๙๗
10. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
11. ความคิดเห็นของผูบรหิ าร
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
แนวทางการขับเคลอื่ นโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานเพ่ือการมงี านทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลุมนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๙๘
แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 2
1. ผลการเรยี นรู
- มที กั ษะการใชเ คร่อื งมือชั่งนาํ้ หนัก วัดสวนสูง วดั ความดันโลหิต วัดอณุ หภูมิรางกาย และเจาะเลอื ด
- วเิ คราะหขอ มูล แปลผลขอมลู จากเครอื่ งมือวดั และประเมินภาวะสุขภาพ
- เหน็ คณุ คาในการประเมินภาวะสุขภาพ
2. จดุ ประสงคการเรยี นรู
ดา นความรู (K)
ประเมินผลระดบั ความดนั โลหิตของผรู บั บริการ
ดานทักษะ/กระบวนการ (P)
ใชเครือ่ งมือวัดความดนั ไดถ กู ตอ ง
ดานเจตคติ/คุณลกั ษณะ (A)
เห็นประโยชนจ ากการประเมนิ ภาวะสุขภาพ
3. สาระการเรียนรู
ความดันโลหิต คือ ความดันในหลอดเลือดเมื่อหัวใจบีบตัวสูบฉีดเลือดเขาสูหลอดเลือด ประกอบดวย
ตัวเลข 2 ตัวเสมอ (120/80) โดยจะบันทึกความดันขณะหัวใจบีบตัวซึ่งเปนตัวแรก คาปกติอยูที่ 90-120
มม.ปรอท สวนความดนั ขณะหัวใจคลายตัวจะเปนตัวหลัง คา ปกตอิ ยูที่ 60-80 มม.ปรอท หากคาทีว่ ัดไดสูงกวานี้
จะเรียกวา ความดันโลหิตสงู และหากคาทไี่ ดต่ํากวานี้จะเรยี กวา ความดนั โลหิตตํ่า
4. สมรรถนะสาํ คัญของผูเ รยี น
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแกป ญ หา
- ความสามารถในการใชทักษะชีวิต
- ความสามารถในการใชเทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค
- ซอ่ื สัตยส ุจริต
- ใฝเรียนรู
- มุงมนั่ ในการทาํ งาน
แนวทางการขับเคลอื่ นโครงการจดั การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐานเพอ่ื การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.2
๙๙
6. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด
การประเมินภาวะสุขภาพเปนการเก็บรวบรวมขอมูลเก่ียวกับสุขภาพของผูรับบริการ เพื่อจะนําไปสู
การบง ชภ้ี าวะสุขภาพ โดยวธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ มูล ในการประเมนิ ภาวะสุขภาพประกอบกอบดวยการช่ังน้ําหนัก
วัดความสูง การหาดัชนมี วลกาย การวัดความดนั โลหติ การวัดอณุ หภมู ริ า งกาย และ การเจาะเลอื ด
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู
ขน้ั นํา
- นกั เรยี นสบื คนขอ มลู จากส่อื อินเทอรเ นต็ ทีน่ า เชื่อถอื เรือ่ ง ความดนั โลหติ สูง เชน
https://www.youtube.com/watch?v=aiXcD34SUBM ของคณะเทคโนโลยีส่อื สารมวลชน มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
- นักเรียนภายในกลุมรว มกันอภปิ รายถึงสาเหตุและอาการของโรคความดันโลหิตสูง (แนวคําตอบ สาเหตุ
ไดแก อายุ เพศ พนั ธกุ รรม อาหารโซเดยี มสงู หรอื โพแทสเซียมต่ํา โรคอวนหรอื มนี ํา้ หนักเกินมาตรฐาน การสบู บุหร่ี
หรือยาสูบ การขาดการออกกาํ ลังกาย และโรคเร้ือรงั บางชนิด / อาการ ไดแก ปวดศีรษะรนุ แรง หายใจส้ัน เลือด
กาํ เดาไหล)
- นกั เรยี นและครูรว มกนั อภิปรายในประเด็นดงั นี้ 1) ความดันโลหิตคอื อะไร 2) ความดนั โลหติ สามารถวัด
คาเปนตัวเลขไดอยางไร
ข้นั สอน
- ครอู ธิบายหลกั การเกดิ ความดันโลหิต (ความดันโลหติ จะเปน แรงผลักดันใหเลือดไปเล้ยี งอวยั วะตางๆของ
รางกาย ดังน้ันเราควรจะเรียนรูเกีย่ วกบั ความดันโลหิต และรักษาใหความดันโลหิตอยูในเกณฑปกติ เพราะความ
ดันโลหิตสูงจะทําใหเกิดหลอดเลือดแข็งและตีบ เมื่อหัวใจบีบตัวหัวใจจะบีบเลือดไปยังหลอดเลือดแดงทําใหเกิด
ความดันโลหิตซ่ึงเกิดจากการบีบตัวของหัวใจ และแรงตานทานของหลอดเลือด หัวใจคนเราเตน 60-80 คร้ังตอ
นาที ความดันก็จะเพ่ิมขณะท่ีหัวใจบีบตัวและลดลงขณะท่ีหัวใจคลายตัว ความดันโลหิตของคนเราไมเทากัน
ตลอดเวลาขึ้นกบั ทา ความเครียด การออกกําลังกาย การนอนหลบั แตไมค วรเกนิ 140/90 หากสงู กวา นแี้ สดงวา
เปนโรคความดนั โลหติ สูง)
- ครูอธิบายหลักการวัดคาความดันโลหิต (การวัดความดันโลหิตสามารถวัดไดโดยใชเคร่ืองวัดความดัน
โลหิตโดยวัดจากความดันเลือดที่สามารถดันสารปรอทใหเคล่ือนท่ีไดสูงก่ีมิลลิเมตร หนวยวัดความดันโลหิต คือ
มิลลเิ มตรปรอท (มม. ปรอท) คาความดันโลหติ (Blood Pressure) คือคาทีแ่ สดงความดันของโลหติ ในรา งกายมี 2
คา คอื คา บน (Systolic Pressure) คอื คา ความดนั ที่อยูในหลอดเลอื ดแดง ขณะทห่ี วั ใจสบู ฉดี เลือดอยางเต็มท่ี และ
คาลาง (Diastolic Pressure) คือ คาเม่ือกลามเนื้อหัวใจจะผอนคลายชั่วครู ใหคาแรงดันมีกําลังออนลงท่ีสุด ซึ่ง
คา ท่ีไดก ค็ อื คา ลาง นั่นเอง)
แนวทางการขบั เคล่อื นโครงการจดั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐานเพือ่ การมีงานทาํ ในศตวรรษที่ 21 กลุมนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สพม.2
๑๐๐
- ครูแจกใบความรูท่ี 2 เรื่อง การวัดความดนั โลหติ เพอ่ื ใหน กั เรียนใชในการศึกษาเกย่ี วกับเคร่ืองวัดความ
ดันโลหิตประเภทตางๆ เชน เคร่ืองวัดความดันชนิดปรอท เครื่องวัดความดันชนิดขดลวด และเคร่ืองวัดความดัน
ชนดิ ดจิ ิตอล
- นักเรยี นลงมือปฏบิ ตั เิ พ่ือฝก การใชเคร่ืองมือวดั ความดนั
- ครูอธบิ ายหลกั การประเมินผลระดบั ความดันโลหติ ของผูรับบริการในใบความรทู ี่ 2
- ครูแจกใบงานท่ี 2 เร่ือง การวัดความดันโลหิต เพื่อใหนักเรียนฝกประเมินผลระดับความดันโลหิตของ
ผรู บั บรกิ าร และเฉลยคําตอบรวมกนั
ขน้ั สรุป
- นักเรยี นรวมกันสรปุ ความรเู กี่ยวกบั นํา้ หนกั สว นสูง และคา ดัชนมี วล(Body Mass Index : BMI) ของ
นักเรยี นและเพ่อื นในชั้นเรยี น อีก 5 คน ลงในกระดาษ A4
- นกั เรียนนาํ เสนอผลงานการเขียนแผนผงั ความคิดหนา ชั้นเรียน แลวใหน กั เรยี นชว ยกันคดั เลอื กผลงานที่
ดที ่สี ุด
- นกั เรยี นสรุปภาพรวมการประเมนิ ภาวะสขุ ภาพภายในช้นั เรียน นาํ เสนอเปน กราฟขอ มลู ท่ีเขาใจไดงา ย
หมายเหตุ : นกั เรยี นบนั ทกึ นาํ้ หนกั สวนสูง และคา ดัชนีมวล(Body Mass Index : BMI) ของนกั เรียน ลงในสมุด
บันทกึ สขุ ภาพอีกคร้งั ในสปั ดาหท่ี 5
8. วัสดุ อปุ กรณ สือ่ และแหลงเรียนรู
วสั ดแุ ละอปุ กรณ
- เคร่อื งวดั ความดนั โลหิต
ส่อื และแหลงเรยี นรู
- วิดที ศั น เรื่อง ความดันโลหิตสงู ของคณะเทคโนโลยสี อื่ สารมวลชน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยี
ราชมงคลธญั บุรี (https://www.youtube.com/watch?v=aiXcD34SUBM)
- ใบความรทู ่ี 2 เรอ่ื ง การวดั ความดันโลหิต
- ใบงานที่ 2 เรือ่ ง การวัดความดันโลหิต
- หองพยาบาลหรอื สถานพยาบาลอ่ืน ๆ
- สมดุ บนั ทึกสุขภาพ
แนวทางการขบั เคลอ่ื นโครงการจดั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานเพอ่ื การมงี านทําในศตวรรษที่ 21 กลมุ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สพม.2
๑๐๑
9. การวัดและประเมินผล
สิ่งทตี่ องการวัดและประเมนิ ผล วิธีวดั เครื่องมอื วัด เกณฑการประเมิน
ดานความรู (K) - การตรวจ
- ประเมินผลระดับความดนั โลหิต ใบงานท่ี 2 - ใบงานท่ี 2 - ทําใบงานไดถ ูกตอ ง 70 %
ของผูร ับบรกิ าร - การประเมนิ ขึ้นไป ถอื วา ผา น
ดา นทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการใช
-ใชเ ครอื่ งมือวดั ความดนั ไดถ ูกตอ ง เครอ่ื งมอื - แบบประเมนิ - ใชเครือ่ งมอื ไดอยางถกู ตอ ง
ดา นเจตคติ/คุณลกั ษณะ (A) - การบอกภาวะ การใชเ ครอ่ื งมือ, ระดับคะแนน 4 ถอื วา ผา น
- เห็นประโยชนจากการประเมิน สุขภาพได ใบงานท่ี 2
ภาวะสขุ ภาพ
- สมดุ บันทกึ - วิเคราะห แปลผล และ
สุขภาพ ประเมินภาวะสขุ ภาพได
ถูกตอง 80 % ขนึ้ ไป
10. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
11. ความคดิ เห็นของผบู รหิ าร
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
แนวทางการขับเคลอื่ นโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานเพอ่ื การมงี านทําในศตวรรษท่ี 21 กลุม นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.2
๑๐๒
เกณฑการใหคะแนนแบบประเมนิ การใชเ ครอ่ื งมือและแปลผลขอ มูลของนกั เรียน
รายการ ระดับคะแนน
ประเมิน 4 3 21
การใชเ คร่ืองมือ ใชเคร่ืองมือวดั น้าํ หนกั ใชเครอื่ งมือวดั ใชเครือ่ งมือวดั ใชเครอ่ื งมือวัด
สวนสงู ความดนั โลหติ นาํ้ หนกั สวนสงู ความ นํ้าหนกั สวนสงู ความ นา้ํ หนกั สวนสงู
อุณหภูมริ างกาย และการ ดนั โลหิต อณุ หภมู ิ ดันโลหิต อณุ หภมู ิ ความดันโลหิต
เจาะเลือดไดอยา งถูกตอง รา งกาย และการเจาะ รา งกาย และการเจาะ อณุ หภูมริ างกาย
ตามหลักการปฏิบัติและ เลือดไดอยางถูกตอง เลือดไดอยางถูกตอ ง และการเจาะเลือดไม
คลองแคลว ตามหลักการปฏบิ ตั ิ โดยมีครู หรือผอู ืน่ ถกู ตอ ง และไมมี
แตไ มคลองแคลว เปนผูแนะนํา ความคลอ งแคลวใน
การใช
การบันทึกผล บนั ทกึ ผลเปน ระยะอยางถกู ตอ ง บันทกึ ผลเปนระยะ บนั ทกึ ผลเปนระยะ บนั ทึกผลไมค รบ
การวัด มีระเบียบ มีการระบุหนว ย มีการ อยางถกู ตอ ง มีระเบียบ มี แตไมเปนระเบียบ ไมม ีการระบุหนว ย และ ไม
อธบิ ายขอ มูลใหเ หน็ ความ การระบุหนวย มกี ารอธิบาย ไมม ีการระบุหนว ย เปน ไปตามข้ันตอน
เชื่อมโยงเปน ภาพรวมเปน เหตุ เปน ขอมูลใหเหน็ ถึงความสัมพันธ และไมม กี ารอธบิ ายขอมูลให
ผล เหน็ ถึงความสัมพนั ธ
การจดั กระทํา จดั กระทําขอมลู อยา งเปน ระบบ จัดกระทําขอมลู อยางเปน จัดกระทําขอมูลอยางเปน จัดกระทําขอ มูลอยา ง ไม
ขอ มลู และ มกี ารเช่อื มโยงใหเห็นเปนภาพรวม ระบบ มีการจาํ แนกขอมูล ระบบ มกี ารยกตวั อยา ง เปนระบบ และมีการ
การนําเสนอ และนาํ เสนอดวยแบบตา ง ๆ อยา ง ใหเ ห็นความสัมพนั ธ นําเสนอ เพม่ิ เตมิ ใหเ ขา ใจงายและ นําเสนอไมส่ือความหมาย
ชัดเจน ถกู ตอง ดวยแบบตา งๆ ได แตย ังไม นาํ เสนอดว ยแบบตางๆ แตย งั และ
ชัดเจน ไมชดั เจน และ ไมถูกตอ ง ไมชดั เจน
การแปลผล ระบภุ าวะสขุ ภาพของผูร ับบริการ ระบภุ าวะสุขภาพของ ระบภุ าวะสุขภาพของ ระบุภาวะสุขภาพของ
ขอมลู ไดถกู ตอง กระชบั ชดั เจน และ ผรู ับบริการไดถ กู ตอ ง แตยงั ผูรับบริการไดโดยมีครูหรือ ผรู บั บริการไดตามความรูท่ี
ครอบคลมุ ขอมลู จากการวเิ คราะห ไมค รอบคลมุ ขอ มูลจากการ ผอู ืน่ แนะนาํ บา ง จึงสามารถ พอมอี ยู โดยไมใ ชข อมูล
ทัง้ หมด วเิ คราะหท งั้ หมด สรปุ ไดถูกตอง จากการทดลองทํา/
กิจกรรม
การดแู ลและ ดแู ลเคร่ืองมือในวัด นาํ้ หนัก ดูแลเคร่ืองมือในวัด นา้ํ หนกั ดูแลเครื่องมือในวัด นา้ํ หนัก ดูแลเครื่องมือในวัด น้ําหนกั
การเกบ็ สวนสงู ความดนั โลหิต อณุ หภมู ิ สว นสงู ความดนั โลหิต สวนสงู ความดันโลหิต สว นสงู ความดนั โลหิต
เครือ่ งมอื รา งกาย และการเจาะเลือดและมี อุณหภมู ริ างกาย และการเจาะ อุณหภูมิรางกาย และการเจาะ อุณหภมู ิรางกาย และการ
การทําความสะอาดและเก็บอยา ง เลอื ดและมกี ารทําความ เลอื ดมีการทาํ ความสะอาด เจาะเลือดและไมสนใจ ทํา
ถกู ตองตามหลกั การ และแนะนาํ สะอาดอยา งถูกตอง แตเกบ็ แต เก็บไมถ ูกตอง ตอ งใหครู ความสะอาดรวมท้ังเก็บไม
ใหผอู น่ื ดูแลและเกบ็ รักษาได ไมถูกตอง หรือผูอ นื่ แนะนาํ ถกู ตอง
ถกู ตอง
หมายเหตุ : นกั เรยี นจะผานเกณฑต อเมอ่ื อยูในระดบั คะแนน 4 หากต่ํากวา นี้สามารถพฒั นาตนเองไดจ นกวาจะอยูใน
ระดับ 4
แนวทางการขบั เคลื่อนโครงการจดั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐานเพ่ือการมงี านทําในศตวรรษที่ 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.2
๑๐๓
แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 3
1. ผลการเรยี นรู
- มที กั ษะการใชเครอ่ื งมือวดั อณุ หภูมริ างกาย
- วเิ คราะหขอมูล แปลผลขอมลู จากอณุ หภมู ิท่ีวัดได และประเมินภาวะสุขภาพ
- เห็นคณุ คา ในการประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ
2. จดุ ประสงคการเรียนรู
ดา นความรู (K)
วิเคราะหข อมูล แปลผลขอมูลจากเครื่องมอื วัด และประเมนิ ภาวะสุขภาพ
ดานทักษะ/กระบวนการ (P)
มีทักษะการใชเ คร่ืองมือวดั อุณหภมู ริ างกาย
ดา นเจตคติ/คณุ ลกั ษณะ (A)
เห็นคุณคาในการประเมินภาวะสขุ ภาพ
3. สาระการเรยี นรู
การวัดอุณหภูมิรางกาย หรือวัดไข เปนการวัดคาอุณหภูมิของรางกายดวยเทอรโมมิเตอรวัดไข
แบบตาง ๆ เพื่อดูวาเปนปกติหรือมีอาการไข ดูประสิทธิภาพในการใชยาลดไข และชวยคํานวณหาวันไขตกใน
ผูหญิงตั้งครรภ โดยอุณหภูมิปกติของผูใหญท่ีมีสุขภาพแข็งแรงจะอยูระหวาง 36.5-37.2 องศาเซลเซียส
แตโดยเฉลย่ี แลวจะอยูทป่ี ระมาณ 37 องศาเซลเซียส
4. สมรรถนะสําคัญของผูเรียน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี
- ความสามารถในการแกป ญหา
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค
- ซื่อสัตยส ุจริต
- มวี ินัย
- ใฝเรยี นรู
- มุงมัน่ ในการทํางาน
- มีจติ สาธารณะ
แนวทางการขับเคลอ่ื นโครงการจัดการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานเพ่ือการมงี านทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๐๔
6. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด
การวัดอุณหภูมริ า งกาย หรอื วดั ไข เปนการวัดคา อุณหภูมขิ องรางกายดวยเทอรโ มมเิ ตอรวัดไขแบบตา ง ๆ
เพือ่ ดวู า เปน ปกติหรอื มอี าการไข ดูประสทิ ธภิ าพในการใชยาลดไข และชว ยคาํ นวณหาวันไขตกในผูหญงิ ต้งั ครรภ
อณุ หภมู ิปกตขิ องผูใหญท่ีมสี ุขภาพแขง็ แรงจะอยูระหวาง 36.5-37.2 องศาเซลเซียส แตโ ดยเฉล่ียแลว จะอยทู ี่
ประมาณ 37 องศาเซลเซียส
การอา นผลในการวดั ไข
เกณฑปกติของอณุ หภูมใิ นรางกายแบง ตามวธิ ใี นการวัดไขไ ดด ังนี้
• อุณหภมู ิปกติทางปาก 35.5-37.5 องศาเซลเซยี ส
• อณุ หภมู ปิ กติทางทวารหนกั 36.6-38 องศาเซลเซียส
• อุณหภมู ิปกติทางรกั แร 34.7-37.3 องศาเซลเซียส
• อุณหภมู ิปกติทางหู 35.8-38.0 องศาเซลเซยี ส
หากอณุ หภมู ทิ ีว่ ดั ออกมาสงู กวา เกณฑข า งตน แสดงวารางกายมีอาการไขหรือเกิดความปกติอ่นื ๆ ทง้ั นี้ควร
พจิ ารณาหลายปจจยั ประกอบ ไมควรดเู ฉพาะคาอุณหภูมทิ ่ีวดั ไดเทานน้ั ซง่ึ ในระหวา งวันอาจเกิดการเปลีย่ นแปลง
ของอุณหภูมิในรางกายไดเล็กนอยจากหลายปจจัย เชน อยูในชวงมีประจําเดือนอาจทําใหอุณหภูมิรางกายสงู ข้ึน
ชวงเชาจะวัดอุณหภูมิรางกายไดตํ่ากวาชวงบาย เด็กอายุมากกวา 6 เดือนอาจมีอุณหภูมิปกติตางกัน 1-2 องศา
เซลเซยี ส
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู
ข้นั นํา
-นกั เรยี นและครูรวมกันอภปิ รายเกี่ยวกับการวัดอุณหภมู ิรา งกาย โดยใชเทอรโมมเิ ตอรวัดไข
- ใหนักเรียนบอกประสบการณและนําเสนอขอมูลความรูเร่ืองการวัดอุณหภูมิท่ีตนมีอยูใหเพื่อนฟง
โดยสงั เขป โดยครูเพิม่ เติมขอมลู ทยี่ ังไมครอบคลมุ
ข้ันสอน
- นักเรียนศึกษา การใชเทอรโมมิเตอรวัดไขแบบตาง ๆ วิธีการและขั้นตอนการวัดอุณหภูมิรางกาย
การอานผลในการวัดไขจ ากใบความรู เร่ืองการวัดอุณหภูมริ างกาย
- นักเรียนสบื คน และสังเกต การใชเ ทอรโ มมเิ ตอรว ดั ไขแบบตา ง ๆ และวิธกี ารและขั้นตอนการวดั อุณหภูมิ
จากวิดทิ ศั น พรอมทงั้ บันทกึ วิธกี ารและขั้นตอนการวัดอุณหภูมิ
- นักเรยี นจับคฝู กปฏิบัตกิ ารใชเทอรโ มมเิ ตอรว ดั ไข บันทึกผลการวดั อุณหภมู ิ และอา นผลในการวดั ไข
- นักเรยี นทําใบงานที่ 1 เร่ืองการวัดอณุ หภูมริ างกาย โดยนกั เรยี นแตละคนทําการวดั ไขของสมาชกิ ในช้ัน
เรยี นจํานวน 5 คน บนั ทกึ ผลการวัดอุณหภมู ิ และประเมินภาวะสุขภาพลงในใบงาน
แนวทางการขับเคลอ่ื นโครงการจดั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานเพอื่ การมีงานทําในศตวรรษที่ 21 กลุมนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สพม.2
๑๐๕
- นักเรยี นจับคูกับเพอ่ื นคูฝก ปฏิบัติ (จากข้นั ที่ 3) แลว ชว ยกันตรวจสอบความถูกตองของบนั ทึกผลการวัด
อุณหภูมิ และประเมนิ ภาวะสขุ ภาพในใบงาน
- นักเรียนทําใบงานท่ี 2 เร่ืองการวัดอุณหภูมิรางกาย(2) โดยสรุปองคความรูท่ีไดจากการปฏิบัติการ
วัดอณุ หภมู ิรางกาย อานผลในการวดั ไข และประเมินภาวะสุขภาพ ในรูปแบบแผนผงั ความคดิ
- นักเรียนแตละคนทําการวัดไขของสมาชิกในชั้นเรียนจํานวน 5 คน บันทึกผลการวัดอุณหภูมิ และ
ประเมนิ ภาวะสขุ ภาพลงในสมุดบันทกึ สขุ ภาพ สปั ดาหละ 1 ครงั้ เปนเวลา 1 เดอื น
ขนั้ สรุป
- นักเรียนนําเสนอแผนผงั ความคิด จากใบงานที่ 2 ในรูปแบบนทิ รรศการ รว มอภิปราย
- ใหน กั เรียนวิเคราะหข อมลู แปลผลขอมูลจากบันทึกผลการวัดอุณหภมู ิ และประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ ของ
ผูรับบรกิ ารลงในสมุดบนั ทกึ สุขภาพ
- นกั เรียนรายงานผลการประเมินสภาวะสุขภาพใหผ รู บั บริการทราบ
8. วัสดุ อุปกรณ สื่อ และแหลง เรยี นรู
วสั ดแุ ละอุปกรณ
- เทอรโมมิเตอรว ดั ไข
- ใบความรูเรอ่ื งการวัดอุณหภมู ริ างกาย
- สมดุ บันทึกสุขภาพ
สื่อและแหลงเรยี นรู
- วดิ ที ศั นเรอื่ งเทอรโมมเิ ตอรว ดั ไขแบบตา ง ๆ และวธิ กี ารวัดอุณหภมู ิ
9. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวัด เครื่องมอื วัด เกณฑการประเมิน
สิ่งท่ตี องการวัดและประเมนิ ผล - การตรวจสมุดบนั ทกึ - สมดุ บันทึกสขุ ภาพ - บนั ทึกขอ มลู
สุขภาพ วเิ คราะห แปลผล
ดา นความรู (K) และประเมินภาวะ
- วิเคราะหข อมูล แปลผลขอมลู จาก สขุ ภาพไดอ ยา ง
เครือ่ งมือวัด และประเมินภาวะสขุ ภาพ ถกู ตอง 100%
ดา นทักษะ/กระบวนการ (P) - ใบงาน เร่อื งการวดั - ตอบคําถามถกู ตอง
- มีทกั ษะการใชเ คร่ืองมอื วัดอณุ หภูมิ อุณหภมู ิรา งกาย รอยละ 70
รา งกาย
แนวทางการขับเคล่อื นโครงการจัดการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานเพอื่ การมงี านทําในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.2
๑๐๖
สงิ่ ทีต่ องการวัดและประเมินผล วธิ วี ดั เคร่ืองมือวัด เกณฑก ารประเมิน
ดานเจตคติ/คณุ ลกั ษณะ (A) - การตรวจใบงาน ผา นเกณฑ
- เห็นคุณคา ในการประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ เรื่องการวัดอณุ หภมู ิ - แบบประเมินทักษะ - ใชเทอรม ิเตอรว ดั
รางกาย ปฏบิ ัตกิ ารใช ไข ไดอ ยางถกู ตอง
- การสงั เกตการใช เทอรม เิ ตอรวดั ไข 100 %
เทอรโ มมเิ ตอรว ัดไข
แบบตา ง ๆ
- การบอกภาวะ - สมุดบันทกึ สขุ ภาพ วเิ คราะห แปลผล
สขุ ภาพไดอยางถกู ตอ ง และประเมนิ ภาวะ
100% สุขภาพไดอ ยาง
ถูกตอง 100%
10. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
11. ความคิดเห็นของผบู ริหาร
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
แนวทางการขบั เคล่อื นโครงการจดั การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานเพือ่ การมงี านทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลุม นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๐๗
แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 4
1. ผลการเรียนรู
- มีทกั ษะการใชเคร่ืองมือชัง่ นาํ้ หนัก วดั สวนสูง วัดความดันโลหิต วัดอุณหภมู ิรางกาย และเจาะเลือด
- วิเคราะหขอมลู แปลผลขอมลู จากเครื่องมอื วัด และประเมินภาวะสขุ ภาพ
- เหน็ คุณคาในการประเมินภาวะสุขภาพ
2. จดุ ประสงคการเรยี นรู
ดา นความรู (K)
ระบหุ มเู ลือดของผูรบั บริการได
ดา นทักษะ/กระบวนการ (P)
ใชเครอื่ งมือเจาะและตรวจสอบหมูเลอื ดไดถกู ตอ ง
ดา นเจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A)
เหน็ ประโยชนจากการประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ
3. สาระการเรยี นรู
หมูเลือด คือ ตัวบงบอกความแตกตางของเลือด ทราบไดจากการเจาะตรวจเลือด โดยดูจากจากสารที่มี
ชื่อวา แอนติเจน )Antigens) เปนสําคัญซึ่งอยูบนผิวของเม็ดเลือดแดงซึ่งหมูเลือดระบบหน่ึงที่มีความสําคัญเปน
อยางมากคือระบบ ABO แบงกรุปเลือดออกเปน ชนิด คือ 4 หมูเลือด A คือหมูเลือดที่มีแอนติเจนชนิดเอ
)A Antigens) ทีผ่ ิวเซลลเม็ดเลอื ดแดง และมสี ารแอนติบอดีชนดิ แอนติ) บ-ี Anti-B) ในพลาสมา หมเู ลอื ด B คอื หมู
เลือดท่ีมีแอนติเจนชนิดบี )B Antigens) ที่ผิวเซลลเม็ดเลือดแดง และมีสารแอนติบอดีชนิด แอนติ) เอ-Anti-A)
ในพลาสมา หมูเลือด O คือหมูเลือดท่ีไมมีแอนติเจน แตมีแอนติบอดีทั้งชนิด แอนติเอ และ แอนติบี ในพลาสมา-
สวนหมูเลือด AB คือหมูเลือดท่ีมีแอนติเจนทั้งชนิดเอ และบี แตไมมีแอนติบอดีชนิดเอและบีใน
พลาสมา ซึ่งการตรวจหมูเลือดสามารถทําไดไดโดยการหยดแอนติ-เอ และแอนติ-บี ลงบนหยดเลือดและสังเกต
การตกตะกอน หากเลอื ดตกตะกอนทแ่ี อนตใิ ดแสดงวา เลือดตวั อยางเปนหมูเลอื ดน้นั
4. สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการใชเทคโนโลยี
- ความสามารถในการแกปญ หา
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ิต
แนวทางการขบั เคล่อื นโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานเพ่ือการมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลุมนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.2
๑๐๘
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค
- ซ่อื สัตยส ุจรติ
- มีวินยั
- ใฝเรียนรู
- มงุ มั่นในการทํางาน
- มจี ติ สาธารณะ
6. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด
การตรวจหมูเ ลือดสามารถทาํ ไดโดยการเจาะเลอื ดดวยเขม็ เจาะเลือดแลวนํามาทดสอบดวยแอนติบอดี A
และB เพ่อื สงั เกตการตกตะกอนแลว จงึ จะสามารถระบุหมูเ ลอื ดได
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู
ข้ันนํา
- นักเรียนสืบคน ตัวอยางวิดีโอคลิปอุบตั ิเหตุท่สี ง ผลใหร างกายเสียเลอื ดจํานวนมาก และรว มแลกเปลยี่ น
เรยี นรถู ึงวิธปี อ งกันอบุ ัติเหตเุ หลานนั้ และหากเกิดอุบัติเหตเุ กิดข้ึนควรตองปฏิบัตติ วั อยางไร เชน การเตรียม
ขอ มูลเกี่ยวกับหมูเ ลือดของตนเอง ในกรณีที่เสยี เลือดมาก
- นักเรียนแตละกลุมต้ังคําถามเก่ียวกับการชวยเหลือและพยาบาลผูประสบอุบัติเหตุ โดยรวมกัน
แลกเปลย่ี นทศั นคติ หรือ ขอมลู ท่ีสบื คน เพ่ิมเตมิ
คําถาม : นักเรียนคิดวาเมื่อรถฉุกเฉินนําบุคคลดังกลาวไปยังโรงพยาบาลส่ิงท่ีแพทยหรือพยาบาล
ตองทําคืออะไร
แนวคําตอบ : (ใหเ ลอื ด)
คาํ ถาม : การใหเลือดตอ งคาํ นึงถึงส่ิงใดเปน สําคัญ
แนวคําตอบ : หมเู ลอื ดของผรู บั
ขนั้ สอน
- นักเรยี นทดลองเจาะเลอื ดและตรวจสอบหมเู ลอื ดของตนเองดวยแอนต-ิ เอ และแอนต-ิ บี
- นกั เรียนบนั ทึกผลลงในใบงานที่ 4 เรอ่ื ง หมโู ลหิต
- นกั เรียนรวมกันอธปิ รายและลงขอ สรปุ ในประเด็นตา ง ๆ ดงั น้ี
- หมเู ลือดใดบางตกตะกอนเฉพาะแอนติ-เอ (หมเู ลือดเอ)
- หมูเ ลือดใดบางตกตะกอนกบั แอนต-ิ บี (หมเู ลือดบ)ี
- หมเู ลอื ดใดบางตกตะกอนกบั ท้ังแอนต-ิ เอ และแอนต-ิ บี (หมูเ ลอื ดเอบี)
- หมูเลือดใดบา งไมตกตะกอนกับท้งั แอนติ-เอ และแอนต-ิ บี (หมูเลอื ดโอ)
แนวทางการขบั เคลอื่ นโครงการจัดการศึกษาขนั้ พื้นฐานเพ่ือการมงี านทาํ ในศตวรรษที่ 21 กลุมนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๐๙
- การตกตะกอนของหมเู ลอื ดมีความสมั พันธอ ยา งไรกับแอนต-ิ เอ และแอนต-ิ บี (ตกตะกอนกบั หมูเลือดนั้น
ๆ ตามแอนติเจนที่ผิวเม็ดเลอื ดแดง)
- นักเรียนทดลองจบั คกู ับเพ่อื นและตรวจสอบหมูเลอื ดของเพอ่ื น
ขน้ั สรปุ
นกั เรียนสืบคน ความรเู ร่ืองการใหเลือดและหมเู ลือดระบบ Rh และเขยี นผังมโนทศั นสรปุ องคค วามรูทีไ่ ด
หมูเลือดระบบอารเอชเปนหมูเลือดที่ประกอบดวยแอนติเจนท่ีมีความสําคัญทางคลินิก 5 ชนิด คือ
แอนติเจนดีใหญ (D), ซีใหญ (C), อีใหญ (E), ซีเล็ก (c), อีเล็ก (e) และแอนติเจนอื่นท่ีเกี่ยวของท่ีไมคอยมี
ความสําคัญทางคลินิกอีก 46 ชนิด แตแอนติเจนสําคัญที่เปนตัวบงบอกชนิดของหมูเลือดระบบอารเอชนค้ี ือ
แอนตเิ จนดใี หญ (D) ซ่ึงจะแบงออกไดเปน 2 หมู คือ
1. หมูเ ลอื ดอารเอชบวก (Rh positive, Rh+) คือหมเู ลือดทมี่ ีแอนติเจน-ดีใหญ (Antigen-D) อยทู ่ี ผวิ ของ
เมด็ เลอื ดแดง ในคนไทยมีหมเู ลอื ดอารเอช (D) บวกประมาณ 99.7%
2. หมูเลือดอารเอชลบ (Rh negative, Rh-) คือหมูเลือดที่ไมมีแอนติเจน-ดีใหญ (Antigen -D) อยูที่ผิว
ของเม็ดเลือดแดง ในคนไทยพบวามีหมเู ลือดน้ีเพียง 0.3% หรือ 1,000 คนจะพบเพียง 3 คนเทาน้ันซ่ึงเรา
เรียกวา เปน "หมูเลือดหายาก" หรือ "หมูเ ลอื ดพิเศษ"
ห มู เ ลื อ ด ร ะ บ บ อ า ร เ อ ช เ ป น ห มู เ ลื อ ด ที่ มี ค ว า ม สํ า คั ญ ร อ ง ล ง ม า จ า ก ห มู เ ลื อ ด ร ะ บ บ เ อ บี โ อ เ นื่ อ ง
จากแอนตเิ จน-ดีใหญส ามารถกระตุนใหสรา งแอนตบิ อดีไดด กี วาแอนติเจนอ่ืน ๆ ของเมด็ เลอื ดแดง
ปกติโดยธรรมชาติในคนเราจะไมสรางแอนติบอดีตอแอนติเจน-ดีใหญ แตจะพบวามากกวา 80%
ของคนหมอู ารเอชลบจะสรา งแอนติบอด-ี ดใี หญ (Anti-D) ไดเมอ่ื ไดรบั เลือดหมอู ารเ อชบวก จากการถา ยเลือด/
ไดรับเลือดหรือจากต้ังครรภ ดังน้ันจึงจําเปนตองตรวจหมูเลือดอารเอช (ตรวจไดจากการตรวจเลือด) ท้ังใน
ผปู ว ยและในผบู ริจาคเลือดเพ่ือใหมนั่ ใจวาผูป ว ยทเ่ี ปน หมเู ลอื ดอารเอชลบ จะไดรบั เลือดอารเอชลบเทาน้ันเพ่ือ
ปองกันการสรางแอนติบอดี-ดีใหญ ซ่ึงเปนแอนติบอดีที่มีความ สําคัญทางคลินิกเพราะสามารถทําใหเกิดเม็ด
เลือดแดงแตก/ถกู ทาํ ลายในคนท่มี ีแอนติบอด-ี ดีใหญ และไดร ับเลือดอารเอชบวกเขาไป
8. วัสดุ อุปกรณ สอ่ื และแหลง เรียนรู
วสั ดุและอปุ กรณ
- แผน กระจกสไลด
- แอนต-ิ เอ และแอนต-ิ บี
- แอลกอฮอลลางแผล
- เข็มเจาะเลือด
- หลอดคาปลลาร่ี
- ไมจ้ิมฟน
แนวทางการขบั เคลือ่ นโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานเพอ่ื การมงี านทําในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.2
๑๑๐
สื่อและแหลง เรยี นรู
- วดิ โี ออุบัตเิ หตุ
- ใบงานและใบความรู เรือ่ ง หมูโลหิต
- สมุดบนั ทกึ สุขภาพ
9. การวัดและประเมนิ ผล
สิง่ ทต่ี อ งการวัดและประเมนิ ผล วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑการประเมิน
ดานความรู (K) - การตรวจสมุดบนั ทกึ - สมุดบนั ทึกสุขภาพ - บนั ทกึ ขอมลู
- วิเคราะหขอมูล แปลผลขอ มลู จาก สุขภาพ วเิ คราะห แปลผล
เครอ่ื งมือวัด และประเมนิ ภาวะสุขภาพ และประเมนิ ภาวะ
สุขภาพไดอ ยา ง
ถกู ตอ ง 100%
ดานทักษะ/กระบวนการ (P) - การตรวจใบงาน - ใบงาน เร่อื งการวัด - ตอบคําถามถกู ตอ ง
- มีทักษะการใชเ คร่อื งมอื วดั อณุ หภมู ิ เร่อื งการวัดอุณหภมู ิ อณุ หภมู ริ า งกาย รอ ยละ 70
รา งกาย รางกาย ผานเกณฑ
ดา นเจตคติ/คุณลกั ษณะ (A) - การสงั เกตการใช - แบบประเมินทักษะ - ใชเ ทอรม เิ ตอรวัด
- เห็นคณุ คาในการประเมนิ ภาวะสุขภาพ เทอรโมมเิ ตอรว ดั ไข ปฏบิ ตั กิ ารใช ไข ไดอยางถกู ตอ ง
10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู แบบตา ง ๆ เทอรมิเตอรว ดั ไข 100 %
- การบอกภาวะ - สมุดบันทึกสุขภาพ วิเคราะห แปลผล
สขุ ภาพไดอ ยางถกู ตอง และประเมนิ ภาวะ
100% สขุ ภาพไดอ ยา ง
ถกู ตอ ง 100%
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
แนวทางการขับเคลื่อนโครงการจดั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐานเพอ่ื การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๑๑
11. ความคดิ เห็นของผูบ ริหาร
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
แนวทางการขับเคลอ่ื นโครงการจดั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานเพือ่ การมงี านทาํ ในศตวรรษที่ 21 กลุม นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๑๒
แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 5
1. ผลการเรียนรู
- ฝก ประสบการณร ายบคุ คลในสถานพยาบาล
2. จดุ ประสงคการเรยี นรู
ดา นความรู (K)
ประเมนิ ผลระดับความดันโลหิตของผูรับบริการ
ดานทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- ฝก ประสบการณในการใหบรกิ ารและประเมินภาวะสุขภาพในสถานพยาบาล
- ใชเคร่ืองมือวัดความดันไดถ ูกตอ ง
ดานเจตคติ/คุณลกั ษณะ (A)
- เห็นประโยชนจ ากการประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ
- มคี วามมงุ มั่นในการใหบ ริการแกผ ูรบั บรกิ าร
3. สาระการเรียนรู
การฝกประสบการณรายบุคคลในสถานพยาบาลคือ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีกระทาํ
รวมกันระหวางโรงเรียนกับสถานพยาบาล เพ่ือใหนักเรียนไดความรู ทักษะและเจตคติ ท่ีจําเปนตอการประกอบ
วชิ าชพี พยาบาล
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ รยี น
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี
- ความสามารถในการแกปญ หา
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ิต
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค
- ซื่อสตั ยสุจริต
- มีวนิ ยั
- ใฝเรยี นรู
- มุงมน่ั ในการทํางาน
- มีจติ สาธารณะ
แนวทางการขับเคลื่อนโครงการจดั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐานเพื่อการมีงานทาํ ในศตวรรษที่ 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๑๓
6. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด
การประเมินภาวะสุขภาพเปนการเก็บรวบรวมขอมูลเก่ียวกับสุขภาพของผูรับบริการ เพ่ือจะนําไปสู
การบง ช้ภี าวะสุขภาพ โดยวิธกี ารเก็บรวบรวมขอมูล ในการประเมินภาวะสุขภาพประกอบกอบดว ยการชง่ั น้ําหนัก
วดั ความสูง การหาดชั นมี วลกาย การวัดความดนั โลหิต การวดั อุณหภูมริ า งกาย และการเจาะเลอื ด
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู
ขน้ั นํา
- ครแู นะนํากฎ กตกิ า และขอ มลู เก่ียวกับสถานพยาบาลที่นักเรียนจะตอ งฝก ประสบการณใ นการใหบริการ
และประเมินภาวะสุขภาพ
- ครูชี้แจงขั้นตอน วิธีการ และกําหนดการ ในการทําภาระงานท่ีนักเรยี นจะตองสงเม่อื ผานการฝกปฏบิ ัติ
ไดแก สมุดบนั ทกึ สขุ ภาพ และรายงานการฝก ประสบการณ
ขัน้ สอน
- นักเรียนฝกประสบการณรายบุคคลในสถานพยาบาล ไดแก การใชเครื่องช่ังนํ้าหนักและวัดสวนสูง
เครื่องวัดความดันโลหิต เทอรโมมิเตอรวัดไข และชุดตรวจหมูเลือด โดยมีครูคอยสังเกตพฤติกรรม
การฝกประสบการณร ายบุคคลในสถานพยาบาลอยา งใกลชิด
ข้นั สรปุ
- นักเรียนและครูรวมกนั สรุปองคค วามรู ปญ หา และแนวทางการแกปญ หารว มกัน
- นกั เรียนสง สมุดบันทกึ สขุ ภาพ และรายงานการฝกประสบการณ จากนั้นครูนาํ ไปตรวจเพือ่ นาํ ผลการ
ประเมินกลับมาแกไ ขนักเรียนท่ียังไมผ า นเกณฑการประเมนิ
8. วสั ดุ อปุ กรณ ส่อื และแหลง เรยี นรู
วัสดุและอุปกรณ
- เครอื่ งชง่ั น้าํ หนกั และวดั สวนสงู
- เครอ่ื งวดั ความดนั โลหิต
- เทอรโ มมเิ ตอรวัดไข
- ชุดตรวจหมเู ลือด
สือ่ และแหลง เรียนรู
-สมดุ บนั ทกึ สุขภาพ
- รายงานการฝก ประสบการณ
- หองพยาบาลหรอื สถานพยาบาลอน่ื ๆ
แนวทางการขับเคลื่อนโครงการจดั การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐานเพอ่ื การมงี านทําในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.2
๑๑๔
9. การวัดและประเมินผล วิธวี ัด เครือ่ งมือวัด เกณฑก ารประเมิน
สงิ่ ทต่ี อ งการวัดและประเมินผล - การตรวจสมุดบันทึก - สมดุ บันทึกสขุ ภาพ - บนั ทกึ ขอมูล
สขุ ภาพ วิเคราะห แปลผล
ดา นความรู (K) และประเมินภาวะ
- วเิ คราะหข อมลู แปลผลขอมูลจาก สขุ ภาพไดอยาง
เคร่อื งมือวดั และประเมินภาวะสขุ ภาพ ถูกตอ ง 100%
ดานทกั ษะ/กระบวนการ (P) - การตรวจใบงาน - ใบงาน เร่อื งการวดั - ตอบคาํ ถามถูกตอ ง
- มที ักษะการใชเครอื่ งมอื วดั อณุ หภูมิ เร่ืองการวัดอุณหภูมิ อณุ หภมู ิรา งกาย รอ ยละ 70
รางกาย รางกาย ผา นเกณฑ
ดา นเจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) - การสงั เกตการใช - แบบประเมินทักษะ - ใชเทอรมเิ ตอรว ดั
- เหน็ คณุ คาในการประเมินภาวะสุขภาพ เทอรโมมิเตอรว ัดไข ปฏบิ ัติการใช ไข ไดอยางถูกตอง
10. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู แบบตาง ๆ เทอรมิเตอรวัดไข 100 %
- การบอกภาวะ - สมุดบันทกึ สุขภาพ วเิ คราะห แปลผล
สขุ ภาพไดอ ยา งถกู ตอ ง และประเมนิ ภาวะ
100% สขุ ภาพไดอ ยา ง
ถูกตอ ง 100%
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
11. ความคดิ เห็นของผบู ริหาร
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
แนวทางการขับเคล่อื นโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานเพ่อื การมงี านทาํ ในศตวรรษที่ 21 กลุม นิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.2
๑๑๕
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๑๖
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๑๗
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๑๘
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๑๙
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๐
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๑
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๒
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๓
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๔
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๕
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๖
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๗
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๘
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๒๙
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๐
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๑
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๒
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๓
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๔
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๕
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๖
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๗
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๘
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๓๙
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๔๐
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๔๑
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๔๒
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๔๓
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๔๔
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๔๕
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2
๑๔๖
แนวทางการขับเคล่ือนโครงการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานเพอื่ การมีงานทาํ ในศตวรรษท่ี 21 กลมุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.2