แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา เวลาเรียน ๑๐ ชั่วโมง เรื่องที่ 5 ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยา เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง วัน____เดือน________พ.ศ.____ ครูผู้สอน นายคณาธิป ผิวบุญเรือง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วัด ม.2/3 ระบุภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและธนบุรีและอิทธิพลของภูมิปัญญาดังกล่าวต่อ การพัฒนาชาติไทยในยุคต่อมา 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาได้(K) 2. นักเรียนสามารถเขียนอิทธิพลของภูมิปัญญาสมัยอยุธยาที่มีต่อการพัฒนาชาติไทยในยุคต่อมาได้(P) 3. นักเรียนตั้งใจฟัง เรื่อง ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยา (A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๓.๑ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๓.๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. สาระสำคัญ การเรียนรู้สภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน สั่งสมจนเกิดเป็นความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของ อาณาจักรอยุธยา และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาชาติไทยในยุคต่อมา
5. สาระการเรียนรู้ - ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยา เช่น การควบคุมกำลังคน และศิลปวัฒนธรรม 6. กิจกรรมการเรียนรู้(วิธีสอนตามแนว วัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT)) ขั้นนำ ขั้นที่ 1 สร้างคุณค่าและประสบการณ์ของสิ่งที่เรียน (พัฒนาสมองซีกขวา) 1. ครูให้นักเรียนดูบัตรภาพ แล้วสุ่มนักเรียนเพื่อตอบคำถามว่าเป็นภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่เกิดจากอะไร 2. ครูให้นักเรียนแต่ละคนเสนอภูมิปัญญาและวัฒนธรรมในสมัยอยุธยาที่ตนเองสนใจ โดยให้นักเรียนชี้แจงเหตุผล ประกอบ และบอกคุณค่าของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมดังกล่าว ตามความคิดและความรู้เดิมของตนเอง 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2 เช่น 1. เรือนเครื่องสับ และเรือนเครื่องผูก เหมาะสมกับวิถีชีวิตของชาวไทยสมัยอยุธยาหรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) 2. ภูมิปัญญาเกิดขึ้นได้อย่างไร (แนวคำตอบ : ประสบการณ์การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน) ขั้นสอน ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ประสบการณ์ (พัฒนาสมองซีกซ้าย) 4. ครูและนักเรียนร่วมกันเขียนผังมโนทัศน์ เรื่อง ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา ลงบนกระดาน ครูตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครูให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาความรู้จากหนังสือเรียนแล้ววิเคราะห์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมในสมัยอยุธยาที่ ตนเองสนใจ ซึ่งได้เสนอในขั้นที่ 1 ว่าเป็นภูมิปัญญาหรือวัฒนธรรมประเภทใด และในปัจจุบันยังคงมีภูมิ ปัญญาหรือวัฒนธรรมดังกล่าวอยู่หรือไม่ เพราะเหตุใด 6. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น - ความเชื่อต่างๆ ในสมัยอยุธยาเป็นบ่อเกิดของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมนักเรียนเห็นด้วยหรือไม่เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 3 ปรับประสบการณ์เป็นความคิดรวบยอด (พัฒนาสมองซีกขวา) 7. ครูแจกใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างประเพณีชีวิตในสมัยอยุธยา ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม 8. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ว่าภูมิปัญญาและวัฒนธรรมต่างๆ ในสมัยอยุธยานั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร จากหนังสือเรียน และใบความรู้ 9. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปเป็นความคิดรวบยอด แสดงถึงความสำคัญ และคุณค่าของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย ในสมัยอยุธยา 10. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น - การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ส่งผลกระทบต่อ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอย่างไร (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 พัฒนาความคิดรวบยอด (พัฒนาสมองซีกซ้าย) 11. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง อิทธิพลของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัย อยุธยาที่มีต่อการพัฒนาชาติไทย จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด หรือ แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
12. นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาบันทึกลงในแบบบันทึกการอ่าน ขั้นที่ 5 ลงมือปฏิบัติจากกรอบความคิดที่กำหนด (พัฒนาสมองซีกซ้าย) 13. สมาชิกทุกคนในกลุ่มร่วมกันทำใบงานที่ 2.9 เรื่อง ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยา 14. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 2.9 ครูตรวจสอบความถูกต้องและอธิบาย เพิ่มเติม ขั้นที่ 6 สร้างชิ้นงานเพื่อสะท้อนความเป็นตนเอง (พัฒนาสมองซีกขวา) 15. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มรวบรวมความรู้ที่ได้จากการศึกษาความรู้ในขั้นที่ 4 เป็นข้อมูลของกลุ่ม แล้วปรึกษากันเพื่อเลือกภูมิปัญญาหรือวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาที่สมาชิก ทุกคนมีความสนใจ มา 1 หัวข้อ ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดป้ายนิเทศ เรื่อง พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา โดยให้ครอบคลุม ประเด็นตามที่กำหนด ดังนี้ 1) การวิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา 2) การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรอยุธยา 3) การยกตัวอย่างและอธิบายภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยา 4) การวิเคราะห์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาที่ส่งผลต่อการพัฒนาชาติไทย 16. สมาชิกแต่ละกลุ่มปรึกษากันเกี่ยวกับการจัดทำป้ายนิเทศ จากนั้นเขียนบันทึกโครงร่างการจัดทำป้าย นิเทศ ส่งครูตรวจ ขั้นสรุป 17. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามข้อสงสัย 18. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม - ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. 2551. อยุธยา : Discovering Ayutthaya. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิ โครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์. 3) ใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างประเพณีชีวิตในสมัยอยุธยา 4) บัตรภาพ 5) ใบงานที่ 2.9 เรื่อง ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยา
7.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 2. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 3. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/sub/book/book.php?book=24&chap=3&pa ๘. กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือวัด วิธีการวัด เกณฑ์การวัดและ ประเมินผล 1. นักเรียนสามารถ อธิบายภูมิปัญญาและ วัฒนธรรมไทยสมัย อยุธยาได้(K) ใบงาน 2.9 ตรวจใบงาน 2.9 ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ 2. นักเรียนสามารถเขียน อิทธิพลของภูมิปัญญา สมัยอยุธยาที่มีต่อการ พัฒนาชาติไทยในยุค ต่อมาได้(P) แบบประเมินพฤติกรรมใน การทำงานรายบุคคล ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนตั้งใจฟัง เรื่อง ภูมิปัญญาและวัฒนธรรม ไทยสมัยอยุธยา (A) แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. บันทึกผลหลังสอน ๙.1 ปัญหาที่เกิดขึ้น ..……………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.2 วิธีการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๙.3 ผลการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………ครูผู้สอน (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ….……./……….…./……….. ๑0. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………ครูพี่เลี้ยง (นางสาวยุพิน จักรทองดี) ………./…….……./………... ๑1. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงสมร กิจโกศล ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ………./……..……./………..
ใบงานที่ 2.9 ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยา คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ภูมิปัญญา หมายถึงอะไร 2. ภูมิปัญญาไทยมีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมไทยอย่างไร 3. ปัจจัยใดบ้างที่มีส่วนในการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมสมัยอยุธยา 4. สิ่งที่แสดงถึงภูมิปัญญาทางด้านการปกครองสมัยอยุธยา ได้แก่อะไรบ้าง 5. ศาสนามีบทบาทต่อภูมิปัญญาด้านการปกครองอย่างไร 6. การควบคุมกำลังคนในสมัยอยุธยาได้อาศัยภูมิปัญญาใด 7. การสร้างที่อยู่อาศัยต้องอาศัยภูมิปัญญาอย่างไร 8. วรรณกรรมใดในสมัยอยุธยาที่เป็นภูมิปัญญาในการปลูกฝังศีลธรรมแก่ประชาชน 9. ภูมิปัญญาสมัยอยุธยาด้านใดมีความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย 10. ภูมิปัญญาสมัยอยุธยาด้านใดที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาชาติไทยในปัจจุบัน
ใบความรู้ ตัวอย่างประเพณีชีวิตในสมัยอยุธยา ในสมัยก่อนเมื่อการแพทย์ไทยยังเป็นแผนโบราณ ไม่มีสถานพยาบาล ผู้ที่รับผิดชอบการเกิดของเด็กก็คือ “หมอตำแย” กล่าวคือ ระหว่างการตั้งครรภ์จนถึงเวลาคลอด หญิงมีครรภ์จะต้องอยู่ในความเอาใจใส่อย่างดีจึง มักมีผู้นำตะกรุดพิสมร (แผ่นใบลานลงอักขระพระคาถาพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ) ร้อยเชือกผูกไว้ พอเก่าก็ปลด ใส่ไว้ในโถขมิ้นเป็นการป้องกันจากผีร้ายและอันตรายต่างๆ ระหว่างมีครรภ์หญิงจะไม่ไปเผาศพหรือเยี่ยมไข้หนัก เลย เพราะอาจทำให้เสียขวัญ เวลามีสุริยุปราคา จันทรุปราคาก็เอาเข็มเย็บผ้ากลัดชายพกไว้ มิฉะนั้นลูกจะตา เหล่ กลางคืนก็ห้ามมิให้หญิงมีครรภ์ลูบตัวเพราะเชื่อว่าจะปวดมากเวลาคลอด ถ้าจำเป็นต้องอาบน้ำก็ต้องเปลือย กายอาบน้ำไปเลย (เสถียรโกเศศเสนอความเห็นว่า คงไม่ให้โค้งตัวนั่นเอง) เพราะก็ยังแนะให้หญิงมีครรภ์หางาน ออกแรง เช่น หาบน้ำ ตำข้าว เพื่อให้ท้องหลวม ความจริงก็เพื่อมิให้ทารกในครรภ์อ้วนจนคลอดยาก ส่วนการ ห้ามไม่ให้ตกปลา ฆ่าสัตว์ และกล่าวเท็จ ก็เพราะต้องการให้ใจบริสุทธิ์ ที่กล่าวไว้ในวรรณคดีขุนช้างขุนแผนก็มี ใจความที่เห็นชัดในเรื่องนี้ คือ “จะกล่าวถึงทองประสีมีครรภ์แก่ งามแท้เผ้าผมก็สมหน้า ผิวพรรณดังสุวรรณมาทาบทา ดวงหน้าดังดวงจันทร์เมื่อวันเพ็ญ ............................................. .................................................. จำศีลภาวนาเป็นเนืองนิตย์ น้อมจิตนบนิ้วขึ้นเหนือหัว ภาวนาบูชาด้วยดอกบัว ไม่กลัวที่จะเป็นอันตราย” ด้วยสมัยก่อนหญิงที่จะคลอดลูกใหม่ๆต้องอยู่ไฟ จึงมีประเพณีเดิมที่สามีต้องไปตัดฟืนมาเตรียมไว้ โดยให้ เลือกเอาไม้สะแกหรือไม้มะขามเป็นฟืนท่อนโตๆเพราะเป็นถ่านมีขี้เถ้าน้อย ส่วนฟืนไม้ทองหลางใช้นิดหน่อย เพราะมีควันมาก แต่เชื่อกันว่ากันปวดมดลูกและแก้พิษเลือด และถ้าเป็นท้องสาว บางแห่งก็จะใช้ฟืนไม้เบญจ พรรณให้คุ้มกับไม้ชนิดต่างๆ และกองฟืนเตรียมเมื่อหญิงจวนคลอดนี้ตั้งสุมไว้เอาหนามพุทราสะเป็นเครื่อง ป้องกันผี เวลาตัดก็ว่าคาถา “นโมพุทธฺตสฺส” พอถึงคำ “ตสฺ” ก็ตัดทันที ถึงเวลาที่หญิงเจ็บท้อง คนในบ้านก็รีบ ไปล้มกองฟืนชักเอาฟืนมา 2-3 ดุ้น เพื่อติดไฟต้มน้ำเตรียมไว้ในระหว่างคลอด และใช้ฟืนที่ติดไฟแล้วเป็นเชื้อ ต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้ต้องเปิดประตูหน้าต่างหมด ไขกุญแจจนหมดทุกแห่ง ไม้หรือสิ่งใดที่เหน็บไว้ใต้รอดหลังคา ก็เอาออกให้หมด ทุกคนในบ้านก็ถูกห้ามมิให้นั่งหรือยืนคาประตูบันได เพื่อมิให้มีการติดขัดค้างคาจะได้ไม่คลอด ยาก เวลาหญิงใดคลอดต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก หันศีรษะไปทางทิศเหนือลูกจะได้เลื่อนลงสะดวก เมื่อ เจ็บท้องถี่ก็ให้หญิงนั้นจุดธูปเทียนบูชาพระภูมิเจ้าที่เป็นการขอขมาลาโทษที่จะมาคลอดลูกอันก่อให้เกิดมลทินใน ละแวกนั้น ระหว่างนี้ก็ใช้น้ำมนต์ปะพรมทั่วๆ บางแห่งก็ใช้ข้าวสารสาดไปรอบๆว่า เป็นการกันผีไม่ให้เข้ามา ใน ชนบทบางแห่งเอาเงินเฟื้องเงินสลึงติดขี้ผึ้งกับเส้นด้ายแขวนห้อยที่ศีรษะหญิงที่กำลังเจ็บท้องโดยมีหมากพลู ดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาด้วย เพื่อบนบานให้คลอดลูกง่าย เมื่อคลอดแล้วก็นำเงินบนไปซื้อของตักบาตรหรือถวาย พระ ก่อนจะคลอดก็ให้คนไปตามหมอตำแยที่ฝากท้องไว้มา ระหว่างนี้ก็จัดขันข้าว คือ ขันบรรจุข้าวสาร หมาก 3 ผล พลู3 เรียง กล้วยหวีหนึ่ง ธูป 3 ดอก เทียน 3 เล่ม มีเงินตัดเทียนบ้างเป็นค่าธรรมเนียมตามราคาท้องถิ่น นั้น นำขันข้าวนี้ตั้งไว้ในที่อันควรเป็นค่าบูชาคุณหมอตำแย หมอตำแยทำคลอดแล้วก็ช่วยจัดการต่างๆ 3 วัน พอ ครบ 3 วันเจ้าบ้านก็มอบขันข้าวให้หมอตำแยไป
เมื่อคลอดเด็กหลุดมาถึงพื้น เรียกว่า “ตกฟาก” เพราะแต่เดิมเด็กตกบนฟื้นฟากจริงๆ (ตามปกติเวลาตก ฟากนี้เขาจดเวลา วัน เดือน ปี ไว้เพื่อให้โหรดูชะตาราศีและผูกเป็นดวงชะตา) ตามธรรมดาหมอตำแยเอาผ้าไว้ปูรองรับเด็ก พอเด็กคลอดออกมาก็เอาผ้าห่อตัวเด็กไว้ไม่ให้ถูกลม ผู้ช่วย หมอตำแย คือ คนที่หนุนหลังหญิงที่คลอดต้องเอามือกดท้องไว้ไม่ให้รกบินขึ้นข้างบน แล้วหมอตำแยจะอุ้มเด็กให้ คว่ำหน้าเอานิ้วมือล้วงปากเด็กควักเอาเมือกหรือเลือดในปากออก แล้วห่อตัวเด็กไว้ก่อน ไปดูแลแม่เพื่อจัดการให้ รกออกเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงตัดสายสะดือเด็ก พอตัดแล้วจึงใช้น้ำอุ่นอาบเด็ก ส่วนรกและสายสะดือก็เอาไปล้าง น้ำว่าคาถากันโรคพุพองแล้วบรรจุลงในหม้อดินเผา เอาเกลือกลบนำไปฝังไว้ ตัวเด็กนั้นอุ้มลงวางหลังกระด้งที่ปูผ้า ห่มไว้ ถ้าเป็นเด็กชายจัดสมุดดินสอวางไว้ข้าง ถ้าเป็นเด็กหญิงจัดเข็มด้ายวางไว้ให้ เสร็จแล้วหมอตำแยยกกระด้ง ขึ้นร่อนเบาๆแล้ววางลงเบาๆ 3 ครั้ง ปากก็พูดว่า “สามวันลูกผีสี่วันลูกคน ลูกของใครรับไปเน้อ” หญิงที่เลี้ยงลูก ง่ายเป็นคนดีมีศีลธรรมจะคอยเป็นคนรับกระด้งเด็ก โดยตอบว่า “ลูกข้าเอง” หรือ “ลูกฉันเอง” ผู้รับนี้เรียกว่า “แม่ยก” ซึ่งจะให้เงินเล็กน้อยกับหมอตำแยเท่ากับซื้อไว้ ระหว่างหมอตำแยจัดการอยู่ สามีและคนอื่นๆ ก็ทำ “แม่แคร่เตาไฟ” เตรียมไว้ตัดต้นกล้วยเป็นท่อนๆผ่า สองวางเรียง เอาดินเกลี่ยข้างบนแล้วจึงติดไฟ รอบๆที่อยู่ไฟต้องทำพิธีดับพิษไฟโดยวงสายสิญจน์ปิดยันต์รอบ 8 ทิศ บางทีก็ใช้ยันต์ ปิดทั่วๆ 10 แผ่น เอาหนามสะไว้รอบหลุมใต้ถุนห้องที่อยู่ไฟ แล้วหาผู้รู้เสกข้าวสารกับเกลือ โดยว่าคาถาพระโมคคัลลาน์ ดับไฟนรก ทำน้ำมนต์ประพรมเตาไฟ ยกข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน พร้อมทั้งกะหง สังเวยมีกุ้งพล่าปลายำสังเวยแม่ก้อนเส้าเตาไฟและขอขมาพระเพลิง ธูปเทียนใช้ 4 ชุดปัก 4 มุมเตาแล้วให้แม่ที่ คลอดลูกใหม่ๆ “เข้าขื่อ” คือ นอนตะแคงให้ หมอตำแยเหยียบตะโพกเพื่อให้กระดูกเชิงกรานเข้าที่แล้วจึง นอนบนกระดานไฟซึ่งมีโอ่งน้ำตั้งข้างๆให้เย็น การอยู่ไฟนี้อยู่ 3 วัน 3 คืน อย่างน้อยบางทีอยู่ถึง 21 วันก็มี ระหว่างนี้ก็มีคนมาเยี่ยมซึ่งมีของติดมือมาฝากเป็นอาหารแห้งหรือขมิ้น ดินสอพอง พออยู่ไฟครบแล้ว “ออก ไฟ” ต้องทำ “บัตรพลี” คือกับข้าวเล็กๆน้อยๆสังเวยแม่เตาไฟแล้วกราบไหว้อำลา แล้วจึงดับไฟและอาบ น้ำมนต์ เรื่องประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการเกิดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ในปัจจุบันเกือบไม่มีความสืบเนื่องมาเลยทั้งที่ใน สมัยอยุธยาต่อเนื่องมาถึงสมัยธนบุรีสมัยรัตนโกสินทร์ตามลำดับรวมเวลากว่า 600 ปี นั้นประเพณีไม่มีการ เปลี่ยนแปลงเลย ความเปลี่ยนแปลงมาเกิดเมื่อการแพทย์และการสาธารณสุขพัฒนาขึ้นในประเทศไทย ประชาชนที่ยากจนและอยู่ห่างไกล ถึงแม้มิได้รับบริการอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ยังได้รับการช่วยเหลือไม่น้อย ถึงแม้ว่าประเพณีการเกิดได้มีข้อดีอยู่บ้าง แต่ก็หย่อนในด้านความปลอดภัยแก่ชีวิตแม่และเด็ก อัตราการตายแต่ เดิมจึงสูงมากทั้งของแม่ที่มีความลำบากในการคลอด ทั้งเด็กแรกเกิด ซึ่งผิดกับปัจจุบันที่อัตราการตายลดลง หลายสิบเท่า
บัตรภาพ ภาพบ้านเรือนไทย ภาพบ้านเรือนแพ ภาพวาดการแต่งกายสมัยอยุธยา ภาพการอยู่ไฟหลังคลอด
แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับ การ ประเมิน ความตั้งใจ ในการทำงาน ความ รับผิดชอบ การตรงต่อ เวลา ความสะอาด เรียบร้อย ผลสำเร็จ ของ งาน รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ.................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้และอธิบาย ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน และ ชุมชน 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่สร้างความ สามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่น ชมความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของ ศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เป็นแบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราช กรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำความผิด ทำ ตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็น แบบอย่างที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว และโรงเรียน ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล อย่างดี
คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อ ผู้อื่น กระทำผิดพลาด 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั่นในการ ทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบ่งปันสิ่งของ และช่วย แก้ปัญหาให้ผู้อื่น 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียนและ ชุมชน ลงชื่อ.................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี เวลาเรียน 5 ชั่วโมง เรื่องที่ 1 การสถาปนาอาณาจักรธนบุรีและความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรธนบุรี เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง วัน____เดือน________พ.ศ.____ ครูผู้สอน นายคณาธิป ผิวบุญเรือง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วัด ม.2/1 วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรีในด้านต่างๆ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุของการเลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานีต่อจากกรุงศรีอยุธยาได้(K) 2. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรธนบุรีได้(P) 3. นักเรียนตะหนักถึงความสำคัญ เรื่อง การสถาปนาอาณาจักรธนบุรี (A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๓.๑ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมันในการทำงาน 4. รักความเป็นไทย 5. มีจิตสาธารณะ ๓.๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4. สาระสำคัญ การสถาปนาอาณาจักรธนบุรีมีเหตุผลสำคัญหลายประการ และมีปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองขออาณาจักร พระเจ้าตากขับไล่กองทัพพม่าออกไปจากรุงศรีอยุธยาได้แล้วก็หใคนไปอัญเชิญพระบรมศานุวงศ์ของสมเด็จพระที่นั่ง สุริยามรินทร์ ที่พากันลี้ภัยมาพำนักอยู่ที่เมืองละบุรีมาไว้ที่กรุงธนบุรี 5. สาระการเรียนรู้ - การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 การกู้เอกราช และการสถาปนาอาณาจักรธนบุรี 6. กิจกรรมการเรียนรู้(วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E)) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1. ครูให้นักเรียนดูภาพพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า พระเจ้าตากสินมหาราชมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ธนบุรีอย่างไรบ้าง โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมี ส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. เพราะเหตุใด คนไทยจึงพร้อมใจยอมรับให้พระเจ้าตากสินเป็นผู้นำหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน 4. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การสถาปนาอาณาจักรธนบุรี และปัจจัยที่มีผลต่อความเจริญรุ่งเรือง ของอาณาจักรธนบุรี จากหนังสือเรียน และหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษาลงในสมุด 5. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. เพราะเหตุใด พระเจ้าตากสินมหาราช จึงตัดสินใจย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาเป็นกรุงธนบุรี (แนวคำตอบ : เพราะกำลังพลไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับข้าศึก และกองทัพพม่ารู้ชัยภูมิของกรุงศรีอยุธยาเป็น อย่างดีอีกทั้งกรุงศรีอยุธยายังทรุดโทรมมากยากแก่การฟื้นฟู จึงควรย้ายราชธานีมาอยู่ที่กรุงธนบุรี ซึ่งมีชัยภูมิ ที่ดีในการป้องกันข้าศึก) ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ 6. สมาชิกแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษา ให้เพื่อนฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัย และอธิบายจน ทุกคน มีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน 7. ครูอธิบายความรู้เกี่ยวกับการสถาปนาอาณาจักรธนบุรี และปัจจัยที่มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักร ธนบุรี ให้นักเรียนฟังเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ 8. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรธนบุรี เมื่อทำเสร็จแล้ว ตรวจสอบความถูกต้อง และเติมเต็มคำตอบให้สมบูรณ์ 9. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2 1. การที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านกลางกรุงธนบุรีมีผลดีและผลเสียอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน)
2. ถ้าไม่เลือกตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานีหลังเสีย กรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ควรเลือกตั้งราชธานี ในบริเวณใด อธิบายเหตุผล (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 10. ครูตรวจสอบผลนักเรียนจากการทำใบงานที่ 3.1 11. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การสถาปนาอาณาจักรธนบุรี และปัจจัยที่มีผลต่อความเจริญรุ่งเรือง 12. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของกรุงธนบุรี ได้แก่ปัจจัยใดบ้าง อธิบายพร้อมยกตัวอย่าประกอบ (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) ดนัย ไชยโยธา. 2550. ประวัติศาสตร์ไทย : ยุคกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. (2) นิธี เอียวศรีวงศ์. 2555. การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. กรุงเทพมหานคร : มติชน. 3) บัตรภาพ 4) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรธนบุรี 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 2. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
๘. กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือวัด วิธีการวัด เกณฑ์การวัดและ ประเมินผล 1. นักเรียนสามารถ อธิบายสาเหตุของการ เลือกกรุงธนบุรีเป็นราช ธานีต่อจากกรุงศรีอยุธยา ได้(K) ใบงาน 3.1 ตรวจใบงาน 3.1 ร้อยละ 70 ผ่าน เกณฑ์ 2. นักเรียนสามารถ วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ความเจริญรุ่งเรืองของ อาณาจักรธนบุรีได้(P) ผลงานกลุ่ม ตรวจผลงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนตะหนักถึง ความสำคัญ เรื่อง การสถาปนาอาณาจักรธนบุรี (A) แบบสังเกต พฤติกรรม รายบุคคล สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. บันทึกผลหลังสอน ๙.1 ปัญหาที่เกิดขึ้น ..……………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.2 วิธีการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.3 ผลการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………ครูผู้สอน (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ….……./……….…./………..
๑0. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………ครูพี่เลี้ยง (นางสาวยุพิน จักรทองดี) ………./…….……./………... ๑1. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงสมร กิจโกศล ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ………./……..……./………..
ใบงานที่ 3.1 ปัจจยัท ี่ม ี ผลต่อความเจร ิ ญร่ง ุ เร ื องของอาณาจักรธนบุรี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค ำถำมต่อไปนี้ 1. กำรเสียกรุงศรีอยุธยำ ครั้งที่ 2 มีสำเหตุมำจำกอะไร และสภำพบ้ำนเมืองภำยหลังจำกเสียกรุงศรีอยุธยำ ครั้งที่ 2 ให้แก่พม่ำเป็นอย่ำงไร 2. ท ำเลที่ตั้งของกรุงธนบุรี มีควำมเหมำะสมต่อกำรเป็นรำชธำนีแห่งใหม่อย่ำงไรบ้ำง 3. ควำมเข้มแข็งทำงกำรทหำร ส่งผลต่อควำมมั่นคงและควำมเจริญรุ่งเรืองของอำณำจักรธนบุรีอย่ำงไร 4. พระเจ้ำตำกสินมหำรำช ทรงฟื้นฟูเศรษฐกิจของกรุงธนบุรีด้วยวิธีกำรใด 5. นโยบำยฟื้นฟูพระพุทธศำสนำ ส่งผลต่อควำมเจริญรุ่งเรืองของอำณำจักรธนบุรีอย่ำงไร
บัตรภาพ ภาพพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช
แบบบันทึกการสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมรายบุคคล คร้ังที่………… เรื่อง ................................................................ รหัสวิชา .......................... ภาคเรียนที่…....ปี การศึกษา………… ช้นั................โรงเรียน .................................. ล าดับที่ ชื่อ – สกุล พฤติกรรม / ระดับคะแนน ความสนใจใน การท า กิจกรรม การมีส่วนร่วม ในการแสดง ความคิดเห็น การตอบ ค าถาม การยอมรับฟัง ความคิดเห็น ผู้อื่น ท างานตามที่ ได้รับ มอบหมาย รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน คะแนนเต็ม 15 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ดี คะแนน 13 - 15 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 9 - 12 หมายถึง ปานกลาง ระดับ 1 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ปรับปรุง คะแนน 5 - 8 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60 ( 9 คะแนน ) ลงชื่อ ................................................ ( )
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา เวลาเรียน 5 ชั่วโมง เรื่องที่ 2 พัฒนาด้านการเมือง การปกครอง ของอาณาจักรธนบุรี เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง วัน____เดือน________พ.ศ.____ ครูผู้สอน นายคณาธิป ผิวบุญเรือง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความ ภูมิใจและธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วัด ม.2/1 วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรีในด้านต่างๆ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองของอาณาจักรธนบุรีได้(K) 2. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศอื่นเกี่บวกับเรื่อง พัฒนาการด้านการเมืองการ ปกครองสมัยธนบุรีได้(P) 3. นักเรียนกระตือรือร้นในการเรียนรู้เรื่อง การพัฒนาการด้านการเมือง การปกครองอาณาจักรธนบุรี(A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๓.๑ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มีจิตรสาธารณะ ๓.๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4. สาระสำคัญ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปราบชุมนุมต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพและความมั่นคงของบ้านเมือง ซึ่ง ยังคงยึดรูปแบบการเมืองการปกครองตามสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้พัฒนาการต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองการ ปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรวมทั้งการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยตาม สภาพแวดล้อมของบ้านเมือง 5. สาระการเรียนรู้ - พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองของอาณาจักรธนบุรี 6. กิจกรรมการเรียนรู้(วิธีสอนตามรูปแบบ โมเดลซิปปา (CIPPA Model)) ขั้นนำ ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม 1. ครูเปิดเพลงเจ้าตาก ของศิลปินวงคาราบาวให้นักเรียนฟัง พร้อมแจกเนื้อเพลงประกอบ แล้วให้นักเรียน ร่วมกันร้องเพลงและสรุปเนื้อหาของเพลงตามคำถามต่อไปนี้ - เพลงดังกล่าว มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับเรื่องใด - ความเข้มแข็งทางการทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรือง ของอาณาจักรธนบุรีอย่างไรบ้าง โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. นักเรียนคิดว่า ถ้าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ไม่ได้เป็นผู้นำในการกอบกู้เอกราชในครั้งนั้น บ้านเมืองของเราจะเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสอน ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ 3. นักเรียนแต่ละคนศึกษาความรู้เรื่อง พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองสมัยธนบุรี จากหนังสือเรียน หนังสือ ค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ โดยให้ครอบคลุมประเด็นต่อไปนี้ - การสร้างความเป็นปึกแผ่นของอาณาจักรธนบุรี - ลักษณะการปกครองของอาณาจักร แล้วบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษาลงในสมุด 4. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. การที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงยกทัพไปปราบชุมนุมต่างๆ ส่งผลต่อความเป็นปึกแผ่นของ อาณาจักรธนบุรีอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ : แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งทางการทหารและความเป็นเอกราชทางการเมืองการ ปกครองของอาณาจักรธนบุรี)
ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 5. นักเรียนแต่ละคนศึกษาทำความเข้าใจความรู้ใหม่และเชื่อมโยงกับความรู้เดิม แล้วสรุปสาระสำคัญ 6. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 3.2 เรื่อง พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองสมัยธนบุรี เมื่อทำเสร็จแล้ว ตรวจสอบความถูกต้องและเติมเต็มคำตอบให้สมบูรณ์ 7. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. ถ้านักเรียนอาศัยอยู่ที่เมืองจำปาศักดิ์ในสมัย กรุงธนบุรี จัดอยู่ในการบริหารราชการแผ่นดินส่วนใด และ จะต้องปฏิบัติอย่างไรต่อกรุงธนบุรี (แนวคำตอบ : เป็นหัวเมืองประเทศราช หรือหัวเมืองต่างชาติที่จะต้องส่งเครื่องราชบรรณาการ ต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองมาถวายพระมหากษัตริย์ที่กรุงธนบุรี) ขั้นสรุป 8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามข้อสงสัย 9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) ดนัย ไชยโยธา. 2550. ประวัติศาสตร์ไทย : ยุคกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. (2) วินัย พงศ์ศรีเพียร. 2543. “รัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีในประวัติศาสตร์ไทย” ใน คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงศึกษาธิการ. 3) เพลงเจ้าตาก 4) ใบงานที่ 3.2 เรื่อง พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 2. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 3. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Hist/M2/09
๘. กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือวัด วิธีการวัด เกณฑ์การวัดและ ประเมินผล 1. นักเรียนสามรถ วิเคราะห์พัฒนาการด้าน การเมืองการปกครองของ อาณาจักรธนบุรีได้(K) สมุด ตรวจสมุด ร้อยละ 70 ผ่าน เกณฑ์ 2. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูล จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศอื่น เกี่บวกับเรื่อง พัฒนาการด้าน การเมืองการปกครองสมัยธนบุรีได้(P) ใบงาน 3.2 ตรวจใบงาน 3.2 ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนกระตือรือร้นในการเรียนรู้ เรื่อง การพัฒนาการด้านการเมือง การ ปกครองอาณาจักรธนบุรี(A) แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. บันทึกผลหลังสอน ๙.1 ปัญหาที่เกิดขึ้น ..……………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.2 วิธีการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.3 ผลการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………ครูผู้สอน (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ….……./……….…./………..
๑0. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………ครูพี่เลี้ยง (นางสาวยุพิน จักรทองดี) ………./…….……./………... ๑1. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงสมร กิจโกศล ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ………./……..……./………..
ใบงานที่ 3.2 พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองสมัยธนบุรี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค ำถำมต่อไปนี้ 1. สมเด็จพระเจ้ำตำก (สิน) มหำรำช ด ำเนินกำรอย่ำงไรเพื่อสร้ำงควำมเป็นปึกแผ่นของอำณำจักรธนบุรี 2. เพรำะเหตุใด คนไทยจึงแตกแยกเป็นกลุ่มต่ำงๆ หลังเสียกรุงศรีอยุธยำ ครั้งที่ 2 3. ชุมนุมใดมีควำมเหมำะสมที่สุดในกำรเป็นกษัตริย์สืบต่อไป 4. ในสภำพกำรณ์หลังเสียกรุงศรีอยุธยำ ครั้งที่ 2 ผู้น ำของคนไทยขณะนั้นควรเป็นใคร เพรำะเหตุใด 5. สมัยธนบุรีจัดกำรปกครองบ้ำนเมืองในลักษณะใด 6. ผู้รับผิดชอบกำรจัดกำรปกครองในเขตรำชธำนี มีใครบ้ำง 7. กำรจัดกำรปกครองในส่วนหัวเมือง ประกอบด้วยอะไรบ้ำง 8. สมัยธนบุรีจัดกำรปกครองเมืองประเทศรำชไว้อย่ำงไร 9. หัวเมืองชั้นนอกในสมัยธนบุรีจัดกำรปกครองอย่ำงไร 10. ต ำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดในหัวเมืองชั้นในสมัยธนบุรี คือใคร
เอกสารประกอบการสอน เพลงเจ้าตาก ศิลปิน : คาราบาว ยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ ความตั้งใจเด็ดเดี่ยว มื้อนี้เราจะเคี้ยวข้าว และทุบหม้อข้าว ตีแหกฝ่าวงล้อม ลุยพม่าข้าศึก นึกถึงความเป็นไทย ดีกว่าไปเป็นทาส * สองมือถือดาบอย่างมั่นใจ นักรบไทยของพระเจ้าตาก ฝากฝังกรุงอยุธยา วันข้างหน้าข้าจะมาทวงคืน แผ่นดินไทยดาลเดือด ทัพข้าศึกรุมล้อม มัวแต่กล่อมสตรี เริงโลกีย์เป็นหลัก นักรบกลายเป็นศพ พบกับความปราชัย เจ้าตากทนไม่ได้ แผ่นดินไทยเป็นหลัก นักรบคือนักรบ นักสู้แห่งกรุงศรี ตีฝ่าทัพตองอู ตายหรืออยู่ไม่สำคัญ คืนนี้จันทร์หลับใหล แหกวงในวงล้อม อ้อมออกจากกรุงศรี ไปเข้าตีเมืองจันท์ ยึดเมืองจันทบุรี เป็นชุมนุมเจ้าตาก ตีชุมนุมต่างๆ ตีเจ้าฝางให้แตก ทบทวนความพ่ายแพ้ แก้ไขยุทธวิธี รวมชุมนุมที่มี ก่อนโจมตีเจ้าฝาง พ่ายแพ้เป็นบทเรียน ทําจากเล็กไปใหญ่ เจ้าฝางชะล่าใจ ในไม่นานก็แตก จากอยุธยา มาเมืองจันทบุรี มากรุงธนบุรี ไทยจึงมีเอกราช จากอยุธยา มาเมืองจันทบุรี มากรุงธนบุรี ตากสินมหาราช
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้และอธิบาย ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน และ ชุมชน 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่สร้างความ สามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่น ชมความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของ ศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เป็นแบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราช กรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำความผิด ทำ ตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็น แบบอย่างที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว และโรงเรียน ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล อย่างดี
คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อ ผู้อื่น กระทำผิดพลาด 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั่นในการ ทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบ่งปันสิ่งของ และช่วย แก้ปัญหาให้ผู้อื่น 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียนและ ชุมชน ลงชื่อ.................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา เวลาเรียน 5 ชั่วโมง เรื่องที่ 2 พัฒนาการด้านการเมือง การปกครอง ของอาณาจักธนบุรี(ต่อ) เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง วัน____เดือน________พ.ศ.____ ครูผู้สอน นายคณาธิป ผิวบุญเรือง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความ ภูมิใจและธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วัด ม.2/1 วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรีในด้านต่างๆ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองของอาณาจักรธนบุรีได้(K) 2. นักเรียนสามารถนำเสนอผลงาน เรื่อง พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองสมัยธนบุรีได้(P) 3. นักเรียนกระตือรือร้นในการเรียนรู้เรื่อง การพัฒนาการด้านการเมือง การปกครองอาณาจักรธนบุรี(A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๓.๑ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มีจิตรสาธารณะ ๓.๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4. สาระสำคัญ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปราบชุมนุมต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพและความมั่นคงของบ้านเมือง ซึ่ง ยังคงยึดรูปแบบการเมืองการปกครองตามสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้พัฒนาการต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองการ ปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรวมทั้งการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยตาม สภาพแวดล้อมของบ้านเมือง 5. สาระการเรียนรู้ - พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองของอาณาจักรธนบุรี 6. กิจกรรมการเรียนรู้(วิธีสอนตามรูปแบบ โมเดลซิปปา (CIPPA Model)) ขั้นนำ 1. ครูและนักเรียนทบทวนความรู้เดิม 2. นักเรียนคิดว่า ถ้าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ไม่ได้เป็นผู้นำในการกอบกู้เอกราชในครั้งนั้น บ้านเมืองของเราจะเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 3. นักเรียนแต่ละคนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาและการทำ ใบงานที่ 3.2 มาเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถาม ข้อสงสัยและอธิบายจนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน จากนั้นหลอมรวมคำตอบเป็น ผลงานของกลุ่ม 4. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. เพราะเหตุใด ในสมัยธนบุรี จึงยังคงใช้รูปแบบการปกครองเช่นเดียวกับในสมัยอยุธยา (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองของอาณาจักรธนบุรีลงในสมุด ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน 6. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 3.2 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกัน ตรวจสอบความถูกต้อง และให้ข้อเสนอแนะ 7. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. ถ้านักเรียนเป็นผู้นำกรุงธนบุรี นักเรียนจะเลือกใช้รูปแบบการเมืองการปกครองตามแบบสมัยอยุธยาหรือไม่ อธิบายเหตุผล (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน)
ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงธนบุรีใน ด้านอื่นๆ ต่อไป 9. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองในสมัยธนบุรี ส่งผลต่อการเมืองการปกครองของไทย ในสมัยต่อๆ มา อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสรุป 10. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามข้อสงสัย 11. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) ดนัย ไชยโยธา. 2550. ประวัติศาสตร์ไทย : ยุคกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. (2) วินัย พงศ์ศรีเพียร. 2543. “รัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีในประวัติศาสตร์ไทย” ใน คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงศึกษาธิการ. 3) ใบงานที่ 3.2 เรื่อง พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 2. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 3. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Hist/M2/09
๘. กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือวัด วิธีการวัด เกณฑ์การวัดและ ประเมินผล 1. นักเรียนสามารถ วิเคราะห์พัฒนาการด้าน การเมืองการปกครองของ อาณาจักรธนบุรีได้(K) ใบงาน 3.2 ตรวจใบงาน 3.2 ร้อยละ 70 ผ่าน เกณฑ์ 2. นักเรียนสามารถ นำเสนอผลงาน เรื่อง พัฒนาการด้าน การเมืองการปกครองสมัย ธนบุรีได้(P) แบบประเมินการนำเสนอ ผลงาน ประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนกระตือรือร้น ในการเรียนรู้เรื่อง การ พัฒนาการด้านการเมือง การปกครองอาณาจักร ธนบุรี(A) แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. บันทึกผลหลังสอน ๙.1 ปัญหาที่เกิดขึ้น ..……………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.2 วิธีการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.3 ผลการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………ครูผู้สอน (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ….……./……….…./………..
๑0. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………ครูพี่เลี้ยง (นางสาวยุพิน จักรทองดี) ………./…….……./………... ๑1. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงสมร กิจโกศล ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ………./……..……./………..
ใบงานที่ 3.2 พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองสมัยธนบุรี ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค ำถำมต่อไปนี้ 1. สมเด็จพระเจ้ำตำก (สิน) มหำรำช ด ำเนินกำรอย่ำงไรเพื่อสร้ำงควำมเป็นปึกแผ่นของอำณำจักรธนบุรี 2. เพรำะเหตุใด คนไทยจึงแตกแยกเป็นกลุ่มต่ำงๆ หลังเสียกรุงศรีอยุธยำ ครั้งที่ 2 3. ชุมนุมใดมีควำมเหมำะสมที่สุดในกำรเป็นกษัตริย์สืบต่อไป 4. ในสภำพกำรณ์หลังเสียกรุงศรีอยุธยำ ครั้งที่ 2 ผู้น ำของคนไทยขณะนั้นควรเป็นใคร เพรำะเหตุใด 5. สมัยธนบุรีจัดกำรปกครองบ้ำนเมืองในลักษณะใด 6. ผู้รับผิดชอบกำรจัดกำรปกครองในเขตรำชธำนี มีใครบ้ำง 7. กำรจัดกำรปกครองในส่วนหัวเมือง ประกอบด้วยอะไรบ้ำง 8. สมัยธนบุรีจัดกำรปกครองเมืองประเทศรำชไว้อย่ำงไร 9. หัวเมืองชั้นนอกในสมัยธนบุรีจัดกำรปกครองอย่ำงไร 10. ต ำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดในหัวเมืองชั้นในสมัยธนบุรี คือใคร
แบบประเมิน การน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน ประเมินกำรน ำเสนอผลงำนของนักเรียนตำมรำยกำรที่ก ำหนด แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 ควำมถูกต้องของเนื้อหำ 2 ควำมคิดสร้ำงสรรค์ 3 วิธีกำรน ำเสนอผลงำน 4 กำรน ำไปใช้ประโยชน์ 5 กำรตรงต่อเวลำ รวม ลงชื่อ....................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงำนหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงำนหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน ผลงำนหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงำนหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมำก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต ่ำกว่ำ 10 ปรับปรุง
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้และอธิบาย ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน และ ชุมชน 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่สร้างความ สามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่น ชมความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของ ศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เป็นแบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราช กรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำความผิด ทำ ตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็น แบบอย่างที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว และโรงเรียน ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล อย่างดี
คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อ ผู้อื่น กระทำผิดพลาด 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั่นในการ ทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบ่งปันสิ่งของ และช่วย แก้ปัญหาให้ผู้อื่น 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียนและ ชุมชน ลงชื่อ.................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา เวลาเรียน 5 ชั่วโมง เรื่องที่ 3 พัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมของอาณาจักธนบุรี เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง วัน____เดือน________พ.ศ.____ ครูผู้สอน นายคณาธิป ผิวบุญเรือง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความ ภูมิใจและธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วัด ม.2/1 วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรีในด้านต่างๆ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกสาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจในสมัยธนบุรีได้(K) 2. นักเรียนสามารถอภิปรายในประเด็นนโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในสมัยธนบุรีได้(P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าบทบาทและความสัมพันธ์ของชนชั้นต่างๆ ในสังคมสมัยธนบุรี(A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๓.๑ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. รักความเป็นไทย 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มีจิตสาธารณะ ๓.๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4. สาระสำคัญ สาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจในสมัยกรุงธนบุรี เป็นเหตุการณ์สืบเนื่องจากสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ซึ่งพระเจ้าตากสินมหาราชได้ใช้นโยบายต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการจัดการองค์ประกอบของ โครงสร้างทางสังคมเพื่อแบ่งสรรหน้าที่และความรับผิดชอบ 5. สาระการเรียนรู้ - พัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมของอาณาจักรธนบุรี 6. กิจกรรมการเรียนรู้(วิธีสอนแบบ กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์) ขั้นที่ 1 ขั้นนำ 1. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ทำให้กรุงธนบุรีประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ : เนื่องจากทำสงครามมานาน ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้ขาดแคลนแรงงานใน การทำนา ค้าขาย) 2. ครูเล่าเหตุการณ์สงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เพื่อ อธิบายและเชื่อมโยงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคมของกรุงธนบุรีให้นักเรียนฟังประกอบใบความรู้ เรื่อง เศรษฐกิจสมัยธนบุรีจากพงศาวดาร ขั้นที่ 2 จัดการเรียนรู้ 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. ชนชั้นทางสังคมในสมัยธนบุรี มีความแตกต่างจากสมัยกรุงศรีอยุธยาหรือไม่ อธิบายเหตุผล (ไม่แตกต่าง เนื่องจากกรุงธนบุรีได้ถอดแบบแผนองค์ประกอบโครงสร้างทางสังคมมาจากสมัยอยุธยาตอนปลาย) 4. นักเรียนกลุ่มเดิม ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง พัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมสมัยธนบุรี จากหนังสือเรียน และ หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ 2) นโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ 3) บทบาทและความสัมพันธ์ของชนชั้นต่างๆ ในสังคม จากนั้น บันทึกความรู้ที่ได้ศึกษาลงในสมุด 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์เนื้อหาที่ศึกษา ผลัดกันอภิปรายและซักถามข้อสงสัยจนทุกคนมีความเข้าใจ ชัดเจนตรงกันแล้วบันทึกข้อมูลลงในสมุด 6. ครูอธิบายความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านเศรษฐกิจให้นักเรียนฟังเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 3.3 เรื่อง พัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมสมัยธนบุรี แล้วร่วมกัน ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นนำส่งครูตรวจ ขั้นที่ 3 สรุปและนำหลักการไปประยุกต์ใช้ 8. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง พัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมสมัยธนบุรี 9. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาพัฒนาการด้านต่างๆ ในสมัยธนบุรีต่อไป
10. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของพระเจ้าตากสินมหาราช เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นหรือไม่ อธิบายเหตุผล (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 วัดและประเมินผล 11. ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากการทำใบงานที่ 3.3 12. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น 1. นักเรียนคิดว่า วิธีการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของพระเจ้าตากสินมหาราช สามารถนำมาปรับใช้ใน ปัจจุบันได้หรือไม่ อธิบายเหตุผล (แนวคำตอบ : พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสรุป 13. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามข้อสงสัย 14. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) ดนัย ไชยโยธา. 2550. ประวัติศาสตร์ไทย : ยุคกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. (2) วินัย พงศ์ศรีเพียร. 2543. “รัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีในประวัติศาสตร์ไทย” ใน คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงศึกษาธิการ. 3) ใบความรู้ เรื่อง เศรษฐกิจสมัยธนบุรีจากพงศาวดาร 4) ใบงานที่ 3.3 เรื่อง พัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมสมัยธนบุรี 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 2. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
๘. กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือวัด วิธีการวัด เกณฑ์การวัดและ ประเมินผล 1. นักเรียนสามารถบอก สาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจใน สมัยธนบุรีได้(K) สมุด ตรวจสมุด ร้อยละ 70 ผ่าน เกณฑ์ 2. นักเรียนสามารถอภิปรายใน ประเด็นนโยบายการแก้ปัญหา เศรษฐกิจในสมัยธนบุรีได้(P) แบบประเมินการ อภิปราย ประเมินการอภิปราย ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนเห็นคุณค่าบทบาท และความสัมพันธ์ของชนชั้นต่างๆ ในสังคมสมัยธนบุรี(A) แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. บันทึกผลหลังสอน ๙.1 ปัญหาที่เกิดขึ้น ..……………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.2 วิธีการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๙.3 ผลการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………ครูผู้สอน (นายคณาธิป ผิวบุญเรือง) ….……./……….…./………..
๑0. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………ครูพี่เลี้ยง (นางสาวยุพิน จักรทองดี) ………./…….……./………... ๑1. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงสมร กิจโกศล ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ………./……..……./………..