The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้เทอม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนการจัดการเรียนรู้เทอม 1

แผนการจัดการเรียนรู้เทอม 1

ใบงานที่ 3.3 พัฒนาการด้านเศรษฐก ิจและสังคมสมัยธนบุรี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค ำถำมต่อไปนี้ 1. เพรำะเหตุใด สภำพเศรษฐกิจในสมัยธนบุรีในระยะแรกนั้น จึงมีภำวะวิกฤตเข้ำขั้นรุนแรง 2. สมเด็จพระเจ้ำตำก (สิน) ทรงมีวิธีแก้ปัญหำเฉพำะหน้ำเพื่อบรรเทำควำมอดอยำกของรำษฎรอย่ำงไร 3. สมเด็จพระเจ้ำตำก (สิน) ทรงมีนโยบำยในกำรแก้ไขปัญหำเศรษฐกิจอย่ำงไรบ้ำง 4. โดยภำพรวมแล้ว สภำพเศรษฐกิจสมัยธนบุรีมีลักษณะอย่ำงไร 5. ฐำนะของพระมหำกษัตริย์ในสมัยกรุงธนบุรีเป็นอย่ำงไร แตกต่ำงจำกสมัยกรุงศรีอยุธยำหรือไม่ จงอธิบำย 6. ลักษณะโครงสร้ำงทำงสังคมของกรุงธนบุรี มีประโยชน์อย่ำงไรต่อกำรเมืองกำรปกครอง 7. ชนชั้น “มูลนำย” หมำยถึงชนชั้นใดบ้ำง และมีเกณฑ์กำรแบ่งอย่ำงไร 8. ชนชั้น “เจ้ำนำย” และชนชั้น “มูลนำย” แตกต่ำงกันหรือไม่ อย่ำงไร 9. ชนชั้นขุนนำงในสมัยธนบุรี มีหน้ำที่ทำงสังคมอย่ำงไร 10. เพรำะเหตุใด พระภิกษุสงฆ์ จึงถือเป็นชนชั้นพิเศษในสังคมสมัยธนบุรี


ใบความรู้ เรื่อง เศรษฐกิจสมัยธนบุรีจากพงศาวดาร การกวาดต้อนผู้คนกลับไปยังพม่าหลังสงครามในปี พ.ศ.2310 เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้กรุงธนบุรีขาด แคลนแรงงานผลิตจำนวนมาก ภาวะสงครามทำให้ไพร่หยุดการทำไร่ไถนาเป็นเวลาหลายปี จึงก่อให้เกิดปัญหา ขาดแคลนอาหารตามมา การที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเกลี้ยกล่อมผู้คนเข้าสวามิภักดิ์ ทำให้ราษฎรเข้ามาอยู่ รวมกันเป็นจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาข้าวยากหมากแพงและคนอดตาย ทำให้เศรษฐกิจในสมัยธนบุรีมีปัญหาดังที่ บาทหลวงชาวฝรั่งเศส ชื่อ มองเซนเยอร์ เลอบอง ซึ่งเข้ามาในเมืองไทยเมื่อ พ.ศ.2318 จดบันทึกไว้ ดังนี้ “..... จนถึงเวลาเดี๋ยวนี้ อาหารการกินในเมืองนี้ยังแพงมาก เพราะบ้านเมืองไม่เป็นอันทำมาหากินมาเป็น เวลา 15 ปีแล้ว และในเวลานี้ยังหาสงบทีเดียวไม่....เวลานี้ข้าวสารขายกันทะนานละ 2 เหรียญครึ่ง......” สภาพปัญหาเช่นนี้จึงทำสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงมีพระราชปรารภว่า “บุคคลผู้ใดเป็นอาทิ คือ เทวดา บุคคล ผู้มีฤทธิ์มาประสิทธิ์ มากระทำให้ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ขึ้นให้สัตว์โลกเป็นสุขได้ แม้ผู้นั้นจะ ปรารถนาพระพาหาแห่งเราข้างหนึ่ง ก็อาจตัดบริจาคให้ผู้นั้นได้” ศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ชี้ว่า สมัยธนบุรี สยามเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เฉพาะเรื่อง การผลิตข้าวให้พอกินตลอดทั้งปีก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายปี ส่วนเรื่องการผลิตข้าวเพื่อส่งออกนั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เลยเกือบตลอด รัชสมัย ยิ่งต้องทำสงครามเกือบทุกปีก็ยิ่งทำให้ทางการต้องสะสมข้าวในฉางหลวงไว้มาก ส่วนแรงงานที่ใช้ในการ ผลิตข้าวก็ต้องลดน้อยลงเนื่องจากถูกเกณฑ์เข้ากองทัพ มิหนำซ้ำรายได้จากการเก็บอากรค่านาก็เก็บได้เพียง 1 ใน 3 ของพื้นที่เพาะปลูกในที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากับพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้น ความสามารถในการควบคุมกำลังคน ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้จากสินค้าป่ามีปริมาณน้อยกว่าสมัยอยุธยาตอนปลาย พื้นที่เก็บอากรค่านาเพิ่งขยาย ไปถึงเมืองพิชัย สงขลา ตราด และโคราชในสมัยรัตนโกสินทร์นี้เอง นอกจากนี้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างทางการสยามและพ่อค้าจีนแม้จะมีอยู่ แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือสิทธิ พิเศษของทางการสยามในการเว้นภาษีขาเข้าและออกจากการค้ากับราชสำนักจีนในการค้าแบบบรรณาการ ผลที่ ตามมาคือการขาดแคลนเงินสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าที่ต้องการ อาทิ ปืน ทำให้ทางการสยามต้องนำสินค้า ประเภท ดีบุก งาช้าง และไม้มาแลกอาวุธปืนแทน นอกจากนี้การขาดแคลนเงินและทรัพย์สินจากการค้ายังส่งผล กระทบต่อการพระราชทานเบี้ยหวัด เครื่องยศ การเสริมสร้างพระราชฐานะ และพระราชอำนาจ ทำให้สมเด็จพระ เจ้ากรุงธนบุรีทรงระมัดระวังการรั่วไหลของ เงินทอง อีกทั้งยังทรงลงโทษผู้กระทำการทุจริตอย่างรุนแรง จึงเป็น การขัดผลประโยชน์อันพึงมีพึงได้ตามปกติของขุนนางอีกทางหนึ่งเช่นกัน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทางเศรษฐกิจในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินด้วยการสละพระราชทรัพย์ซื้อ ข้าวสารจากพ่อค้าต่างเมืองมาแจกจ่ายราษฎร และการสนับสนุนให้พ่อค้าต่างชาติเช่น ชาวจีน เข้ามาค้าขายใน กรุงธนบุรีและทำไร่อ้อย ไร่พริกไทยตามหัวเมืองชายฝั่งตะวันออกและภาคใต้ทำให้ภาวะขาดแคลนอาหารบรรเทา แล้ว การแก้ปัญหาระยะยาวคือโปรดฯให้เจ้านายและขุนนางทำนาบริเวณนอกคูเมืองฟากตะวันออกของกรุงธนบุรี กระทุ่มแบน หนองบัว และแขวงเมืองนครชัยศรี รวมทั้งให้ทหาร ราษฎร และเชลยชาวลาวและเขมรทำการ เพาะปลูกยามที่เว้นว่างจากราชการสงคราม


แบบประเมินการอภิปรายแสดงความคิดเห็น วิชา .......................................................... ช้นั …………………… แผนการเรียนรู้................................................................. กิจกรรม…………………………………………….… ค าชี้แจง: ให้ประเมินจากการสังเกตการร่วมอภิปรายในระหวา่งเรียน และการปฏิบตัิกิจกรรมกลุ่ม โดยใหร้ะดบัคะแนนลงในตารางที่ตรงกบัพฤติกรรมของผเู้รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3= ดี 2 = พอใช้ 1= ต้องปรับปรุง เลข ที่ ชื่อ-นามสกุล รายการประเมิน รวม 15 คะแนน สรุปผลการ ประเมิน การแสดงความ คิดเห็น ยอมรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น ตรงประเด็น สมเหตุสมผล มีความเชื่อมัน่ใน การแสดงออก คะแนน ที่ท าได้ ผ่าน ไม่ ผ่าน ลงชื่อ ................................................................................. ผู้ประเมิน เกณฑ์การประเมิน : นักเรียนได้คะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ผา่นเกณฑ์


แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้และอธิบาย ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน และ ชุมชน 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่สร้างความ สามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่น ชมความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของ ศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เป็นแบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราช กรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำความผิด ทำ ตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็น แบบอย่างที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว และโรงเรียน ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล อย่างดี


คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อ ผู้อื่น กระทำผิดพลาด 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั่นในการ ทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบ่งปันสิ่งของ และช่วย แก้ปัญหาให้ผู้อื่น 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียนและ ชุมชน ลงชื่อ.................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา เวลาเรียน 5 ชั่วโมง เรื่องที่ 4 พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอาณาจักรธนบุรี เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง วัน____เดือน________พ.ศ.____ ครูผู้สอน นายคณาธิป ผิวบุญเรือง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความ ภูมิใจและธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วัด ม.2/1 วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรีในด้านต่างๆ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับรัฐที่อยู่ใกล้เคียงอาณาจักรธนบุรีได้(K) 2. นักเรียนสามารถปฎิบัติงานใบงานเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างธนบุรีกับจีนได้(P) 3. นักเรียนมีความสนใจศึกษาลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างธนบุรีกับชาติตะวันตก (A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๓.๑ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. ซื่อสัตย์สุจริต 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มีจิตสาธารณะ ๓.๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


4. สาระสำคัญ ปัจจัยหลายประการส่งผลให้กรุงธนบุรีดำเนินความสัมพันธ์กับรัฐใกล้เคียงและดินแดนที่อยู่ไกลออกไปในรูปแบบที่ แตกต่างกันตามเหตุผลของสถานการณ์บ้านเมืองและลักษณะความสัมพันธ์ที่สืบเนื่องมาจากสมัยอยุธยา นโยบาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยในสมัยธนบุรีมีลักษณะของการเผชิญหน้าทาง ทหาร การแผ่ขยายอำนาจ การแบ่งแยกและปกครอง 5. สาระการเรียนรู้ - พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอาณาจักรธนบุรี 6.กิจกรรมการเรียนรู้(วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคร่วมกันคิด) ขั้นนำ 1. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในสมัยกรุงศรีอยุธยา ว่ามีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในสมัยธนบุรีเป็น อย่างไร (แนวคำตอบ : ประเทศราชบางประเทศแยกตนเป็นอิสระ) 3. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจถึงเหตุผลของความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยสมัยอยุธยาว่าส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยสมัยธนบุรีอย่างไรบ้าง ขั้นสอน 4. ครูแจกใบงานที่ 3.4 เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยธนบุรี ให้นักเรียนกลุ่มเดิม 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 3.4 แลกเปลี่ยนความคิดเห็น อภิปราย หาคำตอบ และอธิบายคำตอบให้ สมาชิก ทุกคนในกลุ่มมีความเข้าใจชัดเจน เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนนำความรู้เดิมของตนเองออกมาเชื่อมโยงกับ ความรู้ใหม่ 6. ครูเฉลยคำตอบในใบงานที่ 3.4 พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติม นักเรียนแต่ละกลุ่มรับทราบผลคะแนนของกลุ่มและ ข้อผิดพลาดของตนเอง 7. ครูให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มจับสลากเลือกหัวข้อที่จะศึกษาเรื่อง พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัย ธนบุรีจากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ในหัวข้อที่กำหนดให้ ดังนี้ 1) รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 2) ความสัมพันธ์กับประเทศใกล้เคียง เช่น ล้านนา ล้านช้าง หัวเมืองมลายู 3) ความสัมพันธ์กับประเทศใกล้เคียง เช่น พม่า เขมร 4) ความสัมพันธ์กับประเทศจีน 5) ความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม เพื่อศึกษาหาข้อมูลตามหัวข้อที่จับสลากได้


9. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. เพราะเหตุใด ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยธนบุรีกับจีนจึงเป็นไปในรูปแบบรัฐบรรณาการ ซึ่งแตกต่าง กับประเทศอื่นๆ (เแนวคำตอบ : เพื่อเหตุผลทางการค้าและต้องการให้จักรพรรดิจีนรับรองฐานะกษัตริย์ของพระเจ้าตากสิน มหาราช) 10. ครูแจกใบงานที่ 3.5 เรื่อง พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยธนบุรี 11. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 3.5 และตรวจสอบความถูกต้องของผลงานในใบงาน ถ้ามี ข้อบกพร่องให้ช่วยกันเติมเต็มให้สมบูรณ์ 12. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอใบงานที่ 3.5 หน้าชั้นเรียน พร้อมทั้งอธิบายให้เพื่อนร่วมชั้นฟังจนเข้าใจ ชัดเจนครูตรวจสอบความถูกต้อง อธิบายและยกตัวอย่างเพิ่มเติม ให้แก่นักเรียนที่ยังไม่เข้าใจ 13.นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1 – 2 เช่น 1. ปัจจัยใดที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยธนบุรี (แนวคำตอบ : ความมั่นคงของชาติ) 2. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใดในสมัยธนบุรีที่นักเรียนสนใจ และเพราะเหตุใด (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสรุป 14. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 3.5 และร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศสมัยธนบุรี จากนั้นบันทึกความรู้ที่ได้ลงในแบบบันทึกการอ่าน 15. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในสมัยธนบุรี นอกจากศึกษาได้จากการทำสงครามแล้ว ยังมีวิธีใดที่สามารถ นำมาใช้ในการศึกษาได้อีก (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) 16. ครูให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดนิทรรศการแสดงพัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี (นักเรียนทำนอกเวลาเรียน) 7.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) ดนัย ไชยโยธา. 2550. ประวัติศาสตร์ไทย : ยุคกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. (2) วินัย พงศ์ศรีเพียร. 2543. “รัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีในประวัติศาสตร์ไทย” ใน คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงศึกษาธิการ. 3) ใบงานที่ 3.4 เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยธนบุรี 4) ใบงานที่ 3.5 เรื่อง พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยธนบุรี 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี


๘. กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือวัด วิธีการวัด เกณฑ์การวัดและ ประเมินผล 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับ รัฐที่อยู่ใกล้เคียงอาณาจักรธนบุรี ได้(K) ใบงาน 3.4 ใบงาน 3.5 ตรวจใบงาน 3.4 ตรวจใบงาน 3.5 ร้อยละ 70 ผ่าน เกณฑ์ 2. นักเรียนสามารถปฎิบัติงานใบ งานเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่าง ธนบุรีกับจีนได้(P) แบบสังเกตพฤติกรรม กลุ่ม สังเกตพฤติกรรมกลุ่ม ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความสนใจศึกษา ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่าง ธนบุรีกับชาติตะวันตก (A) แบบสังเกตพฤติกรรม สังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. บันทึกผลหลังสอน ๙.1 ปัญหาที่เกิดขึ้น ..……………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.2 วิธีการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.3 ผลการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………ครูผู้สอน (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ….……./……….…./………..


๑0. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………ครูพี่เลี้ยง (นางสาวยุพิน จักรทองดี) ………./…….……./………... ๑1. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ดวงสมร กิจโกศล ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ………./……..……./………..


ใบงานที่ 3.4 ความสมัพนัธร ์ ะหว่างประเทศสมยัธนบร ุ ี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค ำถำมต่อไปนี้ 1. สมเด็จเจ้ำพระยำมหำกษัตริย์ศึกได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมำจำกประเทศใด 2. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย เขมร และญวน เกี่ยวข้องกันอย่ำงไร 3. เพรำะเหตุใด ในสมัยธนบุรีประเทศไทยจึงไม่มีควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับชำติตะวันตก 4. ในภำพรวมควำมสัมพันธ์ระหว่ำงธนบุรีกับล้ำนนำ (เชียงใหม่) เป็นอย่ำงไร 5. ในสมัยธนบุรีไทยท ำสงครำมกับพม่ำถึง 10 ครั้ง ส่วนใหญ่มีสำเหตุมำจำกเรื่องใด 6. ศึกสงครำมครั้งส ำคัญที่สุดระหว่ำงไทยกับพม่ำในสมัยธนบุรี คือครั้งใด 7. แม่ทัพคนส ำคัญที่ช่วยพระเจ้ำตำกท ำสงครำม คือใคร 8. เพรำะเหตุใด ร้อยเอกฟรำนซิส ไลต์ จึงได้รับพระรำชทำนยศเป็นพระยำรำชกปิตัน 9. ชำติใดในทวีปเอเชียที่มีควำมสัมพันธ์เป็นพิเศษกับไทยในสมัยธนบุรี 10. ในสมัยธนบุรีไทยสนใจติดต่อกับชำติตะวันตกในเรื่องใด


ใบงานที่ 3.5 พัฒนาการด้านความสมัพนัธร ์ ะหว่างประเทศสมยัธนบุรี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค ำถำมต่อไปนี้ 1. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศในสมัยธนบุรีจ ำแนกเป็นลักษณะใดบ้ำง 2. ธนบุรีกับล้ำนนำมีควำมสัมพันธ์กันในลักษณะใด 3. สงครำมครั้งส ำคัญที่สุดระหว่ำงไทยกับพม่ำสมัยธนบุรีคือสงครำมใด 4. หัวเมืองใดที่เป็นดินแดนกันชนระหว่ำงพม่ำกับธนบุรี 5. พระแก้วมรกตและพระบำง เป็นพระพุทธรูปส ำคัญที่ได้มำจำกสงครำมกับชำติใด 6. หลังเสียกรุงศรีอยุธยำ ครั้งที่ 2 เขมรเป็นอิสระจำกไทย แต่ไทยต้องยกทัพไปตีเขมรด้วยเหตุใด 7. เมื่อเกิดกำรแย่งชิงอ ำนำจในเขมร ท ำให้เขมรตกอยู่ภำยใต้อิทธิพลของชำติใด 8. ไทยจัดกำรปกครองหัวเมืองมลำยูในสมัยธนบุรีอย่ำงไร 9. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยกับจีนในสมัยธนบุรีเหมือนสมัยอยุธยำอย่ำงไร 10. ไทยได้ประโยชน์อะไรจำกกำรค้ำขำยกับจีน


แบบสงัเกตพฤติกรรม การท างานกล่ม ุ ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่ำงเรียนและนอกเวลำเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการประเมิน ความ ร่วมมือกัน ทา กิจกรรม การแสดง ความคิดเหน็ การรับฟัง ความคิดเหน็ ความตั้งใจ ท างาน การแก้ไข ปัญหา/หรือ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ....................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา ่เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ารตดัสินคณุภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมำก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต ่ำกว่ำ 10 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรม การท างานรายบุคคล ชื่อ ชั้น ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่ำงเรียนและนอกเวลำเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 กำรแสดงควำมคิดเห็น 2 กำรยอมรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อื่น 3 กำรท ำงำนตำมหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำย 4 ควำมมีน ้ำใจ 5 กำรตรงต่อเวลำ รวม ลงชื่อ....................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา ่เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ารตดัสินคณุภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมำก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต ่ำกว่ำ 10 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2๐ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ - 3 เวลาเรียน 2๐ ชั่วโมง เรื่องที่ สอบวัดผลปลายภาค เวลา ๑ ชั่วโมง วัน____เดือน________พ.ศ.____ ครูผู้สอน นายคณาธิป ผิวบุญเรือง สอบปลายภาค


ข้อสอบกลางภาค รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี _______________________________________ คำชี้แจง 1. ข้อสอบแบ่งออกเป็น 2 ตอน ดังนี้ 1.1 เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ (20 คะแนน) 1.2 เป็นแบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ (10 คะแนน) 2. ก่อนตอบคำถาม จงเขียน ชื่อ-นามสกุล ชั้น เลขที่ ลงในกระดาษคำตอบให้เรียบร้อย 3. เวลาสอบ 60 นาที เสร็จแล้วส่งข้อสอบพร้อมกับกระดาษคำตอบให้กับกรรมการกำกับห้องสอบ 4. ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว ลงในกระดาษคำตอบที่แจกให้ ถ้าต้องการ เปลี่ยนตัวเลือกใหม่ ให้ขีดฆ่าตัวเลือกเดิมด้วยประกาก่อนแล้วจึงเลือกตัวเลือกใหม่ 5. ห้ามนำข้อสอบและกระดาษคำตอบออกจากห้องสอบ 6. ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบออกจากห้องสอบก่อนเวลาผ่านไป 30 นาที ครูผู้สอน/ผู้ออกข้อสอบ (ลงชื่อ)………………………………………………… (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอน (ลงชื่อ)………………………………………………... (นายสมเดช พาพลงาม) ตำแหน่ง ครู


1. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ก. การรวบรวมหลักฐาน ข. การกำหนดหัวเรื่องที่จะศึกษา ค. การประเมินคุณค่าของหลักฐาน ง. การเรียบเรียงหรือการนำเสนอ 2. เพราะเหตุใด จึงต้องมีการประเมินคุณค่า หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ก. หลักฐานอาจเก่าหรือใหม่ ข. หลักฐานอาจจริงหรือเท็จ ค. หลักฐานอาจมีหรือไม่มี ง. หลักฐานอาจมากหรือน้อย 3. ถ้ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา ประเทศไทย แล้วเขียนหนังสือบรรยายว่า ประเทศไทยล้าหลัง ด้อยพัฒนา เพราะยังมีการ กินอาหารด้วยมือหรือไม่สวมเสื้อผ้า นักเรียนคิด ว่า ข้อความนี้จะใช้เป็นหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ในอนาคตได้หรือไม่ ก. ไม่ได้ เพราะเป็นหลักฐานเท็จ ข. ไม่ได้ เพราะผู้เขียนไม่ใช่คนไทย ค. ได้ เพราะเป็นหลักฐานชั้นต้น ง. ได้ แต่ต้องมีการตีความหลักฐาน 4. บันทึกเหตุการณ์ของ วัน วลิต ชาวต่างชาติที่ เดินทาง เข้ามาในสมัยอยุธยา เป็นหลักฐาน ประเภทใด ก. หลักฐานชั้นต้น-เป็นลายลักษณ์อักษร ข. หลักฐานชั้นรอง-เป็นลายลักษณ์อักษร ค. หลักฐานชั้นต้น-ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ง. หลักฐานชั้นรอง-ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร 5. หลักฐานที่เด่นมากในเรื่องของรายละเอียดและ ความถูกต้องของเวลา คือหลักฐานใด ก. จารึก ข. ตำนาน ค. จดหมายเหตุ ง. พงศาวดาร 6. เรื่องราวที่ปรากฏในพงศาวดารจะเป็นเรื่องราว เกี่ยวกับอะไรเป็นส่วนใหญ่ ก. สงครามกับเพื่อนบ้าน ข. ความเป็นอยู่ของไพร่ฟ้า ค. การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ง. พระราชกรณียกิจของกษัตริย์ 7. เรื่องราวของมะกะโทที่เข้ามารับราชการในสมัยพระ ร่วง จัดเป็นหลักฐานประเภทใด ก. พงศาวดาร ข. บันทึกชาวต่างชาติ ค. หลักฐานโบราณคดี ง.ตำนานหรือนิทานพื้นบ้าน 8. ลักษณะนิสัยใด ที่มีความจำเป็นน้อยสำหรับ นักประวัติศาสตร์ ก. ชอบสังเกต ข. ชอบค้นหา ค. ชอบจดบันทึก ง. ชอบวาดภาพ 9. เรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาแล้วจะมีความ น่าเชื่อถือหากเป็นกรณีใด ก. ผู้เขียนเป็นราชนิกูล ข. มีหลักฐานอ้างอิงสนับสนุน ค. มีการเรียบเรียงอย่างสละสลวย ง. ผู้เขียนเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ 10. บิดาแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย คือใคร ก. ศาสตราจารย์ขจร สุขพานิช ข. สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ค. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ง. พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ 11. ข้อใดไม่ถือเป็นปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งมีผลต่อ พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา ก. ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดี ข. มีทำเลที่ตั้งเหมาะสมแก่การเพาะปลูก ค. เป็นเมืองที่สำคัญทางการค้ากับต่างประเทศ ง. พระมหากษัตริย์ทรงส่งเสริมให้ราษฎรประกอบ อาชีพได้อย่างเสรี ตอนที่ 1 แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 20 คะแนน คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว


12. อาณาจักรอยุธยาเกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง แคว้นสำคัญ 2 แคว้น ได้แก่แคว้นใด ก. แคว้นละโว้ กับแคว้นสุพรรณภูมิ ข. แคว้นละโว้ กับแคว้นไทรบุรี ค. แคว้นสุพรรณภูมิ กับแคว้นไทรบุรี ง. แคว้นสุพรรณภูมิ กับแคว้นสุโขทัย 13. หัวเมืองระดับใดในการปกครองส่วนภูมิภาคที่ เจ้าเมืองมีอำนาจปกครองตนเอง แต่จะต้องส่ง เครื่องราชบรรณาการมาถวายพระมหากษัตริย์ ตามเวลาที่กำหนด ก. เมืองลูกหลวง ข. หัวเมืองชั้นใน ค. หัวเมืองชั้นนอก ง. หัวเมืองประเทศราช 14. สาเหตุสำคัญที่ทำให้สมเด็จพระบรมไตร โลกนาถทรงแบ่งแยกหน้าที่ระหว่างฝ่ายทหาร กับฝ่ายพลเรือน ออกจากกัน คือข้อใด ก. เพื่อให้หน้าที่ของทั้งสองฝ่ายชัดเจนขึ้น ข. เพื่อป้องกันเหตุกระทบกระทั่งกันระหว่าง สองฝ่าย ค. เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอำนาจ มากจนเกินไป ง. เพื่อให้ราษฎรจดจำหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้ ง่ายและถูกต้อง 15. กรุงศรีอยุธยาใช้การค้ารูปแบบใดในการติดต่อ ค้าขายกับประเทศจีน ก. การค้าแบบบรรณาการ ข. การค้าแบบต่างตอบแทน ค. การค้าแบบใช้ทองคำเป็นสื่อกลาง ง. การค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน 16. หน่วยงานสำคัญที่ทำหน้าที่ในการติดต่อ ค้าขายกับต่างชาติ คือหน่วยงานใด ก. กรมพาณิชย์ ข. พระคลังสินค้า ค. กองสำเภาหลวง ง. พระคลังมหาสมบัติ 17. ข้อใดคือชนชั้นพิเศษที่ได้รับความเคารพจากทุกชน ชั้นในสมัยอยุธยา ก. พระสงฆ์ ข. ขุนนาง ค. พระมหากษัตริย์ ง. พระบรมวงศานุวงศ์ 18. “โกษาธิบดี” ถือเป็นสิ่งใดที่กำหนดไว้ในพระราช กำหนดศักดินา ก. ยศ ข. ตำแหน่ง ค. บรรดาศักดิ์ ง. ราชทินนาม 19. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับวัฒนธรรมในสมัยอยุธยา ก. อาชีพหลักในสมัยอยุธยาคือเกษตรกรรม ประเพณี ส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับการเกษตร ข. วัฒนธรรมส่วนใหญ่ในสมัยอยุธยามักเกี่ยวข้องกับ ชนชั้นสูงเป็นหลัก ค. วัฒนธรรมจากต่างชาติไม่ได้รับการยอมรับจากคน ในกรุงศรีอยุธยา ง. ชาวอยุธยานิยมความสนุกสนานจึงมักสร้างสรรค์ ประเพณีที่รื่นเริง 20. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและ วัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยามีหลายประการ ยกเว้นข้อ ใด ก. การติดต่อกับชาวต่างชาติ ข. ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรม ค. ลักษณะทางภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อม ง. การมีรายได้จากการเก็บภาษีบางประเภท 21. กรุงศรีอยุธยาใช้การค้ารูปแบบใดในการติดต่อค้าขาย กับประเทศจีน ก. การค้าแบบบรรณาการ ข. การค้าแบบต่างตอบแทน ค. การค้าแบบใช้ทองคำเป็นสื่อกลาง ง. การค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน


22. ข้อใดเป็นความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับเขมร ก. ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ข. ความสัมพันธ์ทางการเมือง ค. ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม ง. ความสัมพันธ์ทางการปกครอง 23. กรุงศรีอยุธยาทำสงครามครั้งแรกกับพม่าใน กรณีที่สืบเนื่องมาจากเมืองใด ก. ญวน ข. มอญ ค. มลายู ง. ล้านช้าง 24. ความสัมพันธ์ของอยุธยากับประเทศใดมี ลักษณะของการผูกมิตร และเชื่อมสัมพันธไมตรี ก. พม่า ข. ญวน ค. ล้านช้าง ง. ล้านนา 25. ความสัมพันธ์กับต่างประเทศโดยเฉพาะชาติ ตะวันตกมีความเจริญสูงสุดในสมัยใด ก. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ข. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ค. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ง. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ 26. ศิลปกรรมของไทยสมัยอยุธยาที่ตกทอดมา จนถึงปัจจุบันได้แก่อะไร ก. การทอผ้าไหม ข. ภาพวาดสีน้ำมัน ค. เครื่องถ้วยชามสังคโลก ง. เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ 27. การเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในรัช สมัยของกษัตริย์พระองค์ใด ก. สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ ข. สมเด็จพระมหินทราธิราช ค. สมเด็จพระราเมศวร ง. สมเด็จพระเพทราชา 28. เพราะเหตุใด พระยาตากพร้อมพรรคพวกจึง ตัดสินใจตีฝ่าวงล้อมพม่าไปทางทิศตะวันออกใน สงครามเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ก. หนีพม่าได้สะดวก ข. ต้องการไปตั้งราชธานีใหม่ที่จันทบุรี ค. เป็นชุมชนชาวจีนเช่นเดียวกับพระยาตาก ง. จันทบุรีมีกำลังคน ป้อมปราการ อาหาร อุดมสมบูรณ์ 29. เหตุผลสำคัญในข้อใดที่ทำให้พระยาตากตัดสินใจละทิ้ง การป้องกันอยุธยาในสงครามก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ก. ต้องการตั้งราชธานีใหม่แทนอยุธยา ข. คิดจะแย่งชิงอำนาจจากพระเจ้าเอกทัศน์ ค. ท้อใจเพราะไม่ได้รับการสนับสนุน ในการสู้รบ ง. เห็นว่ากำลังของอยุธยาไม่สามารถสู้กับ กองทัพพม่า 30. หลังเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 สภาพบ้านเมืองของ อยุธยามีลักษณะอย่างไร ก. ลาวตั้งตนเป็นอิสระจากอยุธยา ข. พม่ายึดอยุธยาเป็นเมืองประเทศราช ค. เขมรเข้ายึดครองหัวเมืองชายฝั่งตะวันออก ของไทย ง. อยุธยาได้รับความเสียหายมากจนไม่ สามารถเป็นราชธานีได้ 31. พระยาตากเตรียมการกอบกู้เอกราชอย่างไร ก. ประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ข. ตั้งกรุงธนบุรีแล้วจึงตีค่ายโพธิ์สามต้น ค. ต่อเรือและนำกองทัพเรือเข้าโจมตีพม่า ง. ใช้เวลารวบรวมกำลังพลนานถึง 15 ปี


32. วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี มีความเกี่ยวข้อง อย่างไรกับอาณาจักรธนบุรี ก. วันสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี ข. วันปราบดาภิเษกของพระเจ้าตาก ค. วันบรมราชาภิเษกของพระเจ้าตาก ง. วันสวรรคตของพระเจ้าตาก 33. เพราะเหตุใด พระเจ้าตากจึงต้องตัดสินพระทัย ย้ายราชธานี ก. อยุธยาขาดแคลนอาหาร ข. อยุธยาเกิดอุทกภัยบ่อยครั้ง ค. อยุธยาถูกเผาทำลายมีสภาพทรุดโทรมมาก ง. สภาพภูมิประเทศของอยุธยาไม่เอื้อต่อ การค้าระหว่างประเทศ 34. สงครามครั้งใดสำคัญที่สุดระหว่างไทยกับพม่า ในสมัยธนบุรี ก. ศึกบางกุ้ง ข. ศึกเมืองพิชัย ค. ศึกเมืองเชียงใหม่ ง. ศึกเมืองพิษณุโลก 35. ข้อใดอธิบายการจัดการปกครองในสมัยธนบุรี ไม่ถูกต้อง ก. จัดการปกครองตามแบบอยุธยาตอนปลาย ข. พระมหากษัตริย์มีอำนาจสูงสุดในการ ปกครอง ค. เมืองพระยามหานครปกครองแบบจตุสดมภ์ เช่นเดียวกับราชธานี ง. ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับราษฎรมี ความใกล้ชิดเหมือนพ่อปกครองลูก 36. ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ในสมัยธนบุรี มีลักษณะอย่างไร ก. เป็นมิตรกับทุกประเทศ ข. ขาดการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ค. ทำสงครามกับพม่าเพื่อป้องกัน ราชอาณาจักร ง. ทำสงครามกับญวนและมลายูเพื่อขยาย อาณาเขต 37. เพราะเหตุใด ศิลปะวัฒนธรรมซึ่งเป็นภูมิปัญญา ในสมัยธนบุรีจึงมีจำนวนน้อย ก. ยังมีศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของอยุธยา หลงเหลืออยู่ ข. ขาดแคลนกำลังทรัพย์ในการอนุรักษ์ฟื้นฟู ศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ค. พระเจ้าตากชำนาญในการรบมากกว่างานด้าน ศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ง. ต้องทำสงครามเป็นส่วนใหญ่จึงไม่มีเวลาฟื้นฟู ศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญา 38. คำกล่าวที่ว่า “การตั้งธนบุรีเป็นราชธานีเพราะเหมาะ แก่การค้ากับต่างประเทศ” คำที่ขีดเส้นใต้ หมายความ ว่าอย่างไร ก. มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านกลางพระนคร ข. มีคลองภายในมากมายเป็นเส้นทางการค้า ค. มีพ่อค้าจีนที่ชำนาญการค้าทางเรือเข้ามาติดต่อ ค้าขาย ง. ตั้งอยู่ใกล้ปากน้ำเจ้าพระยา เรือสินค้าเข้ามาค้าขาย ได้สะดวก 39. พระเจ้าตากทรงแก้ปัญหาเศรษฐกิจใดเป็นอันดับแรก ก. ขยายพื้นที่ทำนา ข. ให้ข้าราชการทำนา ค. ส่งเสริมการค้ากับจีน ง. ซื้อข้าวมาแจกจ่ายแก่ราษฎร 40. สมุดภาพไตรภูมิ เป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สุด ของอาณาจักรธนบุรีในด้านใด ก. จิตรกรรม ข. วรรณกรรม ค. ประณีตศิลป์ ง. ประติมากรรม


ตอนที่ 2 แบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ (10 คะแนน) คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามดังต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. สมเด็จพระเจ้าตากสินปกครองอาณาจักรธนบุรีกี่ปี.................................. 15 ปี............................................. 2. ชนชั้นพิเศษคือชนชั้นของใคร..................................พระสงฆ์,นักบวช,พราหมณ์.............................................. 3. ไพร่มีทั้งหมดกี่ ไพร่อะไรบ้าง ...........................3 ไพร่ คือ ไพร่หลวง,ไพร่สม,ไพร่ส่วย...................................................................................... 4. ชื่อเต็มของกรุงธนบุรีมีชื่อว่าอย่างไร .............................................................กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร............................................................................ 5. ให้นักเรียนเขียนหมายเลขของชุมนุมต่าง ๆ ลงในแผนที่ ชื่อ..................................................................................................ชั้น............เลขที่...........


๑. บันทึกผลหลังสอน ๑.1 ปัญหาที่เกิดขึ้น ..……………………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………..….……………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.2 วิธีการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.3 ผลการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………ครูผู้สอน (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ….……./……….…./……….. ๒. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………ครูพี่เลี้ยง (นางสาวยุพิน จักรทองดี) ………./…….……./………... ๓. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงสมร กิจโกศล ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ………./……..……./………..


Click to View FlipBook Version