The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชีวประวัติ หลวงปู่สวาท ปัญญาธโร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wonchai890, 2021-10-02 00:33:13

ชีวประวัติ หลวงปู่สวาท ปัญญาธโร

ชีวประวัติ หลวงปู่สวาท ปัญญาธโร

งานประชมุ เพลงิ หลวงปูค่ ำ� ผิว สภุ โณ

ตอนที่ ๒

เมอื่ เราเห็นวัดนอกแลว้ แล้วเราดวู ัดเราหรือยงั เห็นวดั ในเราหรอื ยงั “วัดที่เราควรจะ
ปฏิบตั ินะ่ ”
วัดในเรามอี ยู่ ๓ นะ่ “กายวดั มโนวัด วจีวัด” ก็คอื กายเรานแ้ี หละ วดั ในเรานี้เป็นทพี่ ึ่ง
เปน็ สรณะ แล้วเราจะเข้าพระไตรสรณคมนไ์ ดย้ ังไง
จะรูว้ า่ เปน็ ท่พี ่งึ ยงั ไง เข้าที่ไหน เคยอ่านใชไ่ หม เคยทอ่ งเคยสวดใช่ไหม ธัมมจักฯ น่ะ
ในมรรค ๘ ขอ้ สดุ ทา้ ยทว่ี า่ “สมั มาสมาธ”ิ ตงั้ ใจชอบ คอื ตง้ั ใจเจรญิ ฌานทง้ั ๔ ฌาน แปลวา่
เพง่
“การเพง่ การกำ� หนด” กำ� หนดอะไร “ก�ำหนดอานาปานสต”ิ
กำ� หนดลมหายใจเขา้ ออก รไู้ หม นนั้ เปน็ การเขา้ วดั ในอนั นี้ คอื กายวดั ตา่ งหาก เพอื่ จะให้
เข้าไปปฏบิ ัติอะไร ไปปฏบิ ตั พิ ระสงฆแ์ ละพระธรรมอันเปน็ ที่พงึ่ ของเรา
ใครเป็นพระสงฆ์ในกายวัด ในตัวตนสกนธ์กายล้วนแต่เป็นกองสมมุติท้ังน้ัน จริงหรือ
ไมจ่ รงิ ให้มสี ติพจิ ารณานะ่ ไมใ่ ชส่ ักแตว่ า่ ฟังให้สมศกั ดิศ์ รวี ่าเปน็ พระกรรมฐานฝ่ายปฏบิ ตั ิบ้าง
ให้สมศักดศ์ิ รีว่าเป็นโยมพอ่ โยมแม่บา้ ง
ญาตธิ รรมทกุ คนนอ่ี ยใู่ นแดนพระอรยิ สงฆท์ งั้ นนั้ อะไรเปน็ สงฆภ์ ายใน กพ็ ระ ๔ รปู เหมอื นกนั
เป็นสรณะในกายเรานี่
ถ้าพระในวดั ปา่ ศรีวิไลมีเยอะ นับชื่อไม่ได้ แล้วจะบอกสงฆ์ในกายวัดเรา
สงฆร์ ูปที่ ๔ คืออะไร
รูปท่ี ๑ พระมหาปฐพี (ดิน)
รปู ที่ ๒ ละ่ พระมหานที (น�ำ้ )
รปู ที่ ๓ ละ่ พระเพลงิ (ไฟ)
รูปท่ี ๔ พระพาย (ลม)

50

มหาภูต ๔ มาประชมุ กัน เขา้ ใจไหม ในตวั ตนสกนธก์ ายของเรานี่

ถา้ ธาตทุ ง้ั ๔ ไมม่ าประชมุ กนั แลว้ จติ ของเราคอื ตวั พทุ ธะ “ตวั ร”ู้ เขา้ มาปฏสิ นธิ มายดึ เอา
ธรรมธาตุ มายดึ เอาธาตุ มายดึ เอาธาตอุ นั นเี้ อง เอาเปน็ สรณะ มายดึ เอาขนั ธท์ งั้ ๔ มายดึ เอา
พระท้งั ๔ เข้าใจไหม

นแ้ี หละเปน็ สงั ฆงั สะระณงั คจั ฉามิ สงฆท์ ง้ั ๔ คอื ธาตทุ ง้ั ๔ ถา้ ธาตทุ งั้ ๔ ไมป่ ระชมุ กนั
เราจะมาปฏิสนธิไดห้ รอ

ใครเปน็ ผปู้ ระชุม พระอรหันต์ ๒ พระองค์

ใคร?

พระบดิ าพระมารดาเปน็ พระอรหนั ต์ พระบดิ าใหธ้ าตดุ นิ พระมารดาใหธ้ าตนุ ำ�้ เมอื่ ธาตดุ นิ
และน�ำ้ มาประชมุ กัน ธาตุไฟและธาตุลมก็เปน็ ธาตอุ าศยั

“พระมหาปฐพี” ก็เปน็ ธาตุอนั ยิ่งใหญ่ “พระมหานที” กเ็ พราะเปน็ ธาตุอันยิ่งใหญ่

เมอื่ ๒ ธาตมุ าประชมุ กนั ไฟและลมจงึ เกดิ ขน้ึ ธาตทุ งั้ ๔ จงึ พรอ้ มมลู พรอ้ มเหตุ มาประชมุ กนั
เปน็ ก้อนธาตุ ก้อนธรรมขนึ้ มาแล้วน่ี จติ คือวญิ ญาณของเราจงึ มาปฏิสนธิมาถอื เอา มาถือเอา
เป็นตวั เป็นตน น้เี หตุเกิดของโลก

ในงานพธิ ีพระราชทานเพลงิ พระครภู าวนาปญั ญาโสภณ (หลวงปคู่ �ำผิว สภุ โณ) ณ เมรชุ ว่ั คราว วดั ป่าศรวี ไิ ล

51

งานประชมุ เพลิงหลวงปูค่ ำ� ผิว สภุ โณ

ตอนท่ี ๓

“นะ” กค็ อื ธาตนุ �้ำ “โม” หรอื มะ กค็ ือธาตุดิน แล้วที่เรามาวัดเขา้ มากราบพระน่ี
เรานอ้ มระลกึ ถงึ พระอรหันต์สองพระองคไ์ หมวา่ นะ และ โม นั้น ถ้าเราจะแปลในทางปฏิบตั ิ
หลกั วปิ สั สนาละ่ ถา้ จะแปลในทางหนงั สอื นะโม กค็ อื ความนอบนอ้ ม ภะคะวะโต ตอ่ พระผมู้ -ี
พระภาคเจา้ ตสั สะ พระองคน์ นั้ อะระหะโต เปน็ พระอรหนั ต์ สมั มาสมั พทุ ธสั สะ ตรสั รเู้ องโดยชอบ
แตถ่ ้าเราจะแปลในทางหลกั ปฏบิ ตั ิ แปลเอาของจรงิ ขึน้ มาพิจารณาใหเ้ ขา้ ถงึ หลกั จรงิ ๆ ล่ะ
“นะโม อันว่า นำ้� และดนิ ตสั สะ ของบดิ ามารดานั้น ตัสสะ แปลวา่ นน้ั คอื วเิ สสนะ
ภะคะวะโต คอื จำ� แนก แจก หรอื แบ่ง อะระหะโต แปลวา่ ส้นิ สัมมา โดยชอบ สัมพทุ โธ
ตรสั รู้เอง” ถ้าเราจะแปลภาษาในทางปฏบิ ตั วิ ปิ ัสสนาใหเ้ กิดปญั ญาขึ้นมาล่ะ
นะโม : อันวา่ น�้ำและดนิ ตสั สะ : ของบดิ ามารดานน้ั ภะคะวะโต : บิดามารดาเป็น
ผ้จู �ำแนกธาตุนำ้� และดิน อะระหะโต : จ�ำแนกให้แล้วจนเสรจ็ สมั มา : ให้ตงั้ อยู่ในครรภน์ าน
๑๐ เดือนน่ะ มนั หนักหรอื เบา ล�ำบากไหม นนั้ เขาเรียกว่าการสรา้ งวัดเป็นการสร้างวัดต้งั ขน้ึ
มาแลว้ เปน็ การตง้ั พระสงฆ์ การประชมุ สงฆเ์ ขา้ ใจไหม เปน็ องคส์ รณะ เรยี กวา่ สงั ฆงั สะระณงั
คัจฉามิ นน้ั แหละ เพราะธาตุทง้ั ๔ ประชุมกนั เราจงึ มาอาศัยมายึดเอาธาตุท้ัง ๔ มาเป็น
สรณะ
เข้าใจไหม สงฆ์น่ะอยูท่ ี่ตัวเรานี้ จะไปแสวงหาสังฆงั สะระณงั คจั ฉามิ ท่ีไหน เมื่อธาตุ
มาประชมุ กนั เขาเรียกวา่ “มหาภตู ๔” มาร่วมกนั เป็นกอง กองเขาแปลวา่ ขนั ธ์ มาจากธาตุ
เขาเรยี กว่า “ธรรมธาตุ” ธรรมธาตุก็คอื ตวั ธรรมชาติ เม่ือมันมีธรรมชาตเิ กดิ ขน้ึ แลว้
โลกอนั น้เี กิดขน้ึ แล้ว แตย่ ังมืดมนอยู่ มดื มนเพราะไมไ่ ด้พจิ ารณา ผู้รคู้ อื ตวั พุทธะคือจติ
วญิ ญาณของเราน่ี จึงเขา้ มาอยู่อาศยั มารูข้ องจรงิ มาอาศยั อยู่ เปน็ ตวั พุทธะ ให้มารกู้ ่อน
พระธรรม พระสงฆ์ อนั นี้ ว่าเปน็ สรณะไดอ้ ยา่ งไร เม่ือจิตของเรามายึดเอา แป๊บเดียวเท่านัน้
ก็จะร้เู ลยวา่ ออ๋ มันไม่ใช่ของเรา มันเปน็ เพียงธาตุประชมุ กนั น้อ

ในงานพิธีพระราชทานเพลงิ พระครูภาวนาปญั ญาโสภณ (หลวงป่คู ำ� ผวิ สุภโณ) ณ เมรชุ ั่วคราว วัดปา่ ศรีวิไล

52

งานประชมุ เพลิงหลวงปู่ค�ำผวิ สภุ โณ

ตอนท่ี ๔

เมอ่ื มนั มีธรรมชาตเิ กิดขึ้นแล้ว โลกอันนี้เกิดขึ้นแล้ว แต่ยงั มืดมนอยู่ มดื มนเพราะไมไ่ ด้
พจิ ารณา “ผรู้ ูค้ อื ตวั พุทธะ” คอื จิตวญิ ญาณของเรานี่เขา้ มาอย่อู าศัย จงึ มาเหน็ มารู้ของจรงิ
มาอาศัยอยู่เป็นตัวพุทธะ ให้มารู้ก้อนพระธรรมอันน้ี ก้อนพระสงฆ์อันนี้ ว่าเป็นสรณะได้
อย่างไร เม่อื จติ ของเราเข้ามาปฏิสนธยิ ดึ ถือเอาไวป้ ุ๊บ ก็จะรเู้ ลยทีน่ีว่า “ออ๋ มนั ไมใ่ ช่ของเรา
เปน็ เแต่เพยี งธาตมุ นั ประชุมกนั น้อ มนั เป็นของอยู่ดว้ ยกนั นี่ เมือ่ มีนามกต็ อ้ งมีรปู เม่ือมีรูปก็
ตอ้ งมนี าม เมอื่ มีการสมมุตวิ ่าโลก กองสมมุตจิ งึ เกดิ ต้ังข้ึน”

แลว้ ถ้าเราอยากจะรใู้ จตัวพุทธะคือตวั ใจเราล่ะ ลองกลบั ตวั “นะ” และ ตัว “มะ” มาดู
สิเอาตัว “นะ” ทข่ี ้ึนหนา้ ไปไว้แทนตัว “มะ” เอาตัว “มะ” มาแทนตวั “นะ” จากนะโม และก็
เอาตวั “มะ” ข้นึ หน้า แล้วก็อ่านเปน็ “มโน” ดูสิ เขาก็แปลวา่ “ใจ” มันก็อย่ดู ้วยกัน กายกับใจ
มนั แยกกนั ไมอ่ อกเวน้ แตต่ าย ถา้ ไมเ่ ชอ่ื ลองถามหลวงปคู่ ำ� ผวิ ดสู ิ ถามดเู ลย นอนอยใู่ นโลงนนั้ นะ่
หลวงป่จู ะตอบเรายงั ไง ถามดสู ิ “ลกู หลานเอ๋ย เป็นเพียงธาตุของฉนั เทา่ นน้ั น่ะ ถงึ กาลเวลา
แตกดับใช้ไม่ได้แลว้ ฉันจึงปลอ่ ยวาง” ถามดูสิ มนั มาอยกู่ จ็ รงิ มันมาอาศยั อยู่ด้วยกนั เฉยๆ
แตม่ ารวมกันกแ็ ยกออก ตัวตนสกนธก์ ายนี้แหละทีเ่ รยี กวา่ “ตัวตน” คือ กอ้ นพระธรรม ขา ๒
แขน ๒ ศีรษะ ๑ น่ี สงฆ์มารว่ มตัวกันจงึ เปน็ ตัวเปน็ ตน เปน็ ก้อนพระธรรม เป็นธรรมชาตทิ ี่
มจี ติ วญิ ญาณ ก็คือตวั เรามาอาศยั อยู่ แลว้ ว่าตัวเราเปน็ พุทธงั ธมั มัง สังฆัง ได้ยังไง

ขอถามหนอ่ ย เมอ่ื พากนั เขา้ มาในวดั ปา่ ศรวี ไิ ลนี่ เทา้ ทำ� หนา้ ทเ่ี ดนิ จรงิ ไหม เราเอาเทา้ เดนิ
หรอื เอามอื เดนิ เราเอาตาเราดูหนทางใช่ไหม ตาท�ำหน้าทด่ี ูใช่ไหม ฟงั เสยี งก็เอาหทู �ำหน้าที่
ฟงั เสยี งอยู่ใชไ่ หม เมื่อเวลาหายใจน่ี เอาจมูกทำ� หนา้ ที่หายใจใช่ไหม

ตัวตนสกนธ์กายคือก้อนพระธรรมอันยิ่งใหญ่เลยน่ี เป็นแก้วสารพัดนึก นี้แหละเป็น
ตวั พุทธัง ธมั มงั สังฆงั คจั ฉามิ ธาตทุ ง้ั ๔ มหาภูต คือ สังฆงั สะระณงั คัจฉามิ จงึ มารว่ มกนั
เปน็ กอ้ นเป็นกองขน้ึ มาแล้ว จะไปหาพุทธัง ธัมมงั สังฆงั คัจฉามิ ทไี่ หน ถา้ ไมห่ าตรงนี้

ในงานพิธีพระราชทานเพลิงพระครูภาวนาปญั ญาโสภณ (หลวงปู่ค�ำผวิ สภุ โณ) ณ เมรุช่ัวคราว วัดป่าศรวี ไิ ล

53

งานประชุมเพลงิ หลวงปคู่ ำ� ผวิ สุภโณ

ตอนที่ ๕

ขอถามหนอ่ ยน่ะ ใหต้ อบในใจนะ่ ถามในใจตวั เองบา้ งนะ่ ทกุ รูปทุกนาม พระพุทธเจา้
กางตำ� ราตรสั รไู้ หม หรอื พจิ ารณาในตวั ตนนี้ พจิ ารณาความเกดิ แก่ เจบ็ ตาย ใชไ่ หม จรงิ หรอื
ไม่จรงิ ถา้ ไม่จรงิ เขียนขน้ึ มา ถามขน้ึ มา
พระพุทธเจ้าก็มาพิจารณาเร่ืองเกิดแก่เจ็บตายนี่ เพราะพระองค์เสวยสุขอยู่ในนคร
เสพสุขอยู่ พอออกไปเห็นคนแก่ เห็นคนเจบ็ เหน็ คนตาย เห็นอะไร เห็นเทวทูต เอ๋ ขอถาม
ญาตธิ รรมหนอ่ ย เคยเหน็ ยมบาลยมทูตกนั ไหม เคยเห็นกระดาษแผน่ ใหญ่ๆ ทีย่ มบาลจารกึ
ช่อื เราไว้ไหม ทเ่ี ราท�ำดีท�ำไมด่ ีไวน้ ่ะ เคยเหน็ หรอื ยัง
แม้แต่ยมบาลยมทูตก็ยังไม่รู้จักอีก ก็คงจะตอบว่าไม่รู้ไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่ในหนัง
น้ันแหละครบั /ในหนงั นั้นแหละคะ่ รไู้ หม กระดาษแผ่นใหญน่ ่ะคอื อะไร รู้ไหม ปากกาท่ีเขา
เขยี นเอาไวน้ ่ะคอื อะไร ใครเปน็ ยมทตู
ก่อนๆ ก็เคยสงสัยเหมือนกันเรื่องยมทูตนี่ ก็เลยไปถามอาจารย์มหารูปหนึ่งท่ีท่าน
เรยี นอยู่ แตว่ ่าท่านเรียนกเ็ รียนเก่งอยู่ ได้มหาเปรียญ ๘ แต่เปรยี ญ ๙ สอบอยู่ ๘ ปียังไมไ่ ด้
อีกเลยว่ะ เขาเรียนเก่งมาก ตกก็เก่งวะ่ สอบเปรียญ ๙ อยู่ ๘-๙ ปยี งั ไม่ไดเ้ ลยว่ะ กเ็ ลยไปถาม
อาจารย์มหาว่า
หลวงปู่ : มหาๆ ยมทตู นี่เขาแปลว่าอะไรกนั แน่ ยมทูต ยมบาลน่ี “ยมะ” คอื อะไร
อาจารย์มหา : โอย้ หลวงปู่ ยามะ ยมะ เขาแปลว่า สอง
หลวงปู่ : เอา้ ถา้ แปลวา่ สอง ครงั้ พทุ ธกาลพระพทุ ธเจา้ กเ็ สดจ็ ไปยงั นรก กท็ รงเจอเทวทตู
“เทวะ” ก็แปลวา่ สองใชไ่ หม
อาจารย์มหา : ใชค่ รบั
ศพั ทเ์ ดยี วกนั จงึ มาเขา้ ใจ ออ๋ เกดิ แก่ เจบ็ ตาย มนั อยทู่ ตี่ วั เรานเี้ อง ยมทตู กค็ อื เกดิ แก่ เจบ็ ตาย
นั้นเอง ยมบาลคือผู้นำ� ไป เราคอื ผู้กระทำ� เขยี นจารึกเอาไว้ท่ีไหน เราเหยียบแผน่ ดินใช่ไหม

54

วนั นีท้ ่ีญาตธิ รรมพากันเขา้ มาในวดั ป่าศรีวิไลน่ี เอาฝา่ เท้าเหยียบมาใช่ไหม เอาฝ่าเท้าเหยียบ
พน้ื ดินมาใช่ไหม มาสรา้ งบญุ ใชไ่ หม น่เี ทวดาเขาจารกึ เอาไวห้ มดแลว้

แต่ถ้าใครเข้ามาแล้วไม่ปฏิบัติไม่เอาบุญเอากุศล มาคิดแต่เรื่องอกุศล ยมทูตเขาจารึก
เอาไวแ้ ลว้ นะ่ ฝา่ เทา้ เราจารกึ เอาไวแ้ ผน่ ดนิ แลว้ นนั้ แหละยมทตู ยมบาลเขาเขยี นไวแ้ ลว้ เขา้ ใจไหม
ไมม่ ีใครมาแยง่ หรอก บญุ บาปของเราเอง เราท�ำเองนะ่ พระพุทธเจา้ จงึ ตรสั วา่ ปตั จตั ตัง
เวทติ พั โพ วญิ ญหู ิ รเู้ ฉพาะตนนะ่ ทำ� อะไรเปน็ ของตวั เองนะ่ นหี้ ลกั วปิ สั สนานะ่ ทพี่ ดู นี่ แลว้ เรา
มองดทู ่ีกายวัดเราสิ นะโม รอบทีห่ น่งึ กเ็ คยแปลใหฟ้ ังไปแล้ว

นะโม : อนั วา่ นำ�้ และดนิ ตสั สะ : ของบดิ ามารดานนั้ ภะคะวะโต : พระบดิ ามารดาเปน็
ผจู้ ำ� แนกธาตนุ ำ้� และธาตดุ นิ อะระหะโต : จำ� แนกใหแ้ ลว้ จนสนิ้ สมั มา : ตงั้ อยใู่ นครรภม์ ารดาแลว้
๑๐ เดอื นโดยชอบ สมั พทุ โธ : จงึ ไดเ้ กดิ ขนึ้ มา แตถ่ า้ เราจะแปลนะโมรอบที่ ๒ ละ่ จะแปลวา่ ยงั ไง

นะโม อนั ว่า “หว้ งอมตธรรม” ตัสสะ : ของพระพุทธเจา้ น้นั ภะคะวะโต : พระพทุ ธเจา้
เปน็ ผจู้ ำ� แนกแจกพระสจั ธรรมได้ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ์ อะระหะโต : ลว้ นแตเ่ ปน็ ธรรมอนั สน้ิ
อาสวะ สมั มา : มเี ทวดา มารและพรหม สมณะพราหมณ์และมนุษย์ เป็นผู้สดบั รับฟังแลว้
โดยชอบ ปฏบิ ัตดิ แี ล้วโดยชอบ สัมพุทโธ : จงึ ไดบ้ รรลเุ อง

ใครปฏบิ ัตอิ ยา่ งไรได้มากไดน้ ้อยกเ็ ป็นของใครของมนั นะ่

เราตถาคตแสดงธรรมให้ผู้ฟังรู้ย่ิงเห็นจริงในธรรมที่ควรรู้ควรเห็น เราตถาคตแสดง
ธรรมเหตุให้ผู้ฟังตรองตามเห็นจริงได้ เราตถาคตแสดงธรรมน่ี เมื่อผู้ฟังน�ำไปปฏิบัติแล้ว
ยอ่ มเกดิ ประโยชนไ์ ดเ้ ทา่ ทต่ี วั เองปฏบิ ตั ิ นมี้ นั เปน็ หลกั อยทู่ ตี่ วั เองนเี้ อง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ์
ไมใ่ ชอ่ ยูท่ ่อี ื่น เข้าไปดูทีไ่ หน พุทธงั ธัมมงั สงั ฆัง ทไ่ี หน กเ็ ข้าอานาปานสติ เขา้ ใจไหมทนี ี้
ทางทจ่ี ะเดินมันมีอยู่ ๘ สาย เมอื่ ยน่ เข้ามาก็เหลือ ๓ เหลอื ศลี สมาธิ ปญั ญา อะไรคอื ศีล
ก็สัมมาวาจา สมั มากัมมนั ตะ สมั มาอาชวี ะ น้นั คอื ศีล สมั มาวายามะ สัมมาสติ สมั มาสมาธิ
สมั มาสมาธิ น่ะคอื สมาธิ

แลว้ ปญั ญาละ่ สมั มาทฏิ ฐิ สมั มาสงั กปั ปะ ในมรรควสิ ทุ ธอิ นั นแี้ หละเปน็ ทางเดนิ เขา้ สมู่ รรค
เขา้ สผู่ ล เขา้ สนู่ พิ พานได้ ไมม่ ที างอนื่ เลยนะ่ ภกิ ษุ “พระพทุ ธเจา้ ตรสั อยา่ งนน้ี ะ่ ” จรงิ หรอื ไมจ่ รงิ
ถา้ หากนกั ปฏบิ ัติภาวนาคงจะรู้ ญาติธรรมคงจะรูด้ ี

ในงานพธิ พี ระราชทานเพลิงพระครูภาวนาปญั ญาโสภณ (หลวงปู่คำ� ผิว สภุ โณ) ณ เมรชุ ่ัวคราว วัดปา่ ศรีวไิ ล

55

งานพระราชทานเพลิงศพหลวงป่เู ปลย่ี น ปญั ญาปทโี ป

ตอนที่ ๑

ญาตธิ รรมทพ่ี ากนั เดนิ อยกู่ ไ็ มเ่ ปน็ ไรนะ่ ใหเ้ ดนิ ไปเลยไมไ่ ดห้ า้ มนะ่ แลว้ ญาตธิ รรมทนี่ งั่ อยู่
กใ็ หน้ งั่ ฟงั แตอ่ ยา่ นงั่ เปน็ ตอไมน้ ะใหเ้ ขา้ ใจ ทเ่ี ดนิ กเ็ ดนิ เถอะไมไ่ ดห้ า้ ม หรอื จะยนื กไ็ ด้ นอนกย็ งั
ไม่ห้ามอีกนะ

ทำ� ไมทั้งเดิน ทงั้ ยนื ท้ังนัง่ ท้ังนอน ถา้ ตง้ั ใจฟงั แลว้ มสี ติสมั ปชัญญะ ฟงั จริงแล้วจะอยู่
ในอิริยาบถไหนกฟ็ งั ได้ท้ังนน้ั เปน็ บญุ ทั้งนนั้ ไม่ผดิ หรอกใน ๔ อริ ิยาบถ อรยิ สาวกผปู้ ฏิบตั ิ
จะยนื จะเดนิ จะนงั่ จะนอน สามารถทำ� อาสวะสนิ้ ได้ นนั้ กเ็ หมอื นกนั ญาตธิ รรมทเ่ี ปน็ พอ่ พระแมพ่ ระ
ตามสบายใจนะ จะยืนฟัง จะเดนิ จะนงั่ หรือวา่ จะนอนฟงั ก็ได้ไมไ่ ด้ห้าม

ธรรมนน้ั มนั เปน็ ของเกดิ ขนึ้ กบั ตวั เอง ขอถามหนอ่ ย เรามาในชอ่ื วดั วดั อะไร นก้ี ล็ มื ชอื่ วดั ไป
อโหสใิ หเ้ ดก็ ชน้ั ป.๔ ดว้ ยนะ แลว้ กพ็ ากนั เขา้ วดั ปา่ อรญั ญวเิ วก พอญาตธิ รรมเขา้ มา มาในงาน
หลวงปเู่ ปลย่ี น พระไมต่ ายหรอก พระมแี ตม่ รณภาพ ไมม่ ตี าย จรงิ หรอื ไมจ่ รงิ กไ็ มร่ นู้ ะ่ เมอ่ื เรา
เขา้ มาวดั น้ี ขอโทษนะ่ ญาตธิ รรมและพอ่ พระแมพ่ ระ เมอ่ื เขา้ มาวดั แลว้ น่ี วดั น้ี วดั ปา่ อรญั ญวเิ วก
เขา้ มาแลว้ รจู้ กั เขา้ วดั ในไหม ถา้ ไมร่ จู้ กั เขา้ วดั ในแลว้ เราจะเอาอะไรมาปฏบิ ตั ิ ญาตธิ รรมทเ่ี ปน็
พอ่ พระแมพ่ ระ ทเ่ี ปน็ นกั ปฏบิ ตั วิ า่ เปน็ “พทุ ธมามกะ” จรงิ เหรอ มาแลว้ กม็ าอะไร ออ๋ มาขอศลี
จากพระเดชพระคณุ ท่าน ทา่ นกต็ ง้ั นะโม ๓ จบ แลว้ กม็ ากลา่ ว พุทธัง ธมั มัง สังฆัง แลว้ ก็
มากลา่ วศลี วนั นม้ี ญี าตโิ ยมสงสยั ศลี ขอ้ ท่ี ๒ ในศลี ๕ เมอื่ เราเขา้ มาวดั วดั นอกนะ่ เนย้ี อยา่ ลมื
เข้าวดั ในสิ ถ้าเราไมเ่ ข้าวดั ในแล้ว เราจะรูพ้ ทุ ธงั ธมั มงั สังฆงั อยู่ทไี่ หน แลว้ เราจะปฏบิ ตั ิกัน
ถกู เหรอ ถ้าเราเข้าวดั ป่าอรญั ญวเิ วกกม็ พี ระต้ังมากมายเหน็ ไหน แล้ววดั ในละ่ มีพระไหม

วัดใน คืออะไร คือ กายวัด เปน็ วัดทีค่ วรปฏิบัตคิ วรศึกษา เข้าท่นี ี้ (ทา่ นชท้ี ห่ี นา้ อก
หมายถึงศึกษาข้างในตัวตนสกนธ์กายของตนเอง) สมกับว่าเป็นนักแสวงบุญ สมกับว่าเป็น
นักปฏิบัติ แล้วญาติธรรมล่ะท่ฟี งั น่ะ พอจะเขา้ ใจไหมที่พูดนี่ ไม่ใชเ่ ข้ามาแต่วัดนอก มาแล้วก็
มาพดู มาคยุ กนั จะเอาอะไรมาปฏบิ ตั ิ มานมี้ าปลงไมใ่ ชเ่ หรอ เพอื่ ปลงสงั ขาร เราปลงจรงิ ไหม
ถามตัวเองไม่ต้องไปถามคนอ่ืนหรอก อยู่ด้วยกันไม่มีใครรู้จักใจใครหรอกนี่ เรารู้ใจเราเอง
จะเปน็ บาปหรือบญุ เรารตู้ ัวเราอยู่แลว้ ทุกคน ไมต่ ้องไปมองคนอ่นื มองตวั เองสิ

หลวงปสู่ วาท ปญั ญาธโร วดั โป่งจันทร์ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี (ศิษยใ์ นองค์หลวงปูแ่ หวน สจุ ณิ โณ)

56

งานพระราชทานเพลิงศพหลวงปเู่ ปลยี่ น ปัญญาปทีโป

ตอนท่ี ๒

เม่ือเราเข้ามาในวัดนอกนี่ วัดป่าอรัญญวิเวกเห็นพระเจ้าพระสงฆ์ไหม ค�ำว่า “สงฆ์”
กแ็ ปลวา่ พวก ๔ พระตงั้ แต่ ๔ รปู ขน้ึ จงึ จะเรยี กเปน็ พระสงฆ์ แลว้ พวกเราเขา้ มากแ็ สวงหาสรณะ
ไมใ่ ช่เหรอ

“สรณะ” พทุ ธัง สรณัง คจั ฉามิ ธมั มัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คจั ฉามิ

พระพทุ ธอยทู่ ไี่ หนเหน็ หรอื ยงั เหน็ แลว้ องคเ์ หลอื งๆ หวั แหลมๆ ใช่ เหน็ หรอื ยงั พระธรรม
เหน็ แลว้ คำ� สอนของพระไตรปฎิ ก ใช่ ไมผ่ ดิ เหน็ หรอื ยงั พระสงฆ์ เหน็ แลว้ คะ่ หวั โลน้ ๆ หม่ ผา้ เหลอื ง
นง่ั เยอะแยะเลย กินข้าวตอนเช้า เอ่อ ถกู อีก ไมม่ ีใครคัดคา้ นหรอกถ้าตอบแบบนน้ี ะ อันน้ี
มนั สงฆส์ มมตุ ภิ ายนอก เคยเขา้ วดั ในหรอื ยงั ไปดพู ระไตรสรณคมนอ์ นั เปน็ ทพ่ี ง่ึ สิ ไปดขู องจรงิ สิ

ถา้ เราเหน็ ของจรงิ เราถงึ จะปฏบิ ตั ถิ กู ชำ� ระได้ เขา้ พระไตรสรณคมนไ์ ด้ พระสงฆอ์ ยทู่ ไี่ หน
ถา้ อยากจะเห็นนะ ในโลกอันนี้พระพทุ ธเจ้าตรสั วา่ “เอถ ปสสฺ ถิมํ โลก”ํ สูทง้ั หลายจงมาดู
โลกอนั น้ี โลกน้คี ือตัวตนสกนธ์กายเรา พระพทุ ธเจา้ ตรสั เอาไวน้ ่ะ โลกคนอ่นื กเ็ ป็นของคนอนื่
แลว้ เราเขา้ ไปดพู ระสงฆข์ า้ งในสิ เขา้ ทไี่ หน “อสั สาสะ ปสั สาสะ” เขา้ ตรงนี้ รจู มกู นท่ี เี่ ขา้ นเี้ ปน็
ทางเขา้ ภาวนา

เข้าวัดในสิถึงจะเป็นของจริง ถึงจะเห็นธรรมเห็นสงฆ์น่ะ เม่ือเราเข้าไปแล้วจะไปเห็น
เห็นอะไร เหน็ พระสงฆ์ พระสงฆอ์ ย่ไู หน ๔ รูปน่ะ พระสงฆก์ ็คอื มหาภูต ในตัวตนสกนธ์กาย
เราลว้ นแต่เปน็ กองสมมุตริ ูไ้ หม ในโลกภายนอก โลกคอื แผน่ ดนิ โลกคือหมู่สตั ว์ กล็ ว้ นแต่เปน็
กองสมมุตทิ ัง้ น้ัน

พระหลายๆ รปู น้ีรวมกันเขา้ กก็ องสมมตุ หิ มู่สงฆ์ มชี อ่ื ตา่ งๆ กันมา คนละตระกลู มาอยู่
รวมกนั ดขู องจรงิ สิ เขา้ ไปดใู หม้ นั เหน็ เมอ่ื เราเขา้ ไปแลว้ จะเหน็ มหาภตู มหาภตู คอื อะไร กค็ อื
ธาตทุ ง้ั ๔ ดนิ นำ้� ไฟ ลม แลว้ มหาภตู ๔ เปน็ พระไดย้ งั ไง กล็ ว้ นเปน็ กองสมมตุ ทิ ง้ั นนั้ เรยี กชอ่ื
ไมใ่ หส้ ับสนกัน เมื่อเราเข้ามาในกายวดั น้ี ใครเปน็ คนสร้างวัด กายวัด วัดในน้ใี ครเปน็ คนทำ�
ใครเปน็ คนสรา้ ง พระอรหนั ต์ ๒ องคไ์ มใ่ ชเ่ หรอ พระบดิ าพระมารดาเปน็ ผสู้ รา้ งวดั ขนึ้ ขา ๒ แขน ๒

57

ศรี ษะ ๑ ของญาตธิ รรมของพอ่ พระแมพ่ ระนแี้ หละนี่ ดสู จิ รงิ หรอื ไมจ่ รงิ ในมหาภตู ๔ ธาตดุ นิ
เป็นของพ่อนะ ธาตุน�้ำเป็นของแมน่ ่ะ
ธาตใุ ดมีลักษณะแขง็ แกรง่ ธาตุน้นั เรียกว่าธาตุดนิ ผม ขน เล็บ ฟัน หนงั เนือ้ เอน็
กระดกู เยอื่ ในกระดกู มา้ ม หวั ใจ ตบั พงั ผดื ไต ปอด ไสใ้ หญ่ ไสน้ อ้ ย อาหารใหม่ อาหารเกา่
เปน็ ของพ่อนะ สว่ นธาตนุ ้�ำล่ะเป็นของแม่นะ นำ้� ดี เสลด น�้ำเหลือง เลอื ด เหง่ือ มันข้น นำ�้ ตา
มนั เหลว น�ำ้ ลาย น้�ำมกู ไขขอ้ มตู ร ธาตุทงั้ สองประชมุ กนั ธาตไุ ฟและธาตุลมจึงไดม้ าอาศยั
ทำ� ไมหลวงตาถงึ บอกแตเ่ รอ่ื งธาตุ ทำ� ไมถงึ ไมบ่ อกเรอื่ งพระสงฆ์ ฉนั อยากจะดพู ระสงฆค์ ะ่
ทำ� ไมมาพดู เรอื่ งธาตอุ ยู่ เพราะการประชมุ ธาตเุ ปน็ เหตุ ถา้ ไมม่ เี หตจุ ะเอาผลมาจากไหน ทกุ อยา่ ง
มผี ลทง้ั นนั้ มเี หตถุ งึ มผี ลเปน็ ปจั จยั เมอื่ ธาตนุ ำ้� และธาตดุ นิ ไฟและลมจงึ มาอาศยั จงึ ไดเ้ กดิ เปน็ พระ
จึงกลายเปน็ องคส์ งฆ์
ทำ� ไมดนิ เปน็ พระไดย้ งั ไง “พระมหาปฐพ”ี เขาแปลวา่ อะไร พอ่ พระแมพ่ ระแปลใหฟ้ งั หนอ่ ย
เดก็ ชน้ั ป.๔ เรยี นแคช่ นั้ ป.๔ “พระมหาปฐพ”ี เขาแปลวา่ อะไร แลว้ “พระมหานท”ี เขาแปลวา่
อะไร ถามตวั เองนะ่ “พระเพลงิ ” ละ่ “พระพาย” ละ่ กเ็ พราะมหาภตู ทง้ั ๔ มาประชมุ กนั แลว้ นะ่
คอื องคพ์ ระ จงึ เปน็ สมมตุ ติ ง้ั ขนึ้ ทำ� ไมจงึ ตง้ั ขนึ้ ถา้ ไมต่ ง้ั ขน้ึ จะกลา่ วนะโมยงั ไง นะโม เปน็ ตวั ตงั้
เปน็ เหตุ นะ เปน็ ธาตุน�้ำ โม เปน็ ธาตดุ นิ เข้าใจไหม
เมอ่ื ธาตตุ งั้ ขน้ึ แลว้ เปน็ พระทงั้ ๔ รปู ประชมุ กนั พอ่ และแมเ่ ปน็ คนประชมุ ยงั ใหอ้ ยใู่ นครรภ์
ของแม่อีก ๑๐ เดือน ประชุมน�้ำและประชุมไฟและประชุมดิน ไฟและลมนะมาอาศัยเฉยๆ
คนเรานะทข่ี าดลมนะตาย แต่มหาภูตทง้ั สองน่ียงั อยู่นะ
ไม่เช่ือถามหลวงปู่เปล่ียนเลย นะและโมตัง้ ข้นึ พอ่ และแม่เป็นคนตง้ั สรา้ งวดั คือกายวัด
ขึ้นมา เพราะธาตุทั้ง ๔ ประชมุ กัน พระทัง้ ๔ ประชมุ กัน จงึ เป็นวดั กายวัดข้นึ ขา/แขน ๔
ศรี ษะ ๔ เตม็ ไปดว้ ยกองสมมตุ ิ เป็นมหาภูตมหาธาตุที่ย่งิ ใหญ่ เป็นรูป ส่วนตวั จิตวญิ ญาณ
คือตัวพทุ ธะ ใจของเราเอง

หลวงปสู่ วาท ปญั ญาธโร วัดโปง่ จนั ทร์ อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี (ศษิ ยใ์ นองค์หลวงปูแ่ หวน สุจิณโณ)

58

ในงานพระงานพระราชทานเพลิงศพหลวงป่เู ปลีย่ น ปัญญาปทีโป

ตอนท่ี ๓

สงฆ์ก็คือมหาภูต ๔ เปน็ สงฆ์นะ เปน็ สรณะ เมือ่ มหาภตู ประชุมกันจงึ เป็น “กอ้ นธาตุ
กอ้ นธรรม” เปน็ “กองอายตนะ” เปน็ กองสมมตุ นิ ะ เขาเรยี กวา่ กองธรรม ลองกลบั ดสู ิ กลบั นะ
และมะดสู ิ จากนะโมมนั กเ็ ปน็ มะโน กค็ อื ใจ ใจเราถอื สรณะ จรงิ ไหม คดิ ดดู ๆี นะ มาถอื พระคณุ
ของพอ่ ของแม่ มาถอื พระไตรสรณคมน์ ๒ มาถอื กอ้ นธาตกุ อ้ นธรรมนี่ มาถอื เอาตงั้ แตเ่ มอ่ื ไหร่
มาถอื เอาตง้ั แต่โน้น ท้องแมโ่ นน้

แลว้ กพ็ วกปราชญแ์ ละบณั ฑติ พากนั แปล นะโม แปลไดเ้ พราะพรง้ิ มาก ยอดยอมรบั นะโม :
อนั วา่ ความนอบนอ้ ม ภะคะวะโต : ตอ่ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตสั สะ : พระองคน์ นั้ อะระหะโต :
เปน็ พระอรหนั ต์ ผมู้ อี าสวะสนิ้ สมั พทุ ธสั สะ : ตรสั รเู้ องโดยชอบ ทเ่ี ขาแปลนะโมกนั ในหนงั สอื นะ่
แต่ถ้าแปลในทางปฏบิ ัตลิ ่ะ เขา้ ส่พู ระไตรสรณคมนจ์ ริงๆ ละ่ ไมไ่ ด้พูดสรณะภายนอกนะ

พูดถึงเรื่องสรณะภายใน เพราะองค์สรณะภายในมีอยู่ในตัวของเรา เรียกว่า เม่ือมัน
เป็นวดั ขนึ้ มาแลว้ นี่ มนั ถึงมีมโน แปลวา่ ใจ ใจมนั มาถือปฏิสนธิเอาอย่ใู นท้องแม่โน้น จริงไหม
เมอ่ื ธาตทุ งั้ ๒ ประชมุ กนั แลว้ นะ่ จติ วญิ ญาณของเรามาถอื เอาตงั้ แตใ่ นทอ้ งแมโ่ นน้ พอ่ แมท่ กุ ข์
ทรมานไหม เดก็ ทกุ วนั นมี้ นั เคารพพอ่ แมไ่ หม เหน็ ขา่ วออกกม็ แี ตฆ่ า่ กนั ฆา่ พอ่ ฆา่ แม่ ดา่ พอ่ ดา่ แม่
จรงิ หรอื ไมจ่ รงิ ตง้ั แตอ่ ยใู่ นทอ้ ง พอ่ และแมก่ เ็ ลยี้ งดอู ปุ ถมั ภม์ า รกั ขนาดไหน ลอดกน้ แมม่ าแลว้ ก็
ยังเลี้ยงดอู ุม้ ชอู กี พ่อแม่มบี ุญคณุ เหลือทจ่ี ะประมาณ เคยนึกถึงพระคณุ ของท่านไหม เคยนึก
หรือเปล่า พ่อแมใ่ ห้สมบัตอิ ันล้นคา่ สมบัตอิ ันลน้ โลก ก็คอื ตวั ตนสกนธก์ าย เรยี กว่ากายวดั
เพราะวดั อนั นี้เปน็ วดั ทศี่ กึ ษา

ใครเป็นผ้ศู กึ ษา ตัวพุทธะคอื ใจ เป็นผู้มาศึกษา ใจมันตัวไมต่ ายน่ะ แตธ่ าตมุ ันแตกสลาย
ได้น่ะ แลว้ มาถือเอาก้อนธรรมอนั น้ี องค์สมเด็จสมั มาสัมพุทธเจา้ มาพจิ ารณาก้อนธรรมอันนี้
อันเป็นสรณะ สงฆ์เป็นสรณะ ถ้าหากว่าจะแปลล่ะ พระคุณของแม่เราของพ่อเราเป็นยังไง
นำ้� เปน็ ของแมน่ ะ่ ธาตนุ ำ�้ นะ่ ดนิ เปน็ ของพอ่ นะ่ นำ้� และดนิ มนั ตง้ั ขน้ึ มาแลว้ นะโมมนั ตงั้ ขนึ้ ตง้ั ธาตุ
ประชุมธาตุ ประชมุ วดั สรา้ งวดั พอ่ และแม่เป็นผูส้ ร้าง ถา้ เราจะแปลนะโมละ่ นะโม : อันว่า
นำ�้ และดนิ ตสั สะ : ของบดิ ามารดานนั้ ภะวะโต : บดิ ามารดาเปน็ ผจู้ ำ� แนกธาตนุ ำ้� และธาตดุ นิ

59

อะระโต : จ�ำแนกใหแ้ ล้วจนเสรจ็ สมั มา : ต้ังอยใู่ นครรภม์ ารดาทา่ น ๑๐ เดอื นแล้วโดยชอบ
สัมพทุ โธ : จึงไดเ้ กดิ ขึ้นมา
เคยนึกถึงพระคุณท่านไหม มายึดถือเอาธาตุเอาขันธ์ของพ่อของแม่ พระคุณของพ่อ
ของแม่ แล้วยังมาเนรคณุ เห็นแลว้ กเ็ ศรา้ ใจ ฟงั แลว้ ก็นา่ เศร้าใจ ร่างกายหรือว่าวดั อนั น้ีน่ะ
เราอยากจะไดอ้ ะไรเราทำ� เอาสิ เพราะตวั ตนสกนธก์ ายเปน็ ธรรม อยากจะไดแ้ กว้ แหวนเงนิ ทอง
กท็ ำ� เอาสิ เพราะกายคอื แกว้ สารพดั นกึ สรณะทพ่ี ง่ึ (ทา่ นชที้ ต่ี วั เอง หมายถงึ ตวั เราเองเปน็ ทพ่ี ง่ึ )
เมอื่ มนั เปน็ กอ้ นธาตกุ อ้ นธรรมขน้ึ มาแลว้ นี่ เรากลบั นะกบั มะ เรากร็ วู้ า่ เปน็ ใจแลว้ คอื ตวั
พทุ ธะ จึงเปน็ พุทธัง ธมั มัง สังฆงั อยูท่ ต่ี ัวเรานี่ ไปหาสรณะที่ไหน ไปหาพระสงฆ์ที่ไหน
ไปหาพระธรรมท่ีไหน ธัมมะ สงั ฆะ เป็นรูป ตวั จติ วญิ ญาณตัวรู้ตวั พทุ ธะนน้ั ล่ะเขา ตัวพทุ ธะ
เปน็ สรณะ
ถ้าเราไม่ดใู นทีต่ ัวเรา เราจะรู้เหรอวา่ พทุ ธัง ธมั มงั สังฆงั วา่ เป็นที่พงึ่ เป็นสรณะของ
ตวั เราเองนะ่ เราอยากไดอ้ ะไร พระพทุ ธเจา้ จงึ มาพจิ ารณาในธาตใุ นขนั ธน์ เี้ องกอ่ นตรสั รเู้ หน็ ไหม
เคยอา่ นใชไ่ หมพทุ ธประวตั ิ กม็ าดอู นั นไ้ี มใ่ ชเ่ หรอเปน็ ธรรม เปน็ ธรรมไดย้ งั ไง เปน็ สรณะไดย้ งั ไง
จะเหน็ วา่ เปน็ สรณะไดย้ งั ไง ขาของเราทำ� หนา้ ทใี่ นการเดนิ ใชไ่ หม จรงิ หรอื เปลา่ เราเอาขาเรา
เดนิ ใชไ่ หม ขาเราทำ� หนา้ ทเ่ี ดนิ จรงิ ไหม จะไปถงึ ไหนกข็ านเ้ี ปน็ สรณะสำ� หรบั เดนิ หรอื เอามอื เดนิ
ขากเ็ ป็นสรณะ และก็เปน็ ก้อนธรรมไมใ่ ช่เหรอ
รู้ ทำ� ไมถงึ ไมร่ ู้ เหน็ ทำ� ไมถงึ ไมเ่ หน็ นเี้ หรอมนษุ ยส์ ตั วใ์ จสงู สรณะไมไ่ ดอ้ ยบู่ นทอ้ งฟา้ นะ
องคส์ รณะทพ่ี งึ่ กค็ อื ตวั เรานแี้ หละเปน็ ทพี่ ง่ึ นะ แลว้ ไมใ่ ชแ่ ตข่ านะ่ ทเ่ี ปน็ ทพ่ี ง่ึ สรณะเปน็ ธรรมนะ่
ฝ่าเท้าก็เป็นธรรมแลว้ ท�ำเอาสิ จะเดินไปไหนละถงึ ท่ีได้ เหน็ ไหมละ่ ธรรม (ท�ำ) แล้วกต็ าก็
ทำ� หนา้ ทด่ี อู ีก ตาก็เปน็ สรณะอีก แลว้ จะไปหาธรรมทไ่ี หน สรณะท่ไี หน กอ้ นธรรมก็อยทู่ ่นี ี้

หลวงปสู่ วาท ปัญญาธโร วัดโป่งจนั ทร์ อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี (ศิษยใ์ นองค์หลวงปู่แหวน สจุ ณิ โณ)

60

งานพิธีพระราชทานเพลิงสรรี ะสังขารหลวงปู่เปลีย่ น ปญั ญาปทีโป

ตอนที่ ๔

เมอื่ เวลาภกิ ษหุ รอื ญาตธิ รรมจะบวช เปน็ ญาตเิ ปน็ โยมจะมาบวช กใ็ หเ้ ขา้ พระไตรสรณคมน์
เห็นไหม ตอ้ งมาเข้าพระไตรสรณคมน์ พุทธงั ธงั มงั สงั ฆัง มาเข้านาคอยู่ ก่อนๆ ถา้ ทอ่ งนาค
ไมไ่ ด้กไ็ ม่ใหบ้ วชหรอก แตท่ กุ วนั นี้ ” โอ้ย อยา่ ให้พูดเลยวะ่ วา่ บวชกนั บวชทดแทนคุณคนน้ัน
คนน้ี ลากกนั เข้าในโบสถ์น่ะ ไมไ่ ดเ้ ดินน่ะ มนั อะไรกนั ว่ะ นหี้ รือผู้เข้าพระไตรสรณคมนบ์ วช

ญาตธิ รรมคงจะเคยเห็นหรอื วา่ ไม่เคยเห็นกไ็ ม่รูน้ ะ่ ก็ให้ถามๆ ตัวเองหนอ่ ยนะ่ จรงิ หรอื
ไม่จริงกไ็ มร่ ้นู ะ่ โอโห้ มันขนาดลากหามปกี กันเข้าไปเลย คอตกเลย ไปบวช ไปเหน็ แหม่ โอ้ย
หมดอาลยั ตายอยากเลยวะ่ เณรนอ้ ยไปเหน็ เดก็ ชน้ั ป.๔ ไปเหน็ วะ่ ออกจากปา่ ไปเหน็ หรอกวะ่
(เด็กชน้ั ป.๔ ในทีน่ ี้ ทา่ นหมายถงึ ตวั ท่านเอง และเป็นค�ำพดู ทท่ี ่านมกั ใชก้ บั ตวั เองบอ่ ยๆ)

หยู ยย ไมส่ งสารพอ่ แมห่ รอื อยา่ งไร จะบวชทงั้ ที แตเ่ ขาไมผ่ ดิ นะ่ จะไปโทษวา่ เขากนิ เหลา้
เมานะ่ อย่าไปโทษ ศีลข้อท่ี ๕ เขาว่ายงั ไง สรุ าเมระยะมชั ชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ สรุ าเปน็ ของเมา กนิ แลว้ กต็ อ้ งเมา อนั นน้ั กอ่ นเขาจะบวชเขากนิ จนเมา
เขากไ็ ม่ผดิ น่ะเมานะ่ ถ้ากนิ ไม่เมาสิผิดนะ่ จรงิ หรอื ไม่จรงิ คิดเอาเองนะ่ ถา้ กนิ แลว้ เมาไมผ่ ิด
กนิ ใหห้ วั รานำ�้ เลยนน้ั ใหน้ อนกลางถนนเลยแบบไมไ่ ปไหนมาไหนเลยนนั้ ไมผ่ ดิ แสดงวา่ ทำ� ถกู ตอ้ ง
ตามศลี ข้อที่ ๕ ถ้ากนิ ๕ เมา ๑๐ น่ะขาดทนุ เลยว่ะ ผิดแน่ผดิ ศลี ไมถ่ กู

แลว้ พจิ ารณาดสู ิ สรณคมนก์ อ็ ยทู่ เ่ี รา แลว้ ทำ� ไมจงึ เอาตวั ตนของเรานี่ อนั เปน็ พระคณุ ของ
พอ่ แม่ เปน็ แกว้ สารพดั นกึ เปน็ ของงามทสี่ ดุ ดที สี่ ดุ ทำ� ไมจงึ เอารา่ งกาย เอาพระไตรสรณคมน์
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ไปท�ำให้เป็นมลทิน มันเป็นนรกหรือสวรรค์ สมกับเป็นมนุษย์ไหม
พระสัมมาสัมพุทธเจา้ พระอริยเจา้ อริยสาวก ก็มาปฏิบัตพิ ระไตรสรณคมน์

มาศกึ ษามาปฏิบตั ใิ น ศลี สมาธิ ปัญญา อย่ทู ี่น้ี ให้รู้ว่าในตวั ตนสกนธ์กายลว้ นแตเ่ ป็น
พระเขา้ ใจไหม โลกอนั น้ี กองสมมตุ ิมแี ตพ่ ระ มันไม่ใช่แต่พระสงฆ์ ๔ องค์ หรือธาตเุ ป็นพระ
เปน็ ธรรมซะเมอ่ื ไหร่ หรอื ใจเปน็ พระ ทจ่ี รงิ กายวดั วดั ภายนอกมแี ตพ่ ระมากเหน็ ไหมนี้ วดั ภายใน
กม็ พี ระมากเหมอื นกนั คว้ิ : พระขนง ตา : พระเนตร หู : พระกรรณ จมกู : พระนาสกิ รวมหมด
ท้ังตวั ตนเรยี กว่า พระวรกาย กายอนั เลศิ กายอันประเสริฐ คือ กายมนษุ ย์ ในตัวเรามีแต่พระ

61

เอาพระเราไปท�ำเป็นมลทินท�ำไม ญาติธรรมเอ่ย พ่อพระแม่พระเอ่ย รู้ไหมในตัวเรา
มแี ตพ่ ระ ไปทำ� ใหเ้ ปน็ มลทนิ ไปทำ� ใหด้ า่ งพรอ้ ยทำ� ไม องคส์ มเดจ็ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงมาเหน็
ของจรงิ เหลา่ นแ้ี หละ จงึ มาบญั ญตั ศิ ลี มาบอกใหว้ ริ ตั แิ กว้ สารพดั นกึ กค็ อื อนั นี้ พระคณุ ของพอ่
ของแมก่ ็อนั นี้ พอจะเข้าใจไหม จะไปหาท่ไี หนสรณคมน์ สรณะทพ่ี ึ่งนะ่

หลวงปูส่ วาท ปัญญาธโร วัดโป่งจันทร์ อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบุรี (ศษิ ย์ในองค์หลวงปูแ่ หวน สจุ ิณโณ)

62

งานพระราชทานเพลงิ ศพหลวงปูเ่ ปลี่ยน ปญั ญาปทีโป

ตอนที่ ๕

เปน็ มนษุ ย์ เปน็ ภพกลางๆ นะ่ โยมพอ่ โยมแม่ ถา้ เราทำ� ใหต้ กลงไปละ่ มไี หม หรอื ทำ� ใหส้ งู
ข้ึนไปล่ะ มีไหม มี ถ้าเราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วท�ำให้ตัวเองต่�ำลงไปล่ะ เขาเรียกว่าอะไร
“มนสุ สเปโต” เปน็ มนษุ ย์แท้ๆ แตจ่ ิตใจเป็นเปรต

ตำ�่ กวา่ นม้ี ไี หม มี “มนสุ สอบาย” สนิ้ สดุ แลว้ นรกมหาอเวจี กลบั ๆ เกดิ ๆ วนเวยี นอยู่ ในโลก
อนั มืดอบายภูมอิ ย่นู ัน้ จะอีกกภ่ี พกี่ชาติกกี่ ัปกกี่ ลั ปไ์ ม่ได้เกิดมาเปน็ มนุษยห์ รอก ยาก น่มี ันต�ำ่
ถงึ ขนาดนน้ั เพราะมนั ตำ�่ จากการเป็นมนุษย์ ขาดจากการเป็นมนุษยไ์ ปแล้ว

ถา้ สูงกว่ามนษุ ยม์ ไี หม มี “มนสุ สเทโว” ท้ังๆ ทีเ่ ปน็ มนุษย์ ๒ ขาโดเ่ ด่เดินอย่นู ี้ แต่จติ ใจ
เปน็ เทวดาแลว้ เหน็ ไหม สะอาดบรสิ ทุ ธ์ิ หมดจด รกั ษาศลี เหมอื นกบั พอ่ พระแมพ่ ระทม่ี ากนั นี้
เหน็ ไหม มาเอาบญุ นจี่ ติ ใจเปน็ เทวดาแลว้ สงู กวา่ นมี้ อี กี ไหม มี “มนสุ สพรหมา” ทง้ั ๆ ทเี่ ปน็ มนษุ ย์
ใจก็เป็นพรหมไปแล้ว โอบอ้อมอารีแผ่เมตตาไมตรีจิตต่อกันแล้วน่ี เป็นพรหมแล้วจิตใจ
แตอ่ ยู่ในคราบมนษุ ย์

สงู กวา่ นน้ั กวา่ นน้ั มไี หม มี “มนสุ สโลกตุ ระ” คอื นพิ พาน เปน็ ทสี่ ดุ ของโลกแลว้ ไมต่ อ้ งมา
เวยี นวา่ ยตายเกดิ อกี แลว้ นน้ั สงู ทสี่ ดุ แตถ่ า้ ยงั อยใู่ นพรหม ถงึ แมว้ า่ ฌานจะมอี ำ� นาจมาก สามารถ
ท�ำให้อายนุ ่ยี นื พอๆ กบั นิพพานของโลกตุ ระ แต่นพิ พานโลกตุ ระไม่เสือ่ มน่ะ แต่นิพพานของ
พรหมนเ่ี สื่อม ฌานนะ่ จะเสอื่ มลงมา เมอ่ื เส่ือมลงมาจนถงึ ทีส่ ดุ แล้ว เขายังปรารถนามาเกิด
เปน็ มนุษย์ พวกเทวดา สวรรค์เหลา่ นั้นน่ะ ถ้าเขาหมดบุญเขายังปรารถนามาเกดิ เปน็ มนุษย์
มนุษยเ์ ทา่ น้ันทจ่ี ะทำ� อะไรเอาได้ เพราะสรณะมนั อย่ทู ม่ี นษุ ย์ จะเอาอะไรละ่ ท�ำเอาสิ อยากได้
อะไรล่ะ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ มนั แยกกันไมอ่ อกหรอก

ก้อนธาตุก้อนธรรมมันอย่ทู ี่นหี้ มด ตวั ตนสกนธ์กาย คือ กองสมมุติ บาปกับบญุ กอ็ ยู่ทนี่ ี้
กศุ ลและอกศุ ลกอ็ ยทู่ นี่ ี้ นรกสวรรคก์ อ็ ยทู่ น่ี ้ี มนั แยกออกซะเมอื่ ไหร่ แลว้ จะชอบอะไรละ่ ทำ� เอาสิ
ไมม่ ใี ครหา้ มใครได้หรอก เวลาเจ็บปว่ ยไข้น่ะ มีใครห้ามได้ เวลาตายล่ะมใี ครห้ามได้ ของใคร
ของมนั ไมใ่ ชเ่ หรอ จรงิ หรอื ไมจ่ รงิ ทำ� ดกี เ็ ปน็ ของเราไมใ่ ชเ่ หรอ ทำ� ไมด่ กี เ็ ปน็ ของเราไมใ่ ชเ่ หรอ
ยมทตู ยมบาลเขาเขยี นบันทกึ ไว้บนแผน่ กระดาษ คอื แผ่นพสุธาน่ี

63

บาปกไ็ มม่ ใี ครแยง่ ของเราเอง หรอื มใี ครสงสยั สงสยั เรอื่ งอะไร บาปกข็ าเราทำ� ไมใ่ ชเ่ หรอ
บญุ กข็ าเราทำ� ไมใ่ ชเ่ หรอ ใครทำ� ใหเ้ รา เราทำ� เองน่ี จะบญุ หรอื จะเอาบาป จะเอามรรคผลนพิ พาน
กป็ ฏบิ ตั เิ อาสิ รวู้ า่ ตวั ตนสกนธก์ ายเปน็ ของสกปรกมาจากมหาภตู อนั เปน็ เหตุ ทำ� มหาภตู ใหม้ นั
สะอาดขึน้ มาสิ เป็นตัวเปน็ ตนข้ึนมาแล้ว

ไมใ่ ชว่ า่ ผหู้ ญงิ หรอื ผชู้ ายบวชตวั เองสิ เรากม็ อี าจารยส์ วดกนั ทกุ คนนี้ “อสั สาสะ ปสั สาสะ”
น่ะคอื อาจารย์สวด สวดพุทสวดโธเขา้ ไปดูสิ ให้เปน็ หนึ่งเดยี วดูสิ ไม่ใช่ว่าไปน้อยใจวา่ ฉันเป็น
ผหู้ ญงิ ถา้ ฉนั เปน็ ผชู้ ายฉนั จะบวชไมส่ กึ ไมต่ อ้ งมาพดู หรอก เปน็ ผหู้ ญงิ กบ็ รรลธุ รรมได้ ไปนอ้ ยใจ
ทำ� ไม ท�ำจรงิ ไหม

ถ้าทำ� จรงิ ปฏบิ ตั ิจริงยอ่ มได้จริง เส้อื ผ้ามันสกปรกก็จริง ถา้ เราเอามาซักละ่ ขยๆ้ี ไป
มันก็สะอาดนะ่ ตวั ตนสกนธ์กายของเรานี่ มันเป็นของสกปรก แตถ่ า้ มศี ลี สมาธิ และปัญญา
เขา้ มาชำ� ระมนั ละ่ ขาวสะอาด รตู้ ามความเปน็ จรงิ ดว้ ยปญั ญา เพราะเรามสี ตแิ ละสมั ปชญั ญะอยู่
เป็นเครอื่ งก้ันเป็นเครอ่ื งหา้ มอยู่แล้ว จะได้รู้วา่ ศลี ธรรมเป็นยังไง

นน่ั ละ่ คอื หนทางปฏบิ ตั ิ อสั สาสะ ปสั สาสะ เขา้ ไปดสู ิ จะเหน็ ของจรงิ ขา้ งในนหี่ มด ไมต่ อ้ ง
ไปถามใคร รเู้ ฉพาะตน ได้เฉพาะตน เห็นเฉพาะตน ญาตธิ รรมฟังแล้วเขา้ ใจไหม

หลวงปสู่ วาท ปญั ญาธโร วัดโปง่ จนั ทร์ อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี (ศษิ ยใ์ นองค์หลวงป่แู หวน สจุ ณิ โณ)

64

งานพระราชทานเพลงิ ศพหลวงป่เู ปลยี่ น ปญั ญาปทโี ป

ตอนที่ ๖

อทินนา ข้อท่ี ๒ มญี าติธรรมถามมา
โยม : หลวงปูๆ่ อทนิ นา ฯลฯ อธิบายให้ฟงั หน่อย มนั เปน็ ยงั ไง
หลวงปู่ : เอา้ เขาแปลวา่ ยงั ไงโยม ไมเ่ อาสงิ่ ของทเ่ี ขาไมไ่ ดใ้ หด้ ว้ ยอาการแหง่ ขโมยใชไ่ หม
ถ้าจะแปลแยกศพั ท์ล่ะ มมี หาเปรียญทแี่ ปลไดฉ้ ะฉานน่ะ ขอ้ ท่ี ๒ อทินนาทานา ใช่หรอื เปล่า
“อทนิ นา” เขาแปลวา่ อะไร ของไมใ่ หถ้ อื เอา “ทานา” เขาแปลวา่ อะไร ของทค่ี วรใหม้ นั มอี ยู่ ๒ ศพั ท์
ของท่ไี มค่ วรถอื เอา ของทไ่ี ม่ควรถอื เอาก็คอื มหาภตู ๔ ดิน น�้ำ ไฟ ลม ที่พ่อแม่ประชุมให้
เปน็ แตเ่ พยี ง “อญั ญะ มัญญัง” ใหเ้ รามาอาศยั มาศกึ ษา มาปฏิบัติเอาเท่านนั้ เป็นกอ้ นธรรม
เป็นสรณะ จะถอื เอาว่าอนั น้ี ตัวกู ขากู แขนกูได้ซะเมอ่ื ไหร่ เพราะธรรมอนั นี้ “อนิจจังธรรม”
อนจิ จงั มนั ไมเ่ ทยี่ งใชไ่ หม “ทกุ ขธรรม” ธรรมมนั เปน็ ทกุ ขน์ ะ่ มนั เปลยี่ นแปลงอยู่ “อนตั ตธรรม”
ไม่มตี ัวไมม่ ีตนนะ่ มนั เปน็ แตเ่ พยี งธาตมุ าประชุมกนั “อทนิ นา” อย่าไปถอื เอา ใหร้ ู้ตามความ
เป็นจรงิ น่นั คือ “ทานา” ทา่ นใหร้ ตู้ ามความเป็นจริง ใน “อนตั ตลกั ขณสตู ร” กพ็ ากนั สวดอยู่
ไมใ่ ช่เหรอ น่ันล่ะศีลข้อท่ี ๒ นะ่ ไมค่ วรถอื เอา แตใ่ ห้รู้จักควรละ ควรวาง ควรปลอ่ ยต่างหาก
ในขอ้ น้ี ถา้ ถอื เอาแล้ว มนั ทำ� ใหเ้ ป็น “ปลโิ พธ” (ความกังวล) นน่ั ละ่ ตัวสญั ญา คือกองสมทุ ัย
ตวั สมทุ ยั สมทุ ยั กอ็ าลยั รกั พระพทุ ธเจา้ จงึ หา้ ม อาลยั รกั กอ็ นั นกี้ ข็ องกู ของกู โอย้ ยอดไปหมดเลย
ทุกส่งิ ทุกอย่าง เลยลมื ตัวเองหลงตวั เองไปเลย
อยา่ ขาดทนุ น่ะ พ่อพระแมพ่ ระเอ่ย อย่าขาดทนุ น่ะ พดู เร่อื งของจรงิ ให้ฟังนะ่ เพราะว่า
การศกึ ษากน็ อ้ ย แคช่ น้ั ป.๔ อยแู่ ตใ่ นปา่ กวา่ จะคดิ เรอื่ งนะโมออก แตว่ า่ ไปเหน็ “มตุ โตทยั ” ตอนไป
จำ� พรรษา พ.ศ. ๒๕๑๑ อยกู่ บั ทา่ นอาจารยว์ ริ ยิ งั ค์ (หลวงปวู่ ริ ยิ งั ค์ สริ นิ ธโร) ซง่ึ หลวงปใู่ หญค่ อื หลวงปู่
มน่ั ภรู ทิ ตั โต เคยมาเทศนอ์ ยทู่ เี่ มอื งเหนอื เรานแี้ หละ เลยนำ� ไปพจิ ารณาเรอื่ งนะและโม ไปเหน็
มตุ โตทยั ทว่ี ดั ธรรมมงคล ซอยปณุ ณวถิ ี ๑๐๑ อาจารยว์ ริ ยิ งั คท์ า่ นเทศนเ์ มอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ หลวงปู่
เมตตาหลวงที่ท่านไปอยู่วัดอโศกการาม ท่านก็เลยมาชวนเราเข้ากลางดงพญาเย็นด้วยกัน
จงึ ไปอยดู่ ว้ ยกนั กบั ทา่ น ไปสรา้ งวดั อยทู่ นี่ น้ั วดั เทพพทิ กั ษป์ ณุ ณาราม มพี ระใหญห่ นา้ ตกั ๑๓ วา
๒ ศอกคบื อยบู่ นเขานะ่ เขาสเี สยี ดอา้ ไปอยู่ พ.ศ. ๒๕๑๒ ไปอยใู่ นปา่ ไรข่ า้ วโพด ยงั ไมม่ ที างหรอก
ปากชอ่ งนก้ี ส็ มชอ่ื จรงิ ๆ นะ่ พอถงึ บา่ ย ๕ โมงเยน็ มานี้ โอย้ ลมพดั นี่ กระแปง๋ ไมต่ อ้ งตงั้ เอาไวห้ รอก
ลมพดั มันปลวิ หนีหมดแถวนัน้ นะ่

หลวงปู่สวาท ปัญญาธโร วัดโป่งจนั ทร์ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบรุ ี (ศิษย์ในองคห์ ลวงปูแ่ หวน สจุ ิณโณ)

65

เณรนอ้ ยนะ่ เพราะการศกึ ษาก็นอ้ ย แคช่ ้นั ป.๔
อยแู่ ตใ่ นปา่ กว่าจะคิดเร่ือง “นะโม” ออก
แตว่ ่าไปเห็น “มุตโตทัย”

ตอนไปจำ� พรรษา พ.ศ. ๒๕๑๑ อยกู่ บั ทา่ นอาจารยว์ ริ ยิ งั ค์ (หลวงปวู่ ริ ยิ งั ค์ สริ นิ ธโร) ซงึ่ เปน็
ธรรมทีห่ ลวงปูใ่ หญ่คอื หลวงปูม่ ัน่ มาเทศนอ์ ย่ทู เ่ี มอื งเหนือเราน้ีแหละ เลยน�ำมาพจิ ารณาเรอ่ื ง
นะ และ โม ไปเหน็ มตุ โตทยั ทว่ี ดั ธรรมมงคล ซอยปณุ ณวถิ ี ๑๐๑ ฟงั ทา่ นอาจารยว์ ริ ยิ งั คท์ า่ นเทศน์
พ.ศ. ๒๕๑๒

พอไดต้ วั นน้ั แลว้ เลยนำ� มาพจิ ารณา นะ และ โม คอื นำ�้ และ ดนิ ทแ่ี ทต้ วั ของเราน้ี โอ้ มนั มา
จากพอ่ และแมต่ า่ งหาก พระพทุ ธเจา้ ยงั มาอาศยั พอ่ และแม่ ถา้ ไมม่ พี อ่ และแมใ่ หธ้ าตขุ นั ธม์ าแลว้
จะเอาอะไรมาพิจารณา

ใจมาพจิ ารณากายตา่ งหาก นามและรปู จงึ เกดิ ขนึ้ อายตนะธาตขุ นั ธจ์ งึ มขี นึ้ พระพทุ ธเจา้
จงึ มาเหน็ ของจรงิ แลว้ นี่ แมแ้ ตพ่ ระองคเ์ กดิ มาได้ ๗ วนั เทา่ นน้ั ผเู้ ปน็ มารดาตายแลว้ ไปอยบู่ น
สววรคช์ ้นั ดาวดงึ ส์โนน้ น่ะ พี่เลีย้ งนางนมกพ็ ยายามประคับประคองเล้ียงดู จนกระทงั่ ใหญโ่ ต
ขน้ึ มาจนมีครอบครัว ออกบวชจึงมาเหน็ ของจริงเห็นไหม ยังนกึ ถึงพระคณุ ของพอ่ ของแมเ่ ลย

พอพระพทุ ธเจา้ ตรสั ร้แู ล้ว ยังขึ้นไปโปรดมารดาบนสวรรค์ช้นั ดาวดึงสโ์ นน้ แลว้ พวกเรา
เปน็ ลกู ละ่ มพี อ่ แมล่ ะ่ เคยตอบแทนพระคณุ ของพอ่ ของแมห่ รอื ยงั เคยทำ� อะไรใหพ้ อ่ แมด่ ใี จภมู ใิ จ
หรอื ยงั เราเคยพดู อะไรใหพ้ อ่ แมเ่ จบ็ ใจไหม ถามตวั เอง เราเคยพดู อะไรทำ� ใหพ้ อ่ แมเ่ จบ็ ใจไหม
พ่อแม่สั่งอย่างหน่ึงไปท�ำอย่างหน่ึงมีไหม เอาพระคุณของท่านไปเนรคุณยังไม่พอ ยังเอา
แกว้ สารพดั นึกไปท�ำใหเ้ ปน็ มลทนิ ท�ำไม

เป็นมนุษย์ก็หวังอยู่แล้วไม่ใช่เหรอโน้นน่ะ “มรรคผลนิพพาน” เมื่อเป็นมนุษย์แล้ว
อยากไดบ้ ญุ กท็ ำ� เอาสิ ทำ� ใหเ้ ปน็ บญุ ในตอนทม่ี ชี วี ติ อยนู่ ี่ อยากเปน็ เทพเจา้ เหรอ กท็ ำ� ใหเ้ ปน็ ตวั เอง
เป็นเทพเจ้าในตอนที่มชี ีวติ อยสู่ ิ ท�ำใหม้ นั ได้ อยากจะเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ กท็ ำ� ใหต้ ัวเอง
เปน็ เทวดาขน้ึ มาสติ อนมชี วี ติ อยนู่ ้ี หรอื อยากจะทำ� ใหอ้ าสวะใหส้ นิ้ ปฏบิ ตั เิ ขา้ สมู่ รรคผลนพิ พาน
ก็ท�ำให้สำ� เรจ็ ตอนมีชีวติ อยู่

66

องคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ กย็ งั ทรงบอกวา่ ภกิ ขเว ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย เมอื่ พวกเธอ
อยากจะไดบ้ ญุ กท็ ำ� เอาสิ อยากไดส้ วรรคห์ รอื พรหม หรอื อยากจะเขา้ สมู่ รรคผลนพิ พาน พวกเธอ
กท็ ำ� เอาตอนมชี วี ติ อยู่ แมแ้ ตเ่ ราตถาคตมาตรสั รเู้ ปน็ พระสพั พญั ญสู มั มาสมั พทุ ธเจา้ กม็ าทำ� สำ� เรจ็
ตอนมีชวี ิตอยู่เหน็ ไหม มรรคผลนิพพาน สวรรค์ สมบตั ิทกุ สงิ่ อยา่ งในโลกมีพร้อมอยูแ่ ลว้ นะ่
ไมใ่ ชข่ องเราตถาคต ใครเดนิ ไดก้ เ็ ดนิ เอาสิ ใครปฏบิ ตั เิ อาไดก้ ป็ ฏบิ ตั เิ อาสิ ใครทำ� ถงึ กจ็ ะไดเ้ อง
รเู้ องรสชาติเป็นยงั ไง ต้องท�ำใหส้ �ำเร็จตอนมชี วี ิตอิ ยูน่ ี้น่ะ เปน็ ของเราทง้ั น้นั เราเปน็ ผทู้ �ำเอง
ดงั ได้แสดงธรรมมากส็ มควรแก่เวลา เอวงั ก็มีประการดว้ ยฉะน้ี

หลวงป่สู วาท ปัญญาธโร งานพระราชทานเพลิงศพหลวงปเู่ ปลี่ยน ปัญญาปทโี ป

67

มสี ตสิ มั ปชญั ญะรูต้ วั อย่หู รือเปล่า

ไม่ใช่ฟังเขา้ หูซ้ายออกหขู วา ฟงั หูขวาออกหซู ้าย หนหี มด

เคยแปล นะโม รอบทีส่ องให้ฟัง (นะโมมนั มอี ยู่ ๓ รอบ)
รอบที่ ๑ นะ หมายถึงพ่อแมเ่ รา รอบท่ี ๒ คอื โอวาทคำ� สอนของพระพุมธเจ้า รอบที่ ๓
นะ ของ ๕ เทพเจ้า รอบที่ ๒ นะ ถา้ จะแปลตรงๆ นะ “นะโม” คือ ห่วงอมตธรรม “ตสั สะ”
พระพทุ ธเจา้ นนั้ “ภะคะโต” ลว้ นแตเ่ ปน็ ธรรมอนั สนิ้ อาสวขยะ “สมั มา” มเี ทวดามารและพรหม
สมณพราหมณแ์ ละมนษุ ยเ์ ปน็ ผสู้ ดบั รบั ฟงั แลว้ โดยชอบ “สมั พทุ โธ” ผปู้ ฏบิ ตั เิ องยอ่ มรเู้ องเหน็ เอง
ของใครของมัน ค�ำสอนของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างน้ัน บรรลุแทนกันได้เหรอ
รแู้ ทนกนั กไ็ ดเ้ หรอ นเ้ี ปน็ นะโมรอบท่ี ๒ เกย่ี วกบั เรอ่ื งใจ เรอ่ื งตวั พทุ ธะ เอามาจากกอ้ นพระธรรม
กอ้ นแรกเอามาจากนะโมตัวแรกเลย

68

นะโมตัวท่ี ๑ หมายถึงพ่อและแม่เรา “นะ” ธาตุน�้ำคือแม่ “โม” ธาตุดินของพ่อ
ถ้าเราแปลละ แปล “นะโม” นะโม อนั วา่ น้ำ� และดิน “ตสั สะ” ของบิดามารดาน้ัน “ภะวะโต”
บดิ ามารดาเปน็ ผู้จ�ำแนกธาตุนำ้� และธาตดุ นิ “อะระหะโต” จำ� แนกให้แล้วจนเสร็จ “สัมมา”
ตง้ั อยใู่ นครรภม์ ารดาทา่ นแล้ว ๑๐ เดือนแลว้ โดยชอบ “สัมพุทโธ” จงึ ไดเ้ กดิ ขนึ้ มา
นะโมอันแรกจงึ ไดห้ มายถึงพ่อและแมเ่ ราตา่ งหาก รู้หรอื เปลา่ รู้พระคุณของพ่อของแม่
หรอื เปลา่ ตวั เรานแ่ี หละ ขา ๒ แขน ๒ ศรี ษะ ๑ นใ่ี นอาการ ๓๒ นี่ ลว้ นแตเ่ ปน็ พระคณุ ของพอ่
และแมเ่ ราทั้งนั้น
จติ เราของเราคอื ตวั พทุ โธนะ มาถอื เอาธาตขุ นั ธ์ มาถอื เอาสรณะตวั นน้ี ะ ตง้ั แตอ่ ยใู่ นทอ้ ง
โนน้ นะ จนเกิดมาลอดก้นแม่มาแลว้ พ่อแม่กย็ งั เลีย้ งดอู ุปการะอกี พ่อแมล่ �ำบากไหม
มสี ตสิ มั ปชญั ญะรตู้ วั อยหู่ รอื เปลา่ ไมใ่ ชฟ่ งั เขา้ หซู า้ ยออกหขู วา ฟงั หขู วาออกหซู า้ ย หนหี มด
โดยไมม่ สี ติสัมปชญั ญะในการฟงั
พ่อแม่อุ้มท้องมาเท่าไหรล่ะ ประคับประคองมาเท่าไหร่ พ่อแม่รักลูกต้ังแต่อยู่ในท้อง
โนน้ นะ ดแู ลมานนั่ นะ เราจะทดแทนอยา่ งไร จะทดแทนพระคณุ พอ่ แมอ่ ย่างไร
เรามาศึกษามาปฏิบัติธรรม พูดท�ำไม ถา้ ไม่รู้วา่ ธรรมเกิดขึน้ มายังไง ถ้าไมเ่ ห็นของจริง
จะปฏิบัตถิ ูกเหรอ จะชำ� ระได้อยา่ งไร มันกพ็ ากันประมาทอยอู่ ย่างน้ี หลงกันอยู่อยา่ งนี้

งานมทุ ิตาจิตหลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร วัดปา่ วเิ วกพัฒนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ในวันที่ ๔-๕ สงิ หาคม ๒๕๖๑

69

กพ็ ากนั สวดอยู่ธัมมจักฯ

“ทกุ ขัง อรยิ สจั ทกุ ขังสมทุ โย อริยสัจ ทกุ ขนโิ รโธ อริยสจั
ทกุ ขงั ปฏิปทา อรยิ สัจ”

พากนั สวดพากนั บน่ พากนั เสกสาธยายอยู่ เจรญิ ภาวนากนั อยอู่ ยา่ งนกี้ ย็ งั ไมเ่ ขา้ ใจ ทำ� ไม
ถงึ ดไู ม่เห็นของจริง แม้กระท่ังว่าทุกข์ ปราชญแ์ ละบณั ฑติ ก็วา่ “ก�ำหนดรู”้ กำ� หนดทไ่ี หน
สมาธิคอื ตง้ั ใจมัน่ ตั้งใจม่นั คือตงั้ ใจเจริญฌาน

ฌาน แปลวา่ การเพง่ การกำ� หนดรู้จึงเรียกว่าญาณ ญาณวสิ ุทธิ มันจะเกดิ ความรู้
ด้วยปัญญาของเราเองนัน่ ละ ทีเ่ รามองดูตรงนนั่ ที่ทางเข้า มันจะเกดิ ญาณขึ้นมา ญาณตัวนั้น
คอื ความร้เู ป็นญาณวสิ ทุ ธิ คอื จิตตวสิ ุทธิ ความหมดจดแหง่ จติ ทฏิ ฐิวสิ ุทธิ คอื ความหมดจด
ของทฐิ ิ กงั ขาวติ รณวสิ ทุ ธิ คอื ความหมดจดแหง่ ญาณ เปน็ เครอ่ื งขา้ มหลดุ พน้ แหง่ ความสงสยั
มคั คามคั คญาณทสั สนวสิ ทุ ธิ ความหมดจดแหง่ ญาณ เปน็ เครอื่ งรทู้ างหรอื มใิ ชท่ าง ปฏปิ ทา-
ญาณทสั สนวสิ ทุ ธิ ความหมดจดแหง่ ญาณ เปน็ เครอ่ื งรทู้ างแหง่ การปฏบิ ตั ิ ทางนแี้ นน่ อนเปน็
เครื่อง มัชฌิมาปฏปิ ทา ทางสายกลาง ในระหวา่ ง อสั สาสะ-ปสั สาสะ ทกี่ �ำหนดญาณวสิ ุทธิ
จึงเปน็ วิสุทธญิ าณทีส่ ะอาดและบรสิ ทุ ธิ์ เป็นทางเดนิ ท่จี ะเข้าสมู่ รรคเขา้ สู่พระนิพพาน

เมอ่ื จติ ของเรามนั ปฏบิ ตั เิ ขา้ ไปสรู่ ะหวา่ งมชั ฌมิ าปฏปิ ทานน้ั จติ มนั จะตดั ขาดจากอารมณ์
มันจะวางไปหมดเลย นัง่ เบาไปหมด น้นั เป็นญาณที่ ๔ เรยี กวา่ “ฐตี ิภตู งั ” เปน็ ทตี่ ้งั ของจิต
เป็นที่พักของจิต นี้เขาเรียกว่าการเข้า บางทีมันเข้าไปแบบไม่รู้ตัวเลยก็มี มันเงียบไปเฉยๆ
พอมนั เงยี บไปบางทมี นั นง่ั เปน็ ชวั่ โมงสองชว่ั โมง โนน้ นะ พอมนั รตู้ วั ขนึ้ มา โอย้ มนั เบาไปหมดเลย
ตวั น้ีน่นั มันจติ เขา้ ไปในสมาธิ เยน็ สงบ สบาย มันไม่ใช่น่ังฟุ้งนั่งปรงุ นัง่ แต่ง

เมอื่ เราทำ� ใหม้ นั สงบได้ แตม่ นั ยงั ไมม่ กี ำ� ลงั กำ� ลงั มนั นอ้ ย ศรทั ธายงั ไมม่ กี ำ� ลงั ความเพยี ร
ยังไมม่ ีก�ำลงั สตยิ งั ไมม่ กี �ำลงั สมาธิกย็ งั ไม่มกี �ำลัง ปญั ญาก็ยังไม่มกี ำ� ลงั เมอ่ื ยงั ไม่มกี ำ� ลงั
กย็ งั มดื มนอยู่ เรยี กวา่ “ภวงั ค”์ ภวงั คแ์ ปลวา่ มดื อยู่ ยงั เปน็ ภพอวชิ ชาอยู่ เพราะมนั ยงั ไมส่ วา่ ง
ยงั ไมม่ กี ำ� ลงั จะรเู้ หน็ ถา้ ศรทั ธามกี ำ� ลงั นอ้ ย ความเพยี รมกี ำ� ลงั นอ้ ย สตปิ ญั ญาสมาธมิ กี ำ� ลงั นอ้ ย
แสงก็น้อยร�่ำไรริบหรี่ แต่ถ้าศรัทธาความเช่ือมีก�ำลังมาก ความเพียรพยายามปฏิบัติมันมี
ก�ำลังมาก สติก็มีก�ำลังมากเป็นมหาสติ สมาธิก็เป็นมหาสมาธิ ปัญญาก็เป็นมหาปัญญา
แสงสวา่ งมนั จะหาขอบเขตประมาณไมไ่ ดเ้ ลย เมอ่ื มนั เขา้ ไปในสดุ ภายในแลว้ มนั จะมแี สงสวา่ ง

70

โลกท้ังโลกน้ีเตียนหมด โลกตัวตนสกนธ์กายน้ี มันจะเตียนหมด จะมีแต่แสงสว่างเท่านั้น
อยา่ ไปกลัวตายนะ ถา้ มนั เข้าไปแล้วมันเงยี บขนาดนัน้ นะ

มนั มีแสงสวา่ งขึน้ มาใหเ้ ห็น มนั เปน็ ข้ึนมาของมนั เอง อ�ำนาจทม่ี นั มีพลงั เหลา่ นั่นแหละ
อย่าคิดว่ามนั วา่ งจนไม่มอี ะไรนะ แตร่ ู้อยู่ มันว่างมันสวา่ งหมดนี่ เรารู้อยูน่ ่ี ตวั เราก็ไม่เห็น
แตว่ า่ ทงั้ ๆ ทต่ี วั รตู้ วั เองเหน็ แสงสวา่ งมนั มอี ยแู่ สงสวา่ งนะ มนั สวา่ งหมด มนั เตยี นหมด กำ� หนด
ขน้ึ มาอีกสิ สมมุติขน้ึ มาอีกสิ

เอ๋ กร็ ู้อยูก่ เ็ หน็ อยทู่ ำ� ไหมไม่มีตัวไม่มตี น กำ� หนดข้นึ มาสิให้เหน็ รปู ร่างขนึ้ มา ส่งิ ที่ไม่มี
ใหม้ ันมีข้นึ มาสิ เมือ่ กระท�ำใหม้ ันมีกำ� ลังข้นึ มาแลว้ มันก็เหมือนมคี น ๒ คนนะ

เอา้ มงึ อยตู่ รงนนั้ นะ กอู อกมาอยตู่ รงน้ี ดมู นั สทิ นี ี้ มนั กน็ งั่ ดกู นั นะ “จติ เต จติ ตานปุ สั สี
วหิ ะระต”ิ มจี ติ นอกและกม็ จี ติ ใน เหน็ ไหม มนั อยตู่ รงนเี้ อง เขา้ ไปตรงนเ้ี อง ถา้ เรารวู้ า่ ในธาตขุ นั ธ์
ของเรานี้เป็นยังไง รู้แจ้งหมดแล้วนี่ รู้ตัวเราให้มันแจ้งแสงสว่างให้มันรู้โลกอันเดียวให้มัน
สว่างแลว้ “สามแดนโลกธาตุเห็นหมด” ทำ� ให้มันถงึ สถิ ้าอยากจะเข้าใจนะ

มนั มจี รงิ นะ มันของใครของมัน ทำ� ไดก้ ันทุกคนนัน่ แหละถา้ ท�ำ ปฏบิ ัตไิ ดก้ ันทุกคนนะ
ถา้ ปฏิบตั จิ ริงนะ จะท�ำจริงไหมละ พอทำ� ไปถึงความวา่ งหนอ่ ยกก็ ลัวตายกัน

งานมทุ ติ าจติ หลวงปสู่ มภาร ปญั ญาวโร วัดป่าวิเวกพฒั นาราม อ.พรเจรญิ จ.บงึ กาฬ ในวนั ท่ี ๔-๕ สิงหาคม ๒๕๖๑

71

ธรรมะสะด้งุ กิเลส ๑

มนั เมาจริงไหม มนั ปว่ ยจรงิ ไหม
ขอถามตวั เองดสู ิ ลองๆ คดิ ดูสิ ลองคิดๆ ดนู ะ คิดเดย๋ี วนี้เลย เราเกดิ มากภ่ี พกี่ชาตแิ ล้ว
รไู้ หม มใี ครรู้ กอ่ นเราจะมาเกดิ ในทอ้ งแมน่ ่ี เรามาจากภพไหน รแู้ ลว้ ใชไ่ หม รแู้ ลว้ เหน็ ไหมวา่
ตายไปแลว้ จะไปไหน รไู้ หม มนั เมาจนไมส่ รา่ ง เวยี นอยใู่ นวฏั สงสารอนั นจ้ี นมดื มน รไู้ หมเมากลั ป์
เมาแก่ เมาเจบ็ เมาตายอยอู่ ยา่ งนี้ ปว่ ยอยา่ งนี้ อกี กภี่ พกชี่ าตกิ ก่ี ปั กก่ี ลั ป์ ถงึ จะมารกั ษาตวั เอง
ใหม้ นั หายความเมาสรา่ งซะ ถงึ จะไดเ้ หน็ พระสจั ธรรมกนั หรอื จะเมามดื มนปว่ ยอยอู่ ยา่ งนเ้ี หรอ
ตวั เองเมาหรอื เปลา่ ปว่ ยหรอื เปลา่ มใี ครตอบใหฟ้ งั บา้ ง หรอื มใี ครไมป่ ว่ ย ใครไมเ่ มามไี หม
เมากลบั มาเกดิ จนไมร่ เู้ รอ่ื งรรู้ าวในวฏั สงสารอนั น้ี กภี่ พกชี่ าตกิ กี่ ปั กกี่ ลั ปก์ นั แลว้ จะสรา้ งคณุ งาม
ความดีก็ไมก่ ล้าทำ� ถ้าเวลาพูดคยุ กันนะมันเก่ง

งานมทุ ติ าจติ หลวงปสู่ มภาร ปัญญาวโร วัดป่าวเิ วกพฒั นาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ในวนั ท่ี ๔-๕ สิงหาคม ๒๕๖๑

72

ธรรมะสะดุ้งกเิ ลส ๒

การฟงั นใ่ี หเ้ ขา้ ใจในการฟงั นะ “สสุ สสู งั ลภเต ปญั ญงั ” ถา้ เราฟงั ดว้ ยดมี นั กเ็ กดิ ปญั ญา
แก่เรา ถา้ เรามศี รทั ธาความเชื่อ ภาษาพระเรียกวา่ ความเลอ่ื มใส การฟงั เพื่อจะน�ำไปปฏบิ ัติ
สงิ่ นนั้ กเ็ ปน็ ประโยชนเ์ กดิ ผลแกเ่ ราแนน่ อน จะนง่ั ฟงั กไ็ ด้ จะเดนิ ฟงั กไ็ ดไ้ มเ่ ปน็ ไร แตอ่ ยา่ คยุ กนั นะ
ถ้าคุยกันน่ันไม่ใช่การฟัง ผู้ท่ีมีศรัทธาความเชื่อในการฟังเทศน์ฟังธรรมให้เกิดบุญเกิดกุศล
เขาเงียบเขาสงบ เขาอยู่ในความเยน็
พวกท่ีชอบพูดชอบคุย พวกนี้เขาเรียกว่าตั้งธรรมาสน์เพื่อจะแข่งกัน “นั่นไม่ใช่นักฟัง
แลว้ มนั จะเปน็ บญุ หรอื เปน็ บาป”
เอ้า ใหถ้ ามตวั เองเลย ไมใ่ ช่จะให้แต่นั่งฟังเทา่ น้นั นะถึงจะเกดิ บุญเกดิ กศุ ล เดนิ จงกรม
เลยไมเ่ ป็นไร อยู่ในวหิ ารนอี่ ยูใ่ นเจดียน์ ี่
“เดนิ จงกรมฟงั ได้ ไมผ่ ดิ ” การเดนิ กค็ อื การภาวนาเหมอื นกนั เราเดนิ ไปแตว่ า่ หเู รามนั ฟงั
จะฟงั อะไร ฟงั คำ� เตอื นหรอื ฟงั โอวาทคำ� สอนทจี่ ะหยบิ ยกขน้ึ มา อนั เปน็ โอวาทคำ� สอนขององค์
สมเดจ็ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทพี่ ระองคส์ ง่ั สอนเวไนยสตั ว์ วา่ เปน็ ธรรมอนั บรสิ ทุ ธ์ิ องคส์ มเดจ็ สมั มา-
สัมพทุ ธเจา้ กท็ รงตรัสกับภกิ ษทุ ้ังหลายว่า “เราตถาคตสงั่ สอนก็เพ่อื จะให้ผฟู้ งั ตรองตามเหน็
จรงิ ได้ เราตถาคตสงั่ สอนเมอ่ื ผฟู้ งั นำ� ไปปฏบิ ตั ิ จะเกดิ ผลเทา่ ทนี่ ำ� ไปปฏบิ ตั ไิ ด”้ พระพทุ ธเจา้
ตรัสไว้อยา่ งนน้ี ะ
แล้วเราล่ะผู้ท่ีเป็นพุทธบริษัท ๔ มาฟังเทศน์ฟังธรรมเพื่อจะปฏิบัติ จะเดินตามรอย
พระยคุ ลบาทขององค์สมเด็จสัมมาสมั พุทธเจา้
เราจะมคี วามเคารพในพระสจั ธรรมนนั้ ไหม มคี ารวะในธรรมโอวาทขององคส์ มเดจ็ สมั มา-
สัมพทุ ธเจา้ ไหม

งานมุทิตาจิตหลวงปู่สมภาร ปญั ญาวโร วดั ปา่ วเิ วกพฒั นาราม อ.พรเจริญ จ.บงึ กาฬ ในวนั ท่ี ๔-๕ สงิ หาคม ๒๕๖๑

73

ธรรมะสะดงุ้ กเิ ลส ๓

สมบตั ทิ เ่ี ฮาเฮด็ ไวใ้ นโลกมนษุ ยน์ เี้ ปน็ ของเฮาเบดิ่ กองไวค้ อยถา่ อยพู่ นุ่ ขนาดผวั กบั เมยี นี่
เมยี เปน็ คนทำ� อาหารไปเฮด็ สงั ฆทานเทา่ นน้ั ละ ผวั บไ่ ดไ้ ปนำ� สมบตั ทิ ง้ั หลายทเี่ ฮด็ นำ� กนั เบดิ่ มอ้ื
เบดิ่ คนื แตผ่ วั บไ่ ดไ้ ป ผวั มธี รุ ะไปทางอนื่ ผวั เลยบอกใหเ้ มยี “แมๆ่ แมเ่ อาไปทำ� บญุ ซะเดอ้ วา่ ซนั่
ข่อยมธี รุ ะเดอ้ ” “ขอ่ ยสิเฮ็ดให้ดอก” (เมยี ตอบ)

เวลาผัวตายไป ไปเห็นสมบตั ิที่เจ้าของเฮ็ดไว้กับเมียนะ ที่เป็นอาหารเปน็ สงั ฆทานนั่นนะ

ผ้ทู ่ีเขานำ� ไป (ยมทูตบอก) “นน้ั ละสมบตั ิที่เจ้าเฮด็ กับเมียเจ้ากลางคืนนน่ั นะ ตอนเช้านน้ั
เจา้ ไดท้ ำ� บญุ เจา้ ไดท้ ำ� ทาน ไดไ้ ปหรอื บไ่ ดไ้ ปทานกะบฮ่ นู้ ำ� เจา้ ไปเบงิ่ เอาโลด” เพน่ิ กะหวิ อยา่ งแฮง
น�ำ้ ลายไหลพุ่นแลว้ ละ ตายไปก่อนวา่ งั้น เมยี ยังบท่ ันไป ผัวไปจบั ช้อนตกั ขา้ วขึ้นมากลายเปน็
ไฟไหม้เลย จบั บไ่ ด้เลย เจ้าของเฮด็ แทๆ้ เมยี ผไู้ ปเฮด็ บญุ สงั ฆทาน ผวั บไ่ ดไ้ ป ผวั ตายไปก่อน
ไปเหน็ อาหารที่เจ้าของเคยเฮ็ดไว้ สิไปกินกะกินบ่ได้ กลายเป็นไฟ เป็นหยังถึงจบั บ่ได้ ของน่นั
บ่แม่นของเขาติ ของๆ เขานน่ั ละ เงินเขานนั่ ละหา

จนกระทัง่ เมียเพิ่นละตายไป เขากะเลยพาไปโนน้ “ดูสิ สามีของเธอนะ นั่งเฝา้ อาหารอยู่
กนิ ไมไ่ ด”้ (ผเู้ ปน็ เมยี ) “ทำ� ไมถงึ กนิ ไมไ่ ดค้ ะ” (ยมทตู ) “เพราะเธอยงั ไมอ่ นญุ าต เธอเปน็ ผถู้ วาย
ถวายเปน็ ของสงฆ์ นอกจากเธออนญุ าตแลว้ วา่ ของๆ เรานะพอ่ ทานได้ ฉนั เปน็ คนทำ� แทนพอ่ แลว้
สมบตั ินพี้ อ่ เป็นคนหามา ฉนั เปน็ คนรบั แล้วก็ทำ� สงั ฆทานรว่ มกนั แตพ่ ่อไม่ได้ แต่ฉนั ใหเ้ พราะ
ฉันเปน็ คนไปทำ� ฉนั กม็ าแลว้ พ่อทานได้เลย”

พอเมยี มาเทา่ นนั้ แหละ จบั ชอ้ นตกั ขา้ วและอะไรๆ มาปอ้ นผวั ไดส้ บายเลย ผวั กจ็ บั ไดห้ มดเลย
บญุ มนั ละเอียดจนปานนนั้ ละ อย่าคิดวา่ ง่ายๆ เดบ้ ญุ นะ

ขอ่ ยบไ่ ดย้ อ้ ง (ชม) พวกเจา้ เดว้ า่ เปน็ ผหู้ ญงิ นะ เดยี๋ วซมุ่ พวกผชู้ ายจะมาวา่ ขอ่ ยเด้ วา่ ยอ้ ง
แตผ่ ู้หญิงแทน้ ้อ ผมเปน็ คนหาเงินมาแท้ๆ เมยี เป็นคนเฮด็ ไปวดั ผมกะสิบไ่ ด้แนบ้ ่ ยอ้ งแต่ซมุ่
ผู้หญิงนะบ่ บ่ไดย้ อ้ งเว้าความจริงใหฟ้ งั มนั เรอ่ื งจริง เงินนะซมุ่ ผู้ชายหามากะจรงิ แตเ่ วลา
ไปถวายใหท้ านนะบไ่ ดไ้ ป เขา้ ใจบ่ มนั พลาดตรงน้ี เมยี ไปผ้เู ดยี ว สมบตั นิ น้ั คลา้ ยๆ กบั เปน็
ของฝาก แตถ่ า้ เมยี อนญุ าต จบั ไดเ้ ลย เพราะของนน้ั เปน็ ของรว่ มกนั อยแู่ ลว้ เฮด็ รว่ มกนั อยแู่ ลว้

74

น่ีละมันเป็น “ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ” วิญญูชนรู้ได้เฉพาะตน เราท�ำส่ิงไหน
สงิ่ นนั้ แหละเปน็ ของเราเดอ้ จะเปน็ ของคนอนื่ ไปไมไ่ ดเ้ ดด็ ขาด จงึ เรยี กวา่ “ปจั จตั ตงั ” สเิ ฮด็ หยงั
กะตามให้ระวงั เด้อ กาย วาจา ใจใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ บุญมนั จังสเิ ป็นของเฮา กศุ ลจงั สเิ ป็นของเฮา

งานมทุ ิตาจิตหลวงป่สู มภาร ปัญญาวโร วัดปา่ วเิ วกพฒั นาราม อ.พรเจรญิ จ.บงึ กาฬ ในวันท่ี ๔-๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑

75

อยา่ พากันน้อยเนือ้ ต�ำ่ ใจเดอ้ เฮ็ดไปโลด

บญุ ไผบุญมันเดอ้ ใหจ้ �ำเอาไวโ้ ลด “ภาวนาเอา”

คำ� วา่ ภาวนาเอา มนั เปน็ จงั่ ไดภ๋ าวนา ภาวนาคอื การนง่ั สมาธคิ ะ ภาวนาคอื การยา่ ง (เดนิ )
จงกรมคะ แมน่ อยู่ ท�ำวตั รสวดมนต์ มนั กะเปน็ ภาวนาคอื กนั สงิ่ ไหนท่ีเราทำ� เป็นบญุ ทพ่ี ร้อม
ด้วยกาย วาจา ใจน่ะ “อาเสวิตายะ ภาวติ ายะ พะหลุ ีกะตายะ” เพียรใหม้ าก กระทำ� ให้มาก
พยายามใหม้ าก อนั น้ันแหละคือการภาวนา

76

ภาวนาแปลวา่ เจริญให้มันเกดิ ขึน้ ใหจ้ ำ� ได้ นน่ั คอื การภาวนา มันบแ่ ม่นวา่ ไปน่ังหลับตา
ซอ่ื ๆ กะวา่ ภาวนา มันบแ่ มน่ มันแม่นอยู่ แตม่ ันบแ่ ม่นการทอ่ งจ�ำหนงั สอื ท่องจ�ำบทสวดการ
ไหวพ้ ระสวดมนตอ์ ยนู่ ี่ นล่ี ะคอื การภาวนา ลกู นะ่ เจา้ นน่ั ละ เปน็ ผสู้ รา้ งธาตขุ นั ธใ์ หเ้ ขาสรา้ งสรณะ
สงฆ์อันเป็นสรณะอยู่ไส ทว่ี า่ สงฆเ์ ปน็ สรณะทพ่ี ่ึงของเฮาอยูไ่ ส มนั บแ่ ม่นหวั โล้นหม่ ผ้าเหลอื ง
(ทา่ นชท้ี ต่ี วั ทา่ นเอง) คำ� วา่ พระสงฆท์ เ่ี ปน็ สรณะนะ่ เคยเหน็ พระสงฆล์ ะบ่ (เหน็ ละคะ นง่ั จบั ไมค์
หัวโลน้ ๆ นลี่ ะ) แมน่ บ่ฮึ คือสติ อบจัง่ สเิ นาะ บ่แม่นน้ีเป็นสมมุติ สมมุติสงฆ์ข้างนอกน่ี คำ� วา่
สงฆน์ อก สงฆใ์ นทเี่ ปน็ สรณะทพ่ี งึ่ เฮาขา้ งในพนุ่ นะ ทเ่ี ฮาอาศยั พนุ่ นะ เปน็ สรณะเปน็ ทพี่ ง่ึ ของเฮา
ไมง่ ั้นจะวา่ สังฆงั สรณงั คจั ฉามิ บส่ ะนะ ทพ่ี ง่ึ อ่นื ไม่มีนอกจากพระสงฆ์ อยไู่ สละพระสงฆ์
ทเ่ี ปน็ ทพี่ ึ่งของเฮานะ อยไู่ สละทว่ี า่ เปน็ พระธรรมเปน็ ทพี่ งึ่ อยไู่ สละทว่ี า่ พระพทุ ธทวี่ า่ เปน็ ทพี่ ง่ึ นะ
เห็นละบ่

พระพทุ ธก็องค์เหลอื งๆ ละคะ นนั่ ๆ องคใ์ หญๆ่ อยู่ขา้ งหลงั พระธรรมกค็ อื หลวงพอ่ พดู
อยา่ งน่ันละวา่ ติ คอื สวดมนตส์ วดพรอยูน่ ั่นละวา่ ติ พระสงฆ์อยู่หวั โล้นๆ นั่งเว้าอยูน่ ั่นละ โอ้ย
กะจงั่ แมน่ เวา้ ถกื ฮา่ ยเวย้ แปะ๊ เลยวะ่ ใหเ้ ขา้ ใจเดอ้ คำ� วา่ พระสงฆอ์ นั เปน็ สรณะนี่ ถา้ สงฆบ์ ม่ นี ะ่
เฮากะบ่มเี ปน็ ตวั เปน็ ตน บม่ เี กดิ ข้ึนมาเลย ถ้าบม่ สี รณะตวั น้ี ถา้ บม่ พี ระสงฆ์ บม่ พี ระธรรม
เฮาบเ่ ป็นตวั เปน็ ตน บ่ไดเ้ กดิ ข้นึ มาดอก

มาจากพระทง้ั ๔ องคค์ อื กนั ลว้ นแตเ่ ปน็ กองสมมตุ คิ อื กนั คอื มหาภตู ๔ ดนิ นำ้� ไฟ ลม
มนั เปน็ พระไดจ้ งั่ ได๋ “พระมหาปฐพ”ี กะแปลวา่ ดนิ แมน่ บ่ “พระมหานท”ี กะนำ้� แมน่ บ่ “พระเพลงิ ”
กะไฟ “พระพาย” กะลม พระทง้ั ๔ น้ีประชุมกนั จ่งั เป็นกองข้ึนมา เปน็ กองธาตุ กองธรรม
กองขนั ธข์ น้ึ มานี่ เป็นกองธรรมมาเป็นตวั เปน็ ตนน่ี ไผเป็นผ้ปู ระชมุ พระอรหันตส์ องพระองค์
คือพ่อคอื แม่เฮา ธาตุน้ำ� เปน็ พระคุณแม่ ธาตดุ ินเปน็ พระคณุ ของพ่อ น้ำ� และดินมาประชมุ กนั
เทา่ นนั้ ละ ไฟและลมกเ็ กดิ ขน้ึ ธาตทุ งั้ ๔ พระทงั้ ๔ จงึ มาประชมุ กนั จงึ เปน็ กอ้ นขน้ึ มา จติ ของเฮา
คือตัวพทุ ธะมาอาศยั สรณะ มาถอื เอาสรณะอันเปน็ พระคุณของพ่อแม่เฮา มาถือเอาตั้งแตอ่ ยู่
ในทอ้ งแมเ่ ฮาพนุ่ นะ มาถอื เอา มาถอื สรณะพากนั เขา้ สรณะแลว้ ยงั วา่ เจา้ ของมาเอาสรณะบาดหนิ
แลน่ หา (วงิ่ หา) สรณะเจา้ ของบาดหนิ ตาย สรณะกะคอื ธาตุ ๔ ดนิ นำ้� ไฟ ลม ทพ่ี อ่ แมป่ ระชมุ
ธาตขุ ันธใ์ หน้ ั่นละ เฮามาถอื เอาสรณะอนั น้ี แมแ้ ตพ่ ระพทุ ธเจา้ กย็ งั ถอื เอาสรณะตัวน้ีนะ่

งานมทุ ิตาจติ หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร วัดป่าวเิ วกพฒั นาราม อ.พรเจริญ จ.บงึ กาฬ ในวนั ที่ ๔-๕ สงิ หาคม ๒๕๖๑

77

ในสมยั นนั้ มีพระมหาเถระถามพระพุทธเจา้ ว่า

“ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ทำ� ไมเมอ่ื ตรสั รแู้ ลว้ ถงึ ขน้ึ ไปจำ� พรรษาบนสวรรคช์ นั้ ดาวดงึ สโ์ ปรด
พระมารดา”

พระพทุ ธเจา้ : ภกิ ขเว ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย พระสพั พญั ญสู มั มาสมั พทุ ธเจา้ ทกุ ๆ พระองค์
ในอดตี จะสรรเสรญิ พระคุณของพระพทุ ธเจ้า พระสัพพัญญใู นอดตี จะสรรเสรญิ เท่าใดก็ไม่มี
ทสี่ นิ้ สดุ ได้ อนั นก้ี ฉ็ นั ใด ภกิ ษทุ งั้ หลาย เราตถาคตกไ็ มก่ ลา้ ทจี่ ะสรรเสรญิ พระคณุ ของพอ่ ของแม่
ได้สน้ิ สดุ ฉนั นั้น

ฟงั ดสู ิ พระคณุ ของพอ่ ของแมม่ าก เราจะสรรเสรญิ ไมม่ สี น้ิ สดุ เลย มารดาใหเ้ รามาเกดิ ได้
๗ วนั กเ็ สดจ็ ไปอยชู่ น้ั ดาวดงึ ส์ จนกระทง่ั พเ่ี ลยี้ งนมเลยี้ งเรามาจนโต มากระทง่ั ไดอ้ อกบวชจน
ไดต้ รสั รเู้ ปน็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เปน็ พระสพั พญั ญรู แู้ จง้ โลกทกุ โลกแลว้ เราจงึ มานอ้ มนกึ ถงึ
ถา้ หากเราไมม่ พี ระคณุ ของพอ่ และแมแ่ ลว้ เราจะเอาสรณะจากไหนมา เราจะไดธ้ รรมจากไหน
มาพิจารณา ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ์ กเ็ ปน็ พระคุณของพอ่ ของแมท่ ั้งน้นั

เหน็ ไหม พอ่ แมใ่ หพ้ ระคณุ อนั ลน้ เหน็ ไหมในตวั เรานมี้ พี ระเตม็ ไปหมดน่ี ถา้ เราเอาตวั ของเรา
ไปทำ� ไมด่ ี เราจะเป็นการเนรคณุ หรือว่าเป็นการสรรเสรญิ พระคุณ เอาธาตุพอ่ แม่ไปทำ� ในสง่ิ
ทไ่ี มด่ ี จะเปน็ บาปหรอื บญุ ทเี่ อาไปทำ� ไมด่ นี ะ เปน็ บาปใชไ่ หม ถา้ เราเอาธาตขุ นั ธท์ เ่ี ปน็ ตวั เปน็ ตน
ไปท�ำในสง่ิ ทีด่ ี มนั จะเป็นบญุ ไหม มันกต็ ้องเป็นบญุ เปน็ บุญในตัวตน เป็นบุญของเราซะด้วย
บุญสะท้อนถึงบิดามารดาอีกเห็นไหม จะทดแทนพระคุณของพ่อของแม่ได้ก็คือปฏิบัติตนเอง
ไม่ใช่เอาพ่อแม่มานั่งบนคอนั่งบนศีรษะให้ท่านขี้รดเย่ียวรด อาบน้�ำปะแป้งแต่งตัวให้พ่อแม่
ทกุ ครง้ั นน่ั คอื เปน็ การทดแทนพระคณุ ไมใ่ ช่ (ไมใ่ ชแ่ คน่ นั้ ) ปฏบิ ตั กิ ายปฏบิ ตั ติ วั นล้ี ะใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ
นี่คอื การทดแทนพระคุณของพอ่ ของแม่

ยงั ไมพ่ อนะ สรณะสงฆล์ ะ และยงั เอาพระสงฆ์ เอาพระไตรสรณะ เอาแกว้ อันวเิ ศษสดุ น้ี
ไปทำ� ใหเ้ ปน็ มลทนิ ทำ� ใหแ้ ตกรา้ วอกี ทำ� ไม เนรคณุ พอ่ แมย่ งั ไมพ่ อ ยงั เอาพระพระไตรสรณคมน์
ไปท�ำให้เปน็ มลทนิ อกี มนั จะเป็นบาปหรอื เป็นบุญกันแน่ ถามตัวเองดูนะ เราสรา้ งบาปหรือ
สรา้ งบุญ เกิดเป็นมนษุ ยน์ ะ่ ถามตวั เองสิ พระไตรสรณคมน์ท่พี วกเราพากนั มาเขา้ กัน พทุ ธงั
ธัมมงั สังฆัง คจั ฉามิ ก็คือตัวเราน่ี

78

พระสงฆ์ ๔ รปู กธ็ าตุ ๔ นะ่ พระมหาปฐพี พระมหานที พระเพลิง พระพาย นั่นละ
คอื สงฆม์ ารวมกนั เปน็ ธรรม ธรรมนะ่ คอื กอง กองธาตุ กองธรรม กองขนั ธ์ เรยี กวา่ เปน็ ธรรมธาตุ
ธรรมขันธ์ อนั เปน็ ธรรมชาติ กองแห่งนิพพานอยู่ตรงน้ลี ะ คอื กองธรรมคอื ตัวตนอนั น้ี เป็น
ธัมมัง สังฆงั คัจฉามิ ตัวพทุ ธะคือตัวเรา ตวั ร้บู าปหรือบุญเรารูเ้ อง คนอนื่ จะร้แู ทนไม่ได้
สงฆแ์ ละธรรมเปน็ รปู สว่ นตวั พทุ ธะหรอื ใจเรานะเปน็ นาม เปน็ เพยี งนาม เปน็ แตเ่ พยี งชอ่ื เปน็ สมมตุ ิ
ขันธ์จงึ ก่อตั้งขึน้ ตรงน่เี อง เปน็ ตวั เป็นตนขึ้นมา

เราเอาพระไตรสรณคมน์ไปท�ำให้เปน็ มลทินทำ� ไม พ่อแมใ่ ห้ของดีมาถงึ ขนาดน้ี พอ่ แม่
ให้สรณะมาแล้ว พ่อแมแ่ ยกธาตปุ ระชมุ ธาตุเป็นตัวเป็นตนขนึ้ มาให้แล้ว เอาพระคุณของทา่ น
ไปเนรคณุ ทำ� ไม ไปบอกลกู บอกหลานดว้ ยเดอ้ ทเี่ ขาทำ� ไมด่ ี ใหเ้ ขาทำ� ดหี นอ่ ยนะ เชอ่ื วา่ โยมพอ่
โยมแมท่ ่ีพากันมาคงจะพากนั ท�ำดแี ลว้ คงจะไม่ทำ� ผดิ พลาด คงจะเปน็ บญุ ละเนา๊ ะ ฟงั ออกบ่
ฟงั เขา้ ใจไหม

เข้าใจกนั ไหม เข้าใจละติ เอวงั กม็ ดี ้วยประการฉะนี้

หลวงปสู่ วาท ปญั ญาธโร วดั โปง่ จนั ทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี

79

เป็นผ้หู ญิงก็บรรลธุ รรมได้

ไปนอ้ ยใจทำ� ไม ทำ� จริงไหม ถ้าท�ำจรงิ ปฏิบัตจิ ริง ยอ่ มไดจ้ ริง

อยา่ บอกวา่ ตวั เองไมม่ วี าสนาไมไ่ ดเ้ กดิ เปน็ ผชู้ ายเลยไมไ่ ดบ้ วช ถา้ เกดิ เปน็ ผชู้ าย ลกู จะขอ
บวชหม่ ผ้าเหลอื งอยู่ (เข้าใจอยา่ งนั้นอีกนะทนี )ี่ พาตัวเองน้อยอกนอ้ ยใจอีกนะ่ อย่าไปนอ้ ยอก
นอ้ ยใจ บญุ มนั อยไู่ หน “ขา” เรากเ็ ปน็ บญุ นะ “เทา้ ” เรากเ็ ปน็ บญุ นะ มนั พาเราเดนิ มาน้ี มาถงึ วดั
นเี่ หน็ ไหม ถอื กระตบิ๊ ขา้ วมาใสบ่ าตร ถอื ปน่ิ โตมาใสบ่ าตร ยกหมอ้ มาจากโรงครวั โนน้ เอาเทา้
เดนิ มาใชไ่ หม โอ้ย บญุ หลายแท้ๆ เน๊าะ ได้เดินอยู่ “เท้า” เปน็ บญุ นะนี่ “มอื ” กเ็ ปน็ บุญนะ
ทนี ่ี จับหม้อข้าวมาใสบ่ าตร “ตา” เปน็ บุญสำ� หรบั ดูทาง “หู” มันก็เป็นบุญส�ำหรบั ฟงั (มันมี
แตบ่ ญุ นะนตี่ วั ของเรานี่)

พวกญาตธิ รรมอยา่ เชอ่ื ปเู่ ดอ้ ฟงั แลว้ กท็ ง้ิ ไวน้ ้ี แลว้ พวกญาตธิ รรมมแี ตพ่ ระนะน่ี ทห่ี ลวงปู่
เรยี กกนั วา่ พอ่ พระแมพ่ ระนี่ ไมผ่ ดิ หรอก โลกนมี้ นั เตม็ ไปดว้ ยกองสมมตุ ิ แมแ้ ตใ่ นวดั ปา่ พรเจรญิ
เฮาน่ี วดั ปา่ วเิ วกพฒั นารามน่ี มแี ตพ่ ระนะน่ี หลายรปู เตม็ หมดน่ี มแี ตพ่ ระในวดั นะน่ี นวี้ ดั นอก
ตัวเรากม็ แี ตพ่ ระนะน่ี โยมพอ่ พระ โยมแมพ่ ระ เห็นหรือยงั พระในตวั เรานะ ยงั ไมร่ ู้ไมเ่ ห็นอกี
อยเู่ หรอ พระอยนู่ กี้ ็มแี ต่พระ ก. พระ ข. พระ ค. พระ ง. เรยี กกนั อยู่น่นี ะ มีชือ่ หลายชอ่ื
คนละตระกลู คนละพอ่ คนละแม่ นเี่ ปน็ การสมมตุ ิ พระอยใู่ นกายวดั เรานี่ เปน็ กายวดั (กา-ยะ-วดั )
มันเป็นวดั อนั หน่ึง กาย วาจา ใจ เปน็ วดั อันหน่งึ มีพระเต็มไปหมดเหมือนกัน พระอยู่ไหน
ในตัวเราน่ี เส้นผมก็พระเกศาใช่ไหม ค้ิวก็=พระขนง ตาก็=พระเนตร หูก็=พระกรรณ
จมูกก็=พระนาสกิ ปากก=็ พระโอษฐ์ ฟันก=็ พระทนต์ ลิ้นก=็ พระชวิ หา ใบหน้าก็=พระพักตร์
รวมหมดท้ังหัวเรา=พระเศยี ร ต้ังแต่ขา้ งบนก็เป็นพระหมดละ คอก=็ พระศอ อกก็=พระอรุ ะ
หวั ใจก=็ พระหทยั แขนก=็ พระกร มอื ก=็ พระหตั ถ์ จนถงึ เทา้ นนั่ นะเรยี กกว็ า่ =พระบาท รวมหมด
ทงั้ ตวั เรานี่ เรยี กวา่ =พระวรกาย “กายอนั เลศิ กายอนั ประเสรฐิ ” [วะ-ระ วอ-ระ] แปลวา่ เลศิ
เป็นมนษุ ย์นี่แสนเลศิ แสนประเสริฐ ท�ำให้เกิดเปน็ มนษุ ย์นเ่ี ปน็ ของยาก ของลำ� บากดสู ิ

พระพทุ ธเจ้าตรสั นะ่ ตวั เรามแี ตพ่ ระ เราจะเอาตัวน่ีไปทำ� ดหี รอื ไม่ดี ถามดสู ิ ถามกาย
ถามวาจา ถามใจดู ให้มนั เปน็ บุญเป็นกศุ ล เขา้ ใจละนะแคน่ ้ี ถอื ว่าเปน็ ฝนั ร้ายเด้อวันนี้นะ
เอาๆ เอาละๆ รบั พรๆ เด้อ (หลวงป่เู มตตาใหก้ �ำลังใจญาติธรรมทเ่ี ป็นหญงิ )

หลวงปู่สวาท ปัญญาธโร วัดโปง่ จันทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี

80

บญุ มันอย่ทู ไ่ี หน

ก็อยทู่ ีก่ าย ทวี่ าจา ท่ใี จเรานเ่ี อง

ไมใ่ ช่อยูท่ ่ีอ่ืนนะญาติธรรมเอย่ พ่อพระแม่พระทกุ คน พวกเรามีแตพ่ ระเต็มตัวนะ บางที
ผหู้ ญิงก็เสียใจ “วา่ ถา้ ฉันเกดิ เปน็ ผชู้ าย ฉนั จะโกนหวั บวชซะ หม่ ผ้าเหลืองเดนิ โชวเ์ ว้ย กูอยาก
เป็นผ้ชู ายเด้ กถู ึงจะไดบ้ วช” ไมต่ ้องพดู

ธาตุ ๔ ขนั ธ์ ๕ กม็ าจากมหาภตู ๔ อนั เดยี วกนั เกดิ แก่ เจบ็ ตาย กเ็ หมอื นกนั เปน็ ผหู้ ญงิ
ผชู้ ายกส็ ามารถบรรลนุ พิ พานไดเ้ หมอื นกนั ไปนอ้ ยใจทำ� ไม ไปออ่ นใจทำ� ไม จะไปออ่ นแอทำ� ไม
ส่ิงที่เราควรจะภูมิใจก็คือมนุษย์ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ก็อย่าให้เสียชาติเกิดสิ พรหมโลกมีถึง
นพิ พานพรหม ก็ยังปรารถนามาเกดิ เปน็ มนษุ ย์

นพิ พานพรหมก็ยังมเี ส่ือมลงได้ เว้นไวแ้ ตน่ พิ พานโลกตุ ระ เราตถาคตปฏบิ ัติมาจนเขา้ สู่
โลกุตระแล้ว เราไมไ่ ดป้ รารถนานพิ พานพรหมเลย ท�ำใหม้ นั ถึงสิ เดินให้มันถงึ อย่าอ่อนแอ
อยา่ ทอ้ ถอย เปน็ มนษุ ยน์ ี่ บญุ มนั เกดิ ขนึ้ มอี ยู่ ๓ ทาง คอื ทานมยั บญุ จะสำ� เรจ็ ดว้ ยการบรจิ าคทาน
สลี มยั บญุ จะสำ� เรจ็ ดว้ ยการรกั ษาศลี ภาวนามยั บญุ จะสำ� เรจ็ ดว้ ยการเจรญิ ภาวนา ในทานมยั
สลี มยั และภาวนามยั น้ี จะสำ� เรจ็ โดยสมบรู ณน์ อ้ี ยทู่ ไ่ี หน กอ็ ยทู่ อี่ งคป์ ระกอบ ๓ จะตอ้ งพรอ้ มดว้ ย
องค์ ๓ องค์ ๓ นัน้ คอื อะไร ก็คอื กาย วาจา ใจ ของเรา

เราถามกายเราสิ กายของเรา ตัวตนของเรากม็ ี ๓ แขน ๓ ขา ศีรษะ ๑ มีหูมีตา
ครบอาการ ๓๒ ไมใ่ ชเ่ หรอ องคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ กม็ อี าการ ๓๒ กเ็ หมอื นกนั กบั เรา
เหมอื นกนั กบั พระอรยิ ะ พระอรหนั ต์ เหมอื นกบั พวกเราทกุ คน ตา่ งกนั ตรงไหน เมอ่ื ไมต่ า่ งกนั
กท็ ำ� ใหม้ นั เกดิ ขนึ้ โดยสมบรู ณข์ น้ึ มาสิ เราถามกายเราดสู ิ “กายมงึ เปน็ ทานไหม กายมงึ บรสิ ทุ ธิ์
เปน็ ศลี ทบ่ี รสิ ทุ ธแิ์ ลว้ ใชไ่ หม ถามกายตวั เองนะ” ไมต่ อ้ งไปถามกายคนอนื่ หรอก ถามกายดสู วิ า่
มงึ เจรญิ ภาวนาอยหู่ รอื เปลา่ มงึ เสอื่ มลงหรอื วา่ มงึ เจรญิ ขนึ้ ถามตวั เองดสู ิ ไมต่ อ้ งไปถามคนอน่ื
ไปถามคนอนื่ คนอน่ื กท็ ำ� ใหเ้ ราไมไ่ ด้ เขา้ ใจกนั นะสง่ิ เหลา่ นน้ี ะ แลว้ ถา้ เปน็ สลี มยั ละ ถามกายดสู ิ
กายมงึ บริสทุ ธิ์ เป็นศีลท่ีบริสุทธิ์แลว้ ใช่ไหม ถามวาจาดสู ิ มึงบริสุทธิแ์ ล้วใชไ่ หมในคำ� พดู ค�ำจา
แต่ละคำ� นี้ ไมส่ อดเสยี ดไม่ไดเ้ บยี ดเบยี นทำ� ใหค้ นอืน่ เสยี ใจใชไ่ หม ใจมงึ เจริญภาวนาสงบอยู่
หรือเปลา่

81

ถามตวั เองในองคป์ ระกอบ ๓ น้ี ทานมยั สลี มยั ภาวนามยั น้ี วาจาเปน็ ทานก็ “ธรรมทาน”
คือ การใหธ้ รรมะ ให้มศี ีลและมธี รรม แล้วถามใจอกี คร้ังสิ ใจมงึ เปน็ ภาวนาจริงไหม ใจมงึ
เป็นศลี จริงไหม ใจมึงเจริญภาวนาอย่ไู หม ในองคป์ ระกอบ ๓ ให้มนั ส�ำเร็จ ทานมยั สีลมัย
ภาวนามยั บุญถึงจะสมบรู ณ์นะ
ญาติธรรมเอ่ย อย่าเสียชาติเกิด เกิดเป็นมนุษย์อย่าให้ ต่�ำกว่ามนุษย์สิ อย่าขาดทุน
ต่ำ� กวา่ มนุษย์ มหี รือ มี ต�่ำกวา่ มนษุ ยเ์ ป็นอะไร “มนสุ สเปโต” เปน็ มนุษย์แทๆ้ ท�ำไมท�ำให้
ตวั เองเปน็ เปรต ตำ�่ กวา่ นน้ั มไี หม เรยี กวา่ อะไร เรยี กวา่ “มนสุ สตริ จั ฉาโน” เกดิ เปน็ มนษุ ยแ์ ทๆ้
ทำ� ไมไปท�ำให้ใจตัวเองเปน็ สัตว์เดรจั ฉาน ต�ำ่ กว่านัน้ มีไหม มี “มนุสสอบาย” โลกทม่ี ดื มน
ไม่ต้องถามว่าจะมาเกิดอีก โน้น ไหม้อยู่ในอเวจีมหานรกอยู่โน้น มันต�่ำลงไปมันขาดทุน
แลว้ ถ้าสูงกวา่ มนษุ ย์มีไหม มี “มนุสสเทโว” ทงั้ ๆ ท่ีร่างกายพวกเราเป็นมนษุ ย์แทๆ้ แต่ทำ� ไม
จติ ใจเปน็ เทวดาแลว้ ถามตวั เองดสู ิ ถามตวั เองวา่ เราเปน็ เทวดาหรอื ยงั นอ้ ถามตวั เองอกี ครงั้ สิ
เหนอื กวา่ มนสุ สเทโวนม่ี ไี หม มี “มนสุ สพรหมา” เปน็ มนษุ ยแ์ ทๆ้ ทำ� ไมทำ� ตวั เองเปน็ พรหมขนึ้
มาได้ เหนอื กว่านั้นมไี หม มี “มนุสสโลกุตระ” คือ “มนสุ สนิพพาน” เป็นที่สดุ แลว้ ไมม่ คี ำ� ว่า
เวยี นวา่ ยตายเกดิ อกี แลว้ เปน็ สนิ้ ภพแลว้ โลกทกุ โลกนน้ั หมดไปแลว้ จงึ เปน็ โลกตุ ระ คอื เปน็ วมิ ตุ ติ
หลดุ พ้นไปหมดแล้ว
นกี้ ารบำ� เพญ็ ตอ้ งดตู วั เอง ไมใ่ ชไ่ ปถามคนอน่ื ถามทำ� ไมคนอน่ื นะ “กไู มไ่ ดย้ มื ขามงึ เดนิ นี่
กูไม่ไดย้ มื ก้นมึงนั่ง กไู ม่ไดย้ ืมตามึงดู กูไม่ได้ยืมหมู งึ ฟัง กไู มไ่ ด้ยืมจมูกมึงหายใจ ของกู
มหี มด” ทกุ คนมหี มดใชไ่ หม มแี ลว้ ทำ� ไมไมท่ ำ� ใหม้ นั เกดิ บญุ ปลอ่ ยใหโ้ งท่ ำ� ไม ปลอ่ ยใหข้ าดทนุ
ท�ำไม

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปูส่ วาท ปัญญาธโร วดั โป่งจันทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี

82

เดก็ น้อยประธานใหญ่

(อยา่ ดูถูกบุญอันบรสิ ทุ ธ์วิ า่ เปน็ ของเล็กนอ้ ยสิ)

บางคนไม่ค่อยเข้าใจน่ะ ถ้าเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่ีมีชื่อเสียงใหญ่ๆ โด่งดังแล้ว
เวลาทำ� บญุ ฉนั มแี ค่ ๑๐-๒๐ บาท จะไปทำ� บญุ ไดย้ งั ไง อายเขา แตเ่ ขามเี ปน็ รอ้ ยเปน็ พนั เขาทำ� บญุ
กันนะ่

เอ้า เขากเ็ ลยเขา้ มาถาม ได้ยินเสยี งท่ีเขาพดู น้ันน่ะ ปัจจยั ที่วา่ น่ะมแี ค่ ๑ บาทใชไ่ หม
ทำ� บญุ นะ่ ขอบอกเลยนะ่ ทหี่ ลวงปสู่ รา้ งพระอยเู่ ดยี๋ วนน้ี ะ่ สรา้ งพระองคเ์ ลก็ ๆ หนา้ ตกั แค่ ๙ วา
๒ ศอกเอง องคน์ อ้ ยๆ มคี นไปถามหลวงปวู่ า่ มใี ครเปน็ ประธาน ใครเปน็ เจา้ ภาพในการกอ่ สรา้ ง
กเ็ ลยบอกเขาไปวา่ โอ้ มนั มเี ดก็ นอ้ ยคนหนง่ึ นะ ทพี่ อ่ แมใ่ หเ้ งนิ ไปกนิ ขนมทโ่ี รงเรยี น เดก็ เขาก็
พอเดนิ ได้ เดก็ ชน้ั ประถม วง่ิ ตามแม่ ยงั พอวง่ิ ได้ วงิ่ ตามแมม่ า เงนิ อยใู่ นมอื นะ่ ถอื อยบู่ าทหนงึ่
เดก็ ก็ยืนใส่ พอเหน็ แมม่ ันกราบหลวงปู่ มันเดินเขา้ มาหาเลย

แม่บอก : อะไรลกู (เหน็ มนั กำ� มือ) เอาเงินบาทหนง่ึ มาท้ิงใสม่ อื เรา นั้นละประธานใหญ่
เจา้ ภาพใหญส่ ร้างพระองค์น้ี ไม่ต้องมาพูดถงึ เงนิ แสนเงนิ ล้านไดย้ นิ ไหม ก็เลยบอกเอาไวว้ า่
มบี าทเดยี วมันกม็ คี ุณคา่ มากแค่ไหน

รู้ไหมว่าเด็กคนนี้น่ะจิตเขาบริสุทธ์ิ เขาไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ไม่เหมือนคนใหญ่คนโต
คนใหญค่ นโตยงั มคี ดิ อันน้ีบา้ ง อันน้บี า้ นช่อง อนั นนี้ �้ำ อันน้ไี ฟ เส้อื ผ้าอาภรณ์ เจ็บไขไ้ ดป้ ่วย
ยงั คดิ กวา่ จะทำ� บุญแตล่ ะครัง้ แต่เด็กไมไ่ ด้คิด เขาบริสุทธ์ิไหม อย่าดถู กู เงนิ บาทของเดก็ สิ
จ�ำเอาไวน้ ะ่ เงิน ๑ บาทน่ะ

ขอถามโยมหนอ่ ย เคยทำ� นาไหม เมื่อเคยท�ำนาแลว้ เม่อื หว่านข้าวกล้าแลว้ ถา้ หากขา้ ว
เรามนี ้อยๆ มเี ม็ดเดยี วอยา่ งน้ี ไปโยนใส่แผน่ ดินดสู ิมันจะเกดิ ไหม ขา้ วเปลอื กเมด็ เดียวนน้ั น่ะ
มนั เกดิ เปน็ ตน้ กลา้ ตน้ หนงึ่ ใชไ่ หม ใช่ ตน้ กลา้ ตน้ หนงึ่ มนั เปน็ รวงหนงึ่ ใชไ่ หม ใช่ รวงหนง่ึ มนั มี
เมด็ เดียวเหรอ ก็บอกแบบน้ตี รงๆ เลย ชห้ี นา้ วา่ เลย อย่าไปวา่ กายเขาต่างหาก กายของเรา
ตา่ งหากมนั เกดิ ขน้ึ บญุ ทเ่ี ราทำ� ลงไปนะ่ เหมอื นกบั แมน่ ำ้� มหาสมทุ ร ถา้ บรสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ ใครจะมาตกั
ใครจะมาขนไปเทา่ ไหร่ มหาสมทุ รมเี หรอจะแหง้ ขอดใหค้ นเหน็ เหรอ ตกั นำ้� แคข่ นั เดยี ว เอารถ
มาตักแค่รถเดยี ว มันจะรู้วา่ แมน่ ้�ำมหาสมุทรมันจะแหง้ ขอดเหรอ ใครจะไปรไู้ ด้ กุศลผลบุญ

83

ทีท่ ำ� ก็เหมือนกนั แหละ เงินบาทหนง่ึ ทบ่ี ริสุทธ์นิ ่ี มันกเ็ หมือนข้าวหน่ึงเม็ดท่มี นั เกดิ ข้ึนเป็นรวง
รวงหนง่ึ มกี ี่เม็ด เป็นร้อย แต่ถา้ รวงหนึ่งมันมหี ลายเมด็ ล่ะ

อยา่ งทว่ี า่ ๑ บาท มกี สี่ ตางค์ เปน็ รอ้ ยสตางคใ์ ชไ่ หม ๑ บาทนะ่ ถา้ ๑ สตางคต์ อ่ ๑ รวงละ่
มนั จะมากหรอื นอ้ ย มนั มากแคไ่ หนอานสิ งสน์ ะ่ คนมนั มองไมเ่ หน็ กศุ ลผลทานตวั เอง สรา้ งบญุ
กส็ งสัยบญุ สรา้ งบาปกส็ งสยั บาป การใหท้ านนี่ ทานกด็ ี ศลี ก็ดี ภาวนากด็ ี มนั อยู่ที่ไหน
ทานก็อยู่ที่กายของเราน่ี ศีลก็อยู่กายของเรา ภาวนาก็อยู่ที่กายของเรา ใจของเราเป็นคน
พจิ ารณาเอง จะเป็นทาน ศลี ภาวนา กป็ ระกอบไปดว้ ยองค์ ๓ กาย วาจา ใจ ถา้ กายเรา
ไมน่ �ำไป ถา้ กายเราไมท่ �ำขน้ึ มาแลว้ ใครจะทำ� ท�ำไมไมด่ ูของจริงที่ตัวเรา บุญอยทู่ ่ตี วั เรานี้
จริงไมจ่ ริงให้พิจารณาเองน่ะทพี่ ดู ใหฟ้ งั น่ี

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปสู่ วาท ปัญญาธโร วดั โป่งจนั ทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จันทบุรี

84

ธรรมะจากรวงขา้ ว

ท�ำไมข้าวมนั ถึงไม่เต็มรวงหมด ทำ� ไมมันถงึ มเี ม็ดลีบปนมาด้วย

คดิ เอาเองเดอ้ ทพ่ี ากนั คดิ วา่ เรามานไ้ี มม่ ใี ครรหู้ รอกวา่ เปน็ บาปเปน็ บญุ นะ (ทำ� ไมจะไมร่ )ู้
ยมทตู ยมบาล เขากเ็ ขียนจารกึ บนั ทกึ ไวห้ มดแลว้ ที่พวกเราไปไหนมาไหนนะ วนั นีต้ ้งั แตเ่ ชา้
จนถงึ ปจั จบุ นั ยมบาลเขยี นชอื่ พวกเราไวห้ มดแลว้ ทม่ี าสรา้ งบญุ สรา้ งกศุ ลนะ ถา้ คดิ ไมด่ ี ยมทตู
ยมบาลเขากเ็ ขยี นบนั ทกึ ไว้ ถา้ เปน็ บญุ กศุ ล เทวดาเขากเ็ ขยี นบนั ทกึ ไวห้ มดเหมอื นกนั ทเ่ี รามา
ทำ� บุญให้

หลวงปสู่ มภาร ปญั ญาวโร น่ี เขาเอาอะไรเขยี น เขาเขยี นใสอ่ ะไร กระดาษทเี่ ขาเขยี นนะ่
มจี รงิ เหรอ (มจี รงิ ) เขามปี ากกาเขยี นจรงิ นะ่ รจู้ กั ไหม ยมทตู ยมบาล เขาอยไู่ หนนะ่ เคยเหน็
ยมทูตหรือยัง (โยมเงยี บ) ยงั ไมท่ นั เคยเห็นเหรอ

โยม : ยังบเ่ คยขะน้อย

หลวงปู่ : เจา้ อยา่ มาตวั๊ ะขอ่ ย ยมทูตก็คือ เกิด แก่ เจบ็ ตาย เทวทตู ก็คอื เกิด แก่ เจบ็
ตายเหมือนกัน เทวะ เขาแปลวา่ สอง มาเปน็ คู่ ยมมะ ก็แปลว่าสองเหมือนกนั ศัพท์หน้ามัน
ออกเสยี งคนละอยา่ ง อนั หนง่ึ เปน็ เทวะ อนั หนงึ่ เป็น ยมมะ เขาแปลว่า เกดิ แก่ เจ็บ ตาย
เหมอื นกนั เราเดนิ เขา้ มาในวดั นี่ เราเอาเทา้ เดนิ มาไหมแม่ เอาเทา้ หรอื เอามอื เดนิ มาแม่ เอาเทา้
เดินไหม

โยม : เอาเทา้ เดนิ นลี่ ะขา้ นอ้ ย

หลวงปู่ : เหยียบหินมันเจบ็ บแ่ ม่

โยม : เจ็บยุขะน้อย

หลวงปู่ : เจบ็ อยู่ติ โอย้ นัน่ ละ คอื เทวทูต เขาจดไว้แล้วเด้ เทวดาเขาจดไว้หมดแล้ว
จดไวใ้ นแผน่ ดินน่นั ละ รอยเทา้ เราประทับไวน้ ั่นละบาปหรือบญุ คิดกศุ ลหรือคดิ อกุศล ฝ่าเทา้
เราเหยยี บไวแ้ ลว้ กบั แผน่ ดนิ นน่ั นะ เขาจารกึ เขยี นไวห้ มดแลว้ เรามาทำ� บญุ ทำ� บาปมนั เปน็ ของ
เราหมด เทวดาเขาจดเอง แตถ่ า้ เปน็ บาป ยมทตู ยมบาล เขาชอบมากเลย เขาวง่ิ จดเลย แยง่ กนั
จดเลยกบั เทวดา เทวดาเขากจ็ ดเอาบญุ ไวใ้ ห้ ยมทตู จดเอาบาปไวเ้ หมอื นกนั รไู้ หมทนี เ่ี วลาเรา

85

มาทำ� บญุ กศุ ลน่ี ใจเราสะอาดหรอื ไมส่ ะอาด ถามใจตวั เองดสู ิ ใจสะอาดกไ็ ดไ้ ปเลย เทวดาจดไว้
ใหเ้ ลยวา่ “คนนเ้ี ปน็ คนสะอาด วนั นเ้ี ขามาทำ� บญุ ทำ� กศุ ล มาทอดผา้ ปา่ เขาบรสิ ทุ ธท์ิ งั้ กาย วาจา ใจ”
เขาดใี จเขาเขยี นชอ่ื ปดิ ไวเ้ ลย (ยมทตู จดชอื่ ไว)้ จดชอ่ื เราตดิ ไวพ้ รอ้ มนะ่ สงิ่ ทเี่ ราทำ� ไวน้ ะ่ ตายไป
กเ็ หน็ เลย คอยอยโู่ นน้ นะ สงสยั อะไรอกี มผี จู้ ดไวใ้ หแ้ ลว้ แลว้ บาปละ ยมทตู เขากจ็ ดไวเ้ หมอื นกนั
เขากไ็ ชโยเลย “โอ้ มาแลว้ เหรอ เราคอยนานแลว้ เราเขยี นบนั ทกึ ไวแ้ ลว้ คอยจนขเี้ กยี จจบั แลว้ น”่ี
(โนน้ นะเขาวา่ นะ) เขาจะเอาเราไปไหน เขากเ็ อาเราไปลงโทษ “คณุ ทำ� อนั นๆ้ี คณุ ไปสรา้ งบญุ วนั นนั้
แลว้ คณุ ไปคดิ อยา่ งนนี้ ะ จติ ใจของคณุ แปรเปลย่ี นออกไปจากการสรา้ งนดิ หนอ่ ย คณุ นะทำ� ตรงน้ี
ผดิ ผลาดนะ กศุ ลจงึ ไดแ้ คค่ รงึ่ เดยี ว” ไดก้ ศุ ลแคค่ รงึ่ เดยี วกม็ ี ยมทตู ยมบาล เขาเขยี นไว้ ไดน้ อ้ ย
ไมเ่ ตม็ เมด็ เตม็ หนว่ ยวา่ งน้ั เถอะ ทนี ที้ ำ� บญุ ไวด้ เี ตม็ เมด็ เตม็ หนว่ ยไดบ้ ญุ มากนะ่ ทนี ้ี คลา้ ยๆ กบั เขา
มขี า้ วเมด็ เดยี วนะ่ ขา้ วเปลอื กนะ เอาไปหวา่ นลงนาไวแ้ ลว้ มนั แตกเปน็ ตน้ กลา้ แลว้ มนั กแ็ ตกขนึ้
มาเป็นรวงๆ หนึ่งใช่ไหมแม่

โยม : แมน่ ขะนอ้ ย

หลวงปู่ : แลว้ รวงหนงึ่ มจี กั เมด็ แม่

โยม : หลายๆ นบั บ่ได้

หลวงปู่ : นบั ไมไ่ ดอ้ กี นน่ั นะเหน็ ไหมละ ขา้ วเมด็ เดยี วนะหวา่ นใสน่ าดๆี ดสู ิ อะนตุ ตะรงั
ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอ่ืนยิ่งกว่า เห็นไหมพระเจ้า
พระสงฆน์ ะ ทนี ขี้ า้ วทเ่ี ราหวา่ นลงไปนะกบั ทเี่ รามาสรา้ งบญุ สรา้ งกศุ ลนะ ถา้ จติ ใจเราไมบ่ รสิ ทุ ธ์ิ
หรือบริสทุ ธ์มิ ันผสมกันอยนู่ นั้ แตเ่ ราไมร่ ู้ ทีนเี้ มด็ ข้าวท่ีออกมาในรวงนะ มนั ไมม่ เี ม็ดเต็มหมด
มนั มีเม็ดลบี ด้วยใช่ไหมแม่

โยม : แมน่ ขะนอ้ ย

หลวงปู่ : นนั่ ทเ่ี รามาสรา้ งบญุ เหมอื นกนั กบั ขา้ วรวงหนงึ่ นน่ั แหละ จติ เราคดิ ไมเ่ ปน็ บญุ
เปน็ กศุ ลเทา่ นน้ั ละ คลา้ ยๆ กบั ขา้ วเมด็ ลบี นนั้ ละ อยใู่ นรวงขา้ วนะ เทยี บใหฟ้ งั งา่ ยๆ ถา้ มาเขา้ วดั
มาปฏิบัติ กาย วาจา ใจ ให้มันเป็นบุญเป็นกุศลมันก็บริสุทธ์ิ “กาย” บริสุทธิ์สะอาด
กายกเ็ ปน็ ศลี “วาจา” ถา้ หมดจดสะอาด วาจากเ็ ปน็ ศลี “ใจ” ถา้ เจรญิ ภาวนาใหส้ ะอาดบรสิ ทุ ธิ์
กเ็ ปน็ วสิ ทุ ธมิ รรค ในทางเดนิ อนั แทจ้ รงิ แลว้ ใจเรากเ็ ปน็ ศลี ศลี ตวั นล้ี ะทม่ี นั นำ� ใหเ้ ราไปสวรรคน์ ะ
ไปสมู่ รรคผลนิพพานนะ

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปูส่ วาท ปัญญาธโร วดั โป่งจันทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี

86

ที่ๆ ทุกคนมานีใ้ ห้ระวังนะ่ ใจนะ่
จ�ำค�ำเตอื นเอาไว้นะ หลวงปู่เตือนนะ่

“เจตนาหงั ภกิ ขเว สลี งั วทาม”ิ เจตนานะ่ เป็น “ศีล” วันน้ีเป็นวันมาฆบชู า เป็นวันท่ี
องค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศธรรมวินัย ศีล ๒๒๗ และก็วันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่
หลวงพอ่ ไดใ้ ห้ศีลตอ่ หน้าพระปฏมิ าองค์นี้ ทๆี่ ทกุ คนมาน้ี ให้ระวังน่ะ “ใจน่ะ” จะตอ้ งบรสิ ุทธิ์
ผดุ ผอ่ งนะ่ “สคุ ตภิ มู ”ิ ทเ่ี ปน็ ทไ่ี ปแน่ ถา้ หากวา่ เจตนาและจติ ใจนนั้ ไมบ่ รสิ ทุ ธผิ์ ดุ ผอ่ งแลว้ “ทคุ ตภิ มู ”ิ
น่ะเป็นท่ีเสวย จ�ำค�ำเตือนเอาไว้น่ะ วันนี้เป็นวันท่ีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศ
ศลี ๒๒๗ ขน้ึ ในโลกอนั น้ี เตอื น แลว้ วนั นท้ี ส่ี ำ� คญั เปน็ วนั ทจี่ ะเอาพระเขา้ พพิ ธิ ภณั ฑ์ จงึ ไดบ้ อกไดเ้ ตอื น
เอาไว้ ญาตโิ ยมลองถามจติ ใจของตวั เองดสู ิ มานจ้ี ติ ใจบรสิ ทุ ธไิ์ หม ฝา่ เทา้ เราเหยยี บแผน่ ดนิ หรอื ไม่
บริสทุ ธห์ิ รอื ไม่บรสิ ุทธิ์ มันเปน็ ของเฉพาะตัวเองน่ะ แผ่นดนิ คอื ภูมเิ ทพเจ้านน้ั แหละ เขาจารกึ
เอาไว้ ยมทตู ยมบาล เขากจ็ ารกึ เอาไวน้ ะ่ ขอบอกใหฟ้ งั ให้ทราบเอาไว้เลยมันเป็นเรือ่ งจรงิ
ไมไ่ ดพ้ ดู เลน่ บรสิ ทุ ธกิ์ อ็ ยทู่ ใี่ จเรา อยา่ คดิ วา่ ไมม่ ใี ครรนู้ ะ่ ภมู เิ ทพเจา้ เขาประคบั ประคองใหเ้ รา
เดนิ อยู่ เหน็ ไหมเนยี่ เหยยี บบนแผน่ ดนิ นะ่ นเ้ี ปน็ แผน่ ดนิ สงฆ์ นเี้ ปน็ วดั ใหเ้ ขา้ ใจนะ่ เมอ่ื เขา้ วดั นอก
กใ็ หด้ วู ัดในตวั เอง สำ� รวมวัดในตัวเองใหม้ นั ได้

การส�ำรวมกค็ อื การส�ำรวมวัดตัวเอง ปฏบิ ตั ิวัดตวั เอง คอื กายวัด กายของเรา ก็คอื
พระอรหนั ตเ์ ปน็ ผใู้ ห้ เปน็ ผมู้ พี ระคณุ มาก วดั ในกม็ พี ระเตม็ ไปหมด ลว้ นแตเ่ ปน็ กองสมมตุ ิ โลกน้ี
ถา้ ไมม่ สี มมตุ แิ ลว้ วมิ ตุ ตจิ ะมไี มไ่ ด้ ใหเ้ ขา้ ใจนะ่ อยา่ ไปคดิ วา่ มานมี้ าทำ� บญุ ถา้ กไู มม่ าไมเ่ ปน็ บญุ
สาธุ คำ� พดู เหลา่ นน้ี รกกนิ หวั มนั นะ่ มาดว้ ยความบรสิ ทุ ธท์ิ ง้ั นนั้ นะ่ ถงึ ทำ� หลวงปเู่ ตอื นนะ่ ถา้ ไมร่ ู้
ไมเ่ ตอื น รถู้ ึงเตือน รถู้ งึ บอกให้เขา้ ใจเอาไวน้ ะ่ ญาติธรรมทีเ่ ปน็ พอ่ พระแม่พระทีเ่ ขา้ มาในวดั
อยา่ ลืมดกู ายวดั ตัวเอง อยา่ ลืมดูวดั ตัวเองให้มนั บริสทุ ธ์ิ ถา้ กายเราบริสทุ ธ์แิ ล้ว ทกุ ส่ิงอย่าง
บรสิ ทุ ธหิ์ มด แผน่ ดนิ ทเ่ี ปน็ ของเทพเจา้ เขาจงึ ยกมอื สาธกุ ารเลย ถา้ หากไมบ่ รสิ ทุ ธแิ์ ลว้ ละ่ ยมทตู
ยมบาลเขาก็เปิดทางเอาไวใ้ หไ้ ป

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปสู่ วาท ปัญญาธโร วัดโปง่ จันทร์ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบุรี วนั ที่ ๑๙ ก.พ. ๖๒ (วันมาฆบชู า)
ในงานพิธีอัญเชญิ บรรจพุ ระพทุ ธรูปแกะสลักจากหยกพม่า หินแมน่ ำ้� โขง, หยกขาว, แร่นวโลหะ, ขนาดหน้าตัก ๓๐ นิว้ จ�ำนวน ๑๓ องค์

บรรจุไวใ้ นพิพธิ ภณั ฑ์ เพือ่ ความเปน็ สริ มิ งคลแก่ชวี ติ เปน็ การจารึกช่ือและคุณงามความดขี องเรานฝี้ ากไวใ้ นพระพทุ ธศาสนา
และแผ่นดนิ สบื ต่อไป

87

ทกุ คนทำ� แลว้ ต้องได้ คนอื่นจะไดแ้ ทนได้ไมม่ ี

๑๙ ก.พ. ๖๒ วนั มาฆบชู า

กองสมมุตทิ ง้ั หลายกม็ ีอยู่อยา่ งน้ี มาเหน็ กม็ ีอยอู่ ยา่ งน้ี ตายไปมนั กจ็ ะมีอยูอ่ ย่างน้ี มนั มี
ของมัน มันเป็นของมันอยู่แล้วส่ิงเหล่าน้ี ก็พากันมาหลงมาติดมาเพลินซะ อันนี้ก็ของกู
อ้ยุ มาคดิ แคน่ ้ี มาติดแค่นี้ มาหลงแค่น้ี ขอพดู ใหฟ้ งั อันหนง่ึ นะ เม่ือยมทูต ยมบาล ถ้าเข้ามา
แตะตอ้ งเราเมอ่ื ไหร่ วนั นน้ั จะกระวนกระวาย วนั นนั้ จะเดอื ดรอ้ นมากทส่ี ดุ ยมทตู ยมบาล นถี่ า้
เขา้ มาถงึ ตัวเราเวลาไหนนะ เวลานัน้ เราอวดครวญกนั

มนษุ ย์ จะสำ� นกึ เหรอ มนั สายไปแลว้ หมดโอกาสแลว้ ในเวลาเขาใหโ้ อกาส ทำ� ไมถงึ ไมเ่ อา
ท�ำไมยังดนั ลงอย่นู รกล่ะ นี่มนั น่าคดิ นะ มนษุ ย์เราในจำ� นวนสัตว์ ๑๒ จำ� พวก ในโลกอนั น้ี
๑๒ จำ� พวกน่ี

๑. สตั ตา : สัตวใ์ หญ่
๒. ปาณา : สตั วเ์ ลก็
๓. ภูตา : สตั ว์พวกภตู ผิ ี
๔. ปคุ คลา : บคุ คล
๕. อตั ตะภาวะปรยิ าปนั นา : สัตว์ที่มอี ย่ใู นตวั ตนสกนธก์ ายเรา
๖. อิตถโิ ย : สัตว์เพศหญงิ
๗. ปุรสิ า : สัตว์เพศชาย
๘. อริยา : สตั วป์ ระเสรฐิ
๙. อนริยา : สัตว์ทีไ่ มป่ ระเสริฐ
๑๐. เทวา : สัตวเ์ ทวดา
๑๑. มนสุ สา : สตั วใ์ จสูง
๑๒. วินปิ าติกา : สตั วใ์ นอบายภูมิ (วินบิ าต) พระพทุ ธเจ้าทรงสรรเสรญิ สตั ว์มนุษย์
เกดิ เปน็ มนษุ ย์อย่าใหเ้ สียชาติเกิดเป็นมนษุ ยส์ ิ

มนษุ ย์น่ีเปน็ ภพกลางๆ น่ะ ญาตธิ รรมจ�ำเอาไวน้ ่ะ

88

ตำ�่ กวา่ มนษุ ยล์ ะ่ ถา้ เราทำ� ตกไปอกี ละ่ คำ� วา่ ทำ� ใหต้ กไปกค็ อื ศลี ขาดไปแลว้ ศลี ผดิ ไปแลว้
ศีลไมไ่ ด้ขาด แตเ่ ราขาดจากศลี ขาดการปฏบิ ัติตา่ งหาก ตกจากภพเป็นมนษุ ย์แลว้ เป็นอะไร
“มนสุ สเปโต” เป็นมนุษยแ์ ท้ๆ แต่จติ ใจเปน็ เปรต ต�่ำกว่านัน้ มีไหม มี “มนุสสตริ จั ฉาโน”
สภาพรา่ งกายเปน็ มนษุ ยแ์ ทๆ้ แตท่ ำ� ไมจติ ใจเปน็ สตั วเ์ ดรจั ฉาน ตำ�่ กวา่ นนั้ มไี หม มี “มนสุ สอบายภมู ”ิ
เปน็ ภพเปน็ ภมู ทิ ่ีมดื มนอนธการ ไม่มีวนั หรอก ไม่ต้องถามหาหรอกวา่ จะมาเกิดอีก เกดิ ตายๆ
อยใู่ นนรกจะอีกกภ่ี พกกี่ ัปกกี่ ลั ป์ไมร่ ู้ จะเสวยวิบากกรรมอยนู่ ั้นนะ่ บางทีก่ ็จะกระดอนออกจาก
นรกมาเปน็ สตั วเ์ ดรจั ฉานใหเ้ ขาไดฆ้ า่ ไดแ้ กงไดก้ นิ ปรารถนาแคน่ นั้ เหรอมนษุ ย์ สงิ่ ทปี่ ระเสรฐิ
กวา่ มนษุ ยม์ อี กี ไหม มี สงู กวา่ มนษุ ยม์ อี กี ไหม มี “มนสุ สเทโว” ทงั้ ๆ ทเี่ ปน็ มนษุ ย์ แตจ่ ติ ใจเปน็
เทวดาเหน็ ไหม สงู กว่ามนุษยม์ ีอีกไหม มี “มนสุ สพรหมโณ” ทั้งๆ ทธี่ าตุขันธร์ ่างกายน่ีเปน็
มนษุ ย์แทๆ้ แตจ่ ติ ใจนเี่ ปน็ พรหมน่ะ เหนอื กวา่ นน้ั มีอีกไหม มี “มนุสสโลกตุ ระ” คือ นิพพาน
ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกดิ อกี พ้นออกจากเทวโลก พรหมโลก อนัตตโลก จกั รวาลโลก จนเข้าสู่
โลกตุ ระโลก น้ันเป็นท่ีสดุ

มนั มเี ปน็ ขนั้ เปน็ ตอนไปอยู่ ตงั้ แตส่ วรรคก์ ็ ๖ พรหมโลกก็ ๑๖ จะขนึ้ ไปแตล่ ะชนั้ ๆ อายกุ ็
ยืนไปอีก มนษุ ย์เราน่ะท�ำเอาได้ เราจะเอาไหม เราจะสรา้ งเอาไหม สำ� คัญอยู่ตรงนี้ ก็ใหถ้ าม
จติ ใจของญาตธิ รรมทเ่ี ปน็ พอ่ พระแมพ่ ระทม่ี าสรา้ งบญุ ในวนั นน้ี ะ่ ขอเตอื นใหม้ สี ติ จะเอาอะไร
เอาได้ เอาเลย สำ� หรับตวั หลวงปูไ่ มไ่ ด้หา้ มปรามใครทัง้ สิ้น อยากจะกระโดดลงนรก โดดเลย
ไมม่ ปี ญั หา หรอื อยากจะไปสวรรค์ เอาเลย ไมไ่ ดห้ า้ ม ทกุ คนมสี ทิ ธิ์ ทกุ คนทำ� แลว้ ตอ้ งได้ คนอน่ื
จะไดแ้ ทนไดไ้ มม่ ี เราทำ� อะไรไปเราไดอ้ นั นนั้ แหละ ทกุ สง่ิ อยา่ งมนั มขี องมนั มนั เปน็ ของมนั อยา่ งน้ี
ในโลกอนั นี้ แลว้ กไ็ มม่ ใี ครบนั ดาลใหก้ นั ไดน้ ะ่ เพราะวา่ ยมทตู ยมบาล เขาจารกึ ไวบ้ นแผน่ ดนิ คอื
แผน่ คมั ภรี ใ์ บลานบม้ึ ใหญอ่ ยแู่ ลว้ ปากกาของยมทตู กค็ อื ฝาเทา้ เรานน้ั แหละ เขยี นไว้ นาทนี นั้
เวลานน้ั วันน้ัน จติ ใจเปน็ บุญหรอื เป็นบาป เขาจารึกไว้หมด

ไม่ต้องสงสัยหรอก จะไปปฏเิ สธเหรอ มันปฏเิ สธไม่ได้ มนั เปน็ เรือ่ งจรงิ นรกมีจรงิ
สวรรค์มจี ริง บาปบุญคุณโทษมีจริง

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปสู่ วาท ปัญญาธโร วัดโปง่ จนั ทร์ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี วนั ท่ี ๑๙ ก.พ. ๖๒ (วนั มาฆบูชา)
ในงานพธิ ีอญั เชญิ บรรจพุ ระพุทธรปู แกะสลกั จากหยกพมา่ หินแม่นำ้� โขง, หยกขาว, แรน่ วโลหะ, ขนาดหน้าตกั ๓๐ น้ิว จ�ำนวน ๑๓ องค์

บรรจไุ ว้ในพพิ ธิ ภณั ฑ์ เพอื่ ความเป็นสริ มิ งคลแกช่ ีวิต เปน็ การจารึกชอื่ และคณุ งามความดีของเราน้ฝี ากไว้ในพระพุทธศาสนา
และแผ่นดนิ สบื ต่อไป

89

สำ� คัญอยูต่ รงนี้

กใ็ หถ้ ามจติ ใจของญาตธิ รรมทเี่ ปน็ พอ่ พระแมพ่ ระทมี่ าสรา้ งบญุ ในวนั นน้ี ะ่ ขอเตอื นใหม้ สี ติ
จะเอาอะไรเอาได้ เอาเลย สำ� หรบั ตวั หลวงปไู่ มไ่ ดห้ า้ มปรามใครทง้ั สน้ิ อยากจะกระโดดลงนรก
โดดเลยไมม่ ปี ญั หา หรอื อยากจะไปสวรรค์ เอาเลยไมไ่ ดห้ า้ ม ทกุ คนมสี ทิ ธ์ิ ทกุ คนทำ� แลว้ ตอ้ งได้
คนอน่ื จะไดแ้ ทนไมม่ ี เราทำ� อะไรไปเราไดอ้ นั นน้ั แหละ ทกุ สง่ิ อยา่ งมนั มขี องมนั มนั เปน็ ของมนั
อยา่ งนีใ้ นโลกอนั น้ี แลว้ กไ็ มม่ ใี ครบนั ดาลใหก้ นั ไดน้ ะ เพราะว่ายมทตู ยมบาล เขาจารึกไว้บน
แผน่ ดนิ คอื แผน่ คมั ภรี ใ์ บลานบมึ้ ใหญอ่ ยแู่ ลว้ ปากกาของยมทตู กค็ อื ฝาเทา้ เรานนั้ แหละ เขยี นไว้
นาทนี น้ั เวลานนั้ วนั นน้ั จติ ใจเปน็ บญุ หรอื เปน็ บาป เขาจารกึ ไวห้ มด ไมต่ อ้ งสงสยั หรอก จะไป
ปฏเิ สธเหรอ มนั ปฏเิ สธไมไ่ ด้ มนั เปน็ เรอ่ื งจรงิ นรกมจี รงิ สวรรคม์ จี รงิ บาปบญุ คณุ โทษมจี รงิ
แต่พวกเรานีอ่ ยา่ เนรคณุ พอ่ แม่ก็แลว้ กนั น่ะ

ขอเตอื นกรรมหนกั นะ่ มนั เปน็ อนนั ตรยิ กรรม สง่ิ ทไ่ี มถ่ กู สว่ นมากคนทกุ วนั นช้ี อบไปโกหก
พ่อแม่ เด็กทุกวนั นีต้ ิดยาบ้ายาบอไป ฆ่าพอ่ ฆา่ แมไ่ ป มันเนรคุณ สง่ิ ที่ไม่จริงมนั บอกวา่ เปน็
เรอ่ื งจรงิ ไปพดู โกหกกระทงั่ พอ่ แมต่ วั เองวา่ เปน็ เรอื่ งจรงิ ลกู ทกุ วนั นม้ี นั เปน็ อยา่ งนนั้ นะ่ เหน็ มาก
อยา่ เปน็ กันน่ะ อย่าท�ำกันนะ่ ถา้ ไมม่ ีพ่อมีแมแ่ ล้ว เราไม่ได้เกิดมาหรอก ถา้ เราไมเ่ คยสรา้ งสม
บญุ บารมี “ปพุ เพกตปญุ ญตา” แลว้ อยา่ ฝนั วา่ จะไดม้ าเกดิ ในคราบมนษุ ย์ ไมไ่ ดอ้ ยหู่ รอก กลา้ พดู
ไดเ้ ลยน่ี อยา่ คดิ วา่ จะไดม้ าเปน็ มนษุ ย์ สง่ิ ทมี่ นั ถกู ตอ้ งเปน็ บญุ เปน็ กศุ ล ควรจะพดู สง่ิ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง
ไมใ่ ชบ่ ญุ ไมใ่ ชก่ ศุ ล มนั เปน็ ทางทผ่ี ดิ อยา่ ไปพดู พดู แตใ่ นทางทถ่ี กู ตอ้ ง มนั ถงึ เปน็ บญุ เปน็ กศุ ล
เปน็ ผู้ไม่เนรคณุ พ่อแม่ เปน็ ผไู้ ม่ฆา่ พอ่ แมท่ างอ้อม

ใหเ้ ขา้ ใจนะ่ ทหี่ ลวงปพู่ ดู ใหฟ้ งั เนย่ี เตอื นญาตธิ รรมทกุ คนทมี่ ากราบหลวงปู่ ทเ่ี ขา้ มาเคารพ
หลวงปู่ ใครเคารพก็เขา้ มา ไม่เคารพไม่ตอ้ งเข้ามา โลกมนุษย์นมี้ นั มีมากนะ่ มนษุ ย์น่ะตง้ั แต่
ประเทศไทยกม็ จี ะ ๗๐ ลา้ นคน ทเี่ ขา้ มาวดั โปง่ จนั ทรน์ ก้ี ค่ี น อยา่ ใหพ้ ดู เลย ผทู้ มี่ ศี รทั ธานะ่ กค่ี น
ขนาดหลวงปจู่ ดั งานวันเกดิ นะ่ ญาตโิ ยมที่เขา้ มาวดั มากราบน่ะกค่ี น โอโ้ ห้ มาก พระกแ็ ค่
๓๐๐-๔๐๐ องค์ แตญ่ าตโิ ยมแค่ วะ่ มากไหมญาตโิ ยมนะ่ สดุ ยอดเลยวดั โปง่ จนั ทรเ์ ราน้ี เพราะ
เป็นวดั ลับแล เพราะเป็นเมอื งลับแล ตรงน้มี ันน่าแปลกมาก มนั น่าอศั จรรย์มากทนี่ ่ี

90

เม่ือคืนก็พูดให้โยมพ่อผู้ใหญ่พนมฟัง ที่น่ีเป็นยังไง แต่ไม่อยากจะพูดให้คนอ่ืนฟังมาก
เขาจะโดนเอง เขาจะเสวยเองไมต่ ้องสงสยั ทกุ ส่งิ อย่างมันมีพรอ้ มมูลอยู่ ทกุ ส่งิ อยา่ งเลย ไมม่ ี
เหลือวิสยั หนไี มพ่ ้นอีก แกก้ ็ไมต่ กอีก โน้นละ ถงึ เวลาทยี่ มทูต ยมบาล ถา้ เขาเขา้ มาแตะตัวเรา
เมอื่ ไหร่ เมอ่ื นนั้ แหละจะรแู้ ลว้ อะไรเปน็ อะไร จะเรม่ิ รแู้ ลว้ ทนี ี้ จะกระเสอื กกระสนกระวนกระวาย
ดิน้ รนซะโอ้โห้ย ยมทูตเหรอ ถา้ เขาเขา้ มาแตะท่ศี ีรษะแลว้ เขามาแตะตรงไหน ตรงน้นั แหละ
แยไ่ ปเลยล่ะ เขาไม่หนไี กลเราเลย เงามีตดิ ตามตวั อยฉู่ ันใด ยมทตู ยมบาล เขาตดิ ตวั เราอยู่
ฉันนนั้

จำ� เอาไวเ้ ถอะนะ่ นเ้ี ปน็ สจั ธรรม ขอใหล้ กู หลานทกุ ๆ คนมสี ติ ใหล้ กู หลานทกุ คนมปี ญั ญา
ใหท้ ะลแุ จง้ เห็นจริงน่ะ

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปู่สวาท ปญั ญาธโร วดั โปง่ จันทร์ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี วันที่ ๑๙ ก.พ. ๖๒ (วนั มาฆบูชา)
ในงานพธิ อี ญั เชิญบรรจพุ ระพุทธรูปแกะสลกั จากหยกพม่า หนิ แม่นำ�้ โขง, หยกขาว, แร่นวโลหะ, ขนาดหนา้ ตกั ๓๐ น้วิ จำ� นวน ๑๓ องค์

บรรจุไวใ้ นพพิ ธิ ภัณฑ์ เพ่ือความเป็นสิรมิ งคลแกช่ ีวติ เปน็ การจารึกช่อื และคณุ งามความดีของเรานี้ฝากไวใ้ นพระพุทธศาสนา
และแผน่ ดนิ สบื ตอ่ ไป

91

นรกเขาเปิดคอยอยนู่ ะ่

บอกเอาไว้เตือนเอาไว้ จำ� เอาไว้น่ะ (ค�ำเตือน)

ในตวั เรามพี ระไหม มี เพราะเปน็ องคส์ มมตุ ทิ งั้ นน้ั เสน้ ผมกพ็ ระเกศา ควิ้ กพ็ ระขนง ตาก็
พระเนตร หกู พ็ ระกรรณ จมกู กพ็ ระนาสกิ ปากกพ็ ระโอษฐ์ ฟนั กพ็ ระทนต์ ลนิ้ กพ็ ระชวิ หาใบหนา้
ก็พระพักตร์ ศีรษะก็พระเศยี ร ในตัวเราน้ี คอกพ็ ระศอ หน้าอกก็พระอรุ ะ หัวใจก็พระหทยั
แขนกพ็ ระกร มอื กพ็ ระหตั ถ์ จนถงึ ฝา่ เทา้ กว็ า่ พระบาท รวมหมดในองคพ์ ระอนั เปน็ กองสมบตั ทิ จี่ ะ
เป็นวิมตุ ตนิ ่ี เรยี กวา่ พระวรกาย

รไู้ หมวา่ พอ่ และแมเ่ ราคอื พระอรหนั ต์ ใหข้ องดมี าแลว้ ทกุ สง่ิ อยา่ งสมบตั อิ นั ลน้ โลก กค็ อื
ตวั ตนสกนธก์ ายเรา จะไปสวรรคช์ น้ั ไหนกเ็ ปน็ มนษุ ยเ์ ทา่ นนั้ ทท่ี ำ� ได้ หรอื อยากจะไปนรกกท็ ำ� ได้
กท็ ำ� เอาสมิ นษุ ยน์ ะ่ ถา้ โง่ อยากจะไปพรหมโลกกท็ ำ� เอาสิ อยากจะเดนิ ไปสมู่ รรคนพิ พานกท็ ำ� เอาสิ
อยู่ทตี่ ัวเราหมด อยูท่ โ่ี ลกอนั น้ี โลกธาตอุ ันนี้ก็คอื โลกธรรม โลกธรรมก็คือตัวธรรมชาตกิ ็คอื
ตวั นพิ พานกอ็ ยทู่ น่ี ี้ สรณะกอ็ ยทู่ นี่ ่ี อยา่ ไปคดิ วา่ ไมม่ ใี ครรนู้ ะ่ วา่ เราคดิ อะไรทำ� อะไร มี เขาดอู ยู่
เขาเหน็ อยู่ เขารอู้ ยู่ แตพ่ วกเราเหน็ เขาไหม พวกเราไมเ่ หน็ เขาหรอก แตเ่ ขาเหน็ เราวา่ เราทำ� อะไร
ทำ� ไมจงึ เอาพระเหลา่ น้ี ตวั ตนเรยี กวา่ พระวรกาย เปน็ กายทพ่ี อ่ แมใ่ หม้ า แทนทจี่ ะมาปฏบิ ตั กิ าย
อนั นปี้ ฏบิ ตั ภิ ายในอนั นี้ ปฏบิ ตั พิ ระอนั นใ้ี หส้ มบรู ณแ์ บบใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ ทำ� ไมจงึ เอาพระทม่ี อี ยใู่ นตวั ตน
โลกธาตุอันน้ไี ปท�ำให้เป็นมลทนิ ทำ� ทำ� ไม

องคส์ มเดจ็ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงมามองเหน็ สง่ิ เหลา่ นแี้ หละ จงึ บญั ญตั ศิ ลี ๕ บญั ญตั ศิ ลี ๘
บญั ญัตศิ ลี ๑๐ บญั ญัติศลี ๒๒๗ วันน้เี ปน็ วันมาฆบูชา พระพุทธเจ้าบญั ญัติข้นึ ให้มนุษย์โลก
รตู้ วั อยู่ ใหม้ สี ตปิ ญั ญาเกดิ ขนึ้ อยา่ พากนั มดื อยา่ พากนั บอดสิ มตี าอยแู่ ลว้ ทำ� ไมถงึ ไมด่ ู ทำ� ไมจงึ
ทำ� เป็นคนตาบอด

ฟังใหด้ ีๆ นะ่ อย่าพากันมดื บอดดว้ ยกองอวชิ ชา ถ้าเราเอาพระเหลา่ นไ้ี ปท�ำใหเ้ ป็น
มลทนิ ละ่ จะเปน็ การบชู าสรรเสรญิ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆไ์ หม ถา้ เราทำ� ในทไี่ มด่ ลี ะ่
ทำ� ใหส้ งิ่ เหลา่ นใี้ หเ้ ปน็ มลทนิ ทำ� ไม เอาพระไปใหแ้ ปดเปอ้ื นทำ� ใหเ้ ปน็ มลทนิ ทำ� ไม นรกเขา
เปิดคอยอยู่นะ่ บอกเอาไวเ้ ตอื นเอาไว้

92

อยา่ คดิ วา่ ตวั เองนว้ี เิ ศษวโิ ส เปลา่ เลย มใี ครบา้ งไมต่ ายนะ่ มใี ครเปน็ อมตะ ทกุ สงิ่ อยา่ งลว้ น
อยใู่ นหลกั กฎเกณฑข์ องธรรมชาตทิ งั้ นน้ั อยา่ ไปเขา้ ใจวา่ อนั น้ี ขากู แขนกู ตวั กู สมบตั พิ สั ถาน
กข็ องกู
องค์สมเดจ็ สมั มาสัมพทุ ธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ว่า ดกู รพทุ ธบรษิ ัท ๔ ถงึ จะเปน็ คฤหบดี
ผมู้ สี มบตั อิ นั มหาศาล จะสามารถทำ� กจิ การไดเ้ งนิ มามากมายกา่ ยกอง กองตง้ั แตพ่ น้ื แผน่ ดนิ
โลกอนั น้ีจนถึงโลกพระอาทิตย์ เราตถาคตตรัสวา่ เศษขยะของโลก กองมูตรคูถของโลก
เท่านนั้
จำ� เอาไวน้ ะ่ คำ� เตอื นของพระพทุ ธเจา้ ตรสั เอาไว้ ลว้ นแตเ่ ปน็ กองมตู รคถู ทง้ั นน้ั เปน็ ของ
เหมน็ สาปสางทงั้ นน้ั มนั เปน็ ของทมี่ อี ยใู่ นโลกอนั น้ี วนั เดอื น คนื หรอื ปี มอี ยแู่ ลว้ ฉนั ใด อนั เปน็
เรอ่ื งอจนิ ไตย ทกุ สง่ิ อยา่ งมนั กอ็ ยใู่ นหลกั ของธรรมชาตทิ กุ สง่ิ อยา่ งเลย ไมม่ ใี ครแบกไปไดห้ รอก
เห็นคนตายแล้วแบกไปไดไ้ หม จำ� ค�ำเตือนของหลวงปเู่ อาไว้น่ะ หลวงปไู่ ม่คอ่ ยจะพูดหรอกอยู่
ทน่ี ี้นะ่
ทอ่ี นื่ พดู พดู ไมเ่ คยลดละ ไปหาครอู าจารยท์ หี่ มดบญุ ไปแลว้ ใหข้ นึ้ ไปแสดงธรรม กแ็ สดง
ธรรมอนั นี้ ตอ้ งการใหร้ ใู้ หร้ กั ษาตวั เราวา่ ตวั เราเปน็ พระทง้ั องค์ เอาพระไปทำ� ลายทำ� ไม ทำ� ลาย
ภพทำ� ลายชาตติ วั เอง เขา้ ใจไหม ภพชาตทิ จ่ี ะอบุ ตั ขิ น้ึ มาในวนั ขา้ งหนา้ ละ่ โนน่ มหาอเวจโี นน้ เปน็
ทเ่ี กดิ นะ่ อยา่ ฝนั เลยนะ่ วา่ จะไดเ้ กดิ เปน็ มนษุ ย์ ถา้ หากเรามสี ตสิ มั ปชญั ญะ ฟงั แลว้ กใ็ หร้ บี ปฏบิ ตั ิ
ตวั เองซะ กลบั เถอะ กลบั ในสง่ิ ท่ีไมด่ ใี หด้ ขี ้ึนมา ทวยเทพยงั สรรเสริญนะ่ ผู้ทก่ี ลับน่ะ
แมแ้ ตอ่ งคส์ มเดจ็ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ : “ภกิ ษุ พวกเธอทำ� ผดิ อยา่ งนน้ี ะ่ ตอ่ ไปอยา่ กระทำ�
ถา้ พวกเธอสำ� นึกแล้ว เราอโหส”ิ จึงไดบ้ ญั ญัตพิ ระวนิ ัยศลี ๒๒๗ ขอ้ ขน้ึ
จ�ำเอาไวน้ ่ะ คำ� เตือน

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปสู่ วาท ปัญญาธโร วดั โปง่ จนั ทร์ อ.เขาคิชฌกฏู จ.จนั ทบรุ ี วันที่ ๑๙ ก.พ. ๖๒ (วันมาฆบชู า)
ในงานพธิ ีอัญเชิญบรรจพุ ระพทุ ธรูปแกะสลกั จากหยกพมา่ หินแม่น้ำ� โขง, หยกขาว, แร่นวโลหะ, ขนาดหน้าตกั ๓๐ นิ้ว จ�ำนวน ๑๓ องค์

บรรจไุ วใ้ นพพิ ธิ ภณั ฑ์ เพอื่ ความเป็นสิรมิ งคลแกช่ ีวติ เป็นการจารึกชือ่ และคุณงามความดขี องเรานีฝ้ ากไวใ้ นพระพทุ ธศาสนา
และแผน่ ดินสบื ตอ่ ไป

93

ธรรมะจากเรอ่ื งโรคระบาด (โรคระบาด COVID-๑๙)

โรคเหลา่ นมี้ นั มตี ง้ั แตไ่ หนแตไ่ รมา โรคโคขวดิ ใชไ่ หม (หลวงปแู่ ละโยมหวั เราะ) โอโห้ จะเปน็
ววั หรอื เป็นควาย เขามนั กแ็ หลม นก่ี เ็ คยโดนควายมนั ไลข่ วดิ มาเหมอื นกนั นะ ตามท้องนาน่ี
เห็นเหลืองๆ น่ี แหม๊ ถอดจีวรได้กท็ ิ้งใส่หัวมันเลยว่ะ พอมนั วิ่งผ่านไป มึงหยุดท�ำไมละ นน่ั
ผ้าเหลืองกนู ะ ควายหยดุ เลย โรคโคขวดิ (หลวงปู่และโยมหวั เราะ) เดยี๋ วก็ว่า โรคไขห้ วัดนก
โรคไขห้ วัดหนู สารพัดโรคทม่ี นั จะตง้ั ขน้ึ ทม่ี นั จะสมมตุ ขิ ้นึ

โรคเหลา่ นม้ี นั มอี ยแู่ ลว้ ในโลก มนั ทำ� ไมถงึ ไมด่ วู า่ โรคทมี่ นั เวยี นวา่ ยตายเกดิ อยนู่ ่ี มนั ทำ� ไม
ถงึ ไมด่ ู จะมารกั ษาโรคขา้ งนอกแคน่ เ้ี หรอ ทำ� ไมไมร่ กั ษาโรคขา้ งในใหม้ นั พน้ ออกไป กม็ นั ปว่ ย
ทกุ วนั นี้ มนั ปว่ ยกลบั ๆ เกดิ ๆ นเี่ หน็ ไหมน่ี ทกุ สงิ่ อยา่ งมนั กเ็ กดิ ขนึ้ มา มนั กด็ บั ของมนั อยเู่ รอ่ื ยๆ
เกดิ ดบั เกดิ ดบั อยอู่ ยา่ งน้ี เหมอื นกบั ลมหายใจเขา้ เรา มนั ออกกด็ บั หายใจเขา้ มนั กเ็ กดิ แตไ่ อท้ ่ี
มันเกิดมานี่ กี่ภพกชี่ าติกกี่ ัปก่กี ัลป์แล้ว ท่ไี ด้มาเปน็ มนษุ ยน์ ี่ ยงั จะมาเจบ็ มาป่วย มาเปน็ สัตว์
เดรจั ฉานกภ่ี พกชี่ าตกิ กี่ ปั กก่ี ลั ปแ์ ลว้ เรากย็ งั ไมร่ อู้ กี มาจากภพไหนกย็ งั ไมร่ ู้ ตายไปแลว้ จะไปอยู่
ภพไหนกย็ งั ไมร่ อู้ ีก รูแ้ ต่ว่าเปน็ มนุษยแ์ ลว้ กจ็ ะตาย ท�ำไมไม่ดูโรคอันน้ี ถ้าจะมารักษาโรคตอ้ ง
มารกั ษาโรคน้ี โรคทกุ อยา่ งจะดบั หมด

เขา้ ใจไหมโรคนี่ โรคอนั นม้ี นั เปน็ แตเ่ พยี งโรคธรุ กจิ อนั หนงึ่ ทเ่ี ขาตง้ั ขนึ้ เดย๋ี วกม็ ะเรง็ รกั ษา
ยากมาก โรคหวั ใจวาย มนั ชอ็ ค (หลวงปแู่ ละโยมหวั เราะ) แลว้ กโ็ รคเอดส์ รกั ษายากมากโรคเหลา่ น้ี
แรงมากเดยี๋ วน้ี เชอื้ มนั รนุ แรง ตดิ แลว้ ตายกนั วนั ละเทา่ นน้ั เทา่ น้ี วนั หนง่ึ คนเกดิ มากนอ้ ยเทา่ ไหร่
ในโลกอนั นี้ แลว้ คนตายมากหรอื นอ้ ยเทา่ ไหรใ่ นโลกอนั นี้ สรรพสตั วท์ ไ่ี มใ่ ชม่ นษุ ยล์ ะ ตายมาก
นอ้ ยเทา่ ไหร่ แตล่ ะวนั เกดิ มากนอ้ ยเทา่ ไหร่ เราเหน็ ไหม มนั กม็ ขี องมนั อยอู่ ยา่ งน้ี มนั มขี องมนั
เปน็ ของมันอยูอ่ ยา่ งนี้

น้คี ือเร่อื งของโลก เข้าใจไหมลูก เราอยา่ ไปฟงั มงคลต่นื ขา่ วมากนัก ฟังหูไว้หู ทเุ รยี นปี
น้มี ันเกดิ ถูกโรคไวรัสอนั น้ี ราคามนั จะตก แล้วก็ปากต่อปากทนี ี่

(แลว้ หลวงปยู่ กตวั อยา่ งใหฟ้ งั ) กานเี่ มอ่ื เวลามนั จะรอ้ ง มนั จะเอาจะงอยปากของมนั นเ่ี ชด็
“โอย้ กาเชด็ สบวา่ ซนั่ เด”้ (“สบ” ภาษาอสี าน แปลวา่ ปาก) แตผ่ เู้ วา้ เพย้ี นตอ่ ไปอกี กเ็ ปน็ “กา ๗ สบ

94

วา่ ซน่ั ” กามปี ากตั้ง ๗ ปาก ไปแปลไปจ่งั ซั่นอกี เด้ทนี ี่ ทแี่ ทม้ นั มีปากเดยี วนั่นนะ มนั เอาปาก
ของมนั นะ เอาจะงอยปากของมนั นะเชด็ ขนของมนั ชำ� ระความสะอาดของมนั เทา่ นนั้ วา่ “เชด็ ”
ตัวนนั้ กลายเปน็ “๗” ไปซะอย่างนั้น อนั นีม้ ันกล็ ักษณะเดียวกนั แหละลกู เขา้ ใจนะ

เขาวา่ มนษุ ยน์ เี่ ปน็ สตั วใ์ จสงู เขาพดู อะไรกเ็ ชอื่ ไปหมด ทำ� ไมไมเ่ ชอ่ื พระสพั พญั ญอู งคส์ มั มา-
สมั พุทธเจา้ นแี้ หละบางทถี งึ ไดไ้ ปพดู มีคนมาถามทราบขา่ วมาว่าหลวงปปู่ ว่ ย ป่วยเป็นอะไร”

หลวงปู่ : เป็นหวั ใจเดาะ คดิ ถงึ หมอสาวๆ ว่ะ (พูดใหม้ ันจบไปซะ ให้มนั สุดไปเลยวะ่ )

โยม : พระกห็ วั ใจเดาะเปน็ ด้วยเหรอ

หลวงปู่ : หลวงป่ยู ังบ่ทันตายเด้ ผไู้ ดง๋ ามปกู่ ะฮูเ้ ด้ ผูไ้ ด๋บ่งามปู่กะฮเู้ ด้ (หลวงปแู่ ละโยม
หวั เราะ) แต่ปูบ่ ่ไดเ้ อางามผวิ กายเด้ ปเู่ อางามใจเด้ บไ่ ด้เอางามกายคือพวกเจ้าเด้ว่ะ มันคน
ละงามเด้ว่ะ (หลวงปู่และโยมหวั เราะ) บางคนว่าใบหน้างาม ใจนะงามไหม ใครจะมองเห็นละ
มนั สำ� คญั อยตู่ รงนี้ บางคนใบหนา้ ขเี้ หร่ หนา้ แปว้ หนา้ บาก แตจ่ ติ ใจของเขานมี่ นั งามมาก (“แปว้ ”
แปลว่า ต�ำหนิ เรียก แปว้ แผลทีห่ ายแลว้ แตย่ งั มรี อยปรากฏขนาดเลก็ เรยี ก แป้ว) มีอะไรเปน็
หลกั ฐานพอจะเทยี บใหฟ้ งั ทำ� ไมองคส์ มเดจ็ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ จงึ ไปโปรดพวกจณั ฑาลท่ี ๕ อนั เปน็
วรรณะที่ ๕ ของเมอื งแขก พระราชาพระมหากษตั รยิ ์ แมแ้ ตค่ ฤหบดมี แี กว้ แหวนเงนิ ทองมากมาย
ก่ายกอง แตเ่ วลาไปโปรดกลบั ไปโปรดพวกวรรณะที่ ๕ ทีน่ อนตายอยู่ขา้ งถนนเหมอื นกบั หมา
ทเี่ ขาทง้ิ แลว้ ยงั สามารถเอาสรรพสตั วพ์ วกนน้ั มนษุ ยพ์ วกนน้ั นะ อยา่ งตำ่� กไ็ ปสวรรคไ์ ด้ ไปเปน็
เทพเจา้ ได้ หรอื ปฏบิ ตั ติ ามไดก้ เ็ ขา้ สพู่ รหมโลก เหนอื พรหมโลกไปกเ็ ขา้ สพู่ ระนพิ พานไดน้ ี่ เหน็ ไหม
แต่มันก็ยังไม่หมด มนั ยังมีอย่นู ะ พระพทุ ธเจ้ามาขนเอาแต่ละพระองค์นีข่ นเขา้ สูน่ ิพพานมาก
เท่าไหร่ก็ยังไม่หมด มนุษยม์ ันแออดั มันไม่ใช่แออดั แค่แตโ่ ลกมนุษย์ นรกก็ยงิ่ แออดั ข้าวสาร
อยใู่ นกระสอบทว่ี า่ แออดั ตดิ กนั อยู่ วญิ ญาณมากกวา่ นน้ั อกี ทแ่ี ออดั กนั อยู่ แตไ่ มเ่ หน็ กนั ไมใ่ ช่
แตน่ รก ถา้ หากอยสู่ วรรคอ์ กี ละ พวกนางฟา้ ทเี่ ตน้ รำ� อยกู่ ลบี บวั กลบี เดยี วทบี่ านออกดสู ิ กลบี บวั
กลีบเดยี วเป็นหม่ืนๆ แสนๆ ยงั เต้นรำ� กันอย่ไู ด้ จติ วิญญาณนะ มันไมใ่ ชต่ ้ังลานเตน้ ซะเมอื่ ไหร่
กลบี บวั กลบี เดยี วนะ เปน็ หมนื่ เปน็ แสนไปอยกู่ นั ยงั ไง (หลวงปชู่ ใี้ หไ้ ปดทู ด่ี อกบวั ทก่ี ำ� ลงั บานอยู่
หน้ากุฏิท่าน) แหม๊ พูดมากข้ึนมาอีกแลว้ ก็เพราะโรคอนั น้แี หละ

โยม : ถอื วา่ แถมครับหลวงปู่ (หลวงปแู่ ละโยมหวั เราะพอใจ)

พระธรรมเทศนา/ข้อคดิ เตือนใจ/อบุ ายธรรมหลวงปสู่ วาท ปัญญาธโร วดั โป่งจันทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกูฏ จ.จนั ทบรุ ี

95

เร่อื งเล่าสมัยหลวงป่ตู ื้อ

ถา้ ไปอา่ นในตำ� รานมี่ นั ปวดหวั ปลายปากกาทเ่ี ขาเขยี นลงในหนงั สอื นเ่ี ปน็ เลม่ ๆ เปน็ กองๆ
มนั กข็ องเกา่ ของเดมิ นน่ั แหละ พยญั ชนะก็ ๔๔ ตวั สระก็ ๒๑ ตวั ลองเอา ๔๔x๒๑ ดสู เิ ปน็ เทา่ ไหร่
เปน็ ๙๒๔ คำ� ใช่ไหม ๙๒๔ เสียง สลบั ซับซ้อนกันอย่นู ั้น วนุ่ วายกันอยูน่ ้นั ละ คำ� พดู มีอยูแ่ ค่
๙๒๔ ใชไ่ หม ทำ� ไมเวลาเขยี นลงในแตล่ ะเลม่ ๆ มนั ถงึ กองเบอ้ เรม่ิ เทมิ่ อา่ นเทา่ ไหรม่ นั กไ็ มห่ มด
ไมจ่ บ คยุ กนั เทา่ ไหรม่ นั กไ็ มจ่ บ ทง้ั ทคี่ ำ� พดู กม็ แี ค่ ๙๒๔ คำ� เทา่ นนั้ (หมายถงึ เรยี นเอาแตต่ ำ� รา
ภายนอก แตไ่ มไ่ ด้ปฏบิ ัติเอาความรู้ภายใน)

โยม : สรปุ เปน็ งวดนีเ้ หรอครับหลวงปู่

หลวงปู่ : เอาอกี แลว้ ไปอกี แหลว่ ออกนอกทางไปอกี แลว้ โอย้ (หลวงปแู่ ละโยมหวั เราะ)
ทำ� ไมพดู จนตายก็ไม่จบ เคยพจิ ารณากันไหม ๙๒๔ ค�ำพดู ออกเสียงพยัญชนะ ออกเสยี งสระ
แค่ ๙๒๔ คำ� พูดเทา่ นั้น ทำ� ไมเขยี นใสก่ ระดาษมันถึงไมจ่ บ พอท่จี ะให้รู้ในค�ำสมมุติท้งั หลาย
กองสมมุตทิ ้ังหลาย มนั ไมส่ น้ิ สดุ นะ ถ้าว่าปราชญห์ รือบัณฑติ โตข้ึนมาหนอ่ ย เขียนจารกึ
บนั ทกึ ลงก็ไดก้ องเบ้อเริ่มเทิม่ เลย แต่ละองคก์ ็เปน็ คำ� พูด อกั ขระ พยญั ชนะ ซำ้� ค�ำเก่าอยู่
เหมอื นเดมิ มนั มีของใหมข่ น้ึ ท่ีไหน นลี้ ะหลวงปูต่ อ้ื ทา่ นถงึ ไปเทศนม์ นั มีพวกมหาเปรียญไป
ต่อว่าทา่ นวา่ “หลวงตาน่ี มแี ต่พดู เร่ืองเกา่ ๆ ของเก่าๆ ทำ� ไมไม่เอาของใหมข่ ึน้ ”

หลวงปตู่ อ้ื : อืม ทา่ นปราชญ์บัณฑิตนี่ คืออาจารย์มหานี่ ท่านวา่ ทา่ นมีของใหม่ๆ เอา้
ยังง้นั วนั น้ีกใ็ หท้ า่ นอาจารยม์ หาขึ้นเทศน์นะ

พอมหาเปรยี ญขนึ้ ธรรมาสนป์ บ๊ั กไ็ ปอาราธนาตงั้ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต ฯลฯ หลวงปตู่ อื้
เลยร้องเสยี งดังทักขึ้นมาวา่ “หยดุ๊ หยุด ไสคอื วา่ สิเทศน์ของใหม่ๆ คอื เอานะโมตัวเก่าๆ อยู่”
มหาเปรยี ญลงธรรมาสนไ์ ปเลย (หลวงปแู่ ละโยมหวั เราะ) เพราะอะไรละ เพราะคำ� สอน หรอื วา่
คำ� พดู นะมแี ค่ ๙๒๔ คำ� จะเอาใหมม่ าแตไ่ หน นะโมกน็ ะโมคำ� เกา่ ถา้ วา่ บญั ญตั ขิ น้ึ มาใหมแ่ ตท่ างไหน
การทเ่ี ราจะสลบั อกั ขระ พยญั ชนะ ใหม้ นั สลบั ซบั ซอ้ นไป มนั ถงึ มาก คำ� เกา่ นน้ั แหละยำ้� แลว้ ยำ�้ อกี
เหยียบแล้วเหยียบอีก มันกย็ งั ไมเ่ ขา้ ใจกันนะ มันท�ำไมละ

โอวาทค�ำสอนหลวงปู่สวาท ปัญญาธโร วดั โปง่ จันทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคชิ ฌกฏู จ.จันทบุรี

96

โรค ๑๖ ประการ

เรารกั ษาโรคไมถ่ กู ไม่ถูกทาง จึงพากนั ปว่ ยอยมู่ าในภพชาตนิ ี้

รวู้ า่ ตวั เองปว่ ยไหม ถา้ ฉนั ปว่ ยฉนั กน็ อนโรงพยาบาลสคิ ะ่ ฉนั จะมานง่ั ฟงั ทำ� ไม หลวงตา
พดู อะไรแปลกๆ เดย๋ี วก็จะมาต่อวา่ อกี เราปว่ ยจริงๆ น่ะ โรคทป่ี ว่ ยนะ่ มนั มีอยู่ ๑๖ ประการ
โรคท่ีเบยี ดเบยี นพวกเรานะ่ โรคอะไรบา้ ง เอดส์ มะเรง็ ใชไ่ หม ไม่พูด อนั น้มี นั โรคประจ�ำ
กระแสโลก โรค ๑๖ ประกาศ ทอี่ งคส์ มเด็จพระสัมมาสมั พุทธเจ้าเป็นผปู้ ระกาศบอกเอาไว้ใน
ธรรมวนิ ัย โรค ๑๖ ประการ มอี ะไรบ้าง

๑. อภชิ ฌาวสิ มโลภะ : ละโมบดว้ ยความไมส่ มำ�่ เสมอ คอื ความเพง่ เลง็ (อยากได้ อยากมี
อยากเป็นอยา่ งไม่รู้จักพอ เหน็ แก่ได้จนลมื ตัว)
๒. โทสะ : รา้ ยกาจ ( มงุ่ จะทำ� รา้ ยเขา ใครพดู ไมถ่ กู ใจกค็ ดิ ตำ� หนเิ ขา คดิ จะทำ� รา้ ยฆา่ เขากม็ ี
บางครงั้ ทำ� รา้ ยผอู้ นื่ ไมไ่ ด้ กห็ นั มาตำ� หนติ วั เอง ทำ� รา้ ยตวั เอง จนฆา่ ตวั ตายกม็ ี ซง่ึ เปน็ เพราะอำ� นาจ
พยาบาท เป็นอาการอย่างหน่งึ ของโทสะ)
๓. โกรธะ : โกรธ (มอี ะไรมากระทบกโ็ กรธ เปน็ ลกั ษณะโกรธงา่ ย แตเ่ มอื่ หายแลว้ กเ็ หมอื น
กับไมม่ อี ะไรเกดิ ข้นึ คือไมผ่ ูกใจเจ็บ ไมพ่ ยาบาท เป็นอาการอย่างหน่ึงของโทสะ)
๔. อปุ นาหะ : ผกู โกรธไว้ (ใครพดู อะไรทำ� อะไรใหเ้ กดิ ความโกรธแลว้ จะผกู ใจเจบ็ เกบ็ ไว้
ไมป่ ลอ่ ย ไมล่ มื เปน็ ทกุ ขอ์ ยอู่ ยา่ งนน้ั กระทบอารมณเ์ มอ่ื ไร กเ็ อาเรอื่ งเกา่ มาคดิ รวมกนั คดิ ทวน
เร่ืองในอดีตวา่ เขาเคยทำ� ไมด่ ีกับเราขนาดไหน เปน็ อาการอยา่ งหนึง่ ของโทสะ)
๕. มกั ขะ : ลบหลคู่ ณุ ทา่ น (ปดิ บงั ความดขี องผอู้ น่ื ลบหลคู่ วามดขี องผอู้ นื่ เชน่ เขาใหข้ อง
แกเ่ ราแทนทจ่ี ะขอบคณุ กลบั นกึ ตำ� หนเิ ขาวา่ เอาของไมด่ มี าให้ หรอื เมอื่ มใี ครพดู ถงึ ความดขี องเขา
เราทนไมไ่ ด้ เราไมช่ อบ จงึ ยกเรอ่ื งทไี่ มด่ ขี องเขามาพดู เพอ่ื ปฏเิ สธวา่ เขาไมใ่ ชค่ นดถี งึ ขนาดนนั้
เปน็ ตน้ )
๖. ปลาสะ : ตเี สมอ ยกตนเทยี บทา่ น (ไมย่ อมยกใหใ้ ครดกี วา่ ตน แตช่ อบยกตวั เองดกี วา่ เขา
มกั แสดงใหเ้ ขาเหน็ ว่าเราคดิ เกง่ กว่า รดู้ กี ว่า ถา้ ใหเ้ ราทำ� เราจะทำ� ให้ดีกวา่ เขาได)้
๗. อสิ สา : รษิ ยาเหน็ เขาไดด้ กี ท็ นอยไู่ มไ่ ด้ (เมอ่ื เหน็ เขาไดด้ มี ากกวา่ เรา เขาไดร้ บั ความรกั
ความเอาใจใส่มากกว่าเรา เรารสู้ ึกนอ้ ยใจ อยากจะได้เหมือนอย่างเขา ความจริงเราอาจจะมี
มากกวา่ เขาอยแู่ ลว้ หรอื เรากบั เขาตา่ งกไ็ ดร้ บั เทา่ กนั แตเ่ รากย็ งั เกดิ ความรสู้ กึ นอ้ ยใจ ทนไมไ่ ด้
ก็มี)

97

๘. มจั ฉรยิ ะ : ความตระหน่ี (ขเี้ หนยี ว เสยี ดายของ ยดึ ในสงิ่ ของทเี่ ราครอบครองอยอู่ ยา่ ง
เหนยี วแนน่ อยากแตจ่ ะเกบ็ เอาไว้ ไม่อยากให้ใคร)
๙. มายา : ความเจา้ เลห่ เ์ พทบุ าย (ไมจ่ รงิ ใจ หรอื บางกรณใี จเราคดิ ตำ� หนติ เิ ตยี นเขา แตก่ ลบั
แสดงออกดว้ ยการพดู ชน่ื ชมอยา่ งมาก หรอื บางทเี ราไมไ่ ดม้ คี วามรมู้ าก แตข่ อคยุ แสดงวา่ รมู้ าก
เป็นตน้ )
๑๐. สาเถยยะ : ความโออ้ วด (หลอกลวงเขา ชอบอวดวา่ ดกี วา่ เขา เกง่ กวา่ เขา พยายาม
แสดงใหเ้ ขาเห็นเพือ่ ใหเ้ ขาเกิดอิจฉาเรา เมอ่ื ไดโ้ ออ้ วดแลว้ มีความสุข)
๑๑. ถมั ภะ : ความหวั ดอื้ ถอื รน้ั (ความกระดา้ ง ยดึ มน่ั ถอื มน่ั ในตวั เอง ใครแนะนำ� อะไรให้
กไ็ ม่ยอมรับฟัง)
๑๒. สารมั ภะ : ความแขง่ ดี ( มงุ่ แตจ่ ะเองชนะเขาอยตู่ ลอด จะพดู จะทำ� อะไรตอ้ งเหนอื กวา่
เขาตลอด เชน่ เมอ่ื พดู เถยี งกนั กอ็ า้ งเหตผุ ลตา่ งๆ นานา เพอื่ เอาชนะใหไ้ ด้ ถงึ แมค้ วามจรงิ แลว้
ตัวเองผดิ กไ็ ม่ยอมแพ้)
๑๓. มานะ : ความถือตัว (ทะนงตน)
๑๔. อติมานะ : ความดูหมิน่ ทา่ น (ความถอื ตัววา่ เราดียงิ่ กว่าเขา ท�ำให้ดถู ูกดูหมิ่น
คนอ่นื )
๑๕. มทะ : ความมวั เมา (หลงวา่ ยงั เปน็ หนมุ่ เปน็ สาว ยงั ไมแ่ ก่ ยงั ไมต่ าย หลงในอำ� นาจ
หลงในตำ� แหน่ง คดิ ว่าเราจะเป็นอยา่ งนี้ตลอดไปแลว้ ท�ำอะไรเกินเหตุ)
๑๖. ปมาทะ : ความประมาทเลินเลอ่ (ไม่คดิ ใหร้ อบคอบ อาการที่ขาดสติ ขาดปัญญา)

โรค ๑๖ ประการนี้ มนั ทำ� ใหเ้ ราตกอยใู่ นวฏั จกั รวนเวยี นกภ่ี พกชี่ าตแิ ลว้ เราปว่ ย เกดิ ๆ ตายๆ
วนเวยี นอยนู่ ้ี กเ็ พราะโรคเหลา่ น้ี โรค ๑๖ ประการนี้ ทำ� ใหเ้ ราตกอยใู่ นวฏั สงสารอนั น้ี เรารกั ษา
โรคไมถ่ กู ไมถ่ กู ทาง จงึ พากนั ปว่ ยอยมู่ าในภพชาตนิ ้ี พากนั มาปว่ ยกนั อกี จะปว่ ยกนั ไปกภ่ี พกชี่ าติ
กกี่ ัปกี่กลั ป์ ท่จี ะเกดิ ๆ ตายๆ อยนู่ ี้

เราปว่ ยจรงิ ไหม โรคเหลา่ น้ี เราปว่ ย ใจเราปว่ ยหรอื เปลา่ อา่ นใจตวั เองสิ เอาใจอา่ นกาย
ตวั เองสิ เอาใจอา่ นวาจาคำ� พดู ทพี่ ดู ออกไปสิ ดใู หม้ นั เหน็ มนั มอี ยปู่ ระจำ� โลกไมใ่ ชเ่ หรอ ทำ� ไม
ถึงไมเ่ หน็ ท้งั ๆ ทร่ี ทู้ �ำไมถึงไมร่ ู้ ความร้เู หลา่ นม้ี ันมีอยู่แล้วประจำ� หมด แม้แต่ตวั ตนสกนธ์กาย
ของตวั เองเป็นกอ้ นธรรมกย็ ังไม่รู้

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปสู่ วาท ปัญญาธโร วดั โป่งจนั ทร์ ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จนั ทบุรี

98

เหน็ ยาแกโ้ รคหรือยงั

อยา่ พากันหลงกนิ ยาผิดนะ่ สนฺตมิ คคฺ เมว พฺรหู ย สูจงมองพูน ดทู างแห่งความสงบสิ
เหน็ ไหม โลกามสิ ํ ปชเห สนตฺ เิ ปกโฺ ข ผเู้ พง่ ความสงบ พงึ ละโลกามสิ โลกามสิ กค็ อื รปู อนั นา่
ปรารถนา น่าใครน่ า่ ชอบใจ เสียง อันนา่ ปรารถนา นา่ ใคร่น่าชอบใจ กล่ิน อันนา่ ปรารถนา
น่าใคร่น่าชอบใจ รส อันน่าปรารถนา น่าใครน่ า่ ชอบใจ โผฏฐัพพะ อันน่าปรารถนา น่าใคร่
นา่ ชอบใจ ก็คือ “อินทรยี สงั วร” กร็ ักษาตัวเรา วิรตั ิ ก็คือให้รกั ษาตัวเรา (คอื ศลี ) สว่ นมาก
ทกุ วันนี้มันมเี บยี ดเบียนกนั กผ็ ดิ ศีลอยู่แลว้
ค�ำวา่ เบยี นเบียด ปาณาติปาตา อย่าเอาพระคุณของพ่อแม่ทำ� ให้ตกไปสิ คืออยา่ ทำ� ลาย
พดู งา่ ยๆ ไมส่ งสารพอ่ แมเ่ ราบา้ งเหรอ ทา่ นใหอ้ าการ ๓๒ เปน็ ตวั เปน็ ตน ทำ� ไมจงึ ไมเ่ มตตาพอ่
และแม่ พ่อและแม่ใหข้ องดีมาแลว้ ของวิเศษ เปน็ แก้วสารพดั นกึ อยากได้อะไรท�ำเอาสิ ไมใ่ ช่
เอาทา่ นไปทำ� ในทางทผี่ ดิ ทำ� พระคณุ ของทา่ นใหด้ า่ งพรอ้ ยทำ� ไม ทำ� ใหพ้ ระคณุ ของพอ่ ของแม่
เปน็ มลทินทำ� ไม ก็เราเอาตวั เราน้ีแหละไปทำ� ลาย ไปทำ� ในทางทผี่ ดิ มนั จะเปน็ บาปหรอื บุญ
จะเปน็ คณุ หรือโทษ คดิ เองนะ่
นล้ี ะ่ เปน็ ยาดี เปน็ วริ ตั ิ คอื ศลี ๕ ศลี ๑๐ นแี่ หละ ทพ่ี วกเรามาทำ� กนั อยนู่ ้ี เรามาแสวงบญุ
ไมใ่ ชเ่ หรอ เรามาปฏบิ ตั ติ วั ของเราเพอื่ ทดแทนพระคณุ ของพอ่ ของแมไ่ มใ่ ชเ่ หรอ ทดแทนพระคณุ
ไม่ใช่ว่าเอาเงินเอาทองไปกองไว้ท่วมตัวท่าน หรือว่าไปเอาตัวท่านมานั่งบนศีรษะ อาบน�้ำ
ป้อนข้าวป้อนน้�ำ ช�ำระให้ท่านสะอาด มันไม่ใช่ (แค่น้ัน) เราปฏิบัติพระคุณอันย่ิงใหญ่นี้
เห็นไหมอยใู่ นตวั เราน่ี ปฏิบัติตวั ของเราคือกายวดั อันน้ี เข้าใจไหม
ยงั เปน็ แกว้ อกี คอื เปน็ สรณะเหน็ ไหม พากนั ไปแสวงหาสรณะ อาจารยโ์ นน้ โดง่ ดงั โวย้ คงจะ
เป็นสรณะกู อาจารย์โน้นดโี ว้ย เดน่ โว้ย เอาแลว้ วง่ิ ตามแล้ว วิง่ หา
พอไดไ้ ปกราบ ไมไ่ ดเ้ ขา้ กราบใกลๆ้ พอเหน็ พระกดี กนั หนอ่ ย โอโ้ ห้ ทศกณั ฐ์ (เอาอกี แลว้
ไปวา่ พระอกี ) แอะ๊ มนั อะไรกนั แนเ่ วย้ ไมร่ หู้ รอื ยงั ไงวา่ กมู าทำ� บญุ เงนิ กมู กี กู จ็ ะมาทำ� กมู าตง้ั ไกล
กูตงั้ ใจว่ากจู ะมากราบใกลแ้ ตไ่ มไ่ ดก้ ราบ (บน่ อีกแลว้ )

99


Click to View FlipBook Version