั ต่อย
ต่างๆ ที่มีพษิ แก้ได้หมด
เอาหัวว่านมาล้างให้สะอาด ต�ำหรือฝนด้วยฮอให้ละเอียด (วิธีท�ำฮอ :
น�ำสังกะสีมาแลว้ ใช้ตะปูเจาะเป็นรูหลายๆ รู กใ็ ช้ฝนได้) แลว้ บีบเอาน�ำ้
มะนาวผสมลงไป ใชป้ ดิ ทีแ่ ผลและใชก้ นิ ด้วยก็จะหายไดใ้ นไม่ชา้
ปลูกเช้าวันอังคารก่อนเที่ยง ก่อนปลูก เมื่อขุดหลุมแล้วให้เอาแผ่นเหล็ก
รองกน้ หลมุ กอ่ น เทยี น ๑ คู่ ดอกไม้ ๑ คู่ เอาดนิ กลบกอ่ นแลว้ คอ่ ยนำ� วา่ น
ลงปลูก เปน็ อนั เสร็จพธิ ี หา้ มใสป่ ยุ๋ เคมีทุกชนดิ

184

วา่ นจางจดื (รางจืด)

สรรพคุณ ใชถ้ อนพิษต่างๆ ไดด้ ีมาก เช่น พษิ เบื่อเมา เมารถ เมาเรอื หรอื อาการ
เบื่อเมาตา่ งๆ ท่ีเกดิ จากอาหารเป็นพิษ

วธิ ีใช้ น�ำหัวว่านมาล้างให้สะอาด ฝนให้ออกเข้มข้นในนำ้� ๑ แก้ว ให้ผู้ท่ีมี
อาการเบ่อื เมาตา่ งๆ กิน ในไมช่ า้ ก็จะหายเปน็ ปลิดทง้ิ

วธิ ีปลกู ปลกู เชา้ วนั พฤหสั บดเี หมาะในการปลกู วา่ นจางจดื กอ่ นเทยี่ งวนั ในพน้ื ทโ่ี ลง่
หรือร่มพอประมาณก็ได้

ห้ามปลกู ในแปลงวา่ นอน่ื ๆ หรอื ใกลบ้ รเิ วณทป่ี ลูกว่านชนดิ อืน่ เพราะจะ
ท�ำให้ว่านชนดิ อน่ื ๆ หมดคุณภาพ จดื ลงและเสือ่ มคณุ ภาพ

ห้ามใสป่ ยุ๋ เคมที ุกชนิด (ว่านจางจดื มอี ยู่ ๓ ชนิด)

หญ้าแกส้ ารพดั พิษ

สรรพคณุ แกพ้ ิษแมลงสัตว์กดั ต่อย แกง้ สู วดั (เปน็ วตั )
วิธีใช้ ใชใ้ บสดต�ำพอกหรอื ทาที่แผล และเคยี้ วกนิ
วธิ ีปลูก ปลกู เชา้ วนั อังคารกอ่ นเทยี่ ง
ห้ามใส่ปุ๋ยเคมที กุ ชนิด

185

เขียนประวตั ไิ มจ้ นั ทน์แดง ปี พ.ศ. ๒๕๔๔

ไมจ้ นั ทนแ์ ดงทแ่ี ทจ้ รงิ ตนกไ็ มเ่ คยเหน็ ไดย้ นิ แตช่ อื่ ตามประวตั ใิ นสมยั ครงั้ พทุ ธกาล
และเลา่ กนั สบื ๆ มา ไมจ้ นั ทนแ์ ดงทไ่ี ดน้ ำ� มาปลกู ทว่ี ดั ปา่ ดานวเิ วก เนอ่ื งดว้ ยไดไ้ ดท้ ราบขา่ ว
จากนายสำ� เนยี ง มณฑา คนจงั หวดั ตราด มีพ่อเกิดท่ปี ระเทศเขมร เขตอำ� เภอเกาะกง
เปน็ หมอแผนโบราณมีชอื่ เสยี งทางยาสมุนไพร ในเขตอำ� เภอเกาะกงในสมยั นั้นเกง่ มาก
ตนกส็ นใจสบื ถามเสาะแสวงหาไมจ้ นั ทนแ์ ดงนเ้ี รอ่ื ยมา เพราะอยากไดม้ าเพอ่ื เปน็ ประโยชน์
จะได้ใชร้ ักษาโรคต่างๆ ในคราวจำ� เป็นทเ่ี กิดขน้ึ ในเพ่อื นมนุษยด์ ้วยกนั อีกทงั้ ไดท้ ราบ
ประวัติไม้จันทน์แดงจากคนโบราณพูดถึงไม้ชนิดน้ีอยู่เสมอว่ามีคุณค่าทางยารักษาโรค
ให้หายป่วยได้ดเี ปน็ ทพ่ี อใจมาก

ช่วงนั้นเป็นโอกาสพอดี นายส�ำเนียงได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย ซ่ึงบวชเป็นพระ
จำ� พรรษาท่วี ดั ปา่ ดานวเิ วก จึงไดถ้ ามถึงไม้จนั ทน์แดงจากนายส�ำเนยี งวา่ พอรูไ้ หมหรอื
มไี หมในเขตแถวๆ นนั้ นายสำ� เนยี งจงึ ไดเ้ ลา่ เรอ่ื งไมจ้ นั ทนแ์ ดงใหฟ้ งั วา่ แกน่ ไมจ้ นั ทนแ์ ดง
จะมสี แี ดงเขม้ แดงอ่อน เนือ้ ไมแ้ ข็งละเอยี ด มกี ลิน่ หอมออ่ นๆ มีสรรพคณุ ใช้ผสมยารักษา
โรคทุกชนิดให้หายดี ตนก็ถามว่า มีปุ่มไหมไม้จันทน์แดง เขาบอกว่า มีเป็นบางต้น
คนเขาเหน็ จะเอาไปขาย เพราะสรรพคณุ ทางสมนุ ไพรน้เี ดน่ มาก ป่มุ ไม้จนั ทนแ์ ดงจึงมคี ่า
ราคาสูง ถ้าใครเห็นเขาเอาไปขายหมด พอดีตนก็ก�ำลังจะหาไม้ท่ีก�ำลังใกล้จะสูญพันธุ์
ท่ีมีสรรพคุณทางยา หรือเป็นไม้ท่ีมีคุณค่าหายาก จึงได้สั่งให้นายส�ำเนียงพยายามหา
ทัง้ แก่นไม้จนั ทน์แดงและเมลด็ น�ำมาให้เพาะปลกู ไดด้ ว้ ย

หลังจากน้ัน นายส�ำเนียงก็พยายามเสาะแสวงหาแก่นไม้จันทน์แดงเป็นเวลานาน
ประมาณถึงห้าปี พระมานะซ่ึงเป็นลูกชาย ได้มีโอกาสไปเย่ียมพ่อที่จังหวัดตราดและ
เป็นโอกาสที่พอเหมาะพอดี ทางนายส�ำเนียงก็ได้เม็ดลูกจันทน์แดงที่ก�ำลังงอกจาก
นายพรานซงึ่ เก็บมาฝาก แกกำ� ลังเพาะไว้ พระลกู ชายเหน็ ก็รีบนำ� ขน้ึ มา ถ้าจ�ำไม่ผิดเปน็
เดอื นพฤษภาคม ๒๕๔๑ นำ� ลงเพาะไวท้ ว่ี ดั ป่าดานวิเวก จากนั้นอกี ไม่นาน นายส�ำเนียง

186

กน็ ำ� แกน่ ไมจ้ นั ทนแ์ ดงมาใหต้ นดู ตนไดส้ นั นษิ ฐานดเู ปรยี บเทยี บกบั ประวตั ไิ มจ้ นั ทนแ์ ดง
ในสมยั ครง้ั พทุ ธกาล และคนโบราณพดู สบื ๆ กนั มา แกน่ จนั ทนแ์ ดงเปน็ ไมเ้ นอื้ แขง็ ละเอยี ด
และมีกล่ินหอมอ่อนๆ หอมเย็นบ้าง และหอมไม่มีของอ่ืนเสมอ ดูแล้วไม้ท่ีนายส�ำเนียง
นำ� มาจากเขตอำ� เภอเกาะกง ประเทศเขมร เปน็ ไมจ้ นั ทนแ์ ดงทต่ี รงกบั ประวตั ไิ มจ้ นั ทนแ์ ดง
อยา่ งแท้จริง (เป็นไมจ้ ันทน์แดงของจริงซงึ่ ก�ำลังจะสูญพันธ์ุ)

ไมจ้ นั ทนแ์ ดงไมค่ วรปลกู เรย่ี ราดในทท่ี ว่ั ไป เกดิ ไดย้ าก เมด็ จนั ทนแ์ ดงทน่ี ำ� มาจาก
อ�ำเภอเกาะกง ประเทศเขมร เม็ดและใบเหมอื นกันกับไมจ้ ันทนเ์ ทศ แตเ่ ม็ดจนั ทน์แดงจะ
ยาวกว่า ใบและเปลือก ไม้จันทน์แดงไม่มีกลิ่นหอม ไม้จันทน์เทศมีกล่ินหอม แก่นไม้
จันทน์แดงมสี ีเหมอื นคร่งั สด มสี ีแดงเข้มหรอื สแี ดงอ่อน อาจจะเป็นเพราะทด่ี ินและอากาศ
และสถานท่ีอยู่ที่เกิดพาให้เป็นไปก็ได้ แก่นจันทน์แดงกลิ่นหอมอ่อนหอมเย็น กล่ินหอม
หากลิ่นหอมอะไรเสมอเหมือนได้ยาก ถ้าอบในตู้ปิดมิดชิดประมาณ ๑ อาทิตย์ เปิดดู
กล่ินหอม หากลิ่นอะไรเสมอได้ยาก ต้นไม้จันทน์แดงเป็นไม้ชนิดต้นใหญ่ขนาดกลาง
เกือบพอๆ ไมป้ ระดูป่ ระเทศไทยเรา

187

ประวตั ยิ ่อ
ไมจ้ ันทน์แดงในครง้ั พทุ ธกาล

สมัยหนึ่ง เศรษฐีชาวกรุงราชคฤห์ลงเล่นกีฬาทางน้�ำในแม่น�้ำคงคา เพื่อความ
ปลอดภัยและรักษาอาภรณ์เป็นต้นที่อาจจะหลุดไปด้วยความพล้ังเผลอ จึงให้บริวารขึง
ตาขา่ ยมสี ณั ฐานเหมอื นขวดไว้ ณ ทร่ี มิ ฝง่ั ตอนเหนอื แมน่ ำ้� คงคานน้ั มตี น้ จนั ทนแ์ ดงตน้ หนงึ่
รากถูกน�้ำคงคาเซาะจนโค่นล้มลงกระจัดกระจายอยู่บนหินดานในที่นั้นๆ แต่มีปุ่มหน่ึง
ประมาณขนาดเท่าหม้อตกลงไปในน้ำ� ถูกหินครดู สี คลน่ื น้ำ� ซัดไปมากลายเป็นของกลม
เกลีย้ งเกลา ถกู สาหร่ายหมุ้ ห่อไว้ ลอยไปตามแมน่ ้�ำมาติดตาขา่ ยท่ีเศรษฐนี ัน้ ขึงเอาไว้

เศรษฐจี งึ ใหบ้ รวิ ารเอาปมุ่ ไมน้ นั้ ขนึ้ มาแลว้ ใหเ้ อามดี ถากดู จงึ รวู้ า่ เปน็ ไมจ้ นั ทนแ์ ดง
มีสีดังสีคร่ังสด เศรษฐีคนนี้ยังไม่เป็นทั้งสัมมาทิฏฐิ และมิจฉาทิฏฐิ วางตนเป็นกลางๆ
จนั ทนแ์ ดงทบ่ี า้ นเศรษฐนี น้ั กม็ มี ากอยแู่ ลว้ เขากเ็ ลยคดิ อยวู่ า่ “จะเอาปมุ่ ไมจ้ นั ทนแ์ ดงนไี้ ป
ทำ� อะไรดหี นอ” จึงตกลงใจวา่ “ทำ� บาตรดีกว่า เพราะวา่ ในโลกนี้มีคนประกาศตวั เป็น
พระอรหนั ตก์ ันเยอะ แตว่ า่ เราไม่ร้จู กั พระอรหนั ต์จรงิ ๆ เลยสักองค์”

เม่ือคิดได้ดังนี้ เศรษฐีชาวเมืองกรุงราชคฤห์คนนั้น จึงได้ส่ังให้ช่างกลึงปุ่มไม้
จนั ทน์แดงนนั้ ทำ� เปน็ บาตร เสรจ็ แลว้ จึงใหบ้ รวิ ารเอาไม้ไผม่ ามัดต่อๆ กนั สูงได้ ๖๐ ศอก
เอาบาตรไมจ้ ันทน์แดงใสส่ าแหรกหอ้ ยไวบ้ นปลายไม้ไผ่น้ัน ใหค้ นไปปา่ วประกาศทั่วท้ัง
พระนครวา่ “ใครเปน็ พระอรหนั ตใ์ หเ้ หาะมาทางอากาศ แลว้ ถอื เอาบาตรไม้จนั ทนแ์ ดง
ของข้าพเจา้ ไปเถิด”

ครทู งั้ ๖ คนมี นคิ รนถนาฏบตุ ร เปน็ ตน้ ซง่ึ เปน็ ลทั ธนิ อกพระพทุ ธศาสนา ตา่ งแสดงตวั
พยายามเอาบาตรไม้จันทน์แดงนนั้ ดว้ ยวิธีการตา่ งๆ ถึง ๖ วนั กไ็ มไ่ ด้ ในเชา้ วนั ท่ี ๗
ทา่ นพระโมคคลั ลานมหาเถระและทา่ นพระปณิ โฑลภารทวาชมหาเถระ ยนื หม่ จวี รอยบู่ น
ลานหินดาน เพ่ือจะเข้าไปบิณฑบาตในเมืองราชคฤห์ ได้ยินพวกนักเลงชาวบ้านคุยกัน

188

ว่า “เศรษฐีกลึงบาตรไม้จันทน์แดงเอาใส่สาแหรกห้อยไว้บนอากาศ ป่าวประกาศให้
พระอรหันต์ในโลกนี้เหาะมาทางอากาศแล้วเอาบาตรไป แต่นี้เปน็ วนั ท่ี ๗ แลว้ ไมเ่ ห็นมี
พระอรหนั ต์เหาะมาทางอากาศแลว้ เอาบาตรไป ในโลกน้ไี ม่มีพระอรหันต์จรงิ ๆ หรอก”

เพื่อย่�ำยีคำ� พูดของพวกมิจฉาทิฎฐิเหล่านั้น แล้วยกย่องพระพุทธศาสนาให้ปรากฏ
ทา่ นพระมหาเถระท้งั สองจึงตกลงปรกึ ษา ท่านพระปณิ โฑลภารทวาชมหาเถระจึงอาสา
เหาะไปเอาบาตรไมจ้ นั ทนแ์ ดงนัน้ เมื่อพระมหาเถระแสดงปาฏิหารยิ ์เหาะไปเอาบาตรน้นั
ลงมาแล้ว เศรษฐพี ร้อมบตุ ร ภริยา และบรวิ าร น�ำบาตรนนั้ บรรจอุ าหารอันประณตี แลว้
นอ้ มไปถวายทา่ นพระมหาเถระดว้ ยความเคารพเลอื่ มใส แลว้ แสดงตนนบั ถอื พระรตั นตรยั

ฝ่ายท่านมหาเถระท้ังสองน�ำบาตรไม้จันทน์แดงนั้นกลับพระวิหาร พวกมหาชน
ชาวเมืองที่ไม่ได้เห็นปาฏิหาริย์น้ัน ต่างก็กล่าวขานร�่ำลือกันติดตามพระมหาเถระไปท่ี
พระวหิ ารดว้ ย เพอ่ื ออ้ นวอนใหท้ า่ นแสดงปาฏหิ ารยิ ใ์ หด้ ู พระมหาเถระกแ็ สดงใหด้ ู ปรากฏ
เสียงชาวเมอื งดงั อื้อองึ ไปทวั่ พระวหิ าร

องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงสดบั เสยี งน้นั แลว้ รับสั่งตรสั ถามถึงเหตุผล เม่ือทรง
ทราบสาเหตุแล้ว ทรงต�ำหนิท่านพระมหาเถระ แล้วทรงให้น�ำบาตรไม้จันทน์แดงนั้น
ไปทุบท�ำลายเสีย เศษชิ้นส่วนของไม้จันทน์แดงนั้น รับส่ังให้ประทานแก่เหล่าภิกษุเพ่ือ
ใช้ประโยชน์ คือบดผสมยาตาแล้ว ทรงบัญญัติสิกขาบท* เพ่ือไม่ให้พระสาวกแสดง
ปาฏิหาริย์ต่อไปฯ

หมายเหตุ รวบรวมเรยี บเรยี งจากเรอื่ งยมกปาฏหิ ารยิ ์ หนงั สอื ธรรมบทภาค ๖* สกิ ขาบทท่ี ๘
แหง่ มสุ าวาทวรรคที่ ๑ ปาจติ ตียกณั ฑ์

189

ไมจ้ ันทน์แดงในมิลนิ ทปญั หา*

ไมจ้ นั ทนแ์ ดงเปน็ ไมเ้ นอ้ื หอม ทรงคณุ คา่ อยใู่ นตวั เสรจ็ และเปน็ ไมช้ นดิ หายากมาก
โดยเฉพาะทปี่ รากฏในหนงั สือมิลนิ ทปัญหา ฉบับแปลในมหากฎุ ราชวทิ ยาลยั หนา้ ๔๑๔
บรรทดั ท่ี ๗-๑๕ เป็นการเปรยี บเทียบคุณของแก่นจนั ทนแ์ ดงกับพระนพิ พาน ซ่งึ พระเจา้
มลิ ินท์ทรงถามและพระนาคเสนเถระเป็นผูถ้ วายคำ� วสิ ชั นา มีรายละเอยี ดดังนว้ี า่

ร. “คุณสามประการแห่งแก่นจันทน์แดง ควรเทียบกับนิพพาน เป็นไฉนเล่า
พระผเู้ ป็นเจา้ ? ”

ถ. “ขอถวายพระพร แกน่ จนั ทนแ์ ดงเปน็ ของทหี่ าไดด้ ว้ ยยาก ฉนั ใด, นพิ พานกเ็ ปน็
ของทหี่ าได้ดว้ ยยาก ฉนั น้นั , นเี้ ปน็ คุณที่หนึง่

แกน่ จนั ทน์แดง เป็นส่ิงทไี่ ม่มีของหอมอ่นื จะเสมอ ฉันใด, นิพพานก็เป็นธรรมชาติ
ไม่มีของหอมอ่ืนจะเสมอ ฉันนน้ั , นี่เปน็ คุณทสี่ อง

แก่นจันทน์แดง เป็นของอันบุคคลผู้ดีสรรเสริญ ฉันใด, นิพพานก็เป็นธรรมชาติ
อนั พระอรยิ บุคคลสรรเสรญิ ฉันนัน้ , นเ่ี ป็นคณุ ท่ีสาม.

น้ีแล คณุ สามประการแหง่ แก่นจนั ทนแ์ ดงควรเทยี บกับนพิ พาน”

หมายเหตุ มิลินทปัญหา พิมพ์คร้งั ท่ี ๒ กรงุ เทพ ฯ : มหากฎุ ราชวิทยาลัย

190

จนั ทนแ์ ดงแท้ไมใ่ ช่ไมล้ ักจ่ัน

อนง่ึ เนอื้ จนั ทนแ์ ดงน้ี เมอื่ ประมาณสามสบิ กวา่ ปมี าน้ี ขา้ พเจา้ (ผจู้ ดั พมิ พห์ นงั สอื )
ได้ฟังแพทย์ผู้เฒ่าบอกว่า จันทน์แดง (ลักจั่น) ที่น�ำมาใช้เป็นจันทน์แดงทุกวันนี้ไม่ใช่
จนั ทนแ์ ดงแท้ เปน็ ตน้ ลกั จน่ั ซง่ึ นำ� มาใชแ้ ทนของจรงิ เทา่ นนั้ เพราะจนั ทนแ์ ดงทแี่ ทจ้ รงิ นน้ั
เนื้อไม้ละเอียดแขง็ เหมือนจันทน์ขาว แต่มสี ีแดงอ่อน กลิน่ หอมเย็น โดยทา่ นได้เห็นจาก
หลวงพอ่ ปลอด วัดปากทะเล จงั หวดั เพชรบรุ ี เมือ่ ทา่ นยงั มีชวี ิตไดน้ �ำมาประกอบเปน็ ยา
รักษาตา ไม้นี้ท่านได้น�ำมาจากทางจังหวัดจันทบุรีหรือจังหวัดตราด เข้าใจว่าเวลาน้ี
ยังมีเหลืออยู่บ้าง แต่คงมีน้อยและหาได้ยาก ประกอบท้ังผู้รู้จักก็ได้สูญส้ินไปหมดแล้ว
อย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่งใช้จันทน์แดง (ลักจ่ัน) แทนกันมาเสียนานจนลืมของเดิม
กเ็ ป็นได้

หมายเหตุ ประมวลสรรพคณุ ยาไทย (ภาคหนงึ่ )
วัดพระเชตุพนฯ วดั โพธ์ิ ทา่ เตยี น กรงุ เทพมหานคร

191

ประวัติ ตน้ พญาง้ิวดำ�
ทีน่ �ำมาปลูกในพน้ื ท่พี ทุ ธสถานทรัพยากรวดั ป่าดานวิเวก

ประวัตเิ ดมิ
นายประยรู เปล้ืองไชโย สมัยพากันไปเทยี่ วประเทศลาว ไดน้ �ำเมลด็ ต้นพญาง้ิวด�ำ
มาจาก ภูเขาควาย ประเทศลาว นำ� มาปลกู ท่วี ดั บา้ นหนองมะงง หมทู่ ่ี ๗ ต�ำบลคำ� บง
อำ� เภอหว้ ยผง้ึ จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ปลกู และเกดิ ทง้ั หมด ๓ ตน้ ตาย ๑ ตน้
ปจั จบุ นั ยงั คงเหลอื อยู่ ๒ ตน้ พนั ธเ์ุ ดมิ สนั นษิ ฐานดอู ายมุ ากกวา่ ๔๐๐ ปี คนรนุ่ ใหมไ่ มร่ จู้ กั
ชื่อจริงต้นนี้เลย ร้แู ต่เพียงว่าเป็นง้ิวป่า หรอื บางคนเรียกต้นหมากโมง
ต่อมานายโสภา ละราคี (ปราชญ์ชาวบ้านหนองมะงง) อดตี เคยเป็นทหาร เปน็ คน
ฉลาด รู้จักต้นพญาง้ิวด�ำดี น�ำแก่นมาท�ำวัตถุมงคลและอื่นๆ ยืนยันหนักแน่นว่านี่คือ
ต้นพญางวิ้ ดำ� โดยให้รายละเอียดวา่ เมือ่ ต้นพญางิ้วด�ำตายลง แกน่ จะมสี ดี �ำ นายโสภา
ละราคี ไดน้ ำ� เอาเมลด็ จากพนั ธจ์ุ ากตน้ นไ้ี ป และแจกจา่ ยไปปลกู ในทตี่ า่ งๆ โดยสว่ นมาก
จะปลกู ตามวดั และมคี นผรู้ จู้ กั ประโยชนพ์ ยายามแสวงหานำ� มาปลกู ทพี่ ทุ ธสถานทรพั ยากร
วัดปา่ ดานวิเวก พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๒ ตามที่เห็นควร ชว่ งระหวา่ งปีพุทธศกั ราช ๒๕๐๐
ต้นพญางิ้วด�ำที่ประเทศลาวสูญพันธุ์ ทางพระวัดป่าดานวิเวก จึงมอบต้นพญาง้ิวด�ำให้
พระลาวนำ� ไปปลกู ท่ีภเู ขาควายหรอื ตามทีเ่ ห็นควร

เขียนตามค�ำบอกเล่าคนสมยั โบราณ
ตน้ พญางิ้วด�ำนยิ มถือเปน็ ไมม้ งคลมี ๒ ชนิด มที ง้ั ต้นตวั ผ้แู ละตน้ ตวั เมยี
ลักษณะต้นพญาง้ิวด�ำตัวผู้ จะมีแก่นสีด�ำ เวลาตายล้มลงนอนดินอยู่นาน จะด�ำ
ท้งั ล�ำตน้ หมด และดนิ บริเวณขอนพญางิว้ ด�ำนอนอยู่ ดินจะดำ� รอบบรเิ วณขอนง้ิวดำ� หมด
นา่ อัศจรรย์ มีคุณประโยชน์อยา่ งกว้างขวาง ท�ำวตั ถุมงคลตา่ งๆ และอน่ื ๆ ตน้ ตัวผู้จะ
ไมม่ หี มาก ไม่มลี กู ไม่มีหฝู กั ทงิ้ ลงนำ้� จะจมนำ�้ ไม่ลอยน้ำ�

192

ลักษณะต้นพญาง้ิวด�ำตัวเมีย จะมีหูฝัก (มีลูก) มีหมาก มีแก่นสีด�ำอมน�้ำตาล
นดิ หนอ่ ย ทง้ิ ลงนำ�้ จะไมจ่ มนำ้� ลอยนำ�้ ทำ� คณุ ประโยชนเ์ หมอื นกบั ตวั ผู้ แตม่ คี ณุ ประโยชน์
ดกี วา่ พเิ ศษกว่า คุณภาพสูงกว่า เด่นกวา่ ดกี วา่ ต้นตวั ผูม้ าก แต่หายาก แกน่ งิว้ ดำ� ตาม
โบราณ เอาแก่นเขยี นหรอื ขดี กระดาษดู จะออกเป็นสดี ำ� เหมอื นสอด�ำ

สรรพคุณด้านสมนุ ไพรกวา้ งขวาง
แกน่ มีรสออกเผ็ด ขมนิดหนอ่ ย
๑. แก้เบอ่ื เมาทุกชนิด
๒. ใชร้ ักษาอาการปวดท้อง
๓. แก้ไขห้ มากไม้ (ไขไ้ ทฟอยด)์ ดีมาก
วธิ ีใช้ ฝนใสน่ �ำ้ ธรรมดา ตามทเ่ี ห็นควรและด่ืมกนิ หาย
๔. ใช้บำ� รุงร่างกาย ใช้ต้มกิน พอออกเปน็ สีแลว้ ดืม่ กนิ เปน็ ยาบำ� รุงรา่ งกายดีมาก
หรือมกี ำ� ลงั แขง็ แรงผดิ ปกติ
๕. ใชแ้ กค้ ณุ ไสย (ยาส่งั )

วนั ท่ี ๒๒ เดือนพฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๒

193

ตน้ ตมู กาขาว (ต้นแสลงใจ)

สรรพคณุ
๑. เป็นยาขมเจริญอาหาร แก้กษยั ช่วยขับน�้ำย่อย แกอ้ ดิ โรย
๒. ใชแ้ ก่นตม้ กับเครือกอฮอ เปน็ ยาแก้เบาหวาน
๓. เมล็ดมีรสเมาเบอ่ื ขมจัด เป็นยาบ�ำรงุ ธาตุ
๔. ชว่ ยบ�ำรงุ และกระตุ้นประสาทสว่ นกลาง หู ตา จมกู
๕. ช่วยบ�ำรุงหัวใจ
๖. เมล็ดแกโ้ ลหิตพิการ
๗. ลำ� ต้นใชต้ ม้ ด่มื เปน็ ยาแก้พษิ ภายใน
๘. เมลด็ เปน็ ยาแกไ้ ข้ ช่วยทำ� ให้ตัวเย็น
๙. ราก ใชเ้ ปน็ ยาแก้ไขม้ าลาเรยี
๑๐. เมล็ดใช้เป็นยาแก้โรคอันเกดิ จากปาก คอ พิการ
๑๑. เมลด็ ชว่ ยแก้อาการคล่นื ไส้
๑๒. ชาวกะเหรย่ี ง ใชเ้ ปลอื กตน้ ตมู กาขาวนำ� มาเคย้ี วกนิ กบั เกลอื แกอ้ าการปวดทอ้ ง,
แกบ้ ดิ
๑๓. รากใช้ต้มดม่ื เป็นยาแก้ทอ้ งอืดท้องเฟอ้
๑๔. ชว่ ยขับลมในลำ� ไส้ บำ� รุงกล้ามเนอื้ กระเพาะอาหาร
๑๕. ใช้รากตม้ ผสมกำ� แพง ๗ ช้นั รากปอดอ่ น และรากชะมวง เปน็ ยาระบาย
๑๖. เมลด็ ชว่ ยขบั พยาธิ
๑๗. เมล็ดชว่ ยขับปสั สาวะ
๑๘. เมล็ดช่วยแกร้ ิดสดี วงทวาร
๑๙. เมล็ดชว่ ยแก้ลมคถู ทวาร
๒๐. เมลด็ ชว่ ยบ�ำรงุ เพศของบุรษุ
๒๑. เมลด็ ช่วยแกห้ นองใน

194

๒๒. เมล็ดช่วยแกไ้ ตพกิ าร
๒๓. ใบใช้ต�ำพอกแก้แผลเน่าเปอ่ื ยเรอื้ รัง
๒๔. ใบใช้ต�ำพอกหรือค้นั เอาแต่นำ้� ทาแกโ้ รคผวิ หนัง ขี้กลาก
๒๕. เมลด็ ใชเ้ ป็นยาแกพ้ ิษงู พษิ ตะขาบ แมงป่อง
๒๖. เปลอื ก ใช้เป็นยาแก้พิษสัตว์กดั ต่อย ฝนกบั เหล้าปดิ แผลและรับประทานแก้พิษงู
๒๗. ใบมรี สเมาเบือ่ ใช้ต�ำพอกเป็นยาแกฟ้ กช�ำ้ บวม
๒๘. ตน้ นำ� มาตม้ หรอื ฝนทา แกอ้ าการปวดตามข้อ
๒๙. แกน่ และเมลด็ เป็นยาแกป้ วดเม่ือยตามรา่ งกาย
๓๐. เมลด็ แก้อัมพาต แกเ้ สน้ ตาย แกเ้ หนบ็ ชา

ตูมกาแดง หรือ ตน้ แสลงใจ

เปน็ ไมย้ นื ตน้ ในปา่ เบญจพรรณ
สรรพคณุ และประโยชน์ของตน้ ตมู กาแดงหรือต้นแสลงใจ
เมล็ด
- เป็นยาบำ� รุงประสาท, บ�ำรงุ หวั ใจ, บำ� รงุ ธาตุ
- ช่วยตัดพษิ ไข้ ตัดพิษกษยั
- แก้โรคโปลิโอในเด็ก (เด็กแรกเกดิ เปน็ หล่อยไมม่ ีก�ำลัง)
- ใช้เป็นยาขมเจรญิ อาหาร ชว่ ยขับน้ำ� ย่อย
ราก
- เป็นยาแก้ไขม้ าลาเรีย
- มรี สเมา เบ่ือ ขม ใชก้ ินเปน็ ยาแก้ท้องข้ึน
- รากใชฝ้ นกบั น้�ำกนิ และทาแก้อาการอักเสบจากงกู ดั

195

ใบ
- มรี สขม เมา เบอื่ ใช้ตำ� ผสมเหล้าพอกแผลเรือ้ รงั เนา่ เปื่อย
- แกโ้ รคไตพิการ

ตน้ ล�ำดวน

เปน็ ตน้ ไม้พระราชทานเป็นมงคลประจำ� จังหวัดศรีสะเกษ
สรรพคณุ มี ๑๔ ขอ้ คือ
๑. ดอกแห้งเป็นยาบำ� รงุ กำ� ลัง
๒. ดอกแหง้ เปน็ ยาบ�ำรงุ โลหิต
๓. ดอกแห้งชว่ ยบำ� รงุ หัวใจ
๔. ดอกใช้เป็นยาแกล้ มวิงเวียน
๕. ดอกแหง้ ใช้เป็นยาแก้ไข้
๖. ดอกแห้งช่วยแก้อาการไอ
๗. ผลสกุ สดี �ำมรี สหอมอมเปร้ียวรบั ประทานได้
๘. ดอกยังใช้เปน็ สว่ นผสมตำ� รายาหอมอีกดว้ ย
๙. ดอกมีขนาดใหญง่ ดงามจงึ ใชน้ ำ� มาบชู าพระและใชแ้ ซมผม
๑๐. ดอกนำ�้ มาสกัดเปน็ น�ำ้ หอมได้
๑๑. ล�ำดวนเปน็ ไม้พมุ่ ใบสวย ดอกสวย กลิน่ หอม เป็นพันธ์ุไมใ้ นวรรณคดี
๑๒. กลิ่นหอมของล�ำดวนช่วยคลายอารมณ์ ท�ำจติ ให้สงบ ใจเยน็ เสริมเสนห่ ์
๑๓. เน้อื ไม้ล�ำดวนแข็งแรงใช้ทำ� ประโยชนต์ า่ งๆ ไดด้ ี
๑๔. ดอกลำ� ดวนแหง้ จัดอยู่ใน “พิกัดเกสรท้ังเกา้ ” (ประกอบไปด้วย เกสรดอกบวั ,
ดอกกระดังงา, ดอกจำ� ปา, ดอกพกิ ลุ , ดอกบนุ นาค, ดอกมะลิ, ดอกสารภ,ี ดอกล�ำเจียก
และดอกล�ำดวน) เป็นต้นต�ำรับยาแก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้�ำ ช่วยชูก�ำลัง แก้อาการ
อ่อนเพลยี ชว่ ยบ�ำรงุ หัวใจ แก้พษิ โลหติ แก้ลม)
๑๕. รากฝนคั้นทาฝหี ัวด�ำหรือท้ังทาทั้งกนิ ดนี กั แล

196

ชือ่ ต้นโคลงเคลง (เอ็นอ้าดอกขาว)

วิธใี ช้เอน็ อา้ ขาว
(ราก) เอารากตามที่เห็นควร นำ� มาต้ม เป็นยาบำ� รุงก�ำลัง ใช้รากเอ็นอ้าฝนทา
แผลสด แผลไฟลามทุ่ง ฝนกบั น้ำ� ซาวข้าว รักษาแผลในปาก แก้รอ้ นใน รากเป็นยาดับ
พิษไข้ เจริญอาหาร บ�ำรุงตับ ไต และดี และใช้เอ็นอ้าเป็นยาต้มส�ำหรับแก้โรคเอดส์
โดยใช้รากเอ็นอา้ ขาวกบั รากต้ังตุ่นเอาเทา่ กนั ต้มกนิ รกั ษาโรคเอดส์ ปวดทอ้ ง ทอ้ งเสีย
และตกขาว
(ราก) ใช้ปรงุ เปน็ ยาดบั พษิ ไข้ แกอ้ าการร้อนใน กระหายน้ำ� ปรุงเป็นยาแก้ปวด
แก้มะเรง็
(ราก) ชว่ ยบ�ำรงุ ธาตใุ นรา่ งกาย และช่วยบ�ำรุงกายเป็นยาก�ำลงั
(ราก) ใชป้ รงุ เป็นยาแกโ้ รคมะเรง็
(ราก) เป็นยาดับพษิ ไข้ ชว่ ยแกร้ อ้ นในกระหายน�ำ้ ชว่ ยแกอ้ าการอาเจียนเป็นเลอื ด
(ราก) ช่วยบำ� รงุ ตบั ไต และดี
(ราก) ใชเ้ ปน็ ยาบ�ำรุงสตรีหลงั คลอดบุตร
(ใบ) ต�ำกบั มะนาวหรือสารส้ม แกพ้ ษิ แมลงสัตวก์ ดั ต่อย
(ใบ) ใช้ต้มกับน�้ำหรือน�ำใบมาค้ัน ขยี้ ขย�ำ ใส่น�้ำพอสมควรจนออกเป็นสีข้น
ด่มื กินแกโ้ รคทอ้ งรว่ ง ทอ้ งบิด ใชเ้ ปน็ ยาแกถ้ า่ ยเปน็ เลือด ใช้แก้โรคริดสีดวงทวาร
(ใบ) ช่วยรักษาแผลสดและแผลไฟไหม้ ใบน�ำมาต้มกบั น�้ำลา้ งแผล ใชล้ า้ งแผลเปน็
หนองในปาก
(ดอก) เปน็ ยาระงบั ประสาท และใช้หา้ มเลือดในคนทเี่ ป็นโรคริดสีดวงทวาร
(ดอก) ใช้เป็นยาห้ามเลือด ในคนท่ีเป็นโรคทวาร ใช้แก้โรคคอพอก
เอน็ อา้ ขาว ยงั ใชท้ ง้ั อยา่ ง ทง้ั ราก-ใบ-ดอก-แกน่ เอาเทา่ ๆ กนั ตม้ กนิ ผดิ สำ� แดง
ท้ังแกใ้ นอาการทตี่ กเลอื ดไดด้ ว้ ย

197

ต้นองั กาบ ยาสมุนไพรเกิดบนผืนแผน่ ดินไทย

เปน็ ต้นไม้พ่มุ สูง ๑.๒๐ เมตร รกั ษาโรคมะเรง็
วิธใี ช้
น�ำใบอังกาบมากพอประมาณต้มทานแทนน�้ำชา ทาน ๗ วัน ให้งดไป ๓ วัน
แล้วต้มทานอกี ต่อไป จนเปน็ ท่ีแน่ใจวา่ โรคมะเร็งหาย หรอื นำ� ใบมาฝานเป็นช้นิ ๆ บางๆ
ตากใหแ้ หง้ แลว้ เกบ็ ไวช้ งแทนดมื่ นำ�้ ชากไ็ ด้ รกั ษาโรคมะเรง็ ไดด้ ี ถา้ ไมส่ ดุ วสิ ยั หายทกุ ราย

198

ยาเกรด็

เฉพาะที่มีผูเ้ คยใช้ได้ผลมาแลว้
คำ� น�ำ

เจา้ ภาพผเู้ ปน็ บตุ รธดิ าพรอ้ มดว้ ยเขยและสะใภก้ บั หลานของโยมสนิ วรกี จะทำ� การ
ฌาปนกจิ ศพโยมสนิ ณ วดั ตรญี าติ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั ราชบรุ ี ณ วนั ที่ ๑๗-๑๘ เมษายน
ศกนี้ ขอใหอ้ าตมาชว่ ยพจิ ารณาหนังสอื เพอื่ พมิ พแ์ จกในงานสกั เรอ่ื งหนงึ่ อาตมาเห็นวา่
ชาววัดก็นิยมหนังสือทางคดีธรรม ชาวโลกก็นิยมหนังสือทางคดีโลก ส่วนชาวบ้านผู้ยัง
ไม่สนใจในทางพระศาสนาก็มักไม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะ เพราะเห็นไปว่ายาก อ่าน
ไมเ่ ขา้ ใจหรอื ไมร่ เู้ รอ่ื ง จงึ ไมช่ อบอา่ น ไดห้ นงั สอื ธรรมแจกไป กม็ กั ทงิ้ ไมส่ เู้ ปน็ ประโยชน์
อาตมาจงึ แนะใหพ้ มิ พต์ ำ� รายาเกรด็ อนั เปน็ ยาทมี่ ผี ใู้ ชไ้ ดผ้ ลดมี าแลว้ และสว่ นมากเปน็ ของ
อาตมาท่ีจ�ำได้ และจดไว้จากผู้บอกให้ในคราวท่ีประสพเหตุการณ์น้ันๆ คราวละอย่าง
สองอยา่ ง นานๆ เขา้ กม็ ากขนาน เหน็ วา่ จกั เปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ไู้ ดร้ บั ไป เมอ่ื ผปู้ ว่ ยเปน็ โรค
หรือผู้อ่ืนที่รู้เห็น หรือได้ทราบน�ำไปใช้เป็นผลดี ก็จักเป็นบุญเป็นกุศลเป็นลาภอย่างยิ่ง
ของผู้นั้น ดังพระพุทธภาษติ ทีว่ ่า อโรคยฺ ปรมา ลาภา ความไม่มโี รคเปน็ ลาภอย่างยิ่ง
ทา่ นเจา้ ภาพอนั มนี าวาอากาศตรที รพั ย์ วรกี เปน็ ประธาน กเ็ หน็ ชอบดว้ ย และขออนญุ าต
น�ำพิมพ์ในงานน้ี อาตมาก็อนุญาตและขออนุโมทนาท่ีคณะเจ้าภาพได้พิมพ์ขึ้นแจกให้
แพรห่ ลายเปน็ ประโยชนส์ าธารณทาน

ขอบุญกุศลทั้งปวงที่คณะท่านเจ้าภาพได้บ�ำเพ็ญมาตั้งแต่ต้นจนถึงได้ท�ำงาน
ฌาปนกิจศพโยมสิน วรกี และพิมพ์หนังสือต�ำรายาเกร็ดน้ีให้แพร่หลาย จงเป็นวิบาก
สมบตั ิอ�ำนวยศภุ อรรถอิฏฐารมณ์ ตามทตี่ อ้ งประสงค์แกโ่ ยมสนิ วรกี ผ้ลู ะโลกนี้ไปแล้ว
โดยสมควรแกค่ ติวสิ ยั ในสัมปรายภพนัน้ เทอญ

พระจินดากรมนุ ี
วดั ราชบพิตร พระนคร
วนั ท่ี ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๗

199 หนา้ ๒๐๑
หนา้ ๒๐๑
สารบาญ หน้า ๒๐๒
หน้า ๒๐๒
๑. ยาแปรไขท้ ั้งเด็กทัง้ ผู้ใหญ่ หน้า ๒๐๓
๒. ยาแก้ไขจ้ บั สน่ั มาลาเรียขึน้ สมอง หนา้ ๒๐๓
๓. ยาแกไ้ ขจ้ บั สั่น ต�ำราพฤฒา หน้า ๒๐๓
๔. ยาแก้ไขเ้ หนอื ไขใ้ ต้ ไขป้ ้าง ไขม้ า้ มย้อม แกไ้ อ หน้า ๒๐๓
๕. ยาแกไ้ ขป้ ากหวาน หน้า ๒๐๔
๖. ยาธาตุปลายไข้ หนา้ ๒๐๕
๗. ยามะตูมนม่ิ หน้า ๒๐๕
๘. ยาไปรษณยี ์ หนา้ ๒๐๕
๙. ยาธาตบุ รรจบ หนา้ ๒๐๕
๑๐. ยาแก้เป็นแผลเป่อื ยเน่า หรอื พุพอง หรือแผลกลาย หน้า ๒๐๖
๑๑. ยาแกไ้ ฟไหม้ นำ�้ มนั หรือน�ำ้ รอ้ นลวก หนา้ ๒๐๖
๑๒. ยาแก้ไฟไหม้ นำ�้ รอ้ น นำ้� มันลวก อีกอยา่ งหนึ่ง หนา้ ๒๐๖
๑๓. ยาเตโชธาตุ หน้า ๒๐๖
๑๔. ยาแก้บิด หน้า ๒๐๗
๑๕. ยาแก้บดิ อีกอยา่ งหนง่ึ หนา้ ๒๐๗
๑๖. ยาหอมประชุมสตั ตโกฐ หนา้ ๒๐๘
๑๗. ยาแกป้ ว่ ง ๘ ประการ หนา้ ๒๐๘
๑๘. ยาเหลอื งใหญ่ หนา้ ๒๐๙
๑๙. ยาแกโ้ รคสตรอี ยู่ไฟไม่ได้ หน้า ๒๐๙
๒๐. ยาแกเ้ ลอื ดสตรคี ลอดบุตร
๒๑. ยาแก้ลมกะสัย
๒๒. ยาแกช้ อกช้�ำ
๒๓. ยาดอง

200 หนา้ ๒๐๙
๒๔. ยาสงั หารวาโยธาตุ หน้า ๒๑๐
๒๕. ยาแก้ผอมแหง้ แกก้ ะสัย หนา้ ๒๑๐
๒๖. ยาเทพจติ รารมณ์ หน้า ๒๑๑
๒๗. ยาขี้ผ้ึงกันภัย หน้า ๒๑๑
๒๘. ยาเด็กแกต้ านขะโมย หนา้ ๒๑๒
๒๙. ยาเดก็ แกท้ รางขะโมยเปน็ มูกเลอื ด หนา้ ๒๑๒
๓๐. ยาเทพมงคล แกท้ รางแดง หนา้ ๒๑๒
๓๑. ยามหานิล แทง่ ทอง หน้า ๒๑๓
๓๒. ยางทรางเด็ก หน้า ๒๑๓
๓๓. ยาพรหมนมิ ติ หน้า ๒๑๓
๓๔. ยาเหลืองแกท้ ราง หน้า ๒๑๓
๓๕. ยาแก้กะสัย หน้า ๒๑๔
๓๖. ยาแกว้ รรณโรค หน้า ๒๑๔
๓๗. ยาแกค้ นั หนา้ ๒๑๔
๓๘. ยาแก้โรคเรอ้ื น หน้า ๒๑๔
๓๙. ยาแกโ้ รคเบาหวาน หนา้ ๒๑๕
๔๐. ยาแกแ้ มลงมพี ิศมข์ บกัด เชน่ แมลงปอ่ ง ตะขาบ เป็นต้น หน้า ๒๑๕
๔๑. ยาแก้ลมและรดิ สดี วง หน้า ๒๑๕
๔๒. ยาระบายและเจริญอาหาร หนา้ ๒๑๕
๔๓. ยาแกป้ วดฟนั หน้า ๒๑๖
๔๔. ยาแกข้ ดั เบา หน้า ๒๑๖
๔๕. ยาแก้ป่วง

201

ยาเกร็ดแก้โรคตา่ งๆ
ทใ่ี ชไ้ ดผ้ ลดีมาแลว้

ยาแปรไข้ทงั้ เด็กท้งั ผู้ใหญ่

ของขุนศภุ ผลภาษี (สงวน สายเมือง)
๑. รากเทา้ ยายมอ่ ม ๒. รากยา่ นาง ๓. รากมะเดอ่ื ชุมพร ๔. รากขิงช่ี ๕. รากสี
ฟนั คนทาหนกั เทา่ ๆ กัน ๖. ใบมะกา ๑ กำ� มอื ใหญ่ ๗. สมอไทยเทา่ อายุเอาแต่เน้ือสมอ
ถา้ เป็นไขใ้ ห้เอาหัวคลา้ ๑ รากหวายขม ๑ รากบืบ ๑ รากหมาก ๑ สง่ิ ละเท่าๆ กนั ก้าน
สะเดา ๓๓ ก้าน ตม้ กินในเวลาเชา้ และเยน็ แก้ไข้ดีนกั ใชไ้ ด้ผลดมี าแล้ว

ยาแก้ไข้จบั สนั่ มาลาเรยี ขนึ้ สมอง

ของทา่ นเจ้าคุณอมราภิรักขดิ (ทองดำ� จนฺทปู โม)
วัดบรมนวิ าส

๑. จันทน์ท้ัง ๒ สงิ่ ละ ๑ บาท ๒. สมอทงั้ ๒ สิง่ ละ ๑ บาท ๓. มะขามป้อม
๑ บาท ๔. มะเด่อื ชมุ พร ๑ บาท ๕. รากเทา้ ยายม่อม ๑ บาท ๖. รากคนทา ๑ บาท
๗. รางชิงช่ี ๑ บาท ๘. รากยา่ นาง ๑ บาท ๙. ฝางเสน ๑ บาท ๑๐. หวั หล้า ๑ บาท
๑๑. เถาวลั ย์เปรียง ๑ บาท ๑๒. แหว้ หมู ๑ บาท ๑๓. ยาข้าวเย็นทั้ง ๒ สิ่งละ ๑ บาท
๑๔. ราชพฤกษ์ทงั้ ๕ สง่ิ ละ ๑ บาท ๑๕. ขเี้ หล็กทงั้ ๕ สง่ิ ละ ๑ บาท ๑๖. ยาด�ำ ๒ บาท
๑๗. ใบมะนาว ๑ กำ� มือ ๑๘. ก้านสะเดา ๓๓ กา้ น ๑๙. ใบมะกา ๑ ก�ำมือใหญ่
๒๐. บรเพ็ด ๗ องคลุ ี ๒๑. ขมิ้นออ้ ย ๕ แวน่

ยาทัง้ นีใ้ ส่หม้อตม้ รบั ประทานเชา้ เยน็ ครงั้ ละ ๑ ถ้วยชา ถา้ ไมถ่ ่ายเตมิ ดีเกลือตาม
ธาตหุ นักเบา เปน็ ยาแกไ้ ข้จับส่นั ซึง่ ใชไ้ ด้ผลมาแลว้ แมช้ นิดทขี่ ึ้นสมองก็แก้หายมามาก
แลว้ เหมือนกนั

202

ยาแก้ไข้จบั สนั่ ต�ำราพฤฒา

ของหม่อมเจ้าหญงิ องคห์ นง่ึ
๑. รากคนทา ๒. รากยา่ นาง ๓. รากชงิ ช่ี ๔. รากมะเดอ่ื ชมุ พร ๕. รากเทา้ ยายมอ่ ม
๖. รากสลอดน้�ำ ๗. รากบืบ ๘. เกษรสารภี ๙. เกษรบุนนาค ๑๐. เกษรบัวหลวง
๑๑. จนั ทน์แดง ๑๒. จนั ทน์ขาว ๑๓. ลูกกระดอม ๑๔. บรเพ็ด ๑๕. หญ้าแพรก
ยาทั้งนหี้ นักสิ่งละ ๑ บาท ตม้ รับประทานเช้าเยน็ แก้ไขจ้ ับส่นั ได้ใช้เห็นผลดีมาแลว้
ชะงดั ดีนกั

ยาแกไ้ ขเ้ หนือ ไข้ใต้ ไขป้ า้ ง ไขม้ า้ มย้อม แกไ้ อ

๑. รากมะแว้งทงั้ ๒ สงิ่ ละ ๒ สลึง ๒. รากมะเดื่อขืน่ ๓. รากมะอกึ ๔. แหว้ หมู
๕. รากขกี้ าแดง ๖. จันทนท์ ้ัง ๒ ๗. ลกู กระดอม ๘. สน ๙. สักขี ๑๐. ขิง ๑๑. ดปี ลี
๑๒. หญ้าตนี นก ๑๓. ขา่ อ่อน ๑๔. บรเพด็ ๑๕. ไมส้ ัก ๑๖. แก่นประดู่ ๑๗. แก่นปรู
๑๘. แกแล ๑๙. แสมทะเล ๒๐. รากขัดมอญ ๒๑. รากคดั เค้า ๒๒. รากเข้าต้ม ๒๓. ราก
เสนียด ๒๔. โคกกะสุน ๒๕. รากคนทา ๒๖. รากชิงช่ี ๒๗. ฝาง ๒๘. รากมะเด่ือชุมพร
๒๙. รากเท้ายายมอ่ ม ๓๐. รากยา่ นาง ๓๑. รากพุมเรยี งท้ัง ๒ ๓๒. รากตองแตก ๓๓.
สมอทั้ง ๓ ๓๔. มะขามป้อม ๓๕. หญ้าชันนะกาด ๓๖. ชะลูด ๓๗. อบเชย ๓๘. เนอื้ ไม้
๓๙. ผกั ชี ๔๐. ดอกสารภี พกิ ุล บุนนาค ๔๑. ดอกจำ� ปา ๔๒. ดอกกะดงั งา ๔๓. บวั หลวง
๔๔. กะล�ำพกั ๔๕. เถามวกทงั้ สอง ยาทั้งน้ีเอาส่งิ ละ ๒ สลงึ เท่ากนั ทงั้ หมด โกศท้งั ๕
เทยี นท้ัง ๕ สิ่งละ ๑ สลึง เถาวลั ย์เปรยี ง ๒ บาท ใบมะกา ๒ บาท กา้ นสะเดา ๓๓ กา้ น
ฝกั ราชพฤกษ์ ๓ ฝัก ตม้ กนิ เวลาเชา้ -เยน็ มื้อละ ๑ ถว้ ยน�ำ้ ร้อนขนาดใหญ่ กอ่ นอาหาร
ยาขนานนี้ชะงดั ดนี ัก ได้ใช้มาแลว้

203

ยาแกไ้ ข้ปากหวาน

ถา้ เป็นไข้ใหป้ ากหวาน ปากมัน อาเจียนลมเปล่ากินข้าวมไิ ด้ ให้เอาผลกระดอม ๑
จนั ทน์หอม ๑ บรเพด็ ๑ จกุ กะโรหณิ ี ๑ กะพังโหม ๑ สน ๑ รากเทา้ ยายม่อม ๑
ตม้ กนิ แกไ้ ข้ปากหวานดนี กั แล

ยาธาตปุ ลายไข้

ใหเ้ อาชิงชี่ ๑ ดีปลี ๑ สะค้าน ๑ เจตมูลเพลงิ ๑ ชาพลู ๑ แหว้ หมู ๑ พรกิ ไทย ๑
สมอทง้ั สาม ๑ จันทนท์ ั้งสอง ๑ กกลงั กา ๑ เปลอื กมูกมัน ๑ เปลอื กมะตมู ๑ ลกู ผักชี ๑
บรเพ็ด ๑ กา้ นสะเดา ๑ แฝกหอม ๑ กะเพราหอม ๑ โกฐสอ ๑ สมนุ แว้ง ๑ เกษรทัง้ หา้ ๑
ยาทง้ั หมดน้ีเอาเสมอภาค ต้มกินแก้ไข้เร้อื รัง บำ� รงุ ธาตุ ดนี ักแล

ยามะตมู น่ิม

ของทา่ นเจา้ คุณสพุ จนมุนี (ผนิ สุวโจ)
วัดบวรนิเวศวหิ าร

๑. มะตูมน่มิ ๒ ส่วน ๒. พรกิ ไทย ๓. แหว้ หมู ๔. กะชาย อย่างละ ๑ สว่ น
ยาเหล่านีต้ ากในร่มใหแ้ ห้งตำ� เปน็ ผง ป้นั กับน�้ำกไ็ ด้ กบั นำ้� ผง้ึ ก็ได้ เลก็ ใหญ่ตามใจชอบ
แก้ผอมแหง้ กะสัย เจรญิ อาหาร ขับลม ท�ำให้ผายลมดนี ัก

เจ้าพระคณุ สมเดจ็ พระวชิรญาณวงศ์ เติมใบบวั บก เกลือ และสมอไทย อกี สว่ นละ
เท่าๆ กนั รวมเปน็ ๗ อยา่ ง

ยาไปรษณีย์

ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
๑. สมอไทย ๑๐๘ ผล ปอกผวิ และเอาเมล็ดออกเสีย ๒.ไพลสด ๒๐ บาท ๓. ขงิ สด
๔. ว่านนำ้� สด ๕. หัวกะชายสด ๖. หัวกะทือสด อยา่ งละ ๑๐ บาท ๗. ขา่ ตาแดงหรือ

204

ข่าลิงสด ๘. กระเทยี มสด อยา่ งละ ๔ บาท ๙. มะกรดู สด ๑๐. ส้มซ่าสด ๑๑. มะนาวสด
อย่างละ ๑๑ ผล ๑๒. พรกิ ไทยรอ่ น ๘ บาท ๑๓. เกลือ ๘๐ บาท

ยาท้ังน้ีต�ำรวมกนั เป็นยาสด อน่งึ มะกรดู มะนาว ส้มซ่า ถ้าใชก้ นิ เฉพาะแตค่ ฤหสั ถ์
เทา่ น้ัน ห่ันทั้งเปลอื ก ทง้ั เยอื่ ทงั้ เมล็ด เอารวมต�ำด้วยกนั ได้ ถา้ จะถวายพระให้ฉันใน
ยามวิกาลได้ด้วย ให้ปอกเปลือกเอาผิวหั่นใส่กับยาทั้งหลาย แล้วคั้นเอานำ้� เคล้ากับยา
เมือ่ ท�ำเสรจ็ แล้ว เสกดว้ ยคาถามงคลจักรวาลน้อย ๑ จบ อาการ ๓๒ ๑ จบ ปั้นเท่าผล
พดุ ซา กินเช้า-เยน็ แกก้ ะสยั เสน้ กะสัยลม ไอผอมแห้ง วงิ เวยี น โรคทรางขะโมย ใช้ได้
ทง้ั หญงิ ทงั้ ชาย มคี ณุ วเิ ศษมากนกั หายกนั มามากแลว้ แตต่ อ้ งกนิ นานๆ จงึ จะเหน็ ผล สำ� หรบั
ผสู้ ูงอายกุ นิ ประจำ� ดนี กั เพราะเป็นยาขบั ลมและระบายออ่ นๆ ท�ำใหท้ ้องไม่ผูก

ยาธาตุบรรจบ

ของทา่ นพระครสู วุ ตั ิธรรมภาณ (สวสั ด)์ิ
วัดปลดสัตว์ จงั หวัดอา่ งทอง

ท่านใหเ้ อารากชะพลู ๑ บาท สะดา้ น ๑ สลงึ ๓ เฟ้ือง เจตมลู เพลิง ๒ บาท ดปี ลี
๓ บาท ขิงแหง้ ๖ สลึง สมอไทย ๑๒ บาท กะเทียม ๒ บาท ว่านนำ�้ ๕ สลึง ผิวมะกรดู
๓ บาท บอระเพ็ด ๓ บาท มะตมู อ่อน ๖ สลงึ รากส้มกุง้ ทง้ั สอง ส่งิ ละ ๓ บาท แกน่ สน
๒ บาท เปลอื กกันเกรา ๒ บาท ลกู คนทิสอ ๒ บาท จนั ทนท์ ัง้ สอง ส่ิงละ ๕ สลงึ ลูกจนั ทน์
๒ บาท มหาหิงคุ์ ๒ สลงึ กานพลู ๒ บาท พมิ เสนอย่างดี ๑ เฟ้อื ง ชะมดเชยี ง ๑ เฟอ้ื ง

ยาทงั้ หมดนต้ี ำ� ผง ถา้ จะแกล้ มในกองธาตลุ ะลายนำ�้ ผง้ึ แกท้ อ้ งขน้ึ ในเวลากลางคนื
นำ้� มะตูม แกว้ าโยหย่อน เอาลกู จันทน์ ๑ กะเทียม ๑ หนักส่งิ ละ ๒ บาท ตม้ ถ้ากนิ
อาหารมักอาเจียนใช้กับน้�ำร้อน แก้ลมให้แน่นหน้าอกนอนไม่หลับ น�้ำกระเทียมต้ม
ถ้ากินอาหารแล้วมักเสียดแทง น�้ำขิงต้ม แก้ราก น้�ำลูกยอต้ม แก้ถ่ายเป็นมูกเลือด
น้�ำเปลือกสะเดาตม้ แกล้ มอัมพฤกษแ์ ลพทุ ธยกั ษ์ ชกั ปากเบีย้ วตาเหลือก ลิน้ แข็งพูดไม่ได้
พูดไม่ชดั น�้ำสม้ สายชู หรือนำ้� กระเทียมดองก็ได้ แก้หดื ไอ จาม นำ�้ ฝาง แทรกพิมเสน

205

แก้ไส้เลื่อน และลมกล่อน น้�ำหัวยาข้าวเย็นเหนือต้ม แก้อุปทมแลหนองใน น้�ำแกลบ
ข้าวเหนียวตม้ แกร้ ิดสีดวง ผอมแหง้ และหดื ไอ น้ำ� สม้ ซ่าเปน็ กระสาย น�้ำสม้ สายชูละลาย
แล้วเตมิ น�ำ้ ใหก้ ินง่าย

ยาแก้เป็นแผลเปอื่ ยเนา่ หรือพุพอง หรือแผลกลาย

ใหเ้ อา ๑. ขา้ วเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ หนกั สง่ิ ละ ๒๐ บาท ๒. ขา่ สด หนกั ๑๐ บาท
๓. ลูกเทียนด�ำ หนัก ๕ บาท เฉพาะลูกเทียนห่อผ้าขาวใส่หม้อ ๔. ก�ำมะถันเหลือง
หนกั ๑ บาท เฉพาะกำ� มะถนั จะใสก่ ไ็ ด้ไมใ่ สก่ ็ได้ ยาเหลา่ น้ตี ม้ กินต่างนำ้� กินมากๆ ยิ่งดี
หายเรว็ ทดลองมาแล้วไดผ้ ลชะงัดดนี ัก แตต่ อ้ งเอาเงิน ๑ บาท ห่อผ้าผูกปากหม้อ และ
เมอ่ื หายแล้วต้องเอาเงินนไี้ ปทำ� บุญ อุทิศสว่ นกศุ ลให้เจา้ ของยา

ยาแก้ไฟไหม้ น้ำ� มนั หรือนำ้� ร้อนลวก

ใหเ้ อาหอยโขง่ ตายพลาย หาไดต้ ามทุ่งนาเอามาเผาไฟให้โชน บดให้ละเอียดแล้ว
เอาโรยทีแ่ ผล พ่นด้วยน้�ำสุรา โรยไปพน่ ไปจนไมแ่ หง้ เปน็ อนั ว่าหมดพิษ เม่อื หายแลว้ จะ
ไม่มแี ผลเปน็ หรือดา่ งเลย ได้ใชเ้ ป็นผลดีมาแล้ว

ยาแก้ไฟไหม้ น�้ำรอ้ น นำ้� มันลวก อกี อยา่ งหนึ่ง

เอายาฉนุ อย่างฉนุ ขยำ� กบั เหล้าปะทแี่ ผลให้ท่ัว จะแก้แสบรอ้ นไดโ้ ดยเร็ว และพอก
ต่อไปจนกว่าจะหาย อีกอย่างหนึ่ง เอาหัวหอมฝานเป็นแผ่นๆ ปะท่ีแผล ถ้าแผลมาก
ใหเ้ อาหวั หอมดำ� พอก จะหายแสบรอ้ นโดยเร็ว

ยาเตโชธาตุ

เอาโกฏสอ ๑ โกฐพงุ ปลา ๑ ดปี ลี ๑ แห้วหมู ๑ เปลอื กมูกมัน ๑ ลูกผักชี ๑
อบเชยเทศ ๑ สะด้าน ๑ ขิง ๑ ลูกเอม ๑ อ�ำพนั หางหมู ๑ ยาทง้ั นีเ้ อาเสมอภาค ต�ำเป็นผง
กินกบั นำ้� ขงิ น้�ำรอ้ น สรุ าก็ได้ แกท้ อ้ งขึ้น ทอ้ งเฟ้อ ปวดทอ้ ง ดนี ัก

206

ยาแก้บดิ

ของนายกัก๊ โสรัตยาทร
ใหเ้ อาสันพรา้ นางแอ หนกั ๑ บาท ขมนิ้ อ้อย ๒ บาท ขมนิ้ ชัน ๒ บาท เกสร
ทง้ั ๕ ส่งิ ละ ๒ สลึง รวมใสห่ มอ้ ต้ม แกอ้ าจมเสยี เนา่ เหม็นและเปน็ บิดหรือไข้รากสาด
ดจี รงิ ไดใ้ ช้มามากแลว้ ได้รับผลดี

ยาแกบ้ ดิ

ของพระปลัดกู้
ให้เอาขา่ ๑ กระชาย ๑ หัวหอม ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ ใบส้มป่อย ๑ ใบมะขาม ๑
เอาหนักอยา่ งละ ๑ บาท ถ้าเป็นเดก็ อยา่ งละ ๒ สลงึ รวมใส่หมอ้ ต้ม แก้บดิ ชะงัดดนี ัก

ยาหอมประชมุ สัตตโกฐ

ของนายกัก๊ โสรตั ยาทร
๑. โกฐสอ ๒. โกฐเขมา ๓. โกฐหัวบัว ๔. โกฐพุงปลา ๕. โกฐจุลาลำ� ภา
๖. โกฐก้านพร้าว ๗. โกฐน้�ำเต้า ๘. จันทน์ท้ังสอง ๙. กฤษณา ๑๐. กะล�ำพัก
๑๑. เปลือกสมุลแว้ง ๑๒. น้�ำประสานทองสตุแล้ว ทั้งหมดนี้หนักส่ิงละ ๑ บาท
๑๓. ชะเอมเทศ ๑๔. รากไคลเครอื ๒ สง่ิ นี้ หนกั สงิ่ ละ ๒ บาท ๑๕. พิมเสน ๑ สลงึ
๑๖. ชะมดเชด็ ๑ สลึง ๑๗. ชะมดเชยี ง ๒ สลงึ ๑๘. นอแรด ๑ สลึง ยาทง้ั นต้ี ำ� เปน็ ผง
กนิ แก้สารพัดลม นำ้� กระสายยา้ ยตามโรค ดนี ักเคยใชม้ าแลว้

ยาแกป้ ว่ ง ๘ ประการ

ของคณุ ทา้ ววรคณานนั ท์
๑. ขงิ ๒. ขา่ ๓. กะทอื ๔. กะชาย ๕. ไพล ๖. ขมิน้ อ้อย ๗. บรเพ็ด ๘. ดปี ลี
๙. วา่ นนำ้� ๑๐. สะคา้ น ๑๑. รากชาพลู ๑๒. รากเจตมลู เพลงิ ๑๓. ผลมะตมู ๑๔. ใบหนาด

207

๑๕. ใบฝรั่ง ๑๖. ใบผักกราด ๑๗. ใบสะเดา ๑๘. ใบโคนทิสอ ยาทัง้ หมดนีเ้ อาอยา่ งละ
เท่าๆ กัน ๑๙. พริกไทย เอาเท่ายาท้ังหลาย ต�ำเป็นผง ปั้นเป็นเม็ด กินแก้ปวดท้อง
ลงทอ้ ง แกค้ ลนื่ เหยี นอาเจยี น แกป้ ว่ ง ๘ ประการ ลงทอ้ งครง้ั กนิ ครง้ั อาเจยี นกเ็ หมอื นกนั
นำ้� กระสายใชน้ ้ำ� ขงิ ตม้ หรอื น้ำ� ร้อนแทรกขงิ กไ็ ด้

ยาเหลอื งใหญ่

๑. รากพุงดอ ๓ ตำ� ลึง ๒. ขม้นิ อ้อย ๓ ตำ� ลงึ ๓. ขิง ๘ บาท ๔. หอมแดง
๘ บาท ๕. กะเทียม ๘ บาท ๖. ขา่ ตาแดง ๔ บาท ๗. กะชาย ๘. กะทือ ๔ บาท ๙. ไพล
๔ บาท ๑๐. รากโรคแดง ๔ บาท ๑๑. เม็ดมะนาว ๖ สลึง ๑๒. รากพันงแู ดง ๔ บาท
๑๓. รากข้ีกาแดง ๔ บาท ๑๔. ใบมะนาว ๔ บาท ๑๕. ใบข้เี หลก็ อ่อน ๔ บาท ๑๖. บรเพ็ด
๔ บาท ๑๗. จันทน์แดง ๔ บาท ๑๘. จันทนข์ าว ๔ บาท ๑๙. สารพดั พิศม์ ๔ บาท
๒๐. สารส้ม ๔ บาท ๒๑. ก�ำมะถนั แดง ๖ บาท ๒๒. ผวิ มะกรดู ๖ บาท

ยาท้ังหมดนี้ต�ำเป็นผงปั้นเป็นแท่งหนัก ๑ สลึง กินแก้พิศม์ทั้งปวง แก้เจ็บคอ
ไอ ฯลฯ แก้ราก น้�ำขิง พิมเสน ร�ำหัด เป็นกระสาย กินแก้พิศม์ท้ังปวง แก้เจ็บคอ
แกไ้ อ แกส้ ะอกึ แกเ้ สลด ละลายน�้ำมะนาว ดงี ู ร�ำหดั แก้คลง่ั แก้สะดุ้ง แกล้ ะเมอ น้�ำสม้ ซ่า
นำ�้ ตาล รำ� หดั แกม้ นึ แกร้ าก นำ�้ ขงิ สด แกส้ ะทา้ นรอ้ น สะทา้ นหนาว ละลายนำ�้ จนั ทนห์ อม
ดงี ู รำ� หัด ถา้ เด็กออ่ นเปน็ ตาลทราง ละลายน�้ำมะนาว สุรา ดีงู ดจี รเข้ พมิ เสน รำ� หัด
ถา้ เปน็ ตาลขะโมยตกมูกเลอื ดลงท้อง น�้ำฝาด น�้ำขม้นิ ถา้ งขู บ ฝนกบั น้ำ� มะนาว เสกดว้ ย
สพั พสี ๗ คาบ กนิ หาย ยาเหลอื งใหญข่ นานน้ี ทา่ นตรี าคาไวแ้ ทง่ หนงึ่ เทา่ กบั ทองคำ� หนกั
๑ สลงึ ไดใ้ ชม้ ามากแลว้

ยาแก้โรคสตรีอยไู่ ฟไมไ่ ด้

๑. ฝางเสน ๔ บาท ๒. ขีเ้ หลก็ เลือด ๔ บาท ๓. คำ� ฝอย ๔ บาท ๔. มวกท้ังสอง
สงิ่ ละ ๔ บาท ๕. กฤษณา ๑ บาท ๖. กะล�ำพกั ๑ บาท ๗. ขอนดอก ๑ บาท ๘. จนั ทน์เทศ

208

๑ บาท ๙. อบเชยเทศ ๑ บาท ๑๐. แสมทั้งสอง สิ่งละ ๒ บาท ๑๑. เปล้าทั้งสอง
สงิ่ ละ ๒ บาท ๑๒. ลกู เขยตาย ๒ บาท ๑๓. หางไหลมะพรา้ วทงั้ สอง สง่ิ ละ ๒ บาท
๑๔. กะทกรก ๒ บาท ๑๕. สะมลุ แวง้ ๒ บาท ๑๖. เปลอื กมะทราง ๒ บาท ๑๗. เจตมลู เพลงิ
๑ บาท ๑๘. ดปี ลี ๑ บาท ๑๙. โลดทะนง ๔ บาท ๒๐. พรกิ ไทย ๔ บาท ๒๑. ข่าต้น
๔ บาท ๒๒. ลูกกะดอม ๔ บาท ๒๓. เถาวลั ยเ์ ปรยี ง ๑ กำ� มือ ๒๔. ฝกั ราชพฤกษ์ ๑ ฝกั
๒๕. ไมส้ กั ๑ ก�ำมอื ๒๖. ข้วี ัว ๑ กอ้ น ๒๗. ข้าวเปลือกกลนั้ ใจหยิบ ๑ หยิบ

ยาท้ังหมดน้ีใส่หม้อต้มกิน แต่เมื่อเวลาเคล้ายาก่อนลงหม้อว่าพระเจ้าห้าพระองค์
คือ นะโม พุทธายะ ๓ จบ เวลาลงหมอ้ ว่า พทุ ธคุณ อิติปโิ ส ๓ จบ กินเช้า-เยน็

ยาแก้เลือด สตรีคลอดบตุ ร

ใหเ้ อาเบยี้ จน่ั ๗ ตวั หอยแครง ๗ ตวั กะเทยี ม ๗ หัว พรกิ ไทย ๗ หยบิ ขิง ๗ แวน่
ยาด�ำ ๑ บาท การะบูร ๑ บาท หญ้ายองไฟ ๒ บาท สารส้ม ๑ บาท เบ้ียกับ
หอยแครงนั้น เผาไฟจนไหม้โชนแล้ว รวมต�ำเป็นเม็ดไว้ประมาณเท่าใบพุดซา ละลาย
กบั สรุ ากนิ ครั้งละ ๓ เม็ด แก้เลือดดนี กั เคยใช้มามากต่อมากแลว้

ยาแก้ลมกะสัย

ของทา่ นพระครูธรรมโสภติ
วดั คลองวาฬ จงั หวัดประจวบคีรีขันธ์
๑. ยาดำ� ๔ บาท ๒. สารส้ม ๕ บาท ๓. ดปี ลี ๘ บาท ๔. พรกิ ไทยร่อน ๘ บาท
๕. การะบรู ๑ บาท ๖. หัวไพล ๗. หวั กระดาษแดง ๘. หวั กระดาษขาว ๙. หวั บุกรอ
๑๐. หวั กลอย ๑๑. หวั อตุ พษิ ๑๒. ส้มมะขามเปยี ก ๑๓. เกลือทะเล ยาทง้ั หมดน้นี อกจาก
ท่ีมนี ้ำ� หนักแล้ว เอาเท่าๆ กัน คะเณดูพอสมควร ๑๔. มะกรูด ๓๓ ผล นง่ึ หรือต้มให้
ผิวเปื่อย เมื่อนึ่งหรือต้มแล้ว ให้ค้ันเอาน�้ำไว้ก่อน เอายาท้ังหลายเหล่าน้ีต�ำให้ละเอียด
แล้วเอาน�้ำมะกรูดท่ีบีบไว้นั้นใส่เคล้าให้ทั่ว ลองชิมดูให้เปรี้ยวเค็มพอดี เป็นยาสดแก้

209

ลมกะสยั ในทอ้ งเปน็ เถา เปน็ ดาน เปน็ กอ้ น แกผ้ อมแหง้ หาแรงมไิ ด้ แกเ้ ลอื ดลมดนี กั เปน็ ยา
ระบายอ่อนๆ รับประทานได้ท้ังชายและหญิง เป็นไข้และสตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน
แกเ้ ส้นแกเ้ มอ่ื ยดีนกั เป็นยาถ่ายพอเปน็ มลู โค ครั้งแรกมากหน่อย

ยาแก้ชอกช้ำ�

๑. ไพลหนกั ๘ บาท ๒. เกลอื หนัก ๑ บาท ๓. ส้มมะขามหนกั ๔ บาท รวมกัน
ตำ� เป็นยาสด กินแกช้ อกชำ้� ดีนัก

ยาดอง

ของทา่ นเจา้ คุณวนิ ยั มนุ ี (แปลก) วัดราชบพิธ
๑. เกลือ ๑ ถ้วย ๒. พริกเทศ ๑ สลึง ๓. หัวหอม ๒​สลึง ๔. พรกิ ไทย ๑ สลงึ
๕. กระเทยี ม ๒ สลงึ ๖. ตะไคล้ ๑ บาท ๗. ขงิ ๒ สลึง ๘. กะชาย ๒ สลงึ ๙. กะทือ
๒ สลึง ๑๐. เปราะหอม ๒ สลงึ ๑๑. ไพล ๓ สลงึ ๑๒. แกน่ ข้เี หล็กเลือด ๔ บาท
๑๓. ฝางเสน ๑ บาท ๑๔. เถาวัลย์เปรยี ง ๔ บาท
ยาทงั้ นที้ า่ นใหด้ องดว้ ยนำ้� ตาลโตนดสด ดองแชไ่ วใ้ นนำ�้ ตาล เอาผงึ่ แดดและนำ้� คา้ ง
ไว้ ๓ วัน ๓ คืน แล้วจึงนำ� มากนิ แกผ้ อมแหง้ ดนี กั

ยาสงั หารวาโยธาตุ

ยาน้ี แกล้ ม ๗ จ�ำพวก แก้เส้นทงั้ ปวง แกร้ ิดสดี วง ๘ จ�ำพวก ทำ� ใหผ้ อมกด็ ี ท�ำให้
เมอ่ื ยตัวกด็ ี แก้เลือดตกทวาร แก้หน้ามืดมึนหน้าเวียนศรี ษะลม้ ลมก็ดี ให้ขดั ทว่ั สรรพางค์
กายกด็ ี แก้จุกเสยี ดสีขา้ งกด็ ี และเดินมไิ ด้ให้หัวเบา ให้กินยาขนานนี้ น�ำ้ กระสายตามแต่
จะยักใช้ รแู้ ลว้ ใหบ้ อกตอ่ ๆ ไป ดีนกั แล

๑. เปลือกกมุ่ น�ำ้ ๒. เปลือกกมุ่ บก ๓. บรเพ็ด ๔. ผลมะตมู ออ่ น ๕. รากคนที
๖. สมอไทย ๗. สมอภเิ พก ๘. มะขามป้อม ๙. ใบกระวาน ๑๐. ใบโคนทิสอ ๑๑. ขิงแหง้

210

๑๒. ดีปลี หนักอย่างละ ๑ ตำ� ลงึ ๑๓. เปล้าน้อยเอาทีเ่ น้อื เหลอื ง หนัก ๑ ต�ำลึง ๒ บาท
๑๔. สนเทศ หนัก ๓ สลึง ๑๕. กะเทยี ม หนัก ๓ สลึง ๑๖. ผลจนั ทนเ์ ทศหนัก ๑ ต�ำลงึ
๑๗. รากชาพลู ๑ ตำ� ลึง ๑๘. สะคา้ น ๑ ต�ำลึง ๑๙. เจตมูลเพลิง ๑ ต�ำลึง ๒๐. ดอกจนั ทน์
๒ สลงึ ๒๑. ลกู กระวาน ๒ สลึง ๒๒. พริกไทย ๓ ต�ำลึง ๒๓. รากตองแตก ๑ ตำ� ลงึ
สิรยิ า ๒๓ สง่ิ น้ี ต�ำเปน็ ผงกนิ แก้ดังกลา่ วแลว้

ยาแก้ผอมแห้ง แก้กะสัย

ของพระมหาเมฆ ป. ๙ วดั เทพศิรนิ ทราวาส
๑. ขงิ ๒. ขา่ ๓. กะทือ ๔. ไพล ๕. ขา้ วเยน็ ท้ังสอง ท้งั หมดน้ีเอาหนกั อยา่ งละ
๑๐ บาท ๖. พริกไทย ๔ บาท ๗. ดีปลี ๒ บาท ๘. สะค้าน ๒ บาท ๙. รากชาพบู ๒ บาท
๑๐. เจตมลู เพลิง ๒ บาท ๑๑. ยาดำ� ๗ สลงึ ๑๒. การะบรู ๒ บาท ๑๓. หวั แหว้ หมู
๒ บาท ๑๔. ฝักราชพฤกษ์ ๓ ฝัก ๑๕. เปลือกสะเดา ๑๖. ดเี กลือ ทงั้ ๒ สิง่ นเ้ี อาแต่พอควร
เป็นยาตม้ รับประทานเช้า-เย็น ม้อื ละ ๑ ถว้ ยชา

ยาเทพจติ รารมณ์

เอาผวิ สม้ ๘ ประการ คอื ๑. ส้มข้มี ้า ๒. ส้มซ่า ๓. ส้มมะงว่ั ๔. ส้มเปลือกบาง
๕. สม้ มะกรดู ๖. ส้มมะนาว ๗. ส้มโอ ๘. สม้ แก้ว อย่างละ ๑ บาท ๙. สมอเทศ ๑ บาท
๑๐. สมอไทย ๑ บาท ๑๑. สมอพิเภก ๑ บาท ๑๒. ขอนดอก ๑ บาท ๑๓. กฤษณา
๑ บาท ๑๔. กะล�ำพกั ๑ บาท ๑๕. อบเชย ๑ บาท ๑๖. ชะลูด ๑ บาท ๑๗. ชะเอมไทย
๖ สลงึ ๑๘. ชะเอมเทศ ๖​ สลึง ๑๙. ดอกพิกุล ๖ สลงึ ๒๐. ดอกบุญนาค ๖ สลงึ
๒๑. ดอกสารภี ๑ บาท ๒๒. ดอกจันทน์ ๒ สลงึ ๒๓. ลกู จันทน์ ๒ สลงึ ๒๔. โกฏสอ
๑ บาท ๒๕. โกฏพุงปลา ๑ บาท ๒๖. เปราะหอม ๒ บาท ๒๗. ลกู สะเดา ๖ บาท
๒๘. ดอกพริกไทย ๑ บาท ๒ ๙. จันทน์ชะมด ๑ บาท ๓๐. จันทน์หอม ๑ บาท
๓๑. เทียนด�ำ ๑ บาท ๓๒. เทียนแดง ๑ บาท ๓๓. เทียนข้าวเปลือก ๑ บาท
๓๔. เทยี นตาตัก๊ แตน ๑ บาท ๓๕. เทียนขาว ๑ บาท ๓๖. ชะมดเชด็ ๑ บาท ๓๗. การะบรู

211

๖ สลึง ๓๘. พิมเสน ๖ สลึ ง ๓๙. กระแจะตะนาว ๓ สลึง ๔๐. ดอกมะลิ เท่ายา
ทั้งหลาย น�้ำกระสายดอกไม้เทศ บดเป็นแท่งกินเท่าผลมะแว้ง ละลายน้�ำผึ้ง น้�ำส้มซ่า
น้ำ� ตาลกรวด นำ้� จนั ทน์หอม นำ้� พิมเสนแทรก แก้ลมพดั ในดวงจิตตและน�้ำกระสายสุดแท้
แตจ่ ะยักใช้ตามลมนนั้ เถดิ

ยาข้ีผง้ึ กนั ภัย

ของทา่ นเจา้ คณุ อมราภริ ักขติ (ชัย) วัดบรมนวิ าส
๑. น้�ำมนั วา๊ สรนิ ขาวหนัก ๑ ปอนด์ ๒. เมน็ ทอลเกรด็ หนกั ๔ ออนซ์ ๓. การะบรู
กอ้ นหนัก ๔ ออนซ์ ๔. นำ้� มนั สะระแหน่หนกั ๑ ออนซ์ ๕. น�้ำมนั อบเชยหนกั ๑ ออนซ์
๖. นำ้� มนั กานพลหู นัก ๑ ออนซ์ ๗. น้�ำมันระก�ำหนัก ๑ ออนซ์ ๘. นำ�้ มนั ยคู าลปิ ตสั หนัก
๑ ออนซ์ ๙. น�้ำมนั ลกู จันทน์หนกั ๑ ออนซ์ ๑๐. ข้ีผึ้งแขง็ อย่างแท้หนกั ๓๐ บาท
วธิ ีท�ำ ใหเ้ อาน�ำ้ มนั ว๊าสรนิ การะบูรก้อน และข้ีผง้ึ ผสมกันตง้ั บนนำ้� ร้อนท่ีเดือด
จนละลายหมดแล้วยกลง เอาผ้าขาวบางกรอง แล้วจึงเอาเคร่ืองยาอย่างอื่นผสมลง
แล้วคนใหเ้ ข้ากนั เปน็ อนั ใช้ได้
สรรพคณุ เชน่ เดียวกบั ขผ้ี ึ้งทั่วไป แก้ปวดเมือ่ ย ขัดยอก เคล็ดบวม ฟกชำ้� ดำ� เขยี ว
ทาแก้ปวดทอ้ ง ทอ้ งขึ้น ท้องเฟ้อ จกุ เสียดแน่น ทาแก้ปวดศีรษะ แมลงกดั ตอ่ ย เช่นตะขาบ
แมลงปอ่ ง เป็นต้น

ยาเดก็ แกต้ านขะโมย

ของขนุ ศุภผลภาษี (สงวน สายเมอื ง)
ตดู หมตู ดู หมาท้งั ตน้ ทง้ั ราก ๑ ก�ำมือ ชมุ เห็ดใหญ่ ๑ ก�ำมือ กะเพราแดง ๑ ก�ำมือ
ยาท้ังน้ีเอาอย่างละท้ัง ๕ ยอดทับทิม ๕ ยอด ยอดเที่ยน ๕ ยอด หัวกะชาย ๓ หัว
เงา่ ตะไคร้ ๓ เง่า หอม ๓ หวั สมอไทย ๕ ผล ขมนิ้ ออ้ ย ๕ แว่น ลงพระเจา้ ๕ พระองค์
คือ นะโมพทุ ธายะ ถ้าจะให้ระบายใส่ใบมะกา ๑ ก�ำมือ ตม้ กนิ เชา้ -เยน็

212

ยาเด็กแกท้ รางขะโมยเป็นมูกเลอื ด

เอาทับทิมทงั้ ๕ ครัง่ รังมด เปลือกผลมะตมู ขมน้ิ อ้อย เทียนยอ้ มมือทั้ง ๕ ตม้ กนิ
หายแล

ยาเทพมงคล แก้ทรางแดง

ยาเทพมงคลแก้ทรางแดง ท�ำให้ลิ้นกระด้างคางแข็ง ไม่มีน้�ำตานอนแซ่วอยู่
ก็ดี ท่านให้เอาขี้แมงสาปข้ัว ๑ หญ้ายองไฟ ๑ เกษรบุญนาค ๑ เกษรบัวหลวง ๑
หวานตะคา้ ๑ กฤษณา ๑ กะลำ� พกั ๑ ขอนดอก ๑ นำ�้ ประสารทอง ๑ จนั ทนท์ งั้ สอง ๑ งาชา้ ง ๑
เขี้ยวเสอื ๑ เขี้ยวจระเข้ ๑ โกฏพุงปลา ๑ ชะมอ ๑ พมิ เสน ๑ อ�ำพนั ทอง ๑ ยาท้ังนเี้ อา
เสมอภาค ทองคำ� เปลว พอสมควร นำ�้ ดอกไมเ้ ปน็ กระสาย บดทำ� แทง่ ไว้ ทาละอองพระบาท
ถา้ สขี าวฝนกบั นำ�้ ดอกไม้ นำ้� มะนาว นำ้� กระเทยี มกไ็ ด้ ถา้ สเี ขยี วฝนดว้ ยนำ้� ครำ� นำ้� กระเพรา
สุราก็ได้ ถ้าสีด�ำฝนด้วยน�้ำมะนาวแทรกหมึกหอม ถ้าสีแดงฝนด้วยน�้ำมะนาวน�้ำฝาง
ถ้าสีดงั ควันเทียนฝนด้วยหวั หอมแทรกดงี ู ถา้ สีเหลอื งฝนด้วยน้ำ� ขมิน้ อ้อย ขม้ินเครอื ถา้ สี
ดงั ดอกตะแบกชำ้� ละลายน้ำ� ลูกเถาคันสกุ แทรกเกลือ กวาดทาเถิดหายแล

ยามหานลิ แท่งทอง

เป็นยาแก้ทรางตานขโมย ท่านให้เอาลูกจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑
กานพลู ๑ เทยี นทั้ง ๕ โกฐพุงปลา ๑ สารส้ม ๑ ดินประสวิ ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ กระเทยี ม ๑
กระพังโหม ๑ ว่านนำ�้ ๑ ยาด�ำ ๑ ยาทงั้ นีเ้ อาเสมอภาค ทำ� เป็นแท่งละลายสรุ า กนิ แก้
ทรางขโมย อุจจาระเหม็นเน่า แก้ไข้ผอมเหลือง แก้ทรางในอก เจ็บท้องให้ปวดมวน
กนิ ยานีแ้ ล้วหายแล ตีราคาไว้ ๑ ชง่ั ทอง

213

ยาทรางเด็ก

โกฏหวั บวั ๑ โกฐจฬุ าลำ� พา ๑ โกฏสอ ๑ โกฏก้านพรา้ ว ๑ โกฐพงุ ปลา ๑
โกฏเชยี ง ๑ เทยี นดำ� ๑ กระเทยี ม ๑ ทำ� เปน็ แทง่ ถา้ เดก็ ใหญ่ นำ�้ กระสายใชน้ ำ�้ ตาลกรวด
น�ำ้ สม้ มะนาว สม้ มะกรดู ใชเ้ กลือแทรกพอควร ถา้ เด็กเลก็ ใชน้ ้�ำตาลกรวดดีนกั ได้ใชม้ า
มากแล้ว

ยาพรหมนิมติ

เป็นยาแก้พิศดารทราง ใหผ้ อมเหลอื งแลทอ้ งขึน้ เอามหาหงิ ค์ุ ๑ เจตมลู เพลิง ๑
การบูร ๑ พรกิ ไทย ๑ หัวดองดึง ๑ กระเทียม ๑ ยาทงั้ นเ้ี อาหนักอยา่ งละ ๑ สลึง
ท�ำเปน็ ผงบดกับน้ำ� ขงิ ทำ� เปน็ แท่ง เมื่อจะกวาดใชส้ รุ าเปน็ กระสาย แก้พิศดารทรางแล

ยาเหลืองแก้ทราง

เอาหอมแดง ๑ ขา่ ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ กะชาย ๑ ขมนิ้ อ้อย ๑ ขมน้ิ เครือ ๑
เมด็ มะนาว ๑ กำ� มะถันแดง ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ เนระภสู ี ๑ สารสม้ ๑
ดนิ ประสวิ ขาว ๑ รงทอง ๑ ดปี ลี ๑ บดทำ� เปน็ แทง่ กนิ แกพ้ ศิ มต์ าลทราง พศิ มฝ์ ดี าษหายแล

ยาแก้กะสัย

ของเจา้ พระคณุ สมเดจ็ พระวชิรญาณวงศ์
วดั บวรนิเวศวหิ าร

แก่นกันเกรา แก่นขนุน แก่นขี้เหล็กเลือด แก่นประดู่ แก่นปรู รากทองพันชั่ง
รากชมุ เหด็ ใหญ่ ขนั ทองพยาบาท แกน่ แสมสาร แกน่ แสมทะเล กำ� แพงเจด็ ชนั้ กำ� มะถนั เหลอื ง
ยาทงั้ นห้ี นกั สงิ่ ละ ๖ บาท หวั ขา้ วเยน็ ทงั้ สองหนกั สง่ิ ละ ๑๐ บาท ตม้ เคยี่ ว ๓ งวด เวลากนิ
เตมิ เกลือพอเค็ม วนั ละ ๒ คร้งั เช้า-เยน็ หรอื เวลาไหนกไ็ ด้

214

ยาแกว้ รรณโรค

ของทา่ นเจา้ คุณวนิ ัยมนุ ี (แปลก) วัดราชบพธิ
๑. ข้าวเย็นเหนือ ๒. ข้าวเย็นใต้ ๓. สันพร้านางแอ ๔. เปลือกตาลด�ำ
๕. รากมะกล�ำ่ เครือ หนักสง่ิ ละ ๕ บาท ตม้ กนิ ต่างนำ้� ชาไดท้ กุ เวลา ยิง่ มากยิ่งดี

ยาแกค้ นั

ของขุนศภุ ผลภาษี (สงวน ลายเมอื ง)
เมด็ ในกระเบียน ๗ เม็ด เมด็ ในกะเบา ๗ เมด็ เม็ดในลำ� โพง ๗ เมด็ ใบพลูกิน
กบั หมาก ๗ ใบ ขมน้ิ ออ้ ย ๗ แว่น ก�ำมะถันเหลอื ง ๑ ก้อน ตำ� ให้ละเอียด เอาน�้ำมนั
มะพร้าวเคล้าให้เข้ากันดีแล้วตากแดดพอควร ทาที่คันหายแล เคยรักษามามากแล้ว
ทง้ั แผลเก่าทงั้ แผลใหม่ แก้คันทกุ ชนิด

ยาแก้โรคเรื้อน

ของเจา้ พระคณุ สมเดจ็ พระวชิรญาณวงศ์
วัดบวรนเิ วศวิหาร

ให้เอาถ่านไม้ทรากบดแล้วปั้นกับน�้ำผ้ึงกินทุกวัน หายแล แต่ห้ามน้�ำชาตลอดไป
เคยใชม้ าแลว้

ยาแกโ้ รคเบาหวาน

ของทา่ นเจา้ คุณสพุ จนมุนี วดั บวรนิเวศวิหาร
ใหเ้ อารากหนามพุงดอชนดิ เหลือง (รากใหญๆ่ ) คั่วชงตา่ งน�้ำชา หายมามากแลว้

215

ยาแก้แมลงมพี ิศม์ขบกัด เช่น แมลงปอ่ ง ตะขาบ เป็นต้น

ของท่านเจ้าคุณสุพจนมุนี วดั บวรนเิ วศวหิ าร
ให้เอาปลาสดอะไรกไ็ ด้ยา่ งไฟ แล้วเอาพริกขี้หนตู �ำให้มากๆ ใช้นำ้� มะนาวบีบเคล้า
ใหเ้ ขา้ กันพอหมาดๆ แล้วพอก จะหายปวดทนั ที เคยใชป้ รากฏมาแล้ว
อีกต�ำราหนึ่ง ของท่านเจา้ คณุ เทพเวที วดั มกฏุ กษตั ริยาราม
ใหเ้ อาขมี้ กู ของคนทถ่ี กู แมลงขบกดั กำ� ลงั ปวด อนั มมี าเองนนั้ ทาแปะลงทเี่ อว อาการ
ปวดน้นั จะหายแล หรือเอาหวั หอมต�ำทาก็เคยหายมาแลว้

ยาแกล้ ม และริดสดี วง

ของพระปลัดยัง วัดโสมนัสวหิ าร
ใหเ้ อาพระยามุติ ต้น ๒ บาท ใบ ๒ บาท พรกิ ไทย ๔ บาท ขงิ ดปี ลี กระเทียม
อยา่ งละ ๒ สลึง ตรผี ลา ๒ สลงึ ต�ำใสข่ วดไว้ ตามแตจ่ ะใชเ้ ถิด แกร้ ิดสดี วงไดท้ ุกอยา่ ง
แก้ลมได้ทุกอย่าง น้�ำผ้งึ เป็นกระสาย

ยาระบาย และเจรญิ อาหาร

ของพระมหาภชุ งค์ วดั ราชประดิษฐ์ฯ
ข้าวเย็นท้ัง ๒ สิง่ ละ ๓ บาท ยาด�ำ ๑ บาท รงั ปลวก ๒ บาท เถาคนั แดง ๖ บาท
เถาวลั ยเ์ ปรียง ๖ บาท ค�ำฝอย ๒ บาท มะคำ� ไก่ ๓ บาท ดีเกลอื ไทย ๘ บาท แก่นขเ้ี หลก็
๖ บาท ต้มกนิ เช้า-เยน็ หรอื ก่อนนอนกไ็ ด้ เป็นยาถา่ ยสารพดั โรค

ยาแกป้ วดฟนั

การะบรู ๑ สารส้ม ๑ เกลือ ๑ ดินประสวิ ๑ พมิ เสน ๑ ต�ำให้ละเอียด จ้ิมฟนั
แกป้ วดบวมดีนกั

216

ยาแก้ขัดเบา

หญ้าคา ๑ กำ� มอื หญ้าไทร ๑ ก�ำมือ รากมะละกอ ๑ คบี สารสม้ ๒ สลงึ ดินประสวิ
๓ หยบิ ตม้ ใสน่ ำ้� ใหม้ ากประมาณ ๑ ขันใหญ่ เค่ียวให้งวด รบั ทานใหอ้ มิ่ แกข้ ัดเบา
แก้นิ่วเมด็ เลก็ เคยหายมากแลว้

ยาแกป้ ่วง

จากชายคา ๓ หยิบ ธปู หอม ๓ ดอก หมากป้ี ๓ ผล ข้ผี งึ้ แท้ ๑ บาท เหรียญสลึง
๑ อนั ใส่หมอ้ ต้ม กนิ แกป้ ว่ งชะงัดนกั ไดป้ รากฏผลมาแลว้

217

พ้ืนท่ีสงวนยาสมุนไพร

ในเขตพุทธสถานทรพั ยากรแหง่ น้ี มยี าสมุนไพรเกดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติ ซง่ึ มีมา
แตเ่ ดมิ ในพืน้ ท่แี หง่ น้คี อื ๑. เป้าเลือด ๒. นางแชง่ ๓. สา่ นเตี้ย ๔. เอ่ียนด่อน ๕. ข่อยดาน
๖. มกู ขาว ๗. ข่าป่า ๘. ตน้ กระแช และจะพยายามนำ� ยาสมุนไพรประเภททกี่ �ำลงั จะ
สูญพันธุ์หายากมาปลูกเพ่ิมข้ึนอีกเท่าที่เห็นควรเหมาะสมกับพ้ืนท่ี ยาเป้าเลือดน้ีเป็นยา
รักษาโรคประเภทเลือดไม่ดีทุกชนิด มีสรรพคุณสูงกว้างขวาง เคยได้ใช้มาแล้วได้ผลดี
มาตลอด พอเหมาะกับการรักษาโรคขั้นเริ่มต้นในชีวิตประจ�ำวันของคนไทยเราแบบ
งา่ ยๆ และไมค่ อ่ ยมีพษิ ภยั ต่อรา่ งกาย และโรคบางอยา่ ง ซ่งึ ไมจ่ �ำเปน็ ต้องเสียเงินมากนกั
เหมาะสมกับประเทศไทยของเราที่ก�ำลังยากจนลงทางเศรษฐกิจเท่าท่ีได้สังเกต เวลา
ผ่านไปประมาณ ๒๐ กว่าปีเท่าน้ัน ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยเรากำ� ลังจะ
หมดไป เช่น ยาสมุนไพรประเภทที่มีสรรพคุณสูงในทางรักษาโรคต่างๆ มีมากไม่แพ้
ประเทศอนื่ ๆ ขณะนกี้ ำ� ลงั จะสญู พนั ธไ์ุ ปอยา่ งนา่ เสยี ดาย ทางวดั จงึ คดิ สงวนรกั ษาไวเ้ ทา่ ที่
รู้จัก เพื่อรักษาชีวิตของลูกๆ หลานๆ ให้ได้รับความอบอุ่นร่มเย็นใจในการช่วยเหลือ
รักษากัน ไม่ควรเห่อเหิมยาของต่างประเทศจนลืมสมบัติอันล�้ำค่าของชาติไทยของเรา
ซึง่ อดุ มสมบรู ณม์ าแลว้ ตั้งแต่สมัยบรรพบรุ ษุ

พืน้ ท่สี ำ� รวจในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมท้งั หมดมเี นื้อทป่ี ระมาณ ๓,๑๗๒ ไร่ ๓ งาน
๑๕ ตารางวา พน้ื ทที่ ี่มอี ยู่เดิมเป็นปา่ ไม้ท่ียังอุดมสมบรู ณ์ตามธรรมชาติ มเี น้อื ที่ประมาณ
๓๕๐ ไร่นี้ ส่วนมากจะมียาสมุนไพรท่ีเกดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติผสมกันอย่หู ลายประเภท
มชี นดิ ทเี่ ปน็ ไมข้ นาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ ลงมามอี ยมู่ าก แตเ่ ขยี นมาเทา่ ทร่ี จู้ กั
และกไ็ มค่ ดิ จะเปดิ เผย นอกจากพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยของชาตไิ ทย และบคุ คลสำ� คญั ซง่ึ เปน็
ชาวพุทธทเ่ี หน็ วา่ จ�ำเป็นเทา่ นน้ั

พนื้ ทนี่ อกนน้ั เปน็ ปา่ ปลกู เพม่ิ เตมิ ในกาลตอ่ มาจนถงึ ปจั จบุ นั จะมยี าสมนุ ไพรประเภท
ต่างๆ และต้นไม้นานาพันธุ์ ตามท่ีเห็นควรเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ ท่ีจะน�ำมาปลูกได้
และจะปลูกไปเร่ือยๆ ตามก�ำลังความสามารถจนกว่าเหน็ ควรวา่ ยตุ ิ

218
หากมีเหตุจ�ำเป็นเกี่ยวกับเร่ืองยาสมุนไพรท่ีจะเป็นประโยชน์ต่อชาติไทย และ
พระพทุ ธศาสนา กแ็ ลว้ แต่พระมหากษตั รยิ ์ไทยผูต้ งั้ อยู่ในคลองธรรมเหน็ พอ้ งกับปวงชน
ชาวไทยผูร้ ้จู กั ประโยชน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหน้ �ำมาใชไ้ ด้ตามสมควร
พระปา่ ผู้มุ่งบ�ำเพญ็ ตนเพ่ือศีล สมาธิ ปัญญา ตามแนวทางของศาสนา ไมค่ วรมา
คลุกคลีกับเร่ืองทางโลกจนลืมศีลลืมธรรม ไม่เหมาะแก่เพศสมณะในกาลไหนๆ มาและ
ตลอดไป นอกจากจะชว่ ยโลกตามกาลเวลาอนั สมควรโดยไมม่ งุ่ ผลประโยชนใ์ ดๆ ทง้ั นนั้
และเหมาะสมกบั พระสงฆ์ผมู้ คี ณุ ธรรมภายในใจเพอื่ เกอ้ื กูลหนุนโลกเทา่ น้นั

-----------------------

ขอ้ ห้ามตลอดกาล

๑. ตามพระวนิ ยั บัญญตั ิ หา้ มมิให้ภกิ ษเุ ป็นพระหมอยา
๒. ไม่อนุญาตให้พระสงฆห์ รือคณะสงฆ์ สามเณร รบั ปจั จยั รายได้
ทุกประเภทจากมลู นธิ ิ ฯ โดยเด็ดขาดทกุ กาลเวลา
๓. หา้ มนำ� ผลประโยชนห์ รอื ปจั จยั ใดๆ ทเ่ี กดิ จากทรพั ยากรบนดนิ และ
ใตด้ นิ ในเขตพทุ ธสถานทรพั ยากรวดั แสงอรณุ (วดั ปา่ ดานวเิ วก) ดงั กลา่ ว
ถวายแก่พระภิกษุสงฆ์หรือคณะสงฆ์ สามเณร โดยเด็ดขาดทุกกาลเวลา
ตลอดไป เว้นแต่ในกรณบี า้ นเมอื งเกิดวิกฤตการณเ์ ทา่ น้ัน

219

ตำ� รับยาบางต�ำรับ

๑. วธิ ที ำ� น�้ำไพล วา่ นไฟ

สว่ นผสม
๑. แอลกอฮอลช์ นดิ รับประทานได้ (อยา่ งดี) ๖ ขวด
๒. ไพลประมาณ ๓ กิโลกรัม (ไพลไม่ควรจะเลอื กแก่)
๓. การบรู ปน่ ประมาณ ๒ ขดี
๔. เมนทอล ๒ ขดี

วธิ ีท�ำ
ลา้ งไพลใหส้ ะอาด แลว้ เอามาหนั่ เปน็ แวน่ ๆ นำ� ไปตากแดด ไมต่ อ้ งแหง้ สนทิ แลว้ นำ�

มาทบุ ใหน้ มุ่ ไมต่ อ้ งแหลก แลว้ นำ� เอาแอลกอฮอลท์ งั้ ๖ ขวด มาใสใ่ นขวดแกว้ ขนาดใหญ่
มฝี าปดิ สนทิ เพื่อกันระเหย เอาไพลทที่ บุ แลว้ ใสเ่ ขา้ ไปในแอลกอฮอลท์ ิ้งไวป้ ระมาณ ๒-๓
อาทติ ย์ เขย่าขวดทกุ ๓ วนั เพื่อใหเ้ ข้ากนั ดี จนครบ ๓ อาทติ ย์ จากนนั้ น�ำมากรองเอา
ไพลออกโดยใชผ้ า้ กรองหรอื กระปอน แลว้ ใสก่ ารบรู คนใหเ้ ขา้ กนั แลว้ ใชก้ ระดาษกรองยา
กรองอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงใส่เมนทอล (น้�ำไพลใช้ทาแก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก แน่น
จกุ เสียด)

๒. ยาลูกกลอน

ทานวันละ ๓ เมด็ ผสมนำ�้ ผ้ึง ทำ� เปน็ ลูกขนาดเมด็ นนุ่ ทานทุกวนั เถดิ กอ่ นจะทาน
ตอ้ งจุดธูป ๓ ดอก หลวงปบู่ ญุ วัดแกว้ อธษิ ฐานขอให้หาย


Click to View FlipBook Version